Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนภาษาอังกฤษม. 2 ภาคเรียนที่ 1

แผนภาษาอังกฤษม. 2 ภาคเรียนที่ 1

Published by Pikul Muangkam, 2021-05-10 08:42:30

Description: แผนภาษาอังกฤษม. 2 ภาคเรียนที่ 1

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหสั วิชา อ22101 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ จดั ทาโดย นางพิกุล เหมอื งคา ตาแหนง่ ครู คศ. 2 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลช่างเค่ิง อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สานกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักงานการศึกษาขนั้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คาอธบิ ายรายวชิ าภาษาอัง รหสั วิชา 22101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ใชภ้ าษา น้าเสยี ง กริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาทสงั คม เพ่อื ส่อื สารใ ใช้ภาษาในการค้นควา้ รวบรวมข้อมลู รวบรวมข้อมูลความรู้สาขาวชิ าตา่ งๆ โดยปฏ สอ่ื ท่ีไมเ่ ป็นความเรยี ง ป้ายสัญลกั ษณ์ และท่ีเป็นความเรียงประเภทสิ่งพิมพ์ ฉลา ฟังในเรื่องเกยี่ วกับตนเอง ครอบครวั อาหาร เครือ่ งดื่ม การซอ้ื ขาย สุขภาพ ลม ถูกต้องตามหลกั การอ่านออกเสยี ง สนทนาแลกเปลยี่ นข้อมูล ใชค้ าขอร้อง ให้คาแน ความรสู้ กึ แสดงความคิดเหน็ และใหเ้ หตผุ ลประกอบ ดว้ ยการใช้คาศัพท์ สานวนภ เก่ียวกับตนเอง กจิ วัตรประจาวัน ประสบการณ์ เข้าใจมารยาทสังคมและวัฒนธรร และของเจ้าของภาษา เหน็ คณุ ค่าของภาษาอังกฤษ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา จติ สาธารณะ

งกฤษพน้ื ฐาน ภาคเรยี นท่ี 1 2 เวลา 60 ชั่วโมง ในสถานการณจ์ าลองสถานการณ์จรงิ ภายในและภายนอกสถานศึกษา ตลอดจน ฏิบัติตามคาส่ัง คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จงงา่ ยๆ ระบุหัวข้อ ใจความสาคัญ ากสินค้า โฆษณา เว็บไซท์ บทสนทนา เพลง นทิ าน บทความส้นั ๆ ที่อ่านและ มฟา้ อากาศ อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสั้นๆ นะนา แสดงความต้องการ ขอ ตอบรับ ตอบปฏิเสธความชว่ ยเหลอื แสดง ภาษาท่ใี ช้ในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล พดู และเขยี นบรรยายสรุปใจความสาคญั รมของเจ้าของภาษา เปรียบเทยี บวัฒนธรรมประเพณี ชวี ิตความเป็นอยขู่ องไทย าและวฒั นธรรมตามความสนใจ มที ักษะการคิดใหเ้ หตุผล รักความเป็นไทยและมี

ตวั ชวี้ ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางวชิ าภ สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งท่ฟี ังและอา่ นจากส่อื ประเภทต่างๆ และแส ตัวชีว้ ดั ๑. ปฏิบัติตามคาขอร้อง คาแนะนา คาขอรอ้ ง คาแนะนา ค คาชแี้ จง และคาอธิบายง่ายๆ ทีฟ่ ังและอา่ น การทาอาหารและเคร่อื ง การใช้ยา/สลากยา การ - Passive Voice ท่ใี - คาสันธาน (conjun - ตวั เชือ่ ม (connectiv

ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 สดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตผุ ล etc. สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง คาชแ้ี จง และคาอธบิ าย เช่น งดืม่ การประดษิ ฐ์ รบอกทศิ ทาง การใช้อุปกรณ์ ใชใ้ นโครงสรา้ งประโยคง่ายๆ เช่น is/are + Past Participle nction) เชน่ and/ but/ or/ before/ after etc. ive words) เชน่ First,… Second,… Third,… Fourth,… Finally,…

ตวั ชว้ี ดั ๒. อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอง ขอ้ ความ ข่าว ประกาศ ส้นั ๆ ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น - การออกเสยี งพยญั ชน - การออกเสียงเนน้ หน - การออกเสยี งตามระด - การแบ่งวรรคตอนใน ๓. ระบ/ุ เขียนประโยค และข้อความ ใหส้ มั พนั ธก์ ับสือ่ ท่ี ประโยค หรือขอ้ ความ แ ไมใ่ ช่ความเรียง รูปแบบ ต่างๆ ทีอ่ ่าน เวลาวา่ งและนันทนากา เดนิ ทางทอ่ งเทยี่ ว การบ ประมาณ ๑,๗๕๐-๑,๙๐ การตคี วาม/ถา่ ยโอนขอ้ แผนภมู ิ แผนผัง ตาราง adverbs/ Contrast: b some/ any/ a few/ f

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง และบทร้อยกรอง การใชพ้ จนานุกรม หลักการอ่านออกเสยี ง เชน่ นะต้นคาและพยญั ชนะทา้ ยคา นกั -เบา ในคาและกลุ่มคา ดับเสียงสูง-ต่า ในประโยค - การออกเสยี งเชือ่ มโยงในขอ้ ความ นการอ่าน - การอ่านบทรอ้ ยกรองตามจงั หวะ และความหมายเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สงิ่ แวดล้อม อาหาร เครอ่ื งดมื่ าร สขุ ภาพและสวัสดกิ าร การซอื้ -ขาย ลมฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชพี การ บริการ สถานท่ี ภาษา และวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปน็ วงคาศพั ท์สะสม ๐๐ คา )คาศพั ทท์ ่ีเปน็ รปู ธรรมและนามธรรม( อมูลใหส้ มั พันธ์กบั สอ่ื ทไ่ี มใ่ ช่ความเรียง เช่น สัญลกั ษณ์ เครื่องหมาย กราฟ ง ภาพสัตว์ สิ่งของ บุคคล สถานที่ต่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ but, although/ Quantity words เช่น many/ much/ a lot of/ lots of/ few/ a little/ little etc.

สาระท่ี ๑ ภาษาเพอื่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสาร และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชว้ี ัด ๑. สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เรอื่ งต่างๆ ใกล้ ภาษาที่ใช้ในการสอ่ื สา ตวั และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจาวันอยา่ งเหมาะสม แทรกอยา่ งสภุ าพ กา สานวนการตอบรบั ก ชวี ิตประจาวนั ๒. ใชค้ าขอรอ้ ง ให้คาแนะนา คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชี้แจง และคาอธบิ ายตามสถานการณ์

แสดงความรสู้ ึก สาระการเรียนร้แู กนกลาง ารระหวา่ งบคุ คล เช่น การทักทาย กลา่ วลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูด ารชกั ชวน ประโยค/ข้อความ ท่ีใช้แนะนาตนเอง เพื่อน และบุคคลใกล้ตวั และ การแลกเปลย่ี นข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องใกล้ตวั สถานการณต์ ่างๆ ใน คาชี้แจง และคาอธิบาย

๓. พดู และเขยี นแสดงความต้องการ เสนอและให้ความ ภาษาทีใ่ ชใ้ นการแสดง ช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือ ชว่ ยเหลือในสถานการ ในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม Please…/…, please Certainly./ Yes, of Need some help?/ Would you like an I’m sorry, but…/ So ๔. พดู และเขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย และแสดง คาศพั ท์ สานวน ประ ความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม เกี่ยวกับเรื่องทฟ่ี งั หรือ ๕. พูดและเขยี นแสดงความรู้สึก ภาษาท่ีใช้ในการแสดง และความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ียวกบั เรอ่ื งต่างๆ กิจกรรม และ ให้เหตุผลประกอบ เช ประสบการณ์ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ลประกอบอย่าง เหมาะสม เสยี งดงั ดี ไม่ดี จากข Nice./ Very nice./ W feel… because…/ I don’t believe…/ I h

งความตอ้ งการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการใหค้ วาม รณ์ต่างๆ เชน่ e./ I’d like…/ I need… / May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./ course./ Sure./ Go right ahead./ / What can I do to help?/ ny help?/ I’m afraid…/ orry, but… etc. ะโยค และข้อความท่ีใช้ในการขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็น ออา่ น งความรสู้ กึ ความคิดเหน็ และ ช่น ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสยี ใจ มคี วามสขุ เศร้า หิว รสชาติ สวย น่าเกลียด ขา่ ว เหตุการณ์ สถานการณ์ ในชวี ติ ประจาวนั เช่น Well done!/ Congratulations on… / I like…because…/ I love…because…/ I think…/ I believe…/ I agree/ disagree…/ I’m afraid I don’t like…/ I have no idea…/ Oh no! etc.

สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร และการเขียน ตัวชว้ี ัด ๑. พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กจิ วตั รประจาวัน การบรรยายข้อมลู เกยี่ ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ ท่อี ย่ใู นความสนใจของ ของสังคม เชน่ การเด สังคม การทอ่ งเท่ียว การศึกษ ๒. พูดและเขยี นสรปุ ใจความสาคัญ/ การจับใจความสาคญั / แก่นสาระ หัวข้อเรอ่ื ง (topic) ทไี่ ด้จากการวิเคราะหเ์ ร่ือง/ การวเิ คราะห์เรอ่ื ง/ขา่ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม เพลง ๓. พูดและเขียนแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับกิจกรรม เร่อื ง การแสดงความคิดเหน็ ต่างๆ ใกลต้ วั และประสบการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลสัน้ ๆ ประสบการณ์ ประกอบ

รอื่ งต่างๆ โดยการพูด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวัน ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ท่อี ยู่ในความสนใจ ดนิ ทาง การรับประทานอาหาร การเลน่ กีฬา/ดนตรี การฟงั เพลง การอา่ นหนงั สอื ษา สภาพสังคม เศรษฐกิจ /แกน่ สาระ หัวขอ้ เรือ่ ง าว/เหตกุ ารณ์ท่ีอย่ใู นความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรี นและการใหเ้ หตุผลประกอบเกี่ยวกับกจิ กรรม เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว และ

สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภา ตัวช้ีวัด ๑. ใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและ การใชภ้ าษา น้าเสยี ง โอกาส ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ภาษา เชน่ การขอบค การสมั ผสั มือ การโบ รับหรอื ปฏิเสธ ๒. อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วนั สาคญั ความเปน็ มาและความ ชีวติ ความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา ๓. เข้าร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความ กิจกรรมทางภาษาแล สนใจ วันขอบคุณพระเจ้า ว วันวาเลนไทน์

าษา และนาไปใช้ได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง และกิริยาท่าทางในการสนทนา ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ คุณ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ หี น้าท่าทางประกอบ การพดู ขณะแนะนาตนเอง บกมอื การแสดงความรสู้ กึ ชอบ/ไมช่ อบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบ มสาคญั ของเทศกาล วันสาคัญ ชีวติ ความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา ละวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง การเลา่ นทิ าน บทบาทสมมุติ วนั คริสต์มาส วนั ข้นึ ปใี หม่

สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธร และนามาใช้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม ตัวชี้วัด ๑. เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่าง การเปรยี บเทยี บและก ระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ และการลาดับคา ของเจ้าของภาษากับข ตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ของภาษาต่างประเทศ ๒ เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมือนและความแตกต่าง การเปรียบเทียบและก ระหว่างชีวติ ความเป็นอยแู่ ละวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของ ของไทย

รรมของเจา้ ของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การอธิบายความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ ของไทย การใช้เคร่อื งหมายวรรคตอนและการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค ศและภาษาไทย การอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชวี ติ ความเปน็ อยูแ่ ละ งภาษากบั ของไทย

สาระที่ ๓ ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกลมุ่ สาระการเรียนร้อู น่ื มาตรฐาน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรีย แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน ตวั ชี้วัด ๑. คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ ข้อเท็จจรงิ ท่ีเก่ียวข้องกบั การคน้ ควา้ การรวบ กล่มุ สาระ เรียนรอู้ ืน่ การเรียนรอู้ ื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนาเสนอด้วยการพูด/การ เขียน สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุม ตวั ชี้วัด ๑. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองท่ี การใช้ภาษาสื่อสารใน เกดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา และชุมชน ชมุ ชน

ยนรอู้ ่นื และเปน็ พนื้ ฐานในการพัฒนา สาระการเรียนรแู้ กนกลาง บรวม การสรปุ และการนาเสนอขอ้ มูล/ข้อเทจ็ จรงิ ที่เก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการ มชน และสังคม สาระการเรยี นรู้แกนกลาง นสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ าลองท่เี กิดขึน้ ในหอ้ งเรียน สถานศึกษา และ

สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครือ่ งมือพ้ืนฐานในการศกึ ษาต่อ การป ตวั ช้วี ัด ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/คน้ คว้า รวบรวมและ การใช้ภาษาต่างประเ สรุปความรู้/ข้อมลู ต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ใน ต่างๆ ในการศึกษาต การศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ ๒. เผยแพร่/ประชาสัมพนั ธ์ข้อมูลข่าวสาร ของโรงเรียนเปน็ การใช้ภาษาตา่ งประเ ภาษาต่างประเทศ หนงั สอื เลม่ เลก็ แนะน นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร

ประกอบอาชีพ และการแลกเปล่ียนเรยี นรู้กับสังคมโลก สาระการเรียนรู้แกนกลาง เทศในการสืบคน้ /การค้นคว้าความรู้/ขอ้ มลู ตา่ งๆ จากสอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ ต่อและประกอบอาชีพ เทศในการเผยแพร/่ ประชาสัมพันธข์ อ้ มูลขา่ วสารของโรงเรียน เชน่ การทา นาโรงเรยี น การทาแผ่นปลวิ ปา้ ยคาขวญั คาเชิญชวนแนะนาโรงเรยี น การ รในโรงเรยี นเป็นภาษาองั กฤษ

ผังมโนทัศน์ วชิ าภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง Interpersonal relationship จานวน 10 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วชิ าภาษาอังกฤษ เร่ือง Myself ระดับช้นั มธั ยมศึก จานวน 10 ชัว่ โมง จานวน 60 ช หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 เรือ่ ง My school จานวน 10 ชั่วโมง

ษพ้นื ฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง Language จานวน 12 ชว่ั โมง ษพื้นฐาน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 กษาปที ี่ 2 เรอ่ื ง Family ชว่ั โมง จานวน 8 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง Health and Welfare จานวน 10 ช่ัวโมง

ผงั มโนทัศน์ วชิ าภาษาอังกฤ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร 1. Introduction จานวน 2 ช่ัวโมง 3. Apologizing หนว่ ยการเรยี จานวน 2 ช่ัวโมง เรอื่ ง Interpersonal จานวน 10 5. Asking for information จานวน 3 ชัว่ โมง

ฤษพืน้ ฐาน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รอ่ื ง Interpersonal relationship 2. Departing จานวน 2 ช่วั โมง ยนรู้ที่ 1 4. Permission l relationship จานวน 3 ชว่ั โมง ช่ัวโมง 6. Offering help จานวน 3 ชั่วโมง

ผงั มโนทัศน์ วชิ าภาษาอ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 1.Present Simpl จานวน 3 2.Present Continuous Tense หน่วยการเ จานวน 3 ช่ัวโมง เร่อื ง La จานวน 1 4.Past Simple T จานวน 3 ชั่วโ

อังกฤษพนื้ ฐาน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 2 เรอื่ ง Language le Tense ชัว่ โมง เรียนรู้ท่ี 2 3.Present Prefect Tense จานวน 3 ชว่ั โมง anguage 12 ชว่ั โมง Tense โมง

ผงั มโนทศั น์ วชิ าภาษาอังกฤ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1. My daily life จานวน 2 2. My favourite things หนว่ ยการเ จานวน 2 ชัว่ โมง เรือ่ ง M จานวน 1 4. My informat จานวน 4 ชวั่ โ

ฤษพ้นื ฐาน ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 3 เรอ่ื ง Myself ชัว่ โมง เรียนรทู้ ี่ 3 3. My resume จานวน 2 ชัว่ โมง Myself 10 ชว่ั โมง tion โมง

ผงั มโนทศั น์ วชิ าภาษาอังกฤษพืน้ ฐ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1. Family Tree หนว่ ยการเร จานวน 4 ชัว่ โมง เรอื่ ง Fam จานวน 8

ฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 4 เรือ่ ง Family รียนรทู้ ่ี 4 2. Family Detail mily จานวน 4 ชั่วโมง ช่ัวโมง

ผงั มโนทศั น์ วชิ าภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 1.Material an school จานวน 2.Describing school หนว่ ยการเรยี จานวน 3 ช่วั โมง เรอ่ื ง My sc จานวน 10

ษพนื้ ฐาน ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 5 เรื่อง My school nd paces in น 3 ช่ัวโมง ยนรทู้ ี่ 5 3. Location chool จานวน 4 ชั่วโมง ช่วั โมง

ผงั มโนทัศน์ วชิ าภาษาอังกฤษพ้ืน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เรื่อง 1.Parts of จานวน 3 ช่ัว 2. Health problems หนว่ ยการเรยี เรื่อง Suggestion จานวน 3 ช่ัวโมง จานวน 10

นฐาน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 Suggestion about health body วโมง ยนร้ทู ี่ 12 3. Suggestion about health about health จานวน 4 ชวั่ โมง 0 ชัว่ โมง

หนว่ ย ช่อื หนว่ ย โครงสร้าง รายวิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รห ท่ี จานวน 1.5 หนว่ ยกจิ 60 ชั่วโมง 1 Interpersonal รหสั มฐ. ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ relationship ต 1.1 ม 2/3 2 Language ระบุ / เขยี นประโยคและข้อความให้สัมพนั ธก์ บั ส่ือที่ไ ความเรยี งรูปแบบต่างๆทอ่ี ่าน ต 1.2 ม 2/1 สนทนาแลกเปล่ียนข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เรือ่ งราวต่าง ตัว และสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจาวันอย่างเหมา ต 1.3 ม 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กิจวัตรประจาวัน ประสบการณแ์ ละข่าว/เหตกุ ารณ์ท่ีอยู่ในความสนใจข สังคม ต 1.3 ม 2/2 พดู และเขียนสรปุ ใจความสาคัญ/แก่นสาระหัวข้อเรือ่ ง (topic) ทไ่ี ด้จากการวิเคราะห์เรื่อง/ข่าว/เหตุการณท์ ่อี ความสนใจของสงั คม

หัสวชิ า อ 22101 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั คะแนน คะแนน (ช.ม.) K A P เตม็ -Introduction ไม่ใช่ -Departing 10 5 2 3 10 -Apologizing -Permission งๆใกล้ -Asking for information าะสม -Offering help -Present Simple Tense 12 6 3 3 10 น -Present Continuous ของ -Present Prefect Tense -Past Simple Tense ง อย่ใู น

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 : Interpersonal Relationship รายวิชาภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหัสวชิ า อ22101 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 เวลา 12 ชัว่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ. ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษา ในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูล ข่าวสาร การแสดงความรู้สกึ และ ความคิดเหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ มฐ. ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาและนาไปใชไ้ ด้อยา่ ง เหมาะสมกับกาลเทศ ตวั ชี้วัด ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปลีย่ นข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เร่อื งราวต่างๆใกล้ตวั และสถานการณ์ต่างๆใน ชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม ต 1.2 ม. 2/2 ใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา ใหค้ าช้ีแจง และคาอธิบาย ตามสถานการณ์ ต 1.2 ม.2/3 พดู และเขียนแสดงความต้องการเสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วาม ชว่ ยเหลือในสถานการณต์ ่างๆอย่างเหมาะสม ต 1.2 ม.2/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูล บรรยายและแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เร่อื งทีฟ่ ังหรืออ่าน อย่างเหมาะสม ต 1.2 ม.2/5 พดู และเขียนแสดงความรสู้ กึ และความคิดเหน็ ของตนเองเก่ียวกับเรื่องตา่ งๆกิจกรรมและ ประสบการณพ์ รอ้ มท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม ต 2.1 ม.2/1 ใชภ้ าษาน้าเสียง และกริยาทา่ ทางสุภาพ เหมาะสมกบั บุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคมและ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ต. 2.1 ม.2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ สาระการเรยี นรู้ 1. เน้อื หา  Introduction  Departing  Apologizing  Permission  Asking for information  Offering help

2. คาศพั ท์ / สานวน ศัพทแ์ ละสานวนทอี่ ยูใ่ นบทสนทนาท้ังหมด เปา้ หมายการเรียนรู้ ( Learning Goal ) (1) ความเข้าใจที่คงทน การใชภ้ าษาในการสอื่ สารในชีวิตประจาวัน นอกจากผเู้ รยี นจะตอ้ งมีความรแู้ ละทักษะ ในการใช้ภาษาแลว้ ผู้เรียนยงั จะต้องเรียนรู้ถงึ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษาดว้ ย เพราะนอกจาก จะทาให้ผู้เรยี นสือ่ สารไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่วแล้ว ผเู้ รียนยงั สามารถสื่อสารไดอ้ ย่างถูกตอ้ งดว้ ย (2) ความรู้และทักษะคร่อมวชิ า (ทกั ษะ/กระบวนการ ) (1) ทกั ษะการฟงั พูด อา่ น (2) ทกั ษะการคิด (3) กระบวนการกลุม่ (3) ความรแู้ ละทกั ษะเฉพาะวชิ า (สาระ) (1) การพูดแนะนาตนเอง (2) การพูดกลา่ วลา (3) การพูดขอโทษและขออนุญาต (4) การพูดถาม/ตอบ ถึงสง่ิ ท่ชี อบ หรือไมช่ อบและถามขอ้ มูลอน่ื ๆ (5) การพดู ถาม/ตอบ ถงึ ความตอ้ งการของบุคคล (4) จิตพสิ ัย (คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ ) (1) ความเช่ือมนั่ ในการใช้ภาษา ( 2) ความสนุกสนานในการเรียน ( 3( มคี วามรับผิดชอบในการทางาน (5) ชุดคาถามทส่ี าคัญ - (6) ภาระงาน (1) การจับคสู่ นทนาจาก 6 สถานการณ์ (2) การแสดงบทบาทสมมติจากสถานการณ์ที่กาหน (7) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 (Speaking) - แจง้ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้วี ดั - ทดสอบกอ่ นเรยี น Pre – test

ขนั้ Warm up 1.ครแู ละนักเรียนร่วมกนั รอ้ งเพลง Hello My Friend พร้อมแสดงท่าทางประกอบ Hello my friend. Hello my friend How are you ? How are you ? Very well thank you. Very well thank you. We are friends. We are friend. ขน้ั Presentation 2.นาเสนอเน้ือหาโดยกล่าวทกั ทายนักเรยี นบางคนและใหน้ ักเรียนตอบโต้ 3.ครยู กตัวอยา่ งบทสนทนาทนี่ ิยมใช้ในการทกั ทาย (ใบความรูท้ ่ี 1) พร้อมท้งั นานกั เรยี นออกเสยี งประโยค ต่างๆอยา่ งถกู ต้อง 4.อธิบายความหมายของสานวนต่างๆ ให้นักเรียนเข้าใจ ขั้น Practice 5.ฝกึ ปฏบิ ัติโดยใหน้ ักเรียนฝึกพดู ซา้ ๆ พรอ้ มทงั้ ใหท้ าแบบฝกึ การจับคสู่ านวนกบั ความหมาย (ใบงานที่ 1) 6.ให้นักเรยี นจบั คู่กับเพอ่ื นแล้วแสดงบทบาทสมมตใิ นการทักทายกัน ตามสถานการณ์ท่ีครกู าหนดให้ (ใบงานที่ 2) ขน้ั Production 7.นกั เรยี นจบั คู่กับเพ่อื นที่เป็นคูใ่ หมอ่ กี คร้ังแล้วกาหนดสถานการณใ์ นการสนทนาเก่ียวกบั การทักทายนาเสนอ หน้าช้ัน ข้ัน Wrap up 8.นาเสนอสานวนที่ใชท้ กั ทายติดไว้หนา้ ห้องพร้อมกับวาดภาพประกอบอยา่ งสวยงาม สอื่ การเรยี นรู้ 1.เพลง Hello My Friend 2.ใบความร้ทู ่ี 1 3.ใบงาน ที่ 1, 2 4. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ แหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนังสือเพลง , เกม 2.เทป , V.C.D. การสนทนา 3.ประสบการณ์ตรง การวัดและประเมินผล 1. วัดจากการสนทนา

2. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ 3.วัดจากการทดสอบ Pre Test 4. ตรวจใบงานที่ 1,2 5.วดั จากความสนใจรว่ มกิจกรรม ชว่ั โมงที่ 2 (Speaking) ขั้น Warm up 1.ใหน้ ักเรยี นเลน่ เกม Goodbye โดย - นักเรียนลอ้ มกนั เป็นวงกลมแลว้ ร้องเพลง/เปิดเพลง Goodbye my friend -นักเรยี นคนแรกส่งก้อนกระดาษกลมๆ ให้เพ่ือนคนถัดไปทอ่ี ยขู่ วามอื - เมอื่ เพลงหยดุ และก้อนกระดาษอยู่ท่ีใคร นักเรยี นคนนัน้ จะบอกวา่ Goodbye see you again แล้ว เดนิ ออกไป -ดาเนนิ การเช่นน้ันเรอื่ ยๆ จนกว่าจะเหลอื นกั เรียนคนสดุ ทา้ ยซึ่งเปน็ ผชู้ นะ ขั้น Presentation 2.ครูยกตวั อย่างสานวนที่ใช้ในการกล่าวลา เชน่ Bye , Goodbye , See you again , See you later , See you soon. 3.อธิบายความหมายและแนะนาในการใชส้ านวนทเ่ี หมาะสมในการกล่าวลา ข้นั Practice 4.นกั เรียนฝึกพูดสานวนเปน็ รายกลุ่มและรายบคุ คล 5.จับค่แู สดงบทบาทสมมติโดยใชส้ านวนในการกล่าวลา ครูให้คะแนนตามแบบประเมนิ การพดู 6.ให้นักเรยี นทาแบบฝึกเตมิ คาในช่องวา่ ง จากสถานการณ์การกล่าวลา (ใบงานท่ี 3) ข้นั Production 7.ให้นักเรยี นสบื คน้ บทสนทนาที่แสดงการกล่าวลาในสถานการณ์ตา่ งๆ เช่น กลา่ วลากอ่ นไปเท่ียว กลา่ วลาก่อน ไปนอน กล่าวลากอ่ นไปโรงเรยี น กลา่ วลากอ่ นการเดินทาง etc. 8.ทารายงานสรปุ สถานการณ์การกลา่ วลาและคาอวยพรที่เหมาะสมของการกลา่ วลาแต่ละสานวนและนาเสนอ หนา้ ช้นั เรียน ขน้ั Wrap up 9.แสดงบทบาทสมมติการกล่าวลาพรอ้ มกับคาอวยพรตามสถานการณ์ท่ีเหมาะสม สือ่ การเรยี นรู้ 1.เกม Good bye 2.ใบงาน ท่ี 3 3. การแสดงบทบาทสมมติ

แหลง่ การเรียนรู้ 1.หนงั สอื เพลง , เกม 2.เทป , V.C.D. การสนทนา 3.ประสบการณ์ตรง การวดั และประเมนิ ผล 1. วดั จากการสนทนา 2. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ 3. ตรวจใบงานที่ 3 4.วดั จากความสนใจร่วมกิจกรรม ชวั่ โมงท่ี 3 – 4 (Speaking) ขน้ั Warm up 1. เลน่ เกม What will you say if ………………. ? 1.1 แบง่ นกั เรยี นออกเป็น 2 ทมี ทีม A และทมี B 1.2 ครตู งั้ สถานการณ์ให้นักเรียนพูดประโยคที่สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น What will you say if you step on someone foot ? I will say sorry. เป็นต้น ทีมท่ียกมือก่อนจะมีสิทธิตอบก่อน ถา้ ตอบผิดกเ็ ปลย่ี นใหท้ มี ตรงขา้ มตอบ ขน้ั Presentation 2.ครูนาเสนอตวั อยา่ งการกลา่ วคาขอโทษและการขออนญุ าตโิ ดยใช้สถานการณ์จริงในชน้ั เรยี น เชน่ ครทู าสมุด นกั เรยี นตก และพดู ว่า I’m sorry หรอื I beg your pardon. 3.แจกใบความรูต้ ัวอย่างการสนทนาเก่ียวกบั การขอโทษและการขออนุญาต (ใบความรู้ที่ 2) ขั้น Practice 4.นักเรียนศกึ ษาตวั อยา่ งสานวนท่ีไดร้ บั แจก 5.ฝกึ พูดสานวนท้งั รายกลุ่ม รายบุคคล 6.สุ่มตัวอย่างนักเรียนท่ลี ะคู่ออกมาสาธติ การสนทนาเพือ่ กลา่ วคาขอโทษและการกลา่ วขออนุญาตติ าม สถานการณ์ท่ีช่วยกันกาหนด 7.นักเรียนทาแบบฝกึ เพื่อฝึกความแม่นยาจากใบงานท่ี 4 ขนั้ Production

8.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั แตง่ บทสนทนาเพ่อื ท่ีจะนามาแสดงบทบาทสมมตหิ นา้ ชนั้ เรียน โดยการกาหนด สถานการณ์เอง 9.สง่ ตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอ ครูใหค้ ะแนน ขน้ั Wrap up 10.นักเรียนจดั เวทีจาลองให้เพอ่ื นๆ พูดกล่าวลาหลังจากการทากิจกรรมส่วนใดส่วนหนึง่ เสรจ็ สนิ้ สอ่ื การเรียนรู้ 1.เกม What will you say if ….? 2.ใบความร้ทู ่ี 2 3.ใบงาน ท่ี 4 4. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ แหลง่ การเรียนรู้ 1.หนงั สอื เพลง , เกม 2.เทป , V.C.D. การสนทนา 3.ประสบการณ์ตรง การวัดและประเมนิ ผล 1. วดั จากการสนทนา 2. การแสดงบทบาทสมมุติ 3. ตรวจใบงานท่ี 4 4.วดั จากความสนใจรว่ มกิจกรรม ช่วั โมงที่ 5 – 6 (Speaking) ข้นั Warm up 1.นักเรียนเล่นเกม Find Someone Who? จากใบงานท่ี 5 -นกั เรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 4 – 6 คน -หวั หน้ากลุ่มรับเกม Find Someone Who? คนละ 1 ชดุ -ครอู ธบิ ายการเล่นโดยให้ตัง้ คาถามเพื่อหาใหพ้ บวา่ ใครเป็นผทู้ าส่ิงนนั้ เชน่ Who likes to play football ? - -- ถา้ มใี ครตอบ Yes ให้เขยี นชอ่ื บุคคลนนั้ ลงไป -ใครถามไดร้ วดเรว็ ถูกตอ้ ง และมรี ายช่อื คนตอบ Yes ได้มากและเรว็ ทสี่ ุดเปน็ ผู้ชนะ ขั้น Presentation 2.นกั เรยี นรับใบความร้ตู วั อย่างสานวนทใ่ี ช้ในการสนทนาในการถามขอ้ มลู จากบุคคลอ่นื จากใบความรู้ท่ี 3 3.ครูอธบิ ายความหมายของสานวนแตล่ ะสานวน พร้อมท้ังยกตวั อย่างสาธติ

ขน้ั Practice 4.นักเรยี นฝึกฟงั และออกเสยี งคาศัพทส์ านวน 5.ใหน้ ักเรยี นแบ่งออกเป็น 2 ทมี เพอื่ ฝึกถาม/ตอบ ตามสถานการณท์ ก่ี าหนด (ใบงานที่ 6) 6.นักเรยี นจบั คู่ฝึกสานวนเพอ่ื หาขอ้ มูลซ่ึงกันและกนั 7.ครูสมุ่ ตัวอยา่ งนกั เรียนออกมาแสดงบทบาทสมมติ ข้นั Production 8.นกั เรยี นออกแบบแบบสรปุ ขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากคู่สนทนาโดยอาจจะทาเปน็ แผ่นการ์ดเลก็ ๆ หรอื จะใชร้ ปู แบบอ่นื ๆ ก็ได้ 9.ครตู รวจให้คะแนนคนท่ีออกแบบฟอร์มและกรอกไดถ้ กู ต้องจะไดค้ ะแนนสูง ขั้น Wrap up 10.สร้างคาถามเก่ยี วกบั Game “Find Someone Who ?” แลว้ นาไปใหน้ ักเรยี นเลน่ ส่อื การเรียนรู้ 1.เกม Find Someone Who ? ) ใบงานที่ 5 ( 2.ใบความรู้ที่ 3 3.ใบงาน ที่ 6 4. การแสดงบทบาทสมมุติ แหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เพลง , เกม 2.เทป , V.C.D. การสนทนา 3.ประสบการณต์ รง การวัดและประเมินผล 1. วัดจากการสนทนา 2. การแสดงบทบาทสมมุติ 3. ตรวจใบงานที่ 6 4.วดั จากความสนใจร่วมกจิ กรรม ชวั่ โมงท่ี 7 – 8 (Speaking) ขั้น Warm up 1.นกั เรียนเล่นเกม Matching Game จบั ค่ภู าพกับความหมาย

- แบง่ นักเรียนเป็นกลุ่มๆแล้วตั้งหวั หนา้ มารบั เกมจากครู 1 ชดุ - จบั ค่ภู าพกบั ความหมาย เชน่ ภาพกาแฟ กับ Coffee - ส่งตัวแทนมาพูดประโยคจากภาพ เชน่ I like to drink coffee. etc. ขน้ั Presentation 2.ให้นักเรยี นดูภาพคน สัตว์ หรอื ส่งิ ของต่างๆ แล้วตั้งคาถามนกั เรียนให้สอดคล้องกับภาพ เชน่ Do you like papaya? Yes, I do./ No, I don’t Do you like the sea? ถามเชน่ นป้ี ระมาณ 10 – 15 คาถาม 3.อธบิ ายรายละเอยี ดของการตัง้ คาถามถึงสิ่งท่ชี อบหรอื สงิ่ ทไ่ี ม่ชอบและวิธีตอบ ขน้ั Practice 4.นักเรียนฝึกตั้งคาถามร่วมกนั ทัง้ ชน้ั เป็นทมี และเป็นค่จู นคล่อง 5.นกั เรยี นจับคูต่ ง้ั คาถามและตอบคาถามเกย่ี วกับสงิ่ ท่บี คุ คลรอบข้างนกั เรียนชอบหรอื ไม่ชอบ เช่น - Does your mother like cooking? - Does your sister like dancing? - Do your friends like sport? etc. ครใู หค้ ะแนนการสนทนา ขัน้ Production 6.นกั เรยี นแต่ละคนไปสัมภาษณ์หรอื สอบถามคนอื่นๆ นอกชน้ั เรียนถงึ สงิ่ ท่คี นเหล่านั้นชอบหรอื ไมช่ อบ โดยตั้ง คาถามเอง 7.นาข้อมูลทไ่ี ดม้ าสรปุ เพอ่ื รายงานครู เชน่ Somsri doesn’t like sport. My father likes fruit. My boyfriend likes Pepsi. ข้นั Wrap up 8.นกั เรยี นชว่ ยกันสรปุ สิง่ ทีค่ นส่วนมากชอบและไม่ชอบแล้วมาเขียนสรปุ ความ เช่น Many people like playing games but some people like watching T.V. ………. สอื่ การเรยี นรู้ 1.เกม Matching game 2. บทสมั ภาษณ์ แหลง่ การเรียนรู้ 1.หนังสือเพลง , เกม

2.เทป , V.C.D. การสนทนา 3.ประสบการณ์ตรง การวัดและประเมินผล 1. วดั จากการสนทนา 2. การสัมภาษณ์ 3. ความสนใจรว่ มกิจกรรม ช่ัวโมงที่ 9 – 12 (Speaking) ขั้น Warm up 1.นักเรยี นรอ้ งเพลง “The Banana Dance” พรอ้ มแสดงท่าประกอบตามครู All the bananas in the world ……… unite ! (Clap) Peel bananas ……………… (repeat) Go bananas …………………. (repeat) Shake bananas …………………….. (repeat) ขนั้ Presentation 2.แจกตัวอย่างการถาม และตอบเกีย่ วกับความต้องการให้นักเรียนศึกษา (ใบความรู้ท่ี 1) 3.อธบิ ายและให้ตัวอย่างเพมิ่ เตมิ ในหลายๆ สถานการณ์ เชน่ A : What would you like to drink ? B : I’d like to drink coke. A : Where would you like to go ? B : I’d like to go to the market. ขั้น Practice 4.แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลมุ่ แล้วให้นกั เรยี นเปลยี่ นกันถามและตอบเก่ยี วกบั ความตอ้ งการจากQueue words ท่คี รใู ห้ (ใบงานท่ี 7) 5.นักเรยี นจบั คกู่ บั เพ่ือนแลว้ แสดงบทบาทสมมตเิ พอื่ ถาม/ตอบเกย่ี วกับความตอ้ งการ ครใู ห้คะแนน ขั้น Production 6.นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ กาหนดสถานการณโ์ ดยสร้างเปน็ ละครสน้ั (Skit) และในสถานการณ์จะสอดแทรกการ ถาม/ตอบเก่ียวกบั ความตอ้ งการ แล้วนามาแสดงหนา้ ชนั้ เรียน 7. ทา Post – test ขั้น Wrap up 8.ให้นักเรยี นค้นคว้าบทสนทนาซึง่ มกี ารสนทนาถึงการถามความตอ้ งการ แล้วใหน้ ามานาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน สื่อการเรยี นรู้ 1.เพลง The Banana Dance

2.ใบความรทู้ ี่ 1 3.ใบงาน ที่ 7 4. การแสดงบทบาทสมมุติ แหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนังสือเพลง , เกม 2.เทป , V.C.D. การสนทนา 3.ประสบการณ์ตรง การวัดและประเมินผล 1. วัดจากการสนทนา 2. การสมั ภาษณ์ 3. ความสนใจรว่ มกิจกรรม

ใบความรูท้ ี่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 (Interpersonal relationship) เร่อื ง การพดู แนะนาตน (Introductions) Introducing Yourself A: Good afternoon. My name’s Gina Jones. B: I’m here for an interview. Good afternoon, Miss Jones I’m David Long, personal manager. Please take a seat and tell me about yourself. Introducing other people A: Hi, Susan. How are you doing? B: Not too bad, Peter. And yourself? A: Can’t complain. Susan, I’d like you to meet a friend of mine. This is John Williams. B: How do you do, John. A: How do you do, Susan. It’s nice to meet you.

ใบความรู้ที่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 (Interpersonal relationship) เร่อื ง การขอโทษและขออนุญาต (Apologizing and Permission) Aplogizing 1. A : I’m sorry I didn’t call you. I was so busy I forgot. B: Think nothing of it. 2. A : Oh my God, David! I’m so sorry for spilling my drink over your best suit. B: Never mind, Gina. Permission 1. A : Would you mind if I opened the window ? B: Not at all. Go ahead. A: Thanks. 2. A : Is it O.K. if I use the telephone? B: Be my guest. A: Thanks.

ใบความรทู้ ่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 (Interpersonal relationship) เรอ่ื ง การสนทนาถามขอ้ มูล (Asking for information) Asking the Time and the Way 1. A : Excuse me. Do you know what time it is? B: Yes, it’s twelve thirty. A: Thank you. 2. A : Excuse me. How do I get to the market? B: It’s rather too far to walk. If I were you. I should take a taxi. The fore should be about 60 baht. 3. A : B: Excuse me. I’m looking for a post office. A post office ? Let me se……… Ah yes, there’s one on A: Bannakan Road. It’s opposite Stree Chaiyaphum School. B: Thanks. Don’t mention it.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook