ความรทู้ างวิทยาศาสตร์ (Scientific Knowledge11)0 OBEC PISA CENTER 3.2 บทบาทของแนวคิดและลกั ษณะสาคัญท่ีใชใ้ นการประเมินความรู้ ท่ไี ด้จากวิทยาศาสตร์ 1. คากล่าวอา้ งทางวทิ ยาศาสตรน์ ั้นมีข้อมลู และเหตผุ ลใดสนบั สนนุ 2. การสบื เสาะเชงิ ประจกั ษ์เพื่อสรา้ งความรู้ จดุ มุ่งหมายของการสบื เสาะ (เพ่ือทดสอบสมมติฐานหรอื ระบุแบบรูป) และการออกแบบการสืบเสาะ (การสงั เกต การควบคมุ ตวั แปร การศกึ ษาหาความสัมพนั ธ์) 3. ความคลาดเคล่อื นของการวดั สง่ ผลต่อระดบั ความเชอ่ื มนั่ ในความรู้ทาง วทิ ยาศาสตรอ์ ย่างไร
ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ (Scientific Knowledge21)0 OBEC PISA CENTER 3.2 บทบาทของแนวคดิ และลักษณะสาคญั ที่ใช้ในการประเมนิ ความรู้ ท่ีไดจ้ ากวิทยาศาสตร์ 4. การใช้บทบาทและขอ้ จากดั ของแบบจาลอง ทั้งแบบจาลองทางกายภาพ แบบจาลองระบบและแบบจาลองแนวคดิ 5. บทบาทของความรว่ มมอื และการวพิ ากษ์ รวมท้ังบทบาทของการประเมิน โดยเพือ่ น (peer review) ท่ชี ่วยในการสร้างความนา่ เช่ือถอื ของความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ 6. บทบาทของความรทู้ างวิทยาศาสตร์ ท่ีเก่ยี วข้องกับความร้แู บบอนื่ ๆ โดยเฉพาะ การระบแุ ละเนน้ ประเด็นด้านเทคโนโลยแี ละสังคม
ความรทู้ างวิทยาศาสตร์ (Scientific OBEC 10 PISA Knowledge)3 CENTER ขอ้ สังเกต ความรูด้ า้ นกระบวนการ เกยี่ วขอ้ งกบั ความสามารถในการอธิบายวธิ กี าร ออกแบบ และ การควบคุมตวั แปร สิ่งใดควรเปน็ ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ในขณะท่ี ความรู้ด้านการได้มาของความรู้ เนน้ ให้สามารถอธบิ ายได้วา่ เหตใุ ด จงึ ต้องควบคุมตัวแปร เหตุใดจงึ ต้องทาการทดลองซ้า หรือ เหตใุ ดตอ้ ง ออกแบบการทดลองดังกลา่ ว ในการทดสอบ ความร้ดู ้านการได้มาของความรู้ มกั ใช้ลกั ษณะคาถาม เช่น - ขอ้ สรปุ นส้ี ามารถพิสจู นว์ ่าถกู ตอ้ งจากขอ้ มลู ทใี่ หม้ าหรือไม่ - หลกั ฐานใดท่ีสนับสนนุ สมมติฐานนี้ไดด้ ที สี่ ดุ
บรบิ ท (Context) และระดับของบริบท OBEC 10 PISA 4 CENTER 1. บริบท บริบทของสถานการณท์ ่ีนามาใช้ในการออกข้อสอบน้ันจะเป็น สถานการณ์ทเ่ี น้นเรื่องราว/ประเดน็ ท่ีเก่ียวข้องกบั เรือ่ งเหลา่ น้ี 1.1 สุขภาพและโรค (Health and disease) 1.2 ทรพั ยากรธรรมชาติ (Natural resources) 1.3 คณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม (Environmental quality) 1.4 ภัยพบิ ัติ (Hazards) 1.5 การนาความรู้ทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีไปใช้ (Frontiers of science and technology) 2. ระดบั ของบริบท แบ่งออกเปน็ ระดับตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ 2.1 ระดบั บคุ คล/ส่วนตวั (Personal) 2.2 ระดับชมุ ชน/ท้องถิน่ /ประเทศ (Local) 2.3 ระดบั โลก (Global)
ตารางบรบิ ท (Context) และระดับของบรบิ ท150 OBEC PISA CENTER
กรอบการประเมนิ ความฉลาดรทู้ างวิทยาศาสตร160์ OBEC PISA CENTER
กจิ กรรม ใชต้ ารางสารวจข้อสอบตามกรอบวทิ ยาศาส10ต7 ร์ OBECPISA (Tagging Grid) เพอ่ื พิจารณาขอ้ สอบ CENTER
สรุป ส่ิงท่คี วรคานงึ ถึงในขณะท่ีทาการเขียนคาถาม108 OBEC PISA CENTER ระดบั ความรแู้ ละทกั ษะฯ มีความเหมาะสมหรือไมอ่ ย่างไร • ระดบั ความร้เู รอื่ งและทักษะทจ่ี าเปน็ ต้องใชใ้ นการตอบคาถาม • ลกั ษณะของคาตอบท่ีถูกควรได้รับคะแนนและมเี กณฑก์ ารให้คะแนนชัดเจน เกณฑ์การใหค้ ะแนน (คาถามอตั นัย) มีการเขียนอย่างชดั เจนหรือไมอ่ ยา่ งไร • เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มคี วามชัดเจนเพยี งใด • เกณฑก์ ารให้คะแนน ใหค้ ะแนนกบั คาตอบทถ่ี กู หรือไม่ • มีคาตอบอืน่ ๆ ท่คี วรไดค้ ะแนน หรือไม่ คาถามเปน็ คาถามท่นี ักเรยี นทกุ คนสามารถเข้าถึงการเรียนรหู้ รอื ไม่ • มีสว่ น/ประเด็นทที่ าใหค้ าถามมีความยากอันอาจเกดิ จากความไม่เป็นธรรม หรือไม่
OBEC กจิ กรรม: พจิ ารณาคาถามโดยใช้ Tagging grid PISA CENTER • การอพยพของนก (3 คาถาม) • ปรากฏการณ์เรือนกระจก (3 คาถาม) • การสูบยา (4 คาถาม) • การผลติ พลงั งานจากลม (3 คาถาม) • ความร้อน (2 คาถาม) • แสงของดาว (2 คาถาม) • ปริมาณน้าฝนและอณุ หภูมิ (3 คาถาม) • โรงไฟฟ้าพลังงานความรอ้ นแบบรวมแสงอาทติ ย์ (2 คาถาม)
11 0 x Framework categories 2015 Framework สมรรถนะทางวทิ ยาศาสตร์ การอธบิ ายปรากฏการณใ์ นเชิงวทิ ยาศาสตร์ ชนดิ ของความรู้ ความรดู้ า้ นเน้ือหา – ระบบสงิ่ มีชีวิต บรบิ ท คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม (โลก) ระดับความรู้และทกั ษะ ปานกลาง 3
11 1 x Framework categories 2015 Framework สมรรถนะทางวทิ ยาศาสตร์ การประเมนิ และออกแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรทู้ าง วทิ ยาศาสตร์ ชนิดของความรู้ บรบิ ท ความรดู้ ้านกระบวนการ ระดบั ความรู้และทักษะ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม (โลก) ปานกลาง 4
11 2 x Framework categories 2015 Framework สมรรถนะทางวิทยาศาสตร์ การแปลความหมายข้อมูลและใชป้ ระจกั ษพ์ ยานเชิงวิทยาศาสตร์ ชนิดของความรู้ ความร้ดู ้านกระบวนการ บรบิ ท คณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม (โลก) ระดบั ความรแู้ ละทกั ษะ ปานกลาง 4
OBEC 11 PISA 3 CENTER
OBEC 11 PISA 4 CENTER Framework categories 2006 Framework 2015 Framework Knowledge type ความรเู้ กยี่ วกับวิทยาศาสตร์ ความรเู้ ก่ยี วกับการได้มาของความรู้ Competency การใช้ประจกั ษพ์ ยานทางวิทยาศาสตร์ การแปลความหมายขอ้ มลู และการใชป้ ระจักษ์ พยานในเชงิ วทิ ยาศาสตร์ Context สิ่งแวดล้อม (โลก) Cognitive demand ไมร่ ะบุ สง่ิ แวดลอ้ ม (โลก) ปานกลาง
OBEC 11 PISA 5 CENTER Framework categories 2006 Framework 2015 Framework Knowledge type ความรเู้ กยี่ วกับวิทยาศาสตร์ ความรเู้ ก่ยี วกบั การได้มาของความรู้ Competency การใช้ประจกั ษพ์ ยานทางวิทยาศาสตร์ การแปลความหมายข้อมูลและการใชป้ ระจักษ์ พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ Context Cognitive demand สิ่งแวดล้อม (โลก) สง่ิ แวดลอ้ ม (โลก) ไมร่ ะบุ ปานกลาง
OBEC 11 PISA 6 CENTER Framework categories 2006 Framework 2015 Framework Knowledge type ความรู้เกย่ี วกับวิทยาศาสตร์ ความรู้ด้านกระบวนการ Competency การอธิบายปรากฏการณ์เชงิ วทิ ยาศาสตร์ การอธิบายปรากฏการณ์เชงิ วทิ ยาศาสตร์ Context ส่ิงแวดลอ้ ม (โลก) สิ่งแวดลอ้ ม (โลก) Cognitive demand ไมร่ ะบุ ปานกลาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116