Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปงายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ปี 2561-จิ้งหรีด

สรุปงายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ปี 2561-จิ้งหรีด

Published by dnavaroj15, 2020-01-29 23:22:35

Description: สรุปงายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ปี 2561-จิ้งหรีด

Search

Read the Text Version

รายงานวจิ ัยฉบบั สมบูรณ์ โครงการเพาะพนั ธปุ์ ญั ญา(พัฒนายวุ วิจยั ) โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสังฆราชูปถมั ภ์ ชดุ โครงงาน จิ้งหรดี โดย นายเดชมณี เนาวโรจน์ และคณะ เมษายน 2562 1

สารบญั หน้า 2 บทคดั ย่อ 4 บทนำ 5 กำรออกแบบกระบวนกำรเรียนรแู้ บบ RBL ของโรงเรยี น 6 กำรคัดเลือกประเดน็ หลัก 10 สรุปผลกำรดำเนนิ กิจกรรมโครงกำรเพำะพนั ธุ์ปญั ญำของโรงเรยี น 14 เสยี งสะทอ้ นของครู นกั เรยี น และผบู้ ริหำร 16 สรุปผลกำรดำเนินงำนโครงงำนยอ่ ย 10 โครงงำน 21 ภำคผนวก 2

สรปุ งานประจาปี (พฤษภาคม 2561 – เมษายน 2562) บทคัดยอ่ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสงั ฆรำชปู ถมั ภ์ ได้สมัครเข้ำร่วมโครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำ ศูนย์ พีเ่ ล้ียงมหำวทิ ำลยั อบุ ลรำชธำนี เป็นปีท่ี 5 ปีกำรศกึ ษำ 2561 มผี บู้ ริหำรโรงเรยี น จำนวน 2 คน ครูท่ีปรึกษำ โครงงำน จำนวน 10 คน มีนักเรียน ม.2/1 จำนวน 39 คน นักเรียน ม.6/1 จำนวน 8 คน ร่วมกิจกรรม โครงกำรในครั้งนี้ โดยได้เลือกประเด็นหลัก เรื่อง จิ้งหรีด โดยให้นักเรียนเสนอประเด็น และลงมติ ประชำธิปไตยเสียงข้ำงมำก มีกำรนำเสนอโครงงำนย่อยเก่ียวกับจิ้งหรีด และได้รับกำรอนุมัติจำกศูนย์พ่ีเล้ียง จำนวน 10 โครงงำน และสนบั สนุนงบโครงงำนละ 7,200 บำท ดงั น้ี โครงงำน ชอ่ื โครงงำน บรู ณำกำรกบั คร*ู สอนกลุ่มวชิ ำ ท่ี โครงงำนท่ี 1 กำรศึกษำวงจรชีวิตของจิ้งหรีดแตล่ ะสำยพันธุ์ใน ทกุ โครงงำน นำงสำวยำใจ เจรญิ พงษ์ วทิ ยำศำสตร์ 2 พื้นทช่ี ุมชนตำบลดงแคนใหญ่ 3 กำรตรวจจบั คลื่นเสยี งของจิง้ หรีด ทกุ โครงงำน นำยกติ ตพิ งษ์ บุญสำร วิทยำศำสตร์ 4 กำรแปรรปู แจว่ จ้ิงหรดี ทุกโครงงำน นำงโสภำ เนำวโรจน์ วิทยำศำสตร์ กำรศกึ ษำเปรยี บเทียบกำรเจริญเตบิ โตของจ้งิ หรดี ทุกโครงงำน นำยศรำวธุ โชติสวุ รรณ สงั คมศำสตร์ 5 โดยใช้อำหำรสำเร็จรูปของจิ้งหรดี ปลำและไก่ 6 กำรศึกษำเปรยี บเทยี บปริมำณโปรตีนในจิง้ หรีด ทกุ โครงงำน นำงสำวแสงเดอื น บกนอ้ ย วิทยำศำสตร์ 7 แต่ละสำยพันธทุ์ มี่ ใี นท้องถ่นิ กำรศึกษำสีของหลอดไฟมผี ลตอ่ กำรล่อแมลง ทุกโครงงำน นำยพิษณุ สมจติ ร วิทยำศำสตร์ 8 กำรศึกษำพฤติกรรมกำรบริโภคจงิ้ หรีดในตลำด ทุกโครงงำน นำงสำวกสุ มุ ำ ไชยช่วย วิทยำศำสตร์ บ้ำนดงแคนใหญ่ 9 กำรสำรวจควำมพึงพอใจของผู้บรโิ ภคข้ำวเกรยี บ ทกุ โครงงำน นำงนุชนำฎ โชติสวุ รรณ สังคมศำสตร์ จ้งิ หรีด 10 กำรศกึ ษำทดลองอตั รำสว่ นของอำหำรมีผลต่อ ทกุ โครงงำน นำงสำคร ทองเทพ เศรษฐศำสตร์ กำรเจรญิ เติบโตของจงิ้ หรดี กำรศึกษำชนิดของอำหำรมผี ลต่อกำรเจรญิ เติบโต ทุกโครงงำน นำยดชมณี เนำวโรจน์ วิทยำศำสตร์ จง้ิ หรดี งบประมาณรวม (ทกุ โครงการยอ่ ย) 72,000 บาท 3

สรุปผลกำรทำโครงงำน ท้ัง 10 โครงงำน พบว่ำ โครงงำนสำมำรถสรุปผลได้ตำมสมมติฐำนที่ตั้งไว้ จำกกำรเข้ำรวมโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำในคร้ังนี้ ทำให้ท้ังครูและนักเรียนเกิดกำรเปลี่ยนแปลงตนเองอย่ำง มำกสำมำรถนำมำใช้กับกำรดำเนินชีวิตประจำวันได้เป็นอย่ำงดี เป็นโครงกำรท่ีเกิดกำรเรียนรู้อย่ำงมำกมำยมี ท้ังทุกข์ สุข ในกระบวนกำรทำงำน กำรเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นมำกท่ีสุดของนักเรียนโครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ เรียงจำกมำกไปหำน้อย ได้แก่ 1. มนุษย์สัมพันธ์ ทักษะ ทำงสงั คม 2 ทักษะกำรคิดวิเครำะห์ 3. กำรรับฟงั ผ้อู นื่ และ 4. ควำมกล้ำแสดงออก 4

บทนา โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สมัครเข้ำร่วมโครงกำรเพำะพันธุ์ ปญั ญำ กับศนู ยพ์ ่ีเลี้ยงมหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนี ต้ังแต่ปีกำรศึกษำ 2557 จนถึงปีกำรศึกษำ 2561 ปีท่ี 5 ของ กำรเขำ้ รว่ มโครงกำรฯ จำกท่ีครูไม่มีควำมรู้อะไรเลยเก่ียวกับทักษะเพำะพันธ์ุปัญญำจนถึงกระท่ังปีนี้คิดว่ำครูมี กำรเปลีย่ นแปลงและได้เรียนรู้อย่ำงมำกจำกครดู ว้ ยกนั เอง โครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำเป็นโครงกำรท่ีมีรูปแบบท่ี สำมำรถวัดผลได้ชัดเจน นกั เรยี นเกิดทักษะกำรเรียนรู้ โดยเฉพำะปีน้ียุคคนไทย 4.0 โครงกำรนี้ก็สำมำรถสนอง นโยบำยของรัฐบำลได้เป็นอย่ำงดี ปีน้ีครูและนักเรียนของโรงเรียนที่ร่วมโครงกำรได้เรียนรู้กระบวนกำร RBL ซึ่งเป็นกระบวนกำรเรียนรู้ของนักเรียนนอกห้องเรียนมีควำมเข้ำใจและทำงำนเป็นระบบมำกขึ้น มีกำรวำง แผนกำรทำงำนทำให้งำนทไี่ ดไ้ ม่คอ่ ยมีปัญญำและอุปสรรคเหมอื นปที ีแ่ ลว้ กระบวนกำรทำงำนแบบ RBL เป็นกำรเรยี นรู้ สูก่ ระบวนกำรทำงำน ลงมือปฏิบัติ ทำซ้ำ วิเครำะหเ์ หตุ วเิ ครำะห์ผล จนเกดิ เป็นทักษะที่จะตดิ ตวั นกั เรยี นไปตลอดชีวิต 5

การออกแบบกระบวนการเรียนรู้แบบ RBL ของโรงเรียน(ญสส.) ปกี ารศกึ ษา 2561 โรงเรียนดำเนนิ กำร ศนู ย์พเ่ี ลีย้ งดำเนนิ กำร เริ่มต้น ศนู ย์พีเ่ ลยี ้ ง ม.อบุ ลฯ สมคั รร่วมโครงการ ศกึ ษาดงู าน เลอื กห้อง / เลอื กประเด็นหลกั แบง่ กลมุ่ ค้นคว้า / เรียนรู้ / โครงงานยอ่ ย จิตปัญญา RBL อบรม ศกึ ษาข้อมลู /สอบถาม/สมั ภาษณ์ ผ้มู คี วามรู้และประสบการณ์ เอกสารตีพมิ พ์ ครูกลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์/สงั คม อินเทอร์เน็ต อพั เดรต facebook ลงมอื ทาโครงงาน RBL / เรียนรู้ RBL นาเสนอเค้าโครงฯHub อพั เดรต Line วิเคราะห์ข้อมลู หลกั การ อบรมการเขยี นรายงาน ครู/นกั เรียนเขยี นไดอารี่ สรุปผลวจิ ยั อบรมการคดิ วเิ คราะห์ นกั เรียนสรุปผล RBL แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอปิ ดโครงการทศ่ี นู ย์ ม.อบุ ล สงั เคราะห์ แสดงละครเวทีนาเสนอRBL นาเสนอปิ ดโครงการทีศ่ นู ย์ ม.อบุ ล ศนู ย์พเ่ี ลยี ้ งนเิ ทศ RBL 1 ครัง้ สนิ ้ สดุ ร่วมปิ ดโครงการทเ่ี มืองทอง กทม. แสดงละครเวทนี าเสนอRBL 6

การคดั เลือกประเดน็ หลัก(Theme) โรงเรยี นสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชปู ถัมภ์ ได้สมัครเข้ำร่วมโครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำ ศูนย์ พเ่ี ลย้ี งมหำวทิ ำลยั อบุ ลรำชธำนี เป็นปีที่ 5 ปีกำรศกึ ษำ 2561 มผี บู้ ริหำรโรงเรยี น จำนวน 2 คน ครูท่ีปรึกษำ โครงงำน จำนวน 10 คน มีนักเรียน ม.2/1 จำนวน 39 คน มีนักเรียน ม.6/1 จำนวน 8 คน ในกำรเลือก ประเด็นหลักของโรงเรียน ครูให้นักเรียนคิดหำประเด็นหลักโดยกำรวิพำกษ์วิจำรณ์ ค้นคว้ำ สืบค้นข้อมูล ซ่ึง นกั เรียนได้เสนอไวห้ ลำยเรอื่ ง สรปุ สดุ ทำ้ ยกเ็ ป็นเรอื่ ง “ จิง้ หรีด ” โดยใชป้ ระชำมตปิ ระชำธิปไตย พ้ืนฐำนควำมรู้ เดิมท่ีโรงเรียนหรือชุมชุมมี คือ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวรในพระสังฆรำชูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนขนำดกลำง ระดับ มัธยมศกึ ษำ มพี น้ื ทปี่ ระมำณ 70 ไร่ เปดิ ทำกำรเรยี นกำรสอนมำแลว้ 47 ปี เปน็ โรงเรียนทจี่ ดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ด้ำนเศรษฐกิจ พอเพียง มกี จิ กรรมท่นี ำแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 มำปรับใชใ้ นกำรกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ของนกั เรยี น มูลเหตุจูงใจให้สนใจประเด็นน้ีโรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนที่มี แหลง่ เรยี นรูห้ รอื ศูนยก์ ารเรียนรูท้ ่เี ปน็ ต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียงของอาเภออยู่ใกล้ มีภูมิปัญญาท้องถิ่นท่ีเข้มแข็งและเป็น แบบอยา่ งให้นกั เรยี นในการเรียนรู้ได้เป็นอยา่ งดี กำรออกแบบกระบวนกำรเรียนรู้ RBL ของโรงเรียน หลังจำกได้ประเด็นจิ้งหรีดแล้ว ได้ให้นักเรียน ค้นคว้ำ สิบค้นประเด็นที่จะทำโครงงำน RBL ย่อยเก่ียวกับจิ้งหรีดจำนวน 10 โครงงำน เขียนผังเหตุผลแต่ละ โครงงำนย่อย และเสนอโครงงำน RBL ย่อยทั้ง 10 โครงงำนเพื่อขออนุมัติ ผลปรำกฏว่ำ ได้รับกำรอนุมัติ โครงกำร RBL จำนวน 10 โครงงำนและเงนิ สนบั สนนุ 72,000 บำท 7

ตำมแผนผงั โครงงำน ดังน้ี 8

ประวตั ิความเป็นมาโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสังฆราชูปถมั ภ์ : โรงเรียนสมเดจ็ พระญำณสงั วรตัง้ อยู่เลขท่ี ๑๕๑ หมู่ท่ี ๗ ถนนแจ้งสนิท บำ้ นบกน้อย ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำ เข่อื นแกว้ จงั หวดั ยโสธร กอ่ ต้งั ขึน้ เม่ือปีพุทธศักรำช ๒๕๑๗ โดยคณะศิษยำนศุ ิษย์และผทู้ ี่เคำรพนบั ถอื ในเจำ้ พระคณุ สมเดจ็ พระญำณสังวร ได้จดั หำทนุ เพือ่ จดั สร้ำงโรงเรยี นในถ่ินทรุ กนั ดำรทป่ี ระชำชนมคี วำมยำกจนวำงศิลำฤกษ์อำคำรเรยี นหลังแรก เม่ือวนั ท่ี ๓ มีนำคม ๒๕๑๗ บนเนอ้ื ที่ ๓๘ ไรเ่ ปดิ รับนักเรยี นรนุ่ แรกเมอ่ื วันท่ี ๑๕ พฤษภำคม ๒๕๑๙ มนี ำยวิจติ ร สำยธนูทำ หนำ้ ท่ีเปน็ ครใู หญ่ ทำกำรสอนต้งั แตช่ ั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๑-๓ จนกระท่ังปีพุทธศักรำช ๒๕๓๕ ได้รบั กำรอนุมัติจำกกรมสำมญั ศึกษำกระทรวงศกึ ษำธิกำร ให้เปดิ สอนในระดับชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๔–๖ จนถึงปจั จบุ ัน ปรชั ญำประจำโรงเรยี นคือ “ปญญำ เวอำวธุ เสฎฐ ” (ปัญญำเป็นอำวธุ อนั ประเสริฐ) คำขวัญของโรงเรียนคือ “วชิ ำกำรเดน่ เน้นเทคโนโลยี มคี ณุ ธรรม เลศิ ล้ำบรรยำกำศ” สัญลักษณ์ของโรงเรยี นคือ ช้ำงตรำดุลย์พำห์ ตรำสญั ลกั ษณพ์ ระนำมย่อ ญสส. (สมเดจ็ พระญำณสงั วร สมเด็จพระสังฆรำช สกลมหำสงั ฆปริณำยก) ประดิษฐำนเหนือตรำ ของโรงเรียน อักษรยอ่ ของโรงเรียนคือ ญสส. สปี ระจำโรงเรยี นคอื สฟี ำ้ – ชมพู จิง้ หรีด จิง้ หรดี เปน็ แมลงท่คี นทว่ั ไปนิยมรับประทำน เน่ืองจำกเปน็ อำหำรเพรำะมีโปรตนี สงู หำได้ตำมธรรมชำติ เป็นแหล่ง อำหำรโปรตีนท่ีสำมำรถหำได้ตำมฤดูกำล ปัจจุบันมีควำมนิยมในกำรบริโภคจิ้งหรีด และสภำพแวดล้อมที่เปล่ียนไป กำรล่ำ จำกธรรมชำติมีปริมำณที่ลดลง ทำให้ จิง้ หรีดไม่ไดเ้ ปน็ แมลงที่หำไดง้ ่ำยในทอ้ งถน่ิ และในบำงฤดจู ะมมี ำก บำงฤดูแทบหำไมไ่ ด้ เลย เช่น ในฤดูหนำว จิ้งหรีดจะขยำยพันธ์ุช้ำ หำกมีกำรเลี้ยงและกำรจัดกำรที่ดีจะมีจิ้งหรีดไว้บริโภคหรือจำหน่ำยได้ตลอดปี “กำรเล้ยี งจง้ิ หรดี ” ถอื วำ่ เปน็ อำชพี เสรมิ รำยได้ให้กับ ครอบครวั โดยใชเ้ วลำวำ่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ลดกำรล่ำจำกธรรมชำติ อีก ท้งั กำรเลี้ยงในสภำพท่เี หมำะสม ยงั ทำใหม้ คี วำมปลอดภัยตอ่ กำรบรโิ ภค ชนิดของจิ้งหรีดทนี่ ยิ มเพำะเลยี้ ง จ้งิ หรีด มีเรียกแตกตำ่ งกนั หลำยชนิด ตำมภำษำทอ้ งถน่ิ เชน่ จโิ ปม จหิ ล่อ จนิ ำย จฟิ ำง ในธรรมชำติพบจิ้งหรีดหลำย ชนดิ เชน่ 1. จ้ิงหรีดทองดำ (Gryllus bimaculatus degeer) เป็นจิ้งหรีดขนำดกลำง ลำตัวสีดำหรือ สนี ำ้ ตำลปนดำ สีของปีกมี 3 สี เช่น บำงตัวสีดำบำงตัวอำพัน (สีเม็ดมะขำม) บำงตัวสีทอง แต่ทุกตัวท่ีโคนปีกจะมีแต้มเหลือง อยู่ 2 แต้ม กลมุ่ น้ีจดั ว่ำเปน็ กลุม่ จงิ้ หรีดทองดำ ขนำดลำตัวกวำ้ งประมำณ 0.7 ซม. ยำวประมำณ 2.5 ซม. 2. จิ้งหรีดลำย จ้ิงหรีดบ้ำน สะด้ิง (House cricket) Acheta domestica เป็นจ้ิงหรีดขนำดเล็ก สีน้ำตำล ลักษณะคล้ำยกับจิ้งหรีด ชนิดทองแดง แต่เล็กกว่ำ เพศเมียมีปีกคู่หน้ำส้ันคร่ึงลำตัว ไม่ชอบบิน โดยท่ัวๆ ไปลำตัวกว้ำง ประมำณ 0.5 ซม. ยำว 2.05 ซม. น้ำหนักประมำณ 0.53 กรัม หรือประมำณ 1,890 – 2,235 ตัว ต่อกิโลกรัม ซ่ึงเกษตรกร ท่วั ไปนยิ มเลีย้ งมำกกวำ่ พนั ธุ์อนื่ ๆ จงิ้ หรีดทองดา จิง้ หรีดลาย 9

สรุปผลการจัดกจิ กรรมโครงการเพาะพนั ธุป์ ญั ญาของโรงเรียน โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมโครงกำรเพำพันธ์ุปัญญำ ตลอด ระยะเวลำ 1 ปกี ำรศกึ ษำ ต้งั แต่เข้ำรว่ มโครงกำรฯ กับศูนย์มหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนี ทำให้ท้ังครูและนักเรียน เกิดกำรเปล่ียนแปลงต่ำง ๆ อย่ำงมำกมำย ท้ังด้ำนจิตใจ และพฤติกรรมกำรเรียนรู้ครูและนักเรียนมี ควำมสัมพันธ์กันอย่ำงใกล้ชิด โดยนำกระบนกำร RBL มำใช้ในกระบวนกำรเรียนรู้ของนักเรียนจนทำให้ นักเรยี นมีควำมเขำ้ ใจและสำมำรถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวนั ผลจำกกำรทำกิจกรรมที่มุ่งม่ันและทุ่มเท ทำให้เพำะพันธ์ุปัญญำ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสงั ฆรำชปู ถัมภ์ ได้รับรำงวลั จำกศูนย์พ่ีเลี้ยงมหำวิทยำลัยอบุ ล ดังน้ี 1. โรงเรียนสมเดจ็ พระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถมั ภ์ ได้รบั รำงวัล เขำ้ ร่วมโครงกำร พพปญ. 2. จัดนิทรรศกำรมีชีวิต โรงเรียนต้นแบบภำยใตโ้ ครงกำรเพำะพนั ธุ์ปัญญำ 3. จัดนทิ รรศกำรมชี ีวิต จงิ้ หรีด 4. นำเสนอกำรแสดงบนเวที กำรทำและใชห้ ลกั สตู รเพำะพนั ธุ์ปญั ญำ ภาพกิจกรรมของโรงเรยี น 10

11

เสียงสะทอ้ น (Reflections) ของครู นักเรยี น และผู้บริหาร เสยี งสะทอ้ นของครู ---------------------------------------------------------------------------------- “ เพาะพันธ์ุปัญญา ครูเปลยี่ นความคิด นักเรยี นมคี วามสขุ ” โครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำเข้ำมำในโรงเรียนเป็นปีท่ี 5 แต่หนูเพ่ิงเข้ำร่วมโครงกำรเป็นปีที่ 2 ช่ือน้ีมัน ทำให้หนูอยำกเข้ำมำสัมผัสว่ำกระบวนกำรเป็นอย่ำงไร เห็นนักเรียนที่เข้ำร่วมโครงกำรนี้ที่ผ่ำนมำมี ควำมสำมำรถ กล้ำแสดงออก มีทักษะในกำรนำเสนอ พอหนูได้เข้ำมำครั้งแรกก็แค่มำสังเกตกำรณ์ และเป็นที่ ปรึกษำโครงงำนของนักเรียนในตอนแรกๆ แต่พอหนูได้เข้ำไปมีส่วนร่วมกับครูอย่ำงจริงจัง เป็นต้นว่ำวำง แผนกำรทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียน เรียนรู้กำรทำจิตปัญญำศึกษำกับนักเรียน ทำให้หนูเปล่ียนควำมคิดทันที ว่ำ กำรที่จะให้เด็กเรียนรู้ได้ดี และจำได้นำน ครูต้องให้นักเรียน เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รู้จักต้ังปัญหำ รู้จักกำร ค้นหำคำตอบ ครูต้องคอยให้กำรสนับสนุนไม่ใช่บอกคำตอบให้กับนักเรียน เวลำนักเรียนมีปัญหำครูต้องให้ กำลงั ไมใ่ ช่ซ้ำเตมิ ครตู อ้ งเข้ำไปคลกุ คลกี ับเด็กทำให้เด็กเช่ือใจไว้ใจจึงจะทำให้เด็กกล้ำที่จะเข้ำมำปรึกษำเรียนรู้ ต้องคดิ เสมอวำ่ เดก็ ทุกคนสำมำรถเรยี นรูไ้ ด้ถำ้ เรำให้เวลำและเขำ้ ใจเด็ก กำรเรยี นรูค้ รกู ็ตอ้ งเรียนรู้ไปดว้ ยกับนักเรียน อย่ำคิดว่ำเป็นครูแล้วจะรู้ทุกเรื่อง บำงเรื่องครูก็รู้พร้อมๆ กับเด็ก ก่อนท่ีจะเปลี่ยนแปลงเด็กครูต้องเปล่ียนก่อน ถ้ำเรำเปล่ียนได้เรำจะสำมำรถเข้ำไปนั่งในใจเด็กได้ เม่ือ น้ันควำมสุขก็จะเกิดข้ึนไม่ว่ำแตก่ บั นักเรียน ครกู ด็ ้วยเชน่ กนั เขียนโดย : นำงสำวกุสุมำ ไชยชว่ ย 12

เสียงสะทอ้ นของผบู้ ริหาร “ ปีท่ี 5 กับกำรเข้ำร่วมโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำ สำหรับผมถือว่ำยังใหม่เกี่ยวกับโครงกำรนี้ แต่ผมเห็นควำมมุ่งมั่น ควำมต้ังใจของนักเรียน รวมท้ังคุณครูท่ีปรึกษำ เห็นกำรเปล่ียนแปลงโดยเฉพำะควำมรักควำมสำมัคคี ทักษะชีวิตกำรทำงำน ของแต่ละคน ในนำมของฝ่ำยบริหำร ขอขอบคุณครูพ่ีเล้ียง นักเรียนในโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำที่ได้ดูแลให้ข้อคิดในกำร จัดกำรเรียนรู้ โดยใช้กำรวิจยั เปน็ ฐำน เห็นนกั เรยี นไดแ้ ดงออกอยำ่ งเต็มศกั ยภำพ กำรนำเสนองำนแล้วชื่นใจ ภูมิใจกับนักเรียน ทเ่ี ข้ำร่วมโครงกำร ” นำยเชษฐำ ค้ำคลอ่ ง ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นสมเด็จพระญำณสงั วร ในพระสังฆรำชปู ถมั ภ์ เสยี งสะท้อนของนกั เรยี น สาวติ รี แตก่ ่อนขอี ้ าย เกียจคร้าน พรพินิจ แต่ตอนนีก้ ล้าแสดงออก แรกๆไม่อยำกทำเลยคะ่ ...ตอนน้ีชอบ โครงกำรน้ีมำก ทำใหห้ นรู บั ผิดชอบมำก และชว่ ยงานพอ่ แม่ ขน้ึ แกป้ ญั หำเฉพำะหน้ำไดค้ ะ่ ยลดา แต่ก่อนเปน็ คนขี้อาย ไม่กล้าพูด ตอนนีพ้ ูดจนไม่มใี ครฟัง 555 ประทบั ใจไดไ้ ปทกั ศนศึกษานอก สถานทีเ่ พือ่ หาความรู้ ตอนแรกไมก่ ล้าพูดใสไ่ มค์...แต่ ตอนน้ีกล้าพูด และกลา้ แสดงออก แตก่ ่อนรู้สกึ เบอ่ื แตต่ อนนี้รูจ้ ักตัวแปร ยศกร รูจ้ กั การทางานกลุ่ม ที่สาคญั ครูที่ ปรึกษาใหค้ าแนะนาดีมากครบั โครงการสนกุ ทดลอง มีความรับผดิ ชอบ ตื่นเตน้ ทไี่ ด้นาเสนอ จนงานสาเรจ็ 13

สรุปผลการดาเนินโครงงานย่อ10 โครงงาน 1. กำรศกึ ษำวงจรชีวติ ของจ้งิ หรดี แตล่ ะสำยพันธุ์ในพน้ื ที่ชุมชนตำบลดงแคนใหญ่ 2. กำรตรวจจบั คลนื่ เสียงของจง้ิ หรดี 3. กำรแปรรปู แจว่ จิ้งหรดี 4. กำรศึกษำเปรยี บเทียบกำรเจรญิ เตบิ โตของจ้ิงหรีดโดยใชอ้ ำหำรสำเรจ็ รูปของจิง้ หรีด ปลำและไก่ 5. กำรศกึ ษำเปรยี บเทยี บปรมิ ำณโปรตนี ในจิ้งหรีดแตล่ ะสำยพันธ์ุท่ีมีในทอ้ งถนิ่ 6. กำรศึกษำสีของหลอดไฟมผี ลตอ่ กำรลอ่ แมลง 7. กำรศึกษำพฤตกิ รรมกำรบริโภคจ้ิงหรดี ในตลำดบำ้ นดงแคนใหญ่ 8. กำรสำรวจควำมพึงพอใจของผูบ้ รโิ ภคข้ำวเกรียบจ้งิ หรดี 9. กำรศึกษำทดลองอัตรำส่วนของอำหำรมีผลตอ่ กำรเจริญเตบิ โตของจ้งิ หรดี 10. กำรศึกษำชนดิ ของอำหำรมผี ลตอ่ กำรเจรญิ เตบิ โตจ้ิงหรดี 14

ภำคผนวก 15

รายชอื่ คณะครู นักเรียนเพาะพนั ธ์ปุ ญั ญา ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผบู้ ริหาร 1. นำยเชษฐำ คำ้ คลอ่ ง ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน 2. นำยเชดิ ชัย สิงหค์ ิบตุ ร ครทู ีป่ รึกษาร่วมโครงการ ครูกลุ่มวิชำ วิทยำศำสตร์ มอื ถือ 0621979256 1. นำยเดชมณี เนำวโรจน์ ครกู ล่มุ วชิ ำ วิทยำศำสตร์ มือถือ 0854106857 2. นำงสำคร ทองเทพ ครูกลมุ่ วชิ ำ วิทยำศำสตร์ มือถือ 0862506414 3. นำงสำวยำใจ เจรญิ พงษ์ ครูกลมุ่ วิชำ วทิ ยำศำสตร์ มือถือ 0872463509 4. นำงสำวแสงเดือน บกน้อย ครกู ลมุ่ วิชำ วิทยำศำสตร์ มอื ถือ 0883758721 5. นำยกติ ติพงษ์ บญุ สำร ครูกลุ่มวิชำ คณิตศำสตร์ มือถือ 0878775648 6. นำงโสภำ เนำวโรจน์ ครกู ลุ่มวชิ ำ วิทยำศำสตร์ มือถือ 0847524758 7. นำงนุชนำฏ โชตสิ วุ รรณ ครูกล่มุ วชิ ำ คณิตศำสตร์ มอื ถือ 0868668355 8. นำงสำวกสุ มุ ำ ไชยชว่ ย ครูกลุ่มวชิ ำ สงั คมศึกษำ มือถือ 0945216739 9. นำยพษิ ณุ สมจิตร ครูกลมุ่ วิชำ กำรงำนอำขีพฯ มอื ถือ - 10. นำยศรำวุธ โชตสิ วุ รรณ รายช่อื นักเรยี นร่วมโครงการเพาะพนั ธ์ุปัญญา ม.6/1 นำยมำโนชญ์ ชำวไทย นำงสำวจรยิ ำ บกนอ้ ย นำงสำวพัชรดิ ำ วัฒนำเนตร นำงสำวรงุ้ ตะวนั บกน้อย นำงสำวศิรนิ ทพิ ย์ โคตรทิพย์ นำงสำวพลอยนรนิ ทร์ วงเวียน นำงสำวปยิ ธดิ ำ หม่ืนสุข นำยธรี ภทั ร บญุ จรัส 16

นักเรียนรว่ มโครงการเพาะพันธุป์ ัญญา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2/1 ปกี ารศกึ ษา 2561 เลขที่ ชือ่ -สกลุ ฉายา 1 เด็กชำย โกสินทร์ สมสนั เทียะ 2 เดก็ ชำย นฤทธิ์ ศรวี ำรีรตั น์ 3 เดก็ ชำย นนั ทกรณ์ เสนสำย 4 เด็กชำย ยศกร เสนสำย 5 เด็กชำย อศั วิน ชำวไทย 6 เด็กหญงิ กนกพร สมจติ ร 7 เด็กหญงิ กญั ญำณฐั ทรัพย์มี 8 เดก็ หญงิ กัลยกร นันทบตุ ร 9 เดก็ หญงิ ขวัญฤดี บตุ รโคตร 10 เด็กหญิง ฐปณัฐ บรบิ รู ณ์ 11 เด็กหญิง ณัฐชำ สตั พนั ธ์ 12 เดก็ หญิง ธันย์ชนก พนั ธพ์ ุกกะณะ 13 เดก็ หญิง ธิดำรตั น์ ตรงกลำง 14 เด็กหญงิ พรพนิ ิจ ทองทำ 15 เด็กหญงิ พัชรี เสนสำย 16 เด็กหญิง เพชรรัศม์ รำชมณเฑยี ร 17 เดก็ หญิง ยลดำ สงี ำม 18 เด็กหญิง ยิหวำ ชมภูนชุ 19 นำงสำว ลลดิ ำ จอกเงนิ 20 เด็กหญงิ วไิ รลักษณ์ ทองทำ 21 เด็กหญงิ ศิรินภำ ศรีสขุ 22 เด็กหญงิ สำวิตรี จนั ทร์พวง 23 เด็กหญงิ สำวิตรี เสนสำย 24 เดก็ หญิง สุวิชำ คำทำ 25 เด็กหญิง แสงวรรณ สมหมำย 26 เดก็ หญิง อริสำ วังอำจ 27 เดก็ หญิง อรชุ ดิ ำ ดวงตำ 28 เดก็ ชำย เจษฎำภรณ์ สงี ำม 29 เด็กชำย ชินวัตร เรืองนำม 30 เด็กชำย โชคอนันต์ หลักคำ 31 เดก็ ชำย ธนำกร ทองทำ 32 เด็กชำย ธีรพัฒน์ แปน้ ซ่ือ 33 เด็กหญงิ จรี นนั ท์ จันมำ 34 เด็กหญิง จิรำวรรณ สขุ ล้ำ 35 เด็กหญิง ธรี นนั ท์ ตน้ พรหม 36 เด็กหญงิ เบญญำภำ สีดำนอ้ ย 37 เด็กหญงิ วชริ ำภรณ์ วรรณปัด 38 เด็กหญงิ ณัชฌำรยี ์ กลบี ทอง 39 เด็กชำย อภิสทิ ธ์ิ หอมหวล 17

Poster / เอกสารการนาเสนองานตา่ ง ๆ 18

รายงานการประชาสัมพนั ธ์ : www.facebook.com/เพาะพันธป์ุ ญั ญา โรงเรยี นสมเดจ็ พระ ญาณสงั วร ในพระสังฆราชปุ ถัมภ์ 19

สญั ญำท่ี สญั ญำที่ …………………………………………… โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถัมภ์ ชุดโครงงาน จิ้งหรดี รายงานสรุปการเงนิ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชื่อผ้ดู แู ลโครงงาน นำยเดชมณี เนำวโรจน์ รายงานในชว่ งต้งั แต่วนั ที่ 1 พฤษภำคม 2561 ถงึ วนั ที่ 30 เมษำยน 2562 หมายเหตุ เป็นรำยงำนสรุปกำรเงนิ รวมของทุกโครงงำนย่อย โดยยดึ ถืองบประมำณรวมตำมเอกสำรแนบ หมำยเลข 1/1 รำยจำ่ ย หมวดตาม รายจ่ายสะสม คา่ ใช้จา่ ยงวด รวมรายจ่าย งบประมาณ คงเหลือ ทต่ี ั้งไวต้ าม (หรอื เกนิ ) สญั ญา จากรายงาน ปจั จบุ นั B สะสมจนถึง E=D-C สญั ญา ครั้งกอ่ น A ปัจจบุ ัน D* 0 C= A+B 0 1. ค่ำตอบแทน 10000 0 0 หรือคำ่ ประกนั คณุ ภำพ 2. ค่ำวัสดุ 20000 อปุ กรณ์ 3. คำ่ ใชส้ อย 50000 รวมทั้งสิน้ 80000 * นำมำจำกเอกสำรแนบหมำยเลข 1/1 จำนวนเงินทไ่ี ด้รบั และจำนวนเงินคงเหลือ จานวนเงินทีไ่ ดร้ ับ จานวนเงิน วนั ทไี่ ด้รับ คา่ ใชจ้ ่าย จานวน งวดที่ 1 80000 งวดท่ี 2 - งวดท่ี 1 - ดอกเบ้ีย ครงั้ ที่ 1 ดอกเบย้ี ครั้งท่ี 2 - งวดที่ 2 80000 รวมรำยรับ - รวมรำยจำ่ ย 20

โครงงาน RBL เรื่อง การศกึ ษาวงจรชีวติ ของจงิ้ หรดี แต่ละสายพันธใ์ุ นพ้นื ท่ชี ุมชนตาบลดงแคนใหญ่ ชอ่ื ผูจ้ ัดทาโครงงาน เด็กชำยโชคอนนั ต์ หลักคำ เดก็ หญิงสำวติ รี จนั ทรพ์ วง เด็กชำยธรี พัฒน์ แป้นซ่อื เด็กชำยเจษฎำภรณ์ สีงำม ครูทีป่ รึกษา ครูยำใจ เจรญิ พงศ์ ศนู ย์พ่ีเลี้ยงมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ อาเภอคาเขือ่ นแก้ว จังหวัดยโสธร สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 28 21

กิตตกิ รรมประกาศ โครงงำนเรื่อง การศกึ ษาวงจรชีวติ ของจงิ้ หรีดแตล่ ะสายพนั ธใุ์ นพ้ืนทชี่ มุ ชนตาบลดงแคนใหญ่ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยควำมกรุณำของอำจำรย์ท่ีปรึกษำโครงงำน ได้แก่ ครูยำใจ เจริญพงษ์ แนะนำ วิธีกำร ทำกำรศึกษำชนิดของอำหำรมีผลต่อกำรเจริญเตบิ โตจงิ้ หรดี จนสำเร็จลลุ ว่ งดว้ ยดี ขอบคุณผู้ให้กำรสนับสนุนทุน สกว. ธนำคำรกสิกรไทยและศูนย์พี่เล้ียงมหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนีคณะผู้จัดทำจึงขอกรำบขอบพระคุณเป็น อย่ำงสงู ไว้ ณ โอกำสน้ี ขอกรำบขอบพระคุณ บิดำ มำรดำ ท่ีให้กำลังใจในกำรศึกษำเล่ำเรียนและสมำชิกในกลุ่ม ที่ให้ควำม ร่วมมอื เปน็ อย่ำงดี ในกำรทำโครงงำนคร้ังน้ี จนกระทง่ั ประสบควำมสำเร็จดว้ ยดี 22

บทนา ทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน จ้งิ หรดี เปน็ สัตว์ปกี ชนดิ หน่ึงที่มีโปรตีนสูงละสำมำรถรบั ประทำนได้ นิยมรบั ประทำนทัว่ ภมู ิภำคใน ประเทศไทย นอกจำกนีแ้ ล้วยงั ใชเ้ ลี้ยงเพอ่ื บริโภคหรือขำยเพ่อื เลี้ยงชีพในปัจจบุ ัน กำรเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นอำชีพ เสริม กำรสรำ้ งเวลำให้เปน็ เงินกำรทำเวลำวำ่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ชำวบำ้ นที่มเี วลำวำ่ งไม่มีอำชีพ หรอื มีเวลำวำ่ ง บำงส่วนก็จะเลอื กอำชพี นม้ี ำเปน็ อำชีพเสรมิ จง้ิ หรีดเปน็ สตั ว์ท่ีชอบอำกำศร้อนและจะเจริญเตบิ โตกินอำหำรได้ ดใี นช่วงหน้ำรอ้ นแตห่ ำกอำกำศเยน็ จิ้งหรีดจะเจริญเติบโตได้ช้ำและไม่ยอมกินอำหำร จิง้ หรดี มีหลำยสำยพันธ์ุ มีวงจรชวี ติ ที่คล้ำยกนั แตม่ ีลกั ษณะเด่น แหล่งที่อยู่ และเสยี งรอ้ งท่ี แตกตำ่ งกนั ดังนั้นกลุ่มของข้ำพเจำ้ จึงมีควำมสนใจท่ีจะศึกษำสำยพันธ์ุ และสำรวจจงิ้ หรดี ท่ีมีอยู่ในชมุ ชนของ ข้ำพเจ้ำว่ำมีอะไรบ้ำง สำยพันธอุ์ ะไร ตวั แปรและสมมุติฐานของโครงงาน สมมติฐาน จิ้งหรดี มี 4 สำยพันธุ์ ตวั แปร ตวั แปรอสิ ระ(ตวั แปรต้น) ได้แก่ สำยพันธุ์จิง้ หรดี ตัวแปรตาม ได้แก่ วงจรชีวติ ของจงิ้ หรีดแตล่ ะสำยพันธ์ุ ตวั แปรควบคมุ ได้แก่ ระยะเวลำในกำรศึกษำ โครงงำนมตี วั แปรต่อไปน้ี และแสดงแผนผงั เหตุ-ผล ในรูปท่ี 1 ทองแดง ทองดา วงจรชีวิตของจงิ้ หรดี สายพันธ์ุจิ้งหรดี ในประเทศไทย ไข่ ท่ีนยิ มเล้ียง วางไข่ ตวั อ่อน นา้ ตาลลาย จ้งิ โกร่ง โตเตม็ วัย ผสมพนั ธ์ุ 23

วธิ กี ารทดลอง 1. สบื คน้ จำก อินเทอรเ์ น็ต จำกเอกสำรห้องสมุด จำกหนงั สอื จำกงำนวจิ ยั จำกกำรสอบถำมผู้รู้ จำก ชุมชนของตนเอง 2. หำขอ้ มูลสำยพนั ธจ์ุ ้งิ หรดี ทีน่ ยิ มเลี้ยงในประเทศไทย โดย สบื คน้ ข้อมูลจำกอินเทอร์เน็ต จำกหนงั สือ สอบถำมจำกผรู้ ู้ การสรา้ งเหตุ ( ตัวแปลตน้ หรอื เปน็ สงิ่ ท่ีสรำ้ งได้ วัดได้ ) จิง้ หรีดมีกส่ี ำยพันธ์ุอะไรบ้ำง และวงจรชวี ิตของจงิ้ หรีดเป็นอย่ำงไร การควบคุมเหตุ( ตัวแปรควบคุม หรือเหตทุ ี่คุมไว้ไม่ให้สง่ ไปก่อใหเ้ กดิ ผล ) สำยพันธไ์ุ หนมีคนเล้ียงมำกที่สดุ การวดั ผล( ตวั แปรตามเป็นสง่ิ ที่สังเกตได้ วดั ได้ ) วงจรชวี ติ ของจง้ิ หรีดของแตล่ ะสำยพันธ์ุ ผลการทดลอง จำกกำรสำรวจและเกบ็ ข้อมูลสำยพนั ธุจ์ ง้ิ หรดี ท่เี ลยี้ ง ข้อมลู ผู้ท่ีเล้ียง ลาดบั สายพันธ์ุจิง้ หรีด จานวนคน ร้อยละ วงจรชีวิต (วนั ) 63 - 75 1 ทองดำ 35 70 60 - 66 65 - 68 2 นำ้ ตำลลำย 6 12 200 - 300 3 ทองแดง 5 10 4 จงิ้ โกร่ง 48 อภิปรายผลการทดลอง จำกกำรทดลองพบว่ำสำยพันธท์ุ นี่ ิยมเลยี้ งของจิ้งหรดี ในชุมชนดงแคนใหญ่ ม่ี 4 สำยพันธุ์ ได้แก่ สำย พนั ธ์ุทองดำ ร้อยละ70 สำยพันธ์นุ ำ้ ตำลลำย รอ้ ยละ 12 สำยพันธ์ุทองแดง ร้อยละ10 สำยพนั ธจุ์ ้ิงโกร่ง ร้อย ละ 8 จำกข้อมูลสรปุ ไดว้ ่ำ สำยพนั ธทุ์ องดำนิยมเล้ยี งมำกที่สุดคิดเปน็ รอ้ ยละ 70 และสำยพนั ธ์จุ งิ้ โกร่งนยิ ม เล้ยี งนอ้ ยท่ีสุดคิดเปน็ รอ้ ยละ8 จำกกำรศึกษำพบวำ่ สำยพันธุ์ จิง้ โกรง่ มวี งจรชีวิตทยี่ ำวนำนทีส่ ดุ 200-300 วันหรอื ประมำณ 10 เดือนจึงทำใหค้ นเล้ียงน้อยเพรำะใชเ้ วลำนำน ส่วนทองดฎ วงจรชีวิต 63-75 วัน จงึ ทำให้คนนยิ มเลย้ี งมำก เพรำะตัวใหญ่และใชเ้ วลำนอ้ ยในกำรเลี้ยง สรปุ ผล จำกกำรทดลองพบว่ำสำยพนั ธ์ุท่ีนิยมเล้ียงของจ้งิ หรดี ในชุมชนดงแคนใหญ่ มี่ 4 สำยพันธ์ุ ได้แก่ สำย พนั ธทุ์ องดำ สำยพนั ธน์ุ ำ้ ตำลลำย สำยพนั ธท์ุ องแดง สำยพันธ์ุจิง้ โกร่ง จำกข้อมลู สรุปไดว้ ่ำ สำยพนั ธทุ์ องดำ นิยมเลยี้ งมำกทีส่ ดุ และสำยพันธ์จุ ิ้งโกรง่ นยิ มเลยี้ งนอ้ ยทส่ี ดุ 24

เอกสารอา้ งองิ ภำนุรนิ ทร์ จุงสวสั ด์วิ ัฒนำ .(มปป.) การเพาะพันธ์ุจ้งิ หรดี สืบค้นเมอื่ วนั ท่ี 1 กรกฎำคม 2561 จำก เวบไซต์ : https://sites.google.com/site/tonrkgamer/home/prawati-swn-taw 2 วิกิพีเดยี (มปป.) จิ้งหรดี . สืบคน้ เมื่อวันท่ี 1 กรกฎำคม 2561. จำกเวบไซต์ : https://th.m.wikipedia.org Advertisements. (มปป.) การเล้ียงจ้ิงหรีด สืบค้นเมอ่ื วนั ที่ 31 ก.ค 2561 จำกเว็บไซต์ www.vegetweb.com 25

ภาคผนวก 26

โครงงาน RBL เรอื่ ง การตรวจจับคลน่ื เสยี งของจิ้งหรีด ชอ่ื ผู้จัดทาโครงงาน เดก็ หญงิ ฐปณัฐ บรบิ ูรณ์ เดก็ ชำยโกสินทร์ สมสันเทยี ะ เดก็ ชำยยศกร เสนสำย เด็กชำยนนั ทกรณ์ เสนสำย นำงสำวศิรินทพิ ย์ โคตรทิพย์ ครทู ่ีปรกึ ษา ครูกิตติพงษ์ บุญสำร ศูนย์พเ่ี ล้ียงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ อาเภอคาเข่ือนแกว้ จังหวัดยโสธร สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 28 27

กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงำนเรื่อง กำรศึกษำชนิดของอำหำรมีผลต่อกำรเจริญเติบโตจ้ิงหรีดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยควำม กรุณำของอำจำรย์ท่ีปรึกษำโครงงำน ได้แก่ ครูกิตติพงษ์ บุญสำร แนะนำ วิธีกำรทำกำรศึกษำชนิดของ อำหำรมีผลต่อกำรเจริญเตบิ โตจ้งิ หรีดจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี ขอบคุณผู้ให้กำรสนับสนุนทุน สกว. ธนำคำรกสิกร ไทยและศูนย์พีเ่ ล้ียงมหำวิทยำลยั อบุ ลรำชธำนคี ณะผจู้ ัดทำจงึ ขอกรำบขอบพระคุณเป็นอย่ำงสูงไว้ ณ โอกำสนี้ ขอกรำบขอบพระคุณ บิดำ มำรดำ ที่ให้กำลังใจในกำรศึกษำเล่ำเรียนและสมำชิกในกลุ่ม ที่ให้ควำม ร่วมมอื เป็นอย่ำงดี ในกำรทำโครงงำนคร้งั น้ี จนกระท่งั ประสบควำมสำเร็จด้วยดี 28

บทนา ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน จง้ิ หรดี ทม่ี ันรอ้ งก็เพื่อเรยี กรอ้ งควำมสนใจจำกฝำ่ ยตรงขำ้ ม โดยสว่ นใหญ่แล้วจิง้ หรดี หนมุ่ และจ้ิงหรดี หนุม่ และแก่หัวงูจะเปน็ ฝ่ำยร้องใหจ้ ้งิ หรดี สำวมำหำ เมือ่ เหยอื่ จิง้ หรีดสำวหลงกลแลว้ เรอ่ื งอะไรมันจะร้องให้ เสียเวลำและพลงั งำน มันกจ็ ะค่อยๆลง เบำเสยี งลง เบำลงๆๆ และทม่ี นั ชอบรอ้ งในตอนหัวค่ำ กเ็ นือ่ งมำจำก เหตุผลเร่อื ง ควำมปลอดภัยในชวี ติ ของมนั เพรำะยำมตะวันค่ำลงผู้ลำ่ ของมนั จะมองไม่เหน็ มัน และนกกินแมลง ตำ่ งๆต่ำงบินกลบั รัง แต่กระนั้นกม็ ขี ้อยกเวน้ ทีจ่ ิ้งหรดี และแมลงหลำยชนดิ เช่น จักจน่ั ก็ยงั คงร้องในเวลำ กลำงวัน ทเ่ี สียงของจ้งิ หรดี แต่ละตวั ทไ่ี มเ่ หมือนกนั ก็คือ ขนำดของตัวจิง้ หรดี แตล่ ะตวั ท่ีมีขนำดตวั ไม่เท่ำกัน เพรำะฉะน้ันเสียงท่มี ันร้องออกมำจงึ ไมเ่ หมือนกัน เชน่ จ้งิ หรีดA มเี สียงที่แหลม และจิ้งหรีดBมเี สียงท่ีไพเรำะ กวำ่ จงิ้ หรีดA และนกี่ ็คือสำเหตทุ ่จี ิ้งหรีดแต่ละตวั ร้องเสียงทีไ่ ม่เหมอื นกนั ในแต่ละตวั กลุ่มของขำ้ พเจำ้ จึงมคี วำมสนใจทจ่ี ะศึกษำกำรเกิดเสยี งของจ้ิงหรดี แต่ละสำยพันธ์ุ วำ่ มีลักษณะกำร เกิดเสียงและคลน่ื เสยี งเป็นอย่ำงไร ตวั แปรและสมมุติฐานของโครงงาน สมมตุ ิฐาน กำรเกดิ เสียงของจ้ิงหรดี แต่ละสำยพนั ธ์มุ ลี ักษณะท่ีแตกต่ำงกัน ตัวแปร ตัวแปรอสิ ระ(ตัวแปรตน้ ) ไดแ้ ก่ เสยี งของจิ้งหรีด ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลของควำมถข่ี องเสยี ง ตัวแปรควบคมุ ได้แก่ อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในกำรใส่จิง้ หรดี กล้องวดิ โี อ คอมพิวเตอร์ตรวจจับคลืน่ เสียงจิ้งหรีด โครงงำนมีตวั แปรต่อไปน้ี และแสดงแผนผงั เหตุ-ผล ในรปู ที่ 1 รำ:ฟักทอง:หญำ้ รูเปีย รำ:ฟักทอง:หญ้ำรูเปีย ขนำดลำตวั น้ำหนัก 2:1:1 1:1:1 กำรเจรญิ เติบโต จง้ิ หรีด อำหำร น้ำ อำหำรสำเรจ็ รูป วิธีการทดลอง จำนวน 2 กลอ่ ง 1. หำกลอ่ งขนำด 20 x 20 น้วิ (หรอื เลก็ กว่ำ) จำนวน 2 เคร่อื ง 2. นำโทรศัพทเ์ ปดิ โปรแกรมบันทึกเสยี งติดไว้บนกลอ่ ง จำนวนชนดิ ละ 1 ตวั 3. นำจ้งิ หรดี สำยพันธ์ุทองแดง และตัวเมียใสไ่ ว้ในกล่องใบที่ 1 จำนวนชนิดละ 1 ตวั 4. นำจิ้งหรีดสำยพนั ธุ์ทองแดง (ไม่มตี วั เมีย)ใส่ไว้ในกล่องใบท่ี 1 29

5. สงั เกตจงิ้ หรดี ไปเรื่อย ๆ เม่ือจงิ้ หรดี ร้องใหบ้ นั ทึกภำพวีดโี อ เสยี งและลังเกตด้วยตำเปล่ำ 6. นำวดิ โี อ และคลนื่ เสยี งของจิง้ หรีดมำวิเครำะห์ ลักษณะกำรเกิดเสียงและคลืน่ เสยี ง การสรา้ งเหตุ (ตัวแปรต้นหรือเปน็ สง่ิ ท่ีสร้างได้ วดั ได้) นำจ้ิงหรดี สำยพนั ธุ์ทองแดงมำเลี้ยงใส่กล่อง 2 กลอ่ ง (กล่องท่ี 1 มีตวั ผู้และตวั เมีย กล่องใบท่ี 2 มี เฉพำะตัวผู้ กล่องใบท่ี 3 มเี ฉพำะตวั เมยี บนั ทกึ และสังเกตเมอื่ จิ้งหรดี ร้อง การควบคุมเหตุ(ตัวแปรควบคมุ หรอื เหตุท่คี วบคุมไวไ้ มใ่ ห้ส่งไปก่อให้เกดิ ผล) กล่องเลย้ี งจ้ิงหรีด อำหำร น้ำ ถำดไข่ชิน้ เล็ก การวดั ผล (ตัวแปรตามเปน็ ส่งิ ที่สังเกต วัดได้) วัดได้จำกกำรฟงั เสยี งของเสียงจ้ิงหรีดทงั้ 2สำยพันธ์วุ ่ำเสยี งทพี่ วกมนั ร้องนนั้ แตกต่ำงกนั อยำ่ งไรและมี เสยี งแหลมเสยี งต่ำและเสียงที่นำ่ ฟังมำกน้อยแค่ไหน ผลการทดลอง หมำยเหตุ สายพนั ธ์ุ ผลกำร รปู คลน่ื เสยี ง จิ้งหรีด ทดลอง จ้งิ หรดี จง้ิ หรีดจะสง่ ทองแดงตวั เสยี งร้องใช้ ผู้และตวั เวลำ เมยี อยู่ ประมำณ ดว้ ยกัน 31 วินำที และเดนิ เขำ้ หำตวั เมีย จิ้งหรีด จง้ิ หรดี จะสง่ - ทองแดงตวั เสียงร้องใช้ ผู้ เวลำ ประมำณ จ้งิ หรดี 24 วนิ ำทแี ต่ ทองแดงตัว จะรอ้ ง เมีย หลังจำกได้ ยนิ ตวั อ่นื รอ้ ง ไมม่ ีเสียงร้อง ของจิ้งหรีด 30

อภปิ รายผลการทดลอง จำกกำรทดลองพบวำ่ เมอ่ื เรำนำจง้ิ หรดี กลอ่ งใบที่ 1 ทีม่ ีตวั ผู้และตัวเมีย อยู่ด้วยกนั จง้ิ หรดี ตัวผมู้ ันจะ ส่งเสยี งร้อง ซ่งึ ใชเ้ วลำร้องประมำณ 25 – 30 วนิ ำที เมื่อเปรียบเทยี บกบั จง้ิ หรดี กลอ่ งใบท่ี 2 ทมี่ แี ตจ่ ้ิงหรีดตัวผู้ นัน้ จ้ิงหรีดตวั ผจู้ ะไมร่ ้อง แสดงวำ่ จง้ิ หรดี ส่งเสียงร้องเพ่ือทจ่ี ะเรยี กร้องควำมสนใจจำกจ้ิงหรดี ตวั เมียเพื่อท่จี ะ ผสมพนั ธุก์ ัน กำรเกิดเสยี งของจง้ิ หรดี เกิดขึ้นจำกกำรท่ีจิง้ หรดี ตวั ผถู้ ปู ีกของมนั ทำให้เกิดเสียงดัง เน่อื งจำก จง้ิ หรดี ตัวผู้มีอวัยวะพเิ ศษสำหรับทำเสยี งเป็นฟันเล็ก ๆ อยู่ตำมเส้นปกี บริเวณกลำงปกี ใชก้ รีดกบั แผ่นทำเสียง ท่อี ยบู่ ริเวณท้องปีกของปีกอีกขำ้ งหน่ึง แตถ่ ้ำเรำเขำ้ ใกล้จิง้ หรีดไปใกล้ๆ เสยี งจงิ้ หรดี มนั จะเปลี่ยนเสยี งให้ เหมือนกับวำ่ มันอยู่ไกลออกไป อนั เป็นเอกลกั ษณเ์ ฉพำะท่ีเปน็ ท่รี จู้ กั กนั ดีของจง้ิ หรดี ขณะที่ตวั เมียจะไม่ สำมำรถทำเสยี งดังนัน้ ได้ กลอ่ งใบที่ 2 จ้งิ หรีดตัวผู้ จิง้ หรดี ก็ส่งเสยี งรอ้ ง แต่จะร้องเมื่อตวั ผู้ในกลอ่ งใบท่ี 1 รอ้ ง กล่องใบที่ 3 จ้ิงหรีดตัวเมยี เมื่อทำกำรทดลอง พบว่ำ จิ้งหรีดไมส่ ่งเสยี งร้อง สรปุ ผล จำกำรทดลอง พบวำ่ จิง้ หรีดตวั ผ้เู ทำ่ นน้ั ทสี่ ำมำรถร้องเกิดเสยี ง กำรเกิดเสยี งเกิดจำกกำรถูปีก ซ่ึงปีก ด้ำนลำ่ งของตัวผจู้ ะหยำบด้ำนบนเปน็ แผ่นเรียบ จะทำใหเ้ กดิ เสยี งโดยเอำด้ำนหยำบขำ้ งหนง่ึ ถูกบั ด้ำนเรยี บ ของอกี ข้ำงหนง่ึ เปน็ กำรเรยี กควำมสนใจจำกจิ้งหรีดตัวเมยี เอกสารอา้ งอิง Sirinrad. สายพันธ์ุจงิ้ หรีด สืบคน้ เม่อื วนั ท่ี 31 กรกฎำคม 2561 จำกเว็บไซด์ : https://sirinradnp.wordpress.com Knoeledge (2014). จ้ิงหรดี เกดิ เสียงได้อย่างไร. สบื ค้นเมอ่ื วันท่ี 31 กรกฎำคม 2561 จำกเว็บไซด์ : https://nontanut02.wordpress.com วิกิพเี ดยี (ม.ป.ป.) จิ้งหรดี . สบื คน้ เม่อื วันท่ี 31 กรกฎำคม 2561 จำกเว็บไซด์ : https://th.wikipedia.org วิชำกำรดอทคอม.(2007). จ้งิ หรดี ร้องบอกอะไรคุณ. สบื ค้นเมอื่ วันที่ 31 กรกฎำคม 2561 จำกเว็บไซด์ : http://www.vcharkarn.com/vnews/101212 สสวท.(ม.ป.ป.). จ้งิ หรดี เกิดเสียงไดอ้ ยา่ งไร . สืบค้นเม่ือวันที่ 31 กรกฎำคม 2561 จำกเว็บไซด์ : https://www.youtube.com/watch?v=epWm7HlLDMg 31

ภาคผนวก 32

โครงงาน RBL เรอื่ ง การแปรรปู แจว่ จ้ิงหรีด ชอ่ื ผจู้ ัดทาโครงงาน ด.ญ. ธนั ย์ชนก พนั ธ์พุกกะณะ ด.ญ. พชั รี เสนสำย ด.ญ. อรุชดิ ำ ดวงตำ ครทู ี่ปรึกษา ครูโสภำ เนำวโรจน์ ศูนยพ์ เ่ี ล้ยี งมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชูปถัมภ์ อาเภอคาเขื่อนแกว้ จังหวดั ยโสธร สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 28 33

กติ ติกรรมประกาศ โครงงำนเร่ือง การแปรรปู แจ่วจง้ิ หรีดสำเร็จลลุ ว่ งไปไดด้ ว้ ยควำมกรุณำของอำจำรย์ท่ปี รึกษำโครงงำน ไดแ้ ก่ ครโู สภำ เนำวโรจน์ และ แนะนำ วธิ ีกำรทำการแปรรูปแจว่ จ้งิ หรดี จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี ขอบคุณผใู้ ห้ กำรสนบั สนุนทนุ สกว. ธนำคำรกสกิ รไทยและศูนย์พี่เลย้ี งมหำวิทยำลยั อบุ ลรำชธำนีคณะผจู้ ดั ทำจงึ ขอกรำบ ขอบพระคุณเปน็ อยำ่ งสูงไว้ ณ โอกำสนี้ ขอกรำบขอบพระคุณ บิดำ มำรดำ ท่ีให้กำลังใจในกำรศึกษำเล่ำเรียนและสมำชิกในกลุ่ม ท่ีให้ควำม ร่วมมอื เป็นอยำ่ งดี ในกำรทำโครงงำนคร้งั น้ี จนกระทั่งประสบควำมสำเรจ็ ดว้ ยดี 34

บทนา ทมี่ าและความสาคัญของโครงงาน จ้งิ หรดี หรือจง้ิ หรีด เป็นแมลงจำพวกหนง่ึ อยใู่ นวงศ์ gryllidae ซงึ่ สำมำรถแบ่งออกได้เปน็ วงศย์ ่อยอีก จำนวนหน่ึง จิง้ หรดี ถือเปน็ แมลงทม่ี ีขนำดลำตัวปำนกลำงเมอื่ เทยี บกบั แมลงโดยทว่ั ไปมีปีก2คู่คู่หนำ้ เม่ือปกี หนำกว่ำค่หู ลงั ปกี เม่ือพบั จะหักเป็นมมุ ไดแ้ บบพัดสอดเขำ้ ไปอยู่ใตป้ ีกคหู่ นำ้ ปำกเป็นชนิดกดั กิน หัวกับอกมี ขนำดกวำ้ งไล่เลยี่ กนั ขำคู่หลงั ใหญ่และแข็งแรงใชส้ ำหรบั กระโดด ตวั ผ้มู อี วัยวะพิเศษสำหรับทำเสยี งเป็นฟัน เล็กๆอย่ตู ำมเสน้ ปกี บริเวณกลำงปกี ใชก้ รดี กบั แผ่นทำเสียงทอี่ ยบู่ รเิ วณของปีกอีกข้ำงหน่ึง จง้ิ หรดี เดมิ นั้นเปน็ แมลงท่ีพบได้ทว่ั ไปตำมธรรมชำติ แตม่ ำกด้วยคุณค่ำทำงโภชนำกำร มีโปรตนี ถงึ 12.9% ไขมนั 5.54% และ คำรโ์ บไฮเดรต5.1% จงิ้ หรดี เป็นแมลงทีเลี้ยงง่ำยขยำยพนั ธุ์เร็วใหผ้ ลผลิตสงู แม่พนั ธ์1ุ ตวั ใหล้ ูกถึง1000ตวั รวมถงึ ใช้พ้นื ท่ีและปรมิ ำณนำ้ ในกำรเลย้ี งน้อย ทั้งยังไมต่ ้องใชเ้ ทคโนโลยีและต้นทุนในกำรเลีย้ งทีส่ งู จิ้งหรีดมี จำนวนมำกจงึ ทำใหบ้ ริโภคไม่ทนั จึงนำมำแปรรูปทำให้เกบ็ รกั ษำไดน้ ำน แถมเป็นกำรช่วยเหลอื เกษตรกรผู้ เล้ียงจ้งิ หรดี ใหม้ ชี อ่ งทำงขำยตลำดอกี ทงั้ ระบำยผลผลิตในช่วงท่ีมจี ้งิ หรีดออกสตู่ ลำดจำนวนมำก จงึ ทำให้ หำทำงเพ่ิมมูลคำ่ โดยกำรแปรรูปเปน็ อำหำรหลำกหลำยเมนู เชน่ น้ำพริก ข้ำวเกยี บ คุกกื้ เสน้ บะหม่ี เสน้ ขนมจีน เส้นสปำเก็ตต้ี ซ่งึ สตู รต่ำงๆไดน้ ำไปเผยแพร่ให้ประชำชนและเกษตรกรทส่ี นใจ เพอ่ื นำไปปรบั ใช้ เปน็ กำรสร้ำงรำยไดเ้ สริม ผลผลิตลน้ ตลำด เนือ่ งจำกทผ่ี ำ่ นมำมีเกษตรกรสนใจเลี้ยงกันมำก ทวำ่ ขำยได้ในรำคำตำ่ ดงั นนั้ กลุ่มของข้ำพเจ้ำจึงมคี วำมสนใจที่จะนำจิง้ หรีดมำแปรรูปอำหำรเป็นแจว่ จิ้งหรีด เพ่อื ลดปญั หำ ผลผลติ ลน้ ตลำด ทำใหม้ ูลค่ำเพ่มิ แถมทำให้บริโภคจง้ิ หรีดได้หลำยรูปแบบ และเก็บรักษำไดน้ ำน ตัวแปรและสมมุติฐานของโครงงาน สมมุติฐาน ตวั แปรต้น แจว่ จิ้งหรดี ( 2 สูตร) ตวั แปรตาม รำยไดจ้ ำกกำรขำยแจ่วจ้ิงหรดี ตวั แปรควบคุม แหล่งวตั ถุดิบ ,อปุ กรณ์ท่ีใช้, อัตรำสว่ นของสว่ นผสมในแต่ละสตู ร โครงงำนมตี วั แปรต่อไปนี้ และแสดงแผนผงั เหตุ-ผล ในรูปท่ี 1 35

จิ้งหรีด ศกึ ษำหลักกำรตลำด แจ่วจิ้งหรดี สำรวจควำมพึงพอใจ Produck แจ่วจ้ิงหรีด ผลิตแจว่ จงิ้ หรดี ทีม่ คี ณุ ภำพ Price รำคำท่ีเหมำะสม จดั จำหนำ่ ยตำม Place กลุ่มผู้บรโิ ภค สถำนทตี่ ำ่ งๆ Promotion มกี ำร สรุปรำยรบั -รำยจำ่ ย สง่ เสรมิ กำรขำย Peop ควำมน่ำเชอ่ื ถือ รูปท่ี 1 ผังเหตุ-ผล หรอื ตัวแปรต้น(เหตุ) ตัวแปรตำม (ผล) ของโครงงำนฐำนวจิ ยั นี้ วิธกี ารทดลอง แจว่ จ้ิงหรดี สูตร 1 4.1 วธิ ีทาแจว่ จงิ้ หรีด วัสดุ-อุปกรณ์ 1. จงิ้ หรดี 2. หอม 3. กระเทยี ม 4. กะปิ 5. นำ้ ปลำ 6. พรกิ แดง 7. น้ำมัน 8. เคร่ืองป่ัน 9. กระทะ 36

วิธกี ารทาแจว่ จงิ้ หรีด 1. ข้นั ตอนกำรทำแจว่ จ้ิงหรดี วตั ถุดิบมีพรกิ เผ็ดที่มสี ีแดงสวย หอม กระเทียม กะปิและนำ้ ปลำนิดหนอ่ ย แลว้ แตค่ นชอบ ทสี่ ำคญั ตอ้ งมีจ้งิ หรีด ใสป่ ระมำณ 500 กรัม สว่ นผสมอยำ่ งอื่นประมำณคร่ึงหนงึ่ 2. ต้มจิง้ หรดี ใหส้ ุก 3. นำมำทอดในน้ำมันให้มนั กรอบสักนดิ หน่อย 4. จำกนนั้ นำเคร่ืองท้ังหมดเข้ำเคร่ืองป่นั หรือตำให้ละเอยี ด 5. ตอนแรกใสน่ ำ้ มันพืชกอ่ น 6. จำกนนั้ นำลงไปผดั พร้อมใสน่ ้ำมะขำมเปียกนดิ หนอ่ ย ถ้ำไม่ชอบเปรยี้ วก็ไม่ต้องใส่ 7. ใสน่ ้ำตำล น้ำปลำ ตำมขัน้ ตอน ผดั ไปเร่อื ยๆ จนใหม้ ันงวดข้ึนกลำยเป็นแจ่วจ้งิ หรดี ทไ่ี ว้กินกับแคปหมู ตำมปกติ แจว่ จงิ้ หรีด สตู ร 2 วัสดุ-อุปกรณ์ 1. จิ้งหรีดลำ้ งใหส้ ะอำด 2. พรกิ ปน่ หรอื พรกิ สด 3. กระเทยี มเผำ 4. หวั มะนำว 5. หอมเผำ 6. น้ำปลำร้ำสุก 7. ผักสด วธิ ีทา 1. นำจง้ิ หรีดล้ำงให้สะอำด แลว้ นำมำเสยี บไม้ยำ่ งใหแ้ ห้งจนสกุ 2. นำจงิ้ หรดี ท่ยี ่ำงมำโขลกเข้ำกบั หัว หอมเผำ พริกสดเผำ กระเทยี มโขลกให้เขำ้ กันจนละเอียดดี 3. เตมิ น้ำมะนำวกับนำ้ ปลำรำ้ แลว้ คลุกให้เข้ำกันอีกที 4. โรยหน้ำดว้ ยผักชแี ละพริกข้ีหนู 5. จัดผกั สดเป็นของแกลม้ วธิ ีการทดลอง 1. ทำแบบสอบถำมเก่ยี วกับกำรบรโิ ภคจิง้ หรดี ของชุมชน และกำรบรโิ ภคแจ่วจิง้ หรีด 2. นำข้อมูลทไ่ี ด้จำกข้อ 1 มำวเิ ครำะห์ แจว่ จงิ้ หรีดทปี่ ระชำชนสนใจ 3. คดิ ค้นแจ่วจงิ้ หรดี และทำแจ่วจง้ิ หรีดทคี่ ิดว่ำจะเหมำะสม อรอ่ ยและน่ำสนใจ 4. จัดทำผลิตภัณฑแ์ จว่ จิง้ หรดี ที่สวยงำม ดึงดูดควำมสนใจ 5. นำแจ่วจ้ิงหรดี ที่ได้ไปใหป้ ระชนชนชมิ และสอบถำมควำมพึงพอใจ 6. นำข้อมูลจำกข้อ 5 มำวเิ ครำะหแ์ ละปรับปรงุ ใหต้ รงตำมควำมควำมสนใจของผบู้ ริโภค 7. ทำแจว่ จงิ้ หรีด ตำมข้อ 6 นำไปจำหนำ่ ย และนำข้อมลู ท่ีได้มำคดิ ต้นทนุ กำไร ตำมหลักเศรษฐศำสตร์ 37

ผลการทดลอง จำกกำรสอบถำมควำมคดิ เห็นเก่ยี วกบั กำรบรโิ ภคจิ้งหรีดของชุมชน และกำรบริโภคแจ่วจ้ิงหรีด ปรำกฏว่ำ ประชำชนสนใจแจ่วจ้ิงหรีดจำนวน 3 สุตร ได้แก่ สูตรต้ม สูตรย่ำง และสูตรทอด และทำงกลุ่มได้จัดทำแจ่ว จิง้ หรีดทง้ั 3 สตู ร ขน้ึ มำแลว้ นำไปใหป้ ระชำกรในชุมชนได้ชมิ พร้อมสอบถำมควำมคิดเห็นปรำกฏว่ำ ประชำกรมรี ะดับควำมพึงพอใจแจว่ จง้ิ หรีด ตำมตำรำง ดงั นี้ ควำมพงึ พอใจ ระดับควำมพึงพอใจในกำรทำนแจ่วจง้ิ หรีด มำกท่ีสดุ มำก ปำนกลำง น้อย 1) รสชำติ สสี ัน กลน่ิ ของอำหำร 7.14 64.28 28.57 - 2) ปรมิ ำณของอำหำรในภำชนะท่ี 21.42 50 28.57 - บรรจุ 3) ควำมอรอ่ ยของแจ่วจิ้งหรีด 7.14 50 35.71 7.14 4) ควำมเหมำะสมและเขำ้ กนั ของ 42.85 42.85 14.28 - วตั ถดุ บิ 5) ควำมสะอำดถกู หลักอนำมัย 28.57 35.71 35.71 - 6) มีควำมรเู้ กีย่ วกบั อำหำรทท่ี ำ 21.42 57.14 21.42 - 7) กำรให้คำแนะนำแก่ผบู้ ริโภค 14.28 50 28.57 - 8) ควำมเหมำะสมของรำคำ 28.57 57.14 14.28 - 9) ควำมเหมำะสมและควำมสวยงำม 21.42 28.57 50 - ของบรรจภุ ณั ฑ์ 10) สำมำรถวำงจำหน่ำยได้ 50 42.85 7.14 - อภปิ รายผลการทดลอง 1) รสชำติ สสี ัน กลิ่นของอำหำร อยใู่ นระดบั ควำมพงึ พอใจ มำก 2) ปริมำณของอำหำรในภำชนะทีบ่ รรจุ อยูใ่ นระดบั ควำมพงึ พอใจ มำก 3) ควำมอรอ่ ยของแจ่วจ้งิ หรีด อยู่ในระดบั ควำมพึงพอใจ 4) ควำมเหมำะสมและเขำ้ กันของวตั ถุดิบ อยใู่ นระดับควำมพงึ พอใจ มำกและมำกทีส่ ดุ 5) ควำมสะอำดถกู หลกั อนำมัย อยใู่ นระดบั ควำมพึงพอใจ มำกและปำนกลำง 6) มีควำมร้เู กยี่ วกับอำหำรทีท่ ำ อยู่ในระดับควำมพึงพอใจ มำก 7) กำรให้คำแนะนำแกผ่ ู้บริโภค อยู่ในระดับควำมพึงพอใจ มำก 8) ควำมเหมำะสมของรำคำ อยูใ่ นระดับควำมพึงพอใจ มำก 9) ควำมเหมำะสมและควำมสวยงำมของบรรจุภณั ฑ์ อยู่ในระดับควำมพึงพอใจ ปำนกลำง 10) สำมำรถวำงจำหนำ่ ยได้ อยู่ในระดบั ควำมพงึ พอใจ มำกท่ีสุด 38

สรปุ ผล เนือ่ งจำกจ้ิงหรีดมีจำนวนมำกจึงทำใหบ้ รโิ ภคไม่ทัน จึงนำมำแปรรปู ทำใหเ้ ก็บรักษำได้นำน แถมเป็นกำร ชว่ ยเหลอื เกษตรกรผเู้ ล้ียงจิ้งหรดี ใหม้ ชี อ่ งทำงขำยตลำดอีกทั้งระบำยผลผลิตในช่วงทมี่ จี ้ิงหรีดออกสตู่ ลำด จำนวนมำก จึงทำใหห้ ำทำงเพิม่ มลู ค่ำโดยกำรแปรรปู เปน็ อำหำรหลำกหลำยเมนู เช่น นำ้ พริก ขำ้ วเกรียบคุกก้ื เสน้ บะหม่ี เส้นขนมจีน เส้นสปำเก็ตตีซ้ งึ้ สูตรต่ำงๆเหลำ่ นไ้ี ด้นำไปเผยแพร่ให้ประชำชนและเกษตรกรทสี่ นใจ เพื่อนำไปปรบั ใช้ เปน็ กำรสรำ้ งรำยได้เสริม ผลผลติ ลน้ ตลำด เนอื่ งจำกท่ผี ำ่ นมำมีเกษตรกรสนใจเลีย้ งกันมำก ทวำ่ ขำยได้ในรำคำต่ำ กล่มุ ของขำ้ พเจ้ำจึงมคี วำมสนใจท่จี ะนำจ้ิงหรดี มำแปรรูปอำหำรเป็นแจ่วจิ้งหรดี เพ่ือลดปญั หำผลผลติ ลน้ ตลำด ทำใหม้ ูลค่ำเพมิ่ แถมทำให้บรโิ ภคจ้ิงหรดี ได้หลำยรปู แบบ และเก็บรักษำไดน้ ำน เอกสารอา้ งองิ กรมปศุสตั ว์.2561. จ้ิงหรดี (ออนไลน์). สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 26 มิถุนำยน พ.ศ.2561.จำกเวบไซต์ http://:www.pasusat.com. Lekkathaifood.2554 นำ้ พริกจิง้ หรีด สืบคน้ เมื่อวนั ที 1 กรกฎำคม 2561 จำกเวบไซต์ : http://lekkathaifood.blogspot.com/2011/08/blog-post_3664.html ไทยตำบลดอทคอม .2544. นำ้ พริกจ้งิ หรดี . สืบคน้ เมื่อวนั ที่ 1 กรกฎำคม 2561 จำกเวบไซต์ : http://www.thaitambon.com/product/01118153858 ผศ.ดร.สมสมร แก้วบรสิ ทุ ธิ. (ม.ป.ป.) กำรแปรรูปแลงเพื่อเพิม่ คุณค่ำ. สืบค้นเม่ือวันท่ี 15 กรกฎำคม 2561 จำกเวบไซต์ :https://home.kku.ac.th ภำวณิ ยี ์ เจริญย่ิง (2559). ทง่ึ เมนแู ปรรปู จิ้งหรีด ทงั้ คุกก้ี-ข้ำวเกรยี บ-น้ำพรกิ ตำแดง.สืบค้นเมื่อวนั ท่ี 15 กรกฎำคม 2561 จำกเวบไซต์ :https://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_5684 39

ภาคผนวก แบบสอบถาม แบบสอบถามท่ี1 ศึกษำควำมต้องกำรและควำมนยิ มของแจ่วจ้งิ หรดี ที่จะดำเนนิ คิดคน้ สูตรและผลติ ขน้ึ โดยวิธกี ำรสำรวจ วำ่ คนสว่ นใหญร่ จู้ ัก แจว่ จิ้งหรดี หรอื ไม่ และมคี วำมต้องกำรทจ่ี ะบริโภคแจว่ จ้งิ หรดี เพียงใดในกล่มุ เป้ำหมำย คำช้ีแจง ให้ผทู้ ำแบบสอบถำมทำเครื่องหมำย  ใน หนำ้ คำตอบที่ตรงกบั ข้อมูลของผทู้ ำแบบสอบถำม ข้อมลู ทัว่ ไป เพศ : ชำย หญิง อำยุ: 5-10 ปี 11-15ปี 16-20 ปี มำกกวำ่ 20 ปี 1. แจ่วจง้ิ หรดี ทอ่ี ร่อยควรมีลกั ษณะอย่ำง ( ตอบได้มำกกว่ำ 1 คำตอบ) กรอบ เผด็ เค็ม หวำน หอม 2. สถำนทท่ี ีค่ วรขำย ตลำด โรงเรียน สหกรณ์หม่บู ้ำน 3. ผูท้ จ่ี ะบรโิ ภคแจ่วจิง้ หรดี มีอำยปุ ระมำณ ( ตอบได้มำกกว่ำ 1 คำตอบ) 5-10 ปี 11-15 ปี 16-20 ปี 20 ปขี ้นึ ไป 4. ผู้บรโิ ภคจง้ิ หรดี ชืน่ ชอบจ้งิ หรีดเพรำะเหตุใด ใหค้ วำมรู้สึกอร่อย มสี ำรอำหำรหลำกหลำย หำงำ่ ย มใี นท้องถ่ิน 5. แจว่ จง้ิ หรดี ควรมรี ำคำสินค้ำ (บำท) 10 10– 20 บำท 30 – 40 บำท 50 บำทขนึ้ ไป 6.บรรจภุ ณั ฑค์ วรมรี ปู แบบไหน ถุงกระดำษ ถุงพลำสตกิ กล่องพลำสติก 7. แจว่ จ้งิ หรีด ควรมรี ปู แบบใด บรรจุในรปู แบบแห้งพร้อมทอด บรรจุในรปู แบบทอดแล้วพร้อมทำน 8. คณุ คิดวำ่ จะรับประทำนแจ่วจิง้ หรดี ในลักษณะใด ทำนเป็นของว่ำง ทำนคู่กบั เคร่ืองดม่ื 9. คณุ จะซื้อแจ่วจ้งิ หรีด เพื่ออะไร ( ตอบไดม้ ำกกวำ่ 1 คำตอบ) ซื้อรับประทำนเอง ซอ้ื รบั ประทำนในครอบครวั ซอื้ เปน็ ของฝำก 10. คณุ จะซ้ือแจ่วจง้ิ หรีด เพรำะเหตใุ ด รบั ประทำนงำ่ ย อร่อย รำคำถกู มีประโยชน์ 40

แบบสอบถามที่ 2 สำรวจควำมพงึ พอใจต่อแจ่วจิ้งหรีด ทง้ั 2 สตู ร โดยกำรนำวัตถดุ ิบแต่ละอยำ่ งในปรมิ ำณเทำ่ กัน กระบวนกำรผลติ ทเ่ี หมอื นกนั เพ่อื เปน็ ตวั ควบคุมเพื่อศึกษำว่ำ ข้ำวเกรยี บจ้ิงหรดี สมนุ ไพรสตู รใดท่ีได้รบั ควำม พงึ พอใจในกลมุ่ เปำ้ หมำย (หมำยเหตุ: แบบสอบถำมฉบับนี้จะสอบถำมเหมือนกันท้ัง 2 สูตร) ขอ้ มูลท่ัวไป หญิง เพศ : ชำย อำยุ: 5 – 10 ปี 10 – 15 ปี 15 - 20 ปี 20 ปขี ึ้นไป ควำมพงึ พอใจ ระดบั ควำมพงึ พอใจในกำรทำนแจว่ จิ้งหรีด มำกที่สดุ มำก ปำนกลำง นอ้ ย 1) รสชำติ สสี ัน กลิน่ ของอำหำร 2) ปริมำณของอำหำรในภำชนะที่ บรรจุ 3) ควำมอรอ่ ยของแจว่ จ้งิ หรดี 4) ควำมเหมำะสมและเข้ำกนั ของ วตั ถดุ บิ 5) ควำมสะอำดถูกหลกั อนำมัย 6) มคี วำมรเู้ ก่ยี วกบั อำหำรท่ที ำ 7) กำรให้คำแนะนำแกผ่ ูบ้ รโิ ภค 8) ควำมเหมำะสมของรำคำ 9) ควำมเหมำะสมและควำมสวยงำม ของบรรจุภัณฑ์ 10) สำมำรถวำงจำหนำ่ ยได้ ข้อเสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………...…………………………………………………………………………………………………. 41

ภาพกจิ กรรม 42

โครงงาน RBL เรื่อง กำรศึกษำเปรยี บเทยี บกำรเจริญเตบิ โตของจิ้งหรีดโดยใช้อำหำรสำเร็จรปู ของจ้งิ หรีด ปลำและไก่ ชอื่ ผจู้ ัดทาโครงงาน เดก็ ชำยธนำกร ทองทำ เด็กหญงิ กัลยกร นนั ทบตุ ร เดก็ หญิงเบญญำภำ สดี ำนอ้ ย เดก็ หญงิ วชิรำภรณ์ วรรณปัด ครทู ป่ี รึกษา นำยศรำวธุ โชติสุวรรณ ศนู ย์พเี่ ลี้ยงมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ อาเภอคาเข่ือนแก้ว จงั หวัดยโสธร สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 43

กิตตกิ รรมประกาศ โครงงำนเรื่อง กำรศึกษำชนิดของอำหำรมีผลต่อกำรเจริญเติบโตจิ้งหรีดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยควำม กรุณำของอำจำรย์ท่ีปรึกษำโครงงำน ได้แก่ นำยศรำวุธ โชติสุวรรณ แนะนำ วิธีกำรทำกำรศึกษำชนิดของ อำหำรมีผลต่อกำรเจรญิ เตบิ โตจิง้ หรีดจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี ขอบคุณผู้ให้กำรสนับสนุนทุน สกว. ธนำคำรกสิกร ไทยและศนู ยพ์ ่ีเลีย้ งมหำวทิ ยำลัยอุบลรำชธำนคี ณะผู้จดั ทำจึงขอกรำบขอบพระคณุ เป็นอย่ำงสงู ไว้ ณ โอกำสนี้ ขอกรำบขอบพระคุณ บิดำ มำรดำ ที่ให้กำลังใจในกำรศึกษำเล่ำเรียนและสมำชิกในกลุ่ม ท่ีให้ควำม ร่วมมือเป็นอยำ่ งดี ในกำรทำโครงงำนคร้งั นี้ จนกระทงั่ ประสบควำมสำเร็จด้วยดี 44

บทนา ที่มาและความสาคญั ของโครงงาน พนื้ ฐำนระบบเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศไทยเป็นประเทศทีอ่ ำศยั กำรเกษตรกรรมเป็นหลัก ประชำกร ส่วนใหญเ่ ปน็ เกษตรกร ทำอำชีพทำอำชพี เกย่ี วกับกำรเกษตรไมว่ ่ำจะเป็น กำรทำนำ ทำสวน ทำไร่ ล้วนแต่ต้อง มีตัวชวยในกำรผลิต เพ่ือให้ผลผลิตมีประสิทธิภำพ ปุ๋ยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อศักยภำพของผลผลิต เป็น แหล่งอำหำรท่ชี ่วยใหผ้ ลผลติ ทำงกำรเกษตรมีคุณภำพท่ีดี โดยเฉพำะปัจจัยกำรผลิตด้ำนเทคโนโลยีอำหำร ถือ ว่ำเป็นส่วนสำคัญท่ีนำรำยได้เข้ำสู่ประเทศอีกทำงหนึ่ง และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดกำรจ้ำงงำน เกดิ อำชีพในชุมชนตำ่ ง ๆ จึงนำมำสรู่ ำยได้ และจำกกำรสำรวจข้อมูลเก่ียวข้องกับกำรผลิตอำหำรประเภทกำร เลี้ยงสัตว์ พบว่ำธุรกิจเก่ียวกับกำรเล้ียงสัตว์ประเภทแมลงน้ันได้รับควำมนิยมในท้องตลำดไม่แพ้ธุรกิจอ่ืน ๆ เพรำะเป็นธรุ กิจท่ลี งทนุ ต่ำ และมีผลกำไรที่ดพี อสมควร อกี ทงั้ ยังเรม่ิ ตน้ ได้ง่ำยภำยในทอ้ งถน่ิ อีกด้วย โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ เป็นสถำนศึกษำระดับมัธยมศึกษำขนำดกลำง มี ประชำกรรวมท้งั ครแู ละนกั เรยี นประมำณ 550 คน นักเรียนสว่ นใหญเ่ ปน็ นักเรียนที่อำศัยอยู่ตำมชนบทและอยู่ ระหว่ำงรอยต่อของ 2 จงั หวัดคือ จงั หวดั ยโสธร และจังหวดั อุบลรำชธำนี โดยพื้นฐำนของสภำพเศรษฐกิจของ ผูป้ กครองนกั เรียนส่วนใหญป่ ระกอบอำชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนำ ทำไร่ ทำกำรประมงพื้นบ้ำน กำรเลี้ยง สตั ว์ เลี้ยงแมลงขำย โดยเฉพำะแมลงประเภทจิ้งหรีด เป็นธุรกิจที่กำลังเจริญเติบโตเพรำะตลำดรับซ้ือมีมำก พอสมควร และเป็นทตี่ ้องกำรของผูบ้ ริโภคเป็นจำนวนมำก และสำมำรถใช้วัสดุอุปกรณ์ภำยในท้องถิ่นมำสร้ำง โรงเล้ียงภำยในหมู่บ้ำนและชุมชน ตลอดจนสำมำรถพัฒนำและสร้ำงรำยได้อีกทำงหน่ึงด้วย จำกกำรท่ี โรงเรียนของเรำได้เข้ำร่วมในโครงกำรเพำะพันธ์ปัญญำ และได้รับควำมรู้เกี่ยวกับกำรจัดทำโครงงำนด้ำน วิทยำศำสตร์ กลุ่มของเรำจึงเกิดแนวคิดที่จะจัดทำโครงงำนเกี่ยวกับกำรศึกษำกำรเล้ียงจิ้งหรีด เพรำะเป็น อำชีพท่ีสำมำรถส่งเสริมให้เกิดรำยได้แก่ชุมชุได้ และเป็นกำรพัฒนำทักษะกระบวนกำรด้ำนวิทยำศำสตร์ เกย่ี วกบั กำรวจิ ยั กลุ่มของข้ำพเจ้ำมีควำมสนใจที่จะทำโครงงำน “อำหำรสำเร็จแต่ละชนิดมีผลต่อกำรเจริญเติบโตต่อ จิง้ หรีดอย่ำงไร” เพื่อศึกษำอำหำรทมี่ ีผลตอ่ กำรเจริญเติมโตของจ้งิ หรีดและลดตน้ ทนุ ได้มำกท่สี ุด ตวั แปรและสมมตุ ิฐานของโครงงาน สมมตฐิ าน อำหำรสำเร็จรปู ไก่ น่ำจะเลี้ยงจงิ้ หรดี ได้เจริญเตบิ โตดีเทยี บเทำ่ อำหำรสำเร็จรปู จง้ิ หรีด ลด ต้นทนุ กำรผลติ ได้ดีกว่ำอำหำรจำกปลำ ตัวแปรอิสระ(ตัวแปรตน้ ) ได้แก่ อำหำรสำเรจ็ รูป(ปลำ อำหำรสำเร็จรปู ไก่ อำหำรสำเรจ็ รูปจิง้ หรดี ) ตวั แปรตาม ไดแ้ ก่ กำรเจริญเตบิ โตของจงิ้ หรีด ตวั แปรควบคุม ได้แก่ 1. ระยะเวลำในกำรเลีย้ ง 2. ระยะเวลำในกำรใหอ้ ำหำร 3. สภำพท่อี ยู่ของจิ้งหรีด 4. ปรมิ ำณอำหำร 5. อณุ หภมู ิของบริเวณทีเ่ ล้ยี ง โครงงำนมตี วั แปรต่อไปน้ี และแสดงแผนผงั เหตุ-ผล ในรปู ท่ี 1 45

ร้อน ชนื้ อาหารสาเรจ็ รปู ปลา นา้ เยน็ อาหารสาเรจ็ รปู ไก่ อาหาร สภาพอากาศ จง้ิ หรีด ทอ่ ซีเมนต์ 100 cm ที่อยู่ อาหารสาเร็จรูปจงิ้ หรดี เจริญเติบโต รูปท่ี 1 ผงั เหตุ-ผล หรือตวั แปรตน้ (เหต)ุ ตัวแปรตาม (ผล) ของโครงงานฐานวิจัยน้ี วธิ ีการทดลอง 1. นำทอ่ ปนู ซเี มน เส้นผำ่ นศูนยก์ ลำง 100cm. จำนวน 3 บ่อ 2. นำจ้ิงหรีดใสล่ งในทอ่ ซีเมนต์ ทัง้ 3 ทอ่ ในปริมำณทเ่ี ทำ่ กัน 3. นำถำดไข่ ในลงในท่อเพื่อเปน็ ท่อี ยขู่ องจ้ิงหรดี โดยวำงซ้อนกนั ท่อละ 7อัน 4. นำขยุ มะพรำ้ วใสล่ งในถว้ ยโฟม และในนำ้ เพื่อใหจ้ ้งิ หรีดกนิ น้ำไดโ้ ดยไมต่ กน้ำตำย 5. ให้อำหำรจิ้งหรดี ท้ัง 3 ทอ่ ทอ่ ละชนดิ ในปริมำณ 20 กรัม ทกุ วนั 6. นำผำ้ เขียว ปดิ ครอบด้ำนบนของปูนซีเมนเพอ่ื ป้องกันจง้ิ หรีดออกจำกทอ่ และศตั รู 7. สังเกตและบันทึกผลกำรทดลองทุก 7 วนั การสรา้ งเหตุ ( ตวั แปรตน้ หรือเป็นสงิ่ ทีส่ รา้ งได้ วดั ได้ ) นำอำหำรสำเรจ็ รปู ปลำ ไก่ มำเล้ยี งเปรียบเทียบกันกับอำหำรสำเร็จรปู จง้ิ หรดี เพอื่ ดูกำรเจริญเตบิ โต ของจ้ิงหรีด และสำมำรถลดต้นทุนได้เพรำะอำหำรจำกปลำและไกม่ ำรำคำทต่ี ่ำกวำ่ อำหำรจำกจง้ิ หรีด การควบคมุ เหตุ ( ตวั แปรควบคุม หรือเหตุที่คุมไวไ้ มใ่ ห้ส่งไปก่อให้เกดิ ผล ) 1. ระยะเวลำในกำรเล้ียง ตั้งแตเ่ ร่มิ ตน้ จนกระทง่ั ทำกำรเก็บผลผลิตของจง้ิ หรีดจำนวน 60 วนั 2. ระยะเวลำในกำรให้อำหำร กำรใหอ้ ำหำรแตล่ ะสูตรให้ในปรมิ ำณทเ่ี ท่ำกัน และกำหนดวันเวลำ ในกำรให้อำหำรเทำ่ กนั ทุกบ่อเล้ยี ง 3. สภำพที่อยู่ของจ้ิงหรดี บอ่ เลี้ยงจำนวน 3 บอ่ เปน็ บอ่ ท่มี ีสภำพทำงกำยภำพเหมือนกนั ท้งั รปู รำ่ งขนำด และวสั ดทุ ีใ่ ชท้ ำคอนโดจงิ้ หรดี 4. ปริมำณอำหำร ให้อำหำรในแตล่ ะสูตรในปรมิ ำณที่เท่ำกันตลอดระยะเวลำในกำรเลยี้ ง 46

5. อณุ หภมู ขิ องบริเวณทเ่ี ลยี้ ง บ่อเลี้ยงทุกบอ่ อยู่ในสภำพอุณหภูมิท่ีเท่ำกนั โดยจดั วำงในพ้ืนที่โรง เลี้ยงเดยี วกันทุกบ่อเล้ียง การวัดผล( ตวั แปรตามเป็นสิ่งที่สังเกตได้ วัดได้ ) 1. วดั นำ้ หนกั โดยรวมของจ้งิ หรีดในแตล่ ะชว่ งของกำรเก็บข้อมูล แยกตำมบอ่ ตำ่ ง ๆ 2. วัดคำ่ เฉล่ียของนำ้ หนกั จ้ิงหรดี ผลการทดลอง บ่อ สตู ร 14 วนั 21 กำรเจรญิ เติบโตของจงิ้ หรดี 56 วนั สรุป วนั 28 วนั 35 42 49 วัน 73.72 17.13 กรัม 1 อำหำร 3.58 5.76 วนั วัน กรมั 68.71 สำเรจ็ รปู กรัม กรมั กรัม จ้งิ หรีด 7.87 10.24 13.67 15.47 16.13 70.18 กรมั กรมั กรัม กรมั กรมั กรัม 2 อำหำร 3.38 5.19 สำเรจ็ รปู ปลำ กรมั กรมั 7.34 9.76 12.57 14.34 กรมั กรัม กรัม กรมั 3 อำหำร 3.46 5.67 7.36 9.87 12.78 14.56 16.48 สำเรจ็ รปู ไก่ กรัม กรัม กรมั กรมั กรมั กรมั กรัม อภิปรายผลการทดลอง จำกกำรทดลองนับจำกจ้ิงหรีดเป็นตัวอ่อนหรือ14วันจึงให้อำหำร จะเห็นได้ว่ำอำหำรสำเร็จรูปจิ้งหรีด ปลำ และไก่ จำกกำรสังเกตและเก็บข้อมูลจิ้งหรีด56วัน โดยแบ่งอำหำรแต่ล่ะสูตรคือ อำหำรสำเร็จรูปจิ้งหรีด ปลำ และไก่อัตรำส่วนกำรให้คือ 1:1:1 (10กรัม) โดยกำรให้อำหำรแต่ล่ะคร้ังเรำจะเอำอำหำรเดิมออกแล้วเอำ อำหำรใหม่ให้แทน โดยกำรวดั จะใช้ตรำช่งั ดจิ ทิ ลั สรุปผลอำหำรแต่ละ่ ชนิดได้ ดังนี้ อำหำรสำเร็จรูปจ้งิ หรดี 73.72 กรมั อำหำรสำเรจ็ รปู ปลำ 68.71 กรมั อำหำรสำเร็จรูปไก่ 70.18 กรมั จำกขอ้ มูลขำ้ งตน้ สรุปไดว้ ่ำ อำหำรสำเรจ็ รูปจ้ิงหรีด ปลำ และไก่ พบวำ่ จงิ้ หรีดต้องกำรอำหำรสำเรจ็ รปู จง้ิ หรดี มำกกวำ่ อำหำรสำเรจ็ รูปไก่ และปลำ ตำมลำดบั 47

สรุปผล โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสงั ฆรำชปู ถมั ภ์ เป็นสถำนศึกษำขนำดกลำงตงั้ อยทู่ ่ี ตำบลดงแคนใหญ่ และมีชมุ ชนรอบข้ำงท่เี ล้ียงสัตว์เลย้ี งแมลงเปน็ อำชีพ หรอื งำนอดเิ รก โดยเฉพำะจ้ิงหรีดเป็นสตั วใ์ นทอ้ งถ่นิ ท่ี นยิ มนำมำเลีย้ ง โดยหำกำไรจำกกำรเลี้ยงโดยกำรหำอำหำร ชนดิ ต่ำงๆมำทดลองเล้ยี ง กลุ่มของเรำจึงเลือก อำหำรสำเรจ็ รูปจิง้ หรีด ปลำ และไก่ มำทดลองเลยี้ งและเก็บขอ้ มูลบนั ทกึ ผลสรุปได้ ดังน้ี อำหำรสำเรจ็ รปู จงิ้ หรดี 73.72 กรัม อำหำรสำเร็จรูปปลำ 68.71 กรัม อำหำรสำเร็จรูปไก่ 70.18 กรมั จำกกำรทดลองผลสรุปพบวำ่ อำหำรสำเร็จรปู จ้งิ หรดี มีผลประโยชน์ต่อจิง้ หรดี มำกที่สุด เอกสารอ้างอิง 7.1 ขอ้ มลู พื้นฐำนของจิง้ หรดี ค้นหำเม่ือวนั ท่ี 27 กรกฎคม 2561 จำกเวบ็ ไซต์: th.wikipedia.org/wiki/จงิ้ หรีดทองดำ 7.2 กำรใหอ้ ำหำรจิง้ หรีด คน้ หำเมอื่ วันท่ี 25 กรกฎำคม 2561 จำกเวบ็ ไซต์: esan108.com/กำรเลยี้ งจ้งิ หรดี .html 7.3 อุปกรณ์และวิธกี ำรเตรียมบอ่ ค้นหำเมื้อวันที่ 25 กรกฎำคม 2561 จำกเว็บไซต์: thaiarcheep.com/กำรเล้ียงจ้งิ หรีด-มีข้ัน.html 48

ภาคผนวก 49

โครงงาน RBL เรื่อง กำรศึกษำเปรยี บเทียบปริมำณโปรตีนในจิ้งหรดี แตล่ ะสำยพันธทุ์ ีม่ ีในท้องถิ่น ช่อื ผจู้ ัดทาโครงงาน เดก็ หญงิ ขวัญฤดี บุตรโคตร เด็กหญิง สุวชิ ำ คำทำ เดก็ หญิง สำวติ รี เสนสำย เด็กหญิง ยิหวำ ชมพุนุช ครทู ี่ปรึกษา นำงสำว แสงเดือน บกน้อย ศูนยพ์ เี่ ล้ยี งมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี โรงเรียนสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ อาเภอคาเขอ่ื นแก้ว จังหวดั ยโสธร สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 28 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook