รายงานการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ชุมชนหมทู่ ี่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา นางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ รหสั ประจาตวั นกั ศึกษา 611250011 รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชาโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ท่ี2 รุ่นที 15 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา
คำนำ รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพของนกั ศึกษาหลกั สูตร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินนการแพทย์ วิทยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ีนกั ศึกาไดฝ้ ึกประสบการในพ้ืนท่ีชุมชนหมู่บา้ น นิคมกือลอง หมทู่ ี่ 6 ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ซ่ึงเป้นการศึกษาชุมชนในดา้ นต่างๆมีการ เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากชุมชนโดยการสมั ภาษณ์ สงั เกต และจากขอ้ มลู ทตุ ิยภูมิเพอ่ื ใหท้ ราบและเขา้ ในถึงวถิ ี ของคนในชุมชนและมองเห็นถึงสภาพปัญหาต่างๆท่ีเกิดข้นึ ภายในชุมชนโดยเฉพาะปัญหาทางดา้ นฉุกเฉิน การแพทยแ์ ละนาไปสู่การวางแผนพฒั นา แกไ้ ขปัญหาชุมชนไดอ้ ยา่ งตรงจุดและสอดคลอ้ งกบั วิถีชุมชน โดย การมีส่วนร่วมของชุมชน อนั นาไปสู่การมีสุขภาพที่ดีและมีคณุ ภาพชีวิตที่ดีภายในชุมชน ซ่ึงทาใหเ้ กิดการ พฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่การฝึกประสบการณ์จริงและเป็นบุคลากรทางดา้ นสาธารรสุข ตอ่ ไป ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ ขอ้ มลู ต่างๆในเล่มรายงานฉบบั น้ีจะสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ และเป็นแนวทางในการพฒั นาแกไ้ ขปัญหาในดา้ นตา่ งๆของชุมชนและเพ่ือเป็นแนวทางในการศึกษาตอ่ ไป ผจู้ ดั ทา นางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ รหสั ประจาตวั นกั ศึกษา 611250011
กติ ติกรรมประกำศ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพในคร้ังน้ี นกั ศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชาชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลาได้ ทาการศึกษาในพ้นื ท่ีของตนเอง โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ีนกั ศึกษาไดฝ้ ึกประสบการณ์ ในพ้นื ท่ีชุมชนหม่บู า้ นนิคมกือลอง หมู่ท่ี 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ไดส้ าเร็จลุลว่ งไป ดว้ ยดีโดยไดร้ ับความกรุณาคุณจากบคุ ลหลายทา่ น ทางดา้ นนกั ศึกษารู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาที่มีให้ จึงใคร่ ขอขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ีดว้ ย ขอขอบพระคณุ อาจารย์ ดร.ภคั ณฐั วรี ขจร ท่ีไดใ้ หค้ าแนะนา ท่ีไดป้ ระสิทธ์ิประสาทวิชา ก่อใหเ้ กิด ความรู้ในการฝึกปฏิบตั ิงาน จนสามารถปฏิบตั ิงานไดเ้ ป็นอยา่ งดี ขอขอบพระคณุ เจา้ หนา้ ท่ีอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมูบ่ า้ นในชุมชน หมู่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิง ชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ท่ีคอยใหค้ วามช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตลอดการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพและใหค้ วาม ช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตลอดการฝึกปฏิบตั ิงานในคร้ังน้ี ขอขอบพระคณุ ชาวบา้ น หมู่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ที่ให้ ขอ้ มูลในการศึกษาคร้ังน้ี และเขา้ มามีส่วนร่วมในการดาเนินโครงการ ในทุกกิจกรรมท่ีนกั ศึกษาจดั ข้ึนและ สาเร็จลุลว่ งไปไดด้ ว้ ยดี สุดทา้ ยน้ีนกั ศึกษาขอขอบพระคณุ ทกุ ทา่ นท่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ทาใหก้ ารฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะ วชิ าชีพคร้ังน้ีประสบความสาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี
สำรบญั หน้ำ เร่ือง ก ข คานา ค กิตติกรรมประกาศ 1 สารบญั 1 บทที่ 1 บทนา 2 2 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 3 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั 3 1.3 กระบวนการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 4 บทท่ี 2 บริบทชุมชน 6 2.1 เเผนท่ีเดินดิน 11 2.2 ฝังเครือญาติ 12 2.3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน 13 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 17 2.5 ปฏิทินชุมชน 18 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 18 2.7 ประวตั ิบุคคลสาคญั 18 บทท่ี 3 การวินิจฉยั ชุมชน 19 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 29 3.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 30 3.3 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู 3.4 การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา 31 3.5 ปัญหาและการจดั ลาดบั ของปัญหา 31 43 บทท่ี 4 แผนงาน/โครงการ 44 4.1 แผนงาน/โครงการ 4.2 ระดบั ความพงึ พอใจต่อโครงการ 4.3 สรุปผลการดาเนินโครงการ
สารบญั ( ต่อ ) หนา้ 47 เร่ือง 47 บทที่ 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 47 5.1 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 48 5.2 อภิปรายผล 49 5.3 ขอ้ เสนอแนะการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 50 ภาคผนวก 51 ภาคผนวก ก ภาพทากิจกรรมโครงการรู้สักนิด พชิ ิตเบาหวาน 57 ภาคผนวก ข แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน 58 ภาคผนวก ค แบบทดสอบความรู้เร่ืองโรคเบาหวาน 59 ภาคผนวก ง แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการรู้สกั นิดพชิ ิต เบาหวาน 60 ภาคผนวก จ แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการรู้สกั นิด พชิ ิตเบาหวาน บรรณานุกรม
บทท่ี 1 ส่วนนำโครงกำร 1.1ควำมเป็ นมำและควำมสำคัญของกำรฝึ กโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชีพ เบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายท่ีมีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อนั ส่งผลทาให้ ระดบั น้าตาลในกระแสเลือดสูงเกิน โรคเบาหวานจะมีอาการเกิดข้ึนเนื่องมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้ น้าตาลไดอ้ ย่างเหมาะสม ซ่ึงโดยปกติน้าตาลจะเขา้ สู่เซลลร์ ่างกายเพือ่ ใชเ้ ป็นพลงั งานภายใตก้ ารควบคุมของ ฮอร์โมนอินซูลิน ซ่ึงผทู้ ่ีเป็นโรคเบาหวานร่างกายจะไม่สามารถนาน้าตาลไปใชง้ านไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ผลท่ีเกิดข้ึนทาให้ระดบั น้าตาลในเลือดสูงข้ึน ในระยะยาวจะมีผลในการทาลายหลอดเลือด ถา้ หากไม่ไดร้ ับ การรักษาอยา่ งเหมาะสม อาจนาไปสู่สภาวะแทรกซอ้ นท่ีรุนแรงได้ จากการสารวจขอ้ มูลครัวเรือน หมู่ท่ี 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นังสตา จงั หวดั ยะลา มีจานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 378 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน มีโรคเบาหวานท่ีพบมากที่สุด ส่วนใหญเ่ กิดจากกรรมพนั ธ์และพฤติกรรมการกิน จากสถานการณ์และความสาคญั ดงั กล่าวนางสาวนันณภสั พูนสวสั ด์ิ นักศึกษาช้นั ปี ที่ 2 หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 เล็งเห็นว่าประชาชนหมู่ 6 บา้ น นิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน เกินจากเกณฑ์ ท่ีกระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว้ จึงไดจ้ ดั โครงการรู้สักนิด พิชิตเบาหวาน หมู่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบล ตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ข้นึ เพ่ือใหป้ ระชาชนในชุมชนมีความรู้เรื่องการป้องกนั โรคเบาหวาน เพื่อลดอัตราการป่ วยด้วยโรคเบาหวาน ในหมู่บ้านและเพ่ือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกัน โรคเบาหวานในหมู่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา
1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจในการควบคุมโรคเบาหวานท่ีถูกวิธีและเหมาะสม 1.2.2 เพ่ือให้ประชาชนตระหนักและเล็งเห็นถึงความสาคญั ของปัญหาเร่ืองการควบคุม และป้องกนั โรคเบาหวาน 1.2.3 เพือ่ ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการจดั โครงการในคร้ังน้ี 1.3 กระบวนกำรเตรียมฝึ กโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ 1.3.1 กรอบแนวคดิ กำรฝึ กโครงกำรพฒั นำทักษะวิชำชีพ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ปัญหาดา้ นสุขภาพดา้ นในชุมชนหมู่ที่ 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ภำพที่ 1.1 กรอบแนวคดิ การเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ
บทที่ 2 บริบทชุมชน เครื่องมือ 7 ชิน้ เครื่องมือ 7 ชิ้น เป็นเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเขา้ ถึงพ้ืนท่ีของชุมชน และบง่ บอกถึงความสาคญั ของกลุ่ม ผูค้ นว่ามีความผูกพนั ธุ์ในวงศ์สกุลเดียวกนั สามารถช่วยแนะนาปัญหาบางอย่างของครอบครัวที่สามารถ เกิดข้นึ ไดแ้ ละยงั ทาใหร้ ู้จกั กลุ่มงานต่างๆ ในชุมชน เขา้ หาชุมชนไดง้ า่ ยข้นึ ไดเ้ รียนรู้การรักษาตนเองของคน ในชุมชน เขา้ ใจวิถีชีวิตของคนในชุมชนและท่ีสาคญั เป็นเครื่องมือที่ใชเ้ ป็ นใบเบิกทางเพ่ือการกลมกลืนเขา้ กบั ชุมชนน้นั 1.แผนทเ่ี ดินดิน
2.ผังเครือญำติ ผงั เครือญาติคือ การถอดความสัมพนั ธ์ในเชิงเครือญาติ หรือเชิงสายเลือดในชุมชน มีความสาคญั ตอ่ การทาความเขา้ ใจชุมชนและสงั คม ไม่วา่ จะเป็นสังคมเมืองหรือสังคมชนบท เพราะเครือญาติเป็น ความสมั พนั ธท์ ่ีเป็นรากฐานที่สุดของชีวติ ครอบครัว การทาผงั เครือญาติจึงมีส่วนสาคญั ในการทาความ เขา้ ใจระบบความสัมพนั ธใ์ นครอบครัวและชุมชน เป้ำหมำยสำคญั ของผงั เครือญำติ 1.เขา้ ใจโครงสร้างความสัมพนั ธเ์ ชิงเครือญาติซ่ึงเป็นรากฐานของครอบครัวและชุมชน 2.รู้จกั ตวั บุคคลและความสมั พนั ธท์ างสงั คมของเขาไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้นั 3.ช่วยสร้างความสัมพนั ธ์และความสนิทคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ที่กบั ชาวบา้ นไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4. ทาใหท้ ราบเก่ียวกบั สุขภาพหรือโรคติดต่อของคนในครอบครัว เพ่ือป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสุขภาพน้นั ๆ สัญลกั ษณ์แทนในผงั เครือญำติ สัญลกั ษณ์แทนบิดามารดาท่ีเสียชีวติ แลว้ สัญลกั ษณ์แทนผชู้ าย สัญลกั ษณ์แทนผหู้ ญิง สัญลกั ษณ์แทนการแตง่ งาน
ผงั เครือญำติ นายนิกร พนู สวสั ด์ิ / นางประคอง พูนสวสั ด์ิ นายศิริศกั ด์ิ พูนสวสั ด์ิ นายรัตพล พนู สวสั ด์ิ นายไกรการ พูนสวสั ด์ิ นางสาวขวญั หญิง พูนสวสั ด์ิ นายไพรัช พูนสวสั ด์ิ นางสลกั จิต รัศมี นางแกว้ ตา พนู สวสั ด์ิ นางยพุ ิณ พูนสวสั ด์ิ นายสุทศั น์ มากเกล้ียง นางสาวสุภาวี แกว้ มี นางสาววรรณพร พูนสวสั ด์ิ นางสาวนนั ทชั พร พูนสวสั ด์ิ นายวศิน มากเกล้ียง นางสาวอทิตยา มากเกล้ียง นางสาวนนั ณภสั พนู สวสั ด์ิ เดก็ หญิงธนิกุล พูนสวสั ด์ิ นายสหรัถ พูนสวสั ด์ิ
3. โครงสร้ำงองค์กรชุมชน รำยช่ือประธำนและอำสำสมคั รชุมชน นายประดิษฐ์ ชูกาย ประธาน นางกมลชนก รัตตนา รองประธาน นางจินตนา เลขาวิจิตร นายวศิ ณุ สีอ่อน เลขานุการ กรรมการฝ่ายสวสั ดิการสงั คม นายลิขิต นาคทอง นายณรงฤทธ์ิ คงชน กรรมการฝ่ายพฒั นา กรรมการฝ่ ายป้องกนั นางสาววรรวมิ ล พรมทอง นางโสพิณ ฝอยทอง กรรมการฝ่ ายกลุ่มสตรี กรรมการฝ่ ายการคลงั นางสุดธิรัก ชานกาญ นายปิ ยะกาญ รอดสง กรรมการฝ่ายกล่มุ สตรี กรรมการฝ่ ายการศึกษา
รำยชื่อคณะกรรมกำรทป่ี รึกษำชุมชน นางสาวเสาวลกั ษณ์ แสงเสน ท่ีปรึกษา นายเสง่ียม บรรจงรัตน์ ท่ีปรึกษา นางธนพร ณรงฤทธ์ิ ที่ปรึกษา นางทศั น์วรรณ เจิมปรุ ท่ีปรึกษา คณะกรรมการท่ีปรึกษามี นางสาวเสาวลกั ษณ์ แสงเสน นายเสง่ียม บรรจงรัตน์ นางธนพร ณรงฤทธ์ิ นางทศั น์วรรณ เจิมปรุ บทบาทการทางานของคณะกรรมการที่ปรึกษาส่วนใหญ่มีหนา้ ที่ปรึกษากบั ประธาน ชุมชน รองประธาน และ คณะกรรมการ ซ่ึงประธานกรรมการมีบทบาทในการบริหารชุมชนโดยมีประชาชน เป็นผสู้ นบั สนุน
รำยชื่อประธำนอำสำสมคั รสำธำรณสุขชุมชน หมู่ที่ 6 บ้ำนนคิ มกือลอง ตำบลตลงิ่ ชัน อำเภอบันนังสตำ จงั หวัดยะลำ นายประเสริฐ อนิ ทร์คง ประธานอาสาสมคั รสาธารสุข นางสาวสาลมู า ลิวดือลีมะ นางสาวเจะอะ๊ มากเช้ือ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางสาวโสพา คงชน นางสาวรอฮานา มะสาแมง็ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางอม่ิ ใจ ทมุ รัตน์ นางช่ืนจิตร พรหมจรรย์ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางสาวสุจิตรา แซ่ลิม้ นางพรธิพา อินทรร์ทอง สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางสาวยพุ ิณ ศรีสวา่ ง นางไพรวลั ย์ โนนะบตุ ร สมาชกิ อาสาสมคั รสาธารณสขุ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสขุ นางนงนชุ เสมาพฒั น์ นางบญุ ยนื สมบรู ณ์ สมาชกิ อาสาสมคั รสาธารณสขุ สมาชกิ อาสาสมคั รสาธารณสขุ
อาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชนหมู่ที่ 6 เป็ นองค์กรที่ดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน เฝ้าคอย ระวงั โรคต่าง ๆ ในชุมชน มีบทบาทให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของชุมชน โดยมี นายประเสริฐ อินทร์คง เป็ นประธาน โดยบทบาทหลกั ๆ ของ อาสาสมคั รสาธารณสุขในชุมชนหมู่ท่ี 6 ส่วนใหญ่จะ ประชาสัมพนั ธ์เก่ียวกบั การตรวจสุขภาพของประชาชน รวมท้งั เชิญชวนให้ประชาชนเขา้ รับการอบรมให้ ความรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพของตนเองและสมาชิกในครัวเรือน กล่มุ สตรี นำงรุ่งฤดี อุ้ยนุ่น หัวหน้ำกลุ่มสตรี คณะกรรมการพฒั นาสตรีเป็ นกลุ่มเป้าหมายในการดาเนินการขบั เคลื่อนการดาเนินงานจดั ประชุม สตรีในหมบู่ า้ นเพื่อแนะนาการจดั ทาครอบครัวพฒั นาตามคุณลกั ษณะท่ีกาหนดร่วมกบั ครอบครัวเป้าหมายท่ี เขา้ ร่วมโครงการวางแผนการพฒั นาประสานองค์กรหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเพื่อ ร่วมส่งเสริม/และพฒั นา ครอบครัว กลุ่มผ้สู ูงอำยุ นำงจรุ ี พสี ะระ หัวหน้ำกลุ่มผ้สู ูงอำยุ ชมรมผสู้ ูงอายเุ ป็นการรวมกลุ่มของผสู้ ูงอายทุ ี่มีอายุเกิน ๖๐ ปี ข้ึนไป อย่างนอ้ ย ๒๐ คน และอาจมี คนวยั อ่ืน ท้งั วยั ทางาน เด็ก เยาวชน เขา้ ร่วมเป็นสมาชิกสมทบ แต่ไม่ควรเกิน ๑ ใน ๔ ของสมาชิกท่ีเป็ นวยั สูงอายุโดยมีวตั ถุประสงค์ตรงกันในการดาเนินกิจกรรมท่ีเป็ นประโยชน์ท้งั ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และมีการกาหนดระเบียบขอ้ บงั คบั ในการบริหารชมรม ท้งั น้ี ชมรมผูส้ ูงอายุอาจอยู่ภายใตส้ ังกัด หน่วยงาน องคก์ ร หรืออาจเป็นชมรมอิสระท่ีไม่สงั กดั หน่วยงานใดก็ได้
วดั เจริญธรรม รพ.สต.บ้ำนกือลอง สถำนพยำบำล ศำสนำ ระบบสุขภำพชุมชน หมู่ท่ี 6 บ้ำนนคิ มกือลอง ตำบลตลง่ิ ชัน อำเภอบนั นงั สตำ จังหวดั ยะลำ ร้ำนขำยยำ สถำนที่ออกกำลงั กำย ร้ำนขำยยำ สนำมกฬี ำโรงเรียน นิคมสร้ำงตนเอง พฒั นำภำคใต้ 1
5. ปฏทิ ินชุมชน กุมภำพนั ธ์ มีนำคม เมษำยน -วันสงกรำนต์ มกรำคม -รดน้ำดำหัวผ้ใู หญ่ -วนั ปี ใหม่ -ประเพณชี ักพระ พฤษภำคม มถิ ุนำยน กรกฎำคม สิงหำคม -แข่งกฬี ำชุมชน กนั ยำยน ตุลำคม พฤศจกิ ำยน -บุญสำทรเดือนสิบ -ลอยกระทง ธันวำคม -วันสิ้นปี กจิ กรรมภำยในแต่ละเดือน เดือน กจิ กรรม มกรำคม -ตกั บาตรวนั ข้ึนปี ใหม่ เมษำยน -รดน้าดาหวั ผใู้ หญ่ สิงหำคม -ประกวดนางนพมาศ กนั ยำยน -ประเพณีชกั พระ พฤศจิกำยน -แข่งกีฬาสีของแต่ชุมชน -กิจกรรมบุญสาทรเดือนสิบ ธันวำคม -กิจกรรมแห่หมบั -กิจกรรมลอยกระธง -ประกวดนางนพมาศ -สวดมนตข์ า้ มปี -ตกั บาตรเทโว
6. ประวตั ิศำสตร์ชุมชน ประวตั คิ วำมเป็ นมำ ประวตั ิการจดั ต้งั นิคมฯ จดั ต้งั ข้ึนตามมติคณะรัฐมลตรีเมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยได้ กาหนดใหใ้ ชพ้ ้นื ที่ป่ าสงวน โครงการตาเนาะปเู ตะ๊ และไดเ้ ริ่มดาเนินการในปี พ.ศ. 2507 เป็นตน้ มาไดม้ ีการ ออกพระราชกฤษฎีกาจดั ต้งั นิคมฯ เมื่อวนั ท่ี 16 ธนั วาคม พ.ศ. 2517 มีพ้ืนท่ีท้งั สิ้น จานวน 638,901 ไร่ต่อมา คณะรัฐมนตรีมีมติเม่ือวนั ที่ 22 กรกฎาคมพ.ศ 2523 อนุมตั ิใหค้ ืนพ้นื ท่ีในเขตนิคมท่ียงั ไมไ่ ดใ้ ชป้ ระโยชนใ์ ห้ กรมป่ าไมก้ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพอ่ื รับรักษาไวเ้ ป็นสภาพป่ าสมบรู ณ์เน้ือท่ี 254,000 ไร่และเม่ือปี พ.ศ. 2535 ไดจ้ ดั ต้งั นิคมสร้างตนเองเบตงโดยแยกพ้นื ที่บางส่วนจากนิคมยะลาจานวน 171,250 ไร่ปัจจุบนั คงพ้ืนที่ เหลือท่ีรับผิดชอบจานวน 213,651 ไร่ ประเภทของนิคมนิคมลกั ษณะช่วยเหลือราษฎรเพื่อเป้าหมายทางการเมืองและเศรษฐกิจจดั ต้งั ข้ึน ตามคณะรัฐมนตรีเมื่อวนั ที่ 30 มกราคมพ.ศ. 2504 เพ่อื ความมน่ั คงปลอดภยั ของชาติในจงั หวดั ชายแดน ภาคใต้ 3 จงั หวดั ในทอ้ งท่ีการปกครองเขา้ ถึงโดยการอพยพราษฎรไทยพุทธไปอยรู่ วมกบั ราษฎรไทยมุสลิม และส่งเสริมการพฒั นาท้งั ทางดา้ นสาธารณูปโภคและอาชีพ
เขตพืน้ ท่ี ทิศเหนือ จดอาเภอรามนั และอาเภอกรงปิ นงั จงั หวดั ยะลา ทิศใต้ จดอาเภอเบตง จงั หวดั ยะลา ทิศตะวนั ออก จดอาเภอรามนั จงั หวดั ยะลา อาเภอศรีสาคร และอาเภอรือเสาะ จงั หวดั นราธิวาส ทิศตะวนั ตก จดอาเภอธารโต และอาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา สำธำรณปู โภค 1.ถนน 1.ถนนสายเมน จานวน 5 สาย ระยะทางประมาณ 285,000 กิโลเมตร 2.ถนนสายซอย จานวน 19 สาย ระยะทางประมาณ 68,654 กิโลเมตร 3. ถนนหมบู่ า้ นเดิมเชื่อมต่อระหวา่ งหมบู่ า้ น/ตาบล/อาเภอ จานวน 13 สาย ระยะทาง ประมาณ 58,200 กิโลเมตร 2.สะพำน 1.สะพานคอนกรีต จานวน 20 แห่ง 2.บลอ็ กคอนเวริ ์ค (ท่อระบายน้า) จานวน 7 แห่ง 3.แหล่งนำ้ 1.สระกกั เกบ็ น้าสาธารณประโยชน์ จานวน 3 สระ 2.ประปาหมบู่ า้ น/ชุมชน จานวน 7 แห่ง 3.อา่ งเก็บน้า/ฝายน้าลน้ สาธารณะ จานวน 7 แห่ง งำนประเพณี - ประเพณีสาทรเดือนสิบ -ประเพณีชกั พระ -ประเพณีรถน้าดาหวั ผใู้ หญ่ สถำนทส่ี ำคัญ/แหล่งท่องเท่ียว - พระตาหนกั สุทาลยั -น้าตกสุทาลยั -เขาปกโยะ๊
7.ประวัติชีวติ 1.ประวตั ชิ ีวติ นำงแวมีเนำะ ตำเละ ข้อมูลทั่วไป -ช่ือ นางแวมีเนาะ ตาเละ - ปัจจุบนั อายุ 55 ปี -สัญชาติ ไทย นบั ถือศาสนา อิสลาม -ที่อยอู่ าศยั 505 หมู่ 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา -มีพนี่ อ้ งท้งั หมด 5 คน เป็นบุตรคนที่ 3 มีบุตรท้งั หมด 5 คน -โรคประจาตวั ไขมนั ในเลือดสูง ประวตั ิด้ำนกำรศึกษำ - จบช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 จากโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพฒั นาภาคใต้ 1 ตาบลตลิ่งชนั อาเภอ บนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ประวัติด้ำนกำรทำงำน -เป็นผมู้ ีความรู้ความสามารถในการแปรรูปกลว้ ยหิน เช่นกลว้ ยฉาบ กลว้ ยหินเส้น กลว้ ยหินตม้ ขนมกลว้ ย เป็นตน้ -เป็นวิทยากรดา้ นการแปรรูปกลว้ ย
2.ประวัตชิ ีวิต นำงแหวด จิตต์บุรุษ ขอ้ มลู ทว่ั ไป -ช่ือ นางแหวด จิตตบ์ ุรุษ - อายุ 70 ปี -สญั ชาติ ไทย นบั ถือศาสนา พุทธ -ที่อยอู่ าศยั 147 หมู่ท่ี 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา -มีพน่ี อ้ งท้งั หมด 3 คน เป็นบุตรคนที่ 1 มีบุตร 4 คน -โรคประจาตวั ความดนั โลหิตสูง ประวัติด้ำนกำรศึกษำ -จบช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี6 จากโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพฒั นาภาคใต้ 1 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอ บนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา -จบช้นั มธั ยมโรงเรียนนิคมพฒั นวทิ ย์ ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ประวตั ดิ ้ำนกำรทำงำน - เป็นผทู้ ่ีมีความรู้ความสามารถทางดา้ นการจกั สานตะกร้าจากไมไ้ ผ/่ เส้นพลาสติก และทาไมก้ วาด จากดอกหญา้ -เป็นวิทยากรถ่ายทอความรู้ใหแ้ ก่เดก็ นกั เรียนเพ่ือเป็นอาชีพเสริม
3. ประวัตชิ ีวิต นำยร่ืน สุวรรณวงศ์ ข้อมูลทว่ั ไป -ชื่อนายรื่น สุวรรณวงศ์ -อายุ 82 ปี -สัญชาติ ไทย นบั ถือศาสนา พุทธ -ที่อยอู่ าศยั 47 หมทู่ ี่ 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา -มีพน่ี อ้ งท้งั หมด 2 คน เป็นบุตร คนที่ 2 -ไมม่ ีโรคประจาตวั ประวัติด้ำนกำรศึกษำ -จบช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 จากโรงเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพฒั นาภาคใต้ 1 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา -จบช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ กศน .จงั หวดั ยะลา ประวัตดิ ้ำนกำรทำงำน -เป็น เป็นผทู้ ี่มีความรู้ดา้ นยาสมนุ ไพร รักษาผทู้ ่ีถูกงกู ดั /โรคงูสวดั (เริม) โดยใช้หวั วา่ นมหาสังฆาต ผสมกบั น้าหรือเหลา้ ขาวนามาปิ ดปากแผล
บทที่ 3 กำรวินิจฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมทู่ ี่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ในคร้ังน้ี เป็นการศึกษาในรูปแบบ การสารวจ สังเกต การสมั ภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวินิจฉยั ชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 3.3 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล 3.4 ปัญหา และการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา 3.5 การวิเคราะหส์ าเหตุของปัญหา 3.1 กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมิ เป็นการเกบ็ ขอ้ มลู เพ่มิ เติมจากแหลง่ ทตุ ิยภูมิ ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กลา่ วมี ความสาคญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้ึน และขอ้ มูลท่ีไดเ้ ป็นขอ้ มูลปัจจุบนั มาก ท่ีสุด วิธีการเกบ็ รวมรวบขอ้ มูลปฐมภูมิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสังเกต เป็นการสังเกตสภาพทวั่ ไปของชุมชนและพฤติกรรมต่าง ๆ ของประชาชน ใน ชุมชน โดยที่ผถู้ ูกสงั เกตไมร่ ู้ตวั เพ่อื นาขอ้ มลู มาสนบั สนุนในการวเิ คราะหป์ ัญหา 3.1.1.2 การสมั ภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามที่เตรียมคาถามต่าง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และ จดั พมิ พไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาหรับใชก้ บั ผถู้ ูกสมั ภาษณ์ทุกคน โดยคาถามจะเป็นท้งั คาถาม แบบ ปลายปิ ดและแบบปลายเปิ ด เพ่อื เปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ กู สมั ภาษณ์แสดงความคดิ เห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มูลทุติยภมู ิ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิ หรือขอ้ มลู ที่รวบรวมไวท้ ี่องคก์ ร ในหมูบ่ า้ น ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวน้นั ทาใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใด เพิ่มเติม เพือ่ นามาใชใ้ น การสนบั สนุน ในกระบวนการวิเคราะหป์ ัญหา กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถำมแบ่งออกเป็ น 5 ตอน ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป ตอนที่ 2 ขอ้ มูลความรู้เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก ตอนท่ี 3 ขอ้ มลู ดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนที่ 4 ขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกบั โรค ตอนที่ 5 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้
3.2 กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนามาวิเคราะห์ตามข้นั ตอนการวิเคราะหข์ อ้ มูล ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มลู ดิบเป็นการตรวจสอบความถูกตอ้ งและความสมบรู ณ์ของขอ้ มลู 3.2.2 การแจกแจงความถ่ี โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป แลว้ นามาวเิ คราะห์ขอ้ มูลในรูปแบบ ร้อยละ และนาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพื่อความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มลู สาหรับขอ้ มูลเชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพอ่ื ความเขา้ ใจ 3.3 ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล จากการศึกษาชุมชนหมู่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา จานวน ครัวเรือน โดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงานตา่ ง ๆ จากสานกั งานกระทรวง สาธารณสุข จงั หวดั ยะลาและอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมบู่ า้ นในชุมชน ซ่ึงจะนาเสนอตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป จากการสารวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชน หม่ทู ่ี 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบล ตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ทาใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ตำรำงท่ี 1 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนเพศ N = 10 เพศ จานวน รอ้ ยละ เพศชาย 4 40% เพศหญิง 6 60 % รวม 10 100 % จำกตำรำงท่ี 1 พบวา่ สถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงร้อยละ 60 ผตู้ อบ แบบสอบถามเพศชายร้อยละ 40 สรุปไดว้ า่ คนในชุมชน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง
ตำรำงที่ 2 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพท่วั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถำมในด้ำนอำยุ อายุ จานวน รอ้ ยละ ต่ากว่า 20ปี 1 10 % 20-30ปี 3 30 % 31-40ปี 2 20% 40ปีขนึ้ ไป 4 40% รวม 10 100% จำกตำรำงท่ี 2 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอายสุ ่วนใหญ่อยใู่ นช่วงอายตุ ่ากวา่ 20 ปี ร้อยละ 10 ช่วงอายุ 20-30ปี ร้อยละ 30 ช่วงอาย3ุ 1-40ปี ร้อยละ20 ช่วงอายุ 40ปี ข้ึนไป ร้อยละ 40 สรุปไดว้ า่ ประชากร ในชุมชนที่ทาแบบสอบถามอยใู่ นช่วงอายุ 40 ปี ข้ึนไป มากที่สุด ตำรำงที่ 3 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพสมรส N = 10 สถานภาพสมรส จานวน รอ้ ยละ โสด 4 40 % สมรส 6 60 % หย่า - - แยกกนั อยู่ -- รวม 10 100 % จำกตำรำงท่ี 3 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามดา้ นสถานภาพโสด ร้อยละ 40 รองลงมาอยู่ในสถานภาพ สมรส ร้อยละ 60 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ที่ทาแบบสอบถามมีสถานสมรส ตำรำงท่ี 4 แสดงค่ำร้อยละของระดบั กำรศึกษำสูงสุด
N = 10 จำนวน ร้อยละ ระดับกำรศึกษำสูงสุด - - 1 10% ต่ากวา่ ประถมศึกษา 1 ประถมศึกษา 2 10 % มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) 2 20 % มธั ยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) 20 % ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง 4 (ปวส.) หรือ เทียบเทา่ ) - 40 % ปริญญาตรี 10 - อ่ืนๆ รวม 100 % จำกตำรำงที่ 4 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นการศึกษาปริญญาตรี ร้อยละ 40 รองลงมาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง(ปวส.) หรือ เทียบเท่าร้อยละ 20 รองลงมาระดบั การศึกษามธั ยมศึกษาตอน ปลาย(ม.4-ม.6) ร้อยละ 20 มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) ร้อยละ 10 ประถมศกึ ษาร้อยละ 10 ตามลาดบั สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ท่ีทาแบบสอบถามมีระดบั การศึกษาปริญญาตรี ตำรำงที่ 5 แสดงค่ำร้อยละของอำชีพหลกั ของครอบครัว N = 10 อำชีพหลกั ของครอบครัว จำนวน ร้อยละ 10 % รับจา้ งทวั่ ไป 1 40 % เกษตรกร 4
ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งานของรัฐ 1 10 % พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ - - เจา้ หนา้ ท่ีองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน 1 10% คา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตวั 2 วา่ งงาน/ไม่มีงานทา 1 20 % อ่ืนๆ - 10 % รวม 10 - 100 % จำกตำรำงที่ 5 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอาชีพหลกั ของครอบครัวอาชีพเกษตรกรมาก ที่สุด ร้อยละ 40 รองลงมาอาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตวั ร้อยละ 20 รองลงมารับจา้ งทว่ั ไป ร้อยละ10 รองลงมา ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งานของรัฐ ร้อยละ10 รองลงมาเจา้ หนา้ ท่ีองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ร้อยละ 10 รองลงมาวา่ งงาน/ไม่มีงานทา ร้อยละ 10 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญท่ ี่ทาแบบสอบถามอาชีพ หลกั ของครอบครัวคือ เกษตรกร ตำรำงที่6แสดงค่ำร้อยละของประวัตกิ ำรมโี รคประจำตวั N = 10 ประวัตกิ ำรมีโรคประจำตวั จำนวน ร้อยละ ไมม่ ีโรคประจาตวั 3 30 % มีโรคประจาตวั 7 70% รวม 10 100 % จำกตำรำงที่ 6 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นโรคประจาตวั เป็นผทู้ ่ีมีไมม่ ีโรคประจาตวั ร้อยละ 30 ผทู้ ี่มีโรคประจาตวั ร้อยละ 70 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ท่ีทาแบบสอบถามมีโรคประจาตวั
ตำรำงที่7แสดงค่ำร้อยละของปัญหำด้ำนเศรษฐกจิ มำกท่สี ุด(%) มำก(%) ปำนกลำง(%) น้อย(%) น้อยที่สุด 4 32 (%) ปัญหาดา้ นเศรษฐกจิ 5 60 % 20 % 0 1 รายไดไ้ ม่เพียงพอต่อค่าใชจ้ ่าย 20 % 0 ประชาชนขาดอาชีพเสรมิ 10 % 30 % 40 % 20 % 0 ราคายาง/ปาลม์ ตกต่า ประชาชนกเู้ งนิ จากหนรี้ ะบบ 10% 40 % 40 % 20 % 0 10 % 30 % 40 % 20 % 10 ประชาชนมีการตกงาน 30 % 50 % 10 % 10 % 0 มีรายไดไ้ มเ่ พียงพอต่อการใชจ้ า่ ย 10 % 30 % 40 % 20 % 0 ประจาเดือน ประชาชนมีหนีส้ นิ เพมิ่ ขึน้ จากการ 10% 30% 40% 20% 0 ประกอบอาชีพ ประชาชนขาดท่ีดนิ ทากนิ เป็นของ 10% 10% 50% 20% 10% ตวั เอง ขาดความรูเ้ ก่ียวกบั เศรษฐกิจ 20 % 50 % 20 % 20 % 10 % จำกตำรำงที่ 7 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาของประชาชนดา้ นเศรษฐกิจ สรุปได้ วา่ ปัญหาปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2.4 และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 2.30
ตำรำงท่ี8แสดงค่ำร้อยละของปัญหำด้ำนสังคม มากทสี่ ุด(%) มาก(%) ปานกลาง น้อย(%) น้อยทสี่ ุด 4 (%) 2 (%) ปัญหาดา้ นสังคม 5 20 % 3 10 % 1 ยาเสพตดิ ระบาดในชมุ ชน 50 % 20 % 0 มกี ารเลน่ การพนนั 40% 20% 30% 10% 0 คนในชมุ ชนขาดจิตสานกึ ในการ 10 % 30 % 40 % 20 % 0 พฒั นาตนเอง 0 40 % 50 % 10 % 0 30 % 40 % 20 % 0 คนในชมุ ชนขาดความเชา้ ใจซง่ึ กนั 10 % 20 % 20 % 20 % 10 % และกนั 30 % 20% 30 % 20 % 20 % 10% 10% 40% 30% 20% การลกั เล็กขโมยนอ้ ย 30% 30% 30% 0 0 คนในชมุ ชนขาดความชว่ ยเหลือ 10% 0 0 0 100% เออื้ เฟื้อเผ่ือแผ่ 0 10% 50% 20% 20% 0 ความเหลื่อมลา้ ของคนรวยและคน จนในสงั คม สขุ ลกั ษณะเชน่ ขยะมลู ฝอย/ฝ่นุ ละอองมลพิษในชมุ ชน สวสั ดกิ ารของหม่บู า้ น ความเช่ือและประเพณีของหมบู่ า้ น ขดั แยง้ ตอ่ สงั คม เยาวชนทะเลาะวิวาทไม่เรียน หนงั สือ
จำกตำรำงที่ 8 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาของประชาชนดา้ นสังคม สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ นสงั คม มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 4.47 ตำรำงท่ี9แสดงค่ำร้อยละของปัญหำด้ำนกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อม ปัญหำด้ำนกำรจัดกำร มำกทีส่ ุด มำก ปำนกลำง น้อย น้อยทส่ี ุด 2 1 ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละส่ิงแวดล้อม 5 4 3 ระบบสาธารนูปโภคบริโภคของ 10% 10% 30% 50% 10% ชุมชนเช่น น้าประปาและไฟฟ้า ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการ 0 10% 50% 30% 10% ดูแลความสะอาดของหมู่บา้ น ป่ าเสื่อมโทรมเพม่ิ ข้นึ 10% 50% 30% 20% 10% มีการทาลายทรัพยากรธรรมชาติ 20% 30% 20% 40% 0 เพ่มิ ข้ึน การบกุ รุกที่ดินสาธารณะ 20% 50% 10% 20% 0 การขาดการมีส่วนในการบริหาร 10% 20% 20% 30% 20% จดั การทรัพยากรธรรมชาติของคนใน ชุมชน ประชาชนในชุมชนขาดจิตสานึกใน 10% 20% 20% 30% 20% การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ จำกตำรำงท่ี 9 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มและการทอ่ งเท่ียว สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและ การท่องเที่ยว มีคา่ เฉล่ียเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2.40 และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 1.67
ตำรำงที่10แสดงค่ำร้อยละของปัญหำด้ำนสุขภำพ มำกทสี่ ุด มำก ปำนกลำง น้อย น้อยทส่ี ุด 4 3 21 ปัญหำด้ำนสุขภำพและพฤติกรรมกำร 5 ดแู ลสุขภำพตัวเองและครอบครัว 20% 20% 00 40% 20% 10% 10% 1.ประจาวนั ท่านทานอาหารครบ 3 ม้ือ 60% 20% 30% 30% 20% 2.ท่านทานอาหารแต่ละม้ือครบท้งั 5 30% 30% 10% หมู่ 20% 30% 00 3.ท่านดื่มเหลา้ 0 40% 0 4.ท่านชอบสูบบุหรี่ 0 0 60% 70% 30% 00 5.ท่านออกกาลงั กาย 0 20% 50% 00 6.ทา่ นนอนหลบั พกั ผอ่ น 8 ชม. 60% 40% 0 10% 10% 7.ทา่ นลา้ งมือทุกคร้ังก่อนรับประทาน 10% 10% 40% อาหาร 8.ทา่ นตรวจสุขภาพเป็นประจาทุกปี 0 0 0 9.เมื่อทา่ นมีอาการเจบ็ ป่ วยทา่ นทาตาม 20% 60% 20% คาแนะนาของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด 10.เม่ือทา่ นมีอาการไขห้ รืออาการ 60% 30% 10% เจ็บป่ วยทา่ นไปสถานพยาบาล เช่น รพ สต. รพ. คลินิก 11.เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทา่ นโทร 1669 20% 20% 30% วิธกี ำรดูแลสุขภำพของสมำชิกในครอบครัว ( สมำชิกในครอบครัวมกี ำรเจ็บป่ วยเลก็ น้อย)
ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากิน 5 1 2 2 0 เอง เช็ดตวั ลดไข้ 1 1 2 0 ปรึกษา/ขอคาแนะนาจาก อสม. 10 7 2 0 ใชบ้ ริการสุขภาพท่ีสถานพยาบาล เช่น 0 3 5 1 1 รพ.สต./คลินิก/โรงพยาบาล 3 0 วธิ ีกำรดแู ลสุขภำพของสมำชิกในครอบครัว 1 3 (สมำชิกในครอบครัวมกี ำรเจ็บป่ วยรุนแรง/หมดสต)ิ ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากิน 1 3 5 เอง เช็ดตวั ลดไข้ มีความรู้พ้นื ฐานดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉิน 0 5 3 สามารถปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ ได้ เช่น การช่วยฟ้ื นคืนชีพข้นั พ้นื ฐาน(CPR) ใชบ้ ริการสุขภาพที่สถานพยาบาล เช่น 1 2 5 รพ.สต./คลินิก/โรงพยาบาล รีบโทร1669 24 3 ในรอบ 1 ปี สมำชิกในครอบครัวมีอำกำรเจ็บป่ วยด้วยอำกำร/โรค อำกำรป่ วย/โรค จำนวน ร้อยละ เจบ็ ป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั 3 30% ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวดทอ้ ง/โรค กระเพาะ 1 10% โรคติดต่อ เช่น อุจจาระร่วง 4 40% ไขเ้ ลือดออก วณั โรค ฯลฯ โรคไม่ติดต่อ เช่น ความดนั โลหิต สูง โรคเบาหวาน โรคหวั ใจ
ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วิตกกงั วล/ 1 10 เครียด ติดยา/สารเสพติด ติดสุรา 0 0 เร้ือรัง อื่นๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และ กระดูก ปัญหำด้ำนอื่นๆ มำกทส่ี ุด มำก ปำนกลำง น้อย น้อยทส่ี ุด ปัญหำด้ำนอ่ืนๆ 54321 1.ประชาชนขดั แยง้ แบ่งพรรคแบง่ พวก 0 10% 30% 40% 20% 2.เยาวชนขาดจิตสานึกในช่วยเหลือกนั 10% 20% 40% 20% 10% 3.ขาดแคลนแหลง่ เงินทุนเพ่ือพฒั นา 10% 20% 30% 20% 20% อาชีพ 4.ขาดแหล่งน้า เพื่อการเกษตรเพอื่ การ 20% 20% 40% 10% 10% ประกอบอาชีพ 5.การประสานงานกบั ภาครัฐไม่ตอ่ เนื่อง 20% 20% 40% 10% 10% จำกตำรำงที่ 10 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาดา้ นอื่นๆ สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคอื 2.00 และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 1.58 ตำรำงท่ี 11 แสดงค่ำเฉลย่ี ส่วนเบย่ี งเบนมำตรฐำนของปัญหำในชุมชน ปัญหำ x̄ S.D. 0.87 ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 1.60 1.02 ปัญหาดา้ นสงั คม 2.00 0.82 ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและ 1.46 การทอ่ งเท่ียว
ปัญหาดา้ นสุขภาพ 1.34 1.16 ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ 1.00 0.66 ค่ำเฉลย่ี รวม 2.11 0.18 จำกตำรำงที่11 สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นสังคมมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ2.00 และมีคา่ เบี่ยงเบน มาตรฐานอยทู่ ี่ 1.02 รองลงมาคอื ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตอยทู่ ่ี 1.60 และมีค่าเบ่ียงเบน มาตรฐานอยทู่ ่ี 0.87 สรุปกำรทำประชำคม ชุมชนหมู่ท่ี 6 บ้ำนนิคมกือลอง ตำบลตล่ิงชัน อำเภอบันนังสตำ จังหวัด ยะลำ วนั เสาร์ ท่ี 6 เมษายน 2563 เวลา 13.00-15.00 น. ท่ีหอประชุมประจาหมูท่ ี่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบล ตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ผตู้ อบแบบสอบถาม 10 ชุด สรุปปัญหาของชุมชนหมู่ ที่ 8 ตาบลกรุง หยนั อาเภอทุ่งใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดด้ งั น้ี 1. ปัญหาดา้ นสังคม มีคา่ เฉล่ีย 2.00 มีค่าระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 2. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีค่าเฉล่ีย 1.60 มีค่าระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 3. ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม มีค่าเฉล่ีย 1.46 มีค่าระดบั ความ พงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 4. ปัญหาดา้ นอ่ืนๆมีค่าเฉล่ีย 1.00 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 5. ปัญหาดา้ นสุขภาพ มีค่าเฉลี่ย 1.34 มีคา่ ระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ย นกั ศึกษาไดเ้ ลง็ เห็นวา่ ปัญหาดา้ นสุขภาพ ท่ีมีค่าระดบั ความพึงพอใจ อย่ใู นเกณฑน์ อ้ ย ที่ควรไดร้ ับการแกไ้ ข ทางนกั ศึกษาจึงไดม้ าทาประชาคมในวนั และเวลาดงั กลา่ ว
กำรคิดคะแนนเพ่ือจัดลำดบั ควำมสำคญั ของปัญหำด้ำนสุขภำพ เกณฑ์กำรจดั ลำดบั ควำมสำคญั ของปัญหำของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงาน ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององค์ประกอบ คะแนนรวม ปัญหำ ขนำดของ ควำม ควำมยำก ควำม วิธบี วก วธิ ีคูณ ปัญหำ รุนแรง ง่ำย สนใจ 1.โรคเบาหวาน 6 9 3 1 19 162 2.ความดนั โลหิตสูง 5 8 4 1 18 160 3.โรคหวั ใจ 3 6 5 1 15 90 4.โรคหลอดเลือดในสมอง 2 4 6 1 13 48 5.โรคไต 2 4 5 1 12 40 จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ท่ี 1 คอื โรคเบาหวาน อนั ดบั ท่ี 2 คือ โรคความดนั โลหิตสูง อนั ดบั ท่ี 3 คือโรคหัวใจ อนั ดบั ที่ 4 คือโรคหลอดเลือดในสมอง อนั ดบั ที่ 5 คอื โรคไต ตามลาดบั ท่ีมำ:จำกอ้ำงองิ ทฤษฏวี ิธีของภำควิชำบริหำรสำธำรณสุข คณะสำธำรณสุขศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั มหดิ ล จำก วำรสำรพยำบำลกระทรวงสำธำรณสุข
บทท4่ี แผนงำนโครงกำร จากการสารวจชุมชนหม่ทู ่ี 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ลง สารวจพ้นื ท่ีโดยใชแ้ บบสอบถามขอ้ มลู วเิ คราะห์เพอ่ื จดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา เพ่ือหาวธิ ีการแกป้ ัญหา ใหก้ บั ชุมชน จากการศึกษาพบวา่ ชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชุมชน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาปัญหาดา้ นสุขภาพ โรคเบาหวาน มาจดั โครงการเพื่อใหค้ วามรู้กบั คนในชุมชน เกิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเบาหวานท่ีถกู วิธีและเหมาะสม และเพอ่ื ลดประชาชนท่ีป่ วย โรคเบาหวานไม่ใหเ้ พิ่มข้ึนในครัวเร่ือน 4.1 แผนงำน / โครงกำร จากปัญหาที่พบ พบวา่ เป็นปัญหาที่ทางชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าเนินการ จากปัญหาดงั กล่าว จึงได้ จดั ทาโครงการเพื่อแกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ช่ือกจิ กรรม/โครงกำร : รู้สักนิด พชิ ิตเบาหวาน ช่ือ-สกลุ ผ้เู สนอกจิ กรรม/โครงกำร : นางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ สังกดั : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 1. หลกั กำรและเหตผุ ล/ที่มำ/ปัญหำ 1.1 หลกั กำรและเหตผุ ล เบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อนั ส่งผลทาให้ ระดบั น้าตาลในกระแสเลือดสูงเกิน โรคเบาหวานจะมีอาการเกิดข้ึนเน่ืองมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้ น้าตาลไดอ้ ย่างเหมาะสม ซ่ึงโดยปกติน้าตาลจะเขา้ สู่เซลลร์ ่างกายเพอื่ ใชเ้ ป็นพลงั งานภายใตก้ ารควบคมุ ของ ฮอร์โมนอินซูลิน ซ่ึงผทู้ ่ีเป็นโรคเบาหวานร่างกายจะไม่สามารถนาน้าตาลไปใชง้ านไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ผลที่เกิดข้ึนทาให้ระดบั น้าตาลในเลือดสูงข้ึน ในระยะยาวจะมีผลในการทาลายหลอดเลือด ถา้ หากไม่ไดร้ ับ การรักษาอยา่ งเหมาะสม อาจนาไปสู่สภาวะแทรกซอ้ นท่ีรุนแรงได้
จากการสารวจขอ้ มูลครัวเรือน หมู่ท่ี 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา มีจานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 378 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน มีโรคเบาหวานท่ีพบมากท่ีสุด ส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพนั ธแ์ ละพฤติกรรมการกิน จากสถานการณ์และความสาคญั ดงั กล่าวนางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ นักศึกษาช้นั ปี ท่ี 2 หลกั สูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 เล็งเห็นว่าประชาชนหมู่ 6 บา้ น นิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา มีความเส่ียงที่จะเป็นโรคเบาหวาน เกินจากเกณฑ์ ท่ีกระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว้ จึงไดจ้ ดั โครงการรู้สักนิด พิชิตเบาหวาน หมู่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบล ตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ข้นึ เพื่อใหป้ ระชาชนในชุมชนมีความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคเบาหวาน เพ่ือลดอัตราการป่ วยด้วยโรคเบาหวาน ในหมู่บ้านและเพ่ือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกัน โรคเบาหวานในหมู่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั โรคเบาหวาน 1.2.2เพื่อให้ประชาชนตระหนักและเห็นความสาคญั ของการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน 1.2.3 เพ่ือป้องกนั ภาวะแทรกซอ้ นจากโรคเบาหวาน 1.3 กลุ่มเป้ำหมำย อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ท่ี 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา จานวน 30 คน 1.4 เป้ำหมำย 1.4.1 เป้ำหมำยเชิงคุณภำพ -ร้อยละ 80 ของกล่มุ เป้าหมายมีความพงึ พอใจต่อการจดั โครงการอยใู่ นระดบั มาก - ร้อยละ 60 ของผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม มีความรู้ความเขา้ ใจการควบคมุ ป้องกนั โรคเบาหวานท่ีถกู วธิ ี และเหมาะสม 1.4.2 เป้ำหมำยเชิงปริมำณ -กลุ่มเป้าหมายเขา้ ร่วมโครงการไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
1.5 ระยะเวลำดำเนนิ กำร ต้งั แต่วนั ท่ี 4 เมษายน – 7 เมษายน 2563 1.6 ดัชนตี วั ชี้วดั ควำมสำเร็จ 1.6.1 ประชาชนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั โรคเบาหวาน 1.6.2 จานวนค่าดชั นีโรคเบาหวานในชุมชนลดลง 1.6.3 อตั ราความพงึ พอใจของประชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการ ร้อยละ 70 พงึ พอใจ 1.7 ผ้รู ับผดิ ชอบโครงกำร นางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 1.8 สถำนท่ดี ำเนนิ โครงกำร หอประชุมหมทู่ ี่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา 1.9 ผลท่คี ำดว่ำจะได้รับ 1.8.1 อตั ราป่ วยดว้ ยโรคเบาหวานของประชากรในชุมชนลดลง 1.8.2 ทาให้ประชาชนในชุมชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออกและมีพฤติกรรมท่ี ถูกตอ้ งเหมาะสม 1.8.3 ประชาชนใหค้ วามร่วมมือในการดาเนินการรณรงค์ ป้องกนั และควบคมุ โรคไขเ้ ลือดออก 2. แผนกำรดำเนนิ งำน 2.1 วิธีกำรดำเนินงำน กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนนิ กำร ผ้รู ับผดิ ชอบ การวางแผน (P) 1. ประชุมวางแผน กาหนดวตั ถุประสงค์ 4 เมษายน 2563 นางสาวนนั ณภสั พนู สวสั ด์ิ งบประมาณ ดชั นีช้ีวดั ความสาเร็จ พฒั นา โครงการฉบบั สมบูรณ์เพ่อื ขออนุมตั ิ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 2. เมื่อโครงการไดร้ ับอนุมตั ิแลว้ จึง มอบหมายหนา้ ที่รับผดิ ชอบภายในกลุ่ม การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 พร้อมท้งั ประสานผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งประสานงาน
กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนินกำร ผ้รู ับผิดชอบ ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ที่ตอ้ งใช้ การปฏิบตั ิ จัดโครงกำรตำมกำหนดกำร 5 เมษายน 2563 นางสาวนนั ณภสั พนู สวสั ด์ิ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน (D) 11 วนั จดั กิจกรรม การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 11 ทาแบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ 12 การบรรยายใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั ความเสียง | โรคเบาหวานและวิธีการป้องกนั โรคเบาหวาน 1.1.3 กิจกรรมตอบคากามเก่ียวกบั ความรู้ โรคเบาหวาน กิจกรรม 1.1.4 จดั กิจกรรมกลมุ่ (FocusGroup) ระดมสมองภายในกลุม่ 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพึงพอใจ 1.2 วนั เดินรณรงค์ 1.2.11โรคเบาหวานและการ ป้องกนั 1.2.2 เดินรณรงคป์ ้องกนั โรคเบาหวาน 1 1.2.3 แจกแผน่ พบั เน้ือหาโรคหวาน การประเมินผล ประเมินผลตามวตั ถปุ ระสงคด์ ว้ ย 6 เมษายน 2563 นางสาวนนั ณภสั พนู สวสั ด์ิ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน (C) 1.แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 12. ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ 7 เมษายน 2563 นางสาวนนั ณภสั พนู สวสั ด์ิ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 13. สังเกตการมีส่วนร่วมของผเู้ ขา้ ร่วม การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 โครงการ ก า ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชุมผจู้ ดั ทาโครงการเพ่ือสรุปผลการ หรื อนาผลการ ดาเนินงานและเสนอแนะแนวทางเพ่ือ ปรับปรุงพฒั นา
กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนินกำร ผ้รู ับผดิ ชอบ ประ เมิ นไปใช้ ประโยชน์ (A) 2.2 ผลกำรดำเนนิ งำน 2.2.1 กำรดำเนนิ งำนในข้นั ตอนกำรวำงแผน (P) - ประสานงานกบั แกนนา อสม.หมู่ท่ี 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา นางสาวนันณภสั พูนสวสั ด์ิ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 ประสานงานกบั แกนนา อสม. หมู่ 6 เพอื่ จดั การทาประชาคมหาปัญหาที่ตอ้ งแกไ้ ขเพือ่ จดั ทาโครงการ -ประชุมวางแผนกาหนดการดาเนินงานและเขียนโครงการเพอ่ื ขออนุมตั ิ นางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยจ์ ดั ประชุมกนั กบั แกนนาอสม.หมู่ 6 เพ่ือสอบถามปัญหาต่างๆที่เกิดข้ึนในชุมชน และไดม้ ีการประชุมกนั ภายในกลุ่มเพ่ือวางแผนการดาเนินงาน กาหนดวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชง้ บประมาณ หนา้ ที่รับผิดชอบ เพ่ือให้การดาเนินงานโครงการเป็ นไป อยา่ งมีประสิทธิภาพ -ติดตอ่ ประสานงาน กบั ผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งในชุมชน นางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดต้ ิดต่อจดั การขอสถานท่ีในการ ทากิจกรรม เพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดตอ่ ขอใชส้ ถานที่ 2.2.2. กำรดำเนินงำนในข้นั ตอนกำรปฏบิ ัติ (D) - เสนอร่างโครงการ และปรับแกไ้ ข โครงการรู้สักนิด พิชิตเบาหวาน หมู่ที่ 6 ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ - จัดเตรียมสถานท่ีในการจัดทาโครงการรู้สักนิด พิชิตเบาหวาน หมู่ที่ 6 ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา - ดาเนินงานกิจกรรมโครงการรู้สักนิด พิชิตเบาหวาน หมู่ท่ี 6 ตาบลตล่ิงชันอาเภอ บนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั โรคเบาหวาน
นางสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดเ้ ขา้ รับการอบรมให้ความรู้เก่ียวกบั การดูแลตวั เองการรักษา อาการ และการป้องกนั เกี่ยวกบั โรคเบาหวาน - ใหค้ วามรู้เร่ืองโรคเบาหวาน 2.3 จำนวนผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร อสม. และตวั แทนครัวเรือนหม่ทู ่ี 6 ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา จานวน 30คน 2.4 สถำนที่ดำเนินกำร ศาลาประชุมประจาหมบู่ า้ น หมทู่ ี่ 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา 2.5 งบประมำณ 1. ค่าอาหารวา่ งและเคร่ืองด่ืมของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ คนละ 20 บาท x 47 คน X 1 ม้ือ เป็นเงิน 940 บาท 2. คา่ ถ่ายเอกสาร และ คา่ อปุ กรณ์ คา่ ถ่ายเอกสาร และ คา่ อุปกรณ์ เป็นเงิน 1,060 บาท รวมเป็ นเงินท้งั สิ้น 2,000 บาท (เงินสองพนั บาทถว้ น) หมำยเหตุ : ทุกรายการสามารถถวั เฉลี่ยได้ 3.เครื่องมือและวิธีกำรในกำรประเมินผล หลงั จากที่ไดด้ าเนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้ัน ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็ นกิจกรรมใน การประเมินผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างการวางแผนกบั การประเมินผลโครงการ พบวา่ กิจกรรมท้งั สองมีความสัมพนั ธ์ที่ตอ้ งดาเนินการควบค่กู นั โดยการวางแผนโครงการเป็นกิจกรรมของ การกาหนด แนวทางการนาไปปฏิบตั ิเพื่อการบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็นกิจกรรม สุดทา้ ยในการพิจารณาผลการดาเนินงานเป็นไปตามแผนท่ีกาหนดหรือไม่
3.1 เครื่องมือทใ่ี ช้ในกำรเกบ็ ข้อมูล 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพื่อการประเมินในคร้ังน้ี เป็นแบบสอบถามที่ผรู้ ับผิดชอบ โครงการไดส้ ร้างข้ึนใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงการ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลพ้ืนฐานส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ ส่วนที่ 2 ความรู้เร่ืองโรคเบาหวาน แบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพยี งคาตอบเดียว คอื ถูก หรือ ผดิ จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถูก ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 1 คะแนน ตอบผดิ ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคติต่อการป้องกนั และควบคมุ โรคเบาหวานแบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบ เพียงคาตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ ไมเ่ ห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ขอ้ คาถามมีท้งั ดา้ น บวกและดา้ นลบจานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี คาถามเชิงบวก คาถามเชิงลบ คะแนน ได้ 1 เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 5 คะแนน ได้ 2 คะแนน คะแนน ได้ 3 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 4 คะแนน คะแนน ได้ 5 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ไมเ่ ห็นดว้ ย ได้ 2 ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได้ 1 ส่วนที่ 4 พฤติกรรมการปฏิบตั ิตวั ป้องกนั โรคเบาหวานตตแบบสอบถามเป็นแบบเลือกตอบเพยี งคาตอบเดียว คือ ปฏิบตั ิเป็ นประจา 7 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง 5-6 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง 3-4 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบางคร้ัง 1-2 วนั /สัปดาห์ ไม่ได้ปฏิบตั ิเลย ขอ้ คาถามเชิงบวก จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑ์การให้ คะแนน ดงั น้ี ปฏิบตั ิเป็นประจา(7 วนั /สปั ดาห์) ได้ 5 คะแนน ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง (5-6 วนั /สปั ดาห์) ได้ 4 คะแนน ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง (3-4 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิบางคร้ัง (1-2 วนั /สัปดาห์) ได้ 2 คะแนน ไม่ไดป้ ฏิบตั ิเลย ได้ 1 คะแนน
3.1.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี ระดบั ความพึงพอใจมากที่สุด 5 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจมาก 4 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ยที่สุด 1 คะแนน 3.2 วธิ ีกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.4.1 ประเมินโดยการใหท้ าแบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จดั ทาแบบบนั ทึกการ สารวจ เป็นสมดุ บนั ทึกการสารวจและลดปัญหาโรคเบาหวาน โดยมีรายละเอียดการจดบนั ทึก ดงั น้ี 3.4.1.1 โรคเบาหวานชนิดตา่ งๆ 3.4.1.2 จานวนผเู้ ป็นเบาหวาน 3.4.1.3 สื่อการสอนเร่ืองเบาหวาน 3.4.1.4 การคานวณคา่ CI(Container index) 3.4.4 หลงั จดั ทาโครงการ 7 วนั ทางผจู้ ดั ทาโครงการลงพ้นื ที่ที่จดั ทาโครงการอีกคร้ังโดยทาแบบบนั ทึก การสารวจและ นาผลการสารวจคร้ังท่ี 1 จากการสารวจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ กบั คร้ังท่ี 2 จากการลงสารวจ เอง ของทางผจู้ ดั ทาโครงการ นามาเปรียบเทียบและประเมินผล 3.4.5 สรุปผลจากแบบทดสอบก่อนและหลงั ใหค้ วามรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จากแบบบนั ทึกการ สารวจผทู้ ่ีป็นเบาหวานคร้ังที่ 1 และคร้ังที่ 2 3.3 กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มูลดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี 1. การวิเคราะห์ขอ้ มลู ส่วนบคุ คล ใชส้ ถิติการแจกแจงความถ่ี ( Frequency ) และร้อยละ ( Percentage ) 2. การประเมินความพงึ พอใจ การประเมินความรู้ ใชส้ ถิติคา่ เฉล่ีย ( Ẋ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D.) 3.4 เกณฑ์ทใี่ ช้ในกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล
3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ 3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑ์การประเมินระดับความรู้เก่ียวกับเรื่ อง ไขเ้ ลือดออก แบ่งออกเป็ น 3 ระดับโดยใช้วิธีการกาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของบลูม Bloom (1964อา้ งถึงใน สมนึก แกว้ วิไล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้ึนไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑก์ ารประเมินทศั นคติเกี่ยวกบั การป้องกนั และควบคุมโรคเบาหวาน โดยใชว้ ิธีการกาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงในกุลธิดา เหมา เพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั ทศั นคติ คา่ ระดบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑบ์ ่งช้ีพฤติกรรมการออกกาลงั กาย โดยใชว้ ิธีการ กาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม คา่ ระดบั คะแนนเฉล่ีย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.2 แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพงึ พอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉลี่ยสูงกวา่ 4.50 มีความพึงพอใจในระดบั มากที่สุด คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 3.50 – 4.49 มีความพึงพอใจในระดบั มาก คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีความพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉลี่ยต่ากวา่ 1.50 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยที่สุด
4.ผลกำรประเมนิ กำรดำเนินโครงกำร 4.1 ข้อมูลท่วั ไปของผ้ตู อบแบบประเมนิ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมี 30 คน จากจานวนท้งั หมด 30 คน คิดเป็นร้อยละ100ซ่ึงขอ้ มลู ทว่ั ไปในเร่ือง เพศ อายรุ ะดบั การศึกษา อาชีพ สถานภาพ มีขอ้ มูลดงั ตารางต่อไปน้ี ตำรำงที่ 4.1.1 เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ เพศ จำนวน ร้อยละ หญิง 20 67.00 ชาย 10 33.00 รวม 30 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลเพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ เพศหญิง มีจานวน 20คน คดิ เป็นร้อยละ67 และเพศชายมีจานวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 33 ตำรำงที่ 4.1.2 อายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อำยุ จำนวน ร้อยละ ต่ากวา่ 20 ปี 3 10 20-30 3 10 31-40 12 40 41-50 10 33 51 ปี ข้ึนไป 2 7 30 100 รวม จากตารางแสดงขอ้ มูลอายุของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า อายุ 51 ปี ข้ึนไป มีจานวน 2 คน คิดเป็ น ร้อยล7 อายุ 41-50 ปี มีจานวน 10 คน คิดเป็ นร้อยละ 33 อายุ 31-40 ปี มีจานวน 12 คน คิดเป็ นร้อยละ 40 อายุ 20-30 ปี มีจานวน 3 คน คิดเป็ นร้อยละ 10 และอายุต่ากว่า 20 ปี มีจานวน 3 คน คิดเป็ นร้อยละ 10 ตามลาดบั ตำรำงที่ 4.1.3 ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ระดบั การศึกษา จำนวน ร้อยละ ประถมศึกษา 4 13.4 มธั ยมศึกษา 6 20 อนุปริญญา 10 33.3 ปริญญาตรี 10 33.3 อื่น ๆ 0 0
รวม 30 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ ระดบั ประถมศึกษา มีจานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 13.4 ระดบั มธั ยมศึกษา มีจานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ระดบั ปริญญาตรีมีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 ระดบั อนุปริญญา มีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3และ ระดบั อื่น ๆ มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั ตำรำงท่ี 4.1.4 อาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อำชีพ จำนวน ร้อยละ นกั เรียน/นกั ศึกษา 1 3.3 ขา้ ราชการ 3 10 เกษตรกรรม 10 33.4 คา้ ขาย/ธุรกิจ 5 16.7 รับจา้ งทวั่ ไป/ลกู จา้ ง 1 3.3 ไมไ่ ดป้ ระกอบอาชีพ/ทางานบา้ น 10 33.3 อ่ืน ๆ 0 0 รวม 30 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอาชีพของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อาชีพเกษตรกรรม มีจานวน 10 คน คิด เป็นร้อยละ 33.4 ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ/ทางานบา้ น มีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 อาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจ มีจานวน 5 คน คิดเป็ นร้อยละ 16.7 อาชีพขา้ ราชการ มีจานวน 3 คน คิดเป็ นร้อยละ 10 อาชีพนักเรียน/ นกั ศึกษา มีจานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3 อาชีพรับจา้ งทวั่ ไป/ลูกจา้ ง มีจานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.3 อาชีพอ่ืน ๆ มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั 4.2 ผลกำรทดสอบควำมรู้จำกกำรเข้ำร่วมโครงกำร ตำรำงที่ 4.2.1 ผลกำรทดสอบควำมรู้จำกกำรเข้ำร่วมโครงกำร รำยกำร สูงสุด ตำ่ สุด เฉลยี่ ผ่ำนเกณฑ์ ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ก่อนเขา้ อบรม 6 2 0.04 -- -- ผลการทดสอบ - - - 14 46.7 16 53.3
หลงั เขา้ อบรม 10 8 0.02 - - - - ผลการทดสอบ - - - 25 83.3 5 16.7 จากตารางที่ 4.2.1 พบวา่ แกนนาอสม.ท่ีเขา้ ร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รับ การบรรยายเก่ียวกบั โรคเบาหวาน ไดค้ ะแนนสูงสุด 6 คะแนน คะแนนต่าสุด 2 คะแนน และมีคะแนน เฉลี่ย 0.04 คะแนน มีจานวนผผู้ ่านเกณฑจ์ านวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 46.7 มีจานวนผไู้ ม่ผา่ นเกณฑจ์ านวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 53.3 และหลงั จากการเขา้ รับการบรรยายเกี่ยวกบั โรคเบาหวาน มีผทู้ ดสอบความรู้ได้ คะแนนสูงสุด 10 คะแนน คะแนนต่าสุด 8 คะแนน และมีคะแนนเฉล่ีย 0.02 คะแนน มีจานวนผูผ้ ่านเกณฑ์ จานวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 83.3 ซ่ึงผา่ นตามตวั ช้ีวดั ในหวั ขอ้ จุดประสงคม์ ีผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 8๐ มี ความรู้เก่ียวกบั การควบคุมป้องกนั โรคเบาหวานในระดบั ดี ตำรำงท่ี 4.2.2 คะแนนกำรทดสอบประเมนิ ควำมรู้ก่อนเข้ำร่วมโครงกำรอย่ำงละเอยี ด คะแนน จำนวน ( คน ) ร้อยละ 2 6 20 3 5 16.7 4 5 16.7 5 10 33.3 6 4 13.3 รวม 30 100 จากตารางท่ี 4.2.2 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้ก่อนเขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนน สูงสุด 5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 33.3 และคะแนนต่าสุด 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 13.3 ตำรำงที่ 4.2.3 คะแนนกำรทดสอบประเมินควำมรู้หลงั เข้ำร่วมโครงกำรอย่ำงละเอยี ด คะแนน จำนวน ( คน ) ร้อยละ 8 7 23.3 9 10 33.3 10 13 43.4 รวม 30 100 จากตารางที่ 4 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้หลงั เขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนน สูงสุด 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 43.4 และคะแนนต่าสุด 8 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 23.3
4.3 ผลกำรทำแบบประเมินควำมพงึ พอใจ ตำรำงที่ 4.3.1 ค่ำเฉลยี่ ของควำมพงึ พอใจต่อโครงกำรภำพรวม ลำดบั ท่ี ประเด็น ระดับควำมพงึ พอใจ 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม x̄ S.D แปลผล 2. ความพึงพอใจดา้ นวทิ ยากร 4.673 0.193 มากที่สุด 3. ความพึงพอใจดา้ นส่ิงอานวยความสะดวก 4.786 0.173 มากที่สุด 4. ความพึงพอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม 4.678 0.219 มากท่ีสุด 4.743 0.183 มากท่ีสุด จากตารางที่ 4.3.1 ค่าเฉล่ียของความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวม พบว่ามีความพึงพอใจดา้ น คุณภาพการให้บริการมากที่สุด(x̄ = 4.833 ) รองลงมา ความพึงพอใจดา้ นเจา้ หน้าที่ผูใ้ ห้บริการ ( x̄ = 4.786 ) และ ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ / ข้นั ตอนการดาเนินโครง การ ( x̄ = 4.673 ) นอ้ ยที่สุด ตำรำงที่ 4.3.2 ค่ำเฉลย่ี ของผลประเมนิ ควำมพงึ พอใจของผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร รำยละเอยี ด ระดับควำมพงึ พอใจ x̄ S.D แปลผล 1. ควำมพงึ พอใจด้ำนกระบวนกำร ข้ันตอนกำรจัดกจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 4.55 0.52 สูง 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 สูง 1.3 ระยะเวลาที่ใชใ้ นการจดั กิจกรรม 4.41 0.57 สูง 1.4 เอกสารและสื่อประกอบในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 ต่า 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 4.50 0.55 สูง 2. ควำมพงึ พอใจด้ำนวทิ ยำกร 2.1 การถา่ ยทอดความรู้ของวิทยากรมีความชดั เจน 4.56 0.59 สูง 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 4.45 0.54 สูง 3. ควำมพงึ พอใจด้ำนส่ิงอำนวยควำมสะดวก 3.1 สถานที่จดั กิจกรรม 4.43 0.61 สูง 3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 2.11 1.09 ต่า 4. ควำมพงึ พอใจด้ำนคณุ ภำพกำรจดั กจิ กรรม
4.1 ท่านไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ งคุม้ คา่ 4.29 0.72 สูง สูง 4.2 ทา่ นสามารถนาความรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น 4.29 0.65 สูง ชีวิตประจาวนั ผลรวม 3.84 0.34 4.4 สรุปผลกำรดำเนนิ งำนโครงกำร โครงการรู้สักนิด พิชิตเบาหวาน หมู่ท่ี 6 ตาบลตลิ่งชัน อาเภอบันนังสตา จังหวดั ยะลา มี วตั ถุประสงคเ์ พื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคเบาหวานท่ีถูกวิธีและเหมาะสม เพื่อ ลดการเกิดโรคเบาหวานในชุมชนและเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกัน เป้าหมายเชิงคุณภาพ คือ ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมและป้องกนั โรคเบาหวานได้ในระดบั ดี และเป้าหมายเชิง ปริมาณ คอื อสม. และตวั แทนครัวเรือน หมู่6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา เขา้ ร่วมโครงการ ร้อยละ 80 รับผิดชอบโครงการโดยนางาสาวนนั ณภสั พูนสวสั ด์ิ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ท่ี 2 รุ่นท่ี 15 โครงการน้ีไดด้ าเนินโครงการที่หม่ทู ่ี 6 ตาบลตล่ิงชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ต้งั แต่วนั ท่ี 4เมษายน – 7 เมษายน 2563 ข้นั ตอนการดาเนินงานที่สาคญั คือ วนั จดั กิจกรรม ให้ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการทา แบบทดสอบก่อนและหลงั ให้ความรู้ มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกบั โรคเบาหวานและวิธีการป้องกัน โรคเบาหวาน รวมท้งั ทากิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) เพื่อระดมสมอง และทาแบบประเมินความพึงพอใจ ส่วนวนั เดินรณรงค์ มีใหค้ วามรู้เรื่องการป้องกนั โรคเบาหวาน พร้อมท้งั แจกแผน่ พบั จากการสารวจข้อมูลครัวเรือนหมู่ที่6 ตาบลตลิ่งชัน อาเภอบันนังสตา จังหวดั ยะลา เดือน เมษายน 2563 มีจานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 327 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน โครงการน้ีได้ดาเนิน โครงการท่ีศาลาประจาหมู่บา้ น หมู่ที่ 6 บา้ นนิคมกือลอง ตาบลตลิ่งชนั อาเภอบนั นงั สตา จงั หวดั ยะลา ต้งั แต่ วนั ท่ี 4 เมษายน 7 เมษายน 2563 ข้นั ตอนการดาเนินงานที่สาคญั คอื วนั จดั กิจกรรม ใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการทา แบบทดสอบก่อนและหลงั ใหค้ วามรู้ มีการบรรยายใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั โรคไขบ้ าหวานและวธิ ีการป้องกนั โรคเบาหวาน รวมท้งั ทากิจกรรมกลุ่ม (Focus Group) เพ่ือระดมสมอง และทาแบบประเมินความพึงพอใจ ส่วนวนั เดินรณรงค์ มีใหค้ วามรู้เร่ืองการป้องกนั โรคเบาหวาน พร้อมท้งั แจกแผน่ พบั สรุปจากการทาโครงการรู้สักนิด พิชิตเบาหวาน ในคร้ังน้ี พบวา่ หลงั จากที่กลุ่มเป้าหมายท่ีเขา้ ร่วม รับฟังการให้ความรู้เร่ืองการป้องและการควบคุมกนั โรคเบาหวาน กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเขา้ ใจและ
รู้จกั เลือกใชว้ ิธีการป้องกนั ตนเองและครอบครัวให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน หรือภาวะเสี่ยงท่ีทาให้เกิด โรคเบาหวาน และวิธีการป้องกนั ตนเองแบบอ่ืนร่วมดว้ ย ทาใหอ้ ตั ราป่ วยของคนในชุมชนหมู่ 6 ลดลง 4.5 ประโยชน์จำกกำรทำโครงกำร - ทาใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็นระบบและการกาหนด รูปแบบ ตา่ งๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาใหไ้ ดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั การทางาน ประสานงาน และติดตอ่ กบั หน่วยงานตา่ ง ๆ พร้อมท้งั มี การ วางแผนการทางานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทางานร่วมกบั คนในชุมชน เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางแก่การทางานในอนาคต - การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่นรวมไปถึงการประสานงานหรือการติดต่อกบั หน่วยงานต่างๆ - ทาใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เมื่อเจอเหตุการณ์ท่ีไม่ไดเ้ ป็นไปตามแผนท่ีกาหนดไว้ 4.6 ปัญหำและอปุ สรรค - การดาเนินโครงการไม่เป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจากดั ทาให้ตอ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศึกษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความต่ืนเตน้ พดู เร็ว จึงทาใหผ้ สู้ ูงอายฟุ ังไม่ทนั - เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมีจานวนมาก นกั ศึกษาผูบ้ รรยายจึงไม่สามารถตอบขอ้ ซกั ถามไดอ้ ยา่ ง ทว่ั ถึง 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพร้อมในการดาเนินโครงการ 2. การทากิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลาใหส้ ้นั กระชบั 3. ควรใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมโครงการมีส่วนร่วมมากข้นึ เช่น การถาม-ตอบ เป็นตน้ 4. สื่อที่ใชค้ วรเนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ รวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรที่เห็นชดั เจน 5. ปรับการพูดใหช้ า้ ลง
5.แนวทำงกำรพฒั นำงำน 5.1 แนวทำงกำรพฒั นำงำน จากการจดั ประชุมกล่มุ เพอื่ พิจารณาหาขอ้ ผิดพลาด ปัญหาและอปุ สรรคของการทางานรวม ไปถึงขอ้ เสนอแนะจากผดู้ ูแลโครงการ ซ่ึงนามาสะทอ้ นถึงขอ้ ผิดพลาดและสาเหตุที่เกิดข้ึน และนามาพฒั นา ในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกบั ชุมชนต่อไป ปัญหำ สำเหตุ แนวทำงกำรแก้ไข ก า ร พู ด ต้อ ง มี ค ว า ม ม่ัน ใ จ เน่ืองจากขาดประสบการณ์ จึงทาให้ การดาเนินงานในคร้ังต่อไปจะ ใบหน้าย้ิมและการใช้น้าเสียง การพูดติดขดั และสถานท่ีเป็ นลานกวา้ ง มีการวางแผน การเตรียมความ ตอ้ งสม่าเสมอ จึงทาใหเ้ วลาพดู จะไม่ค่อยไดย้ นิ พร้อมก่อนการดาเนินกิจกรรม การดาเนินโครงการที่ไม่ เวลาในการประสานงาน รวมไปถึง การดาเนินงานคร้ังต่อไป เป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการไม่รู้ จะ ต้องมี การวางแผนและ และการประชาสัมพนั ธ์ยงั ไม่ กาหนดการ ทาให้ระยะเวลาดาเนินงาน จดั สรรเวลาในการดาเนินงาน ทว่ั ถึง ไม่สัมพนั ธ์กับระยะเวลาที่กาหนด และ ให้เป็ นระบบไม่ยืดย้ือเกินไป การประชาสมั พนั ธ์ไม่ทวั่ ถึง เ พื่ อ ใ ห้ ร ะ ย ะ เ ว ล า เ ห ม า ะ ส ม ตามท่ีกาหนด นาเสนอวิชาการส่ือท่ีใชค้ วร เนื่องจากขาดประสบการณ์ในการ นา ในการวางแผนจดั ทากิจกรรม เนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ เสนองานในแหล่งชุมชน จึงมีการเนน้ ไป ค ร้ั ง ต่ อ ไ ป จ ะ ต้ อ ง มี ก า ร ท่ีวิชาการ คานึงถึง กลุ่มเป้าหมายและ ระดับความรู้ ความสนใจของ กลุ่มเป้าหมาย ท้งั น้ี สื่อจะตอ้ ง มีเน้ือหาที่กระชับและสื่อ ให้ เขา้ ใจไดง้ ่าย
Search