Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore DWCP Final ILO version Thai

DWCP Final ILO version Thai

Published by Nulek Labour, 2019-03-20 23:24:36

Description: DWCP Final ILO version Thai

Search

Read the Text Version

- รา่ ง - Thailand Decent Work Country Programme 2019-2021 แผนงานระดบั ชาติวา่ ด้วยงานที่มคี ุณค่า ของประเทศไทย พ.ศ. 2562 - 2564 1

สารบัญ บทสรปุ ผบู้ ริหาร ................................................................................................................................................................................................7 1 คานา..............................................................................................................................................................................................................9 2 บรบิ ทของประเทศ: วินจิ ฉัยและวิเคราะหส์ ถานการณ์................................................................................................................................ 10 2.1 กรอบการพัฒนาชาตทิ ี่สาคัญ.............................................................................................................................................................. 10 2.1.1 แผนยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี (2560-2579)................................................................................................................................... 11 2.1.2 แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 ....................................................................................................................................................... 11 2.1.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตฉิ บบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)...................................................................................... 12 2.1.4 แผนแมบ่ ทด้านแรงงาน 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564)........................................................................................................................ 12 2.2 การเสรมิ สร้างความรว่ มมือในระดับนานาประเทศ ............................................................................................................................. 13 2.2.1 กรอบความร่วมมือหุ้นสว่ นระหวา่ งไทยกับสหประชาชาติ (United Nations Partnership Framework: UNPAF) (พ.ศ. 2560 - 2564) ...................................................................................................................................................................................... 13 2.2.2 การเช่ือมตอ่ ภูมิภาคและความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ............................................................................................................... 13 2.3 การดาเนินงานที่ผา่ นมาของ ILO ในประเทศไทยและขอ้ ไดเ้ ปรยี บเชงิ เปรียบเทียบ............................................................................ 15 2.4 การก้าวสวู่ าระการทางานที่ด:ี ความทา้ ทายและโอกาส...................................................................................................................... 15 2.4.1 สถานการณ์ทางเศรษฐกจิ และสังคม (Socio-economic situations and demographic factors)........................................ 16 2.4.2 ตลาดแรงงานและความท้าทายสาหรบั วาระการทางานทีม่ คี ณุ คา่ ............................................................................................... 16 3. ลาดบั ความสาคญั ของประเทศและผลลพั ธข์ องแผนงาน............................................................................................................................ 26 ความสาคญั ท่ี 1: ส่งเสริมสภาพแวดล้อมทีเ่ อ้อื อานวยตอ่ การเตบิ โตของการจ้างงานทด่ี แี ละมีประสิทธผิ ล................................................ 27 ผลลพั ธ์ 1.1 เพม่ิ การจ้างงานท่ดี ีและมีประสทิ ธผิ ลโดยใช้บรกิ ารจัดหางานทส่ี อดรับความตอ้ งการแรงงานซ่ึงคานึงถึงเพศสภาพ และ ขยายการพฒั นาทกั ษะฝมี ือ และการส่งเสริมทกั ษะด้านเทคนคิ / วิชาชีพสาหรบั หญงิ และชายโดยมุ่งเนน้ การจา้ งงานเยาวชนและ ผ้สู งู อายุของทุกเพศสภาพทีเ่ หมาะสมตามช่วงอายุ ............................................................................................................................... 27 ผลลพั ธ์ 1.2 การพฒั นาองค์กรอยา่ งยั่งยืนมคี วามเขม้ แข็ง ด้วยการประยกุ ต์ใชห้ ลักการเศรษฐกิจพอเพยี งตามมาตรฐานแรงงาน ระหว่างประเทศ.................................................................................................................................................................................... 31 ผลลพั ธ์ 1.3 ระบบประกนั สังคมมปี ระสิทธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และความยั่งยืนเพิ่มขนึ้ .......................................................................... 33 ความสาคญั ที่ 2: สรา้ งความเข้มแขง็ ในการค้มุ ครองแรงงานโดยเฉพาะแรงงานทีเ่ ปราะบาง ..................................................................... 35 ผลลพั ธ์ 2.1 แรงงานเปราะบางรวมท้ังผูท้ ่ีอยู่ในเศรษฐกิจนอกระบบและแรงงานข้ามชาตไิ ดร้ ับความคมุ้ ครองทด่ี ีขึ้น ด้วยกรอบ สถาบนั นโยบาย และเคร่อื งมือการปฏบิ ตั ติ ามยุทธศาสตร์ท่ดี ีข้ึน......................................................................................................... 36 ผลลพั ธ์ 2.3 การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภยั และอาชีวอนามยั มีความเขม้ แขง็ ขึน้ อันเน่ืองมาจากการเพม่ิ ขดี ความสามารถ ในการตรวจแรงงานเพื่อเสรมิ สร้างสภาพการทางานที่มีคณุ คา่ ............................................................................................................. 41 ความสาคญั ท่ี 3: เสรมิ สร้างการกากบั ดแู ลตลาดแรงงานให้สอดคล้องกบั มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ............................................ 42 ผลลัพธ์ 3.1 ความสามารถขององคก์ รไตรภาคมี ีความเขม้ แขง็ ขึน้ ในการสรา้ งและมีอทิ ธพิ ลตอ่ นโยบาย ให้สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน แรงงานระหวา่ งประเทศ ....................................................................................................................................................................... 43 2

ผลลพั ธ์ 3.2 การเจรจาทางสังคมมากขึ้นอันเน่ืองมาจากกลไกไตรภาคีทีม่ ีความเข้มแข็งขนึ้ .................................................................. 47 ผลลัพธ์ 3.3 การให้สัตยาบันและการใชม้ าตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศเพิม่ ขึ้น............................................................................... 49 4. การวางแผน การดาเนินงาน การจัดการ การตดิ ตาม รายงานและการประเมินผล.................................................................................... 52 4.1 การวางแผน การดาเนินงาน การจัดการ การตดิ ตาม รายงานและการประเมินผล............................................................................. 52 4.1.1 ความร่วมมือและการประสานงานของ DWCP........................................................................................................................... 52 4.1.2 การกากบั ดแู ลและการประสานงานภายในของ ILO................................................................................................................... 52 4.1.3 การตรวจสอบ การประเมนิ ผล การเรียนรู้และการจดั ทารายงาน............................................................................................... 53 4.2 แรงผลกั ดนั โยบายในประเดน็ ท่ีเกย่ี วข้องกับหลายเรอ่ื ง (Cross- cutting issues).............................................................................. 53 4.3 การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี ง...................................................................................................................................................................... 54 5. แผนการระดมทุน....................................................................................................................................................................................... 54 6. แนวทางการสนับสนนุ และการสอ่ื สาร........................................................................................................................................................ 54 ภาคผนวก I ตารางผลลัพธ์ DWCP ............................................................................................................................................................... 56 อภธิ านศัพท์.................................................................................................................................................................................................... 71 เอกสารอ้างองิ ................................................................................................................................................................................................ 73 3

บันทึกความเข้าใจ ระหว่าง รัฐบาลแหง่ ราชอาณาจกั รไทย องคก์ รลกู จา้ ง องคก์ รนายจา้ งและองคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ แผนงานระดับชาตวิ า่ ด้วยงานทม่ี คี ุณค่าของประเทศไทย ปี 2562-2564 รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย องคก์ รลกู จ้าง องค์กรนายจา้ ง และองคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ โดยสานกั งาน แรงงานระหวา่ งประเทศ (เรยี กทง้ั หมดว่าภาคี) ประสงค์จะรว่ มมือกันเพ่ือสง่ เสรมิ และพัฒนาการทางานทมี่ ีคุณคา่ ใน ประเทศไทย ในขณะนภ้ี าคจี ึงตกลงดังต่อไปนี้ 1 คภู่ าคยี ืนยนั ถงึ ความมงุ่ ม่นั ทีจ่ ะรว่ มมือในการดาเนินแผนงานระดบั ชาติวา่ ดว้ ยงานท่ีมีคุณค่าของประเทศไทย ซึ่งมี ลาดับความสาคัญของแผนงานที่มีคุณค่าของประเทศไทยดังต่อไปนี้: ประเด็นท่ี 1: สง่ เสรมิ สภาพแวดลอ้ มท่ีเออื้ อานวยต่อการเตบิ โตของการจา้ งงานท่ีดีและมีประสิทธิผล ประเด็นท่ี 2: สรา้ งความเข้มแขง็ ในการคมุ้ ครองแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่เปราะบาง ประเดน็ ท่ี 3: เสรมิ สรา้ งการกากับดูแลตลาดแรงงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ 2 องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศตกลงที่จะให้ความช่วยเหลอื ในการระดมทรัพยากรและให้ความช่วยเหลอื ทาง วชิ าการในการปฏิบัตติ ามแผนงานระดบั ชาติวา่ ดว้ ยงานที่มีคุณคา่ ของประเทศไทย ภายใตก้ ฎ ระเบียบ คาส่ัง และ ขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน ความพร้อมของเงนิ ทนุ และเง่ือนไขท่จี ะต้องตกลงกันเปน็ ลายลักษณ์อักษร 3 ในสว่ นท่เี ก่ยี วข้องกบั แผนงานที่มคี ุณคา่ ของประเทศไทย และกจิ กรรมท่ีเก่ียวข้องใด ๆ ขององค์การแรงงานระหวา่ ง ประเทศ รฐั บาลไทยจะใชบ้ ุคลากร และบุคคลทอ่ี งค์การแรงงานระหว่างประเทศมอบหมายใหเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมของ องค์การแรงงานระหวา่ งประเทศ 4 บนั ทกึ ข้อตกลงนอ้ี าจแก้ไขไดโ้ ดยขอ้ ตกลงระหว่างภาคี 5 ไม่มีสิ่งใดหรือสิ่งที่เก่ียวข้องกับบันทึกความเข้าใจฉบับน้ีจะถือว่าเป็นการสละสิทธิและความคุ้มกัน (privileges and immunities) ทดี่ าเนนิ โดยองคก์ ารแรงงานระหว่างประเทศ 6 แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานท่ีมีคุณค่าของประเทศไทยได้แนบมากับบันทึกความเข้าใจนี้ ในกรณีท่ีข้อกาหนดใน เอกสารแผนงานท่ีมีคุณค่าของประเทศไทยไม่สอดคล้องกับข้อกาหนดในบันทึกข้อตกลงฉบับน้ี บันทึกความเข้าใจจะมี ผลบังคับเหนือกวา่ แผนงานที่มคี ณุ ค่าของประเทศไทย 4

7 บนั ทกึ ข้อตกลงนจ้ี ัดทาและลงนามในฉบบั ภาษาอังกฤษ หากบันทึกความเข้าใจนไี้ ด้รับการแปลเปน็ ภาษาอน่ื เอกสาร ฉบบั ภาษาอังกฤษจะมีผลบังคับใชเ้ หนือกวา่ บนั ทึกความเข้าใจน้ี ใชแ้ ทนการสอ่ื สารทัง้ หมดในเรื่องนีร้ ะหวา่ งภาคี และจะมผี ลบงั คับใช้ นับแต่การลงลายมือช่ือของ ผแู้ ทนทีไ่ ด้รบั อนุญาตจากภาคี สาหรับและในนามขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ สาหรับและในนามของรัฐบาล สาหรับและในนามขององค์กรนายจ้าง สาหรับและในนามขององค์กรลูกจ้าง 5

คายอ่ Association of Southeast Asian Nations (สมาคมประชาชาตแิ หง่ เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้อาเซยี น) ASEAN Economic Community (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น) ASEAN Corporate social responsibility (ความรับผดิ ชอบขององค์กรธรุ กิจต่อสังคม) AEC Decent Work Country Programme (แผนงานระดบั ชาตวิ ่าด้วยงานท่ีมีคุณค่า) CSR Department of Labour Protection and Welfare (กรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน) DWCP Department of Employment (กรมการจดั หางาน) DLPW Department of Skills Development (กรมพัฒนาฝีมอื แรงงาน) DOE Employers’ Confederation of Thailand (สภาองคก์ ารนายจา้ งแหง่ ประเทศไทย) DSD Labour Congress of Thailand (สภาองคก์ ารลูกจา้ งสภาแรงงานแหง่ ประเทศไทย) ECOT Labour Force Survey (การสารวจภาวะการทางานของประชากร) LCT International Labour Organization (องค์การแรงงานระหว่างประเทศ) LFS Freedom of Association (เสรภี าพในการสมาคม) ILO Millennium Development Goals (เป้าหมายการพฒั นาแห่งสหสั วรรษ) FoA Tripartite Declaration of Principles concerning Multinational Enterprises and Social Policy (ปฏญิ ญา MDGs ไตรภาควี ่าดว้ ยหลกั การเกย่ี วกบั บริษัทข้ามชาติและนโยบายทางสังคม) MNE Ministry of Labour (กระทรวงแรงงาน) National Congress Private Industrial of Employees (สภาองคก์ ารลกู จา้ งสภาแรงงานอุตสาหกรรม MOL เอกชน) NCPE Occupational Safety and Health (อาชีวอนามยั และความปลอดภัย) Permanent Secretary Office (สานักงานปลดั กระทรวงแรงงาน) OSH Sustainable Development Goals (เป้าหมายการพฒั นาอย่างยงั่ ยืน) PS State Enterprises Workers’ Relations Confederation (สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพนั ธ์) SDGs Small and Medium Enterprises (เป้าหมายการพัฒนาอยา่ งยง่ั ยนื ) วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม SERC Social Security Office (วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม) สานกั งานประกันสังคม SMEs Thai Trade Union Congress (สภาองค์การลกู จา้ งสมาพนั ธแ์ รงงานแห่งประเทศไทย) SSO United Nations Partnership Framework (กรอบความรว่ มมือหนุ้ สว่ นระหวา่ งไทยกบั สหประชาชาติ) TTUC UNPAF 6

บทสรปุ ผู้บรหิ าร ทิศทางการพัฒนายุทธศาสตร์ของประเทศไทยได้กาหนดไว้ในกรอบยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0 development plan) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับ ท่ีสิบสอง (พ.ศ. 2560-2564) ความมุ่งม่ันในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศไทยได้วางไว้ในแผน ยุทธศาสตร์ 20 ปี เพ่ือบรรลุถึงสถานะของประเทศท่ีพัฒนาแล้ว โดยการปฏิรูปในวงกว้างเพ่ือสร้างเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจ พัฒนาทุนมนุษย์ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจท่ีเท่าเทียม ความย่ังยืนด้านสิ่งแวดล้อม สร้างศักยภาพในการ แข่งขันและระบบราชการของรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ แผนแม่บทด้านแรงงาน 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) เป็นไปใน ทศิ ทางเดยี วกันกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศตามกรอบการพัฒนาประเทศดังกล่าวทิศทาง ยทุ ธศาสตร์เหล่าน้ีเช่ือมโยงกบั เป้าหมายการพัฒนาระดับโลกอยา่ งใกล้ชดิ ประเทศไทยประสบความสาเร็จอย่างมากใน การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาดังกล่าว ประเทศได้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals: MDGs) ส่วนใหญ่ทั้ง 8 เป้าหมาย และมีความคืบหน้าในการบรรลุ MDGs + ซ่ึงประเทศได้ กาหนดเป้าหมายในระดับที่สูงขึ้นภายในปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยมีความมุ่งม่ันท่ีจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่าง ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ภายในปีพ.ศ. 2573 ท้ังนี้การพัฒนาอย่างยั่งยืนสะท้อนไปใน ทิศทางเดียวกันกับประเด็นงานท่ีมีคุณค่าและหลายเป้าหมายก็มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทางานอย่างมีคุณค่า โดยเฉพาะอย่างย่ิงเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนประการที่ 8 (SDG Goal 8) ในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างยั่งยืน การเจรญิ เติบโตและการพฒั นาที่ครอบคลมุ และยั่งยืน การจา้ งงานเต็มที่และมผี ลิตภาพ และการทางานที่มี คณุ ค่าสาหรบั ทุกคน กรอบความรว่ มมือห้นุ ส่วนระหวา่ งไทยกับสหประชาชาติ (United Nations Partnership Framework: UNPAF) พ.ศ. 2560-2564 สะท้อนถงึ ทิศทางเชิงยทุ ธศาสตร์เหล่าน้ีและกาหนดลาดบั ความสาคัญของระบบสหประชาชาตโิ ดยรวม กรอบความรว่ มมือระหว่างไทย – สหประชาชาตินี้ใหค้ วามสาคัญอยา่ งมากในประเด็นงานที่มีคุณคา่ เป็นเวลาหลายสบิ ปีทป่ี ระเทศไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกจิ ท่แี ขง็ แกรง่ ส่งผลให้มีการเติบโตในมาตรฐานความเป็นอยู่ อยา่ งมนี ัยสาคญั แมว้ ่าโดยทว่ั ไปการกระจายรายได้จะดีข้นึ แตค่ วามแตกต่างด้านรายไดย้ ังคงเป็นสงิ่ ท่ีท้าทาย ซง่ึ ความ ไม่เท่าเทยี มกันของรายได้สามารถบรรเทาได้ด้วยการสง่ เสริมการทางานที่มีคุณคา่ การเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรไปสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยก่อความท้าทายและโอกาสท่ีสาคัญต่อ ตลาดแรงงานไทย ไมว่ ่าจะเป็นอตั ราการพ่ึงพงิ ของเยาวชนและผู้สูงอายจุ ะเพิ่มขึ้นอยา่ งรวดเร็ว และอัตราการมีส่วนร่วม ของแรงงานลดลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุและการลดลงของเยาวชน สถานการณ์แนวโน้มทางประชากรใน ประเทศไทยจะสง่ ผลให้อัตราส่วนการพึ่งพิงสงู ขนึ้ เป็นเวลานาน และเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานยิง่ ขึ้นในอนาคต อันใกล้นี้ ในการตอบสนองต่อสถานการณ์นี้มีความจาเป็นที่จะต้องส่งเสริมผลิตภาพแรงงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อตุ สาหกรรมท่ีมีผลิตภาพสูงเพ่ือสร้างมูลคา่ เพ่ิมท่ีเพม่ิ ขึ้นโอกาสในการทางานและเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ นอกจากนี้การทางานที่มีคุณค่าสาหรับทุกกลุ่มอายุเป็นสิ่งสาคัญเพ่ือกระตุ้นให้ประชากรทุกวัยมีส่วนร่วม ในตลาดแรงงาน แม้ว่าการเข้าถึงการศึกษาในระดับเยาวชนจะดีขึ้น แต่สาขาการศึกษาของเยาวชนไม่ตรงกับความต้องการแรงงาน แต่ก็ มีโดยมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นสาหรับผู้สาเร็จการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อัตราการว่างงานของเยาวชน สูง ถึงร้อยละ 4.7 ในปี 2561 ในขณะท่ีอัตราการว่างงานโดยรวมในประเทศไทยต่าท่ีประมาณร้อยละ 1 เป็นเวลา 7

มากกวา่ 10 ปี แนวโน้มเหล่านี้จะเน้นย้าถึงความยากลาบากท่ีเยาวชนเผชิญในการหางานและอยู่ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผล ให้สัดส่วนของเยาวชนท่ีไม่ได้อยู่ในการศึกษา การจ้างงาน หรือการฝึกอบรมเพ่ิมขึ้นในช่วงหลายปีท่ีผ่านมา สัดส่วน การทางานท่ีเปราะบางและช่องว่างระหวา่ งเพศหญิงและชายในสถานะการจ้างงานแสดงให้เหน็ โอกาสการจา้ งงานที่ดีมี นอ้ ยกว่าสาหรับผู้หญิง จงึ ควรมีการส่งเสริมโอกาสการจ้างงานที่มคี ุณค่ามากขึ้นสาหรบั ผู้หญิงและผูช้ าย รวมถึงการจ้าง งานท่ีมีประสิทธิผล ด้วยเหตุนี้นโยบายในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอ้ืออานวยต่อการเติบโตของงานท่ีมีคุณค่าและ การจ้างงานท่ีมีประสิทธิผล โดยเฉพาะอย่างย่ิงสาหรับผู้สูงอายุและเยาวชนจึงเป็นอันดับแรกในลาดับความสาคัญของ แผนงานท่ีมีคุณค่าของประเทศไทย อีกท้ัง ยังมีความจาเป็นที่จะต้องเพ่ิมประสิทธิภาพประสิทธิผลและความย่ังยืนของ ระบบประกนั สงั คมอีกดว้ ย ประเทศไทยได้ดาเนินมาตรการหลายอย่างเพ่ือคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง ซึ่งรวมถึงแรงงานข้ามชาติและแรงงานใน ภาคนอกระบบ ภาคที ุกฝ่ายในระดับประเทศให้ความสาคัญกับการมุ่งมน่ั ในการลดรูปแบบการทางานที่ไม่เป็นท่ียอมรับ (Unacceptable forms of work) โดยเฉพาะแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ การเสริมสร้าง ความเข้มแข็งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทางานตลอดจนการตรวจแรงงานเพ่ือปรับปรุงสภาพ การทางานเป็นเรือ่ งสาคัญ ย่ิงไปกว่าน้ัน การกากับดูแลตลาดแรงงานยังคงเป็นความท้าทายของประเทศไทย จึงต้องส่งเสริมการเจรจาทางสังคม กรอบด้านกฎหมายและเสริมสร้างขีดความสามารถของไตรภาคีเพ่ือให้การดาเนินการสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงาน ระหว่างประเทศ การส่งเสริมความร่วมมือของไตรภาคี การสร้างความเข้มแข็งให้กับหน่วยงานและกระบวนการ การดาเนินงานจะเพ่ิมบทบาทในการกาหนดนโยบาย การเป็นตัวแทนของภาคี และส่งเสริมการทางานที่มีคุณค่าอย่าง ยง่ั ยนื แผนงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย พ.ศ. 2562-2564 ได้รับการพัฒนาโดยการปรึกษาหารืออย่างเข้มข้นระหว่าง องค์การแรงงานระหว่างประเทศและภาคีในช่วงปี พ.ศ. 2561 แผนงานท่ีมีคุณค่าน้ีแสดงถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศและไตรภาคีเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามลาดับความสาคัญ ตามแผนงาน การดาเนินการของแผนงานที่มีคุณค่าจะได้รับการสนับสนุนโดยการผสมผสานระหว่างด้านวิชาการ ด้านการเงิน และ ด้านทรัพยากรบุคคลจากภาคีในระดับประเทศ องค์การแรงงานระหว่างประเทศและโครงการความร่วมมือด้าน การพัฒนาที่ได้รับการสนับสนุนโดยภาคีด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ ไตรภาคีจะทางานร่วมกันเพื่อเสริมสร้าง ความเป็นเจา้ ของของแผนงานและผลลพั ธ์ของแผนงานทม่ี ีคณุ คา่ เพื่อใหเ้ กิดความย่ังยนื และผลกระทบในระยะยาว เพื่อตอบสนองความท้าทายเหล่าน้ี แผนงานท่ีมีคุณค่าประจาประเทศไทยปี พ.ศ.2562-2564 นี้ กาหนดความสาคัญ ตามแผนงานที่มีคุณค่า 3 ประเด็น ซ่ึงระบุผ่านการหารือร่วมกันกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศลาดับความสาคัญ ประกอบด้วย ประเด็นความสาคัญท่ี 1: สง่ เสรมิ สภาพแวดล้อมท่เี อ้อื อานวยต่อการเตบิ โตของการจา้ งงานที่ดแี ละมปี ระสิทธผิ ล ประเดน็ ความสาคัญที่ 2: สร้างความเขม้ แข็งในการคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานทีเ่ ปราะบาง ประเดน็ ความสาคัญท่ี 3: เสริมสรา้ งการกากับดแู ลตลาดแรงงานใหส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ ภายใต้ประเด็นความสาคัญข้างต้น ประกอบด้วย ผลลัพธ์จานวน 9 ประการ ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงผลการดาเนินงานใน 3 ส่วน โดยประเด็นความสาคัญที่ 1 (การจ้างงาน) จะประกอบด้วย ผลลัพธ์ 3 ประการ ประเด็นความสาคัญ 2 (การคุ้มครอง) จะประกอบด้วยผลลัพธ์ 3 ประการ และภายใต้ประเด็นความสาคัญท่ี 3 (สิทธิและการเจรจาทางสังคม) จะประกอบดว้ ยผลลัพธ์ 3 ประการ 8

1 คานา ประเทศไทยเป็นหน่ึงในสมาชิกผู้ก่อตั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) สานักงานประสานงานระหว่าง ILO ในประเทศไทยเปิดดาเนินการในปี พ.ศ. 2504 ต่อมาในปี พ.ศ. 2509 สานักงาน ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ ILO ได้ย้ายจากโคลัมโบมายังกรุงเทพฯ องค์กรไตรภาคีร่วมกับองค์การแรงงานระหว่าง ประเทศได้ปรึกษาหารือรว่ มกันดว้ ยความม่งุ ม่ันทีจ่ ะก้าวไปสูก่ ารทางานที่ดี จึงได้จัดทาแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานท่ีมี คุณค่าประจาประเทศไทย (Decent Work Country Programme: DWCP (ต่อไปเรียกว่า “DWCP”) ข้ึนเพื่อ ดาเนินงานใน ปีพ. ศ. 2562-2564 DWCP เป็นกรอบการทางานที่อิงกับผลการดาเนินงานของ ILO ในระดับประเทศ DWCP มีวัตถุประสงค์หลักสอง ประการคือ เพ่ือส่งเสริมการทางานที่ดีและเพ่ือจดั ระเบียบความรู้ เคร่ืองมอื การสนับสนนุ และความร่วมมือของ ILO ใน การใหบ้ ริการแกส่ มาชิกองค์การไตรภาคเี พ่ือก้าวสู่วาระการทางานที่มีคณุ ค่า ลาดับความสาคัญและผลลัพธข์ อง DWCP สะทอ้ นถึงกรอบผลการดาเนินงานเชงิ กลยทุ ธ์ของ ILO ท่ีปรบั ให้เข้ากบั สถานการณ์และลาดบั ความสาคัญของประเทศ เอกสารน้ี เป็น DWCP ฉบับแรกของประเทศไทย ครอบคลุมระยะเวลาต้ังแต่ พ.ศ. 2562 ถึง 2564 การส้ินสุด DWCP เกิดข้ึนพร้อมกับวงจรแผนงานและงบประมาณของ ILO แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติของประเทศไทย ฉบับ ที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) แผนแม่บทแรงงาน 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) และกรอบความร่วมมือหุ้นสว่ นระหว่างไทยกับ สหประชาชาติ (พ.ศ. 2560 - 2564) DWCP ได้พัฒนาจากการปรึกษาหารืออย่างกว้างขวางในปี พ.ศ. 2561 ระหว่างองค์การแรงงานระหว่างประเทศและ ไตรภาคี การปรึกษาหารืออย่างเป็นทางการของคณะทางานไตรภาคีครั้งแรกเก่ียวกับ DWCP นี้เกิดข้ึนเมื่อวันท่ี 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 การปรึกษาหารือครั้งตอ่ ๆ ไปจดั ขึ้นในวนั ท่ี 14 สิงหาคมและอีกคร้งั ในวันท่ี 14 พฤศจิกายน 2561 อกี ท้งั ยงั มีการปรกึ ษาหารือกับภาคแี ตล่ ะภาคสว่ นในช่วงเดือนกรกฎาคมและพฤศจิกายน DWCP สอดรับกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ท้ังแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) แผนแม่บทแรงงาน 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2564) และกรอบความร่วมมือของสหประชาชาติ (UNPAF) (พ.ศ. 2560 - 2564) อีกทั้ง เป้าหมายการพัฒนาอย่างย่ังยืน (SDGs) ได้รวมเอาไว้ใน DWCP เพื่อช่วยให้ บรรลเุ ป้าหมายร่วมกนั ยังมีการสนับสนุน DWCP ผ่านทางอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ มติจากที่ประชุม และข้อเสนอแนะท่ียอมรับ ร่วมกัน โดยรัฐบาล องค์กรนายจ้าง และองค์กรลูกจ้างผ่านการประชุมใหญ่แรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Conference: ILC) และท่ีประชุมระดับนานาชาติ และยังสะท้อนในแผนงานและงบประมาณขององค์การ แรงงานระหวา่ งประเทศทมี่ ที ุก ๆ สองปี การสนบั สนุนท่ีสาคัญคอื คาประกาศของ ILO ว่าด้วยปฏิญญาว่าด้วยความยุติธรรมทางสังคมในโลกาภิวฒั น์ทแ่ี ปน็ ธรรม (ILO Declaration on Social Justice for a Fair Globalization, 2008) ซึ่งยืนยันค่านิยมและบทบาทสาคัญของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศในการช่วยใหบ้ รรลุความก้าวหน้าและความยุตธิ รรมทางสังคมในบรบิ ทของโลกาภิวัตน์ ปฏิญญาส่งเสริมการทางานท่ีมีคณุ ค่าผ่านวิธีการประสานงานเพอื่ ให้บรรลวุ ัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ทีส่ ่ี: การจ้างงาน การ คมุ้ ครองทางสงั คม การเจรจาทางสังคม หลกั การและสิทธขิ ัน้ พื้นฐานในการทางาน 9

ตามท่ีกล่าวไวใ้ นมติปี พ. ศ. 2559 เรื่องการขบั เคล่ือนความยุติธรรมทางสังคมผ่านการทางานที่มีคุณค่า ความเทา่ เทียม กนั ทางเพศและการไมเ่ ลอื กปฏิบัตเิ ป็นองค์ประกอบของทกุ ภาคสว่ นตามวัตถุประสงค์เชงิ กลยุทธ์ของ ILO ในระดับภูมิภาค กรอบนโยบายที่สาคัญสนับสนุนความร่วมมือของ ILO กับหน่วยงานระดับชาติเพ่ือส่งเสริมลาดับ ความสาคัญของงานท่ีเหมาะสมในประเทศไทย ได้แก่ ปฏิญญาเวียงจันทนว์ ่าด้วยการเปล่ียนจากการจ้างงานนอกระบบ สู่การจ้างงานอย่างเป็นทางการเพื่อส่งเสริมการทางานที่มีคุณค่าในอาเซียน ปี พ.ศ.2559 และปฏิญญาเวียงจันทน์ว่า ด้วยการเปลี่ยนผ่านจากการจ้างงานนอกระบบไปสู่การจ้างงานในระบบไปสู่การทางานที่มีคุณค่าในอาเซียน และ ปฏิญญาบาหลีซึ่งได้รับการยอมรับจากการประชุมระดับนานาชาติของ ILO ในประเทศเอเชียนและแปซิฟิกครั้งท่ี 16 ณ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 6-9 ธนั วาคม พ.ศ.2559 2 บริบทของประเทศ: วินจิ ฉยั และวเิ คราะห์สถานการณ์ เน้ือหาในส่วนนี้จะเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ภายในประเทศที่ครอบคลุมบริบทท้ังในด้านสังคม การเมือง และ เศรษฐกจิ รวมไปถงึ การวเิ คราะห์ประเด็นท่เี กยี่ วข้องกับหลายเร่ือง (Cross-Cutting Issues) รวมถงึ มาตรฐานแรงงาน ระดับนานาชาติ ความเทา่ เทียมกันทางเพศ การไม่เลือกปฏิบัติในการทางาน การเจรจาแบบไตรภาคีและการเจรจาทาง สังคม ความย่ังยนื ดา้ นส่งิ แวดล้อม และประเด็นอื่น ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งซง่ึ จะนาไปสู่การบรรลุผลเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยนื 2.1 กรอบการพฒั นาชาตทิ ส่ี าคัญ แผนพัฒนาประเทศที่สาคัญคือแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) และแผนแม่บทแรงงาน 5 ปี อีกทั้งปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงซงึ่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภมู ิพลอดลุ ยเดชทรงพระราชทานให้แกป่ ระชาชนชาวไทย. \" ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความสมเหตสุ มผล และความจาเปน็ สาหรับสิง่ ทจ่ี ะช่วยป้องกันตนเองจากผลกระทบ ที่มาจากความเปล่ียนแปลงท้ังภายในและภายนอก เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์น้ีการใช้ความรู้ด้วยความรอบคอบเป็นส่ิงสาคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีการดูแลเอาใจใส่ในแต่ละข้ันตอน ตามทฤษฎี รวมทั้งขั้นตอนการวางแผนและการดาเนินงาน ใน ขณะเดียวกันก็จาเป็นต้องเสรมิ สร้างขวัญกาลังใจของคนในชาติ เพ่ือให้ทุกคนโดยเฉพาะอยา่ งย่ิงเจ้าหน้าท่ีรัฐ นักวิชาการ และนัก ธรุ กจิ ยึดมัน่ ในหลักความซ่อื สัตยส์ ุจรติ นอกจากนี้วิถีชวี ิตท่ียึดม่ันในความอดทน ความขยนั หมั่นเพียร สติปัญญา และความรอบคอบเป็นส่ิงที่ขาดไม่ได้ในการสร้างความ สมดุลและสามารถรับมอื กับความท้าทายที่สาคัญ อนั เกิดจากการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ และกวา้ งขวางท่วั โลกท้ังทางเศรษฐกิจ สงั คม ส่ิงแวดล้อมและวฒั นธรรม \" รวบรวมจากพระบรมราโชวาชและพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวภมู พิ ลอดลุ ยเดชในโอกาสต่าง ๆ และได้รบั พระ บรมราชานุญาตโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และประทานผ่านสานักราชเลขาธิการไปยังสานักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เม่ือวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 (สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ (2014, pp. 7-8) 10

2.1.1 แผนยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี (2560-2579) แผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปีมีจุดมุ่งหมายเพ่ือเป็นกรอบการทางานครอบคลุมทุกด้านและการพัฒนาในแผน การพัฒนาทุกระดับ โดยเป้าหมายของกรอบน้ี คือ การผลักดันประเทศไทยสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นผลให้เกิด ความมั่นคง มั่งคัง่ และยัง่ ยืน แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ 20 ปี ประกอบดว้ ยยุทธศาสตร์หลัก 6 ข้อ 6 กลยุทธ์ ได้แก่ (1) ด้านความมั่นคง(2) ด้านการ สร้างความสามารถในการแขง่ ขัน (3) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (4) ด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม (5) ติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และ (6) ด้าน การปรับสมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครฐั 2.1.2 แผนพฒั นาประเทศไทย 4.0 แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปีข้างหน้า ซ่ึงประเทศไทยได้มุ่งเน้นที่ จะ ยกระดับเศรษฐกิจด้วยคุณค่าและนวัตกรรมซ่งึ ขับเคลอื่ นด้วยความรู้และเทคโนโลยี แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 แสดง ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ซ่ึงการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่ม ความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศผ่านการขับเคล่ือนระบบเศรษฐกจิ ด้วยเทคโนโลยีมากขนึ้ โดยมีองค์ประกอบ 3 ประการคือ องค์ประกอบท่ีหนึ่งเพื่อเพิ่มรายได้ของประเทศผ่านระบบเศรษฐกิจทีม่ ีความรู้ ภายใต้ องค์ประกอบน้ี จะจัดลาดับความสาคัญด้านนโยบายเพื่อการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การคิด สรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม ถดั มาในองค์ประกอบที่สอง ประเทศไทยจะมุง่ สู่สังคมท่ีมีการเข้าถึงและพัฒนาอย่างเท่าเทียม กัน และองค์ประกอบที่สามมุ่งเน้นการเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการการเติบโตทางเศรษฐกิจและการปกป้อง ส่ิงแวดล้อม (Government Public Relations Department, 2016) แผนพัฒนาประเทศไทย 4.0 ให้ความสาคัญกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ดังต่อไปน้ี อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมท่องเท่ียวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมแปร รูปอาหาร อุตสาหกรรมระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อุตสาหกรรมอวกาศหรือยานอวกาศ อุตสาหกรรมเช้ือเพลิง ชีวภาพและเคมีชีวภาพ อตุ สาหกรรมดจิ ติ อล อตุ สาหกรรมสขุ ภาพแบบครบวงจร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผน จึงมีความจาเป็นในการยกระดับทักษะของแรงงานตามแผนยุทธศาสตร์เพ่ือสนับสนุน ภาคอุตสาหกรรม 4.0 เพิ่มการวจิ ัยและพัฒนาในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและทักษะ ดิจิทัลในตลาดแรงงาน รวมไปถึงสนับสนุนการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล สาหรับการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขั้น พื้นฐานเพ่ือสนับสนุนนโยบายประเทศไทย 4.0 รวมถึงการพัฒนาทางรถไฟ สนามบิน รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน และ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ซ่ึงจะทาให้มีอุปสงค์แรงงานที่มีความสามารถ ทางเทคนิคเพ่ิมขึ้น อีกทั้งจะมีการใช้งานระบบอัตโนมัติเพ่ิมขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะพ้ืนท่ีเขตพัฒนาพิเศษภาค ตะวนั ออก 11

2.1.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 12 จัดทาโดยคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สาหรับเป็นแนวทาง คาแนะนา เป้าหมาย และตัวชี้วัด ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมชาติ โดยแผนนี้มีจุดมุ่งหมาย เพ่ือเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งการให้บริการ และเศรษฐกิจฐานดิจิตอล การเพ่ิมทักษะของ แรงงาน การค้มุ ครองแรงงานและสวัสดิการ แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาตฉิ บบั ที่ 12 ไดก้ ลา่ วถึงประเดน็ ตา่ ง ๆ รวมถึงความตอ้ งการแรงงานทม่ี ที กั ษะด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีเพ่ิมสูงขึ้น การใช้ระบบอัตโนมัติ แรงงานสูงอายุ และความท้าทายในช่วงเปล่ียนผ่านนี้ หน่ึงในจุดเน้นและประเด็นพัฒนาหลักในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับท่ี 12 ที่เก่ยี วข้องกับแรงงานได้อธิบาย ไว้ในประเด็นสาคัญประการหนึ่งในการเตรียมกาลงั คนและเพ่ิมขีดความสามารถของคนทุกเพศทุกวัย ในการตอบสนอง ตอ่ ประเดน็ น้ี ประเดน็ หนงึ่ ในกลยทุ ธ์สาคญั ของแผนนีค้ ือ การเสรมิ สรา้ งและพัฒนาศักยภาพทนุ มนุษย์ นอกจากน้ี แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาตฉิ บบั ที่ 12 ยังกล่าวถึงความรว่ มมือระหว่างประเทศ ภายใต้แผนงาน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง 6 ประเทศ (Greater Mekong Sub-region Economic Cooperation Programme: GMS) ซึ่งดาเนินการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การดาเนินงานในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง 6 ประเทศ (GMS Strategic Framework) ปี พ.ศ. 2555 – 2565 โดยมีแผนปฏิบัติการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง 6 ประเทศ (ระยะท่ี 3) ระยะเวลาดาเนินการ 5 ปี พ.ศ. 2561 – 2565 อีกท้ัง แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) หนึ่งในประเด็นคือการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์1 ความเหลือ่ มล้า (inequality) ยังได้รบั การกลา่ วถงึ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาตฉิ บับท่ี 12 นี้ด้วย ซง่ึ แผนน้ี มีจุดมุ่งหมายเพือ่ สง่ เสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีลดความเหลื่อมล้าและเพ่ิมผลผลติ โดยแผนได้กาหนดเป้าหมายเพ่ือ เพม่ิ โอกาสทางเศรษฐกิจและทางสงั คมให้กับกลุ่มคนยากจนที่มีรายไดต้ ่าสุดร้อยละ 40 ให้มีรายไดเ้ พิ่มขึน้ อย่างน้อยรอ้ ย ละ 15 เมือ่ สิ้นสดุ แผน 2.1.4 แผนแม่บทดา้ นแรงงาน 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) กระทรวงแรงงานได้กาหนดยุทธศาสตร์ไว้ในแผนแม่บทด้านแรงงาน 5 ปี 6 ประการ ได้แก่ (1) การเพิ่มศักยภาพ แรงงานและผู้ประกอบการ เพ่ือสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างย่ังยืน (2) การคุ้มครองและ เสริมสร้างความม่ันคง หลักประกันในการทางานและคุณภาพชีวิตท่ีดี (3) การบริหารจัดการด้านแรงงานระหว่าง ประเทศ (4) การพัฒนากลไกในการสร้างความสมดุลของตลาดแรงงาน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ภาคแรงงาน (5) การ บริหารจัดการองค์กร บุคลากร ด้วยหลักธรรมาภิบาล และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในองค์กรและ (6) การพัฒนา เทคโนโลยีและสารสนเทศ เพือ่ บรู ณาการสารสนเทศทที่ ันสมัยและมเี สถยี รภาพ 1 มีโครงการหลัก ได้แก่ (1) โครงการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานร่วมในสาขาท่ีตรงตามความต้องการของ IMT-GT ระยะเวลาดาเนินการ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) (2) โครงสร้างเสริมสร้าง ความสอดคลอ้ งดา้ นมาตรฐานฝีมอื แรงงานและการรบั รองมาตรฐาน โดยอ้างองิ มาตรฐานอาเซียน (ASEAN Qualification Reference Framework : AQRF) ระยะเวลาดาเนนิ การ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) และ (3) โครงการจัดทาฐานข้อมูลแรงงาน IMT-GT ระยะเวลาดาเนินการ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) โดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และกรม พฒั นาฝีมอื แรงงาน กระทรวงแรงงาน 12

นอกเหนือจากแผนพัฒนาแรงงาน 5 ปี กระทรวงแรงงานยังได้พฒั นากรอบการพัฒนากาลังแรงงาน 20 ปี (พ.ศ. 2560- 2570) ซ่ึงกรอบการทางานน้ีมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทยว่าด้วย \"แรงงานท่ีมี มูลค่าสูงเพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน\" โดยแผนงาน 20 ปี แบ่งออกเป็น 4 ระยะ (ระยะละ 5 ปี) คือ ระยะแรกจะเป็นการ สร้างกาลังคนทม่ี ีประสทิ ธิภาพ ได้มาตรฐานสากล (Productive Manpower) (2017 - 2021) ตามดว้ ยระยะที่สองเป็น ช่วงสร้างแรงงานท่ีมีนวัตกรรม (Innovative Workforce) (2022 - 2026) ระยะท่ีสามคือ แรงงานท่ีมีความคิด สร้างสรรค์ (Creative Workforce) (2027 - 2031) และระยะที่ สี่สร้างสังคมการทางานแห่งปัญญา (Brain Power) (2032 - 2036) 2.2 การเสรมิ สร้างความรว่ มมอื ในระดับนานาประเทศ 2.2.1 กรอบความรว่ มมอื หุ้นสว่ นระหวา่ งไทยกบั สหประชาชาติ (United Nations Partnership Framework: UNPAF) (พ.ศ. 2560 - 2564) ความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างประเทศจะมีส่วนสาคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย ระหว่างช่วง DWCP กรอบความร่วมมือหุ้นส่วนระหวา่ งไทยกับสหประชาชาติ(UNPAF)2 ระหว่าง พ.ศ. 2560 ถึง พ.ศ. 2564 ซง่ึ จะมี ส่วนรว่ มในการบรรลุวิสัยทัศนข์ องประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีรายได้สูงอย่างครอบคลมุ และเปน็ ธรรมทจ่ี ะไมท่ ้ิงใคร ไว้ข้างหลัง และเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาประเทศในภูมิภาคน้ีและทั่วโลก ผลการดาเนินงานที่สาคัญของกรอบความ ร่วมมือหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสหประชาชาติก็คือการบรรลุระบบที่มีความครอบคลุม โครงสร้างและกระบวนการ เพื่อการพัฒนาทย่ี ัง่ ยนื และเปน็ ธรรมแกท่ ุกคนในประเทศไทยภายใน ปี พ.ศ. 2564 ภายใต้กรอบการทางานรว่ มนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศมุ่งม่ันท่ีจะส่งเสริมให้ระบบข้อมูล ความมั่นคงทางสังคม มีประสิทธิภาพ และปรับปรุงการปฏิบตั ิให้เป็นตามมาตรฐานแรงงานสากล นอกจากน้ีองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ยังรับผดิ ชอบในการส่งเสริมการคมุ้ ครองแรงงานข้ามชาติทม่ี าทางานในประเทศไทย ภายใตบ้ ันทึกความเข้าใจไม่ตอ้ งเสีย คา่ ธรรมเนยี มและค่าใช้จ่ายท่เี กี่ยวข้องกับการสรรหาแรงงานซ่ึงเกนิ จานวนเงนิ ที่กฎหมายกาหนด 2.2.2 การเช่อื มตอ่ ภมู ภิ าคและความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ ประเทศไทยมีส่วนร่วมในการเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ เพ่ือการแข่งขันและความย่ังยืนผ่านทางเวทีต่าง ๆ รวมถึง ความร่วมมือระหว่างประเทศกาลังพัฒนา (South-South collaboration) การเข้าร่วมโครงการความร่วมมือในระดับ อนุภูมิภาคและระดับภูมิภาค ความร่วมมือระดับภูมิภาคหลัก คือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ซึ่งเปน็ องค์กรระหวา่ งรัฐบาลในระดับภูมภิ าคท่ีประกอบดว้ ย ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 10 ประเทศ ซ่ึงเป้าหมายหลักของอาเซียน คือ การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม องค์ประกอบด้าน แรงงานในเสาหลักของอาเซียน รวมถึงการสนับสนุนหลักการทางานที่มีคุณค่าเพ่ือให้ม่ันใจได้ว่าแรงงานข้ามชาติจะ ได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอ ส่งเสริมการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์และยกระดับฝีมือแรงงาน และต่อต้านการค้า มนุษย์ 2 UNPAF มียทุ ธศาสตร์ 4 ประการเพ่ือ (1) พัฒนาโครงสร้างการกาหนดนโยบาย การดาเนินการตามนโยบายทมี่ ีประสทิ ธิภาพรวมถึงการดาเนินงานอย่างยัง่ ยนื (2) การขยายพ้ืนท่ีสาธารณะ และทาให้ภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งโดยเฉพาะอย่างย่ิงในกลุ่มชายขอบ (3) การสนับสนุนบทบาทท่ีเข้มแข็งและมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในวาระการพัฒ นาประเทศ (4) การขยายการ แลกเปลย่ี นความรคู้ วามชานาญและเทคโนโลยที ่ีมีอยใู่ นภูมิภาค / ทว่ั โลกเพื่อสนบั สนุนการพัฒนาทางสังคมการเมืองและเศรษฐกิจ 13

อาเซียนได้ก้าวไปสู่การแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาติในปี 2550 เม่ือผู้นาได้ลงนามในปฏิญญาอาเซียนว่าด้วย การ คุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานข้ามชาติ (ปฏิญญาเซบู: Cebu Declaration) ซ่ึง “ส่งเสริมศักยภาพและศักดิ์ศรี ของแรงงานข้ามชาติโดยใหม้ ีเสรภี าพ ความเสมอภาค และความม่ันคง\" ตามกฎหมายของประเทศ ในขณะที่การปกป้องสิทธิของแรงงานข้ามชาติได้รับการยอมรับภายใต้เสาหลักทั้งสาม โดยส่วนใหญ่ต้ังอยู่ภายใต้เสา ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน และคณะกรรมการอาเซียนในการดาเนินการปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการ คุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานต่างด้าว (ASEAN Declaration on the Protection and Promotion of the Rights of Migrant Workers: ACMW) เป็นผู้รับผิดชอบในการดาเนินการตามปฏิญญาเซบู เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560 ผู้นาประเทศสมาชิกอาเซยี นได้ลงนามในขอ้ ตกลงประชาคมอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของ แรงงานข้ามชาติ ซ่ึงเป็นก้าวสาคัญท่ีจะมุ่งไปข้างหน้า ACMW ได้พัฒนาแผนปฏิบัติการซึ่งได้รับการบันทึกในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 สอดคล้องกับฉนั ทามตใิ นปี พ.ศ. 2561 การเคล่ือนย้ายแรงงานที่มีทักษะสูงภายในอาเซียนได้รับการจัดการภายใต้ข้อตกลงยอมรับด้านคุณสมบัติในสาขา วิชาชีพหลัก (Mutual Recognition Arrangements: MRAs) ซึ่งเป็นระบบท่ีจะยอมรับทักษะหรือประสบการณ์ทาง วิชาชีพในประเทศอ่ืน เพ่ือการทางานในต่างประเทศ ได้มีการจัดทา MRAs เสร็จสมบูรณ์แล้วสาหรับ 8 อาชีพ: คือ วิศวกร (Engineering Services) พยาบาล (Nursing Services) สถาปนิก(Architectural Services) นักสารวจ (Surveying Qualifications) แ พ ท ย์ (Medical Practitioners) ทั น ต แ พ ท ย์ (Dental Practitioners) นั ก บั ญ ชี (Accountancy Services) และอาชีพด้านท่องเที่ยว (Tourism) อย่างไรก็ตาม การประกอบอาชีพท่ี MRAs กาหนดใน ประเทศสมาชิกอาเซียนมีเพียง 0.3 ถึง 1.4 เปอร์เซ็นต์ของการจ้างงานทั้งหมด ( International Labour Organization and Asian Development Bank , 2014) การพัฒนาการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือระหว่างประเทศ ASEAN พัฒนาอย่างเช่ืองช้า โดยอาเซียนได้กาหนดหลักการ ยอมรับในคุณสมบัติเพื่ออานวยความสะดวกในขั้นตอนการขอใบอนุญาต แต่ไม่ถึงข้ันตอนการยอมรับในใบอนุญาต ประกอบอาชีพซ่ึงกันและกัน โดยเน้นให้นักวิชาชีพจากประเทศอาเซียนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในประเทศท่ี ตนต้องการเข้าไปทางาน (Office of the National Economic and Social Development Board, 2017) ในทาง กลับกัน AEC ไม่ได้กล่าวถึงการเคล่ือนย้ายของแรงงานที่มีทักษะต่า อย่างไรก็ตาม กระแสการย้ายถ่ินของแรงงานท่ีมี ทักษะตา่ มีแนวโน้มทจี่ ะยังคงมตี ่อไป เน่อื งจากปัจจัยทางด้านประชากรและความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สมาชกิ อาเซียน นอกเหนือจากอาเซยี นแลว้ ประเทศไทยยงั มสี ว่ นรว่ มในกรอบความร่วมมือหลายรูปแบบและมบี ทบาทสาคัญยิ่งข้นึ ใน ความร่วมมือระดบั นานาชาติและระดับภมู ภิ าค3 3 ตามที่ระบุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติฉบับที่ 12 กรอบความรว่ มมือระหว่างประเทศที่สาคัญมีดังต่อไปน้ี: (1) แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนภุ ูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง 6 ประเทศ (GMS) เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ การเพิม่ ขดี ความสามารถในการแข่งขนั และความสัมพันธ์กับชมุ ชน (2) แผนงานการพฒั นาเขตเศรษฐกิจสาม ฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT) มุ่งเน้นการพัฒนาในแนวพ้ืนที่เศรษฐกิจต่างๆ (3) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับ ภูมภิ าค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ซึ่งเป็นขอ้ ตกลงทางเศรษฐกิจระหว่าง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และค่คู ้าขอ้ ตกลงเขตการค้าเสรี จนี , ญีป่ ุ่น, เกาหลี ใต้, อินเดีย, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (4) กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) เพ่ือส่งเสริมการค้าการลงทุนการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจและการมีส่วนร่วมทางสังคม (5) กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (The Trans-Pacific Partnership: TPP) โดยมุง่ เน้นที่จะขจัดอุปสรรคด้าน การนาเข้าและอุปสรรคท่ีมิใช่ภาษีให้กับสินค้าและบริการ ส่งเสริมการพัฒนาและการผลิตห่วงโซ่อุปทานและการผลิต รวมทั้งเสริมสร้างการประสานงานด้านนโยบายการแข่งขันและการ ส่งเสริมธุรกิจ (6) เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี พ.ศ. 2559-2573 (Sustainable Development Goals: SDGs) และกรอบความร่วมมืออื่น ๆ นอกจากนี้ ประเทศไทยได้เข้าร่วมใน กรอบความร่วมมืออีกหลายกรอบ อาทิ ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ระหว่างกัมพูชา ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม ( Ayeyawady-Chao Phraya- Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ความร่วมมือลุ่มน้าโขงกับญี่ปุ่น (Mekong-Japan) ความร่วมมือลุ่มน้าโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี (Mekong-ROK Cooperation) ความริเร่ิมแห่งอ่าวเบงกอลสาหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) กรอบความรว่ มมอื เอเชยี (Asia Cooperation Dialogue: ACD) 14

2.3 การดาเนนิ งานที่ผา่ นมาของ ILO ในประเทศไทยและขอ้ ไดเ้ ปรยี บเชงิ เปรยี บเทยี บ ประเทศไทยเป็นหน่ึงในสมาชิกผู้ก่อตั้ง ILO และเป็นที่ตั้งของสานักงานประสานงานระหว่าง ILO เม่ือปี พ.ศ. 2504 สานักงานภูมภิ าคเอเชียและแปซิฟิกของ ILO ไดก้ ่อตัง้ ในปีพ. ศ. 2506 ขน้ึ จากโครงการประเมนิ ผลของแผนงานฯ ของ ประเทศในอนุภมู ิภาคลุ่มน้าโขง แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานท่ีมีคุณค่าของ ILO ได้รับการออกแบบมาเพอื่ ใชป้ ระโยชน์ จากความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของ ILO (International Labour Office, Evaluation Office, 2017)4 เหตุผล สาคัญที่ทาให้ประสบความสาเร็จคือ (1) กระบวนการให้คาปรึกษาท่ีครอบคลุมซึ่งนาโดย ILO โดยมีองค์ประกอบ ไตรภาคีและคู่ค้าอื่น ๆ ในกระบวนการพัฒนา DWCPs และ (2) DWCP มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับนโยบาย และยทุ ธศาสตรห์ ลักของประเทศ UNPAF และกรอบนโยบายเชงิ นโยบายของ ILO เป็นเวลาหลายปีที่การทางานของ ILO ในประเทศไทยมุ่งเน้นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการสมาคมและการเจรจาต่อรอง การเลือกปฏิบัติ แรงงานเด็กและการค้ามนุษย์ และสิทธิของแรงงานข้ามชาติ ตัวอย่างของโครงการก่อนหน้าและ โครงการในปัจจุบันในประเทศไทยเก่ียวข้องกับการคุ้มครองและงานที่มีคุณค่า แรงงานบังคับและแรงงานเด็ก โครงการ ด้านเพศสภาพ (Gender) และรสนิยมทางเพศ และต่อสู้กับรูปแบบท่ีไม่สามารถยอมรับได้ในอุตสาหกรรมประมงและ อาหารทะเลไทย นอกจากน้ีประเทศไทยยังได้ขยายความครอบคลุมของระบบความมั่นคงทางสังคมไปสู่ภาคเศรษฐกิจ นอกระบบ สนับสนุนการพัฒนางานสีเขียว ส่งเสริมให้แรงงานข้ามชาติมีการย้ายถิ่นที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานแรงงาน การสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลไทยสาหรับโครงการความร่วมมือกับ ILO มีเพ่ิมมากขึ้น บ่งบอกถึงความเป็น เจา้ ของโครงการตา่ ง ๆอยา่ งยัง่ ยนื รัฐบาลไทยมีพันธกรณีท่ีจะให้การสนับสนุนทางการเงินโดยตรงกับงานด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยของ ILO ในขณะท่ี ILO มุง่ มนั่ ท่จี ะให้การสนบั สนุนทางวชิ าการ เป้าหมายการพัฒนาของประเทศไทยสอดคลอ้ งกับ SDGs แนวทางการพัฒนาประเทศ เชน่ ประเทศไทย 4.0 อาจนามา ซ่ึงโอกาสใหม่ ๆรวมถึงความท้าทายในการกาหนดกรอบการทางานที่เหมาะสมต่อการทางานท่ีมีคุณค่า เพ่ือเสริมสร้าง การดาเนินการของ DWCP ควรส่งเสริมโอกาสในการสร้างผลกระทบในระยะยาวและยั่งยืน ตลอดจนเสริมสร้างระบบ การติดตามประเมินผลและการเรียนรู้ เพ่ิมการให้สัตยาบันในอนุสัญญาฯ และการปฏิบัติตามอนุสัญญา ILO ส่งเสริม ประเด็นด้านเพศตามเพศสภาพ การมีบทบาทและมีตัวแทนของผู้หญิง สิทธิและโอกาสของผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง ตา่ ง ๆ 2.4 การก้าวส่วู าระการทางานทด่ี :ี ความทา้ ทายและโอกาส ส่วนนี้กาหนดความท้าทายและโอกาสในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และสถานการณ์ในอนาคตท่ีมี ผลต่อการกา้ วไปข้างหนา้ และดาเนนิ การตามวาระการทางานท่ีมีคุณคา่ 4 การประเมินระดับสูง (HLE) ได้ดาเนินการระหว่างเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม 2560 เพื่อประเมินผลงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศในช่วงปีพ. ศ. 2555-16 ในสี่ประเทศในอนุ ภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง ได้แก่ กัมพูชาสาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาวไทยและเวียดนาม รายงานการประเมินใช้โครงการและการให้คาปรึกษาซ่ึ ง ILO ไดด้ าเนินการในช่วงระหว่างการ ทบทวน ประเทศไทยมรี ่างอนุสัญญาว่าดว้ ยความร่วมมอื ระหว่างประเทศ (DWCP) ทพ่ี ัฒนาขน้ึ ในปี 2556-2554 ซ่ึงไมไ่ ด้เกิดจากการเปลีย่ นแปลงทางการเมือง ลาดับความสาคญั ที่เสนอ ได้แก่ (1) การจ้างงานและการพฒั นาทกั ษะ (2) การใหส้ ัตยาบนั และการใช้มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ทางดา้ นแรงงานท่ีมปี ระสทิ ธิผลรวมทั้งการเสริมสร้างความเขม้ แข็งของ การเจรจาทางสังคม (3) นโยบายระยะยาวในการโยกย้ายแรงงานระหวา่ งประเทศและการค้ามนุษย์และ (4) การคุ้มครองทางสงั คม 15

2.4.1 สถานการณ์ทางเศรษฐกจิ และสังคม (Socio-economic situations and demographic factors) อตั ราการเตบิ โตทางเศรษฐกิจประจาปีของไทยในปี 2554 ถึงปี 2560 โดยเฉลี่ยเทา่ กับรอ้ ยละ 3.6. นอกจากนี้ ยังมีการ กระจายรายได้ดีขึ้น เห็นได้จากสมั ประสิทธ์ิจีนี (Gini coefficient) ของระบบเศรษฐกิจทงั้ หมด ซึ่งลดลงจาก 0.48 ในปี 2554 เป็น 0.45 ในปี 2560 (Office of the National Economic and Social Development Board, 2017) ถงึ จะ มีการกระจายรายได้โดยท่ัวไปดีข้ึน แต่ความแตกต่างของรายได้ยังคงเป็นส่ิงที่ท้าทายอยู่ อันเน่ืองจากประเทศไทยให้ คาม่นั ว่าจะไมท่ ิง้ ใครไว้ขา้ งหลงั ตามแผนการพฒั นาประเทศ การเปล่ียนแปลงทางประชากรของไทยมีบทบาทสาคัญมากในยุคที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรไทย คาดว่าจะลดลงจาก 66.0 ล้านคนในปี 2563 เป็น 63.9 ล้านคนในปี 2583 ซึ่งจะมีจานวนผู้สูงอายุเพิ่มมากข้ึนและ จานวนประชากรในวัยเยาวชนลดลง โดยประชากรสูงอายุจะเพิ่มขึน้ อย่างรวดเร็วจากรอ้ ยละ 56.0 ในปี 2563 เป็นร้อย ละ 81.6 ใน ปี 2583 (Office of the National Economic and Social Development Board, 2013) สังคม ผู้สูงอายุมีความท้าทายในหลายประเด็น เช่น ความยั่งยืนของระบบบาเหน็จบานาญ แรงกดดันต่อวัยหนุ่มสาวต่อการ ดูแลรุ่นพ่อแม่ ความต้องการการดูแลและการเพ่ิมข้ึนของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในสังคมผู้สูงอายุ สถานการณ์ทางด้าน ประชากรศาสตร์ในประเทศไทย ชี้ให้เห็นถึงความจาเป็นท่ีจะต้องเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ช่วงการพึ่งพิงระยะยาว เพอ่ื เพม่ิ ผลติ ภาพและสรา้ งความเขม้ แขง็ ให้กบั ความคมุ้ ครองทางสงั คม สัดส่วนของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพ่ิมขึ้นในช่วงระหว่างปี 2553 ถึง 2560 โดย ประชากรท่ีมีการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพิ่มข้ึนจากร้อยละ 13.7 เปน็ รอ้ ยละ 17.3 และผู้ทศ่ี ึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอน ปลายร้อยละ 13.9 เป็นร้อยละ 16.2 อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2560 ประมาณครึ่งหน่ึงของประชากรยังมีการศึกษา ระดับประถมศึกษาหรือต่ากว่า (National Statistical Office, 2010-2018) ซึ่งเป็นความท้าทายสาคัญในเวลาที่ ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยกี าลังเปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกจิ ที่มกี ารแข่งขันกันทัว่ โลก 2.4.2 ตลาดแรงงานและความทา้ ทายสาหรับวาระการทางานที่มคี ณุ ค่า 2.4.2.1 โอกาสและการปฏบิ ตั ทิ เี่ ทา่ เทียมในการจ้างงาน (1) การพัฒนาทักษะเปน็ ปัจจัยผลกั ดันใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงทร่ี าบรืน่ การเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรที่มีต่อสังคมผู้สงู อายุในประเทศไทยทาให้ความท้าทายและโอกาสในการทางานของ ตลาดแรงงานในประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยกาลังเผชิญกับการลดกาลังแรงงานเนื่องจากการเพ่ิมขึ้น ของผู้สูงอายุและการลดลงของเยาวชน อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงานลดลงจากร้อยละ 73.0 เป็นร้อยละ 68.8 ระหว่างปี 2553 ถึง 2561 (National Statistical Office, 2010-2018) เน่ืองจากจานวนประชากรที่ไม่ทางานเชิง เศรษฐกิจเพิ่มข้ึนอย่างมาก โดยคาดว่าประชากรท่ีไม่ทางานเชิงเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ือง เนื่องจากสัดส่วน ประชากรผู้สูงอายทุ เ่ี พมิ่ ขึน้ ในบริบทนี้ การขาดแคลนแรงงานทั้งแรงงานทักษะต่าและแรงงานทักษะสูง โดยเฉพาะในกลุ่มที่จบสาขาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมีแนวโน้มเพิ่มมากข้ึน ผลการศึกษาของสานักงานสภาการศึกษาแห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ ปี 2559 ช้ีใหเ้ ห็นถงึ ช่องว่างการขาดแคลนแรงงานท่ีจบสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คาดว่าการขาดแคลนแรงงาน ด้านน้ีจะเพ่ิมข้ึนเป็น 1.7 ล้านคน ในปี 2568 จากประมาณ 0.3 ล้านคนในปี 2560 (Office of Education Council, 2016) 16

ขณะท่ีจานวนผู้จบการศึกษาทางด้านเทคนิคที่มีอยู่ในตลาดแรงงานลดลงจากกลุ่มคนที่มีงานทาพบสัดส่วนของผู้ที่จบ การศึกษาจากโรงเรียนอาชีวศึกษาต่อการจ้างงานท่ีมีการศึกษาสูงลดลงจากร้อยละ 28.4 ในปี 2553 เป็นร้อยละ 24.6 ในปี 2560 ปรากฏการณ์นี้สามารถอธิบายบางส่วนได้จากการขาดการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการฝึกอบรมวิชาชีพ ตลอดจนภาพลักษณ์ที่ไม่เป็นที่นิยมด้านอาชีวศึกษาในประเทศ อัตราการเพ่ิมข้ึนของผู้สาเร็จการศึกษาจากด้านเทคนิค และวิชาชีพ (Technical and vocational education and training: TVET ) มีอัตราช้ากว่าแรงงานที่มีการศึกษาสูง ซง่ึ มีจานวนเพ่ิมข้ึนอย่างรวดเร็ว ทาให้สดั สว่ นแรงงานทส่ี าเร็จคณุ วฒุ ิอาชีวศึกษามีจานวนลดลงในตลาดแรงงาน จึงต้อง ใหค้ วามสาคัญความตอ้ งการแรงงานท่มี คี ณุ ภาพและทกั ษะเฉพาะมากขึ้น แรงงานส่วนใหญ่ยังคงมีส่วนร่วมในภาคการจ้างงานที่มีประสิทธิภาพต่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเกษตร ภาคป่าไม้ ภาคการประมง ภาคการค้าส่ง การค้าปลีก ตลอดจนการซ่อมแซมยานยนต์และรถจักรยานยนต์ แม้ว่าผลิตภัณฑ์มวล รวมภายในประเทศต่อคนท่ีทางานในกลุ่มเศรษฐกิจเหล่านี้จะอยู่ในระดับต่ามาก แต่กลับมีสัดส่วนการจ้างงานมากกว่า รอ้ ยละ 49.9 ของการจ้างงานท้ังหมด ในปี 2560 และมคี วามต้องการท่จี ะสง่ เสรมิ ผลิตภาพแรงงานโดยเฉพาะอย่างย่ิง ในภาคอุตสาหกรรมเพอ่ื สร้างมลู คา่ เพมิ่ ให้สูงขึ้น สร้างโอกาสในการจา้ งงานและรักษาความสามารถในการแข่งขนั ภายใต้แผนพัฒนาแรงงานในประเทศไทย 4.0 คาดว่าความต้องการบุคลากรที่สาเร็จการศึกษาจากด้านเทคนิคและ วิชาชีพ และการใช้ระบบอัตโนมัติจะเพ่ิมข้ึน รวมถึงจะมีความต้องการพนักงานที่จบด้าน STEM (Science Technology Engineering and Mathematics Education) เพิ่มมากข้ึน ในขณะท่ีแรงงานท่ีมีทักษะต่ากาลังเผชิญ กับความเส่ียงสูงในการถูกแทนที่ดว้ ยระบบอตั โนมัติ (Chang & Huynh, 2016) การพัฒนาทักษะเป็นสิ่งสาคัญท่ีจะช่วย ให้แรงงานได้รับประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการสูญเสียงานอันเนื่องมาจาก ระบบอัตโนมัติ การเปล่ียนแปลงโครงสร้างในระยะยาวของระบบเศรษฐกิจจาเป็นต้องมีการแทรกแซงเชิงกลยุทธ์และ ประสานงานทด่ี ีเพื่อให้แน่ใจวา่ สามารถเปลยี่ นผา่ นไปสแู่ รงงานทีม่ ีทักษะระดบั สูงได้อยา่ งราบร่ืน (2) เพ่มิ โอกาสในการจา้ งงานสาหรบั ผู้สงู อายุและเยาวชน มีความจาเป็นที่จะต้องส่งเสรมิ ให้ประชากรทุกกลุ่มมีสว่ นร่วมในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะผู้สงู อายุและเยาวชน ในด้านที่ เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ การขยายระยะเวลาของการทางานและการพัฒนาทักษะก่อนอายุที่จะเกษียณ เป็นกลยุทธ์เพื่อ รบั มือกับอายุขัยเฉลี่ยท่ียาวนานขึน้ และการเปล่ียนแปลงอัตราส่วนทางด้านประชากร การส่งเสริมการทางานท่ีมีคณุ ค่า ไดอ้ อกแบบมาเพื่อความต้องการของผู้สูงอายุ เพื่อจะสง่ เสริมใหผ้ ู้สูงอายุอยใู่ นตลาดแรงงานได้ ทั้งนี้แม้จะมีระดบั การศกึ ษาที่ดขี ึ้น แต่ในปี 2560 ลูกจ้างในวัย 40-59 ปี มกี ารศึกษาเฉลีย่ เพยี ง 8.1 ปี เน่ืองจากมีระดับ การศึกษาตา่ การจ้างงานส่วนใหญ่เกดิ ขนึ้ ในงานทีใ่ ช้ฝีมือท่ีคอ่ นขา้ งต่า คนงานที่มีทกั ษะต่าจานวนมากต้องเผชิญกับการ ออกจากงานในระบบตอนอายุ 45 ปี (Chittinandana, Kulnartsiri, Pinthong, & Sawaengsuksant, 2017) จากการ สารวจการทางานนอกระบบ (National Statistical Office, 2017) ประชากรที่มีอายุมากกว่ามีแนวโน้มที่จะทางาน นอกระบบ ในปี 2560 สัดส่วนการจ้างงานนอกระบบในวัย 45-49 ปี เป็นร้อยละ 60.6 ส่วน ในช่วงอายุ 55-59 ปีคิด เป็นร้อยละ 69.1 ผู้สูงอายุจะย่ิงเผชิญความท้าทายมากข้ึนเนื่องจากเทคโนโลยีท่ีเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคนี้ ดงั นั้นการส่งเสรมิ โอกาสการทางานท่ีมีคุณค่าในระบบจงึ เป็นประเด็นสาคัญในบริบท นอกจากน้ี ยังมีความสาคัญที่ต้อง ม่ันใจวา่ การจา้ งงานของผสู้ ูงอายุไม่ไดเ้ ปน็ เหตุของการขาดสทิ ธิในระบบบานาญทีเ่ หมาะสม นอกจากน้ี โอกาสในการสร้างงานและการจา้ งงานสาหรบั เยาวชน (อายุ 15-24 ปี) เป็นสิง่ สาคัญเช่นกัน ในขณะท่ีอตั รา การวา่ งงานโดยรวมในประเทศไทยอยู่ในระดบั ต่ามากที่ราวร้อยละ 1 อตั ราการวา่ งงานของเยาวชนสงู มาก เยาวชนหญิง มีแนวโน้มท่ีจะตกงานมากกว่าเยาวชนชาย อัตราการว่างงานของเยาวชนชายเพ่ิมข้ึนจากร้อยละ 3.0 ในปี 2553 เป็น 17

ร้อยละ 3.9 ในปี 2561 ในขณะที่อัตราการว่างงานของเยาวชนหญิงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.9 เป็นร้อยละ 5.9 ในช่วง เดียวกนั (National Statistical Office, 2010-2018 Q3) แนวโน้มเหล่านีจ้ ะเน้นย้าถงึ ความยากลาบากของเยาวชนต่อ การหางานในช่วงเวลาไม่กป่ี ีทผ่ี า่ นมา การขยายตัวล่าสุดของเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในการศึกษา การจ้างงานหรือการฝึกอบรม (Not in Education, Employment, or Training: NEET) ส่งสัญญาณความท้าทายเพิ่มเติมต่อคุณภาพของแรงงานในอนาคต อัตราการ ว่างงานของเยาวชนในประเทศไทยอยู่ที่ร้อยละ 12.5 ในปี 2553 และเพ่ิมข้ึนเป็นร้อยละ 14.6 ในปี 2559 (National Statistical Office, 2010-2018 Q3) สัดสว่ นของเยาวชนหญิงในกลุ่ม NEET คดิ เป็นสองเท่าของเพศชาย อยา่ งไรกต็ าม อตั รา NEET ของเยาวชนชายก็เพิม่ ขึน้ อย่างรวดเรว็ ศักยภาพของประเทศไทยที่เผชิญกับสถานการณเ์ ยาวชนและผสู้ ูงอายุสามารถสรา้ งโอกาสในการจ้างงานในภาคสุขภาพ การต้อนรับธุรกิจการให้บริการและบริการอ่ืน ๆ สาหรับผู้สูงอายุ ซึ่งการพัฒนาทักษะและแผนพัฒนาองค์กรสาหรับ ภาคธุรกจิ เหลา่ น้คี วรไดร้ บั การวางแผนและดาเนนิ การตามความเหมาะสม (3) มีความก้าวหนา้ ดา้ นความเสมอภาคทางเพศและการเสรมิ สร้างพลังผูห้ ญิงและเดก็ หญิง แตค่ วามท้าทายยงั คงอยู่ ส ถาน การณ์ ช่องว่างระห ว่างห ญิ งช ายใน ส ถ าน การณ์ จ้างงาน บ่ งชี้ว่า ยังขาดโอ กาส การจ้างงาน ท่ี ดีส าห รับ ผู้ ห ญิ ง นอกจากนี้ความไม่สมดุลระหว่างชายหญิงในการรับผิดชอบดูแลงานทีไ่ ม่ได้รบั ค่าจ้างในครวั เรือน ผู้หญิงไทยต้องทางาน ดูแลท่ีไม่ได้รับค่าจ้างมากกว่าผู้ชายกว่าสามเท่า (ผู้หญิง 173 นาทีต่อวันและผู้ชาย 56 นาทีต่อวัน ในพ.ศ. 2558) (International Labour Office , 2018) ซ่ึงเป็นสงิ่ ท่ีท้าทายมากที่ผู้หญงิ ต้องบรหิ ารการทางานและความรบั ผิดชอบต่อ ครอบครวั นอกจากนี้ ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นนายจ้างน้อยกว่าผู้ชาย ในปี พ.ศ. 2560 สดั ส่วน การเป็นนายจ้างของผู้หญิงเพียง ร้อยละ 1.3 และร้อยละ 3.8 สาหรับผู้ชาย สัดส่วนของผู้ชายที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติข้าราชการระดับสูงและ ผู้จัดการอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ในปี พ.ศ. 2560 ในขณะท่ีผู้หญิงเพียงร้อยละ 2.8 ผู้หญิงมีแนวโน้มท่ีจะเป็นผู้ช่วยธุรกิจของ ครัวเรือนมากกวา่ ผู้ชายกวา่ สองเท่า โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 24.5 และร้อยละ 12.2 ในปี พ.ศ. 2560 ความเหลื่อมล้า ทางเพศในสถานะการจ้างงานยังคงเป็นความท้าทายในการเพ่ิมโอกาสการจ้างงานสาหรับผู้หญิง การแทรกแซงเพื่อ ส่งเสริมเสียงของผู้หญิง การเป็นตัวแทนในสถานที่ทางาน การเป็นผู้ประกอบการ การพัฒนาทักษะและโอกาสการจ้าง งานเป็นหน่งึ ในหลาย ๆ วธิ ที ่จี าเปน็ ต้องเรง่ ดาเนินการเพ่อื ส่งเสรมิ ความเท่าเทียมทางเพศ (4) การส่งเสรมิ วิสาหกิจ/ธุรกิจที่ยงั่ ยนื เพื่อจุดประสงคใ์ นการทางานท่ีมีคุณคา่ สาหรบั ทุกคน โดยคานงึ ถึงเพศสภาพและความ ตระหนักต่อสง่ิ แวดล้อม จากรายงานความเสี่ยงโลกปี พ.ศ. 2561 (Bündnis Entwicklung Hilft and Ruhr University Bochum, 2018), ประเทศไทยมีคะแนนดัชนีความเสย่ี งโลกในระดับปานกลางเนือ่ งจากมีความเสย่ี งจากภยั ธรรมชาตแิ ละความสามารถเชิง สถาบันในการรับมือและปรับตัวของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง นอกจากนี้จากดัชนีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Performance Index: EPI) ประเทศไทยอยู่ในอันดับท่ี 121 จาก 180 ประเทศ ด้วยคะแนน 49.88 ( คะแนน 0 น้อยที่สดุ และเป้าหมายมาตรฐานประสิทธภิ าพสูงที่สุดท่ี 100) ) (Yale Center for Environmental Law & Policy, Center for International Earth Science Information Network Columbia University, and World 18

Economic Forum , 2018) นัยยะต่อประเด็นการทางานที่มีคุณค่า ได้แก่ (1) ความจาเป็นในการพัฒนามาตรการ ป้องกันเพ่ือจากัดโครงสร้างพื้นฐานและความเสียหายของทรัพย์สิน และเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานโดยเฉพาะ อย่างย่ิง ธุรกิจขนาดเล็กเพื่อให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ท่ีเกิดจากสภาพภูมิอากาศได้ และสามารถเป็นแหล่งของ การสร้างงานท่ีเหมาะสมในขณะที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ และ (2) พัฒนาศักยภาพในการสร้างงานสีเขียว การเติบโต ของเศรษฐกิจสีเขียว และนวัตกรรมเพ่ือปรับปรุงอนามัยส่ิงแวดล้อม การอยู่รอดของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลง สภาพภมู ิอากาศ และความยืดหยุน่ ตอ่ ภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ (International Labour Organization, 2017) การจ้างงานในชนบทและการดารงชีวิตในชนบทมีความเส่ียงจากสภาพภูมอิ ากาศเปล่ียนแปลงเป็นพิเศษ เพราะมีผลต่อ การเปล่ียนรูปแบบทางการเกษตรและการจ้างงาน แม้ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสในการทางานเพื่อการผลิตที่ยั่งยืนและ การทาเกษตรอินทรีย์ ซ่ึงจะทาให้มีโอกาสการจ้างงานมากขึ้น หากมีความมุ่งม่ันที่จะเปล่ียนภาคเศรษฐกิจให้เป็น ภาคเศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่า และมีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างงานในการบริหารจัดการ ทรัพยากร และบรกิ ารด้านสง่ิ แวดลอ้ ม (International Labour Organization, 2017) หน่ึงในเป้าหมายการพัฒนาของประเทศไทยคือการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ซึ่งมีทิศทางที่ ชัดเจนกาหนดในนโยบายระดับชาติและแผนแม่บทระดับชาติต้ังแต่ปี 2552 อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้มีการหารือ รายละเอียดและประเดน็ หลักเร่ืองทักษะสีเขียวและงานสเี ขยี ว ดงั นั้นจึงจาเป็นต้องมีการประสานงานอย่างเป็นทางการ เร่ืองนโยบายด้านทักษะแรงงานและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม (Bhula-or, 2017) ให้มีทิศทางเพื่อส่งเสริมทักษะสีเขียว และความรับผิดชอบต่อสังคม สง่ เสริมวิสาหกิจและท่ที างานท่ีมีความรบั ผดิ ชอบ ยัง่ ยืนและสร้างการเติบโตอย่างทวั่ ถงึ การส่งเสริม \"วิสาหกิจ/หน่วยธุรกิจที่ยั่งยืน\" จึงมีความจาเป็นที่ต้องสร้างนโยบายและมาตรการเพื่อส่งเสริมการเติบโต อย่างท่ัวถึงและการพัฒนาอย่างย่ังยืน วิสาหกิจ/หน่วยธุรกิจที่ย่ังยืนมีฐานมาจากเสาสามด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และส่งิ แวดล้อม เพือ่ สนับสนุนการเปลีย่ นแปลงท่ีจาเป็นนี้ องค์กรนายจ้างระดับนานาชาติและระดับชาตใิ นประเทศไทย ได้เล็งเห็นความจาเป็นที่จะต้องเพ่ิมความสนใจในการพัฒนาทักษะทางเทคนิค ทักษะด้านอารมณ์ และทักษะด้าน ผปู้ ระกอบการโดยเฉพาะอย่างยงิ่ ภาค STEM และภาคการบริการ โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศได้ให้คาแนะนา ที่สาคัญของบริบทน้ีใน “แนวทางการเปลี่ยนผ่าน: มุ่งสู่เศรษฐกิจและสังคมที่ย่ังยืนและเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมสาหรับ ทุกคน” (International Labour Organization, 2015) แนวทางดังกล่าวนาเสนอกรอบและเคร่ืองมือสาหรับใช้งาน เพื่อให้ม่ันใจว่าความพยายามระดับชาติและระดับโลก ในการแก้ไขปัญหาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและความ ท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอ่ืน ๆ ท้ังยังช่วยสร้างเป้าหมายการสร้างงานความยุติธรรมทางสังคมและการเปลี่ยนผ่านอย่าง เปน็ ธรรมสาหรบั คนทางาน วิสาหกจิ /หนว่ ยธรุ กิจ และชุมชนตา่ ง ๆ บนรากฐานท่ีเท่าเทียมกัน (5) ส่งเสริมผลติ ภาพแรงงานดว้ ยคา่ จา้ งท่ีเป็นธรรม ค่าจ้างท่ีเป็นธรรมต่อการพัฒนาค่าจ้างท่ียั่งยืน ระดับค่าจ้างและกลไกการกาหนดค่าจ้างทาให้เกิดการกาหนดค่าจ้างท่ี เหมาะสมซ่ึงจะนาไปสู่การพัฒนาค่าจ้างที่สมดุล เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 คณะรัฐมนตรไี ด้กาหนดอัตราค่าจ้างข้ันต่า ของประเทศไทยที่ราคา 300 บาทต่อวัน และตรึงราคาไว้เท่าเดิมเป็นเวลา 4 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2556 ถึง พ.ศ. 2559 ก่อนจะเพ่ิมข้ึนในปีพ.ศ. 2560 ที่ร้อยละ 3.3 ในบางจังหวัด ปี พ.ศ. 2561 ค่าแรงข้ันต่าในจังหวัดท่ีมีค่าครองชีพสูง เพิ่มขึ้นเป็น 330 บาทต่อวัน ขณะท่ีค่าแรงขั้นต่าในจังหวัดที่มีค่าครองชีพต่าเพิ่มข้ึนเป็น 308 บาทต่อวัน (กระทรวง แรงงาน, 2555-2561) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่าไม่ได้สะท้อนผลิตภาพแรงงานแต่มีการเปล่ียนแปลงจาก 19

ปัจจัยอนื่ ๆ บทบาทของการเจรจาต่อรองร่วมกันในการสง่ เสรมิ นโยบายค่าจ้างที่ดอี าจนาไปสู่การปฏิบัติที่เป็นธรรมดว้ ย คา่ จ้างและสภาพการจา้ งงานทมี่ ีคณุ ค่า 2.4.2.2 การค้มุ ครองทางสงั คม (1) การเสริมสรา้ งระบบประกนั สงั คมเพ่ือตอบสนองความต้องการของทกุ คน ดังที่กล่าวข้างต้น ประเทศไทยกาลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (aged society) ในปี 2564 จะมีผู้สูงอายุ 13.1 ล้านคนหรือร้อยละ 20 ของประชากรท้ังหมด (สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2560) ปัจจุบันคนไทยที่มีอายุเกิน 60 ปีได้รับเงินบานาญจากเงินได้ทั่วไปในอัตรา 600- 1,000 บาทต่อเดือนและ ผ้ปู ระกันตนจะได้รับเงินบานาญจากประกันสังคมเพ่ิมเติม เน่ืองจากอัตราการพึ่งพิงของประชากรผู้สูงอายุเพ่ิมขึ้นอย่าง รวดเร็ว ความท้าทายด้านการคลังและงบประมาณก็ทวีความสาคัญยิ่งข้ึนเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและความ ปลอดภัยทางสังคมอื่น ๆ ที่สูงข้ึน ในขณะที่จานวนผู้เสียภาษีและผู้ร่วมสมทบลดลง นอกจากน้ี สิ่งสาคัญคือภาระ สาหรับครอบครัว ขณะน้ีระดับความม่ันคงด้านรายได้จากระบบประกันสังคมต่ามาก ผู้สูงอายุจึงพ่ึงพิงครอบครัวและ ทางานเป็นแหล่งรายได้หลัก ด้วยโครงสร้างประชากรใหม่นี้ จานวนบุตรในวัยทางานท่ีมีจานวนไม่มากนี้จะต้องดูแล ผ้ปู กครองทมี่ จี านวนมากกวา่ ซงึ่ เปน็ ภาระและหนา้ ทที่ ส่ี าคญั สาหรบั บุตรในวัยทางาน ในบริบทนี้ สานักงานประกันสังคม (สปส.) ซ่ึงกากับดูแลกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน จะต้องส่งเสริม การปฏิรูปโดยการส่งเสริมระบบที่มีประสิทธิภาพเพียงพอและย่ังยืน นโยบายเพ่ือปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาหรับสทิ ธปิ ระโยชนก์ รณีชราภาพ และระบบการปฏริ ูปท้งั ระบบเป็นกุญแจสาคัญ หนึ่งในเครือ่ งมือ ที่สาคัญคือการเพ่ิมประสิทธิภาพของบริการด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยของสานักงานประกันสังคมเพื่อช่วยประเมิน ความเส่ียงในอุตสาหกรรมประกนั ภยั และการเงิน คาดการณ์การจ่ายเงนิ ในอนาคตของผู้สง่ เงินสมทบ และการออกแบบ ระบบประกนั สังคม ปัจจุบัน สานักงานประกันสังคมและ ILO กาลังดาเนินการโครงการจัดต้ังสานักงานสถิติประกันภัย ของสานักงานประกันสังคม ซงึ่ คาดวา่ จะมีบทบาทสาคัญในการพัฒนาข้อมูลทจ่ี าเปน็ ต่อการอภิปรายนโยบายระดับชาติ การขยายความคุ้มครองทางสังคมให้กับแรงงานนอกระบบเป็นสิ่งสาคัญในการปฏิรูป แม้ภายใต้พระราชบัญญัติ ประกันสังคม กาหนดให้ลูกจ้างของสถานประกอบการท่ีมีลูกจ้างต้ังแต่ 1 คน ขึ้นไป ข้ึนทะเบียนเป็นสมาชิก ประกันสังคม แต่มกี ารยกเวน้ ลูกจา้ งของกิจการบางประเภท เช่น ลกู จา้ งท่มี ีการจา้ งงานตามฤดูกาล ในภาคเกษตรกรรม ประมง ปา่ ไม้ และเลยี้ งสัตว์ และลกู จ้างของหน่วยงานท่อี ย่ภู ายใตก้ ฎหมายอนื่ ๆ เช่น ข้าราชการ แม้ว่าพระราชบัญญัติประกันสังคมมีประกันสังคมภาคสมัครใจสาหรับ (1) ผู้ที่ส้ินสุดความเป็นผู้ประกันตนภาคบังคับ และสมัครใจเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมต่อ และ (2) สาหรับแรงงานนอกระบบ แต่มากกว่าคร่ึงหนึ่งของ กาลงั แรงงานไม่ไดร้ ับความคุ้มครองทางสังคมหรือไมไ่ ด้รับผลประโยชน์อื่น ๆ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั การทางานเนือ่ งจากพวกเขา ไม่ได้เข้าสู่ระบบประกันสังคม ในปี พ.ศ. 2561 สัดส่วนแรงงานนอกระบบหญิงเปน็ ร้อยละ 54.1 ขณะที่สัดส่วนแรงงาน นอกระบบชายเปน็ ร้อยละ 56.1 (National Statistical Office of Thailand, 2018) 20

(2) การปกป้องสทิ ธิของกลุม่ คนท่ีเปราะบางรวมท้งั แรงงานขา้ มชาติและการจา้ งงานในภาคนอกระบบ ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สาคัญ ของแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพ่ือน บ้านและประเทศในอาเซียน ณ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 กระทรวงแรงงานคาดการณ์ว่ามีแรงางานข้ามชาติใน ประเทศไทยประมาณ 3.8 ล้านคน โดยมักเป็นงานท่ีมีทักษะต่าในภาคการประมง การเกษตร การก่อสร้าง การผลิต ก า ร ท า ง า น ใน บ้ า น แ ล ะ บ ริ ก า ร อื่ น ๆ (Office of Foreign Worker Administration, Department of Employment, Ministry of Labour , 2018) นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นประเทศต้นทางสาหรับแรงงานขา้ มชาติ ณ ปี พ.ศ. 2561 ชาวไทยจานวน มากกว่า 100,000 คนเดินทางออกไปทางานต่างประเทศ (Overseas Employment Administration Division, Department of Employment, Ministry of Labour, 2018) การกาหนดกรอบการกากับดแู ลการย้ายถิ่นแรงงานของไทยมีอยู่เป็นครงั้ คราว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 รฐั บาลไทยได้ลงนาม บันทึกความเขา้ ใจดา้ นการจา้ งงานกับรัฐบาลราชอาณาจักรกมั พูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐ แห่งสหภาพเมียนมาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมีเพียงส่วนน้อยท่ีเข้ามาทางานใน ประเทศไทยผ่านข้ันตอนบันทึกความเข้าใจ เนื่องจากมีขั้นตอนซับซ้อนและยาวนาน นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2558 และ พ.ศ.2559 ประเทศไทยได้มีการปรับปรุงและลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการจ้างงานเพื่อขยายความร่วมมือ รวมถึง การพัฒนาทักษะและการคุ้มครองทางสังคม แรงงานข้ามชาติจานวนมากยังคงเสี่ยงต่อการถูกแสวงผลประโยชน์ในประเทศไทย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีรายงาน การบังคับใช้แรงงานและรูปแบบการทางานท่ีไม่เป็นที่ยอมรับอ่ืน ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในภาคการประมง อีกทั้งภาค เกษตรกรรม การกอ่ สร้างและงานบา้ น ในเดือนพฤษภาคมปี 2560 รัฐบาลไทยได้ออกกฎหมายว่าด้วยการย้ายถิ่นที่ครอบคลุม พระราชกาหนดการบริหาร จัดการการทางานของคนต่างด้าว (ฉบับปรับปรุงเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2561) กฎหมายดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง บทบัญญัติที่สาคัญหลายประการที่สอดคล้องกับมาตรฐานและแนวทางของ ILO รวมถึงหลักการ \"Zero Fee\" ซ่ึงเป็น มาตรฐานที่สาคัญในอนุสัญญา ILO Private Agencies 1997 (ฉบับที่ 181) แม้ว่าประเทศไทยจะบังคับใช้ \"หลักการ ไม่เลือกปฏิบัติ\" ในกฎหมายแรงงานท่ีสาคัญ ได้แก่ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พระราชบญั ญัตปิ ระกันสังคม และ พระราชบัญญัติเงินทดแทน แรงงานข้ามชาติยังคงมีอุปสรรคของในการเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ อยู่ รวมท้ังหลักประกันทาง สงั คม และยงั ขาดเสรภี าพในการสมาคมและสทิ ธใิ นการเจรจาต่อรองร่วม นอกจากน้ี แรงงานจานวนมากยังทางานในการจ้างงานท่ีไม่ไดม้ าตรฐาน เผชิญกับความไม่มั่นคงในการทางาน รายไดต้ ่า ความเส่ียงด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย โอกาสในการฝึกอบรมต่าและการขาดเสรีภาพในการสมาคมและสิทธิ ในการเจรจาต่อรองร่วม จานวนการจ้างงานที่ไม่ได้มาตรฐานมีการเติบโตขึ้น (International Labour Office , 2016) จากข้อมูลสารวจภาวะการทางานของประชากร จานวนผู้รับเหมาท่ีทางานให้กับนายจ้างหลายเจ้า ได้เพมิ่ ขน้ึ จากร้อยละ 1.97 ของการจ้างงานท้ังหมดในปี พ.ศ. 2558 เป็นร้อยละ 2.69 ในปี พ.ศ. 2560 (National Statistical Office of Thailand, 2015 - 2017) แรงงานที่ทางานในการจ้างงานท่ีไม่เป็นตามมาตรฐานคาดว่าจะเพ่ิมขึ้นพรอ้ มกับเทคโนโลยี ท่กี ้าวหน้ามากข้ึน การเปลีย่ นแปลงทางสังคม บรรทดั ฐานทางสงั คมและการเพ่มิ ขน้ึ ของระบบอัตโนมตั ิ กฎหมายแรงงานสาหรับการจ้างงานที่ไม่เป็นมาตรฐานจึงควรได้รับการทบทวนเพ่ือให้มั่นใจว่ากฎหมายจะสามารถ ครอบคลุมรูปแบบการจ้างงานท่ีซับซอ้ นข้ึนในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้การจ้างงานท่ีไม่ได้มาตรฐานควรได้รับสิทธิด้าน เสรีภาพในการสมาคมและการเจรจาต่อรอง นอกจากการทบทวนและแก้ไขกฎหมายแล้ว การส่งเสริมการบังคับใช้ 21

กฎหมายทีม่ ปี ระสิทธภิ าพก็มีความสาคญั จาเป็นตอ้ งมีโครงการพฒั นาขีดความสามารถ เคร่ืองมอื และกลไกเพ่ือให้แนใ่ จ ว่าพนักงานตรวจแรงงานสามารถรับมือกับความท้าทายเหล่าน้ี ซ่ึงรวมถึงช่องทาง / วิธีการสาหรับการดาเนินการ ตรวจสอบแรงงานในภาคท่ีเข้าถึงยาก ฐานข้อมูลแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เก่ียวข้อง รวมท้ังระบบการติดตาม และประเมินผลซ่ึงจะช่วยพัฒนาการประเมินผลของการบังคับใช้ / การป้องกันและมีส่วนร่วมในมาตรการการตรวจ แรงงานเชงิ กลยุทธ์มากข้นึ (3) ขจัดรูปแบบท่เี ลวรา้ ยที่สุดของแรงงานเดก็ และแรงงานบงั คบั ประเทศไทยได้พยายามอย่างมากในการขจัดรูปแบบท่ีเลวร้ายที่สุดของแรงงานเด็ก แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ โดยรัฐบาลได้มีการปรบั ปรงุ ประมวลกฎหมายอาญา เพิ่มบทลงโทษสาหรับบคุ คลท่ีใช้เดก็ กระทาความผดิ รวมทงั้ ดาเนิน โครงการต่าง ๆ เพื่อป้องกันและลดแรงงานเด็กและแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเล นอกจากน้ี รฐั บาลกาลงั ทางานร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศเพื่อรวบรวมข้อมูลและจัดทาการสารวจการทางานของเด็ก ในประเทศไทย ซง่ึ จะชว่ ยสนับสนนุ การพฒั นางานวิชาการ นโยบายและแผนงาน อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายจานวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใชก้ ฎหมายที่อ่อนแอ จานวนพนักงานตรวจแรงงาน ท่ีไม่เพียงพอและขาดการฝึกอบรมในประเด็นดังกล่าว ซึ่งขัดขวางความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายแรงงานของ หน่วยงานด้านแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคนอกระบบและท่ีทางานในบ้าน เนื่องจากทรัพยากรมีความสาคัญ พนักงานตรวจแรงงานจาเป็นต้องปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์เพื่อทาความเข้าใจกับผลกระทบที่เกิดข้ึนของการไม่ปฏิบัติ ตามข้อกาหนด เพอ่ื พฒั นาการแทรกแซงที่มีเปา้ หมายและมีประสทิ ธภิ าพ (4) ส่งเสรมิ ความปลอดภัยและอาชวี อนามยั ในสถานประกอบการทงั้ หมด อัตราและจานวนการเกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บจากการทางานลดจานวนลง ทว่าในหมู่แรงงานนอกระบบกลับยังมี อตั ราสูง ตั้งแต่ปี 2557 อุบัติเหตแุ ละการบาดเจ็บในท่ีทางานคอ่ ยๆ ลดลงจาก 5.3 ลา้ นคนในปี 2557 เปน็ 4.5 ล้านคน ในปี 2560 โดยผู้ชายมีแนวโน้มทจี่ ะประสบอุบัติเหตุจากการประกอบอาชีพมากกวา่ ผู้หญิง ในปี 2560 ประมาณรอ้ ยละ 61 ของผู้ชายเจออบุ ัตกิ ารณก์ ารเกิดอุบตั ิเหตุจากการทางาน นอกจากน้ี กลุ่มคนทท่ี างานนอกระบบเผชญิ กับอุบตั เิ หตุใน ที่ทางานมากกว่าแรงงานในระบบ โดยสัดส่วนของแรงงานนอกระบบท่ีประสบอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากการทางานสูง กว่าแรงงานในระบบถึงสองเท่า (สานักงานสถิติแห่งชาติ, 2560) แสดงให้เห็นวา่ คนที่ทางานนอกระบบมีความเสี่ยงสูงที่ จะได้รับบาดเจ็บและอุบัติเหตุจากการทางาน จึงได้มีความจาเป็นในการดาเนินการปรับปรุงความปลอดภัยของการ ทางานในสภาพแวดลอ้ มในการทางานและขยายการปกป้องอาชีวอนามยั ไปยังเศรษฐกจิ นอกระบบ 2.4.2.3 การเจรจาทางสงั คม คู่เจรจาทางสังคมท่ีสาคัญในประเทศไทยหรือไตรภาคีขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้แก่ กระทรวงแรงงาน สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (Employers’ Confederation of Thailand: ECOT) และองค์กรลูกจ้าง ได้แก่ สภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย (Labour Congress of Thai Labour: LCT) สภาองค์การลูกจ้าง สมาพันธ์แรงงานแห่งประเทศไทย (Thai Trade Union Congress: TTUC), สภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงาน อุตสาหกรรมเอกชน (National Congress Private Industrial of Employees: NCPE) และสมาพันธ์แรงงาน รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (State Enterprises Workers’ Relations Confederation: SERC) ผู้ประสานงานหลักของ ILO 22

คือกระทรวงแรงงาน นอกจากหน่วยงานของรัฐจัดการเรื่องแรงงานและการบังคับใช้กฎหมายที่เกย่ี วข้องกบั แรงงานแล้ว ยังมีหน่วยงานระดับชาติอื่น ๆ ที่คอยกากับดูแลการคุ้มครองสิทธิของแรงงาน คณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผแู้ ทนราษฎร คณะกรรมาธิการการแรงงานและสวัสดิการสังคมวุฒิสภา และคณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมทัง้ มอี งค์กรพฒั นาเอกชน/ องค์กรประชาสงั คม ร่วมในการหารือทางสงั คมเกย่ี วกับสิทธิแรงงาน กลไกที่เป็นทางการของไตรภาคีมีอยู่หลายรูปแบบซึ่งเป็นตัวขับเคล่ือนสาหรับการเจรจาทางสังคมในระดับชาติ ระดับ จังหวัดและระดับโครงการ โดยครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ เช่น ค่าแรงข้ันต่า ประกันสังคม การเจรจาต่อรองร่วม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย คนงานผู้พิการ การเสริมสร้างศักยภาพเพ่ือให้ม่ันใจในการพัฒนากลไกให้มี ประสิทธภิ าพ เป็นธรรมและโปร่งใสมีความสาคัญเปน็ อย่างยิง่ ในประเทศไทยมีอัตราการเจรจาต่อรองโดยรวมต่า และอัตราความหนาแน่นของสหภาพแรงงาน (The trade union density rate) ในประเทศไทยอยู่ในระดับต่าเพียงร้อยละ 1.4 ในปี 2551 และยังอยู่ในระดับต่าที่ร้อยละ 3.2 ใน ปี 2560 นอกจากนี้ มีเพียง 34 จังหวัดจากทั้งหมด 76 จังหวัดท่ีมีสหภาพแรงงาน ซ่ึงชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ท่ีทาให้ ชอ่ งว่างของตวั แทนแรงงานในคณะกรรมการไตรภาครี ะดับจงั หวัดในจงั หวัดเหลา่ น้ีอยา่ งมาก เนื่องจากการเจรจาทางสังคมทีด่ ีขึ้นเป็นเคร่ืองมือสาคัญในการสร้างความม่ันใจว่าตลาดแรงงานจะทางานไดร้ าบรื่นและ เพ่ิมประสิทธิภาพของประเทศ ความมุ่งม่ันอย่างต่อเนื่องและการสร้างความเข้มแข็งให้กับการเจรจาทางสังคมและ ความร่วมมือของไตรภาคีในทุกระดับจึงเป็นส่ิงสาคัญภายใต้ DWCP และประเด็นท่ีสาคัญคือการส่งเสริมเสรีภาพ ในการสมาคมและสิทธิในการต่อรองร่วม ด้วยการเจรจาทางสังคมและการเจรจาต่อรองร่วม การสร้างความม่ันใจใน เสียงและการเป็นตัวแทนของผู้หญิงก็มีความสาคัญเช่นกัน เน่ืองจากการเจรจาทางสังคมมีแนวโน้มที่จะเป็นรูปแบบที่มี ผชู้ ายเปน็ ใหญ่ (Briski & Muller, 2011) 2.4.2.4 หลักการพืน้ ฐานและสิทธใิ นการทางาน อนสุ ญั ญาองคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศท่ไี ทยให้สตั ยาบนั มีทั้งสิ้น 19 อนุสัญญาและ 1 พิธสี าร (ตารางท่ี 1) โดยได้ให้ สัตยาบันอนุสัญญาหลัก จานวน 6 ฉบับ จากทั้งหมด 8 ฉบับ ประกอบด้วย - - อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานบังคับ พ.ศ. 2473 (อนุสัญญาฉบับที่ 29), อนุสัญญาว่าด้วยค่าตอบแทนท่ีเท่ากัน พ.ศ. 2494 (อนุสัญญาฉบับท่ี 100), อนุสัญญาว่า ด้วยการยกเลิกแรงงานบงั คับ พ.ศ. 2500 (อนุสัญญาฉบับท่ี 105), อนุสัญญาเก่ียวกับการเลือกปฏิบัติ (การจ้างงานและ อาชีพ) พ.ศ. 2501 (อนุสัญญาฉบับท่ี 111) ซึ่งได้รับการให้สัตยาบันใน พ.ศ. 2560 อนุสัญญาว่าด้วยอายุขั้นต่าที่ อนุญาตให้จ้างงานได้ พ.ศ. 2516 (อนุสัญญาฉบับที่ 138) และอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามและการดาเนินการโดยทันที เพ่ือขจัดรูปแบบท่ีเลวร้ายท่ีสุดของการใช้แรงงานเด็ก พ.ศ. 2542 (อนุสัญญาฉบับท่ี 182) ประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน อนุสัญญาหลัก จานวน 6 ฉบับ จากทั้งหมด 8 ฉบับ อนุสัญญาสองฉบับที่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันคือ อนุสัญญาฉบับท่ี 87 ว่าด้วยว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ค.ศ. 1948 และอนุสัญญา ฉบับที่ 98 ว่าด้วย สิทธิในการรวมตวั และการเจรจาต่อรองรว่ ม ค.ศ. 1949 การเจรจาเกยี่ วกบั อนุสญั ญาทั้งสองน้ียังคงดาเนินต่อไประหวา่ ง องค์กรลกู จ้าง องค์กรพัฒนาเอกชน และรัฐบาลไทย 23

นอกจากนี้ประเทศไทยได้จดทะเบียนยื่นสัตยาบันพิธีสารส่วนเสริมอนุสัญญาฯ ฉบับท่ี 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ พ.ศ. 2557 ลงวันท่ี 4 มิถุนายน พ.ศ. 2561 (P 29) จัดเป็นประเทศท่ี 24 และเป็นประเทศแรกในอาเซียนท่ีให้สัตยาบัน เอกสาร ในระดับประเทศ ประเทศไทยยังคงสนับสนุนกฎหมายและสถาบันต่าง ๆ ต่อไปเพื่อต่อสู้กับการบังคับใช้ แรงงานรวมถงึ การค้ามนุษยก์ ารแก้ไขเพ่ิมเติมพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2558 นอกจากน้ียังมีแนวทางการนาเน้ือหาของร่างพระราชบัญญัติแรงงานบังคับไปกาหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ซ่ึงคาดว่าจะเป็นเครื่องมือสาคัญในการขจัดแรงงานบังคับและการส่งเสริมงานท่ีดีสาหรับ แรงงานทัง้ หมดในประเทศ แม้ว่าประเทศไทยได้ใช้กฎหมายที่สาคัญหลายประการในการปกป้องสิทธิแรงงาน แต่ปัญหาในปัจจุบันคือการบังคับใช้ กฎหมายที่อ่อนแอและความจาเป็นในการปกป้องเสรีภาพในการสมาคมและการเจรจาต่อรองร่วม ความร่วมมือแบบ ไตรภาคีในระดบั ชาติ ระดับจังหวัด ระดบั ภมู ิภาค และระดับเขตเปน็ กุญแจสาคัญในการทางานอย่างมีประสทิ ธิภาพเพ่ือ ส่งเสริมและสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน การสร้างเสริมอุตสาหกรรมสัมพันธ์และกลไกการกากับดูแล ตลาดแรงงานทด่ี ี ตารางท่ี 1 การให้สัตยาบันของประเทศไทย วันที่ (ค.ศ.) สถานะ 26 ก.พ. 1969 มีผลบงั คบั ใช้ อนุสัญญาพื้นฐาน (6 อนุสัญญาและ1 พธิ สี าร) C029 – อนสุ ญั ญาว่าด้วยแรงงานบังคบั , ค.ศ.1930 (No. 29) 4 ม.ิ ย. 2018 ไมม่ ผี ลบงั คบั ใช้ P 029 พธิ ีสาร ค.ศ. 2014 แนบท้ายอนุสญั ญาฉบบั ที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบงั คบั ค.ศ. 8 ก.พ. 1999 มผี ลบงั คับใช้ 1930 2 ธ.ค. 1969 มผี ลบงั คับใช้ C100 – อนสุ ัญญาว่าด้วยคา่ ตอบแทนทเ่ี ทา่ กัน, ค.ศ.1951 (No. 100) 13 มิ.ย. 2017 มีผลบงั คับใช้ C105 การยกเลกิ อนสุ ัญญาว่าด้วยแรงงานบังคับ, ค.ศ. 1957 (No. 105) C111 – อนสุ ญั ญาเกี่ยวกบั การเลอื กปฏบิ ัติ (การจ้างงานและอาชีพ), ค.ศ.1958 11 พ.ค.2004 มผี ลบังคับใช้ (No. 111) 16 ก.พ. 2001 มผี ลบงั คับใช้ C138 – อนุสัญญาวา่ ด้วยอายขุ ัน้ ตา่ ทีอ่ นญุ าตให้จ้างงานได้, ค.ศ.1973 (No. 138) C182 – อนสุ ญั ญาว่าดว้ ยการหา้ มและการดาเนนิ การโดยทนั ทีเพ่อื ขจัดรูปแบบที่ 26 ก.พ. 1969 มผี ลบงั คับใช้ เลวร้ายทสี่ ดุ ของการใชแ้ รงงานเดก็ , ค.ศ.1999 (No. 182) อนสุ ัญญาวา่ ด้วยธรรมาภบิ าล (1 อนุสัญญา) 5 เม.ย. 1968 มผี ลบังคับใช้ C122 – อนุสัญญาวา่ ด้วยนโยบายการทางาน, ค.ศ.1964 (No. 122) อนสุ ญั ญาด้านวิชาการ (11 อนสุ ญั ญา) 5 เม.ย. 1968 มผี ลบังคบั ใช้ C014 – อนุสัญญาว่าดว้ ยการหยดุ พักผอ่ นประจาสปั ดาหใ์ นงานอุตสาหกรรม, ค.ศ. 1921 (No. 14) 5 ธ.ค. 1947 มผี ลบังคบั ใช้ C019 – ว่าดว้ ยการปฏิบตั โิ ดยเทา่ เทยี มกนั ในเร่ืองค่าทดแทนสาหรบั คนงานชาติใน บงั คบั และคนตา่ งชาติ, ค.ศ.1925 (No. 19) 26 ก.พ. 1969 มีผลบังคบั ใช้ C080 – อนุสญั ญาแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ฉบบั สุดท้ายอนสุ ญั ญาว่าด้วยการแก้ไขบางส่วนของ 29 ก.ค. 1964 ไมม่ ผี ลบงั คับใช้ อนสุ ัญญา, ค.ศ.1946 (No. 80) C088 – อนุสัญญาว่าดว้ ยการจดั ตง้ั บรกิ ารจดั หางาน, ค.ศ.1948 (No. 88) C104 – อนุสัญญาว่าดว้ ยการเลิกบังคบั ทางอาญาแกก่ รรมกรพนื้ เมอื งที่ละเมิดสญั ญา จ้าง, ค.ศ.1955 (No. 104) ยกเลิกโดยการตดั สินใจของทป่ี ระชมุ แรงงานระหว่างประเทศสมยั ท่ี 107 (2018) 24

อนุสัญญาพนื้ ฐาน (6 อนสุ ัญญาและ1 พิธสี าร) วันท่ี (ค.ศ.) สถานะ 24 ก.ย. 1962 มผี ลบงั คับใช้ C116 – อนุสัญญาว่าด้วยการแกไ้ ขบางส่วนของอนุสญั ญา, ค.ศ.1961 (No. 116) 5 เม.ย. 1968 ไม่มผี ลบังคบั ใช้ C123 – อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยว่าดว้ ยอายุข้ันต่าที่อนุญาตให้ทางานในเหมอื งใตด้ ิน, ค.ศ. 1965 (No. 123) 26 ก.พ. 1969 มผี ลบงั คบั ใช้ การบอกเลิกโดยอตั โนมตั เิ มื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 โดยอนสุ ญั ญาที่ 138 11 ต.ค. 2007 มีผลบังคบั ใช้ C127 – อนุสญั ญาว่าดว้ ยน้าหนกั สูงสุดที่อนญุ าตให้คนงานคนหนง่ึ แบกหามได้, ค.ศ. 1967 (No. 127) 7 ม.ิ ย. 2016 มผี ลบงั คับใช้ 18 ม.ค. 2017 ไม่มผี ลบงั คับใช้ C159 – อนสุ ัญญาว่าด้วยการฟน้ื ฟสู มรรถภาพด้านอาชพี และการจา้ งงานสาหรับคน ไม่มผี ลบังคบั ใช้ พิการ, ค.ศ.1983 (No. 159) 8 ม.ค. 2019 ไมม่ ผี ลบังคับใช้ มผี ลบังคับใช้ MLC, 2006 – อนสุ ญั ญาแรงงานทางทะเล, ค.ศ.2006 (MLC, 2006) 26 ธ.ค. 2020 ไมม่ ผี ลบงั คบั ใช้ การแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ 2014 อนุสัญญา MLC, ค.ศ.2006 23 มี.ค. 2016 กาลังรอการประกาศยอมรบั 30 ม.ค. 2019 การแก้ไขเพิม่ เติม 2016 อนุสญั ญา MLC, ค.ศ. 2006 มผี ลบงั คบั ใชใ้ นประเทศไทยในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2019 การแกไ้ ขเพิ่มเติม 2018 อนสุ ญั ญา MLC, ค.ศ.2006 ไม่เห็นด้วยอยา่ งเป็นทางการกระทง่ั วนั ที่ 26 มถิ นุ ายน ค.ศ. 2020 C187 – อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ย กรอบเชิงสง่ เสริมการดาเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอ นามัย, ค.ศ.2006 (No. 187) C188 – อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการทางานในภาคประมง ค.ศ. 2007 มีผลบงั คับใช้ในประเทศไทยในวนั ท่ี 30 มกราคม ค.ศ. 2020 ทม่ี า: ILO NORMLEX, Information System on International Labour Standards ณ วนั ที่ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2561 25

3. ลาดับความสาคญั ของประเทศและผลลพั ธ์ของแผนงาน จากการหารือกับองค์กรไตรภาคี สานักงานแรงงานระหว่างประเทศประจาประเทศไทย กัมพูชา และลาว ได้ระบุลาดับ ความสาคัญ (Priority) 3 ประการสาหรับประเทศไทย รวมทั้งผลลัพธ์ท่ีคาดการณ์ไว้ (Outcome) และความก้าวหน้า (Progress) ท่ี ILO ตั้งใจจะดาเนินการ การจัดลาดับความสาคัญ อ้างอิงจากลาดับความสาคัญท่ีปรากฎในแผนพัฒนา ประเทศ การสนับสนุนของ ILO ในปัจจุบัน ทิศทางและความสนใจของไตรภาคีรวมถึงความท้าทายในอนาคต กรอบ โครงสร้างของแผนได้แนวทางเพ่ิมเติมจากระเบียบวาระงานท่ีมีคุณค่าของ ILO (Global Decent Work Agenda) ผล การดาเนินงานเชิงยุทธศาสตร์ และพน้ื ฐานเชงิ บรรทดั ฐาน ความสาคญั ท่ี 1: สง่ เสรมิ สภาพแวดลอ้ มท่เี อ้ืออานวยต่อการเติบโตของการจา้ งงานท่ีดแี ละมีประสทิ ธผิ ล ผลลัพธ์ 1.1 เพิม่ การจ้างงานทดี่ ีและมีประสทิ ธิผลโดยใชบ้ ริการจดั หางานที่สอดรับความต้องการแรงงานซ่ึง คานงึ ถงึ เพศสภาพ การขยายการพฒั นาทักษะฝมี ือ และการส่งเสริมทกั ษะดา้ นเทคนิค / วิชาชีพสาหรบั หญิง และชายโดยมงุ่ เนน้ การจา้ งงานเยาวชนและผสู้ ูงอายุของทุกเพศสภาพที่เหมาะสมตามชว่ งอายุ ผลลัพธ์ 1.2 การพัฒนาองค์กรอย่างยงั่ ยนื มีความเข้มแข็ง ด้วยการประยุกต์ใชห้ ลักการเศรษฐกจิ พอเพยี งตาม มาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ ผลลพั ธ์ 1.3 ระบบประกนั สังคมมปี ระสิทธภิ าพ ประสิทธผิ ล และความย่ังยนื เพมิ่ ขนึ้ ความสาคัญท่ี 2: สรา้ งความเขม้ แขง็ ในการคมุ้ ครองแรงงานโดยเฉพาะแรงงานที่เปราะบาง ผลลพั ธ์ 2.1 แรงงานเปราะบางรวมทัง้ ผทู้ อี่ ยู่ในเศรษฐกิจนอกระบบและแรงงานข้ามชาติได้รับความคุ้มครองท่ี ดีขนึ้ ดว้ ยกรอบสถาบนั นโยบาย และเคร่ืองมือการปฏิบัตติ ามยทุ ธศาสตร์ทดี่ ีข้นึ ผลลัพธ์ 2.2 การทางานในรูปแบบการทางานที่ไมเ่ ป็นท่ยี อมรบั ลดลง โดยเฉพาะแรงงานเดก็ แรงงานบังคบั และการคา้ มนษุ ย์ จากการดาเนินได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ผลลพั ธ์ 2.3 การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภยั และอาชวี อนามยั มีความเข้มแขง็ ข้นึ อนั เน่อื งมาจากการ เพ่ิมขีดความสามารถในการตรวจแรงงานเพื่อเสรมิ สร้างสภาพการทางานที่มีคุณคา่ ความสาคัญที่ 3: เสริมสร้างการกากบั ดูแลตลาดแรงงานให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ ผลลพั ธ์ 3.1 ความสามารถขององค์กรไตรภาคีมคี วามเข้มแข็งขน้ึ ในการสรา้ งและมอี ิทธพิ ลต่อนโยบาย ให้ สอดคลอ้ งกับมาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ ผลลพั ธ์ 3.2 การเจรจาทางสงั คมมากขนึ้ อนั เนื่องมาจากกลไกไตรภาคีทม่ี คี วามเขม้ แข็งขึ้น ผลลัพธ์ 3.3 การให้สตั ยาบนั และการใชม้ าตรฐานแรงงานระหว่างประเทศเพมิ่ ข้ึน DWCP ฉบับน้ี เน้นการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อขยายผลที่ได้รับจากการสนับสนุน รวมท้ังผลลัพธ์และความยั่งยืนของ ความรว่ มมือให้อยู่ในระดบั สูงสุด มาตรการต่าง ๆ มีไว้เพื่อสร้างความมน่ั ใจว่าผลที่ได้รับจะถูกส่งต่อไปยังผู้มีสว่ นไดส้ ่วน เสียในระดับประเทศหลายภาคส่วนอย่างครอบคลุมและย่ังยืนซึ่งเป็นกุญแจสาคัญนาไปสู่ความสาเร็จ การดาเนินการ ไปสู่เป้าหมายของ DWCP น้ัน อิงทฤษฎีความเปล่ียนแปลง (Theory of Changes) ซึ่งอธิบายความเชื่อมโยงของ กจิ กรรมไปสเู่ ป้าหมายที่ตงั้ ไว้ตามบรบิ ทจาเพาะ จึงมีการประเมนิ สมมุติฐานและความเส่ยี งตา่ ง ๆ ในหลากหลายมุมมอง ซ่ึงเป็นการประเมินเชิงอัตนัย ดังน้ันระบบการประเมินผลและระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นกุญแจสาคัญใน การตรวจสอบการเปลย่ี นแปลงสถานการณแ์ ละตดิ ตามการดาเนินการผลลพั ธ์ของ DWCP และเปา้ หมาย 26

บทบาททีส่ าคัญและยืดหยนุ่ กวา่ ท่ีระบุในข้างตน้ สาหรับ DWCP อาจได้รับการพัฒนาโดยการตรวจสอบและประเมินเพ่ือ พัฒนางานที่มีคุณค่าในบริบทของความร่วมมือระหว่าง ILO และไตรภาคี นอกจากน้ีความเท่าเทียมระหว่างเพศและ สภาพแวดลอ้ มยงั ถือว่าเป็นประเดน็ ที่สาคญั ในทุกผลลัพธ์ (Cross-cutting issues) ความสาคัญที่ 1: สง่ เสริมสภาพแวดลอ้ มท่ีเอ้อื อานวยต่อการเติบโตของการจา้ งงานทด่ี แี ละมีประสทิ ธผิ ล แม้ว่าประเทศไทยจะมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและดีขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า การเปล่ียนแปลง ทางด้านประชากรไปสู่สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยและนโยบายที่จะก้าวสู่อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง กาลังก่อให้เกิด ความท้าทายต่อตลาดแรงงานไทย ประเทศไทยมีความจาเป็นต้องดาเนินการเพ่ือให้ม่ันใจว่ากาลังแรงงานไทย (โดยเฉพาะเยาวชนวัยทางานอายุ 15-24 ปี และผู้สูงอายุทุกเพศสภาพ) มีคุณภาพสูงและมีทักษะท่ีจาเป็นเพื่อให้ สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากโอกาสที่ไดจ้ ากการบรู ณาการระหวา่ งประเทศทั้งในระดับภมู ิภาคและระดับโลก ควรมีการส่งเสริมระบบการพัฒนาทักษะที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานและการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อลดความไม่สอดคล้องของการจับคู่คนและงาน อกี ทั้งทักษะที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสถานประกอบการและการ จ้างงาน และเพ่ือส่งเสริมการเข้าถึงตลาดแรงงานผ่านการฝึกอบรม ประเทศไทยควรมีนโยบายท่ีดีในการส่งเสริม วิสาหกิจท่ียั่งยืนและเพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมของงานที่มีคุณค่าปราศจากการเลือกปฏิบัติทางเพศสภาพ ความพิการ ชาติพันธ์ุ รสนิยมทางเพศ หรือผู้ติดเชื้อเอชไอวี กุญแจสาคัญอีกประการหนึ่งคือการส่งเสริมประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลของระบบประกันสังคมของประเทศในช่วงท่ีมีการเปลี่ยนแปลงทางประชากรอย่างรวดเร็ว และการ เปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี ผลที่ได้รับภายใต้เป้าหมายสาคัญ คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น การขยายโอกาสเพื่อ การทางานทมี่ ีคุณค่า สอดคลอ้ งกับอนสุ ญั ญาฉบับท่ี 122 ว่าด้วยนโยบายการมีงานทา ค.ศ. 1964 ผลลัพธ์ 1.1 เพิม่ การจา้ งงานทด่ี แี ละมีประสทิ ธิผลโดยใชบ้ ริการจดั หางานท่สี อดรับความต้องการแรงงานซง่ึ คานงึ ถึงเพศสภาพ และขยายการพฒั นาทักษะฝีมือ และการส่งเสรมิ ทกั ษะด้านเทคนคิ / วิชาชีพสาหรับหญงิ และชายโดยม่งุ เน้นการจา้ งงาน เยาวชนและผสู้ ูงอายุของทุกเพศสภาพทเ่ี หมาะสมตามช่วงอายุ 27

กลยุทธไ์ ด้รบั การออกแบบมาเพอื่ สง่ เสรมิ การจ้างงานทมี่ ีคณุ ค่า และมีประสิทธผิ ลของทกุ เพศสภาพโดยเฉพาะอย่างยงิ่ เยาวชนอายุ 15-24 ปีและผ้สู งู อายุ ผ่านการประสานความร่วมมอื และการสนบั สนุนทางวชิ าการ ผลลัพธ์ ผคู้ นจานวนมากโดยเฉพาะเยาวชนและผสู้ ูงอายุทุกเพศทุกวยั มงี านทาทเี่ หมาะสม อนั เปน็ ผลมาจากการเพิม่ ความ แขง็ แกร่งในการให้บริการจดั หางานของภาครฐั และเพ่ิมระดบั ทักษะทางเทคนคิ และวิชาชีพเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการ ของตลาด ไดร้ บั จากการ การดาเนนิ งานของนโยบายการจา้ ง การเขา้ ถงึ ขอ้ มลู และแนะแนวอาชพี เจา้ หนา้ ท่ีแนะแนว การพฒั นาทกั ษะไดร้ ับการสนับสนนุ ทางานของ ILO งานส่งเสรมิ การทางานท่มี คี ณุ ค่า ในด้านความต้องการแรงงานของ อาชีพสามารถ โดยเครอื่ งมอื และวธิ กี ารบนฐานที่ อย่างเหมาะสม สาหรับทกุ กลุ่ม ตลาดแรงงานในอนาคตทีด่ ขี ้ึน แนะนาและ คานงึ ถงึ ความแตกต่างทางเพศสภาพ อายุโดยมงุ่ เน้นเยาวชนและผูส้ ูงอายุ สาหรับเยาวชนและผ้สู ูงอายุทกุ คน ช่วยเหลอื ผู้หางาน และความจาเป็นสาหรบั ทกุ กล่มุ อายุ ไดด้ ยี ่ิงข้ึน ทุกคน ตามเพศสภาพ ในทกุ เพศสภาพ เพ่ิมประสทิ ธิภาพของ เพิม่ ความสามารถในการ พัฒนาเคร่ืองมือทมี่ กี าร มีแผนแม่บทและเคร่ืองมือท่ีปรับปรุงขึ้นเพื่อ ความเส่ยี งและกลยทุ ธก์ ารบรรเทา การให้บริการจัดหางาน เข้าถึงของเยาวชนและ คานึงถึงความแตกต่างของ ส่งเสริมทักษะด้านเทคนิค / วิชาชีพสาหรับ ผลกระทบ ของภาครัฐผ่านแนวคิด ผู้สูงอายใุ นทกุ เพศสภาพ เพศสภาพเพอื่ เสรมิ สร้าง ทุกเพศสภาพ ในการตอบสนองความตอ้ งการ •ทรพั ยากรทางการเงินและบุคลากรไม่ ฐานความตอ้ งการ โดยใช้แอพพลิเคชันบนมือ ศักยภาพของเจ้าหน้าที่ ในอนาคตโดยการสนับสนุนทางวิชาการจาก เพียงพอทาใหบ้ ่อนทาลายการพฒั นา แรงงาน (demand- ถือหรอื แพลตฟอร์ม แนะแนวอาชีพทีจ่ ะเพ่ิม ILO และการดาเนนิ การ (มาตรการบรรเทา: based) ทค่ี านงึ ถงึ ความ ออนไลนเ์ พื่อการหางาน ความตระหนักถงึ ความ ให้มกี ารเจรจาอยา่ งสมา่ เสมอระหวา่ ง ผลผลิตท่สี าคญั จาเป็นในการปรับปรุง ผลผลติ ท่สี าคัญ หนว่ ยงานทีเ่ กยี่ วข้องในการจดั หา แตกต่างทางเพศสภาพ แอพพลิเคชนั บนมอื ถือหรือ แผนการเปลยี่ นผา่ น • แผนแม่บทการพัฒนาทักษะมีการทบทวน ทรัพยากร) แพลตฟอรม์ ออนไลน์หนึ่ง ระหวา่ งโรงเรียนสกู่ าร พัฒนา และดาเนินการ •ความลา่ ช้าในการพฒั นาดา้ นเทคนคิ ผลผลิตท่ีสาคัญ ระบบไดร้ บั การพฒั นาและ ทางานใหส้ อดคล้องกับ • หลกั สูตรปจั จบุ นั และมาตรฐานทกั ษะ ทางการเงนิ และขดี ความสามารถ แผนปฏิบัติการของ เปดิ ตัวภายในปี 2564 ประเทศไทย 4.0 และ รวมทั้งหลักสูตรท่เี ปน็ ไปได้ในอนาคตที่ (มาตรการบรรเทา: ILO คน้ หาแหล่ง กรมการจัดหางานได้รบั โดยมีคุณสมบตั ิดังน้ี (1) โครงการอนาคตของการ ได้รับการทบทวน พัฒนา และประยกุ ต์ใช้ เงนิ ทนุ ทางเลือกรวมถงึ ความร่วมมือ การทบทวน พฒั นาและ แพลตฟอร์มที่ไดร้ ับการ ทางาน (Future of Work) ท่ี • ระบบการประกันคุณภาพของโปรแกรมการ ระหวา่ ง South-South) รบั รองภายในปี 2564 ออกแบบอย่างดีและ สอดคลอ้ งกบั ปรชั ญา พัฒนาทกั ษะได้รับการทบทวน พฒั นา และ •ความไมส่ อดคล้องดา้ นทกั ษะใน ด้วยการสนบั สนนุ ดา้ น คานึงถึงความแตกตา่ งของ เศรษฐกิจพอเพียงเพ่อื การ ปรบั ปรุง ตลาดแรงงานส่งผลใหบ้ รกิ ารจดั หางาน วชิ าการของ ILO โดย เพศสภาพ และความ พัฒนาที่ยั่งยนื • ดา้ นทกั ษะดา้ นเทคนิค / วิชาชีพภายใตก้ าร ของภาครฐั ไมส่ ามารถปรบั ตวั ไดท้ ันต่อ แผนเน้นการส่งเสรมิ การ ต้องการที่แตกต่างกันของ รบั รองความสามารถดา้ นทักษะรว่ มกนั การเปลย่ี นแปลงทีร่ วดเร็ว (มาตรการ ทางานที่ดีมีคณุ ค่า ทกุ กลุ่มอายุ (2) ปรับปรุง ผลผลติ ทีส่ าคญั ระดับอาเซยี น (Mutual recognition of บรรเทา: ILO สนับสนนุ การ สาหรบั เยาวชนและ และขยายการใชแ้ อพพลเิ ค ผลติ ภณั ฑ์ฝึกอบรมอยา่ ง skills) ไดร้ บั การพัฒนาข้ึน ประสานงานทดี่ ีขน้ึ และเพม่ิ การแบง่ ปัน ผ้สู งู อายุในทกุ เพศสภาพ ชันบนมือถือหรอื นอ้ ยหนึ่งรายการสาหรบั • มกี ารศึกษาอยา่ งนอ้ ยหน่ึงเร่อื งความไม่ ความร้รู ะหว่างรฐั บาล องคก์ รนายจา้ ง ตามความตอ้ งการท่ี แพลตฟอร์มออนไลน์ เจ้าหน้าทแ่ี นะแนวอาชีพได้ สอดคล้องด้านทกั ษะแรงงานและการ องคก์ รลกู จ้าง องคก์ รพฒั นาระหว่าง แตกตา่ งกนั และความ ร่วมกบั กระทรวงและภาค พฒั นาและใช้ในการสร้าง โยกยา้ ยแรงงานในภาค ICT ประเทศและสถาบนั การศกึ ษา) ตอ้ งการของ ส่วนอืน่ ๆ โดยความ การรับร้ถู งึ ความต้องการ • มกี ารพฒั นาแผนปฏิบตั ิการด้านความ •ความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มของภาคี ตลาดแรงงานสาหรับ รว่ มมอื กับไตรภาคี (3) แรงงานในอนาคตทเ่ี ปน็ ไป ตอ้ งการทักษะทเี่ ฉพาะเจาะจงสาหรบั ภาค ทางสังคมทไ่ี ม่เพยี งพอ (มาตรการ ประเทศไทย 4.0 ปรบั ปรงุ การแนะแนว ได้ ธรุ กจิ มกี ารจัดทาเอกสารและเผยแพรอ่ ย่าง บรรเทา: มีการเจรจาอย่างสมา่ เสมอ อาชีพในแอพพลเิ คช่นั บน น้อยหน่ึงสาชาอาชีพ ระหว่างหน่วยงานท่เี กย่ี วข้อง) มือถอื หรือแพลตฟอร์ม • มีผูห้ ญิงจานวนมากขน้ึ ที่ไดร้ ับการฝกึ ฝน ออนไลนเ์ พ่อื ใหเ้ หมาะกับ ทักษะดา้ นเทคนิคเกย่ี วกบั STEM ผา่ นการ บริบทของความต้องการ เรียนรู้ในสถานท่ที างาน แรงงานท่เี ป็นไปไดใ้ น อนาคต แนวทางการดาเนินงานและการสนบั สนุนของไตรภาคี รวมถึงผลลัพธ์ทสี่ าคญั ตวั ชี้วดั เปา้ หมาย สมมติฐาน ความเสย่ี งและมาตรการบรรเทาผลกระทบไดอ้ ธิบายไวใ้ นตารางตอ่ ไปนี้ 28

ตวั ชว้ี ดั เป้าหมาย ตวั ชี้วดั 1.1.1 จานวนแนวทางทดี่ ีและ เป้าหมาย 1.1.1 (ก) แผนปฏิบตั กิ ารหนงึ่ ฉบับของกรมการจดั หางานไดร้ ับ ครอบคลมุ ขึน้ ด้วยบริการจัดหางานทม่ี ี การทบทวน พฒั นา และรบั รองภายในปี 2564 โดยการสนับสนนุ ดา้ น การคานึงถงึ ความแตกตา่ งของเพศสภาพ วิชาการของ ILO โดยมุง่ เนน้ หลกั ในการสง่ เสริมการทางานท่ีดีและ และนโยบายการจา้ งงานเพ่ือส่งเสรมิ งาน เหมาะสมสาหรบั เยาวชนและผสู้ งู อายุในทกุ เพศสภาพตามความตอ้ งการที่ ท่ีดีสาหรับเยาวชนและผสู้ ูงอายทุ ุกเพศ แตกต่างกันและความตอ้ งการของตลาดแรงงานของประเทศไทย 4.0 สภาพ ตัวชว้ี ัด 1.1.2 สดั สว่ นความพงึ พอใจใน เป้าหมาย 1.1.2 (ก) ระดบั ความพึงพอใจอยา่ งน้อยร้อยละ 80 ระบโุ ดย การเขา้ ถึงบริการจัดหางานสาธารณะ ผใู้ ชบ้ รกิ ารออนไลน์ (Public employment services: PES) และการแนะแนวอาชพี โดยคานงึ ถึงเพศ เปา้ หมาย 1.1.2 (ข) แอพพลเิ คชนั บนมือถือหรอื แพลตฟอร์มออนไลนห์ นึ่ง สภาพ มีการพัฒนาและขยายการให้กบั ระบบทพี่ ฒั นาและเปดิ ตวั ภายในปี 2564 โดยมคี ุณสมบตั ิดังนี้ (1) แรงงานทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง แพลตฟอรม์ ได้รบั การออกแบบอยา่ งดีและมีการคานงึ ถึงความแตกตา่ งของ เยาวชนและผสู้ งู อายุทกุ เพศสภาพ เพศสภาพและความต้องการทแี่ ตกตา่ งกนั ของทกุ กลมุ่ อายุ โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ เยาวชนและผสู้ งู อายใุ นทกุ เพศสภาพ โดยมคี วามพงึ พอใจอยา่ ง น้อยร้อยละ 80 ของผใู้ ช้ท้งั หมด (2) ปรับปรงุ และขยายการใชแ้ อพพลิเค ชันบนมอื ถือหรอื แพลตฟอร์มออนไลน์ร่วมกบั กระทรวงและภาคส่วนอืน่ ๆ โดยร่วมมือกับไตรภาคี (3) ปรับปรุงการแนะแนวอาชพี ในแอพพลิเคชนั่ บน มอื ถอื หรือแพลตฟอร์มออนไลนเ์ พ่ือให้เหมาะกับบรบิ ทของความตอ้ งการ แรงงานท่ีเปน็ ไปได้ในอนาคต ตัวชว้ี ัด 1.1.3 จานวนเอกสารการ เป้าหมาย 1.1.3 (ก) เอกสารการฝกึ อบรมอยา่ งนอ้ ยหนง่ึ เร่ืองสาหรบั ฝึกอบรมสาหรบั เจา้ หนา้ ที่แนะแนวอาชีพ เจ้าหน้าท่ีแนะแนวอาชพี ของกรมการจดั หางาน ท่พี ัฒนาและใชใ้ นการ เพ่ือเพ่ิมความตระหนักถึงความจาเปน็ ใน สร้างความตระหนกั ถงึ ความตอ้ งการแรงงานที่เปน็ ไปได้ในอนาคตโดยมี การปรบั ปรงุ โครงการเชอื่ มตอ่ จาก การคานงึ ถงึ เพศสภาพและพฒั นาขน้ึ โดยการสนับสนนุ ด้านวชิ าการของ โรงเรยี นส่กู ารทางาน (School-to-work ILO transition Programmes) ให้สอดคล้อง กบั ประเทศไทย 4.0 และโครงการอนาคต ของการทางาน (Future of Work Initiative) ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอื่ ให้เกิดการพฒั นาอย่างยงั่ ยนื ตวั ชี้วดั 1.1.4 จานวนแผนพฒั นาฝมี อื เปา้ หมาย 1.1.4 (ก) แผนแมบ่ ทการพฒั นาทกั ษะฝีมือแรงงานไดร้ บั การ แรงงานทีพ่ ฒั นาและขยายยงิ่ ขน้ึ เพื่อ ทบทวน พัฒนาและดาเนินการภายในปี 2564 เพื่อเพ่มิ การจ้างงานของทุก สง่ เสริมทักษะดา้ นเทคนคิ / วชิ าชีพ คน โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ สาหรับเยาวชนและผู้สงู อายุทุกเพศสภาพ ในการ สาหรับเยาวชนและผู้สงู อายุทกุ เพศสภาพ ทางานทีม่ ีคณุ คา่ โดยใช้แนวทางแบบบรู ณาการ ในการตอบสนองความต้องการแรงงานใน เปา้ หมาย 1.1.4 (ข) หลักสูตรและมาตรฐานคณุ วฒุ ิ (Competency อนาคต Standard) ในปัจจบุ ัน รวมทงั้ หลักสตู รท่ีเป็นไปได้ในอนาคตของกรม พฒั นาฝมี อื แรงงาน มกี ารทบทวน พัฒนา และประยกุ ตใ์ ช้เพือ่ ใหส้ อดคล้อง กบั ความตอ้ งการแรงงานของประเทศไทย 4.0 โครงการอนาคตของการ ทางาน (Future of Work Initiative) รวมทงั้ มกี ารคานงึ ถงึ เพศสภาพและ สิ่งแวดลอ้ ม เป้าหมาย 1.1.4 (ค) ระบบการประกนั คณุ ภาพของหลักสตู รพฒั นาฝีมือ 29

ตวั ชี้วัด เป้าหมาย แรงงานของกรมพฒั นาฝมี ือแรงงานได้รบั การทบทวนและปรับปรุง เปา้ หมาย 1.1.4 (ง) มกี ารพฒั นาทกั ษะดา้ นเทคนคิ / วิชาชพี อย่างนอ้ ย 3 สาขา ภายใต้การรบั รองความสามารถด้านทักษะรว่ มกันระดบั อาเซียน (Mutual recognition of skills) เกย่ี วกบั ทักษะท่พี ฒั นาขนึ้ ร่วมกบั กัมพชู า สปป. ลาวและเมยี นมา เปา้ หมาย 1.1.4 (จ) มกี ารศึกษาอยา่ งนอ้ ยหนงึ่ เรือ่ งความไมส่ อดคลอ้ งด้าน ทักษะและการโยกย้ายแรงงานในภาค ICT เปา้ หมาย 1.1.4 (ฉ) แผนปฏบิ ตั กิ ารด้านความตอ้ งการทเี่ ฉพาะเจาะจง สาหรับภาคธุรกจิ อย่างน้อยหน่งึ ฉบบั ที่ไดร้ บั การพฒั นาจดั ทาเปน็ เอกสาร และเผยแพรเ่ พือ่ พัฒนาทกั ษะและการจ้างงาน STEM สาหรับผหู้ ญิง เป้าหมาย 1.1.4 (ช) ภายในปี 2564 ผู้หญงิ จานวนไมน่ อ้ ยกวา่ 1,000 คน ได้รับการฝกึ ฝนทกั ษะด้านเทคนคิ เกี่ยวกับ STEM โดยใชโ้ ปรแกรมการ เรียนรู้ในสถานทที่ างาน มกี ารจ้างงานทีเ่ พิ่มขน้ึ และการฝึกอบรมผู้นา เพ่ือ เพม่ิ โอกาสการจา้ งงานและโอกาสความกา้ วหนา้ ในงานท่เี กย่ี วขอ้ งกบั STEM สมมติฐาน ความเส่ยี ง ระดบั ความเส่ียง มาตรการบรรเทา • ใหม้ ีการเจรจาอยา่ งสม่าเสมอ มที รพั ยากร • ทรัพยากรทางการเงนิ และบคุ ลากรไมเ่ พียงพอ ระดับกลาง ทางการเงนิ ระหวา่ งหนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วข้องใน และบุคลากร ทาให้บ่อนทาลายการพฒั นาและการ การจัดหาทรพั ยากร เพยี งพอทจี่ ะ • ILO คน้ หาแหล่งเงินทนุ สนบั สนนุ ดาเนินการ ทางเลือกรวมถงึ ความรว่ มมือ การ ระหวา่ ง South-South ดาเนินการ • ความลา่ ช้าในการพัฒนาด้านเทคนิค ทาง ระดบั กลาง • ILO สนบั สนุนการประสานงาน เพ่อื บรรลผุ ล ทีด่ ขี ้ึนและเพม่ิ การแบ่งปัน ตามท่ี การเงนิ และขดี ความสามารถตามที่ตกลงไว้ ความรรู้ ะหว่างรฐั บาล องค์กร วางแผนไว้ นายจ้าง องคก์ รลกู จา้ ง องค์กร • ความไมส่ อดคล้องดา้ นทักษะในตลาดแรงงาน ระดับกลาง พัฒนาระหวา่ งประเทศและ สง่ ผลใหบ้ รกิ ารจดั หางานของภาครฐั ไม่ สถาบันการศกึ ษา สามารถปรบั ตวั ไดท้ ันต่อการเปลี่ยนแปลงที่ รวดเร็ว (เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางด้าน • มกี ารเจรจาอยา่ งสมา่ เสมอ ประชากร การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกิจและ ระหวา่ งหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สงั คม และความผนั ผวนของความตอ้ งการ แรงงานทม่ี กี ารเปลี่ยนแปลงอยเู่ สมอ) • ความสนใจและการมสี ว่ นรว่ มของภาคที าง ระดับกลาง สงั คมทไ่ี มเ่ พยี งพอ 30

ผลลัพธ์ 1.2 การพัฒนาองค์กรอย่างยงั่ ยนื มีความเขม้ แข็ง ดว้ ยการประยกุ ต์ใช้หลกั การเศรษฐกิจพอเพียงตามมาตรฐานแรงงาน ระหว่างประเทศ ผลลัพธ์ มสี ถานประกอบการทป่ี ระยุกตใ์ ช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียงและสอดคล้องกบั มาตรฐานแรงงานสากลเพ่มิ ข้ึน การเปลีย่ นแปลง สถานประกอบการท่ีพฒั นา สถานประกอบการมศี ักยภาพมากขน้ึ และได้รับการ สถานประกอบการและหนุ้ ส่วนทางสังคม ทีค่ าดว่าจะ อย่างยง่ั ยืนตามแนวปรัชญา ไดร้ บั จากการ เศรษฐกิจพอเพยี งและ สนับสนุนจากแพลตฟอรม์ ระดับประเทศในการ มคี วามตระหนักเก่ยี วกับความรับผดิ ชอบ ทางานของ ILO ยุทธศาสตร์ของประเทศ สร้างความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม (Corporate social ตอ่ สงั คม (CSR) และการดาเนินธรุ กจิ ที่ responsibility: CSR) / การดาเนินธุรกิจท่ี รับผดิ ชอบ (RBC) ที่สอดคลอ้ งกบั รับผดิ ชอบ (responsible business conduct: ปฏิญญา MNE RBC) ทสี่ อดคล้องกบั ปฏญิ ญาMNE พฒั นาแนวทางและเคร่ืองมือ ส่งเสริมการสร้างศักยภาพท่มี ี เครอ่ื งมอื รณรงค์ท่ีมกี ารคานึงถึงความ ความเส่ยี งและกลยทุ ธก์ ารบรรเทา ทีค่ านงึ ถงึ ความแตกตา่ งทาง การคานึงถึงความแตกตา่ ง แตกตา่ งของเพศสภาพ เพ่ือสร้างความ ผลกระทบ เพศสภาพในการสง่ เสรมิ ของเพศสภาพ ของวทิ ยากร ตระหนกั รู้ของผูป้ ระกอบการและ วสิ าหกจิ ทย่ี ั่งยนื สอดคลอ้ งกบั วสิ าหกิจขา้ มชาติ (MNE) หุ้นสว่ นทางสงั คมเกี่ยวกบั ความ • ทรัพยากรทางการเงนิ และ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง วิสาหกิจขนาดกลางและ รับผดิ ชอบตอ่ สังคม (CSR) / การ บคุ ลากรไมเ่ พียงพอทาให้บอ่ นทาลาย และยทุ ธศาสตร์ของประเทศ ขนาดยอ่ ม (SME) และผ้นู า ดาเนนิ ธุรกิจทีร่ บั ผดิ ชอบ (RBC) ท่ี การพฒั นาและการใชง้ าน (มาตรการ ธรุ กิจในอนาคต สอดคลอ้ งกับปฏิญญาMNE บรรเทา: ให้มกี ารเจรจาอย่าง ผลผลิตทีส่ าคัญ สมา่ เสมอระหวา่ งหน่วยงานที่ - สถานประกอบการยอมรบั ผลผลิตท่สี าคัญ ผลผลิตทสี่ าคญั เกย่ี วขอ้ งในการจัดหาทรัพยากร) การใช้เครอ่ื งมือพัฒนาทกั ษะ - วิทยากร วสิ าหกิจข้ามชาติ - มกี ารจัดทาเอกสารทีส่ นับสนนุ เน้อื หา • ความล่าชา้ ในการพฒั นาดา้ น ผปู้ ระกอบการและธรุ กิจของ วสิ าหกิจขนาดกลางและ ของ CSR / RBC ให้สอดคล้องกบั เทคนิค ทางการเงนิ และขดี ILO เพ่อื สนบั สนุนเยาวชนและ ขนาดย่อม และผู้นาธรุ กิจใน ปฏิญญา MNE ในภาษาไทยและ ความสามารถ (มาตรการบรรเทา: ผู้สูงอายทุ ุกเพศสภาพ อนาคตไดร้ ับการฝกึ ฝนและ ภาษาองั กฤษและเผยแพร่ผ่าน -หลักสตู รการอบรมใน สนับสนุนความรบั ผิดชอบตอ่ คณะกรรมการไตรภาคีระดบั ประเทศ ILO คน้ หาแหลง่ เงนิ ทนุ ทางเลือก ปจั จบุ นั และหลกั สูตรท่ีมี สงั คม / การดาเนนิ ธุรกิจท่ี โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่อื สง่ เสริมการใช้ รวมถงึ ความรว่ มมือระหว่าง South- ศักยภาพของกรมพฒั นาฝมี อื รบั ผดิ ชอบ และแพลตฟอรม์ CSR / RBC แรงงานเก่ียวกบั ออนไลนท์ ีพ่ ัฒนาขึ้นเพอ่ื เพิ่ม - มาตรฐานแรงงานไทยได้รบั การ South) ผู้ประกอบการและเครอื่ งมือ การหารอื และผลกระทบหลัง ทบทวนและเผยแพร่ตามปฏิญญา ในการอบรมการบรหิ าร การฝกึ อบรม MNE โดยได้รับการสนบั สนนุ ทาง • สถานประกอบการและไตรภาคี วิสาหกจิ ขนาดกลางและ วชิ าการจาก ILO ยอมรับและเขา้ ใจเกยี่ วกับปฏิญญา ขนาดย่อม ได้รบั การพัฒนา MNE ในระดบั ตา่ (มาตรการบรรเทา: และประยุกตใ์ ช้โดยคานงึ ถึง ใหม้ กี ารเจรจาอยา่ งสม่าเสมอเพอื่ เพศสภาพและสิง่ แวดล้อม สนับสนุน CSR / RBC ท่สี อดคลอ้ งกบั ปฏิญญา MNE) แนวทางการดาเนินงานและการสนบั สนุนของไตรภาคี รวมถงึ ผลลัพธ์ทสี่ าคัญ 31

ตัวช้วี ัด เปา้ หมาย ตวั ช้วี ดั 1.2.1 จานวนเครื่องมอื และหลักสตู รท่ี เป้าหมาย 1.2.1 (ก) ภายในปี 2564 อย่างน้อยหนึ่งสถานประกอบการยอมรบั การ พฒั นาขึ้นเพอ่ื ส่งเสรมิ วิสาหกจิ ท่ียง่ั ยนื ตามแนว ใช้เครอื่ งมือพัฒนาทักษะผู้ประกอบการและธรุ กจิ ของ ILO เพือ่ สนบั สนนุ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและยทุ ธศาสตร์ของ เยาวชนและผสู้ ูงอายทุ ุกเพศสภาพ ประเทศ เปา้ หมาย 1.2.1 (ข) หลักสตู รการอบรมในปัจจบุ ันและหลักสตู รทม่ี ศี กั ยภาพของ กรมพฒั นาฝมี อื แรงงานเกย่ี วกบั ผปู้ ระกอบการและเครอ่ื งมอื ในการอบรมการ ตัวช้ีวัด 1.2.2 จานวนวิสาหกิจขนาดกลางและ บรหิ ารวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม ได้รับการทบทวน พัฒนาและ ขนาดย่อมและผ้นู าธรุ กิจทไ่ี ด้รบั การฝกึ อบรมและ ประยุกต์ใชโ้ ดยคานึงถงึ เพศสภาพและสิ่งแวดลอ้ มภายในปี 2564 มคี วามรดู้ ้านการประกอบธรุ กจิ ทีร่ บั ผิดชอบใน เป้าหมาย 1.2.2 (ก) ภายในปี 2564 มผี ู้วทิ ยากรการฝกึ อบรมท่ีผา่ นการฝึกอบรม การจัดการสภาพแวดลอ้ มการทางานทม่ี ีความ จานวน 15 คน วสิ าหกิจข้ามชาติ 40 คน ผนู้ าธรุ กิจในอนาคต 100 คนและ เสีย่ ง และสง่ เสรมิ ให้วสิ าหกิจขนาดกลางและ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม 50 ราย ในห่วงโซ่อปุ ทาน (Global Supply ขนาดยอ่ มเข้าสหู่ ว่ งโซม่ ลู คา่ โลก (Global Value Chain) ไดร้ ับการฝึกอบรมและส่งเสรมิ ใหด้ านเนนิ การโดยมคี วามรับผดิ ชอบต่อ Chain) เพ่ือให้เกิดการเตบิ โตอย่างยง่ั ยนื และ สังคม / การดาเนนิ ธุรกิจทีร่ บั ผิดชอบ (RBC) ทส่ี อดคลอ้ งกับปฏญิ ญาMNE โดยมี ครอบคลมุ สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง เป้าหมายการมสี ่วนรว่ มของสตรอี ยา่ งน้อยร้อยละ 20 โดยรว่ มมอื กับไตรภาคแี ละ ตัวชวี้ ดั 1.2.3 จานวนเครือ่ งมอื รณรงค์เพอ่ื สรา้ ง แพลตฟอร์มออนไลนเ์ พือ่ เพมิ่ การเจรจาและขยายผลกระทบหลงั การฝึกอบรม ความตระหนักของวสิ าหกจิ และหนุ้ สว่ นทางสงั คม เกี่ยวกับความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม (Corporate เป้าหมาย 1.2.3 (ก) เอกสารรณรงค์ เพ่อื สรา้ งความตระหนกั รขู้ องผูป้ ระกอบการ social responsibility: CSR) / การดาเนนิ ธรุ กิจท่ี และหนุ้ ส่วนทางสังคมเกีย่ วกับ CSR / RBC หน่งึ ฉบับ ทสี่ อดคลอ้ งกบั ปฏญิ ญา รบั ผิดชอบ (Responsible business conduct: RBC) ท่ี MNE ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้รบั การจัดทาข้นึ และเผยแพรผ่ ่าน สอดคลอ้ งกบั ปฏญิ ญา MNE คณะกรรมการไตรภาครี ะดบั ประเทศโดยมเี ปา้ หมายในการสง่ เสริมการใช้ CSR / RBC เปา้ หมาย 1.2.3 (ข) มาตรฐานแรงงานไทยไดร้ บั การทบทวนและเผยแพร่ตาม ปฏิญญา MNE โดยไดร้ บั การสนบั สนุนทางวชิ าการจาก ILO สมมตฐิ าน ความเสีย่ ง ระดบั ความเส่ียง มาตรการบรรเทา ระดับกลาง มีทรพั ยากรทาง • ทรพั ยากรทางการเงินและบคุ ลากรไม่ • ใหม้ กี ารเจรจาอยา่ งสม่าเสมอ การเงนิ และ เพยี งพอทาใหบ้ ่อนทาลายการพฒั นาและ ระดับกลาง ระหวา่ งหนว่ ยงานท่ีเกย่ี วขอ้ งในการ บคุ ลากรเพยี ง การดาเนนิ การ ระดบั กลาง จดั หาทรัพยากร พอท่จี ะสนบั สนุน การดาเนินการ • ความลา่ ชา้ ในการพัฒนาทางวิชาการ ทาง • ILO คน้ หาแหล่งเงนิ ทนุ ทางเลือก เพื่อบรรลผุ ล การเงินและขดี ความสามารถตามท่ตี กลงไว้ รวมถงึ ความร่วมมอื ระหว่างใต-้ ใต้ ตามทีว่ างแผนไว้ • การยอมรับและเข้าใจของวสิ าหกจิ และ • ให้มีการเจรจาอย่างสม่าเสมอเพอื่ องค์กรไตรภาคีเกยี่ วกับปฏญิ ญา MNE อยู่ สนบั สนุน CSR / RBC ที่สอดคล้อง ในระดับต่า กับปฏญิ ญา MNE 32

ผลลพั ธ์ 1.3 ระบบประกนั สังคมมปี ระสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และความย่งั ยนื เพมิ่ ขนึ้ เมื่อสิ้นสุดแผนงานทม่ี ีคุณคา่ นี้ การสนบั สนุนด้านวิชาการและการพฒั นาขีดความสามารถของ ILO ในช่วงปี 2562 ถึง 2564 จะช่วย เสรมิ สรา้ งและขยายขีดความสามารถของสานักงานประกันสังคม เพ่ือให้เกดิ สภาพแวดล้อมทสี่ ่งเสรมิ งานท่ีมีคณุ ค่า ผลลัพธ์ ระบบประกันสังคมของไทยมกี ารเพิม่ ประสิทธภิ าพ ประสิทธิผลและความยง่ั ยืน การเปลี่ยนแปลง เครอื่ งมอื ในการกาหนดนโยบายด้านความ การเขา้ ถึงความเชีย่ วชาญดา้ น เพ่มิ ขีดความสามารถในการบรหิ ารจัดการ ท่คี าดว่าจะ คมุ้ ครองทางสงั คมในระดับชาติมีประสทิ ธิภาพ คณิตศาสตรป์ ระกันภยั เพิ่มข้ึน ตรวจสอบและวิเคราะหข์ ้อมูลประกันสังคม ไดร้ บั จากการ ประสิทธผิ ลและสรา้ งความยง่ั ยนื ของสานักงาน ยกระดบั นโยบาย การวางแผน เพม่ิ ขึ้น ช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพประสิทธผิ ล ทางานของ ILO ประกันสงั คมย่งิ ข้ึน ผ่านคณะกรรมการไตรภาคี และการดาเนนิ การของ และความยงั่ ยืนของระบบประกันสังคม ของสานักงานประกันสงั คม ประกันสงั คมภาครัฐ เพ่มิ ขีดความสามารถของ เพิ่มการเขา้ ถงึ ความเชยี่ วชาญ สนับสนุนการปรบั ปรุงระบบ ความเสย่ี งและกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบ สถาบันในการให้บรกิ ารทาง ด้านคณิตศาสตรป์ ระกันภยั ติดตามและประเมินผล และ • ทรัพยากรทางการเงนิ และบคุ ลากรไมเ่ พียงพอทาให้ คณติ ศาสตรป์ ระกนั ภยั ใน และรกั ษาบุคลากรท่ีให้บรกิ าร ปรับปรงุ การจัดการและ บอ่ นทาลายการพฒั นาและการดาเนนิ การ (มาตรการ ระดับชาตแิ ละระดบั ภมู ิภาค ดา้ นคณิตศาสตรป์ ระกันภัยใน ความยั่งยนื ของการคมุ้ ครอง บรรเทา: ให้มกี ารเจรจาอย่างสมา่ เสมอระหว่าง ภาครฐั ทางสงั คม หน่วยงานท่เี กย่ี วข้องในการจัดหาทรพั ยากร) ผลผลติ ทสี่ าคญั • ความลา่ ช้าในการพัฒนาด้านเทคนิค ทางการเงินและ -มีการศกึ ษาความเป็นไป ผลผลิตทีส่ าคญั ผลผลิตทสี่ าคญั ขดี ความสามารถ (มาตรการบรรเทา: ILO ค้นหาแหล่ง ได้ในการจัดต้งั หนว่ ยงาน - มกี ารพฒั นาและปรับ - มีการพฒั นาระบบขอ้ มลู ดา้ นคณติ ศาสตร์ หลกั สูตรสาหรบั นกั ด้านการประกนั สังคมทมี่ ี เงินทนุ ทางเลอื กรวมถึงความรว่ มมอื ระหว่าง South- ประกนั ภยั ของสานกั งาน คณิตศาสตรป์ ระกนั ภัยท่ีใน ความสามารถในการจดั ทา South) ประกนั สังคม โดยไดร้ ับ ระดับมหาวทิ ยาลยั โดยเนน้ รายงานประจาปี ซ่งึ สามารถ • เทคโนโลยีทเ่ี ปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็ การ การสนับสนนุ ทาง สมรรถนะหลกั ท่สี อดคลอ้ ง นาเสนอสดั สว่ นของ เปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรและความเสีย่ ง วชิ าการจาก ILO กับความตอ้ งการของภาครฐั ผปู้ ระกนั ตนท่ีขน้ึ ทะเบียนใน ประเภทใหม่ทเ่ี กิดขนึ้ ในทศวรรษทีผ่ ่านมา (มาตรการ -มีการศกึ ษาเกย่ี วกบั การ - จานวนนกั เรียนท่ลี งทะเบยี น ระบบประกนั สังคมไดอ้ ย่าง บรรเทา: ให้มีการเจรจาอยา่ งสม่าเสมอระหวา่ ง จดั ตั้งหนว่ ยบรกิ ารดา้ น เรียนเพม่ิ ขนึ้ ในสาขา ถกู ตอ้ ง โดยมเี จตนาทจี่ ะ หน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้องในภาวะการเปลย่ี นแปลงอยู่ คณิตศาสตร์ประกนั ภัยใน คณิตศาสตรป์ ระกนั ภัยใน ตดิ ตาม วเิ คราะห์ และ ระดับภูมิภาค โดยได้รับ ระดบั มหาวทิ ยาลัย แยกแยะขอ้ มลู ตามอายุและ ตลอดเวลา การสนบั สนนุ ทาง เพศสภาพ • มีจานวนนักเรียนที่กาลงั ศกึ ษาอยู่หรอื ที่เรยี นจบแลว้ วิชาการจาก ILO จานวนหนึ่ง อาจออกไปทางานในภาคเอกชนเนอ่ื งจาก มชี ่องวา่ งด้านค่าจ้างสงู ระหว่างภาครฐั และเอกชน (มาตรการบรรเทา: ILO ใหก้ ารสนับสนุน / อานวย ความสะดวกในการประสานงานระหว่างหนว่ ยงานรัฐ และมหาวิทยาลัยที่เก่ียวขอ้ งและออกแบบชดุ แรงจูงใจ ท่เี หมาะสมเพือ่ ดึงดูดผสู้ าเร็จการศึกษาใหมใ่ ห้อยู่ใน ภาครัฐ) แนวทางการดาเนนิ งานและการสนบั สนุนของไตรภาคี รวมถึงผลลัพธท์ ่สี าคญั 33

ตัวชวี้ ดั เป้าหมาย ตัวช้วี ดั 1.3.1 จานวนของเคร่ืองมือในการ เป้าหมาย 1.3.1 (ก) มีการศกึ ษาความเปน็ ไปได้ในการจดั ตงั้ หนว่ ยงาน กาหนดนโยบายด้านความคุ้มครองทางสังคมที่ ดา้ นคณิตศาสตร์ประกนั ภัยของสานักงานประกันสังคม โดยไดร้ บั การ พฒั นาขึน้ เพอ่ื ขยายความคุ้มครองและเพิม่ สนับสนนุ ทางด้านวชิ าการจาก ILO ภายในปี 2564 ประสทิ ธิภาพ ประสิทธผิ ลและความย่ังยนื ของ สานกั งานประกันสังคม ผา่ นคณะกรรมการ เปา้ หมาย 1.3.1 (ข) มกี ารศกึ ษาหน่งึ เร่อื งเก่ยี วกับการจัดตั้งหนว่ ยบริการ ไตรภาคีของสานักงานประกันสงั คม ด้านคณิตศาสตร์ประกนั ภัยในระดับภูมภิ าค ดว้ ยการสนบั สนุนทางดา้ น วชิ าการจาก ILO ภายในปี 2564 ตวั ชวี้ ัด 1.3.2 มแี ผนการพฒั นากาลงั คนและ เปา้ หมาย 1.3.2 (ก) มกี ารพฒั นา/ปรับปรงุ หลกั สูตรสาหรับนกั แผนการรกั ษาบคุ ลากรดา้ นคณติ ศาสตร์ คณติ ศาสตร์ประกนั ภยั ในระดบั มหาวิทยาลยั หน่ึงหลกั สตู ร ซงึ่ เน้นในดา้ น ประกันภัยสาหรับภาครฐั สมรรถนะหลักและความตอ้ งการของภาครฐั ภายในปี 2564 เป้าหมาย 1.3.2 (ข) การเพ่มิ จานวนการลงทะเบยี นเรยี นของนกั ศกึ ษา ของสาขาวชิ าคณติ ศาสตร์ประกนั ภัยเป็นวชิ าหลักในระดบั มหาวทิ ยาลยั ภายในปี 2564 อยา่ งน้อย 20 คน โดยจัดเกบ็ ขอ้ มูลจาแนกตามเพศ สภาพ ตัวช้วี ัด 1.3.3 มีระบบขอ้ มูลประกนั สังคมที่มี เปา้ หมาย 1.3.3 (ก) มีการพฒั นาระบบข้อมลู ดา้ นการประกันสังคม ประสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลซง่ึ พฒั นาขนึ้ จาก จานวนหนงึ่ ระบบ ทมี่ คี วามสามารถในการจดั ทารายงานประจาปี ซง่ึ ความรว่ มมอื ของคณะกรรมการไตรภาคี ประกันสังคม เพือ่ ปรับปรงุ ระบบการตดิ ตามและ สามารถนาเสนอสดั สว่ นของผปู้ ระกนั ตนทีข่ นึ้ ทะเบียนในระบบ ประเมินผล อีกท้งั ปรับปรุงการจดั การและ ประกนั สังคมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง โดยมีเจตนาท่จี ะตดิ ตาม วิเคราะห์ และ สง่ เสริมความยง่ั ยนื ของการคุม้ ครองทางสงั คม แยกแยะขอ้ มลู ตามอายุและเพศสภาพ สมมติฐาน ความเสยี่ ง ระดับ มาตรการบรรเทา มีทรัพยากรทาง ความเสยี่ ง • ใหม้ กี ารเจรจาอยา่ งสมา่ เสมอระหว่าง การเงินและ หน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้องในการจัดหา บคุ ลากรเพยี ง • ทรพั ยากรทางการเงนิ และบุคลากรไมเ่ พียงพอ ระดับกลาง ทรัพยากร พอท่จี ะสนบั สนุน การดาเนินการเพ่อื ทาให้บอ่ นทาลายการพัฒนาและการ ILO ค้นหาแหลง่ เงนิ ทุนทางเลือกรวมถงึ บรรลผุ ลตามท่ี ความรว่ มมอื ระหวา่ งใต-้ ใต้ วางแผนไว้ ดาเนนิ การ ให้มกี ารเจรจาอยา่ งสมา่ เสมอระหว่าง หน่วยงานทีเ่ กย่ี วขอ้ งในภาวะการ มีผู้ทม่ี ี • ความลา่ ชา้ ในการพฒั นาด้านเทคนคิ ทาง ระดบั กลาง เปลยี่ นแปลงอยา่ งรวมเร็ว ความสามารถ มี ความสนใจใน การเงนิ และขดี ความสามารถตามท่ตี กลงไว้ ILO ใหก้ ารสนับสนุน / อานวยความสะดวก วิชาชพี คณติ ศาสตร์ ในการประสานงานระหวา่ งหน่วยงานรัฐและ ประกันภัยและมี • เทคโนโลยที เ่ี ปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วการ ระดับกลาง มหาวทิ ยาลยั ท่ีเกีย่ วขอ้ ง และออกแบบชดุ ความสนใจในการ แรงจงู ใจท่ีเหมาะสมเพ่อื ดงึ ดดู ผสู้ าเร็จ ทางานภาครัฐ เปลีย่ นแปลงทางด้านประชากรและความเส่ียง การศกึ ษาใหม่ใหอ้ ยู่ในภาครัฐ ประเภทใหม่ท่ีเกดิ ข้ึนในทศวรรษที่ผ่านมา • มจี านวนนักเรยี นทลี่ งทะเบียนเรยี นในด้านน้ี ระดบั กลาง นอ้ ย • ผสู้ าเร็จการศกึ ษาอาจออกไปทางานใน ภาคเอกชนเนอื่ งจากมีช่องวา่ งด้านค่าจา้ งสูง ระหว่างภาครัฐและเอกชน 34

ความสาคัญที่ 2: สร้างความเขม้ แขง็ ในการค้มุ ครองแรงงานโดยเฉพาะแรงงานทเ่ี ปราะบาง ผลลัพธ์ของความสาคัญนี้ได้รับการออกแบบมา เพ่ือเสริมสร้างการคุ้มครองแรงงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแรงงานท่ีมี ความเปราะบาง ภายใต้ความสาคัญนี้ แรงงานในภาคเศรษฐกิจนอกระบบและแรงงานข้ามชาติได้รับความสนใจ เป็น พิเศษในการปกป้องสิทธขิ องตน ในประเทศไทยคนงานทท่ี างานนอกระบบมักจะมีรายไดต้ า่ โอกาสที่จากดั ในการพัฒนา ทักษะและไม่อยู่สภาพการทางานท่ีมีคุณค่าเนื่องจากมักทางานโดยไม่มีสัญญาและการคุ้มครองทางสังคม สภาพการ ทางานท่ีลอ่ แหลมทาให้พวกเขามคี วามเปราะบางทจ่ี ะเกิดได้รับผลกระทบจากภายนอก โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เม่อื เผชิญกับ การแข่งขนั ระหวา่ งประเทศที่เพม่ิ ขึ้น ซงึ่ นาโดยการรวมตวั ทางเศรษฐกิจท่ีกาลังเติบโตขึน้ ของประเทศ ประเทศไทยได้พยายามอย่างมากในการขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ ประเด็นการคุ้มครองสิทธิแรงงานยังขยายไปถึงแรงงานอพยพท่ีเป็นแรงงานเด็กและแรงงานที่ถูกบังคับด้วย แรงงาน อพยพจากประเทศเพื่อนบ้านทางานอยใู่ นประเทศไทยเป็นจานวนมาก แม้ว่าไทยจะใชห้ ลกั การไมเ่ ลอื กปฏบิ ัติตอ่ คนไทย และแรงงานขา้ มชาตแิ ต่แรงงานขา้ มชาตยิ งั คงมีอุปสรรคต่อการเข้าถึงสิทธิ 35

ผลลพั ธ์ 2.1 แรงงานเปราะบางรวมทงั้ ผ้ทู ี่อยใู่ นเศรษฐกิจนอกระบบและแรงงานขา้ มชาติได้รับความคุ้มครองท่ีดีข้นึ ดว้ ยกรอบ สถาบนั นโยบาย และเครอ่ื งมือการปฏิบัติตามยทุ ธศาสตร์ทด่ี ขี นึ้ กลยุทธ์ของ ILO มีวัตถุประสงค์ในการผลักดันการคุ้มครองแรงงานให้กับทุกเพศสภาพ ผ่านการทางานร่วมกันและการสนับสนุนด้าน การเงินและด้านวิชาการท่ีสอดคล้องกับลาดับความสาคัญท่ีกาหนดไว้ในแผนฉบับนี้ โดย ILO จะให้การสนับสนุนทางวิชาการและการ พฒั นาขดี ความสามารถดงั ต่อไปน้:ี ผลลัพธ์ แรงงานทเ่ี ปราะบางรวมถงึ แรงงานข้ามชาติ ทง้ั ในประเทศไทยและอาเซียนไดร้ ับความคุ้มครองมากขน้ึ การเปลี่ยนแปลง คนทางานทกุ เพศสภาพไดร้ บั การ การคุ้มครองแรงงานของแรงงานข้าม การคุม้ ครองแรงงานขา้ มชาตทิ กุ เพศสภาพใน ท่คี าดวา่ จะ ปกป้องทีด่ ขี ึน้ โดยการพัฒนาการ ชาติทกุ เพศสภาพในอาเซียนเข้มแขง็ ขนึ้ ประเทศไทยดีขน้ึ โดยเป็นผลจากนโยบายทมี่ ีการ บังคับใชก้ ฎหมายทีเ่ กยี่ วขอ้ ง เน่ืองจากกลไกทางกฎหมายและทาง คานึงถึงเพศสภาพดขี นึ้ และความรูแ้ ละ ได้รบั จากการ สถาบัน ความสามารถของผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสยี ดีขนึ้ ทางานของ ILO เครอื่ งมอื ทสี่ อดคล้องกับ เครอ่ื งมอื ที่ กรอบกฎหมายและสถาบนั ที่ กิจกรรมการแบง่ ปันความรู้ท่ีเพมิ่ ขน้ึ ความเสี่ยงและกลยุทธ์การบรรเทา ยุทธศาสตร์เพื่อสง่ เสริม สอดคลอ้ งกับ เขม้ แข็งข้นึ เพื่อคุ้มครองสทิ ธิ และเอกสารในการกาหนดนโยบายเพือ่ ผลกระทบ การประยกุ ตใ์ ชก้ ฎหมายที่ ยุทธศาสตรเ์ พิ่มข้นึ แรงงานขา้ มชาติในประเทศไทย ส่งเสรมิ การคุม้ ครองแรงงานขา้ มชาติใน เพิม่ ขนึ้ ผ่านการรับรอง เพอ่ื ส่งเสริมการ ประเทศไทยท่เี พิ่มข้ึน • ทรัพยากรทางการเงนิ และบุคลากร ใหมใ่ นการให้การคมุ้ ครอง คุ้มครองแรงงาน ผลผลติ ท่ีสาคญั ผลผลติ ทส่ี าคญั ไม่เพียงพอทาใหบ้ ่อนทาลายการ แรงงานสาหรับแรงงาน สาหรับแรงงานขา้ ม -กฎหมายและข้อบงั คบั เกยี่ วกบั - การฝึกอบรม / อบรมเชิงปฎิบัติการ/ พฒั นาและการดาเนินการ นอกระบบเพม่ิ ข้ึน ชาติในอาเซยี น แรงงานข้ามชาติ หนง่ึ ฉบับ ฟอรัมเพ่อื เพิม่ ขดี ความสามารถของ (มาตรการบรรเทา: ใหม้ กี ารเจรจา ได้รับการทบทวนและพัฒนา รัฐบาลในระดบั ภมู ภิ าค ระดบั ประเทศ อย่างสม่าเสมอระหวา่ งหนว่ ยงานที่ ผลผลติ ท่สี าคญั ผลผลติ ที่สาคญั -จานวนที่เพ่มิ ขึน้ ของกิจกรรม และระดบั ทอ้ งถิน่ หุ้นส่วนทางสงั คม เก่ยี วข้องในการจัดหาทรัพยากร) -เอกสารแนวทางการ - มกี ารศึกษาการ การตรวจสอบท่จี ัดโดยองคก์ ร องค์กรสทิ ธิมนุษยชนสถาบนั ฝกึ อบรม • ความลา่ ชา้ ในการพัฒนาด้าน ดาเนินงานหนึ่งฉบับที่ เคลื่อนยา้ ยและคง ไตรภาคีและภาคประชาสงั คม ทกั ษะฝมี อื และภาคประชาสงั คม เพอ่ื เทคนคิ ทางการเงนิ และขีด พฒั นาขึ้นเพ่ืออานวยความ สทิ ธปิ ระโยชน์ - จานวนทเ่ี พมิ่ ขึ้นของนายจา้ ง ใชน้ โยบายท่ีคานงึ ถงึ ความแตกต่างทาง ความสามารถ (มาตรการบรรเทา: สะดวกในการบงั คบั ใช้ ประกันสังคมสาหรับ และหนว่ ยงานจัดหางาน ซึ่ง เพศสภาพ และบรกิ ารสาหรับแรงงาน ILO คน้ หาแหล่งเงินทนุ ทางเลือก กฎหมายคุ้มครองผรู้ ับงาน แรงงานข้ามชาติ ดาเนินการตามกฎหมายและ ขา้ มชาตทิ กุ เพศสภาพ รวมถึงความรว่ มมือระหว่าง ไปทาทีบ่ ้าน ระหว่างประเทศ ข้อบงั คบั - การวจิ ัย ชุดข้อมูลและแนวการปฏิบัติ South-South) -การฝกึ อบรมและการวจิ ัย สมาชิกอาเซยี น โดย - แรงงานขา้ มชาติเข้าถึงกลไก ท่ดี เี ก่ยี วกบั การยา้ ยถ่ินฐานดา้ นแรงงาน • การเปล่ยี นแปลงนโยบายทางการ เกยี่ วกับแนวทางการ การสนับสนนุ ดา้ น การแก้ไขปัญหาและร้องเรยี น ของสตรีและความรนุ แรงท่ีสตรอี พยพ เมอื งและประเด็นเนน้ ตลอดจนการ สง่ เสริมและคุ้มครองสิทธิ วชิ าการจาก ILO เพ่ิมมากขนึ้ ประสบและแผนงานต่าง ๆ เพอื่ การ เปลย่ี นกระบวนการทางการเมือง และการขยายขอบเขตการ พัฒนานโยบาย ของประเทศและขดี ความสามารถ ค้มุ ครองตามกฎหมาย ของภาคี (มาตรการบรรเทา: ILO คมุ้ ครองแรงงาน ดาเนินโครงการความร่วมมืออยา่ ง ตอ่ เนอ่ื งเพ่อื สนบั สนนุ การ ดาเนินงาน) แนวทางการดาเนินงานและการสนบั สนุนของไตรภาคี รวมถึงผลลพั ธ์ท่ีสาคญั 36

ตัวชว้ี ัด เป้าหมาย ตวั ชี้วัด 2.1.1 จานวนเครอ่ื งมอื ท่ีสอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตรเ์ พือ่ สง่ เสรมิ การใช้กฎหมายท่รี บั รอง เปา้ หมาย 2.1.1 (ก) เอกสารแนวทางการดาเนินงานอย่างน้อย 1 ฉบบั ท่ี ใหม่ ในการคุ้มครองแรงงานสาหรับแรงงานนอก พฒั นาขึ้นเพ่ืออานวยความสะดวกในการบังคบั ใช้กฎหมายคมุ้ ครองผรู้ ับงาน ระบบ ไปทาทบ่ี ้าน เชน่ แบบสัญญาจา้ งมาตรฐาน แนวทางในการคานวณ คา่ ตอบแทนรายชน้ิ การสง่ เสรมิ เรอ่ื งอาชีวอนามัย และการเจรจาหารือ ตวั ชี้วัด 2.1.2 จานวนเครอ่ื งมอื ที่สอดคล้องกับกล สาหรบั การดาเนนิ งานท่ัวประเทศ ภายในปี 2564 ยุทธ์เพือ่ ส่งเสรมิ การคุม้ ครองแรงงานสาหรบั แรงงานข้ามชาติในอาเซยี น เปา้ หมาย 2.1.1 (ข) การฝกึ อบรมอยา่ งนอ้ ยหนึง่ คร้งั และการค้นคว้าวจิ ยั ตัวช้วี ัด 2.1.3 จานวนกฎหมาย / กฎระเบียบ เกยี่ วกบั แนวปฏบิ ัติการสง่ เสรมิ และคมุ้ ครองสิทธแิ ละการขยายขอบเขตการ เก่ียวกับการโยกย้ายถ่นิ ฐานด้านแรงงานทเี่ ปน็ คุ้มครองภายใตก้ ฎหมายคุ้มครองแรงงาน ภายในปี 2564 ธรรม และการตดิ ตามการปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บ เพ่ือเสริมสรา้ งกลไกการบริหารและเพ่อื สง่ เสรมิ เป้าหมาย 2.1.2 (ก) มกี ารศึกษาการเคลื่อนยา้ ยและคงสทิ ธปิ ระโยชน์ การคมุ้ ครองสิทธขิ องแรงงานขา้ มชาตใิ นประเทศ ประกันสงั คมสาหรบั แรงงานขา้ มชาตริ ะหวา่ งประเทศสมาชกิ อาเซยี น อย่าง ไทย นอ้ ย 1 งาน ภายในปี 2564 ตัวชว้ี ดั 2.1.4 จานวนกิจกรรมการแลกเปล่ียน เปา้ หมาย 2.1.3 (ก) กฎระเบียบดา้ นแรงงานในภาคอตุ สาหกรรมท่ีมกี ารใช้ ความรู้ที่เพ่ิมข้ึนและเอกสารในการกาหนดนโยบาย แรงงานอย่างเขม้ ขน้ (labour intensive) อย่างนอ้ ยหน่ึง 1 ฉบับไดร้ ับการ เพ่อื สง่ เสรมิ การคุ้มครองแรงงานข้ามชาติใน ทบทวนและพฒั นาเพือ่ ส่งเสรมิ การคุม้ ครองสิทธิแรงงานไทยและแรงงานข้าม ประเทศไทย ชาติทกุ เพศสภาพภายในปี 2564 เปา้ หมาย 2.1.3 (ข) กจิ กรรมการตดิ ตามทีเ่ พมิ่ ขน้ึ จัดขึ้นโดยองคก์ รไตรภาคที ่ี เกีย่ วขอ้ งในการจัดหาและการคมุ้ ครองแรงงานข้ามชาตใิ นประเทศไทยอยา่ ง นอ้ ย 3 กจิ กรรม ภายในปี 2564 เปา้ หมาย 2.1.3 (ค) ภายในปี 2564 มีแรงงานขา้ มชาติจานวน 4,500 คนจาก ทุกเพศสภาพเพ่อื เพมิ่ การเขา้ ถึงกลไกการให้คาปรกึ ษาและกลไกการร้องทุกข์ ผา่ นศูนยข์ ้อมลู ยา้ ยถ่ิน (Migrant Resource Centres: MRCs) เปา้ หมาย 2.1.3 (ง) ภายในปี 2564 เพิ่มการเขา้ ถงึ ข้อมลู ทเี่ กย่ี วกบั กลไกการร้อง ทกุ ขแ์ ละข้นั ตอนท่ีเก่ยี วขอ้ งในภาษาของแรงงานข้ามชาตทิ คี่ านึงถงึ ความ แตกต่างทางเพศเพ่ือปรบั ปรุงการเข้าถงึ และชว่ ยแก้ไขปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ ผ่าน ศนู ย์ขอ้ มลู ย้ายถน่ิ (Migrant Resource Centres: MRCs) เปา้ หมาย 2.1.4 (ก) การฝกึ อบรม / การอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร/ ฟอรั่ม อยา่ ง น้อยหน่ึงครง้ั เพอ่ื เพม่ิ ขีดความสามารถของรฐั บาลระดับภมู ภิ าค ระดับประเทศ และระดับทอ้ งถิ่น หุ้นสว่ นทางสังคม องค์กรสิทธมิ นษุ ยชน สถาบนั ฝกึ ทักษะฝีมือ และภาคประชาสงั คม เพอ่ื ใช้นโยบายและบรกิ ารท่ีมี การคานึงถึงความแตกตา่ งในดา้ นเพศสภาพของแรงงานข้ามชาติ ภายในปี 2564 เปา้ หมาย 2.1.4 (ข) ภายในปี 2564 มกี ารวจิ ัยข้อมลู และแนวปฏบิ ตั ิทีด่ เี ก่ียวกบั ย้ายถ่นิ ของสตรีและความรุนแรงท่สี ตรยี ้ายถน่ิ ประสบอยา่ งน้อย 3 ช้ินเพ่ือ พัฒนานโยบายและแผนงานต่าง ๆ 37

สมมตฐิ าน ความเส่ยี ง ระดบั ความ มาตรการบรรเทา เสยี่ ง ไตรภาคีในระดบั ชาติ • ทรัพยากรทางการเงนิ และบคุ ลากรไม่ • ให้มีการเจรจาอยา่ งสม่าเสมอ มคี วามความเข้าใจ เพียงพอทาให้บอ่ นทาลายการพัฒนา ระดับกลาง ระหวา่ งหนว่ ยงานที่เกยี่ วขอ้ งใน และมุ่งมน่ั ในการ และการดาเนนิ การ การจัดหาทรพั ยากร นาไปใช้ในทุกระดบั ระดบั กลาง เพื่อส่งเสริมสิทธิ • ความลา่ ช้าในการพฒั นาด้านเทคนิค • ILO คน้ หาแหล่งเงนิ ทุนทางเลือก แรงงานในเศรษฐกิจ ทางการเงินและขีดความสามารถตามท่ี ระดบั กลาง รวมถึงความรว่ มมอื ระหว่าง นอกระบบและ ตกลงไว้ South-South แรงงานขา้ มชาติ • เปลย่ี นความมงุ่ ม่นั จากทางการเมอื ง • ILO เพ่ือดาเนนิ โครงการความ และจุดความสนใจและการเปล่ียน รว่ มมอื เพือ่ การพัฒนาเพื่อ กระบวนการทางการเมืองระดับชาติ สนับสนนุ การดาเนนิ งาน และขดี ความสามารถของภาคี ผลลพั ธ์ 2.2 การทางานในรูปแบบการทางานที่ไมเ่ ปน็ ท่ยี อมรบั โดยเฉพาะแรงงานเดก็ แรงงานบงั คบั และการคา้ มนษุ ยล์ ดลง จากการ ดาเนินไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ กลยทุ ธ์ของ ILO คอื การรักษาแรงผลักดันในการลดการทางานในรูปแบบที่ไมเ่ ป็นท่ียอมรับ รวมท้ังการดาเนินการตาม นโยบายและแผนระดับชาติเพ่ือขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย (National Policy and Plan to Eliminate the Worst Forms of Child Labour: NPA-WFCL) และโครงการรณรงค์และโครงการต่าง ๆเพื่อขจัด แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ นอกจากนี้กลยุทธ์ของ ILO คือการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เป็น รากฐานของการบังคบั ใชก้ ฎหมาย 38

คนที่อยใู่ นประเทศไทยทุกเพศสภาพทอี่ ยภู่ ายใต้การทางานในรปู แบบทไี่ มเ่ ป็นทย่ี อมรบั ลดลง โดยเฉพาะอย่างยง่ิ แรงงานเด็ก ผลลัพธ์ แรงงานบังคบั และการคา้ มนุษย์ การเปล่ยี นแปลง การใชแ้ รงงานเด็กลดลงเปน็ ผลมา ลดจานวนคนของทกุ เพศสภาพท่เี ปน็ คนงานทุกเพศสภาพไดร้ ับการปกป้องจากการทางานในรูปแบบทีไ่ มเ่ ปน็ ที่ ทคี่ าดวา่ จะ จากกรอบนโยบายและแผนงานที่ แรงงานบงั คับโดยนโยบายและกฎระเบียบ ยอมรบั มากขนึ้ โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารขององคก์ ร ได้รับจากการ ได้รับการปรับปรงุ ที่ได้รบั การปรบั ปรุง ไตรภาคี หนว่ ยงานระดับประเทศและหุ้นสว่ นทางสังคม เพ่ือคมุ้ ครองแรงงาน ทางานของ ILO จากการทางานในรปู แบบท่ีไม่เปน็ ทย่ี อมรับ โดยใช้ฐานข้อมูลและหลกั ฐาน การเปลย่ี นแปลง เชงิ ประจักษ์ สนับสนนุ โดยเครอื่ งมือเชงิ นโยบายทีม่ จี านวนมากขนึ้ ทค่ี าดวา่ จะ แผนงานแห่งชาตเิ พื่อขจัด นโยบายทีค่ านงึ ถงึ ความแตกต่างของเพศ เพ่มิ การเข้าถงึ ของเคร่ืองมอื ทางนโยบายทค่ี านึงถงึ เพศ ความเส่ยี งและกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบ การใชแ้ รงงานเด็กในรปู แบบ สภาพได้ รับการทบททวนและสร้ างความ สภาพและจานวนกจิ กรรมการแบง่ ปันความรู้และ • ทรัพยากรทางการเงินและบคุ ลากรไม่เพียงพอ ท่ีเลวรา้ ยและประเภทงาน มนั่ ใจในการขจดั แรงงานบงั คบั จานวนโครงการริเร่ิมต่าง ๆเพ่อื สง่ เสริมการค้มุ ครอง อนั ตรายสาหรับแรงงานเดก็ แรงงานข้ามชาตใิ นประเทศไทย ทาให้บอ่ นทาลายการพฒั นาและการ ได้รับการทบทวน ผลผลิตท่สี าคญั ดาเนินการ (มาตรการบรรเทา: ให้มกี ารเจรจา - กฎหมายระดบั ชาตซิ ง่ึ มวี ตั ถปุ ระสงค์ใน ผลผลิตท่สี าคญั อย่างสมา่ เสมอระหว่างหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง ผลผลิตที่สาคัญ การนิยาม และขจดั แรงงานบงั คบั ได้รับ -ฐานข้อมลู ที่พฒั นาและสร้างขนึ ้ โดยมีเปา้ หมายเพ่อื ในการจดั หาทรัพยากร) - นโยบายและแผนงาน การรับรองและสง่ เสริม เสริมสร้างขดี ความสามารถในการติดตามและ • การเปล่ยี นแปลงนโยบายทางการเมืองและ แห่งชาติเพื่อขจดั การใช้ - จานวนกิจกรรมการเฝา้ ติดตามทเี่ พิ่มขนึ ้ ตรวจสอบคดตี ลอดกระบวนการ ประเด็นเน้น ตลอดจนการเปลีย่ นกระบวนการ แรงงานเด็กในรปู แบบที่ จะถกู จดั โดยองค์กรไตรภาคีทเี่ ก่ยี วข้อง - มีการตพี ิมพ์เอกสาร / วิเคราะห์เอกสารวชิ าการ ทางการเมืองของประเทศและขีด เลวร้าย (NPA-WFCL) ได้รบั - โครงการ GLP ได้ดาเนนิ การในภาค เก่ยี วกบั แรงงานเดก็ และแรงงานบงั คบั เพ่มิ ขนึ ้ ความสามารถของภาคี (มาตรการบรรเทา: การประเมนิ ดาเนินการและ ประมงด้วยกลไกการระงบั ข้อพิพาทที่มี - เพมิ่ จานวนหน่วยงานระดบั ชาติและผ้มู สี ว่ นได้สว่ น ใช้เป็นขอ้ มลู เพื่อพัฒนา ประสทิ ธิภาพและเพิ่มความตระหนกั รู้และ เสยี ทแ่ี สดงถงึ ศกั ยภาพท่ีเข้มแขง็ ในการระบุ ติดตาม ILO ดาเนนิ โครงการความร่วมมืออย่าง NPA-WFCL ฉบบั ถัดไป เป็นเจ้าของ ตลอดกระบวนการผลติ ใน และตอบสนองตอ่ แรงงานเด็ก แรงงานบงั คบั และ ต่อเน่ืองเพื่อสนบั สนนุ การดาเนินงาน) - ประเภทงานอนั ตราย ห่วงโซ่อปุ ทาน การค้ามนษุ ย์ โดยใช้การวิเคราะห์ / เอกสารวิชาการที่ สาหรับแรงงานเด็กใน - สถานประกอบการตระหนกั ถงึ การใช้ เผยแพร่ รูปแบบทเี่ ลวร้ายของ โครงการ GLP ด้วยความร่วมมือแบบ - รูปแบบการแทรกแซงในการปอ้ งกนั และเลกิ จ้าง ประเทศไทยได้รบั การ ไตรภาคี ในภาคประมง แรงงานเดก็ แรงงานบงั คับ และการค้ามนษุ ย์ใน ทบทวนเพ่มิ ประสิทธภิ าพ - เพิ่มความตระหนกั ในเร่ืองแรงงานเด็ก ภาคอตุ สาหกรรมหนง่ึ ได้ดาเนินการและจดั ทาเป็น จดั หางานและนโยบาย แรงงานบงั คับ การค้ามนษุ ย์ และภยั เอกสารเพือ่ ทาซา้ การจ้างงานที่มคี วามเพ่ิม คกุ คามทีเ่ ก่ยี วข้อง แนวทางการดาเนินงานและการสนบั สนนุ ของไตรภาคี รวมถงึ ผลลัพธ์ทส่ี าคญั ตวั ช้วี ัด เปา้ หมาย ตวั ชี้วดั 2.2.1 จานวนของนโยบาย เปา้ หมาย 2.2.1 (ก) ภายในปี 2564 นโยบายและแผนระดบั ชาติเพอ่ื ขจัดการใชแ้ รงงานเดก็ ใน / ข้อบงั คบั /โครงการเกี่ยวกับการ รปู แบบที่เลวรา้ ยได้รับการประเมนิ ดาเนนิ การและใช้เป็นขอ้ มูลเพอื่ พฒั นา NPA ฉบบั ถัดไป ขจัดการใชแ้ รงงานเด็กโดย โดยมกี ารสนบั สนุนด้านวิชาการจาก ILO คานึงถึงความแตกต่างของเพศ สภาพไดร้ บั การพัฒนา ปรบั ปรุง เป้าหมาย 2.2.2 (ข) ภายในปี 2564 ประเภทงานอนั ตรายสาหรับแรงงานเดก็ ในรปู แบบที่ และดาเนนิ การเพอื่ ขจดั แรงงาน เลวร้ายของประเทศไทย อยา่ งน้อยหน่งึ รายการ ไดร้ ับการทบทวน และแกไ้ ข โดยไดร้ บั การ บงั คับ สนับสนุนด้านวิชาการจาก ILO 39

ตวั ชี้วัด เปา้ หมาย ตัวชี้วัด 2.2.2 จานวนของนโยบาย เปา้ หมาย 2.2.2 (ก) กฎหมายซงึ่ มีจดุ มงุ่ หมายในการระบคุ วามสาคญั และขจัดแรงงานบงั คับ / ข้อบังคับทไี่ ด้รบั การพฒั นาและ ได้รับการรับรองและส่งเสริม ภายในปี พ. ศ. 2564 โดยไดร้ บั การสนบั สนุนด้านวชิ าการจาก ทบทวน / โครงการรเิ ร่ิมต่างๆ ILO เพ่อื ขจดั การแรงงานบังคบั โดย เปา้ หมาย 2.2.2 (ข) ภายในปี 2564 โครงการแนวปฏิบัติการใชแ้ รงงานทด่ี ีในภาคประมงได้ คานงึ ถึงความแตกต่างของเพศ ดาเนนิ การพรอ้ มดว้ ยกลไกการระงับขอ้ พิพาทท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพและเพม่ิ ความตระหนกั รแู้ ละ สภาพ เปน็ เจา้ ของตลอดกระบวนการผลติ ในห่วงโซอ่ ปุ ทาน เปา้ หมาย 2.2.2 (ค) อยา่ งน้อย 100 นายจา้ ง / สถานประกอบการ รับทราบการใช้โครงการ GLP ในภาคการประมงด้วยความรว่ มมือแบบไตรภาคีภายในปี 2564 เป้าหมาย 2.2.2 (ง) อย่างนอ้ ย 18,000 คนในทุกระดบั ของสงั คมไดเ้ พมิ่ ความตระหนักรเู้ ร่ือง แรงงานเด็ก แรงงานบังคบั การคา้ มนุษย์และภัยคกุ คามทเ่ี กีย่ วข้องภายในปี 2564 ผา่ นการ ประชมุ เชิงปฏิบตั ิการและการฝึกอบรมท่ีจัดโดยไตรภาคี ตัวชี้วดั 2.2.3 จานวนนโยบาย เป้าหมาย 2.2.3 (ก) ฐานข้อมลู หนง่ึ ฐานที่พฒั นาขนึ้ และต้ังขึน้ เพ่อื เพิ่มขีดความสามารถใน เครื่องมอื การวิจัย และการ การตดิ ตามและสอบสวนคดตี ลอดกระบวนการ โดยคานึงถงึ ความพิเศษของแรงงานบังคบั แทรกแซงต่าง ๆ เพ่อื การกาหนด แรงงานเดก็ และการค้ามนษุ ย์และคานึงถงึ ความแตกต่างของเพศสภาพ นโยบายท่ีคานึงถึงความแตกต่าง เปา้ หมาย 2.2.3 (ข) เอกสารวิเคราะห์ / เอกสารวชิ าการเกยี่ วกบั แรงงานเด็กอยา่ งน้อย 3 ของเพศสภาพ เพอื่ เพิม่ ขดี ความสามารถขององคก์ รไตรภาคี ฉบับท่ีจดั ทาขึ้นและใช้ในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ และสนับสนนุ การตดั สนิ ใจด้านนโยบาย หนว่ ยงานระดับประเทศ และ หุ้นสว่ นทางสังคมเพอื่ ปกป้อง ท่เี กย่ี วข้อง แรงงานจากรปู แบบการทางานท่ี ไม่เป็นทย่ี อมรบั โดยใชฐ้ านข้อมูล เปา้ หมาย 2.2.3 (ค) มีการวเิ คราะห์ / เอกสารวิชาการเกี่ยวกบั แรงงานบังคบั อย่างนอ้ ย 3 และหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ฉบบั ซึ่งจดั ทาขึ้นและใช้สาหรบั การพัฒนาโครงการและสนับสนุนการตัดสนิ ใจดา้ นนโยบาย ท่ีเกี่ยวขอ้ ง เปา้ หมาย 2.2.3 (ง) อยา่ งน้อย 100 คนของสถาบนั ในระดบั ชาติและผมู้ ีส่วนไดเ้ สยี แสดงถงึ ศักยภาพทเี่ ขม้ แข็ง เพือ่ การระบุ ตดิ ตาม และตอบสนองต่อแรงงานเดก็ แรงงานบังคับและ การค้ามนุษย์ ซึ่งพัฒนาโดยผา่ นโดยใชเ้ อกสารการวเิ คราะห์ / เอกสารทต่ี ีพิมพ์ เปา้ หมาย 2.2.3 (จ) มรี ูปแบบการแทรกแซงอย่างนอ้ ยหนึง่ รปู แบบในการปอ้ งกันและขจดั แรงงานเดก็ แรงงานบังคับ และการค้ามนษุ ยใ์ นภาคอุตสาหกรรมหน่งึ มกี ารดาเนนิ การและ จัดทาเป็นเอกสารเพ่อื ทาซ้าต่อไป สมมตฐิ าน ความเสี่ยง ระดบั ความ มาตรการบรรเทา เสยี่ ง ไตรภาคีในระดบั ชาติ • ทรพั ยากรทางการเงนิ และบคุ ลากรไม่ • ใหม้ กี ารเจรจาอย่างสม่าเสมอ มีความความเขา้ ใจ เพียงพอทาใหบ้ ่อนทาลายการพัฒนา ระดบั กลาง ระหว่างหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องใน และมุ่งมั่นในการ และการดาเนนิ การ การจัดหาทรพั ยากร แก้ปัญหาแรงงานเด็ก ระดับกลาง แรงงานบังคับ และ • เปลยี่ นความมงุ่ มั่นจากทางการเมอื ง • ILO เพอ่ื ดาเนินโครงการความ การค้ามนษุ ย์ และจดุ ความสนใจและการเปล่ียน ร่วมมือเพ่ือการพฒั นาเพื่อ กระบวนการทางการเมอื งระดับชาติ สนบั สนุนการดาเนนิ งาน และขีดความสามารถของภาคี 40

ผลลพั ธ์ 2.3 การปฏิบตั ิตามมาตรฐานความปลอดภัยและอาชวี อนามยั มีความเข้มแข็งขึ้น อันเนื่องมาจากการเพ่มิ ขีด ความสามารถในการตรวจแรงงานเพื่อเสรมิ สร้างสภาพการทางานทมี่ ีคณุ คา่ คนทางานมสี ภาพแวดล้อมท่ีปลอดภัยย่ิงข้นึ โดยการลดการบาดเจบ็ จากการทางานและความเจบ็ ป่วย ผลลัพธ์ จากการทางาน การเปล่ียนแปลง มีการปรับปรุงมาตรฐานความ การปรับปรุงอาชีวอนามยั และความปลอดภยั ในการทางานเป็น ที่คาดวา่ จะ ปลอดภยั และอาชีวอนามยั โดยการ ผลมาจากความสามารถในการตรวจแรงงานและการวาง ไดร้ ับจากการ สร้างความเข้มแข็งให้กบั แผนและ แผนการปฏบิ ตั ติ ามกลยุทธ์ทีเ่ พม่ิ ขนึ ้ ทางานของ ILO ความร่วมมอื ไตรภาคี สนบั สนนุ การเสริมสร้างความสอดคล้องกบั สนบั สนนุ การเพมิ่ เครื่องมือทส่ี อดคล้องกบั ยทุ ธศาสตร์ ความเส่ยี งและกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบ มาตรฐานความปลอดภยั และอาชีวอนามยั เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจแรงงาน • ทรัพยากรทางการเงินและบคุ ลากรไม่เพียงพอ และเพมิ่ ขีดความสามารถในการตรวจสอบ ทาให้บอ่ นทาลายการพฒั นาและการ แรงงานเพื่อเสริมสร้ างสภาพการทางานท่ีมี ผลผลติ ท่สี าคญั ดาเนนิ การ (มาตรการบรรเทา: ให้มกี ารเจรจา \\ คณุ คา่ - คมู่ ือ / เอกสารเพ่ือเสริมสร้างการตรวจแรงงานให้ อย่างสมา่ เสมอระหว่างหน่วยงานทเี่ ก่ียวข้องใน สอดคล้องกบั มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศท่ี การจดั หาทรัพยากร) ผลผลติ ท่สี าคัญ ได้รับการพฒั นาและนาไปใช้โดยเน้นการปรับปรุง - แผนปฏิบตั กิ าร แผนแมบ่ ทความ การวางแผนการปฏิบตั ติ ามยทุ ธศาสตร์ โดยได้รับ • ความลา่ ชา้ ในการพฒั นาด้านเทคนคิ ทาง ปลอดภยั อาชีวอนามยั และ การสนบั สนนุ ด้านวชิ าการจาก ILO การเงนิ และขีดความสามารถ (มาตรการ สภาพแวดล้อมในการทางานแหง่ ชาติ - เอกสารการฝึกอบรมสาหรับพนกั งานตรวจแรงงาน บรรเทา: ILO ค้นหาแหลง่ เงินทนุ ทางเลือก ฉบบั ท่ี 2 เพื่อสง่ เสริมการพฒั นาด้าน / โครงการฝึกอบรมเจ้าหน้าท่ีทีพ่ ฒั นาขนึ ้ โดยได้รับ รวมถึงความร่วมมือระหว่าง South-South) ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และ การสนบั สนนุ ด้านวิชาการของ ILO โดยมีการ สภาพแวดล้อมในการทางานอย่างมี คานงึ ถงึ ความแตกตา่ งของเพศสภาพ • การเปลีย่ นแปลงนโยบายทางการเมอื งและ ประสทิ ธิภาพและยงั่ ยืน โดยได้รับการ ประเดน็ เน้น ตลอดจนการเปลย่ี นกระบวนการ ประเมนิ และพฒั นาให้เหมาะสมกบั ทกุ ทางการเมอื งของประเทศและขีดความสามารถ เพศสภาพ โดยได้รับความร่วมมือจาก ไตรภาคีและการสนบั สนนุ ด้านวชิ าการ ของภาคี (มาตรการบรรเทา: ILO ดาเนนิ ของ ILO เพ่ือให้เป็นไปตาม โครงการความร่วมมืออย่างต่อเนือ่ งเพ่ือ มาตรฐานสากลภายใต้ ILO C187 สนบั สนนุ การดาเนนิ งาน) • การบงั คบั ใช้กฎหมายแรงงานท่ีถกู บ่อนทาลาย เนอื่ งจากการไม่รู้และไม่ตระหนกั ถงึ กฎหมายย โดยเฉพาะอย่างย่ิงในกลมุ่ แรงงานนอกระบบ และแรงงานเปราะบาง (มาตรการบรรเทา: ILO สนบั สนนุ การใช้มาตรการด้านความ ปลอดภยั และอาชีวอนามยั แก่แรงงานท่ีทางาน ในภาคนอกระบบและแรงงานเปราะบางอ่นื ๆ ) แนวทางการดาเนินงานและการสนบั สนุนของไตรภาคี รวมถึงผลลพั ธ์ท่ีสาคญั 41

ตวั ชวี้ ัด เปา้ หมาย ตวั ชี้วดั 2.3.1 จานวนนโยบายและการรเิ ริม่ ที่ เปา้ หมาย 2.3.1 (ก) ในปี 2564 แผนปฏิบตั กิ าร แผนแม่บทความปลอดภยั อาชี จะเสริมสร้างความสอดคล้องกับมาตรฐาน วอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางานแห่งชาติ ฉบบั ที่ 2 เพอ่ื สง่ เสริมใหม้ ี ความปลอดภยั และอาชวี อนามยั และการ การพฒั นาดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน ขยายความคมุ้ ครองไปสทู่ ้องถนิ่ และชนบท อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและยัง่ ยืน ไดร้ บั การประเมินและพัฒนาเพอ่ื ทุกเพศสภาพ โดยได้รบั ความรว่ มมอื จากไตรภาคแี ละการสนับสนุนด้านเทคนคิ ของ ILO ตาม ตวั ชี้วัด 2.3.2 จานวนเคร่ืองมือท่สี อดคล้องกบั มาตรฐานสากล ILO C187 ยุทธศาสตร์ เพือ่ เพม่ิ ขีดความสามารถในการ ตรวจแรงงาน เปา้ หมาย 2.3.2 (ก) มชี ดุ คูม่ ือ / เอกสารการอบรมอยา่ งน้อยหนึ่งชุดเพือ่ เพ่ิม ความเข้มแขง็ ของตรวจแรงงานทสี่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานแรงงานระหวา่ ง ประเทศทไี่ ดร้ ับการพฒั นาและนาไปใชจ้ รงิ โดยเน้นการปรับปรุงการวาง แผนการปฏิบัตติ ามยทุ ธศาสตรด์ ้วยการสนับสนุนทางวชิ าการของ ILO เปา้ หมาย 2.3.2 (ข) ภายในปีพ. ศ. 2564 มีการจดั ฝกึ อบรมอย่างน้อยหนง่ึ เร่ือง สาหรับพนักงานตรวจแรงงาน/เจ้าหนา้ ที่ โดยได้รับการสนบั สนุนดา้ นวชิ าการ จาก ILO โดยมกี ารคานึงถึงความแตกต่างของเพศสภาพ สมมตฐิ าน ความเสีย่ ง ระดับความ มาตรการบรรเทา เสีย่ ง ไตรภาคีในระดับชาตมิ ี ทรพั ยากรทางการเงนิ และบคุ ลากร ใหม้ ีการเจรจาอยา่ งสมา่ เสมอระหว่าง ความความเขา้ ใจและ ไมเ่ พยี งพอทาให้บ่อนทาลายการ ระดับกลาง หนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้องในการจดั หา มงุ่ ม่นั ในประเด็นเร่ือง พัฒนาและการดาเนินการ ทรัพยากร ความปลอดภัยของอาชวี ความล่าชา้ ในการพฒั นาดา้ นเทคนคิ ระดบั กลาง ILO ค้นหาแหล่งเงินทนุ ทางเลอื ก อนามยั และความปลอดภัย ทางการเงินและขีดความสามารถ รวมถึงความรว่ มมือระหว่าง South- ในการทางาน ตามที่ตกลงไว้ ระดับกลาง South เปล่ียนความมุ่งมนั่ จากทางการเมอื ง ILO เพ่ือดาเนนิ โครงการความร่วมมอื ในบริบทของเศรษฐกจิ ที่ และจดุ ความสนใจและการเปลี่ยน สงู เพื่อการพฒั นาเพือ่ สนับสนนุ การ พัฒนาอยา่ งรวดเรว็ และ กระบวนการทางการเมืองระดบั ชาติ ดาเนนิ งาน การขยายตลาดแรงงาน และขดี ความสามารถของภาคี การจดั การกับประเดน็ ด้าน การบงั คบั ใช้กฎหมายแรงงานทถ่ี กู ILO สนับสนนุ การใชม้ าตรการดา้ น ความปลอดภัยและอาชวี อ บอ่ นทาลายเน่อื งจากการไมร่ ู้และไม่ ความปลอดภยั ดา้ นอาชวี อนามัยแก่ นามยั จะเพ่ิมขึน้ ตระหนกั ถึงกฎหมายโดยเฉพาะอยา่ ง แรงงานในภาคนอกระบบและแรงงาน ยิ่งในกลุ่มแรงงานนอกระบบและ เปราะบางอืน่ ๆ แรงงานเปราะบาง ความสาคัญที่ 3: เสริมสร้างการกากบั ดูแลตลาดแรงงานใหส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ ความรว่ มมอื ไตรภาคีทม่ี ปี ระสิทธภิ าพและการเจรจาทางสงั คมระหว่างผูแ้ ทนไตรภาคีเป็นรากฐานของการดาเนินงานของ DWCP ในทกุ ๆ ผลลัพธ์ ความร่วมมอื ระหวา่ งไตรภาคีและโครงสร้างการเจรจาทางสงั คมในประเทศไทยมีรากฐานท่ดี แี ละสามารถเสรมิ สร้างศักยภาพใหด้ ี ย่ิงขนึ้ ได้ สอดคล้องกบั ลาดบั ความสาคัญในระดับชาติ การสนบั สนุนดา้ นวชิ าการและการพัฒนาขดี ความสามารถของ ILO ภายใต้ DWCP ในประเด็นทม่ี คี วามเช่อื มโยงกัน 42

ผลลพั ธ์ 3.1 ความสามารถขององคก์ รไตรภาคมี คี วามเขม้ แข็งข้ึน ในการสรา้ งและมอี ทิ ธิพลตอ่ นโยบาย ใหส้ อดคลอ้ งกับ มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ ความเหน็ และขอ้ มลู ที่มีประสิทธิภาพขององค์กรนายจ้างและองค์กรลกู จ้างเปน็ องคป์ ระกอบสาคญั ในการเสรมิ สร้างความเข้มแข็งและ การดาเนนิ การตามนโยบายระดับชาติและกรอบการกากับดูแล เพอื่ ส่งเสรมิ การทางานที่มีคณุ คา่ และมีประสทิ ธิผล และส่งเสริมแรงงาน สมั พนั ธ์ทด่ี ีขึ้นสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานสากล ดังนนั้ กลยุทธ์ DWCP หลักคอื การเสรมิ สร้างความสามารถของกลมุ่ คนในไตรภาคีเพ่ือ เสรมิ สรา้ งและ / หรือมอี ิทธพิ ลต่อนโยบายตา่ ง ๆ 43

ผลลัพธ์ การพฒั นา การนาไปปฏบิ ัติ และผลกระทบของนโยบายระดับชาติมีประสิทธิภาพมากข้ึน และสอดคล้องกบั มาตรฐาน แรงงานระหวา่ งประเทศ อนั เป็นผลมาจากการมสี ว่ นร่วมของไตรภาคีท่ีมีประสทิ ธภิ าพ การเปลย่ี นแปลง ทคี่ าดวา่ จะ ความร่วมมอื ไตรภาคีมคี วามเข้มแขง็ ขน้ึ เนอื่ งจาก เสริมสร้างผลงานท่ีดีและนโยบายแรงงานสมั พนั ธ์อนั เป็น ได้รับจากการ ความสามารถที่เพม่ิ ขน้ึ ของรฐั บาล องคก์ รนายจา้ งและ ผลมาจากความสามารถที่เพ่มิ ขนึ ้ ของไตรภาคีในการสร้าง ทางานของ ILO และ / หรือมอี ทิ ธิพลตอ่ นโยบายสอดคล้องกบั มาตรฐาน องค์กรลูกจ้าง แรงงานระหวา่ งประเทศ การสนบั สนนุ การ สนับสนนุ การเสรมิ สรา้ งขดี ความสามารถขององคป์ ระกอบ ความเสีย่ งและกลยุทธ์การบรรเทาผลกระทบ เสรมิ สรา้ งขีด ไตรภาคีเพื่อสรา้ งและ / หรือมีอิทธิพลต่อนโยบายท่ี • ทรพั ยากรทางการเงนิ และบคุ ลากรไมเ่ พยี งพอทาให้บอ่ นทาลายการ ความสามารถของ สอดคล้องกบั มาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ พฒั นาและการดาเนินการ (มาตรการบรรเทา: ใหม้ กี ารเจรจาอยา่ ง องค์กรภาครัฐ องค์กร สม่าเสมอระหวา่ งหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการจดั หาทรพั ยากร) นายจ้างและองค์กร ผลผลิตทส่ี าคัญ • การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมอื งและประเดน็ เนน้ ตลอดจนการ ลกู จ้างให้มสี ่วนรว่ มใน - เอกสารเกีย่ วกบั ความสาเรจ็ ของนายจ้างทม่ี ีแรงงาน เปลี่ยนกระบวนการทางการเมอื งของประเทศและขดี ความสามารถของ การทางานร่วมกนั แบบ ภาคี (มาตรการบรรเทา: ILO ดาเนนิ โครงการความรว่ มมืออยา่ งตอ่ เนื่อง ไตรภาคี สัมพนั ธ์ท่ีดใี นการสร้างความสัมพันธ์ทางด้านแรงงาน เพอ่ื สนับสนนุ การดาเนนิ งาน) ผลผลติ ท่ีสาคญั กบั มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ • การขาดการบูรณาการที่ครอบคลมุ ของ (1) ไมค่ ลอบคลมุ นายจา้ งใน - การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั ิการ การอภปิ รายและการ ระดับประเทศและ (2) การมีสว่ นร่วมในการเป็นสมาชกิ ทไ่ี มแ่ ขง็ ขนั -การเสรมิ สรา้ ง แบ่งปนั ความร้ทู ีจ่ ัดขึ้นโดยผู้แทนไตรภาคกี บั ILO เพ่ือ ทาลายผลงานของนายจา้ งในการดาเนนิ งาน (มาตรการบรรเทา: การ ศักยภาพของ แบง่ ปนั แนวทางปฏบิ ตั ทิ ่ดี ี(Best practice) และสร้าง สนับสนนุ ด้านวชิ าการและการพฒั นาขีดความสามารถของ ILO ในการ ผู้บรหิ าร ความตระหนักเกย่ี วกับ ILO องค์กรนายจา้ งและ พฒั นาความสามารถในการให้บรกิ ารสมาชกิ และขยายสมาชิกภาพของ ระดบั กลางและ องคก์ รลูกจ้างโดยมีการจดั เกบ็ ข้อมูลท่ีแยกตามเพศ นายจา้ ง) เจ้าหนา้ ท่รี ะดับสงู สภาพได้และรวมถึงการคานึงถึงเพศสภาพ • การขาดความครอบคลมุ ของลกู จ้างทัว่ ทกุ ภาคส่วนอตุ สาหกรรมทัว่ -การเสริมสรา้ ง - เพ่ิมความรูแ้ ละความเข้าใจในกลไกการตรวจสอบของ ประเทศมผี ลกระทบตอ่ (i) มสี ่วนรว่ มในการดาเนนิ การและ (ii) ศักยภาพของ ILO ระหวา่ งไตรภาคีและหนุ้ สว่ นทางสงั คมใน ความสามารถในการปกป้องสทิ ธแิ ละเงอ่ื นไขของแรงงานในบริบทของ สมาชิกองคก์ ร ระดับประเทศและระดบั ภูมภิ าค การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ อย่างรวดเร็ว นายจ้างและ • ความลา่ ชา้ ในการใหก้ ารสนบั สนนุ ดา้ นเทคนิค การสนับสนุนทางการเงนิ องคก์ รลูกจา้ ง และการพฒั นาขีดความสามารถ เพ่ือสนับสนุนกระบวนการไตรภาคที มี่ ี ผลกระทบตอ่ ประสทิ ธิภาพและความย่ังยืน (มาตรการบรรเทา: ILO อานวยความสะดวกในการระดมทรัพยากร) แนวทางการดาเนินงานและการสนับสนุนของไตรภาคี รวมถึงผลลัพธ์ทีส่ าคญั 44

ตวั ช้ีวดั เปา้ หมาย ตวั ชว้ี ดั 3.1.1 จานวนกจิ กรรมที่ เป้าหมาย 3.1.1 (ก) การจดั กิจกรรมเสริมสรา้ งขดี ความสามารถสาหรับผบู้ รหิ ารระดับกลาง คานึงถึงความแตกตา่ งของเพศ และเจา้ หน้าท่รี ะดบั สูงอย่างน้อยปลี ะหน่ึงครัง้ โดยมีขอ้ มลู ท่แี ยกตามเพศสภาพ สามารถ สภาพท่ดี าเนินการเพื่อเพมิ่ ขีด ติดตามได้ รวมถงึ เนื้อหาในบริบทของความแตกต่างของเพศสภาพ โดยไดร้ บั การสนบั สนุน ความสามารถขององคก์ รภาครฐั ดา้ นวชิ าการจาก ILO องคก์ รนายจา้ งและองค์กร เป้าหมาย 3.1.1 (ข) มีการฝึกอบรมหรอื เวทีอย่างนอ้ ยปีละหนึง่ ครัง้ เพอื่ เสรมิ สร้างความ ลกู จ้างในการทางานร่วมกัน เขม้ แข็งให้แก่สมาชิกขององค์กรนายจ้างในการมสี ่วนร่วมในความรว่ มมือแบบไตรภาคี โดย แบบไตรภาคี ได้รบั การสนบั สนนุ ดา้ นวิชาการจาก ILO โดยมขี ้อมูลท่ีแยกตามเพศสภาพ สามารถตดิ ตามได้ รวมถึงเนือ้ หาในบรบิ ทของความแตกตา่ งของเพศสภาพ เปา้ หมาย 3.1.1 (ค) มกี ารฝกึ อบรมหรอื เวทีอย่างน้อยปลี ะหนง่ึ ครง้ั เพ่ือเสรมิ สรา้ งความ เขม้ แข็งใหก้ ับสมาชิกขององคก์ รลกู จ้างในการมสี ว่ นรว่ มในความร่วมมือแบบไตรภาคี โดย ได้รับการสนบั สนนุ ดา้ นวชิ าการจาก ILO โดยมขี อ้ มลู ทแ่ี ยกตามเพศสภาพ สามารถตดิ ตามได้ รวมถงึ เนื้อหาในบรบิ ทของความแตกต่างของเพศสภาพ ตวั ชี้วัด 3.1.2 จานวนการ เปา้ หมาย 3.1.2 (ก)ภายในปี 2564 มเี อกสารฉบบั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษเกี่ยวกบั ดาเนินการและเครอ่ื งมือเพอื่ ความสาเร็จของนายจ้างท่มี ีแรงงานสมั พนั ธท์ ี่ดีท่ี และเก่ียวข้องกบั ความสมั พนั ธท์ างด้าน เสรมิ สร้างขดี ความสามารถของ แรงงานกบั มาตรฐานสากล เพ่ือสง่ เสรมิ ความเข้าใจระหว่างนายจา้ งและลูกจ้างให้สอดคลอ้ ง ผแู้ ทนไตรภาคแี ละกลไกของ กบั ปฏิญญาMNE ไตรภาคีเพือ่ สรา้ งและ / หรอื มี เป้าหมาย 3.1.2 (ข) ภายในปี 2564 มีการหารอื หารือการอภปิ รายและแลกเปลย่ี นความรู้ อิทธิพลตอ่ นโยบายทส่ี อดคลอ้ ง อยา่ งน้อย 5 คร้ัง ซ่งึ จดั ขึ้นโดยผแู้ ทนไตรภาคีร่วมกบั ILO เพือ่ แบ่งปนั แนวทางปฏิบัตทิ ดี่ ี กับมาตรฐานแรงงานระหวา่ ง (Best practice) และสร้างความตระหนกั รเู้ กีย่ วกบั ILO องค์กรนายจ้างและองค์กรลูกจา้ ง โดยมีขอ้ มลู ทแี่ ยกตามเพศสภาพ สามารถติดตามได้ รวมถงึ เนอ้ื หาในบรบิ ทของความ ประเทศ แตกตา่ งของเพศสภาพ โดยได้รบั การสนับสนนุ ดา้ นวชิ าการจาก ILO เปา้ หมาย 3.1.2 (ค) เพิ่มความรู้และความเข้าใจในกลไกการตรวจสอบของ ILO ระหว่าง ผู้แทนไตรภาคแี ละหุ้นส่วนทางสงั คมในระดับประเทศและระดบั ภูมภิ าค เพม่ิ ขึ้นร้อยละ 5 ตอ่ ปีภายในปี พ.ศ. 2564 สมมตฐิ าน ความเสย่ี ง ระดับความเส่ียง มาตรการบรรเทา ในบรบิ ทของรัฐบาลจะต้อง ระดับกลาง ILO อานวยความสะดวกใน มบี ุคลากรและทรพั ยากร ทรพั ยากรไม่เพียงพอและความล่าชา้ ในการ การระดมทรัพยากร ทางการเงินทจี่ าเป็น ให้การสนับสนุนดา้ นเทคนคิ การสนับสนุน ระดับกลาง ทางการเงิน และการพฒั นาขดี ความสามารถ ILO ดาเนินโครงการความ ในบริบทของสมาคม เพ่อื สนับสนนุ กระบวนการไตรภาคีส่งผลตอ่ ระดบั ตา่ ร่วมมือเพอื่ การพัฒนาเพ่อื นายจา้ งจะต้องมพี นกั งาน ประสิทธภิ าพและความยง่ั ยืน สนับสนุนการดาเนินงาน และทรัพยากรทางการเงนิ ท่ี จาเป็นในการเจรจาสงั คมท่ี การเปลยี่ นแปลงสภาพทางการเมอื ง ความ ILO สนบั สนุนด้านวิชาการ มีประสทิ ธิภาพ เสรมิ สร้าง สนใจที่แตกตา่ งไป ตลอดจนกระบวนการ และการพัฒนาขดี ความเขม้ แขง็ ในการ ทางการเมอื งทเี่ ปลี่ยนแปลงไปของประเทศ ความสามารถโดย ILO เพอ่ื ให้บรกิ ารกับสมาชกิ และ และขีดความสามารถของคู่ค้า พัฒนาศักยภาพขององคก์ ร ขยายจานวนสมาชิก นายจ้างในการขยายสมาชกิ การขาดความครอบคลมุ นายจา้ งท้ังประเทศ ภาพและการให้บริการ ในบรบิ ทของสมาคมคนงาน และการขาดการมีสว่ นรว่ มของสมาชกิ อยา่ ง สมาชกิ จะตอ้ งมีบคุ ลากรและ แขง็ ขันทาให้ผลงานของนายจา้ งในการ ทรพั ยากรทางการเงนิ ท่ี ดาเนนิ งานลดลง จาเป็นในการเจรจาสงั คมที่ 45

สมมติฐาน ความเสยี่ ง ระดับความเสย่ี ง มาตรการบรรเทา มปี ระสิทธิภาพ เสรมิ สรา้ ง การขาดความครอบคลมุ ของลูกจ้างทัว่ ทกุ ระดับกลาง ILO สนับสนนุ ด้านวชิ าการ ความเขม้ แข็งในการ ภาคส่วนท่ัวประเทศมผี ลกระทบตอ่ (i) มี และการพฒั นาขดี ใหบ้ รกิ ารกบั สมาชกิ และ ส่วนร่วมในการดาเนินการและ (ii) ความสามารถโดย ILO เพ่อื ขยายสมาชกิ ภาพ ความสามารถในการปกปอ้ งสิทธแิ ละสภาพ พฒั นาศักยภาพขององค์กร การทางานของแรงงานในบรบิ ทของการ ลกู จ้างในการขยายสมาชิก เปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกิจสังคมอยา่ ง ภาพและการใหบ้ ริการ รวดเรว็ สมาชกิ 46

ผลลพั ธ์ 3.2 การเจรจาทางสังคมมากข้นึ อันเนื่องมาจากกลไกไตรภาคีท่ีมคี วามเขม้ แข็งขน้ึ กลยุทธ์ DWCP คอื การเสริมสร้างขีดความสามารถ อีกท้ังความสม่าเสมอและการเจรจาทางสังคมและกลไกการมี สว่ นรว่ มของไตรภาคีท่มี หี ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์สนบั สนุนในการเจรจา รวมถงึ การกากับดูแลและการจัดการ DWCP เพ่อื เสรมิ สร้างการมสี ่วนรว่ มในการกากบั ดแู ลตลาดแรงงานและการส่งเสริมงานทีเ่ หมาะสม ผลลัพธ์ ยกระดบั ธรรมาภิบาลตลาดแรงงานและการส่งเสริมงานท่ีมีคณุ ค่า โดยการการเจรจาทางสงั คมทเ่ี พมิ่ ขนึ้ และเสรมิ สร้างกลไกไตรภาคี การเปลี่ยนแปลง ยกระดับความเป็นเจ้าของใน DWCP อนั เปน็ ผลมา เพมิ่ ความตระหนักและเสรมิ สรา้ งขดี ความสามารถของผแู้ ทนไตรภาคี ท่ีคาดว่าจะ จากการสง่ เสรมิ การมีสว่ นรว่ มในการกากบั ดแู ลของ เกีย่ วกับสิทธขิ องสหภาพแรงงาน เสรีภาพในการสมาคม การไม่เลอื ก ไดร้ ับจากการ ไตรภาคี ทางานของ ILO ปฏิบัติ และคา่ ตอบแทนทเ่ี ทา่ เทยี มกนั สร้างโครงสร้างระดับชาติในการกากบั ดแู ล เพ่มิ ความพร้อมและการเข้าถึงเคร่ืองมอื กาหนด ความเส่ียงและกลยุทธก์ ารบรรเทาผลกระทบ ธรรมาภบิ าลแบบไตรภาคีและสรา้ ง นโยบายเพ่อื สรา้ งความตระหนกั และเพ่มิ ขีด • ความไมเ่ ขา้ ใจในบทบาทและประโยชนข์ อง ฐานข้อมูลสนบั สนนุ การดาเนนิ การ ความสามารถผู้แทนไตรภาคีเก่ียวกับ ILO, สทิ ธิของ กระบวนการและองคก์ รไตรภาคบี ่ันทอนคณุ คา่ ของ DWCP สหภาพแรงงาน, เสรีภาพในการสมาคมและการ องค์กรในการสนบั สนุนการดาเนนิ งาน DWCP เจรจาต่อรองรว่ ม, การไมเ่ ลือกปฏบิ ตั ิและคา่ ตอบแทน (มาตรการบรรเทา: ความชว่ ยเหลือดา้ นวชิ าการและ ผลผลติ ท่ีสาคัญ ทีเ่ ทา่ เทยี มกนั การพัฒนาขีดความสามารถของ ILO ตามความ - จดั ตั้งคณะกรรมการไตรภาคีระดบั ชาติ จาเปน็ เพอ่ื (1) สนบั สนุนคณะกรรมการไตรภาคชี ดุ และคณะอนุกรรมการทเี่ กี่ยวข้อง ผลผลิตทีส่ าคัญ ใหม่ (2) พฒั นาเกณฑแ์ ละขัน้ ตอนในการดาเนนิ การ - การประชมุ เชิงปฏบิ ตั ิการ การอภปิ ราย - การศกึ ษาความทา้ ทาย กระบวนการและความ และติดตามผลอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ และ (3) พัฒนา และการแบง่ ปันความรู้ ซงึ่ จัดข้ึนเปน็ ขีดความสามารถของนายจา้ งและลูกจา้ งในความ ประจาทกุ ปี เพ่อื เพมิ่ ขดี ความสามารถของ เปน็ ไปไดใ้ นการให้สัตยาบนั C87 / C98 ใน ร่วมมอื ไตรภาคี และการเจรจาทางสงั คม รวมถงึ การ กรรมการ DWCP เพอ่ื เพม่ิ ประสทิ ธิภาพ ประเทศไทยและบทเรียนจากประเทศอน่ื ๆ เจรจาตอ่ รอง) ในการบริหารจดั การและติดตาม รวมถงึ แรงงานไทยและคนงานทไี่ มใ่ ชค่ นไทย • ทรพั ยากรไมเ่ พียงพอและความลา่ ชา้ ในการให้ ความสามารถของ DWCP - การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารและการแบ่งปัน การสนบั สนุนดา้ นวชิ าการ การสนบั สนุนทางการเงนิ - มฐี านขอ้ มูลจานวนข้อตกลงการเจรจา ความรู้ที่จดั โดยองคก์ ารไตรภาครี ่วมกับ ILO และการพัฒนาขีดความสามารถ (มาตรการบรรเทา: ตอ่ รอง จานวนสมาชิกสหภาพแรงงาน เก่ยี วกบั สทิ ธิของสหภาพแรงงาน และเสรีภาพใน ILO อานวยความสะดวกในการระดมทรพั ยากรและ และคณะกรรมการสหภาพ และจานวน การสมาคม ดาเนินการดว้ ยความม่งุ มัน่ ) ลูกจา้ งทีเ่ กี่ยวขอ้ งทไ่ี ดร้ บั การพัฒนา - การประชุมเชิงปฏบิ ตั ิการและการแบง่ ปันความรู้ • การเปล่ยี นแปลงสภาพทางการเมืองประเดน็ ซึ่งจัดข้ึนโดยองคก์ ารไตรภาคีร่วมกบั ILO เปน็ สาคัญตลอดจนกระบวนการทางการเมืองท่ี ประจาทุกปเี พื่อเพม่ิ ขีดความสามารถของผูแ้ ทน เปลยี่ นแปลงไปของประเทศและขดี ความสามารถของ ไตรภาคีและหุ้นสว่ นทางสังคมในการใช้ คคู่ า้ (คณะกรรมการไตรภาคแี ห่งชาตแิ ละ มาตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศ คณะอนุกรรมการทเ่ี กย่ี วขอ้ งตดิ ตามแนวโนม้ และ สถานการณท์ เี่ ปล่ยี นแปลงและใหค้ าแนะนาการ ปรับเปลย่ี นทีจ่ าเปน็ สาหรับ DWCP และการวาง แผนการนาไปปฏิบัติ) แนวทางการดาเนนิ งานและการสนับสนนุ ของไตรภาคี รวมถึงผลลพั ธ์ทีส่ าคญั 47

ตวั ชี้วดั เปา้ หมาย ตัวชี้วัด 3.2.1 การจดั ตั้งคณะกรรมการ ไตรภาคีระดับชาติ คณะอนุกรรมการที่ เป้าหมาย 3.2.1 (ก) มีการจดั ตงั้ คณะกรรมการไตรภาคแี ห่งชาตแิ ละคณะอนุกรรมการชุด เกี่ยวขอ้ งรวมทง้ั คณะกรรมการตดิ ตาม ย่อยที่จดั ต้งั ข้ึนเพ่อื กากบั ดูแล DWCP โดยมีการจดั เกบ็ ข้อมลู ทจี่ าแนกตามเพศ และประเมินผล อีกทง้ั สร้างฐานข้อมูล สนับสนุน เป้าหมาย 3.2.1 (ข) มีการจดั อบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารในการอภิปรายและแบ่งปนั ความรู้ อย่างนอ้ ยปีละหนง่ึ ครัง้ เพ่ือเพม่ิ ขดี ความสามารถของคณะกรรมการ DWCP เพอื่ เพิ่ม ตวั ชี้วัด 3.2.2 จานวนเคร่อื งมือและ ประสทิ ธภิ าพในการบริหารจดั การและตดิ ตามผลการดาเนนิ การของ DWCP การวเิ คราะห์ในการกาหนดนโยบาย เพอื่ สร้างความตระหนกั และเพมิ่ ขดี เปา้ หมาย 3.2.1 (ค) มีฐานขอ้ มลู 1 ฐาน เพ่ือจดั เก็บจานวนข้อตกลงการเจรจาตอ่ รอง ความสามารถขององค์กรไตรภาคี จานวนสมาชิกสหภาพแรงงาน และคณะกรรมการสหภาพ และจานวนลกู จ้างทเี่ กยี่ วข้อง เก่ยี วกบั ILO ในเรือ่ งของสทิ ธสิ หภาพ โดยมขี อ้ มลู จาแนกตามเพศสภาพ โดยมีการตดิ ตามและอัพเดตเป็นประจาทุกปี แรงงานเสรภี าพในการสมาคมการไม่ เลอื กปฏิบตั แิ ละผลตอบแทนทเี่ ท่ากนั เปา้ หมาย 3.2.1 (ก) การศึกษาเกยี่ วกับความท้าทาย กระบวนการ และความเปน็ ไปได้ใน การใหส้ ัตยาบนั C87 / C98 ในประเทศไทยและบทเรยี นจากประเทศอื่น ๆ ซง่ึ รวมท้ัง แรงงานไทยและคนงานทีไ่ ม่ใช่คนไทย เปา้ หมาย 3.2.2 (ข) การจัดสมั มนาเชงิ ปฏบิ ัติการและการแบ่งปันความรู้อยา่ งน้อยปลี ะ หนง่ึ ครง้ั ทจ่ี ดั ข้นึ โดยไตรภาครี ว่ มกบั ILO เกีย่ วกับสทิ ธิของสหภาพแรงงานและเสรภี าพ ในการสมาคม โดยมีการจัดเกบ็ ข้อมูลแยกตามเพศ เป้าหมาย 3.2.2 (ค) การจดั การประชุมหารือ การประชุมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร การจดั สัมมนา และแบง่ ปนั ความรู้อยา่ งน้อยหน่งึ ครงั้ ซึง่ จดั ขน้ึ โดยองคก์ รไตรภาคีรว่ มกับ ILO เพื่อเพิม่ ขีดความสามารถขององคก์ รไตรภาคแี ละหุ้นส่วนทางสงั คม เพื่อใช้มาตรฐานแรงงาน ระหวา่ งประเทศ ในการผลักดนั ใหเ้ กิดการปฏิรูปการคุ้มครองทางสังคม การไมเ่ ลือก ปฏบิ ัตแิ ละคา่ ตอบแทนท่เี ท่าเทยี มกัน การกาหนดค่าจา้ งขัน้ ตา่ เสรภี าพในการสมาคม และการเจรจาต่อรองร่วม โดยมีการจัดเกบ็ ข้อมูลการเขา้ ร่วมจาแนกตามเพศสภาพ สมมติฐาน ความเสยี่ ง ระดบั ความ มาตรการบรรเทา เสีย่ ง จัดต้งั คณะกรรมการ ความไมเ่ ขา้ ใจในบทบาทและ ความช่วยเหลือดา้ นเทคนคิ และการพฒั นาขีด ไตรภาคี ประโยชน์ของกระบวนการ ระดบั กลาง ความสามารถของ ILO ตามความจาเปน็ เพื่อ (1) ระดบั ประเทศและ และองค์กรไตรภาคไี ม่ได้เป็นท่ี สนับสนุนคณะกรรมการไตรภาคี (2) พฒั นา คณะอนุกรรมการชุด เขา้ ใจกันดีวา่ บ่ันทอนคุณค่า ระดับกลาง หลักเกณฑ์และข้ันตอนในการดาเนินการและ ย่อย ขององคก์ รในการสนบั สนุน ติดตามผลอย่างมีประสิทธภิ าพ และ (3) พัฒนา การดาเนินงาน ระดบั กลาง ขีดความสามารถของนายจา้ งและลกู จ้างในการ มีทรพั ยากรที่มเี พอ่ื ดาเนนิ ความร่วมมอื ไตรภาคี และการเจรจาทาง สนับสนุนการ ทรพั ยากรไม่เพียงพอและ สังคม รวมทง้ั การเจรจาต่อรองร่วม ปรับปรุงความร่วมมือ ความล่าช้าในการใหก้ าร ILO อานวยความสะดวกในการระดมทรพั ยากร ไตรภาคแี ละการ สนับสนุนด้านวิชาการ การ และดาเนินการดว้ ยความมงุ่ ม่นั เจรจาทางสงั คม สนบั สนนุ ทางการเงนิ และการ รวมท้ังการเจรจา พฒั นาขดี ความสามารถ คณะกรรมการไตรภาคแี ห่งชาติและ ตอ่ รองรว่ มกนั การเปลย่ี นแปลงสภาพ คณะอนุกรรมการทเี่ กีย่ วขอ้ งตดิ ตามแนวโน้ม ทางการเมืองประเด็นสาคญั และสถานการณ์ทเี่ ปลย่ี นแปลงและใหค้ าแนะนา ตลอดจนกระบวนการทางการ การปรบั เปลย่ี นที่จาเป็นสาหรบั DWCP และการ เมอื งท่เี ปล่ียนแปลงไปของ วางแผนการนาไปปฏบิ ัติ ประเทศและขีดความสามารถ ของคคู่ า้ 48

ผลลพั ธ์ 3.3 การใหส้ ัตยาบันและการใชม้ าตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศเพ่ิมขน้ึ การให้สัตยาบันและการดาเนินการตามอนุสญั ญาแรงงานระหวา่ งประเทศเปน็ พืน้ ฐานในการบรรลุความสาคญั และผลลพั ธ์ของ DWCP โดยประเด็นสาคญั คอื การสรา้ งความรบั รแู้ ละการดาเนินการตามกฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ ง และการให้สตั ยาบนั อนสุ ัญญา แรงงานระหวา่ งประเทศ 49

ผลลัพธ์ ยกระดับธรรมาภบิ าลตลาดแรงงา การสง่ เสรมิ งานท่มี คี ณุ ค่าและสทิ ธใิ นการทางานด้วยการใหส้ ตั ยาบนั และการบงั คับใชม้ าตรฐานแรงงานระหวา่ งประเทศทเ่ี พ่มิ ข้ึน การเปลี่ยนแปลง การให้สตั ยาบันอนสุ ญั ญา ILO เพมิ่ ขนึ้ โดยการสนบั สนนุ จาก การส่งมอบรายงานเกีย่ วกับอนสุ ญั ญาทีใ่ หส้ ตั ยาบนั ฃได้ถูกจดั ส่ง ทค่ี าดวา่ จะ การศกึ ษาความเป็นไปได้ในการศกึ ษาเชงิ นโยบายที่ไดร้ บั การพฒั นา อย่างทนั ทว่ งที เน่อื งดว้ ยขีดความสามารถและความเขา้ ใจทดี่ ขี น้ึ ไดร้ บั จากการ โดยผูแ้ ทนไตรภาคีเพอื่ สง่ เสรมิ และบรู ณาการมาตรฐาน ทางานของ ILO ของผ้แู ทนไตรภาคี การสนบั สนนุ ดา้ นวิชาการ การสนบั สนุนดา้ นวิชาการเพอ่ื เสริมสรา้ งศักยภาพในการ กลยทุ ธ์ความเสย่ี งและการบรรเทาผลกระทบ เพอื่ ให้สัตยาบนั และใช้ ให้สัตยาบนั และเร่อื งที่เกีย่ วข้องกบั มาตรฐานอื่น ๆ เพอ่ื อนุสญั ญาระหว่างประเทศ ปรบั ปรงุ ความเขา้ ใจในองคป์ ระกอบไตรภาคใี นระบบเฝ้า • การใหส้ ัตยาบนั ในอนาคตและการปฏบิ ัติตามอนสุ ญั ญาท่ีไดใ้ ห้ ระวงั และการรายงานของ ILO สตั ยาบันและไม่ได้ใหส้ ตั ยาบนั อาจลา่ ช้าเนื่องจาก (1) ผลผลติ ท่ีสาคัญ ความสามารถภายในประเทศไมเ่ พียงพอและ (2) การสนบั สนนุ - ให้สัตยาบนั C 144 ผลผลติ ทสี่ าคญั ด้านเทคนิคและการพฒั นาขดี ความสามารถของ ILO ไมเ่ พียงพอ - พฒั นาระบบ -เพ่มิ ความตระหนักใหแ้ กผ่ ู้แทนไตรภาคแี ละหนุ้ ส่วน (มาตรการบรรเทา: จดั ทาแผนและลาดบั ความสาคัญทีเ่ ปน็ ไปได้ ประกันสงั คมตามมาตรฐาน ทางสงั คม ถึงเง่อื นไขของตราสารและผลกระทบ ตอ่ การให้สตั ยาบนั ในอนาคตและการปฏิบตั ิตามอนสุ ญั ญาที่ ILO C102 จากการใหส้ ัตยาบนั เกี่ยวข้องในปัจจบุ ัน (ท้ังท่ใี หส้ ตั ยาบนั และไม่ได้ให้สตั ยาบนั ) โดย - ส่งเสริมและบูรณาการ -เพม่ิ ขีดความสามารถของไตรภาคี ในการตอบสนอง ได้รับการสนบั สนนุ ดา้ นวิชาการและการพฒั นาขีดความสามารถ มาตรฐานสาหรบั ILO ตอ่ พันธกิจการรายงานของ ILO อยา่ งทันท่วงที โดย จาก ILO) C102, ILO C144, ILO ได้รับการสนบั สนนุ ด้านวิชาการจาก ILO C155, ILO C188 และ ILO -ความพึงพอใจของคณะกรรมการผูเ้ ชีย่ วชาญเร่ือง • การดาเนินการตามกฎหมายแรงงานถกู บ่อนทาลายโดยการขาด C189 โดยการศกึ ษาความ การประยุกตใ์ ช้อนสุ ญั ญาและขอ้ เสนอแนะ ความรู้และความตระหนกั ในกฎหมายโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในหมู่ เปน็ ไปได้ซ่ึงคานึงถงึ ความ (Committee of Experts on the Application แรงงานนอกระบบและในชนบท (มาตรการบรรเทา: ให้มีการ แตกต่างของทุกชว่ งอายุและ of Conventions and Recommendations: เจรจาอย่างสม่าเสมอระหว่างหน่วยงานท่เี กี่ยวข้อง) ของทกุ เพศสภาพโดยมีการ CEACR) เก่ยี วกบั การสง่ มอบรายงานเกยี่ วกับ ขอ้ มลู จาแนกตามเพศ อนุสญั ญาท่ีใหส้ ัตยาบันไดถ้ กู จดั ส่งอยา่ งทันทว่ งที • ทรัพยากรไมเ่ พยี งพอและความลา่ ช้าในการให้การสนบั สนนุ ด้าน เทคนคิ การสนบั สนุนทางการเงินและการพฒั นาขดี ความสามารถ (มาตรการบรรเทา: ILO อานวยความสะดวกในการระดม ทรพั ยากรเพ่ือใหบ้ รรลผุ ลลพั ธ์ DWCP) • การเปลย่ี นความมุง่ ม่นั ทางการเมืองและประเด็นเน้น ตลอดจน การเปลี่ยนกระบวนการทางการเมืองของประเทศและขีด ความสามารถของภาคี (มาตรการบรรเทา: ILO สง่ เสรมิ การสร้าง ขดี ความสามารถของสมาชกิ คณะกรรมการฯ เพอื่ สง่ เสริม ความสามารถในการดาเนินงานและติดตามผล) แนวทางการดาเนนิ งานและการสนับสนุนของไตรภาคี รวมถงึ ผลลัพธท์ ีส่ าคัญ 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook