Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครู-วิทยาคำนวณ-ม.5

คู่มือครู-วิทยาคำนวณ-ม.5

Published by pimsiri.t, 2020-04-20 08:19:05

Description: คู่มือครู-วิทยาคำนวณ-ม.5

Search

Read the Text Version

สาํ หรบั ครูเทาน้ัน ลิขสิทธิ์ สสวท. หามเผยแพรหรือแจกจายบนสื่อสาธารณะ หามจาํ หนาย

ค่มู อื ครู รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ดั กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ จัดท�ำ โดย สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ

ค�ำ น�ำ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มีหน้าที่ในการพัฒนาหลักสูตร วิธี การเรยี นรู้ การประเมินผล การจัดทำ�หนงั สอื เรียน คู่มือครู แบบฝกึ ทักษะ กจิ กรรม และสอื่ การเรยี นรเู้ พอื่ ใช้ประกอบการเรยี นรู้ในกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตรข์ องการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ค่มู อื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ นจี้ ัดทำ� ตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับหลักสูตรเทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) ตารางวิเคราะห์การจัดทำ�หน่วยการเรียนรู้ รวมท้ังตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี สอดคล้องกับหนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ทต่ี ้องใช้ควบคู่กัน สสวท. หวังเปน็ อย่างยิง่ ว่า คูม่ อื ครูเลม่ นจ้ี ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การจดั การเรยี นรแู้ ละเป็นสว่ นสำ�คญั ในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิ บุคลากรทางการศึกษาและหน่วย งานต่าง ๆ ทม่ี ีสว่ นเกีย่ วข้องในการจดั ทำาไว้ ณ โอกาสน้ี (ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลมิ ปจิ �ำ นงค์) ผู้อ�ำ นวยการสถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ค�ำ ชแี้ จง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการได้พัฒนา หลกั สตู รวชิ าคอมพวิ เตอร์ โดยมกี ารประกาศใชห้ ลกั สตู รครงั้ แรกในปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๒๘ และมกี ารปรบั ปรงุ หลักสูตรมาอย่างต่อเนือ่ ง จนกระท่ังมกี ารประกาศใช้หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดเ้ ปลยี่ นชอ่ื วชิ าเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร โดยจัดใหอ้ ยใู่ นกลุ่มสาระการเรียนรู้การ งานอาชพี และเทคโนโลยี ในปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) และมกี ารเปลย่ี นชอื่ เปน็ วิทยาการค�ำ นวณ อย่ใู นสาระเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โดยมเี ป้าหมายหลักเพ่ือพัฒนา ผู้เรียนให้มีความรู้และมีทักษะ การคิดเชิงคำ�นวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ ประยกุ ตใ์ ช้ความร้ดู ้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ในการแกป้ ัญหาที่พบ ในชีวิตจรงิ ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ คู่มือครูเล่มน้ีใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำ�นวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ โดยสถานศึกษาสามารถนำ�ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การเรยี นรไู้ ดต้ ามความ เหมาะสม เนื้อหาในเลม่ นี้ประกอบด้วยจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้ แนวคดิ ตัวอยา่ งสอ่ื อปุ กรณ์ ขน้ั ตอนด�ำ เนนิ กจิ กรรม การวดั และประเมนิ ผล สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ ซง่ึ ควรน�ำ ไป จดั การเรยี นรรู้ ว่ มกบั หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) ชน้ั มธั ยมศกึ ษา ปที ่ี ๕ ทีพ่ ฒั นาโดย สสวท. จะทำ�ใหก้ ารจดั การเรียนร้ไู ด้สมบูรณ์สอดคล้องตามที่หลกั สตู รก�ำ หนด สสวท. ขอขอบคณุ คณาจารย์ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ นกั วชิ าการ และครผู สู้ อน จากสถาบนั ตา่ ง ๆ ทใี่ หค้ วาม รว่ มมอื ในการพฒั นาคมู่ อื ครู และหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ คมู่ อื ครเู ลม่ นจ้ี ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ เยาวชนและผเู้ กยี่ วขอ้ ง กับการจัดการเรียนรู้รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) ในการจัดการเรียนรู้ได้สมบูรณ์ตามเป้าหมาย ของหลกั สูตรต่อไป สาขาเทคโนโลยี สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ

ค�ำ แนะน�ำ การใชค้ ูม่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) ค่มู ือครูเลม่ นีม้ ี 10 กจิ กรรม แตล่ ะกิจกรรมประกอบด้วย ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้ จุดประสงคห์ นส้าาระ ส�ำ คญั แนวทางการจดั การเรยี นรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ การวดั และประเมนิ ผล และขอ้ เสนอแนะ ในการจดั กจิ กรรม การเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพควรใช้คู่กับหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ ค�ำ นวณ) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 สาระเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 ซงึ่ ไดก้ ำ�หนดตวั ชวี้ ดั คอื รวบรวม วเิ คราะห์ ข้อมลู และใช้ความร้ดู ้านวทิ ยาศาสตร์ สอื่ ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปญั หาหรือเพ่มิ มูลค่า ใหก้ ับบรกิ ารหรือผลติ ภณั ฑท์ ่ใี ชใ้ นชีวติ จรงิ อย่างสรา้ งสรรค์ กจิ กรรมในคมู่ อื ครนู ้ี มคี วามสอดคลอ้ งกบั ตวั ชวี้ ดั โดยก�ำ หนดเวลาในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรจู้ �ำ นวน 40 ช่ัวโมง ดังตารางตอ่ ไปน้ี กจิ กรรมที่ เรอื่ ง สอดคลอ้ งกับเนอื้ หา เวลาในการจดั ในหนังสอื เรียน กิจกรรม (ชัว่ โมง) 1 ข้อมูลมคี ุณค่า บทท่ี 1 2 2 รจู้ กั กับวิทยาการขอ้ มลู บทท่ี 1 2 3 แนวคดิ เชงิ ออกแบบ บทท่ี 1 2 4 การรวบรวมขอ้ มลู บทท่ี 2 6 5 การส�ำ รวจขอ้ มูล บทท่ี 2 2 6 การวเิ คราะห์เชงิ พรรณนา บทที่ 3 4 7 การทำ�นายเชงิ ตวั เลข บทที่ 3 4 8 การทำ�นายเชงิ หมวดหมู่ บทที่ 3 4 9 การท�ำ ขอ้ มลู ให้เป็นภาพ บทท่ี 4 2 10 โครงงานวทิ ยาการขอ้ มลู บทท่ี 4 12 รวม 40 ครูผสู้ อนสามารถดาวนโ์ หลดสือ่ การสอน แนวการตอบใบกจิ กรรม และอ่ืน ๆ ไดท้ ่ี http://oho. ipst.ac.th/csm5 โดยมีรหัสผา่ นคอื IPSTcsm5

สารบัญ เนือ้ หา กิจกรรมที่ ขอ้ มูลใกล้ตัว 2 5 1 ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 ใคร ๆ กส็ ามารถใชข้ ้อมูลได้ 11 17 2 รจู้ ักกับวทิ ยาการข้อมูล 19 21 3 ใบกิจกรรมที่ 2.1 ข้อมลู เปลย่ี นมุมมอง 25 4 27 5 ใบกิจกรรมท่ี 2.2 ขอ้ มูลช่วยชุมชนและโลกอยา่ งไร 30 6 33 ใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ก) เวลาของฉนั 40 42 ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 (ข) Surprise!!! 44 46 ใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ค) ฝน 51 53 ใบกิจกรรมท่ี 2.3 (ง) ไดโนเสาร์ 60 64 แนวคิดเชงิ ออกแบบ 66 69 ใบความรู้ที่ 3.1 เกมเปา่ ยิงฉบุ 74 ใบกิจกรรมท่ี 3.1 คิดแบบนักออกแบบ ใบกิจกรรมท่ี 3.2 โครงงานวิทยาการข้อมลู ของฉนั การรวบรวมขอ้ มูล ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 ขอ้ มูลตอบโจทย์ ใบกิจกรรมที่ 4.2 ผู้จัดการขอ้ มลู การส�ำ รวจข้อมลู ใบกิจกรรมที่ 5.1 นกั สำ�รวจ การวิเคราะหเ์ ชิงพรรณนา ใบกิจกรรมที่ 6.1 ข้อมูลน้มี อี ะไร ใบกิจกรรมท่ี 6.2 สัมพนั ธก์ ันหรือไม่

สารบัญ เนอ้ื หา กิจกรรมท่ี การท�ำ นายเชิงตัวเลข 76 7 ใบกิจกรรมที่ 7.1 ยอดวิว 80 ใบกิจกรรมที่ 7.2 ผลทำ�นายใครแม่น 82 8 ใบกจิ กรรมท่ี 7.3 รแู้ ลว้ รวย 85 การท�ำ นายเชงิ หมวดหมู่ 87 9 ใบความรทู้ ่ี 8.1 การสร้างกราฟเรดารใ์ น Google Sheets 90 10 ใบกิจกรรมที่ 8.1 ชวี ติ ฉนั คลา้ ยใคร 94 ใบกจิ กรรมท่ี 8.2 ตัวน้ี พวกไหนดี 95 ใบกิจกรรมที่ 8.3 K ใครแม่นกว่ากนั 98 การท�ำ ขอ้ มูลใหเ้ ป็นภาพ 102 ใบกจิ กรรมท่ี 9.1 นำ�เสนออย่างมืออาชีพ 106 ใบกิจกรรมท่ี 9.2 แบบน้ใี ชร่ เึ ปลา่ 108 โครงการวทิ ยาการขอ้ มลู 110 ใบกจิ กรรมที่ 10.1 รอ้ ยเรยี งเร่อื งราวส่สู งั คม 115 ภาคผนวก 118 แบบประเมนิ การเรียนรขู้ องตนเอง 119 แบบประเมินการทำ�ข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพ 120 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำ งานกลมุ่ 122 คณะผจู้ ดั ท�ำ 124

2 กจิ กรรมที่ 1 | ข้อมลู ใกล้ตัว รายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) กิจกรรมที่ 1 ข้อมลู ใกลต้ วั คาบท่ี 1 - 2 | เวลา 2 ชั่วโมง 1 ตวั ชวี้ ัด รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปญั หาหรือเพิ่มมูลค่าให้กับบริการหรอื ผลติ ภัณฑ์ท่ีใช้ในชวี ิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์ 2 สาระการเรียนรู้ 2.1 ยคุ ของข้อมลู และสารสนเทศ 2.2 ประโยชน์หรอื คณุ ค่าของข้อมลู 3 จดุ ประสงค์ ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถ 3.1 ใชป้ ระโยชนจ์ ากข้อมูลทอี่ ยูร่ อบตัว 3.2 คน้ หา และรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมูลบนเวบ็ ไซต์เพอื่ แก้ปัญหา 3.2 สอ่ื สารและน�ำ เสนอขอ้ มลู ผลลพั ธ์ในรูปแบบของตนเอง 4 ทกั ษะและกระบวนการ 4.1 ทักษะการสืบค้นขอ้ มูล 4.2 ทักษะการแกป้ ญั หา 4.3 ทกั ษะการสอ่ื สารและรว่ มมอื 5 ความร้เู ดิมท่ีนกั เรียนต้องมี - 6 สาระสำ�คญั ยุคของข้อมูลและสารสนเทศ เป็นยุคของการใช้ข้อมูล ท่ีมีอยู่จำ�นวนมหาศาล มาสร้างมูลค่าให้เกิด ประโยชนก์ บั บคุ คล หรอื องค์กร การจะใช้ประโยชนจ์ ากข้อมูลเพ่อื เพม่ิ ประสทิ ธิภาพการทำ�งาน หรอื การใช้ ชวี ิตของตนเอง จะตอ้ งน�ำ ขอ้ มลู ทเี่ ก็บรวบรวมดว้ ยตนเอง หรืออาจน�ำ ข้อมลู ทุติยภูมทิ ี่มผี รู้ วบรวมหรอื สรปุ ไวแ้ ลว้ มาผา่ นกระบวนการประมวลผลขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ สารสนเทศ นอกจากนก้ี ารน�ำ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยภาพ และ เร่ืองราวบนพน้ื ฐานของขอ้ มูล จะท�ำ ใหผ้ ู้อืน่ เข้าใจ เหน็ ความสำ�คัญและคุณคา่ ของข้อมลู สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กิจกรรมท่ี 1 | ขอ้ มูลใกลต้ วั 3 7 สอื่ และอุปกรณ์ 7.1 ใบกจิ กรรม ใบกิจกรรมท่ี เรอ่ื ง เวลา (นาท)ี 1.1 ใคร ๆ ก็สามารถใชข้ ้อมลู ได้ 45 7.2 ใบความรู้ - 7.3 อื่นๆ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) ช้ันมัธยมศึกษา ปที ี่ 5 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8 แนวทางการจัดการเรยี นรู้ 8.1 การจดั เตรยี ม 8.1.1 ใบกิจกรรมท่ี 1.1 ใคร ๆ กส็ ามารถใชข้ อ้ มลู ได้ ตามจำ�นวนกลุ่ม 8.1.2 แบบประเมนิ การเรยี นรู้ของตนเอง ตามจ�ำ นวนผู้เรียน 8.2 ข้นั ตอนการด�ำ เนนิ การ 8.2.1 ผสู้ อนน�ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใหผ้ เู้ รยี นพจิ ารณาภาพจากค�ำ ถามชวนคดิ “รายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ ครวั เรือน” ในหนงั สือเรียน แลว้ ถามผูเ้ รียนว่า “นักเรยี นดภู าพนแ้ี ลว้ สามารถอธิบายสภาพเศรษฐกจิ ของประเทศไทยไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง และหากเปน็ ผบู้ รหิ ารประเทศจะวางนโยบายในการพฒั นาประเทศอย่างไร” และชใ้ี หน้ ักเรียนเห็นประโยชนข์ องผลลัพธข์ ้อมลู (data product) 8.2.2 ผู้เรยี นศึกษาหวั ข้อที่ 1.1 ยคุ ของขอ้ มูลและสารสนเทศ ในหนังสอื เรียน แล้วผู้สอนต้ังค�ำ ถามเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ เช่น เหตใุ ดข้อมลู จึงมีคา่ ดงั่ นำ�้ มันดบิ การที่เราแชรข์ ้อมลู ของตนเอง เช่น ภาพสว่ นตวั อีเมล การโพสตข์ ้อความ จะมผี นู้ ำ� ขอ้ มลู ของเราไปใช้ประโยชน์ตอ่ อย่างไรไดบ้ า้ ง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

4 กจิ กรรมท่ี 1 | ข้อมูลใกลต้ ัว รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) 8.2.3 แบ่งผเู้ รยี นออกเป็นกลุม่ กล่มุ ละ 4 คน ผู้เรยี นแตล่ ะกล่มุ ท�ำ ใบกิจกรรมที่ 1.1 ใคร ๆ ก็ สามารถใชข้ อ้ มลู ได้ 8.2.4 ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำ�เสนอโปรแกรมรักสุขภาพ และผู้เรียนร่วมกันโหวต วา่ กลมุ่ ใดเลา่ เรือ่ งราวได้นา่ สนใจ นา่ เชอ่ื ถือ และเขา้ ใจได้งา่ ย 8.2.5 ผู้สอนให้ผู้เรียนช่วยกันยกตัวอย่างเพิ่มเติมเก่ียวกับแนวทางการใช้ข้อมูลเพื่อเพ่ิม ประสิทธภิ าพในการทำ�งาน หรอื การใช้ชวี ติ ประจ�ำ วนั 8.2.6 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรปุ ความรจู้ ากการท�ำ กจิ กรรม และการใช้ประโยชนจ์ ากขอ้ มูล และประเมนิ ตนเองโดยใช้แบบประเมนิ การเรยี นร้ขู องตนเอง 9 การวดั และประเมนิ ผล 9.1 ประเมินจากใบกิจกรรม 9.2 แบบประเมนิ การเรียนร้ขู องตนเอง 10 สอ่ื และแหล่งขอ้ มลู 10.1 http://www.dms.moph.go.th/dmsweb/cpgcorner/heartex.pdf 10.2 http://oorrunningblog.blogspot.com/2014/09/how-long-should-i-run-10k.html 10.3 http://www.lokehoon.com/app.php?q_id=calculate_bmr_tdee 11 ข้อเสนอแนะ 11.1 ผูส้ อนอาจใชก้ ระดานแสดงความคดิ เห็นออนไลน์ เชน่ Padlet เพอื่ เกิดการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ และกระตนุ้ ความสนใจผู้เรียนผา่ นสอื่ การสอนในรปู แบบตา่ ง ๆ 11.2 กิจกรรมน้ีต้องการให้นักเรียนเข้าใจหลักการเบ้ืองต้นของการใช้ประโยชน์จากข้อมูล และนำ� เสนอผลลัพธ์ของขอ้ มูลจากความรู้เดิมของผูเ้ รียน จากนน้ั จงึ เชือ่ มโยงผเู้ รียนใหเ้ ข้าใจหลกั การ ของวทิ ยาการข้อมูลในการเรียนรคู้ รั้งตอ่ ไป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมท่ี 1 | ขอ้ มูลใกลต้ วั 5 ใบกิจกรรมที่ 1.1 ใครๆ กส็ ามารถใช้ขอ้ มลู ได้ 1 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 2 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 3 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 4 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ ัอตราการเต้นของ ัหวใจ (จำนวนค ้ัรงต่อนา ีท) อ่านสถานการณ์ที่เก่ยี วกับการใช้ขอ้ มลู ตอ่ ไปนี้ และตอบคำ�ถาม “จาวามีปัญหาเรื่องความอ้วน และต้องการลดนำ้�หนัก โดยการว่ิงรอบสนามโรงเรียนทุกวัน แต่ปรากฏว่านำ้�หนักยัง เทา่ เดิม” จาวาจึงค้นหาขอ้ มูล และพบข้อมลู ดังกราฟ ซึ่งเปน็ ผลจากการศกึ ษาวิจัย และวิเคราะห์ข้อมลู ทุติยภมู ิ ทมี่ ผี จู้ ดั เกบ็ รวบรวมไว้ โดยพบวา่ การวง่ิ ทใี่ หป้ ระโยชนส์ งู สดุ ตอ่ สขุ ภาพนนั้ จะตอ้ งวงิ่ จนท�ำ ใหอ้ ตั ราการเตน้ ของหัวใจ (Heart Rate) อยูร่ ะหวา่ ง 70 - 80% ของอัตราการเต้นของหัวใจสงู สดุ (Maximum Heart Rate) และต้องว่งิ ตดิ ตอ่ กนั อย่างนอ้ ย 30 นาที อตั ราการเตนของหวั ใจสงู สดุ ตามอายุ ระดับ 90% ชว งอัตราใกนากราเตรนออขกอกงหำลวั ังใจกทาย่ีใหผ ลดีสูงสดุ เกณฑระดบั 70% อายุ *ผู้ออกกำลังกายเรม่ิ ต้นไมค่ วรเกนิ ระดับ 80% ของ MHR สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

6 กจิ กรรมที่ 1 | ข้อมูลใกล้ตวั รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) 1 ข้อมลู อะไรบ้าง จากสถานการณข์ ้างตน้ ที่จะชว่ ยใหจ้ าวาพัฒนาการวิ่งของตนเองได้ 2 ถ้านักเรียนต้องการลดน้ำ�หนัก และใช้ข้อมูลจากกราฟข้างต้น ควรจะว่ิงให้ได้อัตราการเต้นของหัวใจ เป็น ครั้ง/นาที จงึ จะเท่ากบั 70% ของอัตราการเต้นของหวั ใจสงู สุด 3 ให้นกั เรยี นทดสอบด้วยการว่ิงจริง หรอื หาข้อมลู เพ่ิมเตมิ ว่าการว่งิ ด้วยความเรว็ ระดบั ใดหรือลกั ษณะ ใด จึงจะทำ�ให้อัตราการเต้นของหัวใจ อยู่ระหว่าง 70-80% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด แล้ว บันทึกขอ้ มลู ลงในตารางตอ่ ไปน้ี อัตราการเต้นของหวั ใจสูงสุด (MHR) ลกั ษณะการวง่ิ 50% ของ MHR = ครัง้ /นาที 60% ของ MHR = ครั้ง/นาที 70% ของ MHR = ครงั้ /นาที 80% ของ MHR = ครง้ั /นาที 90% ของ MHR = คร้ัง/นาที 100% ของ MHR = ครั้ง/นาที หมายเหตุ การวัดอัตราการเตน้ ของหวั ใจ นักเรยี นอาจใชส้ ายรัดข้อมอื สุขภาพ (fit- ness tracker) หรือหากไม่มีสายรัดข้อมือสุขภาพ ให้จับชีพจรที่ข้อมือหรือใต้กกหู เปน็ เวลา 6 วินาที นบั จำ�นวนครง้ั ของการเตน้ ของชีพจร แลว้ น�ำ มาคูณกับ 10 จะได้ อัตราการเตน้ ของหวั ใจ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมที่ 1 | ขอ้ มลู ใกลต้ ัว 7 4 แตล่ ะกลมุ่ เลอื กสมาชกิ มา 1 คน จากนนั้ สอบถามความตอ้ งการของเพอ่ื นคนนนั้ วา่ ตอ้ งการลดน�้ำ หนกั หรอื ปรบั ปรงุ ตนเองใหม้ สี ขุ ภาพดขี นึ้ จากการวงิ่ แลว้ จดั โปรแกรมรกั สขุ ภาพโดยแนะนำ�วธิ กี ารออกก�ำ ลงั กายดว้ ยการวงิ่ และการรบั ประทานอาหารใหเ้ พอื่ นคนดงั กลา่ ว โดยโปรแกรมแนะน�ำ การออกก�ำ ลงั กาย จะประกอบด้วย โซนการออกกำ�ลงั ท่เี หมาะสม และขอ้ มลู การเผาผลาญแคลอรี ไขมัน คารโ์ บไฮเดรท หรือโปรตนี วิ่งด้วยอตั ราการเต้นหัวใจ ครงั้ /นาที โดยว่งิ ในลกั ษณะ เปน็ เวลา นาที เผาผลาญได้ แคลอร/ี นาที ใช้ไขมนั % ใชค้ าร์โบไฮเดรท % ใช้โปรตนี % อาหารที่ควรรับประทานใน 1 วัน (3 ม้ือ) โดยระบุองค์ประกอบของสารอาหารแต่ละชนิด เช่น ไขมนั คาร์โบไฮเดรท หรอื โปรตีน ว่ามีกีเ่ ปอร์เซ็นต์ อาหารมอ้ื เช้า : องค์ประกอบของสารอาหาร : อาหารม้อื กลางวนั : องคป์ ระกอบของสารอาหาร : อาหารมื้อเย็น : องค์ประกอบของสารอาหาร : หมายเหตุ: ข้อมูลเพิ่มเติมท่ีช่วยในการคำ�นวณ ประกอบด้วยข้อมูลปริมาณแคลอรี และขอ้ มูลค่าพลังงานในการทำ�กิจกรรม มรี ายละเอียดดังน้ี สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

8 กิจกรรมท่ี 1 | ข้อมลู ใกล้ตัว รายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) ข้อมูลปรมิ าณแคลอรที ่รี า่ งกายใชต้ อ่ วัน BMR (Basal Metabolic Rate) คือ คา่ พลงั งานท่รี า่ งกายต้องการเพ่อื ใชเ้ ป็นพนื้ ฐานในการดำ�รง ชวี ติ ผชู้ าย : BMR = 66 + (13.7 x น้ำ�หนกั ตวั เป็น กก.) + (5 x สว่ นสงู เป็น ซม.) – (6.8 x อายุ) ผูห้ ญงิ : BMR = 665 + (9.6 x น�ำ้ หนักตวั เป็น กก.) + (1.8 x ส่วนสงู เป็น ซม.) – (4.7 x อาย)ุ ข้อมูลคา่ พลังงานในการท�ำ กจิ กรรม TDEE (Total Daily Energy Expenditure) คือ ค่าของพลังงานที่ใช้ทงั้ หมดในแต่ละวัน เม่ือ มีการทำ�กจิ กรรมตา่ ง ๆ มสี ตู รในการคำ�นวณดังนี้ ออกกำ�ลังกายนอ้ ยมากหรือไมอ่ อกเลย : TDEE = 1.2 x BMR ออกก�ำ ลงั กาย 1-3 ครง้ั ตอ่ สัปดาห์ : TDEE = 1.375 x BMR ออกก�ำ ลงั กาย 4-5 ครงั้ ต่อสปั ดาห์ : TDEE = 1.55 x BMR ออกก�ำ ลงั กาย 6-7 คร้ังต่อสปั ดาห์ : TDEE = 1.7 x BMR ออกก�ำ ลงั กายวนั ละ 2 คร้งั ข้นึ ไป : TDEE = 1.9 x BMR คา่ TDEE สามารถน�ำ ไปใชค้ �ำ นวณเพอื่ ลดน�้ำ หนกั (ลดไขมนั ) หรอื เพม่ิ น�ำ้ หนกั (เพมิ่ กลา้ มเนอื้ ) เพ่ือเพมิ่ ทรวดทรงใหด้ สู มส่วนมากข้นึ กไ็ ด้ ต้องการลดไขมนั TDEE - 500 ตอ้ งการเพิ่มนำ้�หนกั (กล้ามเนื้อ) TDEE + 500 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมท่ี 1 | ขอ้ มลู ใกล้ตัว 9 5 นำ�เสนอโปรแกรมรักสุขภาพท่ีจัดทำ�ให้เพื่อนในกลุ่ม โดยใช้ข้อมูลในข้อ 1-3 และ ออกแบบการน�ำ เสนอในรูปแบบท่ีเขา้ ใจได้ง่าย โปรแกรมรกั สขุ ภาพ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

10 กิจกรรมท่ี 1 | ขอ้ มูลใกล้ตวั รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) ตวั อย่างคำ�ตอบ ทม่ี า: https://web.facebook.com/BananaRunning/photos/a.434313113278385/ 443760415666988/?type=1&theater สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมที่ 2 | รจู้ ักกบั วทิ ยาการขอ้ มลู 11 กจิ กรรมที่ 2 รูจ้ ักกับวิทยาการข้อมลู คาบท่ี 3 - 4 | เวลา 2 ช่ัวโมง 1 ตวั ชว้ี ัด รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปญั หาหรือเพิ่มมูลคา่ ให้กบั บรกิ ารหรอื ผลิตภณั ฑ์ท่ีใช้ในชวี ิตจริงอย่างสรา้ งสรรค์ 2 สาระการเรยี นรู้ 2.1 ความหมายและบทบาทของวิทยาการข้อมูล 2.2 หลักการและกระบวนการวทิ ยาการข้อมลู 3 จุดประสงค์ ให้ผ้เู รียนสามารถ 3.1 ส�ำ รวจและเหน็ ตวั อยา่ งของการใชว้ ทิ ยาการข้อมลู จากแหลง่ เรียนรู้ หรอื เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ 3.2 อธิบายความหมายและความสำ�คญั ของวิทยาการข้อมลู 3.3 อธิบายกระบวนการวิทยาการขอ้ มูล 4 ทกั ษะและกระบวนการ 4.1 ทักษะการรู้สารสนเทศ 4.2 ทกั ษะการแก้ปัญหา 4.3 ทักษะการส่ือสารและร่วมมอื 5 ความรเู้ ดิมท่นี กั เรยี นต้องมี - 6 สาระสำ�คัญ “วทิ ยาการขอ้ มูล” เปน็ การศึกษาถงึ กระบวนการ วิธีการ หรือเทคนคิ ทน่ี ำ�ข้อมูลจำ�นวนมหาศาล มา ประมวลผล เพอ่ื ให้ได้องคค์ วามรู้ เข้าใจปรากฏการณ์ สามารถตีความ ท�ำ นายหรือพยากรณ์ คน้ หารูปแบบ หรอื แนวโนม้ จากขอ้ มลู เพือ่ น�ำ มาวเิ คราะห์ต่อยอดและแนะนำ�ทางเลอื กทเ่ี หมาะสมในการตัดสินใจ กระบวนการวทิ ยาการขอ้ มลู ประกอบดว้ ย การตง้ั ค�ำ ถาม การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การส�ำ รวจขอ้ มลู การ วิเคราะห์ขอ้ มูล การส่อื สารและการท�ำ ผลลพั ธ์ใหเ้ ป็นภาพ เพื่อเผยแพร่ข้อมลู ส่ผู ใู้ ชก้ ลุ่มเป้าหมาย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

12 กิจกรรมที่ 2 | รจู้ กั กบั วทิ ยาการขอ้ มูล รายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) 7 สื่อและอปุ กรณ์ 7.1 ใบกิจกรรม ใบกิจกรรมท่ี เรื่อง เวลา (นาที) 10 2.1 ขอ้ มลู เปลีย่ นมมุ มอง 10 50 2.2 ขอ้ มลู ช่วยชมุ ชนและโลกอย่างไร 2.3 (ก) เวลาของฉนั 2.3 (ข) Surprise!!! 2.3 (ค) ฝน 2.3 (ง) ไดโนเสาร์ 7.2 ใบความรู้ - 7.3 อื่นๆ หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) ช้ันมัธยมศึกษา ปีท่ี 5 ของสถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วีดทิ ัศนอ์ าชีพนักวิทยาศาสตร์ขอ้ มลู โดย Kenan Institute Asia https://www.youtube.com/watch?v=Au65nEnQEZA วดี ิทัศนอ์ าชพี นักวทิ ยาศาสตรข์ ้อมูล โดย สสวท. https://www.facebook.com/ipst.thai/videos/483657335467347/ แหล่งเรยี นรู้ออนไลนเ์ ก่ยี วกบั วิทยาการขอ้ มลู https://tuvalabs.com 8 แนวทางการจัดการเรยี นรู้ 8.1 การจดั เตรียม 8.1.1 ใบกิจกรรมที่ 2.1 ขอ้ มลู เปลยี่ นมุมมอง ตามจ�ำ นวนกลุ่ม 8.1.2 ใบกจิ กรรมที่ 2.2 ข้อมูลช่วยชมุ ชนและโลกอยา่ งไร ตามจ�ำ นวนกลุ่ม 8.1.3 ใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ก) เวลาของฉัน 2.3 (ข) Surprise!!! 2.3 (ค) ฝน 2.3 (ง) ไดโนเสาร์ ตามจำ�นวนกลมุ่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กิจกรรมที่ 2 | รูจ้ ักกับวทิ ยาการข้อมูล 13 8.1.4 แบบสอบถามนกั วทิ ยาศาสตรข์ ้อมูล แบบออนไลน์ 8.2 ขั้นตอนการด�ำ เนนิ การ 8.2.1 ผู้สอนนำ�เข้าสบู่ ทเรยี นโดยเปดิ วดี ิทศั น์ “นกั วทิ ยาศาสตรข์ อ้ มลู ” เพอ่ื สรา้ งแรงบันดาลใจ ในการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั วทิ ยาการขอ้ มลู ใหก้ บั ผเู้ รยี น และตง้ั ค�ำ ถามวา่ นกั วทิ ยาศาสตรข์ อ้ มลู คอื ใคร ท�ำ หน้าทเ่ี กีย่ วกบั อะไร รู้อะไรเก่ียวกบั นกั วทิ ยาศาสตรข์ ้อมูลบา้ ง 8.2.2 ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบสอบถามออนไลน์ แบบสอบถาม เพอื่ ตรวจสอบคุณลักษณะการเปน็ นักวทิ ยาศาสตรข์ ้อมลู นกั วทิ ยาศาสตรข์ ้อมลู ของตนเอง oho.ipst.ac.th/ m5/1200 8.2.3 แบง่ ผู้เรียนออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ศกึ ษาหวั ขอ้ ที่ 1.2 วทิ ยาการขอ้ มลู ในหนงั สือ เรียน และใหแ้ ตล่ ะคนในกลุ่มศกึ ษากรณศี ึกษาคนละ 1 ตวั อย่าง จากนน้ั ให้ผลดั กันเล่าให้ เพอื่ นในกลุ่มฟงั 8.2.4 ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มช่วยกันทำ�ใบกิจกรรมท่ี 2.1 ขอ้ มูลเปล่ียนมุมมอง และใบกิจกรรมที่ 2.2 ข้อมูลช่วยชมุ ชนและโลกอยา่ งไร 8.2.5 ผู้สอนสุ่มผู้เรียนนำ�เสนอคำ�ตอบของใบกิจกรรมท่ี 2.1 และ 2.2 จากน้ันร่วมกันสรุป ความหมาย บทบาท และความสำ�คัญของวทิ ยาการขอ้ มูล 8.2.6 ผูเ้ รียนศกึ ษาหัวขอ้ ท่ี 1.3 กระบวนการวทิ ยาการขอ้ มลู ในหนังสือเรยี น 8.2.7 ผูส้ อนใหผ้ ู้เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ทำ�กจิ กรรมเกยี่ วกับแนวคดิ ของวทิ ยาการข้อมูล โดยเลือกทำ�เรอื่ งใดเร่ืองหนงึ่ ดงั น้ี 1. ใบกิจกรรมที่ 2.3 (ก) เวลาของฉัน 2. ใบกิจกรรมท่ี 2.3 (ข) Surprise!!! 3. ใบกิจกรรมที่ 2.3 (ค) ฝน 4. ใบกิจกรรมท่ี 2.3 (ง) ไดโนเสาร์ 8.2.8 ผู้สอนสุ่มผู้เรียนนำ�เสนอใบกิจกรรมให้ครบทุกกิจกรรม และสรุปแนวคิดกระบวนการ วทิ ยาการข้อมูลรว่ มกับผ้เู รยี น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

14 กจิ กรรมที่ 2 | รูจ้ กั กับวิทยาการขอ้ มลู รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) 9 การวดั และประเมินผล 9.1 ประเมนิ จากใบกจิ กรรม 9.2 สังเกตพฤติกรรมจากการทำ�งานกลมุ่ 10 สอื่ และแหลง่ ขอ้ มูล 10.1 https://www.amstat.org 10.2 https://tuvalabs.com 10.3 https://www.kaggle.com/grubenm/austin-weather#austin_weather.csv 11 ข้อเสนอแนะ 11.1 กิจกรรมน้ีมีจำ�นวนใบกิจกรรมและใช้เวลาในการดำ�เนินการค่อนข้างมาก จึงควรควบคุมเวลา ในการทำ�กิจกรรม 11.2 สำ�หรับเป้าหมายของใบกิจกรรมที่ 2.3 ต้องการให้นักเรียนเข้าใจหลักการเบ้ืองต้นของ กระบวนการวิทยาการขอ้ มูล โดยการฝึกปฏิบัติจากกจิ กรรม ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 (ก) เวลาของฉนั เปน็ หลกั การเบอื้ งตน้ ของวธิ กี ารวเิ คราะหเ์ ชงิ ท�ำ นายแบบ เชงิ ตวั เลข ใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ข) Surprise!!! เปน็ หลกั การเบอื้ งตน้ ของวธิ กี ารวเิ คราะหเ์ ชงิ ท�ำ นายแบบ decision tree (สำ�หรบั decision tree ไมม่ กี ารกลา่ วถงึ ในหนงั สือเรยี น กจิ กรรมนี้จึงอาจ เปน็ กจิ กรรมใหเ้ ลอื กทำ�เพมิ่ เตมิ หรอื ไมจ่ ำ�เปน็ ตอ้ งกลา่ วถงึ ทมี่ า เพยี งใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั เิ พอื่ ฝกึ กระบวนการของแนวคิดเชงิ ค�ำ นวณดา้ นวิทยาการข้อมลู ) ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 (ค) ฝน เปน็ หลักการเบ้ืองตน้ ของวิธกี ารวเิ คราะหเ์ ชงิ ท�ำ นายแบบ K-NN ใบกิจกรรมที่ 2.3 (ง) ไดโนเสาร์ เปน็ หลกั การเบื้องตน้ ของการท�ำ ข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพ (visualization) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กิจกรรมที่ 2 | รู้จักกบั วทิ ยาการข้อมูล 15 แบบสอบถามนกั วิทยาศาสตร์ขอ้ มลู คุณมคี วามเปน็ นกั วทิ ยาศาสตรข์ อ้ มลู มากน้อยเพียงใด วธิ กี าร: 1 ให้นักเรียนประเมินตนเองจากข้อคำ�ถาม โดยให้คะแนนตนเองตั้งแต่ 0 - 10 ในแต่ละข้อ คะแนน 0 หมายถงึ ไมม่ เี ลย คะแนน 10 หมายถึงมมี ากท่ีสดุ คำ�ถาม คะแนน (0 - 10) 1. อยากรู้เรื่องใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยรูม้ ากอ่ น 2. ชอบค้นหาขอ้ เทจ็ จริงของเรือ่ งราวตา่ ง ๆ ท่สี นใจ 3. รูส้ กึ ดีเม่ือเปน็ ผคู้ น้ เจอสิ่งใหม่ ๆ 4. ชอบค้นหาอะไรแปลกใหมม่ าใหเ้ พอ่ื นดู 5. สามารถมองในมมุ ท่แี ตกตา่ งจากเพอื่ นคนอ่ืนได้ 6. ชอบหาเหตุผลถงึ ที่มาที่ไปของเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ 7. สามารถเช่อื มโยงหาความสัมพนั ธ์ของสง่ิ ตา่ ง ๆ ได้ 8. สามารถเลา่ เรอื่ งตา่ ง ๆ ใหผ้ ้อู ่ืนเข้าใจได้โดยง่าย 9. สามารถแปลงขอ้ มลู ในรปู ของขอ้ ความ หรอื ตวั เลข ใหเ้ ปน็ ภาพ เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจได้ง่าย 10. ชอบอาสาเปน็ คนนำ�เสนองานกลุม่ 11. ก่อนจะตัดสินใจในเรื่องใด ๆ มักจะต้องค้นหาข้อมูลประกอบ เสมอ 12. จะไม่เช่ือข้อมูลหรือข่าวสารใด ๆ ที่ไม่มีข้อมูลหรือหลักฐาน รองรับ 13. ก่อนจะพูดหรือส่งต่อข้อมูลอะไรออกไป จะต้องหาข้อมูลหรือ หลักฐานก่อนเสมอ รวมคะแนนทง้ั หมด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

16 กิจกรรมที่ 2 | รจู้ กั กับวทิ ยาการขอ้ มูล รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) 2 แปลผลจากคะแนนรวมท้งั หมดดงั น้ี คะแนน 100 - 130 -> มีคณุ สมบตั เิ หมาะสมทีจ่ ะเป็นนกั วิทยาศาสตรข์ อ้ มลู สงู มาก คะแนน 80 - 99 -> มีคณุ สมบตั เิ หมาะสมที่จะเปน็ นักวิทยาศาสตรข์ อ้ มูลมาก คะแนน 60 - 79 -> มีคณุ สมบัตเิ หมาะสมท่ีจะเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์ข้อมลู ปานกลาง คะแนน 40 - 59 -> มีคณุ สมบตั ิเหมาะสมทจ่ี ะเปน็ นกั วทิ ยาศาสตรข์ อ้ มูลน้อย คะแนน 20 - 39 -> มคี ุณสมบัติเหมาะสมทจ่ี ะเปน็ นักวทิ ยาศาสตร์ขอ้ มูลน้อยมาก คะแนน 0 - 19 -> ขาดคณุ สมบัตเิ หมาะสมท่ีจะเป็นนักวิทยาศาสตรข์ อ้ มูล ข้อคำ�ถามทีใ่ ช้วดั ในแตล่ ะดา้ น 1 นักสบื คน้ และเจาะหาขอ้ มูล 1. อยากรู้เรือ่ งใหม่ ๆ ท่ยี ังไมเ่ คยรมู้ ากอ่ น 2. ชอบค้นหาข้อเท็จจริงของเรือ่ งราวตา่ ง ๆ ทส่ี นใจ 3. รสู้ ึกดีเมอ่ื เป็นผู้คน้ เจอสิง่ ใหม่ ๆ 4. ชอบคน้ หาอะไรแปลกใหมม่ าใหเ้ พอื่ นดู 2 นักวเิ คราะห์ 5. สามารถมองในมุมทีแ่ ตกต่างจากเพอื่ นคนอ่ืนได้ 6. ชอบหาเหตผุ ลถึงทีม่ าทไี่ ปของเร่อื งราวตา่ ง ๆ 7. สามารถเช่อื มโยงหาความสัมพนั ธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ ได้ 3 นักส่อื สาร 8. สามารถเล่าเรอ่ื งตา่ ง ๆ ใหผ้ ู้อ่ืนเขา้ ใจไดโ้ ดยง่าย 9. สามารถแปลงขอ้ มลู ในรปู แบบของขอ้ ความ หรอื ตวั เลข ใหเ้ ปน็ ภาพเพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจไดง้ า่ ย 10. ชอบอาสาเปน็ คนนำ�เสนองานกลมุ่ 4 ผใู้ ห้ค�ำ ปรึกษาทเี่ ชอ่ื ถือได้ 11. ก่อนจะตดั สนิ ใจในเร่อื งใด ๆ มักจะตอ้ งค้นหาขอ้ มลู ประกอบเสมอ 12. จะไมเ่ ชือ่ ขอ้ มลู หรอื ขา่ วสารใด ๆ ท่ไี มม่ ีขอ้ มลู หรือหลักฐานรองรับ 13. กอ่ นจะพดู หรอื สง่ ต่อข้อมลู อะไรออกไป จะต้องหาขอ้ มลู หรอื หลกั ฐานกอ่ นเสมอ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กิจกรรมท่ี 2 | รูจ้ ักกบั วทิ ยาการข้อมูล 17 ใบกิจกรรมที่ 2.1 ขอ้ มูลเปลย่ี นมุมมอง 1 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 2 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 3 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 4 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ กราฟแสดงขอ้ มลู คุณภาพชวี ติ และเศรษฐกจิ ของประเทศต่าง ๆ ของเวบ็ ไซต์ GAPMINDER gapminder เปน็ ดังนี้ ให้นกั เรยี นศกึ ษาขอ้ มูลนี้ เพอื่ ตอบคำ�ถามข้อ 1 oho.ipst.ac.th/ m5/1211 1 ให้นกั เรียนทดลองใชเ้ วบ็ ไซต์ gapminder และเลอื กข้อมูลอ่นื ๆ เชน่ อตั ราการตายของเดก็ (Child mortality) ในการวดั คณุ ภาพชวี ติ และ จดี พี ี (GDP) ในการวัดด้านเศรษฐกิจ แล้วพิจารณาผลลัพธ์ ของการกระจายทไี่ ด้ นกั เรียนพบความแตกต่างระหวา่ งประเทศตา่ ง ๆ อยา่ งไร สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

18 กจิ กรรมท่ี 2 | รจู้ ักกบั วทิ ยาการขอ้ มูล รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) กราฟแสดงการเปลีย่ นแปลงของรายได้ตอ่ เวลาในชว่ ง 50 ปีลา่ สดุ เทียบระหว่างประเทศไทย และประเทศอ่นื ๆ ให้นักเรียนศกึ ษากราฟนเ้ี พือ่ ตอบค�ำ ถามขอ้ 2 2 นักเรยี นสามารถตคี วามข้อมูลจากกราฟได้อย่างไร สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมที่ 2 | รู้จักกบั วทิ ยาการขอ้ มลู 19 ใบกิจกรรมที่ 2.2 ข้อมูลชว่ ยชุมชนและโลกอยา่ งไร 1 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 2 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 3 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 4 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 1 ศึกษาเวบ็ ไซต์ Agri-Map online แผนท่ีเกษตรเพอื่ การ 1.1 ให้เข้าเว็บไซต์ระบบแผนท่ีเกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก บริหารจดั การเชิงรุก ออนไลน์ (Agri-Map online) ดังรูป oho.ipst.ac.th/ m5/1221 1.2 สำ�รวจบริเวณพื้นที่ท่ีเป็นภูมิลำ�เนาของนักเรียน หรือเลือกพื้นท่ีท่ีสนใจว่าเหมาะสำ�หรับทำ�การ เกษตร เพาะปลูก หรอื เลี้ยงสตั ว์ชนดิ ใด อธิบายเหตผุ ลประกอบ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

20 กิจกรรมท่ี 2 | รจู้ กั กับวิทยาการข้อมูล รายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) 2 ศกึ ษาเว็บไซต์ resourcetrade.earth การคา้ ระหวา่ งประเทศ oho.ipst.ac.th/ m5/1222 2.1 ให้เข้าเวบ็ ไซตก์ ารคา้ ระหวา่ งประเทศ (resourcetrade.earth) ดังรูป 2.2 หาความสัมพันธ์ของการค้าระหว่างประเทศต่าง ๆ ให้ต้ังคำ�ถามและหาคำ�ตอบจากข้อมูลบน เวบ็ ไซต์ และอธิบายขอ้ มลู ท่ีคน้ พบ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กิจกรรมที่ 2 | รจู้ ักกบั วิทยาการขอ้ มูล 21 ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 (ก) เวลาของฉนั 1 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 2 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 3 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 4 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ ให้นกั เรียนใช้กระบวนการวิทยาการขอ้ มูลเพอ่ื ตอบคำ�ถามของสถานการณ์ดังต่อไปน้ี “โรงเรียนแห่งหน่ึงต้องการศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนใน แตล่ ะวัน โดยเก็บข้อมลู การท�ำ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ จ�ำ นวน ข้อความที่ส่งหาเพื่อน เวลาที่ใช้ในการทำ�กิจกรรมกับเพื่อน เวลาทใ่ี ชใ้ นการท�ำ การบา้ น จ�ำ นวนขอ้ ความทไี่ ดร้ บั จากเพอื่ น” 1 นักเรยี นสามารถตั้งคำ�ถามหรือสมมติฐานอะไรไดบ้ ้าง จากขอ้ มูลที่มีอยู่ ตวั อย่าง เวลาทีใ่ ช้ในการท�ำ กิจกรรมกบั เพ่อื นในแตล่ ะวัน ท�ำ ใหจ้ ำ�นวนขอ้ ความท่สี ง่ หาเพื่อนเพม่ิ ขึ้นหรือลดลง หรอื ไม่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

22 กิจกรรมที่ 2 | รูจ้ ักกับวิทยาการขอ้ มลู รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) 2 โรงเรยี นไดเ้ ก็บรวบรวมข้อมลู การใช้เวลาของนกั เรียนใน 1 สปั ดาห์ ดงั ตาราง ตารางข้อมูลการใชเ้ วลาของนกั เรียน นกั เรยี น จ�ำ นวนขอ้ ความที่ จ�ำ นวนข้อความที่ เวลาที่ใชใ้ นการ เวลาท่ีใชใ้ นการ ท�ำ กิจกรรมกบั ทำ�การบ้าน คนที่ สง่ หาเพือ่ น ได้รบั จากเพ่อื น เพอ่ื น (ช่วั โมง) (ชัว่ โมง) 6 1 200 200 2 200 2 300 500 64 5 3 100 100 24 8 4 60 60 12 0 5 100 100 2 6 6 150 200 15 10 72 10 20 8 8 10 0 4 9 20 9 5 6 10 11 10 20 10 11 20 15 4 1 12 50 30 2 1 13 50 100 4 2 14 7 48 4 5 15 200 5 8 18 16 10 250 8 14 17 0 10 3 0 18 6 150 30 0 19 112 8 43 28 20 210 110 6 230 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมท่ี 2 | รู้จักกับวทิ ยาการข้อมูล 23 ถ้าตอ้ งการตรวจสอบปัจจัยทเ่ี กย่ี วข้องกบั เวลาท่นี กั เรียนใชใ้ นการท�ำ การบา้ น 2.1 นักเรียนพบส่งิ ผดิ ปกตใิ นชดุ ขอ้ มลู ดังกล่าวหรอื ไม่ อย่างไร 2.2 นักเรยี นคิดว่าเวลาทใ่ี ช้ในการทำ�การบา้ นของนกั เรียนสมั พันธก์ ับข้อมลู ใด 3 เพ่ือตรวจสอบความสมั พนั ธ์ของขอ้ มูลทั้ง 2 ชุดในขอ้ 2.2 ใหน้ ักเรียนพลอ็ ตจุด (x, y) ลงใน ตารางกราฟหน้า 24 โดยใหแ้ กน y แทนเวลาทีใ่ ช้ในการทำ�การบา้ น และแกน x แทนข้อมูลที่ นักเรียนเลอื กในขอ้ 2.2 4 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ใช้กราฟจากข้อ 3 ทำ�นายเวลาที่ใช้ในการทำ�การบ้านต่อสัปดาห์ของ สมาชิกทุกคน สมาชกิ คนท่ี ขอ้ มลู ท่เี ลอื กในขอ้ 2.2 เวลาที่ใช้ในการท�ำ การบ้าน (ช่วั โมง) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

24 กจิ กรรมท่ี 2 | ร้จู ักกบั วิทยาการข้อมูล รายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมท่ี 2 | ร้จู ักกับวิทยาการขอ้ มูล 25 ใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ข) Surprise !!! 1 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 2 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 3 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 4 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ ใหน้ กั เรียนอ่านสถานการณ์ตอ่ ไปน้ี และตอบคำ�ถาม “นักเรียนในช้ันเรียนแห่งหนึ่งต้องการซ้ือของขวัญวันเกิดให้เพื่อน แต่ไม่ แนใ่ จวา่ เพอื่ นจะชอบหรอื ไม่ นกั เรยี นจงึ เกบ็ ขอ้ มลู ความชอบในสไตลเ์ สอื้ ผา้ ของเพอื่ นทเี่ ปน็ เจา้ ของวนั เกดิ ไดข้ อ้ มลู ดงั ตาราง เพอื่ คน้ หารปู แบบเสอ้ื ผา้ เพ่อื นำ�ไปใช้ในการเลือกซอ้ื เสอ้ื ให้ถกู ใจเจ้าของวันเกิด” ลักษณะรูปทรง สี ลวดลาย คอปก แขน ขนาด ความชอบ Slimfit ด�ำ เรยี บ โปโล ส้ัน M ใช่ Slimfit M ใช่ Straight ขาว เรยี บ วี สั้น L ไมใ่ ช่ Straight M ใช่ Slimfit ขาว ลายขวาง กลม ยาว M ใช่ Straight M ใช่ Straight ขาว เรยี บ วี ไม่มแี ขน S ไม่ใช่ Slimfit S ไม่ใช่ ฟ้า ลายขวาง วี ส้ัน ฟา้ เรียบ โปโล ยาว ขาว เรยี บ โปโล ไม่มีแขน ด�ำ ลายขวาง กลม ยาว Slimfit ดำ� เรียบ วี ไม่มแี ขน L ไมใ่ ช่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

26 กจิ กรรมที่ 2 | รู้จักกับวิทยาการข้อมูล รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) ค�ำ ช้ีแจง : ใหส้ มาชิกแตล่ ะคนในกลมุ่ ทำ�กจิ กรรมในขอ้ 1 และ 2 หลังจากนัน้ จึงท�ำ ขอ้ 3 และ 4 ร่วมกนั 1 นักเรียนคิดว่า หากจะเลือกคุณสมบัติของเสื้อมาหน่ึงข้อ เพื่อใช้จำ�แนกความชอบของเพ่ือนเจ้าของ วันเกดิ นักเรยี นจะเลอื กคุณสมบัติใด ด้วยวิธีการใด ตัวอย่าง เลือกลักษณะรปู ทรง โดยดูจากรปู ทรงทีเ่ พื่อนชอบมากทส่ี ดุ เช่น ในกล่มุ Slimfit มชี อบ 3 แบบ ใน ขณะทก่ี ลุม่ Straight มชี อบ 2 แบบ ดงั นนั้ ควรเลอื กกลุ่ม Slimfit ก่อน เป็นตน้ 2 นกั เรยี นคดิ วา่ จากตารางขา้ งตน้ เราจะสามารถหาคณุ สมบตั ริ ว่ มของเสอื้ ผา้ ทเ่ี พอื่ นเจา้ ของวนั เกดิ ชอบ ไดห้ รือไม่ ถา้ สามารถหาได้ คณุ สมบตั ิรว่ มเหล่าน้ี ควรเป็นอยา่ งไร ให้นักเรียนยกตัวอยา่ งประกอบ 3 ให้สมาชิกในกลมุ่ หาคณุ สมบตั ริ ่วมของเส้อื ผา้ ทเี่ พ่อื น “ชอบ” เพื่อดวู า่ คณุ สมบัติท่หี าได้ เหมือนหรือ ตา่ งจากเพอ่ื นในกลมุ่ หรอื ไม่ นกั เรยี นคดิ วา่ จะมรี ปู แบบอนื่ ๆ ทไ่ี มเ่ หมอื นกบั ทนี่ กั เรยี นหามาไดอ้ กี หรอื ไม่ ให้ยกตวั อยา่ งรูปแบบทีไ่ ม่เหมอื นกับส่ิงทีน่ ักเรียนคน้ พบ 4 ให้นักเรียนค้นหาแบบเส้ือในอินเทอร์เน็ตท่ีคิดว่าเพ่ือนท่ีเป็นเจ้าของวันเกิดชอบ แล้วให้เพ่ือนที่เป็น เจ้าของวนั เกดิ บอกวา่ ชอบหรอื ไม่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมที่ 2 | รูจ้ กั กบั วทิ ยาการขอ้ มลู 27 ใบกจิ กรรมที่ 2.3 (ค) ฝน 1 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 2 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 3 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 4 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ ให้นกั เรียนตอบค�ำ ถามของสถานการณ์ตอ่ ไปน้ี “นกั เรยี นกำ�ลงั สนใจวา่ ในวนั นฝี้ นจะตกหรือไม่ โดยมีขอ้ มลู ยอ้ นหลัง 20 วนั ทแ่ี สดงเหตกุ ารณว์ า่ ฝนตก หรอื ไมต่ กในวนั ตา่ ง ๆ นกั เรยี นคดิ วา่ นกั เรยี น จะใช้ประโยชน์จากขอ้ มลู ดังกลา่ วไดอ้ ยา่ งไร” ตาราง แสดงสภาพอากาศ 20 วัน วนั ที่ยอ้ นหลงั อณุ หภมู เิ ฉลย่ี ความชน้ื เฉลี่ย (%) ความเรว็ ลมเฉล่ยี เหตกุ ารณ์ 20 วนั (องศาเซลเซียส) (ไมล์ต่อชั่วโมง) (ฝนตก/ฝนไมต่ ก) D1 89 D2 21.7 68 4 ฝนไมต่ ก D3 18.9 76.0 3 ฝนไม่ตก D4 26.7 71.0 7.0 ฝนตก D5 25.0 63 6.0 ฝนตก D6 31.7 72 4 ฝนไมต่ ก D7 25.0 54.0 3 ฝนไมต่ ก D8 24.4 59 5.0 ฝนตก D9 19.4 79.0 3 ฝนไมต่ ก D10 16.7 54 3.0 ฝนตก D11 30.0 80.0 6 ฝนไมต่ ก D12 22.2 97.0 5.0 ฝนตก D13 13.9 57.0 6.0 ฝนตก D14 15.0 70 8.0 ฝนตก D15 27.8 56 4 ฝนไม่ตก D16 8.3 78.0 2 ฝนไม่ตก D17 22.2 73 8.0 ฝนตก D18 28.9 89.0 6 ฝนไม่ตก D19 12.8 52.0 10.0 ฝนตก D20 11.7 56 6.0 ฝนตก 7.2 3 ฝนไม่ตก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

28 กิจกรรมท่ี 2 | รู้จกั กบั วทิ ยาการขอ้ มลู รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) 1 หากในวนั นี้มสี ภาพอากาศเหมือนวนั ที่ D13 ทุกประการ คอื มีอุณหภมู ิเฉลี่ย 15.0 องศา ความชนื้ เฉลย่ี 57.0 % และมคี วามเรว็ ลมเฉลยี่ 8 ไมลต์ อ่ ชว่ั โมง นกั เรยี นคดิ วา่ วนั นมี้ โี อกาสทฝ่ี นจะตกมากกวา่ ฝนไม่ตกหรือไม่ เพราะเหตใุ ด 2 หากในวันนม้ี ีสภาพอากาศคล้ายกับวันท่ี D13 มาก คอื มีอณุ หภูมเิ ฉลย่ี 14.95 องศา ความชน้ื เฉล่ีย 57.0 % และมคี วามเรว็ ลมเฉลยี่ 8.1 ไมลต์ อ่ ช่ัวโมง นกั เรยี นคดิ ว่า วันนี้มีโอกาสทีฝ่ นจะตกมากกวา่ ฝนไมต่ กหรือไม่ เพราะเหตใุ ด 3 นักเรียนคิดว่า หากเราเก็บข้อมูลไว้เป็นเวลาหลายปี (มีการเก็บข้อมูลไว้มากกว่าหน่ึงพันวัน) วันท่ี นกั เรยี นตอ้ งการท�ำ นายเกยี่ วกบั ฝน จะมโี อกาสมากนอ้ ยเพยี งใดทขี่ อ้ มลู จะซ�้ำ กบั ขอ้ มลู ในอดตี เพอ่ื น�ำ มาท�ำ นายเกยี่ วกับโอกาสการเกดิ ฝนเหมือนกับข้อ 1 ใหต้ อบคำ�ถาม พร้อมอธิบายเหตุผล 4 จากขอ้ มลู ในขอ้ 3 ถา้ ในวนั ทต่ี อ้ งการท�ำ นาย ไมเ่ หมอื นกบั ขอ้ มลู ในอดตี เลย นกั เรยี นจะท�ำ อยา่ งไรเพอ่ื จะท�ำ นายว่าฝนจะตกหรือไม่ ให้อธิบายวิธกี ารมาพอสังเขป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กิจกรรมที่ 2 | รจู้ กั กับวิทยาการข้อมูล 29 5 นักเรียนคิดว่า ความต่างกันของอุณหภูมิ 1 องศา กับความต่างกันของความช้ืนสัมพัทธ์ในอากาศ 1 เปอรเ์ ซน็ ต์ หรอื กบั ความตา่ งกนั ของความเรว็ ลม 1 ไมลต์ อ่ ชว่ั โมง เมอ่ื ตอ้ งการเปรยี บเทยี บสภาพอากาศ ทใ่ี กลเ้ คยี งกนั ของวนั ควรใหน้ �ำ้ หนกั ในการเปรยี บเทยี บหรอื ไม่ ความตา่ งแบบใด มผี ลตอ่ สภาพอากาศ ทใี่ กลเ้ คยี งกันของวนั มากท่ีสดุ ความตา่ งใดมีผลน้อยทส่ี ดุ 6 ใช้ข้อมลู ในตารางแสดงสภาพอากาศ 20 วนั พล็อตจุด (x,y) โดย x แทนอุณหภมู เิ ฉล่ยี และ y แทน ความชนื้ สมั พทั ธ์ จากนนั้ ให้พลอ็ ตจุดทแ่ี ทนคา่ อุณหภูมเิ ฉลีย่ 14.95 องศา ความชน้ื สมั พัทธ์ 57.0 % แลว้ ตรวจสอบว่าจดุ น้ีใกลเ้ คยี งกบั จดุ ใดมากท่ีสดุ และจดุ ท่ใี กล้เคยี งนนั้ ฝนตกหรอื ไม่ และคำ�ตอบท่ีได้ ตรงกบั ค�ำ ตอบในขอ้ 2 หรือไม่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

30 กจิ กรรมท่ี 2 | รจู้ ักกับวทิ ยาการขอ้ มลู รายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) ใบกจิ กรรมท่ี 2.3 (ง) ไดโนเสาร์ 1 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 2 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 3 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 4 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ ใหน้ กั เรยี นตอบค�ำ ถามโดยใชข้ อ้ มลู ในตาราง และดาวนโ์ หลดขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ เว็บไซต์ จาก data.programming.in.th data.programming oho.ipst.ac.th/ m5/1234 ตารางชุดข้อมูลไดโนเสาร์ Name Diet Group Hip Teeth Length Height Weight No of Continent Geological Millions Type (Meters) (Meters) (Kilograms) Legs Period of Years Albertosaurus Carnivore Theropod Used for North Allosaurus Carnivore Theropod Lizard Saw- 9 3.5 1500 Walking America Cretaceous Ago Lizard edged 12 5 2000 2 Legs Africa, Jurassic when the Baryonyx Carnivore Theropod 2 Legs Dinosaur Camarasaurus Herbivore Sauropod Lizard Dagger- 10 4 2000 North Cretaceous like, 18 9 20000 2 Legs America, Jurassic Lived ... ... ... Lizard ... ... Australia ... 75 ... ... ... ... serrated ... ... ... 2 Legs Europe ... 145 Tyrannosaurus Carnivore Theropod ... edges 12 5.6 ... ... 7000 ... North Cretaceous 125 Lizard Sharp, America finely 2 Legs 145 serrated ... ... ... Chisel- North ... like, America 66 sharp, ... ... 60 saw- edged, bone- สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมท่ี 2 | รู้จกั กับวทิ ยาการขอ้ มูล 31 1 อธบิ ายชนดิ ของไดโนเสาร์กบั การมชี วี ติ อยใู่ นแตล่ ะยุค 2 เปรียบเทียบรปู ร่างลักษณะของไดโนเสารช์ นิดตา่ ง ๆ 3 อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งน�ำ้ หนกั ของไดโนเสารก์ บั จ�ำ นวนขาที่ใชเ้ ดิน 4 นักเรยี นต้องการรูเ้ ร่ืองอนื่ ๆ เกย่ี วกบั ไดโนเสารใ์ ห้ตง้ั คำ�ถามถามเพือ่ นโดยใชข้ ้อมลู จากตาราง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

32 กิจกรรมท่ี 2 | รู้จักกบั วิทยาการข้อมูล รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) 5 ใช้โปรแกรมตารางท�ำ งาน หรือโปรแกรมอ่ืนเพ่อื ทำ�ข้อมลู ให้เปน็ ภาพและส่ือสารให้เพอื่ นเข้าใจ ตวั อยา่ งการนำ�เสนอ ในยุค Cretaceous พบไดโนเสาร์หลายสายพันธุ์ เช่น Albertosaurus, Centrosaurus, Chasmosaurus, Deinonychus และอีก 11 สายพนั ธุ์ในทวีปอเมรกิ าเหนือ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมท่ี 3 | แนวคิดเชงิ ออกแบบ 33 กจิ กรรมท่ี 3 แนวคดิ เชิงออกแบบ คาบที่ 5 - 6 | เวลา 2 ชว่ั โมง 1 ตัวชวี้ ัด รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแกป้ ญั หาหรอื เพิ่มมูลคา่ ใหก้ ับบรกิ ารหรอื ผลติ ภณั ฑ์ทใ่ี ช้ในชีวิตจรงิ อย่างสรา้ งสรรค์ 2 สาระการเรยี นรู้ 2.1 แนวคดิ เชงิ ออกแบบ 2.2 การนำ�แนวคิดเชิงออกแบบมาใช้กบั กระบวนการวทิ ยาการขอ้ มลู 3 จุดประสงค์ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถ 3.1 อธิบายหลกั การของแนวคดิ เชิงออกแบบ 3.2 ประยกุ ตก์ ารคิดเชงิ ออกแบบกบั วทิ ยาการขอ้ มลู ในการแก้ปัญหา 4 ทกั ษะและกระบวนการ 4.1 ทักษะการคดิ เชงิ ออกแบบ 4.2 ทักษะการคิดสร้างสรรค์ 4.3 ทกั ษะการแกป้ ัญหา 4.4 ทกั ษะการส่ือสารและรว่ มมือ 5 ความรเู้ ดมิ ทนี่ กั เรียนตอ้ งมี - 6 สาระส�ำ คญั การใช้วิทยาการข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งานน้ัน ต้องอาศัยแนวคิดเชิงออกแบบ (design thinking) หลักการพื้นฐานของแนวคิดเชิงออกแบบ ได้แก่ การมองในมุมของผู้ใช้ การลองผิดลองถูก การเรียนรผู้ ่านการทดลองกบั กลมุ่ ผใู้ ช้จรงิ การท�ำ ซ�้ำ และปรบั ปรงุ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

34 กิจกรรมที่ 3 | แนวคดิ เชิงออกแบบ รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) 7 สือ่ และอุปกรณ์ 7.1 ใบกจิ กรรม ใบกจิ กรรมท่ี เร่ือง เวลา (นาท)ี 3.1 คิดแบบนักออกแบบ 40 3.2 โครงงานวิทยาการข้อมลู ของฉัน 40 7.2 ใบความรู้ ใบความรทู้ ี่ 3.1 เร่อื ง เกมเป่ายิงฉบุ 7.3 อน่ื ๆ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) ชั้นมัธยมศึกษา ปที ่ี 5 ของสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สลากแบ่งกลุม่ ผูเ้ รียน ออกเปน็ กลุ่มผู้ซอ้ื กลุ่มผขู้ าย และกลมุ่ นกั วิทยาศาสตร์ขอ้ มลู บัตรค�ำ ถามสำ�หรับนกั วทิ ยาศาสตรข์ อ้ มลู ในการสมั ภาษณผ์ ซู้ ้ือ บัตรค�ำ ถามสำ�หรับนักวทิ ยาศาสตรข์ อ้ มูล ในการสัมภาษณผ์ ้ขู าย แบบฟอร์มการเกบ็ ขอ้ มลู ผซู้ ้อื แบบฟอร์มการเกบ็ ขอ้ มูลผ้ขู าย เกมเป่า ยิง ฉุบกับ Markov แบบทดสอบบทท่ี 1 ขอ้ มลู มคี ณุ คา่ 8 แนวทางการจดั การเรยี นรู้ 8.1 การจัดเตรียม 8.1.1 ใบกจิ กรรมที่ 3.1 คิดแบบนกั ออกแบบ ตามจำ�นวนกลมุ่ 8.1.2 ใบกจิ กรรมท่ี 3.2 โครงงานวิทยาการขอ้ มลู ของฉัน ตามจำ�นวนกลุม่ 8.1.3 บตั รค�ำ ถามส�ำ หรบั นกั วทิ ยาศาสตรข์ อ้ มลู ในการสมั ภาษณผ์ ซู้ อ้ื ตามจ�ำ นวนนกั วทิ ยาศาสตร์ ข้อมูล 8.1.4 บัตรคำ�ถามสำ�หรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ในการสัมภาษณ์ผู้ขาย ตามจำ�นวนนัก วทิ ยาศาสตรข์ ้อมลู 8.1.5 แบบฟอรม์ การเกบ็ ขอ้ มลู ผซู้ ือ้ ตามจ�ำ นวนนกั วทิ ยาศาสตรข์ อ้ มูล 8.1.6 แบบฟอร์มการเกบ็ ข้อมูลผูข้ าย ตามจ�ำ นวนนักวทิ ยาศาสตร์ข้อมูล สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กิจกรรมที่ 3 | แนวคิดเชิงออกแบบ 35 8.1.7 แบบทดสอบบทที่ 1 ขอ้ มูลมีคุณคา่ แบบออนไลน์ 8.2 ขั้นตอนการดำ�เนินการ 8.2.1 ผสู้ อนน�ำ เข้าสบู่ ทเรยี นโดยเปดิ เวบ็ ไซต์ CODAP และหาอาสาสมัครเลน่ เกม Markov และหลังจากเพอ่ื นเลน่ จนจบเกม ผ้สู อนตงั้ คำ�ถาม เช่น นกั เรยี นคดิ วา่ การเป่า ยงิ ฉุบ ของ Dr.Markov เปน็ การสุ่มหรือไม่ เพราะเหตุใด นกั เรียนคดิ วา่ นกั เรียนจะสามารถเปา่ ยงิ ฉุบ ชนะอย่างต่อเนื่องโดยไม่แพ้เลย ได้หรอื ไม่ เว็บไซต์น้ชี ่วยการเรยี นรู้วิทยาการข้อมูลอย่างไร ในมมุ มองของนกั เรยี นคดิ วา่ เวบ็ ไซตน์ ใี้ ชง้ านงา่ ยหรอื ไม่ มแี นวคดิ การออกแบบอยา่ งไร มีจดุ ใดบา้ งในเว็บไซตน์ ท้ี ี่ตอ้ งการปรับปรุง เพื่อชว่ ยใหน้ กั เรยี นเรยี นรู้ไดด้ ีขึ้น 8.2.2 ผเู้ รยี นศึกษาหวั ขอ้ ที่ 1.4 การคดิ เชิงออกแบบ สำ�หรับวทิ ยาการข้อมลู ในหนงั สอื เรยี น 8.2.3 แบง่ ผเู้ รียนออกเป็น 3 กลมุ่ ได้แก่ (1) กล่มุ ผซู้ ื้อ (2) กลุ่มผู้ขาย (3) กล่มุ นักวทิ ยาศาสตร์ ขอ้ มลู โดยการจบั สลาก 8.2.4 จดั กลมุ่ ใหม่โดยให้แตล่ ะกลมุ่ มีผู้ซือ้ 2 คน ผขู้ าย 2 คน และนักวิทยาศาสตร์ขอ้ มลู 2 คน ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ แสดงบทบาทสมมติตามสลากท่จี บั ได้ 8.2.5 ผู้สอนแจกบัตรคำ�ถามสำ�หรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ในการสัมภาษณ์ผู้ซ้ือ บัตรคำ�ถาม ส�ำ หรบั นักวิทยาศาสตร์ขอ้ มลู ในการสัมภาษณผ์ ู้ขาย แบบฟอร์มการเก็บขอ้ มลู ผู้ซอื้ และ แบบฟอร์มการเก็บข้อมูลผู้ขาย ให้แก่นักเรียนท่ีแสดงบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล คนละ 1 ชุด (1 ชุด ประกอบดว้ ย 2 บตั รค�ำ ถาม และ 2 แบบฟอรม์ ) 8.2.6 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มทำ�ใบกิจกรรมท่ี 3.1 คิดแบบนักออกแบบ เพื่อฝึกทักษะการคิดเชิง ออกแบบ ให้ได้ส่ิงท่ีดีข้ึน เช่น การเพ่ิมมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ โดยนัก วทิ ยาศาสตรข์ ้อมูลสัมภาษณผ์ ู้ซือ้ และผขู้ าย ตามบัตรค�ำ ถามและกรอกลงในแบบฟอร์ม ขา้ งตน้ พร้อมทงั้ ออกแบบบริการหรอื ผลติ ภณั ฑ์ ลงในใบกิจกรรมที่ 3.1 8.2.7 ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนของแตล่ ะกลมุ่ น�ำ เสนอค�ำ ตอบในใบกจิ กรรมที่ 3.1 ตามบทบาททต่ี นเอง ไดร้ บั 8.2.8 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปการใช้แนวคิดเชิงออกแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์ใน ใบกิจกรรมท่ี 3.1 8.2.9 แบง่ ผเู้ รยี นออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ท�ำ ใบกจิ กรรมท่ี 3.2 โครงงานวทิ ยาการขอ้ มลู ของ ฉนั โดยให้เลือกหัวข้อท่แี ต่ละกล่มุ สนใจ ในประเดน็ ทีก่ ำ�หนด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

36 กิจกรรมที่ 3 | แนวคิดเชิงออกแบบ รายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) 8.2.10 ผูเ้ รียนท�ำ แบบทดสอบบทที่ 1 ข้อมลู มีคณุ คา่ เพ่ือประเมนิ แบบทดสอบบทที่ 1 ความเข้าใจ ข้อมลู มีคุณคา่ 9 การวดั และประเมนิ ผล oho.ipst.ac.th/ 9.1 ประเมินจากใบกจิ กรรม m5/1301 9.2 สังเกตพฤติกรรมจากการทำ�งานกลุ่ม 9.3 แบบทดสอบบทที่ 1 ข้อมูลมีคณุ คา่ 10 สอ่ื และแหลง่ ข้อมูล 10.1 https://hbr.org/2018/03/what-happens-when-data-scientists-and-design ers-work-together 10.2 https://www.livetiles.nyc/3-fun-design-thinking-starter-projects-classroom 10.3 https://codap.concord.org/releases/latest/static/dg/en/cert/index.htm l?url=https://concord-consortium.github.io/codap-data/SampleDocs/Mathe matics/Probability/markov/Markov_Sample.json 11 ขอ้ เสนอแนะ 11.1 ผู้สอนอาจให้ผู้เรียนศึกษาเว็บไซต์ CODAP เพิ่มเติม โดยใช้ใบความรู้ท่ี 3.1 เกมเป่ายิงฉุบ เพื่อศกึ ษาความรเู้ รื่องวทิ ยาการขอ้ มลู 11.2 เน่ืองจากผู้เรียนอาจยังไม่สามารถเลือกหัวข้อโครงงานวิทยาการข้อมูลที่สนใจ จึงเป็นไปได้ที่ ผู้เรียนอาจมีการเปล่ียนแปลงหัวข้อของตนเองในภายหลัง ผู้สอนจึงอาจแนะนำ�ในการเลือก หัวขอ้ โครงงานของผ้เู รียนอีกคร้งั เมือ่ ผู้เรยี นมีประสบการณ์จากการเรียนวชิ านีม้ ากข้นึ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กิจกรรมท่ี 3 | แนวคดิ เชงิ ออกแบบ 37 บตั รคำ�ถาม สำ�หรบั นักวิทยาศาสตรข์ ้อมลู ในการสัมภาษณผ์ ซู้ ื้อ Tasks : ไกย่ า่ งสม้ ตำ�แบบไหน รสชาติใด ท่ีคณุ รับประทานและมปี ริมาณมากน้อยเพยี งใด Feelings : ไกย่ า่ งสม้ ตำ�ทเี่ คยรบั ประทานแล้วชอบเป็นอย่างไร Influences : คณุ กนิ ไก่ยา่ งสม้ ต�ำ บ่อยหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด Pain Points : ไกย่ า่ งส้มต�ำ แบบใด ท่คี ณุ พบแล้วจะซื้อแนน่ อน และไม่วา่ แพงแคไ่ หนกย็ นิ ดีจ่าย Overall Goal : สดุ ทา้ ยแลว้ ถา้ ใหต้ ดั สินใจเลอื ก จะกินไก่ย่างสม้ ตำ�แบบไหน รา้ นไหน เพราะเหตุใด บัตรคำ�ถาม สำ�หรับนกั วิทยาศาสตร์ข้อมลู ในการสมั ภาษณ์ผูข้ าย Tasks : ทีร่ ้านคุณขายไก่ยา่ งส้มต�ำ แบบไหน เน้นขายให้กบั ใคร Feelings : จากประสบการณ์ที่มี คุณคิดวา่ ลกู คา้ ส่วนใหญ่ชอบกนิ ไกย่ า่ งสม้ ต�ำ แบบไหน Influences: ลกู คา้ ท่เี ข้ามารา้ นคุณ คิดวา่ มาเพราะอะไร Pain Points : สินคา้ ไหนทข่ี ายได้มากเปน็ พเิ ศษ หรอื ลกู ค้าทุกคนเข้ามาต้องสง่ั Overall Goal: คณุ คิดวา่ จะใช้กลยทุ ธ์แบบไหนที่จะทำ�ให้ไก่ยา่ งสม้ ต�ำ ของร้านคณุ ขายได้ดีข้นึ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

38 กิจกรรมที่ 3 | แนวคดิ เชิงออกแบบ รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) แบบฟอรม์ การเก็บขอ้ มูลผูซ้ ือ้ Tasks Feelings ผซู้ ือ้ Influences Pain Points Overall Goal สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กิจกรรมที่ 3 | แนวคิดเชิงออกแบบ 39 แบบฟอรม์ การเก็บขอ้ มลู ผู้ขาย Tasks Feelings ผขู้ าย Influences Pain Points Overall Goal สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

40 กิจกรรมที่ 3 | แนวคิดเชิงออกแบบ รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) ใบความรู้ท่ี 3.1 เกมเป่ายงิ ฉบุ กตกิ าการเล่นเกม เกม เป่ายงิ ฉบุ เปา่ ยิง ฉบุ ใหช้ นะ เพอื่ ชว่ ยสนุ ัขจากนกั วทิ ยาศาสตรร์ ้าย Markov oho.ipst.ac.th/ โดยมีเงื่อนไขดังนี้ หากเป่ายิงฉุบ แพ้หรือเสมอ 1 ครั้ง แท่นท่ีสุนัขน่ังจะ m5/1300 เคลอื่ นทล่ี งมาหนง่ึ ต�ำ แหนง่ ซง่ึ หากแทน่ เคลอ่ื นทลี่ งมาถงึ จดุ ต�ำ่ สดุ กจ็ ะแพ้ แตถ่ า้ เปา่ ยงิ ฉบุ ชนะ 1 ครงั้ แทน่ ของสนุ ขั จะเคลอ่ื นขน้ึ ไปหนง่ึ ต�ำ แหนง่ ถา้ แทน่ เคลอื่ นที่ จนถงึ ทางออก สุนขั จะหลบหนไี ด้ วธิ กี ารเลน่ เกม คลิกท่ปี มุ่ Rock (คอ้ น), Paper (กระดาษ) และ Scissors (กรรไกร) เพอ่ื ทจี่ ะเป่า ยงิ ฉบุ แขง่ กับ Markov เกมจะจบลงเมอ่ื สนุ ขั หนรี อดไดห้ รอื เมือ่ แท่นเคลอ่ื นลงมาจนถงึ พน้ื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการคำ�นวณ) กจิ กรรมที่ 3 | แนวคิดเชิงออกแบบ 41 คำ�แนะน�ำ ในการเล่นเกม 1 สังเกตขอ้ มลู การเปา่ ยิง ฉบุ ของ Markov ด้วยการคลกิ ที่ไอคอน Table ใน CODAP toolbar เพ่อื เปดิ ตาราง Games/Turns วา่ มรี ปู แบบทีช่ ัดเจนหรือไม่ 2 ดภู าพรวมของขอ้ มลู การเปา่ ยงิ ฉุบ ของ Markov ด้วยการคลิกท่ไี อคอน Graph ได้ 3 กดปุ่ม Set Strategy เพือ่ ตัง้ คา่ การเป่า ยงิ ฉบุ อตั โนมตั ไิ ด้ Icon Table Icon Graph ตาราง Games/Turns แสดงขอ้ มูลการแพ้ชนะ หน้าเกม กราฟ Turns แสดงข้อมูล สถิติการเปา่ ยิง ฉบุ ของ ดร.Markov ป่มุ ไม้บรรทัด ค�ำ แนะน�ำ ในการดูกราฟ 1 จุดบนกราฟ Turns แสดงสถติ แิ ละรูปแบบในการการเป่า ยงิ ฉบุ ของ Markov 2 นักเรียนสามารถคลิกจุดบนกราฟ Turns เพ่ือแสดงผลลัพธ์การเป่า ยิง ฉุบ ของรอบนั้น ในตาราง Games/Turns 3 นกั เรยี นสามารถคลกิ ปมุ่ ไมบ้ รรทดั บนกราฟ Turns เพอ่ื แสดงผลขอ้ มลู ทางสถติ ใิ นรปู แบบของจำ�นวน หรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

42 กจิ กรรมที่ 3 | แนวคดิ เชงิ ออกแบบ รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�ำ นวณ) ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 คิดแบบนักออกแบบ 1 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 2 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 3 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขที่ ________ 4 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ อา่ นสถานการณด์ ังน้ี “กลุ่มแม่บ้านในชุมชนแห่งหนงึ่ ตอ้ งการหารายไดพ้ เิ ศษโดยขาย ไก่ย่างสม้ ต�ำ ” ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มด�ำ เนินการตามขน้ั ตอนตอ่ ไปนี้ 1 ใหน้ กั เรยี นท่เี ป็นนกั วทิ ยาศาสตร์ข้อมูล สัมภาษณผ์ ้ซู ้อื และผู้ขาย โดยใช้ค�ำ ถามใน แบบฟอร์มท่กี ำ�หนดให้ 2 ใหน้ กั วิทยาศาสตรข์ อ้ มูล รวบรวมข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากผซู้ ือ้ และผู้ขาย 3 ให้สมาชกิ ในกลุ่มช่วยกันออกแบบสินคา้ จากขอ้ มูลทเ่ี ก็บรวบรวมได้ 4 น�ำ เสนอสนิ ค้า ตามหัวข้อตอ่ ไปนี้ ใครคอื กลมุ่ เปา้ หมาย จุดเด่นของผลติ ภัณฑ์ ท่ีคดิ ว่าเป็นที่ถกู ใจของผ้ซู ือ้ เพราะอะไร แนวทางการทำ�ให้ผลติ ภณั ฑน์ ขี้ ายดีขึ้นไดอ้ ย่างไร ขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ มีอะไรบา้ งและหาได้จากที่ใด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำ�นวณ) กิจกรรมท่ี 3 | แนวคดิ เชงิ ออกแบบ 43 ภาพรา่ งการออกแบบสนิ ค้า สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

44 กิจกรรมที่ 3 | แนวคิดเชิงออกแบบ รายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ | เทคโนโลยี (วิทยาการค�ำ นวณ) ใบกจิ กรรมที่ 3.2 คโคิดรแงบงาบนนวกั ิทอยอากกแาบรขบ้อมลู ของฉัน 1 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 2 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 3 ชอ่ื -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ 4 ชอื่ -สกลุ ________________________________________________________ เลขท่ี ________ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ เลือกประเด็นใดประเดน็ หนง่ึ ต่อไปนี้ ปัญหาที่พบในท้องถ่ิน ระดับประเทศ หรือ การเพิ่มมูลค่าให้กับบริการ หรือผลิตภัณฑ์ใน นานาชาติ ชมุ ชน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook