ชดุ ความรนู โยบายสาธารณะทางเศรษฐศาเคสรอ่� ตงมรอื เพอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ ม ศาสตราจารย ดร.มง่ิ สรรพ ขาวสอาด รองศาสตราจารย ดร.กอบกลุ รายะนาคร
เครอ่ื งม อื ท างเศรษฐศาสตร์เพอ่ื การจ ดั การสง่ิ แวดลอ้ ม ศาสตราจารย์ ดร.มิ่งส รรพ์ขาวสอาด รองศาสตราจารย์ ดร.ก อบกลุ รายะน าคร
กฎหมายวา่ ด ว้ ยเครอ่ื งมอื ท างเศรษฐศาสตร์เพอ่ื ก ารจดั การส ง่ิ แวดลอ้ มผเู้ ขยี น: ศาสตราจารย์ด ร.ม ่ิงส รรพ์ขาวส อาด รองศาสตราจารย์ ดร.กอบก ุลรายะน าครเอกสารวิชาการ: ชดุ ความรนู้ โยบายสาธารณะสนับสนุนโดย: สำนกั งานกองทนุ สนับสนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ (สสส.) ภายใต้ แผนงานสรา้ งเสริมการเรยี นรกู้ บั สถาบนั อุดมศึกษาไทย เพ่อื การพฒั นานโยบายสาธารณะทด่ี ี (นสธ.) สถาบนั ศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ เครือขา่ ยสถาบันทางปญั ญาพมิ พค์ รั้งท่ี 1 ตลุ าคม 2552 จำนวน 1,000 เล่มออกแบบ/จัดพิมพ์: ล๊อคอนิ ดีไซนเ์ วิรค์ 1/19 หมบู่ ้านล้านนาวิลล่า ต.ชา้ งเผอื ก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โทร.0 5321 3558, 08 9835 1789
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มคำนำ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในช่วงกว่าสามทศวรรษทผี่ า่ นม าไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ ป ญั หาส ง่ิ แวดลอ้ มและค วามเสอ่ื มโทรมของท รพั ยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก ปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งเคยถูกมองว่ามีความสำคัญน้อยกว่าปัญหาทางเศรษฐกจิ สงั คมและก ารเมอื งไดก้ ลายเปน็ ป ญั หาท ท่ี วคี วามรนุ แรงม ากขน้ึ ต ามลำดบั จนก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนผู้ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายจากกิจกรรมห รือโครงการต า่ งๆก ับภาครัฐผูร้ บั ผิดชอบในการบริหารจัดการส ่ิงแวดลอ้ มและภาคเอกชนซ่ึงเป็นผู้ประกอบการในกิจการที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ปัญหาส่ิงแวดล้อมท่ีกำลังเกิดข้ึนในพ้ืนท่ีมาบตาพุดเป็นตัวอย่างล่าสุดของความขัดแย้งท่ีต้องการทางออก เพ่ือให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจและส ังคมของประเทศสามารถก า้ วเดนิ ต อ่ ไปได้ เท่าที่ผ่านมา กฎหมายส่ิงแวดล้อมของไทยที่เน้นมาตรการกำกับและควบคุมเป็นหลักยังมีข้อจำกัดในการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม เน่ืองจากความไม่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย บทลงโทษและค่าปรับตามกฎหมายต่ำ และหน่วยงานรัฐขาดการต ดิ ตามต รวจสอบแหลง่ กำเนดิ ม ลพษิ ดว้ ยเหตผุ ลดา้ นบ คุ ลากรและงบป ระมาณผู้ท่ีต้องได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรมและความขาดประสิทธิภาพในการจดั การส่งิ แวดลอ้ มมกั ไดแ้ ก่กลุม่ คนท ย่ี ากจนและด้อยโอกาสในส ังคม ในปัจจุบัน นานาประเทศได้นำเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์(EconomicInstruments) มาเสริมมาตรการกำกับและควบคุมในการจัดการปัญหาส่ิงแวดล้อมมากข้ึน เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เป็นกลไกสำคัญอันหนึ่งในการทำให้สินค้าและบริการสะท้อนต้นทุนทางด้านส่ิงแวดล้อมตามหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย(PolluterPaysPrinciple)เป็นม าตรการท ส่ี ร้างแรงจงู ใจให้ผู้ก ่อม ลพษิ และผู้บริโภคเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมและด ำเนินก ิจกรรมท ล่ี ดการส รา้ งมลพิษ
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม กฎหมายเครอ่ื งม อื ท างเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื ก ารจดั การสงิ่ แวดลอ้ มเปน็ น วตั กรรมท่ีจะมาช่วยเสริมความเข้มแข็งให้แก่กฎหมายส่ิงแวดล้อม ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เป็นความหวังและทางออกอันหน่ึงไปสู่การจัดการส่ิงแวดล้อมที่ดีขึ้น การขับเคล่ือนเพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เพ่ือการจัดการส่ิงแวดล้อมมีผลใช้บังคับโดยเร็วจึงมีความสำคัญอยา่ งยงิ่ เนอ่ื งจากเปน็ ก ฎหมายแมบ่ ทท จ่ี ะเปดิ ใหห้ นว่ ยงานต า่ งๆสามารถน ำเครอ่ื งม อื ทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการจัดการส่ิงแวดล้อมได้อย่างหลากหลายตามความเหมาะส มและต ามพ นั ธก จิ ของแตล่ ะห นว่ ยงานรวมท งั้ ส ง่ เสรมิ ก ารกระจายอำน าจให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ น่ิ เขา้ ม ามบี ทบาทและม รี ายไดจ้ากก ารจดั การสงิ่ แวดล้อม ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางน้ำ และร่างพระราชกฤษฎกี าจดั เกบ็ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ท างอากาศถ อื วา่ เปน็ ก า้ วแรกในก ารนำเครอ่ื งม อื ทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อมภายใต้กฎหมายแม่บทฉบับนี้แผนงานสร้างเสริมการเรียนรู้กับสถาบันอุดมศึกษาไทยเพ่ือการพัฒนานโยบายสาธารณะท่ีดี(นสธ.) เห็นความสำคัญของการร่วมขับเคล่ือนกฎหมายเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์ตามแนวทางที่กล่าวมานี้ บทความน้ีเป็นส่วนหนึ่งของชุดความรู้เพอ่ื เผยแพรข่อ้ มลู และส รา้ งค วามเขา้ ใจร่วมก ันในส งั คมห ากส งั คมไทยม คี วามเขา้ ใจเก่ียวกับประโยชน์ของกฎหมายที่นำเสนอในบทความน้ี ก็จะนำไปสู่การใช้เครื่องมือเศรษฐศาสตร์อน่ื ๆตอ่ ไปในอนาคตซง่ึ จะมีผลใหส้ งั คมได้ประโยชนส์ องต ่อท งั้ จากคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มท ด่ี ขี นึ้ และจากรายไดท้ เี่ กดิ จากภ าษแี ละค า่ ธรรมเนยี มสงิ่ แวดลอ้ มที่นำก ลบั มาสรา้ งป ระโยชน์ต่อสว่ นรวม ศาสตราจารย์ ด ร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด รองศาสตราจารย์ ดร.ก อบกลุ รายะน าคร ส ถาบนั ศ กึ ษาน โยบายส าธารณะม หาวิทยาลยั เชยี งใหม่
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มสารบญั 7 ความเป็นมาและความสำคญั ของปัญหา 8 เครอื่ งม อื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พ่อื การจดั การส ิ่งแวดล้อม 11 ประเภทของเครอื่ งม ือทางเศรษฐศาสตร์ 15 ป ระสบการณ์จากต า่ งประเทศ 25 ก ารจัดทำกฎหมายวา่ ด ้วยเครื่องมอื ท างเศรษฐศาสตร์เพื่อการจัดการสิง่ แวดล้อม 26 รา่ งพ ระราชบ ญั ญตั เิ ครือ่ งมอื ท างเศรษฐศาสตรเ์ พือ่ การจัดการส ิ่งแวดล้อม 31 รา่ งพระราชก ฤษฎกี าจดั เกบ็ ภ าษกี ารปลอ่ ยมลพิษทางนำ้ จากค่าบ ีโอดี(BOD) และป รมิ าณส ารแขวนลอย(TSS) 38 ร่างพ ระราชกฤษฎีกาจัดเกบ็ ภ าษกี ารป ล่อยมลพษิ ทางอ ากาศ จากค่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)ออกไซดข์องไนโตรเจน(N OX) และฝ ุน่ ล ะอองรวม(TSP) 42 ร่างพระราชก ฤษฎีกาก ำหนดภ าษแี ละค ่าธรรมเนยี มส ิ่งแวดล ้อม อน่ื ๆ 44 บทสรุป 46 บรรณานกุ รม
6 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม เครอ่ื งม อื ท างเศรษฐศาสตร์ เพอ่ื ก ารจ ดั การส ง่ิ แวดลอ้ ม
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 71 ความเปน็ มาและความส ำคญั ของป ญั หา ก ารเจรญิ เตบิ โตท างเศรษฐกจิ และส งั คมอยา่ งรวดเรว็ ของป ระเทศไทยในช่วง3 ทศวรรษที่ผ่านมาได้ส่งผลเสียต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดปัญหาการใช้ทรัพยากรอย่างไม่ยั่งยืน ได้แก่ ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ไมว่ ่าจะเปน็ ท รัพยากรป่าไม้ ทด่ี นิ น ้ำและทรัพยากรทางทะเลรวมท งั้ ป ญั หาม ลพษิ ท ที่ วคี วามรนุ แรงม ากขน้ึ ท งั้ ด า้ นม ลพษิ ท างน ำ้ ม ลพษิ ท างอากาศขยะ และของเสียอันตราย ซ่ึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของป ระชาชนส งั คมไทยก ำลงั ก า้ วไปส สู่ งั คมบ รโิ ภคซงึ่ จะม กี ารท งิ้ ขยะและผ ลติ ภณั ฑ์อุตสาหกรรมที่ใช้แล้วจากชุมชนเพ่ิมมากข้ึนเรื่อยๆ จากการประมาณการของก รมค วบคมุ ลพษิ ในป ี พ .ศ.2551ม ขี ยะท ่ีไดร้ บั ก ารจดั การอยา่ งถ กู ต อ้ งเพยี ง15.44ต นั ตอ่ วันหรอื ป ระมาณร้อยละ37ของปริมาณขยะท ่วั ประเทศส ำหรบั ของเสียอันตรายคาดว่าจะม ปี ระมาณ1.86ล ้านตนั สว่ นใหญ่มาจากภาคอ ุตสาหกรรมค ดิ เปน็ 1.45ล้านตัน และจากชุมชนประมาณ0.41 ล้านต ัน ก ารกำจัดขยะอ ย่างไม่ถูกต อ้ งและการท ง้ิ ผลิตภณั ฑท์ ีม่ ีส ารอันตรายรวมกับม ลู ฝอยท ัว่ ไปก อ่ ใหเ้ กิดป ัญหาก ารป นเปือ้ นของม ลพษิ และของเสยี อ นั ตรายในด นิ น ำ้ และชน้ั น ำ้ ใตด้ นิ ซง่ึ จะก อ่ ใหเ้ กดิ ผ ลกระท บต่อส่งิ แวดล้อมซง่ึ ยากท ่ีจะเยียวยาได้ในระยะยาว ต้นทุนค่าความเสียหายทางเศรษฐศาสตร์อันเน่ืองมาจากความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในประเทศไทยนั้นสามารถคิดเป็นมูลค่าได้นับหมืน่ ลา้ นบ าทต ่อป ี ค วามเสยี หายทเ่ีกดิ จากม ลพิษไดเ้ พม่ิ ข้นึ จากประมาณ8,000ล้านบ าทต ่อป ีในช่วงพ.ศ.2520เป็น18,000ล า้ นบาทต อ่ ป ีในพ .ศ.254611 สถาบันวิจัยเพ่ือการพัฒนาประเทศไทย, การจัดลำดับความสำคัญของปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและส ่ิงแวดลอ้ ม,2549.
8 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม2 เครอ่ื งมอื ท างเศรษฐศาสตร์ เพอ่ื ก ารจ ดั การส ง่ิ แวดลอ้ ม เท่าท่ีผ่านมาต้นทุนในการจัดการสิ่งแวดล้อมมักถูกผลักให้เป็นภาระของสังคม และรัฐบาลมีหน้าท่ีหลักในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากมลพิษและความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ มาตรการที่รัฐใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อมนับจนถึงปัจจุบันยังคงยึดหลักการกำกับและควบคุม (command andcontrol)เปน็ ห ลกั ไดแ้ ก่ ก ารก ำหนดค า่ ม าตรฐานม ลพษิ จากแหลง่ ก ำเนดิ และก ำหนดวิธีการให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษต้องปฏิบัติเพื่อบำบัดมลพิษก่อนป ล่อยอ อกส ู่ส่งิ แวดลอ้ มภ ายนอกกฎหมายสำคัญไดแ้ ก่พ ระราชบ ญั ญตั ิโรงงานพ.ศ.2535พระราชบ ัญญตั สิ ง่ เสรมิ และรักษาค ุณภาพส่ิงแวดล้อมพ.ศ.2535และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 อย่างไรก็ดี การใช้มาตรการกำกับและควบคุมแต่เพียงอย่างเดียวทำให้แหล่งกำเนิดมลพิษสามารถปล่อยมลพิษได้มากตามต้องการตราบใดที่น้ำทิ้งหรืออากาศเสียเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดจึงขาดแรงจูงใจที่จะปรับปรุงกระบวนการผลิตและใช้เทคโนโลยีท่ีสะอาด กฎหมายสิ่งแวดล้อมขาดการส่งสัญญาณให้ผู้บริโภคทราบว่าผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ตนใช้อยู่จะสง่ ผ ลเสยี ต อ่ สง่ิ แวดลอ้ มห ากไมไ่ ดร้ บั ก ารบ ำบดั ห รอื จดั การอยา่ งถ กู ต อ้ งน อกจากน ี้กฎหมายยังขาดประสิทธิภาพเน่ืองจากข้อจำกัดด้านบุคลากร ความไม่เข้มงวดในการบ งั คบั ใชก้ ฎหมายและบ ทลงโทษและคา่ ป รบั ต ามกฎหมายสงิ่ แวดลอ้ มฉบบั ต า่ งๆไม่รุนแรงพ อที่จะท ำให้ผู้ก ่อความเสยี หายต ่อส ่ิงแวดลอ้ มปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายได้
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 9 ความเสื่อมโทรมด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในช่วงกว่าสามทศวรรษที่ผ่านมาทำให้ประเทศต่างๆ รวมท้ังประเทศไทยให้ความสนใจแก่การนำเครอ่ื งม อื ทางเศรษฐศาสตร์ (EconomicInstruments) ม าใชใ้ นการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มมากขึ้นเครอื่ งม ือท างเศรษฐศาสตร์เป็นก ลไกสำคญั อ นั หนึง่ ในการท ำให้สนิ คา้ และบ รกิ ารสะทอ้ นต น้ ทนุ ท างดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มต ามห ลกั การผกู้ อ่ ม ลพษิ เปน็ ผจู้ า่ ย(PolluterPaysPrinciple:PPP) อ ันจะม ีผ ลท ำให้ผ ผู้ ลติ และผ ู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมในก ารผลติ และบริโภค ห ลกั PPPเปน็ ห ลกั ก ารท างเศรษฐศาสตรท์ อ่ี งคก์ ารค วามรว่ มม อื ท างเศรษฐกจิ และก ารพ ัฒนา(OrganizationforEconomicC o-operationandD evelopment:O ECD)น ำเสนอมาต้งั แตต่ ้นท ศวรรษ1970และไดร้ับก ารยอมรับอย่างก วา้ งขวางตง้ั แตน่ ้นั เปน็ ตน้ มาสาระสำคญั ของหลกั PPPก ค็ ือการสง่ เสรมิ ให้นำเอาต ้นทนุ ดา้ นส่ิงแวดล้อมซึ่งเป็นต้นทุนภายนอกบวกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตสินค้าและบ รกิ าร(internalizationofenvironmentalcosts)ม ิเชน่ นั้นแลว้ ก็จะกอ่ ให้เกิดสภาวการณท์ เ่ี รียกวา่ “ความล ม้ เหลวของต ลาด”(“m arketfailure”)ก ลา่ วคอื เม่อื ราคาสินค้าและบริการไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ก็จะทำให้มีการบริโภคสินค้าและบริการน น้ั มากข้ึนผู้ผ ลิตก ย็งิ่ ผลิตม ากขน้ึ ท ำให้ส ่ิงแวดลอ้ มเสอื่ มโทรมลงไปเรื่อยๆ ในระยะแรกท มี่ กี ารนำห ลกั PPPม าใช้ ค วามสนใจสว่ นใหญจ่ ะอยทู่ ก่ี ารค วบคมุ การปลอ่ ยมลพิษจากภาคอ ตุ สาหกรรมอ ยา่ งไรก ต็ ามหลักPPPส ามารถน ำมาใชก้ ับการจดั การท รพั ยากรธรรมชาตไิ ดเ้ ชน่ กนั โดยกำหนดใหผ้ ใู้ ชท้ รพั ยากรเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบในค า่ เสอื่ มโทรมของท รพั ยากรซง่ึ เปน็ ตน้ ท นุ ต ามธรรมชาตดิ ว้ ยห ลกั PPPจงึ ส ามารถแปรเปน็ หลักผ ใู้ ช้เป็นผจู้ ่าย(UserPaysPrinciple:U PP)ได้ดว้ ย ในปัจจุบัน ยังมีการนำหลักPPP มาใช้น้อยมากในกฎหมายไทย ส่วนใหญ่อยู่ในรปู ของคา่ ธรรมเนยี มการใชท้ รพั ยากรคา่ บ รกิ ารและคา่ บ รหิ ารเชน่ คา่ ภ าคห ลวงจากก ารใชท้ รัพยากรต ามกฎหมายปา่ ไม้ คา่ บรกิ ารบำบดั น ้ำเสียต ามพระราชบ ญั ญัติสง่ เสรมิ และรกั ษาคุณภาพส ิ่งแวดลอ้ ม พ .ศ .2535 และค่าธรรมเนยี มการเกบ็ ขนและก ำจดั มูลฝอยต ามพระราชบ ญั ญัตกิ ารสาธารณสุขพ .ศ.2535เปน็ ต้น
10 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม อยา่ งไรกด็ ี คา่ ธรรมเนยี มสว่ นใหญท่ จ่ี ดั เกบ็ ยงั อยู่ในอตั ราท ตี่ ำ่ และไมค่ รอบคลมุ ตน้ ทนุ ห รอื ค า่ ใชจ้ า่ ยในก ารจดั บ รกิ ารสาธารณะม อี งคก์ รป กครองสว่ นท อ้ งถ นิ่ (อปท.)เพยี งไมก่ แี่ หง่ ท ี่ไดเ้ รม่ิ เกบ็ ค า่ บ ำบดั น ำ้ เสยี 2สว่ นใหญย่ งั ไมม่ กี ารเกบ็ ค า่ บ รกิ ารด งั ก ลา่ วแมแ้ ต่ในก รงุ เทพมหานคร สำหรับค า่ ธรรมเนยี มก ารเก็บ ขน และกำจัดมูลฝอยน้นั ก็ยังเก็บในอัตราทต่ี ่ำมากและไม่สะทอ้ นตน้ ทนุ ท ี่แทจ้ รงิ ในการจัดการมลู ฝอย32 องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียแล้ว ได้แก่ เทศบาลนครหาดใหญ่ เมืองพัทยา และเทศบาลเมืองแสนสขุ จังหวัดชลบรุ ี3 กฎกระทรวงว่าด้วยอัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการเก็บ ขน และกำจัดส่ิงปฏิกูลหรือมูลฝอย และอัตราค ่าธรรมเนยี ม อ่ืนๆพ.ศ.2545ออกต ามความในพ ระราชบ ัญญตั ิก ารสาธารณสุขพ .ศ.2535ยกต วั อยา่ งเช่นอัตราค่าเก็บและขนมูลฝอยทั่วไปประจำรายเดือน ที่มีปริมาณวันหนึ่งไม่เกิน20 ลิตร แต่ไม่เกิน500 ลิตรเก็บเดอื นล ะ40บาทเป็นต้น
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 113 ป ระเภทข องเครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตร์เครือ่ งม ือทางเศรษฐศาสตรม์ ีวตั ถปุ ระสงค์สำคัญอ ย่างน อ้ ย2ป ระการคอื 1. เพอื่ เปลย่ี นแปลงพ ฤตกิ รรมของผ ผู้ ลติ และผ บู้ รโิ ภคในก ารล ดก ารก อ่ ม ลพษิ เชน่ ล ดการก อ่ ให้เกิดขยะห รือของเสยี ลดก ารใช้พ ลงั งานและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีไม่กอ่ ใหเ้กิดความเสียหายตอ่ สิ่งแวดล้อมเป็นต้น 2. เพอ่ื ส ร้างแรงจูงใจใหล้ ด(disincentive)การกอ่ ม ลพษิ เช่นการเกบ็ ภาษีมลพษิ ต ามป รมิ าณน ำ้ เสยี ห รอื อากาศเสยี ท รี่ ะบายอ อกสสู่ ง่ิ แวดลอ้ มท ำใหผ้ กู้ อ่ ม ลพษิ พยายามดำเนินมาตรการหรือปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อทำให้เกิดน้ำเสียน้อยลงเปน็ ต้น ก ารใชเ้ ครอ่ื งม อื ท างเศรษฐศาสตรไ์ม่ใชก่ ารก ำกบั และค วบคมุ แตเ่ ปน็ การสรา้ งแรงจูงใจทางเศรษฐกิจเพื่อให้บุคคลหรือองค์กรตระหนักถึงต้นทุนที่แท้จริงของทรพั ยากรและคำนึงถ ึงผลกระทบภายนอก(externalcost)ของกิจกรรมนน้ั จงึ เปน็ การเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตหรือผู้บริโภคตัดสินใจเองว่าจะดำเนินมาตรการหรือเลือกใช้ผลติ ภัณฑท์ ่กี ่อให้เกดิ มลพิษนอ้ ยล งหรือไม่ เคร่ืองม ือทางเศรษฐศาสตรส์ ามารถแบ่งอ อกได้เปน็ ประเภทต ่างๆดังนี้ • ค่าธรรมเนียมการอนุญาต(AdministrativeFess) เป็นค่าธรรมเนียมท่ีเรียกเก็บเพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ออกใบอนุญาตให้
12 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มประกอบกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยท่ัวไปจะเรียกเก็บเป็นจำนวนน้อยและเก็บในอัตราเดยี วกันจากผู้ขออนุญาตทุกราย จงึ มีผลค่อนข้างน้อยในการสรา้ งแรงจงู ใจให้ลดก ารกอ่ ม ลพษิ • ค า่ ธรรมเนยี มการใช้(U serFeesห รอื UserCharges)ไดแ้ ก่ ค า่ ธรรมเนยี มท ี่เรยี กเกบ็ จากผใู้ ชป้ ระโยชนจ์ ากท รพั ยากรธรรมชาติ ห รอื ผใู้ ชบ้ รกิ ารเพอื่ เปน็ ค า่ ใชจ้ า่ ยในการจัดการมลพษิ เช่นค า่ ธรรมเนียมก ารจัดการน้ำเสียค า่ ธรรมเนยี มก ารเก็บขนและก ำจัดขยะม ูลฝอยเปน็ ตน้ • ค่าปรับ (Fines) เป็นมาตรการป้องปรามมิให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายขอ้ จำกดั ของม าตรการน กี้ ค็ อื ก ารป รบั จะเกดิ ขน้ึ ห ลงั จากม กี ารกระท ำผ ดิ ก ฎหมายแลว้ และส ว่ นใหญเ่ปน็ กรณีทีม่ ีค วามเสยี ห ายเกดิ ขึ้นแล้วนอกจากน้ี ค ่าป รับตามก ฎหมายอาจจะต ำ่ เกนิ ก วา่ จะส รา้ งแรงจงู ใจใหผ้ กู้ อ่ ม ลพษิ ป รบั เปลยี่ นพ ฤตกิ รรมโดยยอมจา่ ยคา่ ป รบั แทนท่จี ะล ดก ารก่อมลพิษ • คา่ ภาษกี ารป ล่อยม ลพิษ(PollutionTaxห รอื PollutionFees)เป็นภาษีทเี่ รยี กเกบ็ จากบ คุ คลห รอื ผ ปู้ ระกอบก ารท ป่ี ลอ่ ยม ลพษิ ออกสสู่ งิ่ แวดลอ้ มท ี่ใชก้ นั ม ากในป ระเทศต า่ งๆไดแ้ ก่ การเกบ็ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ท างน ำ้ และภ าษมี ลพษิ ท างอากาศโดยเรยี กเกบ็ ต ามป รมิ าณห รอื ป ระเภทของม ลพษิ ท ป่ี ลอ่ ยออกม าเชน่ การเกบ็ ภ าษกี ารปลอ่ ยม ลพษิ ท างน้ำต ามป ริมาณหรือค่าบ ีโอดี(BiologicalOxygenDemand:BOD)ต ะกอนแขวนลอยในน ำ้ (TotalSuspendedSolids:TSS) และโลหะหนกั (HeavyMetals) เป็นต้น สำหรับตัวอย่างการเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางอากาศ ได้แก่การเกบ็ ภาษตี ามป รมิ าณซลั เฟอร์ไดอ อกไซด์ (SO2)อ อกไซดข์องไนโตรเจน(N OX)และฝนุ่ ล ะอองรวมเป็นตน้ • การซื้อขายหรือโอนใบอนุญาตการปล่อยมลพิษ (Marketable orTradablePermits)เปน็ ระบบท อี่ อกใบอนญุ าตซง่ึ ก ำหนดป รมิ าณม ลพษิ ท ผี่ กู้ อ่ ม ลพษิ แตล่ ะรายส ามารถป ลอ่ ยออกสสู่ ง่ิ แวดลอ้ มได้ โดยผ กู้ อ่ ม ลพษิ ส ามารถซอ้ื ขายห รอื โอนใบอนญุ าตการปลอ่ ยม ลพษิ ได้ ก ลา่ วคอื ผู้ทมี่ คี วามจำเป็นต ้องปล่อยมลพิษม ากเกนิ กวา่ ป รมิ าณท ตี่ นไดร้ บั อ นญุ าตส ามารถซอื้ ส ทิ ธกิ ารป ลอ่ ยม ลพษิ จากผ อู้ น่ื ท ย่ี งั ไมไ่ ดใ้ ช้สิทธิท้ังหมดตามใบอนุญาต จึงเป็นเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ที่เหมาะสมในกรณี
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 13ที่ต้องการควบคุมปริมาณมลพิษโดยรวมในพ้ืนที่ใดพ้ืนท่ีหนึ่ง นอกจากจะใช้ในกรณีซ้ือขายสิทธิการปล่อยมลพิษแล้ว อาจประยุกต์ใช้มาตรการนี้ในการควบคุมการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติทม่ี ีอย่จู ำกัดเช่นการกำหนดส ิทธิการใช้นำ้ และอนญุ าตใหซ้ ื้อขายสทิ ธกิ ารใช้น้ำระหวา่ งผ ใู้ ชน้ ้ำห รอื ก ลมุ่ ผ ู้ใช้นำ้ ในภ าคเศรษฐกจิ ต่างๆเปน็ ต้น • ภาษีหรือค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์(ProductSurcharge) เป็นภาษีหรือค่าธรรมเนียมท่ีเรียกเก็บจากผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบท่ีก่อให้เกิดมลพิษ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบท่ีถูกเก็บค่าธรรมเนียมมีราคาสูงข้ึน เน่ืองจากในทางปฏิบัติผู้ผลิตสามารถผลักภาระอย่างน้อยบางส่วนไปให้ผู้บริโภคโดยบวกค่าธรรมเนียมเข้าไปในราคาสินค้า มาตรการน้ีเหมาะสมที่จะใช้ในกรณีท่ีต้องการสร้างแรงจูงใจให้ผ ้บู รโิ ภคลดก ารใชผ้ ลิตภณั ฑ์น้นั เชน่ ก ารเก็บค ่าธรรมเนียมจากวัตถุอันตรายป ุ๋ยยาฆ่าแมลง แบตเตอร่ี น้ำมันหล่อล่ืน สารที่ทำลายช้ันโอโซน บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดของเสียอันตรายเม่ือผู้บริโภคใช้หรือท้ิงหลังจากใช้แล้วเป็นต้น ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บได้สามารถนำกลับมาใช้เพ่ือจัดการซากผลิตภัณฑ์เช่นเปน็ ค า่ ใช้จ่ายในการรีไซเคลิ บำบัดและกำจดั ของเสียอ ยา่ งป ลอดภยั • ระบบมัดจำคืนเงิน (deposit-refundsystem) เป็นมาตรการที่มักใช้ควบคไู่ ปก บั ก ารเกบ็ ค า่ ธรรมเนยี มผ ลติ ภณั ฑ์ ก ลา่ วค อื ผ บู้ รโิ ภคท ซี่ อ้ื ส นิ คา้ และจา่ ยค า่ ธรรมเนียมท่ีรวมอยู่ในราคาส ินค้าแลว้ จะได้รับเงนิ ค ืนเมอ่ื น ำซากผ ลติ ภณั ฑ์ท่ีใชแ้ ลว้ มาค นื ท ศ่ี นู ยร์ บั ซอื้ ค นื ม าตรการน มี้ คี วามเหมาะสมในก รณที ี่ไมต่ อ้ งการใหผ้ บู้ รโิ ภคท ง้ิ ซากผลติ ภณั ฑด์ งั ก ลา่ วรวมไปก บั ขยะม ลู ฝอยท ว่ั ไปจงึ เปน็ การสง่ เสรมิ ก ารค ดั แยกขยะโดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ขยะอันตรายท ค่ี วรได้รบั ก ารจัดการอย่างถูกต้อง แทนทีจ่ะป ลอ่ ยใหถ้ กู ฝังกลบรวมก ับม ูลฝอยท่วั ไปดังเชน่ ทีเ่ ปน็ อ ยู่ในปจั จุบนั • การใช้อัตราภาษีที่แตกต่างกัน (TaxDifferentiation) เป็นมาตรการท่ีสร้างแรงจูงใจให้คนหันไปบริโภคผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เช่น การเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันไร้สารตะกั่วในอัตราต่ำกว่าน้ำมันท่ีมีสารตะก่ัว เก็บภาษีจากแบตเตอรี่ที่ใช้ตะก่ัวรีไซเคิลในอัตราต่ำกว่าแบตเตอรี่ท่ีใช้ตะกั่วจากแหล่งธรรมชาติ และเก็บภาษีรถจักรยานยนต์4 จังหวะในอตั ราท ีต่ ำ่ กวา่ รถจักรยานยนต์2จงั หวะเปน็ ตน้
14 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม • การวางป ระกนั ค วามเสย่ี งห รอื ค วามเสยี ห ายต อ่ สง่ิ แวดลอ้ ม (PerformanceBonds) เป็นมาตรการที่กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการท่ีอาจมีผลกระทบรุนแรงต ่อส ิง่ แวดลอ้ มต อ้ งวางป ระกนั เป็นเงินพนั ธบัตรหรือส ัญญาค้ำประกันของธนาคารหรือสถาบันการเงินไว้กับหน่วยงานผู้อนุญาต เพ่ือเป็นการประกันความเสียหายท่ีอาจจะเกิดขึ้นต่อส่ิงแวดล้อม โดยผู้ประกอบการจะได้รับเงินคืนเมื่อส้ินสุดโครงการหากการประกอบกิจการนั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่ิงแวดล้อม ก็ให้หักเงินจากเงนิ ป ระกนั ได้ แตถ่ า้ ห ากผ ปู้ ระกอบก ารใชค้ วามระมดั ระวงั และไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ค วามเสยี ห ายเลยก จ็ ะไดร้ บั เงนิ ค นื เตม็ จำนวนม าตรการน เี้ หมาะท จี่ ะใชก้ บั ก จิ การท อ่ี าจก อ่ ใหเ้ กดิ ค วามเสยี ห ายม ากจนยากท เ่ี ยยี วยาแกไ้ ขใหค้ นื ดีไดใ้ นก รณที เี่ กดิ ก ารรวั่ ไหลห รอื แพรก่ ระจายของม ลพิษ • มาตรการอุดหนุน(Subsidy) ใช้ในกรณีท่ีต้องการสนับสนุนกิจกรรมทล่ี ดก ารก อ่ ม ลพษิ ห รอื ชว่ ยรกั ษาส งิ่ แวดลอ้ มโดยห ลกั แลว้ ค วรจำกดั ไวเ้ ฉพาะก จิ การที่ต้องมีการลงทุนสูง หรือเป็นกิจการที่ให้ผลตอบแทนไม่คุ้มทุน แต่รัฐต้องการส่งเสริมเนื่องจากเป็นกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อส่ิงแวดล้อม การให้เงินอุดหนุนอาจมหี ลายรูปแบบเชน่ การให้เงินช่วยเหลือการใหเ้งนิ ก ดู้ อกเบีย้ ต่ำและการสร้างแรงจูงใจด า้ นภาษีเป็นตน้ ในปัจจุบัน มีการนำเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์บางประเภทเหล่าน้ีมาใช้ในกฎหมายไทยบ ้างเชน่ ค า่ ธรรมเนยี มตา่ งๆดงั ได้กลา่ วม าแลว้ การกำหนดอ ัตราภ าษีทแ่ี ตกต า่ งก นั ต ามพระราชบ ญั ญตั ภิ าษสี รรพสามติ และพ ระราชบ ญั ญตั พิ กิ ดั อตั ราภ าษีสรรพสามิตพ.ศ.2527และมาตรการอุดหนุนด ้านอากรขาเขา้ ตามพระราชบ ัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 สำหรับการนำเข้าเครื่องจกั รอ ปุ กรณ์ เครอ่ื งม อื เครอ่ื งใช้ และวสั ดทุ ่ีจำเป็นส ำหรับก ารจดั ให้มีระบบบำบัดอากาศเสียระบบบ ำบัดน ้ำเสยี และระบบก ำจดั ของเสียอยา่ งอ่ืนเปน็ ตน้
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 154 ประสบการณ์ จากต า่ งป ระเทศ ในปัจจุบัน หลายๆ ประเทศได้นำมาตรการเก็บภาษีการปล่อยมลพิษในรูปแบบใดรูปแบบหน่ึงมาใช้เพ่ือสร้างแรงจูงใจให้ผู้ก่อมลพิษลดการปล่อยมลพิษโดยภ าพรวมแล้ว ก ารเกบ็ ภ าษีก ารปล่อยม ลพษิ ท างน ำ้ ม ตี วั อย่างใหเ้ หน็ มากกวา่ การเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางอากาศ ในบรรดาประเทศที่เก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางน ำ้ ป รากฏวา่ BODและTSSจะถ กู ก ำหนดใหเ้ ปน็ ม ลพษิ เปา้ ห มายเสมอเนอ่ื งจากมีวิธีการและค่าใช้จ่ายในการตรวจวัดที่ง่ายและถูกกว่ามลพิษตัวอื่น นอกจากน้ีในกระบวนการบ ำบัดน ำ้ ท ้ิงเพื่อล ดปริมาณBODและTSSม ลพิษท างน ำ้ อื่นๆทเ่ี ปน็ โลหะห นกั จะถ กู บ ำบดั ไปด ว้ ยพ รอ้ มก นั ในระดบั ห นง่ึ ส ำหรบั ป ระเทศไทยก ารเกบ็ ภ าษีการปล่อยมลพิษท างน้ำโดยเรมิ่ เก็บจากป ริมาณBODและTSSด ูจะเปน็ จุดเรม่ิ ต ้นที่สมเหตุผลเช่นกนั 4 ในส่วนของภาษีการปล่อยมลพิษทางอากาศน้ัน ประเทศต่างๆ มักกำหนดมลพิษเป้าหมายเหมือนกัน ได้แก่ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์(SO2) ไนโตรเจนออกไซด์(NOX)ฝนุ่ ละอองแขวนลอย(TSPห รอื PM10)คารบ์ อนมอนน อกไซด์(CO)และตะก่ัว(Pb)แหล่งก ำเนิดมลพษิ ประเภทCOไดแ้ ก่ภาคคมนาคมขนส่งส ่วนSO2NOXและTSPจะมาจากภาคอตุ สาหกรรมและภาคพ ลังงานเปน็ หลกั สำหรับม ลพษิ ทางอากาศซ่ึงเป็นสารประกอบอินทรีย์(VOC) มักไม่อยู่ในกลุ่มมลพิษเป้าหมายของการใชเ้ คร่อื งมอื ทางเศรษฐศาสตร์เนื่องจากเป็นมลพิษทีเ่ กิดจากก ารระเหยหรอื 4A sianD evelopmentBank,รายงานก ารศ ึกษาตามโครงการC apacityBuildingforPollutionTaxationandResourcesM obilizationforEnvironmentalandNaturalResources– PhaseII,2007,ห นา้ 81.
16 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มรั่วซึมเปน็ ส่วนใหญ่และจะเปล่ียนโครงสร้างง่ายเม่ือมีการท ำปฏิกริ ิยาระหว่างม ลพษิ หลายๆ ตัวจากภาคขนส่ง หากประเทศไทยจะออกกฎหมายเพื่อเก็บภาษีการปล่อยมลพิษท างอ ากาศการเก็บภ าษีจากปรมิ าณการป ล่อยSO2NOXและTSPหรอื PM10ดูจะเหมาะส มท ส่ี ดุ 5ตัวอย่างการเก็บภาษีการป ล่อยมลพิษรวมทง้ั ขอ้ เสนอก ารเก็บภาษีม ลพษิ ในป ระเทศต่างๆไดแ้ ก่ • เวียดนาม มีการเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางน้ำจากมลพิษประเภทต่างๆหลายชนดิ รวมท งั้ โลหะห นกั อ ตั ราท เี่ รยี กเกบ็ ขนึ้ อ ยกู่ บั ป ระเภทของแหลง่ น ำ้ ท รี่ องรบั น้ำท้ิงจากแหล่งกำเนิดมลพิษ เช่น หากเป็นการระบายน้ำท้ิงลงในแหล่งน้ำประเภทที่ใช้เพ่ือการอุปโภคบริโภค จะเก็บในอัตราสูงกว่าการระบายน้ำทิ้งลงในแหล่งน้ำประเภทท ่ีใช้เพือ่ การชลประทาน ก ารเพาะป ลูก และก ารเพาะเลย้ี งส ตั ว์นำ้ เป็นตน้ การเก็บภ าษมี ลพิษท างน ำ้ ค ิดจากคา่ BODCOD และTSS น อกจากน ยี้ ังม ีการเกบ็ ภาษีก ารปลอ่ ยม ลพษิ ท างนำ้ ท ี่เปน็ โลหะหนกั ได้แก่ปรอทส ารหนู แคดเมยี มและตะกั่ว ซ่ึงหากเป็นการระบายลงในแหล่งน้ำท่ีใช้ในการอุปโภคบริโภค จะถูกจัดเก็บในอัตราส ูงสุดต งั้ แต่500,000V NDต่อก โิ ลกรมั ในกรณขี องต ะกั่ว1,000,000VNDตอ่ ก ิโลกรมั ในกรณขีองสารหนูและแคดเมียมจนถึง20,000,000V NDต ่อก ิโลกรมั ในก รณขี องป รอท(BenoitLaplante,2007) เป็นท่ีน่าสังเกตว่า ในขณะนี้เวียดนามกำลังจัดทำกฎหมายเพ่ือจัดเก็บภาษีการป ลอ่ ยม ลพษิ ท างอ ากาศจากค า่ TSP,SO2,N OXและC Oต ามรา่ งก ฎหมายท เี่ สนอผูม้ ีหนา้ ทเี่ สียภ าษีไดแ้ ก่ • ผ ปู้ ระกอบก ารในก จิ การท มี่ กี ารใชเ้ ชอื้ เพลงิ ฟ อสซลิ ใหช้ ำระภ าษที ส่ี ำนกั งานคลังในทอ้ งถ ่นิ • เจ้าของยานพาหนะท ี่ใชเ้ ชือ้ เพลงิ ฟ อสซลิ ให้เกบ็ ภ าษีณ จดุ จำหน่ายน้ำมนั เชือ้ เพลิงทว่ั ประเทศโดยผ จู้ ำหนา่ ยนำ้ มนั จะได้รับคา่ ต อบแทนร้อยละ5จากจำนวนภาษีท่จี ัดเก็บได้5 เพิง่ อา้ ง หนา้ 82
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 17 ก ารป ระเมนิ ป รมิ าณม ลพษิ ท ปี่ ลอ่ ยออกม าใหค้ ำนวณจาก(1)ชนดิ และค ณุ ภาพของเชอื้ เพลงิ ท ่ีใช้(2)ป รมิ าณของเชอื้ เพลงิ ท ี่ใช้(3)เทคโนโลยที ี่ใชก้ บั เครอื่ งจกั รห รอื อปุ กรณ์ท ่ีใช้เชอ้ื เพลงิ น ้นั และ(4)ระบบบำบดั ม ลพษิ ก่อนปล่อยอ อกส ่สู ่งิ แวดลอ้ ม • ฟิลิปปินส์ การเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางน้ำในฟิลิปปินส์ ประกอบด้วยอ ัตราภาษคี งท่ี (FixedFee)และอัตราภ าษีแปรผัน(VariableFee)อ ัตราภ าษีคงที่ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำท้ิง และคุณภาพน้ำท้ิงว่ามีมลพิษที่เป็นโลหะหนักหรือไม่ตามตารางท่ี 1 ตารางท ี่ 1 อตั ราภ าษีค งทข่ีองก ารเกบ็ ภาษีการปลอ่ ยม ลพษิ ท างน ำ้ ในฟ ิลปิ ปินส์ อ ตั ราภาษสี ำหรับ อ ตั ราภาษสี ำหรับปริมาณนำ้ ท ้งิ น ำ้ ทิ้งท ีไ่มม่ ีโลหะห นัก น้ำท ิง้ ทม่ี ีโลหะห นัก(m 3/วัน) (บ าท)น ้อยก ว่า30 4,630 6,400ระหวา่ ง30-100 5,340 7,120ระหว่าง100-150 6,050 7,830มากกวา่ 150 7,120 8,900ทมี่ า:BenoitLaplante,2007.ห มายเหต:ุ 1ฟ ลิ ปิ ปนิ ส์เปโซ = 0.712บาทสำหรับอัตราภาษีแปรผัน คิดตามปริมาณมลพิษในน้ำท้ิงดังน้ี(BenoitLaplante,2007) • 5ฟิลิปปนิ สเ์ ปโซต อ่ ก โิ ลกรัมของBODorTSS • หากแหล่งกำเนิดมลพิษปล่อยมลพิษท่ีเป็นสารอินทรีย์ ให้เก็บภาษีจากค่า BODของน ้ำท้ิง • หากแหล่งก ำเนิดม ลพิษปล่อยม ลพษิ ท ่ีเปน็ ส ารอน นิ ทรีย์ใหเ้ ก็บภ าษีจากคา่ TSSของน ้ำท ้งิ
18 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม • จีนป ระเทศจีนมรีะบบการอ อกใบอนุญาตป ล่อยม ลพษิ (D ischargePermitSystem:DPS)ซง่ึ จำกดั ท ง้ั ป รมิ าณและค วามเขม้ ขน้ ของม ลพษิ ในน ำ้ ท งิ้ และอากาศเสยี ท่ีสถานประกอบการระบายออกสู่ส่ิงแวดล้อม เจ้าของสถานประกอบการจะต้องจดท ะเบยี นกับส ำนกั งานส งิ่ แวดล้อม(EnvironmentalProtectionBureaus:EPBs)ในระดับม ณฑลEPBsจะป ระเมินความส ามารถในก ารรองรับม ลพิษของสง่ิ แวดล้อมและออกใบอนุญาตท่ีกำหนดปริมาณมลพิษที่สถานประกอบการสามารถระบายออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ตามแนวทางที่องค์การคุ้มครองส่ิงแวดล้อมแห่งรัฐ (StateEnvironmentalProtectionAgency:SEPA) กำหนด การบังคับใช้ระบบDPSข้ึนอยู่กับรัฐบาลท้องถิ่นที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม เช่น มณฑลยูนนานได้พัฒนาระบบใบอนุญาตการปล่อยมลพิษสำหรับใช้บังคับกับภาคอุตสาหกรรม 21 ประเภท รวมทั้งกิจการเหมืองแร่ นอกจากน้ีมีโครงการนำร่องที่ทดลองนำระบบซ้ือขายสิทธิในการปล่อยมลพิษไปใช้ท่ีเมืองหนานทง (Nantong)ในม ณฑลเจยี งซู (Jiangsuprovince)(O ECD,2006) การจัดเกบ็ ภ าษีก ารป ลอ่ ยม ลพิษในประเทศจนี มมี าตง้ั แต่ ค.ศ.1980 ล ่าสุดในเดือนธันวาคม ค.ศ.2002 มีการปฏิรูปนโยบายการจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษซ่ึงมีผลใช้บังคับต้ังแต่วันท่ี1 กรกฎาคม ค.ศ.2003 เป็นต้นมา โดยสาระสำคัญระบบการจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษใหม่ของจีนมีความแตกต่างจากระบบท่ีใช้อยู่กอ่ นห น้าน้นั 4ประการค อื 6 (1) การเกบ็ ภ าษคี รอบคลมุ ม ลพษิ ท ง้ั หมดท ปี่ ลอ่ ยออกจากแหลง่ ก ำเนดิ ม ลพษิ แทนทจี่ ะคิดเฉพาะจากมลพิษทป่ี ลอ่ ยเกนิ ค า่ ม าตรฐานท่กี ฎหมายกำหนด (2) การคำนวณภาษีคิดจากมวลสารท้ังหมดของมลพิษ(totalmassof pollutants)แทนทจี่ะค ดิ จากค วามเข้มข้นของมลพิษ (3) ก ารเกบ็ ภ าษีคดิ เปน็ หนว่ ยทีเ่ รียกว่า“pollutionequivalents”(PEs)เชน่ 1pollutionequivalent ม คี า่ เทา่ กับ1kgC OD ห รอื 0.95kgSO2 (ในอดีตคิดจากจำนวนคร้ังท่ีความเข้มข้นของมลพิษท่ีปล่อยออกมา มีคา่ สงู เกินค ่าม าตรฐาน)6 Wang Jinnan, The Development of Pollution Charge in China, Chinese Academy for EnvironmentalPlanning, Beijing, ระบบออนไลน์ ทีม่ า http://www.caep.org.cn 12 ตุลาคม 2552.
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 19 (4) คิดภาษีจากมลพิษทุกตัวที่ปล่อยออกมา แทนท่ีจะคิดเฉพาะจากมลพิษ ตัวท่มี ีการปลอ่ ยเกนิ ค า่ ม าตรฐานบ ่อยคร้งั ทีส่ ดุ ภายใต้ระบบการจัดเก็บภาษีใหม่นี้ มีมลพิษประมาณ100 ชนิดที่ถูกจัดอยู่ในบัญชีของมลพิษท่ีต้องนำมาคำนวณค่าภาษี มลพิษที่ปล่อยออกมาจะต้องถูกแปรเปน็ ค ่าPEsและก ารค ดิ ภ าษจี ะค ดิ ตามห นว่ ยและอัตราต ่อห น่วยPEsมลพิษท างนำ้ ท่ีถูกนำมาคิดภาษีมี18 ชนิด ตามชนิดท่ีมีการกำหนดค่ามาตรฐานมลพิษที่ปล่อยออกจากแหล่งกำเนิด(OECD,2006) นอกจากน้ี เน่ืองจากปัญหามลพิษท่ีเพิ่มข้ึนอยา่ งรวดเรว็ จากการพฒั นาทางเศรษฐกจิ ในชว่ งทศวรรษ1990 ทำใหร้ ะบบบำบดั นำ้ เสยี รวมและระบบกำจัดของเสียรวมในเขตเทศบาลต่างๆ ไม่สามารถรองรับน้ำเสียและของเสยี ได้องคก์ ารค มุ้ ครองส่งิ แวดล้อมแห่งรฐั (SEPA)และค ณะกรรมาธิการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติ(NationalDevelopmentand ReformCommission:NDRC) จึงจัดทำข้อเสนออัตราค่าธรรมเนียมการจัดการมลพิษใหม่ที่จะเรียกเก็บจากป ระชาชนและเสนอต่อคณะมนตรีแหง่ ชาตใิ นชว่ งตน้ ค .ศ.2002เพื่อให้มีงบประมาณมากขึ้นในการดำเนินงานระบบบำบัดน้ำเสียและระบบกำจัดของเสยี รวมอตั ราค า่ บ ำบดั น ำ้ เสยี และจดั การของเสยี ท เ่ี สนอใหมไ่ ดร้ บั ค วามเหน็ ชอบอย่างรวดเร็ว และน ำไปใช้บ งั คบั ใน20 มณฑลใน ค.ศ .2003 ต ามข้อเสนอใหม่น้ีประชาชนและทุกครัวเรือนจะต้องจ่ายค่าบำบัดน้ำเสียและค่ากำจัดขยะมูลฝอยในอัตราท่ีเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสียและกำจัดของเสีย ค่าน้ำประปาในน ครเปย่ จ์ งิ (Beijing)ในป จั จบุ นั จงึ ม อี ตั ราส งู ขนึ้ เปน็ ส องเทา่ เนอ่ื งจากผ ใู้ ชน้ ำ้ ต อ้ งจ่ายคา่ บำบดั น้ำเสียในอ ัตรา1ห ยวนต่อน ำ้ 1ตนั ท ่บี ริโภคในแต่ละวนั 7 ส ำหรบั อตั ราภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ท างอากาศท ค่ี ดิ จากค า่ SO2ณ ป ี ค .ศ .2005อยทู่ ี่0.63ห ยวนตอ่ ก โิ ลกรัมและท ี่คดิ จากออกไซดข์ องไนโตรเจนN OX ณ ปี ค .ศ .2004อย่ทู ่ี 0.6หยวนต ่อกโิ ลกรัม(OECD,2006) ผ กู้ ่อม ลพิษม เี วลา20วันในการเสยี ภ าษีรายเดอื นห ากไม่ชำระภ าษภี ายในเวลาท กี่ ำหนดจะตอ้ งเสียเงนิ เพิม่ ในอตั ราร้อยละ0.2ต ่อวันเพื่อส่งเสริมใหม้ ีการล ด7 Wang Jinnan, อา้ งแล้ว
20 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มมลพิษค ่าภ าษีจะเพ่มิ ขน้ึ ต ามระยะเวลาท ่ีไมป่ ฏิบตั ติ ามกฎหมายน อกจากนี้ ห ลงั จากสองปแี รกของการจ่ายภ าษีภาษีจะเพมิ่ ขนึ้ ในอตั รารอ้ ยล ะ5ต อ่ ปี (O ECD,2006) ในปี ค.ศ.2003 มีการจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษจากสถานประกอบการและแหล่งกำเนิดมลพิษจำนวน 700,000 แห่งทั่วประเทศ มีรายได้จากภาษีเป็นจำนวนเงิน6,000 ล้านหยวน ซึ่งคิดเป็นอัตราเพ่ิมขึ้นร้อยละ120 จากภาษีท่ีจดั เกบ็ ไดใ้ นป ี ค.ศ .19968เงนิ ภ าษที จี่ ดั เกบ็ ไดใ้ หน้ ำสง่ ก ระทรวงก ารค ลงั ซง่ึ จะจดั สรรเงินได้ ดังกล่าวเพ่ือการจัดการส่ิงแวดล้อม ได้แก่ การดำเนินมาตรการคุ้มครองส่ิงแวดลอ้ ม จัดซ้ือเคร่ืองมือและอปุ กรณ์ในก ารติดตามต รวจสอบม ลพิษและก ารใช้เทคโนโลยีใหมๆ่ เงินภ าษที จ่ีดั เก็บได้ถ กู จัดสรรให้รัฐบาลกลางในสัดส่วนร้อยล ะ10ส่วนท่ีเหลือร้อยละ90 ให้จัดสรรให้รัฐบาลท้องถ่ินในระดับมณฑล เทศบาล และหนว่ ยงานนอกเขตเทศบาล(O ECD,2006) กลอ่ งท่ี1 พัฒนาการเรอื่ งก ารจดั เกบ็ ภ าษมี ลพษิ ของจีน แนวคดิ เรอื่ งก ารจดั เก็บภ าษกี ารปลอ่ ยมลพษิ (PollutionCharge) ถูกเสนอเป็นครั้งแรกเม่ือ ค.ศ.1978 ในรายงานของกลุ่มผู้นำด้าน สงิ่ แวดล้อมของค ณะมนตรแีหง่ รัฐ(StateC ouncil)เพ่ือขอความเห็นชอบ จากค ณะก รรมการก ลางของพ รรคค อมมวิ นสิ ต์ ในป ตี อ่ ม าขอ้ เสนอด งั ก ลา่ ว ถกู บรรจลุ งในกฎหมายคุ้มครองส ่งิ แวดลอ้ ม(EnvironmentalProtection Law) ของจนี ซึ่งก ำหนดใหส้ ถานประกอบการและแหลง่ กำเนิดม ลพิษทกุ ประเภทต อ้ งจา่ ยค า่ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ต ามป รมิ าณและค วามเขม้ ขน้ ของ มลพษิ ท รี่ ะบายออกสสู่ งิ่ แวดลอ้ มในก รณที มี่ ลพษิ ด งั ก ลา่ วม คี า่ ม าตรฐานเกนิ กว่าที่กฎหมายอนุญาต โครงการนำร่องในการจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษดำเนินการ คร้ังแรกท่ีเมืองซูโจว (Suzhou) ในมณฑลเจียงซู นับจนถึงปลายปี ค.ศ .1981 ม กี ารทดลองเก็บภ าษกี ารปล่อยมลพษิ ในเมอื งตา่ งๆ ของ28 มณฑลแ ละเขตเทศบาล8 Wang Jinnan, อา้ งแล้ว
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 21 ในค.ศ .1982คณะม นตรีแห่งรัฐไดอ้ อกคำส ่งั ฉ บบั ท ี่ 21ทเ่ี รียกว่าTheTentativeProvisionsonPollutionChargeซง่ึ ก ำหนดวัตถปุ ระสงค์ของก ารจดั เกบ็ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ อตั ราและสตู รในก ารค ำนวณภ าษี และการจัดการเงินท่ีได้จากการจัดเก็บภาษี เงินได้จากภาษีมีบทบาทสำคัญในการสนบั สนุนกิจกรรมท ี่ลดมลพษิ และช่วยเสรมิ ส รา้ งส มรรถนะของหนว่ ยงานส่งิ แวดลอ้ มในระดบั ท ้องถ น่ิ (EPBs)ในช่วงก วา่ ส องท ศวรรษทผ่ี า่ นมา รายงานการวจิ ัยในปี ค .ศ.1990เกย่ี วกับปญั หาม ลพษิ ทางอากาศและสภาวะฝนกรดท เี่ กดิ จากการป ลอ่ ยกา๊ ซSO2ท ำใหค้ ณะม นตรแี หง่ รฐั ออกมาตรการในค .ศ .1992ใหเ้ กบ็ ภาษีก ารปลอ่ ยSO2จากภาคสาธารณูปโภคซง่ึ ป ล่อยSO2ในสัดส่วนส ูงถึงรอ้ ยละ46ของป ริมาณท ้งั หมดในป ระเทศโดยส่วนใหญ่ให้เรยี กเกบ็ จากโรงไฟฟ้าท่ีใช้ถ่านหนิ เปน็ เช้ือเพลิง ตลอดช่วงทศวรรษ1990 ระบบการเก็บภาษีการปล่อยมลพิษของจีนได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่ายังอยู่ในอัตราที่ต่ำเกินกว่าท่ีจะสร้างแรงจูงใจให้ลดการก่อมลพิษ ในช่วงเวลาดังกล่าวธนาคารโลกไดป้ ระเมินวา่ ม ลพษิ ทางอ ากาศของจีนกอ่ ให้เกดิ ความเสียห ายทางเศรษฐกิจคิดเป็นร้อยละ 7 ของ GDP ต่อมาใน ค.ศ. 1994ธนาคารโลกได้จัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการดำเนินโครงการวิจยั ขนาดใหญ่(ประกอบดว้ ยส ถาบนั วิจยั 20 แห่ง และนกั วิจยั 322 คนในโครงการ ครอบคลุมสถานประกอบการท่ีเป็นกลุ่มตัวอย่างประมาณ 20,000 แห่ง) เพ่ือศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการกำหนดภาษีการปล่อยมลพิษในอัตราต่างๆ การศึกษาดำเนินการแล้วเสร็จใน ค.ศ.1997 และผลการศึกษาถูกนำเสนอต่อคณะมนตรีแห่งรัฐใน ค.ศ.2000 พร้อมข้อเสนอให้มีการปฏิรูปนโยบายการจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษ จนนำไปสู่การปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีการปล่อยม ลพษิ ในค.ศ.2002ทม่ี า: WangJinnan,TheDevelopmentofPollutionChargeinC hina,http://www.caep.org.cn.
22 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม • สหรัฐอเมริกา การเก็บภาษีการปล่อยมลพิษเป็นมาตรการท่ีใช้กันแพรห่ ลายในม ลรฐั ต า่ งๆของสหรฐั อเมรกิ าก ฎหมายค วบคมุ ม ลพษิ ท างน ำ้ ของสหรฐั ฯ(TheFederalW aterPollutionControlA ctof1972)กำหนดใหแ้ หล่งกำเนิดมลพิษท กุ ป ระเภทต อ้ งไดร้ บั ใบอ นญุ าตในก ารระบายน ำ้ ท งิ้ (N ationalPollutionD ischargeEliminationSystem:NPDESpermits)ส ำนกั งานคมุ้ ครองส่ิงแวดล้อมของส หรฐั ฯ(U.S.EnvironmentalProtectionAgency:EPA) ได้มอบอำนาจให้40 มลรัฐทำห นา้ ทอ่ี อกใบอนญุ าตระบายน ำ้ ท ง้ิ และส ำนกั งานเขต(regionaloffices)ของEPAเปน็ ผ้อู อกใบอ นญุ าตเองในอกี 10มลรฐั การจัดเก็บภาษีของมลรัฐต่างๆ ในรูปของค่าใบอนุญาตปล่อยน้ำทิ้งสามารถแบ่งได้เป็น3ลกั ษณะค อื (1) ประมาณ11ม ลรฐั จดั เกบ็ ในอตั ราค งทห่ี รอื เหมาจา่ ยบ างม ลรฐั แบง่ อตั รา การจัดเก็บตามประเภทหรือขนาดของอุตสาหกรรม หรือแหล่งกำเนิด มลพษิ (2) ประมาณ18ม ลรัฐจัดเกบ็ ต ามป ริมาณของนำ้ ท้ิง (3) ประมาณ10 ม ลรฐั จัดเกบ็ ต ามป รมิ าณนำ้ ทงิ้ และต ามปริมาณม ลพิษ (toxicity)ในน ำ้ ท ้งิ ยกตวั อยา่ งเช่นรัฐล ยุ เซยี นา(Louisiana)กำหนดค ่าใบอ นญุ าตระบายน ้ำท ้งิ รายป เีป็นห น่วย(worksheetassigningpoints)โดยค ำนวณบนฐานของ1)ค วามซบั ซอ้ นของแหล่งก ำเนิดม ลพษิ (facilitycomplexity)2)ปริมาณและป ระเภทของน้ำท ง้ิ 3)ม ลพษิ ในน ้ำท ้ิง4)ความรอ้ นหรอื อ ุณหภูมิของน้ำทิ้ง5)ค วามเป็นอันตรายต่อการสาธารณสขุ (potentialpublichealththreat)และ6)แหลง่ กำเนิดม ลพิษนนั้ ถ กู จดั เปน็ ขนาดใหญห่ รอื เลก็ จากน น้ั ใหน้ ำห นว่ ยท ี่ไดม้ าค ณู ด ว้ ยอ ตั ราU SD97.50สำหรับแหล่งกำเนิดมลพิษนอกภาคอุตสาหกรรม(municipalfacilities) และคูณดว้ ยUSD170.63สำหรับแหล่งกำเนิดมลพิษในภาคอ ุตสาหกรรมอตั ราข้นั ต ำ่ ของค่าใบอนญุ าตรายปคี อื USD227.50และอตั ราส ูงสุดคอื U SD90,00099 EffluentChargeSystems,NationalCenterforEnvironmentalEconomics,U.S.EnvironmentalProtectionA gency,ท ่มี า:http://yosemite.epa.gov/ee/epa,lastupdatedO ctober5th,2009.
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 23ตวั อยา่ งอ ัตราภาษกี ารป ลอ่ ยม ลพิษท างอากาศท ปี่ ระเทศต่างๆจดั เกบ็ ป ระเทศท่เี กบ็ ภ าษีการป ล่อยม ลพิษทางอ ากาศส ว่ นใหญ่ได้แก่ ประเทศน อกภาคพืน้ เอเชยี ด ังแสดงในตารางท ี่ 2ตารางท่ี2 อตั ราภาษกี ารป ล่อยม ลพิษทางอากาศของป ระเทศต่างๆ อตั ราภ าษี (เหรียญส หรฐั )ประเทศ SO2 NOX C Oบัลแกเรยี 0.02/kg 0.05/kgสาธารณรฐั เช็ก 30/tonto45/ton 30/tonto45/ton 22/tonto33/tonเดนมารก์ 1.60/kgเอสโตเนีย 2/tonto95/ton 4/tonto216/ton 0.27/tonto1.36/tonฟ นิ แลนด์ 3 0/m3o fdieselฝ ร่ังเศส 32/ton 27/tonฮ ังการี 2.40/ton 4/tonอติ าลี 62/ton 123/tonลิทัวเนีย 46/ton 67/ton 1.75/tonโปแลนด์ 83/ton 83/ton 22/tonรัสเซีย 1.22/tonto6.10ton 1.02/tonto5.08/ton 0.02/tonto0.09/tonสโลวะเกีย 33/ton 27/ton 20/tonสเปน 35/tonสวเี ดน 5/kgทมี่ า:BenoitLaplante,2007. นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างของอัตราภาษีการปล่อยมลพิษทางอากาศในมณฑลBritishC olumbiaของแคนาดาซงึ่ ประกอบด ว้ ยอ ัตราภาษีคงที่และอ ัตราแปรผนั ดังนี้ ค ือ
24 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม • อัตราภาษคี งท่ี=85เหรยี ญแคนาดาโดยจดั เกบ็ จากแหล่งกำเนิดม ลพษิ ทกุ ป ระเภท • อ ัตราแปรผนั เกบ็ ต ามป ระเภทของม ลพิษโดยค ดิ ต ามปรมิ าณของม ลพิษ ที่ระบายออกส ู่สิ่งแวดล้อมต ามอตั ราในตารางท ี่ 3ต ารางท่ี3แสดงอ ตั ราภาษีแปรผนั ส ำหรับม ลพิษประเภทตา่ งๆในBritishColumbiaมลพษิ เหรยี ญแคนาดา/ต ันCO 0.33NOX 8.40SO2 9.75TSP 12.50Ammonia 12.50Chlorined ioxide 8.40Fluorides 500.00Hydrocarbons 12.50Metals 500.00ทม่ี า:BenoitLaplante,2007.
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 255 การจดั ทำกฎหมายวา่ ดว้ ยเครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การ สง่ิ แวดลอ้ ม นับตั้งแต่ พ.ศ.2545 เป็นต้นมา หลายหน่วยงานที่มีภารกิจด้านส่ิงแวดล้อมมีนโยบายที่จะนำเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการจัดการสิง่ แวดล้อมมากขนึ้ ยกต วั อย่างเชน่ กรมโรงงานอ ุตสาหกรรมเคยจัดท ำร่างพ ระราชบัญญตั กิ ารจดั การม ลพษิ โรงงานซง่ึ กำหนดให้ผปู้ ระกอบก ิจการโรงงานต ้องชำระค ่าเรยี กเกบ็ เพอ่ื น ำเงนิ ม าจดั ต ง้ั ก องทนุ สำหรบั ก ารจดั การสง่ิ แวดลอ้ มก รมค วบคมุ ม ลพษิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติสง่ เสริมการจัดการของเสียอันตรายจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว ซ่ึงกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ท่ีจะกลายเป็นขยะอันตรายเม่ือผู้บริโภคใช้แล้ว ต้องชำระค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์ และนำเงินที่จัดเก็บได้มาจัดตั้งกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดระบบรับซื้อคืนซากผลิตภัณฑ์จากผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกิดการคัดแยกขยะอันตรายออกจากขยะท่ัวไป ซ่ึงจะเป็นการส่งเสริมการนำขยะที่ใช้ได้กลับมาใช้ใหม่และทำให้ขยะอันตรายส่วนท่ีไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกได้รับการบำบัดและกำจัดอย่างถูกตอ้ ง ลา่ สดุ ในพ.ศ .2550สำนกั งานเศรษฐกจิ ก ารคลงั กระทรวงการค ลังโดยความรว่ มม อื และก ารส นบั สนนุ จากธนาคารพ ฒั นาเอเชยี (A DB)ไดจ้ ดั ท ำรา่ งพ ระราชบัญญัติเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการจัดการส่ิงแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพอื่ ใหเ้ปน็ กฎหมายแม่บทซงึ่ ห นว่ ยงานต า่ งๆ ทีม่ พี ันธก ิจด้านส งิ่ แวดล้อมส ามารถนำเครอื่ งม อื ท างเศรษฐศาสตรท์ เ่ี หมาะสมม าใชใ้ นการจดั การสงิ่ แวดลอ้ มไดโ้ ดยจดั ท ำเปน็ พระราชก ฤษฎกี า
26 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม6 รา่ งพระร าชบญั ญตั ิ เครอ่ื งม อื ท างเศรษฐศาสตร์ เพอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม วตั ถปุ ระสงค์ในก ารจดั ท ำรา่ งพ ระราชบ ญั ญตั ฉิ บบั น กี้ ค็ อื เพอ่ื ใหเ้ ปน็ กฎหมายแมบ่ ทท ก่ี ำหนดเครอื่ งม อื ท างเศรษฐศาสตรป์ ระเภทต า่ งๆสำหรบั ใหห้ นว่ ยงานรัฐนำไปใช้ในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ตามพันธกิจของตนเอง กฎหมายนี้จึงเปรียบเสมือนเต็นท์ใหญ่ท่ีเปิดให้หน่วยงานต่างๆ สามารถมาออกบูธได้ สำหรับรายละเอียดเก่ียวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์แต่ละประเภทน้ันให้กำหนดโดยจัดทำเป็นพระราชกฤษฎีกาซ่ึงเป็นกฎหมายระดบั รองอ ีกชน้ั หนึ่งเคร่อื งมอื เศรษฐศาสตรเ์ พือ่ การจดั การส งิ่ แวดล้อมต ามรา่ งพ ระราชบ ัญญตั ินี้ ได้แก่ (1) ภาษีส่งิ แวดลอ้ ม (2) คา่ ธรรมเนยี มก ารจดั การ (3) ภาษแีละค า่ ธรรมเนยี มผ ลิตภณั ฑ์ (4) การวางเงนิ ประกนั ค วามเสยี่ งหรอื ความเสยี หายต่อส ิง่ แวดลอ้ ม (5) การซื้อขายส ทิ ธกิ ารใชท้ รัพยากรธรรมชาติหรือส ิทธิการป ลอ่ ยม ลพิษ (6) การใหเ้ งนิ อ ุดหนุนมาตรการส นับสนนุ ห รือสิทธพิ เิ ศษอ่นื ๆรา่ งกฎหมายน ้ีมจี ดุ เดน่ ห รอื เป็นน วัตกรรมทางก ฎหมายด ว้ ยเหตผุ ล3ประการค ือ หนงึ่ เปน็ การบูรณาก ารให้ก ระทรวงต ่างๆส ามารถใช้ก ฎหมายน รี้ ่วมก นั ได้ สอง เป็นกฎหมายฉบับแรกท่ีให้อำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใน
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 27การจัดเก็บภาษีและได้รับการจัดสรรรายได้จากภาษีท่ีจัดเก็บได้ในสัดส่วนที่มากกว่าสว่ นกลางโดยใหส้ ง่ ค นื เพยี งบางส ว่ นให้กับรัฐบาลและ สาม เปิดให้ผู้มีส่วนได้เสียในภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในใช้ประโยชน์จากรายได้ท่ีเกดิ จากก ารเกบ็ ภ าษีและค่าธรรมเนยี มต ามก ฎหมายน้ีกรอบแนวคิดในการจัดทำกฎหมายเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการจัดการส่งิ แวดล้อมสามารถแสดงใหเ้ หน็ ได้ตามแผนภาพท่ี 1ด งั นี้พ.ร.ฎ.ภาษี พ.ร.ฎ.ภาษี มลพษิ มลพษิ ทางน้ำ ทางอากาศ พ.ร.บ.เคร่ืองมอื ทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อการจดั การ สิง่ แวดล้อม พ.ร.ฎ. พ.ร.ฎ.คา่ ธรรมเนียม ฯลฯ ผลติ ภัณฑ์แผนภาพท ่ี1 แสดงก รอบแนวคดิ ในก ารจดั ท ำก ฎหมายวา่ ด ว้ ยเครอ่ื งม อื ท างเศรษฐศาสตร์ในการจัดการส ิง่ แวดล้อม
28 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มรา่ งพ ระราชบ ญั ญตั เิ ครอ่ื งม อื ท างเศรษฐศาสตรก์ ำหนดระบบสถาบนั เพอื่ เออื้ อำนวยให้เกดิ การบูรณาก ารระหว่างกระทรวงต า่ งๆท ่มี ภี ารกจิ ด้านส งิ่ แวดลอ้ มท่ีสำคญั ได้แก่ • คณะกรรมการกำกับนโยบายการใช้เคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์เพ่ือการจดั การสงิ่ แวดลอ้ มท ม่ี รี ฐั มนตรวี า่ การก ระทรวงก ารค ลงั เปน็ ป ระธานเพอ่ื ป ระสานงานการใช้เคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์ในภาพรวม คณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐต่างๆ ท่ีมีพันธกิจด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ เมื่อหน่วยงานใดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีความประสงค์ท่ีจะนำเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ประเภทใดประเภทหน่ึงไปใช้ในการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มตามอ ำนาจห น้าทีข่ องต นกส็ ามารถเสนอให้คณะก รรมการพ จิ ารณาและเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจดั ท ำพระราชกฤษฎกี าซ่งึ ก ำหนดห ลักเกณฑ์วธิ กี ารและเงอื่ นไขในการใชเ้ คร่อื งมอื ทางเศรษฐศาสตรน์ ้ันตามพระราชบ ญั ญัตนิ ้ีได้ คณะกรรมการมีอำนาจแต่งต้ังผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษา และแต่งตั้งคณะอ นกุ รรมการเพอ่ื พิจารณาหรอื ป ฏิบัติก ารต ามท ่ีคณะกรรมการม อบหมายได้ • กองทุนภาษีและค่าธรรมเนียมส่ิงแวดล้อม ประกอบด้วยรายได้จากการจดั เกบ็ ภ าษสี ง่ิ แวดลอ้ มและภ าษแี ละค า่ ธรรมเนยี มผ ลติ ภณั ฑท์ เ่ี รยี กเกบ็ ต ามพระราชบัญญตั ินี้ (แผนภาพท ่ี 2)เงนิ ก องทนุ ม ีวตั ถุประสงค์เพ่ือใชใ้ นก จิ การต า่ งๆท่ีเกีย่ วขอ้ งกับการรักษาส ่ิงแวดลอ้ มเชน่ (1) อุดหนุนหรือให้กู้ยืมแก่โครงการควบคุมหรือลดการปล่อยมลพิษซึ่งเสนอ โดยห น่วยงานรฐั และผ ปู้ ระกอบการภ าคเอกชน (2) อุดหนุนโครงการวิจัยและพัฒนาท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการมลพิษและ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท่ีเสนอโดยหน่วยงานรัฐ และอ งคก์ รเอกชนท่ีเก่ยี วข้องกับการจดั การส ิ่งแวดลอ้ ม
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 29 (3) เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการของเสียและการจัดการผลิตภัณฑ์ท่ีใช้แล้ว รวมท ง้ั ก ารจัดระบบรวบรวมหรือรับซ้ือคนื ผลติ ภัณฑ์ท ่ีใช้แลว้ (4) เปน็ เงนิ ชว่ ยเหลอื ห รอื ใหก้ ยู้ มื แกก่ จิ การน ำของเสยี ก ลบั ม าใชซ้ ำ้ ห มนุ เวยี น กลบั มาใชใ้ หม่ หรือนำก ลบั ม าใชอ้ ีก (5) อุดหนุนกิจกรรมหรือโครงการท่ีเก่ียวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ และส ง่ิ แวดลอ้ มท เ่ี สนอโดยหนว่ ยงานผู้รบั ผิดชอบ (6) เปน็ ค า่ ใชจ้ า่ ยในการฟ นื้ ฟสู งิ่ แวดลอ้ มท สี่ ญู หายห รอื ไดร้ บั ค วามเสยี ห ายจาก การท ำลายหรือจากการรว่ั ไหลห รือแพร่กระจายของม ลพิษ (7) อุดหนุนหรือใช้จ่ายในกิจการอ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละส ง่ิ แวดล้อมตามทคี่ ณะก รรมการกำหนด กองทนุ ภาษี และ คา่ ธรรมเนียม สิง่ แวดล้อม ภาษีการปล่อย คา่ ธรรมเนียม เคร่อื งมืออ่นื ๆ มลพิษ ผลติ ภณั ฑ์ เพื่อการ แบตเตอร่ี มลพิษทางนำ้ ยางรถยนต์ อนรุ ักษ์ส่ิงแวดลอ้ มมลพิษทางอากาศ ขยะอิเลก็ ทรอนิกส์ ภาษีทอ่ งเทย่ี ว ภาษีโลกร้อน อน่ื ๆ อนื่ ๆ อืน่ ๆแผนภาพที่ 2 โครงสร้างเงินก องทนุ ภ าษีและค า่ ธรรมเนยี มส ิ่งแวดล้อม
30 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มการบ ริหารจดั การก องทุน (1) มคี ณะก รรมการก องทนุ ป ระกอบด ว้ ยป ลดั ก ระทรวงก ารค ลงั เปน็ ป ระธาน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และ กรรมการผ ้ทู รงคณุ วุฒิท ี่คณะรัฐมนตรีแตง่ ตัง้ เป็นจำนวนไมเ่กิน10 ค น เป็นกรรมการ ในจำนวนผู้ทรงคุณวุฒิ ให้มีผู้แทนภาคอุตสาหกรรม ภาคบ ริการส มาคมส ันนบิ าตเทศบาลส มาคมอ งคก์ ารบรหิ ารส ว่ นจังหวัด กรุงเทพมหานคร และผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการเงินและ การจดั การและผอู้ ำนวยการสำนกั งานเศรษฐกจิ การคลงั เปน็ กรรมการและ เลขานกุ าร (2) ให้แยกเงินในกองทุนออกเป็นบัญชีตามที่มาของเงินได้จากภาษีและ ค่าธรรมเนียม (3) แต่ละบัญชีมีผู้จัดการ(สถาบันการเงินหรือนิติบุคคลที่ได้รับแต่งต้ังจาก คณะกรรมการก องทุน)เพ่ือบ ริหารจัดการเงินในบ ญั ชีต ามวตั ถปุ ระสงค์ (4) ผู้จัดการกองทุนมีหน้าที่จัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนดำเนินงานของ กองทุน ประเมินข้อเสนอโครงการและอนุมัติเงินอุดหนุนหรือเงินกู้แก่ โครงการและกจิ กรรมต ามขนาดและภ ายในวงเงนิ ท ค่ี ณะกรรมการกองทนุ กำหนด (5) ตอ้ งจดั ให้กองทุนมีการต รวจส อบภายในเกีย่ วกับก ารเงินก ารบ ัญชีและ พสั ดุของกองทนุ (6) กองทุนต้องมีงบการเงิน และมีการสอบบัญชีและประเมินผลการใช้จ่าย เงนิ และท รพั ยส์ นิ ของกองท นุ โดยสำนกั งานต รวจเงนิ แผน่ ดนิ (สตง.)ห รอื บคุ คลภ ายนอกต ามท คี่ ณะก รรมการก องทนุ แตง่ ต ง้ั โดยค วามเหน็ ชอบของ สตง. (7) มีคณะกรรมการประเมินผล ซ่ึงแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี เพ่ือติดตาม ตรวจส อบและป ระเมนิ ผ ลการด ำเนนิ งานของกองทุน
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 317 รา่ งพระราชกฤษฎกี าจดั เกบ็ ภาษี การปลอ่ ยมลพษิ ทางนำ้ จากคา่ บโี อดี (BOD) และปรมิ าณสารแขวนลอย (TSS) ภายใต้ร่างพระราชบัญญัตินี้ กระทรวงการคลังได้จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แลเง่ือนไขการจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษท างน้ำจากค่าบโี อดี(BOD)และปรมิ าณส ารแขวนลอย(TSS)เสรจ็ เปน็ ท ่ีเรยี บร้อยแล้วขณะนกี้ ำลงั อยู่ในระหว่างการป รบั ปรุงรา่ งก ฎหมายใหส้ มบูรณ์ เหตผุ ลทมี่ ีการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาน้ีก่อนก็เพราะการเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางน้ำเป็นภาษสี ง่ิ แวดลอ้ มท ม่ี คี วามเปน็ ไปไดใ้ นท างป ฏบิ ตั มิ ากท ส่ี ดุ ในขณะน ้ี จากขอ้ มลู ท ปี่ รากฏปญั หาม ลพษิ ท างน ำ้ จากภ าคอตุ สาหกรรมในป ระเทศไทยจะก ระจกุ ต วั อยู่ในพ นื้ ทเ่ี พยี งไมก่ ่จี งั หวดั และจำกัดอ ยู่ในอุตสาหกรรมไม่ก ี่ประเภทด งั น ัน้ เราจึงนา่ จะลดมลพษิ ทางน้ำจากภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างมาก หากนำเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ท่ีเหมาะส มมาใชใ้หถ้ กู ตอ้ งในอ ตุ สาหกรรมเป้าหมายและพ้ืนท่ที ่ีเกีย่ วข้อง จากการทบทวนระบบสถาบันในการจัดการมลพิษทางน้ำพบว่า หน่วยงานที่เก่ียวข้องในปัจจุบันมีฐานข้อมูลและระบบการติดตามตรวจสอบท่ีดำเนินการอยู่แล้วมากเพียงพอท่ีจะรองรับการเก็บภาษีมลพิษทางน้ำได้ มลพิษทางน้ำจึงควรเป็นเป้าหมายแรกในการเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมท้ังในภาคอุตสาหกรรมและภาคนอกอตุ สาหกรรมโดยในระยะแรกจะเกบ็ จากค า่ บ โี อด ี(BOD)และป รมิ าณส ารแขวนลอย(TSS) สำหรับมลพิษทางน้ำอื่นๆ เช่น โลหะหนัก สามารถออกพระราชกฤษฎีกาเพ่ือจัดเก็บเพิ่มเติมต่อไปในภายหลังได้ เมื่อประเทศไทยมีประสบการณ์เพียงพอเกยี่ วกบั การจดั เกบ็ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ท างน ำ้ และห นว่ ยงานท เ่ี กย่ี วขอ้ งม คี วามพ รอ้ มและส ามารถบ รหิ ารระบบภาษีได้
32 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม ในการออกแบบภาษีได้ยึดหลักการสำคัญ5 ประการคือ ประสิทธิผล(effectiveness) ความเป็นธรรม(fairness) เข้าใจและบริหารง่าย(simplicity)มีความยืดหยุ่นและเลี้ยงตัวเองได้(self-sufficiency) และ มีความเป็นไปได้(feasibility) การนำมาตรการภาษีสิ่งแวดล้อมมาใช้ในระยะแรกจึงอาจไม่สามารถครอบคลุมแหล่งกำเนิดมลพิษหรือผู้ก่อมลพิษได้ท้ังหมด แต่จะต้องกำหนดกลุ่มเปา้ ห มายซง่ึ ส ามารถนำระบบการจัดเก็บภาษีไปปฏิบตั ิได้ก่อน7.1 แ หลง่ กำเนดิ มลพษิ ซ ง่ึ มหี นา้ ท เ่ี สยี ภาษมี ลพษิ ท างน ำ้ ตามร่างพระราชกฤษฎีกาน้ี แหล่งกำเนิดมลพิษทุกประเภทมีหน้าท่ีต้องเสียภาษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ โดยส ามารถแบง่ ต ามป ระเภทและห นว่ ยงานท รี่ บั ผ ดิ ชอบในก ารจดั เก็บภ าษีไดด้ ังน้ี (1) โรงงานจำพวกท่ี3 ตามประเภท ชนิด และขนาดที่ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมก ำหนดโดยอ ตุ สาหกรรมทค่ี าดวา่ จะเป็นเป้าหมายก ารจดั เก็บภ าษีก่อนไดแ้ ก่BOD TSSอ ุตสาหกรรมเยือ่ กระดาษและกระดาษ อุตสาหกรรมเหลก็ และเหลก็ ชบุ อตุ สาหกรรมน ำ้ ตาล อุตสาหกรรมเยอ่ื กระดาษและกระดาษผ ลติ ภณั ฑจ์ ากป ลา ผลติ ภัณฑ์จากยางพาราการกลน่ั เหล้าผ ลติ ภัณฑ์นมอุตสาหกรรมเคมี
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 33 อตั ราภ าษที เี่ รยี กเกบ็ ขนึ้ อยกู่ บั ขนาดของโรงงานก ารก ำหนดขนาดของโรงงานจะเปน็ ไปต ามป ระกาศก ระทรวงอ ตุ สาหกรรม10ส ำหรบั ก ารเกบ็ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ทางน ำ้ ต ามค า่ บ โี อด แี ละป รมิ าณส ารแขวนลอยอาจก ำหนดขนาดไดโ้ ดยพ จิ ารณาต ามปรมิ าณน้ำท ิง้ ด งั น้ี • โรงงานขนาดเล็กมปี รมิ าณนำ้ ทงิ้ 1-50ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ วนั • โรงงานขนาดก ลางม ปี รมิ าณน ำ้ ทง้ิ ม ากกวา่ 50-500ลกู บาศกเ์ มตรต อ่ วนั • โรงงานขนาดใหญ่ มปี รมิ าณนำ้ ท ง้ิ มากกวา่ 500ลกู บาศกเ์ มตรขน้ึ ไปตอ่ วนั (2) โรงงานจำพวกที่1 โรงงานจำพวกท่ี2 และกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ตามประเภท ชนิด และขนาดที่ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด แหล่งกำเนิดมลพิษทคี่ าดวา่ จะจดั เกบ็ ภ าษีในเบอ้ื งต น้ ไดแ้ ก่ อาคารขนาดใหญ่ ห า้ งสรรพสนิ คา้ ภ ตั ตาคารและรา้ นอาหารฯลฯ ผู้ประกอบกิจการโรงงานและเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษซ่ึงมีหน้าท่ีต้องเสียภาษีการปล่อยมลพิษทางน้ำตามร่างพระราชกฤษฎีกาน้ีต้องตดิ ต งั้ เครอ่ื งวดั อตั ราก ารไหลของน ำ้ ท ง้ิ ท เ่ี กดิ จากก ารป ระกอบก จิ การและแหลง่ ก ำเนดิ มลพิษของต น7.2 อตั ราภ าษี อัตราภ าษีป ระกอบดว้ ย (1) อัตราคงที่ (FixedFee)ใชบ้ งั คับกบั ผ ู้ประกอบกจิ การท ี่เป็นโรงงานห รือแหล่งกำเนิดมลพิษขนาดเล็กและขนาดกลาง อัตราภาษีคงที่ถูกออกแบบมาเพื่อ10ในกรณกี ารจดั เก็บภ าษมี ลพษิ ทางน ำ้ จากคา่ พ าราม เิตอร์อน่ื ๆอาจม ีห ลักเกณฑก์ ารแบง่ ขนาดของโรงงานแตกต ่างไปจากน้ีเช่นห ากเก็บภาษีจากค า่ ป ริมาณโลหะหนักจะใช้เกณฑ์การแบ่งขนาดโรงงานด ังนี้ค อื • โรงงานขนาดเล็กมีปริมาณน ้ำทงิ้ 1-5ล กู บาศก์เมตร • โรงงานขนาดก ลางมีปรมิ าณน ้ำท ้ิง5-50ลูกบาศก์เมตร • โรงงานขนาดใหญ่มีปริมาณน ำ้ ท ง้ิ ม ากกวา่ 50ลูกบาศก์เมตรข้นึ ไป
34 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มครอบคลุมค่าใช้จ่ายของหน่วยงานผู้กำกับดูแลในการติดตามตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษว่าเสียภาษีถูกต้อง และมีวัตถุประสงค์ให้ระบบภาษีสามารถเล้ียงตัวเองได้ในระยะแรกของการบังคับใช้ภาษีการปล่อยมลพิษน้ี ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดก ลางจะมหี นา้ ท่เี สยี ภาษีในอ ัตราคงที่เทา่ นัน้ โดยค ดิ ในอ ตั ราด งั น้ี • โรงงานห รอื แหลง่ กำเนดิ ม ลพษิ ขนาดเลก็ เสยี ภ าษขี น้ั ต ำ่ ในอตั รา1,000บ าท ตอ่ ปี แต่ไมเ่ กนิ 3,000บาทต ่อป ี • โรงงานหรอื แหลง่ กำเนดิ ม ลพษิ ขนาดกลางเสยี ภาษขี นั้ ตำ่ ในอตั รา3,000บ าท ต ่อป ี แต่ไม่เกิน10,000บาทต อ่ ปี (2) อัตราแปรผัน(VariableFee) ใช้บังคับเฉพาะกับโรงงานหรือแหล่งกำเนดิ ม ลพษิ ขนาดใหญ่ ม วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื สรา้ งแรงจงู ใจใหเ้ จา้ ของห รอื ผคู้ รอบค รองแหล่งกำเนิดมลพิษลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งเป็นไปตามหลักการด้านประสิทธิผลเน่ืองจากผู้ที่ก่อมลพิษมากย่อมที่จะถูกจัดเก็บภาษีสูงเป็นจำนวนมากตามไปด้วยการคำนวณภาษีในอัตราแปรผันให้ใช้ผลการคูณอัตราภาษีต่อหน่วยของมลพิษกับปริมาณมลพิษ ผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีในอัตราแปรผันตามอตั ราดังน้ี คอื • ไมต่ ำ่ ก วา่ 2,500บ าทแตไ่ มเ่ กนิ 10,000บ าทต อ่ ต นั ของค า่ บ โี อด ี และต อ่ ต นั ของป รมิ าณสารแขวนลอย7.3 กลไกการจ ดั เกบ็ ภาษี การจัดเก็บภาษีจากโรงงานจำพวกท่ี3 ดำเนินการโดยกรมสรรพสามิตหากเป็นโรงงานท่ตี งั้ อ ยู่ในเขตก รุงเทพมหานคร และโดยส รรพส ามิตพ ื้นที่ในก รณีท่ีต้ังอยู่ต่างจงั หวัด ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกท่ี3 มีหน้าที่ยื่นคำขอจดทะเบียนผู้เสียภาษีการปลอ่ ยม ลพิษท างน ำ้ ณก รมสรรพสามติ หรือส ำนกั งานสรรพสามิตพ้นื ท่แี ลว้ แต่กรณี ส ำหรับวิธีก ารชำระภาษีให้ยื่นแบบป ระเมนิ ภ าษกี ารป ล่อยมลพษิ ท างน ำ้ พร้อมเอกสารอ่ืนท่ีเก่ียวข้องต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ณ กรมโรงงานอตุ สาหกรรมห รอื ส ำนกั งานอ ตุ สาหกรรมจงั หวดั ในท อ้ งท ซี่ ง่ึ โรงงานน นั้ ต ง้ั อ ยู่ โรงงาน
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 35ขนาดเลก็ และขนาดก ลางม หี นา้ ท ย่ี นื่ แบบป ระเมนิ ป ลี ะห นง่ึ ค รงั้ สว่ นโรงงานขนาดใหญ่ต้องย่ืนแบบประเมินภาษีตามระยะเวลาท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดแต่ต้องไมน่ ้อยก ว่าป ีละส องคร้ัง เมือ่ ผู้ประกอบก ิจการโรงงานยนื่ แบบป ระเมินแลว้ เจา้ พ นักงานตามก ฎหมายวา่ ด ว้ ยโรงงานจะต รวจส อบค วามถ กู ต อ้ งของแบบป ระเมนิ น น้ั ห ากเหน็ วา่ การป ระเมนิ ภาษีเปน็ ไปโดยถ กู ต้องแลว้ กจ็ ะอ อกใบรับรองความถ ูกต อ้ งเพ่อื ใหผ้ ปู้ ระกอบก จิ การโรงงานดำเนินการชำระภาษีต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิต ในกรณีที่เจ้าพนักงานต ามก ฎหมายวา่ ด ว้ ยโรงงานพ จิ ารณาเหน็ วา่ ม ขี อ้ ผ ดิ พ ลาดในแบบป ระเมนิ ท ผี่ ปู้ ระกอบกิจการโรงงานย่ืน ซึ่งทำให้จำนวนภาษีที่ต้องเสียคลาดเคล่ือนไป ก็ให้ดำเนินการแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ รายการในแบบป ระเมนิ และก ำหนดจำนวนภ าษที ถี่ กู ต อ้ งพ รอ้ มก บั ออกใบรับรองเพ่ือให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานย่ืนแบบรายการภาษีและชำระภาษีต่อเจ้าพนกั งานสรรพส ามติ ต ่อไป(แผนภาพท ่ี 3) โรงงาน กรมโรงงาน ผปู้ ระกอบกจิ การประเมนิ ตนเอง ตรวจสอบ โรงงาน ยอมรบั ไมย่ อมรบั กองทนุ กรมสรรพสามติ ยตุ ิ 25% 3% คณะกรรมการ พจิ ารณาอทุ ธรณ์กรมโรงงาน ไมย่ อมรบั ศาลแผนภาพท ่ี 3 กลไกและขัน้ ตอนการจัดเก็บภ าษจี ากโรงงานจำพวกท่ี 3
36 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม การจัดเก็บภาษีจากโรงงานจำพวกที่1 และ จำพวกที่2 และกิจการท่ีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีรับผิดชอบในพื้นที่น้นั เนอ่ื งจากเปน็ หน่วยงานท่มี ีความเหมาะส มและมีความพ รอ้ มด ้านฐานขอ้ มูลเช่นมีแผนท่ีภาษี ชื่อ และท่ีอยู่ของกิจการที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษในพ้ืนที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ ิ่นเป็นต้นน อกจากน ้ี องคก์ รป กครองส ่วนท้องถน่ิ ยังม ีก ารสำรวจขอ้ มลู ฐานภาษขี องต นเองให้ทันสมยั ทกุ ๆปีเพ่อื ก ารจดั เกบ็ ภาษที ่มี ปี ระสิทธิภาพ โรงงานจำพวกท่ี1 และจำพวกที่2 และกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทกุ ขน าดท มี่ หี นา้ ท เ่ี สยี ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ท างน ำ้ ต อ้ งยน่ื ค ำขอจดท ะเบยี นผ เู้ สยี ภ าษีการปล่อยมลพิษทางน้ำ ณ สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินที่แหลง่ ก ำเนดิ มลพษิ น นั้ ต ั้งอยู่ ในการชำระภ าษี ผปู้ ระกอบการต อ้ งยน่ื แบบรายการเพอ่ื ชำระภ าษสี ำหรบั ป ภี าษีที่ลว่ งมาแลว้ พ รอ้ มเอกสารอ นื่ ท เ่ี กยี่ วขอ้ งณ สำนักงานองคก์ รปกครองส ว่ นทอ้ งถ ิ่นในทอ้ งท ซ่ี ึง่ สถานป ระกอบก ิจการน ้นั ตัง้ อ ยู่โดยให้ก ระทำภายในเดอื นม ีนาค มท กุ ๆปีในกรณีที่พนักงานส่วนท้องถ่ินพิจารณาเห็นว่ามีข้อผิดพลาดในแบบรายการภาษีนั้นซึ่งทำให้จำนวนภาษีที่ต้องเสียคลาดเคล่ือนไป ก็ให้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรายการในแบบรายการภ าษี พ รอ้ มก บั ก ำหนดจำนวนภ าษที ถี่ กู ต อ้ งเพอ่ื ใหผ้ ปู้ ระกอบก ารด ำเนนิ การยนื่ แบบรายการและชำระภ าษตี ่อไป(แผนภาพท ่ี4) การยน่ื แบบเพอ่ื ป ระเมนิ ภ าษแี ละก ารยนื่ แบบเพอื่ ชำระภ าษสี ามารถก ระทำผ า่ นทางอ นิ เทอรเ์ นต็ ห รอื ยน่ื แบบด ว้ ยส ื่อคอมพิวเตอร์ได้ ทั้งน้ีผู้ประกอบการท่ีได้ชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียหรือค่าบริการให้กับโรงงานบ ำบดั น ำ้ เสยี รวมในน คิ มอตุ สาหกรรมห รอื เขตป ระกอบก ารอตุ สาหกรรมและองค์กรป กครองสว่ นท้องถ่ินแลว้ ไมต่ ้องเสยี ภาษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ตามกฎหมายน ้ีอีก7.4 การอทุ ธรณภ์ าษี ผปู้ ระกอบก ารซง่ึ ไมเ่ หน็ ด ว้ ยก บั ก ารแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ รายการในแบบป ระเมนิ และการกำหนดจำนวนภาษีของเจ้าพนักงานมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภายใน45 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน นอกจากน้ี หากไม่พอใจค ำวนิ จิ ฉยั ของค ณะก รรมการพ จิ ารณาอทุ ธรณ์ กม็ สี ทิ ธฟิ อ้ งค ดตี อ่ ศ าลภ าษอี ากรก ลางไดภ้ ายใน30วันน ับแตว่ ันท่ีไดร้บั แจง้ ค ำวนิ ิจฉัยอุทธรณ์
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 37 ผปู้ ระกอบการยน่ื แบบชำระภาษี อปท. 70% 30% ชำระภาษี ไมย่ อมรบั ยตุ ิ ยตุ ิกองทนุ ศาล ไมย่ อมรบั คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั อทุ ธรณ์แผนภาพที่4กลไกและข้นั ตอนก ารจดั เก็บภาษจี ากโรงงานจำพวกที่ 1โรงงานจำพวกท่ี 2และกจิ การท เี่ป็นอันตรายต อ่ ส ขุ ภาพ7 .5 การจ ดั การเงนิ รายไดจ้ ากภ าษี 7.5.1 ก ารจัดการเงนิ รายไดจ้ากก ารเก็บภ าษโี รงงานจำพวกท ่ี 3 • เงินภ าษที จ่ีดั เกบ็ ได้จากโรงงานจำพวกท ่ี3 จะจัดสรรใหก้ รมส รรพ สามติ เปน็ จำนวนรอ้ ยล ะ3ส ่วนท่ีเหลอื จะน ำส่งเข้ากองทนุ • ก องทนุ จะจดั สรรเงนิ ใหก้ ระทรวงอตุ สาหกรรมเปน็ จำนวนรอ้ ยละ25 เพอ่ื เปน็ ค า่ ใชจ้ า่ ยในก ารต รวจส อบและค วบคมุ ใหโ้ รงงานป ฏบิ ตั ติ าม พระราชกฤษฎกี าน้ี 7.5.2 การจัดการเงนิ รายได้จากภาษที ่จีัดเกบ็ จากโรงงานจำพวกท่ี 1โรงงาน จำพวกท ่ี2และก ิจการที่เป็นอ นั ตรายต อ่ ส ขุ ภาพให้ด ำเนนิ ก ารด ังนี้ • จัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินซ่ึงแหล่งกำเนิดมลพิษน้ัน ตง้ั อ ยเู่ ปน็ จำนวนไมเ่กินรอ้ ยละ70 • ส่วนท เี่ หลอื จะนำส ่งเข้าก องทนุ
38 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม8 รา่ งพระราชกฤษฎกี าจดั เกบ็ ภาษี การปลอ่ ยมลพษิ ทางอากาศจากคา่ ซอลัอเกฟไอซดรไ์ข์ ดอองอไนกโไตซรดเ์จ(SนO(2N) Ox) และฝนุ่ ละอองรวม (TSP) เน่ืองจากการใช้เคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์เพื่อจัดการปัญหามลพิษทางอากาศจากภาคอุตสาหกรรมเป็นประเด็นท่ีได้รับความสนใจมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความขัดแย้งในเขตพ้ืนที่มาบตาพุดระหว่างผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรม และชุมชนท่ีอาศัยอยู่ในพ้ืนท่ีใกล้เคียงซึ่งได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ สำหรับเขตพื้นท่ีมาบตาพุดซึ่งได้รับการประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ.2535 แล้ว การเก็บภาษีการปล่อยมลพิษได้กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการขยายกิจการของโรงงานในพื้นท่ี เพ่ือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับรองรับร่างพระราชบัญญัติเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์เพ่ือการจัดการส่ิงแวดล้อม และสถานการณ์ความขัดแย้งที่อาจเกิดข้ึนอีกในอนาคต แผนงานสร้างเสริมการเรียนรู้กับสถาบันอุดมศึกษาไทยเพื่อการพัฒนานโยบายสาธารณะที่ดี(นสธ.) จึงมีความร่วมมือทางวิชาการกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไข และอัตราการจัดเกบ็ ภาษีการป ลอ่ ยม ลพษิ ทางอ ากาศจากค่าซลั เฟอร์ไดออกไซด์ ออกไซดข์ องไนโตรเจนและฝนุ่ ละอองรวมโดยม สี าระส ำคัญดงั ต ่อไปนี้คือ
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 398 .1 แหลง่ กำเนดิ มลพษิ ซง่ึ มหี นา้ ทเ่ี สยี ภ าษมี ลพษิ ทางอ ากาศ ตามร่างพระราชกฤษฎีกานี้ โรงงานจำพวกที่3 ตามประเภท ชนิด และขนาดท่ีประกาศกระทรงอุตสาหกรรมกำหนดมีหน้าท่ีต้องเสียภาษีการปล่อยมลพิษทางอากาศ โดยอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายการจัดเก็บภาษีก่อน ได้แก่โรงไฟฟา้ โรงงานป ูนซเิมนต์โรงงานเหล็กและเหลก็ กลา้ โรงงานปโิ ตรเคมีโรงก ลัน่ นำ้ มนั และโรงส ีข้าวเป็นตน้ การแบง่ ขนาดของโรงงานใหเ้ ปน็ ไปต ามป ระกาศก ระทรวงอตุ สาหกรรมโดยพ จิ ารณาจากขนาดของเคร่อื งจักรต ามหลักเกณฑด์ งั นี้ • โรงงานขนาดเล็กโรงงานทม่ี เี ตาอ ุตสาหกรรมขนาดน อ้ ยกวา่ 500แรงม้า หรือหมอ้ น ำ้ ขนาดเลก็ ก วา่ 5ตนั ต อ่ ชัว่ โมง • โรงงานขนาดกลาง โรงงานทม่ี ีเตาอุตสาหกรรมขนาดต ั้งแต่ 500 แรงม้า ขึ้นไป แต่ไมถ่ ึง1,000 แรงม้า หรอื หม้อน ้ำขนาดต้งั แต่5 ต ันต อ่ ชว่ั โมง ขนึ้ ไปแตไ่ม่ถ ึง10ตนั ต่อชว่ั โมง • โรงงานขนาดใหญ่โรงงานทมี่ ีเตาอตุ สาหกรรมขนาดต ้ังแต่1,000แรงมา้ ขนึ้ ไปหรือหมอ้ น้ำขนาดตั้งแต่10ตนั ต่อชวั่ โมงขน้ึ ไป8.2 อตั ราภาษี ป ระกอบด ว้ ย (1) อัตราคงท่ี(FixedFee) ในระยะแรกของการบังคับใช้ภาษีการปล่อยมลพิษน้ี ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางจะมีหน้าท่ีเสียภาษีในอัตราคงท่ีดงั น้ี • โรงงานขนาดเล็กให้เสียภ าษขี ้นั ต ่ำในอ ัตรา10,000บ าทต่อป ีแต่ไม่เกนิ 30,000บาทต ่อปี • โรงงานขนาดกลางให้เสยี ภ าษีข้ันต ำ่ ในอ ตั รา30,000บ าทต อ่ ป ีแต่ไมเ่ กนิ 50,000บาทต่อป ี (2) อัตราแปรผัน(VariableFee) คำนวณโดยใช้ผลการคูณอัตราภาษีต่อหน่วยของมลพิษกับปริมาณมลพิษ ผู้ประกอบกิจการโรงงานขนาดใหญ่มีหน้าท่ีต้องเสียภาษีในอัตราแปรผันตามอัตราด งั นี้คอื
40 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม • ไมต่ ่ำก วา่ 1,000บ าทแตไ่ ม่เกนิ 2,000บาทต่อต นั ของปริมาณซัลเฟอร์ ไดอ อกไซดท์ รี่ะบายอ อกจากโรงงานต่อปี • ไม่ตำ่ ก วา่ 1,000บ าทแต่ไม่เกิน2,000บาทตอ่ ตันของป ริมาณออกไซด์ ของไนโตรเจนท่รี ะบายอ อกจากโรงงานตอ่ ปี • ไมต่ ำ่ กว่า1,500บาทแตไ่ มเ่ กิน2,500บ าทต ่อตันของป รมิ าณฝุ่นละออง รวมท รี่ะบายออกจากโรงงานตอ่ ป ี8.3 ก ลไกการจ ดั เกบ็ ภ าษี กลไกก ารจดั เกบ็ ภ าษเี ปน็ เชน่ เดยี วกนั ก บั ก รณกี ารจดั เกบ็ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ทางน้ำจากโรงงานจำพวกท่ี3 กล่าวคือ ดำเนินการโดยกรมสรรพสามิตหากเป็นโรงงานท่ีตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และโดยสรรพสามิตพ้ืนที่ในกรณีท่ีตั้งอยู่ตา่ งจงั หวดั ผ ปู้ ระกอบก จิ การโรงงานม หี นา้ ท ยี่ นื่ ค ำขอจดท ะเบยี นผ เู้ สยี ภ าษกี ารป ลอ่ ยมลพิษทางอ ากาศณก รมสรรพสามติ หรือส ำนักงานสรรพส ามิตพ้ืนทแ่ีลว้ แตก่ รณี สำหรบั วธิ กี ารชำระภ าษี ใหย้ นื่ แบบป ระเมนิ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ท างอากาศต ามอตั ราท่ีกำหนดในกฎกระทรวงพร้อมเอกสารอ่ืนท่ีเก่ียวข้องต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ณ กรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดในท้องที่ซึ่งโรงงานน้ันต้ังอยู่ โรงงานขนาดเล็กและขนาดกลาง ให้ยื่นแบบประเมินปีละหนึ่งครั้ง โรงงานขนาดใหญ่ให้ย่ืนแบบประเมินภาษีตามระยะเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอ ุตสาหกรรมก ำหนดแต่ต้องไม่น้อยก วา่ ปีละส องค รงั้ ให้เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานตรวจสอบความถูกต้องของแบบประเมนิ ภ าษนี น้ั ห ากเหน็ วา่ การป ระเมนิ ภ าษเี ปน็ ไปโดยถ กู ต อ้ งแลว้ ใหอ้ อกใบรบั รองความถูกต้องเพ่ือให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานดำเนินการชำระภาษีต่อเจ้าพนักงานสรรพสามิต ในกรณีที่เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานพิจารณาเห็นว่ามีข้อผิดพลาดในแบบประเมินภาษีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานยื่นซ่ึงทำให้จำนวนภาษีที่ต้องเสียคลาดเคล่ือนไป ให้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรายการในแบบประเมินหรือในเอกสารอ ืน่ ท ่ียื่นป ระกอบแบบประเมนิ และกำหนดจำนวนภ าษที ถี่ ูกตอ้ งพร้อมก บั ออกใบรับรองเพ่ือให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานยื่นแบบรายการภาษีและชำระภาษีตอ่ ไป
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 418.4 การอ ทุ ธรณภ์ าษี ผู้ประกอบกิจการโรงงานและเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษซ่ึงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมรายการในแบบประเมินและการกำหนดจำนวนภาษขี องเจา้ พ นกั งานม สี ทิ ธอิ ทุ ธรณต์ อ่ ค ณะก รรมการพ จิ ารณาอ ทุ ธรณภ์ ายใน45วนั นบั แตว่ นั ท ่ีไดร้ บั แจง้ ก ารป ระเมนิ ห ากไมพ่ อใจค ำวนิ จิ ฉยั ของค ณะก รรมการพ จิ ารณาอุทธรณ์ มสี ิทธิฟ อ้ งคดตี อ่ ศ าลภาษีอ ากรก ลางได้ภายใน30วนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับแจง้ คำวนิ จิ ฉยั อทุ ธรณ์8.5 การจ ดั การเงนิ ร ายไดจ้ ากภ าษีการจัดการเงนิ รายไดจ้ ากการเกบ็ ภ าษีโรงงานจำพวกท ี่ 3ให้ด ำเนนิ ก ารดงั นี้ • เงินภาษีท่ีจัดเก็บได้จากโรงงานจำพวกที่3 จะจัดสรรให้กรมสรรพสามิต เป็นจำนวนรอ้ ยล ะ3ส่วนท ่เี หลือให้น ำส ่งเข้าก องทุน • กองทุนจะจัดสรรเงินให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นจำนวนร้อยละ25 เพอื่ เปน็ ค า่ ใชจ้ า่ ยในการต รวจสอบและค วบคมุ ใหโ้ รงงานป ฏบิ ตั ติ ามพระราช กฤษฎกี าน ี้ สำหรบั สรปุ ก ลไกและขน้ั ต อนก ารจดั เกบ็ ภ าษี ก ารอทุ ธรณภ์ าษี และก ารจดั การเงินรายได้ ใหด้ จูากแผนภาพที่3ขา้ งตน้
42 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม9 รา่ งพ ระร าชก ฤษฎกี าก ำหนดภาษี และคา่ ธรรมเนยี มสง่ิ แวดลอ้ ม อน่ื ๆ นอกจากร่างพระราชกฤษฎีกาจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางน้ำและม ลพิษทางอากาศด งั ก ลา่ วมาแล้วข้างต น้ ห นว่ ยงานท เ่ี กยี่ วขอ้ งยงั มีความสนใจที่จะพัฒนาร่างพระราชกฤษฎีกาเพ่ือนำเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์มาใช้จัดการส่ิงแวดล้อมในด้านอ่ืนๆ การจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาที่สำคัญซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของก ารศกึ ษาอตั ราภ าษีและคา่ ธรรมเนียมได้แก่9.1 รา่ งพระร าชกฤษฎกี าจดั เกบ็ ค า่ ธ รรมเนยี มผลติ ภณั ฑ์ กรมค วบคมุ ม ลพษิ ไดด้ ำเนนิ ก ารศ กึ ษาก ารจดั เกบ็ ค า่ ธรรมเนยี มผ ลติ ภณั ฑจ์ ากผลติ ภณั ฑท์ จี่ ะก อ่ ใหเ้ กดิ ของเสยี อ นั ตรายเมอ่ื ผ บู้ รโิ ภคใชห้ รอื ท ง้ิ เมอื่ ใชแ้ ลว้ เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาขยะอันตรายจากชุมชน ทั้งน้ีคาดว่าจะดำเนินการปรับร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดการของเสียอันตรายจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วให้เป็นร่างพระราชกฤษฎีกาจัดเก็บค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์ภายใต้ร่างพระราชบัญญัติเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นกฎหมายแม่บท ผลิตภัณฑ์ที่กรมควบคุมมลพิษให้ความสำคัญลำดับต้นในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมขณะนี้ก็คือผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เน่ืองจากมีองค์ประกอบท่ีเป็นสารอันตราย จึงต้องการใช้ค่าธรรมเนียมซ่ึงเป็นเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์ในการสง่ เสรมิ ก ารค ดั แยกขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์(W EEE)ผ า่ นระบบรบั ซอ้ื ค นื ซากผ ลติ ภณั ฑท์ มี่ ี
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 43องคก์ รป กครองสว่ นท อ้ งถ น่ิ เปน็ ผ รู้ บั ผ ดิ ชอบเพอ่ื น ำซากผ ลติ ภณั ฑเ์ หลา่ น นั้ ไปรีไซเคลิ บำบัดและก ำจัดอ ย่างถ กู ตอ้ งต ามห ลักวชิ าการต่อไป อยา่ งไรก็ดี น อกจากก ารเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มผลติ ภัณฑจ์ ากผ ลติ ภัณฑ์เครือ่ งใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ในอนาคตควรมีการพิจารณานำมาตรการน้ีมาใชก้ บั ผ ลิตภ ัณฑอ์ ่นื ๆทีต่ ้องการสง่ เสริมให้ผู้บริโภคลดหรือเลิกใช้ เชน่ ก ารเกบ็ ค ่าธรรมเนยี มจากวัตถุอันตรายและบรรจุภ ัณฑ์รวมท ั้งถ งุ และโฟมพลาสตกิ เป็นต้น9.2 รา่ งพระร าชกฤษฎกี าจดั เกบ็ ภ าษคี ารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากย านยนต์ ภายใต้กระแสความต่ืนตัวในระดับโลกเก่ียวกับภาวะโลกร้อน(GlobalWarming) หรือการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ(ClimateChange) แผนงานนสธ. รว่ มก บั สำนักงานเศรษฐกิจก ารค ลงั ก ำลงั อ ยู่ในขน้ั ตอนก ารศึกษาความเป็นไปได้เกย่ี วกับก ารเกบ็ ภาษคี าร์บอน(C arbonTax)จากยานยนต์โดยเก็บต ามป ริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา การนำมาตรการจัดเก็บภาษีคาร์บอนมาใช้จะชว่ ยล ดม ลพษิ ท างอากาศจากภ าคค มนาคมขนสง่ ซง่ึ จะม ผี ลด ตี อ่ ก ารรกั ษาค ณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มน อกจากน ้ี ยงั สามารถน ำรายไดจ้ ากก ารจดั เกบ็ ภ าษีไปใชเ้ พอื่ แกไ้ ขป ญั หาส่งิ แวดลอ้ มด ้านอ นื่ ๆอกี ด ้วย
44 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม10 บทสรปุ ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพส่ิงแวดล้อมในประเทศไทยอนั เนอื่ งม าจากก ารพ ฒั นาท างเศรษฐกจิ และสงั คมไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ ผ ลกระท บต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน ในปัจจุบันนานาประเทศรวมทั้งหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนต่างก็ได้นำมาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมส่ิงแวดล้อมมาใชใ้ นก ารจดั การส ง่ิ แวดลอ้ มม ากขนึ้ เพอื่ เปน็ ม าตรการเสรมิ ก ารก ำกบั และค วบคมุ ซ่ึงมีข้อจำกัดดังได้กล่าวมาแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ประเทศไทยยังนำหลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายและเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อมน้อยมาก สภาพการณ์เช่นนี้นอกจากจะก่อให้เกิดผลเสียต่อการจัดการสง่ิ แวดลอ้ มอ ยา่ งม ปี ระสทิ ธภิ าพแลว้ ยงั อ าจท ำใหป้ ระเทศไทยต อ้ งเสยี่ งก บั ม าตรการกีดกันทางการค้าด้านส่ิงแวดล้อมในระดับระหว่างประเทศซึ่งยิ่งนับวันจะทวีความรนุ แรงมากขึ้น การขับเคลื่อนเพ่ือให้ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เพ่ือการจัดการส่ิงแวดล้อมมีผลใช้บังคับโดยเร็วจึงมีความสำคัญอย่างย่ิง เน่ืองจากเป็นกฎหมายแมบ่ ทท จ่ี ะเปดิ ใหห้ นว่ ยงานต า่ งๆสามารถน ำเครอื่ งม อื ท างเศรษฐศาสตรม์ าใชใ้ นก ารจดั การส ง่ิ แวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งห ลากห ลายต ามค วามเหมาะส มและต ามพ นั ธก จิ ของแตล่ ะห นว่ ยงานรวมท ง้ั สง่ เสรมิ ก ารกระจายอำน าจใหอ้ งคก์ รป กครองสว่ นท อ้ งถ นิ่ เข้ามามีบทบาทและมีรายได้จากการจัดการส่ิงแวดล้อมนอกจากน้ี กฎหมายฉบับน้ียังกำหนดให้สามารถนำรายได้จากการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมกลับคืนมา
เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม 45แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ ผ่านกลไกของกองทุนภาษีและค่าธรรมเนียมสงิ่ แวดล้อมทจี่ ดั ต้งั ขนึ้ ภายใตพ้ ระราชบญั ญัติฉบบั น้ี ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดเก็บภาษีการปล่อยมลพิษทางน้ำ และร่างพระราชกฤษฎกี าจดั เกบ็ ภ าษกี ารป ลอ่ ยม ลพษิ ท างอากาศถ อื วา่ เปน็ ก า้ วแรกในก ารนำเครอ่ื งม อื ทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อมภายใต้กฎหมายแม่บทฉบับนี้หากสังคมไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้มาตรการดังกล่าว ก็จะนำไปสู่การใช้เครื่องมือเศรษฐศาสตร์อื่นๆ ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะมีผลให้สังคมได้ประโยชน์สองต่อ ท้ังจากคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และจากรายได้ท่ีเกิดจากภาษีและค่าธรรมเนยี มสิ่งแวดลอ้ มท ่นี ำก ลบั มาสรา้ งประโยชนต์ ่อส ว่ นรวมด้วยเหตุน้ี จึงควรระดมการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเพ่ือขับเคลื่อนแนวทางต่อไปน้ีใหเ้ ปน็ นโยบายส าธารณะค อื 1. สนับสนุนให้มีการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เพ่ือการจัดการสิ่งแวดล้อม และร่างพระราชกฤษฎีกาการจัดเก็บภาษีการป ล่อยม ลพษิ ทางน ้ำและภาษีก ารป ล่อยมลพิษท างอากาศท ้ังสองฉ บบั โดยเร็ว 2. ต่อยอดงานศึกษาของกรมควบคุมมลพิษและนำข้อมูลมาประกอบการจดั ท ำรา่ งพ ระราชก ฤษฎกี าจดั เกบ็ ค า่ ธรรมเนยี มผลติ ภณั ฑจ์ ากผ ลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรมท่ีก่อใหเ้กิดของเสยี อนั ตราย 3. ศกึ ษาเพอื่ กำหนดห ลกั เกณฑแ์ ละแนวทางการใชเ้ ครอื่ งม อื ท างเศรษฐศาสตร์อน่ื ๆทม่ี ีความสำคญั ในล ำดับตน้ ไดแ้ ก่ ค วามเป็นไปไดใ้ นก ารเก็บภ าษีโลกรอ้ นห รือภาษกี ารป ล่อยค ารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากยานยนต์ ภ าษีวตั ถอุ ันตราย ภาษีบรรจุภณั ฑ์และภาษนี ักท อ่ งเที่ยวเปน็ ต้น 4. จดั ท ำระบบฐานขอ้ มลู ก ลางเพอ่ื ชว่ ยใหก้ ารบ รหิ ารจดั การระบบภ าษเี ปน็ ไปอย่างม ปี ระสิทธภิ าพและม ีความโปร่งใสต ามหลักธรรมาภบิ าล 5. สร้างความพร้อมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในการบริหารจัดการระบบการจัดเก็บภาษีจากแหล่งกำเนิดมลพิษในพ้ืนท่ีซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของตน
46 เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มบรรณานกุ รมกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม.2551. สรุป สถานการณม์ ลพิษของประเทศไทยพ .ศ.2550.แหลง่ ท ม่ี า:http://w ww. pcd.go.th/public/Publicationsกอบกุล รายะนาคร.2549. กฎหมายว่าด้วยเคร่ืองมือทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการ จัดการสิ่งแวดล้อมสำหรับประเทศไทย. กรุงเทพฯ. มูลนิธิสาธารณสุข แห่งชาติม ิง่ สรรพ์ ขาวส อาดและคณะ.2551.รายงานก ารศ ึกษาตามโครงการC APACITY BUILDINGFORPOLLUTIONTAXATIONANDRESOURCESMOBILIZATION FORENVIRONMENTAL&N ATURALRESOURCESSECTORS– PHASEII. กรุงเทพฯ:ก ระทรวงการคลงั ส ถาบนั วจิ ัยเพ่ือการพัฒนาป ระเทศไทย.2549.การจัดลำดับความส ำคญั ของปัญหา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.กรงุ เทพฯ.มูลนิธสิ าธารณสขุ แห่งชาติO ECD.2006.EnvironmentalC omplianceandEnforcementinChina,An AssessmentofCurrentPracticesandWaysForward.Paperpresented atthesecondmeetingoftheAsianEnvironmentalC omplianceand EnforcementNetwork,4-5D ecember,2006,Hanoi,VietnamW angJinnan.2009.TheDevelopmentofPollutionChargeinC hina.Beijing: ChineseA cademyforEnvironmentalPlanning.Available:http://w ww/. caep.org.cn/english/paper
Note : เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม
Note : เครอ่ื งมอื ทางเศรษฐศาสตรเ์ พอ่ื การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม
สำนักงานกรุงเทพฯ สถาบนั ศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม 637/1 อาคารพรอมพันธุ ชั้น 4 ยนู ติ 4/2 ถ.ลาดพรา ว แขวงจอมพล เขตจตจุ กั ร กทม. 10900 โทรศพั ท 0 2938 8826 โทรสาร 0 2938 8864 สำนักงานเชยี งใหม สถาบันศกึ ษานโยบายสาธารณะ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม (อาคารหอประชมุ รวมวจิ ยั และบัณฑิตศึกษา) 239 ถ.หวยแกว อ.เมือง จ.เชยี งใหม 50200 โทรศพั ท 0 5394 2552 โทรสาร 0 5394 2698 www.tuhpp.org สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การสรา งเสรมิ สุขภาพ (สสส.) 979 อาคารเอส เอม็ ทาวเวอร ชน้ั 34 ถนนพหลโยธนิ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรงุ เทพฯ 10400โทรศัพท 0 2298 0500 โทรสาร 0 2298 0501 และ 0 2298 0499 www.thaihealth.or.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: