Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

Published by กัญญาวีร์ น้ำแก่ง, 2019-11-24 03:59:06

Description: การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

Search

Read the Text Version

การเปล่ยี นแปลงสภาพอากาศ

มลพษิ ทางอากาศ ปัจจบุ ันอากาศมกี ารเปลยี่ นแปลงไปในทางท่ีทำให้เกดิ อนั ตรายต่อชีวติ และส่งิ แวดลอ้ มมากข้นึ โดยเกิดจาก การปนเปื้อนของสารเคมีและสิ่งแปลกปลอมอ่ืน ๆ เราเรยี กสภาพอากาศในลักษณะนว้ี ่า การเกิดมลพิษทางอากาศ (air pollution) มลพิษทางอากาศ หมายถึง การที่อากาศมีปริมาณความเข้มขน้ ของสาร หรือสง่ิ แปลกปลอมเกินกว่าทคี่ วรจะมี ในอากาศปกติ กอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายต่อชีวิตมนษุ ย์และทรัพยส์ ินได้ มีสาเหตุการเกิดที่สำคัญ 2 ประการ คอื

สาเหตุทางธรรมชาติ สาเหตทุ างธรรมชาติ เชน่ การปะทุของภูเขาไฟซ่งึ จะพน่ เถา้ ถา่ น ฝนุ่ ผง และแกส๊ ต่าง ๆ ออกสู่อากาศ การเกิดไฟป่า ซึ่งทำใหเ้ กดิ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาล เถ้าถ่าน และฝนุ่ ผงต่าง ๆ

สาเหตจุ ากการกระทำของมนษุ ย์ สาเหตจุ ากการกระทำของมนุษย์ มลพษิ ทางอากาศท่เี กดิ จากการกระทำของมนุษย์นม้ี ปี ริมาณเพม่ิ ข้ึนเร่อื ย ๆ เนอ่ื งจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม และการตดั ไม้ทำลายป่าซงึ่ เปน็ ทรัพยากรธรรมชาติทส่ี ำคญั ในการสรา้ ง แกส๊ ออกซิเจนใหก้ บั อากาศ และช่วยลดปรมิ าณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่นละอองในอากาศ

สารปนเปือ้ นท่ีก่อให้เกดิ มลพษิ ทางอากาศ กล่มุ ออกไซดข์ องกำมะถนั สาเหตหุ ลกั เกิดจากการเผาปิโตรเลียมและถ่านหินซง่ึ มีกำมะถนั เปน็ สว่ นประกอบ สารปนเปอ้ื นทส่ี ำคัญในกลมุ่ น้ี คอื แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ซึง่ จะถกู ออกซไิ ดส์ในอากาศเกิดเป็นแก๊ส ซัลเฟอรไ์ ตรออกไซด์ (SO3) ซึ่งจะทำปฏิกริ ิยากบั ละอองน้ำในอากาศเกดิ เปน็ ฝนกรดทีส่ รา้ งความเสยี หายตอ่ อาคารบ้านเรอื น และเป็นอนั ตรายต่อชีวติ และทรัพย์สนิ ของมนุษย์

วธิ ีลดปัญหามลพษิ ทางอากาศ 1. เข้ารว่ มการรณรงคเ์ พื่อลดมลพษิ ทางอากาศเม่ือมีโอกาส เม่อื พบเห็นผ้ทู ่ีก่อมลพษิ ทางอากาศ ควรรบี แจ้งให้ เจ้าหน้าทีห่ รอื หนว่ ยงานทเี่ กี่ยวขอ้ งทราบ 2. ลดการตดั ไม้ทำลายปา่ ชว่ ยกนั ปลูกตน้ ไม้และดแู ลต้นไม้ทมี่ อี ยู่ เพราะตน้ ไมจ้ ะชว่ ยกรองอากาศเสียใหเ้ ป็นอากาศดี 3. ผูท้ ่ใี ชย้ านพาหนะ ควรเลือกใชเ้ ชื้อเพลงิ ท่ีมีควันออกมานอ้ ย หรือใชเ้ ชือ้ เพลิงท่ีทำจากพลังงานทดแทนทไ่ี มเ่ ป็นพษิ ตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม 4. ควรงดการสบู บหุ รีเ่ พราะเปน็ อันตรายต่อตนเองและคนรอบข้าง 5. ผูด้ ำเนินการเกย่ี วกบั การก่อสรา้ ง ควรมกี ารปกคลุมอาคารทีก่ ำลงั ก่อสร้าง ดว้ ยผา้ ใบให้มดิ ชดิ เพอ่ื ป้องกนั การฟ้งุ กระจาย ของฝ่นุ

ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ ฝนกรด นำ้ ฝนโดยทวั่ ไปจะมคี วามเป็นกรดอ่อน เพราะมแี ก๊สคารบ์ อนไดออกไซดล์ ะลายอยู่ ส่วนฝนกรดจะมีคา่ pH ต่ำกว่า 5.6 เพราะเกดิ จากแกส๊ ซลั เฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และไนโตรเจนมอนนอกไซด์ (NO) ทีถ่ ูกปลอ่ ยมาจาก โรงงานอตุ สาหกรรมและเกดิ จากการเผาไหมเ้ ชอื้ เพลิงในรถยนต์ โดยแก๊สท้งั สองชนดิ นี้ทำปฏิกริ ยิ ากับนำ้ ในบรรยา กาศเกิดเปน็ กรดซัลฟวิ ริก (H2SO4) และกรดไนตริก (HNO3) ตะกอนของกรดเหล่านจ้ี ะสะสมอย่ใู นรปู ของฝน ห มอก และหิมะ เม่ือฝนตกและมลี มพดั แรงจะพัดพาอนุภาคของกรดไปตกท่ไี กล ๆ ได้หลายร้อยกิโลเมตร

ฝนกรด ฝนกรดท่ีตกลงมาจะทำใหด้ นิ เปน็ กรด เม่อื พชื ดูดซึมกรดเข้าไปจะไปทำลายเนื้อเยอ่ื ภายใน ทำให้ต้นพืชแคระแกร็น ไมเ่ จริญเติบโต ฝนกรดยังทำใหน้ ้ำในแหลง่ น้ำเป็นกรดสง่ ผลให้ส่ิงมชี ีวิตในน้ำตาย นอกจากน้ฝี นกรดยังทำให้โลหะที่เปน็ ส่วนประกอบในสง่ิ ก่อสรา้ งและอาคารบ้านเรอื นผกุ รอ่ นและเกิดสนิม และทำปฏกิ ริ ิยากับหินปูนหรอื หนิ ออ่ นท่ใี ชท้ ำส่วน ตา่ ง ๆ ของอาคารผกุ รอ่ นได้

ปรากฏการณเ์ รือนกระจกและภาวะโลกรอ้ น ในปัจจบุ ันกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษยม์ ีผลทำใหช้ น้ั บรรยากาศของโลกมปี ริมาณแก๊สบางชนิดทม่ี ีสมบัติดูดซับความ รอ้ นมากเกนิ สมดลุ ของธรรมชาติ รังสคี วามร้อนจากดวงอาทิตย์สะท้อนออกจากผิวโลกไดน้ อ้ ยลง อณุ หภูมิของพื้นผิวโล กจงึ สูงขึ้น ลักษณะดงั กล่าวน้เี รยี กว่า ปรากฏการณเ์ รือนกระจก (greenhouse effect)

แกส๊ เรือนกระจก 1. คารบ์ อนไดออกไซด์ 2. มีเทน 3. โอโซน 4. ไนตรัสออกไซด์ (N2O) 5. คลอโรฟลอู อโรคาร์บอน (chlorofluorocarbon หรือ CFC)

ปรมิ าณแก๊สเรอื นกระจกทเี่ กิดขนึ้ สว่ นใหญเ่ กดิ จากกจิ กรรมต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ในปัจจบุ ันโลกมกี าร ปลอ่ ยแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ส่บู รรยากาศสูงถงึ ปลี ะประมาณ 26,000 ล้านตนั ในสว่ นของประเทศไทย มกี ารปลอ่ ยแกส๊ เรือนกระจกจากกจิ กรรมตา่ ง ๆ ดงั นี้

ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดล้อม ผลกระทบตอ่ ทรัพยากรนำ้ เม่ืออุณหภูมิของโลกเพิม่ สูงขึ้น จะทำใหใ้ นบางพน้ื ท่ีมปี รมิ าณฝนตกมากข้นึ ในขณะท่ี บางพ้ืนท่มี ีปริมาณฝนตกลดลง เกิดภาวะน้ำท่วมในฤดหู นาวและภาวะแหง้ แล้งในฤดูรอ้ น เนือ่ งจากในฤดูหนาวหมิ ะและ น้ำแขง็ หลอมเหลวเรว็ กว่าปกติ สว่ นฤดรู อ้ นมีหมิ ะและนำ้ แขง็ ลดลงปรมิ าณน้ำจากการหลอมเหลวจงึ ลดลง เกดิ การ ขาดแคลนนำ้ ความแหง้ แลง้ นส้ี ง่ ผลกระทบโดยตรงตอ่ ภาคอุตสาหกรรม ความเปน็ อยูแ่ ละสขุ ภาพของมนษุ ย์ รวมไปถึง สงิ่ แวดลอ้ มที่มนุษยอ์ าศยั อยู่

ผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม ผลกระทบต่อการเกษตร ภาวะโลกรอ้ นทำให้อัตราการระเหยของน้ำในดนิ เพ่ิมสงู ขน้ึ น้ำฝนมปี ริมาณลดลง ดิน จงึ มี ความช้นื ต่ำ เกิดความต้องการนำ้ ในการทำการเกษตรอยา่ งกวา้ งขวาง โดยเฉพาะในพนื้ ทท่ี มี่ ีความชน้ื ของดินลด ลงอยา่ ง รนุ แรง ในขณะท่ีทรัพยากรนำ้ มีไมเ่ พยี งพอต่อความตอ้ งการ ทำใหผ้ ลผลิตทางการเกษตรลดต่ำลงและเกดิ ความเสยี หาย

ผลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ ม ผลกระทบตอ่ ผู้ที่อาศยั ตามชายฝง่ั ทะเล ภาวะโลกรอ้ นสง่ ผลใหพ้ น้ื ดนิ บรเิ วณชายฝงั่ ทะเลถกู ทำลายจาก ภาวะน้ำทว่ ม เน่ืองจากระดับนำ้ ทะเลท่ีเพิม่ สูงข้ึน เกิดความเสยี หายต่อถนิ่ ที่อยอู่ าศยั ของมนษุ ย์

ผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม ผลกระทบต่อท่ีอย่อู าศยั ของมนุษยแ์ ละสขุ อนามัย สภาพอากาศทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปทำใหเ้ กิดภัยธรรมชาติทร่ี นุ แรง เช่น ภาวะน้ำทว่ มและความแห้งแลง้ เกดิ การอพยพของประชากรทอ่ี าศัยในบรเิ วณดังกลา่ ว ในประเทศท่กี ำลังพัฒนา จะเกิดการ อพยพของประชากรในเขตชนบทเขา้ ส่เู มือง จึงกอ่ ให้เกิดความเสอื่ มโทรมของสภาพแวดลอ้ ม และเกดิ ปัญหาสุขอนามัยใน ชมุ ชนมากขน้ึ นอกจากนีอ้ ุณหภูมทิ ีส่ ูงขึ้นยังทำใหเ้ กิดโรคใหม่ ๆ ข้นึ อีกด้วย

แนวทางการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา 1.ประหยัดพลงั งานใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั 2.ชว่ ยกันฟ้นื ฟูและรกั ษาสภาพปา่ ทม่ี ีอยู่ ลดการตัดไมท้ ำลายปา่ และปลูกป่าเพิม่ เตมิ รวมถึงการประหยดั การ ใชก้ ระดาษ 3.หลกี เล่ียงการใชป้ ุ๋ยท่ีทำใหเ้ กดิ แก๊สเรอื นกระจก และลดการใชถ้ ุงพลาสตกิ หนั มาใช้ถงุ ผา้ แทน 4.บริโภคอยา่ งพอเพยี ง ลดการกนิ และใช้อยา่ งฟุ่มเฟือย

Thank You


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook