คมู่ อื ปฏิบตั ิงานกลุ่มพฒั นาการศกึ ษา สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั ขอนแก่น ของ นางจริ ะภา ชยั บงั ลา ตาแหน่ง นักวิชาการศึกษาชานาญการ
คำนำ ตำมคำส่ังหัวหน้ำรักษำควำมสงบแห่งชำติที่ 19/2561 ข้อ 11 ให้มีสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด สังกดั สำนกั งำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร เพอื่ ปฏิบัตภิ ำรกจิ ของกระทรวงศึกษำธิกำร เกยี่ วกบั กำรบริหำรและกำร จดั กำรศกึ ษำตำมทีก่ ฎหมำยกำหนดกำรปฏบิ ตั ริ ำชกำรตำมอำนำจหน้ำท่ี นโยบำย ยุทธศำสตรแ์ ละส่วนรำชกำรต่ำง ๆ ที่มอบหมำย ซ่ึงสำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร ได้ประกำศ เร่ือง กำรแบ่งหน่วยงำนภำยในสำนักงำน ศึกษำธิกำรภำคและสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด สังกัดสำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร วันท่ี 12 มิถุนำยน พ.ศ. 2560 กำหนดให้สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวัด แบง่ กล่มุ งำนภำยในสำนกั งำนและหน้ำที่ควำมรบั ผดิ ชอบเปน็ 8 กลุ่มงkน ดังนี้ 1) กลุ่มอำนวยกำร 2) กลุ่มงำนบริหำรบุคคล3) กลุ่มนโยบำยและแผน 4) กลุ่มพัฒนำกำรศึกษำ 5) กล่มุ นิเทศ ตดิ ตำม และประเมินผล 6) กลุม่ สง่ เสรมิ กำรศึกษำเอกชน 7) กล่มุ ลูกเสือ ยวุ กำชำดและกิจกำรนักเรียน และ 8) หนว่ ยตรวจสอบภำยใน เพ่ือให้กำรดำเนินงำนของสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดและทุกฝ่ำยที่เก่ียวข้อง มีควำมเข้ำใจ ตรงกัน เพ่ือให้สำมำรถปฏิบัติงkนสอดคล้องตำมเจตนำรมณ์ที่สำคัญที่ต้องกำรให้มีกำรบูรณำกำรงำนระดับพ้ืนท่ี สำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร จึงจัดทำคู่มือกำรปฏิบัติงำนของสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดข้ึนสำหรับคู่มือ ของกลุ่มพัฒนำกำรศึกษำ ฉบับน้ี ได้จัดทำขึ้นตำมหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบ จำนวน 12 ข้อ โดยมีส่วนประกอบ 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนนำ 1 บทนำ ส่วนท่ี 2 คู่มือขั้นตอนกำรปฏิบัติงำนตำมกรอบภำระหน้ำท่ีตำมประกำศ สำนกั งำนปลัดกระทรวงศกึ ษำธิกำร เรื่อง แบง่ หนว่ ยงำนภำยในสำนกั งำนศึกษำธกิ ำรภำคและสำนกั งำนศึกษำธิกำร จงั หวดั สังกดั สำนักงำนปลดั กระทรวงศึกษำธกิ ำร ลงวันที่ 12 มถิ นุ ำยน 2560บรรณำนกุ รมและภำศผนวก สำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร หวังว่ำเม่ือศึกษำเนื้อหำรำยละเอียดกำรปฏิบัติงำนในแต่ละ ส่วนแล้ว จะทำให้ผู้เก่ียวข้องมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในบทบำทหน้ำท่ี และร่วมมือร่วมใจ ส่งเสริม สนับสนุนกำร ปฏิบตั ิงำนเชิงบรู ณำกำรเพอื่ พัฒนำกำรศกึ ษำ ซึง่ จะเป็นฐำนในกำรพฒั นำสงั คมไทยใหม้ คี วำมมั่นคง ม่ังคั่ง ยัง่ ยืน
กลุม่ พัฒนาการศึกษา 1. บทนา งำนพัฒนำกำรศึกษำ เป็นงำนท่ีส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงำนกำรศึกษำในจังหวัดสำมำรถ จัดกำรกำรศึกษำได้อย่ำงมีประสิทธิภำพโดยเน้นกำรบูรณำกำรกำรจัดกำรศึกษำเชิงพ้ืนท่ีเพ่ือสร้ำงโอกำสควำม เสมอภำคและควำมเท่ำเทียมทำงกำรศึกษำและขับเคลื่อนกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียนท้ังด้ำนร่ำงกำย จิตใจ สังคม สติปัญญำและทักษะชีวิตจัดระบบ ส่งเสริมและประสำนงำนเคร่ือข่ำยข้อมูลสำรสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือ กำรศึกษำ พัฒนำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อกำรศึกษำ และระบบบริกำรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภำพสำมำรถบริกำร ได้โดยสะดวก รวมถึงกำรพัฒนำบุคลำกรให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่ำงสร้ำงสรรค์ และรู้เท่ำทันกำรเปล่ียนแปลง ส่งเสริม สนับสนุนกำรศึกษำเพื่อคนพิกำร ผู้ด้อยโอกำส และผู้มีควำมสำมำรถพิเศษ อีกทั้งประสำน ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินกำรวิจัยและพัฒนำเพ่ือสร้ำงองค์ควำมรู้และนวัตกรรมกำรศึกษำส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรม พัฒนำผู้เรียน ครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ดำเนินกำรจัดระบบกำรประสำนสนับสนุน ช่วยเหลือ และกำร รำยงำนเหตุภัยพิบัติ และภำวะวิกฤติทำงกำรศึกษำในจังหวัด ส่งเสริม สนับสนุนและดำเนินเก่ียวกับกำรป้องกัน และแกไ้ ขปัญหำยำเสพติดในสถำนศึกษำ ส่งเสรมิ และประสำนงำนกำรศำสนำศิลปะ วฒั นธรรม และกำรกีฬำเพื่อ กำรศึกษำ รวมถึงส่งเสริม สนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำทุกระดับ และทุกประเภท ประสำน และส่งเสริมกำรบริหำร และกำรจัดกำรศึกษำขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมทั้งส่งเสริม และสนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำของบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชำชีพสถำบันศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบันสังคมอื่นท่ี จัดกำรศึกษำ เพื่อสร้ำงโอกำส และควำมเท่ำเทียมทำงสังคม รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะกิจ เฉพำะกลุ่ม และเฉพำะพ้ืนท่ี เพื่อพัฒนำศักยภำพผู้เรียนและสร้ำงสังคมแห่งกำรเรียนรู้ ดำเนินกำรเก่ียวกับกำร จัดตั้ง ยุบ รวม เลิก และโอนสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนตลอดจนรับผิดชอบกำรปฏิบัติงำนตำมภำรกิจของ คณะอนุกรรมกำรเก่ียวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำและคณะทำงำนที่เก่ยี วข้อง ปฏิบัตงิ ำนรำชกำรท่ีเป็นไปตำมอำนำจ และหน้ำท่ีของคณะกรรมกำรศึกษำธิกำรจังหวัด(ก.ศจ.) และตำมที่คณะกรรมกรศึกษำธิกำรจังหวัด(ก.ศจ.) มอบหมำย รวมถึงปฏิบตั งิ ำนร่วมกบั หรอื สนบั สนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอื่นทเ่ี กีย่ วข้อง 2. กรอบภำระหน้ำที่ตำมประกำศสำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร เรื่อง แบ่งหน่วยงำนภำยในสำนักงำน ศึกษำธิกำรภำคและสำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดสังกัดสำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำรลงวันที่ 12 มิถุนำยน พ.ศ. 2560
ภาระงานของกล่มุ พฒั นาการศึกษา 1. ร่วมรับผิดชอบงำนธุรกำรของคณะอนุกรรมกำรเก่ียวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำและคณะทำงำน ท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ังปฏิบัติงำนรำชกำรท่ีเป็นไปตำมอำนำจและหน้ำที่ของคณะกรรมกำรศึกษำธิกำรจังหวัด(กศจ. และตำมท่ี ก.ศจ. มอบหมำยรว่ มกับกลุ่มนโยบำยและแผน 2. ดำเนนิ กำรเกี่ยวกับกำรจดั ต้งั ยุบ รวม เลกิ และโอนสถำนศึกษำข้นั พ้นื ฐำน 3. จัดระบบ ส่งเสริม และประสำนงำนเครือข่ำยข้อมูลสำรสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อ กำรศึกษำ พัฒนำเทคนลยีดิจิทัลเพื่อกรศึกษำ และระบบบริกำรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภำพและสำมำรถ ให้บริกำรได้โดยสะดวก รวมถึงกำรพัฒนำบุคลำกรให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่ำงสร้ำงสรรค์และรู้เท่ำทันกำร เปล่ยี นแปลง 4. สง่ เสริม สนับสนุนกำรศึกษำเพ่ือคนพิกำร ผดู้ ้อยโอกำสและผูม้ คี วำมสำมำรถพเิ ศษ 5. ประสำน สง่ เสริม สนับสนนุ และดำเนนิ กำรวิจัยและพัฒนำเพือ่ สร้ำงองคค์ วำมรู้และนวตั กรรม กำรศึกษำ 6. สง่ เสรมิ สนบั สนนุ กจิ กรรมพัฒนำผเู้ รียน ครู และบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 7. จัดระบบกำรประสำน สนับสนุน ช่วยเหลือ และกำรรำยงำนเหตุภัยพิบัติและภำวะวิกฤตทำง กำรศกึ ษำในจังหวัด 8. ส่งเสริม สนบั สนุนและดำเนนิ กำรเกี่ยวกบั กำรปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หำยำเสพติดในสถำนศกึ ษำ 9. ส่งเสรมิ และประสำนงำนกำรศำสนำ ศลิ ปะ วฒั นธรรม และกำรกฬี ำเพ่ือกำรศึกษำ 10. ส่งเสริม สนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำทุกระดับและทุกประเภท ประสำนและส่งเสริมกำร บริหำรและกำรจัดกำรศึกษำขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนกำรจัดกำรศึกษำของ บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชำชีพ สถำบันศำสนำ สถำนประกอบกำร และสถำบัน สงั คมอืน่ ท่ีจัดกำรศกึ ษำ เพอ่ื สรำ้ งโอกำสควำมเสมอภำคและควำมเท่ำเทียมกันทำงสังคม 11. สง่ เสรมิ และพฒั นำกำรจดั กำรศึกษำเฉพำะกิจ เฉพำะกลุ่ม และเฉพำะพ้นื ท่ี 12. ปฏิบัติงำนร่วมกับหรือสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนอ่ืนที่เก่ียวข้องหรือท่ีได้รับ มอบหมำย
4.3 งำนทนุ กำรศึกษำ แบ่งเป็น 4 งำนย่อย 4.3.1 งำนทุนกำรศึกษำทว่ั ไป 4.3.:2 งำนทุนกำรศึกษำพระรำชทำน ๆ \"ภำยใตม้ ูลนธิ ิกำรศึกษำพระรำชทำนสมเด็จพระบรมโอรสำธิรำช ฯ สยำมมกุฎรำชกมุ ำร (ม.ท.ศ.)\" 4.3.3 งำนทุนมลู นิธิร่วมจิตตน์ ้อมเกล้ำ เพอ่ื เยำวชนฯ ในพระบรมรำชินปู ถมั ภ์ 4.3.4 งำนทุนเฉลมิ รำชกมุ ำรี 4.4 งำนระดมทรัพยำกรเพอื่ กำรศกึ ษำ 1. ช่อื งำน (กระบวนงำน) ขอ้ (4.3.1) งำนทุนกำรศึกษำทั่วไป 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพื่อใหน้ ักเรียน นักศึกษำและเยำวชน ไดร้ ับทุนกำรศึกษำจำกภำครฐั และเอกชน 2.2 เพ่ือให้หน่วยงำน สถำนศึกษำ ได้รับกำรสนับสนุนทุนเพื่อกำรศึกษำจำกภำครัฐและเอกชนอย่ำง ตอ่ เนื่อง 2.3 เพ่ือให้หน่วยงำนภำครัฐ ภำคเอกชนและองค์กร มีส่วนร่วมในช่วยเหลือ สนุนสนุน และสงเครำะห์ ทนุ กำรศึกษำ ให้นกั เรียน นักศึกษำและเยำวชนในกำรศกึ ษำต่อในระดับท่ีสูงขน้ึ 3. ขอบเขตของงำน ทนุ กำรศกึ ษำทว่ั ไป ทุกระดบั ทุกประเภท สำหรับนักเรยี น นกั ศกึ ษำและเยำวชน 4. คำจำกดั ควำม ทุนกำรศึกษำ หมำยถึง เงินสำหรับค่ำใช้จ่ำยในกำรศึกษำท่ีบุคคล หรือองค์กรต่ำงๆ บริจำคให้เพ่ือ ช่วยเหลือ สงเครำะห์ ผ้ทู ่มี ไิ ดอ้ ยูใ่ นหนำ้ ทีเ่ ลีย้ งดปู กครองโดยตรง ได้ศกึ ษำเล่ำเรียน 5. ขั้นตอนกำรปฏบิ ตั งิ ำน 5.1 ศึกษำรำยละเอียด กฎหมำย ระเบียบ หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ในกำรพิจำรณำทุนกำรศึกษำแต่ละ ประเภท 5.2 ประชำสัมพนั ธ์รำยละเอยี ด กฎหมำย ระเบยี บ หลกั เกณฑ์และเง่ือนไข กำรคดั เลอื กนักเรียนนักศึกษำ และเยำวชน เพ่อื เข้ำรับทนุ กำรศึกษำไปยังหนว่ ยงำนกำรทำงกำรศกึ ษำทเี่ กีย่ วข้อง 5.3 แต่งตัง้ คณะกรรมกำรพจิ ำรณำทุนกำรศกึ ษำ 5.4 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเก่ียวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำ กลั่นกรอง และคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จงั หวดั (กศจ.) พจิ ำรณำ (ตำมแนวปฏิบตั ิของทุนกำรศึกษำแต่ละประเภท)
5.5 แจง้ ผลกำรพิจำรณำคดั เลือกผูร้ ับทนุ กำรศึกษำแก่หน่วยงำนทำงกำรศึกษำทเ่ี สนอขอรับทนุ กำรศึกษำ 5.6 พัฒนำระบบข้อมูลสำรสนทศเก่ียวกับทุนกำรศึกษำหรือกำรระดมทุนและทรัพยำกรเพ่ือกำรศึกษำแต่ ละประเภท เพอ่ื กำรวิจัยและพัฒนำ 5.7 กำกับ ติดตำม ประเมินผล และรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน
7. แบบฟอร์มทใี่ ช้ ตำมระเบียบ แนวปฏิบตั ิทีก่ ำหนด 8. ข้อกฎหมำยที่เกี่ยวขอ้ ง 8.1 พระรำชบัญญัตกิ ำรศกึ ษำแหง่ ชำติ พทุ ธศกั รำช 2542 และที่แก้ไขเพมิ่ เติม 8.2 ระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำรว่ำด้วยวิธีกำรปฏิบัติกำรให้เคร่ืองหมำยตอบแทนผู้ช่วยเหลือรำชกำร พุทธศักรำช 2531 9. เอกสำรอ้ำงอิง หลักเกณฑ์ เง่ือนไข คุณสมบัติ และแนวปฏิบัติกำรขอรับทนุ กำรศึกษำ
1. ช่อื งำน (กระบวนงำน) ข้อ (4.3.2) งำนทุนกำรศึกษำพระรำชทำน ฯ \"ภำยใต้มลู นธิ กิ ำรศกึ ษำพระรำชทำนสมเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯสยำม มกฎุ รำชกุมำร (ม.ท.ศ.)\" 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพ่อื สรำ้ งโอกำสแกเ่ ยำวชนไทยที่ท่มี ีฐำนะยำกจนยำกลำบำก ประพฤตดิ ี มคี วำมสำมำรถในกำรศึกษำ ให้ได้รับโอกำสทำงกำรศึกษำท่ีต่อเน่ืองในระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย จนสำเร็จกำรศึกษำในระดับปริญญำตรี ตำมควำมสำมำรถของแต่ละคน 2.2 เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนเด็กและเยำวชนไทยที่เรียนดี ประพฤติดี มีคุณธรรม โดยพระรำชทำน ทุนกำรศึกษำในระดับชั้นมัธยมศึกษำตอนปลำย ให้กับผู้ท่ีจบกำรศึกษำ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 มีโอกำสศึกษำต่อ ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำยท้ังสำยสำมัญ สำยอำชีพ และศึกษำต่อเนื่องไปจนจบกำรศึกษำระดับปริญญำตรีหรือ เทียบเทำ่ ในสำขำทีเ่ ป็นควำมต้องกำร ของประเทศ สำขำที่ขำดแคลน สำขำด้ำนควำมมั่นคง และเขำ้ สกู่ ำรมีอำชีพ ไดอ้ ยำ่ งม่ันคง 2.3 เพื่อเสริมสร้ำงทัศนคติท่ีถูกต้องดีงำม ต่อสถำบันพระมหำกษัตริย์และประเทศชำติ บ่มเพำะควำมมี วินัย รวมท้ังพัฒนำศักยภำพควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้ ให้เป็นผู้ใผ่เรียนรู้อย่ำงต่อเน่ือง มีทักษะชีวิตทักษะอำชีพ อันจะช่วยสร้ำงพ้ืนฐำนชีวิตที่ม่ันคงข้มแข็งแก่เด็ก และเยำวชนไทย ผู้ได้รับทุนพระรำชทำนเป็นนักเรียนทุนใน พระองค์ฯ สมำรถติบโตเป็นคนดี มีคุณภำพ นำควำมรู้กลับไปทำงำนพัฒนำท้องถ่ินชุมชนมีสัมมำชีพมั่นคง เป็น พลเมืองที่ทำประโยชน์ใหแ้ ก่ประเทศชำติ 2.4 เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนเด็กยำกจนท่ีเรียนดี ประพฤติดีมีคุณธรรม ด้วยกำรพระรำชทำน ทนุ กำรศกึ ษำในระดับชัน้ มัธยมศึกษำตอนปลำยสำยสำมัญ สำยอำชีพ ใหก้ ับผู้ที่กำลงั ศกึ ษำอยใู่ นช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 3 ที่กำลังจะจบกำรศึกษำ ได้มีโอกำสศึกษำต่อระดับมัธยมศึกษำตอนปลำยสำยสำมัญ สำยอำชีพ และศึกษำ ต่อเน่ืองไปจนจบกำรศึกษำระดับปริญญำตรีท้ังจะยังได้พระรำชทำนทุนเป็นกรณีๆ ให้กับผู้ที่กำลังศึกษำอยู่ในชั้น มัธยมศึกษำตอนปลำยสำยสำมัญและสำยอำชีพในปีสุดท้ำย ได้มีโอกำสศึกษำต่อในระดับปริญญำตรีโดยไม่มีภำระ ผูกพนั ต้องใช้ทนุ คนื 2.5 เพ่ือเสริมสร้ำงศักยภำพของเด็กยำกจนในทุกจังหวัดทั้งชำยและหญิง ให้มีควำมรู้ในระดับมัธยมศึกษำ ตอนปลำยสำยสำมัญ สำยอำชพี จนถึงระดบั ปรญิ ญำตรี และมีทกั ษะควำมสำมำรถพัฒนำตนเองตลอดจนยกระดับ ควำมสำมำรถในกำรประกอบอำชีพ อันจะนำไปสกู่ ำรแก้ไขปญั หำควำมยำกจนอย่ำงยั่งยืน 3. ขอบเขตของงำน
3.1 กลมุ่ เปำ้ หมำยหลัก :นักเรยี นยำกจนทเี่ รียนดี ประพฤติดี มคี ุณธรรมทุกจงั หวดั ทั่วประเทศทง้ั ชำยและ หญิงที่มีผลกำรเรียนในระดับมัธยมศึกษำตอนต้น คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่ำ 3.00 และมำจำกครอบครัวที่มีรำยได้ ไม่ เกิน 200,000 บำทต่อปี เพื่อรับพระรำชทำนทุนกำรศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนปลำยสำยสำมัญและสำยอำชีพ ตอ่ เน่ืองจนจบปรญิ ญำตรี 3.2 กลมุ่ เปำ้ หมำยเฉพำะเป็นกรณีๆ :คดั เลือกนกั เรยี นยำกจนทเ่ี รยี นดี ประพฤตดิ ี มีคณุ ธรรมทุกจังหวดั ทั้ง ชำยและหญิง ทมี่ ผี ลกำรเรียนในระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำยสำยสำมญั และสำยอำชีพ คะแนนเฉลีย่ ไม่ตำ่ กวำ่ 2.75 และมำจำกครอบครัวท่ีมรี ำยได้ไม่เกนิ 200,000 บำทต่อปี เพือ่ รบั พระรำชทำนทุนกำรศึกษำระดับปริญญำตรี เปน็ กรณๆี ไป 3.3 กำรดำเนินโครงกำรทุนกำรศึกษำพระรำชทำน ฯ (ม.ท.ศ.) มีหลักกำรแนวคิดท่ีมุ่งพระรำชทำน ทุนกำรศึกษำให้แก่เด็กยำกจนท่ีเรียนดี ประพฤติดี ต้ังแต่ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำยทั้งสำยสำมัญและสำยอำชีพ ต่อเน่ืองไปจนจบกำรศึกษำระดับปริญญำตรีในสำขำวิชำท่ีสอดคล้องกับควำมรู้ ควำมสำมำรถและควำมต้องกำร ของผูเ้ รียน 3.4 กำรดำเนินโครงกำรทุนกำรศึกษำพระรำชทำน ฯ (ม.ท.ศ.) จะไม่ใช้วิธีกำรประกำศรับสมัครและไม่มี กำรสอบแข่งขัน แต่จะดำเนินกำรโดยกำรแสวงหำ คัดเลือก คัดสรร และกล่ันกรอง จนได้ผู้มีสิทธ์ิเข้ำรั บ พระรำชทำนทุน ซ่ึงต้องมีคุณสมบัติตรงตำมเง่ือนไขท่ีโครงกำรทุนกำรศึกษำสมเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯสยำม มกฎุ รำชกมุ ำร (ม.ท.ศ.) 4. คำจำกดั ควำม 4.1 ทุนกำรศึกษำพระรำชทำนสมเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯ สยำมมกุฎรำชกุมำร หมำยถึงทุนกำรศึกษำ พระรำชทำนให้แก่เด็กยำกจนท่ีเรียนดี ประพฤติดี ต้ังแต่ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำยท้ังสำยสำมัญและสำยอำชีพ ตอ่ เนอ่ื งไปจนจบกำรศกึ ษำปรญิ ญำตรี ในสำขำท่สี อดคล้องกบั ควำมรู้ ควำมสำมำรถและควำมต้องกำรของผู้เรยี น 4.2 มลู นิธทิ ุนกำรศึกษำพระรำชทำนสมด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯ สยำมมกฎุ รำชกมุ ำร (ม.ท.ศ.) หมำยถึง มูลนิธิทีส่ มเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯ สยำมมกุฎรำชกุมำร ทรงมีพระรำชดำริให้จดั ตง้ั ขึ้นเม่ือปี 2552ด้วย พระรำชปณิธำนที่มุ่งสร้ำงควำมรู้ สร้ำงโอกำสแก่เยำวชนไทยที่มีฐำนะยำกจนยำกลำบำก ประพฤติดีมี ควำมสำมำรถในกำรศึกษำให้ได้รับโอกำสทำงกำรศึกษำที่ต่อเนื่องในระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย จนสำเร็กำร ศึกษำในระดับปริญญำตรี ตำมควำมสำมำรถของแต่ละคน โดยทรงเป็นองค์ประธำนกรรมกำร และทรงให้นำ โครงกำรทนุ กำรศกึ ษำสมเด็จพระบรมโอรสำธริ ำชฯ สยำมมกุฎรำชกมุ ำร มำอยู่ภำยใตก้ ำรดำเนนิ งำนของมูลนิธฯิ 4.3 ทนุ กำรศึกษำแบบรำยปี หมำยถึง เงนิ ทมี่ อบใหก้ บั นักเรียน นักศึกษำ ทรี่ ับทุน เพ่อื นำไปเปน็ คำ่ ใช้จ่ำย สำหรบั กำรศึกษำรำยปี จนเยำวชนจบกำรศกึ ษำชั้นสูงสุดในแตล่ ะระดับรำยบคุ คลในแต่ละระดับ
4.4 ทุนกำรศกึ ษำแบบต่อเน่ือง หมำยถงึ เงนิ ท่มี อบใหก้ ับนักเรียน นักศึกษทีร่ ับทนุ เพื่อนำไปเปน็ คำ่ ใช้จ่ำย สำหรับกำรศกึ ษำต่อเนอ่ื ง จนจบกำรศกึ ษำช้ันสงู สดุ ระดับปริญญำตรี 4.5 ระบบดูแลผู้รับทุนกำรศึกษำ หมำยถึง กำรดูแลสภำพควำมเป็นอยู่และสวัสดิภำพของผู้รับทุน ครอบคลุมทั้งในดน้ สภำพแวดลอ้ ม ควำมเปน็ อยู่ สวสั ดภิ ำพด้ำนรำ่ งกำย จิตใจ อำรมณแ์ ละสังคม รวมถงึ กำรพฒั นำ ทกั ษะกำรเรียนรู้ ทกั ษะชีวิต ทกั ษะสคั ม และมีมำตรกำรในกำรดูแลและป้องกนั ปญั หำทจ่ี ะส่งผลใหผ้ ู้รับทนุ เรียนไม่ จบตำมกำหนด 5. ขั้นตอนกำรปฏิบัตงิ ำน 5.1 ศึกษำรำยละเอียดเอกสำรกำรดำเนินงำนโครงกำรทุนกำรศึกษำพระรำชทำน ฯ จำกคู่มือและ แผนปฏบิ ัติกำรดำเนินงำนโครงกำรทนุ กำรศกึ ษำสมเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯ สยำมมกฎุ รำชกมุ ำร (ม.ท.ศ.) 5.2 ประชำสัมพนั ธร์ ำยละเอยี ด ระเบยี บ หลกั เกณฑ์และเงอ่ื นไขของทุนกำรศึกษำ สมเดจ็ พระบรมโอรสำธิ รำชฯ สยำมมกฎุ รำชกมุ ำร(ม.ท.ศ.) ยึดหลกั กำรตำมพระรำโชบำยองค์ประธำนกรรมกำร (ม.ท.ศ.) 5.3 แต่งตั้งคณะกรรมกำรกลั่นกรองนักเรียนท่ีมีคุณสมบัติตำมหลักเกณฑ์และเง่ือนไขของทุนกำรศึกษำ พระรำชทำนฯ สมเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯ สยำมมกุฎรำชกุมำร(ม.ท.ศ.) เพ่ือให้คณะกรรมกำร ประจำจังหวัด พิจำรณำคดั เลือก 5.4 แต่งต้ังคณะกรรมกำรเพื่อพิจำรณำคัดเลือกผู้รับทุนกำรศึกษำฯ ระดับจังหวัดท่ีมีผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด เป็นประธำนและศึกษำธิกำรจังหวัดเป็นฝ่ำยเลขำนุกำรพิจำรณำคัดเลือกผู้รับทุนกำรศึกษำ ตำมวัตถุประสงค์ของ ทนุ กำรศกึ ษำพระรำชทำนฯ 5.5 แจง้ ผลกำรพจิ ำรณำคัดเลือกทุนกำรศึกษำให้สำนักงำนศึกษำธิกำรภำค เพือ่ พิจำรณำคดั เลือกนักเรียน และจดั ลำดับรำยช่อื ผ้มู คี ุณสมบตั ิเหมำะสม รวั่ มกับประธำนคณะกรรมกำรฯ ระดับจงั หวดั 5.6 แจ้งหน่วยงำนทำงกำรศึกษำที่เก่ียวข้อง เพื่อแจ้งนักเรียนที่ได้รับกำรพิจำรณำคัดเลือกเข้ำรับกำรฝึก และพัฒนำศักยภำพ โดยฝ้ำยเลขำนุกำรคณะอนุกรรมกำรฯ ม.ท.ศ. ณ โรงเรียนทหำรมหำดเล็กรำชวัลลภรักษำ พระองค์ (วงั ทวีวัฒนำ) 5.7 แจ้งหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ประสำนนักเรียนเตรียมควำมพร้อมลงนำมในสัญญำรับทุนกำรศึกษำ พระรำชทำน (ม.ท.ศ.) เพอ่ื เสนอคณะกรรมกำร ม.ท.ศ. พิจำรณำอนุมัติรำยช่อื ผูร้ บั ทุนฯ 5.8 กำกับติดตำม และรวบรวมข้อมูลกำรรำยงำนผลกำรศึกษำ และสถำนภำพของผู้รับทุนกำรศึกษำ พระรำชทำนให้ฝำ่ ยเลขำนกุ ำรคณะอนุกรรมกำรฯ ม.ท.ศ
7. แบบฟอร์มทใี่ ช้ 7.1 แบบรำยงำนข้อมูลสว่ นบคุ คล ครัวเรือน และกำรศึกษำของนักเรยี นผไู้ ด้รบั กำรเสนอชื่อเข้ำรับกำร พจิ ำรณำคัดเลอื ก คัดสรร ผู้รับทุนพระรำชทำนฯ (แบบรำยงำน จ-02-นักเรียน) 7.2 แบบรำยงำนผลกำรคดั เลอื ก คัดสรร ผรู้ ับทนุ พระรำชทำนฯ รำยงำนโดยคณะกรรมกำรคดั เลือก คัด สรรฯ ระดบั จงั หวดั (แบบรำยงำน จ.-01-จังหวดั ) 7.3 แบบรำยงำนผลกำรกำรกล่ันกรอง ผู้รบั ทนุ พระรำชทำนฯ (แบบรำยงำน กศภ.- 18 ภำคกำรศึกษำ) รำยงำนโดยศึกษำธิกำรภำค 8. ข้อกฎหมำยทเ่ี ก่ยี วข้อง 8.1 พระรำชบญั ญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พทุ ธศักรำช 2542 และทแ่ี ก้ไขเพม่ิ เตมิ 8.3 ระเบียบมลู นิธทิ ุนกำรศกึ ษำพระรำชทำนสมดจ็ พระบรมโอรสำธริ ำชฯ สยำมมกฏุ รำชกมุ ำร (ม.ท.ศ.)วำ่ ด้วย กำรดแู ลนักเรียนทุนในโครงกำรทุนกำรศึกษำพระรำชทำน (ม.ท.ศ.) 9. เอกสำรอำ้ งอิง 9.2 คูม่ ือและแผนปฏิบัติกำร กำรดำเนนิ งำนโครงกำรทนุ กำรศกึ ษำพระรำชทำน ม.ท.ศ.
1. ช่อื งำน (กระบวนงำน) ข้อ (4.3.3) งำนทุนกำรศึกษำมนู ิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้ำ เพอ่ื เยำวชนฯ ในพระบรมรำชินูปถมั ภ์ 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพ่ือช่วยเหลือเยำวชน ท่ีประพฤติดีแต่ขัดสน ให้ได้รับกำรศึกษำตำมควำมสำมำรถโดยต่อเน่ืองจนมี อำชพี ท่ีสุจรติ เลี้ยงตนเองและครอบครวั ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชำติ อยำ่ งเต็มที่ 2.2 เพอื่ ให้เยำวชนมีคณุ ธรรม จริยธรรม รจู้ ักเสียสละในกำรทำประโยชนเ์ พือ่ ส่วนรวม 2.3 เพื่อส่งเสริมให้เยำวชนตระหนกั ในคุณค่ของศิลปวัฒนธรรมไทย อันเป็นสมบัติของชำติ และช่วยฟ้ืนฟู ปรับปรุง พทิ กั ษร์ ักษำ และเผยแพรศ่ ลิ ปวัฒนธรรมไทย 24 เพ่ือให้เยำวชนมีทัศนคติที่ถูกต้อง มีควำมจงรักภักดีต่อชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ และกตัญญูต่อ บรรพบุรษุ และผมู้ พี ระคุณ ในกำรทไ่ี ด้ดำรงรักษำชำตไิ ทยมำจนถงึ ปัจจุบนั 3. ขอบเขตของงำน คัดเลอื กเยำวชนทีป่ ระพฤติดีแตข่ ดั สน ใหไ้ ดร้ ับทุนกำรศกึ ษำ ตำมที่มูลนธิ ฯิ กำหนด 4. คำจำกัดควำม 4.1 ทุนกำรศกึ ษำมูลนิธิร่วมจติ ตน์ ้อมเกล้ำ เพื่อเยำวชนฯ ในพระบรมรำชินูปถัมภ์ หมำยถงึ เงินสำหรับคำ ใชจ้ ่ำยในกำรศึกษำ ทีไ่ ดร้ บั จำกมูลนธิ ฯิ 4.2 มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้ำฯ เพ่ือเยำวชน หมำยถึง ประชำชนทุกคนที่เห็นควำมสำคัญของกำรให้ กำรศึกษำ และกำรอบรมคุณธรรมแก่เยำวชน ร่วมใจกันน้อมเกล้ำฯ ถวำยควำมกตัญญูต่อพระมหำกษัตริย์และ แสดงควำมกตัญญูต่อบรรพบุรุษของเรำ ผู้เสียสละเลือดเน้ือและชีวิต เพื่อสร้ำงควำมเป็นปีกแผ่นและพัฒนำ ประเทศชำติสืบต่อมำจนถึงปัจจบุ ัน 4.3 กองทุนถำวรในนำมผู้บริจำค หมำยถึง เงินทุนบริจำคท้ังจำนวน เพ่ือนำเฉพำะดอกผลให้เป็น ทุนกำรศึกษำแก่เยำวชนตลอดไป กล่ำวคือ เมื่อเยำวชนคนเดิมจบกำรศึกษำและไม่ศึกษำต่อ มูลนิธิฯ จะคัดเลือก เยำวชนคนใหมใ่ ห้อยใู่ นควำมอุปกระต่อเนื่องตลอดไปโดยมีจำนวนเงนิ กองทุน ดังนี้ 4.3.1 ระดบั ประถมศึกษำ ทุนละ 3,000 บำท เป็นเงินทนุ ถำวร 150,000 บำท 4.3.2 ระดบั มัธยมศกึ ษำ ทนุ ละ 4,000 บำท เป็นเงินทุนถำวร 200,000 บำท 4.9.3 ระดบั อำชวี ศกึ ษำ ทุนละ 8,000 บำท เปน็ เงนิ ทนุ ถำวร 400,000 บำท 4.4 กองทุนรำยปี หมำยถึงเงินทุนบริจำคให้เป็นทุนกำรศึกษำแก่เยำวชนเป็นรำยปี จนเยำวชนจบ กำรศกึ ษำช้ันสูงสุดในแต่ละระดบั 5. ขั้นตอนกำรปฏบิ ตั ิงำน
5.1 ศึกษำรำยละเอียด ระเบียบ หลักเกณฑ์และเง่ือนไข ของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้ำ เพ่ือเยำวชนฯใน พระบรมรำชินปู ถัมภ์ 5.2 ประชำสัมพนั ธ์รำยละเอียด ระเบียบ หลักกณฑแ์ ละเง่ือนไข ของมูลนธิ ิรว่ มจิตต์น้อมเกล้ำเพ่ือเยำวชน ฯ ในพระบรมรำชนิ ูปถมั ภ์ เพอื่ ขอรบั ทนุ ไปยังหน่วยงำนทำงกำรศึกษำทีเ่ ก่ยี วข้อง 5.3 แต่งตั้งคณะกรรมกำรกลั่นกรองนกั เรยี นทสี่ มควรไดร้ ับทุนกำรศึกษำ เพือ่ กลั่นกรองพิจำรณำนักเรียนผู้ ขอรับทุน ทุกระดับกำรศึกษำ ให้คณะกรรมกำรทุนกำรศึกษำของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้ำ เพ่ือเยำวชนฯในพระ บรมรำชนิ ูปถมั ภ์ ประจำจงั หวัด พจิ ำรณำคดั เลือก 5.4 แต่งต้ังคณะกรรมกำรทุนกำรศึกษำมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้ำ เพ่ือเยำวชนฯ ในพระบรมรำชินูปถัมภ์ ประจำจงั หวดั 5. 5 คณะกรรมกำร ฯ ประจำจังหวัด พิจำรณำคัดเลือกเยำวชนผู้รับทุนกำรศึกษำ ทุกระดับกำรศึกษำ ท่ี ได้รบั กำรเสนอชื่อจำกสว่ นรำชกำรท่เี กย่ี วขอ้ ง สง่ ใหม้ ลู นธิ ิฯ ตำมจำนวนทก่ี ำหนดให้พจิ ำรณำคัดเลอื ก 5.6 แจ้งผลกำรพิจำรณำคัดเลือกผู้รับทุนกำรศึกษำ ให้หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศึกษำท่ีเสนอขอรับ ทุน และรำยงำนผลกำรดำเนนิ กำรคัดเลอื กใหม้ ลู นธิ ิรว่ มจิตตน์ ้อมเกลำ้ เพอื่ เยำวชนฯ ในพระบรมรำชนิ ปู ถัมภท์ รำบ 5.7 มอบทุนกำรศึกษำมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้ำ เพ่ือเยำวชนฯ ในพระบรมรำชินูปถัมภ์ ให้นักเรียน นกั ศกึ ษำ ทไ่ี ด้รบั กำรคัดเลือก 5.8 กำกับติดตำม และรวบรวมข้อมูลกำรรำยงำนผลกำรศึกษำ และสถำนภำพของผู้รับทุนให้มูลนิธิร่วม จิตต์น้อมเกลำ้ เพอ่ื เยำวชนฯ ในพระบรมรำชนิ ปู ถมั ภท์ รำบ
7. แบบฟอร์มท่ใี ช้ 7.1 ระเบียบและหลักเกณฑก์ ำรคัดเลือก (เอกสำรนอ้ มเกล้ำฯ 10) 7.2 ใบสมคั รขอรับทนุ กำรศึกษำ (เอกสำรน้อมเกลำ้ ฯ 1.1) 73 ใบตอบรับเงินทจ่ี ังหวดั เป็นผ้รู บั เงนิ (เอกสำรน้อมเกล้ำฯ 3.1) 7.4 ใบตอบรบั เงนิ ทุนของเยำวชนแตล่ ะคน (เอกสำรนอ้ มเกล้ำฯ 3.2) 8. ข้อกฎหมำยท่เี กีย่ วขอ้ ง พระรำชบัญญัตกิ ำรศกึ ษำแห่งชำติ พทุ ธศักรำช 2542 และที่แกไ้ ขเพิ่มเติม 9. เอกสำรอ้ำงองิ ระเบยี บและหลักกณฑก์ ำรคัดเลือกเยำวชนคนใหมเ่ ขำ้ รบั ทนุ สำหรับจังหวัดถือปฏบิ ัติ (เอกสำรนอ้ มเกล้ำฯ 10) มูลนิธิรว่ มจิตต์นอ้ มเกล้ำ เพือ่ เยำวชนฯ ในพระบรมรำชนิ ูปถมั ภ์
1. ช่ืองำน (กระบวนงำน) ข้อ (4.3.4) งำนทนุ กำรศกึ ษำเฉลมิ รำชกมุ ำรี 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่ือจดั สรรทุนกำรศึกษำให้แก่นักเรียน นักศกึ ษำ และสำมเณรในสถำนศึกษำท่ีอยู่ในพื้นท่หี ่ำงไกลและ มอี ัตรำกำรเรียนตอ่ ต่ำ ไดม้ โี อกำสศึกษำต่อในระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำยจนจบปรญิ ญำตรี 2.2 เพื่อสง่ เสริมให้ผรู้ ับทนุ กำรศึกษำกลับไปปฏิบัติงำนในพน้ื ท่ีภูมลิ ำเนำของตนเองหลังสำเรจ็ กำรศกึ ษำ 2.3 เพ่ือปลูกฝังและพัฒนำนักเรียน นักศึกษำ และสำมณรในสถำนศึกษำท่ีอยู่ในพ้ืนที่ห่ำงไกลให้เห็ น คุณค่ำทำงกำรศึกษำ มีควำมสำนึกในกำรเป็นคนไทย รักถิ่นฐำน รักประเทศ และรักกำรปกครองคำมระบอบ ประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข 3. ขอบเขตของงำน 3.1 คัดเลือกนักเรียน นักศึกษำ และสำมณรที่กำลังศึกษำอยู่ในช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 3 ประสงค์จะเรียนต่อ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 4 หรือหลักสตู รวชิ ำชีพ 3.2 คัดเลือกนักเรียน นักศึกษำ และสำมเณร ท่ีมีฐำนะยำกจน อยู่ในพ้ืนที่ห่ำงไกล ทุรกันดำร กำร คมนำคมยำกลำบำก และมีอัตรำกำรเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 หรือเทียบเท่ำอยู่ในระดับต่ำ รวมท้ังขำดโอกำส ในกำรศกึ ษำตอ่ มคี วำมประพฤตดิ ี มคี วำมม่งุ ม่ัน ขยนั หม่นั เพยี รท่ีจะศึกษำตอ่ จนสำเร็จระดับปรญิ ญำตรี 3.3 ผู้รับทุนกำรศึกษำเมื่อสำเร็จกำรศึกษำแล้วกลับไปพัฒนำท้องถิ่นบ้ำนเกิด เป็นพลเมืองดี และรัก แผน่ ดินถน่ิ เกดิ ส่วนสำมเณรควรเป็นผูส้ บื ศำสนทำยำททดี่ ี เพ่อื เผยแผ่พระพุทธศำสนำตอ่ ไป 4. คำจำกัดควำม 4.1 กำรดำเนินโครงกำรทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี หมำยถึง กระทรวงศึกษำธิกำรดำเนินโครงกำร ทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ในโอกำส ฉลองพระชนมำยุ 5 รอบ 2 เมษำยน 2558 ดว้ ยกำรสนบั สนนุ ทุนกำรศกึ ษำให้แก่ นักเรียน นกั ศึกษำ และสำมเณร ที่อยู่ในพื้นที่ห่ำงไกลและมีอัตรำกำรเรียนต่อต่ำ ได้มีโอกำสเรียนต่อระดับมัธยมศึกษำตอนปลำยจนจบระดับ ปริญญำตรี และเม่ือสำเร็จกำรศึกษำแล้วกลับไปเป็นกำลังสำคัญในกำรพัฒนำท้องถ่ินของตนเองประสงค์จะเรียน ต่อช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 4 หรือหลักสูตรวิชำชีพ มีฐำนะยำกจน อยู่ในพื้นที่ห่ำงไกล ทุรกันดำรกำรคมนำคม ยำกลำบำก และมีอัตรำกำรเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 4 หรือเทียบเท่ำอยู่ในระดับต่ำ รวมท้ังขำดโอก ำสใน กำรศกึ ษำตอ่ มีควำมประพฤติดี มีควำมมุ่งม่ัน ขยนั หมนั่ เพยี รท่จี ะศึกษำตอ่ จนสำเร็จระดับปรญิ ญำตรี 4.2 กำรจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลผู้รับทุนกำรศึกษำ หมำยถึง กำรจัดทำข้อมูลนักเรียน นักศึกษำและ สำมเณร ทีไ่ ดร้ บั ทุนกำรศกึ ษำอยำ่ งเปน็ ระบบ เพ่ือใหเ้ กิดประสิทธภิ ำพ บรรลุเปำ้ หมำยของโครงกำร
4.3 กำรส่งเสริม สนับสนุน ดูแล ช่วยเหลือผู้รับทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี หมำยถึง กำรส่งเสริมดูแล พัฒนำ ป้องกัน และแก้ไขปัญหำด้ำนสุขภำพกำย สุขภำพจิต กำรเรียนรู้ ตลอดจนมีทักษะชีวิตทำงสังคมและ สำมำรถอยู่ในสังคมไดอ้ ย่ำงมีควำมสุข 4.4 ผรู้ บั ทุนกำรศึกษำในโครงกำรทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี หมำยถงึ ผรู้ บั ทนุ กำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี ที่รับทุนกำรศึกษำเพ่ือใช้ในกำรศึกษำเท่ำน้ัน โดยอยู่ในควำมดูแลของอำจำรย์ที่ปรึกษำหรือครูผู้ดูแล โดยกำรเปิด บัญชีธนำคำรกรุงไทย จำกัด หรือธนำคำรอ่ืน ๆ ของรัฐ สำขำท่ีสะดวกต่อกำรเดินทำง สำหรับกำรเบิก ถอนตำม อตั รำของทุนกำรศกึ ษำท่ีไดร้ ับดังนี้ 1) ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย จำนวน 25,000 บำท ตอ่ คนตอ่ ปี 2) ระดับประกำศนยี บัตรวิชำชีพ (ปวช.) จำนวน 30,000 บำท ต่อคนต่อปี 3) ระดบั ประกำศนียบัตรวชิ ำชพี ชนั้ สงู (ปวส.) จำนวน 55,000 บำท ต่อคนตอ่ ปี 4) ระดบั ปรญิ ญำตรี จำนวน 55,000 บำท ตอ่ คนต่อปี 4.6 เหตรุ ะงับสิทธ์ิของผูร้ บั ทนุ กำรศึกษำเฉลิมรำชกมุ ำรี หมำยถงึ ผ้ทู ่ไี ดร้ ับทุนกำรศกึ ษำ 1) เสียชวี ิต 2) พ้นสภำพกำรเปน็ นักเรยี น นกั ศึกษำ ลำสกิ ขำ 3) กระทำผิดกฎ ระเบียบ วินัยของสถำนศึกษำ และถูกลงโทษฐำนควำมผิดตำมระเบียบของ สถำนศกึ ษำอย่ำงรำ้ ยแรง 4) รบั ทนุ กำรศึกษำต่อเน่ืองจำกแหล่งทุนอื่น ๆ ยกเว้นทุนกู้ยมื เพอื่ กำรศกึ ษำ 5) ไมเ่ ข้ำร่วมกิจกรรมเพ่ือตอบแทนสงั คมตำมท่ีสว่ นรำชกำรตน้ สงั กัดกำหนด 4.7 ทุนกำรศึกษำแบบรำยปี หมำยถึง เงินที่มอบให้กับนักเรียน นักศึกษำ ภิกษุ สำมเณร ท่ีรับทุนเพ่ือ นำไปเป็นค่ำใช้จ่ำยสำหรบั กำรศกึ ษำรำยปีจนเยำวชนจบกำรศกึ ษำช้ันสูงสดุ ในแตล่ ะระดบั รำยบุคคลในแต่ละระดบั 4.8 ทุนกำรศึกษำแบบต่อเน่ือง หมำยถึง เงินท่ีมอบให้กับนักเรียน นักศึกษำ ภิกษุ สำมณรที่รับทุนเพ่ือ นำไปเปน็ คำ่ ใชจ้ ำ่ ยสำหรบั กำรศกึ ษำต่อเน่อื ง จนจบกำรศึกษำชนั้ สูงสุดระดบั ปรญิ ญำตรี 4.9 ระบบดูแลผู้รับทุนกำรศึกษำ หมำยถึง กำรดูแลสภำพควำมเป็นอยู่และสวัสดิภำพของผู้รับทุน ครอบคลุมทงั้ ในดน้ สภำพแวดล้อม ควำมเป็นอยู่ สวสั ดภิ ำพดำ้ นร่ำงกำย จิตใจ อำรมณแ์ ละสังคม รวมถึงกำรพฒั นำ ทักษะกำรเรียนรู้ ทักษะชีวิต ทักษะสังคม และมีมำตรกำรในกำรดูแลและป้องกันปัญหำท่ีจะส่งผลให้ผรู้ ับทุนเรยี น ไม่จบตำมกำหนด 5. ขั้นตอนกำรปฏบิ ัตงิ ำน
5.1 ศึกษำรำยละเอียดคู่มือแนวปฏิบัติกำรดำเนินงำนโครงกำรทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี ของ กระทรวงศึกษำธกิ ำร 5.2 จัดทำบัญชีรำยละเอียดข้อมูลผู้เสนอขอรับทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี ที่หน่วยงำนทำงกำรศึกษำท่ี เกยี่ วขอ้ งแจ้งข้อมลู เสนอผบู้ ังคบั บญั ชำเพอ่ื ทรำบ และพจิ ำรณำสั่งกำร 5.3 นำรำยชื่อผู้ที่ได้รับกำรพิจำรณำคัดเลือกรับทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี เสนอต่อที่ประชุม คณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำให้ควำมเห็นชอบ เพ่ือเสนอคณะกรรมกำรศึกษำธิกำรจังหวัด (กศจ.) 5.4 นำรำยชอ่ื ผทู้ ่ีได้รบั กำรพิจำรณำคัดเลือกรบั ทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี ใหค้ ณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จังหวัด (กศจ.) พิจำรณำ 5.5 จัดทำหนังสือแจ้งส่วนรำชกำรที่เก่ียวข้อง ส่งรำยช่ือให้ส่วนรำชกำรต้นสังกัดดำเนินกำรมอบ ทุนกำรศึกษำ 5.6 ประสำนควำมร่วมมือสนับสนุนกำรดำเนินกำรติดตำมประเมินผล และรำยงำนผลกำรดำเนินงำน โครงกำรทนุ กำรศกึ ษำ ทกุ ส้ินปีกำรศกึ ษำ 5.7 รำยงำนผลกำรคัดเลือกผู้รับทุนกำรศึกษำต่อกระทรวงศึกษำธิกำรทรำบ ภำยในเดอื นมิถนุ ำยน 5.8 เสนอรำยงำนผลกำรดำเนินงำนโครงกำรทุนกำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี ต่อกระทรวงศึกษำธิกำรและ คณะกรรมกำรอำนวยกำรโครงกำรทนุ กำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรีทรำบ
7. แบบฟอรม์ ทีใ่ ช้ 7.1 คมู่ อื แนวปฏิบตั กิ ำรดำเนินงำนโครงกำรทนุ กำรศกึ ษำเฉลิมรำชกมุ ำรี ของกระทรวงศึกษำธิกำร 7.2 แบบขอ้ มลู รำยบคุ คล ผรู้ ับทุนกำรศึกษำเฉลมิ รำชกมุ ำรี 7.3 แบบสรปุ ผ้รู บั ทุนกำรศึกษำโครงกำรทุนกำรศกึ ษำเฉลิมรำชกมุ ำรี 7.4 แบบส่งตอ่ ผู้รับทุนกำรศึกษำโครงกำรทนุ กำรศึกษำเฉลมิ รำชกมุ ำรี
8. ขอ้ กฎหมำยที่เก่ยี วข้อง พระรำชบญั ญัตกิ ำรศึกษำแห่งชำติ พุทธศกั รำช 2542 และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม 9. เอกสำรที่เกย่ี วข้อง คู่มอื แนวปฏบิ ตั ิกำรดำเนนิ งำนโครงกำรทนุ กำรศึกษำเฉลิมรำชกุมำรี ของกระทรวงศึกษำธกิ ำร
1. ช่อื งำน (กระบวนงำน) ข้อ 4 งำนระดมทรัพยำกรเพื่อกำรศกึ ษำ 2.วตั ถุประสงค์ 2.1 เพือ่ ระดมทรพั ยำกรเพือ่ กำรศึกษำ 2.2 เพื่อให้หน่วยงำน สถำนศึกษำ ได้รับกำรสนับสนุนทรัพยำกรเพื่อกำรศึกษำจำกภำครฐั แลเอกชนอยำ่ ง ตอ่ เน่ือง 2.3 เพื่อสร้ำงควำมสัมพันธ์ระหวำ่ งหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำ หน่วยงำนภำครัฐและภำคเอกชน 2..4 เพอ่ื สรำ้ งกำรมสี ว่ นรว่ มระหว่ำงหนว่ ยงำนภำครฐั กับเอกชนและประชำชนทั่วไปในกำรจัดกำรศึกษำ 3. ขอบเขตของงำน กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์และกำรมีส่วนร่วมระหว่ำงหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ หน่วยงำนภำครัฐภำคเอกชน และประชำชนท่ัวไป เห็นควำมสำคัญของในกำรจัดกำรศึกษำ โดยร่วมระดมทรัพยำกรเพื่อใช้ประโยชน์ในกำรเพม่ิ ประสิทธิภำพในกำรจดั กำรศกึ ษำ 4. คำจำกัดควำม กำรระดมทรัพยำกรเพ่ือกำรศึกษำ หมำยถึง กำรระดมทรัพยำกร และกำรลงทุนด้ำนงบประมำณกำรเงิน และทรัพยส์ ินทั้งของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคคล ครอบครวั ชมุ ชน องค์กรภำครัฐ เอกชนองค์กรวิชำชีพ สถำบนั กำรศึกษำ สถำนประกอบกร สถำบนั สงั คมอ่ืนทั้งในและตำ่ งประเทศ มำใชใ้ นกำรจดั กำรศกึ ษำ 5. ขัน้ ตอนกำรปฏิบตั ิงำน 5.1 ศึกษำสภำพปัญหำและควำมต้องกำรเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับกำรระดมทรัพยำกรเพื่อกำรศึกษำและ ศึกษำรำยละเอยี ด ระเบียบ หลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไข กำรระดมทัพยำกรเพอื่ กำรศึกษำ 5.2 แต่งต้งั คณะกรรมกำรดำเนนิ งำนระดมทรัพยำกรเพื่อกำรศกึ ษำ 5.3 ประชำสัมพันธ์รำยละเอียด และวัตถุประสงค์ของกำรระดมทรัพยำกรเพื่อกำรศึกษำให้บุคคลองค์กร หนว่ ยงำน ภำครัฐ ภำคเอกชนประชำชนทั่วไป มสี ว่ นรว่ มในกำรสนบั สนุนดำ้ นกำรระดมและกำรบริจำค 5.4 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำกล่ันกรอง และคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จงั หวัด (กศจ.) พจิ ำรณำ (ตำมแนวปฏิบัติของกำรระดมทรพั ยำกรเพื่อกำรศกึ ษำแตล่ ะประเภท) 5.5 จัดทำข้อมูลสำรสนเทศเกี่ยวกับทรัพยำกรเพ่ือกำรศึกษำแต่ละประเภท เพื่อกำรนำไปใช้ประโยชน์ต่อกำร พัฒนำกำรศกึ ษำในภำพรวม
5.6 จัดทำเกียรติบัตร ยกย่องชมเชย องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรภำครัฐ องค์กรเอกชน องค์กรวิชำชีพ สถำบันกำรศึกษำ สถำนประกอบกำร สถำบันสังคมอ่ืนท้ังในและต่ำงประเทศเพ่ือ เผยแพรต่ อ่ สำธำรณชนไดร้ ับทรำบ ในรปู แบบต่ำง ๆ 5.7 กำกับ ตดิ ตำม ประเมนิ ผล และรำยงำนผลกำรดำเนินงำนต่อหน่วยงำนต้นสังกัด
7. แบบฟอรม์ ที่ใช้ 7.1 หลกั ฐำนกำรบริจำคหรอื เอกสำรแสดงควำมขอบคณุ ในรปู แบบต่ำง ๆ ใหก้ บั บุคคล หน่วยงำนที่บรจิ ำค 7.2 ใบเสร็จรับเงินบรจิ ำค โดยสำมำรถนำไปลดหยอ่ นภำษีได้ 7.3 บญั ชแี สดงรำยกำรรำยรบั รำยจ่ำยเงนิ ทไี่ ด้รบั บรจิ ำค 8. ขอ้ กฎหมำยท่ีเกย่ี วขอ้ ง 8.1 พระรำชบัญญตั กิ ำรศึกษำแหง่ ชำติ พทุ ธศกั รำช 2542 และทแี่ ก้ไขเพ่มิ เติม 8.2 พระรำชบญั ญตั คิ วบคุมกำรเรี่ยไร พุทธศกั รำช 2487 8.3 พระรำชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลรษั ฎำกร (ฉบบั ที่ 44) พ.ศ. 2560 9. เอกสำรที่เกยี่ วซ้อง ระเบียบและหลกั เกณฑก์ ำรระดมทรัพยำกรเพ่ือกำรศึกษำ
7. จัดระบบกำรประสำน สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื และกำรรำยงำนเหตุภัยพิบตั ิและภำวะวิกฤตทำงกำรศกึ ษำในจังหวัด ประกอบด้วย 3 กระบวนงำน ไดแ้ ก่ 7.1 งำนประสำน สนบั สนุน ป้องกนั ชว่ ยเหลอื และกำรรำยงำนเหตุภยั พิบัติ ในสถำนศึกษำ 7.2 งำนบรหิ ำรจดั กำร เพือ่ ปอ้ งกนั และแก้ไขภำวะวกิ ฤตทำงกำรศึกษำ ในสถำนศึกษำ 7.3 งำนสถำนศึกษำปลอดภัย 1. ช่อื งำน (กระบวนงำน) ขอ้ 7.1 งำนประสำน สนบั สนนุ ปอ้ งกนั ชว่ ยเหลือและกำรรำยงำนเหตุภัยพบิ ตั ิ ในสถำนศึกษำ 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพ่ือส่งเสริม สนับสนุนกำรดำเนินงำนประสำน สนับสนุน ป้องกัน ช่วยเหลือและกำรรำยงำนเหตุภัย พิบตั ใิ นสถำนศึกษำ 2.2 เพ่ือประสำนควำมร่วมมือในกำรขับเคล่ือนกำรดำเนินงำนสนับสนุน ป้องกัน ช่วยเหลือและกำร รำยงำนเหตภุ ัยพิบัติ ในสถำนศึกษำ 2.3 เพื่อกำกับ ติดตำมและประเมินผลกำรดำเนินงำนประสำน สนับสนุน ป้องกัน ช่วยเหลือและกำร รำยงำนเหตุภยั พบิ ตั ิ ในสถำนศึกษำ 3. ขอบเขตของงำน 3.1 กำรส่งเสริม สนับสนุนกำรดำเนินงำนประสำน ป้องกัน ช่วยเหลือและกำรรำยงำนเหตุภัยพิบัติใน สถำนศึกษำ 3.2 กำรประสำนควำมร่วมมือในกำรขับเคลื่อนกำรดำเนินงำนสนับสนุน ป้องกัน ช่วยเหลือและกำร รำยงำนเหตุภยั พบิ ตั ิ ในสถำนศึกษำ 3.3 กำรกำกับ ติดตำมและประเมินผลกำรดำเนินงำนประสำน สนับสนุน ป้องกัน ช่วยเหลือและกำร รำยงำนเหตภุ ยั พบิ ตั ิในสถำนศึกษำ 4. คำจำกัดควำม 4.1 งำนประสำน สนับสนุน ป้องกัน ช่วยเหลือและกำรรำยงำนเหตุภัยพิบัติ หมำยถึง กำรจัดกิจกร รม ป้องกันอันตรำยท่ีอำจเกิดขึ้นกับสถำนศึกษำ ซึ่งสำมำรถป้องกันอันตรำยท่ีอำจเกิดข้ึน โดยใช้เคร่ืองมืออุปกรณ์ ป้องกันอันตรำยควำมมีระเบียบ ควำมมีวินัยและกำรปฏิบัติตำมกฎควำมปลอดภัยโดยเคร่งครัด ภำยใต้กำร ดำเนนิ งำน 4 ด้ำน ดงั น้ี
1) ด้ำนกำรป้องกันและกำรแก้ไขอุบัติเหตุ หมำยถึงอุบัติเหตุบริเวณภำยในสถำนศึกษำท่ีเกิดจำก อำคำรเรียน อำคำรประกอบและเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ เคร่ืองเล่นสนำมและอุปกรณ์ต่ำง ๆ และอุบัติเหตุที่เกิดจำก สภำพแวดลอ้ มภำยนอกสถำนศึกษำ เช่น อบุ ัติเหตุทำงท้องถนน ทำงนำ้ เปน็ ต้น 2) ด้ำนกำรป้องกันและกำรแก้ไขปัญหำภัยพิติ หมำยถึง ภัยท่ีก่อให้เกิดควำมเสียหำยต่อชีวิตและ ทรัพย์สิน โดยส่งผลกระทบต่อภำวะเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมทั้งในระยะส้ันและระยะยำว ภัยพิบัติ แบง่ เปน็ 2 ประเภท คือ ภัยพบิ ตั ิทำงธรรมชำติและภัยพบิ ัติท่ีมนษุ ย์สรำ้ งขน้ึ 3) ด้ำนกำรป้องกันและกำรแก้ไขปัญหำสังคม หมำยถึง ภัยที่เกิดจำกกำรล่วงละเมิดทำงร่ำงกำยและ จิตใจ กำรทำร้ำยตัวเองและกำรฆำ่ ตวั ตำย กำรอปุ โภคบรโิ ภค กำรทะเลำะววิ ำท กำรถูกลอ่ ลวงและลักพำ ส่ือลำมก อนำจำร อบำยมุข พฤตกิ รรมชู้สำวกำรตั้งครรภไ์ มพ่ รอ้ ม และอนิ เทอรเ์ น็ต เกม คอมพวิ เตอร์ เป็นตน้ 4) ด้ำนสุขภำพอนำมัยของนักเรียน หมำยถึง ภัยที่เกิดจำกสัตว์มีพิษ อำหำรเป็นพิษ มลภำวะเป็นพษิ เป็นตน้ 4.2 กำรสร้ำงวัฒนธรรมควำมปลอดภัย หมำยถึงกำรสร้ำงจิตสำนึกด้ำนควำมปลอดภัยกำรปฏิบัติตำม กฎหมำยเพื่อให้เกิดควำมปลอดภัยและกำรสร้ำงวัฒนธรรมควำมปลอดภัยเชิงป้องกัน โดยมีกลไกสำคัญ คือ กำร สร้ำงควำมตระหนักรู้และปลูกจิตสำนึกด้ำนควำมปลอดภัยปรับเปล่ียนและลดพฤติกรรมเสี่ยงซ่ึงจะทำให้นำไปสู่ กำรลดอตั รำกำรประสบอันตรำยลดลง 5. ข้ันตอนกำรปฏิบตั ิงำน 5.1 กำหนดนโยบำย มำตรกำร แนวทำงและแผนกำรป้องกัน ช่วยเหลือและกำรรำยงำน เหตุภัยพิบัติใน สถำนศึกษำ ระดับจงั หวดั 5.2 แต่งตั้งคณะกรรมกำรศูนย์อำนวยกำรป้องกันช่วยเหลือและกำรรำยงำนเหตุภัยพิบัติในสถำนศึกษำ ระดบั จังหวดั 5.3 นำเสนอคณะอนุกรรมกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำกำรศึกษำกล่ันกรอง และคณะกรรมกำรศึกษำธิกำร จงั หวัดพจิ ำรณำ 5.4 ส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือหน่วยงำนทำงกำรศึกษำจัดกิจกรรมเสริมควำมรู้ บูรณำกำรและ เสรมิ สร้ำงดำ้ นกำรป้องกนั และกำรแกไ้ ขอบุ ัตเิ หตุ อบุ ัตภิ ัย 5.5ให้ควำมช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษำและเยำวชนที่ประสบปัญหำ โดยกำรประสำนหน่วยงำนทำง กำรศึกษำสถำนศึกษำ หรอื ทมี สหวชิ ำชีพ และรำยงำนผบู้ ังคบั บญั ชำตำมลำดบั (เป็นรำยกรณี) 5.6 กำกับ ตดิ ตำม ประเมินผลและรำยงำนผลกำรดำเนินงำนงำนป้องกนั ช่วยเหลอื และกำรรำยงำนเหตุภัย พบิ ตั ใิ นสถำนศึกษำ
5.7 ศกึ ษำ วเิ ครำะห์ วิจยั ผลกำรดำเนนิ งำนงำนส่งเสรมิ กำรป้องกันช่วยเหลือและกำรรำยงำนเหตภุ ัยพิบัติ ในสถำนศกึ ษำ
7. แบบฟอรม์ ทีใ่ ช้ 7.1 แบบรำยงำนข้อมลู นกั เรยี นทต่ี อ้ งได้รับกำรดแู ลชว่ ยเหลอื 7.2 แบบเสนอแนะของคณะกรรมกำร 7.3 แบบบนั ทึกกำรใหค้ วำมชว่ ยเหลือ 8.ข้อกฎหมำยทเ่ี กย่ี วข้อง 8.1 รฐั ธรรมนญู แหง่ รำชอำณำจักรไทย ปี 2560 8.2 พระรำชบัญญตั ิคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 8.3 พระรำชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงำน พ.ศ.2541 8.4 พระรำชบญั ญตั ปิ ้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ พ.ศ.2551 8.5 พระรำชบญั ญัตสิ ง่ เสรมิ กำรพฒั นำเดก็ และเยำวชนแหง่ ชำติ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560 8.6 อนุสญั ญำวำ่ ดว้ ยสทิ ธเิ ด็ก (Convention on the Rights of the Child) 9. เอกสำรอ้ำงองิ -
1. ชือ่ งำน (กระบวนงำน) ข้อ 7.2 งำนบริหำรจดั กำร เพอ่ื ปอ้ งกนั และแกไ้ ขภำวะวกิ ฤตทำงกำรศึกษำ ในสถำนศึกษำ 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริม สนับสนุนกำรงำนบริหำรจัดกำร เพื่อป้องกันและแก้ไขภำวะวิกฤตทำงกำรศึกษำ ใน สถำนศกึ ษำ 2.2 เพื่อประสำนควำมร่วมมือในกำรขับเคล่ือนกำรงำนบริหำรจัดกำร เพ่ือป้องกันและแก้ไขภำวะวิกฤต ทำงกำรศกึ ษำ ในสถำนศึกษำ 2.3 เพ่ือกำกบั ติดตำมและประเมนิ ผลกรงำนบริหำรจดั กร เพือ่ ป้องกนั และแกไ้ ขภำวะวิกฤตทำงกำรศึกษำ ในสถำนศกึ ษำ 3. ขอบเขตของงำน 3.1 กำรส่งเสริม สนับสนุนกำรงำนบริหำรจัดกำร เพ่ือป้องกันและแก้ไขภำวะวิกฤตทำงกำรศึกษำ ใน สถำนศกึ ษำ 3.2 กำรประสำนควำมร่วมมือในกำรขับเคลื่อนกำรงำนบริหำรจัดกำร เพื่อป้องกันและแก้ไขภำวะวิกฤต ทำงกำรศึกษำ ในสถำนศกึ ษำ 3.3 กำรกำกับ ติดตำมและประเมินผลกำรงนบริหำรจัดกำร เพ่ือป้องกันและแก้ไขภำวะวิกฤตทำง กำรศกึ ษำ ในสถำนศึกษำ 4. คำจำกดั ควำม 4.1 ภำวะวิกฤตทำงกำรศึกษำ หมำยถึง สภำวกำรณ์ต่ำงๆที่ทำให้เกิดปัญหำในกำรจัดกำรศึกษำ เนอ่ื งมำจำกภัยพิบัติ ส่งผลใหน้ กั เรยี น นกั ศกึ ษำและเยำวชน ไม่สำมำรถดำเนินชวี ติ ไดต้ ำมสภำวะปกติ 4.2 กำรบริหำรจัดกำรในภำวะวิกฤต หมำยถึง กำรจัดกำรเพ่ือคลี่คลำยสถำนกำรณ์วิกฤตให้อยู่ในสภำวะ ปกตโิ ดยเร็วทีส่ ุด รวมถงึ กำรบรรเทำภยั กำรช่วยเหลือผ้ปู ระสบภยั กำรฟ้นื ฟูและอื่นๆ 4.3 กำรจัดกำรภำวะวิกฤต (Cisis management หมำยถึง กระบวนกำรที่องค์กรจัดกำรกับเรื่องยุ่งยำก และเหตุกำรณ์ท่ีไม่คำดคิด ที่อำจคุกคำมสู่ควำมอันตรำยขององค์กรหรือผู้มีผลประโยชน์กำรศึกษำเกี่ยวกับกำร จดั กำรภำวะวกิ ฤต 5. ขน้ั ตอนกำรปฏบิ ัตงิ ำน 5.1 กำหนดนโยบำย มำตรกำร แนวทำงและแผนกำรบรหิ ำรจัดกำร เพือ่ ปอ้ งกนั และแก้ไขภำวะวิกฤตทำง กำรศกึ ษำ ในจงั หวดั 5.2 แตง่ ตง้ั คณะกรรมกำรกำรบรหิ ำรจดั กำร เพอ่ื ปอ้ งกันและแก้ไขภำวะวกิ ฤตทำงกำรศกึ ษำในจงั หวดั
5.3 ประสำนควำมร่วมมือในกำรบริหำรจัดกำรจำกหน่วยงำนภำครัฐและเอกชนสถำนศึกษำชุมชนและ องคก์ รอืน่ ๆ 5.4 กำกับ ติดตำม ประเมินผลและรำยงำนผลกำรดำเนินงำนป้องกันและแก้ไขภำวะวิกฤตทำงกำรศึกษำ ในจงั หวัด 5.5 ศึกษำ วเิ ครำะห์ วจิ ยั ผลกำรบรหิ ำรจัดกำร เพ่อื ป้องกันและแก้ไขภำวะวิกฤตทำงกำรศกึ ษำ ในจังหวดั 7. แบบฟอรม์ ทใี่ ช้ 7.1 แบบรำยงำนขอ้ มูลนกั เรยี นทีต่ อ้ งได้รบั กำรดแู ลชว่ ยเหลือ 7.2 แบบเสนอแนะของคณะกรรมกำร 7.3 แบบบันทกึ กำรให้ควำมช่วยเหลอื 8. ขอ้ กฎหมำยทเ่ี กย่ี วข้อง 8.1 รัฐธรรมนญู แห่งรำชอำณำจกั รไทย ปี 2560
8.2 พระรำชบัญญัตคิ ุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 8.3 พระรำชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงำน พ.ศ.2541 8.4 พระรำชบัญญัตปิ อ้ งกันและปรำบปรำมกำรคำ้ มนุษย์ พ.ศ.2551 8.5 พระรำชบัญญตั สิ ่งเสริมกำรพฒั นำเด็กและเยำวชนแหง่ ชำติ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560 8.6 อนสุ ญั ญำว่ำด้วยสทิ ธเิ ดก็ (Convention on the Rights of the Child) 9. เอกสำรอำ้ งองิ -
1.ชอื่ งำน (กระบวนงำน) ขอ้ 7.3 งำนสถำนศกึ ษำปลอดภัย 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพื่อพัฒนำแนวทำงกำรรักษำควำมปลอดภัยของหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ด้ำนอุบัติเหตุอุบัติภัย และ ปัญหำทำงสังคม โดยอำศัยควำมคิดเชิงสร้ำงสรรค์ กำรมีส่วนรว่ ม และยดึ ประโยชน์สูงสดุ ของนกั เรียนเป็นสำคญั 2.2 เพ่ือสร้ำงควำมเข้มแข็งในกำรลดควำมเส่ียงของภัยทุกชนิด ท่ีเกิดขึ้นในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ใหป้ ลอดภัย 2.3 เพอ่ื สรำ้ งควำมเข้มแขง็ ระบบกำรรกั ษำควำมปลอดภยั กำรบรหิ ำรจดั กำร กำรมีสว่ นร่วมของเครือข่ำย และเพ่ิมขีดควำมสำมำรถของกำรเตรียมควำมพร้อมด้ำนควำมปลอดภัย นักเรียน ครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำสำนักงำนศึกษำธกิ ำรจงั หวดั 2.4 ลดจำนวนผ้บู ำดเจบ็ และเสียชีวิต จำกผลกระทบภัยอันตรำยในหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำ 2.5 เพื่อคุ้มครองนักเรียน และบุคลำกรด้ำนกำรศึกษำ ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำจำกกำรเสียชีวิต กำร บำดเจ็บ และอันตรำยในโรงเรยี น 3. ขอบเขตงำน จัดทำและสง่ เสริมแนวทำงสำหรับหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ในเร่ืองนโยบำยและแนวปฏิบัติควำมปลอดภัย รอบด้ำนในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ เพื่อลดควำมเสี่ยงของภัยทุกชนิดท่ีเกิดข้ึนในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ให้เกิด ควำมปลอดภัยรอบด้ำนและติดตำมประเมินผล เพื่อพัฒนำกำรดำเนินงำนให้สอดคล้องกับเป้ำหมำยกำรพัฒนำท่ี ยงั่ ยืน 4. คำจำกัดควำม 4.1สภำพแวดล้อมของหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ หมำยถึง อำคำรสถำนท่ี และบริเวณโรงเรียนท่ีใช้เป็นท่ี จดั กำรเรยี นกำรสอน และกิจกรรมตำ่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั นกั เรียน 4.2 กำรสุขำภิบำลส่ิงแวดลอ้ มในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ หมำยถึง กำรจัดกำร ควบคุมดูแลและปรับปรุง ภำวะตำ่ ง ๆ ของหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำ ใหถ้ กู ต้องเหมำะสม และอยใู่ นสภำพทถ่ี ูกสุขลักษณะ 4.4 หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ หมำยถึง สถำนพัฒนำเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์กำรเรียนวิทยำลัย สถำบัน มหำวทิ ยำลัย หรือหน่วยงำนอ่ืนของรัฐหรือเอกชน ท่ีมีอำนำจหน้ำทหี่ รือมีวตั ถุประสงคใ์ นกำรจัดกำรศกึ ษำ 4.5 อุบัติเหตุ หมำยถึง อันตรำยที่เกิดข้ึนโดยฉับพลัน ซ่ึงไม่คำดคิดมำก่อน อันเกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติ หรือกำรกระทำของมนุษย์ ส่งผลใหเ้ กิดควำมเสยี หำยท้ังทำงร่ำงกำยและทรัพยส์ นิ อบุ ตั เิ หตเุ กดิ ข้นึ ได้กับทุกคน ทกุ เวลำ และทุกสถำนท่ี หำกไม่มีกำรศึกษำและกำรป้องกันท่ีดีพอ ย่อมมีโอกำสเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่ยอุบัติเหตุใน
หน่วยงำนทำงกำรศึกษำมักมีสำเหตุมำจำกควำมประมำทขำดกำรดูแลเอำใจใส่ในเร่ืองอำคำร สถำนท่ี วสั ดอุ ปุ กรณ์ และสภำพแวดลอ้ มของสถำนศึกษำ 4.6 เหตุฉุกเฉิน หมำยถึง อุบัติเหตุ อุบัติภัย หรอภัยทำงสังคม ท่ีอำจเกิดขึ้นโดยไม่คำดคิดมำก่อน ส่งผล กระทบทำให้เกดิ ควำมเสยี หำยทั้งในทำงตรง และทำงอ้อม แก่ชวี ิต รำ่ งกำย จติ ใจ และทำใหท้ รัพย์สินเสยี หำย 4.7 แผนฉุกเฉินของหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ หมำยถึง แผนตอบโต้เหตุฉุกเฉินท่ีอำจเกิดข้ึนในหน่วยงำน ทำงกำรศึกษำ 4.8 ควำมปลอดภัยในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ หมำยถึง กำรปฏิบัติของโรงเรียนในด้ำนส่ิงแวดล้อมทำง กำยภำพ ดำนสุขภำพแวดลอมทำงสงั คม ดำ้ นบริกำรควำมปลอดภัย และด้ำนสวัสดศิ กึ ษำเพื่อปองกนั และหลีกเลี่ยง อันตรำยท่ีจะเกดิ ข้นึ กบั นักเรยี นขณะมำโรงเรยี น อยู่ในโรงเรยี น และกลับจำกโรงเรียนไปสบู่ ำ้ น 5. ขนั้ ตอนกำรปฏิบตั งิ ำน 5.1 จดั ทำแผนปฏบิ ตั ิกำร เรอ่ื งควำมปลอดภัยในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำของจงั หวัด 5.2 แตง่ ตงั้ คณะกรรมกำรดำเนินงำนให้คำปรึกษำด้ำนควำมปลอดภยั ของจงั หวดั 5.3 จัดต้งั โครงสรำ้ งกำรบรหิ ำรงำนควำมปลอดภัยเพื่อให้เกิดกำรพัฒนำองคค์ วำมรู้และสรำ้ งเครือข่ำยกำร เรียนรู้ เรอ่ื งควำมปลอดภัยในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ 5.4 แต่งต้ังคณะกรรมกำรสรำ้ งเคร่ืองมอื ในกำรวัดและประเมินผลกำรดำเนินงำนหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ของจังหวัด 5.5 ประกำศเกียรติคุณยกย่อง/ เชิดชูเกียรติ หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ที่มีผลงำนในกำรดำเนินกำรเร่ือง ควำมปอดภัยในหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำ 5.6 สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำน และรำยงำนผลกำรดำเนินงำน 5.7 เผยแพร่ประชำสมั พันธ์กำรดำเนนิ งำนของหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำตน้ แบบของจังหวดั
7. แบบฟอร์มท่ใี ช้ 7.1 แบบเสนอชื่อเพื่อตรวจประเมินกิจกรรม \"สถำนศกึ ษำปอดภัย\" 17.2 แบบรำยงำนขอ้ มูลรำยช่ือจำนวนนักเรียน ผู้ท่ตี ้องดูแลเปน็ พเิ ศษ 7.3 แบบประเมนิ กำรเตรยี มควำมพร้อมของหน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำประกอบด้วย 1) สงั กดั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขันพ้ืนฐำน(สพฐ.) 2) สำนักบริหำรงำนคณะกรรมกำรสง่ เสรมกำรศึกษำเอกชน (สช.) 3) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศึกษำ (สอศ.) 4) สำนกั งำนคณะกรรมกำรอดุ มศึกษำ (สกอ.) 5) สำนกั งำนส่งเสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั (กศน.) 8. ข้อกฎหมำยทีเ่ กยี่ วข้อง 8.1 รฐั ธรรมนูญแหง่ รำชอำณำจกั รไทย ปี 2560
8.2 พระรำชบัญญตั ิคมุ้ ครองเดก็ พ.ศ. 2546 8.3 พระรำชบญั ญัตคิ วำมปอดภยั อำชวี อนำมัย และสภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำน พ.ศ.2554 8.4 ระเบยี บกระทรวงศกึ ษำธกิ ำรวำ่ ดว้ ยสทิ ธเิ ด็กเยำวชน 8.5 ระเบยี บกระทรวงศึกษำธิกำรว่ำด้วยสิทธเิ ดก็ และเยำวชน 8.6 คำสั่งหัวหน้ำคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ท่ี 28/2559เร่ือง ให้จัดกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน15 ปี โดยไม่ เกบ็ ค่ำใช้จำ่ ย 8.7 คำสง่ั หัวหน้ำคณะรกั ษำควำมสงบแห่งชำติ ท่ี 30/2559เรอ่ื ง มำตรกำรในกำรป้องกนั และแก้ไขปัญหำ กำรทะเลำะววิ ำทของนกั เรียน/นักศกึ ษำ 9. เอกสำรอำ้ งอิง -
8. งำนส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินกำรเก่ียวกับกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในสถำนศึกษำ ประกอบด้วย 8 กระบวนงำน ไดแ้ ก่ 8.1 งำนโครงกำร TO BE NUMBER ONE ในสถำนศึกษำ 8.2 งำนพิจำรณำควำมดคี วำมชอบผู้รับผดิ ชอบงำนด้ำนปอ้ งกันยำเสพติด 8.3 งำนศนู ย์อำนวยกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมยำเสพติดในสถำนศึกษำ 8.4 งำนปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหำยำเสพติดในสถำนศึกษำ 8.5 งำนกำรพฒั นระบบข้อมลู สำรสนเทศกำรปอ้ งกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในสถำนศึกษำ 8.6 งำนส่งเสรมิ สนับสนนุ กำรใหค้ วำมรใู้ นดำ้ นกำรปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหำยำเสพติดในสถำนศกึ ษำ 8.7 งำนสง่ เสรมิ สนบั สนุนโครงกรสถำนศึกษำสขี ำวปลอดยำเสพติดและอบำยมุข 8.8 งำนส่งเสริม สนับสนุนให้หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศึกษำจัดกิจกรรมป้องกัน และแก้ไขปัญหำยำเสพติด ในสถำนศกึ ษำ 1. ชอื่ งำน (กระบวนงำน) ข้อ 8.1 โครงกำร TO BE NUMBER ONE ในสถำนศกึ ษำ 2. วัตถปุ ระสงค์ 21 เพ่ือพัฒนำกำรดำเนินกำรเก่ียวกับโครงกำร TO BE NUMBER ONE ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ/ สถำนศกึ ษำ 2.2 เพื่อจัดทำแผนกำรดำเนินงำน โครงกำร TO BE NUMBER ONE ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศึกษำ ที่สอดคล้องกบั ยทุ ธศำสตร์กระทรวงศึกษำธิกำร และยุทธศำสตร์จังหวดั 2.3 เพื่อสร้ำงวัฒนธรรมกรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดของเด็กและเยำวชนในกำรจัดกิจกรรม โครงกำร TO BE NUMBER ONE ในหน่วยงำนกำรศึกษำและสถำนศึกษำ อย่ำงสร้ำงสรรค์ ตอ่ เนื่องและตอ่ ยอดอยำ่ งยงั่ ยนื 2.4 เพื่อพัฒนำทักษะ ศักยภำพ องค์ควำมรู้ และสนับสนุนควำมเข้มแข็งของนักเรียน นักศึกษำในกำรจัด กิจกรรมตำมแนวทำงของโครงกำร TO BE NUMBER ONE 3. ขอบเขตงำน 3.1 กำรรณรงค์เพื่อปลุกจิตสำนึกและพัฒนำเครือข่ำยเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำน ทำงกำรศึกษำ/สถำนศึกษำท่ีมีประสิทธิภำพมีส่วนร่วมทุกภำคส่วน กำหนดเป็นนโยบำยเพ่ือพัฒนำ และแก้ไข ปัญหำยำเสพตดิ ในสถำนศกึ ษำ 3.2 จัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต สร้ำงควำมตระหนักเพ่ือให้เห็นคุณค่ำตัวเอง เสริมสร้ำงกำรยอมรับทำง สังคม
3.3 พัฒนำศักยภำพนักเรียน นักศึกษำ ได้แสดงออกตำมควำมสำมำรถท่ีถูกต้อง ทั้งภำยในและภำยนอก หนว่ ยงำนทำงกำรศกึ ษำ 4. คำจำกัดควำม 4.1 โครงกำร TO BE NUMBER ONE หมำยถึง โครงกำรรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนรำชกัญญำ สิริวัฒนำพรรณดี มีเป้ำหมำยกำรพัฒนำเยำวชน วัยรุ่น ให้มีภูมิคุ้มกัน ทำงดัำนจิตใจ และเปิดโอกำสให้ผู้เสพ ผู้ติดยำเสพติด เปิดเผยตัวเองเข้ำรับกำรบำบัดรักษำ ฟ้ืนฟู โดยสมัครใจ ภำยใต้กิจกรรม \"ใครติดยำยกมือขึ้น\" โดยมียุทธศำสตร์และวิธีกำรดำเนินโครงกำรที่ยึดวัยรุ่นและเยำวชนเป็น ศูนย์กลำงบนพื้นฐำนกำรเข้ำถึงสำเหตุของปัญหำ เข้ำใจธรรมชำติพฤติกรรมและควำมต้องกำรของเยำวชนวัยรุ่น และกลุ่มเสีย่ งอืน่ ๆ ทัง้ วัยทำงำนในสถำนประกอบกำร กลุม่ เสย่ี ง กลมุ่ เสพ ในสถำนพินจิ ฯ เรอื นจำ และ สำนกั งำนคมุ ประพฤติ โดยมกี ลยทุ ธ์สำคญั คือกำรใช้สโลแกน \"เปน็ หนึ่งโดยไมพ่ งึ่ ยำเสพตดิ \" ควำมหมำยคอื กำรเป็น หน่ึง ทุกคนเป็นได้ เพรำะทุกคนต่ำงมีดีอยู่ในตัวเอง หำกค้นพบสิ่งที่ตัวเองช่ืนชอบ สนใจและมีควำมถนัด สำมำรถ ฝกึ ฝนและทำจนเป็นผลสำเร็จได้ ทำแล้วมคี วำมสุข มคี วำมเชื่อมนั่ และมคี วำมภำคภูมใิ จ 4.2 กำรจัดต้ังชมรม TO BE NUMBER ONEในสถำนศึกษำ หมำยถึง กำรจัดต้ังชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถำนศกึ ษำ ระดับประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำ อำชีวศกึ ษำ และอดุ มศึกษำ 4.3 ศูนย์เพ่ือนใจ TO BE NUMBER ONE เป็นกิจกรรมหนึ่งของชมรม TO BE NUMBER ONE ที่มีกำร ดำเนินงำนอย่ำงต่อเน่ือง เน้นกำรช่วยเหลือดูแลสมำชิกและพัฒนำสมำชิกให้มีคุณภำพและมีควำมสุขกำร ดำเนินงำนภำยใต้แนวคดิ \"ปรับทกุ ข์ สร้ำงสุข แก้ปัญหำ พัฒนำ EQ\" ท้ังจำกกำรเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง และกำรเข้ำร่วม กิจกรรมกลุ่ม อำศัยกระบวนกำรกลุ่มให้เกิดควำมสนุก พร้อมกับกำรพัฒนำทักษะต่ำงๆ อำทิกำรควบคุมอำรมณ์ และควำมต้องกำรของตนเอง ร้จู ักเห็นใจผ้อู ืน่ มีควำมรบั ผิดชอบตอ่ ส่วนรวม (ด)ี มีควำมสำมรถ ในกำรรู้จักตนเอง มีแรงจูงใจ สำมำรถตัดสินใจแก้ปัญหำ แสดงออกได้อย่ำงเหมำะสม และมี สัมพันธภำพที่ดีกับผู้อื่น (เก่ง) มีควำมภำคภูมิใจในตนเอง พอใจในชีวิต มีควำมสงบสุขทำงใจ และสำมำรถดำเนิน ชีวิตอย่ำงเป็นสุข (สุข) รวมท้ังจัดบริกำรเพ่ือให้โอกำสสำหรับกำรแสดงออกถึงพลังสร้ำงสรรค์ท่ีมีอยู่ของวัยรุ่นใน สถำนศึกษำ เพื่อเสริมสร้ำงภูมิคุ้มกันทำงจิต และป้องกันแก้ไขปัญหำพฤติกรรมวัยรุ่นเชิงรุกในพื้นท่ีที่เสี่ยงต่อกำร เกดิ ปญั หำวัยรุน่ ได้ง่ำย 4.4 กลุ่มเป้ำหมำยศูนย์เพื่อนใจ ว้ยรุ่นและเยำวชน อำยุ 10 - 22 ปี โดยจำแนกเป็นอำสำสมัคร/แกนนำ และสมำชกิ ศูนย์เพ่ือนใจ TO BE NUMBER ONE ที่มำใช้บรกิ ำรในศูนย์และครอบครวั
4.5 ศูนย์เพ่ือนใจ TO BE NUMBER ONE ในสถำนศึกษำ : นักเรียนนักศึกษำ เป็นผู้รับผิดชอบบริหำร จัดกำร ภำยใตก้ ำรควบคมุ ดูแลของอำจำรยท์ ่ปี รึกษำ ผบู้ รหิ ำรสถำนศึกษำ และสำนักงำนเขตพ้นื ท่กี ำรศึกษำ 4.6 โครงกำรเยำวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL จัดข้ึนเพื่อให้สมำชิกท่ี ควำมสำมำรถในด้ำนกำรเต้นและกำรร้องเพลงได้แสดงออกในทำงสร้ำงสรรค์และเป็นแบบอย่ำงให้กับสมำชิกทั่ว ประเทศ 5. ขัน้ ตอนกำรปฏิบตั ิงำน 5.1 กำหนดนโยบำย วิสัยทัศน์ และแผนดำเนินงำนตำมยุทธศำสตร์หลักของโครงกำร TO BE NUMBER ONE 5.2 แต่งตงั้ คณะกรรมกำร กำหนดผรู้ ับผิดชอบจำกหน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำ สถำนศกึ ษำระดบั จงั หวัด 5.3 พัฒนำชมรม TO BE NUMBER ONE ในหนว่ ยงำนทำงกำรศกึ ษำ ทุกสังกัด 5.4 จดั ต้งั ศนู ยเ์ พ่ือใจ TO BE NUMBER ONE 5.5 ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงำนทำงกำรศึกษำเตรียมควำมพร้อมกำรประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ในหน่วยงำนทำงกำรศกึ ษำ สถำนศกึ ษำ 5.6 จัดเวทแี ลกเปล่ยี นเรียนร้เู พื่อประชำสัมพันธโ์ ครงกำรและกำรรบั สมัครสมำชกิ 5.7 สรุปผลกำรดำเนินงำน และรำยงำนผลกำรดำเนนิ งำน เสนอผบู้ ังคบั บญั ชำตำมลำดบั 5.8 ประชำสัมพนั ธ์กำรจัดกิจกรรม ของหนว่ ยงำนทำงกำรศกึ ษำ สถำนศึกษำ
7. แบบฟอร์มทใ่ี ช้ 7.1 แบบรำยงำนกจิ กรรม 7.2 แบบประเมินผลกำรดำเนินงำน 7.3 แบบสรปุ คะแนนของคณะกรรมกำร 8. ข้อกฎหมำยทเี่ กย่ี วข้อง 8.1 รฐั ธรรมนูญแหง่ รำชอำณำจกั รไทย ปี 2560 8.2 พระรำชบญั ญัติคมุ้ ครองเด็ก พ.ศ. 2546 8.3 พระรำชบัญญัติควบคุมผลติ ภัณฑ์ยำสบู พ.ศ. 2560 8.4 พระร รำชบัญญัติคุม้ ครองสุขภำพของผไู้ ม่สบู บหุ ร่ี พ.ศ. 2535 8.5 พระรำชบัญญัติควบคมุ เคร่ืองด่มื แอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 8.6 พระรำชบัญญตั ิส่งเสริมกำรพัฒนำเดก็ และเยำวชนแห่งชำติ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560 8.7 อนุสญั ญำวำ่ ดว้ ยสิทธิเดก็ (Convention on the Rights of the Child) 8.8 ยุทธศำสตรช์ ำติด้ำนกำรปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หำยำเสพตดิ 8.9 ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร 8.10 ประกำศคณะกรมกำรควบคุมเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ 8.11 นโยบำยกระทรวงศกึ ษำธกิ ำรดำ้ นกำรป้องกนั และแกไ้ ขปัญหำยำเสพตดิ ในสถำนศึกษำ 8.12 นโยบำยของจังหวัด 9 .เอกสำรอำ้ งอิง 9.1 คู่มือกำรดำเนินงำนโครงกรรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด TO BE NUMBER ONE ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนรำชกัญญำ สิริวัฒนำพรรณดี ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2560 กรมสุขภำพจิตกระทรวง สำธำรณสขุ
9.2 คู่มือกำรจัดกิจกรรม \"ฝึกคิดแก้ปัญหำ พัฒนำ EQ\" สำหรับอำสำสมัคร/แกนนำ ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ฉบับปรบั ปรงุ ปี 2556 9.3 คู่มอื กำรดำเนินงำนศูนย์เพ่อื นใจ TO BE NUMBER ONE กรมสุขภำพจติ กระทรวงสำธำรณสขุ 1. ชอื่ (กระบวนงำน) ข้อ 8.2 งำนพิจำรณำควำมดีควำมชอบผู้รบั ผดิ ชอบงำนดำ้ นปอ้ งกนั ยำเสพตดิ 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพ่ือพิจำรณำผลกำรดำเนินงำนของบุคลำกรที่ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินกำรเก่ียวกับกำรป้องกัน และแกไ้ ขปัญหำยำสพตดิ ในสถำนศกึ ษำที่มีผลกำรดำเนนิ งำนดีเดน่ ได้รบั กำรพิจำรณำควำมดคี วำมชอบ 2.2 เพื่อสร้ำงขวัญและกำลังใจแก่บุคลำกรที่ปฏิบัติงำนด้ำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดใน หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ และมีผลกำรดำเนนิ งำนดีเดน่ เปน็ ที่ยอมรบั 2.3 เพื่อพัฒนำทักษะ องค์ควำมรู้ พัฒนำกระบวนกำรดำเนินงำน และส่งเสริมศักยภำพบุคลำกร ผู้ปฏิบัติงำน และผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง ด้ำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำนกำรศึกษำท่ีมีผลกำร ดำเนินงำนดเี ด่นได้รับกำรพิจำรณำควำมดีควำมชอบ 3. ขอบเขตงำน 3.1 กำรเล่ือนเงินเดือนกรณีพิศษ ให้เป็นไปตำมมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี 27 ตุลำคม 2552ที่ได้ลงมติ เห็นชอบข้อเสนอกำรเล่ือนเงินเดือนข้ำรำชกำรพลเรือนผู้ได้รับบำเหน็จควำมชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตำ ปกติ ดงั นี้ 1) ขำ้ รำชกำรพลเรือนสำมัญที่ได้รับบำเหน็จควำมชอบเป็นกรณีพิเศษ ใหไ้ ดร้ บั เงินเดือนเพ่ิมข้ึนจำกกำร เล่ือนเงินเดือนกรณีปกติอีกร้อยละ 1 ของฐำนในกำรคำนวณเพ่ือเลื่อนเงินเดือนในแต่ละคร่ึงปีท้ังน้ี เม่ือรวมกำร เลื่อนเงินเดือนกรณีปกติกับกำรเลื่อนกรณีพิเศษแล้ว อัตรำกำรเลื่อนเงินเดือนของข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญผู้นั้น จะต้องไม่เกินร้อยละ 6 ของฐำนในกำรคำนวณกรณีผูท้ ่ีเงนิ เดือนเต็มข้ัน ให้ไดร้ ับเปน็ คำ่ ตอบแทนพิเศษอีกร้อยละ 1 ของฐำนในกำรคำนวณเพื่อเลื่อนเงินเดือนในแต่ละคร่ึงปี ท้ังนี้ เม่ือรวมค่ตอบแทนในกรณีปกติกับกรณีพิเศษแล้ว จะต้องไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 6 ของฐำนในกำรคำนวณ3) กรณีผ้ทู เ่ี งินเดอื นเตม็ ขัน้ ให้ได้รับค่ำตอบแทนเป็นไปตำมระเบียบ ทีก่ ระทรวงกำรคลงั กำหนด 4. คำจำกดั ควำม
4.1 บำเหน็จควำมชอบกรณีพิเศษ หมำยควำมว่ำ กำรเลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษให้แก่ผู้ปฏิบัติงำนด้ำนยำ เสพตดิ 4.2 ผู้ปฏิบัติงำนด้ำนยำเสพติด หมำยถึง ข้ำรำชกำรพลเรือน พนักงำนของรัฐ ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำ ข้ำรำชกำรตำรวจ ข้ำรำชกำรทหำร ข้ำรำชกำรพลเรือนในมหำวิทยำลัย ข้ำรำชกำรธุรกำรตำม กฎหมำยวำ่ ด้วยระเบียบข้ำรำชกำรฝำ่ ยอัยกำร และลูกจำ้ งประจำ ท้งั น้ี ไมร่ วมถึงพนักงำนรำชกำรโดยผู้ปฏิบัติงำน ด้ำนยำเสพติดเป็นผู้ปฏิบัติงำนทั้งในด้ำนกำรป้องกัน ปรำบปรำม บำบัดรักษำ อำนวยกำรหรือสนับสนุนกำร ดำเนินงำนยำเสพติดอื่นๆ และให้หมำยควำมรวมถึงข้ำรำชกำรและลกู จ้ำงประจำขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นท่ี ปฏิบัติงำนด้ำนยำเสพติดด้วย โดยแบ่งเป็น1) เจ้ำหน้ำท่ีผู้ปฏิบัติงำนด้ำนยำเสพติดโดยตรง โดยปฏิบัติหน้ำท่ีใน หนว่ ยงำนทร่ี บั ผดิ ชอบด้ำนยำเสพติดหรือมสี ่วนเก่ยี วข้องกับกำรปรำบปรำม กำรป้องกันและแก้ไขปญั หำยำเสพติด โดยตรง หรือเป็นผู้ท่ีได้รับคำสั่งมอบหมำยให้ปฏิบัติงำนที่เกี่ยวกับกำรปรำบปรำม กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำ เสพติด2) เจ้ำหน้ำท่ีที่ไม่ได้มีภำรกิจงำนด้ำนยำเสพติดโดยตรง แต่มีภำรกิจที่เกื้อกูลหรือสนับสนุนต่อกำร ปรำบปรำม กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดให้ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ หรือได้รับมอบหมำยให้ ดำเนนิ งำนด้ำนยำเสพตดิ เพ่ิมเติมจำกภำรกจิ ปกติ 5. ขั้นตอนกำรปฏิบัตงิ ำน 5.1 แตง่ ตง้ั คณะกรรมกำรเพ่อื พจิ ำรณำคัดเลือกบุคคล 5.2 ประชุมคณะกรรมกำรพิจำรณำหลักกณฑ์ องค์ประกอบที่ใช้ในกำรพิจำรณำคัดเลือกเจ้ำหน้ำท่ี ผูป้ ฏิบัตงิ ำนดำ้ นยำเสพตดิ ท่ีมผี ลงำนดเี ดน่ 5.3 แจ้งหน่วยงำนในสังกัดกระทรวงศึกษำธิกำรดำเนินกำร คัดเลอื กเจำ้ หน้ำท่ีผู้ปฏิบตั งิ ำนดำ้ นยำเสพติดท่ี มผี ลกำรปฏบิ ัตงิ ำนดำ้ นยำเสพติดดีเด่น ส่งผลงำนเพอื่ เสนอคณะกรรมกำรพจิ ำรณำ 5.4 ตรวจสอบคุณสมบัติเจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติงำนด้ำนยำเสพติดที่หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ได้เสนอรำยช่ือ ผู้ปฏบิ ตั งิ ำนดำ้ นกำรปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หำยำเสพติดตำมหลกั เกณฑท์ ่ีกำหนด 5.5 ประชมุ คณะกรรมกำรพจิ ำรณำคัดเลอื กเจ้ำหน้ำทีผ่ ปู้ ฏบิ ัตงิ ำนด้ำนยำเสพติดตำมโตวตำที่ได้รับจดั สรร 5.6 จัดทำรำยงำนกำรประชุม เสนอผ้บู งั คับบญั ชำตำมลำดับ 5.7 ส่งรำยชื่อผู้ที่ได้รับกำรพิจำรณำบำเหน็จควำมชอบกรณีพิเศษ ให้จังหวัดดำเนินกำรเสนอที่ประชุม ระดบั จังหวดั 5.8 แจ้งรำยชื่อผู้ที่ได้รับกำรพิจำรณำบำเหน็จควำมชอบกรณีพิเศษ ให้ส่วนที่เก่ียวข้องดำเนินกำรสั่งเลือ่ น ขน้ั เงินเดอื น
7. แบบฟอร์มทใ่ี ช้ 7.1 แบบประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั ิงำนของผู้ปฏบิ ัตงิ ำนดำ้ นยำเสพติดท่ีขอรับบำเหนจ็ ควำมชอบกรณีพเิ ศษ ประจำปี 7.2 แบบเสนอรำยช่ือผปู้ ฏบิ ตั ิงำนดำ้ นยำเสพติดท่ีขอรับบำเหน็จควำมชอบกรณพี ิเศษประจำปี 8. ขอ้ กฎหมำยท่เี กีย่ วข้อง 9. เอกสำรอ้ำงองิ 9.1 หลักเกณฑ์ วิธีกำรปฏิบตั ิ แนวทำงกำรพิจำรณำบำเหน็จควำมชอบกรณพี ิเศษให้แก่เจ้ำหน้ำท่ี ผูป้ ฏิบตั ิงำนด้ำนยำเสพติด 9.2 แบบประเมนิ ผลกำรปฏิบัตงิ ำนของผู้ปฏบิ ัติงำนดำ้ นยำเสพติดที่ขอรับบำเหน็จควำมชอบกรณี พิเศษประจำปี
1. ชื่อ (กระบวนงำน) ข้อ 8.3 งำนศูนย์อำนวยกำรปอ้ งกันและปรำบปรำมยำเสพตดิ ในสถำนศกึ ษำ 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพื่อจัดทำแผนดำเนินงำนพัฒนำศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดในสถำนศึกษำ ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนนิ กำรเก่ียวกับกำรป้องกันและแกไ้ ขปญั หำยำเสพติดในสถำนศึกษำ 2.2 เพื่อพัฒนำแนวทำงกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในสถำนศึกษำตำมนโยบำยของ กระทรวงศกึ ษำธิกำร และนโยบำยของจงั หวัด 2.3 เพื่อดำเนินกำรบริหำรจัดกำรศูนยอ์ ำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดในสถำนศึกษำคู่ขนำน กบั ยุทธศำสตรพ์ ลังแผน่ ดินเอำชนะยำเสพติด 2.4 เพื่อสร้งและพัฒนำเครือข่ำย วัฒนธรรมกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำนกำรศึกษำ และสถำนศกึ ษำ อยำ่ งยั่งยนื 3. ขอบเขตงำน นโยบำยกระทรวงศึกษำธกิ ำร เรง่ แกไ้ ขปัญหำเยำวชนกลุ่มเสย่ี งท้งั ใน และนอกสถำนศึกษำทีเ่ ปน็ พน้ื ที่เสี่ยง เร่งสร้ำงระบบป้องกัน และเฝ้ำระวังยำเสพติดในสถำนศึกษำในทุกจังหวัดมุ่งกำรดำเนินยุทธศำสตร์ด้วยกำรมีส่วน รว่ มของคนในชำติทกุ ภำคสว่ น โดยไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบในทำงลบเพอ่ื เป็นรำกฐำนกำรนำไปสคู่ วำมย่งั ยนื ของกำร แก้ไขปัญหำ ใช้หลักเมตตำธรรมในกำรตัดวงจรด้ำนผู้เสพ/ผู้ติดยำเสพติดซ่ึงมีผู้เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบและ เดือดร้อนมำกทสี่ ุด จำปน็ ตอ้ งไดร้ บั กำรเยยี วยำรักษำโด ยเรง่ ด่วนอันเป็นกำรคืนคนดีสู่ครอบครัว ชุมชน สังคมและ ประเทศชำติดว้ ยควำมเข้มแขง็ และกระบวนกำรมีสว่ นร่วมของทุกภำคสว่ น ด้วยกำรปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหำยำเสพ ติดในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ แก้ปัญหำกลุ่มเส่ียง พ้ืนท่ีเส่ียง และสร้ำงภูมิคุ้มกันในกลุ่มเด็กและเยำวชนและส่ัง
กำรใหส้ ำนกั งำนศึกษำธิกำรจังหวัด ดำเนนิ กำรจัดกิจกรรมเชิงสร้ำงสรรค์ของเยำวชนในทุกจังหวัด ไดแ้ ก่ ลำนกีฬำ ลำนดนตรี กำรประกวดเชงิ สร้ำงสรรค์โครงกำรบ้ำนหลังเรียน ฯลฯ เพื่อเป็นกำรสร้ำงภูมิคุ้มกันและสร้ำงทัศนคตทิ ี่ ดแี ก่นกั เรยี นนักศึกษำ 4. คำจำกัดควำม 4.1 ศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดกระทรวงศึกษำธิกำร หมำยถึง สำนักงำน ปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร โดยศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดกระทรวงศึกษำธิกำร ได้ประกำศ กระทรวงศึกษำธิกำร เรื่อง กำรจัดตั้งศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำม ยำเสพติดในสถำนศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร ตำมนโยบำยของรัฐบำลที่มอบหมำยให้รับผิดชอบยุทธศำสตร์ที่ 1กำรป้องกันกลุ่มผู้มีโอกำส เข้ำไปเกี่ยวข้องกับยำเสพติด ซ่ึงมอบหมำยให้กระทรวงศึกษำธิกำร เป็นหน่วยงำนหลักในกำรดำเนินงำนสร้ำง ภูมิคุ้มกันให้แก่ นักเรียน นักศึกษำ ไม่ไปเกี่ยวข้องกับยำเสพติด และกำหนดให้ทุกภำคส่วนต้องประสำนควำม ร่วมมือและบรู ณำกำรแผนงำนของทุกหนว่ ยงำนทเี่ กีย่ วขอ้ ง 4.2 ศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดในสถำนศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำรระดับจังหวัด หมำยถงึ ศูนยอ์ ำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดในสถำนศึกษำ จังหวัด โดยศูนย์อำนวยกำรป้องกันและ ปรำบปรำมยำเสพติดกระทรวงศกึ ษำธิกำร ได้ประกำศกระทรวงศกึ ษำธิกำร เรอื่ ง กำรจัดตัง้ ศูนยอ์ ำนวยกำรปอ้ งกัน และปรำบปรำม ยำเสพติดในสถำนศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร ตำมนโยบำยของรัฐบำลท่ีมอบหมำยให้รับผิดชอบ ยุทธศำสตร์ที่ 1 กำรป้องกันกลุ่มผู้มีโอกำสเข้ำไปเกี่ยวข้องกับยำเสพติด ซึ่งมอบหมำยให้กระทรวงศึกษำธิกำรเป็น หนว่ ยงำนหลักในกำรดำเนินงำนสรำ้ งภมู คิ มุ้ กนั ให้แก่ นกั เรยี น นักศกึ ษำไม่ไปเกี่ยวข้องกบั ยำเสพติด และกำหนดให้ ทุกภำคสว่ นต้องประสำนควำมรว่ มมือและบูรณำกำรแผนงำน ของทกุ หน่วยงำนที่เกย่ี วข้อง เพอ่ื ให้กำรนำนโยบยสู่ กำรปฏิบัติในสถำนศึกษำ ระดับจังหวัด จึงกำหนดให้สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด จัดตั้งศูนย์อำนวยกำรป้องกัน และปรำบปรำมยำเสพตดิ ในสถำนศึกษำ จงั หวดั มีท่ีทำกำรอยู่ ณ สำนักงำนศกึ ษำธกิ ำรจงั หวัด โดยมีอำนำจหน้ำท่ี ดงั น้ี 1) อำนวยกำร ประสำนควำมรว่ มมอื และบรู ณำกำรดำเนินงำนร่วมกับภำคีเครือข่ำยทัง้ ภำครัฐและเอกชน ตำมแนวทำงประชำรฐั 2) จัดทำแผนปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำสถำนศึกษำ ตำม ยุทธศำสตร์ กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด ของศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติด กระทรวงศึกษำธิกำร
3) กำกับ ตดิ ตำม ประเมินผล กำรดำเนินงำนป้องกนั และแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศึกษำ โครงกำรสถำนศึกษำสีขำว ปลอดยำเสพติดและอบำยมุข และรำยงำนผลกำรดำเนินงำน ปัญหำ อุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ ให้ผวู้ ่ำรำชกำรจังหวัดทรำบ เพอ่ื นำเสนอกระทรวงศกึ ษำธกิ ำ 4) ปฏิบตั หิ น้ำทหี่ รือภำรกิจตำมท่ผี ูว้ ่ำรำชกำรจงั หวดั มอบหมำย 5. ข้นั ตอนกำรปฏิบัติงำน 5.1 กำหนดนโยบำยให้หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ แผนกำรดูแลป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดใน หนว่ ยงำนทำงกำรศกึ ษำ สถำนศกึ ษำ จงั หวัด 5.2 แต่งตั้งคณะกรรมกำรศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำ จังหวดั เพ่อื ป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพตดิ และกำหนดผู้รับผิดชอบระดบั จงั หวัด 5.3 จดั ทำแผนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำสพติดระดบั จังหวดั ระยะ 5 ปี สอดคลอ้ งกับสภำพแวดล้อม ของจงั หวัด 5.4 ดำเนินกำรจัดประชุมคณะกรรมกำรศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติดในสถำนศึกษำ จงั หวดั และเครอื ขำ่ ยเดอื นละ 1 ครั้ง 5.5 ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ขับเคล่ือนงำนด้ำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำ เสพติดในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำ จังหวดั ใหเ้ ป็นไปตำมแผน 5.6 จดั เวทแี ลกเปลยี่ นเรียนรูแ้ ละมอบโล่รำงวัล สำหรับโรงเรยี นทมี่ ีผลงำนดเี ด่นใหเ้ กดิ กำรพัฒนำที่ยงั่ ยนื 5.7 กำกับ ติดตำม และประเมินผลกำรดำเนินงำนป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำนทำง กำรศึกษำ สถำนศกึ ษำ จงั หวดั 5.8 สรุปผลกำรดำเนินงำน และรำยงำนผลกำรดำเนินงำน เสนอผู้บังคบั บญั ชำตำมลำดับ
7. แบบฟอร์มท่ใี ช้ 7.1 แบบรำยงำนกจิ กรรม 7.2 แบบประเมินผลกำรดำเนินงำน 7.3 แบบสรปุ คะแนนของคณะกรรมกำร 8. ขอ้ กฎหมำยท่ีเก่ยี วข้อง 8.1 รัฐธรรมนูญแหง่ รำชอำณำจกั รไทย ปี 2560 8.2 พระรำชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 8.3 พระรำชบัญญัติควบคุมผลติ ภณั ฑ์ยำสบู พ.ศ. 2560 8.4 พระรำชบญั ญตั ิคมุ้ ครองสุขภำพของผูไ้ ม่สบู บหุ ร่ี พ.ศ. 2535 8.5 พระรำชบญั ญัติควบคมุ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 8.6 พระรำชบญั ญตั สิ ่งเสริมกำรพฒั นำเด็กและเยำวชนแห่งชำติ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2560 8.7 อนสุ ัญญำว่ำด้วยสทิ ธเิ ดก็ (Convention on the Rights of the Child)
8.8 ยทุ ธศำสตรช์ ำตดิ ำ้ นกำรปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หำยำเสพติด 8.9 ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร 8.10 ประกำศคณะกรมกำรควบคมุ เคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์ 9. เครอ่ื งมือหลักในกำรจัดกำรดำ้ นกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในสถำนศึกษำ 9.1 ยทุ ธศำสตร์ชำติด้ำนกำรป้องกนั และแกไ้ ขปญั หำยำเสพตดิ 9.2 แผนปฏิบตั กิ ำรปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหำยำเสพติดตำมนโยบำยของจังหวดั 9.3 นโยบำยกระทรวงศึกษำธิกำรด้ำนกำรป้องกนั และแก้ไขปญั หำยำเสพตดิ ในสถำนศึกษำ 9.4 นโยบำยของจงั หวัด 9.5 ระเบยี บวำระกำรประชมุ 1 . ชือ่ งำน (กระบวนงำน) ขอ้ 8.4 งำนป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพตดิ ในสถำนศึกษำ 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพ่ือส่งเสริม สนับสนุนกำรดำเนินงำนกำรป้องกันและแก้ไ ขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำน ทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำในจงั หวัด 2.2 เพ่ือประสำนควำมร่วมมือในกำรขับเคล่ือนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำนทำง กำรศึกษำ สถำนศกึ ษำในจังหวัด 2.3 เพื่อกำกับ ติดตำมและประเมินผลกำรดำเนินงำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำน ทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำในจังหวัด 3. ขอบเขตของงำน 3.1 กำรส่งเสริม สนับสนุนกำรดำเนินงำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำน ทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำในจงั หวัด
3.2 กำรประสำนควำมร่วมมือในกำรขับเคลื่อนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในสถำนศึกษำ ในจงั หวัด 3.3 กำรกำกับ ติดตำมและประเมินผลกำรดำเนินงำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติดในหน่วยงำน ทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำในจังหวัด 4. คำจำกดั ควำม กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศึกษำ หมำยถึง กระบวนงำนใน กำรดำเนินงำน ป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศึกษำประกอบด้วย กำรป้องกนั กำรค้นหำ กำรเฝ้ำระวัง กำรรกั ษำและกำรบริหำรจัดกำร 5. ข้นั ตอนกำรปฏบิ ัติงำน 5.1กำหนดนโยบำย มำตรกำร แผ่นงำนและแนวทำงกำรป้องกันแก้ไขปัญหำยำเสพติดหน่วยงำนทำง กำรศกึ ษำ ในสถำนศกึ ษำ 5.2 แต่งตั้งคณะกรรมกำรศูนย์อำนวยกำรป้องกันและปรำบปรำมยำเสพติด ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศึกษำจังหวดั 5.3 ชับเคลื่อนกำรดำเนินงำนป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำสถำนศึกษำ ตำมบทบำทของศูนย์อำนวยกำรปอ้ งกันและปรำบปรำมยำเสพติด ในหน่วยงำนทำงกำรศึกษำสถำนศึกษำจงั หวัด 5.4 กำกับ ติดตำม ประเมินผลและรำยงำนผลกำรดำเนินงำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด ใน หนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำ 5.5 ศึกษำ วเิ ครำะห์ วจิ ยั ผลกำรดำเนินงำนป้องกนั และแก้ไขปัญหำยำเสพตดิ ในหนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำ
7. แบบฟอรม์ ทีใ่ ช้ 7.1 แบบรำยงำนกิจกรรม 7.2 แบบประเมนิ ผลกำรดำเนินงำน 7.3 แบบสรุปคะแนนของคณะกรรมกำร 8. ข้อกฎหมำยท่ีเกี่ยวขอ้ ง 8.1 รัฐธรรมนญู แหง่ รำชอำณำจักรไทย ปี 2560 8.2 พระรำชบญั ญตั คิ ุ้มครองเดก็ พ.ศ. 2546 8.3 พระรำชบญั ญตั ิควบคมุ ผลติ ภัณฑ์ยำสูบ พ.ศ. 2560 8.4 พระรำชบัญญตั ิคมุ้ ครองสขุ ภำพของผไู้ มส่ บู บุหร่ี พ.ศ. 2535 8.5 พระรำชบัญญตั ิควบคมุ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 8.6 พระรำชบญั ญัตสิ ่งเสรมิ กำรพฒั นำเด็กและเยำวชนแห่งชำติ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560 8.7 อนสุ ัญญำว่ำดว้ ยสิทธเิ ดก็ (Convention on the Rights of the Child) 8.8 ประกำศกระทรวงศึกษำธกิ ำร 8.9 ประกำศคณะกรมกำรควบคุมเครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์ 9. เอกสำรอ้ำงองิ 9.1 หลักเกณฑ์และแนวทำงกำรคัดเลือกบุคคล หน่วยงำน สถำนศึกษำผลงำนดีเด่น รำงวัล MOE AWARDS กระทรวงศกึ ษำธิกำร ประจำปกี ำรศกึ ษำ 2559 9.2 ยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำยำเสพติด 11 นโยบำยกระทรวงศึกษำธิกำรด้ำนกำร ป้องกันและแกไ้ ขปญั หำยำเสพติดในสถำนศกึ ษำ 9.3 นโยบำยของจงั หวัด
Search