Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore IS-M51-2565

IS-M51-2565

Published by janthappapha, 2022-08-28 19:10:38

Description: IS-M51-2565

Search

Read the Text Version

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง นำ้ ยาเชด็ กระจกจากดอกอญั ชันและมะกรดู จัดทำโดย 1. นางสาวจนั ทัปปภา แสนโซง้ เลขที่ 4 2. นายณฐั ดนัย ไชยอา้ ย เลขที่ 14 3. นางสาวกวสิ รา วรี ะวงค์ เลขท่ี 17 4. นางสาวณัฐณชิ า ใจสวา่ ง เลขท่ี 19 5. นางสาวลลิดา สมศรี เลขที่ 20 เสนอ คณุ ครูดำรง คันธะเรศย์ ภาคเรียนที่ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ปีการศึกษา 2565 โรงเรยี นปวั อำเภอปัว จังหวัดน่าน สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 37

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง นำ้ ยาเชด็ กระจกจากดอกอญั ชันและมะกรดู จัดทำโดย 1. นางสาวจนั ทัปปภา แสนโซง้ เลขที่ 4 2. นายณฐั ดนัย ไชยอา้ ย เลขที่ 14 3. นางสาวกวสิ รา วรี ะวงค์ เลขท่ี 17 4. นางสาวณัฐณชิ า ใจสวา่ ง เลขท่ี 19 5. นางสาวลลิดา สมศรี เลขที่ 20 เสนอ คณุ ครูดำรง คันธะเรศย์ ภาคเรียนที่ 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ปีการศึกษา 2565 โรงเรยี นปวั อำเภอปัว จังหวัดน่าน สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 37

ก หวั ข้อโครงงาน : น้ำยาเช็ดกระจกดอกอัญชันและมะกรูด ประเภทโครงงาน : โครงงานวิทยาศาสตร์ ผู้ทำโครงงาน : นางสาวจันทัปปภา แสนโซง้ และคณะ ครูทป่ี รกึ ษาโครงงาน : คุณครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ ปีการศกึ ษา : 2565 บทคดั ยอ่ การทำโครงงานนม้ี ีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อ 1) เพื่อศกึ ษาผลการทำน้ำหมกั ชีวภาพจากดอกอญั ชนั และ มะกรดู เพ่ือนำไปใช้ขจดั คราบสกปรกบนกระจก 2) เพื่อเปรยี บเทียบประสทิ ธภิ าพของน้ำหมกั ชีวภาพจากดอก อญั ชันและมะกรูด ในระยะเวลาท่ีแตกต่างกนั โดยวิธีการทำนำ้ หมักชวี ภาพกล่มุ ของข้าพเจ้าไดน้ ำอญั ชนั และผวิ มะกรดู มาตน้ แล้วหมักในระยะเวลา 10 วัน 20 วัน และ 30 วัน แล้วจงึ นำมาทดสอบกับคราบบนกระจกได้ผล ปรากฎว่านำ้ หมักชีวภาพจากอญั ชนั และมะกรูดสามารถขจดั คราบสกปรกได้จรงิ และนำ้ หมกั ชวี ภาพทหี่ มักเป็น ระยะเวลา 30 วนั สามารถขจัดคราบสกปรกบนกระจกไดม้ ีประสทิ ธิภาพดีท่ีสดุ

ข กติ ติกรรมประกาศ โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจากณครูดำรงค์ คันธะเรศย์ คุณครูที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ให้คำ เสนอเเนะเเนวคิด ตลอดจนถึงการเเก้ไขข้อบกพร่องต่างๆมาโดยตลอด จนโครงงานเล่มนี้เสร็จสมบูรณ์ คณะ ผู้จัดทำจงึ ขอกราบพระคณุ เปน็ อย่างสูง กราบขอบพระคุณคุณพ่อ คุณเเม่ เเละผู้ปกครองที่ให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ รวมทั้งการเป็นกำลังใจที่ดี เสมอมา สดุ ทา้ ยนข้ี อขอบคณุ เพ่อื นๆที่ช่วยให้คำเเนะนำท่ดี เี กี่ยวกบั โครงงานชิน้ นี้ คณะผู้จัดทำ

ค คำนำ โครงงานเรื่องน้ำยาเช็ดกระจกจากอัญชันและผิวมะกรูดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรายวิชาการศึกษา ค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (I30201) กลุ่มของข้าพเจ้าจัดทำขึ้นเพื่อศึกษาผลการทำน้ำหมักชีวภาพจากดอก อัญชันและมะกรูดในอัตราส่วนต่างๆเพื่อนำไปใช้ขจัดคราบสกปรกบนกระจกโดยมีการอธิบาย วิธีการทำ ความสำคัญของการทำโครงงาน ความรู้เกีย่ วกับดอกอัญชันเเละผิวมะกรูด รวมถึงโทษของสารเคมี เพื่อให้ทุกคน ทราบถึงประโยชนข์ องสมุนไพรไทยท่สี ามารถนำมาทำประโยชน์ได้เเละตระหนึกถงึ สารเคมีในสงิ่ เเวดล้อม คณะผู้จัดทำตอ้ งขอขอบคุณครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ ที่ให้ความรเู้ ก่ยี วกบั การทำโครงงาน คณะผู้จดั ทำหวังเป็น อย่างยิ่งว่าผูท้ ี่อ่านโครงงานจะได้รบั ความรู้จากโครงงานเรือ่ งนี้และ หวังว่าจะเปน็ ประโยชนก์ ับท่านผู้อ่านทุกๆ ทา่ น โครงงานเลม่ น้ีอาจมีส่งิ ใดผดิ พลาดกข็ ออภัยมา ณ โอกาสนี้ คณะผู้จดั ทำ

ง สารบญั บทคดั ยอ่ หน้า กติ ตกิ รรมประกาศ ก คำนำ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนำ ง 1.1 ที่มาและความสำคญั 1 1.2 วัตถุประสงค์ 2 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 2 1.4 สมมตฐิ าน 2 1.5 ตัวแปร 2 1.6 ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ ับ 2 1.7 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 2 บทท่ี 2 การศกึ ษาเอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง 2.1 อัญชัน 3 2.2 มะกรูด 4 บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนนิ โครงงาน 3.1 วสั ดุ-อุปกรณแ์ ละสารเคมี 7 3.2 วธิ ีการดำเนนิ การทดลอง 7 3.2.1 การทำนำ้ หมักชีวภาพจากดอกอญั ชนั และผิวมะกรดู 7 3.2.2 ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของนำ้ หมักชีวภาพจากดอกอญั ชันกบั มะกรดู 8 บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน 4.1 ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง 9 บทที่ 5 สรปุ ผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง 10 บรรณานุกรม 11

1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ทีม่ าและความสำคญั ในปัจจุบนั มกี ารใช้สารเคมีใบชีวิตประจำวนั กนั อย่างแพร่หลายและมีสารเคมที ่ีมีพิษรวมอย่ดู ว้ ยจำเป็นอย่าง ยิ่งที่จะต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหามลพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขสารพิษตกค้างทั้งในน้ำ ใน อากาศ ในดิน รวมท้ังในอาหาร ลว้ นมีสารตกคา้ งทั้งสิ้น (กญั ญาณัฐ หมตู า และคณะ, 2559) น้ำยาเชด็ กระจกกจ็ ัดอยู่ในผลิตภัณฑซ์ ักล้าง จงึ มสี ารลดแรงตงึ ผิวเป็นองค์ประกอบหลักผสมกับสารเคมีท่ี ใช้เป็นตัวทำละลาย โดยทุกชนิดจะใช้ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (isopropyl alcohol) ในปริมาณ 1.0-4.0% ไอโซ โพรพิลแอลกอฮอลเ์ ป็นของเหลวใส ไม่มีสี ไวไฟ และมีกล่ินฉุนมาก ใชใ้ นการทำความสะอาด ถา้ จะใช้ฆา่ เชอื้ ต้องใช้ ที่ความเข้มข้นสูงถึง 60-70% การหายใจเข้าไปในปริมาณเล็กน้อยจะระคายเคืองจมูก ลำคอ และระบบทางเดนิ หายใจ ทำใหป้ วดหัว คล่นื ไส้ วงิ เวียน อาเจียน ถา้ ได้รบั ปรมิ าณสงู ข้นึ อาจทำให้หมดสติ หรอื ตายได้ การสมั ผสั นาน ทำใหผ้ ิวหนังแห้งและแตก สารเคมีท่ีนิยมใชเ้ ปน็ ตวั ทำละลายในนำ้ ยาเช็ดกระจกอีกชนิดคือบวิ ทลิ เซลโลโซลฟ์ เป็น ตัวทำละลายเคมีที่ละลายน้ำได้มักใช้กับคราบมันหรือทำให้มันมีชื่อทางเคมีว่า 2-บิวทอกซีเอทานอล (2butoxyethanol) หรือเอทาลีนไกลคอลโมโนบิวทิลอีเทอร์ (ethylene glycol monobutyl ether) มีค่า LD50 (หนู) 470 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เป็นพิษหากถูกดูดซึมผ่านผิวหนัง กินเข้าไปทำให้มึนเมาได้ ตัวทำละลายทั้ง 2 มี ผลกระทบคล้ายกันคือ ระคายเคืองต่อตา ผิวหนัง จมูก ลำคอ เกดิ อาการไอ คล่นื ไส้ วงิ เวยี น ปวดหวั ตาแดง เจ็บ ตา เหน็ ไม่ชดั ปวดท้องนอ้ ย ท้องเสีย อาเจียน กดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เมด็ เลือดแดงแตก แต่ไม่ต้องกังวล มากเพราะตัวทำละลายในน้ำยาเช็ดกระจกมีความเข้มข้นน้อยมากคือเพียง 0.5-2.5% เท่านั้น (โชติมา วิไลวัลย์, 2549) ดอกอัญชนั สีมว่ ง ทข่ี ึ้นอยทู่ ั่วไปบรเิ วณใกล้บ้าน ในสวน รมิ ถนน คนในชมุ ชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุมักนำดอก อัญชันมาใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น ทาผม ทาคิ้ว เพื่อให้ดกดำ ใช้แทนสีผสมอาหาร เป็นน้ำชาลดอาการ เบาหวาน เปน็ ตน้ มะกรูดเป็นพืชสมุนไพรโบราณที่มีคุณประโยชน์ทางยามากมาย โดยสามารถนำส่วนต่างๆมาใช้รักษา อาการต่างๆได้อยา่ งหลากหลาย มะกรูดมสี ารตา้ นอนุมูลอิสระสงู จึงมีสว่ นชว่ ยสรา้ งเสริมภมู ิคมุ้ กนั ให้ร่างกายและ ตา้ นทานโรคหลายชนิดรวมทง้ั มะเร็งบางชนิดดว้ ย นอกจากน้มี ะกรูดยังมีฤทธใิ์ นการชว่ ยยบั ย้งั การเจริญเติบโตของ เช้ือจุลินทรยี ์ ดงั นน้ั กลุ่มของข้าพเจ้าจึงจะทำน้ำยาเช็ดกระจกท่ีจากมะกรูดและดอกอัญชนั โดยวิธีการนำไปหมักเป็นน้ำ หมักชีวภาพ เพอื่ มาช่วยลดคราบสกปรกบนกระจก

2 1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1.เพ่อื ศกึ ษาผลการทำน้ำหมักชีวภาพจากดอกอญั ชันและมะกรูดเพอื่ นำไปใชข้ จัดคราบสกปรกบนกระจก 2.เพือ่ เปรียบเทยี บประสทิ ธภิ าพของน้ำหมักชีวภาพจากดอกอญั ชันและมะกรดู ในระยะเวลาท่แี ตกตา่ งกัน 1.3 ขอบเขตของการศึกษา 1. น้ำหมกั ชวี ภาพจากอัญชันและมะกรูดจะใช้อัญชัน 2. กระจกทีใ่ ช้ทำการทดลอง ใชก้ ระจกใส ท่คี วามสกปรกตามปกติ 3. ระยะเวลาที่ใชใ้ นการหมักนำ้ หมกั ชีวภาพ โดยระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการหมักคอื 10 20 30 วนั ตามลำดบั 1.4 สมมตฐิ าน น้ำหมักชีวภาพจากดอกอัญชันและมะกรูดสามารถนำไปทำเป็นน้ำยาเช็ดกระจกเพื่อใช้ในการขจัดคราบ สกปรก 1.5 ตัวแปร ตัวแปรต้น นำ้ ยาเชด็ กระจกดอกอญั ชนั และมะกรดู ในอัตราส่วนต่างๆ ตัวแปรตาม คราบสกปรกบนกระจกที่ลดลงหรอื หายไป ตวั แปรควบคุม ปรมิ าณคราบสกปรกของกระจกก่อนจะนำทดลอง 1.6 ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ บั นำ้ ยาเชด็ กระจกที่ได้จากการหมักจากอัญชนั และมะกรูดสามารถกกำจัดคราบสกปรกบนกระจกได้ 1.6 นิยายศัพท์เฉพาะ น้ำหมักชีวภาพ คือ น้ำที่ได้จากการต้มของอัญชันและผิวมะกรูดแล้วนำมาพกั เป็นระยะเวลา 10 วัน 20 วนั และ 30 วนั การเปลี่ยนแปลงของคราบบนกระจก คือ ความสะอาดของกระจก ความใสของกระจก และคราบบน กระจกที่หลงเหลืออยู่

3 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กีย่ วขอ้ ง 2.1 อัญชนั อัญชัน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Clitoria te rnatea L.) เป็นไม้เลื้อย ลำต้นมีขนนุ่ม มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ปลกู ได้ทว่ั ไปในเขตร้อน มชี ่ือพนื้ เมอื งอนื่ อีกคอื แดงชัน (เชียงใหม)่ , เออ้ื งชัน, เองชัญ เม่ือค้ันเอาน้ำออกมาแล้วจะ ไดเ้ ป็นสีม่วง น้ำเงนิ อญั ชนั เป็นไมเ้ ล้ือยเนื้ออ่อน อายสุ ้ัน ใชย้ อดเลอื้ ยพัน ลำตน้ มขี นปกคลมุ ใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้ามยาว 6-12 เซนติเมตร มีใบย่อยรูปไข่ 5-7 ใบ กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ปลายใบ แหลม โคนใบมน ผวิ ใบดา้ นลา่ งมขี นหนาปกคลุม ดอกสีขาว ฟ้า และม่วง ดอกออกเดี่ยว ๆ รูปทรงคล้ายฝาหอยเชลล์ออกเป็นคู่ตามซอกใบ กลีบดอก 5 กลบี ดอกบานเตม็ ทีย่ าว 2.5-3.5 เซนตเิ มตรกลบี คลุมรปู กลม ปลายเว้าเป็นแอ่ง ตรงกลางมีสีเหลือง มที ง้ั ดอกซ้อน และดอกลา ดอกชั้นเดียวกลีบขั้นนอกมีขนาดใหญ่กลางกลีบสีเหลือง ส่วนกลีบชั้นในขนาดเล็กแต่ดอกซ้อนกลีบ ดอกมขี นาดเทา่ กนั ซ้อนเวียนเป็นเกลยี ว ออกดอกเกอื บตลอดปี ผลแห้งแตก เป็นฝักแบน กวา้ ง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 5-8 เซนติเมตร เมล็ดรปู ไต สีดำ มี 5-10 เมล็ด อัญชันมถี ิ่นกำเนิดในแถบเอเชียเขตรอ้ น และพบใน ไทย ลาว คาบสมุทรมาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมทั้งในเอเชียใต้ ก่อนจะถูกนำไปแพร่พันธุ์ในแอฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกาดอก ใช้ปลูกผมทำให้ผมดกดำ เงางามมากขึ้น เพราะดอกอัญชันมีสารที “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของ โลหติ ดอก ใช้ปลูกผมทำให้ผมดกดำ เงางามมากขึ้น เพราะดอกอัญชันมีสารที “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซ่งึ ชว่ ยกระตุ้นการไหลเวยี นของโลหติ ทำใหเ้ ลอื ดไปเลี้ยงสว่ นตา่ ง ๆ ไดด้ มี ากขึน้ เมล็ด เปน็ ยาระบาย ราก บำรงุ ตาแกต้ าฟาง ถฟู นั แก้ปวดฟนั ตาแฉะ และปรุงเปน็ ยาขับปสั สาวะ นำรากมาถกู บั น้ำฝนใช้หยอด หแู ละหยอดตานำไปวัดคา่ ความเป็นกรดเนือ่ งจากดอกอัญชันมสี ารแอนโทไซยานิน ในสมัยก่อนหญิงสาวมักนำอัญชันมาเขียนคิ้วให้ดำขลับอัญชันเป็นดอกไม้อีกหนึ่งประเภทที่นิยมนำไป ทำอาหาร โดยปกติจะใช้สจี ากการต้มและค้ันน้ำของดอกเพื่อมาผสมกับแป้งต่าง ๆ ทำเป็น ขนมชั้น ทับทิมกรอบ บัวลอย ฯลฯ นอกจากนั้นดอกก็สามารถนำมาชุบแป้งทอด ใส่สลัดต่าง ๆ เพื่อตกแต่งจาน หรือทำไข่เจียวหรือชา อญั ชนั กไ็ ด้ ในมาเลเซียนำไปหุงกับขา้ วให้สีฟ้า ใช้ในอาหารทลี่ กั ษณะคลา้ ยขา้ วยำของไทย ดอกอัญชัน เป็นไม้เถา มี ดอกสีม่วงอมน้ำเงินสวยงามตามธรรมชาติ ทำให้นิยมนำมาคั้นเป็นสีผสมอาหาร คุณประโยชน์ของดอกอญั ชนั ยัง

4 ครอบคลุมไปถึงสรรพคุณทางยาอันหลากหลาย เช่น ลดไข้ แก้หอบหืด โดยมีส่วนประกอบของแอนโทไซยานิน ฟลาโวนอยด์ สเตียรอยด์ และไตรเตอร์ปินอยด์ ซึ่งเชื่อว่ามีคุณสมบัติช่วยรักษาปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ลด อาการปวดบวมอกั เสบ ถอนพิษแมลงสัตวก์ ัดต่อย ขับปสั สาวะ รกั ษาโรคเบาหวาน ต้านการแขง็ ตัวของเลือด เป็น ต้น ผู้คนจึงนิยมนำเมล็ด ต้น ดอก หรือรากของอัญชันมาใช้โดยหวังสรรพคุณดังกล่าว นอกจากนี้ อัญชันยังมี คุณประโยชน์ทางยาด้านอื่นๆ ซึ่งมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพอย่างกว้างขวาง ว่าช่วย เสรมิ สร้างความจำและสตปิ ัญญา ดงั ปรากฏในงานวจิ ยั ท่มี กี ารศึกษาอยา่ งแพรห่ ลาย สรรพคุณทางยาท่ีสำคัญของพืชหลายชนิดคือช่วยป้องกนั เซลลใ์ นร่างกายไม่ให้ถกู ทำลายจากอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับดอกอญั ชันที่นับเป็นพชื อกี ชนิดทีม่ ีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยงานวจิ ัยหลายช้ินช้ีให้เห็นว่าดอกอญั ชัน อาจมีสรรพคุณช่วยลดความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และอาจมีประโยชน์ในการช่วยรักษาและ ป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพหลายประการ อัญชันช่วยแก้หอบหดื เป็นสรรพคุณของอัญชันอีกประการหนึง่ ที่มีการกล่าวอ้างกนั คือช่วยลดอาการแพ้ อันเป็นสาเหตุจากโรคหืด ดังปรากฏในการทดสอบสรรพคุณรักษาหอบหืดของรากอัญชันกับหนูทดลอง จึงอาจ กล่าวได้วา่ รากอญั ชันมคี ุณสมบัติช่วยลดปฏิกริ ิยาภูมิแพ้ท่เี ปน็ สาเหตขุ องโรคหืดได้ และสารสกดั จากรากและเมล็ด อัญชันช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในหนทู ดลองได้ โดยมีฤทธเิ์ ทียบเท่ากบั ยารักษาไขมันในเลอื ดสงู อย่างอะทอร์วา แสตนติน และเจมไฟโบรซิล 2.2 มะกรดู มะกรดู หรือทภ่ี าษาอังกฤษเรยี กว่า Kaffir lime, Leech lime, Mauritius papeda มชี ่ือวทิ ยาศาสตร์ว่า Citrus x hystrix L. นอกจากนใี้ นประเทศไทยยังมชี ือ่ อีกหลากหลายชื่อ อาทิเช่น มะขู (แมฮ่ ่องสอน), มะขุน มะขดู (ภาคเหนือ), ส้มกรูด ส้มมั่วผี (ภาคใต้) เป็นต้น เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูล ส้ม (Citrus) โดยมีถิ่นกำเนดิ ในประเทศ ไทย ลาว มาเลเซยี และอนิ โดนีเซยี ลักษณะของมะกรดู เปน็ ไม้ยืนต้นขนาดเลก็ เน้อื ไมแ้ ขง็ ลำต้นและกิ่งมหี นามยาว เลก็ น้อย ใบเป็นใบประกอบชนิดลดรปู มีใบย่อย 1 ใบ เรียงสลบั รูปไข่ คอื มลี กั ษณะคล้ายกับใบไม้ 2 ใบ ตอ่ กันอยู่ คอดกิ่วที่กลางใบเป็นตอน ๆ มีก้านแผ่ออกใหญ่เท่ากับแผ่นใบ ทำให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กว้าง 2.5-4 เซนติเมตร ยาว 4-7 เซนตเิ มตร ใบสเี ขียวแกพ่ น้ื ผิวใบเรียบเกลยี้ ง เปน็ มัน คอ่ นขา้ งหนา มีกล่ินหอมมากเพราะมีต่อมน้ำมันอยู่ ซ่งึ ผลแบบนเ้ี รยี กวา่ ผลแบบสม้ (hesperitium) ใบด้านบนสเี ขม้ ใต้ใบสีอ่อน ดอกออกเป็นกระจุก 3–5 ดอก กลีบ ดอกสขี าว เกสรสีเหลอื ง รว่ งง่าย มีกล่นิ หอม มีผลสเี ขยี วเขม้ คล้ายมะนาวผวิ เปลือกนอกขรุขระ ข้วั หัว-ท้ายของผล เปน็ จกุ ผลอ่อนมีเปน็ สีเขยี วแก่ เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด พนั ธทุ์ มี่ ผี ลเลก็ ผิวจะขรขุ ระน้อยกว่าและไม่มี จุกที่ขั้ว ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ๆลักษณะของมะกรูดเป็นไม้ยนื ต้นขนาดเล็ก เนื้อไม้แข็ง ลำต้นและกิ่งมีหนาม ยาวเลก็ นอ้ ย ใบเปน็ ใบประกอบชนิดลดรูป มีใบย่อย 1 ใบ เรียงสลับ รปู ไข่ คอื มีลักษณะคลา้ ยกบั ใบไม้ 2 ใบ ตอ่ กัน อยู่ คอดกิ่วท่ีกลางใบเป็นตอน ๆ มีก้านแผ่ออกใหญเ่ ทา่ กับแผ่นใบ ทำให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กวา้ ง 2.5-4 เซนติเมตร

5 ยาว 4-7 เซนติเมตร ใบสเี ขียวแก่พ้นื ผิวใบเรยี บเกลี้ยง เปน็ มนั ค่อนขา้ งหนา มีกลน่ิ หอมมากเพราะมีต่อมน้ำมันอยู่ ซงึ่ ผลแบบน้ีเรยี กวา่ ผลแบบส้ม (hesperitium) ใบด้านบนสีเขม้ ใต้ใบสอี ่อน ดอกออกเปน็ กระจุก 3–5 ดอก กลีบ ดอกสขี าว เกสรสเี หลือง ร่วงงา่ ย มีกล่นิ หอม มผี ลสเี ขียวเขม้ คลา้ ยมะนาวผิวเปลือกนอกขรุขระ ข้วั หัว-ท้ายของผล เปน็ จกุ ผลออ่ นมีเปน็ สเี ขยี วแก่ เมือ่ ผลสกุ จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด พนั ธท์ุ ี่มีผลเลก็ ผวิ จะขรขุ ระน้อยกว่าและไม่มี จกุ ที่ข้ัว ภายในมเี มล็ดจำนวนมาก ๆสรรพคณุ มะกรูด กบั คุณประโยชน์ทางยาทไี่ มค่ วรมองขา้ ม มะกรูดเป็นพืชสมุนไพรโบราณที่มีคุณประโยชน์ทางยามากมาย โดยสามารถนำส่วนต่าง ๆ มาใช้รักษา อาการตา่ ง ๆ ได้อยา่ งหลากหลาย มะกรดู มสี ารต้านอนมุ ูลอิสระสงู จงึ มสี ว่ นชว่ ยสร้างเสรมิ ภูมคิ ุ้มกันให้แก่ร่างกาย และต้านทานโรคหลายชนิดรวมทั้งมะเร็งบางชนดิ ดว้ ย นอกจากนีม้ ะกรดู ยังมีฤทธ์ใิ นการช่วยยบั ยงั้ การเจริญเติบโต ของเช้อื จุลินทรีย์ อย่างเช่นเชือ้ อโี คไล (E.coli) และซาลโมเนลลา (Salmonella) ได้ ชว่ ยบำรุงประจำเดอื น ขบั ระดู และมักเป็นส่วนผสมสำคัญในยาสตรีต่าง ๆ ไม่เพียงแค่นั้นส่วนต่าง ๆ ของมะกรูดยังมีประโยชน์อีกมากมาย ตวั อย่างเช่น รากมะกรูด รากของมะกรดู มีรสจดื เยน็ สามารถชว่ ยแก้อาการไข้ ถอนพษิ สำแดง แก้ลมจกุ เสียด กระทงุ้ พษิ ไข้ แก้พิษฝี ภายใน และช่วยอาการเสมหะเปน็ พิษ ผวิ มะกรูด • เป็นยาบำรุงหัวใจ โดนนำผิวมะกรูดฝานสดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับพิมเสนหรือการบูรชงในน้ำ เดอื ดแลว้ แช่ท้ิงไว้ จากนัน้ นำมาด่มื • ช่วยแก้อาการเป็นลม หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ โดยนำเปลือกมะกรูดฝานบาง ๆ ชงกับน้ำเดือดแล้วเติม การบรู เล็กน้อย นำมาด่ืมเพือ่ แก้อาการ • ชว่ ยขับลมในลำไส้ แก้อาการจกุ เสียด ท้องอืด แนน่ ท้องได้ • ช่วยขับสารพิษทอี่ ยู่ในร่างกายใหอ้ อกมาทางผวิ หนงั โดยการนำผิวมะกรูดมาใช้เป็นสว่ นประกอบในการอบ ซาวน่าสมุนไพร • ผวิ ของมะกรูดสามารถชว่ ยแก้อาการนอนไมห่ ลับได้ โดยนำผิวของมะกรูดบดรวมกับรากชะเอม ไพล เฉียง พร้า ขม้ินออ้ ย แล้วนำมาต้มน้ำด่ืม ใบมะกรูด • ช่วยแก้ไอ แก้อาการอาเจียนเป็นเลอื ด • ช่วยแก้อาการชำ้ ในผิวของมะกรูดสามารถช่วยแก้อาการนอนไม่หลับได้ โดยนำผิวของมะกรูดบดรวมกับ รากชะเอม ไพล เฉยี งพรา้ ขมน้ิ ออ้ ย แล้วนำมาตม้ นำ้ ดมื่ ผลมะกรูด

6 • ชว่ ยแกอ้ าการไอ ขบั เสมหะ โดยการนำมะกรดู ผ่าครึง่ และนำไปลนไฟให้น่ิม แลว้ คอ่ ย ๆ บบี นำ้ มะกรูดลง คอทลี ะนดิ จะช่วยทำใหอ้ าการบรรเทาลงได้ • ช่วยฟอกโลหิต โดยนำผลมะกรูดสดมาผ่าเป็น 2 ซีกแล้วนำไปดองกับเกลือหรือน้ำผึ้งประมาณ 1 เดือน แล้วรินเอาแต่น้ำด่ืม • ช่วยแก้อาการปวดท้อง หรือใช้เป็นยาแกป้ วดท้องในเด็กอ่อน โดยการนำผลมะกรูดมาคว้านไส้กลางออก นำมหาหงิ คุ์ใส่และปิดจุก แล้วนำไปเผาไฟจนดำเกรียมและบดจนเป็นผงละลายกับน้ำผง้ึ ไว้รับประทานแก้ อาการปวดได้ • ช่วยขบั ระดู ขบั ลม โดยผลมะกรดู นำมาดองทำเปน็ ยาดองเปรี้ยวไว้รับประทาน • ช่วยแก้อาการน้ำลายเหนยี ว • แก้เถาดานในทอ้ ง • แก้ระดูเสยี ขบั ระดู • ชว่ ยขบั ลมในลำไส้ นอกจากน้นี ำ้ จากผลมะกรูดยังสามารถใชแ้ กอ้ าการเลือดออกตามไรฟันไดอ้ กี ดว้ ย โดยใช้น้ำมะกรดู ถูบาง ๆ บรเิ วณเหงอื กหลังแปลงฟนั เสร็จจะชว่ ยทำให้อาการเลือดออกตามไรฟันบรรเทาลงได้ แชมพูมะกรดู ดับกลิ่น มะกรูดสามารถดบั กล่ินตา่ ง ๆ อย่างเช่น กลน่ิ คาวของอาหารคาวหาน หรือจะเป็นกลนิ่ ทีไ่ ม่พึงประสงคข์ อง เท้าโดยการนำมาผสมกับขิง ข่า และเกลือในปริมาณเทา่ ๆ กัน ต้มให้น้ำอุน่ แล้วแช่เท้าลงไปประมาณ 15 นาที ก็ จะชว่ ยลดกลน่ิ อบั ที่เทา้ และช่วยคลายความเมือ่ ยล้าได้ มะกรดู สามารถนำมาใช้ดดู กลิน่ ที่มาจากรองเท้าหรือกล่ินที่ อยู่ในตูร้ องเท้าได้ ดว้ ยการใช้ผิวมะกรูด ตะไคร้หอม ถา่ นปน่ และสารส้ม มาใสถ่ ุงที่ทำจากผ้าขาวบาง เอาไปใส่ไว้ ในตรู้ องเทา้ หรอื ในรองเทา้ จะทำให้กลิ่นตา่ ง ๆ หายไป โทษของมะกรดู หากใช้น้ำมันมะกรูดสัมผัสกับผิวโดยตรง เมื่อไปถูกแสงแดดก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้แสงแดดจน กลายเป็นแผลไหม้ได้ เพราะในนำ้ มะกรูดมีสารออกซิเพดามิน (oxypedamin) ซึ่งจะทำให้เกิดอาการแพ้เม่ือโดน แสงแดด (photo toxicity) และสารดีไลโมนีน (d-limonene) ซึ่งเมื่อโดนอากาศเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิด อาการแพ้ระคายเคอื งได้ ดังนัน้ เพ่อื ความปลอดภัย หากนำน้ำมะกรดู มาสมั ผสั กบั ผวิ แล้วละก็ภายในสี่ช่วั โมงไม่ควร ให้บริเวณทีโ่ ดนนำ้ มะกรูดถกู แสงแดด

7 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนินการศกึ ษาค้นคว้า ในการศึกษาครง้ั น้ี ผศู้ ึกษาไดท้ ำการศึกษาน้ำยาเช็ดกระจกจากดอกอญั ชันและมะกรดู ซึง่ มีวธิ กี ารดังนี้ 3.1 วสั ดุ-อปุ กรณแ์ ละสารเคมี 200 กรัม 1. ดอกอัญชนั สมี ว่ ง 100 กรัม 2. ผิวมะกรดู 200 กรมั 3. น้ำตาลทราย 1 ลิตร 4. น้ำสะอาด 1 ใบ 5. หม้อสแตนเลส 1 เล่ม 6. มดี 1 ใบ 7. เตา 3 ใบ 8. โหลสำหรับใชใ้ นการหมกั 3 ขวด 9. ขวดสเปรย์ 1 ม้วน 10. ทิชชู่ 1 อัน 11. เทอร์มอมิเตอร์ 3.2 วธิ ดี ำเนินการทดลอง 3.2.1 การทำน้ำหมกั ชวี ภาพจากดอกอญั ชันและผวิ มะกรดู 1. ฝานเอาเฉพาะผวิ มะกรูด 100 กรมั 2. นำผวิ มะกรูดใส่ลงในหมอ้ แล้วต้มดอกอญั ชัน 200 กรัม แล้วต้มต่อประมาณ 10 นาที แลว้ จึงดบั ไฟ 3. ปลอ่ ยใหน้ ำ้ ดอกอญั ชันเยน็ ลงแล้วนำเทอร์มอมเิ ตอรม์ าวดั จนมีอณุ หภูมิ 60 องศาเซลเซียส ใส่น้ำตาลทรายลง ไปคนให้ละลายเข้ากัน 4. เทใส่โหลสำหรับหมกั ท้งั 3 โหล ปดิ ฝา พอให้แก๊สทเ่ี กิดข้นึ ระบายออกมาไดโ้ ดยโหลท่ี 1 ทิ้งไว้ 10 วัน โหลที่ 2 ท้ิงไว้ 20 วนั และโหลท่ี 3 ท้ิงไว้ 30 วนั 5.เมื่อแต่ละโหลครบตามวนั ทกี่ ำหนดใหน้ ำมากรองนำ้ หมักชวี ภาพ เอากากออก (ซ่งึ กากทีก่ รองออกมาสามารถ นำไปเป็นปุ๋ยตน้ ไมไ้ ด้) 6. นำน้ำหมักชีวภาพจากดอกอัญชันและมะกรูดใส่ลงในขวดสเปรย์แล้วนำไปทดสอบกับคราบสดปรกบน กระจก

8 3.2.2 หาประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของนำ้ หมกั ชีวภาพจากดอกอญั ชันกบั มะกรดู 1. นำกระจกทีม่ คี วามสกปรกตามปกติ 1 แผน่ มาทำความสะอาดด้วยนำ้ ยาเช็ดกระจกจากดอกอญั ชันและ มะกรดู ในขวดท่ี 1 ทหี่ มกั เป็นระยะเวลา 10 วัน และนำทิชชู่มาเชด็ กระจกเพือ่ สงั เกตดูคราบสกปรก จากนั้นสงั เกต และบันทึกผล ทำซ้ำจนถึงน้ำหมกั ที่มรี ะยะเวลา 30 วัน 2. นำผลการทดลองที่ได้มาเปรยี บเทียบและบันทึกผลการทดลอง

9 บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน 4.1 ตารางบนั ทึกผลการทดลอง ระยะเวลาการหมัก (วนั ) การเปลย่ี นแปลงของคราบบนกระจก 10 กระจกใสข้นึ ยังมีคราบหลงเหลือ 20 กระจกใสขึน้ มากกว่า ยงั มีคราบหลงเหลอื งบางส่วน 30 กระจกใสและมคี วามเงา ไมม่ คี ราบหลงเหลอื

10 บทท่ี 5 สรปุ ผล อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง จากการทดลองจะเหน็ ได้วา่ นำ้ หมักชวี ภาพจากอญั ชันและมะกรูดสามารถขจัดคราบสกปรกบนกระจกใส ได้ โดย น้ำหมกั ชวี ภาพที่หมกั เปน็ ระยะเวลา 10 วนั ได้ผลวา่ กระจกใสขึ้น ยังมีคราบหลงเหลืองบางสว่ น น้ำหมักท่ี หมกั เป็นระยะเวลา 20 วนั ได้ผลว่ากระจกใสขึ้นมากกวา่ ยังมคี ราบหลงเหลอื งบาง และน้ำหมกั ที่หมกั เปน็ ระยะเวลา 30 วนั ไดผ้ ลว่ากระจกใสมากและมคี วามเงา ไม่มคี ราบหลงเหลอื สรุปผลการทดลองไดว้ ่า นำ้ หมกั ชวี ภาพจากอัญชันและมะกรดู สามารถขจัดคราบสกปรกไดจ้ ริง และน้ำ หมกั ชีวภาพท่ีหมักเป็นระยะเวลา 30 วันสามารถขจัดคราบสกปรกบนกระจกได้มีประสิทธภิ าพดีที่สดุ

11 บรรณานกุ รม โชติมา วไิ ลวัลย์. (2549). น้ำยาเช็ดกระจก. สบื ค้นจาก http://www.chemtrack.org/News- Detail.asp?TID=4&ID=2 ไมป่ รากฏชอื่ ผู้แตง่ . (2557). มะกรดู ประโยชนข์ องมะกรดู สมนุ ไพรหลากสรรพคุณคู่ครัวไทย. สบื คน้ จาก https://health.kapook.com/view97811.html ไมป่ รากฏชื่อผแู้ ต่ง. (2565). อญั ชนั . สืบคน้ จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8 %8A%E0%B8%B1%E0%B8%99 ไม่ปรากฏชื่อผแู้ ตง่ . (2565). ดอกอัญชนั ดีต่อสขุ ภาพจรงิ หรอื . สืบคน้ จาก http://pabpad.com/ ไมป่ รากฏชอ่ื ผแู้ ต่ง. ไมป่ รากฏปที ี่พมิ พ.์ สรรพคณุ และประโยชนข์ องดอกอญั ชนั . สืบค้นจาก http://medthai.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook