Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการวิเคราะห์ความยั่งยืนของกองทุนสวัสดิการชุมชน

โครงการวิเคราะห์ความยั่งยืนของกองทุนสวัสดิการชุมชน

Published by Bensiya Panpunyadet, 2016-03-09 02:54:07

Description: การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยที่ผสมผสานทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยในส่วนของการวิจัยเชิงปริมาณมุ่งศึกษาการบริหารจัดการและศึกษาความยั่งยืน

Keywords: กรณีศึกษา, กองทุน, แม่ของแผ่นดิน, บ้านดงสระแก้ว, ต.ไผ่ล้อม, อ.ลับแล, จ.อุตรดิตถ์

Search

Read the Text Version

มลู นธิ สิ ถาบนั นโยบายสาธารณะ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ โครงการวเิ คราะห์ความย่ังยนื ของกองทนุ สวัสดกิ ารชมุ ชนกรณศี ึกษา กองทุนแม่ของแผน่ ดินบ้านดงสระแกว้ ตาบลไผล่ ้อม อ.ลบั แล จ.อุตรดติ ถ์ ดร. พนนิ ท์ เครือไทย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุตรดติ ถ์

กบทคดั ย่อ การวจิ ยั ครงั้ น้ีใช้รูปแบบการวจิ ยั ท่ผี สมผสานทงั้ การวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณและเชงิ คุณภาพโดยในส่วนของการวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณมุง่ ศกึ ษาการบรหิ ารจดั การและศกึ ษาความยงั่ ยนื ของกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนในพน้ื ท่ี จ.อุตรดติ ถ์ จานวน 10 กองทุน ภายใต้กรอบแนวคดิ ทก่ี าหนดร่วมกนัระหว่างนักวจิ ยั และชุมชน ขอบเขตในการศกึ ษาครงั้ น้ีทาการคดั เลอื กศึกษากองทุนชุมชนในพ้ืนท่ีหมู่บ้านดงสระแก้ว ตาบลไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ โดยได้รบั ทุนสนับสนุนรบัพระราชทานเงนิ ทุนเรมิ่ ต้นจานวน 8,000 บาทในปี พ.ศ. 2551 และมเี งนิ ทุนเพมิ่ ขน้ึ ในปจั จบุ นัปี พ.ศ. 2556 ประมาณ 100,000 บาท วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 วธิ ไี ด้แก่ ใช้วธิ กี ารสมั ภาษณ์โดยใชแ้ บบสอบถาม สอบถามสมาชกิ กลุ่มเกย่ี วกบั ขอ้ มลู ดา้ นการบรหิ ารจดั การการเงนิ ของกลุ่ม และใช้เทคนิค Focus group interview เพ่อื เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดา้ นการบรหิ ารจดั การเชิงกลุ่มรวมทัง้ วิเคราะห์สภาพปญั หาและแนวทางการบรหิ ารจดั การร่วมกัน โดยได้กาหนดบุคคลสาคัญท่ีจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพูดคุย ได้แก่ หัวหน้ากลุ่มและสมาชิกหน่วยงานของรฐั บาลทใ่ี หก้ ารสนบั สนุนในดา้ นต่างๆ และตวั แทนผนู้ าต่างๆในชุมชน ผลการวจิ ยั พบว่าหมู่บ้านดงสระแก้วมรี ะบบการบรหิ ารจดั การกองทุนท่แี ตกต่างจากพ้นื ทอ่ี ่นื ๆในจงั หวดั อุตรดติ ถ์เน่ืองจาก มกี ารบรหิ ารงานภายใต้ “สถาบนั การเงนิ ชุมชนบา้ นดงสระแก้ว” ทร่ี วบรวมกองทุนต่างๆมาบรหิ ารจดั การร่วมกนั นอกจากน้ีพ้นื ฐานสงั คมของพ้นื ท่มี ีความเข็มแข็ง ประชาชนมคี วามสามคั คีมสี ่วนร่วมในการบรหิ ารจดั การจนเป็นพ้ืนท่ีชุมชนต้นแบบของจงั หวดั ทาให้ผลของการวเิ คราะหค์ วามยงั่ ยนื ของกองทุนสะท้อนใหเ้ หน็ ว่ากองทุนแม่ของแผ่นดินมีความยงั่ ยนื ในระยะสนั้ (5-10 ปี) และเรมิ่ มปี ญั หาเผชิญกับความเส่ียงทางการเงนิ ในระยะยาว (15 ปี) ทัง้ น้ีเพ่ือเป็นเตรียมความพร้อมให้กองทุนแม่ของแผ่นดินมีเสถยี รภาพและมคี วามมนั่ คงในระยะยาว จงึ เสนอแนะแนวทางดงั ต่อไปน้ี 1. การปรบั เปลย่ี นระเบยี บบรหิ ารจดั การการเงนิ เพอ่ื เพม่ิ เงนิ สะสมของสมาชกิ ใหเ้ พ่ิมขน้ึเน่อื งจากกองทุนแมข่ องแผ่นดนิ พง่ึ พาเงนิ ทุนจากกจิ กรรมทอดผา้ ป่าและเงนิ บรจิ าคเป็นหลกั ซง่ึกจิ กรรมดงั กล่าวมคี วามเสย่ี งไม่สามารถคาดการณ์ปรมิ าณเงนิ ทุนทจ่ี ะสามารถระดมทุนในแต่ละปี นอกจากน้ีกบั ผลการวเิ คราะห์พบว่าการเสยี ชวี ติ ของสมาชกิ จะมอี ตั ราสูงขน้ึ ในปีท้ายๆของการวเิ คราะห์ ซง่ึ หากกองทุนสามารถระดมเงนิ จากสมาชกิ ไดเ้ พมิ่ มากขน้ึ จะทาให้สามารถปรบัเพม่ิ ผลประโยน์ทดแทนใหก้ บั สมาชกิ เพม่ิ มากขน้ึ 2. เสรมิ ทักษะความรู้ด้านบัญชีการเงนิ ซ่ึงเป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการบรหิ ารจดั การกองทุนในระยะสนั้ ท่ชี ่วยให้กองทุนรจู้ กั ใช้ข้อมูลทางบญั ชแี ละการเงนิ มาประกอบการตดั สนิ ใจและขอสนิ เช่อื จากสถาบนั การเงนิ อ่นื ๆ ส่วนการเสรมิ ทกั ษะและการเตรยี มความพรอ้ มและประเมนิ ตนเองเพ่อื การลงทุนของกองทุนจะเป็นเคร่อื งมอื ท่สี าคญั ท่จี ะสรา้ งความยงั่ ยนื ในการระดมจากการประกอบธรุ กจิ ต่อยอดเงนิ ไดใ้ นอนาคต

ข สารบญั หน้า ก บทคดั ยอ่ ง สารบญั ตาราง จ สารบญั แผนภาพ 1บทท่ี 1 บทนา 1 5 - ความเป็นมาของปญั หา 5 - วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั 6 - ขอบเขตของการวจิ ยั 6 - ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะไดร้ บั จากการวจิ ยั 8 - กรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั 8บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวข้อง 13 - กองทนุ ทภ่ี าครฐั บาลดาเนินการ 15 - กองทนุ ทช่ี ุมชนหรอื ภาคเอกชนดาเนินการ - ความแตกต่างระหว่างกองทุนทร่ี ฐั บาลดาเนินการกบั กองทนุ ทเ่ี อกชน 17 19 ดาเนินการ 21 - งานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การวดั ผลการดาเนินงานของกองทุนชุมชน 27บทท่ี 3 บริบทของกองทนุ สวสั ดิการชุมชนในพื้นท่ี จ.อตุ รดิตถ์ - ขอ้ มลู ทม่ี าและแนวคดิ ของการก่อตงั้ กองทนุ - ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ทแ่ี ละกองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนกองทนุ แม่ของแผ่นดนิ บา้ นดงสระแกว้

ค สารบญั (ต่อ) หน้าบทท่ี 4 ผลการศึกษา 30 - การศกึ ษาบรบิ ทกองทนุ โดยวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายใน/นอกพน้ื ท่ี - รายรบั และรายจา่ ยของกองทุน 30 - การวเิ คราะหค์ วามพอเพยี งของกองทนุ 36 40บทที่ 5 บทสรปุ และข้อเสนอแนะ 49 - อภปิ รายผล - ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย 50 51 บรรณานุกรม 53

ง สารบญั ตารางตารางท่ี เกณฑห์ รอื ปจั จยั ทใ่ี ชใ้ นการเลอื กกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนพน้ื ท่ี จ.อุตรดติ ถ์ หน้า ฐานขอ้ มลู จานวนกองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชน จ.อุตรดติ ถ์ 1.1 จานวนกองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชน จ.อุตรดติ ถจ์ ากการลงพ้นื ทส่ี ารวจ 3 3.1 สภาพขอ้ มลู ทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 19 3.2 สงิ่ ทเ่ี กอ้ื หนุนในการทางานใหป้ ระสบความสาเรจ็ 20 4.1 จานวนครอบครวั ทม่ี คี นไปทางานต่างจงั หวดั 31 4.2 สาธารณูปโภคประเภทแรกถา้ คนในชุมชนมโี อกาสทจ่ี ะพฒั นา 33 4.3 สง่ิ ทเ่ี ป็นอุปสรรคต่อการพฒั นา 34 4.4 แหลง่ ทม่ี าของรายรบั ของกองทนุ แมข่ องแผ่นดนิ ช่วงปีพ.ศ. 2552-2557 34 4.5 เงนิ ทุนและรายจา่ ยสวสั ดกิ ารเฉลย่ี ต่อหวั สมาชกิ พ.ศ. 2552-2556 34 4.6 อตั ราการเกดิ ต่อประชากร 1,000 คน ปี พ.ศ. 2549 38 4.7 ประมาณการณ์จานวนสมาชกิ แรกเกดิ ระหวา่ งปี 2556-2561 40 4.8 ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อความยงั่ ยนื ของกองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ 43 4.9 46 4.10 48

จสารบญั แผนภาพแผนภาพที่ หน้า 1.1 กรอบแนวคดิ 6 2.1 ความเช่อื มโยงของกองทุนและกจิ กรรมในชุมชน 16 4.1 จำนวนสมำชกิ กองทุนแมข่ องแผ่นดนิ พ.ศ. 2552-2556 จำแนกตำมเพศ 42 4.2 โครงสรำ้ งอำยสุ มำชกิ กองทุน พ.ศ. 2556 และกำรพยำกรณ์ปี 2561 45

บทท่ี 1 บทนำ1.1 ควำมเป็นมำของปัญหำ กองทุนชุมชน ไดถ้ ูกก่อตงั้ ภายใตช้ ่อื กลุ่มออมทรพั ยม์ าตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2517 ต่อมากลุ่มองคก์ รด้านการเงนิ ในทอ้ งถนิ่ ได้ก่อตงั้ ในหลายวตั ถุประสงค์ ได้แก่ ออมทรพั ย์ ผลติ กู้ยมื และสวสั ดิการต่างๆ ปจั จุบันประเทศไทยมีองค์กรการเงินของชาวบ้านทัง้ ในเมืองและชนบทประมาณ 25,000 กลุ่ม (ประมาณ 70,000 ชุมชน) (สานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมอื งแห่งชาต,ิ 2552) ผลการศกึ ษาเร่อื งกองทุนชุมชนหลายงานท่สี นับสนุนแนวคดิ การสรา้ งความเขม้ แขง็ ทางการเงนิ และการสรา้ งเครอื ข่ายในการจดั การความรเู้ ป็นปจั จยั สาคญั ท่ที าให้ชุมชนเขม้ แขง็ (ภมี ภคเมธาวี และคณะ, 2549) นอกจากน้ีกองทุนในรปู แบบฌาปนกจิ และกองทุนสวสั ดกิ ารต่างๆ เช่น เครอื ข่ายสวสั ดกิ ารกลุ่มออมทรพั ยย์ งั สามารถช่วยเหลอื ให้ประชาชนในท้องท่ใี นด้านสวสั ดกิ ารรกั ษาพยาบาลและในกรณีท่สี มาชกิ เสยี ชวี ติ (ชาตรี เจรญิ ศริ ,ิ 2543)อย่างไรกต็ ามมงี านวจิ ยั ทเ่ี สนอขอ้ จากดั และปญั หาด้านการจดั การกองทุนชุมชน เช่น ขาดการตดิ ตามและวดั ผลไดก้ จิ กรรมทใ่ี ชเ้ งนิ จากกองทุนไปสนบั สนุน, ขาดทกั ษะการบรหิ ารจดั การ และการนาเงนิ จากกองทุนไปใช้ผดิ วตั ถุประสงค์ (มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทร์วโิ รฒประสานมติ ร,2005) และ (Kaboski and Townsend, 2009) ความขดั แยง้ ของผลการศกึ ษาดงั กล่าวเป็นทม่ี าของการศกึ ษารปู แบบการบรหิ ารจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การกองทุนชุมชน เน่อื งจากโดยส่วนมากงานวจิ ยั เน้นการศกึ ษาวจิ ยั เชงิ คุณภาพและการวจิ ยั เชงิ เน้ือหา (Content Analysis) การศกึ ษาเชงิ ปรมิ าณมีความสาคญั และจาเป็นอย่างยงิ่ ต่อการวเิ คราะห์การจดั การกองทุน การจดั การทางการเงนิ ในชุมชนต้องอาศยั การวเิ คราะห์ประสทิ ธภิ าพการจดั การกองทุนแต่ละกลุ่มเพ่อื เปรยี บเทยี บกบักองทุนต้นแบบ (Best Practice) และเม่อื ได้ผลการศึกษาเชงิ ปรมิ าณดงั กล่าวแล้วจะได้กลุ่มกองทุนชุมชนในระดบั ศกั ยภาพทแ่ี ตกต่างกนั เพ่อื นาไปหารปู แบบการบรหิ ารจดั การทเ่ี หมาะสมและศกึ ษาปจั จยั ทท่ี าใหก้ องทนุ สามารถเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการจดั การต่อไป

2 หลงั จากสงั คมไทยประสบภาวะวกิ ฤตเิ ศรษฐกิจปี 2540 ผู้นาชุมชนและประชาชนในชนบทได้ร่วมกันปรกึ ษาหารอื เพ่อื ร่วมกันหาทุนทางสงั คมท่ีมอี ยู่มาช่วยเหลอื เก้ือกูลกันในลกั ษณะของการจดั สวสั ดกิ ารจากฐานทุนดา้ นต่างๆ ทม่ี อี ย่ขู องชุมชน เช่น สวสั ดกิ ารจากฐานกลุ่มออมทรัพย์ องค์กรการเงิน วิสาหกิจชุมชน ความเช่ือทางศาสนา การจัดการทรพั ยากรธรรมชาติ ฯลฯ ต่อมาในปี 2548 ขบวนองคก์ รชุมชนทท่ี างานเกย่ี วกบั องคก์ รการเงนิและสวสั ดกิ ารชุมชนได้ยกระดบั กองทุนสวสั ดกิ ารโดยการรเิ รมิ่ จดั ตงั้ กองทุนสวสั ดกิ ารระดบัตาบล โดยใหม้ กี ารสมทบงบประมาณจากสามฝ่าย (1 : 1 : 1) คอื ทุนจากการออมสมทบของสมาชกิ ในชุมชน ทงั้ ในรปู แบบออมทรพั ยเ์ ดมิ หรอื สจั จะลดรายจ่ายวนั ละบาท การสมทบจากรฐั บาลกลางและการสมทบจากองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ตงั้ แต่ปี 2553 ปจั จุบนั มกี องทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบล/เมอื งทวั่ ประเทศ ณ เดอื นธนั วาคม 2556 มกี ารจดั ตงั้ กองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบล/เมอื งไปแลว้ 5,721 กองทนุ สมาชกิ กองทุนรวมทงั้ หมด 4,001,113 ราย เงนิ กองทนุรวม 5,977.23 ลา้ นบาท แยกเป็นเงนิ จากสมาชกิ 3,971.18 ลา้ นบาทหรอื รอ้ ยละ 66 เงนิ สมทบจากองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ 230.54 ลา้ นบาทหรอื รอ้ ยละ 4 (อปท.สมทบตามความสมคั รใจ/สถานะการคลงั และส่วนหน่ึงสนับสนุนด้านอ่นื ท่ไี ม่เป็นเงนิ สมทบ) เงนิ สมทบจากรฐั บาลผ่านพอช. 1,029.74 ลา้ นบาท หน่วยงานภาครฐั อ่นื ๆ 493.62 ลา้ นบาท หรอื รอ้ ยละ 24 นอกจากนนั้เป็นเงนิ จากแหล่งอ่ืนๆ เช่น ภาคเอกชน เงนิ บรจิ าค ฯลฯ 251.85 ล้านบาท หรอื ร้อยละ 6สัดส่วนสมาชิกองทุนแยกเป็นคนวัยทางาน 2,263,608 ราย เด็ก 725,521 ราย ผู้สูงอายุ1,007,583 ราย ผดู้ อ้ ยโอกาส 127,031 ราย (สถาบนั พฒั นาองคก์ รชมุ ชน, 2558) จงั หวดั อุตรดติ ถถ์ อื วา่ มกี องทนุ ชุมชนทม่ี ลี กั ษณะทห่ี ลากหลายและทส่ี าคญั เป็นกองทุนท่ีคนในชุมชนก่อตัง้ ข้ึนจากความต้องการของคนในชุมชน กลุ่มอาชีพและกลุ่มสวัสดิการท่ีหลากหลาย (ประมาณ 600 กลุ่มในปี 2554) เช่น กลุ่มแมบ่ า้ น กลุ่มออมทรพั ย์ กลมุ่ ชาวนา กล่มุชาวสวน และกลุ่มวสิ าหกจิ ชุมชนทเ่ี ป็นเครอื ขา่ ยช่วยเหลอื กนั ในทอ้ งถน่ิ ต่างใหค้ วามสาคญั และร่วมกนั บรหิ ารจดั การกองทุนให้เขม้ แขง็ เพ่อื เป็นแหล่งเงนิ ทุนสนับสนุนกลุ่มเครอื ข่ายอ่นื ๆและให้บรกิ ารด้านสวสั ดกิ ารแก่คนในชุมชนอย่างทวั่ ถงึ จงั หวดั อุตรดติ ถ์ถอื ว่ามกี องทุนชุมชนท่มี ีลกั ษณะทห่ี ลากหลายและทส่ี าคญั เป็นกองทุนทค่ี นในชุมชนก่อตงั้ ขน้ึ จากความต้องการของคนในชุมชน กลุ่มอาชพี และกลมุ่ สวสั ดกิ ารทห่ี ลากหลาย (ประมาณ 600 กลุ่มในปี 2554) เช่น กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มออมทรพั ย์ กลุ่มชาวนา กลุ่มชาวสวน และกลุ่มวิสาหกจิ ชุมชนท่เี ป็นเครอื ข่ายช่วยเหลอื กนั ในทอ้ งถนิ่ ต่างใหค้ วามสาคญั และร่วมกนั บรหิ ารจดั การกองทุนให้เขม้ แขง็ เพ่อื เป็น

3แหล่งเงนิ ทุนสนับสนุนกลุ่มเครอื ข่ายอ่นื ๆและใหบ้ รกิ ารด้านสวสั ดกิ ารแก่คนในชุมชน อย่างไรก็ตามกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนท่อี ย่ใู นฐานขอ้ มลู ของสถาบนั พฒั นาองคก์ รชุมชนดงั ตารางท่ี 1.1และได้ถูกนามาพจิ ารณาเกณฑห์ รอื ปจั จยั ทใ่ี ช้ในการเลอื กกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนในพ้นื ท่ี จ.อุตรดติ ถ์ตารางท่ี 1.1 เกณฑห์ รอื ปจั จยั ทใ่ี ชใ้ นการเลอื กกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนพน้ื ทจ่ี .อุตรดติ ถ์กองทนุ สวสั ดกิ าร เหตผุ ลใน การเชอ่ื มโยง หลกั เกณฑ์ รปู แบบและกลไกในการบรหิ าร ชมุ ชน การจดั ตงั้ กบั กจิ กรรม ในรบั เป็น จดั การ1ตาบลทา่ มะเฟือง อปท. รเิ รม่ิ อน่ื ๆ กลุม่ ออม สมาชกิ ทรพั ย์ มี กลไกการจดั ทาบรกิ าร กลุ่มออม ทรพั ย์ สาธารณะและสวสั ดกิ ารสงั คม กล่มุ ออม บนฐานของระบบราชการ ทรพั ย์ (Bureaucratic base กลมุ่ ออม ทรพั ย์ mechanism)ตาบลวงั ดนิ ผนู้ าใน มี กลไกการจดั ทาบรกิ าร ชมุ ชนรเิ รมิ่ สาธารณะและสวสั ดกิ ารสงั คม บนฐานของความเป็นพลเมอื ง (Civil engagement mechanism)ตาบลไผล่ อ้ ม ผนู้ าใน มี กลไกการจดั ทาบรกิ าร ชมุ ชนรเิ รม่ิ สาธารณะและสวสั ดกิ ารสงั คม บนฐานของความเป็นพลเมอื ง (Civil engagement mechanism)ตาบลทา่ เสา ผนู้ าใน มี กลไกการจดั ทาบรกิ าร ชมุ ชนรเิ รม่ิ สาธารณะและสวสั ดกิ ารสงั คม บนฐานของความเป็นพลเมอื ง (Civil engagement mechanism)1 ประยุกต์มาจากแนวคดิ และทฤษฎที เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั บรกิ ารสาธารณะรปู แบบใหม่ (New Public Service) ของRobert B. Denhardt & Janet Vinzant Denhardt (2000, 549 – 559) และแนวคดิ การมสี ว่ นร่วมของพลเมอื งของ Robert B. Denhardt & Janet Vinzant Denhardt (2007: 46 - 49)

4

5ตารางท่ี 1 เกณฑห์ รอื ปจั จยั ทใ่ี ชใ้ นการเลอื กกองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนพน้ื ทจ่ี .อุตรดติ ถ์ (ต่อ)กองทนุ สวสั ดกิ าร เหตผุ ลในการ การเชอ่ื มโยง หลกั เกณฑ์ รปู แบบและกลไกในการ ชมุ ชน จดั ตงั้ กบั กจิ กรรม ในรบั เป็น บรหิ ารจดั การ สมาชกิตาบลนานกกก ขยายผลจาก อน่ื ๆ กลไกการจดั ทาบรกิ าร กลุ่มออมทรพั ย์ กลุ่มออมทรพั ย์ มี สาธารณะและสวสั ดกิ าร เดมิ สงั คมบนฐานของความ กลุ่มออมทรพั ย์ มี เป็นพลเมอื ง (Civilตาบลบา้ นดารา อปท. รเิ รม่ิ engagement กลมุ่ ออมทรพั ย์ มี mechanism)ตาบลวงั กะพ้ี กรรมการชมุ ชน กลไกการจดั ทาบรกิ าร กลมุ่ ออมทรพั ย์ มี สาธารณะและสวสั ดกิ ารตาบลทา่ อฐิ ผนู้ าในชมุ ชน สงั คมบนฐานของระบบ รเิ รม่ิ กลุ่มออมทรพั ย์ มี ราชการ (Bureaucratic base mechanism)ตาบลบา้ นใน ผนู้ าในชมุ ชน กลไกการจดั ทาบรกิ ารเมอื ง รเิ รมิ่ สาธารณะและสวสั ดกิ าร สงั คมบนฐานของชมุ ชน (Community base mechanism) กลไกการจดั ทาบรกิ าร สาธารณะและสวสั ดกิ าร สงั คมบนฐานของความ เป็นพลเมอื ง (Civil engagement mechanism) กลไกการจดั ทาบรกิ าร สาธารณะและสวสั ดกิ าร สงั คมบนฐานของความ เป็นพลเมอื ง (Civil engagement mechanism)

6ตารางท่ี 1 เกณฑห์ รอื ปจั จยั ทใ่ี ชใ้ นการเลอื กกองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนพน้ื ทจ่ี .อุตรดติ ถ์ (ต่อ)กองทนุ สวสั ดกิ าร เหตผุ ลในการ การเชอ่ื มโยง หลกั เกณฑ์ รปู แบบและกลไกในการ ชมุ ชน จดั ตงั้ กบั กจิ กรรม ในรบั เป็น บรหิ ารจดั การ สมาชกิตาบลหาดลา้ กรรมการชมุ ชน อน่ื ๆ กลไกการจดั ทาบรกิ าร กลมุ่ ออมทรพั ย์ มี สาธารณะและสวสั ดกิ ารกองทนุ แมข่ อง กรรมการชมุ ชน สงั คมบนฐานของชมุ ชนแผน่ ดนิ บา้ นดง กองทนุ หมบู่ า้ น ไมม่ ี (Community baseสระแกว้ กลมุ่ ออมทรพั ย์ mechanism)ตาบลไผล่ อ้ ม และกองทนุ กลไกการจดั ทาบรกิ าร อน่ื ๆในหมบู่ า้ น สาธารณะและสวสั ดกิ าร สงั คมบนฐานของชมุ ชน (Community base mechanism) จากตารางท่ี 1.1 กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดนิ บา้ นดงสระแกว้ มคี วามน่าสนใจท่จี ะนาไปใช้เป็นกรณีศึกษาเน่ืองจากกองทุนดงั กล่าวเกิดขน้ึ จากความต้องการของประชาชนในพน้ื ทท่ี ต่ี อ้ งการแก้ไขปญั หาและใหค้ วามสาคญั กบั การดปู ระชาชนในชุมชนจงึ ทาให้กลไกการจัดทาบริการสาธารณะและสวัสดิการสังคมดาเนินการบนฐานของชุมช น ไม่มีข้อกาหนดในการเข้าเป็นสมาชิก นอกจากน้ีในพ้นื ท่มี กี ารรวมกองทุนทุกกองทุนมาบริหารจดั การรว่ มกนั ดงั นนั้ เพ่อื นาไปส่กู ารศกึ ษารปู แบบการบรหิ ารจดั การทเ่ี หมาะสมและศกึ ษาปจั จยัท่ที าให้กองทุนสามารถเพิ่มประสทิ ธภิ าพการจดั การซ่งึ จะนามาซ่งึ การกาหนดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนากองทุนให้สอดคล้องกับโครงสร้าง การบริหารงานของกองทุนให้มีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลแก่ชุมชน อนั จะนามาซ่งึ การเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั คนในชุมชนตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งระดบั ทอ้ งถน่ิ1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรวิจยั 1. เพอ่ื ศกึ ษาถานภาพการจดั การกองทนุ และศกึ ษาปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อการจดั การกองทนุ 2. เพ่อื ศกึ ษาความยงั่ ยนื ของกองทนุ1.3 ขอบเขตของกำรวิจยั การวจิ ยั ครงั้ น้มี รี ปู แบบการวจิ ยั ทเ่ี ป็นการบูรณาการองคค์ วามรกู้ ารวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณและเชงิ คุณภาพโดยศกึ ษารปู แบบการจดั การกองทุนทส่ี อดคลอ้ งกบั ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การกองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนในพน้ื ทห่ี มบู่ า้ นดงสระแกว้ ตาบลไผ่ลอ้ ม อ.ลบั แล จ.อุตรดติ ถ์

71.4 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รบั จำกกำรวิจยั 1. กองทุนในพน้ื ท่ที ราบผลการดาเนินงานของตนเองและนาขอ้ มูลไปปรบั ปรุงผลการดาเนนิ งานและกาหนดนโยบายทส่ี อดคลอ้ งกบั โครงสรา้ งของกองทนุ ชมุ ชน 2. กลุ่มอาชพี ทใ่ี ชก้ องทุนเป็นฐานในการลงทุนไดร้ บั ผลพลอยไดจ้ ากความเขม้ แขง็ ของกองทุน 3. เกิดการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับคนในชุมชน องค์กรทอ้ งถนิ่ เพอ่ื นาไปจดั ทาการจดั การความรตู้ ่อไป 4. เศรษฐกจิ ในชุมชนมคี วามเข้มแขง็ ประชาชนในพ้นื ท่สี ามารถพ่งึ ตนเองได้มากข้นึตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง1.5 กรอบแนวคิดในกำรวิจยั ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อการบรหิ ารจดั การกลุ่มกองทุนชุมชน หรอื ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อความสาเร็จของกลุ่ม ไดแ้ ก่ ลกั ษณะการบรหิ ารจดั การ (ชาตรี เจรญิ ศริ ,ิ 2543) การใหค้ วามช่วยเหลอื จากรฐั บาล (Kaboski and Townsend, 2009) โดยมีสมมุติฐานว่าลกั ษณะของกองทุนท่ีตัง้ ตามวตั ถุประสงคต์ ่างๆ มผี ลต่อความมปี ระสทิ ธภิ าพของการบรหิ ารจดั การกองทุน และรปู แบบการบรหิ ารจดั การกองทุนทเ่ี หมาะสมมผี ลต่อการพฒั นาประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การกองทุนการศกึ ษาบรบิ ทกองทุน การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม ในชมุ ชน ภายใน/นอกศกึ ษาประสทิ ธภิ าพการ ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อประสทิ ธภิ าพ บรหิ ารจดั การกองทนุ การบรหิ ารจดั การกองทนุรปู แบบการบรหิ ารจดั การ นโยบายพฒั นาการ กองทุนทย่ี งั่ ยนื บรหิ ารจดั การกองทนุ ชมุ ชนแผนภาพท่ี 1.1 กรอบแนวคดิ

8 จากแผนภาพท่ี 1.1 เรมิ่ ต้นจากการศึกษาบรบิ ทกองทุนในชุมชนด้วยการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทงั้ ภายในภายนอก และอาศยั ขอ้ มูลทุติยภูมิ จากนัน้ ศึกษาประสทิ ธภิ าพการบริหารจัดการกองทุนโดยการเก็บข้อมูลปฐมภูมิเก่ียวกับปจั จัยการผลิตหลัก แหล่งทุนความสามารถในการผลติ และผลตอบแทนและขอ้ มูลจากการทาบัญชขี องกองทุนเพ่อื ทดสอบความสมั พนั ธว์ า่ มปี จั จยั ใดบา้ งทม่ี ผี ลต่อประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การกองทนุ ต่อจากนนั้ นาผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ ปรมิ าณทไ่ี ดไ้ ปจดั กลุ่มเพ่อื หารปู แบบการพฒั นาใหเ้ หมาะสมกบั นโยบายพฒั นาต่อไป

บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวข้อง เอกสารงานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วขอ้ งของงานวจิ ยั ในครงั้ น้ีแบ่งออกเป็น 2 ส่วนไดแ้ ก่ การศกึ ษารปู แบบกองทนุ ในชุมชน และการศกึ ษาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การวดั ผลการดาเนินงานของกองทุนชุมชน2.1 กองทนุ ในชมุ ชน การแกไ้ ขปญั หาความยากจนในรปู แบบของกองทุนชุมชนเป็นอกี มาตรการหน่งึ ทร่ี ฐั บาลทุกยุคทุกสมยั ไดด้ าเนินการโดยรฐั บาลมนี โยบายหลกั ในการพฒั นาแลว้ มอบหมายใหห้ น่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งดาเนินการ โดยแยกออกเป็น 2 ส่วน คอื กองทนุ ทภ่ี าครฐั บาลดาเนนิ การ และกองทนุทภ่ี าคเอกชนดาเนินการดงั รายละเอยี ดต่อไปน้ีก. กองทนุ ท่ีภาครฐั บาลดาเนินการ 1. กล่มุ ออมทรพั ยเ์ พ่ือการผลิต ความหมายของกลุ่มออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลติ หมายถงึ การรวมตวั กนั ของชาวบา้ น เพ่อืชว่ ยเหลอื ตนเอง และช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั โดยการประหยดั ทรพั ยแ์ ลว้ นามาสะสมรวมกนั ทลี ะเลก็ ทลี ะน้อยเป็นประจาอยา่ งสม่าเสมอเพอ่ื ใชเ้ ป็นทุนใหส้ มาชกิ ทม่ี คี วามจาเป็นเดอื ดรอ้ นกู้ยมื ไปใชใ้ นการลงทุน ประกอบอาชพี หรอื เพอ่ื สวสั ดกิ ารของตนเอง และครอบครวั กรมพฒั นาชมุ ชนซง่ึเป็นหน่วยงานในสงั กดั กระทรวงมหาดไทยท่มี ีภารกิจหลกั ในการพฒั นาชุมชน ไดด้ าเนินการจดั ตงั้ กลุ่มออมทรพั ย์ เพ่อื การผลติ มาตงั้ แต่ปี 2517 ซง่ึ นับว่ากองทุนน้ีเป็นพน้ื ฐานของกองทุนชุมชนอ่นื ๆด้วย ปจั จุบนั กลุ่มออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลติ มจี านวนถงึ 261,129 กลุ่มทวั่ ประเทศ มีจานวนสมาชกิ ทงั้ หมด 2,154,212 ราย และมเี งนิ สจั จะสะสมทงั้ หมด 4,585,090.146 บาท

9 2. โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพฒั นาชุมชนไดร้ บั การมอบหมายจากมตคิ ณะรฐั มนตรีเมอ่ื วนั ท่ี 17 สงิ หาคม 2536 ใหด้ าเนินงานโครงการแก้ไขปญั หาความยากจน (กข.คจ.) ระยะท่ี1 คอื ปี2536-2539 เพ่อื ตอบสนองนโยบายของรฐั บาลด้านการกระจายรายได้และความเจรญิไปส่ภู มู ภิ าค และเพ่อื ใหค้ รวั เรอื นในหมบู่ า้ นเรง่ รดั พฒั นา อนั ดบั 1 ตามขอ้ มลู กชช.2ค ปี 2533จานวน 11,608 หมบู่ า้ น มกี ารยกระดบั รายไดแ้ ละพฒั นาคุณภาพชวี ติ ใหด้ ขี น้ึ ดว้ ยการสนบั สนุนเงนิ ทุนสาหรบั ครวั เรอื นยากจนยมื ไปประกอบอาชพี โดยไม่มดี อกเบย้ี หม่บู า้ นละ 280,000 บาทและกรมพฒั นาชมุ ชนไดร้ บั ผดิ ชอบการดาเนนิ งานในระยะท่ี 2 ปี 2541–2544 อกี จานวน 28,038หม่บู า้ น โดยเป็นการดาเนินการในหม่บู า้ นท่มี คี รวั เรอื นยากจน ท่มี รี ายได้เฉลย่ี ต่ากว่า 15,000บาท/คน/ปี ตามข้อมูลความจาเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) ปี 2539 เพ่ือขยายการดาเนินงานให้ครอบคลุมไปในทุกหม่บู า้ นทย่ี งั ไม่ไดด้ าเนินการในระยะท่ี 1 โดยมอบอานาจใหค้ ณะกรรมการกองทนุ กข.คจ. ประจาหมบู่ า้ น เป็นองคก์ รรบั ผดิ ชอบบรหิ ารจดั การเงนิ กองทุนของหม่บู า้ น และตดิ ตามสนับสนุนการประกอบอาชีพของครวั เรอื นเป้าหมายจากบนั ทกึ นักพฒั นาชุมชนปี พ.ศ.2545 ระบุว่าจานวนหมู่บ้านทวั่ ประเทศท่ไี ด้รบั เงนิ จากโครงการ กข.คจ. มที งั้ หมด 29,234หม่บู า้ น มจี านวนครวั เรอื นทเ่ี ป็นสมาชกิ โครงการถงึ 2,683,543 ครวั เรอื น มจี านวนเงนิ ทงั้ หมด1,037,750 บาท และมจี านวนเงนิ ยมื ทงั้ หมด 6,874.9 ลา้ นบาททวั่ ประเทศ 3. โครงการเศรษฐกิจชุมชน ในช่วงปี พ.ศ.2541 ได้มีนโยบายเร่งด่วนท่ีจะฟ้ืนฟูเศรษฐกิจและสังคมชนบท อันเน่ืองมาจากวกิ ฤตเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงมหาดไทย (โดยกรมการปกครองเป็นฝ่ายดาเนินงาน) จงึ ได้จดั ทายุทธศาสตรเ์ ศรษฐกจิ ชุมชนพง่ึ ตนเองขน้ึ เพ่อื ฟ้ืนฟูและสงั คมดว้ ยการพัฒนาชุมชนระดับฐานราก คือ ตาบล หมู่บ้าน ให้มีความเข้มแข็งและมีศักยภาพในการเสรมิ สร้างความมนั่ คงทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยงั่ ยืน โดยได้เริม่ ดาเนินการในปีงบประมาณ 2541 ซง่ึ คณะรฐั มนตรี ไดม้ มี ตเิ มอ่ื วนั ท่ี 9 มถิ ุนายน 2541 จดั สรรคนื งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณพ.ศ. 2541 ให้กระทรวงมหาดไทย จานวน 200 ล้านบาท ซ่ึงกระทรวงมหาดไทยไดจ้ ดั สรรใหเ้ ป็นรายการเงนิ ทุนหมนุ เวยี น เพ่อื เศรษฐกจิ ชุมชน จานวน 150ล้านบาท โดยการจดั สรรให้หมู่บ้านละ 100,000 บาท โดยให้ระยะเวลากู้ยืม 5 ปี และไม่มีดอกเบย้ี

10 4. โครงการธนาคารประชาชน รฐั บาลไดม้ แี นวคดิ จดั ทาโครงการธนาคารประชาชน (People Bank) ซง่ึ เป็นโครงการเร่งด่วนท่ีมุ่งเน้นให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้บรกิ ารทางการเงนิ เท่าเทียมกันส่งเสริมให้ประชาชนผดู้ อ้ ยโอกาสสามารถเขา้ ส่รู ะบบการเงนิ ทเ่ี ป็นมาตรฐานเดยี วกนั ทุกระดบั และส่งเสรมิผปู้ ระกอบอาชพี โดยเฉพาะรายยอ่ ย ซง่ึ ถอื ว่าเป็นรากฐานสาคญั ของเศรษฐกจิ พน้ื ฐานให้กระจายไปอย่างทวั่ ถงึ และใหม้ เี งนิ ทุนเพ่อื ประกอบการอยา่ งยุตธิ รรม โดยมธี นาคารออมสนิ ภายใต้การกากบั ดูแลของกระทรวงการคลงั เป็นสถาบนั การเงนิ ทจ่ี ดั ตงั้ โครงการธนาคารประชาชนเพ่อื ให้ประชาชนไดก้ ู้เงนิ โดยไม่มหี ลกั ทรพั ยค์ ้าประกนั โดยเรมิ่ เปิดใหบ้ รกิ ารในลกั ษณะของโครงการทดลองธนาคารประชาชน ณ ธนาคารออมสนิ สานกั งานใหญ่ เมอ่ื วนั อาทติ ยท์ ่ี 1 เมษายน 2544และได้ให้บรกิ ารประชาชนผ่านธนาคารออมสนิ ทุกสาขาทวั่ ประเทศ ตงั้ แต่วนั ท่ี 25 มถิ ุนายน2544 เป็นตน้ ไป การใหบ้ รกิ ารของธนาคารออมสนิ เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนทวั่ ไปผทู้ ่ีประกอบอาชพี อสิ ระรายยอ่ ย พ่อคา้ แมค่ า้ ไดเ้ ตม็ รปู แบบอยา่ งต่อเน่อื ง มกี ารใหบ้ รกิ ารอยู่ 4 ดา้ นคอื 1. การออมทรพั ย์ ทม่ี นั่ คง ปลอดภยั และไดร้ บั ผลประโยชน์ทค่ี ุม้ ค่า 2. สนิ เช่อื ทม่ี เี งอ่ื นไขไมย่ งุ่ ยากซบั ซอ้ นในวงเงนิ ทเ่ี พยี งพอต่อความจาเป็น 3. การเงนิ ในรปู แบบอ่นื ๆ ตามความตอ้ งการ 4. บรกิ ารใหก้ ารฝึกอบรมทจ่ี าเป็น ใหค้ าปรกึ ษา และแกไ้ ขปญั หาทงั้ ทางดา้ นการเงนิอาชพี และดา้ นอ่นื ๆ เป็นพเิ ศษแก่ลกู คา้ ทเ่ี ป็นสมาชกิ ของโครงการประชาชน 5. กองทุนหม่บู ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กองทุนหม่บู ้านและชุมชนเมอื งแห่งชาตเิ ป็นกองทุนใหม่ท่ไี ด้เริ่มดาเนินการมาเม่อื ไม่นานมาน้ี การจดั ตัง้ โครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมอื งแห่งชาติข้นึ เม่อื ปี พ.ศ. 2544เน่ืองจากรฐั บาลมนี โยบายเร่งด่วนในการจดั ตงั้ กองทุนหม่บู ้านและชุมชนเมอื งแห่งชาติ สาหรบัเป็นแหล่งเงนิ ทุนหมุนเวียนในหมู่บ้านและชุมชนเมอื งใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพ่อื ใหท้ อ้ งถนิ่ มขี ดี ความสามารถในการจดั ระบบและบรหิ ารของประชาชนในหมบู่ า้ นและชุมชนเมอื งสู่การพง่ึ พาตนเองอย่างยงั่ ยนื อนั เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ รวมทงั้เสรมิ สรา้ งภมู คิ ุม้ กนั ทางเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศในอนาคต โดยรฐั บาลไดใ้ หก้ องทุนละ 1ลา้ นบาท หมบู่ า้ นและชมุ ชนเมอื งทวั่ ประเทศ โดยมงี บประมาณรวมทงั้ หมดกวา่ 80,000 ลา้ นบาท

11 6. กองทนุ เพ่ือการลงทนุ ทางสงั คม (Social Investment Fund - SIF) กองทุนเพ่อื การลงทุนทางสงั คม (Social Investment Fund - SIF) หรอื กองทุนชุมชนคือ กองทุนท่ีรฐั บาลกู้มาจากธนาคารโลก และต้องใช้คืนพร้อมดอกเบ้ียภายใน 15 ปี โดยมอบหมายให้ธนาคารออมสนิ ทาหน้าท่แี บ่งปนั ให้ชุมชนทงั้ ในเมอื งและชนบท โดยวธิ กี ารให้ชุมชนเสมอโครงการทม่ี กี จิ กรรมทส่ี ามารถพฒั นาทอ้ งถนิ่ ไปส่กู ารพง่ึ พาตนเองในระยะยาวโดยเปิดโอกาสให้ชุมชนเป็นผูค้ ดิ หาหนทางแก้ไขปญั หาของตนเองไดด้ ว้ ยตนเอง เพ่อื ตนเอง และท้องถิ่น จนเกิดความเข้มแขง็ ของชุมชนท่พี ่งึ พาตนเองได้ กลายเป็นพลงั ทางสงั คมท่กี อบกู้วกิ ฤตการณ์ของสงั คมไทยไดใ้ นทส่ี ดุ 7. กองทุนสวสั ดิการชมุ ชน สถาบนั พฒั นาองคก์ รชุมชน (2558) อธบิ าย “สวสั ดกิ ารชุมชน” คอื การสรา้ งหลกั ประกนัเพอ่ื ความมนั่ คงของคนในชุมชน ซง่ึ หมายรวมถงึ ทกุ อย่างทจ่ี ะทาใหค้ นในชุมชนมคี วามเป็นอย่ทู ่ีดขี น้ึ ทงั้ ในรปู ของสง่ิ ของ เงนิ ทุน น้าใจ การช่วยเหลอื เกอ้ื กูล เป็นเรอ่ื งทเ่ี ก่ยี วกบั วถิ ชี วี ติ ตั้งแต่เกิด แก่ เจบ็ ตาย เป็นระบบการช่วยเหลอื เก้อื กูลของคนในท้องถิ่น ท่มี รี ูปแบบและวธิ กี ารท่ีหลากหลาย เป็นเร่อื งราวเก่ยี วขอ้ งกบั วถิ ีชวี ิต ตงั้ แต่เกดิ จนกระทงั่ ตาย ก่อให้เกิดรายได้ลดรายจา่ ย นาไปส่กู ารแกไ้ ขปญั หาความยากจน1. แนวความคดิ สาคญั ของการจดั ตงั้ 1.1 เงนิ เป็นเครอ่ื งมอื ไมใ่ ช่เป้าหมายการพฒั นาจดั สวสั ดกิ ารและสรา้ งความอยดู่ มี สี ุขของ ประชาชนโดยใชฐ้ านทุนทม่ี อี ยภู่ ายในมาช่วยเหลอื เกอ้ื กูลกนั 1.2 ช่วยเหลอื ทุกคนอยา่ งเท่าเทยี มไมส่ รา้ งความแยกแยก 1.3 พฒั นาอยา่ งองคร์ วมเชอ่ื มโยงกบั กจิ กรรมและกลุ่มองคก์ รอ่นื ๆในชุมชน เป็นส่วนหน่งึ ของ “ชุมชนทอ้ งถน่ิ จดั การตนเอง” 1.4 จดั ตงั้ จากสง่ิ ทเ่ี ป็นจรงิ ตามสภาพเศรษฐกจิ สงั คมในชุมชน ไมล่ อกเลยี นคนอ่นื เขามาทงั้ ชุด 1.5 พง่ึ ตนเองและการช่วยเหลอื เกอ้ื กลู กนั โดยยดึ หลกั “ ใหอ้ ยา่ งมคี ุณคา่ รบั อยา่ งมศี กั ดศิ ์ ร\"ี 1.6 กระบวนการดาเนินงานสอดคลอ้ งกบั วฒั นธรรมภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ 1.7 ทกุ คนเป็นทงั้ ผใู้ หแ้ ละผรู้ บั เป็นการจดั สวสั ดกิ ารของชมุ ชน โดยชุมชน เพอ่ื ชมุ ชน2. ลกั ษณะการดาเนินการของกองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชน 2.1 เป็นกองทนุ ทม่ี ี สมาชกิ ทางานใหบ้ รกิ ารสมาชกิ และ/หรอื คนอ่นื ๆในชมุ ชนตามทส่ี มาชกิ ตกลงรว่ มกนั 2.2 เงนิ กองทนุ มาจากการสมทบของสมาชกิ การบรจิ าคสมทบของหน่วยงาน องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ และการระดมทุนเพม่ิ เตมิ ดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ ปจั จบุ นั กองทนุ สว่ น ใหญ่สมาชกิ สมทบวนั ละ 1 บาทหรอื ปีละ 365 บาท แต่กม็ กี องทุนบางสว่ นทใ่ี ชก้ ารระดม

12 ทนุ ดว้ ยวธิ กี ารอ่นื ๆ เชน่ จากผลกาไรกลมุ่ ออมทรพั ย์ ฯลฯเงนิ สมทบดงั กลา่ วจะไมค่ นื เงนิ เมอ่ื สมาชกิ ลาออก 2.3 การบรหิ ารจดั การ สมาชกิ จะเลอื กคณะกรรมการ มาบรหิ ารกองทุน โดยมรี ะเบยี บ กองทนุ เกย่ี วกบั สมาชกิ การสมทบเงนิ และการจ่ายเงนิ สวสั ดกิ าร เป็นเครอ่ื งมอื ในการ ทางาน 2.4 การชว่ ยเหลอื สมาชกิ ประเภทสวสั ดกิ ารทจ่ี ดั จานวนเงนิ ช่วยเหลอื เป็นไปตามกตกิ า รว่ มและฐานะการเงนิ ของแต่ละกองทุน3. ประเภทของสวสั ดกิ ารชุมชน ปจั จบุ นั กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนสามารถจดั สวสั ดกิ ารไดก้ ว่า 10 ประเภท ตงั้ แต่การคลอดบตุ ร เจบ็ ปว่ ย ช่วยเหลอื ผสู้ งู อายุ คนพกิ าร คนดอ้ ยโอกาส ทุนการศกึ ษา ชว่ ยงานสาธารณะประโยชน์ในชุมชน ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั เงนิ ยมื ไมม่ ดี อกเบย้ี สาหรบั สมาชกิ ทุนอาหารกลางวนั นกั เรยี น เงนิ บานาญ ฯลฯ ทงั้ น้ตี ามความพรอ้ มของเงนิ กองทุน4. แนวทางทที่ าใหก้ องทุนสวสั ดกิ ารประสบความสาเรจ็ ความสาเรจ็ ของกองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนคอื สามารถใหก้ ารช่วยเหลอื สมาชกิ ไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ต่อเน่อื ง ครบถว้ น สมาชกิ มสี ว่ นรว่ มในการดาเนินการและสามารถดาเนินการได้อยา่ งยงั่ ยนื เป็นเครอ่ื งมอื สรา้ งหลกั ประกนั ทางสงั คมทส่ี าคญั ของชมุ ชน กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนจะประสบความสาเรจ็ เพราะ 4.1 ความเขา้ ใจความเช่อื มนั่ ในแนวคดิ อุดมการณ์สวสั ดกิ ารชุมชน ทเี น้นเรอ่ื งการพ่ึงตนเองและช่วยเหลือเก้ือกูลกัน ตามแนวคิด ”ให้อย่างมีคุณค่า รบั อย่างมีศักดิศ์ รี” ให้ความสาคญั กบั การเช่อื มโยงทุนภายใน จดั สวสั ดกิ ารท่สี อดคลอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ และปญั หาความต้องการของชุมชน ทงั้ สวสั ดกิ ารทใ่ี ชเ้ งนิ กองทุนและสวสั ดกิ ารทเ่ี ป็นการดูแลช่วยเหลอื กนั โดยไมต่ อ้ งใชเ้ งนิ 4.2 จานวนสมาชกิ สมาชกิ ทเ่ี พม่ิ ขน้ึ อยา่ งสม่าเสมอจนครอบคลมุ ประชากรทงั้ตาบล กระจายทุกช่วงวยั เพราะยง่ิ มสี มาชกิ มาก เงนิ สมทบจะมมี าก ความเส่ยี งในการท่ีจ่ายเงนิ สวสั ดกิ ารจะยง่ิ น้อยลงเพราะมกี ารกระจายความเส่ยี งออกไปมากขน้ึ กองทุนท่มี สี มาชกิน้อยจะมคี วามเสย่ี งมากกว่ากองทุนทม่ี สี มาชกิ มาก 4.3 มคี วามมนั่ คงทางการเงนิ เพราะสมาชกิ จา่ ยเงนิ สมทบครบถว้ น สม่าเสมอ มกี ารสนบั สนุนจากหน่วยงานอ่นื ๆ มรี ายรบั จากแหล่งอ่นื ๆของกองทุนอยา่ งต่อเน่อื ง สดั สว่ นการจ่ายสวสั ดกิ ารใหส้ มาชกิ และค่าใช้บรหิ ารจดั การสมั พนั ธก์ บั รายรบั เน้นการพง่ึ พาทุนภายในชุมชนทอ้ งถน่ิ เป็นสาคญั

13 4.4 การบรหิ ารจดั การเปิดเผยโปรง่ ใส ระบบบญั ชกี ารเงนิ ถูกตอ้ งทนั เวลาและสมาชกิ มีส่วนร่วมในการดาเนินการ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผลการดาเนินงานสู่สมาชกิ หน่วยงานท่ีเกย่ี วขอ้ งและสาธารณะอยา่ งต่อเน่อื ง5. การสนับสนุนจากรฐั บาล รฐั บาลได้ให้การสนับสนุนกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนอย่างต่อเน่ืองมาตงั้ แต่ปี 2548ในช่วงแรกเป็นการใหก้ ารสนับสนุนเพ่อื การจดั ตงั้ พฒั นาและสมทบเงนิ บางส่วน ตงั้ แต่ปี 2553เป็นต้นมา รฐั บาลใหก้ ารสนบั สนุนโดยสมทบเงนิ เขา้ กองทุนตามจานวนสมาชกิ ทม่ี อี ายคุ รบ 1 ปีข้นึ ไปในอัตราวนั ละ 1 บาทต่อคนหรอื ปีละ 365 บาท และได้มมี ติคณะรฐั มนตรีวันท่ี 29มถิ ุนายน 2553 ให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทงั้ เทศบาล องค์การบรหิ ารส่วนตาบล (อบต.)และองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั (อบจ.) พจิ ารณาสมทบงบประมาณกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนได้ตามฐานะการคลงั ของแต่ละ อปท.ข. กองทุนที่ชุมชนหรือภาคเอกชนดาเนินการ กองทุนท่ดี าเนินกานโดยภาคเอกชนนัน้ ส่วนใหญ่มฐี านการก่อตงั้ มาจากหน่วยงานภาครฐั เชน่ กรมการพฒั นาชุมชน กรมการปกครอง กระทรวงสาธารณสขุ ฯลฯ เป็นตน้ โดยมกี ารสานต่องานอยา่ งต่อเน่ืองซง่ึ มปี จั จยั หลายอยา่ งเขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง ดงั ตวั อยา่ งของกองทนุ ต่อไปน้ี 1. กล่มุ ออมทรพั ยโ์ ซน 8 กลุ่มออมทรพั ยโ์ ซน 8 อย่ใู นชุมชนฟ้ืนนครร่มเกลา้ เป็นโครงการปรบั ปรุงชุมชนแออดัแนวใหม่ ตงั้ อยทู่ แ่ี ขวงคลองสองตน้ นุ่น เขตลาดกระบงั กรงุ เทพมหานคร จดั ตงั้ ขน้ึ โดยการเคหะแห่งชาตติ ามนโยบายยา้ ยทอ่ี ย่ใู หม่ (Relocation) ท่กี ารเคหะแห่งชาตเิ หน็ ว่าเป็นวธิ ที ่จี ะทาให้ชาวชุมชนแออัดมีความมัน่ คงและมกี รรมสิทธิใ์ นท่ีดินท่ีตนอยู่อาศัย เดือนกันยายน 2527กรุงเทพมหานครได้อนุมตั ิเงนิ 10.2 ล้านบาท ให้การเคหะแห่งชาติดาเนินการหาพ้นื ท่เี พ่ือรองรบั ผทู้ ต่ี ้องถูกรอ้ื ยา้ ยอนั เน่ืองมาจากการบุกรกุ คคู ลองสาธารณะในทด่ี นิ ขนาดเน้ือท่ี 29.2 ไร่ซ่งึ แบ่งแปลงท่ดี นิ ไดจ้ านวน 412 แปลง ต่อมาในช่วงทเ่ี ศรษฐกจิ เฟ่ืองฟู ภาครฐั และภาคธุรกจิเหน็ ถงึ ความจาเป็นในการใชพ้ น้ื ทช่ี ุมชนแออดั มาพฒั นาเชงิ พาณิชยแ์ ละสรา้ งทางดว่ น ทาใหเ้ กดิการไลร่ อ้ื และโยกยา้ ยชมุ ชนแออดั ในเมอื งไปรวมอยใู่ นชุมชนฟ้ืนนครร่มเกลา้ อกี จานวนมาก 2. กล่มุ ออมทรพั ยข์ องชมุ ชนคนงานย่านอ้อมน้อย – อ้อมใหญ่

14 การก่อตงั้ การกาเนิดของกลุ่มออมทรพั ย์ของคนงานย่านอ้อมน้อย–อ้อมใหญ่มาจากพ้นื ฐานการรวมตวั ของสภาพแรงงานย่านอ้อมน้อย–อ้อมใหญ่ ซ่งึ มปี ระวตั ิการเคล่อื นไหวมายาวนาน มูลนิธเิ พ่อื นหญงิ ไดเ้ ขา้ มาทากจิ กรรมในพน้ื ท่ชี ุมชนคนงานย่านอ้อมน้อย–อ้อมใหญ่โดยโครงการแรงงานหญงิ เขา้ มาประสานงานและดาเนนิ กจิ กรรมช่วยเหลอื แรงงานหญงิ ทป่ี ระสบปญั หาการทางาน ตลอดจนให้การสนับสนุนการรวมตวั เป็นกลุ่มของแรงงานหญงิ ในประมาณเดอื นพฤษภาคม 2529 โครงการแรงงานของมูลนิธเิ พ่อื นหญงิ ได้จดั เสวนาในหมู่ผู้นาสหภาพแรงงานหญงิ ในประเดน็ เก่ยี วกบั ปญั หาของกลุ่มผใู้ ชแ้ รงงานหญงิ กบั การทางานสหภาพ รวม 3ครัง้ ผู้เข้าร่วมการสัมมนาประกอบไปด้วยผู้นาสหภาพแรงงาน ทัง้ จากรัฐวิสาหกิจและบรษิ ทั เอกชนประมาณ 8 สหภาพ จากการเสวนาได้ข้อสรุปว่า ผู้ใช้แรงงานหญิงในย่าน อ้อมน้อย–อ้อมใหญ่ ต้องการแก้ไขปญั หาด้านสุขภาพดว้ ยการจดั ตงั้ กองทุนข้นึ มาช่วยเหลอื เพ่อื นแรงงานในด้านสุขภาพอนามยั ต่อมาผู้ใช้แรงงานหญิงในย่านน้ีได้จดั ตงั้ กองทุนสุขภาพและสวสั ดภิ าพของคนงาน โดยการสนบั สนุนของสมาคมสทิ ธิ เสรภี าพของประชาชนและมลู นธิ เิ พ่อื นหญงิ ในช่วงปี พ.ศ. 2532 มกี ารเคล่อื นไหวจดั ตงั้ โครงการใหค้ าปรกึ ษาการดาเนินชวี ติ และในปีพ.ศ. 2533 ไดป้ รบั ปรงุ ขยายผลกจิ กรรมต่อเน่อื งออกมาเป็นโครงการพฒั นาศกั ยภาพคนงานหญงิ โครงการแลกเปล่ยี นปญั หาแรงงานหญงิ ในเขตอุตสาหกรรมต่างๆ โครงการสนับสนุนและประสานงานกบั กลุ่มผใู้ ชแ้ รงงาน นอกจากน้ี ผใู้ ชแ้ รงงานหญงิ ในยา่ นอ้อมน้อย–อ้อมใหญ่ได้เขา้ รว่ มการเคล่อื นไหวผลกั ดนั นโยบายแรงงานทส่ี าคญั ๆ เช่น กฎหมายประกนั สงั คม กฎหมายลาคลอด 90 วนั นโยบายและกฎหมายดา้ นสุขภาพและความปลอดภยั เป็นตน้ หลงั จากปี พ.ศ.2533 มกี ารประกาศใชก้ ฎหมายประกนั สงั คม ทาใหส้ มาชกิ กองทุนสุขภาพของคนงานย่านอ้อมน้อย–ออ้ มใหญ่หนั ไปใชบ้ รกิ ารการรกั ษาพยาบาลจากกองทุนประกนั สงั คมมากขน้ึ ทาใหก้ องทุนสุขภาพฯต้องปรบั เปล่ียนบทบาทและการดาเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับปญั หาและความตอ้ งการของสมาชกิ มากขน้ึความแตกต่างระหว่างกองทุนท่ีรฐั บาลดาเนินการกบั กองทนุ ท่ีเอกชนดาเนินการ

15 จากลกั ษณะการบรหิ ารจดั การกองทุนแต่ละประเภททก่ี ล่าวถงึ ขา้ งต้นจะเหน็ ว่ามคี วามแตกต่างระหว่างกองทุนทด่ี าเนินการโดยภาครฐั บาล และกองทุนทด่ี าเนินการโดยภาคเอกชนซง่ึ จะขอสรปุ ใหเ้ หน็ ไดด้ งั ตารางต่อไปน้ีกองทนุ ที่ดาเนินการโดยภาครฐั บาล 1. ส่วนใหญ่จะมลี กั ษณะท่เี ป็นการสงั่ การจากเบ้อื งบนลงไปยงั ชุมชน (Top-Down) ท่ีอาศยั อานาจการสงั่ การไปตามลาดบั ขนั้ ตอน ของการทางานมากกว่าการคานึงถงึ กระบวนการเตรยี มความพรอ้ มของชุมชน และขาดการคานึงถงึ การมสี ่วนร่วมของประชาชน การกาหนดแผนงานในลกั ษณะน้ีจงึ พบว่าการดาเนินงานค่อนขา้ งช้า และไม่คล่องตวั ในการบรหิ ารจดั การมากนกั และในทส่ี ุดกล่มุ กม็ กั จะไมป่ ระสบความสาเรจ็ 2. มกั ปรากฏวา่ มหี น้เี สยี เป็นจานวนมาก และบางครงั้ ตอ้ งใชม้ าตรการทางกฎหมาย เพ่อืแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ 3. ผนู้ าในการบรหิ ารจดั การมกั จะเป็นบคุ คลทม่ี าจากหน่วยงานภายนอก เช่น เจา้ หน้าท่ีพฒั นาจากหน่วยงานต่างๆมากกว่าผนู้ าในชุมชนเน่ืองจากกองทุนในลกั ษณะน้ีมกั จาเป็นต้องใช้ผู้นาทม่ี คี วามรคู้ วามสามารถทเ่ี ขา้ ใจในกฎระเบยี บท่รี ฐั บาลไดว้ างไวเ้ พราะรฐั บาลจะเป็นฝ่ายกาหนดนโยบายลงไปใหช้ มุ ชน 4. มกั เรม่ิ ตน้ จากกลุ่มออมทรพั ยแ์ ลว้ หยดุ ไมไ่ ดข้ ยายต่อไปยงั กองทุนอ่นื ๆ อกี หรอื ไมไ่ ด้ขยายไปสกู่ ารจดั สวสั ดกิ ารต่างๆ ใหก้ บั ชุมชน เน่อื งจากประสบกบั ปญั หาทม่ี หี ลากหลาย 5. ลกั ษณะการจดั ตงั้ กองทุนชุมชนและเง่อื นไขต่างๆถูกพจิ ารณาจากฐานของชุมชนท่ีเหมือนกันทัว่ ประเทศท่ีมีลักษณะใช้ \"สูตรเดียวกัน\" ทัว่ ประเทศโดยขาดการคานึงถึงลกั ษณะเฉพาะของชุมชนแต่ละแห่งท่มี คี วามแตกต่างกนั ตวั อย่างเช่น ฐานของชุมชนในเร่อื งประสบการณ์การบรหิ ารจดั การเงนิ กองทุนการประกอบอาชพี วฒั นธรรมชุมชน ฯลฯ ทาใหเ้ กดิปญั หาในการบรหิ ารจดั การตามมามากมาย 6. ระบบบรหิ ารจดั การมกั ถูกกาหนดไวเ้ ป็นระเบยี บดาเนินการอยา่ งชดั เจนและไมม่ คี วามยดื หยุ่น ดงั นนั้ จงึ พบปญั หาทต่ี ามมามากมาย เพราะระเบยี บดงั กล่าวบางครงั้ ไมส่ อดคลอ้ งกบัปญั หาของชุมชน 7. ในอดตี จะใหค้ วามสาคญั กบั การมสี ่วนรว่ มของชุมชนน้อยแต่ปจั จุบนั มกี ารปรบั เปลย่ี นใหช้ ุมชนเขา้ มสี ว่ นรว่ ม และใหค้ วามสาคญั กบั ภมู ปิ ญั หาทอ้ งถนิ่ หรอื ทุนทางสงั คมของชุมชนมากขน้ึ 8. มงี บประมาณ และกาลงั คนมาก และพรอ้ มทจ่ี ะดาเนินการไดต้ ลอด

16กองทุนที่ดาเนิ นการโดยภาคเอกชน ในพ้นื ท่จี .อุตรดติ ถ์มกี องทุนท่ดี าเนินการโดยภาคเอกชนมลี กั ษณะแบบเป็นกองทุน สวสั ดกิ ารทเ่ี ช่อื มโยงกบั กลุ่มอาชพี หรอื กลุ่มวสิ าหกจิ ชุมชน ยกตวั อย่างในพน้ื ทอ่ี าเภองว้ิ งาม ไดแ้ ก่กลุ่มสหกรณ์พลงั น้า ให้บรกิ ารประชาชนในบา้ นในเร่อื งการสูบน้าบรกิ ารโดยคดิค่าบรกิ าร และนาค่าน้านัน้ มาซอ้ื ป๋ ุยใหช้ าวนาทข่ี าดแคลนป๋ ยุ ไวใ้ ช้ โดยราคาป๋ ยุ ทเ่ี กษตรกรจ่ายจะคดิ ราคาเฉพาะค่าขนส่งแทนโดยคดิ เป็นราคาค่าขนส่งกระสอบละ10 บาทซง่ึ มองในภาพรวมแลว้ เป็นการช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ระหว่างเกษตรกร ผู้ขายป๋ ุย และกลุ่มสหกรณ์สูบน้าแสดงเป็นแผนภาพท่ี 2.1 ดงั ต่อไปน้ีสบู น้า นาขา้ ว ขายขา้ ว การซอ้ื ป๋ ยุ แผนภาพท่ี 2.1 ความเช่อื มโยงของกองทนุ และกจิ กรรมในชุมชน 1. แนวคดิ พน้ื ฐานส่วนใหญ่เรมิ่ จากความตอ้ งการในการแก้ปญั หาของชมุ ชนทป่ี ระสบอยู่และชุมชนมแี นวคิดท่ตี ้องการพ่งึ ตนเองมากกว่าการได้รบั การช่วยเหลอื จากหน่วยงานหรอืบุคคลภายนอก ทาใหส้ มาชกิ กองทุนมคี วามรสู้ กึ เป็นเจา้ ของร่วมกนั และตระหนักในปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ จงึ เป็นสาเหตุของการใหค้ วามรว่ มมอื และการเขา้ มามสี ว่ นรว่ มของคนในชุมชนมากขน้ึ 2. พบว่ามหี น้ีเสยี น้อยเม่อื เทยี บกบั การดาเนินงานโดยภาครฐั บาล เน่ืองจากสมาชกิ มีการเรม่ิ ต้นมาจากจุดเดยี วกนั ตระหนกั ถงึ ปญั หาทต่ี นเองประสบร่วมกนั และรสู้ กึ เหน็ อกเหน็ ใจซ่งึ กนั และกนั เม่อื มผี ู้ท่ไี ม่ปฏบิ ตั ติ ามเง่อื นไขของกลุ่มท่วี างไว้จงึ มกั ใช้มาตรการควบคุมโดยสงั คมในชมุ ชนมากกว่าการควบคุมโดยใชม้ าตรการทางกฎหมาย 3. ผนู้ าในการบรหิ ารจดั การส่วนใหญ่เป็นบุคคลทอ่ี ยใู่ นชุมชนแลว้ ประสบปญั หาในการประกอบอาชพี หรอื ปญั หาเศรษฐกิจ และมคี วามเข้าใจสภาพของชุมชน และเข้าใจปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ จงึ มคี วามคดิ จะจดั ตงั้ กองทุนเพ่อื ช่วยเหลอื สมาชกิ ในชุมชนด้วยกนั อย่างไรกต็ าม การกาเนิดของกองทุนท่ภี าคเอกชนได้จดั ตงั้ ขน้ึ น้ีก็มกั ได้รบั การส่งเสรมิ และใหค้ วามรพู้ ้นื ฐานมาจากหน่วยงานภาครฐั เช่น พฒั นากร และเจา้ หน้าทพ่ี ฒั นาชุมชน จากกรมการพฒั นาชุมชนดว้ ย

17เช่นกนั ประกอบผู้นาไดเ้ ลง็ เหน็ ความสาคญั ของปญั หาจงึ ได้สานต่อในการดาเนินงานดงั กล่าวอยา่ งต่อเน่ือง นอกจากน้ีผนู้ ายงั เป็นบุคคลท่มี กั ไดร้ บั ความไวว้ างใจจากชุมชน และไดร้ บั ความเชอ่ื มนั่ อยา่ งสงู 4. มกี ารเรมิ่ ต้นจากกลุ่มออมทรพั ยเ์ ช่นเดยี วกนั แต่มกี ารขยายเป็นกองทุนในลกั ษณะอ่นื เช่น การพฒั นาไปเป็นธุรกจิ ชุมชนในรูปแบบต่างๆ ตามมา รวมทงั้ มสี วสั ดกิ ารในรูปแบบอ่นื ๆ ดว้ ย เช่น การรกั ษาพยาบาล การดแู ลคนชรา การชว่ ยเหลอื คนพกิ าร การพฒั นาอาชพี ฯลฯ 5. ลกั ษณะการจดั ตงั้ กองทุนชุมชนจะเกิดข้นึ เป็นเฉพาะพ้นื ท่ี หรอื เฉพาะจุดไป การดาเนินงานจงึ เป็นไปอย่างคล่องตัว ไม่ใช้เวลามาก นอกจากน้ีการบรหิ ารจดั การยงั มีความยดื หยุ่นไปตามลกั ษณะของขอ้ จากดั แต่พ้นื ท่ไี ป ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์การในการบรหิ ารจดั การเงนิ กองทนุ ของคณะกรรมการ การประกอบอาชพี วฒั นธรรมชุมชน ฯลฯ เป็นตน้ 6. ระบบบรหิ ารจดั การถูกกาหนดไว้โดยอาศยั การมสี ่วนร่วมของชุมชน แต่จะมคี วามยดื หยุ่นไปตามสภาพปญั หาและความต้องการของชุมชนมากกว่าการกาหนดไว้อย่างชดั เจนตายตวั 7. ใหค้ วามสาคญั กบั การมสี ่วนร่วมของชุมชนตงั้ แต่อดตี และเลง็ เหน็ ความสาคญั ของวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ภมู ปิ ญั หาทอ้ งถนิ่ หรอื ทนุ ทางสงั คมของชุมชนแต่ละแห่ง 8. มงี บประมาณ และจานวนบคุ ลากรน้อย2. 2 งานวิจยั ท่ีเก่ียวข้องกบั การวดั ผลการดาเนินงานของกองทนุ ชมุ ชน งานวจิ ยั ทศ่ี กึ ษากองทุนชุมชนส่วนใหญ่เป็นการศกึ ษาเชงิ คุณภาพหรอื การวจิ ยั แบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) และมุ้งเน้นการศึกษาลกั ษณะการบรหิ ารจดั การกองทุนในชุมชน เชน่ การพฒั นากลุ่มสะสมทุนเพอ่ื พฒั นาเศรษฐกจิ ชุมชนในเขตพน้ื ทภ่ี าคเหนือตอนบน (อารยี ์ เชอ้ื เมอื งพาน, 2542) ศกึ ษารปู แบบการจดั ตงั้ กลุ่มกลุ่มสะสมทุนในรปู แบบต่างๆ ลกั ษณะการดาเนินงาน และการบรหิ ารเชงิ ธุรกิจ นอกจากน้ียงั รวบรวมศึกษางานวิจยัอ่นื ๆ เกย่ี วกบั ธุรกจิ ชุมชนดา้ นการสะสมทุนเพ่อื นาไปประกอบการพฒั นากรอบการพฒั นากลุ่มสะสมทุน และเสนอแนะแนวทางการศกึ ษาต่อไปในอนาคต ผลการศกึ ษาพบว่ากลุ่มสะสมทุนท่มี ีสดั ส่วนมากทส่ี ุดคอื กลุ่มออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลติ คดิ เป็นรอ้ ยละ 80.47 ของจานวนกลุ่มสะสมทุนทงั้ หมด ส่วนปญั หาท่กี ลุ่มสะสมทุนพบมากทส่ี ุดคอื การบรหิ ารจดั การเงนิ ทุน, สมาชกิ และคณะกรรมการกลุ่มขาดประสบการณ์และความเขา้ ใจในการจดั การ และความซ้าซ้อนของกลุ่มสะสมทุนหลายๆ ประเภทในพน้ื ทเ่ี ดยี วกนั สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ ชาตรี เจรญิ ศริ ิ (2543) ท่ีศกึ ษาการจดั การกองทนุ ชมุ ชน ในตาบลเมอื งจงั กง่ิ อาเภอภเู พยี ง จงั หวดั น่าน โดยผลการศกึ ษา

18พบว่าประเภทของกองทุนในชุมชนท่ีมบี ทบาทมากท่สี ุดในท้องถิ่นได้แก่ กองทุนฌาปนกิจสงั เคราะห์ และ กองทุนกลุ่มออมทรพั ย์ นอกจากน้ีพบว่ากองทุนทเ่ี ป็นสวสั ดกิ ารให้กบั สมาชกิเช่น เงนิ กู้ดอกเบย้ี ต่า การรกั ษาพยาบาล เป็นกองทุนทป่ี ระชาชนใหค้ วามสาคญั มาก อย่างไรก็ตามปญั หาการจดั การและการบรหิ ารเงนิ ทุนและรูปแบบการสรา้ งเครอื ข่ายยงั คงเป็นปญั หาท่ีสาคญั ของกองทุนชุมชน อย่างไรกต็ ามการศกึ ษาเชงิ ปรมิ าณของกองทุนชุมชนในประเทศไทยยงั มีข้อจากัด การประเมนิ ผลการดาเนินงานของกองทุนชุมชนท่ีศึกษาโดย Kaboski andTownsend (2009) เป็นการประเมนิ ผลการดาเนินงานกองทุนหมู่บ้านโดยใช้วธิ กี ารวเิ คราะห์สมการระบบดว้ ยวธิ ี Two Stage Least Square ซง่ึ เป็นการวเิ คราะหก์ องทนุ ทม่ี ลี กั ษณะแตกต่างจากกลุ่มอ่นื ๆ เน่ืองจากกลุ่มกองทุนดงั กล่าว รฐั บาลให้เงนิ สนับสนุนเป็นทุนหม่บู า้ นละ 1 ล้านบาทจานวน 75,547 กองทุน โดยแยกเป็นกองทุนหม่บู า้ น จานวน 71,507 กองทุนและกองทุนชมุ ชนเมอื งในเขตเทศบาลและกรงุ เทพมหานครจานวน 4,040 กองทนุ (สานกั งานคณะกรรมการกองทุนหมบู่ า้ นและชุมชนเมอื ง, 2552) ผลการศกึ ษาพบว่า กองทุนหมบู่ า้ นมผี ลกระทบทงั้ ด้านบวกและลบต่อชุมชน ผลดา้ นบวกทเ่ี กดิ ขน้ึ เช่น สตรใี นชนบทมบี ทบาทในการมสี ่วนรว่ มในการบริหารจดั การกองทุนชุมชนเพ่ิมมากข้ึน มกี ารกระจายประโยชน์จากกองทุนสวสั ดิการสู่ประชาชนในท้องถิ่นมากข้นึ อย่างไรก็ตามผลกระทบทางลบของกองทุนหมู่บ้านส่งผลให้ประชาชนมหี น้ีสนิ และใช้เงนิ ผดิ วตั ถุประสงค์ นอกจากน้ียงั มผี ลกระทบทางลบต่อด้านสงั คมวฒั นธรรม เน่ืองจากมกี ารอพยพยา้ ยถนิ่ ของสมาชกิ ทค่ี า้ งชาระไปอย่ทู อ้ งทอ่ี ่นื ประมาณรอ้ ยละ50 ของสมาชกิ ทก่ี ูย้ มื ทงั้ หมด และการศกึ ษาของ อญั ชณา แสนสี และคณะ (2550) รปู แบบการจดั การแหล่งทุนชุมชนเพ่อื การลดหน้ีสนิ ซ้าซอ้ นทเ่ี อ้อื ต่อการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ชุมชนตาบลวงัดนิ อาเภอเมอื ง จงั หวดั อุตรดติ ถท์ เ่ี สนอแนะใหช้ ุมชนควรมสี ่วนรว่ มมากขน้ึ ในการบรหิ ารจดั การกองทุน

บทท่ี 3 บริบทของกองทนุ สวสั ดิการชุมชน ในพื้นที่ จ.อตุ รดิตถ์ กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนใน จ.อุตรดติ ถ์ตามสถติ ฐิ านขอ้ มูลของสถาบนั พฒั นาองค์กรชุมชน (พอช.) มจี านวน 15 กองทุน ดงั ตารางท่ี 3.1 อย่างไรกต็ ามนักวจิ ยั ออกสารวจกองทุนตามฐานขอ้ มลู มกี องทุนทย่ี งั คงมกี จิ กรรมอยเู่ พยี ง 10 กองทุน และกองทุนช่อื อ่นื ทด่ี าเนินการให้สวสั ดกิ ารแก่คนในชุมชนโดยไมไ่ ดอ้ ยใู่ นฐานขอ้ มลู พอช. 1 กองทุน ดงั ตารางท่ี 3.2ตารางท่ี 3.1 ฐานขอ้ มลู จานวนกองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชน จ.อุตรดติ ถ์ จานวน จานวนเงนิ (บาท)ท่ี ชื่อกองทุนและสถานท่ี สมาชกิ 155,883.00 (คน) 119,355.00 353,603.001. กองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลนานกกก 571 444,780.00 218,270.002. กองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชนพง่ึ ตนเองตาบลทา่ อฐิ 367 111,022.00 259,545.003. กองทุนสวสั ดกิ ารชาวบา้ นตาบลไผล่ อ้ ม 704 23,400.00 177,755.004. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลท่าเสา 1201 136,875.00 69,047.005. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลฝายหลวง 5986. กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลน้ารดิ 2597. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลวงั กะพ้ี 2388. กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลหาดลา้ 3939. กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลน้าไคร้ 55010. กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลวงั ดนิ 41911. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลสองแคว 149

20ตารางท่ี 3.1 ฐานขอ้ มลู จานวนกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชน จ.อุตรดติ ถ์ (ต่อ)ท่ี ช่ือกองทนุ และสถานท่ี จานวน จานวนเงนิ สมาชกิ (บาท) (คน)12. กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลน้าพ้ี 104 35,276.2513. กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลชยั ชุมพล 115 31,348.0014. กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลหว้ ยมนุ่ 100 NA15. กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลน้าไผ่ 184 41,844.00ทมี่ า: http://www.codi.or.th/index.php/overall-result/190-welfare-report/2715-2013-06-16-10-10-48ตารางท่ี 3.2 จานวนกองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชน จ.อุตรดติ ถจ์ ากการลงพน้ื ทส่ี ารวจ ช่ือกองทุนและสถานท่ี 1. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลท่ามะเฟือง 2. กองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลวงั ดนิ 3. กองทุนสวสั ดกิ ารชาวบา้ นตาบลไผล่ อ้ ม 4. กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลทา่ เสา 5. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลนานกกก 6. กองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลบา้ นดารา 7. กองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลวงั กะพ้ี 8. กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลท่าอฐิ 9. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลบา้ นในเมอื ง 10. กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลหาดลา้ 11. กองทนุ แมข่ องแผ่นดนิ บา้ นดงสระแกว้ ตาบลไผ่ลอ้ ม

21 1. ข้อมลู ท่ีมาและแนวคิดของการก่อตงั้ กองทนุ 1.1 กองทุนสวสั ดิการชาวบ้านตาบลไผล่ ้อม อาเภอลบั แล จงั หวดั อตุ รดิตถ์ มกี ารก่อตงั้ กลุ่มเม่อื วนั ท่ี 23 ตุลาคม พ.ศ.2550 เม่อื เรม่ิ ดาเนินการมสี มาชกิเรม่ิ แรกจานวน 129 คน มนี ายชยั รตั น์ สุทะตงั้ เป็นผเู้ รม่ิ โดยการศกึ ษาเอกสารทม่ี คี นนามาวางไวใ้ นการประชุมหมบู่ า้ น เป็นการศกึ ษาดว้ ยตนเอง ใชร้ ะยะเวลาในการศกึ ษา 4 เดอื น จากนนั้ ได้มกี ารปรกึ ษา และเล่ารายละเอยี ดให้กบั ครอบครวั ไดร้ บั รแู้ ละเขา้ ใจในเร่อื งของสวสั ดกิ ารชุมชนโดยนายชยั รตั น์ สุทะตงั้ มหี ลกั คดิ คอื ตอ้ งสรา้ งความเขา้ ใจใหก้ บั ครอบครวั ก่อน ถงึ จะไปสรา้ งความเขา้ ใจให้กบั คนในชุมชน และไดจ้ ดั ตงั้ คณะกรรมการขน้ึ โดยผูท้ ่มี าเป็นคณะกรรมการจะเป็นบคุ คลทท่ี างานรว่ มกนั มาก่อน กองทนุ สวสั ดกิ ารชาวบา้ นตาบลไผล่ อ้ ม เป็นการจดั สวสั ดกิ ารใหก้ บั สมาชกิ ทุกคนโดยแบ่งออกเป็น 10 ดา้ น ดงั น้ี 1. เกดิ 2. แก่ 3. เจบ็ 4. ตาย 5. ผพู้ กิ าร 6.ผยู้ ากไร้ 7. การกฬี า 8. สนั ทนาการ 9. การศกึ ษา และ 10. คณะผทู้ างาน เพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจความสามคั คี ความซ่อื สตั ย์ ของสมาชกิ ในชุมชนสร้างความศรทั ธาให้เกิดกับคนในชุมชนตลอดจนคณะทางานและสมาชกิ กองทุนยดึ มนั่ ในการสรา้ งหลกั ประกนั และความมนั่ คงของชวี ติใหก้ บั ชาวบา้ น ด้วยสวสั ดกิ ารภาคประชาชน เพ่อื ลดชนั้ ของคนในชุมชน เพ่อื ใหต้ นเองมสี ่วนรว่ มในการช่วยเหลอื ผอู้ ่นื โดยไดน้ าแบบความคดิ ของครชู ุบ ยอดแกว้ (ออมวนั ละ 1 บาท) มาใช้ในกจิ กรรม เพ่อื ฟ้ืนฟูวฒั นธรรมอนั ดงี ามของทอ้ งถน่ิ โดยมกี ารวางแผนงานทจ่ี ะปฏบิ ตั ดิ งั น้ี - สรา้ งความเขา้ ใจในการขบั เคลอ่ื นใหเ้ กดิ กระบวนการสวสั ดกิ ารชุมชนระดบัตาบลอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม - จดั อบรมเพอ่ื เพมิ่ ศกั ยภาพคณะกรรมการใหม้ คี วามรเู้ รอ่ื งการทาบญั ชแี ละการบรหิ ารงานอยา่ งมสี ่วนรว่ มรวมถงึ การสรา้ งทมี งานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ - จดั เวทปี ระชาคมใหค้ ณะกรรมการและสมาชกิ กองทุนไดม้ กี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละขยายเครอื ขา่ ยไปยงั หมบู่ า้ น/ตาบลใกลเ้ คยี ง - ส่งเสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพของกองทุน - การเช่อื มโยงเครอื ขา่ ยสวสั ดกิ ารและองคก์ รอ่นื ๆ ในหมบู่ า้ น/ตาบล โดยมเี ป้าหมายท่จี ะทาให้กองทุนสวสั ดิการชาวบ้านตาบลไผ่ล้อมเป็นกองทุนท่ีไดร้ บั ความไว้วางใจและความพงึ พอใจจาก สมาชกิ ทุกคน กองทุนสวสั ดกิ ารชาวบ้านตาบลไผ่ล้อม ได้นาข้อมูลมาจากการศึกษาดูงาน เรียนรู้ด้วยตนเอง และการขอคาแนะนาจากผู้ท่ีเก่ยี วขอ้ ง เป็นการพฒั นา และยกระดบั ใหก้ ลุ่มมคี วามเขม้ แขง็ ปจั จบุ นั มสี มาชกิ ทงั้ หมด 1,223คน และมสี มาชกิ เพมิ่ ขน้ึ ทกุ เดอื น

22 1.2 กองทนุ สวสั ดิการชุมชนตาบลท่ามะเฟื อง อ.พิชยั จ.อตุ รดิตถ์ กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนท่ามะเฟ่ืองมกี ารจดั ตงั้ เม่อื วนั ท่ี 8 ม.ี ค. 2553 มสี มาชกิวนั แรกทจ่ี ดั ตงั้ มจี านวน 380 คน มปี ระชากรในพน้ื ทด่ี าเนินการโดยมกี ารออมวนั ละ 1 บาท ซง่ึใชผ้ ลกาไรจากกลุ่มออมทรพั ยเ์ พอ่ื การผลติ ของคนในมาจดั สวสั ดกิ ารใหแ้ ก่สมาชกิ ในกลุ่มภายในชุมชนทอ้ งถนิ่ และมอี งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ เขา้ มาใหก้ ารสนับสนุนจนเกดิ การไวว้ างใจจากชาวบ้านจงึ เรมิ่ เข้ามาสมคั รเป็นสมาชกิ กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลท่ามะเฟือง อาเภอพชิ ยัจงั หวดั อุตรดติ ถ์ วตั ถุประสงค์ในการก่อตงั้ กองทุนเพ่อื เป็นหลกั ประกนั ชวี ติ ให้แก่สมาชกิ ทไ่ี ด้ช่วยเหลอื ตนเองและผอู้ ่นื ไปพรอ้ มกนั ทาใหค้ นในชุมชนไดร้ บั สวัสดกิ ารทม่ี นั่ คงดแู ลตงั้ แต่เกดิจนตาย อีกทงั้ เป็นการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งพ่งึ ตนเองได้อย่างคุ้มค่าท่สี ุด ซ่งึ นอกจากการจดั เก็บออมเงนิ วนั ละ 1 บาท แล้วยงั มกี ารลดรายจ่ายลงวนั ละ 1 บาท เก็บออมไว้รวมกันเพ่อื ใหเ้ กดิ สวสั ดกิ ารการช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั ในยามทุกขย์ ามอยากและการเกดิ เหตุการณ์ท่ีไม่คาดฝนั ข้นึ ในครอบครวั เช่น การเจบ็ ป่วยเล็กน้อยจนถึงอาการบาดเจ็บจนถึงขนั้ ต้องเข้าโรงพยาบาลและปจั จุบนั มสี มาชกิ ทงั้ หมด 581 คน ครอบคลุมกลุ่มคน รวมถงึ เยาวชน คนชราคนพกิ าร และผดู้ อ้ ยโอกาส สมาชกิ กระจายพน้ื ทใ่ี นตาบลท่ามะเฟือง 1.3 กองทนุ สวสั ดิการชุมชนตาบลวงั ดิน อาเภอเมือง จงั หวดั อตุ รดิตถ์ การก่อตงั้ กลุ่มเม่อื วนั ท่ี 1 เมษายน พ.ศ. 2548 เม่อื เรมิ่ ดาเนินการมสี มาชิกเรมิ่ แรกจานวน 18 คน โดยมนี ายอุดม พมิ พส์ งวน เป็นผรู้ เิ รม่ิ โดยมกี ารชว่ ยเหลอื ค่าทาศพคนล่ะ 10 บาทและตงั้ แต่ตงั้ กลุ่มมาก็ไม่เคยมกี ารประชุมหลงั จากเกดิ การประชุมก็มสี มาชกิ เพม่ิขน้ึ มาเรอ่ื ยๆจนกระทงั่ มหี มบู่ า้ นทงั้ หมด 10 หมบู่ า้ น 1,500 หลงั คาเรอื นประชากรทงั้ หมด 4,750คน ปจั จบุ นั มสี มาชกิ ทงั้ หมด 137 คนมคี ณะกรรมการทงั้ หมด 14 คน กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลวงั ดนิ อาเภอเมอื ง จงั หวดั อุตรดติ ถ์ ไดด้ าเนนิ การจดั การโครงการสวสั ดกิ าร ผู้สูงอายุ เพ่อื ใหผ้ ู้สูงอายุมคี วามรสู้ กึ เป็นเจา้ ของ และเช่อื มโยงกลุ่มผสู้ งู อายุจากชุมชน เครอื ขา่ ยและชุมชนต่างๆ มาร่วมกนั คดิ ร่วมกนั ทา และบรหิ ารจดั การดว้ ยการสนับสนุนจากกลไกลพฒั นาอ่นื ๆทางองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลวงั ดนิ ไดน้ ารปู แบบของการพฒั นาองคก์ รภาคประชาชน นาเสนอกบั ประธานชมรมผสู้ งู อายุ โดยการปรบั เปลย่ี นรปู แบบเป็น“สวสั ดกิ ารชุมชน” ก่อใหเ้ กดิ ผลสาคญั 4 ประการ คอื 1. สามารถเช่อื มโยงกบั กลุ่มผู้สูงอายุต่าง ๆ ในตาบลเขา้ มาพฒั นาขบวนการผสู้ งู อายใุ นตาบลรว่ มกนั 2. เกดิ ทุนหมุนเวยี นต่อเน่ือง ซ่งึ ผลกาไรส่วนหน่ึงจะนาไปใช้จดั สวสั ดกิ ารผู้ยากไรแ้ ละการทากจิ กรรมพฒั นาอ่นื ๆ

23 3. เกิดการเช่ือมโยงผู้สูงอายุ และหน่วยงานท่ีเข้ามาทางานร่วมกัน อันจะนาไปส่กู ารประสานงบประมาณ และการทางานของหน่วยงานต่างๆ สามารถตอบสนองผสู้ งู อายุมากขน้ึ 4. การเปลย่ี นแปลงภาพลกั ษณ์ของผสู้ งู อายุ จากผรู้ บั ความช่วยเหลอื มาเป็นภูมิปญั ญาของสงั คมและชุมชน 1.4 กองทุนสวสั ดิการชมุ ชนตาบลท่าเสา อาเภอเมือง จงั หวดั อตุ รดิตถ์ กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลท่าเสามกี ารก่อตงั้ เม่อื วนั ท่ี 28 ธนั วาคม 2550 เม่อืเรม่ิ ดาเนินการครงั้ แรกมสี มาชกิ ทงั้ หมด 386 คน มนี ายวนิ ัย คดิ สนอง เป็นผูร้ เิ รมิ่ โดยท่สี นใจเก่ยี วกบั เร่อื งการจดั การกบั คนในชุมชนให้เกิดความสุข เพ่อื ให้จดั ให้มสี วสั ดกิ ารให้กบั คนในชุมชนโดยการ มกี ารพฒั นากลุ่มอาชพี มกี ารปลกู ผกั เลย้ี งปลา เลย้ี งไก่ ภายในชุมชนตาบลท่าเสาและเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผเู้ สยี โอกาสภายในชุมชน เน่อื งจากในระยะแรกทางชุมชนยงั ไมม่ คี วามรใู้ นเรอ่ื งสวสั ดกิ ารชุมชนจงึ มผี เู้ ขา้ รว่ มน้อยและไม่แน่ใจว่าจะทาได้จรงิ หรอื ไม่ ลงทุนไปแลว้ กลวั ขาดทุนและขาดการสนับสนุนจากองคก์ รการปกครองส่วนท้องถิ่นเน่ืองจากเป็นกลุ่มเล็กๆ เม่อื ก่อตงั้ ได้สกั ระยะก็มอี งค์กรปกคส่วนทอ้ งถน่ิ เขา้ มาใหก้ ารสนับสนุนจนเกดิ การไวว้ างใจ จากชาวบา้ นจงึ เรมิ่ เขา้ มาสมคั รเป็นสมาชกิกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลท่าเสาอาเภอเมอื ง จงั หวดั อุตรดติ ถ์ เพม่ิ ขน้ึ เป็น 1,545 คน ในปจั จบุ นั กองทุนสวสั ดิการชุมชนตาบลท่าเสา เป็นการจดั การกบั สมาชกิ ทุกคนโดยแบ่งการจดั การออกเป็น 10 ด้าน คอื 1.เกิด 2.แก่ 3.เจบ็ 4.ตาย 5.ผู้พกิ าร 6.ผู้ยากไร้ 7.การกีฬา 8.สนั ทนาการ 9.การศกึ ษา 10.คณะทางานเพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจ ความสามคั คขี องสมาชกิ ในชุมชนสร้างความศรทั ธาให้กบั คนในชุมชนตลอดจนคณะทางานและสมาชกิ กอองทุนยดึ มนั่ ในการทางานเพ่อื สรา้ งหลกั ประกนั ใหก้ บั คนในชุมชน ดแู ลคณุ ภาพชวี ติ ของคนในชุมชนอยา่ งเท่าเทยี มกนั 1.5 กองทุนสวสั ดิการชุมชนตาบลบ้านดารา อาเภอพิชยั จงั หวดั อตุ รดิตถ์ ชุมชน ตาบลบ้านดารา อยากให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม ในชุมชนเพ่ือชุมชนดาเนินการโดยชุมชน ใหอ้ ย่างมคี ุณค่า และรบั อย่างมศี กั ดศิ ์ รโี ดยจดั ใหม้ สี วสั ดกิ ารใหก้ บั สมาชกิครบทกุ ดา้ นตงั้ แต่เกดิ จนเสยี ชวี ติ รวมถงึ การพงึ พาตนเองและการช่วยเหลอื เกอ้ื กูลกนั “ใหอ้ ยา่ ง

24มคี ุณค่าและรบั อย่างมศี กั ดศิ ์ ร”ี การจดั สวสั ดกิ ารชุมชนตงั้ อยบู่ นพน้ื ฐานของการเคารพและอยู่ร่วมกนั ของคนกบั คน คนกบั ธรรมชาติ อย่างเหน็ คุณค่าอยู่บนพ้นื ฐานของศาสนา ภูมปิ ญั ญาวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ และการมสี ว่ นรว่ มในทุกระดบั เรม่ิ ก่อตงั้ เม่อื วนั ท่ี 1 มกราคม 2552 โดยเรม่ิ จาก หมู่ 1 เป็นหมู่บ้านนาร่องสมาชกิ กองทุนฯเรม่ิ แรกมจี านวน 12 ราย ปจั จุบนั มสี มาชกิ 567 คน ในจานวน 9 หมู่บ้านเน่อื งจากทางชุมชนยงั ไมม่ คี วามรใู้ นเรอ่ื งสวสั ดกิ ารชุมชนจงึ มผี เู้ ขา้ รว่ มน้อยและไมแ่ น่ใจวา่ จะทาได้จรงิ หรอื ไม่ ลงทุนไปแล้วกลวั ขาดทุนและขาดการสนับสนุนจากองค์กรการปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เน่ืองจากเป็นกลุ่มเลก็ ๆ เม่อื ตงั้ ไดส้ กั ระยะกม็ อี งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เขา้ มาให้การสนับสนุนจนเกดิ การไว้วางใจ จากชาวบ้านจงึ เรมิ่ เข้ามาสมคั รเป็นสมาชกิ กองทุนสวสั ดิการชุมชนตาบลบา้ นดารา อาเภอพชิ ยั จงั หวดั อุตรดติ ถ์ เพมิ่ ขน้ึ เป็นกองทุนฯทจ่ี ดั สวสั ดกิ ารให้กบัสมาชิกครบทุกด้านตัง้ แต่เกิดจนเสียชีวิตตลอดจนมีการยึดมัน่ ในการทางานเพ่ือ สร้างหลกั ประกนั ใหก้ บั คนในชมุ ชน ดแู ลคุณภาพชวี ติ ของคนในชมุ ชนอยา่ งเท่าเทยี มกนั 1.6 กองทนุ สวสั ดิการชมุ ชนตาบลวงั กะพี้ อาเภอเมือง จงั หวดั อตุ รดิตถ์ ชุมชน ตาบลวงั กะพเ้ี หน็ ความเสยี โอกาสของคนในชุมชนในด้านต่างๆทาให้ชุมชนไม่เกดิ การขบั เคล่อื นใดๆเกดิ ขน้ึ ภายในชุมชนทางชุมชนเลยคดิ หาวธิ กี ารจดั การโดยคดิ ท่กี ่อตงั้กลุ่มกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนเพ่อื อยากใหค้ นในชุมชนมสี ่วนรว่ ม ในชมุ ชนเพอ่ื ชุมชน ดาเนินการโดยชุมชน ให้อย่างมคี ุณค่า และรบั อย่างมศี กั ดศิ ์ รโี ดยจดั ให้มสี วสั ดกิ ารให้กบั สมาชกิ ครบทุกดา้ นตงั้ แต่เกดิ จนเสยี ชวี ติ รวมถงึ การพง่ึ พาตนเองและการช่วยเหลอื เกอ้ื กูลกนั “ใหอ้ ย่างมีคุณค่าและรบั อย่างมศี กั ดศิ ์ ร”ี การจดั สวสั ดกิ ารชุมชนตงั้ อย่บู นพ้นื ฐานของการเคารพและอยู่ร่วมกนั ของคนกบั คน คนกบั ธรรมชาติ อย่างเหน็ คุณค่าอยู่บนพ้นื ฐานของศาสนา ภูมปิ ญั ญาวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ และการมสี ว่ นรว่ มในทุกระดบั เรม่ิ ก่อตงั้ เมอ่ื วนั ท่ี 19 พฤษภาคม 2549 โดย สมาชกิ กองทนุ เรม่ิ แรกมจี านวน 17 รายปจั จุบนั มสี มาชกิ 232 คน เป็นกองทุนฯท่จี ดั สวสั ดกิ ารให้กบั สมาชกิ ครบทุกด้านตงั้ แต่เกิดจนเสยี ชวี ติ ตลอดจนมกี ารยดึ มนั่ ในการทางานเพอ่ื สรา้ งหลกั ประกนั ใหก้ บั คนในชุมชน ดแู ลคณุ ภาพชวี ติ ของคนในชุมชนอยา่ งเท่าเทยี มกนั

25 1.7 กองทุนสวสั ดิการชมุ ชนพึ่งตนเองตาบลท่าอิฐ อาเภอเมือง จงั หวดั อตุ รดิตถ์ มกี ารก่อตงั้ กลุ่มตงั้ แต่วนั ท่ี 6 มถิ ุนายน 2554 เมอ่ื เรมิ่ ดาเนินการมสี มาชกิ เรม่ิ แรกจานวน 76 คนมนี างพศิ มร วสุนันต์ เป็นผู้รเิ รมิ่ โดยมหี น่วยงานของภาครฐั /ภาคเอกชนและทอ้ งถนิ่ เขามาหนุนเสรมิ โดยมงี บประมานมาใหใ้ นการจดั ตงั้ กล่มุ เพ่อื ทจ่ี ะใหค้ นในชุมชนทม่ี คี วามยากจนและคนท่ไี ม่มหี ลกั ประกนั ชวี ติ จงึ มกี ารก่อตงั้ กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนพ่งึ ตนเองตาบลท่าอฐิ ขน้ึ มาและมกี ารสรา้ งบา้ นใหแ้ ก่ผู้ดอ้ ยโอกาสและมกี ารชกั ชวนใหป้ ระชาชนในพ้นื ท่ที ่ยี ากจนรวมกลุ่มจดั ตงั้ เป็นกลุ่มออทรพั ย์เพ่อื ท่จี ะได้มเี งนิ ฝากและมกี ารส่งเสรมิ ให้สามชิกรู้จกั สร้างหลกั ประกนั ในการดารงชวี ติ ในกลุ่มสมาชกิ เพ่อื ท่จี ะได้ให้คนในชุมชนมสี ่วนร่วมรบั ผดิ ชอบในการเฉลย่ี ความเสย่ี งทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ เชน่ เกดิ เจบ็ ตาย เพ่อื มกี ารสง่ เสรมิ ใหส้ มาชกิ รรู้ กั สามคั คี 1.8 กองทุนสวสั ดิการชุมชนตาบลบ้านในเมอื ง อาเภอพิชยั จงั หวดั อตุ รดิตถ์ กองทนุ สวสั ดกิ ารชุมชนตาบลบา้ นดารามกี ารก่อตงั้ เมอ่ื วนั ท่ี 11 สงิ หาคม 2551 เมอ่ื เรม่ิดาเนินการครงั้ แรกมสี มาชกิ ทงั้ หมด 990 คน โดยนายละมาย พุ่มชาวสวน ประธานกองทุนสวสั ดิการชุมชนตาบลในเมือง โดยท่ีสนใจเก่ียวกับเร่อื งการจดั การกับคนในชุมชนให้เกิดความสขุ เพ่อื ใหจ้ ดั ใหม้ สี วสั ดกิ ารใหก้ บั คนในชุมชนโดยการ ชว่ ยเหลอื ผเู้ สยี โอกาสภายในชุมชน กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนตาบลในเมอื ง เป็นการจดั การกบั สมาชกิ ทกุ คนโดยแบง่ การจดั การออกเป็น 5 ดา้ น คอื 1. สวสั ดกิ ารดา้ นการเกดิ และคลอดบุตร 2. สวสั ดกิ ารดา้ นการเจบ็ ปว่ ยและเขา้ โรงพยาบาล 3. สวสั ดกิ ารกรณเี สยี ชวี ติ 4. สวสั ดกิ ารดา้ นอุบตั เิ หตุ 5. สวสั ดกิ ารกระเชา้ ของเยย่ี มผปู้ ว่ ย เพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจ ความสามคั คขี องสมาชกิ ในชุมชนสรา้ งความศรทั ธาให้กบั คนในชุมชนตลอดจนคณะทางานและสมาชกิ กอองทุนยดึ มนั่ ในการทางานเพ่อื สรา้ งหลกั ประกนั ใหก้ บัคนในชุมชน ดแู ลคณุ ภาพชวี ติ ของคนในชมุ ชนอยา่ งเท่าเทยี มกนั 1.9 กองทุนสวสั ดิการชมุ ชนตาบลนานกกก อาเภอลบั แล จงั หวดั อตุ รดิตถ์ กองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลนานกก เรม่ิ ต้นจากการตงั้ กลุ่มออมทรพั ยไ์ ด้มกี ารก่อตงั้ เม่อื วนั ท่ี 7 ธนั วาคม 2549 มสี มาชกิ วนั แรกทจ่ี ดั ตงั้ มจี านวน 380 คนมปี ระชากรในพน้ื ท่ีดาเนินการโดยมกี ารออมวนั ละ 1 บาท ซง่ึ ใชผ้ ลกาไรจากกลุ่มออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลติ บา้ นชาย

26เขาบกมาจดั สวสั ดกิ ารใหแ้ ก่สมาชกิ ในกลุ่มภายในชุมชนทอ้ งถนิ่ เพ่อื จดั สวสั ดกิ ารและช่วยเหลอืกนั ในยามยากจงึ ไดส้ รา้ งจุดยนื ให้กบั ครอบครวั สมาชกิ เพ่อื สร้างหลกั ประกนั และความมนั่ คงใหก้ บั สมาชกิ และชุมชนทอ้ งถน่ิ ใหไ้ ดผ้ ลประโยชน์ของกองทุนกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลนานกกและมกี ารขยายตวั ของกลุ่มกองทุนสวสั ดกิ ารชุมชนตาบลนานกกเป็น 5 หมบู่ า้ นโดยมสี มาชกิทงั้ หมด 1,086 ราย ในปจั จบุ นั 1.10 กองทุนสวสั ดิการชุมชนตาบลหาดล้า อาเภอพิชยั จงั หวดั อตุ รดิตถ์ การรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ของชุมชนทอ้ งถ่ินทร่ี ่วมกนั สรา้ งสรรคร์ ะบบประกนั ความมนั่ คงของชวี ติ เพ่อื ความอย่ดู ี มสี ุขของคนในชุมชนทอ้ งถนิ่ และสงั คมม่งุ ฟ้ืนฟู ชุมชนทอ้ งถนิ่ ให้มกี ารอยู่ร่วมกนั ด้วยความเอ้อื อาทร พ่งึ พาอาศยั กนั และช่วยเหลอื เก้อื กูลกนั ระหว่างคนกบั คน คนกบัธรรมชาติ คนกบั วฒั นธรรมตามหลกั ศาสนาและภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ตงั้ แต่เกดิ จนตาย เรมิ่ ก่อตงั้ เมอ่ื วนั ท่ี 31 สงิ หาคม 2554 จดั ตงั้ มาเพ่อื อยากใหค้ นในชุมชนมสี ่วนร่วม ในชุมชนเพ่อื ชุมชน ดาเนินการโดยชุมชน ให้อย่างมคี ุณค่า และรบั อย่างมศี กั ดศิ ์ รโี ดยจดั ให้มีสวสั ดิการให้กับสมาชิกครบทุกด้านตงั้ แต่เกิดจนเสียชีวิตรวมถึงการพึงพาตนเองและการช่วยเหลอื เกอ้ื กูลกนั “ใหอ้ ยา่ งมคี ณุ คา่ และรบั อยา่ งมศี กั ดศิ ์ ร”ี การจดั สวสั ดกิ ารชุมชนตงั้ อยบู่ นพ้นื ฐานของการเคารพและอยู่ร่วมกนั ของคนกบั คน คนกบั ธรรมชาติ อย่างเห็นคุณค่าอยู่บนพน้ื ฐานของศาสนา ภมู ปิ ญั ญา วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ และการมสี ว่ นรว่ มในทุกระดบั 1.11 กองทุนสวสั ดิการแม่ของแผ่นดินบ้านดงสระแก้ว อาเภอลบั แล จงั หวดั อตุ รดิตถ์ เรมิ่ ก่อตงั้ โดยใชช้ ่อื กองทุนแมข่ องแผ่นดนิ ในปี พ.ศ. 2551 มเี ป้าหมายในการก่อตงั้ ในการแก้ไขปญั หายาเสพตดิ ในพ้นื ท่ี เงนิ ทุนเรม่ิ ตงั้ ไดจ้ ากการสนับสนุนโครงการแม่ของแผ่นดนิต่อมามกี ารจดั ตงั้ กองทุนอ่นื ๆตามมา ในพ้นื ท่ี คณะกรรมการหมู่บ้านจงึ มแี นวคดิ จะรวบรวมกองทุนทุกกองทุนแลว้ จดั การโดยกรรมการชุดเดยี ว นอกจากน้ีเงนิ ทุนสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆภายนอกจะถูกจดั การผ่านกองทุนเดยี ว โดยหน่วยงานท่สี นับสนุนได้แก่ ธนาคารเพ่อืการเกษตรและสหกรณ์ผ่านโครงการโรงเรยี นทากินทาใช้ กองทุนหมู่บ้าน เงนิ ทุนจากการทอดผา้ ปา่ พฒั นาชุมชน และเงนิ บรจิ าค ปจั จบุ นั มสี มาชกิ ประมาณ 350 คน โดยปจั จบุ นั มวี ตั ถุให้สวัสดิการสมาชิกในด้านการให้บรกิ ารด้านสุขภาพ การกู้ยืมเงนิ ฉุกเฉิน และสนับสนุนโครงการพฒั นาและแกไ้ ขปญั หาในชุมชน

272. ข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่และกองทุนสวสั ดิการชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดงสระแก้ว 2.1 สภาพทวั่ ไปและข้อมลู พืน้ ฐานทางเศรษฐกิจและสงั คมของหม่บู ้านดงสระแก้วหมู่ 4 ต.ไผล่ ้อม อาเภอลบั แล จ.อตุ รดิตถ1์ หมู่บ้านดงสระแก้ว ประชาชนดงั้ เดิมอพยพมาจากจงั หวัดราชบุรี โดยมวี ฒั นธรรมประเพณี และภาษาคลา้ ยคลงึ กบั จงั หวดั สุโขทยั หมบู่ า้ นดงสระแก้วมเี น้ือทป่ี ระมาณ 3.3 ตารางกโิ ลเมตรหรอื ประมาณ 2,062 ไร่ มคี รวั เรอื นประมาณ 115 ครวั เรอื น ประชากรชายประมาณ192 คน ประชากรหญงิ ประมาณ 200 คน เม่อื ศกึ ษาจากโครงสร้างประชากรในพ้นื ท่ี พบว่าหมบู่ า้ นดงสระแกว้ มแี นวโน้มการเขา้ ส่กู ารเป็นสงั คมผสู้ ูงอายุ ซง่ึ จะเหน็ ไดจ้ ากในช่วง 3 ปีทผ่ี ่านมาสดั ส่วนในวยั เดก็ ลดลง (รอ้ ยละ -14.80) ในขณะทส่ี ดั ส่วนผสู้ งู อายุมแี นวโน้มขยายตวั เพมิ่ ขน้ึ(รอ้ ยละ 44.50) หมู่บ้านดงสระแก้วตงั้ อยู่ห่างจากอาเภอเมอื งประมาณ 20 กิโลเมตร อาชพี หลกั ของประชาชนคอื การทานา รายไดเ้ ฉล่ยี ประมาณ 35,091 บาทต่อปี โดยหม่บู า้ นไดจ้ ดั ตงั้ กลุ่มทางการเงนิ และกลุ่มชพี หลกั ๆดงั ต่อไปน้ี1. สถาบนั การเงนิ ชุมชนบา้ นดงสระแกว้ มเี งนิ ทุนหมนุ เวยี น 1,600,000 บาท2. กองทนุ หมบู่ า้ น มเี งนิ ทุนหมนุ เวยี น 2,420,000 บาท3. ศูนยข์ า้ วชมุ ชนตาบลไผ่ลอ้ ม มเี งนิ ทุนหมนุ เวยี น 109,000 บาท4. โรงเรยี นทากนิ ทาใช้ บา้ นดงสระแกว้ มเี งนิ ทุนหมนุ เวยี น 1,500,000 บาท5. กองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ มเี งนิ ทนุ หมนุ เวยี น 96,792 บาท หม่บู า้ นดงสระแก้ว เป็นหม่บู า้ นทป่ี ระชาชนมคี วามพรอ้ ม ความสามคั คแี ละมสี ่วนร่วมในการดาเนินกจิ กรรมต่างๆทท่ี างรฐั บาลเสนอเป็นนโยบายในการช่วยเหลอื และสรา้ งความเขม็ แขง็ ตวั อย่างของรางวลั ท่ไี ด้ ได้แก่ รางวลั พระราชทานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพยี งระดบัจงั หวดั ปี พ.ศ. 25531 ขอ้ มลู สรปุ ปี พ.ศ. 2555 จากเอกสารสรุปขอ้ มลู หมบู่ า้ น สถาบนั การเงนิ ชมุ ชนบา้ นดงสระแกว้

28 2.2 ความเป็ นมาและสภาพปัจจุบันของกองทุนแม่ของแผ่นดิ นหมู่บ้านดงสระแก้ว กองทุนแมข่ องแผ่นดนิ จากสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์พระบรมราชนิ ีนาถ เรมิ่ จดั ตงั้ ขน้ึ ในปีพ.ศ. 2551 โดยมที ุนสนับสนุนรบั พระราชทานเงนิ ทุนเรมิ่ ต้นจานวน 8,000 บาท หลงั จากนัน้ได้มกี ารจดั กจิ กรรมและกาหนดโครงสร้างการบรหิ ารจดั การกองทุนแม่ของแผ่นดนิ ในรูปแบบของกองทนุ สวสั ดกิ ารจนทาใหม้ เี งนิ ทุนเพม่ิ ขน้ึ ในปจั จบุ นั ปี พ.ศ. 2556 ประมาณ 100,000 บาท (1) กิจกรรมหลกั ที่สร้างรายได้แก่กองทุนแม่ของแผ่นดิน หมู่บ้านดงสระแก้ว ดาเนิ นการได้แก่ 1. การบรจิ าคของสมาชกิ 1 บาท ต่อ 1 คน ต่อ 1 เดอื น 2. การบชู าเงนิ ขวญั ถุงโดยการแลกธนบตั ร 3. การทอดผา้ ปา่ สบทบกองทนุ ทกุ ปี 4. การจาหน่ายเสอ้ื ตราสญั ลกั ษณ์ ทกุ ปี (2) สวสั ดิการหลกั ที่จดั แก่สมาชิกของกองทุนแม่ของแผ่นดิน หมบู่ ้านดงสระแก้ว ได้แก่ 1. เงนิ ขวญั ถุงเดก็ แรกเกดิ 2. เงนิ สงเคราะหฌ์ าปนกจิ แก่สมาชกิ ทย่ี ากจน 3. เงนิ สงเคราะหฌ์ าปนกจิ แก่สมาชกิ ทท่ี วั่ ไป 4. เงนิ สนบั สนุนการประกอบอาชพี (3) กิจกรรมด้านการป้ องกนั และปราบปรามยาเสพติด 1. การจดั ประชาคมทางลบั เพอ่ื หาผเู้ ก่ยี วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ 2. การจดั ตงั้ จดุ ตรวจป้องกนั ยาเสพตดิ 3. การแขง่ ขนั กฬี าตา้ นยาเสพตดิ 4. การอบรมผเู้ ขา้ บาบดั ยาเสพตดิ

29(4) กิจกรรมด้านการดาเนินชีวิตตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. การปลกู ปา่ เฉลมิ พระเกยี รติ 2. การทาความสะอาดและพฒั นาหมบู่ า้ น 3. การทาป๋ ยุ หมกั ใชเ้ อง 4. การทาน้าหมกั ใชเ้ อง 5. การทาน้ายาอเนกประสงคใ์ ชเ้ อง 6. การปลกู พชื ผกั สวนครวั ไวใ้ ชส้ อย(5) แผนการดาเนินงานของกองทุนแม่ของแผน่ ดิน หม่บู ้านดงสระแก้ว ได้แก่ 1. รายไดจ้ ากการบรจิ าคของสมาชกิ คนละ 1 บาทต่อเดอื น 2. จดั ทอดผา้ ปา่ สามคั คที ุกวนั ท่ี 13 สงิ หาคม 3. เงนิ สนบั สนุนจากองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล 4. เงนิ สนบั สนุนจากภาคเอกชนและผมู้ จี ติ ศรทั ธา 5. จดั ค่ายเยาวชนในช่วงปิดเทอม

บทที่ 4 ผลการศึกษา การศกึ ษาน้ีมวี ตั ถุประสงคห์ ลกั เพ่อื ศกึ ษาสถานภาพการจดั การกองทุนและศกึ ษาปจั จยัทม่ี ผี ลต่อการจดั การกองทุนและรูปการบรหิ ารจดั การแบบท่เี หมาะสมของการจดั การและการพฒั นากองทุนอยา่ งยงั่ ยนื โดยการนาเสนอผลการศกึ ษาแบง่ ออกเป็น 3 ตอน ดงั ต่อไปน้ี4.1 การศึกษาบริบทกองทนุ โดยวิเคราะหส์ ภาพแวดล้อมภายใน/นอกพืน้ ที่ 4.1.1 จดุ แขง็ และจดุ อ่อนของหม่บู ้าน จดุ อ่อน ด้านเศรษฐกิจของหม่บู ้าน/ชุมชน - การเพาะปลกู พชื ผลทางการเกษตรการประกอบอาชพี ทางการเกษตรไม่สบผลสาเรจ็สบื เน่ืองมา จากอุปสรรคต่างๆ การใชเ้ งนิ ลงทุนเป็นจานวนมาก แต่ผลทไ่ี ดร้ บั มาสมดุลกบั การลงทุน เช่น ค่าพนั ธุ์พชื แพง ค่าป๋ ยุ แพง ค่ายานพาหนะ ฯลฯ แต่ราคาผลผลติ ไม่ไดร้ บั ตามเกณฑ์จงึ ทาใหพ้ บกบั ปญั หาการขาดทุนในการประกอบอาชพี และความเป็นอยู่ - น้าทว่ มขงั ในพน้ื ทก่ี ารเกษตรในชว่ งฤดฝู นทาให้พน้ื ทก่ี ารเกษตรเสยี หาย - ประชาชนส่วนใหญ่ประสบปญั หาวา่ งงานและมรี ายไดน้ ้อยแต่ค่าใช่จา่ ยสงู ขน้ึ เป็นลาดบั ในการดาเนินชวี ติ ในปจั จุบนั จากลกั ษณะภูมปิ ระเทศของตาบลไผ่ลอ้ มทเ่ี อ้อื ต่อการประกอบอาชพี ต่าง ๆ จะเหน็ ได้วา่ ประชาชนหมบู่ า้ นดงสระแกว้ มอี าชพี ซง่ึ นามาส่รู ายได้ และคา่ ใชจ้ า่ ยต่างๆของแต่ละครอบครวัแต่อยา่ งไรกต็ ามประชาชนบา้ นดงสระแกว้ กย็ งั ตอ้ งประสบกบั ปญั หา หน้สี นิ ปญั หาความยากจนดงั นนั้ ประชาชนชาวตาบลไผ่ลอ้ มควรทจ่ี ะมกี ารวางแผนการ ใช้-จา่ ยเงนิ อย่างละเอยี ดรอบคอบและมเี หตุผล โดยมกี ารจดั ทาบญั ชี หรือบญั ชคี รวั เรอื น เพราะการจดั ทาบญั ชกี ็จะช่วยให้ทราบถงึ รายการการใช้-จ่ายเงนิ ลาดบั ก่อนหลงั ในแต่ละวนั เพ่อื เป็นการง่ายต่อการตรวจสอบว่าเราครอบครวั ใชจ้ ่ายเงนิ ทาอะไรไปบา้ ง ทาใหส้ ามรถควบคุมรกั ษาทรพั ยส์ นิ ได้ ซง่ึ จะทาใหเ้ กดิ การแบ่งสรรเงนิ เพ่อื จะใช้กบั ชวี ติ ประจาวนั ต่อไปอย่างมเี หตุผลและหากเกดิ ปญั หาก็จะสามารถวางแผนปรบั ปรงุ แกไ้ ขและชว่ ยใหไ้ มก่ ่อใหเ้ กดิ ปญั หาต่างๆตามมา เช่น ปญั หาความเครยี ด

31 จดุ แขง็ ด้านเศรษฐกิจ - มกี ลมุ่ อาชพี ทเ่ี กดิ จากการรวมตวั กนั ประกอบกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทส่ี าเรจ็ เป็นแบบอยา่ งได้ - มกี ารใชภ้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ เป็นสว่ นสาคญั ในการดาเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ - ยดึ แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งในพระราชดารเิ ป็นกรอบในการทางาน 4.1.2 ทศั นคติของประชาชนต่อการสรา้ งรายได้ท่ีเอื้อเฟื้ อต่อการพฒั นากองทุน การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในหมบู่ า้ นดงสระแกว้ ตาบลไผล่ อ้ ม อาเภอลบั แล จงั หวดั อุตรดติ ถ์ผู้วจิ ยั ได้นาขอ้ มูลตวั อย่างจากสมาชกิ กองทุนแม่ของแผ่นดนิ จานวน 60 ราย คดิ เป็นร้อยละ17.14 จากจานวนสมาชกิ ของกลุ่มทงั้ หมด โดยนามาทาการวเิ คราะห์โดยแบ่งการวเิ คราะห์ออกเป็น 3 ส่วน ดงั น้ี ผลการวิเคราะห์สภาพข้อมูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผลการวเิ คราะหป์ จั จยั และอุปสรรคทม่ี ผี ลต่อการสรา้ งรายได้ และผลการวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของคนในชมุ ชนเพ่อื จะนาไปสกู่ ารพฒั นาการบรหิ ารจดั การกองทุนส่วนท่ี 1 ผลการวิเคราะห์สภาพข้อมูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถามตารางท่ี 4.1 สภาพขอ้ มลู ทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ขอ้ มลู ทวั่ ไป จานวน (n = 60) รอ้ ยละเพศ 18.3 81.7 ชาย 11 0 หญงิ 49 3.3 20อายุ 76.6 ต่ากว่า 20 ปี 0 21 - 30 ปี 2 31 – 40 ปี 12 40 ปีขน้ึ ไป 46

32ตารางท่ี 4.1 สภาพขอ้ มลู ทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม (ต่อ) ขอ้ มลู ทวั่ ไป จานวน (n = 60) รอ้ ยละระดบั การศกึ ษา 75.5 8.3 ประถมศกึ ษา 45 8.3 6.7 มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 5 1.7 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย/ปวช. 5 40 26.7 ปรญิ ญาตรี 4 1.7 31.7 อ่นื ๆ 1 20อาชพี 70 10 เกษตรกร 24 18.3 รบั จา้ ง 16 25 10 ผปู้ ระกอบการ 1 46.7 อ่นื ๆ 19สถานภาพ โสด 12 สมรส 42 หมา้ ย 6รายไดท้ ไ่ี ดร้ บั ต่อเดอื นต่ากวา่ 3,000 บาท/เดอื น 11 3,001-4,000 บาท/เดอื น 15 4,001-5,000 บาท/เดอื น 6 มากกวา่ 5,001 บาท/เดอื น 28 จากตารางท่ี 4.1 ผลการวเิ คราะหส์ ภาพขอ้ มลู ทวั่ ไปของกลุ่มตวั อย่างบ้านดงสระแก้วโดยการแจกแจงจานวนและค่ารอ้ ยละ จานวน 60 คน สามารถจาแนกไดต้ ามตวั แปรดงั น้ี เพศ พบวา่ ส่วนใหญ่จะเป็นเพศหญงิ จานวน 49 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 81.7 และเพศชายจานวน 11 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 18.3 อายสุ ่วนใหญ่อยใู่ นช่วงอายุ 41 ปีขน้ึ ไปจานวน 46 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 76.7 รองลงมาอยใู่ นช่วง 31- 40 ปี จานวน 12 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 20 และอยใู่ นชว่ ง 21 – 30 ปี จานวน 2 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 3.3 ตามลาดบั

33 ระดบั การศกึ ษาส่วนใหญ่อย่ใู นระดบั ประถมศกึ ษาจานวน 45 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 75รองลงมาอย่ใู นระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ /ตอนปลายจานวนอย่างละ 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 8.3และอย่ใู นระดบั ปรญิ ญาตรี จานวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.7 และอ่นื ๆอกี 1คน คดิ เป็นรอ้ ยละ1.7 ตามลาดบั อาชีพส่วนใหญ่อยู่ในอาชพี เกษตรกรรมจานวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 40รองลงมาเป็นอาชพี อ่นื ๆจานวน 19 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 31.7 และอาชพี รบั จา้ งจานวน 16 คนคิดเป็นร้อยละ 26.7 และอยู่ในอาชีพผู้ประกอบการจานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.7ตามลาดบั สถานภาพ ส่วนใหญ่อย่ใู นสถานภาพสมรสแล้วจานวน 42 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 70รองลงมาอยใู่ นสภาพโสดจานวน 12 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 20 และอย่ใู นสภาพหมา้ ย 6 คน คดิเป็นรอ้ ยละ 10 ตามลาดบั ส่วนรายไดเ้ ฉลย่ี ต่อเดอื นส่วนใหญ่อยใู่ นระดบั มากกว่า 5,000 บาทขน้ึ ไป จานวน 28 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 46.7 รองลงมาอยใู่ นระดบั ช่วง 3,001 – 4,000 บาทจานวน 15 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 25 ต่อมาอย่ใู นระดบั ท่ตี ่ากว่า 3,000 บาท จานวน 11 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 18.3 และระดบั 4,001 – 5,000 บาท จานวน 6 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ10 ตามลาดบัส่วนที่ 2 ผลการวิเคราะหป์ ัจจยั และอปุ สรรคท่ีมีผลต่อการสร้างรายได้ตารางท่ี 4.2 สง่ิ ทเ่ี กอ้ื หนุนในการทางานใหป้ ระสบความสาเรจ็สง่ิ ทเ่ี กอ้ื หนุน จานวน (n = 60) รอ้ ยละ 18.3กาลงั ใจ 11 36.7 21.7เงนิ เดอื น 22 15.0 8.3สุขภาพ 13 100.00ความรู้ 9ความขยนั อดทน 5 รวม 60 จากตารางท่ี 4.2 ผลการวเิ คราะหส์ งิ่ ทเ่ี ก้อื หนุนในการทางานใหป้ ระสบความสาเรจ็ทงั้ หมดของกลุ่มตวั อย่างบา้ นดงสระแกว้ จานวน 60 คน สรปุ ไดว้ า่ เงนิ เดอื นเป็นสงิ่ ทเ่ี ก้อื หนุนในการทางานใหป้ ระสบความสาเรจ็ มากท่สี ุดจานวน 22 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 36.7 รองมากเ็ ป็นสุขภาพ 13 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 21.7 และกาลงั ใจ 11 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 18.3 และความรู้ 9 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 15 และความขยนั อดทน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 8.3 ตามลาดบั

34ตารางท่ี 4.3 จานวนครอบครวั ทม่ี คี นไปทางานต่างจงั หวดัจานวนครอบครวั จานวน (n = 60) รอ้ ยละ มี 10 16.7 ไมม่ ี 50 83.3 รวม 60 100 จากตารางท่ี 4.3 สรปุ ไดว้ ่าในหมบู่ า้ นดงสระแกว้ โดยเฉลย่ี มคี นไปทางานต่างจงั หวดั10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 16.7 และครอบครวั ทไ่ี มม่ คี นไปทางานต่างจงั หวดั จานวน 50 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 83.3 ตามลาดบัตารางท่ี 4.4 สาธารณูปโภคประเภทแรกถ้าคนในชุมชนมโี อกาสทจ่ี ะพฒั นาสถานท่ี จานวน (n = 60) รอ้ ยละ 13.3การประปา 8 45 23.3ถนน 27 18.3 100การไฟฟ้า 14ลานออกกาลงั กาย 11รวม 60 จากตารางท่ี 4.4 สรปุ ไดว้ ่าจดุ แรกทค่ี นในหม่บู า้ นดงสระแกว้ โดยเฉลย่ี จะพฒั นาคอืถนน มจี านวน 27คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 45 รองลงมากจ็ ะเป็นการไฟฟ้า จานวน 14 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 23.3 และลานออกกาลงั กายอกี 11 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 18.3 และการประปาอกี 8 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 13.3 ตามลาดบัตารางท่ี 4.5 สงิ่ ทเ่ี ป็นอุปสรรคต่อการพฒั นาสงิ่ ทเ่ี ป็นอุปสรรค จานวน (n = 60) รอ้ ยละ 50งบประมาณ 30 11.7 31.7ขาดความรว่ มมอื 7 6.7 100ปญั หายาเสพตดิ 19ความเขม้ แขง็ ของชุมชน 4รวม 60

35 จากตารางท่ี 4.5 สรปุ ไดว้ ่าสง่ิ ทเ่ี ป็นอุปสรรคต่อการพฒั นาชุมชนบา้ นดงสระแกว้ โดยเฉลย่ี คอื ขาดงบประมาณ มจี านวน 30 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 50 รองลงมากป็ ญั หายาเสพตดิ มีจานวน 19 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 31.7 และปญั หาขาดความรว่ มมอื อกี 7 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 11.7และปญั หาความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนอกี 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.7 ตามลาดบัส่วนที่ 3 ผลการวิเคราะหค์ วามร้เู กี่ยวกบั แหล่งทนุ และการพึ่งพาตนเองของประชาชนในพื้นท่ี ผลของการพง่ึ พาตนเองในการหาแหล่งทุนส่วนใหญ่อย่ใู นระดบั ปานกลาง จานวน 31คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 50.8 รองลงมาอยู่ในระดบั มาก จานวน 21 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 34.4 ระดบัน้อย จานวน 6 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.9 ในระดบั มากทส่ี ุด มจี านวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 3.3 และในระดบั น้อยมาก มจี านวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.6 ปจั จุบนั หาแหล่งทุนด้วยตนเองมากน้อยเพยี งใดนัน้ ส่วนใหญ่อยู่ในระดบั ปานกลางจานวน 28 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 45.9 รองลงมาอยู่ในระดบั มาก จานวน 23 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ37.7 ระดบั น้อย จานวน 6 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.9 ในระดบั มากทส่ี ดุ มจี านวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 4.9 และในระดบั น้อยมาก มจี านวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.6 ใช้หลกั การพง่ึ พาตนเองในการหาแหล่งทุนส่วนใหญ่อย่ใู นระดบั มาก จานวน 27 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 44.2 รองลงมาอยใู่ นระดบั ปานกลาง จานวน 25 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 41 ระดบั มากท่สี ุด จานวน 6 คน คดิ เป็นร้อยละ 9.9 และในระดบั น้อย มจี านวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 4.9ตามลาดบั การแยกประเภทของทุนในการประกอบอาชพี ส่วนใหญ่อย่ใู นระดบั น้อย จานวน 26คน คดิ เป็นร้อยละ 42.6 รองลงมาอยู่ในระดบั ปานกลาง จานวน 18 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 29.5ระดบั มาก จานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 16.4 ในระดบั มากท่สี ุด มจี านวน 6 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ9.9 และในระดบั น้อยมาก มจี านวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.6 การสารองทุนเพ่อื ไว้ใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคตส่วนใหญ่อยู่ในระดบั มากจานวน 32 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 52.4 รองลงมาอย่ใู นระดบั มากทส่ี ุด จานวน 14 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 23 ระดบั น้อย จานวน 9 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 14.7 และในระดบั ปานกลาง มจี านวน 6 คน คดิเป็นรอ้ ยละ 9.9

36 การบกั ทกึ การชาระหน้ีส่วนใหญ่อย่ใู นระดบั มาก จานวน 21 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 34.4รองลงมาอย่ใู นระดบั ปานกลาง จานวน 19 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 31.1 ระดบั น้อย จานวน 15 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 24.6 ในระดบั มากทส่ี ุด มจี านวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.6 และในระดบั น้อยมากมจี านวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 3.3 การทาบญั ชวี ่าใช้ทุนไปกบั เร่อื งใดบ้างส่วนใหญ่อย่ใู นระดบั ปานกลาง จานวน 26 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 42.6 รองลงมาอย่ใู นระดบั น้อย จานวน 18 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 29.5 ระดบั มากจานวน 9 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 14.7 ในระดบั น้อยมาก มจี านวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 8.2 และในระดบั มากทส่ี ุด มจี านวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 4.9 หลงั จากได้แหล่งทุนแล้วหมดปญั หาเร่อื งทุนไม่เพียงพอส่วนใหญ่อยู่ในระดบั มากจานวน 35 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 57.4 รองลงมาอย่ใู นระดบั ปานกลาง จานวน 14 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 23 ระดบั มากทส่ี ุด จานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 16.4 ในระดบั น้อย มจี านวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.6 และในระดบั น้อยมาก มจี านวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.6 สามารถนาความรใู้ นการหาแหล่งทุนดว้ ยตนเองไปถ่ายทอดใหผ้ อู้ ่นื ไดส้ ่วนใหญ่อย่ใู นระดบั ปานกลาง จานวน 25 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 41 รองลงมาอยใู่ นระดบั มาก จานวน 22 คน คดิเป็นรอ้ ยละ 36.1 ระดบั น้อย จานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 16.4 ในระดบั มากทส่ี ุด มจี านวน 3คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 4.9 และในระดบั น้อยมาก มจี านวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.6 สามาถนาความรู้ในการหาแหล่งทุนดว้ ยตนเองออกไปปฏบิ ตั นิ อกพ้นื ทห่ี มู่บา้ นส่วนใหญ่อยใู่ นระดบั มาก จานวน 24 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 39.3 รองลงมาอยใู่ นระดบั ปานกลาง จานวน22 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 36.1 ระดบั น้อย จานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 16.4 ในระดบั มากทส่ี ุด มีจานวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.6 และในระดบั น้อยมาก มจี านวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.64.2 รายรบั และรายจ่ายของกองทนุ 4.2.1 รายรบั ของกองทุน กองทุนแม่ของแผ่นดินหมู่บ้านดงสระแก้ว จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถ เรมิ่ จดั ตงั้ ข้นึ ในปีพ.ศ. 2551 โดยมที ุนสนับสนุนรบั พระราชทานเงนิ ทุนเรมิ่ ต้นจานวน 8,000 บาท หลงั จากนัน้ ได้มกี ารจดั กจิ กรรมและจดั ทาบญั ชตี งั้ แต่ปีพ.ศ. 2552และกาหนดโครงสรา้ งการบรหิ ารจดั การกองทุนแม่ของแผ่นดนิ ในรปู แบบของกองทุนสวสั ดกิ ารจนทาใหม้ เี งนิ ทนุ เพมิ่ ขน้ึ ในปจั จบุ นั วนั ท่ี 9 กุภาพนั ธ์ พ.ศ. 2557 คงเหลอื 96,792.68 บาท

37 ภายในระยะเวลา 5 ปี (ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2552 ถึง พ.ศ. 2557) สรุปท่มี าของรายรบั ของกองทุนแม่ของแผ่นดนิ แสดงในตารางท่ี 1 โดยท่กี องทุนแม่ของแผ่นดนิ หมู่บ้านดงสระแก้วได้เป็นศูนย์รวมทางจติ ใจของคนทงั้ หมู่บ้านในการแสดงออกซ่งึ ความจงรกั ภกั ดี และได้กาหนดแนวทางแหลง่ ทม่ี าของเงนิ เพ่อื ต่อยอดกองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ 3 แนวทางดงั น้ี 1) แนวทางแห่งศรทั ธาของหมู่บ้าน คอื แนวทางท่หี มู่บ้านร่วมแรงร่วมใจกันสมทบ กองทุนแม่ของแผ่นดนิ เพ่อื แสดงถงึ ความศรทั ธา ความเขม้ แขง็ ของหม่บู ้านอย่าง แทจ้ รงิ โดยมวี ธิ กี ารสาคญั ไดแ้ ก่ (1) รว่ มกนั บรจิ าคในวนั แรกเขา้ เป็นสมาชกิ (2) บรจิ าคเป็นเครอ่ื งใชส้ ง่ิ ของเพ่อื จาหน่ายเป็นเงนิ เขา้ กองทุน (3) รว่ มกนั บรจิ าคเป็นคา่ สวสั ดกิ ารสงั คมชว่ ยเหลอื สมาชกิ ดว้ ยกนั 2) แนวทางแห่งปญั ญา คอื แนวทางทแ่ี สดงออกถงึ ความมปี ญั ญา ร่วมกนั คดิ วธิ กี าร รวบรวมทุนทรพั ยส์ บทบกองทุนแม่ของแผ่นดนิ ใหม้ ากขน้ึ และมากพอทจ่ี ะดาเนิน กจิ กรรมต่างๆตามทก่ี าหนด มวี ธิ กี ารสาคญั ดงั น้ี (1) จดั งานชุมชนเพ่อื แสวงหารายได้ ผลกาไรเขา้ กองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ (2) กองทุนต่างๆทม่ี อี ย่ใู นหมู่บ้านหรอื กองทุนอ่นื ท่ไี ม่ใชใ้ หโ้ อนเขา้ กองทุนแม่ ของแผน่ ดนิ (3) การขอรบั การสนบั สนุน หน่วยงาน องคก์ รภายนอกชุมชน องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถนิ่ มลู นิธเิ พอ่ื สบทบทนุ กองทนุ แมข่ องแผ่นดนิ (4) การทอดผ้าป่าสามคั คใี นหม่บู ้าน และการรบั บรจิ าคจากงานประเพณีงาน การกุศลของชมุ ชนดว้ ยความสมคั รใจ 3) เงนิ ขวญั ถุง คอื เงนิ ท่ไี ด้รบั พระราชทาน ให้ถือเป็นเงนิ ขวญั ถุงและเป็นสริ มิ งคล สูงสุดท่หี ม่บู ้านไดร้ บั ในการประกอบกรรมดี ทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ถอื เป็น เงนิ ทม่ี คี ่าสงู สุดทจ่ี ะตอ้ งรกั ษาจานวนเงนิ ดงั กลา่ วไวใ้ หค้ งเดมิ จากตารางท่ี 4.6 แหล่งทม่ี าของรายรบั ของกองทุนแม่ของแผ่นดนิ ส่วนใหญ่มาจากการทอดผ้าป่าสามคั คใี นหม่บู ้านคดิ เป็นรอ้ ยละ 48.38 รองลงมาเป็นสมทบกองทุน 1 บาทต่อคนต่อเดอื นคดิ เป็นร้อยละ 23.77 และมาจากเงนิ บรจิ าคจากบุคคลและหน่วยงานและเงนิรางวลั คดิ เป็นรอ้ ยละ 19.28 ตามลาดบั

38ตารางท่ี 4.6 แหล่งทม่ี าของรายรบั ของกองทุนแมข่ องแผ่นดนิ ชว่ งปีพ.ศ. 2552-2557 แหลง่ ทม่ี า ปี พ.ศ. ทด่ี าเนินการ 2556 2557 รวม รอ้ ยละ 2551 2552 2553 2554 25551. การทอดผา้ ป่าสามคั คใี น 12,942 - 81,799 48.38หมบู่ า้ น 26,785 16,082 6,485 19,505 - 1,043 - 11,503 6.802. จัดงานชุมชนและขาย 5,040 895 40,201 23.77สนิ คา้ เพอ่ื แสวงหารายได้ - 2,570 5,540 2,350 - 5,600 - 32,600 19.28 989 - 2,988 1.773. สมทบกองทุน 1 บาทต่อ 25,614 895 169,091 100คนต่อเดอื น - 415 4,614 5,126 24,1114. เงนิ บรจิ าคจากบุคคลและหน่วยงานและเงนิ รางวลั - - 1,000 - 26,0005. ดอกเบย้ี เงนิ ฝาก - 254 457 511 777 รวม 26,785 19,321 18,096 27,492 50,888หมายเหตุ: เป็นขอ้ มลู ทจ่ี ดบนั ทกึ ในบญั ชขี องกองทนุ ระหวา่ งวนั ท่ี 11 ก.พ. 2552 ถงึ 5 ก.พ. 2557 38

394.2.2 รายจ่าย/ผลประโยชน์ทดแทนของกองทุนแมข่ องแผน่ ดินตามขอ้ ตกลงในระเบยี บการบรหิ ารจดั การกองทุนแม่ของแผ่นดนิ ไดก้ าหนดหลกั เกณฑ์การจา่ ยเงนิ สวสั ดกิ ารสงั คมดงั ต่อไปน้ี1) เงนิ ขวญั ถุงเดก็ แรกเกดิ จานวนเงนิ 500 บาท หลกั เกณฑ์ เป็นเดก็ ทารกแรกเกดิ ในหมทู่ ่ี 4 หรอื ครอบครวั หรอื สมาชกิ2) เงนิ ขวญั ถุงกาลงั ใจผปู้ ว่ ย จานวนเงนิ 500 บาทหลกั เกณฑ์ ยกเลกิ ตามมตทิ ป่ี ระชมุ ประชาคม3) เงนิ สงเคราะหฌ์ าปนกจิ จานวนเงนิ 1,000-2,000 บาทหลกั เกณฑ์ กรณสี มาชกิ เสยี ชวี ติ มอบเงนิ แก่ทายาท4) เงนิ สงเคราะหผ์ สู้ งู อายุ จานวนเงนิ 500 บาทต่อปีหลกั เกณฑ์ พจิ ารณาเฉพาะผสู้ งู อายทุ ไ่ี มไ่ ดร้ บั เบย้ี ยงั ชพี5) เงนิ ฟ้ืนฟูจติ ใจผตู้ ดิ ยาเสพตดิ จานวนเงนิ 1,000-5,000 บาทหลกั เกณฑ์ เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยส่งบาบดั ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ ครงั้ แรกตามค่าใชจ้ า่ ยจรงิ ไมเ่ กนิวงเงนิ ทก่ี าหนด6) เงนิ กองทนุ การศกึ ษา จานวนทนุ ละ 500 บาทหลกั เกณฑ์ เป็นทุนการศกึ ษาประจาปี เฉพาะโรงเรยี นวดั ดงสระแกว้ ชนั้ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-6 สาหรบั นกั เรยี นทม่ี คี วามประพฤตดิ แี ละยากจน7) เงนิ สนบั สนุนประกอบอาชพี ไม่ระบุจานวนเงินข้ึนอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบรหิ ารกองทุนแม่ของแผ่นดนิ แต่ระบจุ านวนวงเงนิ สงู สุดไมเ่ กนิ 3,000 บาทหลกั เกณฑ์ เป็นเงนิ ใหย้ มื มกี าหนดเวลาสง่ คนื พรอ้ มสบทบกองทุนแมข่ องแผ่นดนิ จากการศกึ ษาโครงสรา้ งการเบกิ จ่ายในบญั ชรี ะหว่างวนั ท่ี 11 ก.พ. 2552 ถึง 5 ก.พ.2557 ทค่ี ณะกรรมการบนั ทกึ พบว่า กองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ มกี ารเบกิ จ่ายสวสั ดกิ าร 4 หมวดหลกัไดแ้ ก่ เงนิ สงเคราะหณ์ าปนกจิ คดิ เป็นรอ้ ยละ 45.12 เงนิ สนับสนุนประกอบอาชพี คดิ เป็นรอ้ ยละ 30.68 เงนิ กองทุนการศกึ ษาคดิ เป็นรอ้ ยละ 15.17 และเงนิ ขวญั ถุงเดก็ แรกเกิดคดิ เป็นรอ้ ยละ 9.03 โดยจะพบว่าสวสั ดกิ ารเงนิ ขวญั ถุงกาลงั ใจผู้ป่วยถูกพจิ ารณาตดั ออกไปเน่ืองจากยากต่อการประเมนิ ระดบั ของการเจบ็ ปว่ ย

404.3 การวิเคราะหค์ วามพอเพียงของกองทนุ จากรายรบั รายจ่าย การบรหิ ารจดั การ โครงสร้างประชากรท่สี มคั รเป็นสมาชกิ ของกองทุนแมข่ องแผ่นดนิ บา้ นดงสระแก้วทผ่ี า่ นมาสามารถนาขอ้ มลู มาวเิ คราะหแ์ นวโน้มในอนาคตของกองทุน โดยการวเิ คราะหร์ ายรบั รายจ่ายสวสั ดกิ าร และใชก้ ารวเิ คราะหก์ ารพยากรณ์ความยงั่ ยนื ของกองทุน ซง่ึ ผลการศกึ ษาจะนาไปเปลย่ี นแปลงเง่อื นไขการจดั สวสั ดกิ ารเพ่อื ปรบั ปรุงและพฒั นากองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ บา้ นดงสระแกว้ ต่อไป 1. การวิเคราะห์รายรบั รายจ่ายสวสั ดิการของกองทุนแม่ของแผ่นดินบ้านดงสระแก้ว ในการวเิ คราะห์เบอ้ื งต้นใช้การเปรยี บเทยี บรายรบั รายจ่ายของกองทุนแม่ของแผ่นดนิบา้ นดงสระแกว้ ในชว่ ง 5 ปีทผ่ี ่าน (พ.ศ. 2552-2556) ดงั แสดงในตารางท่ี 4.7ตารางท่ี 4.7 เงนิ ทนุ และรายจา่ ยสวสั ดกิ ารเฉลย่ี ต่อหวั สมาชกิ พ.ศ. 2552-2556แหล่งทม่ี า ปีงบประมาณ 2556 2552 2553 2554 2555 385สมาชกิ กองทุน (คน) 116 195 266 313 25,614 14,550รายรบั (เงนิ ทุน) 5000กองทนุ (บาท) 19,321 18,096 27,492 50,888 66.52รายจา่ ยกองทุน (บาท) 5,000 15,000 7,500 6,245 37.79รายจา่ ยเฉพาะคา่ ฉาปนกจิ(บาท) 2000 4000 2000 4000เงนิ ทนุ ต่อหวั สมาชกิ (บาท) 166.56 92.80 103.35 162.58รายจ่ายสวสั ดกิ ารต่อหวัสมาชกิ (บาท) 43.10 76.92 28.20 19.95 จากตารางท่ี 4.7 พบว่าจานวนสมาชกิ กองทุนมจี านวนเพมิ่ ขน้ึ ทุกปีตงั้ แต่ปีพ.ศ. 2552 ท่ีกองทุนเรม่ิ ดาเนินการ จนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2556 มจี านวนสมาชกิ เพมิ่ ขน้ึ ประมาณร้อยละ 232และถงึ แมว้ ่ารายรบั ของกองทุนจะมแี นวโน้มเพมิ่ ข้นึ จากเดมิ แต่เม่อื ศึกษาในแหล่งท่มี าของเงนิ ทุนพบว่ามาจากการทอดผา้ ป่าและการบรจิ าคถงึ มากกว่ารอ้ ยละ 50 ในขณะทก่ี องระดมทุนจากตวั สมาชกิ มเี พยี งประมาณรอ้ ยละ 24 ดงั นนั้ จงึ เป็นขอ้ สงั เกตว่าหากกองทนุ ปราศจากการจดักจิ กรรมทอดผ้าป่าและไม่ได้รบั การบรจิ าคจากบุคคลและหน่วยงานต่างๆ กองทุนจะประสบปญั หาการทุน

41 2. การวิเคราะหค์ วามยงั่ ยืนของกองทุนแมข่ องแผน่ ดินบ้านดงสระแก้ว จากขอ้ มลู รายจ่ายสวสั ดกิ ารของกองทุนแม่ของแผ่นดนิ ทเ่ี กอื บรอ้ ยละ 50 ของรายจ่ายสวสั ดกิ ารทงั้ หมดเป็นเงนิ สงเคราะห์ฌาปนกจิ ซง่ึ จากทบทวนเอกสารการศกึ ษาทผ่ี ่านมาพบว่าความเส่ยี งประการสาคญั ของการจดั สวสั ดกิ ารชุมชนคอื เงนิ ช่วยเหลอื ครอบครวั ผู้ตายซ่ึงมีปริมาณการช่วยเหลือค่อนข้างมากเม่อื เทียบกับสวัสดิการด้านอ่ืนๆ กอปบกับพ้ืนท่ีศึกษาหมบู่ า้ นดงสระแกว้ โครงสรา้ งประชากรกาลงั ก้าวเขา้ ส่สู งั คมผู้สงู อายุ ในการศกึ ษาครงั้ น้จี งึ ทาการประมาณการแนวโน้มของการบรหิ ารจดั การกองทนุ แม่ของแผน่ ดนิ เพอ่ื นาไปปรบั เปลย่ี นเง่อื นไขต่อไป ก ารวิเ ค ราะ ห์ไ ด้จา แ น ก ข้อ มูล ส ม า ชิก ข อ ง ก อ ง ทุ น อ อ ก เ ป็ น ร าย เ พ ศ เ พ่ือ วิเ ค ร า ะ ห์เปรยี บเทยี บโครงสร้างประชากรและประมาณการณ์ต่อไปอีก 5 ปีขา้ งหน้า (พ.ศ. 2561) และพจิ ารณาความยงั่ ยนื ของกองทุนภายใตเ้ งอ่ื นไขผลประโยชน์ทดแทนกรณที ส่ี มาชกิ เสยี ชวี ติ 1. การคาดการณ์โครงสรา้ งประชากรสมาชกิ กองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ ใชห้ ลกั การวชิ าคณิตศาสตรป์ ระกนั ภยั มาใชใ้ นการวเิ คราะห์มลู ค่าผลประโยชน์ทดแทน ซง่ึ ตอ้ งวเิ คราะหจ์ านวนแยกตามเพศ จานวนผรู้ อดชวี ติ จานวนผเู้ สยี ชวี ติ จากฐานขอ้ มลูสมาชกิ รายปีงบประมาณโดยวเิ คราะห์ร่วมกบั ตารางมรณะของประเทศไทย พ.ศ. 2551 และข้อมูลอตั ราการเกิดของสตรวี ัยเจริญพันธุ์ประชากรของประเทศไทยตามท่ธี นาคารโลกได้ประกาศไวป้ ี พ.ศ. 2549 โครงสร้างสมาชกิ ของกองทุนแยกเป็นเพศชายและหญิง พบว่าสมาชกิ ของกองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ เป็นเพศหญงิ มากกว่าเพศชายนอกจากน้ีจานวนสมาชกิ มแี นวโน้มเพมิ่ ขน้ึตงั้ แต่เรม่ิ ก่อตงั้ กองทุน พ.ศ. 2552 จนกระทงั่ ปจั จบุ นั พ.ศ. 2556 ดงั แผนภาพท่ี 4.1

42450 184 226400 158 159350 2556300 110250 129200150 108100 64 85 50 52 2553 2554 2555 0 2552 ปี งบประมาณ เพศหญิง (คน) เพศชาย (คน)แผนภาพท่ี 4.1 จานวนสมาชกิ กองทุนแมข่ องแผ่นดนิ พ.ศ. 2552-2556 จาแนกตามเพศ ข้อสมมติฐานในการศึกษา 1. กรณสี มาชกิ เสยี ชวี ติ กองทุนแมข่ องแผน่ ดนิ ไมไ่ ดบ้ นั ทกึ วนั ทเ่ี สยี ชวี ติ ของสมาชกิ แต่สามารถระบวุ นั ทจ่ี า่ ยเงนิ ทดแทน ดงั นนั้ การศกึ ษาครงั้ น้ีจงึ ประมาณการณ์อายขุ ณะเสยี ชวี ติ ของสมาชกิ ณ วนั ทม่ี กี ารจา่ ยเงนิ ทดแทน 2. อา้ งองิ อตั ราการเกดิ (Fertility rate) ของประชากรไทยจากขอ้ มลู สตรวี ยั เจรญิ พนั ธุ์อายรุ ะหวา่ ง 15-49 ปีต่อประชากร 1,000 คน โดยองคก์ ารสหประชาชาติ แสดงดงั ตารางท่ี 4.8

43ตารางท่ี 4.8 อตั ราการเกดิ ต่อประชากร 1,000 คน ปี พ.ศ. 2549อายขุ องสตรวี ยั เจรญิ พนั ธุ์ อตั ราการเกดิ15-19 44.620-24 106.725-29 99.830-34 71.635-39 32.540-44 8.345-49 1.6ทม่ี า: สหประชาชาติ ผลรวมของอตั ราการเกดิ รวมของทกุ อายมุ คี ่าเท่ากบั 1,825.5 คน หมายความวา่สาหรบั สตรที ุก 1,000 คนทม่ี ชี วี ติ รอดในชว่ งปีทม่ี บี ุตรจะใหก้ าเนดิ ทารกขน้ึ จานวน 1,826 คนหรอื จะมเี ดก็ จานวน 1.83 คนต่อสตรี 1 คน ในทน่ี ่หี มายถงึ มอี ตั ราการเกดิ แทนท่ี (Replacementrate) เท่ากบั 1.8 (สตรี 1 คน มบี ุตรเฉลย่ี 1.8 คนทจ่ี ะแทนทป่ี ระชากร 1 คน) ดงั นัน้ ผลรวมของทารกท่ีเกิดของสตรที ่ีมอี ายุระหว่าง 15-49 ปีจงึ มีสมการความสมั พนั ธด์ งั ต่อไปน้ี 49 ������������ = ∑ ������������������ ∗ ������������������ ������=15เมอ่ื ������������ = จานวนทารกทเ่ี กดิ ระหว่างปี������������������ = จานวนสตรที อ่ี ายุ (X) และ ������������������ = อตั ราการเกดิ ทอ่ี ายุ (X)