คำนำ กำรจดั กำรเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ต้องพัฒนำผูเ้ รียนใหม้ ีทักษะแหง่ อนำคต เป็นทักษะท่ีจำเปน็ ต้องใช้ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ เพ่ือเตรยี มควำมผู้เรยี นให้ใชช้ ีวิตในโลกทเ่ี ป็นจริง เน้นกำรศึกษำตลอดชีวติ ให้ผู้เรยี นรูจ้ ัก กำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง กำรนำทฤษฎีกำรเรยี นรทู้ ี่ได้รบั ไปสู่กำรปฏบิ ัติ สิง่ สำคัญคือผู้เรยี นจะต้องเกิด กระบวนกำรกำรเรียนรู้ ซงึ่ ถือเปน็ จุดสำคญั กำรสอนภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร (Communicative Language Teaching) เปน็ กำรสอนภำษำ ทีเ่ นน้ หนำ้ ท่ี ของภำษำและกำรส่ือควำมหมำย กล่ำวคอื ผู้เรียนสำมำรถใชภ้ ำษำทสี่ องในกำรสอื่ สำรได้ ซึง่ อำจจะใชภ้ ำษำได้ ไมถ่ ูกต้องตำมหลักไวยำกรณ์ แต่สำมำรถสื่อควำมได้ และเหมำะสมกับสถำนกำรณ์ โดยกำรสอนภำษำชนดิ นม้ี ี เป้ำหมำยเพื่อใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถนำทกั ษะทำงภำษำมำใช้เพื่อกำรสอื่ สำรได้ หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ เอกสำรฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผู้ที่ต้องกำรศกึ ษำรปู แบบกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หม่ เพอื่ พฒั นำผู้เรียนต่อไป อรวรรณ พุดมอญ
แผนผงั มโนทัศน์เปา้ หมายการเรยี นรู/้ หลักฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1) คำศัพท์ กลุ่มคำ ประโยคเก่ียวกับสภำพอำกำศ ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ สตั ว์ทะเล และโลกใต้ทะเล 1. ซือ่ สัตยส์ ุจริต 2) ประโยค บทสนทนำ เนือ้ เรื่องส้นั ๆ ท่มี ี 1) ทกั ษะกำรฟัง (Listening skill) 2. มีวนิ ัย 3. ใฝ่เรียนรู้ ภำพประกอบ 2) ทักษะกำรพดู (Speaking skill) 4. มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 5. มจี ิตสำธำรณะ 3) คำศพั ท์ และประโยค Past Simple Tense 3) ทักษะกำรอำ่ น (Reading skill) เพอื่ พดู ขอและใหข้ อ้ มูล และแสดงควำมคิดเห็น 4) ทกั ษะกำรเขยี น (Writing skill) เก่ียวกบั สถำนท่ีท่ีไดไ้ ปเท่ยี วมำ A:I was at the aquarium last week. กระบวนการกลุ่ม B:Really? How was it? A:It was great! 1) จับคูส่ นทนำ B:What was the weather like? 2 ) ระดมสมอง A:It was freezing and foggy. 3) ฝึกกจิ กรรมกลุม่ ตำม 4) ประโยคถำมและตอบเก่ยี วกบั กิจกรรมตำ่ ง ๆ ที่ทำในอดีต เช่น แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ A:Did Joe clean his bedroom yesterday? B:Yes, he did./No, he didn’t. 5) คำ กลุ่มคำทม่ี ีควำมหมำยสัมพนั ธ์กบั ขอ้ มูล ตำ่ ง ๆ เช่น ภำพ เป้าหมายการเรียน It was great! หลกั ฐานการเรยี นรู้ 1. กำรพดู ถำม-ตอบเกีย่ วกับสภำพอำกำศในอดีต 2. กำรทำชน้ิ งำนโปสเตอร์ Weather around the world 3. กำรพดู ขอและให้ข้อมลู พรอ้ มท้งั แสดงควำมคดิ เหน็ เกีย่ วกับสถำนท่ีท่ีไปเทยี่ ว 4. กำรอำ่ นออกเสียงคำกรยิ ำรปู อดีตท่เี ติม -ed 5. กำรทำโปสเตอรส์ ิ่งมชี วี ิตในทะเล 6. กำรเขยี นไดอำรี่เกี่ยวกับสงิ่ ที่เกดิ ข้ึนเมื่อวำนนี้ 7. กำรอำ่ นออกเสียงนทิ ำนเรื่อง The princess and the dragon 8. กำรรวบรวมคำศัพท์ในสมุดคำศัพท์ Your word book
แผนผังมโนทศั น์ข้ันตอนการทากจิ กรรมประกอบการจัดการเรียนรูแ้ บบ CLT ศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจัดการเรยี นรู้แนวการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร Communicative Language Teaching : CLT Warm up Presentation Practice Production Wrap up ทดสอบหลังเรียน (ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60)
โครงสร้างหนว่ ยการเรยี นรู้ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เวลา 12 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เรื่อง It was great! แผนการจดั การเรียนรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน เวลาเรยี น (ช่วั โมง) 1. What was the weather like 1. กำรพูดถำม-ตอบเกี่ยวกบั สภำพอำกำศในอดตี 2. กำรทำชิ้นงำนโปสเตอร์ Weather around the 3 yesterday? world 3. กำรพูดขอและใหข้ ้อมูล พรอ้ มทงั้ แสดงควำม 3 2. Write a diary about a happy คิดเหน็ เกีย่ วกับสถำนทท่ี ่ีไปเท่ียว 3 1. กำรอ่ำนออกเสยี งคำกริยำรูปอดตี ท่ีเติม -ed day 2. กำรทำโปสเตอร์ส่งิ มีชวี ติ ในทะเล 3 12 3. May, did you clean your 1. กำรเขียนไดอำรี่เกย่ี วกบั สิ่งทเี่ กิดข้นึ เม่ือวำนนี้ 2. กำรอ่ำนออกเสยี งนิทำนเรื่อง The princess and bedroom? the dragon 3. กำรรวบรวมคำศัพท์ในสมุดคำศัพท์ Your word 4. Write an e-mail to your friend. book 1. กำรรวบรวมคำศัพท์ในสมุดคำศัพท์ Your word book 2.ทดสอบหลงั เรยี น รวมเวลำเรียน
ผังมโนทัศน์ หน่วยการเร แผนที่ 1 หน่วยกา It wa What was the weather like yesterday? จานวน จำนวน 3 ชว่ั โมง แผนที่ 3 May, did you clean your bedroom? จำนวน 3 ชวั่ โมง ภาษาไทย การเรียนรู้แ 1.ฟงั แสดงควำมคดิ เหน็ ฟงั สรุปสำระสำคัญ และจบั ใจควำม 2.พดู แสดงควำมคดิ เห็น และตอบคำถำมอ่ำนและสะกดคำ เรียนรูเ้ ถูกต้อง
รียนรู้ท่ี 3 It was great! แผนที่ 2 ารเรยี นรูท้ ี่ 3 Write a diary about a happy day. as great! 13 ช่วั โมง จำนวน 3 ช่วั โมง แบบบรู ณาการ แผนที่ 4 วิทยาศาสตร์ Write an e-mail to your friend. เก่ยี วกบั สภำพอำกำร ฤดูกำล จำนวน 3 ชัว่ โมง .ศิลปะ : ทศั นศิลป์ วำดภำพและระบำยสสี ิ่งมชี ีวิต
แผนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมภี ูมคิ ุ้มกันในตวั ท่ีดี 1. ออกแบบกำรจัดกจิ กรรม ตรงตำม 1. ออกแบบกำรเรียนรสู้ ง่ เสรมิ กระบวนกำรคดิ 1. ศกึ ษำแนวทำงกำรจัดกำรเรยี นรลู้ ว่ งหน้ำ ตัวชี้วดั 2. ใชเ้ ทคนิคกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ี่หลำกหลำย 2. จดั เตรยี มกำรวดั ผลประเมินผล และแบบ 2. เลอื กส่ือ แหลง่ เรียนรเู้ หมำะสม สงั เกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วัดผลประเมนิ ผลตรงตำมเน้อื หำ เงื่อนไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม 1. รูจ้ กั เทคนิคกำรสอนทสี่ ่งเสรมิ กระบวนกำรคดิ และนกั เรยี น 1. มีควำมขยนั เสยี สละ และมงุ่ มนั่ ในกำรจัดหำสื่อมำพฒั นำนักเรยี น สำมำรถเรยี นรไู้ ด้อย่ำงมคี วำมสุข ให้บรรลตุ ำมจดุ ประสงค์ 2. มีควำมอดทนเพอื่ พฒั นำนักเรียนโดยใช้เทคนิคกำรสอนที่ หลำกหลำย นกั เรยี น ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมภี มู ิคุ้มกันในตวั ที่ดี 1. กำรใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม/ภำระงำน 1. ฝึกกระบวนกำรทำงำนเป็นกลมุ่ 1. วำงแผนกำรศึกษำใบงำน/ใบกจิ กรรม ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ทนั เวลำ 2. ฝึกกระบวนกำรสังเกต อธบิ ำย ทักษะกำร 2. นำควำมรู้เรอื่ ง ลกั ษณะของอำชพี ต่ำงๆ 2. เลือกสมำชกิ กลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั เนอ้ื หำท่ี สืบค้นหำควำมรู้ ขอ้ มลู ตำ่ งๆ ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ เรยี นและศักยภำพของตน เง่อื นไขความรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. มีควำมรเู้ รื่อง ลักษณะของกฬี ำต่ำงๆ ตลอดจนสำมำรถสรำ้ งจดั ทำ 1. มคี วำมรบั ผิดชอบ และปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลงของกลมุ่ ชิน้ งำน ผลงำนและใบงำนไดต้ ำมวัตถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มำธชิ ่วยเหลอื กนั ในกำรทำงำนรว่ มกัน ส่งผลตอ่ การพฒั นา 4 มติ ิให้ยั่งยืนยอมรับต่อการเปลย่ี นแปลงในยุคโลกาภิวฒั น์ วตั ถุ สงั คม สิง่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีควำมรู้ควำมเข้ำใจลกั ษณะของสภำพ มคี วำมรูแ้ ละเข้ำใจ มีควำมรูแ้ ละเข้ำใจ มคี วำมรู้และเขำ้ ใจกำร อำกำศตำ่ งๆ กระบวนกำรทำงำน เกยี่ วกับ ลกั ษณะ ช่วยเหลอื แบง่ ปัน กล่มุ ของสภำพอำกำศ ตำ่ งๆ ทกั ษะ (P) สำมำรถสรำ้ งช้ินงำน ผลงำน ใบงำน ทำงำนไดส้ ำเร็จตำม ใชแ้ หลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ชว่ ยเหลือ แบ่งปันซึง่ แบบทดสอบเรือ่ งลกั ษณะของสภำพ เปำ้ หมำย ดว้ ย ทำลำยส่งิ แวดล้อม กัน และกนั อำกำศตำ่ งๆได้ตรงตำมวัตถปุ ระสงค์ กระบวนกำรกลุ่ม ค่านิยม (A) เหน็ ประโยชน์ของเรยี นรู้ เกยี่ วกับ เห็นคุณคำ่ และ เหน็ คุณคำ่ ของกำรใช้ ปลกู ฝังนสิ ยั กำร ลักษณะของสภำพอำกำศตำ่ งๆ ภำคภูมใิ จในกำร แหลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลือแบง่ ปนั ทำงำนรว่ มกันได้ ทำลำยสิ่งแวดล้อม สำเรจ็
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เรือ่ ง It was great! เวลา 13 ช่ัวโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ งั และอา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตุผล ตัวชว้ี ัด 2. อ่ำนออกเสยี งข้อควำม นิทำน และบทกลอนสัน้ ๆ ถกู ต้องตำมหลักกำรอ่ำน ตวั ช้ีวัด 3. เลอื ก/ระบุประโยคหรอื ข้อควำมส้ันๆ ตรงตำมภำพ สญั ลักษณ์ หรือเคร่ืองหมำยท่ีอ่ำน ตวั ชี้วดั 4. บอกใจควำมสำคัญและตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอ่ำนบทสนทนำ นทิ ำนง่ำยๆ และเร่อื ง เล่ำ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ตัวชีว้ ดั 1. พูด/เขียนโตต้ อบในกำรสอื่ สำรระหว่ำงบุคคล ตัวชว้ี ดั 2. ใชค้ ำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ ตวั ชี้วัด 4. พูดและเขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั ตัวชี้วัด 5. พูด/เขียนแสดงควำมรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่อื งตำ่ งๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมตำ่ งๆ พร้อมทั้งให้ เหตุผลสัน้ ๆ ประกอบ มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งต่างๆ โดยการพดู แ และการเขียน ตัวชี้วดั 1. พูด/เขยี นให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพื่อน และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ ัว ตัวชว้ี ัด 2. เขียนภำพ แผนผัง แผนภมู ิ และตำรำงแสดงข้อมูลตำ่ งๆ ตำมทฟ่ี ังหรืออ่ำน ตวั ชี้วัด 3. พดู /เขยี นแสดงควำมคดิ เหน็ เกยี่ วกับเรอ่ื งต่ำงๆ ใกลต้ วั มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชีว้ ัด 3. เขำ้ รว่ มกิจกรรมทำงภำษำและวฒั นธรรมตำมควำมสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม ตวั ชวี้ ัด 1. บอกควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งกำรออกเสยี งประโยคชนดิ ตำ่ งๆ กำรใช้ เคร่อื งหมำยวรรคตอน และกำรลำดับคำตำมโครงสร้ำงประโยคของภำษำต่ำงประเทศ และภำษำไทย
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชือ่ มโยงความรูก้ ับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่ และเป็นพน้ื ฐาน ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตวั ช้ีวดั 1. คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอ ด้วยกำรพูด/กำรเขียน มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม ตัวช้ีวดั 1. ใชภ้ ำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ท่เี กิดขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถำนศึกษำ มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครอ่ื งมือพนื้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี และ การแลกเปล่ียนเรยี นรู้กับสังคมโลก ตวั ชี้วดั 1. ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลตำ่ งๆ 2. สาระสาคัญ กำรเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสภำพอำกำศและสัตว์ทะเล กำรใช้ประโยค Past Simple Tense เพ่ือพูด ขอและให้ข้อมูล แสดงควำมคิดเห็นเก่ียวกับสถำนท่ีที่ได้ไปเท่ียวมำ รวมถึงบอกกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ทำในอดีต เป็นพ้นื ฐำนกำรใช้ภำษำอังกฤษเพ่อื กำรส่ือสำรในชวี ติ ประจำวัน 3. สาระการเรยี นรู้ 1) ควำมรู้ (Knowledge : K) 1) คำศัพท์ กลุม่ คำ ประโยคเกยี่ วกบั สภำพอำกำศ สัตว์ทะเล และโลกใตท้ ะเล 2) ประโยค บทสนทนำ เน้ือเรือ่ งสนั้ ๆ ท่ีมีภำพประกอบ 3) คำศัพท์ และประโยค Past Simple Tense เพ่อื พดู ขอและใหข้ ้อมูล และแสดงควำม คดิ เห็นเก่ียวกบั สถำนทที่ ่ีได้ไปเทย่ี วมำ A: I was at the aquarium last week. B: Really? How was it? A: It was great! B: What was the weather like? A: It was freezing and foggy. 4) ประโยคถำมและตอบเก่ยี วกับกิจกรรมต่ำง ๆ ทีท่ ำในอดีต เชน่ A: Did Joe clean his bedroom yesterday? B: Yes, he did./No, he didn’t. 5) คำ กลมุ่ คำท่ีมคี วำมหมำยสัมพนั ธก์ ับข้อมลู ต่ำง ๆ เช่น ภำพ 6) กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น กำรเล่นเกม กำรรอ้ งเพลง 7) กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณ์งำ่ ยๆ ท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรยี น 8) กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวมคำศัพทจ์ ำกสอ่ื และแหลง่ กำรเรียนรู้ต่ำง ๆ 2) ทกั ษะ/กระบวนกำร (Process : P) 1) ทกั ษะกำรฟัง (Listening skill) - คำศัพท์ ประโยค
2) ทักษะกำรพดู (Speaking skill) - คำศัพท์ ประโยค 3) ทกั ษะกำรอ่ำน (Reading skill) - คำศัพท์ ประโยค 4) ทกั ษะกำรเขียน (Writing skill) - คำศัพท์ ประโยค 5) กระบวนกำรกลมุ่ -จับคสู่ นทนำ -ระดมสมอง -ฝึกกจิ กรรมกลุ่มตำมแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ 3) เจตคติ (Attitude : A) 1) กล้ำแสดงออก 2) มนั่ ใจในกำรพูดภำษำอังกฤษเพือ่ กำรสื่อสำร 3) มีควำมสขุ สนกุ สนำนกับกำรเรียนภำษำองั กฤษ 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ชวี ิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. อยู่อย่ำงพอเพียง 4. ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน 5. มีจติ สำธำรณะ 6. ช้นิ งาน 1. กำรพูดถำม-ตอบเก่ียวกับสภำพอำกำศในอดีต 2. กำรทำชนิ้ งำนโปสเตอร์ Weather around the world 3. กำรพูดขอและให้ข้อมูล พรอ้ มทั้งแสดงควำมคดิ เห็นเกีย่ วกับสถำนที่ที่ไปเที่ยว 4. กำรอ่ำนออกเสยี งคำกรยิ ำรปู อดตี ท่ีเติม -ed 5. กำรทำโปสเตอร์สิ่งมีชีวิตในทะเล 6. กำรเขียนไดอำรเี่ กี่ยวกับส่งิ ทเ่ี กดิ ข้นึ เม่ือวำนน้ี 7. กำรอ่ำนออกเสียงนทิ ำนเร่ือง The princess and the dragon 8. กำรรวบรวมคำศัพท์ในสมุดคำศัพท์ Your word book
7. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น แบบทดสอบก่อน/หลัง เรียน รอ้ ยละ 60 หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 3 หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ่ี 3 ตรวจใบงำน ใบงำน ร้อยละ 60 ตรวจใบงำน ใบงำน ร้อยละ 60 ชิ้นงำน แบบประเมนิ ชิ้นงำน ระดบั คุณภำพ 2 สังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล แบบประเมนิ ทักษะทำงภำษำ รำยบคุ คลกำร ระดับคุณภำพ 2 สงั เกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรทำงำนกล่มุ ระดบั คุณภำพ 2 สังเกตควำมมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มนั่ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภำพ 2 ในกำรทำงำน ระดับคุณภำพ ระดับ แปลผล คะแนน ร้อยละ ระดับ 4 ดีเย่ยี ม 9 - 10 80 - 100 ระดับ 3 7-8 70 – 79 ระดับ 2 ดี 5-6 60 - 69 ระดับ 1 พอใช้ 1-4 0 - 59 ปรบั ปรงุ เกณฑ์กำรตดั สิน นักเรยี นได้คะแนนระดับ พอใช้ ข้ึนไป ถือวำ่ ผ่ำนเกณฑ์ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมท่ี 1 What was the weather like yesterday? (ช่ัวโมงที่ 1-3) 1.ทดสอบกอ่ นเรียน 2.ครูทักทำยนักเรียนด้วยคำถำม How are you? เม่ือนักเรียนท้ังห้องทักทำยตอบแล้ว ครูทักทำย นกั เรยี นเป็นรำยบคุ คล 4-5 คน โดยใหน้ กั เรยี นพูดตอบ โดยใชส้ ำนวนอื่น เชน่ I’m OK/great/happy. เปน็ ต้น 3.ให้นกั เรียนทำงำนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน จำกนั้นให้นักเรียนเลือกประเทศมำกลุ่มละ 3-4 ประเทศ แล้วค้นคว้ำหำข้อมูลเกี่ยวกับสภำพอำกำศและอุณหภูมิของประเทศเหล่ำนี้ พร้อมกับหำภำพประกอบด้วย ครู เน้นให้นักเรียนพยำยำมหำสถำนท่ีท่ีมีสภำพอำกำศแตกต่ำงกัน จำกนั้นครูให้นักเรียนนำข้อมูลท่ีได้มำทำ โปสเตอร์หัวขอ้ Weather around the world โดยให้นกั เรยี นใชโ้ ครงสร้ำงประโยคเหมือนในหนังสือเรียน หน้ำ 33 ข้อ 3 ในกำรเขียน เสร็จแล้วให้แต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมำพูดนำเสนอที่หน้ำชนั้ เรียน 4.ครบู อกนักเรียนว่ำ ในชั่วโมงน้ีนักเรียนจะได้เรยี นรเู้ ก่ียวกับลกั ษณะอำกำศ และพดู แสดงควำมรู้สึก หรือควำมคิดเหน็ ฝกึ บทสนทนำถำม-ตอบ รวมท้งั กำรอ่ำนและกำรเขียน
กิจกรรมท่ี 2 (ชัว่ โมงที่ 4-6) 1.ครูให้นกั เรียนหำคำกรยิ ำท่เี ติม -ed เพิ่มเติม 15 คำ โดยให้มที งั้ คำท่ลี งทำ้ ยดว้ ยเสยี ง /t/, /d/ และ /Id/ อยำ่ งละ 5 คำ โดยใหน้ กั เรียนเขยี นใสต่ ำรำง 2.ครูพูดบอกนักเรยี นวำ่ ในบทนน้ี ักเรยี นจะไดเ้ รยี นร้คู ำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ทะเล ประโยคบอกเลำ่ ปฏิเสธ และคำถำมของ Past Simple Tense และกำรเขียนจดหมำย 3.ครูให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 28 ข้อ 2 Listen and complete the sentences. โดยเปิด CD/Track 38 ให้นักเรียนฟังและถำมวำ่ นักเรียนไดย้ ินอะไรบ้ำง จำกนั้นครูรวบรวมคำตอบของนักเรียนมำเขียน บนกระดำน ต่อมำครูให้เวลำนักเรียนเติมคำตอบลงในช่องว่ำงให้ถูกต้องตำมที่ได้ยินจำก CD เสร็จแล้ว ครูเปิด CD อกี คร้ังเพือ่ ตรวจคำตอบ กิจกรรมท่ี 3 (ชั่วโมงท่ี 7-9) 1. . ครูเขียนประโยคในกรอบ Remember! ในหนังสือเรียน หน้ำ 38 บนกระดำน เพื่อทบทวน เกย่ี วกบั ประโยคบอกเล่ำและปฏิเสธของ Past Simple Tense 2.ครูให้นักเรียนออกเสียงคำในรูป Past Simple Tense ที่ให้มำใน แบบฝึกหัด หน้า 31 ข้อ 7 Read and complete. พร้อมกัน จำกน้ันครูสุ่มเรียกนักเรียนหลำยๆ คนให้อ่ำนคำที่ให้มำ แล้วให้นักเรียน เลอื กคำเหลำ่ น้ันมำเติมลงในช่องวำ่ ง ใหเ้ ป็นขอ้ ควำมที่สมบรู ณ์ หรือครอู ำจมอบหมำยให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด นี้เป็นกำรบำ้ น 3.ครูให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมท่ี Sandra เขียนถึง Tony ใน หนังสือเรียน หน้า 41 ข้อ 3 Read the text. แล้วเลือกประโยคด้ำนล่ำงมำเติมลงในช่องว่ำงให้ถูกต้อง ครูอ่ำนประโยคให้นักเรียนฟังทีละประโยค พร้อมกับเฉลยคำตอบบนกระดำน ให้นักเรียนตรวจคำตอบของตนเองและแก้ไขให้ถูกต้อง เสร็จแล้วอ่ำน ขอ้ ควำมทสี่ มบรู ณพ์ ร้อมกนั กิจกรรมท่ี 4 (ชว่ั โมงที่ 10-13) 1.นักเรียนอ่ำนข้อควำม a-f ท่ีให้มำใน แบบฝึกหัด หน้า 32 ข้อ 2 Re-arrange the sentences (a-f) into the correct order to make a letter. จำกนั้นให้นักเรียนอ่ำนและเรียงข้อควำม a-f ให้เป็น จดหมำย ท่ีถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคำตอบ และใหน้ กั เรียนอ่ำนประโยคท่เี รียงลำดบั สมบูรณ์แล้วพร้อมกัน อีกครัง้ หรืออำจมอบหมำยให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดนี้เป็นกำรบ้ำน 2.ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกคำศัพท์ที่เรียนในบทนี้ จำกน้ันให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 92 หวั ข้อ Language focus เพื่อหำโครงสร้ำงประโยคท่ีนักเรยี นได้เรยี นในบทน้ี แล้วครเู ขียนประโยคที่นักเรียน บอกบนกระดำน และให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกโครงสรำ้ งประโยค 3.ครูให้นักเรียนไปค้นหำควำมหมำยของคำศัพท์ท่ีจะเรียนในบทเรียนถัดไปในหนังสือเรียน หน้ำ 47 กรอบ Word box ล่วงหนำ้ พรอ้ มท้ังเปดิ พจนำนุกรมเพ่อื หำพยำงค์ที่ออกเสียงเน้นหนักในคำเหล่ำนี้ดว้ ย 4.ทดสอบหลงั เรียน
9.แหลง่ เรียนรู้ / ส่ือ 1. Website 2. ส่อื วีดีทศั น์ เรอื่ ง weather : https://www.youtube.com/watch?v=Rd3gQPtgW_0&t=43s https://www.youtube.com/watch?v=_6cG913j6kc https://www.youtube.com/watch?v=To6NiejpCzk 3. หนังสือเรยี น Smile ป.6 4. แบบฝกึ หัด Smile ป.6
แบบทดสอบ Pre-test หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง It was great! กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 Choose the correct answer. 1. It was ………………….. in Moscow. The temperature was -3˚C. a. freezing b. rain c. cloudy d. sunny 2. She is taking an umbrella because it’s …………………. . a. cool b. rainy c. cloudy d. sunny 3. It’s ………………. . It’s going to rain soon. a. cool b. rainy c. cloudy d. sunny 4. People usually wear thin clothes in ………………………… when the weather is hot. a. spring b. summer c. winter d. autumn 5. People wear thick clothes in ……………………….. when it’s snowy. a. spring b. summer c. winter d. autumn 6. What was the weather ………………….. yesterday? a. look b. link c. love d. like 7. A: Was it cold yesterday? c. is d. are c. is d. are B: Yes, it ……………… . a. were b. was 8. We ………………….. happy at the party last night. a. were b. was 9. C: How was the party? D: …………..………… a. I’m fine. b. Not at all. c. It was great. d. Thanks. 10. I saw a lot of ………………….. at the aquarium. a. horse b. apples c. hats d. fish
แบบทดสอบ Post-test หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง It was great! กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 Choose the correct answer. 1. A ………………….. has sharp teeth. It is fierce. a. starfish b. seahorse c. stingray d. shark 2. A ………………….. has many colours. It has five arms. a. starfish b. seahorse c. stingray d. shark 3. A ………………….. is very small. It has no legs. Its head is like a horse. a. starfish b. seahorse c. stingray d. shark 4. We can find many sea animals in the ………………………… . a. stingray b. diver c. aquarium d. jellyfish 5. Ann: ………………….. Ken: It was fun. a. How are you? b. Where did you go? c. What did you do yesterday? d. How was it? 6. It ………………….. warm and sunny yesterday. a. is b. are c. was d. were 7. Where ………………….. you last month? a. is b. are c. was d. were d. cleaning 8. I ………………….. my house last week. d. done a. cleaned b. clean c. cleans 9. Did he ………………….. his homework last night? a. do b. does c. did 10. Tom: Did you clean your room yesterday? Tim: ………………………… a. Yes, I did. b. Yes, you did. c. No, you didn’t. d. No, I don’t.
เฉลย แบบทดสอบ Pre-test หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง It was great! กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 Choose the correct answer. 1. It was ………………….. in Moscow. The temperature was -3˚C. a. freezing b. rain c. cloudy d. sunny d. sunny 2. She is taking an umbrella because it’s …………………. . a. cool b. rainy c. cloudy 3. It’s ………………. . It’s going to rain soon. a. cool b. rainy c. cloudy d. sunny 4. People usually wear thin clothes in ………………………… when the weather is hot. a. spring b. summer c. winter d. autumn 5. People wear thick clothes in ……………………….. when it’s snowy. a. spring b. summer c. winter d. autumn d. like 6. What was the weather ………………….. yesterday? d. are a. look b. link c. love 7. A: Was it cold yesterday? B: Yes, it ……………… . a. were b. was c. is 8. We ………………….. happy at the party last night. a. were b. was c. is d. are 9. C: How was the party? D: …………..………… a. I’m fine. b. Not at all. c. It was great. d. Thanks. d. fish 10. I saw a lot of ………………….. at the aquarium. a. horse b. apples c. hats
เฉลย แบบทดสอบ Post-test หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่ือง It was great! กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 Choose the correct answer. 1. A ………………….. has sharp teeth. It is fierce. a. starfish b. seahorse c. stingray d. shark 2. A ………………….. has many colours. It has five arms. a. starfish b. seahorse c. stingray d. shark 3. A ………………….. is very small. It has no legs. Its head is like a horse. a. starfish b. seahorse c. stingray d. shark 4. We can find many sea animals in the ………………………… . a. stingray b. diver c. aquarium d. jellyfish 5. Ann: ………………….. Ken: It was fun. a. How are you? b. Where did you go? c. What did you do yesterday? d. How was it? 6. It ………………….. warm and sunny yesterday. a. is b. are c. was d. were 7. Where ………………….. you last month? a. is b. are c. was d. were d. cleaning 8. I ………………….. my house last week. d. done a. cleaned b. clean c. cleans 9. Did he ………………….. his homework last night? a. do b. does c. did 10. Tom: Did you clean your room yesterday? Tim: ………………………… a. Yes, I did. b. Yes, you did. c. No, you didn’t. d. No, I don’t.
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง What was the weather like yesterday? 1. สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสภำพอำกำศ กำรใช้ประโยค Past Simple Tense เพื่อพูดขอและให้ข้อมูล และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับสถำนท่ีท่ีได้ไปเท่ียวมำ เป็นพื้นฐำนกำรใช้ภำษำอังกฤษเพื่อกำรสื่อสำรใน ชวี ิตประจำวัน 2. ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่อื งทฟี่ ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล ตวั ชีว้ ัด 2. อ่ำนออกเสียงข้อควำม นทิ ำน และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกต้องตำมหลักกำรอำ่ น ตวั ชว้ี ัด 3. เลือก/ระบปุ ระโยคหรือข้อควำมสน้ั ๆ ตรงตำมภำพ สัญลักษณ์ หรือเคร่ืองหมำยทอี่ ่ำน ตวั ชีว้ ัด 4. บอกใจควำมสำคัญและตอบคำถำมจำกกำรฟังและอ่ำนบทสนทนำ นทิ ำนง่ำยๆ และเรอ่ื ง เล่ำ 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อำ่ นออกเสียงขอ้ ควำม นิทำน และบทกลอนส้นั ๆ ได้ 2. เลอื ก/ระบปุ ระโยคหรอื ข้อควำมส้ันๆ ตรงตำมภำพ สญั ลักษณ์ หรือเคร่ืองหมำยทอ่ี ่ำน และ สำมำรถบอกใจควำมสำคญั ตอบคำถำมจำกกำรฟงั อ่ำนบทสนทนำ นิทำนง่ำยๆ เร่ืองเลำ่ ได 4.สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. คำศพั ท์ กลุม่ คำ และประโยคเกย่ี วกบั สภำพอำกำศ 2. ประโยค บทสนทนำ และเนือ้ เรอ่ื งสน้ั ๆ ท่มี ีภำพประกอบ 3. คำศพั ท์ และประโยค Past Simple Tense เพอื่ ขอและให้ข้อมูล พร้อมทงั้ แสดงควำมคิดเห็น เกยี่ วกับสถำนที่ทไี่ ด้ไปเท่ยี วมำแล้ว A: I was at the aquarium last week. B: Really? How was it? A: It was great! B: What was the weather like? A: It was freezing and foggy.
4. กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เชน่ กำรเล่นเกม 5. กำรใช้ภำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณ์งำ่ ยๆ ทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรยี น 6. กำรใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพทท์ ี่เก่ยี วข้องใกลต้ ัว จำกสอ่ื และแหลง่ กำรเรยี นรู้ ตำ่ ง ๆ ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟงั กำรพูด กำรอำ่ น กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มคี วำมรับผดิ ชอบ ขยัน ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน 2. มีควำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง กลำ้ แสดงออก 3. มเี จตคติทีด่ ีตอ่ กำรเรียนภำษำอังกฤษ 5.สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 6.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 What was the weather like yesterday? ขน้ั นา (Warm up) 1. ครูทักทำยนักเรียนด้วยคำถำม How are you? เม่ือนักเรียนท้ังห้องทักทำยตอบแล้ว ครูทักทำย นกั เรยี นเป็นรำยบุคคล 4-5 คน โดยให้นกั เรียนพดู ตอบ โดยใชส้ ำนวนอื่น เช่น I’m OK/great/happy. เปน็ ตน้ 2. ครูให้นักเรียนทบทวนประโยคคำสั่ง ขอร้องและขออนุญำตที่ใช้ในห้องเรียน โดยอ่ำนประโยคที่บอร์ด ของห้องเรยี น จำกนน้ั ครยู ้ำให้นกั เรียนใชป้ ระโยคเหลำ่ น้พี ูดกับครูในหอ้ งเรยี น 3. ครูให้นักเรียนดภู ำพในหน้ำ 32 และให้นกั เรยี นเดำว่ำเป็นสถำนท่ีใดจนได้คำตอบว่ำ พิพิธภัณฑ์-สตั วน์ ้ำ และครูเขียน aquarium บนกระดำน จำกน้ันครูถำมนักเรียนอีก 2-3 คำถำม เช่น นักเรียนเคยไปพิพิธภัณฑ์ สตั ว์นำ้ หรอื ไม่ นักเรยี นเห็นสัตว์ชนิดใดที่พพิ ิธภัณฑ์บำ้ ง นักเรยี นชอบสัตว์อะไรมำกที่สุด เป็นต้น โดยครูอำจใช้ ภำษำไทยชว่ ยในกำรทำกจิ กรรมกไ็ ด้ 4. ครูให้นักเรียนดูภำพใน หนังสือเรียน หน้า 32 ข้อ 1 What can you see? แล้วบอกครูว่ำ นักเรียนเหน็ อะไรบ้ำง หลังจำกนน้ั ครูรวบรวมคำตอบจำกนักเรียนนำมำเขียนบนกระดำน Teacher: What can you see in the picture? Students: Fish, a diver, coral reefs, sharks, boys, girls, etc. Teacher: Very good!
5. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมใน หนังสือเรียน หน้า 32 ข้อ 2 Look, listen and answer. โดยครู เปิด CD/Track 25 ให้นักเรียนฟัง และตอบคำถำมเกี่ยวกับภำพในข้อ 1 จำกนั้นครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมำ เขียนคำตอบบนกระดำน เสร็จแล้วครูเปิด CD/track 25 อีกคร้ัง เพ่ือให้นักเรียนตรวจสอบคำตอบว่ำถูกต้อง หรือไม่ Look at the picture. 1. How many people are looking at the fish? 2. How many starfish are there in the picture? 3. Are the children sad or happy? 4. Are there any dolphins in the aquarium? 5. Is the diver feeding the fish? 1. Five people. 2. Two starfish. 3. They are happy. 4. No, there aren’t. 5. No, he isn’t. 6. ครทู บทวนคำศัพท์เกี่ยวกับสภำพอำกำศ เช่น raining, windy, sunny, cold, cool โดยกำรเลน่ เกม Spelling Bee จำกน้ันพูดบอกนักเรยี นวำ่ ในบทเรยี นนีน้ กั เรียนจะไดเ้ รียนคำศพั ทเ์ กีย่ วกับสภำพอำกำศ เพมิ่ เติม ประโยค Past Simple Tense และกำรออกเสยี งคำกริยำท่เี ติม –ed ข้นั นาเสนอ (Presentation) 1. ครูเตรียมบัตรภำพ 5 ใบ ได้แก่ ภำพปรอทอุณหภูมิ 10˚C ภำพปรอทอุณหภูมิ 20˚C ภำพเกล็ด น้ำแข็ง ภำพหิมะตก และภำพหมอก จำกนั้นครูชี้ไปท่ีภำพแต่ละภำพ แล้วถำมนักเรียนว่ำ What’s the weather like? ให้นักเรียนช่วยกันพูดตอบ จำกนั้นให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 1 Listen, point and repeat. ครูออกเสียงคำศัพท์ให้นักเรียนฟัง 1 รอบ และให้นักเรียนฝึกออกเสียงตำม ต่อมำครู เปิด CD/Track 26 ใหน้ ักเรียนฝึกออกเสยี งตำมอกี 2-3 ครั้ง จนคล่อง cool warm freezing snowy foggy ต่อมำครูเขยี นคำศัพทต์ ่อไปน้ีบนกระดำน freezing snowy foggy จำกน้ันครูเปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั อีกคร้งั เพอ่ื ระบุวำ่ เสียงที่เน้นหนักในคำคือพยำงค์ใด เม่ือได้คำตอบ วำ่ พยำงค์แรกของแต่ละคำแล้ว ครใู ห้นักเรียนฝึกออกเสยี งเนน้ หนักในคำให้ถกู ต้อง freezing snowy foggy
2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียนหน้า 33 ข้อ 2 Read and complete. ครูอธิบำยควำมแตกต่ำงของ verb to be ในรูปของ Present Simple Tense กับ Past Simple Tense โดยเขียนประโยคในหนังสือเรียน ลงบนกระดำน จำกนนั้ ให้เวลำนักเรยี นเตมิ คำตอบใหถ้ กู ตอ้ ง เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นอ่ำนคำตอบพร้อมกนั ครยู ำ้ เร่อื งกำรออกเสยี งเน้นหนักในคำ temperature ดว้ ยกำรเขยี นคำน้บี นกระดำน และครูออก เสยี ง ใหน้ ักเรียนดเู ป็นตัวอย่ำง และใหน้ กั เรียนระบวุ ่ำคำนี้ออกเสียงเนน้ หนักท่ีพยำงค์ใด เมื่อได้คำตอบว่ำ พยำงค์แรกแล้ว ครใู ห้นักเรยี นฝึกออกเสยี งคำนี้ให้ถูกตอ้ ง temperature Background Information คานามคาวา่ temperature เป็นคาท่ีคนไทยมกั จะออกเสียงผดิ ครูควรฝึกใหน้ กั เรียน ออกเสียงคาน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง ท่ีมา: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com 3. ครูเตรยี มบัตรภำพสถำนท่ีทเ่ี ป็นสัญลักษณป์ ระจำเมือง 4 เมอื ง ดงั นี้ France, London, Tokyo และ Beijing จำกนัน้ ครชู บู ัตรภำพทลี ะภำพ แลว้ ถำมนักเรียน ดังน้ี Teacher: (ชบู ัตรภำพหอไอเฟล) What is it? Students: It is Eiffel Tower. Teacher: Where is it? Students: It is in France. Teacher: What is the capital city of France? Students: Paris! ครูทำกจิ กรรมเช่นเดียวกันกับ London, Tokyo, Beijing Background Information Eiffel Tower (หอไอเฟล) เป็นหอคอยโครงสร้ำงเหลก็ สูง 300 เมตร หรือสงู เท่ำกบั ตึก 81 ชั้น ตั้งชื่อตำมสถำปนิกผู้ออกแบบ คือ กุสตำฟ ไอเฟล ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำแซน (Seine) กรุงปำรีส เป็นสัญลกั ษณ์ของประเทศฝรั่งเศสทีร่ ู้จกั กันท่วั โลก ทงั้ ยังเปน็ หนึ่ง ในสิ่งกอ่ สร้ำงท่ีมชี อื่ เสียงทส่ี ุดในโลกอีกดว้ ย จำกนน้ั ครูหยิบบัตรภำพสถำนท่แี ละสภำพอำกำศขึ้นมำทลี ะคู่ พร้อมกับถำมนกั เรยี นถงึ สภำพอำกำศ ในเมืองนัน้ ๆ ให้นักเรียนช่วยกันตอบ โดยก่อนถำมครูบอกสถำนกำรณ์ใหน้ ักเรียนฟงั ก่อนวำ่ All of you went to Paris, London, Tokyo and Beijing last week. ครเู ขียน last week บนกระดำนตัวใหญ่ๆ แลว้ จึงถำม คำถำมนักเรยี น Teacher: What was the weather like in Paris?
(ครูหยบิ บตั รภำพหอไอเฟลกับบัตรภำพ cool ขน้ึ มำ) Students: It was cool. Teacher: Yes. That’s right. ครูทำกจิ กรรมเช่นเดียวกันนี้กับเมืองอ่นื ๆ ดว้ ย Background Information London เป็นเมืองหลวงของประเทศองั กฤษ มีสถานท่ีทอ่ งเท่ียวที่น่าสนใจ เช่น พระราชวงั บคั กิงแฮม (Buckingham Palace) พิพิธภณั ฑอ์ งั กฤษ (British Museum) Tokyo เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ป่ ุน มีสถานที่ทอ่ งเท่ียวท่ีน่าสนใจ เช่น หอคอยโตเกียว (Tokyo Tower) สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) Beijing หรือ ปักกิ่ง เป็ นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีสถานที่ ทอ่ งเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น สนามกีฬาแห่งชาติกรุงปักก่ิง (Beijing National Stadium) และจตั ุรัสเทียนอนั เหมิน (Tiananmen) ก่อนฟงั ครูอธบิ ำยวำ่ °C อ่ำนว่ำ degree Celsius (องศำเซลเซยี ส) - อ่ำนว่ำ minus (ตดิ ลบ) -4 อำ่ นวำ่ minus 4 (ตดิ ลบ 4 องศำ) ครูให้นักเรยี นดูกรอบ Remember! ในหนงั สือเรยี น หน้ำ 33 และอ่ำนประโยคในกรอบพรอ้ มกัน จำกนั้นครูอธิบำยว่ำประโยคน้ีเป็นประโยคถำม-ตอบเกี่ยวกับสภำพอำกำศท่เี กิดข้ึนในอดีต จำกน้ันใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรมใน หนงั สือเรียน หนา้ 33 ข้อ 3 Listen and complete. โดยครูเปดิ CD/Track 27 ให้นักเรียนฟัง 3 รอบ รอบแรกให้ฟังเพยี งอย่ำงเดียว รอบท่ีสองครูเปิด CD ให้ฟังทีละประโยค เพ่อื ให้นกั เรยี นมเี วลำเขียนคำตอบ และครูเปดิ CD รอบท่ีสำม เพ่ือใหน้ กั เรยี นตรวจคำตอบ เสร็จแลว้ ครู รวบรวมคำตอบจำกนักเรยี น และนำมำเขียนบนกระดำน ครูและนกั เรียนตรวจคำตอบบนกระดำนรว่ มกนั สุดท้ำยให้นกั เรียนอำ่ นประโยคที่สมบรู ณ์พร้อมกนั อกี ครั้งหนึง่ Boy: What was the weather like yesterday? 1. A: What was the weather like in London yesterday? B: It was cold and windy. The temperature was 5˚C. 2. A: What was the weather like in Tokyo last week? B: It was freezing and the temperature was -4˚C. 3. A: What was the weather like in Beijing last week? B: It was cold and foggy. The temperature was -2˚C.
2. freezing 3. foggy Background Information องศาเซลเซียส (degree Celsius) มีสัญลกั ษณ์คือ °C กาหนดใหจ้ ุดเยอื กแขง็ ของน้า คือ 0 °C และจุดเดือดคือ 100 °C องศาฟาเรนไฮต์ (degree Fahrenheit) มีสญั ลกั ษณ์คือ °F มีจุดเยอื กแขง็ อยทู่ ี่ 32 °F และมีจุดเดือดท่ี 212 °F ปัจจุบนั มีการใชห้ น่วยวดั อุณหภูมิองศาเซลเซียสอยา่ งแพร่หลายทวั่ โลก อยา่ งไรกต็ าม ยงั มีการใชห้ น่วยองศาฟาเรนไฮตใ์ นบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ที่มา: http://math.sci.rmutsb.ac.th/math/home/newsstudent_detail.php?newsid=3 ขั้นฝกึ (Practice) ครอู ธบิ ำยควำมแตกต่ำงของคำศัพท์เก่ยี วกบั สภำพอำกำศ ต่อไปน้ี freezing, cold, cool, warm, hot Background Information อุณหภูมิต่ากวา่ 0˚C ลงมา อากาศหนาวมาก (freezing หรือ extremely cold) อุณหภูมิ 0˚C - 9˚C อากาศหนาว (cold หรือ not hot or not warm) อุณหภูมิ 10˚C - 19˚C อากาศเยน็ (cool หรือ slightly cold) อุณหภูมิ 20˚C - 29˚C อากาศอบอุ่น (warm หรือ not hot or not cold) อุณหภูมิต้งั แต่ 30˚C ข้ึนไป อากาศร้อน (hot) จำกนน้ั ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันเรียงคำศัพท์เหลำ่ นจ้ี ำกรอ้ นที่สดุ ไปหำเยน็ ทีส่ ดุ 5. ครเู ตรียมปรอทวดั อุณหภมู ิอำกำศมำติดหรือแขวนไว้หน้ำช้ัน ใหน้ กั เรยี นออกมำดแู ละถำมนักเรียน ว่ำ ตอนนี้อุณหภูมิกี่องศำ ให้นักเรียนช่วยกันตอบ เช่น 32 องศำ แล้วครูสอนกำรอ่ำนและเขียนอุณหภูมิใน ปรอทวัด โดยครแู สดงบัตรอณุ หภมู ิใหน้ กั เรียนดู และพูดใหน้ กั เรียนฟงั เช่น 32˚C อ่ำนวำ่ thirty two degrees Celsius 40˚C อ่ำนวำ่ forty degrees Celsius ครแู สดงบตั รอุณหภมู อิ ื่น ๆ และให้นักเรยี นฝกึ พดู จนคล่อง
ขั้นนาไปใช้ (Production) ให้นกั เรียนดูตัวอยำ่ งในหนังสือเรยี น หนำ้ 34 กรอบ Remember! และอ่ำนออกเสียงพร้อมกนั จำกนัน้ ครูให้นักเรียนบอกโครงสรำ้ งของประโยคเหล่ำน้ี คำถำม: Was + ประธำน + สว่ นขยำย + ? คำตอบ: Were was. Yes, + ประธำน + were. No, + ประธำน + was + not (wasn’t). were + not (weren’t). Background Information Past Simple Tense ใชแ้ สดงเหตุการณ์หรือการกระทาท่ีเกิดข้ึนในอดีต สิ้นสุดและจบไปแลว้ โดยให้นกั เรียนสังเกตประโยค Past Simple Tense ได้ จาก คาวเิ ศษณ์บอกเวลา (Adverbs of time) เช่น last เม่ือ...ที่ผา่ นมาแลว้ - last month เดือนที่แลว้ - last year เมื่อปี ท่ีแลว้ เช่น I went to England last month. I visited my aunt last year. yesterday เมื่อวานน้ี เช่น John played football yesterday. ago (ที่ผา่ น) มาแลว้ เช่น He went to Italy three months ago. ในบทเรียนน้ีจะกล่าวถึง การใช้ verb to be ในรูปประโยค Past Simple Tense ดงั ต่อไปน้ี
Verb to be Past Simple Tense is was am was are were โครงสร้าง - รูปประโยคบอกเลำ่ ประธำน + was + สว่ นขยำย. were เช่น Andy was at the zoo yesterday. They were in this room yesterday. - รูปประโยคคำถำม Was + ประธำน + สว่ นขยำย? Were เช่น Was Andy at the zoo yesterday? Were they in this room yesterday? - รูปประโยคปฏิเสธ ประธำน + was + not + สว่ นขยำย. were เช่น Andy was not (wasn’t) at the zoo yesterday. They were not (weren’t) in this room yesterday. ขน้ั สรปุ (Wrap up) ครใู หน้ กั เรยี นโยงเส้นจบั คปู่ ระโยคทำงขวำมือ และซำ้ ยมอื ใหส้ มบูรณ์ ใน หนงั สือเรียน หนา้ 34 ข้อ 4 Listen and match. เม่ือนกั เรียนทำเสร็จแลว้ ครนู ำ Audio Script มำเขียนใสก่ ระดำษแผ่นใหญ่ และตดิ บนกระดำน ให้นักเรยี นฝกึ อ่ำนออกเสยี งตำม CD จำกนั้นครูส่มุ เรียกนักเรียน 5 คน เพอ่ื รำยงำนคำตอบ แล้ว ครูเปดิ CD/Track 28 เพอ่ื เฉลยคำตอบ
Mark: How was the school trip to the aquarium last Friday, Susan? Susan: It was great. There were thirty students on the trip. And we all had much fun. Mark: Were Mary and Jane with you? Susan: No, they weren’t. Mark: How was the aquarium? Susan: It was interesting. There were lots of sea animals. Mark: Did you see dolphins? Susan: Yes, I did. There were three dolphins at the aquarium. One of them played with a ball. Mark: What was the weather like? Susan: It was cool. Mark: Can I see your photographs of the trip? Susan: Sure. But I haven’t got many photos – there wasn’t much time to take photos. Mark: OK, no problem! 1. d 2. a 3. c 4. e 5. b
ชั่วโมงท่ี 2 What was the weather like yesterday? กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนา (Warm up) ให้นักเรียนทำงำนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน จำกนั้นให้นักเรียนเลือกประเทศมำกลุ่มละ 3-4 ประเทศ แล้วค้นคว้ำหำข้อมูลเกี่ยวกับสภำพอำกำศและอุณหภูมิของประเทศเหล่ำนี้ พร้อมกับหำภำพประกอบด้วย ครู เน้นให้นักเรียนพยำยำมหำสถำนที่ท่ีมีสภำพอำกำศแตกต่ำงกัน จำกนั้นครูให้นักเรียนนำข้อมูลที่ได้มำทำ โปสเตอร์หัวขอ้ Weather around the world โดยให้นักเรยี นใช้โครงสร้ำงประโยคเหมือนในหนังสือเรยี น หน้ำ 33 ขอ้ 3 ในกำรเขียน เสร็จแล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมำพูดนำเสนอทหี่ น้ำช้ันเรียน ขน้ั นาเสนอ (Presentation) ให้นักเรียนเปิด แบบฝึกหัด หน้า 24 ข้อ 1 Listen and point. โดยให้ฟังประโยคจำก CD/Track 36 แล้วชี้รปู ภำพให้ถกู ต้อง จำกนั้นครูเปดิ CD ให้นกั เรยี นฟงั อีกครงั้ ทีละประโยค และถำมนกั เรียนว่ำ นักเรียน ได้ยินคำว่ำอะไรบ้ำงในแตล่ ะประโยค 1. The woman has got a handbag. 2. Three children are talking. 3. Some fish are swimming near the diver. 4. There are two sharks in the picture. ขั้นฝึก (Practice) 1. นกั เรียนทา แบบฝึ กหัด หน้า 24 ข้อ 2 Look at the picture. Then complete the sentences. โดยดู ภาพในขอ้ 1 อีกคร้ัง จากน้ันครูให้นักเรียนทางานคู่ ช่วยกนั เติมคาตอบให้ถูกตอ้ ง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียก นกั เรียนออกมาเขียนคาตอบบนกระดาน และใหน้ กั เรียนที่เหลือช่วยตรวจคาตอบอีกคร้ัง 1. fish 2. sharks 3. swimming 4. watching 5. happy 2 . นั ก เรีย น ท ำ แ บ บ ฝึ ก หั ด ห น้ า 2 5 ข้ อ 1 Below are the words about weather. Unscramble them and write. โดยเรียงตัวอักษรให้เป็นคำท่ีมีควำมหมำยเก่ียวกับสภำพอำกำศ จำกนั้น ครูสุ่มเรียกนักเรียนยืนข้ึนอ่ำนคำตอบของตนเอง ครูจดคำตอบที่ได้บนกระดำน แล้วถำมควำมคิดเห็นของทุก คนว่ำ เหน็ ด้วยกบั คำตอบนี้หรอื ไม่ ถำ้ ไม่ จะสะกดวำ่ อยำ่ งไร 1. cool 2. warm 3. snowy 4. foggy 5. freezing 6. windy 7. sunny
3. ครูเตรียมบัตรภำพท้ังหมด 6 ภำพ ดังน้ี windy, foggy, freezing, cloudy, sunny, snowy จำกนั้นครูชูบัตรภำพข้ึนมำทีละ 1 ภำพ เช่น ครูหยิบบัตรภำพ snowy (ที่มีหิมะ) แล้วถำมนักเรียนเก่ียวกับ สภำพอำกำศในภำพวำ่ เปน็ เชน่ ไร ให้นักเรียนชว่ ยกันตอบ เช่น Teacher: What was the weather like yesterday? Students: It was snowy. Teacher: Yes. That’s right. ครใู ห้นักเรียนทำอย่ำงนี้จนครบทุกภำพ จำกนน้ั สุม่ เรียกนักเรยี น 2 คน ออกมำถำม-ตอบหน้ำช้ันเรยี น โดยให้คนท่ี 1 เปน็ คนถำม และคนท่ี 2 เป็นคนตอบ โดยครูสุ่มเลือกรูปภำพให้ เสร็จแลว้ ให้นกั เรยี นท่ีเหลือจบั คู่ ออกมำถำม-ตอบหนำ้ ชน้ั เรียนจนครบทุกคน ข้นั นาไปใช้ (Production) จำกน้ันครูให้นักเรียนดู แบบฝึกหัด หน้า 25 ข้อ 2 What was the weather like yesterday? Write a sentence for each picture. ให้นักเรียนดูภำพ จำกน้ันครูถำมคำถำม What was the weather like yesterday? ใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบทีละข้อ 1. It was windy. 2. It was foggy. 3. It was freezing. 4. It was cloudy. 5. It was sunny. Culture ครอู ธบิ ำยวำ่ ลักษณะภมู ิอำกำศของประเทศองั กฤษแบ่งออกเปน็ 4 ฤดูกำล ดงั นี้ ฤดใู บไมผ้ ลิ (Spring) เริ่มต้ังแตเ่ ดอื นมนี ำคมถึงพฤษภำคม ในฤดนู ้ีจะมีฝนตก และพืชพนั ธุต์ ่ำงๆ เร่ิมผลใิ บ ฤดูร้อน (Summer) เรมิ่ ต้ังแตเ่ ดอื นมิถนุ ำยนถงึ สิงหำคม เปน็ ฤดูที่อบอนุ่ ทส่ี ดุ มีแดดนำนทีส่ ุด และอำจมพี ำยุบ้ำง ในบำงปีอำจจะเกดิ คลื่นควำมรอ้ นด้วย ฤดใู บไมร้ ่วง (Autumn) เร่มิ ตงั้ แตเ่ ดือนกันยำยนถงึ พฤศจิกำยน อำกำศอบอ่นุ และ แหง้ หรอื ชนื้ มลี มแรง เปน็ ฤดูท่ีใบไม้รว่ งและอุณหภมู ิลดลง ฤดูหนาว (Winter) เริม่ จำกเดือนธันวำคมถึงกมุ ภำพันธ์ เปน็ ฤดทู หี่ นำวทสี่ ดุ ของ อังกฤษ อำกำศหนำวจัด และบำงครงั้ ก็มหี มิ ะตกด้วย ทม่ี า: http://www.educationuk.org/global/articles/weather-and-seasons/ จำกนั้นครูใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกวำ่ ประเทศไทยมีก่ฤี ดูกำล และแตล่ ะฤดกู ำลมลี ักษณะ เช่นใด จนได้คำตอบว่ำ ลักษณะภูมิอำกำศของประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกำล คือ ฤดูหนำว เรยี กวำ่ cool season ไมใ่ ช่ winter เพรำะอำกำศจะไมห่ นำวเย็นเท่ำ winter ฤดูร้อน เรยี กวำ่ hot season และฤดฝู น เรยี กว่ำ rainy season
ขั้นสรปุ (Wrap up) นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 26 ข้อ 3 Complete with was, were, wasn’t and weren’t. ครูให้เวลำนักเรียนเติม was, were, wasn’t หรือ weren’t ลงในช่องว่ำงให้ถูกต้อง โดยก่อนให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัดครูสรุปโครงสร้ำง Past Simple Tense ในรูปแบบของประโยคต่ำงๆ ให้นักเรียนฟัง เมื่อนักเรียน ทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้ว ครูอ่ำนบทสนทนำและหยุดเป็นช่วงเพื่อให้นักเรียนพูดคำตอบ จำกนั้นครูสุ่มเรียก นกั เรียนลุกขน้ึ อำ่ นบทสนทนำท้งั หมดอีกครัง้ 1. Were 2. wasn’t 3. were 4. Was 5. Was 6. was 7. Were 8. weren’t จำกนั้นให้นักเรียนจับคู่และออกมำแสดงบทบำทเป็น David และ Anna ที่หน้ำช้ันเรียน หรือครูอำจ ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมนี้เปน็ กำรบ้ำน ช่วั โมงท่ี 2 What was the weather like yesterday? กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนา (Warm up) 1. ครทู บทวนคำศัพท์เกี่ยวกับสภำพอำกำศ เช่น freezing, foggy, cool, warm, snowy, etc. โดย ครูแสดงบัตรภำพและให้นักเรียนระบคุ ำศพั ท์ใหถ้ ูกต้อง จำกน้นั ครูให้นักเรยี นเขยี นตำมคำบอก 2. ครถู ำมเกย่ี วกับสภำพอำกำศ และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบ เช่น Teacher: What’s the weather like today? Students: It’s warm. Teacher: Very good! 3. ครบู อกนักเรยี นวำ่ ในชัว่ โมงนนี้ กั เรยี นจะได้เรียนรู้เกยี่ วกับลกั ษณะอำกำศ และพดู แสดงควำมร้สู ึก หรอื ควำมคิดเห็น ฝกึ บทสนทนำถำม-ตอบ รวมทั้งกำรอำ่ นและกำรเขียน ข้ันนาเสนอ (Presentation) 1. ครเู ขยี นประโยคคำถำมและโครงสรำ้ งในกำรตอบต่อไปนบ้ี นกระดำน Where were you last week? I was at the …(คำนำมเกยี่ วกับสถำนท่ี) How was it? It was …(คำคุณศัพท)์ What was the weather like? It was …(คำคุณศัพท์) 2. ครถู ำมนกั เรียนว่ำ คำถำมทีข่ น้ึ ตน้ ดว้ ย Where นกั เรยี นจะตอ้ งใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับอะไร เมอ่ื ได้ คำตอบว่ำสถำนทีแ่ ลว้ ครถู ำมคำถำม Where were you last week? กับนักเรียนหลำยๆ คน Teacher: Where were you last week? Student 1: I was at the zoo. Student 2: I was at the beach. Student 3: I was at the cinema.
3. จำกน้นั ครถู ำมนักเรยี นว่ำ How was it? เปน็ คำถำมที่ถำมเกี่ยวกบั อะไร เมื่อได้คำตอบวำ่ ถำม ควำมคดิ เหน็ หรือควำมรู้สึกแลว้ ครใู ห้นกั เรียนช่วยกนั บอกคำคุณศพั ทท์ ใ่ี ช้แสดงควำมรู้สึกหรือควำมคิดเห็น โดยครเู ขยี นคำว่ำ positive และ negative บนกระดำน แลว้ เขียนคำคุณศพั ท์ทีน่ ักเรยี นบอกบนกระดำนใน หัวขอ้ ทถี่ ูกต้อง Positive Negative good, great, interesting, fantastic, bad, awful, boring wonderful 3. เสร็จแล้วครูบอกนกั เรยี นว่ำ You were at the zoo last week. How was it? ครูรวบรวม คำตอบจำกนักเรียนหลำยๆ คน โดยให้นกั เรยี นใชค้ ำคุณศัพทใ์ นตำรำงมำตอบ เมอ่ื ไดค้ ำตอบจำกนักเรียนแล้ว ครถู ำมนักเรียนต่อวำ่ What was the weather like? ข้ันฝึก (Practice) 1. ครูให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 34 ข้อ 5 Ask and answer. ให้นักเรียนอ่ำนประโยคใน กรอบ Remember! เพ่ือทบทวนโครงสร้ำงที่ใช้ถำม-ตอบเก่ียวกับควำมรู้สึก หรือควำมคิดเห็นเก่ียวกับ เหตุกำรณ์ในอดีต จำกน้ันให้นักเรียนอ่ำนบทสนทนำในหน้ำน้ีพร้อมกัน 1 คร้ัง ครูเตรียมภำพสถำนท่ีต่ำงๆ เช่น สวนสนุก (amusement park) สวนสัตว์ (zoo) สวนสำธำรณะ (park) ครูหยิบภำพสวนสนุกข้ึนมำ แล้ว ใหน้ กั เรยี นถำมคำถำมครู ดงั น้ี Teacher: I was at the amusement park yesterday. Students: Really? How was it? Teacher: It was great. Students: What was the weather like? Teacher: It was cold. เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นจับคู่กบั เพือ่ นฝึกพูดสนทนำตำมรูปแบบในขอ้ 5 แล้วครสู ุ่มเรียกนักเรยี น 3-4 คู่ ออกมำแสดงบทสนทนำหนำ้ ช้ันเรียน 2. ครูให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมใน หนังสือเรียน หน้า 35 ข้อ 6 Read Jane’s diary and answer the questions. พร้อมกัน แล้วครูอธิบำยว่ำ เรำจะใช้ Past Simple Tense ในกำรเขียนบันทึก ประจำวันเพรำะเป็นเหตุกำรณ์ท่ีเกิดข้ึนและผ่ำนมำแล้ว จำกนั้นให้นักเรียนขีดเส้นใต้คำกริยำที่อยู่ในรูปอดีต (past form) wasn’t, was, were, weren’t, didn’t ในข้อควำมดังกล่ำว เสร็จแล้วตอบคำถำมด้ำนล่ำง โดย ครูเป็นผูอ้ ำ่ นคำถำม แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบพร้อมกัน 1. No, it wasn’t. 2. It was windy and cloudy. 3. There was heavy rain. 4. She was in the park. 5. Because she didn’t have her umbrella. She was very cold and wet.
ข้นั นาไปใช้ (Production) 1. ครูแจกกระดำษขนำดโปสกำร์ดให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น เพ่ือเขียนไดอำร่ี โดยนำคำท่ีกำหนดให้ ใน หนังสือเรียน หน้า 35 ข้อ 7 Write a diary about a nice day. Use the words in the box. ซึ่งนักเรียนสำมำรถดูตัวอย่ำงกำรเขียนไดอำร่ีได้จำกข้อ 6 เม่ือนักเรียนเขียนเสร็จแล้ว ส่งให้ครูตรวจควำมถูกต้องของประโยค แล้วนำกลับมำแก้ไข พร้อมกับตกแต่งให้สวยงำม ครู รวบรวมผลงำนของนกั เรยี น แลว้ นำไปติดบอร์ดหนำ้ ชนั้ เรียน ตัวอย่าง 26th May It was a nice day yesterday because the weather was good. We were in the aquarium. There were many sea animals in there. It was sunny and warm. We were happy to go there. 2. นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 35 หัวข้อ English sounds ครูออกเสียง cleaned, walked และ visited ให้นักเรียนฟังและบอกควำมแตกของเสียงลงท้ำยของท้ัง 3 คำน้ี จำกน้ันครูอธิบำยเก่ียวกับกำร ออกเสยี งพยำงคท์ ำ้ ยในคำกรยิ ำทลี่ งทำ้ ยดว้ ย -ed Background Information 1) ออกเสียง /t/ ทา้ ยคา เม่ือคาน้นั ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /k/, /p/, /s/, /ʧ/, /θ/, /f/, /∫/ เช่น walked helped passed watched 2) ออกเสียง /Id/ ทา้ ยคา เมื่อคาน้นั ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /t/, /d/ เช่น wanted visited added needed 3) ออกเสียง /d/ ทา้ ยคา เมื่อคาน้นั ลงทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะเสียงกอ้ ง (เกิดการสนั่ ของ เส้นเสียง) /b/, /g/, /ð/, /v/, /z/, /ʒ /, /ʤ/, /m/, /n/, /r/, /l/ เช่น arrived closed planned called ในการสงั เกตวา่ เสียงน้นั กอ้ งหรือไม่ ผพู้ ูดสามารถจบั ที่ลาคอของตนเอง ขณะที่กาลงั ออกเสียง เพือ่ สังเกตวา่ มีการส่นั สะเทือนของเส้นเสียงหรือไม่ จำกน้ันใหน้ ักเรยี นฝึกออกเสียงตำมครู 1 รอบ เสรจ็ แล้วครเู ปดิ CD/Track 29 ใหน้ ักเรยี นฝึกออกเสียง ตำม CD หลำยๆ คร้ัง จนคลอ่ ง ครูตรวจสอบว่ำนักเรยี นอ่ำนออกเสยี งถูกตอ้ งหรอื ไม่ โดยกำรส่มุ เรยี กนักเรียน อ่ำนออกเสียงทลี ะคำ
cleaned walked visited 3. ครูอำจเขียนคำศัพทเ์ พิ่มเติมบนกระดำน และออกเสียงเพ่ือให้นักเรยี นฝกึ ฟังและแยกแยะว่ำ เสียง พยำงค์ท้ำยหลงั คำกริยำในรูปอดตี ท่คี รูพูดเป็นเสยี งอะไร เช่น watched wanted arrived เสร็จแล้วครูให้นักเรียนช่วยกันคิดว่ำ ในภำษำไทยเม่ือพูดเก่ียวกับเหตุกำรณ์ในอดีต คำกริยำมีกำร เปล่ียน เปน็ รปู อดีตเหมอื นในภำษำอังกฤษหรอื ไม่ ขน้ั สรปุ (Wrap up) ให้นกั เรยี นฝึกฝนและเรยี นร้คู ำกริยำท่ีลงทำ้ ยดว้ ย -ed เพ่มิ เติม โดยให้เข้ำไปท่เี ว็บไซต์ www.youtube.com และพิมพค์ ำวำ่ คาทีล่ งท้ายด้วย ed ในชอ่ งค้นหำ (search) แล้วให้นกั เรยี น เลือกคลปิ ท่ชี อ่ื คาทลี่ งทา้ ยด้วย ed ออกเสยี งยังไงกนั แน่ by Adam Bradshaw หรอื พมิ พ์ในช่องค้นหำวำ่ ElementalEnglish และเลือกที่คลิปช่ือต่อไปน้ี [t], [d] or [Id]? | “-ed” Past Tense | English Pronunciation หรือ -ed ending: [t], [d] or [Id] | Slow Practice ครแู นะนำใหน้ กั เรยี นไปเปดิ ดูคลิปดว้ ยตนเองที่บ้ำนหรอื ห้องคอมพวิ เตอรข์ องโรงเรยี นทีม่ ี อินเทอร์เนต็ ก็ได้ 8. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์การผ่าน สงั เกตกำรพดู ถำม-ตอบ แบบสงั เกตกำรพูดถำม-ตอบ ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดขี ้นึ ไป ตรวจใบกิจกรรม ใบกจิ กรรม ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินร้อยละ 60 ข้ึนไป ประเมนิ กำรทำแผนผงั ควำมคิด แผนผังควำมคดิ ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินในระดับดขี ึ้นไป 9. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น Smile ป. 6 2. แบบฝกึ หดั Smile ป. 6 3. Audio Smile ป. 6 4. พจนำนุกรม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง May, did you clean your bedroom? 1. สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสภำพอำกำศ กำรใช้ประโยค Past Simple Tense เพื่อพูดขอและให้ข้อมูล และแสดงควำมคิดเห็นเก่ียวกับสถำนท่ีท่ีได้ไปเท่ียวมำ เป็นพื้นฐำนกำรใช้ภำษำอังกฤษเพื่อกำรส่ือสำรใน ชวี ิตประจำวัน 2. ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ ความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ ตวั ชว้ี ดั 1. พดู /เขยี นโตต้ อบในกำรสือ่ สำรระหวำ่ งบุคคล ตัวช้วี ดั 2. ใช้คำสัง่ คำขอร้อง และให้คำแนะนำ ตัวชวี้ ดั 4. พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหข้ ้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรอ่ื งใกล้ตวั ตวั ชี้วดั 5. พูด/เขียนแสดงควำมรูส้ กึ ของตนเองเก่ียวกบั เรอื่ งต่ำงๆ ใกลต้ ัว กิจกรรมต่ำงๆ พรอ้ มทงั้ ให้ เหตุผลสน้ั ๆ ประกอบ 3.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. พูด/เขียน ใช้คำส่ัง คำขอรอ้ ง และให้คำแนะนำ โตต้ อบในกำรสื่อสำรระหวำ่ งบคุ คล 2. พูดและเขียน แสดงควำมรู้สึก ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ ัว พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลสั้นๆ ประกอบ 4.สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. คำศพั ท์ กลุม่ คำ และประโยคเกีย่ วกบั สภำพอำกำศ 2. ประโยค บทสนทนำ และเนอื้ เร่ืองสน้ั ๆ ทม่ี ีภำพประกอบ 3. คำศพั ท์ และประโยค Past Simple Tense เพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู พร้อมทั้งแสดงควำมคิดเห็น เกยี่ วกับสถำนท่ีท่ีได้ไปเทยี่ วมำแลว้ A: I was at the aquarium last week. B: Really? How was it? A: It was great! B: What was the weather like? A: It was freezing and foggy. 4. กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เช่น กำรเล่นเกม
5. กำรใช้ภำษำในกำรฟงั /พูดในสถำนกำรณง์ ่ำยๆ ทเ่ี กิดขนึ้ ในห้องเรียน 6. กำรใช้ภำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวมคำศัพทท์ เ่ี กย่ี วข้องใกล้ตัว จำกสือ่ และแหล่งกำรเรียนรู้ ตำ่ ง ๆ ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟัง กำรพูด กำรอำ่ น กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 4. มคี วำมรับผิดชอบ ขยนั ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น 5. มีควำมเช่อื มัน่ ในตนเอง กลำ้ แสดงออก 6. มีเจตคตทิ ี่ดีต่อกำรเรียนภำษำองั กฤษ 5.สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งม่นั ในกำรทำงำน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 Write a diary about a happy day ข้ันนา (Warm up) ครใู ห้นกั เรียนหำคำกริยำท่ีเติม -ed เพ่ิมเติม 15 คำ โดยให้มีทง้ั คำท่ลี งท้ำยดว้ ยเสยี ง /t/, /d/ และ /Id/ อยำ่ งละ 5 คำ โดยใหน้ กั เรยี นเขยี นใสต่ ำรำงตำมน้ี /t/ /d/ / Id / เสร็จแล้วให้นกั เรยี นมำอำ่ นคำศัพท์เหลำ่ น้ีใหค้ รูฟงั ขั้นนาเสนอ (Presentation) 1. ให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมท้ัง 4 ข้อควำมในกรอบส่ีเหล่ียมที่ให้มำทีละประโยคใน แบบฝึกหัด หน้า 26 ข้อ 4 Complete the dialogue. แล้วให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนช่วยกันเติมประโยคท่ีให้มำ ลงในช่องวำ่ งใหเ้ ป็นบทสนทนำที่สมบรู ณ์ จำกนัน้ ครเู ฉลยคำตอบ
A: Where were you last weekend? B: I was at the aquarium. A: How was it? B: It was fantastic! A: What did you like best? B: I liked the seahorses. A: What was the weather like? B: It was cool and windy. จำกน้ันให้นักเรียนทำงำนคู่ แต่งบทสนทนำโดยใช้ประโยคในบทสนทนำเป็นต้นแบบ เสร็จแล้วให้ นักเรียนและเพ่ือนฝกึ พดู สนทนำกนั แล้วครสู ุ่มเรยี กนักเรยี น 3-4 คู่ ออกมำพดู สนทนำหน้ำชั้นเรยี น 2. ครูอธิบำยคำศัพท์ใน แบบฝึกหัด หน้า 27 ข้อ 5 Read and complete. จำกนั้นให้เวลำ นกั เรยี นนำคำศัพท์ในกรอบมำเติมลงในช่องว่ำงให้ถกู ตอ้ ง เสรจ็ แลว้ ครใู ห้นักเรียนสลับแบบฝึกหัดกันตรวจ ครู เขียนคำตอบที่ถูกต้องบนกระดำน เสร็จแล้วนักเรียนอ่ำนประโยคท่ีสมบูรณ์พร้อมกันอีกครั้ง หรือครูอำจให้ นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดนเ้ี ปน็ กำรบำ้ น 1. great 2. birthday 3. friends 4. party 5. food 6. guitar 7. funny ขน้ั ฝึก (Practice) 1. ครใู ห้นักเรยี นเขียนไดอำร่ีลงใน แบบฝกึ หดั หน้า 27 ข้อ 6 Write a diary about a happy day. Use the diary above as a model. โดยนกั เรียนสำมำรถดตู วั อยำ่ งกำรเขียนในข้อ 5 ได้ เมื่อ นักเรยี นเขยี น เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่งครูตรวจและแก้ไขประโยคให้ถูกต้อง ครูสุ่มเลือกนักเรียน 4-5 คน ออกมำอ่ำน ไดอำร่ีของตนเองให้เพื่อนฟังหนำ้ ชัน้ เรยี น ตวั อย่าง Hello Today was a happy day. I was at my home. It was my birthday. There were many friends here. The party was great and the food was delicious. We danced, talked and ate. We were very happy.
ข้นั นาไปใช้ (Production) นักเรียนเปิด แบบฝึกหัด หน้า 27 หัวข้อ English sounds เพื่อฝึกออกเสียงคำท่ีลงท้ำยด้วย -ed ครูย้ำหลักกำรออกเสียงคำที่ลงท้ำยด้วย -ed อีกคร้ัง จำกน้ันครูแสดงบัตรคำพร้อมทั้งอ่ำนออกเสียงให้ นักเรียนฟังทีละคำ ดังนี้ arrived, closed, helped, passed, wanted, added, called, walked, visited, planned, watched แล้วให้นักเรียนฟังและสังเกตเสียงท้ำยคำว่ำเป็นเสียงอะไร แล้วพูดบอกครู จำกน้ันครู เปิด CD/Track 37 ใหน้ กั เรยี นฟงั 2-3 คร้ัง และฝกึ ออกเสยี งตำมจนคลอ่ ง played talked wanted ขน้ั สรปุ (Wrap up) 1. ครูใหน้ กั เรียนไปคน้ หำควำมหมำยของคำศัพท์ท่จี ะเรียนในบทเรยี นถัดไปในหนงั สือเรยี น หน้ำ 36 กรอบ Word box ลว่ งหนำ้ พรอ้ มท้งั เปดิ พจนำนกุ รมเพ่ือหำพยำงค์ที่ออกเสยี งเนน้ หนักในคำเหลำ่ นดี้ ้วย 2. ครูเปิดคลิปวิดีโอเร่ือง The princess and the dragon ซึ่งเล่ำเรื่องโดยใช้ Past Simple Tense จ ำก เว็บ ไซ ต์ https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/the-princess-and-the- dragon เม่ือนักเรียนดูจบแล้ว ครูพิมพ์เนื้อเร่ืองจำกคลิปน้ีทำเป็นใบงำนแจกนักเรียน จำกนั้นครูให้นักเรียน ฝึกอ่ำนตำมครู 1 ครั้ง และอ่ำนตำมคลิปอีก 1 คร้ัง ครูให้นักเรียนไปฝึกอ่ำนออกเสียงด้วยตนเองท่ี บ้ำนหรือห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน โดยให้นักเรียนเข้ำไปท่ี www.youtube.com และพิมพ์คำว่ำ the princess and the dragon ให้เลอื กคลิปของ British Council - Learn English Kids 3. ครใู หเ้ วลำนักเรยี นฝึกประมำณ 1 สปั ดำห์ และให้มำฝกึ อ่ำนนิทำนเรอ่ื งนี้ให้ครฟู ังนอกเวลำเรยี น ช่วั โมงที่ 2 Write a diary about a happy day กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา (Warm up) ครูพูดบอกนักเรียนว่ำ ในบทน้ีนักเรียนจะได้เรียนรู้คำศพั ท์เก่ียวกับสัตว์ทะเล ประโยคบอกเลำ่ ปฏิเสธ และคำถำมของ Past Simple Tense และกำรเขยี นจดหมำย ขัน้ นาเสนอ (Presentation) 1. ครูติดบัตรภำพสัตวท์ ะเลต่ำง ๆ บนกระดำน เช่น แมงกะพรุน ฉลำม ม้ำน้ำ ปะกำรัง ปลำกระเบน ดำวทะเลหรือปลำดำว พะยูน สำหร่ำย วำฬ ปลำหมึก แล้วใหน้ ักเรยี นลองเดำคำศพั ทด์ ว้ ยตนเอง หลังจำกน้ัน ครูแจกบัตรคำให้นักเรียนจำนวนเท่ำบัตรภำพคนละ 1 ใบ ให้นักเรียนนำบัตรคำที่ได้ไปติดบนกระดำนใต้ รูปภำพของคำศัพท์นั้น ๆ เสร็จแล้วครูถำมนักเรียนท่เี หลอื ว่ำเห็นดว้ ยหรือไม่ ถำ้ ไม่ น่ำจะเป็นคำใด ทำเช่นนีจ้ น ครบทุกภำพ จำกนน้ั ครอู ่ำนออกเสียงคำศัพทใ์ ห้นกั เรียนฟัง จำกน้ันครูอ่ำนคำศัพท์บนกระดำนทีละคำ ให้นักเรียนฟังและฝึกพูดตำม 1-2 รอบ โดยเน้นออกเสียง เน้นหนักในคำให้ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนลอกคำศัพท์ลงในสมุด
jellyfish seahorse stingray coral reef starfish seaweed octopus Background Information jellyfish (n.) แมงกะพรุน shark (n.) ฉลาม seahorse (n.) มา้ น้า coral reef (n.) ปะการัง stingray (n.) ปลากระเบน starfish (n.) ดาวทะเลหรือปลาดาว sea cow (n.) พะยนู seaweed (n.) สาหร่าย whale (n.) วาฬ octopus (n.) ปลาหมึก 2. นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 36 ข้อ 1 Listen, point and repeat. ครูชี้ไปท่ีภำพและให้ นักเรียนอ่ำนคำศัพท์พร้อมกัน 1 รอบ รอบที่สองครูสุ่มชี้ภำพและให้นักเรียนพูดคำศัพท์ตำม ครูอำจจะเพิ่ม จังหวะกำรชี้ภำพให้เร็วข้ึนเพ่ือสร้ำงบรรยำกำศท่ีสนุกสนำนในชั้นเรียน จำกน้ันครูเปิด CD/Track 30 หลำยๆ ครัง้ ใหน้ กั เรยี นช้ีภำพและออกเสยี งตำมจนคล่อง โดยครเู นน้ ให้นกั เรยี นออกเสียงเนน้ หนกั ในคำใหถ้ ูกต้อง jellyfish shark seahorse stingray starfish coral reef diver ข้ันฝึก (Practice) 1. ครูให้นักเรียนดูรูปภำพและอ่ำนคำบรรยำยเกี่ยวกับลักษณะของสัตว์ทะเลใน หนังสือเรียน หน้า 36 ข้อ 2 Read the description and match with the pictures. จำกน้ันให้เวลำนักเรียนจับคู่ภำพ กับคำบรรยำยใหส้ อดคลอ้ งกนั เสร็จแลว้ ครขู ออำสำสมัครนกั เรยี นพูดคำตอบ 1. d 2. e 3. f 4. a 5. b 6. c
Background Information ปะการัง (coral reef) จดั เป็ นพวกดอกไมท้ ะเล มีลกั ษณะโครงสร้างแขง็ แรง ใชเ้ ขม็ พิษ (เนมาโตซิสต)์ ที่อยบู่ นหนวดในการจบั ปลาและสตั วเ์ ลก็ ๆ ขนาด แพลงกต์ อน แต่ส่วนใหญ่แลว้ ปะการังจะไดร้ ับสารอาหารจากสาหร่าย เซลลเ์ ดียวท่ีสงั เคราะห์แสงไดท้ ่ีเรียกวา่ ซูแซนทาลา ทาใหป้ ะการังมีการ ดารงชีวิตท่ีข้ึนตรงต่อแสงอาทิตยแ์ ละจะเจริญเติบโตไดใ้ นน้าทะเลใส ต้ืน ความลึกนอ้ ยกวา่ 60 เมตร ดาวทะเล หรือปลาดาว (starfish) เป็นสตั วไ์ ม่มีกระดูกสนั หลงั เป็นกลุ่ม เดียวกบั เมน่ ทะเล ปลิงทะเล ดาวเปราะ และดาวขนนก ซ่ึงอาศยั อยใู่ นทะเล ท้งั สิ้น ดาวทะเลมีอยปู่ ระมาณ 1,800 ชนิด แพร่กระจายอยใู่ นมหาสมุทร ดารงชีวติ อยตู่ ามโขดหิน หาดทรายปนโคลน แนวปะการัง แต่กพ็ บไดต้ าม ทอ้ งทะเลลึก บางชนิดกินปะการังหรือฟองน้า บางชนิด กินซากพชื ซากสัตว์ เป็นอาหาร ดาวทะเลมีลกั ษณะเด่นคือ มีหนามแหลมปกคลุมทว่ั ตวั ดาวทะเล มีลาตวั แบน ไม่มีหวั -ทา้ ย แตป่ ระกอบดว้ ยส่วนกลางลาตวั ที่เป็นทรงกลม เหมือนเหรียญ และส่วนแขนท่ียน่ื ออกจากส่วนลาตวั ในแนวรัศมีและเป็ น สมมาตร โดยส่วนมากจะมี 5 แขน ปลากระเบน (stingray) มีรูปร่างแบนราบ ครีบท้งั หมดอยชู่ ิดติดกบั ลาตวั ดา้ นขา้ ง ปลากระเบนมีนิสยั ชอบกบดานตามชายทะเลท่ีน้าต้ืน โดยจะฝังตวั ใต้ พ้ืนทรายหรือโคลนใตน้ ้า หากินตามพ้นื ทอ้ งน้า อาหารส่วนมากก็ไดแ้ ก่ หอย กงุ้ ปู หรือปลาขนาดเลก็ ตามพ้ืนน้า เป็นส่วนใหญ่ โดยใชฟ้ ันท่ีมีลกั ษณะเป็น ฟันบดขบเปลือกของอาหารใหแ้ ตกก่อน ม้านา้ (seahorse) เป็นปลากระดูกแขง็ ท่ีอาศยั อยใู่ นทะเลจาพวกหน่ึง ลาตวั ถูก ห่อหุม้ ดว้ ยกา้ งหรือเกราะแทนเกล็ด มีหางยาวคลา้ ยสัตวเ์ ล้ือยคลานเพือ่ เก่ียว ยดึ ตวั เองกบั พืชน้าหรือปะการังในน้า มา้ น้าถือเป็นปลาท่ีวา่ ยน้าชา้ ท่ีสุดใน โลกอาหารของมา้ น้าเป็นจาพวกแพลงกต์ อนและสัตวน์ ้าขนาดเลก็ ๆ มา้ น้ายงั สามารถปรับเปลี่ยนสีลาตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มเพ่ืออาพรางตวั ฉลาม (shark) มีรูปร่างเพรียวยาว มีครีบแหลมคม ครีบหางเป็นแฉกเวา้ ลึก มี จุดเด่นคือส่วนหวั และจะงอยปากท่ีแหลมและยาว รูปปากเวา้ คลา้ ยพระจนั ทร์
เส้ียว ภายในมีฟันแหลมคม ฉลามทุกชนิดเป็นปลากินเน้ือ มกั ล่าสัตวน์ ้าชนิด ต่างๆ กินเป็นอาหาร ที่มา: http://www.icef.or.th/web/Knowledge-ICEF/knowledge-the-coral1.html http://www.sfctrang.com/?p=330 http://phuketaquarium.org/ปลากระเบน http://www.kanzuksa.com/Radio.asp?data=167 https://th.wikipedia.org/wiki/ปลาฉลาม 2. ครทู บทวนหลกั กำรใช้ Past Simple Tense อีกครง้ั วำ่ ใชแ้ สดงถงึ กำรกระทำและเหตกุ ำรณท์ ่ี เกดิ ขน้ึ ในอดตี และสิน้ สุดไปแลว้ คำกรยิ ำที่ใช้ คือ กรยิ ำในรปู อดีต (past form) ซง่ึ มี 2 แบบ คอื 1) Regular verbs คือ คำกรยิ ำทท่ี ำเปน็ รปู อดีตด้วยกำรเติม -ed เชน่ work worked play played want wanted 2) Irregular verbs คือ คำกรยิ ำชอ่ งที่ 2 ในกรยิ ำ 3 ชอ่ ง ซงึ่ ส่วนใหญแ่ ลว้ จะเปล่ยี นรปู ไปเลย เช่น drink drank see saw eat ate อยำ่ งไรก็ตำม มบี ำงคำทย่ี งั คงรูปเดิม เชน่ cut cut hit hit put put 3. ครูเขียนประโยค Past Simple Tense ทงั้ ในรูปประโยคบอกเล่ำ ปฏเิ สธ และคำถำมบนกระดำน และใหน้ กั เรยี นช่วยกนั วิเครำะห์โครงสร้ำงประโยค ประโยคบอกเล่า Manee did her homework yesterday. They bought a new house last month. Subject + v.2 ประโยคปฏเิ สธ Manee did not do her homework yesterday. Tom and I didn’t eat vegetables. Subject + did not (didn’t) + v.1 ประโยคคาถามและคาตอบ Did you see my father? Did she listen to me? Did + subject + v.1 ?
คำตอบทไี่ ด้ คอื Yes, she did. หรือ No, she didn’t. สำหรับคำถำม Wh-questions (คำถำมท่ีข้นึ ตน้ ดว้ ย Wh-words เชน่ What, Where, When, Why …) จะนำ Wh-word ข้ึนตน้ ประโยค เชน่ What did you see last night? สว่ นคำตอบจะเปลีย่ นคำกรยิ ำชอ่ งที่ 1 ให้เปน็ คำกรยิ ำในรปู อดีตด้วยกำรเติม -ed หรอื เปล่ยี นเปน็ คำกริยำช่องท่ี 2 เชน่ Where did she go last night? She went to the cinema. แต่ในกรณีท่ีประโยคมี verb to be ครูถำมนักเรียนว่ำ เวลำทำเป็นประโยคบอกเล่ำ ปฏิเสธ และ คำถำมในรูปอดตี จะทำอยำ่ งไร ครอู ำจทบทวนให้นกั เรยี นฟังสัน้ ๆ ข้ันนาไปใช้ (Production) ให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 37 ข้อ 3 Listen and match. Then make sentences. ครูอธิบำยว่ำนักเรียนจะได้ฟังบทสนทนำซ่ึงเป็นเร่ืองกำรเดินทำงไปเท่ียวท่ีผ่ำนมำของเด็กผู้ชำยคนหนึ่งท่ีช่ือ Jack ครูเปิด CD/Track 31 ให้นักเรียนฟงั 2 ครง้ั จำกนัน้ ใหน้ ักเรียนจบั ควู่ ลี 1-5 กบั a-e เพอื่ ทำให้ เป็ น ประโยคท่ีถูกต้องตำมบทสนทนำที่ได้ฟัง เมื่อเฉลยคำตอบแล้วครูนำ Audio Script มำเขียนใส่กระดำษแผ่น ใหญ่ และตดิ บนกระดำน ครูเปิด CD อีกครั้ง ให้นักเรยี นฝกึ อำ่ นออกเสยี งตำม CD A: Where were you last week? B: I was at the aquarium with my family. A: Did you have a good time? B: Yes, I did. I had a great time there. A: What did you do? B: I played with the fish in the touch tank. Then I watched the sharks. They were frightening. Look! This is a picture of a shark. Its teeth are sharp. A: What did you do after that? B: I watched the diver. He played with the fish. I watched him for twenty minutes. After that I watched the starfish, stingrays, jellyfish and the seahorses at the coral reef. A: What did you like best at the aquarium?
B: I liked the coral reef best. It was beautiful and many small fish live there. 1. c 2. b 3. d 4. e 5. a 1. Jack and his family visited the aquarium. 2. Jack played with the fish in the touch tank. 3. Jack watched the sharks. 4. The diver played with the fish. 5. The starfish, the jellyfish and the seahorses were at the coral reef. ขัน้ สรุป (Wrap up) 1. ครูทบทวนกำรออกเสียงคำกริยำที่เติม -ed อีกครั้ง จำกน้ันให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้ำ 37 แล้วอ่ำนกรอบ Remember! ครูให้นักเรียนอ่ำนออกเสียงคำที่ลงท้ำยด้วย -ed ที่ให้มำ จำกนั้นครูทำตำรำง กำรออกเสียง -ed บนกระดำน ดังน้ี /d/ /t/ /Id/ นกั เรียนวำดตำรำงดงั กลำ่ วลงในสมุดของตนเอง จำกนนั้ ให้นำคำศัพทม์ ำเตมิ ในช่องตำมกำรออกเสียงให้ ถกู ต้อง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกให้นกั เรยี นอ่ำนออกเสียง พร้อมท้งั เฉลยคำตอบ /d/ /t/ /Id/ listened watched visited cleaned talked wanted played chatted watered 2. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 37 ข้อ 4 Look at the table. Say what they did last Saturday. ครูให้นักเรียนอ่ำนชื่อในหัวข้อตำรำง ได้แก่ Jack, Danny และ Anne จำกนั้นให้นักเรียนนำ คำศัพท์ในตำรำงมำแต่งประโยคเกี่ยวกับกิจกรรมท่ีแต่ละคนทำในแต่ละช่วงเวลำ เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกให้ นกั เรยี นพูดรำยงำนคำตอบ ครสู งั เกตกำรออกเสยี งคำกรยิ ำในรปู อดีตวำ่ นักเรียนออกเสยี งถูกต้องหรอื ไม่
Jack Jack listened to music in the morning. Jack didn’t clean his bedroom in the afternoon. Jack watched TV in the evening. Danny Danny played football in the morning. Danny didn’t visit his grandparents in the afternoon. Danny played computer games in the evening. Anne Anne watered the plants in the morning. Anne cleaned the kitchen in the afternoon. Anne chatted in the evening. ชว่ั โมงที่ 3 Write a diary about a happy day กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา (Warm up) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน และค้นคว้ำหำข้อมูลจำกแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำง ๆ เกี่ยวกับ สิ่งมีชีวิตในทะเลที่กลุ่มตนเองสนใจ เช่น jellyfish, stingray, coral reef, seahorse, star fish แล้วนำข้อมูล ท่ีได้มำทำโปสเตอร์ พรอ้ มท้ังตกแต่งให้สวยงำม ครอู ำจช่วยนักเรียนด้วยกำรถำมนักเรียนก่อนว่ำ ลักษณะของ โปสเตอร์ส่วนใหญ่ท่ีนักเรียนเคยเห็นเป็นเช่นไร เช่น มีรูปภำพสวยสะดุดตำ น่ำสนใจ ส่ือควำมหมำย มีหัวข้อ ใหญ่ หัวข้อยอ่ ย และรำยละเอยี ด เปน็ ตน้ ครกู ำหนดข้อมลู ทแ่ี ตล่ ะกลุ่มจะตอ้ งหำ ดังนี้ - ชื่อวทิ ยำศำสตร์ - ลักษณะทำงกำยภำพ - ลักษณะเดน่ หรอื ลักษณะพิเศษ - แหลง่ ท่อี ยู่อำศัย - อำหำรท่ีกนิ ครแู นะนำแหล่งข้อมลู สำหรับใหน้ ักเรียนค้นคว้ำหำข้อมูลในอนิ เทอร์เน็ต เชน่ http://www.sciencekids.co.nz/sciencefacts/animals.html http://kids.nationalgeographic.com/animals/ ขั้นนาเสนอ (Presentation) ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่ำๆ กัน โดยให้นักเรียนดูภำพใน แบบฝึกหัด หน้า 28 ข้อ 1 Look at the pictures. Then complete the puzzle. แล้วเติมคำศัพท์ให้ถูกต้องตำมรูปภำพในตำรำง ปริศนำอักษรไขว้ กลุ่มใดทำเสร็จก่อนและถูกต้องถือว่ำเป็นผู้ชนะ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบพร้อมนักเรียนอีก ครง้ั
1. diver 2. stingray 3. whale 4. starfish 5. seahorse 6. shark 7. jellyfish 8. coral reef ขัน้ ฝกึ (Practice) ครูให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 28 ข้อ 2 Listen and complete the sentences. โดยเปิด CD/Track 38 ให้นักเรียนฟังและถำมว่ำนักเรียนไดย้ ินอะไรบ้ำง จำกน้ันครูรวบรวมคำตอบของนักเรียนมำเขียน บนกระดำน ต่อมำครูให้เวลำนักเรียนเติมคำตอบลงในช่องว่ำงให้ถูกต้องตำมที่ได้ยินจำก CD เสร็จแล้ว ครูเปิด CD อกี คร้ังเพ่ือตรวจคำตอบ 1. Seahorses live in the Mediterranean. They’ve got a head like a horse. 2. Sharks are frightening because they’ve got sharp teeth. 3. A diver swims under water and looks after animals that live in the aquarium. 4. Coral reefs are in warm water. They have got many colours. 5. A jellyfish is dangerous. It can hurt us. 6. A stingray hasn’t got any bones. It likes living on the sea floor. 1. Seahorses 2. Sharks 3. diver 4. Coral reefs 5. jellyfish 6. stingray ขัน้ นาไปใช้ (Production) ครูให้นักเรียน ทำแบบฝึกหัด หน้า 29 ข้อ 3 Look at the pictures. What did they do yesterday afternoon? โดยให้นักเรียนดูรูปภำพที่กำหนด แล้วเติมคำลงในช่องว่ำงให้สอดคล้องกับภำพ โดยใช้ Past Simple Tense จำกนั้นให้นักเรียนผลัดกันอ่ำนประโยคข้อ 1-6 พร้อมกัน ครูเฉลยคำตอบและ แก้ไขในส่วนที่ไม่ถูกต้อง หรอื ครอู ำจมอบหมำยใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั ข้อน้ีเปน็ กำรบ้ำน 2. She listened to the songs. 3. She cleaned the kitchen. 4. He played tennis. 5. She watched TV. 6. She coloured a picture.
ขน้ั สรปุ (Wrap up) ครูทบทวนกำรเปลี่ยนประโยคบอกเล่ำเป็นประโยคคำถำมและปฏิเสธ จำกน้ันให้นักเรียนทำ แบบฝกึ หัดในแบบฝกึ หัด หน้า 29 ขอ้ 4 Change the sentences into questions. เสร็จแล้วครูสมุ่ เรียก นักเรยี นออกมำเขยี นคำตอบบนกระดำน หรอื ครูอำจมอบหมำยให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดขอ้ น้เี ป็นกำรบำ้ น 2. Were the animals interesting? 3. Did Tony watch the monkeys? 4. Did his brother look at the giraffes? 5. Were they happy? 8. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 รอ้ ยละ 60 หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี 2 ตรวจใบงำนท่ี 2.1 ใบงำนที่ 2.1 รอ้ ยละ 60 ตรวจแผนผงั ควำมคิด แผนผงั ควำมคิด รอ้ ยละ 60 สังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล แบบประเมนิ ทกั ษะทำงภำษำ รำยบุคคลกำร ระดับคุณภำพ 2 สงั เกตควำมมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ัน แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภำพ 2 ในกำรทำงำน 9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น Smile ป. 6 2. แบบฝึกหดั Smile ป. 6 3. Audio Smile ป. 6
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 3 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง May, did you clean your bedroom? 1.สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสัตว์ทะเลและโลกใต้ทะเล และกำรใช้ประโยค Past Simple Tense เพื่อ บอกกิจกรรมต่ำง ๆ ท่ที ำในอดตี เป็นพน้ื ฐำนกำรใช้ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำรในชวี ิตประจำวัน 2.มาตรฐาน /ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรือ่ งต่างๆ โดยการพดู และการเขียน ตัวช้วี ดั 1. พดู /เขียนใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และส่ิงแวดลอ้ มใกล้ตัว ตวั ช้วี ัด 2. เขียนภำพ แผนผงั แผนภมู ิ และตำรำงแสดงขอ้ มลู ต่ำงๆ ตำมที่ฟงั หรืออ่ำน ตวั ชี้วดั 3. พูด/เขียนแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกบั เรอื่ งต่ำงๆ ใกล้ตวั มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ชวี้ ัด 3. เขำ้ รว่ มกิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรมตำมควำมสนใจ 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. พูด/เขียนให้ข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน และสิง่ แวดล้อมใกล้ตัวได้ 2. เขียนภำพ แผนผงั แผนภมู ิ และตำรำงแสดงขอ้ มลู ต่ำงๆ ตำมท่ีฟังหรืออำ่ นได้ 4. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. คำศัพท์ กลุ่มคำ ประโยคเกย่ี วกบั สตั ว์ทะเลและโลกใต้ทะเล 2. ประโยค บทสนทนำ และเนือ้ เรือ่ งสน้ั ๆ ทมี่ ภี ำพประกอบ 3. คำศพั ท์ และประโยค Past Simple Tense เพ่ือบอกกิจกรรมตำ่ ง ๆ ท่ีทำในอดีต เชน่ A: Did Joe clean his bedroom yesterday? B: Yes, he did./No, he didn’t. 4. คำ กลุ่มคำที่มคี วำมหมำยสัมพนั ธ์กับข้อมูลตำ่ ง ๆ เชน่ ภำพ 5. กจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เชน่ กำรเลน่ เกม กำรร้องเพลง 6. กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พดู ในสถำนกำรณง์ ่ำยๆ ท่ีเกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี น 7. กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์จำกสือ่ และแหลง่ กำรเรียนรู้ตำ่ ง ๆ ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟัง กำรพูด กำรอ่ำน กำรเขยี น
เจตคติ (Attitude : A) 1. มคี วำมรับผิดชอบ ขยัน ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น 2. มคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง กล้ำแสดงออก 3. มีเจตคติที่ดตี ่อกำรเรียนภำษำองั กฤษ 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชช้ ีวติ 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซื่อสัตยส์ ุจรติ 2. มีวนิ ัย 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน 5. มจี ติ สำธำรณะ 7.กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 May, did you clean your bedroom? ขน้ั นา (Warm up) ครบู อกนักเรียนว่ำ ในชั่วโมงน้ี นักเรียนจะได้เรียนรเู้ ก่ียวกับกำรอ่ำนและเขียนประโยค Past Simple Tense และจะไดฝ้ ึกพูดถำม-ตอบเกยี่ วกับสง่ิ ทีเ่ กิดขึน้ ในอดตี ดว้ ย ข้นั นาเสนอ (Presentation) 1. ครูเขียนประโยคในกรอบ Remember! ในหนังสือเรียน หน้ำ 38 บนกระดำน เพ่ือทบทวน เกยี่ วกับประโยคบอกเลำ่ และปฏเิ สธของ Past Simple Tense 2. ครูให้นักเรียนอ่ำนข้อควำมในกรอบคำพูดใน หนังสือเรียน หน้า 38 ข้อ 5 Listen and read. Then act it out. จำกน้ันครูเปิด CD/Track 32 ให้นักเรียนฟังและฝึกอ่ำนตำม จำกน้ันครูแบ่งกลุ่มนักเรียน ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ให้แต่ละกลุ่มฝึกถำม-ตอบตำมบทสนทนำที่ได้ฟัง ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ชั้นเรียน ขณะนักเรยี นทำกิจกรรม Anna: Did you work in the garden yesterday afternoon? Ben: Yes, I did. Harry: No, I didn’t.
Search