Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวปฏิบัติงานวินิจฉัยคำร้องเพื่อขอรับการสงเคราะห์และจ่ายเงินกองทุน

แนวปฏิบัติงานวินิจฉัยคำร้องเพื่อขอรับการสงเคราะห์และจ่ายเงินกองทุน

Published by Nulek Labour, 2021-01-15 11:14:47

Description: จัดทำโดยกรมการจัดหางาน

Search

Read the Text Version

เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๔๔ ง หนา ๓๐ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานเุ บกษา ระเบยี บกระทรวงแรงงาน วา ดว ยการบริหารกองทุนเพื่อชวยเหลอื คนหางานไปทํางานในตางประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยที่เปนการสมควรปรบั ปรุงระเบียบกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสงั คม วา ดว ยการบรหิ าร และการใชจายเงินกองทนุ เพือ่ ชว ยเหลือคนหางานไปทํางานในตา งประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อใหเปน ประโยชนแ กคนหางาน โดยการขยายความคมุ ครองและเพิ่มสทิ ธิประโยชนใ หเ หมาะสมยิง่ ขน้ึ อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๕๒ วรรคสาม แหง พระราชบัญญตั จิ ัดหางาน และคมุ ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ แกไ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดหางานและคุมครองคนหางาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗ และมาตรา ๕๓ แหงพระราชบัญญัติจัดหางานและคุมครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ รัฐมนตรีวาการกระทรวงแรงงานโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง จงึ วางระเบยี บไว ดงั ตอไปนี้ ขอ ๑ ระเบียบนเี้ รียกวา “ระเบยี บกระทรวงแรงงาน วา ดวยการบรหิ ารกองทนุ เพือ่ ชวยเหลือ คนหางานไปทํางานในตา งประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๙” ขอ ๒ ระเบียบนใ้ี หใชบังคับตั้งแตว นั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป ขอ ๓ ใหย กเลกิ ระเบียบกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม วาดวยการบริหารและการใชจาย เงนิ กองทุนเพื่อชว ยเหลอื คนหางานไปทํางานในตางประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๒ บรรดาระเบียบหรอื คาํ สัง่ อ่ืนใดท่ีขดั หรือแยงกบั ระเบียบน้ีใหใชร ะเบียบน้ีแทน ขอ ๔ ในระเบียบน้ี “กองทนุ ” หมายความวา กองทนุ เพื่อชวยเหลือคนหางานไปทํางานในตางประเทศ “สมาชกิ กองทุน” หมายความวา คนหางานซ่ึงตนเองหรือนายจางหรือผูรับอนุญาตจัดหางาน เพอื่ ไปทาํ งานในตา งประเทศไดส งเงนิ เขากองทุน “ประสบอันตราย” หมายความวา การที่สมาชิกกองทุนไดรับอันตรายแกชีวิต รางกาย หรือ ผลกระทบทางจติ ใจ ทัง้ นี้ การไดรับอันตรายตองมิไดเกิดจากการที่สมาชิกกองทุนเปนผูกอใหเกิดขึ้น เนื่องมาจากการกระทาํ อนั กฎหมายบัญญัตเิ ปนความผิด

เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๔๔ ง หนา ๓๑ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานเุ บกษา “พิการ” หมายความวา การสญู เสยี อวยั วะที่เหน็ ไดอ ยา งชัดเจน หรือกรณีท่ีแพทยวินิจฉัยแลววา มีความบกพรอ งทางจติ ใจ “ทุพพลภาพ” หมายความวา การสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะหรือของรางกายหรือสูญเสีย สภาวะปกตขิ องจิตใจ จนประกอบกรณีกิจตามปกติไมไ ดเกนิ ยี่สิบวนั โดยการวนิ จิ ฉัยของแพทย “อธิบด”ี หมายความวา อธบิ ดีกรมการจดั หางาน ขอ ๕ ใหจา ยเงินจากกองทุนในกจิ การตา ง ๆ ดงั ตอ ไปนี้ (๑) จัดการใหสมาชิกกองทุนซึ่งถูกทอดท้ิงอยูในตางประเทศไดเดินทางกลับประเทศไทย จนถึงภมู ิลาํ เนา ซงึ่ มีคา ใชจ าย ดงั นี้ (ก) คาพาหนะ คาท่ีพัก คา อาหาร คา รกั ษาพยาบาล และคาใชจ า ยอื่นทีจ่ าํ เปน โดยใหจาย ตามท่ีจายจริงไมเกินคนละสามหม่ืนบาท ในกรณีท่ีคาใชจายเกินวงเงินที่กําหนด ใหอธิบดีมีอํานาจ ส่ังจายเงินเพมิ่ เตมิ ไดตามความจําเปน โดยคาํ แนะนําของคณะกรรมการกองทุนเพื่อชวยเหลือคนหางาน ไปทาํ งานในตา งประเทศ (ข) คาใชจายของเจาหนาท่ีในการจัดการใหสมาชิกกองทุนเดินทางกลับประเทศไทย จนถงึ ภมู ลิ าํ เนา ใหก ระทาํ ไดในกรณที ่ีจาํ เปน (ค) เงนิ ชดเชยคา ใชจ า ยแกผูร บั อนุญาตจดั หางานทไ่ี ดรับอนุมตั จิ ากอธิบดี ตามมาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๒ แหงพระราชบัญญัตจิ ดั หางานและคุม ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ (๒) ใหการสงเคราะหแกสมาชกิ กองทุนซ่ึงไปหรอื จะไปทาํ งานในตางประเทศหรอื ทายาทโดยธรรม ของสมาชิกกองทนุ ตามทบ่ี ญั ญัตไิ วใ นประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย ซงึ่ มคี า ใชจา ยและหรอื เงินสงเคราะห ดงั น้ี (ก) กรณีสมาชกิ กองทุนประสบอนั ตรายกอ นไปทาํ งานในตา งประเทศหรอื ประสบอนั ตราย ในตา งประเทศ ใหจ า ยเงนิ สงเคราะหเ ปนคารกั ษาพยาบาลเทาท่จี ายจริงไมเ กินคนละสามหมืน่ บาท (ข) กรณีสมาชกิ กองทุนตอ งเดนิ ทางกลบั ประเทศไทยเพราะถูกเลิกจางโดยมีสาเหตุมาจาก การประสบอันตรายและเขารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในตางประเทศ ใหจายเปนเงินสงเคราะห คนละหนึ่งหมืน่ หา พันบาท

เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๔๔ ง หนา ๓๒ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกิจจานเุ บกษา (ค) กรณีประสบอันตรายจนพิการหรือทุพพลภาพในระหวางท่ีเปนสมาชิกกองทุน ไมว า เหตกุ ารณท ี่กอ ใหเ กดิ อนั ตรายจนพิการหรือทุพพลภาพจะเกิดข้ึนในประเทศไทยหรือตางประเทศ ใหจายเปนเงนิ สงเคราะหก รณพี กิ ารคนละหน่ึงหมื่นหาพันบาท หรือกรณีทุพพลภาพคนละสามหมื่นบาท กรณเี หตุเกดิ ในตางประเทศ ใหจ ายเมอื่ สมาชิกกองทนุ กลบั เขามาในราชอาณาจักรแลว (ง) กรณีประสบปญหาในตางประเทศ ไดแก รอการเขาทํางานใหม รอการสงกลับ ประเทศไทย รอการดําเนินคดี เปนเหตุใหสูญเสียรายไดจากการทํางานหรือไมไดรับความเปนธรรม จากนายจา งโดยไมใชค วามผิดของสมาชกิ กองทนุ หรือกรณีอน่ื ในลักษณะเดยี วกนั ใหจายเปน คาพาหนะ คาท่พี กั คา อาหาร คา รักษาพยาบาลและคาใชจ า ยอน่ื ทีจ่ าํ เปน ใหแกสมาชกิ กองทนุ ระหวา งท่ีอยใู นตางประเทศ โดยใหจายตามทจ่ี ายจริงไมเ กินคนละสามหมน่ื บาท หากคาใชจ า ยเกินวงเงนิ ทีก่ ําหนด ใหอ ธบิ ดมี อี าํ นาจ ส่งั จายเงนิ เพิม่ เติมไดตามความจาํ เปน โดยคําแนะนําของคณะกรรมการกองทุนเพ่ือชวยเหลือคนหางาน ไปทาํ งานในตางประเทศ (จ) กรณีตองเดินทางกลับประเทศไทยกอนส้ินสุดการเปนสมาชิกกองทุน เนื่องจาก ผลการตรวจสขุ ภาพจากสถานพยาบาลของประเทศนน้ั พบวา สมาชกิ กองทุนเปน โรคทต่ี ามขอบงั คบั ของ ทางการของประเทศน้นั หามมิใหท ํางานในประเทศตอ ไป ใหจ ายเปนเงนิ สงเคราะหค นละสองหมื่นหาพันบาท สําหรับสมาชกิ กองทนุ ทถี่ ูกสง กลบั ภายในหกเดือนแรกของการเปนสมาชกิ กองทนุ หรอื คนละหนง่ึ หมนื่ หา พันบาท สําหรบั สมาชิกกองทุนท่ีถูกสงกลับหลังจากทํางานไปแลวเกินกวาหกเดือนแตยังไมสิ้นสุด การเปนสมาชกิ กองทนุ (ฉ) กรณปี ระสบปญหาตอ งเดินทางกลับประเทศไทยกอ นส้ินสุดการเปนสมาชิกกองทุน เนื่องจากภัยสงครามหรอื ปญหาความไมสงบหรือจากภัยธรรมชาติหรือเกิดโรคระบาด ซ่ึงทางการของ ประเทศนนั้ ๆ ประกาศกําหนดแลว ใหจ า ยเปนเงินชว ยเหลือบรรเทาความเดือดรอนคนละหนึ่งหมน่ื หาพันบาท (ช) กรณีจัดท่ีพักฉุกเฉินในตางประเทศ ใหจายเปนคาเชาสถานท่ี คาสาธารณูปโภค และคา ใชจ า ยอ่นื ๆ รวมทั้งคาภาษีเทาที่จําเปนในการจัดการและการบริหารที่พักฉุกเฉินตามระเบียบที่ อธบิ ดีกาํ หนด (ซ) กรณีสมาชิกกองทนุ ถกู ดําเนนิ คดอี าญาในความผิดซึ่งมิใชเ กดิ จากการกระทําโดยเจตนา ในตางประเทศ หรือสมาชิกกองทุนดําเนินคดีแพงแกนายจาง เนื่องจากไมไดรับความเปนธรรมจาก การทํางานซ่ึงเกดิ ข้ึนในระหวางท่ีเปนสมาชิกกองทุน ใหจ า ยเปนคา จางทนายความเทา ทจี่ า ยจรงิ แตไ มเ กนิ หนงึ่ แสนบาท

เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๔๔ ง หนา ๓๓ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานุเบกษา (ฌ) กรณีเสียชีวิตใหจายเงินสงเคราะหในการจัดการศพและเงินชวยเหลือเพ่ือบรรเทา ความเดอื ดรอ นแกทายาทโดยธรรมของสมาชกิ กองทุนตามที่บัญญตั ไิ วใ นประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย กรณสี มาชิกกองทุนประสบอนั ตรายกอนไปทํางานในตางประเทศจนถึงแกชีวิต ใหจายเงินสงเคราะห เหมาจา ยจาํ นวนสามหมืน่ บาท กรณีสมาชิกกองทุนเสยี ชีวิตขณะกลบั มาประเทศไทย ใหจายเงินสงเคราะห เหมาจายจาํ นวนสามหมืน่ บาท กรณสี มาชกิ กองทนุ เสยี ชวี ติ ในตางประเทศใหจา ยเงนิ สงเคราะหเหมาจา ย จํานวนสี่หมนื่ บาท ตลอดจนคา ใชจ า ยในการจัดการศพในตางประเทศเทาทีจ่ ายจริงไมเกินสหี่ ม่ืนบาท (๓) การคัดเลือกและทดสอบฝมือ และการฝกอบรมคนหางานกอนจะเดินทางไปทํางาน ในตางประเทศ ใหจา ยเปนคาใชจ ายกรณตี าง ๆ ในอัตราที่ประหยัด โดยคําแนะนําของคณะกรรมการ กองทนุ เพื่อชว ยเหลอื คนหางานไปทาํ งานในตา งประเทศ ไดแก (ก) คา ใชจา ยเกี่ยวกับวัสดอุ ุปกรณ คาจาง คาตอบแทนลูกจางช่ัวคราว คาวิทยากรและ คา ใชจ ายอน่ื ทีจ่ ําเปนของทางราชการในการคัดเลือกและฝกอบรมคนหางานกอนจะเดินทางไปทํางาน ในตางประเทศ (ข) คา ใชจายเกีย่ วกบั วสั ดุท่ีใชใ นการทดสอบฝมอื คนหางานซ่งึ จะไปทํางานในตา งประเทศ การขอรับการสนับสนุนคา ใชจ า ยตาม (ก) และ (ข) นั้น หากไดรบั อนุมัติจากเงินงบประมาณ จะใชเ งนิ กองทนุ ฯ ไมได (๔) คาใชจายที่เกิดข้ึนจากการโอนเงินกองทุน และคาธรรมเนียมการใหบริการรับ-สงเงิน ตามทธ่ี นาคารเรียกเก็บ (๕) ภายใตบังคับมาตรา ๕๓ คาใชจายอ่ืนใดท่ีเก่ียวกับการชวยเหลือคนหางานไปทํางาน ในตางประเทศทีม่ ิไดก ําหนดไวในระเบยี บนี้ หากมคี วามจําเปน และมเี หตุอันสมควร ใหอธิบดีมีอํานาจ สง่ั จายเงินกองทุนเพ่ือใหการสงเคราะหแกสมาชิกกองทุนไดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการกองทุน เพื่อชว ยเหลอื คนหางานไปทาํ งานในตา งประเทศ ขอ ๖ การขอรบั ความชว ยเหลอื จากกองทุน ใหย นื่ คํารองตามแบบทอ่ี ธบิ ดีกาํ หนดภายในสองป นบั แตว นั เกดิ สิทธใิ นการขอใชจา ยเงินจากกองทนุ ตามระเบยี บนี้ การขอรับความชวยเหลือจากกองทุนที่อยูระหวางการพิจารณากอนวันท่ีระเบียบน้ีใชบังคับ ใหพิจารณาจา ยเงนิ กองทนุ ตามระเบียบนี้

เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๔๔ ง หนา ๓๔ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานเุ บกษา ขอ ๗ ใหอธบิ ดีเปนผูรกั ษาการตามระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วันท่ี ๒๘ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๔๙ สมศกั ดิ์ เทพสุทนิ รฐั มนตรวี าการกระทรวงแรงงาน

เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๔๔ ง หนา ๓๕ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกิจจานเุ บกษา ระเบยี บกระทรวงแรงงาน วาดว ยการรับเงนิ การจายเงินและการเก็บรกั ษาเงนิ กองทุนเพือ่ ชว ยเหลอื คนหางานไปทาํ งานในตา งประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยทเ่ี ปนการสมควรปรับปรงุ ระเบยี บกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม วาดวยการบริหาร และการใชจายเงินกองทุนเพื่อชวยเหลือคนหางานไปทํางานในตางประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๒ เพ่ือให เปน ประโยชนแ กค นหางานโดยการขยายความคมุ ครองและเพม่ิ สทิ ธิประโยชนใหเหมาะสมย่ิงขน้ึ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๕๒ วรรคสาม แหงพระราชบญั ญัติจดั หางาน และคุม ครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ แกไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญัติจัดหางานและคุมครองคนหางาน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗ รัฐมนตรีวาการกระทรวงแรงงาน โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีวาการ กระทรวงการคลงั จึงวางระเบยี บไว ดังตอไปนี้ ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบกระทรวงแรงงาน วาดวยการรับเงิน การจายเงินและ การเก็บรักษาเงนิ กองทนุ เพ่อื ชว ยเหลือคนหางานไปทาํ งานในตา งประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๙” ขอ ๒ ระเบยี บนี้ใหใชบ งั คบั ตงั้ แตวนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตน ไป ขอ ๓ บรรดาระเบียบหรือคําส่ังอื่นใดทีข่ ัดหรือแยงกบั ระเบียบนี้ ใหใชร ะเบียบนีแ้ ทน ขอ ๔ ในระเบียบน้ี “กองทุน” หมายความวา กองทนุ เพือ่ ชว ยเหลอื คนหางานไปทํางานในตา งประเทศ “สมาชกิ กองทุน” หมายความวา คนหางานซึ่งตนเองหรือนายจางหรือผูรับอนุญาตจัดหางาน เพอื่ ไปทํางานในตางประเทศไดส ง เงนิ เขา กองทุน “อธิบด”ี หมายความวา อธิบดกี รมการจดั หางาน ขอ ๕ การปฏบิ ัติการอ่นื ใดเก่ยี วกบั เงินกองทนุ ท่มี ไิ ดกําหนดไวในระเบียบนี้ ใหนําระเบียบ ของทางราชการมาใชบงั คบั โดยอนุโลม ขอ ๖ การใดทรี่ ะเบียบดังกลา วกําหนดใหเปน หนาทข่ี องหัวหนากองคลงั พึงปฏิบัติ ก็ใหเ ปน หนาท่ขี องหวั หนา สว นราชการเทียบเทากองซึ่งไดรับมอบหมายใหรบั ผดิ ชอบเงินกองทนุ

เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๔๔ ง หนา ๓๖ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ ๗ เงนิ กองทุน ประกอบดวย (๑) เงินอุดหนนุ จากรฐั บาล (๒) เงินท่ีผรู บั อนุญาตจัดหางานเพ่อื ไปทํางานในตางประเทศ นายจาง หรือคนหางานสงเขา กองทุน ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุมครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ แกไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติจัดหางานและคุมครองคนหางาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗ และตามกฎกระทรวง ซง่ึ ออกตามความในมาตรา ๓๗ แหงพระราชบญั ญัติดังกลา ว (๓) ดอกผลของกองทุน (๔) เงนิ หรือทรพั ยสนิ อื่นท่มี ีผูอุทิศให (๕) หลกั ประกันทตี่ กเปน ของกองทุน ตามมาตรา ๓๔ แหงพระราชบัญญตั จิ ดั หางานและคุมครอง คนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ แกไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญัติจดั หางานและคุมครองคนหางาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๗ ขอ ๘ ใหอธิบดีเปน ผรู ักษาการตามระเบยี บน้ี หมวด ๑ การรับเงนิ ขอ ๙ การรับเงนิ ตามขอ ๗ (๒) ใหก รมการจดั หางานรบั ไดโดยวิธีดังตอไปนี้ (๑) เงินสด (๒) เชค็ ท่ีธนาคารในประเทศไทยเปนผูออกใหสั่งจายในนามกองทุน เปนเช็คขีดครอมและ ขดี ฆา คาํ วา “หรือผถู อื ” (๓) ตั๋วแลกเงนิ ของธนาคารในประเทศไทยสั่งจายในนามกองทุน (๔) ธนาณัตโิ ดยระบนุ ามอธบิ ดเี ปนผูรับเงนิ กรณีสํานักงานแรงงานไทย สถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยเปนผูรับเงิน เขากองทุนโดยรับจากนายจางหรือคนหางานท่ีไปทําสัญญาจางกับนายจางคนใหมในตางประเทศ ตามมาตรา ๔๘/๑ ใหรับเปนเงินสด โดยเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินของประเทศน้ัน ในขณะรับเงิน เขากองทุน

เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๔๔ ง หนา ๓๗ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ ๑๐ การรบั ชาํ ระเงินเขากองทนุ ใหสว นราชการผูรับเงินออกใบเสร็จรับเงินใหแกผูชําระเงิน ทกุ ครัง้ หมวด ๒ การเกบ็ รกั ษาเงิน ขอ ๑๑ ใหกรมการจัดหางานเปดบัญชีเงินฝากไวกับธนาคารท่ีเปนรัฐวิสาหกิจ คือ บัญชี เงนิ กองทนุ ที่ ๑ เปน บัญชเี งินฝากประเภทออมทรพั ย บัญชีเงินกองทุนที่ ๒ เปน บญั ชีเงินฝากประเภท กระแสรายวนั และบญั ชเี งนิ กองทุนบญั ชีที่ ๓ เปนบญั ชีเงินฝากประเภทประจํา ใหมบี ัญชเี งนิ กองทนุ ฝากไวกับธนาคารในตางประเทศท่ีมสี าํ นักงานแรงงานไทยตั้งอยู ในกรณีท่ี สาํ นกั งานแรงงานไทยแหงใดจะมบี ญั ชีเงนิ กองทนุ มากกวา หน่งึ บญั ชี ใหอ ยูในดุลยพนิ ิจของอธบิ ดี ใหส ํานกั งานแรงงานไทยมเี งินสดไว ณ สํานักงาน เพื่อสํารองจายในการชวยเหลือคนหางาน ตามทรี่ ะเบียบกระทรวงแรงงาน วาดว ยการบริหารกองทนุ เพ่อื ชวยเหลอื คนหางานไปทํางานในตางประเทศ กําหนด โดยเบกิ จากบญั ชีเงินกองทุนในตางประเทศตามวรรคสอง ในวงเงินทีอ่ ธิบดกี ําหนด ขอ ๑๒ บรรดาเงินรายรับของกองทุน ใหนําสงเขาบัญชีเงินกองทุนบัญชีที่ ๑ ทั้งจํานวน โดยไมหักไวเพ่ือการใด ยกเวน (๑) ดอกเบีย้ เงนิ ฝากจากบัญชีเงินกองทนุ บัญชีที่ ๓ ใหคงไวใ นบัญชีเงนิ กองทนุ บญั ชที ี่ ๓ (๒) เงินรายรับในตางประเทศ ใหนําสงเขาบัญชีเงินกองทุนในตางประเทศ เม่ือรายรับ ในบัญชีดังกลาวเกินวงเงินที่อธิบดีกําหนด ใหโอนเงินเขาบัญชีเงินกองทุนบัญชีที่ ๑ และแจงให กรมการจัดหางานทราบภายในหาวนั ทําการ ใหมีเงนิ ในบัญชเี งนิ กองทุนบัญชีท่ี ๑ เทาที่จําเปนเพื่อการใชจาย นอกนั้นใหนําสงเขาบัญชี เงนิ กองทนุ บญั ชีที่ ๓ บญั ชีเงนิ กองทนุ บัญชที ี่ ๑ และบญั ชีเงนิ กองทนุ ในตา งประเทศใหมีวงเงินตามทีอ่ ธบิ ดีกาํ หนด ขอ ๑๓ ใหกรมการจัดหางานและสํานักงานแรงงานไทยมีตูนิรภัยสําหรับเก็บรักษาเงินของ กองทนุ โดยตัง้ ไวใ นทป่ี ลอดภัย ตนู ิรภยั ใหม ลี กู กุญแจอยางนอ ย ๒ ดอก แตละดอกมีลักษณะแตกตางกัน โดยใหก รรมการเกบ็ รักษาเงนิ ถอื คนละดอก ลูกกุญแจตูนริ ภยั ใหม ี ๒ ชุด ใหกรรมการเก็บรักษาเงนิ ๑ ชดุ อีก ๑ ชดุ ใหนาํ ฝากเก็บรักษาในลกั ษณะหบี หอ กบั กองคลงั กรมการจดั หางานหรือสถานเอกอัครราชทูตไทย หรอื สถานกงสุลไทย แลวแตกรณี

เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๔๔ ง หนา ๓๘ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกิจจานุเบกษา ขอ ๑๔ ใหเจาหนาที่กรมการจัดหางานซ่ึงไดรับมอบหมายใหรับผิดชอบงานกองทุนจัดทํา รายงานการรับเงินประจําวันและรายงานเงินคงเหลอื ประจําวนั ตามแบบที่ทางราชการกําหนดเปน ประจาํ ทกุ วัน ใหส าํ นกั งานแรงงานไทยจดั ทาํ รายงานเงินคงเหลือประจําวนั ตามแบบในวรรคหน่งึ เปน ประจาํ ทุกวนั ทีม่ กี ารรบั จายเงนิ หากวันใดไมม ีการรับจายเงิน ใหหมายเหตใุ นรายงานเงินคงเหลือประจําวันท่ีมีการรับจายเงิน ในวันถัดไป หมวด ๓ การจา ยเงนิ ขอ ๑๕ ใหอธบิ ดหี รือผทู ไ่ี ดรับมอบหมายเปน ผูมอี าํ นาจอนุมตั ิการจายเงิน โดยลงลายมือชื่อ อนมุ ัติในหลักฐานการจา ยหรือใบสําคญั คจู า ย หรอื หลักฐานการขอรบั ชําระหนี้ทุกฉบับ หรือลงลายมือชื่อ ในงบหนาหลกั ฐานการจายหรือใบสําคัญคูจ ายก็ได ขอ ๑๖ การจายเงินกองทุนใหจายจากบัญชีเงินกองทุนบัญชีท่ี ๒ หรือบัญชีเงินกองทุน ในตา งประเทศที่มสี ํานักงานแรงงานไทยตงั้ อยู ณ ประเทศนัน้ ในกรณที มี่ ีสมาชกิ กองทุนถกู ทอดทงิ้ หรือตอ งการความชวยเหลืออยูในประเทศท่ีไมมีสํานักงาน แรงงานไทยเปน ผูดูแลรบั ผดิ ชอบ ใหจายเงนิ จากบัญชีเงนิ กองทนุ บญั ชที ่ี ๒ ผานไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสลุ ไทยซึ่งดูแลประเทศนั้น เพ่ือจายเงินกองทุนในการชวยเหลือคนหางานตามท่ีระเบียบ กระทรวงแรงงาน วาดวยการบรหิ ารกองทุนเพ่อื ชวยเหลอื คนหางานไปทํางานในตางประเทศกําหนดไว ขอ ๑๗ การจายเงนิ ใหกระทําไดโดยวิธีการอยางใดอยางหนงึ่ ดังตอ ไปน้ี (๑) เงินสด (๒) เช็ค ต๋ัวแลกเงิน (๓) ธนาณตั ิ (๔) โอนเงินผา นทางธนาคาร การโอนเงนิ ผานทางธนาคาร ใหใชเอกสารการรบั เงินของธนาคารเปน ใบสําคัญคจู ายชว่ั คราวได

เลม ๑๒๓ ตอนท่ี ๔๔ ง หนา ๓๙ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานเุ บกษา ขอ ๑๘ การเขียนเช็คสั่งจายเงิน ใหเขียนเช็คสั่งจายเงินในนามเจาหนี้หรือผูมีสิทธิรับเงิน และขดี ฆา คาํ วา “หรอื ผถู ือ” ออก ขอ ๑๙ การจายเงินจากบัญชีเงินกองทุนบัญชีท่ี ๑ จะทําไดเมื่อนําไปเขาบัญชีเงินกองทุน บัญชที ่ี ๒ บญั ชีกองทนุ บญั ชีท่ี ๓ และบญั ชีกองทุนในตา งประเทศที่มสี าํ นักงานแรงงานไทยตงั้ อยู ขอ ๒๐ การจายเงนิ จากบัญชีเงินกองทุนบัญชีท่ี ๓ เพ่อื โอนเงนิ ไปเขา บญั ชีเงนิ กองทุนบัญชีท่ี ๑ ใหก ระทาํ ไดใ นกรณีมีเหตุฉกุ เฉนิ และยอดเงนิ ในบญั ชเี งินกองทนุ บญั ชีท่ี ๑ มีนอยกวาวงเงินที่มีความจําเปน เพอื่ การใชจา ย ขอ ๒๑ การส่ังจายเงินจากบัญชีเงินกองทุนบัญชีท่ี ๑ เงินกองทุนบัญชีที่ ๒ และ เงนิ กองทุนบัญชีท่ี ๓ ใหม ผี ูลงลายมือช่อื สั่งจายรวมกันสองฝาย ฝา ยละหนงึ่ คน คือ อธบิ ดีหรือรองอธิบดี ผูท่ไี ดร บั มอบหมายฝายหน่งึ กบั ผซู ่ึงอธิบดมี อบหมายอกี ฝา ยหนง่ึ ขอ ๒๒ การส่ังจายเงินจากบัญชีเงินกองทุนท่ีอยูในตางประเทศ ใหอธิบดีกําหนดใหมี ผูลงลายมือชื่อสั่งจายรวมกันอยางนอยสองคน ซ่ึงตองเปนขาราชการพลเรือนสามัญดํารงตําแหนง ไมตํา่ กวา ระดบั ๕ คนหนึง่ รว มกับหัวหนาสํานักงานแรงงานไทยในประเทศนนั้ หมวด ๔ การบญั ชี ขอ ๒๓ ใหกรมการจัดหางานจัดทาํ บญั ชีเพ่อื บันทกึ รายการทางการเงินแสดงถึงผลการดําเนินงาน และฐานะการเงนิ ของกองทุน โดยถกู ตอ งตามความเปนจรงิ ขอ ๒๔ ใหกรมการจัดหางานปดบัญชีกองทุนตามปงบประมาณ และจัดทําบัญชีตามหลัก บัญชีคู เกณฑค งคาง ตามหลักการและนโยบายบัญชีสําหรับหนวยงานภาครัฐ ผังบัญชีมาตรฐานและ มาตรฐานรายงานการเงินที่กระทรวงการคลังประกาศกําหนด โดยสงงบการเงินประจําปใหสํานักงาน การตรวจเงนิ แผนดินตรวจสอบภายใน ๙๐ วนั นับแตว นั สิ้นงวดบัญชี พรอ มทั้งสงงบการเงินท่ีสํานักงาน การตรวจเงนิ แผนดินตรวจสอบรับรองแลวเสนออธิบดีเพื่อทราบ และสงสําเนางบการเงินดังกลาวให กรมบญั ชีกลางและสํานกั งบประมาณทราบตอ ไป

เลม ๑๒๓ ตอนที่ ๔๔ ง หนา ๔๐ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๙ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ ๒๕ ใหสํานักงานแรงงานไทยจดั ทํารายงานการรบั จายเงนิ กองทนุ ประจําเดอื น พรอมสง หลักฐานการรับจายเงินใหกรมการจัดหางานภายในวันที่สิบของเดือนถัดไป หากในเดือนใดไมมี การรบั จา ยเงินจะไมทํารายงานการรับจายเงินก็ได แตใหหมายเหตุในรายงานการรับจายเงินกองทุนประจําเดือน ที่มกี ารรบั จายเงินเดอื นถดั ไปใหท ราบดว ย ใหผูที่อธิบดีแตงต้ังใหรับผิดชอบงานกองทุนจัดทํารายงานการรับจายเงินในภาพรวมของ กองทุนประจําเดือนเสนออธิบดีเพ่อื ทราบ ขอ ๒๖ ใหมีการตรวจสอบภายในเก่ียวกับการเงิน การบัญชีและการพัสดุของกองทุน แลว รายงานใหอ ธิบดีทราบอยา งนอ ยปละคร้ัง ขอ ๒๗ ลูกหนีร้ ายใดทคี่ างชาํ ระเกนิ กวา สองปข นึ้ ไป นบั แตวันท่ถี งึ กาํ หนดชําระ ใหก องทนุ ต้งั สํารองหน้ีสูญเทา กับจํานวนหนี้สินนน้ั ขอ ๒๘ ลกู หนรี้ ายใดไมอ ยูในฐานะที่ชําระหน้ีได เชน ลมละลาย หรือเปนหนี้ท่ีคางชําระ เกนิ สิบปข้นึ ไป และไมส ามารถเรยี กรอ งใหชําระหนี้ได ใหจําหนายออกจากบัญชีเปนหน้ีสูญ โดยให ขอทําความตกลงกบั กระทรวงการคลังเปน กรณีๆ ไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๘ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๔๙ สมศักดิ์ เทพสทุ นิ รัฐมนตรวี า การกระทรวงแรงงาน





โรคต้องหา้ มทางานในตา่ งประเทศ ท่ี ประเทศ โรคตอ้ งหา้ ม ๑ ไตห้ วัน ๑. กามโรค (ซิฟลิ ิส) ๒. วัณโรค หากตรวจพบวัณโรคในการตรวจโรคครั้งท่ี ๒ เปน็ ต้นไป อนญุ าตใหร้ กั ษา ในไตห้ วนั ได้ แต่ทง้ั นต้ี ้องไดร้ ับความยินยอมจากตัวแรงงานและนายจ้างกอ่ น ๓. ตรวจพยาธิ ในอจุ จาระรวมทั้งเชอ้ื บดิ อามีบา้ หากตรวจพบพยาธใิ นอุจจาระใน การตรวจคร้งั ที่ ๒ เป็นตน้ ไป อนญุ าตใหร้ ักษาในไต้หวันได้ ๔. โรคเร้ือน ๕. หัด และหดั เยอรมัน ๒ ฮอ่ งกง ๑. กามโรค (ยกเว้นไดร้ ับการรกั ษาแลว้ ) ๒. วัณโรค ๓. ไวรัสตบั อกั เสบ เอ บี ซี ๔. เอดส์ ๕. การตง้ั ครรภ์ ๖. พยาธิ ๗. โรคอนื่ ๆ ตามท่กี าหนดไวใ้ นสัญญาจ้าง ๓ ไซปนั ๑. เอดส์ ๒. วณั โรค ๓. โรคตดิ ตอ่ รา้ ยแรงอืน่ ๆ ๔ ซาอดุ ีอาระเบยี โรคตดิ ตอ่ ๕ สหรฐั อาหรบั เอมเิ รตส์ ๑. โรคเอดส์ ๖ กาตาร์ ๒. ไวรัสตบั อกั เสบ บี และ ซี ๗ โอมาน ๓. โรคเท้าชา้ ง มาเลเรีย ๘ คูเวต ๔. โรคเรอ้ื น ๙ บาหเ์ รน ๕. วณั โรค ฝีในปอด ๖. กามโรค เชน่ ซิฟิลสิ โรคไม่ติดต่อ ๑. โรคไตเร้ือรงั ๒. โรคตบั เร้ือรงั ๓. โรคหวั ใจ ๔. โรคเครียด ๕. โรคเบาหวานที่ไมส่ ามารถควบคุมได้ ๖. โรคมะเรง็ ๗. โรคจติ วิกลจริต ๘. พิการอนื่ ๆ เช่น ตาบอดสี (สาหรบั ตาแหน่งพนักงานขบั รถ) หหู นวก เปน็ ต้น ๙. การตั้งครรภ์ (จะต้องมีการตรวจรา่ งกายคนงานหญิงทุกคนท่จี ะเข้าไปทางาน)

ที่ ประเทศ โรคต้องห้าม ๑๐ ลเิ บีย ๑. ซิฟลิ ิส ตรวจโดย VDRL ๒. เอดส์ (HIV) ๑๑ สิงคโปร์ ๓. ตรวจอจุ จาระโดยวธิ ี Stool RIB ๔. ตรวจปัสสาวะ (Urine) ๑๒ กรีซ ๕. วณั โรค ๑๓ อสิ ราเอล ๖. ไวรัสตับอักเสบทกุ ประเภท (Hepatitis Virus) ๑๔ ญป่ี ุ่น ๑. อาการทางจิต ๒. วณั โรค ๓. ตรวจระบบหัวใจและหลอดเลือด ตรวจความดนั โลหิต ๔. ตรวจโรคหวั ใจ ๕. โรคโลหติ จาง ๖. ระบบทางเดนิ หายใจ ๗. ระบบปัสสาวะ ๘. ความผดิ ปกตขิ องต่อมไร้ท่อ ๙. ตรวจสอบการฟัง ๑๐. ตรวจสายตาและโรคตาต่าง ๆ ๑. เอดส์ ๒. อหิวาตกโรค ๓. มาเลเรีย ๑. วณั โรค ๒. ไวรัสตับอักเสบ เอ และ บี ๓. ซฟิ ลิ สิ ๔. กามโรค ๕. เอดส์ ๑. โรคระบาดและโรคตดิ ต่อ ๑) ไข้เลือดออกอีโบลา่ EBOLA HEMORRHAGIC FEVER ๒) ไข้เลือดออกไครเมียน-คองโกCRIMENA-CONGO HEMORRHAGIC FEVER ๓) ไข้ทรพิษ ๔) ไข้เลือดออกจากอเมริกาใต้ ๕) กาฬโรค (โรคห่า) PEST ๖) ไขเ้ ลือดออกมารบ์ วรก์ MARBURG DISEASE ๗) ไข้เลอื ดออกลาสสา LASSA FEVER ๘) โรคโปลิโอ ๙) โรควัณโรค ๑๐) โรคคอตีบ ๑๑) โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรนุ แรง (SARS) (เฉพาะทเี่ กิดจากเช้ือโรค SARS Coronaavirus) ๑๒) ไข้หวดั นก (H๕N1) ไข้หวัดสายพันธุ์ใหมฯ่ ลฯ และอยู่ในข่ายเป็นผูป้ ว่ ยดว้ ยโรค ระบาดท่ีรฐั บาลญปี่ ่นุ ระบุ หรือท่ีพบว่ามีอาการของโรคระบาดชนิดใหม่อื่นๆ ๒. มปี ัญหาสขุ ภาพจติ

ท่ี ประเทศ โรคตอ้ งห้าม ๑๕ สาธารณรัฐเกาหลี ๑. อหิวาตกโรค ๒. กาฬโรค, ไขเ้ หลือง ๓. ไทฟอยร์ด, รากสาด ๔. ไขร้ ากสาดเทียม ๕. การตดิ เชื้อ Ecoli ทก่ี ่อโรคอจุ จาระร่วง ๖. โรคคอตีบ ๗. ไอกรน ๘. บาดทะยกั ๙. โรคหัด ๑๐. โรคระบาด อกั เสบ ๑๑. หัดเยอรมนั ๑๒. โปลโิ อ ๑๓. ไวรสั บี ๑๔. ไข้สมองอักเสบญป่ี ุ่น ๑๕. โรคอสี กุ อใี ส ๑๖. มาลาเรยี ๑๗. วณั โรค ๑๘. โรคเร้ือน ๑๙. กามโรค ๒๐. ไข้อดี าอแี ดง ๒๑. เย่ือหุ้มสมองอกั เสบ ๒๒. การติดเชอ้ื แบคทีเรียลเิ จียนแนร์ ๒๓. ภาวะติดเชอ้ื ในกระแสเลือด ๒๔. ไขร้ ากสาดใหญ่ ๒๕. โรคซทั สกึ ามชู ิ ๒๖. โรคเล็ปโตสไปโรซสิ (โรคฉหี่ น)ู ๒๗. โรคตดิ ต่อระหวา่ งสตั ว์และคน (เกิดจากเช้ือแบคทีเรยี ) ๒๘. โรคแอนแทรกซ์ ๒๙. โรคพษิ สุนัขบ้า ๓๐. โรคไข้เลอื ดออกกับการทางานของไต ๓๑. โรคไขห้ วดั ใหญ่ ๓๒. โรคเอดส์ ๓๓. โรค SARS ๓๔. ตาบอดสี ๓๕. ความดันโลหติ สงู ๓๖. สายตาส้ัน (ไมเ่ กิน ๔๐๐) ๓๗. ความสามารถได้ยิน ๓๘. โรคโลหิตจาง

ท่ี ประเทศ โรคต้องห้าม ๑๖ มาเลเซยี ๑. เอดส์ HIV ๒. วณั โรค ๑๗ บรไู น ๓. โรคเรอ้ื น ๔. กามโรค ๕. โรคลมบา้ หมู ลมชัก (Epilepsy) ๖. โรคประสาท (Mental llness) ๗. สารเสพติดในปสั สาวะ (Urine Positive for Cannabinoids/Opiates) ๘. การตง้ั ครรภ์ ๙. ไวรสั ตับอักเสบB (Hepatitis B) ๑๐. มาลาเรยี (Malaria) ๑๑. มะเรง็ (Cancer) ๑๒. ความดันโลหิตสูง (Hypertension) ๑๓ เบาหวาน (Diabetes Melltus) ๑๔. โรคหวั ใจ (Heart Diseases) ๑๕. โรคหืด (Asthma) ๑๖. โรคไต (Kidney Disease) ๑๗. โรคแผลกระเพาะอาหารทะลุ (Peptic Ulcer) ๑. โรคตดิ ต่อ เช่น กามโรค วณั โรค เอดส์ ๒. โรคตอ้ งหา้ มสาหรับการจา้ งงาน ๒.๑ กามโรค หรอื โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ๒.๒ วณั โรค ๒.๓ เอดส์ ๒.๔ ลมชัก ๒.๕ อาการป่วยทางจติ ๒.๖ ไวรัสตับอกั เสบ บี ๒.๗ การใช้ยาเกินขนาดเพื่อกระทาอตั วนิ บิ าตกรรม (History of drug abuse) ๒.๘ ความดนั สงู ๒.๙ เบาหวาน ๒.๑๐ หอบหืด ๒.๑๑ มะเร็ง ๒.๑๒ โรคหวั ใจ *** ลาดับที่ ๒.๘ – ๒.๑๒ พจิ ารณาตามลักษณะงาน อาการของโรคและ คาวินิจฉยั ของแพทย์ ๑๘ แอลจีเรยี ๑. ไวรสั ตบั อักเสบ บี ๒. ไวรสั ตบั อกั เสบ ซี ๓. เอสด์

ท่ี ประเทศ โรคตอ้ งห้าม ๑๙ โรมาเนีย ๑. ไวรัสตับอกั เสบบี (โ ดยเฉพาะ สาขา ๒. ไวรัสตบั อกั เสบซี อาชีพพนักงานนวด ๓. โรคภูมิคุม้ กันบกพร่อง (HIV 1,2) พ นั ก ง า น บ ริ ก า ร ๔. ตรวจสมรรถภาพปอด เกี่ยวกับความงาม ๕. โรคติดต่อทางผิวหนงั รา้ ยแรงหรอื เรื้อรงั ๖. โรคตดิ เชอื้ ท่ีมอี าการลกุ ลามและยังอยู่ระหวา่ งการรกั ษา ๗. วัณโรค ๘. โรคภมู แิ พ้ ๒๐ เยอรมนั ๑. ความเจบ็ ปว่ ยหรอื พกิ ารเกี่ยวกับการมองเหน็ และสายตา (โดยเฉพาะผู้ท่ีทางาน ๒. ความเจบ็ ปว่ ยหรอื พิการเก่ียวกบั การรบั ฟัง เก่ียวกับอาหารและ ๓. ความเจ็บปว่ ยทางจิตทต่ี อ้ งรับการรกั ษา เคร่ืองดื่ มเกี่ยวกั บ ๔. โรคพิษสุราเร้อื รัง หรือการตดิ ยาบางชนดิ ทีเ่ ป็นอปุ สรรคในการทางาน เครื่องจักรกล ๕. ความเจบ็ ปว่ ยที่เป็นสาเหตุทาใหเ้ ป็นลมหมดสติขณะทางาน ๖. ความเจ็บป่วยเก่ยี วกบั ความเคล่ือนไหวของร่างกาย ๗. สตรีทตี่ ง้ั ครรภ์เกนิ สปั ดาห์ที่ ๒๘

เลขท่ี …………………… คาร้อง ขอรบั การสงเคราะหจ์ ากกองทุนเพือ่ ช่วยเหลือคนหางานไปทางานในตา่ งประเทศ วนั ท่ี…..… เดอื น ………พ.ศ. ……… เรียน อธิบดกี รมการจัดหางาน ขา้ พเจ้า ( นาย/นาง/นางสาว) ………………………………..………………………………....อายุ.…………………ปี อยบู่ า้ นเลขท่ี...หมู่ท่ี …….ตาบล ………………………………..อาเภอ ……………………..…….จงั หวดั …….……………………. ขอรบั การสงเคราะห์จากกองทุนฯ ในฐานะ ( ) สมาชิกกองทุนฯ เลขที่ ………………………………………………………………………… ( ) ทายาท หรือ ( ) ผูร้ ับมอบอานาจ โดย (นาย/นาง/นางสาว) …………………………………………………..สมาชกิ กองทุนไดเ้ ดินทางไปทางาน ประเทศ……………………………..…………………เม่ือวนั ท่ี …………………………..ระยะเวลาตามสญั ญาจ้าง ……….……ปี กบั นายจ้างชือ่ ……………………….……………………………………………………………………............................................. ทอี่ ยู่ ……………………………………………………………………………………………………….................................................. เดินทางไปทางานด้วยวธิ กี าร ………………………………………………………………………………...................................... ข้าพเจา้ ขอรับการสงเคราะหจ์ ากกองทุนเน่ืองจาก ( ) ถูกส่งตัวกลับประเทศไทยเนือ่ งจากเปน็ โรคต้องห้าม คือ ………….……….(ระบุโรค)..……………........ ( ) ประสบอนั ตรายจนพิการหรือทุพพลภาพ ( ) ในประเทศไทย ( ) ต่างประเทศ ( ) ถูกเลิกจ้างโดยมีสาเหตุมาจากการประสบอันตรายและเข้ารับการรักษาตัวท่ีโรงพยาบาลใน ตา่ งประเทศ ( ) สมาชกิ กองทุนเสียชีวติ ( ) เสยี ชีวิตเนอื่ งจากประสบอันตรายก่อนไปทางานในต่างประเทศ ( ) เสยี ชีวิตขณะกลับมาประเทศไทย ( ) เสยี ชีวติ ในต่างประเทศ ( ) กรณีอน่ื ๆ (ระบุ) ………………………………………………………………………………………….............................. พร้อมนี้ ข้าพเจ้าไดย้ นื่ คาร้องและเอกสารประกอบเพ่ือให้กองทุนฯ พิจารณาให้การสงเคราะห์ ดังน้ี กรณีตรวจโรคไมผ่ ่าน หรอื ประสบอันตราย ไดแ้ นบ ………………..(1) สาเนาบตั รสมาชิกกองทนุ ฯ ทั้งดา้ นหน้าด้านหลัง ………………..(๒) สาเนาหนงั สอื เดนิ ทางท่มี ีตราประทับเข้า – ออก ทุกหน้า ………………..(๓) สาเนาสญั ญาจ้างงาน ………………..(๔) ใบตรวจโรคของสถานพยาบาลในต่างประเทศ และในประเทศไทย ………………..(๕) อ่ืน ๆ เช่นใบบันทกึ แจ้งความจากสถานตี ารวจ ใบเสร็จค่ารกั ษาพยาบาล /กรณีถูกเลิก…

-๒- กรณีถูกเลิกจ้างโดยมีสาเหตุมาจากการประสบอันตรายและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในตา่ งประเทศ ………………….. (1) สาเนาบัตรสมาชิกกองทุนฯ ทงั้ ด้านหน้า …………………... (๒) สาเนาหนงั สือเดินทางทีม่ ีตราประทบั เข้า – ออก ทุกหน้า …………………... (๓) สาเนาสัญญาจา้ งงาน ……………………..(๔) ใบรบั รองแพทย์ของสถานพยาบาลในต่างประเทศ ……………………..(๕) เอกสารที่แสดงว่าถกู เลิกจา้ งอนั เนื่องมาจากสาเหตุดงั กล่าว กรณเี สยี ชวี ติ ……………………(1) หนังสือมอบอานาจจากทายาท พรอ้ มตดิ อากรแสตมป์ ……………………(๒) หลกั ฐานที่แสดงว่าเป็นทายาทโดยธรรมของสมาชิกกองทุนฯ ทเ่ี สียชวี ติ ไดแ้ ก่ สาเนาทะเบยี นบา้ น บัตรประชาชน ทะเบยี นสมรส สูตบิ ัตร ……………………(๓) สาเนาบตั รสมาชกิ กองทนุ ฯ ด้านหน้าและด้านหลัง ……………………(๔) สาเนาหนงั สือเดินทางท่มี ตี ราประทบั เข้า – ออก ทกุ หนา้ ……………………(๕) สาเนาใบมรณบัตรหรือใบรับรองการชันสูตรศพท่ีกระทรวงกางต่างประเทศ ประทบั ตรารับทราบแล้ว ขา้ พเจ้าได้ย่ืนหลักฐาน ( ) ครบถ้วนแล้ว ( ) ไม่ครบถ้วน ทาให้เจ้าหน้าท่ีไม่อาจตรวจสอบได้ จึงให้ข้าพเจ้านาหลักฐานมาแสดง ให้ครบถ้วนก่อนจึงจะทาการสอบปากคา ซึ่งข้าพเจ้าได้รับทราบและจะนาคาร้องพร้อมหลักฐานท้ังหมดมาย่ืน ในภายหลัง ขอแสดงความนบั ถือ ลงชอ่ื ………………………………............……..……….….ผู้ยนื่ คารอ้ ง (……………………......................………………………….) หมายเหตุ กรณผี ยู้ ่ืนคาร้องไมใ่ ชต่ วั สมาชิกกองทุน ใหแ้ นบสาเนาบตั รประชาชนหรือทะเบียนบา้ นของผยู้ น่ื คารอ้ ง ถา้ ไมใ่ ช่ กรณสี มาชกิ เสยี ชีวติ ผ้ยู ่ืนคาร้องตอ้ งมีหนังสอื มอบอานาจจากสมาชิกดว้ ย คาเตือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1๓๗ บัญญัติว่า ผู้ใดแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทาให้ผู้อื่น หรอื ประชาชนเสยี หายตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหกเดอื นหรือปรบั ไมเ่ กนิ หนึ่งพันบาทหรือท้งั จาท้งั ปรับ

บันทกึ การสอบปากคาเพอื่ ขอรบั การสงเคราะห์เงนิ กองทุนฯ (กรณีตรวจโรคไมผ่ ่าน หรอื กรณปี ระสบอันตราย) สอบปากคาท่ี……………………….. วนั ท่ี…..… เดอื น ………พ.ศ. ……… ข้าพเจ้า …………………………………..............................อายุ………ปี เชอื้ ชาติ…………….สัญชาติ…………... ศาสนา………………......อาชีพ…………….……..ถอื บัตรประจาตัวประชาชนเลขที่…...............……………………..…….. ออกให้ ณ ………………………...............….จังหวดั …………...............………… เมอ่ื วันท่ี………..……………….............. วนั หมดอายุ ……………………..อย่บู ้านเลขที่ ….........… หม่ทู ่ี .....…….ซอย ……...……………..ถนน .………..….….... ตาบล …………………..……อาเภอ…….………………….จังหวัด……………………โทรศพั ท์ ………..…….……..................... ข้าพเจ้าขอยอมรับว่าถ้อยคาที่ข้าพเจ้าได้ให้การไว้นี้ เป็นความสัตย์จริงทุกประการ สามารถใช้เป็น พยานหลักฐานยันข้าพเจ้าในชั้นพนักงานสอบสวนและช้ันศาล หากมีการดาเนินคดีต่อไปได้ หากข้าพเจ้า แจง้ ข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าท่ี ซึ่งอาจทาให้ผู้อื่นเสียหาย ข้าพเจ้ายินดีให้แจ้งความดาเนินคดี ตามกฎหมายจนถึงทสี่ ุด โดยขอใหก้ ารต่อหนา้ (นาย/นาง/นางสาว) …………………….………………………………..……. ตาแหนง่ …………………………………………………..............................…..ดังนี้ ขา้ พเจ้า …………………….......................……………….เปน็ ( ) สมาชกิ กองทุนเลขท่ี …...…….……………… ( ) ผรู้ ับมอบอานาจจาก …………………………...........…… ซึง่ เป็นสมาชิกกองทนุ ฯ เลขท่.ี ...…………………………..... ได้เดินทางไปทางานทป่ี ระเทศ…………………….......……. เม่ือวนั ที่ …………...............……………ทางานกบั นายจ้าง ช่อื ………………………………………………………………………………………………………….................................................. ท่อี ยู่ …………………………………………………………………………………………………………............................................... ระยะเวลาตามสญั ญาจ้าง ………………….ปี ………เดอื น ตาแหน่ง …………....................…………….โดยการจัดส่ง ของบริษทั จัดหางาน ………………………………….......................………..ท่ีอยู่………………….…………...........………… ………………………………………………………….และได้เดนิ ทางกลับประเทศไทยเมอ่ื วันที่…………………………………… ด้วยสาเหตุเนอื่ งจาก ( ) ตรวจโรคไม่ผา่ น ( ) ประสบอันตราย ( ) กรณตี รวจโรคไมผ่ า่ น 1. กอ่ นเดนิ ทางไปทางานไดไ้ ปตรวจโรคทีโ่ รงพยาบาล ……………...............…………………………………… อาเภอ……………………………………..........………….จงั หวัด ………………………................................……………………… ๒. เม่อื เดนิ ทางไปทางานในต่างประเทศแลว้ ( ) ๒.1 นายจ้างได้พาไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลของประเทศ …….............………………………… เม่อื วนั ท่ี ……………………….........…………….ผลจากการตรวจพบวา่ เป็นโรค …...................…………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………........................................... นายจ้างจึงไดส้ ่งตัวกลบั ประเทศไทยเม่ือวันท่ี …………………………..........................……………………………………... ( ) ๒.๒ นายจา้ งไมไ่ ด้พาไปตรวจโรค ณ สถานพยาบาลในประเทศ …..........………………………… แต่อย่างใด และได้สง่ ตวั กลบั ประเทศไทยเมอื่ วันท่ี …………….....................…………………………………………………. /๓. เม่อื เดนิ ทาง…

-๒- ๓. เม่อื เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว ได้ไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลมาตรฐานของประเทศไทย ช่อื โรงพยาบาล ………………....................…………………..อาเภอ ……...........……………จงั หวัด ……….……………….. เมอ่ื วนั ท่ี ………………...............................…………ผลการตรวจโรคพบวา่ …………………………………………………... (พรอ้ มนี้ได้แนบใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลมาดว้ ยแลว้ ) ( ) กรณีประสบอันตราย ( ) ในประเทศไทย ( ) ตา่ งประเทศ 1. ประสบอุบัตเิ หตุหรือประสบอันตรายเมื่อวันท่ี ………………………………………………………... ( ) ในเวลาทางาน ( ) นอกเวลาทางาน ๒. ระบรุ ายละเอยี ดของการประสบอบุ ัติเหตุ หรือประสบอันตราย ……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….………………………………………….. ....................................................................................................... ...................................................................... ๓. ( ) ไดร้ บั การรกั ษาทโ่ี รงพยาบาลของประเทศ ……………...................………………………………………. เปน็ ระยะเวลา ………………………วัน และได้เดนิ ทางกลับประเทศไทยเม่อื วนั ที่ ……...................…………………….. ( ) ไมไ่ ด้รบั การรักษา และเดนิ ทางกลับประเทศไทยเม่ือวันที่ ……………………………………............. ๔. ผลจากการประสบอุบัตเิ หตุ หรอื ประสบอนั ตรายทาให้ ( ) พิการหรือทุพพลภาพ ระบุรายละเอียด ความพกิ ารหรือทุพพลภาพ ……………………………………………………………………..............……………….. ( ) ถูกเลกิ จ้างโดยมีสาเหตุมาจากการประสบอนั ตรายและเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลใน ต่างประเทศ ๕. เงนิ ชดเชยท่ีไดร้ ับจากทางการของประเทศ …………………..................……………………………………….. เปน็ เงนิ ………….........................……………………..บาท (………………………...................…………………..…………….) ๖. เมือ่ เดินทางกลับถงึ ประเทศไทยแลว้ ได้ไปรบั การตรวจรักษาทโ่ี รงพยาบาล …………....…………… จังหวดั ………………………เมอ่ื วันที่ …………………….……แพทย์วินจิ ฉัยวา่ ………………………………......................... …………………………………………………………………………………………………………………............................................. ขา้ พเจ้า …………………………………….( ) ผ้รู ับมอบอานาจจาก …………….……………….........................… ขอรับการสงเคราะห์จากกองทุนฯ ตามสิทธ์ิ และขอรับรองว่าเจ้าหน้าที่ผู้สอบปากคามิได้จัดทาหรือจัดให้ทาการใด ๆ ซึงเป็นการล่อลวง ขู่เข็ญ หรือให้สัญญาเพ่ือจูงใจให้ข้าพเจ้าให้ถ้อยคาที่บิดเบือนจากความเป็นจริง และเป็น บันทึกถ้อยคาที่ถูกต้อง ซ่ึงข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จึงลงลายมือชื่อต่อเจ้าหน้าที่ผู้ สอบปากคาและพยานไว้เป็นหลักฐาน ลงชื่อ ……………………….................……………ผใู้ ห้ถอ้ ยคา ลงช่อื …………………...........……………....ผบู้ ันทึกถ้อยคา (………………...................…………………….) (………………….............………………..) ลงชื่อ …………………...............…………………….. พยาน ลงชอ่ื ………..................…………………………..พยาน (……………………………..................…………) (……………………...................………….)

บันทึกการสอบปากคาเพือ่ ขอรับการสงเคราะห์เงนิ กองทุนฯ (กรณีเสียชวี ติ ) สอบปากคาที่……………………….. วันท่ี…..… เดือน ………พ.ศ. ……… ขา้ พเจ้า ……………………………………..อายุ………ปี เชอ้ื ชาติ………….สญั ชาต…ิ ………..ศาสนา………………... อาชีพ…………….……..............................ถือบัตรประจาตัวประชาชนเลขที่………………………................................ ออกให้ ณ …………………………...............จงั หวดั ……………….................. เม่ือวนั ท่ี………..……………….................... วนั หมดอายุ ……………………..อยบู่ ้านเลขที่ ……........... หมทู่ ่ี …......ซอย ……..…………....ถนน ………..….…......... ตาบล …………………….............อาเภอ………………..............จังหวัด……………….......โทรศัพท์ ………..…….………...... เก่ยี วขอ้ งกบั สมาชกิ กองทุนฯ โดยเป็น………………………..…………………………………………… ข้าพเจา้ ขอยอมรับวา่ ถอ้ ยคาท่ขี ้าพเจ้าไดใ้ หก้ ารไว้นี้ เป็นความสตั ยจ์ ริงทุกประการ สามารถใชเ้ ปน็ พยานหลักฐานยันขา้ พเจา้ ในช้นั พนักงานสอบสวนและช้นั ศาล หากมีการดาเนินคดีตอ่ ไปได้ หากขา้ พเจ้าแจ้งข้อความ อนั เป็นเทจ็ แกเ่ จา้ พนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจทาใหผ้ ู้อืน่ เสียหาย ขา้ พเจ้ายินดีให้แจง้ ความดาเนินคดีตามกฎหมายจนถึง ท่สี ุด โดยให้การตอ่ หน้า (นาย/นาง/นางสาว) …..............…………………………..…ตาแหนง่ ………………………………………… ดงั นี้ขา้ พเจา้ ได้รบั แจ้งจาก ………………………..………………………..........เม่ือวันท่ี …………………..….…………………… วา่ (นาย/นาง/นางสาว)……………….……….......................เปน็ สมาชิกกองทนุ ฯ เลขท่ี ……….….…………................ ได้เสียชวี ิตเน่ืองจาก ( ) ประสบอนั ตรายกอ่ นไปทางานในต่างประเทศ โดย (ระบุสาเหตุ)………….…….……….. …...……………………………………………………………………………………………………………............................................... ( ) เสียชีวติ ขณะกบั มาประเทศไทย โดย (ระบสุ าเหตุ)……… …………………….............. ……………………………………………………………………………………………………………................................................... ( ) เสยี ชีวิตในตา่ งประเทศ โดย (ระบสุ าเหตุ)………………................……………………..... ……………………………………………………………........................................................................................................ โดยผ้เู สยี ชีวิตถอื หนังสือเดินทางเลขที่………………….................เดนิ ทางไปทางานในประเทศ…………………………... เมอื่ วันที่……………………….........กบั นายจา้ งชื่อ…………………………………………….……………………......................... ทอ่ี ยู่……….……………………………………………………………………………………………................................................... ระยะเวลาตามสญั ญาจา้ ง…….......ป.ี ..………เดือน ตาแหนง่ ………………………………...................โดยการจัดสง่ ของ บรษิ ทั จดั หางาน………………………………………………………………………………………............................................ 1. ทายาทขอรับการสงเคราะห์ค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศ (ต้องเป็นกรณีที่ไม่มี ผู้รับผิดชอบ) ท้ังนี้ ทายาทได้แนบหลักฐานค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศ ได้แก่ ใบเสร็จ รับเงิน คา่ ใชจ้ า่ ยเฉพาะในตา่ งประเทศ พรอ้ มแปลเปน็ ภาษาไทยและมีผ้รู ับรองการแปล ( ) ทายาทชาระค่าใช้จ่ายในการจดั การศพในต่างประเทศตามใบเสร็จรับเงนิ เลขท่ี……………....... เลม่ ท่ี……………ออกโดย…………..เมอื่ วนั ท่ี………………….โดย (นาย/นาง/นางสาว)………………............................. เป็นผู้ชาระเงิน เปน็ จานวนเงิน…………………………………………….บาท /๒. เงินทดแทน

-๒- ๒. เงินทดแทนจากตา่ งประเทศ ทายาท ( ) ไดร้ บั ( ) ยังไม่ไดร้ ับ เป็นจานวนท้งั ส้ิน………………………………………………………..............................บาท หรืออยู่ระหว่างการดาเนินการ โดยมีผู้รบั ผิดชอบคือ……………………………………………………........... รายละเอยี ดเกย่ี วกับทายาทโดยธรรม ๓. ผูเ้ สียชวี ติ มีทายาทโดยธรรม ดงั นี้ บิดา ช่ือ…………………………………………..................……..( ) ยังมชี ีวติ อยู่ ( ) เสียชวี ติ / แนบใบมรณบัตร มารดา ชื่อ…………..………………………..………..................( ) ยังมีชวี ิตอยู่ ( ) เสียชวี ิต / แนบใบมรณบตั ร สาม/ี ภรรยา ชือ่ ……………………………………....................( ) ยงั มีชวี ติ อยู่ ( ) เสยี ชวี ติ / แนบใบมรณบตั ร จานวนบุตร………………..คน ชอื่ ……………………….......................................………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………….................................................. (แนบใบสตู บิ ัตร) ๔. หลกั ฐานทีน่ ามาแสดง ( ) ครบ ( ) ขาด ………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………….. ซง่ึ ขา้ พเจ้าจะนามามอบใหภ้ ายหลงั โดยด่วน ข้าพเจ้า ………………………………………….……ในฐานะ ( ) ทายาท และ ( ) ผู้รับมอบอานาจจาก ทายาทของผู้เสียชีวิต ขอรับการสงเคราะห์จากกองทุนฯ ตามสิทธ์ิ และขอรับรองว่าเจ้าหน้าที่ผู้สอบปากคามิได้ จัดทาหรอื จัดให้ทาการใด ๆ ซงึ เป็นการล่อลวง ขเู่ ข็ญ หรือใหส้ ัญญาเพอ่ื จงู ใจให้ข้าพเจ้าให้ถ้อยคาที่บิดเบือนจาก ความเป็นจริง และเป็นบันทึกถ้อยคาท่ีถูกต้อง ซ่ึงข้าพเจ้าได้อ่านและรับทราบจนเป็นท่ีเข้าใจแล้วจึงลงลายมือ ช่อื ตอ่ เจ้าหน้าทีผ่ ูส้ อบปากคา และพยานไว้เป็นหลกั ฐาน ลงชอ่ื ……………………...................……………ผูใ้ ห้ถ้อยคา ลงช่ือ …………………............………………ผูบ้ ันทึกถอ้ ยคา (…………...................……………………….) (……….............……...………………..) ลงชอ่ื …………………............…………………….. พยาน ลงช่ือ ……………………….................…………..พยาน (…………...........……………………………) (……..……………....................………….)

แบบประเมนิ ความสูญเสียสมรรถภาพของรา่ งกายหรืออวยั วะ เพอื่ ใชป้ ระกอบการพจิ ารณาให้การสงเคราะหส์ มาชกิ กองทุนเพือ่ ชว่ ยเหลือคนหางานไปทางานในต่างประเทศ สถานท่ี……………………………………................................. วันท่ี…….....เดอื น….....………….พ.ศ.………........ ข้าพเจ้า นายแพทย/์ แพทยห์ ญงิ ……………………………..................................…………. ใบอนญุ าตเป็นผู้ประกอบวิชาชพี เวชกรรมเลขท่ี…………...................…….สงั กดั …………………………………………… ชอ่ื ผูร้ ับการประเมนิ ………………………................……เลขประจาตัวประชาชน…………………….......…………..…………. ประเภทความสญู เสีย หัวข้อการพจิ ารณา ผลการประเมนิ ระบรุ ายละเอยี ดลกั ษณะ ระดบั ของ ปกติ ผิดปกติ ของความผดิ ปกติ ความผิดปกติ 1. ทางการมองเห็น - การมองเห็นของสายตา - ลานสายตา ๒. ทางการได้ยินหรือ - การไดย้ นิ เสยี ง การสื่อความหมาย - การเข้าใจภาษาพูด - การใชภ้ าษาพูด ๓. ทางกายหรือ - ลักษณะทว่ั ไปของร่างกาย การเคล่ือนไหว - การเคล่อื นไหวมือหรือแขน ๔. ทางจิตพฤตกิ รรม - สภาวะทางจติ หรือพฤติกรรม ๕. สตปิ ัญญาหรือ - ความสามารถทางสตปิ ญั ญา การเรียนรู้ หรอื การเรยี นรู้ สรปุ ผลการวนิ จิ ฉยั ปรากฏว่าผถู้ กู ประเมิน ( ) ไมม่ คี วามสญู เสยี สมรรถภาพของอวัยวะหรือของรา่ งกายหรอื จิตใจ ( ) สูญเสยี สมรรถภาพของอวยั วะร้อยละ……………………….. ( ) สูญเสยี สมรรถภาพของรา่ งกายรอ้ ยละ………………………. ( ) ปัจจบุ ันมีความสามารถระดับ………………………………... ระบรุ ายละเอยี ดลักษณะของอวยั วะท่สี ญู เสยี ………………………….………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………………………………………............................................................... . ลงช่อื ….…………………………...........…..แพทยผ์ ูป้ ระเมิน (…………………………......……………) ตาแหนง่ ………………………………………………............ ประทบั ตรารบั รองจากสถานพยาบาล

หนงั สอื มอบอานาจ ที่ปดิ อากร แสตมป์ ทาท่ี ........................................... ..................................................... วันท.่ี ..............เดือน..............................พ.ศ. .................... โดยหนงั สอื ฉบบั นี้ขา้ พเจา้ .............................................................อายุ .........ปี เช้อื ชาติ .................... สญั ชาติ.......................อยู่บา้ นเลขท่ี................หมู่ท.่ี ..............ตาบล..........................อาเภอ............................... จังหวัด............................................. ถือบตั รประจาตัวประชาชนเลขที่ .......................................................... ออกให้เมื่อ .......................................บัตรหมดอายุ............................ให้ ณ............................................. จงั หวัด................................................................. ขอมอบอานาจให้ ........................................................................ อาย.ุ .......... ปี เช้ือชาติ........... สัญชาติ......... อยู่บ้านเลขท่ี .................... หม่ทู .ี่ ...........ตาบล......................................................อาเภอ.................................... จังหวดั .............................................ถือบตั รประจาตวั ประชาชนเลขท่ี ............................................................. ออกใหเ้ มอื่ ............................บตั รหมดอายเุ ม่ือ............................. ออกให้ ณ..................................................... จงั หวัด............................................ กระทาการดังต่อไปนี้ ๑. ยื่นคาร้องขอรับการสงเคราะห์จากกองทุนเพ่ือช่วยเหลือคนหางานไปทางานในต่างประเทศ ตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ทกี่ รมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ตลอดจนนาเสนอเอกสารประกอบการรบั การสงเคราะห์ ๒. รับเงินจากการชว่ ยเหลือสงเคราะห์จากเจ้าหน้าท่ีแทนข้าพเจา้ ได้ การกระทาใดทผ่ี ู้รบั มอบอานาจได้กระทาในขอบเขตการมอบอานาจ ถือว่าเปน็ การกระทาของผู้มอบอานาจทงั้ ส้ิน ลงช่ือ.........................................…......ผมู้ อบอานาจ ลงชื่อ…………………………………………….ผู้รบั มอบอานาจ (...............................................) (..................................................) ข้าพเจ้าขอรับรองวา่ เป็นลายมือหรือลายพมิ พน์ ้ิวมืออันแทจ้ ริงของผู้มอบอานาจ และผูม้ อบอานาจไดล้ งลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายน้ิวมือต่อหน้าข้าพเจ้า ลงชื่อ…………………………………………...……...พยาน ลงชื่อ……………………………………………….....พยาน (…………………………….....…………..……) (………............………………………………) วิธปี ดิ อากรแสตมป์ ๑. ถ้ามอบอานาจให้บคุ คลคนเดยี วหรอื หลายคนกระทาการครั้งเดียว ปดิ ๑๐ บาท ๒. ถ้ามอบอานาจให้บุคคลคนเดียวหรอื หลายคนร่วมกันกระทาการมากกว่าครง้ั เดยี ว ปดิ ๓๐ บาท ๓.. แนบสาเนาทะเบยี นบ้านและสาเนาบตั รประจาตัวประชาชนของผู้มอบอานาจและผู้รับมอบอานาจพร้อมลงลายมือชอ่ื

คณะผ้จู ดั ทา ที่ปรกึ ษา ผอู้ านวยการกองบริหารแรงงานไทย ๑) นางสาวสุกญั ญา ภู่พฒั นากุล ไปต่างประเทศ ผ้เู ช่ียวชาญเฉพาะดา้ นบริหารแรงงานไทย ๒) นายปรชี า อนิ ทรชาธร ไปต่างประเทศ ๓) คณะทีมงานจดั การความรู้ หัวหน้ากลุม่ งานกองทุนและงานสนับสนนุ การจัดส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ ผจู้ ัดทา หัวหน้าฝา่ ยสานกั งานจดั หางาน ๑) นายธนภูมิ ชัยฤกษ์ หัวหน้าฝา่ ยกองทนุ เพ่อื ช่วยเหลอื คนหางาน ไปทางานในต่างประเทศ ๒) นางพรนภิ า พงษ์พฒั นกจิ โชติ นกั วชิ าการแรงงานชานาญการ ๓) นางสาวศศิกาญจน์ พงษ์แสร์ นกั วิชาการแรงงานชานาญการ นกั วิชาการแรงงานชานาญการ ๔) นางศรมน วงศ์วชั รานนท์ นกั วิชาการเงินและบัญชปี ฏิบัตกิ าร ๕) นางศกุ รศ์ รี ธีรนันทน์ นิตกิ ร ๖) นางสาวเบญจมาศ จูมณี นักวชิ าการแรงงาน ๗) นางสาวจริ ภาภรณ์ ตระกลู สนุ ทร ๘) นางสาวชนาภัทร ปัทมชนะโชติ ๙) นางสาวพชิ ามณช์ุ ตงั้ อมั พรไพศาล