วิชาชีววิทยา อาจารยอำพล ขวญั พกั
A – Level Biology By KruCoffee 1 A – Level Biology 1.โซอ่ าหารหน่ึงบนหาดหนิ ใบบริเ ณขึ้นน้าลง มีผู้ผลิตคอื ไดอะตอม ซึ่งเปน็ สาหรา่ ยเซลล์เดีย ท่ีมอี ัตราการเพมิ่ จาน นอย่างร ดเร็ และมี ฏั จักรชี ิตสั้น อา ยั อยบู่ นหินโดยเคลอื บเปน็ ช้ันบาง ๆ ผบู้ รโิ ภคลาดบั ที่ 1 คือ หอยหม กเจก๊ กนิ ไดอะตอมบนหนิ เป็นอาหารผู้บริโภคลาดบั ท่ี 2 คอื ปทู ี่ลา่ หอยหม กเจ๊กกินเปน็ อาหาร จากข้อมูลข้อใดระบุรูปแบบพีระมดิ ม ลชี ภาพในรปู ของน้าหนักแห้งต่อตารางเมตรและพีระมดิ พลงั งานจากโซ่อาหารดงั กลา่ ไดถ้ ูกต้อง พรี ะมิดม ลชี ภาพ พรี ะมดิ พลังงาน 1. 2. 3. 4. 5. Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครูกาแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 2 2.ขอ้ ใดเปน็ ลกั ณะของไบโอมทม่ี ีม ลชี ภาพของผู้ผลติ ต่อพน้ื ที่ ูง ุด 1. มักเกิดไฟปา่ ในช่ งฤดูแล้ง 2. มีช้นั ดินเยือกแข็งคงตั (Permafrost) 3. มฝี นตกชกุ ตลอดปโี ดยเฉลี่ยเกิน 100 เซนตเิ มตร 4. มีฤดู นา แ ง้ แล้ง มีอณุ ภมู ิติดลบ มีฝนตกน้อย 5. กลางคืนมอี ากา นา มากและกลาง นั มอี ากา รอ้ นมาก 3.ปลานิลเป็นปลากินพืชที่เจริญเติบโตเร็ มีลูกได้ครั้งละมากๆ ามารถอยู่ใน ภาพแ ดล้อม ที่แตกต่าง ลาก ลายและทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของ ภาพแ ดล้อมจากข้อมูล ข้อใดเป็น ปัจจัยที่มีโอกา เพิ่มแครีอิงคาพาซิตี (carrying capacity) ของประชากรปลานิลในบึงน้าจืดแ ่ง นง่ึ มากที่ ุด 1. การเพ่มิ ขึ้นของปลากนิ พืชต่างถน่ิ ทีถ่ ูกปลอ่ ยลง ่บู ึง 2. การขุดขยายขนาดบึงเพ่อื เป็นแกม้ ลิงในการเกบ็ น้าฝน 3. การรั่ ไ ลของ ารมลพิ จากโรงงานอตุ า กรรมลงไป บู่ ึง 4. การเพ่ิมขนาดของประชากรปลาชะโดซ่ึงเป็นผบู้ รโิ ภคลาดบั ดุ ทา้ ย 5. การเจรญิ เตบิ โตอย่างร ดเร็ ของ า ร่ายจนทาใ ้ปรมิ าณออกซเิ จนในนา้ ลดลง Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 3 4.พ้นื ทห่ี น่ึงเกิดการเปลี่ยนแปลงตามลาดบั เหตุการณ์ดงั ตาราง ลาดับที่ เหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้น 1 พ้นื ทน่ี ้ีเปน็ ป่าทเี่ ปน็ สงั คมสมบรู ณ์ ( climax community) 2 เกิดไฟไหมป้ า่ เปน็ บริเ ณก ้าง 3 ส่ิงมชี ี ิตล้มตายและการเปน็ พน้ื ที่โล่งแต่ยังพบชน้ั ดิน 4 พ้ืนทเ่ี รม่ิ ฟ้นื ตั และเริ่มพบสง่ิ มีชี ิตทงั้ ทห่ี ลงเหลืออย่แู ละท่เี ข้ามาใหม่ จากภายนอก 5 ระบบนิเ มคี ามซบั ซอ้ นข้ึนและพฒั นาไปเป็นสงั คมสมบรู ณ์อีกคร้งั จากขอ้ มูล ข้อใดกล่า ถูกต้อง 1. พ้ืนที่นีเ้ กิดการเปล่ียนแปลงแทนท่ีแบบปฐมภูมิ 2. พบไลเคนเปน็ สง่ิ มชี ติ กลมุ่ แรกเม่ือพ้นื ท่ีเรม่ิ ฟ้ืนตั 3. หลงั จากไฟไหม้ยงั คงมสี ารอนิ ทรยี ์และเมลด็ พชื สะสมอยใู่ นช้นั ดนิ 4. ในการกลับมาเปน็ สงั คมสมบรู ณ์อีกคร้ัง พน้ื ท่ีนีต้ อ้ งเ ลามากก า่ พ้ืนที่ทถี่ ูกลา าทับถม 5. การเปลย่ี นแปลงแทนที่ในเหตุการณน์ ้เี ป็นรูปแบบเดีย กนั กับทพี่ บในบรเิ ณเกาะเกดิ ใหมจ่ าก การระเบดิ ของภเู ขาไฟใต้นา้ 5.ขอ้ ใดเรียงลาดบั ออร์แกเนลล์ที่เกยี่ งขอ้ งกบั การสร้างโปรตนี ตง้ั แตจ่ ดุ เร่มิ ตน้ ที่นิ เคลียส จนกระทงั่ ไดโ้ ปรตีนสาหรบั ส่งไปใชภ้ ายนอกเซลลไ์ ด้ถกู ต้อง 1. เอนโดพลาสมกิ เรติคลู มั แบบผิ เรียบ กอลจิคอมแพลก็ ซ์ ไลโซโซม 2. เอนโดพลาสมิกเรติคูลัมแบบผิ ขรุขระ 3. เอนโดพลาสมิกเรติคลู ัมแบบผิ ขรขุ ระ กอลจคิ อมแพล็กซ์ เ สิเคลิ 4. เอนโดพลาสมกิ เรตคิ ูลมั แบบผิ ขรุขระ กอลจคิ อมแพล็กซ์ ไลโซโซม เ สเิ คิล 5. เอนโดพลาสมกิ เรตคิ ลู มั แบบผิ เรียบ เอนโดพลาสมิกเรตคิ ลู ัมแบบผิ เรยี บ เ สิเคลิ เอนโดพลาสมิกเรติคูลมั แบบผิ ขรขุ ระ Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 4 6.ยาชนดิ นึ่งใช้รัก าการตดิ เชอ่ื จุลนิ ทรยี ์ ด้ ยกลไกขัดข างกระบ นการทางานของ rRNA ภายในเซลลข์ องเชอื้ จุลินทรีย์น้ี จากขอ้ มลู ยาชนดิ น้นี ่าจะ ง่ ผลต่อการทางานของออรแ์ กเนลลใ์ ดของเชอ้ื จลุ นิ ทรีย์น้ีมากท่ี ดุ 1. ไลโซโซม 2. ไรโบโซม 3. ไมโทคอนเดรยี 4. กอลจคิ อมแพลก็ ซ์ 5. เอนโดพลา มกิ เรติคลู มั แบบผิ เรียบ 7.นกั เรยี น ึก าการ ายใจระดบั เซลล์ โดยใ ่ยี ต์ปริมาณเท่ากันลงใน ลอดทดลองที่มี ารตั้งต้น จาน นโมเลกุล ทมี่ เี ท่ากัน แล้ นาไปเล้ยี งในภา ะทม่ี อี อกซิเจนและไมม่ อี อกซิเจนโดย ลอดทดลอง A เป็นชดุ ค บคมุ ทีเ่ กิดการ ายใจระดับเซลล์อย่าง มบูรณเ์ มือ่ ตร จ อบ ารที่เ ลืออยไู่ ด้ผลการ ทดลองดังตาราง ลอด ารต้งั ต้น ภา ะในการลยี้ ง ระยะเ ลาในการ ารท่เี ลอื ใน ลอดทดลอง ทดลอง ยตุ ปิ ฏกิ ริ ยิ า มีออกซเิ จน (นาที) คาร์บอนไดออกไซด์ A กลูโค ไมม่ อี อกซเิ จน เอทานอล และคารบ์ อนไดออกไซด์ B กลโู ค มีออกซเิ จน 60 C กรดไพรู กิ ไม่มีออกซเิ จน 60 คาร์บอนไดออกไซด์ D กรดไพรู กิ มอี อกซิเจน 60 เอทานอล และคาร์บอนไดออกไซด์ E แอซทิ ิลโคเอนไซม์เอ มีออกซเิ จน 60 F กลูโค 60 คารบ์ อนไดออกไซด์ 1 แอซทิ ลิ โคเอนไซม์เอ และคารบ์ อนไดออกไซด์ ลอดทดลองใดจะมกี าร รา้ งพลงั งานไดต้ ่าที่ ุด 1. ลอด B 2. ลอด C 3. ลอด D 4. ลอด E 5. ลอด F Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 5 8.เลี้ยงเซลล์สามชนดิ ท่บี ริเวณปอด ได้แก่เซลล์ A B และเซลล์C รว่ มกบั เช้ือไวรัสโควดิ -19 ใน หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเป็นเวลา 24 ชวั่ โมง แล้ววดั ปริมาณเช้อื ไวรัสท่พี บในอาหารเลยี้ งเชอ้ื ได้ผลดังตาราง ชุดการ ชนิดของเซลลท์ เ่ี ลีย้ งรว่ มกับ ปริมาณเชือ้ ปริมาณเชือ้ ไวรสั ทีพ่ บในชัว่ โมง ทดลองที่ เชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสทีใ่ ส่ ท่ี 24 เซลล์ A + 1 เซลล์ B + ตรวจไมพ่ บ 2 เซลล์ C + +++++ 3 เซลล์ Aและ B + 4 เซลล์ Aและ C + ตรวจไม่พบ 5 เซลล์ B และ C + +++++ 6 ตรวจไม่พบ ++ กาหนดให้เครือ่ งหมาย + แสดงระดับของเช้ือไวรสั ที่ตรวจพบ จากขอ้ มูล ข้อใดเป็นเซลล์ท่ไี วรัสสามารถเขา้ ไปทาลาย และเซลล์ที่สามารถทาลายไวรัสไดต้ ามลาดับ 1. เซลล์ A และ เซลล์ B 2. เซลล์ A และ เซลล์ C 3. เซลล์ B และ เซลล์ A 4. เซลล์ B และ เซลล์ C 5. เซลล์ C และ เซลล์ B Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครูกาแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 6 9.การ มุนเ ียนเลอื ดของมนุ ย์เปน็ ดงั แผนภาพโดย A – D แทนโครง ร้างของ ั ใจ ่ น X และ Y แทน ลอดเลือดที่ออกจาก ั ใจและ ลอดเลอื ดท่ีเขา้ ู่ ั ใจ ตามลาดับ กา นดใ ้ แ ดงทิ ทางการไ ลของเลือด จากข้อมูล ข้อใดถกู ต้อง 1. แรงดนั เลอื ดใน Y งู ก ่า X 2. X และ Y เป็น ลอดเลือดอารเ์ ทอรี 3. ถา้ A บบี ตั เลือดจะผา่ นล้ินไบคั ปดิ เพ่ือเข้า ู่ B 4. ถา้ D บีบตั เลอื ดจะผา่ นลิ้นเอออร์ติกเซมลิ ูนารเ์ พ่อื เข้า ู่ X 5. เลือดทีเ่ ขา้ ู่ B จะมีค ามเข้มขน้ ของแก๊ คาร์บอนไดออกไซด์ตา่ ก า่ เลอื ดทเี่ ข้า ู่ C Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 7 10.เซลลก์ ล้ามเนือ้ 3 ชนิดของ ตั ม์ ีกระดกู นั ลงั มีลัก ณะ ดังภาพ จากข้อมลู ขอ้ ใดเป็นเซลล์กล้ามเนื้อท่ีทางานนอกอานาจจติ ใจ 1. A เทา่ นนั้ 2. B เทา่ นัน้ 3. A และ B 4. A และ C 5. B และ C 11. ข้อมลู ปริมาณ ยาดน้าฟา้ และอุณ ภมู เิ ฉลย่ี ตอ่ ปีของไบโอมบนบกชนิดตา่ ง ๆ เปน็ ดังกราฟ จากกราฟ ขอ้ ใดคือลกั ณะท่ั ไปของไบโอม X 1. มผี ูผ้ ลติ ่ นใ ญเ่ ป็นมอ และไลเคน 2. ตัง้ อยเู่ นือเ ้น นู ย์ ูตรมากก า่ 30 องดา 3. มฝี นตกน้อยแตม่ ี มิ ะดกมากในช่ งฤดู นา 4. อุณ ภูมิแตกตา่ งกนั มากระ ่างกลาง นั และกลางคนื 5. มคี าม ลาก ลายทางชี ภาพ ูงที่ ดุ เม่ือเทียบกบั ไบโอมอน่ื Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 8 12. นกั เรยี น 3 คน ได้อธบิ ายเกีย่ กับปญั หาทรัพยากรธรรมชาติ ดังนี้ นาย ก. การปลกู พืชเชงิ เดยี่ ในบรเิ ณก ้าง เป็นสาเหตุทีท่ าใหป้ ริมาณธาตอุ าหารของพืชในดนิ ลดลง ซง่ึ แก้ปัญหาไดด้ ้ ยการปลูกพชื หมุนเ ียน เช่น การปลูกพืชหลกั สลบั กับพืช ง ์ถ่ั นาย ข. การปล่อยผกั ตบช าซึ่งเปน็ ชนิดพันธ์ุตา่ งถ่ินลงในแหล่งน้า จะทาใหผ้ ักตบช า ขยายพันธุ์อยา่ งร ดเร็ จนแผ่ขยายเตม็ พน้ื ทผี่ ิ น้า เมื่อผักตบช าตายลงเป็นจาน นมาก จะส่งผลให้นา้ มคี า่ BOD ลดลง ทาใหน้ า้ เน่าเสีย นาย ค. การปลอ่ ยนา้ ทิ้งท่ีมีในเตรทและฟอลเฟตปนเปอ้ื นจากโรงงานอุตสาหกรรมใน ปริมาณมากลงอยแู่ หล่งน้าธรรมชาตจิ ะทาใหเ้ กิดปรากฏการณย์ โู ทรฟิเคชนั ซง่ึ เป็นการเจริญเตบิ โตของสาหร่ายและพชื นา้ อย่างร ดเร็ ปกคลมุ ผิ นา้ จากข้อมลู คาอธิบายของนักเรียนคนใดถกู ต้อง 1. นาย ข. เท่านัน้ 2. นาย ค. เทา่ น้นั 3. นาย ก. และ นาย ข. เท่านน้ั 4. นาย ก. และ นาย ค. เท่านน้ั 5. นาย ก. นาย ข. และ นาย ค. Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครูกาแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 9 13. โครงสรา้ งของเซลลส์ เปริ ม์ แสดงดงั ภาพ จากภาพ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง 1. โครงสรา้ ง A พัฒนามาจากไมโทคอนเfรีย 2. โครงสรา้ ง B มีไขมนั เป็นองค์ประกอบหลัก 3. โครงสรา้ ง C สามารถพบการเปลย่ี นกรดออกซาโลแอซิตกิ เปน็ กรดซติ รกิ ได้ 4. โครงสร้าง D ประกอบดว้ ยพอลิเมอรข์ องน้าตาลเปน็ โครงสรา้ งหลัก 5. โครงสร้าง E หากนามาตัดขวางจะพบการเรยี งตัวของไมโครทวิ บลู แบบ 9+0 Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 10 14.กรณี ึก าที่เกยี่ ขอ้ งกบั ระบบภูมคิ มุ้ กันของบุคคล 5 คน แ ดงดงั ตาราง กรณี กึ าของ รายละเอียด นาย ก. ฉดี ัดซนี ชนิดเชือ้ ตาย นาย ข. ฉดี เซรุม่ แกพ้ ิ งู ทารก ค. ดืม่ น้านมแมใ่ นระยะ 1 เดือนแรก นาย ง. เปน็ แผลมีดบาดและเกิดการอกั เ บ นาย จ. ป่ ยเปน็ ไข้ ัดใ ญ่ และ ายเอง จากขอ้ มูล ขอ้ ใดกล่า ถึงแต่ละกรณี กึ าได้ถูกต้อง กรณี ึก า ิ่งทร่ี า่ งกาย รปู แบบของระบบ กลไกการตอ่ ตา้ น รอื ของ ไดร้ ับ ภูมิคุ้มกันที่เกิดข้ึนกบั ทาลาย งิ่ แปลกปลอม 1. นาย ก. แอนติเจน ร่างกาย แบบไม่จาเพาะ 2. นาย ข. แอนตบิ อดี กอ่ เอง แบบจาเพาะ กอ่ เอง แบบจาเพาะ 3. ทารก ค. แอนติบอดี รบั มา แบบไมจ่ าเพาะ รับมา แบบจาเพาะ 4. นาย ง. แอนตเิ จน รับมา 5. นาย จ. แอนตบิ อดี Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 11 15. ไดโนเสารช์ นดิ หนึ่งมชี ่อื ทิ ยา าสตร์ ่า Ratchasimasaurs suranareae Shibata, Jintasakul & Azuma, 2011 จากขอ้ มูล ข้อใดถูกต้อง 1. จีนัสของไดโนเสาร์นี้ คอื suranareae 2. จนี ัสของไดโนเสาร์น้ี คอื Ratchasimasaurus 3. สปีชสี ์ของไดโนเสาร์น้ี คอื suranareae 4. สปีชสี ์ของไดโนเสาร์นี้ คอื Ratchasimasaurus 5. สปชี สี ์ของไดโนเสารน์ ้ี คือ Rachasimasaurus suranareae Shibata, Jintasakul & Azuma 2011 16.พชื ชนิดหนึ่งมีโครงสรา้ งดอกเป็น ดงั ภาพ จากภาพ ดอกของพชื ชนิดนีจ้ ะพฒั นาไปเป็นผลประเภทใด และผลนพ้ี บได้ในพชื ใด 1. ผลเด่ีย และ องุน่ 2. ผลกลมุ่ และ สับปะรด 3. ผลกลมุ่ และ บั หล ง 4. ผลร ม และ สบั ปะรด 5. ผลร ม และ บั หล ง Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 12 17. จากการสารวจแหลง่ น้า 3 แหลง่ พบคา่ ปรมิ าณออกซิเจนทล่ี ะลายในน้า (DO) แตกตา่ งกัน ดังแผนภมู แิ ทง่ จากแผนภูมแิ ห่ง นักเรยี นจงึ คาดการณว์ า่ \"เหล่งน้าที่ 2 น่าจะพบตัวออ่ นแมลงน้ากลมุ่ ทีถ่ กู กล่าวถึง ในบทความนจี้ านวนมากทีส่ ุด\" การคาดการณเ์ ป็นไปได้วา่ หรอื ไม่ เพราะเหตุใด 1. เป็นไปได้ เพราะคา่ DO ต่าแสดงถงึ น้าที่เน่าเสยี ทาให้มอี าหารของตวั อ่อนแมลงนา้ มาก 2. เปน็ ไปได้ เพราะค่า DO ต่า แสดงถงึ นา้ ทีม่ ีคณุ ภาพดี ทาใหต้ ัวออ่ นแมลงน้าจานวนมาก 3. เป็นไปได้ เพราะคา่ DO ไม่ไดส้ ง่ ผลตอ่ ตัวแมลงนา้ ทาใหแ้ หลง่ ที่น้าท่ี 2 อาจพบตัวอ่อน แมลงจานวนมาก 4. เปน็ ไปไมไ่ ด้ เพราะค่า DO ต่า แสดงถึงนา้ ท่ีมีคณุ ภาพดี ทาให้ตวั ออ่ นแมลงน้าเป็นเหย่ือ ของสัตวน์ า้ ได้งา่ ย 5. เปน็ ไปไม่ไดเ้ พราะคา่ DO ตา่ แสดงถงึ นา้ ท่ีเน่าเสยี ทาใหต้ วั อ่อนแมลงนา้ มี โอกาสรอด ชวี ติ น้อยลง Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครูกาแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 13 19. นกั ทิ ยา า ตร์ าร ดเกาะแ ง่ นงึ่ พบ าดทราย 3 แ ่ง ซ่งึ มีลัก ณะคล้ายคลงึ กันโดย บันทึกการพบ ่งิ มชี ี ติ ในแต่ละ าดทราย ดังตาราง ่ิงมชี ี ิต ญา้ ผักบงุ้ อยเ ียบ ปูเ ฉ น อยทับทมิ อยทบั ทิม อยทับทิม ลอยลม ทะเล (Pharella (Coenobita (ลายแบบท1่ี ) (ลายแบบท่ี2) (ลายแบบท่ี3) าดทราย (Spinifex (Ipomoea javanica) (Calliostoma (Calliostoma (Calliostoma littoreus) pes- rugosus virescens) virescens) virescens) caprae) A/ x / x / // B/ / / / / x/ C/ / x / / /x กา นดใ ้ เคร่ือง มาย / มายถึง พบ ิง่ มชี ี ติ เคร่อื ง มาย x มายถงึ ไมพ่ บ ง่ิ มชี ี ิต จากข้อมูล พิจารณาขอ้ ค ามต่อไปน้ี ก. าดทราย A มีค าม ลาก ลายของ B ปชี ี ์เท่ากบั าดทราย C ข. าดทราย A มคี าม ลาก ลายทางพันธกุ รรมของ อยทับทมิ มากก ่า าดทราย B ค. ผู้ผลติ ทีพ่ บบน าดทราย มีค าม ลาก ลายของ ปีชี ม์ ากก า่ ทพ่ี บบน าดทราย C ข้อค ามใดกล่า ถงึ ค าม ลาก ลายทางชี ภาพไดถ้ กู ต้อง 1. ก. เท่านนั้ 2. ข.เทา่ นนั้ 3. ก.และ ข. เท่าน้นั 4. ข. และ ค. เท่านน้ั 5. ก. ข. และ ค. Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
A – Level Biology By KruCoffee 14 20. Flow cytometry คือเทคนคิ ท่ีใชว้ ัดหรือบง่ บอกลกั ษณะของเซลล์แต่ละเซลล์ คา่ ทไ่ี ดจ้ ากเทคนิค นมี้ ี 2 คา่ คอื FSC (forward scatter) เปน็ คา่ ท่ีแปรผนั ตรงกบั ขนาดของเซลล์ และ SSC (side scatter)เป็นค่าท่แี ปรผันตรงกบั ปริมาณองคป์ ระกอบหรือความซับซ้อนภายในเซลล์ (cell complexity)เชลล์เม็ดเลือด 3 ชนิด มลี ักษณะดงั น้ี • แกรนโู ลไซต์ มนี ิวเคลียสหลายพู ภายในไซโทพลาสซมึ ประกอบด้วยแกรนูลจานวนมาก • ลิมโฟไซต์ ขนาดใหญก่ วา่ เมด็ เลือดแดงเลก็ นอ้ ย มนี ิวเคลยี สใหญ่เกือบเต็มเซลลแ์ ละ มไี ซโทพลาสซึมเลก็ น้อย • เม็ดเลอื ดแดง มีขนาดเล็ก ไม่มีนวิ เคลยี ส และไมม่ อี อรแ์ กเนล ผลการตรวจดว้ ยเทคนคิ fow cytomctry ของเซลล์เม็ดเลือด 3 ชนดิ ไดผ้ ลดงั ภาพ จากข้อมูล กลมุ่ เซลล์ A B และ C คอื เซลล์ชนดิ ใด A B C 1 เม็ดเลือดแดง แกรนูโลไซต์ ลิมโฟไซต์ 2 เม็ดเลอื ดแดง ลิมโฟไซต์ แกรนูโลไซต์ 3 แกรนูโลไซต์ ลมิ โฟไซต์ เมด็ เลือดแดง 4 แกรนโู ลไซต์ เมด็ เลอื ดแดง ลมิ โฟไซต์ เมด็ เลือดแดง แกรมูโลไซต์ 5 ลมิ โฟไซต์ Amphon Khuanpuck Coffee_Kafair page : ครกู าแฟ
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: