Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ติวเข้มภาษาไทย กศน. ม.ต้น

ติวเข้มภาษาไทย กศน. ม.ต้น

Published by phisit.yaemnun, 2020-02-14 01:31:06

Description: cover-thai ม.ต้น

Search

Read the Text Version

วิชาภาษาไทย ม.ตน อาจารยวรธน อนันตวงษ

ระดบั มธั ยมต้น สาระการอ่าน สาระการเขยี น สาระการฟัง การดู การพูด สาระหลกั การใช้ภาษาไทย สาระวรรณคดแี ละวรรณกรรม 1

สาระการอ่าน 1. ขอ้ ใดเป็นสิ-งที-ตอ้ งปฏิบตั ิของนกั อ่านท-ีดี 2. นงั- คิดใคร่ครวญ 1. ทบทวนและบนั ทึก 3. คิดจะนาํ ไปใช้ 4. เล่าใหผ้ อู้ ื-นฟัง 2. ขอ้ ใดเป็นมารยาทที-ดีของการอ่าน 1. อ่านหนงั สือท-ียมื มาแลว้ ฉีกหนา้ ที-ชอบเกบ็ ไว้ 2. อ่านหนงั สือแลว้ พบั หนา้ หนงั สือที-อ่านคา้ งไว้ 3. ไม่อ่านหนงั สือของผอู้ ื-นก่อนไดร้ ับอนุญาต 4. อ่านหนงั สือของผอู้ ื-นแลว้ ขีดเขียนเครื-องหมายช่วยจาํ 3. ขอ้ ใดเป็นหลกั การอ่านในใจ 1. อ่านเฉพาะเร-ืองสาํ คญั 2. อ่านเร-ืองที-เป็นประโยชน์ 3. อ่านเรื-องที-เก-ียวขอ้ งกบั ตนเอง 4. อ่านอยา่ งเขา้ ใจโดยไม่ไดอ้ อกเสียง 4. ขอ้ ใดเป็นหลกั การอ่านออกเสียง 1. อ่านเสียงดงั 2. อ่านใหผ้ อู้ ื-นฟัง 3. อ่านเฉพาะเร-ืองท-ีสาํ คญั 4. อ่านถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี 5. ขอ้ ใดเป็นสื-อท-ีอ่านแลว้ ไดค้ วามรู้ที-เป็นปัจจุบนั 1. ข่าวจากอินเทอร์เน็ต 2. หนงั สือพิมพ์ 3. หนงั สือเรียน 4. บทความ 6. หลกั ในการเลือกหนงั สือที-จะอ่านคือขอ้ ใด 1. เล่มท-ีราคาถูก 2. เล่มที-สนใจอ่าน 3. เล่มท-ีมีภาพประกอบ 4. เล่มที-หนา้ ปกสวยงาม 7. การอ่านทาํ นองเสนาะท-ีมีวรรคละ 8 คาํ เป็นการอ่านคาํ ประพนั ธ์ใด 1. ฉนั ท์ 2. กาพยย์ านี 3. กลอนสุภาพ 4. โคลงส-ีสุภาพ อ่านข้อความนีแD ล้วตอบคาํ ถาม ข้อ 8 – 9 แม่เป็นคาํ แรกท-ีลูกพดู ได้ แม่เป็นคาํ ที-มีความหมายลึกซ[ึงแก่ลูกยงิ- นกั ยากท-ีจะบรรยายดว้ ยถอ้ ยคาํ ใดๆ แม่จะเป็นท-ีรัก ท-ีเคารพและเป็นเพ-ือนท-ีเขา้ ใจ ไวใ้ จของลูกซ-ึงจะหาใครมาเหมือนแม่หาไม่ได้ อีกแลว้ (จินตนา ธรรมวงศ)์ 8. คาํ สาํ คญั คือขอ้ ใด 1. ลูก 2. แม่ 3. ความรัก 4. ความเขา้ ใจ 9. ขอ้ ความน[ีเขียนดว้ ยความรู้สึกใด 1. ดีใจ 2. ชอบใจ 3. หวงแหน 4. ยกยอ่ งเทิดทูน 2

อ่านข้อความนีแD ล้วตอบคาํ ถามข้อ 10 – 12 คนเราแมช้ าติกาํ เนิดจะเป็นเช่นไรกไ็ ม่สาํ คญั ถา้ เป็นคนขยนั หมนั- เพียรคิดทาํ แต่สิ-งท-ีถูกท-ีควรดว้ ย สติสมั ปชญั ญะและปัญญาแลว้ ยอ่ มสามารถนาํ ตนไปสู่ท-ีดีได้ ท[งั ยงั สามารถทาํ ตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อ สงั คมไดเ้ ป็นอนั มาก 10. จากขอ้ ความน[ีขอ้ ใดมีความสาํ คญั ที-สุดในการนาํ ตนไปสู่ท-ีที-ดีได้ 1. ขยนั 2. ต[งั ใจ 3. ความพร้อม 4. ทาํ ดว้ ยสติปัญญา 11. ขอ้ ใดมีความสาํ คญั นอ้ ยท-ีสุดในการทาํ ตนใหเ้ ป็นประโยชน์ 1. ความเพียร 2. ชาติกาํ เนิด 3. สมั ปชญั ญะ 4. คิดทาํ แต่สิ-งที-ดี 12. ขอ้ ความน[ีจดั อยใู่ นขอ้ ใด 2. คาํ อภิปราย 1. ขอ้ เสนอแนะ 3. คาํ เตือน 4. คาํ สอน อ่านข้อความนีแD ล้วตอบคาํ ถามข้อ 13 – 15 “เราควรที-จะลดหรือหลีกเลี-ยงอาหารที-มีรสชาติเคม็ เน-ืองจากการรับประทานอาหารท-ีมีรสชาติ เคม็ จดั น[นั มีความเส-ียงท-ีจะทาํ ใหเ้ กิดโรคไตได้ และท-ีสาํ คญั ทุกคร[ังท-ีบริโภคอาหารต่างๆ ควรอ่าน ฉลาก บรรจุภณั ฑ์ เพื-อใหท้ ราบคุณค่าทางโภชนาการของอาหารท-ีเราไดร้ ับ เพื-อจะไดร้ ะมดั ระวงั การควบคุมปริมาณเกลือที-ไม่มากเกินไป และส่งผลเสียต่อร่างกายภายหลงั ” 13. เน[ือหาขอ้ ความน[ีเป็นอยา่ งไร 2. ไม่น่านาํ ไปปฏิบตั ิตาม 1. เป็นคาํ แนะนาํ ท-ีไม่ดี 3. น่าเชื-อถือตามหลกั โภชนาการ 4. คนส่วนใหญ่ไดป้ ฏิบตั ิตามเน[ือหา 14. จากบทความขา้ งตน้ ขอ้ ใดคือสาระสาํ คญั 1. เราไม่ควรบริโภคอาหารที-มีรสชาติเคม็ จดั 2. ก่อนบริโภคอาหารควรอ่านฉลากก่อนทุกคร[ัง 3. อาหารท-ีมีรสเคม็ ไม่เป็นปัจจยั สาํ คญั ที-ทาํ ใหเ้ กิดโรคไต 4. การเลิกรับประทานอาหารที-มีส่วนประกอบของเกลือทาํ ใหป้ ลอดภยั จากโรคไต 15. เน[ือหาของขอ้ ความน[ีเกี-ยวกบั เรื-องใด 2. การดูแลสุขภาพจากอาหาร 1. การซ[ือและขายสินคา้ 3. การเลือกซ[ืออาหารตามท-ีชอบ 4. การพอใจท-ีมีต่อรสชาติของอาหาร 3

สาระการเขยี น 1. ขอ้ ใดเขียนถูกตอ้ ง 1. มีเกียติ 2. โทรทศั ท์ 3. โทรศพั น์ 4. เกียจคร้าน 2. ขอ้ ใดใชเ้ ครื-องหมายวรรคตอนถูกตอ้ ง 1. พรุ่งน[ีเป็นวนั พฤหสั ฯ 2. ธนาคารกรุงเทพฯ 3. ปัญหาต่างๆ 4. นา ๆ สาระ 3. การเขียนข่าวท-ีดีจะตอ้ งเขียนอยา่ งไร 1. ใหข้ อ้ เทจ็ จริง 2. รวดเร็วเป็นปัจจุบนั 3. มีความหมายชดั เจน 4. เป็นความจริงบางส่วน 4. ขอ้ ใดเป็นมารยาทท-ีดีในการเขียน 1. เขียนไม่พาดพิงผอู้ ื-นในทางเสียหาย 2. เขียนช[ีนาํ เพ-ือใหผ้ อู้ ่านวนิ ิจฉยั ไดถ้ ูกตอ้ ง 3. การนาํ ขอ้ ความมาอา้ งอิงของผอู้ ื-นแต่ไม่เขียนแหล่งท-ีมา 4. การใชภ้ าษาพดู ใชใ้ นการเขียนเพื-อใหม้ ีความเป็นกนั เอง 5. หากท่านจะเขียนเล่าประสบการณ์ ควรเขียนอยา่ งไร 1. เขียนเล่าเฉพาะส-ิงที-ดีเท่าน[นั 2. เขียนเน[ือหาจากปัจจุบนั ไปสู่อดีต 3. เขียนลาํ ดบั เหตุการณ์ไม่ใหว้ กวนไปมา 4. เขียนเล่าประสบการณ์ประกอบกบั ความคิดเห็น 6. ขอ้ ใดเป็นการเขียนแสดงความรู้สึก 1. ผชู้ าํ นาญในการใชภ้ าษา ใชภ้ าษาไดถ้ ูกตอ้ ง 2. ทุกคนควรช่วยกนั ส่งเสริมการอนุรักษพ์ นั ธุ์ปลาหายาก 3. ผมมีความสุขกบั ความสาํ เร็จที-เกิดจากความวริ ิยะของผม 4. ในน[าํ ทะเลลึก จะเป็นเขตท-ีมืดหรือมีแสงสลวั ๆ เท่าน[นั 7. ขอ้ ใดเขียนคาํ ขวญั เกี-ยวกบั เดก็ ไดเ้ หมาะสม 1. เดก็ ไทยไดร้ างวลั 2. เดก็ ไทยขยนั ทุกเร-ือง 3. เดก็ ฉลาดชาติกา้ วหนา้ 4. เดก็ ฉลาดไม่เกียจคร้าน 8. การเขียนคาํ ขวญั ในหวั ขอ้ “รณรงคแ์ กป้ ัญหาโลกร้อน” เพ-ือใหผ้ ใู้ ดนาํ ไปปฏิบตั ิ 1. ขา้ ราชการ 2. ประชาชนทว-ั ไป 3. นกั เรียน นกั ศึกษา 4. ผใู้ ชร้ ถใชน้ [าํ มนั เช[ือเพลิง 9. หากท่านจะเขียนเรียงความควรเรียงลาํ ดบั เน[ือหาตามขอ้ ใด 1. คาํ นาํ เน[ือเรื-อง สรุป 2. เน[ือเรื-อง คาํ นาํ สรุป 3. หวั ขอ้ เน[ือเร-ือง สรุป 4. หวั ขอ้ โครงเร-ือง เน[ือเร-ือง 4

10. “ซินแสเป็นคาํ จีนที-มีความหมายหลายอยา่ ง จะแปลวา่ ครูกไ็ ด้ แปลวา่ หมอรักษาคนกไ็ ด้ กระทงั- หมอดู กย็ งั เรียกกนั วา่ เป็นซินแสหรือจะเป็นผมู้ ีวชิ าหรือผรู้ ู้ กเ็ รียกเป็นซินแสได”้ คาํ หลกั ของขอ้ ความน[ีท-ีจะใชส้ าํ หรับการยอ่ ความคือขอ้ ใด 1. ผรู้ ู้ 2. หมอดู 3. ซินแส 4. หมอรักษาคนไข้ 11. ขอ้ ใดไม่ควรมีในแผนภาพความคิดเร-ือง “การคมนาคมขนส่งทางบก” 1. รถไฟ 2. รถยนต์ 3. จกั รยาน 4. รถบรรทุก 12. ขอ้ ใดไม่ใช่ความสาํ คญั ของแผนภาพความคิด 1. ใชส้ รุปองคค์ วามรู้ 2. ใชว้ เิ คราะห์เน[ือหา 3. ใชจ้ ดั ระบบความคิด 4. ใชเ้ พ-ิมเน[ือหาใหม้ ากท-ีสุด 13. การสรุปเน[ือหาสาํ หรับแผนภาพความคิดในเรื-องเพื-อการใชส้ อบ ควรสรุปอยา่ งไร 1. สรุปความคิดผสู้ รุป 2. สรุปเฉพาะส่วนที-สาํ คญั 3. สรุปเฉพาะส่วนท-ีสนใจ 4. สรุปครบถว้ นความเน[ือหา ส่วน ประกอบ คุณสมบตั ิ ประโยชน์ ช-ือเร-ือง สตั วท์ -ี ............. อาศยั ประเภท แหล่ง 14. จากแผนภาพความคิดน[ี ควรต[งั ชื-อเร-ืองตามขอ้ ใด 3. อวกาศ 4. อากาศ 1. น[าํ 2. หิน 5

15. ขอ้ ใดเหมาะสมที-สุดสาํ หรับการเติมคาํ ในแผนภาพความคิด บทความ นวนิยาย …………… แบบเรียน ข่าว 1. สารคดี 2. ร้อยแกว้ 3. ร้อยกรอง 4. คาํ ประพนั ธ์ สาระการฟัง การดู การพูด 1. ท่านจะใชค้ วามรู้ทางภาษาไทยดา้ นใดไปใชใ้ นการประกอบอาชีพ 1. การฟัง 2. การพดู 3. การเขียน 4. ถูกทุกขอ้ 2. การฟังโฆษณาควรฟังอยา่ งไร 1. ต[งั ใจฟัง 2. มีสมาธิในการฟัง 3. ฟังดว้ ยความสนใจ 4. จบั ใจความสาํ คญั ได้ 3. ขอ้ ใดเป็นมารยาทในการฟังท-ีจะไม่สร้างความเดือดร้อนใหผ้ ฟู้ ังอื-น 1. ฟังและพดู วจิ ารณ์ผพู้ ดู 2. ฟังโดยสาํ รวมกิริยามารยาท 3. เขา้ ไปนง-ั ฟังก่อนผพู้ ดู จะพดู 4. ฟังและคุยแทรกกบั เพื-อนขา้ งๆ 4. “ธรรมดาคนดี ยอ่ มไม่ลืมบุญคุณของคนท-ีเคยใหอ้ ะไรแก่ตนมา แมจ้ ะเป็นเพียงขา้ วหน-ึงคาํ หรือน[าํ หน-ึงแกว้ เท่าน[นั ” ผฟู้ ังจะไดป้ ระโยชนด์ า้ นใดจากขอ้ ความน[ี 1. ความเพลิดเพลิน 2. พฒั นาสติปัญญา 3. แนวทางในการดาํ เนินชีวติ 4. การใชแ้ นวคิดวจิ ารณญาณ 5. “การฟังคาํ วจิ ารณ์ ถือเป็นเรื-องสาํ คญั ท-ีตอ้ งฝึก เพราะถา้ รับแต่คาํ ชมกจ็ ะไม่เห็นจุดอ่อนของตนเองเป็น การมองจากผอู้ ื-นและตอ้ งใจกวา้ งพอที-จะรับฟังได”้ จากขอ้ ความผรู้ ับฟังคาํ วจิ ารณ์จะตอ้ งเป็นอยา่ งไร 1. ไม่รับคาํ วจิ ารณ์ 2. ฟังแต่คาํ วจิ ารณ์ที-ดี 3. ไม่อนุญาตใหว้ จิ ารณ์ 4. รับไดท้ [งั คาํ ชมและคาํ ติ 6. การพดู ลกั ษณะใดที-ผพู้ ดู สามารถแสดงความคิดเห็นได้ 1. พดู ทกั ทาย 2. พดู อภิปราย 3. พดู แนะนาํ ตวั 4. พดู ตามบทพดู 6

7. ขอ้ ใดเป็นผมู้ ีมารยาทในการพดู 1. พดู ทุกคร[ังท-ีพดู ได้ 2. พดู ทุกท-ีและทุกเวลา 3. พดู เมื-อมีโอกาสเวลาที-เหมาะสม 4. พดู ทุกอยา่ งที-ทราบและตอ้ งการใหผ้ อู้ ื-นทราบ 8. ถา้ ท่านไดร้ ับเชิญไปกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรส ควรกล่าวในขอ้ ใดเป็นสาํ คญั 1. แนวทางการใชช้ ีวติ คู่ 2. ขอบคุณผมู้ าร่วมงาน 3. ช-ือพอ่ แม่เจา้ บ่าวเจา้ สาว 4. ความยง-ิ ใหญ่ของงานแต่งงาน สาระหลกั การใช้ภาษาไทย 1. ขอ้ ใดเป็นคาํ ไทยแท้ 1. ตาก 2. ลพบุรี 3. สุโขทยั 4. กาฬสินธุ์ 2. ขอ้ ใดมีคาํ ที-มาจากภาษาต่างประเทศ 1. กีฬาวา่ ยน[าํ 2. วชิ าพลศึกษา 3. วทิ ยเุ คร-ืองน[ี 4. แข่งขนั ฟุตบอล 3. ขอ้ ใดเป็นพยางคไ์ ดเ้ ท่าน[นั 1. มะละกอ 2. กหุ ลาบ 3. แตงโม 4. โหระ 4. ขอ้ ใดใชเ้ ครื-องหมายวรรคตอนไม่ถูกต้อง 1. ปลาสาก (ปลาน[าํ ดอกไม)้ เป็นปลาทะเลตวั ยาว 2. ผลไมม้ ีหลายชนิด เช่น มะม่วง มะพร้าว สม้ ขนุน ฯลฯ 3. เธอถามเราวา่ อะไรนะ, 4. ฉนั และเธอเป็นนกั เรียน ม.ตน้ 5. ขอ้ ใดเป็นประโยคปฏิเสธ 1. คุณจะไม่ไปดว้ ยกนั หรือ 2. โปรดไปกบั ผมเถอะ 3. ผมจะไม่ไปกบั คุณ 4. คุณไปดว้ ยกนั นะ 6. ขอ้ ใดเป็นประโยคคลอ้ ยตามกนั 1. เธอเป็นนกั ศึกษาแต่ฉนั เป็นครู 2. เธอและฉนั เป็นนกั ศึกษาที-ดี 3. เธอหรือฉนั จะไปร่วมงานน[ี 4. เธอกไ็ ดไ้ ปงานน[ีกแ็ ลว้ กนั 7. ขอ้ ใดเป็นประโยคที-เลือกอยา่ งใดอยา่ งหน-ึง 1. องุ่นน[ีใครซ[ือมา 2. องุ่นน[ีรสหวานมาก 3. นี-องุ่นจากประเทศใด 4. นี-องุ่นมาจากประเทศออสเตรเลียหรือฝร-ังเศส 7

8. ขอ้ ใดเป็นภาษาเขียนที-เป็นทางการ 2. ใชก้ บั อาจารย์ 1. ผมคิดวา่ เราไม่น่าจะทาํ เช่นน[ี 4. ใชก้ บั รายงานการประชุม 2. ผมวา่ เราอยา่ คิดซิกแซกกนั เลย 3. ท่านจะกินปูนจากโครงการน[ีหรือ 2. เปรียบเทียบ 4. ท่านอยา่ ใหผ้ มปวดแสบปวดร้อนจากงานน[ีเลย 4. บอกความรู้สึก 9. ภาษาท-ีไม่เป็นทางการจะใชต้ ามขอ้ ใด 2. ทองไม่รู้ร้อน 4. วานรไดแ้ กว้ 1. ใชก้ บั เพ-ือน 3. ใชก้ บั งานวชิ าการ 10. ในสาํ นวนไทยจะมีคาํ อุปมาอุปไมยเพ-ืออะไร 1. ใหไ้ พเราะ 3. ใหส้ ละสลวย 11. ขอ้ ใดมีความหมายคลา้ ยกนั กบั สาํ นวน คมในฝัก 1. ชกั แม่น[าํ ท[งั หา้ 3. เสือซ่อนเลบ็ 8

สาระวรรณคดแี ละวรรณกรรม 1. คาํ ประพนั ธ์ที-ดีจะมีลกั ษณะบงั คบั ในขอ้ ใด 1. เสียงคาํ 2. คาํ ทา้ ย 3. คาํ ข[ึนตน้ 4. สมั ผสั คาํ 2. หากท่านจะอ่านเร-ืองเก-ียวกบั สภาพสงั คมวถิ ีชีวติ ของบุคคลทว-ั ๆ ไป ควรอ่านในขอ้ ใด 1. วรรณคดี 2. วรรณกรรม 3. วรรณกรรมปัจจุบนั 4. วรรณกรรมทอ้ งถิ-น 3. หนงั สือที-ไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ แต่งดีมีคุณค่าทางวรรณศิลป์ น[ี หมายถึงขอ้ ใด 1. วรรณคดี 2. วรรณกรรม 3. เพลงพ[ืนบา้ น 4. นิทานพ[ืนบา้ น 4. นิทานพ[ืนบา้ นมีคุณค่าสาํ คญั อยา่ งไร 1. ดา้ นอาชีพทอ้ งถ-ิน 2. ดา้ นโบราณสถาน 3. ดา้ นประวตั ิศาสตร์ 4. ดา้ นความเช-ือและคาํ สอน 5. เพลงพ[ืนบา้ นมีลกั ษณะเด่นในดา้ นใด 1. ใชศ้ ึกษาดา้ นอาชีพในชนบท 2. ใชป้ ระกอบการทาํ งานตามอาชีพ 3. ร้องตามเน[ือร้องท-ีพฒั นาจากทอ้ งถิ-น 4. ร้องต่อๆ กนั มาโดยไม่มีการจดบนั ทึก 6. เพลงกล่อมเดก็ มีคุณค่าสาํ คญั ดา้ นใด 1. ทาํ ใหเ้ ดก็ หลบั 2. ทาํ ใหเ้ ดก็ รักพอ่ แม่ 3. ทาํ ใหเ้ ดก็ รักตนเอง 4. ทาํ ใหเ้ ดก็ สนุกสนาน 7. วรรณกรรมปัจจุบนั ที-ดีนอกจากจะสนุกสนานแลว้ ควรมีลกั ษณะเด่นเพ-ิมเติมในดา้ นใด 1. รู้จกั กนั อยา่ งแพร่หลาย 2. บอกความเป็นมาในอดีต 3. อธิบายเหตุการณ์ในอนาคต 4. นาํ ไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ 8. “แลว้ สอนวา่ อยา่ ไวใ้ จมนุษย์ มนั แสนสุดลึกล[าํ เหลือกาํ หนด ถึงเถาวลั ยพ์ นั เกี-ยวที-เล[ียวลด กไ็ ม่คดเหมือนหน-ึงในน[าํ ใจคน” คาํ ประพนั ธ์น[ีกล่าวถึงเร-ืองใดเป็นสาํ คญั 1. น[าํ ใจคน 2. การไวใ้ จคน 3. การเชื-อคาํ สอน 4. ความยาวของเถาวลั ย์ 9


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook