เอกสารประกอบการออกแบบหน่วยการจัดการเรยี นรู้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ นางสาวอรอนงค์ วังคำ ตำแหนง่ ครู ประกอบด้วย ๑. วิชาวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ รหสั วชิ า ว๓๑๑๘๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ๒. วิชา ชีววทิ ยา ๓ รหัสวชิ า ว3๑๒๔๓ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 3. วิชาชวี วิทยา 5 รหสั วชิ า ว๓3245 โรงเรยี นเชยี งคาน สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๑๙ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน
๒ แบบประเมนิ การออกแบบหน่วยการจดั การเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ รายวชิ าวิทยาศาสตร์ชีวภาพ รหัสวิชา ว ๓๑๑๘๑ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๑.๕ หน่วย ครผู ู้สอน นางสาวอรอนงค์ วังคำ ๑. องคป์ ระกอบหน่วยการจัดการเรยี นรู้ สาระสำคญั มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน สาระการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ กิจกรรมการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ ๒. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชือ่ ) ……………………………….. ( นายอุทัย ไชยโชค ) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๓ แบบประเมนิ การออกแบบหน่วยการจัดการเรยี นรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ รายวิชาชีววิทยา ๓ รหัสวิชา ว3๑๒๔๓ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๑.๕ หน่วย ครูผูส้ อน นางสาวอรอนงค์ วงั คำ ๑. องคป์ ระกอบหน่วยการจัดการเรียนรู้ สาระสำคัญ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน สาระการเรียนรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ กจิ กรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ ๒. ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ ) ……………………………….. ( นายอุทยั ไชยโชค ) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๔ แบบประเมนิ การออกแบบหนว่ ยการจดั การเรยี นรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ รายวิชาชีววิทยา ๕ รหัสวชิ า ว๓3245 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๑.๕ หน่วย ครผู สู้ อน นางสาวอรอนงค์ วงั คำ ๑. องคป์ ระกอบหน่วยการจัดการเรียนรู้ สาระสำคัญ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน สาระการเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ กจิ กรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ ๒. ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื ) ……………………………….. ( นายอุทยั ไชยโชค ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๕ บนั ทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จงั หวดั เลย ที่ ......................... วนั ท.ี่ ...1.. เดอื นมถิ ุนายน พ.ศ.๒๕๖๔ เรือ่ ง ขออนญุ าตใชเ้ อกสารประกอบการออกแบบหนว่ ยการจัดการเรยี นรู้ เรียน ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนเชียงคาน ด้วยข้าพเจ้า นางสาวอรอนงค์ วังคำ ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดร้ บั มอบหมายให้ปฏิบัติการสอนในรายวชิ าต่อไปน้ี ๑. สาระ พื้นฐาน วิชาวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ รหัสวชิ า ว ๓๑๑๘๑ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ๒. สาระ เพ่มิ เติม วชิ าชีววิทยา 3 รหัสวชิ าว ว 3๑๒๔๓ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ๓. สาระ เพิม่ เตมิ วิชาชวี วิทยา 5 รหสั วชิ าว ว ๓3245 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามคำสัง่ มอบหมายงานการสอนที่ 116/ ๒๕๖4 ความละเอียดแจง้ แลว้ นนั้ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดทำเอกสารประกอบการออกแบบหน่วยการจัดการเรียนรู้ โดยวางแผนการ ออกแบบหน่วยการจัดการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ โดยยึดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ประกอบด้วยมาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ สาระการ เรียนรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ช้ินงาน การวัดและประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเรียบร้อยแล้วดังเอกสารท่ีแนบ จึงขออนุญาต ใช้เอกสารดังกลา่ วประกอบการจดั การเรียนรู้ ในภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖4 จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณา (ลงชอื่ ) ( นางสาวอรอนงค์ วงั คำ ) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนเชยี งคาน ความเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ลงชือ่ ) ( นายอทุ ยั ไชยโชค) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๖ ความเหน็ รองผูอ้ ำนวยการด้านการบรหิ ารงานวชิ าการ .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................... ....................................................................... .............................................................................................................................................................................. (ลงชอ่ื ) ( นายธรรมรัตน์ จิตรประเสรฐิ ) รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ความเหน็ ของผู้บังคับบัญชา .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ( นายอนุชา ศลิ าเกษ ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นเชยี งคาน
๗ คำนำ กระบวนการพัฒนาหลักสตู รสู่ชั้นเรยี นนนั้ โรงเรียนโดยกล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการได้กำหนดใหค้ รูผูส้ อน ทกุ คนมบี ทบาทในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ อยา่ งชดั เจนโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในสว่ นของการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งต้องวิเคราะหม์ าตรฐาน การเรียนรู้ ตัวช้วี ัด และสาระการเรยี นรู้ เพื่อให้ครูใชเ้ ปน็ แนวทางในการออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ครทู ุก คนทร่ี บั ผิดชอบสอนทุกกล่มุ สาระการเรียนรตู้ ้องออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ครบทกุ รายวิชา เพือ่ เปน็ แนวทาง ในการจดั ทำแผนการจดั การจัดการเรียนรู้ ดงั น้นั ขา้ พเจา้ จงึ ได้ดำเนนิ การรวบรวมและเรยี บเรียงเป็นเอกสาร “การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ยมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั สาระการเรียนรู้ สมรรถนะสำคญั ของ ผู้เรยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ภาระงาน/ชน้ิ งาน การวดั และประเมินผล กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื / แหลง่ เรียนรู้ เพอื่ ใชเ้ ปน็ กรอบหรอื ทิศทางในการจัดการเรียนรทู้ ีส่ อดคล้องกบั มาตรฐานและตวั ชี้วดั เพอ่ื ให้ ผเู้ รยี นเกดิ ความคิดรวบยอดจากการจัดการเรียนการสอนของครูผสู้ อนในแตล่ ะหนว่ ย โดยผู้สอนจะต้อง เตรยี มการสอนทีอ่ อกแบบไว้ในระดบั หน่วย รวมท้ังจัดเตรียมสือ่ /อุปกรณ/์ แหลง่ เรยี นรู้และวธิ ีวัดประเมนิ ผล เพือ่ ใชป้ ระกอบการจัดการเรียนรู้ในแตล่ ะครั้งให้มีความพร้อม และบรรลุวัตถุประสงคข์ องหลกั สตู ร และเกิด ประโยชนส์ ูงสดุ กับผู้เรียน หวงั เปน็ อย่างยง่ิ วา่ เอกสารเลม่ น้ีจะเป็นประโยชน์ ในการประกอบการจัดการเรยี นรเู้ รียนและเกิด ประโยชนส์ ูงสดุ กบั ผ้เู รียน และครทู สี่ นใจเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ลงชื่อ) ................................... ( นางสาวอรอนงค์ วงั คำ) ตำแหน่ง ครโู รงเรยี นเชยี งคาน
๘ การออกแบบหน่วยการจัดการเรยี นรู้ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ รหัสวิชา๓๑๑๘๑ (รายวิชาพ้นื ฐาน) จำนวน ๑.๕ หนว่ ย ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔
๙ การออกแบบหนว่ ยการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๑ การลำเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ วชิ าวิทยาศาสตรช์ วี ภาพ รหสั วชิ าว ๓๑๑๘๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๕ ชัว่ โมง ภาคเรียนท่ี ๑ /๒๕๖๔ ................................................................................................ ................................................................ ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว ๑.๒ เขา้ ใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หนว่ ยพื้นฐานของสิ่งมชี ีวิต การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ ความสมั พันธ์ ของโครงสรา้ ง และหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์ท่ีทำงานสมั พันธ์กัน ความสัมพนั ธข์ องโครงสร้าง และหนา้ ท่ี ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชทีท่ ำงานสมั พันธก์ ัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ๒. สาระสำคัญ สิ่งมชี ีวิตทุกชนิดลว้ นมีเซลล์เปน็ หนว่ ยพน้ื ฐานมีโครงสรา้ งสำคัญ 3 สว่ น ไดแ้ ก่ ส่วนทหี่ ่อห้มุ เซลล์ไซ โทพลาซึม และนวิ เคลียส เซลลม์ ีการลำเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์โดยอาศยั คุณสมบตั กิ ารเป็นเยื่อเลอื ก ผ่านของเยื่อหมุ้ เซลลท์ ่ีมลี พิ ิดและโปรตนี เป็นองค์ประกอบ ซ่ึงเซลล์จะมีรูปแบบการลำเลียงสารท่แี ตกต่างกนั หลายรูปแบบ ทัง้ การแพร่ การแพรแ่ บบฟาซิลเิ ทต การลำเลยี งสารโดยใช้พลังงาน และการลำเลยี งสารขนาด ใหญ่ (เอนโดไซโทซิสและเอกโซไซโทซิส) ๓. สาระการเรยี นรู้ เยอ่ื ห้มุ เซลล์มีโครงสรา้ งเป็นเย่อื หมุ้ สองช้ัน ที่มลี ิพิดเป็นองคป์ ระกอบและมีโปรตีนแทรกอยู่ สารทลี่ ะลาย ได้ในลิพิดและสารท่ีมีขนาดเล็กสามารถแพรผ่ า่ นเย่ือห้มุ เซลล์ไดโ้ ดยตรง ส่วนสารขนาดเล็กที่มปี ระจุตอ้ งลา เลียงผา่ นโปรตีนท่แี ทรกอย่ทู ีเ่ ยื่อหุ้มเซลล์ซึ่งมี 2 แบบ คือการแพร่แบบฟาซลิ ิเทต และแอกทีฟทรานสปอรต์ ใน กรณสี ารขนาดใหญ่ เช่นโปรตนี จะลาเลียงเขา้ โดยกระบวนการเอนโดไซโทซิส และลาเลียงออกโดย กระบวนการเอกโซไซโทซสิ ๔. ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude ) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซอื่ สตั ยส์ ุจริต ม่งุ มั่นในการทำงาน มีวนิ ัย รักความเป็นไทย ใฝเ่ รียนรู้ มีจติ สาธารณะ คุณลกั ษณะของผเู้ รยี น ตามหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล เปน็ เลศิ วชิ าการ สื่อสารสองภาษา ลำ้ หนา้ ทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกันรบั ผิดชอบตอ่ สังคมโลก อัตลักษณข์ องโรงเรียนเชียงคาน เรียนดี มวี นิ ยั ใฝก่ ฬี า รกั ษาวฒั นธรรม
