๒ แผนปฏบิ ัตกิ าร ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลม ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบา้ นแหลม สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดเพชรบุรี สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
๓ แผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม จงั หวดั เพชรบุรี **************************** เพื่อให้การส่งเสริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยบรรลุเป้าประสงค์ตามนโยบายและจุดเน้นการ ดาเนนิ งานของสานักงาน กศน. และของศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบา้ นแหลม ห้องสมุดห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี จึงได้จัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ซ่ึงประกอบด้วย ข้อมูลพื้นฐานเพ่ือการวางแผน ข้อมูลพื้นฐานห้องสมุดประชาชน ทิศทางการ ดาเนินงาน นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงาน กศน.ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ทิศทางการดาเนินงานของสานักงาน กศน.จังหวัดเพชรบุรี และของ กศน.อาเภอบ้านแหลม Roadmap การขับเคล่ือนนโยบายการส่งเสริมการอ่านของสานักงาน กศน. รายละเอียดแผนงานปฏิบัติการประจาปี งบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ บญั ชแี ผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม ตารางวเิ คราะหค์ วามสอดคล้องและแผนการใช้จ่าย งบประมาณตามแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และโครงการ ตามแผนปฏิบัติการประจาปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ซ่ึงศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบ้านแหลม ได้พิจารณาเห็นชอบแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมในแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ของ ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม และให้นาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ดังกล่าวใช้ เปน็ กรอบในการดาเนนิ งานของหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบา้ นแหลม ต่อไป ท้ังน้ี ต้ังแต่ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงชือ่ ..........................................ผเู้ สนอ (นางสาวญาณนิ ี พหุพันธ์) บรรณารักษ์ปฏิบตั ิการ ลงชอ่ื ...........................................ผูเ้ หน็ ชอบ (นางสาววรวรรณ ทวิ าลยั ) ครผู ูช้ ว่ ย ลงชือ่ ...........................................ผูอ้ นุมตั ิ (นางวภิ ารตั น์ ชาแจ้ง) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอบา้ นแหลม
๔ คานา แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม จัดทา ข้ึนเพ่ือเป็นแนวทางในการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยยึดแนวทางตาม นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเพชรบุรี และยทุ ธศาสตรแ์ ละจดุ เนน้ การดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบ้านแหลม ตลอดจนบริบท ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในพ้ืนท่ีเพื่อกาหนด เป็นแนวปฏิบัติและแนวทางในการดาเนินงาน ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ท่ีตง้ั ไว้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ การจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ห้องสมุดประชาชนอาเภอ บ้านแหลม ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เล่มน้ี สาเร็จลุล่วงด้วยดี ด้วยความร่วมมือของภาคีเครือข่าย และผู้เก่ียวข้องร่วมกันระดมความคิดเห็น โดยนาสภาพปัญหาและผลการดาเนินงานมาปรับปรุงเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยของห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม เพื่อสนองตอบความ ตอ้ งการของประชาชนในพื้นทีอ่ ย่างแทจ้ ริง คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ห้องสมุด ประชาชนอาเภอบ้านแหลม เล่มนี้ จะเป็นแนวทางในการดาเนินงานของบุคลากรและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อใหก้ ารจัด การศึกษาตามอัธยาศัยให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ และมีคุณภาพตามเป้าหมาย ตลอดจนเป็นประโยชน์ต่อผู้มี ส่วนเกีย่ วขอ้ ง ประชาชน ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติตอ่ ไป หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลม พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓
๕ สารบัญ หน้า แผนปฏบิ ัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ก คานา …………………………………………………………………………………………………………………………… ข สารบญั …………………………………………………………………………………………………………………………. ค ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู พื้นฐานเพอ่ื การวางแผน ………….………………….……………………………………... ข้อมลู พนื้ ฐานอาเภอบ้านแหลม .…….……….…………………………………………………………๑ สภาพทั่วไปของอาเภอบ้านแหลม ………….……………………………………………..…….. ๑ ข้อมูลดา้ นประชากร………………………………….………………………………………………….. 2 ข้อมลู ด้านสงั คม………………………………………….……………………………………………….. 3 ขอ้ มลู ด้านเศรษฐกิจ…………………………………….……………………………………………….. ๖ ข้อมลู ด้านการศึกษา…………………………………….………………………………………………. ๘ ขอ้ มูลพ้นื ฐานห้องสมดุ ................................................................................................. 1๓ รางวลั เกียรติบัตรและผลงานของห้องสมดุ .................................................................. 1๘ จานวนสมาชิกหอ้ งสมดุ ............................................................................................... ๒๓ ความรูท้ ว่ั ไปเกี่ยวกบั ห้องสมุด..................................................................................... ๒๓ ความหมายของหอ้ งสมดุ ประชาชน……………………………………………………………………. ๒๓ ความสาคญั ของห้องสมุดประชาชน…………………………………………………………………… ๒๓ วัตถปุ ระสงค์ของห้องสมุดประชาชน…………………………………………………………………… ๒๔ ระเบยี บการใชห้ ้องสมุดประชาชน……………………………………………………………………… ๒๔ บริการหอ้ งสมดุ ประชาชน………………………………………………………………………………… ๒๔ มารยาทและขอ้ ควรปฏิบัติเมอ่ื เข้ามาใช้หอ้ งสมุด…………………………………………………. 2๔ ทรพั ยากรในห้องสมุดประชาชน………………………………………………………………………… 2๕ การจดั หมวดหมหู่ นงั สือในห้องสมุดประชาชน…………………………………………………….. 2๕ การสบื ค้นขอ้ มูลในหอ้ งสมุดประชาชน………………………………………………………………. 2๖ การสบื ค้นและวิธีสืบค้นข้อมูลจากเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์............................................. 2๗ ส่วนท่ี 2 ทิศทางการดาเนนิ งาน……………….…………………………..……………………………………… นโยบายและจุดเนน้ การดาเนินงานสานักงาน กศน.ประจาปงี บประมาณ 256๔........ 2๘ ทศิ ทางการดาเนนิ งานของ กศน.อาเภอ................ ..................................................... 3๙ นโยบายและแผนปฏบิ ตั ิการส่งเสริมการอา่ น เพ่อื สร้างสังคมแห่งการเรียนร้ตู ลอดชวี ิต ในศตวรรษท่ี ๒๑ ของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔…….…….…….…….…….……. ๔๖
๖ สารบญั (ต่อ) หนา้ ส่วนที่ 3 รายละเอียดแผนปฏิบตั กิ ารประจาปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ …………………………. บัญชีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม.............................................................................. ๕๘ ตารางวิเคราะหค์ วามสอดคลอ้ งของแผนปฏบิ ัติการประจาปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ๖๑ แผนการใช้จา่ ยงบประมาณตามแผนปฏิบตั ิการประจาปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔...... ๖๖ สว่ นที่ 4 รายละเอียดโครงการตามแผนปฏบิ ัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ………. โครงการ ตามแผนปฏิบตั กิ ารประจาปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ ....................................๖8 คณะผู้จัดทา…………………………………………………………………………………………………………………..
ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลพนื้ ฐานเพอื่ การวางแผน ข้อมูลพืน้ ฐานของอาเภอบา้ นแหลม ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์ “บ้านแหลม” เปน็ ชอ่ื เรยี กตามสภาพภมู ิประเทศที่เปน็ แหลมย่ืนลงไปในทะเล เดมิ เป็นแขวงขุนชานาญ กับแขวงพรหมสาน ขึ้นกับอาเภอเมืองเพชรบุรีและได้รับยกฐานะเป็นอาเภอเม่ือปี พ.ศ.๒๔๔๓ สมัยอดีตนั้น อาเภอบ้านแหลมเป็นเสมือนเมืองท่าของเมืองเพชรบุรีที่ใช้เป็นท่ีติดต่อค้าขายกับหัวเมือง อ่ืน ดังนั้น เมืองเพชรบุรีจึงเป็นเมืองทมี่ ีความรุ่งเรืองมาแตใ่ นอดีตจากการติดต่อค้าขายกบั ต่างประเทศ ลักษณะที่ต้ัง อาเภอบ้านแหลม เป็นอาเภอหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี (จังหวัดเพชรบุรีมีทั้งหมด ๘ อาเภอ) อยู่ทางทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนือของจังหวัดเพชรบุรี ห่างจากตัวจงั หวัดประมาณ ๑๒ กิโลเมตร เน้ือที่ มีเน้ือที่ประมาณ ๑๘๙,๘๘๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๑๑๘,๖๗๘.๑๓ ไร่ คิดเป็น ร้อยละ ๓.๐๕ ของพนื้ ท่ีจงั หวดั เพชรบรุ ี อาณาเขต ทิศเหนือ ติดตอ่ กับอาเภอเมืองและอาเภออัมพวา จงั หวดั สมทุ รสงคราม ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กบั ตาบลหาดเจ้าสาราญ อาเภอเมือง จงั หวัดเพชรบุรี ทศิ ตะวันออก ติดตอ่ กบั ทะเลอา่ วไทย ทศิ ตะวันตก ติดต่อกบั อาเภอเมือง และอาเภอเขาย้อย จังหวดั เพชรบรุ ี บ้านแหลมเป็นอาเภอหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมาท่ีน่าภาคภูมิใจ ในอดีตเคยเป็นเส้นทางท่ีนักเดินทาง สมัยก่อนเดินทางมายังเมืองเพชรบุรี หรือไปทางใต้มีโบราณวัตถุตลอดจนวัดวาอารามอันเป็นศูนย์รวมทาง จิตใจและวัฒนธรรม มสี ภาพธรรมชาติท่สี วยงามและอุดมสมบรู ณ์ เปน็ แหล่งผลติ อาหารทะเลทสี่ าคัญ บ้านแหลมอยู่ห่างจากจังหวัดเพชรบุรี ประมาณ ๑๒ กิโลเมตร มีพื้นท่ี ๑๙๔,๐๓๙ ตารางกิโลเมตร พ้ืนท่ีโดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม แบ่งเป็น ๒ ลักษณะ คือพื้นที่ด้านตะวันตกน้าทะเลท่วมไม่ถึงเหมาะสาหรับการ เกษตรกรรม คอื การทานา สว่ นทร่ี าบชายฝัง่ ทะเลอดุ มไปด้วยทรัพยากรทางน้า เชน่ กุ้ง หอย ปลา ปู บ้านแหลมได้รับการยกฐานะเป็นอาเภอ เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๓ เรียกว่าอาเภอบ้านแหลมขึ้นอยู่กับเมือง เพชรบรุ ี ตง้ั ที่ทาการอาเภอทตี่ ลาดบ้านแหลมชัว่ คราว แลว้ ยุบไปไม่ปรากฏหลักฐานและได้ตัง้ ขนึ้ ใหม่เม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๖ ปจั จบุ นั ได้ย้ายไปทีท่ าการอาเภอ มาปลูกสร้างใหมท่ ร่ี ิมถนนสายเพชรบุรี – บ้านแหลม กิโลเมตรท่ี ๑๑ กระทาพธิ ีเปดิ คร้งั แรก เม่อื วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๓
๒ แผนที่อาเภอบา้ นแหลม จังหวดั เพชรบรุ ี ขอ้ มูลดา้ นประชากร จานวนประชากรจาแนกตามเพศและเขตพื้นท่ีอาเภอบ้านแหลม ท่ี ตาบล จานวน จานวนประชากร (คน) จานวนครัวเรอื นในพนื้ ที่ ครวั เรือน ชาย หญิง รวม เขต อบต. เขต 1. บา้ นแหลม 2. บางครก 3,202 2,747 2,898 5,645 เทศบาล 3. บางแกว้ 1,711 1,526 1,595 3,121 828 7,167 4. บางขนุ ไทร 1,093 1,537 1,516 3,053 4,262 3 5. บางตะบูน 1,476 2,199 2,146 4,345 3,956 1 6. บางตะบนู ออก 866 1,014 1,031 2,045 5,566 0 7. ทา่ แร้ง 628 616 639 1,255 808 1,961 8. ท่าแร้งออก 1,201 1,598 1,620 3,218 160 1,627 9. ปากทะเล 641 1,063 1,036 2,099 3,997 0 10. แหลมผักเบย้ี 512 877 842 1,719 2,533 1 551 706 725 1,431 2,115 0 รวม 11,881 13,428 14,048 27,๔๗๖ 1,803 0 26,028 10,786
๓ อาเภอบ้านแหลม มีครัวเรือนอาศัยอยู่ จานวน ๓๖,๘๑๔ ครัวเรือน อยู่ในเขตพื้นที่การปกครอง องค์การบริหารส่วนตาบลทั้งหมดมีประชากรทั้งส้ิน 27,๔๗๖ คน อยู่ในเขตพ้ืนท่ีการปกครองเทศบาลตาบล ท้ังหมดมีประชากรทั้งสิ้น 10,786 คน แยกเป็นประชากรชาย จานวน 13,428 คน คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๘๗ และประชากรหญงิ จานวน 14,048 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๕๗.๑๓ จานวนประชากรจาแนกตามช่วงอายุ ชว่ งอายุ (ปี) จานวน (คน) รอ้ ยละของประชากรทั้งหมด (คน) นอ้ ยกวา่ 1 ปเี ต็ม 162 0.44 1 ปีเตม็ – 2 ปี 209 0.57 3 ปีเต็ม – 5 ปี 895 2.43 6 ปีเต็ม – 11 ปี 2,179 5.92 12 ปเี ตม็ – 14 ปี 1,172 3.19 15 ปเี ต็ม – 17 ปี 1,173 3.19 18 ปีเต็ม – 49 ปี 16,076 43.70 50 ปเี ต็ม – 59 ปี 5,921 16.09 60 ปขี ้นึ ไป 9,001 24.47 รวม 36,788 100.00 จากตารางจานวนประชากรจาแนกตามช่วงอายุ พบว่า ประชากรส่วนใหญ่มีชว่ งอายุ 18 ปีเตม็ – 49 ปี จานวน 16,076 คน คิดเป็นร้อยละ 43.70 ข้อมลู ด้านสังคม ดา้ นการศกึ ษา - โรงเรียนประถม จานวน ๓๒ แห่ง - โรงเรียนมธั ยม จานวน ๓ แห่ง - โรงเรียนสังกัดการศึกษาเอกชน จานวน ๒ แห่ง - โรงเรียนโครงการขยายโอกาสทางการศึกษา จานวน ๔ แห่ง - ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบ้านแหลม จานวน ๑ แห่ง - ศูนย์พฒั นาเด็กเลก็ จานวน ๑๔ แหง่ - ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอ จานวน ๑ แหง่ ดา้ นการสาธารณสขุ มีโรงพยาบาล ๑ แหง่ สถานอี นามัย ๑๒ แห่ง คลนิ กิ ๗ แห่ง รา้ นขายยาแผนปจั จบุ นั ๑๒ แหง่ ดา้ นศาสนา มีวัด ๒๖ แห่ง ที่พักสงฆ์ ๑ แห่ง มัสยิด ๗ แห่ง ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ๙๐% และ ๑๐% นบั ถือศาสนาอิสลาม ดา้ นวัฒนธรรม มีศิลปวัฒนธรรมและประเพณี สืบต่อกันมาช้านาน ท่ีเป็นเอกลักษณ์ของอาเภอบ้านแหลม เช่น ศิลปกรรมช่างฝีมือ ช่างไม้ ช่างเขียน ช่างป้ัน และจัดดอกไม้ นาฏดุริยศิลป์ (ละครชาตรี หนังตะลุง ดนตรีไทย
๔ โบราณสถานโบราณวัตถุ (หลวงพ่อสุโขทัย วัดในกลาง, พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ วัดเขาตะเครา, หลวงพ่อ สัมฤทธิ์ วัดต้นสน, หลวงปู่ปางมารวิชัย วัดลักษณาราม พระพุทธรูปศิลปะสมัยศรีวิชัย วัดเพชรสุวรรณ, จิตรกรรมฝาผนัง วัดในกลาง, ภาพจิตรกรรมบนแผ่นไม้กระดาน วัดปากคลอง, ภาพเขียนสีน้ามันรัชกาลท่ี ๕ วดั ลกั ษณาราม ประเพณีแขง่ เรือ, เลน่ ววั ลาน ตลอดจนประเพณแี ละการเล่นอื่น ๆ เปน็ ต้น (๑) ววั ลาน การเล่นวัวลานนั้นวิวัฒนาการมาจากการใช้วัวนวดข้าว เพราะลักษณะลานนวดข้าวเป็น วงกลมชาวนาคิดการเล่นวัวลานข้ึนมาเพื่อเป็นการประกวดกันว่า วัวของใครฝีเท้าดีและกาลังดีกว่ากัน เพื่อ ความสนกุ สนานความมชี ่อื เสยี งยงั มีผลต่อการคา้ ขายวัวใชง้ านอีกดว้ ย เพราะววั ทช่ี นะการแข่งขนั จะมีผ้สู นใจซื้อ ในราคาสงู (๒) เพลงพวงมาลยั เป็นเพลงพ้ืนเมืองที่มีมาแต่โบราณ นิยมเล่นในแถบภาคกลางท่ัวไป เล่นในเทศกาลตรุษ สงกรานต์งานมงคลต่างๆ ในอาเภอบา้ นแหลม มกี ารเลน่ เพลงพวงมาลัยในวนั สงกรานตท์ ีห่ มบู่ า้ นบางลาพูตาบล บางครก ส่ิงทีโ่ ดดเด่นในอาเภอบ้านแหลม ชนกล่มุ น้อย บ้านแหลมเป็นอาเภอท่ีมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่หลายกลุ่ม และอยู่ในสังคมเดียวกันอย่างสงบ สขุ ตลอดมา ด้วยการยอมรับวฒั นธรรม และการรู้จักเคารพสทิ ธมิ นุษยชน (๑) โซง่ หรือไทยทรงดา เป็นชนชาติไทยสาขาหนึ่ง เรียกว่า “พวกผู้ไทย” เป็นสาขาผู้ไทยดา เพราะนิยมแต่งกายด้วย สีดา จึงเรียกกันว่า “ลาวทรงดา หรือ ไทยทรงดา” และเหตุที่เรียกไทยทรงดาว่า ลาวทรงดา หรือลาวโซ่งน้ัน คาว่าลาวน้ีคนไทยท่ัวไปเรียก เพราะเห็นว่าอพยพมาจากประเทศลาว ไทยทรงดามีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแคว้นสิบ สองจุไทย ไดอ้ พยพมาประเทศไทย ๒ ครง้ั ด้วยกนั คอื ในสมยั พระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี และสมัยรัชกาลท่ี ๓ จาก คา บอกเล่าของพวกไทยทรงดาเองว่า ได้อพยพจากถิ่นฐานเดิมโดยทางเรือ มาตั้งถ่ินฐานอยู่ที่ตาบลท่าแร้ง แต่ไม่ ชอบภูมิประเทศแถบน้ีจึงโยกย้ายไป เรื่อย ๆ จนถึงแถบเขาย้อย ซึ่งมีภูมิประเทศเหมือนถิ่นฐานเดิม ส่วนท่ี เหลืออยูใ่ นอาเภอบา้ นแหลมอยู่ทห่ี มู่บ้านทงุ่ เฟื้อ หมู่ท่ี ๗ ตาบลบางครก (๒) มอญ ชาวมอญเป็นชนเผา่ มองโกลอยด์ ถิน่ ฐานเดิมอยทู่ างทิศตะวนั ตกของจีน ไดอ้ พยพลงมาทางใต้ ตั้งอาณาจักรแถบลุ่มแม่น้าอิระวดีในประเทศพม่า และเนื่องจากสงครามระหว่างมอญกับพม่า ทาให้มอญต้อง อพยพหนีภัยสงคราม มาต้ังหลักแหล่งในประเทศไทยเป็นระยะๆ ชาวมอญในเพชรบุรี มีความรู้สึกนึกคิดว่าตน เป็นคนไทย ไม่มีความรู้สึกแตกแยกชาวมอญในอาเภอบ้านแหลม ตั้งบ้านเรือนอยู่ ๒ แห่ง คือ ท่ีบ้านบางลาพู ตาบลบางครก และท่ีบ้านบางด้วน หรือคุ้งตาหนัก ตาบลบางตะบูน ซึ่งอพยพมาเม่ือสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตรงกับสมัยรัชกาลท่ี ๒ อาชีพหลักของชาวมอญ คือ ทานาและทาการประมง ชาวมอญนับถือผี และศาสนา พุทธ ดงั น้นั ขนบธรรมเนียมประเพณีจงึ มีประเพณีถือผแี ละพุทธคละเคล้าปนกันไป (๓) ไทยมุสลิม ชาวไทยมุสลมิ ในอาเภอบ้านแหลมมีอยู่ที่ตาบลท่าแร้ง ตาบลท่าแร้งออก และ ทีบ่ า้ นใหม่ ตาบลบางครก ประวัตคิ วามเปน็ มาไมม่ ีหลกั ฐาน อาชพี หลัก คือ การทานา (๔) จีน ชาวไทยจีนอาศัยอยู่ในอาเภอบ้านแหลม มีอยู่ที่ตาบลบ้านแหลม บางตะบูน บางแก้ว บางขุน ไทร แหลมผักเบ้ีย ประวัติความเป็นมาได้มีพ่อค้าชาวจีนได้แล่นเรือสาเภาจีนเพื่อเข้ามาติดต่อค้าขายกับ
๕ อาณาจักรบรรพบุรุษคนไทยในยุคน้ัน แต่ทว่าเรือสาเภาท่ีแล่นมาไกลโพ้นทะเลมาถึงหาดเจ้าสาราญก็ได้เกิดลม พายุขึ้นในท้องทะเล เรือกระทบกับหินโสโครกในท้องทะเลทาให้พื้นท้องเรือทะลุ กัปตันเรือก็ให้ทอดสมอ ปรากฏว่าสมอเกิดด้าน จึงทาให้เรืออับปางจมลง สินค้าท่ีมากับเรือได้ถูกกระแสน้าพัดพาแก้วแหวนเงินทอง ถว้ ยโถเครื่องลายคราม และได้เรียกพน้ื ท่ที ่ีแกว้ แหวนเงินทอง ทาใหช้ าวจีนได้มาอาศยั อยใู่ นอาเภอบา้ นแหลม มี อาชีพประมงและค้าขายเป็นสว่ นใหญ่ (๕) ไทยพ้นื ราบ ชาวไทยพื้นราบในอาเภอบา้ นแหลมมีอาศัยอยู่ทีต่ าบลบางครก ปากทะเล และบางขุนไทร ซง่ึ สว่ นใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร เชน่ การทานาข้าว ทาสวน ทาไร่ เปน็ ต้น สถานท่ที อ่ งเท่ยี ว ๑. วดั ต้นสน ตั้งอยหู่ มทู่ ี่ ๒ ตาบลบ้านแหลม เป็นทีป่ ระดษิ ฐานหลวงพ่อสัมฤทธ์ิ ท่ปี ระชาชนนบั ถอื ว่าศกั ด์ิสิทธิ์ ๒. วัดเขาตะเครา อยู่หมู่ที่ ๓ ตาบลบางครก เป็นท่ีประดิษฐานหลวงพ่อทอง ท่ีประชาชนนับถือกันมากในเร่ืองความ ศักดิส์ ิทธ์ิ ๓. แหลมเหลว ตัง้ อยู่หมทู่ ี่ ๘ ตาบลบา้ นแหลม ลกั ษณะเปน็ ปา่ ชายเลน และมรี ้านอาหารทบั ทิมทอง ๔. แหลมหลวง ต้ังอยู่ในตาบลแหลมผักเบ้ีย ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี ๑๕ กิโลเมตร ตามเส้นทางเดียวกับทางไปหาด เจ้าสาราญโดยแยกซ้ายก่อนถึงหาดเจ้าสาราญเล็กน้อย ลักษณะเป็นปลายแหลมของหาดทรายขาวที่ย่ืนยาว ออกไปในทะเลถงึ ๒ กิโลเมตร ๕. ทรายเมด็ แรก ที่ตาบลแหลมผักเบยี้ ๖. ดหู ิง่ ห้อย ทต่ี าบลบางครก ๗. ดถู ีบกระดานเกบ็ หอย ตามชายฝงั่ ทะเลอ่าวไทยตง้ั แตต่ าบลบางตะบูน บ้านแหลม บางขนุ ไทร ปาก ทะเล บางแก้ว และแหลมผกั เบี้ย ๘. การทานาเกลือ ตาบลบางแก้ว ตาบลแหลมผักเบ้ีย ตาบลบางขุนไทร ตาบลปากทะเล ตาบลบ้าน แหลม ส่วนราชการในพื้นทอี่ าเภอบา้ นแหลม จานวน ๓๐ หน่วยงาน ประกอบดว้ ย ๑. โรงพยาบาลบา้ นแหลม ๒. สถานตารวจภธู รอาเภอบ้านแหลม ๓. การปกครองอาเภอบ้านแหลม ๔. สานกั งานพฒั นาชมุ ชนอาเภอบา้ นแหลม ๕. สานักงานเกษตรอาเภอบ้านแหลม ๖. สานักงานสาธารณสุขอาเภอบ้านแหลม ๗. สานกั งานประมงอาเภอบา้ นแหลม ๘. สานกั งานปศุสตั วอ์ าเภอบ้านแหลม ๙. สานกั งานสสั ดอี าเภอบ้านแหลม ๑๐. โครงการศึกษาวิจัยและพฒั นาสิง่ แวดล้อมแหลมผักเบยี้ อันเนื่องมาจากพระราชดาริ ๑๑. โครงการศนู ย์สาธิตพชื ไรพ่ ืชสวนอันเนื่องมาจากพระราชดาริ
๖ ๑๒. ศูนยเ์ พาะพันธสุ์ ตั ว์น้าจงั หวดั เพชรบรุ ี ๑๓. สถานพี ฒั นาทรัพยากรป่าชายเลนท่ี ๖ จงั หวัดเพชรบรุ ี ๑๔. ด่านศุลกากรอาเภอบ้านแหลม ๑๕. สหกรณ์นาเกลอื อาเภอบา้ นแหลม ๑๖. สหกรณป์ ระมงอาเภอบ้านแหลม ๑๗. สานักงานที่ดินอาเภอบ้านแหลม ๑๘. สรรพากรอาเภอบ้านแหลม ๑๙. ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอบ้านแหลม ๒๐. องค์การบริหารส่วนตาบลบ้านแหลม ๒๑. องค์การบริหารสว่ นตาบลบางขนุ ไทร ๒๒. องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลปากทะเล ๒๓. องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลบางแกว้ ๒๔. องค์การบริหารส่วนตาบลแหลมผกั เบย้ี ๒๕. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลทา่ แรง้ ๒๖. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลทา่ แรง้ ออก ๒๗. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลบางครก ๒๘. องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลบางตะบนู ๒๙. เทศบาลตาบลบางตะบูนออก ๓๐. เทศบาลตาบลบ้านแหลม หนว่ ยงานรฐั วิสาหกิจ จานวน ๒ แห่ง ประกอบดว้ ย ๑. การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าคอาเภอบ้านแหลม ๒. ทที่ าการไปรษณยี โ์ ทรเลขอาเภอบา้ นแหลม ธนาคาร จานวน ๓ แห่ง ประกอบดว้ ย ๑. ธนาคารกสกิ รไทย ๒. ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร ๓. ธนาคารออมสนิ ข้อมลู ด้านเศรษฐกจิ การประกอบอาชีพของประชาชนในอาเภอบา้ นแหลม อาเภอบ้านแหลมเป็นอาเภอท่ีมีอาชีพประมงน้าเค็มมากที่สุด ประชากรกว่าครึ่งหน่ึงของอาเภอ มีอาชีพเก่ียวข้องกับการประมง เพราะพ้ืนที่ในแถบชายฝ่ังตอนน้ี เกิดจากการทับถมของตะกอนจากแม่น้า เพชรบรุ ีแมน่ ้าแม่กลอง และบางสว่ นจากแม่น้าท่าจีน ทาให้แผ่นดินงอกตลอดเวลา เริ่มต้ังแต่ปากอา่ วบางตะบูน ถึงแหลมผักเบ้ยี บริเวณน้ีนา้ ทะเลทว่ มถึงและอดุ มสมบูรณไ์ ปด้วยทรัพยากรตามชายฝ่ังเตม็ ไปดว้ ยป่าไมช้ ายเลน อาชีพของประชากร บริเวณน้ีเก่ียวข้องกับสภาพแวดล้อม เช่น การประมง ซึ่งแบ่งเป็นประเภท ดงั น้ี ๑. อวน มีเรอื อวนลาก อวนรุน อวนลอย อวนกงุ้ อวนปูม้า อวนหมึก ๒. โป๊ะ เป็นการประมงท่ีอยู่กับที่ รอให้ปลาเข้าและยังมีผลพลอยได้จากการที่หอยแมลงภู่ จับท่ปี ีกโป๊ะอีกด้วย
๗ ๓. การปักหอยแมลงภู่ ชาวประมงจะดาน้านาไปไปปักในบริเวณท่ีได้สัมปทาน ปักเรียงเป็นแถวไว้ใต้น้าหอยแมลงภู่ จะมาจับอยู่เอง ปัจจบุ นั การปกั หอยใชเ้ ทคโนโลยี โดยใชเ้ คร่ืองปมั๊ ลมชว่ ยหายใจทาให้สามารถดาน้าได้นาน ๆ การดาน้าปักหลักหอยและตัดหอยมีผลพลอยได้คือ แทงปลาดุก เพราะปลาเหล่านี้ จะชุก ชมุ บริเวณแนวหลกั หอย ๔. นากุ้ง บ้านแหลมเป็นอาเภอที่ทานากุ้งทะเลมากท่ีสุด ในจังหวัดเพชรบุรี คือ มีประมาณ ๗๐ ราย เปน็ อาชพี ใหมท่ ี่ได้รับการสง่ เสริมจากกรมประมงการเพาะเล้ียงกงุ้ ทาในบรเิ วณป่าชายเลนการลงทนุ สงู แต่ได้ผล คมุ้ ค่า ๕. โรงงานอุตสาหกรรม บ้านแหลมมีอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการประมงมากมาย เช่น มีอู่ต่อเรือ ๘ อู่คานเรือ ๓ คาน โรงงานปลาวง ๙ โรง โรงงานปลาหมึกแห้ง ๘ โรง โรงงานเจียรใบจักรเรือยนต์จานวน ๑ โรง โรงงาน อาหารทะเลบรรจุกระปอ๋ ง ๑ โรงงาน ๖. ชา่ งตอ่ เรอื ช่างตอ่ เรอื ของบา้ นแหลม ไดช้ อื่ วา่ มีฝมี อื ต่อเรือประมงได้เรยี บร้อยและสวยงาม ๗. นาเกลอื นาเกลือของจังหวัดเพชรบุรี มีอยู่เพียงอย่างเดียว คือ ที่อาเภอบ้านแหลม ตลอดแนวชายฝ่ัง ด้านตะวันออก มีพื้นที่ทานาเกลือ ๒๔,๔๑๒ ไร่ ชาวนาเกลือ มีประมาณ ๒,๐๐๐ คน ในปัจจุบันการผลิตเกลือ ทะเลมีปริมาณมากไม่สมดลุ กับความต้องการของตลาดทาใหเ้ กดิ ภาวะราคาตกต่า ๘. การทานา้ ตาลมะพรา้ ว สว่ นใหญ่ผลิตที่ตาบลบางครก มีการรวมกลมุ่ ทานา้ ตาลมะพร้าวและนา้ ตาลสด ๙. ทานา พ้ืนที่ราบทางด้านตะวันตก ได้แก่ ตาบลท่าแร้ง ท่าแร้งออก และตาบลบางครก น้าทะเลท่วม ไม่ถึง เหมาะสาหรบั ทานา การทานาจงึ เปน็ อาชีพหลกั ของประชากรแถบน้ี ๑๐. ทอเสือ่ บริเวณทีม่ ีอาชีพทอเส่ือ คือ ตาบลบา้ นแหลม ตาบลทา่ แร้ง และตาบลบางครก เพราะบริเวณ นม้ี ตี ้นกกมาก ๑๑. เยบ็ จาก เย็บจากเป็นอาชีพที่ทากันทั่วไปในอาเภอบ้านแหลม เช่น ตาบลบางครก บางตะบูนและ บ้านแหลม ๑๒. วัวนม วัวนม มีเลี้ยงในตาบลท่าแร้ง นมที่รีดจากแม่วัว บรรจุขวดส่งขายภายในอาเภอเท่าน้ัน ยังไม่ มากพอทจี่ ะส่งขายท้องตลาดทัว่ ไป ๑๓. เผาถา่ น เดิมชาวตาบลบางตะบูน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพปลูกป่าโกงกางเผาถ่าน ซ่ึงถ่านไม้โกงกางมี คณุ ภาพดีมาก สง่ ขายทว่ั ไป ปจั จุบันอาชพี นคี้ ่อยๆ หมดไป เพราะพ้ืนท่ีในการปลูกปา่ เหลือนอ้ ยลง เน่อื งจากถูก เปลยี่ นเป็นพื้นท่สี าหรบั ทานากุ้ง
๘ ๑๔. อาชีพอ่ืน นอกจากน้ีชาวอาเภอบ้านแหลมยังประกอบอาชีพอ่ืน ๆ อีกหลายอาชีพ ได้แก่ รับเหมา ก่อสร้าง ค้าขาย และอาชีพใหม่กาลังได้รับความนิยม คือการเล้ียงแพะ และ การเลี้ยงนกนางแอ่น ซ่ึงใช้เงิน ลงทนุ สูงมาก ข้อมูลดา้ นการศกึ ษา อาเภอบา้ นแหลม ตาบลบา้ นแหลม จงั หวัดเพชรบุรี แยกเป็นตาบล ดังนี้ ๑. สถานศึกษาท่ีอยู่ในเขตตาบลบา้ นแหลม อาเภอบ้านแหลม จังหวดั เพชรบรุ ี มีจานวนนกั เรยี น/ นักศกึ ษา ดงั น้ี ๑) โรงเรียนมติ รภาพท่ี ๓๔ จานวนนักเรยี น ๗๒ คน ๒) โรงเรียนวดั ในกลาง จานวนนกั เรียน ๑๔๙ คน ๓) โรงเรยี นบ้านแหลม จานวนนักเรยี น ๕๖๕ คน ๔) โรงเรยี นอนุบาลวดั ต้นสน(บุญมีโชตวิ ทิ ยา) จานวนนักเรียน ๒๖๒ คน ๕) โรงเรยี นเทศบาลวดั ลักษณาราม จานวนนักเรียน ๗๘ คน ๖) โรงเรยี นบา้ นแหลมวทิ ยา จานวนนักเรยี น ๕๔๙ คน ๗) ศนู ย์พัฒนาเด็กเล็ก ๔ แห่ง จานวนนักเรยี น ๑๘๑ คน ๗.๑) ศูนย์พฒั นาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านแหลม จานวนนกั เรยี น ๙๓ คน ๗.๒) ศูนย์พฒั นาเด็กเล็กโรงเรียนวัดในกลาง จานวนนกั เรยี น ๒๘ คน ๗.๓) ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็กวัดต้นสน จานวนนักเรียน ๔๗ คน ๗.๔) ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กวัดต้นสน จานวนนกั เรยี น ๑๓ คน ๘) กศน.ตาบลบ้านแหลม ๑ แห่ง จานวนนกั ศึกษา ๔๔ คน ๙) กศน.อาเภอ ๑ แหง่ จานวนนกั ศึกษา ๔๖๒ คน ๒. สถานศึกษาที่อยูใ่ นเขตตาบลบางครก อาเภอบ้านแหลม จงั หวัดเพชรบุรี มจี านวนนักเรียน/ นกั ศกึ ษา ดงั นี้ ๑) โรงเรยี นบ้านท่งุ เฟ้ือ(เอมสะอาดอานวย) จานวนนกั เรยี น ๒๖ คน ๒) โรงเรยี นวัดปากคลอง(ศุทธยาลยั อทุ ศิ ) จานวนนกั เรียน ๑๘๑ คน ๓) โรงเรยี นบา้ นบางหอ(โสภณเชาวราษฎรร์ งั สรรค์) จานวนนกั เรยี น ๔๑ คน ๔) โรงเรยี นวดั เขาตะเครา(ประสพประชาสรรค)์ จานวนนกั เรียน ๑๒๓ คน ๕) โรงเรยี นวัดบางลาภู จานวนนักเรียน ๔๖ คน ๖) โรงเรียนวชิรธรรมโศภิต จานวนนกั เรยี น ๒๑๐ คน ๗) ศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก แห่ง จานวนนกั เรยี น ๕๗ คน ๘) กศน.ตาบล ๑ แห่ง จานวนนกั เรยี น ๖๕ คน ๓. สถานศกึ ษาที่อยใู่ นเขตตาบลบางแก้ว อาเภอบา้ นแหลม จังหวดั เพชรบรุ ี มจี านวนนักเรียน/ นกั ศึกษา ดังนี้ ๑) โรงเรียนบา้ นบางแกว้ จานวนนกั เรยี น ๒๔๐ คน ๒) โรงเรียนวัดราษฎรศ์ รัทรา จานวนนักเรียน ๘๐ คน ๓) ศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก ๒ แห่ง จานวนนักเรียน ๖๙ คน ๓.๑) ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เล็กวัดโคมนาราม จานวนนกั เรียน ๓๓ คน ๓.๒) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดราษฎรศ์ รัทรา จานวนนักเรียน ๓๖ คน
๙ ๔) กศน.ตาบล ๑ แหง่ จานวนนกั เรียน ๕๗ คน ๔. สถานศกึ ษาที่อยใู่ นเขตตาบลบางขนุ ไทร อาเภอบ้านแหลม จังหวดั เพชรบุรี มีจานวนนกั เรียน/ นกั ศึกษา ดงั น้ี ๑) โรงเรียนวัดดอนผิงแดด(ผลสิรริ าษฎร์รังสรรค)์ จานวนนกั เรยี น ๑๑๔ คน ๒) โรงเรยี นวดั บางขนุ ไทร(ผดุงวิทยา) จานวนนกั เรยี น ๒๑๒ คน ๓) ศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก ๓ แห่ง จานวนนักเรยี น ๖๑ คน ๔) กศน.ตาบล ๑ แห่ง จานวนนกั เรยี น ๖๒ คน ๕. สถานศกึ ษาที่อยใู่ นเขตตาบลบางตะบูน อาเภอบา้ นแหลม จังหวดั เพชรบรุ ี มีจานวนนกั เรียน/ นักศึกษา ดงั น้ี ๑) โรงเรียนวดั ลัด(บางตะบนู วทิ ยาคาร) จานวนนักเรยี น ๓๔ คน ๒) โรงเรยี นบ้านสามแพรก จานวนนักเรียน ๓๑ คน ๓) โรงเรยี นบางตะบูนวทิ ยา จานวนนกั เรยี น ๕๒ คน ๔) ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก - แห่ง จานวนนักเรยี น - คน ๕) กศน.ตาบล ๑ แห่ง จานวนนักเรยี น 41 คน ๖. สถานศกึ ษาท่ีอย่ใู นเขตตาบลบางตะบนู ออก อาเภอบ้านแหลม จงั หวัดเพชรบุรี มจี านวนนกั เรียน/ นักศึกษา ดังน้ี ๑) โรงเรยี นวดั เกาะแกว้ พิศดาร จานวนนกั เรยี น ๑๙๒ คน ๒) โรงเรยี นวดั ปากอา่ ว(ญาณสาครวทิ ยาคร) จานวนนกั เรียน ๑๓๒ คน ๓) ศนู ย์พฒั นาเด็กเลก็ ๒ แหง่ จานวนนักเรียน ๖๑ คน ๔) กศน.ตาบล ๑ แหง่ จานวนนักเรียน ๓๐ คน ๗. สถานศึกษาท่ีอยู่ในเขตตาบลทา่ แร้ง อาเภอบ้านแหลม จงั หวัดเพชรบุรี มจี านวนนักเรยี น/นกั ศกึ ษา ดงั นี้ ๑) โรงเรียนบา้ นคลองมอญ (บัญญตั ิราษฎร์บารุง) จานวนนักเรยี น ๖๕ คน ๒) โรงเรียนวดั กฎุ ิ (นนั ทวเิ ทศประชาสรรค)์ จานวนนกั เรยี น ๑๐๕ คน ๓) โรงเรยี นวัดไทรทอง (สาครราษฎร์สงเคราะห์) จานวนนกั เรียน ๓๓๑ คน ๔) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จานวน ๕ แห่ง จานวนนักเรียน ๖๘ คน ๔.๑) ศูนย์พัฒนาเดก็ เล็กบ้านดอนเทพศักดิ์ จานวนครู 2 คน จานวนนักเรยี น 9 คน ๔.๒) ศูนย์พัฒนาเดก็ เล็กวัดไทรทอง จานวนครู 1 คน จานวนนักเรียน 23 คน ๔.๓) ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ บา้ นคลองมอญ จานวนครู 1 คน จานวนนกั เรยี น 10 คน ๔.๔) ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เล็กองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลทา่ แรง้ จานวนครู 1 คน จานวนนกั เรยี น 40 คน ๔.๕) ศูนย์อบรมเดก็ ก่อนเกณฑว์ ัดกฏุ ิ จานวนครู 1 คน จานวนนกั เรียน 16 คน ๕) กศน.ตาบล ๑ แห่ง จานวนนกั เรยี น ๘๐ คน
๑๐ ๘. สถานศึกษาท่ีอยู่ในเขต ตาบลทา่ แร้งออก อาเภอบ้านแหลม จงั หวัดเพชรบรุ ี มจี านวนนกั เรยี น/ นกั ศึกษา ดงั นี้ ๑) โรงเรยี นบ้านเหมืองไทร จานวนนกั เรยี น ๑๐๔ คน ๒) ศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ ๑ แหง่ จานวนนักเรยี น คน ๙. สถานศึกษาที่อยใู่ นเขตตาบลปากทะเล อาเภอบา้ นแหลม จังหวัดเพชรบุรี มีจานวนนกั เรยี น นักศกึ ษา ดงั น้ี 1) โรงเรยี นดอนมะขาม จานวนนกั เรียน 55 คน 2) โรงเรียนวดั นอกปากทะเล จานวนนกั เรียน 45 คน 3) ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก 1 แหง่ จานวนนักเรยี น 12 คน 4) กศน.ตาบล 1 แห่ง จานวนนักเรยี น 40 คน ๑๐. สถานศึกษาท่ีอยู่ในเขตตาบลแหลมผกั เบยี้ อาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี มจี านวนนกั เรยี น นักศกึ ษา ดังน้ี ๑) โรงเรยี นวดั สมุทรโคดม จานวนนักเรียน ๔๔ คน ๒) โรงเรยี นวัดสมุทรธาราม จานวนนกั เรยี น ๕๑ คน ๓) ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก แห่ง จานวนนักเรียน ๑๘ คน ๘) กศน.ตาบล ๑ แหง่ จานวนนักเรียน ๔๓ คน
๑๑ แหล่งเรียนรใู้ นชุมชน และทุนด้านงบประมาณทีส่ ามารถนามาใช้ประโยชนเ์ พือ่ การจดั การศกึ ษา ประเภทบคุ คล ประเภทสถานท่ีและองค์กร ประเภททรัพยากรธรรมชาติ ประเภทกจิ กรรมทางสังคม - วัฒนธรรมและต้นทนุ งบประมาณ 1. แหล่งเรยี นรปู้ ระเภทบุคคล ได้แก่ ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ ความรูค้ วามสามารถ ทีอ่ ยู่ นายออ่ น ชทู อง ใหค้ วามรู้ด้านการเกษตร การประกอบ 30 หมู่ 6 ต.บางแก้ว อ.บา้ นแหลม อาชพี และการน้อมนาหลักปรัชญาของ จ.เพชรบรุ ี นายสมพงษ์ หนูศาสตร์ เศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดาเนิน ชวี ติ 90 หมู่ 7 ต.บางแกว้ อ.บา้ นแหลม นายน่อง ศิลป์ลาย ผลติ ภณั ฑเ์ กลือสปา จ. เพชรบุรี 92/1 หมู่ 7 ต.บางแกว้ อ.บ้านแหลม นายบรรจง เรอื งไกรศิลป์ จักสานตน้ ธปู ฤาษี จ.เพชรบุรี เปน็ ผ้เู ชย่ี วชาญดา้ นการเลน่ บ้านเลขที่๑๖๑ หมู่ ๘ ตาบลบางตะบนู กฬี าหมากฮอส วิทยากรในการถ่ายทอดความรู้เรือ่ ง อาเภอบางตะบูน จงั หวดั เพชรบุรี นางเบญจมาภรณ์ สายนาค กีฬาหมากฮอสสาหรับนักเรียนและ เปน็ ผู้เชย่ี วชาญดา้ นการดูแล ชุมชน บา้ นเลขที่ ๕๕/๔ หมู่ ๕ ตาบลเขายอ้ ย รกั ษาสขุ ภาพ วิทยากรในการถ่ายทอดความรเู้ รื่อง อาเภอเขาย้อย จังหวัดเพชบุรี เชย่ี วชาญด้านการสอนนกั การดูแลรักษาสุขภาพสาหรบั นักเรยี น ธรรมะ และชุมชน วดั บางสามแพรก ตาบลบางตะบูน นายนเิ วศ พยมพฤกษ์ วทิ ยากรในการถ่ายทอดความรู้เรือ่ ง อาเภอบางตะบูน จังหวัดเพชรบรุ ี เชยี่ วชาญด้านการเป็นพธิ ีกร สอนนกั ธรรมะ บา้ นเลขที่ ๒๘ ทางศาสนาพิธตี ่างๆ วิทยากรในการถ่ายทอดความรู้เรอ่ื ง หมู่ ๘ ตาบลบางตะบนู อาเภอ นายอดลุ ย์ พวงมาลา ไวยาวจั กร บางตะบนู จงั หวดั เพชรบรุ ี เชย่ี วชาญด้านการเล้ียงกบ บ้านเลขท่ี ๑๕๘/๒หมู่ ๘ ตาบลบาง นายวสวัตติ์ จริ ะโชตอิ นนั ต์ วทิ ยากรในการถ่ายทอดความรู้เรอ่ื ง ตะบูน อาเภอบางตะบูน จงั หวัดเพชรบรุ ี เชย่ี วชาญดา้ นการถนอมอาหาร การเลีย้ งกบ ทท่ี าการผใู้ หญบ่ ้าน บ้านเลขท่ี ๗๔หมู่ ๘ วทิ ยากรในการถ่ายทอดความรู้เร่อื ง ตาบลบางตะบูน อาเภอบางตะบนู นายชะลอ อา่ พรง้ิ การถนอมอาหาร จังหวดั เพชรบรุ ี เชย่ี วชาญด้านการเล้ยี งปลา บ้านเลขท่ี๑๘ หมู่ ๘ ตาบลบางตะบูน นายบุญมี พนั โท วทิ ยากรในการถ่ายทอดความรเู้ รอ่ื ง อาเภอบางตะบูน จังหวดั เพชรบรุ ี เช่ียวชาญด้านการเพาะเหด็ การเล้ยี งปลา บา้ นเลขที่ ๑๑๓/๑ วทิ ยากรในการถา่ ยทอดความรู้เรอื่ ง หมู่ ๘ตาบลบางตะบนู อาเภอบางตะบูน การเพาะเห็ด จงั หวัดเพชรบุรี
๑๒ ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ความรคู้ วามสามารถ ทีอ่ ยู่ นางศศธิ ร พนั โท วทิ ยากรในการถา่ ยทอดความร้เู ร่อื ง บ้านเลขที่ ๙๘/๒ เชีย่ วชาญด้านการเยบ็ จาก การเย็บจาก การทาขนมมปิง้ จาก หมู่ ๘ตาบลบางตะบนู อาเภอบาง ตะบนู จงั หวดั เพชรบุรี นางสุนีย์ ทรัพย์เพ่ิมพนู วิทยากรในการถ่ายทอดความร้เู รอ่ื ง บา้ นเลขที่ ๙๘/๑ เชย่ี วชาญด้านการเลีย้ งไข่ไก่ การเล้ยี งไข่ไก/่ เพาะเห็ด หมู่ ๘ตาบลบางตะบูน อาเภอบาง ตะบูน จังหวดั เพชรบรุ ี นายอ่อน ทองคา วทิ ยากรในการถา่ ยทอดความรูเ้ ร่ือง บ้านเลขท่ี ๗๒ หมู่ ๘ตาบลบางตะบนู เช่ยี วชาญดา้ นการเผาถา่ น การเผาถ่าน อาเภอบางตะบนู จงั หวัดเพชรบุรี 2. แหล่งเรียนรปู้ ระเภทสถานท่ี/ชุมชน/กลุ่มทางเศรษฐกิจ/สงั คม ไดแ้ ก่ ชื่อแหล่งเรียนรู้ ประเภทแหล่งเรียนรู้ ทีต่ ั้ง กลมุ่ ทางเศรษฐกิจ หม่บู า้ นเพ่ือการท่องเท่ียวบา้ นร่อง หมู่ 7 ตาบลบางแกว้ อาเภอ ใหญ่ บ้านแหลม จงั หวดั เพชรบุรี โครงการฟาร์มทะเลตวั อยา่ งแบบ กลุ่มทางสงิ่ แวดลอ้ ม หมู่ 5 ตาบลบางแกว้ อาเภอบา้ น ผสมผสานตามพระราชดาริ ใน แหลม จังหวดั เพชรบรุ ี สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ตาบลบางแก้ว อาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี โครงการศึกษาวิจัยและพฒั นา กล่มุ ทางสงิ่ แวดลอ้ ม หมู่๑ บ้านพะเนิน ตาบลแหลม สิง่ แวดล้อมแหลมผักเบ้ียอัน ผักเบ้ีย อาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เนื่องมาจากพระราชดาริ เพชรบรุ ี วดั ใหมศ่ ิริสามคั คธี รรม วัดใหมศ่ ิริสามคั คีธรรมพุทธศาสนา บรเิ วณระหว่างหมู่ ๗ เขตอาเภอ วัดคุง้ ตาหนัก โบราณสถาน โบราณวตั ถุและมี เขาย้อยคลองบบ้านนอ้ ย และหมู่๘ ชาวบ้านให้ความเคารพ หลวงพ่อ เขตตาบล บางตะบูนตะวนั ออก ดา หลวงพ่อแดง เป็นเครอ่ื งยึด คลองบางสามแพรก อาเภอ เหนี่ยวจิตใจ บา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบุรี วดั คงุ้ ตาหนัก มชี ่ือเก่ียวกบั วังน้าวน วัดคงุ้ ตาหนัก ตาบลบางตะบูน จนหลายคนรา่ ลือกนั ว่าเปน็ ถิ่นฐาน อาเภอบางตะบนู จงั หวดั เพชรบุรี ของจระเข้ชุกชมุ ในสมัยอยธุ ยาตอน ปลายบรเิ วณน้ีเคยมีพลบั พลา หรอื ตาหนกั พระเจ้าเสือ ซ่ึงได้เสด็จฯมา ประทบั ทรงเบ็ดและไดส้ รา้ งตาหนกั ไว้ทว่ี ัดคงุ้ ตาหนักใกลป้ ากอ่าวบาง ตะบูนบรเิ วณที่มีปลาชุกชมุ มาก
๑๓ ขอ้ มลู พื้นฐานหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอบา้ นแหลม จังหวดั เพชรบรุ ี ประวัตคิ วามเปน็ มา ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งจากกองการศึกษาผู้ใหญ่ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันท่ี ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๕ โดยแต่เดิมได้ใช้อาคารที่ว่าการอาเภอบ้านแหลม หลงั เกา่ เป็นที่ทาการช่ัวคราว (บริเวณวัดตน้ สนในปัจจบุ ัน) จนกระทงั่ ในปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้ย้ายท่ีทาการจากที่ว่า การอาเภอ บ้านแหลมหลงั เกา่ ไปอยู่ทีห่ ้องเรยี นชั้นลา่ ง อาคาร ๑ ของโรงเรียนวัดตน้ สนเป็นที่ทาการห้องสมุด ประชาชนอาเภอปีละ ๑,๐๐๐ บาท โดยมีอาจารย์ปราณี สมยา อาจารย์ของโรงเรียนวัดต้นสนช่วยทาหน้าท่ี เปน็ เจา้ หน้าท่หี ้องสมุด จนกระท่งั ในปี พ.ศ.๒๕๒๑ ได้ย้ายจากอาคาร ๑ ไปอยู่อาคาร ๓ ของโรงเรยี นวดั ต้นสน โดยมีอาจารย์ บุญสม ภู่ผะกา เป็นเจ้าหน้าท่ีห้องสมุด จนถึงปี พ.ศ.๒๕๒๓ ได้ย้ายกลับมาอยู่ท่ีอาคาร ๑ ของโรงเรียนวัดต้นสนอีกคร้ังหน่ึง เพื่อความสะดวกในการให้บริการประชาชน โดยได้มอบหมายให้อาจารย์ ปราณี สมยา เปน็ เจ้าหนา้ ทีห่ ้องสมดุ อกี ครงั้ จนกระทงั่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ด้วยความรกั ความสามัคคี ของข้าราชการ พ่อคา้ ประชาชนชาวอาเภอบ้านแหลม โดยการนาของนาย สรุ ชยั ธนานันท์ นายอาเภอบ้านแหลม (ตาแหนง่ ในขณะน้ัน) ได้รว่ มประชุมหารือ กับพอ่ ค้าประชาชน โดยการ นาของ นายกมล สุตะวิริยะวัฒน์ กานันตาบลบ้านแหลมในขณะน้ัน และคณะได้มีมติเป็นเอกฉันท์จะจัดสร้าง อาคารห้องสมุดประชาชนอาเภอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว รัชกาลที่ ๙ เนื่องในพระราชพิธมี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๕ รอบ เพ่อื เป็น แหล่งใหบ้ ริการดา้ นความรู้ ขอ้ มูล ข่าวสารตา่ งๆ แก่นกั เรียน นักศกึ ษา และประชาชนท่ัวไป จากน้ันคณะกรรมการผู้ริเริ่มจัดสร้างอาคารห้องสมุดได้ดาเนินการจัดหางบประมาณในการก่อสร้าง โดยคณะกรรมการพ่ีน้องประชาชนชาวอาเภอบ้านแหลมได้เสียสละ บริจาคเงินสมทบทุนในการก่อสร้าง จนสามารถก่อสรา้ งอาคารหอ้ งสมุดได้สาเร็จ โดยไมใ่ ช้งบประมาณของทางราชการเลย หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอบา้ นแหลม ได้เริ่มก่อสรา้ ง เม่ือวนั ท่ี ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๐ บนท่ีดินของวัด ในกลาง และท่ีดินใช้ประโยชน์ของทางราชการกระทรวงมหาดไทย รวมเป็นเน้ือที่ จานวน ๑ ไร่ ๗๓ ตารางวา ตง้ั อยทู่ ่ี ม.๔ ต.บา้ นแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบรุ ี การกอ่ สร้างได้แลว้ เสร็จแลว้ วนั ท่ี ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๐ รวมเวลาในการก่อสร้าง ๑๐๕ วัน รวมราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเป็นจานวนเงินท้ังส้ิน ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท
๑๔ (หนึ่งล้านหา้ แสนบาทถว้ น) และคณะกรรมการในการก่อสร้างไดย้ กอาคารห้องสมดุ ประชาชนอาเภอบา้ นแหลม ให้ กับ ทา ง ร า ช กา ร โ ด ย มีส า นั กง า น ส่ ง เ ส ริ ม กา ร ศึ ก ษา น อ กร ะบ บ แ ล ะศึ กษ า ต า มอั ธ ย า ศัย จั ง ห วั ด เ พ ช ร บุ รี รับผดิ ชอบในการดาเนนิ งานและได้นาขนึ้ จดทะเบียนเป็นท่รี าชพสั ดุ ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี แห่งใหม่นี้ได้เปิดบริการแก่ประชาชนตั้งแต่วันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๑ เป็นต้นมา โดยระยะแรกยังไม่มีบุคลากรงานห้องสมุดมารับผิดชอบโดยตรง สานักงาน ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดเพชรบุรี จึงได้ส่ง นายสุนทร คาเวบุญ อาจารย์ ของศูนย์ฯ ในขณะนั้นไปทาหน้าท่ีหัวหน้าศูนย์ประสานงานการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอบ้านแหลม โดยใช้ อาคารหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบา้ นแหลม เป็นสานักงาน นายสุนทร คาเวบุญ จึงตอ้ งรบั ผดิ ชอบเปน็ เจา้ หน้าที่ ห้องสมดุ โดยมคี รูอาสาสมคั รการศกึ ษานอกโรงเรียนเปน็ ผชู้ ว่ ยและมนี ายสมพล ตุ้มศรี เปน็ นกั การภารโรง จนกระทั่ง วันท่ี ๓ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๔ กรมการศึกษานอกโรงเรียน ในขณะน้ันได้บรรจุแตง่ ตง้ั นางสาววดี จันทเมธี ให้มาดารงตาแหนง่ เจ้าหนา้ ทหี่ อ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลม ปี พ.ศ.๒๕๓๘ นางน้าค้าง สีเดือน ได้รับการแต่งต้ังจากกรมการศึกษานอกโรงเรียน มาดารงตาแหนง่ เจา้ หนา้ ท่ีห้องสมดุ ปี พ.ศ.๒๕๔๗ นายอรณุ นุชนยิ ม ไดร้ ับการโยกยา้ ยจากหอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อาเภอ เขายอ้ ย จงั หวดั เพชรบุรี มาดารงตาแหน่งเจ้าหน้าท่ีห้องสมุดจนถึงปี พ.ศ.๒๕๕๘ ปี พ.ศ.๒๕๕๙ นางสาวอัจจิมา หวังเตือย ตาแหน่ง บรรณารักษ์อัตราจ้าง ได้รับการโยกย้ายจาก ห้องสมุดประชาชนอาเภอแกง่ กระจาน จงั หวัดเพชรบุรี มาดารงตาแหนง่ บรรณารักษ์ จนถึงปจั จุบัน ปี พ.ศ.๒๕๖๐ นางสาวญาณินี พหุพันธ์ ตาแหน่งบรรณารักษ์ปฏิบัติการ ห้องสมุดประชาชนอาเภอ บางกล่า จังหวัดสงขลา ช่วยราชการในลักษณะประจาที่ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ได้รับการโยกย้ายมาดารงตาแหนง่ บรรณารักษ์ปฏิบัติการห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ตัง้ แต่วนั ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ จนถงึ ปจั จบุ ัน ผู้ดาเนนิ การก่อสรา้ งหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม ๑. นายสรุ ชยั ธนานนั ท์ (นายอาเภอบา้ นแหลม ปี ๒๕๓๐) ๒. นายกมล สตุ ะวริ ิยะวฒั น์ (กานันตาบลอาเภอบ้านแหลม) ๓. นายระยอง ปิยะโชคณากุล ๔. นายม่ันเกียรติ โกศลนิรตั ิวงษ์ ๕. พ.ต.ท.ประเสรฐิ ยามานนท์ ๖. นายวศิ ษิ ฐ์ ยามานนท์ ๗. นายสาเรงิ เก่าเงินโชติ ๘. นายนภดล นิยมค้า ๙. นายประเสรฐิ บุญมีโชติ ๑๐. นายโพยม อารมณ์ดี ๑๑. นางขวัญเรอื น แสงมงคล
๑๕ คณะกรรมการหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลม ๑. นายอาเภอบา้ นแหลม ประธานกรรมการ ๒. ศึกษาธกิ ารอาเภอบา้ นแหลม กรรมการ ๓. หัวหนา้ การการศกึ ษาอาเภอบา้ นแหลม กรรมการ ๔. สาธารณะสุขอาเภอบ้านแหลม กรรมการ ๕. เกษตรอาเภอบา้ นแหลม กรรมการ ๖. พฒั นาการอาเภอบ้านแหลม กรรมการ ๗. ปลดั อาเภออาวุโสอาเภอบ้านแหลม กรรมการ ๘. สารวัตรใหญ่สถานีตารวจภูธรอาเภอบา้ นแหลม กรรมการ ๙. นายกมล สุตวริ ิยะวฒั น์ กรรมการ ๑๐. นายโพยม อารมณด์ ี กรรมการ ๑๑. นายประเสริฐ บุญมีโชติ กรรมการ ๑๒. พ.ต.ท.ประเสรฐิ ยามานนท์ กรรมการ ๑๓. นายระยอง ปยิ ะโชติสนากุล กรรมการ ๑๔. นายวิศิษฐ์ ยามานนท์ กรรมการ ๑๕. นายสาเรงิ เก่าเงนิ โชติ กรรมการ ๑๖. นายนภดล นยิ มคา้ กรรมการ ๑๗. นายศรณี รงค์ สนขาว กรรมการ ๑๘. นายมนั่ เกยี รติ โกศลนริ ตั วงศ์ กรรมการ ๑๙. บรรณารักษห์ อ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลม กรรมการและเลขานุการ ท่ีตัง้ ต้ังอยทู่ ่ี หมู่ ๔ ตาบลบา้ นแหลม อาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบรุ ี หมายเลขโทรศัพท์ ๐๓๒ – ๔๘๑๑๙๐ หมายเลขโทรสาร ๐๓๒ – ๔๘๑๑๔๐ E-Mail : [email protected]
๑๖ โครงสรา้ งหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอบ้านแหลม นางวิภารตั น์ ชาแจ้ง คณะกรรมการสถานศกึ ษา คณะกรรมการหอ้ งสมุด กลมุ่ งานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลม งานบรหิ าร งานเทคนิค งานบรกิ ารและกิจกรรม - บริหารงานท่ัวไป - คดั เลอื กทรัพยากรสารสนเทศ สง่ เสรมิ การอา่ น - วางแผนและโครงการ - จดั ซือ้ /จดั หาทรพั ยากร - งบประมาณและการเงนิ สารสนเทศ - บริการการอ่าน - งานธรุ การและสารบรรณ - ลงทะเบยี นทรัพยากร - บรกิ ารยมื - คนื - งานพัสดุห้องสมุด สารสนเทศ - บรกิ ารแนะนาการใช้ - งานตดิ ตามและประเมนิ ผล - วเิ คราะห์ จัดหมวดหมู่ ห้องสมุด - งานสารสนเทศ ทรัพยากรสารสนเทศ - บริการตอบคาถามและชว่ ย - งานอาคาร และสถานที่ - ลงรายการทรพั ยากร การคน้ ควา้ สารสนเทศในระบบเชอ่ื มโยง - บรกิ ารสบื ค้นฐานข้อมลู แหลง่ เรียนรู้ - บริการอนิ เทอรเ์ นต็ - งานซอ่ มแซมและบารงุ - งานสง่ เสรมิ การอ่านเพ่ือ ทรัพยากรสารสนเทศ พัฒนาหอ้ งสมุดประชาชนให้ เปน็ แหลง่ เรียนรตู้ ลอดชวี ติ - งานจดั พัฒนาแหล่งเรยี นรู้ และภูมปิ ัญญา - งานบ้านหนังสือชุมชน - งานห้องสมุดเคลื่อนท่ี - งานภาคเี ครือข่ายและ กจิ การพิเศษ - งานประชาสัมพนั ธ์
๑๗ บุคลากร ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบรุ ี ห้องสมุดประชาชนอาเภอบา้ นแหลม จงั หวัดเพชรบรุ ี ประกอบด้วยบุคลากร จานวน ๓ คน ดงั น้ี นางสาวญาณนิ ี พหพุ นั ธ์ หน้าที่ความรับผิดชอบ ได้แก่ บรรณารักษ์ปฏบิ ัติการ ๑. วางแผนการปฏบิ ตั งิ านตามนโยบายของหนว่ ยงาน ๒. จัดหา จดั สรร ทรพั ยากรสารสนเทศทกุ รปู แบบ ๓. ประสานงาน ตดิ ตาม และประเมนิ ผล การปฏิบตั ิงานภายใน และ ภายนอกหน่วยงาน ๔. ควบคุม กากบั ดแู ล การปฏิบตั ิงานดา้ นบรหิ าร / งานเทคนคิ และงานบรกิ าร ๕. จดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ น ๖. ตรวจสอบ งานวเิ คราะหส์ ารสนเทศทุกประเภท ๗. ใหค้ าปรึกษา / ชแี้ นะวิธีการสบื คน้ ข้อมูล และคน้ หาแหล่งข้อมลู ทาง Internet ๘. แนะนา แก้ไขปญั หา บรหิ ารความเสีย่ งต่าง ๆ ในการปฏบิ ตั งิ าน ๙. สรปุ รายงาน และประมวลผลการปฏบิ ัติงานหอ้ งสมดุ ๑๐. ปฏิบตั ิงานอน่ื ๆตามท่ีได้รบั มอบหมาย นางสาวอัจจมิ า หวงั เตือย หน้าทค่ี วามรับผิดชอบ ได้แก่ บรรณารักษ์อัตราจ้าง ๑. การปฏิบตั ิงานด้านงานเทคนิค และงานบริการ ๒. ตรวจสอบ และลงทะเบยี น วารสาร/หนงั สือพมิ พ์ นายกวนิ พัฒน์ ธรรมรักษ์ ๓. จดั เรยี งสารสนเทศขึ้นชนั้ และ ตรวจเช็คการจดั เก็บ พนกั งานบรกิ าร ๔.. รวบรวม และสรปุ รายงานขอ้ มลู เก่ียวกับผลการปฏบิ ตั ิประจาเดือน ๕. ปฏิบัตงิ านด้านบรกิ าร เชน่ การยืม – คืน / ช่วยค้นควา้ เปน็ ตน้ ๖. จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่าน ๗. ให้คาปรึกษา / ช้ีแนะวิธีการสืบคน้ ขอ้ มูล และค้นหาแหล่งขอ้ มลู ทาง Internet ๘. ปฏบิ ัติงานอ่ืนๆตามท่ีได้รบั มอบหมาย หนา้ ทีค่ วามรบั ผดิ ชอบ ได้แก่ ๑. ดแู ลความสะอาด วัสดุ ครุภัณฑ์ และอาคารสถานที่ ในหนว่ ยงานห้องสมดุ ๒. ตรวจสอบ ดูแล ความปลอดภยั ของอาคารสถานท่ี และด้านสาธารณูปโภค ๓. ซ่อมแซม สิง่ พมิ พ์ วสั ดุ และครภุ ัณฑ์ ๔. จดั สถานทก่ี ารประชุมและสถานท่จี ดั กิจกรรมส่งเสริมการอา่ น ๕. จัดเกบ็ สารสนเทศแตล่ ะประเภทข้นึ ชั้น ตามหมวดหมู่ที่กาหนดไว้ ๖. บริการยมื – คืน ทรัพยากรสารสนเทศ ๗. รับ – ส่งเอกสาร เชน่ งานดา้ นสารบรรณ ๘. ปฏิบัตงิ านอนื่ ๆตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย
รางวัล เกียรตบิ ตั ร และผลงานดเี ด่นของห้องสมดุ ๑๘ เอกสารอ้างองิ ๑. ไดร้ ับรางวัลหรือเกียรติบัตรระดบั ประเทศ ท่ี รายการ หน่วยงานเจ้าของรางวลั ๑. รางวลั ห้องสมดุ ประชาชนระดับอาเภอ กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น ดีเดน่ ประจาปี ๒๕๓๙ ๒. รางวัลหอ้ งสมุดประชาชนอาเภอดีเด่น สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ ประจาปี ๒๕๕๒ การศึกษาตามอธั ยาศยั สานักงาน ปลดั กระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ๓. รางวัลท่ี ๑ ประเภท บา้ นหนงั สือชุมชน สานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ ดีเดน่ ประจาปี ๒๕๖๑ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย สานกั งานปลัดกระทรวง ๔. รางวัลท่ี ๑ สาขาบคุ ลากรอาเภอ/เขต สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ ประเภท บรรณารักษ์ ดีเดน่ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย สานกั งาน ประจาปี ๒๕๖๒ ปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธกิ าร ๕. รางวลั ที่ ๒ สาขาหนว่ ยงาน/สถานศึกษา สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและ ประเภท หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอ การศึกษาตามอัธยาศยั สานกั งาน ยอดเย่ียม ประจาปี ๒๕๖๒ ปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธกิ าร ๖. รางวลั ท่ี ๑ ระดับประเทศ สาขา สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและ หนว่ ยงาน/สถานศกึ ษา ประเภท การศึกษาตามอัธยาศัย สานกั งาน บา้ นหนังสือชมุ ชนดีเดน่ ประจาปี ปลดั กระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๖๒
๒. ได้รับรางวัลหรอื เกียรติบัตรระดบั ภาค ๑๙ เอกสารอา้ งองิ ที่ รายการ หนว่ ยงานเจ้าของรางวลั ๑. รางวัลห้องสมดุ ประชาชนระดับอาเภอ กรมการศึกษานอกโรงเรยี น ดเี ด่น ระดับภาคกลาง ประจาปี งบประมาณ ๒๕๓๒ ๒. รางวลั ท่ี ๑ ประเภท บา้ นหนงั สอื ชมุ ชน สถาบนั พัฒนาการศึกษานอกระบบและ จาก สถาบนั พฒั นาการศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอธั ยาศัยภาคกลาง และการศกึ ษาตามอธั ยาศัยภาคกลาง ประจาปี ๒๕๖๑ ๓. รางวลั ท่ี ๑ ประเภท หอ้ งสมุดประชาชน สถาบนั พฒั นาการศึกษานอกระบบและ อาเภอยอดเยีย่ ม ระดบั ภาคกลาง การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภาคกลาง ประจาปี ๒๕๖๒ ๔. รางวัลท่ี ๑ ประเภท บ้านหนงั สือชุมชน สถาบนั พฒั นาการศึกษานอกระบบและ ดเี ด่น ระดบั ภาคกลาง ประจาปี ๒๕๖๒ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยภาคกลาง ๕. รางวัลที่ ๑ ประเภท บรรณารักษ์ ดเี ด่น สถาบนั พฒั นาการศึกษานอกระบบและ ระดบั ภาคกลาง ประจาปี ๒๕๖๒ การศึกษาตามอัธยาศยั ภาคกลาง ๖. รางวลั ท่ี ๑ ประเภท หอ้ งสมุดประชาชน สถาบนั พัฒนาการศึกษานอกระบบและ อาเภอยอดเยี่ยม ระดบั ภาคกลาง การศึกษาตามอธั ยาศัยภาคกลาง ประจาปี ๒๕๖๓
๓. ได้รบั รางวัลหรือเกียรตบิ ัตรระดบั กลมุ่ สานกั งาน กศน. จังหวดั ๒๐ เอกสารอา้ งองิ ที่ รายการ หน่วยงานเจา้ ของรางวลั ๑. รางวัลชนะเลิศ ในการประกวดห้องสมุด เขตการศกึ ษานอกโรงเรยี น ประชาชน กลมุ่ ศูนย์ฯจังหวัดชนแดน ภาคกลาง ประจาปี ๒๕๓๒ ๒. รางวัลท่ี ๒ ประเภท บรรณารกั ษ์ ดเี ด่น สานักงาน กศน.จังหวดั ประจาปี ๒๕๖๑ กลุม่ สมุทรคีรี ๓. รางวัลท่ี ๑ ประเภท บา้ นหนงั สือชุมชน สานกั งาน กศน.จังหวัด ดเี ด่น ประจาปี ๒๕๖๑ กลมุ่ สมุทรคีรี ๔. รางวลั ท่ี ๑ ประเภท บ้านหนงั สอื ชุมชน สานักงาน กศน.จงั หวดั ดเี ดน่ ประจาปี ๒๕๖๒ กลุ่มสมุทรครี ี ๕. รางวัลท่ี ๑ ประเภท ห้องสมุด สานกั งาน กศน.จังหวดั ประชาชนอาเภอ ดีเด่น ประจาปี กลมุ่ สมทุ รคีรี ๒๕๖๒ ๖. รางวลั ที่ ๑ ประเภท บรรณารกั ษ์ ดเี ด่น สานักงาน กศน.จงั หวัด ประจาปี ๒๕๖๒ กลุ่มสมทุ รคีรี
ท่ี รายการ หนว่ ยงานเจา้ ของรางวัล ๒๑ เอกสารอา้ งอิง ๗. รางวลั ท่ี ๑ ประเภท หอ้ งสมุด สานักงาน กศน.จงั หวัด ประชาชนอาเภอ ดีเดน่ ประจาปี กล่มุ สมุทรคีรี ๒๕๖๓
๔. ได้รบั รางวัลหรือเกียรติบัตรระดับจังหวดั ๒๒ เอกสารอา้ งอิง ที่ รายการ หนว่ ยงานเจ้าของรางวลั ๑. รางวัลท่ี ๑ ประเภท บรรณารกั ษ์ ดีเดน่ สานักงาน กศน. ประจาปี ๒๕๖๑ จงั หวดั เพชรบุรี ๒. รางวัลที่ ๑ ประเภท บ้านหนงั สือชุมชน สานักงาน กศน. ดีเดน่ ๒๕๖๑ จังหวัดเพชรบรุ ี ๓. รางวลั ที่ ๑ ประเภท บ้านหนงั สอื ชมุ ชน สานักงาน กศน. ดเี ดน่ ประจาปี ๒๕๖๒ จงั หวัดเพชรบุรี ๔. รางวลั ที่ ๑ ประเภท ห้องสมดุ ประชาชน สานกั งาน กศน. อาเภอ ยอดเยย่ี ม ประจาปี ๒๕๖๒ จังหวัดเพชรบุรี ๕. รางวลั ท่ี ๑ ประเภท บรรณารักษ์ ดีเด่น สานกั งาน กศน. ประจาปี ๒๕๖๒ จงั หวัดเพชรบุรี ๖. รางวัลที่ ๑ ประเภท หอ้ งสมดุ ประชาชน สานกั งาน กศน. อาเภอ ยอดเยย่ี ม ประจาปี ๒๕๖๓ จงั หวัดเพชรบรุ ี
๒๓ จานวนสมาชกิ หอ้ งสมุด ในรอบ 3 ปีงบประมาณท่ีผ่านมา ที่ ปีงบประมาณ จานวนสมาชิก เพ่ิมขน้ึ /ลดลง ชาย หญงิ เพม่ิ ขน้ึ 1 ปงี บประมาณ พ.ศ. 25๖๑ ๕๒๕ ๔๑๗ เพ่มิ ข้ึน 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 256๒ ๕๘๒ ๔๘๔ 3 ปงี บประมาณ พ.ศ. 256๓ ๗๒๖ ๖๐๗ รวม ๑,๕๖๐ ๑,๕๐๘ ความรทู้ ่วั ไปเกยี่ วกบั ห้องสมดุ ห้องสมุด ถือเป็นหัวใจของการเรียนรู้ท่ีสาคัญในสังคมแห่งภูมิปญั ญา และสังคมแห่งการเรียนรู้ ผู้เรียน ในสถานศึกษาจะต้องศึกษาค้นคว้าแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองอยา่ งต่อเนื่อง ห้องสมุดจึงเป็นแหลง่ เรยี นรูท้ ่มี ีส่วน สาคัญในการจัดประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนตามหลักสูตร เปรียบเสมือนคลังความรู้ท่ีช่วยพัฒนาผู้เรียนในทุก ๆ ดา้ นให้เป็นผรู้ กั การเรียน และสนใจเรยี นรู้ตลอดชีวติ เพ่อื พัฒนาคนและสงั คมให้สมบูรณแ์ บบ ความหมายของห้องสมดุ ประชาชน ห้องสมุดประชาชน หมายถึง ห้องสมุดที่ได้รับการสนับสนุน ทางการเงิน จากรัฐบาล โดยประชาชน เป็นผู้เสียภาษีให้รัฐ เพ่ือให้บารุงห้องสมุด เปิดบริการอย่างกว้าง แก่ประชาชนในท้องถ่ินโดยไม่จากัด เพศ วัย เชื้อชาติ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง และความรู้ ห้องสมุดบางแห่ง ที่ไม่ได้รับความสนับสนุน ทาง การเงิน จากรัฐบาล แตเ่ ปิดบริการ แก่ประชาชนทวั่ ไป โดยไมค่ ิดมลู ค่ากถ็ ือว่าเป็นห้องสมดุ ประชาชนด้วย ความสาคญั ของห้องสมดุ ประชาชน การศึกษาในปัจจุบัน มุ่งให้ผู้เรียนมีโอกาสค้นควา้ หาความรู้จากแหล่งเรียนรู้อื่นๆ มาประกอบความรูท้ ี่ ได้รับจากการเรียนในช้ัน ผู้เรียนจะต้องหาความรู้เพิ่มเติมโดยการเข้าใช้ห้องสมุด เพ่ือค้นคว้าหาความรู้เพิ่มขึ้น ความสาคัญของห้องสมุดอาจประมวลได้ ดังนี้ 1. ห้องสมุดเป็นที่รวมของทรัพยากรสารสนเทศต่างๆ ท่ีผู้ใช้สามารถค้นคว้าหาความรู้ทุกสาขาวิชา ท่ีมกี ารเรยี นการสอนในสถาบนั การศึกษาน้ัน 2. หอ้ งสมุดเปน็ ท่ที ท่ี ุกคนจะเลือกอ่านหนังสอื และคน้ คว้าหาความรตู้ า่ งๆได้โดยอสิ ระ ตามความสนใจ ของแตล่ ะบคุ คล 3. หอ้ งสมุดช่วยใหผ้ ใู้ ช้ห้องสมุดพอใจที่จะอา่ นหนังสือต่างๆโดยไม่รจู้ ักจบสิน้ เป็นการช่วยปลูกฝังนิสัย รกั การอา่ น 4. ช่วยใหผ้ ู้ใชห้ อ้ งสมุดมีความร้ทู ันสมัยอยู่เสมอ 5. ช่วยให้ผู้ใชห้ ้องสมุดมนี ิสัยรกั การค้นคว้าหาความรูด้ ้วยตนเอง 6. ช่วยใหร้ ้จู ักใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ 7. หอ้ งสมดุ จะชว่ ยให้ผ้ใู ชห้ ้องสมุดรบั รู้ในสมบตั ิสาธารณะ รูจ้ ักใช้และระวังรักษาอยา่ งถกู ต้อง
๒๔ วัตถุประสงคข์ องหอ้ งสมดุ ประชาชน ๑. ให้การศึกษาแก่ประชาชน คือ ให้ประชาชนทุกวัย ทุกช้ัน ได้มีโอกาสแสวงหาความรู้ สร้าง ความเจรญิ ทางการศึกษาให้แกต่ นเองได้ แม้วา่ จะไมม่ ีโอกาสได้เล่าเรียนในสถานศกึ ษาธรรมดา ๒. เป็นศูนย์รวมของข่าวสาร การเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น การประดิษฐ์ใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์ การเคล่ือนไหวของรัฐบาลของตนและประเทศอื่น รวบรวมไว้เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข่าวคราวและรู้ทันต่อ เหตุการณ์ต่างๆ ของโลก สามารถวินิจฉัยเร่ืองราวและตัดสินใจได้โดยไม่ผิดพลาด ไม่ตกเป็นเหยื่อของโฆษณา ชวนเชอื่ ๓. เป็นศูนย์รวมของบรรดาความรู้ ความคิด ประสบการณ์ และวิวัฒนาการต่างๆ ของมนุษย์ ซ่ึงมี ผแู้ สดงออกหรอื จารึกไว้ในหนงั สือ แผ่นเสียง ฟิล์มภาพยนตร์ หรือสอ่ื ความคิดเห็นอย่างอ่นื ๆ เทา่ ทมี่ ีอยู่ สาหรับ ประโยชน์ของคนทุกคน ทุกวัย และท่ีมีการศึกษาทกุ ระดบั ๔. เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมประชาชนให้รู้จักหนังสือ และสื่อความคิดอ่ืน ๆ ให้เป็นประโยชน์แก่ ตนเองและสังคม ๕. เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และช่วยในการพัฒนาประเทศ และชุมชนท่ีห้องสมุดต้ังอยู่ สนองความ ต้องการต่างๆ ของประเทศในด้านการศึกษาของประชาชน ช่วยในการพัฒนาจิตใจให้คนมีทัศนคติอันถูกต้อง ช่วยในการแก้ปญั หาต่าง ๆ ของชมุ ชน ระเบียบการใช้หอ้ งสมุดประชาชน 1. ลงชือ่ - นามสกลุ เวลาในการเข้าใชท้ ุกครั้ง ในแบบฟอร์มที่กาหนด 2. ผใู้ ชบ้ ริการหอ้ งสมุด ต้องแต่งกายสภุ าพ ไม่สูบบหุ รี่ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น 3. ผใู้ ช้บริการห้องสมุด ต้องไมน่ าหนังสอื และสิ่งพิมพ์อนื่ ๆ ออกจากห้องสมุดก่อนไดร้ บั อนญุ าตทกุ ครงั้ และห้ามทาใหท้ รัพยากรห้องสมดุ เกิดการชารุดเสยี หาย 4. ผ้ใู ชบ้ รกิ ารห้องสมุดจะต้องชว่ ยกันรักษาความสะอาดบรเิ วณภายในและภายนอกอาคารห้องสมุด บริการหอ้ งสมุดประชาชน 1. ให้บรกิ าร ยมื – คนื หนงั สือ และวัสดุสารนิเทศ 2. บริการหนงั สือเสริมทักษะความรสู้ าหรบั เด็ก และจดั กิจกรรมทห่ี ลากหลาย 3. จดั นิทรรศการและจดั บอร์ดวนั สาคญั ต่างๆ 4. จัดบรกิ ารแนะนาหนังสือใหม่ 5. บริการตอบคาถามและชว่ ยการค้นควา้ 6. บรกิ ารส่งเสรมิ การอา่ นทง้ั ภายใน และภายนอกห้องสมุด 7. จดั กจิ กรรมอื่นๆ เช่น ส่งเสรมิ การอ่าน และจดั กิจกรรมต่างๆ กับนกั เรียน นักศึกษา และประชาชน ท่ัวไป มารยาท และขอ้ ควรปฏบิ ตั ิเม่ือเข้าใช้หอ้ งสมุด 1. แต่งกายสภุ าพเรียบรอ้ ย 2. ลงชื่อในสมุดท่จี ัดเตรียมไว้กอ่ นเข้าใช้บรกิ าร ๓. หา้ มนาอาหารและเคร่อื งดื่มเขา้ มาในห้องสมุด ๔. ไมส่ ง่ เสียงดังในหอ้ งสมุด ๕. ไมฉ่ ีก ตัด หรือทาลายหนงั สือ ตลอดจนวัสดอุ ุปกรณข์ องหอ้ งสมุด ๖. ไม่สูบบหุ ร่ีในห้องสมุด
๒๕ ๗. หากมีเหตุอนั ใดท่ผี ู้ใชบ้ รกิ ารแสดงกริ ิยารบกวนผใู้ ชร้ ายอื่น หอ้ งสมดุ สงวนสิทธ์ใิ นการให้บริการ และระงับการเข้าใชห้ อ้ งสมุดทันที ๘. ผใู้ ช้ห้องสมดุ ต้องให้เจ้าหน้าท่ีตรวจเอกสาร สง่ิ พิมพ์ก่อนออกจาก ห้องสมดุ ๙. ควรนาหนงั สือ และส่ืออน่ื ฯ ท่ียมื ไปแล้วมาส่งคืนหอ้ งสมุดใหต้ รงตามเวลา 1๐. ปฏบิ ัติตามกฎของระเบียบของห้องสมดุ ทรพั ยากรในหอ้ งสมุด แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทดงั น้ี 1. วสั ดุตพี มิ พ์ (Printed materials) - หนังสือ (book) - วารสารและนติ ยสาร (Periodicals) - หนังสือพมิ พ์ (Newspapers) - จลุ สาร (Pamphlets) 2. วสั ดุไม่ตพี ิมพ์ (Non-Printed materials) - โสตทศั นวัสดุ (Audio-visual materials) - สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic media) การจดั หมวดหมหู่ นงั สือในห้องสมดุ การจดั หมู่หนงั สือ แบบดิวอ้ี (Dewey decimal classifications : D.C.) โดยแบง่ เปน็ 10 หมวดใหญ่ คือ หมวด 000 ความรู้ทว่ั ไป หมวด 100 ปรชั ญา หมวด 200 ศาสนา หมวด 300 สงั คมศาสตร์ หมวด 400 ภาษาศาสตร์ หมวด 500 วิทยาศาสตร์ หมวด 600 เทคโนโลยี หมวด 700 ศิลปะและนันทนาการ หมวด 800 วรรณคดี หมวด 900 ประวัติศาสตร์ นวนิยาย เยาวชน
๒๖ การสบื ค้นขอ้ มูลในห้องสมุด \"การสบื คน้ ข้อมลู ถือวา่ เป็นงานทส่ี าคญั อยา่ งยิ่งสาหรับการศกึ ษาและการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั ใน ปัจจุบัน เนอื่ งจากการสืบค้นข้อมูลเป็นจดุ เรมิ่ ต้นของการหาข้อมูลเกี่ยวกบั เรื่องท่ีสนใจ\" ห้องสมุด เป็นสถานที่รวบรวมสรรพวิทยาการต่าง ๆ หลายสาขา ซ่ึงได้บันทึกไว้ในรูปของหนังสือ วารสาร ต้นฉบบั ตัวเขียน สิ่งตพี ิมพอ์ น่ื ๆ หรือโสตทศั นวัสดุ และมีการจดั ระเบียบเพ่ือสะดวกแก่การค้นคว้าและ บรกิ ารซ่ึงหอ้ งสมุดเป็นแหลง่ ข้อมูลทีม่ ีความหลากหลาย ประกอบดว้ ย 1. หนงั สอื ตาราและเอกสารทางวิชาการ หนังสือ หมายถึง ข้อความท่ีพิมพ์หรือเขียนแลว้ รวมเป็นเล่ม เช่น หนังสือวิชาการ หนังสือประเภทสาร คดี หนงั สอื บันเทิง หนงั สืออ้างองิ วารสาร นติ ยสาร จลุ สาร เป็นต้น เป็นแหล่งสบื ค้นขอ้ มลู ลาดับแรกทนี่ ักเรียน ไดอ้ า่ นและคน้ คว้าตลอดเวลา ถือว่าเป็นแหลง่ รวบรวมความรทู้ ั้งกฎ ทฤษฏี 2. วารสาร วารสาร (Journal) สิ่งพิมพ์ท่ีเผยแพร่บทความความรู้เรื่องราวต่าง ๆ ภายใต้ชื่อเดียวกัน มีการกาหนด เป็นระยะ เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน รายสามเดือน เปน็ ต้นถือว่าเปน็ สง่ิ พมิ พ์อย่างหน่ึงทีร่ วมแหล่งข้อมูลท่ีเป็น ปัจจุบันมากที่สุด สามารถนามาอ้างอิงได้ มักจัดทาโดยสถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ มักจะเผยแพร่ สารนิเทศใหม่ ๆ ในรปู แบบบทความรู้ ตวั อยา่ งเช่น วารวิทยาศาสตร์ วารสารวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ วารสารทาง เทคโนโลยี เป็นต้น ดังน้ันวารสารจึงถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลท่ีนักเรียน ควรศึกษาค้นคว้าเป็นประจา เพราะมี ข้อมูลด้านการวิจัย บทความใหม่ ๆ รวมท้ังทราบความก้าวหน้าว่า ปัจจุบันมีการศึกษา วิจัย เน้นไปทางด้าน ใดบา้ ง 3. หนงั สอื พมิ พ์ เป็นส่ือส่ิงพิมพ์อีกแบบหนึ่งท่ีเรียนสามารถค้นคว้าได้เช่นเดียวกัน มุ่งเสนอข่าวสารความรู้ท่ีทันสมัย มีการกาหนดการออกหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง เสนอข่าวสารทั้งภายในและต่างประเทศ และเป็นเร่ืองราวท่ี น่าสนใจในด้านต่าง ๆ หนังสือพิมพ์มักจะประกอบด้วย บทบรรณาธิการ เนื้อข่าว บทความรู้ คอลัมน์ประจา เป็นข้อมูลท่ีนักเรียน อ้างอิงได้ ซ่ึงเม่ือนาข้อมูลมาใช้แล้วส่ิงหนึ่งท่ีพึงควรระวัง คือ การอ้างอิงที่มาของข้อมูล นน้ั เอง ดงั นน้ั เมือ่ เรานาเนือ้ หาจากส่วนใด ควรมีการอา้ งองิ ใหถ้ ูกตอ้ ง 4. งานวจิ ัยและวิทยานิพนธ์ เป็นสิ่งพิมพ์ที่เป็นผลงานที่มีหลากหลายสาขา ซึ่งห้องสมุดจัดแยกต่างหากจากหนังสือท่ัวไปเพื่อความ สะดวกในการค้นคว้า ถือว่าเป็นหนังสืออ้างอิง ที่นักเรียนสามารถสืบค้นและศึกษาเพื่อเป็นแนวทางการทา โครงงานของตนเองได้อย่างถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตามในการเลือกงานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์มาเป็นแนวทางหรือ เป็นตัวอย่างในการทาโครงงานของตนเองน้ัน ควรมีการเลือกหลาย ๆ เร่ือง เพราะคุณภาพของงานวิจัยและ วิทยานิพนธ์แตกต่างกัน เพื่อมีการเทียบเคียงความถูกต้อง แล้วเลือกมาเป็นตัวอย่าง ถ้าเราเลือกเล่มที่ทาไม่ ถูกต้องนามาเปน็ แนวทางกจ็ ะทาให้นสิ ติ นักศึกษาดาเนินการผดิ ด้วยเช่นกัน 5. CD ROM เป็นฐานข้อมูลโสตทัศนวัสดุ ในปัจจุบันมีจานวนมากในห้องสมุด เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลบันทึกลง CD จัดเกบ็ เป็นหมวดหมู่ เชน่ วีดทิ ศั น์ เสียง ภาพ ในแต่ละหมวดหมจู่ ะแบง่ ย่อย วิชาการ (หนงั สือ งานวิชาการ วารสาร) บันเทงิ สารคดี เปน็ ต้น 6. การสืบค้นข้อมลู ทางอนิ เทอรเ์ นต็ การค้นหาข้อมูลด้วยเครื่องมือค้นหาท่ีเรียกว่า Search Engine เข้ามาช่วยเพื่อความสะดวกและ รวดเร็ว ผใู้ ชง้ านเพียงแตท่ ราบหวั ข้อท่ีตอ้ งการค้นหาแล้วปอ้ น คาหรอื ขอ้ ความของหวั ขอ้ นน้ั ๆ
๒๗ การสบื คน้ และวธิ สี ืบค้นขอ้ มูลบนเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ ห้องสมุดประชาชนอาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบรุ ี มีบรกิ ารสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย (wifi) โดยไมเ่ สยี คา่ บริการ สามารถเชอ่ื มตอ่ กับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอรโ์ นต๊ บุ๊ค เพอื่ ใช้ในการสืบคน้ ข้อมูลของผู้ใชบ้ ริการได้ทางเว็บไซค์ห้องสมุดประชาชนอาเภอบ้านแหลม ผา่ นระบบเชื่อมโยงแหลง่ การเรยี นรู้ ซง่ึ เป็นแหล่งรวบรวมข้อมลู ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอบา้ นแหลม เพือ่ การสืบคน้ ขอ้ มลู ที่ตอ้ งการ
๒๘ สว่ นที่ 2 ทิศทางการดาเนินงาน นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ วิสัยทศั น์ คนไทยทุกช่วงวัยได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ิตอย่างมีคุณภาพ มีทักษะที่จาเป็น และสมรรถนะท่ีสอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดารงชวี ิตไดอ้ ย่างเหมาะสมบนรากฐานของหลัก ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พันธกิจ ๑. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคล้อง กับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อยกระดับการศึกษา และ พัฒนาสมรรถนะ ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ให้พร้อมรับ การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการดารงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ก้าวสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอด ชีวติ อย่างยั่งยืน ๒. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และ บริบท ในปจั จบุ นั ๓. ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยที างการศึกษา และนาเทคโนโลยมี าพฒั นาเพอื่ เพิ่มช่องทางและโอกาส การเรียนรู้ รวมถึงการเพ่ิมประสิทธิภาพในการจัดและให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ใหก้ ับประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายอย่างทัว่ ถงึ ๔. ส่งเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบ ต่าง ๆ ใหก้ บั ประชาชน ๕. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรใหม้ ีเอกภาพ เพ่ือการบริหารราชการที่ดีบนหลัก ของ ธรรมาภิบาล มีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธิผล และคลอ่ งตัวมากยง่ิ ขึ้น ๖.ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และ จรยิ ธรรมที่ดี เพื่อเพ่ิมประสิทธภิ าพของการให้บรกิ ารทางการศึกษาและการเรยี นรู้ทีม่ ีคุณภาพมากยง่ิ ขน้ึ เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาส ทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษา ตาม อัธยาศัยท่ีมีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและท่ัวถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต้องการของแต่ละ กลุ่มเปา้ หมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม หน้าที่ความเปน็ พลเมืองที่ดีภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่สอดคล้องกับหลัก ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง อันนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อ พัฒนา ไปสู่ความมนั่ คงและยง่ั ยนื ทางด้านเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสง่ิ แวดลอ้ ม
๒๙ 3. ประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ด้วยตนเองผ่านแหล่งเรียนรู้ ช่อง ทางการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สามารถคิดวิเคราะห์ แยกแยะอย่างมีเหตุผล และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมถงึ การแก้ปัญหาและพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ได้อย่างสร้างสรรค์ 4. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร สื่อ นวัตกรรม ช่องทางการเรียนรู้ และกระบวนการ เรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เพ่ือแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความต้องการของประชาชนและชุมชน รวมท้ังตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลง บริบท ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง วัฒนธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสง่ิ แวดล้อม 5. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัล มาพัฒนาเพ่ือเพ่ิมช่องทางการเรียนรู้ และนามาใช้ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรู้และโอกาสการ เรียนรู้ ให้กับประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษา นอก ระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย รวมทัง้ การขบั เคลอ่ื นกิจกรรมการเรียนร้ขู องชมุ ชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองค์กรท่ีทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป ตามหลักธรรมาภบิ าล 8. บุคลากร กศน. ทกุ ประเภททุกระดับไดร้ ับการพัฒนาเพ่ือเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการปฏบิ ัติงาน และการใหบ้ ริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย รวมถงึ การปฏิบัตงิ านตามสายงานอย่าง มี ประสิทธภิ าพ
๓๐
๓๑ จดุ เนน้ การดาเนินงาน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 25๖4 1. นอ้ มนาพระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาสูก่ ารปฏิบัติ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่าง ๆ ท้ังดิน น้า ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ต่าง ๆ และ สง่ เสริม การใช้พลงั งานทดแทนอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 1.2 จัดใหม้ ี “หนึง่ ชุมชน หนึง่ นวตั กรรมการพฒั นาชมุ ชน” เพอ่ื ความกินดี อยู่ดี มีงานทา 1.3 การสร้างกลุ่มจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมท้ังปลูกฝังผู้เรียนให้มีหลักคิดที่ถูกต้องด้านคุณธรร ม จริยธรรม มีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง และเป็นผู้มีความพอเพียง ระเบียบวินัย สุจริต จิตอาสา ผ่านกิจกรรมการ พัฒนา ผ้เู รยี นโดยการใช้กระบวนการลูกเสือและยุวกาชาด 2. สง่ เสริมการจัดการศกึ ษาและการเรียนรตู้ ลอดชีวติ สาหรับประชาชนทเ่ี หมาะสมกับทุกชว่ งวัย 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร้าง นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของประชาชน ผรู้ ับบรกิ าร และสามารถออกใบรบั รองความรู้ความสามารถเพ่อื นาไปใชใ้ นการพฒั นาอาชพี ได้ 2.2 สง่ เสริมและยกระดับทกั ษะภาษาอังกฤษให้กบั ประชาชน (English for ALL) 2.3 ส่งเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสาหรับผู้ท่ีเข้าสู่สังคมสูงวัย อาทิ การฝึกอบรมอาชีพ ท่เี หมาะสมรองรับสงั คมสูงวัย หลกั สูตรการพัฒนาคณุ ภาพชีวิตและสง่ เสริมสมรรถนะผูส้ ูงวยั และหลักสตู ร การ ดูแลผู้สงู วยั โดยเนน้ การมสี ว่ นรว่ มกับภาคเี ครอื ขา่ ยทกุ ภาคสว่ นในการเตรียมความพรอ้ มเข้าสูส่ ังคมสูงวัย 3. พฒั นาหลกั สตู ร สอื่ เทคโนโลยีและนวตั กรรมทางการศึกษา แหลง่ เรยี นรู้ และรูปแบบ การจัดการศกึ ษา และการเรยี นรู้ ในทกุ ระดบั ทกุ ประเภท เพื่อประโยชนต์ ่อการจัดการศกึ ษาที่เหมาะสม กบั ทกุ กลุ่มเป้าหมาย มีความทันสมัย สอดคล้องและพร้อมรองรับกับบริบทสภาวะสังคมปัจจุบัน ความต้องการ ของผู้เรียน และ สภาวะการเรยี นร้ใู นสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต 3.1 พั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร เ รี ย น รู้ ONIE Digital Leaming Platform ท่ี ร อ ง รั บ DEEP ข อ ง กระทรวงศึกษาธิการ และชอ่ งทางเรียนรรู้ ปู แบบอน่ื ๆ ทัง้ Online On-site และ On-air 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital Science Center/ Digital Library ศูนย์การเรียนรู้ทุกช่วงวัย และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพ่ือให้ สามารถ “เรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งท่วั ถงึ ทกุ ที่ ทกุ เวลา” 3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝึกอบรมแบบออนไลน์ มีระบบการเทียบโอนความรู้ ระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให้บริการระบบทดสอบ อิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) 4. บูรณาการความรว่ มมือในการสง่ เสริม สนับสนุน และจดั การศกึ ษาและการเรียนรูใ้ ห้กับ ประชาชนอย่าง มคี ุณภาพ 4.1 ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายท้ังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมท้ัง ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน อาทิ การส่งเสริมการฝึกอาชีพที่เป็นอัตลักษณ์และบริบทของ ชมุ ชน สง่ เสรมิ การตลาดและขยายชอ่ งทางการจาหน่ายเพ่ือยกระดับผลติ ภณั ฑ/์ สินค้า กศน. 4.2 บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ท้ังในส่วนกลาง และ ภมู ภิ าค
๓๒ 5. พฒั นาศักยภาพและประสิทธภิ าพในการทางานของบุคลากร กศน. 5.1 พัฒนาศักยภาพและทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ให้กับบุคลากรทุกประเภททุกระดับ รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ังพัฒนา ครูให้มีทักษะ ความรู้ และความชานาญในการใช้ภาษาอังกฤษ การผลิตส่ือการเรียนรู้และการจัดการเรียนการ สอนเพอ่ื ฝกึ ทักษะ การคดิ วิเคราะห์อย่างเป็นระบบและมีเหตุผล เป็นข้ันตอน 5.2 จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ ของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ ในการ ทางานร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพ ในการ ทางาน 6. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจัดการองค์กร ปัจจัยพื้นฐานในการจัดการศึกษา และ การประชาสมั พนั ธ์สรา้ งการรับรู้ตอ่ สาธารณะชน 6.1 เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ... ให้สาเร็จ และปรับโครงสร้าง การ บริหารและอัตรากาลังใหส้ อดคล้องกับบรบิ ทการเปลี่ยนแปลง เร่งการสรรหา บรรจุ แต่งตั้งทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาระบบการทางานและข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใช้งานทันที โดยจัดต้ังศูนย์ข้อมูลกลาง กศน. เพื่อ จัดทา ข้อมลู กศน. ทงั้ ระบบ (ONE ONIE) 6.3 พัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของหน่วยงาน สถานศึกษา และแหล่งเรยี นรทู้ ุกแหง่ ให้สะอาด ปลอดภัย พรอ้ มใหบ้ ริการ 6.4 ประชาสมั พันธ์/สร้างการรบั รูใ้ ห้กับประชาชนทวั่ ไปเก่ยี วกับการบริการทางวิชาการ/กิจกรรมด้าน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสร้างช่องทางการแลกเปล่ียนเรียนรู้ด้านวิชาการของ หน่วยงานและสถานศกึ ษาในสังกดั อาทิ ขา่ วประชาสมั พันธ์ ผา่ นสือ่ รูปแบบต่าง ๆ การจดั นทิ รรศการ/มหกรรม วชิ าการ กศน. การจดั การศกึ ษาและการเรียนรูใ้ นสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) ของสานกั งาน กศน. จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เมอ่ื เดือนธันวาคม 2562 ส่งผลกระทบต่อระบบการจัดการเรียนการสอนของไทยในทุกระดับช้ัน ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศและมีมาตรการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว อาทิ กาหนดให้มี การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภท เพ่ือจัดการเรียนการสอน การสอบ ฝึกอบรม หรือการทากิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจานวน มาก การปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ การกาหนดให้ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ อาทิ การจัดการเรียนรู้ แบบออนไลน์ การจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการออกอากาศทางโทรทัศน์ วิทยุ และโซเซียล มเี ดียตา่ ง ๆ รวมถงึ การส่อื สารแบบทางไกลหรอื ดว้ ยวิธีอิเลก็ ทรอนิกส์ ในส่วนของสานักงาน กศน. ได้มีการพัฒนา ปรับรปู แบบ กระบวนการ และวิธกี ารดาเนนิ งานในภารกิจ ต่อเน่ืองต่าง ๆ ในสถานการณ์การใช้ชีวิตประจาวัน และการจัดการเรียนรู้เพ่ือรองรับการชีวิตแบบปกติวิถีใหม่ (New Normal) ซ่ึงกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ให้ความสาคัญกับการดาเนินงานตามมาตรการการป้องกัน การแพรร่ ะบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อาทิ การจัดกิจกรรมการเรียนร้ทู ุกประเภท หากมี ความจาเป็นต้องมาพบกลุ่ม หรืออบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาต้องมีมาตรการป้องกันท่ีเข้มงวดมีเจล แอลกอฮอลล้างมือ ผู้รับบริการต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ต้องมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เนน้ การใชส้ ่ือดิจทิ ลั และเทคโนโลยีออนไลน์ในการจัดการเรยี นการสอน
๓๓ ภารกจิ ต่อเนื่อง ๑. ด้านการจัดการศกึ ษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพ้ืนฐานโดยดาเนินการให้ ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซ้ือหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าจัดการเรียน การสอนอย่างท่ัวถึงและเพียงพอเพ่ือเพ่ิมโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาท่ีมีคุณภาพโดยไม่เสีย ค่าใชจ้ า่ ย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาด และขาด โอกาสทางการศึกษา ผ่านการเรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบช้ันเรียน และการจัด การศึกษาทางไกล 3) พัฒนาประสิทธภิ าพ คณุ ภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ท้ังด้านหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรยี นการสอน ส่ือและนวัตกรรม ระบบการวัดและประเมินผล การเรียน และระบบการใหบ้ ริการนักศึกษาในรปู แบบอื่น ๆ 4) จัดให้มีการประเมนิ เพอ่ื เทยี บระดบั การศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ที่มคี วาม โปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามท่ีกาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กลุ่มเปา้ หมายได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 5) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนท่ีมีคุณภาพท่ีผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรม เพ่ือเป็นส่วนหนง่ึ ของการจบหลกั สูตร อาทิ กิจกรรมเสริมสรา้ งความสามัคคี กิจกรรมเกี่ยวกับการป้องกัน และ แก้ไขปัญหายาเสพติดการแข่งขันกีฬา การบาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรม จิตอาสา และการจัดต้ังชมรม/ชุมนุม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนากิจกรรมการบาเพ็ญประโยชน์ อ่นื ๆ นอกหลักสูตรมาใช้เพ่มิ ชัว่ โมงกจิ กรรมให้ผเู้ รยี นจบตามหลกั สูตรได้ 1.2 การสง่ เสรมิ การรู้หนงั สือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเป็นระบบเดียวกัน ทง้ั ส่วนกลางและส่วนภมู ภิ าค 2) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สื่อ แบบเรียนเคร่ืองมือวัดผลและเคร่ืองมือการดาเนินงานการ ส่งเสรมิ การร้หู นังสอื ทส่ี อดคลอ้ งกบั สภาพและบริบทของแต่ละกลุม่ เป้าหมาย 3) พัฒนาครู กศน. และภาคีเครือข่ายที่รว่ มจัดการศึกษา ให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะการจดั กระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มีอาสาสมัครส่งเสริมการรู้หนังสือใน พื้นท่ีที่มคี วามต้องการจาเปน็ เปน็ พเิ ศษ 4) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ การคงสภาพการรู้หนังสือ การพฒั นาทักษะการรหู้ นังสือให้กับประชาชนเพ่ือเป็นเครื่องมือในการศกึ ษาและเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ืองตลอดชีวิต ของประชาชน 1.3 การศกึ ษาตอ่ เนื่อง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพอื่ การมีงานทาในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรือการ บริการ รวมถึงการเน้นอาชีพช่างพ้ืนฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการและศักยภาพของ แต่ละพ้ืนที่ มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนา
๓๔ ประเทศ ตลอดจน สร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการรวมกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชน การพัฒนา หนึ่งตาบลหน่ึงอาชีพเด่น การประกวดสินค้าดีพรีเมี่ยม การสร้างแบรนด์ของ กศน. รวมถึง การส่งเสริมและจัดหาช่องทางการจาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ และให้มีการกากับ ติดตาม และรายงานผล การจดั การศึกษาอาชีพ เพื่อการมงี านทาอยา่ งเปน็ ระบบและตอ่ เน่ือง 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ท่ีสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีทักษะการดารงชีวิต ตลอดจน สามารถประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองได้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้ อยู่ในสังคม ได้อย่างมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสาหรับการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยี สมัยใหม่ในอนาคต โดยจัดกิจกรรมที่มีเน้ือหาสาคัญต่าง ๆ เช่น การอบรมจิตอาสา การให้ความรู้เพ่ือการป้อง การการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคุณธรรม และจริยธรรม การป้องกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา การปลูกฝังและการสร้างค่านิยมท่ีพึง ประสงค์ ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ผ่านการอบรมเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะ ชีวิต การจดั ตัง้ ชมรม/ชมุ นมุ การอบรมส่งเสรมิ ความสามารถพิเศษตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ 3) จัดการศึกษาเพือ่ พฒั นาสังคมและชมุ ชน โดยใช้หลกั สูตรและการจดั กระบวนการเรียนรู้ แบบบรู ณา การในรูปแบบของการฝึกอบรมการประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้การจัดกิจกรรม จิตอาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอื่นๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชน แต่ละพ้ืนที่ เคารพความคิดของผู้อ่ืน ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ รวมทั้งสังคมพหุ วัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่มเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันสร้างกระบวนการจิตสาธารณะ การสร้างจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบต่อหน้าท่ีความเป็น พลเมือง ที่ดีภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การเป็นจิตอาสา การบาเพ็ญประโยชน์ในชุมชนการบริหารจัดการนาการรับมือกับสาธารณภัย การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม การช่วยเหลือซ่ึงกันและกันในการพัฒนาสังคมและ ชมุ ชนอยา่ งยง่ั ยืน 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถยืนหยดั อยู่ได้อย่างม่ันคง และมีการบริหาร จดั การ ความเสย่ี งอยา่ งเหมาะสม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศส่คู วามสมดลุ และยง่ั ยืน 1.4 การศึกษาตามอัธยาศัย 1) พัฒนาแหล่งการเรียนรู้ท่ีมีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่านและพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตาบล ห้องสมุด ประชาชนทุกแห่งให้มีการบริการท่ีทันสมัย ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้าง เครือข่าย ส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการห้องสมุดเคล่ือนที่ ห้องสมุดชาวตลาด พร้อมหนังสือและอุปกรณ์ เพ่ือจัดกิจกรรม ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายให้บริการกับประชาชนในพ้ืนท่ีต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สม่าเสมอ รวมทงั้ เสรมิ สร้างความพรอ้ มในด้านบุคลากร สื่ออปุ กรณเ์ พ่ือสนับสนนุ การอ่าน และการจัดกจิ กรรม เพ่อื สง่ เสรมิ การอา่ น อย่างหลากหลายรปู แบบ 2) จัดสร้างและพัฒนาศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตลอดชีวิต ของประชาชน เป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตร์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะวิทยาการประจา ท้องถ่ิน โดยจัดทาและพัฒนานิทรรศการสื่อและกิจกรรมการศึกษาที่เน้นการเสริมสร้างความรู้และสร้างแรง
๓๕ บันดาลใจ ด้านวิทยาศาสตร์สอดแทรกวิธีการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ และปลูกฝังเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ ผ่านการกระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ รวมทั้งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ รวมทั้งระดบั ภมู ิภาค และระดับโลกเพ่ือให้ประชาชนมคี วามรู้และสามารถนาความรแู้ ละทักษะไป ประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต การพัฒนา อาชีพ การรักษาสิ่งแวดล้อม การบรรเทาและป้องกันภัยพิบัติทาง ธรรมชาติ รวมท้ังมีความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่าง รวดเร็วและรุนแรง (Disruptive Changes) ได้อยา่ ง มีประสิทธิภาพ 3) ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่างๆ ที่มีแหล่งเรียนรู้อ่ืนๆ เพ่ือส่งเสริม การจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีรูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น พิพธิ ภัณฑ์ ศูนยเ์ รียนรู้ แหลง่ โบราณคดี วดั ศาสนาสถาน ห้องสมดุ รวมถงึ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นตน้ 2. ดา้ นหลักสตู ร ส่ือรูปแบบการจดั กระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลงานบริการ ทางวชิ าการ และ การประกันคณุ ภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมเพื่อส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีหลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน สมรรถนะ และหลักสูตรท้องถ่ินที่สอดคล้องกับสภาพบริบทของพ้ืนท่ีและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและ ชมุ ชน 2.2 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน ส่ืออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่น ๆ ที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มเป้าหมายทว่ั ไปและกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถเรยี นรไู้ ดท้ กุ ท่ี ทุกเวลา 2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัย หลากหลายช่องทางการเรียนรู้ ด้วยระบบหอ้ งเรยี นและการควบคุมการสอบรูปแบบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทัง้ มีการประชาสมั พนั ธใ์ หส้ าธารณชนไดร้ ับรูแ้ ละสามารถเขา้ ถงึ ระบบการประเมินได้ 2.5 พฒั นาระบบการวดั และประเมินผลการศกึ ษานอกระบบทุกหลกั สตู ร โดยเฉพาะหลักสตู ร ใน ระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐานใหไ้ ด้มาตรฐานโดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e-Exam) มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และเผยแพร่รูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอัธยาศัย รวมท้ังให้มีการนาไปสู่การปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับ บริบทอยา่ งตอ่ เนื่อง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการประกัน คุณภาพภายในทีส่ อดคล้องกับบรบิ ทและภารกจิ ของ กศน. มากขนึ้ เพอ่ื พร้อมรับการประเมนิ คณุ ภาพภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถ ดาเนนิ การประกันคณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษาได้อย่างต่อเน่ืองโดยใช้การประเมินภายในด้วยตนเอง และจัด ให้มี ระบบสถานศึกษาพี่เล้ียงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สาหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับการประเมิน คณุ ภาพ ภายนอก ให้พัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กาหนด
๓๖ 3. ด้านเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาเพ่ือให้เชื่อมโยงและตอบสนอง ต่อการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทาง การศึกษา สาหรับกลุ่มเป้าหมายตา่ ง ๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรูท้ ี่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนา ตนเองให้รู้เท่าทัน สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการส่ือสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพื่อการมีงานทา รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ รายการ รายการทากินก็ได้ ทาขายก็ดี ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุศึกษา สถานี วิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ (ETV) และทางอนิ เทอรเ์ น็ต 3.2 พัฒนาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยโดยผ่านระบบ เทคโนโลยดี จิ ทิ ัล และชอ่ งทางออนไลนต์ า่ ง ๆ เชน่ Youtube Facebook หรือ Application อ่ืน ๆ เพ่อื ส่งเสริม ใหค้ รู กศน. นาเทคโนโลยีดจิ ิทัลมาใชใ้ นการสรา้ งกระบวนการเรียนรดู้ ้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษาและสถานีโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต และการ ออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใชเ้ ปน็ ช่องทางการเรียนร้ทู ี่มีคณุ ภาพได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวติ โดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกท่ี ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นท่ีทั่วประเทศและเพ่ิมช่องทาง ให้สามารถ รับชมรายการโทรทัศน์ได้ทั้งระบบ Ku - Band C - Band Digital TV และทางอินเทอร์เน็ต พร้อมท่ีจะ รองรับ การพัฒนาเปน็ สถานีวิทยุโทรทศั น์เพ่อื การศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พฒั นาระบบการให้บริการสอื่ เทคโนโลยีเพื่อการศกึ ษาเพอื่ ให้ได้หลายช่องทางทั้งทาง อนิ เทอร์เน็ต และรปู แบบอื่น ๆ อาทิ Application บนโทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ และ Tablet รวมท้ังสื่อ Offline ในรปู แบบ ตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้กลุ่มเปา้ หมายสามารถเลอื กใช้บรกิ ารเพ่ือเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรไู้ ดต้ ามความตอ้ งการ 3.5 สารวจ วจิ ัย ติดตามประเมนิ ผลด้านการใช้ส่อื เทคโนโลยีเพ่ือการศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ืองเพื่อนาผล มา ใช้ในการพัฒนางานให้มีความถูกต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของ ประชาชนได้อย่างแท้จรงิ 4. ดา้ นโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริ หรือโครงการอนั เกย่ี วเนือ่ งจากราชวงศ์ 4.1 ส่งเสริมและสนับสนุนการดาเนินงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริหรือโครงการ อัน เกยี่ วเนอื่ งจากราชวงศ์ 4.2 จดั ทาฐานข้อมูลโครงการและกิจกรรมของ กศน.ท่สี นองงานโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ หรือโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์เพื่อนาไปใช้ในการวางแผน การติดตามประเมินผลและการ พัฒนางาน ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการดาเนินงานเพ่ือสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ เพอ่ื ใหเ้ กิดความเข้มแข็งในการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 4.4 พัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”เพ่ือให้มีความพร้อมในการจัดการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามบทบาทหนา้ ทที่ ก่ี าหนดไวอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 4.5 จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพ้ืนที่สูง ถ่ิน ทุรกันดาร และพ้ืนทชี่ ายขอบ 5. ดา้ นการศึกษาในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ พืน้ ทเ่ี ขตเศรษฐกจิ พิเศษและพน้ื ทีบ่ รเิ วณ ชายแดน 5.1 พัฒนาการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีตอบสนองปัญหา และ ความต้องการของกล่มุ เป้าหมายรวมทัง้ อัตลักษณแ์ ละความเปน็ พหวุ ฒั นธรรมของพนื้ ที่
๓๗ 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องเพื่อให้ ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ที่ได้รบั ไปใชป้ ระโยชน์ได้จริง 3) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาจัดให้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่บุคลากรและ นักศึกษา กศน.ตลอดจนผู้มาใชบ้ รกิ ารอย่างทวั่ ถงึ 5.2 พฒั นาการจดั การศึกษาแบบบรู ณาการในเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พเิ ศษ 1) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทาแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ และ บรบิ ทของแตล่ ะจงั หวดั ในเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษ 2) จัดทาหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพื้นท่ี โดยเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด ให้เกิด การพัฒนาอาชพี ได้ตรงตามความต้องการของพ้นื ที่ 5.3 จดั การศกึ ษาเพอ่ื ความม่ันคงของศนู ยฝ์ ึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน(ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพื่อให้เป็นศูนย์ฝึกและสาธิต การประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดาริปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง สาหรับประชาชนตามแนวชายแดนด้วยวธิ ีการเรยี นรูท้ ่ีหลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชีพโดยใช้วิธีการหลากหลายใช้รูปแบบเชิงรุกเพ่ือการเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความร่วมมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนาด้าน อาชีพ ทเี่ น้นเรอ่ื งเกษตรธรรมชาตทิ ี่สอดคล้องกบั บริบทของชมุ ชนชายแดน ให้แก่ประชาชนตามแนวชายแดน 6. ด้านบุคลากรระบบการบรหิ ารจัดการ และการมีสว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ น 6.1 การพัฒนาบคุ ลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงข้ึนอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและระหว่าง การ ดารงตาแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงานให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตาแหน่ง ให้ตรงกับสาย งาน ความชานาญ และความต้องการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการดาเนินงานของ หน่วยงานและ สถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมท้ังส่งเสริมให้ข้าราชการในสังกัดพัฒนาตนเองเพื่อเล่ือน ตาแหน่ง หรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะโดยเน้นการประเมนิ วิทยฐานะเชิงประจกั ษ์ 2) พัฒนาศึกษานิเทศก์ กศน. ให้มีสมรรถนะที่จาเป็นครบถ้วน มีความเป็นมืออาชีพ สามารถ ปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัยในสถานศึกษา 3) พัฒนาหัวหน้า กศน.ตาบล/แขวงให้มีสมรรถนะสูงข้ึน เพื่อการบริหารจัดการ กศน.ตาบล/แขวง และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อานวย ความสะดวกในการเรยี นร้เู พื่อใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง 4) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ ได้ อย่างมีคุณภาพโดยสง่ เสริมให้มีความร้คู วามสามารถในการจัดทาแผนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้ การ วัด และประเมินผล และการวิจัยเบ้ืองต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ท่ีรับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ ให้ มีความรู้ ความสามารถและมคี วามเป็นมืออาชพี ในการจัดบริการส่งเสรมิ การเรยี นรูต้ ลอดชวี ติ ของประชาชน 6) ส่งเสริมให้คณะกรรมการ กศน. ทกุ ระดับ และคณะกรรมการสถานศึกษา มสี ว่ นร่วมในการ บริหาร การดาเนินงานตามบทบาทภารกิจของ กศน.อย่างมีประสิทธภิ าพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทาหน้าที่สนับสนนุ การจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอัธยาศัยได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
๓๘ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรรวมทั้งภาคีเครือข่ายท้ังใน และ ต่างประเทศในทุกระดับ โดยจัดให้มีกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างสัมพันธภาพและเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางาน รว่ มกันในรูปแบบทีห่ ลากหลายอยา่ งต่อเน่ืองอาทิ การแข่งขนั กฬี า การอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการพัฒนาประสทิ ธิภาพ ในการทางาน 6.2 การพัฒนาโครงสรา้ งพน้ื ฐานและอัตรากาลัง 1) จดั ทาแผนการพฒั นาโครงสรา้ งพืน้ ฐานและดาเนินการปรบั ปรงุ สถานที่และวัสดุอุปกรณ์ ให้มี ความ พรอ้ มในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 2) สรรหา บรรจุ แต่งตั้ง และบริหารอัตรากาลังท่ีมีอยู่ท้ังในส่วนที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ให้เป็นไปตามโครงสร้างการบริหารและกรอบอัตรากาลัง รวมทั้งรองรับกับบทบาทภารกิจตามท่ี กาหนดไว้ ใหเ้ กิดประสิทธภิ าพสูงสุดในการปฏบิ ัตงิ าน 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพ่ือนามาใช้ ในการ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมสาหรับดาเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตาม อัธยาศยั และการส่งเสรมิ การเรยี นรสู้ าหรับประชาชน 6.3 การพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ อย่างเป็น ระบบเพือ่ ให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เปน็ เครื่องมือสาคัญในการบริหาร การวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมนิ ผล รวมทัง้ จดั บรกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อย่าง มปี ระสิทธิภาพ 2) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากับ ควบคุม และเร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมลู รวมของนักศึกษา กศน. ใหม้ ีความครบถ้วน ถกู ตอ้ ง ทนั สมยั และ เชอ่ื มโยง กนั ทวั่ ประเทศ สามารถสบื คน้ และสอบทานได้ทนั ความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาใหก้ ับ ผู้เรียน และการบริหารจดั การอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 4) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพื่อ สามารถนามาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดาเนินงานที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และ ชมุ ชนพร้อมทง้ั พัฒนาขดี ความสามารถเชงิ การแขง่ ขันของหน่วยงานและสถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ท้ังภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมท้ังในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความ รว่ มมอื ในการส่งเสรมิ สนบั สนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรูใ้ ห้กับประชาชนอยา่ งมีคณุ ภาพ 6) ส่งเสริมการใช้ระบบสานักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการลา ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ระบบการขอใชร้ ถราชการ ระบบการขอใชห้ ้องประชุม เป็นต้น 7) พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และ ประพฤตมิ ิชอบ บริหารจดั การบนข้อมูลและหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ มุ่งผลสมั ฤทธิ์มคี วามโปร่งใส 6.4 การกากับ นเิ ทศติดตามประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยใหเ้ ชื่อมโยงกบั หนว่ ยงาน สถานศึกษา และภาคีเครือข่ายทงั้ ระบบ
๓๙ 2) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาท่ีเกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกากับ ติดตามและ รายงานผลการนานโยบายสู่การปฏิบตั ิ ใหส้ ามารถตอบสนองการดาเนินงานตามนโยบายในแตล่ ะเรื่องได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 3) สง่ เสรมิ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร และสือ่ อ่ืน ๆ ทเี่ หมาะสม เพอ่ื การกากบั นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคารับรองการปฏิบัติราชการประจาปี ของหน่วยงาน สถานศึกษา เพ่ือการรายงานผลตามตัวชี้วัดในคารับรองการปฏิบัติราชการประจาปีของ สานักงาน กศน.ให้ดาเนินไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ เป็นไปตามเกณฑ์ วิธกี าร และระยะเวลาท่กี าหนด 5) ให้มีการเช่ือมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ท้ังหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ต้ังแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพ่ือความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูล และการพัฒนางานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ทศิ ทางการดาเนนิ งานของ กศน.อาเภอบ้านแหลม ปรัชญา “ คิดเป็น” วิสัยทัศน์ กศน.อาเภอบ้านแหลม มุ่งเน้นใหผ้ ู้เรียนมีสว่ นร่วมคิด รว่ มทา รว่ มสรา้ งสรรคโ์ ดยยดึ ชมุ ชนเปน็ ฐาน มุ่งพฒั นาชมุ ชน เพื่อเป็นสงั คมแห่งการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง อตั ลกั ษณ์ คดิ เปน็ ทาเปน็ แกป้ ัญหาเปน็ ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เอกลกั ษณ์ ชุมชนเปน็ ฐานสู่การเรยี นรู้ พันธกจิ 1. สร้างเสริมการเรยี นรแู้ ละทักษะการเรยี นรกู้ ลุ่มเปา้ หมาย ใหส้ ามารถเรยี นรไู้ ด้จากส่อื เทคโนโลยี และแหลง่ เรียนร้ทู หี่ ลากหลาย 2. สรา้ งและกระจายโอกาสการเรียนรู้โดยกระจายแหลง่ เรียนรู้ สอ่ื และเทคโนโลยี เพื่อตอบสนอง ความตอ้ งการการเรียนรูต้ ลอดชวี ติ 3. จดั และส่งเสรมิ การเรียนรู้เพื่อพฒั นาทักษะการทางานพัฒนาคณุ ภาพชีวติ และชดเชยโอกาส ทางการศึกษา 4. สรา้ งความเขม้ แข็งของภาคเี ครือขา่ ยในการรว่ มจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย ใหเ้ ป็นกลไกการส่งเสรมิ การเรียนรตู้ ลอดชีวติ 5. สง่ เสริมใหช้ มุ ชนจดั การความรูเ้ พ่ือเสรมิ สร้างความเขม้ แข็งของชมุ ชนโดยบูรณาการภูมิปัญญา ทอ้ งถ่นิ ใหส้ อดคลอ้ งตามความต้องการของชุมชน 6. พัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สาหรับประชาชน กลมุ่ เปา้ หมายเพ่ือใหม้ ีคุณธรรมนาความรู้และมที ักษะการดาเนนิ ชีวิตบนพน้ื ฐานของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
๔๐ กลยทุ ธก์ ารดาเนนิ งาน กศน.อาเภอบ้านแหลม ได้ดาเนินงานตามกลยุทธ์ของสานักงาน กศน. สู่การปฏิบัติซึ่งมุ่งเน้น ตอบสนองโครงการ / กิจกรรม และกลุ่มเป้าหมายในการสร้างสังคม / ชุมชนแห่งการเรียนรู้สาหรับประชาชน และเยาวชน นอกโรงเรียน บนพ้ืนฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงการพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาความ ยากจนการยกระดบั การศึกษาใหก้ บั กลุ่มเปา้ หมายแรงงาน และการสร้างพันธมติ ร / เครอื ขา่ ยการจัดการศึกษา นอกโรงเรียน รวมถึงดาเนินงานตามผลผลิตของหน่วยงาน คือ การจัดการศึกษานอกระบบ และการส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิต ซ่ึง กศน.อาเภอบ้านแหลม มีภารกิจและบทบาททาหน้าที่บริหารจัดการ กากับดูแล ส่งเสริมสนับสนุนประสานงานในพื้นท่ีรับผิดชอบ จัดและให้บริการการศึกษานอกโรงเรยี นสาหรับประชาชนให้ ได้รับการศึกษาเทียบเท่าการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน การจัดกระบวนการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โครงการภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสารด้านอาชีพ โครงการ Smart ONIE เพื่อสร้าง Smart Farmer และการให้บริการข่าวสารข้อมูลใน รูปแบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นศูนย์การเรียนรู้และให้บริการการศึกษาแก่ ประชาชนครอบคลุมทุกพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นการประสานงานร่วมกับชุมชนและเครือข่ายในการจัด การศึกษาเพ่ือให้ประชาชนได้รับการศึกษา และเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต ท่ีมีคุณภาพอย่างทั่วถึงและ ต่อเน่ือง ในการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้บรรลุผลสาเร็จตาม ยุทธศาสตร์การดาเนนิ งาน ปีงบประมาณ 2564 ด้านการพัฒนาศักยภาพการเรยี นรู้ของประชาชน ด้านการ เพิ่มศักยภาพการจัดการความรู้ของชุมชน และด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการขององค์กรและ ภาคเี ครือขา่ ย ใหด้ าเนนิ การตามกลยุทธด์ ังต่อไปนี้ กลยทุ ธ์ที่ 1 ลุยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หลักการ ดาเนินการเจาะลกึ เข้าถงึ กลุม่ เป้าหมายท่หี ลากหลายวธิ ีการเพอ่ื ปลุกกระแสให้ประชาชน สนใจใฝ่ เรียนรแู้ ละเห็นความสาคัญของการศึกษา วธิ กี ารดาเนนิ งาน 1. ปลุกกระแสให้ประชาชนสนใจใฝเ่ รียนรู้ เหน็ ความสาคญั ของการศึกษาและต้องการศึกษาต่อใน ระดบั ทสี่ ูงข้นึ - จัดทาประกาศประชาสัมพันธ์ รายการวิทยชุ มุ ชนเพือ่ การศึกษา - นาเสนอทางเลือกในการศึกษาท่ีหลากหลายหลักสตู ร/กจิ กรรม - รณรงคโ์ ดยใช้ส่ือตา่ งๆในทอ้ งถน่ิ สนบั สนนุ ให้ผูน้ ากระตือรอื ร้นในการศกึ ษา 2. เจาะลึกเป็นรายหมู่บ้าน / รายครัวเรือน - สารวจข้อมูลการศึกษาของประชากรวัยแรงงาน 15 – 59 ปี - จดั ทาเวทีชาวบ้านเพ่อื เสนอทางเลอื กให้ประชาชนเป็นรายหมบู่ ้าน - สรุปประเดน็ ทางเลอื กการศึกษารปู แบบต่าง ๆ เป็นรายหมู่บา้ น 3. จดั ทาระบบฐานขอ้ มูล - จัดทาฐานข้อมลู เปน็ รายหมู่บ้าน / รายครัวเรือน/รายบุคคล - รวบรวมและทาทะเบียน เพื่อเชอ่ื มโยงระบบสารสนเทศท้ังอาเภอ
๔๑ กลยทุ ธ์ที่ 2 จดั กิจกรรมหลากหลายโดนใจผเู้ รียน หลกั การ เปน็ การจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยยดึ ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มุ่งสง่ เสริมการเรยี นเพ่ือแก้ปญั หาตา่ ง ๆ ของครอบครวั และชมุ ชนใหเ้ ข้มแข็งพ่ึงตนเองไดโ้ ดยเน้นหลักคุณธรรม จริยธรรมและมชี ีวิตที่เปน็ สขุ วธิ ีการดาเนินงาน 1.จัดทาหลักสตู ร โดยบูรณาการให้สอดคล้องกับหลักสตู รท้องถิ่นและวถิ ีชีวติ ของคนในชุมชน - พฒั นาหลกั สตู รทอ้ งถนิ่ ใหส้ อดคล้องกับวิถชี ีวติ ของคนในชมุ ชน - รวบรวมหลักสตู รจากทอ้ งถิ่นต่างๆ - จดั ทาทะเบยี นข้อมลู ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น - จดั ทาระบบบรกิ ารให้ความรเู้ ร่ืองหลักสตู รโดยใช้ภมู ปิ ัญญาชาวบ้านเป็นแหล่งศกึ ษาหาความรู้ 2. จัดทาคลังรวบรวมหลักสูตร -ใชร้ ะบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดเกบ็ รวบรวมหลักสตู ร และใหบ้ รกิ ารแก่ประชาชนทั่วไป 3. จัดวธิ กี ารเรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย - เรียนแบบทางไกล และพบกลมุ่ - เรยี นรู้จากชมุ ชนหรือภูมิปัญญาท้องถน่ิ - มีครศู นู ย์การเรียนชมุ ชนคอยใหค้ าแนะนาช่วยเหลอื - ใช้ภาคีเครือขา่ ยเข้ามามสี ว่ นชว่ ยจัดกระบวนการเรียนการสอน - จดั แหล่งเรยี นรูต้ ่างๆในชมุ ชนโดยยดึ แนวคิดหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง การผลติ เพ่ือใช้เองและเพ่ิม รายได้ในครวั เรือน เชน่ การจักสาน การทาไม้กวาดทางมะพรา้ ว การทาปยุ๋ ชวี ภาพ การแปรรปู ผลิตภัณฑจ์ าก เปลอื กหอย ฯลฯ 4. วัดและประเมนิ ผลด้วยวิธกี ารที่หลากหลาย - ประเมนิ จากการปฏิบัติจรงิ รจู้ ริง - สมั ภาษณ์ / สอบถาม / สังเกต - ประเมินจากแฟ้มงาน / โครงงาน - ใชบ้ ทเรียนในการทดสอบ 5. เทยี บโอนความร้แู ละประสบการณเ์ พ่ือสะสมหน่วยกิต - จดั ใหม้ ีการเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์ - สง่ เสรมิ ให้นกั ศึกษานาความรูแ้ ละประสบการณม์ าเทียบโอน กลยุทธท์ ่ี 3 ขยายแหลง่ เรยี นรแู้ ละเทคโนโลยี หลักการ ดาเนนิ งานพัฒนาแหลง่ เรยี นรู้ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพครอบคลุมพ้ืนที่และกลุ่มเปา้ หมาย เพื่อเปิดโอกาส ช่องทางการเรยี นรู้สู่ชุมชนอย่างกว้างขวาง ท่ัวถึง และหลากหลายหลักสตู ร มกี ารพัฒนาอยา่ งต่อเน่ืองดว้ ย ระบบเทคโนโลยีและมีประสทิ ธิภาพพร้อมให้บริการกลมุ่ เป้าหมาย
๔๒ วิธกี ารดาเนนิ งาน พัฒนาแหล่งเรียนรูใ้ ห้มีประสิทธภิ าพพร้อมให้บริการกลมุ่ เปา้ หมายดว้ ยระบบเทคโนโลยี ดงั นี้ - ห้องสมุดประชาชนประจาอาเภอ 1 แหง่ - กศน.ตาบล 10 แห่ง กลยุทธท์ ่ี 4 ผลกึ กาลังภาคีเครอื ข่าย และกระจายบริการการศกึ ษา หลักการ สง่ เสริมสนบั สนนุ ให้ภาคีเครอื ข่ายรว่ มจัดกิจกรรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น โดยยึดหลกั “ บ-ว-ร ” : บ้าน – วัด – โรงเรียน และองค์กรตา่ งๆ ทงั้ ภาครัฐและเอกชนเข้ามาเปน็ หนุ้ ส่วนจัดองคค์ วามรู้มงุ่ สู่ชมุ ชน เปน็ รายครัวเรือน รายกลุ่ม และรายบคุ คล - สารวจภาคีเครอื ขา่ ย - ขึ้นทะเบียนเครือขา่ ย / และประสานความรว่ มมือ - จดั ทากรอบข้อตกลงรว่ มกันจดั กจิ กรรม - ประชมุ ชแี้ จงแนวทางการทางาน - ดาเนินการจัดกจิ กรรมตามกรอบข้อตกลง - ศกึ ษาดูงานเพื่อแลกเปลีย่ นประสบการณ์ระหว่างภาคเี ครือขา่ ย - ประกาศเกียรติคุณ โล่ รางวัล จดั กจิ กรรมการเรยี นร้ทู ่ีหลากหลาย - การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน - การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาอาชพี - การศกึ ษาเพื่อพฒั นาทกั ษะชีวติ - การศกึ ษาเพื่อพัฒนาสังคมและชมุ ชน กลยทุ ธท์ ่ี 5 พัฒนาประสิทธิภาพการบรหิ ารจัดการ หลักการ เป็นการดาเนินงานใหส้ ังคมเกิดความศรัทธาและเชื่อม่นั ในสถานศกึ ษาประกนั คุณภาพการศกึ ษา และ ปรับปรงุ การบริหารจดั องค์กรใหม้ คี ุณภาพ มกี ารตรวจสอบและประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษาอยตู่ ลอดเวลา เพ่อื พัฒนาและปรบั ปรุงงานการศกึ ษานอกโรงเรียนทุกด้านให้มคี ุณภาพ วิธีการดาเนินงาน - ลดขั้นตอนการปฏิบัตงิ านบรกิ ารแบบกลั ยาณมิตร - จัดระบบอตั รากาลังบคุ ลากรให้เหมาะสมกับภารกิจของงาน - จดั อบรมพัฒนาบุคลากร เพิม่ ความสามารถในการปฏบิ ัตทิ ม่ี ีประสิทธภิ าพ - ศกึ ษาดูงานนอกสถานทเ่ี พ่ือแลกเปลีย่ นความร้แู ละประสบการณ์ นาความรมู้ าพฒั นาองค์กร - ปรับโครงสรา้ ง และการบริหารงานท่ีมีคุณภาพ เน้นความโปร่งใส มีคณุ ธรรม - พัฒนาบุคลากรใหม้ ีวสิ ัยทัศนใ์ นการปฏิบัติงาน แนวทางปฏิบตั แิ ละมอบอานาจ ความไวว้ างใจใน การปฏิบตั ิงานตามแนวทางการบรหิ ารจัดการภาครัฐแนวใหม่ - พัฒนาระบบงานท่ีทันสมยั โดยใชเ้ ทคโนโลยเี ข้ามาช่วยในการปฏบิ ตั งิ าน
๔๓ การวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม (SWOT Analysis) ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลม จังหวดั เพชรบุรี ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔ 1. การวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายใน 1.1 จดุ แขง็ ของ ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอบา้ นแหลม (Strengths - S) ด้านบุคลากร ๑. มีบคุ ลากรที่มีประสบการณ์ ความชานาญ และจบการศึกษาด้านบรรณารักษ์โดยตรง ๒. มจี านวนบุคลากรเพียงพอในการปฏิบตั ิงานห้องสมุด และมีการมอบหมายหนา้ ทีต่ รงตาม ความสามารถของบคุ ลากรในการปฏบิ ตั งิ าน ๓. มกี ารพฒั นาบคุ ลากรอย่างต่อเนอ่ื งเพือ่ เปน็ การพฒั นาการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ดา้ นงบประมาณ ๑. ได้รับงบประมาณในการบรหิ ารงานห้องสมดุ อย่างต่อเน่ืองทุกปี ดา้ นอาคารสถานท่ี สอ่ื วสั ดุอปุ กรณ์ 1. มกี ารจดั หาทรัพยากรสารสนเทศท่คี รอบคลุมและตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการ 2. มีทรพั ยากรสารสนเทศที่หลากหลาย เช่น หนังสอื วารสาร และสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 3. มีระบบเชื่อมโยงแหลง่ การเรยี นรู้ (Learning Resources Linkage System) เพอื่ ช่วยใน การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรของหอ้ งสมดุ งานบรกิ าร และการประชาสัมพันธง์ านห้องสมดุ ๔. มีระบบอินเทอร์เนต็ ไรส้ ายครอบคลุมทวั่ ทัง้ ห้องสมดุ ๕. มกี ารจดั สภาพแวดล้อมเพ่ือเอื้อต่อการศกึ ษาคน้ ควา้ ทางการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ๖. ตง้ั อยจู่ ุดศนู ย์กลางของชมุ ชน มศี นู ย์ราชการ สถานศึกษา วดั และโรงพยาบาล ๗. มีอาคารสถานท่ีอยา่ งเปน็ เอกเทศ สะอาดและสวยงาม ดา้ นโครงสร้างองคก์ ร/การบริหารจัดการ คา่ นิยมองค์กร ๑. มีแผนการปฏบิ ัตงิ านท้ังระยะส้นั และระยะยาวในการบรหิ ารจัดการห้องสมุด ๒. มกี ารบริหารจัดการห้องสมุดร่วมกนั ระหว่างผบู้ รหิ ารและบุคลากรในองค์กร ๓. มีการบริหารภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ มบี ุคลากรรบั ผิดชอบงานอย่างชดั เจน ๔. มกี ารประเมนิ ความพึงพอใจของผู้ใชบ้ รกิ ารห้องสมุดตลอดจนนาผลการประเมินมา ปรับปรุง พฒั นาการใหบ้ รกิ ารอย่างต่อเน่ือง ๕. มกี ารติดตามและประเมินผลการดาเนนิ งานของแผนปฏิบัติการในท่ีประชุมคณะกรรมการ ดาเนินงานอยา่ งสม่าเสมอ เพื่อนาผลของการประเมนิ มาปรับปรงุ การปฏิบัตงิ าน ๖. หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลมเป็นแหลง่ ศึกษาดูงาน ฝึกงานและให้คาแนะนาใน การบรหิ ารและวางระบบห้องสมดุ ๗. ภาคเี ครือข่ายสนับสนุนและใหค้ วามร่วมมอื ในการจัดกิจกรรมการเรียนร้ใู หป้ ระชาชน 1.2 จุดอ่อนของ หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบา้ นแหลม (Weaknesses - W) ดา้ นบุคลากร ๑.บคุ ลากรบางคนยังขาดทักษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศรวมทง้ั ขาดการติดตาม ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
๔๔ ด้านงบประมาณ ๑. งบประมาณในการจดั การทรพั ยากรสารสนเทศไมเ่ พียงพอกบั ความต้องการของผใู้ ช้บรกิ าร ๒. ไม่ได้รบั งบประมาณในการพัฒนา ปรบั ปรงุ อาคาร และการจัดซ้ือครุภณั ฑท์ ่ีจาเปน็ ของ ห้องสมดุ ประชาชนอย่างต่อเนื่องทุกปี สง่ ผลให้เกดิ อุปสรรคในการบริหารจดั การและการพฒั นาห้องสมดุ ดา้ นอาคารสถานท่ี สอ่ื วัสดอุ ุปกรณ์ ๑. พนื้ ทบี่ ริการ (พ้ืนที่การเรียนรู้ พืน้ ท่ีจดั เกบ็ ทรัพยากร)และพ้ืนทป่ี ฏิบัตงิ านหอ้ งสมุด คับแคบ ไม่สามารถแบง่ พ้ืนท่ีการเรยี นรทู้ ีห่ ลากหายได้ เปน็ อุปสรรคตอ่ การใหบ้ ริการ ๒. หนังสือทีม่ ีสภาพเก่ายังมจี านวนมาก แม้จะพยายามแทนด้วยหนงั สือใหม่ แต่อัตราการ เตบิ โตของหนังสือใหมย่ ังไมร่ วดเรว็ พอ ดา้ นโครงสร้างองคก์ ร/การบริหารจดั การ คา่ นยิ มองค์กร ๑. การบรกิ ารหลายอยา่ งยังขาดการประชาสมั พนั ธ์ในรายละเอียด ทาให้ใช้ประโยชน์ในการ บริการยังไม่เตม็ ท่ี 2. การวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก 2.1 โอกาส (Opportunities - O) ด้านนโยบายกฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง 1.ไดร้ ับนโยบายจากตน้ สงั กดั เพือ่ เป็นแนวทางในการดาเนินงานห้องสมดุ ประชาชนอยา่ ง ชดั เจน และถกู ต้อง ด้านความปลอดภยั ในพ้ืนที่ ๑.หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลมตัง้ อยู่ใจกลางชมุ ชน โดยรอบห้องสมุดเปน็ ศูนย์ราชการ ประจาอาเภอบ้านแหลม ดา้ นสังคม-วฒั นธรรม ๑. การเข้าส่สู ังคมผสู้ ูงอายเุ ป็นโอกาสในการจัดกจิ กรรมเพิ่มมากข้ึน ๑. มีวฒั นธรรมหลากหลายชาติพันธ์ุ เปน็ โอกาสในการให้ความสาคญั วัฒนธรรม และเปน็ โอกาสในการแลกเปล่ยี นเรียนร้คู วามหลากหลายทางวฒั นธรรม ทางภาษา และทางศาสนากบั การอนรุ กั ษแ์ ละ ส่งเสริมการทานบุ ารุงศลิ ปะและ ด้านเศรษฐกิจ ๑. ประชาชนสว่ นใหญ่ประกอบอาชีพประมง ค้าขายอาหารทะเล และประกอบธรุ กิจสว่ นตัว มรี ายได้ค่อนข้างสงู สง่ ผลให้สามารถสนบั สนนุ งบประมาณในการจัดกิจกรรมของหอ้ งสมุดเปน็ อยา่ งดี ดา้ นเทคโนโลยี/การคมนาคม ตดิ ต่อส่ือสาร 1. มกี ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสื่อสารมาใชใ้ นการจดั การสารสนเทศและงานบรกิ าร ห้องสมุดชว่ ยใหผ้ ใู้ ชเ้ ข้าถึงสารสนเทศได้สะดวกรวดเร็ว ๒. ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีเป็นโอกาสในการพัฒนาการเรยี นรูท้ หี่ ลากหลายตามความ ต้องการของผรู้ บั บริการโดยไม่มีข้อจากัดด้านสถานที่และเวลาในการเรยี นรู้ ๓. หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลมมีนโยบายพฒั นาสื่อในรปู แบบใหม่ ๆและเพิ่มช่อง ทางการติดตอ่ ส่ือสารให้สอดคล้องกับความตอ้ งการทห่ี ลากหลายของผู้รับบริการ ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม ๑. หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอบ้านแหลมตั้งอยู่ใจกลางชุมชนและเป็นแหล่งเรยี นรู้สาหรับ ชุมชน ท้องถน่ิ และสงั คม
Search