บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ท่…ี …………………วันที่ 1 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เร่อื ง ส่งแผนการเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เรยี น ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) เนอื่ งดว้ ยข้าพเจา้ (นาย/นาง/นาวสาว) อรวรรณ พุดมอญ ไดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการ สอน และดำเนนิ การจดั ทำหน่วยการเรยี นร/ู้ แผนการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ตาม แบบฟอร์มท่ีทางกลุ่มงานพฒั นาหลักสูตรสถานศกึ ษากำหนด บัดนี้ ขา้ พเจ้าไดด้ ำเนนิ การจัดทำหน่วยการเรยี นรู้ / แผนการเรียนรู้เรยี บรอ้ ยแล้ว และขออนุญาต ส่งหน่วยการเรียนรู้ / แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ซึ่ง แนบมาพร้อมกบั เอกสารนี้ จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ ลงช่อื ( นางสาวอรวรรณ พุดมอญ ) ตำแหน่ง ครู ลงชื่อ …………………………………………….. (นางสาวอรวรรณ พดุ มอญ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ..................../......................../................... เรยี นเสนอผอู้ ำนวยการ ทราบ .................................................................... ...................................................................... ลงชอื่ ( นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรุง)
คำนำ การจดั การเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ตอ้ งพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีทักษะแหง่ อนาคต เป็นทักษะท่ีจาเปน็ ต้องใช้ ในการดาเนนิ ชวี ติ เพ่ือเตรยี มความผู้เรียนให้ใช้ชวี ติ ในโลกทเ่ี ปน็ จริง เน้นการศึกษาตลอดชีวติ ให้ผู้เรยี นรูจ้ ัก การแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง การนาทฤษฎีการเรียนรทู้ ี่ได้รบั ไปสู่การปฏบิ ัติ สงิ่ สาคัญคือผู้เรยี นจะต้องเกิด กระบวนการการเรียนรู้ ซงึ่ ถือเปน็ จดุ สาคญั การสอนภาษาเพ่ือการสื่อสาร (Communicative Language Teaching) เปน็ การสอนภาษา ทีเ่ นน้ หนา้ ท่ี ของภาษาและการส่ือความหมาย กลา่ วคือ ผูเ้ รยี นสามารถใชภ้ าษาทสี่ องในการสอื่ สารได้ ซึง่ อาจจะใชภ้ าษาได้ ไมถ่ ูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แตส่ ามารถสื่อความได้ และเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยการสอนภาษาชนดิ นม้ี ี เป้าหมายเพื่อใหผ้ เู้ รยี นสามารถนาทกั ษะทางภาษามาใช้เพื่อการสอ่ื สารได้ หวังเป็นอย่างย่ิงวา่ เอกสารฉบบั น้จี ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้ที่ต้องการศกึ ษารปู แบบการจัดการเรยี นรใู้ หม่ เพอื่ พฒั นาผู้เรียนต่อไป อรวรรณ พุดมอญ
แผนผังมโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ประโยค ขอ้ ความส้ัน ๆ ภาพสัญลกั ษณ์ 1) ทักษะการฟัง (Listening skill) 1. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ เครอื่ งหมาย 2) ทักษะการพูด (Speaking skill) 2. มีวินัย 2. ใจความสำคญั ของบทสนทนานทิ าน 3) ทกั ษะการอ่าน (Reading skill) 3. ใฝเ่ รยี นรู้ ง่าย ๆ และเรื่องเล่า 4) ทักษะการเขยี น (Writing skill) 4. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 3. สถานการณ์งา่ ย ๆ 5. มีจิตสาธารณะ 4. ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว กระบวนการกลุ่ม เรือ่ งใกล้ตวั 1) จับคู่สนทนา 5. ถอ้ ยคำ น้ำเสียง และกรยิ าท่าทาง 2 ) ระดมสมอง วฒั นธรรม 3) ฝกึ กิจกรรมกลุ่มตาม ของเจา้ ของภาษา มารยาทสังคม แผนการจัดการเรียนรู้ 6. เสยี งประโยคชนิดตา่ ง ๆเครอื่ งหมาย วรรคตอนโครงสร้างประโยค 7.คำศพั ท์ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ การเรยี นรอู้ ื่น เปา้ หมายการเรยี น Out and about หลักฐานการเรียนรู้ 1. การวาดแผนท่แี ละบอกเส้นทางจากบ้านของตนเองมาโรงเรียน 2. การขอและใหข้ ้อมูลเก่ียวกับเส้นทางจากโรงเรยี นไปยังสถานทตี่ า่ ง ๆ ในชมุ ชน 3. การทำชิ้นงาน My dream town 4. การทำชิ้นงาน My city/province poster 5. การรวบรวมคำศัพทใ์ นสมุดคำศัพท์ Your word book
แผนผังมโนทศั น์ข้ันตอนการทำกิจกรรมประกอบการจัดการเรียนรูแ้ บบ CLT ศกึ ษามาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แนวการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร Communicative Language Teaching : CLT Warm up Presentation Practice Production Wrap up ทดสอบหลงั เรียน (ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60)
โครงสรา้ งหน่วยการเรยี นรู้ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 หน่วยการเรยี นรู้ เวลา 14 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เรอ่ื ง Out and about แผนการจัดการเรียนรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน เวลาเรียน (ช่วั โมง) 1. Some children are at the Internet café. เขยี นบรรยายเก่ียวกบั บ้านเกิดของ ตนเอง /คำศัพทล์ งในสมุด 3 2. My dream town เขียนใบปลวิ โฆษณา 3. Directions พูดสนทนาโต้ตอบ 3 4. Let’s go out. Coding 3 5. Project Presentation นำเสนอ 3 6. สอบเกบ็ คะแนน แบบทดสอบ 1 1 รวมเวลาเรยี น 14
ผังมโนทศั น์ หน่วยการเรียน แผนท่ี 1 หนว่ ยก Some children are at the Internet café. Out an จำนวน 3 ชวั่ โมง จำนวน แผนท่ี 3 Directions จำนวน 3 ชว่ั โมง แผนที่ 6 การเรยี นร Project Presentation จำนวน 1 ชัว่ โมง การงานและเทคโนโลยี การใช้ชีวิตประจำวนั
นรู้ Out and about แผนท่ี 2 My dream town การเรียนรู้ จำนวน 3 ชัว่ โมง nd about แผนท่ี 4 Let’s go out. 14 ชว่ั โมง จำนวน 4 ชว่ั โมง รู้แบบบูรณาการ แผนที่ 6 สอบเกบ็ คะแนน จำนวน 1 ช่วั โมง ศิลปะ : ทัศนศลิ ป์ วาดภาพและระบายสี
แผนบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การมีภมู คิ มุ้ กันในตัวที่ดี 1. ออกแบบการจดั กิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นรสู้ ่งเสริมกระบวนการคดิ 1. ศกึ ษาแนวทางการจัดการเรยี นรู้ล่วงหน้า ตวั ชี้วัด 2. ใชเ้ ทคนคิ การจดั การเรียนรู้ที่หลากหลาย 2. จดั เตรยี มการวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลือกส่ือ แหล่งเรียนรเู้ หมาะสม สงั เกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วดั ผลประเมินผลตรงตามเนอ้ื หา เงื่อนไขความรู้ เงือ่ นไขคุณธรรม 1. รู้จักเทคนคิ การสอนท่สี ง่ เสริมกระบวนการคดิ และนักเรยี น 1. มีความขยัน เสยี สละ และมุ่งมน่ั ในการจัดหาสื่อมาพัฒนานกั เรยี น สามารถเรียนรูไ้ ด้อย่างมีความสุข ให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพื่อพัฒนานกั เรียนโดยใชเ้ ทคนิคการสอนท่ี หลากหลาย นกั เรยี น ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมีภูมคิ มุ้ กนั ในตัวทีด่ ี 1. การใช้เวลาในการทำกจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝึกกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 1. วางแผนการศกึ ษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ไดอ้ ย่างเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝึกกระบวนการสังเกต อธิบาย ทักษะการ 2. นำความรูเ้ รื่อง ลกั ษณะของการบอก 2. เลอื กสมาชกิ กลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั เน้อื หาท่ี สบื ค้นหาความรู้ ขอ้ มลู ตา่ งๆ ทิศทาง การเดินทาง ตา่ งๆ ไปประยุกตใ์ ชใ้ น เรียนและศกั ยภาพของตน ชวี ติ ประจำวนั ได้ เงื่อนไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. มีความรู้เร่อื ง ลกั ษณะของกฬี าตา่ งๆ ตลอดจนสามารถสร้างจดั ทำ 1. มคี วามรับผิดชอบ และปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงของกล่มุ ชนิ้ งาน ผลงานและใบงานไดต้ ามวัตถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มาธิช่วยเหลอื กนั ในการทำงานรว่ มกัน สง่ ผลตอ่ การพฒั นา 4 มิติให้ยั่งยืนยอมรบั ต่อการเปลีย่ นแปลงในยคุ โลกาภิวัฒน์ วัตถุ สงั คม ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม ความรู้ (K) มคี วามร้คู วามเข้าใจลกั ษณะการบอก มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจ มีความรู้และเขา้ ใจ มีความรู้และเข้าใจการ ทิศทาง การเดนิ ทาง ต่างๆ กระบวนการทำงาน เกีย่ วกับ ลักษณะ ชว่ ยเหลือ แบง่ ปัน กลมุ่ การบอกทศิ ทาง การ เดินทาง ต่างๆ ทกั ษะ (P) สามารถสรา้ งชน้ิ งาน ผลงาน ใบงาน ทำงานได้สำเรจ็ ตาม ใชแ้ หลง่ เรยี นรโู้ ดยไม่ ช่วยเหลือ แบ่งปันซึง่ แบบทดสอบเรอื่ งการการบอกทศิ ทาง การ เป้าหมาย ด้วย ทำลายสง่ิ แวดล้อม กนั และกนั เดินทาง ตา่ งๆ ไดต้ รงตามวัตถุประสงค์ กระบวนการกลุ่ม ค่านยิ ม (A) เหน็ ประโยชนข์ องเรียนรู้ เกยี่ วกับ การ เห็นคณุ คา่ และ เหน็ คุณคา่ ของการใช้ ปลูกฝังนิสยั การ บอกทศิ ทาง การเดินทาง ตา่ งๆ ภาคภูมใิ จในการ แหล่งเรยี นรู้โดยไม่ ชว่ ยเหลอื แบ่งปัน ทำงานร่วมกนั ได้ ทำลายสง่ิ แวดล้อม สำเรจ็
หนว่ ยการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ รายวชิ าภาษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เรื่อง Out and about เวลา 14 ช่ัวโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ีฟงั และอ่านจากสือ่ ประเภทต่างๆและแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตุผล ตวั ชี้วัด 1 ปฏิบัตติ ามคำสัง่ คำขอร้อง และ คำแนะนำท่ีฟงั และอา่ น ตวั ชว้ี ัด 2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทานและบทกลอนสน้ั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน ตวั ชี้วดั 3 เลอื ก/ระบุ ประโยคหรือข้อความส้ันๆ ตรงตามภาพ สญั ลักษณ์ หรือ เครอื่ งหมายทอี่ า่ น ตวั ช้ีวัด 4 บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา นิทาน งา่ ยๆ หรอื เรอื่ งเล่า มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความ คดิ เห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้วี ดั 1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ตวั ชี้วัด 2 ใช้คำสัง่ คำขอรอ้ ง และให้คำแนะนำ ตวั ชีว้ ดั 4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และ เร่ืองใกลต้ ัว มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูล ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอ่ื งต่างๆโดยการพดู และ การเขียน ตวั ช้ีวัด 1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั ตวั ช้วี ัด 3 พูด/เขยี นแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตวั มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ไดอ้ ย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ชว้ี ัด 1 ใชถ้ อ้ ยคำ นำ้ เสยี ง และกิรยิ าท่าทางอยา่ งสุภาพเหมาะสมตามมารยาท สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทยและนำมาใชอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม ตวั ชีว้ ดั 1 บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ
การใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอนและการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของ ภาษาอังกฤษ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรูก้ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื และเป็นพ้ืนฐาน ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน ตวั ชี้วัด 1 คน้ คว้า รวบรวมคำศัพท์ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรยี นรูอ้ ่นื จากแหล่ง เรียนร้แู ละนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชนและสังคม ตวั ชี้วดั 1 ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณต์ า่ งๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรยี นและสถานศึกษา มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครอื่ งมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ แลกเปลี่ยนเรยี นร้กู บั สังคมโลก ตวั ช้ีวัด 1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้น และรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆ 2. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับสถานการณ์ต่างๆ การพูดประโยคบอกทิศทางที่จะไปยังสถานที่ นั้นๆ รวมถึงการใช้ประโยคบอกความรสู้ ึกท่ีตอ้ งการไปและไม่ตอ้ งการไปยงั สถานที่ต่างๆ นั้น และการออก เสียงคำศัพทท์ ่ีมี p ประกอบ เปน็ การเรียนร้ภู าษาอังกฤษเพอื่ นำไปใช้ส่อื สารในชีวติ ประจำวัน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ (Knowledge) Vocabulary : Go Straight, Turn Left, Turn Right, Go Through, Cross the Street, Go Two Blocks, Go to the Corner, Swimming Pool, School, Train Station, Park, Peter’s House, Nam’s House Sentence Pattern / Grammar : Go Straight and turn left at the corner. Go two blocks and turn right. Function : 1. Asking and answering information about directions and location. 2. Describing, identifying and talking about directions and location. 3. Understand how to tell directions 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (Process) 1. ทักษะการส่อื สาร 2. ทกั ษะกระบวนการกลุม่
3. ทักษะกระบวนการคิด 3.3 เจตคติ (Attitude) 1. มีความมัน่ ใจในการใช้ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอื่ สาร 2. มีความกระตือรือรน้ ในการทำกจิ กรรม 3. มคี วามสนุกสนานในการเรียน 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 4. มุ่งมัน่ ในการเรยี น 5. มจี ติ สาธารณะ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. การเขยี นใบปลิวโฆษณา 2. การวาดแผนที่และบอกเส้นทางจากบา้ นของตนเองมาโรงเรียน 3. การขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั เสน้ ทางจากโรงเรยี นไปยงั สถานที่ตา่ ง ๆ ในชุมชน 4. การทำชิ้นงาน My dream town 5. การทำชนิ้ งาน My town/province poster 6. การรวบรวมคำศัพทใ์ นสมุดคำศัพท์ Your word book 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์การผา่ น สังเกตการพดู ถาม-ตอบ แบบสังเกตการพูดถาม-ตอบ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดขี นึ้ ไป ตรวจใบงาน ใบ ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ 60 ขึ้นไป ประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน มีผลการประเมินในระดบั ดีขึ้นไป
เกณฑ์การตดั สนิ /ระดับคุณภาพ หมายถงึ ดเี ยี่ยม คะแนน 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 7 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 5 - 6 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ คะแนน 1 - 4 คะแนน 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 Some children are at the Internet cafe. (ชัว่ โมงที่ 1-3) 1.ทดสอบก่อนเรยี น 2.ครูให้นักเรยี นระดมความคิดบอกคำศัพท์ที่เก่ียวข้องกับสถานที่ เชน่ cinema, train station, Internet café, restaurant, park, supermarket แล้วครูเขยี นชอื่ สถานท่เี หลา่ น้ีบนกระดาน จากนน้ั ครูให้ นกั เรียนบอกสถานท่ีที่ครเู ขียนบนกระดานซงึ่ มีอยู่แถวบ้านของนักเรียน และสถานทใ่ี ดท่ีนักเรียนชอบไปมาก ที่สุด กจิ กรรมที่ 2 My dream town (ชว่ั โมงที่ 4-6) 1.ครูเขียนประโยคในกรอบ Remember! ในหนังสือเรียน หน้า 62 บนกระดาน แล้วครูอธิบายสั้นๆ ว่า Let’s + v.1 และ Why don’t we/you + v.1 …? เป็นประโยคทใี่ ชใ้ นการพูดให้คำแนะนำ จากนัน้ ให้นกั เรียนจบั ค่กู ับเพ่ือน ช่วยกนั แต่งประโยคโดยใช้ Let’s และ Why don’t มาโครงสร้างละ 2 ประโยค เสร็จแล้วครูสุ่มเรยี กนักเรียนให้อา่ นประโยค 2.ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น ใหน้ กั เรียนเขียนใบปลิวโฆษณาศูนย์กีฬาแหง่ ใหม่ โดย ใช้คำท่ีกำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 47 ข้อ 7 Write a leaflet about a new sports centre. Use the words in the box. และเขียนข้ึนต้นด้วยประโยคท่ีให้มา นักเรียนสามารถดูตัวอย่างได้จากข้อ 6 ครูให้ นักเรียนตกแต่งใบปลิวให้สวยงาม แล้วส่งให้ครูตรวจความถูกต้อง ครูตรวจผลงาน และคัดเลือกผลงานของ นกั เรียน 5-6 คน ทเ่ี ขยี นประโยคไดถ้ กู ตอ้ งและตกแต่งไดส้ วยงามไปติดทบ่ี อรด์ ของชั้นเรียน 3. ครูถามนักเรียน 2-3 คน เก่ียวกับเส้นทางจากบ้านมาโรงเรียนหรือจากตึกที่เรียนภาษาอังกฤษไป ยังอีกตึก เช่น โรงยิม ด้วยภาษาไทย ขณะท่ีนักเรียนบอกเส้นทางให้ครูวาดเส้นทางดังกล่าวบนกระดาน เมื่อ นักเรยี นคนดังกลา่ วพดู จบ ครพู ดู บอกเส้นทางเปน็ ภาษาองั กฤษจากเส้นทางบนกระดาน 4. ครูบอกว่าใน Lesson น้ี นักเรียนจะได้เรียนคำศัพท์เกี่ยวกับการบอกทิศทาง และการถามและ บอกเส้นทางไปยงั สถานทต่ี า่ ง ๆ 5.ทำใบงานที่ 1 กิจกรรมที่ 3 Directions (ช่วั โมงที่ 7-9) 1.ครใู หน้ กั เรยี นระดมสมองช่วยกันคิดว่า ในประเทศไทยเวลาเราจะไปรบกวนผอู้ ืน่ เช่น การถามทาง เราจะใช้สำนวนภาษาอย่างไร ครูรวบรวมคำตอบจากนกั เรียนหลายๆ คน
ต่อมาครใู หน้ ักเรียนจับคู่กับเพ่ือนฝกึ พูดถามและบอกเส้นทางไปยงั สถานท่ที ี่กำหนดให้ในกรอบ โดยดู แผนทใี่ นข้อ 4 ครูใหน้ ักเรยี นสลับบทบาทกนั เป็นทั้งคนถามเสน้ ทางและคนบอกเสน้ ทาง แล้วครูสมุ่ เรยี ก นกั เรยี น 4 คู่ ออกมาพูดถามและบอกเสน้ ทางหน้าช้ันเรียน คู่ละ 1 สถานที่ 2.ครใู หน้ ักเรียนเขยี นบรรยายเส้นทางการเดินทางไปพิพธิ ภัณฑ์ โดยใช้ประโยคข้ึนต้นการบรรยายจาก หนังสือเรียน หน้า 67 ข้อ 7 Look at the map above. Write instructions to get to the museum. และดูแผนทใ่ี นขอ้ 6 ประกอบ เสร็จแล้วครสู ่มุ เรยี กนกั เรยี น 3 คน อ่านใหเ้ พอ่ื นฟงั 3.ครูให้นักเรียนทำงานคู่ วาดแผนที่คร่าวๆ ของโรงเรียนของตนเองและสถานที่ใกล้เคียง แล้วให้ นักเรียนจับค่กู ับเพ่อื น ผลดั กันพูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เสน้ ทางจากโรงเรียนไปยังสถานที่ต่างๆ 4.ทำใบงานที่ 2 กจิ กรรมที่ 4 Let’s go out (ชว่ั โมงที่ 10-12) 1.ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน แล้วให้แต่ละกลุ่มทำแผนที่เมืองในฝันของกลุม่ ตนเอง หรือ My dream town และช่วยกันคิด วางแผน ว่าจะให้บ้านของกลุ่มตนเองตั้งอยู่ท่ีไหนในแผนที่ จากน้ันเขียน ตำแหน่งของบา้ นลงในแผนที่ และชว่ ยกนั เขียนบอกเส้นทางไปบ้านของกลุม่ ตน 2.ทำใบงานที่ 3 กจิ กรรมท่ี 5 Project presentation (ชัว่ โมงที่ 13) นำเสนอผลงาน กิจกรรมที่ 6 ทดสอบหลงั เรยี น / สอบเกบ็ คะแนน (ชั่วโมงที่ 14) ทดสอบหลงั เรยี น / สอบเกบ็ คะแนน 9.แหลง่ เรยี นรู้ / ส่ือ 1. หนังสือเรียน Smile ป. 6 2. แบบฝึกหดั Smile ป. 6 3. Audio CD Smile ป. 6 4. พจนานกุ รม 5. บัตรภาพ บัตรคำ 6. นติ ยสาร หนงั สือพมิ พ์ 7. อนิ เทอรเ์ น็ต
แบบทดสอบ Pre-test หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เร่ือง Out and about กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาองั กฤษ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 Choose the correct answer. 1. My mother always goes to the …………… to buy food. a. Internet café. b. supermarket c. amusement park d. train station 2. Last Sunday we went to the ……………… . We had a good time on merry-go-round. a. Internet café b. supermarket c. amusement park d. train station 3. Tom often chats with his friends at the …………… . a. Internet café b. supermarket c. amusement park d. train station 4. I’m very hungry. I want to go to the ………………… . a. cinema b. post office c. police station d. pizza place 5. She’s going to the ………….. to send a letter. a. cinema b. post office c. police station d. pizza place 6. We want to relax on a …………………. in Phuket. a. museum b. water c. beach d. farm 7. A: …………… go to the shopping centre. B: That’s a good idea. a. Let b. Let’s c. Letting d. Lets’ 8. A: I’m free now. b. Yes, it is. d. I don’t care. B: ……............. a. Why don’t you go to the cinema? c. It’s a good idea. 9. A: Where is the bank? B: It is …………. the cinema and the supermarket. a. opposite b. on the right c. on the left d. between 10. He usually ……….. his car near a …………. . a. park, parks b. park, park c. parks, park d. parks, parks
เฉลยแบบทดสอบ Pre-test หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรือ่ ง Out and about กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 Choose the correct answer. 1. My mother always goes to the …………… to buy food. a. Internet café. b. supermarket c. amusement park d. train station 2. Last Sunday we went to the ……………… . We had a good time on merry-go-round. a. Internet café b. supermarket c. amusement park d. train station 3. Tom often chats with his friends at the …………… . a. Internet café b. supermarket c. amusement park d. train station 4. I’m very hungry. I want to go to the ………………… . a. cinema b. post office c. police station d. pizza place 5. She’s going to the ………….. to send a letter. a. cinema b. post office c. police station d. pizza place 6. We want to relax on a …………………. in Phuket. a. museum b. water c. beach d. farm 7. A: …………… go to the shopping centre. B: That’s a good idea. a. Let b. Let’s c. Letting d. Lets’ 8. A: I’m free now. B: ……............. a. Why don’t you go to the cinema? b. Yes, it is. c. It’s a good idea. d. I don’t care. 9. A: Where is the bank? B: It is …………. the cinema and the supermarket. a. opposite b. on the right c. on the left d. between 10. He usually ……….. his car near a …………. . a. park, parks b. park, park c. parks, park d. parks, parks
แบบทดสอบ Post-test หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรื่อง Out and about กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี Complete the words. 1. ___ ___ s ___ u ___ 2. p ___ ___ ___ a p ___ ___ c e 3. ___ o ___ ___ ___ n ___ a ___ l ___ ___ 4. ___ h ___ ___ ___ ___ ___ g ___ ___ n ___ ___ e 5. ___ m ___ ___ e ___ ___ ___ t p ___ ___ ___ Choose the correct answer. 1. It’s warm. …………… we go to the beach? a. Let b. Let’s c. Why d. Why don’t 2. A: …………… . B: It’s opposite the bookshop. a. What is it? b. Where are they? c. How do you do? d. Where’s the pizza place? 3. A: …………… . B: Walk along the New Street. It’s next to the bank. a. Where do you go there? b. Where is your bike? c. How do I get to the library? d. How’s the supermarket? 4. Let’s ………………… to the cinema. a. goes b. going c. went d. go 5. I want to send an email. Where is the …………….? a. Internet café. b. supermarket c. amusement park d. train station
เฉลย แบบทดสอบ Post-test หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เร่อื ง Out and about กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี Complete the words. 1. ___ ___ s ___ u ___ 2. p ___ ___ ___ a p ___ ___ c e 3. ___ o ___ ___ ___ n ___ a ___ l ___ ___ 4. ___ h ___ ___ ___ ___ ___ g ___ ___ n ___ ___ e 5. ___ m ___ ___ e ___ ___ ___ t p ___ ___ ___ Choose the correct answer. 1. It’s warm. …………… we go to the beach? a. Let b. Let’s c. Why d. Why don’t 2. A: …………… . B: It’s opposite the bookshop. a. What is it? b. Where are they? c. How do you do? d. Where’s the pizza place? 3. A: …………… . B: Walk along the New Street. It’s next to the bank. a. Where do you go there? b. Where is your bike? c. How do I get to the library? d. How’s the supermarket? 4. Let’s ………………… to the cinema. a. goes b. going c. went d. go 5. I want to send an email. Where is the …………….? a. Internet café. b. post office c. amusement park d. train station
แบบทดสอบเก็บคะแนน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 10เรอ่ื ง Out and about Direction : Choose the best answer. คำชแี้ จง แบบทดสอบก่อนเรียนมจี านวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เลือกคำตอบที่ถกู ตอ้ งเพยี งข้อเดยี วโดยทำเคร่อื งหมายกากบาท x ลงในกระดาษคาตอบ 1. A : What will you do this evening? B: I will go jogging at _________. a. the restaurant b. the park c. the market d. the train station 2. A : Where are you now? B : I am at ___________. I want to buy some clothes. a. the bowling alley b. the internet café c. the cinema d. the shopping center 3. I went to __________last week. There were many kinds of sea animals. a. the amusement park b. the hospital c. the aquarium d. the butcher’s shop Look at the map and answer the question No. 4 – 10 4. Where is the temple? a. It is on the corner of Main street.
b. It is opposite the amusement park. c. It is next to the restaurant. d. It is between the train station and the library. 5. Which place is on the Pink street? b. The restaurant a. The amusement park d. The bakery shop c. The train station b. behind 6. A : Where is the pay phone? d. Opposite B : It is _________ the school. a. next to c. in front of 7. Bakery shop is on ___________. b. Pink street a. Main street d. Blue street c. Red street 8. ______________ is on Main street. It’s opposite the train station. a. The cinema b. The restaurant c. The drug store d. The library 9. At the bus stop A : Excuse me,________________? B : Just turn right at Blue Street. And then turn left at Pink street. It’s on your left. a. How can I get to the shopping center b. Where is the shopping center c. How can I get to the toys shop d. Where is the toys shop 10. At the train station A : Excuse me, could you please tell me the way to the restaurant? B : Sure. ______________________ a. Walk along main street, and then turn left to Blue street. It’s on your right.
b. Walk along main street, and then turn right to Blue street. It’s on your left. c. Turn left to Red street, and then turn right to Pink street. It’s on your left. d. Turn left to Red street, and then turn left to Pink street. It’s on your left.
เฉลย แบบทดสอบเก็บคะแนน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 10 เรือ่ ง Out and about
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง Some children are at the Internet café. 1. สาระสำคญั การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสถานท่ีต่าง ๆ และการใช้ประโยคแนะนำหรือชักชวน ช่วยให้พูดหรือเขียน แนะเกยี่ วกับสถานท่ีและเปน็ การเรียนรูภ้ าษาอังกฤษเพ่อื นำไปใช้สือ่ สารในชีวติ ประจำวนั 2. ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมีเหตุผล ตวั ช้วี ัด 1. ปฏิบตั ิตามคำส่ัง คำขอร้อง และคำแนะนำท่ีฟังและอา่ น ตัวช้วี ดั 2. อ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนส้ันๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น ตวั ช้วี ัด 3 เลือก/ระบุ หรอื ข้อความสน้ั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายท่ีอ่าน ตวั ชีว้ ดั 4. บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา นทิ านงา่ ยๆ และเรือ่ ง เลา่ 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ปฏบิ ัติตามคำสงั่ คำขอรอ้ ง คำแนะนำทฟ่ี ังและอ่านออกเสียงข้อความ นิทาน และบทกลอนส้ันๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น ได้ 2. เลือก/ระบปุ ระโยคหรอื ข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ สญั ลักษณ์ หรือเครื่องหมายทอี่ ่าน และ สามารถบอกใจความสำคัญ ตอบคำถามจากการฟงั อ่านบทสนทนา นทิ านงา่ ยๆ เรื่องเล่าได 4.สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. คำศพั ท์เกี่ยวกับสถานท่ี 2. ประโยคแนะนำหรือชกั ชวน Let’s และ Why don’t 3. Pronunciation: การออกเสยี ง /p/ ในตำแหนง่ ตน้ คำ เปรียบเทยี บกับ /p/ เมือ่ เป็นเสียง พยัญชนะ 4. ประสมตามหลงั เสียง /s/ 5. การอ่านจับใจความและตอบคำถาม 6. มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา 7. กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม
8. การใชภ้ าษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียน ทักษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะการฟงั การพดู การอ่าน การเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1. มีความรบั ผิดชอบ ขยัน ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน 2. มคี วามเช่อื มั่นในตนเอง กล้าแสดงออก 3. มเี จตคติท่ีดีต่อการเรยี นภาษาอังกฤษ 5.สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 4. มงุ่ ม่ันในการเรียน 5. มจี ิตสาธารณะ 7.กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 Some children are at the Internet café. ( เวลา 1 ช่ัวโมง ) ข้ันนำ (Warm up) 1. ครทู ักทายนกั เรียนด้วยคำถาม How are you? เมอื่ นักเรียนท้งั หอ้ งทกั ทายตอบแล้ว ครบู อกนักเรยี น ว่า สามารถใช้คำทักทายว่า Good morning. หรือ Good afternoon. ก็ได้ แล้วครูเขียนประโยค Good morning. และ Good afternoon. บนกระดาน และอธิบายว่า Good morning และ Good afternoon. เปน็ การทกั ทายท่ีเป็นทางการมากกวา่ คำว่า Hello โดย Good morning. จะใช้ทักทายในช่วงเช้า และ Good afternoon. จะใช้ทักทายในช่วงบ่าย ในการตอบจะตอบด้วย Good morning. หรือ Good afternoon. เช่นเดียวกัน จากนั้นครูสุ่มทักทายนักเรียนเป็นรายบุคคล 4-5 คน โดยใช้ Good morning. และ Good afternoon. 2. ครูให้นกั เรยี นทบทวนประโยคคำสั่ง ขอร้องและขออนญุ าตทใ่ี ช้ในช้นั เรยี น โดยอ่านประโยคที่บอร์ด ของชนั้ เรียน จากน้นั ครยู ้ำใหน้ กั เรียนใชป้ ระโยคเหลา่ น้ีพดู กับครใู นชนั้ เรยี น
3. ครูใหน้ กั เรยี นระดมความคดิ บอกคำศัพท์ที่เกยี่ วข้องกับสถานท่ี เช่น cinema, train station, Internet café, restaurant, park, supermarket แล้วครูเขียนช่ือสถานที่เหล่านี้บนกระดาน จากน้ันครูให้ นักเรียนบอกสถานท่ีที่ครูเขียนบนกระดานซ่ึงมีอยู่แถวบ้านของนักเรียน และสถานท่ีใดท่ีนักเรียนชอบไปมาก ทส่ี ุด เช่น Teacher: Look at the blackboard, which places are in your neighbourhood? David: Cinema. Laura: Restaurant. Mark: Internet café. Jane: Supermarket. Teacher: Sam, which one would you like to go the most? Sam: I’d like to go to the cinema. 4. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 60 ข้อ 1 What can you see? ดูภาพ แล้วครูถามว่าในภาพมี สถานท่ใี ดบา้ ง ใหน้ กั เรยี นช่วยกันพดู ตอบคำถามครู 5. นักเรียนทำกิจกรรมในหนงั สือเรยี น หนา้ 60 ข้อ 2 Look, listen and answer. โดยดูภาพในข้อ 1 แล้วครูเปิด Track 54 ให้นักเรียนฟังประโยคคำถาม 2 คร้ัง จากนั้นครูให้เวลานักเรียนเขียนคำตอบ เสรจ็ แล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกันเฉลยคำตอบ Look at the pictures. 1. How many children are there in the aquarium? 2. A boy is buying a ticket. Where is he? 3. How many people are there at the train station? 4. How many children are there in the Internet café? 5. Look at three men. What are they doing? 1. There are three children in the aquarium. 2. He is at the cinema. 3. There are two people at the train station. 4. There are five children in the Internet café. 5. They are making pizza.
ขนั้ นำเสนอ (Presentation) นักเรียนดูภาพใน หนังสือเรียน หน้า 61 ข้อ 1 Listen, point and repeat. จากน้ันเดา ความหมายของคำศัพท์ในแต่ละภาพ ต่อมาครูเปิด Track 55 ให้นักเรียนฟัง 2-3 ครั้ง ให้นักเรียนฝึกออกเสียง พร้อมทั้งช้ภี าพตาม Internet café bowling alley amusement park pizza place shopping centre train station ข้ันฝกึ (Practice) แล้วครูทดสอบความจำของนักเรียน โดยแสดงบัตรภาพคำศัพท์เกี่ยวกับสถานท่ีแบบไม่เรียงตาม หนงั สอื เรยี น ให้นกั เรยี นบอกคำศพั ท์ใหต้ รงกับภาพทค่ี รแู สดง จากนัน้ ครูบอกนักเรยี นว่าคำศัพท์ทงั้ 6 คำนเ้ี ป็น คำนาม (noun) เพราะเปน็ ช่อื เรียกของสถานท่ี แลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั นำคำศัพทเ์ หลา่ น้ีมาแต่งประโยค Culture amusement park VS theme park ทั้ง amusement park (สวนสนกุ ) และ theme park (ธีมปารค์ ) เหมือนกันตรงที่เป็น สถานที่ทร่ี วบรวมเอาเคร่อื งเล่นตา่ งๆ ซ่งึ มีความพเิ ศษกว่าสวนสาธารณะ หรอื สนาม-เด็ก เล่นทั่วๆ ไป ทส่ี ร้างขึ้นเพอื่ ความสนกุ สนานเพลิดเพลิน สามารถดึงดดู ความสนใจจาก ผูค้ น สำหรับความแตกต่างระหวา่ ง amusement park (สวนสนกุ ) และ theme park (ธมี ปาร์ค) อยู่ท่ี amusement park (สวนสนุก) อาจจะสรา้ งเคร่ืองเล่นต่างๆ เป็นการ ช่วั คราวหรอื ถาวรก็ได้ แต่โดยปกตจิ ะสร้างขึน้ เพียงชว่ งระยะเวลาหนงึ่ เช่น 2-3 วัน หรอื 1 สัปดาห์ตอ่ ปี โดยมเี ครื่องเล่นทส่ี ามารถเคล่อื นย้ายได้ เรยี กวา่ “fun fair” หรือ “carnival” ส่วน theme park (ธีมปาร์ค) จะมเี คร่ืองเล่นทที่ นั สมยั และประกอบขนึ้ เป็นการถาวร โดยใชส้ ถาปัตยกรรม สัญลักษณ์ และภูมปิ ระเทศในการชักนำความรู้สึกของผเู้ ลน่ ใหร้ ู้สึก แตกตา่ งกนั ออกไปในแต่ละสถานทแ่ี ละเวลา ธมี ปาร์คอาจจะสรา้ งขึ้นในแนวทาง เดยี วกันทัง้ หมด หรือแบ่งออกเปน็ หลายๆ ส่วน โดยมีการจดั ฉากเป็นเร่ืองราวทีแ่ ตกต่าง กันออกไป รปู แบบทนี่ ยิ มสร้างกนั ไดแ้ ก่ เครื่องเลน่ ในแนวอวกาศ ตัวอย่างของธมี ปาร์ค ขนาดใหญ่ที่ไดร้ ับความนยิ มในปัจจุบัน ได้แก่ “วอลท์ดิสนีย์ เวลิ ด์” หรอื “ดสิ นีย์ แลนด์”
ทม่ี า: http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=94900001348 93 กิจกรรมเพิ่มเตมิ ครูให้นักเรียนคิดว่า ก่อนที่สวนสนุกหรือธีมปาร์คของประเทศในแถบตะวันตกจะเข้ามาแพร่หลายใน ประเทศไทย ในประเทศไทยเองมีสถานท่ีสำหรับจัดงานสนุกสนานร่ืนเริง ซ่ึงอาจมีเครื่องเล่นหรือการแสดง บา้ งหรือไม่ ครูถามความคดิ เหน็ ของนักเรียนหลายๆ คน จนได้คำตอบว่า มี คอื งานวัด ครูเล่าให้นักเรียนฟังว่า สมัยก่อน งานวัดจะมีเครื่องเล่นและกิจกรรมสนุกสนานมากมาย เช่น สาวน้อยตกน้ำ ยิงปืนลูกยาง (ท่ียิงโดน แป้นแล้วตุ๊กตาจะขยับและมีเสียง) ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถไต่ถัง เมียงู ถ้ำผสี ิง กิจกรรมบางอย่างอาจไมม่ ีแล้ว ในบางงาน โดยคำว่า งานวัด น่าจะเทียบได้กับคำว่า fair หรือ fun fairในภาษาอังกฤษ โดยเวลาเขียนเป็น ภาษาองั กฤษ งานวดั จะใช้คำวา่ temple fair Culture งานวัด ถอื งานบุญประจำปี เชน่ งานปิดทองพระพทุ ธบาทจำลอง งานปดิ ทองรูปหล่อของ หลวงพ่อต่างๆ จนถงึ งานฉลองโบสถ์ วิหาร และศาลาการเปรียญ รวมถึงงานตามเทศกาล เช่น วันปีใหม่ วันตรุษจนี และวันสงกรานต์ โดยนยิ มจดั ขึน้ ทกุ ปเี พือ่ เปน็ ทช่ี ุมนมุ ของผู้คน ให้มารว่ มกันทำบุญและสนกุ สนานไปกบั กจิ กรรมต่างๆ ทจี่ ดั ขนึ้ ในงาน ขั้นนำไปใช้ (Production) ครูเขียนคำศัพท์เก่ียวกับสถานที่บนกระดานทีละคำ ให้นักเรียนบอกว่าเราไปทำอะไรท่ีน่ัน ครูให้ นักเรียนพยายามพูดเปน็ ภาษาองั กฤษ ต่อมาครอู ่านประโยคท่ี 1 ใน หนังสือเรียน หน้า 61 ข้อ 2 Read and match. ใหน้ ักเรียนฟังเปน็ ตวั อย่าง และใหน้ ักเรียนอา่ นประโยคทเี่ หลือด้วยตนเอง จากนัน้ จับคู่ประโยคกับช่ือ สถานที่ให้สัมพันธ์กัน เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 6 คู่ เฉลยคำตอบคู่ละ 1 ข้อ โดยให้คนหนึ่งอ่านประโยค สว่ นอีกคนหน่งึ บอกชื่อสถานท่ี 1. - e 2. - a 3. - f 4. - c 5. - b 6. - d ขน้ั สรปุ (Wrap up) ครูเปิด Track 56 ให้นักเรียนฟัง 1 คร้ัง เมื่อฟังจบครูถามนักเรียนว่ามีคำใดบ้างท่ีนักเรียนได้ยิน ครู เขียนคำที่นักเรยี นบอกบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนช่วยกนั บอกว่าบทสนทนาที่ฟงั นา่ จะเกี่ยวกบั อะไร ต่อมาครู ใหน้ ักเรยี นดูภาพในหนงั สอื เรยี น หน้า 62 ข้อ 3 Listen and tick (✓). และบอกว่าแต่ละภาพคือสถานที่
ใด จากน้ันครูเปิด Track 56 ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง และขีด ✓ ในภาพสถานท่ีท่ี David พูดถึงในบทสนทนา เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบโดยเขียนชื่อสถานท่ีทุกภาพบนกระดาน และเปิด Track 56 อีกครั้ง พร้อมขีด ✓ ทับช่อื สถานท่ตี ามที่ไดย้ นิ David: Hi Chris. Chris: Hi David. Good news! I can come and visit you! David: Oh great! You are going to like my town. It’s small but there are lots of things to do. There’s a bowling alley and there’s a really good amusement park. Chris: Is there a good shopping centre? David: Sure. It’s quite big. There are good shops, Internet cafés and a pizza place. How are you going to get there? Chris: By train. Can you meet me at the train station? David: Yes, of course. What time do you arrive? Chris: At a half past two on Saturday afternoon. David: Cool! See you then! 1. ✓ 2. ✓ 3. ✓ 4. - 5. ✓ 6. - ชั่วโมงท่ี 2 Some children are at the Internet café. (1) ( เวลา 1 ชั่วโมง ) ข้นั นำ(Warm up) นกั เรียนเปิด แบบฝึกหัด หนา้ 44 ข้อ 1 Listen and point. ครใู หเ้ วลา 1 นาที เพือ่ จำภาพสถานท่ี เมื่อถึงเวลาท่ีกำหนดให้นักเรียนปิดหนังสือเรียน แล้วบอกครูว่ามีภาพสถานที่ใดบ้าง จากน้ันนักเรียนเปิด หนังสือเรียน และครูเปิด Track 63 ให้นักเรียนฟัง โดยหยุดทีละประโยค เพือ่ ให้นักเรียนช้ีภาพให้ถูกตอ้ ง แล้ว ครเู ฉลยคำตอบ
1. Some children are at the Internet café. 2. There are two people in the park. 3. Some people are making pizza. 4. There is a train at the train station. 5. There are some people at the cinema. 1. - b 2. - d 3. - a 4. - f 5. - g ข้ันนำเสนอ (Presentation) นักเรียนดูภาพในแบบฝึกหัด ข้อ 1 แล้วเติมคำท่ีกำหนดให้ลงในประโยคใน แบบฝึกหัด หน้า 44 ข้อ 2 Look at the pictures. Then complete the sentences. เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 5 คน บอก คำตอบ ครูตรวจความถูกต้อง และให้ทุกคนอ่านประโยคทั้งหมดพร้อมกัน หรือครูอาจจะให้นักเรียนทำ แบบฝกึ หัดน้ีเป็นการบ้าน 1. aquarium 2. train station 3. cinema 4. pizza 5. park ขน้ั ฝึก (Practice) ครูเตรียมบัตรภาพและบัตรคำ ดังนี้ Internet café, pizza place, amusement park, train station, supermarket, bowling alley, beach แล้วครูตดิ บัตรภาพบนกระดาน พรอ้ มกบั ชบี้ ัตรภาพทลี ะใบ ให้นักเรียนบอกคำศัพท์ให้ตรงกับภาพ ต่อมาครูสุ่มเรียกนักเรียน 6 คน และแจกบัตรคำให้คนละ 1 ใบ ให้ ออกมาติดบัตรคำใต้ภาพให้สมั พันธ์กัน ครูตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หนา้ 45 ข้อ 1 Look at the pictures and write the places. โดยดูภาพและเขียนคำศัพท์ให้สัมพันธ์กัน เสร็จ แล้วครูเฉลยคำตอบ หรือครูอาจจะใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดน้เี ป็นการบา้ น 1. Internet café 2. bowling alley 3. amusement park 4. shopping centre 5. train station 6. beach
ข้นั นำไปใช้ (Production) 1. ครูให้นักเรียนเล่นเกม Guess What! โดยครูเตรียมบัตรคำสถานที่ต่างๆ ได้แก่ Internet café, bowling alley, amusement park, shopping centre, train station, cinema, hospital, library, beach แล้วอธิบายกตกิ าการเล่นเกมให้นักเรียนฟังว่า ครจู ะสุ่มเรียกนักเรียนออกมาจับบัตรคำ 1 ใบ นักเรียน ที่ถูกสุ่ม-เรียกจะเป็นคนใบ้คำศัพท์จากบัตรคำที่จับได้ โดยใช้ท่าทางหรือการวาดภาพบนกระดาน ห้ามพูด ถ้า เพื่อนทายคำศัพท์ถูกต้องให้บอก Correct! แต่ถ้าทายคำศัพท์ไม่ถูกต้องให้บอก Wrong! เมื่อมีคนทายคำศัพท์ ถกู ต้องแล้ว ครสู ่มุ เรยี กคนต่อไปออกมาจบั บัตรคำเพ่ือเล่นเกมต่อ เช่น Alan: (จับไดบ้ ตั รคำ library) ทำทา่ อา่ นหนังสือ Sue: Library Tom: Correct! (ครูส่มุ เรยี กคนต่อไปออกมาจับบตั รคำ) 2. ครูให้นักเรียนอ่านประโยคใน แบบฝึกหัด หน้า 45 ข้อ 2 Read and complete. แล้วหา คำศัพท์สถานท่ี มาเติมลงในประโยคให้สมบูรณ์ เสร็จแล้วให้ช่วยกันเฉลยคำตอบ หรือครูอาจจะให้นักเรียนทำ แบบฝกึ หดั น้ีเป็นการบ้าน 1. Internet café 2. bowling alley 3. amusement park 4. pizza place 5. train station 6. shopping centre 3. นักเรียนเปิด แบบฝึกหัด หน้า 46 ข้อ 3 Listen and complete the information about two towns with the words in the box. และอ่านคำท่ีกำหนดให้ในกรอบพร้อมกัน ครูถาม นักเรียนว่ามคี ำใดท่ีไมร่ ้คู วามหมาย ใหน้ ักเรยี นหาความหมายในพจนานุกรม จากนั้นครเู ปิด Track 64 ให้นักเรียนฟัง 2 คร้ัง และนำคำที่กำหนดให้มาเติมลงในช่องว่าง เสร็จแล้วครูเปิด อีกคร้ัง เพ่ือให้นักเรียนตรวจคำตอบ ครูเขียนคำตอบบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนอ่านประโยคที่ สมบรู ณ์พรอ้ มกนั
1. Welcome to Lillyville. It is a nice little town in the mountains and perfect for sports. There are many sports centres. There are three tennis courts and three swimming pools. The weather is fantastic. 2. Hi! I’m Jane. My hometown is great! It is a seaside town. There is an aquarium with hundreds of sea animals. There is a beautiful shopping centre too. The beaches are wonderful. 1. sports centres 2. tennis 3. fantastic 4. aquarium 5. shopping centre 6. beaches ขน้ั สรุป (Wrap up) ครูให้นักเรียนเขียนข้อความส้ันๆ แนะนำจังหวัดของตนเอง โดยดูตัวอย่างจากแบบฝึกหัด ข้อ 3 โดย ครูให้นกั เรียนไปค้นคว้าหาข้อมูลเก่ียวกับจังหวัดของตนเองมาก่อนเป็นการบ้าน เม่ือนักเรยี นเขยี นเสร็จแล้วครู ส่มุ เรยี กนกั เรียน 6-7 คน ออกมาอ่านให้เพื่อนฟังหนา้ ชัน้ เรียน ช่ัวโมงท่ี 3 Some children are at the Internet café. (1) ( เวลา 1 ชั่วโมง ) ข้นั นำ (Warm up) 1. ครูทบทวนคำศพั ทเ์ กยี่ วกับสถานท่ีด้วยการให้นักเรียนเลน่ เกมแขง่ ขนั สะกดคำศพั ท์ หรอื Spelling Bee 2. ครบู อกนกั เรยี นวา่ ในบทเรยี นนี้ นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรู้เกี่ยวกับสถานท่ตี ่าง ๆ การออกเสียง การอา่ น และการเขียน ข้นั นำเสนอ (Presentation) ครเู ขยี นประโยคในกรอบ Remember! ในหนังสือเรยี น หน้า 62 บนกระดาน แล้วครูอธบิ ายส้ันๆ ว่า Let’s + v.1 และ Why don’t we/you + v.1 …? เป็นประโยคที่ใชใ้ นการพดู ใหค้ ำแนะนำ จากนัน้ ให้นกั เรยี นจับคกู่ บั เพ่ือน ชว่ ยกนั แตง่ ประโยคโดยใช้ Let’s และ Why don’t มาโครงสรา้ งละ 2 ประโยค เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรยี นใหอ้ า่ นประโยค
Background Information Let’s ยอ่ มาจากคาวา่ Let us ใชเ้ พอ่ื ชกั ชวน หรือใหค้ าแนะนา มีโครงสร้าง คือ Let’s + v.1 เช่น Let’s go to the cinema. (พวกเราไปโรงหนงั กนั เถอะ) Let’s have dinner. (พวกเรากินขา้ วเยน็ กนั เถอะ) Why don’t ใชเ้ พื่อใหค้ าแนะนา มีโครงสร้าง คอื Why don’t + we/you + v.1 …? เช่น Why don’t we go to the cinema? (ทาไมพวกเราไม่ไปโรงหนงั กนั ละ่ ) Why don’t you go to the beach? (ทาไมเธอไม่ไปเท่ียวชายทะเลล่ะ) ขัน้ ฝึก (Practice) นกั เรียนดูภาพในหนังสือเรยี น หนา้ 62 ข้อ 4 What places do they suggest? Listen and tick (). และบอกคำศัพท์สถานท่ีของแตล่ ะภาพ แล้วครูเปิด Track 57 ใหน้ กั เรยี นฟงั บทสนทนา และขดี ในชอ่ งภาพสถานทซี่ ่งึ ถกู แนะนำให้ไป แลว้ ครเู ปิด Track 57 ครั้งที่ 2 เพื่อให้นักเรยี นตรวจความถกู ต้อง ดว้ ยตนเอง และครูเฉลยคำตอบ David: Chris’s going to be here on Saturday evening. Let’s go to the pizza place. What do you think, Mary? Mary: Well, the pizza place has the best pizzas but they’re expensive. I haven’t got much money. Why don’t we go to the cinema? We can see the Shrek film. David: I saw that last week. Mary: We could go to the beach, but it’s a bit cold. David: Yes, it is a bit cold. Why don’t we go to the bowling alley? Mary: It’s expensive too. David: OK. Then let’s have a barbecue on the beach. It’s not expensive. Everyone can bring one thing to eat!
1. 2. 3. - 4. 5. 6. - ต่อมาครูให้นกั เรยี นอา่ นประโยคใต้คำสงั่ Now listen again and circle the correct answer. ครชู ี้ ให้นักเรียนดูว่ามีตัวเลือก a และ b จากนั้นครูบอกนักเรียนว่าจะให้ฟัง Track 57 อีกคร้ัง ให้นักเรียนเลือก คำตอบท่ีถูกต้อง แล้วครูเปิด Track 57 ให้นักเรียนฟังและทำกิจกรรม เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันเฉลย คำตอบ ขน้ั นำไปใช้ (Production) 1. นกั เรยี นเปิด หนังสอื เรียน หนา้ 63 ขอ้ 5 Read and complete. แลว้ อ่านขอ้ ความพรอ้ มกัน เมื่อ อ่านจบครูถามว่าข้อความน้ีเก่ียวกับเร่ืองอะไร จากนั้นให้นักเรียนอ่านหัวข้อ Things to do in Tom’s hometown. แล้วนำข้อมูลจากข้อความท่ีอ่านมาเขียนใต้หัวข้อดังกล่าวให้ถูกต้อง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียก นกั เรยี นอ่านประโยคคนละ 1 ข้อ 1. Go shopping at the shopping centre. 2. Go for a walk in the park. 3. Visit the aquarium. 4. Visit the museum and art gallery. 2. ครูแจกกระดาษเปล่าให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น เพื่อให้นักเรียนเขียนบรรยายเกี่ยวกับบ้านเกิดของ ตนเอง โดยใชป้ ระโยคขึน้ ต้นจาก หนงั สอื เรียน หน้า 63 ข้อ 6 Write about your hometown. Use the reading as a model. และดูข้อความในข้อ 5 เป็นตัวอย่าง ครูให้เวลาเขียน 15-20 นาที แล้วให้นักเรียน รวบรวมสง่ ใหค้ รู จากนัน้ ครูเลอื กผลงานของนักเรยี น 3-4 คน ใหอ้ อกมาอ่านหนา้ ช้นั เรยี น ตัวอย่าง There are lots of things to do in my hometown. You can visit temples. There are lots of beautiful temples here. If you like nature, there is a national park. You can also visit museums. If you love elephants, you can enjoy an elephant ride and show too. 3. ครูติดบัตรคำ pan และ pink บนกระดาน แล้วบอกนักเรียนว่าเสียง /p/ จะออกเสียงเหมือน “พ” ในภาษาไทย ครูออกเสียงคำศัพท์ ให้นักเรียนฟังและออกเสียงตามหลายๆ ครั้ง ต่อมาครูติดบัตรคำ
sport และ Spain แล้วบอกนักเรียนว่าเสียง /p/ ท่ีตามหลังเสียง /s/ จะออกเสียงเหมือน “ป” ในภาษาไทย ครูออกเสยี งคำศัพท์ ให้นักเรยี นฟังและออกเสียงตาม จากน้ันให้นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 63 หัวข้อ English sounds ครูเปิด Track 58 ให้ นักเรียนฝึกออกเสียงคำศัพท์ตาม Track 58 3-4 คร้ัง แล้วครูให้นักเรียนออกเสียงคำศัพท์ทีละคน ครูช่วย แก้ไข ถา้ นักเรียนออกเสียงไม่ถูกต้อง park spark pin spin ขั้นสรุป (Wrap up) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า spark และ spin ถือเป็นคำ 1 พยางค์ เน่ืองจากเสียง /s/ และ /p/ ในคำว่า spark และ spin เป็นพยัญชนะประสมสองเสียง เสียง /s/ และ /p/ ยังคงมีการออกเสียงอยู่ แต่จะออกเสียง อย่างรวดเร็ว ครูอาจเพ่ิมเติมคำอื่นๆ เช่น Spain, speak, sport, spy ครูย้ำว่าเสียงพยัญชนะต้นเช่นนี้ไม่มีใน ภาษาไทย Background Information เสยี งพยัญชนะประสม (consonant clusters) หรอื เสียงผสม (consonant blends) ในภาษาอังกฤษ คือการเปล่งเสยี งพยัญชนะตั้งแต่สองเสียงหรือสามเสียง เรียงตามกัน โดยไมม่ ีเสียงสระคนั่ กลาง 8. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑก์ ารผ่าน วธิ ีการ แบบสังเกตการพูดถาม-ตอบ ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีข้ึนไป สงั เกตการพูดถาม-ตอบ ตรวจใบงาน ตรวจใบงาน ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ 60 ข้ึนไป 9. ส่ือ / แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน Smile ป. 6 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 6 3. Audio CD Smile ป. 6 4. พจนานุกรม 5. บตั รภาพ บตั รคำ 6. อนิ เทอร์เนต็
Worksheet ท่ี 1.1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 10 เรือ่ ง Out and about แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่อง Some children are at the Internet café. ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 Direction : Work in group. Listen to teacher’s instruction and complete the map with the places given.
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 10 เร่ือง My dream town 1. สาระสำคญั การเรยี นรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ และการบอกทิศทาง ช่วยให้พดู และเขยี นเก่ียวกับ เส้นทางท่จี ะไปยงั สถานท่นี ัน้ ๆ เปน็ การเรยี นรภู้ าษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้สอื่ สารในชีวิตประจำวนั 2. ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและ ความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ช้ีวัด 1. พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล ตวั ชี้วดั 2. ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ ตัวชีว้ ัด 4. พดู และเขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรือ่ งใกล้ตวั มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพดู และการเขียน ตวั ชว้ี ดั 1. พูด/เขยี นใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพื่อน และส่ิงแวดลอ้ มใกล้ตัว 2. เขยี นภาพ แผนผงั แผนภมู ิ และตารางแสดงข้อมูลตา่ งๆ ตามท่ีฟงั หรอื อ่าน 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. พดู /เขยี น ใชค้ ำสั่ง คำขอร้อง และใหค้ ำแนะนำ โตต้ อบในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล 2. พูดและเขียน แสดงความรู้สึก ขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกลต้ ัว พร้อมทง้ั ให้เหตุผลส้ันๆ ประกอบ 4.สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. คำศัพท์เกยี่ วกบั สถานท่ี การบอกทิศทาง 2. การอา่ นจับใจความ และตอบคำถาม 3. การเขยี นประโยคบรรยายท่ีต้ังของสถานท่ี 4. มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา 5. กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม การรอ้ งเพลง 6. การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่เี กดิ ขึ้นในห้องเรียน
7. การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพทท์ ่เี กย่ี วข้องใกล้ตวั จากสอ่ื และแหลง่ การ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ทักษะ / กระบวนการ (Process : P) ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1.มีความรับผิดชอบ ขยนั ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน 2.มคี วามเชือ่ มั่นในตนเอง กล้าแสดงออก 3.มเี จตคติทด่ี ตี ่อการเรียนภาษาองั กฤษ 5.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 6.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุง่ มั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 เรอื่ ง My dream town ( เวลา 1 ช่ัวโมง ) ขน้ั นำ (Warm up) ครูให้นักเรียนทำ แบบฝึกหัด หน้า 46 ข้อ 4 Complete with Let’s or Why don’t. โดยเติม Let’s หรือ Why don’t ลงในประโยคให้ถูกต้อง เม่ือนักเรียนทำเสรจ็ แล้ว ครูเฉลยคำตอบพร้อมกับอธิบายรูป ประโยค จากน้ันให้นักเรียนอ่านประโยคพร้อมกันอีกครั้ง หรือครูอาจจะให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดนี้เป็น การบา้ น 1. Let’s 2. Let’s 3. Why don’t 4. Let’s 5. Why don’t 6. Why don’t ขัน้ นำเสนอ (Presentation) ครูให้นักเรียนเรียงประโยคจากคำท่ีให้มาในแบบฝึกหัด หน้า 46 ข้อ 5 Put the words in the correct order to make sentences. ให้ถูกต้อง จากนั้นครูทำบัตรคำตามจำนวนคำในแต่ละข้อ แล้วสุ่ม
เรียกนักเรียนออกมาเรียงประโยคหน้าช้ันเรียน และครูตรวจความถูกต้อง หรือครูอาจจะให้นักเรียนทำ แบบฝกึ หัดนเ้ี ปน็ การบ้าน 1. Let’s go to the bowling alley. 2. I think it is expensive. 3. Why don’t we go to the beach? 4. What are you going to do there? ขั้นฝึก (Practice) ครูให้นักเรียนอ่านใบปลิวโฆษณาใน แบบฝึกหัด หน้า 47 ข้อ 6 Read this leaflet and complete the text below. แล้วครูถามว่าเนื้อหาใบปลิวนี้เกี่ยวกับอะไร จากนั้นให้นักเรียนนำคำจาก ใบปลิวมาเติมลงในช่องว่างในข้อความข้างล่าง เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบโดยอ่านข้อความทีละประโยค และ หยุดตรงช่องว่าง เพื่อให้นักเรียนช่วยกันบอกคำที่นำมาเติม สุดท้ายครูให้นักเรียนอ่านข้อความท่ีสมบูรณ์แล้ว พร้อมกัน 1. open 2. fantastic 3. exciting shops 4. buy 5. drop 6. area 7. a little hungry 8. restaurants ข้ันนำไปใช้ (Production) ครูแจกกระดาษ A4 ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น ให้นักเรียนเขียนใบปลิวโฆษณาศูนย์กีฬาแห่งใหม่ โดย ใช้คำที่กำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 47 ข้อ 7 Write a leaflet about a new sports centre. Use the words in the box. และเขียนข้ึนต้นด้วยประโยคท่ีให้มา นักเรียนสามารถดูตัวอย่างได้จากข้อ 6 ครูให้ นักเรียนตกแต่งใบปลิวให้สวยงาม แล้วส่งให้ครูตรวจความถูกต้อง ครูตรวจผลงาน และคัดเลือกผลงานของ นกั เรยี น 5-6 คน ท่ีเขยี นประโยคได้ถูกต้องและตกแต่งไดส้ วยงามไปติดท่ีบอรด์ ของชั้นเรยี น ตัวอย่าง If you want to have fun doing exercise, come to our new sports centre.
There are four tennis courts and two swimming pools. You can do aerobics too. And there is a restaurant and a café for eating. ขั้นสรปุ (Wrap up) 1. ครูให้นักเรียนฟังคำศัพท์ในแบบฝึกหัด หน้า 47 หัวข้อ English sounds กิจกรรม Listen and circle the words you hear. จาก CD/Track 65 และวงรอบคำศัพท์ท่ีตรงกับคำศัพท์ที่ได้ยิน เสร็จ แล้วให้ช่วยกนั เฉลยคำตอบ spark pin spark pin 2. ครใู ห้นกั เรยี นไปคน้ หาความหมายของคำศัพทท์ จี่ ะเรียนในบทเรยี นถดั ไปในหนังสือเรียน หนา้ 64 กรอบ Word box ลว่ งหน้า ชั่วโมงที่ 2 เร่อื ง My dream town ( เวลา 1 ช่ัวโมง ) ขั้นนำ (Warm up) 1. ครทู บทวนคำศัพท์และรูปประโยคใน Lesson 1 ดว้ ยบัตรภาพและบัตรคำ 2. ครูถามนักเรียน 2-3 คน เกี่ยวกับเส้นทางจากบ้านมาโรงเรียนหรือจากตึกท่ีเรียนภาษาอังกฤษไป ยังอีกตึก เช่น โรงยิม ด้วยภาษาไทย ขณะท่ีนักเรียนบอกเส้นทางให้ครูวาดเส้นทางดังกล่าวบนกระดาน เม่ือ นกั เรียนคนดังกลา่ วพูดจบ ครูพูดบอกเสน้ ทางเปน็ ภาษาอังกฤษจากเส้นทางบนกระดาน 3. ครูบอกว่าใน Lesson นี้ นักเรียนจะได้เรียนคำศัพท์เกี่ยวกับการบอกทิศทาง และการถามและ บอกเส้นทางไปยงั สถานท่ตี า่ ง ๆ ขั้นนำเสนอ (Presentation) นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 64 ข้อ 1 Listen, point and repeat. ครูให้นักเรียนดูภาพ และ เดาความหมายของกลุ่มคำ แล้วครูอ่านออกเสียงกลุ่มคำให้นักเรียนฟังทีละกลุ่มคำ ให้นักเรียนออกเสียงตาม จากน้นั ครูเปดิ Track 59 ใหน้ กั เรยี นฝกึ ออกเสยี งตาม Track 59 2-3 ครง้ั
on the left on the right on the corner walk along turn right turn left กิจกรรมเพิม่ เติม ครูบอกใหน้ ักเรียนฟังและปฏบิ ัติตามคำส่งั ทค่ี รูพูด ดังนี้ Raise your right hand. Raise you left hand. Stand up. Sit down. Stand up again, please. Turn right. Turn left. (พูด 4 ครง้ั จนนักเรยี นหันหนา้ มาหาครเู หมือนเดิม) Sit down. ครูสังเกตว่านักเรียนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามคำส่ังได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ครูอาจสอนคำศัพท์อีกครั้ง และให้ นกั เรียนฝึกปฏิบตั ิ โดยให้นกั เรยี นทป่ี ฏบิ ัติได้คลอ่ งแลว้ ออกมาเป็นผ้อู อกคำสัง่ บา้ ง ครใู ห้นักเรียนอ่านออกเสียงกลุ่มคำเหล่าน้ีด้วยตนเอง 2-3 คร้ัง แล้วครูสุ่มเรียกนักเรยี นอ่านออกเสียง ทีละคน ขัน้ ฝึก (Practice) ครใู ห้นกั เรียนดูภาพใน หนังสือเรียน หนา้ 64 ข้อ 2 Listen and number. แลว้ บอกคำท่ีเก่ยี วข้อง กับแต่ละภาพ จากน้ันครูเปิด Track 60 ให้นักเรียนฟัง และเขียนหมายเลข 1-4 ตามลำดับประโยคท่ีได้ยิน เสร็จแลว้ ครเู ปดิ Track 60 อีกครั้ง เพื่อเฉลยคำตอบ โดยหยุดทลี ะประโยค ให้นักเรยี นบอกว่าเป็นภาพใด 1. Walk along the road. 2. Turn left here. 3. The bank is on the corner. 4. Turn right here. a. 3 b. 4 c. 1 d. 2
ขน้ั นำไปใช้ (Production) นักเรียนเปิด หนังสือเรียน หน้า 65 ข้อ 3 Read the directions. Then look at the map and write about each place. แล้วครูทบทวนคำศัพท์เก่ียวกับสถานที่ และ preposition of places ได้แก่ next to, in front of, behind, between, near, opposite ต่อมาครูถามเก่ียวกับสถานที่ 2-3 แห่ง ในแผนทวี่ ่าอยูท่ ไี่ หน ใหน้ กั เรียนดแู ผนท่ี และชว่ ยกนั ตอบ เชน่ Teacher: Where is the bank? Students: It’s next to the bowling alley. Teacher: Correct! And where is the supermarket? Students: It’s in front of the museum. Teacher: Very good. ขน้ั สรุป (Wrap up) จากนั้นครูให้อ่านประโยคบอกเส้นทางในแต่ละข้อ แล้วเดินตามแผนที่โดยเร่ิมต้นจากจุด “You are here.” เพ่ือหาว่าเส้นทางนั้นพาไปยังสถานท่ีใด และเขียนคำตอบ เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบโดยสุ่มเรียก นักเรียนข้อละ 1 คน ออกมาหน้าชั้นเรียน พร้อมกับชูหนังสือเรียนขึ้น แล้วใช้น้ิววาดเส้นทางบนแผนที่ตาม เสน้ ทางทนี่ กั เรียนคนอ่นื ๆ บอก 1. aquarium 2. amusement park 3. bowling alley 4. bookshop
ชว่ั โมงที่ 3 เรอ่ื ง My dream town ( เวลา 1 ชั่วโมง ) ข้นั นำ (Warm up) ครูให้นกั เรียนคน้ หาคำท่ีเก่ียวข้องกบั การบอกทิศทางในตารางปริศนาอักษรไขวใ้ น แบบฝกึ หัด หน้า 48 ข้อ 1 Find seven words about giving directions. ทั้งแนวตั้ง (Down) และแนวนอน (Across) เสร็จแล้วครู ตรวจคำตอบโดยให้นักเรียนบอกคำศัพท์ พรอ้ มท้ังสะกดคำด้วย หรือครูอาจจะให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดน้ีเป็น การบ้าน HD B CORN E RDX B S TWA I GT T F C LUR FQGV I UUZ BHZOEH I NR J E L E F T BTUQNK R GOF L B E TWE EN GBEH I NDLREY I ACOPPOS I TE ขน้ั นำเสนอ (Presentation) นักเรียนดูแผนท่ีข้อ a-e ในแบบฝึกหัด หน้า 48 ข้อ 2 Listen and number the maps they are talking about. แล้ วครูเปิ ด Track 66 ให้ นั กเรียน ฟั ง และเขียน ห มายเลข 1-5 ลงใน ช่อ ง ตามลำดับประโยคบอกเส้นทางที่ได้ฟัง เสร็จแล้วครูเปิด Track 66 อีกคร้ัง โดยหยุดทีละประโยคเพ่ือเฉลย คำตอบ 1. Turn right here. 2. Walk along the road. 3. The Internet café is on the left. 4. The bank is on the corner. 5. Turn left here.
a. - 2 b. - 5 c. - 4 d. - 3 e. - 1 ขั้นฝึก (Practice) นั ก เรี ย น เปิ ด แ บ บ ฝึ ก หั ด ห น้ า 49 ข้ อ 3 Look at the maps and complete the instructions. อ่านข้อมูลในกรอบที่ให้มาพร้อมกัน จากน้ันให้นักเรียนดูแผนท่ี และเติมประโยคให้ถูกต้อง เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ และให้นักเรียนอ่านประโยคที่สมบูรณ์พร้อมกัน หรือครูอาจจะให้นักเรียนทำ แบบฝึกหดั นเ้ี ปน็ การบ้าน 1. Walk along 2. Turn right 3. on the left 4. on the corner ขั้นนำไปใช้ (Production) ครูแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น ให้นักเรียนวาดแผนท่ีจากบ้านของตนเองมาโรงเรียน พร้อม ทัง้ เขยี นบอกเสน้ ทางดว้ ย ข้นั สรุป (Wrap up) จากนน้ั ครูสุ่มเรยี กนักเรียน 2-3 คน ออกมาพดู บอกเสน้ ทางจากบ้านของตนเองมาโรงเรยี นที่หน้าช้ัน เรียน 8. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารผ่าน สังเกตการพูดถาม-ตอบ แบบสงั เกตการพูดถาม-ตอบ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดีขึน้ ไป ตรวจใบงาน ตรวจใบงาน ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ 60 ขนึ้ ไป ประเมินการทำแผนผงั ความคิด แผนผงั ความคดิ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดขี น้ึ ไป 9. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น Smile ป. 6 2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 6 3. Audio CD Smile ป. 6 4. อนิ เทอร์เน็ต
Worksheet ท่ี 2.1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 8 เรอ่ื ง Out and about แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง My dream town ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 Go Out! Match and write the word. 1. I want to go swimming at __________________. 2. I want to reading at __________________. 3. I want to watch the movie at __________________. 4. I want to eat pizza at __________________. 5. I want to drink coffee at __________________. 6. I want to go shopping at __________________. 7. I want to play bowling at __________________. 8. I want to surf the internet at __________________. 9. I want to go jogging at __________________. 10. I want to get in a train at __________________. Excellent Good Fair Name :……………………………………………………..………………. No………………………
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 10 เวลา 3 ชั่วโมง เรอ่ื ง Directions 1. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสถานท่ีต่าง ๆ และการบอกทิศทาง ช่วยให้พูดและเขียนเกี่ยวกับ เส้นทางทจ่ี ะไปยังสถานที่นัน้ ๆ เป็นการเรียนรูภ้ าษาอังกฤษเพื่อนำไปใชส้ ่ือสารในชีวติ ประจำวนั 2. ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชี้วดั 1. ใชถ้ ้อยคำ นำ้ เสยี ง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสงั คม และ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ตวั ช้ีวดั 2. ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับเทศกาล/ วนั สำคัญ/งานฉลอง/ ชวี ิตความเปน็ อยขู่ องเจา้ ของภาษา มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับ ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ตวั ชว้ี ดั 1. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ การใช้ เคร่อื งหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ ภาษาไทย ตัวชีว้ ัด 2. เปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลงานฉลอง และประเพณีของ เจ้าของภาษากับของไทย 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของ เจ้าของภาษา พร้อมทั้งใหข้ ้อมูลเก่ยี วกับเทศกาล/ วันสำคญั /งานฉลอง/ ชวี ติ ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษาได้ 2.บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใชเ้ ครื่องหมายวรรค ตอน และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 3.เปรยี บเทียบความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลงานฉลอง และประเพณีของเจ้าของภาษา กบั ของไทย 4.สำระกำรเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. คำศัพท์เกยี่ วกับสถานที่ การบอกทศิ ทาง 2. การอ่านจับใจความ และตอบคำถาม 3. การเขยี นประโยคบรรยายที่ต้ังของสถานที่
4. มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 5. กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง 6. การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ท่เี กิดข้ึนในห้องเรยี น 7. การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ทเ่ี กย่ี วข้องใกล้ตวั จากสอ่ื และแหลง่ การ เรียนรู้ตา่ ง ๆ ทักษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะการฟงั การพูด การอา่ น การเขียน เจตคติ (Attitude : A) 1.มีความรับผิดชอบ ขยนั ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น 2.มีความเช่ือมนั่ ในตนเอง กล้าแสดงออก 3.มเี จตคติที่ดีต่อการเรยี นภาษาอังกฤษ 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 6.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 เรื่อง Directions ( เวลา 1 ช่ัวโมง ) ข้ันนำ (Warm up) ครูบอกนักเรยี นวา่ ในชัว่ โมงนน้ี กั เรยี นจะได้เรียนรู้เกีย่ วกับการถามและบอกเส้นทางไปยงั สถานท่ี ตา่ งๆ ขัน้ นำเสนอ (Presentation) ครใู ห้นักเรยี นดแู ผนท่ีใน หนังสือเรยี น หน้า 66 ข้อ 4 Look at the map and complete the conversation. แล้วครูถามว่าในแผนทมี่ สี ถานทใ่ี ดบา้ ง ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบ จากนั้นใหน้ กั เรยี นจบั คู่กบั เพื่อน ช่วยกนั ดแู ผนท่ี และเตมิ บทสนทนาให้ถูกต้อง โดยใช้ข้อมูลท่ใี ห้มา 1. on 2. opposite 3. along 4. your left 5. turn left 6. on the corner
ครูใหน้ ักเรียนช่วยกนั เฉลยคำตอบ โดยให้นกั เรยี นอา่ นบทสนทนาพร้อมกัน ครูคอยแนะนำการออก เสยี งสงู -ตำ่ ในประโยคของนักเรียน จากนน้ั ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะคู่ฝึกพูดบทสนทนา โดยสลบั บทบาทกนั เป็นท้ัง คนถามเสน้ ทางและคนบอกเส้นทาง ข้ันฝกึ (Practice) ครใู ห้นกั เรียนดูตวั อย่างบทสนทนาในหนังสอื เรียน หน้า 66 ข้อ 5 Look at the map above. Then ask and answer with your partner. ครสู อนเกี่ยวกบั การใช้ Excuse me. วา่ เราจะใช้เม่อื เรา ต้องการดึงความสนใจ หรือขัดจงั หวะ หรือรบกวนผูอ้ ่นื เช่น การถามทาง จากนั้นครอู ่านคำถาม และใหน้ ักเรียน อา่ นคำตอบ แล้วครูอธิบายวา่ การถามเส้นทางจะใชร้ ปู ประโยค How do I get to the + (สถานท)่ี ? พร้อม ทง้ั เขยี นรูปประโยคบนกระดาน แล้วให้นักเรียนอา่ นตวั อย่างการถามและตอบในหนังสือเรยี นตามครูอีกครั้ง จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นพดู ถามเส้นทางไปยังร้านอนิ เทอร์เนต็ และครเู ป็นคนบอกเสน้ ทาง โดยดแู ผนทีใ่ นข้อ 4 ดังนี้ Students: Excuse me. How do I get to the Internet café? Teacher: Walk along Main Street. It’s on your right. It’s opposite the shopping centre. Background Information Excuse me. มคี วามหมายว่า ขอโทษ แต่แตกต่างจากคำวา่ Sorry โดย Excuse me. เป็นการขอโทษ เม่ือเราจะไปดึงความสนใจ ขดั จังหวะ หรือ รบกวนผูอ้ ื่นโดยเฉพาะคนแปลกหนา้ ตวั อย่างเชน่ Excuse me, how do I get to the bank? Excuse me, could you say again? สว่ น Sorry เป็นการขอโทษ เพอ่ื แสดงความเสยี ใจจากสิ่งทเ่ี ราไดท้ ำไป ตัวอยา่ งเชน่ “Matt, stop doing that!” “Sorry!” I’m sorry. Did I step on your foot? ครใู หน้ กั เรียนระดมสมองชว่ ยกันคดิ ว่า ในประเทศไทยเวลาเราจะไปรบกวนผู้อืน่ เช่น การถามทาง เราจะใชส้ ำนวนภาษาอย่างไร ครรู วบรวมคำตอบจากนักเรียนหลายๆ คน ต่อมาครูใหน้ ักเรียนจบั คู่กบั เพื่อนฝกึ พูดถามและบอกเส้นทางไปยังสถานทที่ ี่กำหนดใหใ้ นกรอบ โดยดู แผนทใ่ี นข้อ 4 ครใู หน้ ักเรียนสลับบทบาทกนั เป็นทั้งคนถามเสน้ ทางและคนบอกเส้นทาง แล้วครสู ุ่มเรยี ก นกั เรียน 4 คู่ ออกมาพูดถามและบอกเส้นทางหน้าชน้ั เรยี น คู่ละ 1 สถานที่
Search