Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือสื่อมวลชล

คู่มือสื่อมวลชล

Published by Chalermkiat Deesom, 2017-10-09 21:32:42

Description: คู่มือสื่อมวลชล

Keywords: คู่มือสื่อมวลชล

Search

Read the Text Version

ราชรถปนื ใหญ/่ ราชรถรางปนื 150

ใช้จ�ำนวนพลฉุดชัก ๗๔ นาย คือด้านหน้า ๕๖ นายดา้ นหลัง ๑๘ นาย องคท์ ่สี าม ขนาดกวา้ ง ๓.๘๖ เมตร ยาว๑๒.๙๕ เมตร สงู ๖.๘๔ เมตร นำ�้ หนกั ๓.๖๕ ตนั ใชจ้ ำ� นวนพลฉดุ ชกั ๗๔ นาย คอื ดา้ นหนา้ ๕๖ นาย ดา้ นหลงั ๑๘ นายราชรถปืนใหญ/่ ราชรถรางปืน ราชรถปืนใหญ่หรือราชรถรางปืน เป็นราชรถเชิญพระโกศพระบรมศพ พระศพของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศท์ ที่ รงรบั ราชการทหารเมอื่ ครงั้ ดำ� รงพระชนม์ชีพ แทนพระยานมาศสามล�ำคานตามธรรมเนียมเดิมจากพระบรมมหาราชวงั หรอื วงั ของพระบรมวงศพ์ ระองคน์ นั้ ๆสู่พระเมรุมาศ หรือพระเมรุ และแห่อุตราวัฏ (เวียนซ้าย)รอบพระเมรมุ าศ พระเมรุ ๓ รอบ ธรรมเนยี มใหมน่ ้เี กดิ ขน้ึในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในการพระราชพธิ พี ระราชทานเพลงิ พระศพจอมพล พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมหลวงนครไชยศรสี รุ เดชเม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๙ เป็นครัง้ แรกและคร้ังหลังสุดในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลพระอัฐมรามาธบิ ดินทร เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๓ หมายกำ� หนดการพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ เรียกราชรถนี้วา่ “ราชรถปืนใหญร่ างเกวยี น” ส่วนในพระราชพธิ พี ระราชทานเพลงิ พระศพเรยี กวา่ “รถปนื ใหญ”่“เกวียนรางปนื ” รถปนื ใหญร่ างเกวยี น” และ “รางเกวียนปนื ใหญ่” 151

พระท่นี ั่งราเชนทรยาน152

พระทนี่ ัง่ ราเชนทรยาน พระท่ีนั่งราเชนทรยาน มีลักษณะเป็นทรงบุษบกย่อมมุ ไม้สบิ สอง หลงั คาซ้อน ๕ ชั้น สรา้ งจากไม้แกะสลักลงรกั ปิดทอง ประดบั กระจก พนกั พิงและกระจงั ปฏญิ าณแกะสลกั เปน็ ภาพเทพนม ตรงกลางมคี รฑุ ยดุ นาคประดบั ที่ฐาน ๑๔ ตัว สรา้ งในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ใช้ส�ำหรับพระมหากษัตริย์ทรงในเวลาเสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนแห่อย่างใหญ่ ท่ีเรียกว่าขบวนพยุหยาตราส่ีสาย อาทิ เสด็จพระราชด�ำเนินจากพระราชมณเฑียรไปถวายสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามในงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก เป็นต้น เนื่องจากพระราชยานองค์น้ี มีขนาดใหญ่และน้�ำหนักมาก จึงไม่นิยมใช้ส�ำหรับเสด็จพระราชดำ� เนนิ ทางไกลไปนอกพระบรมมหาราชวงั นอกจากนก้ี ใ็ ชใ้ นการเชญิ พระโกศพระบรมอฐั พิ ระมหากษตั รยิ ์ หรอืพระโกศพระอัฐิพระบรมวงศ์จากพระเมรุท้องสนามหลวงเข้าสู่พระบรมหาราชวงั พระท่ีนั่งราเชนทรยานมีขนาดกว้าง ๑.๐๓ เมตรยาว ๕.๔๘ เมตรพรอ้ มคานหาม สงู ๔.๒๓ เมตร ใช้จำ� นวนพลแบกหาม ๕๖ นาย 153

พระที่น่งั ราเชนทรยานนอ้ ย

พระทนี่ ั่งราเชนทรยานนอ้ ย พระที่น่ังราเชนทรยานน้อยองค์ใหม่ได้ด�ำเนินการจดั สรา้ งขนึ้ ใหม่ โดยศกึ ษารปู แบบ วธิ กี ารเขา้ ไมแ้ ละรปู ทรงจากพระที่นั่งราเชนทรยานองคเ์ ดิม ที่ดำ� เนินการซ่อมแซมโดยส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เพื่อใช้เชิญพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระท่ีน่ังราเชนทรยานน้อยสร้างด้วยไม้สักแกะสลัก ลงรัก ปิดทอง ประดับกระจกทัง้ องค์ มคี านหาม ๔ คาน ใช้คนหาม ๕๖ คนพระยานมาศสามลำ� คาน พระราชยานใช้เพื่อเชิญพระบรมโกศ สร้างข้ึนในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เพ่ือใช้เชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นคร้งั แรก พระยานมาศสามล�ำคาน เป็นพระราชยานท่ีมีคานหามขนาดใหญ่ ทำ� ดว้ ยไมจ้ ำ� หลกั ลวดลาย ลงรกั ปดิ ทองมีพนกั โดยรอบ ๓ ดา้ น และมคี านหาม ๓ คาน ใช้สำ� หรบัเชิญพระโกศพระบรมศพจากพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมหาราชวังไปประดิษฐานบนพระมหาพิชัยราชรถที่จอดเทยี บรออยูใ่ กล้พลับพลายกบรเิ วณทิศตะวันออกของวดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม เมอื่ พระมหาพชิ ยั ราชรถ 155

พระยานมาศสามลำ�คาน156

เชิญพระโกศพระบรมศพไปถึงพระเมรุมาศแล้ว ก็จะใช้พระยานมาศสามล�ำคานเชิญพระโกศพระบรมศพจากพระมหาพิชัยราชรถเวียนอุตราวัฏรอบพระเมรุมาศณ ท้องสนามหลวงอีกคร้ังหนึ่ง พระยานมาศสามล�ำคานน้ีใช้ครั้งล่าสุดในงานพระเมรุสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เม่ือ พ.ศ.๒๕๕๕ พระยานมาศสามลำ� คานน้ีมีสององค์ คือ องค์หน่ึงมขี นาดยาว ๗.๗๓ เมตรพร้อมคานหาม สูง ๑.๗๘ เมตรน้�ำหนัก ๗๐๐ กิโลกรัม ใช้จ�ำนวนพลแบกหาม ๒ ผลัดผลดั ละ ๖๐ นาย สว่ นอกี องคม์ ขี นาดยาว ๘.๒๔ เมตร พรอ้ มคานหาม สงู ๑.๑๐ เมตร นำ้� หนกั ๕๕๐ กโิ ลกรมั ใชจ้ ำ� นวนพลแบกหาม ๒ ผลดั ผลดั ละ ๖๐ นาย 157

พระเสลี่ยงกลบี บวั 158

พระเสลี่ยงกลีบบวั เป็นพระเสลี่ยงส�ำหรับสมเด็จพระราชาคณะน่ังอ่านพระอภิธรรมน�ำขบวนพระราชอิสริยยศเพ่ือเชิญพระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวังไปยังพระมหาพิชัยราชรถ ณ บริเวณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามคร้ังหนึ่ง และที่ขบวนพระราชอสิ รยิ ยศเชญิ พระบรมศพเวยี นพระเมรมุ าศอกี ครง้ั หนงึ่พระเสล่ยี งแวน่ ฟ้า เปน็ พระราชยานขนาดเลก็ ใช้ก�ำลงั พลหาม ๘ คนส�ำหรับเชิญพระโกศพระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวงั ไปยงั เกยเทยี บพระยานมาศสามลำ� คานทนี่ อกกำ� แพงแกว้ ดา้ นทศิ ตะวนั ตก มลี กั ษณะเปน็ฐานแทน่ ไมส้ เี่ หลย่ี มสลกั ลายปดิ ทองประดบั กระจกทง้ั องค์ตวั แทน่ ฐานเปน็ ฐานสงิ หป์ ากบวั หนา้ กระดานลา่ งลงรกั ปดิทองประดบั กระจกลายดอกประจำ� ยาม ฐานสิงห์สลักลายปิดทองประดับกระจก หัวหลังสิงห์ปิดทองประดับกระจกเสน้ ลวดเดนิ เสน้ ทอง พนื้ พระเสลย่ี งปดู ว้ ยพรมสแี ดง ทงั้ สม่ี มุติดห่วงเหล็กทาสีแดง คานหามทั้งสองคานทาสีแดงเขียวปลายคานเป็นหัวเม็ดทรงมัณฑ์ปิดทองเรียบระหว่างคานทงั้ ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั คลอ้ งเชอื กมนลิ าหมุ้ ผา้ แดง สำ� หรบัเจ้าพนกั งาน ใชค้ ล้องแขนขณะยกพระเสลยี่ ง 159

เกรินบนั ไดนาค160

เกรนิ บันไดนาค เกรนิ บนั ไดนาค คอื อปุ กรณท์ ใี่ ชเ้ ชญิ พระโกศพระบรมศพขึ้นหรือลงจากพระมหาพชิ ยั ราชรถหรือเวชยนั ตราชรถและพระเมรุมาศ แทนการใช้น่ังร้านไม้ต่อยกสูงแบบสมัยโบราณ ซ่ึงใชก้ ำ� ลังคนยกขน้ึ ลง ซ่ึงมีความยากล�ำบากและไมส่ ะดวก เกรนิ มลี กั ษณะเปน็ รางเลอื่ นขนึ้ ลงดว้ ยกวา้ นหมนุโดยมีแท่นท่ีวางพระโกศเพ่ือสะดวกในการเคลื่อนย้ายขึ้นหรือลง ลักษณะเป็นแท่นส่ีเหล่ียม ขอบฐานแกะสลักลายปิดทองประดับกระจก ท้ายเกรินเป็นพื้นลดระดับลงมาซงึ่ เปน็ ที่สำ� หรับเจ้าพนกั งานภษู ามาลาขึน้ นั่งประคองพระโกศพระบรมศพ มีลกั ษณะคลา้ ยทา้ ยส�ำเภา ด้านข้างบผุ ้าตาดทอง มีราวทงั้ สองขา้ งตกแตง่ เปน็ รูปพญานาค จงึ เรียกว่าเกรนิ บันไดนาค เปน็ อุปกรณ์ทค่ี ิดค้นขึน้ โดยสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี (จุ้ย) พระโอรสในสมเด็จพระพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์กบั เจา้ ขรวั เงนิ นำ� มาใชง้ านเปน็ ครงั้ แรกในพระราชพธิ ถี วายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช เม่ือพ.ศ. ๒๓๕๕ เกรินบนั ไดนาคมี ๒ ขนาด คือ ขนาดกว้าง ๑.๕๒๕เมตร ยาว ๒.๓๖๕ เมตร สงู ๔.๔๐ เมตรฐานกวา้ ง ๑.๗๘๖เมตร ยาว ๓.๐๖ เมตร ใช้จำ� นวนพล ๒๐ นาย และขนาดกว้าง ๑.๕๒๕ เมตร ยาว ๒.๓๖๕ เมตร สงู ๔.๔๐ เมตรฐานกว้าง ๑.๗๘๖ เมตร ยาว ๓.๑๖ เมตร ใช้จ�ำนวนพล๒๐ นาย 161

เครอื่ งแตง่ กายสำ� หรบั รวิ้ ขบวนพระบรมราชอิสรยิ ยศ๑. นำ� ร้วิ จำ� นวน ๓ นาย - หมวกทรงประพาส โหมดเทศยอดเก้ียว - เส้อื โหมดเทศสีบานเย็น - ผา้ เกยี้ วลาย - รดั ประคดโหมดเทศ - ถงุ เทา้ ยาวสขี าว - รองเทา้ หนังสีดำ�๒ . ธง สา มชาย จ�ำนวน ๘ นาย - หมวกหกู ระต่ายแดง ขลิบลกู ไม้ใบข้าว - เสอ้ื อตั ลัดสีแดง - ผา้ เก้ยี วลาย - รัดประคดโหมดเทศ - ถุงเท้ายาวสขี าว - รองเทา้ หนังสีดำ�162

๓. มโหระทกึ จา่ ป่ี - จา่ กลอง - มโหระทกึ ๔ นาย - จ่าป ่ี ๒ นาย - จา่ กลอง ๒ นาย จำ� นวน ๘ นาย - หมวกทรงประพาส โหมดเทศ ยอดเกย้ี ว - เสอื้ เข้มขาบไหม - กางเกงมสั รไู หม - เขม็ ขัดแถบทองหัวครุฑ - ถงุ เท้าสีดำ� - รองเท้าหนังสดี �ำ 163

๔. กลองชนะ ฉดุ ชัก พนกั งานลากเกรนิ - กลองชนะแดงลายทอง ๑๖๐ นาย (ผลดั ๑๖๐ นาย) - กลองชนะเงนิ ๒๐ นาย (ผลดั ๒๐ นาย) - กลองชนะทอง ๒๐ นาย (ผลัด ๒๐ นาย) - ฉดุ ชกั ราชรถพระนำ� ๗๔ นาย - ฉดุ ชกั พระมหาพชิ ยั ราชรถ ๒๑๖ นาย - พนักงานลากเกรินหางนาค ๗๐ นาย จ�ำนวน ๗๖๐ นาย - หมวกกลบี ลำ� ดวนแดง ขลิบเหลอื ง - เสือ้ ปสั ตแู ดงขลิบเหลอื ง - กางเกงปสั ตแู ดง ขลบิ เหลือง - ถงุ เทา้ สดี �ำ - รองเทา้ หนังสดี ำ�164

๕. แตร สงั ข์ - แตรฝรั่ง ๒๐ นาย - แตรงอน ๒๘ นาย - สังข์ ๔ นาย จำ� นวน ๕๒ นาย - หมวกปัสตแู ดงพขู่ าว - เสอื้ ปสั ตแู ดงแขนบาน - กางเกงปสั ตแู ดงขลิบเหลอื ง - ถุงเท้าสดี ำ� - รองเท้าหนังสดี �ำ๖. เครอ่ื งสูง ฉัตรทองแผ่ลวด ฉัตรหักทองขวาง จำ� นวน ๒๒๔ นาย - หมวกลอมพอกหาง เหยยี่ วแดง - เส้ือเขม้ ขาบไหม - กางเกงมัสรูไหม - รดั ประคดโหมดเทศ - ถุงเท้าสีดำ� - รองเท้าหนังสีดำ� 165

๗. พนักงานจูงม้า พนักงานหามเสล่ียง พนักงานหามพระราชยาน พนกั งานหามมโหระทึกผู้บังคับราชรถพระน�ำ ผู้บังคับพระมหาพิชัยราชรถผู้บังคบั ราชรถปนื ใหญ่ - พนักงานจูงม้าพระทน่ี ง่ั ๑๖ นาย - พนักงานหามเสลี่ยงกลีบบวั พระนำ� ๑๖ นาย - พนกั งานหามพระราชยานมาศสามลำ� คาน ๑๒๐ นาย (๒ ผลดั ) - พนกั งานหามพระที่นัง่ ราเชนทรยาน ๕๖ นาย - พนักงานหามราเชนทรยานนอ้ ย ๕๖ นาย - พนกั งานหามมโหระทึก ๑๖ นาย - ผู้บงั คับราชรถพระนำ� ๒ นาย - ผ้บู งั คบั พระมหาพชิ ัยราชรถ ๒ นาย - ผูบ้ ังคบั ราชรถปืนใหญ่ ๔ นาย จ�ำนวน ๒๘๘ นาย - หมวกทรงประพาสโหมด เทศยอดจกุ - เสือ้ เข้มขาบไหม - กางเกงมัสรไู หม - รดั ประคดโหมดเทศ - ถุงเทา้ สีด�ำ - รองเทา้ หนงั สดี ำ�166

๘. พนักงานถือบังพระสูรย์ พนักงานถือพระกลดพนกั งานถือพัดโบก พนักงานภษู า ประคองพระบรมโกศพนกั งานถอื พระกลดถวายพระบรมโกศพนักงานถือพระสรู ย์ หักทองขวางสารถถี อื แพนหางนกยูง - พนักงานถือบงั พระสูรย ์ ๑ นาย - พนกั งานถือพระกลด ๑ นาย - พนักงานถือพดั โบก ๒ นาย - พนกั งานภูษาประคองพระบรมโกศ ๕ นาย - พนักงานถือพระกลดถวายพระบรมโกศ ๒ นาย - พนกั งานถือบงั พระสูรย์หกั ทองขวาง ๒ นาย - สารถีถอื แพนหางนกยูงนัง่ หน้าราชรถพระน�ำ ๑ นาย - สารถีถอื แพนหางนกยูงนั่งหน้า ๑ นาย พระมหาพิชยั ราชรถ จ�ำนวน ๑๕ นาย - หมวกลอมพอกขาว มดี อกไมไ้ หว - เสอื้ นอกขาวแบบราชการ - เสื้อครยุ เทวดาแถบใหญ่ มดี อก - ผา้ เกี้ยวลาย - ถุงเท้ายาวสีขาว - รองเท้าหนงั สดี ำ� 167

๙. อินทร์ เชิญจามร จำ� นวน ๓๒ นาย - หมวกทรงประพาส โหมดเทศ ยอดเกยี้ ว - เสือ้ อัตลดั สีเขยี ว (อนิ ทร์) - กางเกงสนบั เพลา - ผ้าเกยี้ วลาย - รดั ประคดโหมดเทศ - ถงุ เทา้ ยาวสขี าว - รองเท้าหนังสดี �ำ๑๐. พรหม เชิญจามร จ�ำนวน ๓๒ นาย - หมวกทรงประพาส โหมดเทศ ยอดเกีย้ ว - เส้ืออตั ลัดสแี ดง (สแี ดง) - กางเกงสนับเพลา - ผ้าเก้ียวลาย - รดั ประคดโหมดเทศ - ถุงเทา้ ยาวสีขาว - รองเท้าหนังสีดำ�168

๑๑. ผบู้ อกกระบวน จ�ำนวน ๑ นาย - หมวกทรงประพาสเยยี รบบั ยอดเกยี้ ว - เส้ือเยียรบับ - ผา้ เก้ียวลาย - รดั ประคดโหมดเทศ - ถุงเทา้ ยาวสขี าว - รองเทา้ หนังสีดำ� 169

๑๒. มหาดเลก็ หลวง - มหาดเล็กหลวงเชญิ คูแ่ ห ่ ๔๖ นาย - มหาดเลก็ หลวงเชิญพระแสงระหว่าง เครือ่ ง (หนา้ พระน�ำ) ๔ นาย - มหาดเลก็ หลวงเชญิ พระแสงระหวา่ ง เครื่อง (หลังพระน�ำ) ๓ นาย - มหาดเลก็ หลวงเชญิ พระแสงระหว่าง เครอื่ ง (หนา้ พระบรมศพ) ๖ นาย - มหาดเลก็ หลวงเชิญพระแสงระหวา่ ง เครื่อง (หลังพระบรมศพ) ๔ นาย - มหาดเลก็ หลวงเชิญพระแสงรายตีตอง ๘ นาย - มหาดเล็กหลวงเชญิ เครอ่ื ง ๒๔ นาย - มหาดเล็กหลวงเชญิ เคร่อื งทองนอ้ ย ๑ นาย - ผูก้ �ำกับเชญิ พระแสง ๔ นาย รวม ๑๐๐ นาย - หมวกทรงประพาสก�ำมะหยี่ สีนำ�้ เงนิ ยอดเก้ียว - เสอ้ื นอกขาวแบบราชการ ตดิ แขนทกุ ข์ - ผ้ามว่ งเชงิ - รัดประคดนำ้� เงินดอกขาว - ถงุ เทา้ ยาวสีขาว - รองเท้าโบว์170

๑๓. อนิ ทร์ เชิญพุ่มเงิน จำ� นวน ๔๐ นาย - หมวกทรงประพาส ก�ำมะหยสี่ ีเขียว ทรงเทริด (อนิ ทร์) - เส้ือกำ� มะหยี่สีเขียว คอบัวติดขลิบ (อินทร์) - กางเกงสนบั เพลา - ผ้าเกยี้ วลาย - รัดประคดโหมดเทศ - ถงุ เทา้ ยาวสีขาว - รองเทา้ หนงั สีด�ำ๑๔. พรหม เชญิ พมุ่ ทอง จำ� นวน ๔๐ นาย - หมวกทรงประพาส ก�ำมะหย่สี แี ดง ทรงเทรดิ (พรหม) - เสือ้ กำ� มะหย่สี ีแดง คอบวั ติดขลิบ (พรหม) - กางเกงสนับเพลา - ผ้าเกยี้ วลาย - รดั ประคดโหมดเทศ - ถุงเท้ายาวสีขาว - รองเทา้ หนงั สดี �ำ 171

๑๕. ตำ� รวจหลวงคูแ่ ห่ จ�ำนวน ๔๖ นาย - หมวกทรงประพาส ก�ำมะหยส่ี ีด�ำ ยอดเกี้ยว - เสือ้ สักหลาดสีเทา - ผา้ ม่วงเชงิ - เขม็ ขัดพไู่ หมแดง - สายกระบี่แถบทองใหญ่ - ถุงเท้ายาวสีขาว - รองเทา้ โบว์172

๑๖. สารวตั รกลอง สารวตั รแตร พนกั งานกำ� กบั เครอื่ งสงูผู้ควบคุมคนหามเสล่ียง พนักงานก�ำกับเสลี่ยงพนกั งานคมุ ฉตั รเครอื่ งสงู พนกั งานกำ� กบั พระยานมาศพนกั งานกำ� กบั คนฉดุ ชกั ราชรถ ผคู้ วบคมุ ราชรถพระนำ�ผู้ควบคุมพระมหาพิชัยราชรถ พนักงานฉุดชักพระมหาพชิ ยั ราชรถ พนกั งานกำ� กบั พระทน่ี ง่ั ราเชนทรยานพนกั งานคมุ พระทนี่ งั่ ราเชนทรยาน พนกั งานคมุ คนหามพระราเชนทรยาน พนกั งานกำ� กบั พระราเชนทรยานนอ้ ยพนกั งานคมุ คนหามพระราเชนทรยานนอ้ ยสนมพลเรอื นเชิญพัดโบก ประตูหนา้ -ประตูหลัง - สารวัตรกลอง ๕ นาย - สารวัตรมโหระทึก ๑ นาย - สาวัตรแตร ๒ นาย - พนักงานก�ำกับฉตั รเคร่อื งสงู ทองแผ่ลวด (หน้าพระนำ� ) ๒ นาย - ผคู้ วบคุมคนหามเสล่ยี งกลบี บวั พระนำ� ๑ นาย - พนกั งานกำ� กับเสล่ียงกลีบบวั พระน�ำ ๑ นาย - พนักงานคมุ ฉตั รเครอ่ื งสูงทองแผ่ลวด (หลงั พระน�ำ) ๒ นาย - พนักงานคุมฉตั รเครอื่ งสงู หักทองขวาง ๒ นาย (หนา้ ) - พนักงานกำ� กับพระยานมาศสามล�ำคาน ๑ นาย 173

- คนควบคุมพระยานมาศสามลำ� คาน ๔ นาย - พนกั งานควบคมุ คนหามพระยานมาศ สามลำ� คาน ๑ นาย - พนักงานคมุ ฉตั รเคร่อื งสงู หักทองขวาง (หลัง) ๒ นาย - ผูก้ �ำกับคนฉดุ ชักราชรถพระนำ� ๒ นาย - พนกั งานควบคุมราชรถพระนำ� ๒ นาย - พนักงานควบคุมพระมหาพิชยั ราชรถ ๔ นาย - พนกั งานกำ� กับฉดุ ชักพระมหาพิชัยราชรถ ๒ นาย - พนกั งานก�ำกบั พระที่นง่ั ราเชนทรยาน ๑ นาย - พนักงานคมุ พระทนี่ ั่งราเชนทรยาน ๔ นาย - พนักงานคุมคนหามพระทน่ี ง่ั ราเชนทรยาน ๑ นาย - พนักงานก�ำกบั พระราเชนทรยานนอ้ ย ๑ นาย - พนกั งานคุมคนหามพระราเชนทรยานนอ้ ย ๑ นาย - สนมพลเรอื นเชญิ พระยศ ๑ นาย - ประตหู น้า ๒ นาย - ประตูหลงั ๒ นาย จำ� นวน ๔๘ นาย174

- หมวกทรงประพาสก�ำมะหยี่ สีด�ำ ยอดเกยี้ ว- เส้ือนอกขาวแบบราชการ ติดแขนทกุ ข์- ผ้าเกย้ี วลาย- รดั ประคดแดงดอกขาว- ถุงเท้ายาวสีขาว- รองเทา้ หนงั สีด�ำ 175

ดอกไมจ้ นั ทน์ 176

ดอกไมจ้ นั ทน์ และจดุ ถวายดอกไมจ้ ันทน์ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั กจิ กรรม “โครงการจติ อาสาประดษิ ฐด์ อกไมจ้ นั ทนพ์ ระราชทาน” เพอื่ ทลู เกลา้ ฯถวายในพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ดว้ ยทรงพระราชอนสุ รณถ์ งึ สมเดจ็ พระราชบดิ า ทรงเขา้ พระทยั ถงึ ความรสู้ กึ ของประชาชนชาวไทยวา่ ยงั คงรำ� ลกึ ถงึ พระองคไ์ มเ่ สอื่ มคลาย และมีความประสงค์จะท�ำส่ิงท่ีแสดงถึงความจงรักภักดี โดยไดเ้ ชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหลา่ เข้าร่วมกิจกรรมดงั กลา่ ว ตง้ั แตเ่ ดอื นพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ทอ่ี าคาร ๖๐๖สนามเสือป่า ส�ำนักพระราชวัง และพระลานพระราชวังดสุ ติ โดยมเี จา้ หนา้ ทจี่ ากโรงเรยี นชา่ งฝมี อื ในวงั (หญงิ ) และเจา้ หนา้ ท่จี ากโรงเรียนชา่ งฝีมอื ในวัง (ชาย) เจา้ หน้าทฝี่ ่ายพระราชฐานชน้ั ในและพลอาสาสมคั รหญงิ ทหารมหาดเลก็รกั ษาพระองคฯ์ เปน็ ผ้อู ำ� นวยการสอน ดอกไมจ้ นั ทนท์ งั้ ๗ แบบ ไดแ้ ก่ ดอกดารารตั น์ ดอกกหุ ลาบ ดอกพดุ ตาน ดอกลลิ ล ี่ ดอกกลว้ ยไม้ ดอกชบาทพิ ย์และดอกชบาหนู ความหมายของดอกไม้ตา่ ง ๆ มีดงั นี้ ดอกดารารตั น์ หรอื ดอกแดฟโฟดลิ เปน็ ดอกไมท้ รงโปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพติ ร และพระราชทานให้กบั สมเดจ็ พระนางเจา้สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถอยเู่ สมอเมอ่ื ครงั้ ยงั ทรงศกึ ษาและ 177

ประทบั อยทู่ ป่ี ระเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ ดอกดารารตั นน์ ยิ มใช้มอบให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก เพ่ือบอกว่าไม่เคยหวังส่ิงใดตอบแทน และยงั หมายถงึ เกยี รตยิ ศ ความกลา้ หาญ สญั ลกั ษณ์ของความหวัง ชื่อดอกดารารัตน์ยังมีความหมายที่ลึกซึ้งโดยคำ� ว่า ดารา หมายถึง ดวงดาว คือสิง่ ทีอ่ ยูส่ งู สดุ ค�ำวา่รัตน์ หมายถงึ แกว้ คือ สิ่งท่มี ีคา่ ดอกกหุ ลาบ เปน็ สญั ลกั ษณแ์ หง่ ความรกั อนั บรสิ ทุ ธ์ิดว้ ยอานภุ าพแหง่ ความจงรกั ภกั ดขี องทวยราษฎรท์ ร่ี ะลกึ ถงึพระมหากรุณาธิคุณในองค์พระประมุขของชาติเพื่อถวายความอาลยั เปน็ ครงั้ สดุ ทา้ ยแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วัภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ผูเ้ ป็นกษัตริยท์ ี่รกั ย่ิงของปวงชนชาวไทย ดอกพุดตาน เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและความอุดมสมบูรณ์ ชาวจีนเชื่อว่าเป็นไม้มงคลเพราะดอกพุดตานเปล่ียนสีได้ถึงสามสีภายในวันเดียวกัน ซึ่งเปรียบเสมือนวัฏจักรของชีวิตมนุษย์ท่ีเริ่มต้นเปรียบเหมือนเด็กที่เป็นผ้าขาวเติบโตข้ึนพร้อมกับสีสันท่ีแต่งแต้มขึ้นมา จนกระทงั่ สงู อายมุ ากขนึ้ พรอ้ มกบั สที เ่ี ขม้ ขน้ึ จนกระทงั่ รว่ งโรยจากไป เพอ่ื เปน็ การระลกึ ถงึ พระมหากรณุ าธคิ ณุ และพระราชกศุ ลอทุ ศิ ถวายครง้ั สดุ ทา้ ยแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วัภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ดอกลิลลี่ แสดงออกถึงความรักที่บริสุทธิ์เช่นเดียวกบั ดอกกุหลาบสขี าว อกี ทง้ั ดอกลลิ ล่สี ขี าวยังแสดงออกถงึความซอ่ื สตั ยแ์ ละเทดิ ทนู ดว้ ยอานภุ าพแหง่ ความจงรกั ภกั ดี178

ของพสกนิกรชาวไทยทมี่ ีต่อพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และความส�ำนึกในพระมหากรณุ าธิคุณเป็นล้นพน้ ดอกกลว้ ยไม้ เปน็ สญั ลกั ษณข์ องความมน่ั คง ความรกัและความสงา่ งามสมดงั พระมหากรณุ าธคิ ณุ ในการบำ� เพญ็พระราชกรณยี กจิ นานปั การของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วัภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ใหข้ จรขจายไปทงั้ แผน่ ดนิไทยตลอดถึงนานาประเทศทว่ั โลก ดอกชบาทพิ ย์ เปน็ ดอกไมท้ ส่ี รา้ งสรรคป์ ระดษิ ฐข์ น้ึเพอ่ื สอื่ ถงึ การดบั สญู และความเปน็ ทพิ ยแ์ ละเพอ่ื เปน็ การถวายความอาลยั เปน็ ครงั้ สดุ ทา้ ยแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วัภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร พระผ้ทู รงสถติ ในดวงใจของประชาราษฎรช์ ัว่ นิรันดร์ ดอกชบาหนู เปรยี บเสมอื นความอาลยั ในการสญู เสยีของพสกนิกรทกุ หมเู่ หล่า เป็นสัญลักษณท์ ี่แทนดวงใจไทยทุกดวงในการน้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพระราชพิธีถวายพระเพลงิ พระบรมศพ ในส่วนภาคเอกชนและประชาชนเองก็ได้ร่วมมือร่วมใจกันท�ำดอกไม้จันทน์ทั่วประเทศ กรุงเทพมหานครได้ออกแบบดอกไม้จันทน์ จ�ำนวน ๓๖ แบบ ดอกบานชน่ืดอกจำ� ปา ดอกกลว้ ยไม้ ดอกดารารตั น์ ดอกบวั สาย กหุ ลาบพุดซ้อน ฯลฯ เพอื่ เปน็ ต้นแบบใหป้ ระชาชนนำ� ไปประดษิ ฐ์ได้เองด้วยวัสดุธรรมชาติในท้องถ่ิน เช่น ใบตองแห้ง กาบกลว้ ย ผกั ตบชวา และเปลอื กข้าวโพด เป็นตน้ 179

จุดถวายดอกไมจ้ ันทน์ คณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานพระราชพิธีถวายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ใหด้ ำ� เนนิ การจดั พธิ ถี วายดอกไม้จนั ทนภ์ าคประชาชนในพน้ื ทก่ี รงุ เทพมหานคร โดยจดั ทำ� ซมุ้ถวายดอกไมจ้ นั ทน์ จำ� นวน ๑๐๑ ซมุ้ ประกอบดว้ ยซมุ้ ขนาดใหญ่ ๑๖ ซมุ้ ซมุ้ ขนาดกลาง ๒๖ ซมุ้ และซมุ้ สำ� หรบั วดั ตา่ ง ๆในพื้นท่ีเขตของกรุงเทพมหานคร รวม ๕๙ จุดเพื่อความสะดวกของประชาชนในการร่วมพิธี ท้ังน้ี ได้จัดเตรียมดอกไม้จันทน์ส�ำหรับประชาชน จ�ำนวนทั้งส้ิน๓ ล้านดอก โดยโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครโรงเรยี นฝกึ อาชพี ในสงั กดั กรงุ เทพมหานคร รวมทง้ั ประชาชนบรษิ ทั หา้ งร้านตา่ ง ๆ อาสาร่วมกนั จดั ทำ� ดอกไม้จันทน์ การจดั พธิ ถี วายดอกไมจ้ นั ทนข์ องประชาชนมที ง้ั ในส่วนกลาง สว่ นภมู ิภาค และตา่ งประเทศ โดยในส่วนกลางมีกรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลัก ในส่วนภูมิภาคมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักโดยแจ้งทุกจังหวัดและอ�ำเภอด�ำเนินงาน และในต่างประเทศมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลัก โดยแจ้งสถานเอกอคั รราชทตู ไทยในตา่ งประเทศด�ำเนินงาน ซมุ้ ถวายดอกไมจ้ นั ทนข์ องประชาชนทก่ี รมศลิ ปากรดำ� เนนิ การออกแบบมี ๓ ขนาด ไดแ้ ก่ ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเลก็180

การจดั พธิ ถี วายดอกไมจ้ นั ทนใ์ นสว่ นภมู ภิ าคมอบให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งทุกจังหวัดและอ�ำเภอด�ำเนินการจดั พิธี จ�ำนวน ๘๗๘ แหง่ นอกจากนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเมรุมาศจ�ำลอง รัฐบาลจึงได้ด�ำเนินการจัดสร้างพระเมรุมาศจ�ำลอง ทั่วประเทศรวม ๘๕ แห่งโดยจดั สรา้ งในสว่ นภมู ภิ าค ๗๖ แหง่ สว่ นกรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑลตั้งอยทู่ ่ีต่างๆ รวม ๙ แห่ง ไดแ้ ก่ สำ� นกั งานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และในพ้ืนที่ส่ีมุมเมือง ได้แก่ ทิศเหนือที่สนามกีฬาธูปะเตมีย์กองทัพอากาศ ทิศใต้ท่ีศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา ทิศตะวันออกที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และทิศตะวันตกที่พุทธมณฑล ทั้งน้ีเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยมีส่วนร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรโดยพรอ้ มเพรยี งกนั 181

การเก็บพระบรมอฐั ิและพระบรมราชสรีรางคาร เป็นพิธีที่กระท�ำขึ้นหลังจากการถวายพระเพลิงพระบรมศพเสรจ็ สน้ิ แลว้ โดยประกอบพธิ ี ณ พระจติ กาธานเมื่อเสด็จขึ้นพระเมรุมาศเจ้าพนักงานภูษามาลาเปิดผ้าคลุมพระบรมราชสรีรางคาร ทรงสรงพระบรมอัฐิด้วยน้�ำพระสคุ นธ์ เจา้ พนกั งานแจงพระบรมอฐั ิ โดยเชญิ พระบรมอฐั ิพระบรมราชสรีรางคาร เรียงเป็นล�ำดับให้มีลักษณะเหมือนรูปคน หันพระเศียรไปทางทิศตะวันตก จากน้ันหันพระบรมอัฐิ พระบรมราชสรีรางคารที่แจงไว้มาทางทิศตะวันออกเรียกว่า แปรพระบรมอัฐิ แล้วจึงถวายคลุมด้วยผ้า เช่น พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั ถวายคลุมดว้ ยผ้า ๓ ช้ัน คือ แพรขาว ผ้าตาด และผ้ากรองทอง ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการทองน้อย ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอฐั ิ แลว้ เสดจ็ ลงมาประทบั พระทนี่ ง่ั ทรงธรรม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เหล่าราชนิกุล ข้าราชการ เดินสามหาบ ตอ่ มาเปลยี่ นเปน็ การทำ� สำ� รบั ภตั ตาหารสามหาบต้งั ถวาย พระสงฆ์สดบั ปกรณ์พระบรมอฐั ิ ทรงจดุ ธปู เทียนเครือ่ งนมัสการทองนอ้ ย ทรงทอดผ้าไตร สมเดจ็ พระราชาคณะและพระราชาคณะสดับปกรณ์ ทรงโปรยเหรยี ญทองเหรยี ญเงนิ พระราชทาน เจา้ พนกั งานภษู ามาลาเปดิ ผา้ คลมุพระบรมอัฐิ ทรงเก็บพระบรมอัฐิลงสรงในขัน ทรงพระ182

สคุ นธ์ การเก็บพระบรมอัฐจิ ะเลือกเก็บแต่ละสว่ นของพระสรีระอย่างละเล็กน้อย พร้อมกันน้ันทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระบรมวงศานวุ งศฝ์ า่ ยในทไ่ี ดร้ บั พระบรมราชานุญาตข้ึนรับพระราชทานพระบรมอัฐิไปสักการบูชา แล้วทรงประมวลพระบรมอัฐิบรรจุพระโกศ หลังจากน้ันเชิญพระโกศพระบรมอฐั ิ ไปยงั พระทนี่ ง่ั ทรงธรรม ทรงประกอบพธิ บี ำ� เพญ็ พระราชกศุ ลถวาย สว่ นพระบรมราชสรีรางคารเชิญลงบรรจุในพระผอบโลหะปิดทองประดิษฐานบนพานทองสองชัน้ คลมุ ผา้ ตาดพักรอไว้บนพระเมรุมาศ ส�ำหรับพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร น้ัน จะเชิญโดยพระที่น่ังราเชนทรยานไปประดิษฐานยังพระที่น่ังจักรีมหาปราสาทพระบรมราชสรรี างคาร คือเถ้าถ่านท่ีปะปนกับพระบรมอัฐิชิ้นเล็กช้ินน้อยของพระบรมศพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี และสมเด็จพระบรมราชบพุ การที เ่ี ผาแลว้ ซง่ึ อาจเรยี กวา่ พระสรีรางคาร ตามลำ� ดบั พระอสิ รยิ ยศของพระบรมวงศ์ และเรียกวา่ อังคารสำ� หรับสามญั ชน การบรรจุพระบรมราชสรีรางคารเป็นข้ันตอนสุดท้ายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชบุพการี และสมเด็จ 183

พระบรมราชินี เกิดข้ึนครั้งแรกในคราวพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกธรรมเนียมการลอยพระบรมราชสรีรางคาร และโปรดให้เชิญพระบรมราชสรรี างคารมาประดษิ ฐาน ณ รตั นบลั ลงั กพ์ ระพทุ ธชนิ ราชภายในพระอุโบสถวัดเบญจมบพติ รดสุ ิตวนาราม จงึ กลายเป็นธรรมเนียมในการเชิญพระบรมราชสรีรางคาร พระสรีรางคารไปประดิษฐานในสุสานหลวงหรือสถานที่อันควรแทน โดยเจ้าพนักงานจะเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากสถานที่ที่พักไว้แล้วตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปยังสถานท่บี รรจุอันเหมาะสม พระบรมราชสรรี างคารพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร น้ันจะเชิญไปบรรจุณ วดั ราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร ส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้รับมอบหมายให้ออกแบบผอบอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารองค์ใหม่เพื่อใช้ทรงพระบรมราชสรีรางคารไปประดิษฐานในพระถำ้� ศลิ าทฐ่ี านชกุ ชพี ระประธานพระอโุ บสถวดั ราชบพธิ สถติมหาสมี าราม และทฐี่ านองคพ์ ระพทุ ธชนิ สหี ท์ ว่ี ดั บวรนเิ วศวหิ ารโดยไดศ้ กึ ษารปู แบบจากผอบองคเ์ ดมิ ทม่ี อี ยแู่ ลว้ และนำ� มาประยุกต์ออกแบบใหม่ให้มีรูปทรงและลวดลายชั้นเชิงต่าง ๆ งดงามสมพระเกียรติย่ิงขึ้น ผอบองค์น้ีแบ่งส่วน184

ประกอบเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ ส่วนท่ีเป็นฐาน ส่วนตัวผอบและส่วนทเ่ี ป็นฝา ซึ่งส่วนฐานจะมีชัน้ หนา้ กระดานบัวคว�่ำ รองรับช้ันลูกแก้ว มีลวดและท้องไม้สลับค่ันระหว่างช้ันลูกแก้ว โดยลวดลายลูกแก้วหรือชั้นเกี้ยวตามโบราณราชประเพณีจะใช้ออกแบบเคร่ืองสูงส�ำหรับพระมหากษัตริย์และเปน็ หนึ่งในลวดลายประดบั พระมหาพชิ ยั มงกฎุ ตัวผอบเป็นทรงดอกบัวบาน มีลักษณะทรงกลมลักษณะพิเศษของผอบองค์ใหม่มีกลีบบัวขนาดเล็กรองรับสลับกันไป ส่วนกลีบบัวของผอบมีจะขนาดเล็กกว่าองค์เดมิ และมเี สน้ เดนิ รอบกลีบ ด้านในกลบี เพ่ือให้เกิดนำ�้ หนักและมิตขิ องงานสลกั ดุน ตรงกลางกลบี บวั จะทำ� เปน็ สนั ข้ึนมาเมื่อเวลาแสงตกกระทบจะท�ำให้เกิดแสงเงาท่ีสวยงามมีขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ๑๐ นิว้ สว่ นฝาเปน็ ลกั ษณะยอดทรงมัณฑ์ มีช้ันหน้ากระดานถัดข้ึนไป ถัดขึ้นมาใช้เป็นชั้นบัวคว�่ำ ๓ ชั้น ลักษณะบัวคว่�ำชั้นแรกจะมีขนาดใหญ่ชั้นถัดไปจะลดหลั่นไปตามสัดส่วนและรูปทรง โดยจะมีการสลักดุนเหมือนกับกลีบบัวท่ีตัวผอบเพื่อให้เกิดมิติของแสงเงาเพือ่ ให้เกดิ ความสวยงาม ถดั จากชัน้ กลีบบวั จะเป็นปลยี อด และชั้นบนสดุ จะเปน็ ลูกแกว้ หรอื เม็ดน้�ำคา้ ง โดยมีรูปแบบทรงกลมและส่วนปลายจะเรียวแหลมเล็กน้อยลักษณะเป็นดอกบัวตูม 185

การจัดสร้างผอบเชิญพระบรมราชสรีรางคารได้ใช้วัสดุโลหะเน้ือเงินมาท�ำการขึ้นรูป เทคนิควิธีการเกี่ยวกับการจัดสร้างพระโกศทองค�ำเป็นวิธีการแบบช่างโบราณโดยการกลึงหุ่นแบ่งเป็นส่วนฐาน ส่วนตัวผอบ และส่วนฝาผอบ หลังจากกลึงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะน�ำมาถอดพิมพ์ด้วยยางซิลิโคน เมื่อได้พิมพ์ยางซิลิโคนแล้ว จะน�ำเรซ่ินมาเทในพิมพ์ยางซิลิโคน เม่ือเสร็จจากขั้นตอนนี้ก็จะได้หุ่นเพื่อการเคาะขึ้นรูป โดยน�ำโลหะเงินมาหลอมรีดใหเ้ ป็นรปู ทรงส่วนฐานตวั ผอบและฝา จากนนั้ ชา่ งจะน�ำมาสลักดุนตามแบบและลวดลายที่ออกแบบไว้จนส�ำเร็จออกมา แล้วจงึ นำ� แต่ละส่วนประกอบเขา้ ดว้ ยกันจนสำ� เร็จเป็นผอบเชิญพระบรมราชสรีรางคาร186

เคร่อื งสงั เคด็ สงั เคด็ มากจากคำ� วา่ สงั คตี แปลวา่ การสวด ดงั นนั้ที่ซง่ึ พระสงฆ์ขน้ึ ไปนั่งสวดได้ ๔ รปู จึงเรียกว่า เตียงสงั คตีอันเดยี วกบั เตียงสวด หรือร้านสวดในการศพ เวน้ แตท่ ำ� ให้ประณีตขึน้ มยี อดดจุ ปราสาทกม็ ี ไม่มยี อดก็มี ทั้งนี้เครื่องสังเค็ดอันหมายถึงสิ่งของท่ีใช้ในการท�ำบุญศพ มีที่มาจากแต่เดิมนิยมน�ำสังเค็ดอันเป็นเตียงสวดของพระสงฆ์น้ันมาใส่ของหามเข้าขบวนแห่ศพ ต่อมาภายหลังของเหล่าน้ีไม่ไดจ้ ดั ใสใ่ นสงั เคด็ แลว้ แตผ่ คู้ นยงั เรยี กของทำ� บญุ ในการศพวา่ เครอื่ งสงั เค็ดอยู่ เครื่องสังเค็ดมีหลายชนิดตามแต่จะเห็นว่าสิ่งใดจำ� เปน็ แกพ่ ระสงฆ์ เชน่ ตพู้ ระธรรม โตะ๊ หมู่ เปน็ ตน้ ครนั้ ถงึรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลยี่ นธรรมเนยี มการถวายเครอ่ื งสงั เคด็ โดยมงุ่ ประโยชนแ์ ก่สาธารณะมากขนึ้ จำ� แนกเปน็ ๓ ประเภท คอื ถวายพระภกิ ษุมพี ดั รอง หรอื พดั สงั เคด็ ยา่ ม ผา้ กราบ ถวายวดั มธี รรมาสน์ตู้พระธรรม และสำ� หรับโรงเรียน ไดแ้ ก่ เคร่อื งใช้ต่าง ๆ ในปจั จบุ นั ยงั คงยดึ ธรรมเนยี มการถวายเครอ่ื งสงั เคด็ ดงั กลา่ วอยู่ แต่ได้มีการถวายหนังสืออันเป็นแหล่งเกิดปัญญาเพ่ิมเข้ามา ดังในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลท่ี ๗ได้สร้างตู้สังเค็ดบรรจุพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐซึ่งเป็นพระไตรปิฎกท่ีจัดพิมพ์ขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั 187

เครอื่ งสังเคด็188

ในงานพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ รส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้รับภารกิจในการออกแบบเคร่ืองสังเค็ด ส่วนการจัดสร้างส�ำนักพระราชวังเป็นผู้ด�ำเนินการ โดยให้ทางกรมศิลปากรช่วยควบคุมดูแลให้เป็นไปตามรปู แบบ รายการเครอื่ งสงั เค็ดทจ่ี ดั ท�ำข้นึ ได้แก่ • พดั รองสำ� หรบั พระราชพธิ บี ำ� เพญ็ พระราชกศุ ลการออกพระเมรุ • พัดรองส�ำหรบั พระราชพธิ ีทรงบำ� เพญ็ กุศลพระบรมอฐั ิ • พดั รองส�ำหรับถวายพระจนี นิกายและอนัมนกิ าย • ตสู้ งั เคด็ หรือตู้ใสห่ นังสือประดบั ดว้ ยภาพพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก • ธรรมาสน์ปาตโิ มกข์ • หบี พระปาติโมกขพ์ รอ้ มตา่ ง 189

การแสดงมหรสพสมโภช 190

การแสดงมหรสพสมโภช การถวายพระเพลิงพระบรมศพแต่คร้ังโบราณจัดเปน็ งานใหญ่ มมี หรสพสมโภชงานออกพระเมรพุ ระบรมอฐั ิเปน็ แบบแผนประเพณสี บื ทอดกันมาแต่คร้ังกรงุ ศรอี ยุธยาเป็นราชธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้ชมและถือว่าเป็นงานออกทุกข์ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังถือเสมือนเป็นการแสดงพระกฤดาธิการของพระมหากษัตริย์ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการจัดมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุตามแบบแผนประเพณีเป็นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในงานออกพระเมรุพระบรมอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกพ.ศ. ๒๓๓๙ ครน้ั ถงึ รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้เจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๖ ได้มีประกาศงดการแสดงมหรสพสมโภชในงานออกพระเมรุ ตอ่ มาในสมยั รชั กาลที่ ๙ ในการ พระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพสมเดจ็ พระศรนี ครนิทราบรมราชชนนี พ.ศ. ๒๕๓๙ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการรอ้ื ฟน้ื การประโคมดนตรี หรอื การประโคมยำ�่ ยาม และการมหรสพ เนอ่ื งจากทรงเหน็ วา่ เพอื่ ไมใ่ หบ้ รรยากาศเงยี บเหงาเหมือนครั้งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชนิ ี ในรชั กาลท่ี ๗ เมอื่ ปีพ.ศ. ๒๕๒๘ ทงั้ ยงั เปน็ การรกั ษาโบราณราชประเพณไี วด้ ว้ ย 191

การแสดงมหรสพสมโภชเนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรประกอบดว้ ย ๑. การแสดงโขนหน้าพระท่ีน่ังทรงธรรม (หน้าพระเมรุมาศ) ที่เรียกกันว่า โขนหน้าไฟ จัดการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร-ยกรบ-ร�ำลึกในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ผแู้ สดงคอื นาฏศลิ ปนิ สำ� นกั การสงั คตีนักเรยี น นักศกึ ษา วทิ ยาลัยนาฏศิลปทวั่ ประเทศ ๑๒ แห่งและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ผู้แสดง ผู้พากย์-เจรจาผู้บรรเลง ขับร้องและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ๓๐๐ คน ๒. การแสดงมหรสพ ณ เวทกี ลางแจง้ บรเิ วณสนามหลวงดา้ นทศิ เหนอื มี ๓ เวที ประกอบดว้ ย เวทที ่ี ๑ เวทกี ารแสดงหนงั ใหญเ่ บกิ หนา้ พระ และโขนเรอื่ งรามเกยี รต์ิ โดยนาฏศลิ ปนิ สำ� นกั การสงั คตี กรมศลิ ปากรรว่ มด้วยครู อาจารย์ นักเรยี น นกั ศึกษา วิทยาลยั นาฏศลิ ป์๑๒ แห่ง และสถาบนั บณั ฑติ พฒั นศลิ ปจ์ ำ� นวน ๑,๐๒๐ คนและผปู้ ฏิบตั ิงานทเ่ี กีย่ วข้องประมาณ ๑๐๐ คน รวมท้ังสิน้๑,๑๒๐ คน นอกจากน้ี ยังมีการแสดงโขนพระราชทานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ คนการแสดงมี ๓ สว่ น ได้แก่ 192

- การแสดงหนงั ใหญเ่ บกิ หน้าพระ และการแสดงเบิกโรงหนังใหญ่ ชุดจับลิงหัวค�่ำ ผู้แสดงเป็นครูอาวุโสส�ำนักการสังคีต กรมศิลปากร ร่วมกับครูอาวุโสสถาบันบัณฑติ พฒั นศิลป์ - การแสดงโขนหน้าจอและโขนชักรอก เรื่องรามเกียรต์ิ ชุดพระรามข้ามสมุทร ชุดศึกทศกัณฐ์ครั้งแรกทัพสิบขุนสิบรถ ชุดท้าวมาลีวราชว่าความ ชุดนางมณโฑหุงน�้ำทิพย์ ชุดศึกทศกัณฐ์ ขาดเศียรขาดกร และชุดสีดาลยุ ไฟ พระรามคนื นคร เปน็ การแสดงของกรมศลิ ปากร - การแสดงโขนหน้าจอและโขนชักรอก เร่ืองรามเกียรต์ิ ชุดรามาวตารทศกัณฐ์รบสดายุ หนุมานถวายพล พิเภกสวามิภักดิ์ เป็นการแสดงของโขนพระราชทาน(มลู นิธิส่งเสริมศลิ ปาชีพ) เวทีท่ี ๒ เวทีการแสดงละคร หุ่นหลวง และหุ่นกระบอก ประกอบดว้ ย ละครเรอ่ื งพระมหาชนก การแสดงหนุ่หลวงตอนหนมุ านเขา้ หอ้ งนางวานรนิ การแสดงหนุ่ กระบอกเรื่องพระอภัยมณี ตอนกำ� เนิดสดุ สาคร จนถึงพระฤาษชี ่วยสุดสาคร ร�ำก่ิงไม้เงินทอง ละครในเร่ืองอิเหนาตอนบุษบาชมศาล-อิเหนาตัดดอกไม้-ฉายกริช-ท้าวดาหาบวงสรวงและละครเรื่องมโนหร์ า ผแู้ สดง บรรเลง ขับร้อง จากส�ำนกัการสังคีต กรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์๓๒๒ คน และผู้ปฏิบตั งิ านท่เี กี่ยวข้อง ประมาณ ๑๐๐ คนรวมทัง้ สิ้น ๔๒๒ คน 193

เวทกี ารบรรเลงดนตรสี ากล “ธ คอื ดวงใจไทยทั่วหลา้ ” เวทที ี่ ๓ เวทกี ารบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจไทยทวั่ หลา้ ” เปน็ การบรรเลงและขบั รอ้ งเพลงพระราชนพิ นธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพติ ร เพลงเทดิ พระเกยี รติ บทเพลงทป่ี ระพนั ธข์ นึ้เพอื่ ถวายอาลยั และบทเพลงทสี่ อ่ื ความหมายสอดคลอ้ งกบัการแสดงแตล่ ะองก์ ๗ องก์ ไดแ้ ก่ องกท์ ่ี ๑ ดจุ หยาดทิพย์ชโลมหล้า องก์ท่ี ๒ ใตฟ้ ้าร่มเยน็ เพราะพระบารมี องก์ท่ี ๓ ทวยราษฎรน์ อ้ มสดุดี องก์ท่ี ๔ ถวายภกั ดีองคร์ าชนั องกท์ ี่ ๕ สถิตนิรนั ดรใ์ นใจราษฎร์ องก์ที่ ๖ ปวงข้าบาทบังคมถวาย องกท์ ี่ ๗ สูส่ วรรคาลัยในทพิ ยว์ มิ าน194

และการแสดงบลั เลต่ เ์ รอ่ื งมโนหร์ า ผบู้ รรเลง ขบั รอ้ งและผูแ้ สดง มาจากสำ� นกั การสงั คีต กรมศิลปากร สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ วงดนตรีอ.ส.วันศกุ ร์ วงสหายพฒั นา โรงเรยี นราชนิ ี กรมดุรยิ างค์ทหารบก กองดุรยิ างค์ทหารเรอื กองดุริยางคท์ หารอากาศกองสวสั ดกิ ารสำ� นกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ กรมประชาสมั พนั ธ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Royal Bangkok SymphonyOrchestra ซึ่งใช้ผู้บรรเลง ขับร้องและผู้แสดง ๗๕๓ คนผูป้ ฏิบตั ิงานท่เี กีย่ วข้อง ๑๘๙ คน รวมทั้งสิ้น ๙๔๒ คน การแสดงทกุ เวทกี ำ� หนดเวลาเริม่ แสดง ๑๘.๐๐ น.ในวนั พระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จนถงึเวลา ๐๖.๐๐ น.ของวันร่งุ ขน้ึ โดยการแสดงของทกุ เวทีจะหยดุ การแสดงเมอ่ื มีพระราชพิธีในพระเมรุมาศ 195

หนงั สอื ท่รี ะลึกและจดหมายเหตุ คณะกรรมการฝ่ายจัดท�ำหนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ได้จดั ท�ำหนงั สอื ท่ีระลกึ จำ� นวน ๔ รายการได้แก่ • หนงั สือ “พระเมรมุ าศสมัยรตั นโกสนิ ทร”์ • หนังสือ “พระเมรุในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมทิ รมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร” • หนังสือ “เครื่องประกอบพระราชอิสริยยศงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร” • หนังสือ “นวมินทราศิรวาทราชสดุดี ร้อยกรองเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร” หนงั สอื จดหมายเหตุ มจี �ำนวน ๖ รายการ ไดแ้ ก่ • หนังสือจดหมายเหตุ งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหติ ลาธิเบศรรามาธบิ ดี จกั รีนฤบดินทร สยามนิ ทราธริ าชบรมนาถบพิตร (จดหมายเหตุฉบบั หลกั ) • หนังสือจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ รฉบบั ประชาชน196

• หนังสือจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรฉบบั สื่อมวลชน • หนังสือ “พระเสด็จสู่ฟ้า ราษฎร์ล้วนอาลัย”ในโครงการกานท์กวีคีตการปวงประชาน้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร • หนังสือและซีดีบทเพลงแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร • หนังสือจดหมายเหตุฉบับวีดิทัศน์ “ทรงสถิตในดวงใจ ไทยนริ ันดร”์ 197

198

ศนู ย์ส่ือมวลชนศูนยถ์ ่ายทอดวทิ ยกุ ระจายเสียงและศูนยถ์ า่ ยทอดวิทยโุ ทรทัศน์ 199


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook