แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ รายวชิ า ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหสั วชิ า อ 22102 ระดบั ชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ 2 จัดทาโดย นางพิกลุ เหมอื งคา ตาแหน่ง ครชู านาญการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตาบลช่างเคงิ่ อาเภอแม่แจม่ จังหวัดเชยี งใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานกั งานการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 : Food and Drink รายวชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน รหสั วิชา อ22102 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 เวลา 10 ชวั่ โมง …………………………………………………………………………………………………………………………………………… สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสอื่ สาร สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐานการเรยี นรู้ มฐ. ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมี เหตผุ ล มฐ ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรูส้ ึกและความ คิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ มฐ. ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและ การเขียน มฐ ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใชไ้ ด้อยา่ ง เหมาะสมกับกาลเทศะ ตวั ช้วี ดั ต 1.1 ม 2/3 ระบุ / เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กับส่ือทีไ่ ม่ใชค่ วามเรยี งรปู แบบต่างๆท่ีอา่ น ต 1.2 ม 2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง เรอ่ื งราวตา่ งๆใกล้ตวั และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม ต 1.2 ม 2/5 พดู และเขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคิดเห็นของตนเองเก่ยี วกับเร่ืองต่างๆ กิจกรรมและ ประสบการณ์พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม ต 1.3 ม 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง กจิ วัตรประจาวนั ประสบการณ์และข่าว/เหตุการณ์ ทีอ่ ย่ใู นความสนใจของสังคม ต 2.1 ม.2/1 ใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ต 2.1 ม.2/2 อธิบายเกย่ี วกบั เทศกาล วันสาคัญ ชีวติ ความเปน็ อยู่ และประเพณขี องเจ้าของภาษา 1. เปา้ หมายการเรียนรู้ ( Learning Goal ) (1) ความเขา้ ใจทคี่ งทน
ในการสนทนาโต้ตอบเกย่ี วกับเรอ่ื งอาหารและซ้อื ขายอาหารนั้น การเรยี นร้คู าศพั ท์ สานวนและ โครงสรา้ งทางภาษาทใี่ ช้ในการสนทนา เปน็ สง่ิ จาเปน็ ทผี่ ูเ้ รียนต้องศกึ ษาเพื่อที่จะทาให้ตนเองใชภ้ าษาสื่อ ความหมายอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ (2) ความรแู้ ละทักษะคร่อมวชิ า (ทกั ษะ/กระบวนการ ) (1) ทกั ษะการฟงั พูด อ่าน (2) ทกั ษะการคดิ (3) กระบวนการกลมุ่ (3) ความร้แู ละทักษะเฉพาะวิชา (สาระ) (1) การบอกชื่ออาหารและเครือ่ งดมื่ เปน็ ภาษาอังกฤษ (2) การสนทนาโต้ตอบเกยี่ วกบั อาหารหรือเครื่องดื่มที่ชอบ (3) การสนทนาโตต้ อบในการซอื้ ขายอาหารหรอื เครอื่ งดม่ื (4) จิตพสิ ัย (คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ) (1) ความเช่อื มั่นในการใชภ้ าษา ( 2) ความสนุกสนานในการเรยี น ( 3) มีความรบั ผิดชอบในการทางาน (5) สาระการเรียนรู้ 1. เนอื้ หา 1.1.Countable and uncountable nouns - There is / there are - Singular and plural 1.2.- Question / Yes / No – question - How much / How many / Where / What 1.3. Articles 2. คาศพั ท์ 2.1. Name of food and drink 2.2. Menu 2.3. Price (6) ภาระงาน (1) การบอกชอ่ื อาหารและเครอื่ งด่มื (2) การสนทนาเกีย่ วกับอาหารและเครือ่ งดืม่ ที่ชอบและไมช่ อบ (3) การสนทนาซ้อื ขายอาหารและเครือ่ งด่ืม (7) กิจกรรมการเรียนรู้
ชว่ั โมงที่ 1-2 (Listening) - แจ้งมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั 1.ทา Pre – test ขนั้ Warm up 2.นักเรยี นเลน่ เกมจบั คภู่ าพกับชื่ออาหารและเครอ่ื งดม่ื (ใบงานท่ี 1) ขัน้ Pre - listening 3.สอนคาศัพท์เกย่ี วกับชือ่ อาหารและเคร่อื งด่มื โดยใช้ภาพประกอบจานวน 23 ชนิด (ใบความรูท้ ่ี 1) 4.แจกภาพอาหารและเคร่ืองดื่มให้นกั เรยี น ข้นั While - listening 5.ให้นักเรียนฟงั เทปทบ่ี อกชอ่ื ของอาหารและเครื่องด่ืม แลว้ ใหน้ กั เรียนเขยี นชือ่ อาหารหรอื เครอ่ื งดม่ื ตาม ข้อความทีไ่ ด้ยินบนภาพที่ครูแจกให้ (ใบงานที่ 2) เช่น There are nine apples near a can of Coke. นักเรียนกจ็ ะเขยี นคาวา่ apples ในรปู ภาพทเ่ี หน็ เปน็ ต้น 6.ดาเนนิ การเชน่ นจ้ี นกวา่ จะไดช้ ื่ออาหารครบตามทีป่ รากฏในรปู ภาพ 7.ชว่ ยกันเฉลยคาตอบ 8.เปิดเทปช่ืออาหารและเครอื่ งดมื่ ให้นกั เรยี นฟงั อีกครง้ั หน่ึง แลว้ ให้นกั เรยี นจดั กลมุ่ ของอาหารและ เคร่ืองด่ืมทีไ่ ด้ยินจากเทป โดยแบ่งอาหารและเครื่องดม่ื ออกเปน็ 5 กลุ่ม 9.ช่วยกันเฉลยคาตอบท่ีถูกตอ้ ง ขั้น Post – listening 10.นักเรยี นจัดทาแฟม้ งานเกยี่ วกับอาหารและเครื่องดืม่ ข้ัน Wrap – up ให้นักเรยี นจดั ทา Menu อาหารเปน็ ภาษาองั กฤษ สอื่ การเรยี นรู้ 1.เกมจบั คู่ภาพกับชอ่ื อาหารและเครอ่ื งดืม่ 2.ใบความรทู้ ่ี 1 3.ใบงานที่ 1-2 4.รูปภาพอาหารและเครื่องด่มื 5.ของจรงิ 6. เทปบนั ทึกเสียง แหล่งการเรียนรู้ 1.Internet 2.หนังสอื พิมพ์หรือวารสาร การวดั และประเมนิ ผล 1. การเลน่ เกม (ใบงานที่ 1) 2.วดั จากการบอกศพั ท์อาหารและเคร่อื งดมื่ ( ใบงานท่ี 2) 3.วัดจากความสนใจและความรบั ผดิ ชอบ 4.วดั จากการทา Pre test
ชวั่ โมงที่ 3 – 5 (Speaking) ข้นั Warm up 1.Warm up โดยการใช้เกม Scrambled words 1.1นักเรยี นแบ่งเป็นกลุ่มๆ ละ 4-6 คน 1.2ครูจดั ทาอักษรใส่ซอง โดยในแต่ละซองจะมคี าศัพทเ์ ก่ยี วกับอาหารและเครื่องดื่ม ซองละ 1 คา 1.3นักเรยี นแต่ละกล่มุ มารบั กล่องคาศพั ทจ์ ากครู โดยภายในกลอ่ งจะมีซองคาอยู่ 10 ซอง 1.4นกั เรียนแต่ละกลุม่ ช่วยกนั เรยี งอกั ษรใหเ้ ปน็ คาโดยใช้ Dictionary หรอื ไมใ่ ชก้ ็ได้ 1.5กลุม่ ท่เี รียงได้เรว็ และถูกตอ้ งท่ีสดุ เปน็ กลุ่มชนะ ข้ัน Presentation 2.ทบทวนการใช้ There is some + นามนับไมไ่ ด้ There are some + นามนับได้ (พหูพจน์) There is a/an + นามนับได้ (เอกพจน์) 3.ทบทวนชื่ออาหารและเครือ่ งด่มื โดยใช้รูปภาพประกอบคาศัพท์ (จาก ช.ม. ท่ีแล้ว) 4.ให้ตัวอยา่ งการสนทนาเรื่องอาหารโดยการใช้ How much? หรอื How many? (ใบความรูท้ ี่ 2) 5.ร่วมกนั อธบิ ายสรุปวธิ ีใช้ There is, There are, How much?, How many? ข้ัน Practice 6.ฝกึ สนทนาท้งั ชั้นหรอื เป็นกลุ่มตามตัวอยา่ งที่ให้ โดยเลอื กชอ่ื อาหารหรอื เครอ่ื งด่มื ท่ีหลากหลาย 7.จับคู่สนทนาโดยการเลอื กบทสนทนาที่ตนเองพอใจ ครใู หค้ ะแนน ขนั้ Production 8.นักเรยี นแต่ละคู่ สร้างบทสนทนาดว้ ยตนเองโดยการเพม่ิ เติมข้อความทต่ี ้องการเขา้ มา เชน่ การ ทักทาย การแนะนาเพื่อนหรอื การกล่าวลา 9.นาเสนอการสนทนาหน้าชนั้ เรียน สือ่ การเรียนรู้ 1.เกม Scrambled words 2.ใบความรู้ท่ี 2 3..รูปภาพอาหารและเครื่องดื่ม 4.ของจริง 5. เทปบนั ทึกเสียง แหลง่ การเรียนรู้ 1.Internet 2.หนงั สือพิมพห์ รือวารสาร การวัดและประเมินผล 1. การเลน่ เกม 2..การสนทนาในเรอื่ งอาหารและเครอื่ งดม่ื 3.วัดจากความสนใจและความรบั ผิดชอบ
ชว่ั โมงท่ี 6-7 (Speaking) ขั้น Warm up 1.เล่น Guess – Guess Game 1.1. นักเรยี นเล่นเกมเป็นกลมุ่ หรือเลน่ เดี่ยว 1.2. ครูบอกใบเ้ กยี่ วกบั อาหารและเครอ่ื งดมื่ 1.3. นกั เรียนทายว่าอาหารหรอื เคร่ืองดืม่ ที่ครูบอกใบ้นนั้ คอื อะไร เช่น I am good to eat. I am made from cream. I am cold. Guess, What am I? I’m not good to drink. I have brown color. People are drunk when they drink me. Guess, what am I? ข้นั Presentation 2.ตั้งคาถามถามนักเรียนโดยใช้ Pattern ของ favorite food เชน่ What is your favorite food/drink. โดยถามนักเรียนประมาณ 5-10 คน 3.ช่วยกบั สรปุ ว่าเม่อื จะต้ังคาถามวา่ คุณชอบอาหารหรือเคร่อื งด่มื ชนดิ ไหน จะต้งั และ ถามอยา่ งไร และ จะตอบอยา่ งไร 4.ครูยกตวั อยา่ งคาถามท่ีถาม/ตอบเก่ียวกบั อาหารหรือเครื่องดื่มของคนท่อี ยู่ใกล้ชิดนักเรยี น เช่น Q : How about your mother? What is her favorite food? A : Her favorite food is curry. เป็นตน้ ข้ัน Practice 5.นักเรยี นจับคบู่ ทสนทนาเก่ยี วกบั อาหารและเคร่ืองดม่ื ทช่ี อบของเพอ่ื นที่เป็นคู่ของตนและคนใกล้ชิดของ เพื่อน ขนั้ Production 6.ให้นักเรยี นปรบั เปล่ยี นประโยคจาก favorite …………..เป็น prefer เช่น Q : Which drink do you prefer? A : I prefer orange juice. 7.เขยี นข้อความท่เี ปล่ียนลงบนสมุด ถา้ มีเวลาอาจฝึกพูดอีกคร้งั ส่อื การเรียนรู้ 1.เกม Guess Game 2.รูปภาพอาหารและเครอ่ื งดื่ม 3.ของจริง 4. เทปบนั ทึกเสียง แหลง่ การเรยี นรู้ 1.Internet 2.หนังสือพมิ พ์หรอื วารสาร การวัดและประเมนิ ผล 1. การเล่นเกม 2.วดั จากการบอกศัพท์อาหารและเครือ่ งด่ืม
3.การสนทนาในเรอ่ื งอาหารและเครอื่ งดื่ม 4..วัดจากความสนใจและความรบั ผิดชอบ ชวั่ โมงที่ 8 – 10 (Speaking) ขน้ั Warm up 1.เลน่ เกม I know it 1.1 ครเู ตรยี มบตั รคาเก่ียวกบั อาหารและเคร่ืองดืม่ 1.2 นกั เรียนน่งั ล้อมวง วางกองบตั รคาควา่ ไวต้ รงกลาง (ถา้ นกั เรียนแบ่งเป็นกลมุ่ ) 1.3 นกั เรียนหยบิ บัตรคาทลี ะคน คนละ 1 ใบ แล้วอา่ นออกเสยี งบัตรคาของตนเอง 1.4 ถ้าอ่านไม่ถูกให้นักเรยี นหงายบตั รใหเ้ พ่อื นดู ใครอ่านได้ให้พดู ว่า I know it และอ่าน ถ้าอ่านได้ ถูกตอ้ งจะไดบ้ ตั รนั้น 1.5 นักเรยี นทีส่ ามารถอ่านได้จะได้สิทธิห์ ยบิ บตั ร 1 ใบจากกองกลาง 1.6 การเล่นจบลงเมอื่ บตั รหมดจากกอง 1.7 นักเรยี นทไ่ี ดบ้ ัตรคามากทสี่ ุดเปน็ ผู้ชนะ ขน้ั Presentation 2.ทบทวนชื่ออาหารและเครอ่ื งด่มื ต่างๆ อีกครั้งหน่งึ โดยใช้ของจรงิ /รูปภาพ และแจกใบความรทู้ ี่ 3 ซ่ึง เป็นรายชอ่ื อาหารและเครื่องดื่มตา่ งๆ 3.แจกตวั อยา่ งบทสนทนาเกย่ี วกบั การซอื้ ขายอาหาร (ใบความรทู้ ี่ 4) 4.อธิบายความหมายและยกตัวอยา่ งประกอบ เพ่ือทจ่ี ะให้นักเรยี นสนทนาเกีย่ วกับการซื้อขายอาหารหรอื เครอ่ื งดม่ื ได้ ขน้ั Practice 5.นกั เรยี นจับคู่ฝกึ บทสนทนาเก่ยี วกับการซอื้ ขายอาหารหรือเครื่องดืม่ ตามตัวอยา่ ง 6.ออกมาสนทนากบั ครทู ีละคู่ ครปู ระเมินการสนทนา ขั้น Production 7.นกั เรียนแบ่งเป็นกล่มุ จัดสถานการณ์เพ่อื แสดงบทบาทสมมุตกิ ารซ้ือขายอาหารและเครอื่ งด่ืมในช้ันเรียน 8.ทาขอ้ สอบ Post – test ขนั้ Wrap up 9.ควรให้นักเรยี นมโี อกาสได้เขา้ ไปชมภัตราคารที่ขายอาหารและมีชาวตา่ งชาติเป็นลกู ค้า ส่อื การเรยี นรู้ 1. เกม I know it. 2. ใบความรู้ท่ี 3-4 3..รูปภาพอาหารและเครือ่ งดมื่ 4. ของจรงิ 5. เทปบันทกึ เสยี ง 6. บทบาทสมมุติ แหลง่ การเรยี นรู้ 1.Internet
การวัดและประเมินผล 1. การเล่นเกม 2.วัดจากการบอกศัพท์อาหารและเครื่องดม่ื 3.การสนทนาในเรอื่ งอาหารและเครอื่ งด่ืม 4.วัดจากการสนทนาซอ้ื ขายอาหารและเครื่องด่มื 5.วัดจากความสนใจและความรับผิดชอบ 6.วดั จากการทา Post test
ใบความรูท้ ่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 (Food and Drink) เร่อื ง ตวั อย่างคาศพั ท์ชอ่ื อาหารและเคร่อื งด่ืม เวลา 8 นาที Vocabulary Food and Drink 11. tea 1. apple 12. coffee 2. oranges 13. wine 3. bananas 14. apple juice 4. grapes 15. beer 5. strawberries 16. milk 6. eggs 17. water 7. biscuits 18. bread 8. sandwich 19. cheese 9. tomatoes 20. ice – cream 10. hamburgers 21. chocolate 22. rice 23. fruit
ใบความร้ทู ่ี 2 เวลา 10 นาที หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 (Food and Drink) เรอ่ื ง ตวั อยา่ งการถาม / ตอบ โดยใช้ How much, How many apples carrotschocolate milk yogurt bread eggs oranges coke cheese Example A : How much meat do you eat? B : I eat a lot. A : How much ice cream do you eat? B : I eat a little. A : How many bananas do you eat? B : I don’t eat any.
ใบความรู้ท่ี 3 เวลา 10 นาที หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 (Food and Drink) เร่อื ง รายช่อื อาหารและเครอ่ื งดื่ม Set 1 beans hamburgers orange juice oranges coffee sandwiches steak chops chicken ice cream carrots apples milk sardines cola bananas papaya tuna tomatoes chocolate mouse Set 2 butter carrots beef cabbage eggs sugar cake sausages flour pineapple chicken onions banana garlic shrimps
ใบความรูท้ ่ี 4 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 (Food and Drink) เรื่อง ตัวอย่างบทสนทนาเรื่องอาหารและเครื่องดมื่ เวลา 10 นาที A : Yes, what would you like today? B : Have you got any …………………….? A : Yes, we’ve got plenty. B : Good. Could I have one and a half kilos, please? A : Good morning. B : Good morning. A : How can I help you? B : I’d like some orange juice, please.
ใบงานท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 (Food and Drink) เร่อื ง เกมจับคู่ภาพอาหารและเคร่อื งด่ืมกับคาศัพท์ เวลา 5 นาที Direction : Match column B with column A AB ___1. cake a. ice-cream ___2. apple b. cake ___3. Ice-cream c. grapes ___4. grapes d. milk ___5. milk e. apple *หมายเหตุ : ควรมรี ายการอาหารและเคร่อื งดมื่ ประมาณ 15-20 รายการ
ใบงานที่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 (Food and Drink) เรื่อง เขยี นคาศัพทเ์ ก่ยี วกับอาหารและเครือ่ งดมื่ ทไ่ี ด้ฟัง เวลา 10 นาที Direction : Listen to the conversation and write the name of food and drink which you hear. (ฟงั บทสนทนาแลว้ เขยี นชอ่ื อาหารและเคร่อื งดม่ื ทไ่ี ด้ยนิ ) bread wine banana milk oranges whisky carrots cheese hamburgers tomatoes apples potatoes eggs rice
Pre / Post Test ตอน Food and drink Direction : 1. Look at the word search below. There are seventeen words connected with food. They go across and down. 2. Find them and write them here. The words begin with these letters. (หาคาศัพท์เกีย่ วกบั อาหารและเคร่อื งดมื่ จากตารางอกั ษร) LCYPNCR I SPSM A V ZO B P B A N AN A MU S T E A KN B T R R B ZQAMOY R Y J AM KGF TGHODFGH I BACONFGRAPE L HJ KF I SHTYU I K HONE Y BUBREAD RASDFGRZKLPE I BVEGETABLE I CZXCV BNML PG J EWE C E R E A L BGU
1. M…………………… 2. C……………….…… 3. B……………….…… 4. P……………….…… 5. S……………….…… 6. J……………….…… 7. B……………….…… 8. R……………….…… 9. V……………….…… 10. E……………….…… 11. B……………….…… 12. L……………….…… 13. C……………….…… 14. F……………….…… 15. Y……………….…… 16. G……………….…… 17. H……………….……
เฉลย ใบงานที่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 (Food and Drink) เรือ่ ง เกมจับค่ภู าพอาหารและเคร่อื งด่มื กบั คาศัพท์ เวลา 5 นาที Direction : Match column B with column A _b__1. _e__2. _a__3. _c__4. __d_5.
Pre / Post Test ตอน Food and drink Direction : 1. Look at the word search below. There are seventeen words connected with food. They go across and down. 2. Find them and write them here. The words begin with these letters. (หาคาศัพท์เกีย่ วกบั อาหารและเคร่อื งดมื่ จากตารางอกั ษร) LCYPNCR I SPSM A V ZO B P B A N AN A MU S T E A KN B T R R B ZQAMOY R Y J AM KGF TGHODFGH I BACONFGRAPE L HJ KF I SHTYU I k HONE Y BUBREAD RASDFGRZKLPE I BVEGETABLE I CZXCV BNML PG J EWE C E R E A L BGU
1. MILK 2. CEREAL 3. BACON 4. POTATO 5. STEAK 6. JAM 7. BANANA 8. RICE 9. VEGETABLE 10. EGG 11. BREAD 12. LAMB 13. CRIST 14. FISH 15. YOGHURT 16. GRAPES 17. HONEY
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 8 : Weather รายวิชาภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหสั วิชา อ22102 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 เวลา 6 ชัว่ โมง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสือ่ สาร สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ. ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งท่ีฟงั และอา่ นจากส่อื ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตผุ ล มฐ. ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรือ่ งต่างๆ โดยการพูด และการเขียน มฐ ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครอ่ื งมอื พน้ื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี และ การแลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ บั สังคมโลก ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม 2/4 เลอื กหวั ข้อเรื่อง ใจความสาคัญ บอกรายละเอียดสนับสนุน ( supporting detail ) และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องท่ีฟังและอ่านพร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตัวอย่างง่ายๆ ประกอบ ต 1.3 ม 2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน ประสบการณ์และข่าว/ เหตุการณท์ ีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม ต 1.3 ม 2/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาคัญ/แก่นสาระหัวข้อเร่ือง (topic) ท่ีได้จากการ วิเคราะห์เรอื่ ง/ขา่ ว/เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสนใจของสงั คม ต 4.2 ม.2/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ /ค้นคว้า และรวบรวมความรู้ / ขอ้ มูลตา่ งๆจากสอื่ และแหลง่ การเรยี นร้ตู ่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ ต 4.2 ม.2/2 เผยแพร่/ประชาสมั พันธ์ข้อมูลข่าวสารของโรงเรยี นเปน็ ภาษาต่างประเทศ 18. เปา้ หมายการเรียนรู้ ( Learning Goal ) (8) ความเขา้ ใจทค่ี งทน การอ่านบทอา่ นต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นข่าว บทความ หรอื พยากรณอ์ ากาศ ผเู้ รียน ต้องมีทกั ษะในการจับใจความสาคัญ คือ การอ่านแบบ Skimming และเมือ่ ต้องการทราบลาย ละเอยี ดของบทอ่านเพอื่ นาไปสกู่ ารวิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ ผู้เรยี นตอ้ งมีทักษะในการอา่ น แบบ Scanning หรอื Reading for details.
(9) ความรแู้ ละทักษะครอ่ มวิชา (ทกั ษะ/กระบวนการ ) ? (1) ทักษะการฟงั พูด อ่าน (2) ทกั ษะการคิด (3) กระบวนการกลุม่ (10) ความรู้และทักษะเฉพาะวิชา (สาระ) (1) ความหมายของคาศัพท์ที่เกย่ี วกับลักษณะอากาศ (2) การให้รายละเอียดเก่ียวกับสภาพอากาศหลังจากการฟงั พยากรณอ์ ากาศ (3) การพดู สนทนาเก่ียวกับสภาพอากาศ (11) จิตพิสยั (คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ) (1) ความเชอ่ื มน่ั ในการใช้ภาษา ( 2) ความสนกุ สนานในการเรยี น ( 3) มีความรบั ผิดชอบในการทางาน (12) สาระการเรียนรู้ 1. เน้ือหา 1.1 Pattern “ What , s theinweather like ” at 1.2 Present Simple Tense 2. คาศัพท์ คาศัพท์เก่ยี วกับลกั ษณะอากาศ และการพยากรณอ์ ากาศ (13) ภาระงาน (1) ตอบคาถามจากเร่ืองท่ฟี งั (2) พูดสนทนาเกีย่ วกบั สภาพอากาศ (7) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1-3 (Listening) - แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้แู ละตัวช้ีวัด 1. ทา Pre test ขน้ั Warm up 2. นักเรียนเล่นเกม “Who can guess” 1.1 ครตู ดิ บตั รคาศัพท์เกยี่ วกบั ลกั ษณะอากาศแบบตา่ ง ๆ ไว้หนา้ ชั้น 1.2 แบ่งนักเรยี นเปน็ กล่มุ ๆ ละ 4 – 6 คน 1.3 นักเรยี นแต่ละกลุ่มต้ังใจฟังชอื่ สถานท่ี ๆ ครจู ะบอก เชน่ Canada นักเรยี นแต่ละ กลมุ่ ต้องไปเลอื กลักษณะอากาศทีเ่ หมาะสมกบั ประเทศ Canada จากบตั รคาศัพท์ เช่น Cold 1.4 กลุ่มใดที่เลอื กคาไดเ้ หมาะสมมากกว่าทกุ กลมุ่ ในเวลาทเ่ี หมาะสมจะเปน็ ผู้ชนะ
ข้ัน Pre- listening 3. ครูอธิบายคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวกบั การพยากรณ์อากาศไดแ้ ก่ clear = ทอ้ งฟ้าแจม่ ใส , sunny = แดดจา้ , cloudy = ทอ้ งฟ้าเตม็ ไปด้วยเมฆ , dizzier = ละอองฝนบางเบา , fog = หมอก หนา , light rain = ฝนตกเลก็ นอ้ ย เป็นตน้ 4. ให้นักเรยี นฝกึ ออกเสยี งคาศพั ทท์ ี่ใหอ้ ยา่ งถกู ต้อง 5. ให้ตัวอยา่ งประโยคคาถามทเี่ ปน็ การถามเกี่ยวกับลมฟา้ อากาศ (ใบความรูท้ ี่ 1)และแนวการตอบ ขน้ั While - listening 6. เปดิ เทปให้นักเรียนฟงั คาพยากรณอ์ ากาศ (Today , s Weather) 2 เท่ยี ว (แจกเทป script) 7.นักเรยี นตอบคาถามที่ถามเก่ยี วกบั พยากรณ์อากาศที่ไดฟ้ ังจากเทป (ใบงานท่ี 1) 8.เปิดเทปให้นักเรยี นฟงั อีกคร้งั เพ่ือทบทวนคาตอบ 9.เฉลยคาตอบใหน้ ักเรียนเปลี่ยนกนั ตรวจใหค้ ะแนน ขน้ั Post – listening 10.นกั เรยี นรว่ มตกลงกนั ถึงการมอบหมายหน้าท่ใี หเ้ พ่ือนในช้นั นาพยากรณอ์ ากาศมาอา่ นหนา้ ชั้นและ อธบิ ายความหมายพร้อมทั้งต้งั คาถามเพื่อน ๆ เพอ่ื ตรวจสอบความสนใจในการฟัง สื่อการเรยี นรู้ 1. รูปภาพ 2. เกม Who can guess? 3. ใบความรู้ที่ 1 4. ใบงานที่ 1 แหลง่ เรียนรู้ 1.สภาพแวดลอ้ มรอบตวั 2.หนงั สอื , หนังสือพิมพ์ 3.ห้องสมุดโรงเรยี น 4. กรมอุตนุ ิยมวิทยา การวดั และประเมนิ ผล 1. การเลน่ เกม 2. วัดจากการตอบคาถามจากเรอ่ื งทฟี่ ัง 3. วัดจากการพดู สนทนาเก่ียวกับลักษณะอากาศ 4.วัดจากการทดสอบ Pre Test 5.วดั จากความรับผิดชอบในการทางาน ชว่ั โมงที่ 4 – 6 (Speaking) ขน้ั Warm up 1. นกั เรยี นเล่น Matching Game จบั คูค่ าศัพท์เก่ยี วกับลมฟา้ อากาศกบั ความหมาย (ใบงานท่ี 2) โดย
1.1 นกั เรยี นแบ่งเป็นกล่มุ ละ 3 คน 1.2 รบั ซองเกมจากครู ซ่ึงในซองจะมคี าศพั ท์ทเี่ กยี่ วกับเรอื่ งลมฟ้าอากาศ 15 คา และมคี วามหมายของคาน้ัน ๆ ซง่ึ ปะปนกันอยู่ 1.3 ช่วยกนั จบั ค่คู วามหมายกบั คาศัพท์ 1.4 กลุ่มใดทาได้ถูกต้องและใช้เวลานอ้ ยที่สดุ เปน็ กลมุ่ ชนะ ขนั้ Presentation 2. ครูใหต้ ัวอย่างการสนทนา ถามเก่ียวกับ Weather (ใบความรู้ท่ี 2) 3.ครใู หน้ กั เรียนอ่านบทสนทนาตามจนคลอ่ งและอธิบายความหมาย ขน้ั Practice 4.ให้นกั เรยี นเลน่ Board Game เก่ียวกับ Weather โดย 4.1แบง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 3 – 5 คน 4.2นักเรียนเดนิ เบี้ยตามแต้มทีท่ อดลกู เต๋าไดต้ ้ังแต่จดุ เรม่ิ ต้น ถา้ เบ้ยี หยุดท่ีใดนักเรียนต้องพูด ประโยคเกี่ยวกับลกั ษณะอากาศ เชน่ เบีย้ หยุดท่ีคาว่า sunny นักเรียนอาจพูดวา่ It is sunny in Chaiyaphum . เป็นตน้ 4.3ถา้ เบยี้ หยุดท่ีช่อง “ Free Question ” ใหน้ ักเรียนคนถดั ไปต้ังคาถามเก่ียวกบั ลักษณะ อากาศ เช่น “What is the weather like in Bangkok ?” ใหผ้ ู้เล่นตอบ 4.4หลงั จากตอบคาถามแล้วให้เปลย่ี นผ้เู ล่นคนตอ่ ไป 4.5การเลน่ จะดาเนนิ ตอ่ ไปจนถึงชอ่ ง “ The winner ” นักเรยี นผ้นู น้ั จะเป็นผ้ชู นะ ขน้ั Production 5.นักเรียนจับค่สู นทนาเก่ยี วกับการถามสภาพอากาศอกี ครั้ง เพ่ือเป็นการเพิ่มทกั ษะและความแมน่ ยา นกั เรยี นเปน็ ผู้กาหนดบทสทนาข้ึนมาเองโดยไมจ่ ากัดรูปแบบ 6.ทา Post-test ขัน้ Wrap-up 7.นกั เรียนจดั แบง่ เวรกนั ฟงั ข่าวพยากรณ์อากาศในแตล่ ะวัน แล้วนามาอา่ นหรอื พิมพ์มาตดิ หน้าชนั้ เรียนโดยใชภ้ าษาอังกฤษ เม่อื ครบ 1 อาทิตย์ครูจะตง้ั คาถามเก่ียวกับลักษณะอากาศทน่ี กั เรยี นไดฟ้ ัง / อา่ น สอื่ การเรียนรู้ 1. รปู ภาพ 2. เกม Matching Game 3. ใบความรู้ท่ี 2 4. ใบงานท่ี 2 แหลง่ เรยี นรู้ 1.สภาพแวดลอ้ มรอบตัว 2.หนังสอื , หนงั สอื พิมพ์ 3.หอ้ งสมุดโรงเรียน 4. กรมอุตนุ ิยมวทิ ยา
การวัดและประเมนิ ผล 1.วดั จากการตอบคา.ถามจากเรือ่ งทฟ่ี งั 2วดั จากการพูดส.นทนาเกย่ี วกับลกั ษณะอากาศ 3.วดั จากการทดสอบ Post Test 4วัดจากความรับผ.ิ ดชอบในการทางาน
ใบความรทู้ ี่ 1 เวลา 10 นาที หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 8 (Weather) เรอ่ื ง ตัวอย่างการถาม / ตอบ เกีย่ วกบั ลมฟ้าอากาศ A : What , s the weather like in Chaiyaphum ? at Phuket ? The North of Thailand ? Bangkok ? The sea ? The lake ? your village ? your school ? Canada ? England ? ect. B : It , s warm . hot . sunny . cold . cloudy . snowing . raining ect.
ใบความรทู้ ี่ 2 เวลา 10 นาที หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 (Weather) เร่อื ง ตวั อยา่ งบทสนทนาเกย่ี วกบั ลมฟา้ อากาศ Sam : Hello Tik . How are you ? Tik : Hi Sam . I am find thank you and you ? Sam : Oh , very well thank you . Where did you go last weekend ? Tik : I went to Pattaya with my friend . Sam : What , s the weather like in Pattaya ? Tik : It , s very hot but it , s windy . How about the weather in Chaiyaphum ? Sam : It , s sunny and the sky is clear . ****************************
ใบงานท่ี 1 เวลา 10 นาที หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 (Weather) เร่อื ง คาถามเกย่ี วกับสภาพลมฟ้าอากาศ บทฟงั Weather today Temperature Yesterday at 06.00 am , min. 27 c Today : max. 34 c , min. 25 c Sun Rise : 06.06 am Set : 06.30 pm Moon Rise : 09.14 am Set : 09.22 pm 1. What was the weather like yesterday ? 2. When did the sun rise ? 3. When did the sun set ? 4. When did the moon rise ? 5. When did the moon set ?
ใบงานท่ี 2 เวลา 12 นาที หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 8 (Weather) เรอ่ื ง แบบฝกึ จับคคู่ าศพั ท์กับความหมาย Direction : Match column B with column A . A B ………. 1. Temperature a ละอองฝนบางเบา ………. 2. Clear b มีหมอก ………. 3. sunny c อุณหภูมิ ………. 4. cloudy d ฝนตกหนกั ………. 5. Drizzle e ลมพัด ………. 6. Fog f แจ่มใส ………. 7. Heavy rain g มเี มฆ ………. 8. windy h แดดจา้ **************************
Pre / Post Test ตอน Weather Direction : Answer the question The Americas City Min Max WF my Boston 14 28 my cdy Brasilia 15 25 cdy my Buenos Aires 0 13 cdy clr Chicago 12 22 my cdy Dallas 22 29 cdy cdy Lima 14 18 cdy cdy Los Angeles 17 29 clr clr Mexico city 13 24 cdy Miami 27 32 New York 19 28 Ottawa 10 19 San Francisco 14 25 Suntiago 9 17 Toronto 13 21 Vencouver 14 24 Washington 22 31 1. Which city is the hottest ? 2. Which city is the coldest ? 3. What , s the weather like in New York ? 4. What , s the weather like in Vencouver ? 5. What is the maximum temperature ?
เฉลย เวลา 10 นาที ใบงานท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 (Weather) เร่ือง คาถามเก่ียวกบั สภาพลมฟา้ อากาศ 1.Warm 2.06.06 am 3.06.30 pm 4.09.14 5.09.22 pm ใบงานที่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 (Weather) เร่ือง แบบฝึกจับคคู่ าศัพทก์ บั ความหมาย เวลา 12 นาที Direction : Match column B with column A . A B ……c…. 1. Temperature a ละอองฝนบางเบา ……f…. 2. Clear b มีหมอก ……h…. 3. sunny c อณุ หภูมิ ……g…. 4. cloudy d ฝนตกหนกั ……a…. 5. Drizzle e ลมพดั ……b…. 6. Fog f แจ่มใส ……d…. 7. Heavy rain g มีเมฆ ……e…. 8. windy h แดดจ้า **************************
Pre / Post Test ตอน Weather Direction : Answer the question The Americas City Min Max WF my Boston 14 28 my cdy Brasilia 15 25 cdy my Buenos Aires 0 13 cdy clr Chicago 12 22 my cdy Dallas 22 29 cdy cdy Lima 14 18 cdy cdy Los Angeles 17 29 clr clr Mexico city 13 24 cdy Miami 27 32 New York 19 28 Ottawa 10 19 San Francisco 14 25 Suntiago 9 17 Toronto 13 21 Vencouver 14 24 Washington 22 31 6. Which city is the hottest ? Washington 7. Which city is the coldest ? Buenos Aires 8. What , s the weather like in New York ? Cloudy 9. What , s the weather like in Vencouver ? Clear 10. What is the maximum temperature ? 31
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 : Science and Technology รายวชิ าภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน รหสั วิชา อ22102 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 เวลา 6 ชว่ั โมง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……. สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนร้อู ืน่ มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ. ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น อยา่ งมเี หตุผล มฐ. ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่ืนและเปน็ พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม 2/3 ระบุ/เขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียงรู ปแบบต่างๆท่ี อา่ น ต 3.1 ม 2/1 ค้นคว้า รวบรวมและสรุปข้อมูล/ ขอ้ เทจ็ จริงท่เี กยี่ วขอ้ งกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ื่นจาก แหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอด้วยการพูด/เขียน 19. เปา้ หมายการเรยี นรู้ ( Learning Goal ) (14) ความเขา้ ใจที่คงทน การอา่ นขอ้ มูลทีเ่ ก่ียวข้องกับเรื่องราวในสาระหนึ่งนน้ั ผู้เรียนจะต้องมีความรูค้ วาม เข้าใจเนื้อหาวชิ า สามารถตอบสนองหรอื ปฏิบัตติ ามได้ ความสามารถในการจดจาศัพท์และ สานวนต่างๆ จึงเปน็ สง่ิ จาเปน็ ที่จะช่วยใหป้ ระสบความสาเรจ็ ในการเรียนรู้ (15) ความรู้และทักษะคร่อมวชิ า (ทกั ษะ/กระบวนการ ) (1) ทักษะการฟัง พดู อ่าน (2) ทกั ษะการคิด (3) กระบวนการกลุ่ม (16) ความรู้และทกั ษะเฉพาะวิชา (สาระ) (1) ความหมายของคาศัพทท์ ่ีเก่ยี วกบั วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2) การอา่ นและการตอบคาถามบทอา่ นเกย่ี วกับวทิ ยาศาสตร์ (3) การอา่ นและการตอบคาถามบทอา่ นเกี่ยวกับสมุนไพร (4) การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์เป็นภาษาองั กฤษ (17) จติ พิสยั (คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ )
(1) ความเชื่อมัน่ ในการใช้ภาษา ( 2) ความสนกุ สนานในการเรยี น ( 3) มีความรับผิดชอบในการทางาน (18) สาระการเรียนรู้ คาศพั ท์และบทความทางวิทยาศาสตร์ (19) ภาระงาน (1) ตอบคาถามจากบทอา่ นเกีย่ วกับวทิ ยาศาสตรแ์ ละสมุนไพร (2) ทาโครงงานวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ (20) กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1-2 (Reading) - แจง้ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัด 1. ทา Pre test ข้ัน Warm up 2. ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั คดิ คาศัพทท์ ่ีคาดว่าจะพบในเรือ่ งวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี แล้วครเู ขยี นคาศพั ทเ์ หลา่ น้นั บนกระดาน ให้นักเรยี นบอกความหมาย ขั้น Pre- listening 3.อธบิ ายคาศพั ท์ทป่ี รากฏในบทอา่ น 4.แจกบทอ่านเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนอา่ นประโยคแล้วบอก ความหมายของประโยค (ใบความรู้ท่ี 1) ขนั้ While - listening 5.แจกแบบฝกึ ใหน้ ักเรียนซึง่ เป็นเป็นแบบฝึกจบั คู่คาศัพทก์ บั ความหมาย (ใบงานท่ี 1) และแบบฝึกท่ี เปน็ คาถามจากบทความทไี่ ดอ้ า่ น (ใบงานที่ 2) 6.ครูเฉลยคาตอบ 7.นกั เรียนตรวจคาตอบกับคูข่ องตน ข้ัน Post - Reading 8.นกั เรียนสืบคน้ ขา่ ว หรือบทอ่านเก่ียวกบั Science and Technology แล้วทาแฟ้สะสมงานส่ง ครู ขั้น Wrap up 9.นักเรยี นศึกษาเพ่ิมเติมเกยี่ วกบั คาศัพท์ทท่ีเกย่ี วกบั วิทยาศาสตร์แลว้ จัดรวบรวมเปน็ เลม่ ไว้ ใช้สาหรับค้นคว้า สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ใบความรทู้ ี่ 1 3.ใบงานท่ี 1 - 2 แหล่งเรียนรู้ 1.ชุมชน
2.Internet 3.หนงั สือพฤกษศาสตร์ การวัดและประเมินผล 1.วดั จากการตอบคาถามจากเรือ่ งที่อ่าน 2.วัดจากการทดสอบ Pre Test 3.วัดจากความรับผิดชอบในการนาเสนอโครงงาน ช่วั โมงที่ 3 – 5 (Integrated Skill) ขั้น Warm up 1.ใหน้ กั เรยี นดูภาพสมุนไพรชนดิ ต่าง ๆ ประมาณ 10 – 15 ภาพ แล้วตง้ั คาถาม What do you call this in Thai ? 2.เขยี นชื่อภาษาอังกฤษ หรือใช้บตั รคาทเ่ี ตรียมไวแ้ ลว้ สาหรับชื่อสมุนไพรชนิดนนั้ ๆ 3.ทดสอบความจาโดยชูภาพแตล่ ะภาพสลับกันแล้วใหน้ ักเรยี นบอกคาศัพทภ์ าษาองั กฤษ 4.ใหน้ กั เรยี นฝึกจนสามารถจาศพั ท์ท่เี ปน็ ชือ่ ของสมนุ ไพรชนิดนนั้ ๆ ขัน้ Presentation 5.สอนคาศัพท์ยากเก่ยี วกับสมนุ ไพรที่นักเรียนจะศกึ ษา 6.แบ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่มละ 4-6 คน 7.แจกบทอ่านเกยี่ วกบั สมนุ ไพรใหน้ ักเรยี นศึกษาโดยแตล่ ะกลมุ่ จะได้สมุนไพรคนละชนดิ (ใบความรู้ ท่ี 2) ข้นั Practice 8.นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ช่วยกนั อธิบายความหมายของเนอ้ื หาเกีย่ วกบั สมุนไพรท่ีไดร้ ับ โดยมคี รูคอย ช่วยเหลือ 9.นาเสนอผลงานทช่ี ว่ ยกนั สรปุ หนา้ ช้นั เรยี นทีละกลมุ่ โดยการนาเสนอจะใช้รูปแบบใดกไ็ ด้ แลว้ แต่ กลุ่มจะตกลงกัน 10.ทดสอบความเข้าใจอกี คร้งั โดยการตอบคาถามเก่ยี วกบั สมนุ ไพรแต่ละชนดิ (ใบงานที่ 3) สื่อการเรยี นรู้ 1.รปู ภาพสมุนไพร 2.ใบความร้ทู ี่ 2 3. ใบงาน ที่ 3 4.ตัวอยา่ งโครงงาน แหล่งเรียนรู้ 1.ชุมชน 2.Internet 3.หนังสอื พฤกษศาสตร์
การวดั และประเมนิ ผล 1.วัดจากการตอบคาถามจากเร่อื งท่อี า่ น 2.การทาใบงานที่ 2 3.วัดจากความรับผดิ ชอบในการนาเสนอโครงงาน ช่วั โมงท่ี 6 – 10 (Science – English Project) ขน้ั Production 11.นกั เรยี นแต่ละกลุ่มทาโครงงานเพือ่ ศกึ ษาเกย่ี วกบั สมนุ ไพรท่ีตนเองสนใจ 12.นาเสนอโครงงาน โดยใช้รปู แบบเฉพาะของแต่ละกลุ่ม ขัน้ Wrap-up จดั ใหม้ กี ารประกวดโครงงาน โดยการใหค้ รทู ่ีสอนวทิ ยาศาสตร์และคอมพวิ เตอรเ์ ข้ารว่ มตัดสนิ ส่ือการเรยี นรู้ 1.ตัวอยา่ งโครงงาน แหลง่ เรียนรู้ 1.ชุมชน 2.Internet 3.หนงั สือพฤกษศาสตร์ การวัดและประเมนิ ผล 1.วัดจากการทาโครงงาน 2.วดั จากการทดสอบ Post Test 3.วัดจากความรับผดิ ชอบในการนาเสนอโครงงาน
ใบความร้ทู ี่ 1 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 9 (Science and Technology ) เรือ่ ง บทอา่ นเกีย่ วกับวทิ ยาศาสตร์ เวลา 8 นาที A lot of carbon dioxide comes from modern machines – cars and airplanes , for example . But not all carbon dioxide goes up into the atmosphere . Tree and plants need carbon dioxide when they grow, so they use a lot of it . But we are cutting down a lot of trees. So what will happen ? More carbon dioxide rill go up into the atmosphere . Perhaps our climate will change and the world will get hotter .
ใบความรทู้ ี่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 9 (Science and Technology ) เรื่อง บทอา่ นเก่ยี วกับสมนุ ไพร เวลา 45 นาที Lemon Effect : Cure a cough and spectrum. Method : 1. Squeeze a lemon, put some Salt and offer drink 2. Slice the lemon and pet some Salt to eat. Effect Tamarind Method : : Cure a cadge and Sputum . Use the plumb of Tamarind with Salt to eat Effect The winder melon Method : : Cure a poison of jellyfish . Use the entrails of winder winder melon covered . Garlic Effect : Cure ringworm . Method : Slice a garlic and rub on ringworm skin .
ใบงานที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 (Science and Technology ) เร่ือง จบั คู่คาศัพท์จากเรือ่ งทอี่ า่ น เวลา 5 นาที Direction : Match column B with column A . A B ………. 1. carbon dioxide a บรรยากาศ ………. 2. modern b อากาศ ………. 3. machines c พชื ………. 4. atmosphere d กา๊ ซ Co2 ………. 5. plant e เกดิ ขน้ึ ………. 6. grow f ทนั สมยั ………. 7. cut down g เจรญิ เติบโต ………. 8. happen h เครือ่ งจกั รกล ………. 9. climate i เปล่ียน ………. 10. change j ตัด **************************
ใบงานที่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 9 (Science and Technology ) เรื่อง คาถามจากบทอา่ น เวลา 12 นาที Direction : Write “ T ” in front of the right statements and write “F” in front of the wrong statements . ( เขยี น T หนา้ ขอ้ ถกู เขยี น F หนา้ ขอ้ ทผี่ ิด ) ………. 1. Carbon dioxide comes from cars. ………. 2. All of carbon dioxide goes up into atmosphere. ………. 3. Tree and people need carbon dioxide. ………. 4. If we cut a lot of trees , there will have more carbon dioxide. ………. 5. Our climate will change 100 % .
ใบงานที่ 3 เวลา 15 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 9 (Science and Technology ) เรือ่ ง คาถามเกย่ี วกบั สมนุ ไพร นาที Direction : Answer the question about herbs. 1. Which herb can cure ringworm ? 2. Which herb can cure poison of jellyfish ? 3. Which herb can cure a cough ? 4. Which herb can cure a cadge ? 5. Which herb can cure spectrum ?
Pre / Post Test ตอน Science and Technology Direction : Read the passage and then answer the question. Lavoiser is best known as a chemistry. And he learnd names to many chemicals. There are the same names we use today. Some of Lavoiser ,s other ideas were important , too. He use science to improve farming. He also worked on a way to improve France ,s banks and government . He helped to make the taxes and money the same all over France . 1. Who is the best chemist ? 2. What did he do ? 3. What thing did he use science to improve ? 4. Where did he help to make the taxes and money ?
เฉลย ใบงานท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 (Science and Technology ) เรือ่ ง จบั คู่คาศพั ท์จากเรือ่ งทีอ่ า่ น เวลา 5 นาที Direction : Match column B with column A . A B ……d…. 1. carbon dioxide a บรรยากาศ ……f…. 2. modern b อากาศ ……h…. 3. machines c พืช ……a…. 4. atmosphere d กา๊ ซ Co2 ……c…. 5. plant e เกดิ ข้ึน ……g…. 6. grow f ทันสมยั …j……. 7. cut down g เจรญิ เตบิ โต ……e…. 8. happen h เครอ่ื งจกั รกล ……b…. 9. climate i เปลยี่ น ……i…. 10. change j ตัด **************************
ใบงานท่ี 2 เวลา 12 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 9 (Science and Technology ) เรอ่ื ง คาถามจากบทอา่ น นาที Direction : Write “ T ” in front of the right statements and write “F” in front of the wrong statements . ( เขียน T หน้าข้อถกู เขียน F หน้าขอ้ ที่ผิด ) …T……. 1. Carbon dioxide comes from cars. …F……. 2. All of carbon dioxide goes up into atmosphere. …T…. …3. Tree and people need carbon dioxide. …F……. 4. If we cut a lot of trees , there will have more carbon dioxide. …T……. 5. Our climate will change 100 % .
ใบงานที่ 3 เวลา 15 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 (Science and Technology ) เรือ่ ง คาถามเกย่ี วกบั สมุนไพร นาที Direction : Answer the question about herbs. 1. Garlic 20. The winder melon 21. Lemon 22. Tamarind 23. Tamarind
Pre / Post Test ตอน Science and Technology Direction : Read the passage and then answer the question. 1. Lavoiser 2. He learned names to many chemistry. 3. He use science to improve farming. 4. He helped to make the taxes and money the same all over France
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 10 : Free Time and Entertainment รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ22102 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 เวลา 10 ช่วั โมง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… … สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่อื สาร สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ. ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งที่ฟังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล มฐ. ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตา่ งๆโดยการพูด และการเขยี น มฐ. ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตวั ชีว้ ดั ต 1.1 ม 2/3 ระบุ/เขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆท่ี อา่ น ต 1.3 ม 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน ประสบการณ์และข่าว/ เหตกุ ารณท์ ่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม ต 2.2 ม 2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่ และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย 24. เปา้ หมายการเรยี นรู้ ( Learning Goal ) (21) ความเข้าใจทค่ี งทน การพดู เก่ยี วกับกิจกรรมในยามวา่ งและความบนั เทงิ ต่าง ๆ เป็นการสนทนาโต้ตอบทม่ี ักใช้ บ่อย ๆ ในชีวติ ประจาวัน การรู้หลกั ไวยากรณ์ ตลอดจนการใช้ภาษาทีถ่ ูกต้องในการพูด จงึ เป็น สง่ิ จาเป็นท่ีผเู้ รียนควรไดฝ้ กึ ฝน (22) ความรแู้ ละทกั ษะคร่อมวิชา (ทักษะ/กระบวนการ ) (1) ทักษะการฟัง พูด อา่ น (2) ทกั ษะการคิด (3) กระบวนการกลุ่ม (23) ความร้แู ละทกั ษะเฉพาะวชิ า (สาระ) (1) คาศัพท์ในบทสนทนาท่ฟี งั
(2) การตอบคาถามจากเร่อื งทีฟ่ ัง (3) คาศัพท์จากบทเพลงทฟี่ งั (4) เกมทางภาษา (5) การสนทนาเกย่ี วกบั การใชเ้ วลาว่าง (24) จิตพิสัย (คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ ) (1) ความเช่อื มั่นในการใช้ภาษา ( 2) ความสนกุ สนานในการเรยี น ( 3) มีความรบั ผิดชอบในการทางาน (25) สาระการเรยี นรู้ 1. เนือ้ หา 1.1 Sentence Patterns - Affirmative - Negative 1.2 Present Activities on free time 2. คาศัพท์ 2.1 Verb phrases 2.2 Verb with gerund forms (26) ภาระงาน (1) ทาแบบฝึกเตมิ คาศพั ท์และตอบคาถามจากเรื่องท่ีฟงั (2) จับคู่เลน่ เกมและจัดทาเกมทางภาษา (3) สนทนาเกย่ี วกับการใชเ้ วลาวา่ ง (7) กจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1-2 (Listening) - แจ้งมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ัด 1. ทา Pre test ข้ัน Warm up 2. นกั เรยี นเล่นเกม Domino เรื่อง Verbs โดย 2.1 นักเรียนแบง่ เป็นทีม ๆ ละ 4 คน 2.2 แตล่ ะทีมรับเกม Domino จากครูไป 1 ชดุ ซึง่ มี 24 car 2.3 แจก cards ใหแ้ ตล่ ะคนถือคนละ 5 แผน่ 2.4 นกั เรียนคนท่ี 1 วาง card ลง ซ่ึงจะประกอบดว้ ยคากริยาและรูปภาพอยใู่ นแผ่นเดยี วกนั เชน่ run อยูใ่ นแผ่นเดยี วกันกับคนนงั่ นกั เรยี นคนใดทีม่ ีคาศพั ท์ sit สามารถนามาตอ่ card ได้ หรอื ถ้านกั เรียนคนใดมภี าพคนวง่ิ ก็สามารถมาต่อ card ได้
2.5 ถ้านกั เรียนคนใด เมือ่ ถึงตอนทต่ี นเองเลน่ ไมม่ ีรปู หรอื คาศัพท์ที่ตอ่ ได้ ก็ตอ้ งผ่านใหค้ นถดั ไป เลน่ 2.6 ดาเนินการเล่นจนมีนกั เรยี นทไ่ี ม่มี card อยู่ในมอื แสดงวา่ เป็นผ้ชู นะ ขั้น Pre- listening 3. ครูสอนคาศพั ทย์ ากโดยเฉพาะคากรยิ าท่ีปฏบิ ัตอิ ยใู่ นชวี ติ ประจาวนั โดยใช้รปู ภาพ (ใบความร้ทู ่ี 1) 4. ทบทวนเร่อื งการใช้ Past Simple Tense โดยใช้แผ่นโปร่งใส 5. สอนคาศัพท์ยากทอ่ี ยู่ในบทฟัง ท่ีนักเรยี นต้องฟงั จากเทป เชน่ pup , Fantastic , go for a walk , went bought , got , really , spaghetti 6. นกั เรยี นฟังเทปทค่ี รูเปดิ ใหฟ้ ัง 2 รอบ ข้ัน While - listening 7. นกั เรียนทาแบบฝึกเตมิ คาในชอ่ งว่างทีไ่ ด้ฟงั เทป (ใบงานที่ 1) ขน้ั Post - listening 8. นกั เรียนมอบหมายหนา้ ที่ให้ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ นาเนอ้ื หาเกย่ี วกับการทากจิ กรรมในยามวา่ ง มา อ่านหรอื อ่านใส่เทปมาใหเ้ พื่อนฟงั แลว้ ให้เพ่อื นเติมคาที่ขาดหายไปลงในชอ่ งวา่ ง หรืออาจจะให้ตอบ คาถาม ขัน้ Warp-up 9. จดั ทาคาศัพท์ทีม่ ีภาพประกอบเก่ียวกบั กจิ กรรมในยามว่างของบุคคลทว่ั ไป ส่ือการเรียนรู้ 1.เกม Domino เรอ่ื ง Verb 2.ใบความรู้ที่ 1 3.ใบงานท่ี 1 4.หนังสือพมิ พ์ นิตยสาร 5.หนงั สอื เกม แหลง่ เรียนรู้ 1.ห้องศูนย์สือ่ ภาษาองั กฤษ 2.ห้องสมุด 3.ชุมชน การวัดและประเมนิ ผล 1.วัดจากการทาแบบฝกึ หัดเติมคาและตอบคาถามจากเรือ่ งทีฟ่ งั 2.วดั จากการเล่นเกมและการจดั ทาเกมทางภาษา 3.วัดจากการทดสอบ Pre Test
ชัว่ โมงท่ี 3 – 4 (Speaking) ข้ัน Warm-up 1. เลน่ Matching Game จับคูค่ าศัพท์กริยากับรูปภาพ 1.1 นกั เรยี นแบ่งเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4 – 6 คน 1.2 แต่ละกลมุ่ มารบั เกมคนละ 1 ชุด 1.3 จับค่ภู าพกบั กรยิ าใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด 1.4 กลุ่มใดที่เสร็จก่อนและถูกต้องทส่ี ุดเปน็ กลมุ่ ชนะ Love , relax, stay, cook, have, like, chat, cut, go, live, arrive, come, visit, bring, listen, go out , get up ,cave ขั้น Presentation 2. ครูทบทวนคากรยิ าที่นักเรยี นหรือบุคคลสว่ นมากชอบทาในเวลาว่าง โดยใชร้ ูปภาพประกอบ คาอธบิ าย 3. ใหต้ ัวอยา่ งบทสนทนาท่เี กีย่ วกับการใชเ้ วลาวา่ ง (ใบความร้ทู ี่ 2) ข้นั Practice 4. ให้นกั เรียนฝึกสนทนาทั้งห้อง ฝกึ เป็นทมี หรอื ฝกึ เปน็ กลุม่ 5. ให้นกั เรยี นจับคู่สนทนา พร้อมกบั ใหค้ ะแนน ข้ัน Production 6. นกั เรยี นดูตวั อยา่ งรูปแบบการสนทนาทคี่ รูใหแ้ ลว้ นามาประยกุ ต์ แต่งเป็นบทสนทนาเกยี่ วกบั การ ทากิจกรรมในเวลาว่าง ดว้ ยตนเอง 7. นาเสนองานหนา้ ชนั้ เรยี น ครูใหค้ ะแนน ขัน้ Wrap-up 8. จดั ประกวดบทสนทนาการทากจิ กรรมในยามว่าง สื่อการเรยี นรู้ 1.เกม Matching Game 2.ใบความรู้ที่ 2 3.หนงั สอื พมิ พ์ นติ ยสาร 4.หนังสือเกม แหล่งเรียนรู้ 1.ห้องศนู ย์ส่อื ภาษาอังกฤษ 2.หอ้ งสมดุ 3.ชุมชน การวดั และประเมนิ ผล 1.วัดจากการทาแบบฝึกหัดเติมคาและตอบคาถามจากเรื่องทีฟ่ งั 2.วดั จากการเล่นเกมและการจดั ทาเกมทางภาษา
ชว่ั โมงท่ี 5 – 6 (Reading) ขัน้ Warm -up 1. นกั เรียนร้องเพลง Swimming , Swimming in the Swimming pool When days are hot , When days are cool. In the Swimming pool . Front stroke , side stroke, Fancy diving , too. Don’t you wish you were a fish With nothing else to do BUT……………………….. ขั้น Presentation 2. ครอู ธิบายความหมายของคาศัพท์ทอี่ ยู่ในบทอ่านเกีย่ วกับการใช้เวลาว่างของบคุ คล โดยใชร้ ปู ภาพ การอธบิ าย และใชข้ องจริง 3. แจกบทอา่ นท่มี เี นือ้ หาเกีย่ วกับการใชเ้ วลาว่าง (ใบความรทู้ ่ี 3) 4. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอธบิ ายความหมายของบทอา่ น ขั้น While - reading 5. นักเรียนอ่านบทอา่ นด้วยตนเองอกี ครง้ั 6. ทาแบบฝึกจบั คู่ศัพท์จากบทอา่ น (ใบงานที่ 2) 7. ทาแบบฝกึ ตอบคาถามจากบทอา่ น (ใบงานที่ 3) ข้นั Post - reading 8. นกั เรียนสบื คน้ กิจกรรมในยามวา่ งของบุคคลท่ีนกั เรียนชืน่ ชอบ ในหลาย ๆ อาชพี โดยเฉพาะ กลุ่ม ดารา นกั รอ้ ง นักการเมอื ง นกั กีฬา 9. นามาสรปุ ร่วมกัน แลว้ เขยี นบนกระดาน เช่น Tatayong likes to read books in her freetime. Paradorn likes to go to the disco in his freetime. ข้ัน Wrap-up 10. จดั ทาสมุดเลม่ โปรด โดยมีบคุ คลที่ช่นื ชอบและสิ่งทเี่ ขาหรอื หลอ่ นทาในเวลาว่าง สื่อการเรยี นรู้ 1.เพลง Swimming 2.ใบความรู้ท่ี 3 3.ใบงานที่ 2 - 3 4.หนังสอื พิมพ์ นติ ยสาร 5.หนงั สอื เกม แหลง่ เรยี นรู้ 1.ห้องศูนย์สอื่ ภาษาองั กฤษ 2.ห้องสมุด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112