กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขา าใจใจ ตรวจสอบผล Explore Evaluate Engage Explain Explain Expand อธบิ ายความรู ครสู มุ นกั เรยี นอกี 1 กลมุ โดยไมซ าํ้ กบั กลมุ เดมิ (๓) ผดงุ ครรภไ ทย เปน็ การทา� หนา้ ทใ่ี นการดแู ลสขุ ภาพของมารดาและเดก็ ออกมานําเสนอในประเด็นระบบการแพทยข อง ในหญงิ ตง้ั ครรภต์ งั้ แตก่ อ่ นคลอดจนถงึ หลงั คลอด ซงึ่ ในสมยั กอ่ นจะตอ้ งทา� คลอดใหก้ บั หญงิ ตง้ั ครรภ์ ประเทศไทยในปจ จบุ นั โดยครแู ละนกั เรยี นกลมุ อน่ื ๆ แต่ในปัจจุบันน้ี บทบาทหน้าท่ีดังกล่าวมีน้อยลง แต่เน้นในการดูแลสุขภาพของหญิงหลังคลอด เสนอแนะเพิ่มเติม และตัง้ คําถามเพือ่ นาํ ไปสูขอ สรุป มากขน้ึ ท่ถี ูกตองรวมกัน (๔) นวดไทย ทา� หนา้ ทใี่ นการรกั ษาและบรรเทาอาการของผปู้ ว ยดว้ ยการนวด รวมถงึ อาจมีการใช้ยาสมุนไพรชนิดรบั ประทานควบคู่ไปดว้ ย • ลกั ษณะของการแพทยแ ผนไทยประยุกต ๒.๒) การแพทยแ์ ผนไทยประยกุ ต ์ การแพทยส์ าขาหนง่ึ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากแนวคดิ ของ มลี ักษณะอยางไร นายแพทยอ์ วย เกตสุ งิ ห์ ซึง่ ต้องการพัฒนาการแพทย์แผนไทยโบราณใหม้ ีความเป็นวิทยาศาสตร์ (แนวตอบ การแพทยแ ผนไทยประยกุ ตจ ะมี และมหี ลกั วชิ าการรองรบั ในการอธบิ าย โดยครงึ่ หนงึ่ ขององคค์ วามรจู้ ะตอ้ งรา่� เรยี นตามหลกั วชิ าการ การนาํ เครอื่ งมอื ทางการแพทยป จ จบุ นั มาใชไ ด ทางการแพทย์แผนตะวันตก ผสมผสานกับคัมภีร์แพทย์แผนโบราณของไทย ผู้ที่เรียนทางด้านนี้ บางอยาง และสามารถวินจิ ฉยั ตามหลักการ จะมีความสามารถในการใช้เครื่องมือทางการแพทย์แผนปัจจุบันได้บางอย่างและวินิจฉัยตาม แพทยแผนปจ จบุ ันได เพยี งแตเ ม่อื ถึงข้ันตอน หลักการแพทย์แผนปัจจุบันได้ เพียงแต่เม่ือถึงขั้นตอนในการรักษานั้น จะต้องใช้วิธีการของการ ในการรกั ษา จะตอ งใชวธิ กี ารของการแพทย แพทยแ์ ผนไทย เชน่ การใชย้ าสมนุ ไพรนวด อบ ประคบ เปน็ ตน้ นอกจากนนั้ ยงั สามารถทา� คลอด แผนไทยเขา มาประยกุ ตใชรว มกนั เชน รวมถึงให้การบ�ารุงแม่และทารกตามแนวทางการแพทยแ์ ผนไทยเพื่อสร้างเสริมสุขภาพได้ด้วย การใชย าสมุนไพร นวด อบ ประคบ เปนตน ) แพทย์แผนไทยประยุกต์จะต้องสอบใบอนญุ าตประกอบโรคศลิ ปะ สาขาการแพทย์ แผนไทยประยุกต์โดยเฉพาะเสียก่อน จึงสามารถปฏิบัติงานในโรงพยาบาลหรือให้การรักษาแก่ ขยายความเขา ใจ Expand ผู้ปวยได้ และยังมีสิทธิท่ีจะสอบใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรม เภสัชกรรม และผดุงครรภไ์ ด้อกี ดว้ ย ใหน กั เรยี นศกึ ษาคน ควา เกยี่ วกบั ระบบการแพทย ในปจ จุบันของประเทศอาเซยี นมาอยา งนอย 3 ประเทศ แลวใหวิเคราะหวา ระบบการแพทยของ ประเทศอาเซยี นท่ีนกั เรยี นไดศ ึกษาคน ควา น้นั มี ความแตกตา งกับการแพทยข องไทยอยา งไร โดย เขยี นสรปุ สาระสําคญั ลงในกระดาษรายงาน แลว นํา สง ครูผสู อน การนวดแผนไทย เปนหนึ่งในวิธกี ารดแู ลสุขภาพ จากภมู ปิ ญญาไทยท่ีไดรบั การยอมรบั ทางการแพทย ๑42 เกรด็ แนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET ความแตกตา งระหวางการแพทยแผนปจจบุ ันและการแพทยท างเลือก ครอู าจใหนักเรียนศกึ ษาเพ่มิ เติมเกีย่ วกบั ระบบการแพทยข องประเทศไทย มคี วามแตกตา งกนั อยางไร ในปจจุบนั เน่อื งจากนักเรยี นจะไดมีความรคู วามเขาใจในระบบการแพทยตา งๆ แนวตอบ การแพทยแ ผนปจ จบุ นั เปน การแพทยท ใ่ี หก ารรกั ษาทางยา มากยิง่ ขน้ึ ซ่งึ ครอู าจแนะนํานักเรยี นใหไ ปศึกษาจากแหลง การเรยี นรอู ื่นๆ เชน การผา ตดั รังสีรักษา และยาเคมีบําบดั สว นการแพทยทางเลอื ก เปนการ อินเทอรเน็ต หองสมุดในชุมชน หรอื การสอบถามจากญาตผิ ูใหญทีม่ ปี ระสบการณ รักษาท่ีชว ยบาํ บดั และรักษาอาการเจ็บปวยบางอยางได โดยไมใช ในการบําบัดรักษาระบบการแพทยต างๆ เปน ตน กระบวนการทางการแพทยแผนปจจุบันและการแพทยแผนไทย บรู ณาการอาเซยี น ใหน กั เรียนไปศกึ ษาขอมูลเกีย่ วกบั การรักษาตามหลักการแพทยแผนโบราณ ในประเทศสมาชิกอาเซียนมา 1 วธิ ี ซง่ึ เปนประเทศใดกไ็ ด โดยใหนาํ มาเปรยี บ เทียบกับวิธีการรกั ษาตามหลกั การแพทยแ ผนไทย 142 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๓) การแพทย์ทางเลือก (Alter-native Medicine) ความหมายของการแพทย์ ใหน ักเรยี นอีกกลุมหนง่ึ โดยไมซ้าํ กับกลมุ เดมิ ทางเลือกน้ันขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ ในระยะเวลาแตกต่างกันความหมายก็แตกต่างกัน ออกมานาํ เสนอประเดน็ หลักในการพจิ ารณาเลือก เช่น ประเทศไทยสมยั รชั กาลท่ี ๔ มีหมอฝรั่งน�า ใชบ ริการทางการแพทยท ี่เหมาะสม จากนัน้ ครใู ห การแพทย์แผนตะวันตกเข้ามาใช้ เราเรียกการ นกั เรยี นรว มกนั อภิปรายวา หลกั ในการพิจารณา แพทย์แผนตะวันตกในขณะน้ันว่า การแพทย์ เลือกใชบริการทางการแพทยน ้ันมีหลกั ในการเลือก ทางเลือก ในสถานทีท่ ต่ี า่ งกันกจ็ ะมคี วามหมาย อยางไร โดยครูต้งั คําถามเพ่ือกระตนุ การเรยี นรู แตกต่างกัน เช่น ในประเทศอินเดียจะใช้การ ของนักเรียน แแพพททยยแ์อ์ าผยนรุ อเนิวชเด1 ยีถเือปเ็นปกน็ ากราแรพแทพยท์หยล์แกัผ นเชป่นัจ จกบุ าันร ที่ถูกต้องตามกฎหมายของอินเดีย เพราะ • การพจิ ารณาเลือกใชบรกิ ารทางการแพทย ประชาชนทงั้ ประเทศยอมรบั ทจี่ ะใช ้ สว่ นประเทศ ควรมีหลกั ในการเลือกใชอ ยา งไรบาง (แนวตอบ ไดแ ก หลกั ของความนาเชือ่ ถอื หลักของความปลอดภัย หลกั ของการมี ประสิทธิผล และหลักของความคมุ คา ) จนี จะใชก้ ารแพทยแ์ ผนโบราณของจนี เปน็ หลกั ส�าหรับในประเทศไทยแล้วการแพทย์ทางเลือก คือ การแพทย์ที่มิใช่การแพทย์แผนปัจจุบัน ดังนัน้ การแพทยแ์ ผนไทย การแพทยแ์ ผนไทย ประยกุ ต ์ และการแพทยอ์ นื่ ๆ ทเี่ หลอื ถอื เปน็ การ การปฏิบัติโยคะ2 ถือเปนการแพทยทางเลือก เพราะ แพทยท์ างเลือกทง้ั หมด ชว ยบําบดั และรักษาอาการเจ็บปวยบางอยา งได ๕.2 หลกั ในการพจิ ารณาเลอื กใชบรกิ ารทางการแพทยท่เี หมาะสม จากการจ�าแนกประเภทของบริการทางการแพทย์และสุขภาพที่พบในประเทศไทยออกเป็น ๓ ประเภทดังกล่าวข้างต้นน้ัน พบว่ามีผลกระทบต่อรูปแบบของการเลือกใช้บริการและส่งผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยรวม เน่ืองจากประชาชนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจและ เลือกใช้บริการทางแพทย์และสุขภาพดังกล่าวให้เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพท่ีตนเองเป็นอยู่ เพื่อ ใหห้ ายจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ แตม่ ผี ปู้ ว ยจา� นวนมากยงั ยดึ ตดิ กบั ทศั นคตเิ ดมิ คงยงั เชอ่ื ดา้ นใดดา้ นหนง่ึ หรือเช่ือค�าพูดของผู้อ่ืนมากกว่าพิจารณาจากความเหมาะสมของตนเอง ดังนั้น ในการเลือกใช้ บริการทางการแพทย์ ทั้งการแพทย์แผนปัจจบุ ัน การแพทยแ์ ผนไทย การแพทย์แผนไทยประยกุ ต ์ หรอื การแพทยท์ างเลอื กนน้ั ควรยดึ หลักสา� คญั ๔ ประการ ดงั นี้ ๑) หลกั ของความนา เชอ่ื ถอื โดยพจิ ารณาวา่ วธิ กี ารหรอื องคค์ วามรดู้ า้ นการแพทยน์ นั้ ได้รับการยอมรับมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะในกรณีของการแพทย์ทางเลือก ควรพิจารณา ว่าการแพทย์ทางเลือกชนิดน้ัน ประเทศต้นก�าเนิดได้ให้การยอมรับหรือมีการใช้แพร่หลายเป็น เวลานานมากนอ้ ยเพยี งใด ๑43 กจิ กรรมสรา งเสรมิ นักเรียนควรรู ใหน กั เรียนสอบถามบุคคลในครอบครัวของนกั เรยี นเก่ยี วกับการเลือกใช 1 การแพทยอายุรเวช เปนศาสตรการแพทยท างเลอื กของอินเดียทเ่ี กา แกท ่สี ดุ บรกิ ารทางการแพทยวามหี ลักในการเลือกใชอยางไร โดยเขยี นสรปุ ลง ศาสตรหน่ึงของโลก โดยจะใหค วามสําคญั กับสขุ ภาพองคร วม ทงั้ รางกาย จิตใจ ในกระดาษรายงาน แลวนาํ สง ครผู ูสอน และจิตวิญญาณ โดยมีความสมดุลกันและอยูรวมกันกับส่ิงแวดลอมในชีวิต การแพทยอายรุ เวชมีวิธกี ารตรวจวนิ ิจฉยั โรค เชน การตรวจชพี จร การตรวจปสสาวะ กิจกรรมทาทาย การตรวจเลือด และการตรวจรางกาย ซ่ึงแตกตางเฉพาะทาง และวธิ กี ารรกั ษาโรค ทห่ี ลากหลาย อาทิ การใชสมุนไพรและแรธ าตุ การนวด การผาตัด และโยคะ ใหนักเรียนสอบถามบคุ คลในชุมชนของนกั เรยี นอยา งนอย 2 คน 2 โยคะ หลกั สาํ คญั ในการฝกโยคะคือ การเรยี นรูท จี่ ะควบคมุ จติ วิญญาณ เกีย่ วกับการเลอื กใชบ รกิ ารทางการแพทยว า มหี ลกั ในการเลือกใชอยา งไร รา งกายท่ีสมบูรณแ ข็งแรงเปนเพยี งผลพลอยได โดยปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนแตล ะขนั้ ตอน โดยสรุปสาระสาํ คญั และนําบทสัมภาษณท่ไี ดน าํ สงครูผสู อน และควรฝกในสถานที่ทมี่ อี ากาศบรสิ ทุ ธ์ิ ปลอดโปรง ซึ่งจะทําใหก ารปฏิบตั ิมคี ณุ ภาพ มากย่ิงข้นึ คมู อื ครู 143
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขาาใจใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Explain Expand อธบิ ายความรู หลงั จากการอภปิ รายครูเสนอแนะและอธิบาย เ ป็นพิษแบบ๒เฉ) ียหบลพกัลขัน1อหงรืคอพวาิษมแปบลบอเรด้ือภรังยั 2ห โรดือยไพมจิ่ าอรันณตารวาา่ ยมทผี ่ีจละตเกอ่ ิดสขขุ ึ้นภใานพรขะอยงะผยใู้าชวอ้ มยีหา่ รงือไรไ มม่ กี ซาึ่งร เพิม่ เติมวา การเลือกใชบ ริการทางการแพทย ทั้งการแพทยแผนปจจุบนั การแพทยแผนไทย เร่อื งดังกลา่ วนบั ว่ามีความสา� คัญมาก การแพทยแ ผนไทยประยุกต หรอื การแพทย ทางเลอื ก ควรยดึ หลกั สาํ คญั ไดแ ก หลกั ของความ ๓) หลักของการมีประสิทธิผล โดยต้องสามารถพิสูจน์หรือมีข้อพิสูจน์มาแล้วว่า นาเช่อื ถอื โดยพิจารณาวา วธิ กี ารหรือองคความรู ดา นการแพทยน นั้ ไดร บั การยอมรบั มากนอ ยเพยี งใด มีการใช้ได้จริง โดยอาจจะได้จากการใช้จริงแล้วหาย แล้วน�ามาบอกต่อ ซ่ึงอาจต้องมีจ�านวน หลักของความปลอดภัย โดยพจิ ารณาวามผี ล มากพอ หรือใช้มาเป็นเวลานานจนเป็นที่ยอมรับจากการศึกษาวิจัยหลากหลายวิธีการ ซ่ึง ตอ สขุ ภาพของผูใ ชอยางไร อันตรายท่จี ะเกิดขนึ้ ในประเดน็ ดงั กลา่ วน ้ี การแพทยแ์ ผนปัจจุบนั จะได้รบั การยอมรับท่สี ูงกวา่ เน่อื งจากมีกระบวนการ ในระยะยาวมีหรือไม หลักของการมีประสทิ ธิผล ศกึ ษาวิจยั ที่เป็นระบบ จะตองพิสจู นมาแลว วามกี ารใชไดจ ริง โดยอาจ จะไดจ ากการใชจรงิ แลวหาย แลวนํามาบอกตอ ๔) หลกั ของความคมุ้ คา โดยเปรยี บเทยี บวา่ คา่ ใชจ้ า่ ยทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการใชว้ ธิ กี ารนน้ั ๆ และหลกั ของความคุม คา โดยเปรียบเทยี บวา คาใชจายทเ่ี กิดขน้ึ จากการใชวธิ กี ารนั้นๆ คุม คา คุ้มค่าส�าหรับผู้ปวยหรือไม ่ ด้วยการพิจารณาจากฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปวยแต่ละคนเป็นหลัก สําหรับผปู วยหรือไม โดยพิจารณาจากฐานะทาง และคา� นงึ ถงึ ประโยชนส์ งู สดุ แกส่ ว่ นรวมในการรกั ษาแกผ่ ปู้ ว ยดว้ ย โดยผปู้ ว ยจะตอ้ งไดร้ บั การรกั ษา เศรษฐกิจของผูป วยแตละคนเปนหลกั จากการช่วยเหลือของแพทย์อย่างเต็มท่ี ขยายความเขา ใจ Expand ใหน กั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมสรางสรรค พัฒนาการเรียนรู กิจกรรมที่ 2 การผาตัด เปนระบบแพทยแผนปจจุบันที่ตองอาศัยความรูทางวิทยาศาสตรและเครื่องมือหรืออุปกรณทางการแพทยท่ี ทันสมัยเขามาชวยในการบําบดั รักษาผปู วย ๑44 เกร็ดแนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNิดET ในการพิจารณาเลอื กใชบริการทางการแพทยท เ่ี หมาะสม ควรยึดหลัก ครูอาจใหนักเรยี นหาขา วจากหนังสอื พิมพ หรืออินเทอรเน็ตเกีย่ วกับการบําบดั ตอ ไปน้ี ยกเวนขอ ใด รักษาโรคทีไ่ มมคี วามปลอดภัย และขาดความนาเช่อื ถือ โดยวิเคราะหวา การบําบดั 1. ความนาเชอ่ื ถอื รกั ษาดงั กลา วขาดความนา เชอ่ื ถอื อยา งไร โดยใหน าํ ขา วมาตดิ ไวบ นกระดาษรายงาน 2. ความปลอดภัย แลวนําสงครูผูส อน 3. ความประหยัด 4. ความคมุ คา นกั เรยี นควรรู วเิ คราะหคาํ ตอบ ในการเลอื กใชบริการทางการแพทย ควรยดึ หลกั สําคัญ 4 ประการ ดังน้ี หลกั ของความนา เช่ือถือ หลักของความปลอดภัย หลัก 1 พษิ แบบเฉยี บพลัน หมายถงึ การไดรบั สารพิษในปรมิ าณมาก ในระยะเวลา ของการมีประสทิ ธิผล และหลักของความคุมคา แตสาํ หรับความประหยัดนน้ั นอยกวา 24 ชว่ั โมง สวนใหญจ ะเปน การฉีดเขาชอ งทอ ง ฉดี เขาใตผ ิวหนัง ไมใชหลักในการเลือกใชบ รกิ ารแพทยทเี่ หมาะสม เพราะหากคํานงึ ถึงความ การรบั ประทานหรอื ทาทผ่ี ิวหนังโดยตรง ประหยดั บางครั้งอาจไดผลการรกั ษาที่ไมดเี ทาทคี่ วร เชน การเลอื กรักษา 2 พษิ แบบเร้ือรงั หมายถงึ การไดรบั สารพิษเขาสูร า งกายในปริมาณนอ ย ทางคลินิกแทนการรักษาในโรงพยาบาล หากมีอาการเจ็บปว ยรนุ แรง ตดิ ตอ กนั เปนเวลานาน 1 - 3 เดือน ตอบขอ 3. 144 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขา ใา จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Evaluate Expand Expand ขยายความเขา ใจ เสริมสาระ ใหน กั เรียนศกึ ษาเพิม่ เตมิ จากเสริมสาระเร่อื ง การถนอมสายตาเมือ่ ใชค อมพวิ เตอร จากน้นั ครู การถนอมสายตาเมือ่ ใชค อมพิวเตอร ตงั้ คาํ ถามเชื่อมโยง เพ่อื ขยายความเขา ใจของ นกั เรยี น ปจจุบันคอมพิวเตอรเขามามีบทบาทตอวิถีชีวิตของคนเรามากขึ้น เพราะชวยอํานวยความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการเรียน • การถนอมสายตาจากการใชค อมพวิ เตอร การทาํ งาน การติดตอ ส่อื สาร ฯลฯ ผลกระทบทีต่ ามมา คือ ปญหา มวี ธิ ปี ฏบิ ตั อิ ยา งไร เก่ียวกับสายตา เน่ืองจากเราตองใชอวัยวะสวนนี้ตลอดเวลาที่ (แนวตอบ นงั่ อยหู นา จอคอมพวิ เตอร ดงั นน้ั หากเราตอ งการถนอมสายตา 1. วางคอมพิวเตอรใ หห างจากสายตา ใหอยูค ูก บั เราตลอดไป ควรปฏิบัติตามวธิ กี ารดงั ตอไปนี้ ประมาณ 1 ฟตุ และตอ งตา่ํ กวา ระดบั สายตาประมาณ 15 - 20 องศา ๑. ควรวางจอคอมพิวเตอรใหหางจากสายตาประมาณ 2. ควรติดแผน กรองรังสีไวท หี่ นา จอ ๑ ฟตุ และตองต่ํากวา ระดบั สายตาประมาณ ๑๕-๒๐ องศา คอมพวิ เตอร เพอ่ื ชว ยลดแสงจาให ๒. ควรจดั วางคอมพวิ เตอรโ ดยใหห นา ตา งอยขู า งจอภาพ นอยลง เพอ่ื ปอ งกนั มใิ หเ กดิ แสงสะทอ นรบกวนเพราะทาํ ใหตองใชส ายตา แครอต มีสวนชวยในการบํารุงสายตา เพราะมี 3. ควรหยุดพักสายตา 15 นาที ทกุ ๆ เพงมองมากกวาปกติ วติ ามินเอ และมีเบตาแคโรทีนสูง 2 ชวั่ โมง โดยหลับตาสกั ครู มองออก ไปไกลๆ ในพื้นท่ีสีเขยี ว หรอื ลกุ ขึ้น ๓. ควรติดแผนกรองรังสีไวท่ีหนาจอคอมพิวเตอรเพื่อชวย เปลี่ยนอริ ิยาบถ ลดแสงจา ใหนอยลง 4. ควรตรวจสายตาปล ะ 1 ครงั้ เพอ่ื ดวู า ๔. คหวมรัน่ หกยะุดพพรักิบสตาา1ยบตอ ายๆ๑๕เพนือ่ าใทหี มทนี กุ ํ้าๆหล๒อชเล่วั ย้ีโมงดงวโงดตยาหอลยับเู สตมาอสักจคะรชูวยมลอดงคออวากมไปออไกนลลๆา ขใอนงพสา้ืนยทตี่สาเี ไขดยี มวาก มคี วามผิดปกติเกดิ ข้นึ หรือไม หากมี ๕. ปญ หาจะไดร ีบแกไ ข ๖. หลีกเล่ียงการวางคอมพิวเตอรใกลเคร่ืองใชไฟฟาที่สามารถใหกําเนิดสนามแมเหล็กไฟฟาแรงสูง เพราะ 5. รบั ประทานอาหารทมี่ วี ติ ามนิ เอสงู สนามแมเหล็กไฟฟาจากเครื่องใชเหลานั้น จะรบกวนการทํางานของจอภาพคอมพิวเตอรทําใหภาพสั่น ซึ่งจะมีผลตอ เชน ไข ตบั นม ผกั บงุ แครอต สายตาที่เพงมอง มะละกอ เปน ตน ๗. ผูที่ตองทํางานเก่ียวกับคอมพิวเตอรเปนประจํา ควรตรวจสายตาปละ ๑ คร้ัง เพ่ือดูวามีความผิดปกติเกิดข้ึน หรือไม หากมปี ญหาจะไดรีบแกไข ส่ิงสําคัญประการสุดทาย คือ ควรนอนหลับพักผอนใหเพียงพอ และรับประทานอาหารท่ีมีวิตามินเอสูง เชน ไข ตบั นม ผักบุง แครอต มะละกอ เปน ตน เพอื่ ชวยบํารุงสายตา เทคนิคทัง้ หมดนจ้ี ะชว ยถนอมสายตาของเราใหอยู ในสภาพดีไดย าวนาน ทม่ี า : เกรด็ ความรเู รอ่ื ง “วธิ ีถนอมสายตา หนาจอคอมพิวเตอร” จากโรงพยาบาลบางนา เทคโนโลยีทางสุขภาพมีคุณคาและอํานวยความสะดวกสบายตอชีวิตมนุษยเปนอยางย่ิง แตในขณะเดียวกันก็อาจสงผลเสียตอสุขภาพ ผูใชเทคโนโลยีตองพิจารณาตัดสินใจเลือกใช เทคโนโลยใี หเ หมาะสม โดยคาํ นงึ ถงึ วตั ถปุ ระสงค ความปลอดภยั คา ใชจ า ยและมคี ณุ ธรรมในการใช ความเจรญิ กา วหนา ทางการแพทยข องประเทศไทยไดม วี วิ ฒั นาการมาตามลาํ ดบั จนทาํ ให ในปจ จบุ นั รปู แบบของการใหบ รกิ ารทางการแพทยแ ละสขุ ภาพมคี วามหลากหลายมากขนึ้ ดงั นน้ั ประชาชนผูใชบริการจึงจําเปนตองมีความเขาใจและเลือกใชรูปแบบของบริการทางการแพทย ใหเ หมาะสมและสอดคลองกับปญ หาสุขภาพทีเ่ ผชญิ อยู เพือ่ ใหเ กดิ ประโยชนสงู สุดแกต นเอง ๑4๕ แนวขอสNอบTเนนOก-าNรคE Tดิ นกั เรยี นควรรู นักเรียนคิดวา แสงสวา งในหอ งท่จี ามากเกนิ ไป อาจกอใหเกิดผลเสียตอ 1 กะพริบตา หม่ันกะพริบตาบอยๆ เน่อื งจากจะทําใหตอมไขมนั ใตต าขับน้าํ ดวงตาของเราหรอื ไม อยางไร ออกมาลางดวงตา เพื่อใหด วงตาสะอาดและไมแ หง ซ่งึ ปกตแิ ลว จะกะพริบตาทกุ ๆ แนวตอบ แสงสวา งทจี่ า มากเกนิ ไป ไมว า จะเปน แสงสวา งจากไฟนอี อน 3 - 4 วนิ าที โดยเปลอื กตาจะเคลอื่ นไหวอยา งรวดเรว็ จงึ ทาํ ใหไ มร สู กึ กระคายเคอื งตา หรอื แสงสวา งจากแสงแดด อาจสง ผลเสยี ตอ ดวงตาของเราได ดงั นนั้ หากอยู ในหอ งทม่ี แี สงสวา งมากเกนิ ไป ควรใชม ลู ห่ี รอื ผา มา นเพอ่ื ปรบั แสงใหผ า นได มุม IT เพยี งบางสว น และหลกี เลยี่ งการใชเ ฟอรน เิ จอรท มี่ ผี วิ สะทอ น เชน โตะ สขี าว เกา อข้ี าว เปน ตน เพราะจะทาํ ใหแ สงสะทอ นเขา ดวงตาไดง า ย สามารถศกึ ษาเพ่ิมเตมิ เกี่ยวกับ การถนอมดวงตาเม่อื ใชคอมพวิ เตอร ไดจาก http://www.happyoppy.com/index.php?lay=show&ac=article&ld=460478 &Ntype=5 คูมือครู 145
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล Explore Explain Expand Engage Evaluate Evaluate ตรวจสอบผล 1. การทําสมดุ ภาพตัวอยางเทคโนโลยีทางสุขภาพ ค�าถาม ประจ�าหน่วยการเรยี นรู้ 2. กาจดั ปา ยนเิ ทศเก่ยี วกบั การใชเ ทคโนโลยีที่มี ๑. นกั เรยี นรสู้ กึ อยา่ งไรบา้ งทป่ี จั จบุ นั การแพทยข์ องไทยมคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ มากยง่ิ ขน้ึ โดยใหเ้ ปรยี บเทยี บ ผลกระทบตอ สขุ ภาพ กบั การแพทย์ในสมยั อดีตทีผ่ า่ นมา 3. การเขยี นสรุปสาระสาํ คญั ความแตกตา งของ ๒. ยกตวั อยา่ งเทคโนโลยที เี่ ปน็ ผลติ ภณั ฑท์ างสขุ ภาพมา ๑ อยา่ ง จากนนั้ วเิ คราะหว์ า่ ผลติ ภณั ฑด์ งั กลา่ วนน้ั การแพทยใ นปจ จบุ ันของประเทศอาเซยี นกับ ส่งผลกระทบท้งั ทางด้านบวกและดา้ นลบอย่างไร ประเทศไทย 4. การปฏิบัตกิ ิจกรรมสรางสรรคพ ฒั นาการเรยี นรู ๓. นกั เรยี นคดิ วา่ สว่ นใหญน่ กั เรยี นจะใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พอื่ อะไรบา้ ง และสอดคลอ้ งกบั ความรหู้ รอื ประโยชน์ ท่ีไดร้ บั หรอื ไม่ อย่างไร หลักฐานแสดงผลการเรยี นรู ๔. หากนกั เรยี นตอ้ งการซอ้ื ผลติ ภณั ฑร์ ะงบั กลนิ่ กาย นกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารตดั สนิ ใจในการเลอื กซอ้ื อยา่ งไรบา้ ง 1. สมดุ ภาพตวั อยางเทคโนโลยที างสุขภาพ ทจ่ี ะท�าใหไ้ ดผ้ ลติ ภัณฑท์ ีป่ ลอดภัยและมคี ณุ ภาพ 2. ปา ยนิเทศเก่ยี วกับการใชเทคโนโลยที ่ีมี ๕. ทผ่ี า่ นมานกั เรยี นหรอื ครอบครวั ของนกั เรยี นเคยเขา้ รบั การรกั ษาในสถานพยาบาลทม่ี คี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ผลกระทบตอ สุขภาพ ทางเทคโนโลยดี า้ นการแพทยห์ รอื ไม ่(หากเคย นกั เรยี นมคี วามพงึ พอใจในผลการรกั ษามากนอ้ ยเพยี งใด) กจิ กรรม สร้างสรรค์พฒั นาการเรียนรู้ กจิ กรรมที่ ๑ นกั เรยี นชว่ ยกนั คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั เทคโนโลยที างสขุ ภาพ แลว้ นา� ขอ้ มลู มาอภปิ ราย ร่วมกันระหว่างครูและนักเรียนในชั้นว่า ตัวอย่างเทคโนโลยีทางสุขภาพดังกล่าวน้ัน กิจกรรมท่ี ๒ มผี ลดีหรือผลเสยี ต่อสขุ ภาพอยา่ งไร นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กา� หนดสถานการณป์ ญั หาสขุ ภาพ แลว้ รว่ มกนั พจิ ารณาวา่ สถานการณน์ น้ั มีความเหมาะสมหรอื ไม ่ และควรด�าเนนิ การอยา่ งไร ■ นอ้ ย มอี าการไขส้ งู และเพอ้ มาประมาณ ๑-๒ วัน ปา้ แจ่มแมข่ องนอ้ ย จงึ พาไปหา กิจกรรมท ี่ ๓ หมอรดน�า้ มนต ์ เพราะคิดวา่ น้อยผเี ขา้ ■ นดิ มอี าการปวดเมอื่ ยตามรา่ งกาย เนอ่ื งจากทา� งานหนกั จงึ ไปหาหมอนวดแผนไทย เพื่อให้ชว่ ยนวดบรรเทาอาการปวดเมื่อย ■ แ ดง มีอาการปวดศรี ษะมาก เนอื่ งจากเครยี ดกบั ปัญหาเศรษฐกิจที่รมุ เรา้ จึงไปหา หมอฝงั เขม็ เพอื่ ฝงั เขม็ บรรเทาอาการปวดศรี ษะของตนเอง นกั เรยี นศึกษาผลการศึกษาวจิ ัยเกยี่ วกับผลติ ภณั ฑ์ จีเอ็มโอ แล้วนา� ผลการศึกษานัน้ มาวเิ คราะห์ผลกระทบทอี่ าจเกิดขนึ้ ทั้งทางบวกและทางลบ ๑46 แนวตอบ คําถามประจาํ หนวยการเรียนรู 1. ขนึ้ อยกู ับคาํ ตอบของนักเรยี น โดยอาจตอบวา การท่ปี จ จบุ ันการแพทยของไทยมีความเจรญิ กา วหนา มากข้ึนนน้ั กอใหเกดิ ผลดตี อ ผปู วยท่ีเขา รับการบาํ บัดรกั ษา ทําให หายจากโรคภยั ไขเ จบ็ ตางๆ ไดอ ยางรวดเรว็ เนอื่ งจากมวี ธิ ีการรักษาท่ีดีขน้ึ และมอี ปุ กรณท างการแพทยท่ที นั สมัยครบครัน 2. ข้นึ อยกู บั คําตอบของนกั เรียน โดยอาจตอบวา ผลติ ภณั ฑเ สริมอาหาร โดยผลกระทบดานบวก คือ รับประทานงา ย และหาซื้อไดง ายตามรานขายยาและหา งสรรพสนิ คา ทั่วไป อกี ท้ังยังเหมาะกับผูทไี่ มสามารถรับวิตามินจากธรรมชาตไิ ด สว นผลกระทบดา นลบ คอื มรี าคาแพง และหากรับประทานมากเกินไปอาจเกิดการสะสมในรา งกาย กอ ใหเกิดอันตรายตอ สขุ ภาพตามมาได 3. ขน้ึ อยกู บั คาํ ตอบของนกั เรียน โดยอาจตอบวา ใชเพื่อการสบื คน ขอ มูลตา งๆ ดูหนงั ฟงเพลง ซึ่งการใชค อมพิวเตอรจ ะกอ ใหเ กดิ ประโยชนใ นดา นการศกึ ษา การติดตอ สอื่ สารและเพ่ือความบันเทิง ชวยผอ นคลายความเครยี ดตางๆ 4. ควรเลือกซ้อื ในแหลงที่มีความนาเชื่อถือ เชน รานเคร่ืองสําอาง หางสรรพสนิ คา เปน ตน และดูฉลาก อย. ทขี่ างขวด รวมถงึ วนั เดอื น ป ทผ่ี ลติ ดว ย 5. ขน้ึ อยกู ับคําตอบของนักเรยี น โดยสว นใหญจ ะตอบวา เคย ซ่ึงจะมีความพงึ พอใจในผลการรกั ษา เนอ่ื งจากมีวิธกี ารรกั ษาและอุปกรณการแพทยท่ีทันสมัย อีกทงั้ ผูปวย ยังสามารถฟน ตวั ไดอ ยางรวดเร็ว 146 คูม อื ครู
กกรระตะตนุ Eุนnคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate เปาหมายการเรียนรู ระบุวธิ กี าร ปจ จยั และแหลงทชี่ วยเหลอื ฟน ฟผู ูติดสารเสพติดได สมรรถนะของผูเรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวิต คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค 1. มีวนิ ยั 2. อยอู ยา งพอเพียง 3. มุงมั่นในการทาํ งาน ๙หน่วยที่ กระตนุ ความสนใจ Engage การชว่ ยเหลือฟ้นื ฟูผตู้ ดิ สารเสพตดิ ครตู ง้ั คําถามกระตุน ความสนใจ โดยนกั เรยี น สามารถแสดงความคิดเหน็ ไดอยา งอสิ ระ ตัวชวี้ ดั ก ารชวยเหลือฟนฟูผูติดสารเสพติด • นกั เรยี นเคยไดร บั ขา วสารเกย่ี วกับ ■ ระบุวธิ ีการ ปัจจยั และแหลง่ ท่ีชว่ ยเหลือฟืน้ ฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ เปนการใหโอกาสผูติดสารเสพติดไดฟนฟู สถานการณสารเสพติดทเ่ี กดิ ขึน้ ในปจจุบัน (พ ๕.๑ ม.๒/๑) สภาพรางกายและจิตใจใหกลับมาใชชีวิต บางหรอื ไม อยูในสังคมไดเหมือนดั่งคนปกติท่ัวไป ซ่ึงวิธี • นกั เรยี นคดิ วา ปญหาสารเสพตดิ เปนปญหา การบาํ บดั ฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ นน้ั จะมดี ว ยกนั ทีร่ า ยแรงมากนอ ยเพียงใด สาระการเรียนรู้แกนกลาง หลายวิธีแตกตางกันไป และมีหนวยงานตางๆ • ถาหากวาสมาชิกในครอบครัวของนักเรียน มผี ูติดสารเสพตดิ นักเรียนจะมีวิธกี ารให ความชวยเหลอื ไดอ ยา งไร ■ วธิ กี าร ปจั จยั และแหลง่ ทช่ี ว่ ยเหลอื ฟนื้ ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ เขามาใหความชวยเหลือ อยางไรก็ตามผูติดสาร เสพติดจะตองใหความรวมมือและมีความมุงม่ัน ในการเลิกเสพสารเสพตดิ ดว ย การชว ยเหลือจงึ จะ ประสบผลสาํ เร็จ บีบ Leading ไว เกรด็ แนะครู ครูควรใหน ักเรยี นเหน็ ความสาํ คญั ของการชวยเหลือฟน ฟูผูตดิ สารเสพตดิ โดยอธบิ ายใหน กั เรียนเขา ใจวา นักเรยี นสามารถชวยเหลอื ไดดวยการนําผปู วยไป เขารับการบําบัดรักษา และใหกาํ ลงั ใจในการเลิกเสพสารเสพตดิ ซ่ึงถาหากนกั เรยี น สามารถชว ยเหลือผตู ิดสารเสพติดได กเ็ ปรยี บเสมือนวา นกั เรียนไดชวยชีวติ บคุ คลหนึง่ ที่เคยหลงผดิ ในวังวนของสารเสพตดิ ใหกลับมาดาํ เนนิ ชวี ติ ไดตามปกติ รวมกบั คนทัว่ ไปได โดยไมตกเปน ทาสของสารเสพติด เพราะผตู ิดสารเสพติด บางรายอาจตดิ สารเสพตดิ โดยไมต ง้ั ใจ หรือเสพติดแลวตอ งการที่จะเลกิ แตส ังคม ไมย อมรับ และไมใ หโ อกาสผูท่เี คยตดิ สารเสพติด คูมอื ครู 147
กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Evaluate Engage Explore กระตนุ ความสนใจ Engage ครหู าภาพขา วการจบั กมุ ผคู า และผเู สพสารเสพตดิ ปัจจุบัน สังคมไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของสารเสพติดเป็นวงกว้าง ซึ่งมีจ�านวน มาใหน กั เรียนดู แลว ตงั้ คาํ ถามกระตุนความสนใจ ผู้ติดสารเสพติดมากขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลจึงได้ตราพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยนักเรยี นสามารถแสดงความคิดเหน็ ไดอยา ง ข้ึนเม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งท�าให้ผู้ติดสารเสพตดิ เปรยี บเสมือนผ้ปู ่วยท่ตี อ้ งได้รบั การชว่ ยเหลือฟ้ืนฟู อิสระ ดงั นั้น การได้เรยี นรูเ้ กีย่ วกบั วธิ กี าร ปจั จยั และแหล่งช่วยเหลือฟนื้ ฟูผู้ติดสารเสพตดิ จะชว่ ยใหเ้ รา มคี วามรแู้ ละความเข้าใจ สามารถให้คา� แนะนา� และชว่ ยเหลอื ผูต้ ดิ สารเสพตดิ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง • นักเรยี นเคยเห็นขาวท่แี สดงถึงสถานการณ การแพรระบาดของสารเสพตดิ ในรูปแบบ ๑. วงจรการแพรร่ ะบาดของสารเสพติด ใดบาง (แนวตอบ ขึน้ อยูกับคําตอบของนกั เรยี น สถานการณ์การแพร่ระบาดของสารเสพติดได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการ โดยอาจตอบวา เคยพบเห็นขา วเกยี่ วกับ ผลิตสารเสพติดท้ังภายในประเทศและมีการลักลอบน�าเข้ามาจากต่างประเทศมากมายหลายชนิด การเสพสารเสพตดิ ในหมูวยั รุน การใช โดยธรรมชาตขิ องผตู้ ดิ สารเสพตดิ สว่ นมาก มกั จะตอ้ งเพม่ิ ปรมิ าณของสารเสพตดิ ทใี่ ชอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สารเสพติดในสถานบันเทิง การซ้อื ขาย จงึ ตอ้ งผนั ตนเองจากผเู้ สพไปเปน็ ผจู้ า� หนา่ ยสารเสพตดิ เพราะตอ้ งการหาเงนิ ใหเ้ พยี งพอตอ่ การซอื้ สารเสพติดในแหลง ชมุ ชน) สารเสพติดมาใช้ในปริมาณที่มากข้ึน โดยใช้วิธีการขยายเครือข่ายให้มีผู้ติดสารเสพติดรายใหม่ ซงึ่ กลมุ่ เปา้ หมายสา� คญั คอื เพอ่ื น เมอื่ เพอ่ื นตดิ สารเสพตดิ แลว้ ตอ่ มาเพอ่ื นกต็ อ้ งเพม่ิ ปรมิ าณการใช้ • นกั เรยี นคดิ วา อะไรเปนสาเหตุทีท่ ําใหเ กิด มากขน้ึ จงึ ผนั ตวั เองไปเปน็ ผจู้ า� หนา่ ยสารเสพตดิ รายใหมใ่ หแ้ กเ่ พอื่ นรายตอ่ ๆ ไปทเ่ี พง่ิ ตดิ และจะเปน็ การแพรระบาดของสารเสพตดิ ในปจ จุบัน วงจรเช่นน้ีต่อไปเร่ือยๆ ท�าให้ผู้ใช้สารเสพติดในล�าดับต้นๆ ต้องเปล่ียนบทบาทตนเองจากผู้เสพ (แนวตอบ การปราบปรามสารเสพติดยัง เพยี งอยา่ งเดยี วไปเปน็ ผขู้ ายปนั สว่ น ผขู้ ายรายยอ่ ย ผขู้ ายรายใหญ ่ และผขู้ ายสง่ ตามลา� ดบั ซงึ่ สามารถ ไมไ ดผลเทาท่คี วร เนื่องจากยงั มีการลักลอบ อธบิ ายตามแผนภูมิของกองบญั ชาการศกึ ษา สา� นักงานต�ารวจแห่งชาติไดด้ งั นี้ นาํ เขาสารเสพติดจากประเทศเพ่ือนบาน เขา มาสปู ระเทศไทย และกลมุ ผูค า บางราย การขยายเครือข่ายจากผู้ติดสารล�าดับ ยังคงมีอทิ ธพิ ลมาก) ที่ ๑ ไปยังผู้ติดสารล�าดับที่ ๒ • นักเรียนคิดวา การชวยเหลอื ฟน ฟูผูติด ผูขายปนสวน เมื่อผู้ติดสารล�าดับท่ี ๑ ต้องเพ่ิม สารเสพตดิ มคี วามสําคญั หรือไม อยา งไร (แนวตอบ ข้ึนอยูก บั คําตอบของนักเรยี น ปริมาณของสารเสพติดที่ใช้อย่างต่อเน่ือง ซึง่ นักเรยี นจะไดศ กึ ษาในเนื้อหาตอ ไป) สาํ รวจคน หา Explore ผเู สพลำดบั ที่ ๒ จึงต้องหารายได้เพื่อน�าไปซื้อสารเสพติด วิธีการหารายไดท้ ง่ี า่ ยท่สี ดุ คอื การจ�าหน่าย ใหนกั เรยี นศกึ ษาเร่ือง วงจรการแพรร ะบาด สารเสพติด ซ่ึงส่วนใหญ่เพ่ือนมักเป็น ของสารเสพตดิ ความสาํ คญั และปจ จัยในการฟนฟู ผูตดิ สารเสพติด จากหนังสือเรยี น และแหลง การ เป้าหมายส�าคัญที่สุด เพราะชักชวนง่ายและปลอดภัยจากการถูกเจ้าหน้าที่ต�ารวจจับกุม โดยระยะแรก เรียนรูเพม่ิ เตมิ ตางๆ จะให้เพื่อนได้ทดลองใช้ฟรีก่อน ๒-๓ คร้ัง ในท่ีสุดเพื่อนก็จะกลายเป็นผู้ติดสารล�าดับที่ ๒ จากการ หลงเชื่อค�าชักชวนของผู้ติดสารล�าดับที่ ๑ ผู้ติดสารล�าดับที่ ๒ มักจะไปซ้ือสารเสพติดแบบปันส่วน จากผู้ติดสารล�าดับท่ี ๑ เพราะเช่ือม่ันวางใจกัน ดังนั้น ผู้ติดสารล�าดับที่ ๑ จึงผันตัวเองกลายเป็นผู้ขาย ปันส่วน ๑48 เกรด็ แนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET เพราะเหตใุ ด ปญหาสารเสพติดในปจจบุ ันจงึ ทวคี วามรนุ แรงมากยิง่ ขน้ึ ครูควรช้แี นะใหนกั เรยี นเหน็ ถึงความรา ยแรงของการแพรระบาดของสารเสพตดิ ถงึ แมวาจะมีการปอ งกนั ปราบปราม และมกี ฎหมายลงโทษอยา งรุนแรง ที่เกิดขน้ึ เพอื่ ใหเ กดิ ความระแวดระวังในการดําเนินชีวิตใหห างไกลจากสารเสพติด แนวตอบ เพราะปญหาสารเสพตดิ อาจเกิดจากสาเหตปุ ญหาทางสังคม โดยอาจยกตัวอยา งปญ หาอาชญากรรม หรือปญหาสงั คมตา งๆ เพ่ือใหน ักเรียนเกิด การขาดความรกั ความอบอุน และความเครยี ดตางๆ อีกทั้งยงั มีวิธีการตางๆ ความตระหนกั ถึงโทษและภัยของสารเสพติดมากข้ึน ในการหลบหลกี การจบั กมุ ทาํ ใหห าซือ้ สารเสพติดไดงา ยมากข้นึ รวมถึง ผลประโยชนจากการคาและเคล่ือนยายสารเสพตดิ ทาํ ใหม กี ารคา ขายเกดิ ข้นึ บูรณาการอาเซยี น โดยไมเกรงกลัวตอ กฎหมาย ไมคํานึงถงึ หลักศลี ธรรม ทําใหเกดิ ผูคา รายยอย ในระดบั ชุมชนข้นึ สง ผลใหก ารปราบปรามจับกุมทําไดย าก เนอื่ งจาก ปจ จบุ นั ประชาคมอาเซยี นไดม คี วามเหน็ ชอบทจ่ี ะรว มดาํ เนินการใหภมู ิภาค เครอื ขา ยของผูคามอี ยูมาก เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตเปน เขตปลอดยาเสพตดิ ดังที่กฎบตั รของอาเซยี นในดาน ของสงั คมไดก ลาวไววา ประเทศสมาชกิ ในกลุมอาเซยี นจะสงเสริมประชาชน และ สรา งสังคมใหมนั่ คง ปลอดภัยจากยาเสพติด เพมิ่ ความกนิ ดอี ยูดีของประชาชน อาเซียน ดว ยโอกาสทที่ ัดเทยี มกนั ในการเขาถงึ การพฒั นามนุษย สวสั ดิการ และ ความยตุ ธิ รรม ท้งั นี้เพ่อื ปอ งกันไมใหส มาชิกในประเทศตกเปนทาสยาเสพติด 148 คูมือครู
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ผูข ายรายยอ ย การขยายเครือข่ายจากผู้ติดสารล�าดับ ใหน ักเรียนดูแผนผังวงจรการแพรร ะบาดของ ที่ ๒ ไปยังผู้ติดสารล�าดับที่ ๓ สารเสพตดิ จากหนงั สือเรยี นในหนา 148-149 จากนัน้ ใหน ักเรยี นรวมกันอภปิ รายวา จดุ เรมิ่ ตน ผูขายปนสว น เมอ่ื ผตู้ ดิ สารลา� ดบั ท ี่ ๓ ตดิ สารเสพตดิ การแพรระบาดของสารเสพติดน้นั เรมิ่ มาจากอะไร และอะไรเปนสาเหตุใหเ กิดการตดิ สารเสพติด จากการหลงเชื่อค�าชักชวนของผู้ติดสาร โดยครตู ัง้ คําถามกระตนุ การเรียนรขู องนกั เรยี น ผูเสพลำดบั ที่ ๓ ล�าดับที่ ๒ แล้ว ผู้ติดสารล�าดับที่ ๓ จะไป • การตดิ สารเสพตดิ เกดิ มาจากสาเหตใุ ด ขอซื้อสารเสพติดแบบปันส่วนจากผู้ติดสาร (แนวตอบ ความอยากรู อยากลอง โดยเฉพาะวัยรนุ มกั จะเกดิ ความคึกคะนอง ล�าดับท่ี ๒ ดังน้ัน ผู้ติดสารล�าดับที่ ๒ จะ และถูกชักจูงไดงา ย นอกจากน้ี การใชยา อยา งพราํ่ เพร่ือเปน เวลานาน อาจสงผลให กลายเป็นผู้ขายปันส่วน โดยผู้ติดสารล�าดับที่ ๒ จะไปซื้อสารต่อมาจากผู้ติดสารล�าดับที่ ๑ ผู้ติดสาร เกดิ การเสพติดยานั้นๆ ได) ล�าดับที่ ๑ จึงกลายเป็นผู้ขายรายย่อย • เพราะเหตใุ ด ผูติดสารเสพตดิ จงึ ผนั ตนเอง จากผูเสพไปเปนผูจําหนายสารเสพตดิ แทน ผูข ายรายใหญ การขยายเครือข่ายจากผู้ติดสารล�าดับ (แนวตอบ ผูติดสารเสพติดจาํ เปนจะตองเพิ่ม ที่ ๓ ไปยังผู้ติดสารล�าดับที่ 4 ปรมิ าณของสารเสพติดท่ใี ชอยางตอเนื่อง แตบ างรายอาจไมม ีเงินเพียงพอท่จี ะซอ้ื ผขู ายรายยอ ย เมอื่ ผตู้ ดิ สารลา� ดบั ท ่ี ๔ ตดิ สารเสพตดิ สารเสพตดิ เหลา นนั้ มาใชไ ด จึงตองผัน ตนเองมาเปน ผูจําหนา ยรวมดวย เพราะ ผูขายปนสว น จากการหลงเช่ือค�าชักชวนของผู้ติดสาร ตองการหาเงนิ มาซ้อื สารเสพตดิ เพ่อื นาํ มาใช ล�าดับที่ ๓ แล้ว ผู้ติดสารล�าดับที่ ๔ จะไป เสพตามความตอ งการของตนเอง) ผูเสพลำดบั ท่ี ๔ ขอซ้ือสารเสพติดแบบปันส่วนจากผู้ติดสาร • กลมุ เปา หมายทีส่ าํ คญั ทม่ี ีสวนชวยในการ ล�าดับที่ ๓ เพ่ือเสพ ดังนั้น ผู้ติดสารล�าดับ ขยายเครอื ขา ยผตู ิดสารเสพตดิ คอื บุคคลใด (แนวตอบ เพื่อน เปนกลมุ เปาหมายที่ ที่ ๓ จะกลายเป็นผู้ขายปันส่วน ผู้ติดสารล�าดับท่ี ๒ จะกลายเป็นผู้ขายรายย่อย และผู้ติดสารล�าดับที่ ๑ สําคัญที่สดุ เพราะชกั ชวนไดงา ย และ ปลอดภยั จากการถกู เจา หนาท่ีตาํ รวจจับกุม จะกลายเป็นผู้ขายรายใหญ่ โดยระยะแรกจะใหเพอื่ นไดท ดลองใช สารเสพตดิ ฟรีกอน 2 - 3 ครั้ง จนในทีส่ ดุ ผูขายสง การขยายเครือข่ายจากผู้ติดสารล�าดับ เพอ่ื นก็จะกลายเปนผตู ดิ สารเสพตดิ ในเวลา ท่ี 4 ไปยังผู้ติดสารล�าดับท่ี ๕ ตอ มา) ผูข ายรายใหญ เมอ่ื ผตู้ ดิ สารลา� ดบั ท ่ี ๕ ตดิ สารเสพตดิ ผูขายรายยอย จากการหลงเช่ือค�าชักชวนของผู้ติดสาร ผขู ายปน สวน ล�าดับที่ ๔ แล้ว ผู้ติดสารล�าดับที่ ๕ จะไป ขอซ้ือสารเสพติดแบบปันส่วนจากผู้ติดสาร ผเู สพลำดับท่ี ๕ ล�าดับที่ ๔ เพื่อเสพ ดังน้ัน ผู้ติดสารล�าดับ ที่ ๔ จะกลายเป็นผู้ขายปันส่วน ผู้ติดสาร ล�าดับที่ ๓ จะกลายเป็นผู้ขายรายย่อย ผู้ติดสารล�าดับที่ ๒ จะกลายเป็นผู้ขายรายใหญ่ และผู้ติดสารล�าดับ ท่ี ๑ จะกลายเป็นผู้ขายส่ง ๑49 ขอ สอบ O-NET เกรด็ แนะครู ขอ สอบป ’53 ออกเก่ียวกบั การแพรร ะบาดของสารเสพติด ครสู ามารถนาํ ขา วการปราบปรามสารเสพตดิ หรอื ขาวการจับกมุ วยั รุนที่เสพ นกั เรยี นกําลงั ไปเขา หองน้ําของโรงเรยี น บงั เอญิ พบเพ่อื นๆ กาํ ลงั สูบบุหรี่ สารเสพตดิ ตามสถานบันเทิง หรือแหลงมั่วสุมตา งๆ มาใหน ักเรียนดู เพ่อื ใหเหน็ ถึง ปญ หาการแพรระบาดของสารเสพตดิ ในหมูวัยรุน เพอ่ื นชักชวนใหน กั เรยี นสูบบหุ ร่ีดว ย นักเรียนจะพูดวาอยา งไร 1. “เอาไวค อยสบู วันหลงั ” มมุ IT 2. “ถา มีหมากฝรง่ั ระงับกล่ิน เราถงึ จะสูบ” 3. “เราใหสญั ญากบั แมไ วว าจะไมสบู บุหร”ี่ สามารถศกึ ษาเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การแพรร ะบาดของสารเสพติดในรอบ 10 ป 4. “ดีเหมือนกัน วันนีย้ งั ไมม โี อกาสไปซอื้ เลย” ไดจาก http://www.hiso.or.th/hiso/tonkit/tonkits_18.php วิเคราะหค ําตอบ ควรพดู วา “เราใหส ญั ญากบั แมไวว าจะไมส บู บุหร”ี่ เปนวธิ ีการปฏิเสธเพือ่ นที่เหมาะสมท่ีสุด เนือ่ งจากพดู ดว ยวาจาทีน่ มุ นวล และจริงจัง ซ่งึ การท่นี กั เรียนบอกวาใหส ญั ญากับแมเอาไว อาจจะพดู กบั เพื่อนไดวา เราไมอ ยากผดิ คาํ สัญญากับแม เพราะจะทําใหแ มรสู กึ เสยี ใจ และการโกหกแมเปน สง่ิ ที่ไมด จี ะเปนบาปตดิ ตวั เราไปตลอด โดยคาํ พดู ดงั กลาวอาจทําใหเพอ่ื นๆ ทกี่ ําลงั สูบบุหร่อี ยูน้นั สามารถปรบั เปลี่ยน พฤตกิ รรมเลกิ สบู บุหร่ไี ด ตอบขอ 3. คมู ือครู 149
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครสู มุ นกั เรยี น 2 คน ออกมาอธบิ ายความสาํ คญั ก ารปกราาบรหปยราุดมย2แ้ังลวง้วจ รกนาี้ไรดบ้เ�าทบ่าัดกฟับื้นเปฟ3็นูใหก้ผาู้ตรหิดยสุดารยเั้งสกพาตริดแสพารม่ราะรบถากดลขับอตงัวสกาลรเับสใพจเตปิด็น1 คซน่ึงดนี อเกลจิกาใชก้ ของการฟน ฟผู ูตดิ สารเสพติด โดยครูและนักเรยี น สารเสพตดิ ก็เป็นอกี แนวทางหนงึ่ ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รว มกันเสนอแนะเพม่ิ เตมิ และตงั้ คําถามเพื่อนําไปสู ขอ สรปุ ท่ถี ูกตอ งรว มกนั ๒. ความสา� คญั และปจจยั ในการฟนื้ ฟผู ูต้ ิดสารเสพติด • การฟน ฟผู ูติดสารเสพติด มคี วามสําคญั ๒.๑ ความสา� คัญของการฟืน้ ฟผู ตู้ ิดสารเสพติด อยางไร (แนวตอบ เปน การใหโ อกาสผหู ลงผดิ ไดก ลบั ตวั ในอดีต สงั คมจะประณามผตู้ ิดสารเสพตดิ วา่ เปน็ อาชญากร ประชาชนส่วนใหญเ่ หน็ ด้วยกับ กลบั ใจใหมเ ปน คนดี ยุติการทํารายตนเอง การใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ค้าและผลิตสารเสพติดว่าเป็นผู้มีเจตนากระท�าความผิด จึง และคนรอบขา ง รวมถึงจะไดไมเปนภาระ สมควรได้รับการลงโทษตามความผิดท่ีได้กระทา� ลงไป แกส ังคมและประเทศชาต)ิ อย่างไรก็ตาม ได้มีอีกแนวคิดหน่ึงท่ีกล่าวว่า “มนุษยไม่ได้เลวโดยสันดาน การกระท�าผิด อาจเกดิ จากการคบเพอื่ นไมด่ ี รว่ มกบั การไดร้ บั การอบรมเลยี้ งดมู าในสภาพแวดลอ้ มทไ่ี มด่ ”ี ดงั นน้ั • นโยบายการฟน ฟสู มรรถภาพผตู ดิ สารเสพตดิ สังคมควรให้โอกาสผู้ติดสารเสพติดกลับตัวกลับใจและช่วยให้มีก�าลังใจไม่กลับไปใช้สารเสพติด ตามพระราชบัญญตั ฟิ น ฟูสมรรถภาพผูติด ซ�้าอกี จึงทา� ใหเ้ กิดพระราชบญั ญตั ฟิ ้ืนฟสู มรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ข้นึ ซงึ่ ก�าหนด ยาเสพติด พ.ศ. 2545 ไดกาํ หนดแนวทาง ให้มีการปฏิบัติต่อผู้ติดสารเสพติดเหมือนผู้ป่วย มิใช่อาชญากร และให้ผู้ต้องหาเข้ารับการฟื้นฟู การดําเนินการ เพอ่ื คาดหวังใหเ กดิ ประโยชน ภายใน ๓ ป ี โดยไมต่ อ้ งรบั โทษ เพราะไดม้ กี ารนา� หลกั การชะลอการฟอ้ งมาใชใ้ นการดา� เนนิ คดอี าญา ตอ ผูตดิ สารเสพตดิ อยา งไรบา ง ในกรณเี ป็นผตู้ อ้ งหาใช้สารเสพติด และมไี ว้ในครอบครองเพ่อื จ�าหน่ายจา� นวนเล็กนอ้ ยตามเกณฑ์ (แนวตอบ ไดแ ก ใหโอกาสผูตดิ สารเสพติด ทก่ี ฎหมายก�าหนด โดยมกี รมคมุ ประพฤติ สังกดั กระทรวงยุตธิ รรม เป็นหน่วยงานหลกั ในการน�า ไดกลบั ตัวกลับใจเปน คนดี ชวยใหผ ูติดสาร เสพตดิ ไมตองมีประวัติดา งพรอ ย สง ผลดี นโยบายการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพติด ตอสุขภาพรา งกายและจติ ใจ ชวยลดปญหา ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยา ผูตองโทษลน เรอื นจาํ และชว ยลดปญหา เสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ไปด�าเนนิ การ อาชญากรรมไดใ นทางออ ม) แนวทางการดา� เนนิ การดงั กลา่ ว คาดหวัง ใหเ้ กดิ ประโยชน ์ ดงั นี้ ๑. ให้โอกาสผู้ติดสารเสพติดได้ กลบั ตวั กลับใจเป็นคนดี ๒. ลดการสญู เสยี ทรพั ยากรมนษุ ย์ ที่อาจมศี กั ยภาพช่วยพัฒนาประเทศได้ ๓. ช่วยให้ผู้ติดสารเสพติดไม่ต้อง การฟืน้ ฟูผู้ติดสารเสพติด โดยให้โอกาสและก�าลังใจ มีประวัติด่างพร้อย ไม่ต้องถูกตราหน้าว่าเป็น จะชว่ ยปอ้ งกันมใิ หผ้ ู้ฟ้ืนฟหู นั กลบั ไปเสพสารเสพติดอกี คนขค้ี กุ ๑๕๐ นักเรยี นควรรู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET นักเรยี นมีวธิ กี ารปฏบิ ตั ิตนอยางไรเพอ่ื ปองกันตนเองจากสารเสพตดิ 1 สารเสพตดิ ปญหาสารเสพตดิ เปน บอ เกดิ ท่ีนาํ ไปสูปญ หาสงั คมดานตา งๆ แนวตอบ ตอ งศึกษาหาความรูเก่ยี วกบั โทษของสารเสพติด ซง่ึ เม่ือทราบแลว เชน ปญ หาวัยรนุ ปญหาอาชญากรรม ปญ หาลว งละเมิดทางเพศ เปนตน ก็ไมค วรทดลอง แตควรทจ่ี ะใชเ วลาวา งใหเปน ประโยชน ไมว าจะเปน ซ่ึงปญ หาเหลา นนี้ อกจากจะสงผลกระทบตอ ตนเองและครอบครัวแลว ยงั สง การเลน กฬี า พกั ผอ นกบั เพอื่ นๆ ดหู นงั ฟง เพลง และหากมปี ญ หาในดา นตา งๆ ผลกระทบตอความมั่นคงของชาติ ตลอดจนดานเศรษฐกิจอีกดว ย กค็ วรปรกึ ษาผูปกครอง ครู หรอื ผใู หญท ี่ใหค วามดูแลเรา รวมถึงหลีกเลี่ยง 2 การปราบปราม ปจ จบุ นั ไดมหี ลายหนวยงานพยายามรวมรณรงคตอตาน การไปม่ัวสมุ หรอื คบเพอ่ื นท่ีใชส ารเสพติด สารเสพตดิ ทง้ั การใหค วามรผู านสอื่ ตางๆ หรอื การใชด ารานกั แสดง ซ่ึงวัยรนุ มักจะทํายึดถือเปน แบบอยา งมารว มรณรงคในการปราบปรามสารเสพติด 3 การบําบดั ฟน ฟู เปนการดาํ เนนิ งานเพ่อื แกไขสภาพรางกายและจติ ใจของ ผูต ิดสารเสพตดิ ใหเ ลกิ จากการเสพ และสามารถกลับไปดาํ รงชวี ติ อยูใ นสงั คมได อยา งปกตสิ ุข 150 คูมอื ครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขาใา จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๔. ส่งผลดตี อ่ สุขภาพร่างกายและจติ ใจของผูต้ ิดสารเสพตดิ ครสู มุ นกั เรยี นอกี 2 คน โดยไมซํา้ กับคนเดมิ ๕. เมอ่ื ผ้ตู ดิ สารเสพติดกลบั ตวั เปน็ คนด ี จะชว่ ยลดปญั หาอาชญากรรมได้ในทางออ้ ม ออกมาอธบิ ายปจ จยั ทีเ่ กยี่ วขอ งกบั การฟน ฟผู ตู ิด ๖. ช่วยลดปัญหาผู้ต้องโทษล้นเรือนจ�า และช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องเลี้ยงดูผู้ต้องโทษ สารเสพตดิ โดยครแู ละนักเรียนรวมกันเสนอแนะ เ ช่น คจา่าอกาทหก่ี าลรา่ วคม่าาอแปุ ลโว้ภ คจะบเรหโิ น็ภไคด ว้คา่ ่ากเาจรา้ ฟหน้ืนฟา้ ทผู ที่ตู้ ดิตี่ ส้อางรมเาสดพแู ตลดิ 1 เ ปเปน็ น็ ภตา้นรกจิ ทมี่ คี ณุ คา่ และความส�าคญั เพม่ิ เตมิ และตั้งคําถามเพือ่ นําไปสขู อ สรปุ ท่ี อย่างย่ิง เพราะเป็นการให้โอกาสผู้หลงผิดกลับตัวกลับใจใหม่เป็นคนดี ยุติการท�าร้ายตนเองและ ถูกตองรว มกนั คนรอบข้าง รวมถงึ จะไดไ้ ม่เป็นภาระแกส่ ังคมและประเทศชาต ิ • การฟน ฟูผูตดิ สารเสพตดิ ประกอบดวย ๒.๒ ปจั จัยทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการฟื้นฟูผตู้ ดิ สารเสพติด ปจจัยทส่ี าํ คัญไดแ กอ ะไรบา ง (แนวตอบ ไดแ ก ผตู ิดสารเสพติดจะตอง การฟนื้ ฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ จะประสบความส�าเรจ็ ได ้ ตอ้ งอาศยั ปัจจยั ท่สี า� คญั ๓ ประการ ดงั นี้ มคี วามรูความเขาใจพระราชบญั ญัตฟิ น ฟู พ๑.ศ. . ผ๒ู้ต๕ิด๔ส๕า2 รโเดสยพมตคี ิดวตา้อมงเขมา้ีคใวจาถมงึ เรจู้คตวนาามดเีขขอ้าใงจพพรระระารชาชบบญั ัญญญัตัติฉิฟบบัื้นดฟงั ูสกมลร่ารวถทภ่ใี หาโ้พอผกู้ตาิดส สมรรถภาพผตู ดิ สารเสพตดิ พ.ศ. 2545 ยาเสพตดิ ตองใหความรวมมือและมีความมุง ม่ัน ผู้ติดสารเสพติดไดม้ ีโอกาสปรบั ปรุงตนเอง ในการเลิกเสพสารเสพติด และตองมีความ ๒. ผตู้ ดิ สารเสพตดิ ตอ้ งใหค้ วามรว่ มมอื และมคี วามมงุ่ มนั่ ในการเลกิ สารเสพตดิ รวมถงึ ยินยอมพรอ มใจทจี่ ะเขา รบั การอบรม ตอ้ งต้งั ใจอย่างเดด็ เดยี่ วท่จี ะไม่กลับไปใช้สารเสพติดซ้�าอีกเม่อื พน้ จากการฟ้ืนฟูแล้ว ในกระบวนการฟน ฟู เชน การเขาคา ย การถกู ควบคุมความประพฤติ เปนตน) ๓. ผู้ติดสารเสพติดต้องมีความยินยอมพร้อมใจท่ีจะเข้ารับการอบรมในกระบวนการ ขยายความเขา ใจ Expand ฟ้ืนฟู เช่น การเข้าค่าย การถูกคมุ ประพฤติ เปน็ ต้น หากผตู้ ดิ สารเสพตดิ สามารถปฏบิ ตั ติ นไดด้ งั กลา่ ว กม็ ใิ ชเ่ รอ่ื งยากทจี่ ะบา� บดั ฟน้ื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ ใหนกั เรยี นแบง กลุม กลุมละ 4 - 5 คน รว มกัน ให้หายเป็นปกติ และสามารถกลบั ไปใช้ชีวติ ร่วมกบั คนทัว่ ไปในสังคมได ้ ทง้ั น้ีครอบครัวและสังคม จดั นทิ รรศการเกี่ยวกับภยั ของสารเสพตดิ ภายใน ควรเข้าใจความรู้สึกของผู้ติดสารเสพติดด้วย โดยครอบครัวน้ันควรให้ก�าลังใจและคอยส่งเสริมให้ หอ งเรยี นเปนเวลา 2 สปั ดาห ผตู้ ดิ สารเสพตดิ รว่ มทา� กจิ กรรมทเ่ี ปน็ การบา� บดั รกั ษาไมใ่ หก้ ลบั ไปเสพสารเสพตดิ อกี สา� หรบั สงั คม น้นั ควรใหโ้ อกาสผูต้ ดิ สารเสพติดได้มสี ่วนร่วมในการทา� กิจกรรมตา่ งๆ ร่วมกบั ผอู้ ืน่ โดยท่ไี ม่แสดง ท่าทางรังเกยี จหรือความไมเ่ ป็นมิตรกบั ผู้ตดิ สารเสพตดิ ๓. วธิ ีการบ�าบัดฟื้นฟูผู้ตดิ สารเสพติด การฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดเป็นกระบวนการส�าคัญที่จะท�าให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเลิกใช้ สารเสพตดิ ไดส้ า� เรจ็ และกลบั ไปใชช้ วี ิตตามปกตริ ่วมกบั ผูอ้ ื่นในสงั คมได้ จึงจ�าเปน็ ทผี่ ้ตู อ้ งการเลิก สารเสพตดิ และบุคคลทีเ่ กย่ี วข้องตอ้ งมคี วามรู ้ ทัง้ รูปแบบ องค์ประกอบ และขัน้ ตอนในการบ�าบดั ฟน้ื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ เพอื่ จะไดท้ า� ใหก้ ารรกั ษาดา� เนนิ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและประสบความสา� เรจ็ ๑๕๑ แนวขอ สNอบTเนน Oก-าNรคETดิ นกั เรยี นควรรู ขอ ใดไมใ ช องคประกอบที่เก่ียวของกบั การฟนฟูผตู ดิ สารเสพตดิ 1 การฟน ฟูผตู ิดสารเสพตดิ ความสาํ เร็จในการฟนฟสู มรรถภาพผตู ิดยาเสพตดิ 1. ชุมชนยอมรบั มิไดข ึน้ อยกู บั หนวยงานใดหนว ยงานหนงึ่ หรอื บุคคลใดบุคคลหน่งึ แตข ้ึนอยกู ับ 2. โอกาสทสี่ ังคมเปดให ความรว มมือรว มใจของทกุ หนว ยงานที่เขา มาชวยกนั แกไขปญหายาเสพติด และ 3. ความพรอ มของครอบครวั ส่ิงสําคัญคนในชมุ ชนตองยอมรบั วาผูผานการบําบัดฟนฟูฯ เปนคนปกติใหอ ยรู ว ม 4. ความพรอมของผทู ่จี ะเขารับการบําบดั ในสังคม ซ่งึ จะเปนเคร่ืองมือสําคัญจะทาํ ใหก ระบวนการฟน ฟสู มรรถภาพผูตดิ วิเคราะหค าํ ตอบ สง่ิ ท่ีสําคญั ท่สี ดุ ที่จะทําใหการบําบดั ฟนฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ ยาเสพติดสมั ฤทธผิ ลไดด ที ี่สดุ ประสบความสาํ เร็จได คอื ความพรอมของผทู ่ีเขารบั การบาํ บัด ซง่ึ จะตอ งมี 2 พระราชบญั ญตั ิฟนฟูสมรรถภาพผูติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 เปน กฎหมาย ในระบบบงั คบั บาํ บดั บญั ญตั ขิ นึ้ ตามหลกั การทว่ี า “ผเู สพ คอื ผปู ว ย ไมใ ชอ าชญากร” จิตใจมงุ มั่นท่ีจะเลกิ สารเสพตดิ ใหไ ด ตอบขอ 4. ไดเ รมิ่ มผี ลบงั คบั ใชต งั้ แตว นั ท่ี 3 มนี าคม พ.ศ.2546 เปน ตน มา โดยมกี รมคมุ ประพฤติ เปน หนว ยงานหลกั ในการบรู ณาการกบั หนว ยงานภาคตี า งๆ คูม ือครู 151
กกรระตะตนุ Eุนnคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Evaluate Engage Explore กระตนุ ความสนใจ Engage ใหนักเรียนชมวิดทิ ัศนเรื่อง การฟนฟูผตู ิด ๓.๑ การบา� บัดรักษาผ้ตู ิดสารเสพติด สารเสพติด จากนนั้ ครูตง้ั คาํ ถามกระตุนความสนใจ โดยนกั เรียนสามารถแสดงความคิดเห็นไดอยา ง การบ�าบัดรักษาผู้ตดิ สารเสพตดิ หมายถงึ การดา� เนนิ งานของหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องกบั การ อิสระ บา� บดั รกั ษา เพอ่ื แกไ้ ขสภาพรา่ งกายและจติ ใจของผตู้ ดิ สารเสพตดิ ใหเ้ ลกิ จากการเสพ และสามารถ กลบั ไปด�ารงชีวติ อยู่ในสงั คมได้อย่างปกติ • เพราะเหตใุ ด เราจงึ ควรมีการชว ยเหลอื ฟน ฟู การบ�าบัดรกั ษาผ้ตู ดิ สารเสพติด แบง่ เป็น ๔ ขัน้ ตอน ดังน้ี ผูติดสารเสพตดิ (แนวตอบ เพ่อื ชว ยใหผ ตู ิดสารเสพติดสามารถ ๑. ข้ันเตรียมการ (Pre-Admission) เป็นการศึกษาประวัติข้อมูลและภูมิหลังของผู้ติด เลิกใชส ารเสพตดิ และกลับไปใชชวี ติ ไดตาม สารเสพตดิ ทง้ั จากผขู้ อรบั การรกั ษาและครอบครวั เพอื่ ชกั จงู ใหค้ า� แนะนา� และกระตนุ้ ใหผ้ ตู้ ดิ สารเสพตดิ ปกตริ วมกับผอู ่ืนในสังคมได) มีความตั้งใจในการรักษา การด�าเนินการ การสัมภาษณ์ การลงทะเบียน และวิธีการทางการแพทย์ ได้แก ่ การตรวจรา่ งกาย เอกซเรย ์ ตรวจเลือด ตรวจปสั สาวะ ชง่ั น้า� หนกั • หากบุคคลในครอบครัวของนกั เรยี น ติดสารเสพติด นักเรียนจะมีการชวยเหลอื ก ารด�า๒เน. นิ ขกนั้ าถร อกนาพรใษิ หยย้ าาช(นDดิeอtoนื่ xทifดicแaทtiนo nเช)น่ เป เน็มกธาารโบดนา� บ1 (ดั Mอeาtกhาaรdทoาnงeก)า ยยาท เ่ีสกมดิ นุจาไพกกร าหรใรชอื ส้ใาหร้เเลสิกพเสตพดิ ไดอ ยา งไรบาง (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความคดิ เหน็ ทันทีที่เรียกว่า หักดิบ เป็นต้น แบ่งเป็นการถอนยาแบบผู้ป่วยนอก คือ ไม่ต้องให้ผู้ป่วยค้างคืนใน ไดอ ยางอิสระ โดยอาจตอบวา พาไปเขารับ สถานพยาบาล แตต่ อ้ งรับประทานยาตามเวลาทก่ี �าหนด และแบบผปู้ ่วยใน คือ การให้ผ้ปู ่วยค้างคนื การบาํ บดั รักษาในหนวยงานหรอื สถานบาํ บัด ในสถานพยาบาล ซง่ึ นอกจากจะถอนพษิ ยาแลว้ ยงั มกี ารรกั ษา รวมทงั้ การใหค้ วามรใู้ นเรอื่ งการดแู ลสขุ ภาพ ตา งๆ ไมท อดทิ้งผูต ดิ สารเสพติด และควรให ๓. ขน้ั ตอนในการฟน้ื ฟสู มรรถภาพ (Rehabilitation) ขน้ั ตอนนเ้ี ปน็ การปรบั สภาพรา่ งกาย กาํ ลังใจตลอดระหวา งการดําเนินการบําบัด และจติ ใจของผเู้ ลกิ ยาใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ปรบั เปลยี่ นบคุ ลกิ ภาพและพฤตกิ รรมใหส้ ามารถกลบั คนื สสู่ งั คม รักษา) ไดอ้ ยา่ งปกต ิ โดยมกี ารดา� เนนิ การใชก้ จิ กรรมตา่ งๆ ไดแ้ ก ่ การใหค้ า� แนะนา� คา� ปรกึ ษา ทงั้ เปน็ รายบคุ คล และเป็นกลุม่ การสนั ทนาการ การฝกึ อาชพี เปน็ ตน้ นอกจากนีย้ ังมรี ูปแบบอ่นื ๆ อกี เชน่ การฟ้ืนฟู • การบําบดั ฟน ฟูผูติดสารเสพติด มวี ธิ กี าร สมรรถภาพแบบ “ชมุ ชนบา� บดั ” ซงึ่ เปน็ การสรา้ งชมุ ชนหรอื สงั คมจา� ลองใหผ้ เู้ ลกิ สารเสพตดิ มาอยรู่ วมกนั ชวยเหลืออยา งไรบาง เพอ่ื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื กนั เลยี นแบบ ปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรม ฝกึ ความรบั ผดิ ชอบ การรจู้ กั ตนเอง และรจู้ กั (แนวตอบ นกั เรยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ แก้ไขปัญหาอยา่ งเหมาะสม เพอ่ื กลบั ไปด�ารงชวี ติ อยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งปกต ิ หรอื การฟื้นฟูจติ ใจ โดยใช้ ไดอ ยางอสิ ระ ซ่ึงจะไดศ ึกษาในเน้อื หาตอไป) หลักศาสนา เช่น การนา� ผู้เลิกสารเสพตดิ เข้ารบั การอุปสมบท การศึกษาหลกั ธรรมทางศาสนา เป็นตน้ 4. ขน้ั การตดิ ตามดแู ล (After-Care) เปน็ การตดิ ตามดแู ลผเู้ ลกิ สารเสพตดิ ทผ่ี า่ นการบา� บดั สาํ รวจคน หา Explore รักษาทั้ง ๓ ขั้นตอน เพ่อื ให้คา� แนะนา� ปรกึ ษา ใหก้ า� ลงั ใจ ทงั้ นีเ้ พ่อื มิใหห้ วนกลับไปเสพยาซา้� อีก ได้แก่ การเย่ยี มเยียน โทรศัพทน์ ดั พบ ใชแ้ บบสอบถามและการตรวจปสั สาวะหาสารเสพติด ใหน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 3 - 4 คน ศกึ ษาเรอื่ ง วิธกี ารบาํ บัดฟน ฟผู ตู ิดสารเสพตดิ จากหนงั สอื เรยี น ๑๕๒ หรอื แหลง การเรยี นรอู นื่ ๆ เพมิ่ เตมิ โดยใหแ ตล ะกลมุ ออกมาจบั สลากเลอื กประเดน็ ท่ีจะนาํ เสนอ โดยมี ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNิดET ประเดน็ ดังตอไปนี้ • การบําบัดรกั ษาผูตดิ สารเสพติด • รูปแบบการฟนฟผู ูตดิ สารเสพตดิ • องคป ระกอบทีเ่ ก่ยี วของกับการฟนฟู ผูติดสารเสพติด • ขัน้ ตอนในการฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ นักเรียนควรรู 1 เมธาโดน ถงึ แมว ากระทรวงสาธารณสุขจะอนุญาตใหสถานพยาบาลจายยา การชว ยเหลือฟน ฟูผตู ดิ สารเสพตดิ มีประโยชนตอ สงั คม ยกเวนขอใด เมธาโดนใหแกผ ปู วยทตี่ ิดสารเสพตดิ กลับบา นไดแ ลวก็ตาม แตก ไ็ ดก าํ หนดปริมาณ 1. ทําใหสงั คมสงบสขุ ใหการจายยาเมธาโดนไปรบั ประทานนอกสถานพยาบาลไมควรเกินครง้ั ละ 350 2. ชวยลดปญหาอาชญากรรม มิลลิกรัม (ประมาณ 7 วนั ) แตอ ยางไรก็ตาม การใชเ มธาโดนอยา งไมร ะมัดระวงั 3. ทําใหม ผี ูใ ชแรงงานเพ่มิ มากขึ้น กม็ โี อกาสท่ีจะกอ ใหเ กิดอนั ตรายไดเ ชนกนั 4. ใหโ อกาสผกู ระทําผิดไดก ลบั สูสังคม มุม IT วเิ คราะหค ําตอบ การชวยเหลือฟนฟูผูติดสารเสพตดิ จะชวยใหผตู ิด สารเสพติดไดก ลับตวั กลบั ใจเปน คนดี มีสขุ ภาพรางกายและจิตใจท่ดี ี มผี ล สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกย่ี วกับรปู แบบการบาํ บดั รกั ษาผูต ิดสารเสพตดิ ไดจาก ทางออมในการชวยลดปญ หาอาชญากรรม ซง่ึ จะสง ผลใหส งั คมเกดิ ความ http://www.thanyarak.go.th/thai/index.php?option=com_content&task= category§ionid=3&id=37&Itemid=54 สงบสขุ ตอบขอ 3. 152 คมู อื ครู
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๓.๒ รปู แบบการฟ้นื ฟูผูต้ ิดสารเสพติด ใหน กั เรยี นกลมุ ที่จบั สลากไดป ระเด็น รปู แบบการฟน ฟูผูตดิ สารเสพตดิ ออกมานาํ เสนอ รปู แบบในการฟน้ื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ จะมหี ลากหลาย เหตผุ ลทเ่ี ปน็ เชน่ นกี้ เ็ พอื่ ใหผ้ ตู้ ดิ สารเสพตดิ หลังการนาํ เสนอ ใหน ักเรยี นกลุมอ่ืนๆ ไดรวม มีโอกาสได้เลือกใช้บริการการรักษาที่เหมาะสมกับตนเองมากท่ีสุด ซึ่งจะท�าให้การรักษาน้ัน ซักถามขอ สงสยั โดยครชู ว ยเสนอแนะเพมิ่ เติม ประสบความส�าเร็จไดโ้ ดยง่าย สามารถจา� แนกได้ ดังนี้ และตัง้ คาํ ถามเพ่อื นาํ ไปสูขอสรุปท่ีถูกตองรวมกนั ๑) ชุมชนบ�าบัด (Therapeutic • การบําบัดฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพติดแบบชมุ ชน Community) หลกั การสา� คญั ของรปู แบบน ้ี คอื บาํ บัด มลี ักษณะอยา งไร (แนวตอบ เปน การสรา งชมุ ชนจาํ ลองใหผ เู ลกิ เป็นการสร้างชุมชนจ�าลองให้ผู้เลิกสารเสพติด เสพสารเสพตดิ มาอยรู วมกนั เพ่ือใหสมาชิก มาอยู่รวมกัน เพ่ือให้สมาชิกเปลี่ยนแปลงและ เปล่ียนแปลงและพัฒนาตนเองไดโดยมกี าร พัฒนาตนเองได้ โดยมีการเรียนรู้ประสบการณ์ เรียนรูประสบการณซ ึง่ กนั และกนั รวมถึง ซึ่งกันและกัน รวมถึงให้ผู้เลิกสารเสพติดอยู่ใน ใหผเู ลิกเสพสารเสพตดิ อยูในสง่ิ แวดลอมท่ี สิ่งแวดล้อมท่ีอบอุ่นและปลอดจากสารเสพติด อบอุนและปลอดจากสารเสพตดิ ) การฟื้นฟูสมรรถภาพจะท�าให้ผู้เข้ารับการรักษา มีร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์เข้มแข็ง และ • ขั้นตอนการบําบดั ฟน ฟูผูต ดิ สารเสพติดใน มีแนวทางการด�าเนินชีวิตในสังคมได้อย่าง การใหผ้ ตู้ ดิ สารเสพตดิ อยรู่ ว่ มกนั เปน็ ชมุ ชนจา� ลอง เพอื่ ให้ รปู แบบของชุมชนบาํ บดั มกี ขี่ ั้นตอน ไดแ ก ปกติสุข โดยใช้กระบวนการส�าคัญ คือ กลุ่ม กา� ลงั ใจกนั จะชว่ ยใหก้ ารรกั ษาประสบความสา� เรจ็ มากขน้ึ อะไรบาง เพอ่ื ใหช้ ว่ ยเหลอื ตนเอง (Self help Group) การปรับเปล่ยี นพฤติกรรม (Behavior Modification) (แนวตอบ มี 3 ขน้ั ตอน ไดแก ระยะท่ี 1 การเรียนรู้ทางสงั คม (Social Learning) และคุณธรรม (Morality) ซ่งึ มีข้นั ตอน ดงั นี้ การสมัครใจเขา สสู ถานแรกรับ ซ่งึ จะใชระยะ เวลาในการบาํ บัดฟนฟูเปน เวลา 1 เดอื น ๑.๑) ระยะที่ ๑ การสมัครใจเข้าสู่สถานแรกรับ ใช้ระยะเวลาในการบ�าบัดฟื้นฟ ู ระยะที่ 2 การเขารบั การบาํ บัดฟน ฟู ใชระยะ ๑ เดือน เปรยี บเหมือนการปฐมนิเทศให้แกผ่ เู้ ข้ารับการรักษา เวลาในการบําบดั ฟนฟูเปน เวลา 9 เดอื นและ ระยะท่ี 3 การกลบั สสู ังคม ใชระยะเวลาใน ๑.๒) ระยะท่ี ๒ การเขา้ รบั การบา� บดั ฟน้ื ฟ ู ใชร้ ะยะเวลาในการบา� บดั ฟน้ื ฟ ู ๙ เดอื น การบาํ บดั ฟน ฟูเปน เวลา 9 เดอื นเชนกนั ) โดยผเู้ ขา้ รับการรกั ษาตอ้ งยนิ ยอมพกั อยใู่ นสถานบา� บดั และเข้ารว่ มกจิ กรรมทสี่ ถานบา� บัดก�าหนด เพื่อให้สามารถบรรลถุ ึงการค้นพบตนเองและการปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรม ๑.๓) ระยะที่ ๓ การกลับสู่สังคม ใช้ระยะเวลาในการบ�าบัดฟื้นฟู ๙ เดือน แบง่ เปน็ ๓ ขน้ั ตอน คอื ๓ เดอื นแรก เปน็ ระยะปฐมนเิ ทศ เพอ่ื เปน็ การเตรยี มตวั ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การรกั ษา สามารถออกไปเผชิญโลกภายนอกได ้ ๓ เดือนตอ่ มา เป็นระยะที่ออกไปทา� งานข้างนอก แต่ยงั คง ทกล่ีอับอกมไาปพทัก�าคง้าางนใขน้าสงถนาอนกบ �าแบตัด่ก ลเับพไื่อปเอตยรู่กียับมคกราอรบกคลรับัว1สหู่สรังือคทมี่พ ักแตลนะเ อง๓ แเลดะือกนลสับุดมทา้าทย่ีส ถเาปน็นบร�าะบยัดะ สัปดาห์ละ ๑ ครง้ั หนว่ ยงานทน่ี า� ระบบการบา� บดั ฟน้ื ฟแู บบชมุ ชนบา� บดั มาใช ้ ไดแ้ ก ่ ศนู ยฟ์ น้ื ฟสู มรรถภาพ ผ้ตู ิดสารเสพติดลาดหลมุ แกว้ จงั หวดั ปทมุ ธานี ในสงั กัดกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุตธิ รรม ๑๕๓ แนวขอสNอบTเนนOก-าNรคE Tดิ เกรด็ แนะครู หากนกั เรียนมเี พือ่ นตดิ สารเสพติด นกั เรยี นควรทาํ อยา งไร ครอู าจใหนักเรยี นแตล ะกลมุ รวมกันระดมความคิดวา นกั เรยี นจะมกี ระบวนการ 1. ไมพ ดู กับเพ่ือน อยา งไรเพอ่ื ปองกันตนเองใหห างไกลจากสารเสพติด 2. เลิกคบกับเพอ่ื น 3. แสดงทา ทางรังเกียจเพอื่ น นกั เรียนควรรู 4. แนะนาํ ใหเพอื่ นเลิกเสพสารเสพติด และเขารับการบําบดั วเิ คราะหคาํ ตอบ การเสพสารเสพติดมีผลกระทบท้ังตอรางกายผเู สพ 1 ครอบครัว เปนการบําบดั ทางดา นจิตวทิ ยา เพราะครอบครวั ถือเปน ทพ่ี ง่ึ ครอบครวั และสงั คม ซ่งึ หากนกั เรยี นมีเพื่อนติดสารเสพติดกค็ วรแนะนํา สุดทาย หากไดร บั การปฏิเสธหรอื วางเฉยจากครอบครัว จะทําใหผูเขารับ ใหเ พื่อนเลกิ เสพ และเขารบั การบาํ บดั รกั ษาจากหนว ยงานตางๆ โดยเร็ว การบาํ บดั ฟนฟูโดดเด่ยี ว ในท่ีสดุ กจ็ ะหันกลบั ไปใชส ารเสพตดิ เปนทพี่ ึง่ อกี ตอบขอ 4. คูมอื ครู 153
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ใหน ักเรียนกลุมเดมิ ทีจ่ ับสลากไดป ระเดน็ อย่างไรก็ตาม รูปแบบการฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดแบบชุมชนบ�าบัดน้ี ประสบปัญหา รปู แบบการฟน ฟผู ูติดสารเสพตดิ ออกมานาํ เสนอตอ การขาดแคลนสถานทร่ี องรับผูต้ อ้ งการเลกิ สารเสพยตาดิบ า้1แทล่ีเพะจิม่ า� จน�าวนนวผนตู้ มดิ าสกาขรึน้เสเรพื่อตยิดๆโ ด ยรเวฉมพถางึ ะผจ้ตูาิดก หลงั การนําเสนอ ใหนกั เรียนกลุมอนื่ ๆ ไดรวม ซักถามขอ สงสยั โดยครูชว ยเสนอแนะเพิ่มเติม สารเสพติดส่วนใหญ่ที่เป็นเด็กและเยาวชนต้อง และตั้งคาํ ถามเพ่ือนําไปสูข อสรุปท่ถี ูกตองรว มกนั หยดุ เรยี น ๑-๑ ปคี รง่ึ เพอื่ เขา้ รบั การฟน้ื ฟ ู ทา� ให้ เสยี การเรยี นมาก ตอ่ มาจงึ ไดม้ กี ารพฒั นารปู แบบ • การฟน ฟูผตู ดิ สารเสพติดแบบเขมขน ทาง การฟน้ื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ ใหเ้ ปน็ แบบเขม้ ขน้ ทาง สายใหม (FAST Model) เปน การบาํ บดั ฟนฟู สายใหม ่ (FAST Model) ขึ้น เพ่อื รองรบั ปญั หา ผตู ดิ สารเสพตดิ ในลักษณะใด (แนวตอบ เปน รปู แบบการบาํ บัดฟนฟูผูตดิ ๒) การฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด สารเสพตดิ โดยใหค รอบครัวไดเขา มามี รแูปบแบบเขบ้มนขี้ส้นถาทบาันงธสัญายญใาหรมัก่ ษ2(์ FกAรSมTกาMรแoพdทeยl)์ สวนรวมในกระบวนการบาํ บัดฟนฟู และ จะเนนใหผูต ิดสารเสพตดิ สามารถกลบั ไป กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาขึ้น โดยมี มสี ภาพรางกายท่ีเขมแข็งและมัน่ คงไดด งั เดมิ แนวคิดน�าครอบครัวให้เข้ามามีส่วนร่วมใน ซงึ่ จะใชร ะยะเวลารักษา 4 เดอื น ผู้ติดสารเสพติดท่ีปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานบ�าบัด กระบวนการบ�าบัดฟื้นฟู และจะเน้นการท�าให้ โดยผูตดิ สารเสพตดิ ตอ งนอนพักในสถาน อยา่ งเคร่งครดั จะชว่ ยให้การรักษาสัมฤทธิผ์ ลเรว็ ขน้ึ ผตู้ ดิ สารเสพตดิ สามารถกลบั ไปมสี ภาพรา่ งกาย บาํ บดั และญาตจิ ะตอ งปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบ ท่ีเข้มแข็งและมั่นคงได้ดังเดิม ใช้ระยะเวลารักษา ๔ เดือน โดยผู้ติดสารเสพติดต้องนอนพัก และตารางกิจกรรมทส่ี ถานบาํ บดั กาํ หนดไว ในสถานบ�าบัด และญาติท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและ อยา งเครงครดั ) ตารางกิจกรรมท่ีสถานบ�าบัดก�าหนดไว้อย่างเคร่งครัด ซ่ึงการจัดกิจกรรมในการบ�าบัดรูปแบบ (FAST Model) น ้ี เปน็ กจิ กรรมทม่ี คี วามหลากหลาย ประกอบดว้ ยกจิ กรรม ๒ สว่ น คอื กจิ กรรมบงั คบั และกิจกรรมเลือก ซึ่งกิจกรรมบังคับ เป็นกิจกรรมที่ช่วยปรับเปล่ียนพฤติกรรมที่บกพร่อง ของผตู้ ิดสารเสพตดิ ดงั น้ัน ทกุ คนทเ่ี ข้ารบั การบา� บดั จงึ จา� เป็นตอ้ งปฏบิ ัติ โดยกิจกรรมประกอบ ไปด้วย กิจกรรมกลุ่มบ�าบัด กิจกรรมงานบ�าบัด และกฎระเบียบในศูนย์ฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด ส่วนกิจกรรมเลือก เป็นกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ติดสารเสพติดมีคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึนจาก การฝึกให้ประกอบอาชีพ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การเพ่ิมพูนความรู้และเพ่ิมระดับการ ศึกษา ในกิจกรรมส่วนนี้ผู้รับการบ�าบัดจะมีโอกาสได้เลือกตามความสนใจและความถนัดของ ตนเอง ซ่ึงกิจกรรมประกอบดว้ ย กิจกรรมการฝกึ อาชีพ กจิ กรรมชมรมทฉี่ นั สนใจ และกจิ กรรม การศึกษา กิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้ติดสารเสพติดมีความคิดในเชิงเหตุผล และมตี ารางกจิ กรรมการดา� เนนิ ชวี ติ ทส่ี มดลุ ขน้ึ สามารถดา� รงชวี ติ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ มากยง่ิ ขึ้น โดยองคป์ ระกอบของการบา� บดั ฟ้นื ฟูแบบเขม้ ข้นทางสายใหม ่ มดี งั น้ี ๑๕4 นักเรียนควรรู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNิดET ขอ ใดเปนการปอ งกนั การตดิ สารเสพตดิ ทเี่ ริม่ ตนจากครอบครวั 1 ยาบา เปนสารที่ถูกสงั เคราะหข ึ้นโดยออกฤทธต์ิ อจติ ประสาทแบบกระตนุ 1. ชวยเหลอื ผตู ิดสารเสพติดใหเ ขารบั การบําบัด ประสาท เมือ่ เสพเปนระยะเวลานานจะทําใหสมองไดรบั การกระตนุ อยเู สมอจน 2. ชว ยกันสรา งความรวมมือในการปอ งกันสารเสพตดิ ไมไ ดรบั การพกั ผอ น สงผลใหร างกายทรุดโทรมลง เกดิ โรคตางๆ ตามมา เชน 3. สรา งความรัก ความอบอนุ ความเขาใจในครอบครัว โรคตบั อกั เสบ โรคปอด ไตเสือ่ ม และสง ผลตอ จิตใจ ทําใหอ ารมณแปรปรวน 4. คบเพ่อื นทดี่ ีไมชักชวนกันไปสอู บายมขุ และส่งิ เสพตดิ ภาวะทางจิตเสอ่ื มโทรม เปน ตน วเิ คราะหค ําตอบ ลักษณะของครอบครัวท่ีดี สมาชกิ ทุกคนในครอบครวั ตอ ง 2 สถาบนั ธัญญารักษ เปน สถาบนั การแพทยเ ฉพาะทาง สังกัดกรมการแพทย มคี วามรกั ความอบอุน ความเขา ใจซึ่งกนั และกัน เพราะจะทาํ ใหสมาชกิ กระทรวงสาธารณสขุ ตง้ั อยูทอ่ี าํ เภอธัญบรุ ี จังหวดั ปทมุ ธานี มีภารกิจหลัก คือ ในครอบครัวมสี ัมพนั ธภาพที่ดีตอกัน ไมกอใหเกิดปญหาครอบครัว และ ใหบรกิ ารบําบัดฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ ทุกประเภท รวมถึงเปน สถาบนั วิชาการท่ศี กึ ษา สงผลใหลูกมพี ฤติกรรมทเ่ี หมาะสม ตอบขอ 3. คน ควา วิจยั และถายทอดองคค วามรทู างดานสารเสพติด 154 คูมือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู F = Family ครอบครัว1 หมายถึง การบ�าบัดฟืน้ ฟรู ูปแบบนี้จะให้ครอบครัว ซ่ึงเปน็ ปัจจัยสา� คัญ ใหน ักเรียนกลุม เดมิ ที่จบั สลากไดป ระเด็น รปู แบบการฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ ออกมานาํ เสนอตอ เข้ามามีส่วนร่วมในการเยียวยารักษาผู้ติดสารเสพติด เมื่อปรับสมดุลในครอบครัวให้เกิดความเข้าใจ โดยครูชวยเสนอแนะเพ่ิมเติม และตง้ั คําถามเพื่อนาํ และความไว้วางใจซ่งึ กนั และกันไดแ้ ลว้ ผู้ติดสารเสพติดก็จะมีทีย่ ึดเหน่ยี วทางจติ ใจ ไปสูขอสรุปท่ถี ูกตอ งรวมกัน A = Alternative Treatment Activity กจิ กรรมการรกั ษาทางเลอื ก หมายถงึ ใชก้ จิ กรรมทางเลอื ก • องคป ระกอบใดของการบําบัดฟน ฟผู ตู ิดสาร เสพตดิ แบบเขม ขน ทางสายใหม (FAST Model) ในการบ�าบัดฟื้นฟูท่ีเหมาะสมกับผู้ติดสารเสพติดแต่ละคนตามสภาพความเป็นจริง เช่น การเข้าร่วม มคี วามสาํ คญั มากทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด ชมรมท่ีสนใจ การเลน่ กีฬาท่ชี ่นื ชอบ เป็นต้น (แนวตอบ ครอบครัว (F = Family) มีความ สาํ คัญมากทีส่ ดุ เพราะครอบครวั เปนปจจัย S = Self Help กระบวนการเรยี นรู้เพอื่ ชว่ ยเหลือตนเอง หมายถึง ผ้ตู ิดสารเสพติดจะมีการ สาํ คญั ทต่ี อ งเขามามสี วนรวมในการเยยี วยา รกั ษาผตู ิดสารเสพติด เพอ่ื ใหผูตดิ สารเสพติด เรียนรู้และบ�าบัดรักษากาย จิต และสังคม โดยปรับสภาพท้ังพฤติกรรม เจตคติ ความรู้สึก และการ เกดิ ความไวว างใจ และมที ยี่ ึดเหนี่ยวทาง สร้างสัมพันธภาพ จนสามารถอยู่ได้อย่างปกติสุขและปลอดจากสารเสพติด โดยสมาชิกจะช่วยเหลือ จติ ใจ) ซงึ่ กันและกัน และได้รบั ความช่วยเหลือจากเจา้ หน้าทท่ี ท่ี �าการดูแลด้วย • เพราะเหตใุ ด จงึ ตองติดตามผลผูเขารับ T = Therapeutic Community ชมุ ชนบ�าบัด หมายถงึ การใหผ้ ้ตู ดิ สารเสพตดิ มาอยรู่ วมกัน การรกั ษาหลังการรกั ษาจนครบ 1 ป (แนวตอบ เพื่อปอ งกนั การหวนกลบั ไปใชส าร แบบครอบครัวใหญ่ ภายใต้ส่ิงแวดล้อมที่อบอุ่นและปลอดภัย เพื่อฝึกการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม เสพตดิ อกี โดยทางสถานบาํ บดั จะนดั ผตู ดิ ประกอบด้วย กลุ่มบ�าบัด เช่น กลุ่มประชุมเช้า กลุ่มซักประวัติ กลุ่มจิตบ�าบัด กลุ่มนันทนาการ สารเสพตดิ มาตรวจปส สาวะ ประเมินสภาพ กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน กลุ่มออกก�าลังกาย เป็นต้น เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ และงาน รา งกาย จติ ใจ และพฤตกิ รรม รวมถงึ ให บ�าบัด เช่น งานเกษตร งานเบเกอรี งานหัตถกรรม เป็นต้น เพ่ือฝึกความรับผิดชอบ พัฒนาการอยู่ คําแนะนาํ ปรกึ ษาตางๆ ที่เปน ประโยชน) ร่วมกบั ผ้อู ่นื และอาจน�าไปประกอบอาชีพได้ หลงั จากผเู้ ขา้ รบั การรกั ษาสามารถเลกิ สารเสพตดิ ไดแ้ ลว้ ตอ้ งตดิ ตามผลหลงั การรกั ษา เป็นระยะๆ จนครบ ๑ ปี เพื่อป้องกันการหวนกลับไปใช้สารเสพติดอีก โดยสถานบ�าบัดจะนัด ผตู้ ดิ สารเสพตดิ มาตรวจปสั สาวะ ประเมนิ สภาพรา่ งกาย จติ ใจ และพฤตกิ รรม รวมถงึ ใหค้ า� แนะนา� ปรึกษาตา่ งๆ ท่เี ป็นประโยชน์ หน่วยงานท่ีน�าระบบการบ�าบัดฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดแบบเข้มข้นทางสายใหม่มาใช ้ ไดแ้ ก่ สถานฟ้นื ฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพตดิ ในสังกัดของกองทัพบก กองทัพเรอื กรมการแพทย์ และกองร้อยอาสารกั ษาดินแดนในสังกัดกรมการปกครอง ๓) การฟน้ื ฟแู บบผปู้ ว่ ยนอกตามรปู แบบกาย จติ สงั คมบา� บดั (Matrix Program) รูปแบบน้ีเน้นการให้ความรู้ท่ีจ�าเป็นส�าหรับผู้ติดสารเสพติดและครอบครัว โดยสอดแทรกผ่าน กจิ กรรมตลอดระยะเวลาทท่ี �าการบ�าบัด ซ่ึงใช้เวลารักษา ๑ ป ี แบง่ เป็น ๒ ระยะ ดังน้ี ๑๕๕ แนวขอ สNอบTเนนOก-าNรคETิด นกั เรียนควรรู ขอใดเปนหนา ทข่ี องพอ แมท่สี าํ คญั ทีส่ ดุ ในการปองกนั ไมใหลกู ติดสารเสพตดิ 1 ครอบครัว ควรสอดสองดแู ลวยั รนุ ไมใหยุงเกย่ี วกบั สารเสพตดิ ตองคอยอบรม 1. ขยนั ทาํ งานหาเงนิ เลี้ยงลกู สง่ั สอนใหร ูถ ึงโทษและภยั ของสารเสพตดิ หรอื หากบุคคลในครอบครวั มีผูเสพสาร 2. ดแู ลเอาใจใสเ ลยี้ งดลู ูกดว ยเงนิ เสพตดิ กค็ วรรบี พาไปเขารับการบาํ บัดรกั ษาอยางเรง ดว น โดยครอบครวั จะตองให 3. จดั สภาพแวดลอ มของบานใหน าอยู กาํ ลงั ใจผตู ิดสารเสพตดิ ดวย การบาํ บัดรกั ษาจงึ จะไดผลดี 4. ใหค วามรูเร่อื งของโทษและอนั ตรายจากการติดสารเสพตดิ วเิ คราะหค ําตอบ หนาท่ีของพอแมท่ีสาํ คญั ทส่ี ุดเพือ่ ปอ งกันใหล ูกหางไกล มุม IT จากสารเสพตดิ คอื การอบรมใหความรูเกีย่ วกบั อนั ตรายจากสารเสพตดิ ตา งๆ เพื่อใหล ูกเกิดความตระหนกั ถึงผลกระทบท่อี าจเกดิ ข้นึ หากเสพ สามารถศกึ ษาเพม่ิ เติมเกี่ยวกับครอบครวั มีสวนชว ยในการปอ งกันสารเสพตดิ จากบทความเรือ่ ง “เล้ยี งลูกอยางไรจงึ จะไมตดิ ยาเสพตดิ ” ไดจ าก สารเสพตดิ ตอบขอ 4. www.familynetwork.or.th คมู อื ครู 155
กระตุน ความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ใหน กั เรยี นกลุมเดมิ ท่จี บั สลากไดป ระเดน็ ๓.๑) ระยะที่ ๑ คือ ระยะแบบเข้มข้น (Intensive Phase หรือ Intensive รปู แบบการฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ ออกมานาํ เสนอตอ Outpatient Program) เป็นช่วงแรกของการบ�าบัดฟื้นฟู ผู้ติดสารเสพติดจะเลิกใช้สารเสพติดได้ โดยครูชวยเสนอแนะเพมิ่ เติมและตง้ั คาํ ถามเพอ่ื นาํ หรอื ไม่ขนึ้ อยู่กบั ช่วงเวลานี้เปน็ สา� คญั ใชร้ ะยะเวลารักษา ๔ เดอื น มกี จิ กรรมหลัก ๔ อย่าง คอื ไปสขู อสรปุ ที่ถูกตองรว มกัน (๑) การใหค้ า� ปรกึ ษารายครอบครวั / บคุ คล (Individual Sessions / Conjoint Sessions) เป็นการให้ค�าปรึกษาแก่ผู้ติดสารเสพติดและครอบครัว เนื่องจากเป็นช่วงระยะเวลา • การฟน ฟูแบบผปู วยนอกตามรปู แบบกาย จติ ของการปรับตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาแบบน้ี จึงมีความจ�าเป็นที่ผู้ติดสารเสพติดและครอบครัว สงั คมบําบัด (Matrix Program) เปน รปู แบบ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บอย่างเคร่งครัด การรักษาจึงจะเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การบําบดั ฟน ฟผู ูติดสารเสพติดในลกั ษณะใด เป็นการให้ความรู้แก่ผู้ต(๒ิด)ส ากรลเสุ่มพฝตกึ ิดทเักกษี่ยะวกกาับรฤเลทกิ ธเ์ิขสอพงรสะายระเเสริม่พตตน้ิด ท(E่ีมaีผrลlyต R่อeสcมoอvงe1 ryซ S่ึงเkปill็น Gสrาoเuหpต)ุ (แนวตอบ รปู แบบนี้เนนการใหความรูท่จี ําเปน ที่ไม่สามารถเลิกเสพสารเสพติดได้ ทั้งๆ ที่มีความพยายามอย่างมาก และสอนทักษะที่จ�าเป็น สาํ หรบั ผตู ดิ สารเสพติดและครอบครัว โดย ส�าหรับชว่ ยในการเลิกสารเสพตดิ สอดแทรกผา นกิจกรรมตลอดระยะเวลา (๓) กลุ่มป้องกันการหวนกลับไปเสพซ�้า (Relapse Prevention Group) ที่ทาํ การบําบัด ซง่ึ ใชเวลารกั ษา 1 ป) เปน็ การให้ความรู้ผู้ติดสารเสพติด เพอื่ นา� ไปสกู่ ารปรับเปล่ยี นบุคลิกภาพและวธิ ีการด�าเนินชวี ติ (๔) กล่มุ ให้ความรู้แก่ครอบครวั (Family Education Group) เปน็ การให้ • การฟน ฟูแบบผูป ว ยนอกตามรปู แบบกาย จติ ความรู้ความเข้าใจแก่ครอบครัวของผู้ติดสารเสพติดเก่ียวกับสาเหตุของการใช้สารเสพติด การ สังคมบาํ บดั (Matrix Program) ทใ่ี ชเ วลา เปลี่ยนแปลงของสมองภายหลงั การใชส้ ารเสพตดิ ลกั ษณะความคิดและอารมณ์ของผูท้ อี่ ยู่ในภาวะ รกั ษา 1 ป แบงไดเ ปน ก่ีระยะ อะไรบา ง ตดิ ยา บทบาทหน้าทขี่ องผูป้ กครองต่อการช่วยเหลือผตู้ ิดสารเสพติดทงั้ ในระยะส้นั และระยะยาว (แนวตอบ แบง เปน 2 ระยะ ไดแ ก ระยะที่ 1 ๓.๒) ระยะที่ ๒ คอื ระยะสนบั สนนุ ให้ก�าลงั ใจ (Supportive Phase หรอื After ระยะแบบเขมขน (Intensive Phase หรอื Care Program) เป็นระยะประคับประคองผู้ติดสารเสพติดไม่ให้หวนกลับไปใช้สารเสพติดซ�้า Intensive Outpatient Program) เปน ชว งแรก ใชร้ ะยะเวลาในการรกั ษา ๘ เดอื น มกี จิ กรรมหลกั ของการบาํ บัดฟน ฟู ใชระยะเวลาในการรักษา ๒ อยา่ ง คอื 4 เดือน และระยะที่ 2 ระยะสนบั สนุน (๑) กลุ่มสนับสนุนทาง ใหกําลงั ใจ (Supportive Phase หรือ After Care Program เปน ระยะประคบั ประคองผตู ดิ สารเสพติดไมใ หห วนกลับไปใชส ารเสพตดิ ซํา้ ใชระยะเวลาในการรักษา 8 เดอื น) สงั คม (Social Support Group) เปน็ กลมุ่ ทจ่ี ะชว่ ย ใหผ้ ู้เลิกสารเสพติดไดแ้ ลว้ ประมาณ ๓-๔ เดอื น ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่ต้องพ่ึงพา สารเสพติด ซ่ึงจะได้รับก�าลังใจจากเพ่ือนๆ กลุ่มเลิกสารเสพติดด้วยกัน เน้นการเข้าร่วม กิจกรรมกลุ่มเพื่อปรึกษากัน ซึ่งกลุ่มสนับสนุน ความรักความอบอุ่นในครอบครัว จะเป็นเกราะป้องกัน ทางสังคมรูปแบบต่างๆ ได้แก่ กลุ่มผู้ติดสาร บุตรหลานจากสารเสพตดิ ได้ เสพติดนิรนาม กลมุ่ ผตู้ ิดสุรานิรนาม ๑๕6 เกร็ดแนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET ขอใดคอื วธิ กี ารชว ยเหลือผตู ิดสารเสพตดิ ใหแ กส มาชกิ ในครอบครวั ครูสามารถใหนักเรยี นรว มกนั แสดงความคดิ เหน็ วา นักเรยี นมีความคิดเห็น ไดอยา งเหมาะสม อยา งไรกบั คําวา ครอบครัวเปนพลงั ทเ่ี ขมแข็งท่สี ดุ ในการปองกนั ภัยจากสารเสพตดิ 1. ไมพ ูดคยุ กบั ผูปว ย 2. หา มผปู ว ยออกจากบา น นักเรยี นควรรู 3. หา มผูป ว ยเสพสารเสพตดิ โดยเด็ดขาด 4. ยอมรบั และใหก าํ ลงั ใจผูปว ยในการเลิกเสพสารเสพติด 1 ฤทธขิ์ องสารเสพติดที่มผี ลตอ สมอง ทาํ ใหเ กิดโรคสมองติดยา เนือ่ งจาก วิเคราะหค ําตอบ การยอมรบั และใหก าํ ลงั ใจผูปวยในการเลิกเสพ การทาํ งานของสมองสวนคดิ ถกู ทาํ ลาย จึงทาํ ใหสมองสว นอยากมอี ทิ ธิพลเหนอื สารเสพตดิ เปนวิธีการชว ยเหลอื สมาชิกในครอบครัวไดอยางเหมาะสมท่สี ดุ สมองสวนคิด เมอ่ื เกิดอาการอยากยา สมองสวนคิดจะไมสามารถยบั ยง้ั สมอง เน่ืองจากผูปวยตองการกาํ ลังใจและความดแู ลอยางใกลช ิด ไมควรพดู สวนอยากได จึงทาํ ใหผ ตู ิดสารเสพตดิ ตอ งดิน้ รนเพือ่ ใหไดม าซึ่งสารเสพติด ตอกยํา้ หรือซ้ําเติมผูปว ย เพราะอาจทาํ ใหผ ูปวยรูสึกเกดิ ความทอแทตอ การ เลกิ เสพสารเสพตดิ ได ตอบขอ 4. 156 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู (๒) การตรวจปสสาวะ (Urine Test)1 เป็นวิธีการที่ใช้ในการตรวจหา ใหนกั เรียนรวมกันสรุปในประเด็น รูปแบบ สารที่ต้องการในปัสสาวะเท่านั้นไม่ได้บ่งบอกถึงบุคลิกภาพของผู้ใช้ ตลอดจนสภาพการติดยา การฟน ฟูผตู ดิ สารเสพติด โดยครูชว ยเสนอแนะ โดยจะท�าการสุ่มตรวจสัปดาห์ละ ๑ คร้ัง เพื่อ เพมิ่ เติม และตั้งคาํ ถามเพอ่ื ใหไ ดขอสรปุ ทถ่ี ูกตอ ง ตรวจสอบว่าผู้เข้ารับการรักษาหวนกลับไปใช้ รว มกนั สารเสพติดอีกหรือไม่ นอกจากนี้การมีสาร ดงั กลา่ วในปสั สาวะอาจเปน็ ผลมาจากการใชย้ าเพอื่ • การฟน ฟูผตู ดิ สารเสพตดิ ในระยะท่ี 1 รักษาโรคก็ได้ ดังนั้น ผทู้ ที่ า� การตรวจปสั สาวะ Intensive Phase หรอื Intensive จะต้องตรวจอย่างพิถีพิถันและมีความรอบคอบ Outpatient Program เปน การบําบัดรกั ษา เปน็ อยา่ งมาก โดยไม่ใหเ้ กดิ ความผดิ พลาดหรอื โดยการใชกิจกรรมใดบา ง เกดิ ความผิดพลาดน้อยที่สุด (แนวตอบ ไดแก การใหคาํ ปรกึ ษา หน่วยงานท่ีน�าระบบการฟื้นฟูแบบผู้ป่วย รายครอบครวั หรอื รายบคุ คล ฝกทักษะการ นอกตามรูปแบบกาย จิต สังคมบ�าบัดมาใช้ เลิกเสพระยะเรม่ิ ตน ปอ งกันการหวนกลบั ไดแ้ ก่ ศนู ย์บา� บัดผู้ตดิ สารเสพตดิ ในสังกัดกรม- ไปเสพซํ้า และใหค วามรูแกค รอบครวั ) การแพทย์ โรงพยาบาลท่ัวไปโรงพยาบาลศูนย ์ ผู้ติดสารเสพติดที่ผ่านการบ�าบัดฟื้นฟูแล้ว ต้องสุ่มตรวจ และโรงพยาบาลชุมชน ปัสสาวะ เพ่อื ปอ้ งกันไมใ่ หห้ วนกลบั ไปใชส้ ารเสพติดอกี • หลักการบาํ บดั ฟน ฟูผูตดิ สารเสพตดิ แบบ จิราสา มหี ลกั การในการบําบัดอยางไร ๔) การบ�าบัดฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดแบบจิราสา ค�าว่า “จิราสา” เป็นค�าสมาส (แนวตอบ คือการใชบคุ คลหลากหลายเปน ระหวา่ งค�าวา่ “จริ ะ” แปลวา่ “ยงั่ ยนื ถาวร” และ “อาสา” แปลวา่ “ชว่ ยเหลืออาสาสมคั ร” ดงั นัน้ แนวรวมในการตานสารเสพตดิ เชน จิราสา จึงหมายถึง การช่วยเหลือกัน การเยี่ยมเยียน การอาสาสมัครอย่างเต็มใจและย่ังยืน อาสาสมคั รหรือผทู เี่ ตม็ ใจชว ยเหลือผูตดิ หลักการบ�าบัดฟื้นฟูของจิราสา คือ การใช้บุคคลหลากหลายเป็นแนวร่วมในการต้านสารเสพติด สารเสพตดิ ซึง่ ไมจ าํ เปน ตองเปน บุคลากร ทีมผบู้ �าบดั เป็นอาสาสมัครและผูท้ ี่เตม็ ใจช่วยเหลือผ้ตู ดิ สารเสพติด ซ่ึงไมจ่ �าเป็นต้องเปน็ บุคลากร ทางการแพทย อาจเปน พระหรือครทู ี่ผา น ทางการแพทย์ อาจเป็นพระหรือครูท่ีผ่านหลักสูตรเวชศาสตร์ฟื้นฟู และผ่านการปฏิบัติภายใต้ หลักสตู รเวชศาสตรฟ น ฟูโรคตดิ ยา และ ผา นการปฏบิ ัตภิ ายใตก ารดแู ลของ ผูเชย่ี วชาญกไ็ ด) การดแู ลของผเู้ ช่ียวชาญกไ็ ด้ วธิ กี ารบา� บดั ฟน้ื ฟแู บบจริ าสา สามารถปรบั ใชไ้ ดท้ ง้ั กบั ผปู้ ว่ ยในและผปู้ ว่ ยนอก โดยเนน้ การสรา้ งแรงจูงใจและป้องกนั การหวนกลับไปใช้สารเสพตดิ อกี ใชเ้ วลารกั ษา ๑๒-๑๖ สปั ดาห์ หนว่ ยงานทน่ี า� ระบบการบา� บดั ฟน้ื ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ แบบจริ าสามาใช ้ ไดแ้ ก ่ สถานฟน้ื ฟู สมรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพตดิ ในสังกดั กองทพั อากาศ ๕) โปรแกรมสา� นกั งานคมุ ประพฤต ิ โดยกา� หนดใหผ้ ้ตู ิดสารเสพตดิ มารายงานตัว ที่ส�านักงานคุมประพฤติ พร้อมกับก�าหนดให้ผู้เข้ารับการบ�าบัดฟื้นฟูเข้าร่วมกิจกรรมที่สามารถ ชว่ ยใหเ้ ลกิ สารเสพติดไดส้ �าเร็จ ๑๕๗ ขอ สอบ O-NET เกรด็ แนะครู ขอ สอบป ’53 ออกเกีย่ วกับวิธีการบําบดั ฟน ฟผู ูติดสารเสพตดิ ครูควรอธบิ ายเพิม่ เตมิ วา ยาบางชนดิ สามารถทําใหต รวจพบปสสาวะท่มี สี ีมวง ขอ ใดเปนแนวทางการปองกนั มใิ หมีการใชส ารเสพติดในชุมชนทไ่ี ดผลดี เหมอื นกับการตรวจสารเสพติดไดเ ชนกัน เชน ยาแกหวัด ยาแกไอ ยาลดความอวน เปน ตน อีกทง้ั หากผูเสพ เสพสารเสพตดิ ในปรมิ าณนอยหรอื เสพนานกวา 24 ช่วั โมง ท่สี ุด อาจจะตรวจไมพ บเจอสารเสพติดท่ีอยใู นปส สาวะไดเ ชน กนั ดงั นัน้ ผตู รวจสอบจงึ 1. จดั ใหพระมาอบรมเรอ่ื งการประพฤตดิ ี ตองมคี วามรอบคอบเปน อยางมาก เพราะอาจเกดิ ผลท่ีคลาดเคลือ่ นได 2. สอนใหเ ยาวชนรจู ักการปฏิเสธสารเสพติด 3. จดั ตํารวจหมูบา นคอยเฝาระวังผูติดยา นักเรียนควรรู 4. จดั กจิ กรรมและใหค วามรดู า นยาเสพติดแกเ ยาวชน วิเคราะหคําตอบ การจัดกจิ กรรมและใหค วามรูด า นยาเสพติดแกเยาวชน 1 การตรวจปสสาวะ (Urine Test) จะใชวิธกี ารตรวจขน้ั ตนแบบ CCR (Chemical Colour Reaction) อปุ กรณที่ใชจ ะเปน ชุดทดสอบทบ่ี รรจุไวด วย เปนแนวทางการปอ งกนั มิใหม ีการใชส ารเสพติดในชมุ ชนทีไ่ ดผ ลดีทส่ี ุด สารเคมี การตรวจสอบจะดูปฏิกิริยาสีของนา้ํ ปส สาวะกับน้าํ ยา หากมสี ารเสพตดิ เพราะหากเยาวชนมคี วามรูใ นเรือ่ งของโทษและผลกระทบของสารเสพตดิ น้าํ ยาจะเปล่ียนสีจากปกติไปเปน สมี ว งแดงหรอื มว งนํ้าเงนิ ซึ่งจะใชเ วลาทดสอบ จะสงผลใหเ ยาวชนมพี ฤติกรรมที่ดีไมเสย่ี งตอการตดิ สารเสพตดิ และเปน 2 - 5 นาที ก็จะทราบผล พลเมืองทดี่ ีของประเทศตอ ไป ตอบขอ 4. คูม อื ครู 157
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ใหนักเรยี นกลุม ทีจ่ ับสลากไดประเด็น ๓.๓ องคป ระกอบทเี่ กย่ี วข้องกบั การฟ้นื ฟูผตู้ ดิ สารเสพติด องคป ระกอบท่ีเกย่ี วของกบั การฟน ฟูผตู ิดสารเสพติด ออกมานําเสนอ หลังการนาํ เสนอ ใหน กั เรยี น การจะบ�าบัดฟ้นื ฟูผู้ติดสารเสพติดให้ไดผ้ ลส�าเรจ็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพน้ัน จะต้องดา� เนนิ การ กลุมอืน่ ๆ ไดร วมซักถามขอ สงสัย โดยครชู วย แบบองคร์ วม กลา่ วคอื ใหก้ ารบา� บดั ทางกายของ เสนอแนะเพิม่ เตมิ และต้งั คาํ ถามเพอื่ นําไปสูขอสรุป สารเสพติดเป็นภยั มหนั ต์ ทกุ คนในชุมชนต้องร่วมมือกนั ผตู้ ดิ สารเสพตดิ เพราะจะมอี าการขา้ งเคยี งหรอื ท่ถี ูกตอ งรวมกนั ก�าจดั ให้หมดไป พิษตกค้างจากการเสพมาเป็นเวลานาน ท�าให้ สุขภาพร่างกายทรุดโทรมหรือมีโรคแทรกซ้อน • การบาํ บดั ฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ ใหไ ดผ ลสาํ เรจ็ ให้การบ�าบัดทางจิต เป็นการให้ก�าลังใจ หรือ อยางมีประสิทธภิ าพน้ัน จะตองดาํ เนนิ การ รักษาอาการทางจิตที่เกิดข้ึนจากเซลล์สมอง แบบองคร วมในการบาํ บัดดา นใดบา ง ถกู ทา� ลาย และบา� บดั ชมุ ชน โดยการปราบปราม (แนวตอบ ตอ งดาํ เนนิ การในการบาํ บดั ทางกาย การคา้ ขายสารเสพติด แหล่งม่ัวสมุ เสพยา ให้มี เพราะจะมีอาการขางเคียงหรือพษิ ตกคาง สภาพแวดล้อมเป็นชุมชนสีขาว โดยผนึกก�าลัง จากการเสพยามาเปนเวลานานทาํ ใหสุขภาพ ของผู้คนในชุมชนให้ร่วมมือกันขจัดภัยของ ทรุดโทรมหรอื มีโรคแทรกซอ น การบําบดั สารเสพตดิ ทางจิต ซ่งึ เปน การใหก ําลงั ใจ หรือรกั ษา อาการทางจติ ท่ีเกดิ ข้ึนจากเซลลสมองถูก สถานบ�าบัดฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด ทําลาย และการบําบัดชุมชน โดยการ ปราบปรามการคา ขายสารเสพตดิ แหลง มว่ั สมุ เสพยา ใหมีสภาพแวดลอ มเปน ชุมชนสขี าว) บา� บัดกาย บา� บัดใจ บา� บัดชุมชน รักษาอาการเจบ็ ปว่ ยจาก รกั ษาอาการทางจิตใจจาก แก้ไขพฤตกิ รรมของสมาชิก • โรคแทรกซอ้ น โรคตดิ เชอ้ื • หวาดกลัว ประสาทหลอน ในชมุ ชน • โรคปอด โรคตบั • จิตวปิ รติ จิตใจไมป่ กติ • ผเู้ กยี่ วขอ้ งกับสารเสพตดิ • มไี ข้ ปวดศรี ษะ ปวดกระดูก • คลุ้มคลงั่ วติ กกังวล • คนในครอบครัว ญาติ ครู ปปววดดกทลอ้ า้งม กเนลอา้ื้ ม ปเนวดอ้ื เเมกอื่รง็ย ตตาะมคตรววัิ 1 • จิตฟันเฟือน จติ หงุดหงิด • ผู้น�าชุมชน • • ปัญญาออ่ น • น �้ามูกน้า� ตาไหล ไอ จาม แ• ก แไ้ หขลสง่ภจา�าพหแนว่าดย3ลอ้ ม อาเจยี น • ถ่ายเปน็ เลอื ด • แหลง่ ม่ัวสุมเสพสารเสพตดิ •• เมซีรลอลยส์ แมผอลงเปเสน็ ่ือตมาแมลระ่าตงากยา2ย ๑๕8 นกั เรยี นควรรู บรู ณาการเชือ่ มสาระ สามารถนําเนอื้ หาเร่ือง องคประกอบทเ่ี ก่ียวของกบั การฟนฟผู ูติด 1 ตะคริว คือการหดเกร็งของกลา มเน้ืออยา งรุนแรงเปน เวลานาน โดยท่วั ไป สารเสพตดิ ดวยการบําบดั ทางจติ ไปบรู ณาการเช่ือมโยงกับกลุม สาระ ตะคริวมกั เกิดขึ้นไมเ กนิ 2 นาที แตอาจมีบางรายเกิดนานไดถ งึ 5 นาที หรือนาน การเรียนรูสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม วชิ าพระพุทธศาสนา มากกวานัน้ สาํ หรบั ผูติดสารเสพตดิ อาจเกิดขึน้ ไดบอ ยจนทาํ ใหเกดิ ความทกุ ข เรอื่ ง การบริหารจติ ตามหลกั สติปฏฐาน ทรมานได สาเหตเุ ปนผลมาจากเซลลประสาทและเสน ประสาททค่ี วบคมุ การหดตัว และคลายตัวของกลา มเนอื้ ไดรบั ความเสยี หายจากพษิ ของสารเสพตดิ จงึ สง ผลให การทาํ งานผิดปกติไป 2 เซลลสมองเสือ่ มและตาย เกดิ จากการทส่ี ารเสพติดไปทาํ ลายเซลลส มองเปน เวลานาน ผตู ดิ สารเสพตดิ จึงมักจะมีอาการหลงๆ ลมื ๆ จาํ เหตุการณท่กี ระทาํ ลงไปแลวไมได ทาํ ใหมกี ารยาํ้ คดิ ย้ําทําอยกู บั สง่ิ เดิมๆ 3 แหลงจําหนา ย เมือ่ ทราบเบาะแสแหลง จําหนา ยสารเสพตดิ ควรรบี แจง เจาหนา ท่ีตํารวจในทอ งถน่ิ หรือสาํ นักงานคณะกรรมการปอ งกันและปราบปราม ยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพอื่ ดาํ เนนิ การจับกมุ และกวาดลางผคู าสารเสพตดิ 158 คูมอื ครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ๓.4 ขนั้ ตอนในการฟื้นฟูผู้ติดสารเสพตดิ ใหนักเรียนกลมุ ท่จี ับสลากไดประเดน็ ขนั้ ตอนในการฟนฟูผูติดสารเสพติด ออกมา ๑. ผู้ติดสารเสพติดลงทะเบียนด้วยความสมัครใจขอเข้ารับการบ�าบัดฟื้นฟู โดย นําเสนอ หลงั การนาํ เสนอใหน กั เรียนกลุมอ่นื ๆ กรอกประวตั สิ ว่ นตัวของตนเองอยา่ งละเอยี ด ไดร ว มซกั ถามขอ สงสยั โดยครชู ว ยเสนอแนะเพมิ่ เตมิ ๒. สถานบ�าบัดด�าเนินการคัดแยกเบ้ืองต้น โดยการพูดคยุ ซักถาม สังเกตอาการ ใช้ และตง้ั คําถามเพอ่ื นาํ ไปสูขอสรุปทถี่ ูกตองรว มกัน เคร่ืองมือวัด จากน้ันจึงแบ่งประเภทตามอาการทางกายและจิตใจ ผู้ติดสารเสพติดท่ีจะได้รับการ บ�าบัดฟื้นฟูจิตใจโดยไม่ต้องใช้ยา เป็นพวกที่ควบคุมสติอารมณ์ได้บางครั้ง ส่วนการบ�าบัดฟื้นฟู • ขน้ั ตอนในการฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ จิตใจท่ตี ้องใช้ยา เป็นพวกทมี่ อี าการทางจิต ควบคมุ ตวั เองไม่ได้ มขี นั้ ตอนอยา งไรบา ง ๓. การทา� ใหผ้ ตู้ ดิ สารเสพติดเกดิ ความไว้วางใจ รู้สึกปลอดภัย และจะไม่เป็นอันตราย (แนวตอบ เม่ือเข้ามารับการบ�าบัดฟื้นฟู ส่ิงส�าคัญที่สุด คือ ท�าให้ครอบครัวและญาติของผู้ติดสารเสพติด 1. ผูตดิ สารเสพตดิ จะตอ งลงทะเบียนดว ย ร วมถ ึงแก นน๔า� .ช ุมกชารนต รเขวา้จใสจอถบึงคก้นระหบาวคนวกาามรรบู้สา�ึกบซัด่อฟนืน้ เรฟ้นอู1ภยาา่ ยงใถน่อขงอแงทผ้แู้ตลิดะสถาูกรตเสอ้ พง ติด และดึงส่ิงที่ดี ความสมคั รใจเพื่อขอเขารบั การบําบดั ใหเ้ ผยออกมาโดยใชก้ ระบวนการกลุม่ และจติ บ�าบัด ฟนฟู ๕. การฟื้นฟู เป็นการรักษาทางกายและจิตใจ โดยการเอาคนออกจากสารเสพติด 2. สถานบาํ บัดดาํ เนินการคดั แยกเบอ้ื งตน ซึง่ อาจให้สารเสพตดิ บ้างตามความจ�าเปน็ วธิ กี ารรกั ษา มดี งั นี้ โดยการพูดคุยซักถาม สังเกตอาการ และใชเครื่องมือวัด • ท�าความเข้าใจกับผู้ติดสารเสพติดว่า ต้องต่อสู้เพื่อให้พ้นจากการเป็นผู้ติด 3. การทําใหผ ตู ิดสารเสพตดิ เกิดความ สารเสพตดิ ไววางใจ รสู ึกปลอดภยั และจะไมเปน อันตรายเมือ่ เขา มารับการบาํ บดั ฟน ฟู • มีคนคอยดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด และเข้าไปช่วยแก้ไขให้ทันเวลา เม่ือผู้ติด 4. การตรวจสอบคนหาความรูส กึ ซอนเรน สารเสพติดอาจออกนอกกรอบหรอื เกดิ ความทอ้ ถอย ภายในของผูติดสารเสพติด 5. การฟน ฟู เปนการบําบัดรกั ษาทางกาย • มีกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ติดสารเสพติดไม่คิดต้องการใช้สารเสพติด เช่น และจิตใจ กายภาพบ�าบัด นวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า วารีบ�าบัด ออกก�าลงั กาย เปน็ ต้น 6. เมอื่ ผตู ิดสารเสพตดิ ผานกระบวนการ บาํ บดั รักษาทางกายและจิตใจ จนควบคมุ ผู้ติดสารเสพตดิ สามารถขอรับค�าปรึกษา และการบา� บดั ได้จากสถานพยาบาลของรฐั ทก่ี ระจายอยู่ทว่ั ประเทศ ตนเองไดแ ลว กน็ าํ เขา สกู ระบวนการฟน ฟู จติ ใจ โดยใชห ลกั ธรรมทางศาสนาเขา ชว ย 7. การสรา งพลังรวมระหวางครอบครัว ชุมชน และผตู ิดสารเสพตดิ 8. ปฏญิ ญาณตนเลิกสารเสพตดิ และสราง พลงั ใจใหเ ขมแขง็ 9. การตดิ ตามผลเพอื่ คัดแยกผผู านการ บําบดั ฟน ฟ)ู ๑๕9 แนวขอ สNอบTเนนOก-าNรคETิด เกรด็ แนะครู ขอใดหมายถึงการบาํ บดั รกั ษาทางจิตใหกบั ผูติดสารเสพตดิ ครูอาจพานกั เรยี นไปศึกษาดงู าน ทีส่ ถานบาํ บดั ฟน ฟูผูตดิ สารเสพติดในทอ งถิน่ 1. การแกไ ขพฤตกิ รรมของผูใชสารเสพติด ของตน และใหจ ดั ทาํ รายงานสรุปความรูท ี่ไดร บั สงครผู ูสอน 2. การรกั ษาโรคแทรกซอนทเี่ กิดจากการใชสารเสพตดิ 3. การสะกดจิตเพอ่ื ใหผ ูตดิ สารเสพติดเลกิ เสพไดอยา งเดด็ ขาด นกั เรยี นควรรู 4. การใหกาํ ลังใจ หรอื รกั ษาอาการทางจิตท่เี กดิ จากเซลลส มองถกู ทาํ ลาย วิเคราะหค ําตอบ การบาํ บดั ทางจติ ใหก บั ผตู ดิ สารเสพตดิ เปน การใหก าํ ลงั ใจ 1 ความรูสึกซอ นเรน การบําบดั ฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพติดควรคนหาความรูส กึ หรอื รักษาอาการทางจิตท่เี กดิ ข้ึนจากเซลลสมองถกู ทําลาย เพ่ือใหหายจาก ซอ นเรน หรอื ปมทท่ี าํ ใหบ คุ คลนนั้ ติดสารเสพตดิ เพือ่ ชว ยใหก ารบาํ บดั รักษาทําได อาการหวาดกลัว ประสาทหลอน จิตวปิ รติ คลุมคลงั่ วิตกกังวล จิตฟน เฟอ น งา ยข้ึน ตอบขอ 4. คูมือครู 159
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขาาใจใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Evaluate Engage Expand Expand ขยายความเขา ใจ หลงั จากการนําเสนอเรอ่ื ง วธิ กี ารบาํ บดั ฟนฟู ๖. เมื่อผู้ติดสารเสพติดผ่านกระบวนการรักษาทางกายและจิตใจจนควบคุมตนเอง ผตู ดิ สารเสพติด ใหนกั เรยี นรว มกนั สรุปและ ไถดือ้แศลีล้ว กนน็ั่งสา� เมขาา้ ธสิ กู่ ปรฏะบิบวัตนิธกรรามร1ฟ นื้เปฟ็นจู ตติ ้นใจ เโพดื่ยอใทช�าห้ ใหลกั้จิตปใฏจิบมัตีคิแวลาะมหเขล้กัมธแรขร็งมในทกางาศรปาสฏนิเสาเธขสา้ าชรว่เสยพ เชตน่ิด เสนอแนะวาการบาํ บัดฟน ฟูผตู ดิ สารเสพตดิ น้ัน มีสติปญั ญาเลือกสิง่ ทด่ี ีและไม่ดีให้แกต่ นเอง และขดั เกลาจติ ใจให้ละอายตอ่ ความชวั่ ท้ังปวง มคี วามสําคัญอยางไร โดยครูตัง้ คาํ ถามเพ่ือ ๗. การสรา้ งพลงั รว่ มระหว่างครอบครวั ชมุ ชน และผ้ตู ิดสารเสพติด โดยนดั พบและ ขยายความเขา ใจของนักเรียน มอบหมายให้ผู้ปกครองดแู ลบุตรหลานทต่ี ดิ สารเสพตดิ หลังจากน้นั จึงนดั ให้ทัง้ ๒ ฝ่ายมาเข้าค่าย บา� บดั ฟนื้ ฟอู ีกคร้ัง • เพราะเหตุใด จึงตอ งมวี ธิ ีการบาํ บดั ฟนฟผู ูติด ๘. ปฏิญาณตนเลิกสารเสพติดและสร้างพลังใจให้เข้มแข็ง เพ่ือป้องกันมิให้ผู้ผ่าน สารเสพติด การบ�าบัดฟ้นื ฟหู วนกลบั ไปใช้สารเสพติดอกี วิธีการน้เี ป็นเสมือนภูมคิ ้มุ กันทางออ้ ม เป็นการชว่ ย (แนวตอบ เพราะจะทาํ ใหผ เู ขา รบั การรักษา เสริมสร้างกา� ลงั ใจใหผ้ ูต้ ดิ สารเสพตดิ มีพลงั ใจทเ่ี ขม้ แขง็ เพื่อฟันฝา่ เอาชนะอา� นาจฝา่ ยต่า� ให้ได้ สามารถเลิกใชส ารเสพตดิ ไดสาํ เร็จ และกลบั ๙. การติดตามผลเพ่ือคัดแยกผู้ผ่านการบ�าบัดฟื้นฟู ซ่ึงเป็นขั้นตอนที่ส�าคัญ เพราะ ไปใชช ีวติ รว มกับผูอื่นในสงั คมไดอยางปกต)ิ ทา� ให้ทราบวา่ ผตู้ ิดสารเสพติดแตล่ ะคนผา่ นเกณฑ์หรอื ไม่ และจะมโี อกาสกลบั ไปใชส้ ารเสพตดิ อกี หรอื ไม ่ รวมถงึ ควรพฒั นาดา้ นใดเพม่ิ เตมิ ตลอดจนเปน็ การประคบั ประคองและชว่ ยผทู้ เ่ี พง่ิ เลกิ สาร จากนัน้ ใหนักเรยี นทําการศึกษาคนควา เพมิ่ เตมิ เสพติดแกไ้ ขปญั หาต่างๆ เกย่ี วกับวิธกี ารบําบดั ฟน ฟผู ตู ิดสารเสพติด แลว นาํ มาจดั ทําเปนรูปเลมรายงาน โดยมีประเด็นในการ ศึกษาดังตอ ไปนี้ • รปู แบบการฟน ฟูผูต ดิ สารเสพตดิ • ขน้ั ตอนในการฟน ฟผู ตู ิดสารเสพตดิ การปฏบิ ตั ติ ามหลักธรรมของศาสนา จะท�าให้เกิดก�าลงั ใจเข้มแข็ง ไม่เข้าไปขอ้ งแวะกบั การใช้สารเสพตดิ ๑6๐ เกร็ดแนะครู กจิ กรรมสรา งเสรมิ ครูอาจถามนักเรียนวา การสรา งเสรมิ กาํ ลังใจใหผ ตู ดิ สารเสพตดิ ทเ่ี ขา รบั ใหนกั เรยี นศกึ ษาเพ่มิ เตมิ เกยี่ วกับสถานบรกิ ารใหค ําปรึกษาและบาํ บัด การบาํ บัดฟน ฟู สามารถทาํ ไดอ ยางไรบา ง รักษาผตู ิดสารเสพตดิ มา 5 สถานบริการ แลวใหเ ขียนสรปุ ถึงหนา ทีห่ ลัก ของสถานบริการนั้นๆ แลว นําสง ครูผูสอน นักเรียนควรรู กจิ กรรมทาทาย 1 ปฏิบัตธิ รรม มสี ว นชวยใหผ ูติดสารเสพตดิ ไมห นั กลับไปยุง เกี่ยวกับสารเสพติด อกี เนือ่ งจากการปฏบิ ตั ิธรรมนัน้ จะเปนการกลอ มเกลาจติ ใจใหผตู ดิ สารเสพติดมี ใหน ักเรยี นวิเคราะหวาหากบุคคลท่ีนักเรียนรจู ักติดสารเสพติด นกั เรยี น จิตใจทเี่ ขม แขง็ มีสติปญ ญาทีส่ ามารถคิดและตดั สินใจไดว า สิง่ ใดดี ส่ิงใดไมดี จะแนะนาํ หรอื พาบคุ คลนนั้ ไปบาํ บัดรักษาในหนวยงานใด เพราะเหตใุ ด ควรกระทาํ หรือไมควรกระทาํ ทจี่ ะสง ผลใหสามารถดาํ เนนิ ชวี ิตอยูในสงั คมตอไปได แลว เขียนผลการวิเคราะหนาํ สง ครผู ูสอน อยา งมคี วามสขุ 160 คูมือครู
กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Evaluate Engage Explore Expand Engage กระตนุ ความสนใจ ๔. แหลง่ ชว่ ยเหลือฟ้ืนฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ ครูตง้ั คาํ ถามกระตุนความสนใจ โดยนกั เรียน สามารถแสดงความคดิ เห็นไดอยา งอสิ ระ ช ต�า่วรยวเหจตแลาหมือฟ่งพชื้นราะฟตรูผาิ ชู้ตกบิดรมญัสราญารชัตเสิฟทพัณ้นื ตฟฑิดสู ์ มคกรืรอรม ถพกภรินามิจพคแผุมลู้ตะปิดครยุ้มะาพคเสรฤพอต1งติ เิดสด ่ว็กพนแ.หศล.ะน เ๒่วย๕ยาง๔วาช๕นน2 สห นนกับ่วอสยงนงทาุนัพน บหคกลือ ัก กทสอี่ท�างา�นทหักัพนงเ้าารทนือ่ี กรมการปกครอง และกรมการแพทย์ ซ่ึงหนว่ ยงานดังกล่าว จ�าแนกตามลักษณะการด�าเนนิ งาน • นักเรยี นเคยพบเห็นหนวยงานท่ีชวยเหลอื ได้ดังน้ี ฟน ฟผู ูตดิ สารเสพติดบางหรอื ไม (แนวตอบ นักเรยี นสามารถแสดงความ ๑) หนว่ ยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั การบังคบั ใช้กฎหมาย เชน่ การจับกมุ ตัว เปน็ ต้น คดิ เหน็ ไดอยา งอิสระ) ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ ซึ่งมีหน่วยงานท้ังกองบัญชาการต�ารวจนครบาลและกองบัญชาการ • มหี นว ยงานใดบางทีเ่ ปนแหลงชว ยเหลือ ต�ารวจภูธรท่วั ประเทศ จะเป็นหนว่ ยงานที่รับผดิ ชอบ ส่วนการดา� เนนิ การชะลอการฟอ้ งเปน็ หน้าที่ ฟน ฟูผูต ิดสารเสพตดิ ของสา� นกั งานอัยการ ซ่ึงตง้ั อยู่ในทอ้ งท่เี กิดเหตุ (แนวตอบ นักเรยี นสามารถแสดงความ คดิ เห็นไดอ ยางอิสระ โดยอาจตอบวา ๒) หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการควบคุมตัวระหว่างการตรวจพิสูจน์ ได้แก่ กรมคมุ ประพฤติ สํานักงานตาํ รวจแหงชาติ กรมราชทัณฑ กรมการแพทย) กรมราชทณั ฑ์ กรมพินจิ และคุ้มครองเดก็ และเยาวชน • หนวยงานท่ใี หค วามชวยเหลอื ฟน ฟูผตู ดิ ๓) หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับสถานที่เพ่ือการตรวจพิสูจน์การเสพหรือติด สารเสพตดิ มีบทบาทหนาที่ความรบั ผดิ ชอบ สารเสพติดและการฟนื้ ฟสู มรรถภาพผ้ตู ิดสารเสพตดิ มที ง้ั สถานบา� บดั ฟนื้ ฟผู ู้ติดสารเสพติด อยา งไรบา ง (แนวตอบ นักเรียนสามารถแสดงความ แบบเข้มงวด ได้แก่ กรมคุมประพฤติ กองทัพอากาศ และสถานบ�าบัดฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด คดิ เห็นไดอยางอิสระ โดยจะไดศ ึกษาใน แบบไม่เขม้ งวด ได้แก ่ กองทัพบก กองทพั เรอื กรมการปกครอง และกรมการแพทย ์ เนอื้ หาตอไป) เกรด็ นา่ รู้ สาํ รวจคน หา Explore วนั ต่อตา้ นยาเสพตดิ สากล ใหนกั เรียนแบง กลมุ กลมุ ละ 4-5 คน ศกึ ษา องคก์ ารสหประชาชาตกิ า� หนดใหว้ นั ท ี่ ๒๖ มถิ นุ ายนของทกุ ปเี ปน็ วนั ตอ่ ตา้ นยาเสพตดิ โลกหรอื วนั ตอ่ ตา้ น เรือ่ ง แหลงชวยเหลอื ฟน ฟูผูต ิดสารเสพตดิ จาก ยาเสพตดิ สากล ทเ่ี กดิ จากการประชมุ ระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยการใชย้ าในทางทผี่ ดิ และการลกั ลอบใชย้ าเสพตดิ หนงั สอื เรยี นและแหลงการเรียนรูเ พ่ิมเตมิ ตางๆ ซงึ่ จดั ขน้ึ ทกี่ รงุ เวยี นนา ประเทศออสเตรยี ระหวา่ งวนั ท ่ี ๑๗-๒๖ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๐ ดว้ ยเหน็ วา่ การมวี นั ตอ่ ตา้ น เชน หนวยงานตา งๆ อินเทอรเนต็ เปนตน ยาเสพตดิ สากล จะชว่ ยให้ประชาคมโลกตระหนักถึงความสา� คัญที่จะรว่ มกนั ปราบปรามยาเสพตดิ ใหห้ มดไป เหตผุ ลทเี่ ลอื กใชว้ นั ท ่ี ๒๖ มถิ นุ ายน ใหเ้ ปน็ วนั สา� คญั ดงั กลา่ ว กเ็ พอ่ื รา� ลกึ ถงึ เหตกุ ารณว์ นั แรกทขี่ า้ ราชการ ชาวจีน ชื่อ หลิน เจ๋อสวี แสดงความกล้าหาญสั่งปราบปรามการค้าฝิ่นของอังกฤษและชาติตะวันตกอ่ืนๆ ในมณฑลกวางตุ้ง โดยไม่หว่ันเกรงอิทธิพลใดๆ ซ่ึงเป็นมูลเหตุท่ีน�าไปสู่การเกิดสงครามฝิ่นระหว่างจีน และองั กฤษในเวลาตอ่ มา สา� หรบั คา� ขวญั วนั ตอ่ ตา้ นยาเสพตดิ สากลใชว้ า่ “Do drugs control your life ? Your life. Your community. No place for drugs” แปลเปน็ ภาษาไทยวา่ “ยาเสพตดิ ครอบงา� ชวี ติ ของคณุ อยหู่ รอื เปลา่ ? ชวี ติ ของคณุ สงั คม ของคณุ ต้องไม่มีที่ส�าหรับยาเสพติด” ทม่ี า : www.thaisafenet.org ๑6๑ แนวขอ สNอบTเนน Oก-าNรคETิด เกรด็ แนะครู นักเรียนคิดวา สถาบันทางการศึกษาจะมสี ว นรว มในการปองกันและแกไ ข ครคู วรอธบิ ายใหนกั เรียนฟงวา ผูติดสารเสพตดิ สามารถติดตอ ขอรับความ ปญหาสารเสพตดิ ไดอ ยางไรบา ง ชว ยเหลอื จากหนว ยงานตา งๆ ของรฐั ไดท ว่ั ประเทศ โดยไมเ สยี คา ใชจ า ยใดๆ ทงั้ สน้ิ แนวตอบ บคุ ลากรท่เี กย่ี วของภายในโรงเรียน โดยเฉพาะครู อาจารย ควรมีสว นชว ยในการพฒั นานักเรียนและเยาวชนดว ยการสอดสองดแู ล นกั เรียนควรรู นักเรียน จดั หลกั สูตรกระบวนการเรยี นการสอนใหเ หมาะสม และจัด กจิ กรรมตา งๆ ทเ่ี ปน ประโยชนใหก บั นักเรยี น 1 กรมคุมประพฤติ มบี ทบาทหนาทีใ่ นการควบคมุ ความประพฤตทิ เ่ี ก่ยี วของ กบั สารเสพติด และมีความผิดไมร ายแรง โดยศาลจะสง่ั ใหถ กู คุมประพฤติ และ จะตอ งรายงานตวั ตอเจาหนาท่ีเปน ระยะๆ 2 กรมพนิ ิจและคมุ ครองเดก็ และเยาวชน มหี นา ท่ีคุมครองสิทธแิ ละสวสั ดภิ าพ เดก็ เยาวชน ผเู ยาวและครอบครัวใหเ ขาสกู ระบวนการยุตธิ รรม โดยสงเสริมการ ใชกระบวนการยุตธิ รรมทางเลอื กและมาตรการอน่ื ๆ นอกจากนย้ี งั ดาํ เนินการคดี ดานการปองกนั บาํ บดั แกไ ข ฟน ฟู พัฒนาและสงเคราะห และติดตามประเมินผล การดําเนนิ งาน คูม ือครู 161
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ใหนักเรียนแตล ะกลมุ รวมกันอภิปรายเรอ่ื ง สถานบ�าบัดฟืน้ ฟูผูต้ ดิ สารเสพติดแบบเขม้ งวด แหลง ชว ยเหลอื ฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ วา มหี นว ยงาน ใดบางท่ีนกั เรยี นรจู ัก หรือจากท่ีไดทําการศึกษามา ๑. กรมคุมประพฤติ ๒. กองทพั อากาศ โดยครูรว มเสนอแนะเพม่ิ เติม และตั้งคําถามเพ่อื นาํ ไปสูขอสรปุ ท่ถี กู ตอ งรว มกนั ■ ศูนย์ฟ้ืนฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพติด ■ ศูนย์ฟนื้ ฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพตดิ ลาดหลมุ แกว้ จงั หวดั ปทมุ ธานี กองทัพอากาศ ทุ่งสีกัน กรงุ เทพมหานคร • หนวยงานหลกั ทท่ี ําหนา ทีช่ ว ยเหลอื ฟนฟู ผูต ิดสารเสพตดิ คือหนว ยงานใด ■ ศ นู ยฟ์ ้นื ฟสู มรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพติด (แนวตอบ กรมคุมประพฤติ ซ่ึงมหี นา ทีใ่ นการ อาคาร ๕๐๑๗ (Air House) กองทพั อากาศ คมุ ประพฤตทิ เ่ี กยี่ วขอ งกบั สารเสพติด และมี กรงุ เทพมหานคร ความผิดไมรายแรง โดยศาลจะสง่ั ใหถูกคุม ประพฤติ และจะตอ งรายงานตัวตอเจา หนาที่ ■ ศูนยฟ์ ื้นฟสู มรรถภาพผตู้ ิดยาเสพติด เปนระยะๆ) โรงเรยี นการบนิ จังหวัดนครปฐม • หนวยงานสนบั สนุนทีท่ ําหนา ทีช่ ว ยเหลือ ■ ศนู ย์ฟน้ื ฟูสมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพติด ฟน ฟูผูติดสารเสพติด ไดแกหนว ยงานใดบาง กองบิน ๑ จงั หวัดนครราชสมี า (แนวตอบ ไดแก สํานักงานตํารวจแหง ชาติ กรมราชทณั ฑ กรมพนิ ิจและคมุ ครองเด็ก ■ ศนู ย์ฟน้ื ฟสู มรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพติด และเยาวชน กองทัพบก กองทัพเรอื กองบิน ๒ จังหวัดลพบุรี กรมการปกครอง และกรมการแพทย) ■ ศนู ย์ฟ้ืนฟูสมรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพติด กองบนิ ๔ จงั หวดั นครสวรรค์ ■ ศนู ยฟ์ ื้นฟสู มรรถภาพผตู้ ิดยาเสพติด กองบนิ ๕ จงั หวดั ประจวบคีรขี ันธ์ ■ ศูนยฟ์ น้ื ฟูสมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพติด กองบิน ๗ จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี ■ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพตดิ กองบนิ ๒๑ จงั หวัดอบุ ลราชธานี ■ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองบิน ๒๓ จังหวัดอุดรธานี ■ ศูนย์ฟน้ื ฟสู มรรถภาพผู้ติดยาเสพติด กองบิน ๔๑ จงั หวดั เชียงใหม่ ■ ศูนย์ฟน้ื ฟูสมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพตดิ กองบนิ ๔๖ จงั หวดั พษิ ณุโลก ■ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพติด กองบนิ ๕๖ จังหวัดสงขลา ๑6๒ เกรด็ แนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET นักเรยี นจะมสี ว นรวมในชมุ ชนอยา งไร เพ่ือไมใหส ารเสพตดิ แพรระบาด ครคู วรเชญิ วิทยากรจากหนวยงานทเี่ กย่ี วของกับการชวยเหลอื ฟนฟูผูต ิด ในชมุ ชน สารเสพติดมาใหความรูแกนกั เรียน เพอื่ ใหน กั เรียนทราบถงึ ข้นั ตอนของการบําบัด แนวตอบ โดยการจดั ใหม กี ารอบรมและเผยแพรค วามรเู กยี่ วกบั โทษของ ฟน ฟผู ูต ิดสารเสพติด สารเสพตดิ ซ่ึงอาจใหบ ุคลากรหรอื เจา หนา ทส่ี าธารณสขุ ในแหลง ชุมชนน้ันๆ มาใหค วามรแู กคนในชมุ ชน นอกจากนค้ี วรใหค นในชุมชนมีสว นรว มในการ มุม IT ทํากิจกรรมตางๆ เชน จัดใหมกี ารแขง ขันกีฬาภายในชุมชน การจดั เวรยาม คอยเฝา ดูสถานการณใ นชุมชน เปนตน สามารถศึกษาเพ่มิ เตมิ เกย่ี วกับหนวยงานชว ยเหลอื ผตู ดิ สารเสพตดิ ของกรมคมุ ประพฤติ ไดจาก http://210.246.159.139/m2/probation/index.php สามารถศึกษาเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั ศนู ยฟ นฟสู มรรถภาพผตู ดิ ยาเสพตดิ กองทัพ- อากาศไดจ าก http://www.ccd.rtaf.mi.th/ccd/rehabCenter.asp 162 คูมือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู สถานบ�าบัดฟ้ืนฟูผตู้ ิดสารเสพตดิ แบบไมเ่ ขม้ งวด ครูตัง้ คําถามกระตุนการเรยี นรูข องนักเรยี นตอ โดยถามวา ๑. กองทัพบก ๒. กองทัพเรือ ๓. กรมการปกครอง ๔. กรมการแพทย์ • หนว ยงานทเ่ี กีย่ วขอ งกับสถานทเ่ี พอ่ื การ ■ ศูนย์ววิ ฒั น์พลเมอื ง ■ โรงเรยี นววิ ฒั นพ์ ลเมอื ง ■ ศูนยฟ์ ้นื ฟูสมรรถภาพ ■ สถาบนั ธญั ญารักษ์ ตรวจพิสูจนการเสพหรอื ติดสารเสพติด ศูนย์การทหารม้า กองทัพเรือ ๑ ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย จังหวัดปทมุ ธานี และการฟน ฟูสมรรถภาพผูตดิ สารเสพติด ค่ายอดิศร จงั หวัดชลบรุ ี อาสารักษาดินแดน ■ โ รงพยาบาล จําแนกไดอยา งไรบาง จังหวัดสระบุรี ■ โรงเรยี นววิ ฒั นพ์ ลเมอื ง จงั หวดั บุรรี มั ยท์ ี่ ๑ ธญั ญารกั ษข์ อนแก่น (แนวตอบ จําแนกไดดังนี้ คือ สถานบาํ บดั จังหวัดบุรีรัมย์ ฟนฟผู ตู ิดสารเสพติดแบบเขมงวด และ ■ ศนู ยว์ ิวัฒน์พลเมอื ง กองทพั เรอื ๒ จงั หวดั ขอนแกน่ สถานบาํ บดั ฟนฟูผูต ดิ สารเสพติดแบบ กองร้อยฝกึ รบพเิ ศษ จังหวดั ชลบุรี ■ ศนู ย์ฟ้นื ฟูสมรรถภาพ ■ โ รงพยาบาล ไมเ ขมงวด) ท่ี ๒ ปากชอ่ ง ■ โรงเรยี นววิ ฒั นพ์ ลเมอื ง ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย ธัญญารกั ษเ์ ชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา กองทัพเรือ ๓ อาสารักษาดินแดน จังหวัดเชยี งใหม่ • สถานบําบดั ฟนฟผู ตู ิดสารเสพติดแบบ ■ ศนู ย์ววิ ัฒน์พลเมอื ง จงั หวัดชลบุร ี จงั หวดั กาฬสินธทุ์ ่ี ๑ เขม งวด ไดแกอะไรบา ง กรมทหารพรานท ี่ ๒๖ ■ โรงเรยี นววิ ฒั นพ์ ลเมอื ง จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ ■ ศ นู ย์ฟื้นฟสู ุขภาพ (แนวตอบ กรมคมุ ประพฤติ และกองทพั คา่ ยปกั ธงชัย รตั นานุรกั ษ์ อากาศ) เรือนจา� ฐานทัพเรอื ■ ศนู ยฟ์ น้ื ฟูสมรรถภาพ จังหวดั ล�าปาง จงั หวดั นครราชสมี า สัตหบี จังหวัดชลบุรี ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย • สถานบําบัดฟนฟูผูตดิ สารเสพติดแบบ ■ ก องพลพัฒนาท ่ี ๑ อาสารกั ษาดินแดน ■ โ รงพยาบาล ไมเขมงวด ไดแกอะไรบาง จังหวดั เลยท ่ี ๒ ธญั ญารักษ์ (แนวตอบ กองทัพบก กองทัพเรอื คา่ ยสรุ ยิ วงศ์ จงั หวัดเลย แม่ฮ่องสอน กรมการปกครอง และกรมการแพทย) จังหวัดราชบรุ ี ■ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ จังหวัดแม่ฮอ่ งสอน ■ ศูนยว์ ิวฒั น์พลเมือง ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย กรมการสัตว์ทหารบก อาสารักษาดินแดน ■ โ รงพยาบาล จังหวัดเชยี งใหม่ จงั หวดั พะเยาท่ ี ๒ ธญั ญารกั ษส์ งขลา ■ ศูนยว์ ิวฒั นพ์ ลเมอื ง จังหวดั พะเยา ศูนยก์ ารทหารราบ ■ ศูนยฟ์ น้ื ฟสู มรรถภาพ จังหวัดสงขลา ค่ายธนะรชั ต์ ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย ■ โ รงพยาบาล จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ธัญญารักษ์ปัตตานี จงั หวัดปัตตานี ■ ศนู ย์ววิ ัฒนพ์ ลเมือง อาสารกั ษาดินแดน กองพลทหารราบท่ี ๙ จงั หวัดตากที ่ ๑ คา่ ยสรุ สีห ์ จงั หวัดตาก จงั หวัดกาญจนบุรี ■ ศนู ยฟ์ ื้นฟูสมรรถภาพ ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย ■ ศูนยว์ วิ ฒั นพ์ ลเมือง อาสารกั ษาดนิ แดน กองพลทหารราบที่ ๕ จงั หวัดพิษณุโลกท ่ี ๒ คา่ ยเทพสตรศี รีสุนทร จังหวัดพิษณุโลก จงั หวดั นครศรธี รรมราช ๑6๓ แนวขอสNอบTเนน Oก-าNรคETิด เกร็ดแนะครู ครอบครวั ควรมบี ทบาทและความสําคัญอยางไรตอ การฟน ฟูผูตดิ ครคู วรใหนักเรยี นศึกษาเพิม่ เตมิ เกี่ยวกบั หนว ยงานตา งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ งกบั การ สารเสพติด บาํ บัดรกั ษาและฟน ฟสู มรรถภาพผตู ดิ สารเสพตดิ โดยอาจใหนกั เรียนศึกษาจาก แนวตอบ ครอบครัวและญาติมีบทบาทและมสี ว นสําคัญในการฟน ฟูผูติด แหลง เรยี นรูอ่นื ๆ เชน หอ งสมุด อนิ เทอรเ น็ต หนวยงานทเี่ กย่ี วของโดยตรง สารเสพตดิ เพราะถือไดว า เปนการบาํ บัดทางจิตที่ใหกาํ ลงั ใจ ใหความ เปนตน เนอื่ งจากในหนังสือเรยี นของนกั เรยี นไมไ ดมีการบงบอกถึงบทบาทหนาท่ี เขาอกเขาใจ และใหค วามชว ยเหลือในการจดั สภาพแวดลอมในครอบครวั ของหนว ยงานตางๆ ไว นกั เรยี นจงึ สามารถรับรูไ ดเพยี งแคช ่ือของหนว ยงานเทานั้น ใหเกดิ บรรยากาศทีด่ ี มคี วามปลอดภัย มุม IT สามารถศกึ ษาเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกับสถานบาํ บัดฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ จากหนว ยงาน กรมการแพทย ไดจ าก http://www.dms.moph.go.th/dmsweb/index.php คูมอื ครู 163
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครูสมุ นกั เรียน 2-3 กลุม ออกมานําเสนอเรอ่ื ง ๑. กองทพั บก สถานบ�าบดั ฟ้ืนฟูผู้ติดสารเสพติดแบบไมเ่ ข้มงวด ๔. กรมการแพทย์ แหลงชวยเหลือฟนฟผู ตู ิดสารเสพตดิ โดยหลงั จาก ทนี่ ักเรยี นแตล ะกลุม นาํ เสนอเสร็จสนิ้ ครูใหน กั เรยี น ๒. กองทพั เรอื ๓. กรมการปกครอง รวมกันแสดงความคดิ เหน็ วา แหลง ชวยเหลือฟนฟู ผตู ดิ สารเสพติดนั้น มคี วามสาํ คัญอยางไรมปี ระโยชน ■ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ ตอ ผูต ิดสารเสพตดิ อยางไรบาง จากนั้นครสู รปุ ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย สาระสําคัญ โดยอธบิ ายเพิม่ เติมวา ผูท่ีตดิ สารเสพติด อาสารกั ษาดนิ แดน มโี อกาสท่ีจะรกั ษาใหหายขาดได ถา หากมคี วามต้ังใจ จงั หวดั อุทัยธานที ่ี ๑ ซงึ่ ผูที่จะเขา รับการบําบัดรกั ษาจะตอ งอยูรักษาตาม ■ ศนู ยฟ์ นื้ ฟูสมรรถภาพ กฎของสถานบําบัดรักษานัน้ ๆ ซึ่งบางหนวยงานหรอื ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย แหลงความชว ยเหลอื ตา งๆ จะมีวิธบี าํ บัดรกั ษา บังคับการและบริการ ที่แตกตา งกนั ออกไป โดยบางแหงจะตองใหผปู วย สว่ นแยกชะอ�า รักษาอยูในโรงพยาบาลหรือสถานบําบัดนั้นๆ ตลอด จังหวัดเพชรบรุ ี เวลาทีจ่ ะใหก ารบาํ บดั รกั ษา แตในบางแหง อาจให ■ ศนู ยฟ์ น้ื ฟูสมรรถภาพ ผปู ว ยเดนิ ทางมารบั ประทานยาตอ หนา เจา หนา ท่ี ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย ทรี่ บั ผดิ ชอบทกุ วัน สาํ หรบั ในเขตกรงุ เทพมหานครนัน้ อาสารักษาดินแดน สถานทีใ่ หก ารบําบัดรกั ษาจะมีต้งั แตศูนยบริการ จงั หวดั นครศรธี รรมราช สาธารณสขุ โรงพยาบาลของรฐั และโรงพยาบาล ท ี่ ๑ ของเอกชนทกุ แหง สวนในตา งจงั หวดั จะใหบรกิ าร จงั หวดั นครศรธี รรมราช บาํ บดั รักษาผูปว ยที่ติดสารเสพติดอยูแลว ไมวา จะ ■ ศูนยฟ์ ้ืนฟูสมรรถภาพ เปนโรงพยาบาลของรฐั หรอื เอกชน ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ กองรอ้ ย อาสารักษาดนิ แดน จังหวดั นราธิวาสท่ ี ๑ จงั หวัดนราธิวาส ปัจจุบันหน่วยงานหลายแห่งของทางราชการได้เข้ามามีบทบาทช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพติดให้แก่สังคม (จากภาพ) ศนู ย์ฟน้ื ฟูสมรรถภาพฯ กองบิน ๔๖ กองทัพอากาศ ๑64 เกร็ดแนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET จากสถานการณก ารแพรร ะบาดสารเสพติดในปจจบุ ัน นักเรยี นคิดวา ครสู ามารถใหน กั เรียนชมวดี ทิ ศั นเ ร่ือง แหลงชว ยเหลอื ฟนฟูผูต ดิ สารเสพติด ควรมมี าตรการใดท่จี ะชว ยปองกนั การแพรระบาดของสารเสพติดไดดีที่สุด โดยอาจยกตวั อยา งหนวยงานมา 1 หนว ยงาน และใหนักเรียนรวมกนั อภิปราย แนวตอบ สง่ิ ทส่ี ามารถชวยปอ งกนั การแพรระบาดของสารเสพติดไดด ีท่ีสดุ เพือ่ หาแนวทางปองกนั คนในชมุ ชนของนักเรียนใหหา งไกลจากสารเสพติด เพื่อให คอื การคอยสอดสอ งดแู ล ตกั เตือนเพอื่ น แจงครู ผปู กครอง หรือเจา หนาที่ นกั เรียนเกิดความตระหนักและเกิดความกลัวตอ การเขาไปบําบดั รกั ษาฟน ฟูจาก ใหร ับทราบ และไมเ ขาไปยงุ เกี่ยวกับสารเสพตดิ โดยเดด็ ขาด หนว ยงานดงั กลา ว หากนักเรียนหรอื บคุ คลในครอบครัวของนกั เรยี นมีโอกาสเส่ยี ง ตอการติดสารเสพติด 164 คูม ือครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขาใา จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Evaluate Expand Expand ขยายความเขา ใจ เสริมสาระ ใหน ักเรยี นศกึ ษาเพมิ่ เตมิ เรอ่ื ง พระราชบญั ญตั ิ ฟนฟูสมรรถภาพผตู ิดยาเสพตดิ พ.ศ. 2545 จาก พระราชบัญญัติฟ้ืนฟสู มรรถภาพผ้ตู ดิ ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕4๕ เสริมสาระ จากนั้นใหน ักเรยี นรวมกนั วเิ คราะหแ ละ อภิปรายวา พระราชบัญญตั ดิ งั กลา วนนั้ มปี ระโยชน ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ มีแนวทางไว้ว่า ผู้ใดต้องหาว่ากระท�าความผิด ตอ ผูต ิดสารเสพติดมากนอ ยเพยี งใด และวิจารณ ฐานเสพยาเสพตดิ ทางราชการจะกา� หนดวธิ กี ารฟน้ื ฟสู มรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพตดิ ให ้ ซง่ึ จะขอสรปุ สาระสา� คญั ในบางมาตรา ขอ ดี-ขอเสยี ของพระราชบญั ญตั ิดงั กลาว มานา� เสนอ ดังนี้ วินิจฉัยว่าผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน1์เป็น มาตรา ๒๒ เมื่อคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จากน้ันใหนักเรยี นคดิ คาํ ขวัญการตอ ตาน สารเสพตดิ มาคนละอยา งนอ ย 2 คาํ ขวญั พรอ มทง้ั ผู้ตดิ ยาเสพตดิ ให้จดั แผนการฟน้ื ฟูสมรรถภาพให้ผูน้ ้ัน และแจ้งผลการตรวจพสิ ูจนใ์ ห้พนกั งานอัยการทราบ บอกแนวคิดของคําขวญั นั้นๆ มาตรา ๒๕ ผเู้ ขา้ รับการฟ้ืนฟตู ้องอยู่รับการฟื้นฟสู มรรถภาพเป็นเวลาไม่เกิน ๖ เดือน ในกรณีท่ีปรากฏว่าผลการฟื้นฟูยังไม่เป็นที่พอใจแก่คณะอนุกรรมการฯ ให้พิจารณาขยายระยะเวลาฟื้นฟู ออกไปได้ครั้งละไม่เกิน ๖ เดือน แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน ๓ ปี นับแต่วันถูกส่งตัว หรือลดระยะเวลาการฟื้นฟูลง ตามท่ีเหน็ สมควร มาตรา ๒9 ระหว่างการตรวจพิสูจน์หรือการฟื้นฟู ถ้าผู้เข้ารับการฟื้นฟูหลบหนีจากการควบคุมหรือหลบหนี จากเขต ศูนย์ สถานทฟ่ี นื้ ฟูสมรรถภาพ ใหถ้ อื วา่ หนีการคมุ ขัง เจ้าหนา้ ท่ีมอี �านาจออกตดิ ตามจบั กมุ ได ้ มาตรา ๓๐ ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์หรือผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดต้องปฏิบัติตามระเบียบ และเงอื่ นไขตา่ งๆ ทก่ี า� หนดไว้โดยเครง่ ครดั มาตรา ๓๑ ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์หรือผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพท่ีได้รับการปล่อยชั่วคราวไม่ปฏิบัติตาม หรอื ฝา่ ฝืนระเบียบ เง่อื นไข ข้อบังคับทก่ี �าหนด เจ้าหน้าที่สามารถจบั ตัวกลบั เขา้ ไวใ้ นศูนยฟ์ ้นื ฟูได้โดยมิตอ้ งมีหมาย มาตรา ๓๒ ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์หรือผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพฝ่าฝืนมาตรา ๓๐ ให้ผู้มีอ�านาจลงโทษ สถานหน่งึ หรอื หลายสถาน ดงั ตอ่ ไปน ี้ ๑. ภาคทณั ฑ ์ ๒. ตัดการอนุญาตใหร้ ับการเยยี่ มหรือการติดตอ่ ไม่เกิน ๓ เดอื น ๓. จัดใหอ้ ยเู่ ดี่ยวครัง้ ละไมเ่ กิน ๑๐ วนั กรณีการลงโทษบุคคลซึ่งเป็นผู้ท่ีมีอายุไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์ ให้น�ามาตรการตามกฎหมายว่าด้วยการจัดต้ัง ศาลเยาวชนและครอบครวั และวิธีพจิ ารณาคดเี ยาวชนและครอบครวั มาใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม ที่มา : ส�านักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สารเสพติดถือเปนภัยรายแรงของสังคม รัฐบาลจึงไดประกาศใชพระราชบัญญัติฟนฟู สมรรถภาพผูติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งทําใหผูติดสารเสพติดไดรับการปฏิบัติเสมือนเปน ผูปวยท่ีตองเขารับการรักษา เพื่อใหสามารถกลับไปดําเนินชีวิตตามปกติรวมกับคนทั่วไปได ดังนั้น เราทุกคนในสังคมจึงควรมอบโอกาสใหผูหลงผิดไดกลับเนื้อกลับตัวเปนคนดี เพื่อจะไดมี บคุ ลากรทมี่ ศี กั ยภาพมาชว ยกนั พฒั นาประเทศชาตติ อ ไป ขณะเดยี วกนั กส็ กดั การขยายตวั ของวงจร การแพรร ะบาดของสารเสพตดิ ดว ย ทงั้ นผ้ี ปู ระสงคข อรบั การบาํ บดั ฟน ฟสู มรรถภาพ สามารถตดิ ตอ ขอรับความชวยเหลือจากหนวยงานตางๆ ของรัฐไดท่ัวประเทศ โดยไมเสียคาใชจาย ซ่ึงจะมีวิธี การบําบัดชวยเหลือในหลายรูปแบบ โดยผูติดสารเสพติดจะตองใหความรวมมือในการเลิกเสพ สารเสพติดดวย ๑6๕ แนวขอสNอบTเนน Oก-าNรคETดิ นกั เรยี นควรรู ขอใดไมใช สิง่ ทค่ี าดหวังใหเ กดิ ประโยชนของพระราชบัญญัตฟิ นฟู 1 ตรวจพสิ จู น สถาบันธญั ญารกั ษเปนหนวยงานที่ใหบริการดา นการตรวจพสิ จู น สมรรถภาพผตู ดิ ยาเสพติด พ.ศ. 2545 สารเสพติดและวตั ถุออกฤทธต์ิ อ จิตประสาทแกหนวยงานหรือบคุ คลตา งๆ เชน โรงพยาบาลเอกชน บรษิ ทั โรงงาน นกั ศกึ ษา ผตู อ งหา เปนตน โดยใหบ รกิ าร 1. ลดปญหาอาชญากรรม ทง้ั ในและนอกสถานท่ี 2. ชว ยลดปญหาผตู องโทษลน เรือนจํา 3. ชว ยเพ่ิมงบประมาณในหนวยงานทดี่ ูแล มมุ IT 4. ใหโอกาสผูต ิดสารเสพติดไดก ลับตวั เปนคนดี วิเคราะหค ําตอบ พระราชบญั ญตั ฟิ น ฟูสมรรถภาพผูตดิ ยาเสพตดิ สามารถศกึ ษาเพ่มิ เตมิ เก่ียวกับพระราชบญั ญัติฟน ฟสู มรรถภาพผตู ดิ ยาเสพตดิ พ.ศ. 2545 มแี นวทางปฏบิ ตั ิท่ีคาดหวังใหเกดิ ประโยชนหลายดา น ไดแ ก พ.ศ. 2545 ไดจาก http://www.Thailawtoday.com/component/content/392. เพ่ือใหโ อกาสผูตดิ สารเสพตดิ ไดก ลบั ตวั เปนคนดี โดยไมม ปี ระวัตดิ างพรอย html?task=view สงผลดีตอสขุ ภาพของผเู สพ ลดการสูญเสยี ทรัพยากรมรุษย ลดปญ หา อาชญากรรม และปญหาผตู อ งโทษลน เรือนจาํ ตอบขอ 3. คมู ือครู 165
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล Engage Explore Explain Expand Evaluate ตรวจสอบผล Evaluate 1. การจดั นทิ รรศการเกย่ี วกบั ภยั ของสารเสพติด คา� ถาม ประจ�าหนว่ ยการเรยี นรู้ 2. การจดั ทํารายงานเรื่อง วธิ กี ารบําบัดฟน ฟผู ตู ิด ๑. นักเรียนรู้สึกอย่างไรบ้างที่ปัจจุบันสังคมไทยมีการแพร่ระบาดสารเสพติดขยายเป็นวงกว้างท่ียาก สารเสพตดิ ต่อการแก้ไขปัญหา 3. การคิดคาํ ขวญั ตอ ตา นสารเสพติด ๒. หากนกั เรยี นไดพ้ บปะพดู คยุ กบั ผตู้ ดิ สารเสพตดิ ในสถานบา� บดั แหง่ หนง่ึ นกั เรยี นควรปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู จึงจะทา� ใหผ้ ูต้ ดิ สารเสพติดร้สู กึ ว่าตนเองยงั มีคุณค่าต่อสงั คม 1. นทิ รรศการเก่ียวกับภยั ของสารเสพตดิ ๓. นกั เรยี นคดิ วา่ การบา� บดั ฟนื้ ฟผู ตู้ ดิ สารเสพตดิ รปู แบบใดสามารถชว่ ยเหลอื ผตู้ ดิ สารเสพตดิ ไดม้ ากทสี่ ดุ 2. รายงานเรื่อง วธิ กี ารบาํ บัดฟนฟูผตู ิดสารเสพตดิ ซงึ่ จะกอ่ ให้เกดิ ผลดีต่อตวั ผ้เู สพ ครอบครวั และสงั คม ๔. หากนักเรียนมีโอกาสช่วยเหลือสังคมให้ห่างไกลจากสารเสพติด นักเรียนจะมีวิธีการช่วยเหลือ ไดอ้ ย่างไรบ้าง จงยกตวั อยา่ ง ๕. นกั เรยี นเคยมสี ่วนรว่ มในการรณรงค์ตอ่ ตา้ นสารเสพตดิ หรอื ไม ่ อย่างไร กจิ กรรม สรา้ งสรรคพ์ ฒั นาการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี ๑ นักเรยี นหาขา่ วเพอ่ื จัดปา้ ยนเิ ทศนา� เสนอในชน้ั เรียน ดังนี้ ■ การแพร่ระบาดของสารเสพติดในประเทศไทย กจิ กรรมท่ี ๒ ■ เยาวชนกับสารเสพตดิ กิจกรรมท่ี ๓ ■ โครงการตอ่ ตา้ นสารเสพติด นกั เรียนสบื คน้ ขอ้ มูลวิธีการให้ความชว่ ยเหลือผตู้ ิดสารเสพตดิ รวมท้ังแหล่งขอความ ชว่ ยเหลอื ทอ่ี ยู่ในพนื้ ท่ีใกลเ้ คยี ง จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ แลว้ นา� มาอภปิ รายรว่ มกนั ในช้ันเรยี น นักเรียนร่วมกันจัดป้ายนิเทศในหัวข้อ “ภัยของสารเสพติด” ในบริเวณพื้นท่ีท่ีจัดไว้ รวมทง้ั ทา� ปา้ ยแนะนา� วธิ กี ารและขน้ั ตอนการไปขอรบั ความชว่ ยเหลอื ฟน้ื ฟสู มรรถภาพ ผตู้ ิดสารเสพตดิ จากหน่วยงานของรฐั ทอี่ ยู่ในพ้ืนท่หี รอื พ้ืนที่ใกล้เคยี ง ๑66 แนวตอบ คาํ ถามประจาํ หนวยการเรยี นรู 1. ขนึ้ อยูก ับคาํ ตอบของนักเรียน โดยอาจตอบวา การแพรร ะบาดของสารเสพตดิ ในปจ จุบันสงผลใหสงั คมไทยเกดิ ปญหาตา งๆ เชน ปญ หาเศรษฐกิจทร่ี ฐั จะตองจัดสรร งบประมาณในการบําบัดรักษาผูติดสารเสพติด ปญ หาอาชญากรรมทพ่ี บมาก คือ การจบั ตัวประกนั การฆาตกรรม การชงิ ทรพั ย ฯลฯ ซ่งึ ปญ หาเหลา น้ียอ มสง ผลให สังคมไทยเกิดความเส่ือมโทรมหรอื เสอ่ื มถอยลงไปมาก 2. ควรใหกําลงั ใจผตู ิดสารเสพตดิ และชวนพดู คยุ ในเรื่องทั่วไปทท่ี าํ ใหเ ขารูส กึ สบายใจ ไมเครยี ด ไมฟุงซาน และอาจชักชวนใหเ ขาทาํ กจิ กรรมบาํ บดั ตา งๆ เชน การทํา กจิ กรรมที่ตนเองชนื่ ชอบ การรอ งเพลง การเลนกฬี า เปนตน 3. ขนึ้ อยกู บั คาํ ตอบของนักเรียน โดยอาจตอบวา การบาํ บดั ฟน ฟูผตู ิดสารเสพติดทกุ รูปแบบนั้นจะมีวธิ ีการชว ยเหลอื ทีแ่ ตกตา งกันไป แตท ี่เหมือนกันคอื ชว ยใหผูตดิ สารเสพติดสามารถเลกิ เสพสารเสพตดิ ไดและไมเขาไปยุงเก่ียวอกี ทง้ั น้ตี ัวผูต ดิ สารเสพติดเองจะตองใหค วามรวมมือในการเขา รบั การบาํ บัด และครอบครวั ก็มีสวนสําคญั โดยการใหกาํ ลังใจและดูแลผตู ดิ สารเสพติดอยา งใกลช ิด 4. ขึน้ อยกู บั คาํ ตอบของนกั เรยี น โดยอาจตอบวา รวมรณรงคตอ ตา นสารเสพตดิ โดยการสอดสอ งในชมุ ชนของตนเอง หากพบวามีเหตกุ ารณทไ่ี มนาไววางใจ เชน มกี าร ซอื้ ขายสารเสพติด มัว่ สุมเสพสารเสพตดิ เปน ตน ใหร ีบแจง ตํารวจหรอื หนว ยงานทเี่ ก่ยี วของโดยเร็ว 5. ข้นึ อยกู ับคาํ ตอบของนักเรียน โดยนักเรียนสามารถแสดงความคิดเหน็ ไดอ ยา งอิสระ 166 คูม อื ครู
กกรระตะตนุ้ E้นุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate เปา หมายการเรียนรู 1. อธิบายวิธีการหลกี เลยี่ งพฤติกรรมเสีย่ งและ สถานการณเ ส่ียงได 2. ใชทักษะชวี ิตในการปองกนั ตนเองและ หลกี เลย่ี งสถานการณค ับขันทีอ่ าจนําไปสู อนั ตรายได สมรรถนะของผูเ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค 1. มีวินยั 2. มงุ มน่ั ในการทํางาน ๑๐หนว่ ยที่ การหลีกเล่ยี งพฤตกิ รรมเส่ียง กระตนุ้ ความสนใจ Engage และสถานการณเ์ สีย่ งต่ออันตราย ใหนกั เรยี นดูคลปิ วดิ ีโอพฤติกรรมเสย่ี งที่กอ ตวั ชีว้ ัด การหลีกเล่ียงจากพฤติกรรมเส่ียงและ ใหเ กิดอันตรายตางๆ เชน การทะเลาะววิ าท การเลน การพนนั การมวั่ สุมดมื่ เครอ่ื งด่มื ท่ีมี ■ อธบิ ายวธิ ีการหลีกเลีย่ งพฤตกิ รรมเสยี่ งและสถานการณเ์ ส่ยี ง สถานการณเ สย่ี งตา งๆ จะชว ยใหเ ราสามารถ แอลกอฮอล การแขงรถจกั รยานยนตบ นทองถนน (พ ๕.๑ ม.๒/๒) เปน ตน จากน้ันครูตง้ั คาํ ถามกระตนุ ความสนใจ ■ ใชท้ ักษะชวี ติ ในการป้องกนั ตนเองและหลกี เลี่ยงสถานการณ์ โดยนกั เรียนสามารถแสดงความคิดเหน็ ได คบั ขันทีอ่ าจนำาไปสูอ่ นั ตราย (พ ๕.๑ ม.๒/๓) รอดพนจากอันตรายท่ีอาจเกิดข้ึนได ซ่ึงวิธี อยางอิสระ การหลีกเล่ยี งน้นั สามารถทําไดหลายวิธี เชน สาระการเรยี นรู้แกนกลาง การเลอื กคบเพอ่ื นดี อยใู นสง่ิ แวดลอ มทเ่ี หมาะสม • นกั เรยี นเคยมพี ฤติกรรมดงั กลา วหรอื ไม ■ การหลกี เลีย่ งพฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณ์เสีย่ ง • นักเรยี นคิดวา พฤตกิ รรมดังกลาว กอให - การมว่ั สมุ มที กั ษะชวี ติ ในการปอ งกนั ตนเอง เปน ตน ซง่ึ ถา - การทะเลาะวิวาท หากปฏิบัติไดดังกลาวจะทําใหเราสามารถใชชีวิต เกดิ อนั ตราย หรือผลกระทบตอ สุขภาพ - การเขา้ ไปในแหลง่ อบายมุข ไดห รอื ไม อยา งไร - การแขง่ รถจักรยานยนต์บนท้องถนน อยา งไมป ระมาท และมคี วามสขุ • นกั เรยี นมีวิธกี ารหลีกเลี่ยงพฤตกิ รรม ดังกลาวอยา งไรบา ง ฯลฯ ■ ทักษะชีวิตในการป้องกนั ตนเอง (ทักษะปฏิเสธ ทักษะการต่อรอง เป็นต้น) และหลีกเลี่ยง สถานการณ์คับขนั ทอ่ี าจนาำ ไปสอู่ ันตราย บบี Leading ไว เกร็ดแนะครู ครคู วรใหน กั เรียนไดเรยี นรวู ิธีการหลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณ เสี่ยงตา งๆ รวมทั้งทกั ษะชวี ิตเพ่อื ปอ งกันตนเอง เน่ืองจากปจ จบุ นั วยั รนุ จะมี พฤตกิ รรมเสี่ยงหรอื นาํ ตนเองไปอยใู นสถานการณเส่ยี งทเ่ี ปนอันตรายตอตนเอง ซึ่งการกระทําเหลานนั้ นอกจากจะมีผลตอ สวสั ดภิ าพของตนเองแลว ยังกอใหเกิด ความเดือดรอน ความราํ คาญ และความเสียหายตอ ทรพั ยสนิ รวมทงั้ ชีวติ ของ บคุ คลอน่ื ดว ย คู่มือครู 167
กกรระตะตนุ้ Eนุ้ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสา� �ารรEวxวpจจloคคrน้eน้ หหาา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Evaluate Engage Explore กระตนุ้ ความสนใจ Engage ครตู งั้ คาํ ถามกระตนุ ความสนใจ โดยนกั เรยี น ปัจจุบันมีเยาวชนจ�านวนมากมีพฤติกรรมเส่ียงท่ีเป็นอันตรายต่อตนเอง และสร้างความ สามารถแสดงความคดิ เห็นไดอยา งอิสระ เดือดร้อนให้กับสังคม การเรียนรู้วิธีการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเส่ียงและสถานการณ์เสี่ยงรวมท้ัง การใชท้ กั ษะชวี ติ ในการปอ้ งกนั ตนเอง จะชว่ ยใหเ้ ราใชช้ วี ติ ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั อกี ทง้ั ไมเ่ ปน็ การสรา้ ง • นกั เรยี นคดิ วา พฤตกิ รรมเส่ียงของวยั รนุ ความเดือดรอ้ นใหแ้ กส่ งั คมอีกดว้ ย ในชมุ ชนทน่ี ักเรยี นอาศัยอยู มอี ะไรบาง และ คนในชุมชนหาแนวทางแกป ญ หาดงั กลาว ๑. การหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเสย่ี งและสถานการณเ์ สยี่ งตอ่ อนั ตราย ไดอยา งไร พฤตกิ รรมเสยี่ ง เปน็ การกระทา� พฤตกิ รรมทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความเสย่ี งตอ่ การดา� เนนิ ชวี ติ อาจทา� ให้ (แนวตอบ ขึน้ อยกู บั คําตอบของนกั เรยี นโดย รา่ งกายเปน็ อันตราย สญู เสยี หน้าที่ ขาดโอกาสพัฒนาตามปกต ิ พิการ หรือเสยี ชวี ิต นักเรียนสามารถแสดงความคดิ เห็นไดอยา ง อิสระ) สถานการณเ์ สย่ี ง คอื สถานการณต์ า่ งๆ ทง้ั ทเี่ กดิ จากตวั บคุ คลโดยการเขา้ ไปอยหู่ รอื เกยี่ วขอ้ ง ในเหตุการณ์ หรือเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ส่งผลให้น�าไปสู่การเกิดอันตราย ความไม่ปลอดภัย • ยกตวั อยางสถานการณเสย่ี งทีเ่ ปน อันตราย ตอ่ สขุ ภาพ ชีวติ และทรพั ย์สนิ ตอ ตนเอง ปจั จบุ นั เยาวชนไทยมพี ฤตกิ รรมเสย่ี งหลายประการ ตวั อยา่ งพฤตกิ รรมเสยี่ งและสถานการณ์ (แนวตอบ ข้ึนอยกู บั คาํ ตอบของนกั เรยี น โดย เสี่ยงต่ออันตรายทีน่ า่ สนใจ มีดังนี้ อาจตอบวา การมัว่ สมุ การทะเลาะววิ าท การแขงขนั รถจกั รยานยนตบนทองถนน 1.1 การมวั่ สมุ การเขาไปในแหลง อบายมขุ ) แ ละคปณุ จั ภจาบุ พนั ชมีวเี ติย1ขาวอชงนตไนท ยซจ่งึ า�จนะขวนอไกมลน่ ่าอ้วถยนึงกยิ ามรรมวัว่มสตุมวั ทกนี่กั า�มลวั่ ังสเมุปทน็ า�ปกัญจิ หกรารอมยทา่ งมี่ มผี าลกก รดะงัทนบี้ ตอ่ สขุ ภาพ สา� รวจคน้ หา Explore ๑) การมว่ั สมุ ในทสี่ าธารณะ ปจั จบุ นั เรามกั จะพบวยั รนุ่ หรอื เยาวชนไทยมพี ฤตกิ รรม ใหน ักเรียนแบง กลุมออกเปน 5 กลมุ แลวสง ตวั แทนออกมาจบั สลากเลอื กประเด็นในการศึกษา การม่ัวสุมในทสี่ าธารณะเปน็ จา� นวนมาก เช่น ราวสะพาน ปัมน้า� มนั เป็นต้น ซ่งึ วัยรนุ่ กล่มุ น้ีมกั จะ เรื่อง การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสยี่ งและสถานการณ หาโอกาสนัดเจอกัน หรือบางรายอาจมีการแสดงออกด้านความรักอย่างเปิดเผย ซ่ึงพฤติกรรม เสีย่ งตอ อนั ตราย จากหนงั สอื เรียน โดยมีประเด็น ดังกล่าวเปน็ พฤติกรรมท่ไี ม่เหมาะสม และอาจก่อใหเ้ กดิ ปญั หาตา่ งๆ ตามมาได้ ในการศึกษา ดงั ตอ ไปนี้ ผลกระทบของการมัว่ สุมในท่ีสาธารณะ • การมัว่ สมุ • การกอเหตทุ ะเลาะววิ าท ๑. เสย่ี งตอ่ การเกดิ อาชญากรรมตา่ งๆ เชน่ ลกั ขโมย การถกู • การเขาไปยังแหลง อบายมุข ท�ารา้ ย การถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ เปน็ ตน้ • การแขง ขันรถจกั รยานยนตบ นทอ งถนน • ภัยจากฝูงชน ๒. อาจน�าไปสู่วงจรการขายสารเสพติดได้ เพราะเพื่อนใน กลมุ่ อาจชกั ชวนให้เสพสารเสพติด การรวมกลุ่มทำากิจกรรมที่สร้างสรรค์ จะช่วย ๓. มสี ัมพนั ธภาพกับบคุ คลในครอบครวั ไมด่ ี เพราะมักจะให้ ให้วัยรุ่นสามารถหลีกเล่ียงจากสถานการณ์ ความสนใจกบั เพือ่ นมากกว่าครอบครัว การมว่ั สุมในท่สี าธารณะต่างๆ ได้ ๔. อ าจก่อเหตุทะเลาะวิวาทขึ้นมาได้ สร้างความเดือดร้อน ความรา� คาญให้กบั ผู้อน่ื 168 เกรด็ แนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET บุคคลใดมพี ฤตกิ รรมเสยี่ งมากทสี่ ดุ ครอู าจใหนกั เรยี นออกมาเลา ประสบการณท ีเ่ คยพบเหน็ หรือไดยนิ เก่ียวกับบคุ คล 1. วัยรนุ ที่ชอบกระทําพฤตกิ รรมเสี่ยงหรือเขาไปอยใู นสถานการณเ ส่ียงตออนั ตรายวากอให 2. วัยเดก็ เกิดผลกระทบตอตนเอง ครอบครัว และสงั คมอยา งไร 3. วยั ชรา 4. วยั ผูใ หญ นักเรียนควรรู วเิ คราะหคําตอบ บุคคลทม่ี พี ฤตกิ รรมเสย่ี งมากท่สี ดุ คอื กลมุ วยั รนุ เนอ่ื งจากเปน วยั ท่มี กี ารเปล่ยี นแปลงอยา งมากในทกุ ๆ ดา น มคี วาม 1 คณุ ภาพชีวิต การพฒั นาคุณภาพชีวิตเปน การพัฒนาตนเองเพ่อื ใหมชี ีวิต คกึ คะนอง อยากรู อยากลอง และยงั ไมมีวุฒิภาวะเพยี งพอ จงึ อาจ ความเปน อยทู ดี่ ขี น้ึ ปรบั ปรงุ การดาํ เนนิ ชวี ติ ใหส อดคลอ งและรองรบั การเปลยี่ นแปลง ถกู ชกั ชวนหรือหลอกใหก ระทาํ พฤติกรรมเสย่ี ง หรอื เขา ไปอยใู น ทจี่ ะเกดิ ข้ึนในอนาคต เชน การใหค วามสําคญั กบั สุขภาพกายและสุขภาพจติ การใช สถานการณเสย่ี งได ตอบขอ 1. เวลาวางบําเพญ็ ประโยชนเ พือ่ สังคม การเพ่ิมพนู ความรู ทักษะและประสบการณ ในดา นตา งๆ เปนตน 168 ค่มู อื ครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู้ ๒) การมวั่ สมุ เสพสารเสพตดิ ปจั จบุ นั มกี ารรณรงคป์ อ้ งกนั และปราบปรามสารเสพตดิ ใหนักเรยี นกลมุ ทจี่ ับสลากไดประเด็น การมว่ั สมุ ออกมานําเสนอ โดยครแู ละนกั เรยี น อย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีเยาวชนจ�านวนไม่น้อยท่ีตกเป็นทาสของสารเสพติด อันเน่ืองมาจากปัญหา กลุม อน่ื ๆ รวมกนั เสนอแนะเพมิ่ เตมิ แลว ครอบครัว อย่ใู นสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ต็มไปด้วยสารเสพตดิ และความอยากรอู้ ยากลอง จงึ ถูกชกั จงู ตั้งคาํ ถามเพ่ือนําไปสูขอสรุปทถี่ กู ตองรว มกนั ไปร่วมมว่ั สุมเสพสารเสพตดิ ได้งา่ ย • การมั่วสมุ กบั การสงั สรรคต างกนั อยา งไร ผลกระทบของการมวั่ สมุ เสพสารเสพตดิ (แนวตอบ การมั่วสมุ จะใชกบั การรวมกลมุ ๑. ส ขุ ภาพรา่ งกายออ่ นแอ มภี มู ติ า้ นทานตา่� จงึ เจบ็ ปว่ ย1ไดง้ า่ ย ของบุคคลเพือ่ ประกอบกจิ กรรมทไ่ี มดีงาม และกอใหเกิดโทษตอ ตนเองและผอู น่ื รวมถงึ ๒. การใช้เขม็ ฉีดยารว่ มกบั ผอู้ นื่ อาจทา� ใหต้ ิดโรคเอดส์ได้ ครอบครวั และญาตมิ ิตร เชน การมัว่ สุมเสพ ๓. สารเสพติดหลายชนิด ท�าให้ผู้เสพไม่สามารถครองสติได ้ สารเสพตดิ การมัว่ สุมเลน การพนนั สวนการ สังสรรคน น้ั จะใชสําหรบั การรวมกลมุ ของ จึงอาจนา� ไปสกู่ ารถูกลว่ งละเมดิ ทางเพศ หรอื อบุ ตั เิ หตุ บุคคลเพื่อทาํ กจิ กรรมท่ดี งี ามและมีคณุ คา ๔. อ ารมณ์และจิตใจไม่ปกติ ฟุ้งซ่าน วิตกกังวล และอาจ เชน การพบปะสงั สรรครบั ประทานอาหาร รว มกันเนอื่ งในวนั คลายวันเกิดเพ่ือน งานคืน คลุ้มคลั่งทา� ร้ายผู้อื่น สูเหยาของสถาบันการศึกษาตา งๆ เปน ตน) ๕. กอ่ อาชญากรรม เชน่ การลกั ขโมย การทา� รา้ ยผอู้ นื่ เปน็ ตน้ • การม่วั สมุ เสพสารเสพตดิ สง ผลกระทบตอ เยาวชนควรใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน ์ วัยรุนอยางไรบาง เพราะเป็นวิธีหน่ึงท่ีช่วยให้ห่างไกลจาก (แนวตอบ รา งกายออ นแอและมภี มู ติ า นทานตาํ่ สารเสพตดิ ได้ จึงเจ็บปวยไดง า ย อารมณและจิตใจไมป กติ ฟุงซาน ผลการเรียนตกต่าํ และอาจนาํ ไปสู ๓) การม่ัวสุมเล่นการพนัน โดยเฉพาะการเล่นพนันฟุตบอล ซ่ึงระบาดไปสู่วัยรุ่น การกออาชญากรรมตางๆ ได เชน การลกั ขโมยของ การทํารา ยผอู ืน่ เปน ตน ) ไดง้ า่ ย เพราะฟตุ บอลเปน็ กฬี าทว่ี ยั รนุ่ ชน่ื ชอบ ทา� ใหว้ ยั รนุ่ บางคนทอี่ าจเรม่ิ ตน้ เลน่ การพนนั ฟตุ บอล คดิ ว่าเลน่ เพอ่ื ความสนกุ สนาน แตใ่ นทสี่ ดุ กจ็ ะถลา� ลึกลงไป และอาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบทร่ี า้ ยแรง • การมว่ั สุมเลน การพนัน สง ผลกระทบตอ ตามมา วยั รนุ อยา งไรบา ง (แนวตอบ ผลการเรียนตกต่ํา นําไปสูการเปน ผลกระทบของการมั่วสมุ เลน่ การพนนั ผูข ายสารเสพตดิ และกอคดีอาชญากรรม เพราะตองการหาเงินมาใชหน้หี รือเลน ๑. ผลการเรียนตกต�่า เพราะไม่มีสมาธิอ่านหนังสือหรือ การพนนั บางรายอาจเกิดความเครียด ทบทวนบทเรยี น สมาธจิ ะไปจดจอ่ กบั การหาขอ้ มลู มาเลน่ จนนําไปสกู ารฆาตวั ตาย) การพนัน การดูกีฬาฟุตบอลให้เกิดประโยชน์ จะต้องดู ๒. น �าไปสู่การเป็นผู้ขายสารเสพติดหรือค้าประเวณี เพื่อ เพ่ือการศึกษา เพื่อความบันเทิง สนุกสนาน ตอ้ งการหาเงินมาใช้หน้ีพนนั โดยไมม่ กี ารพนันเขา้ มาเกี่ยวขอ้ ง ๓. ท า� ใหเ้ กิดคดีอาชญากรรม เช่น ปลน้ จ ี้ ลกั ขโมย ว่งิ ราว ฉ้อโกง เป็นตน้ ๔. ห ากเปน็ หน ้ี เม่ือถงึ ก�าหนดแล้วไม่ช�าระหน้ี จะถกู ตามล่า จากเจ้าหนี้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือบุคคลใน ครอบครัว 169 แนวขอสNอบTเนน Oก-าNรคETิด นักเรียนควรรู บุคคลในขอใดมพี ฤตกิ รรมเสี่ยงตอ อนั ตราย 1 โรคเอดส สาเหตุเกิดจากการตดิ เชื้อและการแพรก ระจายของเช้ือไวรสั 1. ออมไปเรยี นดนตรไี ทยทกุ วันอาทิตย เอชไอวี ซ่ึงอยูในสารคดั หล่ังของผปู ว ย เชน น้าํ อสจุ ิ เลอื ด ของเหลวในชอ งคลอด 2. ออมไปทาํ บุญที่วัดกบั คณุ ยายในวันพระ เปน ตน สามารถตดิ ตอไดโ ดย 3. อั้มชวนเพ่อื นๆ มาเลนฟตุ บอลหลังเลิกเรยี น 4. อน ชอบไปเลน เกมคอมพวิ เตอรที่รานอินเทอรเน็ตเปนประจํา 1. การมีเพศสัมพันธทขี่ าดการปองกันอยางถูกตอ ง วเิ คราะหคาํ ตอบ การเลนเกมคอมพวิ เตอรทีร่ า นอินเทอรเนต็ อาจทําใหมี 2. การใชเข็มฉดี ยาทไ่ี มส ะอาด โดยมักพบในกลมุ ผใู ชส ารเสพติด ท่มี กั ใช พฤตกิ รรมเส่ียง เน่อื งจากรานอนิ เทอรเ น็ตบางแหงเปน แหลงมั่วสมุ อบายมุข เข็มฉดี ยาซํา้ หรือใชร ว มกัน สง ผลใหเ ชอ้ื โรคเอดสเ กดิ การแพรก ระจาย ซง่ึ อาจมกี ารขายเครอื่ งดืม่ แอลกอฮอลและสารเสพติด จงึ สามารถนําไปสู 3. ทางเลอื ด 4. การติดเช้อื จากแมส ลู ูก พฤตกิ รรมเส่ียงตา งๆ ได ตอบขอ 4. 5. วธิ ีการอนื่ ๆ ท่คี วรระวัง เชน การใชมีดโกนรวมกนั การเจาะหู การสัก เปน ตน ค่มู อื ครู 169
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู้ ใหนักเรยี นศึกษาเรอื่ ง โรคตดิ การพนัน จาก เกร็ดน่ารู้ เกร็ดนา รูแลวรวมกนั วเิ คราะหวา ลกั ษณะของโรค ติดการพนนั นัน้ มีลักษณะอยา งไร และมสี าเหตุ โรคติดการพนนั เกดิ มาจากอะไร โดยครตู ้งั คาํ ถามเช่ือมโยงความรู โรคติดการพนัน (Pathological Gambling) ถือเป็นโรคทางจิตเวชชนิดหน่ึง ซ่ึงผู้ป่วยไม่สามารถ ของนักเรียน ทนตอ่ แรงกระตนุ้ ทจี่ ะใหก้ ระทาำ บางสงิ่ บางอยา่ งทเ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ ตนเองและผอู้ นื่ ได ้ โดยกอ่ นกระทาำ ผปู้ ว่ ยจะ รสู้ กึ ตนื่ เตน้ อยา่ งมาก และระหวา่ งกระทาำ ผปู้ ว่ ยจะอมิ่ เอมใจมากเชน่ กนั ผปู้ ว่ ยโรคตดิ การพนนั จะมลี กั ษณะอาการ • ลักษณะอาการของผทู ี่เปนโรคตดิ การพนัน ดังนี้ จะมีลักษณะอยางไร ๑. คิดหมกมนุ่ เก่ียวกับการเลน่ พนนั อยตู่ ลอดเวลา หากไมไ่ ดเ้ ลน่ จะกระสบั กระสา่ ย หงดุ หงิด (แนวตอบ คิดหมกมุน เกี่ยวกบั การเลน พนนั ๒. มีความพยายามจะหยุดเล่นพนนั หลายครง้ั แต่ไมส่ ามารถทาำ ไดส้ ำาเรจ็ อยตู ลอดเวลา หากไมไดเลน จะรสู ึกหงดุ หงิด ๓. เพิม่ ความถี่และจาำ นวนเงนิ ในการเล่นพนนั มากขน้ึ เรอื่ ยๆ แม้จะไมม่ ีเงนิ กอ็ าจทาำ เรื่องผดิ กฎหมาย ไมส ามารถทจี่ ะควบคมุ ความตอ งการในการ เพือ่ หาเงินมาเลน่ พนันต่อ เลนพนนั ของตนเองได จนตอ งเพิม่ ความถ่ี ๔. ไม่สามารถควบคุมความต้องการเล่นพนันของตนเองได้ จึงเล่นพนันอย่างไม่ยั้งคิด เม่ือชนะก็ และจาํ นวนเงินในการเลนพนันมากขนึ้ ต้องการเงินมากข้นึ เมอ่ื แพ้ก็ต้องการเงินคนื จึงลงเอยท่คี วามสญู เสยี จาำ นวนมาก เร่ือยๆ) ๕. ขอยืมเงินผู้อ่ืนบ่อยครั้ง เพ่ือนำาไปใช้หน้ีสินท่ีเกิดจากการเล่นพนัน แต่ผู้ป่วยจะยังคงคิดเสมอว่า การเลน่ พนนั อาจทาำ ใหม้ โี อกาสหาเงนิ มาใชห้ นส้ี นิ ได ้ ผปู้ ว่ ยโรคนจี้ งึ คดิ เขา้ ขา้ งตนเองตลอด เพอ่ื ใหไ้ ดเ้ ลน่ พนนั • โรคติดการพนัน เกดิ มาจากสาเหตใุ ดบาง (แนวตอบ สว นใหญเ กดิ มาจากส่งิ แวดลอ ม สาเหตุของโรคตดิ การพนนั โดยผูท ี่อยใู นสิง่ แวดลอ มท่ีเต็มไปดว ย ๑. พันธกุ รรม จากการศกึ ษาพบว่า โรคตดิ การพนันสามารถถา่ ยทอดทางพันธกุ รรมได้ การพนนั จะทาํ ใหถ กู ชกั จงู ไปเลนการพนนั ๒. สิ่งแวดลอ้ ม ผทู้ ่ีอยู่ในสงิ่ แวดล้อมทเ่ี ต็มไปด้วยการพนัน จะทาำ ใหถ้ กู ชกั จงู ไปเล่นพนันได้งา่ ย ไดงา ย และสื่อตางๆ ยงั มีอิทธิพลตอการ ๓. สอื่ ตา่ งๆ มักมีอทิ ธิพลต่อการเล่นพนันฟตุ บอล โดยเฉพาะสื่อทม่ี ีการวิเคราะห์การเล่นและทำานาย เลนพนัน โดยเฉพาะส่อื ท่มี ีการวเิ คราะห การเลนและทํานายผลการแขงขนั ของ ผค ลนกเราาร๔ยแ.บั ขย่งสง้ัขาชันรง่ั ขสใอจื่อไงปดแร ้ตแะ่ลตสะจ่ าทะทหมี ล ซสง่ั ึ่งสมเาอปรง็นเคขกอมางชีรผอื่โู้นปวา่่ม้ว “ยนโจ้าดะวปหใาหลมค้่ังนี สน2”าส รนมเาใคจกมเ ลซีชง่ึน่ื่อสกวา่าาร รนพ“จี้ ซนะีโทันราำมโใทาหกนผ้ ขินปู้ ึ้น1ว่”ย มลคีดวลางม สซขุ ่ึงใสจแาลระนสี้จนะกุชส่วนยาในห้ แตล ะทีม เชน การเลนพนันฟตุ บอล เปนตน นอกจากนี้ยงั พบวา พันธุกรรมและสารสือ่ ในการเล่นพนัน ประสาท ยังสงผลใหเกดิ โรคติดการพนนั ได ๕. สมองส่วนทเี่ รียกวา่ “อมกิ ดาลา (Amygdala)” ซ่ึงเปน็ ศูนยก์ ลางความพึงพอใจ มกี ารทาำ งานนอ้ ย เชนเดียวกัน) จึงต้องแสวงหากิจกรรมอื่นๆ ที่กระตุน้ ความสขุ อยา่ งทนั อกทันใจ เช่น การเลน่ พนนั เพศสมั พนั ธ์ เป็นตน้ หากเราตอ้ งการป้องกนั ตนเองจากการเปน็ โรคตดิ การพนัน สามารถทาำ ไดโ้ ดยอยู่ในสภาพแวดล้อมและ คบเพอื่ นที่ไมเ่ ล่นการพนนั และหลีกเลยี่ งจากสิง่ ย่วั ยุที่ทาำ ให้มคี วามตอ้ งการเลน่ พนนั แนวทางการรักษา สามารถทาำ ไดด้ ว้ ยการบาำ บดั ทางความคดิ และพฤตกิ รรม โดยในสว่ นของพฤตกิ รรมจะตอ้ งมกี ารจดั ตาราง เวลาวา่ ช่วงไหนทาำ กจิ กรรมอะไร เพื่อไมใ่ ห้ผปู้ ว่ ยหมกมนุ่ อย่กู บั การคิดเลน่ การพนนั สว่ นการใช้วธิ ีบำาบดั ทาง ความคิด จะต้องกระตุ้นให้นึกถึงข้อดี ข้อเสีย และอนาคตท่ีจะต้องเสียไป สำาหรับผู้ป่วยท่ีมีอาการหนักมาก อาจต้องใช้ยาแกอ้ าการซมึ เศรา้ รว่ มดว้ ย ทีม่ า : บทความเรอ่ื ง “ปญั หาสขุ ภาพจิตจากการตดิ การพนนั ฟตุ บอล” จากสาำ นักงานพัฒนาระบบข้อมูลขา่ วสารสุขภาพ 170 นกั เรียนควรรู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNิดET การปองกนั ไมใหเดก็ เปนโรคตดิ การพนัน สามารถทําไดอ ยา งไรบาง 1 ซโี รโทนิน เปนสารสื่อประสาทในสมอง ทาํ หนาทีเ่ กี่ยวกบั การแสดงออกทาง แนวตอบ พยายามเสรมิ สรางใหเด็กไดทํากิจกรรมที่ดี ทส่ี รา งสรรค อารมณ ความรสู กึ และควบคมุ วงจรการนอนหลบั ซ่งึ หากมีซโี รโทนินในรางกาย เพอ่ื ใหเกดิ ความพงึ พอใจในชีวติ ของตนเอง ใหเ ดก็ ไดรบั ประสบการณที่ดีจาก อยางเพยี งพอจะชว ยใหอารมณด ี รูสกึ ผอ นคลายและสงบ แตใ นภาวะเครียด กิจกรรมนัน้ ๆ ใชค วามสามารถของตนเองมากกวาการเส่ียงโชคหรอื โอกาส ซีโรโทนินจะลดลง สงผลใหนอนไมหลบั หงดุ หงดิ ขาดสมาธิ และซมึ เศรา รูจกั รอคอยความสาํ เรจ็ และทสี่ าํ คญั ผูใ หญไ มค วรเปน แบบอยา งในการเลน 2 โดปามนี เปนสารเคมีในสมองทีห่ ล่ังมาจากสมองสว นไฮโปธาลามสั พนันใหเ ด็กดู เพราะเด็กอาจเลยี นแบบได ซง่ึ ทาํ หนา ที่ยับยั้งการหลัง่ โพรแลคตนิ จากสมองสวนหนา ของตอมพิทูอทิ ารี เมอื่ รา งกายหล่ังสารโดปามีนออกมาจะสงผลตออารมณข องบคุ คล ทําใหม ี ความต่นื ตัว กระฉับกระเฉง มีสมาธมิ ากข้นึ และไวตอ สิ่งกระตนุ ตางๆ รอบตัว 170 ค่มู ือครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู้ 4) การม่ัวสุมเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ปัญหาเยาวชนติดเกมคอมพิวเตอร์ทวี ใหน กั เรยี นกลมุ ทจี่ บั สลากไดป ระเดน็ การมว่ั สมุ ออกมานาํ เสนอตอ โดยครูและนกั เรียนกลุม อ่นื ๆ คควอามมพริวุนเแตรองรม์ตาากมขร้ึน้าเนรเื่อกยมๆ1 ซโด่ึงยบมาีงเดแ็กหจ่ง�ากน็มวีสนภมาาพกเหปน็นีโแรงหเลรีย่งนมห่ัวสรือุมขอโบมายยเมงินุขข อมงีกพา่อรแแมอ่ไบปจเ�าลห่นนเก่ามย รวมกันเสนอแนะเพิม่ เติม แลว ต้งั คาํ ถามเพ่อื นําไปสู เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลแ์ ละบหุ รใ่ี หก้ บั เยาวชน รวมทง้ั มเี ยาวชนจา� นวนมากทห่ี มกมนุ่ กบั การเลน่ เกม ขอสรุปทถ่ี กู ตอ งรว มกนั จนเสยี การเรยี น และไม่สนใจสังคมหรือผ้อู ื่น ส่งผลต่อลกั ษณะบคุ ลกิ ภาพ และกลายเป็นเดก็ ที่มี ปญั หาทางด้านสุขภาพจิตตามมา • เพราะเหตุใด การเลน เกมคอมพวิ เตอร อาจทําใหเ กิดอาการปวดมอื หรือปวดไหลไ ด ผลกระทบของการม่ัวสุมเลน่ เกมคอมพวิ เตอร์ (แนวตอบ เพราะในขณะที่เราเลนคอมพิวเตอร อวยั วะเหลา นีจ้ ะตองเคลือ่ นไหวอยตู ลอดเวลา ๑. มปี ญั หาตอ่ สขุ ภาพรา่ งกาย เชน่ ปวดตา แสบตา ปวดศรี ษะ การเลน่ เกม อาจสง่ ผลใหม้ พี ฤตกิ รรมกา้ วรา้ วได้ จงึ อาจกอใหเกดิ อาการดังกลาวได นอกจากนี้ ปวดมือ ปวดไหล่ เหน่อื ยล้า ออ่ นเพลยี เปน็ ตน้ เนื่องจากเกิดการเลียนแบบความรุนแรงจาก ยังอาจทาํ ใหเ กิดอาการปวดหลงั ได เนอื่ งจาก เกม นง่ั อยูหนา จอคอมพวิ เตอรเปนระยะเวลานาน ๒. ส ่งผลให้เกิดความเครียด เพราะผู้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ โดยไมไดเ ปลีย่ นอริ ยิ าบถ) ตอ้ งหาวธิ กี ารเอาชนะคตู่ อ่ สใู้ หไ้ ด ้ จงึ ตอ้ งครนุ่ คดิ หาเทคนคิ ในการต่อสตู้ ลอดเวลา • หากนกั เรยี นมีอาการแสบตาหรอื ปวดตา นกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารผอ นคลายความเมอ่ื ยลา ๓. แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเลียนแบบความรุนแรงจากเกม ของดวงตาจากการเลน คอมพวิ เตอร คอมพิวเตอร์ ไดอยางไร (แนวตอบ ควรพักสายตาทุกๆ 2 ชัว่ โมง ๔. น �าไปสูก่ ารกระทา� ความผดิ เชน่ ลกั ขโมย วงิ่ ราว จ้ี ปล้น โดยใหหลบั ตาประมาณ 5 - 10 นาที เป็นต้น และอาจน�าไปสู่วงจรการขายสารเสพติด เพื่อ กะพริบตาบอ ยๆ เพือ่ บริหารกลา มเนื้อตา หาเงินมาเล่นเกมคอมพวิ เตอร์ หรือมองไปทีต่ นไมส ีเขียว ซ่ึงการปฏบิ ตั ิเชนนี้ จะชว ยใหส ามารถผอ นคลายความเมอื่ ยลา แนวปฏิบัตเิ พ่อื หลีกเลยี่ งการมวั่ สมุ ของดวงตาได) ๑. ศ ึกษาท�าความเข้าใจเก่ียวกับผลเสียท่ีเกิดจากการมั่วสุมเพ่ือกระท�าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จะได้ ระมัดระวงั ตนเองไม่เขา้ ไปเกย่ี วข้องดว้ ย ๒. หลกี เล่ียงการคบเพอ่ื นท่มี ีพฤตกิ รรมการมั่วสมุ เพราะจะท�าใหม้ โี อกาสถกู ชกั จูงไปร่วมมั่วสุมไดง้ า่ ย ๓. ห ้ามปรามเพอ่ื นท่ชี วนไปม่ัวสมุ กระท�าพฤตกิ รรมท่ไี มเ่ หมาะสม พร้อมเสนอแนวทางท่พี งึ ปฏิบัติในกลุม่ เพอ่ื น เช่น จับกลุ่มกนั เล่นดนตรี ทอ่ งเที่ยว เลน่ กฬี า ทา� กิจกรรมบ�าเพ็ญสาธารณประโยชน ์ เปน็ ตน้ ๔. เมอื่ พบเหน็ เพอ่ื นรวมกลมุ่ กนั มวั่ สมุ กระทา� พฤตกิ รรมทไ่ี มเ่ หมาะสม ควรรบี แจง้ ใหค้ รอู าจารยท์ ราบทนั ที ๕. เมอ่ื มปี ญั หาหนกั ใจ ควรปรกึ ษาบดิ ามารดาหรอื ครอู าจารย ์ ไมค่ วรเกบ็ ปญั หาไวข้ บคดิ เพยี งลา� พงั รวมถงึ ไม่ควรคิดว่าการไปรวมกลุ่มม่ัวสุมกับเพ่ือนเพื่อเสพสารเสพติด เล่นพนัน เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ จะเปน็ หนทางแกป้ ญั หา เพราะมแี ต่จะทา� ให้เกิดปญั หาหนกั ข้ึนไปอีก ๖. อยา่ ใช้ข้ออ้างกับตนเองว่าแค่ม่ัวสุมเล่นๆ ไมจ่ รงิ จัง เพราะนานไปจะท�าให้เกิดความเคยชนิ และก็จะตดิ เปน็ นสิ ยั ถอนตวั ไดย้ าก 171 แนวขอสNอบTเนนOก-าNรคE Tิด เกรด็ แนะครู การม่วั สุมเลนเกมคอมพวิ เตอรทําใหเกดิ ผลเสยี มากมาย ยกเวน ขอใด ใหนักเรียนหาขาว ภาพ เก่ียวกับบคุ คลทีต่ ิดเกมจนมผี ลทาํ ใหเกิดผลเสียตางๆ 1. ผลการเรยี นตกต่าํ ตามมา เชน เสยี ชีวติ ทาํ รายพอ แม ทะเลาะกบั ครอบครัว เปนตน แลว นาํ ขอมลู ไป 2. ใชคอมพิวเตอรไ ดเกง ข้นึ ติดทีป่ ายนเิ ทศ 3. เปน โรคกระเพาะอาหารอักเสบ 4. เกิดพฤตกิ รรมเลียนแบบความรนุ แรงจากเกมคอมพวิ เตอร นกั เรยี นควรรู วิเคราะหคาํ ตอบ การมวั่ สมุ เลนเกมคอมพิวเตอรจ ะกอใหเ กิดผลกระทบ หลายดา น เชน ปวดหลัง เปน โรคกระเพาะอาหาร ผลการเรียนตกตาํ่ 1 รานเกม ปจ จบุ ันมรี านเกมจาํ นวนมากที่เขารวมโครงการรา นอินเทอรเ นต็ สขี าว โดยการทํารานใหโลง สวาง ไมป ด ทึบ งดใหบรกิ ารแกน ักเรยี นในเครอ่ื งแบบ ผเู ลนมีพฤติกรรมกาวราว ชอบใชความรนุ แรง เปน ตน ตอบขอ 2. และยินยอมใหเยาวชนเขามาเลน เกมไดหลังเวลา 16.30 น. เปนตน ไปจนถึงเวลา 22.00 น. คูม่ ือครู 171
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู้ ใหนักเรยี นกลุมทจี่ บั สลากไดป ระเด็น 1.2 การกอ่ เหตทุ ะเลาะวิวาท1 การกอเหตุทะเลาะววิ าท ออกมานําเสนอ โดยครู และนักเรียนกลุมอน่ื ๆ รวมกนั เสนอแนะเพ่มิ เตมิ การก่อเหตุทะเลาะวิวาทท่ีเป็นประเด็นในปัจจุบัน คือ คู่กรณีท่ีแบ่งเป็นฝ่ายเป็นพวก แลว ตั้งคําถามเพอ่ื นาํ ไปสูข อสรปุ ที่ถกู ตอ งรว มกัน เพราะการทะเลาะวิวาทในลักษณะนี้มักจะได้รับการขยายความว่าเป็นเรื่องของกลุ่มของฝ่าย ซ่ึง ส่งผลให้เยาวชนบางคนหรือบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมรุนแรง มักจะมองผู้อื่นไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ใน • การกอเหตุทะเลาะววิ าทท่แี บง เปน ฝา ย กลมุ่ หรอื ฝา่ ยตรงขา้ มลว้ นเปน็ อรกิ บั ตนทง้ั สนิ้ ความคดิ เชน่ นจ้ี ะทา� ใหผ้ บู้ รสิ ทุ ธท์ิ ไี่ มม่ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ ง เปน พวก สง ผลกระทบตอผอู ่ืนอยา งไร พลอยไดร้ บั เคราะห์ถกู ท�ารา้ ย หรือบางคนกถ็ งึ กบั เสยี ชวี ติ ไปดว้ ย (แนวตอบ ทําใหผูบริสุทธิ์ทเ่ี ปนคนดี ท่ไี มมี สวนเก่ยี วขอ งกบั ความขัดแยงใดๆ พลอย ผลกระทบของการก่อเหตุทะเลาะวิวาท ไดรบั เคราะห ถูกทาํ ราย หรือบางคนถงึ กับ เสยี ชวี ิตไปดว ย เพราะผทู ีก่ อเหตมุ ักจะมอง ๑. อ าจถูกลงโทษ หรือด�าเนินคดีตามกฎหมายตั้งแต่อายุ วัยรุ่นควรรวมกลุ่มกันทำาประโยชน์เพ่ือสังคม ผอู ่นื เปนคูอริกับตนทั้งส้นิ ซ่ึงเปนความคดิ ยงั นอ้ ย ดกี วา่ การก่อเหตุทะเลาะวิวาท ที่เปนอันตรายมากตอสันตสิ ุขของสงั คม) ๒. ส ง่ ผลใหเ้ ปน็ คนหวาดระแวง เพราะคดิ วา่ ผอู้ น่ื เปน็ ศตั รกู บั • แนวปฏิบตั ิเพ่ือหลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมเส่ยี งและ ตนอย่ตู ลอดเวลา สถานการณเสีย่ งทกี่ อ ใหเกดิ การทะเลาะ วิวาทไดแกอะไรบาง ๓. ไมส่ ามารถปรบั ตวั เมอ่ื อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ นื่ ในสงั คมได ้ และขาด (แนวตอบ ทกั ษะในการสร้างสัมพนั ธภาพทดี่ ีกบั ผู้อน่ื 1. หากพบสถานการณท อ่ี าจจะมกี ารทะเลาะ ววิ าท ควรควบคมุ สตใิ หด ีและหาทาง ๔. ส ง่ ผลใหบ้ คุ คลรอบขา้ งพลอยไดร้ บั ผลกระทบไปดว้ ย เชน่ หลกี เลี่ยงออกจากเหตุการณน ัน้ ทนั ที บาดเจบ็ เสียชีวติ เปน็ ตน้ 2. หลีกเล่ยี งพืน้ ทลี่ อ แหลมทเ่ี ส่ียงตอการเกดิ ทะเลาะวิวาท แนวปฏิบตั ิเพือ่ หลีกเล่ียงการก่อเหตุทะเลาะววิ าท 3. การเขา ไปอยใู นบรเิ วณทม่ี ผี คู นจาํ นวนมาก และไปเปนกลมุ ตองไมกระทาํ สงิ่ ใด ๑. รจู้ กั สงั เกตสภาพแวดลอ้ ม หากพบสถานการณท์ ผ่ี ดิ ปกตทิ อ่ี าจกอ่ ใหเ้ กดิ การทะเลาะววิ าท ควรควบคมุ สติ ท่สี อื่ ออกไปในทาํ นองยวั่ ยุ ทัง้ คําพดู ให้ดีและหาทางหลกี เล่ยี งออกจากเหตกุ ารณ์น้นั ทันที ลลี าทาทาง เพราะอาจทําใหเ กิดการ ชกตอ ยทะเลาะวิวาทกันไดง าย เชน ๒. ห ลกี เลี่ยงพ้นื ท่ีล่อแหลมทเี่ ส่ยี งตอ่ การเกดิ การทะเลาะววิ าท ไปชมคอนเสิรต ไปชมกฬี า เปน ตน) ๓. หลีกเลี่ยงการนั่งบริเวณด้านหลังของรถโดยสาร เพราะกลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่ชอบรวมกลุ่มอยู่บริเวณ ดงั กล่าว ๔. ก ารเข้าไปอย่ใู นบรเิ วณที่มผี ู้คนจ�านวนมากและไปเป็นกลุ่ม เชน่ ไปชมคอนเสริ ์ต ไปชมกฬี า เปน็ ต้น ต้องไม่กระท�าสิ่งใดท่ีสื่อออกไปในท�านองยั่วยุ ทั้งค�าพูด ลีลาท่าทาง เพราะอาจท�าให้เกิดการชกต่อย ทะเลาะวิวาทกันไดง้ ่าย ๕. เมอ่ื พบเหน็ เพอื่ นรวมกลมุ่ กนั เพอ่ื จะกอ่ เหตทุ ะเลาะววิ าทกบั ผอู้ นื่ ควรรบี แจง้ ใหค้ รอู าจารยใ์ นสถานศกึ ษา ทราบทันที 172 เกรด็ แนะครู ขอ สอบ O-NET ขอ สอบป ’51 ออกเกย่ี วกบั แนวปฏิบัติเพ่อื หลีกเล่ียงพฤติกรรมเสยี่ งและ ครอู าจนําขาวหรือบทความที่เก่ยี วกับการทะเลาะวิวาทของนกั เรียนมาให สถานการณเส่ยี งตอ การทะเลาะววิ าท นักเรยี นอา น แลว ถามนกั เรียนวา สาเหตขุ องการทะเลาะววิ าทเกิดมาจากสาเหตุใด ถา เพ่ือนของนกั เรยี นมเี หตุทะเลาะววิ าทกัน นักเรียนควรปฏิบตั อิ ยา งไร ผลกระทบท่อี าจเกิดขึ้นเปนอยางไร และนักเรยี นมีวธิ ีการแกไขปญ หาการ จงึ จะดีทสี่ ุด ทะเลาะววิ าทอยา งไรบา ง 1. รีบเขา ไปขวางและบอกใหท ้ังสองฝา ยใจเย็นๆ 2. บอกใหท ้งั คูใจเยน็ และบอกใหเ พอื่ นไปตามครู นักเรยี นควรรู 3. รบี ดึงเพ่ือนคนใดคนหนง่ึ ออกไปใหไกลๆ 4. รบี เดินหนีไปใหเ รว็ ทส่ี ดุ และไปแจงครู 1 ทะเลาะวิวาท ปจ จัยทกี่ ระตุนใหวยั รนุ เกดิ การทะเลาะวิวาทเกดิ ขนึ้ จากหลาย วเิ คราะหคําตอบ เมือ่ เห็นเพือ่ นทะเลาะวิวาทกัน นกั เรยี นควรทจ่ี ะหา ม ปจจัย ไดแก การเปลย่ี นแปลงทางรางกาย การเปลี่ยนแปลงดา นฮอรโ มน พนื้ ฐาน เพอ่ื นทงั้ 2 ฝา ยกอ น แลวจงึ ไปบอกใหค รูทราบ เน่ืองจากทานสามารถที่จะ ทางอารมณ สภาพครอบครวั ระบบการศกึ ษาและสงั คม ทสี่ รา งความกดดันใหกบั ชว ยแกไขปญหาที่เกิดขน้ึ ไดด กี วา ตอบขอ 2. วยั รุน รวมท้งั สภาพสังคมท่ีเตม็ ไปดวยความรุนแรงรอบดา นทีว่ ัยรุน เหน็ จนชินชา ลว นเปน สาเหตใุ หว ยั รนุ เกดิ พฤตกิ รรมกา วรา วรนุ แรงใชก าํ ลงั ในการแกป ญ หาไดท งั้ สนิ้ 172 ค่มู ือครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain Explain อธบิ ายความรู้ ( Disco1th.๓equกแeห)า สลรถ่งเาอขนบา้อาไายบปมอยุขบมงันีอแวดยห2 ู่เแปลต็นง่ส่ จถอ�าาบนนวบานนัยมเมทางิุขกหโลดายยเแฉหพง่ ากะไ็ ผมับเ่ ข ม้ (งPวuดb )อ กี บทางั้ รย์ งั จ(Bา� หaนr)า่ ยดเคิสรโกอื่ งเทดม่ืก1 ใหน กั เรยี นกลมุ ทจ่ี บั สลากไดป ระเดน็ การเขา ไป ยังแหลง อบายมขุ ออกมานําเสนอ โดยครูและ ทีม่ แี อลกอฮอล์ และอาจมีการลักลอบจ�าหนา่ ยสารเสพตดิ ด้วย จึงเป็นเหตนุ �าไปส่พู ฤตกิ รรมเส่ยี ง นักเรยี นกลมุ อน่ื ๆ รว มกนั เสนอแนะเพิ่มเติม แลว อื่นๆ ตามมา ตงั้ คําถามเพื่อนาํ ไปสูข อสรปุ ท่ีถกู ตองรว มกัน ผลกระทบของการเข้าไปยังแหล่งอบายมุข • ยกตัวอยางแหลง อบายมขุ ท่นี กั เรยี นรจู ัก (แนวตอบ เชน ผบั บาร สถานอาบอบนวด ๑. สขุ ภาพรา่ งกายทรดุ โทรม เนอื่ งจากอากาศภายในสถานท่ี การอยใู่ นสถานทที่ ไ่ี มแ่ ออดั จะชว่ ยใหห้ า่ งไกล สถานบนั เทงิ ยามราตรี เปนตน) เหลา่ นมี้ กั เตม็ ไปดว้ ยควนั บหุ ร ่ี ซงึ่ สง่ ผลตอ่ ระบบทางเดนิ จากแหล่งอบายมขุ ตา่ งๆ ไดเ้ ป็นอย่างดี หายใจ และอาจทา� ใหส้ ญู เสยี ระบบการไดย้ นิ เพราะมกี าร • การเขาไปในแหลง อบายมขุ กอ ใหเ กิด เปดิ เพลงเสียงดงั มากจนตอ้ งตะโกนคุยกัน ผลกระทบอยางไรบา ง (แนวตอบ ทาํ ใหส้นิ เปลอื งทรัพยส นิ เงนิ ทอง ๒. ส น้ิ เปลืองเงินทอง และเปน็ เหตทุ า� ใหเ้ ปน็ หนส้ี นิ ต่างๆ การเรยี นตกตํ่า สขุ ภาพออนแอ เสี่ยงตอ การ ๓. เ ส่ียงต่อการติดสารเสพติด การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตดิ สารเสพติด และการทะเลาะวิวาท การถกู ลวงละเมดิ ทางเพศสําหรบั ผูหญงิ การมี การมเี พศสมั พนั ธ ์ และการทะเลาะววิ าท ซง่ึ เปน็ ผลมาจาก เพศสมั พันธท ีน่ าํ ไปสโู รคตดิ ตอ ตางๆ) อาการมึนเมาจนครองสตไิ ม่อยู่ • แนวปฏิบตั เิ พอ่ื หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมเส่ียง แนวปฏบิ ัติเพ่ือหลีกเลยี่ งการเขา้ ไปยงั แหล่งอบายมุข และสถานการณเสย่ี งตอการเขาไปยงั แหลง อบายมุข มอี ะไรบาง ๑. ศึกษาท�าความเข้าใจเก่ียวกับแหล่งอบายมุข เพ่ือจะได้รู้ว่าบริเวณใดเป็นแหล่งอบายมุข มีภัยอะไร (แนวตอบ ท่แี อบแฝงในสถานท่นี ้ันๆ จะไดร้ ู้เท่าทนั เมอ่ื มีผมู้ าชักชวนใหเ้ ขา้ ไปเกย่ี วขอ้ ง 1. ใชทักษะปฏิเสธ 2. หลีกเลย่ี งการคบเพื่อนท่ีนิยมไปเที่ยวเตร ๒. ใ ช้ทักษะปฏิเสธ ไม่ว่าใครก็ตามมาชักชวนให้เข้าไปเที่ยวยังแหล่งอบายมุข โดยเฉพาะข้ออ้างท่ีมักน�า ตามแหลง อบายมขุ เพราะจะทําใหถ กู มาใชว้ ่า เพ่อื เป็นประสบการณ์ ชกั จูงเขาไปใชบ รกิ ารไดง าย 3. เม่อื พบเหน็ เพือ่ นเขาไปในแหลงอบายมขุ ๓. หลกี เลยี่ งการคบเพ่อื นทีน่ ยิ มไปเทย่ี วเตรต่ ามแหล่งอบายมุข เพราะจะถกู ชักจูงเข้าไปใช้บริการไดง้ ่าย ควรรีบแจงใหครู อาจารยท ราบทนั ที) ๔. เมือ่ พบเห็นเพ่อื นเข้าไปใช้บริการแหล่งอบายมุข ควรรบี แจ้งใหค้ รอู าจารย์ทราบทันที ๕. ป รบั เปลย่ี นความคดิ ทว่ี า่ แหลง่ อบายมขุ เปน็ สง่ิ ทชี่ ว่ ยสรา้ งความสขุ สนกุ สนานเพลดิ เพลนิ แตค่ วามจรงิ แลว้ เปน็ สถานทท่ี ีท่ า� ใหเ้ ราเสยี เงิน เสยี สขุ ภาพ ชักนา� ใหเ้ ราก้าวไปส่ทู างแหง่ ความเส่อื ม ๖. ตระหนักอยู่เสมอว่า แหล่งอบายมุขเป็นสถานท่ีอโคจร คือ เป็นสถานท่ีท่ีไม่ควรเข้าไปและช่วงเวลาท่ี เปิดให้บริการนนั้ เป็นช่วงเวลาที่ผู้เรียนใช้ทา� การบา้ น อ่านหนงั สือ และเขา้ นอนแตห่ วั ค�่า เพ่ือเตรยี ม พร้อมกบั การเรยี นในวันถัดไป 17๓ แนวขอ สNอบTเนนOก-าNรคETิด นักเรียนควรรู เม่อื พบเห็นเพอ่ื นกาํ ลงั จะเขา ไปในแหลงอบายมุข อนั ดับแรกท่ีนกั เรยี น 1 ดิสโกเทก เปน สถานบนั เทงิ ทม่ี กี ารใหบ รกิ ารทงั้ ดนตรี เครอ่ื งดม่ื และพน้ื ทใ่ี ห ควรทําคือขอใด ออกมาเตน ราํ ซง่ึ จะเปด ใหบ รกิ ารในเวลากลางคนื โดยมกั จะเปด เพลงเสยี งดงั จงั หวะเรว็ ประกอบกบั การจดั ไฟหลากสวี บู วาบทน่ี ยิ มเรยี กวา ไฟเทก เพอื่ ใหผ ใู ชบ รกิ าร 1. รีบโทรแจง ตํารวจ ออกมาเตน ราํ กนั อยา งสนกุ สนาน 2. รบี แจง ใหค รอู าจารยท ราบทนั ที 2 สถานอาบอบนวด แมว า ประเทศไทยจะมกี ฎหมายปอ งกนั และปราบปราม 3. โทรบอกคุณพอ คณุ แมข องเพอื่ นใหม ารบั การคา ประเวณมี าตง้ั แต พ.ศ. 2503 และมกี ฎหมายควบคมุ ดแู ลสถานบรกิ ารตงั้ แตป 4. หา มเพ่ือน และพยายามพาเพือ่ นออกจากสถานทดี่ งั กลาว พ.ศ. 2509 แตก ารคา ประเวณภี ายในสถานบรกิ ารอาบอบนวด กย็ งั เปน สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ วเิ คราะหค ําตอบ หากพบวา เพือ่ นกาํ ลังจะเขา ไปในแหลงอบายมุข อยา งแพรห ลายมาจนถงึ ปจ จบุ นั น้ี นกั เรยี นควรเขาไปหา มเพอื่ น โดยอธิบายวาเปนส่ิงที่ไมด ี กลา วถึงผลเสีย หากเพ่อื นเขา ไปในสถานทดี่ งั กลาว และอาจชกั ชวนกันไปทาํ กิจกรรมอนื่ ที่สรา งสรรคและเปน ประโยชนแทน ท้งั น้ีตองหาทางโนมนา วใหเ พ่ือน ออกจากสถานท่ดี ังกลา วโดยเร็ว ตอบขอ 4. คมู่ ือครู 173
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain Explain อธบิ ายความรู้ ใหนกั เรยี นกลุมที่จับสลากไดป ระเดน็ 1.๔ การแข่งขนั รถจักรยานยนตบ นท้องถนน การแขงขันรถจกั รยานยนตบนทองถนน ออกมา นาํ เสนอ โดยครแู ละนักเรียนกลุมอนื่ ๆ รวมกนั ในพน้ื ทแี่ ถบชานเมอื งของกรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล รวมถงึ จงั หวดั ใหญๆ่ หลาย เสนอแนะเพิม่ เตมิ แลวต้ังคําถามเพ่อื นําไปสู จังหวัดในชว่ งเวลาดกึ มกั จะมกี ลุ่มวัยรนุ่ นา� รถจกั รยานยนต์ท่ีทา� การดดั แปลงสภาพ โดยปรับแตง่ ขอ สรปุ ทถี่ ูกตอ งรวมกัน เคร่ืองยนต์ ดัดแปลงท่อ และอ่ืนๆ มาขี่ประลองความเร็วกัน โดยใช้ถนนหลวงเป็นสนามแข่ง ทา่ มกลางการสญั จรไปมาของประชาชนท่วั ไปและบางครงั้ ถงึ ขนั้ ปิดถนน ซงึ่ สรา้ งความเดือดร้อน • นกั เรียนมักจะพบการแขง ขัน รา� คาญใหก้ บั ประชาชนทอ่ี าศยั อยใู่ นพน้ื ทแี่ ขง่ เปน็ อยา่ งมาก ปจั จบุ นั ทางราชการไดเ้ ขม้ งวดกบั การ รถจกั รยานยนตใ นบรเิ วณใด ปราบปรามอย่างจรงิ จัง และดา� เนนิ คดตี ามกฎหมาย (แนวตอบ ขน้ึ อยูกับคาํ ตอบของนกั เรียน โดยอาจตอบวา ในพืน้ ที่แถบชานเมอื งของ ผลกระทบของการแข่งขันรถจักรยานยนต์บนท้องถนน กรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล รวมถงึ จงั หวดั ใหญๆ หลายจังหวัด ในชว งเวลาดึก ๑. กอ่ ใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ พกิ าร และเสยี ชวี ติ ทง้ั ผขู้ บั ข ่ี และ ผู้ท่ีสนใจการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ควร ซง่ึ กลุมวัยรนุ จะใชถนนหลวงเปนสนามแขง ผู้ทอ่ี ย่ใู นบรเิ วณนน้ั อาจโดนเฉย่ี วชนได้ กระทำาในสนามที่จัดไว้ เพ่ือความปลอดภัย รถจักรยานยนตท ามกลางการสัญจรไปมา ของผู้ขบั ขเ่ี องและผอู้ นื่ ของประชาชนทวั่ ไป) ๒. ส ูญเสียการได้ยิน เพราะต้องทนทุกข์ทรมานกับเสียง • การแขงขนั รถจักรยานยนตบ นทองถนน ๘ขอ๕ง รเดถซจิเักบรลย1านยนต์ท่ีแผดเสียงดังแสบแก้วหูเกินกว่า กอ ใหเกดิ ผลกระทบตอผูอืน่ อยางไร (แนวตอบ ทาํ ใหผ ูอน่ื ไดร ับความเดือดรอน ๓. ถกู ด�าเนนิ คดีตามกฎหมาย และเสยี อนาคต ซ่ึงจะตองทนทุกขท รมานกับเสียง ๔. ค รอบครัวไดร้ ับความเดอื ดร้อน หากผขู้ ับข่จี กั รยานยนต์ รถจักรยานยนตท ่ดี ังแสบแกว หู และผูท ่ี ขบั ขย่ี านพาหนะผานมา อาจเกิดอุบตั เิ หตุ บนทอ้ งถนนถกู จบั กมุ พอ่ แม ่ ผปู้ กครองกจ็ ะมคี วามผดิ ดว้ ย ขับรถชนหรอื พลิกคว่าํ ไดถ า หากขับมาดว ย เพราะถือว่าเปน็ การปลอ่ ยปละละเลย ความเรว็ ) แนวปฏิบตั เิ พ่ือหลกี เลยี่ งการแข่งขันรถจักรยานยนต์บนทอ้ งถนน ๑. ไ ม่แขง่ รถจกั รยานยนตบ์ นท้องถนน เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชวี ิตท้ังผขู้ บั ข่เี องและประชาชนทั่วไป ๒. ไ มเ่ ขา้ ไปดกู ารแขง่ ขนั เพราะอาจไดร้ บั อบุ ตั เิ หตรุ า้ ยแรงจากการถกู รถจกั รยานยนตพ์ งุ่ ชนดว้ ยความเรว็ สงู ๓. เ มอ่ื พบเหน็ กลมุ่ นกั แขง่ รถจกั รยานยนตบ์ นทอ้ งถนน ใหห้ ยดุ พาหนะ ไมข่ บั ขร่ี ว่ มขบวนหรอื ขบั ขสี่ วนทางไป และรีบออกจากบริเวณน้ันทันท ี รวมถึงรีบแจง้ เจ้าหน้าท่ีต�ารวจใหร้ บั ทราบ ๔. หลีกเล่ียงการคบเพ่ือนที่มีพฤติกรรมนิยมการแข่งขันรถจักรยานยนต์บนท้องถนน เพราะอาจถูกชักจูง ใหไ้ ปร่วมกระทา� การดังกล่าวไดง้ า่ ย หรือหากมีเพอื่ นมาชกั ชวน เราจะต้องปฏิเสธไปอยา่ งสุภาพ และ ไมต่ อ้ งให้ความสนใจกบั คา� พูดในท�านองทีว่ ่า เปน็ การแสดงออกของลกู ผู้ชาย เพราะลกู ผชู้ ายตัวจริงจะ ต้องช่วยเหลอื ผู้อื่น ไมท่ า� ให้บุคคลหรอื สงั คมเดอื ดร้อน 17๔ เกรด็ แนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET ขอ ใดไมใ ช ปญ หาและผลกระทบที่เกดิ จากการแขงขนั รถจกั รยานยนต ครคู วรใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายวา มถี นนใดบา งในเขตพนื้ ทที่ นี่ กั เรยี นอาศยั อยู บนทอ งถนน มีการแขง ขันรถจกั รยานยนต และประชาชนในบริเวณนนั้ มคี วามรูสึกตอ การกระทํา 1. อาจถกู ตาํ รวจจับดําเนนิ คดีได ดงั กลา วน้ีอยา งไร 2. การจราจรติดขัด และอาจเกดิ อบุ ัติเหตุได 3. ทาํ ใหมที ักษะในการขับข่รี ถจักรยานยนตด ีข้ึน นกั เรยี นควรรู 4. กอ ใหเ กดิ มลพษิ ทางเสียง และเกิดปญ หาการจราจร วิเคราะหคาํ ตอบ การแขง ขนั รถจักรยานยนตบ นทอ งถนนจะสงเสยี งดัง 1 เดซิเบล เปนหนว ยวดั ความดงั ของเสยี ง ซง่ึ ระดบั เสียงท่เี ปน อนั ตรายตอ หู รบกวนประชาชนบรเิ วณใกลเ คียง ทาํ ใหเ กิดปญ หาการจราจรและ ของมนุษยค อื 80 เดซิเบลข้ึนไป ซึ่งความเสยี่ งของการสญู เสยี การไดยินจะข้ึนอยกู บั เกดิ อบุ ตั ิเหตุ และอาจทําใหผแู ขง ขนั ถูกตํารวจจบั ถูกยึดรถและ ความดงั ของเสยี ง และระยะเวลาของการไดย นิ ผปู กครองจะถือวามคี วามผดิ ดว ย ตอบขอ 3. 174 คมู่ ือครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขา้ ใา้ จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู้ 1.๕ ภยั จากฝูงชน ใหนกั เรยี นกลมุ ท่ีจบั สลากไดป ระเด็น ภัยจาก ฝงู ชน ออกมานาํ เสนอ โดยครแู ละนกั เรยี นกลมุ อนื่ ๆ ข้อมลู ขา่ วสารและการโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ทฉ่ี บั ไวในโลกปัจจบุ ัน ทา� ใหก้ ารจัดงาน รว มกนั เสนอแนะเพม่ิ เตมิ แลว ตง้ั คาํ ถามเพอ่ื นาํ ไปสู จัดกจิ กรรมบางอย่างดึงดดู ผคู้ นท่สี นใจเข้ามารว่ มเป็นจา� นวนมาก โดยเฉพาะงานมหกรรมใหญๆ่ ขอสรปุ ทถี่ ูกตอ งรวมกัน ๒จะ๕ม ีผกู้ครนกฎเบาียคดมเ สพีย.ดศก. ัน๒เข๕้า๕ม๓า ชใมนงเทานศ กซาล่ึงดหนลตารยีเคลริฟ้ัง กพ็กาลเาหยรเดป1 ็น(Lโศoกveน าPฏaกraรdรeม Tเeชc่นh nเoม ื่อMวuันsทicี่ Festival) เมอื งดยุ สบ์ วรก์ (Duisburg) ประเทศเยอรมน ี มผี ชู้ มจา� นวนมากแยง่ กนั วงิ่ เขา้ ไปในอโุ มงค์ • ยกตวั อยา งภัยจากฝูงชน แลว้ เกดิ เบียดเสียดเหยียบผู้ทล่ี ม้ ลงไปกับพน้ื ท�าให้มีผูเ้ สยี ชีวิต ๑๙ คน บาดเจ็บ ๓๔๒ คน เปน็ ต้น (แนวตอบ ขึ้นอยูกบั คําตอบของนกั เรยี น โดยอาจตอบวา เชน การชมคอนเสิรต ผลกระทบของภัยจากฝงู ชน การแขง ขันฟุตบอล งานมหกรรมตา งๆ ทจ่ี ัดข้นึ ในแตละป เปนตน) ๑. ก ่อให้เกิดการบาดเจบ็ เช่น ถูกกระแทก ถูกผลกั เปน็ ตน้ หรือผทู้ ี่ล้มลงอาจถกู เหยียบจนเสียชีวิตได้ • อทิ ธพิ ลใดมีสวนทําใหผูคนตา งเขามา รว มงานเปน จาํ นวนมาก ๒. อาจก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท และอาจส่งผลให้มีการใช้ (แนวตอบ อิทธพิ ลของสอ่ื โฆษณา และการ ความรนุ แรงได ้ เชน่ การใชก้ า� ลงั ชกตอ่ ย การใชอ้ าวธุ เปน็ ตน้ ประชาสมั พนั ธท ีฉ่ ับไวในโลกปจจบุ ัน จึงสงผลใหก ารจดั งานกิจกรรมบางอยาง ๓. เกิดการเจ็บป่วยได้ เพราะความแออัดของผู้คนอาจท�าให้ ดงึ ดดู ผคู นท่สี นใจเขา มารวมเปน เป็นลม หมดสต ิ และเกิดการขาดอากาศหายใจได้ จํานวนมาก) สถานที่ท่ีมีผู้คนเบียดเสียดเป็นจำานวนมาก • แนวปฏิบตั เิ พอ่ื หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมเสยี่ งและ ตอ้ งรจู้ กั ระมดั ระวังภยั ท่ีจะเกดิ จากฝงู ชนดว้ ย สถานการณเ สีย่ งตอ ภยั จากฝูงชนไดแ ก อะไรบาง แนวปฏบิ ัตเิ พอื่ หลกี เลย่ี งภัยจากฝูงชน (แนวตอบ 1. หลกี เล่ียงการเขาไปอยใู นพนื้ ที่แออัด ๑. ห ลกี เลย่ี งการเขา้ ไปอยู่ในพืน้ ทแ่ี ออัด เพราะอาจเกดิ การเบยี ดเสียด ยอ้ื แย่งส่ิงของ ผลกั ดัน ถกู กระแทก เพราะอาจเกดิ การเบยี ดเสียด ยอ้ื แยง จนล้ม และถกู เหยียบได้ สิง่ ของ ผลกั ดัน ถูกกระแทกจนลม และถกู เหยยี บได ๒. ควรระมดั ระวังอย่าเข้าไปอยใู่ นบริเวณพ้นื ทีอ่ ับ เช่น ติดรวั้ ก�าแพง อโุ มงค ์ เป็นตน้ เพราะอาจถกู ดนั บบี 2. เมื่ออยทู ามกลางฝงู ชน ไมค วรวิ่ง อัดหนอี อกไปทางไหนไม่ได ้ ควรหาทางออกมาอยู่ในพ้ืนทีโ่ ล่งกวา้ ง เพราะอาจหกลม แลวถูกคนอนื่ เหยียบซํา้ ควรเดินอยางระมัดระวัง หากเหน็ คนอ่ืน ๓. เ มอ่ื มีเสยี งดัง อยา่ ตืน่ ตกใจ ควรตงั้ สติให้ด ี ประเมนิ เหตุการณ์ให้รอบคอบก่อนวา่ ควรท�าอยา่ งไร ลม อยใู หรบี ดึงเพอื่ ใหล กุ ข้นึ โดยเร็ว) ๔. เมื่ออยู่ท่ามกลางฝูงชน ไม่ควรว่ิง เพราะอาจหกล้มแล้วถูกคนอ่ืนเหยียบซ้�า ควรเดินอย่างระมัดระวัง ขยายความเขา้ ใจ Expand หากเหน็ คนอ่นื ล้มอยู่ให้รบี ดึงให้ลุกข้นึ โดยเร็ว ๕. การร้องเรียกขอความช่วยเหลือ ควรตะโกนเสียงดังๆ เพ่ือให้ผู้อื่นได้ยิน เพราะในสถานท่ีท่ีมีฝูงชน ใหนกั เรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมสรางสรรค พฒั นาการเรยี นรู กิจกรรมที่ 1 และกจิ กรรมท่ี 2 พลุกพล่านมักจะมีเสียงดงั หากพูดหรือตะโกนเสียงเบา จะทา� ใหไ้ มม่ ใี ครได้ยิน 17๕ แนวขอ สNอบTเนน Oก-าNรคETิด เกรด็ แนะครู เม่ือตองอยใู นสถานทแ่ี ออดั ผูคนเบียดเสยี ดกันเปน จาํ นวนมาก นักเรียน ครูควรอธบิ ายเพิ่มเตมิ ใหน กั เรียนฟงวา ในพนื้ ท่ีแออดั อาจกอใหเกดิ อันตรายตอ ควรปฏบิ ัติตนอยา งไรเพ่ือใหเกดิ ความปลอดภัยตอ ชีวิตของนักเรยี น สขุ ภาพได เชน การตดิ เชอื้ โรคตา งๆ เปน ตน เนื่องจากเชือ้ โรคสามารถแพรก ระจาย ไดง ายเม่อื อยูใ นท่แี ออัด นอกจากนีย้ งั อาจกอ ใหเกดิ อันตรายตอ ผหู ญิงได เชน 1. ผลกั หรือดนั ผอู นื่ การถกู แอบถายคลปิ ใตก ระโปรง การถูกลวนลามหรอื ถูกเน้ือตองตัว เปน ตน 2. จดจําเสนทางเขา ออก 3. ตื่นตระหนกเมอื่ เกดิ เหตุการณท ไี่ มค าดคดิ ขน้ึ นกั เรยี นควรรู 4. ตะโกนหรอื กรีดรอ งเมอื่ เกิดเหตุการณท ไ่ี มคาดคิดขึ้น วเิ คราะหคาํ ตอบ เมื่อตองอยใู นสถานท่ีแออัด ควรจดจําเสนทางเขา ออก 1 เทศกาลดนตรเี ลฟิ พาเหรด จดั ขน้ึ ครง้ั แรกเมอ่ื ป พ.ศ. 2532 ทก่ี รงุ เบอรล นิ โดยเฉพาะทางออกฉุกเฉิน หรือประตูหนีไฟ เพราะคนสวนใหญจะหลบหนี ประเทศเยอรมนี และจดั ขึน้ ตอเน่ืองเปน ประจําทุกป จนกระทัง่ ป พ.ศ. 2550 ได ในเสน ทางปกติ ซงึ่ การจดจําและศึกษาเสน ทางออกฉกุ เฉนิ เผื่อไว จะชวยให ยา ยไปจดั ตามเมอื งตา งๆ ในเยอรมนี และในป พ.ศ. 2553 ไดเ กดิ เหตกุ ารณร ะหวา ง สามารถอพยพหนภี ัยออกมาไดอ ยางปลอดภยั ตอบขอ 2. การเดนิ พาเหรดตามทอ งถนนในงานเทศกาลดนตรีในครัง้ นี้ ซงึ่ มสี าเหตมุ าจากการ เบยี ดเสยี ดจนขาดอากาศหายใจ หรือลมลงจนถูกเหยียบในขณะทขี่ บวนกาํ ลังเดิน ลอดผานอุโมงคแหงหน่ึงของเมือง จงึ เปน เหตใุ หมผี ูบ าดเจบ็ และผูเ สียชีวติ เปน จํานวนมาก คมู่ ือครู 175
กระตุน้ ความสนใจ สสา� �ารรEวxวpจจloคคrน้eน้ หหาา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Expand Evaluate Engage Explore Explain สา� รวจคน้ หา Explore ใหน กั เรยี นศกึ ษาเรือ่ ง แนวทางการหลกี เลย่ี ง ๒ . แตนอ่ วอทันาตงรกาายรหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเสย่ี งและสถานการณเ์ สย่ี ง พฤติกรรมเสย่ี งและสถานการณเ สี่ยงตอ อนั ตราย จากหนงั สือเรยี น หรือจากการสอบถามบคุ คลอื่น ในสังคมยุคปัจจุบัน มีสภาพแวดล้อมที่อาจชักจูงให้เยาวชนมีพฤติกรรมเส่ียงมากข้ึน ขณะ ทเี่ คยมีประสบการณ เดียวกัน สถานการณ์เสี่ยงต่ออันตรายก็สามารถเกิดข้ึนได้ตลอดเวลา ดังน้ัน เราจึงควรเรียนรู้ วธิ กี ารหลีกเลยี่ ง รับมอื หรือหาทางปอ้ งกนั ตนเองใหพ้ น้ จากความเสีย่ งเหล่าน้นั ซึง่ การหลีกเลีย่ ง อธบิ ายความรู้ Explain พฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณ์เส่ยี งตอ่ อนั ตรายควรฝกึ ทักษะ ดังน้ี ใหน ักเรียนรวมกนั เสนอแนวทางการหลีกเลยี่ ง ๑) มงุ่ อนาคต เปน็ การรบั รขู้ องบคุ คลดา้ นการดา� รงชวี ติ อยา่ งมจี ดุ มงุ่ หมาย โดยเหน็ พฤติกรรมเสีย่ งและสถานการณเ สี่ยงตออนั ตราย ตา งๆ ไดแ ก การมว่ั สมุ การกอ เหตทุ ะเลาะววิ าท ความส�าคญั ของผลด ี ผลเสยี ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนสามารถควบคมุ ตนเองในการกระทา� การเขา ไปยงั แหลง อบายมขุ การแขง ขนั รถจกั รยานยนต หรอื ละเวน้ การกระทา� บางอยา่ งตามความตอ้ งการของตน เพราะเลง็ เหน็ ผลเสยี ทจ่ี ะเกดิ ตามมาทงั้ บนทอ งถนน และภัยจากฝูงชน โดยครูเปด โอกาส แก่ตนเองและผ้อู ่ืนในภายหลงั เพ่ือไปสเู่ ปา้ หมายทตี่ อ้ งการในอนาคต ใหน ักเรยี นไดร ว มแสดงความคิดเห็น แลกเปล่ยี น บุคคลท่ีมีความมุ่งอนาคตสูง ย่อมทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตนในอนาคต เช่น ความรูซ่งึ กนั และกัน หากถกู เพือ่ นชกั จงู ใหม้ ีพฤติกรรมเส่ยี ง กส็ ามารถใช้ทกั ษะการปฏเิ สธได ้ เพราะเห็นวา่ พฤติกรรม ดงั กล่าวนัน้ ไม่เป็นผลดีกบั ตนเองและกอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบต่อผูอ้ ่นื ตามมา เป็นตน้ บุคคลที่มีความมุ่งอนาคตต่�า ย่อมไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตนในอนาคต เช่น หากถกู เพอื่ นชกั จงู ใหม้ พี ฤตกิ รรมเสยี่ ง กอ็ าจหลงผดิ และยอมกระทา� ตามเพอ่ื น โดยไมน่ กึ ถงึ ผลเสยี ทอ่ี าจจะตามมา เปน็ ตน้ ๒) ความเชือ่ อา� นาจในตนและความเชอ่ื อ�านาจนอกตน ๑. ความเชอื่ อา� นาจในตน เปน็ การเสรมิ กา� ลงั ทม่ี าจากความประพฤตแิ ละทศั นคติ ของบคุ คลนน้ั ๆ เปน็ ความคดิ ทว่ี า่ ความสา� เรจ็ และความลม้ เหลวทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั ตนเปน็ ผลมาจากความ สามารถ ทกั ษะ หรอื การกระท�าของตนเอง ซึง่ บุคคลลกั ษณะน้จี ะมคี วามกระตอื รอื ร้น เมอ่ื ประสบ ความล้มเหลวก็จะมีความพยายามเพื่อให้ประสบความส�าเร็จ เช่น นักเรียนที่มีความเชื่ออ�านาจ ในตนเองสูงจะมีการดา� เนินชวี ิตที่ปลอดภยั และสามารถที่จะเอาตวั รอดจากสถานการณ์ต่างๆ ได ้ เป็นตน้ ๒. ความเชื่ออ�านาจนอกตน เป็นการเสริมก�าลังท่ีมีแหล่งมาจากภายนอกบุคคล เปน็ ความเชอ่ื ทวี่ า่ ความสา� เรจ็ และความลม้ เหลวของตนขน้ึ อยกู่ บั โชคลาง ความบงั เอญิ หรอื ขนึ้ อยู่ กบั อา� นาจของบคุ คลอนื่ ซงึ่ บุคคลลกั ษณะน้จี ะมีความเฉอ่ื ยชา ไม่กระตือรอื รน้ และมักจะไม่ค่อย ประสบความส�าเร็จในชีวิต เช่น นักเรียนที่มีความเชื่ออ�านาจนอกตนจะมีการด�าเนินชีวิตท่ี เต็มไปดว้ ยความเสีย่ ง ความประมาท และไมส่ ามารถทีจ่ ะหาวธิ หี ลกี เลีย่ งจากการถกู ชักชวนให้มี พฤติกรรมเสย่ี งหรือเขา้ ไปอยู่ในสถานการณเ์ ส่ียงได ้ 176 เกรด็ แนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNิดET บุคคลใดสามารถหลกี เลีย่ งพฤติกรรมเส่ียงและสถานการณเสี่ยงตอ ครอู าจใหนักเรียนแบง กลุม กลุม ละ 4 - 5 คน รวมกันแสดงบทบาทสมมติ อันตรายไดอ ยา งเหมาะสม เก่ียวกับแนวทางการหลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมเสี่ยงและสถานการณเ สย่ี งตอ อนั ตราย 1. สนชอบนัดเพื่อนไปดื่มสุราในตกึ รา ง เชน การมว่ั สุม การกอเหตุทะเลาะวิวาท การเขา ไปยังแหลงอบายมุข การแขงขัน 2. สาวไปเทยี่ วกับเพื่อนๆ เปนกลมุ ใหญเสมอ รถจกั รยานยนตบ นทอ งถนน ภัยจากฝงู ชน เปน ตน และหลังจากการแสดงเสรจ็ สิน้ 3. นนุ ชอบไปเทยี่ วสถานทที่ มี่ ีคนเยอะๆ เพราะทาํ ใหรูสกึ คึกคกั ครูควรใหน ักเรียนสรุปแนวทางการหลีกเล่ียงพฤตกิ รรมเส่ยี งและสถานการณเ สี่ยง 4. น่ิมคบเพื่อนทมี่ ีความประพฤตดิ แี ละอยใู นทาํ นองคลองธรรม ตอ อันตรายในประเดน็ ที่นกั เรยี นไดร บั ทงั้ นคี้ รูอาจทาํ แบบประเมนิ ใหกับนักเรียน วิเคราะหคาํ ตอบ การคบเพอื่ นทีม่ ีความประพฤตดิ ี อยใู นทํานอง ทุกกลุม โดยมเี กณฑก ารประเมินในแตละประเด็น ใหนกั เรียนแตล ะกลมุ ไดร ว ม คลองธรรม มักจะนําพากันไปในทางท่ีดี สงเสริมความเจรญิ งอกงามใหก ับ ประเมนิ เพื่อน นอกจากน้ีครูอาจประเมนิ นกั เรียนทกุ กลมุ ไดเชนเดยี วกนั เพ่อื เลอื ก ตนเอง ซึ่งเปน วิธกี ารท่ีจะหลกี เลีย่ งพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณเส่ยี งได กลุมท่ีสามารถสรปุ ความรทู ่ีไดเรียนไปไดถ ูกตอ งและดที ่ีสุด และอาจใหรางวัลกบั วิธหี นึ่ง ตอบขอ 4. นักเรยี นกลมุ ดงั กลา ว 176 คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจคน้ หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู้ แนวทางในการปฏิบัตเิ พื่อหลีกเล่ียงพฤติกรรมเสย่ี งและสถานการณ์เสยี่ งต่ออนั ตราย ครูตั้งคําถามกระตนุ การเรยี นรูของนักเรียน ๑. หลกี เลยี่ งการมพี ฤตกิ รรมเสย่ี งทงั้ ปวง ไมค่ ดิ วา่ เปน็ การกระทา� เพอ่ื อยากเรยี นรู้ • นกั เรียนมแี นวทางการปฏิบตั เิ พ่อื หลกี เลยี่ ง หาประสบการณห์ รอื จะทา� ใหต้ นเองโดดเดน่ ขน้ึ มา เพราะพฤตกิ รรมเสย่ี งบางอยา่ ง หากพลาดพลงั้ อาจท�าใหต้ นเองพิการ เสยี ชีวติ เป็นคดคี วาม หรือนา� ความเดอื ดรอ้ นมาสคู่ รอบครวั ได้ พฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณเสย่ี งตอ ๒. หลีกเลยี่ งการเขา้ ไปในสถานที่ทเี่ สีย่ งอนั ตรายโดยไมจ่ า� เป็น หากพบวา่ ตนเอง อันตรายไดอ ยา งไรบา ง หลงเขา้ ไปอยใู่ นสถานการณเ์ สยี่ งนนั้ ตอ้ งตง้ั สตใิ หด้ ี และรบี หาวธิ กี ารออกมาจากบรเิ วณนนั้ โดยเรว็ (แนวตอบ เจา้ หน ้าท ีต่ �า รวจ๓ห.ร ือเผมู้เื่อกพย่ี บวขเห้อ็นงใสหถท้ ารนากบา1 รเณพื่อ์เสด่ีย�างเนอนิันกตารราขยัด ขซว่ึงาองา จจทับ�ากใมุ ห ้ผหู้อร่ืนอื เแดกือ้ไดขร ม้อใินห ้ผคู้อว่ืนรตแ้อจง้ง 1. หลกี เลย่ี งการเขาไปในสถานท่ีทีเ่ สย่ี งตอ ประสบจากสถานการณอ์ นั ตรายนน้ั ๔. ตระหนักถึงอันตรายของพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณ์เสี่ยงท่ีตนเอง อนั ตรายโดยไมจําเปน ต้องปฏิบัติหรือเข้าไปเก่ียวข้องด้วย เพราะบางคนรู้สึกว่าการกระท�าดังกล่าวเป็นสิ่งท่ีน่าต่ืนเต้น 2. เม่ือพบเห็นสถานการณท่ีเส่ียงตอ อนั ตราย เร้าใจ และท้าทาย ซง่ึ เปน็ ความคิดทผ่ี ิดอย่างยิง่ ๕. เลือกคบเพ่ือนที่มีความประพฤติดีและอยู่ในท�านองคลองธรรม เพราะการ ใหรบี แจง เจา หนาทต่ี าํ รวจใหท ราบ 3. เลอื กคบเพอ่ื นทม่ี คี วามประพฤติดี ไมเ กเร 4. ติดตามขา วสารทเ่ี กีย่ วขอ งกับภยั อนั ตราย จากสอ่ื ตางๆ 5. ไมห ลงเชอื่ คาํ ชกั ชวนของผูอ่ืนท่เี รา ไมส นิท) สนทิ สนมกบั ใคร เรามกั ไดร้ บั อทิ ธพิ ลดา้ นความคดิ และความเชอื่ จากผนู้ น้ั ดว้ ย ดงั นนั้ จงึ ไมค่ วรคบเพอ่ื น ท่ีมีพฤติกรรมเส่ียง เพราะอาจชักจูงเราไปร่วมท�าส่ิงที่ไม่ดี และเราอาจต้องยอมท�าตามเพราะ สถานการณ์พาไป ๖. หากพบว่าเพื่อนที่คบอยู่ มีความพยายามชักจูงให้เรากระท�าพฤติกรรม เสี่ยงหรือเข้าไปในสถานการณ์เสี่ยง วิธีการ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อาจท�าได้โดยการน�า ทกั ษะการปฏเิ สธและทกั ษะการตอ่ รองมาใช ้ เพอื่ ให้รอดพ้นจากพฤติกรรมเส่ียงและสถานท่ีเสี่ยง ตอ่ อนั ตราย สว่ นวธิ แี กไ้ ขปญั หาระยะยาว ควรลด ความสนทิ สนมลงและตีตัวออกห่างให้เร็วทส่ี ดุ ๗. หม่ันติดตามข่าวสารท่ี เก่ียวข้องกับภัยอันตรายจากสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น เพื่อนจะมีอิทธิพลต่อความคิด ความเชื่อของบุคคลมาก เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการป้องกันตนเองให้พ้น ดังนั้น วัยรุ่นควรเลือกคบแต่เพื่อนที่มีความประพฤติดี จากภัยอันตรายเหล่าน้ัน จะไดช้ ักจงู กันทาำ สง่ิ ทีถ่ กู ตอ้ ง 177 กจิ กรรมสรา งเสรมิ เกร็ดแนะครู ใหนักเรียนเขียนแนวทางการปฏบิ ัติตนเพ่ือหลกี เล่ียงพฤติกรรมเสยี่ งและ ครคู วรแนะนํานกั เรยี นวา หากนกั เรียนพบเห็นเดก็ และเยาวชนท่ีมีการกระทาํ สถานการณเส่ียงจากประสบการณเดมิ ของนกั เรียนมาอยา งนอ ย 10 ขอ ไมเหมาะสม เชน ทะเลาะววิ าทกัน ม่ัวสุมเลนการพนัน ม่ัวสุมเสพสารเสพติด ลงในสมุด แลวนําสง ครูผสู อน เปน ตน สามารถแจงไดท ่สี ายดวน 1579 กระทรวงศึกษาธกิ าร กิจกรรมทาทาย นักเรยี นควรรู ใหน กั เรยี นทาํ รายงานเร่อื ง พฤตกิ รรมเสย่ี งและสถานการณเ สี่ยงตอ 1 แจงเจาหนาท่ีตาํ รวจหรอื ผูเก่ยี วของใหทราบ เมอื่ พบเห็นเหตุการณผดิ ปกติ อนั ตราย พรอมทง้ั เสนอแนวทางการปฏบิ ัตเิ พอ่ื หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสีย่ ง หรืออาจทําใหผูอ น่ื เดือดรอ น เราจาํ เปน ตอ งมจี ิตสาธารณะ อยา นงิ่ ดดู าย ควรรีบแจง และสถานการณเ ส่ียงเขียนลงในสมุด แลว นาํ สง ครผู ูสอน เจา หนาทตี่ ํารวจ หรอื หนว ยงานองคกรทด่ี แู ลชว ยเหลือ เพ่ือหาวิธกี ารระงบั เหตุ ยับยงั้ ซง่ึ การกระทําเชนนถี้ อื วา ปฏิบัตติ นเปนพลเมอื งดี และมีสว นชวยทําใหส ังคม สงบสุข คู่มือครู 177
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขา้ า้ใจใจ ตรวจสอบผล Explore Evaluate Engage Explain Explain Expand อธบิ ายความรู้ ครเู สนอแนะและอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั แนวทาง ๘. หมนั่ สังเกตสง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั โดยเฉพาะในระหว่างเดินทาง การรับรขู้ ้อมูล การหลกี เล่ยี งพฤติกรรมเสยี่ งและสถานการณเ สีย่ ง กอ่ นจะชว่ ยใหเ้ รามเี วลาหาหนทางแกไ้ ขสถานการณท์ เ่ี หมาะสมไวไ้ ดล้ ว่ งหนา้ และจงระลกึ เสมอวา่ ตออันตราย จากนัน้ ใหนักเรยี นอานเกรด็ นารเู ร่ือง การมสี ตอิ ยูก่ ับตวั ตลอดเวลาจะชว่ ยให้เราเอาตวั รอดได้ ปจจัยท่ีทาํ ใหว ัยรนุ มีพฤตกิ รรมเส่ียง แลวนาํ มา ๙. อย่าหลงเช่ือค�าชักชวนของผู้ใดท่ีจะท�าให้เรามีพฤติกรรมเสี่ยงหรือไปอยู่ใน อภปิ รายรว มกนั ในชั้นเรยี น โดยครตู ้ังคําถาม สถานการณเ์ ส่ยี ง หากไมแ่ น่ใจวา่ การกระทา� นัน้ มคี วามเสย่ี งหรือไม ่ มคี วามเหมาะสมหรอื ไม่ ควร ขอคา� ชแ้ี นะจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรอื ครอู าจารย์กอ่ นตัดสนิ ใจ • ปจจัยใดบางทท่ี ําใหว ยั รุนมีพฤตกิ รรมเสีย่ ง ๑๐. คา� นึงถงึ บิดามารดาหรือครอบครัวให้มาก เพราะการมพี ฤติกรรมเสย่ี ง ไม่ใช่ (แนวตอบ ไดแ ก สภาพแวดลอมในบา นซึ่งรวม ตัวเราเองเท่าน้ันท่ีเดือดร้อน แต่การกระท�าบางอย่างบิดามารดายังจะได้รับความเดือดร้อนตาม ไปถงึ ครอบครวั การศึกษา และเพอ่ื น) คมกุาดคว้ายม ขเชม่ ่นข ู่ หกราอืรถเลกู น่ ทพา� รนา้ นั ยฟหุตาบกไอมลใ่ ชอห้ านจ ้ีตห้อรงอื ขกาายรทแรขพั ง่ ขยนัส์ นิจกัขรอยงาคนรยอนบตคบ์รวันเทพอ้ ื่องใถชน้หนน1 ี ้หบาากงถรกู าจยบักก็ถมุูก รถจกั รยานยนต์กจ็ ะถกู ยึดเป็นของกลาง เพราะเปน็ ของกลางทีใ่ ชก้ ระทา� ความผิด และบดิ ามารดา ขยายความเขา้ ใจ Expand ต้องเสียค่าปรับหรืออาจถูกจ�าคุก ซ่ึงส่งผลกระทบต่อครอบครัวของเราตามมาอีกหลายประการ เป็นตน้ ใหนกั เรยี นสรุปสาระสาํ คญั เร่ือง แนวทาง แนวทางดังท่ีกล่าวมาข้างต้น เป็นหลักการอย่างกว้างๆ ซ่ึงเราต้องเลือกน�าไปใช้ให้ การหลกี เลี่ยงพฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณเ ส่ียง เหมาะสมกบั สถานการณแ์ ตล่ ะอยา่ ง ทง้ั นใี้ นวยั ของผเู้ รยี นทเี่ ปน็ วยั หวั เลยี้ วหวั ตอ่ เพอื่ นจะมบี ทบาท ตออันตราย ในรูปแบบของผังความคิด ความสา� คญั อยา่ งย่ิง ดงั นั้น จงึ ตอ้ งตัดความเกรงใจใหห้ มดไป หากมีเพอื่ นคนใดมาชักชวนให้เรา กระท�าในสง่ิ ท่เี ป็นพฤติกรรมเสย่ี งต่างๆ หรือจะชกั นา� ใหเ้ ราไปอย่ใู นสถานการณเ์ ส่ียงตอ่ อันตราย เกรด็ นา่ รู้ ปัจจัยทท่ี าำ ใหว้ ยั รุ่นมพี ฤตกิ รรมเสีย่ ง วัยรุ่นเป็นวัยที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมากท่ีสุด ซึ่งสาเหตุที่ทำาให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมเส่ียงต่างๆ นั้น อาจเกิด มาจากปจั จยั ดังนี้ H = Home คอื สภาพของทีอ่ ยอู่ าศยั ความปลอดภัยภายในบา้ น หากวยั รุ่นอาศัยอยใู่ นบ้านหรือใน แหลง่ ชุมชนทีด่ ี ก็จะทาำ ให้มสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตที่ด ี สามารถลดความเส่ียงตอ่ การเกดิ ปัญหาต่างๆ ได้ E = Education คือ การศึกษาซ่ึงเป็นส่ิงสำาคัญ เพราะวัยรุ่นทุกคนล้วนมีเป้าหมายในชีวิตและมี ความหวังว่าจะทำาเป้าหมายน้ันให้ประสบผลสำาเร็จ วัยรุ่นบางคนอาจไม่สามารถทำาตามเป้าหมายนั้น ก็จะ สิ้นหวังและหมดกำาลงั ใจ จนก่อใหเ้ กิดความเส่ยี งตา่ งๆ ได้ F = Friend คอื เพอ่ื นซง่ึ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ วยั รนุ่ มาก หากคบเพอ่ื นทดี่ วี ยั รนุ่ กจ็ ะทาำ กจิ กรรมทด่ี ี มปี ระโยชน ์ แต่หากคบเพ่ือนทไี่ มด่ ี วยั รุ่นก็อาจทาำ กิจกรรมทเ่ี สยี่ งต่อการเป็นอนั ตรายได้เช่นกนั ทมี่ า : http://www.sahavicha.com 178 เกร็ดแนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET เพราะเหตใุ ดเพือ่ นจึงมอี ทิ ธพิ ลทที่ าํ ใหวยั รุนมีพฤตกิ รรมเสย่ี งตางๆ ครคู วรแนะนาํ นกั เรยี นวา เพอื่ นเปน ปจ จยั สาํ คญั ทม่ี สี ว นทาํ ใหว ยั รนุ มพี ฤตกิ รรม 1. เพราะวัยรุนมกั จะเช่อื และทาํ ตามเพือ่ น เสยี่ งตา งๆ เพราะวยั รนุ อยใู นชว งวยั ทกี่ าํ ลงั ตดิ เพอ่ื น เชอ่ื เพอ่ื นมากกวา คนใน 2. เพราะอยใู นชว งวัยแหง การเปล่ียนแปลง ครอบครวั ดงั นนั้ จงึ ควรเลอื กคบเพอื่ นทด่ี ี มพี ฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสม ไมเ กเร ไมช วนกนั 3. เพราะคดิ วาเพ่อื นจะคอยแนะนาํ แตสงิ่ ทีด่ ใี หเ สมอ ทาํ ในสงิ่ ทไี่ มด ี ดงั คาํ กลา วทว่ี า 4. เพราะคดิ วาถา กระทําตามเพือ่ นจะทาํ ใหเ พอื่ นรักมากขนึ้ วเิ คราะหค ําตอบ วัยรนุ มกั จะเช่อื และทําตามเพ่ือน เพราะอยากใหเ พือ่ น “คบคนพาล พาลไปหาผดิ คบบณั ฑติ บณั ฑติ พาไปหาผล” ยอมรบั จงึ ทําใหว ัยรุนมกั จะปฏิบตั ิตามเพือ่ นโดยท่ไี มรวู าสิ่งทต่ี นกระทํา อยูน ้นั เปนส่ิงท่ผี ิดหรอื ไมผดิ จึงอาจนําไปสูการมพี ฤติกรรมเสย่ี งตา งๆ นกั เรียนควรรู ทก่ี อใหเกดิ อันตรายตอตนเองและผอู น่ื ได ตอบขอ 1. 1 การแขงขันจักรยานยนตบนทองถนน มกั จะมีคําศพั ทเรยี กนักแขงเหลา น้วี า “เดก็ แวน” และบางคร้งั จะพบวามีเดก็ ผหู ญิงท่ซี อนทา ยรถจักรยานยนตซ ึ่งเรียกวา “เดก็ สกอ ย” โดยในหมวู ัยรุนมักเรียกกันวา “แวน บอย สกอ ยเกิรล” 178 คู่มอื ครู
กกรระตะตนุ้ Eุ้นnคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สสา� �ารรEวxวpจจloคคrน้eน้ หหาา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Explain Evaluate Engage Explore Expand Engage กระตนุ้ ความสนใจ ๓. ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ ครูตง้ั คาํ ถามกระตนุ ความสนใจ โดยนักเรยี น สามารถแสดงความคิดเหน็ ไดอยางอสิ ระ คบั ขันท่อี าจน�าไปสอู่ นั ตราย • นักเรยี นคดิ วา ทกั ษะชีวิตใดบางที่สามารถ ทักษะชีวิต (Life Skill) เป็นคุณลักษณะหรือความสามารถทางสติปัญญาของแต่ละบุคคล นํามาใชในยามท่ตี องเผชญิ กบั สถานการณ ทพี่ งึ ม ี และสามารถจะนา� มาใชใ้ นยามทต่ี อ้ งเผชญิ กบั สถานการณต์ า่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชวี ติ ประจา� วนั ได้ ตา งๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในชีวติ ประจาํ วัน อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะชีวิตนี้บุคคลสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ ด้วยการเรียนรู้ ฝึกฝน หรือ (แนวตอบ ขน้ึ อยกู ับคําตอบของนักเรยี น ปฏบิ ตั ซิ า้� ๆ จนเกดิ ความคลอ่ งแคลว่ และเคยชนิ จนเปน็ ลกั ษณะนสิ ยั ทกั ษะชวี ติ มอี ยหู่ ลายอยา่ งขน้ึ โดยอาจตอบวา ทกั ษะการปฏิเสธ ทักษะ อยกู่ บั วา่ จะใชแ้ นวทางอะไรมาเปน็ เกณฑใ์ นการแบง่ แตท่ กั ษะชวี ติ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การปอ้ งกนั ตนเอง การตอ รอง ทักษะการคิด ตดั สนิ ใจ และ ทเ่ี ราควรเรียนร้ ู มีดังตอ่ ไปน้ี แกปญหา) ๑) ทกั ษะการปฏเิ สธและทกั ษะการตอ่ รอง เปน็ ทกั ษะทตี่ อ้ งใชค้ วบคกู่ นั แตก่ ข็ นึ้ อยู่ • นกั เรยี นเคยใชท กั ษะชีวติ ใดบาง ในการ หลีกเล่ยี งพฤติกรรมเสย่ี งและสถานการณ กบั แตล่ ะสถานการณ ์ เรอ่ื งทเี่ จรจา บคุ คล สถานท ี่ และปจั จยั อนื่ ๆ ทจ่ี ะตอ้ งใชพ้ จิ ารณาประกอบกนั เส่ียงตอ อันตราย สงั คมไทยนน้ั เปน็ สงั คมทเ่ี ออ้ื เฟอ้ื เผอื่ แผ่ เหน็ อกเหน็ ใจผอู้ น่ื ไม่กลา้ ปฏเิ สธหรอื ตอ่ รอง และรสู้ กึ ว่า (แนวตอบ ขึน้ อยูกบั คําตอบของนักเรยี น การปฏิเสธความปรารถนาดีต่อผู้อื่นเป็นเร่ืองท่ีไม่ถูกต้องเหมาะสมเสียมารยาท แต่ขณะเดียวกัน โดยนกั เรียนสามารถแสดงความคิดเห็น พฤติกรรมลักษณะน้ีก็อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความเส่ียงได้เช่นกัน หากขาดกระบวนการคิด ไดอ ยางอสิ ระ) การพจิ ารณา และการคาดคะเนอยา่ งรอบคอบ ดงั นน้ั การรูจ้ ักท่จี ะปฏเิ สธและ/หรอื ตอ่ รองจงึ เป็น สิง่ สา� คญั และจา� เป็นสา� หรบั สงั คมไทย ท้ังนก้ี เ็ พ่ือสวัสดิภาพและความปลอดภัยของตนเอง สา� รวจคน้ หา Explore แตป่ ญั หาใหญท่ เ่ี กดิ ขน้ึ กบั คนไทยโดยเฉพาะวยั รนุ่ ในยคุ ปจั จบุ นั คอื ปฏเิ สธและตอ่ รอง ไมเ่ ปน็ ทงั้ ๆ ทรี่ วู้ า่ ทกั ษะการปฏเิ สธและตอ่ รองนน้ั จะชว่ ยปกปอ้ งตนเองมใิ หต้ กเปน็ เหยอ่ื หรอื เสยี่ ง ใหน กั เรียนศกึ ษาเรือ่ ง ทกั ษะชวี ิตในการ ต่ออนั ตรายอนั อาจเกดิ ขึน้ ได ้ เชน่ การปฏเิ สธที่จะโดยสารรถไปกับบุคคลแปลกหน้า การปฏเิ สธท่ี ปองกันตนเอง จากหนงั สือเรียน และแหลง จะไปแขง่ ขันจกั รยานยนตบ์ นท้องถนนกบั เพือ่ น เป็นต้น หากเรารู้จกั ปฏเิ สธแลว้ ยอ่ มไมท่ �าให้เรา การเรยี นรเู พิ่มเตมิ ตางๆ โดยมปี ระเด็นศกึ ษา ตอ้ งเผชญิ กบั ความเสยี่ งหรอื ตกอยใู่ นสภาวะวกิ ฤตทอี่ าจจะเปน็ อนั ตรายตอ่ ชวี ติ ซง่ึ หลกั การปฏเิ สธ ดังตอไปนี้ ทเี่ หมาะสมและไดผ้ ลด ี มีดงั น้ี ๑. ความหมายของการปฏิเสธจะต้องชัดเจนและหนักแน่น ไม่ให้ความหวังที่ไม่ • ทกั ษะการปฏิเสธและทกั ษะการตอรอง เป็นจริงกบั ฝ่ายตรงขา้ ม เพราะจะท�าใหเ้ ขายงั คงพยายามที่จะชกั จงู เราต่อไปเรอื่ ยๆ • ทกั ษะการคิด ตดั สนิ ใจ และแกป ญหา ๒. ไม่เปดิ โอกาสให้อีกฝา่ ยมขี ้ออ้างจนท�าให้เราจนมุม ไม่สามารถโตแ้ ย้งได้ • ทักษะการสอ่ื สาร ๓. ใชค้ �าพูดท่ีสุภาพ และไม่ท�าให้ฝา่ ยตรงขา้ มรสู้ ึกเสยี หนา้ หรือรสู้ ึกว่าตนเองถูก ต�าหนิ เพราะอาจทา� ให้เกิดผลกระทบต่อความสมั พันธ์ในอนาคตของเรากบั อีกฝา่ ยได้ หรืออาจจะ ทา� ให้อีกฝา่ ยร้สู ึกโกรธ จนกระทา� การทเ่ี ป็นอนั ตรายต่อเราได้ ๔. คา� พดู ทใ่ี ชต้ อ้ งแสดงออกอยา่ งชดั เจนวา่ เราตอ้ งการใหก้ ระทา� อยา่ งทพี่ ดู จรงิ ๆ ต้องพูดอย่างหนกั แนน่ และมที า่ ทจี ริงจงั 179 แนวขอ สNอบTเนน Oก-าNรคETิด เกรด็ แนะครู บุคคลท่มี ีทกั ษะชีวิตทด่ี ีจะเปน อยางไร ครูอาจกําหนดสถานการณทเี่ ส่ียงอันตราย แลวใหนกั เรียนแตล ะคนชว ยกนั 1. เปน คนดี เสนอคาํ พดู ปฏิเสธและตอรอง เพอื่ ใหตนเองปลอดภัยจากสถานการณน ั้นๆ จากนน้ั 2. เปน คนเกง ถามนักเรยี นวา หากมเี พอ่ื นมาชกั ชวนใหกระทาํ ในสิ่งที่เปนพฤติกรรมเส่ยี งนกั เรียน 3. เปนคนท่ีมีคนรกั มาก จะมวี ธิ ปี ฏิบตั ติ นอยางไร เพ่ือหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเส่ยี งดงั กลา ว และเพราะเหตใุ ด 4. เปนคนที่อยูใ นสังคมอยา งมีความสขุ จึงเลอื กปฏบิ ตั เิ ชน น้นั วเิ คราะหค ําตอบ บคุ คลทม่ี ที กั ษะชวี ติ ทด่ี จี ะอยใู นสงั คมไดอ ยา งมคี วามสขุ เนอ่ื งจากจะสามารถปรบั ตวั และแกไ ขสถานการณต า งๆ ไดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ มุม IT ทัง้ น้เี พื่อเปน การปกปองตนเองใหปลอดภยั จากพฤตกิ รรมและสถานการณ สามารถศกึ ษาเพิ่มเตมิ เกย่ี วกับการปองกนั วยั รนุ เพื่อหลีกเล่ียงพฤตกิ รรมเสีย่ ง เส่ียงตา งๆ ไดอยา งเหมาะสม ตอบขอ 4. และสถานการณเ ส่ียงตอ อันตราย ไดจ าก http://www.thaihealth.or.th/ healthcontent/article/29735 คมู่ ือครู 179
กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู้ ครสู มุ นกั เรยี น 2-3 คน ใหอ อกมาสรปุ สาระสาํ คญั ๕. แสดงความขอบคณุ เม่ืออีกฝ่ายท�าตามข้อเสนอหรือข้อเรยี กรอ้ งของเรา ในประเด็น ทักษะการปฏิเสธและทักษะการตอรอง ๖. หลงั จากแสดงทา่ ทหี รอื กลา่ วปฏเิ สธแลว้ ใหพ้ ยายามเลยี่ งออกจากสถานการณ์ จากนั้นครูถามนักเรียนวา หากเพ่ือนชวนนักเรียน นั้นโดยเร็วทีส่ ุด ไปสังสรรคที่สถานบันเทิงยามคํ่าคืน นักเรียนจะ มีการปฏิเสธหรือการตอรองอยางไร โดยไมเสีย กรณีตัวอย่างการใชท้ กั ษะปฏิเสธ สัมพันธภาพที่ดีตอกัน โดยครูเสนอแนะและอธิบาย เพิ่มเติมวา หากเพ่ือนชักชวนนักเรียนไปสังสรรค สถานการณท์ ีค่ วรปฏิเสธ ตวั อย่างการใช้ทักษะปฏิเสธ ท่ีสถานบันเทิงยามค่ําคืน นักเรียนอาจจะใชทักษะ การปฏิเสธและการตอรองไปวา “พอดีวันน้ีเปน เพ่ือนชวนไปเล่นการพนนั “ไม่ละ่ การพนนั เป็นส่งิ ผดิ กฎหมาย อีกอยา่ งเรากลวั วันเกิดแม เราคงไปไมได ตองขอโทษดวยนะ” ถกู ตา� รวจจับดว้ ย” ซ่ึงนักเรียนควรพูดดวยทาทางและนํ้าเสียงอยาง จรงิ จัง เพ่ือแสดงความตง้ั ใจอยางชดั เจน เพื่อนชวนไปรา้ นเกมหนา้ โรงเรียน “วันนี้เราจะรีบกลับ เพราะการบ้านยังไม่เสร็จเลย ส่งพรงุ่ นีด้ ว้ ยสิ” เพื่อนชวนไปสังสรรคท์ ี่สถานบนั เทงิ ยามค�า่ คนื “เราไปไมไ่ ดห้ รอก เพราะแมเ่ ราไมช่ อบใหอ้ อกไปไหน กลางดึก เราขอโทษด้วยนะ” เพ่อื นชวนไปดูการแขง่ ขนั รถจักรยานยนต์ “ขอบคณุ ท่ีชวนนะ แตเ่ ราไม่ชอบดูเพราะมนั เส่ยี งต่อ การเกดิ อันตรายมากนะ” เพอ่ื นชวนไปดคู อนเสริ ต์ ทมี่ คี นเบยี ดเสยี ดจา� นวนมาก “เรารสู้ ึกไม่คอ่ ยสบาย ยงิ่ คนเยอะๆ ด้วยแลว้ จะทา� ให้ อาการป่วยของเราอาจแยล่ งได”้ ส�าหรับทกั ษะการตอ่ รอง1นน้ั จะใช้ในกรณที ี่นกั เรยี นก�าลงั กระทา� บางสงิ่ บางอย่าง แต่ ร้สู ึกว่าการกระท�าน้นั ยงั ไม่เหมาะสมเท่าท่คี วร จงึ จา� เป็นต้องมกี ารตอ่ รองกนั เพอ่ื ให้ไดข้ อ้ เสนอที่ ดที ี่สุดส�าหรบั ตัวเอง เช่น เพอ่ื นชวนไปเล่นเกมคอมพิวเตอรท์ ี่รา้ นอนิ เทอร์เนต็ เราอาจตอ่ รองว่า “ถ้าไปเล่นคอมพวิ เตอรเ์ พือ่ สบื คน้ ขอ้ มูล ดหู นัง ฟังเพลงผ่านระบบออนไลน์เราจะไป แต่ถา้ ไปเลน่ เกมคอมพิวเตอร์เราไมไ่ ปนะ” โดยขนั้ ตอนในการต่อรองสามารถทา� ได้ ดังนี้ ๑. การสอื่ ความ เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจถึงความตอ้ งการและคา� โตแ้ ยง้ ของแต่ละฝ่าย โดยอาจ เป็นการพูด ด้วยน้า� เสยี งทนี่ ุ่มนวล หรือกริ ยิ าอาการทสี่ ภุ าพหรอื เปน็ มิตรต่อกัน ๒. การฟัง ผู้ที่ท�าการต่อรองต้องมีทักษะในการฟัง เพ่ือให้สามารถสรุปประเด็น ข้อโต้แยง้ และจบั เหตผุ ลของฝา่ ยตรงขา้ มได้ ๓. การพูดโน้มน้าวจูงใจ ต้องมีความสามารถในการโน้มน้าวจูงใจให้อีกฝ่ายยอมรับ ข้อเสนอของตนเอง ซ่ึงจะนา� ไปสูข่ ้อตกลงได้งา่ ย ๔. การอ่านภาษากาย ถือเป็นทักษะส�าคัญในการต่อรอง เพื่อให้สามารถอ่าน ความหมายทีแ่ ท้จริงจากฝา่ ยตรงข้าม เพอื่ การประเมนิ ความจรงิ จากการเจรจา 180 เกรด็ แนะครู ขอ สอบ O-NET ขอสอบป ’53 ออกเกี่ยวกบั การใชทักษะการปฏิเสธ ครูควรอธบิ ายเพ่ิมเติมวา การไปสังสรรคท ส่ี ถานบนั เทิงยามคา่ํ คืน เปน ขอใดเปนการใชท ักษะปฏิเสธทีไ่ มเหมาะสม สถานการณเสยี่ งทีอ่ าจกอใหเกดิ พฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสม เชน 1. ปฏิเสธดว ยคําตอบนา เชอื่ ถือ ทาทีจรงิ จงั การมเี พศสมั พันธ นอกจากน้นั อาจเส่ียงตอ การเสพสารเสพติดได เพราะ 2. เม่อื ถูกรบเรา ใหหลกี เล่ยี งและปฏเิ สธดว ยถอยคําสภุ าพ สถานบันเทงิ มกั จะมีเครือ่ งดม่ื แอลกอฮอล และมกี ารลกั ลอบนําเขาสารเสพติด 3. แสดงพฤติกรรมทส่ี ภุ าพในการปฏิเสธควบคูกับคาํ พดู เขามาจาํ หนายภายในรา น 4. พูดตัดบท แสดงความไมพ อใจ และตอบโตท นั ที วเิ คราะหคาํ ตอบ หลกั ในการปฏเิ สธทด่ี ี ควรปฏเิ สธอยา งจรงิ จงั ทง้ั ทา ทาง นักเรยี นควรรู คําพดู และน้าํ เสยี ง ดวยความเปนมติ รเพ่ือแสดงความต้งั ใจอยางชดั เจน ย้ิมแยม แจม ใส รจู กั ใชคําวา “ขอบคณุ ” เม่ือเขาแสดงไมตรีจติ ตอ เจตนา 1 ทักษะการตอรอง เปน ทักษะการสอ่ื สารที่มผี ลตอ อารมณ ความรสู ึก และ ของเขา พรอมทง้ั ปฏเิ สธดว ยคาํ วา “ขอโทษ” เพ่อื รกั ษาสมั พนั ธภาพท่ดี ี ความสมั พันธร ะหวางบุคคลในการแลกเปลย่ี นขอ มลู ขาวสาร เพอื่ รว มกันตดั สินใจ ตอกันไว ตอบขอ 4. และแกไขปญหา เพอ่ื ปอ งกันการเกิดพฤตกิ รรมที่ไมพงึ ประสงค โดยรกั ษาไวซึ่ง สมั พันธภาพที่ดีตอ กัน 180 คู่มอื ครู
กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู้ ๒) ทักษะการคิด ตัดสินใจ และแก้ปัญหา1 ทักษะทางด้านน้ี หากเราฝึกปฏิบัติ ใหน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายวา ทกั ษะการคดิ อย่เู ป็นประจา� จะช่วยท�าให้เราเปน็ คนทม่ี ีเหตผุ ล มคี วามรอบคอบ สามารถตัดสินใจแก้ไขปญั หา ตดั สนิ ใจ และแกปญหา สามารถหลีกเลย่ี ง เฉพาะหนา้ ไดด้ ใี นชวี ิตประจา� วนั พฤตกิ รรมเสยี่ งตา งๆ ไดอ ยางไร โดยครูเสนอแนะ ทักษะการคิด เมื่อประสบปัญหา เพ่มิ เติม และตั้งคาํ ถามเพ่อื นาํ ไปสูขอสรุปท่ี ใดๆ กแ็ ล้วแต ่ กระบวนการคดิ มักจะถูกน�ามาใช้ ถกู ตองรวมกัน ในการแก้ปัญหาเสมอ ซึ่งในการป้องกันตนเอง และหลีกเล่ียงสถานการณ์คับขันท่ีอาจน�าไปสู่ • นักเรยี นคิดวา ทักษะการคดิ ถูกนํามาใช อันตราย สามารถนา� ทกั ษะการคดิ มาใช้ ดงั น้ี ในการแกไ ขปญหาไดทกุ เม่อื หรอื ไม อยางไร ๑. ประเมินปัญหาและปัจจัย (แนวตอบ ทกั ษะการคิด มักจะถกู นาํ มาใช ตา่ งๆ ทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ ทศั นคตแิ ละพฤตกิ รรมของ ในการแกปญหาเสมอ โดยสามารถวิเคราะห วัยรุ่นท่ีจะส่งผลถึงการเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ แยกแยะขอมูลขา วสาร ปญหาและ คับขัน เช่น ค่านิยม กลุ่มเพื่อน ส่ิงแวดล้อม เมอื่ พบปญั หา อาจขอคาำ ปรกึ ษาหรอื คาำ แนะนาำ จากผใู้ หญ่ สถานการณตางๆ อยางมีจุดหมาย รอบตวั สอ่ื ตา่ งๆ เปน็ ตน้ เพอ่ื นา� มาใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู เพราะท่านสามารถชว่ ยเราแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ เหล่าน้ันได้ ในการวิเคราะห์ปัญหา เปน็ อย่างดี • หากนักเรียนลองแกป ญ หาดวยตนเองแลว แตย งั ไมป ระสบผลสาํ เร็จ นักเรียนควรทํา ๒. ใชท้ กั ษะการคดิ ในการแกป้ ญั หาอยา่ งมวี จิ ารณญาณ พยายามคดิ หาเหตผุ ลทมี่ ี อยางไร น�า้ หนักในการหลกี เลีย่ งสถานการณค์ บั ขัน เชน่ การชแ้ี จง ใหข้ อ้ มูลผลด ี ผลเสยี ที่เห็นไดช้ ัด เพ่อื (แนวตอบ ควรขอคําปรกึ ษาหรอื คาํ แนะนํา ใหผ้ อู้ นื่ คลอ้ ยตาม ซงึ่ อาจใชค้ า� พดู วา่ “อยา่ ไปแขง่ รถจกั รยานยนตบ์ นทอ้ งถนนเลยนะ มนั อนั ตราย จากพอ แม ครู อาจารย และผูใหญท่ีไวใ จได อาจท�าใหเ้ ธอบาดเจ็บหรือถงึ แกช่ ีวิตได้นะ” เปน็ ต้น เพราะทา นสามารถชวยหาวธิ ีแกไ ขปญหาทด่ี ี ทสี่ ดุ ใหเ ราได) ๓. ใชค้ วามคดิ ในทางสรา้ งสรรค ์ เพอื่ เปน็ ทางเลอื กใหผ้ ทู้ ช่ี กั ชวนเราเหน็ ขอ้ ดที จี่ ะ ปฏิบัตติ าม เช่น การชวนเพ่อื นไปท�ากิจกรรมท่ีสร้างสรรค ์ ได้แก ่ การเล่นกฬี า เล่นดนตรี และทา� กจิ กรรมนนั ทนาการ ทักษะการตัดสินใจ เป็นความสามารถที่ต้องใช้เหตุผล ความเหมาะสมในแต่ละ สถานการณ์มาคิดวิเคราะห์และหาทางออกท่ีดีท่ีสุด เพ่ือให้การตัดสินใจน้ันเป็นไปตามเป้าหมาย และมีแนวทางแก้ไขที่ดีที่สุดส�าหรับตนเองและผู้อื่นด้วย การฝึกทักษะการตัดสินใจ โดยเรียนรู้ กระบวนต่างๆ จึงเป็นสิ่งจ�าเปน็ อย่างมาก ดังน ้ี ๑. เรียนรู้กระบวนการตัดสินใจโดยน�าปัญหามาหาสาเหตุ แนวทางแก้ไข และ ตัดสินใจทจี่ ะแก้ปัญหานั้น ๒. ฝึกค้นหาตนเอง ทา� ความเข้าใจตนเอง หาข้อด ี ขอ้ เสยี ของตนเอง ๓. พิจารณาตนเองวา่ ต้องการอะไร ไมต่ ้องการอะไร 181 ปจ จยั ใดมอี ิทธิพลตอการตดั สนิ ใจ แนวขอสNอบTเนน Oก-าNรคETดิ เกรด็ แนะครู 1. ความรู 2. ความคิด ครูควรอธิบายเพ่มิ เติมวา ทกั ษะการคิด ตัดสนิ ใจ และแกป ญ หานนั้ เปนทกั ษะ 3. การวางแผน ทีต่ องใชควบคูก นั เสมอ หากฝกเปน ประจําจะชว ยทําใหเราเปนคนทม่ี เี หตผุ ล 4. การรวบรวมขอมลู มีความรอบคอบ สามารถตดั สนิ ใจแกไขปญ หาเฉพาะหนา ไดด เี ม่ืออยใู นสถานการณ ทคี่ ับขนั วเิ คราะหคาํ ตอบ ความรเู ปน สว นหนงึ่ ของการตดั สนิ ใจ เนอื่ งจากผทู ม่ี ี ความรมู าก จะมขี อ มลู ทส่ี ามารถรวบรวมไวใ ชเ ปน แนวทางในการวเิ คราะห นักเรยี นควรรู และตดั สนิ ใจเลอื กแนวทางทด่ี ที สี่ ดุ เพอ่ื แกไ ขปญ หาไดด มี ปี ระสทิ ธภิ าพ 1 การคดิ ตดั สนิ ใจ และแกป ญ หา เปน ทกั ษะทต่ี อ งใชค วบคกู นั และผสมผสานกนั มากกวา ผทู ม่ี คี วามรนู อ ย ตอบขอ 1. ระหวา งความคดิ และความรสู กึ ในการใชเหตุผลตดั สนิ ใจ เนอ่ื งจากจะมผี ลกระทบ ตอ ตนเองและผอู ่นื ดังน้นั จงึ ตองมีการตดั สนิ ใจอยางรอบคอบ คู่มือครู 181
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู้ ครูตั้งคําถามกระตนุ การเรยี นรขู องนกั เรยี น ๔. เมื่อพบปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ ให้น�าปัญหามาฝึกวิเคราะห์หาสาเหตุ • ทักษะการแกปญหา จะตองนําทกั ษะ แนวทางแก้ไข และลองตัดสินใจแก้ปัญหาน้ันด้วยตนเอง แต่ถ้าแก้ไม่ตก ควรขอค�าปรึกษาหรือ ค�าแนะน�าจากผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ เช่น เพ่ือนมาชวนนักเรียนไปสถานบันเทิงยามค�่าคืน นักเรียนจึง การคิด และการตัดสนิ ใจมาใชควบคกู ัน มาวิเคราะห์ถึงผลเสียที่เกิดข้ึนว่า ถ้าไปจะเกิดผลเสียอย่างไรกับตนเอง และถ้าไม่ไปจะก่อให้เกิด หรือไม เพราะเหตใุ ด ผลดกี ับตนเองอย่างไร เมื่อนกั เรยี นวเิ คราะห์แล้ววา่ เป็นสง่ิ ทไ่ี มด่ แี ละไม่เหมาะสมกบั วัย นักเรียน (แนวตอบ การใชท กั ษะการแกปญ หานนั้ จึงตัดสินใจดว้ ยการปฏิเสธเพ่อื นว่าไม่สามารถไปได ้ เปน็ ต้น จะตองนําขอ สรปุ ของทกั ษะการคดิ การตัดสนิ ใจ มาลงมอื แกป ญ หาตามแนวทาง ทักษะการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการน�าความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ไป ที่วางไว เพราะจะทําใหเราไดรูจ ักปรับเปลย่ี น ใช้ในการเผชิญและจัดการกับปัญหาท่ีเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม โดยน�าข้อสรุปของทักษะการคิด หาวธิ ีการทเี่ หมาะสม) วิเคราะห์ การตัดสินใจ มาลงมือแกป้ ญั หาตามแนวทางทวี่ างไว้ ซงึ่ ทักษะการแก้ปัญหาน ้ี จะท�าให้ • กระบวนการแกปญ หามกี ขี่ นั้ ตอน อะไรบา ง เรามีประสบการณ์เพ่ิมมากข้ึนและรู้จักปรับเปลี่ยนหาวิธีการท่ีเหมาะสม นับเป็นการฝึกให้เรามี (แนวตอบ มี 6 ขนั้ ตอน ไดแก จําแนก ความอดทน มเี หตุผล และเปน็ คนทีส่ ามารถแกป้ ญั หาต่างๆ ได้เป็นอยา่ งดี พร้อมทั้งไดเ้ รียนรวู้ ิธี แยกแยะหรือเปาหมาย กาํ หนดทางเลือก การป้องกันปัญหาท่ีจะเกิดข้ึนอีกด้วย การแก้ปัญหาเป็นกระบวนการของความพยายามท่ีบุคคล ของการแกป ญ หา ตงั้ วัตถปุ ระสงค ตดั สนิ ใจ รว่ มกนั พจิ ารณาอยา่ งสขุ มุ รอบคอบ เพอื่ หาวธิ กี ารแกป้ ญั หาอปุ สรรคตา่ งๆ จนทา� ใหก้ ารดา� เนนิ การ เลอื กแนวทางการแกป ญ หาทเ่ี หมาะสมกับ บรรลุเปา้ หมายท่ีตอ้ งการ บรรทัดฐานมากทีส่ ดุ ดาํ เนินการแกป ญหา และประเมนิ ผลการแกป ญ หา) กระบวนการแกป้ ัญหาจะมดี ว้ ยกนั ท้ังหมด ๖ ขน้ั ตอน • เพราะเหตุใดจึงตองมกี ารประเมินผล การแกป ญหา ๑ จ�ำแนกแยกแยะปัญหำหรือเป้ำหมำย เป็นการก�าหนดปัญหาข้ึนมาด้วยการตั้งค�าถาม เพ่ือค้นหาปัญหา (แนวตอบ เพ่อื ใหท ราบถึงสัมฤทธผิ ลทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการดําเนนิ การ อกี ท้งั ยังใชเปน ขอ มูล จากน้นั จะท�าการแบ่งแยกประเภทเพือ่ ทราบถึงความจา� เป็นและความสา� คญั ของปัญหาแต่ละประเภท ในการกาํ หนดแนวทางแกป ญ หาในคร้งั ตอไป) ๒ กำ� หนดทำงเลอื กของกำรแกป้ ญั หำ เปน็ การระบแุ นวทางทเ่ี ปน็ ไปไดท้ ใี่ ชใ้ นการแกป้ ญั หา ซงึ่ สามารถกระทา� ได้โดยจะเริ่มจากการระดมสมองเพ่ือหาแนวทางต่างๆ จากน้ันจะท�าการจัดหมวดหมู่ เพ่ือให้ง่ายต่อการ ๓ เตลั้งอื วกัตแถนุปวรทะาสงงแคก์ ป้ เญัป็นหกาใานรกข�าั้นหตนอดนวตัต่อถๆุปรไปะสงค์ของบรรทัดฐาน1ที่จะใช้ในการแก้ปัญหา โดยมีลักษณะของ บรรทดั ฐานสองลกั ษณะ คือ บรรทดั ฐานส�าคญั ในการแก้ปญั หา และบรรทดั ฐานท่ีตอ้ งการ ๔ ตัดสินใจเลือกแนวทำงกำรแก้ปัญหำที่เหมำะสมกับบรรทัดฐำนมำกที่สุด เป็นการตัดสินใจเลือกแนวทางท่ี เหมาะสมทส่ี ดุ ในการแกป้ ญั หา โดยมคี วามสอดคลอ้ งกบั บรรทดั ฐานทมี่ ี ซงึ่ การเลอื กแนวทางในการแกป้ ญั หา บางครง้ั แนวทางท่ดี อี าจจะไม่ไดร้ บั เลือก เพราะไม่สอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ ๕ ดำ� เนนิ กำรแกป้ ญั หำ จะดา� เนนิ การหลงั จากเลอื กแนวทางในการแกป้ ญั หาแลว้ โดยการดา� เนนิ การแกป้ ญั หา จะต้องมกี ารควบคุมใหก้ ารด�าเนินการเปน็ ไปตามแนวทางทีไ่ ดเ้ ลือกข้นึ มา ๖ ป ระเมนิ ผลกำรแกป้ ญั หำ เปน็ การตดิ ตามการดา� เนนิ การทเี่ ลอื กขนึ้ ดว้ ยการประเมนิ ผล โดยการประเมนิ ผล จะชว่ ยใหท้ ราบถงึ สมั ฤทธผิ ลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดา� เนนิ การ นอกจากนย้ี งั ใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการกา� หนดแนวทาง แก้ปญั หาในคร้ังตอ่ ไป 182 เกรด็ แนะครู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNิดET สิ่งใดทคี่ วรนํามาใชรว มกบั ทักษะการคิด ตัดสนิ ใจ และแกป ญหา ครูอาจกาํ หนดสถานการณส มมติขึน้ มา แลวใหน กั เรียนฝก ปฏบิ ตั ิการแกป ญหา 1. ความรอบรู และความกลา หาญ โดยใชก ระบวนการแกป ญหาท้ัง 6 ข้นั ตอน จากน้ันครเู สนอแนะเพมิ่ เตมิ และให 2. ความมั่นคง และความกลา หาญ คําแนะนํากับนักเรียนที่ยงั ไมสามารถแกป ญ หาสถานการณดังกลาวได 3. ความรอบรู และประสบการณช วี ติ 4. ความมุงม่นั และประสบการณช วี ิต นกั เรยี นควรรู วเิ คราะหคําตอบ บุคคลทจี่ ะมีทักษะการคิด ตดั สนิ ใจ และแกป ญหา ไดดนี นั้ จะตอ งเปน บคุ คลท่ีมีความรอบรเู ก่ยี วกบั เรื่องตางๆ และจะตอง 1 บรรทัดฐาน คอื ตัวกาํ หนดพฤตกิ รรมในชีวิตประจาํ วันของบุคคลในสังคม อาศัยประสบการณชีวติ ทผ่ี า นมาดว ย ซึง่ จะชวยใหส ามารถคดิ ตัดสินใจ ซ่งึ จะเปน ตวั บงชี้วาในสถานการณนนั้ ๆ บคุ คลควรปฏิบัตเิ ชนใดบาง ซึ่งพฤตกิ รรม และแกป ญหาไดอ ยางถูกตองเหมาะสม ตอบขอ 3. จะอยใู นแนวเดยี วกัน คือไมท ําความเดอื ดรอ นแกตนเองและผูอ่นื 182 คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain Explain อธบิ ายความรู้ การตัดสินใจและการแก้ปัญหา เป็นทักษะที่ต้องใช้ควบคู่กัน โดยเป็นการผสมผสาน ใหน กั เรยี นดกู ระบวนการตดั สนิ ใจและแกป ญ หา ระหว่างความคดิ และความรูส้ ึกในการใชเ้ หตผุ ลตดั สนิ ใจ ดังนั้น การทา� ความเข้าใจในกระบวนการ แลว ใหน กั เรียนรว มกันอภปิ รายวา กระบวนการ การตัดสินใจและแกป้ ัญหา จงึ เป็นส่งิ ที่มีความจ�าเป็นอย่างยง่ิ ทัง้ น้เี พื่อเปน็ การลดความเส่ยี งของ ตดั สนิ ใจและแกปญ หาน้นั มขี ้ันตอนอยา งไรบา ง การตดั สนิ ใจทผ่ี ดิ พลาด สามารถตดั สินใจไดท้ ันเวลา และสง่ ผลกระทบต่อบคุ คลต่างๆ ทเี่ ก่ียวข้อง จากนัน้ ครูอธิบายเพิม่ เติมวา การตดั สนิ ใจและ น้อยท่ีสุด การแกป ญหานัน้ เปนทักษะทีต่ อ งใชค วบคูกัน โดยเปนการผสมผสานระหวางความคิดและ กระบวนกำรตัดสนิ ใจและแก้ปญั หำ ความรูส ึกในการใชเหตุผลตัดสนิ ใจ ดังนน้ั การทําความเขา ใจในกระบวนการตดั สินใจ ก�ำหนดปัญหำ และแกปญหา จึงเปน สงิ่ ที่มคี วามจําเปนอยางย่งิ ทัง้ นี้เพ่ือเปน การลดความเส่ยี งของการตดั สินใจ โดยใชพ้ ืน้ ฐานสังเกตพฤตกิ รรมบุคคล สถานการณ์ ประเด็นท่อี ยใู่ นความสนใจเพ่อื กา� หนดให้ได้ว่า อะไรเปน็ ปญั หา ทผ่ี ิดพลาด สามารถตดั สนิ ใจไดท ันเวลา และ ทแี่ ทจ้ รงิ เชน่ เพอื่ นสนทิ ของนกั เรยี นกา� ลงั ถกู ชกั จงู ใหเ้ ลน่ การพนนั ฟตุ บอล นกั เรยี นตอ้ งการชว่ ยเพอ่ื นเพอ่ื ไมใ่ หเ้ ขา้ ไปเสย่ี ง สงผลกระทบตอ บคุ คลตางๆ ที่เกีย่ วของนอ ยท่สี ุด ต่อสถานการณท์ ่ีเป็นอันตราย เป็นต้น กำรค้นหำสำเหตุของปญั หำ เป็นการพิจารณาหาสาเหตุของปัญหา เช่น นักเรียนคิดว่าการที่เพ่ือนถูกชักจูงให้เล่นการพนันฟุตบอลน้ันอาจจะ เกิดมาจากสาเหตุตา่ งๆ เชน่ ความอยากรู้อยากลอง การถกู ชกั ชวน เป็นต้น และคดิ หาทางเลือกทีม่ ีความเป็นไปได้ ในการแก้ไขปญั หา โดยควรคิดไวห้ ลายๆ ทางเลือก เช่น การเตอื นเพื่อน การบอกให้ครูทราบ เปน็ ตน้ กำรวิเครำะห์ขอ้ ดีข้อเสียรวบรวมขอ้ มลู การวเิ คราะหข์ ้อดี ข้อเสยี ของแต่ละทางเลือก เป็นการประเมินทางเลือกแตล่ ะทางวา่ จะเกิดผลดี ผลเสียอะไรบา้ ง ยากง่ายอยา่ งไร นับเปน็ การรวบรวมข้อมูลซ่งึ เปน็ ประโยชน์ตอ่ การตดั สนิ ใจและการช่วยประเมนิ ดังตารางต่อไปน้ี ทำงเลอื กทีก่ �ำหนดไว้ ข้อดี ขอ้ เสีย ๑. การเตอื นเพอ่ื น เพอื่ นอาจจะไมย่ งุ่ เกยี่ วกบั การพนนั เพ่อื นอาจจะไม่เช่ือและเกิดความ ทุกชนดิ ไมพ่ อใจเราได้ ๒. การบอกใหค้ รูทราบ เพ่อื ทา่ นจะไดห้ าวธิ ีช่วยเหลือได้ เพื่อนอาจถกู ครลู งโทษ หรอื ถกู อยา่ งถูกตอ้ ง พกั การเรียนได้ กำรตดั สินใจเลอื ก จะตอ้ งเปน็ การตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื กทคี่ ดิ วา่ ถกู ตอ้ งเหมาะสมทส่ี ดุ ตามความคดิ ของตนเอง เชน่ การตดั สนิ ใจเลอื ก ทางเลอื กท่ี ๑ คือ การเตือนเพอื่ น เพราะเปน็ ทางเลอื กทไี่ ม่กอ่ ให้เกดิ ความรนุ แรง และยังส่งผลดีตอ่ เพ่ือนอกี ด้วย กำรหำแนวทำงกำรแก้ปญั หำ โดยการนา� วธิ ดี งั กลา่ วไปปฏบิ ตั วิ า่ ไดผ้ ลหรอื ไม่ หากไดผ้ ลกถ็ อื ไดว้ า่ การใชว้ ธิ นี เ้ี ปน็ วธิ กี ารทใี่ หผ้ ลดี ประสบผลสา� เรจ็ แต่ถา้ ไมไ่ ด้ผลก็ตอ้ งหาวธิ ีหรอื หาทางเลอื กใหม่ เช่น นักเรียนลองไปเตือนเพอ่ื น ปรากฏว่าเพ่อื นยอมรบั และไมย่ ุง่ เกย่ี ว กบั การพนันทุกชนดิ นักเรียนจงึ สามารถน�าวธิ นี ้ีไปใช้กบั คนอ่นื ต่อไปได้ 18๓ แนวขอสNอบTเนน Oก-าNรคETิด เกรด็ แนะครู แนวทางการประเมนิ ตนเองกอ นตัดสนิ ใจทีจ่ ะเลนการพนนั ขอ ใดสาํ คัญทส่ี ุด ครูอาจใหน กั เรียนแบงกลมุ กลุมละ 4 - 5 คน แสดงบทบาทสมมตเิ ก่ยี วกบั 1. คนทวั่ ไปทาํ กันเชน น้ีหรือไม การใชทักษะชีวิตตา งๆ ในการปองกันตนเอง เพื่อตรวจสอบความรูความเขาใจของ 2. จะมผี ลกระทบตอการเรียนหรอื ไม นักเรยี นวา สามารถนาํ ความรูท่ีไดไปประยุกตใชใหเกิดประโยชนไ ดอยางไร โดยครู 3. มีการปองกันไมใ หเ สยี เงินเปน จาํ นวนมากหรอื ไม สามารถตรวจสอบไดจากการแสดงบทบาทสมมติของนักเรยี น ซ่งึ ครูควรแจก 4. พรอ มจะแกปญ หาตอ ผลกระทบท่อี าจจะเกิดขน้ึ ตามมาหรือไม ใบประเมนิ ใหก บั นักเรียนทกุ กลุม เพ่ือทาํ การสรปุ ผล และควรเสนอแนะเพ่ิมเติม วิเคราะหค ําตอบ การประเมินตนเองกอ นตดั สนิ ใจท่จี ะเลน การพนนั ใหกบั นักเรียนในแตละกลุมดวย ควรคาํ นงึ ถึงผลเสยี หรอื ผลกระทบที่จะตามมากอ นเปน ลาํ ดบั แรก เชน สงผล ใหก ารเรียนตกตํ่า เพราะจะทาํ ใหไมม สี มาธิในการเรียน จติ ใจจดจออยูกับ การเลน พนนั และคดิ หาวธิ ีทจ่ี ะหาเงินมาเลนพนนั อยูเ สมอ ตอบขอ 2. ค่มู อื ครู 183
กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู้ ู้ ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขา้ า้ใจใจ ตรวจสอบผล Explore Evaluate Engage Explain Explain Expand อธบิ ายความรู้ ใหน ักเรียนรวมกันอภิปรายวา ทักษะการสื่อสาร ๓) ทักษะการสื่อสาร1 เป็นความสามารถในการใช้ภาษาพูดหรือภาษาท่าทาง เพ่ือ ทีด่ ีในการปอ งกันตนเองจากสถานการณเส่ียง ควร ปฏิบตั ิอยา งไรโดยครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา ทักษะการ แสดงออกถงึ ความรสู้ กึ นกึ คดิ ของตนในสถานการณต์ า่ งๆ ทงั้ นเี้ พอ่ื ใหส้ ามารถแกไ้ ขสถานการณไ์ ด้ สอ่ื สารที่ดีในการปองกันตนเองจากสถานการณ อยา่ งเหมาะสม โดยทักษะการสื่อสารท่ดี ีในการหลีกเลย่ี งสถานการณ์คบั ขนั ทอ่ี าจน�าไปสอู่ ันตราย เส่ียงนน้ั ควรใชถอยคําทม่ี ีเหตมุ ีผล ภาษาสุภาพ มีดังนี้ ไมเปน การขูบงั คับ หรอื ขวู า จะบอกคนอนื่ เพราะ ๑. การแสดงความคิดเห็น เป็นการแสดงให้ผู้อ่ืนรู้ว่าเราคิดเห็นอย่างไร และ อาจทําใหเกิดอันตรายตอตนเองได เสนอความคดิ เห็นดว้ ยน�้าเสยี งทห่ี นักแนน่ จรงิ จัง แตน่ ุม่ นวล ไม่เป็นการเสนอความคดิ เห็นดว้ ย ถอ้ ยคา� รุนแรง เชน่ “การเลนพนันเปน ส่ิงผดิ กฎหมาย ทําใหเปน หนี้สนิ เรากลัวเสียอนาคตท่ดี ีไป” ขยายความเขา้ ใจ Expand เป็นตน้ ๒. การขอรอ้ ง เปน็ การขอรอ้ งเพอื่ ใหผ้ ทู้ ช่ี กั จงู เราไปสสู่ ถานการณค์ บั ขนั ทนี่ า� ไปสู่ ใหน ักเรยี นทําใบงานเร่ือง ทกั ษะชีวติ ในการ อันตรายเกิดความเห็นอกเห็นใจเรา ซ่ึงเราควรมีวิธีการขอร้องโดยใช้ค�าพูดที่นุ่มนวล มีเหตุมีผล ปอ งกนั ตนเอง โดยครูกาํ หนดสถานการณต างๆ เพอื่ มิให้ผอู้ ่ืนคดิ ว่าเราเป็นการออกค�าส่งั มากกว่าการขอร้อง เชน่ “เราขอรอ งละ เราไปไมไ ดจ รงิ ๆ มาให แลวใหน กั เรยี นวเิ คราะหว า จากสถานการณ เพราะเราตอ งไปทาํ ธุระสําคัญกับแม ขอโทษดว ยนะ” เป็นต้น ดงั กลาว นกั เรียนจะสามารถใชท กั ษะชวี ติ ใด ๓. การเจรจาตอ่ รอง เราควรใชถ้ อ้ ยคา� ทม่ี เี หตมุ ผี ล ภาษาสภุ าพ ไมเ่ ปน็ การขบู่ งั คบั เพื่อปองกันตนเองในการหลกี เล่ยี งพฤติกรรมเสย่ี ง หรอื ขูว่ า่ จะบอกคนอนื่ เพราะอาจท�าใหเ้ กดิ อันตรายต่อตัวเองได ้ เชน่ “วนั นน้ั เราไมว างพอดีเลย และสถานการณเ สย่ี งตออนั ตราย ไวโอกาสหนาเราคอยไปดคู อนเสิรตทม่ี ีคนไมเยอะกนั นะ” เป็นต้น ความสามารถในการสอ่ื สารท่ดี ี นบั เปน็ ทกั ษะทด่ี ใี นการหลกี เลีย่ งสถานการณ์คับขนั ท่อี าจนำาไปส่อู นั ตรายได้ 18๔ นักเรียนควรรู ขแอนสวอบNเนTน กาOร-คNดิ ET ขอใดถอื ไดว า ใชทักษะการส่อื สารเพ่ือหลกี เลยี่ งสถานการณเ ส่ียงไดเปน 1 การสอื่ สาร ยอ มไมร าบรืน่ ทกุ ครง้ั ไป เนือ่ งจากความคิดเห็นของแตละคน อยางดี ยอมไมเหมือนกัน ภาษาทใี่ ชอ าจถูกตคี วามไปอกี แบบหนงึ่ ได ดังน้ันผูสอ่ื สารตอ ง 1. “เราขอรอ งละ อยามายงุ กับเราเลยนะ” มองผูฟง ดว ยทศั นคตเิ ชิงบวก ไมตคี วามดานลบ และไมจ นิ ตนาการไปเองวาผฟู ง 2. “เราไมอยากไปอะ ไปชวนคนอื่นเถอะนะ” รสู ึกอยางไร เพราะมเิ ชนน้ันผูส ื่อสารกจ็ ะใชน า้ํ เสยี ง สหี นา กรยิ า และคําพดู ที่เปน 3. “วนั นีเ้ ราไมวาง ไวโ อกาสหนา เราคอ ยไปนะ” เชิงลบได ซึ่งจะทาํ ใหเกดิ การตอตา นจากผูฟงดวยเชนกัน 4. “เราไปไมไดหรอกนะ การบานยงั ไมเ สร็จเลยเน่ยี ” วิเคราะหคาํ ตอบ การสอื่ สารทีด่ ีเพื่อใหรอดพน จากสถานการณเส่ยี ง มุม IT ควรใชภ าษาถอ ยคาํ ทส่ี ภุ าพ ไมใ ชน า้ํ เสยี งทด่ี ดุ นั และไมท าํ ลายความสมั พนั ธ ทีด่ ีตอ กัน ตอบขอ 3. สามารถศกึ ษาเพิม่ เตมิ เก่ยี วกับทกั ษะการสอื่ สารจากบทความเรื่อง “ทักษะสาํ คัญของนกั สื่อสารท่ีด”ี ไดจาก www.entraining.net 184 คูม่ ือครู
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเข้าใา้ จใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Evaluate Expand Expand ขยายความเขา้ ใจ เสริมสาระ ใหนกั เรยี นศกึ ษาเพม่ิ เตมิ เร่อื ง เลือกคบเพือ่ นดี จะไมมพี ฤติกรรมเสี่ยง จากเสรมิ สาระ แลว รวมกนั เลอื กคบเพอ่ื น1ดีจะไมม่ ีพฤตกิ รรมเสีย่ ง วิเคราะหว า เพอื่ นมอี ทิ ธพิ ลตอ นกั เรยี นอยางไร และเพือ่ นทดี่ ีนัน้ ควรมลี กั ษณะอยางไรท่ีจะทําให วัยรุ่นเป็นช่วงวัยท่ีให้ความสำาคัญอย่างมากกับกลุ่มเพื่อน เพ่ือนจึงมีอิทธิพลอย่างสูงต่อพฤติกรรมท่ีแสดงออกมา นักเรยี นไมม พี ฤติกรรมเสยี่ ง โดยครตู ง้ั คําถาม โดยลกั ษณะหนงึ่ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในการคบเพอื่ น คอื จะเลอื กคบเพอ่ื นทม่ี คี วามชอบความสนใจคลา้ ยคลงึ กนั มลี กั ษณะบางอยา่ ง เช่ือมโยงความรขู องนักเรยี น เหมือนตนเอง สามารถสนองความพงึ พอใจของตนได ้ หรือสามารถไปมาหาส่กู ันได้ง่าย และจะระมดั ระวังไม่ทำาให้เพอื่ น ไม่พอใจ เพราะเกรงวา่ เพือ่ นจะปฏเิ สธไมย่ อมคบหาดว้ ย ดังน้ัน การที่เพื่อนคนหน่ึงซ่งึ มลี กั ษณะเปน็ ผู้นาำ ไปทาำ กจิ กรรม • เพราะเหตใุ ด กลมุ เพอ่ื นจงึ มอี ทิ ธพิ ลตอ วยั รนุ อะไร เพ่ือนคนอนื่ ๆ ในกลุม่ ก็มีแนวโน้มจะทำาตามอย่างดว้ ย มากท่สี ุด ตวั อยา่ งเชน่ ถา้ ในกลมุ่ เพอื่ นมกี ารมว่ั สมุ เลน่ การพนนั ฟตุ บอลหลายคน คนอนื่ ๆ ในกลมุ่ กม็ แี นวโนม้ จะเลน่ การพนนั (แนวตอบ เพราะวยั รนุ มักจะเช่ือเพอื่ น และ ฟุตบอลตามอย่าง ทั้งที่ส่วนลึกในใจของบางคนไม่อยากเล่น แต่ก็กลัวเพ่ือนจะต่อว่า จึงต้องเล่นตาม ดังคำากล่าวที่ว่า ทาํ ทุกอยางเพอ่ื ใหเปน ทยี่ อมรับของ “ตกกระไดพลอยโจน” กลมุ เพ่ือน ดังน้ันหากวัยรนุ รูจักเลือกคบ การเลือกคบเพื่อนดีมีความสำาคัญอย่างมากต่อการกำาหนดพฤติกรรมของวัยรุ่น รวมทั้งต้องรู้จักปฏิบัติตนท่ี เพอื่ นทด่ี ี กย็ อ มทาํ ใหม พี ฤตกิ รรมทเี่ หมาะสม เหมาะสมต่อเพ่ือนด้วย โดยมีแนวทาง ดังนี้ แตในทางตรงขา มหากคบเพื่อนทีไ่ มด ี กอ็ าจ ๑. เลอื กคบเพ่ือนที่ด ี มีความจรงิ ใจ มีนาำ้ ใจ ไม่เหน็ แก่ตวั คอยใหก้ าำ ลังใจ หมั่นถามไถ่สารทกุ ข์สุกดบิ ทาํ ใหม ีพฤติกรรมท่ีไมเหมาะสมได โดยอาจ ๒. เลือกคบเพอื่ นทม่ี ีความประพฤติดี ไมด่ ่มื เหลา้ ไม่สบู บุหร ่ี ไม่เล่นการพนัน ไมช่ อบเทย่ี วกลางคนื ชักจูงกนั ทาํ ในสงิ่ ทไ่ี มด ี ซึ่งกอใหเ กดิ ผลเสีย ๓. ยอมรับความแตกต่างระหวา่ งบุคคลไม่พยายามไปเปลย่ี นแปลงเพื่อนให้เปน็ หรือให้ชอบเหมอื นอย่างเรา ทั้งตอ ตนเอง ครอบครัวและสงั คม) ๔. ไมเ่ อาเปรยี บเพื่อน ไมค่ ดิ เลก็ คิดน้อยและไมห่ วังผลประโยชนจ์ ากเพ่อื น ๕. รู้จกั ให้อภัย เมอ่ื อยูใ่ กลช้ ิดกัน โอกาสท่ีจะทำาผิดพลาดหรอื ไม่เขา้ ใจกันยอ่ มมีอยู่มาก ดงั นัน้ คนทเ่ี ปน็ เพอ่ื นกนั • เพ่ือนท่ดี ีควรมลี ักษณะอยา งไร จงึ ต้องมนี ำา้ ใจและรจู้ กั ใหอ้ ภยั ตอ่ กัน (แนวตอบ มคี วามรกั และความหวังดตี อ กนั ๖. ชักชวนกันทำาส่ิงที่ดี และต้องห้ามปรามความคิดของเพื่อน หากเพื่อนจะไปมีพฤติกรรมเส่ียง ให้พึงระลึกอยู่ อยา งจริงใจ ไมโ กหก ไมห ลอกลวงซ่ึงกนั เสมอว่า เพ่ือนทด่ี ตี ้องคอยหา้ มปรามมใิ ห้เพ่ือนไปกระทำาสิ่งที่ผิด และกัน ไมชกั ชวนกนั ทาํ ในสิ่งทผ่ี ดิ หรือสิง่ ท่ี แนวทางที่กล่าวมาน้ี หากเราปฏิบัติตามได้ ก็ย่อมจะทำาให้เรามีกลุ่มเพื่อนท่ีดี และจะช่วยให้เราอยู่ห่างไกลจาก ไมเหมาะสม มีนํ้าใจเอือ้ เฟอ เผอื่ แผ พูดจา พฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณเ์ ส่ียงต่ออนั ตรายตา่ งๆ ได้ สภุ าพออ นโยน ไมพ ูดคําหยาบคาย ไมร ังแก เพ่อื น เปน นักเรียนท่ดี ีของโรงเรยี น เปนลกู ทม่ี า : กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข ที่ดขี องพอแม เปน ตน) วัยรุนเปนวัยแหงความคึกคะนอง ซึ่งการตัดสินใจกระทําเร่ืองบางอยาง อาจเปน พฤติกรรมที่นําตนเองไปสูสถานการณเสี่ยงที่เปนอันตรายตอรางกายและชีวิตไมวาจะเปน พฤตกิ รรมม่ัวสมุ การกอ เหตทุ ะเลาะววิ าท การเขา ไปยังแหลงอบายมุข การแขงขันจกั รยานยนต บนทองถนน การเขาไปอยูรวมในฝูงชน เยาวชนท่ีอยูในชวงวัยรุน จึงตองมีสติย้ังคิด คํานึงถึง เหตผุ ลและความเหมาะสมใหม าก พงึ ระลกึ อยเู สมอวา การตดั สนิ ใจทาํ บางอยา งอาจสง ผลกระทบ ตอ เราและครอบครวั หรอื คนอนื่ ทเี่ ขาไมเ กย่ี วขอ งดว ยไปจนตลอดชวี ติ รวมทงั้ เมอ่ื มใี ครมาชกั ชวน ใหทําในสิ่งที่เปนพฤติกรรมเส่ียงหรือเขาไปอยูในสถานการณเสี่ยง ก็ตองรูจักใชทักษะชีวิต เพือ่ พาตนเองใหพน จากความไมป ลอดภยั นั้นได 18๕ ขอ สอบ O-NET เกรด็ แนะครู ขอ สอบป ’52 ออกเกี่ยวกับการเลือกคบเพือ่ น ครอู าจใหน กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม โดยใหเขียนระบุชือ่ เพ่อื นทคี่ ดิ วา ดีท่สี ดุ สําหรับ ลักษณะใดทบ่ี คุ คลตอ งการคบเปน เพื่อนมากที่สดุ ตนเองมา 1 คน พรอ มทั้งอธบิ ายเหตุผลดว ยวา เหตใุ ดจึงเลือกเพอ่ื นคนดังกลา ว 1. ยมิ้ แยม แจมใส 2. เอื้อเฟอ เผอ่ื แผ นกั เรยี นควรรู 3. เอาใจเขามาใสใ จเรา 4. พดู จาไพเราะ 1 เลือกคบเพือ่ น ในทางพระพุทธศาสนาไดส อนหลักธรรมในการคบเพ่ือนไว วิเคราะหคาํ ตอบ ทุกขอ ที่กลา วมาเปนลกั ษณะของการคบเพอื่ นท่ดี ี แต ไดแ ก มติ รแท 4 และมติ รเทยี ม 4 สงิ่ ทส่ี าํ คญั ทส่ี ดุ ในการสรา งมติ รภาพท่ดี ีตอ กัน คือ การเอาใจเขามาใสใ จเรา มติ รแท หมายถึง มติ รท่ีรว มทุกขร วมสุขและพ่งึ พาอาศยั กันในยามคับขนั เปน เพราะจะทาํ ใหเรารูจ ักคดิ ถึงใจคนอื่น เหน็ ใจคนอน่ื และคดิ เปรียบเทียบดวู า มิตรดวยใจจรงิ มี 4 ประเภท คือ มติ รอปุ การะ มิตรรว มสขุ รวมทกุ ข มติ รแนะนาํ ถาเราเปนเขา เราจะรูส กึ อยา งไรถา มคี นมาปฏบิ ตั ิหรอื พูดกับเราในแบบที่เรา ประโยชน และมติ รมนี ้ําใจ กําลงั จะทาํ หรือพดู ออกไป ตอบขอ 3. มิตรเทียม หมายถึง ศตั รผู ูมาในรา งของมติ ร ไมควรคบ ควรหนใี หห างไกล มี 4 ประเภท คือ มติ รปอกลอก มิตรดแี ตพ ดู มติ รหวั ประจบ และมติ รชวนไป ในทางท่เี สื่อม คูม่ ือครู 185
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล Explore Explain Expand Engage Evaluate Evaluate ตรวจสอบผล 1. การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมสรา งสรรคพฒั นาการเรยี นรู คา� ถาม ประจา� หน่วยการเรยี นรู้ กจิ กรรมที่ 1 และกิจกรรมท่ี 2 ๑. นักเรียนรู้สึกอย่างไรบ้างหากเพื่อนของนักเรียนชักชวนให้นักเรียนไปอยู่ในสถานการณ์เส่ียงต่างๆ 2. การสรปุ ผังความคิดเรอ่ื ง แนวทางการหลกี เลย่ี ง ทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตราย พฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณเ สยี่ งตออนั ตราย ๒. หากนักเรยี นคบเพอื่ นท่มี ีพฤติกรรมเสยี่ ง เชน่ ชอบเล่นการพนนั ม่วั สุมเล่นเกมคอมพวิ เตอร ์ เปน็ ตน้ 3. การทําใบงานเร่อื ง ทักษะชวี ิตในการปอ งกนั นกั เรยี นจะใชท้ กั ษะชวี ติ ในการปอ้ งกนั ตนเองอยา่ งไรเพอ่ื ใหต้ นเองรอดพน้ จากพฤตกิ รรมเสยี่ งเหลา่ นนั้ ตนเอง โดยท่นี ักเรียนยงั คงความสมั พันธท์ ีด่ กี บั เพอื่ น หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู ๓. นักเรียนเคยพบเห็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์บนท้องถนนกับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในสนาม ที่จัดไวใ้ ห้หรือไม ่ นกั เรียนคิดวา่ มคี วามเหมอื นหรอื แตกตา่ งกันหรือไม่ ในเรื่องใด 1. ผังความคดิ เร่อื ง แนวทางการหลีกเลีย่ ง พฤตกิ รรมเสีย่ งและสถานการณเ สย่ี งตออันตราย ๔. “ไปเทย่ี วสถานบันเทิงกันไหมคนื น้”ี จากขอ้ ความดังกล่าว นักเรียนจะมีวิธีการหลกี เล่ียงสถานการณ์ นั้นอย่างไร 2. ใบงานเร่ือง ทักษะชีวติ ในการปอ งกันตนเอง ๕. น้องของนักเรียนมาปรึกษากับนักเรียนว่าถูกเพ่ือนชักชวนให้ไปชมคอนเสิร์ตที่มีผู้คนเป็นจ�านวนมาก ในฐานะที่นักเรียนเป็นพ่ีและมีความรู้ความเข้าใจในการหลีกเล่ียงสถานการณ์เสี่ยงมาพอสมควร นกั เรยี นจะให้คา� แนะนา� และการปฏิบตั ิตนท่ีเหมาะสมแกน่ ้องไดอ้ ย่างไรบ้าง กิจกรรม สร้างสรรค์พฒั นาการเรียนรู้ กิจกรรมที่ ๑ นกั เรยี นแตล่ ะคนหาภาพหรอื ขา่ ว เกย่ี วกบั การมพี ฤตกิ รรมเสย่ี งของวยั รนุ่ คนละ ๑๒ ชนิ้ กจิ กรรมท ี่ ๒ จากหนังสือพมิ พร์ ายวัน นิตยสาร เวบ็ ไซต ์ น�าไปตดิ ลงบนกระดาษ พรอ้ มทั้งเขียน แสดงความคิดเหน็ ด้วยว่า ภาพหรือขา่ วน้ันสะท้อนหรอื ให้แง่คิดอะไรบ้าง กจิ กรรมท่ ี ๓ เชิญบุคคล ๒-๓ ท่าน ท่ีในอดีตเคยมีพฤติกรรมเส่ียงในเร่ืองใดเร่ืองหนึ่งต่อไปน ้ี การมว่ั สมุ การทะเลาะวิวาท ชอบไปเทยี่ วในแหลง่ อบายมขุ การแขง่ รถจักรยานยนต์ บนทอ้ งถนน และปจั จบุ นั ไดเ้ ลกิ พฤตกิ รรมเสย่ี งนนั้ แลว้ มาเลา่ ประสบการณ์ใหน้ กั เรยี น ฟงั โดยเนน้ ถึงผลกระทบท่ีได้รับจากการมีพฤติกรรมเสี่ยงและสาเหตุทตี่ ้องเลกิ นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั การใชท้ กั ษะชวี ติ ในการปอ้ งกนั ตนเองและหลกี เลย่ี ง สถานการณ์คับขันที่อาจน�าไปสู่อันตราย โดยเน้นการใช้ทักษะปฏิเสธและทักษะ การตอ่ รอง ทง้ั นอ้ี าจกา� หนดสถานการณส์ มมต ิ ๒-๓ กรณ ี แลว้ ใหน้ กั เรยี นออกมาแสดง ทหี่ นา้ ชัน้ 186 แนวตอบ คําถามประจาํ หนวยการเรียนรู 1. ข้นึ อยูกบั คําตอบของนกั เรียน โดยสามารถแสดงความคิดเหน็ ไดอ ยางอสิ ระ 2. ขน้ึ อยูก บั คําตอบของนักเรยี น โดยอาจตอบวา ใชท ักษะการปฏเิ สธและการตอ รอง ทกั ษะการคิด ตดั สนิ ใจและแกปญ หา และทักษะการส่อื สารโดยการใชทกั ษะเหลานี้ จะตอ งใชเหตุผลและความรอบคอบเขา มามสี วนชว ยกจ็ ะชว ยใหส ามารถหลีกเลยี่ งพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณเสี่ยงตางๆ ได 3. มคี วามแตกตางกันในเร่ืองของความปลอดภยั โดยการแขง ขนั รถจักรยานยนตบ นทองถนนน้นั มักจะแขงขันกนั บนถนนทผี่ คู นใชส ัญจรไปมา หรือถนนบนทางหลวง ซึ่งกอ ใหเกดิ อันตรายตอ ผูขับข่แี ละผูใชรถใชถนนทั่วไป สาํ หรับการแขง ขันรถจักรยานยนตใ นสนามนน้ั จะแขง ขันกันในสนามที่จดั ไวใ ห ซง่ึ จะมคี วามปลอดภัยตอ ผขู ับขี่ และผูใชร ถใชถนนท่วั ไป เพราะมีการจดั สนามแขงขันไวโดยเฉพาะ 4. อาจใชทักษะปฏิเสธไปวา “เราไปไมไ ดจรงิ ๆ พอดีตอ งไปธรุ ะกบั แม ขอโทษนะ” โดยจะตอ งใชค ําพูดท่ีนมุ นวล และทา ทางท่ีจริงจงั แตย ังคงความสัมพนั ธท ด่ี ตี อกนั ไว 5. อธบิ ายใหนองฟง วา การไปชมคอนเสริ ต ทมี่ ผี คู นเปน จาํ นวนมากนั้น อาจกอ ใหเกดิ อนั ตรายได เชน ถกู เหยียบ ขาดอากาศหายใจ เปนลมหมดสติ เปน ตน เพ่ือใหน อง เกิดความตระหนกั และไมไปยุงเกยี่ ว นอกจากนี้อาจใหนอ งรจู กั ใชท ักษะปฏเิ สธเพือ่ ใหรอดพน จากการถกู ชกั จงู จากเพ่อื นได 186 คู่มือครู
กระตุน้ ความสนใจ ส�ำรวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ºÃóҹءÃÁ กระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๕๑. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : [ม.ป.ท.]. กระทรวงสาธารณสขุ . กองควบคมุ เครอ่ื งมอื แพทย.์ สา� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา. ๒๕๕๑. ความเส่ยี งและข้อควรคํานงึ เก่ยี วกับการใชค้ อนแทคเลนส. กรุงเทพมหานคร. ขวัญข้าว เผา่ ไท. ๒๕๕๒. สขุ ภาพดีสรา้ งได.้ กรงุ เทพมหานคร : ณ ดา สา� นกั พิมพ์. โควยี ,์ ฌอน. ๒๕๕๑. คมู่ อื ๗ อปุ นสิ ยั ใหว้ ยั รนุ่ เปน เลศิ . แปลโดย ฐปนยี ์ มนะเวส. กรงุ เทพมหานคร : อนิ สปายร.์ นวลศิริ เปาโรหิต. ๒๕๔๘. จิตวิทยาท่ัวไป : การปรับตัว. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย รามค�าแหง. บราวน,์ โจเซฟ อาร.์ ๒๕๔๙. สารานกุ รมชดุ ร่างกายของเรา : การรักษาดุลยภาพของรา่ งกาย. แปลโดย ประภาเพ็ญ สุวรรณ และคณะ. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์. . ๒๕๔๙. สารานุกรมชุดร่างกายของเรา : สมองและระบบประสาท. แปลโดย ประภาเพญ็ สวุ รรณ และคณะ. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจริญทศั น.์ . ๒๕๔๙. สารานกุ รมชดุ รา่ งกายของเรา : หวั ใจและโลหติ . แปลโดย ประภาเพญ็ สวุ รรณ และคณะ. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจริญทศั น์. พชิ ิต ภูติจันทร.์ ๒๕๔๗. วทิ ยาศาสตรการกีฬา. กรงุ เทพมหานคร : โอเดียนสโตร์. มนัส ยอดค�า. ๒๕๔๘. สขุ ภาพกับการออกกําลังกาย. กรงุ เทพมหานคร : โอเดยี นสโตร์. วทิ ติ วัณนาวิบูล และวทิ วัส วัณนาวิบลู . ๒๕๔๘. ปรชั ญาแนวคิดพืน้ ฐานการแพทยตะวันออก- ตะวันตก. กรงุ เทพมหานคร : หมอชาวบา้ น. สา� นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. ๒๕๕๑. ตัวช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กล่มุ สาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา. กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แหง่ ประเทศไทย. สมพร ขจรวุฒิเดช. ๒๕๕๑. เลนสส ัมผัสและแนวทางการควบคมุ . กรงุ เทพมหานคร. 18๗ คู่มอื ครู 187
กระตุ้นความสนใจ สำ� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate สวัสดิ์ ประทุมราช และจรรจา สุวรรณทัต. ๒๕๕๒. การเสริมสร้างและป้องกันวัยรุ่นจาก ความเส่ียง. กรุงเทพมหานคร : ศนู ยว์ จิ ัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย. ภารกจิ สรา้ ง เศรษฐกิจและสนั ตสิ ขุ สา� นกั งานคณะกรรมการวิจัยแหง่ ชาติ. อดิลล่า พงศ์ย่ีหล้า. ๒๕๕๒. แนวทางในการป้องกันและแก้ปัญหาการติดเกมของเยาวชนไทย รวมท้ังการประเมนิ ต้นทนุ และคา่ ใชจ้ ่ายในการเลน่ เกม. กรุงเทพมหานคร : สา� นักงาน คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. Neidhardt, E.J. et al. 1984. General Health and Well-Being. Vancouver Western Centre Group. Patricia, Macnair. 2004. Life Story. London : Kingfisher Publication Plc. Seaward, Brian Luke. 2009. Managing stress: principles and strategies for health and well-being. 2thedition. Sudbury : Jones and Bartlett Publishers. Spencer, John W. 2003. Complementary and alternative medicine : an evidence-based approach. 2thedition. St. Louis : Mosby. Steve, Parker. 2005. The Human Body. London : Carlton Bopoks Limited. Victoria Clarke, et al. 2010. Lesbian, gay, bisexual, trans and queer psychology : an introduction. Cambridge : Cambridge University Press. 188 188 คู่มือครู
สรา้ งอนาคตเดก็ ไทย ดว้ ยนวตั กรรมการเรยี นรรู้ ะดบั โลก >> ราคาเลม่ นกั เรยี นโปรดดจู ากใบสง่ั ซอ้ื ของ อจท. คู่มือครู บร. สุขศึกษา ม.2 บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จำกดั 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรงุ เทพมหานคร 10200 โทร./แฟกซ.์ 02 6222 999 (อตั โนมตั ิ 20 คสู่ าย) 8 8 5 8 6 4 9 1 32 25704 2.- www.aksorn.com Aksorn ACT ราคาน้ี เปน็ ของฉบบั คมู่ อื ครเู ทา่ นน้ั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198