Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Pastel Blue Clean and Contemporary Company Training Manual Booklet (4)

Pastel Blue Clean and Contemporary Company Training Manual Booklet (4)

Published by Ghazali Benmad, 2021-08-16 13:44:19

Description: Pastel Blue Clean and Contemporary Company Training Manual Booklet (4)

Search

Read the Text Version

อิสลามกบั ประชาธิปไตย อิหม่ามยูซุฟ อัลกอรฎอวีย์ เขียน ฆอซาลี เบ็ญหมัด แปล

รู้ จั ก ชั ย ค์ ก อ ร ฎ อ วี ย์ ชยั ค์ยูซุฟ กอรฎอวยี ์ แต่งหนงั สอื มากกวา่ 100 เล่ม ไดร้ บั ความนยิ มทัวโลก บางเล่มถกู แปลมากกวา่ 10 ภาษา หลายเล่มไดร้ บั การตีพมิ พถ์ ึง 50 ครงั ชัยค์ยูซฟุ กอรฎอวยี ์ -อา่ นวา่ กอ-รอ-ฎอ-วี- ไดร้ บั การแต่งตังเปนกรรมการขององค์กรอิสลาม ระดบั โลกมากมาย ทังภาครฐั และเอกชน เชน่ ถอื กาํ เนิดเมอื วันที 9 กนั ยายน 1926 ทจี ังหวดั ฆอรบี 1) สนั นบิ าตโลกมุสลิม - ‫ راﺑﻄﺔ اﻟﻌﺎﻟﻢ اﻹﺳﻼﻣﻲ‬รอ บเิ ฏาะฮ์ อาลัมอิสลามยี -์ ซาอุดอิ าระเบยี ยะฮ์ ทางตอนเหนือของอยี ปิ ต์ ท่องจําอัลกุรอานตังแต่ 2) มจั มะบูหษู อิสลามยี ะฮ์- ‫ﻣﺠﻤﻊ اﻟﺒﺤﻮث اﻹﺳﻼﻣﻴﺔ‬ ศูนยว์ จิ ยั อิสลาม มหาวทิ ยาลัยอัซฮัร อียปิ ต์ อายุไม่ถงึ 10 ป ศึกษาจากสถาบนั การศึกษาขอ 3) ศูนยว์ จิ ยั อารยธรรมอิสลามแหง่ ราชอาณาจกั ร จอรแ์ ดน งอัซฮัร ตังแตร่ ะดบั ประถมศึกษาถงึ ปรญิ ญาเอก มี 4) ศูนยอ์ ิสลามศึกษา ของมหาวทิ ยาลัยออกซฟ์ อรด์ อังกฤษ ผลการเรยี นยอดเยียมตลอดมา จบปรญิ ญาเอก 5) กรรมการสภามหาวทิ ยาลัยอิสลามนานาชาติ อิสลามาบดั ปากีสถาน เกยี รตนิ ยิ มอนั ดบั หนึง คณะอุศูลุดดนี ในป ค.ศ.1973 6) ประธานสหพนั ธอ์ ุลามาอ์อิสลามนานาชาติ [ ในด้านวิชาการ ชยั ค์ยซู ฟุ กอรฎอวีย์ มีงานเขียนทโี ดด International Union of Muslim Scholars (IUMS)] เดน่ เปนศาสตร์อสิ ลามดังเดิมตามมาตรฐานวชิ าการ อสิ ลามทสี ืบทอดมายาวนานนับพันป ณ มหาวทิ ยาลัย 7) ประธานสภาฟตวาและวจิ ยั แหง่ ยุโรป ( European อัลอซั ฮัร ผนวกกบั แนวทางการวิเคราะห์ของนักปฏิรูป สังคมมสุ ลิมในยุคต่างๆ เฉกเช่น อบิ นุตัยมยี ะฮ์ ญามา Council for Fatwa and Research ) ลุดดีน อฟั ฆอนี มฮุ ัมมัด อบั ดุห์ มฮุ ัมมดั รอชีด ริฎอ หะ ซัน อลั บันนา มฮุ ัมมัด ฆอซาลี รวมถงึ การนาํ ศาสตร์ 8) ประธานคณะกรรมการชารอี ะฮ์ของสถาบนั การ รว่ มสมัยมาประยุกตใ์ ชไ้ ด้อยา่ งลงตวั มดี ุลยภาพ มี เงินอิสลามหลายประเทศ เหตผุ ล ไม่สุดโตง่ ในลกั ษณะเนือหาเปนวชิ าการ ลลี า ภาษาชันสูง แทรกด้วยวิญญาณดะวะฮ์ จนไดฉ้ ายาจากสอื วา่ เปน \"มุฟตียโ์ ลก\" นอกจากนนั ยงั ไดร้ บั รางวลั ยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติ ระดบั นานาชาติอีกมากมาย เชน่ 1) รางวลั ดา้ นเศรษฐศาสตรจ์ ากธนาคารอิสลามเพอื การพฒั นา IDB ในป ฮ.ศ. 1411 2) รางวลั กษัตรยิ ฟ์ ยศอลดา้ นอิสลามศึกษา จาก ประเทศซาอุดอิ าระเบยี ในป ค ศ. .1994 3) รางวลั วชิ าการยอดเยยี ม จากมหาวทิ ยาลัยอิสลาม นานาชาติ มาเลเซยี ในป ค ศ. .1996 4) รางวลั ดา้ นกฎหมายอิสลามจากสลุ ต่านบุลเกียะห์ บรไู น ในป ค.ศ. 1997 5) รางวลั บุคคลแหง่ ปจากเจา้ ผคู้ รองนครดไู บ อิมิ เรต ในป ค ศ. .2000 ฯลฯ

อิ ส ล า ม กั บ ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย ผู้เขียน ชัยค์ยูซุฟ อัลกอรฎอวีย์ ผู้แปล ฆอซาลี เบ็ญหมัด สาํ นักพิมพ์เลนส์อิสลาม สงขลา สิ งหาคม 2021

ส า ร บั ญ 0 1 คําถาม คําตอบ 0 2 - การตัดสินสิงใดสิงหนึงเปนผลของความรู้แจ้งถึงสิงนัน - แกน่ แทข้ องประชาธิปไตยคืออะไร? 0 3 - แก่นแท้ของประชาธิปไตยสอดคล้องกับศาสนาอิสลาม - อัลกุรอานรณรงค์ต่อต้านผู้ปกครองทีตังตัวเปนพระเจ้า 0 4 คัมภีร์กุรอานเชือมโยงการปกครองแบบเผด็จการและความเสือมเสีย - คัมภีร์กุรอ่านวิพากษ์วิจารณ์ชนชาติทีเชือฟงต่อทรราช 0 5 - ทหารและเครอื งมอื ของทรราชร่วมรบั ผิด 0 6 ซนุ นะฮ์ต่อต้านผู้นําทรราช - ชรู อ นาซฮี ัต อมั ร์บิลมะรฟู และนะหย์ ุอานิลมุงกัร 0 7 - ผู้ปกครองในมโนทัศนข์ องศาสนาอสิ ลาม - อสิ ลามกา้ วลาํ ในการกําหนดหลกั การ 0 8 - การเลอื กตังถอื เปนการทาํ หนา้ ทเี ปนพยานลกั ษณะหนึง 0 9 อาํ นาจอธิปไตยของประชาชน และอาํ นาจอธปิ ไตยของอลั ลอฮ์ 1 0 หลักการของ \"อัลหุกม์ ลลิ ลาฮ์-อาํ นาจอธปิ ไตยเปนของอลั ลอฮ\"์ หมายความวา่ อะไร ? 1 1 การตดั สินโดยใชเ้ สียงส่วนใหญ่ขัดต่อศาสนาอสิ ลามหรือไม่ ?

คําถาม ผมรสู้ กึ ประหลาดใจเปนอยา่ งยงิ เมอื ไดย้ นิ จากผทู้ ี เครง่ ครดั ศาสนาบางคนทีอยูใ่ นกล่มุ อิสลามบาง กล่มุ กล่าววา่ ประชาธปิ ไตยนนั เขา้ กันไมไ่ ดก้ ับ อิสลาม หนงึ ในนนั อ้างถึงนกั วชิ าการบางคนที เหน็ วา่ ประชาธปิ ไตยนนั เปนการหลดุ พน้ จาก ศาสนาอิสลาม !! และขอ้ โต้แยง้ ของเขาคือ ประชาธปิ ไตยหมายถึงการปกครองประชาชนโดย ประชาชน แต่ในศาสนาอิสลามผคู้ นไมใ่ ชผ่ ู้ ปกครอง แต่ผปู้ กครองคือพระเจา้ ผทู้ รงอํานาจ (อัลอันอาม: 57) และนกี ็คล้ายกับสงิ ทีกล่มุ คอวา รจิ ญพ์ ูดในอดตี และอาลีก็ตอบวา่ : \"ความจรงิ ที ถกู อ้างเพอื การเท็จ \" และยงั เปนเรอื งปกติธรรมดาในหมูน่ กั เสรนี ยิ ม และผสู้ นบั สนนุ เสรภี าพทีเหน็ วา่ กล่มุ อิสลามเปน ศัตรขู องประชาธปิ ไตย และเปนเครอื ขา่ ยผู้ สนบั สนนุ เผดจ็ การทรราช เปนความจรงิ หรอื ไมท่ ี อิสลามเปนศัตรกู ับประชาธปิ ไตยและ ประชาธปิ ไตยนนั เปนรปู แบบหนงึ ของการปฏิเสธ ศรทั ธาหรอื ความชวั รา้ ยตามทีมผี กู้ ล่าวอ้างหรอื ไม่ หรอื เปนเพยี งการกล่าวเท็จต่ออิสลาม ทังที ความจรงิ ไมไ่ ดเ้ ปนเชน่ นนั ? เรอื งนจี าํ เปนต้องมคี ําชขี าดจาก“ คณะนกั วชิ าการอิสลามสายกลาง” ซงึ ไมม่ แี นวโนม้ ทีจะ พูดเกินจรงิ หรอื พูดความจรงิ ครงึ เดยี ว เพอื ใหม้ ี การพจิ ารณาเรอื งต่างๆตรงตามเปนจรงิ และไม่ ตีความอิสลามไปในทางทีไมถ่ กู ต้อง แมว้ า่ จะมี การใหค้ วามเหน็ โดยนกั วชิ าการทีเปนมนษุ ยท์ ีมี ถกู มผี ดิ เราพรต่ออัลลอฮ์เพอื ชว่ ยใหท้ ่านเปดเผยความ จรงิ ชแี จงหกั ล้างขอ้ โต้แยง้ และขอขอบคณุ และ ใหอ้ ัลลอฮ์ตอบแทนท่าน หน้า 1

คําตอบ ● การตัดสนิ สงิ ใดสงิ หน่งึ เปนผลของความรูแ้ จง้ ถึงสงิ นนั การสรรเสรญิ เปนของอัลลอฮ์ พรและสนั ติสขุ จงมี ทีแปลกประหลาด บางคนตัดสนิ วา่ ประชาธปิ ไตยเปนความเลวที แด่ผสู้ ง่ สารของพระองค์ ตลอดจนครอบครวั ชดั เจน หรอื การปฏิเสธศาสนาอยา่ งชดั เจน ทังๆทีเขาไมร่ ถู้ ึง สหายและผทู้ ีปฏิบตั ิตามแนวทางของพระองค์ แก่นแท้ของมนั โดยไมต่ ิดอยูก่ ับหนา้ ปกและชอื เรอื ง ขา้ พเจา้ ก็รสู้ กึ เสยี ใจเปนอยา่ งยงิ ทีสงิ ต่าง ๆ สบั สน หนงึ ในบรรดากฎทีนกั วชิ าการบรรพกาลของเรากําหนดไวค้ ือ อลหมา่ นและความจรงิ สบั สนกับความเท็จในหมูผ่ ู้ การตัดสนิ สงิ ใดสงิ หนงึ เปนผลของความรูแ้ จง้ ถึงสงิ นนั เครง่ ครดั ศาสนาโดยทัวไป และในหมูผ่ พู้ ูดในนามของ ศาสนาอิสลามบางสว่ น โดยเฉพาะอยา่ งยงิ ในเรอื งที ดงั นนั ใครก็ตามทีชขี าดในบางสงิ ทีเขาไมร่ กู้ ารตัดสนิ ของเขาก็ เปดเผยโดยคําถามของพนี อ้ งทีถาม -ขอบคณุ ถือวา่ ผดิ พลาด แมว้ า่ จะถกู ต้องโดยบงั เอิญก็ตาม เพราะเปนการ พระเจา้ สาํ หรบั เขา- ถึงขนั การกล่าวหาผคู้ นวา่ วา่ หลดุ ยงิ โดยไมม่ คี ณุ สมบตั ิ พน้ จากศาสนาหรอื ผดิ ศีลธรรมกลายเปนเรอื งง่าย ราวกับวา่ พวกเขาไมร่ บั รวู้ า่ วา่ ในสายตาของชะรอี ะห์ ดว้ ยเหตนุ ี จงึ ปรากฏในหะดษี วา่ ผพู้ พิ ากษาทีตัดสนิ โดยไมม่ ี นนั การกล่าวหาผคู้ นวา่ หลดุ พน้ จากศาสนาเปน ความรูห้ รอื รูค้ วามจรงิ แต่กลับไมพ่ พิ ากษาตามขอ้ เท็จจรงิ อาชญากรรมทีรา้ ยแรงอุกฉกรรจ์ และจะยอ้ นกลับมา ล้วนถือวา่ มคี วามผดิ ทังสนิ เขา้ ตัวผทู้ ีกล่าวหาผอู้ ืน ดงั ปรากฏในหะดษี ซอเหยี ะห์ คําถามทีพนี อ้ งผมู้ เี กียรติถามถามนี ไมแ่ ปลกสาํ หรบั ประชาธปิ ไตยทีประชาชนทัวโลกเรยี กรอ้ งก็เชน่ กัน มวลชน ขา้ พเจา้ เพราะพนี อ้ งของเขาจากแอลจเี รยี ไดถ้ ามมา จาํ นวนมากในตะวนั ออกและตะวนั ตกกําลังดนิ รนต่อสเู้ พอื ใหไ้ ด้ หลายครงั และดว้ ยคําถามชดั เจนวา่ [ ระบอบ มนั มา ประชาธปิ ไตยเปนระบอบทีหลดุ พน้ จากอิสลามหรอื ไม่ บางสว่ นก็ไดม้ าหลังจากการต่อสกู้ ับทรราชอยา่ งขมขนื คน ?] หลายพนั คน ถึงนบั ล้านๆคน ต้องหลังเลือดและตกเปนเหยอื เชน่ ในยุโรปตะวนั ออกและทีอืน ๆ ทําใหก้ ล่มุ อิสลามบางสว่ น ยอมรบั วา่ เปนวธิ กี ารในการยบั ยงั การปกครองของบุคคลและ ตัดเขยี วเล็บของลัทธเิ ผดจ็ การทางการเมอื งทีสรา้ งความเดอื ด รอ้ นใหก้ ับชาวมุสลิมของเรา ดงั นี ประชาธปิ ไตยนเี ปนการหลดุ พน้ จากศาสนาอิสลามอยา่ งที พวกผวิ เผนิ บางคนพูดหรอื ไม่ ? ● แก่นแท้ของประชาธปิ ไตยคืออะไร? แก่นแท้ของประชาธปิ ไตย ซงึ อยูเ่ หนอื คําจาํ กัดความและนยิ าม ศัพท์ทางวชิ าการ คือ การให้ประชาชนเลือกผทู้ ีจะมาปกครอง บรหิ ารพวกเขา และการไมบ่ บี บงั คับประชาชนให้ยอมรบั ผู้ ปกครองหรอื รฐั บาลทีพวกเขาเกลียดชงั และประชาชนมสี ทิ ธิ ทีจะตรวจสอบผปู้ กครองหากกระทําความผดิ มสี ทิ ธทิ ีจะปลด ผนู้ าํ หากเบยี งเบน และไมน่ าํ ผคู้ นไปสแู่ นวทางเศรษฐกิจหรอื ทางสงั คม วฒั นธรรมหรอื การเมอื ง ทีพวกเขาไมย่ อมรบั และ ไมพ่ อใจ แนวทางทีหากวา่ ประชาชนบางคนต่อต้านก็จะมกี าร ขบั ไล่และกระทําทารุณกรรม รวมถึงการทรมานและสงั หาร นคี ือแก่นแท้ของประชาธปิ ไตยทีแท้จรงิ ซงึ มนษุ ยชาติไดค้ ้นพบ รปู แบบและวธิ กี ารทีใชไ้ ดจ้ รงิ เชน่ การเลือกตัง และการลง ประชามติของประชาชน ความเหนอื กวา่ ของเสยี งขา้ งมาก ความ หลากหลายของพรรคการเมอื ง สทิ ธขิ องคนสว่ นนอ้ ยในการเปน ฝานค้าน เสรภี าพของสอื มวลชน ความเปนอิสระของตลุ าการ ฯลฯ ประชาธปิ ไตย - ในสาระสาํ คัญทีเรากล่าวถึงนนั ขดั กับอิสลาม หรอื ไม?่ การขดั กันนีมาจากไหน? หลักฐานใดจากอัลกรุ อาน และซุนนะฮ์บง่ ชกี รณีนี หนา้ 2

●“ อัลกรุ อานรณรงค์ต่อต้านผปู้ กครองทีตังตัวเปนพระเจา้ อัลกรุ อานไดเ้ ปดตัวการรณรงค์ทีมคี วามโหดรา้ ยอยา่ งยงิ ต่อผปู้ กค รองทีตังตัวเปนพระเจา้ ในโลกนี และถือเอามนษุ ยเ์ ปนขา้ ทาส เฉก เชน่ กษัตรยิ น์ มั รดู ( แหง่ ดนิ แดนเมโสโปเตเมยี ในบรรพกาล ) รวม ถึงท่าทีของนมั รดู ต่อนบอี ิบรอิ ฮีม และท่าทีของอิบรอฮีมต่อนมั รดู วา่ ‫أَأَﻧََﻓ ْﺎﺄْنأُآِﺗَتْﺣﺎ ِﻴﺑُِه َﻬﻲﺎ َو ِأﻣُﷲُﱠ ِﻣَاﻦْﻟﻴ اُﻤْﻟ ُْﻠ َﺖﻤ َۖ ْﻐﻚ َﻗﺮِِإﺎ ْذِ َلب َﻗِإﺎَﻓﺑْ ُﺒَﺮَلاِﻬ ِﻫﻴَﺖُﻢ‬ ‫أَ َل ْم ﺗَﺮَ ِإ َﱃ اﻟﱠ ِﺬي َﺣﺎ ﱠج ِإ ْﺑ َﺮا ِﻫﻴ َﻢ ِﻓﻲ َرﺑﱢ ِﻪ‬ ‫َوﻳُ ِﻤﻴ ُﺖ َﻗﺎ َل‬ ‫ِإ َﻓﺑْ ِﺈﺮَا ﱠن ِﻫﻴ ُﻢ ﱠﷲَ َرﻳﺑَﱢﺄْﺗَِﻲ اﻲﻟﱠﺑِِﺬﺎﻟي ﱠﺸﻳُ ْﻤ ْﺤ ِﻴِﺲﻲ‬ ‫ِﻣ َﻦ ا ْﻟ َﻤ ْﺸﺮِ ِق‬ ‫﴾ اﻟﱠ ِﺬي َﻛ َﻔ َﺮ ۗ َو ُﷲﱠ َﻻ ﻳَ ْﻬ ِﺪي ا ْﻟ َﻘ ْﻮ َم اﻟ ﱠﻈﺎﻟِ ِﻤﻴ َﻦ‬ ● แก่นแท้ของประชาธปิ ไตยสอดคล้องกับศาสนา \"ท่าน (มุฮัมมดั ) มไิ ด้พจิ ารณาดผู ทู้ ีโต้แยง้ ต่ออิบรอฮีมในเรอื ง พระเจา้ ของเขาเนอื งจากการทีอัลลอฮ์ได้ทรงประทานอํานาจแก่ อิสลาม เขาดอกหรอื ขณะทีอิบรอฮีมได้กล่าววา่ \"พระเจา้ ของฉนั นนั คือผู้ ทีให้ชวี ติ และให้ความตาย\" เขากล่าววา่ \"ขา้ ก็ให้ชวี ติ และให้ความ ความจรงิ แล้ว หากพจิ ารณาแก่นแท้ของประชาธปิ ไตยก็จะ ตายได้\" อิบรอฮีมกล่าววา่ \"แท้จรงิ อัลลอฮ์นนั นาํ ดวงอาทิตยม์ า พบวา่ สงิ นคี ือแก่นของศาสนาอิสลาม จากทิศตะวนั ออก ท่านจงนาํ มนั มาจากทิศตะวนั ตกเถิด\" แล้วผทู้ ี ปฏิเสธศรทั ธานนั ก็อับจนปญญา และอัลลอฮ์นนั จะไมป่ ระทาน อิสลามไมย่ อมรบั ผนู้ าํ ละหมาดทีผตู้ ามเกลียดชงั แนวทางอันถกู ต้องแก่ผอู้ ธรรมทังหลาย\" (อัลบะกอเราะห์ :258 ) ปรากฏในหะดษี วา่ ทรราชนอี ้างวา่ เขาให้ชวี ติ และให้ความตายได้ เชน่ เดยี วกับที : ‫\" وذﻛﺮ أوﻟﻬﻢ‬.. ‫ﺛﻼﺛﺔ ﻻ ﺗﺮﺗﻔﻊ ﺻﻼﺗﻬﻢ ﻓﻮق رءوﺳﻬﻢ ﺷﺒ ًﺮا‬ พระเจา้ ของอิบรอฮีม - ผซู้ งึ เปนพระเจา้ ของโลก - ใหช้ วี ติ และความ ‫ \"رﺟﻞ أم ﻗﻮ ًﻣﺎ وﻫﻢ ﻟﻪ ﻛﺎرﻫﻮن‬..\" ตาย ดงั นนั ผคู้ นควรนบั ถือเขาเหมอื นกับการทีพวกเขานบั ถือต่อ พระเจา้ ของอิบรอฮีม และเขาก็อวดดถี ึงขนั อ้างวา่ ใหช้ วี ติ และให้ “ สามคนทีละหมาดจะไมถ่ กู ยกขนึ ไปสงู กวา่ ศีรษะของ ความตาย โดยการนาํ ชายสองคนจากท้องถนนและตัดสนิ ประหาร พวกเขาแมเ้ พยี งหนงึ กระเบยี ดนวิ .. ” และกล่าวถึงคน ชวี ติ โดยไมม่ คี วามผดิ และดาํ เนนิ การลงโทษคนหนงึ ในนนั ทันที แรกวา่ :“ ชายคนหนงึ ทีเปนผนู้ าํ ในขณะทีประชาชน พรอ้ มกล่าววา่ \"ดเู ถิดคนนขี า้ ใหค้ วามตาย และยกโทษใหอ้ ีกคนหนงึ รงั เกียจ\" แล้วพูดวา่ \"ดเู ถิด ขา้ ใหช้ วี ติ เขาแล้ว ! ฉันไมไ่ ดใ้ หช้ วี ติ และความตาย (หะดษี รายงานโดยอิบนมุ าจะฮ์ เลขหะดษี 971 และอัลบูศีรยี ์ กระนนั หรอื ! กล่าวใน อัลซาวาอิด วา่ \"สายรายงานเปนซอเหยี ะห์ และผู้ รายงานมคี วามนา่ เชอื ถือ\" และ อิบนหุ บิ บาน ในหนงั สอื ซอ และในทํานองเดยี วกัน ฟาโรหผ์ ซู้ งึ ประกาศก้องในหมูป่ ระชาชนของ เหยี ะห์ อัลมาวารดิ (377) ทังสองรายงานจากอิบนอุ ับบาส ) เขาวา่ นเี ปนกรณลี ะหมาด แล้วในเรอื งวถิ ีชวี ติ และการเมอื งการ ‫أَﻧَﺎ َرﺑﱡﻜُ ُﻢ ا ْﻷَ ْﻋ َ ٰﲆ‬ ปกครองเปนเชน่ ไร ? มหี ะดษี กล่าววา่ “ ฉนั คือพระเจา้ ผสู้ งู สดุ ของพวกท่าน” (อันนาซอิ าต : 24) ،‫ﺧﻴﺮ أﺋﻤﺘﻜﻢ ـ أي ﺣﻜﺎﻣﻜﻢ ـ اﻟﺬﻳﻦ ﺗﺤﺒﻮﻧﻬﻢ وﻳﺤﺒﻮﻧﻜﻢ‬ และกล่าวดว้ ยความองอาจวา่ : ‫ وﺷﺮار‬،‫وﺗﺼﻠﻮن ﻋﻠﻴﻬﻢ ـ أي ﺗﺪﻋﻮن ﻟﻬﻢ ـ وﻳﺼﻠﻮن ﻋﻠﻴﻜﻢ‬ ‫ﻳَﺎ أَﻳﱡ َﻬﺎ ا ْﻟ َﻤﻸُ َﻣﺎ َﻋ ِﻠ ْﻤ ُﺖ ﻟَﻜُ ْﻢ ِﻣ ْﻦ ِإﻟَ ٍﻪ َﻏ ْﻴﺮِي‬ ‫ وﺗﻠﻌﻨﻮﻧﻬﻢ‬،‫أﺋﻤﺘﻜﻢ اﻟﺬﻳﻦ ﺗﺒﻐﻀﻮﻧﻬﻢ وﻳﺒﻐﻀﻮﻧﻜﻢ‬ ‫)وﻳﻠﻌﻨﻮﻧﻜﻢ\" )رواه ﻣﺴﻠﻢ ﻋﻦ ﻋﻮف ﺑﻦ ﻣﺎﻟﻚ‬. โอ้ผคู้ นทังหลาย ฉนั ไมร่ บั ทราบวา่ มพี ระเจา้ อืนของจากฉนั ( อัล กอศ๊อศ : 38) ผนู้ าํ ทีดีทีสดุ ของพวกท่าน คือผทู้ ีพวกท่านรกั พวกเขา และพวกเขารกั พวกท่าน และพวกท่านขอพรให้พวกเขา คัมภีรก์ รุ อานเปดเผยวงจรพนั ธมติ รโสมม ระหวา่ งฝายชวั รา้ ย 3 และพวกเขาขอพรให้พวกท่าน และผนู้ าํ ของพวกท่านที ฝาย ชวั รา้ ยทีสดุ คือผนู้ าํ ทีพวกท่านรงั เกียจพวกเขาและพวก เขารงั เกียจพวกท่าน พวกท่านสาปแชง่ พวกเขาและพวก ฝายแรก ผปู้ กครองทีตังตนเปนพระเจา้ มอี ํานาจบาตรใหญเ่ หนอื เขาสาปแชง่ พวกท่าน (หะดษี รายงานโดยมุสลิม จากเอาฟ ประชาชน โดยมฟี าโรหเ์ ปนตัวแทน บนิ มาลิก) หนา้ 3

ฝายที 2 นกั การเมอื งแสวงประโยชน์ ซงึ ท่มุ เทสติปญญา ● คัมภีรก์ รุ อานเชอื มโยงการปกครองแบบเผด็จการและความ และประสบการณข์ องเขาในการรบั ใช้ พทิ ักษ์รกั ษาอํานาจ การปกครองของทรราช และทําใหผ้ คู้ นเชอื งเพอื ยอม เสอื มเสยี จาํ นนต่อฟาโรห์ ซงึ มฮี ามานเปนตัวแทน และฝายที 3 นายทนุ หรอื ขุนนางศักดนิ าทีไดร้ บั ประโยชน์ ในบรรดาผลงานชนิ เอกของคัมภีรอ์ ัลกรุ อาน คือการเชอื มโยงการกดขี จากการปกครองของทรราช จากการสนบั สนนุ ทรราชดว้ ย กับการแพรก่ ระจายของการคอรปั ชนั ซงึ เปนสาเหตขุ องการทําลายล้าง การใชจ้ า่ ยเงินของตนบางสว่ นเพอื การไดม้ าซงึ รายไดท้ ี ประชาชาติ มากกวา่ จากหยาดเหงือและเลือดของผคู้ น โดยมกี อรนู เปนตัวแทนฝายนี คัมภีรก์ รุ อานกล่าวถึงขวั พนั ธมติ รของทัง 3 กล่มุ นใี น พระเจา้ ผทู้ รงฤทธานภุ าพกล่าววา่ : เรอื งการกระทําละเมดิ ศีลธรรมและการล่วงละเมดิ ตลอด ‫( اﻟﱠ ِﺘﻰ ﻟَ ْﻢ ﻳُ ْﺨﻠَ ْﻖ ِﻣ ْﺜﻠُ َﻬﺎ‬7) ‫( ِإ َر ِم َذا ِت ا ْﻟﻌ َﻤﺎ ِد‬6) ‫أَ َل ْم ﺗَ َﺮ َﻛ ْﻴ َﻒ َﻓ َﻌ َﻞ َرﺑﱡ َﻚ ﺑِ َﻌﺎد‬ จนการเผชญิ หนา้ กับสาสน์ ของมูซา จนกระทังอัลลอฮ์ (10) ‫( َوﻓﺮِ َﻋ ْﻮ َن ِذى اﻷَ ْوﺗَﺎ ِد‬9) ‫ِﻓﻰ ا ْﻟ ِﺒﻠَـ ِﺪ ) َوﺛَ ُﻤﻮ َد اﻟﱠ ِﺬﻳ َﻦ َﺟﺎﺑُﻮاْ اﻟ ﱠﺼ ْﺨﺮَ ﺑِﺎ ْﻟ َﻮا ِد‬ จดั การกับฟาโรหอ์ ยา่ งนา่ สมเพช ‫( َﻓ َﺼ ﱠﺐ َﻋﻠَﻴ ِﻬ ْﻢ َرﺑﱡ َﻚ‬12) ‫( َﻓﺄَ ْﻛ َﺜﺮُواْ ِﻓﻴ َﻬﺎ ا ْﻟ َﻔ َﺴﺎ َد‬11) ‫اﻟﱠ ِﺬﻳ َﻦ َﻃ َﻐ ْﻮا ِﻓﻰ ا ْﻟ ِﺒﻠَـ ِﺪ‬ ‫ِﻓ ۡﺮ َﻋ ۡﻮ َن‬ ‫ِإ َ ٰﱃ‬ * ‫ُﻣ ِﺒﻴ ٍﻦ‬ ‫َو ُﺳ ْﻠ َﻄﺎ ٍن‬ ‫ﺮ‬ٞ ‫ََووﻟَ َٰﻫَﻘ َٰﻤْﺪ َأَﻦ ْر َوَ ٰﺳَﻗ ْﻠﺮُ َﻨﺎو َ ُنﻣﻮَﻓ ََﻘﺳﺎﻟُ ٰﻰﻮاْﺑِﺂ ٰﻳََﺎﺳﺗِ َِﻨﺤﺎ‬ 14) ‫( ِإ ﱠن َرﺑﱠ َﻚ ﻟَ ِﺒﺎ ْﻟ ِﻤ ْﺮ َﺻﺎ ِد‬13) ‫﴾) َﺳ ْﻮ َط َﻋ َﺬاب‬ ‫ب‬ٞ ‫َﻛ ﱠﺬا‬ \"ท่านไมเ่ ห็นดอกหรอื วา่ พระเจา้ ของท่านกระทําต่อพวกอ๊าดอยา่ งไร \"และแนน่ อน เราได้สง่ มูซามาพรอ้ มด้วยสญั ญาณต่าง อิรอม มเี สาหินสงู ตะหง่าน ๆ ของเราและหลักฐานอันชดั แจง้ ไปยงั ฟาโรห์ และฮา ซงึ เยยี งนนั มไิ ด้ถกู สรา้ งตามหัวเมอื งต่าง ๆ มาน และกอรูน แล้วพวกเขาก็กล่าววา่ (มูซาเปน) และพวกซะมูดผสู้ กัดหิน ณ หบุ เขา มายากร นกั โกหกตัวฉกาจ\" (ฆอฟร : 23, 24) และฟรเอานฺ เจา้ แห่งหมุดต่างๆ บรรดาผกู้ ดขเี หล่านนั ตามหัวเมอื งต่าง ๆ ‫َو َٰﻗﺮُو َن َو ِﻓ ۡﺮ َﻋ ۡﻮ َن َو َٰﻫ َٰﻤ َۖﻦ َوﻟَ َﻘ ۡﺪ َﺟﺂ َء ُﻫﻢ ﱡﻣﻮ َﺳ ٰﻰ ﺑِﭑﻟۡ َﺒ ﱢﻴ َٰﻨ ِﺖ‬ แล้วก่อความเสยี หายอยา่ งมากมายในหัวเมอื งเหล่านนั ‫َﻓﭑ ۡﺳ َﺘ ۡﻜ َﺒﺮُواْ ِﻓﻲ ٱ ۡﻷَ ۡر ِض َو َﻣﺎ َﻛﺎﻧُﻮاْ َٰﺳ ِﺒ ِﻘﻴ َﻦ‬ ดังนนั พระเจา้ ของเจา้ จงึ กระหนาํ การลงโทษนานาชนดิ บนพวกเขา แท้จรงิ พระเจา้ ของเจา้ นนั ทรงเฝาดอู ยา่ งแนน่ อน\" และ (เราได้ทําลาย) กอรูน และฟาโรห์และฮามาน และ [อัลฟจร์ : 6-14] โดยแนน่ อนมูซาได้มายงั พวกเขาพรอ้ มด้วยหลักฐาน อันชดั แจง้ แต่พวกเขาหยงิ ผยองในแผน่ ดิน และพวก คัมภีรอ์ ัลกรุ อานอาจแสดงคําวา่ \"ทรราช\" ดว้ ยคําวา่ \"การเหมิ เกรมิ \" ซงึ เขาก็หาได้รอดพน้ ไปจากเราไม่ ( อัลอังกะบูต : 39) หมายถึง ความเยอ่ หยงิ และการใชอ้ ํานาจเหนอื สงิ ทีอัลลอฮ์ สรา้ ง ดว้ ย การสรา้ งความอัปยศอดสแู ละการกดขขี ม่ เหง ดงั ทีอัลลอฮ์กล่าวถึง สงิ ทีนา่ แปลกก็คือ กอรนู เปนหนงึ ในคนเชอื ชาติเดยี วกับมู ฟาโรหว์ า่ ซาและคนละเชอื ชาติกับฟาโรห์ แต่เขากลับกระทําผดิ ต่อ ชนเชอื ชาติเดยี วกัน และเขา้ รว่ มกับฟาโรห์ ศัตรขู องพวก ‫ِإﻧﱠ ُﻪۥ َﻛﺎ َن َﻋﺎﻟِ ٗﻴﺎ ﱢﻣ َﻦ ٱﻟۡ ُﻤ ۡﺴﺮِ ِﻓﻴ َﻦ‬ เขา และฟาโรหก์ ็ยอมรบั เขา ซงึ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ผล ประโยชนท์ างวตั ถเุ ปนสงิ ทีทําใหพ้ วกเขามารวมกัน แมจ้ ะ \"แท้จรงิ เขาเปนหนงึ ทีใฝสงู ในบรรดาผลู้ ะเมดิ \" (อัดดคุ อน: 31) แตกต่างกันทางเชอื ชาติและเชอื สาย ‫ﱢﻣ ۡﻨ ُﻬ ۡﻢ‬ ‫َﻃﺂﺋِ َﻔ ٗﺔ‬ ‫ﻳَ ۡﺴ َﺘ ۡﻀ ِﻌ ُﻒ‬ ‫ِإﻳُ ﱠَﺬنﺑﱢ ُِﻓﺢ ۡﺮأَ َﺑﻋۡ َﻨۡﻮﺂ ََءن ُﻫ َﻋۡﻢ َﻼ َوﻳَِﻓ ۡﻲﺴ َﺘٱ ۡ ۡﺤﻷَ ۡر ِۦﻲ ِﻧِض َﺴ َﺂو َء َﺟ ُﻫَﻌ ۡۚﻢ َﻞ ِإﻧأﱠَ ُﻪۡﻫۥﻠَ ََﻛﻬﺎﺎ َن ِﺷ َِﻣﻴ ٗﻌَﻦﺎ‬ ‫ٱﻟۡ ُﻤ ۡﻔ ِﺴ ِﺪﻳ َﻦ‬ \"แท้จรงิ ฟาโรห์ได้เหิมเกรมิ ในแผน่ ดิน และแบง่ แยกประชาชนออก เปนกล่มุ ๆ ทําให้กล่มุ หนงึ อ่อนแอ ฆา่ ลกู ชายของพวกเขา และไวช้ วี ติ ผหู้ ญงิ ของพวกเขา เขาเปนหนงึ ในผสู้ รา้ งความเสอื มเสยี \" (อัล กอศ๊อศ : 4) ดงั นนั เราจงึ เหน็ \"ความเหมิ เกรมิ \" และ \"ความเสอื มเสยี \" จะอยูค่ ่กู ัน หน้า 4

● คัมภีรก์ รุ อ่านวพิ ากษ์วจิ ารณช์ นชาติทีเชอื ฟงต่อ ‫َو َﻣﺎ أَ ْﻣﺮُ ِﻓ ْﺮ َﻋ ْﻮ َن ﺑِ َﺮ ِﺷﻴ ٍﺪ‬ ۖ ‫َو َﻣﻠَ ِﺌ ِﻪ َﻓﺎﺗﱠ َﺒ ُﻌﻮا أَ ْﻣ َﺮ ِﻓ ْﺮ َﻋ ْﻮ َن‬ ‫ِإ َ ٰﱃ ِﻓ ْﺮ َﻋ ْﻮ َن‬ ‫َوﺑِ ۡﺌ َﺲ ٱﻟۡ ِﻮ ۡر ُد ٱﻟۡ َﻤ ۡﻮ ُرو ُد‬ ۖ‫ﻳَ ۡﻮ َم ٱﻟۡ ِﻘ َٰﻴ َﻤ ِﺔ َﻓﺄَ ۡو َر َد ُﻫ ُﻢ ٱﻟ ﱠﻨﺎ َر‬ ‫ﻳَ ۡﻘ ُﺪ ُم َﻗ ۡﻮ َﻣ ُﻪۥ‬ ทรราช คัมภีรอ์ ัลกรุ อานไมไ่ ดจ้ าํ กัดการโจมตีเฉพาะกล่มุ ทรราช ดงั นนั พวกเขาไดป้ ฏิบัติตามคาํ สังของฟาโรห์ ทังๆสิงทฟี าโรหท์ าํ แต่เพยี งอยา่ งเดยี ว แต่ยงั รวมถึงประชาชนและผทู้ ี นันไม่มีเหตผุ ล เขา(ฟาโรห์)จะนาํ หนา้ กล่มุ ชนของเขาในวนั กิยา ปฏิบตั ิตามคําสงั ของพวกเขา และคกุ เขา่ ใหก้ ับพวกเขา มะฮฺ และนาํ พวกเขาลงในไฟนรก และมนั เปนทางลงทีชวั ช้าทพี วก โดยถือวา่ รว่ มรบั ผดิ ชอบกับพวกเขา เขาได้ลงไป (ฮูด : 97 - 98 ) อัลลอฮ์ผทู้ รงอํานาจกล่าวถึงกล่มุ ชนของนบนี หุ ว์ า่ การทีคนทัวไปถกู ถือวา่ เปนผรู้ ว่ มรบั ผดิ หรอื เปนสว่ นหนงึ ของความ ผดิ ดงั กล่าว เพราะเปนผสู้ รา้ งทรราชขนึ มาเอง ดงั วลีทีกล่าววา่ มคี น ‫َﻗﺎ َل ﻧُﻮ ٌح َر ﱢب ِإﻧﱠ ُﻬ ْﻢ َﻋ َﺼ ْﻮﻧِﻲ َواﺗﱠ َﺒ ُﻌﻮا َﻣ ْﻦ ﻟَ ْﻢ ﻳَﺰِ ْد ُه َﻣﺎﻟُ ُﻪ‬ ถามฟาโรหว์ า่ ท่านเปนฟาโรหไ์ ดเ้ พราะอะไร ? ฟาโรหต์ อบวา่ ฉันไมพ่ บ ‫َو َوﻟَ ُﺪ ُه ِإ ﱠﻻ َﺧ َﺴﺎ ًرا‬ ใครขดั ขวางฉัน นหุ ์กล่าววา่ โอ้พระเจา้ ของฉนั พวกเขาไมเ่ ชอื ฟงฉนั ● ทหารและเครอื งมอื ของทรราชรว่ มรบั ผดิ และทําตามผทู้ ีทรพั ยส์ นิ ของเขาและลกู ชายของเขา ไมไ่ ด้เพมิ ขนึ นอกจากการสญู เสยี ( นหุ ์ : 21) ผทู้ ีแบกรบั ความรบั ผดิ ชอบกับทรราชคือ“ เครอื งมอื แหง่ อํานาจ” ทีอัลกรุ อานเรยี กวา่ “ ทหาร” หมายถึง“ กําลังทหาร” และอัลลอฮ์มหาบรสิ ทุ ธกิ ล่าวถึงชนเผา่ ของนบฮี ูดวา่ ซงึ เปนเขยี วเล็บของอํานาจทางการเมอื ง และเปนแสท้ ีมวลชน จะถกู คกุ คามหากพวกเขากบฏหรอื คิดจะกบฏ ْ‫َوﺗِ ْﻠ َﻚ َﻋﺎ ٌد ۖ َﺟﺤَ ُﺪواْ ﺑِـ ﺎ ٰﻳَ ِﺖ َرﺑﱢ ِﻬ ْﻢ َو َﻋ َﺼ ْﻮاْ ُر ُﺳﻠَ ُﻪۥ َوٱﺗﱠ َﺒ ُﻌ ٓﻮا‬ ‫أَ ْﻣ َﺮ ُﻛ ﱢﻞ َﺟ ﱠﺒﺎرٍ َﻋ ِﻨﻴ ٍۢﺪ‬ คัมภีรก์ รุ อานกล่าววา่ และชาวเผา่ อ๊าดเหล่านีปฏิเสธสญั ญาณของพระเจา้ ‫ِإ ﱠن ِﻓ ۡﺮ َﻋ ۡﻮ َن َو َٰﻫ َٰﻤ َﻦ َوﺟُ ُﻨﻮ َد ُﻫ َﻤﺎ َﻛﺎﻧُﻮاْ َٰﺧ ِﻄـِٔﻴ َﻦ‬ ของพวกเขา และฝาฝนศาสนทตู ของเขา และ ปฏิบตั ิตามคําสงั ของผมู้ อี ํานาจผดู้ ือรนั ทกุ คน \"(ฮูด: \"แท้จรงิ ฟาโรห์และฮามาน และไพรพ่ ลของเขาทังสองเปน พวกทีมคี วามผดิ \" (อัลกอศ๊อศ : 8 ) 59) ‫َﻓﺄَ َﺧ ۡﺬ ٰﻧَ ُﻪ َوﺟُ ُﻨﻮ َد ُهۥ َﻓ َﻨ َﺒ ۡﺬ ٰﻧَ ُﻬ ۡﻢ ِﻓﻲ ٱﻟۡ َﻴ ﱢۖﻢ َﻓﭑﻧ ُﻈ ۡﺮ َﻛ ۡﻴ َﻒ َﻛﺎ َن َٰﻋ ِﻘ َﺒ ُﺔ‬ และกล่าวถึงชนชาติของฟาโรหว์ า่ ‫ٱﻟ ﱠﻈ ٰـ ِﻠ ِﻤﻴ َﻦ‬ ‫َﻓﭑ ۡﺳ َﺘﺨَ ﱠﻒ َﻗ ۡﻮ َﻣ ُﻪۥ َﻓﺄَ َﻃﺎ ُﻋﻮ ُۚه ِإﻧﱠ ُﻬ ۡﻢ َﻛﺎﻧُﻮاْ َﻗ ۡﻮ ٗﻣﺎ َٰﻓ ِﺴ ِﻘﻴ َﻦ‬ ดังนนั เราได้ลงโทษเขาและไพรพ่ ลของเขา เราได้โยนพวก เขาลงไปในทะเล จงพจิ ารณาเถิด บนั ปลายของพวกอธรรม เปนเชน่ ไร (อัลกอศ๊อศ : 40 ) เขา(ฟาโรห์) ก็พาลกับชนชาติของเขา และพวกเขาก็ เชอื ฟงต่อเขา พวกเขาเปนคนเลว (อัซซุครฟุ : 54) หน้า 5

● ซุนนะฮ์ต่อต้านผนู้ าํ ทรราช รายงานจากจาบริ วา่ ท่านศาสดา - ขอพระเจา้ อวยพรและ ประทานสนั ติสขุ แก่ท่าน - กล่าวกับ กะอับ บนิ อัจเราะฮ์ วา่ ซุนนะฮฺไดโ้ จมตีผนู้ าํ ทรราชผซู้ งึ ปกครองประชาชนดว้ ยความรนุ แรง ‫ وﻣﺎ إﻣﺎرة‬:‫ ﻗﺎل‬.\"‫أﻋﺎذك ﷲ ﻣﻦ إﻣﺎرة اﻟﺴﻔﻬﺎء ﻳﺎ ﻛﻌﺐ‬ และหากพวกเขาพูดก็จะไมม่ ใี ครกล้าตอบโต้ พวกเขาชอบความรอ้ น ‫ ﻻ ﻳﻬﺪون ﺑﻬﺪﻳﻲ وﻻ‬،‫ \"أﻣﺮاء ﻳﻜﻮﻧﻮن ﺑﻌﺪي‬:‫اﻟﺴﻔﻬﺎء؟ ﻗﺎل‬ เหมอื นดงั แมงเมา่ ‫ وأﻋﺎﻧﻬﻢ ﻋﲆ‬،‫ ﻓﻤﻦ ﺻﺪﻗﻬﻢ ﺑﻜﺬﺑﻬﻢ‬،‫ﻳﺴﺘﻨﻮن ﺑﺴﻨﺘﻲ‬ ซุนนะฮ์ยงั โจมตีผทู้ ีคกุ เขา่ เผาเครอื งหอมในมอื ของพวกเขา เปนมอื ‫ وﻻ ﻳﺮدون ﻋﲆ‬،‫ ﻓﺄوﻟﺌﻚ ﻟﻴﺴﻮا ﻣﻨﻲ وﻟﺴﺖ ﻣﻨﻬﻢ‬،‫ﻇﻠﻤﻬﻢ‬ ไมผ้ ชู้ ว่ ยเหลือทรราช ،‫ وﻣﻦ ﻟﻢ ﻳﺼﺪﻗﻬﻢ ﺑﻜﺬﺑﻬﻢ وﻟﻢ ﻳﻌﻨﻬﻢ ﻋﲆ ﻇﻠﻤﻬﻢ‬،‫ﺣﻮض‬ ‫ وﺳﻴﺮدون ﻋﲆ ﺣﻮﺿﻲ‬،‫ وأﻧﺎ ﻣﻨﻬﻢ‬،‫ﻓﺄوﻟﺌﻚ ﻣﻨﻲ‬ นอกจากนนั ซุนนะฮฺยงั ไดก้ ล่าวโทษอุมมะฮ์ทีตกอยูภ่ ายใต้ความกลัวที “ขอพระเจา้ ปกปองท่านจากการปกครองของคนพาล แพรก่ ระจายไปทัว และไมก่ ล้ากล่าวกับผอู้ ธรรมไดว้ า่ โอ้ผกู้ ดขเี อ๋ย โอ้กะอับ ” มรี ายงานจากอบูมูซา วา่ ท่านศาสนทตู ศอลฯ กล่าววา่ เขากล่าววา่ \"การปกครองของคนพาลคืออะไรครบั ? ‫ ﺣﻖ ﻋﲆ ﷲ أن‬،‫إن ﻓﻲ ﺟﻬﻨﻢ وادﻳًﺎ وﻓﻲ اﻟﻮادي ﺑﺌﺮ ﻳﻘﺎل ﻟﻪ ﻫﺒﻬﺐ‬ ‫\"ﻳﺴﻜﻨﻪ ﻛﻞ ﺟﺒﺎر ﻋﻨﻴﺪ‬ ท่านนบี ศอลฯ กล่าววา่ “ มหี บุ เขาในนรกญาฮันนมั และในหบุ เขามบี อ่ ลกู หนงึ ชอื วา่ “ ผนู้ าํ ยุคหลังจากฉนั พวกเขาไมป่ ฏิบตั ิตามแนวทาง \"ฮับฮับ\" พระเจา้ ทรงมสี ทิ ธทิ ีจะให้ผใู้ ชอ้ ํานาจบาตรใหญท่ ีดือรนั ทกุ ของฉนั คนไดอ้ าศัยอยู”่ ใครก็ตามทีเชอื ในการโกหกของพวกเขา และชว่ ยพวก [ รายงานโดยอัลตอบารอนี ดว้ ยสายรายงานทีดี ดงั ทีอัลมุนซริ กี ล่าว เขาในการกระทําความอยุติธรรม คนเหล่านนั ไมใ่ ชพ่ วก ไวใ้ น \"อัลตัรฆบี \" และอัลฮัยซะมยี ์ ใน: \"อัลมจั มะอ์\" 5/197 และอัลหากิ ของฉนั และฉนั ไมไ่ ด้เปนพวกเขา และพวกเขาไมอ่ าจ ม เหน็ วา่ เปนหะดษี ซอเหยี ะห์ และอัลซะฮะบยี เ์ หน็ พอ้ งดว้ ย 4/332 ] มายงั สระของฉนั และรายงานจากมุอาวยี ะฮ์ วา่ ท่านศาสดา - ขอใหพ้ ระเจา้ ประทานพร สว่ นคนทีไมเ่ ชอื ในคําโกหกของพวกเขา และไมช่ ว่ ย และสนั ติสแุ ดเ่ ขา - กล่าววา่ พวกเขาในการกระทําความอยุติธรรม คนเหล่านนั เปน พวกของฉนั และฉนั ก็เปนพวกเขา และพวกเขาจะได้ \"‫ﻳﻜﻮن ﻣﻦ ﺑﻌﺪي أﺋﻤﺔ ﻳﻘﻮﻟﻮن ﻻ ﻳﺮد ﻋﻠﻴﻪ ﻗﻮﻟﻬﻢ ﻳﺘﻘﺎﺣﻤﻮن ﻓﻲ اﻟﻨﺎر‬ มายงั สระของฉนั \" ‫\"ﻛﻤﺎ ﻳﺘﻘﺎﺣﻢ اﻟﻘﺮدة‬ [รายงานโดยอะหมดั และอัลบซั ซาร และผรู้ ายงานล้วนเชอื “ จะมผี นู้ าํ ยุคหลังจากฉนั พวกเขาพูดโดยไมม่ กี ารโต้ตอบ และ ถือได้ ดงั ใน หนงั สอื อัลตัรฆบี ของอัลมุนซรี ยี ์ และหนงั สอื อัลซาวาอิด โดย อัลฮัยซะมยี ์ 5/247] พวกเขาจะกระโจนลงในกองไฟเหมอื นกับฝูงลิง ” หะดษี มรั ฟูอ์ รายงานจากมุอาวยี ะฮ์ วา่ [หะดษี รายงานโดยอบูยะลาและอัลตอบารอนยี ์ ในหนงั สอื Sahih Al- เลขทีJami Al-Sagheer 3615 ] \"‫ وﻻ ﻳﺄﺧﺬ اﻟﻀﻌﻴﻒ‬،‫ﻻ ﺗﻘﺪس أﻣﺔ ﻻ ﻳﻘﻀﻰ ﻓﻴﻬﺎ ﺑﺎﻟﺤﻖ‬ ‫\"ﻣﻨﻬﺎ ﺣﻘﻪ ﻣﻦ اﻟﻘﻮي ﻏﻴﺮ ﻣﺘﻌﺘﻊ‬ \"ประชาชาติหนงึ จะไรศ้ ักดิศรี เมอื ไมม่ กี ารพพิ ากษาด้วย ความยุติธรรม และผอู้ ่อนแอจะไมส่ ามารถเอาสทิ ธขิ อง ตนจากผแู้ ขง็ แกรง่ โดยปราศจากความหวาดกลัว\" [รายงานโดยอัลตอบารอนี โดยผรู้ ายงานทีนา่ เชอื ถือ ดงั ที อัลมุนซรี ยี แ์ ละอัลฮัยซะมยี ไ์ ดก้ ล่าวไว้ และดงั ทีท่านได้ รายงานจากอิบนมุ สั อูดดว้ ยสายรายงานทีดี 5/20 และอิ บนมุ าจะฮ์ จากอบมี สั อูด ] หนา้ 6

หะดษี มรั ฟูอ์ รายงานจากอับดลุ ลอฮ์ บนิ อัมร์ วา่ ● ผปู้ กครองในมโนทัศนข์ องศาสนาอิสลาม \"‫ ﻳﺎ ﻇﺎﻟﻢ ﻓﻘﺪ ﺗﻮدع ﻣﻨﻬﻢ‬: ‫\"إذا رأﻳﺖ أﻣﺘﻲ ﺗﻬﺎب أن ﺗﻘﻮل ﻟﻠﻈﺎﻟﻢ‬ ผปู้ กครองในมโนทัศนข์ องศาสนาอิสลาม คือตัวแทนขอ งอุมมะฮฺหรอื พนกั งานทีได้รบั การวา่ จา้ ง และเปนสทิ ธิ เมอื ท่านเห็นประชาชาติของฉนั กลัวทีจะกล่าวกับผกู้ ดขวี า่ \"โอ้ผู้ ของตัวการทีจะตรวจสอบตัวแทนหรอื ถอนการเปน กดข\"ี ก็จะถึงกาลต้องสนิ สญู แล้ว\" ตัวแทนได้ตามประสงค์ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ หากตัวแทน ละเมดิ พนั ธกิจทีได้รบั มอบหมายจากตัวการ [ รายงานโดยอะหมดั ใน อัลมุสนดั ชากิรเหน็ วา่ เปนสายรายงานทีซอ เหยี ะห์ (6521) และ อัลฮัยซะมยี อ์ ้างจากบซั ซาร์ ดว้ ยสายรายงาน 2 ในศาสนาอิสลาม ผปู้ กครองไมใ่ ชเ่ ปนผมู้ อี ํานาจโดยเด็ด สาย หนงึ สายเปนสายรายงานทีซอเหยี ะห์ 7/262 และรายงานจา ขาด แต่ถือเปนมนษุ ยค์ นหนงึ ทีอาจมถี กู มผี ดิ อาจเปน กอัลหากิม และเหน็ วา่ เปนหะดษี ซอเหยี ะห์ ซงึ อัลซาฮาบยี ก์ ็เหน็ ดว้ ย ] คนยุติธรรมและไมย่ ุติธรรม และเปนสทิ ธขิ องประชากร มุสลิมทัวไป ทีจะทําการแก้ไข หากผปู้ กครองทําผดิ ● ชูรอ (การให้คําปรกึ ษา) นาซฮี ัต (การให้คําแนะนาํ ) อัมร์ นคี ือสงิ ทีประกาศโดยผปู้ กครองทียงิ ใหญท่ ีสดุ ของชาว บลิ มะรูฟ (สง่ เสรมิ ความดี) และนะห์ยุอานิลมุงกัร (ห้ามปราม มุสลิมรองจากศาสนทตู ของพระเจา้ - ขอใหพ้ รของพระเจา้ ความชวั ) และสนั ติจงมแี ดท่ ่าน- คอลีฟะฮ์ทังสี คลุ าฟาอ์รอชดิ นู อัล มะฮ์ดยี ูน ทีเราถกู บญั ชาใชใ้ หป้ ฏิบตั ิตามซุนนะหข์ องพวก ศาสนาอิสลามไดบ้ ญั ญตั ิใหก้ ารชูรอ-ปรกึ ษาหารอื - เปนหนงึ ในกฎ เขาอยา่ งเขม้ งวด เนอื งจากถือเปนการสบื ทอดจากครคู น เกณฑ์ของวถิ ีชวี ติ อิสลาม บงั คับใหผ้ ปู้ กครองต้องขอคําปรกึ ษา และ แรก นบมี ูฮัมหมดั - ขอใหพ้ รของพระเจา้ และสนั ติจงมแี ด่ บงั คับใหอ้ ุมมะฮฺต้องใหค้ ําแนะนาํ ถึงขนั ถือวา่ การใหค้ ําแนะนาํ นนั เปน ท่าน ทังหมดของศาสนาอิสลาม อันรวมถึงการใหค้ ําแนะนาํ แก่ผนู้ าํ ของ ชาวมุสลิม ในสนุ ทรพจนค์ รงั แรกของคอลีฟะฮ์ท่านแรก อาบูบกั ร์ นอกจากนี อิสลามยงั ถือวา่ การสง่ เสรมิ ความดแี ละการยบั ยงั ความ ท่านกล่าววา่ ชวั (อัมรบ์ ลิ มะรฟู และนะหย์ ุอานลิ มุงกัร) เปนหนา้ ทีบงั คับ ยงิ ไปกวา่ นนั อิสลามยงั ถือวา่ การญฮิ าดทียงิ ใหญท่ ีสดุ คือการพูด “ โอประชาชนของฉนั ความจรงิ ต่อหนา้ ทรราช หากพวกท่านเห็นวา่ ฉนั ทําถกู ก็จงชว่ ยเหลือฉนั ‫أﻓﻀﻞ اﻟﺠﻬﺎد ﻛﻠﻤﺔ ﺣﻖ ﺗﻘﺎل ﻋﻨﺪ ﺳﻠﻄﺎن ﺟﺎﺋﺮ‬ แต่หากเห็นวา่ ฉนั ทําผดิ ก็จงแก้ไขให้ถกู \"การญฮิ าดทียงิ ใหญท่ ีสดุ คือการพูดความจรงิ ต่อหนา้ ทรราช\" จงเชอื ฟงฉนั ตราบเท่าทีฉนั เชอื ฟงอัลลอฮ์ (หะดษี ) หากฉนั ฝาฝนต่อพระองค์ พวกท่านก็ไมต่ ้องเชอื ฟงฉนั \" ซงึ หมายความวา่ การต่อต้านการกดขขี ม่ เหงและการคอรร์ ปั ชนั ภาย ใน เปนทีชนื ชมของพระเจา้ มากกวา่ การต่อต้านศัตรจู ากภายนอก ท่านอุมรั คอลีฟะฮ์ท่านที 2 กล่าววา่ เพราะประการแรกมกั เปนสาเหตขุ องประการหลัง \" ขอพระเจา้ ทรงเมตตาบุคคลทีชแี นะฉนั ถึงความผดิ พลาดของฉนั ” และวา่ \"หากเห็นวา่ ฉนั ทําผดิ ก็จงแก้ไขให้ถกู \" พวกเขาจงึ กล่าววา่ \"โอ้บุตรคอตตอบ หากเราเห็นท่านทําผดิ เราจะ แก้ไขด้วยดาบของเรา\" ครงั หนงึ สตรนี างหนงึ ตอบโต้ท่านขณะปราศรยั อบูบ่ น มมิ บรั ท่านอุมรั ไมไ่ ดโ้ กรธแค้นอะไรเลย ซาํ ยงั กล่าววา่ \"ผู้ หญงิ คนนถี กู อุมรั ผดิ \" ท่านอาลี ไดก้ ล่าวกับชายคนหนงึ ทีโต้แยง้ ท่านวา่ \"ฉนั มี ทังทีถกู และผดิ \" ‫ وﻓﻮق ﻛﻞ ذي ﻋﻠﻢ ﻋﻠﻴﻢ‬. \"และ พระองค์ทรงรูเ้ หนอื ผรู้ ูท้ กุ คน\" (ยูซุฟ : 76) หนา้ 7

● อิสลามก้าวลําในการกําหนดหลักการ ขา้ พเจา้ ไดร้ ะบุไวใ้ นหนงั สอื บางเล่มวา่ เปนสทิ ธขิ องเราทีจะอ้าง แนวคิดและวธิ กี ารทีเปนประโยชนต์ ่อเราจากผอู้ ืน .. ตราบใดทีไม่ อิสลามก้าวลํานําหน้าประชาธปิ ไตยในการกําหนดหลัก ขดั แยง้ กับหลักการทีชดั เจน หรอื กฎชะรอี ะฮฺทีแนน่ อนตายตัว การทีเปนพนื ฐานของประชาธปิ ไตยดังกล่าว แต่ ปล่อยรายละเอียดไวส้ าํ หรบั ความอุตสาหะพยายาม ในการดงั กล่าว เราต้องเปลียนแปลงสงิ ทีเราเคยใช้ และเติมเต็ม ของมุสลิมในการวเิ คราะหว์ นิ ิจฉัยจากแหล่งมาของ จติ วญิ ญาณทีจะทําใหส้ งิ ทีนาํ มานนั กลายเปนสว่ นหนงึ ของเรา บทบญั ญัติ และสอดคล้องกับผลประโยชน์ทางโลก และทําใหส้ งิ นนั เสยี สญั ชาติแรกไป พฒั นาการชวี ติ ตามความเหมาะสมของเวลา สถานที และบรบิ ทของสงั คม ● การเลือกตังถือเปนการทําหนา้ ทีเปนพยานลักษณะหนงึ ● จุดเด่นของระบอบประชาธปิ ไตย ระบบการเลือกตัง หรอื ระบบการลงคะแนน ในมุมมองของ ศาสนาอิสลาม ก็คือ \"การทําหนา้ ทีเปนพยาน\" ของความถกู ต้อง จุดเดน่ ของระบอบประชาธปิ ไตยคือ เปนการค้นพบหลัง เหมาะสมของผสู้ มคั ร .. การต่อสอู้ ันยาวนานกับการกดขขี องเหล่าจกั รพรรดแิ ละ กษัตรยิ ท์ รราช ทําใหไ้ ดพ้ บสตู รและวธิ กี ารทีถือเปนหลัก คณุ สมบตั ิของ \"เจา้ ของคะแนนเสยี ง\" จะต้องเปนไปตาม ประกันทีดที ีสดุ ในการปกปองประชาชนจากการกดขขี อง เงือนไขของพยาน คือจะต้องมคี วามยุติธรรมและประพฤติดี ทรราช ดงั ทีอัลลอฮ์ผทู้ รงอํานาจกล่าววา่ ไมม่ ขี อ้ หา้ มสาํ หรบั มนษุ ยชาติ นกั คิดและผนู้ าํ ในการคิดหา ‫َوأَ ْﺷ ِﻬ ُﺪواْ َذ َو ْى َﻋ ْﺪ ٍۢل ﱢﻣﻨﻜُ ْﻢ‬ สตู รและวธิ กี ารอืน ๆ ทีอาจนาํ ไปสสู่ งิ ทีสมบูรณแ์ ละเปน \"และจงให้พวกท่านผทู้ ีมคี วามยุติธรรม จาํ นวน 2 คน เปน อุดมคติมากกวา่ นี แต่จนกวา่ สงิ นจี ะเปนไปไดแ้ ละประสบ พยาน\" (อัตตอล้าก : 2) ความสาํ เรจ็ ในความเปนจรงิ เราคิดวา่ จาํ เปนทีเราจะต้อง อ้างอิงจากวธิ กี ารของประชาธปิ ไตยในการบรรลสุ คู่ วาม ‫ِﻣ ﱠﻤﻦ َﺗ ْﺮ َﺿ ْﻮ َن ِﻣ َﻦ ٱﻟ ﱡﺸ َﻬ َﺪآ ِء‬ ยุติธรรม การปรกึ ษาหารอื การเคารพสทิ ธมิ นษุ ยชน ในการ เผชญิ กับการกดขขี ม่ เหงของทรราชในโลกนี \"จากบรรดาผทู้ ีพวกท่านยอมรบั ในหมูพ่ ยาน\" (อัลบะกอเราะห:์ ในบรรดากฎชารอี ะหด์ งั กล่าวไดแ้ ก่ 282) ‫ﻣﺎ ﻻ ﻳﺘﻢ اﻟﻮاﺟﺐ إﻻ ﺑﻪ ﻓﻬﻮ واﺟﺐ‬ หนา้ 8 - สงิ ทีสงิ วายบิ (ขอ้ บงั คับ)ไมอ่ าจบรรลผุ ลได้โดยไมม่ สี งิ นนั สงิ นนั ก็ถือสงิ วายบิ (ขอ้ บงั คับ) ดังนนั หากวตั ถปุ ระสงค์ใดๆ ทีชอบธรรมด้วยกฎหมาย อิสลาม แต่ไมอ่ าจสมั ฤทธผิ ลได้นอกจากด้วยเหตปุ จจยั ใดๆ ปจจยั ดังกล่าวก็จะมสี ถานะเดียวกับเปาหมาย ศาสนาอิสลามไมห่ า้ มอ้างอิงความคิดเชงิ ทฤษฎีหรอื วธิ กี าร แก้ปญหาทีใชไ้ ดจ้ รงิ จากผทู้ ีไมใ่ ชม่ ุสลิม เพราะศาสดา - ขอ พระเจา้ อวยพรและมอบสนั ติสขุ ใหท้ ่าน - รบั แนวคิด“ ขุด รอ่ งลึก” ในชว่ งสงครามอะหซ์ าบ ซงึ เปนวธิ กี ารหนงึ ของ เปอรเ์ ซยี และท่านใชป้ ระโยชนจ์ ากนกั เชลยศึกในสงครามบดั ร์ เพอื สอนหนงั สอื ใหแ้ ก่เดก็ ๆทีไมร่ วู้ ธิ อี ่านและเขยี น เพราะภมู ปิ ญญาเปนสงิ ของทีผศู้ รทั ธาทีทําหล่นหายไป หากเขาพบมนั ทีใด เขาก็มกี รรมสทิ ธมิ ากกวา่ ผอู้ ืน

ดงั นนั ใครก็ตามทีเปนพยานโดยทจุ รติ ก็ถือวา่ ได้ ● อํานาจอธปิ ไตยของประชาชน และอํานาจอธปิ ไตย กระทําการเปนพยานเท็จ ซงึ อัลกรุ อานไดเ้ ชอื ม โยงกับการตังภาคีต่อพระเจา้ โดยกล่าววา่ ของอัลลอฮ์ ِ‫َﻓﭑ ْﺟ َﺘ ِﻨ ُﺒﻮاْ ٱﻟﺮﱢ ْﺟ َﺲ ِﻣ َﻦ ٱ ْﻷَ ْو ٰﺛَ ِﻦ َوٱ ْﺟ َﺘ ِﻨ ُﺒﻮاْ َﻗ ْﻮ َل ٱﻟﺰﱡور‬ สงิ ทีเราต้องการมุง่ เนน้ ณ ทีนคี ือสงิ ทีเราไดก้ ล่าวไวใ้ นตอนต้นซงึ ก็ คือ : แก่นแท้ของประชาธปิ ไตยสอดคล้องกับแก่นแท้ของศาสนา \"ดังนันจงหลีกเลียงสงิ ทีน่ารงั เกียจจากบรรดารูป อิสลามอยา่ งแนน่ อน หากเราอ้างอิงแหล่งทีมาดังเดิมของ เคารพและหลีกเลียงคําพูดเท็จ (อัลฮัจญ์: 30) อิสลาม และนาํ มาจากแหล่งทีมาอันบรสิ ทุ ธิ ได้แก่ อัลกรุ อานและ ซุนนะห์ และผลงานของบรรดาคอลีฟะฮ์ผใู้ หญ่ ไมใ่ ชจ่ าก ดังนัน ใครก็ตามทีเปนพยานใหผ้ สู้ มคั รเพยี งเพราะ ประวตั ิศาสตรข์ องผนู้ าํ มุสลิม ความอยุติธรรมกษัตรยิ ท์ รราช เขาเปนญาติหรอื คนในท้องถินของตน หรอื เพอื ผล หรอื จากฟตวาของนกั ปราชญข์ องสลุ ต่าน หรอื กัลยาณชนผไู้ ม่ ประโยชน์สว่ นตัวทีแสวงหาจากผสู้ มคั ร แสดงวา่ เขา ศึกษาในศาสตรอ์ ยา่ งลึกซงึ ถ่องแท้ ได้ฝาฝนคําสงั ของพระผเู้ ปนเจา้ ผทู้ รงอํานาจ ที บญั ชาวา่ คําพูดทีกล่าววา่ : ประชาธปิ ไตยหมายถึงการปกครองประชาชน โดยประชาชน เปนการขดั แยง้ กับหลักการทีวา่ \"อํานาจเปนขอ ‫َوأَ ِﻗﻴ ُﻤﻮا اﻟ ﱠﺸ َﻬﺎ َد َة ﻟِﻠﱠﻪ‬ งอัลลอฮ์\" ถือวา่ เปนคําพูดทีไมม่ เี หตผุ ลรองรบั เพราะไมจ่ าํ เปน สาํ หรบั ผทู้ ีเรยี กรอ้ งประชาธปิ ไตยวา่ จะต้องปฏิเสธอํานาจของ \"จงเปนพยานเพอื อัลลอฮ์\" (อัตตอล้าก : 2) พระเจา้ เหนอื มวลมนษุ ย์ เนอื งจากผทู้ ีสนบั สนนุ ประชาธปิ ไตยสว่ น ใหญไ่ มไ่ ดค้ ิดถึงสงิ นี แต่สงิ ทีพวกเขาหมายถึงอยา่ งกระตือรอื รน้ คือ การปฏิเสธการปกครองแบบเผดจ็ การ การปฏิเสธการปกครองของ ผนู้ าํ ทรราชทีอ้างประชาชน และผใู้ ดทีล้มเหลวในการปฏิบตั ิหน้าทีในการเลือกตัง ระบอบประชาธปิ ไตยทีคนเหล่านหี มายถึง เปนเรอื งทีประชาชนเลือก ของตน จนเปนเหตทุ ําใหค้ นดีมคี วามสามารถสอบตก ผปู้ กครองตามทีพวกเขาต้องการ โดยให้มกี ารตรวจสอบการกระ และผไู้ มส่ มควรกลับได้รบั เสยี งขา้ งมาก และเปนผทู้ ีมี ทําของผปู้ กครองเหล่านนั รวมถึงปฏิเสธคําสงั ของผนู้ าํ หากพวก คณุ สมบตั ิไมต่ รงตามบทบญั ญัติอิสลามทีวา่ ต้อง เขาละเมดิ รฐั ธรรมนญู ของประเทศ ทีในวลีของอิสลามเรยี กวา่ เปน\"คนเก่งและดี\" ถือวา่ เขามคี วามผดิ ฐานปกปดการ \"การปฏิเสธคําสงั หากผนู้ าํ สงั ให้ทําบาป\" และมสี ทิ ธถิ อดถอนพวก ใหก้ ารเปนพยาน ในเรอื งทีมคี วามจาํ เปนต่อสงั คม เขา ออกหากพวกเขาเบยี งเบนและไมย่ ุติธรรม และไมต่ อบรบั คํา มากทีสดุ ผทู้ รงอํานาจตรสั วา่ : แนะนาํ หรอื คําเตือน . ْ‫َوﻻَ ﻳَﺄْ َب اﻟﺸﻬﺪاء ِإ َذا َﻣﺎ ُد ُﻋﻮا‬ \"และพยานจะไมป่ ฏิเสธหากพวกเขาถกู รอ้ งขอ\" (อัลบะกอเราะห์ : 282) ‫َو َﻣ ْﻦ ﻳَ ْﻜ ُﺘ ْﻤ َﻬﺎ َﻓ ِﺈﻧﱠ ُﻪ آﺛِ ٌﻢ َﻗ ْﻠ ُﺒ ُﻪ‬ \"และอยา่ ปดบงั พยานหลักฐาน และผู้ใดปกปดมนั ถือวา่ เขาเปนคนใจบาป\" (อัลบะกอเราะห์ : 283) คณุ สมบตั ิและเงือนไขอืนๆ ของผสู้ มคั รก็เชน่ เดียวกัน ถือเปนคณุ สมบตั ิทีควรใหค้ วามสาํ คัญยงิ กวา่ เมอื รวมถึงเงือนไขและแนวทางเหล่านีในระบบการ เลือกตัง ในทีสดุ แล้วเราจงึ ถือวา่ เปนระบบอิสลาม แมว้ า่ จะมกี ารนํามาจากผอู้ ืนก็ตาม หนา้ 9

● หลักการของ \"อัลหกุ ม์ ลิลลาฮ์-อํานาจอธปิ ไตย ท่านอาลีตําหนทิ ีพวกเขาใชห้ ลักการนไี ปคัดค้านหลักการ อืนของอัลลอฮ์ ( หมายถึง กรณอี นญุ าโตตลุ าการทีท่านอา เปนของอัลลอฮ์\" หมายความวา่ อะไร ? ลีทํากับท่านมุอาวยี ะฮ์ เพอื ยุติขอ้ พพิ าท แตคอวารจิ ญไ์ ม่ ยอมรบั - ผแู้ ปล ) ฉันอยากจะยาํ เตือนก่อน ณ ตรงนวี า่ หลักการ \"อัลหกุ ม์ ลิล ลาฮ์-อํานาจอธปิ ไตยเปนของอัลลอฮ์” เปนหลักการของศาสนา จะไมใ่ ชค่ ําพูดแหง่ ความจรงิ ไดอ้ ยา่ งไร เพราะหลักการนนี าํ อิสลามทีแท้จรงิ ทีนกั วชิ าการดา้ นอุศูลลุ ฟกฮ์ - ศาสตรว์ า่ ดว้ ย มาจากคัมภีรอ์ ัลกรุ อานทีชดั เจน อัลลอฮ์กล่าววา่ การวนิ จิ ฉัยบทบญั ญตั ิอิสลาม - ทังหมดต่างยอมรบั หลักการนี ในการอภิปรายเกียวกับ “บทบญั ญตั ิกฎหมายอิสลาม-หกุ ่มุ ชรั ‫إن اﻟﺤﻜﻢ إﻻ ﻟﻠﻪ‬ อีย”์ และในกรณอี ภิปรายเกียวกับ “ผปู้ กครอง” พวกเขาเหน็ “ไมม่ กี ารพพิ ากษา/ปกครอง นอกจากมไี วเ้ พอื อัลลอฮ์ พอ้ งกันวา่ “ ผปู้ กครอง” คือพระเจา้ ผทู้ รงฤทธานภุ าพ และ เท่านนั ” (ยูซุฟ : 40) ศาสดาเปนผสู้ อื สารของพระเจา้ โดยทีอัลลอฮ์ผทู้ รงฤทธานุ ภาพเปนผสู้ งั ใช้ และผสู้ งั หา้ ม อนญุ าตและไมอ่ นญุ าต ตลอดจน ดงั นนั การปกครองของพระเจา้ ผทู้ รงมหทิ ธฤิ ทธเิ หนอื บญั ญตั ิกฎเกณฑ์ต่างๆ มนษุ ยน์ นั เปนความจรงิ แท้แนน่ อน และแบง่ ออกเปน 2 ประเภท และคํากล่าวของกล่มุ คอวารจิ ญ-์ กล่มุ กบฏในยุคคอลีฟะฮ์ แรกๆ- ทีวา่ \"ลาหกุ ม์ อิลลา ลิลลาฮ์-ไมม่ อี ํานาจปกครองใด 1 - อํานาจปกครองจกั รวาล ซงึ หมายความวา่ พระเจา้ ทรง ยกเวน้ เปนสทิ ธสิ าํ หรบั พระเจา้ เท่านนั ” เปนคํากล่าวทีถกู เปนผจู้ ดั การบรหิ ารจกั รวาล ผบู้ รหิ ารกิจการของพระองค์ ต้องในตัวของมนั เอง แต่สงิ ทีไมถ่ กู ต้องคือการใชผ้ ดิ ทีผดิ ซงึ เปนไปตามลิขติ ของพระองค์ ตามก\"เกณฑ์ทีไมม่ ี ทาง โดยทีพวกเขาเพอื ปฏิเสธคําตัดสนิ ของ ผนั แปร ไมว่ า่ เปนสงิ ทีรแู้ ละไมร่ ู้ ดงั เชน่ ในคําพูดนนั พระ อนญุ าโตตลุ าการทีเปนมนษุ ยใ์ นขอ้ พพิ าท ซงึ เปนการกระทํา ผทู้ รงฤทธานภุ าพวา่ ทีขดั แยง้ กับบทบญั ญตั ิของอัลกรุ อานทียอมรบั การ อนญุ าโตตลุ าการในหลายๆที ‫أو ﻟﻢ ﻳﺮوا أﻧﺎ ﻧﺄﺗﻲ اﻷرض ﻧﻨﻘﺼﻬﺎ ﻣﻦ أﻃﺮاﻓﻬﺎ وﷲ ﻳﺤﻜﻢ‬ ‫ﻻ ﻣﻌﻘﺐ ﻟﺤﻜﻤﻪ وﻫﻮ ﺳﺮﻳﻊ اﻟﺤﺴﺎب‬ หนงึ ในสงิ ทีทราบกันดที ีสดุ คือ กรณอี นญุ าโตตลุ าการระหวา่ งคู่ สมรสหากมขี อ้ พพิ าทเกิดขนึ ระหวา่ งพวกเขา \"หรอื พวกเขาไมเ่ ห็นวา่ เรามาถึงโลกทีเราลดหลันมนั ลง มาจากชายขอบ และอัลลอฮ์ทรงปกครอง และไมม่ กี าร นนั คือเหตผุ ลทีท่านคอลีฟะฮ์อาลีผซู้ อื สตั ย์ - ขอใหพ้ ระเจา้ พอใจ ปกครองหลังจากการปกครองของพระองค์ และ กับเขา - ตอบโต้ต่อชาวคารจิ โดยกล่าววา่ \"คําพูดแห่งความ พระองค์เปนผตู้ ัดสนิ อยา่ งรวดเรว็ \" ( อัรเราะด์ : 41) จรงิ แต่ใชเ้ พอื ความเท็จ\" สงิ ทีปรากฎมาในความเขา้ ใจทันทีคือ การปกครองในทีนี หมายถึง การปกครองในเชงิ บรหิ ารจดั การจกั รวาล ไมใ่ ช่ การปกครองในเชงิ นติ ิบญั ญตั ิในเรอื งกฎหมาย 2- การกํากับดแู ลด้านกฎหมายเชงิ บทบญั ญตั ิ ซงึ เปน อํานาจปกครองดส้ งานคําสงั ใชแ้ ละขอ้ หา้ ม ขอ้ ผกู มดั และ การใชส้ ทิ ธเิ ลือก และเปนสงิ ทีปรากฏในคําสงั ทีพระเจา้ สง่ ผู้ สง่ สารมา และพระองค์ทรงสง่ คัมภีมา เพอื ใชก้ ารกําหนด ภาระหนา้ ที ขอ้ อนญุ าตและขอ้ ต้องหา้ ม .. สงิ นไี มไ่ ดถ้ กู ปฏิเสธโดยมุสลิมทียอมรบั อัลลอฮ์ในฐานะองค์พระผเู้ ปน เจา้ และอิสลามเปนศาสนา และมูฮัมหมดั - ขอพระเจา้ อวยพรเขาและประทานสนั ติสขุ แก่เขา - เปนศาสดาและ ศาสนทตู [*** ซงึ หมายถึง การวนิ จิ ฉยั บทบญั ญตั ิศาสนาต่อ กรณีต่างๆ ก็ถือเปนกระทําของมนษุ ย์ แต่ทกุ ฝายล้วน ยอมรบั ไมม่ ใี ครปฏิเสธวา่ ทําไมไ่ ด้ แต่พอจะใชห้ ลักการ เรอื งอนญุ าโตตลุ าการ กล่มุ คอวารจิ ญก์ ลับอ้างวา่ เปนการตัดสนิ /พพิ ากษาของมนษุ ย์ ขดั แยง้ กับอัลกุ รอานทียอมรบั หลักอนญึ าโตตลุ าการ - ผแู้ ปล ] หน้า 10

มุสลิมทีเรยี กรอ้ งประชาธปิ ไตย เปนเพยี งการเรยี ก ● การตัดสนิ โดยใชเ้ สยี งสว่ นใหญข่ ดั ต่อศาสนาอิสลาม รอ้ งโดยถือวา่ รปู แบบหนงึ ของการปกครองโดยใช้ หลักการทางการเมอื งของศาสนาอิสลามในการเลือก หรอื ไม?่ ผปู้ กครอง การนาํ หลักการชูรอ-การปรกึ ษาหารอื และ คําแนะนาํ การกําชบั ในสงิ ทีดแี ละหา้ มมใิ หท้ ําสงิ ทีผดิ ในบรรดาหลักฐานสาํ หรบั มุสลิมกล่มุ หนงึ กล่าววา่ ต่อต้านความอยุติธรรมและปฏิเสธการละเมดิ ฝาฝน ประชาธปิ ไตยเปนหลักการของต่างชาติต่างศาสนาและไมม่ ี บทบญั ญตั ิศาสนา โดยเฉพาะอยา่ งยงิ หากเปนการ ความเกียวขอ้ งใด ๆ กับศาสนาอิสลามนนั คือ การตัดสนิ \"ไมเ่ ชอื อยา่ งชดั เจน\" ตามหลักการทีพสิ จู นไ์ ด้ โดยใชเ้ สยี งขา้ งมากและถือเปนผถู้ ือสทิ ธใิ นการจดั ตังผู้ ปกครอง การบรหิ ารกิจการต่างๆ และใชต้ ัดสนิ เรอื งใด สงิ ทียนื ยนั สงิ นคี ือ : รฐั ธรรมนญู ระบุ - ในขณะทียดึ มนั ใน เรอื งหนงึ ทีมกี ารโต้แยง้ การลงคะแนนเสยี งในระบอบ ระบอบประชาธปิ ไตย - วา่ ศาสนาของรฐั คือศาสนาอิสลาม และ ประชาธปิ ไตยถือเปนการตัดสนิ และการอ้างอิง ความคิด กฎหมายอิสลามเปนทีมาของกฎหมาย และนคี ือการยนื ยนั เหน็ ใด ๆ ทีไดร้ บั เสยี งขา้ งมากอยา่ งเดด็ ขาดหรอื กึงๆ ถือ อํานาจอธปิ ไตยของพระเจา้ นนั คือหลักนติ ิธรรมของพระองค์ เปนความคิดเหน็ ทีมผี ล ซงึ เสยี งสว่ นใหญเ่ หล่านนั อาจผดิ และวจนของอัลลอฮ์มสี ถานะสงู สดุ เปนไปไดท้ ีจะเพมิ มาตราที พลาดก็ได้ ชดั เจนในรฐั ธรรมนญู วา่ กฎหมายหรอื ระบบทกุ ระบบ ทีฝาฝน ขอ้ กําหนดของชะรอี ะฮ์ถือวา่ เปนโมฆะ ดงั นนั จงึ ไมจ่ าํ เปนสาํ หรบั ซงึ อิสลามไมย่ อมรบั วธิ กี ารนแี ละไมใ่ ชแ้ นวทางนใี นการ การเรยี กรอ้ งประชาธปิ ไตยวา่ จะต้องเปนการปกครองของ ตัดสนิ วา่ ความคิดเหน็ หนงึ เหนอื กวา่ คิดเหน็ อืนเนอื งจาก ประชาชนแทนทีการปกครองของพระเจา้ เนอื งจากไมม่ คี วาม ความเหน็ ชอบของคนสว่ นใหญ่ แต่ใหม้ องวา่ ถกู หรอื ผดิ ขดั แยง้ ระหวา่ งกัน ดว้ ยตัวของความเหน็ นนั เอง ? ถ้าถกู ก็ต้องทําแมว้ า่ มี เพยี งหนงึ ความเหน็ หรอื ไมม่ ใี ครเหน็ ดว้ ยเลย แต่ถ้ามนั เปน และหากสงิ นนั จาํ เปนในขอ้ กําหนดของระบอบประชาธปิ ไตยคํา ความผดิ พลาด ก็ใชไ้ มไ่ ดแ้ มว้ า่ จะเปนความเหน็ ของคนรอ้ ย กล่าวทีถกู ต้องของผตู้ รวจสอบในหมูน่ กั วชิ าการของศาสนา ละ 99 ก็ตาม อิสลาม: หลักคําสอนนนั จาํ เปนไมใ่ ชห่ ลักคําสอนและไมอ่ นญุ าต ใหผ้ คู้ นปฏิเสธศรทั ธาหรอื ปฏิเสธศรทั ธาโดยปฏิบตั ิตามขอ้ มหิ นาํ ซาํ อัลกรุ อานระบุวา่ คนสว่ นใหญม่ กั จะอยูข่ า้ งความ กําหนดของหลักคําสอนของพวกเขาพวกเขาอาจไมป่ ฏิบตั ิตาม เท็จและอยูข่ า้ งทรราช ดงั ตัวอยา่ ง ทีอัลลอฮ์ผทู้ รงอํานาจ ขอ้ กําหนดเหล่านแี ละพวกเขาอาจไมไ่ ดค้ ิดถึงพวกเขาเลย กล่าววา่ : ถึงกระนนั แมว้ า่ บางครงั ระบอบประชาธปิ ไตยจะมเี จตนาให้ มนษุ ยม์ อี ํานาจปกครองเหนอื ศาสนา แต่ทัศนะทีถกู ต้องของ ‫َو ِإن ﺗُ ِﻄ ْﻊ أَ ْﻛ َﺜﺮَ َﻣﻦ ِﻓﻰ ٱ ْﻷَ ْر ِض ﻳُ ِﻀﻠﱡﻮ َك َﻋﻦ َﺳ ِﺒﻴ ِﻞ ٱﻟﻠﱠ ِﻪ‬ นกั วชิ าการอิสลามเหน็ วา่ องค์ประกอบทกุ อยา่ งของแนวคิด สาํ นกั หนงึ ไมจ่ าํ เปนจะต้องครบถ้วนสมบูรณเ์ สมอไป ดงั นนั จงึ และถ้าคณุ เชือฟงคนหมูม่ ากทีอยูบ่ นโลก แนน่ อนพวก ไมอ่ นญุ าตใหต้ ีตราวา่ ผทู้ ีถือแนวคิดของสาํ นกั ใดๆ หลดุ พน้ เขาจะหันเหคณุ ไปจากเสน้ ทางของอัลลอฮ์ ( อัลอันอาม จากศาสนาอิสลามเพยี งแค่ยดึ ถือแนวคิดของสาํ นกั นนั เพราะ บางครงั ผทู้ ียดึ ถือแนวคิดนนั อาจไมย่ ดึ ถือตามทังหมด บาง : 116) ครงั อาจไมค่ าดคิดดว้ ยซาํ ไป ‫َو َﻣﺂ أَ ْﻛ َﺜﺮُ ٱﻟ ﱠﻨﺎ ِس َوﻟَ ْﻮ َﺣﺮَ ْﺻ َﺖ ﺑِ ُﻤ ْﺆ ِﻣ ِﻨﻴ َﻦ‬ และมคี นมากมายเพยี งใดทีไมเ่ ชอื ถึงแมว้ า่ ท่านจะ กระตือรอื รน้ ก็ตาม ( ยูซุฟ : 103) และอัลกรุ อานกล่าวซาํ แล้วซาํ เล่าวา่ ‫َو ٰﻟَ ِﻜ ﱠﻦ أَ ْﻛ َﺜ َﺮ ُﻫ ْﻢ َﻻ ﻳَ ْﻌﻠَ ُﻤﻮ َن‬ แต่คนสว่ นใหญไ่ มร่ ู้ (อัลอะรอฟ : 187) ‫ﺑَ ْﻞ أَ ْﻛ َﺜﺮُ ُﻫ ْﻢ َﻻ ﻳَ ْﻌ ِﻘﻠُﻮ َن‬ แต่สว่ นใหญไ่ มเ่ ขา้ ใจ (อัลอังกะบูต : 63) หนา้ 11

แต่การโหวตอยูใ่ นเรอื ง \"อิจติฮาด-ดลุ พนิ จิ \" ทีเปดโอกาส ใหม้ คี วามคิดเหน็ มากกวา่ หนงึ ความเหน็ และผคู้ นอาจมี ความเหน็ ต่างกันก็ได้ เชน่ กรณกี ารเลือกผสู้ มคั รสาํ หรบั ตําแหนง่ ใดตําแหนง่ หนงึ แมว้ า่ เขาจะดาํ รงตําแหนง่ ประมุข แหง่ รฐั ก็ตาม และเชน่ การออกกฎหมายเพอื ควบคมุ การ จราจร หรอื เพอื ควบคมุ การก่อสรา้ งรา้ นค้า หรอื โรง พยาบาลในเชงิ พาณชิ ยห์ รอื อุตสาหกรรมหรอื โรงพยาบาล และเราก็เหน็ ท่านนบี - ขอพระเจา้ อวยพรและมอบสนั ติสขุ แด่ หรอื สงิ ทีอยูใ่ นสงิ ทีนกั วชิ าการฟกฮ์เรยี กวา่ \"ผลประโยชน์ ท่าน - ตามความเหน็ ของเสยี งสว่ นใหญใ่ นการรบทีอูฮุด โดย สมบูรณ\"์ เชน่ การตัดสนิ ใจประกาศสงครามหรอื ไม่ การ การออกไปรบกับชาวมุชรกิ ีนนอกเมอื งมะดนี ะฮ์ ทังๆทีความ เรยี กเก็บภาษีบางอยา่ งหรอื ไม่ การประกาศภาวะฉกุ เฉิน เหน็ ของท่านและความเหน็ ของซอฮาบะฮ์อาวุโสต้องการตังรบั หรอื ไม่ การกําหนดวาระของประมุขแหง่ รฐั หรอื ไมแ่ ละ อยูใ่ นนครมะดนี ะฮ์และต่อสจู้ ากภายใน ระดบั ใด.. ฯลฯ . ความคิดเหน็ แตกต่างกันไปในประเดน็ เหล่านี ควรปล่อยใหด้ าํ เนนิ ต่อไปหรอื ตัดสนิ ใหเ้ ดด็ ขาดไป ทีชดั ไปกวา่ นนั เปนกรณขี องท่านอุมรั แต่งตังคณะชูราหกท่าน โดยทีต้องมสี งิ ทีมาทําใหท้ ัศนะใดทัศนะหนงึ มนี าํ หนกั ซงึ ท่านเสนอชอื ใหด้ าํ รงตําแหนง่ คอลีฟะฮ์ และเลือกหนงึ ในนนั มากกวา่ หรอื ไม่ ? โดยใชเ้ สยี งสว่ นใหญ่ ทีเหลือจะต้องเชอื ฟง และเสยี งเท่ากัน เปนสามต่อสาม ใหบ้ ุคคลภายนอกเปนผตู้ ัดสนิ คืออับดลุ ลอห์ เหตผุ ลทางตรรกะ ทางศาสนา และทางความเปนจรงิ บุตรของท่าน และถ้าพวกเขาไมย่ อมรบั ก็ใหเ้ อาฝายทีอับดลุ เห็นวา่ ต้องมสี งิ ทีมาทําให้ทัศนะใดทัศนะหนงึ มนี าํ หนกั เราะหม์ าน บนิ อ๊าฟ เปนหนงึ ในสามคนนนั มากกวา่ ในกรณีทีมคี วามเห็นต่าง คือเสยี งสว่ นใหญ่ เนอื งจากความเห็นของสองคนใกล้เคียงกับความถกู และไดร้ บั การยนื ยนั แล้ววา่ หะดษี กล่าวถึงใหต้ าม \"สะวาดอะ ต้องมากกวา่ ความคิดเห็นของคนหนงึ ดงั ปรากฏในหะ ซอม-เสยี งสว่ นใหญ\"่ เปนหะดษี ทีรายงานโดยสายรายงาน ดษี วา่ หลายสายทีมาสนบั สนนุ ซงึ กันและกัน เปนหะดษี มรั ฟูอ์ รายงาน จากอบูอุมามะฮ์ วา่ ‫ وﻫﻮ ﻣﻦ اﻻﺛﻨﻴﻦ أﺑﻌﺪ‬،‫إن اﻟﺸﻴﻄﺎن ﻣﻊ اﻟﻮاﺣﺪ‬ ‫ اﺛﻨﺘﻴﻦ‬:‫ أو ﻗﺎل‬- ‫إن ﺑﻨﻲ إﺳﺮاﺋﻴﻞ ﺗﻔﺮﻗﺖ إﺣﺪى وﺳﺒﻌﻴﻦ ﻓﺮﻗﺔ‬ แท้จรงิ ชยั ตอนอยูก่ ับคนๆเดียว และยงิ ห่างจากสองคน ‫ ﻛﻠﻬﺎ ﻓﻲ‬،‫ وإن ﻫﺬه اﻷﻣﺔ ﺳﺘﺰﻳﺪ ﻋﲆ ﻫﻢ ﻓﺮﻗﺔ‬- ‫وﺳﺒﻌﻴﻦ ﻓﺮﻗﺔ‬ (รายงานโดยติรมซิ ยี ์ ใน \"อัลฟตัน\" จากท่านอุมรั เลขที 2166 และเหน็ วา่ เปนหะดษี หะซนั เศาะเหยี ะหฆ์ อรบี และหากิ ‫ إﻻ اﻟﺴﻮاد اﻷﻋﻈﻢ‬،‫\"اﻟﻨﺎر‬ ม (1/114) และรบั รองความถกู ต้องตามเงือนไขของสอง ชคี และซาฮาบยี ก์ ็เหน็ ดว้ ยกับเขา) ชาวอิสราเอลแบง่ ออกเปนเจด็ สบิ เอ็ดกล่มุ - หรอื กล่าววา่ : เจด็ สบิ สองกล่มุ ท่านนบี ศอลฯ กล่าวกับอบูบกั รแ์ ละอุมรั วา่ : และประชาชาตินีจะมกี ล่มุ มากกวา่ พวกเขา ทังหมดอยูใ่ น ‫ﻟﻮ اﺟﺘﻤﻌﺘﻤﺎ ﻋﲆ ﻣﺸﻮرة ﻣﺎ ﺧﺎﻟﻔﺘﻜﻤﺎ‬ นรก ยกเวน้ กล่มุ ทีมจี าํ นวนมากทีสดุ ” \"หากท่านทังสองรว่ มกันให้คําแนะนาํ ใด ฉนั ก็ไมข่ ดั แยง้ กับท่านทังสอง\" (รายงานโดยอะหมดั ) และเราก็เหน็ ท่านนบี - ขอพระเจา้ อวยพรและมอบสนั ติสขุ แดท่ ่าน - ตามความเหน็ ของเสยี งสว่ นใหญใ่ นการรบทีอู ฮุด โดยการออกไปรบกับชาวมุชรกิ ีนนอกเมอื งมะดนี ะฮ์ ทังๆทีความเหน็ ของท่านและความเหน็ ของซอฮาบะฮ์ อาวุโสต้องการตังรบั อยูใ่ นนครมะดนี ะฮ์และต่อสจู้ าก ภายใน หนา้ 12

และอะหมดั ไดร้ ายงานไวใ้ นมุสนดั จากอิบนอุ บเี อาฟา กล่าววา่ : สว่ นคําพูดของผทู้ ีกล่าววา่ : การให้นาํ หนกั เปนอํานาจ ของความถกู ต้องเท่านนั แมว้ า่ จะไมม่ ใี ครเห็นด้วย \"โอ บนิ จะฮ์มาน ท่านจงอยูก่ ับชนสว่ นใหญ่ \" ก็ตาม และสาํ หรบั ความผดิ พลาดนนั ก็จะถกู ปฏิเสธ แมว้ า่ จะมคี วามคะแนนเสยี งรอ้ ยละ 99 ก็ตาม เปน อิบนอุ าบอี าศิม รายงานในหนงั สอื อัสสนุ นะฮ์ เลขที 80 จากอิ ความจรงิ ในกรณีทีมตี ัวบททางศาสนาอยา่ งชดั เจนและ บนอุ ุมรั วา่ ไมม่ ที างเห็นต่างหรอื เห็นแยง้ ได้ ซงึ มไี มม่ ากนกั ซงึ เปน กรณีทีวา่ \"เสยี งสว่ นใหญค่ ือสงิ ทีพอ้ งกับความจรงิ \"อัลลอฮ์จะไมม่ วี นั ทําให้ประชาชาตินีเห็นพอ้ งกันในความ แมว้ า่ คณุ จะอยูค่ นเดียวก็ตาม\" หลงผดิ และหัตถ์ของพระเจา้ จะอยูก่ ับชนสว่ นใหญ่ ผใู้ ดปลีก ตัวออกไปก็จะปลีกไปยงั ไฟนรก \" สาํ หรบั ประเด็นทีใชด้ ลุ พนิ จิ -อิจติฮาดียะฮ์- ซงึ ไมม่ ตี ัวบท หรอื มตี ัวบททีอาจมคี ําอธบิ ายมากกวา่ หนงึ แนวทาง หรอื มี อิหมา่ มอาบูฮามดิ อัลฆอซาลี ไดเ้ ขยี นไวใ้ นหนงั สอื บางเล่มของ ตัวบททีมคี วามหมายตรงขา้ มกัน หรอื ทีเท่าเทียมกัน หรอื ท่านวา่ แขง็ แรงกวา่ จะไมม่ ที างเลียงอืนใดนอกจากต้องอาศัย สงิ ทีมาตัดสนิ ให้นาํ หนกั ยุติความขดั แยง้ และการลง การให้นาํ หนกั ให้ใชเ้ สยี งสว่ นใหญเ่ มอื มุมมองทังสองมี คะแนนเสยี งเปนวธิ กี ารทีคนทัวไปใชก้ ัน และเปนที ความเท่าเทียมกัน ยอมรบั โดยปราชญท์ ัวไปและปราชญม์ ุสลิม ในชารอี ะห์ ไมม่ ขี อ้ ห้าม หากทวา่ มตี ัวบททีมาสนบั สนนุ การกระทํา เชน่ นนั หน้า 13


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook