Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore s. คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่

s. คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่

Published by Tu Tah, 2022-11-22 07:39:41

Description: คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง (BBL)

Search

Read the Text Version

ใบความรทู้ ่ี 4 เทคนิค /วธิ กี ารท�ำอยา่ งไรให้ลกู กินผกั 1. ให้ลูกมีส่วนร่วมในครัวตั้งแต่ยังเล็ก เช่น ให้เด็กฉีกผักเป็นช้ินพอดีค�ำส�ำหรับเมนูสลัด หรอื ใหเ้ ด็กชว่ ยหน่ั ผักเมือ่ โตพอจะใช้มดี ได้ เพราะเมอ่ื เด็กไดช้ ว่ ยก็ยอ่ มรสู้ กึ อยากชิมอาหารที่ตนมสี ่วน ร่วมในการทำ� 2. ให้ลูกมีส่วนร่วมในการปลูกพืชผักสวนครัวไว้ส�ำหรับรับประทานเองในครอบครัว นอกจากจะทำ� ใหล้ กู รสู้ กึ ตน่ื เตน้ ทไี่ ดเ้ หน็ ผกั ทเี่ ขาปลกู คอ่ ยๆ โตขนึ้ แลว้ พอ่ แมก่ จ็ ะรสู้ กึ ตนื่ เตน้ ไมแ่ พก้ นั เวลาไดเ้ หน็ ลกู มีความสขุ เม่ือไดร้ บั ประทานผักจากแปลงผกั ของเขาเอง 3. ใหล้ กู มสี ว่ นรว่ มในการคดิ เมนอู าหารและเลอื กซอื้ ผกั สด เพราะเมอื่ ลกู เปน็ ฝา่ ยตดั สนิ ใจ เองว่าจะรับประทานอาหารเมนูอะไร เขามักจะให้ความสนใจกับอาหารเมนูน้ันเป็นพิเศษ อีกท้ังการ ให้เด็กชว่ ยเลอื กซ้ือผกั สดกจ็ ะท�ำใหเ้ ขารสู้ ึกวา่ ไดม้ สี ่วนร่วมอย่างแทจ้ รงิ 4. แทนทข่ี นมขบเคยี้ วดว้ ยผกั และผลไม้ โดยเฉพาะเมอื่ ลกู หวิ ระหวา่ งมอ้ื อาหาร เพราะเมอื่ หิวเดก็ มักจะไม่ปฏิเสธ อะไรก็ตามทอี่ าจทำ� ใหอ้ มิ่ ได้ เพราะฉะนั้นสลัดหรอื ผลไมถ้ อื เป็นทางเลอื กหนึ่ง ที่ดีและมปี ระโยชนม์ ากกวา่ ขนมขบเคี้ยว 5. ใหล้ ูกรบั ประทานผักหรอื เมนผู กั ที่หลากหลาย เชน่ เม่ือลกู ไมช่ อบผักชนิดใด พ่อแมก่ ็ไม่ ควรด่วนสรุปว่าลูกมีปัญหาไม่ยอมรับประทานผัก ควรลองเปลี่ยนมาให้ลูกรับประทานผักชนิดอื่นๆ รวมท้ังค่อยๆ เพิ่มเมนูผักใหม่ๆ หรือน�ำผักชนิดท่ีลูกยังไม่เคยรับประทานมาก่อนมาประกอบอาหาร เพราะอาจเปน็ โอกาสดที ล่ี ูกจะไดค้ น้ พบผกั ทต่ี นเองชอบ 6. สร้างความคุ้นเคยเมนูผักให้กับลูก ในกรณีที่ลูกพอจะสามารถรับประทานเมนูผัก บางอยา่ งไดเ้ ลก็ นอ้ ย พอ่ แมอ่ าจใสเ่ มนนู นั้ ไวใ้ นมอ้ื อาหารบอ่ ยๆ แรกๆ เขาอาจใหค้ วามสนใจกบั จานนนั้ เพยี งเล็กนอ้ ยเหมอื นเดิม อย่างไรกต็ าม วันหนึง่ เขาอาจจะลองรบั ประทานดใู นปรมิ าณท่ีมากขึ้น 7. สรา้ งทางเลอื กใหมด่ ว้ ยนำ้� ปน่ั สสี นั สดใส ในกรณที ลี่ กู ไมส่ ามารถรบั ประทานผกั ไดเ้ พราะ ไมช่ อบกลน่ิ ผปู้ กครองสามารถนำ� ผกั มาปน่ั รวมกบั ผลไม้ เพอ่ื ใหก้ ลนิ่ ของผลไมท้ เ่ี ดน่ กวา่ กลบกลน่ิ ของผกั ซงึ่ จะทำ� ใหล้ กู สามารถรบั ประทานผกั ไดโ้ ดยรบั รเู้ พยี งกลน่ิ หอมของผลไมเ้ ทา่ นนั้ หลกั สำ� คญั ของวธิ กี าร นค้ี อื แมว้ า่ ผปู้ กครองจะซอ่ นกลน่ิ ของผกั ไว้ แตต่ อ้ งไมซ่ อ่ นความจรงิ วา่ นำ้� ปน่ั นนั้ มผี กั เปน็ สว่ นผสม ทง้ั นี้ เพราะจดุ ประสงค์ คอื การชว่ ยใหล้ ูกรบั ประทานผักไดแ้ ม้จะรู้วา่ เปน็ ผัก 8. ใสค่ วามคดิ สรา้ งสรรคล์ งไปในอาหาร โดยการจดั แตง่ จานอาหารใหส้ วยงามดว้ ยผกั หลาก สสี นั หลายรปู ทรง ซงึ่ นอกจากจะทำ� ให้การรับประทานอาหารน่าประทับใจขึ้นแล้ว การรับประทานผกั สตี า่ งๆ ยงั เปน็ สงิ่ ทแี่ พทยแ์ นะน�ำ เพราะจะส่งผลดีตอ่ รา่ งกายและระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 45 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

9. เป็นตวั อย่างในการรบั ประทานผกั ให้กบั ลูก หากทกุ คนในครอบครวั แสดงใหเ้ ด็กเห็นวา่ ผกั ท้ังอร่อยและดตี อ่ สุขภาพ เดก็ ยอ่ มสนใจและอยากลองชิมตามไปดว้ ย 10. พ่อแม่ต้องใจเย็นและค่อยเป็นค่อยไป โดยมองว่าการท่ีลูกปฏิเสธผักในวันน้ี ไม่ได้ หมายความว่าเขาจะปฏเิ สธตลอดไป อกี ทงั้ พอ่ แมย่ ังควรคดิ ในแงบ่ วกว่า การทีล่ กู แสดงอาการออกมา ใหเ้ ห็นถอื เปน็ เรือ่ งดีเพราะทำ� ใหผ้ ้ปู กครองเห็นปญั หาและเร่มิ การแกไ้ ขไดอ้ ยา่ งตรงจุด 11. หลกี เลยี่ งการบงั คบั เพราะนอกจากจะทำ� ใหเ้ ดก็ รสู้ กึ เครยี ดแลว้ ยงั อาจทำ� ใหเ้ ขามอี าการ ต่อตา้ นหรอื จ�ำฝงั ใจ จนน�ำไปสูป่ ัญหาการไม่รบั ประทานผกั ในระยะยาว บรรณานุกรม ถามครู.com. พ่อแม่พร้อมลูกพร้อมลูกไม่รับประทานผัก (Children’s Aversion to Vegetables). สบื คน้ 25 เมษายน 2562. จาก www.taamkru.com รกั ลกู . ลกู ไมก่ นิ ผกั เทคนคิ ฝกึ ลกู กนิ ผกั ดว้ ยเมนผู กั . สบื คน้ 25 เมษายน 2562. จากhttps:// www.rakluke.com/child-nutrition-all/toddler-nutrition/item/2020-03-21-13-21-41.html 46 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

แผนการจัดกิจกรรมที่ 2 ส่งเสริมดา้ นพัฒนาการและการเล่นของเดก็ ปฐมวัย เปา้ หมายรวม : เพ่ือส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ มีพฒั นาการท่สี มวยั ดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ - สังคม และสติปญั ญา สาระสำ� คญั 1. สง่ เสรมิ ความสามารถในการเคลอื่ นไหวรา่ งกายและการใชอ้ วยั วะในรา่ งกายใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สง่ เสรมิ การใชก้ ลา้ มเนื้อมัดเล็กการประสานสมั พันธม์ ือ-ตา ไดเ้ หมาะสมตามวยั 3. สง่ เสรมิ ความสามารถดา้ นภาษาและการส่อื ความหมายไดเ้ หมาะสมตามวัย 4. สง่ เสริมความสามารถในการเรียนรู้ การคิดเชงิ เปรยี บเทียบ การแยกแยะ ความเหมอื น ความต่าง และทักษะการฟัง 5. ส่งเสริมความสามารถด้านอารมณ์และสังคม คุณธรรม จริยธรรม การควบคุมตนเอง การช่วยเหลือตนเอง การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และช่วยเหลือตนเองในกิจวัตร ประจำ� วันได้อย่างเหมาะสมตามวยั 6. ส่งเสรมิ ให้เดก็ มปี ฏสิ ัมพันธก์ ับผูใ้ หญ่ไดอ้ ย่างเหมาะสม กจิ กรรมที่ก�ำหนด กจิ กรรมที่ 2.1 สานสมั พนั ธ์สายใยในครอบครัว ด้วยกิจกรรม “ลกู บอลหรรษา” กิจกรรมที่ 2.2 ประดษิ ฐส์ อื่ และของเลน่ เพอ่ื การส่งเสริมพัฒนาการ : “ลูกกลงิ้ หรรษา” กิจกรรมที่ 2.3 เทคนิคการเล่านิทานและการจัดท�ำหนังสือภาพเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการ ดา้ นภาษา กิจกรรมท่ี 2.4 การสง่ เสริมพัฒนาการดา้ นภาษา ด้วยนทิ าน “เล่าไป พับไป” กจิ กรรมที่ 2.5 เทคนิคสอนลูกให้มรี ะเบยี บวินัย “รอคอย รอควิ ” กจิ กรรมที่ 2.6 ก้าวย่าง สร้างตัวตนท่ีดใี ห้แกล่ กู ประโยชน์ท่ีได้รบั พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็ก ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการส่งเสริมพัฒนาการลูก และมีแนวทางในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมที่ดีให้แก่ลูก ท�ำให้ลูกมีพัฒนาการด้านร่างกายสมวัย ทั้งทางด้านการเคล่ือนไหวร่างกายและการใช้กล้ามเน้ือมัดเล็ก สามารถใช้ภาษาส่ือสารอย่างสมวัย สามารถควบคมุ ตนเอง และทำ� กจิ วตั รประจำ� วนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามวยั มปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผใู้ หญไ่ ดอ้ ยา่ ง เหมาะสม คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 47 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ระยะเวลาทง้ั หมด 240 นาที รปู แบบ/วิธกี ารสอน 1. บรรยาย 2. ท�ำกิจกรรมกล่มุ 3. สาธิตและฝึกปฏบิ ตั ิ 48 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

กจิ กรรมการสอนโรงเรียนพ่อแม่ กจิ กรรมที่ 2.1 สานสมั พันธส์ ายใยในครอบครวั ดว้ ยกิจกรรม “ลูกบอลหรรษา” วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือส่งเสริมใหเ้ ด็กมีพฒั นาการด้านรา่ งกายท่แี ขง็ แรงสมวัย 2. เพอื่ สง่ เสรมิ พฒั นาการด้านสตปิ ัญญาใหก้ บั เด็ก 3. เพื่อส่งเสรมิ ให้เดก็ ไดเ้ รียนรกู้ ฎกตกิ าและเง่ือนไขของการเล่นอย่างเหมาะสมตามวัย 4. เพอื่ สร้างสมั พันธ์ทด่ี ีระหวา่ งสมาชกิ ในครอบครัวด้วยการท�ำกจิ กรรมร่วมกัน ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั 1. เดก็ ไดร้ บั การพฒั นาความสามารถในการเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย การทรงตวั การใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั ใหญแ่ ละกล้ามเน้อื มัดเลก็ 2. เด็กได้รับการพัฒนาด้านสติปัญญา มีทักษะด้านการคิด การเปรียบเทียบ แยกแยะ ความเหมือนความแตกตา่ ง 3. เดก็ ไดเ้ รยี นรแู้ ละมีทักษะด้านการฟงั การจดจ�ำและการควบคมุ ตนเอง 4. พอ่ แม่ และผดู้ แู ลเดก็ เกดิ สายใยรกั ความผกู พนั ในครอบครวั จากการทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั หลักการและวิธกี าร ขน้ั ตอนส�ำคญั จดุ สำ� คญั 1. เตรียมความพร้อม : เตรียมสถานที่สภาพ แวดล้อม และสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ด้วยการ • พดู คยุ ทักทายผปู้ กครอง • สถานที่ จดั เกา้ อเี้ ป็นครึ่งวงกลม • แนะน�ำทีมวิทยากร เปิดสมองด้วยท่าบริหาร • ผูเ้ รียนตอ้ งมีความพรอ้ ม โดยมสี หี น้า สมอง 2 เทา่ ก่อนเข้าส่กู จิ กรรม แววตา น้�ำเสียง ท่าทางท่ีให้ความร่วมมือ สนุกสนาน ผ่อนคลาย และเปน็ กันเอง กบั วทิ ยากร • กจิ กรรมเปดิ สมองสามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ าม ความถนัดของวิทยากร คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 49 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ขน้ั ตอนสำ� คัญ จดุ ส�ำคญั 2. ขัน้ นำ� เข้าสบู่ ทเรียน • วิทยากร พูดคุยสอบถามผู้ปกครองถึงอายุ • สงั เกตการโต้ตอบหรอื การมีสว่ นรว่ ม ของเด็ก ลักษณะการเล่น ประเภทของเล่น ในการแลกเปล่ยี นประสบการณ์ ที่เด็กๆ ชอบเล่นน้ันช่วยส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กได้อยา่ งไร และใหผ้ ู้ปกครองแลกเปลยี่ น ประสบการณร์ ่วมกันในหัวข้อดงั กล่าว 3. การให้องค์ความรแู้ ละลงมือปฏิบตั ิ : • วิทยากรน�ำเข้าสู่กิจกรรม “ลูกบอลหรรษา” • วิทยากรต้องสาธิตขั้นตอนการท�ำกิจกรรม โดยแบง่ ผปู้ กครองและเดก็ ออกเปน็ 3 กลมุ่ จาก “ลูกบอลหรรษา” และกติกาการเล่น ใหก้ บั เดก็ นน้ั วทิ ยากรอธิบายและสาธติ วิธกี ารเลน่ โดยให้ และผู้ปกครอง ผปู้ กครองและเดก็ ชว่ ยกนั ตกั ลกู บอลทมี่ สี ตี รงกบั • ความยากง่ายของกิจกรรมตามจุดต่างๆ กลุ่มของตนเองแล้วน�ำไปใส่ในกล่องท่ีอยู่อีกฝั่ง สามารถปรับเปล่ียนให้เหมาะสมได้ตามวัยของ เด็กและผู้ปกครองจะต้องท�ำกิจกรรมผ่านจุด เด็ก ต่างๆ ดังนี้ • วทิ ยากรตอ้ งคอยสงั เกตวธิ กี ารสอ่ื สารของพอ่ จดุ ที่ 1 กระโดดขา้ มห่วง แมใ่ นการท�ำกจิ กรรม จดุ ท่ี 2 ลอดเชอื กเพอ่ื ไปตกั ลกู บอลทอี่ ยใู่ นบอ่ ตามสขี องกลุ่มที่ตนเองอยู่ จดุ ท่ี 3 วง่ิ ซกิ แซกเพอ่ื นำ� ลกู บอลไปใสใ่ นกลอ่ ง ที่ตรงกับสีของกลุม่ โดยมีกติกา ดังนี้ 1) เด็กจะตอ้ งเปน็ คนตกั ลกู บอลและถือลกู บอล เพื่อน�ำไปใส่ในกล่องดว้ ยตนเอง 2) เมอ่ื เด็กทำ� ลูกบอลตกลงพืน้ ใหไ้ ปเริม่ ตน้ ใหม่ 3) ผปู้ กครองสามารถชว่ ยเหลอื และสนบั สนนุ ใหเ้ ดก็ ท�ำภารกจิ ส�ำเร็จได้โดยการพดู คุยส่อื สารกับเด็ก • วิทยากร ให้เด็กและผปู้ กครองไดท้ ำ� กจิ กรรม “ลูกบอลหรรษา” 4. ขนั้ สะทอ้ นกลบั และทดสอบความรู้: • วิทยากร ขอตัวแทนผู้ปกครองในแต่ละกลุ่ม • วิทยากรต้องไม่ถามเฉพาะเจาะจง ดูคน เพอื่ พูดคุยซักถาม ดังนี้ ท่ีพร้อมตอบก่อน เน้นอารมณ์ความรู้สึกของ 1) ความรูส้ กึ หลังจากการทำ� กจิ กรรมลกู บอล ผปู้ กครอง หรรษารว่ มกบั ลกู วันน้ี 50 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ข้ันตอนสำ� คญั จดุ ส�ำคญั 2) กจิ กรรมลกู บอลหรรษามปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร • ผู้ปกครองต้องสามารถอธิบายได้ว่ากิจกรรม กับลกู ลูกบอลหรรษาช่วยส่งเสริมพัฒนาการ ด้าน 3) วธิ กี ารสอ่ื สารพดู คยุ กบั ลกู ขณะทำ� กจิ กรรม รา่ งกายและสตปิ ญั ญาของบตุ รหลานตนอยา่ งไร เป็นอย่างไร (ตามใบงานที่ 1) • ผู้ปกครองตอ้ งสามารถบอกวิธี การสื่อสารทางบวกกับลูกอย่างไรเพื่อให้ลูก สามารถท�ำภารกิจส�ำเร็จ เช่น การชม การให้ ก�ำลงั หรอื ชว่ ยใหภ้ ารกิจของลูกส�ำเรจ็ อยา่ งไร 5. ข้นั สรปุ : • วิทยากรสรุปประโยชน์ที่ได้จากการท�ำ • การหากสรุปไม่ครอบคลุม ให้เพ่ิมเติมให้ กิจกรรม “ลูกบอลหรรษา” ร่วมกันอีกคร้ังกับ สมบูรณ์ ผูป้ กครอง (ตามใบความร้ทู ่ี 1) • สรา้ งบรรยากาศใหผ้ ่อนคลาย • วิทยากร เปิด คลิปวิดีโอ “เล่นสร้างชาติ” • ไม่ถามเฉพาะเจาะจง ดูคนที่พร้อมตอบก่อน หลังจากดูคลิปวิดีโอจบ ให้สอบถามความรู้สึก เนน้ อารมณค์ วามร้สู กึ ของผปู้ กครอง ของผู้ปกครอง ส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้ หรอื กจิ กรรมทีจ่ ะ • ประเมินความสนใจ ปฏิกิริยาจากการดูคลิป ท�ำร่วมกันกับลูกหลังจากจบการเรียนรู้ในวันนี้ วิดีโอ และสอบถามความรู้สึกหลังจากดูคลิป (ตามใบความรู้ที่ 2) วิดโี อจบ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 51 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ความสอดคล้องของกิจกรรมตามหลกั การพัฒนาสมอง Brain- based Learning 1. มกี ารเตรียมความพรอ้ ม พอ่ แม่ และผู้ดูแลเดก็ ดว้ ยการเปิดสมองกอ่ นท�ำกิจกรรม 2. การท�ำกิจกรรมร่วมกันระหว่างบุคคลในครอบครัวเป็นการส่งเสริมสายใยความรัก ความผูกพัน และการเล่นยังช่วยให้เกิดความสนุกเพลิดเพลินเป็นการให้อาหารใจกับบุตรหลาน ซ่งึ สอดคลอ้ งกบั หลกั การพฒั นาสมอง 3. การสื่อสารเชิงบวกของ พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็ก ระหว่างการท�ำกิจกรรมเปรียบเสมือน อาหารใจช่วยให้เดก็ รสู้ ึกมั่นใจและพรอ้ มทจ่ี ะเรยี นรแู้ ละท�ำกิจกรรมตา่ งๆ ระยะเวลา : 30 – 45 นาที สื่อ/วัสดุอุปกรณ์ : ลูกบอลหลากสี, ตะกร้าทรงกลม จำ� นวน 3 ใบ, ไม้ตักลูกบอล, นกหวีด และ กลอ่ งกระดาษที่มสี ีแตกตา่ งกัน จ�ำนวน 3 ใบ การประเมนิ ผล 1. สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรม การตอบข้อซักถาม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของ ผปู้ กครอง 2. ติดตามการท�ำกิจกรรมการเล่นร่วมกันระหว่างเด็กและผู้ปกครองขณะอยู่ที่บ้าน โดยให้ ผู้ปกครองส่งภาพกิจกรรม หรือ VDO ผ่านทางแอพพลิเคช่ัน Line ของชน้ั เรียน 52 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ใบงานท่ี 1 แบง่ กลมุ่ ผปู้ กครองเพื่อพดู คยุ แลกเปล่ยี นในหัวขอ้ ดงั นี้ 1) ทา่ นมีความรสู้ ึกอย่างไรท่ไี ดท้ ำ� กิจกรรมลูกบอลหรรษารว่ มกบั ลกู วันนี้ 2) ทา่ นคดิ ว่ากิจกรรมลูกบอลหรรษามปี ระโยชน์อยา่ งไรกับลกู 3) วิธีการสอื่ สารพดู คุยกบั ลูกของทา่ นขณะท�ำกิจกรรมเปน็ อยา่ งไร คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 53 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความรทู้ ่ี 1 ประโยชนข์ องการสง่ เสริมพัฒนาการลูกนอ้ ยด้วยกิจกรรม “ลกู บอลหรรษา” การเลน่ เปน็ กจิ กรรมทเ่ี ดก็ ทกุ คนชอบชนื่ ชอบ การเลน่ นนั้ อาจดเู ปน็ กจิ กรรมทไ่ี มม่ ปี ระโยชน์ แต่อันที่จริงแล้วการเล่นช่วยให้เด็ก ๆ เกิดการพัฒนาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้าน ความแข็งแรงของร่างกาย การใช้กล้ามมือและสายตาให้สัมพันธ์กัน ท�ำให้เกิดการพัฒนาทักษะ ทางด้านความคิดและสติปญั ญา และได้ฝึกฝนทักษะทจ่ี ำ� เป็นตา่ งๆ ดงั น้ี 1. ส่งเสริมพัฒนาการทางดา้ นสติปัญญา กจิ กรรมลกู บอลหรรษาเป็นกจิ กรรมท่ที �ำให้เด็ก เรียนรผู้ า่ นการเลน่ เชน่ การเรียนรู้ เรือ่ ง รูปทรง ขนาด สี และเกิดการพฒั นาทกั ษะด้านการคิด เช่น การเปรียบเทยี บความเหมือน ความแตกต่าง การแยกแยะ การจัดกลุ่ม โดยการน�ำลกู บอลไปใส่กลอ่ ง หรือตะกร้าท่ีมีสีเหมือนกัน โดยกิจกรรมท้ังหมดเป็นการเรียนรู้ผ่านการเล่น ซ่ึงท�ำให้เด็กรู้สึกว่า การเรียนรเู้ ปน็ เร่ืองสนุก พอ่ แม่ หรอื ผู้แลเดก็ สามารถเพ่มิ เติมบทบาทในระหวา่ งการเลน่ กบั เดก็ ๆ ได้ เชน่ การเลน่ บทบาทสมมติ โดยสมมตลิ กู บอลเปน็ ไขว่ เิ ศษ การเดนิ ทางผา่ นอปุ สรรคตา่ งๆ เชน่ กระโดด ข้ามแม่น�้ำหรือลอดผ่านอุโมงค์วิเศษ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นจินตนาการและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ใหก้ ับเดก็ ได้ 2. ส่งเสริมพัฒนาการด้านการเคล่ือนไหวและการทรงตัว กิจกรรมลูกบอลหรรษาท�ำให้ เดก็ ๆ ตอ้ งเคลอื่ นไหวรา่ ยกายตามจดุ ตา่ งๆ ทเี่ ปน็ อปุ สรรค เชน่ การกระโดดขา้ มหว่ งทว่ี างบนพน้ื ทำ� ให้ เด็กได้ฝึกการทรงตัวและเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา และมีการเคล่ือนไหวที่คล่องแคล่ว การมุดคลานเพื่อลอดข้ามเชือกจะช่วยท�ำให้เด็กได้ฝึกประสาทสัมผัสและการเคล่ือนไหวจากการใช้ สายตาเพอ่ื กะระยะการเคลือ่ นตัวไปข้างหน้าให้ลอดผา่ นเชือกได้ส�ำเร็จ 3. ส่งเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเน้ือมัดเล็ก กิจกรรมลูกบอลหรรษาช่วยการส่งเสริม การท�ำงานประสานสมั พันธข์ องมอื และตาจากการใช้ภาชนะในการชอ้ นหรอื ตกั ลูกบอล ซง่ึ เป็นทกั ษะ สำ� คญั ทเ่ี ดก็ ควรได้รับฝึกฝนเมื่อกล้ามเนอื้ ประสานสัมพันธ์กนั ดี เด็กจะจับดินสอได้อยา่ งมน่ั คง มคี วาม พรอ้ มในการเขยี นหรอื การใชม้ อื ในการทำ� กจิ กรรมอน่ื ๆ เชน่ การจบั ชอ้ นสอ้ มในการรบั ประทานอาหาร การถือสิง่ ของการแปรงฟัน ฯลฯ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ การอา่ น และการเขียนของเดก็ 4. ส่งเสริมทักษะการฟังและการปฏิบัติตามค�ำสั่ง กิจกรรมบอลหรรษาเป็นการเล่นท่ีมี เงื่อนไขกฎกติกา ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กโดยเด็กจะได้ฝึกทักษะการฟัง และการเข้าใจภาษา จากกติกาค�ำส่งของครูระหว่างการเล่น และการปฏิบัติตามเง่ือนไขต่างๆ จะช่วยฝึกทักษะการจ�ำเพื่อ ใช้งานและการควบคุมตนเองซึ่งเป็นพ้ืนฐานของการพัฒนาทักษะการคิดเชิงบริหาร (EF) ให้กับเด็ก 54 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

การส่งเสริมให้เด็กได้เล่นโดยมีกฎกติกา จะช่วยเป็นพ้ืนฐานให้เด็กเติบโตข้ึนมาอยู่ในกฎระเบียบของ ครอบครวั โรงเรียน และสังคมไดใ้ นอนาคต 5. พัฒนาตัวตนให้กับเด็ก กิจกรรมบอลหรรษาเป็นกิจกรรมที่มีอุปสรรคท้าทายให้เด็ก ได้ทดลองได้แก้ไขปัญหาอยู่ตลอดกิจกรรม ระหว่างการเล่นพ่อ แม่ หรือผู้ดูแลเด็ก จึงควรช่ืนชม ให้กำ� ลังใจ เพื่อชว่ ย ใหเ้ ดก็ ปฏิบตั ิภารกจิ ไดส้ ำ� เสร็จซึ่งจะน�ำมาสคู่ วามรูส้ กึ ภาคภมู ิใจในตนเอง คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 55 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ใบความรทู้ ่ี 2 การใช้เวลาคณุ ภาพกบั ลกู ด้วยการเล่น การเล่นกับลูกเป็นกิจกรรมดีๆ ท่ีสร้างความรักความอบอุ่น และสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง คนในครอบครวั การอบรมเลยี้ งลกู ใหเ้ ตบิ โตเปน็ คนดี ทมี่ คี วามสขุ และประสบความสำ� เรจ็ ในชวี ติ จำ� เปน็ จะต้องได้รับท้ังอาหารกายและอาหารใจที่เหมาะสม ส่ิงท่ีพ่อแม่ทุกท่านสามารถท�ำได้คือใช้เวลาท่ีอยู่ กับลูกให้เป็นช่วงเวลาท่ีมีคุณภาพท่ีสุดด้วยการเล่นกับลูกเพราะช่วยให้เกิดความสุขสนุกเพลิดเพลิน การสรา้ งชว่ งเวลาคณุ ภาพผา่ นการเลน่ กบั ลกู จงึ มคี วามสำ� คญั ซง่ึ จงึ จะนำ� ไปสกู่ ารพฒั นาความไวว้ างใจ และความรกั ความผกู พนั ทางจติ ใจชว่ ยใหล้ กู มคี วามพรอ้ มเผชญิ เรอื่ งราวตา่ งๆ ในชวี ติ ได้ โดยประโยชน์ ที่ได้จากการเล่นจะช่วยพัฒนาลกู น้อยได้ ดงั น้ี 1. การเล่นช่วยให้เด็กเกิดการพัฒนาสติปัญญา ภาษา ความคิดเชื่อมโยง ความคิดริเร่ิม สรา้ งสรรค์ จินตนาการ มีความคิดทีย่ ดื หยนุ่ และรู้จกั แกไ้ ขปญั หา 2. การเล่นช่วยส่งเสริมด้านอารมณ์-สังคม ท�ำให้จิตใจแจ่มใส ความสนุกสนาน มีทักษะ การเล่นรว่ มกับผ้อู นื่ ร้จู กั แบ่งปนั มีนำ�้ ใจ รจู้ ักรอคอย และปรบั ตัวเข้าหาผูอ้ น่ื ได้ง่าย 3. การเล่นช่วยพัฒนาร่างกายให้แข็งแรง มีการเคล่ือนไหวคล่องแคล่ว เพื่อความพร้อม ในการเรยี นรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว 4. การเล่นช่วยสร้างวินัย สอนให้รู้จักการแบ่งเวลา รู้จักหน้าท่ีความรับผิดชอบเมื่อเล่น เช่น การสอนให้เกบ็ ของเล่นของตนเอง การสนบั สนนุ ใหเ้ ดก็ ได้มกี ารเรียนรผู้ า่ นการเลน่ อย่างสรา้ งสรรค์ นอกจากจะท�ำให้เกดิ ความ รู้สึกสนุกสนาน ยงั ชว่ ยพฒั นาระบบประสาทและสมองของลูกให้มกี ารเจริญเติบโตและขยายเครือขา่ ย พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กสามารถเสริมสร้างศักยภาพสมองของลูกน้อยให้เติบโตได้โดยให้ประสบการณ์ ท่ดี ีโดยเรียนรู้ผ่านกิจกรรมท่ีเหมาะสมกับพัฒนาการแต่ละชว่ งวยั ดังน้ี 1. ชว่ งแรกเกิด-1 ปี เป็นช่วงของการสรา้ งความรกั ความผูกพนั ความไว้วางใจ พอ่ แมต่ อ้ ง ไวต่อท่าทีหรือความต้องการของลูกเข้าใจและตอบสนองให้กับลูกอย่างเหมาะสมได้ ทั้งทางร่างกาย การกนิ อยู่ หลบั นอน และทางจิตใจความรกั ความอบอนุ่ การเลน่ ทชี่ ่วยสร้างเวลาคุณภาพ จึงเปน็ ชว่ ง ทสี่ ามารถตอบสนองความตอ้ งการของลกู การเลน่ ทเี่ หมาะสมทสี่ ดุ คอื การเลน่ ทก่ี ระตนุ้ ประสาทสมั ผสั ของลกู เช่น ในชว่ งแรกเกิดควรอุ้มสัมผสั พูดคยุ ย้ิม มองหน้า สบตา เรยี กชอื่ กระต้นุ สายตาของลูก ดว้ ยของเลน่ ทม่ี เี สยี งหรอื โมบายทเี่ ปน็ สี เมอ่ื ลกู เรมิ่ เขา้ เดอื นท่ี 5-6 ลกู เรม่ิ จบั ควา้ สงิ่ ของ พอ่ แมค่ วรเลน่ กบั ลกู ดว้ ยของเลน่ ทส่ี ามารถถอื ได้ และมสี สี นั หรอื ผวิ สมั ผสั ทแ่ี ตกตา่ งหรอื มเี สยี งดงั การเลน่ ทไ่ี ดส้ มั ผสั กนั เช่น ปูไต่ จบั ปูด�ำ เม่อื เขา้ เดอื นที่ 8-9 ลกู นอ้ ยจะชอบเลน่ จ๊ะเอ๋ นอกจากจะย้มิ หัวเราะชอบใจและยัง 56 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

พฒั นาความคดิ ของลกู ลกู จะรู้จกั การรอคอยและรู้ว่าแม่ไม่หายไปไหน และเมื่อใกล้ 1 ขวบ ลกู จะเร่ิม เดินได้ การเลน่ ของเด็ก คือ การไดส้ �ำรวจส่ิงต่างๆ อย่างมีความสุข การเล่นเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง นอกจากสนุกสนานยังชว่ ย เร่ือง การทรงตัว ใหส้ ามารถยนื่ เดนิ ได้อยา่ งแขง็ แรง เมื่อมีพอ่ แมค่ ่อยเลน่ หรอื พูดคุยกับลกู บ่อยๆ ก็จะชว่ ยพฒั นาภาษาของลกู ได้ ฉะนนั้ ชว่ งเวลาทีไ่ ด้เลน่ กับลกู และลกู มรี อยยิ้ม มีความสุขสนุกสนาน จึงเป็นช่วงเวลาคุณภาพท่ีลูกจะได้สร้างตัวตนและรับรู้ถึงความรักความอบอุ่น ทไี่ ด้จากพอ่ แม่ 2. ช่วงอายุ 1-2 ปี เป็นช่วงท่ีต้องเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูก เป็นช่วงท่ีลูกเดินได้เอง มีความแข็งแรงทางร่างกาย อยากรู้ อยากเห็น และอยากลองท�ำทุกส่ิงทุกอย่างด้วยตัวเอง ช่วงน้ี ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ท�ำกิจวัตรต่างๆ ด้วยตนเอง เช่น กินข้าวด้วยตัวเอง ถือแก้วน้�ำ ช่วยแม่เก็บ ข้าวของๆ ตนเอง จะท�ำให้ลูกลดพฤติกรรมการต่อต้าน การเล่นกับลูกด้วยกิจกรรมศิลปะ ระบายสี ขดี เขยี น สรา้ งงานศลิ ปะลงบนกระดาษจะชว่ ยใหล้ กู รบั รคู้ วามสามารถ และรสู้ กึ ภาคภมู ใิ จทไ่ี ดท้ ำ� อะไร ด้วยตนเอง 3. ช่วงอายุ 3-5 ปี เปน็ ช่วงท่ีลูกมีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ และจนิ ตนาการสงู สดุ พอ่ แม่ จึงควรจัดสรรเวลาช่วยให้ลูกพัฒนาด้านความคิด กระตุ้นให้เกิดจินตนาการ การเล่นบทบาทสมมติ กับลูกในช่วงน้ีลูกจะสนุกถูกใจเป็นอย่างมาก ช่วงน้ีเป็นวัยอยากรู้ อยากเห็น มักจะต้ังค�ำถามต่างๆ พ่อแม่ควรพร้อมท่ีตอบลูกในทุกค�ำถาม การแสดงความร�ำคาญหรือไม่พอใจจะเป็นตัวขัดขวาง จนิ ตนาการลกู และพอ่ แมค่ วรมกี ารพดู คยุ ตงั้ คำ� ถามใหล้ กู ไดฝ้ กึ ใชค้ วามคดิ ทห่ี ลากหลายและแปลกใหม่ การพัฒนาด้านภาษาอาจท�ำได้โดยการเล่นผลัดกันเล่าเร่ืองราวที่ได้เจอมาแต่ละวันให้กันฟัง นอกจาก จะได้พัฒนาด้านภาษาและการสื่อสารของลูกแล้ว จะได้รับฟังเร่ืองราวต่างๆ ของลูกท�ำให้เกิดโอกาส ท่ีจะได้อบรมส่ังสอนชี้แนะในสิ่งท่ีถูกต้องให้แก่ลูก ช่วงเวลาคุณภาพ เกิดจากการใส่ใจรับฟังซึ่งกัน และกัน และใหค้ ำ� แนะอบรมเลีย้ งใหล้ กู เตบิ โตเป็นคนดี มีความสขุ และประสบความสำ� เรจ็ ในชีวิต การท�ำทุกช่วงเวลาท่ีอยู่กับลูกให้เป็นเวลาท่ีมีคุณภาพได้น้ัน พ่อแม่ต้องมีพลังกายพลังใจ ท่ีเข้มแข็ง อดทน ให้เวลา และมีความเสมอต้นเสมอปลายต่อการด�ำเนินบทบาทของตนเองในการ เป็นพ่อแม่ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและอ่ิมเอมมากที่สุดในชีวิต เม่ือเห็นลูกโตข้ึนเป็นคนดี มีความสขุ และประสบความสำ� เรจ็ ในชวี ติ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 57 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

กิจกรรมการสอนโรงเรียนพ่อแม่ กิจกรรมท่ี 2.2 ประดษิ ฐส์ ่อื และของเล่นเพ่อื ส่งเสริมพัฒนาการ : “ลกู กล้งิ หรรษา” วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ให้ พอ่ แม่ และผดู้ แู ลเดก็ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เกยี่ วกบั การเลน่ ของเดก็ ในแตล่ ะชว่ งวยั ประโยชนท์ ีไ่ ด้จากการเล่น และการส่งเสริมพัฒนาการเดก็ ช่วงแรกเกดิ -1 ป,ี 1-2 ปี และ 2-3 ปี 2. เพอ่ื ให้ พอ่ แม่ และผูด้ แู ลเด็กได้ฝึกประดิษฐข์ องเลน่ ทใ่ี ชส้ ่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นอารมณ์ และสตปิ ญั ญาให้กับเด็ก 3. เพ่อื สร้างสัมพนั ธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครวั ด้วยการท�ำกิจกรรมรว่ มกนั ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั 1. พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กเกิดความเขา้ ใจ สามารถแลกเปลยี่ นประสบการณแ์ นวคดิ เก่ยี วกับ การเลน่ และการสง่ เสรมิ พฒั นาการใหก้ บั ลกู ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. พอ่ แม่ และผดู้ แู ลเดก็ มีทกั ษะในคดิ และประดษิ ฐข์ องเล่นท่ชี ่วยสง่ เสรมิ ใหก้ ับลูกได้ 3. พ่อ แม่ และผู้ดูแลเดก็ เกิดสายใยรักความผูกพันในครอบครวั จากการทำ� กิจกรรมร่วมกนั หลักการและวธิ ีการ ขัน้ ตอนสำ� คญั จุดสำ� คญั 1. เตรียมความพร้อม : สร้างบรรยากาศการ • สถานท่ีจัดโต๊ะเป็นกลุ่มๆ ละ 5-6 คน ตาม เรียนรู้ โดยการ จำ� นวนของผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม • พูดคยุ ทกั ทายผปู้ กครอง • ผเู้ รียนต้องมีความพร้อม โดยมีสหี นา้ แววตา • แนะน�ำทีมวิทยากร เปิดสมองด้วยการเต้น น�้ำเสียง ท่าทางที่ให้ความร่วมมือ สนุกสนาน เพลง“baby shark” พรอ้ มท�ำท่าทางประกอบ ผอ่ นคลาย และเป็นกันเองกับวิทยากร เพลงร่วมกนั ระหวา่ งวิทยากรและผู้เรียน • กจิ กรรมเปดิ สมองสามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ าม ความถนัดของวทิ ยากร 2. ขัน้ นำ� เขา้ สูบ่ ทเรยี น • วิทยากร เปิด power point พร้อมพูดคุย • สังเกตความสนใจและปฏิกิริยา การโต้ตอบ เกี่ยวกับประสบการณ์การเล่นการละเล่นสมัย หรือการมีส่วนร่วมในการแลกเปล่ียน ก่อนของผู้ปกครอง (ตามใบงานท่ี 1) จากนั้น ประสบการณข์ ณะทำ� กิจกรรม 58 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ขัน้ ตอนสำ� คัญ จุดส�ำคัญ พดู คยุ สอบถามผปู้ กครองถงึ การเลน่ หรอื ของเลน่ ทเ่ี คยประดษิ ฐใ์ หล้ ูกเลน่ ในปจั จุบนั • วทิ ยากรใหผ้ ปู้ กครองแลกเปลยี่ นประสบการณ์ ส่ิงท่ีประดิษฐ์ วิธีเล่น ส่ิงท่ีได้จากการเล่น จากน้ันสรุปความรู้เก่ียวกับลักษณะการเล่น ของเดก็ แต่ละชว่ งวยั (ตามใบความรู้ที่ 1) 3. การใหอ้ งค์ความรแู้ ละลงมือปฏบิ ตั ิ • วิทยากรน�ำตัวอย่างของเล่น ลูกกลิ้งหรรษา • ชี้ชวนให้สังเกตพฤติกรรมการเล่นของเด็ก มาให้ผู้ปกครองและบุตรหลานได้ทดลองเล่น ขณะทดลองเลน่ ลกู กล้งิ หรรษา จากน้ันวิทยากรสอบถามถึงความสนใจในขณะ • วิทยาบอกประโยชน์ของการเล่นท่ีช่วยส่ง ที่เดก็ ๆ ได้เล่น ประโยชน์ และสรปุ ความสำ� คญั เสริมพัฒนาการดา้ นตา่ งๆ ของการเลน่ • มีอุปกรณ์หลากหลาย และเพียงพอต่อการ ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆ (ตามใบ ท�ำกจิ กรรมส�ำหรับทกุ คน ความรู้ท่ี 2) • ใหผ้ ปู้ กครองลงมอื ไดอ้ อกแบบและสรา้ งสรรค์ • วิทยากร สาธิตการประดิษฐ์ลูกกลิ้งหรรษา ชนิ้ งานของตนเองรว่ มกนั กบั สมาชกิ ในครอบครวั โดยแนะนำ� อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ กลอ่ งพลาสตกิ ใส/ฝา ครอบแก้วน�้ำแบบต่างๆ /ลูกแก้วขนาดเล็ก / กระดาษแข็ง/หลอดกาแฟสีต่างๆ กาวเจล/ กรรไกร/มดี คตั เตอรแ์ ละอธบิ ายขนั้ ตอนวธิ กี ารทำ� • ผู้ปกครองและเด็กลงมือประดิษฐ์ลูกกล้ิง หรรษารว่ มกนั โดยมวี ทิ ยากรประจำ� กลมุ่ คอยให้ ค�ำแนะน�ำ 4. ขัน้ สรปุ • วทิ ยากรพดู คยุ สนทนากบั ผปู้ กครอง โดยใหผ้ ู้ • ค่อยๆ สร้างบรรยากาศใหผ้ อ่ นคลาย ไมถ่ าม ปกครองหรือตัวแทนแต่ละกลุ่มน�ำเสนอผลงาน เฉพาะเจาะจง ดคู นที่พรอ้ มตอบก่อน และบอกถึงประโยชน์ที่ได้จากการเล่นลูกกลิ้ง • ผู้ปกครองต้องสามารถอธิบายผลงานของ หรรษา ตนเองได้มีวิธีการเล่นอย่างไร และช่วยส่งเสริม • วิทยากรและผู้ปกครองร่วมกันสรุปกิจกรรม พัฒนาการกบั ลกู อย่างไร และประโยชนท์ ี่ไดก้ ารเลน่ ลกู กลิ้งหรรษา (ตาม • ถ้าสรุปไมค่ รอบคลมุ ให้เพิม่ เตมิ ให้สมบรู ณ์ ใบความร้ทู ี่ 3) คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 59 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ข้ันตอนสำ� คัญ จุดสำ� คัญ 5. ข้ันสะทอ้ นกลับและทดสอบความรู้ • วิทยากรซักถามพ่อแม่ผู้ปกครองถึงสิ่งท่ีได้ • คอ่ ยๆ สรา้ งบรรยากาศใหผ้ อ่ นคลาย ไมถ่ าม เรยี นรแู้ ละความรสู้ กึ /ความประทบั ใจในกจิ กรรม เฉพาะเจาะจง ดูคนที่พรอ้ มตอบกอ่ น วนั นี้ ความสอดคล้องของกจิ กรรมตามหลักการพฒั นาสมอง Brain- based Learning 1. มกี ารเตรยี มความพรอ้ ม พอ่ แม่ และผู้ดแู ลเด็กดว้ ยการเปิดสมองก่อนทำ� กจิ กรรม 2. พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กได้ท�ำกิจกรรมที่ใช้ความคิดลงมือปฏิบัติสร้างสรรค์ผลงาน และ ไดท้ ดลองใชก้ บั บุตรหลานของตนเองสอดคล้องกบั หลกั การพัฒนาสมอง 3. การท�ำกิจกรรมร่วมกันระหว่างบุคคลในครอบครัวเป็นการส่งเสริมสายใยความรัก ความผูกพัน และการเล่นยังช่วยให้เกิดความสนุกเพลิดเพลินเป็นการให้อาหารใจกับบุตรหลาน ซ่ึงสอดคลอ้ งกับหลักการพัฒนาสมอง ระยะเวลา 30 – 45 นาที สื่อ/วัสดุอุปกรณ์ : กล่องพลาสติกใสแบบกลม 2 ช้ิน, ลูกแก้วขนาดเล็ก 2 ลูก, กระดาษแข็ง, หลอดกาแฟสตี ่างๆ, กาวเจล, กรรไกร และมดี คตั เตอร์ การประเมินผล 1. สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรม การตอบข้อซักถาม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ของผ้ปู กครอง 2. ติดตามการท�ำกิจกรรมการเล่นร่วมกันระหว่างเด็กและผู้ปกครองขณะอยู่ที่บ้าน โดยให้ ผปู้ กครองสง่ ภาพกิจกรรม หรอื VDO ผ่านทางแอพพลิเคชน่ั Line ของชนั้ เรียน 60 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 61 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบงานท่ี 1 1. ภาพท่ที ่านเหน็ น้ี คอื กาละเลน่ อะไร ? 2. ท่านเคยเลน่ การละเล่นชนิดนหี้ รอื ไม่ เลน่ กับใคร และท่านเล่นรู้สึกอย่างไรขณะเลน่ ? บรรณานุกรม ภาพจาก Face Book ศนู ยร์ วมความรู้การเกษตร.จากhttps://besterlife.com/%E0%B 8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5 %E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/ 62 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ใบความรู้ที่ 1 ลกั ษณะการเลน่ ของเดก็ ตามช่วงวัย 1. อายุแรกเกดิ -12 เดอื น เดก็ วัยน้ีจะชอบ เครอ่ื งเล่นทมี่ เี สยี งหรือเคร่ืองเขยา่ เพราะเด็ก จะชอบคว้า โขกหรือเคาะเม่ือเกิดเสียงเด็กจะชอบใจและเป็นการฝึกฟังเสียงด้วย ตุ๊กตายางท่ีบีบแล้ว มเี สยี งและกดั ได้จะชว่ ยฝกึ ความความแขง็ แรงของเหงอื ก ฟตุ บอลทำ� ด้วยผ้าสำ� ลหี รอื ผา้ ลื่นๆ ช่วยการ ฝึกสัมผัสและรับรู้ผิววัสดุ การเล่นน�้ำและทรายก็เป็นการเล่นที่เด็กชอบผู้ใหญ่ควรจัดหาชุดเล่นน้�ำ และทราย เพื่อให้เดก็ สนกุ กบั การเล่นมากขึน้ ตวั อยา่ งการเลน่ - โมบายสีสนั สดใส ส�ำหรับใหเ้ ด็กฝึกมองตามและบริหารกลา้ มเนอื้ สายตา - กร๋งุ กร๋ิงสำ� หรับเขยา่ ใหเ้ กิดเสยี งฝึกการฟัง - หลอดด้ายรอ้ ยเชือก หากจะใหส้ นกุ ขนึ้ อาจจะเป็นของเลน่ ทีล่ ากไดแ้ ละมีเสยี ง - การหยอด รูปทรง การเล่นสี การระบายสีดว้ ยมือ - การเล่นจะ๊ เอ๋ การเลน่ ปดิ ตา หรือเล่นตบแผละ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 63 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

2. เด็กอายุ 1 – 2 ปี เด็กวัยน้ีต้องการท่ีจะเรียนรู้ส่ิงแปลกๆ ใหม่ๆท่ีอยู่รอบตัวมากขึ้น การเรียนรู้จะเรียนรู้จากการดูหรือเลียนแบบคนรอบข้าง วัยน้ีเด็กจะมีค�ำถามมากแต่ไม่ค่อยสนใจ ท่ีจะฟังค�ำตอบยังไม่ค่อยสนใจที่จะเล่น กับเพื่อนวัยเดียวกันหากเล่นก็จะทะเลาะกันบ่อยเพราะเด็ก ยังไม่รจู้ ักแบง่ ปัน และคิดว่าของเล่นทกุ อย่างเปน็ ของตนเองเดก็ จงึ ชอบเล่นกบั คนใกล้ชิด ตัวอย่างการเล่น - เลน่ ต๊กุ ตาที่บบี แล้วมีเสยี ง หรอื เขยา่ แล้วมเี สียงร้อง - เล่นนำ้� หรอื ทราย โดยน�ำของทใ่ี ช้ตกั ตวงได้ เช่น ชอ้ น พล่ัว หรือถังพลาสตกิ เลก็ ๆ มาเป็น อปุ กรณ์เสรมิ การเล่นของเดก็ การให้เด็กฝึกตักน้�ำ ตกั ทราย เป็นการฝกึ การใชก้ ล้ามเนอื้ น้ิวมือ มือ และแขน - การเล่นภาพตัดตอ่ แต่กค็ วรเป็นภาพตอ่ น้อยช้นิ สกั 3 - 6 ชิ้น 3. เด็กอายุ 2 – 3 ปี เด็กวัยนี้เริ่มสนใจท่ีจะเล่นกับเด็กคนอ่ืนๆและสามารถเล่นด้วยกัน ไดน้ านข้ึน ขณะเดยี วกันเดก็ วยั น้เี ป็นวัยทรี่ ู้จกั โลกกว้างขวางขนึ้ เดก็ ต้องการค้นพบส่งิ ใหม่ เปน็ วยั ของ ความเป็นตัวเอง ต้องการเล่นเป็นอิสระ โดยไม่มีใครบังคับหรือห้ามปราม ร่างกายหรือกล้ามเนื้อ ส่วนต่างๆของเด็กจะแขง็ แรงขน้ึ 64 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ตวั อยา่ งการเล่น - การเล่นกระโดดโลดเตน้ ป่ายปีน เล่นผาดโผน - การเล่นลกู บอลหรอื การไลจ่ บั กัน - ถีบจักรยานสามล้อเพราะจะรู้สึกมีความสุขท่ีตนเองได้บังคับรถจักรยานสามล้อ ให้เคล่ือนไหวไปตามใจชอบได้ - การเล่นชงิ ช้า - การเล่นจกิ๊ ซอว์ รปู ต่องา่ ยๆ - วาดภาพระบายสี ละเลงสีดว้ ยมือ - ขย�ำแป้งปนั้ - การเดนิ ลากจูงของเล่นประเภทเรือ รถไฟไป-มา - การร้องเพลงแสดงทา่ ทางประกอบ - การเล่นกลางแจง้ - การเล่นเลียนแบบผูใ้ หญ่ เชน่ เลน่ พูดคุยกบั โทรศพั ท์ เล่นทำ� อาหาร - การอา่ นหนงั สอื ภาพ การฝกึ ใหเ้ ดก็ ดหู นงั สอื ภาพ และการเลา่ เรอ่ื งจากภาพจะชว่ ยใหเ้ ดก็ ร้จู กั ค�ำศัพทเ์ พ่มิ ข้ึนและจดจ�ำค�ำศพั ท์ง่ายๆ จากหนังสือภาพได้ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 65 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความร้ทู ่ี 2 ประโยชนจ์ ากการเล่นของเลน่ ต่อการสง่ เสรมิ พฒั นาการเด็ก 1. ประโยชนข์ องของเลน่ เดก็ 1.1 ของเล่นช่วยสง่ เสรมิ พัฒนาการในทกุ ๆ ดา้ นของเด็กปฐมวยั 1.2 ของเล่นช่วยฝึกให้เด็กได้ทดลองใช้ประสาทสัมผัสทางด้านต่างๆ ท�ำให้ประสาทสัมผัส เกิดการพัฒนาอย่างเต็มท่ีและพัฒนากล้ามเน้ือมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก ส่งผลต่อการพัฒนาสมอง ส่วนเซรีเบลลัม (Cerebellum) 1.3 ชว่ ยกระตุ้นความสนใจ และความอยากร้อู ยากเห็นของเด็ก 1.4 ของเล่นทำ� ให้เด็กได้แสดงความรูส้ ึกนึกคดิ อย่างอสิ ระภายใตก้ ารเล่น 1.5 ของเล่นช่วยหล่อหลอมบุคลิกลักษณะพื้นฐานท่ีดีให้แก่เด็ก เช่น การเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ การแบ่งปัน การเปน็ ผนู้ ำ� และผู้ตามทดี่ ี 1.6 ช่วยพฒั นาให้เดก็ สามารถเรยี นรกู้ ารอยรู่ ่วมกับผู้อ่นื ได้ 2. ของเล่นกบั การส่งเสรมิ พัฒนาของเดก็ ปฐมวัยในด้านตา่ งๆ สง่ เสรมิ พฒั นาการทางดา้ นรา่ งกาย ของเลน่ ทชี่ ว่ ยพฒั นาดา้ นการใชป้ ระสาทสมั ผสั คอื ตา, หู, จมูก, ลิ้น, การสัมผัส ได้แก่ เครื่องแขวน โมบาย ให้ประโยชน์ด้านกล้ามเน้ือตาสายตาเพราะตา ต้องกรอกไปมา ท�ำให้ประสาทตาว่องไว, ฟุตบอลผ้าท่ีใช้ผ้าสีสันสดใส ช่วยพัฒนาเร่ืองการรับรู้ถึงผิว สมั ผสั , ขยำ� , ขวา้ ง, ปา, ของเลน่ ตกั ตวงเอาไวต้ กั นำ้� ตกั ทราย ชว่ ยพฒั นากลา้ มเนอ้ื บรเิ วณนวิ้ มอื เปน็ ตน้ ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์ ของเล่นท่ีช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทางด้าน อารมณ์ ช่วยให้จิตใจ แจ่มใส เบิกบาน มักมีเสียงและสามารถเคลื่อนไหวได้ โดยเด็กจะสนใจเป็น อย่างมาก รวมท้งั สามารถเล่นไดน้ านๆ เช่น กลอ่ งดนตรี, เครื่องเคาะ, เครอื่ งเขย่า, ตกุ๊ ตาคนหรือสตั ว์ ห่นุ ตา่ งๆ เป็นต้น สง่ เสริมพัฒนาการทางดา้ นสงั คม ของเลน่ ท่ีช่วยส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ มพี ัฒนาการทางด้านสังคม เป็นของเล่นท่ีเล่นต้ังแต่ 2 คนข้ึนไป โดยการเล่นร่วมกันน้ี เด็กๆ จะได้เรียนรู้เพ่ือเข้าใจความคิด ความรู้สึกของผู้อื่น การเรียนรู้เรื่องการเอ้ือเฟื้อช่วยเหลือ แบ่งปัน ช่วยลดพฤติกรรมการยึดตัวเอง เปน็ ศนู ย์กลางของเด็กได้อีกด้วย เชน่ เกมบนั ไดงู, เลน่ ขายของ, กระโดดเชอื ก, เกมส์การด์ เปน็ ต้น ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา เป็นของเล่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษา วิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ สังคมและอน่ื ๆ ซ่ึงเดก็ ๆ จะรู้สึกสนุกสนานไปกับวธิ กี ารเล่นในรปู แบบต่างๆ บางครั้งอาจมีการแขง่ ขัน เช่น เล่นฝึกความจำ� , การสังเกต, พัฒนาดา้ นภาษา เป็นตน้ 66 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความรู้ท่ี 3 ประโยชน์ที่ไดจ้ ากการเล่นลกู กล้ิงหรรษา การเล่นลูกกลิ้งหรรษาเป็นกิจกรรมการเล่นท่ีให้เด็กได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกลา้ มเนอื้ มอื และตา เปน็ กระบวนการของพฒั นาการทงั้ 4 ดา้ น คือ ด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ ภาษา สังคมและสติปัญญา ซ่ึงการเล่นจะมีองค์ประกอบส�ำคัญ 3 ประการ คือ • การเลน่ จะนำ� ไปส่กู ารค้นพบและความคิดหรอื วิธกี ารเล่นใหส้ ำ� เรจ็ • การเล่นเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับครอบครัวและบุคคลภายนอก เม่ือต้อง ท�ำกิจกรรมหรอื เล่นรว่ มกนั กบั ครอบครัวหรอื บุคคลอื่น • การเลน่ นำ� เด็กไปสู่ภาวะความสมดุลทางอารมณ์ เมอ่ื เดก็ ต้องเผชิญกับความล้มเหลวกับ การเลน่ เมอ่ื เลน่ ไม่ส�ำเรจ็ จะท�ำให้เดก็ รสู้ กึ ถอดใจ ผูใ้ หญจ่ งึ ควรกระตุ้นให้เด็กได้ทดลองเล่น จนน�ำไป ส่คู วามส�ำเรจ็ และความภาคภมู ิใจในตนเอง 1. ด้านรา่ งกาย ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก ในการเล่น แตล่ ะครงั้ เดก็ จะตอ้ งไปหยบิ ลกู กลงิ้ หรรษาเคลอื่ นยา้ ย และตอ้ งจดั เกบ็ หลงั จากเลน่ เสรจ็ แลว้ ทำ� ใหเ้ ดก็ ได้ใช้ก�ำลังของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ท�ำให้เด็กได้รับการพัฒนากล้ามเน้ือในส่วนแขน ขา และล�ำตัว การบงั คับให้ลูกแกว้ ลงใหต้ รงกบั ชอ่ งนัน้ และการท�ำงานประสานสมั พันธ์ระหวา่ งกลา้ มเนื้อมือและตา ซึ่งเป็นการพฒั นาด้านการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เลก็ 2. ด้านอารมณ์ - จติ ใจ ช่วยให้เด็กได้ผ่อนคลายความตึงเครียดทางอารมณ์ ลูกกล้ิงหรรษา จัดเป็นเครื่องเล่น ชนิดหนึ่ง มีขนาดเล็ก มีหลายรูปร่าง สามารถวางไว้บนโต๊ะและมีหลายสี เป็นการเร้าความสนใจเด็ก เพราะเด็กเล็กจะชอบเล่นของเล่นที่มีสีสันสวยงามน�้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายได้ง่าย ส่งเสริมพัฒนาการ ทางดา้ นอารมณ์ ลกู กลง้ิ หรรษาเปน็ อปุ กรณก์ ารเลน่ ทมี่ คี วามนา่ สนใจ กระตนุ้ การเรยี นรขู้ องเดก็ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี เนอ่ื งจากออกแบบเปน็ รปู สัตวห์ น้าตาตา่ งๆ เปน็ ตกุ๊ ตา ฯลฯ ซึ่งโดยธรรมชาติของเด็กปฐมวัย จะชอบเล่นของเล่นที่มีสีสันสวยงามท�ำให้มีความรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลิน และไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ฝึกการสังเกต และฝึกสมาธิเด็กจากการควบคุมตนเองให้สามารถน�ำลูกแล้วกลิ้งลงในหลุมได้ส�ำเร็จ การท่ีเด็กได้คิด ได้เล่น ได้ลงมือท�ำ ลองผิดลองถูก จนสามารถแก้ปัญหา หาค�ำตอบที่ถูกต้อง และ ทำ� สำ� เรจ็ ไดด้ ว้ ยตนเอง ใหเ้ ดก็ ไดล้ องผดิ ลองถกู 4 – 5 ครง้ั เมอ่ื เดก็ ยงั ทำ� ไมเ่ สรจ็ เรมิ่ แสดงอาการถอดใจ จะเลกิ เล่น พ่อแมผ่ ้ปู กครองตอ้ งเขา้ ไปชว่ ย เพื่อให้เด็กเลน่ หรือทำ� งานนนั้ ได้สำ� เรจ็ ส่งผลใหเ้ ดก็ มีความ พอใจ มคี วามสขุ สนกุ เพลดิ เพลนิ ไมเ่ ครง่ เครยี ดเพราะสมองจะหลง่ั สารแหง่ ความสขุ Endorphin ทำ� ให้ เดก็ สามารถเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งเต็มศักยภาพ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 67 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

3. พัฒนาทางดา้ นภาษา การที่เด็กมีโอกาสร่วมเล่นเป็นกลุ่มท�ำให้เด็กได้พูดคุยสนทนาและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง กนั มโี อกาสไดใ้ ชภ้ าษาในรปู แบบตา่ งๆ การบรู ณาการทกั ษะทางดา้ นภาษาใหม้ าอยใู่ นกจิ กรรมการเลน่ ทำ� ให้เด็กไดพ้ ัฒนาทักษะหลายๆ ด้านไปพร้อมกัน 4. ดา้ นสงั คมและสตปิ ัญญา การเลน่ ชว่ ยปลกู ฝงั คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคใ์ หก้ บั เดก็ เชน่ การรจู้ กั แกป้ ญั หา สรา้ งสรรค์ ยืดหยนุ่ และปรับตัว ฝึกให้เด็กรู้จักการเก็บของเลน่ เข้าทเ่ี มอ่ื เลน่ เสรจ็ การชว่ ยเหลอื เพอ่ื นในการเกบ็ ของเล่นเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมการช่วยเหลือ ความมีน�้ำใจ ความสามัคคี ซ่ึงเป็นคุณลักษณะท่ีดี ทค่ี วรฝึกฝนให้กบั เด็กในวัยนี้ การเล่นลูกกล้ิงหรรษาส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตนเอง ในขณะที่เด็กเล่น ลกู กลิ้งหรรษา อาจมีปัญหาเกย่ี วกบั การเลน่ หรือมปี ญั หากบั เพอ่ื นๆ ทำ� ใหเ้ ดก็ ได้รู้จกั วิธีการแก้ปัญหา ตา่ งๆ ด้วยตนเองท�ำใหส้ ามารถพัฒนาตนเองไปสู่ความเชื่อมั่นในตนเอง รจู้ ักควบคุมตนเองหรอื กำ� กับ ตนเองในการท�ำการเลน่ ลูกกล้ิงหรรษา การกำ� หนดเวลาในการเลน่ จะช่วยฝึกฝนเด็กให้มีระเบียบวนิ ัย ความรับผดิ ชอบและก�ำกับตนเองไดด้ ีขน้ึ บรรณานุกรม พญ.สุธีรา คุปวานิชพงษ์ (กุมารแพทย์ ด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก : โรงพยาบาล สินแพทย์ เทพารักษ์)(2563).ลักษณะการเล่นตามวัย.สืบค้น20 สิงหาคม 2562.จากhttps:// www.synphaetco.th/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A 5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0% B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A 3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1 N2EToy.ของเล่นตามอายุ.ประโยชน์ของเล่นเด็ก.สืบค้น วันที่ 20 สิงหาคม 2562.จาก https://www.niko2enman.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82% E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8 %87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94% E0%B9%87%E0%B8%81/ 68 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

กจิ กรรมการสอนโรงเรียนพอ่ แม่ กิจกรรมท่ี 2.3 เทคนคิ การเลา่ นิทานและการจัดท�ำหนงั สือภาพ เพอื่ ส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นภาษา วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ให้ พ่อ แม่ และผดู้ ูแลเด็กมคี วามร้คู วามเขา้ ใจเก่ียวกบั การเลือกหนังสือนิทาน 2. เพ่ือให้ พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กมีทักษะการเล่านิทานและการจัดท�ำสื่อเพ่ือส่งเสริม พฒั นาการด้านภาษาให้กับลกู 3. เพือ่ ส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ มนี ิสัยรักการอา่ น 4. เพ่อื สรา้ งสัมพนั ธ์ท่ีดรี ะหวา่ งสมาชกิ ในครอบครัวดว้ ยการทำ� กจิ กรรมรว่ มกัน ผลทค่ี าดว่าจะได้รบั 1. พอ่ แม่ และผดู้ แู ลเดก็ สามารถเลอื กหนงั สอื นทิ านใหก้ บั ลกู ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามวยั ของเดก็ 2. พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กมีทักษะในการเล่านิทานและสามารถจัดท�ำส่ือภาพ/นิทาน เพอ่ื สง่ เสริมพฒั นาการด้านภาษาใหก้ ับลูกได้ 3. เด็กมีความสนกุ เพลิดเพลินจากการฟังนิทานและมสี มาธิจดจอ่ อยู่ในเรื่องราวท่ฟี งั จนจบ 4. พอ่ แม่ และผดู้ ูแลเดก็ เกดิ สายใยรักความผกู พันในครอบครวั จากการทำ� กิจกรรมรว่ มกนั หลักการและวธิ ีการ ขั้นตอนส�ำคัญ จุดสำ� คัญ 1. เตรียมความพร้อม : สร้างบรรยากาศ • สถานท่ีจัดโต๊ะเป็นกลุ่มๆ ละ 5-6 คน ตาม การเรยี นรู้ โดยการ จำ� นวนของผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม • พูดคุยทักทายผู้ปกครอง • ผู้เรียนตอ้ งมีความพรอ้ ม โดยมสี หี นา้ แววตา • แนะน�ำทีมวิทยากรเปิดสมองด้วยการเต้น น้�ำเสียง ท่าทางท่ีให้ความร่วมมือ สนุกสนาน เพลง “Little Finger” พรอ้ มทำ� ทา่ ทางประกอบ ผอ่ นคลาย และเปน็ กนั เองกบั วทิ ยากร เพลงรว่ มกนั ระหวา่ งวทิ ยากรและผูเ้ รียน • กจิ กรรมเปดิ สมองสามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ าม ความถนดั ของวทิ ยากร 2. ข้ันนำ� เขา้ สู่บทเรียน : • วิทยากร เปิด Power Point ภาพรูปแบบ • สังเกตความสนใจและปฏิกิริยา การโต้ตอบ การเล่านิทานส�ำหรับเด็กปฐมวัย พร้อมพูดคุย หรอื การมสี ว่ นรว่ มในการแลกเปลยี่ นประสบการณ์ กับผปู้ กครอง (ตามใบงาน 1 และใบความรูท้ ่ี 1) ขณะทำ� กิจกรรม คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 69 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ข้ันตอนส�ำคญั จดุ ส�ำคัญ และให้ผู้ปกครองแลกเปลี่ยนประสบการณ์การ เลือกหนังสือให้กับบุตรหลาน จากนั้นวิทยากร สรุปความรู้ เรื่อง การเลือกหนังสือนิทานให้ เหมาะสมตามวยั (ตามใบความรู้ท่ี 2) 3. การให้องคค์ วามรแู้ ละลงมอื ปฏิบัติ: • วิทยากร ทดลองเล่านิทานภาพและใช้สื่อ • ช้ีชวน กระตุ้น ให้ผู้ปกครองสังเกตวิธีการ ประกอบการเล่านิทานที่จดั ทำ� ขน้ึ เอง ใหก้ ับพอ่ เทคนิคของการเลา่ นทิ าน แม่ ผดู้ แู ลและบตุ รหลานทมี่ าเขา้ รว่ มกจิ กรรมฟงั • จดั มมุ หนงั สอื นทิ านทมี่ คี วามหลากหลายตาม จากนนั้ วิทยากรและผู้เข้าร่วมอบรมร่วมกนั สรปุ อายขุ องเด็กทเี่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม เทคนคิ ทใี่ ชใ้ นระหวา่ งการเลา่ นทิ านเพอื่ ความสน • ผู้ปกครองต้องสามารถเลือกหนังสือนิทานได้ ใจเดก็ ๆ (ตามใบความรู้ 3 ) อยา่ งเหมาะสมกบั เดก็ และสามารถใชเ้ ทคนคิ ใน • วิทยากรให้ผู้ปกครองทดลองเลือกนิทานให้ การเลา่ นิทานไดถ้ กู ต้อง เช่น การใช้น�้ำเสยี ง การ เหมาะสมตามวัยของบุตรหลานและทดลองเล่า แสดงออกทางสหี นา้ นิทานตามเทคนคิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ • วทิ ยากรชว่ ยเหลอื ใหค้ ำ� แนะนำ� กรณผี ปู้ กครอง • วิทยากรให้ผู้เข้าร่วมอบรมจัดท�ำสื่อภาพ เลือกนิทานไม่เหมาะสมหรือไม่สามารถใช้ ประกอบนิทาน โดยแนะน�ำอุปกรณ์ วัสดุที่ เทคนิคระหวา่ งการเลา่ นทิ านได้ สามารถน�ำมาใช้ในการท�ำหนังสือนิทานให้แก่ผู้ • มีอุปกรณห์ ลากหลาย และเพยี งพอต่อการ ปกครอง เช่น นิตยสาร/เศษวัสดุเหลือใช้ชนิด ท�ำกิจกรรมส�ำหรบั ทุกคน ตา่ งๆ/กรรไกร กาว TOA สเี มจกิ /กระดาษเทา ขาวที่ทำ� เป็นเลม่ และอธิบายข้ันตอนวิธีการทำ� • ผปู้ กครองและเดก็ ลงมอื ทำ� หนงั สอื นทิ านภาพ โดยวทิ ยากรประจ�ำกลุม่ คอยให้คำ� แนะน�ำ 4. ขั้นสรุป : • วทิ ยากรพดู คยุ สนทนากบั ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมโดย • ผปู้ กครองสามารถนำ� เทคนคิ การเลา่ นทิ านมา ให้ตัวแทนผู้ปกครองแต่ละกลุ่มน�ำเสนอผลงาน ใชเ้ ลา่ หนงั สอื นทิ านภาพทภ่ี าพตนเองทำ� ไดอ้ ยา่ ง และทดลองเล่านิทานกับบุตรหลานของตนเอง เหมาะสม ในกลุ่ม จากน้ันร่วมกันสรุปกิจกรรมและ • ถา้ สรุปไมค่ รอบคลุม ให้เพ่มิ เติมให้สมบูรณ์ ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากการเลา่ นทิ าน (ตามใบความรู้ 4) 5. ขัน้ สะท้อนกลบั และทดสอบความรู้ • วทิ ยากรซกั ถามพอ่ แมผ่ ปู้ กครองถงึ สงิ่ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ • ค่อยๆ สรา้ งบรรยากาศใหผ้ ่อนคลาย ไมถ่ าม และความรู้สึก/ความประทับใจในกิจกรรมวันน้ี เฉพาะเจาะจง ดูคนที่พรอ้ มตอบกอ่ น 70 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ความสอดคล้องของกจิ กรรมตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-based Learning) 1. มกี ารเตรียมความพร้อม พอ่ แม่ และผูด้ แู ลเดก็ ด้วยการเปดิ สมองก่อนท�ำกจิ กรรม 2. พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กได้ท�ำกิจกรรมใช้ความคิดลงมือปฏิบัติสร้างสรรค์ผลงาน และ ไดท้ ดลองใชก้ บั บุตรหลานของตนเองสอดคลอ้ งกับหลักการพฒั นาสมอง 3. การท�ำกิจกรรมร่วมกันระหว่างบุคคลในครอบครัวเป็นการส่งเสริมสายใยความรัก ความผูกพัน และการฟังนิทานยังช่วยให้เกิดความสนุกเพลิดเพลินเป็นการให้อาหารใจกับบุตรหลาน ซง่ึ สอดคล้องกับหลกั การพัฒนาสมอง ระยะเวลา 30 - 45 นาที สอื่ /วัสดุอุปกรณ์ : กระดาษเทาขาว , กรรไกร/กาว TOA/กาวเจล/สเี มจกิ , หนังสือนติ ยสาร/เศษวสั ดุ เหลือใชช้ นดิ ต่างๆ ผลการประเมนิ 1. สังเกตการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครองในการท�ำกิจกรรม เช่น การตอบข้อซักถาม หรือแลกเปล่ียนความคิดเหน็ 2. ตดิ ตามการทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั ระหวา่ งเดก็ และผปู้ กครองขณะอยทู่ บี่ า้ น โดยใหผ้ ปู้ กครอง ส่งภาพกิจกรรม หรอื VDO ผ่านทางแอพพลเิ คชัน่ Line ของชัน้ เรียน คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 71 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ใบงานที่ 1 1. ภาพทที่ ่านเหน็ นั้น คอื การเลา่ นทิ านแบบไหนและใชว้ ธิ กี ารเลา่ อยา่ งไร 2. ท่านมีวธิ ีการเลอื กหนังสอื นิทานใหก้ บั ลกู อย่างไร 72 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความรทู้ ี่ 1 รปู แบบการเล่านทิ าน 1. การเลา่ นทิ านแบบปากเปลา่ เป็นนทิ านที่ผูเ้ ล่าเรอื่ งราวจะตอ้ งเตรยี มตวั ให้พร้อม ตัง้ แต่ การเลอื กเรื่องใหเ้ หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั กลุ่มผ้ฟู ังนทิ าน นิทานปากเปล่าเป็นทดี่ ึงดดู และเร้าความ สนใจของผฟู้ ังดว้ ยนำ�้ เสียง แววตา และทา่ ทางประกอบการเลา่ ของผเู้ ล่าท่สี งา่ งามและพอเหมาะพอดี 2. นิทานทเ่ี ลา่ โดยใชส้ ือ่ อุปกรณ์ในขณะทเ่ี ล่า เป็นนิทานทผ่ี ู้เลา่ จะตอ้ งใช้ส่อื ท่เี ตรยี มหรอื หามาเพื่อใช้ประกอบการเล่า เช่น เล่าโดยใช้หนังสือ นิทานหุ่นนิ้วมือ นิทานเชิด นิทานเชือกเป็นต้น หรือขณะเล่าอาจมดี นตรปี ระกอบจังหวะเพื่อท�ำใหก้ ารเลา่ สนุกสนานขนึ้ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 73 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

3. การเลา่ นทิ านประกอบทา่ ทาง การเลา่ นทิ านแบบนเี้ ปน็ การเลา่ นทิ านทมี่ ชี วี ติ ชวี ามากกวา่ การเล่านิทานปากเปล่า เพราะเด็กสามารถติดตามเร่ืองท่ีเล่าได้ และจินตนาการเป็นรูปธรรมมากข้ึน ตามทา่ ทางของผเู้ ลา่ สนกุ สนานมากขน้ึ เพราะเหน็ ภาพของเรอ่ื งทเ่ี ลา่ ทา่ ทางทใ่ี ชป้ ระกอบการเลา่ นทิ าน อาจเปน็ ทา่ ทางของผเู้ ลา่ ทแ่ี สดงรว่ มกบั เดก็ ไดแ้ ก่ การทำ� หนา้ ตาการแสดงทา่ ทางทางกาย และการเลน่ น้ิวมือประกอบการเล่า 4. การเลา่ นทิ านประกอบภาพ ภาพทใ่ี ชใ้ นการเลา่ มหี ลายชนดิ มที งั้ ภาพถา่ ย ภาพโปสเตอร์ ภาพจากหนงั สอื ภาพวาด ภาพสไลด์ ภาพเคลอ่ื นไหว หรอื ภาพฉาย การทมี่ ภี าพสวยๆมาประกอบการ เล่าเป็นการจูงใจให้เด็กติดตามเร่ืองราวด้วยความอยากรู้ เด็กจะสนุกสนานมากข้ึนถ้าในขณะฟังเร่ือง และดูภาพ ผ้เู ล่าจะต้องกระตุน้ ใหเ้ ด็กแสดงความคดิ เหน็ และรว่ มสรา้ งจินตนาการใหก้ บั นิทานทีเ่ ลา่ 5. นิทานวาดไปเล่าไป เป็นการเล่านิทานท่ีผู้เล่าจะต้องมีประสบการณ์การเล่านิทาน แบบปากเปล่าอยู่มากพอสมควร แต่ต้องเพิ่มการวาดรูปในขณะเล่าเร่ืองราว รูปหรือภาพที่เล่า อาจออกมาอาจสอดคล้องกับเรื่องท่ีเล่าหรือบางครั้งเมื่อเล่าจบรูปท่ีวาดจะไม่สอดคล้องกับเรื่อง ท่ีเลา่ เลยกไ็ ด้ซึง่ อาจจะไดเ้ ป็นภาพใหมเ่ กดิ ขึ้น 74 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

6. นทิ านพบั กระดาษและฉดี กระดาษ เป็นนทิ านที่ผู้เล่าจะตอ้ งเล่านทิ านพร้อมๆ กับการ พับกระดาษและฉีกกระดาษจะต้องพอดี กับเหตุการณ์ๆ หรือสัมพันธ์กันอย่างพอดีพอเหมาะตลอด เรอ่ื งการเลา่ นทิ านทง้ั หมดนน้ั จะสนใจนา่ สนใจหรอื ไม่ อยทู่ วี่ ธิ กี ารเลา่ นำ�้ เสยี ง การเวน้ จงั หวะและระยะ เวลาในการนำ� เสนอนิทาน 7. การเล่านิทานประกอบเชือก เป็นนิทานที่ผู้เล่าจะเล่าแบบปากเปล่า ประกอบกับการ สร้างสรรค์เชือกให้มีความสัมพันธ์กับการเล่าอย่างต่อเน่ือง ผู้ดูหรือผู้ฟังจะตื่นเต้นกับการสร้างสรรค์ เชือกจากถกู เล่าเปน็ รปู ร่างต่างๆ ประกอบการเลา่ เรื่อง คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 75 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ใบความร้ทู ี่ 2 การเลอื กหนังสอื นทิ านให้เหมาะสมกับวัย นทิ านถอื เปน็ ตวั ชว่ ยสำ� คญั ของพอ่ แมใ่ นการเลย้ี งดลู กู เพราะนอกจากจะใหค้ วามสนกุ สนานแลว้ นิทานยังให้ความรู้ แง่คิด สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม การเลือกนิทานให้เหมาะสมกับลูกในแต่ละ ช่วงวัยช่วยส่งเสริมพฒั นาการและจนิ ตนาการได้ เพราะเดก็ ในแต่ละช่วงวัยมคี วามสามารถในการรับรู้ และความสนใจทีแ่ ตกตา่ งกัน เดก็ ชว่ งอายุ 4 – 12 เดอื น เด็กวัยนี้ เป็นช่วงที่มีพัฒนาการด้านการมองเห็น จะมองหนังสือนิทานเป็นเหมือนของเล่น ชิ้นหนงึ่ ที่เปน็ ทรงสเ่ี หลย่ี มมีภาพติดอยแู่ ถมเปิดไดอ้ กี ดว้ ย และเดก็ จะรู้สกึ สนุกมากขนึ้ เมอ่ื เปิดหนงั สอื เขา้ ไปพบรปู ภาพตา่ งๆ ทเ่ี ขาเคยเหน็ ในชวี ติ จรงิ เดก็ วยั นจ้ี ะมคี วามสนใจในระยะสน้ั ประมาณ 5-10 นาที เดก็ จะสนใจหนงั สือภาพทเี่ ป็นรูปเหมอื นของคน สตั ว์ ผกั ผลไม้ ส่ิงของในชีวิตประจำ� วันท่ีมสี ีสวยงาม ขนาดใหญช่ ดั เจน หนงั สอื ควรทำ� มาจากผา้ กระดาษ หรอื พลาสตกิ ทไี่ มม่ มี มุ แหลมคม ในขณะอา่ นนทิ าน ให้เด็กฟังควรช้ีให้เด็กดูรูปภาพตาม และให้เด็กได้จับหรือเปิดหนังสือตามเน้ือเร่ืองที่อ่านไปด้วย ก็จะเป็นการชว่ ยสง่ เสริมทกั ษะทางภาษาของเด็ก หนงั สือนิทานทเี่ หมาะสมกบั วยั • หนังสือภาพท่ไี ม่ต้องมคี �ำบรรยาย และเปน็ ภาพเหมอื นของจรงิ เชน่ รูปสัตว์ ผกั ผลไม้ หรอื สง่ิ ของในชีวติ ประจำ� วัน • มีสีสันสวยงาม • รูปภาพประกอบขนาดใหญ่ ชดั เจน เปน็ ภาพเด่ียวๆ ไม่ควรมีภาพหลงั • รูปเลม่ อาจท�ำด้วยผา้ หรือพลาสตกิ หนานุม่ ให้เด็กหยบิ เลน่ ได้ไมอ่ นั ตราย 76 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

เด็กช่วงอายุ 1 - 3 ปี เด็กวัยนี้มีพัฒนาการทางด้านภาษาอย่างรวดเร็ว มักจะสนใจในสิ่งท่ีอยู่รอบตัว พ่อแม่ควร อ่านนิทานให้ลูกฟังบ่อยๆ ถ้าเป็นเรื่องท่ีลูกชอบควรอ่านเล่มน้ันซ�้ำๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากต่อ พัฒนาการทางด้านภาษาของเดก็ และเปน็ พ้นื ฐานสำ� คญั ในการสรา้ งนิสัยรกั การอ่านในอนาคต เดก็ ใน วัยนี้ชอบมีส่วนรว่ มในกิจกรรมตา่ งๆ ดว้ ยตนเองและจะชอบหนังสือทต่ี นเองสนใจ ไมค่ วรบังคับใหเ้ ด็ก ดูแต่หนงั สอื ที่พ่อแม่ต้องการให้อา่ น ควรจะเปน็ ภาพเกย่ี วกับชีวติ ประจ�ำวนั สัตว์ สง่ิ ของ เดก็ ในชว่ งนี้ จะมปี ระสาทสัมผสั ทางหูท่ดี มี าก หากใชห้ นังสือที่มีเทคนิคพเิ ศษต่างๆ เชน่ หนังสือท่มี ีผิวสัมผัสหลาก หลาย หนังสอื ทม่ี ีภาพซอ่ นอยู่ หรอื หนังสอื ท่ีกดและมีเสียงก็จะชว่ ยเพ่มิ การเรยี นรูใ้ ห้เด็กได้มากยงิ่ ข้นึ อีกท้ังเด็กในวัยนี้จะมีความสนใจในส่ิงต่างๆ เพ่ิมข้ึนเป็น 15-20 นาที ดังนั้นในขณะท่ีอ่านนิทานให้ เด็กฟัง ควรพูดเชื่อมโยงถึงสิ่งที่อ่านกับประสบการณ์ในชีวิตประจ�ำวันของเด็กเพ่ิมเติมเข้าไปก็จะ ชว่ ยทำ� ใหเ้ ด็กไดค้ วามรู้เพม่ิ เตมิ มากขึน้ หนงั สือนิทานที่เหมาะสมกับวยั • เน้นเรื่องราวง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เกี่ยวกับสัตว์ สิ่งของ หรือเรื่องราวในชีวิตประจ�ำวัน ทส่ี ่งเสรมิ สขุ นสิ ัย เชน่ การกินข้าว อาบน้ำ� แปรงฟัน เปน็ ต้น • ภาพประกอบมีสสี ันสวยงาม • ค�ำบรรยายเปน็ ประโยคสัน้ ๆ หรือคำ� คลอ้ งจองง่ายๆ เพอื่ ให้เดก็ จดจ�ำง่ายขึน้ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 77 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความรทู้ ี่ 3 เทคนิคและวธิ ีการเล่านทิ าน 1. การขึ้นตน้ เร่ืองให้ดึงดดู และมีความนา่ สนใจโดยการใชน้ ้ำ� เสียง เชน่ เสียงดงั และชดั เจน 2. การใช้ลีลาการเล่าเริ่มต้นด้วยจังหวะช้าๆ และเรว็ ขึ้นเพ่ือดึงดูดความสนใจ จากนนั้ ก็ปรบั เปน็ จังหวะปกติ 3. ควรเล่าให้จบเป็นเรื่องๆ ไม่ค่ันจังหวะระหว่างเรื่อง ไม่ควรถามค�ำถามหรือพูดเรื่องอื่น จนเด็กหมดความสนใจและเกดิ ความเบอ่ื หน่าย 4. นอกจากนำ้� เสยี งแลว้ การแสดงออกทางสหี นา้ และทา่ ทางทสี่ อดคลอ้ งกบั ตวั ละครในนทิ าน จะชว่ ยกระตนุ้ ความสนใจ ท�ำใหเ้ ด็กรูส้ ึกตนื่ เต้นอยากตดิ ตามฟงั จนจบ 5. ควรเลือกนิทานที่มีเน้ือหาสั้น ไม่เกิน 3-5 นาที เน่ืองจากความสนใจและสมาธิของวัย เดก็ เลก็ ยงั อยใู่ นชว่ งเวลาสน้ั ๆ หากคณุ พอ่ คณุ แมเ่ ลอื กนทิ านทม่ี คี วามยาวเกนิ ไปจะทำ� ใหเ้ ดก็ ขาดความ สนใจ เบ่อื หน่าย และจะไมต่ อ้ งการฟงั นทิ านอกี ในครัง้ ตอ่ ไป 6. เมอ่ื เลา่ เร่ืองจบควรเปดิ โอกาสใหเ้ ดก็ ถามในสงิ่ ท่ีเขาสงสัย หรอื ตง้ั คำ� ถามสะทอ้ นกลบั ให้ เดก็ ไดค้ ิด เช่น “ถ้าหนูเป็นตวั ละครในนทิ านหนคู ดิ ว่าควรทำ� อย่างไร” คำ� ถามแบบสะท้อนกลับนีท้ �ำให้ เด็กได้ส�ำรวจความรู้สึกของตัวเองตลอดจนได้คิดหาวิธีแก้ปัญหาในสถานการณ์นั้นๆ หากค�ำตอบของ เดก็ ถกู ตอ้ งและเหมาะสม คณุ พอ่ -คณุ แมค่ วรใหค้ ำ� ชมเชยเพอื่ สรา้ งความภาคภมู ใิ จใหเ้ ดก็ กระตนุ้ ใหเ้ ขา ตอ้ งการฟงั นทิ านอกี ในครง้ั ตอ่ ๆ ไป แตห่ ากคำ� ตอบของเดก็ ไมเ่ หมาะสมคณุ พอ่ คณุ แมอ่ าจเสรมิ ความคดิ เหน็ ท่ีเหมาะสมลงไป เช่น“การที่ลูกคิดแบบนี้แม่คิดว่ามันอาจท�ำให้ลูกบาดเจ็บได้นะคะแม่คิดว่าลูกควร จะ......(ตามวธิ ที เ่ี หมาะสม) ลกู คดิ วา่ ดไี หมคะ” การถามตอ่ วา่ “ลกู คดิ วา่ ดไี หมคะ” เปน็ การสำ� รวจอารมณ์ ความรสู้ กึ ของเด็กให้เด็กยอมรับความคิดของผอู้ น่ื ดว้ ยตวั เอง 78 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ใบความรู้ที่ 4 นทิ านมีประโยชน์กับลกู นอ้ ยมากกว่าที่คุณคิด การเลา่ นทิ านจะชว่ ยใหเ้ ดก็ พฒั นากระบวนการคดิ การเชอ่ื มโยงเรอ่ื งราว และจดั ระบบความคดิ ได้ดียง่ิ ข้ึนเปน็ การเพิม่ กระบวนการท�ำงานของสมองแก่เด็ก การอ่านหนงั สือให้เด็กฟังจงึ มคี วามส�ำคญั ตอ่ พฒั นาการของเดก็ มาก ถา้ คณุ พอ่ คณุ แมอ่ ยากใหล้ กู เปน็ คนชอบอา่ น ชอบเขยี น และเรยี นเกง่ กค็ วร เริ่มต้นด้วยการอ่านนิทานให้ลูกฟังเป็นประจ�ำ เพ่ือสร้างทัศนคติท่ีดีในการอ่านหนังสือให้แก่ลูกน้อย นอกจากนนั้ แล้วนทิ านยังมีประโยชนต์ ่อลกู อกี มากมาย ประโยชนข์ องนิทานสามารถสรุปได้ ดงั น้ี 1. นิทานช่วยปลูกฝังให้เด็กเป็นคนช่างคิด ช่างถามและช่างสังเกต มีความมั่นใจ ฉลาด กลา้ แสดงความคดิ เหน็ คือ มคี วามฉลาดทง้ั ทางปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ด้วย 2. นิทานท�ำให้เด็กเรียนรู้ภาษาได้เร็วขึ้น เพราะการเล่านิทานเปรียบเสมือนเป็นการสอน ภาษาไปในตัว เมื่อเด็กได้ยินได้ฟังรูปประโยค หรือการใช้ภาษา ก็จะท�ำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ดีต่อ การเรยี นภาษามากข้ึน 3. นทิ านทำ� ใหเ้ ดก็ จบั ประเดน็ และวเิ คราะหเ์ รอ่ื งราวตา่ งๆ ไดด้ ขี นึ้ เพราะการเลา่ นทิ านซำ้� ๆ จนเด็กจ�ำได้ท้ังเร่ืองน้ัน จะท�ำให้เด็กมองเห็นภาพรวมของเรื่อง และจับประเด็นส�ำคัญจากเรื่อง ไดง้ ่ายขนึ้ 4. นิทานช่วยให้เด็กเกิดจินตนาการ ในขณะที่พ่อแม่เล่านิทานน้ัน น้�ำเสียงท่ีใช้เล่าเรื่อง จะกระตนุ้ ใหเ้ ดก็ เกดิ จนิ ตนาการเปน็ ภาพ ดงั นน้ั การเลา่ นทิ านหลายๆ เรอื่ งจงึ เปน็ การสรา้ งจนิ ตนาการ ใหม่ๆ ใหก้ บั เด็กไปพร้อมกนั ดว้ ย 5. นิทานช่วยสร้างสมาธิให้แก่เด็ก เพราะช่วงเวลาในการเล่านิทาน เด็กจะต้ังใจฟังนิทาน อย่างใจจดใจจ่อ ย่ิงเมื่อเล่านิทานท่ีมีความเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กด้วยแล้ว เด็กก็จะเข้าใจเร่ือง ในนิทานไดง้ ่ายขน้ึ ถอื เปน็ การสร้างสมาธิให้กบั เด็กอกี วธิ ีหน่ึง คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 79 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

บรรณานุกรม นทิ าน การเล่าเรอ่ื งสำ� หรับเดก็ ปฐมวัย. (2556). รูปแบบการเลา่ นทิ าน. สืบคน้ 27 มถิ นุ ายน 2562.สบื ค้นจาก: http://mungsungnoen.blogspot.com/2013/01/blog-post_28.html ED-TECH. (2017).การเล่านิทานสำ� หรับเด็กปฐมวัย.สบื คน้ 27 มิถนุ ายน 2562.สืบคน้ จาก: https://www.edtechcreation.com/th/articles/21474-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B 8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4% E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8 %A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81% E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2 ED-TECH.(2017).นิทานมีประโยชน์กับลูกนอ้ ยมากกวา่ ท่คี ุณคดิ .สบื ค้น27 มิถุนายน 2562. สืบคน้ จาก: https://www.edtechcreation.com/th/articles/21474-%E0%B8%81%E0%B8% B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0 %B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8% AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0 %B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E 0%B8%A2 Cha-Lom Co., Ltd(2018).เทคนิคการเล่านิทานให้น่าฟังและเป็นท่ีสนใจของเด็กๆ. สืบค้น27 มิถุนายน 2562 สืบค้จาก:https://mbasic.facebook.com/werchalom/ photos/a.998084310243782/1923071144411756/?type=3&source=48 80 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

กิจกรรมการสอนโรงเรียนพอ่ แม่ กจิ กรรมท่ี 2.4 การส่งเสริมพฒั นาการทางด้านภาษา ด้วยนทิ าน “เลา่ ไป พับไป” วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือให้ พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กทราบถึงประโยชน์และความส�ำคัญของหนังสือนิทาน ในการสง่ เสริมพัฒนาการลกู 2. เพ่ือให้ พ่อ แม่ และผู้ดแู ลเด็กมีทกั ษะการเล่านทิ านแบบ เลา่ ไป พบั ไป 3. เพื่อให้เด็กไดร้ ับการส่งเสริมพัฒนาการทางดา้ นภาษาและปลูกฝงั นสิ ยั รกั การอา่ น 4. เพื่อสร้างสัมพันธ์ท่ีดีระหวา่ งสมาชกิ ในครอบครวั ดว้ ยการทำ� กิจกรรมร่วมกัน ผลท่คี าดว่าจะไดร้ ับ 1. พอ่ แม่ และผู้ดูแลเด็กใชห้ นงั สอื นทิ านในการส่งเสริมพฒั นาการลกู อยา่ งต่อเน่ือง 2. พ่อ แม่ และผู้ดูแลเด็กเกดิ ทกั ษะในการเลา่ นิทานแบบ เล่าไป พบั ไป 3. เด็กมีความสนุกเพลิดเพลินจากการฟังนิทาน มีสมาธิจดจ่ออยู่ในเรื่องราวที่ฟังจนจบ สามารถส่อื สาร ถาม-ตอบ และแสดงความคดิ เหน็ ระหว่างการเลา่ นทิ านได้ 4. พอ่ แม่ และผดู้ แู ลเดก็ เกดิ สายใยรกั ความผกู พนั ในครอบครวั จากการทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั หลกั การและวธิ ีการ ขัน้ ตอนสำ� คัญ จดุ ส�ำคัญ 1. เตรียมความพร้อม : • พูดคุยทกั ทายผูป้ กครอง • จดั นั่งเก้าอ้เี ป็นครึง่ วงกลม • แนะน�ำทีมวิทยากรเปิดสมองด้วยเพลงเบาๆ • เพลงประกอบกิจกรรมเปน็ เพลงบรรเลงแนว ให้พ่อแม่/ผู้ดูแลเด็กอุ้ม จูงมือ สัมผัสและโอบ อบอุ่นเพอื่ สรา้ งบรรยากาศเปน็ กนั เอง กอดลูก สร้างบรรยากาศเพื่อน�ำเข้าสู่กิจกรรม • กจิ กรรมเปดิ สมองสามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ าม พรอ้ มพดู คำ� คมดว้ ยนำ้� เสยี งทไี่ พเราะ “ไมม่ เี สยี ง ความถนดั ของวทิ ยากร ไหนที่ดีกบั ลกู เท่ากบั เสยี งของพ่อและแม่” คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 81 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ขน้ั ตอนส�ำคญั จดุ ส�ำคญั 2. ทบทวนความรูเ้ ดมิ • ทีมวิทยากร สอบถามพ่อแม่/ผู้ดูแลเด็ก • สังเกตความสนใจและปฏิกิริยา การโต้ตอบ ท่านใดเคยเล่านิทานให้ลูกฟังเป็นประจ�ำบ้าง หรอื การมสี ว่ นรว่ มในการแลกเปลยี่ นประสบการณ์ และท่านเลา่ นิทานแนวไหน ขณะทำ� กิจกรรม • วทิ ยากร สรปุ ประโยชนข์ องการเลา่ นทิ านให้ ลกู ฟงั โดยใช้ Power Point (ตามใบความรทู้ ่ี 1) 3. เร้าความสนใจ • วิทยากร สาธิต การเลา่ นทิ านด้วยวธิ ี “เล่าไป • ต้องไม่มีส่ิงรบกวนขณะท่ีวิทยากรสาธิต พบั ไป” (ตามใบกจิ กรรมท่ี 1) หลงั จากเลา่ นทิ าน กิจกรรม เสรจ็ วทิ ยากรและพอ่ แม/่ ผดู้ แู ลเดก็ รว่ มกนั สรปุ • สังเกต สีหน้า ท่าทาง ความสนใจของผเู้ รียน ประโยชน์ของการเล่านิทานแบบเล่าไปพับไป • วิทยากรสรุปเน้ือหา กระชับ เข้าใจง่าย (ตามใบความรู้ท่ี 2) นา่ จดจำ� 4. การให้องคค์ วามรูแ้ ละลงมือปฏบิ ตั ิ • วิทยากร ให้พ่อแม่/ผู้ดูแลเด็กทดลองเล่า • ปฏบิ ตั แิ ตล่ ะขนั้ ตอนชา้ ๆ สงั เกตสหี นา้ ทา่ ทาง นทิ าน แบบ “เล่าไป พบั ไป” (ใบกิจกรรมท่ี 1) ความเขา้ ใจของผู้เรยี น • มรี ายละเอยี ดขนั้ ตอนการพบั และเนอ้ื หาของ นทิ านใหพ้ อ่ แม/่ ผดู้ แู ลเดก็ เพอื่ ใหน้ ำ� ไปปฏบิ ตั ไิ ด้ อยา่ งถกู ตอ้ ง • วิทยากรช่วยเหลือให้ค�ำแนะน�ำกรณีผู้ปกครอง ปฏิบตั ิไมถ่ ูกตอ้ ง 5. ขน้ั สรุป • วิทยากรเปิดคลิปวีดีโอปิดท้ายเพื่อสรุปเก่ียว • กระตนุ้ ใหท้ กุ คนมสี ว่ น คอ่ ยๆ สรา้ งบรรยากาศ กบั ความสำ� คัญของการเล่านทิ านให้ลูกฟัง ใหผ้ อ่ นคลาย ไมถ่ ามเฉพาะเจาะจง ดคู นทพี่ รอ้ ม • วิทยากรซักถามพ่อแม่ผู้ปกครองถึงส่ิงที่ได้ ตอบก่อน เรยี นรแู้ ละความรสู้ กึ /ความประทบั ใจในกจิ กรรม • วิทยากรสรุปสิ่งท่ีผู้ปกครองได้เรียนรู้อย่าง วนั น้ี กระชับ เข้าใจงา่ ย นา่ จดจำ� 82 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ความสอดคลอ้ งของกิจกรรมตามหลักการพัฒนาสมอง (Brain-based Learning) 1. มกี ารเตรยี มความพรอ้ ม พอ่ แม่ และผู้ดแู ลเดก็ ด้วยการเปิดสมองกอ่ นทำ� กจิ กรรม 2. การให้เด็กมีส่วนร่วมในการเล่านิทานด้วยการพับกระดาษ จะท�ำให้เด็กเกิดความเข้าใจ ทางภาษาได้เรียนรภู้ าษาผ่านประสาทสัมผสั ทง้ั 5 และเกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ สอดคลอ้ งกบั หลกั การ พฒั นาสมอง 3. การท�ำกิจกรรมร่วมกันระหว่างบุคคลในครอบครัวเป็นการส่งเสริมสายใยความรัก ความผูกพัน และการฟังนิทานยังช่วยให้เกิดความสนุกเพลิดเพลินเป็นการให้อาหารใจกับบุตรหลาน ซึ่งสอดคลอ้ งกบั หลกั การพฒั นาสมอง ระยะเวลา 30 - 45 นาที สื่อ/วัสดุอุปกรณ์ : กระดาษโปสเตอร์สีสองหน้า, ปากกาเมจิก, กล่องขนาดต่างๆ, กาวสองหน้า, สมดุ วาดเขยี น, ตัวการ์ตนู แบบต่างๆ เชน่ คน สตั ว์ ส่งิ ของ ตน้ ไม้ ดอกไม้ ทอี่ ยอู่ าศัย สถานท่ี ฯลฯ, สีไม,้ กาวลาเทก็ ซ,์ ตะกรา้ , กรรไกร, ดินสอ และยางลบ ผลการประเมนิ 1. สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรม การตอบข้อซักถาม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ของผปู้ กครอง 2. ตดิ ตามการทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั ระหวา่ งเดก็ และผปู้ กครองขณะอยทู่ บี่ า้ น โดยใหผ้ ปู้ กครอง ส่งภาพกจิ กรรม หรอื VDO ผา่ นทางแอพพลิเคชน่ั Line ของชน้ั เรียน คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 83 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบกิจกรรมท่ี 1 นทิ าน เร่ือง เจ้าแสนซน บ้านหลงั ใหญ่หลังหน่งึ เจ้าของไดเ้ ลี้ยงเจา้ แสนซนไว้ในบา้ น (พับรูปท่ี 1) อยมู่ าวันหนงึ่ ในวันนั้นเปน็ ชว่ งตอนกลางคืนทเี่ จา้ ของบ้านข้นึ บ้านไปนอนเจา้ ของบา้ นปิดไฟ ช้นั ลา่ งหมดทุกดวงเหลอื ไวแ้ ต่เจ้าแสนซนที่นอนอย่ชู ัน้ ล่างของบ้าน แต่แล้วกม็ หี นู 2 ตวั ทป่ี รึกษากันว่า จะไปขโมยอาหารในบ้านกิน “ไปเร็ว ไปเรว็ เจ้าหนูตวั ท่ี 2 เราออกไปหาอาหารกินกันเถอะ ไม่มใี ครอยู่ ขา้ งล่างหรอก” เจ้าหนูตวั แรกพดู หลงั จากทหี่ นูท้ัง 2 ตวั ไดป้ รึกษากนั เสร็จก็ได้ตดั สินใจออกมาจากรู (พบั รูปท่ี 2) ในขณะท่ีหนูทั้ง 2 ตัวเดนิ มาจนถงึ ตกู้ ับข้าวก็ไดเ้ หน็ เจา้ แสนซนนอนกรนเสยี งดงั อย่หู น้าตู้ กบั ข้าวเจา้ หนตู วั ท่ี 2 พูดข้ึนว่ารบี ไปเถอะเจ้าแสนซนไมต่ ืน่ ขึ้นมาหรอกมันขเ้ี กียจจะตายเจ้าหนตู ัวแรก จงึ รบี วิ่งไป (พบั รปู ท่ี 3) 84 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

และเจา้ หนตู วั ทส่ี องกว็ งิ่ ตามขน้ึ ไปบนตกู้ บั ขา้ วหนทู ง้ั 2 ตวั กนิ อาหารในตกู้ บั ขา้ วอยา่ งสบายใจ โดยไมห่ นั มามองเจา้ แสนซนเพราะคดิ วา่ เจา้ แสนซนหลบั อยเู่ จา้ แสนซนโมโหมากทเี่ จา้ หนทู ง้ั สอง มาวา่ และไม่กลัวมันเลยจงึ ใช้เล็บทย่ี าวตะปบเจ้าหนทู ้งั 2 ตวั จนตาย (พบั รูปที่ 4) นทิ านเร่ืองนี้สอนให้รู้ว่า กอ่ นจะท�ำอะไรเราควรคดิ ใหร้ อบคอบอยา่ ไวใ้ จทางอย่าวางใจศัตรู การพบั ประกอบนิทาน เร่ือง เจ้าแสนซน คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 85 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

ใบความรูท้ ี่ 1 ประโยชน์ของการเลา่ นทิ าน คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้ตั้งแต่ในช่วงขวบปีแรก และ วธิ งี า่ ยๆ ทค่ี ณุ พอ่ คณุ แมส่ ามารถทำ� ไดท้ กุ วนั กค็ อื การอา่ นนทิ านใหล้ กู ฟงั ซงึ่ จะมปี ระโยชนต์ อ่ การพฒั นา เด็กในดา้ นต่างๆ ดังน้ี 1. นิทานช่วยสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ช่วงเวลาดีๆ ที่พ่อจะเล่านิทานก่อนนอน ให้ลูกฟังเวลาสบายๆ แห่งความรัก ความอบอุ่นที่จะสร้างความผูกพันและน�ำไปสู่ความเชื่อม่ัน ที่จะเสริมสร้าง ปญั ญาของเด็กๆ ไดเ้ ปน็ อย่างดี 2. นทิ านช่วยปลูกฝังให้เด็กเปน็ คนชา่ งคิด ช่างถามและช่างสังเกต เป็นโอกาสท่จี ะทำ� ให้ เด็กมีความฉลาด ม่ันใจ และ แสดงความคิดเห็นถกู จังหวะ หรือที่เรียกว่ามีความฉลาดทงั้ ทางปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ) 3. นทิ านช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษา การฟังนิทานจะทำ� ใหเ้ ดก็ ได้รจู้ กั รูปประโยค การใชภ้ าษา ความหมายของคำ� และเกิดทัศนคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นในอนาคต 4. นทิ านท�ำให้เดก็ จับประเดน็ และวเิ คราะหไ์ ด้ดี การฟงั ซ้�ำๆ เดก็ จะจำ� เร่ืองราวได้ท้ังหมด และเดก็ จะรจู้ กั มองสง่ิ ทอ่ี ยรู่ อบตวั เขา้ ใจเรอื่ งไดง้ า่ ย ทำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ จี่ ะจบั ประเดน็ รวมทงั้ การยอ่ ความ 5. นิทานช่วยกระตุ้นจินตนาการของเด็ก น้�ำเสียงท่ีเล่าเร่ืองจะกระตุ้นให้เด็กสร้าง จนิ ตนาการเปน็ ภาพการเลา่ นทิ าน บอ่ ยๆ จงึ เปน็ การสรา้ งจนิ ตนาการไปพรอ้ มๆ กบั การรบั รเู้ รอื่ งใหมๆ่ ทีย่ ังไม่เคยรมู้ าก่อน 6. นิทานช่วยบ่มเพาะคุณธรรมแก่เด็ก เพราะนิทานส่วนใหญ่สอดแทรกคุณธรรม ทักษะ ชีวติ หรอื ขอ้ คดิ ตา่ งๆ ทท่ี �ำให้เด็กไดต้ ระหนกั ถงึ คุณงามความดีและนำ� ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ เมื่อโตขนึ้ 7. นิทานช่วยสร้างสมาธิ ช่วงเวลาของการเล่านิทาน เด็กมักจะฟังนิทานอย่างตั้งใจหาก เลือกเล่านิทานที่เหมาะกับช่วงวัยจะท�ำให้ เด็กเข้าใจ อยากรู้และติดตามต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถอื เป็นการสรา้ งสมาธิใหก้ บั เดก็ ได้ เปน็ อยา่ งดี 8. นทิ านช่วยสรา้ งเด็กให้มีความรู้ และความฉลาดทางอารมณ์ หากเด็กชอบฟังนทิ านเดก็ กจ็ ะปรบั ตวั และสรา้ งความสมั พนั ธก์ บั ผใู้ หญ่ เพอ่ื จะไดฟ้ งั นทิ านจากผใู้ หญ่ ซงึ่ เปน็ รากฐานสำ� คญั ในการ พัฒนาและปรบั ตวั เพื่อให้อย่ใู นสังคมอย่างมคี วามสุข 9. นิทานช่วยสร้างนิสัยรักการอ่าน การเล่าหรือการอ่านนิทานให้เด็กฟังจะช่วยปลูกฝัง นิสัยรักการอ่านเพราะการอา่ นจะท�ำให้มสี มาธิ และอา่ นหนังสอื ไดร้ วดเรว็ 10.นทิ านสรา้ งความรสู้ กึ ไมไ่ ดก้ ำ� ลงั ถกู สอนใหก้ บั เดก็ เพราะเนอื้ หาของนทิ านจะมขี นั้ ตอน ในการสรา้ งความเข้าใจรวมท้งั วิธีการแก้ปญั หาและบทสรุปของเรื่องท่ี ให้ขอ้ คดิ ตอ่ เรอื่ งนนั้ ๆ 86 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความรู้ที่ 2 “เล่าไป พับไป” ประโยชนข์ องการพับกระดาษ ท่มี ากกว่าความสวยงาม การเล่านิทานนอกจากจะเล่าดว้ ยเสียงอย่างเดยี วแลว้ พ่อแมอ่ าจใช้ตวั ชว่ ยในการเลา่ นิทาน โดยพบั กระดาษเปน็ รปู ตา่ งๆ ใหเ้ ดก็ ไดค้ ดิ หรอื จนิ ตนาการดว้ ยตวั เอง ทำ� ใหเ้ ดก็ ตน่ื เตน้ และสนกุ ไปกบั ตอนจบของเรอ่ื งวา่ กระดาษ 1 แผน่ จะออกมาเปน็ รปู รา่ งอะไร พอ่ แมท่ กุ คนสามารถนำ� ไปใชเ้ ปน็ กจิ กรรม เล่าไปพับไปกับลูกได้ ไม่ควรไปกังวลในเรื่องของการพับกระดาษมากจนเกินไป แต่ค่อยๆ เรียนรู้ ไปพร้อมๆ กับลูก โดยอาจจะพับกระดาษเปน็ ตัวรูปสัตวไ์ ว้กอ่ น แล้วนำ� มาประกอบการเลา่ เป็นนทิ าน ก็ชว่ ยให้น่าสนใจ การสรา้ งนทิ านเปน็ เรอื่ งราวจากการพบั หนา้ กระดาษจนเกดิ เปน็ รปู รา่ งตา่ งๆ เชน่ ตวั คน หรอื สตั วท์ อี่ ยใู่ นนทิ านจะเปน็ ตวั กระตนุ้ ความคดิ สรา้ งสรรคใ์ หก้ บั เดก็ ได้ การอา่ นอยา่ งเดยี วไมเ่ พยี งพอเพราะ เด็กจะได้แตจ่ นิ ตนาการ แต่หากไดล้ งมือประดิษฐ์ตัวละครง่ายๆ ไปพรอ้ มๆ กบั การเลา่ ของพอ่ แม่ดว้ ย ตัวเอง น่าจะท�ำใหล้ กู สนุก และฝกึ พฒั นาการด้านอื่นๆ ไปด้วย พ่อแม่ควรศึกษารูปแบบ และวิธีการพับมาก่อน เมื่อมีความรู้เร่ืองการพับแล้ว ควรสนุก กับการเล่า และการพับ ไม่ควรไปเครียด หรือกังวลว่าจะพับออกมาไม่สวย หรือเวลาท่ีลูกพับไม่ได้ เปน็ หนา้ ที่ของพอ่ แม่ทจี่ ะเขา้ ไปช่วยลกู ซ่งึ นับว่าเป็นกิจกรรมครอบครัวที่ดอี ยา่ งหน่งึ เป็นการร่วมมือ กนั ระหวา่ งพอ่ แมล่ กู สรา้ งความสมั พนั ธ์ และความผกู ผนั ระหวา่ งครอบครวั ใหม้ มี ากขน้ึ และการพบั กระดาษ ยังสามารถชว่ ยเสริมสรา้ งกล้ามเนือ้ มอื ซ่ึงเปน็ สง่ิ ส�ำคัญในการฟ้ืนฟูสภาพการท�ำงาน และการควบคุม การเคลอ่ื นไหวของมอื เปน็ การออกกำ� ลงั อวยั วะสว่ นมอื นวิ้ มอื และควบคมุ จติ ใจใหม้ สี มาธไิ ดเ้ ปน็ อยา่ งดี บรรณานุกรม เทคนิคการเลา่ นทิ าน (2556).เล่าไปพบั ไปเปลี่ยนนทิ านให้มีชวี ิต.สบื ค้น 10 มิถุนายน 2562. จาก http://bowyyy.blogspot.com สถาบันส่ือเดก็ และเยาวชน (สสย.) 2561.ประโยชน์ของการเลา่ นิทาน.สบื ค้น 10 มิถุนายน 2562.จากhttps://web.facebook.com/skillplus.hq/posts/1245616495489956/ nunzmoko(2560).วิธีเลือกนิทานให้เหมาะกับลูกในแต่ละช่วงวัย.สืบค้น 10 มิถุนายน 2562. จากhttps://www.parentsone.com ม่ิงขวัญ ลิรุจประภากร.เทคนิควิธีเล่านิทานแบบใหม่ถูกใจลูก.สืบค้น 10 มิถุนายน 2562 จาก https://th.theasianparent.com คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 87 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

กจิ กรรมการสอนโรงเรียนพอ่ แม่ กจิ กรรมท่ี 2.5 เทคนคิ สอนลูกใหม้ ีระเบยี บวินยั “รอคอย รอคิว” วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ใหพ้ ่อ แม่ ผ้ดู ูแลเด็กมีความรู้ ความเข้าใจ และแนวทางในการส่งเสรมิ ระเบยี บวนิ ัย ใหก้ ับเดก็ 2. เพ่อื สง่ เสริมให้เด็กรจู้ ักชว่ ยเหลือตนเองและการอยรู่ ว่ มกับผูอ้ ืน่ 3. เพอ่ื ส่งเสริมให้เด็กเรียนร้กู ฎกตกิ าและเงอ่ื นไขของการเลน่ 4. เพือ่ สร้างสมั พันธ์ที่ดรี ะหว่างสมาชิกในครอบครวั ดว้ ยการท�ำกิจกรรมรว่ มกนั ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ 1. พ่อ แม่ ผูด้ แู ลเดก็ มแี นวทางหรือกจิ กรรมที่ใชส้ ่งเสรมิ ระเบียบวนิ ัยใหก้ ับเดก็ ได้ 2. เดก็ สามารถชว่ ยเหลอื ตวั เองและสามารถรอคอย รอคิวได้ 3. เด็กสามารถปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงกฎกตกิ าและเง่ือนไขของการเล่น 4. พ่อ แม่ และผู้ดแู ลเด็กเกดิ สายใยรกั ความผกู พันในครอบครัว จากการท�ำกิจกรรมร่วมกนั หลกั การและวธิ ีการ จุดสำ� คญั ขัน้ ตอนสำ� คัญ • จดั น่ังเกา้ อเี้ ปน็ คร่ึงวงกลม • ผเู้ รยี นตอ้ งมคี วามพรอ้ ม โดยมสี หี นา้ แววตา 1. เตรยี มความพรอ้ ม น�้ำเสียง ท่าทางที่ให้ความร่วมมือ สนุกสนาน • พดู คยุ ทกั ทายผูป้ กครอง ผอ่ นคลาย และเปน็ กันเองกับวทิ ยากร • แนะน�ำทีมวิทยากรเปิดสมองด้วยท่าบริหาร • กจิ กรรมเปดิ สมองสามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ าม สมองก่อนเข้าสู่กิจกรรม (ท่าบริหารสมอง 16 ความถนัดของวิทยากร จังหวะพร้อมประกอบเพลง) • สังเกตความสนใจ และปฏิกิริยาการโต้ตอบ หรอื การมสี ว่ นรว่ มในการแลกเปลยี่ นประสบการณ์ 2. ขัน้ นำ� เขา้ สู่บทเรียน • วิทยากร เปิดคลิปการฝึกวินัยของโรงเรียน ในประเทศญ่ีปุ่น จากน้ันพูดคุยกับผู้ปกครอง เกี่ยวกับความรู้สึก ส่ิงที่ได้เรียนรู้ หลังจากได้ดู คลิปวิดีโอจากน้ันพูดคุยสอบถามผู้ปกครองถึง แนวทางการดูแลเด็ก เรื่อง ระเบียบวินัย/ช่วย 88 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ขั้นตอนส�ำคัญ จุดส�ำคัญ เหลอื ตนเองของเดก็ ขณะอยทู่ บี่ า้ น เชน่ การอาบ นำ้� แตง่ ตวั , เกบ็ เสอ้ื ผา้ ใสต่ ะกรา้ , การเกบ็ ของเลน่ • วทิ ยากรสรปุ เรอ่ื ง การสรา้ งวนิ ยั ของเดก็ งา่ ยๆ จากกิจวัตรประจำ� วันของเด็ก (ใบความรู้ที่ 1) 3. การใหอ้ งคค์ วามรแู้ ละลงมอื ปฏิบตั ิ • วทิ ยากรนำ� เขา้ สกู้ จิ กรรม “เทคนคิ สอนลกู ให้ • วิทยากรต้องคอยสังเกตวิธีการส่ือสารของ มีระเบยี บวินัย รอคอย รอคิว” โดยให้ผปู้ กครอง พ่อแม่ในการท�ำกิจกรรม และเดก็ เลน่ บทบาทสมมตุ ิ โดยจำ� ลองสถานการณ์ • เม่ือเด็กไม่สามารถปฏิบัติได้ตามกฎกติกา การเขา้ แถวจา่ ยเงนิ ทรี่ า้ นสะดวกซอื้ โดยมวี ธิ กี าร การเลน่ เลน่ และกฎกติกา ดงั นี้ ให้ผู้ปกครองปฏิบัติให้ดูหรือพาเด็กลงมือ 1. พ่อแม่และเด็กจะต้องแสดงบทบาทเป็น ปฏบิ ตั ิ ลูกค้า เข้ามาเลือกซ้ือสินค้าในร้านสะดวกซื้อ • กิจกรรมบทบาทสมมติจะต้องมีความน่า เช่น นม ขนมปงั ลกู โปง่ สนใจ 2. เม่ือเลือกสินค้าตามที่ต้องการได้แล้ว ใหน้ ำ� ไปช�ำระเงนิ ท่แี คชเชยี ร์ 3. พ่อแม่ ฝึกให้เด็กเข้าแถวช�ำระเงินและรอ คอยให้ถงึ ควิ ของตนเอง และเมอื่ ช�ำระเสร็จแล้ว ให้แคชเชียร์กดกิ่ง 1 คร้ัง เพื่อเป็นสัญญาณให้ เด็กทอี่ ยใู่ นคิวถัดไปขนึ้ มาชำ� ระเงนิ 4. ผู้ปกครองสามารถช่วยเหลือและแนะน�ำ เดก็ ใหเ้ ดก็ มรี ะเบยี บวนิ ยั จนสามารถชำ� ระเงนิ ได้ ส�ำเร็จ ท�ำให้เด็กเกิดความสนุกสนานและอยาก เขา้ ร่วมกิจกรรม 4. ข้ันสะทอ้ นกลบั และทดสอบความรู้ • วทิ ยากรพดู คยุ เกยี่ วกบั กจิ กรรมการเลน่ บทบาท สมมตุ ิ เพอ่ื ฝกึ ใหล้ กู มรี ะเบยี บวนิ ยั รอคอย รอควิ • ผู้ปกครองบอกถึงแนวทางปฏิบัติ หรือ โดย พูดคยุ ตามแนวทาง ดังน้ี 1. การฝึกเขา้ แถว กิจกรรมท่ีช่วยส่งเสริมให้ลูกมีระเบียบวินัย ซอ้ื -จา่ ยสนิ คา้ มคี วามสำ� คญั อยา่ งไร และชว่ ยให้ รอคอย รอควิ ได้ เกิดการสรา้ งระเบยี บวนิ ยั ความอดทด รอคอย • วิทยากรสรุปเน้ือหา กระชับ เข้าใจง่าย ให้กบั ลกู ไดอ้ ย่างไร นา่ จดจ�ำ คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 89 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ขน้ั ตอนส�ำคัญ จุดสำ� คญั 2. นอกจากการเขา้ แถวซอื้ -จา่ ยสนิ คา้ ทา่ นคดิ วา่ ในชีวติ ประจ�ำวนั กจิ กรรมอะไร ท่ีสามารถฝกึ ให้ ลูกมีระเบียบวนิ ัย ความอดทด รอคอยได้ • วทิ ยากรและผปู้ กครอง ชว่ ยกนั สรปุ ประโยชน์ จากกิจกรรมเข้าแถวซื้อ-จ่ายสินค้า กิจกรรมที่ ชว่ ยฝกึ ใหล้ กู มรี ะเบยี บวนิ ยั ความอดทด รอคอย และเทคนิคท่ีใช้ในการฝึกให้ลูกมีวินัย (ตามใบ ความร้ทู ่ี 2) 5. ขัน้ สรปุ • วิทยากรซักถามพ่อแม่ผู้ปกครองถึงส่ิงที่ได้ • กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม ค่อยๆ สร้าง เรยี นรคู้ วามรสู้ กึ /ความประทบั ใจในกจิ กรรมวนั น้ี บรรยากาศให้ผ่อนคลาย ไม่ถามเฉพาะเจาะจง และกิจกรรมทีผ่ ้ปู กครองจะกลับไปฝกึ ลูกท่บี ้าน ดคู นทีพ่ ร้อมตอบกอ่ น ความสอดคลอ้ งของกจิ กรรมตามหลกั การพฒั นาสมอง Brain-based Learning 1. มีการเตรยี มความพร้อม พ่อ แม่ และผดู้ ูแลเดก็ ด้วยการเปดิ สมองก่อนทำ� กิจกรรม 2. กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการเล่นบทบาทสมมติจะช่วยให้เด็กเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ และยงั ทำ� ใหเ้ ดก็ เกดิ ความสนกุ เพลดิ เพลิน สอดคล้องกับหลักการพัฒนาสมอง ระยะเวลา 30 – 45 นาที ส่ือ / วัสดุอุปกรณ์ : โต๊ะ 2 ตัว, นมกล่อง, ขนมปัง, ลูกโป่ง, ของเล่น, ตุ๊กตา, ธนบัตรปลอม,ซุ้ม และกระดิง่ ผลการประเมนิ 1. สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรม การตอบข้อซักถาม หรือแลกเปล่ียนความคิดเห็น ของผ้ปู กครอง 2. ตดิ ตามการทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั ระหวา่ งเดก็ และผปู้ กครองขณะอยทู่ บี่ า้ น โดยใหผ้ ปู้ กครอง สง่ ภาพกิจกรรม หรือ VDO ผ่านทางแอพพลเิ คชัน่ Line ของช้นั เรียน 90 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี

คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 91 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความรทู้ ี่ 1 การสร้างวินัยของเดก็ จากกิจวัตรประจำ� วนั ของเด็ก วนิ ยั หมายถงึ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ขอ้ บังคับ ส�ำหรบั ควบคมุ ความประพฤติของคนในสงั คม ใหเ้ รยี บรอ้ ย ซง่ึ จะทำ� ใหเ้ ราอยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ และไมก่ ระทบกระทงั่ ซงึ่ กนั และกนั อกี ทง้ั วนิ ยั ยังเป็นพ้ืนฐานของการพัฒนาด้านศีลธรรม จริยธรรมและทักษะสังคมท่ีมนุษย์ควรมี ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ขอ้ คือ 1. วนิ ยั เกยี่ วกบั ทกั ษะทางสงั คมทวั่ ไป เชน่ เกบ็ ของเปน็ ท่ี ตรงตอ่ เวลา รจู้ กั กาลเทศะ ปฏบิ ตั ิ ตามกฎระเบยี บ 2. วนิ ยั เกยี่ วกบั การใชช้ วี ติ ประจำ� วนั เชน่ กนิ นอนเปน็ เวลา การเขา้ หอ้ งนำ้� อาบนำ�้ แปรงฟนั การแต่งตวั ถอื เปน็ การช่วยเหลอื ตัวเองไดต้ ามวยั 3. วินยั เกย่ี วกับการควบคมุ ตนเอง เชน่ ควบคมุ อารมณไ์ ด้ รจู้ กั การรอคอย อดทน ไม่โกรธ จนกรดี รอ้ งหรอื ขวา้ งปาขา้ วของจนควบคมุ ตนเองไม่ได้ เป็นต้น วินัยทั้ง 3 ข้อข้างต้นเป็นวินัยพื้นฐานท่ีควรจะต้องมีในเด็กเล็กเพื่อให้เป็นผู้ใหญ่ท่ีสมบูรณ์ ในอนาคต อยา่ งไรกต็ ามเดก็ แตล่ ะคนมพี นื้ ฐานทางรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คมทแี่ ตกตา่ งกนั ทำ� ใหม้ พี ฤตกิ รรมทแี่ ตกตา่ งกนั เดก็ ทมี่ ปี ญั หาเรอ่ื งวนิ ยั คอื เดก็ ทไี่ มส่ ามารถควบคมุ ตนเองในเรอ่ื งตา่ งๆ อาจเพยี งบางเรอื่ ง หรอื หลายๆ เรอ่ื งรวมกนั จากทง้ั สามขอ้ ขา้ งตน้ ซงึ่ ปญั หาดงั กลา่ วจะเลก็ หรอื ใหญน่ นั้ ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและความถ่ีของการแสดงออก ซ่ึงพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องรู้จักวิธีรับมืออย่าง ถูกต้องเหมาะสม หากพฤติกรรมของลูกเป็นปัญหาในระดับท่ีไม่สามารถควบคุมได้ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรขอความชว่ ยเหลอื จากผเู้ ชย่ี วชาญ เชน่ แพทย์ และนกั จติ วทิ ยา โดยเฉพาะวนิ ยั ในขอ้ ทสี่ าม คอื วนิ ยั เกี่ยวกับการควบคุมตนเองนั้นเป็นข้อที่ส�ำคัญและท้าทายท่ีสุด น่ันคือ เด็กจะต้องเรียนรู้ที่จะควบคุม อารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง เพื่อไม่ให้กลายเป็นเด็กท่ีเอาแต่ใจตนเอง ก้าวร้าว หรือขาดความ ยบั ยงั้ ชั่งใจในเร่อื งตา่ งๆ ซง่ึ จะสง่ ผลเสียตอ่ ตวั เด็กเองและผอู้ ืน่ ได้ทงั้ ในระยะสนั้ และระยะยาว วธิ กี ารฝึกให้ลกู มรี ะเบียบวินัยดว้ ยกิจกรรมงา่ ยๆ ในครอบครวั 1. รู้จักระเบียบวนิ ยั พ่อแม่ต้องฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจ�ำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสวมผ้าเสื้อเอง รับประทานอาหารเอง แปรงฟนั รวมถงึ เขา้ หอ้ งน�้ำดว้ ยตวั เอง ในช่วงแรกๆ ลกู อาจจะท�ำไมไ่ ด้ พอ่ แม่ อยา่ ไปดไุ ปวา่ แตต่ อ้ งคอยใหก้ ำ� ลงั ชน่ื ชมลกู อยเู่ สมอเวลาทลี่ กู เรม่ิ จะทำ� สงิ่ นนั้ ๆ ได้ พอลกู โตขนึ้ สามารถ 92 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ให้เขาช่วยท�ำงานบ้าน เพื่อสอนให้รู้จักการรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ที่ส�ำคัญพ่อแม่ต้องเป็น ตัวอย่างที่ดีให้กับลูก เพราะเด็กมักจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ท�ำให้ลูกซึมซับความเป็นระเบียบน้ัน ไปดว้ ย และควรฝกึ ลูกอย่างสมำ่� เสมอพยายามให้ลกู ทำ� กจิ กรรมต่างๆ ด้วยกนั โดยไมต่ ้องบังคับให้เดก็ ทำ� ดว้ ยความสมคั รใจ 2. รจู้ ักการรอคอย ถา้ พอ่ แมไ่ มอ่ ยากใหล้ กู โตขนึ้ กลายเปน็ คนทไี่ มร่ จู้ กั รอ อยากไดอ้ ะไรกต็ อ้ งได้ เอาแตใ่ จตนเอง ชอบเอาชนะ หรอื อารมณ์รอ้ น พอ่ แม่ตอ้ งปลูกฝังใหล้ ูกรู้จกั การรอคอยตง้ั แตย่ ังเลก็ ๆ อย่าตอบสนอง หรอื ตามใจลกู ทกุ ครง้ั เชน่ ลกู รอ้ งไหอ้ ยากไดข้ องเลน่ พอ่ แมต่ อ้ งใจแขง็ ทำ� เปน็ ไมส่ นใจลกู บา้ ง แลว้ บอก เหตผุ ลลกู ไปวา่ ทไี่ มซ่ อ้ื ใหเ้ พราะอะไร แตถ่ า้ นอ้ งรอ้ งไหไ้ มห่ ยดุ อาจใหข้ อ้ แลกเปลยี่ นโดยรอใหถ้ งึ วนั เกดิ กอ่ นแมจ่ ะซอ้ื ให้ ซงึ่ วธิ นี จี้ ะทำ� ใหล้ กู รจู้ กั รอคอย ถา้ ยงั ไมไ่ ดผ้ ลลองหาสง่ิ อนื่ ทลี่ กู สนใจกวา่ เพอื่ เบยี่ งเบน ความสนใจ เช่น พาลูกไปกินไอศกรีม หรือไปกินอาหารที่ลูกช่ืนชอบการบอกจุดสิ้นสุดการรอคอย ใหช้ ดั เจนกเ็ ปน็ สง่ิ จำ� เปน็ อยา่ บอกใหล้ กู รออยา่ งไรจ้ ดุ หมาย เชน่ คำ� วา่ “เดย๋ี วกอ่ น” หรอื “รอแปป๊ นงึ ” แต่สง่ิ ท่ีพ่อแม่ควรพูดตอ้ ง เชน่ “ถ้าอยากกนิ ขนมตอ้ งกนิ ข้าวให้เสร็จก่อน” หรือ “ถ้าอยากออกไปเล่น ต้องทำ� การบ้านก่อนน่ะ” ลกู ก็จะรวู้ า่ ถา้ อยากไดส้ ิง่ ทตี่ อ้ งการ ตอ้ งท�ำสิ่งหน่ึงกอ่ น 3. รูจ้ กั รอเข้าควิ การเข้าแถวรอคิวถือว่าเป็นเร่ืองพ้ืนฐานของการเข้าสังคม พ่อแม่ต้องปลูกฝังลูกต้ังแต่เล็ก เช่นเดียวกัน จะได้ไม่เป็นท่ีครหาของสังคม โดยที่พ่อแม่ต้องท�ำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เช่น การรอคิว เข้าห้องน�้ำ รอคิวจ่ายเงิน หรือรอคิวซ้ืออาหาร ถึงแม้ว่าลูกจะเบ่ือหน่าย หรืออยากจะเข้าร้านไป ขนาดไหน ต้องสอนใหเ้ ขารอควิ เพราะวา่ คนอื่นเขากร็ อเหมือนกัน ซึง่ ในระหว่างรออาจชวนลกู พดู คยุ หรืออาจกิจกรรมทำ� แก้เบื่อก่อน เพราะเดก็ วยั น้ตี อ้ งค่อยๆ ฝกึ ฝน คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) 93 ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต่�ำกว่า 3 ปี

ใบความรทู้ ี่ 2 เทคนคิ การสรา้ งวนิ ัยใหล้ ูกรกั 1. ไมค่ วรบังคับให้เด็กทำ� อย่างทพ่ี อ่ แมต่ ้องการ ควรมีวิธีจูงใจให้ลูกท�ำพฤตกิ รรมต่าง ๆ ด้วยความเต็มใจ เชน่ ชวนลูกเกบ็ ของเลน่ โดยการ ใหเ้ หตผุ ลวา่ หากไมเ่ กบ็ ของเลน่ อาจหายได้ การบอกเหตผุ ลในสงิ่ ทต่ี อ้ งการใหล้ กู ทำ� จะทำ� ใหล้ กู ไดร้ จู้ กั คดิ และเหน็ ประโยชน์ในการกระท�ำ ซง่ึ จะไดผ้ ลดีกว่าการถกู บงั คบั ใหท้ ำ� 2. บอกสง่ิ ทีต่ อ้ งการใหล้ ูกทำ� อยา่ งชัดเจน บางครั้งเด็กอาจท�ำอะไรผิดพลาดไปเพราะยังไม่ค่อยเข้าใจกฏระเบียบต่าง ๆ เช่น วิ่งเล่น เวลากินข้าว หรือขว้างปาอาหาร คุณพ่อคุณแม่จึงควรชี้แนะลูกด้วยการบอกถึงสิ่งที่ต้องการให้ลูกท�ำ แทนการดุด่า เชน่ แมอ่ ยากให้ลูกนงั่ กินดี ๆ หรือแมไ่ มอ่ ยากให้ลูกขว้างปาอาหาร เพอ่ื เปน็ การแสดงให้ ลูกรวู้ ่าส่ิงทีเ่ ขาทำ� ไมถ่ ูกตอ้ งและควรทำ� สิง่ ไหนถงึ จะถูก 3. ใหร้ างวัลเปน็ แรงจูงใจ เมือ่ ลูกปฏบิ ัตติ นดเี ป็นเด็กมวี ินยั คุณพอ่ คณุ แมค่ วรให้รางวัล เชน่ ยิม้ ให้ พยกั หนา้ โอบกอด หอมแก้ม ช่ืนชม แต่เม่ือลูกมีพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมก็แสดงออกด้วยวิธีตรงกันข้าม เช่น เพิกเฉย ไมใ่ หค้ วามสนใจ ตักเตอื น ริบรางวัล งดกิจกรรมท่ีชอบ โดยเลือกวธิ ีใหเ้ หมาะสมในแตล่ ะสถานการณ์ พรอ้ มอธิบายเหตผุ ลใหล้ กู เข้าใจ 4. คนในบ้านต้องสอนลกู ไปในทิศทางเดียวกัน การสอนลูกให้มีระเบียบวินัยน้ันคุณพ่อคุณแม่และทุกคนในครอบครัวต้องมีความหนักแน่น และปฏบิ ัติตอ่ ลกู ไปในทศิ ทางเดียวกนั เชน่ เม่อื คนใดคนหนงึ่ ลงโทษลกู อกี คนไม่ควรใจออ่ นผอ่ นปรน โทษนั้น เพราะจะท�ำให้เด็กเกิดความสับสนและไม่เข้าใจว่าส่ิงใดถูกหรือผิดกันแน่ ผู้ใหญ่จึงต้องมีการ พดู คยุ ตกลงกนั ใหช้ ัดเจนก่อนว่าควรจะสอนลูกอยา่ งไร 5. สรา้ งสภาพแวดล้อมใหเ้ ป็นระเบยี บ หากอยากสอนใหล้ กู มรี ะเบยี บวนิ ยั สง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั เดก็ กต็ อ้ งมคี วามเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยดว้ ย เพ่ือให้เขาได้ซึมซับและเคยชินกับความเป็นอยู่ที่มีระเบียบ หากลูกอยู่ในส่ิงแวดล้อมท่ีไม่เป็นระเบียบ ต่อให้คุณพ่อคุณแม่เค่ียวเข็ญแค่ไหนลูกก็จะไม่เกิดการเรียนรู้เพราะเคยชินกับสภาพแวดล้อม ทีไ่ มเ่ ปน็ ระเบียบไปแล้ว 94 คู่มือการจัดกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ตามหลักการพัฒนาสมอง : BBL (Brain – based -Learning) ส�ำหรับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ดูแลเด็กต�่ำกว่า 3 ปี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook