คำนำ กำรจดั กำรเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ต้องพัฒนำผูเ้ รียนใหม้ ีทักษะแหง่ อนำคต เป็นทักษะท่ีจำเปน็ ต้องใช้ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ เพ่ือเตรยี มควำมผู้เรยี นให้ใชช้ ีวิตในโลกทเ่ี ป็นจริง เน้นกำรศึกษำตลอดชีวติ ให้ผู้เรยี นรูจ้ ัก กำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง กำรนำทฤษฎีกำรเรยี นรทู้ ี่ได้รบั ไปสู่กำรปฏบิ ัติ สิง่ สำคัญคือผู้เรยี นจะต้องเกิด กระบวนกำรกำรเรียนรู้ ซงึ่ ถือเปน็ จุดสำคญั กำรสอนภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร (Communicative Language Teaching) เปน็ กำรสอนภำษำ ทีเ่ นน้ หนำ้ ท่ี ของภำษำและกำรส่ือควำมหมำย กล่ำวคอื ผู้เรียนสำมำรถใชภ้ ำษำทสี่ องในกำรสอื่ สำรได้ ซึง่ อำจจะใชภ้ ำษำได้ ไมถ่ ูกต้องตำมหลักไวยำกรณ์ แต่สำมำรถสื่อควำมได้ และเหมำะสมกับสถำนกำรณ์ โดยกำรสอนภำษำชนดิ นม้ี ี เป้ำหมำยเพื่อใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถนำทกั ษะทำงภำษำมำใช้เพื่อกำรสอื่ สำรได้ หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ เอกสำรฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้ที่ต้องกำรศกึ ษำรปู แบบกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หม่ เพอื่ พฒั นำผู้เรียนต่อไป อรวรรณ พุดมอญ
แผนผงั มโนทัศน์เปา้ หมายการเรียนรู้/ หลกั ฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1) กลมุ่ คำ ประโยค และควำมหมำยเก่ยี วกบั กฬี ำ ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ อปุ กรณป์ ้องกนั ตวั ในกำรเล่นกฬี ำ อปุ กรณก์ ฬี ำ 1) ทักษะกำรฟัง (Listening skill) 1. ซอื่ สัตยส์ ุจริต อำกำรบำดเจบ็ และคำคณุ ศพั ท์ 2. มีวนิ ัย 2) ทักษะกำรพูด (Speaking skill) 3. ใฝ่เรยี นรู้ 2) Pronunciation: /θ/, /t/ 4. มุง่ มั่นในกำรทำงำน 5. มีจิตสำธำรณะ 3) ประโยค บทสนทนำ และเนื้อเรือ่ งส้ันๆ ท่มี ี 3) ทกั ษะกำรอ่ำน (Reading skill) ภำพประกอบ 4) ทกั ษะกำรเขียน (Writing skill) 4) ประโยคแสดงควำมคดิ เห็นเกย่ี วกับกีฬำ 5) ประโยคที่ใช้ส่ัง บอกใหท้ ำ และใหค้ ำแนะนำ เกีย่ วกับกำรเลน่ กีฬำ กระบวนการกลุ่ม .6) ประโยคขอและให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับกำรเลน่ กฬี ำ 1) จบั คู่สนทนำ และอำกำรบำดเจบ็ 2 ) ระดมสมอง 7) กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม 8) ควำมแตกต่ำงของเสียงตวั อกั ษรของ 3) ฝึกกจิ กรรมกลุ่มตำม ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ 9) กำรคน้ ควำ้ คำศพั ท์ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับกลมุ่ สำระ กำรเรยี นรูอ้ ืน่ 10) กำรใช้ภำษำในกำรฟงั /พูดในสถำนกำรณ์ 11) กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวม คำศัพทท์ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งใกลต้ ัวจำกส่ือและแหลง่ กำรเรียนรตู้ ่ำง ๆ เป้าหมายการเรียน Play safe หลักฐานการเรยี นรู้ 1. กำรพูดแสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกับกีฬำชนดิ ต่ำง ๆ 2. กำรเขยี นบรรยำยเกีย่ วกบั กีฬำท่ีช่ืนชอบ 3. กำรสำรวจเก่ยี วกับกฬี ำทีเ่ ปน็ ทสี่ ดุ ในด้ำนต่ำงๆ 4. กำรวำดภำพและเขยี นบรรยำยเกีย่ วกับกำรเล่นกฬี ำอย่ำงปลอดภยั 5. กำรเขยี นใบปลิวเก่ยี วกบั วิธีเล่นสเกตบอรด์ อย่ำงปลอดภัย 6. กำรพูดสนทนำเก่ียวกับอำกำรบำดเจบ็ จำกกำรเล่นกีฬำ และกำรให้คำแนะนำ 7. กำรเขยี นบรรยำยเกีย่ วกับกฬี ำท่ีตนเองชื่นชอบ 8. กำรทำชนิ้ งำน Make a leaflet 9. กำรรวบรวมคำศัพทใ์ นสมุดคำศัพท์ Your word book
แผนผังมโนทศั น์ข้ันตอนการทากจิ กรรมประกอบการจดั การเรียนรูแ้ บบ CLT ศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้ีวัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรียนร้แู นวการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร Communicative Language Teaching : CLT Warm up Presentation Practice Production Wrap up ทดสอบหลงั เรียน (ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60)
ผังมโนทศั น์ หนว่ ยกา แผนท่ี 1 What is your favorite sport? หนว่ ,ยก จานวน 3 ช่ัวโมง Pla แผนท่ี 2 If clause จานวน 3 ชว่ั โมง จานวน การเรยี นร สขุ ศกึ ษา พละศกึ ษา • กำรสรุปใจควำ 1.กำรเรียนรเู้ ก่ยี วกับกีฬำต่ำงๆ ทัง้ ของประเทศไทยและ ตำ่ งประเทศ
ารเรียนรูท้ ่ี 2 Play safe การเรียนรู้ที่ 2 แผนท่ี 3 I play in the evening. จานวน 3 ชัว่ โมง ay safe แผนท่ี 4 Water Sport Club น 12 ช่ัวโมง จานวน 3 ชวั่ โมง รแู้ บบบูรณาการ ศิลปะ : ทัศนศิลป์ • วำดภำพและระบำยสี ภาษาไทย ำมสำคัญเป็นภำษำไทย
แผนบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี 1. ออกแบบกำรจัดกิจกรรม ตรงตำม 1. ออกแบบกำรเรยี นรสู้ ่งเสรมิ กระบวนกำรคิด 1. ศกึ ษำแนวทำงกำรจดั กำรเรียนรูล้ ว่ งหนำ้ ตวั ช้ีวดั 2. ใช้เทคนิคกำรจดั กำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย 2. จดั เตรยี มกำรวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลอื กสอื่ แหล่งเรยี นรเู้ หมำะสม สังเกตพฤติกรมนักเรยี น 3. วดั ผลประเมนิ ผลตรงตำมเน้ือหำ เงอ่ื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. ร้จู กั เทคนิคกำรสอนทสี่ ง่ เสรมิ กระบวนกำรคดิ และนกั เรียน 1. มีควำมขยัน เสยี สละ และมุ่งมนั่ ในกำรจัดหำสอื่ มำพฒั นำนักเรียน สำมำรถเรียนรูไ้ ดอ้ ยำ่ งมคี วำมสุข ให้บรรลตุ ำมจดุ ประสงค์ 2. มีควำมอดทนเพ่อื พฒั นำนกั เรยี นโดยใชเ้ ทคนคิ กำรสอนท่ี หลำกหลำย นักเรียน ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมภี มู ิคุ้มกันในตัวท่ดี ี 1. กำรใช้เวลำในกำรทำกิจกรรม/ภำระงำน 1. ฝึกกระบวนกำรทำงำนเป็นกลมุ่ 1. วำงแผนกำรศึกษำใบงำน/ใบกจิ กรรม ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ทนั เวลำ 2. ฝึกกระบวนกำรสงั เกต อธบิ ำย ทกั ษะกำร 2. นำควำมรูเ้ ร่ือง ลกั ษณะของอำชีพตำ่ งๆ 2. เลือกสมำชิกกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั เนอ้ื หำที่ สบื ค้นหำควำมรู้ ข้อมลู ต่ำงๆ ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวันได้ เรยี นและศกั ยภำพของตน เงือ่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. มีควำมรเู้ รอื่ ง ลกั ษณะของกฬี ำตำ่ งๆ ตลอดจนสำมำรถสรำ้ งจดั ทำ 1. มคี วำมรบั ผดิ ชอบ และปฏบิ ัตติ ำมขอ้ ตกลงของกลุ่ม ช้ินงำน ผลงำนและใบงำนไดต้ ำมวตั ถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มำธชิ ่วยเหลอื กนั ในกำรทำงำนร่วมกนั สง่ ผลตอ่ การพัฒนา 4 มิติให้ยง่ั ยืนยอมรบั ตอ่ การเปล่ียนแปลงในยคุ โลกาภวิ ัฒน์ วัตถุ สงั คม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีควำมร้คู วำมเขำ้ ใจลักษณะของกฬี ำต่ำงๆ มคี วำมรแู้ ละเข้ำใจ มคี วำมรู้และเข้ำใจ มีควำมร้แู ละเข้ำใจกำร กระบวนกำรทำงำน เกีย่ วกับ ลักษณะ ช่วยเหลอื แบง่ ปัน กลุ่ม ของอำชีพตำ่ งๆ ทักษะ (P) สำมำรถสรำ้ งช้นิ งำน ผลงำน ใบงำน ทำงำนได้สำเร็จตำม ใช้แหลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลอื แบ่งปนั ซึ่ง แบบทดสอบเรอ่ื งลักษณะของกฬี ำต่ำงๆ เป้ำหมำย ดว้ ย ทำลำยสิง่ แวดลอ้ ม กนั และกนั ได้ตรงตำมวตั ถุประสงค์ กระบวนกำรกลุ่ม คา่ นยิ ม (A) เห็นประโยชนข์ องเรียนรู้ เก่ยี วกบั เห็นคณุ คำ่ และ เห็นคณุ คำ่ ของกำรใช้ ปลกู ฝงั นิสยั กำร ลกั ษณะของกีฬำต่ำงๆ ภำคภมู ิใจในกำร แหลง่ เรยี นร้โู ดยไม่ ช่วยเหลอื แบ่งปัน ทำงำนร่วมกันได้ ทำลำยสิ่งแวดลอ้ ม สำเรจ็
โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เวลา 12 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เร่ือง Play safe แผนการจดั การเรียนรู้ ภาระงาน/ช้นิ งาน เวลาเรยี น (ช่วั โมง) 1. What is your favorite sport? 1. กำรพูดแสดงควำมคดิ เห็นเกี่ยวกับกีฬำชนิดต่ำง ๆ 3 2. กำรเขียนบรรยำยเก่ียวกับกฬี ำทช่ี นื่ ชอบ 3 2. If clause 1. กำรวำดภำพและเขยี นบรรยำยเกี่ยวกับกำรเลน่ กฬี ำ 3 3. I play in the evening 1.กำรพูดสนทนำเกยี่ วกบั อำกำรบำดเจ็บจำกกำรเล่น 3 กีฬำ และกำรให้คำแนะนำ 12 4. Water Sport Club 1. กำรรวบรวมคำศพั ทใ์ นสมุดคำศัพท์ Your word book 2.ทดสอบหลังเรียน รวมเวลำเรยี น
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เร่อื ง Play safe วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 13 ช่ัวโมง 1.มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมี เหตผุ ล ตวั ชี้วดั 1. ปฏิบัตติ ำมคำส่ัง คำขอร้อง และคำแนะนำที่ฟังและอ่ำน ตัวช้วี ดั 2. อำ่ นออกเสยี งข้อควำม นทิ ำน และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกต้องตำมหลกั กำรอำ่ น ตัวชว้ี ดั 3. เลือก/ระบุ หรอื ข้อควำมสนั้ ๆ ตรงตำมภำพ สญั ลักษณ์ หรือเคร่ืองหมำยทีอ่ ำ่ น ตัวชี้วดั 4. บอกใจควำมสำคัญ และตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอ่ำนบทสนทนำ นทิ ำนง่ำยๆ และเรอ่ื งเลำ่ มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และความ คิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ชี้วัด 1. พูด/เขียนโตต้ อบในกำรส่อื สำรระหว่ำงบคุ คล ตัวชว้ี ดั 2. ใช้คำสงั่ คำขอร้อง และให้คำแนะนำ ตัวชีว้ ดั 4. พดู และเขยี นเพือ่ ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั ตัวชีว้ ัด 5 พดู /เขียนแสดงควำมรสู้ ึกของตนเองเกย่ี วกับเรือ่ งตำ่ งๆ ใกล้ตวั กิจกรรมต่ำงๆ พรอ้ ม ทัง้ ใหเ้ หตุผลสัน้ ๆ ประกอบ มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพดู และการเขียน ตัวชว้ี ดั 1. พดู /เขยี นให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง เพ่ือน และส่งิ แวดล้อมใกล้ตัว ตวั ชี้วัด 3. พูด/เขยี นแสดงควำมคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เรื่องตำ่ งๆ ใกลต้ วั มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และ นาไปใชไ้ ด้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 2. ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกับเทศกำล/วันสำคญั /งำนฉลอง/ชวี ติ ควำมเปน็ อยู่ของเจ้ำของภำษำ ตวั ชี้วัด 3. เขำ้ รว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรมตำมควำมสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวัด 1. บอกควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหว่ำงกำรออกเสียงประโยคชนดิ ต่ำงๆ กำรใช้ เคร่ืองหมำยวรรคตอน และกำรลำดับคำตำมโครงสร้ำงประโยคของภำษำต่ำงประเทศ และภำษำไทย ตัวช้ีวดั 2. เปรียบเทยี บควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหว่ำงเทศกำลงำนฉลองและประเพณีของ เจ้ำของภำษำกบั ของไทย มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่อื มโยงความรูก้ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ื่น และ เป็นพืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตวั ชว้ี ัด 1. ค้นคว้ำ รวบรวมคำศัพทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อน่ื จำกแหล่งกำร เรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยกำรพูด/กำรเขียน มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ตวั ชี้วัด 1. ใชภ้ ำษำส่อื สำรในสถำนกำรณต์ ำ่ งๆ ที่เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถำนศึกษำ 2. สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์ และฝึกพูดถำม-ตอบเก่ียวกับวิธีกำรป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยในขณะเล่น กีฬำ กำรอ่ำนเนอ้ื เรอื่ งส้ันๆ เก่ียวกับอุปกรณ์กฬี ำ กำรใชค้ ำคุณศัพท์แสดงควำมรู้สึกต่ำงๆ ในขณะเล่นกีฬำ ทำให้ ผู้เรียนสำมำรถขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีกำรป้องกันตัวเอง ใช้คำคุณศัพท์แสดงควำมรู้สึกในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ซง่ึ เป็นประโยชน์ต่อกำรนำไปใชส้ ่อื สำรในชวี ติ ประจำวนั 3. สาระการเรียนรู้ 1) ควำมรู้ (Knowledge : K) ) กล่มุ คำ ประโยค และควำมหมำยเกย่ี วกับกฬี ำ อุปกรณ์ป้องกันตัวในกำรเลน่ กีฬำ อุปกรณ์ กีฬำ อำกำรบำดเจบ็ และคำคุณศัพท์ 2) Pronunciation: /θ/, /t/ 3) ประโยค บทสนทนำ และเน้ือเรอื่ งส้ันๆ ที่มภี ำพประกอบ 4) ประโยคแสดงควำมคดิ เห็นเกีย่ วกับกีฬำ เช่น A: Which sport is the most (คำคุณศัพท์)? B: I think (ชอื่ กีฬำ) is the most (คำคุณศัพท)์ . 5) ประโยคทใี่ ชส้ ั่ง บอกให้ทำ และใหค้ ำแนะนำเกย่ี วกบั กำรเลน่ กฬี ำ เชน่ If you go skateboarding, wear a helmet. If you rest your leg, you can go cycling in a week. You should wear a helmet. 6) ประโยคขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกบั กำรเลน่ กฬี ำ และอำกำรบำดเจบ็ เชน่ A: What sports do you do? B: I go skateboarding.
A: What’s wrong with you? B: My leg is hurt. 7) กจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง 8) ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อกั ษรของภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย 9) กำรคน้ คว้ำคำศัพท์ทเ่ี กี่ยวข้องกับกลุม่ สำระกำรเรียนรู้อ่ืน 10) กำรใช้ภำษำในกำรฟงั /พูดในสถำนกำรณต์ ่ำง ๆ 11) กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ท่ีเกย่ี วขอ้ งใกล้ตวั จำกส่ือและแหล่งกำร เรยี นรตู้ ำ่ ง ๆ Aim : Talking about sport and health Vocabulary : sailing, skiing, climbing, surfing, cycling, frightening, dangerous, exciting, lifejacket, gloves, elbow pad, knee pad, sunglasses, rope, my leg hurt, twist ankle Structure : ประโยคแสดงควำมคิดเห็นเก่ียวกับกฬี ำ เช่น A: Which sport is the most (คำคณุ ศัพท์)? B: I think (ช่ือกีฬำ) is the most (คำคุณศัพท)์ . ประโยคทใ่ี ช้ส่งั บอกให้ทำ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับกำรเล่นกีฬำ เช่น If you go skateboarding, wear a helmet. If you rest your leg, you can go cycling in a week. You should wear a helmet. ประโยคขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับกำรเล่นกีฬำ และอำกำรบำดเจบ็ เช่น A: What sports do you do? B: I go skateboarding. A: What’s wrong with you? B: My leg is hurt. 2) ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) 1) ทกั ษะกำรฟัง (Listening skill) - คำศัพท์ ประโยค 2) ทกั ษะกำรพูด (Speaking skill) - คำศัพท์ ประโยค 3) ทักษะกำรอำ่ น (Reading skill) - คำศัพท์ ประโยค 4) ทักษะกำรเขยี น (Writing skill) - คำศัพท์ ประโยค 5) กระบวนกำรกลุ่ม -จบั คูส่ นทนำ -ระดมสมอง -ฝึกกจิ กรรมกลุม่ ตำมแผนกำรจดั กำรเรียนรู้
3) เจตคติ (Attitude : A) 1) กล้ำแสดงออก 2) ม่ันใจในกำรพดู ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 3) มีควำมสุข สนุกสนำนกับกำรเรียนภำษำอังกฤษ 4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชช้ วี ิต 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ซ่ือสัตย์สจุ รติ 2. มีวินัย 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. ม่งุ มั่นในกำรทำงำน 5. มจี ติ สำธำรณะ 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. กำรพดู แสดงควำมคดิ เหน็ เกี่ยวกบั กีฬำชนิดต่ำง ๆ 2. กำรเขียนบรรยำยเกี่ยวกับกฬี ำท่ชี น่ื ชอบ 3. กำรสำรวจเก่ียวกับกีฬำทเี่ ป็นทส่ี ดุ ในดำ้ นตำ่ งๆ 4. กำรวำดภำพและเขยี นบรรยำยเกี่ยวกับกำรเลน่ กีฬำอย่ำงปลอดภยั 5. กำรพดู สนทนำเกีย่ วกบั อำกำรบำดเจ็บจำกกำรเลน่ กีฬำ และกำรให้คำแนะนำ 6. กำรรวบรวมคำศัพท์ในสมุดคำศัพท์ Your word book
7. การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น/หลัง เรียน แบบทดสอบกอ่ น/หลัง เรยี น ร้อยละ 60 หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ 2 หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี 2 ตรวจใบงำนท่ี 1.1 ใบงำนท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ตรวจใบงำนที่ 1.2 ใบงำนท่ี 1.2 ร้อยละ 60 รอ้ ยละ 60 ตรวจใบงำนที่ 1.3 ใบงำนที่ 1.3 ชิน้ งำน แบบประเมนิ ชิ้นงำน ระดบั คุณภำพ 2 สงั เกตพฤติกรรมกำรทำงำนรำยบุคคล แบบประเมินทักษะทำงภำษำ รำยบคุ คลกำร ระดบั คุณภำพ 2 สงั เกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ม ระดับคุณภำพ 2 ระดบั คุณภำพ 2 สงั เกตควำมมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ในกำรทำงำน ระดบั คุณภำพ ระดับ แปลผล คะแนน ร้อยละ ระดบั 4 ดีเย่ียม 9 - 10 80 - 100 ระดับ 3 7-8 70 – 79 ระดบั 2 ดี 5-6 60 - 69 ระดับ 1 พอใช้ 1-4 0 - 59 ปรบั ปรงุ เกณฑ์กำรตัดสนิ นักเรียนได้คะแนนระดับ พอใช้ ข้ึนไป ถือวำ่ ผ่ำนเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมที่ 1 What does she look like? (ช่ัวโมงท่ี 1-3) 1.ครถู ำมนกั เรียนในช้นั วำ่ กฬี ำโปรดของนักเรยี นคอื กีฬำชนิดใด โดยใช้ประโยค ดงั นี้ Teacher: What is your favourite sport? Students: Basketball, volleyball, etc. 2. ครูเขียนประโยคคำถำมและคำตอบในกรอบ Remember! ในหนังสือเรียน หน้ำ 20 บนกระดำน และให้นักเรียนอ่ำนพร้อม ๆ กัน จำกนั้นครูอธิบำยว่ำ the most + คำคุณศัพท์ ใช้ในกำรเปรียบเทียบเพ่ือบอก ถึงสิ่งท่ีเป็นท่ีสุด เช่น the most beautiful (สวยที่สุด), the most boring (น่ำเบื่อที่สุด), the most dangerous (อันตรำยทส่ี ดุ ) 3.ครูใหน้ กั เรียนทดสอบควำมร้เู ดมิ เก่ียวกับ Superlative Adjectives 4.ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
กจิ กรรมท่ี 2 If clause. (ชั่วโมงที่ 4-6) 1.ครใู ห้นักเรียนหำคำศัพทเ์ กี่ยวกบั กีฬำเพม่ิ เติม โดยครอู ำจจะแนะนำเว็บไซต์ใหน้ ักเรียน เช่น http://www.kidspot.com.au/section+23+Sport.htm http://www.ranker.com/list/best-kids-sports/dad-of-the-year 2.ครูให้นักเรียนเล่นเกม “ทดสอบควำมจำ” โดยแบ่งนกั เรียนออกเปน็ 2 กลุ่ม เทำ่ ๆ กนั แล้วอธิบำย กตกิ ำกำรเลน่ ให้นักเรียนฟงั 3.ครูให้นักเรียนร่วมกันรณรงค์กำรเล่นกีฬำให้ปลอดภัย โดยจัดบอร์ดในหัวข้อ “Play safe” แล้วให้ นกั เรยี นช่วยกันวำดภำพคนละ 1 ภำพ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั กำรเลน่ กฬี ำอย่ำงปลอดภัย และเขยี นประโยคบรรยำยภำพ 1 ประโยค โดยใชป้ ระโยคเงอ่ื นไขท่ีเรียนมำ เชน่ If you go climbing, wear a helmet. กิจกรรมท่ี 3 (ชว่ั โมงท่ี 7-9) 1.ครขู ออำสำสมัคร 1 คน ใหแ้ สดงท่ำทำงเจ็บหวั เข่ำ แลว้ ครถู ำมอำกำรบำดเจบ็ ของนักเรยี น ดงั น้ี Teacher: What’s wrong with you, Tom? Tom: My knee is hurt. แล้วครูเขียนคำถำม What’s wrong with you? บนกระดำน และอธิบำยว่ำเรำใช้คำถำมนี้เพ่ือถำม อำกำรบำดเจบ็ หรือเมือ่ เห็นวำ่ มอี ำกำรผดิ ปกติ 2.ครูทบทวนกำรใช้ Question words โดยให้นักเรียนช่วยกันบอกว่ำ Question words แต่ละคำใช้ อย่ำงไร What ใชถ้ ำมข้อมูล เช่น ชอื่ , ทอ่ี ยู่, สง่ิ ของ When ใช้ถำมเก่ยี วกับเวลำ Where ใช้ถำมเก่ียวกับสถำนที่ Why ใช้ถำมเกีย่ วกับเหตุผล 3.ครูทบทวนคำศัพทเ์ กีย่ วกบั กฬี ำและอุปกรณ์กำรเลน่ และอปุ กรณป์ ้องกันอันตรำย โดยใหน้ ักเรียนเล่น เกม Hangman หรือ Spelling Bee กจิ กรรมท่ี 4 Water Sport Club (ชั่วโมงที่ 10-12) 1.นักเรียนอ่ำนอีเมลของ Catherine ท่ีเขียนถึง Pat ใน หนังสือเรียน หน้า 28 ข้อ 4 Read the e-mail. แล้วครูถำมว่ำ Catherine เขียนเก่ียวกับเร่ืองอะไร ต่อมำครูให้นักเรียนดูแผนผัง (Venn diagram) ของกีฬำปีนเขำ (climbing) และกีฬำสกี (skiing) แล้วครูถำมนักเรียนเก่ียวกับกีฬำแต่ละชนิด และให้นักเรียน ชว่ ยกนั ตอบคำถำม 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกคำศัพท์ทีเ่ รียนในบทนี้ ครูเขียนคำศพั ท์ทีน่ ักเรียนบอกบนกระดำน โดยให้ นักเรียนช่วยกันสะกดคำ จำกนั้นให้นักเรียนออกเสียงคำศัพท์พร้อมกัน แล้วให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 92 หวั ข้อ Language focus เพื่อบอกโครงสรำ้ งประโยคทีเ่ รียนในบทน้ี แลว้ ครูเขยี นบนกระดำน - Which sport is the most exciting? I think skiing is the most exciting. 3.ทดสอบหลงั เรียน
9.แหลง่ เรียนรู้ / ส่ือ 1. Website 2. สื่อวีดีทศั น์ เร่อื ง Sport https://www.youtube.com/watch?v=tZdNh5p0WBw 3. หนังสอื เรียน Smile ป.6 4. แบบฝกึ หัด Smile ป.6
แบบทดสอบ Pre-test หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง Play Safe กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 Choose the correct answer. 1. What is your ………………….. sport? a. fairy b. favourite c. frank d. front 2. I think ………………….. is frightening. a. walking b. running c. cycling d. climbing 3. Do you think sailing is …………………..? a. boring b. behind c. the biggest d. exit 4. Pook-Look is the ………………….. beautiful girl in our class. a. much b. many c. most d. more 5. Bangkok is the ………………….. city in Thailand. a. busier b. busiest c. more busy d. most busy 6. This is ………………….. elephant I have ever seen. a. big b. bigger c. biggest d. the biggest 7. Mekong is ………………….. river in Asia. a. longer b. the longest c. more longer d. the most longest 8. If you go skateboarding, …………………. . a. wear goggles b. take a rest c. wear a helmet d. need a ball 9. If you ………………….., you can go cycling in a week. a. rest your leg b. wear elbow pads c. wear a swimsuit d. wear a lifejacket 10. I need ………………….. to go skiing. a. a helmet b. a racket c. a ball d. goggles
แบบทดสอบ Post-test หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง Play Safe กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 Choose the correct answer. 11. She sometimes ………………….. tennis in the evening. a. does b. plays c. goes d. has 2. Susan ………………….. sailing every Sunday. a. goes b. does c. plays d. has 3. I think climbing is …………………. . a. most dangerous b. dangerousest c. the dangerous most d. the most dangerous 4. What’s your favourite sport? a. reading b. pudding c. surfing d. singing 5. ………………….. do you go sailing? In summer. a. Where b. When c. What d. Who 6. What do you need for cycling? a. a helmet b. a jacket c. a swimming suit d. a racket 7. If you have a sore throat, …………………. . a. eat salad b. drink coca-cola c. wear a helmet d. drink lemonade 8. If you go sailing, …………………. . a. wear eyeglasses b. wear a helmet c. wear a lifejacket d. drink juice 9. ………………………., you will be healthy. a. If you have much money b. If you study hard c. If you do exercise d. If you eat a lot of pizza 10. She is …………………. singer. a. the most popular b. the popular most c. popularest d. most popular
เฉลย แบบทดสอบ Pre-test หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรือ่ ง Play Safe กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 Choose the correct answer. 1. What is your ………………….. sport? a. fairy b. favourite c. frank d. front 2. I think ………………….. is frightening. a. walking b. running c. cycling d. climbing 3. Do you think sailing is …………………..? a. boring b. behind c. the biggest d. exit 4. Pook-Look is the ………………….. beautiful girl in our class. a. much b. many c. most d. more 5. Bangkok is the ………………….. city in Thailand. a. busier b. busiest c. more busy d. most busy 6. This is ………………….. elephant I have ever seen. a. big b. bigger c. biggest d. the biggest 7. Mekong is ………………….. river in Asia. a. longer b. the longest c. more longer d. the most longest 8. If you go skateboarding, …………………. . a. wear goggles b. take a rest c. wear a helmet d. need a ball 9. If you ………………….., you can go cycling in a week. a. rest your leg b. wear elbow pads c. wear a swimsuit d. wear a lifejacket 10. I need ………………….. to go skiing. a. a helmet b. a racket c. a ball d. goggles
เฉลย แบบทดสอบ Post-test หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Play Safe กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 Choose the correct answer. 11. She sometimes ………………….. tennis in the evening. a. does b. plays c. goes d. has 2. Susan ………………….. sailing every Sunday. a. goes b. does c. plays d. has 3. I think climbing is …………………. . a. most dangerous b. dangerousest c. the dangerous most d. the most dangerous 4. What’s your favourite sport? a. reading b. pudding c. surfing d. singing 5. ………………….. do you go sailing? In summer. a. Where b. When c. What d. Who 6. What do you need for cycling? a. a helmet b. a jacket c. a swimming suit d. a racket 7. If you have a sore throat, …………………. . a. eat salad b. drink coca-cola c. wear a helmet d. drink lemonade 8. If you go sailing, …………………. . a. wear eyeglasses b. wear a helmet c. wear a lifejacket d. drink juice 9. ………………………., you will be healthy. a. If you have much money b. If you study hard c. If you do exercise d. If you eat a lot of pizza 10. She is …………………. singer. a. the most popular b. the popular most c. popularest d. most popular
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ สรปุ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1.นกั เรียนจำนวน..................คน ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ไม่ผำ่ นจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู.้ .................คน คิดเป็นร้อยละ……............ 2. แนวทำงแก้ไขนักเรียนทีไ่ ม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... ......................................................................................................................................... .................. 3.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ไมผ่ ่ำน............ คน ผำ่ น.............คน ด.ี .................คน 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ดเี ย่ยี ม................คน ระดบั ดขี ้ึนไป ร้อยละ..................... ไม่ผำ่ น............ คน ผำ่ น.............คน ดี..................คน ดเี ยีย่ ม................คน ระดบั ดขี น้ึ ไป ร้อยละ..................... ผลการจัดการเรยี นการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแก้ไข แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 1 เรอื่ ง.................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… .......................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………….…… แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………..………… ............................................................................................................................. ......................... …………………………………………………………………………………………………………….………………………. แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ ง................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………..………… ...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………….………………………. แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 4 เรอื่ ง................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………..………… ............................................................................................................................. ......................... …………………………………………………………………………………………………………….………………………. ............................................................................................................................. ......................... ลงชือ่ .................................................. (นำงสำวอรวรรณ พดุ มอญ)
ความคิดเห็นหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้/ผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................................................................ .............................................................................................. ...................................................... ........................ ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................. ........................................... ลงชื่อ…………………………………………………… (นำงสำวอรวรรณ พุดมอญ) หวั หน้ำกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ ...................../......................./......................... ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. ............................................... ................................................. ................................................................................................... ........................ ............................................................................................................................. ............................................... ลงช่ือ (นำงสำวกันยำภัทร ภัทรโสตถิ) โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวัสด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) ...................../......................./.........................
แบบสงั เกตพฤติกรรมการอา่ นออกเสยี ง แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท.่ี .........เรือ่ ง................................................................ช้ันประถมศึกษำปที ่.ี ............. คร้ังท.่ี ................วนั ท่.ี ......................เดอื น.............................................................พ.ศ. .............................. รายการประเมิน เลขที่ ชื่อ – สกลุ กำรอ่ำน อำ่ นออกเสยี ง อำ่ นออกเสยี ง ควำมถกู ตอ้ ง รวม ออกเสยี ง เนน้ เสียง เวน้ วรรคตอน ของคำศัพท์ คะแนน หนักเบำ สำนวน และ ได้ถูกต้อง ประโยค 4321432143214321 หมายเหตุ คำ่ ของคะแนน 4 หมำยถงึ ดีมำก 3 หมำยถงึ ดี 2 หมำยถงึ พอใช้ 1 หมำยถงึ ปรับปรุง ลงชอื่ ..........................................ผปู้ ระเมิน (............................................) วนั ท.ี่ ........เดือน...................พ.ศ. .........
เกณฑป์ ระเมินพฤตกิ รรมการอ่านออกเสียง รายการประเมิน 4 (ดมี ำก) คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ 1 (ปรบั ปรงุ ) 3 (ดี) 2 (พอใช้) กำรอำ่ นออกเสยี ง อำ่ นออกเสียงถูกตอ้ ง มีข้อบกพร่องบำ้ ง มขี อ้ บกพร่อง มีข้อบกพร่องมำก ตำมหลัก เล็กน้อย ส่วนใหญ่ คอ่ นข้ำงมำก มี สว่ นใหญ่ กำรออกเสียง ตลอด สำมำรถอ่ำน บำงสว่ นท่ีออกเสยี ง อำ่ นออกเสียง กำรอ่ำนทงั้ หมด ออกเสียงถูกตอ้ งตำม ไม่ถูกตอ้ งตำม ไมถ่ ูกต้องตำม หลักกำรออกเสยี ง หลกั กำรออกเสยี ง หลกั กำรออกเสยี ง อำ่ นออกเสียงถูกต้อง อ่ำนออกเสียงถูกต้อง อำ่ นออกเสียงถกู ต้อง อำ่ นออกเสยี งคำ/ อ่ำนออกเสียง ตำมหลัก ตำมหลัก ตำมหลัก ประโยคไม่ถกู ต้อง เนน้ เสียง กำรออกเสยี ง มี กำรออกเสยี ง มี กำรออกเสยี ง มี แต่ยังสำมำรถ หนักเบำ เน้นหนกั ในคำ/ เนน้ หนกั ในคำ/ เนน้ หนกั ในคำ/ ส่ือสำรได้ ประโยคอย่ำงถกู ต้อง ประโยคเปน็ ประโยคบ้ำง สื่อสำร สว่ นใหญ่ ได้พอสมควร อำ่ นออกเสียง อ่ำนออกเสียง อ่ำนออกเสยี ง อ่ำนออกเสยี ง อำ่ นออกเสียง เวน้ วรรคตอน คำศัพท/์ ประโยค เว้น คำศัพท/์ ประโยค คำศัพท/์ ประโยค คำศัพท/์ ประโยค ได้ถูกตอ้ ง วรรคตอนได้อย่ำง เว้นวรรคตอนได้ เป็น เว้นวรรคตอนได้บำ้ ง เวน้ วรรคตอน ถกู ต้อง ส่วนใหญ่ ผดิ มำก ควำมถูกต้อง อำ่ นคำศัพท์ สำนวน อ่ำนคำศัพท์ สำนวน อำ่ นคำศพั ท์ สำนวน มีข้อบกพร่องใน ของคำศัพท์ สำนวน และประโยคได้ และประโยคได้ และประโยคได้ กำรอำ่ นคำศัพท์ และประโยค ถกู ต้องตลอด ถูกต้อง โดยมี ถกู ต้อง โดยมี ส่วนใหญอ่ ่ำน กำรอำ่ นออกเสียง ข้อบกพร่องเลก็ น้อย ขอ้ บกพร่อง ไมถ่ ูกตอ้ ง ค่อนข้ำงมำก คะแนนตดั สนิ ระดบั คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภำพ คะแนน 14 - 16 ดีมำก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ 1-8 ปรบั ปรุง
แบบสังเกตพฤติกรรมการพูด แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่.......เรอ่ื ง................................................................. ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี .......... ครั้งท่ี................วันที่....................เดอื น...........................................พ.ศ. ............................... รายการประเมนิ เลขที่ ชื่อ – สกลุ กำรออกเสยี ง กำรพดู ถกู ต้อง กำรแสดงทำ่ ทำง/ รวม ตำมหลกั ภำษำ ควำมคล่องแคล่ว น้ำเสียงประกอบ คะแนน กำรพูด 4321432143214321 หมายเหตุ คำ่ ของคะแนน 4 หมำยถงึ ดมี ำก 3 หมำยถึง ดี 2 หมำยถึง พอใช้ 1 หมำยถึง ปรบั ปรงุ ลงชือ่ ..........................................ผปู้ ระเมิน (............................................) วันท่.ี ........เดือน...............................พ.ศ. ...........
เกณฑ์ประเมนิ พฤตกิ รรมการพูด รายการประเมนิ คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ กำรออกเสยี ง 4 (ดมี ำก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ ) กำรพูดถกู ต้องตำม หลักภำษำ ออกเสียงถูกต้องตำม ออกเสียงถูกตอ้ งตำม ออกเสียงดี ประโยค ออกเสียงคำ/ ควำมคลอ่ งแคลว่ หลกั กำรออกเสียง หลักกำรออกเสยี ง ผิดพลำดบำ้ ง มเี สียง ประโยค กำรแสดงทำ่ ทำง/ นำ้ เสียงประกอบ มเี นน้ หนกั ในคำ/ มีเน้นหนกั ในคำ/ เนน้ หนกั ในคำ/ประโยค ไมถ่ ูกตอ้ งแต่ยัง กำรพูด ประโยคอยำ่ งถูกตอ้ ง ประโยคเป็น บ้ำง สำมำรถสอื่ สำรได้ ส่วนใหญ่ สอ่ื สำรได้พอสมควร พูดได้ถกู ต้องตำม พดู ได้ถูกต้องตำม พดู ได้ถูกต้องตำม พดู ได้ถกู ต้องตำม หลักกำรใช้ภำษำ หลักกำรใชภ้ ำษำได้ หลักกำรใชภ้ ำษำบำ้ ง หลกั กำรใชภ้ ำษำ เปน็ สว่ นใหญ่ น้อยท่ีสดุ พูดตอ่ เน่ืองไม่ติดขดั พดู ตอ่ เนอ่ื งติดขัด พดู ตะกุกตะกักบ้ำง แต่ พูดตะกกุ ตะกัก พูดชัดเจนทำให้ บำงคร้ัง แตย่ ัง ยังพอสื่อสำรได้ มำก ส่ือสำรได้ สอื่ สำรได้ สำมำรถส่ือสำรได้ น้อย ชัดเจน แสดงทำ่ ทำงและพดู แสดงท่ำทำงและพูด พูดโดยไม่คอ่ ยแสดง พดู โดยไม่แสดง ด้วยน้ำเสียงตำม ด้วยน้ำเสยี งตำม ท่ำทำงประกอบ ท่ำทำงประกอบ บทบำทและ บทบำทและ สถำนกำรณ์ไดถ้ ูกต้อง สถำนกำรณ์ได้ ถูกต้องเปน็ สว่ นใหญ่ คะแนนตดั สนิ ระดับคุณภาพ คะแนน ระดบั คณุ ภำพ 14 - 16 ดีมำก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ 1 -8 ปรับปรุง
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่..........เร่ือง..........................................................ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่................... ครั้งท.่ี ................วันท่ี.......................เดือน.............................................................พ.ศ. .............................. รายการท่ีประเมนิ รวม เลขที่ ชือ่ - สกลุ มวี นิ ยั มงุ่ มั่นใน รกั กำรอำ่ น มีควำมมน่ั ใจใน คะแนน ใฝ่เรยี นรู้ กำรทำงำน กำรแสดงออก 321321321321 หมายเหตุ ค่ำของคะแนน 3 หมำยถงึ ดี 2 หมำยถงึ พอใช้ 1 หมำยถึง ปรับปรงุ ลงช่ือ..........................................ผ้ปู ระเมิน (............................................) วันท่.ี ........เดือน..............................พ.ศ. .........
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ รายการประเมิน คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) มงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน ปฏิบัตติ ำมระเบียบและ ปฏบิ ัตติ ำมระเบียบและ ไม่ปฏบิ ัติตำมระเบยี บและ รักกำรอำ่ น กฎเกณฑต์ ำ่ ง ๆไดด้ ้วย มีควำมมนั่ ใจใน ตนเอง ไมต่ อ้ งอำศัย กฎเกณฑต์ ่ำง ๆ ต้องอำศัย กฎเกณฑต์ ่ำง ๆ กำรแสดงออก กำรควบคมุ ใด ๆ กำรตดิ ตำมอยู่บำ้ ง ขำดกำรควบคุมไม่ได้เลย ปฏบิ ัตงิ ำนดว้ ย ปฏบิ ตั ิงำนดว้ ย ปฏิบตั งิ ำนดว้ ย ควำมมุ่งม่นั เอำใจใส่ ควำมมุ่งมัน่ เอำใจใส่ ควำมมุ่งมน่ั เอำใจใส่ สมำ่ เสมอ จนงำนสำเรจ็ มี สมำ่ เสมอ จนงำนสำเร็จมี ไมส่ ม่ำเสมอ งำนสำเรจ็ แต่ คุณภำพอย่ำงดีท่สี ุด คุณภำพปำนกลำง ไมม่ ีคณุ ภำพ มพี ฤติกรรมในกำรอ่ำน มีพฤติกรรมในกำรอำ่ นไม่ มพี ฤติกรรมในกำรอำ่ น อยำ่ งสมำ่ เสมอ ต่อเนอ่ื ง นอ้ ยมำก มคี วำมม่นั ใจ กลำ้ มีควำมมนั่ ใจ กล้ำ ไม่กล้ำแสดงออก แสดงออก ถำม – ตอบ และรว่ มกจิ กรรมดว้ ย แสดงออกในบำงคร้ัง ร่วม ไมม่ ีกำรถำม – ตอบ และ ควำมสนุกสนำน กิจกรรมเม่ือครูกำหนด รว่ มกจิ กรรม คะแนนตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดบั คณุ ภำพ 9 - 12 ดี 6-8 พอใช้ 1-5 ปรับปรุง ลงชอ่ื ..........................................ผ้ปู ระเมิน (............................................) วันท่ี.........เดอื น..............................พ.ศ. .........
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่......เรอื่ ง...........................................................................ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี....... ครั้งท.ี่ .......วันท.่ี .........เดอื น..........................................พ.ศ. ................. กลุ่ม.............................................. รายการทส่ี งั เกต เลขที่ ชือ่ – สกลุ ควำมรบั ผดิ ชอบ กำรแบ่งหนำ้ ท่ีใน มคี วำมเอ้อื เฟื้อ กำรรว่ มแสดง รวม ในงำนที่ได้รบั กำรปฏิบัตงิ ำน เผ่อื แผ่ อำทร ควำมคิดเห็น คะแนน มอบหมำย เพือ่ นในกลุม่ 321321321321 หมายเหตุ ค่ำของคะแนน 3 หมำยถงึ ดี 2 หมำยถึง พอใช้ 1 หมำยถึง ปรบั ปรงุ ลงชอ่ื ..........................................ผ้ปู ระเมนิ (............................................) วันท่.ี ........เดอื น..............................พ.ศ. .........
เกณฑป์ ระเมินพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ รายการประเมนิ คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ควำมรบั ผิดชอบในงำน มีควำมเอำใจใส่ใน มีควำมเอำใจใสใ่ น มคี วำมเอำใจใส่ใน ท่ีไดร้ ับมอบหมำย กำรทำงำนอยำ่ งต่อเนื่อง กำรทำงำนบ้ำง แต่ไม่ กำรทำงำนน้อย ยอมรบั ควำมผดิ พลำด ตอ่ เน่อื ง ยอมรบั ไมต่ ่อเนื่อง ไม่ยอมรับ และพยำยำมแกไ้ ข ควำมผดิ พลำด แต่ ควำมผิดพลำดและ ไมพ่ ยำยำมแกไ้ ข ไมพ่ ยำยำมแก้ไข กำรแบ่งหน้ำท่ีใน มกี ำรแบง่ หน้ำทีใ่ น มีกำรแบง่ หนำ้ ที่ใน ไม่มีกำรแบง่ หนำ้ ท่ีใน กำร กำรปฏิบตั งิ ำน กำรปฏิบัติงำน และ กำหนดบทบำทหนำ้ ท่ี กำรปฏิบตั ิงำน แต่กำหนด ปฏิบัตงิ ำน และไมม่ ีกำร อยำ่ งชดั เจน บทบำทหน้ำที่ไม่ชัดเจน กำหนดบทบำท หน้ำทไ่ี ว้ ชัดเจน ควำมร่วมมือใน สมำชกิ ในกลมุ่ ให้ สมำชกิ ในกล่มุ ให้ สมำชิกในกลมุ่ ไม่ให้ กำรปฏิบตั ิงำน ควำมรว่ มมือใน กำรปฏิบัติงำนอย่ำง ควำมร่วมมือใน ควำมรว่ มมอื ใน ตอ่ เนือ่ ง กำรปฏบิ ัติงำนเปน็ บำงครัง้ กำรปฏบิ ัตงิ ำน ไมต่ ่อเน่ือง กำรร่วมแสดง สมำชิกในกลุ่มร่วมแสดง สมำชิกในกลมุ่ รว่ มแสดง สมำชกิ ในกลุ่มไม่รว่ ม ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ มีสว่ นรว่ ม ในกำรประเมินผล ควำมคดิ เห็น แต่ไมม่ ีสว่ น แสดงควำมคดิ เหน็ และ ร่วมใน ไม่มีสว่ นรว่ มใน กำรประเมนิ ผล กำรประเมินผล คะแนนตดั สนิ ระดับคุณภาพ คะแนน ระดับคณุ ภำพ 9 - 12 ดี 6 - 8 พอใช้ 1 - 5 ปรบั ปรงุ
แบบบันทกึ คะแนนการตรวจแบบฝกึ การจัดกจิ กรรมการเรียนรภู้ าษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่.ี ............................ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี...............เรอ่ื ง....................................................................................................... วนั ท่ี........................เดอื น............................................................พ.ศ. ......................... ชือ่ - สกุล เลขที่ คะแนนเตม็ แบบฝึกท่ี................ แบบฝึก ่ีท................ แบบฝึก ่ที................ แบบฝึกที่................ แบบฝึกที่................ สรุปผลการประเ ิมน เกณฑก์ ารประเมนิ นกั เรยี นผำ่ นเกณฑก์ ำรประเมินแตล่ ะแบบฝกึ ไมต่ ่ำกวำ่ ร้อยละ 60 จงึ ถือวำ่ ผ่ำน ลงชื่อ..............................................ผูบ้ นั ทกึ (................................................) แบบประเมนิ ตัวชว้ี ัด
หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ………. ชั้นประถมศึกษำปที ่ี 6 กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ รำยวิชำภำษำองั กฤษ รหสั อ16101 เร่ือง …………………………………… เวลำเรียน …………… ชัว่ โมง ครูผสู้ อน นำงสำวอรรรณ พดุ มอญ แบบบันทกึ ผลตวั ช้วี ดั สรุป ท่ี ข้อที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 เต็ม ตดั สนิ ชื่อ – สกลุ 1. 2. ลงช่อื ..............................................ผบู้ ันทึก (................................................)
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 Play safe เรื่อง What is your favourite sport? 1.สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับกีฬำ และคำคุณศัพท์ ทำให้ผู้เรียนสำมำรถพูดแสดงควำมคิดเห็น เกี่ยวกับกีฬำ และเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับกีฬำได้ ซึ่งเป็นพื้นฐำนกำรใช้ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรส่ือส ำรใน ชวี ติ ประจำวนั 2. มาตรฐาน / ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งที่ฟังและอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตุผล ตวั ชวี้ ัด 1. ปฏบิ ตั ิตำมคำส่งั คำขอร้อง และคำแนะนำที่ฟังและอ่ำน ตัวช้วี ดั 2. อ่ำนออกเสียงข้อควำม นทิ ำน และบทกลอนสัน้ ๆ ถูกตอ้ งตำมหลกั กำรอ่ำน ตัวชีว้ ดั 3. เลอื ก/ระบุ หรอื ข้อควำมสั้นๆ ตรงตำมภำพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมำยท่ีอ่ำน ตัวชีว้ ดั 4. บอกใจควำมสำคัญ และตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอำ่ นบทสนทนำ นิทำนง่ำยๆ และเร่ืองเลำ่ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตวั ชว้ี ดั 1. พูด/เขียนโต้ตอบในกำรสอื่ สำรระหวำ่ งบคุ คล 3.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.พดู /เขียน โต้ตอบ ปฏิบตั ติ ำมคำสัง่ คำขอร้อง และคำแนะนำที่ฟงั และอำ่ นได้ 2.อ่ำนออกเสียงขอ้ ควำม นิทำน บทกลอนส้นั ๆ และสำมำรถบอกใจควำมสำคัญของเร่ืองที่ อำ่ นได้ 3.เลอื ก/ระบุ หรอื ข้อควำมส้ันๆ ตรงตำมภำพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมำยที่อ่ำนได้ 4.สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. กล่มุ คำ ประโยค และควำมหมำยเกยี่ วกบั กฬี ำ และคำคุณศัพท์
ทักษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟัง กำรพดู กำรอ่ำน กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรบั ผดิ ชอบ ขยัน ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น 2. มคี วำมเชือ่ มั่นในตนเอง กล้ำแสดงออก 5.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุง่ มั่นในกำรทำงำน 7.กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 What is your favourite sport? ขั้นนา (Warm up) 1. ครูทักทำยนักเรียนด้วยคำถำม How are you? เม่ือนักเรียนทั้งห้องทักทำยตอบแล้ว ครู ทักทำยนักเรียนเป็นรำยบุคคล 4-5 คน โดยให้นักเรียนพูดตอบ โดยใช้สำนวนอื่น เช่น I’m OK/great/happy. เปน็ ต้น 2. ครใู ห้นักเรียนทบทวนประโยคคำส่ัง ขอร้อง และขออนุญำตที่ใชใ้ นห้องเรยี น โดยอำ่ นประโยคที่ บอรด์ ของหอ้ งเรยี น จำกน้นั ครูย้ำให้นักเรยี นใชป้ ระโยคเหล่ำนพี้ ดู กบั ครใู นหอ้ งเรียน 3. ครูถำมนักเรยี นในช้นั วำ่ กฬี ำโปรดของนกั เรียนคอื กีฬำชนดิ ใด โดยใชป้ ระโยค ดงั น้ี Teacher: What is your favourite sport? Students: Basketball, volleyball, etc. 4. ครูนำภำพคนกำลังเล่นกีฬำมำติดแสดงให้นักเรียนดูบนกระดำน เช่น ภำพคนเล่นเทนนิส และ ใหน้ ักเรียนตอบคำถำม เชน่ Teacher: What are they doing? Students: They are playing tennis. Teacher: How many people are there? Students: Two people. 5. ให้นักเรียนอ่ำนชื่อ Unit 2 Play safe และช่วยกันบอกควำมหมำยของชื่อบท จำกน้ันให้ นกั เรยี นชว่ ยกันระดมสมองพูดบอกว่ำเรำจะเล่นกฬี ำให้ปลอดภยั ไดอ้ ย่ำงไร 6. ครูบอกนกั เรียนว่ำใน Lesson 1 น้ี นักเรียนจะไดเ้ รยี นรคู้ ำศพั ท์เก่ยี วกับกฬี ำ คำคณุ ศพั ท์ กำรเปรยี บเทียบขัน้ สูงสุดด้วยคำวำ่ the most และกำรพดู ถำม-ตอบเก่ียวกบั กฬี ำตำ่ งๆ
ขนั้ นาเสนอ (Presentation) 1. นักเรียนดูภำพใน หนังสือเรียน หน้า 18 ข้อ 1 What can you see? ครูจับเวลำนักเรียน 1 นำที ให้นักเรียนจำรำยละเอียดของภำพทั้ง 4 ภำพ ให้ได้มำกที่สุด จำกน้ันให้นักเรียนปิดหนังสือ เรียน และพดู บอกครูว่ำเหน็ อะไรในภำพบำ้ ง บุคคลในแต่ละภำพกำลงั ทำอะไร 2. นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 18 ข้อ 2 Look, listen and answer. แล้วครูเปิด CD/Track 14 ให้นักเรียนฟังคำถำม 1 รอบ พร้อมกับดูภำพในข้อ 1 ตำมไปด้วย จำกน้ันครูเปิด CD อีกคร้ัง โดยใน คร้งั น้ีครหู ยุด CD ทลี ะคำถำม เพ่อื ใหเ้ วลำนักเรียนในกำรเขยี นตอบ 1. Look at the picture of the mountains. How many people are there? 2. What are the girls doing on the beach? 3. Can you see any rubbish on the beach? 4. Find the man under the tree. What is he doing? 5. Find two boys who are skateboarding. Are they wearing helmets? เสร็จแล้วครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ 1.There are six people. 2. They are playing volleyball. 3. No, I can’t. 4. He is drawing the picture. 5.Yes, they are. 3. ครูเขียนประโยคต่อไปน้ี และอ่ำนให้นักเรียนฟัง จำกน้ันขีดเส้นใต้ frightening, exciting, dangerous, boring และ fun แล้วถำมนกั เรียนว่ำคำเหล่ำนี้คือคำชนิดใด และรู้ได้อย่ำงไร (คำคุณศัพท์ เพรำะตำมหลงั verb to be) เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นช่วยกนั เดำควำมหมำย I don’t like ghost stories. They’re frightening. I like watching football. It’s exciting. I don’t like sharks. They’re dangerous. I don’t like this book. It’s boring. I like computer games. They’re fun. ต่อมำครูแสดงบัตรภำพกีฬำต่อไปน้ี sailing, skiing, climbing, surfing, cycling แล้วให้นักเรียนบอก วำ่ คือกีฬำอะไร ครแู สดงบตั รภำพกฬี ำแต่ละชนิดอกี คร้งั แล้วถำมนักเรียน เช่น Teacher: (ชบู ตั รภำพ sailing) Is it boring? Students: Yes, it is./No, it isn’t. Teacher: (ชบู ตั รภำพ climbing) Is it exciting? Students: Yes, it is./No, it isn’t. เม่ือทำกิจกรรมครบทุกภำพแล้ว ครถู ำมนักเรยี นวำ่ คำศพั ท์เหลำ่ น้ีเปน็ คำชนดิ ใด จนได้คำตอบวำ่ คำนำม
Background Information sailing (n.) = กีฬาเรือใบ cycling (n.) = กีฬาปั่นจกั รยาน skiing (n.) = น่ากลวั climbing (n.) = กีฬาสกี frightening (adj.) = อนั ตราย surfing (n.) = น่าตื่นเตน้ กีฬาปี นเขา dangerous (adj.) = กีฬาโตค้ ลื่น exciting (adj.) = ข้นั ฝกึ (Practice) ครูให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 19 ข้อ 1 Listen, point and repeat. โดยครูเปิด CD/Track 15 ให้นักเรียนฟังและชี้ภำพตำมไปด้วย จำกนั้นครูเขียนคำศัพท์ในกรอบ Word box บนกระดำน และ เปิด CD อกี คร้ัง เพือ่ ให้นักเรยี นระบวุ ำ่ คำเหล่ำนอ้ี อกเสียงเนน้ หนักในคำที่พยำงค์ใด sailing skiing climbing surfing cycling frightening dangerous exciting เมือ่ ไดค้ ำตอบว่ำเน้นหนกั ทพ่ี ยำงค์แรกทกุ คำ ยกเว้นคำว่ำ exciting ท่เี น้นหนกั ทีพ่ ยำงค์ท่สี องแลว้ ครูขดี เสน้ ใต้พยำงคท์ เี่ นน้ เสยี งหนกั ในคำศพั ท์บนกระดำน และให้นักเรยี นฝกึ อำ่ นออกเสียงเนน้ หนักใน คำใหถ้ ูกต้อง surfing cycling sailing skiing climbing frightening dangerous exciting ครอู ธบิ ำยเพิ่มเติมวำ่ คำศัพท์คำวำ่ climbing คำนต้ี วั อกั ษร b ท้ำยคำ จะไม่ออกเสยี ง ดังน้นั เวลำเตมิ -ing จะอ่ำนวำ่ คลำม-มง่ิ Background Information Silent letter (พยญั ชนะทไี่ ม่ออกเสียง) คาในภาษาองั กฤษคาที่ลงทา้ ยดว้ ย -mb มีหลายคาท่ีไมอ่ อกเสียง /b/ ทา้ ยคา กลายเป็นเสียง /m/ ลงทา้ ย เช่น คากริยา climb ตวั อกั ษร b ทา้ ยคาจะไม่ออกเสียง นอกจากคาวา่ climb แลว้ ยงั มคี าอื่นๆ เช่น bomb (n.) ลูกระเบิด, comb (n.) หว,ี tomb (n.) หลุมฝังศพ, lamb (n.) ลูกแกะ, thumb (n.) นิ้วหวั แม่มือ, dumb (adj.) ใบ้ , พูดไมไ่ ด้ จำกน้ันครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั คิดว่ำมคี ำในภำษำไทยทีม่ ีพยัญชนะทไี่ มอ่ อกเสยี งเช่นเดยี วกับใน ภำษำองั กฤษหรือไม่ เช่นคำว่ำอะไรบ้ำง
Background Information ในภาษาไทยกม็ ีตวั อกั ษรท่ีไม่อา่ นออกเสียง ตวั อยา่ งเช่น - ตวั อกั ษร ห หรือ ร ที่นาหนา้ พยญั ชนะที่เป็นตวั สะกดในบางคา จะไม่ ออกเสียง เช่น สามารถ, พรหม เป็นตน้ - พยญั ชนะท่ีตามหลงั พยญั ชนะท่ีเป็นตวั สะกดในบางคา จะไมอ่ อกเสียง เช่น จกั ร, เพชร, สมคั ร, บตั ร, สูตร, บุตร, มิตร, พุทธ, ยทุ ธ ท่ีมา: http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=54013 ข้ันนาไปใช้ (Production) 1. ครูเขียนคำคุณศัพท์ต่อไปน้ี frightening, exciting, dangerous, boring, fun บนกระดำนอีกคร้ัง และบอกนักเรียนว่ำ เวลำที่เรำพูดแสดงควำมคิดเห็น เรำจะใช้ I think … . ข้ึนต้นประโยค จำกน้ันครูเขียน ตัวอยำ่ งใหน้ กั เรยี นดบู นกระดำน เชน่ I think a ghost story is frightening. 2. ครู Flash Card sport จำก https://www.youtube.com/watch?v=tZdNh5p0WBw (คำศัพท์ เก่ยี วกับกฬี ำอกี ครงั้ และสุม่ เรยี กใหน้ กั เรียนพูดแสดงควำมคิดเหน็ เชน่ I think climbing is dangerous. ต่อมำครถู ำมนกั เรยี นว่ำ What are popular sports in England? ครูให้นกั เรียนตอบโดยใช้โครงสรำ้ ง I think … . ขั้นสรุป (Wrap up) เม่ือรวบรวมคำตอบจำกนักเรียนหลำยๆ คนแล้ว ครูบอกข้อมูลให้นักเรียนฟังว่ำ กีฬำอะไรท่ีเป็น ท่ี นยิ มในประเทศอังกฤษ และอำจนำภำพมำแสดงให้นกั เรยี นดูดว้ ย Culture กีฬาท่ีเป็นที่นิยมในประเทศองั กฤษ เช่น football, hockey, cricket, rugby โดย football ถือเป็นหน่ึงในกีฬาท่ีไดร้ ับความนิยมสูงสุด กีฬาฟุตบอล ถือกาเนิดข้ึนในประเทศองั กฤษ เป็นกีฬาประจาชาติและกีฬาที่ ไดร้ ับความนิยมเป็นอยา่ งมาก มีระบบการแข่งขนั ฟุตบอลในระดบั สูงสุดของ ประเทศคือ พรีเมียร์ลีก (Premier League) และมีทีมฟุตบอลที่มีช่ือเสียง เช่น Manchester United, Liverpool, Arsenal, Chelsea จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ What are popular sports in Thailand? ครูอาจใหน้ กั เรียน บอกชื่อกีฬาบางคาเป็นภาษาไทยได้ ถา้ นกั เรียนไม่รู้คาศพั ท์ เช่น Thai boxing, football, Sepak Takraw, golf เป็นตน้
ชว่ั โมงที่ 2 What is your favourite sport? กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนา (Warm up) 1. ครูให้เล่นเกม Body Language โดยครูทำสลำกกีฬำ 8 ใบ แล้วสุ่มเรียกนักเรียน 8 คน ออกมำหยิบ สลำกคนละ 1 ใบ เพ่ือแสดงทำ่ ทำงให้เพือ่ นทำยวำ่ เป็นกีฬำชนิดใด คนท่ตี อบถูกมำกที่สดุ จะเป็นผู้ชนะ 2. ครใู หเ้ ลน่ เกม The letters โดยครเู ตรยี มบตั รอักษร ดังน้ี C = 3 ใบ L = 3 ใบ I = 8 ใบ B = 1 ใบ F = 1 ใบ M = 1 ใบ A = 1 ใบ R = 1 ใบ N = 5 ใบ Y = 1 ใบ U = 1 ใบ K = 1 ใบ G = 5 ใบ S = 3 ใบ แลว้ แบง่ นกั เรียนออกเปน็ 4 กลมุ่ ครูแจกบัตรตัวอกั ษรตำมจำนวนดงั กลำ่ วใหก้ ลุ่มละ 1 ชดุ ให้สมำชกิ แต่ละกลมุ่ ช่วยกนั ต่อเปน็ คำศัพทเ์ กยี่ วกบั กีฬำทงั้ 5 ชนิด (climbing, skiing, sailing, surfing, cycling) ให้ ถูกต้อง กลุม่ ใดตอ่ ได้เรว็ และถูกตอ้ งท่ีสุดจะเป็นผ้ชู นะ ใหก้ ลุ่มทช่ี นะนำตวั อักษรมำตดิ บนกระดำน นักเรียนทุก คนสะกดและออกเสียงคำศัพทด์ งั กล่ำวพร้อมกัน ขน้ั นาเสนอ (Presentation) 1. นกั เรยี นดภู ำพในหนังสอื เรียน หน้า 19 ข้อ 2 Listen and match the names with the pictures and the words. แลว้ บอกครวู ่ำคือภำพอะไร ตอ่ มำครูให้นกั เรียนฟงั CD/Track 16 แล้วจับคูช่ ่ือ บุคคลกบั ภำพและคำคุณศัพท์ทใ่ี หม้ ำให้สัมพนั ธ์กันตำมประโยคท่ีได้ฟงั ครูเปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร้ัง จำกนั้น ครเู ฉลยคำตอบ โดยกำรถำมวำ่ ใครชอบหรือไมช่ อบกีฬำชนดิ ใด และทำไมถึงชอบหรือไม่ชอบกีฬำชนิดน้นั Teacher: Who likes + ชนิดกีฬา? doesn’t like Students: ช่ือ .. Teacher: Why/Why not? Students: He thinks it’s ______. She 1. Tom doesn’t like climbing. He thinks it is frightening. 2. Tony likes skiing. He thinks it is fun. 3. Betty likes sailing. She thinks it is exciting. 4. Jane doesn’t like surfing. She thinks it is dangerous. 5. Dave doesn’t like cycling. He thinks it is boring.
แล้วครูให้นักเรียนเติมประโยคทั้ง 5 ข้อ ใน Now complete the sentences. ให้สมบูรณ์ โดยใช้ ข้อมูลจำกกิจกรรมโยงเส้นด้ำนบน เม่ือทำเสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 5 คน ให้อ่ำนคนละ 1 ประโยค แล้ว ออกมำเขียนประโยคบนกระดำน ครูให้นักเรียนตรวจงำนของตนและแก้ไข จำกนั้นอ่ำนประโยคบนกระดำน พรอ้ ม ๆ กัน 1. Tom thinks climbing is frightening. 2. Tony thinks skiing is fun. 3. Betty thinks sailing is exciting. 4. Jane thinks surfing is dangerous. 5. Dave thinks cycling is boring. ข้นั ฝกึ (Practice) 1. ครูเขียนประโยคคำถำมและคำตอบในกรอบ Remember! ในหนังสือเรียน หน้ำ 20 บนกระดำน และให้นักเรียนอ่ำนพร้อม ๆ กัน จำกนั้นครูอธิบำยว่ำ the most + คำคุณศัพท์ ใช้ในกำรเปรียบเทียบเพ่ือบอก ถึงสิ่งที่เป็นที่สุด เช่น the most beautiful (สวยที่สุด), the most boring (น่ำเบ่ือที่สุด), the most dangerous (อนั ตรำยทสี่ ุด) ครถู ำมนกั เรียนว่ำ Which sport is the most exciting? ถำมถึงกีฬำที่มลี ักษณะเช่นใด (น่ำตนื่ เต้นมำก ท่ีสุด) เมอื่ ได้คำตอบแล้ว ครูให้นักเรียนพูดตอบคำถำมดงั กลำ่ วตำมโครงสร้ำงประโยคคำตอบบนกระดำน I think (กีฬำ) is the most exciting. 2. นักเรียนดภู ำพในหนังสอื เรยี น หน้า 20 ข้อ 3 Listen and tick (). แล้วครูถำมนักเรยี นว่ำ ใน ภำพมกี ีฬำชนดิ ใดบำ้ ง Teacher: What sports can you see in the pictures? Students: Sailing, skiing, climbing, surfing, ping-pong and tennis. ตอ่ มำครูเปิด CD/Track 17 ให้นักเรียนฟังบทสนทนำทีแ่ สดงควำมคดิ เห็นเกี่ยวกบั กฬี ำทน่ี ักเรียนเห็นใน ภำพ แล้วขีด ลงในช่องให้ตรงกับควำมคิดเห็นและภำพกีฬำ โดยครเู ปิด CD ให้นักเรียนฟัง 2 คร้ัง เสร็จแล้ว เฉลยคำตอบรว่ มกนั Sue: You like different sports. Which sport is the most exciting? Henry: Well, sailing is exciting, and skiing and surfing. I think skiing is the most exciting. Do you? Sue: Yes. Which is the most dangerous, then? Henry: Doing skateboarding is dangerous, but I think climbing is the most dangerous. How about you?
Sue: Me too! I think climbing is the most dangerous. Well, Henry: which is the most boring? That’s easy. Ping-pong is the most boring. Sailing Skiing Climbing Skating Ping-pong Tennis the most exciting the most dangerous the most boring ขนั้ นาไปใช้ (Production) 1. ครูให้นักเรียนทำงำนกลุ่ม กลุ่มละ 7-8 คน ครูแจกกระดำษซ่ึงเป็นตำรำงสำรวจให้กลุ่มละ 1 แผ่น จำกนั้นให้สมำชิกในกลุ่มผลัดกันพูดถำมและแสดงควำมคิดเห็นเก่ียวกับกีฬำชนิดต่ำง ๆ ตำมหัวข้อ ท่ีกำหนด แลว้ ขดี ลงในตำรำง โดยใหน้ ักเรยี นใช้โครงสรำ้ งในกำรถำมและตอบ ดงั นี้ Which sport is the most ……? I think .......... is the most ..…. . ตวั อย่าง sailing skiing basketball climbing the most exciting the most dangerous llll llll the most boring llll l ครูเดินสังเกตขณะนักเรียนทำกิจกรรม และตรวจสอบว่ำนักเรียนพูดประโยคไดถ้ ูกต้องหรือไม่ จำกน้นั ครู สุ่มเรียกตัวแทนกลุม่ ออกมำพูดรำยงำนคำตอบ เช่น In my group, six students think that sailing is the most boring. Five students think that skiing is the most exciting. Six students think that climbing is the most dangerous. 2. นักเรียนเปดิ แบบฝึกหดั หนา้ 14 ขอ้ 1 Listen and point. ครูถำมนักเรียนวำ่ ในแตล่ ะภำพใคร กำลงั ทำอะไรบำ้ ง ใหน้ ักเรียนช่วยกันตอบ เช่น Teacher: In picture a, what are three boys doing? Students: They are playing football. จำกน้ันครูเปดิ CD/Track 23 ให้นักเรยี นฟงั และช้ีภำพให้สมั พนั ธก์ บั ประโยคท่ีได้ยนิ โดยครูเปิด CD ให้ นักเรยี นฟัง 2 คร้งั แล้วครเู ฉลยคำตอบ
1. A man is painting a picture. 2. A man is taking photos on the mountains. 3. Two boys are skateboarding. 4. A girl is riding a bike. 5. There are two boys in the sea. 1. - a 2. - b 3. - c 4. - c 5. - d ข้นั สรุป (Wrap up) ให้นักเรียนเติมคำลงในประโยคใน แบบฝึกหัด หน้า 14 ข้อ 2 Look at the pictures. Then complete the sentences.ให้สมบูรณ์ โดยดูภำพจำกข้อ 1 เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ และให้นักเรียนอ่ำน ประโยคท่ีสมบรู ณ์พร้อมๆ กนั หรอื ครูอำจมอบหมำยใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั นเี้ ปน็ กำรบำ้ น 1. riding 2. skateboarding 3. beach 4. skiing 5. street 2. ครเู ขียนคำศัพทบ์ นกระดำน ดังนี้ surfing sailing cycling skiing skateboard tennis climbing แล้วให้นกั เรยี นจับคู่กับเพื่อน ช่วยกันหำคำศพั ทด์ ังกล่ำวในตำรำงปรศิ นำอักษรไขว้ ใน แบบฝึกหัด หน้า 15 ข้อ 1 Find seven sports words. นักเรียนที่หำคำศัพท์ได้ครบทั้งหมดเป็นคู่แรกจะเป็นผู้ชนะ หรือครู อำจมอบหมำยให้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั น้เี ปน็ กำรบำ้ น
BLOESURF I NG QNBOK T GD ZM I L SA I L I NGOOC MKOQ F Z S I E EY S KA T E BOARDC UTENN I SCDYL G I AENRUO I L I LNP SK I I NGUN DGXCL IMB I NG ให้นักเรียนดูภำพใน แบบฝึกหัด หน้า 15 ข้อ 2 Write the names of the sports. และเขียน คำศัพท์เก่ียวกับกีฬำให้สัมพันธ์กับภำพ แล้วครูเฉลยคำตอบบนกระดำน หรือครูอำจมอบหมำยให้นักเรียนทำ แบบฝกึ หดั น้ีเปน็ กำรบำ้ น 1. climbing 2. skateboarding 3. skiing 4. sailing 5. surfing 6. swimming 7. cycling 8. running 3. ให้นักเรียนดูคำใบ้ที่ให้มำ แล้วเตมิ ตัวอักษรท่ีหำยไปในตำรำง crossword ใน แบบฝึกหัด หน้า 16 ข้อ 3 Complete the crossword. จำกนั้นครเู ฉลยคำตอบ หรอื ครูอำจจะให้นักเรยี นทำเป็นกำรบ้ำน Across 2. frightening 3. fun Down 1. dangerous 4. exciting 5. boring
ช่วั โมงที่ 3 What is your favorite sport? กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นา (Warm up) . นกั เรียนทบทวนคำศัพทท์ ี่ไดเ้ รียนมำในช่ัวโมงกอ่ นดว้ ยบัตรภำพและบตั รคำ 2. ครูให้นกั เรียนทดสอบควำมรูเ้ ดิมเกย่ี วกับ Superlative Adjectives ด้วยแบบฝึกหดั ต่อไปนี้ Complete the table. Adjectives Superlative Adjectives 1. fat 2. easy 3. thin 4. hot 5. friendly 6. wonderful 7. interesting 8. small 9. good 10. bad เสร็จแล้วครเู ฉลยคำตอบบนกระดำน ใหน้ ักเรยี นตรวจงำนของตน 3. ครูบอกจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ว่ำ ในช่ัวโมงนนี้ ักเรยี นได้เรยี นรู้เก่ยี วกับกำรเปรียบเทยี บคำคุณศัพท์ข้ัน สงู สุด ได้ฝึกพดู แสดงควำมคดิ เห็นเกย่ี วกบั สิ่งท่ีเปน็ ทีส่ ดุ ฝึกอำ่ นและเขยี นเกย่ี วกบั กีฬำทชี่ อบ ขั้นนาเสนอ (Presentation) ครูให้นักเรียนอ่ำนตัวอย่ำงบทสนทนำถำม-ตอบ ใน หนังสือเรียน หน้า 20 ข้อ 4 Ask and answer. แล้วจับคู่กับเพื่อนฝึกพูดถำม-ตอบโดยใช้รูปประโยคคำถำมและคำตอบตำมหนังสือเรียน ครูให้นักเรียนใช้ นำ้ เสยี ง และแสดงสหี นำ้ ทำ่ ทำงใหส้ มจริง ขณะท่นี กั เรียนทำกิจกรรมครูเดินสงั เกตรอบ ๆ ชนั้ เรยี น เช่น Mary: Which sport is the most exciting? Daniel: I think climbing is the most exciting. How about you? Mary: I think skiing is the most exciting. Background Information How about...? What about...? ใชใ้ นการถามความคิดเห็นของบุคคลอ่ืนในส่ิงที่ คุณเพ่งิ ไดพ้ ูดไป ตวั อยา่ งเช่น I like skiing and swimming. How about you? I like skiing and swimming. What about you?
ขั้นฝึก (Practice) ครูวำดภำพบนกระดำน หรือบำงภำพอำจใชภ้ ำพจริงจำกนิตยสำรต่ำง ๆ มำติดบนกระดำน ครัง้ ละ 3 ภำพ แลว้ ถำมคำถำมนักเรียนทลี ะข้อ ดังนี้ - ครูตดิ ภำพสตั ว์ 3 ชนิด ไดแ้ ก่ มด, ชำ้ ง, ลิงชมิ แปนซี Which is the smallest animal? Which is the most intelligent animal? - ภำพกระโปรง 3 ตวั พร้อมรำคำ Which is the cheapest skirt? Which is the most expensive skirt? - ครตู ดิ ภำพนกั ร้อง 3 คน เชน่ เบิร์ด ธงไชย, บี้ สกุ ฤษ, นันทิดำ แกว้ บวั สำย Who is the youngest singer? Who is the most popular singer? เสร็จแลว้ ครูถำมนกั เรียนวำ่ กำรเปลยี่ นคำคณุ ศพั ท์ให้อยูใ่ นรูปขัน้ สูงสุดมวี ธิ กี ำรหลักๆ กีว่ ิธี ครอู ำจช่วย นกั เรยี นด้วยกำรเขยี นคำคุณศัพท์ในรปู ข้ันสงู สุดบนกระดำน ดังนี้ the smallest animal the most intelligent animal the cheapest skirt the most expensive skirt the youngest singer the most popular singer เมอ่ื ไดค้ ำตอบว่ำ 2 วธิ ี คอื 1) เติม -est หลงั คำคณุ ศัพทท์ ่ีมี 1-2 พยำงค์ 2) เติม most หนำ้ คำคุณศัพท์ท่ีมี 2-3 พยำงค์ ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันทบทวนหลกั กำรเปลี่ยนคำคุณศัพท์ให้เปน็ ขนั้ สูงสูด โดยครยู กตวั อย่ำงคำคุณศัพท์ บนกระดำน และใหน้ ักเรยี นช่วยกันบอกวธิ กี ำร เช่น long the longest busy the busiest brave the bravest thin the thinnest beautiful the most beautiful modern the most modern good the best ครูยำ้ กบั นกั เรียนวำ่ คำคุณศัพท์ขัน้ สงู สุดต้องมี the นำหนำ้ เสมอ
Background Information หลกั การเปลย่ี น adjectives เป็ นข้ันสูงสูด มี 2 วธิ ี คือ 1) เติม -est หลงั adjectives ท่ีมี 1-2 พยางค์ adjectives ท่ีออกเสียงไม่เกิน 2 พยางค์ ใหเ้ ติม -est หลงั adjectives เช่น cheap - the cheapest long - the longest adjectives ท่ีลงทา้ ยดว้ ย y ใหเ้ ปลี่ยน y เป็น i แลว้ จึงเติม -est เช่น busy - the busiest adjectives ที่ลงทา้ ยดว้ ย e ใหเ้ ติม -st ไดเ้ ลย เช่น brave - the bravest adjectives ท่ีลงทา้ ยดว้ ยสระเสียงส้นั และตวั สะกดตวั เดียว ใหเ้ พิม่ ตวั สะกด อีก 1 ตวั ก่อน แลว้ จึงเติม -est เช่น thin - the thinnest 2) เติม most หนา้ adjectives ท่ีมีมากกวา่ 2 พยางค์ หรือมี 2 พยางค์ เช่น dangerous - the most dangerous modern - the most modern exciting - the most exciting pleasant - the most pleasant หมายเหตุ adjectives บางคาเปล่ียนรูปไปเลย ไดแ้ ก่ good - the best bad - the worst far - the farthest/furthest ขั้นนาไปใช้ (Production) 1. ครูให้นักเรียนแต่งประโยคที่แสดงกำรเปรียบเทียบขั้นสูงสุด (Superlative Degree) ของ adjectives คนละ 2 ประโยค โดยเขียนลงในกระดำษ แล้วนำมำใหค้ รูตรวจดกู ่อนเลน่ เกม เชน่ Araya is the tallest girl in class. P.E. is the best subject. Bird Thongchai is the most famous singer in Thailand. จำกน้ันให้นกั เรียนเลน่ เกมรบั ลกู บอลโดยมวี ธิ กี ำรเลน่ ดงั น้ี 1) นกั เรยี นยืนเปน็ วงกลม หนั หน้ำเขำ้ ในวง 2) นกั เรียนคนหน่ึงถอื ลูกบอล ยนื อยู่กลำงวง 3) คนยนื อยกู่ ลำงวงจะพดู เรยี กนักเรยี นคนอนื่ ๆ ในวง 1 ช่อื กอ่ นจะโยนลูกบอล 4) คนที่ถกู เรยี กชือ่ ตอ้ งรบี รบั ลกู บอล กอ่ นทีล่ ูกบอลจะตกถึงพ้นื
- ถ้ำรับลูกบอลได้ ใหพ้ ดู ประโยค Superlative Degree 1 ประโยค - ถ้ำรบั ลกู บอลไม่ได้ ใหพ้ ูด 2 ประโยค แล้วยืนอย่กู ลำงวงแทนคนเดิม 5) คนท่อี ยู่กลำงวงคนเดิม ให้เดินออกจำกวงไปพักผ่อน 2. ครถู ำมนักเรียนเกย่ี วกบั กีฬำทช่ี อบ Teacher: What sports do you like? Student 1: I like ping-pong and swimming. Student 2: I like tennis and badminton. Teacher: Very good! ครใู หน้ กั เรียนดูภำพประกอบใน หนังสือเรยี น หน้า 21 ข้อ 5 Read the text about Ken’s favourite sport. Then answer the questions. แล้วตอบคำถำมของครู Teacher: What is he doing? Students: He is playing tennis. ครใู ห้นกั เรยี นอ่ำนข้อควำมและตอบคำถำมที่กำหนดให้ เสร็จแลว้ ครูอ่ำนคำถำม และสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ใหต้ อบคำถำมคนละ 1 ข้อ 1. Ken’s favourite sport is tennis. 2. Because it is exciting and he doesn’t need expensive equipment. 3. He needs a racket, a tennis ball and trainers. 4. He plays at a tennis court near his house. 5. He plays with his dad and his sister. ข้นั สรปุ (Wrap up) ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมใน หนังสือเรียน หน้า 21 ข้อ 6 Write about your favourite sport. Use the reading as a model. โดยครูแจกกระดำษ A4 ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น เพื่อเขียนข้อควำม เก่ียวกับกีฬำที่ตนเองช่ืนชอบ พร้อมวำดภำพประกอบและตกแต่งให้สวยงำม นักเรียนสำมำรถดูตัวอย่ำงกำร เขยี นไดใ้ นขอ้ 5 ครเู นน้ ใหน้ ักเรียนใชค้ วำมคิดสร้ำงสรรค์ในกำรทำงำน ตัวอย่าง My favourite sport is swimming. I like it because it is safe and I do not need to buy expensive equipment. I only buy a swimming suit, goggles and a swimming cap. I always go swimming during weekends at a swimming pool in Y.M.C.A. near my apartment. I often go with friends. We have fun. Swimming is my life.
จำกนน้ั ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 คน ให้ออกมำอ่ำนข้อควำมของตนเองหน้ำช้นั เรยี น เมื่ออ่ำนจบครถู ำม คำถำมนักเรียนคนอน่ื ๆ โดยใช้คำถำมดงั นี้ 1. What is his/her favourite sport? 2. Why does he/she like it? 3. What equipment does he/she need? 4. Where does he/she play? 5. Who does he/she play with? 8. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑก์ ารผา่ น สังเกตกำรพดู ถำม-ตอบ แบบสงั เกตกำรพดู ถำม-ตอบ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดขี ้นึ ไป ตรวจใบกิจกรรม ใบกจิ กรรม ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินรอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ประเมนิ กำรทำแผนผังควำมคิด แผนผังควำมคดิ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดขี นึ้ ไป 9. สอื่ / แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน Smile ป. 6 2. แบบฝกึ หดั Smile ป. 6 3. Audio Smile ป. 6 4. พจนำนกุ รม
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 Play safe เรื่อง If clause 1.สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันตัวในกำรเล่นกีฬำ อุปกรณ์กีฬำ อำกำรบำดเจ็บ ทำให้ผู้เรียน สำมำรถพูดและเขียนเก่ียวกับกฬี ำท่ีเล่น และให้คำแนะนำในกำรเล่นกีฬำ ซึง่ เป็นพ้ืนฐำนกำรใชภ้ ำษำอังกฤษเพ่ือ กำรสือ่ สำรในชวี ติ ประจำวนั ได้ 2. ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และความ คดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ชว้ี ดั 2. ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ ตัวชี้วัด 4. พูดและเขยี นเพื่อขอและใหข้ ้อมูลเก่ยี วกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตวั ตวั ช้วี ดั 5 พดู /เขียนแสดงควำมรสู้ กึ ของตนเองเก่ยี วกับเรอ่ื งต่ำงๆ ใกล้ตวั กจิ กรรมต่ำงๆ พรอ้ ม ทง้ั ใหเ้ หตุผลส้ันๆ ประกอบ 3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.พูด/เขยี น ใชค้ ำส่ัง คำขอร้อง แสดงควำมคิดเหน็ ให้ข้อมูล ให้คำแนะนำ แสดงควำมร้สู ึกเกย่ี วกับ ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ ัว พรอ้ มท้งั ให้เหตผุ ลส้ันๆ ประกอบได้ 4. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. Pronunciation: /θ/, /t/ 2. ประโยค บทสนทนำ และเนือ้ เรอ่ื งสน้ั ๆ ท่มี ีภำพประกอบ 3. ประโยคแสดงควำมคดิ เห็นเกี่ยวกับกฬี ำ เช่น A: Which sport is the most (คำคณุ ศพั ท)์ ? B: I think (ชอ่ื กีฬำ) is the most (คำคุณศพั ท์) 4.ประโยคทใี่ ชส้ ัง่ บอกใหท้ ำ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับกำรเลน่ กีฬำ เช่น If you go skateboarding, wear a helmet. If you rest your leg, you can go cycling in a week. You should wear a helmet. ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟงั กำรพูด กำรอำ่ น กำรเขียน
เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรบั ผิดชอบ ขยัน ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รยี น 2. มีควำมเช่อื มน่ั ในตนเอง กล้ำแสดงออก 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ชีวติ 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซ่อื สตั ย์สจุ รติ 2. มวี นิ ัย 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน 5. มจี ติ สำธำรณะ 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1 If clause. ข้ันนา (Warm up) 1. ครูเขียนคำวำ่ thank กับ tank บนกระดำน และออกเสียงให้นกั เรยี นฟัง จำกนั้นครูอธบิ ำยวำ่ กำร ออกเสียงท้ัง 2 คำนไ้ี ม่เหมือนกัน โดยเสยี ง /θ/ ในตำแหนง่ เสียงพยญั ชนะตน้ ของคำวำ่ thank เป็นเสียงที่ไม่มี ในภำษำไทย กำรออกเสยี งให้นักเรียนวำงปลำยล้ินไวห้ ลวมๆ ไวท้ ีฟ่ นั บนและฟนั ลำ่ ง แล้วใหล้ มเสียดแทรก ออกมำ เส้นเสยี งจะไม่สั่นสะเทือน จำกนั้นครูใหน้ ักเรียนฝึกออกเสยี งคำว่ำ thank, thin, thick หลำยๆ ครั้ง 2. ต่อมำครูอธิบำยว่ำเสียง /t/ ในตำแหน่งเสียงพยัญชนะต้นของคำว่ำ tank จะออกเสียงเหมือน “ท” ในภำษำไทย โดยให้ปลำยลิ้นแตะท่ีปุ่มเหงือก กักลมไว้ ลมดันออกไปเป็นเสียงระเบิด เส้นเสียงจะไม่สั่นสะเทือน แล้วให้นกั เรียนฝกึ ออกเสยี งคำว่ำ tank, tin, tick 3. ครเู ขียนคำศพั ทต์ อ่ ไปนบ้ี นกระดำน thank tank thin tin thick tick thigh tie thought taught และให้นักเรียนฝึกออกเสียงคำเหล่ำน้ีทีละคู่ เพื่อให้นักเรียนสังเกตควำมแตกต่ำงของเสียง /θ/ และ /t/ ไดช้ ดั เจนมำกยง่ิ ขึน้ 4. ต่อมำครูให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 21 หัวข้อ English sounds โดยครูเปิด CD/Track 18 ใหน้ กั เรยี นฟงั 2 ครงั้ และฝึกออกเสยี งตำม
thank tank thin tin thick tick ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปนี้บนกระดำน แลว้ ใหน้ ักเรียนฝึกพดู ใหค้ ลอ่ ง จำกน้ันครูส่มุ เรยี กนักเรยี นแถวหลัง 4-5 คน ใหพ้ ูดคนละ 1 ประโยค 1. Thank you for a thick tin. 2. Tom took a thin tank. กิจกรรมเพม่ิ เติม ครูใหน้ กั เรียนหำคำศัพทเ์ ก่ยี วกบั กีฬำเพ่ิมเติม โดยครูอำจจะแนะนำเว็บไซต์ให้นักเรยี น เชน่ http://www.ranker.com/list/best-kids-sports/dad-of-the-year ขนั้ นาเสนอ (Presentation) ให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ช่วยกันคิดชื่อกีฬำกลำงแจ้งและกีฬำในร่มนอกเหนือจำกท่ีได้ เรียนมำใน Lesson 1 โดยหำจำกพจนำนุกรมหรืออินเทอร์เน็ตมำก่อนเป็นกำรบ้ำน จำกนั้นครูรวบรวมคำตอบ จำกแต่ละกลุ่ม โดยตดั ชื่อกีฬำที่ซ้ำกันออกไป และเขียนคำศัพท์ที่นักเรียนบอกบนกระดำนภำยใต้หัวขอ้ ท่ีถูกต้อง เสรจ็ แล้วให้นักเรียนลอกคำศัพทเ์ หลำ่ นี้ลงในสมดุ Outdoor Sport Indoor Sport running - วิง่ แขง่ wrestling - มวยปล้ำ jumping - กระโดดสงู fencing - ฟนั ดำบ roller skating - โรเลอร์สเกต sumo wrestling - ซโู ม่ shooting - ยงิ ปืน weight lifting - ยกนำ้ หนกั riding - ขี่ม้ำ bowling - โบวล์ งิ่ diving - ดำน้ำ boxing - ชกมวย water skiing - สกนี ้ำ ice skating - สเกตน้ำแข็ง windsurfing - วนิ ดเ์ ซิรฟ์ judo - ยโู ด scuba diving - ดำน้ำลกึ karate - คำรำเต้ จำกนน้ั ให้นักเรียนจับคกู่ บั เพ่ือน ช่วยกนั เลือกกฬี ำบนกระดำนมำ 3 ชนิด แลว้ ผลัดกนั พดู แสดงควำม คิดเห็นเกยี่ วกับกีฬำชนิดนนั้ ครูเดนิ สังเกตรอบ ๆ ช้นั เรยี นขณะทน่ี กั เรยี นทำกจิ กรรม เพื่อคอยตรวจสอบกำร ออกเสียงประโยคของนักเรียน เช่น Linda: Which sport is the most exciting? Daniel: I think scuba diving is the most exciting. How about you? Mary: I think fencing is the most exciting.
ข้ันฝกึ (Practice) นักเรียนตอบคำถำมท่ีกำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 16 ข้อ 4 Answer the questions. ตำม ควำมคิดของตนเอง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 5 คน พูดตอบคำถำมคนละ 1 ข้อ หรือครูอำจให้นักเรียนทำ เปน็ กำรบ้ำน ตัวอย่าง 1. I think sailing is the most exciting. 2. I think skating is the most frightening. 3. I think running is the most boring. 4. I think climbing is the most dangerous. 5. I like swimming the best. ข้นั นาไปใช้ (Production) 1. ใหน้ ักเรียนดภู ำพใน แบบฝกึ หดั หน้า 17 ขอ้ 5 Read and answer the questions. แล้วครู ถำมวำ่ ดจู ำกภำพประกอบบทอ่ำนทใ่ี ห้มำ นกั เรยี นคิดวำ่ คำวำ่ whitewater, lifejacket และ raft นำ่ จะหมำยถงึ อะไร whitewater (n.) (water in a river that flows quickly and has a lot of bubbles) กระแสน้ำที่ ไหลแรงและเช่ียวกรำกจนเป็นฟองสีขำว lifejacket (n.) (a jacket without sleeves, that is filled with air or light material and is designed to help you float if you fall into water) เสื้อชชู พี raft (n.) (a small rubber or plastic boat that can be filled with air) เรอื ยำงหรือพลำสติก จำกนัน้ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมทก่ี ำหนดให้ เสรจ็ แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบ และครเู ขียนคำตอบท่ีถกู ต้อง บนกระดำน หรือครูอำจให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั น้ีเป็นกำรบำ้ น 1. In summer. 2. A river. 3. Wear lifejackets. 4. Because it is exciting. 2. ครูถำมนกั เรียนวำ่ ใครชอบกีฬำชนิดใด โดยพดู ช่อื กฬี ำแต่ละชนดิ แล้วให้นกั เรียนยกมือขึน้ เช่น Teacher: Who likes cycling? Students: ยกมือบำงคน ครกู ำหนดช่ือกีฬำตำมจำนวนทีเ่ หมำะสม เพื่อถำมนักเรียน ได้แก่ skating skiing sailing climbing surfing swimming running boxing cycling judo karate ice skating 3. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมใน แบบฝึกหัด หน้า 17 ข้อ 6 Write about a sport. Use the text and questions above to help you. โดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตำมชนิดของกีฬำท่ีตนชอบ กลุ่มละ 3-4 คน แล้วครูแจกกระดำษให้กลุ่มละ 1 แผ่น ให้แต่ละกลุ่มเขียนบรรยำยเกี่ยวกับกีฬำท่ีชื่นชอบในหัวข้อ “Our
Search