Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เครื่องมือการวิจัย

เครื่องมือการวิจัย

Published by สุภาภรณ์ เวชกุล, 2022-08-11 12:36:23

Description: เครื่องมือการวิจัย

Search

Read the Text Version

ความสมั พนั ธ์ระหว่างตวั แปร วิธีการและเครอื่ งมือเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ตวั แปรการวิจยั วิธีการเก็บรวมรวมขอ้ มูล เครอื่ งมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล ดา้ นความรู้ การทดสอบ แบบทดสอบ ความสามารถ แบบสมั ภาษณ์ การสมั ภาษณ์ (สอบปากเปลา่ ) แบบประเมินทกั ษะ แบบประเมินผลงาน การประเมินทกั ษะ การประเมินผลงาน ดา้ นความคิดเห็น การสอบถาม แบบสอบถาม ความพึงพอใจ การสมั ภาษณ์ แบบสมั ภาษณ์ การสนทนากลมุ่ แบบรายการประเด็นการสนทนา กลมุ่

ความสมั พนั ธ์ระหว่างตวั แปร วิธีการและเครอื่ งมือเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ตวั แปรการวิจยั วิธีการเก็บรวมรวมขอ้ มูล เครอ่ื งมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล ความรูส้ ึก ความเช่ือ การวดั ความรูส้ กึ ความเชื่อ แบบวดั ทางจติ วิทยา ความสนใจ การสารวจความสนใจ แบบสารวจความสนใจ เจตคติ การวดั เจตคติ แบบวดั เจตคติ บคุ ลิกภาพ การวดั บุคลกิ ภาพ แบบวดั บคุ ลกิ ภาพ ดา้ นพฤตกิ รรม การสงั เกต แบบสงั เกต/แบบบนั ทึก พฤตกิ รรม/แบบตรวจสอบ การสอบถาม รายการ การสมั ภาษณ์ แบบสอบถาม แบบสมั ภาษณ์

4. สรา้ งเครอื่ งมือ 4.1 แบบสอบถาม แบบสอบถาม(Questionnaire) เป็ นเครอื่ งมือที่ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลซง่ึ ประกอบดว้ ยชดุ ของคาถามที่สรา้ งข้นึ ถามความคดิ เหน็ ขอ้ เท็จจรงิ ความสนใจ ความตอ้ งการ ความคาดหวงั และลกั ษณะต่าง ๆ ท่ีตอ้ งการทราบโดยผูต้ อบอา่ นและตอบดว้ ยตนเอง แบบสอบถามมี จุดมุ่งหมายเพอื่ บรรยาย อธิบาย สารวจและหาความสมั พนั ธ์ระหว่าง ตวั แปรท่ีตอ้ งการศกึ ษา เช่น พฤตกิ รรมผูบ้ รโิ ภค ดว้ ยวิธีรายงานตนเอง ของกล่มุ ตวั อยา่ ง เพราะฉะนนั้ แบบสอบถามจงึ เป็ นเครอ่ื งมือที่ใชใ้ น การรายงานตนเอง

ขอ้ ดี ขอ้ จากดั 1. ใชไ้ ดง้ ่าย สะดวกและประหยดั เวลาในการ 1. ผูส้ รา้ งตอ้ งแน่ใจว่าคาตอบท่ีกาหนดใหเ้ ป็ น เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล คาตอบท่ีเป็ นไปไดท้ งั้ หมด 2. สามารถใชเ้ กบ็ ขอ้ มูลกบั กล่มุ ตวั อยา่ ง 2. ผูต้ อบแบบสอบถามอาจไม่ตงั้ ใจหรอื ไม่จรงิ ใจ ขนาดใหญ่ ในการใหข้ อ้ มูล หรอื ใหผ้ ูอ้ น่ื ตอบแบบสอบถาม แทน 3. สามารถวิเคราะหแ์ ละแปลผลไดง้ า่ ย 3. ขอ้ มูลท่ีไดอ้ าจจะไม่ใช่ขอ้ เท็จจรงิ ถา้ ผูต้ อบมี ความโนม้ เอยี งท่ีจะตอบคาตอบท่ีทาใหต้ นเองดู เป็ นคนดี 4. ถา้ คาถามไม่ชดั เจน ผูต้ อบมีความเขา้ ใจท่ีไม่ ตรงกนั จงึ อาจจะไม่ตอบคาถามหรอื อาจจะตอบ ไม่ตรงตามสงิ่ ที่ผูว้ ิจยั ตอ้ งการ 5. ถา้ คาถามเป็ นแบบปลายเปิ ด สว่ นใหญ่

รปู แบบของแบบสอบถาม 1. แบบคาถามใหต้ อบรบั หรอื ปฏเิ สธ 2. แบบคาถามหลายตวั เลอื ก 3. แบบตรวจสอบรายการ 4. แบบจดั อนั ดบั 5. แบบสเกลการจดั ลาดบั ทศั นคติ

ตวั อย่างของแบบสอบถามใหต้ อบรบั หรอื ปฏเิ สธ ท่านเคยมปี ระสบการณท์ างดา้ นการตลาดหรอื ไม่  1. ไม่เคย  2. เคย (ตอบคาถามขอ้ 2.1 -2.2) 2.1 จานวนปี ท่ีทางานดา้ นการตลาด...........ปี 2.2 ไดร้ บั ตาแหน่งทางการตลาดระดบั ................

ตวั อย่างของแบบคาถามหลายตวั เลอื ก การสง่ เสรมิ การตลาดแบบใดที่สามารถจูงใจใหท้ ่านซ้อื ขนมขบเค้ยี ว มากท่ีสดุ  1. โฆษณา  2. การแสดงสนิ คา้ ณ จุดขาย  3. การแจกของรางวลั  4. การชงิ โชค  5. ของแถม  6. อนื่ ๆ (โปรดระบ)ุ ..........

ตวั อยา่ งของแบบตรวจสอบรายการ ใครมีสว่ นร่วมในการตดั สนิ ใจซ้อื รถยนตน์ ง่ั ท่ีท่านใชอ้ ยูใ่ นขณะน้ี (ตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ )  1. ท่านเป็ นผูต้ ดั สนิ ใจซ้อื ผูเ้ ดยี ว  2. สามี/ภรรยามีส่วนในการตดั สนิ ใจซ้อื  3.บตุ ร/หลานมสี ่วนในการตดั สนิ ใจซ้อื  4. เพอื่ นมีสว่ นในการตดั สนิ ใจซ้อื  5. อน่ื ๆ (โปรดระบ)ุ ...................................

ตวั อยา่ งของแบบจดั อนั ดบั สอื่ ใดที่มีอทิ ธิพลต่อการเลอื กซ้อื (เลอื กคาตอบโดยจดั อนั ดบั 1- 5 โดยเขยี นเลขอนั ดบั ลงในช่องหนา้ สอ่ื ที่กาหนดให)้ ------------- โฆษณาทางโทรทศั น์ ------------- วิทยุกระจายเสยี ง ------------- นติ ยสารหนงั สอื พมิ พ์ ------------- อนิ เทอรเ์ นต็ ------------- แผ่นพบั สนิ คา้

ตวั อย่างของแบบสเกลการจดั ลาดบั ทศั นคติ 1. มาตรวดั ลเิ คริ ท์ ประกอบดว้ ย ขอ้ ความและตวั เลอื กใหผ้ ูต้ อบเลอื กตอบ เช่น เห็นดว้ ย อย่างยง่ิ เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ ไม่เหน็ ดว้ ยและไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ดงั ตวั อยา่ ง ระดบั ความคิดเห็น ปัจจยั ท่ีสง่ ผลต่อการใชบ้ รกิ าร มากที่สดุ มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ยท่ีสดุ กลาง ดา้ นขอ้ มูลที่ไดร้ บั จากการบรกิ าร 1. ขอ้ มูลที่ไดร้ บั มีความทนั สมยั    2. ขอ้ มูลท่ีไดร้ บั มีความถูกตอ้ งแม่นยา      3. ขอ้ มูลที่ไดร้ บั เป็ นขอ้ มูลท่ีมีประโยชน์     

ตวั อยา่ งของแบบสเกลการจดั ลาดบั ทศั นคติ 2. คาถามแบบนยั จาแนก เป็ นมาตรวดั ความแตกต่างของความหมายของคา ประกอบดว้ ยขอ้ คาถาม มีคาคุณศพั ทท์ ี่มีลกั ษณะตรงขา้ ม และมีช่องว่างใหผ้ ูต้ อบ เลอื กตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยมีช่องประเมินตงั้ แต่ 1 ถงึ 7 ช่อง ผูต้ อบ จะเลอื กคาตอบท่ีดที ี่สดุ ตามความคิดเห็นของผูต้ อบ ดงั ตวั อย่าง

ตวั อย่างของแบบสเกลการจดั ลาดบั ทศั นคติ ทกั ษะดา้ นความคดิ ตวั เลอื ก 1. ลกั ษณะการ ชอบงานแบบเดมิ ____ : ____ : ____ : ____ : ___ ทางาน ชอบงานใหมๆ่ 1 2 3 45 2. ปล่อยใหป้ ัญหา ____ : ____ : ____ : ____ : ____ ความสามารถ ชอบแกป้ ัญหา ในการแกไ้ ข คลคี่ ลายเอง 1 2 3 45 ปัญหาเฉพาะ หน้า 3. ลา่ ชา้ ____ : ____ : ____ : ____ : ____ ความสามารถ รวดเรว็ 1 2 34 5 ในการ ตดั สนิ ใจ

ตวั อย่างของแบบสเกลการจดั ลาดบั ทศั นคติ 3. คาถามโดยใชม้ าตรวดั แบบสเตเปิ ล (staple scale) เป็ นการวดั ทศั นคติ ซง่ึ กาหนดตวั เลข โดยคะแนนในช่องที่กาหนดเป็ น 10 ช่องตงั้ แต่ +5 ไปจนถงึ -5 ดา้ นบวก หมายถงึ ระดบั ความพอใจระดบั มากถงึ นอ้ ยมีค่า +5 ถงึ +1 ตามลาดบั ดา้ นลบ หมายถงึ ระดบั ความไม่พอใจระดบั มากถงึ นอ้ ยมีค่า -1 ถงึ -5 ตามลาดบั ตวั อยา่ งเช่น การใหบ้ รกิ ารของหา้ งสรรพสนิ คา้ ความรวดเรว็ -5 -4 -3 -2 -1 0 +1 +2 +3 +4 +5 สถานที่ตงั้ สะดวก              

แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบวดั เจตคติ การสัมภาษณ์ การสังเกต แบบของออสกดู (Osgood ’s Scale) แบบวดั เจตคติของออสกดู เรียกกนั ทวั่ ไปวา่ วิ ธีหาความแตกต่างของ ความหมาย มีลกั ษณะคลา้ ยกบั การหาความหมายของมโนทศั น์ ดว้ ยการกาหนดมโน ทศั นซ์ ่ึงอาจจะเป็นคา ขอ้ ความ หรือวลี มาใหต้ อบดว้ ยการประเมินจาก 7 ช่วง ตาม ความหมายของคาศพั ทต์ รงกนั ขา้ ม ซ่ึงแบบวดั เจตคติของออสกดู จะประกอบดว้ ยขอ้ คาถามท่ีเป็นคาศพั ทท์ ี่มีความหมายตรงกนั ขา้ มเป็นคู่ ๆ แตล่ ะเร่ืองที่จะวดั ประกอบดว้ ย คาคุณศพั ท์ 3 ประเภท หรือประเภทใดประเภทหน่ึงตอ่ ไปน้ี

แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบวดั เจตคติ การสัมภาษณ์ การสังเกต 1. ค า คุ ณ ศั พ ท์ แ ส ด ง ก า ร ป ร ะ เ มิ น เ ช่ น ดี - เ ล ว น่ า รั ก - น่ า เ ก ลี ย ด ห ล่ อ - ขี้ เ ห ร่ 2. ค า คุ ณ ศั พ ท์ แ ส ด ง ศั ก ย ภ า พ เ ช่ น แ ข็ ง แ ร ง - อ่ อ น แ อ ห นั ก - เ บ า ใ ห ญ่ - เ ล็ ก 3. ค า คุ ณ ศั พ ท์ แ ส ด ง ก า ร เ ค ล่ื อ น ไ ห ว เ ช่ น ร่ า เ ริ ง - เ ศ ร้ า ซึ ม เ ร็ ว - ช้ า ส ว่ า ง - มื ด ร ะ ดั บ เ จ ต ค ติ ห รื อ ค ว า ม รู้ สึ ก ต า ม แ บ บ ข อ ง อ อ ส กู ด นี้ แ บ่ ง เ ป็ น 7 ร ะ ดั บ ( Scale) คือ 76 5 4 3 2 1 (หรือ 3 2 1 0 (-1) (-2) (-3)) จากคุณศัพท์ทางบวกไปหาคุณศัพท์ทางลบเช่ น ครูของเรา หล่อ ข้ีเหร่ 76 54321 แขง็ แรง อ่อนแอ 76 54321 วอ่ งไว เชื่องชา้ 76 54321 ดี เลว 76 54321

4.2 มาตรประมาณค่า มาตรประมาณค่า(rating scale) เป็ นเครอื่ งมือการวิจยั ท่ีใช้ กนั มาก มีลกั ษณะประกอบดว้ ยขอ้ ความและตวั เลอื กใหผ้ ูต้ อบ เลอื กตอบ เช่น เห็นดว้ ยอย่างมาก เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ ไม่เหน็ ดว้ ย และไม่เห็นดว้ ยอยา่ งมาก หรอื เหมาะสมมากที่สดุ เหมาะสมมาก เหมาะสมปานกลาง ไม่เหมาะสม และไม่เหมาะสมมากท่ีสดุ มาตรประมาณค่าสว่ นใหญ่ใชใ้ นการวดั เจตคติหรอื ความคดิ เหน็ มากกว่าจะใชว้ ดั ขอ้ เทจ็ จรงิ

ขอ้ ดี ขอ้ จากดั 1. ประเมินไดล้ ะเอยี ด 1. ผูต้ อบไม่มีโอกาสไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ตอ้ งตอบตามตวั เลอื กท่ีกาหนดให้ 2. สามารถเปรยี บเทียบคาตอบของ 2. ผลการตอบของผูต้ อบอาจจะมีความ ผูต้ อบได้ ลาเอยี ง ทาใหเ้ กดิ ความคลาดเคลอื่ นในการ ประเมินได้ 3. มีรปู แบบท่ีหลากหลาย ทาใหผ้ ูต้ อบ 3. ถา้ มีระดบั ความเขม้ ของความรสู้ กึ เป็ น ไม่เบอื่ หน่าย จานวนคี่ เช่น 3, 5 ,7 ระดบั ผูต้ อบส่วน ใหญ่อาจจะตอบระดบั ท่ีเป็ นกลาง ทาใหไ้ ม่ได้ ขอ้ มูลท่ีแทจ้ รงิ 4. สามารถวิเคราะหแ์ ละแปลผลไดง้ า่ ย เพราะมีตวั เลอื กใหต้ อบ

รปู แบบของมาตรประมาณค่า 1. แบบตวั เลข 2. แบบบรรยาย 3. แบบกราฟ 4. แบบใชส้ ญั ลกั ษณ์

ตวั อย่างของมาตรประมาณค่าแบบตวั เลข ความคดิ เห็นของผูใ้ ชบ้ รกิ ารท่ีมีต่อกลยุทธ์การตลาดของธรุ กจิ สปาในประเทศไทย คาช้แี จง กรณุ าทาเครอ่ื งหมายถกู () ลงในช่องสเ่ี หลยี่ ม (  ) ที่ตรงกบั ระดบั ความคดิ เหน็ ของท่านมากที่สดุ โดย 5 หมายถงึ เหน็ ดว้ ยมากท่ีสดุ 4 หมายถงึ เห็นดว้ ยมาก 3 หมายถงึ เห็นดว้ ยปานกลาง 2 หมายถงึ เห็นดว้ ยนอ้ ย 1 หมายถงึ เห็นดว้ ยนอ้ ยที่สดุ กลยุทธ์การตลาด ระดบั ความคดิ เห็น 5 4 3 21 ดา้ นราคา     1. อตั ราค่าบรกิ ารเหมาะสมและคุม้ ค่ากบั การใหบ้ ริการ 2. อตั ราค่าบรกิ ารมีผลต่อการตดั สนิ ใจในแต่ละโปรแกรมท่ี เลอื กใชบ้ รกิ าร     3. อตั ราค่าสมคั รสมาชิกคุม้ ค่ากบั สทิ ธิประโยชน์ท่ีไดร้ บั     

ตวั อย่างของมาตรประมาณค่าแบบบรรยาย แบบบรรยาย (Descriptive rating) คลา้ ยกบั แบบตวั เลข ต่างกนั ตรงท่ี ใชเ้ ฉพาะขอ้ ความบอกระดบั ความรสู้ กึ ดงั ตวั อย่าง 1. ความคดิ เห็นต่อเครอื่ งสาอางนาเขา้ จากต่างประเทศดา้ นภาพลกั ษณ์ 1. ชอบมากที่สดุ 2. ค่อนขา้ งชอบ 3. รสู้ กึ เฉย ๆ 4. ไม่ค่อยชอบ 5. ไม่ชอบเลย

ตวั อย่างของมาตรประมาณค่าแบบกราฟ แบบกราฟ (Graphic rating scales) เป็ นการใชก้ ราฟเสน้ ตรงแบ่งเขตระดบั ความรสู้ กึ แลว้ ใชภ้ าษา ตวั เลข หรอื ทง้ั ภาษาและตวั เลข ประกอบที่กราฟ ดงั ตวั อยา่ ง 1. คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ มาก 5 4 3 2 1 นอ้ ย 2. ชอ่ื เสยี งของตรายหี่ อ้ มาก 5 4 3 2 1 นอ้ ย

ตวั อย่างของมาตรประมาณค่าแบบใชส้ ญั ลกั ษณ์ แบบใชส้ ญั ลกั ษณ์ (Symbolic rating scales) เป็ นแบบที่ใชส้ ญั ลกั ษณห์ รอื รปู ภาพ เป็ นคาตอบซงึ่ เหมาะสาหรบั เดก็ เลก็ ที่ตอ้ งการสอ่ื สารผ่านรปู ภาพเนอื่ งจากมีขอ้ จากดั ดา้ น การอ่านหนงั สอื หรอื นาไปใชก้ บั กล่มุ ผูต้ อบท่ีมีลกั ษณะทางวฒั นธรรม หรอื การสอื่ สารท่ี แตกต่างกนั โดยใชส้ อบถามความรสู้ กึ ท่ีเป็ นภาพรวมทง้ั หมดของสง่ิ ที่ตอ้ งการประเมิน ดงั ตวั อยา่ ง 1. การใหบ้ รกิ ารของเจา้ หนา้ ที่สานกั งานตรวจคนเขา้ เมือง ☺  2. การบรกิ ารของพนกั งานโรงแรม  ☺

การสรา้ งมาตรประมาณค่า 1. รวบรวมประเดน็ ตวั แปร กจิ กรรม พฤติกรรม หรอื ตวั บ่งช้ี ของสงิ่ ที่ตอ้ งการวดั ใหค้ รบถว้ น 2. ถา้ เป็ นมาตรวดั เจตคติ ควรมีขอ้ ความทง้ั ท่ีเป็ นดา้ นบวกและ ดา้ นลบ 3. กรณที ่ีเป็ นการประเมินคุณค่า ควรมีเกณฑก์ าหนดใหช้ ดั เจนใน การประเมินค่าระดบั ต่าง ๆ 4. พจิ ารณาผลดว้ ยการวิเคราะหร์ วมเฉลยี่ ในกรณที ่ีเป็ นการวดั เจตคติ หรอื วิเคราะหร์ วมเฉลยี่ เป็ นดา้ นในกรณกี ารวดั อน่ื ๆ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความคดิ เห็นมี 2 ลกั ษณะ คอื ความคดิ เหน็ /ขอ้ ความที่เป็ นบวกหรอื ที่ สนบั สนุนตวั แปรท่ีวดั และความคดิ เห็นต่อ ขอ้ ความที่เป็ นลบหรอื ต่อตา้ นตวั แปรท่ีวดั

ระดบั ความคดิ เห็น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เห็นดว้ ยอย่างยง่ิ ขอ้ ความบวก ขอ้ ความลบ 51 เห็นดว้ ย 42 ไม่แน่ใจ 33 ไม่เหน็ ดว้ ย 24 ไม่เห็นดว้ ยอย่างยง่ิ 1 5

4.3 แบบสมั ภาษณ์ แบบสมั ภาษณ(์ interview) เป็ นเครอื่ งมือที่ใชใ้ นการ เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลที่มีการสอ่ื สารหรอื ปฏสิ มั พนั ธ์กนั แบบเผชญิ หนา้ ระหว่างผูส้ มั ภาษณก์ บั ผูใ้ หส้ มั ภาษณ์ แบบสมั ภาษณป์ ระกอบดว้ ยชดุ ของคาถามเกย่ี วกบั ขอ้ เท็จจรงิ ความคดิ เหน็ เจตคติและพฤติกรรมต่าง ๆ ท่ีผูส้ มั ภาษณใ์ ชถ้ ามผูใ้ หส้ มั ภาษณ์ และเมื่อไดค้ าตอบ ผูส้ มั ภาษณเ์ ป็ นผูบ้ นั ทึกคาตอบในแบบสมั ภาษณ์

ขอ้ ดี ขอ้ จากดั 1. ไดข้ อ้ มูลท่ีตรงตามความตอ้ งการของผูว้ ิจยั 1. ส้นิ เปลอื งเวลา ค่าใชจ้ า่ ยและแรงงานมาก เนอ่ื งจากผูส้ มั ภาษณม์ ีโอกาสไดอ้ ธิบาย คาถามใหช้ ดั เจนถา้ ผูถ้ กู สมั ภาษณไ์ ม่เขา้ ใจ 2. ไดข้ อ้ มูลครบถว้ น เพราะผูถ้ กู สมั ภาษณม์ ี 2. ผูส้ มั ภาษณอ์ าจจะไม่กลา้ พดู เม่ือตอ้ ง โอกาสตรวจสอบคาถามท่ีไม่ไดต้ อบ และมี เผชญิ หนา้ ตวั ต่อตวั ทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลไม่พอเพยี ง โอกาสซกั ถามเพมิ่ เตมิ ในกรณที ี่ไดข้ อ้ มูลไม่ ครบถว้ น 3. ระหว่างการสมั ภาษณ์ ผูส้ มั ภาษณม์ ีโอกาส 3. ขอ้ มูลท่ีไดอ้ าจจะไม่เป็ นจรงิ เนอื่ งจากผูใ้ ห้ กระตนุ้ ผูถ้ กู สมั ภาษณใ์ หต้ อบคาถาม สมั ภาษณว์ ิตกกงั วล กลวั ว่าจะถูกเปิ ดเผยขอ้ มูล ซง่ึ อาจจะมีผลเสยี ต่อตนเองหนา้ ท่ีการงานและอน่ื ๆ 4. ไดข้ อ้ มูลเพม่ิ เติมจากที่สมั ภาษณโ์ ดย 4. อาจไม่ไดร้ บั ความร่วมมือจากผูใ้ หส้ มั ภาษณ์

รปู แบบของแบบสมั ภาษณ์ 1. แบบท่ีมีคาตอบตายตวั หรอื คาถามปลายปิ ด 2. แบบคาถามปลายเปิ ด 3. แบบสเกล

ตวั อยา่ งแบบสมั ภาษณ์ แบบที่มีคาตอบตายตวั หรอื คาถามปลายปิ ด แบบที่มีคาตอบตายตวั หรอื คาถามปลายปิ ด เป็ นขอ้ คาถามท่ีมีคาตอบใหผ้ ูต้ อบ เลอื กตอบ ซงึ่ ตวั เลอื กที่ใหเ้ ลอื กอาจจะมี 2 ตวั เลอื กหรอื มากกว่า 2 ตวั เลอื ก แต่ท่ีใชก้ นั มาก จะมี 2 ตวั เลอื ก เช่น ใช่-ไม่ใช่ เห็นดว้ ย-ไม่เห็นดว้ ย หรอื บางทีอาจจะมีตวั เลอื กที่ 3 คอื ไม่ทราบ หรอื ไม่แน่ใจ รวมอยูด่ ว้ ย ในกรณที ี่มี 3 ตวั เลอื ก ดงั ตวั อย่าง ถา้ รฐั บาลมีนโยบายที่จะตรงึ ราคานา้ มนั ดเี ซล ท่านเห็นดว้ ยหรอื ไม่  เห็นดว้ ย  ไม่เหน็ ดว้ ย  ไม่แน่ใจ

ตวั อย่างแบบสมั ภาษณแ์ บบคาถามปลายเปิ ด แบบคาถามปลายเปิ ด เป็ นขอ้ คาถามท่ีมีความสาคญั มากที่ใชใ้ นการสมั ภาษณ์ แบบคาถามปลายเปิ ด เป็ นคาถามที่เปิ ดโอกาสใหผ้ ูต้ อบไดแ้ สดงความคดิ เห็น โดยอสิ ระที่ไม่มีการจากดั ในดา้ นเน้อื หาที่จะใหแ้ ก่ผูต้ อบ ดงั ตวั อย่าง 1. แนวโนม้ ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั และออนไลน์ จะเติบโตไปในทิศทางใด ............................................................................................... 2. ผูบ้ รโิ ภคกล่มุ ใดท่ีช่วยส่งเสรมิ ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั และออนไลน์ ..............................................................................................

ตวั อยา่ งแบบสมั ภาษณแ์ บบสเกล แบบสเกล เป็ นขอ้ คาถามที่มีตวั เลอื กใหผ้ ูต้ อบเลอื กตามระดบั ความคดิ เห็น คอื เห็นดว้ ยหรอื ไม่เห็นดว้ ย ขอ้ คาถามเหล่าน้เี ป็ นขอ้ คาถามท่ีจากดั คาตอบโดย ใหผ้ ูต้ อบเลอื กตอบตามสเกลท่ีกาหนดและอาจจะมีคาถามปลายเปิ ดเพอ่ื ใหผ้ ูต้ อบ แสดงความคิดเห็นเพมิ่ เตมิ ดงั ตวั อย่าง ถา้ รฐั บาลมีนโยบายที่จะทาฟันฟรที ุกประเภท ท่านเห็นดว้ ยหรอื ไม่ ......................... ................. ................ .................. .................... เหน็ ดว้ ยอยา่ งยงิ่ เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ ไม่เห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ยอย่างยง่ิ ถา้ ท่านเหน็ ดว้ ย ท่านคิดว่าในการบรหิ ารจดั การควรดาเนนิ การอยา่ งไร ..............................................................................................................

4.4 แบบสงั เกต แบบสงั เกต (observation) เป็ นเครอื่ งมือใชเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลท่ีผูส้ งั เกตเป็ นผูบ้ นั ทึกสง่ิ ที่เกดิ ข้นึ จาก การเหน็ หรอื ไดย้ นิ ในสถานการณจ์ รงิ การสงั เกตเป็ น วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลท่ีผูว้ ิจยั เป็ น “ผูส้ งั เกต” พฤติกรรมหรอื การกระทาต่าง ๆ ซงึ่ จะไดข้ อ้ มูลท่ีตรง สภาพความเป็ นจรงิ สงู

ขอ้ ดี ขอ้ จากดั 1. สามารถบนั ทึกพฤตกิ รรมโดยตรง 1. ใชเ้ วลามากกว่าจะสามารถสรปุ ผลจาก และสามารถเห็นการเปลยี่ นแปลงของ การสงั เกตได้ พฤตกิ รรมที่เกดิ ข้นึ 2. พฤตกิ รรมบางอย่างอาจไม่แสดงออก 2. ไดข้ อ้ มูลท่ีตรงกบั ความเป็ นจรงิ ในระหว่างท่ีสงั เกตได้ ตอ้ งใชเ้ วลาจงึ จะ เนอื่ งจากผูถ้ ูกสงั เกตแสดงพฤติกรรมที่ สงั เกตได้ แทจ้ รงิ ใหเ้ ห็น 3. สงั เกตไดห้ ลายอย่างและสงั เกตเวลา 3. บางครงั้ ผูส้ งั เกตอาจจะแปลความหมาย ใดกไ็ ด้ ของพฤติกรรมที่สงั เกตไม่ถกู ตอ้ ง 4. ใชก้ บั ผูท้ ี่อ่านหนงั สอื ไม่ได้ เดก็ เลก็ 4. ถา้ ผูส้ งั เกตมีความลาเอยี งจะทาใหไ้ ดผ้ ล และผูพ้ กิ ารทางสมอง สรปุ ขอ้ มูลที่ลาเอยี งดว้ ย

รปู แบบของแบบสงั เกต 1. แบบมาตรประมาณค่า 2. แบบตรวจสอบรายการ 3. แบบบนั ทกึ พฤตกิ รรม

ตวั อยา่ งแบบสงั เกตแบบมาตรประมาณค่า มาตรประมาณค่า ประกอบดว้ ยชดุ ของคุณลกั ษณะที่จะใหป้ ระเมินและสเกลที่ใหร้ ะบุ ระดบั ของคุณลกั ษณะต่าง ๆ มาตรประมาณค่าเป็ นเครอื่ งมือที่ใชใ้ นการสงั เกตพฤติกรรม ต่าง ๆ ไดโ้ ดยตรง และยงั สามารถนาไปใชเ้ ปรยี บเทียบคุณลกั ษณะต่าง ๆ ของผูถ้ ูกสงั เกต ดว้ ยกนั ได้ นอกจากน้ยี งั เป็ นวิธีการที่ผูส้ งั เกตสามารถนาไปใชใ้ นการบนั ทึกขอ้ มูลไดส้ ะดวก ดว้ ย ดงั ตวั อย่าง (5) (4) (3) (2) (1) ................ ............... ................ ................ ................ พนกั งานนาเสนอ พนกั งานนาเสนอ คล่องแคล่วมาก ไม่คล่องแคล่ว

ตวั อย่างแบบสงั เกตแบบตรวจสอบรายการ แบบตรวจสอบรายการ เป็ นการใหผ้ ูส้ งั เกตพจิ ารณาตดั สนิ ว่าสง่ิ ที่สงั เกต ใช่หรอื ไม่ใช้ หรอื สงิ่ ท่ีสงั เกตมีความพงึ พอใจหรอื ไม่พงึ พอใจ ซง่ึ เป็ นวิธีการขนั้ พ้นื ฐานที่ใช่ในการบนั ทึกขอ้ มูลของคุณลกั ษณะต่าง ๆ ดงั ตวั อยา่ ง คาช้แี จง โปรดเขยี นวงกลมลอ้ มรอบคาว่า ใช่ หรอื ไม่ใช่ เพอ่ื ระบวุ ่าผูบ้ รหิ าร องคก์ รมีภาวะผูน้ าหรอื ไม่ ใช่ ไม่ใช่ 1. มีการกาหนดกลยุทธ์ในการทางาน ใช่ ไม่ใช่ 2. มีการตดั สนิ ใจโดยรบั ฟังความคดิ เห็นของผูอ้ นื่ ใช่ ไม่ใช่ 3. มีหลกั การบรหิ ารจดั การท่ีดี

ตวั อย่างแบบสงั เกตแบบบนั ทึกพฤติกรรม แบบบนั ทึกเกรด็ พฤติกรรม เป็ นการบนั ทึกขอ้ เท็จจรงิ ของเหตุการณต์ ่าง ๆ อย่างมีความหมายโดยการเขยี นเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ที่เกดิ ข้นึ ลงในแบบบนั ทึกแยก เป็ นรายบคุ คล การบนั ทึกเกรด็ พฤตกิ รรมควรบนั ทึกเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ แยกออก จากการแปลความหมายของพฤตกิ รรม ดงั ตวั อยา่ ง กล่มุ คน วนั /เวลา การเดนิ ทาง กจิ กรรม การใชบ้ รกิ าร นกั ท่องเท่ียวมา วนั อาทิตย์ รถยนตส์ ว่ นตวั - ไหวพ้ ระขอพร - บูชาพระเครอ่ื ง เป็ นครอบครวั ช่วง 9.00-12.00 น. - แกบ้ น - เสยี่ งเสยี มซี นกั ท่องเที่ยวมา วนั เสาร์ รถทวั ร์ - ชมวิถชี ีวิต - ชมการแสดง เกษตรกรรม - ซ้อื สนิ คา้ พ้นื เมือง เป็ นกล่มุ ใหญ่ ช่วง 10.00 - 12.00น.

4.5แบบตรวจสอบรายการ (Checklist) แบบตรวจสอบรายการเป็ นแบบวดั ที่ประกอบดว้ ย รายการสงิ่ ที่ตอ้ งการตรวจสอบว่า มีหรอื ไม่มี ทาหรอื ไม่ทา ใช่หรอื ไม่ใช่ รปู แบบอาจเป็ นรายการสงิ่ ท่ีตอ้ งการตรวจสอบ เป็ นรปู ตารางหรอื เป็ นรายการที่ใหบ้ นั ทึกหรอื ให้ ระบเุ พยี งมีหรอื ไม่มี หรอื ระบปุ รมิ าณหรอื ความถเี่ ท่าไร

วิธีการสรา้ ง ➢วิเคราะหส์ งิ่ ท่ีตอ้ งการตรวจสอบว่าประกอบดว้ ย ตวั บ่งช้ี ตวั แปร กจิ กรรม หรอื พฤตกิ รรมใด ➢นามาบรรจุในแบบซงึ่ อาจอยู่ในรปู ตาราง หรอื เพยี งแต่เรยี งรายการท่ีตอ้ งการตรวจสอบ ➢ทาช่องใหร้ ะบเุ พยี ง มีหรอื ไม่มี ทาหรอื ไม่ทา ใช่หรอื ไม่ใช่

ตวั อย่างแบบตรวจสอบรายการ ผูว้ ิจยั ตอ้ งการตรวจสอบคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ดา้ นความประหยดั และออมของนกั เรยี น โดยกาหนด นยิ ามศพั ท์ของความประหยดั และออม หมายถงึ ลกั ษณะของบคุ คลที่แสดงถงึ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ น เป็ นผูป้ ระหยดั เวลา ทรพั ย์ และแรงงาน ทงั้ ของตนเอง และสว่ นรวม ตลอดจนวางแผนออมเพอื่ อนาคต

คาช้แี จง โปรดทาเครอื่ งหมาย ✓ลงในช่องที่ตรง กบั ความเป็ นจรงิ มากที่สดุ ความประหยดั และออม ทา ไม่ทา 1.ใชจ้ า่ ยสว่ นตวั ตามสถานภาพของตน 2.ซ้อื สง่ิ ของเครอื่ งใชเ้ ท่าที่จาเป็ น 3.ออมทรพั ยเ์ พอ่ื อนาคตในรปู แบบ ต่างๆ

แบบทดสอบ ลกั ษณะของแบบทดสอบ • ชดุ ของคาถามหรอื สงิ่ เรา้ เพอื่ ใหผ้ ูต้ อบแสดงพฤตกิ รรม ที่ตอ้ งการวดั • ใชว้ ดั ความรู้ ความสามารถของผูถ้ ูกวดั • ลกั ษณะสาคญั ใหก้ ล่มุ ตวั อยา่ งอ่าน/ฟังคาสงั่ และคาถามแลว้ ตอบสนอง คาตอบมีถกู -ผดิ เขม้ งวดในมาตรการดาเนนิ การสอบ

รปู แบบของแบบทดสอบ 1. ขอ้ สอบแบบมีคาตอบใหเ้ ลอื ก 1.1 แบบถูกผดิ 1.2 แบบเตมิ คาหรอื ตอบสนั้ ๆ 1.3 แบบจบั คู่ 1.4 แบบเลอื กคาตอบ

รปู แบบของแบบทดสอบ 2. ขอ้ สอบแบบเขียนตอบ 2.1 แบบจากดั คาตอบ 2.2 แบบขยายคาตอบ

ขนั้ ตอนการสรา้ งแบบทดสอบ 1. วิเคราะห์วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. สรา้ งตารางวิเคราะหจ์ ุดประสงค์ • ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั • ระดบั พฤติกรรมท่ีจะวดั • นา้ หนกั ความสาคญั แต่ละเน้อื หา • จานวนขอ้ สอบตามนา้ หนกั 3. เขยี นขอ้ สอบตามตาราง 4. จดั ทาแบบทดสอบตามนา้ หนกั

การเขยี นขอ้ สอบ แบบเลอื กตอบหลายตวั เลอื ก องคป์ ระกอบของขอ้ สอบแบบเลอื กตอบหลายตวั เลอื ก 1. คาถาม 2. ตวั เลอื ก - ตวั ถูก - ตวั ลวง

การเขยี นคาถาม 1. ถามใหต้ รงวตั ถปุ ระสงค์ ท่ีตอ้ งการวดั 2. คาถามชดั เจน ไม่คลมุ เครอื มีประเดน็ คาถามเด่นชดั

การเขยี นคาถาม 3. คาถามถกู ตอ้ งตามหลกั วิชา มีเงอื่ นไขพอเพยี ง 4. ใชภ้ าษารดั กุม ไม่เยน่ิ เยอ้ 5. ถามสง่ิ ที่ควรถาม เป็ นสาระสาคญั มีคุณค่า

การเขยี นคาถาม 6. ถามสงิ่ ท่ีเป็ นแบบอย่างที่ดี 7. หลกี เลยี่ งคาถามที่เป็ นปฏเิ สธ ซอ้ นปฏเิ สธ 8. ใชค้ าถามปลายปิ ด

การเขยี นตวั เลอื ก 1. สอดคลอ้ งกบั ประเดน็ คาถาม 2. เป็ นเอกพนั ธ์ (เรอื่ งเดยี วกนั / โครงสรา้ งเหมือนกนั ) 3. มีตวั ถูกตวั เดยี ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook