ค่มู ือประมวล จริยธรรม ขา้ ราชการพลเรือน
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว พระราชทานแกข่ ้าราชการพลเรือน เน่ืองในโอกาสวันขา้ ราชการพลเรือน ปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ การท�ำ ความดนี น้ั แมจ้ ะไมม่ ใี ครรเู้ หน็ แตก่ จ็ �ำ เปน็ ตอ้ งท�ำ เพื่อให้ผลดีที่เกิดขึ้นยิ่งเพิ่มพูนและแผ่ขยายกว้างออกไป เป็นประโยชน ์ เป็นความเจรญิ มน่ั คงท่ีแท้แกต่ น แกส่ ่วนรวม ตลอดถึงชาติบา้ นเมืองพร้อม ทกุ สว่ น. ข้าราชการทุกคนจึงต้องตั้งใจให้หนักแน่นเที่ยงตรง ที่จะ กระทำ�ความดีท้ังในการประพฤติตนและการปฏิบัติงานด้วยความอุตสาหะ เสยี สละ โดยไมห่ วน่ั ไหวยอ่ ทอ้ ตอ่ อปุ สรรคปญั หา หรอื ความล�ำ บากเหนอ่ื ยยาก. พระตำ�หนักจติ รลดารโหฐาน วนั ที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ (1)
คำ�นำ� ประมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื นไดก้ �ำ หนดขน้ึ เพอ่ื ให้ ข้าราชการเกิดความสำ�นึกและมีความเที่ยงธรรมในหน้าที่ ผดุงเกียรติและ ศักดศิ์ รขี า้ ราชการ ควรแกค่ วามไวว้ างใจและเชอื่ ม่นั ของประชาชน ดำ�รงตน ตง้ั มนั่ เปน็ แบบอย่างทด่ี ีงาม สมกบั ความเป็นขา้ ราชการในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ฯ ทรงเปน็ ตัวอย่างแหง่ ธรรมจรรยาอันสูงสดุ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๗๙ ก�ำ หนดให้มาตรฐาน ทางจริยธรรมของผู้ดำ�รงตำ�แหน่งทางการเมืองข้าราชการหรือเจ้าหน้าท่ี ของรัฐแต่ละประเภทให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมที่กำ�หนดขึ้น โดยจะ ต้องมีกลไกและระบบในการดำ�เนินงานเพ่ือให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั ก�ำ หนดขน้ั ตอนการกลา่ วโทษตามความรา้ ยแรงแหง่ การ กระทำ�การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมให้ถือว่าเป็นการ กระท�ำ ผดิ ทางวินัย และมาตรา ๒๘๐ บัญญัติให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอ�ำ นาจ หน้าท่ีเสนอแนะหรือให้คำ�แนะนำ�ในการจัดทำ�หรือปรับปรุงประมวล จริยธรรม ตามมาตรา ๒๗๙ และส่งเสริมให้ผู้ดำ�รงตำ�แหน่งทางการเมือง ข้าราชการและเจา้ หน้าทีข่ องรัฐ มจี ิตส�ำ นึกในดา้ นจริยธรรม รวมทงั้ มีหนา้ ท่ี รายงานการกระทำ�ที่มีการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมเพื่อให้ผู้ท่ีรับผิดชอบ ในการบงั คบั ใช้ให้เป็นไปตามประมวลจรยิ ธรรม อนง่ึ ทป่ี ระชมุ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจ�ำ กรมราชทณั ฑ์ ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ ได้มีมติให้จัดพิมพ์คู่มือประมวล จรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื น เพอ่ื มอบใหเ้ จา้ หนา้ ทก่ี รมราชทณั ฑท์ กุ คนไดใ้ ช้ เปน็ คมู่ อื ทจ่ี ะศกึ ษาคน้ ควา้ ในการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั จรยิ ธรรม ตามกรอบทก่ี ฎหมาย วางแนวทางการประพฤตปิ ฏิบตั ไิ ว้ (2)
กรมราชทัณฑ์ ได้รวบรวมประมวลจริยธรรมข้าราชการ พลเรอื น ประกาศกรมราชทณั ฑ์ เรอ่ื งมาตรฐานทางคุณธรรมและจรยิ ธรรม ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และข้อบังคับกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยจรรยา ขา้ ราชการกรมราชทณั ฑ์ เพอ่ื ใหเ้ จา้ หนา้ ทก่ี รมราชทณั ฑใ์ ชเ้ ปน็ คมู่ อื แนวทาง ในการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นใหส้ อดคลอ้ งดา้ นกฎหมายทไ่ี ดว้ างไว้ กรมราชทณั ฑ์ หวังเปน็ อยา่ งยง่ิ ว่าหนงั สือเล่มน้ี จะเกิดประโยชน์อยา่ งยิง่ ตอ่ สว่ นราชการ ในสังกัดกรมราชทัณฑ์ ในการบังคับใช้เป็นมาตรฐานทางจริยธรรมของ ขา้ ราชการ พนกั งานราชการและลูกจ้างประจำ�ทส่ี งั กดั กรมราชทัณฑ์ต่อไป (นายชาตชิ าย สุทธกิ ลม) อธิบดีกรมราชทัณฑ์ (3)
ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน -------------------- ค�ำ ปรารภ โดยทร่ี ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๗๙ กำ�หนดให้มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำ�รงตำ�แหน่งทาง การเมือง ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภทให้เป็นไปตาม ประมวลจรยิ ธรรมทก่ี �ำ หนดขน้ึ โดยจะตอ้ งมกี ลไกและระบบในการด�ำ เนนิ งาน เพอ่ื ใหก้ ารบงั คบั ใชเ้ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั ก�ำ หนดขน้ั ตอนการลงโทษ ตามความรา้ ยแรงแหง่ การกระท�ำ การฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานทาง จริยธรรม ใหถ้ อื ว่าเป็นการกระทำ�ผดิ ทางวนิ ยั ก.พ. ในฐานะองคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คลของขา้ ราชการ พลเรอื นไดพ้ จิ ารณาโดยถถ่ี ว้ นแลว้ เหน็ วา่ ต�ำ แหนง่ ขา้ ราชการพลเรอื นทกุ ต�ำ แหนง่ มีหน้าท่ีต้องปฏิบัติเพ่ือให้ข้าราชการแผ่นดินในส่วนที่ตนรับผิดชอบ เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ แกส่ งั คม ดงั นน้ั การใชอ้ �ำ นาจเพอ่ื ใหห้ นา้ ทท่ี ต่ี นรบั ผดิ ชอบ ลุล่วง ข้าราชการพลเรือนทั้งปวงจึงต้องมีคุณธรรม ซึ่งเป็นการอันพึงทำ� เพราะนำ�ประโยชน์ให้เกิดแก่ส่วนรวมและตนเอง และศีลธรรมซึ่งเป็นการ อนั พงึ เวน้ เพราะเปน็ โทษแกส่ ว่ นรวมและตนเอง ประกอบกนั ขน้ึ เปน็ จรยิ ธรรม ขา้ ราชการพลเรอื นอนั เปน็ ความประพฤตทิ ด่ี งี าม สมกบั ความเปน็ ขา้ ราชการ อนึ่ง มาตรา ๒๘๐ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำ�นาจหน้าที่ เสนอแนะหรือให้คำ�แนะนำ�ในการจัดทำ�หรือปรับปรุงประมวลจริยธรรม ตามมาตรา ๒๗๙ และสง่ เสรมิ ให้ผูด้ ำ�รงต�ำ แหนง่ ทางการเมอื ง ขา้ ราชการ และเจ้าหนา้ ทข่ี องรฐั มจี ิตสำ�นึกในด้านจรยิ ธรรม รวมทง้ั มหี นา้ ทร่ี ายงาน การกระทำ�ท่ีมีการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมเพ่ือให้ผู้ที่รับผิดชอบในการ (4)
บังคับการให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมดำ�เนินการบังคับให้เป็นไปตาม ประมวลจรยิ ธรรมตามมาตรา ๒๗๙ ดงั นน้ั บคุ คลผดู้ �ำ รงต�ำ แหนง่ ขา้ ราชการพลเรอื นทกุ ต�ำ แหนง่ จึงมีหน้าท่ีดำ�เนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม และประเทศชาติ มีความเปน็ กลางทางการเมือง อ�ำ นวยความสะดวก และ ใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชนตามหลกั ธรรมาภบิ าล โดยจะตอ้ งยดึ มน่ั ในคา่ นยิ มหลกั ของมาตรฐานจริยธรรมสำ�หรับผู้ดำ�รงตำ�แหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าท่ี ของรฐั ๙ ประการของส�ำ นักงานผตู้ รวจการแผ่นดิน ดงั นี้ (๑) การยึดมนั่ ในคุณธรรมและจรยิ ธรรม (๒) การมีจิตส�ำ นึกทด่ี ี ซื่อสัตย์ สจุ รติ และรับผดิ ชอบ (๓) การยดึ ถอื ประโยชนข์ องประเทศชาตเิ หนอื กวา่ ประโยชน์ สว่ นตนและไม่มีผลประโยชนท์ บั ซอ้ น (๔) การยนื หยดั ท�ำ ในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง เปน็ ธรรม และถกู กฎหมาย (๕) การใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชนดว้ ยความรวดเรว็ มอี ธั ยาศยั และไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ (๖) การใหข้ อ้ มลู ขา่ วสารแกป่ ระชาชนอยา่ งครบถว้ น ถกู ตอ้ ง และไม่บดิ เบือนข้อเทจ็ จรงิ (๗) การมุง่ ผลสัมฤทธข์ิ องงาน รกั ษามาตรฐาน มีคุณภาพ โปรง่ ใสและตรวจสอบได้ (๘) การยดึ มน่ั ในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ ทรงเป็นประมขุ (๙) การยดึ มั่นในหลักจรรยาวิชาชพี ขององคก์ ร (5)
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๒๗๙ ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประกอบค่านิยมหลกั สำ�หรับผู้ด�ำ รง ต�ำ แหนง่ ทางการเมอื งและเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั อนั ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ไดใ้ หค้ �ำ แนะน�ำ ใหห้ น่วยงานทง้ั หลายถอื ปฏบิ ัติ ก.พ. โดยความเหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรี จึงกำ�หนดมาตรฐานทางจริยธรรมขึ้นเป็นประมวลจริยธรรมข้าราชการ พลเรอื น เพ่อื ใหข้ า้ ราชการท้ังหลายเกดิ สำ�นึกลึกซึง้ และเทยี่ งธรรมในหนา้ ท่ี ผดงุ เกยี รตแิ ละศกั ดศ์ิ รขี า้ ราชการควรแกค่ วามไวว้ างใจและเชอ่ื มน่ั ของปวงชน และด�ำ รงตง้ั มน่ั เปน็ แบบอยา่ งทด่ี งี าม สมกบั ความเปน็ ขา้ ราชการในพระบาท สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ผทู้ รงเปน็ ตวั อยา่ งแหง่ ธรรมจรรยาอนั สงู สดุ เพอ่ื ใชบ้ งั คบั เปน็ มาตรฐานกลางไว้ ดังต่อไปนี้ (6)
สารบญั หน้า (๑) พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั (๒) คำ�นำ� (๔) ค�ำ ปรารภ ๑ วิสัยทศั น์ ๒ ประมวลจริยธรรมขา้ ราชการพลเรือน ๓ หมวด ๑ บททว่ั ไป ๔ หมวด ๒ จรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรือน ๑๓ หมวด ๓ กลไกและระบบการบงั คับใชป้ ระมวลจรยิ ธรรม ๑๓ สว่ นท่ี ๑ องค์กรค้มุ ครองจรยิ ธรรม ๑๙ สว่ นที่ ๒ ระบบการบังคับใช้ประมวลจรยิ ธรรม ๒๒ บทเฉพาะกาล ๒๓ - ขอ้ บงั คบั กรมราชทณั ฑว์ า่ ดว้ ยจรรยาขา้ ราชการราชทณั ฑ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ ๓๓ - ประกาศกรมราชทัณฑ์ มาตรฐานทางคุณธรรม และจริยธรรม ๓๖ ของเจ้าหนา้ ทีก่ รมราชทัณฑ์ ๔๐ - ประกาศหลักเกณฑ์และแนวทางปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การรับเรอื่ งและ ๔๒ พจิ ารณาการรอ้ งเรยี นกลา่ วหากรณขี า้ ราชการฝา่ ฝนื ประมวลจรยิ ธรรม ๔๓ - คา่ นิยมรว่ มกรมราชทัณฑ ์ ๔๔ - หลักการบริหารกิจการบา้ นเมืองที่ด ี ๔๖ - มาตรฐานจริยธรรมเจ้าหน้าทขี่ องรัฐ ๙ ประการ ๔๘ ของส�ำ นักงานผูต้ รวจการแผน่ ดนิ ๔๙ - รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๕๐ ๕๐ - พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ - ประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เร่อื งตง้ั คณะกรรมการ จริยธรรมประจ�ำ กรมราชทณั ฑ์ - ข้าราชการกลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมกรมราชทัณฑ ์ - ผงั ขน้ั ตอนการด�ำ เนนิ การรอ้ งเรยี นเกย่ี วกบั การฝา่ ฝนื ประมวลจรยิ ธรรม ข้าราชการ การไม่ปฏิบัติตามจรรยาข้าราชการ และการทุจริต และประพฤติมชิ อบของเจา้ หน้าทกี่ รมราชทณั ฑ์ (7)
(8)
วสิ ัยทศั น์ ข้าราชการกรมราชทัณฑ์เป็นผู้ยึดม่ันในคุณธรรม จรยิ ธรรม ธรรมาภบิ าลและด�ำ รงชวี ติ บนพน้ื ฐานความพอเพยี ง พันธกิจ ๑. เสริมสร้างข้าราชการกรมราชทัณฑ์ให้มี คุณธรรม จรยิ ธรรมและธรรมาภบิ าล ๒. ส่งเสริมให้ข้าราชการกรมราชทัณฑ์น้อมนำ� หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาปรบั ใชใ้ นการดำ�เนินชีวิต ค่านิยมสร้างสรรค์ของขา้ ราชการ ๕ ประการ ๑. กลา้ ยนื หยัดทำ�ในสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง ๒. ซ่อื สัตย์และมคี วามรบั ผิดชอบ ๓. โปร่งใสตรวจสอบได้ ๔. ไม่เลือกปฏบิ ตั ิ ๕. มงุ่ ผลสำ�ฤทธข์ิ องงาน 1
ประมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการ พลเรือน 2
หมวด ๑ บทท่ัวไป ---------------------------- ข้อ ๑ ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนนี้ให้ใช้ บงั คับตั้งแต่วันครบเกา้ สบิ วนั นับแตว่ นั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา ขอ้ ๒ ในประมวลจรยิ ธรรมข้าราชการพลเรอื นน้ี “ประมวลจรยิ ธรรม” หมายความวา่ ประมวลจรยิ ธรรม ข้าราชการพลเรือน ฉบับนี้ “ข้าราชการ” หมายความว่า ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการและลูกจ้างในสังกัดราชการพลเรอื น “หัวหน้าส่วนราชการ” หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการ จังหวัดในกรณที เ่ี ปน็ ข้าราชการสว่ นภมู ิภาค “คณะกรรมการจรยิ ธรรม” หมายความวา่ คณะกรรมการ จรยิ ธรรมประจ�ำ สว่ นราชการ “ของขวัญ” หมายความว่า ของขวัญตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือ กฎหมายเก่ียวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ สว่ นรวม 3
หมวด ๒ จริยธรรมขา้ ราชการพลเรือน ------------------------------ ข้อ ๓ ขา้ ราชการตอ้ งยดึ ในจรยิ ธรรมและยนื หยดั กระท�ำ ใน ส่ิงที่ถกู ตอ้ งและเป็นธรรม โดยอย่างน้อยตอ้ งวางตน ดงั น้ี (๑) ปฏบิ ัติตามประมวลจรยิ ธรรมอย่างตรงไปตรงมา และ ไม่กระทำ�การเลี่ยงประมวลจริยธรรมนี้ ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือมีผู้ทักท้วง ว่าการกระทำ�ใดของข้าราชการอาจขัดประมวลจริยธรรม ข้าราชการต้องไม่ กระท�ำ ดงั กลา่ ว หรอื หากก�ำ ลงั กระท�ำ การดงั กลา่ ว ตอ้ งหยดุ กระท�ำ การ และ ส่งเรอ่ื งให้คณะกรรมการจรยิ ธรรมพิจารณาวินิจฉัย ในกรณที ่ีคณะกรรมการ จริยธรรมวินิจฉัยว่า การกระทำ�นั้นขัดประมวลจริยธรรมข้าราชการจะ กระทำ�การน้ันมไิ ด้ (๒) เมื่อรู้หรือพบเห็นการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมน้ี ข้าราชการมีหน้าท่ีต้องรายงานการฝ่าฝืนดังกล่าวพร้อมพยานหลักฐาน (หากมี) ต่อหวั หนา้ สว่ นราชการและหรอื คณะกรรมการจรยิ ธรรมโดยพลัน ในกรณีที่หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ฝ่าฝืนจริยธรรม ต้อง รายงานต่อปลัดกระทรวง หรือผู้บังคับบัญชาเหนือชั้นขึ้นไปของหัวหน้า สว่ นราชการน้นั แลว้ แต่กรณี และหรือคณะกรรมการจริยธรรม (๓) ต้องรายงานการดำ�รงตำ�แหน่งทั้งที่ได้รับค่าตอบแทน และไม่ได้รับค่าตอบแทนในนิติบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน ราชการส่วนทอ้ งถิ่น หนว่ ยงานอ่นื ของรฐั และกจิ การทร่ี ัฐ ถอื หุ้นใหญ่ ต่อหวั หนา้ ส่วนราชการและคณะกรรมการจรยิ ธรรม ในกรณีที่ การดำ�รงตำ�แหน่งนั้นๆ อาจขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่หรืออาจทำ�ให้การ ปฏบิ ัติหน้าที่เสยี หาย 4
ความในข้อนี้ให้ใช้บังคับกับการเป็นลูกจ้าง การรับจ้างทำ� ของการเป็นตัวแทน การเป็นนายหน้า และการมีนิติสัมพันธ์อื่นในทำ�นอง เดยี วกันด้วย (๔) ในกรณีท่ีข้าราชการเข้าร่วมประชุมและพบว่ามีการ กระท�ำ ซ่ึงมีลกั ษณะตาม (๒) ของขอ้ น้ี หรือมกี ารเสนอเร่ือง ซ่งึ มีลักษณะ ตาม (๒) ของขอ้ น้ผี า่ นขา้ ราชการ ขา้ ราชการมหี นา้ ท่ีต้องคัดคา้ นการกระท�ำ ดังกล่าวและบันทึกการคัดค้านของตนไว้ในรายงานประชุมหรือในเร่ืองนั้น แล้วแต่กรณี ขอ้ ๔ ข้าราชการต้องมีจิตสำ�นึกท่ีดีและความรับผิดชอบ ต่อหน้าที่ เสียสละ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และสามารถ ตรวจสอบได้ โดยอย่างน้อยตอ้ งวางตน ดังน้ี (๑) อุทิศตนให้กับการปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความ รอบคอบระมัดระวัง และเต็มกำ�ลังความสามารถที่มีอยู่ ในกรณีที่ต้องไป ปฏิบัติงานอน่ื ของรัฐดว้ ย จะตอ้ งไมท่ ำ�ใหง้ านในหน้าทีเ่ สียหาย (๒) ละเว้นจากการกระทำ�ท้ังปวงที่จะก่อให้เกิดความ เสียหายต่อตำ�แหน่งหน้าที่ของตน หรือของข้าราชการอื่น ไม่ก้าวก่ายหรือ แทรกแซงการปฏบิ ตั ิหน้าที่ของข้าราชการอื่นโดยมชิ อบ (๓) ใช้ดุลพินิจและตัดสินใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ รคู้ วามสามารถ เยย่ี งทป่ี ฏบิ ตั ใิ นวชิ าชพี ตรงไปตรงมา ปราศจากอคตสิ ว่ นตน ตามขอ้ มูลพยานหลกั ฐานและความเหมาะสมของแตล่ ะกรณี (๔) เมอ่ื เกดิ ความผดิ พลาดขน้ึ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ตอ้ งรบี แก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง และแจ้งใหห้ ัวหนา้ สว่ นราชการทราบโดยพลนั 5
(๕) ไม่ขัดขวางการตรวจสอบของหน่วยงานที่มีหน้าท่ี ตรวจสอบตามกฎหมายหรอื ประชาชน ตอ้ งใหค้ วามรว่ มมอื กบั หนว่ ยงานทม่ี ี หน้าทต่ี รวจสอบตามกฎหมายหรือประชาชนในการตรวจสอบ โดยให้ข้อมลู ที่เป็นจริงและครบถว้ น เมอ่ื ได้รับคำ�รอ้ งขอในการตรวจสอบ (๖) ไม่สั่งข้าราชการด้วยวาจาในเร่ืองท่ีอาจก่อให้เกิด ความเสียหายแก่ราชการ ในกรณีที่สั่งราชการด้วยวาจาในเรื่องดังกล่าว ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาบันทึกเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรตามคำ�สั่งเพื่อให้ผู้ส่ัง พิจารณาส่งั การตอ่ ไป ข้อ ๕ ข้าราชการต้องแยกเรื่องส่วนตัวออกจากตำ�แหน่ง หน้าที่และยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ เหนือกว่าประโยชน์ ส่วนตน โดยอย่างน้อยตอ้ งวางตน ดงั น้ี (๑) ไมน่ �ำ ความสมั พนั ธส์ ว่ นตวั ทต่ี นมตี อ่ บคุ คลอน่ื ไมว่ า่ จะ เป็นญาติพี่น้อง พรรคพวก เพอื่ นฝูง หรือผมู้ ีบญุ คุณสว่ นตัวมาประกอบการ ใชด้ ุลพนิ จิ ให้เปน็ คุณหรือโทษแก่บคุ คลนน้ั หรอื ปฏิบตั ิต่อบคุ คลนั้น ตา่ งจาก บุคคลอน่ื เพราะชอบหรอื ชงั (๒) ไมใ่ ชเ้ วลาราชการ เงิน ทรัพย์สนิ บุคลากร บรกิ าร หรือส่ิงอำ�นวยความสะดวกของทางราชการไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของ ตนเองหรอื ผ้อู น่ื เว้นแตไ่ ดร้ บั อนุญาตโดยชอบดว้ ยกฎหมาย (๓) ไมก่ ระท�ำ การใด หรอื ด�ำ รงต�ำ แหนง่ หรอื ปฏบิ ตั กิ ารใด ในฐานะสว่ นตวั ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ความเคลอื บแคลงหรอื สงสยั วา่ จะขดั กบั ประโยชน์ สว่ นรวมทอ่ี ยใู่ นความรับผดิ ชอบของหน้าที่ ในกรณีมีความเคลือบแคลงหรือสงสัย ให้ข้าราชการผู้นั้น ยตุ กิ ารกระท�ำ ดงั กลา่ วไวก้ อ่ น แลว้ แจง้ ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชา หวั หนา้ สว่ นราชการ และคณะกรรมการจรยิ ธรรมพจิ ารณา เมอื่ คณะกรรมการจรยิ ธรรมวนิ จิ ฉยั เปน็ ประการใดแลว้ จึงปฏบิ ตั ติ ามน้นั 6
(๔) ในการปฏิบัติหน้าท่ีที่รับผิดชอบในหน่วยงานโดยตรง หรอื หน้าที่อ่นื ในราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรอื หนว่ ยงานของรัฐ ข้าราชการต้องยึดถือประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก ในกรณีที่มีความ ขดั แยง้ ระหวา่ งประโยชนข์ องทางราชการ หรอื ประโยชนส์ ว่ นรวมกบั ประโยชน์ สว่ นตนหรอื สว่ นกลมุ่ อนั จ�ำ เปน็ ตอ้ งวนิ จิ ฉยั หรอื ชข้ี าด ตอ้ งยดึ ประโยชนข์ อง ทางราชการและประโยชน์สว่ นรวมเป็นสำ�คัญ ขอ้ ๖ ข้าราชการต้องละเว้นจากการแสวงหาประโยชน์ที่ มิชอบโดยอาศัยตำ�แหน่งหน้าท่ีและไม่กระทำ�การอันเป็นการขัดกันระหว่าง ประโยชนส์ ่วนรวม โดยอยา่ งนอ้ ยต้องวางตน ดังน้ี (๑) ไมเ่ รยี ก รบั หรอื ยอมจะรบั หรอื ยอมใหผ้ อู้ น่ื เรยี กรบั หรือยอมจะรับซึ่งของขวัญแทนตนหรือญาติของตน ไม่ว่าก่อนหรือหลัง ดำ�รงตำ�แหน่งหรือปฏิบัติหน้าท่ีไม่ว่าจะเก่ียวข้องหรือไม่เก่ียวข้องกับการ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทห่ี รอื ไมก่ ต็ าม เวน้ แตเ่ ปน็ การใหโ้ ดยธรรมจรรยา หรอื เปน็ การให้ ตามประเพณีหรอื ให้แกบ่ คุ คลทั่วไป (๒) ไมใ่ ชต้ �ำ แหนง่ หรอื กระท�ำ การทเ่ี ปน็ คณุ หรอื เปน็ โทษ แก่บคุ คลใด เพราะมอี คติ (๓) ไม่เสนอ หรืออนุมัติโครงการ การดำ�เนินการ หรือ การท�ำ นติ กิ รรมหรอื สญั ญา ซง่ึ ตนเองหรอื บคุ คลอน่ื จะไดป้ ระโยชนอ์ นั มคิ วรได้ โดยชอบด้วยกฎหมายหรือประมวลจรยิ ธรรมนี้ ขอ้ ๗ ข้าราชการต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โดยอยา่ งน้อยต้องวางตน ดงั น้ี (๑) ไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย กฎ ข้อบังคับหรือ มติคณะรัฐมนตรีที่ชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีมีข้อสงสัย หรือมีข้อทักท้วง วา่ การกระทำ�ไม่ชอบด้วยรฐั ธรรมนูญ กฎหมาย กฎ ข้อบงั คับ หรอื มติคณะ 7
รัฐมนตรีท่ีชอบด้วยกฎหมายข้าราชการต้องแจ้งให้หัวหน้าส่วนราชการและ คณะกรรมการจรยิ ธรรมพจิ ารณา และจะด�ำ เนนิ การตอ่ ไปไดต้ อ่ เมอ่ื ไดข้ อ้ ยตุ ิ จากหนว่ ยงานทมี่ อี �ำ นาจหน้าทีแ่ ลว้ (๒) ในกรณที เ่ี หน็ วา่ ค�ำ สง่ั ผบู้ งั คบั บญั ชา หรอื การด�ำ เนนิ การ ใดท่ตี นมีสว่ นเกีย่ วขอ้ งไม่ชอบด้วยรฐั ธรรมนญู กฎหมาย กฎ หรือขอ้ บงั คบั ตอ้ งทกั ทว้ งเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรไว้ (๓) ในกรณที เ่ี หน็ วา่ มตคิ ณะรฐั มนตรไี มช่ อบดว้ ยกฎหมาย ต้องทำ�เรื่องเสนอให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณา และส่งเรื่องให้สำ�นัก เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรดี ำ�เนินการใหไ้ ดข้ อ้ ยตุ ิทางกฎหมายตอ่ ไป (๔) ไม่เลี่ยงกฎหมายใช้หรือแนะนำ�ให้ใช้ช่องว่างของ กฎหมายท่ีอยู่ในความรับผิดชอบของตนเพ่ือประโยชน์ของตนเองหรือผู้อ่ืน และตอ้ งเรง่ แก้ไขช่องวา่ งดงั กลา่ วโดยเรว็ (๕) ไม่ยอมให้บุคคลอื่นอาศัยชื่อตนเองถือครองทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์อ่ืนใดแทนบุคคลอื่นอันเป็นการเลี่ยงกฎหมายหรือใช้ชื่อ บคุ คลอนื่ ถอื ครองสิง่ ดงั กลา่ วแทนตนเพ่ือปกปิดทรัพย์สินของตน (๖) เมื่อทราบว่ามกี ารละเมิด หรือไมป่ ฏิบตั ิตามกฎหมาย ในสว่ นราชการของตน หวั หนา้ สว่ นราชการตอ้ งด�ำ เนนิ การทจ่ี �ำ เปน็ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การเคารพกฎหมายข้นึ โดยเรว็ (๗) เมอ่ื ไดร้ บั ค�ำ รอ้ ง หรอื ค�ำ แนะน�ำ จากผตู้ รวจการแผน่ ดนิ หรอื หนว่ ยงานอน่ื วา่ ดว้ ยกฎหมาย กฎ หรอื ขอ้ บงั คบั ทอ่ี ยใู่ นความรบั ผดิ ชอบ ของสว่ นราชการของตน สรา้ งภาระเกนิ สมควรแกป่ ระชาชน หรอื สรา้ งความ ไมเ่ ปน็ ธรรมใหเ้ กดิ ขน้ึ ตอ้ งด�ำ เนนิ การทบทวนกฎหมาย กฎ หรือขอ้ บงั คับ ดงั กลา่ วโดยเร็ว 8
ขอ้ ๘ ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเท่ียงธรรม เปน็ กลางทางการเมอื ง ใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชนโดยมอี ธั ยาศยั ทด่ี แี ละไมเ่ ลอื ก ปฏบิ ตั ิโดยไม่เปน็ ธรรม โดยอย่างน้อยต้องวางตน ดังนี้ (๑) ปฏบิ ัติหนา้ ท่ใี หล้ ุล่วง โดยไมห่ ลกี เลยี่ ง ละเลย หรอื ละเว้นการใช้อำ�นาจเกนิ กว่าทีม่ อี ยตู่ ามกฎหมาย (๒) ปฏิบัตหิ น้าที่ หรอื ดำ�เนนิ การอ่ืน โดยค�ำ นึงถึงศกั ดศ์ิ รี ความเป็นมนษุ ย์ และสิทธิเสรีภาพของบุคคล ไมก่ ระทำ�การให้กระทบสทิ ธิ เสรีภาพของบุคคลหรือก่อภาระหรือหน้าที่ให้บุคคลโดยไม่มีอำ�นาจตาม กฎหมาย (๓) ใหบ้ รกิ ารและอำ�นวยความสะดวกแกป่ ระชาชนโดยมี อธั ยาศัยทดี่ ี ปราศจากอคติ และไม่เลอื กปฏบิ ัตติ อ่ บคุ คลผมู้ าตดิ ต่อโดยไม่ เป็นธรรมในเรื่องถน่ิ ก�ำ เนิด เชอื้ ชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพกิ าร สภาพทาง กายหรอื สุขภาพ สถานะของบคุ คล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสงั คมความเชื่อ ทางศาสนา การศึกษา อบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อ รฐั ธรรมนญู เวน้ แตจ่ ะด�ำ เนนิ การตามมาตรการทร่ี ฐั ก�ำ หนดขน้ึ เพอ่ื ขจดั อปุ สรรค หรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น หรอื เป็นการเลือกปฏบิ ตั ิทีม่ ีเหตุผล เปน็ ธรรม และเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป (๔) ละเวน้ การใหส้ มั ภาษณ์ การอภปิ ราย การแสดงปาฐกถา การบรรยาย หรอื การวพิ ากษว์ จิ ารณอ์ นั กระทบตอ่ ความเปน็ กลางทางการเมอื ง เว้นแตเ่ ปน็ การแสดงความเหน็ ทางวชิ าการตามหลักวิชา (๕) ไมเ่ ออ้ื ประโยชนเ์ ปน็ พเิ ศษใหแ้ กญ่ าตพิ น่ี อ้ ง พรรคพวก เพื่อนฝูงหรือผู้มีบุญคุณและต้องปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความเที่ยงธรรมไม่เห็นแก่ หนา้ ผู้ใด (๖) ไม่ลอกหรือนำ�ผลงานของผู้อื่นมาใช้เป็นของตนเอง โดยมิได้ระบแุ หล่งท่ีมา 9
ข้อ ๙ ข้าราชการต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูล ขา่ วสารของทางราชการอยา่ งเครง่ ครดั และรวดเรว็ ไมถ่ ว่ งเวลาใหเ้ นน่ิ ชา้ และ ใช้ข้อมูลข่าวสารที่ได้มาจากการดำ�เนินงานเพื่อการในหน้าที่ และให้ข้อมูล ข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง ทันการณ์ และไม่บิดเบือน ขอ้ เทจ็ จรงิ โดยอยา่ งนอ้ ยตอ้ งวางตน ดงั นี้ (๑) ไม่ใช้ข้อมูลท่ีได้มาจากการดำ�เนินงานไปเพื่อการอื่น อันไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนเอง หรอื บคุ คลอ่ืน (๒) ชี้แจง แสดงเหตุผลที่แท้จริงอย่างครบถ้วนในกรณีที่ กระท�ำ การอนั กระทบตอ่ สทิ ธแิ ละเสรภี าพบคุ คลอน่ื ไมอ่ นญุ าต หรอื ไมอ่ นมุ ตั ิ ตามคำ�ขอของบุคคล หรือเมื่อบุคคลร้องขอตามกฎหมาย เว้นแต่การอัน คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติ ราชการทางปกครองได้กำ�หนดยกเว้นไว้ ทั้งนี้ จะต้องดำ�เนินการภายใน สบิ หา้ วนั ท�ำ การ นับแต่กระทำ�การดังกลา่ ว หรือได้รบั การร้องขอ ข้อ ๑๐ ข้าราชการต้องมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน รักษา คณุ ภาพและมาตรฐานแหง่ วชิ าชีพโดยเคร่งครดั โดยอย่างนอ้ ยตอ้ งวางตน ดงั น้ี (๑) ปฏิบัติงานโดยมุ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลของ งานให้เกดิ ผลดที ส่ี ุดจนเตม็ กำ�ลังความสามารถ (๒) ใช้งบประมาณ ทรัพย์สิน สิทธิและประโยชน์ที่ทาง ราชการจดั ให้ ด้วยความประหยดั คุ้มคา่ ไมฟ่ มุ่ เฟือย (๓) ใชค้ วามรคู้ วามสามารถ ความระมดั ระวงั ในการปฏบิ ตั ิ หน้าทต่ี ามคุณภาพและมาตรฐานวชิ าชีพโดยเครง่ ครดั 10
ขอ้ ๑๑ ข้าราชการต้องยึดมั่นในการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ โดยอยา่ งนอ้ ยตอ้ งวางตน ดังนี้ (๑) ไม่แสดงการต่อต้านด้านการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ หรือสนบั สนนุ ให้น�ำ การ ปกครองในระบอบอ่ืนที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาใช้ใน ประเทศไทย (๒) จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และไม่ละเมิดองค์ พระมหากษัตรยิ ์ พระราชินี และพระรชั ทายาทไม่ว่าทางกาย หรอื ทางวาจา ขอ้ ๑๒ ข้าราชการต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำ�รงตน รกั ษาชอ่ื เสยี งและภาพลกั ษณข์ องราชการโดยรวม โดยอยา่ งนอ้ ยตอ้ งวางตน ดงั น้ี (๑) ไมล่ ะเมดิ หลกั ส�ำ คญั ทางศลี ธรรม ศาสนา และประเพณี ในกรณีท่ีมีข้อขัดแย้งระหว่างประมวลจริยธรรมน้ีกับหลักสำ�คัญทาง ศลี ธรรม ศาสนา หรอื ประเพณี ข้าราชการต้องเสนอเรอื่ งให้คณะกรรมการ จรยิ ธรรมพจิ ารณาวินิจฉยั (๒) หัวหน้าส่วนราชการและผู้บังคับบัญชาในส่วน ราชการทุกระดับช้ันต้องปกครองผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาด้วยความเท่ียงธรรม โดยไม่เห็นแกค่ วามสมั พนั ธห์ รือบญุ คณุ สว่ นตัว และควบคุมใหผ้ ู้อยูใ่ ตบ้ ังคบั บัญชาปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรมโดยเคร่งครดั (๓) หัวหน้าส่วนราชการและผู้บังคับบัญชาในส่วน ราชการทกุ ระดบั ชน้ั ตอ้ งสนบั สนนุ สง่ เสรมิ และยกยอ่ งผอู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาทม่ี ี ความซื่อสัตย์ มีผลงานดีเด่น มีความรู้ความสามารถ และขยันขันแข็ง ไม่เลือกทร่ี ักมกั ที่ชงั และยดึ ม่ันในระบบคุณธรรม 11
(๔) ไม่กระทำ�การใดอันอาจนำ�ความเสื่อมเสียและไม่ไว้ วางใจใหเ้ กดิ แกส่ ว่ นราชการหรือราชการโดยรวม 12
หมวด ๓ กลไกและระบบการบงั คบั ใช้ประมวลจริยธรรม ---------------------------------- สว่ นที่ ๑ องคก์ รคมุ้ ครองจรยิ ธรรม --------------------------------- ข้อ ๑๓ ก.พ. มีหน้าที่ควบคุมกำ�กับให้มีการปฏิบัติตาม ประมวลจริยธรรมอย่างทว่ั ถึงและจรงิ จัง โดยมีอ�ำ นาจหน้าท่ี ดังนี้ (๑) วางระเบียบเพ่ือกำ�หนดการทั้งหลายอันจำ�เป็นแก่ การใชบ้ งั คับประมวลจริยธรรม (๒) คมุ้ ครองและประกนั ความเปน็ อสิ ระและเทย่ี งธรรมของ คณะกรรมการจริยธรรมและกล่มุ งานค้มุ ครองจรยิ ธรรม (๓) คุ้มครองขา้ ราชการซึง่ ปฏิบัติตามประมวลจรยิ ธรรมนี้ อย่างตรงไปตรงมามิให้ผู้บังคับบัญชาใช้อำ�นาจโดยไม่เป็นธรรมต่อ ขา้ ราชการผนู้ ั้น (๔) เผยแพร่และปลูกฝังจริยธรรมให้เป็นที่รับทราบอย่าง กว้างขวางทง้ั ในหมู่ขา้ ราชการและประชาชน (๕) ส่งเสริมและยกย่องส่วนราชการ หวั หน้าส่วนราชการ ผู้บังคับบญั ชา และขา้ ราชการท่ีปฏิบตั ติ ามประมวลจริยธรรมอย่างแท้จริง (๖) ติดตาม สอดส่องการใช้บังคับ และการปฏิบัติตาม ประมวลจรยิ ธรรมน้ี ในกรณมี กี ารฝา่ ฝนื จรยิ ธรรมและยงั ไมม่ กี ารด�ำ เนนิ การใด ก.พ. อาจมีมติให้หัวหน้าส่วนราชการของข้าราชการผู้ฝ่าฝืนปฏิบัติตาม ประมวลจริยธรรมได้ 13
(๗) ประสานงานกับผ้ตู รวจการแผ่นดนิ เพ่ือใหก้ ารปฏิบตั ิ ตามค่านิยมหลกั ส�ำ หรบั ผ้ดู ำ�รงต�ำ แหนง่ ทางการเมือง และเจา้ หนา้ ที่ของรัฐ ตลอดจนประมวลจริยธรรมน้ีมีผลใช้บงั คับอย่างจริงจงั มปี ระสิทธภิ าพและ ท่ัวถงึ (๘) ประเมินผลการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้ ของ หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการจริยธรรม และข้าราชการทั้งปวงและ จดั ท�ำ รายงานประจ�ำ ปเี สนอคณะรฐั มนตรี และผตู้ รวจการแผน่ ดนิ แลว้ เผยแพร่ ให้ประชาชนทราบ (๙) ตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกิดจากประมวล จริยธรรมนี้ (๑๐) ประมวลการตีความและวินิจฉัยปัญหาอันเกิดจาก การใช้บงั คบั ประมวลจริยธรรมนที้ กุ ปี และเผยแพรใ่ หข้ า้ ราชการทราบเพ่ือ ยึดถอื และเป็นแนวทางปฏบิ ตั ิต่อไป (๑๑) ทบทวนวา่ สมควรแก้ไขเพม่ิ เตมิ ประมวลจริยธรรมน้ี หรือไม่ทกุ ส่ีปี (๑๒) ดำ�เนินการอื่นตามประมวลจริยธรรมนี้ หรือตามที่ จะตกลงกบั ผู้ตรวจการแผน่ ดิน ข้อ ๑๔ ให้ ก.พ. โดยข้อเสนอของหัวหน้าส่วนราชการ แต่งต้งั คณะกรรมการจริยธรรมประจำ�สว่ นราชการข้ึน เพือ่ ควบคมุ กำ�กับ ใหม้ กี ารปฏบิ ัติตามประมวลจริยธรรมน้ี คณะกรรมการจริยธรรมประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการ ซงึ่ หัวหน้าส่วนราชการเสนอจาก ผูท้ รงคุณวฒุ ิภายนอกผมู้ คี วามซื่อสัตยเ์ ปน็ ประจกั ษโ์ ดยได้รับความเห็นชอบ จาก ก.พ. 14
(๒) กรรมการผดู้ �ำ รงต�ำ แหนง่ ประเภทบรหิ ารหรอื ประเภท อ�ำ นวยการเลอื กกนั เองให้เหลือสองคน (๓) กรรมการสองคน ซ่งึ เปน็ ขา้ ราชการในส่วนราชการท่ี ไดร้ บั คดั เลอื กจากขา้ ราชการ พนกั งานราชการและลกู จา้ งของสว่ นราชการนน้ั ตามวธิ กี ารด�ำ เนินการทแ่ี ตล่ ะสว่ นราชการเหน็ สมควร (๔) กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ภิ ายนอกสองคน ซง่ึ หวั หนา้ สว่ น ราชการและรองหวั หน้าสว่ นราชการร่วมกันเสนอ ให้หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมเป็นเลขานุการ คณะกรรมการจริยธรรม กรรมการจริยธรรมต้องไม่เคยถกู ลงโทษทางวนิ ัย และเป็น ผ้มู ีเกียรติ เปน็ ท่ยี อมรบั ของส่วนราชการน้นั ข้อ ๑๕ คณะกรรมการจริยธรรมมีอำ�นาจหน้าที่ ดงั นี้ (๑) ควบคมุ ก�ำ กบั สง่ เสรมิ และใหค้ �ำ แนะน�ำ ในการใชบ้ งั คบั ประมวลจรยิ ธรรมนใ้ี นส่วนราชการ (๒) สอดส่องดูแลให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม ในสว่ นราชการ ในกรณที ม่ี ขี อ้ สงสยั หรอื มขี อ้ รอ้ งเรยี นวา่ มกี ารฝา่ ฝนื จรยิ ธรรม ใหส้ ่งเรื่องให้หัวหนา้ ส่วนราชการเพอ่ื ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรมนี้โดยเร็ว (๓) พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกิดจากการใช้บังคับ ประมวลจรยิ ธรรมนใ้ี นสว่ นราชการ เมอ่ื ไดว้ นิ จิ ฉยั แลว้ ใหส้ ง่ ค�ำ วนิ จิ ฉยั ให้ ก.พ. โดยพลนั ถา้ ก.พ. มิไดว้ ินิจฉัยเป็นอยา่ งอน่ื ภายในหกสิบวนั นับแต่วนั ที่ ก.พ. รบั เรื่อง ใหค้ �ำ วินิจฉยั ของคณะกรรมการจรยิ ธรรมเปน็ ท่สี ดุ (๔) ส่งเร่ืองให้ ก.พ. พจิ ารณาวินิจฉัยในกรณที เ่ี ห็นวา่ เรอ่ื ง นน้ั เปน็ เรอ่ื งส�ำ คญั หรอื มผี ลกระทบในวงกวา้ งหลายสว่ นราชการ และยงั ไมม่ ี คำ�วินิจฉยั ของ ก.พ. หรอื ผตู้ รวจการแผน่ ดิน 15
(๕) คุ้มครองและประกันความเป็นอิสระและเที่ยงธรรม ของกลุ่มงานคุ้มครองจรยิ ธรรมของสว่ นราชการ (๖) คุ้มครองข้าราชการซึง่ ปฏิบตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี อยา่ งตรงไปตรงมา มใิ หผ้ บู้ งั คบั บญั ชาใชอ้ �ำ นาจโดยไมเ่ ปน็ ธรรมตอ่ ขา้ ราชการ ผู้นั้น (๗) เสนอผลการประเมนิ การปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี ของหัวหน้าส่วนราชการต่อ ก.พ. และประเมินผลการปฏิบัติงานของกลุ่ม งานคุ้มครองจริยธรรมของส่วนราชการเพ่ือเสนอหัวหน้าส่วนราชการเพื่อ ประกอบการเลอื่ นเงินเดือน หรอื เลื่อนตำ�แหนง่ ขา้ ราชการในกล่มุ (๘) เสนอแนะการแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลจริยธรรมนี้ หรอื การอืน่ ที่เหน็ สมควรต่อ ก.พ. (๙) ด�ำ เนนิ การอน่ื ตามประมวลจรยิ ธรรมน้ี หรอื ตามท่ี ก.พ. มอบหมาย การประชุมคณะกรรมการจริยธรรมให้นำ�กฎหมายว่าด้วย วธิ ีปฏบิ ตั ิราชการทางปกครองมาใชบ้ งั คบั ข้อ ๑๖ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารส่วนราชการ ตง้ั แตผ่ ดู้ �ำ รงต�ำ แหนง่ ประเภทบรหิ าร ประเภทอ�ำ นวยการ หรอื ด�ำ รงต�ำ แหนง่ ประเภทอื่นท่ีทำ�หน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ปฏิบัติตามประมวล จรยิ ธรรมน้ี และประพฤตติ นใหเ้ ปน็ แบบอยา่ งทด่ี แี กผ่ ใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาควบคมุ ให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่มีความซื่อสัตย์ มีผลงานและความรู้ความสามารถ และปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรมนี้ โดยใหม้ อี �ำ นาจหน้าที่ ดงั ต่อไปนี้ (๑) คุ้มครองและประกันความเป็นอิสระและเท่ียงธรรม ของกลุม่ งานคุ้มครองจริยธรรมของส่วนราชการ 16
(๒) คุม้ ครองขา้ ราชการซง่ึ ปฏิบัตติ ามประมวลจรยิ ธรรมนี้ อย่างตรงไปตรงมา มิให้ถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกใช้อำ�นาจโดยไม่เป็นธรรม ในกรณที ห่ี วั หนา้ สว่ นราชการ ผบู้ รหิ ารสว่ นราชการตง้ั แตป่ ระเภทอ�ำ นวยการ ขน้ึ ไป ถกู ขา้ ราชการผใู้ ดกลา่ วหาวา่ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี ขา้ ราชการ ผู้ถูกกล่าวหานั้นไม่อาจดำ�เนินการเกี่ยวกับการออกคำ�สั่งแต่งตั้ง โยกย้าย เลือ่ นเงนิ เดอื น แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเทจ็ จรงิ หรือคณะกรรมการ สอบสวนทางวินัย หรือการดำ�เนินการใดที่เป็นผลร้ายหรือกระทบต่อสิทธิ หนา้ ทข่ี องขา้ ราชการผกู้ ลา่ วหานน้ั จะกระท�ำ มไิ ดเ้ วน้ แตจ่ ะไดร้ บั ความเหน็ ชอบ จากคณะกรรมการจรยิ ธรรมประจำ�ส่วนราชการแล้ว (๓) ส่งเสริมและเผยแพร่การปฏิบัติตามประมวล จริยธรรมนีอ้ ยา่ งสมำ่�เสมอ (๔) ติดตามสอดส่องให้ข้าราชการในส่วนราชการปฏิบัติ ตามประมวลจริยธรรมนีอ้ ย่างเครง่ ครดั (๕) ปฏบิ ตั ติ ามมตหิ รอื ค�ำ วนิ จิ ฉยั ก.พ. หรอื คณะกรรมการ จรยิ ธรรม ค�ำ แนะน�ำ ของผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ในกรณที ค่ี ณะกรรมการจรยิ ธรรม มีคำ�วินิจฉัยใด และหัวหน้าส่วนราชการไม่เห็นพ้องด้วยกับคำ�วินิจฉัยนั้น ให้เสนอความเห็นของตนและคำ�วินิจฉัยของคณะกรรมการจริยธรรมไปให้ ก.พ. วนิ จิ ฉยั ได้ เวน้ แตก่ รณนี น้ั มคี �ำ วนิ จิ ฉยั ของผตู้ รวจการแผน่ ดนิ หรอื ก.พ. วินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดไว้แล้ว (๖) รวบรวมปัญหาการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมน้ี และข้อเสนอแนะในการปรับปรุงประมวลจริยธรรมนี้ หรือการอื่นตามที่ เหน็ สมควรเสนอต่อ ก.พ. (๗) ดำ�เนินการอื่นตามประมวลจริยธรรมนี้ หรือตามที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรอื ก.พ. มอบหมาย 17
ข้อ ๑๗ ให้จัดต้ังกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมข้ึนในทุก สว่ นราชการข้นึ ตรงตอ่ หวั หน้าสว่ นราชการ มหี น้าทค่ี มุ้ ครองจริยธรรมตาม ประมวลจริยธรรมน้ี ซึ่งมีความเปน็ อสิ ระ โดยมขี ้าราชการซง่ึ ดำ�รงต�ำ แหน่ง ประเภทบรหิ ารระดบั ตน้ ขน้ึ ไปเปน็ หวั หนา้ กลมุ่ และมอี �ำ นาจหนา้ ทด่ี งั ตอ่ ไปน้ี (๑) ด�ำ เนนิ การเผยแพร่ ปลกู ฝงั สง่ เสรมิ ยกยอ่ งขา้ ราชการ ทเ่ี ปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี และตดิ ตาม สอดสอ่ งการปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี อยา่ งสม�่ำ เสมอ (๒) สืบสวนข้อเท็จจริงการฝ่าฝืนจริยธรรมเพ่อื รายงานผล ใหห้ วั หนา้ สว่ นราชการพจิ ารณา ทง้ั น้ี โดยอาจมผี รู้ อ้ งขอหรอื อาจด�ำ เนนิ การ ตามทห่ี วั หน้าส่วนราชการมอบหมาย หรือตามท่ีเหน็ สมควรกไ็ ด้ (๓) ให้ความช่วยเหลือและดูแลข้าราชการซึ่งปฏิบัติตาม ประมวลจริยธรรมนีอ้ ย่างตรงไปตรงมา มใิ ห้ถูกกลนั่ แกล้งหรือถูกใชอ้ ำ�นาจ โดยไม่เปน็ ธรรม ให้น�ำ ความในขอ้ ๑๖ (๒) มาใชก้ ับขา้ ราชการในกลมุ่ งาน ค้มุ ครองจริยธรรมดว้ ย โดยอนโุ ลม โดยให้ ก.พ. เป็นผใู้ หค้ วามเหน็ ชอบ (๔) ทำ�หน้าท่ีฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการจริยธรรม ประจำ�สว่ นราชการ (๕) ดำ�เนินการอ่ืนตามท่ีกำ�หนดในประมวลจริยธรรมน้ี หรอื ตามท่หี ัวหนา้ สว่ นราชการ คณะกรรมการจรยิ ธรรม หรือตามท่ี ก.พ. มอบหมาย ทั้งนี้ โดยไม่กระทบต่อความเป็นอิสระของผู้ดำ�รงตำ�แหน่งใน กลมุ่ งานดงั กล่าว 18
ส่วนที่ ๒ ระบบการบงั คบั ใชป้ ระมวลจรยิ ธรรม ----------------- ข้อ ๑๘ การฝ่าฝืนจริยธรรมตามความในหมวด ๒ ของ ประมวลจริยธรรมน้ีเป็นความผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ ระเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ ระเบยี บส�ำ นกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ย พนกั งานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ด้วยลูกจา้ ง ประจ�ำ ของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๓๗ แล้วแต่กรณี ข้อ ๑๙ เมื่อมีกรณีการฝ่าฝืนจริยธรรม ผู้บังคับบัญชา อาจสัง่ ลงโทษทางวนิ ัย วา่ กล่าวตกั เตือน ทำ�ทัณฑบ์ นเป็นหนังสือหรอื ส่ังให้ ได้รบั การพฒั นาตามทเ่ี ห็นสมควร ข้อ ๒๐ ใหห้ วั หน้าสว่ นราชการ คณะกรรมการจริยธรรม และ ก.พ. สง่ เสรมิ จรยิ ธรรมข้าราชการ โดยอย่างน้อยต้องดำ�เนินการ ดังน้ี (๑) ในการบรรจุแต่งต้ัง เล่ือนเงินเดอื น ย้ายหรอื ถอดถอน ข้าราชการให้ใช้พฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้นั้นพิจารณาควบคู่กับความรู้ ความสามารถ (๒) ปลกู ฝังจริยธรรมให้ขา้ ราชการใหม่ จดั ให้ขา้ ราชการ ลงลายมือชอื่ รับทราบประมวลจรยิ ธรรม จัดใหม้ สี มดุ บันทกึ ประวัตใิ นสว่ นที่ เกี่ยวกับจริยธรรมของข้าราชการแต่ละคน รวมทั้งจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริม จรยิ ธรรมผบู้ ริหาร และข้าราชการอย่างสม�ำ่ เสมอ (๓) ประเมินการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของ ข้าราชการ 19
(๔) คุ้มครองข้าราชการผู้ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้ อย่างเพียงพอ (๕) ยกย่องข้าราชการและส่วนราชการที่ถือปฏิบัติตาม ประมวลจรยิ ธรรมนโ้ี ดยเครง่ ครดั (๖) ตอบข้อสงสัยหรือคำ�ถามเก่ียวกับการปฏิบัติตาม ประมวลจรยิ ธรรมนี้ (๗) จัดให้มีการศึกษาค่านิยมที่เป็นอุปสรรคต่อการ ปฏิบตั ิตามประมวลจรยิ ธรรมน้ี และดำ�เนินการแกไ้ ขปรบั ปรุงค่านิยมน้นั (๘) เผยแพร่ให้ประชาชน ผู้เป็นคู่สมรส ญาติ พี่น้อง พรรคพวก เพอ่ื นฝงู ของขา้ ราชการตลอดจนประชาชนผมู้ าตดิ ตอ่ ราชการทราบ ประมวลจรยิ ธรรมของข้าราชการ เพื่อไม่ท�ำ การอนั เปน็ การสง่ เสริมหรือกอ่ ใหเ้ กดิ การฝา่ ฝนื จรยิ ธรรม (๙) จัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติตามประมวล จรยิ ธรรมน้ี ข้อ ๒๑ เมื่อมีปัญหาการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้ ในเร่ืองใด ขา้ ราชการอาจเสนอเรื่องท่เี ปน็ ปัญหาดังกล่าวให้หวั หนา้ กล่มุ งาน คุ้มครองจริยธรรมของส่วนราชการท่ีตนสังกัดนำ�เสนอเพื่อขอคำ�วินิจฉัย หรอื อนญุ าตแลว้ แตก่ รณจี ากคณะกรรมการจรยิ ธรรมได้ ในกรณเี รอ่ื งนน้ั เปน็ เรอ่ื งส�ำ คญั หรอื มผี ลกระทบในวงกวา้ งหลายสว่ นราชการ และยงั ไมม่ คี �ำ วนิ จิ ฉยั ของ ก.พ. หรอื ผ้ตู รวจการแผน่ ดนิ แล้วแตก่ รณคี ณะกรรมการจรยิ ธรรมอาจ ส่งเรื่องให้ ก.พ. วนิ ิจฉยั ในกรณที ่ี ก.พ. เหน็ วา่ เรอ่ื งดงั กลา่ วตามวรรคหนง่ึ เปน็ เรอ่ื ง สำ�คัญอันควรแก่การขอคำ�แนะนำ�จากผู้ตรวจการแผ่นดินก็ให้กระทำ�ได้ ข้าราชการที่ปฏิบัติตามคำ�วินิจฉัยของคณะกรรมการจริยธรรม ก.พ. หรือ ผู้ตรวจการแผน่ ดนิ ไมต่ ้องรับผดิ ทางวนิ ัย 20
ขอ้ ๒๒ ในกรณีท่ีจำ�เป็นต้องดำ�เนินการเร่ืองใดโดยด่วน หากปลอ่ ยใหเ้ นน่ิ ชา้ ไปจะกระทบตอ่ ประโยชนส์ ว่ นรวมหรอื ประโยชนข์ องทาง ราชการ และไมอ่ าจเรยี กประชุมคณะกรรมการจรยิ ธรรมไดท้ นั ข้าราชการ อาจขอคำ�แนะนำ�จากหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมของส่วนราชการท่ี ตนสงั กัด หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมตามวรรคหน่ึงมีหน้าท่ี ตอ้ งใหค้ �ำ แนะน�ำ ตามสมควรตามค�ำ วนิ จิ ฉยั ของคณะกรรมการจรยิ ธรรม ก.พ. หรอื ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ หากไมม่ คี �ำ วนิ จิ ฉยั ในเรอ่ื งปญั หามากอ่ น หวั หนา้ กลมุ่ งานคุ้มครองจริยธรรมอาจให้คำ�แนะนำ�โดยยึดประโยชน์สูงสุดของส่วนรวม เปน็ ส�ำ คญั ทง้ั ตอ้ งมงุ่ สรา้ งความส�ำ นกึ และเทย่ี งธรรมในหนา้ ทผ่ี ดงุ เกยี รตแิ ละ ศกั ดศ์ิ รขี องข้าราชการทส่ี รา้ งความไว้วางใจและเชอ่ื ม่ันของปวงชน และการ ด�ำ รงตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี งี าม ใหส้ ง่ เรอ่ื งใหค้ ณะกรรมการจรยิ ธรรมและ ก.พ. ทราบ ข้าราชการที่ปฏิบัติตามคำ�แนะนำ�ของหัวหน้ากลุ่มงาน คมุ้ ครองจรยิ ธรรมตามแนวทางทค่ี ณะกรรมการจรยิ ธรรม ก.พ. หรอื ผตู้ รวจการ แผน่ ดนิ เคยวนิ จิ ฉยั ไวแ้ ล้วโดยสุจริตไมต่ ้องรบั ผิดทางวนิ ยั 21
บทเฉพาะกาล ----------------- ขอ้ ๒๓ ให้ดำ�เนินการแต่งต้ังคณะกรรมการจริยธรรม และจดั ตง้ั กลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมในสว่ นราชการทกุ แหง่ ภายในเกา้ สบิ วนั นับแตว่ นั ท่ปี ระมวลจริยธรรมนี้มผี ลใช้บงั คับ ขอ้ ๒๔ เมื่อครบหนึ่งปีนับแต่วันที่ประมวลจริยธรรมน้ี มผี ลใชบ้ งั คบั ให้ ก.พ. จดั ใหม้ กี ารประเมนิ การปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมน้ี พร้อมดำ�เนินการปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติหรือแก้ไขเพิ่มเติมประมวล จริยธรรมใหเ้ หมาะสม ในการด�ำ เนนิ การตามวรรคหนง่ึ ให้ ก.พ. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ จากข้าราชการ หวั หน้ากลุ่มงานคมุ้ ครองจริยธรรม คณะกรรมการจริยธรรม หวั หนา้ สว่ นราชการ และผตู้ รวจการแผน่ ดนิ อยา่ งกวา้ งขวาง และตอ้ งด�ำ เนนิ การ ตามวรรคหน่ึงให้แล้วเสร็จภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่วันท่ีครบหน่ึงปี ของการใชบ้ ังคบั ประมวลจรยิ ธรรมน้ี ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๖ เดอื นกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ (นายอภิสทิ ธิ์ เวชชาชีวะ) นายกรฐั มนตรี ประธาน ก.พ. 22
ข้อบงั คบั กรมราชทณั ฑ์ วา่ ดว้ ยจรรยาขา้ ราชการราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ 23
ขอ้ บังคับกรมราชทณั ฑ์ ว่าด้วยจรรยาข้าราชการราชทณั ฑ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ -------------------- ตามพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๗๘ ข้าราชการพลเรือนสามัญต้องรกั ษาจรรยาข้าราชการตามท่สี ว่ น ราชการก�ำ หนดไวโ้ ดยมุ่งประสงคใ์ หเ้ ปน็ ข้าราชการทด่ี ี มีเกยี รติและศกั ด์ศิ รี ความเปน็ ขา้ ราชการ อาศยั อ�ำ นาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญตั ิ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราช บญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ.๒๕๔๕ กรมราชทณั ฑ์ จงึ ออกขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยจรรยาขา้ ราชการราชทณั ฑ์ เพอ่ื เปน็ หลกั ในการประพฤติ ปฏบิ ตั ติ นและสง่ เสรมิ ชอ่ื เสยี ง เกยี รตคิ ณุ อนั ยงั ผลใหผ้ ปู้ ระพฤตเิ ปน็ ทเ่ี ลอ่ื มใส ศรัทธาและได้รบั การยกย่องจากบคุ คลทัว่ ไป ไว้ดงั ต่อไปน้ี ๑. รักศกั ดศิ์ รีแหง่ ตนและเกยี รตภิ ูมิราชทณั ฑ์ ๒. ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ มุ่งผลสมั ฤทธข์ิ องงาน ๓. ยดึ มน่ั ในคณุ ธรรมดำ�เนนิ ชีวติ แบบพอเพียง ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๓๑ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๒ (นายนัทธี จิตสว่าง) อธบิ ดีกรมราชทัณฑ์ 24
ความหมายของค�ำ ตามจรรยาข้าราชการราชทัณฑ์ “จรรยา” หมายความว่า ความประพฤติ กิริยาที่ควร ประพฤติ ในหมคู่ ณะเชน่ จรรยาแพทย์ นยิ มใชใ้ นทางทด่ี ี ไมม่ จี รรยา หมายถงึ ไม่มีความประพฤตดิ ี ความประพฤติและการปฏบิ ตั ิท่ีถอื ว่า มคี วามถกู ต้อง, ดงี าม, ควรทำ�ตามหลกั จรยิ ธรรมของกลุม่ บุคคลในอาชพี หนง่ึ ๆ เชน่ จรรยา ขา้ ราชการราชทณั ฑ์ และอาจก�ำ หนดอยา่ งชดั เจน เป็นขอ้ ๆ “จรรยาบรรณ” หมายความวา่ ประมวลความประพฤติ ที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกำ�หนดขึ้น เพื่อรักษาและส่งเสริม เกียรติคุณช่ือเสียงและฐานะของสมาชิกอาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือ ไมก่ ็ได้ “เกยี รตภิ ูมิ” หมายความวา่ มีความรักและความภูมใิ จใน การเป็นข้าราชการราชทัณฑ์ที่ดี มีความสามัคคีในองค์กรและสร้างความ เช่อื ม่ันให้สังคมภายนอกยอมรับในงานราชทณั ฑ์ “ซื่อสัตย์” หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ เทย่ี งตรง เปน็ ธรรม ไมค่ ดโกง หลอกลวงหรอื ท�ำ ใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจผดิ แนะน�ำ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่ือสัตย์ตรงไปตรงมา “ผลสมั ฤทธิ”์ หมายความวา่ ปฏิบัติหน้าทอี่ ยา่ งเตม็ ความ สามารถ เสียสละและอทุ ิศเวลาพร้อมท้งั แรงกาย แรงใจใหก้ ับทางราชการ จนเกิดผลสำ�เร็จทำ�งานให้แล้วเสร็จตามกำ�หนดเกิดผลดี โดยคำ�นึงถึงผล ประโยชนข์ องทางราชการเป็นส�ำ คญั “คุณธรรม” หมายความว่า สิ่งที่บุคคลเห็นว่าเป็นความ ดีงาม มีประโยชน์ยึดในความถูกต้องดีงาม เช่นความเอื้อเฟื้อ ความอดทน ความซอื่ สตั ย์ ความขยันหม่ันเพียร ความรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี การมรี ะเบียบ วนิ ัย เปน็ ต้น 25
“จรรยาข้าราชการกรมราชทณั ฑ์” หมายความว่า ความ ประพฤติ กริ ยิ าทค่ี วรประพฤตขิ องขา้ ราชการราชทณั ฑแ์ ละตอ้ งยดึ ถอื ปฏบิ ตั ิ ในการดำ�รงตนใหเ้ หมาะสม “ความพอเพียง” หมายความว่า รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอ ประมาณ มรี ายไดเ้ พียงพอกับรายจ่าย พ่ึงตนเองไดแ้ ละพอใจในสงิ่ ทต่ี นเอง มีอยู่ “รักศักด์ิศร”ี หมายความว่า รกั ในเกียรติศกั ด์ขิ องตนเอง กระท�ำ ในสงิ่ ที่ถูกตอ้ งไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไมเ่ บียดเบยี นผอู้ น่ื หลกี เลี่ยง อบายมขุ และสิง่ เสพตดิ ประพฤตติ นอยใู่ นระเบยี บวินัย พฒั นาตนเองให้มี คุณธรรมและศีลธรรมอนั ดงี าม เปน็ แบบอย่างทด่ี ีของขา้ ราชการ “จรยิ ธรรม” หมายความวา่ ธรรมทเ่ี ปน็ ขอ้ ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ศีลธรรม กฎศลี ธรรม เปน็ ระบบของการกระทำ�ความดีละเว้นความชว่ั อนั เปน็ พฤตกิ รรมของบุคคลผูก้ ระท�ำ “ขอ้ บงั คบั วา่ ดว้ ยจรรยาขา้ ราชการ” หมายความวา่ การใช้ อำ�นาจส่ังให้ท�ำ หรือปฏบิ ตั ิ ให้จำ�ต้องท�ำ โดยให้ขา้ ราชการต้องยดึ ถือปฏบิ ัติ ตามจรรยา ซ่งึ เป็นขอ้ บังคบั ตามท่ที างราชการไดก้ ำ�หนดไว้ 26
จุดมงุ่ หมายในการรักษาจรรยาข้าราชการราชทณั ฑ์ ๑. เพอ่ื เสรมิ สรา้ งชอ่ื เสยี ง สรา้ งความเลอ่ื มใส ศรทั ธา และ การยอมรับของสังคมที่มตี ่อกรมราชทัณฑ์ ๒. เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความรบั ผดิ ชอบของขา้ ราชการราชทณั ฑ์ ทม่ี ตี ่อหนว่ ยงานและสังคม ๓. เพื่อให้ข้าราชการราชทัณฑ์มีความสำ�นึกในหน้าท่ี มคี วามประพฤติดี และภาคภมู ใิ จในวชิ าชพี ราชทณั ฑ์ ๔. เพื่อเป็นเครื่องมือในการควบคุมความประพฤติ ของ ข้าราชการราชทัณฑ์ ๕. เพอ่ื ปอ้ งกนั การทจุ รติ และประพฤตมิ ชิ อบ ของขา้ ราชการ ราชทณั ฑ์ ๖. เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ ของ ข้าราชการราชทัณฑ์และเกิดผลสมั ฤทธใิ์ นการปฏบิ ตั ิงาน ๗. เพื่อให้ข้าราชการราชทัณฑเ์ ป็นข้าราชการทดี่ ี มีเกยี รติ และศกั ด์ิศรเี หมาะสมกบั ความเป็นขา้ ราชการ 27
ขอ้ บังคบั วา่ ด้วยจรรยาข้าราชการราชทัณฑ์ข้อที่ ๑ ขอ้ กำ�หนด ขอ้ ที่ ๑. รกั ศักดิศ์ รีแห่งตนและเกียรติภมู ริ าชทัณฑ์ สาระส�ำ คญั ข้าราชการราชทัณฑ์ต้องทำ�ตนเองให้มีศักด์ิศรีแห่งตน มคี วามภมู ใิ จในวชิ าชพี ไมก่ ระท�ำ สง่ิ ใดใหต้ นเองและองคก์ รเสอ่ื มเสยี ศกั ดศ์ิ รี และเกยี รตภิ มู ิ แนวทางปฏบิ ตั ิ ๑.๑ รักศักดิ์ศรีแห่งตน หมายความว่า กระทำ�ในสิ่งที่ ถูกต้อง ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หลีกเลี่ยงอบายมุขและ ส่งิ เสพติด ประพฤติตนอยใู่ นระเบยี บวนิ ยั เปน็ ผตู้ รงตอ่ เวลา ใชเ้ วลาราชการ ใหเ้ ปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งรวดเรว็ ขยนั หมน่ั เพยี ร รอบรรู้ อบคอบ ถกู ตอ้ งสมเหตุ สมผล พัฒนาตนเองให้มีคุณธรรมจริยธรรม และศีลธรรมอันดีงาม เป็น แบบอยา่ งท่ีดขี องขา้ ราชการ ๑.๒ รักเกยี รตภิ ูมิของราชทณั ฑ์ หมายความวา่ มคี วาม รักและภูมิใจในการเป็นข้าราชการราชทัณฑ์ สร้างความสามัคคีในองค์กร สร้างความเชอื่ มน่ั ใหส้ งั คมภายนอกยอมรับในงานราชทณั ฑ์ 28
ข้อบังคับวา่ ด้วยจรรยาข้าราชการราชทัณฑข์ อ้ ที่ ๒ ข้อก�ำ หนด ข้อท่ี ๒. ซอ่ื สัตยส์ จุ ริตมุ่งผลสมั ฤทธ์ิของงาน สาระส�ำ คัญ ขา้ ราชการราชทณั ฑต์ อ้ งเปน็ ผมู้ คี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ตรงไป ตรงมา มกี ารท�ำ งานอย่างโปร่งใส พร้อมรบั การตรวจสอบ พรอ้ มยอมรบั ผดิ ในผลงานที่กระทำ� เป็นผู้มีความรับผิดชอบทำ�งานด้วยความตั้งใจที่จะให้ เกิดผลสำ�เร็จตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลอย่าง คุ้มคา่ แนวทางปฏิบัติ ๒.๑ ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต หมายความวา่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องตน ด้วยความเท่ียงตรงเท่ียงธรรม แยกเรอื่ งส่วนตัวออกจากหน้าทกี่ ารงาน ไม่ เรยี กรบั ผลประโยชนใ์ ดๆ จากญาตผิ ตู้ อ้ งขงั หรอื ผมู้ าตดิ ตอ่ ราชการ ไมค่ ดโกง หลอกลวงหรอื ท�ำ ใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจผดิ ใหค้ �ำ ปรกึ ษาแนะน�ำ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื สตั ย์ ตรงไปตรงมา ๒.๒ โปร่งใสตรวจสอบได้ หมายความวา่ การปรบั ปรุง กลไกการทำ�งานขององค์กรให้มีความโปร่งใสปฏิบัติงานตามขั้นตอน มขี อ้ มลู รายละเอยี ดและหลกั ฐานทส่ี ามารถตรวจสอบได้ มกี ารตง้ั คณะท�ำ งาน หรอื คณะกรรมการจะท�ำ ใหเ้ กดิ การตรวจสอบกันเองได้ดี 29
๒.๓ ความรบั ผดิ ชอบ หมายความว่า การรับผดิ ชอบต่อ ประชาชน ต่อผลการปฏิบัติงานขององคก์ ร การปฏิบัตหิ นา้ ทีอ่ ยา่ งเต็มความ สามารถ เสียสละและอุทิศเวลา พร้อมแรงกาย แรงใจให้กับราชการโดย ค�ำ นงึ ถงึ ผลประโยชนข์ องทางราชการเปน็ ส�ำ คัญ มีความมงุ่ มัน่ ตัง้ ใจ ขยนั หม่ันเพียรและทุ่มเทให้กับงานที่รับผิดชอบเพ่ือให้ราชการได้รับประโยชน์ สูงสดุ ๒.๔ ประสิทธภิ าพและประสิทธิผล หมายความว่า มงุ่ ท�ำ งานใหเ้ กิดผลงาน ทำ�งานใหแ้ ลว้ เสรจ็ ตามก�ำ หนด เกิดผลดีตอ่ หน่วยงาน และส่วนรวมเน้นการทำ�งานโดยยึดผลลัพธ์เป็นหลักโดยไม่คำ�นึงถึงอุปสรรค และขน้ั ตอนทย่ี งุ่ ยาก ไมท่ อ้ แทใ้ นการท�ำ งาน วางแผนท�ำ งานอยา่ งมเี ปา้ หมาย ชดั เจน ใช้ทรพั ยากรและงบประมาณอย่างค้มุ ค่า ๒.๕ พฒั นาตนเอง หมายความว่า หม่นั ศึกษาหาความรู้ ในการพฒั นาตนเองอยูเ่ สมอ มคี วามคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ น�ำ ความรู้ใหมไ่ ปใช้ พฒั นางาน ปรบั ปรงุ วธิ กี ารท�ำ งานของตน ๒.๖ เต็มใจบริการ หมายความว่า การแสดงออกถึง ความเปน็ มติ ร ยมิ้ แย้มแจ่มใส มีมนษุ ยส์ ัมพันธ์ โอบออ้ มอารี มีวาจาไพเราะ เอาใจใส่ผู้รับบริการให้บริการอย่างเต็มใจจริงใจ ด้วยความเสมอภาค เน้น ความสะดวก รวดเร็ว ประหยดั ถูกตอ้ ง ไม่เลอื กปฏบิ ัติ ใชว้ าจาสุภาพ ใหค้ ำ� แนะนำ� ชว่ ยแกป้ ญั หาไมเ่ รยี กร้องผลประโยชน์ใดๆ จากผู้รับบริการ 30
ข้อบงั คับว่าด้วยจรรยาขา้ ราชการราชทัณฑ์ขอ้ ท่ี ๓ ข้อก�ำ หนด ข้อท่ี ๓. ยดึ ม่ันในคณุ ธรรม ด�ำ เนินชีวิตแบบพอเพียง สาระส�ำ คญั ข้าราชการราชทัณฑ์ต้องมีจิตสำ�นึกที่ดี ยึดมั่นในความ ถูกต้องดีงาม โดยปฏิบัติตามหลักคำ�สอนของศาสนาอย่างเคร่งครัด และ นำ�คุณธรรมน้ันมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนต่อผู้ร่วมงานและผู้ต้องขัง รวมทั้งการดำ�เนินชีวิตอยู่บนเส้นทางสายกลางโดยยึดหลักความมีเหตุผล ความพอประมาณ และการมีภมู คิ ุ้มกนั ตามแบบหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง แนวทางปฏบิ ัติ ๓.๑ มีจติ สำ�นกึ ทดี่ ี หมายความว่า ปฏบิ ัติตนตามความ เชื่อทางศาสนาทต่ี นยดึ ถืออยา่ งเคร่งครดั รับรคู้ วามแตกต่างระหวา่ งบุคคล และคณุ คา่ ความดขี องบคุ คล มคี วามอดทนอดกลน้ั ตอ่ กเิ ลสทง้ั ปวง ยดึ มน่ั ใน หลกั ความถูกต้องเทยี่ งธรรม สรา้ งความเช่อื มนั่ ศรทั ธาแก่ผู้ร่วมงานผ้ตู อ้ งขัง และประชาชนโดยทั่วไป ยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม การปฏิบัติหน้าที่ให้ ถกู ตอ้ งชอบธรรมไมท่ �ำ ผดิ ระเบยี บ กฎหมาย แมผ้ บู้ งั คบั บญั ชาจะสง่ั ใหท้ �ำ ใน ส่งิ ทีไ่ ม่ถูกต้องก็กลา้ ท่ีจะคัดคา้ นตามกระบวนการ ๓.๒ การปฏิบัตติ นต่อผ้รู ่วมงาน หมายความว่า ปฏบิ ัติ หนา้ ทโ่ี ดยยดึ หลกั ความเปน็ ธรรมความเสมอภาค ไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ ไมก่ ลน่ั แกลง้ รังแก หรอื เบยี ดเบยี นผู้รว่ มงานใหไ้ ด้รับความเดอื ดร้อนดว้ ยกาย วาจา ใจ 31
๓.๓ การปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง หมายความว่า การดูแล เอาใจใส่ ชว่ ยเหลือเกือ้ กลู ในทางท่ีชอบท่ีเหมาะสม โดยใชห้ ลักเมตตาธรรม และเสมอภาคมที ศั นคตทิ ด่ี ตี อ่ ผตู้ อ้ งขงั วา่ เปน็ ผทู้ ม่ี คี วามบกพรอ่ ง ตอ้ งชว่ ยเหลอื แกไ้ ข พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของผตู้ อ้ งขงั ทง้ั ทางดา้ นอาหาร ทอ่ี ยอู่ าศยั การงาน การสัมมนา การกีฬา การอนามัย และสขุ าภบิ าล ๓.๔ ความมเี หตผุ ล หมายความวา่ การตดั สนิ ใจด�ำ เนนิ งาน เรื่องต่างๆ อย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการ หลักกฎหมาย หลักศีลธรรม จรยิ ธรรม และวฒั นธรรมทด่ี งี าม คดิ ถงึ ปจั จยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งถถ่ี ว้ นโดยค�ำ นงึ ถงึ ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากการกระทำ�นั้นๆ อย่างรอบคอบและระมัดระวัง การพจิ ารณาจัดการกับต้นเหตุเพื่อใหเ้ กดิ ผลทตี่ อ้ งการ ๓.๕ ความพอประมาณ หมายความวา่ การปฏบิ ตั ติ นตาม สมควรแก่ฐานะไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป ใช้ตามความจำ�เป็น หรือพึง พอใจในสิง่ ที่ตนมอี ยู่ มีความพอดีตอ่ ความจ�ำ เป็นเหมาะสมกับฐานะของตน และตอ้ งไม่เบียดเบยี นตนเองและผูอ้ ืน่ ๓.๖ การมีภูมิคมุ้ กนั หมายความวา่ การพง่ึ ตนเอง การ ประหยัด และอดออมมีความขยันหมน่ั เพยี ร 32
ประกาศกรมราชทณั ฑ์ มาตรฐานทางคุณธรรม และจรยิ ธรรมของเจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ 33
ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรอื่ ง มาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม ของเจ้าหน้าทก่ี รมราชทณั ฑ์ ดว้ ยรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ มาตรา ๗๘ รัฐต้องดำ�เนินการตามแนวนโยบายด้านการบริหารราชการ ดงั ต่อไปน้ี พัฒนาระบบงานภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพ คณุ ธรรม และจรยิ ธรรมของเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ควบคไู่ ปกบั การปรบั ปรงุ รปู แบบ และวธิ กี ารท�ำ งาน เพอ่ื ใหก้ ารบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐใช้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี เปน็ แนวทางในการปฏบิ ัติราชการ อาศยั อ�ำ นาจตามความในมาตรา ๒๑ แหง่ พระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔ กรมราชทัณฑ์ กระทรวง ยตุ ิธรรม จงึ ออกประกาศกรมราชทัณฑ์ เร่ือง มาตรฐานทางคุณธรรมและ จรยิ ธรรมของเจา้ หนา้ ท่ีกรมราชทัณฑไ์ ว้ ดังต่อไปนี้ ๑. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ และ อดทน ๒. รักษาช่ือเสียงเกยี รติภูมิของตนเองและองคก์ ร ๓. ยึดหลักความยุติธรรมและความเสมอภาคต่อบุคคล ท้งั ภายในและภายนอกองค์กร ๔. ด�ำ เนนิ ชวี ติ แบบพอเพยี งและปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ ง ท่ีดี 34
๕. พัฒนาสมรรถนะเพื่อการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความ เปน็ เลศิ ๖. ทำ�งานเปน็ ทมี ให้มปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล ๗. ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โปร่งใสและ ตรวจสอบได้ ๘. ย้มิ แยม้ แจ่มใสเต็มใจบรกิ าร ทั้งน้ี นอกจากปฏิบตั ติ ามประกาศมาตรฐานทางคุณธรรม และจริยธรรมของข้าราชการและลูกจ้างตามข้อ ๑ – ๘ แล้วจะต้อง ปฏิบัติตามประกาศกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยจรรยาบรรณของข้าราชการ กรมราชทณั ฑ์ พร้อมข้อบงั คบั ก.พ. วา่ ด้วย จรรยาบรรณของขา้ ราชการ พลเรือน พ.ศ.๒๕๓๗ ดว้ ย ประกาศ ณ วันที่ ๖ กนั ยายน ๒๕๕๐ (นายนัทธี จติ สวา่ ง) อธิบดกี รมราชทัณฑ์ 35
ที่ ยธ ๐๗๑๔/ กรมราชทณั ฑ์ ๒๒๒ ถนนนนทบรุ ี ๑ ตำ�บลสวนใหญ่ อำ�เภอเมอื ง จงั หวัดนนทบรุ ี ๑๑๐๐๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๖ เร่อื ง ประกาศหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการรับเรอ่ื งและพจิ ารณาการรอ้ งเรยี นกลา่ วหา การณขี ้าราชการฝา่ ฝืนประมวลจรยิ ธรรม เรยี น ผูว้ า่ ราชการจงั หวัด ผู้บญั ชาการเรอื นจ�ำ ผอู้ ำ�นวยการทัณฑสถาน สถานกักกัน และสถานกกั ขงั สิ่งที่สง่ มาด้วย ส�ำ เนาประกาศกรมราชทณั ฑ์ เรื่อง ประกาศหลักเกณฑ์และแนวทางปฏบิ ัติเกีย่ วกบั การ รบั เร่ืองและพจิ ารณาการร้องเรยี นกล่าวหากรณีขา้ ราชการฝ่าฝนื ประมวลจรยิ ธรรม จำ�นวน ๑ ฉบบั ตามทป่ี ระมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื น ขอ้ ๑๗ (๒) ก�ำ หนดใหก้ ลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรม มีอำ�นาจหนา้ ท่คี ุ้มครองข้าราชการ ซึง่ ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรมอย่างตรงไปตรงมา และสืบสวนขอ้ เท็จจรงิ การฝา่ ฝืนจรยิ ธรรมเพอ่ื รายงานผลให้หวั หนา้ ส่วนราชการพจิ ารณา น้ัน เพื่อให้การดำ�เนินการคุ้มครองข้าราชการและการดำ�เนินการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณขี ้าราชการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมเปน็ ไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ กรมราชทัณฑ์จงึ มปี ระกาศกรมราชทณั ฑ์ เรื่อง ประกาศหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับเรื่องและพิจารณาการร้องเรียนกล่าวหา กรณขี า้ ราชการฝ่าฝนื ประมวลจรยิ ธรรม รายละเอยี ดปรากฎตามเอกสารท่ีส่งมาพร้อมนี้ จงึ เรียนมาเพอื่ ทราบ และแจง้ ให้ขา้ ราชการในสงั กัดทราบโดยทัว่ กัน ขอแสดงความนบั ถอื พันตำ�รวจเอก (สุชาติ วงศ์อนันตช์ ัย) อธิบดีกรมราชทณั ฑ์ กลุม่ งานคมุ้ ครองจริยธรรมกรมราชทณั ฑ์ โทร.๐ ๒๙๖๗ ๒๒๒๒ ต่อ ๓๒๐ โทรสาร ๐ ๒๙๖๗ ๖๐๑๗ 36
ประกาศกรมราชทณั ฑ์ ว่าด้วย หลกั เกณฑ์และแนวทางปฏบิ ตั ิเก่ียวกบั การรบั เรือ่ งและพิจารณาการรอ้ งเรยี นกล่าวหา กรณีข้าราชการฝา่ ฝืนประมวลจรยิ ธรรม -------------------------------------- เพื่อให้การดำ�เนินการคุ้มครองข้าราชการและการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการฝ่าฝืน ประมวลจรยิ ธรรมเป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ จงึ อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา ๗๙ แห่งพระราชบญั ญตั ิ ระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ และประกอบข้อ ขอ้ ๑๕ (๑) และขอ้ ๑๗ (๒) ของประมวลจริยธรรม กรมราชทณั ฑ์ โดยมตขิ องคณะกรรมการกลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมกรมราชทณั ฑ์ ในคราวประชมุ ครง้ั ท่ี ๑/๒๕๕๖ เมอื่ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ จงึ ก�ำ หนดหลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัตเิ ก่ียวกบั การรบั เร่อื ง และพิจารณารอ้ งเรียนกล่าวหาและด�ำ เนนิ การกรณขี า้ ราชการฝ่าฝนื ประมวลจรยิ ธรรม ดังน้ี ๑. เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยว่าข้าราชการฝ่าฝืนจริยธรรม ให้ถือเป็นความลับ ทางราชการ หากเปน็ บตั รสนเทห่ ใ์ หพ้ จิ ารณาเฉพาะรายทร่ี ะบหุ ลกั ฐานกรณแี วดลอ้ มปรากฏชดั แจง้ ตลอดจน ช้ีพยานบคุ คลแน่นอนเท่านนั้ ท้งั น้ี ถ้าเรอ่ื งร้องเรียนเปน็ การกลา่ วหาวา่ กระท�ำ ผิดวินยั หรือเป็นเรอื่ งรอ้ งทกุ ข์ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือความผิดตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศกั ราช ๒๔๗๙ หรือ พรบ. วินัยข้าราชการราชทณั ฑ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือความผดิ ตามกฎหมายเฉพาะอืน่ ๆ กส็ ่งเร่ืองให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาดำ�เนินการตามอำ�นาจหนา้ ท่ตี อ่ ไป ๒. ให้หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมดำ�เนินการสืบสวนข้อเท็จจริงหรือแต่งตั้งคณะ กรรมการสบื สวนข้อเทจ็ จริง ตามทีม่ ผี ้รู ้องขอหรอื ตามทีห่ ัวหนา้ สว่ นราชการมอบหมาย หรือตามท่เี หน็ สมควร การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสบื สวนขอ้ เทจ็ จรงิ ใหแ้ ตง่ ตง้ั กรรมการอยา่ งนอ้ ย ๓ คน แตไ่ มเ่ กนิ ๕ คน ประธานกรรมการควรดำ�รงตำ�แหน่งไม่ต่ำ�กว่าผู้ถูกกล่าวหา และมีนิติกรหรือข้าราชการที่มีวุฒิการศึกษาทาง นติ ศิ าสตร์ อยา่ งนอ้ ย ๑ คน เปน็ กรรมการ และใหม้ เี ลขานกุ าร ๑ คน โดยอาจแตง่ ตง้ั ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารดว้ ยกไ็ ด้ ถ้าจะแต่งตั้งบุคคลซ่ึงมิได้อยู่ในบังคับบัญชาของหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมเป็นคณะ กรรมการสืบสวนขอ้ เท็จจริงให้ทำ�บนั ทกึ ขออนุมตั ิหัวหนา้ สว่ นราชการกอ่ นมคี ำ�สง่ั แต่งตงั้ ๓. ในการดำ�เนินการสบื สวนข้อเท็จจรงิ ใหด้ ำ�เนินการ ดังน้ี (๑) เรียกผู้ถูกกล่าวหามาแจ้งและอธิบายข้อกล่าวหาที่ปรากฏตามเรื่องกล่าวหาให้ทราบว่า ผถู้ ูกกล่าวหากระท�ำ การใด เมือ่ ใด อย่างไร พร้อมทั้งแจง้ ให้ทราบด้วยว่า ผู้ถูกกลา่ วหามีสทิ ธิท่จี ะไดร้ ับแจง้ สรุป พยานหลกั ฐานทส่ี นบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหา ตลอดจนอา้ งพยานหลกั ฐานหรอื น�ำ พยานหลกั ฐานมาสบื แกข้ อ้ กลา่ วหา ไดด้ ว้ ย (๒) ถามผถู้ กู กลา่ วหาในเบอ้ื งตน้ วา่ ผถู้ กู กลา่ วหาไดก้ ระท�ำ การตามทถ่ี กู กลา่ วหาหรอื ไมอ่ ยา่ งไร (๓) ในกรณ.ี .. 37
(๓) ในกรณที ผ่ี ูถ้ ูกกล่าวหาให้ถ้อยคำ�รบั สารภาพวา่ ได้กระทำ�การตามท่ีถกู กลา่ วหา ให้คณะ กรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าการกระทำ�ตามที่ถูกกล่าวหานั้น เป็นการฝ่าฝืน จรยิ ธรรมกรณีใด อยา่ งไร หากผ้ถู กู กล่าวหายงั คงยนื ยนั ตามทีร่ บั สารภาพ ใหบ้ ันทกึ ถ้อยคำ�รบั สารภาพรวมท้งั เหตผุ ลในการรบั สารภาพ (ถา้ ม)ี และสาเหตขุ องการกระท�ำ ไวด้ ว้ ย แลว้ พจิ ารณาวา่ การกระท�ำ ของผถู้ กู กลา่ วหา เป็นการฝา่ ฝนื จริยธรรมกรณีใด ตามข้อใด และควรด�ำ เนินการตามมาตราการทางจรยิ ธรรมอย่างไร (๔) ในการณที ผ่ี ถู้ กู กลา่ วหามไิ ดใ้ หถ้ อ้ ยค�ำ รบั สารภาพ ใหค้ ณะกรรมการสบื สวนหรอื ผสู้ บื สวน ดำ�เนินการสืบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาแล้วพิจารณาว่ามีพยานหลักฐานใด ทส่ี นับสนนุ ข้อกลา่ วหาว่าผู้ถกู กล่าวหาไดก้ ระทำ�การใด เมอ่ื ใด อยา่ งไร และเป็นการฝา่ ฝืนประมวลจริยธรรม กรณีใด หรือไม่อย่างไร แล้วเรียกผู้ถูกกล่าวหามาแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง โดยระบุข้อกล่าวหาปรากฏตาม พยานหลกั ฐานวา่ เปน็ การฝา่ ฝนื ประมวลจรยิ ธรรมกรณใี ด และสรปุ พยานหลกั ฐานทส่ี นบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหาเทา่ ทม่ี ี ใหท้ ราบ โดยระบวุ นั เวลา สถานท่ี และการกระท�ำ ทม่ี ลี กั ษณะเปน็ การสนบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหา ส�ำ หรบั พยานบคุ คล จะระบหุ รอื ไม่ระบุชื่อในพยานก็ได้ (๕) ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาที่จะช้ีแจงข้อกล่าวหาเป็นหนังสือหรือให้ถ้อยคำ�ต่อคณะ กรรมการสบื สวนหรือผสู้ บื สวน และนำ�สบื ขอ้ กล่าวหาโดยผู้ถกู กลา่ วหาจะน�ำ พยานหลักฐานมาเองหรือจะอา้ ง พยานหลักฐาน ขอใหค้ ณะกรรมการสืบสวนหรือผ้สู ืบสวนเรียกมาก็ได้ (๖) พิจารณาเปรียบเทียบพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหากับที่หักล้างข้อกล่าวหา และวินิจฉัยลงความเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำ�การฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ อย่างไร และควรดำ�เนินการตาม มาตรการทางจริยธรรมอย่างไร แลว้ ทำ�รายงานการสืบสวน ทง้ั น้ี ในการด�ำ เนนิ การสบื สวนขอ้ เทจ็ จรงิ ใหด้ �ำ เนนิ การแลว้ เสรจ็ ภายใน ๖๐ วนั นบั แตว่ นั ทไ่ี ด้ รบั ทราบค�ำ สง่ั หรอื ไดร้ บั มอบหมาย ในกรณที ค่ี ณะกรรมการสบื สวนหรอื ผสู้ บื สวนไมส่ ามารถด�ำ เนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในก�ำ หนดระยะเวลาดงั กลา่ วได้ ใหค้ ณะกรรมการสบื สวนหรอื ผสู้ บื สวนรายงานเหตทุ ท่ี �ำ ใหก้ ารสบื สวน ไมแ่ ล้วเสรจ็ ตอ่ หัวหนา้ กลุ่มงานค้มุ ครองจรยิ ธรรม เพ่ือขอขยายระยะเวลาการสืบสวน ในกรณเี ช่นนี้ ใหห้ ัวหนา้ กลุ่มงานค้มุ ครองจริยธรรม สงั่ ขยายระยะเวลาดำ�เนินการไดต้ ามความจ�ำ เปน็ คราวละไมเ่ กิน ๓๐ วนั ๔. ในการด�ำ เนนิ การสบื สวนขอ้ เทจ็ จรงิ ตามขอ้ ๓ หากคณะกรรมการสบื สวนขอ้ เทจ็ จรงิ พจิ ารณา ในเบ้ืองต้นเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้เก่ียวข้องมีมูลเข้าข่ายเป็นการกระทำ�ผิดวินัยอย่างไม่ รา้ ยแรง ใหร้ ายงานใหผ้ ู้บงั คบั บญั ชาของผู้นัน้ ตามมาตรา ๙๐ และมาตรา ๙๑ แห่งพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บ ขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๑ หากผบู้ งั คบั บญั ชาเหน็ วา่ เปน็ การกระท�ำ ผดิ วนิ ยั จะมอบหมายใหค้ ณะกรรมการ ท�ำ การสบื สวนทางวนิ ยั ไปในคราวเดยี วกนั หรอื มอบหมายใหค้ ณะกรรมการชดุ ใหม่ ด�ำ เนนิ การตามมาตรา ๙๒ และตามนัยขอ้ ๓ โดยอนุโลม แลว้ รายงานผลการดำ�เนินงานใหผ้ ู้บังคบั บญั ชาของผนู้ นั้ พิจารณาโทษทางวนิ ัย แต่หากเห็นว่าเป็นการกระท�ำ ผิดวนิ ยั อย่างร้ายแรงแลว้ กใ็ ห้รายงานผู้บังคบั บัญชาดำ�เนนิ การตามอำ�นาจหน้าท่ี ๕. ให้หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมพิจารณาตรวจสอบสำ�นวนการสืบสวนข้อเท็จจริง เสนอหวั หนา้ ส่วนราชการ ดังน้ี (๑) กรณีผลการสืบสวนไม่มีพยานหลักฐานที่รับฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำ�การฝ่าฝืน จรยิ ธรรม ใหย้ ุติเรือ่ ง (๒) กรณ.ี .. 38
(๒) กรณผี ลการสบื สวนมพี ยานหลกั ฐานทร่ี บั ฟงั ไดว้ า่ ผถู้ กู กลา่ วหากระท�ำ การฝา่ ฝนื จรยิ ธรรม ให้ว่ากล่าวตกั เตอื น ทำ�ทัณฑ์บนเป็นหนงั สอื หรอื ใหไ้ ดร้ ับการพัฒนาตามท่เี ห็นสมควร ทง้ั น้ี หวั หนา้ กลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมสามารถเสนอความเหน็ ทแ่ี ตกตา่ งไปจากความเหน็ ของ คณะกรรมการสบื สวนหรอื ผสู้ ืบสวนกไ็ ด้ ๖. เมอ่ื หวั หนา้ สว่ นราชการพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ ผถู้ กู กลา่ วหาไดก้ ระท�ำ การฝา่ ฝนื จรยิ ธรรมอาจสง่ั ให้ด�ำ เนนิ ความตามขอ้ ๑๙ แห่งประมวลจรยิ ธรรมข้าราชการพลเรอื น คือ ลงโทษทางวินยั ว่ากล่าวตกั เตือน ทำ�ทัณฑ์บนเป็นหนงั สอื หรอื สัง่ ใหไ้ ดร้ บั การพัฒนา ตามทีเ่ หน็ สมควร ๗. ใหห้ วั หนา้ กลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมแจง้ ผลการพจิ ารณาตามทห่ี วั หนา้ สว่ นราชการสง่ั การให้ ผูร้ ้องเรียนทราบในทางลับและให้รายงานคณะกรรมการจรยิ ธรรมทราบ ๘. กรณมี ีปัญหา ข้อสงสัย เกี่ยวกบั การปฏิบัตติ ามประมวลจริยธรรม ขอ้ บังคับวา่ ด้วยจรรยา ขา้ ราชการและประกาศฉบบั น้ี ใหน้ �ำ เสนอคณะกรรมการคมุ้ ครองจรยิ ธรรมพจิ ารณาวนิ จิ ฉยั และค�ำ วนิ จิ ฉยั ของ คณะกรรมการคุ้มครองจรยิ ธรรมให้ถอื เปน็ ที่สุด ๙. กรณีผู้ที่ถูกกล่าวหาประสงค์จะอุทธรณ์ผลการพิจารณา ให้อุทธรณ์ได้ตามพระราชบัญญัติ วธิ ีปฏิบัตริ าชการการปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกาศ ณ วนั ที่ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๖ พันต�ำ รวจเอก (สุชาติ วงศอ์ นนั ตช์ ยั ) อธบิ ดีกรมราชทณั ฑ์ 39
คา่ นิยมรว่ มกรมราชทัณฑ์ (Shared Value) ๑. มคี วามเสยี สละและทุ่มเทในการท�ำ งาน ๑.๑ อุทิศตนให้กบั การท�ำ งาน ๑.๒ ท�ำ งานเพือ่ ส่วนรวม ๒. มวี ินัย ๒.๑ ตรงต่อเวลา ๒.๒ อยใู่ นกฎระเบยี บ ๓. ใฝ่หาความรู้ ๓.๑ ฝกึ อบรมสมำ่�เสมอ ๓.๒ ศกึ ษาในระดบั ทีส่ งู ขึน้ ๔. มคี วามซอ่ื สัตย์ ๔.๑ ซือ่ สตั ย์ตอ่ ประชาชน ๔.๒ ซื่อสัตยต์ อ่ องค์กร ๔.๓ ซื่อสตั ย์ต่อตนเอง 40
๕. รกั องค์กร ๕.๑ สรา้ งช่อื เสียงใหก้ ับองคก์ ร ๕.๒ มีความสามคั คี ๕.๓ ยอมรับกติกาการอยรู่ ่วมกนั ๕.๔ สร้างความเชอื่ มั่นใหก้ ับประชาชน ๖. เคารพศกั ดิศ์ รคี วามเป็นมนษุ ย์ ๖.๑ ปฏบิ ัติต่อผตู้ อ้ งขังอยา่ งมมี นษุ ยธรรม ๖.๒ เคารพสิทธิขน้ั พ้นื ฐาน ๖.๓ ให้ความเสมอภาค ๗. มีคณุ ธรรม ๗.๑ มคี วามรกั และเมตตาต่อเพ่อื นมนษุ ย์ 41
Search