Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

วิจัยชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

Published by ศิริวรรณ มุนินคํา, 2021-09-22 03:16:48

Description: วิจัยชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

Search

Read the Text Version

วจิ ยั ในชั้นเรยี น เรื่อง การพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นวิชาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ทักษะการวัด โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ จัดทาโดย นางสาวศิริวรรณ มนุ ินคา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 จดั ทำโดย โรงเรียนนรำางชสปำรวะศชิริาวนรรุเคณราะมหุน์ ิน31คำอราหเสัภนอักแศมกึ่แษจม่ำ 5จ6งั 1ห8ว1ดั เ5ช7ยี 0งใ1ห2ม1่ สังกัดสานักบริหสาำรขงำาวนชิ กำชารวี ศวิทึกษยำาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

1. ชื่อเร่ืองวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ทกั ษะการวัด โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ 2. ช่อื ผู้วจิ ัย นางสาวศริ วิ รรณ มนุ ินคา 3. ระยะเวลาที่ทาวิจัย ดาเนินการทดลองในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ใช้เวลาในการทดลอง 2 คาบ คาบละ 50 นาที 4. ความเป็นมาและสาเหตขุ องปญั หา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งในการเพ่มิ ทักษะความรู้ในขนั้ ต่างๆ ได้ ซ่ึงจะส่งผลต่อการเพ่ิมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของวิชาน้ันๆ เนื่องจากนักเรียนได้มีบทบาทในการ เรียนรู้มากขึ้น มีการฝึกปฏิบัติจริงและสามารถสรา้ งองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ถ้าครูจัดกิจกรรมทมี่ ีเนื้อหาสาระ และกระบวนการเหมาะสมกบั ความตอ้ งการและความสามารถของนักเรยี น มกี ารบูรณาการเนอื้ หาสาระเขา้ กบั ชีวติ ประจาวันและเข้ากับวชิ าทเี่ ก่ียวข้อง โดยครูจะเป็นผู้กระต้นุ ให้นกั เรียนนาความรูท้ ีไ่ ด้รบั ไปสร้างเป็นความรู้ ใหม่ นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นท่ีจะเรียน ต้องแสวงหาความรู้และลงมือทากิจกรรมด้วยตนเอง เกิดแรง เสริมให้นักเรียนอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ได้นาความรู้ไปใช้สร้างความรู้ใหม่โดยพยายามค้นหาหลักฐานมา สนบั สนนุ ความคิดเห็นของตนกอ่ นทจ่ี ะนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ซ่งึ เปน็ พฤติกรรมที่แสดงออกถงึ การ มีเจตคติทีด่ ตี อ่ การเรยี น จากประสบการณ์สอนในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 พบว่า นกั เรียนทเ่ี รียนวิชาเลอื กในรายวชิ าทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2-3 โดยสว่ น ใหญ่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นต่า ทั้งน้ีเกิดจากสาเหตุสาคัญคือผู้เรียนไม่สนใจเรยี น ขาดความรู้ ความเข้าใจ ทางด้านเน้ือหา จึงเป็นเหตุใหผ้ ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นต่า ซึ่งพบปัญหามากท่ีสดุ ในบทเรยี น เรื่อง ทักษะการ จาแนกประเภท โดยจะเห็นได้จากผลการสอบเก็บคะแนนของนกั เรียนท่พี บวา่ มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นตา่ กวา่ เกณฑ์ จึงจาเปน็ ท่จี ะตอ้ งรีบแก้ไขหรือพัฒนาใหน้ กั เรียนกลมุ่ นม้ี ีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนทส่ี งู ขน้ึ โดยตอ้ งมวี ิธที ่ี ให้นักเรียนสามารถฝึกฝนด้วยตนเองได้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้จึงเป็นวิธีหนึ่งที่เหมาะสมท่ีจะเป็นสื่อช่วยให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีการจัดการเรียนรู้ไว้อย่างเป็นระบบ มีข้อชวนคิดและคาถามท้าย กิจกรรมใหน้ กั เรยี นฝึกทา เปน็ การช่วยส่งเสริมใหน้ ักเรยี นมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง มกี ารเรียนรอู้ ย่างอสิ ระ เร้าความสนใจ ไม่ก่อให้เกิดความเบื่อหน่าย ส่งเสริมให้เกิดความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิด กระบวนการพัฒนาในทุกๆ ดา้ น จากการศกึ ษาสภาพปญั หาดงั กล่าว ผูว้ ิจัยจึงสนใจทจี่ ะสรา้ งชุดกิจกรรมการเรยี นรู้เป็นนวัตกรรมหรือ ส่ือการจัดการเรยี นรู้ เพ่อื พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ทักษะ ก า ร วั ด ข อ ง นั ก เ รี ย น ที่ เ รี ย น วิ ช า เ ลื อ ก ใ น ร า ย วิ ช า ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง วิ ท ย า ศา ส ต ร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 เพ่ือให้นักเรียนเรยี นได้ฝึกกระบวนการเรยี นรู้ การค้นคว้าด้วยตนเอง เกิดการพฒั นา ความรู้และสรา้ งองค์ความร้ไู ดด้ ว้ ยตนเองและสามารถนาความร้ทู ไ่ี ด้ไปใชศ้ กึ ษาตอ่ ในระดบั สงู ได้

5. แนวทางการแกป้ ญั หา ผวู้ จิ ยั จัดทาแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน เรื่อง ทกั ษะการวัด และชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง ทักษะการวัด เพื่อพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นวิชาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรยี นที่เรียน วิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 โรงเรียนราชประชา- นุเคราะห์ 31 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เพื่อให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเรอ่ื ง ทักษะการวัด หลังเรียนสงู กว่าก่อนเรียน 6. วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั เพอื่ พัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน เร่ือง ทกั ษะการวัดของนักเรยี นทีเ่ รยี นวิชาเลอื ก ในรายวิชาทกั ษะ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2-3 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 7. วิธดี าเนนิ การวิจยั 7.1 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง ประชากร นักเรียนท่ีเรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2-3 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชยี งใหม่ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 กลมุ่ ตวั อย่าง นักเรียนที่เรียนวิชาเลือกในรายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษา ปีท่ี 2-3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ จานวน 20 คน ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 7.2 เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ในงานวจิ ัย เครอื่ งมือทีใ่ ช้ในการวิจัยมี 2 ชุด ไดแ้ ก่ 1. ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง ทกั ษะการวดั 2. แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น เรือ่ ง ทกั ษะการวัด ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2-3 โดยสร้าง ข้ึนเป็นข้อสอบแบบเลอื กตอบชนิด 4 ตวั เลือก จานวน 10 ข้อ 7.3 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในการดาเนนิ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ของผวู้ ิจัยได้ดาเนินตามขัน้ ตอน ดังนี้ 1. ใหน้ ักเรียนกลมุ่ เปา้ หมายทาแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนกอ่ นได้รบั การจัดการ เรียนรู้ด้วยชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ จากนัน้ นาแบบทดสอบมาตรวจให้คะแนน ขอ้ ละ 1 คะแนน แล้วนาคะแนนสอบทน่ี ักเรยี นแตล่ ะคนทาได้เกบ็ ไว้ รวม 10 คะแนน

2. วเิ คราะหห์ าค่าเฉล่ยี คา่ ร้อยละจากจากคะแนนการทาแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น กอ่ นการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ 3. ดาเนนิ การจัดการเรยี นรู้ด้วยชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4. ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลงั ดาเนินการจดั การเรยี นร้ดู ว้ ยชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ซงึ่ มขี ้อคาถามทเ่ี กย่ี วข้องกับเรอื่ ง ทกั ษะการวัด แบบปรนัยชนดิ เลือกตอบ 4 ตวั เลอื ก รวมจานวนทัง้ หมด 10 ข้อ (เป็นแบบทดสอบชุดเดียวกบั ก่อนการ ทดลองแตเ่ รียงข้อสลับกัน) 5. วเิ คราะหห์ าค่าเฉลี่ย ค่ารอ้ ยละจากจากคะแนนการทาแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการ เรยี นหลงั การจดั การเรียนรดู้ ้วยชุดกิจกรรม 6. วิเคราะห์ค่าความกา้ วหน้าของคะแนนท่ีนักเรียนทาไดจ้ ากคะแนนการทาแบบทดสอบวดั ผล สมั ฤทธิ์ทางการเรยี นหลงั การจัดการเรียนรดู้ ้วยชุดกิจกรรม 7.4 การวิเคราะหข์ ้อมลู และสถิตทิ ี่ใช้ การวเิ คราะห์ขอ้ มูล ผวู้ ิจัยใช้สถิตแิ ละดาเนนิ การวเิ คราะหข์ ้อมลู ดงั น้ี เปรียบเทยี บความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรยี นทีเ่ รียนวิชาเลอื กใน รายวิชาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2-3 ก่อนเรียนและหลงั เรียน โดยใชส้ ถิติพื้นฐาน ได้แก่ 1. การหาคะแนนความกา้ วหนา้ โดยใช้สตู ร เม่อื ������1 ������2 − ������1 ������2 แทน คะแนนก่อนการจดั การเรยี นรู้ดว้ ยชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ แทน คะแนนหลงั การจดั การเรียนรู้ดว้ ยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2. หาค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียนจากสูตร ���̅��� = ∑ ������ ������ เมอื่ ������ แทน ค่าเฉลี่ยของคะแนน ∑ ������ แทน ผลรวมของคะแนน ������ แทน จานวนนักเรียนในกลุ่มตัวอย่าง

3. หาค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานจากสูตร ������. ������ = √������ ∑ ������2 − (∑ ������2) ������(������ − 1) เมื่อ ������. ������ แทน คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน ∑ ������ แทน ผลรวมของคะแนนท้งั หมด ∑ ������2 แทน ผลรวมของคะแนนแตล่ ะตวั ยกกาลงั สอง ������ แทน จานวนนักเรียนในกลมุ่ เป้าหมาย

ภาคผนวก

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง ทักษะการวดั จัดทาโดย นางสาวศิรวิ รรณ มุนนิ คา ตาแหนง่ พนกั งานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลช่างเคิง่ อาเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ สงั กดั สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง ทักษะการวดั เปน็ หนึ่งในทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ อกี 13 ทักษะ ก่อนจะศกึ ษาขอให้นักเรยี นทาตามข้อควรปฏบิ ัติ ดงั น้ี 1. ควรทาแบบทดสอบก่อนเรียนก่อนท่ศี ึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ พร้อมตรวจคาตอบ แล้วบนั ทกึ ผลการทดสอบไว้ 2. ดาเนินการฝึกทักษะตามกิจกรรมที่กาหนดไว้เรียงตามลาดับจากกิจกรรมแรกถึง กจิ กรรมสดุ ทา้ ย 3. ควรทาแบบทดสอบหลังเรียน หลังจากนักเรียนดาเนินการฝึกทักษะทุกกิจกรรมแล้ว ตรวจคาตอบ บนั ทกึ ผลการทดสอบ และนาผลคะแนนในครัง้ นีไ้ ปเปรียบเทยี บกบั ผลคะแนนในการ ทาแบบทดสอบ ก่อนเรียนนักเรียนจะทราบความก้าวหน้าและความสามารถในการเรียนรู้ก่อน เรียน และจะทราบความก้าวหน้าและความสามารถในการเรียนรู้ของตนเอง และสามารถ พัฒนาการเรียนรูใ้ ห้มีประสิทธภิ าพยิ่งขน้ึ

แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง ทักษะการวัด คาช้แี จง 1. แบบทดสอบมที ง้ั หมด 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลา 10 นาที 2. นักเรียนอ่านแบบทดสอบทลี ะข้อแลว้ กาเคร่อื งหมาย X ทับอกั ษร ก ข ค หรือ ง ทถ่ี ูกที่สดุ เพยี งข้อเดียว 1. การวดั มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด 5. ขอ้ ใดบอกวิธกี ารใช้เครื่องมอื ในการวดั ได้อยา่ งเหมาะสม ก. การใชป้ ระสาทสมั ผสั เพ่ือหาข้อมลู ก. วดั อณุ หภูมขิ องรา่ งกายโดยใชม้ อื แตะท่ีแขน ข. การเลอื กและใช้เคร่อื งมอื หาปริมาณ ข. ใชต้ าช่งั สปริงวดั น้าหนักของมะพร้าว ค. การจาแนกหรอื การจากัดพวกวัตถุ ค. วดั ปริมาตรของเหลวโดยใชก้ ระบอกตวง ง. ทวี่ างวัตถุรองอยู่ ง. วดั ความยาวของสนามโดยใช้ไมบ้ รรทัด 2. ความสงู ของรว้ั บ้าน ใชห้ นว่ ยในการวดั ใด 6. นา้ หนักของนักกฬี าควรใชเ้ ครอื่ งมอื ใด ก. กโิ ลเมตร ข. องศา ค. ลิตร ง. เมตร 3. เครอื่ งชงั่ ใดใชห้ าน้าหนกั ของเนอ้ื หมู 7. ภาพใดเป็นการใช้เทอรโ์ มมเิ ตอรไ์ ด้ถกู ต้อง 4. เคร่อื งมอื ท่ีใชว้ ดั อุณหภูมขิ องสนามคือขอ้ อะไร ก. เทอร์โมมิเตอร์ ข. ไฮโกรมเิ ตอร์ ค. แอมมิเตอร์ ง. บารอมเิ ตอร์

8. ถ้านักเรียนซ้อื ปลาและเนอ้ื วัวควรใช้หนว่ ย การ ชงั่ ใด ก. ลูกบาศกเ์ มตร ข. กรัม ค. กิโลกรมั ง. กโิ ลเมตร 9. เสน้ รอบรปู ของลกู บาสเกตบอลควรใช้เคร่อื งมือ ใดวดั ก. ตลับเมตร ข. เชอื ก ค. ไม้บรรทัด ง. สายวดั 10. ข้อใดไมใ่ ชท่ ักษะการวดั ก. ปรมิ าณของออกซเิ จน 3 ลิตร ข. มวลของยาสฟี นั 1 หลอด 5 กรมั ค. ต้นมะพร้าวสงู 10 เมตร ง. กลว้ ยไมม้ สี มี ่วง เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง ทักษะการวัด

1. ข 2. ง 3. ก 4. ก 5. ค 6. ก 7. ค 8. ค 9. ข 10. ก ใบความรู้ เรือ่ ง ทกั ษะการวัด ทักษะการวัด หมายถงึ ความสามารถในการเลือกและการใช้เคร่ืองมือตา่ งๆ ทาการวัดหา ปรมิ าตรของส่งิ ต่างๆ ออกมา เป็นตัวเลขท่แี นน่ อนได้อยา่ งเหมาะสม และถกู ต้อง โดยมหี นว่ ยกากบั เสมอ ซง่ึ ในการวดั ต้องพจิ ารณาว่า 1. จะวัดอะไร เชน่ วัดอุณหภูมิ วดั ขนาดของมุม วดั ปรมิ าตรของของเหลวฯลฯ 2. จะใชเ้ คร่อื งมืออะไรวดั เช่น ใชเ้ ครอ่ื งชัง่ ตาชง่ั ผลไม้ ใช้เทอร์โมมเิ ตอร์วัดอณุ หภูมิ

3. เพราะเหตใุ ดจึงใชเ้ ครื่องมือนัน้ เชน่ ทาไมจึงเลือกใชเ้ ชอื กวัดเส้นรอบลูกฟุตบอล 4. จะวัดอยา่ งไร เชน่ เมอ่ื มเี ชือกแล้วจะวัดอย่างไรใชเ้ ทคนคิ อะไร ความสามารถที่แสดงวา่ เกดิ ทักษะการวดั 1. เลอื กเครอ่ื งมอื ได้เหมาะสมกบั สิ่งท่จี ะวดั 2. บอกเหตุผลในการเลือกเครื่องมอื ได้ 3. บอกวธิ ีวัดและวิธีใช้เครอ่ื งมอื 4. ทาการวดั ความยาว ความสงู อณุ หภูมิ ปรมิ าตร นา้ หนกั และอ่นื ๆ ได้ถูกตอ้ ง กจิ กรรมท่ี 1 ทกั ษะการวัด คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นวดั ความยาว ความสงู ความกวา้ งของสง่ิ ต่างๆ ของรูปบ้านโดยใชห้ นว่ ยเป็นเซนตเิ มตร

1. ความสงู ของประตูบา้ น............................................................................ เซนตเิ มตร 2. ความกว้างของหนา้ ต่าง........................................................................... เซนติเมตร 3. ความสูงของหน้าจว่ั บา้ น......................................................................... เซนติเมตร 4. หนา้ ตา่ งวงกลมมคี วามยาวเสน้ รอบวง................................................ เซนตเิ มตร 5. ความกว้างของหลงั คา............................................................................. เซนติเมตร กิจกรรมที่ 2 ทกั ษะการวดั คาชแี้ จง จากภาพ นักเรียนจะใชเ้ คร่ืองมืออะไรวัดความยาว ความกวา้ ง ความสูงของส่งิ ของ และอณุ หภูมหิ อ้ ง

สิ่งทตี่ ้องการวดั เคร่อื งมอื ที่ใช้วัด 1. ความสูงของประตู 2. ความกวา้ งของชอ่ งหน้าต่าง 3. ความยาวของพรมปพู นื้ 4. ความยาวรอบวงของผ้าปูโต๊ะ 5. อุณหภมู หิ อ้ ง กิจกรรมท่ี 3 ทกั ษะการวัด คาชแี้ จง เลอื กอักษรหน้าข้อความทางขวามือเติมลงในชอ่ งว่างหนา้ ขอ้ ทางซา้ ยมอื ท่ีสมั พนั ธก์ นั ..............................1. ปริมาณของนา้ อัดลม ก. เมตร ..............................2. อุณหภูมหิ อ้ งผ่าตัด ข. ลิตร ..............................3. ความสูงของต้นมะพรา้ ว ค. กโิ ลเมตร ..............................4. ระยะทางจากอานาจเจรญิ ถงึ ง. กโิ ลกรมั อุบลราชธานี จ. องศาเซลเซียส ..............................5. นํา้ หนกั ของเดก็ ชายพงษ์

กจิ กรรมที่ 4 ทกั ษะการวดั คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนเติมคาตอบลงในตารางต่อไปนี้ สิ่งท่วี ัด เคร่อื งมอื ทใี่ ชว้ ดั หนว่ ยในการวัด 1. ความยาวของกรอบรปู 2. ปริมาตรของนม 3. ระยะทางจากอบุ ลราชธานถี งึ กรงุ เทพ 4. อุณหภูมริ ่างกายของผปู้ ว่ ย 5. ความสูงของตกึ

เฉลยกิจกรรมที่ 1 ทักษะการวัด คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนวัดความยาว ความสูง ความกวา้ งของส่ิงตา่ งๆ ของรปู บ้านโดยใช้หนว่ ยเป็นเซนตเิ มตร 1. ความสงู ของประตูบ้าน.....................................2.8....................................... เซนตเิ มตร 2. ความกวา้ งของหน้าตา่ ง.....................................1.5...................................... เซนตเิ มตร 3. ความสูงของหนา้ จ่ัวบ้าน....................................1.6..................................... เซนตเิ มตร 4. หน้าต่างวงกลมมคี วามยาวเสน้ รอบวง..............4.5.................................. เซนตเิ มตร 5. ความกวา้ งของหลงั คา.......................................3...................................... เซนตเิ มตร

เฉลยกจิ กรรมที่ 2 ทกั ษะการวดั คาชแี้ จง จากภาพ นกั เรยี นจะใชเ้ ครื่องมอื อะไรวัดความยาว ความกวา้ ง ความสูงของสิ่งของ และอุณหภมู ิหอ้ ง สิง่ ที่ตอ้ งการวดั เครื่องมอื ที่ใชว้ ัด 1. ความสงู ของประตู ตลบั เมตร , สายวัด 2. ความกว้างของชอ่ งหนา้ ตา่ ง ไมบ้ รรทัด , สายวัด 3. ความยาวของพรมปูพนื้ ตลับเมตร , สายวัด 4. ความยาวรอบวงของผา้ ปโู ต๊ะ เชือก , สายวดั 5. อณุ หภูมิห้อง เทอรโ์ มมเิ ตอร์

เฉลยกิจกรรมท่ี 3 ทักษะการวดั คาช้แี จง เลอื กอกั ษรหนา้ ขอ้ ความทางขวามอื เติมลงในชอ่ งว่างหนา้ ขอ้ ทางซา้ ยมอื ทีส่ มั พันธ์กนั ............ข...................1. ปรมิ าณของน้าอัดลม ก. เมตร .............จ..................2. อุณหภูมหิ ้องผา่ ตัด ข. ลิตร .............ก..................3. ความสงู ของตน้ มะพร้าว ค. กโิ ลเมตร .............ค..................4. ระยะทางจากอานาจเจรญิ ถึง ง. กิโลกรมั อบุ ลราชธานี จ. องศาเซลเซียส .............ง.................5. นํา้ หนกั ของเดก็ ชายพงษ์ เฉลยกิจกรรมท่ี 4 ทกั ษะการวดั

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเติมคาตอบลงในตารางต่อไปน้ี สง่ิ ท่วี ดั เครอ่ื งมอื ที่ใช้วัด หนว่ ยในการวัด 1. ความยาวของกรอบรปู ไมบ้ รรทัด เซนติเมตร 2. ปรมิ าตรของนม บีกเกอร์ , ถว้ ยตวง กรมั 3. ระยะทางจากอบุ ลราชธานีถงึ เข็มไมลร์ ถยนต์ กิโลเมตร กรุงเทพ เทอรโ์ มมเิ ตอร์ องศาเซลเซียส 4. อุณหภูมริ ่างกายของผปู้ ว่ ย 5. ความสงู ของตกึ ตลับเมตร เมตร

แบบทดสอบหลังเรียน เรือ่ ง ทักษะการวดั คาช้แี จง 1. แบบทดสอบมที ง้ั หมด 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลา 10 นาที 2. นักเรียนอ่านแบบทดสอบทลี ะข้อแลว้ กาเครอื่ งหมาย X ทับอกั ษร ก ข ค หรือ ง ทถ่ี ูกที่สดุ เพยี งข้อเดียว 1. การวดั มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด 5. ข้อใดบอกวิธกี ารใช้เครื่องมอื ในการวดั ได้อยา่ งเหมาะสม ก. การใชป้ ระสาทสมั ผสั เพ่ือหาข้อมลู ก. วดั อุณหภูมขิ องรา่ งกายโดยใชม้ อื แตะท่ีแขน ข. การเลอื กและใช้เคร่อื งมอื หาปริมาณ ข. ใชต้ าช่งั สปริงวดั น้าหนักของมะพร้าว ค. การจาแนกหรอื การจากัดพวกวัตถุ ค. วัดปริมาตรของเหลวโดยใชก้ ระบอกตวง ง. ทวี่ างวัตถุรองอยู่ ง. วัดความยาวของสนามโดยใช้ไมบ้ รรทัด 2. ความสงู ของรว้ั บ้าน ใชห้ นว่ ยในการวดั ใด 6. นา้ หนกั ของนักกฬี าควรใชเ้ ครอื่ งมอื ใด ก. กโิ ลเมตร ข. องศา ค. ลิตร ง. เมตร 3. เครอื่ งชงั่ ใดใชห้ าน้าหนกั ของเนอ้ื หมู 7. ภาพใดเป็นการใช้เทอรโ์ มมเิ ตอรไ์ ด้ถกู ต้อง 4. เคร่อื งมอื ท่ีใชว้ ดั อุณหภูมขิ องสนามคือขอ้ อะไร ก. เทอร์โมมิเตอร์ ข. ไฮโกรมเิ ตอร์ ค. แอมมิเตอร์ ง. บารอมเิ ตอร์

8. ถ้านักเรียนซ้อื ปลาและเนอื้ ววั ควรใช้หน่วย การช่ังใด ก. ลกู บาศกเ์ มตร ข. กรมั ค. กโิ ลกรมั ง. กโิ ลเมตร 9. เส้นรอบรปู ของลกู บาสเกตบอลควรใชเ้ ครอื่ งมือ ใดวัด ก. ตลับเมตร ข. เชือก ค. ไม้บรรทัด ง. สายวดั 10. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ทักษะการวัด ก. ปรมิ าณของออกซเิ จน 3 ลติ ร ข. มวลของยาสฟี นั 1 หลอด 5 กรมั ค. ตน้ มะพรา้ วสงู 10 เมตร ง. กล้วยไมม้ สี มี ่วง

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง ทักษะการวดั 11. ข 12. ง 13. ก 14. ก 15. ค 16. ก 17. ค 18. ค 19. ข 20. ก