Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานฉบับสมบูรณ์_สพข. 7_ 5 มีนาคม 64

รายงานฉบับสมบูรณ์_สพข. 7_ 5 มีนาคม 64

Published by Sasithorn Daisai, 2021-03-05 05:27:23

Description: รายงานฉบับสมบูรณ์_สพข. 7_ 5 มีนาคม 64

Search

Read the Text Version

85 ตารางที่ 3-23 ภาวะการผลิตพืช ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของการ สญู เสยี ดินในระดบั ปานกลาง (ตอ่ ) รายการ ปีการผลติ 2562/63 รอ้ ยละ ช่วงเวลาปลูก/เกบ็ เกย่ี วยางพารา 12.87 ปลกู เดือน/ปี(รอ้ ยละของเกษตรกร) 20.45 15.89 ส.ค.-48 21.57 พ.ค.-53 29.22 พ.ค.-54 ก.ค.-55 100.00 มิ.ย.-56 เดอื นเก็บเก่ียว(รอ้ ยละของเกษตรกร) 780.68 ส.ค.-ก.พ.. 275.46 ปริมาณผลผลิต ขา้ วโพด(กก./ไร) 100.00 ยางพารา(กก./ไร)่ * การใช้ประโยชนผ์ ลผลติ ข้าวโพด(รอ้ ยละของปริมาณผลผลติ ) 100.00 ขาย การใชป้ ระโยชนผ์ ลผลิตยางพารา(ร้อยละของปริมาณผลผลิต) ขาย สถานทจี่ ำหนา่ ยผลผลติ ข้าวโพด ทบ่ี ้าน(รอ้ ยละของปรมิ าณผลผลิต) 15.69 ที่ไร่(ร้อยละของปริมาณผลผลติ ) 58.59 จดุ รับซอ้ื ทอ้ งถนิ่ (ร้อยละของปรมิ าณผลผลติ ) 25.72 สถานทจี่ ำหนา่ ยผลผลิตยางพารา ท่ีบ้าน(ร้อยละของปรมิ าณผลผลิต) 30.49 จดุ รบั ซอ้ื ทอ้ งถิน่ (ร้อยละของปริมาณผลผลิต) 54.88 จดุ รับซอื้ นอกท้องถน่ิ (รอ้ ยละของปรมิ าณผลผลิต) 14.63 ท่มี า : จากการสำรวจ 2563 *ยางพารา ขายยางก้อนถ้วย จากการวิเคราะห์ตน้ ทนุ และผลตอบแทนการผลิตข้าวโพดในพ้ืนที่ทำการเกษตรทม่ี ีความรุนแรงของ การสูญเสียดินในระดับปานกลาง (ตารางที่ 3-24) พบว่า เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตข้าวโพดทั้งท่ีเป็นเงิน สดและไม่เป็นเงินสด รวม 5,702.59 บาทต่อไร่ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดมีรายได้เฉลี่ย 5,886.33 บาทต่อ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

86 ไร่ เมื่อพิจารณาผลตอบแทนเหนือต้นทุนทั้งหมด พบว่าเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในพื้นที่ทำการเกษตรที่มี ความรนุ แรงของการสูญเสียดินในระดับปานกลางขาดทุนในการปลกู ขา้ วโพด 183.74 บาทต่อไร่ ตารางที่ 3-24 ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตข้าวโพด ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรท่ี มคี วามรุนแรงของการสูญเสียดินในระดับปานกลาง ข้าวโพดปกี ารผลติ 2562/63 รายการ ตน้ ทุนและผลตอบแทน (บาท/ไร)่ เป็นเงนิ สด ไม่เป็นเงนิ สด รวม รวมตน้ ทุนการผลติ 4,690.37 1,012.22 5,702.59 1. ตน้ ทนุ ผันแปร 4,690.37 587.11 5,277.48 1.1 ค่าวสั ดุการเกษตร 2,139.77 0.00 2,139.77 พันธ์ุ 689.14 0.00 689.14 ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 245.89 0.00 245.89 สูตร 16-20-0 423.75 0.00 423.75 สตู ร 20-10-12 0.00 0.00 0.00 สตุ ร 8-3-8 0.00 0.00 0.00 สตู ร 46-0-0 211.29 0.00 211.29 ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมกั มูลวัว 0.00 0.00 0.00 สารปอ้ งกันและปราบวัชพชื 187.95 0.00 187.95 สารป้องกันและปราบศตั รูพืช 235.87 0.00 235.87 นำ้ มนั เชื้อเพลงิ และหลอ่ ลน่ื 145.88 0.00 145.88 1.2 คา่ แรงงานคน 1,644.59 587.11 2,231.70 1.3 ค่าซ่อมแซมอปุ กรณก์ ารเกษตร 252.29 0.00 252.29 1.4 ค่าขนส่งผลผลิต 195.17 0.00 195.17 1.5 ดอกเบี้ยเงนิ กู้ 458.55 0.00 458.55 2. ต้นทุนคงท่ี 0.00 425.11 425.11 คา่ เสอื่ มเครอ่ื งมอื และอุปกรณก์ ารเกษตร 0.00 425.11 425.11 ผลผลิตเฉลยี่ ต่อไร่ (กก./ไร)่ 780.68 ราคาตอ่ หนว่ ย (บาท/กก.) 7.54 รวมมูลคา่ ผลผลติ (บาท/ไร่) 5,886.33 ผลตอบแทนเหนือต้นทนุ เงนิ สด (บาท/ไร่) 1,195.96 ผลตอบแทนเหนอื ตน้ ทนุ ผันแปร (บาท/ไร่) 608.85 ผลตอบแทนเหนอื ต้นทนุ ทง้ั หมด (บาท/ไร)่ 183.74 ต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตยางพาราในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงข องการสูญเสียดิน ในระดับปานกลาง (ตารางที่ 3-25) พบว่า เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตยางพาราทัง้ ที่เป็นเงินสดและไม่เปน็ เงินสด รวม 5,638.77 บาทตอ่ ไร่ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดมีรายไดเ้ ฉลย่ี 5,060.20 บาทตอ่ ไร่ เมือ่ พิจารณา แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

87 ผลตอบแทนเหนือตน้ ทนุ ทั้งหมด พบวา่ เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพ้ืนที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของ การสูญเสียดนิ ในระดับปานกลางขาดทนุ ในการปลูกยางพารา 578.57 บาทต่อไร่ ตารางที่ 3-25 ตน้ ทนุ และผลตอบแทนในการผลติ ยางพารา ปกี ารผลติ 2562/63 ในพื้นทท่ี ำการเกษตรที่ มคี วามรนุ แรงของการสญู เสียดนิ ในระดับปานกลาง ยางพาราปกี ารผลติ 2562/63 รายการ ต้นทุนและผลตอบแทน (บาท/ไร่) รวมตน้ ทนุ การผลิต เปน็ เงินสด ไมเ่ ปน็ เงินสด รวม 1. ตน้ ทุนผนั แปร 1,903.58 3,735.19 5,638.77 1.1 คา่ วัสดกุ ารเกษตร 1,903.58 3,622.61 5,526.19 พันธ์ุ 1,075.88 ปุย๋ เคมี 993.27 82.61 สูตร 15-15-15 0.00 82.61 82.61 สูตร 26-2-0 สูตร 20-10-12 0.00 0.00 0.00 สุตร 8-3-8 289.33 0.00 289.33 สูตร 46-0-0 0.00 ปุย๋ คอก/ป๋ยุ หมัก มลู วัว 0.00 0.00 0.00 สารป้องกันและปราบวัชพืช 0.00 0.00 0.00 สารปอ้ งกันและปราบศตั รพู ืช 212.37 0.00 212.37 น้ำมันเชอ้ื เพลงิ และหลอ่ ล่ืน 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 1.2 ค่าแรงงานคน 0.00 0.00 0.00 1.3 คา่ ซอ่ มแซมอปุ กรณก์ ารเกษตร 491.57 3,540.00 491.57 1.4 ค่าขนสง่ ผลผลิต 0.00 0.00 3,540.00 1.5 ดอกเบย้ี เงนิ กู้ 344.11 0.00 344.11 2. ตน้ ทนุ คงท่ี 68.87 0.00 68.87 ค่าเสอื่ มเครอื่ งมือและอุปกรณก์ ารเกษตร 497.33 112.58 497.33 ผลผลิตฉลยี่ ตอ่ ไร่ (กก./ไร่) 0.00 112.58 112.58 ราคาตอ่ หนว่ ย (บาท/กก.) 0.00 112.58 รวมมูลคา่ ผลผลติ (บาท/ไร)่ 275.46 ผลตอบแทนเหนือตน้ ทุนเงินสด (บาท/ไร)่ 18.37 ผลตอบแทนเหนอื ต้นทุนผันแปร (บาท/ไร่) 5,060.20 ผลตอบแทนเหนอื ต้นทนุ ทั้งหมด (บาท/ไร)่ 3,156.62 -465.99 ทมี่ า : จากการสำรวจ 2563 -578.57 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

88 3) พื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของการสูญเสียดินในระดับน้อย จะพบในที่ลุ่ม เกษตรกรมี การใช้ประโยชน์ท่ดี ินเพอ่ื ปลกู ขา้ วและขา้ วโพด (ตารางที่ 3-26) ภาวะการผลิตข้าวในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของการสูญเสียดินในระดับน้อย เกษตรกร ปลูกข้าวพันธุ์สันป่าตอง และพันธุ์ กข.10 คิดเป็นร้อยละ 75.33 และ 45.67 ของเกษตรกรที่ผลิตข้าว ท้งั หมด ตามลำดับ เปน็ พน้ื ท่ีปลกู ขา้ วในพื้นท่ีเกษตรเขตชลประทาน และเป็นพื้นที่ปลูกข้าวในพ้ืนที่เกษตร อาศัยน้ำฝน คิดเป็น ร้อยละ 56.34 และ 43.66 มีช่วงเวลาปลูก อยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม และมีช่วงเวลาเก็บเกี่ยว อยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ผลผลิตเฉลี่ย 745.66 กิโลกรัมต่อไร่ เกษตรกรขายผลผลิตบางส่วนและเก็บไว้บริโภคเองบางส่วน คิดเป็นร้อยละ 65.45 และ 34.55 ของ ปริมาณผลผลิตข้าวทั้งหมด ตามลำดับ สถานที่รับซื้อผลผลิตข้าว จำแนกเป็น การรับซื้อ ณ จุดรับซื้อ ท้องถิ่น และการรับซื้อในหมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 32.90 และ 12.55 ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด ตามลำดับ ภาวะการผลิตข้าวโพดในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของการสูญเสียดินในระดับน้อย เกษตรกรปลกู ขา้ วโพดพันธุ์ ไพโอเนยี ซพี 8ี 88 ดคี าล์บ และพนั ธ์ุลูกผสมราคาถกู เช่น มะม่วงคู่ คิดเป็นร้อย ละ 75.24 65.78 46.78 18.97 ของเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดทั้งหมด เกษตรบางรายมีการเลือกใช้หลาย สายพันธุ์ควบคู่กันไป เป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดในเขตเกษตรอาศัยน้ำฝน มีช่วงเวลาปลูก อยู่ระหว่างเดือน พฤษภาคม - กรกฎาคม มีช่วงเวลาเก็บเกี่ยว อยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ผลผลิตเฉล่ีย 723.78 กิโลกรัมต่อไร่ เกษตรกรขายผลผลิตทั้งหมด ตามสถานที่รับซื้อผลผลิตข้าวโพด จำแนกเป็น การ รับซอ้ื ณ จุดรับซือ้ ในทอ้ งถนิ่ การรบั ซื้อในหมบู่ ้าน และการรับซอื้ ณ จุดรบั ซอื้ นอกท้องถ่ิน คิดเป็นร้อยละ 54.64 25.78 และ 19.58 ของปริมาณผลผลติ ทงั้ หมด ตามลำดับ ตารางที่ 3-26 ภาวะการผลิตพืช ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของการ สญู เสียดนิ ในระดบั นอ้ ย รายการ ปกี ารผลิต 2562/63 รอ้ ยละ ชนิดพืชและพันธุ์ ขา้ วนาพันธุ์(ร้อยละของเกษตรกร) 10.00 สนั ป่าตอง1 (ร้อยละของเกษตรกรท่ีผลติ ข้าวนา) 75.33 กข.10 (รอ้ ยละของเกษตรกรทผ่ี ลติ ขา้ วนา) 45.67 ข้าวโพดพนั ธ์ุ(รอ้ ยละของเกษตรกร) 14.00 ดคี าลบ์ (ร้อยละของเกษตรกรทผี่ ลิตขา้ วโพด) 46.78 ซพี ี 888 (ร้อยละของเกษตรกรทผ่ี ลิตขา้ วโพด) 65.78 ไพโอเนยี (ร้อยละของเกษตรกรทผ่ี ลิตขา้ วโพด) 75.24 ลกุ ผสมราคาถกู เชน่ มะมว่ งคู่ 18.97 แหลง่ น้ำท่ใี ช้ผลติ ขา้ วนา(รอ้ ยละของเกษตรกร) อ่างเก็บห้วยนำ้ แหง 56.34 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

89 ตารางที่ 3-26 ภาวะการผลิตพืช ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของการ สญู เสียดนิ ในระดบั น้อย (ต่อ) รายการ ปกี ารผลิต 2562/63 ร้อยละ นำ้ ฝน 43.66 แหลง่ นำ้ ทใ่ี ชผ้ ลติ ขา้ วโพด(รอ้ ยละของเกษตรกร) 100.00 นำ้ ฝน ชว่ งเวลาปลูก/เก็บเกย่ี วขา้ วนา 64.55 15.67 เดอื นปลูก(รอ้ ยละของเกษตรกร) 19.78 พ.ค. มิ.ย. 78.44 ก.ค. 21.56 เดือนเกบ็ เกี่ยว(รอ้ ยละของเกษตรกร) 45.78 พ.ย. 24.98 ธ.ค. 29.24 ชว่ งเวลาปลูก/เกบ็ เกย่ี วขา้ วโพด 32.89 ปลูก เดือน/ปี(รอ้ ยละของเกษตรกร) 67.11 พ.ค. มิ.ย. ก.ค. เดอื นเกบ็ เกย่ี ว(รอ้ ยละของเกษตรกร) พ.ย. ธ.ค. ปริมาณผลผลติ 745.66 ข้าวนา(กก./ไร) 723.78 ขา้ วโพด(กก./ไร)่ * 34.55 การใชป้ ระโยชนผ์ ลผลติ ข้าวนา(ร้อยละของปรมิ าณผลผลติ ) 65.45 บรโิ ภค ขาย 100.00 การใชป้ ระโยชน์ผลผลติ ข้าวโพด(รอ้ ยละของปรมิ าณผลผลิต) 32.55 ขาย 32.90 สถานทจ่ี ำหนา่ ยผลผลิตขา้ วนา ทบี่ ้าน(รอ้ ยละของปรมิ าณผลผลติ ) จดุ รับซอื้ ทอ้ งถ่ิน(รอ้ ยละของปริมาณผลผลิต) แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

90 ตารางที่ 3-26 ภาวะการผลิตพืช ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของการ สญู เสยี ดินในระดบั น้อย (ต่อ) รายการ ปีการผลิต 2562/63 รอ้ ยละ สถานทจ่ี ำหนา่ ยผลผลิตข้าวโพด ทบ่ี ้าน(ร้อยละของปรมิ าณผลผลติ ) 25.78 จุดรับซื้อท้องถิน่ (รอ้ ยละของปรมิ าณผลผลติ ) 54.64 จดุ รบั ซือ้ นอกท้องถนิ่ (ร้อยละของปริมาณผลผลิต) 19.58 ทม่ี า : จากการสำรวจ 2563 จากการวเิ คราะห์ตน้ ทุนและผลตอบแทนการผลติ ข้าวในพ้นื ทท่ี ำการเกษตรทมี่ ีความรนุ แรงของการ สูญเสียดินในระดับน้อย (ตารางที่ 3-27) พบว่า เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตข้าวทั้งที่เปน็ เงินสดและไม่เปน็ เงินสด รวม 6,899.86 บาทต่อไร่ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีรายได้เฉลี่ย 10,036.58 บาทต่อไร่ เมื่อพิจารณา ผลตอบแทนเหนือต้นทุนทั้งหมด พบว่าเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ทำการเกษตรทีม่ ีความรุนแรงของการ สญู เสียดินในระดบั นอ้ ยมีกำไรจากการปลกู ข้าว 3,136.72 บาทตอ่ ไร่ ตารางที่ 3-27 ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตข้าว ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรที่มี ความรนุ แรงของการสญู เสยี ดนิ ในระดบั นอ้ ย ขา้ วโพดปีการผลติ 2562/63 รายการ ตน้ ทุนและผลตอบแทน (บาท/ไร)่ เปน็ เงินสด ไม่เป็นเงินสด รวม รวมต้นทุนการผลิต 4,955.83 1,944.03 6,899.86 1. ตน้ ทนุ ผันแปร 4,955.83 1,678.99 6,634.82 1.1 ค่าวสั ดกุ ารเกษตร 2,478.42 0.00 2,478.42 พนั ธ์ุ 489.90 0.00 489.90 ปุ๋ยเคมี สตู ร 15-15-15 321.39 0.00 321.39 สตู ร 16-20-0 756.40 0.00 756.40 สูตร 20-10-12 0.00 0.00 0.00 สุตร 8-3-8 0.00 0.00 0.00 สูตร 46-0-0 469.20 0.00 469.20 ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมกั มลู วัว 120.00 0.00 120.00 สารป้องกันและปราบวชั พชื 175.66 0.00 175.66 สารป้องกนั และปราบศตั รูพชื 56.88 0.00 56.88 นำ้ มันเชื้อเพลงิ และหลอ่ ลน่ื 88.99 0.00 88.99 1.2 ค่าแรงงานคน 1,965.30 1,678.99 3,644.29 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

91 ตารางที่ 3-27 ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตข้าว ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรที่มี ความรุนแรงของการสูญเสยี ดนิ ในระดบั นอ้ ย (ต่อ) ข้าวโพดปกี ารผลติ 2562/63 รายการ ต้นทนุ และผลตอบแทน (บาท/ไร)่ เป็นเงินสด ไมเ่ ปน็ เงินสด รวม 1.3 คา่ ซอ่ มแซมอปุ กรณก์ ารเกษตร 0.00 0.00 0.00 1.4 ดอกเบี้ยเงินกู้ 325.69 0.00 325.69 2. ต้นทุนคงที่ 0.00 265.04 265.04 ค่าเสอ่ื มเครอ่ื งมอื และอปุ กรณก์ ารเกษตร 0.00 265.04 265.04 ผลผลิตเฉลี่ยตอ่ ไร่ (กก./ไร่) 745.66 ราคาต่อหน่วย (บาท/กก.) 13.46 รวมมูลคา่ ผลผลติ (บาท/ไร)่ 10,036.58 ผลตอบแทนเหนือตน้ ทนุ เงินสด (บาท/ไร)่ 5,080.75 ผลตอบแทนเหนือต้นทนุ ผนั แปร (บาท/ไร)่ 3,401.76 ผลตอบแทนเหนือต้นทนุ ท้งั หมด (บาท/ไร)่ 3,136.72 ทีม่ า : จากการสำรวจ 2563 ตน้ ทนุ และผลตอบแทนการผลิตข้าวโพดในพื้นทที่ ำการเกษตรท่มี ีความรนุ แรงของการสูญเสียดินใน ระดับน้อย (ตารางที่ 3-28) พบว่า เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตข้าวโพดทั้งที่เป็นเงินสดและไม่เป็นเงินสด รวม 4,864.95 บาทต่อไร่ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดมีรายได้เฉลี่ย 5,681.67 บาทต่อไร่ เมื่อพิจารณา ผลตอบแทนเหนือต้นทนุ ทั้งหมด พบว่าเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีความรุนแรงของ การสูญเสียดนิ ในระดบั นอ้ ยมกี ำไรจากการปลกู ขา้ วโพด 816.72 บาทต่อไร่ ตารางที่ 3-28 ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตขา้ วโพด ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรที่ มีความรนุ แรงของการสูญเสียดนิ ในระดับน้อย ขา้ วโพดปกี ารผลติ 2562/63 รายการ ตน้ ทนุ และผลตอบแทน (บาท/ไร่) รวมต้นทนุ การผลิต เป็นเงินสด ไม่เป็นเงินสด รวม 1. ต้นทุนผันแปร 3,867.36 997.59 4,864.95 1.1 ค่าวสั ดกุ ารเกษตร พนั ธ์ุ 3,867.36 732.55 4,599.91 ปยุ๋ เคมี สูตร 15-15-15 2,129.84 0.00 2,129.84 สตู ร 16-20-0 สูตร 20-10-12 690.22 0.00 690.22 255.89 0.00 255.89 312.78 0.00 312.78 0.00 0.00 0.00 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

92 ตารางท่ี 3-28 ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตข้าวโพด ปีการผลิต 2562/63 ในพื้นที่ทำการเกษตรท่ี มคี วามรนุ แรงของการสญู เสยี ดนิ ในระดับนอ้ ย (ตอ่ ) ข้าวโพดปีการผลติ 2562/63 รายการ ต้นทุนและผลตอบแทน (บาท/ไร่) สตุ ร 8-3-8 เป็นเงนิ สด ไมเ่ ปน็ เงนิ สด รวม สตู ร 46-0-0 0.00 0.00 0.00 สารปอ้ งกนั และปราบวัชพชื 0.00 210.98 0.00 210.98 สารป้องกันและปราบศตั รูพืช 110.63 110.63 น้ำมนั เช้อื เพลิงและหลอ่ ลื่น 1.2 คา่ แรงงานคน 234.55 0.00 234.55 1.3 คา่ ซอ่ มแซมอุปกรณ์การเกษตร 131.57 0.00 131.57 1.4 ค่าขนส่งผลผลิต 1,230.88 732.55 1,963.43 1.5 ดอกเบีย้ เงินกู้ 0.00 2. ต้นทุนคงท่ี 0.00 0.00 0.00 180.95 0.00 180.95 คา่ เสอ่ื มเครือ่ งมือและอุปกรณก์ ารเกษตร 325.69 265.04 325.69 ผลผลติ ฉลี่ยตอ่ ไร่ (กก./ไร่) 265.04 ราคาต่อหน่วย (บาท/กก.) 0.00 รวมมูลคา่ ผลผลติ (บาท/ไร)่ 265.04 ผลตอบแทนเหนือตน้ ทุนเงนิ สด (บาท/ไร่) 0.00 265.04 723.78 ผลตอบแทนเหนอื ตน้ ทุนผันแปร (บาท/ไร)่ ผลตอบแทนเหนอื ตน้ ทนุ ทง้ั หมด (บาท/ไร่) 7.85 ท่มี า : จากการสำรวจ 2563 5,681.67 1,814.31 1,081.76 816.72 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

93 4 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

4 94 เขตการใช้ที่ดินเป็นผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลสถานภาพของทรัพยากรธรรมชาติและสภาพการใช้ ท่ีดินรว่ มกบั ข้อกฎหมายท่ีเก่ียวข้องภายในพ้ืนทีโ่ ครงการฯ โดยการวิเคราะห์อยู่ภายใต้เงื่อนไขท่ีต้องรักษา สภาพปา่ ไมแ้ ละระบบนิเวศของพ้นื ท่ีไว้ ร่วมกบั การใช้พ้ืนท่ใี ห้เหมาะสมกับศักยภาพของท่ีดินตามประเภท การใช้ที่ดิน ภายใต้ข้อจำกัดการใช้ที่ดินของภาครัฐ และต้องสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจสังคมของชุมชน ในพื้นทตี่ ามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาครัฐในการพิจารณาจัดทำ แผนการใช้ที่ดินในพื้นที่โครงการฯ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างยั่งยืน และคงไว้ซึ่งสมดุลของ ระบบนิเวศรวมทั้งกอ่ ใหเ้ กิดประโยชนใ์ นแง่ของการฟนื้ ฟแู ละอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพ้ืนทโี่ ครงการฯ ต่อไป จากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลเพื่อการพิจารณากำหนดเขตการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง สามารถกำหนดเขตการใช้ที่ดินทำกินในพื้นท่ี ได้เป็น 5 เขตหลัก คือ 1) เขตพื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมาย 2) เขตเกษตรกรรม 3) เขตชุมชนและสิ่งปลูกสร้าง 4) เขตแหล่งน้ำ และ 5) เขตพื้นที่คงสภาพป่าไม้น อก เขตปา่ ตามกฎหมาย (ตารางท่ี 4-1 และภาพที่ 4-1) โดยมรี ายละเอียด ดังน้ี เขตพื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมายในพื้นที่โครงการฯ มีเนื้อที่ 60,010 ไร่ หรือร้อยละ 65.45 ของเนื้อที่ ทั้งหมด พื้นที่ในเขตนี้เป็นบริเวณที่มีการประกาศเป็นเขตป่าไม้ตามกฎหมาย รวมถึงบริเวณที่มีมติ คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรที่ดิน พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือ พื้นที่ช้ันคุณภาพลุ่มนำ้ ชนั้ ท่ี 1 และช้ันที่ 2 และเมอื่ พจิ ารณาตามวัตถุประสงค์หลักของการประกาศเขตป่า ไม้ ความเหมาะสมของทีด่ ินต่อการทำเกษตรบนพื้นท่สี ูงในด้านความลาดชนั ของพ้ืนที่และความลึกของดิน สามารถกำหนดเขตการใช้ทด่ี ิน โดยมีรายละเอียด ดงั น้ี เขตนี้มีเนื้อท่ี 18,586 ไร่ หรอื รอ้ ยละ 20.27 ของเนือ้ ทท่ี ้งั หมด สภาพพ้ืนท่ปี จั จุบันมีลักษณะเป็นป่าสมบรู ณ์ ขอ้ เสนอแนะการใช้พ้นื ทใ่ี นเขตคุม้ ครองสภาพปา่ จากการที่รฐั บาลมีนโยบายทเ่ี ดน่ ชดั ในการรกั ษาพน้ื ท่ปี ่าไม้ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นปา่ สมบูรณ์ ใหค้ งสภาพอยู่ เพอ่ื รักษาความสมดุลของระบบนเิ วศภายในพ้ืนท่ลี ุม่ นำ้ ดงั นน้ั ในการใช้พนื้ ท่ีดังกลา่ วจงึ ควร ดำเนินการ ดงั นี้ - ควบคุมมใิ หม้ ีการเปล่ยี นแปลงสภาพป่าตามธรรมชาติไปใชป้ ระโยชน์ในรูปแบบอ่ืน แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

95 - ควรมีการบำรุงรกั ษาสภาพปา่ ธรรมชาตติ ามหลักวิชาการ - ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าให้มีประสิทธิภาพและมีการ ปฏบิ ัตอิ ย่างต่อเนือ่ ง รวมทงั้ ดำเนนิ การกบั ผกู้ ระทำผิดอยา่ งเดด็ ขาด - ถ้าบริเวณนี้มีการบุกรุกพื้นที่ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ควรรีบดำเนินการ ปลูกปา่ ทดแทนโดยเรว็ และปอ้ งกนั การบุกรกุ เพม่ิ - ควรส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่และพื้นที่ข้างเคียงเห็นคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ และมีส่วน รว่ มในการดแู ลรกั ษาปา่ ไม้ เขตนี้มีเนื้อที่ 1,255 ไร่ หรือร้อยละ 1.37 ของเนื้อท่ีทั้งหมด พื้นที่ในเขตนี้ปัจจุบันมีสภาพเป็นพื้นที่ป่ารอสภาพฟื้นฟู และบาง บริเวณมีการใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร ได้แก่ บริเวณที่มีการปลูกพืชไร่ ไร่หมุนเวียน ในสภาพพื้นที่มี ความลาดชันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่มีการใช้พื้นที่เพื่อปลูกพืชไร่ ป่ารอสภาพฟื้นฟู แ ละไร่ หมนุ เวยี น ข้อเสนอแนะการใชพ้ ืน้ ทีใ่ นเขตฟื้นฟสู ภาพป่าธรรมชาติ - กำหนดมาตรการและแนวทางในการป้องกันมิให้ราษฎรบุกรุกพื้นที่ในเขตนี้ เพื่อนำ กลบั มาใชด้ ้านการเกษตรรวมท้ังป้องกันมใิ ห้มีการเปดิ พ้ืนทป่ี า่ เพือ่ ทำการเกษตรเพม่ิ - ควรจัดทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่าท่ีอาจเกิดขนึ้ ได้จากธรรมชาตหิ รือจากกิจกรรมของ มนุษย์ เพือ่ ให้ปา่ ไมม้ กี ารฟ้ืนตัวตามธรรมชาตทิ ีส่ มบูรณ์ เขตนี้มีเนื้อที่ 40,169 ไร่ หรือ ร้อยละ 43.81 ของเนือ้ ทีท่ ้ังหมด พื้นทใ่ี นเขตนป้ี จั จุบันเป็นบริเวณทีม่ ีการใช้ท่ดี ินเพื่อการปลูกข้าวโพด พืช ไรผ่ สม และยางพารา - เขตพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรที่มีแนวโน้มของการชะล้างพังทลาย ปานกลาง (หน่วยแผนที่ 132) มีเนื้อที่ 36,663 ไร่ หรือร้อยละ 39.98 ของเนื้อที่ทั้งหมด พื้นที่เขตนี้ ปัจจุบันมีการใช้ที่ดิน เพื่อการปลูกพืชไร่ และยางพารา ในสภาพพื้นที่มีความลาดชัน 12-35 เปอร์เซ็นต์ และเป็นบริเวณซง่ึ มคี วามเสย่ี งต่อการชะลา้ งพังทลายในระดบั ปานกลางถงึ รุนแรง - เขตพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรที่มีแนวโน้มของการชะล้างพังทลายต่ำ (หน่วย แผนที่ 133) มีเนื้อที่ 2,883 ไร่ หรือร้อยละ 3.15 ของเนื้อที่ทั้งหมด พื้นที่เขตนี้ปัจจุบันมีการใช้ที่ดินเพื่อ การปลูกข้าวโพด ในสภาพพื้นที่มีความลาดชันต่ำกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ และเป็นบริเวณซึ่งมีความเสี่ยงต่อ การชะล้างพังทลายในระดบั น้อยถึงปานกลาง - เขตพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรควรมีการปรับรูปแปลงนา (หน่วยแผนที่ 134) มีเนื้อท่ี 623 ไร่ หรือร้อยละ 0.68 ของเน้อื ท่ีทงั้ หมด พ้ืนที่เขตน้ปี จั จุบันมีการใชท้ ี่ดินเพ่ือการทำนา ในสภาพพ้ืนท่ีมี ความลาดชนั ต่ำกว่า 35 เปอรเ์ ซ็นต์ ข้อเสนอแนะการใชพ้ ื้นทใี่ นเขตฟน้ื ฟูทรัพยากรธรรมชาตภิ ายใต้เง่ือนไข แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

96 - ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 เรื่อง มาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาทีด่ ินป่าไม้ โดยมุ่งเน้นแก้ไขปญั หาในพื้นที่ปา่ อนุรักษ์ตามกฎหมาย เช่น เขตอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี กำหนดให้กรมป่าไม้สำรวจพื้นที่ที่มีการ ครอบครองให้ชัดเจน - ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2540 เรื่อง แผนการจัดการทรพั ยากรทดี่ ินและป่าไมร้ ะดับพืน้ ที่ เพ่ือใหเ้ กดิ การบริหารจดั การทรัพยากรทดี่ นิ และป่าไม้ อย่างมีระบบโดยให้มีการอนุรักษ์ควบคู่กับการพัฒนาที่ย่ังยืน และสงวนรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรป่าไม้ท่ี เหลืออยู่รวมถึงฟื้นฟูป่าที่เสื่อมสภาพ โดยต้องอยู่บนหลักในการลดปัญหาความขัดแย้งของการใช้ ทรพั ยากรในพน้ื ท่ี - ควรเพิ่มมาตรการในการอนุรักษ์ที่เข้มงวด จริงจังและต่อเนื่อง เพื่อคงสภาพป่าไม้ให้มีความ สมบูรณ์ โดยการพัฒนาดา้ นต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงความย่ังยืนของระบบนิเวศและผลกระทบต่อพ้ืนท่ีลุ่มน้ำ ด้านล่าง โดยเฉพาะแนวทางจดั การให้พนื้ ทีป่ า่ ไมเ้ ป็นตัวควบคุมปริมาณนำ้ ในลมุ่ น้ำในเวลาที่เหมาะสม เชน่ การสรา้ งฝายชะลอนำ้ ในบรเิ วณที่เหมาะสม - ควรเร่งปลูกป่าทดแทนและฟื้นฟูสภาพป่าเพื่อรักษาระบบนิเวศลุ่มน้ำบริเวณพื้นที่ที่มีความ ลาดชันสงู และพื้นท่ีเสีย่ งต่อการชะล้างพังทลาย โดยเพ่มิ มาตรการอนุรกั ษด์ ินและนำ้ ทีเ่ หมาะสม เช่น การ ปลูกหญา้ แฝกและสร้างฝายชะลอน้ำ เปน็ ต้น - ควรสง่ เสริมและรณรงคใ์ หร้ าษฎรในพน้ื ท่ีเห็นถึงคณุ ค่าของทรัพยากรปา่ ไม้และมีส่วนร่วมใน การดแู ลและบำรุงรกั ษาผนื ปา่ ในพื้นทรี่ ่วมกัน มีเน้อื ท่ีประมาณ 24,631 ไร่ หรอื ร้อยละ 26.86 ของเนอื้ ทีท่ ้งั หมด พ้ืนทีใ่ นเขตนี้อยู่นอกเขตท่ีมีการ ประกาศเป็นเขตปา่ ไมต้ ามกฎหมาย ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกนิ มีการออกเอกสารสิทธ์ิ (โฉนด สปก. คทช.) และจาก การพจิ ารณาสามารถแบง่ พ้นื ทต่ี ามความเหมาะสมของทด่ี ินและศกั ยภาพของพื้นที่ได้เปน็ 4 เขตย่อย ดงั นี้ มีเนื้อที่ประมาณ 1,680 ไร่ หรือร้อยละ 1.83 ของเนื้อที่ทั้งหมด พื้นที่เขตนี้มีการใช้ ประโยชน์ที่ดินเพื่อการปลูกพืชไร่ ข้าวโพด ไร่หมุนเวียน หรือบริเวณที่มีการปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น ในสภาพ พื้นที่มีความลาดชันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ มีข้อเสนอแนะในการใช้พื้นที่เขตฟื้นฟูสภาพพื้นที่เกษตรกรรม เพ่อื การรกั ษาระบบนิเวศต้นน้ำ ดังนี้ - ภาครัฐควรกำหนดเปา้ หมายในการควบคุมการใชพ้ ื้นที่ในเขตดังกลา่ วรวมถึงรณรงค์ใหม้ ี การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการปลูกป่าหรือระบบวนเกษตร และส่งเสริมมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำท่ี เหมาะสมกับสภาพพนื้ ท่ี แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

97 - ส่งเสริมให้มีการใช้ปุ๋ยและสารปราบศัตรูพืชที่เป็นชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมี เนอ่ื งจากสารเคมีจะตกคา้ งในดนิ และแหลง่ น้ำ และจะส่งผลต่อระบบนเิ วศของพน้ื ทีป่ ลายน้ำ มีเนื้อที่ประมาณ 1,089 ไร่ หรือร้อยละ 1.19 ของเนื้อที่ทั้งหมด พื้นที่เขตนี้มีการใช้ที่ดิน เพื่อการปลูกข้าวโพด ในสภาพพื้นที่มีความลาดชัน 20-35 เปอร์เซ็นต์ หรือบริเวณที่มีการปลูกยางพารา และสกั ในสภาพพ้ืนทีม่ ีความลาดชัน 35-50 เปอร์เซน็ ต์ มขี อ้ เสนอแนะในการใชพ้ ื้นทีเ่ ขตพ้นื ทีเ่ กษตรกรรม ที่ต้องเร่งรัดดำเนินการจดั ทำระบบอนุรักษด์ นิ และน้ำ ดงั นี้ - ในบริเวณพื้นที่มีความลาดชันสูง และเสี่ยงต่อการชะล้างพังทลาย ควรจัดทำระบบ อนรุ ักษ์ดนิ และน้ำ เช่น การปลูกไมย้ นื ต้นรว่ มกบั หญ้าแฝกขวางความลาดเทบนแนวคันดนิ ทำอาคารชะลอ ความเร็วน้ำร่วมกับการใช้หญ้าแฝก ฝายชะลอน้ำ คันดินเบนน้ำ คูรับน้ำรอบขอบเขา เพื่อป้องกันการชะ ล้างพังทลายของดิน และช่วยเก็บความชื้นไว้ในดิน รวมทั้งมีการจัดระบบการปลูกพืชให้เหมาะสมกับ สภาพพน้ื ที่ และบำรงุ ดนิ ดว้ ยปุย๋ หมกั หรอื ปุ๋ยคอก เพ่อื เพ่ิมอินทรยี วตั ถใุ ห้ดิน - ในกรณีที่เป็นดินดีหรือดินลึก ควรทำเป็นคันดินสำหรับปลูกพืชล้มลุกที่มีมูลค่าทาง เศรษฐกจิ สงู หรือถา้ มีการปลกู ไม้ยนื ตน้ ควรปลูกพชื คลมุ ดนิ ร่วมดว้ ย - ในกรณีที่เป็นดินตื้นไม่ควรปลูกพืชไร่หรือพืชล้มลุก ควรปลูกไม้ยืนต้นขวางความลาดเท ของพื้นที่ และปลูกพืชคลุมดินระหว่างต้นพืช และควรทำคันคูรอบเขาเพื่อระบายน้ำ ในกรณีที่ปลูกไม้ยืน ต้นและต้องการปลูกพืชแซมระหว่างแถวก่อนไม้ยืนต้นโตนั้นไม่ควรมีการไถพรวน เนื่องจากพื้นที่มีความ ลาดชนั สูงทำใหเ้ กดิ การสูญเสยี หน้าดนิ ไดง้ า่ ย มเี นอื้ ที่ประมาณ 14,238 ไร่ หรือรอ้ ยละ 15.53 ของเน้อื ที่ท้ังหมด พนื้ ท่ีเขตนมี้ ีการใช้ที่ดิน เพื่อการปลูกข้าวโพด ในสภาพพื้นที่มีความลาดชัน 12-20 เปอร์เซ็นต์ หรือบริเวณที่มีการปลูกยางพารา และสัก ในสภาพพนื้ ท่ีมคี วามลาดชนั 12-35 เปอรเ์ ซน็ ต์ มีข้อเสนอแนะในการใช้พื้นที่เขตพื้นที่เกษตรกรรมที่ควรส่งเสริมมาตรการในการอนุรักษ์ ดนิ และน้ำ โดยในบริเวณพ้ืนทีท่ ี่มีความลาดชนั สูง และเสยี่ งต่อการชะล้างพังทลายควรจัดทำระบบอนุรักษ์ ดินและน้ำ โดยใช้ระบบพืชในการอนุรักษ์ดินและน้ำ เช่น การปลูกแถบหญ้าแฝก ปลูกพืชสลับเป็นแถบ หรือปลูกพืชคลุมดิน เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน และช่วยเก็บความชื้นไว้ในดิน รวมทั้งมีการ จัดระบบการปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพื่อเพ่ิม อนิ ทรยี วตั ถใุ หด้ ิน แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

98 มีเนื้อที่ประมาณ 4,757 ไร่ หรือร้อยละ 5.19 ของเนื้อที่ทั้งหมด พื้นที่เขตนี้มีการใช้ที่ดิน เพอ่ื การปลูกพืชไร่ ไร่หมนุ เวยี น ไม้ผล และไม้ยืนต้น ในสภาพพ้นื ที่มีความลาดชนั น้อยกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ มีข้อเสนอแนะในการใชพ้ ้ืนท่เี ขตพ้ืนทเ่ี กษตรกรรมมีความลาดชันน้อยกว่า 12 เปอร์เซน็ ต์ ดงั นี้ - ควรทำคันดินเบนน้ำเพื่อป้องกันน้ำที่จะไหลบ่าเข้ามาจากพื้นที่ด้านนอก ซึ่งอาจจะทำ ความเสียหายให้แก่พืชในพื้นที่ได้ และยังช่วยลดการชะล้างพังทลายของดิน และอาจต้องทำทางระบายน้ำ ออกจากพนื้ ทแี่ ตถ่ ้ามีทางนำ้ ธรรมชาติอยูแ่ ลว้ ควรรักษาให้อยู่ในสภาพดี - ควรจัดระบบปลูกพืชให้เหมาะสมโดยการไถพรวน และปลูกพืชขวางความลาดเท และควร จดั ให้มพี ืชขึ้นปกคลุมหน้าดินตลอดท้ังปี สนบั สนนุ การปลูกไมโ้ ตเร็วควบคู่กับการอนรุ ักษ์ดินและน้ำ เน้นการ ทำการเกษตรแบบผสมผสานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นการปลูกพืชให้หลากหลายชนิดทั้งไม้ผล ไม้ ยนื ตน้ พชื ไร่ และพชื ผกั - พัฒนากระบวนการผลิตไม้ผล ส่งเสริมการผลิตพืชปลอดสารพิษ เพิ่มศักยภาพการผลิตโดย ปรบั ปรงุ โครงสรา้ งของดินดว้ ยการปลูกพืชตระกลู ถ่ัวในพื้นท่ี เพือ่ เพ่มิ อินทรยี วัตถุแก่ดิน ส่งเสริมการใช้ปุ๋ย อนิ ทรีย์ และผลติ ภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมแี ละสารเคมี มีเนื้อที่ประมาณ 2,867 ไร่ หรือร้อยละ 3.12 ของเนื้อที่ทั้งหมด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการใช้ ที่ดนิ เพอ่ื การทำนา ดนิ ทพี่ บในบรเิ วณนี่เปน็ ดินลึก มีการระบายน้ำดีถึงดีปานกลาง และมีการทำคนั นา ดิน มคี วามอุดมสมบรู ณต์ ามธรรมชาตติ ่ำ สว่ นใหญ่แหลง่ นำ้ ในเขตนีพ้ อเพียงสำหรบั การเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน เท่านั้น แต่ถ้าบริเวณใดมีปริมาณน้ำพอเพียงก็สามารถปลูกพืชครั้งที่สองได้ มีข้อเสนอแนะในการใช้พื้นท่ี เขตพนื้ ท่ีเกษตรกรรมทม่ี ีการทำนา ดังนี้ - ควรมีการปรับพื้นที่ในแปลงนา เพื่อรักษาระดับการขังของน้ำให้เหมาะสมในระยะที่ข้าว เจรญิ เติบโต - ควรปรับปรุงบำรุงดินโดยการเพิม่ อินทรียวตั ถุ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยพืชสด เพ่ือช่วย ปรับปรุงโครงสร้างของดินและเพิ่มธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์สำหรับพืช ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีในอัตราส่วนที่ เหมาะสม มีเนอ้ื ทีร่ วมประมาณ 2,048 ไร่ หรอื รอ้ ยละ 2.23 ของเนื้อท่ีทง้ั หมด ประกอบด้วย 1) ตัวเมืองและย่านการคา้ มีเนือ้ ทป่ี ระมาณ 210 ไร่ หรือรอ้ ยละ 0.23 ของเนอ้ื ทีท่ ัง้ หมด 2) ชมุ ชน มเี นื้อทปี่ ระมาณ 1,789 ไร่ หรือร้อยละ 1.95 ของเน้ือทที่ ้ังหมด 3) สถานทร่ี าชการและสถาบันต่างๆ มีเน้ือท่ปี ระมาณ 31 ไร่ หรอื ร้อยละ 0.03 ของเนือ้ ทีท่ งั้ หมด แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

99 4) ลานตากและแหล่งรับซื้อทางการเกษตร มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ หรือร้อยละ 0.01 ของเนื้อที่ ท้งั หมด 5)สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มเี นื้อทป่ี ระมาณ 5 ไร่ หรอื ร้อยละ 0.01. ของเนื้อที่ทั้งหมด 6) สสุ าน ปา่ ชา้ มีเนอ้ื ที่ประมาณ 3 ไร่ มเี นื้อทร่ี วมประมาณ 831 ไร่ หรอื รอ้ ยละ 0.91 ของเนือ้ ที่ทั้งหมด ไดแ้ ก่ แหล่งนำ้ ธรรมชาติ มีเนื้อ ที่ประมาณ 30 ไร่ หรือร้อยละ 0.03 ของเนื้อที่ทั้งหมด และแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น มีเนื้อที่ประมาณ 801 ไร่ หรือร้อยละ 0.88 ของเนื้อที่ท้ังหมด มีเนื้อที่ประมาณ 3,356 ไร่ หรือร้อยละ 3.66 ของเนื้อที่ทั้งหมด พื้นที่ในเขตนี้มีสภาพเป็นป่า คอ่ นขา้ งสมบรู ณ์แต่อยูน่ อกเขตป่าสงวนแห่งชาติ สภาพพื้นทโ่ี ดยท่วั ไปมีความลาดชนั ค่อนข้างมาก รวมถึง พ้ืนทด่ี ินตน้ื มกี รวดหินปะปนมาก พน้ื ท่ใี นเขตน้กี ระจายตวั อยู่เป็นหยอ่ ม ๆ ต่อจากเขตปา่ สงวนแห่งชาติ ซึ่ง ควรรกั ษาพ้ืนท่ีไว้ใช้ประโยชนร์ ว่ มกันหรอื จดั ทำเป็นปา่ ชมุ ชน ข้อเสนอแนะในการใช้พ้ืนที่เขตพน้ื ที่คงสภาพปา่ ไม้นอกเขตปา่ ตามกฎหมาย - ควรมีการใช้ประโยชนพ์ น้ื ทโ่ี ดยปลกู ไมโ้ ตเร็ว และยึดหลักการใชท้ ่ีดนิ แบบผสมผสานระหว่างป่าไม้ กับการเกษตร - ควรป้องกันและรักษาสภาพป่าไม้ให้คงความสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพ โดยให้ ชมุ ชนมีสว่ นร่วมในการจัดการ เพ่ือใหม้ กี ารใช้ประโยชน์จากไม้และของป่าร่วมกันอย่างพอเพยี งและยั่งยนื เนื้อที่ประมาณ 820 ไร่ หรือร้อยละ 0.89 ของเนื้อที่ทั้งหมด โดยปัจจุบันมีสภาพเป็น ทุ่งหญ้า ธรรมชาติ บ่อดิน ทที่ ้ิงขยะ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุม่ น้าหว้ ยน้าแหง

100 ตารางที่ 4-1 แผนการใช้ที่ดินเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นท่ีลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัด น่าน แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

101 ภาพที่ 4-1 แผนการใช้ทดี่ ินเพ่ือการอนุรักษ์ดินและน้ำ ในพื้นทลี่ ุ่มน้ำห้วยน้ำแหง อำเภอนาน้อย จงั หวัดน่าน แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

102 ตารางที่ 4-2 สรุปแนวทางแผนการใช้ที่ดินเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดนา่ น เขตการใช้ เนือ้ ที่ สภาพพน้ื ท่ี สภาพปญั หา มาตรการ โครงการ/กจิ กรรม หนว่ ย ทีด่ ิน ไร่ ร้อยละ พนื้ ทท่ี มี่ กี าร งานรับผิดชอบ 57,645 62.88 ประกาศเปน็ เขต ทรัพยากรป่าไม้ กำหนดไว้เพื่อเป็นแหล่ง 1 เขตพ้ืนทปี่ า่ 18,595 20.28 ป่าไม้ตามกฎหมาย เส่ือมโทรม ต้นน้ำลำธารควบคุมไม่ให้ กำหนดเขตพื้นที่โดย ทส ไม้ตาม 39,050 42.60 ปา่ ไมส้ มบูรณ์ บุกรุกพน้ื ทปี่ า่ ดิน มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ หนว่ ยงานและชุมชน ,ชมุ ชน กฎหมาย 4,159 4.53 และสภาพพืน้ ทีไ่ ม่ ประโยชนใ์ นรูปแบบอ่นื ๆ ปา่ เสื่อมโทรม หรือ เหมาะสมตอ่ ป ล ่ อ ย ใ ห ้ ฟ ื ้ น ก ล ั บ ค ื น สู่ สร้างจิตสำนึกให้เหน็ ทส 1.1 เขต 49 0.05 ไม้ละเมาะ การเกษตร สภาพป่าธรรมชาติ/เร่ง คณุ คา่ ปา่ และ ,ชุมชน คุ้มครองสภาพ ปลูกป่าทดแทนให้เป็น ดำเนนิ การฟนื้ ฟสู าภพ ปา่ 3,523 3.84 เขตป่าตาม เกษตรกรส่วนใหญ่ แหล่งตน้ น้ำลำธาร ปา่ ทส กฎหมาย พ้นื ที่รอ ป ล ู ก พ ื ช ไ ร ่ พื ช จัดการภายใต้เงื่อนไขต่าง ป้องกนั และควบคมุ ,ชมุ ชน 1.2 เขต 587 0.64 การพิสจู นส์ ทิ ธิ / มี เชงิ เด่ียว บนพน้ื ที่ ๆ ของหน่วยงานเจ้าของ ไม่ให้มกี ารบกุ รกุ พื้นที่ ฟนื้ ฟูสภาพปา่ การใชพ้ น้ื ทที่ ำ บริเวณที่มีความลาด พนื้ ท่ี เพ่ิม ในพน้ื ท่ปี ่า 24,630 26.85 การเกษตร ชันสูง จะเกิดการชะ อนรุ กั ษ์ ลา้ งพงั ทลาย พื้นที่อยู่นอกเขตท่ี ของดินค่อนข้าง 1.3 เขต มีการประกาศเป็น รนุ แรง ฟนื้ ฟู เขตป่าไม้ตาม ทรพั ยากรธรร กฎหมายมีการใช้ มชาติ ภายใต้ พื้นที่เพื่อทำ เง่อื นไข การเกษตร - เขตพนื้ ทที่ ม่ี ี การใชท้ ่ดี ิน เพอ่ื การเกษตร ที่มแี นวโน้ม ของการชะล้าง พงั ทลายปาน กลาง - เขตพนื้ ทที่ ี่มี การใชท้ ด่ี ิน เพื่อการเกษตร ทมี่ แี นวโน้ม ของการชะลา้ ง พังทลายตำ่ - เขตพน้ื ทท่ี ีม่ ี การใชท้ ี่ดิน เพ่อื การเกษตร ควรมกี ารปรับ รูปแปลงนา 2 เขต เกษตรกรรม แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

103 ตารางท่ี 4-2 สรุปแนวทางแผนการใช้ท่ดี นิ เพื่อการอนรุ ักษ์ดนิ และน้ำในพื้นท่ลี ุ่มน้ำห้วยนำ้ แหง อำเภอนาน้อย จงั หวดั นา่ น (ต่อ) เขตการใช้ เนอ้ื ที่ สภาพพน้ื ท่ี สภาพปัญหา มาตรการ โครงการ/กิจกรรม หน่วยงาน ทดี่ นิ รับผิดชอบ ไร่ รอ้ ยละ 2.1 เขตฟื้นฟู พด, สภาพพน้ื ที 12,465 13.59 พชื ไร่ บริเวณ เกิดการชะล้าง สง่ เสรมิ การใช้พนื้ ที่ด้วย สร้างจิตสำนกึ ใหเ้ หน็ ชุมชน เกษตรกรรม อบต. เพ่ือการรกั ษา slope 35-50% พังทลายของดนิ ใน ระบบวนเกษตร ปลกู ปา่ คณุ คา่ ป่าตน้ น้ำ ระบบนิเวศต้น พด. น้ำ หรอื ไมย้ นื ตน้ ระดับรนุ แรงมาก 3 อย่าง ประโยชน์ 4 ,ชุมชน อบต. 2.3 เขตพื้นท่ี บรเิ วณ slope 50- ที่สดุ ดนิ มีความอุดม อยา่ ง ,สปก. เกษตรกรรมที่ ,กษ., ควรส่งเสริม 75% สมบูรณต์ ำ่ ในพ้ืนท่ี กส,ปศ., มาตรการในการ สวพ. อนรุ กั ษ์ดนิ และ ดอนจะเป็นดนิ กรด- น้ำอยา่ งเขม้ ขน้ พด. ดินตื้น ,ชมุ ชน 2.4 เขตพนื้ ท่ี อบต. เกษตรกรรมทีม่ ี 423 0.46 พื้นที่ใชท้ ำ เกดิ การชะลา้ ง คนั ดินแบบ 5 แบบ 6 สรา้ งระบบอนรุ กั ษ์ดนิ ,สปก. ความลาดชนั ,กษ. น้อยกว่า 12 การเกษตรบริเวณ พังทลายของดนิ ใน พร้อมไมผ้ ล ไมย้ นื ต้น และนำ้ การสง่ เสรมิ ,กสก., เปอรเ์ ซ็นต์ ควร ปศ. แนะนำการ slope 12-35% ระดับรนุ แรงถงึ และแนวแฝกคเู บนน้ำ การทำเกษตรทฤษฎี ,สวพ. จัดระบบปลูก พืช รนุ แรงมาก ดนิ มี ขอบเขา บ่อดกั ทาง ใหม่ การรวมกลุ่มการ พด. ,ชมุ ชน 2.5 เขตพ้นื ท่ี ความอดุ มสมบรู ณ์ ลำเลยี งในไร่นา และ ทำการเกษตรแบบ อบต. เกษตรกรรมท่ี ,กษ., ควรมกี ารปรบั ต่ำ ในพ้นื ทด่ี อนจะ ฝาย/อา่ ง/แทงค์น้ำพรอ้ ม แปลงใหญ่ การลดการ กสก., รูปแปลงนา ปศ. เปน็ ดนิ กรด-ดนิ ต้นื ระบบกระจายนำ้ การ ใช้สารเคมี ,สวพ., กข,ชป. พฒั นาอาชพี เกษตรแบบ ยัง่ ยนื 8,889 9.69 พื้นที่ใชท้ ำ เกดิ การชะล้าง คันดิน พรอ้ มไมผ้ ล ไมย้ นื สร้างระบบอนรุ กั ษด์ นิ การเกษตรที่ พังทลายของดนิ ใน ตน้ บ่อดกั ตะกอน และน้ำ สง่ เสริม slope <12% ระดับปานกลางถึง สง่ เสริมการปรับปรงุ เทคโนโลยี พด. การ รนุ แรง ดนิ มีความ บำรุงดินด้วยเทคโนโลยี สง่ เสรมิ การทำเกษตร อุดมสมบรู ณต์ ่ำ พด. พชื ปยุ๋ สด บอ่ น้ำใน ทฤษฎีใหม่ การ พืน้ ทเ่ี ปน็ ดินกรด ดนิ ไรน่ าขดุ ลอกคลอง ระบบ รวมกลุม่ การทำ มีศกั ยภาพทาง กระจายน้ำ การพฒั นา การเกษตรแบบแปลง การเกษตรปานกลาง อาชพี เกษตรแบบย่งั ยนื ใหญ่ การลดการใช้ ถึงสูง สารเคมี 2,853 3.11 พื้นทที่ ่ีมกี ารใช้ เกิดการชะล้าง ปรบั รปู แปลงนา สง่ เสรมิ สรา้ งระบบอนุรกั ษ์ดนิ ประโยชนเ์ พอื่ การ พังทลายของดนิ ใน การปรับปรงุ บำรุงดนิ และนำ้ สง่ เสรมิ ทำนา ระดับนอ้ ยถงึ ปาน ดว้ ยเทคโนโลยี พด. พืช เทคโนโลยี พด. ลด กลาง ดนิ มีความ ปยุ๋ สด ลดการเผาตอซัง การเผาตอซงั การ อุดมสมบรู ณต์ ่ำ บอ่ น้ำในไรน่ า ขุดลอก ส่งเสรมิ การทำเกษตร คลองระบบกระจายน้ำ ทฤษฎใี หม่ การ การพฒั นาอาชีพเกษตร รวมกลุม่ การทำ แบบยั่งยนื การเกษตรแบบแปลง ใหญ่ การลดการใช้ สารเคมี การบริหาร จัดการเพอื่ ปลกู พืช หลังนา แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

104 ตารางท่ี 4-2 สรปุ แนวทางแผนการใช้ทด่ี นิ เพ่ือการอนรุ ักษ์ดนิ และน้ำในพนื้ ที่ล่มุ น้ำหว้ ยนำ้ แหง อำเภอนาน้อย จงั หวดั น่าน (ต่อ) เขตการใช้ เน้ือที่ สภาพพน้ื ท่ี สภาพปญั หา มาตรการ โครงการ/กิจกรรม หน่วยงาน ทด่ี ิน รับผดิ ชอบ ไร่ รอ้ ยละ ชมุ ชนควรมมี าตรการใน 5 เขตพ้ืนที่ 2,354 2.57 สภาพเป็นปา่ การป้องกนั รกั ษา ชมุ ชน คงสภาพปา่ ไม้ สภาพปา่ ไว้ เพือ่ ให้เกดิ อบต. นอกเขตปา่ สมบรู ณ์ ความหลากหลายทาง ตามกฎหมาย ชีวภาพและการใช้ ประโยชนร์ ่วมกันของ พืน้ ท่ี 5.1 พ้นื ทป่ี า่ 1,986 2.17 สมบรู ณ์ 368 0.40 5.2 พ้ืนทล่ี ุ่ม 29 0.03 6 เขตพน้ื ท่ี อืน่ ๆ 29 0.03 91,696 100.00 6.1 บ่อดิน รวม แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

105 5 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

106 5 การดำเนินการจัดทำแผนบริหารจัดการโครงการปอ้ งกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นท่ี เกษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ปี 2563 ในพื้นทลี่ ่มุ นำ้ หว้ ยน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดน่านมี แผนการดำเนินการ ดังนี้ (ตารางท่ี 5-1) ตารางท่ี 5-1 แผนการดำเนินงาน กิจกรรม เม.ย. เดอื น ก.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. 25 1. การประชมุ และประสานงานคณะทำงาน 2. ขอบเขตพื้นท่เี ปา้ หมาย จำนวน 10 แห่ง 25 พ.ค. – 12 3. การสำรวจและจดั ทำข้อมลู พน้ื ฐาน มิ.ย. 4. การวิเคราะห์ปญั หาและยกรา่ งแผนการใช้ที่ดนิ 18 เพอ่ื ปอ้ งกันการชะล้างฯ 16-26 5. การประชุมช้ีแจงแผนฯ ครง้ั ที่ 1 : (รา่ ง) 15 แผนการใชท้ ่ีดินเพ่อื การอนรุ ักษด์ นิ และน้ำ (รายงานเบ้อื งตน้ ) 16-31 6. การปรบั ปรงุ และแกไ้ ขแผนฯ 7. การประชุมช้ีแจงแผนฯ ครงั้ ท่ี 2 : แผนการใช้ 30 ที่ดนิ เพอื่ การอนรุ กั ษด์ ินและน้ำและพื้นท่ี 3 ดำเนินการ 8. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลและสรปุ แผนการใช้ที่ดนิ พรอ้ มกำหนดมาตรการดา้ นการอนรุ กั ษด์ ินและนำ้ และกลไกการขับเคลอ่ื น 9. การจดั ทำ และส่งรายงานแผนบริหารจดั การฯ 9.1 รายงานเบ้ืองตน้ 9.2 ร่างรายงานฉบับสมบูรณ์ : แผนบริหาร จดั การ 9.3 รายงานฉบับสมบรู ณ์ : แผนบรหิ ารจดั การ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

107 การดำเนินการจัดทำแผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟู พื้นที่ เกษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรักษด์ ินและน้ำ ปี 2563 ในพื้นที่ลุ่มนำ้ ห้วยน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ภายใต้ แผนปฏบิ ตั กิ ารด้าน : การปอ้ งกนั การชะล้างพังทลายของดนิ และฟื้นฟูพื้นท่ีเกษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรักษ์ ดินและนำ้ ระยะ 20 ปี ของกรมพัฒนาที่ดิน สรุปผลการดำเนนิ งานตัง้ แต่เดือนมกราคม – มถิ นุ ายน 2563 ดงั น้ี 1) ประสานงานข้อมูลขอบเขตพื้นทีเ่ ปา้ หมายและขอ้ มูลพนื้ ฐานจากกรมพฒั นาท่ดี ิน 2) ประชมุ คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นท่ีเกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ คร้ังท่ี 1/2563 เพ่ือหารือแนวทางในการดำเนินการจัดทำแผนบริหารจัดการ โครงการป้องกันการชะล้างพงั ทลายของดินและฟื้นฟูพนื้ ที่เกษตรกรรมดว้ ยระบบอนรุ ักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำ ห้วยน้ำแหง อำเภอนานอ้ ย จงั หวดั นา่ น ในวันจันทร์ท่ี 25 พฤษภาคม 2563 3) สำรวจและจดั ทำข้อมูลพื้นฐาน วิเคราะหพ์ ืน้ ทแี่ ละชมุ ชนเบื้องต้น ในวนั องั คารท่ี 2 มิถุนายน 2563 4) ประชุมคณะทำงานขบั เคลื่อนโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพน้ื ท่ีเกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมและจัดเตรียมข้อมูลประกอบการจัดประชุมประชา พิจารณ์แผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้ วย ระบบอนรุ ักษด์ นิ และน้ำ ลุ่มน้ำหว้ ยน้ำแหง ปี 2563 ในวันองั คารท่ี 9 มิถนุ ายน 2563 5) ประชมุ คณะทำงานขบั เคล่ือนโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟ้ืนฟูพืน้ ที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษด์ ินและนำ้ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและขั้นตอนการดำเนินการจดั ประชุมประชาพิจารณ์ แผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบ อนุรกั ษด์ นิ และนำ้ ลุ่มนำ้ หว้ ยนำ้ แหง ปี 2563 คร้ังท่ี 1 ในวันองั คารท่ี 16 มิถนุ ายน 2563 6) จัดประชุมประชาพิจารณ์แผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและ ฟน้ื ฟูพ้ืนทเี่ กษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุม่ น้ำห้วยนำ้ แหง ปี 2563 ครง้ั ที่ 1 ในวันพฤหัสบดีท่ี 18 มิถุนายน 2563 เพื่อรับฟังความคิดเห็น โดยมีประเด็นการรับฟังความคิดเห็น คือ ความรู้ความเข้าใจ ของเกษตรกรต่อการชะล้างพังทลายของดิน สภาพปัญหาของพื้นที่ แนวทางการแก้ไขปัญหา (ภูมิปัญญา และตามหลักวิชาการ) วิเคราะห์สภาพแวดล้อมของพื้นที่ร่วมกับชุมชน และการกำหนดเป้าหมายในการ ดำเนินงานรว่ มกนั 7) วเิ คราะหป์ ัญหาและยกร่างแผนการใชท้ ี่ดินเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดนิ และฟื้นฟูพ้ืนท่ี เกษตรกรรมดว้ ยระบบอนรุ กั ษด์ นิ และน้ำ ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง 8) ประชมุ คณะทำงานขบั เคล่ือนโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพ้นื ที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษด์ ินและน้ำ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและขั้นตอนการดำเนินการจัดประชมุ ประชาพิจารณ์ แผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้ นที่เกษตรกรรมด้วยระบบ อนุรักษด์ ินและนำ้ ล่มุ น้ำห้วยนำ้ แหง ปี 2563 คร้งั ท่ี 2 ในวันอังคารท่ี 14 กรกฎาคม 2563 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

108 9) จัดประชุมประชาพิจารณ์แผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและ ฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง ปี 2563 ครั้งที่ 2 ในวันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2563 1) กรอบวิธีการดำเนินงาน ภาพที่ 5-1 กรอบวิธกี ารดำเนินงานกระบวนการมีสว่ นร่วม แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

109 2) กลมุ่ เปา้ หมายและพื้นที่ดำเนนิ การ การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายบริเวณลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน จำนวน 6 ตำบล 49 หมู่บ้าน โดยเลือกตัวแทนชุมชนจากผู้นำชุมชน หมอดินอาสาประจำตำบล และเกษตรกรผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง รวมกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมการประชุม จำนวน 60 คน ซึ่ง เปน็ ตวั แทนของพ้ืนทดี่ ำเนินการ ดงั นี้ 2.1) ตำบลน้ำตก จำนวน 40 ราย ประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำตก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมอดินอาสา เกษตรกรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้ง 7 หมู่บ้าน คือ บ้านพืชเจริญ บ้านน้ำพุ บา้ นน้ำสระ บา้ นวังกอก บา้ นเปา บ้านไทยงาม บา้ นพชื มงคล 2.2) ตำบลนาน้อย จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลนาน้อย กำนัน หมอดนิ อาสาประจำตำบล และเกษตรกรผู้มีสว่ นได้สว่ นเสียในพ้นื ที่ลมุ่ นำ้ ห้วยนำ้ แหง 2.3) ตำบลบัวใหญ่ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ กำนนั หมอดนิ อาสาประจำตำบล 2.4) ตำบลศรีษะเกษ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลศีษะเกษ กำนัน หมอดนิ อาสาประจำตำบล 2.5) ตำบลเชียงของ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงของ กำนัน หมอดนิ อาสาประจำตำบล 2.6) ตำบลสันทะ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลสันทะ กำนัน หมอดนิ อาสาประจำตำบล 3) กำหนดการประชุมรับฟังความคดิ เห็น การประชุมประชาพิจารณ์แผนบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและ ฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง ปี 2563 ครั้งที่ 1 เพื่อรับฟังความ คิดเห็น โดยมีประเด็นการรับฟังความคิดเห็น คือ ความรู้ความเข้าใจของเกษตรกรต่อการชะล้างพังทลาย ของดิน สภาพปัญหาของพื้นที่ แนวทางการแก้ไขปัญหา (ภูมิปัญญาและตามหลักวิชาการ) วิเคราะห์ สภาพแวดล้อมของพ้ืนท่ีร่วมกับชุมชน และการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานรว่ มกัน ในวันพฤหัสบดี ที่ 18 มถิ ุนายน 2563 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ องคก์ ารบริหารส่วนตำบลน้ำตก อำเภอนานอ้ ย จงั หวัด น่าน มกี ำหนดการประชุม ดงั นี้ (ตารางที่ 5-2) แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

110 ตารางท่ี 5-2 กำหนดการประชมุ รบั ฟังความคดิ เหน็ เวลา กิจกรรม 8.30 น. – 9.00 น. - ลงทะเบียน 9.00 น. – 9.30 น. - กลา่ วรายงานการประชมุ โดย ผอ.อรรถพันธ์ ศรีศภุ โอฬาร ผอ.กลุม่ วางแผนการใช้ท่ดี นิ สำนกั งานพฒั นาท่ีดนิ เขต 9.30 น. – 10.30 น. 7 - ประธานในพธิ กี ลา่ วเปดิ การประชุม 10.30 น. – 10.45 น. โดย นายประศาสน์ สุทธารกั ษ์ ผ้อู ำนวยการสำนักงานพฒั นาท่ดี ินเขต 7 10.45 น. – 11.30 น. - สภาพท่วั ไป สภาพเศรษฐกิจและสังคม - ทรพั ยากรดิน และพื้นทเี่ สย่ี งตอ่ การชะล้างพงั ทลาย 11.30 น. – 12.00 น. - สภาพการใชท้ ่ีดิน สภาพทรัพยากรป่าไม้ - แผนการใช้ทีด่ นิ .ในเขตพื้นทล่ี ุม่ นำ้ แหง 12.00 น. – 13.00 น. โดย กลุม่ วางแผนการใช้ท่ีดนิ สำนักงานพฒั นาที่ดนิ เขต 7 13.00 น. – 13.45 น. - พักรบั ประทานอาหารว่าง - แนวทางการปอ้ งกันการชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพื้นทเี่ กษตรกรรมดว้ ยระบบ 13.45 น. – 14.45 น. อนุรกั ษ์ดินและนำ้ และตน้ แบบความสำเรจ็ ในการอนรุ กั ษด์ นิ และนำ้ ในพื้นที่ลุ่มนำ้ แหง โดย สถานีพัฒนาทด่ี นิ น่าน 14.45 น. – 15.00 น - แหล่งน้ำต้นทุนและการพฒั นาระบบการกระจายนำ้ เพ่ือการเกษตร และตน้ แบบ 15.00 น. – 16.00 น. ความสำเร็จในการพฒั นาระบบกระจายนำ้ เพือ่ การเกษตรอย่างเป็นระบบรว่ มกับการ 16.00 น. – 16.30 น. อนุรกั ษ์ดนิ และนำ้ โดย สำนกั วศิ วกรรมเพอื่ การพฒั นาทด่ี ิน - พักรบั ประทานอาหารกลางวัน - แบง่ กลุ่มเกษตรกรเพอ่ื สนทนากลมุ่ (Focus Group) รับฟงั ความคดิ เห็นในประเดน็ ความรู้ ความเข้าใจของเกษตรกรตอ่ การชะลา้ งพังทลายของดิน สภาพปญั หาของพนื้ ท่ี แนวทางการ แก้ไขปัญหา (ภูมิปญั ญาและตามหลกั วชิ าการ) โดย คณะทำงาน - แบง่ กล่มุ เกษตรกรเพื่อวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มในพืน้ ที่ จุดแขง็ จดุ อ่อน โอกาส อปุ สรรค แบบมสี ่วนรว่ มกับชุมชน โดย คณะทำงาน - พกั รับประทานอาหารว่าง - นำเสนอผลการรบั ฟงั ความคิดเหน็ (รายกลมุ่ ) - กำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานร่วมกนั - สรปุ ผลการดำเนนิ การประชาพิจารณ์ - ปดิ การประชมุ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

111 4) รปู แบบการจัดประชุม และสอื่ ประกอบการประชมุ ประชาพจิ ารณ์ ตารางที่ 5-3 รปู แบบการจัดประชมุ และสอื่ ประกอบการประชมุ ประชาพจิ ารณ์ กจิ กรรม/หนา้ ท่ี รปู แบบ/ส่อื /อุปกรณ์ ผ้รู ับผดิ ชอบหลกั 1. ดำเนนิ การขบั เคล่อื นกิจกรรม คณะทำงาน สพข.7 2. ประสานงานในพื้นที่ - เอกสารประกอบ คณะทำงาน สพข.7 การประชุมแบบยอ่ สพด.น่าน 3. จดั เตรียมสถานทปี่ ระชมุ /โสตทศั น/์ หนงั สือเชญิ - สื่อสำหรับจัดนิทรรศการ (บอร์ด คณะทำงาน สพข.7 4. วิทยากร บรรยายเน้ือหาสาระวชิ าการพอสงั เขป และแผนทขี่ นาด A1) คณะทำงาน สพข.7 - นำเสนอขอ้ มูลผา่ นจอ สพด.นา่ น - สภาพทัว่ ไป สภาพเศรษฐกิจและสังคม โปรเจกเตอร์ สวพ. - ทรัพยากรดนิ และพ้ืนที่เสี่ยงต่อการชะลา้ งพังทลาย - สภาพการใชท้ ี่ดิน สภาพทรพั ยากรปา่ ไม้ - ตัวแทนในการนำประชมุ กลุ่มย่อย คณะทำงาน สพข.7 - แผนการใชท้ ่ดี ิน.ในเขตพื้นท่ีลุ่มนำ้ แหง (Focus Group) - แนวทางการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟู - กระดาษฟลปิ ชารท์ และขาต้งั ตวั แทนกล่มุ นำเสนอ พื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ และต้นแบบ - ปากกา ผอ.สพข.7 ความสำเร็จในการอนรุ กั ษ์ดินและน้ำในพื้นที่ล่มุ น้ำแหง - ส่ือนำเสนอข้อมูลเบอื้ งต้น - แหล่งน้ำต้นทุนและการพัฒนาระบบการกระจายน้ำเพ่ือ และแผนที่ (บอร์ดขนาด A1 และ กลุ่มวางแผนการใช้ การเกษตร และตน้ แบบความสำเร็จในการพัฒนาระบบกระจาย A3) ที่ดิน สพข.7 น้ำเพื่อการเกษตรอยา่ งเปน็ ระบบร่วมกับการอนุรกั ษ์ดินและน้ำ - โครงสร้างประเด็นในการสนทนา 5. ประชมุ กล่มุ ย่อย (Focus Group) กลุ่ม - นำเสนอผลสรุปของแต่ละกล่มุ 6. สรุปผลจากการประชมุ กลมุ่ ยอ่ ย (Focus Group) - กล่าวสรปุ ผลในภาพรวม 7. สรุปผลภาพรวมการประชาพิจารณ์แผนบริหารจัดการ โครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นท่ี - รปู เลม่ รายงาน เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง ปี 2563 ครั้งท่ี 1 8. รายงานเบ้ืองต้น (Preliminary Report) รายงาน ความกา้ วหนา้ เสนอประธานคณะทำงานฯ และกรรมการฯ 5) โมเดลการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรดนิ และนำ้ เชงิ บรู ณาการเพื่อปอ้ งกนั การชะล้างพังทลายของดนิ โมเดลการบริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำเชิงบูรณาการเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของ ดิน เป็นรูปแบบการบริหารจัดการลุ่มน้ำเชิงระบบ ครอบคลุมทุกมิติแบบองค์รวม (Interdisciplinary) แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

112 ประกอบด้วย มิติทางกายภาพ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดทิศทางจากสภาพปัญหาเป็น ตัวนำ (problem orientation) ความรทู้ างวิชาการทีห่ ลากหลายสาขาผา่ นกระบวนการคิด วิเคราะห์ จาก งานวิจัย (research) และเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน การอนุรักษ์ดินและน้ำ ผ่านกระบวนการมีส่วน ร่วมของชุมชน (participation approach) 6) การกำหนดพื้นท่ีเป้าหมายเพื่อดำเนินกิจกรรม (implement) เบื้องต้นให้สอดคล้องกับ สภาพพ้นื ที่ การกำหนดพื้นที่โครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วย ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ พื้นที่ลุ่มน้ำห้วยน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน จากขอบเขตพ้ื นที่ลุ่มน้ำ จำนวน 91,696 ไร่ เม่ือผา่ นกระบวนการวิเคราะห์จากขอ้ มลู ทุตยิ ภมู ิเบื้องต้น ประกอบดว้ ย ขอ้ มูลดนิ แผน ที่ดินปัญหา แผนที่การชะล้างพังทลายของดิน การใช้ที่ดิน ผลการประเมินคุณภาพดิน แผนการใช้ที่ดิน จากข้อมลู ทตุ ยิ ภูมิของหน่วยงานทเี่ กี่ยวขอ้ ง และการสำรวจข้อมูลจากสภาพพน้ื ท่ีดำเนินการจริงในปัจจุบัน และการรับฟังความคิดเห็นต่อแนวทางโครงการป้องกันการชะ ล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นท่ี เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ จะทำให้ได้เกณฑ์ (criteria) สำหรับนำมาใช้ในการกำหนดพื้นที่ เป้าหมายและกำหนดแผนงาน/โครงการสนับสนุนการดำเนินงานโครงการได้ เช่น ระดับความรุนแรงของ พื้นที่ชะล้างพังทลายของดิน (soil erosion) พื้นท่ีถือครอง แหล่งน้ำ สถานการณ์ภัยแล้งและน้ำท่วม ระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้ำ การใชท้ ่ดี นิ และการมีสว่ นร่วมหรอื การยอมรบั ของชุมชน การจัดทำแผนบริหารจัดการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วย ระบบอนรุ กั ษ์ดนิ และนำ้ ลมุ่ นำ้ ห้วยนำ้ แหง เพ่อื เปน็ เครื่องมือในการขับเคลื่อนโครงการป้องกันการชะล้าง พังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ให้สามารถนำไปสู่การวาง แผนการกำหนดมาตรการและบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรรมที่มีความเสี่ยงต่อการชะล้างพังทลายของ ดนิ และพนื้ ท่ดี ินเสื่อมโทรม นำไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดสมดุล เป็นธรรม และย่ังยนื รวมท้ังสามารถ แปลงไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามระบบการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับประเด็น ปญั หาและบูรณาการการดำเนินงานของหนว่ ยงาน โดยผา่ นกระบวนการมีส่วนร่วมจากภาคีผู้มีส่วนได้เสีย ที่เกยี่ วขอ้ ง การบริหารจัดการทรัพยากรดินระดับลุ่มน้ำได้นำหลักการด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำ การบริหาร จัดการเชิงระบบนิเวศที่ต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ มีการกระจายการถือครอง อย่างเปน็ ธรรม ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง การบูรณาการให้การใช้ประโยชน์ท่ดี ินเป็นไปอย่าง เหมาะสมตามศักยภาพของที่ดิน มีความเชื่อมโยงกับการจัดการทรัพยากรน้ำ ป่าไม้ และชายฝั่ง ให้เกิด ประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ โดยให้ คำนงึ ถึงสทิ ธใิ นทรัพย์สินของประชาชน หลักธรรมาภบิ าล การรบั รขู้ ้อมลู ข่าวสาร การกระจายอำนาจ การ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

113 มีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชนและภูมิสงั คม โดยนำข้อมูลผลการประเมนิ การสูญเสียดิน 3 ระดับ (ระดับ มาก ปานกลาง และน้อย) ข้อมูลสภาพดินปัญหาของพื้นที่ และการขาดแคลนน้ำ มาใช้ในการบริหาร จัดการสู่การกำหนดมาตรการและกิจกรรมในระดับพื้นที่ เพื่อเป็นต้นแบบการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรดิน ระดับลุ่มน้ำในพื้นที่อื่น ๆ ครอบคลุมการแก้ไขและป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพ้ืน เกษตรกรรมครอบคลมุ ท้ังประเทศ การจัดกลุ่มของพื้นที่ในลุ่มน้ำตามลำดับความสำคัญของโครงการตามปัจจัยต่าง ๆ เพื่อกำหนด กรอบพื้นที่ดำเนินการตามปีงบประมาณ และคำแนะนำในการใช้มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน จะต้องนำพื้นที่ดำเนินการและคำแนะนำใน การบรหิ ารจดั การ ไปศกึ ษาความเหมาะสมของโครงการทจ่ี ะดำเนินการในพ้ืนท่ลี มุ่ น้ำย่อย โดยมกี ารศึกษา ในด้านต่าง ๆ ควบคู่กันไป ทั้งด้านการออกแบบมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำด้านต่าง ๆ โดยจัดการพื้นที่ ตามสภาพความรุนแรงของปัญหาและนำมาตรการการป้องกันและฟื้นฟูทรัพยากรดินตามสภาพปัญหา ของพื้นที่เฉพาะพื้นที่ไป เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของเกษตรกร ด้านความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ผลประโยชนก์ ับเกษตรกรและผู้มีส่วนได้สว่ นเสียในพ้นื ที่ ผลกระทบของพื้นทที่ ี่ดำเนินโครงการ ในกรณีที่มี โครงการและกรณีที่ไม่มีโครงการ โดยมีแนวทางในการบริหารทรัพยากรให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อการ บริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยนำมาตรการ ต่าง ๆ มาปรับใช้ทั้งในทางพืชและทางวิศวกรรม โดยในการใช้มาตรการทางวิศวกรรมนั้นสามารถใช้ มาตรการด้านต่าง ๆ ตามมาตรฐานของกรมพัฒนาที่ดิน มาใช้ในการออกแบบรายละเอียด และจะต้อง ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. วศิ วกรรมด้วย เพ่อื ควบคุมและจัดการพืน้ ที่ในการลดการชะล้างพังทลายและฟ้ืนฟูพ้ืนที่ เกษตรกรรม เพื่อเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำในพื้นทีอ่ ื่น ๆ ตามแผนปฏิบัติการ รายปี ต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการติดตามและประเมินผลโครงการ เพื่อแก้ไขและปรับปรุงการดำเนินการ ตามมาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินการลงไปในพน้ื ท่ีใหเ้ หมาะสมมากขึน้ โดยการดำเนนิ การกิจกรรมต่าง ๆ ในพืน้ ทนี่ อกจากจะมกี ารดำเนนิ การตามแนวทางของกรมพัฒนา ที่ดินแล้วยังสามารถมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงอื่น เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสขุ เป็นต้น ในด้านการร่วมงานในพื้นทีป่ า่ ไม้ และอุทยาน การส่งเสริมอาชีพ การถ่ายทอดความรู้ และสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ สร้าง แรงจงู ใจในการปรับเปลีย่ นการใช้ที่ดิน แรงจูงใจในการนำมาตรการดา้ นอนุรกั ษด์ นิ และน้ำเขา้ ไปใช้ในพื้นที่ ของเกษตรกร จากการวิเคราะหส์ ภาพปัญหาของพืน้ ท่ี ขอ้ มลทางเศรษฐกิจและสังคม ประกอบด้วย ขอ้ มูลทตุ ิยภูมิ และปฐมภูมิที่ได้จากการสำรวจภาคสนามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันครอบคลุมประเด็นปัญหาของ สภาพพื้นที่อย่างแท้จริง ได้แก่ ข้อมูลการชะล้างพังทลายของดิน ข้อมูลด้านทรัพยากรดิน (คุณสมบัติของ ดิน, สภาพดินปัญหา) ข้อมูลสภาพการใช้ที่ดิน ระดับการเปลี่ยนแปลงของการใช้ที่ดิน ด้านทรัพยากรน้ำ สภาพภูมิประเทศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันในด้านกายภาพ ด้านเศรษฐกิจ และสังคม ผ่าน แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

114 กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และการรบั ฟังความคิดเห็นของหนว่ ยงานในระดบั พนื้ ท่ี เพ่ือนำข้อมูลมา ประกอบการวิเคราะห์และจัดทำจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟู พื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลถูกต้องตามสมรรถนะ และศกั ยภาพของท่ดี ิน และใหผ้ ูท้ ่ีเกีย่ วข้องไดเ้ กิดการเรียนรู้นำไปสู่การจดั การทถ่ี ูกต้องเหมาะสมและให้ได้ เครอ่ื งมือในการใช้ท่ีดนิ อย่างย่ังยืน เพ่ือลดอตั ราการชะล้างพังทลายและการกัดชะหน้าดิน การตกตะกอน และปริมาณสารพิษตกค้างที่เป็นผลมาจากการใช้ที่ดินบนพื้นที่ลุ่มน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เกษตรกร และชมุ ชนสามารถใช้ประโยชนท์ ่ีดินไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม จงึ มีการกำหนดแนวทางและมาตรการท่ี มคี วามสอดคลอ้ งกบั สภาพปญั หา แผนการใช้ทีด่ นิ บนพน้ื ฐานการมีสว่ นร่วม ประกอบดว้ ย 1) มาตรการดา้ นอนุรกั ษด์ ินและน้ำเพ่อื ปอ้ งกนั การชะลา้ งพังทลายของดนิ แบ่งตามระดบั ความรนุ แรงของการชะล้าง ดงั น้ี (1) พื้นที่ที่มีการชะล้างรุนแรงมาก กำหนดมาตรการ คือ การไถพรวนและปลูกพืชตามแนว ระดับ (contour cultivation) การยกร่องตามแนวระดับ (ridging) การสร้างคันดิน (terrace, bench terrace) คันดินเบนน้ำ (division terrace) แนวหญ้าแฝกทางลำเลียง (farm road) คูรับน้ำขอบเขา (hillside ditch) ทางระบายนำ้ (waterways) ฝายชะลอน้ำ (check dam, weir) บอ่ ดักตะกอน (pond) 1.2) พื้นที่ที่มีการชะล้างปานกลาง กำหนดมาตรการ คือ การไถพรวนและปลูกพืชตามแนว ระดับ (contour cultivation) การยกร่องตามแนวระดับ (ridging) การสร้างคันดิน (terrace, bench terrace) คันดินเบนน้ำ (division terrace) แนวหญ้าแฝกทางลำเลียง (farm road) คูรับน้ำขอบเขา (hillside ditch) ทางระบายน้ำ (waterways) ฝายชะลอน้ำ (check dam, weir) บ่อดกั ตะกอน (pond) 1.3) พื้นที่ที่มีการชะล้างรุนแรงน้อย กำหนดมาตรการ คือ การไถพรวนและปลูกพืชตามแนว ระดับ (contour cultivation) การยกร่องตามแนวระดับ (ridging) การสร้างคันดิน (terrace, bench terrace) คันดินเบนน้ำ (division terrace) แนวหญ้าแฝกทางลำเลียง (farm road) คูรับน้ำขอบเขา (hillside ditch) ทางระบายน้ำ (waterways) ฝายชะลอน้ำ (check dam, weir) บ่อดักตะกอน (pond) การไถพรวนดนิ ล่าง (sub soiling) การปรับระดับ และปรบั รปู แปลงนา 2) มาตรการด้านอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ดินที่พบส่วนใหญ่มีปัญหาดินตน้ื และมคี วามอุดมสมบูรณ์ต่ำ จงึ กำหนดมาตรการ คือ ปลูกพืชคลมุ ดนิ ปลูกพชื ปุ๋ยสดการใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยชวี ภาพเพื่อเพ่ิมอินทรยี วัตถุ 3) มาตรการด้านอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ พื้นที่ทางการเกษตร พบปัญหา การขาดแคลนน้ำสำหรับพื้นที่เกษตรกรรรม จึงกำหนดมาตรการตามสภาพปัญหาและความต้องการของ ชมุ ชน คอื อ่างเกบ็ น้ำ สระเกบ็ น้ำ ฝายทดนำ้ การปรบั ปรุงลำน้ำ คลองส่งน้ำ ระบบสง่ น้ำดว้ ยท่อและระบบ ใหน้ ้ำแบบ micro irrigation ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการใช้มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องตาม สภาพของพื้นที่ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุม่ น้าหว้ ยน้าแหง

115 การอนุรักษ์ดินและน้ำ ประกอบด้วย มาตรการหลายอย่างเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงพื้นท่ี เพอ่ื ประโยชนท์ งั้ ทางตรงและทางออ้ ม การนำมาตรการตา่ ง ๆ ไปใชต้ อ้ งคำนึงถึงสภาพของพ้ืนที่ในด้านต่าง ๆ ดังนั้นในการออกแบบสำหรับพื้นที่หนึ่ง ๆ จึงจำเป็นจะต้องใช้หลายมาตรการร่วมกันเพื่อให้เกิด ประโยชน์ และการยอมรับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามแนวทางปฏิบัติและมาตรฐานของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งในแต่ละมาตรการก็จะมีวิธีแยกย่อยต่อไปอีก โดยสามารถให้คำแนะนำสำหรับพื้นที่ที่มีความลาดชัน ต่างกันไป แต่ต้องพิจารณาตามความเหมาะตามสภาพการใช้ที่ดิน และคุณสมบัติทางกายภาพ (ความลึก หน้าดนิ ) ประกอบการออกแบบการจัดการพืน้ ที่ดว้ ย 1) พื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมาย ให้คำแนะนำในการนำมาตรการโดยให้หน่วยงานเจ้าของพื้นที่ นำไปดำเนนิ งาน ได้แก่ ฟน้ื ฟทู รพั ยากรป่าไม้ ปลูกแฝก ฝายชะลอนำ้ การปรบั ปรุงลำน้ำ 2) พื้นที่เกษตรกรรมมีความลาดชันน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ มาตรการที่เหมาะสมตามหลัก วิชาการ คือ การพรวนดินล่าง การจัดรูปแปลงทางลำเลยี ง (farm road) มาตรการปรับปรุงบำรุงดิน อ่าง เกบ็ น้ำ สระเก็บน้ำ ฝายทดน้ำ การปรับปรงุ ลำน้ำ คลองส่งน้ำ ระบบสง่ นำ้ ดว้ ยทอ่ ระบบให้นำ้ แบบ micro irrigation 3) พื้นที่เกษตรกรรมมีความลาดชัน 2-6 เปอร์เซ็นต์ มาตรการที่เหมาะสมตามหลักวิชาการ คือ การไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับ (contour cultivation) การยกร่องตามแนวระดับ (ridging) การสร้างคันดิน (terrace, bench terrace) คันดินเบนน้ำ (division terrace) แนวหญ้าแฝกทางลำเลียง (farm road) คูรับน้ำขอบเขา (hillside ditch) ทางระบายน้ำ (waterways) ฝายชะลอน้ำ (check dam, weir) บ่อดักตะกอน (pond) มาตรการปรับปรุงบำรุงดนิ อ่างเก็บน้ำ สระเก็บน้ำ ฝายทดน้ำ การปรับปรุง ลำนำ้ คลองสง่ นำ้ ระบบส่งนำ้ ดว้ ยทอ่ และระบบใหน้ ำ้ แบบ micro irrigation 4) พื้นที่เกษตรกรรมมีความลาดชัน 6 – 12 เปอร์เซ็นต์ มาตรการที่เหมาะสมตามหลัก วิชาการ คือ การไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับ (contour cultivation) การยกร่องตามแนวระดับ (ridging) การสร้างคันดิน (terrace, bench terrace) คันดินเบนน้ำ (division terrace) แนวหญ้าแฝก ทางลำเลียง (farm road) คูรับน้ำขอบเขา (hillside ditch) ทางระบายน้ำ (waterways) ฝายชะลอน้ำ (check dam, weir) บ่อดักตะกอน (pond) มาตรการปรับปรุงบำรุงดิน อ่างเก็บน้ำ สระเก็บน้ำ ฝายทด น้ำ การปรับปรงุ ลำนำ้ คลองสง่ น้ำ ระบบส่งนำ้ ด้วยทอ่ และระบบให้นำ้ แบบ micro irrigation 5) พื้นที่เกษตรกรรมมีความลาดชัน 12 – 35 เปอร์เซ็นต์ มาตรการที่เหมาะสมตามหลัก วิชาการ คือ การไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับ (contour cultivation) การยกร่องตามแนวระดับ (ridging) การสร้างคันดิน (terrace, bench terrace) คันดินเบนน้ำ (division terrace) แนวหญ้าแฝก ทางลำเลียง (farm road) คูรับน้ำขอบเขา (hillside ditch) ทางระบายน้ำ (waterways) ฝายชะลอน้ำ (check dam, weir) บอ่ ดักตะกอน (pond) มาตรการปรบั ปรุงบำรุงดนิ อา่ งเกบ็ นำ้ สระเกบ็ นำ้ ฝายทดน้ำ การปรับปรุงลำนำ้ คลองส่งน้ำ ระบบสง่ น้ำดว้ ยท่อ และระบบให้น้ำแบบ micro irrigation แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

116 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

117 6 แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

6 118 ก า ร ด ำ เ น ิ น ง า น ต า ม แ ผ น บ ร ิ ห า ร จ ัด ก า ร ป ้ อ ง กั น ก า ร ช ะ ล ้า ง พ ั ง ท ล า ย ข อ ง ด ิ น แ ล ะ ฟ ื ้ น ฟ ู พ ื ้นที่ เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ มีกลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงานในรูปแบบคณะกรรมการ และคณะทำงาน ประกอบด้วย คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและ ฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ และคณะทำงานจัดทำแผนการบริหารจัดการ โครงการป้องกนั การชะล้างพงั ทลายของดินและฟื้นฟูพ้ืนท่ีเกษตรกรรม ดว้ ยระบบอนุรกั ษด์ ินและน้ำ พ้ืนที่ ลุ่มน้ำย่อยแม่สาคร อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ในการจัดทำต้นแบบแผนการบริหารจัดการการชะล้าง พังทลายของดินและฟืน้ ฟูพ้ืนที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดนิ และน้ำ สำหรับขับเคล่ือนการดำเนินงาน ด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 12 และแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ดังนั้น เพื่อให้แผนบริหารจัดการเกิด ผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติ บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ จึงจำเป็นต้องได้รับการขับเคลื่อน และผลกั ดนั จากทุกภาคส่วนและใหเ้ กดิ การบูรณาการทุกระดบั และผ่านกระบวนการมีสว่ นร่วม เพือ่ ให้การ บริหารจัดการทรพั ยากรดนิ และนำ้ มเี ปา้ หมายไปในทิศทางเดยี วกัน ควรมีแนวทางการดำเนนิ งาน ดังนี้ 1) สร้างความเข้าใจในเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแผนบริหารจัดการทรัพยากรดินเพื่อป้องกัน การชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ให้สามารถนำไปสู่การวางแผน การกำหนด มาตรการและบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรรมที่มีความเสี่ยงต่อการชะล้ างพังทลายของดินและพื้นที่ดิน เสอ่ื มโทรม รวมท้งั สามารถแปลงไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามระบบการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ ทีส่ อดคลอ้ งกับประเดน็ ปญั หาและบูรณาการการดำเนนิ งานของหน่วยงานโดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม จากภาคผี มู้ ีสว่ นได้เสยี ที่เกย่ี วข้อง เพือ่ ใหห้ น่วยงานที่เก่ียวข้องเกิดการยอมรับและตระหนักถึงความสำคัญ ของแผน และนำต้นแบบของแผนไปขยายผลสูก่ ารปฏิบัตไิ ดอ้ ยา่ งเป็นรูปธรรม 2) วิเคราะห์บทบาทและปรับบทบาทกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงาน ทุกระดับตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในด้านวิชาการที่ เป็นกระบวนการหลัก (core process) และ กระบวนการสนับสนุน (support process) โดยนำแนว ทางการปฏบิ ัตงิ านไปกำหนดเป็นแผนงานโครงการ และกำหนดเปน็ ข้อตกลงการทำงานระหว่างหน่วยงาน เน้นการทำงานเชิงบูรณาการเพ่อื ขบั เคล่ือนองค์กรใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายท่ีกำหนดไว้ 3) พัฒนาระบบการติดตามและประเมินผลเชิงบรู ณาการ โดยจัดตั้งคณะทำงานตดิ ตามประเมินผล ที่มีกลไกและเครือข่ายการดำเนินงานทั้งหนว่ ยงานที่ปฏิบัติงานในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเชือ่ มโยงการ ประเมินผลต้ังแต่บริบท (concept) ปัจจัยนำเข้า (input) กระบวนการ (process) ผลผลิต (output) แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

119 ผลลัพธ์ (outcome) และผลกระทบ (impact) ทุกมิติ ประกอบด้วย มิติทางกายภาพหรือสิ่งแวดลอ้ ม มิติ สังคม และมิติเศรษฐกิจ ที่สามารถสะท้อนผลสัมฤทธิ์ของงานได้ชัดเจน จนนำไปสู่การปรับปรุงพัฒน า แผนการดำเนินงานโครงการใหเ้ กดิ ประสทิ ธผิ ลและมปี ระสทิ ธภิ าพ การกำหนดบทบาทหน่วยงานและภาคีเครือข่ายทุกระดับในการขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการ ทรัพยากรดินและน้ำเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นท่ีเกษตรกรรม ไปสู่การปฏิบัติ ตามบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ ได้แก่ ผู้บริหาร (อธิบดี รองอธิบดี) หน่วยงานที่ปฏิบัติงาน ส่วนกลาง หน่วยงานที่ปฏิบัติงานส่วนภูมิภาค รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ มีแนวทางการ ดำเนนิ งาน ดังนี้ ตารางที่ 6-1 บทบาทของหน่วยงานและภาคีเครือข่ายทุกระดับในการขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการ ทรพั ยากรดินและน้ำเพอื่ ปอ้ งกนั การชะล้างพังทลายของดินและฟน้ื ฟูพนื้ ท่ีเกษตรกรรม ระดับหน่วยงาน แนวทางการขับเคลอ่ื น หนว่ ยงาน รบั ผิดชอบ 1. ระดบั นโยบาย (Policy Maker) อธิบดีกรม กำกับดูแลและติดตามการดำเนินงาน คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการป้องกันการ พฒั นาทดี่ ิน และ ชะลา้ งพังทลายของดินและฟน้ื ฟพู ้นื ที่เกษตรกรรม ดว้ ยระบบอนรุ กั ษด์ ินและนำ้ รองอธบิ ดกี รม กำกับดูแลและติดตามการดำเนินงาน คณะทำงานจัดทำแผนการบริหารจัดการ พัฒนาทดี่ นิ โครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบ อนุรกั ษ์ดินและน้ำ และขบั เคลอื่ นงานวชิ าการด้านการกำหนดมาตรการ แนวทางการ จัดการดินและน้ำ ใหร้ องรับการแก้ไขปัญหาตามสภาพพ้ืนท่ี กำกับดแู ลและติดตามการดำเนินงาน ในการขับเคล่ือนแผนปฏบิ ตั กิ ารและแผนปฏิบตั ิ ราชการ ภายใต้แผนการบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน และฟืน้ ฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรกั ษด์ นิ และนำ้ 2. ระดับปฏบิ ตั ิ (Operator) กำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานในระดับพื้นที่ และจัดตั้งคณะทำงาน จัดทำแผนการบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน และฟ้นื ฟพู ้ืนทเ่ี กษตรกรรม ดว้ ยระบบอนรุ ักษด์ นิ และน้ำ คณะทำงานจัดทำ มาตรการด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำเพือ่ ป้องกันการชะล้างพังทลายของดนิ สู่ระดับพื้นที่ คณะทำงานด้านการติดตามและประเมินผลโครงการป้องกัน การชะล้างพงั ทลายของดนิ ด้วยระบบอนรุ ักษด์ นิ และน้ำ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

120 ตารางที่ 6-1 บทบาทของหน่วยงานและภาคีเครือข่ายทุกระดับในการขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการ ทรพั ยากรดินและนำ้ เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดนิ และฟื้นฟูพน้ื ท่ีเกษตรกรรม (ต่อ) ระดบั หน่วยงาน แนวทางการขบั เคลอื่ น หนว่ ยงาน รบั ผิดชอบ 2.1 ส่วนกลาง 1) จัดประชุมชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และ กผง. ประสานความร่วมมือ โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานได้กำหนดแนวทางการ และคณะ ดำเนนิ งานรว่ มกนั สำหรับใชเ้ ปน็ กรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการและ แผนปฏิบัติราชการประจำปี รวมถึงการติดตามและประเมินผลที่ครอบคลุม ทกุ มิติ 2) จดั ทำมาตรฐานการปฏิบตั งิ าน จากตน้ แบบแผนการบริหารจัดการโครงการ กผง. ป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบ และคณะ อนรุ ักษ์ดนิ และน้ำ สำหรับใช้ขยายผลและขบั เคลือ่ นการดำเนนิ งานในพืน้ ท่ีลุ่ม นำ้ อน่ื ๆ 3) ขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานในการจัดทำแผนการบริหารจัดการ คณะทำงานฯ โครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นท่ีเกษตรกรรม ด้วย ระบบอนรุ กั ษ์ดินและนำ้ ลมุ่ นำ้ 4) ปรับบทบาทกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงาน กสด. สวด. ด้านการสำรวจ วิจัยทรัพยากรดินและน้ำ การวิเคราะห์ดิน การวิเคราะห์ กนผ. กวจ. สภาพการใช้ที่ดิน การวางแผนการใช้ที่ดิน และการประเมินสถานภาพ สวพ. สสผ. ทรัพยากรดิน และการประเมนิ เชิงเศรษฐสังคม 5) กำหนดมาตรการด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำให้สอดคล้องกับแผนการใช้ ที่ดินเพอ่ื ปอ้ งการการชะล้างพงั ทลายและฟน้ื ฟูพ้นื ท่ีเกษตรกรรม สวพ. กวจ. 6) จัดทำฐานข้อมูลการติดตามและประเมินผลในระดับภาพรวมและระดับ กวจ. กนผ. พ้นื ที่ ครอบคลุมการประเมนิ ผลเชิงกายภาพ สังคมและเศรษฐกิจ กผง. 2.2 ส่วนภมู ภิ าค 1) จัดตั้งคณะทำงานขับเคลือ่ นการบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้าง สพข./สพด. พังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ระดบั พ้ืนที่ลุ่มนำ้ 2) ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานส่วนกลางและคณะทำงานจัดทำแผนการ สพข./สพด. บริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นท่ี เกษตรกรรม ดว้ ยระบบอนรุ กั ษ์ดนิ และน้ำ ให้เกิดความเขา้ ใจจนสามารถนำไป ถ่ายทอดแกห่ น่วยงานที่รับผดิ ชอบได้ 3) จัดทำแผนการบริหารจัดการโครงการป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน และฟ้ืนฟพู ื้นทเี่ กษตรกรรม ด้วยระบบอนุรกั ษ์ดินและน้ำระดับลุม่ นำ้ 4) ขบั เคล่ือนการดำเนนิ งานในระดับพนื้ ท่ีใหส้ อดคล้องกบั แผนบรหิ ารจัดการ 5) ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในระดับพ้ืนที่ พร้อม รายงานผลการดำเนินงาน แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

121 ตารางที่ 6-1 บทบาทของหน่วยงานและภาคีเครือข่ายทุกระดับในการขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการ ทรพั ยากรดินและนำ้ เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟน้ื ฟูพ้นื ที่เกษตรกรรม (ตอ่ ) ระดบั หน่วยงาน แนวทางการขบั เคลอื่ น หนว่ ยงาน รบั ผิดชอบ 3. หน่วยงานภาคเี ครือข่าย (Network) (ต่อ) หนว่ ยงาน 1) ประสานความร่วมมือในการกำหนดกรอบแนวทางการจดั ทำแผนบริหาร ระดับจงั หวดั จัดการทรัพยากรดินและน้ำ เพื่อเชื่อมโยงเป้าหมายการดำเนินงานกันใน ระดบั พื้นที่ หน่วยงาน 2) สนับสนนุ การมสี ว่ นรว่ มในการขบั เคลื่อนแผนการบริหารจัดการโครงการ ภาครฐั และ ป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยระบบ อนุรักษ์ดินและน้ำระดบั ลุม่ น้ำ เอกชน 3) สร้างแนวทางหรือกำหนดรูปแบบการระชาสัมพันธ์ในการทำความ องค์กร เขา้ ใจกับประชาชนในพืน้ ทอ่ี ยา่ งเปน็ รูปธรรม ปกครองสว่ น 4) ร่วมดำเนินกิจกรรมหรือโครงการเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากร ทอ้ งถน่ิ ดินและนำ้ เชิงบรู ณาการ หน่วยงาน 5) ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งสร้างความ ภาครัฐและ ตระหนักและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการ เอกชน ขับเคลอื่ นการดำเนินงาน สื่อมวลชน การติดตามประเมินผลตามแผนปฏิบัติการ ที่มีการกำหนดกรอบตัวชี้วัดที่ครอบคลุมทุกมิติ ประกอบด้วย ประเดน็ การวัดและติดตามประเมนิ ผล ผู้จัดเก็บตัวชี้วัดและรายงานผล (ตารางท่ี 6-2) พร้อม ทั้งเสนอวิธีการจัดเก็บและติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ในการ จัดทำฐานข้อมูลเพื่อประเมนิ การเปลี่ยนแปลงตามตัวชี้วัด ประกอบด้วย ประเด็นการวัด รายการตรวจวัด ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลกลางและฐานขอ้ มูลเชงิ พื้นท่ี (ตารางท่ี 6-3) แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุม่ น้าหว้ ยน้าแหง

122 ตารางที่ 6-2 กรอบตัวชวี้ ดั ในการติดตามและประเมินผล แผนบรหิ าร ตวั ชว้ี ดั ประเดน็ การวัด ผู้รับผิดชอบ จดั การ และตดิ ตามประเมินผล ตวั ช้ีวดั ระยะส้ัน-ระยะกลาง ปี 2562 - มีฐานข้อมลู ดา้ นการชะลา้ งพังทลาย - ฐานข้อมูลมีความถูกต้องตาม ผกู้ ำกับตวั ชีว้ ัด ของดนิ (soil erosion) ในพ้นื ที่ หลกั วิชาการ กองแผนงาน เกษตรกรรม - มตี น้ แบบแผนการบรหิ ารจดั การ - ต้นแบบแผนบริหารจัดการได้รบั ผู้จัดเก็บและรายงาน ทรัพยากรดนิ ระดบั ลุ่มนำ้ ท่ีมกี ารกำหนด ความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ผลตามตัวชี้วัด มาตรการด้านการปอ้ งกนั และฟนื้ ฟู และหน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง คณะทำงานฯ ทรัพยากรดนิ ตามสภาพปญั หาของแต่ละ - มาตรการด้านการอนุรักษ์ดิน พน้ื ท่ี และน้ำได้รับการยอมรับจาก - มกี ารรปู แบบมาตรการดา้ นการอนรุ กั ษ์ เกษตรกรและชมุ ชน ดินและนำ้ ในระดบั ลุ่มน้ำนำรอ่ งสำหรบั ดำเนินการในระดบั พ้นื ที่ ระยะสั้น-ระยะกลาง ปี 2563 - 65 1. แผนบรหิ ารจดั การ ทรัพยากรดิน - จำนวนพื้นที่ที่มีการจัดทำแผนการ - แผนการบริหารจัดการทรพั ยากร ผกู้ ำกับตัวชว้ี ดั บรหิ ารจัดการทรัพยากรดนิ ระดับลมุ่ นำ้ ดินระดับลุ่มน้ำที่มีการกำหนด กองแผนงาน มาตรการด้านการป้องกันและ ผู้จัดเก็บและรายงาน ฟื้นฟูทรัพยากรดินสอดคล้องตาม ผลตามตัวช้วี ัด สภาพปัญหาของแตล่ ะพ้ืนท่ี คณะทำงานระดับ พนื้ ทแ่ี ตล่ ะลมุ่ น้ำ 2. โครงการป้องก ันการชะ ล ้ าง - ความสอดคล้องของมาตรการ ผกู้ ำกบั ตัวชว้ี ดั พังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่ ด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำและ กองแผนงาน เกษตรกรรมลมุ่ นำ้ จงั หวดั น่าน ระยะในการดำเนินงานเป็นไป 2.1 ระดับผลผลติ (output) ตามแผน - ร้อยละความสำเร็จในการดำเนิน - พื้นที่เกษตรกรรมได้รับการ ผู้จัดเก็บและรายงาน กิจกรรมตามมาตรการด้านการอนุรักษ์ ป้องกันและฟื้นฟู ไม่น้อยกว่า ผลตามตวั ชว้ี ดั ดินและนำ้ 10,000 ไร/่ ลุ่มนำ้ สพข./สพด. - จำนวนพื้นที่เกษตรกรรมไดร้ บั การ ปอ้ งกนั และฟ้ืนฟทู รพั ยากรดิน 2.2 ระดบั ผลลพั ธ์ outcome) - จัดทำฐานข้อมูลเพื่อประเมิน ผู้จัดเก็บและรายงาน - ทรัพยากรดินสามารถใช้ประโยชน์ การเปลยี่ นแปลงตามตัวชว้ี ดั เช่น ผลตามตวั ชี้วดั ที่ดินได้อย่างคุ้มค่า ลดการสูญเสียหนา้ ค่าการสูญเสียดิน คุณภาพดิน กสด./กวจ. ดินที่เป็นประโยชน์ต่อการผลิตภาค ความชื้นในดิน ปริมาณตะกอน การเกษตร ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 เม่ือ ดนิ และปริมาณการกักเกบ็ นำ้ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

123 ตารางที่ 6-2 กรอบตัวช้ีวดั ในการตดิ ตามและประเมนิ ผล (ต่อ) แผนบริหาร ตวั ชีว้ ดั ประเดน็ การวัด ผรู้ ับผิดชอบ จัดการ และตดิ ตามประเมนิ ผล ตัวชว้ี ัด เปรียบเทียบกับปีฐาน หรือค่าเฉลี่ย ในพน้ื ทรี่ ะดบั ล่มุ นำ้ - รักษาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับ ดิน ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 เมื่อ เปรียบเทียบกับปีฐาน หรือค่าเฉลี่ยใน พ้นื ท่ีระดับลมุ่ นำ้ - เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำภาค สวพ./สพข. การเกษตร ด้วยการเพ่ิมแหล่งน้ำต้นทุน และระบบการกระจายน้ำ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 เมื่อเปรียบเทียบกับปีฐาน หรือค่าเฉลย่ี ในพืน้ ทีร่ ะดับลุ่มน้ำไม่น้อย กว่า ร้อยละ 80 เมื่อเปรียบเทียบกับปี ฐาน หรือค่าเฉลี่ยในพื้นที่ระดับลุ่ม น้ำย่อย - เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ กนผ./สพข. ที่ดินได้อย่างเหมาะสมตรงตาม ศกั ยภาพของพ้นื ที่ไมน่ อ้ ย 2.3 ระดบั ผลกระทบ (impact) -เพม่ิ ผลผลิตภาคการเกษตร -สำรวจข้อมูลเชิงสังคมเศรษฐกิจ กนผ./สพข. -เพิ่มรายได้ในครัวเรือนให้กับ เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง เกษตรกร ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 30 เม่ือ หลงั ได้รบั ประโยชน์จากมาตรการ เปรียบเทียบกับปีฐาน หรือค่าเฉลี่ยใน ตามตวั ชวี้ ัดด้านสังคมเศรษฐกจิ พ้ืนทร่ี ะดับล่มุ น้ำยอ่ ย -เพิ่มมูลค่าการผลิตภาคการเกษตร และผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ไม่ น้อยกว่า ร้อยละ 30 เมื่อเปรียบเทียบ กับปีฐาน หรือค่าเฉลีย่ ในพื้นท่รี ะดับลมุ่ น้ำ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

124 ตารางที่ 6-3 การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงตามตัวชี้วัดมิติกายภาพ เศรษฐกิจและ สังคม รายการตรวจวดั /ประเมนิ ** ผรู้ ับผิดชอบ (พ้นื ทด่ี นิ /ตะกอนถกู ชะล้าง หรอื ทีท่ บั ถม) ประเดน็ ประเด็นตวั ช้ีวัด* ฐานข้อมลู เชิงพ้ืนท่ี จัดทำฐานขอ้ มูล 1. ข้อมลู ดิน และ กลาง สง่ิ แวดลอ้ ม 1.1 อัตราการสญู เสยี ของ - ปรมิ าณฝน (ความเข้มของฝน) สว่ นภูมิภาค 1. ผู้เชี่ยวชาญ 2. ขอ้ มลู น้ำ และ ส่ิงแวดลอ้ ม ดิน (สพข/สพด) สว่ นภมู ิภาคและ 3. ขอ้ มูลพชื และสิ่งแวดลอ้ ม - ความคงทนตอ่ การถกู ชะลา้ งพังทลายของดนิ สว่ นกลาง ส่วนกลาง : - ความลาดชนั ของพน้ื ที่ (กสด./กวจ/กนผ./ คดั กรองขอ้ มูล - การจดั การพชื สวด./สสผ./กทช./ - การปฏบิ ัติการปอ้ งกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ สวพ.) 2. กวจ. : จดั เก็บ และ 1.2 ปริมาณดนิ หรอื - วัดความลึกของหน้าดินที่สูญหายไป หรือที่ทับถม นำเขา้ ฐานข้อมูลกลาง ตะกอนท่ีสญู หายไป โดยใชห้ ลกั วัดหรือหมุด (pin) และประเมนิ เชงิ วชิ าการ (กิโลกรัมตอ่ ไร่) - ขนาดพ้ืนที่ (ไร่) - ความหนาแน่นของดนิ 3. กผง. : ประเมิน ภาพรวมเชงิ นโยบาย - บอ่ ดักตะกอน 1.3 การเปลยี่ นแปลง - การทำคำบรรยายหน้าตัดดิน (สดี นิ เน้อื ดิน จดุ ประสี ลกั ษณะและสมบตั ิดนิ โครงสร้าดิน ทางกายภาพ และทาง ปรมิ าณรากพชื เป็นต้น) เคมี และชวี ภาพ - ความชนื้ ในดนิ หรอื นำ้ ในดิน - การกระจายตวั ของเม็ดดนิ - ส่ิงมีชวี ิตในดิน - ปจั จยั ชคี้ ่าบรกิ ารเชงิ ระบบนเิ วศ - ปริมาณสารตกค้างในดิน และตะกอนที่พัดไปทับถม อกี พน้ื ท่หี นง่ึ 1.4 ปริมาณและมลู คา่ - ธาตุอาหารในดนิ ส่วนภมู ภิ าค (สพข/สพด) การสญู เสยี ของธาตุ - ปรมิ าณอนิ ทรยี ค์ ารบ์ อนในดนิ สว่ นกลาง (กวจ./กสด./สวด.) อาหาร และคาร์บอนใน - การปลดปลอ่ ยก๊าชเรือนกระจก ดิน - การจัดการดิน น้ำ ปุ๋ย และพืช - ราคาป๋ยุ ท่ใี ช้ในพื้นท่ี 2.1 ปรมิ าณตะกอนในน้ำ - น้ำหนักของตะกอนในน้ำและแหลง่ น้ำ สว่ นภูมภิ าค (สพข/สพด) และแหลง่ นำ้ 2.2คณุ ภาพของนำ้ และ - ค่าความขุ่นของน้ำ และสมบัติที่เกี่ยวข้อง โดยชุด แหล่งนำ้ (โดยเฉพาะน้ำ ทดสอบในสนาม สว่ นกลาง (สวพ./กสด./กวจ./ เพอ่ื อปุ โภคและบริโภค) หรอื วเิ คราะห์ในหอ้ งปฏิบตั ิการ สวด.) - สารปนเปื้อนในน้ำ เช่น โลหะหนัก สารเคมีตกค้าง ปยุ๋ 3.1 การเปลย่ี นแปลง - ชนดิ พชื ส่วนภูมิภาค 1. ผเู้ ช่ยี วชาญ (สพข/สพด) ส่วนภูมภิ าคและ การใช้ท่ีดนิ - การจัดการพ้นื ท่ี เช่น การเผา สว่ นกลาง (กนผ./กสด./ สว่ นกลาง : 3.2 การเจรญิ เตบิ โต - การปลดปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจก กวจ./สวด.) คัดกรองข้อมลู 2. กวจ. : จัดเกบ็ และผลผลติ ตาม - ปริมาณการสญู หายของเมลด็ พนั ธ์ุ และนำเขา้ ฐานขอ้ มูลกลาง และ ชว่ งเวลาคาดวา่ เกิด - องคป์ ระกอบของผลผลติ ประเมินเชงิ วิชาการ ชะล้างพังทลาย - คณุ ภาพผลผลิต - ความเสียหายตอ่ พืช เชน่ พชื ลม้ ตาย แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

125 ตารางที่ 6-3 การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงตามตัวชี้วัดมิติกายภาพ เศรษฐกิจและ สังคม (ต่อ) รายการตรวจวดั /ประเมนิ ** ผรู้ บั ผดิ ชอบ (พ้ืนที่ดิน/ตะกอนถกู ชะล้าง หรอื ที่ทับถม) ประเดน็ ประเดน็ ตัวชีว้ ัด* ฐานข้อมลู เชิงพ้ืนท่ี จัดทำฐานข้อมลู กลาง 4. สภาพ 4.1 รายได้ และสภาพ - ต้นทนุ การผลิต สว่ นภมู ภิ าค 3. กผง. : ประเมนิ เศรษฐกิจสังคม ความเป็นอยู่ - รายจ่าย (สพข/สพด) ภาพรวมเชงิ นโยบาย - ค่าแรง ส่วนกลาง (กนผ/กวจ.) หมายเหตุ : * พิจารณาตามสภาพภมู สิ งั คม ** วธิ กี ารเก็บตวั อย่าง เกบ็ ข้อมูล และวิเคราะหต์ วั อย่างและขอ้ มลู ตามระบบมาตรฐานสากล ผู้ประเมินผลเชิงนโยบาย : กองแผนงาน ผรู้ วบรวมภาพรวม และประเมินผลเชงิ วิชาการ : กองวิจยั และพฒั นาการจดั การที่ดิน ผู้รวบรวมข้อมูลเชิงพื้นที่ : สถานีพัฒนาที่ดิน สำนักงานพัฒนาที่ดิน และหน่วยอื่น ๆ ที่ เกย่ี วขอ้ ง โดยประเมินจากประเด็น (1) พื้นที่เกิดการชะล้างพังทลายของดิน และ 2) พื้นที่ได้รับ ผลกระทบ การดำเนินงานตามแผนบริหารจัดการทรัพยากรดินเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและ ฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม มีแนวทางการติดตามประเมินผลเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของแผนงาน โดยมีการ ดำเนนิ การในด้านตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1) การติดตามความก้าวหน้า ในการดำเนินงานตามแผนบริหารทรัพยากรดินเพื่อป้องกันการและ ป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟืน้ ฟูพื้นทีเ่ กษตรกรรม โดยการมีสว่ นรว่ มของหน่วยงานต่าง ๆ ท้ัง ส่วนกลาง และระดับพื้นที่ โดยกำหนดให้มีการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานประจำปี การติดตาม ประเมนิ ผลสำเรจ็ และผลกระทบจากการดำเนนิ งานตามแผนทุก 2 ปี มีการประเมินผลช่วงกลางแผน เพื่อปรับเป้าหมายและตัวชี้วัด ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ เปล่ียนแปลงไป รวมทง้ั มีการประเมินผลเม่อื สน้ิ สดุ การดำเนินการตามแผนปฏิบตั กิ าร 2) จัดตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผล เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน และผลสัมฤทธิ์ ของงานในแต่ละด้านตามแผน ท้ังด้านปัจจยั นำเข้า (input) การบวนการทำงาน (process) ผลผลติ (output) ผลลัพธ์ (outcome) และผลกระทบ (impact) ประกอบด้วย นักวิชาการจากส่วนกลาง นักวิชาการและ เจา้ หนา้ ท่ีผู้ปฏบิ ตั ิงานระดบั พืน้ ที่ และหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วข้อง เขา้ มามสี ่วนร่วมในการติดตามประเมินผลตาม แผนปฏิบัติการ ที่มีการกำหนดกรอบตัวชี้วัดท่ีครอบคลมุ ทุกมติ ิ ประกอบด้วย ประเด็นการวดั และติดตาม ประเมินผล ผู้จัดเก็บตัวชี้วัดและรายงานผล (ตารางที่ 6-2) พร้อมทั้งเสนอวิธีการจัดเก็บและติดตาม แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

126 สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ในการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อประเมินการ เปลย่ี นแปลงตามตัวช้ีวดั ประกอบด้วย ประเดน็ การวดั รายการตรวจวดั ผรู้ ับผดิ ชอบฐานข้อมูลกลางและ ฐานข้อมูลเชงิ พ้ืนที่ (ตารางที่ 6-3) แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

127 กรมการพฒั นาชมุ ชน. 2562. สรุปขอ้ มูลพืน้ ฐานระดบั หมูบ่ ้าน (กชช. 2ค) ปี 2562 ระดับตำบล. (Online). สืบค้นจาก www.rdic.cdd.go.th/nrd-service (15 กรกฎาคม 2562). กรมชลประทาน. 2562. ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายเดือนแม่น้ำน่าน (Online). สืบค้นจาก http://www.hydro-1.net (10 กรกฎาคม 2562). กรมป่าไม้. 2560. แผนที่ขอบเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ไฟล์ข้อมูล). กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอ้ ม. กรมพัฒนาท่ีดิน. 2545. การประเมินการสูญเสียดนิ ในประเทศไทย. กรมพฒั นาท่ีดิน กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ กรงุ เทพฯ. กรมพฒั นาท่ีดนิ . 2551. คมู่ ือการสำรวจดิน. เอกสารวชิ าการฉบบั ที่ 30/03/50. สว่ นมาตรฐาน การสำรวจจำแนกดินและทด่ี ิน สำนักสำรวจดนิ และวางแผนการใช้ท่ดี ิน. กรมพัฒนาท่ีดิน. 2558. สถานภาพทรัพยากรดินและท่ีดินของประเทศไทย. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 304 หน้า. กรมพัฒนาที่ดิน. 2561. แผนบริหารจัดการทรัพยากรดินปัญหาของประเทศไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580). กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 161 หนา้ . มนู ศรีขจร อรรถ สมร่าง ไพบูลย์ ประโมจนีย์ สุทธิพงษ์ ประทับวิทย์ ไชยสิทธิ์ เอนกสัมพันธ์ และ ปทุมพร ฟั่นเเพ็ง. 2527. การใช้สมการสูญเสียดินสากลสำหรับประเทศไทย. รายงานการประชุม วชิ าการ ประจำปี 2527, กองบรริ ักษ์ท่ีดิน กรมพฒั นาทด่ี นิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรุงเทพฯ. สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. 2561. โครงการส่งเสริมศักยภาพ การขับเคลื่อนแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2560 – 2564). กรุงเทพฯ. Arnold, J.G., R. Srinivasan, R.S. Muttiah, and J.R. Williams. 1998. Large area hydrologic modeling and assessment. Part I: Model development: Journal of the American Water Resources Association 34 : 73-89. Hickey, R., Smith, A. and P. Jankowski. 1 9 9 4 . Slope Length Calculations from a DEM within ARC/INFO GRID: Computers, Environmental and Urban Systems, v. 18, no. 5. Kunta, K. 2009. Effects of Geographic Information Quality on Soil Erosion Prediction. Ph.D. Thesis ETH-Zurich. Lanning-Rush, J. 2000. Regional Equations for Estimating Mean Annual and Mean Seasonal Runoff for Natural Basins in Texas, Base Period 1961-90. United State Geological Survey, Water-Resources Investigations Report 00-4064. Austin, Texas. 34 p. Wischmeier, W.H. and D.D. Smith. 1965. Prediction Rainfall Erosion Losses from Cropland East of the Rocky Mountains: A Guide for Selection of Practices for Soil and Water Conservation. Agricultural Handbook, No. 282, 47 p. แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง

128 ภาคผนวกที่ 1 : คำอธิบายชุดดนิ ภาคผนวกท่ี 2 : ภาพประกอบกจิ กรรมการประชุมชแ้ี จงเพ่ือรับฟงั ข้อคิดเห็นของชุมชนต่อแนวทางการ ดำเนินงานของโครงการ ภาคผนวกท่ี 3 : ภาพประกอบกจิ กรรมในการดำเนนิ งานในระดบั พ้ืนท่ี ภาคผนวกท่ี 4 : ภาพประกอบกิจกรรมประชมุ เพ่อื รับฟงั ข้อคิดเหน็ ของผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี ต่อ (ร่าง) แผน บริหารจดั การป้องกันการชะล้างพังทลายของดนิ และฟน้ื ฟพู ื้นที่เกษตรกรรม ดว้ ย ระบบอนรุ ักษ์ดนิ และน้ำ ภาคผนวกท่ี 5 : คำส่งั คณะกรรมการขับเคล่ือนโครงการปอ้ งกนั การชะลา้ งของดนิ และฟน้ื ฟูพืน้ ที่ เกษตรกรรม ด้วยระบบอนรุ ักษ์ดินและนำ้ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

129 ภาคผนวกที่ 1 : คำอธบิ ายชดุ ดิน ชุดดิน (soil series) หมายถึง หน่วยจำแนกดินระดับต่ำสุดของการจำแนกดินตามระบบ อนุกรมวิธานโดยถอื ลักษณะทางสัณฐานของดินเป็นหลกั เช่น ความหนาของชั้นดิน การจัดเรียงของชั้น ดิน โครงสร้างดิน สีดินเนื้อดิน ปฏิกิริยาดิน การยึดตัว ปริมาณคาร์บอเนตและเกลือชนิดต่างๆ ฮิวมัส เศษหิน องค์ประกอบของแร่ในดนิ วัตถตุ ้นกำเนดิ ดนิ เป็นตน้ ดนิ คล้ายชุดดนิ (soil variants) หมายถงึ หน่วยจำแนกดนิ ระดับเดียวกันกับชดุ ดนิ ทเี่ คยกำหนดไว้ แล้วซึ่งดินคล้ายชุดดินนี้มีลักษณะเด่นชัดพอที่จะกำหนดเป็นชุดดินใหม่ได้ตามระบบการจำแนกดิน แต่ เนื้อที่ที่พบดนิ ดงั กล่าวจากการสำรวจยงั มีเนือ้ ที่น้อยกว่า 20 ตารางกิโลเมตร จึงไม่สามารถกำหนดเปน็ ชุดดินใหม่ได้แต่เพื่อความสะดวกในการจดจำจึงเอาชื่อชุดดินที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมากำหนด โดย ระบุลกั ษณะที่แตกต่างจากชุดดนิ น้ัน เช่น ดินคลา้ ยชดุ ดนิ มาบบอนแต่มีเน้ือดนิ เป็นดนิ 1) ดินตะกอนนำ้ พาเชงิ ซอ้ นท่ีมีการระบายนำ้ ดปี านกลางและเปน็ ดินรว่ นหยาบ (AC-mw,col) การจำแนกดิน (USDA) Coarse-loamy, mixed, isohyperthermic Fluventic (Oxyaquic) Haplustepts สภาพพืน้ ท่ี ราบเรยี บถึงค่อนขา้ งราบเรียบ ความลาดชัน 0-2 เปอรเ์ ซน็ ต์ ภูมิสณั ฐาน ทรี่ าบระหว่างเนินเขา วตั ถุต้นกำเนิด ตะกอนน้ำพาใหม่ การระบายน้ำ ดีปานกลาง การซมึ ผ่านไดข้ องนำ้ ปานกลางถึงช้า การไหลบ่าของน้ำบนผิวดนิ ปานกลางถงึ ช้า ลักษณะสมบตั ขิ องดิน เป็นดินลึกถึงลึกมาก มีลักษณะการสลับชั้นของเนื้อดิน ดินบนเป็นดินร่วนปน ทราย สนี ้ำตาลหรอื สีนำ้ ตาลเขม้ ปฏกิ ริ ิยาดนิ เป็นกรดปานกลางถึงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) ดินล่างเป็นดินร่วนปนทรายหรือทรายปนดินร่วน สีน้ำตาลปนเทา สี น้ำตาล อาจพบ จดุ ประสภี ายในความลึก 100 เซนติเมตรจากผวิ ดิน และอาจ พบกรวดทอ้ งน้ำ ปะปนในช้นั ดินล่าง ปฏิกิริยาดินเปน็ กรดเลก็ น้อยถึงเป็นกลาง (pH 6.5-7.0) ข้อจำกดั ความอุดมสมบูรณ์ตำ่ รวมท้ังอาจมีความเสยี่ งเรือ่ งนำ้ ท่วมฉบั พลนั 2) ดนิ คล้ายชุดดินเชียงของทม่ี สี นี ้ำตาล (Cg-br) การจำแนกดนิ (USDA) Very-fine, kaolinitic, isohyperthermic Typic Kandiustults สภาพพืน้ ท่ี ลกู คลืน่ ลอนลาดเล็กน้อย มีความลาดชนั 2-5 เปอรเ์ ซ็นต์ ภูมสิ ัณฐาน พื้นทเ่ี หลอื คา้ งจากการกัดกร่อน วตั ถุต้นกำเนิดดิน การสลายตัวผุพังอยู่กับทีแ่ ละเคลอ่ื นย้ายมาในระยะทางไม่ไกลนักของหินอัคนี ที่เปน็ กลางหรือเปน็ ด่างพวกแอนดีไซต์ การระบายนำ้ ดี การซมึ ผา่ นได้ของน้ำ ปานกลางถงึ เร็ว การไหลบา่ ของนำ้ บนผิวดิน ปานกลางถงึ เรว็ ลกั ษณะสมบตั ขิ องดิน เป็นดินเหนียวลึกมาก ดินบนเป็นดินร่วนปนดินเหนียว สีน้ำตาลเข้มถึง สี น้ำตาล ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) ดินล่าง แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุม่ น้าหว้ ยน้าแหง

130 ข้อจำกดั เป็นดินเหนียวสีน้ำตาล ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรดปานกลาง (pH 5.5-6.0) ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เสย่ี งต่อการขาดนำ้ เล็กนอ้ ยถึงปานกลางหากฝนทง้ิ ช่วง พื้นทีท่ ่ีมีความลาดชันสงู ดนิ จะถกู ชะลา้ งพังทลายไดง้ ่าย 3) ชุดดินลี้ (Li) การจำแนกดนิ (USDA) Clayey-skeletal, mixed, semiactive, shallow, isohyperthermic Ultic Haplustalfs สภาพพน้ื ที่ ลูกคลื่นลอนลาดถึงเปน็ เนินเขา มีความลาดชัน 5-20 เปอร์เซ็นต์ ภูมิสณั ฐาน เชิงเขา เนินเขา หรือบรเิ วณพื้นท่ีทเี่ หลอื ค้างจากการกัดกร่อน วตั ถุตน้ กำเนดิ ดนิ การผุพงั สลายตวั อยู่กบั ทแ่ี ละเคล่ือนยา้ ยมาเปน็ ระยะทางไม่ไกลนกั ของหนิ ตะกอน เนอ้ื ละเอียดหรอื หนิ ในกลมุ่ และหนิ ทแ่ี ปรสภาพ การระบายนำ้ ดี การซึมผา่ นไดข้ องนำ้ ปานกลาง การไหลบา่ ของน้ำบนผวิ ดิน ปานกลางถงึ เรว็ ลักษณะสมบัติของดนิ เปน็ ดนิ ตนื้ หรือตื้นมากถึงชนั้ เศษหินหนาแนน่ บางบริเวณพบก้อนหินหรือเศษหิน บนผิวหน้าดิน ดินบนเป็นดินร่วนปนดินเหนียวปนเศษหิน สีน้ำตาลเข้มหรือ นำ้ ตาลปนแดงเขม้ ปฏกิ ริ ิยาดนิ เป็นกรดปานกลางถงึ เปน็ กลาง (pH 6.0-7.0) ดินล่างเป็นดินเหนยี วปนเศษหินหนาแนน่ มาก สแี ดงปนเหลอื ง หรือเหลอื งปนแดง ปฏกิ ริ ยิ าดินเปน็ กรดจัดถึงเป็นกรดเลก็ นอ้ ย (pH 5.5-6.5) ช้ันหนิ พืน้ ทกี่ ำลัง สลายตวั พบตัง้ แต่ระดบั ต้นื ถึงลกึ ปานกลาง ขอ้ จำกัด เป็นดินตื้นถึงชั้นเศษหินหนาแน่น พื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ดินจะถูกชะล้าง พังทลายไดง้ ่าย 4) ชดุ ดินแมร่ ิม (Mr) การจำแนกดนิ (USDA) Loamy-skeletal, mixed, isohyperthermic Typic (Kandic) Paleustults สภาพพน้ื ท่ี ลูกคลนื่ ลอนลาดเลก็ น้อยถึงลกู คลื่นลอนลาด มคี วามลาดชนั 2-12 เปอรเ์ ซ็นต์ ภมู ิสัณฐาน ตะพกั ลำนำ้ ระดบั สงู วตั ถุตน้ กำเนดิ ดนิ ตะกอนนำ้ พา การระบายนำ้ ดี การซึมผา่ นไดข้ องนำ้ ปานกลางถงึ เร็ว การไหลบ่าของนำ้ บนผวิ ดิน ชา้ ถึงเร็ว ลกั ษณะสมบัตขิ องดิน เป็นดินตื้นหรือตื้นมากถึงชั้นก้อนกรวดและหินมนเล็กหนาแน่นตั้งแต่ภายใน 50 เซนติเมตร จากผิวดิน ดินบนเป็นดินร่วนปนทรายปนกรวดและหินมนเล็ก สีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลปนเทา ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรด เล็กน้อย (pH 5.5-6.5) ดินล่างเป็นดินร่วนปนดินเหนียวหรือดินร่วนเหนียวปน ทราย มีกรวดและหินมนเล็กปะปนอยู่หนาแน่นมาก มากกว่า ร้อยละ35 โดย ปริมาตร สีน้ำตาลปนเหลืองถึงแดงปนเหลือง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึง เปน็ กรดจดั (pH 4.5-5.5) แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลมุ่ น้าหว้ ยน้าแหง

131 ขอ้ จำกดั เป็นดนิ ตื้นถงึ ชั้นกรวดและหินมนเล็ก ความอดุ มสมบรู ณต์ ่ำ พืน้ ทที่ ี่มคี วามลาดชัน สูงดินจะถูกชะลา้ งพงั ทลายไดง้ ่าย 5) ชดุ ดินแมแ่ ตง (Mt) การจำแนกดิน (USDA) Fine, kaolinitic, isohyperthermic Rhodic Kandiustults สภาพพืน้ ที่ ลกู คล่ืนลอนลาด มคี วามลาดชนั 5-12 เปอรเ์ ซ็นต์ ภูมสิ ณั ฐาน ตะพักลำน้ำหรือเนนิ ตะกอนรูปพดั วัตถตุ น้ กำเนิด ตะกอนนำ้ พา การระบายน้ำ ดี การซมึ ผา่ นได้ของนำ้ ปานกลาง การไหลบา่ ของน้ำบนผวิ ดนิ ช้าถึงเร็ว ลกั ษณะสมบตั ิของดิน เป็นดินลึกมาก ดินบนเป็นดินร่วนถึงดินร่วนปนดินเหนียว สีน้ำตาลปนแดงเข้ม ปฏิกริ ิยาดนิ เปน็ กรดจดั ถงึ เปน็ กรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) ดนิ ลา่ งเป็นดนิ เหนียว สีน้ำตาลปนแดงถึงสีแดง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงเป็นกรดจัด (pH 4.5- 5.5) ข้อจำกัด ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เสี่ยงต่อการขาดน้ำปานกลางหากฝนทิ้งช่วง พื้นที่ที่มี ความลาดชันสงู ดนิ จะถูกชะล้างพังทลายได้ง่าย 6) ดินคล้ายชุดดนิ นา่ นทเ่ี ปน็ สีน้ำตาล (Na-br) การจำแนกดิน (USDA) Fine, mixed, active, isohyperthermic Aeric Endoaqualfs สภาพพ้ืนท่ี ราบเรียบถึงค่อนขา้ งราบเรยี บ มคี วามลาดชัน 0-2 เปอร์เซ็นต์ ภมู ิสณั ฐาน ตะพักลำนำ้ วัตถุตน้ กำเนิดดิน ตะกอนนำ้ พา การระบายน้ำ ค่อนข้างเลว การซมึ ผ่านได้ของน้ำ ชา้ การไหลบ่าของนำ้ บนผิวดิน ชา้ ลักษณะสมบัติของดิน เป็นดินลึกมาก ดินบนเป็นดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง สีน้ำตาลปนเทาหรือ สี น้ำตาลเข้ม มีจุดประสีน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลปนเหลือง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัด มากถงึ เป็นกลาง (pH 5.0-7.0) ดินลา่ งเปน็ ดินเหนียวปนทรายแปง้ ดนิ เหนียว สีน้ำตาลปนเทาเข้ม มีจุดประสีน้ำตาลแก่หรือน้ำตาลปนเหลือง หรือสีแดง ปฏกิ ิริยาดินเปน็ กรดปานกลางถึงเป็นดา่ งปานกลาง (pH 6.0-8.0) ขอ้ จำกัด โครงสร้างแน่นทึบ ดินแห้งแข็ง ทำให้ไถพรวนยาก ขาดแคลนน้ำ และน้ำท่วม ขงั ในฤดฝู น ทำความเสียหายกบั พืชทไ่ี มช่ อบนำ้ 7) ดินคล้ายชดุ ดินนา่ นทเี่ ปน็ ดนิ ทรายแปง้ ละเอยี ด (Na-fsi) การจำแนกดิน (USDA) Fine-silty, mixed, active, isohyperthermic Aeric Endoaqualfs สภาพพน้ื ท่ี ราบเรยี บถึงค่อนขา้ งราบเรียบ มีความลาดชัน 0-2 เปอรเ์ ซ็นต์ ภมู สิ ัณฐาน ตะพักลำนำ้ วตั ถุต้นกำเนิดดิน ตะกอนน้ำพา การระบายน้ำ ค่อนขา้ งเลว แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

132 การซมึ ผ่านไดข้ องนำ้ ช้า การไหลบ่าของนำ้ บนผิวดิน ชา้ ลักษณะสมบตั ขิ องดนิ เป็นดินลึกมาก ดินบนเป็นดินร่วนปนทรายแป้ง สีเทาปนแดงหรือปนชมพมู ีจุด ประสีน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลปนเหลือง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงเป็น กลาง (pH 5.0-7.0) ดินล่างเป็นดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง สีเทาปนแดงมี จดุ ประสีน้ำตาลแกห่ รอื น้ำตาลปนเหลือง หรือสีแดง ปฏิกิริยาดนิ เปน็ กรดปานกลาง ถงึ เปน็ ดา่ งปานกลาง (pH 6.0-8.0) ขอ้ จำกดั โครงสร้างแน่นทึบ ดินแห้งแข็ง ทำให้ไถพรวนยาก ขาดแคลนน้ำ และน้ำท่วม ขงั ในฤดฝู น ทำความเสยี หายกับพชื ท่ีไมช่ อบน้ำ 8) ชุดดินแพร่ (Pae) การจำแนกดนิ (USDA) Fine-loamy, siliceous, semiactive, isohyperthermic Typic Paleustults สภาพพนื้ ท่ี ลกู คลื่นลอนลาดเลก็ น้อยถึงลูกคลน่ื ลอนลาด มีความลาดชัน 2-12 เปอรเ์ ซน็ ต์ ภมู สิ ัณฐาน ตะพักลำน้ำ วัตถุต้นกำเนดิ ดิน ตะกอนนำ้ พา การระบายน้ำ ดี การซึมผา่ นไดข้ องน้ำ เรว็ การไหลบา่ ของนำ้ บนผิวดนิ ปานกลางถงึ เร็ว ลกั ษณะสมบตั ิของดนิ เป็นดินลกึ มาก ดนิ บนเปน็ ดินรว่ นปนทราย สีน้ำตาลออ่ นหรือน้ำตาล ปฏกิ ริ ิยาดิน เป็นกรดจัดถึงเป็นกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) ดินล่างเป็นดินร่วน ดินร่วน เหนยี วปนทรายถึงดนิ รว่ นปนดินเหนยี ว อาจพบกรวดลูกรังปริมาณเล็กน้อยถึง ปานกลาง ปะปนในเนื้อดิน สีน้ำตาล น้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลปนแดง อาจพบ จุดประสีต่างๆ หรือการสะสมของเหล็ก แมงกานีส ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัด มากถึงเป็นกรดจัด (pH 5.0-5.5) ข้อจำกดั ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำหากฝนทิ้งช่วง พื้นที่มี ความลาดชนั เส่ียงต่อการชะลา้ งพังทลายของดิน 9) ชุดดินสนั ปา่ ตอง (Sp) การจำแนกดิน (USDA) Coarse-loamy, siliceous, isohyperthermic Typic (Kandic) Paleustults สภาพพืน้ ที่ ลูกคลื่นลอนลาดเลก็ น้อย มีความลาดชนั 2-5 เปอร์เซ็นต์ ภูมิสัณฐาน ตะพกั ลำน้ำ วัตถตุ น้ กำเนิดดิน ตะกอนนำ้ พา การระบายน้ำ ดี การซมึ ผ่านไดข้ องน้ำ ปานกลางถึงเรว็ การไหลบา่ ของนำ้ บนผวิ ดิน ช้าถงึ ปานกลาง ลักษณะสมบัติของดนิ เป็นดินลึกมาก ดินบนเป็นดินร่วนปนทราย สีน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลปนเทาเข้ม ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรดเล็กนอ้ ย (pH 5.5-6.5) ดินล่างเป็นดินร่วนปน ทราย สีนำ้ ตาลซีดหรือน้ำตาลปนเหลืองอ่อน ปฏิกริ ยิ าดินเป็นกรดจัดมากถึงเป็น กรดจัด (pH 4.5-5.5) ข้อจำกดั ความอุดมสมบรู ณ์ตำ่ เนือ้ ดินคอ่ นขา้ งเป็นทราย แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ล่มุ น้าหว้ ยน้าแหง

133 10) ชุดดินวงั สะพุง (Ws) การจำแนกดนิ (USDA) Fine, mixed, active, isohyperthermic Typic Haplustalfs สภาพพน้ื ที่ ลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยถึงเป็นลูกคลื่นลอนลาด มีความลาดชัน 2-12 เปอร์เซ็นต์ ภูมิสณั ฐาน เชิงเขา เนนิ เขา หรือบรเิ วณพนื้ ทเี่ หลือค้างจากการกัดกรอ่ น วัตถตุ ้นกำเนิดดิน การผุพังสลายตัวอยู่กับที่และเคลื่อนย้ายมาเป็นระยะทางไม่ไกลนักของหิน ตะกอนเนือ้ ละเอยี ดหรอื หนิ ในกลุม่ และหนิ ทีแ่ ปรสภาพ การระบายน้ำ ดี การซมึ ผ่านได้ของนำ้ ปานกลาง การไหลบ่าของน้ำบนผวิ ดิน ปานกลางถึงเร็ว ลกั ษณะสมบัติของดิน เป็นดินลึกปานกลาง ดินบนเป็นดินร่วนปนดินเหนียว สีน้ำตาลเข้มถึงน้ำตาล ปนเทาเข้ม ปฏิกิริยาดินเป็นกรดปานกลางถึงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) ดินล่าง ตอนบนเป็นดนิ เหนยี ว สีแดงปนเหลอื งถงึ แดง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถงึ เป็นกรด ปานกลาง (pH 5.5-6.0) ตอนล่างเป็นดินเหนียวมีเศษหินปะปนหนาแน่น และส่วนใหญ่พบชั้นหินพื้นภายในความลึก 100 เซนติเมตร. สีน้ำตาลปนแดง หรอื นำ้ ตาลปนเหลอื ง ปฏิกริ ิยาดินเป็นกรดจดั ถึงเปน็ กลาง (pH 5.5-7.0) ข้อจำกดั เป็นดินลึกปานกลาง รากของพืชทม่ี ีระบบรากลึกอาจถกู จำกดั การเจริญเติบโต สภาพพนื้ ทม่ี ีความลาดชันสงู ดนิ เกิดการชะลา้ งพังทลายไดง้ ่าย 11) ดนิ คลา้ ยชดุ ดนิ วังสะพุงทีม่ ีสนี ำ้ ตาล (Ws-br) การจำแนกดิน (USDA) Fine, mixed, active, isohyperthermic Typic Haplustalfs สภาพพนื้ ที่ ลูกคล่ืนลอนลาดเลก็ น้อย มคี วามลาดชัน 2-5 เปอรเ์ ซน็ ต์ ภมู ิสณั ฐาน เชงิ เขา เนินเขา หรือบริเวณพ้ืนทเ่ี หลอื คา้ งจากการกดั กรอ่ น วตั ถตุ น้ กำเนิดดนิ การผุพังสลายตัวอยู่กับที่และเคลื่อนย้ายมาเป็นระยะทางไม่ไกลนักของหิน ตะกอนเน้อื ละเอียดหรอื หินในกล่มุ และหนิ ที่แปรสภาพ การระบายน้ำ ดี การซมึ ผา่ นไดข้ องนำ้ ปานกลาง การไหลบา่ ของน้ำบนผวิ ดนิ ปานกลางถงึ เร็ว ลกั ษณะสมบัตขิ องดนิ เป็นดินลึกปานกลาง ดินบนเป็นดินร่วนปนดินเหนียว สีน้ำตาลเข้มถึงน้ำตาล ปนเทาเข้ม ปฏิกิริยาดินเป็นกรดปานกลางถึงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) ดินล่าง ตอนบนเป็นดินเหนียว สีแดงปนเหลือง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรดปาน กลาง (pH 5.5-6.0) ตอนล่างเป็นดินเหนียวมีเศษหินปะปนหนาแน่น และ ส่วนใหญ่พบชั้นหินพื้นภายในความลึก 100 เซนติเมตร สีน้ำตาลปนเหลืองถึงสี นำ้ ตาลปนแดง ปฏกิ ิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกลาง (pH 5.5-7.0) ข้อจำกดั เป็นดินลึกปานกลาง รากของพืชทมี่ รี ะบบรากลึกอาจถกู จำกดั การเจรญิ เติบโต สภาพพน้ื ท่มี ีความลาดชันสงู ดนิ เกิดการชะล้างพังทลายได้ง่าย 12) ดินคล้ายชดุ ดินวังสะพงุ ทเ่ี ปน็ ดนิ ลกึ มาก (Ws-vd) การจำแนกดนิ (USDA) Fine, mixed, active, isohyperthermic Ultic Paleustalfs สภาพพ้นื ท่ี ลูกคลน่ื ลอนลาดเลก็ นอ้ ย มคี วามลาดชนั 2-5 เปอร์เซ็นต์ แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟูพน้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุม่ น้าหว้ ยน้าแหง

134 ภูมสิ ัณฐาน เชงิ เขา เนินเขา หรอื บริเวณพ้นื ท่เี หลอื คา้ งจากการกัดกรอ่ น วัตถุต้นกำเนิดดิน การผุพังสลายตัวอยู่กับที่และเคลื่อนย้ายมาเป็นระยะทางไม่ไกลนักของหิน ตะกอนเนอื้ ละเอียดหรอื หนิ ในกลุม่ และหินที่แปรสภาพ การระบายนำ้ ดี การซมึ ผา่ นไดข้ องน้ำ ปานกลาง การไหลบ่าของน้ำบนผวิ ดิน ปานกลางถงึ เรว็ ลักษณะสมบัตขิ องดนิ เป็นดินลึกมาก ดินบนเป็นดินร่วนปนดินเหนยี ว สีน้ำตาลเข้มถึงน้ำตาลปนเทา เข้ม ปฏิกิริยาดินเป็นกรดปานกลางถึงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) ดินล่างเป็นดิน เหนียว สีน้ำตาลปนเหลืองถงึ สนี ้ำตาลปนแดง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรด ปานกลาง (pH 5.5-6.0) ข้อจำกดั สภาพพน้ื ท่ีมีความสูงชนั ดนิ เกิดการชะล้างพังทลายไดง้ า่ ย 13) ดินคลา้ ยชุดดนิ วังสะพงุ ท่ีมจี ุดประสเี ทาและเป็นดนิ ลกึ มาก (Ws-gm,vd) การจำแนกดิน (USDA) Fine, mixed, active, isohyperthermic Aquic Paleustalfs สภาพพน้ื ท่ี ลกู คลนื่ ลอนลาดเลก็ น้อย มคี วามลาดชัน 2-5 เปอรเ์ ซ็นต์ ภมู ิสัณฐาน เชงิ เขาของบรเิ วณเนนิ เขา วตั ถุตน้ กำเนดิ ดิน การผุพังสลายตัวอยู่กับที่และเคลื่อนย้ายมาเป็นระยะทางไม่ไกลนักของหิน ตะกอนเนื้อละเอียดหรอื หินในกลุ่มและหนิ ทแ่ี ปรสภาพ การระบายน้ำ ดีปานกลางถึงค่อนข้างเลว การซึมผา่ นได้ของนำ้ ปานกลาง การไหลบา่ ของนำ้ บนผิวดนิ ปานกลางถงึ เรว็ ลักษณะสมบัตขิ องดนิ เป็นดินลึกมาก ดินบนเป็นดินร่วนปนดินเหนียว สีน้ำตาลปนเทาถึงน้ำตาลปน เทาเข้ม พบจุดประสีเหลือหรือสีแดง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดปานกลางถึงเป็น กลาง (pH 6.0-7.0) ดินล่างตอนบนเป็นดินเหนียว สีน้ำตาลปนเทา สีน้ำตาล พบ จุดประสีเหลือหรือสีแดง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรดปานกลาง (pH 5.5-6.0) ตอนล่างเป็นดินเหนียว มีสีน้ำตาลปนแดงหรือน้ำตาลปนเหลือง ปฏิกริ ิยาดนิ เปน็ กรดจัดถึงเป็นกลาง (pH 5.5-7.0) ขอ้ จำกัด มีคันนา ทำมีการระบายน้ำค่อนข้างเลว อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตต่อพืชที่ ไมช่ อบน้ำ 14) พ้นื ทีล่ าดชนั เชิงซ้อน (SC) ประกอบด้วยพื้นที่ภูเขาและเทือกเขา ซึ่งมีความลาดชันมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ดินที่พบบริเวณ ดังกล่าวมีทั้งดินลึกและดินตื้น ลักษณะของเนื้อดินและความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติแตกต่างกันไปแล้วแต่ ชนิดของหนิ ตน้ กำเนดิ ในบริเวณน้ัน มกั มเี ศษหิน กอ้ นหนิ หรือหินพน้ื โผลก่ ระจัดกระจายทั่วไป ขอ้ จำกดั สภาพพื้นที่มีความลาดชันสูง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเกษตรกรรม ยากต่อ การดูแลรักษา เสี่ยงต่อการชะล้างพังทลายสูญเสียหน้าดินอย่างรุนแรงและ ทำลายระบบนิเวศวิทยาของสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ จึงควรมีการศึกษาดินก่อน และทำการเกษตรแบบวนเกษตร เพื่อรักษาระบบนิเวศของป่าไม้ไม่ให้เสื่อม โทรม แผนบรหิ ารจดั การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ และฟ้ืนฟพู น้ื ทเ่ี กษตรกรรมดว้ ยระบบอนุรกั ษ์ดนิ และน้า ลุ่มน้าหว้ ยน้าแหง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook