เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กิจกรรม ผู้สอน /ผู้เรียน หนังสือ นาที ไมโครมเิ ตอร์วดั นอก (Outside Micrometer Caliper) ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ B:57 2(10) ลกั ษณะโดยท่วั ไปของไมโครมิเตอร์วดั นอก (power point) ไมโครมิเตอร์แบบใช้วัดขนาดภายนอกจะอาศัย ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด หลกั การทางานของเกลียวท่ีจะเกิดค่าระยะพิตช์ เมื่อทา บนั ทึกส่วนท่ีสาคญั การหมุนเกลียวไป 1 รอบ ก็จะไดร้ ะยะพติ ชเ์ ทา่ กบั 1 (1 Pitch) ซ่ึงระยะพิตช์นี่เองที่ไดถ้ ูกนาไปเปรียบเทียบกบั ผู้สอนถาม: ไมโครมิเตอร์วดั การเคล่ือนท่ีของเกลียว 1 ช่อง กบั สเกลหลักบรรทัด นอกอาศยั หลกั การทางานของ เหล็ก เช่น ถ้าเราแบ่งระยะบรรทัดเหล็กออกเป็ น 20 สิ่งใด ส่วน แล้วหมุนเกลียว 1 ช่อง ผ่านบรรทดั เหล็ก จะได้ ผู้เรียนตอบ: …………. ระยะ 1/20 ของระยะพติ ช์ ซ่ึงหลกั การน้ีถูกนาไปสร้าง ผู้สอนเฉลย: อาศยั หลกั การ เป็ นไมโครมิเตอร์ ทางานของเกลียว ช่ือส่วนประกอบและหน้าทขี่ องไมโครมเิ ตอร์วัดนอก 1.แกนรับมีหน้าท่ีรองรับการวดั ท่ีผวิ สมั ผสั ของแกนรับ B:57- 2 (15) จะชุบผวิ แขง็ เพอื่ ป้องกนั การสึกหรอ 58 2. แกนวดั ใชเ้ ล่ือนสมั ผสั วดั ขนาดของชิ้นงานผวิ สมั ผสั จะชุบผวิ แขง็ เหมือนกบั แกนรบั และขนาดของแกนวดั เทา่ กบั แกนรบั 3. ปลอกหมุนวดั ใชห้ มุนเลื่อนใหแ้ กนวดั สมั ผสั ช้ินงาน ในทิศทางตามเขม็ นาฬิกา ส่วนทีล่ ายสาหรบั มือจบั 4. เกลียวเป็นส่วนเดียวกบั แกนวดั มีระยะพติ ชเ์ ท่ากบั 0.5 มม. 5. ปลอกหมุนกระทบเลื่อน ใชป้ ้องกนั แกนวดั ในการ เล่ือนสมั ผสั ผวิ งานวดั เพอื่ ใหไ้ ดค้ ่าวดั ทถ่ี ูกตอ้ ง
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กจิ กรรม ผู้สอน /ผู้เรียน หนังสือ นาที 6. กลไกลอ็ คแกนวดั ใชล้ ็อคหรือบีบแกนวดั ไม่ให้ ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ เคลื่อนท่ี และคลายเม่ือตอ้ งการใหแ้ กนวดั เคลื่อนท่ี (power point) 7. กา้ นสเกล=ปลอกขดี สเกลแบง่ ตามแนวยาว ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด 8. ขดี สเกล 0.01 มม.=อยบู่ นปลอกหมุนวดั แตล่ ะช่อง บนั ทึกส่วนที่สาคญั สเกลมีค่าความละเอียด 0.01 มม. 9. โครง=เป็นตวั รองรับส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ไมโครมิเตอร์ 10. ขนาดวดั =เป็นตวั เลขท่บี อกขนาดของไมโครมิเตอร์ ผู้สอนถาม: ตวั เลขทบ่ี อกขนาด เช่น 0-25 มม. หมายถึง ไมโครมิเตอร์สามารถวดั ขนาด ของไมโครมิเตอร์ เช่น 0-25 ไดต้ ้งั แต่ 0-25 มม. มม. หมายถึงอะไร 11. แหวนเกลียวใชช้ ป้ รับความฝืดของปลอกหมนุ วดั ผู้เรียนตอบ: …………. 12. ขีดสเกล 1 มม.=บอกค่าความละเอียดขีดละ 1 มม. ผู้สอนเฉลย: ไมโครมิเตอร์ 13. ขดี สเกล 0.5 มม.=บอกค่าความละเอียดขดี ละ 0.5 สามารถวดั ขนาดไดต้ ้งั แต่ 0-25 มม. โดยมองประกอบกบั สเกลท่ีใชล้ ะเอียด 1 มม. มม. หลักการแบ่งสเกลค่าความละเอยี ด สเกลไมโครมิเตอร์ท่ใี ชก้ นั อยทู่ ว่ั ไปมีความละเอียด 0.01 มม. (1/100 มม.) โดยมีหลกั การแบง่ สเกลดงั น้ี B:59- 2(17) 60 การแบ่งสเกลทป่ี ลอกหมนุ วดั ออกเป็น 50 ช่อง ถา้ ปลอกหมุนวดั แบง่ ช่องสเกลออกเป็ น 50 ช่อง (50 ขดี ) การเคล่ือนท่ีในแต่ละช่วงจะหาคา่ ความละเอียดได้ ดงั น้ี ถา้ หมุนเกลียวไป 1 รอบ (50 ขดี ) = 0.50 มม. ถา้ หมุนเกลียวไป 1/2 รอบ (25 ขีด) = 0.5/2 = 0.25 มม. ถา้ หมุนเกลียวไป 1/50 รอบ (1 ขีด) = 0.5/50 = 0.01 มม.
เนื้อหา วธิ ีการสอน รหัส เวลา การอ่านค่าวดั จากไมโครมเิ ตอร์ (1/100 มม.) กิจกรรม ผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ นาที ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ (power point) ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย สเกลของไมโครมิเตอร์ B:60- 1. สเกลดา้ นล่างจะแบ่งความกวา้ งเป็ น 1 มม./ช่อง 61 8(25) เรียกวา่ สเกล 1 มม. 2. สเกลดา้ นบนจะแบง่ ความกวา้ งเป็น 1 มม./ช่อง โดยเร่ิมท่จี ุดก่ึงกลางของสเกล 1 มม. ไปจนสุดปลอก วดั เรียกวา่ สเกล 0.50 มม. 3. สเกลปลอกหมุนวดั ถูกแบ่งออกเป็น 50 ช่องเท่า ๆ กนั มีความละเอียด 0.01 มม. จากภาพ อ่านค่าจากขีดสเกล 1 มม. = 10.00 มม. อ่านค่าจากขีดสเกล 0.5 มม. = 0.00 มม. อ่านคา่ จากขดี สเกล 0.01 มม. = +0.00 มม. อ่านคา่ รวม = 10.00 มม. การอ่านไมโครมเิ ตอร์วดั ละเอยี ด 2/1000 มม. (0.002 มม.) ไมโครมิเตอร์ชนิดน้ี เหมือนกบั ไมโครมิเตอร์ชนิด 1/100 มม. ทุกประการแตม่ ีสเกลทเ่ี พม่ิ เขา้ มาคอื เวอร์ เนียร์สเกล โดยขีดแบ่งสเกลไวท้ ปี่ ลอกสเกลหลกั เป็ น ขดี ไปแนวนอน 5 ส่วน หรือ 5 ช่อง ขดี ขนาดกบั เสน้ อ่าน (Reading Line) วธิ ีแบ่งเป็ นเวอร์เนียร์สเกลของไมโครมิเตอร์วดั ละเอียด 2/1000 มม. ทาไดด้ งั น้ี
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กิจกรรม ผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ นาที 1. นาระยะ 9 ช่องของสเกลปลอกหมนุ วดั ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ (9 x 0.01 = 0.09 มม.) นาแบง่ ออกเป็นเวอร์เนียร์ (power point) สเกล 5 ส่วนเทา่ ๆ กนั ดงั น้นั แต่ละส่วนเท่ากบั 0.9/5 ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย = 0.018 มม. 2. ผลต่าง 2 ส่วนของปลอกสเกลหลกั (0.02 มม.) กบั 1 ส่วนของเวอร์เนียร์สเกล (0.018 มม.) มีคา่ เท่ากบั 0.02-0.018 = 0.002 มม. ซ่ึงเป็นความละเอียดท่ี ไมโครมิเตอร์วดั ไดน้ น่ั เอง ค่าวดั ไมโครมิเตอร์ชนิด 2/1000 มม. A:144- 10(35) 145 จากภาพ อ่านค่าวดั ตามลาดบั ไดด้ งั น้ี 1. ทป่ี ลอกสเกลหลกั อ่านได้ = 5.00 มม. 2. ขดี 0 ปลอกหมุนวดั อยตู่ ่ากวา่ เสน้ อ่าน (แสดงวา่ จะตอ้ งอ่านหรือรวมกบั คา่ ทอี่ ่านไดจ้ ากขีดเวอร์เนียร์ สเกล) ไดค้ า่ อ่าน = 0.00 มม. 3. เวอร์เนียร์สเกลขีดที่ 8 ตรงกบั ขดี ของปลอกหมุน วดั = 0.008 มม. 4. รวมคา่ วดั ท่ีอ่านได้ 5.00 + 0.00 + 0.008 = 5.008 มม.
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา การแบ่งสเกลละเอยี ด 1/1000 มม. ( 0.001 มม.) กจิ กรรม ผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ นาที ผู้สอน : บรรยายประกอบส่ือ (power point) ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย B:63 5(40) การแบ่งสเกลละเอียดแบบ 1 มม. 1000 ค่าทว่ี ดั ได้ = ค่าบนสเกลหลกั + สเกลบนปลอกหมุน วดั = 2.500 + 0.360 + 0.008 = 2.868 มม. สรุป ผู้สอนและผู้เรียนทาการสรุป ร่วมกัน 10(50)
สรุปเนือ้ หา ไมโครมิเตอร์ เป็นเคร่ืองมือวดั ที่ใชก้ นั อยา่ งกวา้ งขวางในอุตสาหกรรมการผลิต เพราะเป็ นเคร่ืองมือที่สามารถวดั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามตอ้ งการ ท้งั น้ีเนื่องจากมีสเกลท่ีอ่านไดง้ ่าย หากเปรียบเทียบกบั เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ทาการจาแนกออกเป็นประเภทหลกั ๆ ได้ 3 ประเภท คอื 1ไมโครมิเตอร์วดั นอก 2ไมโครมิเตอร์วดั ใน 3ไมโครมิเตอร์วดั ลึก ไมโครมเิ ตอร์วัดนอก (Outside Micrometer Caliper) ลกั ษณะโดยทัว่ ไปของไมโครมเิ ตอร์วัดนอก ไมโครมิเตอร์แบบใชว้ ดั ขนาดภายนอกจะอาศยั หลกั การทางานของเกลียวท่ีจะเกิดค่าระยะพติ ช์ เม่ือทาการหมุน เกลียวไป 1 รอบ ก็จะได้ระยะพิตช์เท่ากับ 1 (1 Pitch) ซ่ึงระยะพิตช์นี่เองท่ีได้ถูกนาไปเปรียบเทียบกับการ เคลื่อนทขี่ องเกลียว 1 ช่อง กบั สเกลหลกั บรรทดั เหลก็ หลกั การแบ่งสเกลค่าความละเอียด สเกลไมโครมิเตอร์ทใ่ี ชก้ นั อยทู่ ว่ั ไปมีความละเอียด 0.01 มม. (1/100 มม.) ข้อสังเกตในการสอน ผู้สอน ก่อนสอน : ความตรงตอ่ เวลา ความพร้อมของเคร่ืองมือและวสั ดุท่ใี ชป้ ระกอบการสอน เตรียมเน้ือหา ขณะสอน : ดูเน้ือหาไม่บอ่ ยนกั เพราะมีการเตรียมตวั มาก่อน ทาใหม้ ีเวลาดูพฤตกิ รรมของผเู้ รียนไดอ้ ยา่ ง ทว่ั ถึงสงั เกตความสนใจของผเู้ รียนตอ่ เน้ือหาที่ทาการสอน หลงั สอน : ทราบไดว้ า่ ผเู้ รียนมีความเขา้ ใจและสนใจเรียนมากแคไ่ หนจากการสงั เกตระหวา่ งการสอน ผู้เรียน ก่อนเรียน : เตรียมตวั อ่านเน้ือหาก่อนล่วงหนา้ ขณะเรียน : เขา้ ใจการเรียนไดเ้ ร็วข้นึ เพราะมีการเตรียมตวั มาก่อน หลงั เรียน : มีความรู้ ความเขา้ ใจมากข้ึน ข้อทดสอบและเฉลย 1. เพราะเหตุใดการอ่านคา่ วดั ของเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์กบั ไมโครมิเตอร์จงึ มีความแตกตา่ งกนั อยา่ งเห็นไดช้ ดั (ข) ตอบ เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์จะมีขดี สเกลท่ใี กลเ้ คียงกนั เป็นจานวนมากทาใหย้ งุ่ ยากในการอ่านและความผดิ พลาด ในการอ่านกเ็ กิดไดง้ า่ ย ส่วนไมโครมิเตอร์จะมีขดี สเกลที่ใกลเ้ คยี งกนั อยา่ งมากท่สี ุดเพยี งแค่ 2 ขดี เท่าน้นั 2. ถา้ ตอ้ งการวดั ความหนาของแผน่ โลหะควรเลือกใชไ้ มโครมิเตอร์ชนิดในในการวดั (ว) ตอบ ไมโครมิเตอร์วดั นอก
3. ไมโครมิเตอร์วดั นอกอาศยั หลกั การทางานของส่ิงใด(จ) ตอบ อาศยั หลกั การทางานของเกลียว 4. ตวั เลขทีบ่ อกขนาดของไมโครมิเตอร์ เช่น 0-25 มม. หมายถึงอะไร (ข) ตอบ ไมโครมิเตอร์สามารถวดั ขนาดไดต้ ้งั แต่ 0-25 มม. เอกสารอ้างอิง A: ไชยศกั ด์ิ ศรีสุขเดช. การวดั ละเอียด. สานกั พมิ พศ์ นู ยส์ ่งเสริมวชิ าการ.กรุงเทพฯ. 2547. B: ยงยทุ ธ วทิ ยดารง.เอกสารทางวชิ าการรายวชิ า งานวดั ละเอียด. สานกั พฒั นาสมรรถนะครูและบคุ คลากร อาชีวศึกษา. 2548. เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ในการสอน 1. กระดานไวทบ์ อร์ด 2. ปากกาไวทบ์ อร์ด 3. โปรเจคเตอร์ 4. คอมพวิ เตอร์ หมายเหตุ (ข) = คาถามเก่ียวกบั ความเขา้ ใจ (จ) = คาถามเก่ียวกบั ความจา (ว) = คาถามทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การวเิ คราะห์
ใบความรู้ที่ 8 หัวข้อเรื่อง – หัวข้อย่อย จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. เคร่ืองมือวดั แบบถ่ายขนาด เม่ือนกั ศกึ ษาเรียนจบบทเรียนน้ีแลว้ นกั ศกึ ษาสามารถ 1.1 คาลิปเปอร์ 1. อธิบายลกั ษณะงานทีว่ ดั ดว้ ยคาลิปเปอร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 1.2 การแบง่ ชนิดของคาลิปเปอร์ 2. บอกลกั ษณะของคาลิปเปอร์วดั นอกและวดั ในได้ 1.3 การใชค้ าลิปเปอร์ 3. บอกวธิ ีใชแ้ ละข้นั ตอนการวดั ดว้ ยคาลิปเปอร์ไดอ้ ยา่ ง 1.4 การวดั ดว้ ยคาลิปเปอร์ ถูกตอ้ ง เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กิจกรรม ผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ นาที บทนา ผู้สอน : บรรยายประกอบส่ือ 2 เครื่องมือวดั แบบถ่ายขนาด จะใชว้ ดั ขนาดงาน เม่ือ (power point) เครื่องมือวดั ท่อี ่านค่าไดโ้ ดยตรงไม่สามารถวดั ได้ ผู้เรียน : ฟังการบรรยายและทาการ ไดแ้ ก่ คาลิปเปอร์ (caliper) เกจวดั รูขนาดเล็ก บนั ทึกในส่วนท่สี าคญั (Small-Hole Gauges) และเกจยดื หด (Telescope gauges) เนื้อหา คาลิปเปอร์ คาวา่ คาลิปเปอร์ หมายถึง เคร่ืองมือวดั ทม่ี ีปากวดั หรือขาหรือแขน ทาหนา้ ทแ่ี ตะสมั ผสั ผวิ งาน 2 จุด ซ่ึงอยตู่ รงกนั ขา้ ม ดงั น้นั คาลิปเปอร์ทใี่ ชว้ ดั นอก และวดั ใน จึงเป็นเคร่ืองมือทม่ี ีขาสาหรบั แตะ ผวิ สมั ผสั ของงาน 2 จดุ ที่อยตู่ รงกนั ขา้ ม ถา้ วดั งานที่ มีลกั ษณะตนั คือการวดั ภายนอก ถา้ เป็นการวดั A:36 5(7) ภายในลกั ษณะของงานจะเป็นรูหรือร่อง ลกั ษณะงานทว่ี ัดด้วยคาลปิ เปอร์ งานทว่ี ดั ดว้ ยคาลิป เปอร์ เป็นการวดั เปรียบเทยี บขนาด เพอื่ ตอ้ งการวดั ดว้ ยความสะดวกรวดเร็ว ส่วนใหญ่ใชว้ ดั งานท่ี ตอ้ งการทราบขนาดโดยประมาณ หรือบางคร้ังก็ใช้ วดั ขนาดของงาน เพอ่ื ใหไ้ ดค้ า่ วดั ความละเอียดตาม
เนื้อหา วธิ ีการสอน รหัส เวลา หนังสือ นาที กจิ กรรม ผู้สอน / ผู้เรียน B:26 3 (10) ตอ้ งการ นอกจากน้ียงั ใชส้ าหรบั วดั ตรวจสอบขนาด ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ วา่ เล็กหรือใหญ่กวา่ ขนาดท่กี าหนดหรือไม่ และยงั (power point และ คาลิปเปอร์) B:26-27 10 (20) ใชว้ ดั ขนาดในจดุ ท่ีวดั ไดย้ าก โดยลกั ษณะงานท่ไี ม่ ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จดบนั ทึก สามารถใชเ้ คร่ืองมืออ่ืนๆวดั ได้ หรือความหนาของ และถามในส่วนทีส่ งสยั ช้ินงานทม่ี ีบางส่วนของรูปทรงกีดขวางการเขา้ ไปวดั ของเคร่ืองมือน้นั เช่น การวดั ความหนาของกน้ ถว้ ย หรือกน้ แกว้ เป็ นตน้ ลกั ษณะงานที่ใช้วัดด้วยคาลปิ เปอร์ ไดแ้ ก่ การวดั เปรียบเทยี บขนาดงาน งานตรวจสอบขนาดงานวา่ เล็กหรือใหญก่ วา่ ขนาดกาหนด และงานวดั ขนาดท่มี ี ลกั ษณะตกร่องภายนอก เม่ือตอ้ งการความสะดวก รวดเร็วและไม่ตอ้ งการคา่ วดั ทลี่ ะเอียดมากนกั การแบ่งชนิดของคาลปิ เปอร์ ผู้สอนถาม: คาลิปเปอร์แบ่ง ลกั ษณะของคาลิปเปอร์คลา้ ยกบั วงเวยี น สามารถถ่าย ออกเป็ นก่ีชนิด อะไรบา้ ง ขนาดเพอื่ วดั ขนาดงานได้ ท้งั ภายนอกและภายใน ผู้เรียนตอบ: ………… ดว้ ยขาของคาลิปเปอร์ คาลิปเปอร์แบง่ ออกเป็น 4 ผู้สอนเฉลย: แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ชนิด คอื ไดแ้ ก่ คาลิปเปอร์วดั นอก คาลิป 1. คาลิปเปอร์วัดนอก (Outside Caliper) เปอร์วดั ใน คาลิปเปอร์ถ่ายขนาด มีช่ือทีเ่ รียกกนั ทวั่ ไปวา่ “เขาควาย” ใชว้ ดั หรือ คาลิปเปอร์กระเทย ตรวจสอบขนาดภายนอกของช้ินงาน ขาของเขาควาย มีลกั ษณะโคง้ เขา้ เพอื่ หลบผวิ งาน ลกั ษณะสรา้ งของ คาลิปเปอร์ท่ีใชว้ ดั ขนาดภายนอก แบง่ ไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะคอื ������คาลิปเปอร์ทป่ี รับด้วยความฝื ด คาลิปเปอร์ลกั ษณะน้ีแขนวง เวยี นมีลกั ษณะบางแขง็ แรง และไม่บดิ งอง่าย สรา้ งดว้ ย เหล็กสปริง แขนวงเวยี นท้งั สองยดึ ติดกนั ดว้ ยหมุดย้า การ กางออก หรือหุบเขา้ ดว้ ย
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา หนังสือ นาที กิจกรรม ผู้สอน /ผู้เรียน วธิ ีการเคาะท่แี ขนวงเวยี น ผู้สอน : บรรยายประกอบส่ือ ������ คาลิปเปอร์ทีป่ รับโดยหมุนเป็นเกลยี ว (power point และ คาลิปเปอร์) คาลิปเปอร์ลกั ษณะน้ี แขนวง ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด เวยี นคอ่ นขา้ งใหญเ่ พราะทา บนั ทึกส่วนท่สี าคญั จากเหล็กอ่อนขาของวงเวยี น จะหุบเขา้ หากนั ตลอดเวลาดว้ ย แรงสปริง ระยะห่างของเกลียว สมั ผสั ปรบั ดว้ ยการหมุนแป้น เกลียวเขา้ / ออกตามตอ้ งการ 2. คาลิปเปอร์วัดใน (Inside Caliper or Divider) ผู้สอนถาม: ลกั ษณะการสรา้ ง คาลิปเปอร์วดั ใน ของคาลิปเปอร์วดั ในแบง่ เป็น 2 หรือทเี่ รียกกนั ทวั่ ไป ลกั ษณะเช่นเดียวกบั คาลิปเปอร์ วา่ “ตีนผ”ี ใชว้ ดั หรือ วดั นอก ซ่ึงไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ตรวจสอบขนาด ผู้เรียนตอบ: …………. ภายในชิ้นงาน เช่น ผู้สอนเฉลย: แบบปรบั ดว้ ย รูเจาะหรือรูควา้ นโต ความฝืด และดว้ ยการหมุนแป้น ๆ เป็นตน้ ขาของวงเวยี นทาใหม้ ีลกั ษณะโคง้ ออก เกลียว เพอื่ ใหเ้ ข้ียวสมั ผสั สมั ผสั กบั ผวิ งานดา้ นในได้ ลกั ษณะ สรา้ งของวงเวียนแบบน้ีอาจแบ่งไดเ้ ป็ น 2 ลกั ษณะ เช่นเดียวกนั คือ แบบปรบั ดว้ ยความฝืด และดว้ ยการ หมุนแป้นเกลียว โดยแบบปรับดว้ ยแป้นเกลียว ขาขอ งวงเวยี นจะกางออกตลอดเวลาดว้ ยแรงสปริง ระยะห่าง ของเข้ยี วสมั ผสั ปรับดว้ ยการหมุนแป้นเกลียวเขา้ ออก ตามตอ้ งการ 3. คาลิปเปอร์ถ่ายขนาด คาลิปเปอร์ถ่ายขนาดหรือโยกยา้ ยขนาดน้ีมีท้งั ใชว้ ดั ขนาดภายนอกและขนาดภายใน แตม่ ีลกั ษณะพเิ ศษท่ี เพม่ิ ข้นึ คือ มีแขนถ่ายขนาด แขนถ่ายขนาดน้ีจะเป็น แขนส้นั ๆสาหรับเป็นตวั กาหนดใหข้ าหรือแขนของคา ลิปเปอร์กลบั คืนมายงั ตาแหน่งเดิม
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา หนังสือ นาที กจิ กรรม ผู้สอน /ผู้เรียน A:40-41 5 (25) 4. คาลิปเปอร์กระเทย ผู้สอน : บรรยายประกอบ B:28-31 10 (35) คาลิปเปอร์กระเทย คอื คาลิปเปอร์ทีม่ ขี าขา้ งหน่ึงตรง (power point และ คาลิปเปอร์) และที่ส่วนปลายจะแหลมเหมือนปลายของวงเวยี น ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด ส่วนขาอีกขา้ งหน่ึงตรงส่วนปลายจะงอ คาลิปเปอร์ชนิด บนั ทึกส่วนทสี่ าคญั น้ี ใชส้ าหรบั หาจดุ ศนู ยก์ ลางของเพลา หรือกาหนด ตาแหน่งดว้ ยการขดี เสน้ ขนานในงานร่างแบบ การใช้คาลปิ เปอร์ การวดั ดว้ ยคาลิปเปอร์ จะทราบค่าวดั ก็ตอ่ เม่ือนาไป เทียบกบั เครื่องมือวดั ทม่ี ีขดี มาตราอีกคร้งั หน่ึง เพราะคา ลิปเปอร์ไม่มีขีดมาตราหรือขีดสเกล ดงั น้นั จะทราบคา่ วดั ก็ตอ่ เมื่อนาไปเทียบกบั เคร่ืองมือวดั ที่มีขดี สเกล ดงั น้นั การใชค้ าลิปเปอร์ จะใชว้ ิธีใดวธิ ีหน่ึงใน 2 วธิ ีน้ี คือ วธิ ีแรกต้งั ขนาด หรือต้งั ระยะคาลิปเปอร์กบั ขดี มาตราหรือขีดสเกลก่อน แลว้ จงึ นาไปวดั ขนาด หรือ ตรวจสอบขนาดงาน ส่วนอีกวธิ ีหน่ึง คือ วดั ขนาดของ ชิ้นงานดว้ ยคาลิปเปอร์แลว้ จึงนาไปเทียบขนาดกบั ขีด มาตราหรือขีดสเกล กจ็ ะรูข้ นาดของช้ินงาน 1.การปรับระยะห่างของเขยี้ วสัมผสั โดยการเคาะแขนวงเวียนเพอื่ ปรบั ระยะห่างของเข้ียว สมั ผสั จะตอ้ งทาอยา่ งถูกวธิ ีเพอื่ ไม่ใหเ้ ข้ยี วสมั ผสั เสียหาย 2. การสัมผสั ของเขยี้ วสัมผัสวัดท้งั สองกบั ชิ้นงาน โดยจะตอ้ งใชค้ วามรู้สึกสมั ผสั ในการฝึกทกั ษะการจบั ควรจบั ในแนวด่ิง ดงั ภาพที่ 3-9 ก่อนเร่ิมวดั หรือ ตรวจสอบขนาด จะตอ้ งทาใหร้ ะยะห่างของเข้ียวสมั ผสั มากกวา่ ความโตงานเล็กนอ้ ยแลว้ คอ่ ย ๆ ปรับใหแ้ คบ เขา้ จนสมั ผสั พอดีกบั ผวิ งานน้นั
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา หนังสือ นาที กิจกรรม ผู้สอน /ผู้เรียน A:47-48 5(40) 3. แนวแกนวดั ชิ้นงานของคาลิปเปอร์ ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ ตอ้ งคานึงวา่ แนวแกนวดั ของคาลิปเปอร์ (Axis of (power point) Caliper) อยใู่ นเสน้ วดั ช้ินงาน (Line of Measurement) ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด น้นั จริงหรือไม่ โดยทดสอบขยบั เข้ียวสมั ผสั ดู หรือ บนั ทึกส่วนท่สี าคญั เปรียบเทียบค่าวดั ไดส้ ุดแตล่ ะลกั ษณะงาน วธิ ีขยบั เข้ียว สมั ผสั วดั ควรขยบั เข้ียวใดเข้ียวหน่ึงเพยี งเข้ียวเดียว การวัดด้วยคาลปิ เปอร์ การใชค้ าลิปเปอร์วดั งาน เพอ่ื ทีจ่ ะไดค้ ่าวดั ทถ่ี ูกตอ้ ง หรือการวดั ดว้ ยความรูส้ ึกทีพ่ อดีน้นั ทาไดไ้ ม่ยากนกั ผู้ วดั จะตอ้ งมีความชานาญ จงึ จะสามารถวดั งานไดข้ นาด ทถ่ี ูกตอ้ ง 1. ความรู้สึกสัมผสั ความรู้สึกสมั ผสั ของเข้ยี วทีส่ มั ผสั ผวิ งานพอดีน้นั มีความสาคญั ท่จี ะไดค้ า่ วดั ท่ถี ูกตอ้ ง วธิ ี ผู้สอนถาม: ทาไม่ตอ้ งให้ ท่ีจะฝึกการวดั ที่สมั ผสั พอดี คอื การวดั ช้ินงานทที่ ราบ แนวแกนวดั งานของคาลิปเปอร์ ขนาด แลว้ ทดลองเทียบค่าวดั ดูวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ จน อยใู่ นแนวเดียวกบั แนววดั ของ สามารถวดั ขนาดของงานไดถ้ ูกตอ้ ง และสามารถรูว้ า่ ชิ้นงาน ความรูส้ ึกสมั ผสั ทพี่ อดีน้นั เป็นอยา่ งไร ผู้เรียนตอบ: …………. 2. การจับคาลิปเปอร์ สามารถจบั ได้ 2 วธิ ี คือ ผู้สอนเฉลย: เพอื่ ใหค้ ่าทวี่ ดั ไดม้ ี ความแม่นยามากทีส่ ุด - การจบั และวดั ดว้ ยน้าหนกั ตวั ของคาลิปเปอร์ - การจบั วดั ปรบั ดว้ ยแป้นพมิ พ์ 3. แนวแกนวดั งานของคาลิปเปอร์ แนวแกนวดั งานของ คาลิปเปอร์จะตอ้ งอยใู่ นแนวเดียวกบั แนววดั ของช้ินงาน ผู้สอนและผู้เรียนทาการสรุป สรุป ร่วมกัน 10(50)
สรุปเนื้อหา คาลิปเปอร์ หมายถึง เครื่องมือวดั ทม่ี ีปากวดั หรือขาหรือแขน ทาหนา้ ท่ีแตะสมั ผสั ผวิ งาน 2 จุดซ่ึงอยตู่ รงกนั ขา้ ม ลกั ษณะงานท่ีวัดด้วยคาลปิ เปอร์ งานท่ีวดั ดว้ ยคาลิปเปอร์ เป็นการวดั เปรียบเทียบขนาด เพอ่ื ตอ้ งการวดั ดว้ ย ความสะดวกรวดเร็ว ส่วนใหญ่ใชว้ ดั งานที่ตอ้ งการทราบขนาดโดยประมาณ หรือบางคร้งั ก็ใชว้ ดั ขนาดของงาน เพอ่ื ใหไ้ ดค้ า่ วดั ความละเอียดตามตอ้ งการ การแบ่งชนิดของคาลปิ เปอร์ คาลิปเปอร์แบ่งออกเป็ น 4 ชนิด คอื 1. คาลปิ เปอร์วดั นอก (Outside Caliper) มีชื่อท่ีเรียกกนั ทว่ั ไปวา่ “เขาควาย” ใชว้ ดั หรือตรวจสอบขนาด ภายนอกของชิ้นงาน 2. คาลปิ เปอร์วดั ใน (Inside Caliper or Divider) คาลิปเปอร์วดั ใน หรือทีเ่ รียกกนั ทว่ั ไปวา่ “ตีนผี” ใชว้ ดั หรือ ตรวจสอบขนาดภายในชิ้นงาน 3. คาลิปเปอร์ถ่ายขนาด ใชว้ ดั ขนาดภายนอกและขนาดภายใน 4. คาลปิ เปอร์กระเทย คาลิปเปอร์กระเทย คอื คาลิปเปอร์ท่ีมีขาขา้ งหน่ึงตรง และท่สี ่วนปลายจะแหลมเหมือน ปลายของวงเวยี น ส่วนขาอีกขา้ งหน่ึงตรงส่วนปลายจะงอ ใชส้ าหรับหาจดุ ศนู ยก์ ลางของเพลา หรือกาหนด ตาแหน่งดว้ ยการขดี เสน้ ขนานในงานร่างแบบ การใช้คาลปิ เปอร์ การวดั ดว้ ยคาลิปเปอร์ จะทราบคา่ วดั กต็ อ่ เมื่อนาไปเทยี บกบั เคร่ืองมือวดั ที่มีขีดมาตราอีกคร้ัง หน่ึง เพราะคาลิปเปอร์ไม่มีขดี มาตราหรือขดี สเกล ดงั น้นั จะทราบคา่ วดั กต็ ่อเมื่อนาไปเทยี บกบั เครื่องมือวดั ทม่ี ี ขีดสเกล ข้อสังเกตในการสอน ผู้สอน ก่อนสอน : ความตรงต่อเวลา ความพรอ้ มของเคร่ืองมือและวสั ดุท่ีใชป้ ระกอบการสอน เตรียมเน้ือหา ขณะสอน : ดูเน้ือหาไม่บ่อยนกั เพราะมีการเตรียมตวั มาก่อน ทาใหม้ ีเวลาดูพฤตกิ รรมของผเู้ รียนไดอ้ ยา่ ง ทว่ั ถึงสงั เกตความสนใจของผเู้ รียนต่อเน้ือหาท่ที าการสอน หลังสอน : ทราบไดว้ า่ ผเู้ รียนมีความเขา้ ใจและสนใจเรียนมากแค่ไหนจากการสงั เกตระหวา่ งการสอน ผู้เรียน ก่อนเรียน : เตรียมตวั อ่านเน้ือหาก่อนล่วงหนา้ ขณะเรียน : เขา้ ใจการเรียนไดเ้ ร็วข้ึนเพราะมีการเตรียมตวั มาก่อน หลงั เรียน : มีความรู้ ความเขา้ ใจมากข้นึ ข้อทดสอบและเฉลย 1. คาลิปเปอร์แบง่ ออกเป็นก่ีชนิด อะไรบา้ ง (จ) ตอบแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ไดแ้ ก่ คาลิปเปอร์วดั นอก คาลิปเปอร์วดั ใน คาลิปเปอร์ถ่ายขนาด คาลิปเปอร์กระเทย
2. ลกั ษณะการสรา้ งของคาลิปเปอร์วดั ในแบง่ เป็ น 2 ลกั ษณะเช่นเดียวกบั คาลิปเปอร์วดั นอก ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง (จ) ตอบ แบบปรับดว้ ยความฝืด และดว้ ยการหมุนแป้นเกลียว 3. ทาไม่ตอ้ งใหแ้ นวแกนวดั งานของคาลิปเปอร์อยใู่ นแนวเดียวกบั แนววดั ของชิ้นงาน (ข) ตอบ เพอื่ ใหค้ ่าทีว่ ดั ไดม้ ีความแม่นยามากท่ีสุด เอกสารอ้างองิ A: ไชยศกั ด์ิ ศรีสุขเดช. การวดั ละเอียด. สานกั พมิ พศ์ นู ยส์ ่งเสริมวชิ าการ.กรุงเทพฯ. 2547. B: ยงยทุ ธ วทิ ยดารง.เอกสารทางวชิ าการรายวชิ า งานวดั ละเอียด. สานกั พฒั นาสมรรถนะครูและบคุ คลากร อาชีวศึกษา. 2548. เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ในการสอน 1. กระดานไวทบ์ อร์ด 2. ปากกาไวทบ์ อร์ด 3. โปรเจคเตอร์ 4. คอมพวิ เตอร์ 5. อุปกรณ์ในการสอน ไดแ้ ก่ คา ลิปเปอร์ หมายเหตุ (ข) = คาถามเก่ียวกบั ความเขา้ ใจ (จ) = คาถามทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ความจา
ใบความรู้ท่ี 9 หัวข้อเรื่อง – หัวข้อย่อย จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ความเรียบผวิ เมื่อนกั ศกึ ษาเรียนจบบทเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษาสามารถ 1.ลกั ษณะของผวิ งาน 1. อธิบายลกั ษณะของผวิ งานได้ 2. สญั ลกั ษณ์ความหยาบของผวิ 2. บอกสญั ลกั ษณ์ความหยาบผวิ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. ความหมายของคาท่เี ก่ียวกบั ผวิ 3. บอกความหมายของคาท่ีเก่ียวกบั ผวิ ได้ เนื้อหา วธิ ีการสอน รหัส เวลา กิจกรรม ผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ นาที บทนา ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ 2 ในงานบางชนิดความเรียบของผวิ มีความจาเป็นอยา่ ง (power point) มากแต่ในบางงานก็ไม่มีความจาเป็นเช่นกนั ดงั น้นั เรา ผู้เรียน : ฟังการบรรยายและทา จึงควรที่จะเรียนรูว้ า่ งานชนิดใดควรมีค่าความเรียบผวิ การบนั ทกึ ในส่วนที่สาคญั อยทู่ ีเ่ ท่าใดเพอ่ื ใหไ้ ดง้ านออกมาสามารถทนตอ่ การใช้ งานไดเ้ ป็ นอยา่ งดี ผู้สอนถาม: ความหยาบละเอียด ของผวิ งานข้นึ อยกู่ บั ปัจจยั เนื้อหา ใดบา้ ง ความเรียบผวิ ผู้เรียนตอบ: …………. ความเรี ยบของผิวงานที่มีค่าความหยาบละเอียด ผู้สอนเฉลย: ชนิดของวสั ดุ การ แตกต่างกัน เกิดจากกรรมวิธีการผลิตและความ หล่อเยน็ ความคมของมีดปาด ต้อ ง ก า ร ที่ จ ะ ท า ใ ห้ผิว มี ค ว า ม เ รี ย บ ข น า ด ใ ด ผวิ และสภาพของเคร่ืองมือกล นอกจากน้ันยงั ข้นึ อยกู่ บั ปัจจยั อ่ืนๆ เช่น ชนิดของวสั ดุ การหล่อเยน็ ความคมของมีดปาดผิว และสภาพของ A:182 3(5) เคร่ืองมือกล เป็ นตน้ ความหยาบละเอียดของผิวมีผล ต่อการใชง้ าน ถา้ สภาพของผิวไม่ตรงกบั สภาพความ เป็นจริงทจี่ ะนาไปใชง้ านทอาจทาใหม้ ีอายกุ ารใชง้ านท่ี ส้ันลง หรือถ้าผลิตผิวงานอย่างละเอียดขดั ผิวจนมัน เกินกว่าความจาเป็ นที่จะนาไปใช้ ก็จะเป็ นการ ส้ินเปลืองไร้ประโยชน์
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กิจกรรม ผู้สอน / ผู้เรียน หนังสือ นาที ลักษณะของผวิ งาน ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ B:167 3(8) สภาพผวิ ของชิ้นงานหรือผวิ ของชิ้นส่วนเคร่ืองจกั รท่ี (power point) เห็นราบเรียบน้นั ถา้ ส่งดูดว้ ยแวน่ ขยายจะพบวา่ เป็นผวิ ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด ทขี่ รุขระเป็นร่องเป็นหลุม มียอดแหลม หรือเป็นคลื่น บนั ทกึ และถามในส่วนทส่ี งสยั ผู้สอนถาม: ลกั ษณะของ ผวิ ช้ินงาน ถา้ ส่องดว้ ยแวน่ ขยาย นกั เรียนคดิ วา่ ผวิ ชิ้นงานจะมี ลกั ษณะเช่นใด ผู้เรียนตอบ: …………. รูปแสดง ลักษณะของผิว ผู้สอนเฉลย: ขรุขระเป็นร่องเป็น สัญลกั ษณ์ความหยาบของผวิ หลุม มียอดแหลม หรือเป็นคล่ืน ในการผลิตท่จี ะตอ้ งมีการวดั ขนาดใหม้ ีคุณภาพผวิ งาน ที่มีคา่ ความหยาบละเอียดตามทีก่ าหนด โดยสญั ลกั ษณ์ ความหยาบของผวิ ตามมาตรฐานในแบบงานไดด้ งั รูป ซ่ึงมีความหมายดงั น้ี A:183 10(18) รูปแสดง สัญลักษณ์ความหยาบของผวิ ท่ีภาคตดั AA ความหยาบผวิ เฉล่ีย (โตนอก).........1.6m (63m) ความหยาบเฉลี่ย (รูใน)..................0.80m (32m) ความยาวตวั อยา่ งทดสอบ..........0.80 มม. (0.030 นิ้ว) ความสูงของคล่ืน (โตนอก)......0.05 มม. (0.002 นิ้ว) ความสูงของคล่ืน (รูใน)..........0.025มม. (0.001 นิ้ว) ทศิ ทางรอยความหยาบ(โตนอก)......ตามเสน้ รอบวง ทศิ ทางรอยความหยาบ (รูใน)........ตามแนวแกน
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กจิ กรรม ผู้สอน /ผู้เรียน หนังสือ นาที ความหมายของคาทเี่ กย่ี วกบั ผิว ผู้สอน : บรรยายประกอบส่ือ ความหยาบละเอียดของผิว (surface texture) คือความ (power point ) เบี่ยงเบนท่ีผิดไปจากผิวปกติ เป็ นรูปแบบของผิว ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด รวมถึงเป็ นความหยาบ เป็ นคลื่น ผิวเป็ นรอยตาม บนั ทกึ ส่วนท่ีสาคญั ทิศทางท่ีถูกปาดผวิ (Lay) และตาหนิ รูปด้านข้าง (Profile) เป็ นเส้นแสดงรูปร่างในระนาบ ผู้สอนถาม: ความหยาบละเอียด ที่ต้งั ฉากกบั ผวิ ของผวิ คอื อะไร ไมโครเมตร (Micrometer) คือหน่วยวดั 1 ไมโครเมตร ผู้เรียนตอบ: …………. = 0.000001 เมตร ผู้สอนเฉลย: ความเบี่ยงเบนทผ่ี ดิ ไมโครน้ิว (Microinch) คือหน่วยวดั 1 ไมโครนิ้ว = ไปจากผวิ ปกติ เป็นรูปแบบของ 0.000001 น้ิว ผวิ รวมถึงเป็นความหยาบ เป็น ความหยาบ (Roughness) เป็ นความหยาบของผิวซ่ึง คลื่น ผวิ เป็นรอยตามทศิ ทางทถี่ ูก เกิดจากกรรมวธิ ีการผลิต โดยจะเห็นริ้วรอย ที่แสดงให้ ปาดผวิ (Lay) และตาหนิ เห็นทิศทางการป้อนกดั คว า ม หย า บเฉลี่ย (Roughness Average , Ra) คือ ค่าเฉล่ียทางคณิตศาสตร์ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic Average หรือ AA ) เป็ น การประมาณหาค่าความหยาบเฉลี่ย Ra (Roughness Average) โดยนาค่า y ในแนวต้งั มาบวกกนั (โดยไม่ ตอ้ งคานึงเร่ืองเครื่องหมาย ) แลว้ หารดว้ ยจานวนคร้ัง (N) ของค่าทนี่ ามารวมกนั หรือจะได้ ya + yb + yc + yd + ⋯ yn Y= N B:168- 169 15(33) รูปแสดง ค่าทแ่ี บ่งส่วนๆโดยการสมมติ
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กิจกรรม ผู้สอน /ผู้เรียน หนังสือ นาที เส้นกงึ่ กลาง (Center line) เป็ นเสน้ ทใี่ ชว้ ดั ค่าความ ผู้สอน : บรรยายประกอบสื่อ หยาบ และจะเป็นเสน้ ทีข่ นานกบั ทศิ ทางของรูป (power point) ดา้ นขา้ ง ผลรวมของพน้ื ทีท่ ้งั หมด จะเป็นพน้ื ที่ของแต่ ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด ละดา้ นของเสน้ ทม่ี ีคา่ เทา่ กนั บนั ทึกส่วนท่ีสาคญั ความกว้างของความหยาบ (Roughness width) เป็น ระยะระหวา่ งยอดแหลมของคลื่นความหยาบท่ีขนาน กบั ผวิ ปกติ หน่วยวดั เป็น มม. หรือ น้ิว ความยาวตัวอย่างตรวจสอบ (Roughness Sampling Length) คอื ระยะความยาวตวั อยา่ งที่นาไปตรวจสอบ หาคา่ ความหยาบเฉล่ียของผวิ มีหน่วยวดั เป็น มม. หรือ นิ้ว คลืน่ (waviness) คอื ความหยาบหรือความขรุขระทเ่ี ป็น คลื่น อาจเกิดจากการสน่ั สะเทือนของเคร่ืองจกั รหรือ ชิ้นงาน ความสูงของคล่นื (waviness height) คอื ระยะจากยอด แหลมของคล่ืนถึงกน้ หลมุ หน่วยวดั เป็น มม.หรือ น้ิว ความกว้างของคล่ืน (waviness width) คอื ระยะที่ ต่อเนื่องทเี่ ป็นยอดคลื่นหรือระยะตอ่ เนื่องทเี่ ป็นกน้ หลุม ซ่ึงจะอยใู่ นระยะความยาวของความยาวตวั อยา่ ง ตรวจสอบ ทศิ ทางรอยความหยาบ (Lay) คือรอยท่ีเกิดจาก กรรมวธิ ีการผลิต เช่น เป็นรอยที่ผิวงานในทศิ ทางการ ป้อนของมีดไส ในแนวขนานกบั ความยาวของงาน รอยตาหนิ (Flaws) คอื เป็นจุด เป็นรอยรา้ ว เป็นรอย แตก เป็นรู เป็นรอยนูน เป็นตน้
เนื้อหา วิธีการสอน รหัส เวลา กิจกรรม ผู้สอน /ผู้เรียน หนังสือ นาที ตาราง แสดงสญั ลกั ษณ์และความหมาย ผู้สอน : บรรยายประกอบส่ือ (power point) A: 185 7(40) สัญลกั ษณ์ ความหมาย ผู้เรียน : ฟังการบรรยาย จด บนั ทกึ ส่วนทสี่ าคญั = ทิศทางรอยความหยาบขนานกบั ระนาบฉาย ผู้สอนถาม: สญั ลกั ษณ์ R มี ของภาพทเ่ี ขียนสัญลกั ษณ์ ความหมายวา่ อยา่ งไร ผู้เรียนตอบ: …………. ทิศทางรอยความหยาบต้งั ฉากกบั ระนาบฉาย ผู้สอนเฉลย: ทิศทางรอยความ หยาบเป็ นแฉกโดยประมาณและ ของภาพทเ่ี ขียนสัญลกั ษณ์ สมั พทั ธก์ บั จุดศนู ยก์ ลางของผวิ งานท่ีเขยี นสญั ลกั ษณ์ X ทศิ ทางรอยความหยาบเป็นกากบาทเฉียงกบั ระนาบฉายของภาพทเี่ ขียนสญั ลกั ษณ์ M ทศิ ทางรอยความหยาบหลายทิศทาง C ทิศทางรอยความหยาบเป็นวงกลม โดยประมาณ และสัมพทั ธก์ บั จุดศนู ยก์ ลาง ของผวิ งานที่เขียนสัญลกั ษณ์ R ทิศทางรอยความหยาบเป็นแฉกโดยประมาณ และสัมพทั ธ์กบั จุดศนู ยก์ ลางของผวิ งานที่ เขียนสัญลกั ษณ์ หมายเหตุ หากไม่สามารถระบุทศิ ทางรอยความหยาบ ใหช้ ดั เจนไดด้ ว้ ยสญั ลกั ษณ์เหล่าน้ีให้เขียนคาอธิบาย เพม่ิ เติมลงในแบบ สรุป ผู้สอนและผู้เรียนทาการสรุป ร่วมกนั 10(50)
สรุปเนื้อหา ความเรียบของผิวงานทมี่ ีคา่ ความหยาบละเอียดแตกต่างกนั เกิดจากกรรมวธิ ีการผลิตและความตอ้ งการที่จะทาให้ ผวิ มีความเรียบขนาดใด ความหยาบละเอียดของผวิ มีผลต่อการใชง้ าน ถา้ สภาพของผวิ ไม่ตรงกบั สภาพความเป็ น จริงท่ีจะนาไปใชง้ านทอาจทาใหม้ ีอายกุ ารใชง้ านทส่ี ้นั ลง ลกั ษณะของผวิ งาน สภาพผวิ ของช้ินงานหรือผิวของช้ินส่วนเคร่ืองจกั รที่เห็นราบเรียบน้นั ถา้ ส่งดูดว้ ยแวน่ ขยาย จะพบวา่ เป็ นผวิ ทข่ี รุขระเป็นร่องเป็ นหลุม มียอดแหลม หรือเป็ นคล่ืน สัญลกั ษณ์และความหมาย = หมายถึง ทิศทางรอยความหยาบขนานกบั ระนาบฉายของภาพท่เี ขียนสญั ลกั ษณ์ หมายถึง ทิศทางรอยความหยาบต้งั ฉากกบั ระนาบฉายของภาพทเี่ ขยี นสญั ลกั ษณ์ X หมายถึง ทิศทางรอยความหยาบเป็ นกากบาทเฉียงกบั ระนาบฉายของภาพทเี่ ขียนสญั ลกั ษณ์ Mหมายถึง ทศิ ทางรอยความหยาบหลายทิศทาง C หมายถึง ทศิ ทางรอยความหยาบเป็ นวงกลมโดยประมาณ และสมั พทั ธก์ บั จดุ ศนู ยก์ ลางของผวิ งานท่เี ขียน สญั ลกั ษณ์ R หมายถึง ทศิ ทางรอยความหยาบเป็นแฉกโดยประมาณและสมั พทั ธก์ บั จุดศนู ยก์ ลางของผวิ งานทีเ่ ขยี น สญั ลกั ษณ์ ข้อสังเกตในการสอน ผู้สอน ก่อนสอน : ความตรงต่อเวลา ความพร้อมของเคร่ืองมือและวสั ดุท่ใี ชป้ ระกอบการสอน เตรียมเน้ือหา ขณะสอน : ดูเน้ือหาไม่บอ่ ยนกั เพราะมีการเตรียมตวั มาก่อน ทาใหม้ ีเวลาดูพฤตกิ รรมของผเู้ รียนไดอ้ ยา่ ง ทวั่ ถึงสงั เกตความสนใจของผเู้ รียนต่อเน้ือหาที่ทาการสอน หลังสอน : ทราบไดว้ า่ ผเู้ รียนมีความเขา้ ใจและสนใจเรียนมากแค่ไหนจากการสงั เกตระหวา่ งการสอน ผู้เรียน ก่อนเรียน : เตรียมตวั อ่านเน้ือหาก่อนล่วงหนา้ ขณะเรียน : เขา้ ใจการเรียนไดเ้ ร็วข้ึนเพราะมีการเตรียมตวั มาก่อน หลงั เรียน : มีความรู้ ความเขา้ ใจมากข้นึ ข้อทดสอบและเฉลย 1. ความหยาบละเอียดของผวิ งานข้นึ อยกู่ บั ปัจจยั ใดบา้ ง (จ) ตอบ ชนิดของวสั ดุ การหล่อเยน็ ความคมของมีดปาดผวิ และสภาพของเครื่องมือกล 2. ลกั ษณะของผวิ ช้ินงาน ถา้ ส่องดว้ ยแวน่ ขยายนักเรียนคดิ วา่ ผวิ ช้ินงานจะมีลกั ษณะเช่นใด (ว) ตอบ ขรุขระเป็นร่องเป็นหลุม มียอดแหลม หรือเป็นคลื่น
3. ความหยาบละเอียดของผวิ คอื อะไร (จ) ตอบ ความเบ่ียงเบนท่ผี ดิ ไปจากผวิ ปกติ เป็นรูปแบบของผวิ รวมถึงเป็นความหยาบ เป็นคลื่น ผวิ เป็นรอยตาม ทศิ ทางท่ถี ูกปาดผวิ (Lay) และตาหนิ 4. สญั ลกั ษณ์ R มีความหมายวา่ อยา่ งไร (จ) ตอบ ทศิ ทางรอยความหยาบเป็นแฉกโดยประมาณและสมั พทั ธก์ บั จดุ ศนู ยก์ ลางของผวิ งานทีเ่ ขียนสญั ลกั ษณ์ เอกสารอ้างองิ A: ไชยศกั ด์ิ ศรีสุขเดช. การวดั ละเอียด. สานกั พมิ พศ์ ูนยส์ ่งเสริมวชิ าการ.กรุงเทพฯ. 2547. B: ยงยทุ ธ วทิ ยดารง.เอกสารทางวชิ าการรายวิชา งานวดั ละเอียด. สานกั พฒั นาสมรรถนะครูและบุคคลากร อาชีวศึกษา. 2548. เครื่องมือและอุปกรณ์ในการสอน 1. 1. กระดานไวทบ์ อร์ด 2. ปากกาไวทบ์ อร์ด 3. โปรเจคเตอร์ 4. คอมพวิ เตอร์ 2. หมายเหตุ (จ) = คาถามที่เกี่ยวกบั ความจา 3. (ว) = คาถามทีเ่ กี่ยวกบั การวเิ คราะห์
แบบฝึ กหดั เกจ 1. การใชเ้ กจรศั มีใชท้ าอะไร และมีวธิ ีการใชอ้ ยา่ งไร ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… 2. วธิ ีการใชเ้ กจรัศมีในการตรวจสอบ ท่านคิดวา่ มีวธิ ีการใชเ้ หมือนกบั เกจชนิดใดบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 3. ถา้ ช้ินงานทีต่ รวจสอบถูกตอ้ งตามเกจรศั มี ผลของการตรวจสอบจะเป็ นอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 4. แผน่ เกจรัศมี ท่านคดิ วา่ จะตอ้ งมีคุณสมบตั อิ ยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 5. ฟิ ลเลอร์เกจหรือเกจความหนา ใชก้ บั งานประเภทใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 6. การใชฟ้ ิ ลเลอร์เกจ ขณะวดั มีวธิ ีหรือหลกั การวดั อยา่ งไร ที่ถือวา่ เป็ นการวดั ท่ีถูกตอ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 7. การใชฟ้ ิลเลอร์เกจ มีขอ้ ควรระวงั อยา่ งไรบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 8. การวดั หาขนาดแผน่ เหล็ก จะตอ้ งใชเ้ กจชนิดใดวดั และมีวธิ ีการวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 9. จะใชส้ แตนดาร์ดวายเกจกบั งานประเภทใดบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 10. การใชส้ แตนดาร์ดวายเกจ มีวธิ ีการวดั อยา่ งไร
ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 11. หนา้ ทข่ี องเกจวดั เกลียว มีอยา่ งไรบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 12. ขอ้ ควรระวงั ที่สาคญั ท่สี ุดในการใชเ้ กจวดั เกลียว ท่านคดิ วา่ คอื อะไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 13. ระยะพติ ของเกลียวและจานวนเกลียวต่อนิ้ว มีความแตกตา่ งกนั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 14. เกลียวเมตริกและเกลียววทิ เวอร์ทมีอะไรบา้ งทแ่ี ตกตา่ งกนั ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 15. จงบอกค่าต่อไปน้ีวา่ ค่าใดเป็นขนาดกาหนดหรือขนาดเบ้อื งตน้ (Basic Dimension) พกิ ดั ล่าง (Lower limit) พกิ ดั บน ( Upper limit) และพกิ ดั ความเผอ่ื (Tolerance) เทา่ ใด 12.50 0.02 มม. 20.50 + 0.000 มม. 0.500 0.005 มม ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 16. ถา้ กาหนดใหข้ นาดของรูเทา่ กบั 44.45 0.05 ขนาดดา้ นเขา้ ได้ (go) และดา้ นเขา้ ไมไ่ ด้ (not go) ของเกจที่ใชต้ รวจสอบ จะมีขนาดเทา่ ใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 17. ถา้ กาหนดใหข้ นาดของเพลาเทา่ กบั 44.45 0.05 มม. ขนาดดา้ นเขา้ ได้ (go) และดา้ นเขา้ ไม่ได้ (not go) ของเกจท่ใี ชต้ รวจสอบ จะมีขนาดเทา่ ใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 18. มีขอ้ สงั เกตใด ของเกจทรงกระบอกทบี่ อกใหท้ ราบวา่ ดา้ นใดเป็ นดา้ นเขา้ ได้ (go) และดา้ นเขา้ ไมไ่ ด้
(not go) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 19. มีขอ้ ควรระวงั อยา่ งไรบา้ ง ในการใชเ้ กจทรงกระบอก ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 20. มีจุดประสงคใ์ ดบา้ ง ในการใชว้ ดั หรือตรวจสอบดว้ ยเกจทีม่ ีปากวดั จากดั (Limit gauge) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 21. เกจวงแหวน ดา้ นเขา้ ได้ (go) และดา้ นเขา้ ไม่ได้ (not go) ตา่ งกนั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 22. เกจรูเรียว มีวิธีแสดงระยะที่เป็นขนาดเขา้ ได้ และ ขนาดเขา้ ไม่ได้ อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 23. การใชช้ อร์กและสีฟ้าแก่ กบั การตรวจสอบดว้ ยเกจรูเรียว มีการใชท้ ี่ตา่ งกนั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 24. ทาไม ไม่ควรหมุนเกจรูเรียวหรือเกจเพลาเรียว มากกวา่ ¼ รอบ เมื่อตรวจสอบความเรียว ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 25. ส่วนใดของแท่งตรวจสอบเกลียวใน ท่บี อกวา่ เป็นเกลียวท่เี ขา้ ได้ (go) หรือดา้ นทีเ่ ป็นเกลียว เข้าไม่ได้ (not go) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 26. บอกขอ้ ควรระวงั ในการตรวจสอบดว้ ยแท่งตรวจสอบเกลียว (ใน )
ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 27. จะใชเ้ กจกา้ มปู เมื่อตอ้ งการตรวจสอบงานอยา่ งใดบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 28. ผลการตรวจสอบดว้ ยเกจกา้ มปูจะเป็นเช่นไร เม่ือชิ้นงานตรวจสอบน้นั มีขนาดที่ถูกตอ้ งตามพกิ ดั ท่ี กาหนด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 29. จงบอกจดุ ประสงคข์ องการใชเ้ กจเหลี่ยม (บอก 5 อยา่ ง) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 30. เกจเหลี่ยมผวิ แขง็ (Wear Blocks) มีจดุ ประสงคใ์ นการใชง้ านอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 31. การประกอบเกจ (เหล่ียม) ผวิ แขง็ มีหลกั การประกอบร่วมกบั เกจเหลี่ยมอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 32. ทาอยา่ งไร ในขณะประกอบเกจจึงจะทาใหอ้ ุณหภูมิมีผลต่อเกจเหล่ียมนอ้ ยทสี่ ุด
ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 33. การระวงั รักษาเกจเหล่ียม มีขอ้ ควรระวงั อยา่ งไรบา้ ง (บอก 5 ขอ้ ) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........
แบบฝึ กหดั ความเรียบผวิ งาน 1. ความเรียบของผวิ งานมีผลตอ่ การใชง้ านอยา่ งไร ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… 2. ผวิ งานท่เี ห็นราบเรียบเม่ือนาไปขยาย จะมีลกั ษณะผวิ งานอยา่ งไร (อธิบาย หรือวาดรูป) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 3. ทศิ ทางรอยความหยาบ หมายความอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 4. จงบอกความหมายของ อกั ษรยอ่ ต่อไปน้ี ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 5. ท่านคิดวา่ ถา้ ใชเ้ คร่ืองวดั ผวิ ชนิดทเี่ คลื่อนส่วนที่วดั (ปลายวดั หรือเขม็ วดั ) ดว้ ยมือ หรือใชก้ าลงั จาก เคร่ือง ชนิดใดที่ค่าวดั เท่ียงตรงกวา่ เพราะเหตใุ ด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 6. การวดั คา่ ความหยาบละเอียดของผวิ ดว้ ยวิธีเปรียบเทียบกบั แผน่ เทียบมาตรฐาน มีวธิ ีการอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 7. เครื่องวดั ผวิ แบบมีปลายวดั หรือเขม็ วดั มีหลกั การวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 8. ไมโครเมตรคอื อะไร มีค่าเท่าใด
ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 9. ไมโครนิ้วคืออะไร มีคา่ เท่าใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 10. ความกวา้ งความหยาบ (Roughness width) หมายความอยา่ งไร (อธิบายหรือเขียนรูป) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 12. งานกดั (Milling) สามารถทาใหง้ านมีคุณภาพผวิ หรือค่าความหยาบผวิ เทา่ ใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 13. งานกลึง (Turning) สามารถทาใหง้ านมีคุณภาพผวิ หรือค่าความหยาบผวิ เทา่ ใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 14. งานขดั ผวิ มนั (Lapping) สามารถทาใหง้ านมีคุณภาพผวิ หรือคา่ ความหยาบผวิ เท่าใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 15. เคร่ืองวดั ผิวมีการแสดงผลในการวดั 2 แบบ อยา่ งไรบา้ ง และแบบใดแสดงผลแน่นอนกวา่ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 16. ความสูงของคล่ืน (Waviness height) คอื อะไร (อธิบายหรือวาดรูป) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 17. จงวาดรูปท่ีแสดง ความกวา้ งของคล่ืน (Waviness width) ตอบ
แบบฝึ กหัด คาลปิ เปอร์ 1. คำวำ่ คำลิปเปอร์ หมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… 2. คำลิปเปอร์วดั นอกและวดั ใน มีขอ้ ดีกวำ่ เคร่ืองมือวดั ท่ีใชว้ ดั นอกและวดั ในประเภทอื่นอยำ่ งไรบำ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 3. คำลิปเปอร์กะเทย ทำไมจงึ เรียกเช่นน้นั ใชส้ ำหรบั ทำอะไรบำ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 4. คำลิปเปอร์ชนิดทปี่ รบั ดว้ ยควำมฝืดและปรบั ดว้ ยแป้นเกลียว ท่ำนคิดวำ่ มีขอ้ ดีขอ้ เสียอยำ่ งไรบำ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 5. คำลิปเปอร์ถ่ำยขนำด หมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 6. ลกั ษณะของคำลิปเปอร์ถ่ำยขนำด มีอะไรทีเ่ ป็นพเิ ศษตำ่ งกบั คำลิปเปอร์อื่นอยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 7. กำรนำคำลิปเปอร์เทียบขนำด ทำไมบำงคร้งั นำเทียบกบั บรรทดั เหลก็ และบำงคร้งั ก็เทยี บกบั เวอร์เนียร์คำลิปเปอร์ มีเหตผุ ลอยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 8. กำรวดั ควำมหนำของกน้ ถว้ ยหรือร่องที่อยภู่ ำยใน ตำมรูปท่ี 3-11 และ 3-12 (หนำ้ 38) ทำ่ นคิดวำ่
นอกจำกใชค้ ำลิปเปอร์ถ่ำยขนำดวดั ไดแ้ ลว้ ยงั จะมีเคร่ืองมือชนิดอื่นวดั ไดบ้ ำ้ งหรือไม่ ถำ้ ได้ เครื่องมือชนิดน้นั คอื อะไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 9. กำรเทียบขนำดคำลิปเปอร์กบั สเกลบรรทดั เหลก็ มีวธิ ีกำรเทียบขนำดอยำ่ งไร จึงจะสำมำรถอ่ำนค่ำ ไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 10. กำรวดั ดว้ ยคำลิปเปอร์ท่ปี รับดว้ ยควำมฝืดกบั ปรบั ดว้ ยแป้นเกลียว ท่ำนชอบกำรวดั ดว้ ยวธิ ีใด (ใหเ้ หตผุ ลประกอบคำตอบดว้ ย) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 11. ในขณะทำกำรวดั ดว้ ยคำลิปเปอร์ ผวู้ ดั จะตอ้ งคำนึงถึงอะไรบำ้ ง จึงจะไดค้ ่ำวดั ท่ถี ูกตอ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 12. มีเหตุผลอะไร ท่ีจะตอ้ งมีกำรถ่ำยขนำดระหวำ่ งคำลิปเปอร์ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 13. เกจวดั รูขนำดเล็กมีกี่แบบ และแตล่ ะแบบมีจดุ ประสงคใ์ นกำรใชอ้ ยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 14. ควำมรูส้ ึกสมั ผสั ในกำรวดั งำน มีควำมสำคญั ตอ่ กำรวดั อยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 15. เกจยดื หด มีส่วนประกอบอะไรบำ้ ง ใชว้ ดั หำขนำดอะไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........
แบบฝึ กหดั เครื่องมือวดั มมุ 1. ช้ินงานท่ที าเป็นเหลี่ยมหรือทาเป็นมุม มีจดุ ประสงคอ์ ยา่ งไร ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 2. ใบวดั มุมและบรรทดั วดั มุมสากล มีความแตกต่างกนั อยา่ งไรบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 3. จงบวกมุม และลบมุม ดงั ตอ่ ไปน้ี ตอบ 3 26 52 + 4 58 12 = …………………………………………………………… 38 20 9 + 15 32 56 = …………………………………………………………… 6 26 52 - 4 58 12 = …………………………………………………………… 38 20 9 - 15 32 56 = …………………………………………………………… 4. การวดั มุมดว้ ยใบวดั มุม มีหลกั เกณฑก์ ารวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 5. การวดั มุม ดว้ ยบรรทดั วดั มุมสากล มีหลกั เกณฑก์ ารวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 6. จากรูป ถา้ คา่ วดั อ่านได้ 153 แสดงวา่ มุมของช้ินงานมีคา่ เทา่ ไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 7. จากรูป มุมท่วี ดั เป็นมุมป้าน ถา้ คา่ ท่ีอา่ นไดเ้ ทา่ กบั 37 แสดงวา่ มุมของชิ้นงานทว่ี ดั น้นั มีค่าเทา่ ใด
37˚ ช้ินงาน ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 8. จากรูป มุมที่วดั เป็นมุมแหลม ถา้ ค่าทอี่ ่านไดเ้ ทา่ กบั 75 แสดงวา่ มุมของชิ้นงานท่ีวดั น้นั มีค่าเทา่ ใด 75˚ ชิ้นงาน ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 9. ขอ้ ควรระวงั การใชใ้ บวดั มุม มีอะไรบา้ ง (บอกเป็นขอ้ ๆ ) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 10. ขอ้ ควรระวงั การใชบ้ รรทดั วดั มุมสากล มีอะไรบา้ ง (บอกเป็นขอ้ ๆ ) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........
…………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 11. จงอ่านคา่ วดั มุมของสเกลบรรทดั วดั มุม ดงั รูปตอ่ ไปน้ี ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 12. จงบอกลกั ษณะและหลกั การของไซน์บาร์ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 13. จงคานวณหา ขนาดของเกจบลอ็ กหรือเกจเหลี่ยม ทป่ี ระกอบใชก้ บั การวดั ดว้ ยไซน์บาร์ท่ีมี ขนาด 125 มม. เพอ่ื ทาใหเ้ กิดเป็นมุม (ก) 7 40 (ข) 25 50 (ค) 40 10 ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........
…………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........
แบบฝึ กหัด ฉากและฉากผสม 1. ทำไมควำมยำวของใบฉำก จงึ เป็นตวั กำหนดขนำดของฉำก เพรำะเหตใุ ด ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 2. มีเหตุผลอยำ่ งไร ใบฉำกจงึ ตอ้ งยำวกวำ่ ฐำนฉำกคอื ประมำณ 3 ต่อ 2 เท่ำ หรือทำไม ไม่ใหค้ วำมยำว ของใบฉำกเท่ำกบั ควำมยำวของฐำนฉำก จงแสดงเหตุผล ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 3. รอยตอ่ ระหวำ่ งใบฉำกและฐำนฉำกทำไมตอ้ งทำเป็ นร่องไว้ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 4. ฉำกตวั ทหี รือฉำกที ดงั รูปท่ี 4-1 (หนำ้ 45) ใชส้ ำหรับวดั ฉำกอยำ่ งไรบำ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 5. ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งฉำกแบนและฉำกต้งั ต่ำงกนั อยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 6. ฉำกชนิดใดท่ีใชส้ ำหรบั ตรวจสอบควำมเรียบของผวิ งำน และจะใชฉ้ ำกชนิดอ่ืน ตรวจสอบควำม เรียบของผวิ งำนไดห้ รือไม่ เพรำะเหตใุ ด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 7. บรรทดั เหล็กทวั่ ๆ ไป ต่ำงกบั บรรทดั ฉำกผสมอยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 8. หัวฉำกเม่ือประกอบกบั บรรทดั เหล็กของฉำกผสม ใชท้ ำอะไรไดบ้ ำ้ ง
ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 9. ทำไมจงึ เรียกวำ่ ฉำกผสม ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 10. ฉำกผสมใชท้ ำอะไรไดบ้ ำ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 11. ขอ้ ควรระวงั กำรใชฉ้ ำกและฉำกผสม มีอะไรบำ้ ง (บอกเป็นขอ้ ๆ ) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........
แบบฝึ กหดั นาฬิกาวดั 1. นาฬกิ าวดั ใชก้ บั งานชนิดใดบา้ ง ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 2. ความละเอียดของนาฬกิ าวดั ที่ใชก้ นั มีขนาดใดบา้ ง (ท้งั น้ิว และมม.) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 3. นาฬิกาวดั ทีม่ ีช่องวดั 10 มม. หมายความวา่ อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 4. การตรวจสอบชิ้นงานวา่ กลมหรือไม่ มีวธิ ีการตรวจสอบดว้ ยนาฬกิ าวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 5. การตรวจสอบความขนานของผวิ ช้ินงาน มีวธิ ีการตรวจสอบดว้ ยนาฬิกาวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 6. นาฬิกาวดั สามารถวดั ขนานไดโ้ ดยตรงหรือไม่ ถา้ วดั ไดจ้ ะมีวธิ ีการวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 7. การวดั หาระยะเยอ้ื งศนู ยข์ องชิ้นงานมีวธิ ีวดั หาคา่ อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 8. ท่ีวา่ การตรวจสอบขนาดของชิ้นงานวา่ ไดข้ นาดตามพกิ ดั หรือไม่ มีวธิ ีตรวจสอบอยา่ งไร
ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 9. ทาไมก่อนการวดั จะตอ้ งกดใหก้ า้ นวดั สมั ผสั ผิวงาน จนเขม็ ยาวที่หนา้ ปัดของนาฬกิ าวดั หมุนไป 1-2 รอบ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 10. ท่านคิดวา่ ความละเอียดของนาฬกิ าวดั ที่มีใชก้ นั สามารถวดั ไดล้ ะเอียดเทา่ กบั เครื่องมือวดั ใดบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 11. เพลาท่ีเรียวเม่ือใชน้ าฬกิ าวดั ตรวจสอบ ผลของขณะตรวจสอบ และแสดงทเ่ี ขม็ ของนาฬิกาวดั อยา่ งไร ตอบ…………………………………………………………………………………………………………
แบบฝึ กหดั บรรทดั เหลก็ 1. บรรทดั ชนิดใดท่ีใชส้ ำหรบั วดั โดยกำหนดวดั ท่จี ุดเริ่มตน้ ไดส้ ะดวกกวำ่ บรรทดั ชนิดอื่น ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… 2. บรรทดั แบบมีปำกเล่ือนวดั ถำ้ ใชว้ ดั รูในสำมำรถวดั ขนำดไดต้ ้งั แต่ 2 มม. เป็ นตน้ ไปใช่หรือไม่ เพรำะเหตุใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 3. บรรทดั เหล็กโดยทวั่ ไปจะมีควำมกวำ้ งของบรรทดั ประมำณ.......................นิ้ว ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 4. บรรทดั เหลก็ ทีข่ ดี สเกลวดั เป็นน้ิวทอี่ ่ำนเป็นทศนิยม ใชว้ ดั ในงำนประเภทใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 5. บรรทดั ขอเก่ียว มีขอ้ ดีในกำรวดั อยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 6. บรรทดั ขนำดส้นั ใชว้ ดั งำนประเภทใด ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 7. บรรทดั แบบมีปำกเลื่อนวดั มีขอ้ ดีกวำ่ บรรทดั ขอเก่ียวอยำ่ งไรบำ้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 8. ควำมละเอียดของบรรทดั เหลก็ ทสี่ ำมำรถวดั ได้ ในระบบองั กฤษคอื .........................น้ิว ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 9. กำรขีดช่องสเกลทบ่ี รรทดั เหลก็ ทำไมจงึ ขีดเสน้ ส้นั บำ้ งยำวบำ้ งหรือขีดยำวไม่เทำ่ กนั
ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 10. หลกั ทว่ั ไปในกำรอ่ำนสเกลบรรทดั เหล็ก มีหลกั กำรอ่ำนอยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 11. กำรขดี สเกลบนบรรทดั เหล็ก ถำ้ ใชว้ ธิ ีขดี ทุกขีดของสเกลกบั วธิ ีขีดทใี่ ชล้ ูกกลิ้งกดกล้ิงใหเ้ ป็ นรอย ขีดสเกล นกั ศกึ ษำคดิ วำ่ กำรขีดสเกลท้งั สองวธิ ีน้ี มีผลต่ำงกนั อยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 12. คำ่ 1/64 น้ิว กบั คำ่ 0.5 มม. ค่ำใดมีคำ่ ทีล่ ะเอียดมำกกวำ่ จงพสิ ูจนใ์ หเ้ ห็นจริง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 13. ทำไมบรรทดั เหลก็ วำงหรือเก็บรวมกบั เคร่ืองมืออื่น ๆ ไม่ได้ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 14. ขอ้ ผดิ พลำดจำกกำรวดั เน่ืองจำกควำมหนำของบรรทดั เหล็กเป็ นอยำ่ งไร และจะมีวธิ ีกำรแกไ้ ข อยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 15. จงอธิบำยควำมผดิ พลำดกำรวดั ท่ีแนววดั ของบรรทดั เหล็กและชิ้นงำน ไมอ่ ยใู่ นแนวเดียวกนั หมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 16. จงอ่ำนคำ่ วดั จำกบรรทดั เหลก็ สเกลน้ิว ตำมตวั เลขที่กำกบั ดงั รูป
ตอบ 2. ………………………นิ้ว 3. ………………………นิ้ว 5. ………………………น้ิว 6. ………………………น้ิว 1. ………………………น้ิว 8. ………………………น้ิว 9. ………………………น้ิว 4. ………………………น้ิว 11. ………………………นิ้ว 12. ………………………น้ิว 7. ………………………นิ้ว 14. ………………………น้ิว 15. ………………………นิ้ว 10. ………………………น้ิว 17. ………………………นิ้ว 18. ………………………นิ้ว 13. ………………………น้ิว 20. ………………………น้ิว 21. ………………………น้ิว 16. ………………………นิ้ว 23. ………………………นิ้ว 24. ………………………นิ้ว 19. ………………………น้ิว 22. ………………………น้ิว 17. จงอ่ำนคำ่ วดั จำกบรรทดั เหล็กสเกลมิลลิเมตร ตำมตวั อกั ษรทก่ี ำกบั ดงั รูป ตอบ B ………………………มม. C ………………………มม. A ………………………มม. E………………………มม. F………………………มม. D ………………………มม. H………………………มม. I………………………มม. G ………………………มม. K………………………มม. L………………………มม. J ………………………มม. N………………………มม. O………………………มม. M………………………มม. Q………………………มม. R………………………มม. P………………………มม. T………………………มม. U………………………มม. S………………………มม. W………………………มม. V………………………มม. 18. จงอ่ำนค่ำวดั จำกสเกลบรรทดั ตำมตวั อกั ษร ดงั รูป
ตอบ B =………………………. C =………………………. A =………………………. E =………………………. F =………………………. D =………………………. 19. จงอ่ำนคำ่ วดั จำกสเกลบรรทดั ตำมตวั อกั ษร ดงั รูป ตอบ B =………………………. C =………………………. A =………………………. E =………………………. F =………………………. D =……………………….
แบบฝึ กหัด ไมโครมเิ ตอร์ 1. การอ่านสเกลไมโครมิเตอร์กบั สเกลเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ต่างกนั อยา่ งไรบา้ ง ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 2. ขนาดของไมโครมิเตอร์มีส่วนเกี่ยวขอ้ งกบั โครงของไมโครมิเตอร์อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 3. ปลอกหมุนวดั และหวั หมุนกระทบลื่น มีหลกั การใชอ้ ยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 4. หวั หมุนกระทบล่ืน มีขอ้ ดีขอ้ เสียในการวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 5. ไมโครมิเตอร์ขนาด 2 นิ้ว (หรือ 1-2 นิ้ว) หมายความวา่ อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 6. โรงงานแห่งหน่ึงจะตอ้ งใชไ้ มโครมิเตอร์วดั นอก วดั งานที่มีขนาดต้งั แต่ 10 มม. จนถึง ขนาด 175 มม. โรงงานน้ีจะตอ้ งมีไมโครมิเตอร์วดั นอกจานวนก่ีตวั และมีขนาดใดบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 7. ทาไมเกลียวของไมโครมิเตอร์ท่ีใชว้ ดั เป็ นหน่วย มม. จึงทาเป็ นเกลียวมีระยะพติ 0.5 มม. จงให้ เหตุผลเป็นขอ้ ๆ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 8. ทาไมเกลียวของไมโครมิเตอร์ทใี่ ชว้ ดั เป็ นหน่วยน้ิว จงึ ทาเป็ นเกลียวขนาด 40 เกลียวต่อน้ิว จงให้
เหตุผลเป็นขอ้ ๆ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 9. ท่านคดิ วา่ ไมโครมิเตอร์ทส่ี ามารถวดั ไดอ้ ยา่ งละเอียดและไดค้ า่ วดั ที่ถูกตอ้ งน้นั ข้นึ อยกู่ บั อะไรบา้ ง (บอกเป็นขอ้ ๆ ) ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 10. ความรอ้ นมีผลตอ่ การวดั ขนาดของช้ินงานอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 11. ปลอกหมุนวดั และปลอกสเกลหลกั ทาหนา้ ทีต่ ่างกนั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 12. ไมโครมิเตอร์ท่สี ามารถวดั ไดล้ ะเอียดเท่าใด (ท้งั หน่วยวดั เป็ นนิ้วและมม.) ที่ถอื วา่ เป็ นค่าความ ละเอียดตามมาตรฐานทวั่ ๆ ไป ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 13. ทาไมตอ้ งอ่านคา่ วดั ขณะทแ่ี กนวดั สมั ผสั ผวิ งาน ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 14. ทาไมเวลาเกบ็ ไมโครมิเตอร์จะตอ้ งไม่ใหห้ นา้ สมั ผสั ของแกนรับและแกนวดั สมั ผสั กนั ตอบ…………………………………………………………………………………………………………
แบบฝึ กหัด เวอร์เนียร์ 1. เวอร์เนียร์สเกลคอื อะไร และมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ตอบ ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 2. ทาไมจึงกล่ววา่ เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ มีพน้ื ฐานมาจากบรรทดั เหล็ก ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 3. ทาไมจงึ เรียกวา่ เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 4. ก่อนใชเ้ วอร์เนียร์คาลิปเปอร์วดั งาน จะตอ้ งมีการตรวจสอบทจ่ี ุดใดบา้ งและอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ …………………………………………………………………………………………………………........ 5. ทาไมจงึ เรียกเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ชนิดหน่ึงวา่ เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์แบบอเนกประสงค์ ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 6. การใชเ้ วอร์เนียร์คาลิปเปอร์วดั งานมีหลกั การเบ้อื งตน้ ในการวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........ 7. จากรูปที่ 7-2 (หนา้ 78) มีการใชเ้ วอร์เนียร์คาลิปเปอร์อยา่ งไรบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 8. การอ่านคา่ วดั จากเวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ทม่ี ีหน่วยวดั เป็ นนิ้วและมิลลิเมตร หน่วยวดั ใดทที่ า่ นชอบ อ่านมากกวา่ เพราะเหตใุ ด ตอบ…………………………………………………………………………………………………………
9. เวอร์เนียร์วดั ลึกมีขอ้ ดีหรือขอ้ พเิ ศษกวา่ เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์โดยทว่ั ไปอยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 10. การใชเ้ วอร์เนียร์ไฮเกจ ใชก้ บั งานประเภทใดบา้ ง ตอบ………………………………………………………………………………………………………… 11. เวอร์เนียร์วดั ฟันเฟื อง ใชว้ ดั งานประเภทใดและมีวธิ ีการวดั อยา่ งไร ตอบ………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………........
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146