Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทำเนียบ

ทำเนียบ

Published by sunanta.ging, 2020-06-26 03:08:13

Description: ทำเนียบ

Search

Read the Text Version

ทำเนยี บภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ ตำบลลำดหญำ้ อำเภอเมืองกำญจนบุรี จังหวดั กำญจนบรุ ี นำงสำวชญั ญ์ชนพร ชำนำญปำ่ ครู กศน.ตำบล ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอเมอื งกำญจนบุรี สำนกั งำนสง่ เสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั จังหวดั กำญจนบุรี สำนักงำนปลดั กระทรวงศึกษำธิกำร กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร

ทำเนียบภำคีเครือขำ่ ย ร้อยโทวเิ ชยี ร ศรจี ันโฉม นางสรนิ ยา นลิ บตุ ร นางธนกร เมอื งเก่า นางพิมพกาญจน์ สุดประพนั ธ์ ภูมปิ ัญญาดา้ นการเกษตร ภูมิปญั ญาด้านศิลปกรรม ภูมิปญั ญาดา้ นการเกษตร ภูมปิ ัญญาดา้ นโภชนาการ นางสมจิตร เสือส่าน นายแถม กล้วยหอม นางลาพู พนิ สุวรรณ นายสน อยไู่ ทย ภมู ปิ ญั ญาด้านแพทย์แผน ภมู ิปัญญาดา้ นศลิ ปกรรม ภูมปิ ัญญาดา้ นแพทย์แผนไทย ภมู ปิ ญั ญาดา้ นการเกษตร ไทย นางอานวย เสือสา่ น นายถนอม ไชฮะ นายธรี ะศกั ดิ์ สัคคบญั ชร ภมู ปิ ญั ญาด้านศลิ ปกรรม ภูมปิ ญั ญาดา้ นดนตรีไทยพ้ืนบ้าน ภูมิปญั ญาด้านแพทย์แผนไทย ไทย

ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ชอื่ : รอ้ ยโทวิเชียร ศรีจนั โฉม อายุ : 55 ปี ทอ่ี ยู่ : บ้านเลขท่ี 286 หมูท่ ่ี 1 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบุรี จังหวดั กาญจนบรุ ี อาชีพ : รับราชการ (หัวหนา้ สวนเกษตรอนิ ทรีย์วถิ พี อเพียง กองพลทหารราบท่ี 9)

ภูมิปัญญาด้านการเกษตร (เศรษฐกจิ พอเพียง) สวนเกษตรอินทรยี ว์ ิถพี อเพยี ง ดาเนินการโดยกรมสนบั สนุนของกองพล ทหารราบท่ี 9 ไดด้ าเนินการตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งดังต่อไปน้ี การกอ่ สรา้ งบา้ นดว้ ยดิน 1. การก่อสรา้ งบา้ นด้วยดนิ นี้สามารถลดต้นทุนค่าใช้จา่ ยในเรอ่ื งของการ ก่อสรา้ งอยทู่ ป่ี ระมาณ 40 -50 เปอร์เซ็นต์ เป็นการรกั ษาสภาพส่ิงแวดล้อมโดยใชด้ ินที่มี อยตู่ ามธรรมชาติ 2. ลดอุณหภูมภิ ายในบา้ น 5-6 องศา

การปลูกพชื ผกั ปลอดสารพษิ หรอื พชื อนิ ทรยี ์ ผัก ป ลอ ดสารพิ ษ น้ีทา งศูนย์สามา รถผลิตเมล็ดพันธ์ุ ได้เอ งในโ ครงก า ร “ทหารพันธุ์ดี”เมื่อผลผลิตโตเก็บเกี่ยวได้แล้วทางศูนย์ก็จะนาไปจาหน่ายจ่ายแจกให้กับ ประชาชน ราษฎร และอีกส่วนหน่ึงคือ กาลังพลของกองพลทหารราบท่ี 9 ก็ได้บริโภค พชื ผักปลอดสารเคมี

การผลติ ปุ๋ยอินทรยี ์ ป๋ยุ อนิ ทรีย์นพี้ ่ีนอ้ งประชาชน ราษฎร บคุ คลทว่ั ไปกส็ ามารถผลิตข้ึนมาใช้ เองได้ โดยใช้มูลสัตว์ เศษใบไม้ เศษวัฏพืช และนา้ หมักชวี ภาพ เป็นสว่ นประกอบ ซึ่งมี ตน้ ทุนในการผลิตค่อนข้างตา่ และสามารถใช้ไดต้ อ่ เนื่องและยาวนาน การขยายพันธ์ุพืช ทางศูนย์สามารถผลิตพนั ธพุ์ ชื เพอ่ื มาปลกู เอง และสามารถตอ่ ยอดการปลกู ได้โดยจะไมใ่ ช้การตดั ต่อพนั ธกุ รรม ส่วนใหญจ่ ะเปน็ พืชท่ีใช้บรโิ ภคในชีวติ ประจาวัน เชน่ ผักบงุ้ คะนา้ มะเขอื เปราะ มะเขอื ยาว พริก ถวั่ ฝักยาว เปน็ ต้น

ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ช่ือ : นางสรนิ ยา นิลบตุ ร อายุ : 64 ปี ทอี่ ยู่ : หมู่ที่ 1 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบรุ ี อาชพี : ขา้ ราชการเกษียณ ( ผู้อานวยการโรงเรยี นสร้างสุขผู้สูงอายวุ ัดทุ่งลาดหญา้ )

ภูมปิ ญั ญาด้านศิลปกรรม สาขาการแสดง การละเล่นพน้ื บา้ น การแสดงราไทย การละเลน่ พืน้ บา้ น การแสดงมีการถ่ายทอดสืบต่อกันและพัฒนาดัดแปลงข้ึนเรื่อยๆ และ ออกมาในรูปแบบของ ขนบธรรมเนียมประเพณี และการประกอบอาชีพ เช่น เต้นการา เคียว เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเรือ เพลงฉ่อย เพลงอีแซว ลิเก ลาตัด กลองยาว เถิดเทิง เปน็ ต้น บางอยา่ งกลายเปน็ การแสดงนาฏศิลป์แบบฉบบั ไปกม็ ี เชน่ ราวง เปน็ ตน้ โรงเรียนสร้างสุขผู้สูงอายุวัดทุ่งลาดหญ้า จึงจัดให้มีกิจกรรมสาหรับ ผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุมาพบปะกัน และได้ทากิจกรรมร่วมกัน อีกทั้งยังสืบสานและ ถ่ายทอดประเพณีการแสดงให้กับเยาวชนคนรุ่นหลงั

ภาพการแสดง

ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ชื่อ : นางธนกร เมืองเก่า อายุ : 50 ปี ท่ีอยู่ : หม่ทู ่ี 5 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี อาชพี : ผใู้ หญบ่ า้ น

ภูมปิ ัญญาดา้ นการเกษตร (เศรษฐกจิ พอเพยี ง) ทาการเกษตรโดยใช้วิธีการทาแบบกางมุ้งให้พืชผักเพื่อลดการกวนของ แมลงและความคมุ อณุ หภมู ใิ หก้ บั พืชผัก นอกจากน้ปี ยุ๋ และยาท่ีใชจ้ ะเป็นการหมกั ชีวภาพ โดยทาการเกษตรแบบเกษตรอินทรยี ์ การเพาะปลกู จะปลูกพืชหลายชนิดท้ังพืชสวน พืช ไร่ เล้ียงปลา เป็นต้น การทาการเกษตรผสมผสานไม่มีการจาเพาะเจาะจงในการแบ่ง พ้นื ที่เพาะปลูก ซึ่งแตกต่างจากการทาการเกษตร “ทฤษฎีใหม่” ที่จะต้องมีการกาหนด พน้ื ท่กี ารเพาะปลูกให้ไดส้ ัดส่วนที่เหมาะสม คือ 30:30:30:10

เน้ือหาสาระของความรู้ท่ไี ด้จากการเรยี นรู้ สืบทอด และอนุรกั ษ์ – การปรับปรุงบารงุ ดนิ โดยใช้มูลสัตว์ และเศษวชั พืช – วธิ กี ารขยายพนั ธไุ์ ม้ผลต่างๆ – การเกบ็ รกั ษาและการขยายเมล็ดพันธผ์ุ กั – การดูแลรักษาต้นไม้ กอ่ นออกดอกและหลังติดผล ประโยชนท์ ่ไี ด้จากการภูมปิ ัญญาดา้ นการเกษตร (เศรษฐกจิ พอเพยี ง) – การบงั คบั ให้ชะอมออกยอดนอกฤดู – การปอ้ งกันมิให้ววั มากดั กนิ ยอดออ่ นของตน้ ไม้ – การปลกู พชื ผักสวนครัวแบบหมุนเวียนแปลง – เทคนคิ การปลกู พืชผกั สวนครวั และการดูแล





ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ช่ือ : นางพมิ พกาญจน์ สุดประพนั ธ์ อายุ : 68 ปี ท่อี ยู่ : 145 หมู่ท่ี 1 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบรุ ี อาชพี : ตัดเย็บเส้ือผ้า

ภูมปิ ัญญาด้านศลิ ปกรรม สาขาการแสดง(ราเหยย่ ) เพลงเหย่ย เป็นการแสดงพื้นบ้านนิยมร้องและเล่นมาแต่โบราณเดิมมีช่ือ เรียกกันหลายอย่างแตกต่างกันออกไปตามท้องถ่ิน เพลงเหย่ยมีการฟ้ืนฟูวัฒนธรรม การละเล่นพื้นบ้านขึ้นมาที่เรียกว่า เหย่ย เป็นเพราะว่าคาร้องทุกวรรคลงท้ายด้วยเสียง เดยี วกนั คือ เอย หรือ เหย่ย ซ่งึ เป็นเสียงที่เพ้ียนมาจากคาว่า \"เอย” เพลงเหย่ย\" หรือ \"ราเหยย่ \" มลี ักษณะการเล่น เริม่ จากการประโคมกลองอย่างกึกก้องเพื่อให้ผ้เู ล่นและผู้ดู เกดิ ความรสู้ ึกสนุกสนาน วิธกี ารเล่นไมจ่ ากัดจานวน ผู้เลน่ ย่งิ มากย่ิงสนกุ สนาน โดยแบ่ง ผู้เล่นออกเป็นฝ่ายชาย กับหญงิ แตล่ ะฝ่ายจะมีผรู้ ้องประกอบด้วยพอ่ เพลง แม่เพลง ลูกคู่ และผู้รา เม่ือเริ่มเล่นฝ่ายชายจะเป็นผู้เร่ิมชวนฝ่ายหญิงให้เล่นเพลงเหย่ยกัน ฝ่ายหญิง รบั คาชวนก็จะมายนื ลอ้ มเปน็ วงกบั ฝ่ายชาย แมเ่ พลงจะรอ้ งโต้ตอบกับพอ่ เพลงโดยมีลูกคู่ รบั ท้งั สองฝา่ ย เนื้อร้องส่วนใหญจ่ ะเปน็ ทานองหยอกล้อ เกี้ยวพาราสี เคร่ืองดนตรีท่ใี ชใ้ น การแสดงราเหย่ย ประกอบด้วย กลองยาว รามะนา ฉิ่ง ฉาบใหญ่ ฉาบเล็ก กรับ และ โหมง่

การแตง่ กายของผเู้ ล่นเพลงเหยย่ การแต่งกายของผเู้ ลน่ เพลงเหยย่ ชาย นงุ่ โจงกระเบนต่างสกี นั สวมเสอื้ คอ กลมแขนสัน้ มผี ้าขาวม้าคาดพงุ และสไบพาดไหลโ่ ดยให้ชายสไบทงั้ สองขา้ งอยดู่ ้านหลงั สว่ นผู้หญิง จะนุ่งโจงกระเบนผา้ พิมพ์ลายตา่ งสีสนั สวมเสอ้ื คอกลมแขนยาว ห่มสไบทับ เส้ือ สวมใส่เคร่อื งประดับ สร้อยคอ ตา่ งหู สรอ้ ยขอ้ มอื และทดั ดอกไม้สสี ด สว่ นใหญก่ าร แตง่ กายของผู้เลน่ ชายและหญิงจะใชผ้ า้ สสี ด เพือ่ ความสดใส สวยงาม

ภมู ปิ ัญญาดา้ นโภชนาการ ( อาหารพ้นื บ้าน ) 1. แกงหนามยอก แกงหนามยอก มคี วามสาคัญ คุณคา่ ทางสังคมและทางจิตใจทม่ี ใี นวถิ กี าร ดาเนนิ ชีวติ ของชมุ ชนนั้นๆ แกงหนามยอก จงึ เปน็ อาหารพ้ืนบา้ นของชาวลาดหญ้า ที่ นยิ มทากินกันในครอบครวั เนื่องจากส่วนประกอบทใี่ ช้ทานั้นหางา่ ย ซ่งึ ชาวบา้ นปลกู กนิ กนั เองในครวั เรอื น และเปน็ อาหารที่มปี ระโยชนต์ ่อสุขภาพ สว่ นประกอบของอาหาร 1. มะเขอื 2. ตะไคร้ 3. หอมแดง 4. พรกิ แหง้ 5. กะปิ 6. ใบแมงลกั วธิ ีการประกอบอาหาร 1. ล้างผกั ใหส้ ะอาด 2. นามะเขือ ตะไคร้ หอมแดง กะปิ นามาตารวมกันจนละเอยี ด แลว้ ตัก ใสห่ มอ้ ใส่นา้ พอประมาณ แลว้ ตัง้ ไฟจนสกุ 3. ปรุงรสชาตใิ หอ้ รอ่ ยตามตอ้ งการ แล้วใส่ใบแมงลักลงไป แลว้ ยกลง จากเตา

2. น้าพรกิ กะปิมอญ เมนูกะปิมอญน้ันได้รับการถ่ายทอดสูตรลับจากปู่ย่าตายายมาสู่รุน่ ลูกหลาน รุ่นต่อรุ่น ชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะทาเมนูน้ีเป็นเกือบทุกบ้าน และในท้องถ่ินเองก็ได้รับ ความนยิ มเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นงานมงคล งานอมงคล ขึน้ บ้านใหม่ งานเอาเสาลง- หลมุ แทบทกุ งานจะต้องมเี มนูน้าพรกิ กะปิมอญ วิธีการประกอบอาหาร 1. นาเคร่ืองปรุงทกุ ชนิดมาลา้ งให้สะอาด 2. นากะปิมาโขลกใหเ้ ป็นสีนวล ใส่กุ้งตารวมกนั จนละเอยี ด 3. จากนน้ั ใส่หัวหอม หัวกระเทยี มลงโขลกไมต่ อ้ งละเอยี ดนัก 4. ผักชีฝรง่ั นามาห่ันละเอียด ใสล่ งโขลกรวมไปด้วย 5. นาพรกิ ขีห้ นูใส่ลงโขลก ใสม่ ะเขือเทศ มะเขอื แก่ (เอาเฉพาะเมด็ ) 6. ตกั น้าพริกขึน้ ใส่ชาม ปรุงรสดว้ ยมะนาว เติมน้าสกุ เลก็ นอ้ ย ให้ รสเปร้ยี วนา ใครชอบหวานกใ็ ส่นา้ ตาลปีบลงตามชอบ 7. ตักใส่ถ้วย รับประทานกับเคร่ืองเคยี งซึ่งมที ้ังผกั ดิบและผกั ต้มสุก เคล็ด ลับความอรอ่ ย คอื ต้องโขลกกะปิให้ไดท้ ่ี ใสห่ วั หอมให้มากกวา่ กระเทยี มและควรจะให้มี รสเปรีย้ วนาข้อควรระวังนา้ ปลาเด็ดขาด กะปคิ วรใส่ให้พอเหมาะ

ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ช่ือ : นางสมจิตร เสือส่าน อายุ : 53 ปี ทีอ่ ยู่ : 153 หม่ทู ี่ 1 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบุรี จงั หวัดกาญจนบรุ ี อาชีพ : พนกั งานนวดแผนไทย (ประธานกลุม่ วสิ าหกิจชุมชนลกู สาวป่ชู ีวกนวดไทย)

ภูมปิ ัญญาด้านแพทยแ์ ผนไทย (ลกู ประคบสมุนไพรไทย) ลูกประคบสมนุ ไพรไทย คือ การทใ่ี ช้สมุนไพรไทยหลายอย่างมาห่อรวมกนั ด้วย ผ้าขาวบาง นามานึ่งให้ร้อน เป็นวิธีการบาบัดรักษาของการแพทย์แผนโบราณ แล้ว ประคบบริเวณที่เจ็บปวด เคล็ดขัดยอก โดยอาศัยความร้อนและคุณสมบัติสมุนไพร ทา ให้อาการดีข้ึน ลูกประคบสมุนไพรไทยรักษากันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน โดยมักใช้ รกั ษาควบคกู่ บั การนวดไทย คือ หลังจากนวดเสรจ็ แล้วจึงประคบนาบไปตามรา่ งกาย ผล ของความร้อนที่ได้จากการประคบ ทาให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว และตัวยาสมุนไพร รอ้ น ๆ ซมึ ผา่ นชน้ั ผวิ หนังเขา้ สรู่ า่ งกาย และยังชว่ ยทาใหเ้ น้ือเย่ือพังผดื ยืดตัวออก ลดการ ติดขัดของข้อต่อ ลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ลดปวด ช่วยลดการบวมท่ีเกิดจาการ อักเสบของกลา้ มเนือ้ เอน็ และขอ้ ต่อ และชว่ ยเพิ่มการไหลเวยี นของโลหติ

วิธที าลกู ประคบ 1. นาหัวไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด ล้างทาความสะอาด นามาห่ันหรือสับให้เป็นช้ิน ตามขนาดท่ีตอ้ งการตาพอหยาบ ๆ 2. นาใบมะขาม ใบส้มป่อย ผสมกบั สมนุ ไพรในขอ้ 1 เสร็จแล้วใส่เกลือ การบรู คลุกเคล้า ให้เขา้ เป็นเนอ้ื เดียวกัน แต่อยา่ ใหแ้ ฉะเปน็ น้า 3. แบง่ สมุนไพรท่ีคลุกเคลา้ ให้เข้ากันแล้วเป็นส่วนเท่า ๆ กัน โดยใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบห่อ เป็นลูกประคบมดั ด้วยเชือกใหแ้ นน่ 4. นาลูกประคบทไ่ี ด้ไปน่งึ ใชเ้ วลานงึ่ ประมาณ 15-20 นาที ประโยชน์ของการประคบสมนุ ไพร 1. กระตุน้ หรอื เพ่มิ การไหลเวียนของโลหติ 2. ลดอาการเกร็งของกลา้ มเน้อื และบรรเทาอาการปวดเมือ่ ย 3. ลดการติดขัดของข้อต่อบริเวณทป่ี ระคบและทาให้เน้อื เย่อื พังผืดยดื ตวั ออก 4. ลดอาการบวมที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเน้ือหรือบริเวณข้อต่อต่าง ๆ หลังจาก 24-48 ชว่ั โมงไปแลว้

ข้อควรระวังในการประคบ 1. อย่าใชล้ ูกประคบทร่ี ้อนเกินไป โดยเฉพาะกบั บรเิ วณผวิ หนังท่อี ่อน บรเิ วณทีม่ กี ระดกู ย่นื หรือบรเิ วณทเี่ คยเป็นแผลมากอ่ น ควรใช้ผ้าขนหนรู องหรือใช้ลกู ประคบอ่นุ ๆ 2. ตอ้ งระมดั ระวงั ในกรณที ่ีเปน็ ผู้ปว่ ยโรคเบาหวาน อมั พาต เด็กและผู้สูงอายุ เพราะมักมี ความรตู้ อบสนองชา้ อาจทาใหผ้ ิวหนงั ไหม้พองไดง้ ่าย ควรใช้ลกู ประคบท่ไี ม่รอ้ นจัด 3. หา้ มใชก้ ารประคบสมุนไพรในกรณที มี่ ีการอกั เสบ (ปวด บวม แดง รอ้ น) ในชว่ ง 24 ชวั่ โมงแรก เพราะจะทาให้บวมมากขึน้ และเลอื ดออกมากขนึ้ ได้ 4. หลงั การประคบสมุนไพรไมค่ วรอาบน้าทนั ที เพราะจะไปชะล้างตวั ยาออกจากผวิ หนัง และรา่ งกายยังปรับตัวไมท่ ัน



ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชอ่ื : นายแถม กลว้ ยหอม อายุ : 93 ปี ทอ่ี ยู่ : 27 หม่ทู ่ี 6 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี อาชพี : รับจา้ ง ( ตกี ลองยาว , ตีเหล็ก )

ภมู ิปญั ญาด้านศิลปกรรม สาขาดนตรไี ทยพื้นบ้าน (กลองยาว) กลองยาวกลองยาว เปน็ เคร่ืองดนตรี สาหรบั ตดี ้วยมือ ตวั กลองทาด้วยไม้ มีลักษณะกลมกลวง ขึงด้วยหนังมีหลายชนิด ถ้าทาด้วยหนังหน้าเดียว มีรูปยาวมากใช้ สะพายในเวลาตี เรยี กว่ากลองยาวหรือเถิดเทิง เชื่อกันว่ากลองยาวได้แบบอย่างมาจาก พม่า ในสมัยกรุงธนบุรี หรือต้นกรุงรัตนโกสนิ ทร์ สมัยที่ไทยกับพมา่ กาลังทาสงครามกัน เวลาพักรบ ทหารพม่าก็เล่น \"กลองยาว\" กันสนุกสนาน พวกชาวไทยได้เห็นก็จา แบบอย่างมาเล่นบ้าง แต่บางท่านก็เลา่ วา่ กลองยาวของพม่าแบบนี้ มีชาวพม่าพวกหน่ึง นาเข้ามาเล่นในงานท่ีมีกระบวนแห่ เช่น บวชนาค ทอดกฐิน เป็นต้น และนิยมเล่นกัน เปน็ ที่รื่นเริง สนกุ สนานในเทศกาลสงกรานต์ และเลน่ กนั แพร่หลายไปแทบทกุ หวั บา้ นหัว เมือง วงหนง่ึ ๆ จะใช้กลองยาวหลายลูกก็ได้ เครื่องดนตรที ีใ่ ชบ้ รรเลงร่วม มี ฉิ่ง, ฉาบเลก็ , กรับ, โหมง่ เรียกการเล่นชนิดนี้ว่า \"เถิดเทิง\" หรือ \"เทิงกลองยาว\" ที่เรียกเช่นน้ีเข้าใจว่า เรยี กตามเสียงกลองทตี่ ีและตามรปู ลักษณะกลองยาว

การอนุรักษ์ภูมปิ ญั ญาด้านศิลปกรรม สาขาดนตรไี ทยพืน้ บา้ น (กลองยาว) 1. เปน็ ครูสอนตกี ลองยาวใหก้ ับเดก็ นักเรยี นและชาวบ้าน 2. ถา่ ยทอดความรู้ให้กับเยาวชนคนรุ่นหลงั ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากภมู ิปญั ญา – เผยแพรภ่ ูมิปัญญา รกั ษาวฒั นธรรมไทยให้ดารงอยอู่ ยา่ งย่ังยืน และให้ความ บันเทงิ กบั ประชาชน

ภูมปิ ัญญาด้านหัตถกรรม (ตเี หล็ก) การตีเหลก็ เปน็ การแปรรูปเหลก็ เร่ิมจากการนาเอาเหล็ก มาเผาใน เตาเผา จนเหล็กแดงไดท้ ่ี ใช้คีมคีบมาตีดว้ ยค้อนบนท่งั ตเี หลก็ เมื่อเหลก็ เยน็ ลงก็จะนาไป เผาซา้ อีก จนกวา่ จะตีเหลก็ ให้ได้รูปร่างทต่ี ้องการ

เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการตเี หลก็ 1. คีมด้ามยาว 2. คอ้ น 3. เหล็กสกดั 4. เหลก็ ทากน่ั 5. เหลก็ ตะไบ

ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ชอ่ื : นางลาพู พนิ สวุ รรณ อายุ : 62 ปี ทีอ่ ยู่ : 148/7 หมู่ 2 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี อาชพี : แมบ่ า้ น

ภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทย การรักษาโรคด้วยหมอเปา่ เป็นกลุม่ หมอพนื้ บ้านในสงั คมของคนชนบท การเปา่ เป็นวธิ ีการรักษาของหมอพื้นบา้ นเพือ่ รกั ษาอาการเจ็บปว่ ยโดยใช้เวทมนตร์คาถาเป่าไป ตามร่างกายผปู้ ว่ ย บางครั้งอาจจะใช้สมนุ ไพรในการรกั ษาดว้ ย หมอเป่า จะได้รับการ ถา่ ยทอดความรจู้ ากบรรพบุรษุ เช่น ปู่ ตา พอ่ หรอื จากครทู ่สี ืบทอดกันมา หมอเปา่ เปรียบเสมอื นแพทย์ทพ่ี อจะรกั ษาอาการเจ็บไขไ้ ดป้ ่วยให้ผปู้ ่วยได้ การรกั ษาโรคงสู วดั ,โรคเรมิ ซึ่งสืบทอดการรักษาจากบรรพบรุ ษุ การรักษาดว้ ย สมนุ ไพร และการเป่า

ประโยชน์ทไ่ี ด้จากภมู ปิ ญั ญา – เผยแพร่ภมู ปิ ญั ญา การรกั ษาโรคงูสวดั ,โรคเริม ซึ่งสืบทอดการรกั ษาจากบรรพ บรุ ษุ การรกั ษาดว้ ยสมนุ ไพร และการเปา่ ให้ยั่งยนื ตลอดไป

ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ช่ือ : นายสน อยไู่ ทย อายุ : 62 ปี ทีอ่ ยู่ : 115/1 หมู่ 4 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี อาชพี : ขา้ ราชการเกษียณ

ภูมิปัญญาด้านการเกษตร ทาการเกษตรที่มีการเพาะปลูกพืชหลายชนิดทั้งพืชสวน พืชไร่ เล้ียงปลา เป็นต้น การทาการเกษตรผสมผสานไม่มีการจาเพาะเจาะจงในการแบ่งพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งแตกต่างจากการทาการเกษตร “ทฤษฎีใหม่” ที่จะต้องมีการกาหนดพื้นที่การ เพาะปลูกให้ไดส้ ดั ส่วนที่เหมาะสม คอื 30:30:30:10

เนื้อหาสาระของความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการเรยี นรู้ สืบทอด และอนรุ กั ษ์ – การปรับปรงุ บารุงดนิ โดยใชม้ ลู สัตว์ และเศษวชั พืช – วิธกี ารขยายพนั ธุ์ไม้ผลตา่ งๆ – การเกบ็ รกั ษาและการขยายเมล็ดพนั ธุ์ผกั – การดแู ลรักษาต้นไม้ กอ่ นออกดอกและหลงั ตดิ ผล เน้ือหาสาระของความรู้ท่ีทา่ นไดจ้ ากการคน้ คว้า ทดลองปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง – การบงั คบั ใหช้ ะอมออกยอดนอกฤดู – การปอ้ งกนั มิให้ววั มากดั กินยอดอ่อนของตน้ ไม้ – การปลกู พชื ผกั สวนครวั แบบหมุนเวียนแปลง – เทคนคิ การปลูกพืชผกั สวนครวั และการดแู ล

ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชอ่ื : นางอานวย เสือสา่ น อายุ : 79 ปี ทีอ่ ยู่ : 112/1 หมู่ 4 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี อาชพี : แมบ่ า้ น

ภมู ปิ ญั ญาดา้ นศลิ ปกรรม ความชานาญ/องคค์ วามรเู้ กี่ยวกบั กลองยาว/เพลงเหยอ่ ย/เพลงฉ่อย ซ่งึ ไดร้ ับประสบการณต์ ัง้ แตเ่ ปน็ วยั รนุ่ ร่วมรอ้ งรากลองยาว รอ้ งเพลงเหย่อย เพลงฉอ่ ย ตาม งานเทศกาลต่างๆ จนปัจจบุ ัน

ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชื่อ : นายถนอม ไชฮะ อายุ : 73 ปี ทอี่ ยู่ : 144/1 หมู่ 7 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวัดกาญจนบุรี อาชพี : รบั จา้ ง

ภูมปิ ญั ญาด้านดนตรีไทยพ้นื บา้ น (ซออู้) ซอด้วง ซออู้ เป็นเคร่ืองดนตรีไทยพื้นบ้าน ท่ีผลิตเองโดยใช้วัตถุดิบในชุมชน ทาดว้ ยมือใช้ภูมิปัญญาท้องถ่ินพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ได้มาตรฐาน ต้งั เป็นวงในการแสดง ในงานพธิ ีต่าง ๆ รบั งานตลอดทง้ั ปี และมกี ารถ่ายทอดการแสดงให้กบั นักเรยี น นักศึกษา และผสู้ นใจเรียน ประโยชนท์ ไ่ี ด้จากภมู ปิ ญั ญา – เผยแพรภ่ มู ปิ ญั ญา รกั ษาวัฒนธรรมไทยใหด้ ารงอย่อู ยา่ งย่งั ยนื และให้ ความบันเทิงกับประชาชน

ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชือ่ : นายธีระศักดิ์ สัคคบัญชร อายุ : 76 ปี ที่อยู่ : 83 หมู่ 6 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี อาชีพ : รับจา้ ง

ภมู ปิ ัญญาด้านแพทยแ์ ผนไทย สาขาสมนุ ไพรไทย สมุนไพร คือ ผลผลิตที่ได้จากธรรมชาติ ได้แก่ พืช สัตว์ และ แร่ธาตุ ที่ สามารถนามาใช้เป็นยารักษาโรคหรือบารุงร่างกาย เช่น ใช้กิน ใช้ทา ใช้รม เป็นต้น ซึ่ง อาจจะใช้ท้ังหมด เช่น ใช้ท้ังต้น หรือแค่เฉพาะบางส่วนของผลผลิตน้ันๆเพ่ือปรุงเป็นยา รกั ษาโรค เช่น เฉพาะส่วนราก โดยอาจจะต้องผ่านกระบวนการบางอย่างก่อนนามาใช้ เช่น บด ตม้ คนั้ ตาก เป็นต้น ประโยชนท์ ีไ่ ด้จากภมู ปิ ญั ญา – เผยแพรภ่ มู ิปญั ญา การรกั ษาโรคดว้ ยสมนุ ไพรไทยทกุ ชนดิ ใหย้ ั่งยนื ตลอดไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook