01O13 คู่มือรายบุคคลกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษาสบ1

ค่มู ือปฏิบตั งิ าน ของ จ.อ.วชิ า รอดแดง นกั ทรัพยากรบคุ คลชาํ นาญการพิเศษ กลุม่ บรหิ ารงานบคุ คล สํานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสระบรุ ี เขต 1 ---------------------------------- การคดั เลือกขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาเพอ่ื ดํารงตาํ แหนง่ ศึกษานเิ ทศก์ 1. ชอ่ื งาน การคัดเลือกข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาเพ่ือดํารงตําแหน่งศึกษานเิ ทศก์ 2. วตั ถุประสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏบิ ัตทิ ีถ่ กู ตอ้ ง สนองตอ่ ความต้องการของหนว่ ยงาน และเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน การดําเนินการคัดเลอื กข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา เพื่อบรรจแุ ละแต่งต้งั ใหด้ ํารง ตําแหน่งศึกษานเิ ทศก์ ซงึ่ เปน็ ตําแหน่งวา่ งท่ีมอี ัตราเงินเดอื นและไม่ติดเงอ่ื นไขของคณะกรรมการกาํ หนด เปา้ หมาย และนโยบายกําลงั คนภาครัฐ (คปร.) และท่ี ก.ค.ศ. กาํ หนดในสํานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษา/สํานักงาน เขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาต้องดําเนนิ การ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาํ หนด 4. ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 4.1 สํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา จัดทาํ รายละเอียดอัตราว่าง รา่ งประกาศคดั เลือก 4.2 สํานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา จดั ทาํ ขอ้ มลู และรายละเอียดเพอ่ื ขออนมุ ัติ กศจ. ดังน้ี 4.2.1 กาํ หนดตําแหน่งวา่ งที่จะบรรจุและแตง่ ต้งั ศกึ ษานเิ ทศก์ 4.2.2 จัดทํารายละเอียดการดาํ เนินการคดั เลือกและแตง่ ตงั้ ตามเกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด เซน่ การกําหนดคณุ สมบตั ิ หลักสตู ร วธิ กี ารสอบแขง่ ขนั เกณฑก์ ารตดั สนิ การขนึ้ บญั ชแี ละ ยกเลิกบัญชี สอบแขง่ ขนั เสนอ กศจ.ประกาศการดําเนินการ สอบแขง่ ขนั ตลอกจนแตง่ ตั้งคณะกรรมการ/อนกุ รรมการ แล้วแต่ กรณี 4.3 กศจ. พิจารณาอนมุ ัตกิ ารดาํ เนินการคดั เลอื กตามที่ สพท. เสนอ เพอ่ื ขอความเห็นชอบ ในการคัดเลือกศกึ ษานิเทศก์ 4.4 สํานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษา ดาํ เนินการคดั เลอื กตามเกณฑ์และวธิ กี ารท่ี กศจ.อนมุ ัติดําเนนิ การพฒั นาผ้ไู ดร้ ับการคดั เลือกตามหลกั เกณฑ์และ วธิ กี ารท่ี ก.ค.ศ. กําหนด 4.5 สาํ นกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษา/สํานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เสนอ กศจ. บรรจุและแตง่ ตง้ั ผทู้ ่ีคัดเลอื กได้ และผา่ นการพัฒนาแลว้ ให้ดาํ รงตาํ แหนง่ ศึกษานเิ ทศก์ 4.6 ส่งคําส่ังใหส้ ํานักงาน ก.ค.ศ.ทราบ ภายใน 7 วัน นบั ต้ังแต่วนั ออกคําส่ัง

-2– งานสอบแขง่ ขนั เพ่ือบรรจแุ ละแต่งตงั้ บคุ คลเขา้ รบั ราชการเป็นขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากร ทางการศกึ ษาตาํ แหน่งบคุ ลากรทางการศกึ ษาอน่ื ตามมาตรา 38 ค (2) 1. ช่อื งาน งานสอบแข่งขนั เพ่ือบรรจแุ ละแตง่ ตงั้ บคุ คลเข้ารบั ราชการเปน็ ข้าราชการครูและบคุ ลากร ทาง การศึกษาตาํ แหนง่ บคุ ลากรทางการศกึ ษาอ่ืน ตามมาตรา 38 ค (2) 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ เปน็ แนวปฏบิ ตั ดิ ําเนนิ การสอบแข่งขันตามหลกั เกณฑท์ ี่ ก.ค.ศ.กําหนด สนองตอ่ ความ ตอ้ งการ ของหนว่ ยงาน และเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน การดาํ เนนิ การสอบแข่งขัน เพือ่ บรรจุและแต่งต้งั บคุ คลเข้ารบั ราชการเป็นข้าราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศกึ ษา เป็นการสรรหาบุคคลเข้ารับราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตําแหนง่ บุคลากร ทาง การศกึ ษาอ่นื ตามมาตรา 47 แหง่ พระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 แก ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 4. ขนั้ ตอนการปฏิบัติงาน 4.1 สํานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา จดั ทํารายละเอียดตาํ แหนง่ จํานวนตาํ แหนง่ ว่างทีจ่ ะบรรจุและแตง่ ตง้ั กาํ หนดคณุ สมบตั ิ หลักสตู ร วิธกี าร สอบแข่งขนั เกณฑ์การตัดสิน การขึ้นบญั ชแี ละยกเลิกบญั ชีผ่านการสอบแข่งขัน ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ.กําหนด เสนอ กศจ. 4.2 กศจ. พจิ ารณาอนุมัติตาํ แหนง่ และการดําเนนิ การสอบแข่งขัน ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี าร ท่ีสํานักเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เสนอ 4.3 สาํ นักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา ดําเนนิ การสอบแขง่ ขนั เพื่อบรรจแุ ละแต่งต้ังใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑท์ ่ี อ.ก.ค.ศ.เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาอนมุ ตั ิ 4.4 สํานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา โดยผู้มี อาํ นาจตามมาตรา 53 โดยอนมุ ตั ิ กศจ. ลงนาม คําสงั่ บรรจแุ ละแตง่ ตั้งพรอ้ มท้งั ให้ ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตาม หลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ.กําหนด และส่งดําสงั่ บรรจุและแตง่ ต้งั ใหส้ ถานตี ํารวจ ห้องทภ่ี มู ิลาํ เนาตรวจสอบประวตั ิ อาชญากรรมรายงานและส่งคาํ ส่ังใหส้ ํานักงาน ก.ค.ศ.ทราบ ภายใน 7 วนั งานรบั โอนพนักงานส่วนทอ้ งถนิ่ 1. ชื่องาน งานรับโอนพนักงานสว่ นท้องถิ่นและข้าราชการอน่ื ซ่ึงเป็นผู้สอบแขง่ ขันได้หรือได้รับ คดั เลือกมา บรรจุและแตง่ ต้ังเปน็ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏิบตั ิการรบั โอนพนักงานสว่ นทอ้ งถน่ิ และขา้ ราชการอน่ื ซง่ึ เป็นผู้สอบ แขง่ ขันได้สนอง ต่อความต้องการของหน่วยงาน และเป็นไปตามหลกั ธรรมาภิบาล 3. ขอบเขตของงาน ตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพม่ิ เติม กาํ หนดว่า การโอนพนักงานสว่ นท้องถ่ิน และขา้ ราชการอ่นื ซ่งึ เปน็ ผู้สอบแขง่ ขนั ได้ หรอื ผู้ได้รบั คัดเลอื กมาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา

-3- 4. ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 4.1 สํานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา รับคาํ รอ้ งขอโอนและดาํ เนินการตรวจสอบและจัดทํารายละเอียดเสนอให้ กศจ.พิจารณา เข่น - ตําแหน่งวา่ ง - คุณวฒุ ิและสาขาวชิ าเอก - คุณสมบัติมาตรฐานตําแหนง่ /มาตรฐานวิทยฐานะ - ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ - ความประพฤตแิ ละประวตั กิ ารรับราชการ - สญั ญาหรือข้อผูกพนั คับสว่ นราชการเดิม - กรอบอตั รากําลงั ของหน่วยงานทจ่ี ะรับโอน 4.2 กศจ.พจิ ารณารบั โอน 4.3 สํานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาแจง้ ผลการพิจารณาให้หนว่ ยงานต้นสังกัดผขู้ อโอนทราบเพื่อตกลงการโอนพรอ้ มตรวจสอบข้อมูลบคุ คลและข้อ ผกู พนั ตา่ งๆ ของผขู้ อโอนในกรณพี ิจารณารับโอน 4.4 เมือ่ หน่วยงานต้นสังกัดผู้ขอโอนตอบตกลงการโอน สํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาทร่ี ับโอนนาํ เสนอผมู้ อี าํ นาจตามมาตรา 53 พจิ ารณา สง่ั บรรจุและแต่งตง้ั ตาํ แหน่งท่รี ับโอน และแจ้งส่วนราชการเดิมสง่ั ให้พน้ จากตาํ แหนง่ และอตั ราเงนิ เดือนเดมิ 4.5 แจง้ หนว่ ยงานตน้ สงั กัดผขู้ อโอน/หน่วยงานท่เี กยี่ วข้อง 4.6 หน่วยงานทร่ี ับโอนส่งคาํ สัง่ ใหส้ าํ นกั งาน ก.ค.ศ. งานเตรียมความพร้อมและพฒั นาอย่างเขม้ 1. ชอื่ งาน งานเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเข้ม 2. วัตกุประสงค์ เพื่อเปน็ แนวปฏิบตั ิการเตรียมความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเข้มท่ีถกู ต้อง สนองตอ่ ความ ต้องการของ หนว่ ยงาน และเปน็ ไปตามหลักธรรมาภิบาล 3. ขอบเขตของงาน การเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเขม้ เป็นกระบวนการในการบรหิ ารบคุ คลที่จะเขา้ มา ดํารง ตาํ แหน่งครู ซึง่ ตอ้ งดาํ เนินการตามพระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 56 บญั ญตั ใิ หผ้ ูใ้ ดทไี่ ตร้ ับการบรรจุและแต่งตัง้ ให้เขา้ รับราชการเปน็ ขา้ ราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา ผูใ้ ดได้รบั การบรรจุและแตง่ ตง้ั ในตําแหน่งครู ใหผ้ ูน้ ั้นเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเขม้ ใน ตําแหน่งครผู ,ู้ ช่วย เปน็ เวลา 2 ปี กอ่ นแตง่ ต้ังใหด้ ํารงตําแหน่งครู เพื่อเพ่มิ พูนความรู้ทกั ษะและบุคลิกลักษณะ ในการปฏิบัติวชิ าชีพ ท้ังในการปฏบิ ัติงานและการปฏบิ ตั หิ น้าที่ท่เี หมาะสมกับวิชาชพี ครตู ามหลักเกณฑแ์ ละ วธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด การเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเข้ม ใช้กับผู้ดํารงตําแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย เพอ่ื แตง่ ต้ังเปน็ ตาํ แหนง่ ครู สว่ นการทดลองปฏบิ ัตหิ นา้ ทท่ี างราชการ ใชก้ บั ตําแหน่งอ่ืนท่บี รรจเุ ขา้ มา เช่น ตาํ แหน่ง บคุ ลากรทางการศึกษา อื่น ตามมาตรา 38 ค (2) 4. ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน การเตรียมความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเขม้ สาํ หรับตําแหนง่ ครูผู้ชว่ ยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และ วธิ กี ารท่ี ก.ค.ศ. กําหนด ( หนงั สือสํานกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ.02067/ว 19 ลงวนั ท่ี 25 ตลุ าคม 2561) ดงั นี้

-4- 4.1 ระดบั สถานศกึ ษา 4.1.1 ผอู้ ํานวยการสถานศึกษาแต่งตงั้ คณะกรรมการเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเขม้ จาํ นวน 3 คน ประกอบดว้ ย ผูอ้ าํ นวยการสถานศึกษา เป็นประธานกรรมการ ผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นคณะกรรมการ สถานศกึ ษาจํานวนหนึง่ คนเป็นกรรมการ และข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาทีผ่ อู้ ํานวยการ สถานศึกษาแตง่ ตง้ั ให้ทําหน้าท่ีเปน็ ผู้ควบคุมดูแลการเตรยี มความพร้อมและพฒั นาอย่างเข้มเป็นกรรมการ และ เลขานกุ าร 4.1.2 ใหค้ ณะกรรมการมีหนา้ ทใี่ หค้ าํ ปรึกษาแนะน่ารวมท้งั ประเมนิ ผลการเตรียมความพรอ้ ม และพฒั นาอยา่ งเข้ม โดยยดึ หลักเกณฑก์ ารมสี ว่ นรว่ ม 4.1.3 ใหค้ ณะกรรมการประเมนิ การเตรยี มความพรอ้ มและพัฒนาอยา่ งเข้มทกุ 3 เดือน ในระยะเวลา2 ปี รวม 8 ครัง้ ผู้อํานวยการสถานศกึ ษาได้รบั รายงานผลการประเมนิ แต่ละครั้งใหด้ ําเนินการดงั นี้ 1. ผลการประเมนิ ต่าํ กว่าเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กาํ หนดและผอู้ ํานวยการสถานศึกษา เห็นว่าควรทบทวน ก็อาจใหค้ ณะกรรมการไปพจิ ารณาทบทวนอีกคร้ังหนงึ่ และหากผลการประเมินยงั ต่าํ กว่าเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กําหนดให้ ผูอ้ ํานวยการสถานศึกษาส่ังให้ผู้น้ีนออกจากราชการภายใน 5 วนั ทําการ นับแตว่ ันท่ไี ดร้ ับรายงานแล้วแจง้ ใหผ้ ู้นน้ั ' ทราบโดยเรว็ 1.1 ) กรณผี ลการประเมินต่าํ กว่าเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กาํ หนดและผู้อาํ นวยการสถานศึกษา เห็นเชน่ เดยี วกับคณะกรรมการ กส็ ั่งให้ผ้นู น้ั ออกจากราชการภายใน 5 วนั ทาํ การ นบั แตว่ ันทีไ่ ด้รบั รายงาน แลว้ แจง้ ให้ผู้น้นั ทราบโดยเรว็ 1.2) กรณผี ลการประเมินเปน็ ไปตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด ใหม้ กิ ารเตรียมความพร้อม และพฒั นาอยา่ งเข้มต่อไปและเม่อื ผา่ นการประเมนิ ทุกครง้ั จนครบ 2 ปแี ล้ว และเหน็ ว่าควรใหผ้ นู้ ัน้ รับ ราชการตอ่ ไป กใ็ ห้รายงานสาํ นักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาเพ่ือเสนอ กศจ. พจิ ารณาอนุมตั ิ และแจ้งให้ผอู้ าํ นวยการสถานศึกษาแต่งต้ัง ผนู้ ัน้ ใหด้ ํารงตาํ แหน่งครูต่อไปพรอ้ มท้ังแจ้งใหผ้ ู้ได้รบั การแตง่ ต้ัง ทราบ 4.2 ระดบั เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา 4.2.1 นาํ ผลการประเมนิ ของคณะกรรมการ เมื่อครบ 2 ปี ทง้ั 8 ครงั้ เสนอทีป่ ระขุม กศจ. เขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา เพ่อื พจิ ารณาการอนมุ ัติ 4.2.2 สํานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษา/สาํ นักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามัธยมศึกษา 4.2.3 แจง้ ผลการประขุม กศจ. เขตพ้ืนที่การศึกษา ให้โรงเรยี นดาํ เนนิ การสั่งแตง่ ต้ังพร้อมทง้ั ส่ง คาํ สั่งให้สํานักงาน เขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา/สํานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษา 4.2.4 สาํ นกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ตรวจความถูกตอ้ งของดําส่งั แลว้ สง่ คาํ ส่งั ใหก้ ลมุ่ งานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 4.2.5 สํานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษา/สาํ นักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา ส่ง คาํ สงั่ ไปยงั สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน และสํานักงาน ก.ค.ศ.ส่วนกรณีขา้ ราชการครแู ละบุคลากร ทางการศึกษา ที่บรรจุในตําแหน่งอ่นื นอกจาก ตาํ แหน่งครผู ชู้ ่วย เช่น บคุ ลากรทางการศกึ ษาอืน่ ตาม มาตรา 38 ค (2) ยังคงให้ทดลองปฏบิ ัติหน้าท่รี าชการ ในตําแหน่งน้นั เป็นไปตามหลักเกณฑท์ ี่ ก.ค.ศ. กําหนด ซึ่งใชก้ ฎ ก.พ. ฉบบั ที่ 21 (พ.ศ.2542) กาํ หนดเดมิ

-5– งานแต่งตงั้ (ยา้ ย)ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาตําแหนง่ ซง่ึ มหี น้าทเ่ี ปน็ ผสู้ อน ในหน่วยงานการศกึ ษา ภายในเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาและตา่ งเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา 1. ช่อื งาน งานแตง่ ต้ัง (ย้าย) ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาตาํ แหน่งซึ่งมีหนา้ ทีเ่ ป็นผู้สอน ใน หน่วยงานการศึกษา ภายในเขตพ้นื ท่ีการศึกษาและตา่ งเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏิบัตกิ ารแตง่ ตั้ง (ยา้ ย) ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาทถี่ กู ตอ้ ง สนองตอบ ความตอ้ งการของหน่วยงาน และเปน็ ไปตามหลักธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน การแต่งตั้ง (ยา้ ย) ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาํ แหนง่ ซ่ึงมหี นา้ ทเี่ ปน็ ผสู้ อนใน หน่วยงานการศึกษาภายในเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาและตา่ งเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาเปน็ การแต่งต้งั ขา้ ราชการครู และบุคลากร ทางการศกึ ษาให้ดาํ รงตาํ แหนง่ การยา้ ยลับเปลย่ี น และการยา้ ยตดั โอนตําแหนง่ อัตราเงินเดอื น 5. ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน 5.1 ผู้ประสงคข์ อย้ายย่ืนคาํ รอ้ งขอย้าย (ตามแบบที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด) ตามระยะเวลา ทหี่ ลักเกณฑ์ กาํ หนดผ่านผบู้ ังคับบญั ชาตามลาํ ดบั 5.2 สถานศกึ ษา นําเสนอคณะกรรมการสถานศกึ ษาใหค้ วามเหน็ การยา้ ย แล้วรวบรวม สง่ สาํ นักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาภายในเวลาท่ีกําหนด 5.3 สาํ นักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา รวบรวมและ จดั ทําข้อมลู ตรวจสอบและดําเนนิ การดังน้ี 1) รวบรวมคาํ รอ้ งขอยา้ ยของผูย้ ้ายท่เี ป็นข้าราชการในสังกัดและจากตา่ งสํานักงาน เขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา 2) ตรวจสอบคณุ สมบัตขิ องผยู้ ้าย 3) แยกคาํ ร้องขอย้ายของผ้ขู อย้ายภายในเขต/ตา่ งเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษา 4) นาํ เสนอ กศจ.เพอื่ อนมุ ตั แิ ละใหส้ ง่ คาํ รอ้ งขอย้ายไป สาํ นักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษา ประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาปลายทางกรณกี ารขอยา้ ย ไปต่างเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา 5) จัดทาํ ข้อมลู ของผู้ขอยา้ ยภายในเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา และผ้ทู ี่สง่ คําร้องขอยา้ ยมาจาก ตา่ งสาํ นักงานเขตพ้นื ที่การศึกษา 6) ตรวจสอบตําแหนง่ ว่างและคุณวฒุ วิ ชิ าเอก ตามท่ีสถานศึกษาต้องการและขาดแคลน 5.4 สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา สง่ ขอ้ มูลของผปู้ ระสงคจ์ ะย้ายขอความเหน็ จากคณะกรรมการสถานศึกษาทรี่ บั ยา้ ย 5.5 สํานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา/สํานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา มีคําส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพิจารณาการย้าย ก่อน นาํ เสนอ กศจ. 5.5.1 กศจ. พจิ ารณาอนมุ ตั ิ 5.5.2 ผมู้ ีอํานาจตามมาตรา 53 มีคําส่ังยา้ ยและแตง่ ต้งั 5.5.3 แจ้งหนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง 5.5.4 สง่ ลาํ เนาคําส่งั ใหส้ ํานกั งาน ก.ค.ศ. สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน 5.5.4 กรณีตา่ งสาํ นักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา รับยา้ ยขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ในสังกดั ดาํ เนินการดังน้ี

-6– 5.5.4.1 แจ้งคาํ ส่ังใหส้ ถานศกึ ษาทเ่ี ก่ียวข้อง 5.5.4.2 ผูไ้ ด้รับการพจิ ารณายา้ ยมอบหมายงานในหนา้ ที่ 5.5.4.3 สถานศกึ ษาสง่ ตวั ผไู้ ดร้ ับการพิจารณายา้ ยมาสาํ นักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา ประถมศึกษา/สํานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาตน้ สงั กดั สาํ นกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา/สาํ นกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา มัธยมศึกษาตน้ สังกัด สง่ ตวั ผู้ไดร้ ับการพิจารณายา้ ย ไปสาํ นกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงาน เขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาที่รบั ยา้ ย งานแต่งตง้ั (ยา้ ย) ผู้บรหิ ารสถานศึกษา 1. ชือ่ งาน งานแต่งตั้ง (ย้าย) ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา 2. วัตถปุ ระสงค์ เพ่อื เปน็ แนวปฏิบัติการแต่งตั้ง (ยา้ ย) ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา ทถ่ี กู ต้อง สนองตอบความตอ้ งการ ของ หน่วยงาน และเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภิบาล 3. ขอบเขตของงาน การย้ายผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาไปแต่งตัง้ ให้ดาํ รงตําแหน่งเดมิ ในหน่วยงานการศกึ ษาอื่น ภายในเขต พืน้ ที่การศึกษา หรือต่างเขตพืน้ ที่การศึกษา โดยการยา้ ยไปดํารงตําแหนง่ วา่ งการยา้ ยลับเปลย่ี น ตัวบุคคลตอ้ งได้รบั อนมุ ัตจิ าก กศจ. ของผูป้ ระสงค์ขอยา้ ยและรับย้าย และใหค้ ณะกรรมการสถานศกึ ษาเสนอความเหน็ ประกอบการ พจิ ารณาของ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้นื ท่ีการศึกษาดว้ ย และ เมอ่ื กศจ. พิจารณาอนุมตั แิ ลว้ ใหผ้ มู้ ีอาํ นาจตาม มาตรา 53 สง่ั บรรจแุ ละแตง่ ตงั้ ต่อไป 4. ขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน 4.1 ประซาสมั พันธ์ตําแหน่งวา่ ง และแจ้งการส่งคาํ รอ้ งขอยา้ ย 4.2 ผปู้ ระสงคข์ อย้ายยืน่ คาํ ร้องตอ่ ผ้บู งั คับบญั ชาตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กําหนด 4.3 สถานศึกษาขอความเหน็ จากคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานของผขู้ อยา้ ย 4.4 สํานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา รวบรวมคาํ ร้องของผูข้ อย้ายไปตา่ งสาํ นักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษา เสนอ กศจ. เพ่อื ส่ง คาํ รอ้ งไปยังสาํ นักงานเขตพื้นที่ การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษาปลายทาง 4.5 สาํ นักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษา รวบรวม คาํ รอ้ งผขู้ อยา้ ยทั้งภายในสํานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา มธั ยมศกึ ษาและ จากตา่ งเขตพื้นท่ีการศึกษาจดั ทําบัญชแี ยกเป็นรายโรงเรยี นตามความประสงค์ของผขู้ อยา้ ยสง่ ไป ขอความเห็นจาก คณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พนื้ ฐานที่รบั ย้าย 4.6 เจา้ หนา้ ทจ่ี ัดทาํ บญั ชขี องผ้ขู อยา้ ยแยกเป็นรายบุคคลและรายโรงเรียน แต่งตงั้ คณะกรรมการ กลน่ั กรองการย้ายตามบัญชสี รุปของเจ้าหนา้ ท่ี และคาํ รอ้ งขอยา้ ยประกอบลนั 4.7 สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา นําผล การพจิ ารณาของคณะกรรมการกลน่ั กรองพร้อมความเหน็ ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน เสนอ กศจ. พจิ ารณาอนมุ ัติย้าย ผอู้ าํ นวยการ สพท. ออกคาํ สง่ั ยา้ ยและแต่งต้งั และแจง้ หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง

-7– งานแตง่ ตง้ั (ยา้ ย) บคุ ลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค (1) ศกึ ษานเิ ทศก์ 1. ชือ่ งาน งานแต่งตงั้ (ย้าย) บคุ ลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (1) ศกึ ษานเิ ทศก์ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อเปน็ แนวปฏิบัตทิ ถี่ กู ต้อง สนองตอบความต้องการของหน่วยงาน และเป็นไปตามหลัก ธรรมาภิบาล 3. ขอบเขตของงาน การย้ายศึกษานิเทศก์ บุคลากรทางการศกึ ษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค (1) ในสํานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เป็นการแต่งต้งั ข้าราชการครแู ละ บคุ ลากร ทางการศึกษาให้ดาํ รงตําแหน่งวา่ งการยา้ ยลบั เปล่ยี น และการย้ายโดยการตดั โอนอตั ราเงนิ เดอื น โดย ดาํ รงตําแหน่ง เดิมในหนว่ ยงานการศึกษาอนื่ หรือต่างเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาตอ้ งไต้รับอนุมัติจาก กศจ. ของผูป้ ระสงค์ยา้ ยและผู้รบั ย้าย แล้วแต่กรณเี มอื่ กศจ. หรือกรณที ี่ กศจ. เขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาที่รับย้ายจะต้องเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณาอนมุ ตั ิแล้ว ใหผ้ มู้ ี อํานาจตามมาตรา 53 สัง่ บรรจแุ ละแต่งตง้ั ซึ่งต้องดาํ เนินการตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่ ก.ค.ศ. กาํ หนดตลอดจน กฎ ระเบยี บที่ เกี่ยวขอ้ ง 4. ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน 4.1 ผู้ประสงคข์ อย้ายย่นื ดําร้องขอย้าย (ตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาํ หนด) ตามระยะเวลาท่ี หลกั เกณฑ์ กาํ หนด เสนอผบู้ งั คบั บญั ชาตามลาํ ดับ 4.2 สาํ นักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา ตรวจสอบ รวบรวมและจดั ทาํ ขอ้ มลู และดําเนนิ การดงั นี้ 4.2.1 รวบรวมดํารอ้ งขอย้ายของผขู้ อย้ายท่ีเป็นข้าราชการ ในสังกดั และจากต่าง สาํ นักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา/สาํ นกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษา 4.2.2 ตรวจสอบคณุ สมบัติของผู้ขอยา้ ย 4.2.3 แยกดําร้องขอยา้ ยของผู้ขอยา้ ยภายในเขต/ตา่ งเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา 4.2.4 นาํ เสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่กี ารศกึ ษา เพือ่ อนมุ ัตแิ ละใหส้ ่งดาํ รอ้ งขอย้ายไป สพท. ปลายทาง กรณกี ารขอยา้ ยไปตา่ งเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา 4.2.5 จัดทําขอ้ มลู ผ้ขู อย้ายภายในเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา และผทู้ ่สี ่งคาํ รอ้ งขอย้ายมาจาก สพท. 4.2.6 ตรวจสอบตําแหน่งวา่ ง 4.3 สพท. มคี ําสัง่ แต่งตัง้ คณะกรรมการกลั่นกรองการยา้ ยข้าราชการครฯู ตาํ แหนง่ ศกึ ษานเิ ทศก์ พิจารณาการยา้ ย ก่อนนําเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพน้ื ที่การศึกษา 4.3.1 กศจ. พจิ ารณาอนุมตั ิ 4.3.2 ผู้มีอํานาจตามมาตรา 53 มคี าํ สง่ั ยา้ ยและแตง่ ต้ัง 4.3.3 แจ้งสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา และผู้ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 4.3.4 สง่ สําเนาคาํ สงั่ ให้สํานักงาน ก.ค.ศ. สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน 4.4 กรณตี า่ งเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษารบั ย้ายศึกษานเิ ทศก์ ในสังกัดดาํ เนินการดังนี้ 4.4.1 แจ้งคําสง่ั ให้ผ้ขู อย้ายและผู้เกยี่ วข้อง 4.4.2 ผู้ไดร้ บั การพิจารณายา้ ยมอบหมายงานในหน้าท่ี

-8– 4.4.3 สาํ นักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาส่งตวั ผไู้ ดร้ บั การพิจารณายา้ ย ไปสาํ นกั งานเขต พน้ื ทีก่ ารศกึ ษาท่รี บั ยา้ ยกรณกี ารย้ายขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ในตาํ แหนง่ ทม่ี วี ทิ ยฐานะเชีย่ วชาญ พเิ ศษ นน้ั อ.ก.ค.ศ. เขตพืน้ ท่กี ารศึกษาทรี่ บั ย้ายจะต้องเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณาอนุมัติ งานขอโอนขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา 1. ช่ืองาน งานขอโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ เปน็ แนวปฏบิ ตั กิ ารขอโอนข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาท่ถี ูกต้อง สนองตอบ ความ ต้องการชองหน่วยงาน และเป็นไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน การขอโอนขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาเป็นการตกลงกนั ระหวา่ งหนว่ ยงาน ผู้ใหโ้ อนและ ผรู้ บั โอน ซง่ึ ตอ้ งดาํ เนินการใหเ้ ป็นไปตาม มาตรา 57 แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบียบขา้ ราชการครแู ละ บุคลากร ทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และท่ีแก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2551 ระเบียบหลักเกณฑเ์ รอ่ื ง การโอนของ หนว่ ยงานน้ันๆ 4. คําจํากดั ความ การขอโอนขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา หมายถึง ข้าราชการครูและบคุ ลากร ทาง การศกึ ษาขอโอนไปหนว่ ยงานสว่ นราชการอื่น 5. ขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน 5.1 ผ้ปู ระสงค์ขอโอนยืน่ คาํ ขอโอนผา่ นผูบ้ งั คับบัญชาตามลําดับขั้น 5.2 สาํ นักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา ตรวจสอบ การลาศึกษาตอ่ การดาํ เนนิ การทางวินัย 5.3 สํานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา สง่ เรอ่ื งไปหน่วยงานปลายทาง 5.4 เมอ่ื สาํ นักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา/สํานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา ไตร้ บั แจง้ ผลการพิจารณารับโอนแล้ว จดั สง่ ข้อมูลของผู้ขอโอนและตกลงการโอนไปหน่วยงานที่รบั โอน 5.5 เมือ่ หนว่ ยงานรับโอนส่งคําสั่งรับโอนให้สาํ นักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เสนอ กศจ.พิจารณาอนุมัติให้โอน โดยผู้มีอํานาจตามมาตรา 53วันมีคําสั่งให้โอนมี ผลบังคบั ในวันเดียวกนั 5.6 สาํ นักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาแจง้ สถานศึกษาเพอ่ื แจ้งผู้ขอโอนทราบและมอบหมายงาน 5.7 สาํ นักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา สง่ ตวั ไป หนว่ ยงานทร่ี บั โอนแจง้ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง งานรบั โอนขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา 1.ชอื่ งาน รบั โอนขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 2.วัตถปุ ระสงค์ เพ่อื เป็นแนวปฏบิ ัติการรับโอนขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทีถ่ กู ต้อง สนองตอบ ความ ตอ้ งการของหนว่ ยงาน และเปน็ ไปตามหลักธรรมาภบิ าล

-9– 3. ขอบเขตของงาน การรบั โอนข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาจากต่างลงั กัด ได้แก่ สถานบนั การพล ศึกษา สงั กดั สํานกั งานคณะกรรมการอาชีวศึกษา สงั กัดสถาบนั บณั ฑิตพัฒนศิลป์ เปน็ ต้น ตอ้ งไดร้ บั อนุมัติ จาก อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา โดยผู้ขอ'โอนสมคั ร'ไจ ตน้ สังกดั ยินยอมในการให้โอนแลว้ ใหผ้ ู้มีอาํ นาจตาม มาตรา 53 ส่งั รบั โอน และตน้ สงั กัดสงั่ ให้พ้นจากตาํ แหนง่ หนา้ ทเ่ี ดิม ใหม้ ีผลในวนั เดยี วกัน 4. คาํ จาํ กัดความ การรบั โอนขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หมายถงึ การรบั โอนข้าราชการครแู ละ บุคลากรทางการศึกษาจากหนว่ ยงานส่วนราชการอ่ืน 5. ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 5.1 ผ้ปู ระสงค์ขอโอนยน่ื คําร้องผา่ นผู้บงั คบั บญั ชา ซ่ีงมีอาํ นาจให้โอนไปยังหน่วยงานที่ จะรับโอน (สาํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา/สํานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา) 5.2 สํานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา ทจี่ ะรับโอน ตรวจสอบคณุ สมบตั ิใหต้ รงตามตาํ แหนง่ ท่ีจะรบั โอนแลว้ นําเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา พจิ ารณา อนมุ ัติรับโอน 5.3 สํานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา ประสานหนว่ ยงานท่ใี ห้โอนและออกคําสั่งรบั โอน แลว้ ส่งคาํ ส่งั ไปหน่วยงานตน้ สงั กัด เพ่ือสง่ั ใหพ้ น้ จาก ตาํ แหนง่ หน้าทีแ่ ละอตั ราเงินเดือนทางสงั กดั เดมิ ผูไ้ ด้รับโอนมอบหมายงานในหนา้ ท่ี และรับหนงั สอื ส่งตวั พร้อมเอกสารท่ี เกยี่ วข้อง เดินทางไปรายงานตัวทางสาํ นักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา มัธยมศกึ ษา ทร่ี ับโอน งานแตง่ ตง้ั ผรู้ กั ษาการในตาํ แหนง่ 1. ช่ืองาน งานแตง่ ต้งั ผ้รู ักษาการในตําแหนง่ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื เป็นแนวปฏบิ ัตกิ ารแต่งตั้งผ้รู กั ษาการในตาํ แหนง่ ท่ีถกู ตอ้ ง สนองตอบความตอ้ งการของ หนว่ ยงาน และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 3. ขอบเขตของงาน การรกั ษาการในตําแหน่งเป็นการสั่งใหข้ ้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษารักษาการ ใน ตําแหนง่ กรณตี ําแหน่งข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาว่างลง หรือผู้ดาํ รงตําแหน่งไมส่ ามารถ ปฏบิ ัติ ราชการไต้ ซึง่ มิใช่ตาํ แหน่งทกี่ ําหนดไว้ในมาตรา 53 และมาตรา 54 แหง่ พระราชบญั ญตั ิระเบยี บ บริหารราชการ กระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. 2546 4. ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน 4.1 หน่วยงาน/สถานศึกษา พิจารณาตัวบุคคล เหตุผลและความจําเปน็ แลว้ นาํ เสนอขอ แต่งตั้งผรู้ ักษาการในตําแหนง่ 4.2 ผู้มีอํานาจตามมาตรา 53 ส่ังแต่งต้ัง 4.3 แจง้ หน่วยงานทีเ่ กยี่ วขอ้ ง

- 10 – งานแตง่ ตงั ผรู้ กั ษาราชการแทนผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา 1. ชื่องาน งานแตง่ ตง้ั ผูร้ ักษาราชการแทนผอู้ าํ นวยการสถานศกึ ษา 2. วัตถุประสงค์ ความต้องการของหนว่ ยงาน และเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน การแต่งต้งั ขา้ ราชการในสถานศึกษาเป็นผู้รกั ษาราชการแทนกรณีผู้อํานวยการสถานศึกษา และรอง ผ้อู ํานวยการสถานศึกษาไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ เป็นการชัว่ คราวหรือเป็นการล่วงหน้า 4. ข้ันตอนการปฏิบัตงิ าน ระดับสถานศกึ ษา ผู้อาํ นวยการสถานศึกษาพจิ ารณาข้าราชการในสถานศึกษาคนใดคนหนึ่งที่มีความเหมาะสม เสนอให้ ผอู้ าํ นวยการสาํ นักงานเขตพื้นที่การศกึ ษา แต่งต้งั เปน็ ผู้รักษาราชการแทนโดยแสดงเหตผุ ลและ ระยะเวลาในการ รกั ษาราชการแทน ระดบั เขตพนื้ ท่ีการศึกษา 1. พจิ ารณาความเหมาะสมข้าราชการทส่ี ถานศกึ ษาเสนอเพ่อื แต่งต้งั เปน็ ผู้รักษาราชการแทน 2. ผูอ้ าํ นวยการเขตพน้ื ที่การศึกษาสงั่ แต่งต้งั เป็นผูร้ ักษาราชการแทนผอู้ าํ นวยการสถานศึกษา งานแตง่ ตั้งผูร้ กั ษาราชการแทนผอู้ าํ นวยการสาํ นกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา 1. ชอื่ งาน งานแตง่ ตั้งผ้รู ักษาราชการแทนผอู้ ํานวยการสํานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื เปน็ แนวปฏบิ ตั กิ ารแตง่ ต้ังผรู้ กั ษาราชการแทนผู้อาํ นวยการสํานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา ท่ี ถูกตอ้ ง สนองตอบความตอ้ งการของหน่วยงาน และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 3. ขอบเขตของงาน การรกั ษาราชการแทนเป็นการใหข้ า้ ราชการที่ดาํ รงตําแหน่งมอี ํานาจและความรับผดิ ชอบใน ตาํ แหน่งน้นั เป็นการช่วั คราว ในกรณีท่ไี มม่ ีผดู้ ํารงตําแหน่งผอู้ าํ นวยการสํานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา หรอื มี แต่ไม่ อาจปฏบิ ตั ิหน้าทีร่ าชการไต้ ให้พิจารณารองผอู้ าํ นวยการสํานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา หรือ ผดู้ ํารงตําแหนง่ อน่ื เป็น ผู้รักษาราชการแทนตามพระราชบญั ญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546 4. ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 4.1 กรณีมรี องผ้อู าํ นวยการสํานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาหลายคน 1) สาํ นักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาเรียงลําดบั ตามความเหมาะสม 2) ผอู้ าํ นวยการสํานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา สง่ั แตง่ ตัง้ รักษาราชการแทน (ดําสั่งสาํ นักงานคณะกรรมการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน ท่ี 291/2547) โดยพจิ ารณาแตง่ ตงั้ รองผอู้ าํ นวยการคนใดคน หนงึ่ ท่ี เหมาะสม หรอื พิจารณาเรียงลาํ ดับไว้เปน็ การลว่ งหน้า 4.2 กรณไี มม่ รี องผอู้ าํ นวยการสํานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา หรือมแี ต่ไมส่ ามารถปฏิบัติ ราชการแทนได้ สํานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาเสนอข้าราชการในเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา ซงึ่ ดํารงตําแหนง่ เทียบเทา่ รอง ผอู้ ํานวยการสาํ นกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาหรือดํารงตําแหนง่ ไมต่ า่ํ กว่าผู้อาํ นวยการสถานศกึ ษา หรือเทียบเทา่ ข้นึ ไป ผอู้ ํานวยการสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาสง่ั แตง่ ตง้ั รักษาราชการแทน (ตามคําสั่ง สาํ นกั งานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน ท่ี 291/2547)

- 11 – งานทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ค (2) 1. ช่ืองาน งานทดลองปฏิบัติหนา้ ท่รี าชการของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ค (2) 2. วตั ถุประสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏบิ ตั กิ ารทดลองปฏบิ ัติหน้าท่ีราชการของขา้ ราชการครแู ละบุคลากร ทางการศกึ ษา ตามมาตรา 38 ค (2) ที่ถกู ต้อง สนองต่อความตอ้ งการของหน่วยงาน และเป็นไปตามหลัก ธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน ใหน้ าํ กฎ ก.พ.ฉบับท่ี 21 (พ.ศ. 2542) เร่ือง การประเมินการทดลองปฏบิ ัติหนา้ ทรี่ าชการมา ใช้กบั บุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2)โดยกาํ หนดใหม้ กิ ารพิจารณาประเมินผลการทดลอง ปฏิบัตหิ นา้ ที่ ราชการในรูปคณะกรรมการ ใหม้ กิ ารดแู ลผู้ทดลองปฏบิ ัติงาน เป็ดโอกาสใหผ้ ทู้ ดลองปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ราชการทีม่ ิผลการ ปฏบิ ัติงานตาํ่ กว่ามาตรฐาน หรือเกณฑ์ท่กี าํ หนดไต้ปรับปรุงตนเอง กาํ หนดการนับระยะเวลา ทดลองปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีให้ ซดั เจนย่ิงขน้ึ ซงึ่ มอบอํานาจให้ส่วนราชการเป็นผพู้ ิจารณากําหนดรายการประเมนิ วธิ กี าร ประเมินและมาตรฐาน หรือเกณฑก์ ารประเมินผลการปฏบิ ัตหิ น้าท่รี าชการตามความเหมาะสม ประกอบด้วยความรู้ ทีใ่ ชใ้ นการปฏิบัตหิ น้าที่ ความสามารถในการปฏิบตั งิ าน ปรมิ าณงาน คุณภาพของงาน ความอุตสาหะ ความ รบั ผดิ ชอบ ความสามารถในการ ปฏบิ ัติงานร่วมกบั ผูอ้ น่ื ความสนใจทจ่ี ะพัฒนาตนเอง คุณธรรม การปฏบิ ตั ิตน ตามกรอบจรรยาบรรณ และการรกั ษา วนิ ยั 4. ขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน 4.1 การดําเนนิ การของคณะกรรมการการประเมนิ ผลการทดลองปฏิบัติหน้าทร่ี าชการ ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน และกรรมการอกี 2 คน รวม 3 คนใน3 คน อย่างนอ้ ยตอ้ งแตง่ ตั้ง จากผมู้ ิ หนา้ ทีด่ ูแลการทดลองปฏบิ ตั ิหน้าทีร่ าชการ 1 คน และขา้ ราชการผู้ที่เก่ยี วข้องกับการปฏิบตั ิงานของ ผทู้ ดลองปฏบิ ัติ หนา้ ท่รี าชการ 1 คน ทาํ หนา้ ทป่ี ระเมนิ ผลการทดลองปฏิบัตหิ น้าท่รี าชการของผูท้ ดลองปฏิบตั ิ หน้าท่รี าชการตาม รายการประเมิน วิธีการประเมินและมาตรฐานหรอื เกณฑก์ ารประเมนิ ตามแบบประเมินผล การทดลองปฏิบตั ิหน้าที่ ราชการ ทส่ี ํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐานกาํ หนด คอื 4.2 ประเมนิ ผลการทดลองปฏบิ ตั หิ น้าท่ีราชการครั้งท่ี 1 เมอ่ื ผทู้ ดลองปฏิบตั ิหน้าท่ี ราชการไต้ ทดลองปฏบิ ตั ิหน้าท่ีราชการมาแล้วเปน็ เวลา 3 เดือน หากปรากฏว่า 4.2.1 ผลการประเมินต่าํ กว่าเกณฑ์หรือมาตรฐานท่กี ําหนด ประธานกรรมการ ประเมินผล การทดลองปฏิบตั ิหน้าท่ีราชการ รายงานผมู้ อิ ํานาจสั่งบรรจุ ตามแบบหมายเลข 1ผลการประเมนิ ไม่ต่าํ กวา่ เกณฑ์ หรือมาตรฐานที่กําหนด ใหเ้ ก็บผลการประเมิน ดงั กลา่ วไว้ แลว้ ประเมินอีกคร้งั หนง่ึ เมือ่ ทดลองปฏิบัติหนา้ ท่คี รบ 6 เดอื น 4.2.2 ประเมนิ ผลการทดลองปฏบิ ตั ิหน้าท่ีราชการครง้ั ท่ี 2 เมอ่ื ผทู้ ดลองปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ราชการทดลองปฏิบตั ิหน้าท่ีราชการครบ 6 เดอื นแลว้ ไม,วา่ ผลการประเมินจะตํ่าหรือไม่ตํา่ กว่าเกณฑ์ หรอื มาตรฐาน ท่ีกาํ หนด ใหป้ ระธานกรรมการประเมนิ ผลการทดลองปฏิบัติหนา้ ทรี่ าชการการรายงานผู้มี อาํ นาจส่ังบรรจตุ ามแบบ หมายเลข 1 ทกุ กรณี 4.2.3 ในกรณีทีค่ ณะกรรมการการประเมนิ ผลการทดลองปฏิบัติหน้าทรี่ าชการ พจิ ารณา เห็นว่าไมอาจพิจารณาประเมินผลการทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการแต่ละครั้งได้อย่างซัดแจ้ง เน่ืองจากผู้ทดลอง ปฏบิ ัติหน้าท่รี าชการไดล้ าราชการ ดงั น้ี 1) ลาคลอดบตุ ร 2) ลาป่วยจาํ เป็นต้องรกั ษาตัวเป็นเวลานาน

- 12 - 3) ลาปว่ ยเพราะประสบอันตรายในขณะปฏิบัตริ าชการตามหน้าทีห่ รือ ในขณะ เดินทางไปหรือกลบั จากปฏบิ ัติราชการตามหนา้ ที่ 4) ลาเข้ารับการตรวจเลือกหรอื เขา้ รบั การเตรยี มพล คณะกรรมการประเมินผลการทดลองปฏิบัติหนา้ ทร่ี าชการ จะประเมินผลรวม เม่อื ผู้นี้ พน้ ทดลองปฏิบตั หิ นา้ ท่ีราชการครบ 6 เดอื นแล้วก็ได้ 4.3 ในกรณที ผ่ี ู้มอี ํานาจส่ังบรรจุไดร้ บั รายงานผลการวา่ ผู้ทดลองปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ราชการมีผลการ ประเมินตา่ํ กว่าเกณฑ์หรอื มาตรฐานท่กี ําหนดแลว้ เหน็ ควรใหข้ ยายเวลาการทดลองปฏบิ ัติ หนา้ ทรี่ าชการของผ้นู น้ั ไปอีก 3 เดือน คณะกรรมการประเมินผลการทดลองปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีราชการจะต้อง ประเมินอีกครง้ั หน่งึ เมื่อสน้ิ สุด ระยะเวลาทีข่ ยายดังกลา่ ว แล้วใหป้ ระธานกรรมการประเมนิ ผลการทดลอง ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีราชการรายงานผู้มีอํานาจ ส่งั บรรจุ ตามแบบหมายเลข 1 4.3.1 ผลการประเมนิ ของคณะกรรมการประเมินผลการทดลองปฏิบตั ิหน้าที่ราชการ ให้เป็นไปตามเสียงขา้ งมาก กรรมการท่ีไม,เห็นด้วยอาจทําความเหน็ แยง้ ไว้ก็ได้ การดําเนินการของผมู้ หี นา้ ที่ ดูแล การทดลองปฏิบตั ิหน้าทีร่ าชการผู้มีหนา้ ทด่ี ูแลการทดลองปฏบิ ตั หิ น้าทีร่ าชการตามกฎ ก.พ. นี้ได้แก่ ผบู้ งั คบั บญั ชาผู้มหี น้าท่ีพัฒนาผู้อยูใ่ ตบ้ งั คบั บัญชาตามมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบ ขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ซึ่งหมายถงึ ผบู้ งั คับบัญชาทกุ ระดบั ทีม่ หี นา้ ท่รี ับผิดชอบในการ ควบคุมดูแลและ พฒั นาผ้ใู ต้บังคับบัญชาทอ่ี ย่ภู ายใต้การบังคับบัญชาโดยตรง รวมท้ังผ้ใู ต้บงั คับบญั ชาท่ี เพ่ิงย้ายหรือเปลยี่ นตําแหน่งซี่ งอย่ภู ายใต้การบงั คับบญั ชาของตน ผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ตามกฎหมายของผู้ทดลองปฏบิ ตั หิ น้าที่ ราชการ ใหม้ หี น้าทด่ี ูแลการทดลองปฏิบตั หิ น้าที่ราชการของ ข้าราชการผู้นัน้ กฎ ก.พ. น้ี กาํ หนดใหผ้ มู้ ีหน้าท่ีดแู ล การทดลองปฏิบัตหิ นา้ ทรี่ าชการมหี น้าท่ี ดงั นี้ 4.3.2 มอบหมายงานใหผ้ ทู้ ดลองปฏบิ ตั หิ น้าทรี่ าชการปฏบิ ัติ รวมท้ังเป็นผ้ใู ห้ คาํ ปรึกษ แนะนํา เสนอแนะและพฒั นาผ้ทู ดลองปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ราชการ ทั้งด้านความรู้ ทักษะ ทศั นคติ คุณธรรมและจรยิ ธรรม ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิหน้าที่ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพสูงสดุ 4.3.3 แจง้ ใหผ้ ้ทู ดลองปฏิบตั ิหนา้ ท่ีราชการทราบอย่างซดั เจน เกี่ยวกับวธิ ีปฏิบัติงาน การ ประพฤติตน รายการประเมิน วิธกี ารประเมิน และมาตรฐานหรือเกณฑ์การประเมินผลการทดลองปฏิบตั ิ หนา้ ท่ี ราชการ ท่สี ํานกั งานคณะกรรมการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานกาํ หนด 4.3.4 รว่ มเปน็ กรรมการการประเมนิ ผลการทดลองปฏบิ ัตหิ น้าทรี่ าชการของผทู้ ดลอง ปฏิบัติหน้าทรี่ าชการท่อี ยู่ในความดูแล 4.4 การดาํ เนนิ การชองผูท้ ดลองปฏิบัตหิ น้าทรี่ าชการ 4.4.1 ปฏิบัติหนา้ ทีร่ าชการตามทีผ่ ู้มิหน้าทีด่ ูแลการทดลองปฏบิ ตั หิ น้าทร่ี าชการ มอบหมาย 4.4.2 รายงานการปฏบิ ัตหิ น้าทร่ี าชการดังกล่าว เสนอผ้มู หิ นา้ ท่ดี แู ลการทดลอง ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ราชการ ตามแบบรายงานการปฏิบตั หิ น้าท่ีราชการชองผู้ทดลองปฏบิ ตั ิหนา้ ทีร่ าชการท่สี ํานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพน้ื ฐานกําหนด 4.5 การดําเนินการชองผูม้ ิอาํ นาจสง่ั บรรจุ 4.5.1 พิจารณาและออกคาํ ส่ังแตง่ ต้งั คณะกรรมการประเมนิ ผลการทดลองปฏิบัติหน้าท่ี ราชการ 4.5.2 พิจารณาวนิ ิจฉัยใหค้ วามเหน็ และสง่ั เกตุการณ์เมือ่ ไดร้ บั รายงานผลการประเมนิ จากคณะกรรมการการประเมินผลการทดลองปฏบิ ัติหนา้ ท่ีราชการ

- 13 – งานลาออกจากราชการของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 1. ช่ืองาน งานลาออกจากราชการของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2. วัตถุประสงค์ เพอ่ื เป็นแนวปฏบิ ัติการลาออกจากราชการของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ทีถ่ กู ตอ้ ง สนองตอบความต้องการของหน่วยงาน และเป็นไปตามหลกั ธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน การออกจากราชการของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา เป็นการใหข้ ้าราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษา พน้ จากตําแหน่งหนา้ ท่ตี ามทก่ี ฎหมายกาํ หนด พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู และ บคุ ลากรทาการศกึ ษา พ.ศ.2547 ไต้กาํ หนดเหตุทอ่ี อกจากราชการไว้หลายกรณี การลาออกจากราชการ เปน็ วธิ ีการ หนึ่งของการลาออกจากราชการ ซงึ่ เป็นไปตามความประสงคข์ องบคุ คลน้นั ๆ ซง่ึ ในการดําเนนิ การมี ระเบยี บ/ หลกั เกณฑ/์ วิธกี ารกําหนด'ไว้ 4. ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน 4.1 ผูป้ ระสงค์ขอลาออกจากราชการ ยนื่ หนงั สอื ขอลาออกจากราชการ (ตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กําหนด) ต่อผู้บังคับบัญชา โดยให้ยื่นล่วงหน้าก่อนวันลาออกไม1น้อยกว่า 30 วัน กรณียื่นล่วงหน้าน้อยกว่า 30 วัน หากผู้มีอํานาจอนุญาตการลาออกเห็นว่ามีเหตุผลและความจําเป็น จะอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ย่ืน หนงั สอื ลาออกจากราชการนอ้ ยกว่า 30 วันกไ็ ต้ 4.2 หนว่ ยงาน/สถานศกึ ษา รับเรอ่ื งการขอลาออกจากราชการ 4.3 สํานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา รบั เรือ่ ง การขอลาออกจากราชการ ตรวจสอบหนังสอื ขอลาออกจากราชการ ยืน่ ลว่ งหน้าก่อนวันลาออก ตามเกณฑ์น้อยกว่า 30 วัน หรือไม่ 4.4 เจา้ หน้าทด่ี ําเนนิ การตรวจสอบขอ้ มลู ประกอบการนําเสนอผมู้ ีอํานาจ 4.4.1 กรณดี ําเนนิ การทางวินยั 4.4.2 กรณกี ารลาศึกษาตอ่ /การซดใช้ทนุ 4.4.3 การเปน็ /ไมเ่ ป็นสมาซิก กบข. 4.5 เสนอผมู้ อี าํ นาจตามมาตรา 53 พจิ ารณาอนุญาต/ไมอ่ นญุ าตให้ลาออกจากราชการ 4.5.1 กรณอี นุญาตให้ลาออก ผู้มอี ํานาจตามมาตรา 53 มีคําส่ังอนุญาตให้ลาออกจากราชการ 4.5.2 กรณียบั ยัง้ การอนุญาตให้ลาออก ผมู้ ีอาํ นาจการลาออกมคี ําสัง่ ยบั ยั้งการอนญุ าตให้ ลาออกเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรให้เสร็จส้ินก่อนวันขอลาออก 4.6 แจ้งใหผ้ ูข้ อลาออกจากราชการทราบกอ่ นวันขอลาออกและหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ ง การคดั เลือกราชการให้ดํารงตาํ แหน่งบุคลากรทางการศึกษาอนื่ ตามมาตรา 38 ค.(2) ให้ดาํ รงตาํ แหน่งสาํ หรบั ผปู้ ฏิบตั งิ านทมี่ ปี ระสบการณ์ ตาํ แหนง่ ประเภทวชิ าการระดบั ชํานาญการพิเศษลงมา 1. ช่อื งาน การคัดเลอื กขา้ ราชการให้ดํารงตําแหน่งบคุ ลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ให้ดํารง ตาํ แหนง่ สาํ หรบั ผู้ปฏบิ ัติงานท่มี ปี ระสบการณ์ ตาํ แหน่งประเภทวชิ าการระดับชาํ นาญการพิเศษลงมา 2. วตั ถุประสงค์ เพ่ือเปน็ แนวปฏิบตั ใิ นการคัดเลือกข้าราชการให้ดาํ รงตาํ แหนง่ บุคลากรทางการศกึ ษาอนื่ ตาม มาตรา 38 ค.(2) ตามหนังลือสํานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.5/ว 7 ลงวันที่ 21 เมษายน 2552 ให้นาํ หลักเกณฑต์ ามหนงั ลือสาํ นักงาน ก.พ. ท่ี นร 1006/ว 10 ลงวนั ที่ 15 กันยายน 2548 มาใช้

- 14 – 3. ขอบเขตของงาน เป็นการพิจารณาคัดเลอื กท้งั ตําแหน่งวา่ งและตาํ แหน่งทม่ี ผี ูค้ รอง 4. ขนั้ ตอนการปฏิบัตงิ าน 4.1 เสนอ กศจ. พจิ ารณา ดงั นี้ 1) กาํ หนดหลกั เกณฑ์และวธิ ีพจิ ารณาคดั เลอื กบคุ คล และการประเมนิ บคุ คล 2) แตง่ ต้งั คณะกรรมการคดั เลือก 4.2 ประกาศหลักเกณฑแ์ ละวิธีการคดั เลือกบคุ คลใหข้ ้าราชการในลังกดั ทราบ 4.3 ตรวจสอบขอ้ มลู อตั ราว่างและกําหนดคุณสมบัติผสู้ มคั ร 4.4 ประกาศรบั สมัคร 4.5 รบั สมคั ร 4.6 ตรวจคุณสมบตั ิผู้สมคั ร 4.7 ประกาศรายซื่อผู้สมคั ร 4.8 คณะกรรมการดาํ เนนิ การคดั เลอื ก 4.9 ประกาศรายซอื่ ผู้ไดร้ บั การคดั เลือกพรอ้ มซือ่ ผลงานที่จะส่งประเมนิ พรอ้ มทง้ั เคา้ โครงเรื่อง สว่ นของผลงาน และกาํ หนดใหม้ ิการทกั หว้ งภายใน 30 วนั นบั ตั้งแตว่ นั ประกาศ 4.10 เสนอ กศจ.พจิ ารณาอนุมตั แิ ต่งตงั้ ขา้ ราชการผู้ได้รบั การคดั เลือก 4.11 แตง่ ตัง้ ข้าราชการใหด้ ํารงตําแหน่ง 1) การแตง่ ตัง้ (ย้าย) ผู้ได้รบั การคัดเลอื กระดบั เดียวกัน ใหผ้ มู้ ิอาํ นาจสง่ั บรรจุและ แต่งตั้ง ตามมาตรา 53 มิคําสั่งแตง่ ต้ังให้ดาํ รงตาํ แหน่ง 2) การแต่งตงั้ (เล่อื น) ให้ดํารงตําแหนง่ สูงขึ้น ใหผ้ มู้ ีอาํ นาจสั่งบรรจุและแต่งต้งั ตาม มาตรา 53 มีคาํ ส่ังแต่งตงั้ ใหร้ ักษาการในตําแหนง่ เพ่อื สง่ ผลงานเข้าสู่ตาํ แหน่ง และหากผ่านการประเมินผล งานแลว้ จงึ จะมี ดาํ สงั่ แต่งตงั้ (เล่อื น) ให้ดํารงตาํ แหน่งต่อไปการแต่งตงั้ (เลอื่ น) ใหด้ าํ รงตาํ แหนง่ สูงขน้ึ ใหผ้ ู้มอี าํ นาจส่ังบรรจุและ แต่งตั้งตาม มาตรา 53 มคี ําสงั่ แตง่ ตัง้ ให้รักษาการในตําแหนง่ เพอ่ื สง่ ผลงานเขา้ สตู่ าํ แหน่ง และหากผา่ นการ ประเมินผล งานแลว้ จงึ จะมดี าํ สั่งแต่งตั้ง (เล่อื น) ให้ดาํ รงตาํ แหน่งตอ่ ไป ---------------------------------------

คมู่ ือปฏิบตั ิงาน ของ นางสณุ ี พึง่ แก้ว นักทรพั ยากรบคุ คลชาํ นาญการพเิ ศษ กลมุ่ บริหารงานบุคคล สาํ นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสระบุรี เขต 1 ------------------------------------------- งานบรหิ ารอตั รากาํ ลงั ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาใน สพท. 1. ช่ืองาน งานบริหารอัตรากําลงั ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาในสาํ นักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา 1.1 กรณีเกษียณอายรุ าชการเม่ือสน้ิ ปีงบประมาณ 1.2 กรณีเข้ารว่ มมาตรการปรบั ปรุงอัตรากําลงั ชองส่วนราชการ (โครงการเกษยี ณอายุก่อนกาํ หนด) 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ บรหิ ารอตั รากาํ ลงั ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในสาํ นักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา 3. ขอบเขตของงาน การจดั สรรอัตรากําลงั ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาท่ไี ดร้ บั จดั สรรคืน กรณี เกษียณอายุ ราชการเมอื่ สน้ิ ปงี บประมาณ , กรณีเข้ารว่ มมาตรการปรบั ปรงุ อัตรากาํ ลงั ชองส่วนราชการ (โครงการเกษยี ณอายุ ก่อนกําหนด) 4. คาํ จํากัดความ ตําแหนง่ เกษียณอายรุ าชการ(เกษียณปกติ)หมายถงึ ตําแหน่งทีม่ คี นครองทเี่ กษียณอายเุ ม่ือส้นิ ปี งบประมาณและตาํ แหนง่ ว่างจากเหตุอน่ื ชองผ้คู รองตาํ แหนง่ ที่จะเกษยี ณอายุราชการเมื่อสนิ้ ปีงบประมาณในปีน้ัน ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาในสาํ นกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาหมายถงึ ตําแหน่ง บุคลากรทางการศึกษา อน่ื ตามมาตรา 38ค(2) และศกึ ษานเิ ทศก์ 5. ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงาน 5.1 ตรวจสอบความถูกต้องชองตาํ แหน่งท่ีเกษยี ณอายรุ าชการและเกษยี ณอายุก่อนกําหนด 5.2 จดั ทําบัญชีรายละเอียดตามแบบฟอรม์ แจ้งสาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาช้นั พ้นื ฐาน 5.3 ดาํ เนนิ การตามแนวปฏิบัติชองสํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาช้นั พื้นฐานทีแ่ จ้งในแตล่ ะปี ตามหนงั สือสาํ นกั งานคณะกรรมการศึกษาช้ันพ้ืนฐาน และให้รอผลการพจิ ารณาจัดสรรอตั รา ดังนี้ 5.3.1 ตาํ แหนง่ ผู้อํานวยการสาํ นกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา, รองผูอ้ ํานวยการสํานักงาน เขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา (โครงสรา้ ง) - กรณเี กษียณอายุราชการ หาตําแหนง่ ยบุ เลิกทดแทนตาํ แหนง่ เกษยี ณอายุราชการ - กรณเี กษยี ณอายกุ อ่ นกําหนด ให้ดาํ เนินการตามหนังสอื สาํ นักงาน คณะกรรมการ การศกึ ษาช้นั พ้นื ฐานทแี่ จง้ ในแตล่ ะปี 5.3.2 ตําแหนง่ รองผูอ้ ํานวยการสาํ นักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา (เงอ่ื นไข), เจา้ หนา้ ทบี่ ริหาร การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กรณเี กษยี ณอายรุ าชการ และกรณเี กษยี ณอายกุ อ่ นกําหนดให้สงวนตําแหนง่ ไว้พรอ้ ม รายงาน ตําแหนง่ สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานตําแหน่งว่างของบุคลากรทางการศกึ ษาอื่น ตามมาตรา38 ค (1) และ (2) กรณีเกนิ รอ้ ยละ70 ของกรอบให้รายงานสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานและสงวนตําแหนง่ ไว้ เพ่ือเกล่ียให้ สาํ นกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาทขี่ าดอตั รากําลังมากกวา่ รอ้ ยละ 70 ต่อไป 5.3.3 ตาํ แหนง่ บคุ ลากรทางการศกึ ษาอ่นื ตามมาตรา 38ค.(2) - กรณเี กษยี ณอายุราชการ ใหแ้ จง้ ตําแหน่งยบุ เลกิ ทดแทนตําแหนง่ เกษียณอายุ ราชการแลว้ รอแจง้ ผลการจดั สรรจากสาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน

-2- - กรณเี กษียณอายกุ ่อนกําหนด ใหด้ ําเนินการตามหนังสือสํานกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน หมายเหตุ : กรณมี ีอัตราว่างจากการเกษยี ณ สามารถนําอตั ราไปไซได้ แต่ตอ้ งหาอัตราวา่ งที่มีความ สาํ คัญนอ้ ยกวา่ มายบุ เลิกแทนตําแหน่ง 1. บคุ ลากรทางการศกึ ษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน แจง้ ผลการจัดสรรใหส้ ํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาตน้ ทางเจ้าของตาํ แหนง่ ตรวจสอบตําแหนง่ และขออนมุ ตั ิ อ.ก.ค.ศ.เขต พน้ื ทกี่ ารศกึ ษาอนุมตั ติ ดั โอนตาํ แหนง่ และอตั ราเงนิ เดอื นไปกําหนดท่ีสาํ นกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาปลายทางท่ไี ดร้ บั จดั สรรตําแหนง่ 2. ตาํ แหน่งบคุ ลากรทางการศกึ ษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) สาํ นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาทีไ่ ด้รับ จดั สรรตาํ แหนง่ ใหก้ าํ หนดเป็นตําแหน่งใหมใ่ นกรอบที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด และนําเสนอ กศจ. พิจารณาอนุมตั ิและ ดําเนินการออกคาํ สั่งตดั โอนตาํ แหนง่ วา่ งที่ไดร้ ับจดั สรรพรอ้ มสง่ คาํ ส่งั ไปสํานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาตน้ ทางแจง้ หนว่ ยงานที่เกี่ยวขอ้ ง งานบริหารพนักงานราชการหรือลูกจา้ งชวั่ คราว 1. ชื่องาน งานบริหารพนักงานราชการหรือลูกจา้ งช่วั คราวตามกรอบทีไ่ ด้รบั จัดสรรไดร้ บั การอนุมตั จิ าก สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาชน้ั พืน้ ฐาน 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื บริหารอตั รากําลังพนกั งานราชการตามกรอบที่ได้รบั การอนมุ ัติจากสาํ นักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาช้ันพืน้ ฐานในสํานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา 3. ขอบเขตของงาน การบรหิ ารอตั รากําลังพนกั งานราชการตามกรอบทไี่ ดร้ ับการอนมุ ตั จิ ากสํานกั งานคณะกรรมการ การศึกษาชั้นพ้ืนฐานในสํานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาเพอื่ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารอัตรากาํ ลังเพื่อการบรหิ าร จัดการศึกษา 4. คําจํากัดความ 4.1 การบรหิ ารพนักงานราชการ หมายถึง การพิจารณาจัดสรรอตั ราพนกั งานราชการใหห้ นว่ ยงาน การศกึ ษา ตามความชาดแคลน ความจาํ เปน็ เร่งด่วนเพอ่ื ให้เกิดประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจัดการศึกษา 4.2 การบรหิ ารลูกจ้างชว่ั คราว หมายถึง การพิจารณาจดั สรรอตั ราพนักงานราชการให้หน่วยงาน การศึกษาตามความชาดแคลน ความจําเป็นเร่งด่วนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาพิจารณาตาม ลกั ษณะงานทป่ี ฏบิ ัตเิ พ่อื การบริหารและการจัดการศกึ ษา 5. ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน 5.1 จดั ทาํ ทะเบียนอัตรากาํ ลงั พนักงานราชการ/ลกู จา้ งชั่วคราวทัง้ ทมี่ อี ยู่เดิมและได้รบั การจัดสรรให้ 5.2 เมอ่ื สิ้นปงี บประมาณใหแ้ ตง่ ตง้ั คณะกรรมการพจิ ารณาความจาํ เป็นและความชาดแคลนอตั รา กาํ ลงั ช้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในหน่วยงานทางการศกึ ษาตามเกณฑ์อตั รากําลังที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด 5.3 แจง้ มติคณะกรรมการบรหิ าร พนกั งานราชการ/ลกู จ้างช่วั คราวดังน้ี 5.3.1 พนักงานราชการ/ลกู จ้างชั่วคราวทใ่ี หค้ งจดั สรรไวใ้ นโรงเรยี นทีจ่ ดั สรรไวเ้ ดิม 5.3.2 พนกั งานราชการ/ลูกจา้ งชั่วคราวที่ใหเ้ กล่ียไปกาํ หนดในหน่วยงานทางการศึกษาใหม่

-3– 5.3.3 พนกั งานราชการ/ลูกจ้างชว่ั คราวที่ไดร้ บั การจัดสรรตามข้อ 5.3.1. ทผี่ ่านการประเมิน ใหห้ น่วยงานทางการศึกษาจัดทําสัญญาจ้าง/คาํ สั่งจา้ ง 5.3.4 พนกั งานราชการ/ลูกจ้างชั่วคราวที่ไดร้ บั การจดั สรรตามข้อ 5.3.2 ท่ผี ่าน การประเมิน ใหห้ น่วยงานทางการศกึ ษาท่ไี ดร้ บั การจัดสรรเกล่ยี มากาํ หนดใหมจ่ ัดทาํ สญั ญาจ้าง/คําสงั่ จา้ ง 5.3.5 แจง้ มตทิ ่ปี ระชุมคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ/ลูกจ้างชวั่ คราวให้ผู้เก่ยี วขอ้ ง ในกลุม่ บริหารงานบุคคลและต่างกลมุ่ การประเมนิ คา่ งานเพ่ือขอกาํ หนดตาํ แหนง่ บุคลากรทางการศกึ ษาอน่ื ตามมาตรา 38ค (2) 1. ช่ืองาน การประเมนิ ค่างานเพ่ือขอกาํ หนดตําแหนง่ บุคลากรทางการศึกษาอ่นื ตามมาตรา 38ค (2) 2. วตั ถุประสงค์ เพ่อื การประเมินค่างานเพ่อื ขอกําหนดตําแหนง่ บุคลากรทางการศึกษาอ่นื ตามมาตรา 38ค (2) เปน็ ไปตามแนวปฏิบตั ทิ ่ี ก.ค.ศ.กําหนด 3. ขอบเขตของงาน การประเมินค่างานเพอ่ื วัดคุณภาพงานของตาํ แหนง่ ตามลกั ษณะงาน หนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบ คุณภาพและความย่งุ ยากของงาน ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ท่ีต้องการในการปฏบิ ัตงิ าน โดยกําหนด องคป์ ระกอบการประเมนิ คา่ งาน 4 ด้าน คอื 1. หน้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบ 2. ความยุ่งยากชองงาน 3. การกํากับ ตรวจสอบ 4. การตัดสินใจ โดยจาํ แนกหลกั เกณฑ์การประเมินคา่ งานตามประเภท ตาํ แหนง่ 4. คําจาํ กดั ความ การประเมนิ คา่ งาน หรอื JobsEvaluation (JE.) คือการนาํ เอา \"งาน\" แต่ละตาํ แหนง่ มา ชงั่ นํา้ หนัก หรอื วัด ความยาก-งา่ ย-สําคญั กบั องคก์ ร โดยใช้เทคนิคซึ่งมีหลายเทคนิคท่ีเรียกวา่ \"เทคนคิ ประเมนิ คา่ งาน\" วา่ ความจริง หรอื จรงิ ๆ แลว้ \"งาน\" มิค่าหรอื หนักเทา่ ไร (งานยาก-งา่ ย-สาํ คญั กบั องคก์ รมาก เพยี งใด) ในความหมายตามหนังสือสาํ นักงาน ก.พ. ที่ นร 1008/ว 17 ลงวนั ท่ี 2 กรกฎาคม 2552 หน้าทแี่ ละความรบั ผิดชอบ คณุ ภาพและความย่งุ ยากของงาน เปลีย่ นแปลงไปจากเดิม สมควรทจี่ ะกาํ หนด ตําแหน่งสงู ขน้ึ หรือไม่ การกําหนดตาํ แหน่ง หมายถงึ การกาํ หนดใหม้ ิตาํ แหน่งในส่วนราชการใด จํานวนเทา่ ใด และเป็น ตําแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด และใหห้ มายความรวมถึง การปรบั ปรุงการกําหนดตาํ แหนง่ การเกลี่ย อตั รากาํ ลงั (การตดั โอนตําแหน่งและอัตราเงนิ เดือน) การเปลี่ยนซอ่ื ตาํ แหน่งในสายงาน การเปลีย่ น ดา้ นความ เชีย่ วชาญ การปรบั ปรงุ การกําหนดตาํ แหนง่ สาํ หรับผู้ปฏบิ ตั งิ านประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป โดยไมเ่ ปล่ียน ประเภทตําแหน่งและสายงาน และกรณอี ่ืน ๆ ทีก่ าํ หนดตามหนงั สือนี้โดยการกําหนด ตาํ แหน่ง ตอ้ งคาํ นงึ ถึง ประสทิ ธภิ าพ ประสิทธผิ ล ความไมซ่ ้าํ ซอ้ นและประหยัดเป็นหลัก รวมทง่ั จะต้องเปน็ ไปตามกฎ ก.พ. ว่าดว้ ย หลักเกณฑก์ ารจัดประเภทตําแหน่งและระดบั ตาํ แหนง่ พ.ศ. 2551 และมาตรฐานกําหนดตําแหน่ง 5. ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน สํานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา ศกึ ษา วิเคราะห์ บทบาท ภารกิจ หนา้ ที่และความรบั ผดิ ขอบ การจดั โครงสร้าง และการแบง่ งานภายในของสว่ นราชการ เหตผุ ลและความจาํ เปน็ ในการกาํ หนดตาํ แหนง่ (ประเภท สายงาน ระดบั จํานวน) เพ่อื ปฏบิ ตั ิภารกจิ ใหบ้ รรลผุ ลสมั ฤทธต์ิ ามวัตถปุ ระสงค์และเป็นหมายของสว่ นราชการ โดย คาํ นึงถึงประสิทธภิ าพ ประสทิ ธิผล ความไมซ่ ้ําซ้อนและประหยดั เป็นหลกั

-4– งานให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษามีหรือเลอ่ื นวิทยฐานะชาํ นาญการ 1. ซอ่ื งาน งานใหข้ า้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษามีหรือเลอ่ื นวิทยฐานะชาํ นาญการ 2. วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื ใหส้ ํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถปฏบิ ัติตามหลักเกณฑ์และ วธิ ีการท่ี ก.ค.ศ.กาํ หนดเกี่ยวลบั การให้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษามหี รือเลอื่ นวทิ ยฐานะ 3. ขอบเขตของงาน ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบญั ญัตริ ะเบียบขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กําหนดให้ตําแหน่งขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาเปน็ ตาํ แหนง่ ทมี่ ีวิทยฐานะ และ มาตรา 42 กาํ หนดให้ การมีวทิ ยฐานะตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการที่ ก.ค.ศ.กําหนด 4. คาํ จํากดั ความ วทิ ยฐานะ หมายถึง วทิ ยฐานะของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตามมาตรา 39 แห่ง พระราชบัญญัติระเบยี บข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กําหนดให้เป็นตําแหนง่ ทมี่ ี วิทยฐานะ ดังน้ี ก. ตําแหน่งครู มีวทิ ยฐานะ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ครชู ํานาญการ 2) ครูชาํ นาญการพิเศษ 3) ครเู ชย่ี วชาญ 4) ครเู ชยี่ วชาญพิเศษ ข. ตาํ แหน่งผบู้ ริหารสถานศกึ ษา มีวิทยาฐานะ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1) รองผอู้ าํ นวยการชาํ นาญการ 2) รองผู้อํานวยการชํานาญการพิเศษ 3) รองผอู้ ํานวยการเชีย่ วชาญ 4) ผอู้ ํานวยการชาํ นาญการ 5) อาํ นวยการชาํ นาญการพเิ ศษ 6) ผอู้ ํานวยการเชีย่ วชาญ 7) ผู้อาํ นวยการเชีย่ วชาญพเิ ศษ ค. ตาํ แหนง่ ผบู้ ริหารการศึกษา มวี ิทยฐานะ ดงั ต่อไปน้ี 1) รองผอู้ ํานวยการสํานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาชาํ นาญการพเิ ศษ 2) รองผอู้ าํ นวยการสาํ นักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาเช่ยี วชาญ 3) ผู้อาํ นวยการสํานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาเชยี่ วชาญ 4) ผู้อาํ นวยการสาํ นักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาเชยี่ วชาญพิเศษ ง. ตําแหน่งศึกษานิเทศก์ มวี ทิ ยฐานะ ดังต่อไปน้ี 1) ศกึ ษานเิ ทศก์ชาํ นาญการ 2) ศกึ ษานิเทศก์ชํานาญการพเิ ศษ 3) ศึกษานเิ ทศกเ์ ชีย่ วชาญ 4) ศึกษานิเทศกเ์ ช่ยี วชาญพิเศษ

-5– การประเมนิ ด้านที่ 1 หมายถึง การประเมินดา้ นวนิ ัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี การประเมนิ ด้านท่ี 2 หมายถงึ การประเมินดา้ นความรคู้ วามสามารถ การประเมนิ ด้านท่ี 3 หมายถึง ด้านผลการ ปฏบิ ัตงิ าน 5. ขั้นตอนการปฏิบัตงิ าน การดาํ เนินการประเมนิ ให้มวี ทิ ยฐานะชํานาญการ ข้นั ตอนท่ี 1 ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ยน่ื แบบคาํ ขอและเอกสารตอ่ ผู้บงั ดับบญั ชา ข้นั ดน้ และหนว่ ยงานดน้ สังกัดรวบรวมแบบคําขอและเอกสารส่ง สพท. ขนั้ ตอนท่ี 2 สพท.ตรวจรบั หนงั สอื คาํ ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการ ศกึ ษาจากหนว่ ยงาน ตน้ สงั กัด ลงทะเบยี นรบั เรอื่ งคําขอ ตามลําดับรันที่สาํ นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา/สว่ นราชการ รบั เร่ือง และ ดําเนนิ การตามลาํ ดับการรบั เร่อื ง กรณเี อกสารไมค่ รบถว้ นสมบูรณ์ไหส้ ง่ คาํ ขอคนื ตน้ สงั กดั และผู้ขอ ขน้ั ตอนที่ 3 สพท.แตง่ ต้ังคณะกรรมการตรวจสอบคณุ สมบัติ และเอกสารหลักฐาน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด ข้นั ตอนที่ 4สพท.แตง่ ตง้ั คณะกรรมการประเมินฯ โดยความเห็นชอบของ กศจ. เพ่ือประเมนิ ด้านที่ 1 ด้านที่ 2 และดา้ นท่ี 3 ตามองศป์ ระกอบของคณะกรรมการที่ ก.ค.ศ.กําหนด ขั้นตอนที่ 5 คณะกรรมการประเมินฯ ประเมินผู้ย่ืนคําขอจากเอกสารหลักฐาน รวมทั้งการ ปฏิบัติจริง ณ หน่วยงานต้นสังกัด ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กําหนด / สรุปรายงานผลการ ประเมินฯ ทง้ั 3 ดา้ น แจ้ง สพท. ขนั้ ตอนที่ 6 สพท.ตรวจสอบผลการประเมนิ ฯ จัดทําแบบสรุปผลการประเมินรายบุคคลเสนอ กศจ. เพ่ืออนุมัตผิ ลการประเมิน ข้ันตอนท่ี 7 กรณที ี่ 1 ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑ์การประเมินที่ ก.ค.ศ.กาํ หนด ทง้ั 3 ดา้ นใหน้ าํ ผล การประเมนิ เสนอ กศจ. เพ่อื อนุมตั ผิ ลการประเมนิ ฯ -----------------------------------

คมู่ อื ปฏิบัติงาน ของ นางเตือนใจ จลุ ละครนิ ทร์ นกั ทรพั ยากรบคุ คลชาํ นาญการ กล่มุ บริหารงานบคุ คล สาํ นกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสระบรุ ี เขต 1 --------------------------------- งานเลือ่ นเงินเดอื นขา้ ราชการ 1. ช่อื งาน งานเลอ่ื นเงนิ เดือนข้าราชการ 2. วตั ถุประสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏบิ ัตกิ ารดําเนินการ เล่อื นเงนิ เดอื นขา้ ราชการ 3. ขอบเขตของงาน การดําเนนิ การเล่อื นเงินเดอื นขา้ ราชการ ตามแนวปฏิบัตทิ ่ีสาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐานกําหนด ตามที่ ก.ค.ศ.กาํ หนด 4. คําจํากดั ความ เลือ่ นเงนิ เดือน หมายถงึ การเลื่อนเงนิ เดอื นตามท่ี ก.ค.ศ.กาํ หนดตามผลการประเมินและ การ ปฏบิ ัติราชการ 5.ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 5.1 จัดทําขอ้ มลู ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา เรื่องการนบั มตี วั ณ วนั ที่ 1 มนี าคม และ 1 กันยายน พรอ้ มจาํ นวนเงินรวม และวงเงิน 3% ในการเล่ือนเงนิ เดือนเพ่ือรายงาน สพฐ. 5.2 แต่งตั้งคณะกรรมการตามทก่ี าํ หนดในแนวปฏิบัตขิ อง สพฐ. 5.3 นาํ วงเงินทไี่ ด้รับจดั สรรจาก สพฐ. และทีไ่ ดร้ บั จัดสรร (เพ่ิมเติม) เสนอคณะกรรมการบรหิ าร วงเงิน ระดบั สพท. พรอ้ มทงั้ ประกาศหลักเกณฑก์ ารจดั สรรวงเงินใหข้ า้ ราชการใน สพท.ทราบ 5.4 ดาํ เนนิ การพิจารณาเลือ่ นเงนิ เดอื นของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ภายในวงเงิน ท่ไี ดร้ ับจดั สรรจาก สพฐ. 5.5 สง่ ผลการพิจารณาเล่อื นเงนิ เดอื นข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาประกอบการ พิจารณาของผู้มอี าํ นาจส่งั เลอ่ื นเงินเดือน เพ่ือนําเสนอ กศจ.ให้ความเหน็ ชอบ 5.6 รายงานผลการเล่อื นเงินเดือนข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาให้ สพฐ.ทราบตาม แบบฟอร์ที่ สพฐ.กําหนด การเล่ือนค่าจา้ งลูกจา้ งประจาํ 1.ชอ่ื งาน งานเลื่อนค่าจ้างลกู จา้ งประจาํ 2. วตั ถุประสงค์ เพือ่ เปน็ แนวปฏบิ ัตกิ ารดาํ เนินการ เล่อื นคา่ จา้ งลกู จา้ งประจาํ ในสถานศึกษา/สํานกั งานเขต พืน้ ท่ี การศึกษาประถมศึกษา/สํานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา 3. ขอบเขตของงาน เลอื นค่าจา้ งลกู จา้ งประจํา ตามแนวปฏบิ ตั ิสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน กาํ หนด 4. คาํ จํากัดความ คา่ จา้ งเปน็ ไปตามอตั ราค่าจา้ ง ประเภท ตาํ แหน่ง ลูกจา้ งทีถ่ ือปฏบิ ตั ิสาํ หรบั ลูกจา้ ง สว่ นราชการ

-2– 5. ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน 5.1 สาํ นกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา กําหนดปฏิทินการดาํ เนนิ การเลือ่ นเงินคา่ จ้างลูกจา้ งประจํา 5.2 สํานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา กาํ หนดปฏิทินการดาํ เนนิ การเล่ือนเงนิ ค่าจา้ งลกู จ้างประจําดําเนินการนบั ตัวลูกจ้างท่ีปฏิบัตจิ ริง ณ วนั ท่ี 1 ม.ี ค. หรอื ก.ย.เพ่อื ดาํ เนินการเลอ่ื นคา่ จ้างลูกจ้างประจาํ ครง้ั ท่ี 1 (1 เม.ย.หรอื ครั้งที่ 2 (1 ต.ค.)แล้วแต่กรณี 5.3 สาํ นกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา แจ้งการจัดสรรโควตาหรอื วงเงนิ เลอ่ื นค่าจ้างในสถานศึกษา/สํานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา/ สํานักงาน เขตพื้นทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา 5.4 สาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา / สถานศึกษา ดาํ เนินการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านลกู จา้ งประจํา ตามแบบประเมนิ ท่ีกาํ หนด 5.5 คณะกรรมการกลั่นกรองการเล่อื นค่าจ้างพนักงาน ผลการประเมินและการเล่อื นคา่ จา้ ง 5.6 ผู้บงั คบั บญั ชา/ผ้ไู ดร้ ับมอบอํานาจ มีคาํ ลั่งเลื่อนคา่ จา้ งลกู จ้างประจาํ งานดาํ เนนิ การเพม่ิ ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 1. ชือ่ งาน งานดาํ เนินการเพ่มิ ค่าตอบแทนพนักงานราชการ 2. วัตถุประสงค์ เพือ่ เปน็ แนวปฏิบตั ิการดาํ เนินการ เพมิ่ ค่าตอบแทนพนกั งานราชการ 3. ขอบเขตของงาน เมือพนกั งานราชการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีครบ 12 เดือน ในปีงบประมาณอ่ืน ๆ มีระยะเวลาการ ปฏิบัติงาน ไม่น้อยกว่า 8 เดือน เมือผ่านการประเม่น มีสิทธิเลื่อนค่าตอบแทนร้อยละ 5%ชองค่าตอบแทนโดยผู้ท่ีจะ ได้รับการ เล่อื น 5%ดอ้ งไมเ่ กิน'โควตา 15% ของท่มี ีตามจรงิ 4. ข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน 4.1 สถานศึกษาประเมน่ ผลการปฏบิ ัติงาน ประเมน่ ทุก ๆ 6 เดือน แต่ให้เลือ่ นปีละ 1 ครัง้ 4.2 สถานศึกษารายงานผลการประเม่น ผลการปฏบิ ัตงิ านและเสนอขอเลอื่ นค่าตอบแทน ใหส้ ํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา/สํานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศึกษา 4.3 สํานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา แจ้งตอ่ คณะกรรมการพจิ ารณาการเล่อื นคา่ ตอบแทนพนกั งานราชการ 3-5% ของค่าตอบแทน'โดยผ้ทู จี่ ะได้รบั การเลอ่ื น 5%ด้องไมเ่ กิน'โควตา 15% ของทม่ี ตี ามจรงิ 4.3.1 กลมุ่ ทว่ั ไป ตําแหนง่ ครผู สู้ อน ครูพี่เลยี้ ง 4.3.2 กลมุ่ บรกิ ารตาํ แหน่งลูกจ้าง (ตรวจสอบระเบียบ ให้ซดั เจนถึงความแตกต่างท้ัง 2 กลมุ่ ) 4.4 สํานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา จัดทํารายละเอียด ให้สถานศึกษามีคําส่ัง เลือนค่าตอบแทนพนักงานราชการ ตามผลการพิจารณา คณะกรรมการ ตามข้อ 3แจ้งผเู้ ก่ยี วขอ้ งทราบ

-3– งานจัดทาํ บัญชถี ือจา่ ยเงนิ เดอื นข้าราชการประจาํ ปี 1. ช่อื งาน งานจดั ทาํ บัญชีถอื จ่ายเงนิ เดือนขา้ ราชการประจาํ ปี 2. วตั ถุประสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏบิ ตั งิ านการจัดทําบัญชีถือจา่ ยเงนิ เดือนข้าราชการประจําปี 3. ขอบเขตของงาน ตามพระราชกฤษฎีกาการจา่ ยเงินเดอื น เงินปี บาํ เหนจ็ บํานาญ และเงินอื่นในลักษณะ เดียวกัน พ.ศ. 2535 การจา่ ยเงินเดือนแตล่ ะปี ให้กระทรวง ทบวง กรม จา่ ยตามบัญชถี อื จ่ายเงินเดือนประจาํ ปี ที,กรมบญั ชกี ลาง อนุมตั ิ การจัดทําบัญชถี อื จา่ ยประจาํ ปจี งึ เปน็ เอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงินเดอื นชอง ข้าราชการและลกู จ้าง ประจํา ประจําปีงบประมาณแตล่ ะเขตพนื้ ท่ีการศึกษามีการเบิกจา่ ยเงนิ เดอื นเงนิ คา่ จา้ ง และยงั มฐี านในการต้ัง งบประมาณชอง สพฐ.ในปีงบประมาณต่อไปเท่าใด การดําเนินการเกีย่ วกับการจัดทํา บัญชีถือจา่ ยประจาํ ปี แยกการ จัดทาํ เป็น 2 ประเภท คอื การจัดทาํ บญั ชีถือจ่ายเงินเดอื นขา้ ราชการและการ จดั ทําบัญชถี ือจ่ายคา่ จ้างลูกจ้างประจํา 4. ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน จดั ทาํ บญั ชขี อถอื จา่ ยอตั ราเงินเดอื นข้าราชการประจาํ ปี ขนั้ ตอนท่ี 1 1. สํารวจข้อมลู การตดั โอนอตั ราเงินเดือนจากทะเบียนควบคมุ บัญชีถอื จา่ ยเงนิ เดอื น ประจําปีงบประมาณ ซึง่ ได้ปรับแกข้ อ้ มลู ตามคําสัง่ ต่าง ๆ จนถึงวันท่ี 30 ก.ย. 2. จดั ทาํ บัญชีรายละเอยี ดการตดั โอนอัตราเงนิ เดือนข้ามหน่วยเบกิ 3. บญั ชสี รุปการตดั โออัตราเงนิ เดือนข้ามหนว่ ยเบกิ ข้นั ตอนท่ี 2 สรปุ ยอดอตั ราคงเหลือ เม่ือสนิ้ ปีงบประมาณ พ.ศ.ทผ่ี า่ นมา ขนั้ ตอนที่ 3 ร่างทะเบยี นควบคุมบัญชีถือจา่ ยเงนิ เดอื นประจําปี 1.เอกสารทใ่ี ชเ้ ปน็ หลกั ฐาน 1.1 คําส่ังเล่ือนช้ันเงนิ เดอื น 1.2 บญั ชรี ายซ่ือข้าราชการที่ขอกันเงนิ 1.3 บญั ชรี ายซ่ือข้าราชการทงี่ ดเล่อื นขน้ั เงนิ เดือน 1.4 บญั ชีรายละเอยี ดตําแหน่งทีย่ ุบเลกิ 2 หลักเกณฑ์ 2.1 ตาํ แหน่งท่ีมคี นครองต้งั เงินถอื จ่ายตามหลกั ฐานขอ้ 1.1-1.3 กรณขี า้ ราชการได้ เลื่อนขนั้ เงินเดอื นและไดเ้ ลอื่ นอันดับ คศ. ให้ตง้ั เงนิ ถอื จา่ ยเฉพาะการเลื่อนช้ันเงนิ เดอื นเทา่ น้ัน (สําหรบั การ เลอื่ นอันดับ คศ. และการปรบั อัตราเงินเดอื นต้องรอดําเนนิ การในลกั ษณะถอื จ่ายอตั ราเงนิ เดือนเพ่มิ เติม) 2.2 ตําแหน่งท่มี คี นครองและอาศยั เบิกในอัตราเงินเดือนทีส่ ูงกวา่ ใหป้ รบั ลดลงเหลือ เท่าที,จ่ายจริง (ยกเวน้ กรณีคนเกษียณอายรุ าชการ และเกษยี ณกอ่ นกําหนด) แล้วจงึ ตั้งวงเงนิ ถือจา่ ยตาม หลกั ฐาน ขอ้ 1.1 – 1.4หากการอาศยั เบกิ เปน็ เพราะมกี ารขอกนั เงินสําหรบั การเลอื นข้นั เงินเดือนใน ปงี บประมาณทผ่ี ่ารนมา ไม1ต้องปรบั ลดเงินลง 2.3 ตําแหน่งวา่ ง ตง้ั เงนิ ถือจ่ายขั้นเดมิ ตาํ แหนง่ ว่างเนื่องจากผู้ครองเดมิ เกษียณอายุ ราชการปกติ และเกษยี ณอายุราชการก่อนกําหนด ให้คงตง้ั ถอื จ่ายไวก้ ่อน 2.4 ตําแหน่งทีต่ ้องยุบเลกิ ไดแ้ ก่ - ตาํ แหนง่ ว่างผลจากการเกษยี ณอายุราชการในปี พ.ศ. ตามทีส่ าํ นกั งาน คณะกรรมการ การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน แจง้ ให้ยบุ

-4– - ตําแหนง่ ท่โี อนไปลังกัดองค์กรปกตองสว่ นห้องถ่ิน - ตําแหน่งท่แี จง้ ให้ยบุ เลกิ ตามมติของคณะกรรมการกาํ หนดเปาหมายและ นโยบายกาํ ลงั คน ภาครัฐ(คปร.) ในซอ่ ง “ถือ'จา่ ย1ปีท่ีแลว้ ”ใหต้ งั้ ข้นั เดิมไว้ส่วนในซอ่ ง “ถอื จา่ ยปีนี”้ ไมต่ อ้ งต้ัง เงนิ 2.5 จาํ นวนเงินปรบั ลดและเงินเล่อื นข้ันคาํ นวณตามข้อเทจ็ จรงิ สาํ หรบั ตาํ แหน่งท่ี ต้องยบุ เลกิ ให้ใส่จาํ นวนเงินที่ยุบเลกิ ในซอ่ งเงินปรับลดดว้ ย 2.6 ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการต้งั เงนิ ถือจา่ ยด้วยสมการ เงินถือจ่ายปีน้ี = เงินถอื จ่ายปที ่ีแลว้ + เงนิ เลอ่ื นขนั้ - เงินปรบั ลด ข้ันตอนที่ 4 พมิ พ์ทะเบยี นควบคุมบญั ชีถอื จา่ ยตามร่างทะเบยี นควบคมุ บญั ชถี อื จา่ ยซง่ึ โต้ดําเนนิ การไว้ ตามขอ้ 2 ขน้ั ตอนท่ี 5 จัดท่าบญั ชีถือจา่ ยเงนิ เดอื นประจําปี บัญชีถอื จา่ ยเงินเดอื น หมายเลข 2 5.1 นับจาํ นวนและคาํ นวณ ดงั นี้ - จํานวนอัตราจากซอ่ ง “ถือจ่ายปีท่ีแล้ว” ของทะเบียนควบคมุ บญั ชถี ือจ่ายแยกเปน็ อนั ดบั และขน้ั เงนิ เดอื น - จํานวนอตั ราจากซอ่ ง “ถอื จ่ายปีน”ี้ ของทะเบียนควบคมุ บญั ชถี ือจา่ ยแยกเป็นท่ี ขอถอื จ่ายในปีงบประมาณนีเ้ ป็นรายอนั ดบั และขั้นเงนิ เดือน จาํ นวนเงนิ ท่ีถือจ่ายในซอ่ ง “ถือจา่ ยปที แี่ ล้ว” คํานวณเต็มปงี บประมาณ จํานวนเงินท่ีถอื จา่ ยในซ่อง “ถือจา่ ยปนี ี้” คาํ นวณเต็มปงี บประมาณ จาํ นวนเงนิ ปรับลด เงนิ เลอื่ นขั้น คํานวณเตม็ ปีงบประมาณ จาํ นวนเงนิ เพ่มิ พิเศษต่าง ๆ ไดแ้ ก่ เงิน พ.ส.ร.เงิน “พ.ค.ศ.” คาํ นวณเต็ม ปีงบประมาณ 5.2 บญั ชีรายละเอียดเงิน “พ.ค.ศ.” เงิน พ.ส.ร. คาํ นวณเตม็ ปงี บประมาณ พมิ พ์ตาม แบบท่กี ําหนด 5.3 บัญชขี อกนั เงนิ สาํ หรบั เล่อื นข้นั ข้าราชการ พมิ พต์ ามแบบที่กรมบญั ชกี ลางกําหนด จดั ทา่ บญั ชีรายละเอียดตําแหนง่ ขา้ ราชการท่ียุบเลิก ข้ันตอนที่ 6 จัดเอกสารสง่ สพฐ. 6.1 บญั ชีรายละเอยี ดการตัดโอนอตั ราเงินเดือนข้ามหน่วยเบิก จํานวน 2 ชดุ พรอ้ มคาํ สัง่ 6.2 บัญชีสรุปการตดั โอนอัตราเงินเดือน จํานวน 2 ชดุ 6.3 บญั ชีถือจา่ ยเงินเดือน หมายเลข 2 จาํ นวน 4 ชดุ 6.4 บัญชรี ายละเอียดเงนิ “พ.ค.ศ.” จาํ นวน 4 ชดุ 6.5 บัญชรี ายละเอยี ดเงิน พ.ส.ร. จาํ นวน 4 ชดุ 6.6 บัญชรี ายละเอียดตาํ แหนง่ ขา้ ราชการทย่ี ุบเลิก จํานวน 4 ชุด 6.7 บญั ชขี ออนั เงินสาํ หรับเลื่อนข้นั เงินเดือนขา้ ราชการ จาํ นวน 4 ชุด 6.8 บญั ชสี รุปจํานวนเงนิ และจาํ นวนผ้ทู ่ีไดร้ ับการเล่ือนขั้นเงินเดือน/คาํ จ้างประจาํ จํานวน 1 ชุด

-5– งานการจดั ทําบญั ชถี ือจา่ ยอตั ราคา่ จา้ งลูกจา้ งประจาํ ประจําปี 1. ชื่องาน งานการจัดทําบญั ชีถือจา่ ยอตั ราคา่ จ้างลกู จา้ งประจํา ประจาํ ปี 2. วตั ถุประสงค์ เพื่อเปน็ แนวปฏบิ ตั ิการจดั ทําบัญชีถอื จ่ายลูกจ้าง ประจาํ ปี 3. ขอบเขตของงาน บญั ชถี อื จา่ ยอัตราคา่ จา้ งลูกจา้ งประจาํ คือ บญั ชที ่ีจัดทาํ ขน้ึ เพ่ือเป็นฐานในการควบคมุ การเบิกจา่ ย อัตราค่าจา้ งลูกจ้างประจาํ ควบคุมอตั รากําลงั ของส่วนราชการให้เป็นโปตามกรอบอตั รากําลัง 4. คําจํากดั ความ ลกู จา้ ง หมายถงึ ลูกจ้างประจํา ตามกรอบอตั ราลกู จ้างประจํา 5. ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน ข้ันที่ 1 สาํ รวจและจดั ทําบัญชรี ายละเอยี ดการตัดโอนอตั ราขา้ มหนว่ ยเบิก 1.1 สาํ รวจขอ้ มูลการตัดโอนอตั ราค่าจ้างประจํา จากทะเบียนคุมบญั ชีถอื จา่ ยค่าจ้างประจํา 1.2 จัดทาํ บัญชีรายละเอยี ดการตัดโอนอัตราค่าจ้างประจํา ขัน้ ท่ี 2 สรุปยอดอัตราคงเหลอื ขั้นที่ 3 รา่ งทะเบยี นควบคมุ บัญชีถอื จ่ายคา่ จ้างประจํา ประจําปี 3.1 เอกสารทใี่ ช้เปน็ หลักฐาน 3.1.1 คําส่ังเลอื่ นขน้ึ คา่ จ้างลกู จ้างประจาํ 3.1.2 บญั ชรี ายซือ่ ลกู จา้ งประจาํ ท่ขี อลนั เงนิ สําหรับเลอื่ นขึน้ คา่ จ้าง 3.1.3 บญั ชีรายซอื่ ลูกจ้างประจาํ ที่งดเล่ือนขนึ้ คา่ จ้าง 3.1.4 บญั ชรี ายละเอยี ดตาํ แหน่งทีย่ บุ เลกิ 3.2 หลกั เกณฑ์ 3.2.1 ตาํ แหน่งทม่ี คี นครอง ตัง้ เงนิ ถือจา่ ยตามหลกั ฐานขอ้ 3.1.1-3.1.3 3.2.2 ตาํ แหน่งทม่ี คี นครองและอาศยั เบกิ ในอตั ราค่าจ้างที่สูงกวา่ ให้ปรับ ลดเงนิ ลงเหลอื เท่าทเ่ี บิกจา่ ยจรงิ แลว้ จึงต้งั เงินตามหลกั ฐานขอ้ 3.1.1-3.1.3 3.2.3 ตาํ แหนง่ ทตี่ อ้ งยุบเลิก ไดแ้ ก่ ตําแหนง่ วา่ งจากผลการเกษยี ณอายรุ าชการ ตงั้ แตว่ นั ที่ 1 ตลุ าคม และอัตราคา่ จ้างประจํา (ทุกหมวด) ที่ว่างระหว่างปงี บประมาณ พ.ศ.ทแ่ี จง้ ให้ ยุบเลกิ ตามมติชองคณะกรรมการกาํ หนดเป้าหมายและนโยบายกําลังคนภาครฐั (คปร.)ตาํ แหน่งว่างระหวา่ งปี ทุก ตําแหนง่ ซ่งึ ตอ้ งยุบเลกิ ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี 3.2.4 คาํ นวณเงนิ ปรบั ลดและเงินเลื่อนชั้น คาํ นวณตามขอ้ เท็จจริง 3.2.5 ตรวจสอบความถูกต้องชองการต้งั เงินถอื จ่ายดว้ ยสมการ คอื เงนิ ถอื จา่ ยปีนี้ = เงินถอื จ่ายปีทีแ่ ลว้ + เงนิ เลอื่ นช้นั - เงนิ ปรับลด - เงินยบุ เลกิ ขน้ั ท่ี 4 สรปุ ยอดอตั ราถือจา่ ยคงเหลอื เมอ่ื สิน้ ปีงบประมาณ สรุปยอดอตั ราคงเหลอื เม่อื สิ้นปงี บประมาณ ใสใ่ นซ่อง “สรปุ ยอดอตั ราคงเหลอื ” ท่ี ทา้ ย บญั ชีรายละเอียดการตดั โอนคาํ จ้างประจ่า ข้ันที่ 5 การจดั ทําบญั ชี 5.1 บญั ชหี มายเลข 2 บัญชขี อถอื จา่ ยอัตราคาํ จา้ งประจา่ 5.2 บญั ชหี มายเลข 3 บัญชถี อื จา่ ยตําแหน่งลูกจ้างประจ่า

-6– 5.3 บัญชีรายละเอยี ดเงนิ “พ.ค.ศ.” ลูกจ้างประจา่ และ 5.4 บญั ชีรายละเอยี ดเงนิ พ.ส.ร.ลกู จ้างประจา่ 5.5 บัญชขี อกนั เงินสําหรับเลือ่ นคาํ จา้ งลูกจ้างประจ่า 5.6 รายการเงนิ ปรบั ลดอัตราคําจ้าง 5.6.1 สํารวจข้อมูลรายอตั ราทีม่ ีเงินปรับลดจากทะเบียนควบคมุ บญั ชีถอื จา่ ย คาํ จา้ งลูกจ้างประจา่ 5.6.2 รวบรวมและจดั ทํารายการเงนิ ปรับลด 5.7 บญั ชีรายละเอยี ดตาํ แหน่งที่ต้องยุบเลิก 5.7.1 สํารวจข้อมลู ตาํ แหน่งทีต่ อ้ งยบุ เลิก - ตําแหนง่ ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ - ตาํ แหน่งว่างระหว่างปี ซง่ึ ตอ้ งยบุ เลกิ ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี 5.7.2 รวบรวมและจัดทําบญั ชีรายละเอยี ดตําแหนง่ ลกู จ้างประจา่ ท่ยี บุ เลิก ขนั้ ที่ 6 ตรวจสอบความสอดคลอ้ งของขอ้ มลู จาํ นวนอตั รารวมในซ่อง “ถือจา่ ยปที ี่แลว้ ” ของบัญชีหมายเลข 2 (บญั ชีขอถือจา่ ยอตั รา คําจ้างประ จา่ ) ท่ดี ําเนนิ การในชั้นท่ี 5 ขอ้ 5.1 ตอ้ งเทา่ ลบั “สรปุ ยอดอตั ราคงเหลือวันสิน้ ปีงบประมาณ” ท่ี ท้ายบัญชี รายละเอียดการตัดโอนอัตราคาํ จ้างท่ีดาํ เนินการในช้ันที่ 4 ข้นั ที่ 7 จดั เอกสารส่งสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาชั้นพน้ื ฐาน 7.1 บัญชรี ายละเอียดการตัดโอนอตั ราคําจา้ งขา้ มหน่วยเบิก จาํ นวน 2 ชดุ 7.2 บญั ชีหมายเลข 2 (บญั ชขี อลือจา่ ยอตั ราคําจา้ งประจ่า) จาํ นวน 2 ชดุ 7.3 บญั ชหี มายเลข 3 (บญั ชีขอลือจ่ายตาํ แหนง่ ลูกจา้ งประจ่า) จาํ นวน 4 ชดุ 7.4 บัญชีรายละเอยี ดเงิน “พ.ค.ศ.” ลูกจา้ งประจํา จาํ นวน 4 ชดุ (ถ้ามี) 7.5 บัญชีรายละเอียดเงนิ พ.ส.ร.ลูกจ้างประจาํ จาํ นวน 4 ชุด (ถา้ มี) 7.6 บญั ชรี ายละเอยี ดตาํ แหนง่ ลกู จา้ งประจําท่ยี ุบเลกิ จํานวน 4 ชดุ 7.7 บญั ชีขอกนั เงนิ สาํ หรับเล่อื นข้นั คา่ จา้ งลูกจ้างประจาํ จํานวน 4 ชดุ (ถา้ ม)ี 7.8 บญั ชรี ายละเอียดเงินพ้ืนที่พเิ ศษลูกจา้ งประจํา จาํ นวน 4 ชุด ถา้ มี งานจัดทาํ บญั ชถี ือจา่ ยเงนิ วทิ ยฐานะเพมิ่ เติมระหว่างปี 1. ชื่องาน งานจัดทําบัญชีถอื จ่ายเงนิ วิทยฐานะเพิ่มเตมิ ระหว่างปี 2. วัตถุประสงค์ เพ่ือเป็นแนวปฏิบัตกิ ารจดั ทาํ บัญชถี ือจา่ ยเงนิ วิทยฐานะเพม่ิ เตมิ ระหวา่ งปี 3. ขอบเขตของงาน การจัดทําบัญชีถอื จ่ายเงนิ วิทยฐานะให้กบั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาทผ่ี มู้ ี อาํ นาจตาม มาตรา 53 แหง่ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 มี คาํ สั่งให้มหี รือเลือ่ น วิทยฐานะสํานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรอื หน่วยงานทางการศกึ ษาได้จดั ทาํ แบบ ง.1 แบบ ง.2 ส่งไปยงั กระทรวงการคลัง สํานักงบประมาณ เพอื่ เบกิ จ่ายตามระเบียบ ก.ค.ศ.วา่ ดว้ ยการเบกิ จ่ายเงิน วิทยฐานะและเงนิ ประจาํ ตําแหนง่ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2550 และสง่ ใหส้ ํานกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษา ขัน้ พนื้ ฐาน ตามหนังสือสํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ดว่ นมากท่ี ศธ 04009/4520 ลงวนั ที่ 13 มนี าคม 2550 กรณีท่มี ีการไดร้ ับวทิ ยฐานะเพิ่มเตมิ ระหว่างปีจะตอ้ งคาํ เนินการ รายงานทกุ วันท่ี 5 ของเดอื น

-7– 4. คาํ จาํ กัดความ วทิ ยฐานะ หมายถึง เงินวทิ ยฐานะและเงนิ ด่าตอบแทนตามที่ ก.ค.ศ.กาํ หนด 5. ข้ันตอนการปฏิบัติงาน 5.1 จดั ทําบญั ชถี อื จา่ ยเงินวิทยฐานะเพมิ่ เติม กรณีข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาได้รับ วิทยฐานะ/เปล่ยี นแปลงวิทยฐานะตามคําสัง่ เพม่ิ เติมระหว่างปี 5.2 จดั ทาํ แบบ ง.1 แบบ ง.2 แบบ ง.3 แบบ ง.4 5.3 ส่งเอกสารท่จี ัดทําไปยังกระทรวงการคลัง สํานกั งบประมาณ และ สพฐ. ทุกวันที่ 5 ของเดือน จดั ทําบญั ชสี รุปการขอถือจ่ายอัตราเงินวทิ ยฐานะขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษา ประจาํ แตล่ ะเดือนเพม่ิ เตมิ สง่ ให้ สพฐ. (ตามตัวอยา่ ง) งานเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์การขอพระราชทานเครื่องอิสรยิ าภรณไ์ หแ้ ก่ขา้ ราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศกึ ษา ลกู จา้ งประจํา และพนกั งานราชการ 1. ชอื่ งาน งานเครื่องราชอิสริยาภรณก์ ารขอพระราชทานเครอ่ื งอสิ ริยาภรณใ์ ห้แก่ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากร ทางการศึกษา ลกู จา้ งประจาํ และพนักงานราชการ 2. วตั ถุประสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏบิ ตั กิ ารดาํ เนินการขอพระราชทานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ 3. ขอบเขตของงาน การเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์ และเหรยี ญจักรพรรดมิ าลาแกข่ า้ ราชการครู และ บุคลากรทางการศึกษา ลูกจา้ งประจาํ และพนกั งานราชการ ทีม่ ลี ทิ ธิ์ตามระเบียบ 4. ขั้นตอนและวิธกี ารดาํ เนินการ 4.1 การเสนอขอพระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ ข้ันตรา บ.ม./บ.ซ./จ.ม./จ.ซ./ต.ม./ ต.ซ./ท.ม./ท.ช. จะต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบดงั น้ี 4.1.1 รับคํารอ้ งการเสนอขอพระราชทานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ๆ จากโรงเรียน พร้อมเอกสารลงทะเบียนรบั และตรวจสอบความถกู ตอ้ งของเอกสารประกอบดงั นี้ - ตรวจสอบแบบ ชร. 4/37 (บญั ชแี สดงคณุ สมบตั ขิ อขา้ ราชการซง่ึ เสนอขอ พระราชทานเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ ประจําปี พ.ศ.)ว่าผูเ้ สนอขอพระราชทานๆกรอกขอ้ ความในใบ ชร. 4/37 เซ่น ซื่อ/สกลุ /ระดบั ช้ัน/วันเดอื นปที ่บี รรจุ/เงินเดอื นบจี จบุ ัน/เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์/ชน้ั ทีไ่ ดร้ บั ก่อน/คร้งั น้ฃี อชัน้ ตราอะไรว่าถูกตอ้ ง/ครบถว้ น/สมบรู ณ์ตามแบบๆพร้อมลงรายมือซ่ือครบถ้วนเรยี บรอ้ ยหรือไม่ หากไมถ่ ูกตอ้ ง เจ้าหน้าท่ตี ้องแจ้งให้โรงเรยี นทราบเพอื่ แกไข้ใหถ้ กู ตอ้ งต่อไป - ตรวจสอบประวัติสาํ เนา ก.พ.7 ว่าผู้เสนอขอพระราชทานเครื่องราชๆ กรอกวนั / เดอื น/ปีท่บี รรจุเขา้ รบั ราชการ/วนั เดอื นปีเกิด/ระดับชนั้ /ระดบั เงนิ เดือนถูกต้อง/ครบถ้วน/เปน็ ปัจจบุ นั /ตรงดับ สาํ เนาประวัติ ก.พ.7 หรือไมต่ รวจสอบสําเนาทะเบียนบา้ น ดูวา่ ผู้เสนอขอพระราชทานเครือ่ งราชยฯ์ มชี ่อื /สกลุ /เลข บัตรประจําตวั ประซาซน 13 หลกั ตรงตามแบบทีก่ รอกในแบบ ขร. 4/37 ถกู ตอ้ ง/ตรงดนั หรือไมเ่ จา้ หนา้ ที่ ดําเนินการกรอกข้อมูลลงโปรแกรมเคร่ืองราช ๆ ใหถ้ กู ต้อง/ครบถว้ น/ตรวจสอบความเรียบร้อยของซ่อื /สกุลให้ ถกู ต้องตามข้อเทจ็ จรงิ 1. นาํ เข้าทีป่ ระชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคุณสมบตั ิฯ พจิ ารณา 2. บันทกึ เสนอหัวหนา้ กลุ่มบริหารงานบุคคล

-8– 3. บนั ทกึ เสนอผูอ้ าํ นวยการเขตพ้นื ที่การศกึ ษา 4. ออกเลขทหี่ นงั สอื ส่ง 5. จัดส่งเอกสารให้สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ภายในวันท่ี 10 พฤศจกิ ายน ของปที ่ขี อพระราชทาน ประกอบด้วย - แบบ ขร. 2/37 (บัญชีแสดงจํานวนขนั้ ตราเครื่องราชอสิ ริยาภรณ)์ จาํ นวน 1 ชดุ - บัญชีแสดงคุณสมบตั ผิ ูเ้ สนอขอพระราชทานข้ันตรา บ.ม./บ.ซ./จ.ม./ จ.ซ./ต.ม./ ต.ซ./ ท.ม./ท.ช. (ขร. 4/37) จาํ นวน 1 ชุด - สาํ เนาประวตั ิ ก.พ.7 ทะเบียนบ้านผู้เสนอขอ บ.ม./บ.ซ./จ.ม./จ.ซ./ต.ม./ ต.ซ./ ท.ม./ท.ช. (ขร. 4/37)จํานวน 1 ชุด - รายงานการประชมุ คณะกรรมการพจิ ารณากลั่นกรองคณุ สมบัติ จํานวน 1 ชุด - แผ่น Diskettes จํานวน 1 แผ่น 4.2 การเสนอขอพระราชทานเหรยี ญจักรพรรดมิ าลา (ร.จ.พ.) จะตอ้ งดาํ เนนิ การดังนี้ 4.2.1 รับคาํ ร้องการเสนอขอพระราชทานเหรยี ญจกั รพรรดมิ าลา (ร.จ.พ.) จากโรงเรียน พร้อมเอกสารลงทะเบยี นรับ และตรวจสอบความถกู ต้องของเอกสารประกอบดังนี้ 4.2.2 ตรวจสอบแบบประวัติสาํ หรับเสนอขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิ มาลา (ประจาํ ป.ี ...) วนั ท่ีบรรจเุ ข้ารบั ราชการต้องนบั ใหค้ รบ 25 ปี/สถานทีท่ าํ งาน/สถานศึกษาต้องกรอก รายละเอียด ประวตั ิตง้ั แตบ่ รรจเุ ข้ารบั ราชการจนถงึ ปจั จบุ นั /รับราชการดว้ ยความเรยี บรอ้ งจนครบ 25 ปี/เงนิ เดอื นต้องลงตง้ั แต่ วันบรรจเุ ขา้ รับราชการจนถึงปจั จุบัน (1 ต.ค ) ทงั้ นีต้ ้องดูจาก สําเนาประวัติ ก.พ. 7เปน็ เกณฑ์การกรอกขอ้ มูล เพ่ือ ความถูกตอ้ ง/สมบูรณ์ ของเอกสารตรวจสอบสําเนาประวตั ิ ก.พ. 7 ใชป้ ระกอบในการกรอกข้อมลู (แบบ ประวัติ สําหรับเสนอขอพระราชทานเหรียญจกั รพรรดมิ าลา ประจําป.ี ...) เพือ่ ความถูกตอ้ ง/สมบรู ณ์ ของ เอกสาร 4.2.3 ตรวจสอบสาํ เนาทะเบียนบ้านดูว่าผ้ขู อพระราชทานเหรียญจักรพรรดิ มาสามี ซ่ือ/สกุล/เลขบัตรประจําตวั ประซาซน 13 หลัก ตรงตามแบบท่กี รอก/ถกู ตอ้ ง/สมบูรณ์ ตรงดนั หรอื ไม่ 4.2.4 เจ้าหน้าทดี่ ําเนนิ การกรอกขอ้ มลู ลงโปรแกรมเครอ่ื งราชๆให้ถูกต้อง/ ครบถ้วน/ ตรวจสอบความเรยี บร้อยของซ่ือ/สกลุ ใหต้ รงกัน 4.2.5 นําเขา้ ท่ีประชุมคณะกรรมการพจิ ารณากล่ันกรองคุณสมบตั ๆิ พิจารณา 4.2.5.1 บนั ทกึ เสนอหวั หน้ากลุ่มบริหารงานบุคคล 4.2.5.2 บนั ทกึ เสนอผอู้ าํ นวยการสาํ นักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษา/ ผอู้ าํ นวยการสํานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา 4.2.5.3 ออกเลขทห่ี นงั สอื ส่ง 4.2.5.4 จดั ส่งเอกสารใหส้ ํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ประกอบดว้ ย - แบบ ชร. 5/37 (บัญชแี สดงจาํ นวนเหรยี ญจักรพรรดมิ าลาซึง่ ขอ พระราชทานใหแ้ ก1ขา้ ราชการ) จาํ นวน 1 ชุด - แบบ ชร. 7/37 (บญั ชแี สดงคุณสมบตั ิผู้เสนอขอพระราชทานเหรียญ จักรพรรดิมาลา) จาํ นวน 1 ชดุ - สําเนาทะเบยี นบ้าน/สําเนาประวัติ ก.พ.7 ผเู้ สนอขอพระราชทาน รายละชุด

-9– - แบบประวัตสิ ําหรับเสนอขอพระราชทานเหรยี ญจกั รพรรดมิ าลา ประจาํ ปี....จํานวน 3 ชดุ 4.2.5.5 รายงานการประชุมคณะกรรมการพจิ ารณากลนั่ กรองคณุ สมบตั ิ จาํ นวน 1 ชุด 4.2.5.6 แผ่น Diskettes จํานวน 1 แผน่ 3. การเสนอขอพระราชทานเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณช์ นั้ ประถมาภรณม์ งกฎุ ไทย (ป.ม.) จะต้องดาํ เนนิ การตามขน้ั ตอน ดังนี้ 1. รับคาํ ร้องการเสนอขอพระราชทานเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณข์ ้ัน ประถมาภรณม์ งกุฎไทย (ป.ม.) จากโรงเรยี นพรอ้ มเอกสารลงทะเบียนรับ และตรวจสอบความถูกตอ้ งของ เอกสารประกอบดงั น้ี 2. ตรวจสอบแบบ ชร. 4/37 (บัญชแี สดงคณุ สมบตั ิขอข้าราชการซงึ่ เสนอ ขอพระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ ประจําปี พ.ศ) ให้เจา้ หน้าทด่ี าํ เนนิ การ กรอกข้อความในใบ ชร. 4/37 เซ่น ซื่อ/สกลุ /ระดบั ขัน้ /วนั เดือนปีเกดิ /เงินเดือนปจั จุบนั /ตําแหนง่ บัจจบุ ัน/เคร่อื งราชอิสริยาภรณ์/ ขัน้ ทไี่ ดร้ บั ก่อน/คร้งั นี้ขอขั้นตราอะไรว่าถกู ต้อง/ครบถ้วน/สมบรู ณต์ ามแบบๆพร้อมใหผ้ อู้ ํานวยการสาํ นกั งาน เขต พนื้ ทลี่ งลายมอื ซอื่ ใหค้ รบถ้วน 3. ตรวจสอบ ขร 1/37 (บญั ชีแสดงจาํ นวนขน้ั ตราคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์) ให้เจ้าหนา้ ทีด่ ําเนินการกรอกขอ้ ความใบแบบ ๆ ให้ถูกตอ้ ง/ครบถ้วน/สมบูรณ์/ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ย อีกคร้งั 4. ตรวจสอบ แบบ ขร 3/37 (บญั ชรี ายซอ่ื ข้าราชการผู้เสนอขอ พระราชทาน เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ)์ ใหเ้ จา้ หนา้ ทีเ่ นนิ การกรอกข้อความใบแบบๆ ใหผ้ ู้อํานวยการ/รอง ผอู้ ํานวยการ รับรองความถกู ตอ้ งให/้ ครบถว้ น/สมบรู ณ/์ ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยอิกครัง้ 5. ตรวจสอบสําเนาประวตั ิ ก.พ/ ใหป้ ระกอบในการกรอกข้อมูล งานจดั สรรเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณใ์ หแ้ ก่ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาลูกจ้างประจาํ และพนักงานราชการ 1. ชอ่ื งาน งานจดั สรรเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์ใหแ้ กข่ า้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาลกู จ้างประจํา และ พนักงานราชการ 2. วตั ถุประสงค์ เพื่อเปน็ แนวปฏิบตั ิการจัดสรรเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ 3. ขอบเขตของงาน การจัดสรรเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาและ ลูกจา้ งประจาํ ดําเนนิ การเม่ือ ได้รบั แจ้งการจดั สรรจาก สพฐ. แลว้ นาํ มาพิจารณาให้กบั ผู้ท่มี ีสทิ ธิรับ ตามความเหมาะสม ความ จําเปน็ ทต่ี อ้ งใชป้ ระดบั และจาํ นวนที่ได้รบั 4. ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน เมอื่ ได้รบั การจัดสรรเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ใหแ้ ตง่ ตง้ั คณะกรรมการพิจารณาจดั สรร เครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ์ใหแ้ กผ่ ไู้ ดร้ บั พระราชทาน โดยพิจารณาถงึ ความจาํ เป็นใช้ประดับ

- 10 - การจัดทาํ ทะเบียนคมุ การรบั - จา่ ย ดวงตราเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์ 1. ชื่องาน การจดั ทําทะเบยี นคุมการรับ- จ่าย ดวงตราเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ 2. วัตถุประสงค์ เพอ่ื เปน็ แนวปฏบิ ัติการดําเนินงานจดั ทาํ ทะเบยี น การรับ- จา่ ย ตามเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณ์ 3. ขอบเขตของงาน การจัดทาํ ทะเบยี นคมุ การรับ-จ่ายดวงตราเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ ชองสาํ นักงานเชตพ้ืนท่ี การศกึ ษาประถมศึกษา/สํานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เพือ่ ประโยชนใ์ นการตรวจสอบ ควบคมุ ติดตาม และอ่ืนๆ 4. ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 4.1 จัดทําบัญชีรายซ่ือผ้ไู ดร้ ับการจ่าย (แบบ คร.1/ปที ี่ได้รบั จดั สรร) แยกบรุ ุษและสตรี แยกขนั้ ตรา 4.2 ทําบญั ชีแบบสรปุ บัญชผี ู้ไดร้ ับการจ่ายฯ (แบบ คร.2/ปที ไ่ี ด้รับจัดสรร)ในแตล่ ะขั้นตรา รายงาน สพฐ. งานจัดทาํ ทะเบียนคมุ การเสนอขอพระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ 1. ชือ่ งาน งานจัดทาํ ทะเบียนคุมการเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ เป็นแนวปฏิบตั ิการดําเนินงานทาํ ทะเบียนคุมการเสนอขอพระราชทานเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ 3. ขอบเขตของงาน การจัดทําทะเบียนคมุ การเสนอพระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ ของสาํ นกั งาน เขตพน้ื ท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษาเพ่ือตรวจสอบกับการประกาศ พระราชฯในราช กิจจานเุ บกษาและตรวจสอบเทียบการขอซา้ํ ในปกี ดั ไป 4. ขัน้ ตอนการปฏิบตั งิ าน การจดั ทําทะเบียนคมุ เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณจ์ ากบญั ชสี รปุ ในโปรแกรมเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ (OBEC_KR) ดาํ เนนิ การดังนี้ 1. รวบรวมแบบรายงานการเสนอขอพระราชทานเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ 2. บันทึกลงในโปรแกรมเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์ (OBEC_KR) พิมพ์รายงานเปน็ แบบสรปุ ในแต่ละช้นั ตรา เพ่อื จัดทาํ เป็นทะเบยี นคุมผูเ้ สนอ- งานคนื เครื่องราชอสิ ริยาภรณแ์ ละส่งเงินซดใช้ แทนเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ 1. ชื่องาน งานคืนเครอ่ื งราชอิสริยาภรณแ์ ละส่งเงนิ ชดใช้ แทนเครอื่ งราชอิสริยาภรณ์ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ใช้เป็นแนวปฏบิ ัตกิ ารขอคนื เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณแ์ ละส่งใชเ้ งนิ ซดใชแ้ ทน 3. ขอบเขตของงาน การคืนเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณก์ รณชี ัน้ รอง และกรณีวายชนมเ์ ม่อื ไดร้ บั เครอ่ื งราชๆ ชั้นสงู สูงข้ึนใน ตระกลู เดียวกนั และกรณวี ายชนมท์ ายาท ผรู้ บั มรดกต้องส่งคืนเครือ่ งราชฯ ด้วย

- 11 - 4. ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงาน 4.1 ดําเนินการจา่ ยเครอ่ื งราชอิสริยาภรณใ์ หแ้ ก,ผใู้ ด ให้เรยี กคืนเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ ชน้ั รอง ของตระกูลเดียวกนั ยกเวน้ เหรยี ญจักรพรรดิมาลาไมต่ ้องเรยี กคืน หรือเมื่อทราบวา่ ชา้ ราชการผูใ้ ด ถงึ แก่กรรมให้ เรยี กคืนเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณค์ ืนจากทายาท 4.2 สพท.ตรวจสอบสภาพเครื่องราชอิสรยิ าภรณว์ า่ มอี งค์ประกอบครบถว้ นหรอื ไม่แล้วตดิ ซื่อ-สกุล ของผสู้ ง่ คนื กาํ กับไวท้ ตี่ ัวเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ทกุ ดวง/สาํ รบั โดยไมต่ ้องส่งกลอ่ งคืนไปดว้ ย 4.3 สพท.ตรวจสอบและจัดทาํ เอกสารตามท่ีกําหนดรวบรวมส่งสาํ นกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษา ขั้นพ้นื ฐาน พรอ้ มเคร่อื งราชอิสรยิ าภรณท์ ส่ี ่งคนื กรณีผู้ไต้รับพระราชทานไมส่ ามารถสง่ คนื เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตราใดตอ้ งใหผ้ ไู้ ตร้ ับ พระราชทานหรอื ทายาทนาํ เงินซดใชแ้ ทนราคาเครื่องราชอิสรยิ าภรณ์ตามราคาท่กี ําหนด ---------------------------------------

คมู่ อื ปฏบิ ัติงาน ของ นางสาวมณฑกานต์ อุ่มนอ้ ย นกั ทรพั ยากรบคุ คลชาํ นาญการ กลุม่ บริหารงานบคุ คล สํานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาสระบรุ ี เขต 1 --------------------------------------- การจดั ทําแฟม้ ประวตั ิ ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16) ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ผ้ไู ด้รบั การบรรจใุ หม่ 1. ชอ่ื งาน การจัดทําแฟ้มประวตั ิ ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16) ของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาผู้ได้รับการ บรรจใุ หม่ 2. วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื เป็นแนวปฏบิ ัติการปฏิบัตงิ านการจัดทําแฟ้มประวัติขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 3. ขอบเขตของงาน ตามหนังสือสาํ นักงาน ก.พ. ท่ี สร 1007/ว 28 ลงจนั ท่ี 15 กันยายน 2518 และระเบยี บ ก.ค.ศ. วา่ ดว้ ยระบบการเขียนประวัตขิ า้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2555 เรอื่ ง ก.พ.7 แบบ ใหม่ และแฟม้ ประวตั ิข้าราชการได้กาํ หนดใหส้ ว่ นราชการเจ้าสงั กัด ตามแนวปฏิบตั ิ ข้อ (2.4) ต้องจัดทําแฟม้ ประวัติ ขา้ ราชการให้แก่ผูร้ ับการบรรจุเข้ารับราชการใหม่ และผทู้ เ่ี ปน็ ข้าราชการอยแู่ ล้วทกุ คน คนละ 1 แฟ้ม ให้มขี อ้ มลู ทส่ี มบูรณ์ และทันสมัยอยูเ่ สมอ และเกบ็ รกั ษาไจ้ทส่ี ว่ นราชการเจา้ สังกดั ระดับกรม 4. คําจํากัดความ แฟม้ ประวัติ หมายถึง แฟ้มประวตั ิขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาท่ี ก.ค.ศ.กาํ หนด และ รวมถึงลูกจา้ งประจาํ และพนักงานราชการ 5. ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน 5.1 ผูไ้ ด้รับการบรรจเุ ขา้ รบั ราชการใหมต่ อ้ งเตรยี มเอกสารในการจัดทํา ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16) ไดแ้ ก่ แบบใบสมคั รดัดเลือกเพอื่ บรรจเุ ขา้ รับราชการหรือ แบบใบสมคั รสอบแข่งขนั เพื่อบรรจุ แตง่ ตั้ง ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาแลว้ แต่กรณี จํานวน 1 ชุด 5.1.1 ใบรายงานตวั เข้ารบั ราชการ จํานวน 1 ฉบับ 5.1.2 คําสัง่ แต่งต้งั ให้ดาํ รงตําแหนง่ 5.1.3 หนังสอื ส่งตัวผ้ซู ่งึ จะบรรจเุ ข้ารับราชการไปพิมพ์ลายน้วิ มอื เพอ่ื ตรวจสอบความ ประพฤติ ยงั สถานีตํารวจทีข่ า้ ราชการผู้น้นั มภี ูมสี าํ เนาอยู่ (ตามสาํ เนาทะเบียนบา้ น) 5.1.4 สาํ เนาทะเบยี นบา้ น จํานวน 1 ฉบับ 5.1.5 สําเนาปริญญาบัตร จํานวน 1 ฉบบั 5.1.6 ใบรบั รองแพทย์ (ระบหุ มูโ่ ลหติ ดว้ ย) จํานวน 1 ฉบบั 5.1.7 รปู ถ่ายขนาด 3x4 ซม.การแตง่ กาย ใชเ้ ครือ่ งแบบข้าราชการไม่ต้องประดบั เคร่อื งราชอิสรยิ าภรณ์และแถบสีตา่ ง ๆ จํานวน 5 รปู 5.18 หลกั ฐานการเปล่ียนซือ่ ตวั ซ่ือสกุล จาํ นวน 1 ฉบบั (ถา้ มี) 5.19 สาํ เนาทะเบยี นสมรส จํานวน 1 ฉบบั (ถ้ามี) 5.20 สําเนาบัตรประซาซน จาํ นวน 1 ฉบับ 5.21 สําเนาใบประกอบวิชาชีพ 5.22 เจ้าหน้าท่ีทะเบยี นประวัติ จดั เตรียมเอกสารท่ีต้องใชส้ าํ หรบั จดั ทํา ก.พ.7 ผบู้ รรจใุ หม่

-2- 5.22.1 แฟม้ ประวัตชิ า้ ราชการ จาํ นวน 1 แฟม้ 5.22.2 ก.พ.7 จาํ นวน 2 แฟ้ม 5.22.3 หนังสอื แสดงเจตนาระบุตวั ผู้รบั บาํ เหนจ็ ตกทอด จาํ นวน 1 ฉบับ 5.22.4 หนงั สอื แสดงเจตนาระบตุ วั ผู้รับเงินช่วยพเิ ศษกรณชี า้ ราชการถึงแก่ ความตาย จาํ นวน 1 ฉบับ 5.23 เจา้ หนา้ ทท่ี ะเบียนประวตั ิ อธบิ ายการกรอบข้อมลู ใน ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16) โดยใหผ้ บู้ รรจุเชา้ รับ ราชการต้องเป็นผู้บันทึกด้วยตนเอง ได้แก่ ซื่อตัว-ซื่อสกุล, วัน เดือน ปี เกิด, ซื่อคู่สมรส (ถ้ามี), ซื่อบิดา มารดา, ประวตั ิ การศกึ ษา ปีกอบรม และดูงาน และบันทึกซอื่ ตวั – ชอ่ื สกุล ระตับทบ่ี รรจุ 5.24 เจา้ หน้าท่ีทะเบยี นประวตั ิ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และบนั ทกึ ขอ้ มลู ในสว่ นเจ้าหนา้ ที่และเก็บ 5.25 เอกสารที่เกย่ี วช้องในแฟม้ ประวตั ิชา้ ราชการ เสนอหวั หนา้ ส่วนราชการลงนามใน ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16) โดยเกบ็ รกั ษาไว้ท่ีสํานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษา จํานวน 1 ชุด งานจดั ทาํ ขอ้ มูลทะเบยี นประวตั ิ บนั ทึกรายการเปลย่ี นแปลงและการจัดเกบ็ รักษา ทะเบยี นประวตั ิ ก.พ.7 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและลกู จา้ งประจาํ 1. ชือ่ งาน งานจดั ทําขอ้ มลู ทะเบียนประวตั ิ บันทึกรายการเปล่ียนแปลงและการจดั เก็บรักษาทะเบียนประวตั ิ ก.พ. 7 (ก.ค.ศ.16) ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาและลูกจา้ งประจํา 2. วัตถุประสงค์ เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการจดั ทําขอ้ มลู ทะเบยี นประวัติ เมอื่ มคี าํ สง่ั ข้อมลู ทเ่ี ปลี่ยนแปลง เกย่ี วข้องกบั เจา้ ของประวตั ิจะต้องนาํ ไปบันทึกการเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา และ ลกู จา้ งประจํา 3. ขอบเขตของงาน เปน็ การวดั ทําข้อมูลทะเบียนประวตั ิ เม่ือมคี ําส่ังขอ้ มลู ทเ่ี ปลย่ี นแปลงเกยี่ วขอ้ งกับเจ้าของ ประวัตจิ ะต้องนําไปบนั ทึกการเปลีย่ นแปลงและการวัดเกบ็ รกั ษาทะเบียนประวัติ ก.พ.7(ก.ค.ศ.16) ขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาและลูกจา้ งประจําให้ถกู ตอ้ งเป็นปัจจบุ นั 4. คําจาํ กดั ความ “ทะเบียนประวตั ิ ก.พ.7” ใหห้ มายรวมถงึ ทะเบียนประวตั ิ ก.พ. 7 อิเล็กทรอนกิ ส์หรอื เรียกชอื่ อ่ืน ตามทก่ี ฎหมายกาํ หนดดว้ ย 5. ขนั้ ตอนการดาํ เนนิ การ 5.1 เมอื่ มคี าํ สง่ั ขอ้ มูลท่ีเปล่ียนแปลงเกี่ยวข้องกับเจา้ ของประวตั ิเจ้าหน้าท่ีดาํ เนนิ การ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาและลกู จา้ งประจาํ กรอกรายละเอียด ข้อมลู เบือ้ งต้นเกย่ี วกบั ประวัติของตนเองพรอ้ มลงลายมอื ช่อื หรือแจง้ รายการเปลย่ี นแปลงข้อมูลประกอบ ใน ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16) 5.2 เจ้าหนา้ ทน่ี าํ ขอ้ มูลท่ไี ต้ 5.2.1 เก็บไวในแฟ้มปกติ 5.2.2 เกบ็ ไวในคอมพิวเตอร์ (ระมัดระวังเก่ยี วกับการคุ้มครองข้อมลู สว่ นบุคคลด้วย) 5.3 เจ้าหนา้ ทต่ี รวจรายละเอียดความถกู ต้องหรอื ดําเนินการเปลยี่ นแปลงขอ้ มูลลงใน ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16)/สมดุ ประวตั ิ/แฟม้ ประวตั ิ 5.4 เก็บรกั ษาทะเบยี นประวัตไิ ว้เปน็ ความลับในทป่ี ลอดภัย

-3– 5.5 นาํ ขอ้ มลู ไปใช้ในการบริหารงานบุคคล 5.6 ซอ่ มแซมส่วนทช่ี าํ รดุ เสยี หาย/ทําขน้ึ ใหม่ตามสภาพ งานแก้ไขทะเบยี นประวัติ 1. ชื่องาน งานแก้ไขวัน เดอื น ปีเกิด ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา 2.วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อเปน็ แนวปฏิบัติการแก้ไข วนั เดอื น ปีเกดิ ของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 3.ขอบเขตของงาน เป็นการดาํ เนนิ การแกไ้ ขปรบั ปรงุ ขอ้ มูลวนั เดอื น ปเี กิด ของข้าราชการครูและบุคลากร ทาง การศกึ ษาให้ถกู ต้องตามหลกั ฐานของทางราชการ 4.ขัน้ ตอนการปฏบิ ัตงิ าน 4.1 ผมู้ ีความประสงค์ขอแกไ้ ขวัน เดือน ปีเกิด ย่ืนดาํ ขอตามแบบท่ีกําหนดโดยแนบเอกสาร ตอ่ ผ้บู ังคับบญั ชาตามลาํ ดบั ตรวจสอบ ประกอบดว้ ย สตู บิ ัตร หรือทะเบยี นการเกดิ และเอกสารดงั นี้ ทะเบียนบ้าน (ทร.14) หลักฐานทางการศกึ ษา หลกั ฐานทางการทหาร หลักฐานทางราชการแสดงวัน เดือน ปเี กดิ หลกั ฐานอ่ืน ๆ ของทางราชการทรี่ ะบวุ ัน เดือน ปีเกดิ โดยซัดเจน หลักฐานพ่นี อ้ งร่วมมารดา 4.2 เจา้ หน้าทต่ี รวจสอบความถูกตอ้ ง 4.3 นําเสนอผบู้ งั คบั บญั ชาตามลําดับชัน้ ถึงผู้มีอํานาจ 4.4 ดาํ เนินการแก้ไขในทะเบยี นประวัติ ถ้าได้รบั อนุญาต 4.5 แจง้ หน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้องเพือ่ ดําเนนิ การแกไ้ ข งานเปลยี่ นแปลงซ่อื – สกลุ ในทะเบียนประวัติ 1. ชือ่ งาน งานเปลี่ยนแปลงซ่ือ – สกุลในทะเบียนประวัติ 2. วตั ถุประสงค์ เพ่อื เป็นแนวปฏบิ ตั ิการดาํ เนินการเปลย่ี นแปลงซอ่ื -สกุล ในทะเบียนประวตั ิ 3. ขอบเขตของงาน เป็นการเปลยี่ นแปลงข้อมลู ซอื่ - สกุลในทะเบียนประวัตขิ องขา้ ราชการครูและบุคลากร ทาง การศกึ ษาแต่ละคนใหถ้ ูกต้องตามหลักฐานของทางราชการ 4.ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงาน 4.1 ผ้ทู ่ีตอ้ งการเปลยี่ นแปลงทะเบยี นประวัติเสนอคํารอ้ งตามลาํ ดบั ชั้น 4.2 ผบู้ งั คบั บัญชาชน้ั ต้นเสนอผมู้ ีอาํ นาจเหนือขึ้นไป

-4– 4.3 เจ้าหนา้ ที่ สพท. ตรวจเอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง 4.3.1 ทะเบียนสมรส (คร.3) 4.3.2 ทะเบียนหย่า (คร.6) 4.3.3 เอกสารการขอเปลยี่ นซอ่ื ตัว (ทร.3) 4.3.4 เอกสารการขอเปลย่ี นซอ่ื สกุล (ทร.4) 4.3.5 ทะเบยี นบ้าน (ทร.14) 4.3.6 ใบรับรองคุณวุฒิหรือปรญิ ญาบัตร 4.4 เสนอผอู้ ํานวยการลาํ นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/ผ้อู าํ นวยการลํานกั งาน เขตพ้นื ท่ี การศึกษามัธยมศกึ ษา อนมุ ตั ิ 4.5 เปลยี่ นแปลง บันทึกข้อมลู ลงใน ก.พ.? สมดุ ประวตั ิ/แฟ้มประวัติ 4.6 แจง้ หนว่ ยงานทเี่ กีย่ วข้อง การขอเพ่มิ วฒุ ิในทะเบียนประวัติ 1. ขอ่ื งาน การขอเพิ่มวฒุ ใิ นทะเบียนประวัติ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื เปน็ แนวปฏบิ ัตกิ ารดําเนินการขอเพ่ิมวฒุ ิการศึกษาในทะเบียนประวัติ 3. ขอบเขตของงาน เปน็ การดําเนินการปรับปรงุ ขอ้ มลู วฒุ กิ ารศึกษาของข้าราชการและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ใหเ้ ป็นปัจจบุ นั 4. คําจาํ กัดความ วุฒิการศกึ ษา คือ วุฒทิ ี่ ก.ค.ศ.รบั รองเป็นคุณวฒุ ิทางการศกึ ษา 6. ขน้ั ตอนการปฏิบตั งิ าน 6.1 ขา้ ราชการทไี่ ดร้ ับวุฒิเพมิ่ ขึ้น เสนอผู้บงั คบั บญั ชาเพือ่ ขอเพิม่ วฒุ ิในทะเบียนประวตั ิ 6.2 สาํ นักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา ดําเนินการตรวจสอบคุณวุฒิและดําเนนิ การเพ่มิ วุฒใิ น ก.พ.7 (ก.ค.ศ.16) 6.3 แจง้ ผู้ขอเพม่ิ คุณวฒุ ิทราบ 6.4 รายงาน สาํ นกั งาน ก.ค.ศ.และกลมุ่ งานที่เก่ยี วขอ้ ง งานบนั ทกึ วนั ลาประจําปใี นแฟม้ ประวัตขิ า้ ราชการและลกู จา้ งประจาํ 1. ชอื่ งาน งานบนั ทกึ วันลาประจาํ ปใี นแฟ้มประวัติข้าราชการและลกู จา้ งประจํา 2. วตั ถุประสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏบิ ัติการบนั ทึกวันลาในแฟม้ ประวตั ขิ ้าราชการและลกู จ้าง 3. ขอบเขตของงาน เปน็ การตรวจสอบควบคุมและบันทกึ ข้อมลู การลาของขา้ ราชการและลูกจา้ งประจาํ ลงใน ปกแฟม้ ประวตั ิขา้ ราชการและสมุดประวัติของแต่ละคน

-5– 4. ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 4.1 สถานศกึ ษาและหน่วยงานในสงั กดั จดั ทําบญั ชีรายงานการลาประเภทต่าง ๆ ของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจํา โดยนับตามปีงบประมาณ (1 ตุลาคม - 30 กันยายน) เสนอสํานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา 4.2 สถานศกึ ษาและหนว่ ยงานในสงั กัดจดั ส่งบญั ชรี ายงานการลาของขา้ ราชการครแู ละ บคุ ลากร ทางการศึกษา และลูกจา้ งประจาํ ตามลาํ ดบั ขน้ั 4.3 เจ้าหนา้ ทต่ี รวจสอบความถกู ต้องและรายงานผู้บงั คบั บญั ชา 4.4 เจา้ หน้าทบ่ี นั ทึกข้อมลู การลาของข้าราชการและลกู จา้ งประจํามาลงปกแฟม้ ประวัติ ขา้ ราชการ และสมดุ ประวตั ิของแตล่ ะคน งานดาํ เนนิ การเกีย่ วกับข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาทอ่ี อกจากราชการทกุ กรณี 1. ช่ืองาน งานดําเนินการเกี่ยวกบั ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ออกจากราชการทุกกรณี 2. วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือเปน็ แนวปฏิบตั กิ ารดาํ เนินการเกีย่ วกับแฟ้มประวตั ิข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการ ศึกษา กรณีลาออกจากราชการหรอื ถึงแก่กรรม 3. ขอบเขตของงาน ทะเบยี นประวัติข้าราชการ หมายถึง เอกสารทีใ่ ช้บนั ทึกและรวบรวมรายละเอียดขอ้ มูลตา่ ง ๆ ของ ขา้ ราชการ เพือ่ ประโยซนไนการบรหิ ารงานบคุ คลต้ังแตป่ จั จุบันจนพน้ จากราชการทุกกรณี 4. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน กรณีมขี ้าราชการลาออกจากราชการหรอื ถึงแก่กรรม ดาํ เนินการตามขน้ั ตอนดงั น้ี กรณีลาออกจากราชการ 1. เมอ่ื ไดร้ ับดาํ สัง่ ลาออกจากราชการตรวจสอบความถูกต้อง 2. ประสานขอทราบวนั ลาหยดุ ราชการทง้ั ปี ในปีทล่ี าออกจากราชการแลว้ นํามากรอกวันลา ในแฟ้มประวตั ิ 3. กรอกรายละเอยี ดใน ก.พ.7 รายการข้อ 13. ตาํ แหน่งและอัตราเงนิ เดือนต่อจากรายการ สดุ ท้ายโดยเริม่ กรอก วัน เดือน ปี ที,ลาออกจากราชการ ซ่องตาํ แหนง่ และอัตราเงินเดอื น กรอกคาํ วา่ ลาออก จาก ราชการตามด้วยเหตผุ ล แล้วกรอกซ่องเอกสารอ้างองิ จะกรอกข้อมูลตามคําสัง่ ลาออก 4. มอบเอกสารให้กลมุ่ งานบริหารการเงินและสนิ ทรัพย์ไปดาํ เนินการในส่วนท่เี กี่ยวข้อง 5. เก็บท่ีกลมุ่ งานการเงินและสนิ ทรพั ย์ เพอ่ื สง่ สง่ กรมบัญชกี ลาง 6. สําเนาเรื่องและใบรับรองวันทวีคณู รวบรวมเกบ็ ไว้ กรณถี งึ แกก่ รรม 1. เม่อื ไดร้ ับใบมรณะบัตร 2. ประสานขอทราบวันลาหยุดราชการทัง้ ปี ในปที ีถ่ ึงแกก่ รรมแล้วน่ามากรอกวันลา ในแฟ้มประวตั ิ 3. กรอกรายละเอยี ดใน ก.พ.7 รายการข้อ 13. ตาํ แหน่งและอตั ราเงนิ เดอื นต่อจากรายการ สุดท้าย โดยเรม่ิ กรอกวนั เดือน ปี ท่ถี งึ แก่กรรม ชอ่ งตําแหน่งและอตั ราเงินเดือน กรอกคําวา่ ถึงแกก่ รรม 4. มอบเอกสารใหก้ ลมุ่ บริหารงานการเงนิ และสนิ ทรัพย์ไปดําเนินการในสว่ นทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 5. เกบ็ ที่กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์เพอ่ื จดั ส่งกรมบัญชกี ลาง 6. สาํ เนาเรื่องและใบรับรองวนั ทวคี ูณ

-6- งานเข้าเปน็ สมาชกิ กองทนุ บําเหนจ็ บาํ นาญขา้ ราชการ (กบข.) 1. ชือ่ งาน งานเข้าเปน็ สมาชกิ กองทนุ บําเหน็จบาํ นาญขา้ ราชการ (กบข.) 2. วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื เป็นแนวปฏบิ ัติการดาํ เนินการเข้าเปน็ สมาชิก (กบข) 3. ขอบเขตของงาน กบข. คือ กองทุนบําเหนจ็ บํานาญข้าราชการ จดั ตง้ั ขึน้ ตาม พ.ร.บ.กองทุนบาํ เหนจ็ บาํ นาญ ขา้ ราชการ พ.ศ.2539 เป็นนติ ิบุคคล ในการกํากับ ควบคุม ดแู ลของกระทรวงการคลงั โดยสมาชกิ ของกองทนุ เม่ือ ออกจากราชการจะมสี ิทธไิ ดร้ บั เงิน คือ เงนิ บําเหน็จบํานาญตามสูตรใหมจ่ ากเงินงบประมาณ และเงนิ กอ้ น อีก จํานวนหนง่ึ จากกองทุน 4. ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน 4.1 ขา้ ราชการเขยี นใบสมคั รเปน็ สมาชกิ พร้อมเอกสารหลักฐาน 4.2 สถานศกึ ษาตรวจสอบรวบรวมสง่ สาํ นักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา 4.3 สํานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาตรวจสอบเอกสารหลกั ฐาน 4.4 ผ้อู ํานวยการสํานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาลงนามรับรอง 4.5 จัดสง่ เอกสารไปยังหน่วยงานและผูเ้ กีย่ วข้อง งานรบั สมคั รสมาซิกกองทนุ สํารองเลี้ยงชพี สาํ หรับลกู จา้ งประจําของส่วนราชการ (กสจ.) 1. ชอ่ื งาน งานรบั สมคั รสมาซิกกองทุนสาํ รองเลี้ยงชีพสําหรับลกู จ้างประจําของส่วนราชการ (กสจ.) 2. วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ เปน็ แนวปฏบิ ัติในการสมคั รเปน็ สมาซิกกองทุนสํารองเลี้ยงชพี สําหรบั ลกู จ้างประจาํ สว่ น ราชการ 3. ขอบเขตของงาน คณะรฐั มนตรีไดม้ มี ตเิ ม่อื วันที่ 26 พฤศจิกายน 2539 ให้กระทรวงการคลงั ดําเนินการจดั ต้งั กองทุน สาํ รองเล้ียงชพี สาํ หรบั ลูกจ้างประจาํ ชองสว่ นราชการ (กสจ.) ขน้ึ และไดด้ าํ เนินการจดทะเบยี นจัดตัง้ กองทุนเม่ือ วนั ท่ี 27 มีนาคม 2540 แล้วเพื่อเปน็ การจัดสวัสดกิ ารแก่ลูกจ้าง ใหม้ เี งนิ ไว้ใชเ้ ม่ือออกจากราชการ หรอื เม่ือพ้นวยั ทาํ งาน และเพ่อื สรา้ งความสัมพนั ธอ์ นั ตีระหว่างรฐั และลกู จ้างประจํา (ลกู จา้ งสะสม 3% รฐั สมทบให้ 3%) 4. ข้นั ตอนการปฏบิ ัติงาน 4.1 การยื่นใบสมัคร ลกู จ้างประจําชองส่วนราชการ (โรงเรียนในสงั กดั ) (ทเี่ บกิ จ่ายเงินในหมวด ค่าจา้ งประจํารหัสหมวดรายจ่าย 210 เท่านนั้ ) ผทู้ ปี่ ระสงค์จะสมคั รฯ ยน่ื ใบสมัครสมาชิกกองทุนฯ พร้อมแบบแสดง เจตนาระบตุ วั ผ้รู ับประโยชน์ (แบบ กลจ.006) ผ่านหัวหนา้ สว่ นราชการ (ผบู้ ริหารสถานศึกษา ในสังกดั ชองตน) จํานวน 3 ชดุ สง่ ใหส้ ่วนราชการผู้เบิก (สพป./สพม.) และได้ลงทะเบียนรับก่อนวันท่ี 15 ชอง เดอื นใด สทิ ธิในสมาชกิ ภาพจะเริม่ ต้งั แต่วนั ท่ี 1 ชองเดอื นนน้ั หากลงทะเบียนรบั ต้งั แต่วนั ที่ 15 ชองเดือน สิทธิ ในสมาชกิ ภาพจะเริม่ ตั้งแต่ วนั ที่ 1 ชองเดอื นสัดไป 4.2 การจดั ทาํ ทะเบียน สาํ นกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา/สาํ นักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษา มัธยมศึกษา โดยกล่มุ งานบรหิ ารบคุ คล จัดทําทะเบยี นรบั (แบบ กลจ.001/1 และ 001/2) จํานวน 3 ชุด และนําสง่ ใบสมคั รเพอ่ื ควบคุมการรบั และส่งใบสมคั รสมาชกิ ไว้เป็นหลกั ฐาน และตรวจสอบรับรองความ ถกู ต้องชองรายการ ในใบสมัครสมาชกิ ให้ตรงตามหลักฐานชองทางราชการ และรวบรวมส่งใบสมคั รพร้อมแบบ เจตนาระบตุ วั ผูร้ บั

-7- ประโยชน์ (แบบ กลจ.006) และทะเบียนรับ (แบบ กลจ.001/1และ 001/2)ตวั จรงิ จาํ นวน 2 ชดุ ไปใหบ้ รษิ ัทไทย ประกนั ชีวิต จาํ กดั กรุงเทพฯ โดยทางไปรษณียด์ ่วนพเิ ศษ (EMS) พรอ้ มสง่ ลาํ เนาทะเบยี นรบั (แบบ กลจ.001/1 และ 001/2) และนาํ ส่งใบสมคั ร จาํ นวน 1 ชุด คนื ใหส้ ว่ นราชการเจ้า สงั กัด (โรงเรียน) ทราบ พรอ้ มสาํ เนาส่งให้ กล่มุ งานการเงินและสินทรพั ยเ์ พือ่ ดาํ เนินการในสว่ นท่ีเก่ยี วช้องตอ่ ไป งานขออนญุ าตลา และเบกิ จา่ ยเงนิ เดือน/คา่ จ้างระหวา่ งลาในสว่ นทลี่ าเกนิ 60 วนั ทาํ การ 1.ชอ่ื งาน งานขออนุญาตลา และเบกิ จา่ ยเงนิ เดือน/ค่าจา้ งระหวา่ งลาในสว่ นทล่ี าเกนิ 60 วนั ทาํ การ 2.วตั ถุประสงค์ เพอ่ื เปน็ แนวปฏบิ ตั ิ การดําเนินการขออนญุ าตลา และเบกิ จ่ายเงินเดือน/ค่าจา้ งระหว่าง ลาใน สว่ นทีล่ าเกิน 60 วันทาํ การ 3.ขอบเขตของงาน ลักษณะงานเปน็ งานท่จี ะต้องบันทกึ ประวัตกิ ารดําเนินการทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับกฎระเบยี บ ดําสัง่ หลกั เกณฑ์การเบิกจา่ ยเงินเดือน/คา่ จ้างระหวา่ ลา ซงึ่ จะตอ้ งถอื ปีงบประมาณในการตรวจสอบ โดยท่กี าร ลาปว่ ย (ยกเวน้ ผู้ป่วยที่ไต้รบั อันตรายหรอื บาดเจ็บเพราะปฏบิ ตั ริ าชการ) ในส่วนท่ีเกิน 60วนั ทาํ การจะตอ้ ง เสนอผู้มีอาํ นาจ พจิ ารณาอนุมุติการเบกิ เบกิ จ่ายเงินเดอื น/ค่าจา้ งระหว่าลา 4.ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 4.1 ใหผ้ ลู้ าเสนอใบลาตอ่ ผู้บงั คบั บญั ชาตามลาํ ดับขนั้ จนถืงผูม้ อี าํ นาจอนุญาตการลาตามแบบ ใบลาตาม ระเบยี บวา่ ดว้ ยการลาข้องข้าราชการ พ.ศ. 2535 และดําเนินการดังนี้ 4.2 กรณีการลาของครูผู้สอนในสถานศกึ ษาและลกู จา้ งประจํา รองผอู้ าํ นวยการโรงเรียน ใหผ้ ้อู ํานวยการโรงเรียนเป็นผพู้ จิ ารณาอนุญาต 4.3 กรณผี ู้อํานวยการโรงเรยี น ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาและลกู จ้างประจาํ ในสํานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา ให้ผู้อาํ นวยการสาํ นกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาเป็นผู้พิจารณาอนญุ าต ส่วน ผู้อาํ นวยการสาํ นักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ใหเ้ ลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐานพจิ ารณาอนญุ าต 4.4 กรณีผ้ขู อลาไมส่ ามารถลงลายมอื ซือ่ ในใบลาไต้ให้ดําเนินการดงั นี้ 4.4.1 ให้ผขู้ อลาพมิ พล์ ายนวิ้ มือแทนโดยมีผู้รบั รองจํานวน 2 คน ว่าเป็นลายพิมพน์ ้ิว มอื ของ ผู้ลาจรงิ และผรู้ บั รองตอ้ งลงลายมือซ่ือพรอ้ มเขยี นซอ่ื -สกลุ กํากับ'ไวใหซ้ ดั เจน หรือ 4.4.2 มอบให้ผู้อน่ื ลงซือ่ ลาแทนแลว้ หมายเหตุว่าลาแทนเมอื่ ผปู้ ว่ ยสามารถลงซอ่ื ได้ แล้วต้องรบี สง่ ทนั ที 4.4.3 ใบลามีรอยแกไ้ ข ต้องให้ผูข้ อลาลงซ่อื กํากบั ตรงทมี่ รี อยลบแกไ้ ข 4.4.4 หลกั ฐานการลาตา่ งๆท่สี าํ เนาสง่ ตอ้ งมผี รู้ บั รองตามระเบียบงานสารบรรณ 4.4.5 การลาป่วยต้ังแต่ 30 วนั ขนึ้ ไป ต้องมีใบรบั รองแพทย์ ทแ่ี พทยล์ งความเห็นให้ พกั รักษาตัวครบตามจาํ นวนวันลาแนบไปดว้ ยโดยใหแ้ พทยล์ งลายมือซือ่ พรอ้ มกบั เขียนชื่อ-สกุล กํากับให้ ชดั เจนทุก ครัง้ และถา้ มรี อยลบแก้ไขต้องใหแ้ พทยล์ งซอื่ กาํ กับไวด้ ้วย 4.4.6 การลาปว่ ยติดต่อกันต้งั แตก่ ่อนปดิ ภาคเรยี นจนถงึ เปิดภาคเรยี นท่ยี งั ลาปว่ ยต่อ อกี ด้วย เหตุเดยี วกันต้องแนบใบลาและใบรบั รองแพทยค์ รบตามจํานวนเวลา (รวมช่วงปิดภาคเรียน) ประกอบการพิจารณา

-8– 4.5 ผมู้ สี ิทธทิ ีข่ ออนญุ าตเบิกจา่ ยเงินเดือน/ค่าจา้ งในระหวา่ งลาในกรณีผลู้ าป่วย ลาเกิน 60 วนั ทาํ การ มสี ิทธิเสนอขออนุญาตและดาํ เนนิ การ ดังน้ี 4.5.1 จดั ทาํ เรอื่ งขอเบิกเสนอผ้บู งั คบั บัญชา (ผอ.โรงเรียน/ผอ.สพท.) 4.5.1.1 บนั ทกึ ขอ้ ความ 4.5.1.2 ใบลาทุกฉบับ 4.5.1.3 ใบรับรองแพทยท์ ีร่ ะบุจาํ นวนวันให้ลาทกุ ฉบบั ตั้งแตเ่ รมิ่ ต้นลา ในปีงบประมาณนน้ั ๆด้วย 4.5.1.4 เอกสารประกอบอืน่ 4.6 โรงเรยี นตรวจสอบและรับรอง จัดทาํ เร่อื งเสนอสาํ นักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาสําหรบั ลกู จา้ งประจําใหผ้ ้อู ํานวยการโรงเรียนพจิ ารณาอนุมตั ิการเบิกจา่ ยค่าจ้างในระหว่างลาป่วยในปหี น่งึ เกิน 60 วนั ทํา การ 4.6.1 เจา้ หน้าทผ่ี ู้รับผิดขอบ (กลมุ่ บรหิ ารงานบคุ คล) ตรวจสอบและเสนอเรอื่ ง 4.6.2 ผอู้ าํ นวยการสํานกั เขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาพจิ ารณาอนุมตั ิการเบิกจา่ ยเงนิ เดอื นในระหว่างลา ป่วยในปหี นง่ึ เกนิ 60 วนั ทาํ การ 4.7 แจ้งผลอนมุ ัติแกผ่ ู้ขอเบกิ โรงเรียนและผ้ทู ่มี ีหน้าทขี่ อเบิกเงอื นเดอื นในระหวา่ งการลา งานขอยกเวน้ การเขา้ รับราชการทหาร 1. ช่ืองาน งานขอยกเว้นการเข้ารบั ราชการทหาร 2.วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ เป็นแนวปฏิบัตกิ ารดําเนินการขออนญุ าตขอยกเวน้ การเขา้ รับราชการทหาร 3. ขอบเขตของงาน พระราชบัญญัตริ ับราชการทหาร พ.ศ.2497 ข้าราชการครูที่มสิ ทิ ธิยกเว้นการเขา้ รับราชการทหารตอ้ ง มี คุณสมบัติดงั นี้ 1. เปน็ ครปู ระจําการทาํ การสอบนักเรยี น นสิ ิต หรอื นกั ศึกษาไม่นอ้ ยกวา่ สิบหา้ คนเป็นปกติ และในจํานวนนักเรียนนิสิต หรือนักศึกษาไม่น้อยกว่าสิบห้าคนนี้ยกเว้นครูไต้คนเดียว หรือเป็นครูสอนประจํา เฉพาะ วิชาซ่ึงทํางานสอนนักเรียนนิสิต หรือนักศึกษาไม1น้อยกว่าสิบห้าคน เป็นปกติและในจํานวนนักเรียนนิสิต หรือ นักศึกษาไมน่ ้อยกวา่ สบิ ห้าคนนยี้ กเว้นครู ได้คนเดยี วเซ่นเดยี วกนั 2. มเี วลาสอนสัปดาห์ละไมน่ อ้ ยกวา่ สบิ แปดชั่วโมง สําหรับครซู ึง่ ทําการสอนในสถานศกึ ษาตงั้ แต่ ระดับมัธยมศึกษาลงมา หรือไม1น้อยกว่าสิบห้าช่ัวโมง สําหรับครูประจําการสอนในสถานศึกษาระดับสูงกว่า มธั ยมศึกษา 4.ข้นั ตอนการปฏิบัติงาน 4.1 ข้าราชการครทู ่ขี อยกเว้นการเกณฑท์ หาร ยน่ื หลกั ฐานประกอบการขอยกเว้นๆจาํ นวน 2 ชุด ที่ โรงเรียนตน้ สงั กัดของตน ประกอบดว้ ย 4.1.1 สําเนาคาํ สั่งบรรจแุ ละแตง่ ตัง้ 4.1.2 สาํ เนาทะเบยี นบา้ น 4.1.3 สําเนาแบบ สด. 9 (ใบสาํ คัญ) 4.1.4 สําเนาแบบ สด. 35 (หมายเรียกเขา้ รับราชการทหาร) 4.1.5 สาํ เนาบัตรประจําตัวข้าราชการ

-9– 4.2 โ,รงเรียนตน้ สังกัดตรวจสอบเอกสาร และจัดทําบญั ชรี าชซือ่ ข้าราชการทหารครขู อยกเว้นการเข้า รับราชการทหาร ตามแบบทกี่ าํ หนด และหนังสอื รับรองว่าไตท้ าํ การสอนท่ีโรงเรียนน้สี อนระดับช้นั ไหน และมี จํานวนกค่ี น สอนกีช่ ่ัวโมง เป็นไปตาม พ.ร.บ.การยกเวน้ หรอื ไม่ และรวบรวมเอกสารท้งั หมด จัดส่งใหส้ ่วน ราชการ ต้นสงั กดั (สพท.) เพ่อื ดาํ เนนิ การเสนอขอยกเวน้ การเขา้ รับราชการทหาร ไปยังผูว้ า่ ราชการจังหวัด (สสั ดีจงั หวัด) นน้ั ตอ่ ไป 4.3 ผวู้ ่าราชการจงั หวดั (สัสดจี ังหวดั ) ดําเนนิ การออกใบสาํ คัญยกเว้นครู (แบบ สด. 37) ส่งกลบั มาให้ สาํ นกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษา 4.4 สํานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา ทําหนังสอื แจง้ ให้โรงเรียนตน้ สงั กดั ของขา้ ราชการครทู ข่ี อยกเวน้ การเข้า รบั ราชการทหาร เพอื่ แจง้ ใหข้ า้ ราชการครูในสังกดั ทราบต่อไป งานเกษียณอายรุ าชการของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 1.ชื่องาน งานเกษยี ณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 2.วตั ถุประสงค์ เพอื่ เป็นแนวปฏิบัติที่ถกู ต้อง สนองตอ่ ความตอ้ งการของหนว่ ยงาน และเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภิบาล 3.ขอบเขตของงาน ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา มอี ายคุ รบหกสิบปบี ริบูรณพ์ ้นจากราชการตามกฎหมายว่า ดว้ ย บาํ เหน็จบาํ นาญข้าราชการ หน่วยงานต้องควบคุมทะเบยี นประวตั ิราชการ 4.ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 4.1 สาํ ราจรายซื่อข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาท่จี ะเกษยี ณอายรุ าชการในปีงบประมาณ ปัจจุบันและปงี บประมาณถดั ไปจากขอ้ มูล P-OBEC 4.2 แจ้งสถานศกึ ษาตรวจสอบและยนื ยนั ความถกู ต้อง หากมีขอ้ ผิดพลาดตอ้ งการแกไขใ้ ห้ตรงกับขอ้ มูล ของราชการกรณกี ารขอแกไขวนั เดอื นปีเกิดใหจ้ ัดสง่ เอกสารประกอบเสนอ สาํ นักงานคณะกรรมการขา้ ราชการ ครู และบุคลากรทางกาศกึ ษา (ก.ค.ศ.) พิจารณา (ระเบียบสํานกั นายกรัฐมนตรวี ,ดว้ ยการแกไข วัน เดอื น ปเี กิด ใน ทะเบียนประวัตขิ า้ ราชการ พ.ศ. 2548) กรณไี ม,มีสูตบิ ตั รหรือทะเบยี นคนเกดิ ให้วดั สง่ เอกสารหลกั ฐานดังน้ี 1. ทะเบียนสาํ มะโนครัวหรอื สําเนาทะเบียนบา้ น 2. หลกั ฐานการศึกษาทแ่ี สดง วัน เดือน ปเี กดิ 3. หลกั ฐานทางทหาร 4. หลกั ฐานทางราชการแสดงวนั เดอื น ปีเกดิ 5. หลกั ฐานอน่ื ของทางราชการ 4.3 รายงานขอ้ มลู ท่ถี กู ตอ้ งใหส้ าํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานทราบ 4.4 กระทรวงศกึ ษาธิการประกาศรายซ่ือผู้เกษียณอายรุ าชการ 4.5 สาํ นกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา ส่งประกาศ ฯ ใหส้ ถานศกึ ษาแจ้งผู้เกษยี ณอายรุ าชการ ------------------------------------

คู่มือปฏิบัติงาน ของ นางอรุ ชุ า แจ้งศรี นกั ทรพั ยากรบคุ คลปฏิบัติงาน กล่มุ บรหิ ารงานบุคคล สาํ นกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสระบรุ ี เขต ๑ ------------------------------------------- งานวเิ คราะหว์ างแผนอัตรากาํ ลงั ครู 1. ช่ืองาน งานวิเคราะหว์ างแผนอัตรากําลงั ครู 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพอื่ เป็นข้อมลู หลกั ในการปฏิบัติงานเกยี่ วกบั การบริหารงานบคุ คล 2.2 เพ่อื วางแผนอัตรากําลงั คนใหส้ อดคลอ้ งกบั ความต้องการของสถานศกึ ษาและ หนว่ ยงานทางการศกึ ษา ให้เป็นไปตามเกณฑ์ท้งั ในตา้ นปรมิ าณและความสามารถปฏบิ ัติงานตามภารกิจ 3. ขอบเขตของงาน งานวิเคราะห์และวางแผนอัตรากําลังคน มีขอบข่ายและภารกิจเก่ียวกับการวิเคราะห์ภารกิจ และ แผนอัตรากําลังคนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจํา ประสานการดําเนินการ และ ประเมินสภาพความต้องการอัตรากําลังคนกับภารกิจของหน่วยงานและสถานศึกษา กําหนดจํานวน อัตรากําลังของ สถานศึกษาตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กําหนด จัดทําแผนอัตรากําลังของเขตพ้ืนที่การศึกษา เสนอแผน อัตรากําลังเพ่ือขอ ความเห็นขอบจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพ้ืนที่การศึกษา ส่งเสริมให้สถานศึกษา จัดทําแผนอัตรากําลังของ สถานศึกษา นํา แผนท่ีจัดทําแล้วสู่การปฏิบัติ ติดตามประเมินผลการใช้อัตรากําลังอย่างคุ้มค่า เหมาะสมและเสนอ เกล่ียอัตรากําลัง การตดั โอนตําแหน่งและอัตราเงนิ เดอื นต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นท่ีการศึกษา 4. คาํ จํากัดความ 4.1 อตั รากาํ ลังคน หมายถงึ จํานวนขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา/ลูกจา้ งประจาํ / พนกั งานราชการ และลูกจา้ งชว่ั คราว ที่ปฏิบัติหนา้ ทใ่ี นสถานศกึ ษา และหน่วยงานทางการศึกษา 4.2 ผชู้ ่วยผบู้ ริหาร ตามหลกั เกณฑ์ หมายถึง รองผบู้ ริหารสถานศกึ ษาตามพระราชบัญญัติ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และท่แี กไขเพมิ่ เตมิ 5. ขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน 5.1 การจดั ทาํ แผนอตั รากําลังในสถานศกึ ษา 5.1.1 จดั ทาํ ระบบขอ้ มูลสารสนเทศ ขอ้ มลู ท่ใี ซใ้ นการจดั ทําแผน ประกอบดว้ ย 1) การจัดทาํ ขอ้ มูลนักเรยี นและการจดั ขั้นเรียน (10 ม.ิ ย.) 2) ข้อมูลการเกษียณอายรุ าชการหรือเกษยี ณก่อนกาํ หนดและแนวโน้ม การสญู เสยี อัตรากําลังของขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา(รวมครชู ว่ ยราชการและพนกั งานราชการ อตั ราจ้างชัว่ คราว) 3) ขอ้ มูลวุฒกิ ารศึกษา สาขาวิชาเอก และความสามารถของบุคลากรจํานวนชั่วโมง การจดั การเรียนรู้ตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4) ความตอ้ งการครูเพมิ่ ของสถานศึกษาตามกล่มุ สาระการเรียนรู้ (เท่าจาํ นวนครทู ีข่ าด ตามเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาํ หนด) 5) ข้อมลู พนกั งานราชการ และลูกจ้างช่วั คราวท่จี า้ งดว้ ยเงินงบประมาณและเงินรายไต้ สถานศึกษา 5.1.2 สถานศกึ ษาวเิ คราะหข์ ้อมลู ครแู ละบคุ ลากรทั้งด้านปรมิ าณและความสามารถ ตามเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กาํ หนด โดยศึกษาแนวโนม้ การเพ่มิ หรือลดของจํานวนบคุ ลากรและประชากรวัยเรียน รวมทั้งวเิ คราะหห์ ลกั สตู รและแผนการจดั การเรยี นรู้ของสถานศกึ ษาประกอบการพจิ ารณา

-2- 5.1.3 จดั ทาํ แผนอัตรากําลังระยะ 1 ปี 3 ปี และ/หรือ 5 ปี โดยมรี ายละเอียดแสดง ความต้องการท้ังในดา้ นปริมาณและความสามารถของบุคลากร และวิธีการดาํ เนินการ 5.1.4 เสนอคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พื้นฐานให้ความเห็นชอบ 5.1.5 ใช้เป็นขอ้ มูลในการวางแผนอัตรากําลังคนในสถานศึกษา 5.1.6 ดาํ เนินการปฏิบตั ติ ามแผนอัตรากาํ ลงั โดย 1) สถานศึกษาจดั หาอัตรากาํ ลงั ตามอาํ นาจของสถานศกึ ษา เซน่ ใช้งบประมาณของ สถานศึกษาหรอื ประสานขอความร่วมมือลบั องค์กรอืน่ เพ่อื ขอรบั การสนับสนนุ งบประมาณดา้ นการจดั จา้ ง บุคลากร 2) เสนอแผนอตั รากาํ ลงั ของสถานศึกษาตอ่ สํานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาเพือ่ พิจารณาดําเนินการในส่วนทเ่ี กยี่ วขอ้ งต่อโป 5.2 การจัดทาํ แผนอัตรากาํ ลงั ระดับเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา 5.2.1 จัดทําขอ้ มลู สารสนเทศด้านอตั รากาํ ลงั ของสถานศกึ ษาและสํานักงานเขตพ้นื ท่ีการ ศึกษาทั้งด้านปริมาณและคณุ ภาพเป็นโปตามหลกั เกณฑแ์ ละความตอ้ งการ ดังนี้ 1) ขอ้ มูล 10 มิ.ย. ด้านบคุ ลากรและจาํ นวนนกั เรยี นของสถานศกึ ษา 2) ข้อมลู ด้านวฒุ ิ วิชาเอกและความสามารถดา้ นบคุ ลากร 3) ข้อมูลการเกษยี ณอายรุ าชการหรอื เกษียณกอ่ นกาํ หนดและแนวโน้มการสญู เสยี อัตรากําลัง 4) จํานวนชัว่ โมงการจดั การเรียนรูต้ ามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา 5) ข้อมลู พนักงานราชการ ตาํ แหน่งครูผสู้ อน 6) ความตอ้ งการครเู พ่ิมของสถานศกึ ษาตามกลุม่ สาระการเรยี นรู้ (เทา่ จํานวนครูที่ ขาด) จดั ท่าแผนอัตรากําลังระยะ 1 ปี 3 ปี หรอื 5 ปี โดยมรี ายละเอียดความตอ้ งการ ท้งั ด้านปริมาณและ ความสามารถและวธิ กี ารดําเนนิ การของสาํ นกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา งานปรับปรงุ ตาํ แหน่ง 1. ชือ่ งาน งานปรบั ปรุงการกําหนดตาํ แหนง่ 2. วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื ดาํ เนินการปรับปรงุ ตาํ แหน่งว่างใหส้ ามารถใช้สรรหาบคุ คลเข้าดํารงตําแหนง่ 3. ขอบเขตของงาน การปรับปรงุ การกําหนดตําแหนง่ จากตาํ แหน่งหนึ่งให้เปน็ อกี ตําแหนง่ หนึ่ง เพอ่ื ใช้ในการ บริหาร อตั รากาํ ลังคนใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดตอ่ หน่วยงานทางการศกึ ษา 4. คาํ จาํ กัดความ การปรบั ปรุงการกําหนดตาํ แหน่ง หมายถงึ การปรับปรงุ ตําแหน่งชา้ ราชการครใู นสถานศกึ ษา จาก ตาํ แหนง่ ครูผ้ชู ว่ ยท่วี ่าง เปน็ ตําแหนง่ ครูเพ่อื ใช้บรรจุ, ตําแหนง่ ครทู ่วี า่ งเป็นตาํ แหนง่ ครูผู้ช่วยเพ่อื ใชบ้ รรจตุ าํ แหนง่ ครทู ่วี า่ งในสถานศึกษาทีม่ อี ตั รากําลงั เกินเกณฑ์ เป็นตําแหนง่ รองผ้อู ํานวยการสถานศกึ ษาในสถานศกึ ษาเดมิ โดยเมื่อ กําหนดตําแหนง่ รองผู้อํานวยการสถานศึกษาแลว้ ตาํ แหนง่ รองผอู้ ํานวยการสถานศกึ ษาต้องเป็นไปตามเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ.กาํ หนด, ตาํ แหนง่ รองผอู้ ํานวยการสถานศกึ ษาทว่ี า่ งและสถานศกึ ษานั้นไม่อยู่ในเกณฑท์ ่ีจะกําหนดใหม้ ี รองผูอ้ ํานวยการสถานศึกษาได้ เป็นตําแหนง่ ครู ทั้งน้ี เมอื่ ปรับปรงุ เปน็ ตําแหนง่ ครแู ลว้ จาํ นวนอัตรากาํ ลงั ครใู น สถานศึกษานนั้ ตอ้ งไมเ่ กินเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ.กาํ หนด

-3- 5. ขั้นตอนการปฏิบตั งิ าน 5.1 สถานศึกษาเสนอรายงานปรมิ าณงานสถานศกึ ษาทีจ่ ะขอปรับปรุงการกาํ หนดตาํ แหน่ง ให้ สพท. 5.2 สพท.ตรวจสอบตําแหนง่ วา่ งที่จะดําเนินการปรับปรงุ การกําหนดตําแหนง่ 5.3 เสนอ กศจ. ใหค้ วามเหน็ ชอบ/อนมุ ตั ิ 5.4 สพท.เสนอผูม้ อี ํานาจลงนามคาํ สั่งปรบั ปรุงการกาํ หนดตาํ แหนง่ แจ้งหน่วยงานทีเ่ กยี่ วข้อง งานจัดสรรอัตรากําลงั ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา 1. ชือ่ งาน งานจัดสรรอัตรากําลัง ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 2. วตั ถุประสงค์ เพ่อื ดําเนินการจัดสรรอัตรากาํ ลังขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใหห้ น่วยงานการศึกษาใน สังกดั 3. ขอบเขตของงาน การจัดสรรอัตรากาํ ลงั ข้าราชการครทู ีไ่ ด้รับจดั สรรคนื จากกรณีตาํ แหนง่ ว่างจากการเกษียณอายุ ราชการเมอื่ สน้ิ ปีงบประมาณ ตําแหน่งว่างจากกรณเี ข้ารว่ มมาตรการปรับปรงุ อตั รากําลงั ของสว่ นราชการ (โครงการ เกษียณอายกุ อ่ นกําหนด) และตาํ แหนง่ ว่างท่ีไดร้ ับจัดสรรเพิ่มในกรณอี ่ืน ๆ 4. คําจํากัดความ 4.1 ตําแหน่งว่างการเกษยี ณอายุราชการเมือ่ สน้ิ ปงี บประมาณ (เกษยี ณปกติ) หมายถงึ ตาํ แหนง่ ท่ีมีคนครองท่เี กษยี ณอายเุ ม่อื สิน้ ปงี บประมาณ และตําแหนง่ วา่ งจากเหตุอื่นของผู้ครองตาํ แหนง่ ทีจ่ ะเกษยี ณอายุ ราชการเม่อื ส้ินปงี บประมาณทีไ่ ดร้ บั จัดสรรในปนี นั้ ๆ 4.2 ตาํ แหน่งวา่ งจากกรณเี ขา้ รว่ มมาตรการปรบั ปรงุ อัตรากาํ ลังของสว่ นราชการ (ตามโครงการ เกษียณอายุกอ่ นกาํ หนด) หมายถึง ตาํ แหน่งทีม่ ีคนครองทีส่ มัครเขา้ ร่วมมาตรการปรับปรุงอตั รากําลงั ของส่วน ราชการตามโครงการเกษียณอายกุ อ่ นกาํ หนดในท่ีไดร้ บั จดั สรรในปีนั้นๆ 4.3 ตําแหนง่ วา่ งจากกรณีทีไ่ ด้รับจดั สรรเพ่ิมในกรณีอน่ื ๆ หมายถึง ตาํ แหนง่ วา่ งทีไ่ ด้รับจดั สรร เพ่มิ เตมิ จากสาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ทุกกรณี เซน่ ตาํ แหนง่ ครู ตําแหน่งศึกษานเิ ทศก์ ตาํ แหนง่ รองผอู้ ํานวยการสถานศึกษา ตําแหนง่ พนกั งานราชการ และตําแหนง่ อืน่ เป็นต้น 5. ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 5.1 สพฐ. แจง้ สรรจัดอตั ราให้ สพท. /สพท.ตรวจสอบอัตรากาํ ลงั ท่ีไดร้ บั จัดสรร 5.2 สพท.แต่งต้งั คณะกรรมการพจิ ารณาจดั สรรอตั ราตามเง่ือนไขตามท่ีสํานกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐานกําหนด 5.3 เสนอ กศจ. ให้ความเหน็ ชอบ 5.4 ออกคาํ สง่ั กําหนดตําแหนง่ กรณไี ดร้ บั จัดสรรน้อยกวา่ หรือเทา่ กับตําแหน่งทเี่ กษยี ณอายุ ราชการ กรณีไดร้ ับจดั สรรน้อยกวา่ อตั ราเกษียณหรอื ไม1ไดร้ ับจัดสรรใหแ้ จ้งรายละเอียดอัตราเกษยี ณ พรอ้ มแบบปรมิ าณงาน สถานศึกษาไปยงั สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กรณีได้รับจัดสรรมากกวา่ ที่เกษียณ แจ้งบญั ชรี ายซอื่ โรงเรียนทีไ่ ดร้ ับจัดสรรจากสํานกั งาน คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานและแบบปริมาณงาน ไปยังสํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน เพ่ือ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐานขออนุมตั ิ ก.ค.ศ.เมอื่ กศจ. แจง้ อนุมตั แิ ลว้ สพฐ.แจง้ สพท.ดําเนนิ การ ออกคําสงั่ และแจง้ หนว่ ยงานท่เี ก่ยี วขอ้ ง ดําเนนิ การในส่วนทเ่ี ก่ียวขอ้ ง

-4– งานบริหารอตั รากาํ ลงั ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาใน สพท. 1. ชือ่ งาน งานบริหารอตั รากาํ ลงั ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในสํานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา 1.1 กรณเี กษียณอายุราชการเมอ่ื สนิ้ ปีงบประมาณ 1.2 กรณเี ขา้ รว่ มมาตรการปรบั ปรุงอัตรากําลังชองสว่ นราชการ (โครงการเกษยี ณอายกุ ่อนกําหนด) 2. วัตถปุ ระสงค์ เพื่อบรหิ ารอัตรากําลังข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาในสาํ นักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา 3. ขอบเขตของงาน การจดั สรรอตั รากําลงั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาทีไ่ ดร้ ับจดั สรรคืน กรณี เกษยี ณอายุ ราชการเมือ่ สน้ิ ปีงบประมาณ , กรณีเข้าร่วมมาตรการปรบั ปรงุ อัตรากาํ ลังชองสว่ นราชการ (โครงการเกษยี ณอายุ กอ่ นกาํ หนด) 4. คําจํากดั ความ ตําแหน่งเกษียณอายุราชการ(เกษยี ณปกติ)หมายถงึ ตําแหน่งที่มีคนครองท่ีเกษียณอายเุ ม่อื ส้นิ ปี งบประมาณและตําแหนง่ ว่างจากเหตอุ นื่ ชองผคู้ รองตาํ แหนง่ ทจี่ ะเกษยี ณอายรุ าชการเม่ือสิ้นปีงบประมาณในปีนัน้ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในสํานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาหมายถงึ ตาํ แหน่ง บคุ ลากรทางการศึกษา อ่นื ตามมาตรา 38ค(2) และศกึ ษานเิ ทศก์ 5. ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน 5.1 ตรวจสอบความถูกตอ้ งชองตาํ แหนง่ ที่เกษียณอายรุ าชการและเกษียณอายุกอ่ นกําหนด 5.2 จัดทําบัญชรี ายละเอียดตามแบบฟอร์มแจง้ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาช้ันพื้นฐาน 5.3 ดาํ เนินการตามแนวปฏิบตั ิชองสาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาชัน้ พื้นฐานทีแ่ จง้ ในแตล่ ะปี ตามหนงั สอื สาํ นักงานคณะกรรมการศึกษาช้นั พืน้ ฐาน และให้รอผลการพจิ ารณาจัดสรรอัตรา ดังน้ี 5.3.1 ตาํ แหนง่ ผู้อํานวยการสํานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา, รองผ้อู ํานวยการสาํ นกั งาน เขตพน้ื ท่ีการศึกษา (โครงสร้าง) กรณเี กษียณอายุราชการ หาตาํ แหน่งยุบเลกิ ทดแทนตําแหนง่ เกษียณอายรุ าชการ - กรณเี กษียณอายุก่อนกําหนด ใหด้ าํ เนินการตามหนังสอื สาํ นกั งาน คณะกรรมการ การศึกษาชน้ั พืน้ ฐานท่แี จ้งในแต่ละปี 5.3.2 ตาํ แหนง่ รองผู้อํานวยการสาํ นักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา (เงื่อนไข), เจ้าหนา้ ที่ บริหารการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน กรณีเกษียณอายรุ าชการ และกรณเี กษยี ณอายุก่อนกาํ หนดใหส้ งวนตําแหน่งไวพ้ ร้อม รายงานตําแหนง่ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานตําแหนง่ วา่ งของบคุ ลากรทางการศึกษาอ่ืน ตาม มาตรา 38 ค (1) และ (2),กรณเี กนิ รอ้ ยละ70 ของกรอบใหร้ ายงานสาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน และสงวนตาํ แหนง่ ไว้เพือ่ เกล่ียให้ สํานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาทขี่ าดอตั รากาํ ลงั มากกวา่ ร้อยละ 70 ตอ่ ไป 5.3.3 ตาํ แหน่งบคุ ลากรทางการศึกษาอน่ื ตามมาตรา 38ค.(2) - กรณเี กษียณอายรุ าชการ ใหแ้ จ้งตําแหน่งยุบเลิกทดแทนตาํ แหนง่ เกษยี ณอายุ ราชการแล้วรอแจง้ ผลการจดั สรรจากสํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน - กรณเี กษียณอายกุ ่อนกําหนด ใหด้ าํ เนนิ การตามหนังสือสาํ นกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน หมายเหตุ : กรณีมีอตั ราวา่ งจากการเกษยี ณ สามารถนาํ อัตราไปไซได้ แตต่ ้องหาอัตราวา่ งที่มี ความสําคญั นอ้ ยกว่ามายบุ เลกิ แทนตําแหนง่

-5– 5.3.4 บคุ ลากรทางการศกึ ษาอ่ืน ตามมาตรา 38 ค. (2) สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขัน้ พ้ืนฐานแจง้ ผล การจัดสรร ใหส้ าํ นกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาตน้ ทางเจ้าของตาํ แหน่งตรวจสอบตาํ แหน่งและขอ อนมุ ตั ิ อ.ก.ค.ศ.เขต พนื้ ที่การศึกษาอนุมตั ติ ดั โอนตาํ แหน่งและอตั ราเงินเดือนไปกําหนดทีส่ าํ นกั งานเขตพื้นท่ี การศึกษาปลายทาง ทไี่ ด้รบั จดั สรรตาํ แหนง่ ตาํ แหน่งบคุ ลากรทางการศกึ ษาอืน่ ตามมาตรา 38 ค. (2) สํานกั งานเขต พื้นทก่ี ารศกึ ษาท่ี ได้รบั จัดสรรตาํ แหน่งให้กาํ หนดเปน็ ตาํ แหนง่ ใหมใ่ นกรอบที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด และนาํ เสนอ กศจ. พิจารณาอนมุ ัตแิ ละดําเนนิ การออกคําสง่ั ตัดโอนตาํ แหนง่ วา่ งทไี่ ด้รับจดั สรรพร้อมสง่ คาํ สั่งไปสํานักงานเขตพ้นื ที่ การศกึ ษาตน้ ทางแจ้งหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง การเปลี่ยนสายงาน (ชอ่ื ตาํ แหน่ง) และกลมุ่ งานลกู จ้างประจาํ 1. ชือ่ งาน การเปล่ียนสายงาน(ซ่อื ตําแหน่ง) และกลุ่มงานลกู จา้ งประจํา 2.วัตถุประสงค์ เพ่อื ดําเนนิ การเปล่ียนสายงาน(ซือ่ ตาํ แหน่ง) และกลมุ่ งานลูกจ้างประจําเปน็ ไปตามแนว ปฏิบตั กิ ารบริหารลกู จา้ งประจาํ 3.ขอบเขตขงงาน ดาํ เนนิ การเปล่ียนสายงาน(ซือ่ ตาํ แหน่ง) และกล่มุ งานลกู จา้ งประจาํ ทัง้ ตําแหนง่ ภายในกลุ่มงานเดยี วกันหรอื ตา่ งกลุ่มงาน โดยไม,เพิม่ จํานวนอัตรากําลงั ลูกจา้ งประจาํ ของสว่ นราชการ ท้ังนี้ ให้ คํานงึ ถงึ ความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะงานรวมถงึ ความจาํ เป็นของส่วนราชการ เมอื่ เปล่ียนแลว้ ตอ้ งปฏบิ ัติ หนา้ ที่ให้ตรงหนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบของตําแหน่ง 4. ขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน 4.1 ลกู จา้ งประจําที่ประสงคป์ รับระดับย่ืนดาํ ขอประเมนิ เพอ่ื เปล่ยี นสายงาน (แบบดาํ ขอประเมิน บุคคลและผลการปฏบิ ตั ิงานเพือ่ ประกอบการพจิ ารณาเปล่ียนสายงาน(ซ่อื ตาํ แหน่ง) และกลมุ่ งานของ ลูกจา้ งประจาํ ) 4.2 สพท.ตรวจสอบคณุ สมบตั ิ 4.3 สพท.แต่งตั้งคณะกรรมการประเมิน 4.4 คณะกรรมการประเมนิ ตามแบบประเมินบคุ คลและแบบสรุปผลการประเมินบุคคล 4.5 คณะกรรมการเสนอ ผอ.สพท.มคี ําสัง่ แตง่ ตงั้ 4.6 รายงานผ้เู ก่ยี วข้องและ สพฐ.(รายงาน สพฐ.ใหส้ ง่ คําสงั่ พร้อมแบบ ลปจ.1 ของตําแหน่งเดิม ----------------------------------

คมู่ ือปฏิบตั ิงาน ของ นางชนนิ ทร พันธ์ุหลา้ เจ้าพนกั งานธรุ การชาํ นาญงาน กลมุ่ บริหารงานบคุ คล สาํ นกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 ------------------------------------- งานสรรหาลูกจา้ งช่ัวคราว 1. ชื่องาน งานสรรหาลกู จ้างชวั่ คราว 2. วัตถุประสงค์ เพ่ือเป็นแนวทางปฏบิ ัติแกส่ ถานศึกษา เพ่ือความถูกต้องและรวดเรว็ สนองตอบตอ่ ความ ต้องการ ของหน่วยงานและเป็นไปตามหลักธรรมาภบิ าล 3. ขอบเขตของงาน การดําเนินการสรรหาลกู จ้างช่ัวคราวด้วยเงินนอกงบประมาณเปน็ ลูกจา้ งชวั่ คราว 4. ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 4.1 โรงเรียนกําหนดรายละเอยี ด ขอ้ มูลตําแหนง่ ว่าง เซ่น จํานวนอัตรา กรณเี ปน็ ครรู ะบุ วชิ าเอก และคณุ สมบตั ิเฉพาะสําหรบั ตาํ แหน่งครู (ต้องมใี บอนญุ าตประกอบวิชาชีพครทู ีย่ ังไมห่ มดอาย)ุ หลกั สูตร เกณฑก์ ารตัดสินการข้นึ บัญชี และยกเลิกบญั ชี ประกาศรับสมคั ร รบั สมัคร ตรวจสอบคุณสมบัติ ประกาศ รายซ่ือผู้มสี ทิ ธ์สอบ ดําเนนิ การสอบตามผลการสอบ 4.2 ดาํ เนินการคดั เลือกลูกจา้ งชัว่ คราว ตาํ แหน่งครผู สู้ อน 4.3 เรยี กรายงานตัว เพอื่ ทาํ สญั ญาจา้ ง โดย ผอ.โรงเรียน 4.4 ส่งสญั ญาจ้างให้สาํ นกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษา มัธยมศกึ ษา เพ่อื ดําเนินการเก่ยี วกับประกันสังคมและการเบิกจ่ายค่าจา้ งกลมุ่ บริหารงานบุคคลส่งสญั ญาจ้างแจ้ง ผู้เกีย่ วขอ้ ง งานดาํ เนินการจ้างลูกจา้ งชว่ั คราวในสถานศกึ ษาและเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา 1. ชื่องาน งานดําเนนิ การจา้ งลกู จ้างชัว่ คราวในสถานศกึ ษาและเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา 2. วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื ให้ผู้ปฏิบตั ิงานและผ้เู กี่ยวขอ้ งใชเ้ ป็นแนวปฏบิ ัติ และเปน็ แนวปฏบิ ตั ิทถ่ี กู ตอ้ ง 3. ขอบเขตของงาน เปน็ การสรรหาบคุ คลมาปฏบิ ัตหิ นา้ ท่เี ปน็ ระยะเวลาชั่วคราวตามสัญญาจา้ งระหว่างหนว่ ยงาน กบั บุคคลภายนอกทั่วไป ซึง่ จะมีการดาํ เนนิ การทั่งในสํานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษา/สํานกั งานเขต พืน้ ท่ี การศกึ ษามัธยมศกึ ษา และในสถานศึกษา 4. ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน 4.1 สาํ นักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา/สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา/ โรงเรียน ตรวจสอบอัตราจ้างทีไ่ ต้รับจัดสรรวา่ สามารถทาํ สัญญาไดก้ อี่ ตั ราระยะเวลานานเทา่ ใด 4.2 ประซาสมั พันธ์ใหบ้ ุคคลท่วั ไปทราบว่าจะมกี ารจา้ งบุคคลภายนอกเขา้ มาปฏิบัติงาน ในสาํ นักงานหรอื ในโรงเรียน 4.3 พจิ ารณาคัดเลือกบคุ คลท่ีเหมาะสมกบั งานทจี่ ะจา้ ง

-2- 4.4 ทําสญั ญาจ้างตามระยะเวลาท่ที างราชการกาํ หนดโดยผอู้ าํ นวยการสํานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศึกษา/ผู้อาํ นวยการสํานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา หรือผู้อาํ นวยการโรงเรยี น เปน็ ผู้ ลงนามในสญั ญาจ้าง กล่มุ บริหารงานบคุ คลรวบรวมสัญญาจา้ งและคาํ สัง่ จ้างประสานผู้เกย่ี วข้อง งานสรรหาพนกั งานราชการ 1. ช่อื งาน งานสรรหาพนักงานราชการ 2. วตั ถุประสงค์ เพือ่ เป็นแนวปฏิบัติการเลอื กสรร สรรหาพนักงานราชการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบ สาํ นกั นายกรฐั มนตรวี ่าดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ.2547 3. ขอบเขตของงาน การสรรหาและเลอื กสรรพนกั งานราชการ ต้องดาํ เนนิ การตามระเบยี บสาํ นักนายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ย พนักงานราชการ พ.ศ.2547 และตามระเบียบที่เกี่ยวข้องเพ่อื ใหก้ ารดําเนินการเปน็ ไปด้วยความ เรยี บรอ้ ย,บรีสุทธิ๙ ยุติธรรม ได้บุคคลท่มี คี วามรคู้ วามสามารถและมีความเหมาะสมกับตําแหนง่ 4. ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงาน 4.1 ศกึ ษาระเบียบหลกั เกณฑ์ที่เกีย่ วกับการดําเนินการสรรหาพนกั งานราชการ ตามทกี่ าํ หนดและ ระเบยี บกฎหมายทีเ่ กีย่ วขอ้ ง 4.2 วเิ คราะหแ์ ละตรวจสอบกรอบอัตรากําลังพนกั งานราชการท่คี ณะกรรมการ บรหิ ารพนกั งาน ราชการ (คพร.) อนุมตั ิเสนอผอู้ าํ นวยการสํานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นักงาน เขตพ้ืนทีก่ ารศึกษา มัธยมศึกษาพจิ ารณาดาํ เนนิ การ 4.3 ประกาศและรับสมคั รเลอื กสรรพนกั งานราชการทัว่ ไป ซงึ่ มรี ายละเอียดเกย่ี วกับ ลักษณะ งาน ความรับผดิ ชอบของตาํ แหน่ง ระยะเวลาจ้าง ค่าตอบแทนที่ได้ คณุ สมบตั ขิ องผู้มีสทิ ธิ์สมคั ร หลักเกณฑ์ และวิธกี ารสรรหาและเลอื กสรร เกณฑ์การตดั สนิ และเง่ือนไขการจ้างอืน่ ๆ 4.4 แต่งตัง้ คณะกรรมการดําเนนิ การสรรหาและเลือกสรรไมน่ อ้ ยกวา่ 3 คน 4.5 ประกาศรายซื่อผ้มู สี ทิ ธ๙ิ เข้ารับการประเม่นสมรรถนะ 4.6 ดาํ เนนิ การเลอื กสรรดว้ ยวิธีการประเมน่ สมรรถนะ 4.7 คณะกรรมการการดาํ เนนิ การสรรหา และเลือกสรร รายงานผลการดําเนินการ 4.8 ประกาศรายซ่ือผู้ผา่ นการเลอื กสรรเพอื่ จัดจา้ งเป็นพนกั งานราชการ 4.9 สถานศกึ ษาจัดทาํ สญั ญาจา้ ง ตามแบบท่ีคณะกรรมการการบรหิ ารพนักงาน ราชการกําหนด (คพร.) และคาํ ส่ังมอบหมายงาน 4.10 สถานศกึ ษาประเม่นผลและรายงานผลการดาํ เนินงานตอ่ ผู้อาํ นวยการ สํานกั งานเขตพื้นท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษา/สาํ นกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา งานดาํ เนนิ การจ้างครซู าวตา่ งชาตสิ อนในสถานศกึ ษา 1. ชือ่ งาน งานดาํ เนนิ การจา้ งครูชาวต่างชาตสิ อนในสถานศึกษา 2. วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ เป็นแนวปฏบิ ัตกิ ารดําเนินการจา้ งครูซาวตา่ งชาตสิ อนในสถานศึกษา ท่ีถกู ตอ้ ง สนอง ตอบตอ่ ความตอ้ งการของหน่วยงานและเปน็ ไปตามหลักธรรมาภบิ าลขอบเขตของงาน

-3– ลกู จา้ งซาวต่างประเทศ ตาํ แหน่งครสู อนซาวต่างประเทศ หมายความว่า บุคคลซึ่งไต้รบั การจ้างตาม สญั ญาจ้างซาวตา่ งประเทศเข้าปฏิบัตงิ านตามสญั ญาจ้าง มกี ําหนดระยะเวลาไมเ่ กิน 2 ปี ตาม หลักเกณฑ์ท,ี สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐานกาํ หนด สามารถปฏิบตั งิ านในสถานศกึ ษา สงั กดั สาํ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ได้อย่างตอ่ เน่อื งและมปี ระสิทธิภาพ 3. ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ าน มีคณุ สมบัติ วฒุ ปิ รญิ ญาตรี หรือเทียบเทา่ (ขัน้ ตา่ํ ) ในสาขาวชิ าทสี่ อนหรอื มี ประกาศนียบัตร ดา้ นการสอน 1) ในกรณที สี่ อนภาษาต่างประเทศ ควรเปน็ เจา้ ของภาษาโดยตรง 2) ในกรณที ี่ไมไ่ ตเ้ ปน็ เจา้ ของภาษา ตอ้ งจบเอกภาษาท่จี ะปฏิบัติงานสอน และมี ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู - อายไุ มเ่ กิน 60 ปี (หากเกนิ ใหด้ ูหลักเกณฑ์ในข้อท่ี 5.2.5 และ 5.2.6) - สามารถเปน็ ทีป่ รึกษาและวทิ ยากรของครใู นหมวดวิชาไต้ - สามารถผลิตสื่อและพัฒนาสอื่ การเรียนการสอนไต้ - เขา้ ใจในวัฒนธรรมและวิถชี วี ติ ความเป็นอยู่ไทยพอควร - ต้องทาํ การสอน / รว่ มกิจกรรมท,ี โรงเรียนอยา่ งน้อย 15 คาบ / สปั ดาห์ หลักเกณฑ์ ลูกจา้ งชาวต่างประเทศเป็นลกู จ้างซ่ึงมสี ัญญาจา้ ง มสี ิทธแิ ละหนา้ ทตี่ ามที่ กาํ หนดไว้ในสญั ญาจา้ ง - สญั ญาจา้ งซาวตา่ งประเทศเข้าปฏิบตั ิงาน ให้จ้างมีกาํ หนดระยะเวลาไม่เกนิ 2ปี - การขอแกไ้ ขรา่ งสัญญาจ้างซาวต่างประเทศเข้าปฏบิ ัติงาน ตอ้ งแก้ไขใหเ้ ปน็ ประโยชน์แกส่ ว่ นราชการ และไม่ผกู พันกับวงเงินงบประมาณเกินไปกว่าก่อนการแกไ้ ข - การจา้ งลกู จา้ งซาวตา่ งประเทศทุกระดับ ให้จา้ งในอัตราของตาํ แหนง่ ตามบญั ชที กี่ ําหนด - การจ้างลูกจา้ งซาวต่างประเทศไมค่ วรจ้างบคุ คลทม่ี อี ายุเกิน 60 ปบี รบิ รู ณ์ เข้าปฏบิ ัติงาน เวน้ แตก่ รณีจําเป็นแห้จรงิ ท่ีไมอ่ าจหาจา้ งบุคคลอ่นื เขา้ ปฏบิ ตั ิงานแทนได้ ก็ใหจ้ า้ งโดยอายไุ มเ่ กิน 65 ปีบรบิ รู ณ์ - การจา้ งลูกจา้ งซาวต่างประเทศทม่ี ีอายเุ กนิ 65 ปีบริบูรณ์ ใหย้ ดึ หลกั การพิจารณา เลอื กสรรบุคคลมาดํารงตําแหนง่ ดังน้ี 1) ผ้นู น้ั มคี ณุ สมบัตติ รงตามความต้องการของตําแหน่งทต่ี ้องการ เลือกสรรบุคคล มาดํารงตาํ แหนง่ เซ่น คณุ สมบัตติ า้ นความรคู้ วามสามารถ ประสบการณแ์ ละสุขภาพ เป็นตน้ 2) ผูน้ ้ันเปน็ ผมู้ คี ณุ สมบตั ิดที สี่ ุด หรือดีกว่าบุคคลอื่น ๆ ทมี่ ีให้เลือก 3) คา่ ตอบแทนทจ่ี ะจ่ายใหผ้ ไู้ ตร้ ับการเลือกสรร มคี วามเหมาะสมกับ ความรับผดิ ขอบและคุณสมบตั ขิ องบคุ คล 4) ผู้นัน้ มคี ุณสมบตั อิ ่ืน ๆ ไมข่ ดั กบั คุณสมบัติต่าง ๆ ท่ีทางราชการกําหนด 5) ใหผ้ อู้ ํานวยการโรงเรยี นหรือผู้ดํารงตําแหนง่ เทยี บเทา่ เปน็ ผมู้ ีอาํ นาจ อนมุ ตั กิ ารจ้างและทาํ สญั ญาจ้างครซู าวตา่ งประเทศ ขั้นตอนในการปฏบิ ตั ิ 1. โรงเรยี นจัดหาครซู าวตา่ งประเทศ พร้อมทงั้ จดั ทําโครงการและสัญญาจา้ ง 2. โรงเรยี นแจง้ สํานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา/สํานกั งานเขตพนื้ ที่ การศกึ ษามัธยมศกึ ษาเพ่ือทราบและขอความอนเุ คราะห์ อํานวยความสะดวกในการขอ / ขอต่ออายุใบอนญุ าต

-4- ทาํ งาน และขอตอ่ อายุ / เปล่ยี นประเภทการตรวจลงตราหนงั สอื เดนิ ทาง (วีซ่า) ก่อนการตรวจลงตราหนงั สอื เดนิ ทางจะหมดอายุลงอย่างนอ้ ย 1 เดอื น โดยสาํ นักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาจะมีหนงั สือนําถึงกรมการจัดหางาน/ สาํ นักงานจดั หางานจงั หวัด และสํานกั งานตรวจคนเข้าเมือง / ดา่ นตรวจคนเขา้ เมอื ง เพ่อื ขอ / ขอต่ออายุ ใบอนญุ าตทาํ งาน และขอตอ่ อายุ / เปลย่ี นประเภทการตรวจลงตราหนงั สือเดนิ ทาง (วซี ่า) ตามลําดบั หมายเหตุ (1) ในกรณีทก่ี ารตรวจลงตราหนังสือเดนิ ทางหมดลงแล้ว โรงเรียนจะตอ้ งใหค้ รู ซาวตา่ งประเทศ ไป ต่ออายกุ ารตรวจลงตราหนงั สอื เดินทางและเสยี คา่ ปรบั ให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน แล้วจงึ เสนอสาํ นกั งาน เขตพ้ืนทด่ี าํ เนินการไต้ 3. ในกรณีท่ีการตรวจลงตราหนงั สอื เดนิ ทางของครูซาวตา่ งประเทศ เป็นประเภท ท่องเทยี่ ว (TouristVisa) สาํ นกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาจะต้องมหี นังสือถึงสาํ นกั งานตรวจคนเขา้ เมือง / ด่านตรวจคน เข้าเมอื ง เพ่ือขอเปลย่ี นประเภทการตรวจลงตราหนังสอื เดินทางเปน็ ประเภทคนอยชู่ ่ัวคราว (NonimmigrantVisa) 4. ในกรณีที่การตรวจลงตราหนังสือเดนิ ทางของครซู าวต่างประเทศเปน็ ประเภท ผ.30 (VisaonArrival) โรงเรยี นจะตอ้ งใหค้ รซู าวตา่ งประเทศออกไปขอการตรวจลงตราหนงั สอื เดนิ ทางจาก สถานทูต/ สถานกงสุลไทย ณ ต่างประเทศสาํ นกั งานเขตพืน้ ที่ดาํ เนินการไดต้ ่อไป 5. โรงเรยี น / ครู รับหนงั สือนาํ เพือ่ นําไปกรมการจดั หางาน / สาํ นกั งาน จัดหางาน จังหวดั และสาํ นกั งานตรวจคนเขา้ เมือง / ดา่ นตรวจคนเข้าเมือง เพ่อื ขอ / ขอต่ออายใุ บอนญุ าต ทาํ งานและขอตอ่ อายุ / เปล่ยี นประเภทการตรวจลงตราหนงั สอื เดนิ ทาง (วีซ่า) ซงึ่ จะต้องติดต่อเปน็ ราย ๆ ไป 6. สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา รายงานสถิติการจ้างครูซาวต่างประเทศไปที่สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานทุก 6 เดือน ---------------------------------

คู่มือปฏิบัตงิ าน ของ นางสาวปทมุ วรรณ คงแสงชู พนักงานธุรการ กลมุ่ บรหิ ารงานบุคคล สาํ นกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสระบุรี เขต 1 ---------------------------------- 1. ชื่องาน รับหนงั สอื ราชการ 2. วตั ถุประสงค์ เพอื่ เปน็ คู่มอื ประกอบการปฏิบตั งิ านธุรการกลุม่ สาํ นักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา ใหม้ มี าตรฐาน และถอื ปฏบิ ตั ิเป็นไปในแนวทางเดียวกัน 3. ขอบเขตของงาน งานรับหนงั สอื ราชการ ครอบคลุมการดําเนินงานต้งั แต่ การรบั หนังสอื การวเิ คราะห์เน้ือหา การ มอบผรู้ บั ผดิ ชอบ การนาํ เสนอผอู้ าํ นวยการสาํ นกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษา 4. คาํ จาํ กัดความ 1. เจ้าหนา้ ที่ หมายถึง เจ้าหนา้ ทพี่ ิมพ์ดดี เจา้ หนา้ ท่ธี รุ การ เจา้ พนกั งานธุรการ 2. สาํ นักงาน หมายถึง สํานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา/มธั ยมศกึ ษา 3. ผบู้ ริหาร หมายถงึ ผอู้ ํานวยการสาํ นักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา รองผูอ้ าํ นวยการสํานกั งานเขต พ้ืนทกี่ ารศึกษา และผูอ้ ํานวยการกลมุ่ 4. เอกสารลับ หมายถงึ เอกสารที่ไมส่ ามารถเป็ดเผยได้ 5. เอกสาร หมายถงึ เอกสาร พัสดุไปรษณยี ์ และระบบ e-Filing 5. ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน 1. เจา้ หน้าทร่ี บั หนงั สอื ราชการจากกลมุ่ อาํ นวยการ ตลอดจนเฝ้าระวังและพิมพ์หนังสือราชการ จาก สพฐ.ทางเว็บไซต์ ตรวจสอบความถูกต้องของหนงั สอื ราชการ/เอกสารกรณไี ม่ถูกตอ้ ง สง่ คืนกลุม่ อาํ นวยการ 2. กรณถี กู ตอ้ ง นําเสนอเพ่ือดําเนนิ การโดยเสนอใหเ้ สนอผู้อาํ นวยการกลุม่ วิเคราะห์เนือ้ หาเพื่อ จาํ แนกประเภท ผูร้ บั ผิดขอบ 3. เจ้าหน้าท่ีธุรการบนั ทึกรายการแจกหนงั สือตามกลุม่ งาน และผู้รบั ผดิ ขอบเรอ่ื งกรณเี ปน็ หนังสอื ลับ นายทะเบยี นหนังสือลบั ลงทะเบยี นรบั หนังสอื แลว้ นาํ เสนอผอู้ ํานวยการกลมุ่ วิเคราะห์ เนื้อหาเพื่อจําแนก ประเภท ผูร้ ับผิดขอบ เจา้ หน้าทท่ี ะเบยี นลับลงทะเบยี นแจกงานผู้รบั ผิดขอบเรอ่ื งผู้รบั ผดิ ขอบเร่ือง บันทึกเสนอ ผ้อู าํ นวยการสํานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาเพอื่ ทราบ/พจิ ารณา อนุมตั /ิ เหน็ ขอบ /สง่ั การ แล้วแต่กรณี งานส่งหนังสอื ราชการ 1. ช่อื งาน งานส่งหนังสือราชการ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื เป็นคมู่ ือประกอบการปฏิบตั งิ านธุรการกลุ่ม สํานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษา ใหม้ ีมาตรฐาน และถอื ปฏิบตั ิเปน็ ไปในแนวทางเดยี วกนั 3. ขอบเขตของงาน งานสง่ หนงั สือราชการครอบคลุมการดาํ เนินงานต้ังแต่ การรบั หนังสือส่งจากผูร้ ับผิดชอบ การ วิเคราะห์ ประเภทหนงั สือสง่ ชั้นความเรว็ การจดั ทํารายละเอียด การบรรจซุ อง หอ่ น่าส่งกลุม่ อาํ นวยการ