๑๐ ๕. ดา้ นการ อ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น การอ่าน : ............................................................................................................................... การคดิ วเิ คราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ............................................................................................................................... ๖. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น : ................................................................................... ความสามารถในการสื่อสาร : .................................................................................... ความสามารถในการคิด : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปัญหา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๗. ภาระงาน/ช้นิ งาน - แผน่ พบั นำเสนอ เรื่อง เซลล์ของสงิ่ มชี ีวิต - รายงานกจิ กรรม เรือ่ ง ส่วนประกอบของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ - แผนผังมโนทศั น์ เร่ือง การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ๘. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมนิ วธิ ีประเมนิ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมินผล - ระดับคณุ ภาพ ๒ การประเมินชิ้นงาน/ - ตรวจแผ่นพบั นำเสนอ เร่อื ง - แบบประเมินชน้ิ งาน ผา่ นเกณฑ์ ภาระงาน (รวบยอด) เซลล์ของสงิ่ มีชวี ติ - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ ๒ การปฏิบัตกิ าร ผา่ นเกณฑ์ การประเมินก่อนเรียน - ตรวจรายงานกจิ กรรม เรอ่ื ง - แบบประเมนิ ชิ้นงาน -แบบทดสอบกอ่ นเรียน สว่ นประกอบของเซลลพ์ ชื และ - ระดับคณุ ภาพ ๒ เซลล์สัตว์ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจผงั มโนทัศน์เรอ่ื ง การ - ประเมินตามสภาพจริง ลำเลยี งสารผ่านเซลล์ - ตรวจแบบทดสอบ กอ่ นเรียน
๑๑ รายการประเมนิ วิธปี ระเมิน เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล การประเมนิ ระหว่าง - ตรวจใบงาน - ใบงาน - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ การจัดกิจกรรม - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ๑)โครงสรา้ งของเซลล์ - ตรวจใบงาน - ใบงาน - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ๒)การลำเลียงสารผ่าน - ประเมนิ การปฏิบตั ิการ - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ ๒ เซลล์ในสิ่งมีชวี ิต การปฏบิ ตั กิ าร - ผลงานทีน่ ำเสนอ ผ่านเกณฑ์ ๓)การปฏิบตั ิการ - ระดบั คุณภาพ ๒ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ ๔) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ การทำงานรายบคุ คล - ระดบั คุณภาพ ๒ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผลงาน การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ ๒ ๕) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล - ระดับคณุ ภาพ ๒ - แบบทดสอบหลงั เรียน ๖) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - หนงั สอื เรยี น ผ่านเกณฑ์ - แบบฝกึ หัด กล่มุ การทำงานกลุ่ม - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ๗) คุณลักษณะอันพึง - สงั เกตความมีวนิ ยั ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน ประเมนิ หลังเรยี น ๑) ทดสอบหลังเรียน - แบบทดสอบหลัง - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน เรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ที่
๙. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑๒ แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ ๑ : เซลลข์ องส่ิงมีชีวิต แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) เวลา ๕ ช่วั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ : การลำเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ เวลา ๓ ชว่ั โมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) ๑๐. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ ๑) หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ชวี ภาพ ม.๔ ๒) ใบงาน เร่อื ง โครงสรา้ งของเซลล์ ๓) ใบงาน เรอื่ ง การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ในสงิ่ มีชีวติ ๔) PowerPoint เร่ือง องคป์ ระกอบของสิ่งมชี วี ติ
๑๓ หน่วยที่ ๒ การรักษาดุลยภาพของรา่ งกายมนุษย์ วชิ าวิทยาศาสตร์ชวี ภาพ รหสั วชิ าว ๓๑๑๘๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๕ ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ /๒๕๖๔ ................................................................................................................................................................ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบตั ขิ องสงิ่ มีชวี ติ หน่วยพืน้ ฐานของส่งิ มชี ีวติ การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ความสมั พันธ์ ของโครงสรา้ ง และหนา้ ท่ีของระบบตา่ ง ๆของสัตวท์ ่ีทำงานสัมพนั ธ์กัน ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ ง และหนา้ ท่ี ของอวยั วะต่าง ๆ ของพืชทท่ี ำงานสัมพันธก์ นั รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ๒. สาระสำคญั การรักษาดุลยภาพของร่างกายมนษุ ย์ ประกอบด้วย ๑. การรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุ อาศัยการทำงานของไตท่ีมีหน่วยไตทำหน้าท่ีกรองของเสียออก จากเลือดและดูดกลับสารท่ีมีประโยชน์ ซ่ึงการควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ต่าง ๆ ในเลือดจะถูกควบคุมด้วย สมองส่วนไฮโพทาลามัสที่มีผลกระตุน้ หรอื ยบั ยงั้ การหลงั่ ฮอรโ์ มนแอนติไดยเู รตกิ จากตอ่ มใตส้ มองสว่ นหลัง ๒. การรกั ษาดุลยภาพของกรด-เบสในรา่ งกาย อาศยั การทำงานของปอด โดยการกำจดั CO2จากการหายใจ ออกเพื่อลดปริมาณ H+ในเลือด รวมทั้งการขับ/ดูดกลับสารและไอออนต่าง ๆ ที่หน่วยไต ซ่ึงมีผลต่อความเป็น กรด-เบสของเลอื ด ๓. การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในร่างกาย อาศัยการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือด ผิวหนัง และ กล้ามเนื้อโครงร่าง ซึ่งมีศูนย์ควบคุมอยู่ท่ีสมองส่วนไฮโพทาลามัสที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปกระตุ้นหรือยับยั้ง กระบวนการเมแทบอลิซมึ ตา่ ง ๆ ระบบภมู คิ มุ้ กันของร่างกาย แบ่งออกเป็น ๒ ระบบ ไดแ้ ก่ ๑. ระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะ มีความสามารถในการป้องกัน ทำลายเชื้อโรคและส่ิงแปลกปลอมได้ เพียงระดบั หน่ึเท่ากัน ซึ่งแบ่งกลไกการทำงานออกเป็น ๓ ระบบ ได้แก่ การป้องการทางกายภาพ เช่น ผวิ หนัง เย่ือบุผิว การป้องกันโดยสารเคมี เช่น สารเคมีในต่อมน้ำตา ต่อมน้ำลาย กระเพาะอาหาร และต่อมเหง่ือ และ การกลนื กินของเซลล์โดยการทำงานของเซลลเ์ ม็ดเลือดขาวชนิดฟาโกไซต์ ๒. ระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ เป็นกลไกป้องกัน ทำลายเช้ือโรคและส่ิงแปลกปลอมที่มีความจำเพาะต่อ แอนติเจนแต่ละชนิด อาศัยการทำงานของเซลล์เม้ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ ๒ ชนิด ได้แก่ เซลล์บีและเซลล์ที ซึ่ง เซลล์ทีจะพัฒนาเป็นเซลล์พลาสมาเพ่ือสร้างแอนติเจนเข้าทำลายสิ่งแปลกปลอม ส่วนเซลล์ทีทำหน้าท่ีจดจำ และระบุชนิดของเช้ือโรค หากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ จะก่อให้เกิดภาวะพร่องภูมิคุ้มกัน ซ่ึงเป็นภาวะที่เกิดจาก ระบบภูมคิ ุ้มกันตา่ ง ๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ และกอ่ ให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคภูมิแพ้โรคลปู ัสโรค ภูมิคุ้มกนั บกพร่อง ๓. สาระการเรียนรู้ ๑. การรักษาดลุ ยภาพของน้ำและสารในเลือดเกิดจากการทำงานของไต ซึ่งเป็นอวัยวะในระบบขบั ถ่ายที่มี ความสำคัญในการกำจัดของเสียท่ีมีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ รวมท้ังน้ำและสารท่ีมีปริมาณเกินความ ตอ้ งการของรา่ งกาย
๑๔ ๒. การกำจัดของเสียโดยไต เลือดที่เข้าสู่ไตจะถูกกรองที่โกลเมอรูลัสและโบว์แมนส์แคปซูลของหน่วยไต สารที่เป็นประโยชน์จะถูกดูดกลับที่ท่อหน่วยไตเข้าสู่เลือด ส่วนสารที่ไม่เป็นประโยชน์จะถูกขับจากเลือดเข้าสู่ ท่อหน่วยไต กอ่ นทจี่ ะถกู กำจัดออกจากรา่ งกายในรปู ของปัสสาวะ ๓. การรกั ษาดลุ ยภาพของกรด-เบสในเลือดเกิดจากการทำงานของไตที่ทำหนา้ ท่ขี บั หรอื ดูดกลับไฮโดรเจน ไอออน ไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออน และแอมโมเนียมไอออน และการทำงานของปอดท่ีทำหน้าที่กำจัด คาร์บอนไดออกไซด์ ๔. การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิภายในร่างกาย เกิดจากการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดที่ควบคุม ปริมาณเลือดไปท่ีผิวหนัง การทำงานของต่อมเหง่ือ และกล้ามเนื้อโครงร่าง ซึ่งส่งผลถึงปริมาณความร้อนที่ถูก เก็บหรอื ระบายออกจากรา่ งกาย ๕. เมื่อเช้ือโรคหรือส่ิงแปลกปลอมอื่นเข้าสู่เนื้อเยื่อในร่างกาย ร่างกายจะมีกลไกในการต่อต้าน หรือทำลาย ส่งิ แปลกปลอมทง้ั แบบไมจ่ ำเพาะและแบบจำเพาะ ๖. เซลล์เมด็ เลอื ดขาวกล่มุ ฟาโกไซต์จะมกี ลไกในการต่อตา้ นหรือทำลายส่ิงแปลกปลอมแบบไมจ่ ำเพาะ ๗. กลไกในการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอม แบบจำเพาะเป็นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ลิม โฟไซต์ชนิดบีและชนิดที ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวท้ังสองชนิดจะมีตัวรับแอนติเจน ทำให้เซลล์ทั้งสองสามารถ ตอบสนองแบบจำเพาะต่อแอนตเิ จนนัน้ ๆ ได้ ๘. เซลล์บีทำหน้าท่ีสร้างแอนติบอดี ซ่ึงช่วยในการจับกับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เพื่อทำลายต่อไปโดยระบบ ภูมคิ มุ้ กัน เซลล์ทที ำหนา้ ที่หลากหลาย เช่น กระต้นุ การทำงานของเซลลบ์ ีและเซลล์ทชี นดิ อน่ื ทำลายเซลลท์ ี่ติด ไวรสั และเซลล์ทผ่ี ดิ ปกตอิ ่นื ๆ ๔. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Attitude ) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ซ่ือสตั ย์สุจริต มงุ่ ม่นั ในการทำงาน มวี นิ ัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มจี ติ สาธารณะ คุณลกั ษณะของผู้เรียน ตามหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล เปน็ เลิศวิชาการ สื่อสารสองภาษา ลำ้ หน้าทางความคิด ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์ รว่ มกันรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมโลก อตั ลกั ษณข์ องโรงเรยี นเชยี งคาน เรยี นดี มวี นิ ัย ใฝก่ ีฬา รักษาวัฒนธรรม ๕. ด้านการ อา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน การอ่าน : ............................................................................................................................... การคิดวิเคราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ...............................................................................................................................
๑๕ ๖. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น : ................................................................................... ความสามารถในการสื่อสาร : .................................................................................... ความสามารถในการคิด : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปัญหา : ..................................................................................... ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต : ..................................................................................... ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. ภาระงาน/ชน้ิ งาน - ผงั สรปุ เร่อื ง การรักษาดุลยภาพของน้ำและแรธ่ าตุในรา่ งกาย - รายงาน เรอ่ื ง โรคทเ่ี กดิ จากการทำงานผิดปกตขิ องไต - ผังสรุป เรอื่ ง กลไกการรักษาดุลยภาพของกรด-เบส และอณุ หภูมใิ นรา่ งกาย - รายงานเรอื่ ง เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด - แผน่ พบั นำเสนอ เรอ่ื ง โรคภูมิคุ้มกนั บกพร่อง ๘. การวดั และประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีประเมิน เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมินผล การประเมินชนิ้ งาน/ -ตรวจผังสรุป เร่ือง การรักษา - แบบประเมินชน้ิ งาน - ระดับคุณภาพ ๒ ภาระงาน (รวบยอด) ดลุ ยภาพของนำ้ และแรธ่ าตุ - แบบประเมินชน้ิ งาน ผ่านเกณฑ์ ในรา่ งกาย - แบบประเมนิ ชิ้นงาน -ตรวจรายงาน เรอ่ื ง โรคทีเ่ กิด - แบบประเมนิ ชิ้นงาน - ระดบั คุณภาพ ๒ จากการทำงานผิดปกตขิ อง - แบบประเมินช้ินงาน ผา่ นเกณฑ์ ไต -ตรวจผงั สรุป เร่ือง กลไกการ - ระดบั คุณภาพ ๒ รกั ษาดุลยภาพของกรด-เบส ผา่ นเกณฑ์ และอุณหภูมใิ นรา่ งกาย -ตรวจรายงาน เรอ่ื ง เซลล์เม็ด - ระดับคุณภาพ ๒ เลอื ดขาว ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแผนพับนำเสนอ เรือ่ ง - ระดบั คณุ ภาพ ๒ โรคภมู คิ ุ้มกนั บกพร่อง ผา่ นเกณฑ์
๑๖ รายการประเมิน วิธีประเมิน เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ ผล การประเมนิ กอ่ นเรยี น -แบบทดสอบก่อน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมนิ ตามสภาพจริง เรียน ประเมนิ ระหวา่ ง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑) ส่วนประกอบและ - ตรวจใบงาน - ใบงาน - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝึกหดั - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ การทำงานของหน่วยไต - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ๒)การรักษาดุลยภาพ - ตรวจแบบฝกึ หดั ของกรด-เบส และ อุณหภูมิในร่างกาย ๓) ระบบภูมคิ ุ้มกัน - ตรวจใบงาน - ใบงาน - ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ๔) ความผิดปกติของ - ตรวจใบงาน - ใบงาน - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ระบบภมู คิ ุ้มกนั - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หดั - ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ๕) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานทน่ี ำเสนอ -ระดับคุณภาพ ๒ ผลงาน ผ่านเกณฑ์ ๖)พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบ บ สังเกตพ ฤติกรรม ระดบั คุณภาพ ๒ รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ ๗) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบ บ สังเกตพ ฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ ๒ การทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ ๘) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินยั - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ ๒ ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มั่น อนั พงึ ประสงค์ ในการทำงาน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ หลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ทดสอบหลังเรียน - แบบทดสอบหลัง - แบบทดสอบหลงั เรียน
๑๗ ๙. กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา ๔ ช่วั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ การรักษาดลุ ยภาพของน้ำและสารในร่างกาย เวลา ๓ ชว่ั โมง แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) เวลา ๒ ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ การรักษาดุลยภาพของกรด-เบสของเลือด เวลา ๓ ช่ัวโมง แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๕ การรกั ษาดลุ ยภาพของอณุ หภูมิภายในร่างกาย แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๖ ระบบภมู ิค้มุ กนั แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) ๑๐. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ ๑) หนังสอื เรียนวิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ม.๔ ๒) แบบฝึกหดั วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ๓) ใบงานเรื่อง สว่ นประกอบและการทำงานของหนว่ ยไต ๔) ใบงานทเ่ี ร่ือง เซลลเ์ มด็ เลือดขาวกลุ่มฟาโกไซต์ ๕) ใบงานเร่ือง การทำงานของเซลลบ์ แี ละเซลล์ที ๖) ใบงานเรื่อง โรคภมู ิคุ้มกันบกพร่อง ๗) PowerPoint นำเสนอเร่ืองการรกั ษาดลุ ยภาพของสิง่ มีชวั ติ ๘) PowerPoint นำเสนอเร่อื งระบบภูมคิ ุ้มกัน
๑๘ หน่วยท่ี ๓ การดำรงชีวติ ของพชื วชิ าวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ รหสั วชิ า ว ๓๑๑๘๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๐ ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ ๑ /๒๕๖๔ ............................................................................................................ .................................................... ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัตขิ องสิ่งมชี วี ิต หนว่ ยพืน้ ฐานของสิ่งมชี ีวติ การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ ความสมั พนั ธ์ ของโครงสรา้ ง และหน้าท่ีของระบบต่าง ๆของสตั ว์ท่ีทำงานสมั พันธก์ นั ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ที่ทำงานสมั พนั ธก์ ัน รวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ๒. สาระสำคัญ พืชสร้างอาหารผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยมีปัจจัยในการสังเคราะห์ด้วยแสงประกอบด้วยแสง แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ และคลอโรฟิลล์ ซ่ึงจะได้น้ำตาลกลูโคส และแก๊สออกซิเจนเป็นผลิตภัณฑ์ นอกจากน้ัน พืชยังสังเคราะห์สารอ่ืน ๆ ซึ่งมนุษย์สามารถนำสารสังเคราะห์จากพืชมาใช้ประโยชน์ แบ่ง ออกเป็นสารประกอบปฐมภูมิ (primary metabolites)เป็นสารท่ีได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง และ สารท่ีเกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ได้แก่ สารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และ สารประกอบทุติยภูมิ(secondary metabolites) เป็นสารที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงที่ผ่าน กระบวนการชวี สังเคราะหข์ องพชื ไดแ้ ก่ สารกล่มุ อลั คาลอยด์ ฟนี อลิก เทอร์พนี อยดแ์ ละสเตียรอยด์ การเจริญเติบโตของพืชเป็นผลมาจากการแบ่งเซลล์ การขยายขนาดของเซลล์ และการเปล่ียนแปลง รูปร่างของเซลล์ ซึ่งพืชต้องอาศัยปัจจัยควบคุมการเจริญเติบโต แบ่งออกเป็น ปัจจับภายนอกซึ่งเป็น สภาพแวดล้อมในบริเวณท่ีพืชเจริญเติบโต ได้แก่ แสง น้ำ แร่ธาตุ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แก๊สออกซิเจน และ ปัจจัยภายในซ่ึงเป็นสารเคมีที่เป็นฮอร์โมนพืช (plant hormones) แบ่งออกเป็น ๕ กลุ่ม ได้แก่ ออกซิน จิบ เบอเรลลิน ไซโตไคนิน เอทิลนิ กรดแอบไซซิก นอกจากนั้นมนษุ ย์สามารถสังเคราะห์ฮอร์โมนพชื มาใช้ประโยชน์ ดา้ นการเกษตร เช่น ออกซินสงั เคราะห์ ไซโตไคนนิ สงั เคราะห์ การตอบสนองต่อส่ิงเร้าของพืช เป็นการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของพืช และส่งผลต่อการเจริญเติบโต ของพืช โดยแสดงออกในลักษณะของการเคลื่อนไหว แบ่งออกเป็น ๒ รูปแบบ คือ ทรอปิกมูฟเมนต์ (tropic movement) เป็นการเคลื่อนไหวของพืชท่ีมีทิศทางสัมพันธ์กับสิ่งเร้าภายนอก ซ่ึงอาจเบนเข้าหาหรือเบนออก จากส่ิงเร้า และแนสติกมูฟเมนต์ (nastic movement) เป็นการเคล่ือนไหวของพืชที่ตอบสนองแบบไม่มี ทิศทางที่สัมพันธ์กับส่ิงเร้า เกิดจากการเปล่ียนแปลงปริมาณน้ำในเซลล์ การเปลี่ยนแปลงแรงดันเต่งภายใน เซลล์ ๓. สาระการเรียนรู้ ๑) กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเป็นจุดเร่ิมต้นของการสร้างน้ำตาลในพืช พืชเปล่ียนน้ำตาลไปเป็น สารอาหารและสารอ่ืน ๆ เชน่ คารโ์ บไฮเดรต โปรตีน ไขมนั ท่จี ำเป็นต่อการดำรงชวี ิตของพืชและสัตว์ ๒) กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างน้ำตาลในพืช พืชเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็น สารอาหารและสารอื่น ๆ เชน่ คารโ์ บไฮเดรต โปรตนี ไขมัน ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวติ ของพชื และสตั ว์
๑๙ ๓) ปัจจัยภายนอกท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโต เช่น แสง น้ำ ธาตุอาหาร คาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจน ปจั จัยภายใน เชน่ ฮอรโ์ มนพืช ซงึ่ พืชมีการสงั เคราะหข์ ้นึ เพ่อื ควบคุมการเจริญเตบิ โตในชว่ งชีวิตตา่ ง ๆ ๔) มนุษย์มีการสังเคราะห์สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชโดยเลียนแบบฮอร์โมนพืช เพ่ือนำมาใช้ควบคุม การเจรญิ เติบโตและเพิ่มผลผลติ ของพชื ๕) การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพืชแบ่งตามความสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้าได้ ได้แก่ แบบท่ีมีทิศทาง สัมพันธ์กับทิศทางของส่ิงเร้า เช่น ดอกทานตะวันหันเข้าหาแสง ปลายรากเจริญเข้าหาแรงโน้มถ่วงของโลก และแบบที่ไม่มีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของส่ิงเร้า เช่น การหุบและบานของดอก หรือการหุบและกางของใบ พืชบางชนิด ๖) การตอบสนองต่อส่ิงเร้าของพืชบางอย่างส่งผลต่อการเจริญเติบโต เช่น การเจริญในทิศทางเข้าหา หรือ ตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วงของโลก การเจริญในทิศทางเข้าหาหรือตรงข้ามกับแสง และการตอบสนองต่อการ สมั ผัสส่ิงเร้า ๔. ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Attitude ) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อย่อู ยา่ งพอเพียง ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ม่งุ มั่นในการทำงาน มีวนิ ัย รกั ความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ คุณลกั ษณะของผเู้ รียน ตามหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล เป็นเลศิ วิชาการ ส่อื สารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกนั รับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก อัตลกั ษณข์ องโรงเรียนเชียงคาน เรียนดี มีวินยั ใฝก่ ฬี า รกั ษาวัฒนธรรม ๕. ดา้ นการ อา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน การอา่ น : ............................................................................................................................... การคดิ วเิ คราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ............................................................................................................................... ๖. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น : ................................................................................... ความสามารถในการสื่อสาร : .................................................................................... ความสามารถในการคดิ : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปัญหา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : ..................................................................................... ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๒๐ ๗. ภาระงาน/ช้ินงาน - รายงานกิจกรรม เร่ือง การทดสอบแป้งจากการสังเคราะห์ด้วยแสงในใบพชื - รายงานกิจกรรม เรื่อง ปจั จัยภายนอกท่ีมีผลตอ่ การเจริญเติบโตของพชื - แผนผังมโนทัศน์ เรอื่ ง การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื - แผ่นพับนำเสนอ เร่อื ง สารสังเคราะห์จากพชื - แผนผงั มโนทัศน์ เรื่อง การตอบสนองต่อสิง่ เรา้ ของพชื - แผ่นพับนำเสนอ เรื่อง สารสงั เคราะห์จากพชื - แผนผังมโนทัศน์ เรือ่ ง ปัจจัยทีม่ ีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพืช ๘. การวดั และประเมินผล รายการประเมนิ วธิ ปี ระเมนิ เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ ผล การประเมินช้นิ งาน/ - ตรวจรายงานกิจกรรมเรื่อง - แบบประเมินปฏิบตั ิการ - ระดบั คุณภาพ ๒ ภาระงาน (รวบยอด) การทดสอบแป้งจากการ ผา่ นเกณฑ์ สังเคราะห์ด้วยแสงในใบ พชื - ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ - รายงานกิจกรรม เร่ือง - แบบประเมิน ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อ การออกแบบปฏบิ ตั ิการ - ระดับคุณภาพ ๒ การเจรญิ เตบิ โตของพืช ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแผนผังมโนทัศน์ - ระดับคณุ ภาพ ๒ เร่ือง การสังเคราะห์ด้วย - แบบประเมนิ ชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ แสงของพืช - ระดับคุณภาพ ๒ - ตรวจแผน ผับ น ำเสน อ ผา่ นเกณฑ์ เร่ือง สารสังเคราะห์จาก - แบบประเมินชน้ิ งาน พชื - ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแผน ผังมโนทัศน์ เรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการ - แบบประเมนิ ช้นิ งาน เจริญเตบิ โตของพืช - ตรวจแผนผังมโนทัศน์ เรื่อง การตอบสนองต่อสิ่ง - แบบประเมินชิ้นงาน เร้าของพชื
๒๑ รายการประเมิน วธิ ีประเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมินผล การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อน -แบบทดสอบกอ่ น - ประเมินตามสภาพ - แบบทดสอบก่อนเรียน เรียน เรยี น จรงิ ประเมนิ ระหวา่ งการจัด - ตรวจใบงาน - ใบงานที่ - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่าน กจิ กรรมการเรยี นรู้ - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หัด เกณฑ์ ๑) การสรา้ งอาหารของพชื - ร้อยละ ๖๐ ผา่ น เกณฑ์ ๒ )ปั จ จั ย ท่ี มี ผ ล ต่ อ ก า ร - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ระดับคุณภาพ ๒ เจรญิ เติบโตของพืช - แบบฝึกหดั - ตรวจแบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์ ๓) การตอบสนองต่อสิ่งเร้า - ตรวจใบงาน - ใบงาน ของพืช - ตรวจแบบฝึกหัด - ตรวจแบบฝกึ หดั ๔)การปฏบิ ัติการ - ประเมินการปฏบิ ตั ิการ - แบบประเมิน การปฏิบตั กิ าร ๕) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานท่นี ำเสนอ - ระดบั คุณภาพ ๒ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ๖) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ ๒ การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทำงานรายบุคคล ๗) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ ๒ กลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกล่มุ ผ่านเกณฑ์ ๘ ) คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ ๒ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่ัน อันพงึ ประสงค์ ในการทำงาน
๒๒ รายการประเมนิ วิธีประเมิน เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ ผล ประเมนิ หลงั เรยี น ทดสอบหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น - แบบทดสอบ - ร้อยละ ๖๐ ผ่าน - แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรยี น เกณฑ์ ๙. กจิ กรรมการเรียนรู้ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ สารอินทรีย์ในพชื แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เวลา ๓ ชว่ั โมง แผนการเรียนรทู้ ี่ ๘ ปจั จยั บางประการที่มีผลตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) เวลา ๖ ช่วั โมง แผนการเรยี นรูท้ ี่ ๙ การตอบสนองของพืชต่อสงิ่ เร้า แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เวลา ๑ ชวั่ โมง ๑๐. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ ๑) หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ ม.๔ ๒) แบบฝึกวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ม.4หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การดำรงชีวติ ของพชื ๓) ใบงานเรือ่ ง การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ๔) ใบงานเร่อื ง ฮอรโ์ มนพชื ๕) ใบงานเรื่อง การตอบสนองต่อสิ่งเรา้ ของพืช ๖) PowerPoint เรื่อง การดำรงชวี ิตของพชื
๒๓ หนว่ ยท่ี ๔ พันธกุ รรมและววิ ัฒนาการ วชิ าวทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ รหัสวชิ า ว ๓๑๑๘๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๒๐ ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ ๑ /๒๕๖๔ ................................................................................................................................................................ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐาน ว๑.๓ เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธกุ รรมทม่ี ีผลตอ่ สิง่ มชี ีวิตความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ๒. สาระสำคัญ ลกั ษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมชี วี ิตถกู ควบคุมด้วยยีน ซ่งึ เปน็ ลำดับเบสของนวิ คลโี อไทด์ช่วงหนงึ่ บนสาย ดีเอ็นเอท่อี ยบู่ นโครโมโซมในนวิ เคลียสของเซลลส์ ่ิงมีชวี ิต ซง่ึ ลกั ษณะพันธุกรรมต่าง ๆ สามารถถ่ายทอดจากพ่อ แม่สู่ลูกผ่านการสืบพันธ์ุ แบ่งออกเป็นการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมทางโครโมโซมร่างกาย เช่น โรคผิวเผือก โรคน้ิวเกิน และโรคธาลัสซีเมีย การถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมทางโครโมโซมเพศ ซ่ึงจะพบความผิดปกติใน เพศหญงิ และเพศชายแตกต่างกัน เชน่ โรคตาบอดสี โรคฮีโมฟีเลยี และการถ่ายทอดลักษณะพนั ธกุ รรมแบบมัล ติเปลิ แอลลีล ซ่งึ เกิดจากการควบคุมของแอลลีลมากกวา่ ๒ แอลลีล และยนี เด่นจะขม่ ยนี ดอ้ ยอย่างสมบูรณ์ สง่ิ มีชีวิตท่ีมีลักษณะทางพันธุกรรมแตกต่างจากรุ่นพ่อแม่ เกิดจากการเปลยี่ นแปลงลักษณะพันธกุ รรม ของส่ิงมีชีวิตท่ีเรียกว่า มิวเทชัน แบ่งออกเป็น ๒ ระดับ ได้แก่ มิวเทชันระดับยีนเป็นการเปล่ียนแปลงลำดับนิ วคลีโอไทด์ในสายดีเอ็นเอ เช่น โรคโลหิตจางจางเม็ดเลือดแดงรูปเคียว และมิวเทชันระดับโครโมโซม เป็นการ เปล่ียนแปลงของรูปร่างหรือจำนวนโครโมโซม เช่น กลุ่มอาการคริดูชาต์ กลุ่มอาการพาทัว กลุ่มอาการดาวน์ อย่างไรก็ตาม มนุษย์สามารถนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ทางการเกษตรเพ่ือเพิ่มผลผลิตและพัฒนาสายพันธุ์ เชน่ การสร้างพืชไรเ้ มลด็ การสรา้ งพืชสายพนั ธุ์ใหม่ ปัจจับันมีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอเพื่อการปรับแต่ง เคลอ่ื นย้ายยีนข้ามสิ่งมีชีวิต ทำ ให้ได้ส่ิงมีชีวิตที่มีลักษณะตามที่ต้องการที่เรียกว่า ส่ิงมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม (genetically modified organisms: GMOs) โดยอาศัยกระบวนการต่าง ๆ เช่น พันธุวิศวกรรม และการโคลนส่ิงมีชีวิต ซึ่งถูกนำมา ประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆ ท้ังด้านการแพทย์และเภสัชกรรม ด้านการเกษตร ด้านนิติวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ชีวจริยธรรม และผลกระทบทางด้านสังคมของ การใช้เทคโนโลยที างดีเอน็ เอ ๓. สาระการเรียนรู้ ๑) ดเี อ็นเอ มีโครงสร้างประกอบดว้ ยนิวคลีโอไทด์มาเรียงต่อกัน โดยยีนเปน็ ชว่ งของสายดเี อน็ เอทม่ี ลี ำดับ นวิ คลโี อไทด์ทีก่ ำหนดลักษณะของโปรตีนทีส่ งั เคราะห์ข้ึน ซง่ึ ส่งผลใหเ้ กดิ ลักษณะทางพนั ธุกรรมตา่ ง ๆ ๒) ลักษณะบางลักษณะมีโอกาสพบในเพศชายและเพศหญิงไม่เท่ากัน เช่นตาบอดสีและฮีโมฟีเลีย ซึ่งควบคุม โดยยีนบนโครโมโซมเพศ บางลักษณะมีการควบคุมโดยยีนแบบมัลติเปิลแอลลีล เช่น หมู่เลือดระบบ ABO ซ่ึง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมดงั กล่าวจดั เปน็ ส่วนขยายของพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล
๒๔ ๓) มิวเทชันท่ีเปลี่ยนแปลงลำดับนิวคลีโอไทด์ หรือเปลยี่ นแปลงโครงสร้าง หรือจำนวนโครโมโซม อาจสง่ ผล ทำให้ลักษณะของสิ่งมีชีวิตเปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ ซ่งึ อาจมผี ลดีหรือผลเสยี ๔) มนุษย์ใช้หลักการของการเกิดมิวเทชันในการชักนำให้ได้ส่ิงมีชีวิตที่มีลักษณะที่แตกต่างจากเดิม โดยการ ใช้รงั สีและสารเคมตี า่ ง ๆ ๕) มนุษย์นำความรู้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอมาประยุกต์ใช้ทางด้านการแพทย์และเภสัชกรรม เช่น การสร้าง สงิ่ มชี วี ิตดดั แปรพันธกุ รรม เพ่อื ผลติ ยาและวัคซีน ด้านการเกษตร เชน่ พชื ดัดแปรพนั ธุกรรมทต่ี า้ นทานโรคหรือ แมลง สัตว์ดัดแปรพันธุกรรมที่มีลักษณะตามที่ต้องการ และด้านนิติวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจ ลายพิมพ์ดี เอ็นเอ เพอ่ื หาความสมั พนั ธ์ทางสายเลอื ดหรอื เพอ่ื หาผู้กระทำผิด ๖) การใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอในด้านต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทางชีวภาพ ชีวจริยธรรม และ ผลกระทบทางดา้ นสงั คม ๔. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude ) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ซอ่ื สัตย์สจุ ริต มงุ่ มน่ั ในการทำงาน มวี ินยั รกั ความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ คุณลักษณะของผเู้ รียน ตามหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล เป็นเลิศวิชาการ สอ่ื สารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ รว่ มกันรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมโลก อัตลกั ษณข์ องโรงเรียนเชยี งคาน เรยี นดี มีวินัย ใฝ่กฬี า รกั ษาวฒั นธรรม ๕. ด้านการ อ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น การอ่าน : ............................................................................................................................... การคิดวเิ คราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ............................................................................................................................... ๖. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน : ................................................................................... ความสามารถในการสอื่ สาร : .................................................................................... ความสามารถในการคิด : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปัญหา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .................................................................................... ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๒๕ ๗. ภาระงาน/ช้นิ งาน - แผ่นพับนำเสนอ เรื่อง โครโมโซม ดเี อ็นเอ และยีน - แผน่ พับนำเสนอ เรอ่ื ง สิ่งมชี ีวติ ดดั แปรพันธุกรรม - รายงานเรื่อง การประยุกต์ใชป้ ระโยชนจ์ ากการเกิดมวิ เทชันของส่งิ มีชีวติ ๘. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมิน วิธีประเมนิ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล - ระดับคุณภาพ ๒ การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระ - ต รว จ ผั งส รุป เร่ือ ง - แบบประเมนิ ชิน้ งาน ผ่านเกณฑ์ งาน (รวบยอด) โครโมโซม ดีเอ็นเอ - ระดับคณุ ภาพ ๒ และยีน ผ่านเกณฑ์ การประเมินก่อนเรยี น -แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจรายงาน เร่ือง -แบบประเมินชิน้ งาน - ระดับคณุ ภาพ ๒ ก า ร ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ ผา่ นเกณฑ์ ประโยชน์จากการเกิด มิวเทชันของสง่ิ มีชีวติ - ประเมินตามสภาพจรงิ - ตรวจแผ่นพับนำเสนอ - แบบประเมินชน้ิ งาน - รอ้ ยละ ๖๐ผ่านเกณฑ์ เร่ือง ส่ิงมีชีวิตดัดแปร - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ พนั ธุกรรม - ตรวจแบบทดสอบก่อน - แบบทดสอบก่อนเรียน เรียน การประเมนิ ระหวา่ ง - ตรวจใบงาน - ใบงาน การจดั กิจกรรม - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด ๑)การถา่ ยทอดลักษณะ ทางพนั ธุกรรม ๒) การเปลยี่ นแปลงทาง - ตรวจใบงาน - ใบงาน - รอ้ ยละ ๖๐ผ่านเกณฑ์ - แบบฝึกหัด - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ พนั ธุกรรม - ตรวจแบบฝึกหัด
๒๖ รายการประเมิน วิธีประเมนิ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมินผล ๓)เทคโนโลยที างดเี อน็ เอ - ตรวจใบงาน - ใบงาน - ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หดั - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัด - ผลงานทน่ี ำเสนอ - ระดบั คุณภาพ ๒ ๔) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทำงานรายบุคคล - ระดบั คุณภาพ ๒ ผลงาน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ ๕) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลุม่ - ระดับคณุ ภาพ ๒ รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ๖) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบทดสอบหลังเรียน ผา่ นเกณฑ์ กลุ่ม การทำงานกลุ่ม - หนงั สือเรียน - แบบฝึกหัด - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ๗ ) คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง - สังเกตความมวี ินยั ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน ประเมนิ หลังเรยี น ทดสอบหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั - แบบทดสอบหลังเรยี น เรียน ๙. กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา ๗ ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ที ๑๐ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม เวลา ๓ ชว่ั โมง แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เวลา ๖ ชวั่ โมง แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๑๑ การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม เวลา ๔ ชว่ั โมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๑๒ เทคโนโลยที างดเี อ็นเอ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) แผนการเรยี นรู้ที่ ๑๓ วิวัฒนาการและความหลากหลาย แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es)
๒๗ ๑๐. สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ๑) หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ม.๔ ๒) แบบฝึกวิทยาศาสตรช์ วี ภาพ ม.๔ ๓) ใบงานความสัมพันธข์ องโครโมโซม ดเี อน็ เอ และยีน ๔) ใบงาน เรอื่ ง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมทางโครโมโซมเพศ ๕) ใบงาน เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบมัลติเปิลแอลลลี ๖) ใบงาน เร่ือง ความผดิ ปกติจากมวิ เทชนั ระดับโครโมโซม ๗) PowerPoint เรื่อง พันธกุ รรม ๘) PowerPoint นำเสนอเรื่องส่ิงมชี ีวติ ดัดแปรพนั ธุกรรม ๙) PowerPoint นำเสนอเรอื งมวิ เทชัน
๒๘ หน่วยที่ ๕ ชีวติ ในสง่ิ แวดล้อม วิชาวทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ รหัสวิชาว ๓๑๑๘๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๐ ชวั่ โมง ภาคเรียนที่ ๑ /๒๕๖๔ ....................................................................................... ......................................................................... ๑. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พันธร์ ะหว่างสิ่งไมม่ ีชีวิตกับสงิ่ มีชีวติ และ ความสมั พนั ธ์ระหว่างส่งิ มีชวี ติ กับส่ิงมีชีวติ ตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถา่ ยทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนท่ีในระบบนเิ วศ ความหมายของประชากร ปัญหา และผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อม แนวทางในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิง่ แวดลอ้ มรวมท้ังนำความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์ ๒. สาระสำคญั ระบบนิเวศ(ecosystem) เป็นการอาศัยอยู่ร่วมกันของสง่ิ มชี ีวิตในบริเวณใดบริเวณหน่ึง ซึ่งส่ิงมีชีวิตจะ มีความสัมพันธ์กับส่ิงมีชีวิตและส่ิงไม่มีชีวิตในบริเวณนั้น มีโครงสร้างประกอบด้วย กลุ่มสิ่งมีชีวิต แหล่งท่ีอยู่ อาศัย และสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศบนโลกมีหลากหลายแบบข้ึนอยู่กับลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ ซ่ึง ระบบนิเวศในแต่ละพ้ืนที่ เรียกว่า ชีวนิเวศหรือไบโอม (biomes) แบ่งออกเป็น ๕ ประเภท ได้แก่ ไบโอมทุนด ราไบโอมไทกาไบโอมเขตอบอุ่น (ไบโอมป่าผลัดใบไบโอมทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น) ไบโอมทะเลทรายไบโอมเขต ร้อนไบโอม(ป่าฝนเขตร้อน ไบโอมทงุ่ หญา้ เขตร้อน) ในระบบนิเวศ จะมีการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มสิ่งมีชีวิตอย่างเป็นลำดับขั้น เรียกว่า การแทนท่ีของ ระบบนเิ วศ (ecological succession) โดยมีปัจจัยทางกายภาพและทางชีวภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิ(primary succession) ซึ่งเร่ิมจากบริเวณที่ไม่เคยมี ส่งิ มีชวี ิตมาก่อน จนกลายเป็นสังคมสมบูรณ์ทีม่ ีความสมดุมทางธรรมชาติและการเปล่ียนแปลงแทนที่แบบทุติย ภูมิ(secondary succession) ซ่ึงเกิดขึ้นในพื้นที่ท่ีเคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ แต่พื้นที่ถูกทำลาย จนกลายเป็น สังคมสมบรู ณ์ การเปล่ียนแปลงขององค์ประกอบในระบบนิเวศมีผลทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงของขนาดประชากร แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ องค์ประกอบทางกายภาพ เป็นองคป์ ระกอบท่ีไม่มีชีวติ เช่น อุณหภูมิ แสง น้ำ และความช้ืน แร่ธาตุ ความเป็นกรด-เบสของดินและน้ำ แก๊สต่าง ๆ และองค์ประกอบทางชีวภาพ เป็น องค์ประกอบท่ีมีชีวิต ซึ่งจะมีความสัมพันธ์ในรูปของโซ่อาหารและสายใยอาหาร ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ ย่อยสลาย ในปัจจุบัน ระบบนิเวศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เนื่องจากมีการนำทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมมาใช้ประโยชน์จนก่อให้เกิดการลดจำนวนและเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม อย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่มาจากการกระทำของมนุษย์ ได้แก่การเพ่ิมขึ้นของประชากรมนุษย์ การขยายตัวของ ชมุ ชนเมืองอย่างรวดเร็ว การใชเ้ ทคโนโลยีสมัยใหมเ่ พิม่ มากขึน้ การสร้างส่ิงก่อสร้าง การสงคราม และความไม่ รู้หรือรู้เทา่ ไม่ถงึ การณ์ ซ่ึงการลดจำนวนและเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มนำมาซึ่งปัญหา ท้ังในระดับท้องถ่ิน เช่น การทิ้งขยะในชุมชน การปล่อยน้ำเสียจากกิจกรรมในครัวเรือน ระดับประเทศ เช่น การลักลอบตดั ไมท้ ำลายปา่ การขาดแคลนน้ำหรือภยั แลง้ และระดบั โลก เชน่ ฝนกรด ภาวะโลกร้อน รโู หว่
๒๙ โอโซน จึงจำเป็นต้องมีแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเพื่อให้มี ทรัพยากรธรรมชาติใช้ตลอดไป เช่น การใช้แบบยงั่ ยนื การเกบ็ กกั การรกั ษาซ่อมแซมการฟนื้ ฟูและการป้องกัน ๓. สาระการเรยี นรู้ ๑) บริเวณของโลกแต่ละบริเวณมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน แบ่งออกได้เป็นหลายเขตตามสภาพ ภูมอิ ากาศและปริมาณน้ำฝน ทำใหม้ รี ะบบนเิ วศทีห่ ลากหลาย ซ่งึ สง่ ผลใหเ้ กิดความหลากหลายของไบโอม ๒) การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศเกิดขึน้ ได้ตลอดเวลาท้ังการเปลี่ยนแปลงที่เกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติและ เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ๓) การเปล่ียนแปลงแทนท่ีเป็นการเปล่ียนแปลงของกลุ่มส่ิงมีชีวิตที่เกิดข้ึนอย่างช้า ๆ เป็นเวลานานซึ่งเป็น ผลจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบทางกายภาพและทางชีวภาพ ส่งผลให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไปสู่ สมดุลจนเกิดสงั คมสมบูรณ์ได้ ๔)การเปล่ียนแปลงขององค์ประกอบในระบบนิเวศ ท้ังทางกายภาพและทางชีวภาพมีผลต่อการ เปลย่ี นแปลงขนาดของประชากร ๕) มนุษยใ์ ช้ทรัพยากรธรรมชาตโิ ดยปราศจากความระมดั ระวัง และมกี ารพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วย อำนวยความสะดวกต่าง ๆ แก่มนษุ ย์ ส่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๖)ปัญหาท่ีเกิดกับทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม บางปัญหาส่งผลกระทบในระดับท้องถ่ิน บางปัญหา กส็ ง่ ผลกระทบในระดบั ประเทศ และบางปญั หาส่งผลกระทบในระดับโลก ๗) การลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การกำจดั ของเสียทเ่ี ป็นสาเหตขุ องปัญหาสิง่ แวดล้อม และการ วางแผนจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ดี เป็นตัวอย่างของแนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการ ลดปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มที่เกิดขึน้ เพอ่ื ให้เกดิ การใชป้ ระโยชนท์ ย่ี ่ังยืน ๔. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Attitude ) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพียง ซือ่ สัตย์สุจริต มุ่งม่ันในการทำงาน มีวนิ ัย รักความเปน็ ไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มีจติ สาธารณะ คุณลกั ษณะของผู้เรียน ตามหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล เปน็ เลิศวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ ร่วมกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก อตั ลกั ษณข์ องโรงเรยี นเชยี งคาน เรยี นดี มีวินัย ใฝ่กีฬา รักษาวัฒนธรรม ๕. ด้านการ อ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น การอ่าน : ............................................................................................................................... การคิดวิเคราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ...............................................................................................................................
๓๐ ๖. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน : ................................................................................... ความสามารถในการสอ่ื สาร : .................................................................................... ความสามารถในการคิด : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปัญหา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .................................................................................... ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. ภาระงาน/ช้นิ งาน - รายงาน เรื่อง ไบโอมระดบั โลก - ป้ายนเิ ทศ เรือ่ ง ไบโอมระดับโลก - ผงั สรุป เรอื่ ง การแบ่งเขตของไบโอมระดบั โลก - รายงาน เรือ่ ง ไบโอมของประเทศไทย - รายงาน เรื่อง การเปลี่ยนแปลงแทนทข่ี องระบบนเิ วศในท้องถนิ่ - รายงาน เรือ่ ง ความสมั พันธข์ องสงิ่ มชี ีวิตในระบบนิเวศ - รายงาน เรื่อง ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ๘. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ปี ระเมิน เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมินผล การประเมนิ ช้นิ งาน/ ภาระ - ตรวจสอบรายงานและ - แบบประเมินชน้ิ งาน - ระดับคุณภาพ ๒ งาน (รวบยอด) ปา้ ยนเิ ทศ เร่อื ง ไบโอม - แบบประเมินชิ้นงาน ผ่านเกณฑ์ ระดับโลก - แบบประเมนิ ชิ้นงาน - แบบประเมินชิ้นงาน - ระดบั คุณภาพ ๒ - ตรวจผงั สรุป เร่ือง การ - แบบประเมินช้นิ งาน ผา่ นเกณฑ์ แบง่ เขตของไบโอมระดบั - แบบประเมนิ ชิน้ งาน โลก - ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ - ตรวจรายงาน เรอ่ื ง - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ไบโอมของประเทศไทย ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจรายงาน เรอ่ื ง การ - ระดบั คุณภาพ ๒ เปลย่ี นแปลงแทนที่ของ ผ่านเกณฑ์ ระบบนเิ วศในท้องถ่ิน - ตรวจรายงาน เรอ่ื ง - ระดับคุณภาพ ๒ ความสมั พนั ธข์ องส่ิงมชี ีวิต ผา่ นเกณฑ์ ในระบบนิเวศ - ตรวจรายงาน เร่ือง ทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ ม
๓๑ รายการประเมิน วิธีประเมิน เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ ผล ประเมินก่อนเรยี น -แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง กอ่ นเรียน การประเมินระหวา่ ง การ - ใบงาน - รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ จดั กิจกรรม - ตรวจใบ - แบบฝกึ หดั ๑)ความหลากหลายของ - ตรวจแบบฝึกหัด - ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ - ตรวจใบงาน - ใบงาน ระบบนเิ วศ - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจใบงาน ๒)การเปลย่ี นแปลง - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงาน - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ของระบบนิเวศ - แบบฝกึ หัด - ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ๓) ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม - แบบประเมนิ - ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ การปฏิบัตกิ าร ๓)การปฏิบัติการ - ประเมินการปฏิบัติการ - ระดบั คณุ ภาพ ๒ - ผลงานทนี่ ำเสนอ ผา่ นเกณฑ์ ๔) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ๕) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ ๒ การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ ๖) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุม่ การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ ๒ ๗) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ ๒ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ อนั พึงประสงค์
๓๒ รายการประเมิน วิธีประเมิน เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ ผล ประเมนิ หลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั - แบบทดสอบหลงั เรียน - รอ้ ยละ๖๐ผา่ นเกณฑ์ ทดสอบหลงั เรียน เรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน - หนงั สอื เรียน - รอ้ ยละ ๖๐ผา่ นเกณฑ์ - แบบฝกึ หัด - รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ๙. กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา ๗ ชวั่ โมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ ๑๔ ระบบนเิ วศ เวลา ๓ ชวั่ โมง แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๑๕ มนษุ ย์ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) ๑๐. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ ๑) หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ม.๔ ๒) แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ม.๔ ๓) ใบงานเร่ือง ไบโอมระดบั โลก ๔) ใบงานเรื่อง การเปลีย่ นแปลงแทนทข่ี องระบบนเิ วศ ๕) ใบงานเรื่อง ปัญหาสง่ิ แวดลอ้ ม ๖) PowerPoint เร่ือง สงิ่ มชี วี ิตในส่ิงแวดล้อม
๓๓ การออกแบบหน่วยการจัดการเรยี นรู้ วิชาชีววิทยา 3 รหัสวชิ า ว3๑๒๔๓ (รายวชิ าเพิ่มเตมิ ) จำนวน ๑.๕ หน่วย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5
๓๔ การออกแบบหน่วยการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๘ การสืบพนั ธ์พุ ชื ดอก วิชาชวี วิทยา 3 รหสั วชิ าว ว3๑๒๔๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา ๑2 ชวั่ โมง ภาคเรยี นที่ ๑ /๒๕๖4 ................................................................................................................................................................ ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระชีววิทยา สาระชวี วิทยา ๓ เขา้ ใจสว่ นประกอบของพชื การแลกเปลี่ยนแกส๊ และคายนำ้ ของพืช การลำเลียงของ พชื การสังเคราะห์ดว้ ยแสง การสบื พันธุ์ของพืชดอกและการเจรญิ เติบโต และการตอบสนองของพืช รวมทั้งนำ ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 1. อธบิ ายวฏั จกั รชีวติ แบบสลบั ของพืชได้ 2. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสรา้ งเซลล์สบื พันธ์ุเพศผู้และเพศเมียของพชื ดอก และอธบิ าย การปฏิสนธขิ องพืชดอก 3. อธบิ ายการเกิดเมลด็ และการเกิดผลของพชื ดอก โครงสร้างของเมล็ดและผล และยกตวั อยา่ งการ ใช้ประโยชนจ์ ากโครงสร้างต่างๆของเมล็ดและผล ๒. สาระสำคญั พชื ดอกมวี งจรชวี ติ แบบสลบั คือมีช่วงชวี ิตที่เปน็ ทั้ง ดิพลอยด์ และ แฮพลอยด์ สลับกนั ไปในตลอดชว่ ง ชีวิต ในโครงสร้างของดอกจะมสี ่วนประกอบอยู่ 4 สว่ นคือ กลีบเลยี้ ง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมีย ซึ่งใช้ ในการแยกประเภทของดอกให้เปน็ ดอกสมบูรณ์เพศ หรอื ดอกไมส่ มบรู ณ์เพศ โดยดอกสมบูรณ์เพศจะเป็นดอก ครบสว่ น การสืบพนั ธ์ขุ องพืชจะเกิดขนึ้ 2 ครงั้ เรียกการปฎสิ นธซิ อ้ น ซงึ่ จะทำให้เกดิ อาหารสะสมให้กับเมล็ด เรียกว่า เอนโดสเปริ ์ม โดยการงอกของเมล็ด มที ้ังเป็นแบบใบเลย้ี งคูห่ รอื ใบเล้ยี งเดยี่ ว หลังการปฎิสนธิจะทำให้ เกดิ ผล ประเภทของผลขึ้นอยู่กับรังไข่และออวลุ ในพชื ยงั มีการสืบพนั ธุ์แบบไม่อาศยั เศอีกดว้ ย ซึ่งต้นพืชท่ีได้จะ ไม่แข็งแรงเท่ากบั ตน้ ทีเ่ กิดจากเมล็ด ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 วฏั จกั รชีวิตและการสบื พันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก 3.2 การสืบพันธุ์แบบไม่อาศยั เพศของพชื ดอกและการขยายพนั ธ์พุ ชื 3.3 การเกิดเมลด็ และการเกิดผลของพืชดอก โครงสร้างของเมล็ดและผล และยกตัวอย่างการใช้ ประโยชนจ์ ากโครงสร้างต่างๆของเมลด็ และผล ๔. ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude ) คุณลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อย่อู ย่างพอเพยี ง ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มุง่ มั่นในการทำงาน มวี นิ ัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มีจติ สาธารณะ
๓๕ คุณลักษณะของผเู้ รียน ตามหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล เปน็ เลิศวชิ าการ ส่ือสารสองภาษา ล้ำหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ รว่ มกันรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมโลก อัตลกั ษณข์ องโรงเรียนเชยี งคาน เรยี นดี มีวนิ ยั ใฝก่ ีฬา รักษาวฒั นธรรม ๕. ด้านการ อ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน การอา่ น : ............................................................................................................................... การคดิ วเิ คราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ............................................................................................................................... ๖. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน : ................................................................................... ความสามารถในการสื่อสาร : .................................................................................... ความสามารถในการคดิ : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปญั หา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .................................................................................... ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. ภาระงาน/ชิน้ งาน - ผังมโนทัศน์ เรอื่ ง วงจรชีวิตของพืช - ผงั มโนทัศน์ เรือ่ ง โครงสร้างของดอกและประเภทของดอก - ผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง การสืบพันธ์ุของพืชดอก - ใบงาน เร่ือง การสบื พันธ์ุของพชื ดอก - ผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง การสบื พันธุข์ องพืชดอกและการดดั แปลงพันธุข์ องสิ่งมีชวี ิต - ผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง ประเภทของผล ๘. การวัดและประเมนิ ผล วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ รายการวดั - ระดบั คณุ ภาพ 2 8.1 การประเมินช้ินงาน/ - ผังมโนทัศน์ เรือ่ ง วงจร - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ ภาระงานรวบยอด ชีวิตของพืช ผงั มโนทัศน์ - ผังมโนทัศน์ เรือ่ ง - ระดับคณุ ภาพ 2 โครงสร้างของดอกและ - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ ประเภทของดอก ผังมโนทศั น์ - ผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง การ - ระดบั คุณภาพ 2 - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ สืบพันธุข์ องพชื ดอก ผงั มโนทัศน์
รายการวดั วธิ ีวัด เคร่อื งมือ ๓๖ - แบบประเมนิ - ผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง การ เกณฑ์การประเมิน ผังมโนทัศน์ สืบพันธข์ุ องพชื ดอกและ - ระดบั คณุ ภาพ 2 - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ การดดั แปลงพันธขุ์ อง ผังมโนทัศน์ - ระดบั คุณภาพ 2 สิง่ มชี ีวิต - แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ กอ่ นเรียน - ผังมโนทัศน์ เรือ่ ง - ประเมินตามสภาพ - แบบฝึกหดั จรงิ ประเภทของผล - ร้อยละ 60 8.2 การประเมินก่อนเรียน ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ก่อนเรยี น หน่วย ก่อนเรียน - ร้อยละ 60 การเรียนรู้ที่ 1 ผา่ นเกณฑ์ 8.3 การประเมินระหวา่ ง - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจัดกิจกรรม - ร้อยละ 60 1) โครงสรา้ งดอกและ - ตรวจแบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์ ชนิดของผล - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) วัฏจักรชีวติ แบบ - ตรวจใบงานท่ี 1 - ใบงานท่ี 1 สลบั ของพืชดอก - แบบฝึกหดั - ตรวจแบบฝกึ หดั 3) การสืบพนั ธ์ุแบบ - ตรวจใบงานท่ี 2 - ใบงานที่ 2 อาศัยเพศของพืชดอก - แบบฝึกหดั - ตรวจแบบฝึกหดั
รายการวัด วิธีวัด เคร่ืองมอื ๓๗ - ใบงานที่ 3 4) การใชป้ ระโยชน์ - ตรวจใบงานที่ 3 - ใบงานท่ี 3 เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบฝกึ หดั จากโครงสร้างต่างๆของผล - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ และเมลด็ - ตรวจใบงานที่ 4 - รอ้ ยละ 60 - ตรวจแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 5) การปฏบิ ตั กิ าร - ประเมินการปฏิบตั ิการ - แบบประเมนิ การ - ระดับคุณภาพดี ปฏิบตั ิการ ผ่านเกณฑ์ 6) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานทน่ี ำเสนอ - ระดบั คุณภาพดี ผลงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 7) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี 8) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ การทำงานกลุม่ การทำงานกลมุ่ - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี 9) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินัย อันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ ในการทำงาน - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพดี คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ 8.4 ประเมินหลงั เรยี น - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 - แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ หลังเรยี น หนว่ ย หลังเรยี น การเรียนร้ทู ี่ 1 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา 3 ชว่ั โมง เวลา 3 ชวั่ โมง • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 : โครงสรา้ งดอกและชนดิ ของผล แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 : วฏั จกั รชวี ติ แบบสลับของพืชดอก แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 : การสืบพนั ธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก
๓๘ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 3 ชวั่ โมง • แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 : การใชป้ ระโยชนจ์ ากโครงสร้างตา่ งๆของผลและเมล็ด แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 3 ชว่ั โมง (รวม 12 ช่วั โมง) 10. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 10.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น รายวชิ าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.5 เลม่ 3 2) แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การสบื พันธุ์พืชดอก 3) แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การสืบพันธ์ุพืชดอก 4) ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง โครงสร้างดอกและชนดิ ของผล 5) ใบงานท่ี 2 เร่อื ง วฏั จกั รชวี ติ แบบสลับของพืชดอก 6) ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง การสืบพนั ธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก 7) ใบงานที่ 4 เรื่อง การใชป้ ระโยชน์จากโครงสร้างต่างๆของผลและเมล็ด 8) PowerPoint เร่ือง การสบื พันธพ์ุ ืชดอก 9) QR Code เรื่อง การสืบพันธ์ุพชื ดอก 10) วีดทิ ศั น์ เรอ่ื ง การสบื พนั ธพ์ุ ืชดอก 10.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) หอ้ งสมุด 3) หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร 4) ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์
๓๙ การออกแบบหนว่ ยการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 9 โครงสร้างและการเจรญิ เติบโตของพืชดอก วิชาชวี วิทยา 3 รหัสวชิ าว ว3๑๒๔๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 เวลา ๑1 ชวั่ โมง ภาคเรียนท่ี ๑ /๒๕๖4 ................................................................................................................................................................ ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ สาระชีววิทยา สาระชีววทิ ยา ๓ เขา้ ใจส่วนประกอบของพชื การแลกเปล่ียนแกส๊ และคายนำ้ ของพชื การลำเลยี งของ พืช การสงั เคราะหด์ ้วยแสง การสบื พนั ธ์ขุ องพืชดอกและการเจรญิ เติบโต และการตอบสนองของพืช รวมท้ังนำ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 4. อธิบายเกี่ยวกบั ชนดิ และลักษณะของเน้ือเยอื่ พืช และเขียนแผนผังเพ่อื สรปุ ชนดิ ของเนื้อเยื่อพชื 5. สงั เกต อธิบาย และเปรยี บเทยี บโครงสร้างภายในของรากพชื ใบเล้ียงเดีย่ วและรากพชื ใบเลี้ยงคู่จาก การตัดตามขวาง 6. สงั เกต อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ งภายในของลำตน้ พืชใบเลี้ยงเดีย่ วและลำตน้ ของพชื ใบ เลยี้ งคจู่ ากการตัดตามขวาง 7. สงั เกต และอธบิ ายโครงสร้างภายในของใบพืชจากการตัดตามขวาง ๒. สาระสำคญั การจดั ระเบียบโครงสรา้ งพชื เร่มิ จากเซลล์ หลายเซลลร์ วมกนั เป็นเน้ือเยื่อ หลายเนื้อเยื่อรวมกนั เปน็ อวยั วะ หลายอวยั วะรวมกนั เป็นระบบอวยั วะ หลายระบบรวมกนั เปน็ ต้นพืช เนื้อเยอ่ื ของพืชมี 2 ส่วนคอื เน้อื เยื่อเจริญและเนื้อเย่ือถาวร ในสว่ นต่างๆของพชื มีเนื้อเยื่อหลายชนดิ และมีหน้าทตี่ ่างกัน เพื่อทำหน้าท่ี ลำเลียงนำ้ และอาหารและเป็นโครงรา่ งของต้นพชื ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอื้ เย่อื พชื 3.2 อวัยวะและหน้าทขี่ องอวัยวะพืช 3.3 เปรยี บเทียบโครงสรา้ งภายในของรากพืชใบเล้ยี งเดี่ยวและรากพืชใบเลย้ี งค่จู ากการตดั ตามขวาง ๔. ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ( Attitude ) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่อู ยา่ งพอเพียง ซ่ือสัตยส์ ุจริต ม่งุ ม่ันในการทำงาน มีวินยั รกั ความเปน็ ไทย ใฝเ่ รียนรู้ มจี ติ สาธารณะ
๔๐ คุณลักษณะของผ้เู รียน ตามหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล เปน็ เลิศวิชาการ สอ่ื สารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ ร่วมกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก อัตลักษณข์ องโรงเรียนเชยี งคาน เรียนดี มีวนิ ยั ใฝ่กีฬา รกั ษาวัฒนธรรม ๕. ด้านการ อ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น การอ่าน : ............................................................................................................................... การคดิ วิเคราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ............................................................................................................................... ๖. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน : ................................................................................... ความสามารถในการส่ือสาร : .................................................................................... ความสามารถในการคดิ : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปญั หา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ : .................................................................................... ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. ภาระงาน/ช้ินงาน - ผังมโนทัศน์ เรื่อง เนอื้ เยื่อพืช - ผังมโนทศั น์ เรอื่ ง อวัยวะและหน้าท่ขี องอวัยวะพชื - ผังมโนทัศน์ เรอื่ ง เปรยี บเทียบโครงสร้างภายในของรากพืชใบเลี้ยงเด่ียวและรากพชื ใบเลย้ี งค่จู าก การตดั ตามขวาง ๘. การวดั และประเมินผล วธิ วี ัด เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน รายการวดั - ระดบั คณุ ภาพ 2 8.1 การประเมินชน้ิ งาน/ - ผงั มโนทัศน์ เร่ือง เน้ือเยื่อ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ ภาระงานรวบยอด พชื ผังมโนทัศน์ - ผังมโนทัศน์ เร่อื ง อวยั วะ - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2 และหน้าทข่ี องอวยั วะพชื ผังมโนทศั น์ ผ่านเกณฑ์ - ผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2 เปรยี บเทยี บโครงสรา้ ง ผงั มโนทัศน์ ผา่ นเกณฑ์ ภายในของรากพชื ใบเลี้ยง เดี่ยวและรากพืชใบเล้ียงคู่ จากการตดั ตามขวาง
รายการวดั วธิ ีวัด เคร่ืองมือ ๔๑ - แบบทดสอบ 8.2 การประเมินก่อนเรียน เกณฑก์ ารประเมนิ กอ่ นเรยี น - แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - ประเมนิ ตามสภาพ - ใบงานที่ 1 จรงิ กอ่ นเรียน หน่วย ก่อนเรยี น - แบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2 - ร้อยละ 60 การเรยี นรูท้ ่ี ๙ ผ่านเกณฑ์ - แบบฝึกหดั 8.3 การประเมินระหว่าง - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจดั กิจกรรม - รอ้ ยละ 60 1) เน้อื เย่อื พืช - ตรวจใบงานท่ี 1 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 2) โครงสรา้ งการ - ตรวจใบงานที่ 2 เจรญิ เติบโตของราก - ตรวจแบบฝึกหัด ลำต้น และใบ 3) การปฏิบัติการ - ประเมินการปฏิบัตกิ าร - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพดี ปฏบิ ัติการ ผา่ นเกณฑ์ 4) การนำเสนอ - ประเมนิ การนำเสนอ - ผลงานทนี่ ำเสนอ - ระดับคุณภาพดี ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์ 5) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 6) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพดี การทำงานกลุม่ การทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 7) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพดี อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่น คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ 8.4 ประเมนิ หลังเรยี น - แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลงั เรียน - รอ้ ยละ 60 หลังเรียน หน่วย หลงั เรยี น ผ่านเกณฑ์ การเรยี นรูท้ ่ี ๙
๔๒ 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 : เนือ้ เยอ่ื พืช แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 3 ชวั่ โมง • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 : โครงสรา้ งการเจรญิ เตบิ โตของราก แนวคดิ รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 3 ชว่ั โมง • แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 : โครงสร้างการเจรญิ เติบโตของราก ลำต้น และใบ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 5 ชวั่ โมง (รวม 11 ชั่วโมง) 10. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 10.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวชิ าเพมิ่ เตมิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.5 เลม่ 3 2) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๙ โครงสร้างและการเจรญิ เติบโตของพชื ดอก 3) แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๙ โครงสรา้ งและการเจรญิ เติบโตของพชื ดอก 4) ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง เน้ือเย่ือพืช 6) ใบงานท่ี 2 เร่ือง เจริญเติบโตของราก ลำตน้ และใบ 7) PowerPoint เรื่อง โครงสร้างและการเจรญิ เตบิ โตของพืชดอก 8) QR Code เรือ่ ง โครงสรา้ งและการเจริญเติบโตของพชื ดอก ๙) วดี ิทศั น์ เรอ่ื ง โครงสรา้ งและการเจรญิ เติบโตของพชื ดอก 10.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องเรียน 2) ห้องสมุด 3) หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร 4) ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์
๔๓ การออกแบบหนว่ ยการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 10 การลำเลียงของพชื วชิ าชวี วิทยา 3 รหสั วิชาว ว3๑๒๔๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 9 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ ๑ /๒๕๖4 ................................................................................................................................................................ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ สาระชีววิทยา สาระชวี วทิ ยา ๓ เข้าใจสว่ นประกอบของพชื การแลกเปล่ยี นแกส๊ และคายน้ำของพชื การลำเลียงของ พืช การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจรญิ เตบิ โต และการตอบสนองของพืช รวมทั้งนำ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 8. สืบคน้ ขอ้ มลู สังเกต และอธบิ ายการแลกเปล่ียนแก๊สและการคายน้ำของพืช 9. สบื ค้นขอ้ มลู และอธบิ ายกลไกการลำเลยี งน้ำและธาตุอาหารของพชื 10. สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายความสของธาตุอาหารและยกตัวอย่างธาตอุ าหารท่ีสำคัญที่มผี ลต่อการ เจรญิ เติบโตของพชื 11. อธบิ ายกลไกการลำเลียงอาหารในพชื ๒. สาระสำคญั ในพชื มีมดั ทอ่ ลำเลียง ท่ีมีไซเล็มและโฟลเอ็ม โดยไซเล็มทำหน้าทีล่ ำเลยี งน้ำและแรธ่ าตจุ ากในดินข้นึ ไปสู่ยอด และโฟลเอ็มลำเลยี งสารอาหารที่ไดจ้ ากการสังเคราะห์ดว้ ยแสงไปสะสมยังทุกสว่ นของตน้ พชื ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 การแลกเปล่ยี นแกส๊ และการคายน้ำของพชื 3.2 การลำเลียงน้ำของพชื 3.3 การลำเลยี งสารอาหารของพชื 3.4 การลำเลียงอาหารของพืช ๔. ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ( Attitude ) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยอู่ ย่างพอเพยี ง ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต มุ่งมน่ั ในการทำงาน มวี ินยั รกั ความเปน็ ไทย ใฝเ่ รียนรู้ มจี ิตสาธารณะ คุณลักษณะของผูเ้ รียน ตามหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล เปน็ เลิศวิชาการ ส่อื สารสองภาษา ลำ้ หนา้ ทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ รว่ มกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก
๔๔ อัตลักษณข์ องโรงเรียนเชยี งคาน เรียนดี มวี นิ ัย ใฝก่ ีฬา รกั ษาวัฒนธรรม ๕. ด้านการ อ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น การอ่าน : ............................................................................................................................... การคิดวิเคราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ............................................................................................................................... ๖. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน : ................................................................................... ความสามารถในการส่ือสาร : .................................................................................... ความสามารถในการคิด : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปัญหา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .................................................................................... ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๗. ภาระงาน/ชิ้นงาน - ผังมโนทศั น์ เร่ือง การลำเลียงนำ้ - ผังมโนทศั น์ เรอื่ ง การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำ - ผังมโนทัศน์ เร่อื ง การลำเลียงธาตอุ าหารและธาตอุ าหาร ๘. การวัดและประเมินผล วิธวี ัด เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน รายการวดั - ระดับคุณภาพ 2 8.1 การประเมินชิน้ งาน/ - ผังมโนทัศน์ เรื่อง การ - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ ภาระงานรวบยอด ลำเลียงนำ้ ผังมโนทศั น์ - ผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง การ - ระดบั คุณภาพ 2 แลกเปลี่ยนแก๊สและคาย - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ นำ้ ผังมโนทศั น์ - ผงั มโนทัศน์ เรื่อง การ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ลำเลียงธาตอุ าหารและธาตุ - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ อาหาร ผงั มโนทศั น์ 8.2 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - ประเมนิ ตามสภาพ กอ่ นเรยี น จริง กอ่ นเรียน หนว่ ย ก่อนเรียน การเรยี นร้ทู ่ี 10
รายการวัด วธิ ีวดั เครอื่ งมอื ๔๕ 8.3 การประเมนิ ระหว่าง - ตรวจใบงานท่ี 1 - ใบงานที่ 1 เกณฑก์ ารประเมนิ การจดั กจิ กรรม - แบบฝกึ หดั 1) การลำเลยี งนำ้ - ใบงานที่ 2 - ร้อยละ 60 - แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ 60 2) การแลกเปลีย่ นแก๊ส - ตรวจใบงานท่ี 2 ผา่ นเกณฑ์ และคายน้ำ - รอ้ ยละ 60 - ตรวจแบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3) การลำเลยี งธาตุ - ตรวจใบงานที่ 3 - ใบงานที่ 3 - รอ้ ยละ 60 อาหารและธาตุ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์ อาหาร - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3) การปฏิบตั กิ าร - ประเมินการปฏิบตั ิการ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพดี ปฏิบตั ิการ ผ่านเกณฑ์ 4) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - ผลงานทนี่ ำเสนอ - ระดบั คุณภาพดี ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์ 5) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพดี ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 6) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพดี การทำงานกลุ่ม การทำงานกล่มุ การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ 7) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพดี อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมัน่ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ ในการทำงาน อนั พึงประสงค์ 8.4 ประเมนิ หลังเรียน - แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน - รอ้ ยละ 60 หลังเรียน หนว่ ย หลงั เรียน ผ่านเกณฑ์ การเรยี นรู้ที่ ๙
๔๖ รายการวดั วธิ ีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ • แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 : เน้ือเย่อื พืช แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 3 ชวั่ โมง • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 : โครงสรา้ งการเจริญเตบิ โตของราก แนวคดิ รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 3 ชวั่ โมง • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 : โครงสร้างการเจรญิ เตบิ โตของราก ลำตน้ และใบ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es) เวลา 5 ชว่ั โมง (รวม 11 ชั่วโมง) 10. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 10.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น รายวิชาเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.5 เลม่ 3 2) แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 10 การลำเลยี งของพืช 3) แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 10 การลำเลยี งของพชื 4) ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง การลำเลียงน้ำ 6) ใบงานท่ี 2 เรื่อง การแลกเปลี่ยนแกส๊ และคายน้ำ 7) ใบงานที่ 3 เร่อื ง การลำเลยี งธาตอุ าหารและธาตุอาหาร 7) PowerPoint เรื่อง การลำเลียงของพชื 8) QR Code เร่อื ง การลำเลยี งของพชื ๙) วดี ทิ ัศน์ เรอื่ ง การลำเลียงของพชื 10.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องเรยี น 2) หอ้ งสมุด 3) ห้องปฏบิ ัตกิ าร 4) ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์
๔๗ การออกแบบหนว่ ยการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 11 การสังเคราะห์ดว้ ยแสง วชิ าชวี วิทยา 3 รหัสวชิ าว ว3๑๒๔๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา ๑๙ ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี ๑ /๒๕๖4 ................................................................................................................................................................ ๑. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ สาระชีววิทยา สาระชวี วทิ ยา ๓ เข้าใจสว่ นประกอบของพืช การแลกเปล่ียนแก๊สและคายนำ้ ของพชื การลำเลียงของ พชื การสงั เคราะหด์ ้วยแสง การสบื พนั ธุข์ องพืชดอกและการเจรญิ เติบโต และการตอบสนองของพืช รวมทั้งนำ ความร้ไู ปใช้ประโยชน์ 12. สืบคน้ ขอ้ มลู และสรุปการศึกษาทีไ่ ด้จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดตี เกี่ยวกับ กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง 13. อธิบายขนั้ ตอนท่เี กดิ ขน้ึ ในกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื C3 14. เปรยี บเทยี บกลไกการตรึงคารบ์ อนไดออกไซดใ์ นพืช C3 พชื C4 และพืช CAM 15. สืบคน้ ขอ้ มลู อภิปรายและสรปุ ปจั จัยความเข้มของแสง ความเข้มขน้ ของคารบ์ อนไดออกไซด์ และอุณหภมู ิท่มี ผี ลต่อการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ๒. สาระสำคญั การสังเคราะหแ์ สง คือ กระบวนการทสี่ ่ิงมชี วี ิตสามารถสรา้ งอาหารได้เอง โดยการนำพลังงานแสงมา ใช้ในการเปลย่ี นแปลงแก๊สคาร์บอนไดออกด์ให้เป็นสารอนิ ทรยี ์ โดยมปี จั จยั ท่เี กี่ยวข้องกับการสงั เคราะหด์ ว้ ย แสง ซ่งึ จะต้องมปี จั จยั ครบ จงึ จะเกดิ การสงั เคราะหด์ ้วยแสงได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 การคน้ ควา้ ทีเ่ ก่ยี วข้องกับการสงั เคราะห์ด้วยแสง 3.2 กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง 3.3 โฟโตเรสเพอเรชนั 3.4 กลไกการเพ่ิมความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C3 และพชื C4 3.5 กลไกการเพม่ิ ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช CAM 3.6 ปัจจยั บางประการที่มีผลตอ่ อัตราการสังเคราะหด์ ้วยแสง 3.7 การปรบั ตวั ของพชื เมื่อรับแสง ๔. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude ) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ซอ่ื สัตย์สจุ ริต มุ่งม่ันในการทำงาน มีวินัย รักความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ
๔๘ คณุ ลักษณะของผู้เรยี น ตามหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล เป็นเลิศวิชาการ ส่อื สารสองภาษา ล้ำหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกนั รบั ผดิ ชอบต่อสังคมโลก อตั ลกั ษณข์ องโรงเรยี นเชยี งคาน เรียนดี มีวินัย ใฝ่กีฬา รกั ษาวัฒนธรรม ๕. ด้านการ อา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี น การอา่ น : ............................................................................................................................... การคิดวเิ คราะห์ : ........................................................................................................................ การเขยี น : ............................................................................................................................... ๖. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน : ................................................................................... ความสามารถในการส่ือสาร : .................................................................................... ความสามารถในการคดิ : ..................................................................................... ความสามารถในการแก้ปัญหา : ..................................................................................... ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .................................................................................... ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๗. ภาระงาน/ชน้ิ งาน - ผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง การสังเคราะห์ด้วยแสง - ผงั มโนทศั น์ เรื่อง การศึกษาทีเ่ ก่ียวกบั การสงั เคราะหด์ ้วยแสง - ผังมโนทัศน์ เรื่อง กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง - ผังมโนทัศน์ เรื่อง โฟโตเรสไพเรชัน - ผังมโนทศั น์ เร่อื ง การเพิ่มขึ้นของแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ - ผงั มโนทัศน์ เร่อื ง ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง
๘. การวดั และประเมินผล ๔๙ รายการวัด วิธวี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2 8.1 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ - ผังมโนทัศน์ เรอ่ื ง การ - แบบประเมิน ภาระงานรวบยอด สังเคราะห์ดว้ ยแสง ผงั มโนทศั น์ ผา่ นเกณฑ์ - ผงั มโนทศั น์ เรือ่ ง - ระดบั คุณภาพ 2 8.2 การประเมินก่อนเรียน การศกึ ษาทเ่ี กยี่ วกบั การ - แบบประเมิน - แบบทดสอบ สงั เคราะห์ด้วยแสง ผงั มโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์ ก่อนเรยี น หนว่ ย - ผงั มโนทัศน์ เร่ือง การเรยี นรู้ท่ี 11 กระบวนการสังเคราะห์ - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2 ด้วยแสง ผังมโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์ 8.3 การประเมนิ ระหว่าง - ผังมโนทัศน์ เรื่อง โฟโต การจัดกจิ กรรม เรสไพเรชนั - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2 1) การสังเคราะหด์ ้วย - ผังมโนทัศน์ เรอื่ ง การ ผังมโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์ เพมิ่ ขน้ึ ของแกส๊ แสง คาร์บอนไดออกไซด์ - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2 - ผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง ปัจจัย ผังมโนทัศน์ ผา่ นเกณฑ์ บางประการท่ีมผี ลต่อการ สังเคราะหด์ ้วยแสง - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2 ผังมโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์ - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรยี น - แบบทดสอบ - ประเมินตามสภาพ กอ่ นเรียน จริง - ตรวจใบงานที่ 1 - ใบงานท่ี 1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 2) การศึกษาท่ี - ตรวจใบงานที่ 2 - ใบงานท่ี 2 ผ่านเกณฑ์ เกย่ี วกบั การ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั สงั เคราะห์ด้วยแสง - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
Search