Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จับตาทิศทางสุขภาพคนไทย_ปี_2563

จับตาทิศทางสุขภาพคนไทย_ปี_2563

Published by Chalermkiat Deesom, 2020-05-25 03:46:52

Description: จับตาทิศทางสุขภาพคนไทย_ปี_2563

Search

Read the Text Version

51 กับสื่อออนไลน์ด้วย มีช่องทางร้องเรียนการแข่งท่ีไม่เป็น กจิ กรรมทเี่ กย่ี วกบั อสี ปอรต์ จะตอ้ งแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบและ มาตรฐาน รวมถึงมีการออกกฎหมายจัดประเภทเน้ือหาเกม มีหนังสือแสดงความยินยอมให้เข้าร่วมกิจกรรม การศึกษา ออนไลน์ โดยกระทรวงวัฒนธรรม ที่จะดูแลเนื้อหาเกม ร้าน ความหมายของอีสปอร์ตท่ีได้รับการยอมรับจากสาขาวิชาท่ี เกม และคอยเฝา้ ระวงั เกมที่มีเนือ้ หารุนแรง เกี่ยวข้อง และการส่งเสริมการรู้เท่าทันส่ือท่ีมีเนื้อหาเป็นเกม รวมถึงในด้านการการพนัน รัฐต้องเข้าไปก�ำกับบริษัท การแขง่ ขันออนไลน์ เกม และระงบั ยบั ยงั้ ธรุ กรรมการพนนั นนั้ โดยตรง โดยมาตรการ ทางกฎหมายและเทคโนโลยี รณรงค์ ส่อื สาร ทุกฝา่ ยยังควรตอ้ งส่งเสริมความรเู้ ก่ียวกบั E-Sport ให้ นอกจากนี้มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติคร้ังท่ี 11 เมื่อ แก่ประชาชน เพ่ือสร้างความเข้าใจเก่ียวกับในทุกมิติ ทั้งด้าน วันท่ี 11 ตุลาคม 2561 ได้ต้ังข้อสังเกตไว้ในรายงานความ ธุรกจิ และการรเู้ ท่าทนั สื่อออนไลน์ควบคู่กัน รับผิดชอบร่วมทางสังคมเก่ียวกับอีสปอร์ตต่อสุขภาวะเด็ก (E-Sports: Social Responsibility for Child Health) ถงึ ความไมพ่ รอ้ มของการมมี าตรการ กฎเกณฑ์ และกตกิ า การจดั แข่งขันอีสปอร์ตยังขาดมาตรฐานและข้อก�ำหนดท่ีชัดเจน โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต�่ำกว่า 13 ปี ห้ามเข้าถึงสื่อสังคม ออนไลน์ หรือสื่อดิจิทัลโดยขาดการดูแลจากพ่อแม่ และควร ก�ำหนดอายุของนักเล่นเกมแข่งขันต้องอายุ 18 ปีข้ึนไปตาม มาตรฐานสากล ส�ำหรับเด็กอายุ 13 – 18 ปี ที่จะเข้าร่วม 5 การศกึ ษาผลกระทบของอสี ปอร์ตท่มี ีตอ่ สุขภาวะเด็กและการสร้างรูปแบบความรบั ผดิ ชอบรว่ มของหน่วยงานที่เกย่ี วขอ้ ง ส�ำนักงานคณะกรรมการสขุ ภาพ แห่งชาติ (ระยะเวลาศกึ ษา 1 ก.ย. – 31 ธ.ค. 61 )

52 6 เกปาดิ รพกินฤตอกิยรู่ อรยมา่ งไทย โรคไม่ติดต่อ (non-communicable diseases : เช่นเดียวกับประเทศไทย ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจาก NCDs) ยงั คงครองแชมปส์ าเหตกุ ารตายอนั ดบั 1 ของประชากร โรคไมต่ ดิ ต่อเร้อื รัง เกอื บ 400,000 คน คดิ เปน็ 76% ของการ โลกและคนไทย ซ่ึงสาเหตุที่ส�ำคัญยังคงมาจากพฤติกรรม ตายทง้ั หมด และ 50% ตายกอ่ นวยั อนั ควร คดิ เปน็ ความสญู เสยี การกินและการใชช้ ีวิต ถงึ 2.2% ของ GDP ต่อปี ทัว่ โลกมีคนตายดว้ ยโรค NCDs ปีละกวา่ 40 ลา้ นคน คดิ เปน็ 71% ของการตายทงั้ หมด โดยมปี ระมาณคา่ ความสญู เสยี ไวส้ งู ถงึ 47 ลา้ นล้านดอลลอร์ ภายในปี 2573 หากยงั ไมม่ กี าร แกไ้ ข1

53 สาเหตกุ ารเสียชีวติ โดยส่วนใหญ่ของคนไทย จากข้อมูลรายงานภาระโรคและการบาดเจ็บของ ประชากรไทย พบว่า สาเหตุการเสียชีวิตโดยส่วนใหญ่ของ โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด โรคไมต่ ิดต่ออ่นื ๆ คนไทย2 มาจากโรคไม่ติดต่อ โดยเฉพาะประชากรอายุตั้งแต่ โรคมะเร็ง โรคติดต่อ 45 ปขี น้ึ ไป โรคระบบทางเดนิ หายใจ การบาดเจบ็ โรคเบาหวาน หากจำ� แนกสาเหตกุ ารเสยี ชวี ติ ในเพศชายพบวา่ อนั ดบั 1 เสียชวี ิตจากโรคหลอดเลือดสมองมากท่ีสดุ 11% รองลงมา คือ โรคหัวใจขาดเลือด 7.8% อุบัติเหตุทางถนน 7.4% โรค มะเรง็ ตบั 6.5% และโรคปอดอดุ ก้นั เรื้อรงั 6% ส่วนเพศหญิง อันดับ 1 มาจากโรคหลอดเลือดสมอง (14.6%) ตามด้วยโรคเบาหวานและโรคหัวใจขาดเลือด มี สดั สว่ นเทา่ กนั 8.8% ไตอกั เสบและไตพกิ าร 4% และโรคมะเรง็ ตับ 3.7% 5 พฤตกิ รรมเสี่ยง จากขอ้ มูลขององค์การอนามยั โรคพบวา่ 5 พฤตกิ รรมเสย่ี ง ที่ส่งผลตอ่ 5 โรคยอดฮิต ไดแ้ ก่ พฤติกรรมการกนิ การสบู บหุ รี่ มลพษิ ภาวะทางอากาศ การ ดมื่ เครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ และพฤตกิ รรมเนือยนิ่ง สง่ ผลตอ่ 5 โรค ยอดฮิตจากโรคไม่ติดต่อเร้ือรังอย่าง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดนิ หายใจ เบาหวาน และภาวะสขุ ภาพจติ พฤตกิ รรม การกินและการใชช้ วี ติ จงึ มผี ลอย่างมากต่อการเกิดโรค 1 World Health Organization – Noncommunicable Diseases (NCDs) Country Profiles, 2014 2รายงานภาระโรคและการบาดเจบ็ ของประชากรไทย พ.ศ. 2557, มลู นธิ เิ พอ่ื การพฒั นานโยบายสขุ ภาพระหวา่ งประเทศ สำ� นกั งานพฒั นานโยบายสขุ ภาพระหวา่ งประเทศ จดั พมิ พป์ ี 2560

54 เปิดพฤติกรรมการกนิ ของคนไทย วยั ท�ำงานเนน้ รสจดั วัยรุน่ เน้นรปู ลักษณ์ จากการส�ำรวจพฤติกรรมของคนไทยบนโลกออนไลน์ ระหวา่ งวนั ท่ี 1 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2561 ผา่ น #อรอ่ ย ไปแดก #อรอ่ ยบอกตอ่ และจาก Food Influencers จำ� นวน 90 accounts ซง่ึ มจี ำ� นวนขอ้ ความทงั้ หมด 5,826,452 ขอ้ ความ พบวา่ ในสอ่ื สงั คมออนไลนอ์ ยา่ ง facebook ซง่ึ จากประชากร ในเฟซบกุ๊ จำ� นวน 48 ลา้ นคน สว่ นใหญเ่ ปน็ คน Gen Y อายุ ประมาณ 19 – 36 ปี จงึ พอจะอนมุ านไดว้ า่ ในกลมุ่ คน Gen Y ให้ความสนใจและมีปฏิสัมพันธ์กับโพสต์ท่ีเป็นเมนูหรือวิธีการ ทำ� อาหารเมนนู า่ กนิ และเมนทู ม่ี ารสจดั เชน่ ยำ� ตา่ ง ๆ

55 ขณะทใ่ี นทวติ เตอร์ ซงึ่ มปี ระชากร 9 ลา้ นคน โดยสว่ นใหญเ่ ปน็ กลมุ่ วยั Gen Z อายรุ ะหวา่ ง 15-24 ปี ถงึ 40% ทน่ี ยิ มใช้ พบวา่ คนสว่ นใหญม่ ปี ฏสิ มั พนั ธ์ กับอาหารที่มีเอกลักษณ์หรือโดดเด่นมาก เช่น กุ้ง ลอ็ บสเตอร์ ซชู ปิ ลาไทย เมนแู ปลก ๆ เชน่ แยมโซดา รา้ นอาหารลบั ตา่ ง ๆ เชน่ รา้ นลกู ชนิ้ ทไี่ มม่ คี นรจู้ กั และ ชานมไขม่ กุ ท้ังน้ีโดยภาพรวมของเทรนด์อาหารซึ่งเป็นที่ นยิ มผา่ นสอื่ สงั คมออนไลน์ พบวา่ คนไทยยงั คงนยิ ม รสชาตอิ าหารทไี่ ดร้ บั ความนยิ มสงู คอื รสเผด็ เชน่ ยำ� หรอื ตม้ ยำ� ตา่ งๆ และรสหวาน เชน่ ขนมไทย ขนมเคก้ ตา่ งๆ ขณะทสี่ ว่ นประกอบอาหารทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มสงู ไดแ้ ก่ กระแสไขด่ อง ปดู อง กงุ้ นอกจากนย้ี งั พบแนว โนม้ การกนิ อาหารสะดวกซอื้ มากขนึ้ ขณะทแี่ นวโนม้ อาหารเพอ่ื สขุ ภาพอยา่ งอาหารคลนี ยงั คงอยใู่ นภาวะ คงทสี่ มำ่� เสมอตง้ั แตป่ ี 2561

56 กินผักไม่เพียงพอ เนน้ หวาน มนั เค็ม อไี อซี หรอื Economic Intelligence Center (EIC) ในปี 2556 และเพม่ิ มาเปน็ 58.8% ในปี 2560 ขณะทคี่ ณุ ภาพ ธนาคารไทยพาณชิ ย์ไดท้ ำ� การวเิ คราะหเ์ รอื่ ง“คนไทยกนิ อะไรกนั ?” ของอาหารกลบั มสี ดั สว่ นลดลงจาก 32.2% ในปี 2556 เหลอื จากการส�ำรวจอนามัย สวัสดิการ และพฤติกรรมการบริโภค เพียง 30.7% ในปี 2560 นอกจากนี้ ปัจจัยความชอบเพ่ิม อาหารของประชากร ปี 2556 และปี 2560 โดยสำ� นกั งานสถติ ิ ความสำ� คญั ขน้ึ มาอยา่ งมากจากสดั สว่ นเพยี ง 17.7% หรอื เปน็ แห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส�ำรวจ ปจั จยั อนั ดบั 3 ในปี 2556 ขนึ้ มาเปน็ ปจั จยั อนั ดบั หนงึ่ ในการ ประชากรครั้งละ 27,960 คน ในเขตเทศบาลและนอกเขต เลอื กซอ้ื อาหารของคนไทยในปจั จบุ นั แซงปจั จยั รสชาตซิ ง่ึ เปน็ เทศบาล พบพฤตกิ รรมการกินของคนไทยทนี่ า่ สนใจ ดงั นี้ ปจั จยั อนั ดบั หนง่ึ ในปี 2556 คนไทยเลอื กซอ้ื อาหารจากความชอบเปน็ หลกั สะทอ้ นวา่ สำ� หรบั ผบู้ รโิ ภคในปจั จบุ นั อาหารอรอ่ ยอยา่ ง เดียวอาจไม่พอ ควรมีส่ิงอ่ืนควบคู่ไปด้วย เช่น รูปแบบ ในปี 2560 ปจั จยั ทผี่ บู้ รโิ ภคใหค้ วามสำ� คญั เมอื่ เลอื กซอ้ื การนำ� เสนอ ประสบการณ์ หรอื การบรกิ าร เปน็ ตน้ ทง้ั นี้ ราคา อาหารเปน็ อนั ดบั หนงึ่ คอื ความชอบ (มผี ตู้ อบ 22.1% ของกลมุ่ ยังคงเป็นปัจจัยร้ังท้ายจาก 7 ปัจจัยดังกล่าวส�ำหรับคนไทย ตัวอย่างจากการส�ำรวจ) ตามมาด้วยรสชาติ (18.5%) ความ มาตง้ั แตป่ ี 2556 อยากกนิ (18.2%) ความสะอาด (17.8%) คณุ คา่ (12.9%) ความ สะดวก (6.5%) โดย ราคาเปน็ ปจั จยั ทม่ี ผี ตู้ อบนอ้ ยทส่ี ดุ ท่ี 4% คนไทยกินบ่อยขนึ้ กนิ รสหวาน-เค็มมากข้นึ และกิน ผลสำ� รวจดงั กลา่ วสะทอ้ นวา่ คนไทยใหค้ วามสำ� คญั กบั ผกั ผลไมล้ ดลง ความสุขจากการกิน สะท้อนจากการเลือกปจั จยั ความชอบ- คนไทยกินบ่อยข้ึน ในปี 2560 คนไทยส่วนใหญ่กว่า ความอยากกนิ -รสชาติ มากกวา่ คณุ ภาพของอาหาร ซงึ่ สะทอ้ น 89.4% กินอาหาร 3 มื้อต่อวัน สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก จากการเลือกปัจจัยความสะอาด-คุณค่า โดยปัจจัยในกลุ่มท่ี 88.0% ในปี 2556 นอกจากนี้ สัดส่วนของคนที่กินอาหาร สะทอ้ นเรอื่ งความสขุ จากการกนิ มผี ตู้ อบรวมกนั อยทู่ ่ี 57.1% มากกวา่ 3 มอ้ื กเ็ พมิ่ ขน้ึ จาก 3.8% ในปี 2556 มาเปน็ 4.1% ปี 2556 ปี 2560 EIC Data

57 ในปี 2560 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งในเพศหญิงและชาย และเพมิ่ ในหลายชว่ งอายุ ไดแ้ ก่ เดก็ (6-14 ป)ี วยั รนุ่ (15-24 ปี) และคนวยั ทำ� งาน (25-59 ป)ี ยกเว้นผู้สงู อายุ (60 ปี ขน้ึ ไป) ทก่ี ลบั มสี ดั สว่ นการกนิ มากกวา่ 3 มอ้ื ทล่ี ดลง คนไทยกนิ รสหวาน เคม็ มากขนึ้ โดยสดั สว่ นของ คนทก่ี นิ รสหวานเปน็ อาหารมอ้ื หลกั เพม่ิ จาก 11.2% ในปี 2556 มาเปน็ 14.2% ในปี 2560 ซงึ่ เปน็ การเพมิ่ ขนึ้ ในกลมุ่ อายุน้อยกว่า 25 ปีเป็นส�ำคัญ และยังพบการเพิ่มขึ้นใน ทกุ ภมู ภิ าค ขณะทร่ี สเคม็ เพมิ่ จาก 13.0% มาเปน็ 13.8% โดยเปน็ การเพมิ่ ขน้ึ ของการบรโิ ภคในกลมุ่ อายุ 15 ปขี น้ึ ไป เปน็ หลกั ท้ังน้ีรสชาติอาหารม้ือหลักของคนไทยมีลักษณะ ของการกนิ ตามชว่ งอายุ เชน่ การกนิ รสหวานจะมสี ดั สว่ น สูงที่สุดในวัยเด็กที่ 32.5% ขณะท่ีในกลุ่มวัยรุ่นและวัย ทำ� งานนยิ มรสเผด็ เปน็ หลกั ในสดั สว่ น 31.6% และ 34% คนไทยบรโิ ภคผกั และผลไมส้ ดลดลง ถงึ แมว้ า่ คนไทย ส่วนใหญ่กว่า 98.8% จะมีการบริโภคผักและผลไม้ อยา่ งนอ้ ย 1 วนั ในแตล่ ะสปั ดาห์ โดยสดั สว่ นดงั กลา่ วไม่ เปลยี่ นแปลงจากปี 2556 แตส่ ดั สว่ นของคนทก่ี นิ ผกั และ ผลไม้ทุกวันกลับลดลง จาก 54.5% เป็น 41.1% โดย เปน็ การลดลงในทกุ กลมุ่ อายุ เพศ และภมู ภิ าค อยา่ งไรกต็ าม คนไทยอดอาหารเพอ่ื ลดนำ�้ หนกั กนั มากขึ้น และเพิ่มการกินอาหารเสริมสะท้อนถึงความ พยายามในการดแู ลตวั เองทมี่ ากขนึ้

58 ผลส�ำรวจพบ ‘เด็ก คนโสด คนทำ� งานบริษทั ’ กนิ ผกั น้อย การกนิ ผกั ผลไมใ้ หเ้ พยี งพอชว่ ยลดความเสยี่ งตอ่ โรค นอกจากนี้ยังพบกลุ่มเสี่ยงท่ีส�ำคัญของการบริโภคผัก มะเรง็ ลำ� ไสใ้ หญ่ แตค่ นไทยยงั กนิ ผกั นอ้ ย ผลไมท้ ไี่ มเ่ พยี งพอ ไดแ้ ก่ กลมุ่ เดก็ คนโสด คนทม่ี กี ารศกึ ษานอ้ ย คนท�ำงานบริษัท คนที่ไม่มีรายได้ และคนที่มีน้�ำหนักต�่ำกว่า มงี านวจิ ยั กวา่ 20 รายงาน ครอบคลมุ กลมุ่ ตวั อยา่ งกวา่ เกณฑ์ 10,948 คน พบวา่ ผทู้ บี่ รโิ ภคใยอาหารมากมคี วามเสยี่ งตอ่ การ เปน็ มะเรง็ ลำ� ไสใ้ หญ่ (colorectal adenoma) นอ้ ยกวา่ กลมุ่ ที่ สำ� หรบั การเขา้ ถงึ ผกั และผลไม้ พบวา่ คนทกี่ นิ ผกั และ บริโภคใยอาหารน้อยถึง 28% ซึ่งพบว่าการบริโภคใยอาหาร ผลไมเ้ พยี งพอ เนน้ ซอ้ื ดว้ ยตนเองและมาจากการปลกู ผกั /ผลไม้ เพิ่มข้ึนวันละ 10 กรัม สามารถลดความเสี่ยงของการเป็น กนิ เองทบี่ า้ น สว่ นคนทก่ี นิ ผกั ผลไมไ้ มเ่ พยี งพอ เนน้ ใหค้ นอน่ื ซอื้ ให้ มะเรง็ ลำ� ไสใ้ หญไ่ ด้ 9%3 โดยแหลง่ ซอื้ ผกั ผลไมบ้ อ่ ยทสี่ ดุ คอื ตลาดสด ซง่ึ กลมุ่ ทก่ี นิ ผกั และผลไม้เพียงพอ เน้นสนับสนุนนโยบายรณรงค์ให้กินต้นไม้ อยา่ งไรกต็ าม ผลการศกึ ษาโครงการศกึ ษาพฤตกิ รรมการ กนิ ได้ และนโยบายปลกู ผกั สวนครวั กนิ เอง ขณะทก่ี ลมุ่ ทกี่ นิ ผกั กนิ ผกั และผลไมข้ องคนไทย4 ในเดอื นพฤษภาคม 2562 โดยการ และผลไมไ้ มเ่ พยี งพอ เนน้ สนบั สนนุ นโยบายดา้ นราคาและความ สำ� รวจประชากร 3 ชว่ งวยั ประกอบดว้ ย วยั เรยี น อายุ 6-14 ปี ปลอดภยั วยั รนุ่ และวยั ทำ� งาน อายุ 15- 59 ปี และผสู้ งู วยั อายุ 60 ปขี น้ึ ไป ในพน้ื ท่ี กทม.และ 4 ภมู ภิ าค รวม 7,957 คน พบวา่ หาก จะเหน็ ไดว้ า่ การมคี วามรอู้ ยา่ งเดยี วไมเ่ พยี งพอทจี่ ะทำ� ให้ ใชเ้ กณฑจ์ ากองคก์ ารอนามยั โลก (ในแตล่ ะวนั ควรบรโิ ภคผกั ≥ 3 คนกนิ ผักและผลไม้เพ่ิมขึน้ การส่งเสรมิ การปลูกผกั ผลไม้กนิ ทพั พี ผลไม้ ≥ 2 สว่ น รวม ≥ 5 สว่ น) พบวา่ กลมุ่ วยั ทำ� งานตอน เอง เปน็ ชอ่ งทางสำ� คญั ทจี่ ะสง่ เสรมิ ใหค้ นหนั มากนิ ผกั และผลไม้ กลางและตอนปลายผ่านเกณฑ์ โดยคนไทยกินผักและผลไม้ มากขึ้น รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมในสถานท่ีท�ำงาน เพิ่มขึ้นตามกลุ่มอายุ และเริ่มลดลงเมื่อเข้าสู่ผู้สูงวัย อย่างไร โรงเรยี น มหาวทิ ยาลยั ใหเ้ ออ้ื ตอ่ การเขา้ ถงึ ผกั และผลไมม้ ากขน้ึ กต็ ามหากใชเ้ กณฑธ์ งโภชนาการ (ผกั 4-6 ทพั พี ผลไม้ 3-5 สว่ น นอกจากนต้ี ลาดสดเปน็ แหลง่ สำ� คญั ทค่ี วรสนบั สนนุ ตอ่ ยอด เพอื่ รวม ≥ 7 ส่วน ) ของกรมอนามัยจะพบว่า ทุกกลุ่มวัยกินผัก เออ้ื ใหค้ นเขา้ ถงึ อาหารทดี่ ตี อ่ สขุ ภาพและ ผกั ผลไมห้ ลากหลาย ผลไมไ้ มเ่ พยี งพอ ไดม้ ากขนึ้ มัธยฐานกินผกั มธั ยฐานกนิ ผลไม้ มัธยฐานกนิ ผกั และผลไม้ เกณฑ์ WHO - กลมุ่ วัยท�ำงานตอนกลางและตอนปลายผ่านเกณฑ์ คนไทยกนิ ผกั และผลไมเ้ พมิ่ ข้ึนตามกลมุ่ อายุ และเริ่มลดลงเมื่อสูงอายุ เกณฑ์ DOH - ไม่มกี ลมุ่ อายุใดผา่ นเกณฑ์ 3 กนิ ผกั ผลไม้ มากพอ ปอ้ งกนั โรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั , ผศ. ดร.วนั ทนยี ์ เกรยี งสนิ ยศ สถาบนั โภชนาการ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 4 ผลการศกึ ษาพฤตกิ รรมการกนิ ผกั และผลไมข้ องคนไทย, ดร.สริ นิ ทรย์ า พลู เกดิ สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล, พ.ค. 2562

59 กินผักผลไม้อย่างไรถึงได้ประโยชน์5 และปลอดสารจากเคมี ผู้ใหญ่ควรบริโภคผักที่หลากหลาย วันละ 6 ทัพพี/ ประโยชน์ของสารพฤกษเคมี (Phytonutrient) ในผกั ผลไม้ วัน และผลไม้วันละ 2-3 ส่วนต่อวัน จะท�ำให้กินผัก ผลไม้ ได้ถึง 400 กรัม (4 ขีด) ต่อวัน ตามค�ำแนะน�ำขององค์การ อนามัยโลก การกินผัก ผลไม้ที่หลากหลายและมีสีสันต่าง ๆ หมุนเวียนกันไป จะท�ำให้ร่างกายได้รับสารต่าง ๆ ท่ีเป็น ประโยชน์อย่างสมดุล ท่ีส�ำคัญคือ ที่ส�ำคัญเลือกกินผัก ผลไม้ตามฤดูกาล และผักยืนต้นพื้นบ้าน ปลอดภัยสุดจากสารเคมี6 และล้าง ผักให้ถูกวิธี 5 กนิ ผกั ผลไม้ มากพอ ปอ้ งกนั โรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั , ผศ. ดร.วนั ทนยี ์ เกรยี งสนิ ยศ สถาบนั โภชนาการ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 6 Greenery. (2561). ฤดเู ปลยี่ นแปลง เรากก็ นิ ผกั เปลย่ี นไป เพราะเราใช้ ‘ปฏทิ นิ กนิ ผกั สามฤด’ู จาก www.greenery.org/articles/guide-seasonalvegcalendar/

60

61 กิน อยู่อย่างไรให้ห่างไกลโรค การกินและการออกก�ำลังกายเป็นพื้นฐานสุขภาพที่ เสริมกันและกนั ซ่ึงทกุ คนสรา้ งไดด้ ว้ ยตัวเอง สตู รการกนิ ให้ไกลโรค7 2 : 1 : 1 สูตรเดด็ พชิ ติ พุง การลงพุงคือสัญญาณหนึ่งของร่างกายที่เตือนว่า เรา ก�ำลังเสี่ยงเป็นโรคต่าง ๆ ส่วนหนึ่งมาจากการสะสมของ พลังงานในรา่ งกายท่มี ากเกนิ การกนิ แบบ 2:1:1 ซ่ึงเป็นสตู รก�ำหนดปริมาณอาหารที่ เหมาะสมในแต่ละมื้อ จึงช่วยลดพุงและลดความเส่ียงต่อการ เปน็ โรคตา่ ง ๆ ได้ โดยแบง่ สดั สว่ นของจาน (เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 9 น้ิว) ออกเป็น 4 ส่วน และเลือกจัดประเภออาหารในจาน แต่ละส่วนเป็น ผัก 2 สว่ น แป้ง 1 สว่ น และเนอ้ื สตั ว์ 1 ส่วน 6 : 6 : 1 สูตรรสกลมกลอ่ มห่างไกลโรค รสอาหารเป็นอีกปัจจัยท่ีส่งผลต่อสุขภาพได้ รสหวาน มนั เค็ม หากปรุงมากจนเกนิ พอดีก็อาจสง่ ผลต่อสขุ ภาพได้ ก่อ ใหเ้ กดิ ความเสย่ี งตอ่ การเปน็ โรคอว้ น เบาหวาน ความดนั โลหติ สงู โรคไต เป็นต้น ปริมาณการปรุงท่ีแนะน�ำ ไม่ควรกินเกินในแต่ละวัน สามารถจำ� งา่ ย ๆ ด้วยสูตร 6:6:1 คอื น้ำ� ตาล 6 ช้อนชา/วนั ไขมัน 6 ช้อนชา/วนั และเกลอื 1 ช้อนชา/วนั ซง่ึ ตอ้ งระวัง การปรุงเพ่ิม และเลี่ยงกินของว่าง ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่ม หวานท่ีเพิ่มเติมจากอาหารมื้อหลัก ไขมันเรมิ่ สลายเม่ือออกก�ำลังกายต่อเนอ่ื ง 10 นาทขี น้ึ ไป หากตอ้ งการลดไขมนั สว่ นเกนิ สามารถทำ� ไดด้ ว้ ยการทำ� กจิ กรรมทางกายระดบั ปานกลาง เชน่ เดนิ จอ๊ กกงิ้ ขจี่ กั รยาน เดินขน้ึ บนั ได เตน้ ประกอบเพลง อยา่ งต่อเนื่อง 10 นาทีข้นึ ไป ใหไ้ ดอ้ ยา่ งน้อย 150 นาทีตอ่ สัปดาห์ เพราะเม่ือออกก�ำลังกายนานต่อเนื่อง 8-10 นาทีขึ้นไป ร่างกายจะเร่ิมเผาผลาญไขมันออกมาเป็นพลังงานให้ รา่ งกายอยา่ งเต็มท่ี 7 คมู่ อื 8 เรอื่ งใกลต้ วั ชวี ติ ดเี รม่ิ ทเ่ี รา จาก สสส., 2562

62 ทศิ ทางเชงิ นโยบาย เพื่อลด NCDs ของคนไทย ประเทศไทยตระหนกั และเหน็ ความสำ� คญั ของการแกไ้ ข - 2564) เพอื่ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย NCDs ของประเทศรว่ มกนั นนั่ คอื ปญั หาโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั ของคนไทยอยา่ งจรงิ จงั ดงั จะเหน็ ได้ 9 voluntary global targets on NCDs และเปา้ หมายการ จากในปี 2560 องค์การอนามยั โลกประเมนิ ใหป้ ระเทศไทยมี พฒั นาทย่ี งั่ ยนื (SDGs) โดยมกี ารพฒั นานโยบายสาธารณะเพอื่ ผลการด�ำเนินงานในการป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อที่มี สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ สง่ิ แวดลอ้ มทเี่ ออ้ื ตอ่ การมสี ขุ ภาพทด่ี ี เชน่ ภาษี ความก้าวหน้าเปน็ อนั ดบั 3 ของโลก และเปน็ อนั ดบั 1 ของ นำ�้ ตาล ยุทธศาสตรล์ ดเกลือและโซเดยี ม เพิ่มฉลากทางเลอื ก อาเซียน โดยได้แสดงความชื่นชมรัฐบาลไทยท่ีให้ความส�ำคัญ สขุ ภาพ (Healthier Choice) สรา้ งความยนิ ยอมและปฏบิ ตั ติ าม และความร่วมมือของทุกภาคส่วน ท้ังหน่วยงานภาครัฐ กฎหมายบหุ ร-่ี สรุ า สง่ เสรมิ กจิ กรรมทางกาย พรอ้ มกบั สง่ เสรมิ ภาคประชาสงั คม และภาคเอกชน โดยจะผลกั ดนั การดำ� เนนิ งาน ความรอบรทู้ างสขุ ภาพใหก้ บั ประชาชน (Health Literacy) โดย ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายการพฒั นาทยี่ งั่ ยนื (SDGs) ใหค้ วามสำ� คญั กบั ทำ� งานอยา่ งลงลกึ ในระดบั อำ� เภอ ตำ� บล โรงเรยี น และสถาน การป้องกันควบคู่ไปกับการรักษา เป็นค�ำม่ันสัญญาท่ีจะน�ำ ประกอบการ เปน็ ตน้ ประเทศไทยไปสู่ Free of NCDs society ส�ำหรับในปี 2563 ได้ผลักดันเร่งรัดให้เกิดนโยบาย ประเทศไทยตงั้ เปา้ หมายลดการเสยี ชวี ติ กอ่ นวยั อนั ควร สาธารณะระดบั ชาตทิ เ่ี นน้ การจดั การโรคเบาหวานและโรคความ จากโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั (NCDs) ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2573 โดย ดนั โลหติ สงู และสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากหนว่ ยงานรฐั ธรุ กจิ เอกชน ใชก้ ลไกการมสี ว่ นรว่ มของหนว่ ยงานภาครฐั ทง้ั ภายในกระทรวง ทอ้ งถน่ิ และภาคเี ครอื ขา่ ย เพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย NCDs ของ สาธารณสขุ และกระทรวงตา่ งๆ รว่ มขบั เคลอื่ นแผนยทุ ธศาสตร์ ประเทศ โดยใชแ้ นวทาง “Together Fight NCDs รว่ มมอื ตอ่ สู้ การปอ้ งกนั และควบคมุ โรคไมต่ ดิ ตอ่ ระดบั ชาติ 5 ปี (พ.ศ.2560 โรค NCDs” “สวนลมุ เปน็ ตวั อยา่ งของการจดั การพื้นทสี่ เี ขยี ว ทด่ี แี ละเปน็ จดุ เริ่มตน้ ของการขยายกจิ กรรมทาง กายเพือ่ ครอบคลมุ งานดา้ นอนื่ ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เชน่ เลนสำ� หรบั ผขู้ ี่จกั รยานและการพฒั นาทางเทา้ ที่ เออ้ื กบั การเดนิ ใหเ้ พมิ่ ข้นึ ” นพ.แดเนยี ล เคอรเ์ ตส ผแู้ ทนองคก์ ารอนามยั โลกประจำ� ประเทศไทย ยกตวั อยา่ งการจดั การพนื้ ที่ `สวนลมุ ’ พ้ืนทสี่ ีเขยี วทเ่ี ออ้ื ตอ่ การ ส่งเสริมกจิ กรรมทางกายท่หี ลากหลาย และชนื่ ชมประเทศไทย โดย กระทรวงสาธารณสขุ และ สสส. ในฐานะหนว่ ยงานสำ� คญั ที่ กระตนุ้ และประสานใหเ้ กดิ กจิ กรรมทางกายสำ� หรบั คนไทยและขบั เคลอื่ นงานสเู่ วทโี ลก

กัญชา 63 7 เม่ือใช้เป็น ‘ยา’ รักษาโรค ปัจจุบันการใช้กัญชาทางการแพทย์มีความก้าวหน้า ขึ้นทะเบียนตำ�รับยาได้ ขณะน้ีกระทรวงสาธารณสุข โดย และเป็นพลวัตรอย่างมีนัยสำ�คัญในระดับสากล และประเทศ หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่ องคก์ ารเภสชั กรรม กรมการแพทย์ ไทย ซ่ึงก่อให้เกิดความรับรู้ และแสดงออกที่หลากหลาย กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กรมสขุ ภาพจติ บา้ งสนบั สนนุ บา้ งคดั คา้ น และบางครง้ั เกดิ ความสบั สนทงั้ จาก และสำ�นักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ดำ�เนินการนำ� ประชาชน และจากบคุ ลากรท่ที ำ�งานด้านสาธารณสุข สารสกัดจากกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์บนพื้นฐาน ตามหลักวิชาการด้านการแพทย์ที่เหมาะสม ภายใต้การ สำ�หรบั ประเทศไทยไดม้ กี ารประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิ ควบคุมดูแลของผู้เชี่ยวชาญตามมาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบบั ที่ 7) พ.ศ. 2562 (ประกาศในราชกจิ จา- ตามทีร่ ะบใุ นกฎหมาย นุเบกษา เม่ือ 17 กุมภาพันธ์ 2562) ซ่ึงเดิมเคยจัดให้กัญชา เป็นยาเสพติดประเภทท่ี 5 ห้ามเสพ ผลิต และจำ�หน่าย ขณะเดยี วกนั กม็ กี ระแสความตนื่ ตวั และสนใจอยา่ งมาก มาอนญุ าตใหใ้ ชก้ ญั ชาเฉพาะทางการแพทยเ์ พอ่ื การดแู ลรกั ษา จากภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่คาดหวังผลจาก ผู้ป่วย และการวิจัย โดยรวมการอนุญาตผลิต นำ�เข้า และ การรกั ษาด้วยสารสกดั กญั ชา

64 เส้นทางของ ‘กัญชา’1 กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่ปรากฏ ตั้งแต่ คริสต์ศักราชที่ 13 เริ่มมีความเข้มงวดในการ ในต�ำรายาแผนโบราณของไทย ควบคมุ ในหลายพน้ื ท่ี ในปี ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) ประเทศ ตง้ั แตส่ มยั พระนารายณม์ หาราช สหรัฐอเมริกาได้มีการรายงานว่าการใช้กัญชามีผลท�ำให้ ในขณะที่ทั่วโลกพบเป็นไม้ถิ่น ผู้ใช้ขาดสติ เกิดอาการประสาทหลอน และก่อให้เกิด ของเอเชียกลาง และคาบสมุทร อาชญากรรมขึ้นได้ จึงมีการถอนกัญชาออกจาก United อินเดีย มีประวัติการใช้มา States Pharmacopoeia และยกเลิกการใช้กัญชาใน ยาวนาน ในหลายรูปแบบ ถึง การรักษาโรค มีการห้ามใช้กัญชาในการรักษาโรคใน 8,000 ปกี ่อนครสิ ตกาล องั กฤษและยโุ รปตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) เปน็ ตน้ มา ในประเทศไทย มีกฎหมายควบคุมกัญชา ช่ือ ‘พระราชบัญญัติ กัญชา พ.ศ. 2477’ ซ่งึ ต่อมายกเลิกไป ปี พ.ศ. 2522 ได้ประกาศใช้ พ . ร . บ . ย า เ ส พ ติ ด ใ ห ้ โ ท ษ ก�ำหนดใหพ้ ชื กระทอ่ ม กญั ชา เป็นยาเสพติดประเภทท่ี 5 ห้ามเสพ ห้ามผลิต หรือ ครอบครอง มีโทษรุนแรง รวมทั้งโทษทางอาญา ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าหลายประเทศเร่ิมมีงานวิจัย มากมาย และมีนโยบายใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จาก กัญชา เช่น อนุญาตให้ใช้ในระบบสุขภาพ NHS (อังกฤษ) มกี ารข้นึ ทะเบียนตำ� รบั ยา (สหรัฐอเมรกิ า อังกฤษ แคนาดา โคลมั เบยี ) และใชเ้ พอื่ สันทนาการ (อุรุกวัย แคนาดา บางรฐั ของประเทศสหรัฐอเมริกา) ตลอดจนการใช้ส่วนตัวในบ้าน (อสิ ราเอล) 1สรปุ ความเคลอ่ื นไหวเพ่ือขบั เคลอ่ื นการเขา้ ถงึ กระทอ่ ม กัญชา ในทางการแพทย์. นิยดา เกยี รติยิ่งองั ศลุ ี. ศนู ย์วชิ าการเฝ้าระวงั และพฒั นาระบบยา

65 เนอ่ื งจากปญั หาสขุ ภาพหลายโรคทร่ี กั ษาดว้ ยยาแผนปจั จบุ นั พฤษภาคม 2561 กระทรวง อาจไมค่ รอบคลมุ ประกอบกบั ผปู้ ว่ ยจำ� นวนหนง่ึ เขา้ ไมถ่ งึ ยา สาธารณสุขได้ตั้งคณะท�ำงาน ทมี่ รี าคาแพง เชน่ โรคมะเรง็ อาการปวดรนุ แรง หรอื โรคลม 4 คณะ เพ่ือก�ำหนดแนวทาง ชกั รนุ แรงในเดก็ แตส่ ารประกอบ cannabinoids ในกญั ชา ด�ำเนินการ เพ่ือน�ำกัญชามาใช้ ประกอบดว้ ยสาร Tetrahydrocannabinol (THC) ทม่ี ฤี ทธิ์ ประโยชน์ทางการแพทย์ ตอ่ จติ ประสาท เปน็ สารเสพตดิ ในขณะทสี่ าร cannabidiol (CBD) ทไี่ มม่ ฤี ทธเิ์ สพตดิ และใหผ้ ลเกย่ี วขอ้ งกบั การทำ� งาน ของร่างกาย อาทิ ความจ�ำ อารมณ์ ความอยากอาหาร ความปวด และการอกั เสบ ไทยจงึ เรม่ิ มกี จิ กรรมรณรงคเ์ พอ่ื ใหม้ กี ารนำ� กญั ชามาใชท้ างการแพทย์ ตง้ั แต่ พ.ศ. 2558 องค์การเภสัชกรรมเร่งสกัดน้�ำมันกัญชาเพื่อใช้ สิงหาคม 2562 มีการประกาศใช้ รกั ษาโรคโดยกระจายนำ�้ มนั ลอ็ ตแรกเดอื นสงิ หาคม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) 2562 ตามหนว่ ยบรกิ ารสาธารณสขุ ขณะท่ี ป.ป.ส. พ.ศ. 2562 โดยยังคงจัดให้กัญชา ประกาศว่า ผู้ทจี่ ะปลกู หรือผลติ กญั ชาได้นน้ั ตอ้ ง เปน็ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 แต่ ได้รับอนุญาตจาก อย. ซ่ึงใน 5 ปีแรกต้อง อนุญาตให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์ ด�ำเนินการโดยรัฐร่วมกับรัฐ ปัจจุบันผู้ที่ได้รับ เพอ่ื การดแู ลรกั ษาผปู้ ว่ ย และศกึ ษาวจิ ยั อนุญาตให้ปลูกกัญชาอย่างถูกกฎหมายจึงมีเพียง จึงถือเป็นก้าวแรกของการปลดล็อก อภ. และ ม.รงั สติ ขณะทเ่ี กดิ กระแสการปลกู กญั ชา กัญชาเพ่ือการรักษา เพ่ือธุรกิจ รวมถึงการกระจายน�้ำมันกัญชาเพื่อ การรักษาในภาวะท่ี ‘รอไม่ได้ของผ้ปู ว่ ย’ 4 กลมุ่ โรคทีก่ รมการแพทยแ์ นะน�ำว่า ต่อมา มคี วามคืบหนา้ เชิงนโยบาย การใชส้ ารสกดั กญั ชาจะชว่ ยผปู้ ว่ ยได้ และกติการองรับ เชน่ กัญชง การ และมีหลักฐานวิชาการสนับสนุน เสนอขอแกไ้ ขกฎกระทรวง เปน็ ตน้ ชดั เจน คอื ภาวะคลนื่ ไสจ้ ากเคมบี ำ� บดั โรคลมชักท่ีด้ือต่อยารักษา ภาวะ กลา้ มเนอ้ื หดตวั ในผปู้ ว่ ยปลอประสาท เส่ือมแขง็ และภาวะปวดประสาท

amout (messages) 66 กระแส ‘กัญชา’ ไปไกลกว่าสรรพคุณที่ประกาศรับรอง 75k จำ� นวนข้อความท่มี ีการพดู ถึง ‘กญั ชา’ บนโลกออนไลน์ 50k 25k 0 Jul 2018 Aug 2018 Sep 2018 Oct 2018 Nov 2018 Dec 2018 Jan 2018 Feb 2018 Mar 2018 Apr 2018 May 2018 Jun 2018 บนโลกออนไลน์ จากการส�ำรวจข้อความท่ีมีการ เบาหวาน 7% พารก์ นิ สัน 4% ไมเกรน 3% และสะเกด็ เงนิ พูดถงึ กัญชา โดย WISESIGHT ร่วมกบั สสส. พบวา่ มีจำ� นวน 1 % ถึง 378,400 ข้อความ (กรกฎาคม 2561 – มถิ ุนายน 2562) สว่ นโรคไต 1% เป็นการพดู ถงึ การบรรเทาอาการ โดยเฉพาะในช่วงตัง้ แตเ่ ดือนพฤศจกิ ายน 2561 เปน็ ต้นมา ซ่ึง มีข้อความที่เก่ียวข้องกับประโยชน์ด้านสุขภาพถึง 44,574 ซึ่งพบว่ากลุ่มคนท่ีแชร์ประสบการณ์การใช้กัญชาเพ่ือ ข้อความ หรือคิดเป็น 12% ของจ�ำนวนข้อความทัง้ หมด รักษาโรคในด้านบวก มักอ้างว่า ใช้กับตัวเองแล้วได้ผลจริง หรือคนในครอบครัวใชแ้ ล้วได้ผล ในขณะเดยี วกันพบว่ามีข่าว ในมมุ ของผใู้ ชพ้ บวา่ โรคทไ่ี ดร้ บั การกลา่ วถงึ เมอื่ มคี ำ� วา่ กลมุ่ ผใู้ ชเ้ กนิ ขนาดแลว้ เกดิ อาการรนุ แรงจนตอ้ งพบแพทย์ หรอื ‘กญั ชา’ อนั ดบั 1 คือ โรคมะเรง็ 77% ตามด้วยซมึ เศร้า 7% กล่มุ ท่ใี ชใ้ นขนาดท่ีแนะนำ� แลว้ เกิดอาการข้างเคยี ง เช่นกนั พาร์ก4นิ %สันไม3เก%รนสะ1เก%ด็ เงนิ โ1รค%ไต ในขณะที่ผู้ผลิตสารสกัดกัญชาเพื่อขาย เบาหวาน ผ่านโลกออนไลน์ พบว่า มีการขายผลิตภัณฑ์ กัญชาเพื่อประโยชน์ในการรักษาโรคผ่าน 7% โรคที่ไดŒรบั เฟซบกุ๊ และทวติ เตอรจ์ ำ� นวนมาก เชน่ #กญั ชา ซึมเศรา้ 7% การกล‹าวถึง รกั ษาโรค #สายเขยี ว ซ่งึ ในช่วงระยะเวลา 1 ปี เมือ่ มีคำวา‹ (กรกฎาคม 2561- มถิ ุนายน 2562) พบวา่ มี จ�ำนวนถึง 3,527 ข้อความ โดยพบว่ามีการ “กัญชา” ขายกัญชาในหลายรูปแบบทั้งเจลล่ี สบู่ก้อน แคปซูล ผงนัวร์ ซ่ึงไม่ใช่แค่เพียงน�้ำมันสกัด 77% หรือต�ำรับที่ได้รับการรับรองตามที่ อย.หรือ กรมการแพทย์ หรือการแพทย์แผนไทยและ มะเรง็ การแพทยท์ างเลอื กไดก้ �ำหนดไว้ นอกจากน้ยี ังพบกลมุ่ คนที่ต้องการปลกู กญั ชาเอง โดยใหเ้ หตผุ ลตอ้ งการใชเ้ ปน็ ยารกั ษา โรคต่าง ๆ เพราะประหยัดค่ารักษาพยาบาล หรือใช้รักษาอาการอ่ืนท่ียังไม่ได้รับรอง เช่น ไมเกรน เปน็ ตน้

67 กัญชา เมื่อใช้เป็น ‘ยา’ รักษาโรค มี ข ้ อ มู ล ก า ร ศึ ก ษ า วิ จั ย ร ะ บุ ส า ร ป ร ะ ก อ บ canabinoids ที่อยู่ในกัญชาสามารถใช้ในการรักษาโรค ได้ โดยสารท่ีออกฤทธิ์หลักท่ีน�ำมาใช้ทางการแพทย์คือ delta-9-Tetrahydrocannabinol (THC) ทอ่ี อกฤทธ์ิตอ่ จติ ประสาท และ cannabidiol (CBD) ทไี่ มม่ ฤี ทธเ์ิ สพตดิ 2 และยังมีกลุ่ม terpenes ซ่ึงมีข้อคิดเห็นว่าการออกฤทธิ์ ของกัญชา อาจเกิดจากสารประกอบหลายชนิดรวมกัน ที่เรยี ก Entourage effect อย่างไรก็ตาม การน�ำกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ กรมการแพทย์ได้ให้ความหมายว่า สิ่งท่ีได้จากการสกัด พืชกัญชา เพ่ือน�ำสารสกัดท่ีได้มาใช้ทางการแพทย์ และ การวิจัย ไม่ได้หมายรวมถึงกัญชาท่ียังคงสภาพเป็นพืช หรอื ส่วนประกอบใด ๆ ของพชื กัญชา อาทิ ยอด ดอก ใบ ลำ� ตน้ ราก เป็นต้น สำ� หรบั การใชส้ รรพคณุ ของกญั ชาเพอ่ื เปน็ ยารกั ษา โรค กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดท�ำ ค�ำแนะน�ำการใช้กัญชาทางการแพทย์ ฉบับปรับปรุง คร้ังท่ี 2 (กรกฎาคม 2562) โดยมีข้อตกลงเบ้ืองต้น ทางการแพทยใ์ นการใช้กญั ชาเปน็ ยารกั ษา ดงั น้ี • ไม่แนะน�ำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาในการรักษา และ/ หรือควบคุมอาการของผู้ป่วยเป็นการรักษาล�ำดับแรกในทุก กรณี โดยเฉพาะผลติ ภณั ฑก์ ญั ชาทางการแพทยท์ ย่ี งั ไมผ่ า่ นการ รบั รองต�ำรบั (unapproved product ซง่ึ หมายถงึ ผลติ ภัณฑ์ กัญชาทางการแพทย์ท่ียังไม่ผ่านการรับรองทะเบียนต�ำรับยา จากสำ� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา) • unapproved products ต้องปลอดภัยจากสาร ปนเป้ือนตา่ ง ๆ อาทิ สารโลหะหนัก ยาฆา่ แมลง ยาฆา่ เชอื้ รา และสารอันตรายอ่ืน ๆ ในกรณที ี่ไม่ทราบอตั ราสว่ นของ THC และ CBD ในแต่ละผลติ ภัณฑ์ การใช้อาจทำ� ได้โดยใชป้ รมิ าณ ทน่ี อ้ ยทสี่ ดุ และเพมิ่ ขนาดทลี ะนอ้ ย โดยสงั เกตการตอบสนอง และผลข้างเคยี งท่ีไม่พึงประสงคท์ ่อี าจเกดิ ขึน้ • การใช้ unapproved products ตอ้ งคำ� นึงถึงความ 2คำ� แนะน�ำการใชก้ ัญชาทางการแพทย,์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ ฉบับปรบั ปรงุ ครง้ั ที่ 2/ 2562

68 ปลอดภยั และประสทิ ธผิ ลกอ่ นนำ� มาใช้ รวมถงึ การดแู ล ตดิ ตามผู้ปว่ ยอยา่ งใกลช้ ิด • การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ควรจ�ำกัด เฉพาะกรณีทก่ี ารรกั ษาด้วยวธิ ีมาตรฐานต่าง ๆ ไมไ่ ด้ผล หรือ อาจเกดิ ผลข้างคียงท่ีผู้ป่วยไม่สามารถทนได้ • การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาควรใช้เพ่ือเป็นส่วนเสริมหรือ ควบรวมการรักษาตามมาตรฐาน • ผสู้ งั่ ใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ญั ชาทางการแพทยค์ วรเปน็ แพทย์ ผูเ้ ช่ยี วชาญด้านอายุรกรรม และ/หรอื เฉพาะโรค ทันตแพทย์ ผู้เช่ียวชาญที่ให้การรักษานั้น ๆ หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ทาง ผูส้ ั่งใช้ควรอยู่ภายใตก้ ารกำ� กับดูแล หรอื ได้รับค�ำแนะน�ำ ในการรักษาผูป้ ว่ ยจากบุคคลดังกลา่ วข้างต้น • ผู้สั่งใช้/จ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาต้องผ่านการอบรม หลักสูตรการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่กระทรวงสาธารณสุข รบั รอง และไดร้ ับการอนุญาตการเปน็ ผู้ส่ังใช้/ผจู้ า่ ยผลติ ภณั ฑ์ กญั ชา โรคและภาวะท่ีใช้ผลิตภณั ฑก์ ัญชาทางการแพทย์ โรคและภาวะที่ใช้ผลติ ภํณฑท์ างการแพทย์ ได้ประโยชน์ ไดแ้ ก่ น่าจะได้ประโยชน์ (ในการควบคุมอาการ) หลกั ฐานทางวชิ าการที่มคี ณุ ภาพ สนับสนุนชัดเจน ต้องการขอ้ มลู การศกึ ษาวจิ ยั เพือ่ สนับสนุนตอ่ ไป 1. ภาวะคลื่นไส้อาเจยี นจากเคมบี �ำบดั 1. ผูป้ ว่ ยท่ไี ด้รบั การดแู ลแบบประคับประคอง 2. โรคลมชักท่รี กั ษายาก และโรคลมชักทีด่ ือ้ ตอ่ ยา 2. ผู้ป่วยมะเรง็ ระยะสุดท้าย 3. โรคพารก์ นิ สนั รักษา 4. โรคอัลไซเมอร์ 3. ภาวะกล้ามเนอื้ หดเกร็งในผปู้ ่วยโรคปลอก 5. โรควิตกกงั วลท่ัวไป 6. โรคปลอกประสาทอักเสบ ประสาทเส่ือมแข็ง 4. ภาวะปวดประสาท

69 ส�ำหรับการใช้กัญชารักษาโรคมะเร็ง ค�ำแนะน�ำ จากกรมการแพทย์มองว่า เป็นผลิตภัณฑ์กัญชาทาง การแพทยท์ อ่ี าจไดป้ ระโยชนใ์ นอนาคต เนอื่ งจากมคี วาม จำ� เปน็ ตอ้ งศึกษาถึงประสทิ ธิผลของกญั ชาต่อไป ดังน้นั ผู้ป่วยโรคมะเร็งจึงควรได้รับการรักษาตามวิธีมาตรฐาน ทางการแพทยใ์ นปัจจุบัน หากเลือกใช้เฉพาะผลิตภณั ฑ์ กญั ชาในการรกั ษามะเรง็ แลว้ อาจทำ� ใหผ้ ปู้ ว่ ยเสยี โอกาส ในการรักษามะเรง็ ด้วยวธิ มี าตรฐานได้ จะเห็นได้ว่า โรคท่ีได้รับการรับรองว่าสามารถ ใชผ้ ลิตภณั ฑ์กญั ชาทางการแพทยม์ ีเพียง 4 โรคเท่าน้นั คือ ภาวะคล่ืนไส้อาเจียนจากเคมีบ�ำบัด โรคลมชัก ท่ีรักษายากและโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา ภาวะ กล้ามเน้ือหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และภาวะปวดประสาท ขณะที่โลกออนไลน์ระบุถึง สรรพคณุ ในการใชก้ ญั ชาเพอื่ รกั ษาโรคไปไกลมากกวา่ ท่ี ไดม้ กี ารรบั รอง นอกจากนี้ การใช้กัญชาเพ่ือรักษาโรคยังมี ขอ้ ควรระวงั 3 คอื 1) ผปู้ ว่ ยทมี่ อี ายตุ ำ่� กวา่ 25 ปี เนอ่ื งจาก ผลข้างเคียงท่ีเกิดขึ้นอาจส่งผลต่อสมองท่ีก�ำลังพัฒนา ผู้ส่ังใช้จึงควรวิเคราะห์ความเสี่ยงท่ีอาจเกิดขึ้นก่อน การส่ังใช้ผลิตภัณฑ์จากกัญชา 2) ผู้ท่ีเป็นโรคตับ 3) ผู้ป่วยที่ติดสารเสพติด รวมถึงนิโคติน หรือเป็น ผ้ดู มื่ สรุ าอยา่ งหนกั 4) ผูใ้ ช้ยาอื่น ๆ โดยเฉพาะยากลมุ่ opioids และยากล่อมประสาท อาทิ benzodiaze- pines 5) ผปู้ ่วยเด็กและผู้ป่วยสูงอายุ เนอ่ื งจากยงั ไม่มี ข้อมูลทางวิชาการมากเพียงพอใน 2 กลุ่มนี้ และ กระบวนการดดู ซมึ (metabolism) ของผสู้ งู อายจุ ะชา้ กวา่ จงึ ดเู หมอื นวา่ มกี ารตอบสนองตอ่ กญั ชาไดส้ งู กวา่ ดงั นนั้ ควรเรม่ิ ในปริมาณน้อยและปรบั เพ่มิ ข้นึ ชา้ ๆ 3 กรมการแพทย์ ค�ำแนะนำ� การใช้กญั ชาทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ เมษายน 2562

70 ทิศทางของกัญชา เม่ือใช้เป็นยารักษาโรค ทิศทางใหมข่ อง International Narcotic เช่น กองควบคุมวัตถุเสพติด ส�ำนักงาน Control Board (INCB) ได้จัดท�ำรายงาน คณะกรรมการอาหารและยา ไดอ้ อกประกาศควบคมุ ปคี .ศ. 2018 โดยให้ความส�ำคัญกับการใช้กัญชา ในหลายฉบับ อาทิ การก�ำหนดฉลากและเอกสาร เพอื่ รกั ษาโรคแตย่ งั คงความเขม้ งวด และ ในปคี .ศ. ก�ำกับยาเสพติดให้โทษ หรือค�ำเตือน เป็นต้น5 2019 WHO Expert Committee on Drug มีการอนุญาตใหม้ ีการศกึ ษาวจิ ยั ได้ ในปีพ.ศ. 25626 Dependence (ECDD) ได้จัดท�ำข้อเสนอปรับ ซ่ึงเริ่มมีงานวิจัยจ�ำนวนมากในไทยท่ีมุ่งใช้ประโยชน์ ประเภทยาเสพติดท่ีเก่ียวกับกัญชา ซ่ึงผ่านการ จากกัญชา รวมถึงมีการจัดระบบสืบค้นข้อมูล รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์โดยคณะท�ำงานโดย การอนญุ าตต่าง ๆ เกี่ยวกับกัญชา7 ให้ลดความเข้มงวดลงจากเดมิ เชน่ นำ� Cannabis และ Cannabis Resin ออกจาก Schedule IV ซง่ึ เปน็ ประเภททเ่ี ขม้ งวดมากทส่ี ดุ 4 นอกจากนยี้ งั พบ การข้ึนทะเบียนเป็นยา ในหลายประเทศ เช่น สหรฐั อเมรกิ า สหภาพยโุ รป ออสเตรเลยี นวิ ซแี ลนด์ ในเดือนสิงหาคม 2562 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับการใช้กัญชาทางการแพทย์โดยรักษาความเป็นกลาง สงั่ การใหส้ ถานพยาบาลในสงั กดั กระทรวงสาธารณสขุ มกี ญั ชา เพ่ือสนับสนุนให้มีการนำ� ความรไู้ ปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม และสง่ ผล เพอื่ ใหบ้ รกิ ารกบั ผปู้ ว่ ย รวมถงึ มปี ระกาศกระทรวงสาธารณสขุ ใหป้ ระชาชนไดป้ ระโยชนท์ างสุขภาพสูงสุดจากการใช้กัญชา เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 (ฉบับที่ 2)8 กัญชง หรือพืชสมุนไพรอื่น โดยท�ำงานร่วมกับ อย. กรมการ นอกจากนย้ี งั มกี ารนำ� กญั ชงเปน็ ทางเลอื กใหม่ ทงั้ พชื เศรษฐกจิ แพทย์ และนกั วชิ าการ ซ่ึง สสส.ให้การสนบั สนุนศูนย์วิชาการ ท�ำเสน้ ใยทางอุตสาหกรรม ผลติ เมล็ด และเปน็ แหลง่ CBD เฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) โดยมีคณะเภส้ชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้รับผิดชอบหลัก นอกจากน้ี อย่างไรก็ตาม การใช้กัญชาเพ่ือการรักษายังมี เพ่ือป้องกันการเสพติดกัญชาในกลุ่มเยาวชน จึงได้สนับสนุน องคค์ วามรอู้ ีกมากท่ีต้องมีการศึกษา ในส่วนของบทบาท แผนงานดา้ นยาเสพตดิ ของ สสส.เปน็ ผู้รับผดิ ชอบควบคู่กนั สสส. จะเน้นสนับสนุนการขับเคลื่อนด้านวิชาการที่เก่ียวข้อง 4 https://www.unodc.org/documents/commissions/CND/CND_Sessions/CND_62/41ST_ECDD_RECOMMENDATIONS_-_24_JUNE.pdf 5 http://cannabis.fda.moph.go.th/principle/ 6 http://cannabis.fda.moph.go.th/conclusionreport072019/ 7 http://hemp.fda.moph.go.th/FDA_MARIJUANA/staff/marijuana_report_public 8 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/218/T_0001.PDF

ข้อเสนอแนะจากแผนงานศูนย์วชิ าการเฝ้าระวัง 71 และพัฒนาระบบยา (กพย.) เพื่อให้มีการใช้พชื สมุนไพร ส�ำหรับผู้ป่วยอย่างเหมาะสม 1. รัฐบาลควรสนับสนุนการเข้าถึงกระท่อม และกัญชา โดยเฉพาะโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่มีงานวิจัยในคน รองรับแน่ชัดแล้ว เช่น ส�ำหรับบรรเทาอาการปวด อยา่ งนอ้ ย 3 อาการ คอื 1) ปวดเรอื้ รงั (Chronic pain) 2) ปวดปลายประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน (Neuro- pathy pain) และ 3) ปวดจากอาการเกรง็ ในกล่มุ โรค multiple sclerosis 2. น�ำผู้ใช้กัญชาจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อน�ำเข้าสู่ ระบบและประมวลข้อมูลสถานการณ์ เพ่ือจัดการได้ ทนั การณ์ 3. รัฐบาลควรเร่งจัดต้ังคณะกรรมการพืชยาแห่งชาติ โดยมีสถาบันพืชยาแห่งชาติ เพื่อประสานงาน ทุกส่วน โดยท�ำหน้าที่ติดตามการเคล่ือนไหว เพื่อ ประเมินสถานการณ์การจัดการ เร่งการทบทวน องค์ความรู้ท่ีถูกต้องให้ทันสมัย จัดท�ำแนวทาง นโยบายพืชยาแบบบูรณาการเพื่อให้เกิดประโยชน์ สงู สดุ แกป่ ระเทศและผปู้ ว่ ย กำ� หนดทศิ ทางงานวจิ ยั ทกุ ดา้ นอยา่ งครบวงจร ทงั้ แผนปจั จบุ นั และแผนไทย 4. รัฐบาลควรจัดระบบกฎหมายสําหรับกระท่อมและ กัญชา เพ่ือให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ได้ และเพอื่ ความมน่ั คงของประเทศ ไดแ้ ก่ ประมวล กฎหมายยาเสพติด ให้สอดคล้องกับ UNGASS 2016 ที่ให้ถือว่าผู้เสพ คือ ผู้ป่วย พัฒนานโยบาย และระบบการจดั การยาเสพตดิ แบบบรู ณาการ โดย แยกกลุ่มพืชท่ีใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ออกมา จัดทํา พ.ร.บ.พืชกระท่อมและกัญชาเพื่อเอ้ือให้มี การนำ� มาใชป้ ระโยชนท์ างการแพทย์ และสนบั สนนุ การจัดการเพ่ือความม่ันคงทางยา โดยเฉพาะเร่ือง สิทธิบัตรและการข้ึนทะเบียนยาใหม่จากกระท่อม และกัญชา ขณะเดียวกันควรประเมินทิศทางการ เขา้ ถึงยาจากกญั ชาในรูปแบบตา่ ง ๆ รวมถงึ การใช้ การแพทย์แผนไทยร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ในการเข้าถงึ การใชก้ ญั ชาที่เหมาะสม

72 ชวั ร์ หรอื มัว่ 8 เช่ือได้หรือไม่ สถานการณก์ ารเปดิ รับสอ่ื ของคนไทย ในปี 25621 พบ นอกจากการเปิดรับส่ือออนไลน์แล้ว ในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ วา่ 98% ยังคงเปิดรับสือ่ ทางโทรทศั น์ คนไทย 57 ล้านคน สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือ การเปิดรับส่ือของคนไทย ท่ามกลางความมหาศาล คิดเป็น 79% ของคนไทยท้ังประเทศ ของข้อมูลที่เกิดขึ้นทุก ๆ เสี้ยววินาที ปรากฏการณ์ข่าวลวง 51 ลา้ นคน ใชง้ านโซเชยี ลมีเดียเปน็ ประจำ� ขา่ วหลอก หรอื Fake News จงึ ปะปนอยใู่ นคลน่ื มหาศาลของ ใช้อินเทอร์เน็ต 9 ช่ัวโมง 11 นาที/วัน และอยู่กับ ข้อมูล ท�ำให้คนจ�ำนวนไม่น้อยหลงเชื่อข่าวลวง หรือเป็นส่วน โซเชยี ลมเี ดยี 3 ช่ัวโมง 11 นาท/ี วนั หนึ่งในการเผยแพรข่ ่าวลวงโดยไม่รตู้ ัว 1 ผลส�ำรวจ “Global Digital 2019” สถานการณ์ใชง้ านดจิ ิทัล และอินเทอรเ์ นต็ ประจ�ำปี 2019 จากทวั่ โลกและประเทศไทย, We Are Social และ Hootsuite

73 ปรากฏการณ์ข่าวปลอม ทางสุขภาพในรอบ 1 ปี จากการสำ� รวจพฤตกิ รรมบนโลกออนไลน์ by อาจารย์เจษฎ์’ ‘หมอแล็บแพนด้า’ และ ระหวา่ งเดอื น กรกฎาคม 2561 – มถิ นุ ายน 2562 ‘ความรู้สนุก ๆ แบบหมอแมว’ เม่ือเลือกดู พบว่า 4 เพจ บน Facebook Page ท่ีให้ เฉพาะ 5 ข่าวทีไ่ ด้รบั engagement มากทส่ี ดุ ข้อเทจ็ จริงเกย่ี วกบั Fake News ด้านสขุ ภาพ ของแต่ละเพจ โดยคัดเลือกเฉพาะข่าวท่ีไม่ ไดแ้ ก่ ‘ชวั รก์ อ่ นแชร’์ ‘ออ๋ มนั เปน็ อยา่ งนน้ี เ่ี อง ซ�ำ้ กัน สรุปเปน็ 18 ขา่ ว ไดด้ งั น้ี 1 กัญชารักษามะเร็ง 10 ความฉลาดของลูกไดจ้ ากแม่ 2 องั กาบหนรู กั ษามะเรง็ 11 อาหารเค็มคืออาหารท่ีมไี อโอดนี 3 หนานเฉาเวย่ รักษาสารพัดโรค 12 เนือ้ ไก่มีฮอรโ์ มนเรง่ โต 4 บตั รพลังงานรักษาสารพดั โรค 13 นำ้� มะพรา้ วแก้อาการบ้านหมนุ 5 ไข่มกุ ยอ่ ยยากสะสมตามร่างกาย 14 ไขม่ ุกปลอมทำ� จากยาง 6 ยาฉดี ต้าน HIV 15 ดี คอนแทค รกั ษาดวงตา 7 คนเป็นเบาหวานหา้ มกินทุเรียน 16 ผงชูรสเป็นสารอันตราย 8 ฉจ่ี ักจ่ันรักษาโรค 17 เคร่ืองตรวจสุขภาพควอนต้มั 9 มันหมูสารพัดสรรพคุณ 18 จกุ นมปลอมใส่น�ำ้ ผ้ึงสำ� หรบั ทารก

74 4000 5 ข่าวที่มี 3500 3497 FAKE NEWS จ�ำนวน 3000 ข้อความ น�้ำมันกัญชา อังกาบหนู 2500 มากที่สุด บัตรพลังงาน หนานเฉาเหว่ย 2000 ฉลาดจากแม่มากกว่าพ่อ 1553 ไข่มุกไม่ย่อย 1500 1125 1000 87 50 12 500000 465929 5 ข่าว 180000 5 ข่าว ท่ีได้รับ 160000 158999 ท่ีได้รับ 450000 428695 Engagement การแชร์ 400000 140000 135034 มากที่สุด มากที่สุด 350000 120000 300000 100000 250000 216683 8000 200000 150000 6000 100000 5000 9748 4000 7962 2397 2250 4306 2000 โดย WISESIGHT ร่วมกบั สสส.

75 1 กัญชารักษามะเร็ง 2 อังกาบหนูรักษามะเร็ง 3 หนานเฉาเหว่ย รักษาสารพัดโรค 4 บัตรพลังงาน 5 ไข่มุกย่อยยาก 6 ยาฉีด ต้าน HIV รักษาสารพัดโรค สะสมตามร่างกาย 10 ความฉลาดของลูก ได้จากแม่ จะพบวา่ ประเด็น ‘น�้ำมันกญั ชา, อังกาบหน,ู ในทุกแง่ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ข่าว หนานเฉาเหว่ย และบัตรพลังงาน’ เป็น 4 ข่าว ปลอม การให้ข้อเท็จจริงเก่ียวกับข่าวปลอม หรือ อันดับต้นแห่งปีที่มีข้อความมากท่ีสุด ได้รับ การพูดคุยเกี่ยวกับข่าวปลอมนั้น ๆ ซึ่งพบว่า engagement มากท่ีสุด และได้รับการแชร์มาก Facebook เป็นช่องทางท่ีมีการพูดถึงข่าว ท่ีสุด ขณะที่ข่าวปลอมเรื่อง ‘ความฉลาดของลูก ปลอมมากท่ีสุดถึง 65% ซ่ึงมีทั้งการเผยแพร่ ได้จากแม่มากกว่าพ่อ’ ติดอันดับข่าวปลอมที่ ข่าวปลอม และการให้ข้อเท็จจริงเก่ียวกับข่าว ได้รับ Engagement มากท่ีสุดและได้รับการ ปลอม ตามด้วย Twitter 13% ข้อความจาก แชร์มากทส่ี ุด ส�ำนักข่าวต่าง ๆ ซ่ึงเป็นการให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ส�ำหรับช่องทางที่มีการพูดถึง Fake News ข่าวปลอม 12% Youtube 6% Pantip 3% และ มากที่สุด ซ่ึงในท่ีนี้หมายถึงการพูดถึงข่าวปลอม อินสตาแกรม 1%

76 ข้อค้นพบท่ีส�ำคัญ ปรากฏการณ์ Fake News บนโลกออนไลน์ • Facebook เปน็ ชอ่ งทางทมี่ กี ารพดู ถงึ ขา่ วปลอมมาก • เพจที่เผยแพร่ข่าวปลอมแล้วได้รับยอดแชร์มากที่สุด ทส่ี ดุ สว่ นมากเปน็ เพจทตี่ ง้ั ชอื่ เปน็ สำ� นกั ขา่ ว แตไ่ มใ่ ชส่ อ่ื หลกั • ขา่ วปลอมทนี่ ำ� เสนอเรอื่ งวตั ถดุ บิ ทส่ี ามารถนำ� มารกั ษา • สว่ นเพจทใี่ หข้ อ้ เทจ็ จรงิ เกยี่ วกบั ขา่ วปลอม และไดร้ บั โรคไดม้ มี ากกวา่ ขา่ วทน่ี ำ� เสนอของตอ้ งหา้ มหรอื ขอ้ หา้ มตา่ ง ๆ ยอดแชร์มากที่สุดเป็นเพจส�ำนักข่าวเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้น • เพจทเ่ี ผยแพรข่ า่ วปลอมมากทส่ี ดุ คอื เพจขายสมนุ ไพร หมอแล็บแพนด้า ที่ไม่ใช่เพจส�ำนักข่าวแต่ได้รับยอดแชร์มาก ทม่ี กี ารโพสตข์ า่ วปลอมเดมิ ๆ บอ่ ย ๆ เพอื่ สนบั สนนุ การจำ� หนา่ ย ทส่ี ดุ สนิ คา้ ของตนเอง 5 Facebook Page ที่ให้ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับข่าวปลอมและได้รับการแชร์ ได้มากที่สุด 1736 1375 1000 8742 6053 2000 4000 6000 8000 1000 1200 1400 1600 1800 2000

ผู้สูงอายุตกเป็น ‘เหยื่อ’ 77 ข่าวปลอมมากท่ีสุด! เพราะใส่ใจสุขภาพ ผู้สูงอายุในไทย 75% ใช้ส่ือโซเชียลมีเดีย โดยไม่รู้ - การเรียนรู้จากโรงเรียนผู้สูงอายุ ท�ำสวัสดีวันจันทร์ เท่าทัน2 โดยเฉพาะผู้สูงอายุเพศหญิงตกเป็นเหยื่อสูงสุด3 เลยส่งเพอื่ ฝึกการใช้งาน เพราะใส่ใจสุขภาพ แตไ่ มอ่ ่านฉลาก เชือ่ โฆษณา โดยสือ่ ที่ผู้สูง ปรากฏการณ์ส่งต่อข่าวปลอมมากที่สุดของผู้สูงอายุใน อายใุ ชง้ านมากทส่ี ุด Line (52%) TV (24%) FB (16%) ไทยไม่ต่างไปจากผ้สู ูงอายุทั่วโลก ผลส�ำรวจในโครงการสูงวัยไม่เสพสื่ออย่างสุ่มเส่ียง : นกั วิจยั จากมหาวทิ ยาลัย New York University และ สร้างนักสื่อสารสุขภาวะที่รู้เท่าทันส่ือและสารสนเทศ4 ผู้เข้า Princeton University ได้ส�ำรวจพฤติกรรมการใช้งาน รว่ มโครงการรวม 300 คน ในพืน้ ที่กทม. สกลนคร เชยี งใหม่ โซเชียลมีเดีย5 ของบุคคลต่างวัยพบว่าผู้สูงอายุ โดยเฉพาะ นครศรีธรรมราช สุพรรณบุรี โดยพบว่า ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มวัย บุคคลที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มีแนวโน้มการแชร์ข่าวปลอม ที่มีการเผยแพร่ข่าวปลอม หรือส่งข่าวบิดเบือนมากที่สุด (Fake News) มากท่สี ดุ เมื่อเทยี บกบั กลุ่มผู้ใช้งานในวยั ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบการบริโภคสื่อของผู้สูงอายุในเขตเมือง และ โดยผลการวิจัยยืนยันว่า อายุเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับ ชนบททตี่ ่างกนั พฤตกิ รรมการกระจายขา่ วปลอมมากทส่ี ุด ผู้สูงอายุเขตเมืองเปิดรับไลน์ เฟซบุ๊ก และทีวี โดยมี ผลงานวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร จดุ ประสงคเ์ พอื่ คลายเหงา หาขอ้ มลู สนิ คา้ และบรกิ าร แตไ่ มใ่ ช้ วิชาการ ScienceAdvances โดยส�ำรวจข้อมูลตั้งแต่ปี ตรวจสอบข้อมลู 2016 ในช่วงเทศกาลเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ขณะทผ่ี สู้ งู อายใุ นชนบท เปา้ หมายการใชง้ านไมเ่ ฉพาะ ซงึ่ เปน็ ชว่ งทมี่ ี Fake News ในสอื่ สงั คมออนไลนม์ ากทสี่ ดุ โดย เจาะจง เปิดทั้งวันเพื่อความบันเทิง ให้ความเชื่อถือสื่อทีวี ท�ำการทดลองผ่าน 3,500 คน ผ่านแอปพลิเคชันที่ มากที่สุด ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นทีวีจานด�ำเป็นหลัก ซ่ึงช่องทางนี้ เชอื่ มตอ่ กบั Facebook ซ่ึงพบว่า ผใู้ ชง้ านท่มี ีวยั มากกวา่ 65 เน้นการโฆษณาขายของ รองลงมาคือ สื่อบุคคล ปัญหาที่พบ ปี กระจายข่าวปลอมถึง 11% เมื่อเทียบกับตัวเลขของ ในการใชส้ อื่ ของผ้สู ูงอายุในชนบท คือ หลงเชอื่ โฆษณาทางทวี ี ผู้ใช้งานวัย 18-29 ปี ที่มีการแชร์ข่าวหลอกเพียง 3% เช่น อาหารเสริม เรื่องสุขภาพเชื่อข้อมูลจากคนบอกต่อ ซึ่ง นอกจากน้ีกลุ่มผู้สูงอายุยังแชร์บทความที่มีเน้ือหาหรือข้อมูล ไมไ่ ดก้ ลนั่ กรอง ไมไ่ ดอ้ า่ นจนจบ ขาดทกั ษะการรบั สง่ ขอ้ มลู ดว้ ย ปลอมมากกวา่ บุคคลในวยั ทำ� งานถึง 2 เทา่ และคดิ เปน็ 7 เท่า ตนเอง เม่อื เทยี บกับกล่มุ วยั รนุ่ ตอนตน้ จนถึงตอนปลาย ท้ังนี้โดยส่วนใหญ่ผู้สูงอายุจะสนใจข้อมูลสุขภาพ และ ใหค้ วามเชอื่ ถอื กบั สอื่ ทวี ี ส่อื บคุ คล เพอื่ นผ้สู ูงอายุดว้ ยกันและ รู้จัก Fake News ลูกหลาน ข่าวลวง ข่าวหลอก ผลการศกึ ษายงั พบปญั หาอ่ืน ๆ ในการใชส้ ่ือดิจทิ ลั ของผสู้ ูงอายุ ไดแ้ ก่ ขา่ วลวง คอื ขอ้ มลู เทจ็ ทเี่ ปน็ โทษ ซงึ่ มที ง้ั การสง่ ตอ่ ความ - ใช้ยาก ซับซอ้ น รุนแรงเชิงโครงสร้าง ก่อให้เกิดการกล่ันแกล้งกันทางไซเบอร์ - ตดั สินใจไม่ได้ เป็นเครื่องมือทางการเมือง ก่อให้เกิดการสร้างวาจาเกลียดชัง - เสยี ความม่ันใจ กังวลใจ ตลอดจนถึงการโฆษณาเกนิ จรงิ สง่ ตอ่ ความเชอื่ ทีผ่ ิด - กดไลกเ์ พราะเกรงใจเพ่ือน เทคนิคที่ใช้ในข่าวลวงมีท้ังการสร้างข้ึนใหม่ทั้งหมด - ขอ้ ความยาว อา่ นไม่จบ ส่งเลย ท้ังภาพและเน้ือหา บิดเบือนหรือแก้ไขข้อเท็จจริงอย่าง - ไมร่ กู้ ารตง้ั ค่าความปลอดภยั แนบเนยี น การใช้ข้อมลู เท็จประกอบภาพเหตุการณจ์ ริง - ไม่รู้เป็นมัลแวร์ (Malicious Software โปรแกรม ชนิดหน่ึงที่ถูกสร้างข้ึนมาเพ่ือประสงค์ร้ายต่อคอมพิวเตอร์) ขอ้ มลู ไหนควรส่งตอ่ หรอื ไม่ 2 ผลสำ� รวจการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในครัวเรือน พ.ศ. 2560 โดยส�ำนกั งานสถติ ิแห่งชาติ 3 ผลการวิจยั การทำ� การตลาดกับกลุ่มผสู้ งู อายุ ปี 2561, วิทยาลัยการจัดการ มหาวทิ ยาลับมหิดล (CMMU) 4 โครงการสูงวยั ไม่เสพส่ืออยา่ งสมุ่ เสย่ี ง : สร้างนักสื่อสารสุขภาวะทีร่ ้เู ทา่ ทันสอ่ื และสารสนเทศ, สถาบนั วิจยั ภาษาและวฒั นธรรมเอเชยี มหาวิทยาลยั มหิดล ร่วมกบั สสส., ก.พ. 2562 5 https://advances.sciencemag.org/content/5/1/eaau4586

78 S ตัวอย่างการแก้ปัญหา ส�ำนักข่าวรอยเตอร์7 Fake News ในไต้หวัน6 ข่าวลือ ขา่ วปลอม มักแพรก่ ระจาย อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาภัยพิบัติ หรือเกิด ไต้หวันมีการต้ังมาตรการทั้งเชิงรับ และเชิงรุกต่อข่าวลือ วิกฤติ เพราะความต่ืนตระหนกของผู้คน ข่าวลวง โดยมาตรการเชิงรับจะมีการตอบสนองต่อข่าวลวง ซ่ึงปราศจากการตรวจทานขอ้ เทจ็ จรงิ การ (disinformation) ภายใน 60 นาที ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ ทนั ทว่ งที ตรวจสอบข่าวลวงของรอยเตอร์จึงใช้ทั้ง เพราะหากช้าไปจากน้ีจะยากต่อการรับมือ มีการน�ำเอารูปแบบ เทคนิคการตรวจสอบรูปหรือคลิป โดยใช้ Collaborated Checking (CoFacts) ผา่ นชอ่ งทาง Line @cofacts image search และมุ่งเน้นไปท่ีการใช้ เพื่อร่วมกันตรวจสอบข่าวปลอมหรือข่าวลือต่าง ๆ มีการใช้ bot ภาพจริงท่ีปราศจากการตกแต่งหรือตัดต่อ หลักการคือ สามารถพิมพ์ข่าวที่สงสัยลงไป จากน้ัน bot จะตอบ เป็นหลัก มีการติดต่อกับแหล่งที่มาของ กลับว่าเป็นข่าวจริงหรือเท็จ รวมท้ังการใช้มาตรการทางกฎหมาย เนอ้ื หา เชน่ ดขู อ้ มลู จากดาวเทยี ม เจา้ หนา้ ท่ี ต่อสู้กับข่าวปลอม เช่น การเปิดเผยแหล่งท่ีมาของเงินทุนบริจาค ทอ้ งถนิ่ หรอื ผคู้ นในพน้ื ท่ี เพอื่ ตรวจสอบขอ้ หรอื คา่ โฆษณาในการรณรงคห์ าเสยี งตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหค้ นทว่ั ไปสามารถ เท็จจริงก่อนเผยแพรข่ ่าวนนั้ ส่สู าธารณะ เข้าไปตรวจสอบสบื ค้นได้ ขณะท่ีมาตรการเชิงรุก มีการเปิดช่องทางให้สาธารณชน สามารถส่งค�ำถามมายังหน่วยงานเพือ่ จะได้รับการแกไ้ ข หรือไดร้ บั ค�ำตอบ รวมถงึ การท่ปี ระชาชนลงช่ือทุก ๆ 5,000 คน ในประเดน็ ใด ๆ กระทรวงดิจิทลั จะต้องรับเรื่องน้ันเข้ามาพิจารณา มีการจัด อบรมรู้เท่าทันข่าวลวงในกลุ่มเด็กประถมศึกษา มีการพัฒนา แพลตฟอรม์ จากเครือข่ายสงั คม เช่น Line Messaging และ Line Today ทำ� ใหผ้ คู้ นสามารถเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มในการบง่ ชี้ และดแู นวโนม้ ที่ก�ำลังเป็นท่ีนิยมในขณะที่ใช้แพลตฟอร์ม รวมถึงการสร้างความ ตระหนกั แกส่ าธารณชน โดยภาครฐั สนบั สนนุ งบประมาณเพอ่ื พฒั นา ทีวีซีรียเ์ พ่ือส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้ของสาธารณชน และ ส่งเสรมิ การรเู้ ทา่ ทันสอ่ื ให้เปน็ หลกั สูตรของโรงเรียน VERA Files องค์กรตรวจสอบข่าวปลอมในฟิลิปปินส์8 ฟิลิปปินส์ ประเทศท่ีประชากรส่วนใหญ่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อวันมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ เป็นประเทศที่มีการหล่ังไหลของข่าวลวง ข่าวปลอมเกิดข้ึนจ�ำนวนมาก จึงเกิด VERA Files องค์กรต่อต้านข่าวปลอมโดยใช้ www.factcheck.ph ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซ่ึงเป็นเคร่ืองมือท่ีตั้งอยู่บนหลักการท่ีว่า “ใคร ๆ ก็สามารถเป็นผู้ตรวจสอบ ข้อเท็จจรงิ ได”้ จากประสบการณ์ขององค์กรตอ่ ต้านขา่ วลวงในฟลิ ิปปนิ ส์ พบว่า สว่ นใหญ่แลว้ ขา่ วลวงเกิดขนึ้ ไดจ้ าก 3 เทคนิค ประกอบ ดว้ ย 1) เทคนิคการแต่งเร่อื งขึ้นมาใหม่ท้งั หมด 2) เทคนิคการใหข้ อ้ มูลท่บี ิดเบอื น และ 3) เทคนิคการใชเ้ หตกุ ารณท์ ่เี กดิ ขึ้นจรงิ สถานการณ์จริง แต่ให้ข้อมูล ใช้หัวข้อหรือภาพที่ไม่ตรงกับเหตุการณ์น้ัน ๆ เมื่อพบว่าข่าวนั้นปลอมจะขึ้นข่าวดังกล่าวพร้อม ประทับขอ้ ความสีแดงตัวใหญ่วา่ ‘ข่าวปลอม’ เพ่อื ใหเ้ ห็นเดน่ ชดั ในเวบ็ ไซตแ์ ละสื่อสังคมออนไลน์ 6 Audrey Tang รัฐมนตรวี ่าการกระทรวยดจิ ทิ ัลไต้หวนั ​, การประชมุ นานาชาติ Fake News 17 ม.ิ ย. 62 ณ โรงแรมปทมุ วนั ปรนิ้ เซส 7 Nur-Arng Sanusi Thomson Reuters, การประชมุ นานาชาติ Fake News 17 มิ.ย. 62 โรงแรมปทมุ วันปร้ินเซส

79 เยอรมนี9 ชัวร์ ก่อนแชร์ ของไทย10 ในเยอรมนีมีการใช้งานเฟซบุ๊ก 32 ล้านคน คิดเป็น เร่ิมขึ้นเม่ือปี 2015 ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ 38.4% ของประชากร แต่กย็ งั น้อยกวา่ ประเทศไทยซ่งึ มผี ใู้ ช้ MCOT HD ในช่วงขา่ วภาคค่ำ� โดยท�ำการตรวจสอบขอ้ เท็จ งานถงึ 45 ล้านคน ซง่ึ คิดเป็น 71% ของประชากร ซ่งึ 8 ใน จรงิ ในเรอื่ งทถี่ กู เผยแพรใ่ นสอ่ื สงั คมออนไลน์ โดยเนอื้ หาของ 10 ของข่าวปลอมในเยอรมนี มีเน้ือหาหลัก คือ ประเด็น ชวั รก์ อ่ นแชรจ์ ะถกู ผลติ ในรปู แบบทหี่ ลากหลายและนำ� เสนอ ผ้ลู ้ภี ัยและอาชญากรรม ในหลายช่องทาง เพราะแตล่ ะช่องทางทำ� หน้าทตี่ า่ งกัน เชน่ เมื่อต้องเผชิญกับข่าวปลอมจะท�ำการตรวจสอบโดย เม่ือต้องการเตือนคนจะใช้ Facebook/Line/Twitter เม่ือ แบง่ ออกเปน็ 3 ด้านกว้าง ๆ คือ 1) ข่าวปลอมนั้นมีการปรับ ต้องการประกาศ/แจ้งข้อมูล จะใช้ Facebook/twitter/ เปล่ียนหรือตกแต่งไฟล์มากน้อยเพียงใด 2) พิจารณาบริบท Instagram/MCOT radio/MCOT HD ส่วนเม่ือต้องการ แวดลอ้ มทเ่ี กดิ หรอื แพรก่ ระจายขา่ วปลอมนน้ั และ 3) พฒั นา เกบ็ เปน็ คลงั ข้อมูลจะใช้ Youtube / Website เพือ่ เป็นคลงั เทคโนโลยีเพื่อใช้ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างทันท่วงที ข้อมูลให้ผู้ท่ีสนใจได้ค้นหาข้อมูล เพราะเนื้อหาจะมีค่ากับ ซง่ึ ต้องมกี ารตรวจสอบภายใน 24 ชว่ั โมง คนคนหน่ึงเมื่อเขาอยากรู้ข้อมูลน้ัน ๆ และเม่ือมีข่าวลวง สำ� หรบั มาตรการต่อต้านข่าวปลอม แบง่ เปน็ 4 ด้าน ชัวร์ก่อนแชร์นิยมใช้วิธีทำ� อินโฟกราฟิก ขนาด A4 ประทับ คือ 1) ความร่วมมือ : ผ่านแพลตฟอร์มเพื่อให้เกิดความ ตรา มว่ั อยา่ แชร์ พร้อมเคร่อื งหมายกากบาททับภาพนั้น ซ่ึง โปรง่ ใส โดยจะตอ้ งรายงานแหลง่ ทมี่ าของขา่ วใหเ้ จา้ หนา้ ทร่ี ฐั เป็นวธิ ีทไี่ ด้รับความนยิ มจากประชาชนมากท่ีสดุ ได้รับทราบ และเป็นการท�ำงานร่วมกับเครือข่าย รวมถึง ปัจจุบันศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์มีพันธมิตร เช่น เฟซบุ๊ก ผู้ตรวจสอบในระดับท้องถ่ิน โดยจะต้องไม่ค�ำนึงถึงเรื่อง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กองทุนพัฒนาส่ือปลอดภัยและ ผดิ ถกู เทา่ นนั้ แตค่ ำ� นงึ ถงึ ความเหมาะสมและสภาพบรบิ ทดว้ ย สร้างสรรค์ Cofacts เป็นต้น เพ่ือจัดกิจกรรมให้ประชาชน 2) การตรวจสอบโดยใชร้ ะบบ AI เพอ่ื ตอบโตก้ บั ขา่ วปลอม 3) และเยาวชนรู้เท่าทันส่ือและบางองค์กรยังช่วยตรวจสอบ การใหค้ วามรแู้ กเ่ ดก็ และเยาวชนในระดบั โรงเรยี น และ 4) ใช้ ขา่ วลวง เชน่ Cofacts มาตรการทางกฎหมาย โดยกฎหมายต้องตอบสนอง จะเห็นได้ว่า การแก้ปัญหาข่าวลือ ข่าวปลอม ไม่ อยา่ งทนั ท่วงที สามารถฟ้องด�ำเนินคดี เรยี กคา่ ปรบั หรือส่งั สามารถใชว้ ธิ กี ารใดวธิ กี ารหนงึ่ โดยเฉพาะได้ แตจ่ ะตอ้ งไดร้ บั ใหข้ า่ วปลอมนน้ั ออกได้ ความรว่ มมอื จากหลายภาคสว่ น 8 Lucille S Sodipe VERA Files, การประชมุ นานาชาติ Fake News 17 มิ.ย. 62 ณ โรงแรมปทมุ วันปร้นิ เซส 9 Mario Brandenberg German Parliament, การประชุมนานาชาติ Fake News 17 ม.ิ ย. 62 ณ โรงแรมปทุมวันปรน้ิ เซส 10 พรี พล อนตุ รโสตถ์ิ รกั ษาการผจู้ ัดการศูนย์ชัวร์กอ่ นแชร์ ของส�ำนกั ขา่ วไทย อสมท., การประชุมนานาชาติ Fake News 17 ม.ิ ย. 62 ณ โรงแรมปทุมวนั ปริ้นเซส

80 1โด0ยเศคูนลย็ดช์ ลว่ ับยสเงัหเลกอืตขF่าaวcปeลbอoมok ท่องคาถา “หยุด คิด ถาม ท�ำ” 1. สงสัยข้อความพาดหัว ข่าวปลอมมักมีข้อความ ช่วยผู้สูงวัยรู้เท่าทันส่อื พาดหัวที่ดึงดูดความสนใจโดยใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ท้ังหมด และ เครอ่ื งหมายอัศเจรยี ์ หากขอ้ ความพาดหัวทนี่ า่ ตน่ื ตระหนกฟงั ผลการศึกษาโครงการสูงวัยไม่เสพส่ืออย่างสุ่มเส่ียง : ดไู มน่ ่าเช่อื ถือ ข่าวน้นั นา่ จะเปน็ ขา่ วปลอม สรา้ งนกั สอื่ สารสขุ ภาวะทร่ี เู้ ทา่ ทนั สอ่ื และสารสนเทศ พบวา่ มี 2. สงั เกตท่ี URL URL หลอกลวง หรอื ดคู ลา้ ย อาจ กุศโลบายในการน�ำคาถา “หยุด คิด ถาม ท�ำ” มาใช้เป็น เป็นสัญญาณของข่าวปลอมได้ เว็บไซต์ข่าวปลอมจ�ำนวนมาก เคร่ืองมือในการรู้เท่าทันส่ือ ด้วยการท�ำเป็นลูกประค�ำติดตัว เปลย่ี นแปลง URL เพียงเล็กนอ้ ยเพื่อเลยี นแบบแหล่งข่าวจรงิ เพ่ือให้อย่ารีบตัดสินใจเช่ือสื่อทันที คิดก่อนว่าดีหรือไม่ แล้ว คุณอาจไปที่เวบ็ ไซต์เพื่อเปรยี บเทียบ URL กับแหลง่ ข่าวทม่ี ี จงึ ถาม นนั่ คือการหาขอ้ มลู แลว้ คอ่ ยตดั สินใจทำ� 3. สงั เกตแหลง่ ทม่ี า ตรวจดใู หแ้ นใ่ จวา่ เรอื่ งราวเขยี น ขึ้นโดยแหล่งที่มาท่ีน่าเชื่อถือ และมีชื่อเสียงด้านความถูกต้อง หากเรอ่ื งราวมาจากองค์กรทช่ี อ่ื ไม่ค้นุ เคย ใหต้ รวจสอบที่ส่วน “เกย่ี วกบั ” เพ่อื เรียนรเู้ พิม่ เติม 4. มองหาการจดั รปู แบบทไี่ มป่ กติ เวบ็ ไซตข์ า่ วปลอม จ�ำนวนมากมักมีการสะกดผิดหรือวางเลย์เอาต์ไม่ปกติ โปรด อ่านอยา่ งระมัดระวังหากคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้ 5. พิจารณารูปภาพ เร่อื งราวข่าวปลอมมกั มรี ูปภาพ หรือวิดีโอที่ไม่เป็นความจริง บางคร้ังรูปภาพอาจเป็นรูปจริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับบริบทของเร่ืองราว คุณสามารถค้นหาเพ่ือ ตรวจสอบไดว้ า่ รปู ภาพเหล่าน้ันมาจากท่ีไหน 6. ตรวจสอบวันท่ี เรื่องราวข่าวปลอมอาจมีล�ำดับ เหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุผล หรือมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ของ เหตุการณ์ 7. ตรวจสอบหลักฐาน ตรวจสอบแหล่งข้อมูลของ ผู้เขียนเพ่ือยืนยันว่าถูกต้อง หากไม่มีหลักฐานหรือความน่า เช่ือถือของผู้เช่ียวชาญท่ีไม่มีช่ือเสียง อาจระบุได้ว่าข่าว ดังกล่าวเป็นขา่ วปลอม 8. ดรู ายงานอน่ื ๆ หากไมม่ แี หลง่ ทมี่ าอนื่ ๆ ทรี่ ายงาน เร่ืองราวเดียวกัน อาจระบุได้ว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม หากมีการรายงานข่าวโดยหลายแหล่งข่าวที่คุณเชื่อถือได้ มีแนวโนม้ ว่าข่าวดงั กล่าวจะเปน็ ขา่ วจรงิ 9. เร่ืองราวน้ีเป็นเรื่องตลกหรือไม่ บางคร้ังอาจแยก ข่าวปลอมจากเรื่องตลกหรือการล้อเลียนได้ยาก ตรวจสอบดู ว่าแหล่งที่มาของข่าวข้ึนชื่อเรื่องการล้อเลียนหรือไม่ และราย ละเอียดตลอดจนนำ�้ เสยี งของขา่ วฟงั ดเู ปน็ เรือ่ งตลกหรอื ไม่ 10. เรื่องราวบางเรื่องอาจตั้งใจเป็นข่าวปลอม ใช้ วิจารณญาณเพื่อคิดวิเคราะห์เรื่องราวที่คุณอ่าน และแชร์ เฉพาะขา่ วท่ีคณุ แน่ใจวา่ เชื่อถือไดเ้ ท่านั้น

81 มาช่วยกันรายงานข่าวปลอม ด้วย 3 ข้ันตอนง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว หากพบขา่ วหรือเน้อื หาท่ีสุ่มเส่ียงวา่ เป็นข่าวปลอม ในฐานะผบู้ ริโภคสามารถหยุดการเผยแพรข่ องข่าวดังกลา่ ว ไดด้ ้วย 3 วธิ ีงา่ ย ๆ ดงั น้ี 1 คลกิ : มุมบนขวาของโพสต์ท่มี ีเนอ้ื หาเข้าข่าย 2 เลือกปัญหาท่พี บเจอ 3 กดส่งเพอื่ รายงานตอ่ ข่าวปลอม จากน้ันกดเลือก “คน้ หาการสนับสนุนหรอื รายงานโพสต์” facebook ผู้ดูแลระบบ มาตรการต้านข่าวลวง ท่ีส�ำคัญ ในไทยไปต่ออย่างไร การป้องกัน ข่าวลวง • การส่งเสริมให้มีการเปิดเผยข้อมูล หรือ Open Data และ Tech civil society ประกอบกบั การสง่ เสรมิ คือหน้าท่ี จรยิ ธรรมสอ่ื มวลชนในการสบื คน้ ความจรงิ กอ่ นการเผยแพร่ ของทุกคน เพราะความเร็วของข่าวตลอดจนความรับผิดชอบของ ในสังคม แพลตฟอร์ม เช่น facebook, Line, Twitter ที่ต้อง ทำ� งานร่วมกับประชาชน และสื่อมวลชน • สร้างกลไกที่เข้มแข็งสกัดข่าวลวง ประกอบด้วย สนับสนุนให้ภาคประชาชนช้ีเป้าข่าวลวง มีกลไกคุ้มครอง เครอื ขา่ ยทีท่ �ำงานดา้ นข่าวลวง

82 ชวี ติ ตดิ ฝนุ่ อนั ตราย 9 (PM 2.5 และหมอกควัน) ฝุ่น PM 2.5 นับเป็นเร่ืองใหม่ส�ำหรับสังคมไทยที่ จากการติดตามตรวจสอบคณุ ภาพอากาศ โดย กรม เรม่ิ กล่าวถงึ กนั มากขน้ึ ในชว่ ง 2-3 ปที ่ผี ่านมา ควบคมุ มลพษิ ยอ้ นหลงั 8 ปี ต้ังแต่ปี 2554 – 2561 ใน โดยเฉพาะในชว่ งเดอื นธนั วาคม 2561 – เมษายน 2562 กรงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล พบวา่ ฝนุ่ PM 2.5 มคี า่ เกนิ เกณฑ์ พบปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน ดังจะเห็น มาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในช่วงเดือน ได้จากสภาพภูมิอากาศในกรุงเทพฯ และเขตเมืองใหญ่ มกราคม – มนี าคม และปลายปเี ดอื นธันวาคม โดยเฉพาะ ที่มีหมอกควนั เทาปกคลุมท่วั พนื้ ที่ ตง้ั แตว่ นั ที่ 1 มกราคม – 27 มนี าคม 2561 ในพน้ื ทกี่ รงุ เทพฯ ในชว่ งเวลาเดยี วกนั (12 กมุ ภาพนั ธ์ 2561) รฐั บาลได้ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเร่ิมมีแนวโน้มสูงข้ึน ประกาศให้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติที่ต้อง จนอยรู่ ะดับเกนิ เกณฑม์ าตรฐาน1 เร่งแก้ไข PM2.5 1ทรโพัครยงากการรธศรึกรมษชาแาตหแิ ลล่งะกส�ำเ่ิงนแิดวดแลละอ้ แมนวทางการจัดการฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในพื้นท่ีกรุงเทพและปริมณฑล , กรมควบคุมมลพิษ กระทรวง

83 ความเข้มข้นฝุ่นละออง PM 2.5 รายวัน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2554-2561 ไมโครก ัรม / ลูกบาศก์เมตร ปี 2554 ปี 2558 ที่มา : สุพฒั น์ หวังวงศ์วัฒนา ปี 2555 ปี 2559 ปี 2556 ปี 2560 ปี 2557 ปี 2561 สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกคร้ังในช่วง จ.เชยี งใหม่ คา่ ฝนุ่ อยใู่ นระดบั สงู เกนิ มาตรฐานหลายพนื้ ท่ี เวลาเดยี วกนั ในปี 2562 (เดอื นมกราคม – มนี าคม 2562) และอันตรายส�ำหรับคนอยู่อาศัยท่ีอยู่ในพื้นท่ีเสี่ยง จากรายงานของกรมควบคุมมลพิษ พบสถานการณ์ และ จ.พะเยา ในพ้ืนที่ ต.บา้ นต๋อม วดั ค่าฝุ่น PM 2.5 ฝนุ่ PM 2.5 ในกรงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล รวมถงึ หวั เมอื ง ได้ 164 ไมโครกรมั ตอ่ ลกู บาศก์เมตร ซึ่งเกินมาตรฐาน ใหญ่มีค่าฝุ่นPM 2.5 เกินมาตรฐาน โดยภาคเหนือ ถงึ 3 เทา่

84 ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จ.ขอนแกน่ มรี ายงานปญั หาฝนุ่ ละอองโดยผวู้ า่ ราชการ จังหวัด ว่าเกิดจากการเผาอ้อยเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ถนนมิตรภาพเต็มไปด้วยฝุ่น ละอองในอากาศ โดยพบวา่ ดชั นคี ณุ ภาพอากาศในเขตอำ� เภอเมอื ง วดั ไดท้ ี่ 159 ขณะท่ี ฝุ่น PM 2.5 มีค่า 72 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เช่นเดียวกับ จ.ชัยภูมิ ใน อ.ภักดีชุมพล ท่ีเกิดปรากฏการณ์ไฟป่าพื้นท่ีอุทยานแห่งชาติไทรทองเผาผลาญ พ้ืนท่ีป่า 5,000 ไร่ และในพ้ืนที่ภาคกลาง พ้ืนท่ีกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรสาคร และนครปฐม มี ปรมิ าณฝนุ่ PM 2.5 เกนิ คา่ มาตรฐาน และคณุ ภาพอากาศอยใู่ นระดบั ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพ เชน่ เดยี วกบั จ.ราชบรุ ี ทมี่ คี า่ ฝนุ่ PM 2.5 75 ไมโครกรมั ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร และ คา่ ดชั นคี ณุ ภาพอากาศ 162 ซง่ึ อยใู่ นเกณฑท์ เ่ี รม่ิ มผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพประชาชน ปรมิ าณฝนุ่ PM 2.5 กลายเปน็ ความสนใจของประชาชนอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั ในชว่ ง ต้นปี 2561 นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ซึ่งชี้ถึงความสนใจต่อสภาวะแวดล้อมของ กลุ่มคนชั้นกลางและคนรุ่นใหม่ ดังจะเห็นได้จากการพูดถึงฝุ่น PM 2.5 นับตั้งแต่ มกราคม 2561 – ตลุ าคม 2562 มีจ�ำนวนถึง 120,386 ข้อความ โดยเฉพาะในช่วง เดือนมกราคม 2561 – มีนาคม 2562 ท่ีมีการพูดถึงจ�ำนวนมาก ซึ่งเป็นช่วงเวลา เดยี วกบั ทป่ี รมิ าณฝนุ่ PM 2.5 เพมิ่ ขน้ึ ฝุ่น PM 2.5 120,386 ข้อความ 40 20 *Data period : 1 Jan 18 - 15 Oct 19 ประเดน็ ทม่ี กี ารพดู ถงึ ฝนุ่ PM 2.5 บนโลกออนไลน์ สว่ นใหญค่ อื ผลกระทบตอ่ สุขภาพร่างกายโดยรวม (66%) ท้ังคุณภาพชีวิต ร่างกายท่ีได้รับผลกระทบจากโรค ต่าง ๆ ผิวท่ีเกิดผ่ืนคัน อีกท้ังสัตว์เล้ียงก็ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 เช่นกัน การเกดิ ฝนุ่ PM 2.5 ยงั สง่ ผลตอ่ คนทเี่ คยออกกำ� ลงั กายกลางแจง้ ไมส่ ามารถทำ� ไดต้ าม ปกติ นอกจากนย้ี งั มกี ารเรยี กรอ้ งใหภ้ าครฐั เรง่ ออกมาแกไ้ ขปญั หา โดยระบวุ า่ วธิ กี าร แก้ปัญหาของภาครัฐเป็นการแก้ท่ีปลายเหตุมากกว่าท่ีต้นเหตุ เช่น การฉีดน้�ำเพื่อลด PM 2.5 อยา่ งไรกต็ าม บางสว่ นมองวา่ ปญั หาฝนุ่ เปน็ ปญั หาทจี่ ดั การไดย้ าก และไมเ่ ปน็ หนา้ ทขี่ องรฐั บาลเพยี งฝา่ ยเดยี ว

85 ฝุ่น PM 2.5 ผลกระทบ: คุณภาพชีวิต ภาครัฐ: นโยบาย/การแก้ปัญหา ความอันตรายของฝุ่น ฉีด/พ่นน้�ำ/ฝนเทียม หากเทียบกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ใน เปน็ ปญั หาเรอ้ื รงั เกดิ จากการขาดจติ สำ� นกึ ไมค่ ำ� นงึ สอ่ื สงั คมออนไลนก์ บั ปญั หาหมอกควนั ในภาคเหนอื ถึงผลกระทบท่ีจะตามมา ดังน้ันรัฐบาลหรือ พบว่า มีการพูดถึงในช่วงเวลาท่ีใกล้เคียงกัน คือ หน่วยงานท้องถ่ินควรส่ือสารให้เห็นถึงผลกระทบ ระหวา่ งเดือนกุมภาพนั ธ์ – เมษายน 2562 ทัง้ น้ี ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการเผา ประกอบกบั การเพมิ่ บทลงโทษ จากการเจาะลกึ ถงึ ความคดิ ของคนบนโลกออนไลน์ กบั ผทู้ ด่ี ำ� เนนิ การเผา และมองวา่ ภาครฐั ควรออกมา ตอ่ ปญั หาหมอกควนั ผคู้ นมองวา่ การเผาปา่ นา ไร่ แกป้ ญั หาอยา่ งจรงิ จงั นอกจากนกี้ ระแสบนโลกออนไลนย์ งั มกี ารพดู ถงึ หนา้ กากกนั ฝนุ่ และเครอื่ งฟอกอากาศ เนอื่ งจาก เข้าใจถึงผลกระทบที่มีต่อสุขภาพ โดยให้เหตุผลถึงความตระหนักถึงความส�ำคัญ วิธีการเลือกซ้ือ และการเข้าถึง ส�ำหรับหน้ากากอนามัยกันฝุ่นมีการสะท้อนถึงราคาค่อนข้างสูง กระทบต่อค่าใช้จ่าย ในการดำ� เนนิ ชวี ติ

86 รู้จักฝุ่นพษิ PM 2.5 ฝุ่นท่ีฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศมีหลายขนาดปะปนกัน พบว่า การฉีดนำ�้ รดถนน หรอื ฉีดละอองนำ้� ในอากาศอาจช่วย ฝุ่นที่มีขนาดใหญ่จะตกสู่พื้นดินเร็ว แต่ฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า ลดฝุ่นขนาดใหญ่ในอากาศ แต่มีประสิทธิภาพลดฝุ่นขนาด หรอื เทา่ กบั 100 ไมครอน จะแขวนลอยอยใู่ นอากาศเปน็ เวลา เลก็ กว่า 2.5 ไมครอนไดน้ อ้ ยมาก นาน จึงได้รับการจัดเป็นสารมลพิษ ซึ่งสามารถแยกออกมา ท่ีส�ำคัญกว่าคือ ‘โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง สารก่อ เปน็ กลุ่มทเี่ รียกว่า “ฝ่นุ ทมี่ ขี นาดเล็ก” (Particulate Matter: ภูมิแพ้’ ท่ีมาพร้อมกบั ฝุ่น PM) โดยสว่ นที่มีขนาดเล็กกว่าหรอื เท่ากบั 10 ไมครอน หรือ PM 2.5 แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้�ำ ควัน PM 10 จะไม่สามารถผ่านการกรองของจมูกเข้าสู่ทางเดิน และก๊าซต่าง ๆ การท่ีมีขนาดเล็กแต่เม่ือแผ่รวมกันแล้วจะมี หายใจ แตห่ ากมีขนาดเล็กกวา่ หรือเท่ากบั 2.5 ไมครอน หรอื พื้นผิวรวมกันมหาศาล ท�ำให้สามารถพาสารต่าง ๆ ลอยใน PM 2.5 จะรอดจากการดักจับของทางเดินหายใจ เข้าไปถึง บรรยากาศรอบตวั ไดใ้ นปรมิ าณสงู โดยเฉพาะ ‘โลหะหนกั ’ ที่ ถุงลมฝอยของปอดได้โดยตรง กอ่ ใหเ้ กดิ โรคทางระบบประสาททง้ั ตะกว่ั ปรอท (ทม่ี าของโรค PM 2.5 ท่ีเราก�ำลังกล่าวถึง จึงเป็นสารมลพิษชนิด นินามาตะ) แคดเมยี ม (ที่มาของโรคอิไต อิไต) รวมถงึ สารหนู หนงึ่ ทีเ่ ปน็ ‘ฝ่นุ ’ และ ‘ละออง’ ของแข็งหรือเหลว ทีม่ ีขนาด ‘สารก่อมะเร็ง’ เช่น พีเอเอ็ช (Polycyclic Aromatic อนุภาคเล็กกว่าหรือเท่ากับ 2.5 ไมครอน (บางส่วนอาจเล็ก Hydrocarbons, PAH) ‘สารก่อการกลายพันธุ์ อย่าง กว่า 0.1 ไมครอน) ท่ีแขวนลอยและฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ไดออกซิน’ นอกจากนี้ยังมีเช้ือจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อ แหล่งก�ำเนิดของ PM 2.5 มีทั้งจากธรรมชาติและ สขุ ภาพของคนอยหู่ ลายชนิด และยังสามารถท�ำปฏกิ ิรยิ ากับ จากกจิ กรรมของมนุษย์ สารก่อภูมิแพใ้ นอากาศและกระตุ้นให้โรคภูมแิ พ้ก�ำเรบิ ซ่ึงแหล่งก�ำเนิดส�ำคัญท่ีก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ สารอินทรีย์คาร์บอนและธาตุคาร์บอนที่ ไดแ้ ก่ โรงไฟฟา้ (โดยเฉพาะโรงไฟฟา้ ถา่ นหนิ ) โรงงานอตุ สาหกรรม อยู่ในPM 2.5 ซึ่งปล่อยมาจากไอเสียยานพาหนะ ยงั ส่งผลต่อ ไอเสียจากยานพาหนะ และการเผาชีวมวลทางเกษตรในที่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ธาตุคาร์บอนกระตุ้นให้ โลง่ แจง้ เตาเผาขยะ การกอ่ สรา้ ง การปง้ิ ยา่ ง รวมทง้ั การปลอ่ ย อุณหภูมโิ ลกสงู ขึ้น สารเคมีบางชนดิ ไอโซพรีนจากป่าก็เป็นสาเหตขุ องการสรา้ ง จะเหน็ ไดว้ า่ PM 2.5 นอกจากจะส่งผลกระทบเชงิ ลบ ฝนุ่ PM 2.5 ไดเ้ ชน่ เดยี วกนั 2 และจากรายงานการศกึ ษาแหลง่ โดยตรงตอ่ สขุ ภาพ เพราะเขา้ สถู่ งุ ลมไดโ้ ดยตรงแลว้ ยงั เกย่ี วขอ้ ง กำ� เนดิ และแนวทางจดั การฝนุ่ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน กบั ความแปรปรวนของสภาพภมู อิ ากาศอย่างเลีย่ งไมไ่ ด้ ในพื้นท่ีกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษ 2 สมดุ ปกขาวอากาศสะอาด , เครอื ข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย . พ.ค. 62

87 อันตรายของ PM 2.5 รุนแรงมากกว่าท่ีคิด โดย เฉพาะ ‘เด็ก’3 และผู้สูงอายุ PM 2.5 เปน็ สาเหตกุ ารเสยี ชวี ติ อนั ดบั 5 ของประชากร ที่น่ากังวล คือ การเจริญเติบโตทางกายภาพ และ โลก ในปี 2558 องค์การอนามัยโลกจงึ ประกาศวา่ ในปี 2559 สมรรถนะของปอดในระยะถดถอย จนอาจทำ� ใหเ้ กดิ โรคถงุ ลม ทวั่ โลกมีผ้เู สียชีวติ จากมลพิษทางอากาศ 7 ลา้ นคน ซง่ึ 91% โป่งพองเหมอื นกับคนทีส่ ูบบหุ รี่ อีกท้งั ทารกในครรภม์ ารดามี เกิดในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิก การเจรญิ เตบิ โต และอยู่ในชว่ งกำ� ลงั พฒั นาอวัยวะต่าง ๆ เชน่ ตะวันตก ปอด และสมอง การได้รับมลพษิ ในชว่ งนอ้ี าจส่งผลระยะยาว ฝ่นุ พษิ ขนาดเลก็ เมอ่ื ถกู สูดเขา้ ไปสามารถผา่ นลงไปลกึ ตอ่ อวัยวะตา่ งๆ ถงึ หลอดลมฝอย และถงุ ลมทเ่ี ปน็ สว่ นปลายสดุ ของปอด กอ่ ให้ เกิดการระคายเคือง และเกิดการอกั เสบเฉียบพลนั และเร้อื รงั ผลวิจยั พบ ฝุ่น PM 2.5 สง่ ผลกระทบตอ่ ทำ� ใหค้ นทเี่ ปน็ โรคระบบการหายใจเรอ้ื รงั เกดิ อาการกำ� เรบิ ทง้ั การเสียชวี ติ ของผสู้ งู อายุ ในวยั 75 ปขี นึ้ ไป5 โรคจมกู อกั เสบ ภมู แิ พ้ โรคหดื และโรคถงุ ลมโปง่ พอง และอาจ จากการศึกษาผลกระทบของฝุ่นต่อการ ท�ำใหเ้ กิดมะเรง็ ปอดเพม่ิ ขนึ้ ซง่ึ ผลงานวิจัยลา่ สุด4 พบวา่ กลุ่ม เสยี ชีวติ รายวนั ของผู้มีอายุเกนิ 75 ปี ในประเทศ ประชากรท่ีได้รับ PM 2.5 ในระดับสูงจะมีความเส่ียงกับ ญี่ปุ่นและสเปนพบว่า ในประเทศญ่ีปุ่นมีการ การเป็นโรคตับ โรคไต โรครูห์มาติก โรคอัลไซเมอร์ และ ทำ� นายวา่ หากทำ� การลดระดบั ฝนุ่ PM 2.5 ลง โรคเบาหวาน เหลือ 10 ไมโครกรัมตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร จะช่วย ลดจำ� นวนผเู้ สยี ชวี ติ ไดอ้ กี 3,602 ราย ในจำ� นวน เด็กจัดเป็นกลุ่มที่มีความเส่ียงสูงต่อการได้รับ นี้ 77% เป็นกลุม่ ผู้มีอายุมากกว่า 75 ปี ผลการ ผลกระทบ เพราะ ศึกษาสรุปได้ว่า การปรับปรุงคุณภาพอากาศ • เดก็ หายใจเรว็ กวา่ ผใู้ หญ่ มสี ดั สว่ นปรมิ าตร สามารถลดจ�ำนวนผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ การหายใจตอ่ น้�ำหนักตวั สงู กวา่ ผใู้ หญ่ จงึ มโี อกาส โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับการศึกษาใน ได้รับมลพิษทางอากาศรวมถึง PM 2.5 มากขึ้น ประเทศสเปนท่พี บวา่ ความเข้มข้นรายวนั ของ • ร่างกายท่ียงั ไมส่ งู ระดบั จมูกใกลพ้ ้นื ซง่ึ ฝนุ่ PM 2.5 มผี ลกระทบอย่างมากต่อการเสีย อากาศไม่ถ่ายเท และมลพิษบางชนิดสะสมสูง ชวี ติ ของผมู้ อี ายเุ กนิ 75 ปี ในกรงุ มาดรดิ จำ� เปน็ จงึ มีโอกาสไดร้ ับมลพษิ ทางอากาศมากข้ึน ตอ้ งลดปรมิ าณการจราจร ซึ่งเป็นสาเหตสุ ำ� คญั • ระบบตา้ นทานตอ่ สง่ิ แปลกปลอมไมว่ า่ จะ ของมลพษิ ในเมอื ง เป็นเยื่อบุทางเดินหายใจ ระบบภูมิคุ้มกันยัง เจรญิ ไมเ่ ตม็ ท่ี ไมส่ ามารถปอ้ งกนั ไดเ้ ตม็ ประสทิ ธภิ าพ 3​สมุดปกขาวอากาศสะอาด. เครอื ข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย . พ.ค.62 4t​wBoerCnaantsakdyi,aSn.,pSrmovairngciaes.sEi,nAv.i,ro...n&mEednwtaolrtrheys,eSa.r,c(h2,011466).,8F5in-9e1p. aอr้าtงicใuนlสaมteุดปaกirขpาoวlอluากtiาoศnส​ aะnอdาดs.yเsคtรeือmขiา่cยaอuาtกoาimศสmะอuาnดe ปrhรeะuเทmศaไทticย disease in 5ท​รโพัคยรงากการรธศรรึกมษชาาแตหแิ ลล่งะกส�ำิง่ เแนวิดดแลลอ้ ะมแนวทางการจัดการฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในพ้ืนท่ีกรุงเทพและปริมณฑล, กรมควบคุมมลพิษ กระทรวง

88 มาตรฐานคุณภาพอากาศท่ีดี ควรอยู่ระดับใด องค์การอนามัยโลกได้ออกแนวทางก�ำหนดมาตรฐาน เพ่ือปรบั ปรงุ คุณภาพอากาศ คุณภาพอากาศ (Air Quality Guideline : AQG) เพ่ือเป็น สำ� หรับประเทศไทย เพ่งิ มกี ารเพ่ิม PM 2.5 เข้ามาใน หลักเกณฑ์กลางให้ทุกประเทศใช้อ้างอิง โดยช้ีว่าไม่มีระดับ รายการสารมลพิษท่ีต้องตรวจวัดและควบคุมตั้งแต่ปี 2553 ปริมาณสารมลพิษระดับใดที่ถือได้ว่าปลอดภัยส�ำหรับทุกคน โดยเลอื กใชเ้ ปา้ หมายระหวา่ งทางระดบั ท่ี2ขององคก์ ารอนามยั โลก เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนในแต่ละช่วงเวลาต่างกัน มากำ� หนดเปน็ มาตรฐานคณุ ภาพอากาศของประเทศ ซง่ึ ปจั จบุ นั ตวั เลขทก่ี ำ� หนดไวจ้ งึ เปน็ “คา่ เปา้ หมาย” ทมี่ หี ลกั ฐานวชิ าการ เป็นมาตรฐานระดับเดียวกับมาเลเซยี และเกาหลีใต้ อย่างไร สนับสนุนว่าเป็นระดับปริมาณสารมลพิษที่มีผลกระทบต่อ ก็ตาม ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายหรือมาตรการอะไร สุขภาพนอ้ ยทีส่ ุดทีย่ อมรับได้ โดยแนวทางนไี้ ด้กำ� หนดตัวเลข ท่ีบงั คับว่า ตอ้ งมกี ารปรบั เกณฑ์มาตรฐานเปน็ ระยะ อย่างเชน่ ที่สูงขึ้นเป็น 3 ระดับขึ้น เรียกว่า “เป้าหมายระหว่างทาง” หน่วยงาน EPA ของสหรัฐอเมริกา เคยถูกฟ้องร้องเน่ืองจาก (Interim Target) เพอื่ ใหแ้ ตล่ ะประเทศใชก้ ำ� หนดคา่ มาตรฐานท่ี ไมป่ รบั เกณฑม์ าตรฐานตามทบ่ี ทบัญญตั ิของกฎหมายอากาศ สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของตนเอง โดยคาดหวงั ใหม้ กี ารดำ� เนนิ การ สะอาด (Clean Air Act) กำ� หนดไว้ (ไมโเคกรณกรฑัม์รตะอ่ดลับกู PบMาศ2ก.เ์5ม ตร) ค2่า4เฉชลัว่ ่ยี โรมางย ครา่ าเฉยลป่ยีี เป้าหมายระหว่างทางระดับท่ี 1 75 35 เป้าหมายระหว่างทางระดบั ที่ 2 ไทย มาเลเซีย เกาหลีใต้ 50 25 เปา้ หมายระหวา่ งทางระดับที่ 3 ญป่ี ุ่น ไต้หวัน 37.5 15 สหรฐั อเมริกา 35 15 เป้าหมายองคก์ ารอนามยั โลก 35 12 ออสเตรเลีย 25 10 25 8 ทมี่ า: ดัดแปลงจาก ศิวัช พงษเ์ พยี จนั ทร์ และคณะ (2562) อ้างในสมดุ ปกขาวอากาศสะอาด (2562)

89 ท�ำไมค่าดัชนีคุณภาพอากาศที่มาจาก หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ต่างกันในเวลา และสถานท่ีเดียวกัน เนอื่ งจากการหาคา่ ดชั นคี ณุ ภาพอากาศของแตล่ ะ ประเทศหรอื องคก์ ร เชน่ กรมควบคมุ มลพษิ (air4thai. pcd.go.th) The World Air Quality Project (aqicn.org) และ IQ Air (airvisual.com) ใชว้ ิธกี ารท่ี ตา่ งกนั ในรายละเอยี ด เชน่ ชนดิ และจำ� นวนสารมลพษิ คา่ มาตรฐานของสารมลพษิ คา่ ความเขม้ ขน้ ของมลสาร จากการตรวจวัดหรอื จากการท�ำนาย การแบง่ ชว่ งช้ัน ความเข้มข้นของมลสาร ผลกระทบต่อสุขภาพและ ค�ำแนะน�ำแต่ละช่วงชั้นการกำ� หนดสีของแตล่ ะช่วงช้ัน ท่ีน่าสนใจคือ ค่าฝุ่นท่ีปรากฏไม่ได้แจ้งเตือน สถานการณ์ปัจจุบัน แตเ่ ปน็ การรายงานผลเมอ่ื 24 ชวั่ โมงท่แี ลว้ การรายงานค่าดัชนีคุณภาพอากาศ ไม่วา่ จะมาจาก การรายงานของ air4thai.pcd.go.th หรอื airvisual.com เป็นการค�ำนวณจากค่าการตรวจวัดเฉล่ีย 24 ช่ัวโมง ยอ้ นหลงั ผลที่รายงานจึงไม่ไดบ้ อกว่า ผ้ทู อี่ ยู่อาศยั บรเิ วณ นน้ั ณ ปจั จบุ นั และในเวลาตอ่ จากทร่ี ายงานคา่ ดชั นคี ณุ ภาพ อากาศจะไดร้ บั ผลกระทบทางสขุ ภาพอยา่ งไรจากคณุ ภาพ อากาศในบรเิ วณนนั้ จงึ เปน็ เหตใุ ห้ The World Air Qual- ity Project (aqicn.org) เสนอวธิ คี �ำนวณจากค่าเฉล่ีย 3 ช่ัวโมงย้อนหลัง เรียกระบบน้ีว่า Instant-Cast ซ่ึงให้ค่า ดัชนีคุณภาพอากาศท่ีบ่งบอกสถานการณ์ปัจจุบันได้ใกล้ เคยี งมากกวา่ ระบบ Nowcast ของ US EPA (airnow.gov) ทพ่ี ยายามแกป้ ญั หาเดียวกนั แต่ใชค้ า่ เฉลี่ย 12 ชั่วโมง โดย ให้เหตุผลว่าเน่ืองจากสภาพอากาศเป็นพลวัต คุณภาพ อากาศอาจเปลยี่ นแปลงดีข้นึ หรอื แยล่ งในเวลาไมน่ าน ดัง นน้ั คา่ ดชั นคี ณุ ภาพอากาศทคี่ ดิ จากคา่ เฉลยี่ 24 ชว่ั โมงของ การวดั ระดับ PM 2.5 จึงไม่น่าจะเปน็ เครื่องมอื เตือนภัยที่ เหมาะสม

90 ‘ฝุ่น’ ในเมืองกรุง กับ ‘หมอกควัน’ ในภาคเหนือ ต่างกัน หรือเหมือนกันอย่างไร สมุดปกขาวอากาศสะอาดโดยเครือข่ายอากาศ สิ่งท่ีเหมือนกันคือ สะอาด ประเทศไทย ได้มีการระดมความคิดเห็นและ ปัญหาความไม่เป็นธรรม สงั เคราะหค์ วามรจู้ ากแหลง่ ตา่ ง ๆ ประเดน็ หนงึ่ ทน่ี า่ สนใจ คอื ความเหมอื นและความตา่ งระหวา่ งฝนุ่ พษิ ในเมอื งกรงุ คนท่ีอาศัยอยู่ในพ้ืนที่เดียวกัน หายใจ กบั หมอกควันในภาคเหนอื ซง่ึ พบวา่ อยู่ในอากาศเดียวกัน ได้รับผลกระทบ สิ่งทต่ี า่ ง คือ แหลง่ ที่มาและการแกไ้ ขปัญหา ไม่เท่ากนั นอกจากเป็นผลจากปจั จยั ด้าน ฝนุ่ PM 2.5 ในกรงุ เทพฯ พบวา่ มแี หลง่ สำ� คญั จากไอเสยี สุขภาพส่วนบุคคลแล้ว ยังเป็นผลจาก รถดเี ซล การเผาชวี มวล และฝนุ่ ทตุ ยิ ภมู 6ิ สว่ นภาคเหนอื ปจั จยั ทางสงั คมทเ่ี กดิ จากความเหลอื่ มลำ�้ แหล่งที่มาส�ำคัญ คือ การเผาชีวมวลในท่ีโล่ง ท่ีเกิดขึ้น ของการเข้าถึงข้อมูลความรู้ โดยเฉพาะ เป็นประจ�ำทุกปีในช่วงกุมภาพนั ธ-์ เมษายน การเข้าถึงข้อมูลระดับมลพิษ เน่ืองจาก การแก้ปัญหาฝุ่นในกรุงเทพฯ ได้รับการแก้ไข พ้ืนท่ีนั้นไม่มีเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่น ความ ปญั หาอยา่ งเปน็ รปู ธรรมมากกวา่ ภาคเหนอื มกี ารประกาศ เหล่ือมล�้ำของการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกัน หยุดการเรียนการสอน ขณะท่ีภาคเหนือไม่มีการแก้ไข โดยเฉพาะหนา้ กาก N-95 และเครอ่ื งฟอก ใด ๆ เปน็ ระยะเวลาเกือบ 2 เดือน นอกจากมาตรการ อากาศทมี่ รี าคาสงู เมอื่ เทยี บกบั คา่ ครอชพี ห้ามเผาแบบน้ีทุกปี แนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นควันจาก ของประชาชนทวั่ ไป และความเหล่ือมลำ้� แหลง่ กำ� เนดิ ของการเผาในทโี่ ลง่ ยงั ไมม่ แี นวโนม้ วา่ ปญั หา ระหว่างเมืองกับชนบท ท่ีคนใกรุงเทพฯ จะถูกแก้ไข เพราะมีเพียงมาตรการห้ามเผาแบบเหมา หรอื ในเมอื งใหญไ่ ดร้ บั การเอาใจใสจ่ ากรฐั จ่ายเพียงอย่างเดียว ขณะท่ีสาเหตุการเผามีหลายมิติ มากกวา่ ตา่ งจังหวัดหรอื อ�ำเภอรอบนอก เช่น การเผาเพือ่ เตรยี มพื้นทเี่ กษตร (ในพนื้ ทป่ี า่ ) การทำ� ไร่หมนุ เวียน การเผาเพอื่ หาของปา่ ไดแ้ ก่ เห็ด ผักหวาน และลา่ สัตว์ ซึ่งแตล่ ะสาเหตมุ ีวิธจี ัดการทีต่ ่างกัน 6 โครงการศึกษาแหล่งก�ำเนิดและแนวทางการจัดการฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในพ้ืนท่ีกรุงเทพและปริมณฑล, กรมควบคุมมลพิษ กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

91 ประชาชนรับมืออย่างไร7 หากจ�ำเป็นต้องอยู่ในละแวก คนละไม้ คนละมือ งดกอ่ มลพิษ8 พ้ืนที่ท่ีมีฝุ่นพิษ ควรปฏิบัติตามค�ำ ปญั หาฝนุ่ ละออง หรอื ควนั พษิ สาเหตหุ ลกั สว่ นใหญเ่ กดิ จากการกระทำ� ของ แนะน�ำดงั น ้ี มนษุ ย์ หากปรบั พฤตกิ รรมกจ็ ะชว่ ยลดการกอ่ มลพษิ อากาศได้ ขอเพยี งรว่ มมอื กนั • ปดิ ประตหู นา้ ตา่ งไมใ่ หฝ้ นุ่ เขา้ ดงั เชน่ รถยนต์ มาในตวั อาคาร • ใช้น้�ำมันไร้สารตะก่ัวส�ำหรับเคร่ืองยนต์เบนซิน หรือน�้ำมันดีเซลกลั่น • ด่ืมนำ้� มาก ๆ อณุ หภูมติ �่ำสำ� หรับรถเครือ่ งยนตด์ ีเซล • ใช้น�้ำเกลือหรือน�้ำสะอาด • เปล่ยี นนำ�้ มนั เคร่อื งตามกำ� หนดเวลา กล้ัวคอ บ้วนทง้ิ วนั ละ 3-4 ครั้ง ห้าม • ติดตง้ั อปุ กรณ์กรองไอเสยี กลืน • เปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งท่ีมีมลพิษน้อย หันมาเดินทางด้วยระบบขนส่ง • หลีกเล่ียงการท�ำกิจกรรม มวลชน กลางแจ้งที่ต้องออกแรงมาก ๆ โดย เฉพาะการออกก�ำลงั กายกลางแจง้ เศษพืชและวสั ดุการเกษตร ขยะหรือวัสดุเหลอื ใช้ • หากต้องออกจากบ้าน ควร • ลดการเผา แต่ควรน�ำไปท�ำปุ๋ย • ลดการเผาทำ� ลาย สวมหน้ากากอนามัยชนิดกรอง PM หมกั ชวี ภาพ นอกจากพชื ผกั ปลอดภยั ดนิ เปลยี่ นเปน็ รวบรวมวสั ดเุ หลอื 2.5 ได้ และหม่ันเปล่ียนหน้ากาก กจ็ ะไม่ถูกทำ� ลาย ใชไ้ ปขายเพอื่ สรา้ งรายได้ อนามัย ทุกวนั Tip : ฟางข้าวมีประโยชน์ ใช้เพาะ • ลดและเลิกการใช้ • ผู้ท่มี โี รคประจำ� ตัว เช่น โรค เหด็ ได้ อุปกรณ์เครื่องใช้ท่ีมีสาร หอบหดื โรคหวั ใจ โรคปอด ควรเตรยี ม • ปรับเปล่ียนระบบการปลูกพืช ประกอบของสารทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ยาและอุปกรณ์ที่จำ� เป็นติดตัว จากพืชเชิงเด่ียวไปสู่ระบบเกษตรผสม ภาวะเรอื นกระจก เชน่ สาร • งดสบู บหุ ร่ี ผสาน ลดการเผาได้จ�ำนวนมาก คลอโรฟลอู อโรคารบ์ อน (CFC) • ปลกู ต้นไมส้ ูงรอบบ้านสามารถ สรา้ งพืน้ ทสี่ ีเขียว และสารไฮโดรฟลโู อ- คารบ์ อน ชว่ ยกรองอากาศและผลติ ออกซิเจน • ปลูกต้นไม้รอบบ้านเพื่อช่วย (HCFC) • หากมีอาการผิดปกติหลัง กรองฝุน่ และดูดมลพิษ สูดดมฝุ่นหมอกควัน เช่น หายใจ • เลิกสบู บุหร่ี ไมอ่ อก หรือระคายเคอื งแสบตา ควร • หมั่นทำ� ความสะอาดที่อยู่อาศัย รีบไปพบแพทย์ 7 ชีวิตติดฝนุ่ อันตราย, SOOK PUBLISHING 8​ชวี ิตติดฝนุ่ อนั ตราย, SOOK PUBLISHING

92 ภาคประชาชนก็สามารถ ภาคนโยบาย กับการจัดการ รายงานคุณภาพอากาศได้ ในสหรัฐอเมริกา การบังคับใช้ พ.ร.บ.อากาศสะอาด เนอื่ งจากสถานตี รวจวดั คณุ ภาพอากาศมจี �ำนวนจ�ำกดั ปี 25539 (The 1990 Clean Air Act Amendment) มคี ่า ขณะท่ีในปัจจุบันมีเครื่องวัดมลพิษทางอากาศราคาถูก กลางของอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อค่าใช้จ่ายอยู่ท่ี 30 เท่า ทป่ี ระชาชนสามารถเขา้ ถงึ ได้ หนว่ ยงานของรฐั ควรมมี าตรการ แมว้ า่ คา่ ใชจ้ า่ ยในการดำ� เนนิ งานตามมาตรการจะสงู ถงึ 65 พนั ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจวดั มลพิษอากาศ ล้านดอลลารส์ หรฐั ตอ่ ปี แตผ่ ลประโยชนท์ ไ่ี ดส้ ูงกว่าหลายเทา่ ตัว และประมาณว่ามีมูลค่าสูงเกือบ 2 ล้านล้านเหรียญ ประเทศไทยจึงมีความจ�ำเป็นต้องทบทวนกฎหมายให้ทันต่อ สภาพปัญหาในทกุ มิติ ขณะเดียวกันควรมีการจัดการต้นทางของมลพิษ ทั้ง พื้นท่ีเขตเมือง ภาคอตุ สาหกรรม ภาคการเกษตร10 9 โครงการศกึ ษาแหล่งกำ� เนิดและแนวทางการจัดการฝนุ่ ละอองขนาดไมเ่ กิน 2.5 ไมครอนในพนื้ ทกี่ รงุ เทพและปริมณฑล, กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม 10 สมุดปกขาวอากาศสะอาด โดย เครอื ขา่ ยอากาศสะอาด ประเทศไทย พ.ค. 62

93 เขตเมือง • ปรบั ปรุงมาตรฐานไอเสียและนำ�้ มันเชื้อเพลิง ประเทศไทยมกี ารใชม้ าตรฐานไอเสยี และนำ้� มนั ยโู ร 3 (Euro 3) ในรถบรรทกุ ขนาดใหญ่ต้ังแต่ปี 2550 หรือนานกว่า 12 ปี และมีการใช้มาตรฐาน ไอเสยี และน�้ำมนั ยโู ร 4 ในรถบรรทกุ ขนาดเลก็ ต้งั แตป่ ี 2555 หรือนานกว่า 7 ปี ตัวเลขจากกรมขนส่งทางบก ปี 2562 พบว่ามีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและ รถยนตบ์ รรทกุ ไดเ้ พมิ่ ปรมิ าณขนึ้ จากปี 2555-2561 ถงึ จำ� นวน 3,259,945 คนั ขณะ ท่รี ถบรรทกุ ขนาดรวมรถโดยสารเพิม่ ขึ้นจากปี 2550-2561 ถึงจำ� นวน 160,916 คัน ท่ามกลางจ�ำนวนท่ีเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเน่ือง รวมถึงการบังคับใช้มาตรฐานไอเสียและ น้�ำมันยังคงเป็นมาตรฐานเดมิ ไมเ่ ปล่ียนแปลง อยา่ งไรก็ตาม ประเทศไทยมแี ผนท่ีจะยกระดับมาตรฐานไอเสียและนำ้� มันเปน็ ยูโร 5 แต่แผนดังกลา่ วถูกเลอ่ื นออกไปจากปี 2563 เปน็ 2565 และเปน็ ปี 2567 แต่ รฐั บาลมคี วามพยายามเรง่ ให้เร็วข้ึนภายในปี 256611 การปรับปรงุ มาตรฐานน�้ำมันเชอ้ื เพลิงเปน็ Euro 5/6 ควบคไู่ ปกบั การปรับปรงุ มาตรฐานรถยนต์เป็น Euro 5/6 เพ่ือให้เครื่องยนต์สะอาดสามารถใช้งานได้อย่าง มีประสิทธภิ าพ โดยเฉพาะฝุ่นละอองจากรถยนต์ดเี ซลอาจลดไดถ้ งึ 20% รวมถึงการปรับปรุงมาตรฐานรถยนต์เบนซินเป็น Euro 5/6 ควบคู่กับ การปรับปรุงคุณภาพน้�ำมันเช้ือเพลิงจะช่วยลดฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ กา๊ ซไนโตรเจนออกไซด์ และกา๊ ซไฮโดรคารบ์ อน การลดระดบั ฝนุ่ ละอองและการสญู เสยี ดา้ นสขุ ภาพอนามยั คดิ เปน็ มลู คา่ หลายหมน่ื ลา้ นบาท หากมกี ารนำ� มาตรฐาน Euro 5 และ Euro 6 มาใชโ้ ดยเรง่ ดว่ น ยอ่ มจะยงั ผลประโยชนต์ อ่ สขุ ภาพอนามยั ทคี่ มุ้ คา่ กบั การลงทนุ ในภาคอตุ สาหกรรม และ ชว่ ยลดระดบั ฝนุ่ ละออง PM 2.5 ทงั้ ในชว่ งเวลาปกตแิ ละชว่ งวกิ ฤติ หากแตใ่ นชว่ งวกิ ฤติ จะมมี าตรการทเี่ ขม้ งวดเปน็ พเิ ศษเพอื่ ลดระดบั ฝนุ่ ละออง ไดแ้ ก่ การกำ� หนดเขตปลอด มลพษิ การลดแหลง่ กำ� เนดิ มลพษิ ทง้ั ในภาครฐั และภาคประชาชน เชน่ เดยี วกบั มาตรการลดมลพิษทางอากาศของจนี โดยน�ำมาตรฐานไอเสยี รถขนาดเล็ก China 6 มาใช้ก่อนก�ำหนดในจังหวัดกวางดอง มีการค�ำนวณเฉพาะ ผลประโยชนจ์ ากจำ� นวนผเู้ สยี ชวี ติ กอ่ นวยั อนั ควรทล่ี ดลงไดเ้ ทา่ กบั 64.8 พนั ลา้ นบาท ในปี 2573 ซ่ึงเป็นมูลค่ามากกว่า 3 เท่าของต้นทุน จะเห็นได้ว่า ยิ่งมีการบังคับใช้ มาตรฐานไอเสียรถยนต์ก่อนก�ำหนดเพ่ือปรับปรุงคุณภาพอากาศและป้องกันผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเป็นการลงทุนท่ีคุ้มค่าทั้งในระยะสั้นและ ระยะยาว12 • การบูรณาการมาตรการควบคุมมลพิษจากรถยนต์และมาตรการลดก๊าซ เรือนกระจก เช่น การใช้ระบบขนส่งมวลชนเพ่ือลดปริมาณการจราจร ลดปริมาณ การระบายมลพิษ ลดการจราจรติดขัด ลดการใช้เช้ือเพลงิ จะไดผ้ ลตอบแทนท้งั ด้าน สขุ ภาพอนามยั และการลดก๊าซเรอื นกระจก • ใชน้ วตั กรรมจับรถควันด�ำบนทอ้ งถนน เนื่องจากการตรวจสภาพและการ ตรวจจบั ควนั ดำ� บนทอ้ งถนนมขี อ้ จำ� กัด แต่ดว้ ยเทคโนโลยกี ารบันทกึ ภาพอัจฉริยะที่ สามารถพัฒนานำ� มาใชร้ ว่ มกับกล้องวงจรปิด CCTV ของ กทม. จะชว่ ยในการตรวจ จับรถควนั ดำ� ไดอ้ ยา่ งครอบคลมุ และมีประสทิ ธิภาพ • ขยายพนื้ ทสี่ เี ขยี ว สนบั สนนุ การเดนิ ทางทป่ี ลอดมลพษิ เชน่ การใชร้ ถไฟฟา้ ทางจักรยาน และทางเทา้ 11 สมุดปกขาวอากาศสะอาด โดย เครอื ข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย พ.ค. 62 12 โครงการศกึ ษาแหลง่ กำ� เนดิ และแนวทางการจดั การฝนุ่ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอนในพนื้ ทกี่ รงุ เทพและปรมิ ณฑล , กรมควบคมุ มลพษิ กระทรวง ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม

94 องค์การอนามัยโลก ได้เสนอให้เมืองควรมีพื้นท่ีสีเขียวเพ่ือส่งเสริม สขุ ภาพทดี่ ีของประชาชน ไม่น้อยกวา่ 9 ตารางเมตร/คน ประกอบกบั รายงาน เขตเมือง ฉบบั สมบรู ณม์ าตรการในการเพม่ิ และการจดั การพนื้ ทส่ี เี ขยี วในเขตชมุ ชนอยา่ ง ยง่ั ยนื ของกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ระบุวา่ ชมุ ชนขนาด ใหญ่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และเทศบาลนคร ควรมีพ้ืนท่สี ีเขียว ย่ังยืนอย่างน้อย 12 ตารางเมตร/คน โดยข้อมูลจากส�ำนักงานสวนสาธารณะ กรงุ เทพมหานคร ปี 2562 ระบวุ า่ กทม.มแี ผนทจ่ี ะเพม่ิ พน้ื ทส่ี วนสาธารณะใหไ้ ด้ 6.79 ตารางเมตร/คน แสดงใหเ้ ห็นว่ากรงุ เทพฯ ยังคงเป็นเมอื งที่มพี ื้นท่ีสีเขียวไมเ่ พยี งพอต่อ การใหบ้ ริการ (ที่มาขอ้ มลู : กรงุ เทพมหานคร, 2562) พ้ืนท่ีเกษตร มาตรการการเผาในที่โล่ง แม้ว่านโยบายของรัฐเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษทางอากาศจากการเผาใน ท่ีโล่งทง้ั ภาคเกษตร และป่าไมจ้ ะปรากฏอยใู่ นนโยบายของรัฐทกุ ระดับ แต่ยังพบว่า มาตรการหา้ มเผาทแ่ี ตล่ ะจงั หวดั กำ� หนดขนึ้ ตามความเหมาะสมของแตล่ ะพน้ื ที่ ซง่ึ มกั จะเปน็ ชว่ งเดอื นมกราคมถงึ เมษายนของทกุ ปยี งั คงพบ “จดุ ความรอ้ น” จากภาพถา่ ย ดาวเทียมอยู่ทุกพ้ืนที่ ท้ังนี้จึงควรมีการรื้อฟื้นองค์ความรู้เรื่องการก�ำจัดเช้ือเพลิง ลดปรมิ าณเชอื้ เพลิง การเผาตามหลกั วชิ าการ และหลีกวนศาสตร์ ให้มกี ารกระจาย การทำ� งานและงบประมาณดา้ นไฟปา่ หมอกควนั ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทำ� ขอ้ ตกลงร่วมกันระหว่างชุมชนท่ียังมีการท�ำไร่หมุนเวียน ท�ำระบบฐานข้อมูล การใช้ประโยชน์ท่ีดิน ในช่วงห้ามเผาต้องไม่มีการเผา ซ่ึงต้องมีการจัดการเช้ือเพลิง ต่าง ๆ เรยี บร้อยแลว้ รวมทั้งควรจดั ทำ� ระบบฐานขอ้ มลู การใชป้ ระโยชน์ทด่ี นิ ในพนื้ ท่ี ป่าอยา่ งชัดเจน อุตโสรางหงกานรรม มาตรการการเผาในท่โี ล่ง การจัดท�ำบัญชีระบายมลพิษทางอากาศ (Emission Inventory: EI) จาก โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งการได้ข้อมูลในส่วนนี้จะต้องมีกฎหมายบังคับ ซ่ึง สหประชาชาตหิ รอื กลุ่มประเทศ OECD เรียกวา่ Pollutant Release and Transfer Registers หรือ PRTR เนื่องจากประเทศไทยมีโรงงานมากกว่า 140,000 โรงงาน แต่ยังไม่มีการก�ำหนดค่ามาตรฐานของ PM 2.5 ท่ีโรงงานปล่อย จึงไม่สามารถระบุ ไดว้ า่ มีหรือไมม่ โี รงงานท่ปี ลอ่ ย PM 2.5 เกินมาตรฐาน การขาดข้อมูลบัญชีระบายมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นข้อจ�ำกัดที่ท�ำให้การวิเคราะห์แหล่งที่มาของ PM 2.5 ท่ีผ่านมาอาจไม่สะท้อน ความเปน็ จริง โดยเฉพาะกรงุ เทพฯ ที่รายรอบดว้ ยนิคมอตุ สาหกรรม

95 10 ขยะอาหารอาหารสว่ นเกนิ จะจดั การอยา่ งไร ใตว้ ิถแี บบไทย ๆ ขณะท่ีผู้คนในบางประเทศเผชิญปัญหาการบริโภค อาหารมากเกินไป จนเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิต และสารพัดโรคท่ีเกิดจากการรับประทานเกินจ�ำเป็น ผู้คนใน ‘ความม่ันคงทางอาหาร’ ได้กลายเป็นโจทย์ของโลก หลายประเทศกลบั ขาดแคลนอาหาร มสี ถิตบิ อกวา่ แตล่ ะปมี ี ปัจจุบัน และจะยิ่งทวีความท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลก คนทวั่ โลกกวา่ 36 ลา้ นคน หรอื มากกวา่ ครงึ่ ของประชากรไทย อนาคต ทสี่ หประชาชาตไิ ดท้ ำ� นายจำ� นวนประชากรของโลกไว้ ต้องเสียชีวิตเพราะความหิวโหย และทุก ๆ 10 วินาทีจะมเี ด็ก ว่า จะเพ่มิ จาก 7.7 พนั ลา้ นคนในตอนนี้เปน็ 9.7 พันลา้ นคน 1 คน ตายเพราะกนิ อาหารไมเ่ พยี งพอ1 ภายในปี ค.ศ. 2050 หรืออีกเพียง 30 ปีขา้ งหน้า ทม่ี าของปญั หาน้ี ไมใ่ ชเ่ พราะโลกใบนผี้ ลติ อาหารไมพ่ อ มีปากท้องมากมายให้ต้องเล้ียง แต่อาหารจ�ำนวน กับความต้องการ เพราะ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลติ ได้จะกลาย มหาศาลกลับถูกท้ิงลงถังขยะ ท้ังที่ยังไม่ถึงเวลา...เราจะแก้ไข ไปเป็น ‘ขยะอาหาร’ ทั้งท่ีขยะอาหารเหล่าน้ันบางส่วนเป็น ปญั หานไ้ี ดอ้ ยา่ งไร นค่ี อื คำ� ถามทคี่ นทง้ั โลกรวมถงึ ประเทศไทย เพยี ง ‘อาหารสว่ นเกนิ ’ ทยี่ งั รบั ประทานตอ่ ได้ และนา่ จะตกไป ต้องชว่ ยกันหาคำ� ตอบ สทู่ อ้ งของใครสกั คนทตี่ อ้ งการ – แตก่ น็ า่ เสยี ดายทคี่ วามจรงิ กลบั ไม่เปน็ เช่นนนั้ ทมี่ าขอ้ มลู : UN’s World Population Prospects 2019 1 foodtank.com/news/2015/06/world-environment-day-10-facts-about-food-waste-from-bcfn/

96 ขยะในไทย ‘เกนิ คร่งึ ’ เป็นอาหารทีถ่ กู ท้ิง ‘ในน้�ำมปี ลา ในนามีข้าว’ แม้จะเปน็ ค�ำพังเพยทส่ี อ่ื ถงึ ความอดุ มสมบรู ณข์ องประเทศไทย แตใ่ ชว่ า่ คนไทยทกุ คนจะได้ กนิ อมิ่ ไดส้ ารอาหารครบถว้ นในทกุ ๆ วนั ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุน เพอ่ื ความเสมอภาคทางการศกึ ษา (กสศ.) เคยเปดิ เผยขอ้ มลู ชว่ ง ปลายปี พ.ศ. 2561 วา่ มเี ดก็ ไทยราว 400,000-600,000 คน กินอาหารไม่เพียงพอ เพราะครอบครัวยากจน ขณะที่เด็ก ในเมอื ง 10% กำ� ลงั เผชญิ กบั ภาวะอว้ น ปญั หาจงึ ไมใ่ ชอ่ ยทู่ กี่ าร ผลติ อาหารไมพ่ อ แตอ่ ยทู่ ก่ี ารจดั สรรทำ� ใหท้ กุ คนเขา้ ถงึ อาหาร ไดต้ ่างหาก เพราะมีข้อมูลว่าในแต่ละปี ประเทศไทยมีอาหาร เหลอื ทง้ิ จำ� นวนมาก เนื่องจากประเทศไทยไม่เคยมีการเก็บปริมาณขยะ กล่าวโดยสรุป คนไทยทุกคนจะสร้างขยะอินทรีย์ที่ อาหารทชี่ ดั เจน จงึ มกั ยดึ ตวั เลข ‘ขยะอนิ ทรยี ’์ ซงึ่ สว่ นใหญเ่ ปน็ บางสว่ นเปน็ ขยะอาหารเฉลยี่ ปลี ะ 254 กโิ ลกรมั เปน็ อยา่ งนอ้ ย ขยะอาหาร มาอนมุ านแทน มากกวา่ ชาวฝรงั่ เศส 30% และมากกวา่ ชาวอเมรกิ นั 40% ขอ้ มลู จากกรมควบคมุ มลพษิ เผยวา่ ในปี พ.ศ. 2560 ขยะ และขยะอาหารทว่ี า่ ไมใ่ ชแ่ คเ่ ศษอาหารเหลอื ทงิ้ เทา่ นนั้ ที่เกิดขึ้น 64% เป็นขยะอินทรีย์ คิดเป็นปริมาณรวม 17.6 บางส่วนยังเป็นแค่ ‘อาหารส่วนเกิน’ คือท้ิงเพราะกินไม่ทัน ล้านตัน เทียบเท่ากับเคร่ืองบินโดยสารล�ำใหญ่ที่สุดในโลกใน ขายไม่ทัน หรือคิดว่าหมดอายุ ท้ังที่จริงๆ แล้วยังสามารถ เวลาน้ี Airbus A380 จำ� นวน 63,000 หมน่ื ลำ� หรอื เอาไปอดั รบั ประทานได้ ในสนามราชมังคลากีฬาสถานได้ 8 สนามครึ่ง เรียกได้ว่า มหาศาลจนจินตนาการไม่ถูก ที่ส�ำคัญตัวเลขน้ียังเป็นข้อมูล (ทมี่ าขอ้ มลู : เทยี บเคยี งกรณไี ทยรฐั เทยี บขยะตกคา้ งตอ่ ปขี องไทยจะจใุ นสนาม เฉพาะขยะมลู ฝอยทจ่ี ดั เกบ็ โดยเทศบาล ยงั ไมร่ วมถงึ ขยะมลู ฝอย ราชมงั ฯ ไดก้ ส่ี นาม) หรอื อาหารสว่ นเกนิ ทภี่ าคธรุ กจิ จา้ งบรษิ ทั เอกชนเขา้ มาจดั การ

97 อาหารท่ยี งั ไม่ถงึ เวลาทงิ้ แตก่ ก็ ลายเป็นขยะ เวลาดูข้อมูลบนฉลากของอาหารแห้งหรืออาหาร กระปอ๋ ง เชอื่ วา่ หลายคนคงเกดิ ความสบั สนระหวา่ งสญั ลกั ษณ์ ‘ควรบรโิ ภคกอ่ น’ best before, best before end หรอื BB/ BBE กับสญั ลกั ษณ์ ‘วันหมดอายุ’ expiry date, expiration date หรือ EXP/EXD ขอ้ แตกตา่ งระหว่างค�ำศัพท์ 2 คำ� ข้างต้น อย่างแรก แม้ เลยวันดังกล่าวมาแล้ว แต่ก็ยังบริโภคได้ ถึงความสด ความ อร่อย คุณค่าทางโภชนาการอาจจะลดลง แต่ไม่มีปัญหาด้าน ความปลอดภยั สว่ นอยา่ งหลงั คอื หา้ มบรโิ ภคเดด็ ขาดหากเลย วนั ดงั กลา่ วไปแลว้ อยา่ งไรกต็ าม กย็ งั มผี ทู้ ท่ี ง้ิ อาหาร โดยดจู าก วนั BB/BBE และคดิ ไปวา่ เปน็ วนั EXP/EXD จำ� นวนมาก – ลอง ส�ำรวจตัวคุณเองว่าเป็นหน่ึงในน้ันหรอื ไม่ เวลาพูดถึงปัญหา ‘ขยะอาหาร’ อีกค�ำท่ีมักถูกพูดถึง เคยี งกนั เสมอกค็ อื ‘อาหารสว่ นเกนิ ’ คำ� คำ� นแี้ ปลวา่ อะไร และ ทั้ง 2 ค�ำมคี วามแตกต่างกันอย่างไร ‘อาหารส่วนเกิน’ ก็คือ อาหารที่ผลิตหรือซื้อมาเกิน ความต้องการจนต้องทิ้ง ท้ังที่ยังไม่ได้กินหรือยังเก็บไว้กินได้ ถ้าเป็นผู้บริโภค ก็เช่น ของสดท่ีกินไม่ทัน หรืออาหารแห้ง อาหารกระปอ๋ ง ทเี่ ลยวนั best before แลว้ ทง้ิ เพราะเขา้ ใจผดิ คดิ ว่าเลยวนั expiry date, รา้ นคา้ ปลีก เชน่ อาหารท่เี หลือ จ�ำหน่าย ซื้อมาสต๊อกไว้เกินจ�ำเป็น, ร้านอาหาร/ภัตตาคาร/ โรงแรม เช่น อาหารบุฟเฟต์ท่ียังกนิ ได้ และแหลง่ ผลติ อาหาร ทางการเกษตร เชน่ อาหารที่ช�ำ้ จากการบรรจหุ ีบหอ่ และการ ขนส่งทไ่ี ม่ได้คณุ ภาพ เป็นต้น ส่วน ‘ขยะอาหาร’ ก็คือเศษอาหาร เปลือกอาหาร, อาหารแหง้ อาหารกระปอ๋ งทถ่ี งึ วนั หมดอายแุ ลว้ , อาหารทเี่ อา ไว้แต่งจานให้สวยงาม หรืออาหารท่ีเน่าเพราะจัดการไม่ดี เปน็ ตน้ ขอ้ แตกตา่ งสำ� คญั กค็ อื บรโิ ภคไมไ่ ดแ้ ลว้ หากฝนื กนิ ไป อาจมีปญั หาด้านความปลอดภัย

98 ข้อแตกต่าง ‘อาหารส่วนเกิน’ vs ‘ขยะอาหาร’2 แหล่งผลติ ท่ีส�ำคัญ อาหารส่วนเกิน ขยะอาหาร (อาหารทีส่ ามารถนำ� กลบั มารับประทานได)้ (อาหาร เศษอาหารที่ไมส่ ามารถรบั ประทานได)้ ครัวเรือน - อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ที่เลยวัน - เศษอาหาร เปลอื กอาหาร ‘ควรบริโภคก่อน’ (Best Before หรอื BB/ - อาหารแหง้ อาหารกระป๋อง ท่ี BBE) ซึ่งยงั ไมห่ มดอายุ แต่รสชาติ คุณภาพ หมดอายุ (Expired Date, EXP/ ลดลง EXD) จากการซ้ือเกินความ - อาหารสด ทก่ี ินไม่ทนั จำ� เปน็ ร้านคา้ ปลกี - อาหารท่ีเหลือจากการจ�ำหนา่ ย - เศษอาหาร เปลอื กอาหาร - อาหารแห้ง อาหารกระป๋องที่เลยวัน ควรบริโภคก่อน (Best Before หรือ BB/BBE) - การส่ังซื้ออาหารสดจากร้านค้าปลีกใน ปรมิ าณมาก ทำ� ใหเ้ หลอื อาหารสด จากการ ขายในปรมิ าณมาก ร้านอาหาร/ภัตตาคาร/ - อาหารบุฟเฟ่ต์ทย่ี งั กินได้ - อาหารที่ใช้แค่บางส่วน เพื่อ โรงแรม - อาหารเหลือเพราะทำ� อาหารมากเกนิ ไป ปรุงแต่งจาน โดยไม่ค�ำนึงถึง แหล่งผลิตอาหาร ความสญู เสีย ทางการเกษตร - เศษอาหาร เปลือกอาหาร - อาหารช้�ำ จากการบรรจุหีบห่อและการ - อาหารเน่า เพราะจดั การไม่ดี ขนสง่ ไมไ่ ดค้ ุณภาพ - เปลอื กอาหาร แตไ่ มว่ า่ จะเปน็ อาหารสว่ นเกนิ หรอื ขยะอาหาร เสน้ ทางสดุ ทา้ ยกม็ กั จะไปรวมกนั ในกองขยะในฐานะ ‘ขยะอนิ ทรยี ’์ อย่ดู ี และดว้ ยวธิ จี ดั การขยะของประเทศไทยทย่ี งั ไมค่ อ่ ยมปี ระสทิ ธภิ าพมากนกั ทำ� ใหอ้ าจเกิดปญั หาอ่ืน ๆ ตามมา 2 www.stopfoodwaste.ie/food-we-west/why-we-waste-food/

99 จะแยกขยะท�ำไม... สุดท้ายก็น�ำมาทิ้งรวมกัน? วิธีจัดการขยะของประเทศไทยในปัจจุบัน 43% ใช้วิธี การเผาในเตาควบคมุ (หรอื นำ� ไปผลติ เปน็ ปยุ๋ ) ซง่ึ หากเปน็ ขยะ อาหาร กจ็ ะมคี วามชน้ื ทต่ี อ้ งใชพ้ ลงั งานความรอ้ นจากเชอื้ เพลงิ มากขนึ้ ทเ่ี หลอื 57% ยงั ใชว้ ธิ ฝี งั กลบหรอื ถมกลางแจง้ ทำ� ให้ เกดิ มลพษิ ตามมา เชน่ การกระจายของเชอ้ื โรคตา่ ง ๆ ลงสแู่ มน่ ำ้� ลำ� คลอง เนอ่ื งจากขยะอาหารเปน็ พาหะนำ� โรค อกี ทง้ั ยงั สง่ กลนิ่ เหมน็ และสง่ ผลตอ่ สขุ ลกั ษณะในการดำ� รงชวี ติ ของประชาชน ในขณะทีห่ ลายประเทศตง้ั เป้าไม่ให้มีการฝงั กลบขยะที่ เปน็ อาหารเลย (zero landfill) สหประชาชาติเร่ิมสนใจปัญหาขยะอาหารอย่างจริงจัง จงึ รณรงคใ์ หป้ ระเทศตา่ ง ๆ หาวธิ จี ดั การปญั หานี้ ถงึ ขนั้ ระบไุ ว้ ในเปา้ หมายการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื (Sustainable Development Goals - SDGs) ขอ้ ท่ี 12.3 ใหล้ ดการสญู เสยี อาหาร (food loss) และขยะอาหาร (food waste) เหลือครึ่งหน่ึงจากปัจจุบัน ภายในปี ค.ศ. 2030 หรอื อกี 10 ปขี า้ งหนา้ เทา่ นนั้ ขณะทว่ี ราวธุ ศลิ ปอาชารมว.กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ประกาศว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงเริ่มต้น การดาํ เนนิ งานเกบ็ ขอ้ มลู และจดั การเรอ่ื งการสญู เสยี อาหารและ ขยะอาหาร โดยบรรจเุ รอ่ื งปญั หาขยะอาหารไวใ้ นแผนขบั เคลอื่ น การผลติ และการบรโิ ภคทย่ี งั่ ยนื พ.ศ. 2560-2579 มเี ปา้ หมาย ลดขยะอาหารใหไ้ ด้ 5% ตอ่ ปี แตป่ ญั หาในการจดั การขยะอาหารของไทย ไมใ่ ชแ่ คเ่ พยี ง วธิ จี ดั การขยะทว่ั ไป ยงั รวมถงึ วธิ ที งิ้ ขยะของคนจำ� นวนไมน่ อ้ ยที่ ไมไ่ ด้ ‘แยกขยะ’ ทงิ้ ตามสถี งั สนี ำ้� เงนิ -ขยะทว่ั ไป สแี ดง-ขยะ อนั ตราย สเี หลอื ง-ขยะรไี ซเคลิ และสเี ขยี ว-เศษอาหาร/ขยะเปยี ก จากการตรวจสอบขอ้ ความทพ่ี ดู ถงึ การแยกขยะกอ่ นทง้ิ ลงถงั บนโลกออนไลน์ กวา่ 3.7 หมน่ื ขอ้ ความ ระหวา่ งเดอื น กรกฎาคม พ.ศ.2561 ถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ.2562 พบว่า สาเหตทุ ผี่ คู้ นจะ ‘แยกขยะ’ มอี าทิ นำ� ไปขายตอ่ ลดโลกรอ้ น/ ชว่ ยสง่ิ แวดลอ้ ม แยกตามศลิ ปนิ ทช่ี อบ และเหน็ ใจคนเกบ็ ขยะ สว่ นสาเหตทุ ผี่ คู้ นจะ ‘ไมแ่ ยกขยะ’ มอี าทิ เชอื่ วา่ จะถกู นำ� ไป เทรวมกนั อยดู่ ี ขเี้ กยี จ/มกั งา่ ย ไปจนถงึ ไมร่ วู้ ธิ แี ยก

100 เหตผุ ลท่คี นแยกแยะ ขายต่อ ลดโลกรอ้ น แยกตามไอดอล ชว่ ยส่ิงแวดลอ้ ม เห็นใจคนเกบ็ ขยะ เหตุผลท่คี นไม่แยกแยะ เชื่อวา่ คนเก็บขยะ ขเี้ กยี จแยก/ จะเทรวมอยดู่ ี มกั ง่าย ทม่ี าขอ้ มลู : ไวซไ์ ซท์ ไมร่ วู้ ิธี การแยก เบื้องหลังการรณรงค์ให้แยกขยะ ก็เพราะขยะ อาหารบางสว่ นยงั นำ� ไปใชป้ ระโยชนอ์ น่ื ๆ ได้ ไมค่ วรถกู นำ� ไปทง้ิ ในทนั ที เพราะหากขยะอาหารมสี ง่ิ อน่ื มาปะปน เช่น กระดาษทิชชู ไม้จิ้มฟัน หรือขยะประเภทอื่น ๆ ที่สุดแล้วการจะคัดแยกเพื่อน�ำไปใช้ต่อหรือรีไซเคิล กอ็ าจจะสรา้ งตน้ ทนุ ทสี่ งู เกนิ ไป แต่ข้อเสนอให้แยกขยะ อาจเป็นข้อเสนอในเชิง บคุ คล/ครวั เรอื น ยงั มขี อ้ เสนอในเชงิ องคก์ ร โดยเฉพาะใน ภาคธรุ กจิ ทงั้ หา้ งสรรพสนิ คา้ รา้ นคา้ ปลกี ภตั ตาคาร และ บรษิ ทั ตา่ ง ๆ ใหเ้ ขา้ มาชว่ ยจดั การกบั ปญั หาขยะอาหาร หรอื อาหารสว่ นเกนิ ดว้ ย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook