เอกสารติวเข้มวิทยาศาสตร์ หาดใหญ่

วชิ าวทิ ยาศาสตร (O-NET) อาจารยณ ฐั รกิ า รอดสถิตย

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถิตย์ เอกสารประกอบการเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 เตรยี มตวั ก่อนสอบกนั เลย ออกอะไรบา้ งนะในสว่ นของวทิ ยาศาสตร์ทั่วไป.............................................. ~1~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถิตย์ กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก • โลกเปนดาวเคราะหหินดวงหนง่ึ ในระบบสุรยิ ะ ภายในโลกยงั คงมอี ุณหภมู สิ ูงมาก และมีการเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา นบั ตงั้ แตโลกเร่ิมเกดิ จนถึงปจจบุ ัน จาแนกโครงสร้างโลกกัน • นกั วทิ ยาศาสตรแบงโครงสรางโลกโดยใชขอมลู และ หลักฐานตาง ๆ ทางธรณวี ิทยา และทางฟสิกส • การเปล่ียนแปลงของโลกสามารถอธิบายไดด้ วยทฤษฎีการแปรสณั ฐานแผนธรณภี าค • การเปล่ยี นแปลงทางธรณภี าคของโลกสวนใหญจะเกดิ ในชน้ั ธรณภี าค และชนั้ ฐานธรณภี าค ชนั้ ธรณีภาคแตกออก เปนแผนใหญๆ หลายแผน เรียกวา แผนธรณีภาค ซึ่งมีการเคล่ือนท่ีอยูตลอดเวลา ทาใหเกิดปรากฏการณตาง ๆ ทางธรณวี ทิ ยาบนผิวโลกทสี่ ามารถศกึ ษาไดจากรองรอยหลักฐานทปี่ รากฏอยูในปจจบุ ัน เชน รอยตอ รอยแยกของ แผนธรณีภาค เทือกเขาใตมหาสมุทร และซากดึกดาบรรพ เปนตน จากการศึกษาทฤษฎีการแปรสัณฐานแผนธรณี ภาคและปรากฏการณทางธรณีวทิ ยาต้ังแตอดีตจนถึงปจจบุ นั ทาใหพบวาแผน่ ดินไหวและภูเขาไฟสวนใหญจะเกิดอยู ตามแนวรอยตะเขบ็ ของขอบแผนธรณภี าค ทเี่ รียกวา วงแหวนแหงไฟ • รอยเลื่อน เปนแนวรอยแตกของหินที่เคลื่อนท่ีสมั พนั ธกนั และขนานไปกบั รอยแตก ซึ่งอาจสัมพันธกับการเกดิ แผนดินไหวและภเู ขาไฟระเบดิ • รอยคดโคง เปนรอยทปี่ รากฏในหนิ เกดิ จากการแปรสัณฐานแผนธรณภี าค • กระบวนการเกิดรอยเลื่อน รอยคดโคง การแปรสณั ฐาน แผนธรณีภาค เปนสวนหนง่ึ ของการเกดิ เทอื กเขาบนโลก • ปรากฏการณทางธรณวี ิทยาทีส่ าคญั และมีผลตอส่งิ มชี ีวิตทีเ่ หน็ ไดชัดเจน ไดแก แผนดนิ ไหว ภูเขาไฟระเบิด แผนดินไหวและภูเขาไฟระเบิดเปนปรากฏการณทางธรณีวิทยาที่ทาใหเกิดธรณีพิบัติภัย รูปแบบอ่ืนตามมา ทาให สญู เสียชวี ิตและทรพั ยสนิ ของมนษุ ย เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะธรณีสณั ฐาน ชนดิ หนิ และสภาพแวดลอม จุดเนน้ เพม่ิ เตมิ เรอื่ งแผนดนิ ไหว ~2~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถติ ย์ จดุ เน้นเพมิ่ เติมเรอื่ งภเู ขาไฟ ทาโจทยก์ ันหน่อย........................................... 1. หินบะซอลต์บริเวณสันเขาใต้มหาสมุทรจะมีอายนุ ้อยท่ีสดุ และมีอายุแก่มากข้ึนเรื่อยๆ เมื่ออยู่ห่างออกไปจากแนว กลางสนั เขาใต้มหาสมทุ รในลกั ษณะเกอื บสมมาตร จากสถานการณ์ข้างตน้ สอดคล้องกับการแยกตวั ของแผ่นดินในขอ้ ใด 1. แผ่นธรณี 4. แผน่ ธรณมี หาสมุทร 2. แผน่ ธรณีทวปี 5. เปลือกโลกมหาสมุทร 3. เปลอื กโลกทวปี 2. พิจารณากระบวนการทางธรณีวทิ ยาตอ่ ไปนี้ 4. ก และ ค ก. เปลอื กโลกทวีปชนกับเปลือกโลกทวีป 5. ข และ ค ข. แผ่นธรณีทวีปชนกับแผน่ ธรณีทวีป ค. แผ่นอนิ เดีย - ออสเตรเลีย ชนกบั แผน่ ยเู รเซยี เทือกเขาหิมาลัยเกิดจากกระบวนการทางธรณีวทิ ยาขอ้ ใด 1. ก 2. ข 3. ค ~3~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดับช้ัน ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถิตย์ 3. พิจารณาข้อความตอ่ ไปนี้ ก. แผน่ แปซฟิ กิ เปน็ แผน่ ธรณีทม่ี ขี นาดใหญท่ ีส่ ดุ ข. ขอบของแผน่ ธรณีเปน็ รอยต่อท่มี ีลกั ษณะเคลื่อนท่ีเข้าหากัน ค. มแี นวภูเขาไฟมีพลงั ข้อความใดเป็นเหตุผลท่ีทาให้บริเวณรอบๆ มหาสมุทรแปซิฟิกเกิดแผ่นดินไหว มากกว่าร้อยละ 80 ของแผน่ ดินไหวท่ัวโลก 1. ก 4. ก และ ข 2. ข 5. ข และ ค 3. ค 4. พจิ ารณารูปรา่ งภูเขาไฟ ต่อไปน้ี ก. ภูเขาไฟยอดราบ (plateau basalt หรอื issure volcano) ข. ภูเขาไฟรูปโล่ (shield volcano) ค. ภูเขาไฟกรวยสลับช้นั (composite volcano) ภูมิสัณฐานภูเขาไฟท่ีเกิดบรเิ วณแผ่นธรณมี หาสมทุ รแยกออกจากกันมีรูปรา่ งตรงกับขอ้ ใด 1. ก 4. ก และ ข 2. ข 5. ข และ ค 3. ค 5. เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลาปาง และชายทะเล อาเภอเมือง จังหวัดกระบ่ี พบซากดึกดาบรรพ์ หอยขม ชนดิ เดียวกนั อายุประมาณ 40 ล้านปี พิจารณาข้อความต่อไปนี้ ก. บริเวณท้ังสองเคยอยตู่ ิดกนั ตอ่ มาแยกออกจากกนั เพราะการเคลือ่ นที่ของทวปี ข. บริเวณท้ังสองเคยเป็นทะเลเดียวกัน ตอ่ มาบรเิ วณแมเ่ มาะเกดิ การยกตัว ค. บริเวณท้งั สองเปน็ แผน่ ดนิ เหมือนกัน ตอ่ มาบรเิ วณแมเ่ มาะเกิดการยกตวั ขอ้ ใดแสดงลักษณะภูมิประเทศโบราณของบริเวณทง้ั สองได้ถูกตอ้ ง 1. ก 4. ก และ ข 2. ข 5. ก และ ค 3. ค 6. พบซากหอยนางรมยักษ์ ที่วัดเจดีย์หอย ตาบลบ่อหนิ อาเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี พิจารณาข้อความ ตอ่ ไปนี้ ก. เป็นหอยทีม่ ีอายุประมาณ 5,500 ปีจากขอ้ มูลคารบ์ อน -14 ข. ภมู ิประเทศเปล่ียนจากทะเลเป็นแผ่นดิน ค. เปน็ หอยอยู่ใตด้ ิน ~4~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถติ ย์ ซากหอยนางรมยักษน์ ้จี ดั เป็นซากดึกดาบรรพด์ ้วยเหตุผลทแี่ สดงในข้อความใด 1. ก 4. ก และ ข 2. ข 5. ก ข และ ค 3. ค 7. ภาพแสดงโครงสร้างภายในโลก ตาแหน่งศนู ย์เกิดแผน่ ดนิ ไหว I และ II และตาแหน่งเครือ่ งวดั ความไหวสะเทือน 4 จดุ คือ A B C และ D เป็นดังนี้ กาหนดให้ ศนู ย์เกดิ แผน่ ดนิ ไหว ตาแหนง่ เคร่ืองวัดความไหวสะเทอื น จากภาพ หากเกิดแผ่นดินไหวที่ศนู ย์เกิดแผน่ ดนิ ไหว I และ II ผลการรบั สัญญาณคลน่ื ปฐมภูมิและคล่นื ทุตยิ ภูมิของ เครอื่ งวัดความไหวสะเทือนใดต่อไปนถี้ กู ต้อง ศนู ยเ์ กดิ แผน่ ดนิ ไหว I ศนู ยเ์ กดิ แผน่ ดนิ ไหว II เครอื่ งวดั ความไหว เครอ่ื งวดั ความไหว เครอื่ งวดั ความไหว เครอื่ งวดั ความไหว สะเทอื นทร่ี บั คลนื่ สะเทอื นทรี่ บั คลน่ื สะเทอื นทร่ี บั คลนื่ สะเทอื นทร่ี บั คลน่ื ปฐมภูมไิ ด้ ทตุ ิยภมู ไิ ด้ ปฐมภมู ไิ ด้ ทตุ ยิ ภมู ิได้ 1. A B D AB BD D 2. A B D AB BD ACD 3. A B D ABC ABCD D 4. A B C D A B A B C D D 5. A B C D ABC ABCD ACD ~5~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถิตย์ 8. รายงานเหตุการณแ์ ผ่นดินไหวในจังหวดั เชยี งใหม่ครง้ั หน่งึ เป็นดงั น้ี “เม่อื วันท่ี เกิดแผ่นดินไหวท่ีความลึกประมาณ 4 กิโลเมตร จากระดับพื้นผิวโลก จุดเหนือศูนย์ เกิดแผ่นดินไหวอยู่บริเวณอาเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนที่อยู่บนพื้นราบ และนักท่องเที่ยวท่ีอยู่บนยอด ดอยสามารถ รับรู้ถึงแรงสั่นส ะเ ทือน แผ่น ดิน ไห วใน คร้ังนี้ ทาให้อาคาร บ้าน เรือน สั่นไหว โคมไฟ สิ่งห้อยแขวนแกว่งไกว แต่ไม่มีรายงานความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณด์ ังกล่าว” ข้อมูลแสดงระดับและลักษ ณะความรุนแรงท่ีเ กิดขึ้นขอ งแผ่นดิ น ไหวตามมาตราเมอ ร์คัลลีที่ร ะดั บ ความรนุ แรง III ถึง VII เปน็ ดังนี้ ระดบั ความรนุ แรง ลกั ษณะความรนุ แรง III คนทอ่ี ย่บู นอาคารสูงรูส้ ึกได้ แตค่ นสว่ นใหญ่ยังไม่รูส้ กึ ว่ามีแผ่นดนิ ไหว IV ในเวลากลางวัน คนท่ีอยู่ในอาคารรู้สึกได้มาก แต่คนที่อยู่นอกอาคารรู้สึกบางคน จาน หนา้ ตา่ ง ประตูสน่ั ความรูส้ ึกเหมือนรถบรรทุกชนอาคาร V รู้สึกได้เกอื บทกุ คน หลายคนตกใจตืน่ วัตถทุ ไ่ี มม่ ัน่ คงลม้ ควา่ เสาต้นไม้ แกวง่ ไกว VI ทุกคนรสู้ ึกได้ เครื่องเรือนเคลอื่ น ปล่องไฟแตก เกิดความเสียหายเล็กน้อยกบั อาคาร VII ทุกคนตกใจว่ิงออกนอกอาคาร อาคารท่ีออกแบบไว้ดีไม่เสียหาย อาคารมาตรฐาน ปาน กลางเสยี หายเล็กนอ้ ยถึงปานกลาง อาคารที่ออกแบบไมเ่ สียหายมาก คนทขี่ บั รถรู้สึกว่ามี แผน่ ดินไหว จากขอ้ มูล จงั หวดั เชยี งใหม่ไดร้ ับผลกระทบจากแผ่นดินไหวรนุ แรงในระดบั ใดตามมาตราเมอร์คัลลี 1. III 4. VI 2. IV 5. VII 3. V ~6~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดับช้ัน ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณัฐริกา รอดสถิตย์ 9. ภาพวาดแสดงหน้าตดั ของช้นั หินและซากดกึ ดาบรรพ์ทพ่ี บในบริเวณหนง่ึ เปน็ ดงั นี้ จากภาพ ข้อความใดต่อไปนี้ถูกตอ้ ง 1. รอยเลื่อน AB เกิดขน้ึ ก่อนชน้ั หิน ก ข ค ง 2. ซากดกึ ดาบรรพข์ องแอมโมนอยด์มอี ายเุ ก่าแก่กวา่ ปะการงั 3. ช้ันหิน ง เป็นหินกรวดมนทม่ี ีอายุนอ้ ยที่สดุ เม่ือเทยี บกบั ชัน้ หนิ อ่นื 4. ซากดึกดาบรรพข์ องหอยตะเกียงจะพบเฉพาะในช้ันของหินปูนเท่านนั้ 5. ลาดับการเกดิ ชนั้ หนิ เร่ิมจาก หนิ กรวดมน หนิ ทราย หินดนิ ดาน และหนิ ปูน ตามลาดบั ~7~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั ชั้น ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถติ ย์ ดาราศาสตรและอวกาศ เอกภพกาเนดิ ณ จดุ ทเี่ รียกวาบิกแบง เปนจดุ ทีพ่ ลังงานเรม่ิ เปลยี่ นเปนสสาร เกิดเปนอนุภาค ควารก อเิ ลก็ ตรอน นวิ ทรโิ น พรอมปฏอิ นภุ าค เมื่ออุณหภมู ขิ องเอกภพลดตา่ ลง ควารกจะรวมตัวกนั เปนอนภุ าคพื้นฐาน คอื โปรตรอนและนวิ ตรอน ตอมาโปรตรอนและนิวตรอนรวมตวั กันเปนนวิ เคลียสของฮีเลยี ม และเกิดเปนอะตอม ของไฮโดรเจนและฮเี ลยี ม อะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลยี ม ซ่งึ เปนองคประกอบสวนใหญของเนบิวลาดง้ั เดิม เนบวิ ลาดั้งเดิมกระจายอยูเปนหยอมๆกลายเปนกาแลก็ ซี่ภายในกาแลก็ ซ่ี เกดิ เปนดาวฤกษ ระบบดาวฤกษ์ • ดาวฤกษ เปนกอนแกสรอนขนาดใหญ กาเนิดมาจากเนบวิ ลา ทม่ี อี งคประกอบสวนใหญเปนธาตไุ ฮโดรเจนทแี่ กน กลางของดาวฤกษจะเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเทอรโมนิวเคลยี รหลอมนิวเคลยี สของไฮโดรเจนเปนนิวเคลียสของฮเี ลียมไดพลงั งาน ออกมา • อนั ดับความสวางของดาวฤกษท่สี งั เกตเหน็ ไดมาจากความสวางปรากฏท่ีขึ้นอยูกับความสวางจริงและระยะหางจากโลก • สขี องดาวฤกษมีความสมั พนั ธกับอณุ หภูมิผวิ ของดาวฤกษและอายขุ องดาวฤกษดาวฤกษมีอายุยาวหรือสน้ั มีจดุ จบเปนหลุมดา หรือดาวนิวตรอน หรือดาวแคระขาว ขนึ้ อยูกับมวลของดาวฤกษ ~8~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณัฐริกา รอดสถิตย์ • การสงดาวเทียมไปโคจรรอบโลก ณ ระดับความสงู จากผิวโลกตาง ๆ กนั จรวดตองมีความเร็วท่ีแตกตางกนั • ดาวเทยี มถูกนามาใชประโยชนในดานอุตุนยิ มวิทยา สารวจทรัพยากรโลก การส่อื สารและบอกตาแหนงของวัตถบุ น โลก ระบบยานขนสงอวกาศถกู พฒั นาข้นึ มาใชสง ดาวเทียมและยานอวกาศแทนการใชจรวดอยางเดียวเนือ่ งจาก สามารถนากลับมาใชใหมได ในการสงยานอวกาศไปสารวจอวกาศ จรวดท่ีพายานอวกาศตองมีความเร็วมากกวา ความเรว็ หลดุ พน จงึ จะสามารถออกจากวงโคจรของโลกได ความเรว็ หลดุ พน กับ ความเรว็ โคจร ยงั ไงนะ ทาโจทย์กนั หนอ่ ย........................................... 1. ข้อใดสนับสนุนทฤษฎบี ิกแบง ของการกาเนิดของเอกภพ 1. การหดตัวของเอกภพ 2. การหมุนรอบตวั เองของกาแลก็ ซี 3. การขยายตวั ของกาแล็กซีทางชา้ งเผอื ก 4. อุณหภูมิ 2.73 K ของคลนื่ ไมโครเวฟพน้ื หลงั 5. ปรากฏการณ์ดอพเพลอร์ของแสงจากดวงอาทิตย์ 2. กาแลก็ ซเี กดิ หลงั บิกแบงเปน็ เวลาประมาณเท่าใด 4. 5,000 ล้านปี 1. 3 นาที 5. 13,700 ลา้ นปี 2. 300,000 ปี 3. 1,000 ล้านปี ~9~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั ชั้น ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถิตย์ 3. ถ้าอณุ หภมู ขิ องเอกภพทีเ่ วลา 1 ปีหลงั บกิ แบง สามารถคานวณไดจ้ ากสูตร T = 2.7x106 เคลวนิ t t = มีหนว่ ยเป็นปี เอกภพจะมีอุณหภูมิประมาณก่ีเคลวินที่เวลา 3 แสนปีหลังบิกแบง 1. 5 x 106 4. 900 2. 5 x 104 5. 90 3. 5,000 4. อนภุ าคใดประกอบขนึ้ จากอนภุ าคอ่ืน 4. อเิ ล็กตรอน 1. ควาร์ก 5. โพสิตรอน 2. โปรตอน 3. นิวทริโน 5. พลงั งานทปี่ ลดปลอ่ ยออกมาจากแกนกลางดาวฤกษม์ ีตน้ ตอมาจากปฏิกิริยาใดเปน็ หลกั 1. C+O2 →CO2 2. 2H2 +O2 →2H2O 3. 0 e+ +01e→γ +γ 1 4. 1 H+11H→21H+ +01e+ν 1 5. 411H→42 He+2+01e+2ν 6. ทแ่ี กนกลางของดวงอาทติ ยม์ ีอุณหภมู ปิ ระมาณกีเ่ คลวนิ 1. 1,000 4. 1 ลา้ น 2. 5,800 5. 15 ล้าน 3. 20,000 7. ดวงอาทิตยม์ ีอายุประมาณเทา่ ไร และจะฉายแสงเชน่ นีไ้ ปอกี นานเท่าไร 1. 100 ล้านปี, 1,000 ลา้ นปี 2. 1,000 ลา้ นปี, 10,000 ล้านปี 3. 5,000 ล้านปี, 5,000 ล้านปี 4. 5,000 ล้านปี, 50,000 ล้านปี 5. 13,700 ล้านปี, 5,000 ลา้ นปี ~ 10 ~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถติ ย์ 8. ดาวเทียมมีอัตราเร็วเท่าไรในวงโคจรกลมรัศมี r รอบโลกมวล M (ตอบติดตัว G คา่ คงท่ีโนม้ ถว่ งสากล) 1 1 1.  GM  2 4. (GMr)2 r3 1 1 5. GMr 2  2 2.  GM  2 r2 1 3.  GM  2 r 9. ดาวเทียมค้างฟ้ามีอัตราเร็วเชิงมุมในวงโคจรในระนาบอิเควเตอร์ของโลกเป็นเท่าไรในหน่วยเรเดียน ต่อชั่วโมง 1. π 4. 6  24 2. π 5. 12  12 3. π 6 10. จากการวัดพบว่า ดาวฤกษ์โคจรรอบศูนย์กลางของกาแล็กซีด้วยอัตราเร็วท่ีสูงมาก สาหรับมวลของกาแลก็ ซีท่ีตา เหน็ ได้ผลน้ีนามาซง่ึ สมมติฐานใด 1. ทฤษฎีแม่เหลก็ ไฟฟา้ ใช้ไม่ได้ 2. กฎการโนม้ ถว่ งสากลใชไ้ มไ่ ด้เลย 3. กาแลก็ ซค่ี วรมมี วลน้อยกวา่ ทีเ่ ราเห็นไดด้ ้วยแสง 4. กาแล็กซี่มีมวลมากกวา่ ทเ่ี ราวัดได้ด้วยแสงหลายเทา่ 5. ปรากฏการณด์ อพเพลอร์ใช้กบั แสงจากกาแล็กซไี มไ่ ด้ ~ 11 ~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณฐั ริกา รอดสถิตย์ 11. แผนภูมิแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งกาลังสอ่ งสว่างกับชนิดสเปกตรัม หรอื อุณหภูมพิ ื้นผวิ ของดาวฤกษ์ และตาแหน่ง ของดาวฤกษ์ ก ข ค ง และ จ บนแผนภมู ิเปน็ ดังภาพ และข้อมลู แสดงชนิดสเปกตรัม สี และอุณหภูมพิ น้ื ผิวของดาวฤกษ์ เปน็ ดงั นี้ ชนดิ สเปกตรัม สีของดาวฤกษ์ อุณหภูมพิ ้นื ผิวของดาวฤกษ์ (เคลวิน) O นา้ เงนิ สูงกว่า 30,000 B A นา้ เงินแกมขาว 30,000 - 10,000 F ขาว 10,000 - 7,500 G 7,500 - 6,000 K ขาวแกมเหลอื ง 6,000 - 4,900 M เหลือง 4,900 - 3,500 ส้ม 3,500 - 2,000 แดง ~ 12 ~

เอกสารประกอบการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั ชั้น ม.6 อานวยการสอนโดย อ.ณัฐริกา รอดสถิตย์ จากขอ้ มลู ข้อสรุปใดตอ่ ไปนี้ไมถ่ ูกตอ้ ง 1. ดาวฤกษ์ กมสี ีนา้ เงนิ แกมขาว และดาวฤกษ์งมสี ขี าว 2. ดาวฤกษ์ ข มีกาลงั สอ่ งสวา่ งมากกวา่ ดวงอาทิตย์ 3. ดาวฤกษ์ ค มีชว่ งชวี ิตยาวนานกว่าดาวฤกษ์ ก 4. ดาวฤกษง์ มวี วิ ัฒนาการมาจากดาวฤกษม์ วลมาก 5. ดาวฤกษ์ จ มีอุณหภูมิพื้นผวิ นอ้ ยกวา่ ดาวฤกษ์ง 12. ข้อมลู แสดงมวลและรัศมีของโลก และดาวเคราะห์ 4 ดวง เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั โลก เป็นดังน้ี ดาวเคราะห์ มวล (Kg) รัศมี (km) โลก X Y A Y B 2X 2Y C 2Y D X Y 2X X 2 และความเรว็ หลดุ พ้นท่คี วามสูงต่างๆ ของดาวเทยี ม สามารถหาได้จากความสัมพนั ธด์ งั นี้ e = 2GM R เมื่อ e = ความเร็วหลุดพ้น G = ค่าคงตัวโน้มถ่วง M = มวลของดาวเคราะห์ R = ระยะทางจากจุดศนู ยก์ ลางของดาวเคราะห์ถงึ ดาวเทยี ม จากข้อมูล การส่งจรวดขนสง่ ยานอวกาศจากพนื้ ผิวของดาวเคราะห์ใด ที่จรวดตอ้ งใช้ความเร็วหลดุ พ้นสูงที่สุด 1. โลก 4. ดาวเคราะห์ C 2. ดาวเคราะห์ A 5. ดาวเคราะห์ D 3. ดาวเคราะห์ B โลกนไี้ มม่ คี นโง่ มแี ตค่ นไมพ่ ยายาม - ครกู วาง - ~ 13 ~