2. ไฟฟ้ ากระแส เป็ นไฟฟ้ าประเภททม่ี กี ระแสไฟฟ้ าไหลไปตามตวั นา ไฟฟ้ ากระแส แบง่ ออก ไดเ้ ป็ น 2 ชนดิ คอื o ไฟฟ้ ากระแสตรง คอื ระบบไฟฟ้าทแี่ รงดันไฟฟ้าไมม่ กี ารเปลย่ี นขวั้ จงึ มี ขวั้ ทแี่ น่นอนเป็ นไฟฟ้าทมี่ กี ระแสไฟฟ้ าเดนิ ทางเดยี ว มขี วั้ ไฟฟ้ าบวกและ ขัว้ ไฟฟ้ าลบ ไฟฟ้ ากระแสตรงส่วนใหญ่ไดจ้ ากการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าทางเคมี ทพี่ บมากไดจ้ ากแบตเตอร่ี ใชป้ ระโยชนม์ ากในวงจรไฟฟ้าอเิ ล็กทรอนกิ ส์ o ไฟฟ้ ากระแสสลบั คือ ระบบไฟฟ้ าท่แี รงดันไฟฟ้ ามีการเปล่ียนอย่าง ต่อเน่ือง จากขัว้ บวกเป็ นลบ และลบเป็ นบวกตลอดเวลา การเปลี่ยน แรงดัน 26
แหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้ า เกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ ไดแ้ ก่ ฟ้ าแลบ ฟ้ าผา่ เกดิ ขนึ้ จากการเปลย่ี นพลงั งานความรอ้ นเป็ นพลงั งานไฟฟ้ า เกดิ จากการเปลี่ยนแปลงพลงั งานแสงสว่างใหเ้ ป็ นพลงั งาน ไฟฟ้ า เกดิ จากปฏกิ ริ ยิ าเคมี เกดิ จาการเหนย่ี วนาของอานาจสนามแมเ่ หล็กโดยเครอื่ งกาเนดิ ไฟฟ้ า 27
28
การผลติ ไฟฟ้ าของประเทศไทยทใี่ ชอ้ ยปู่ จั จบุ นั แบง่ ออกเป็ น 2 ประเภท คอื ประเภทไมใ่ ชเ้ ชอื้ เพลงิ ประเภทใชเ้ ชอื้ เพลงิ • โรงไฟฟ้ าพลงั งานธรรมชาติ • โรงไฟฟ้ าพลงั งานไอนา้ • โรงไฟฟ้ าพลงั นา้ • โรงไฟฟ้ าพลงั ความรอ้ น 29
จากการคน้ พบของนกั ฟิ สกิ สช์ าวเยอรมนั ชอ่ื จอรจ์ ไซมอน โอหม์ (George Simon Ohm) ไดอ้ ธบิ ายความสมั พนั ธ์ ระหว่างกระแสไฟฟ้ า แรงดนั ไฟฟ้ า และความตา้ นทาน ไฟฟ้ า ดงั สมการตอ่ ไปนี้ กระแสไฟฟ้ า (I) = แรงดนั ไฟฟ้ า (V) ความตา้ นทาน (R) สมการนเ้ี รยี กวา่ “กฎของโอหม์ ” อนั เป็ นกฎพน้ื ฐานทสี่ าคญั ทสี่ ุด ท า ง ก า ร ไ ฟ ฟ้ า ช่ ว ย ใ ห้ส า ม า ร ถ ค า น ว ณ ค่า แ ร ง ด นั ไ ฟ ฟ้ า กระแสไฟฟ้ า และความตา้ นทานของวงจรไฟฟ้ าได้ 30
กระแสไฟฟ้ าและวงจรไฟฟ้ า กระแสไฟฟ้ าจะไหลออกจากแหลง่ จา่ ยไฟฟ้ าผา่ นตวั นาและไหล กลบั มายงั แหล่งจ่ายไฟฟ้ าตวั เดมิ อีก เรียกว่า ครบวงจร เรา สามารถควบคุมการเดนิ ของกระแสไฟฟ้ าได้ โดยใชส้ วติ ชห์ รอื เครอื่ งปลดวงจรอยา่ งอนื่ เชน่ เซอรก์ ติ เบรกเกอร์ เป็ นตน้ 31
รปู ที่ 1 หลอดไฟตดิ สวา่ ง 32
รปู ท่ี 2 สวติ ชท์ าใหส้ ายไฟฟ้ าหรอื ตวั นาไฟฟ้ าขาดออกจากกนั เป็ นการตดั ทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ า ทาใหห้ ลอดไฟไมต่ ดิ 33
เรอ่ื งท่ี 2 อนั ตรายจากไฟฟ้ า ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทม่ี ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกายมนษุ ย์ อนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี ่อมนุษย์ อาจทาใหเ้ กดิ การบาดเจ็บ พกิ าร หรอื ตายได้ หากมกี ารใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้ าอยา่ งไมถ่ ูกตอ้ ง หรอื ไมม่ กี ารป้ องกนั ไวก้ อ่ น ลกั ษณะของการประสบอนั ตรายจาก ไฟฟ้ าทม่ี ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกายมนุษย์ แบง่ ออกเป็ น 3 ลกั ษณะ ดว้ ยกนั คอื 34
ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกาย มนุษย ์ 1. กระแสไฟฟ้ าใชร้ า่ งกายเป็ นทางผา่ นลงดนิ 35
ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกาย มนษุ ย์ 2. รา่ งกายตอ่ เป็ นสว่ นหนงึ่ ของวงจรไฟฟ้ า 36
ลกั ษณะอนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ ชวี ติ และรา่ งกาย มนษุ ย์ 3. กระแสไฟฟ้ าลดั วงจร อนั ตรายจากกระแสไฟฟ้ า ลดั วงจรมี 5 ลกั ษณะคอื 1. แสงจา้ - เศษโลหะทหี่ ลอม ละลาย กระเด็นเขา้ ตา 2. ความรอ้ น - เกดิ บาดแผลไหม ้ แกอ่ วัยวะของรา่ ยกาย 3. คลน่ื ความดนั และเสยี ง – จาก การลัดวงจร ทาใหอ้ ปุ กรณร์ ะเบดิ อันตรายตอ่ ประสาทหู 4. ไอควนั ของวตั ถทุ ถ่ี กู ความรอ้ น - ตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ 5. พลงั งานกล – กระแสไฟฟ้า ลัดวงจร จะเกดิ สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ทาใหต้ ัวนาเกดิ การดดู หรอื ผลกั ดว้ ยแรงมหาศาล 37
38 38
39
40
ปจั จยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความรนุ แรงของการประสบ อนั ตรายจากไฟฟ้ า 41
ตารางแสดงปรมิ าณกระแสไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ รา่ งกาย จานวนกระแสไฟฟ้ า อาการหรอื อนั ตรายทเี่ กดิ ขนึ้ แกร่ า่ งกาย ( มลิ แิ อมแปร)์ ยงั ไมร่ สู ้ กึ นอ้ ยกวา่ 0.5 0.5 – 2 รสู ้ กึ กระตกุ เลก็ นอ้ ย 2 – 10 5 – 25 กลา้ มเนอื้ หด กระตกุ ปานกลางถงึ รนุ แรง มากกวา่ 25 เจ็บปวด กลา้ มเนอ้ื เกร็งไมส่ ามารถปลอ่ ยใหห้ ลดุ 50 – 100 ออกมาได ้ มากกวา่ 100 กลา้ มเนอื้ เกร็ง กระตกุ รนุ แรง หวั ใจเตน้ ผดิ ปกติ ( เตน้ ออ่ นหอเตน้ ระรัว) เสยี ชวี ติ หยดุ หายใจ ผวิ หนังไหม ้ 42
ตารางแสดงปรมิ าณกระแสไฟฟ้ าซง่ึ อาจเป็ น อนั ตรายถงึ ชวี ติ ถา้ ไดร้ บั เกนิ ระยะเวลาทกี่ าหนด จานวนกระแสไฟฟ้ า ระยะเวลา ( วนิ าท)ี ( มลิ ลแิ อมแปร)์ 15 120 20 60 30 30 100 3 500 11/100 1,000 (1 แอมแปร)์ 1/100 การทน่ี กเกาะสายไฟแรงสงู ทไี่ มม่ ฉี นวนหมุ้ โดยไมไ่ ดร้ บั อนั ตราย เนอ่ื งจากเทา้ นกมลี กั ษณะเป็ นเซลลท์ แ่ี หง้ จงึ มคี วามตา้ นทานสงู นอกจาก นกยงั เกาะเพยี งเสน้ เดยี วไมส่ ามารถเกาะสายไฟทงั้ สองเสน้ พรอ้ มกนั ได้ และตวั นกไมไ่ ดต้ ดิ ตอ่ กบั พน้ื ดนิ ทาใหไ้ ฟรว่ั ขน้ึ นกจงึ ไมถ่ กู ดดู ตาย 43
ผลของอนั ตรายจากไฟฟ้ าทม่ี ตี อ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ กลา้ มเนอื้ กระตกุ หรอื เกดิ การหดตวั หวั ใจเกดิ อาการเตน้ กระตกุ หรอื เตน้ ถร่ี วั หวั ใจหยดุ ทางานทนั ที เซลลภ์ ายในรา่ งกายเสยี หาย ระบบประสาทเกดิ การชะงกั งนั อนั ตรายตอ่ ทรพั ยส์ นิ การเกดิ เพลงิ ไหมแ้ ละระเบดิ 44
ผลของกระแสไฟฟ้ าทมี่ ตี อ่ รา่ งกาย กลา้ มเนอ้ื กระตกุ หรอื เกดิ การหดตวั (Muscular Freezing) กลา้ มเนอ้ื สว่ นตา่ งๆจะหดตวั มอี าการเกร็ง และถา้ กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น กลา้ มเนื้อทรวงอก จะทาใหก้ ารทางานของปอดมีอุปสรรคหรืออาจ ทางานไม่ได ้ ทาใหข้ าดอากาศหายใจจนทาใหส้ ลบ (Asphyxiation) เป็ นผลตอ่ เนอ่ื งทาใหก้ ารหมนุ เวยี นของโลหติ ตอ้ งหยดุ 45
ระบบประสาทเกดิ การชะงกั งนั (Nerve Block) ทาใหเ้ กดิ เป็ นอัมพาตชว่ั คราว(Temporary Paralysis)เป็ นจากท่ี มีกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านร่างกาย 10 - 50 mA ถา้ เกดิ กับประสาท สว่ นกลางทค่ี วบคมุ การทางานของหัวใจ จะทาใหก้ ารทางานของหัวใจ ลม้ เหลว เซลลภ์ ายในรา่ งกายเสยี หาย กระแสไฟฟ้ าจะไหลผ่านในเสน้ ทางที่มีความตา้ นทานนอ้ ยที่สุด ไดแ้ ก่หลอดเลอื ด ไขสันหลัง จงึ มักทาใหเ้ กดิ การแข็งตัวของโลหติ ใน หลอดเลอื ดและเสน้ ประสาทในไขสนั หลงั ไดร้ บั อนั ตรายจากการหด เกร็ง 46
หวั ใจเกดิ อาการเตน้ กระตกุ หรอื เตน้ ถร่ี วั (Ventricular Fibrillation) กระแสไฟฟ้าปรมิ าณตัง้ แต่ 50 mA ไหลผา่ นหัวใจ การเตน้ การ หดตัวและการขยายตัวของกลา้ มเน้ือหัวใจ จะเกดิ การเตน้ ในจังหวะที่ ผดิ ปกติ เชน่ มอี าการกระตุกหรอื การเตน้ ถรี่ ัว นาทลี ะหลายรอ้ ยครัง้ แต่เป็ นการเตน้ ทอ่ี อ่ น การสบู ฉีดโลหติ ไปเลยี้ งสว่ นตา่ งๆของรา่ งกาย ทาไมไ่ ดเ้ ต็มทโี่ ดยเฉพาะสว่ นสมอง 47
หวั ใจหยดุ ทางานทนั ที (Cardiac Arrest) เกดิ จากการทม่ี กี ระแสไฟฟ้ าไหลผ่านหวั ใจในปรมิ าณท่ี มากๆในระยะเวลาอนั สน้ั ทาใหก้ ารทางานของหวั ใจไม่อาจจะ กลบั มาทางานไดด้ ว้ ยตนเองหรอื มกี ารนวดหวั ใจจากภายนอก เพ่ือช่วยให้กล้ามเนื้อของหวั ใจกลบั มาทางานได้ตามปกติ ( External Cardiac Massage) 48
เนอ้ื เยอื่ และเซลลต์ า่ งๆ ของรา่ งกายถกู ทาลาย กระแสไฟฟ้ าเมือ่ ไหลผ่านเนื้อเย่ือจะทาใหเ้ กดิ ความรอ้ นโดย สว่ นทเ่ี ป็ นอนั ตรายคอื สว่ นทกี่ ระแสไฟฟ้าเขา้ และกระแสไฟฟ้าออก ยกตัวอย่างเช่น มือที่จับเหล็กเสน้ ที่พาดไปถูกสายไฟแรงสูง ขณะทย่ี นื อยบู่ นดนิ สว่ นทม่ี บี าดแผลไหมค้ อื ฝ่ ามอื และ ฝ่ าเทา้ 49
Burn Injury Fundamentals Normal skin temperature @ 32.5 °C Skin burn onset @ > 44 °C Instantaneous @ 72 °C Burn depth is a measure of severity First degree burn – (sunburn, no blister) outer skin layer Second degree burn (blisters, Middle skin layer skin can regenerate) Third degree burns (grey skin, charred, Deep skin layer no skin regeneration possible) 50
ผลจากอบุ ตั เิ หตจุ ากไฟฟ้ าแรงสงู 51
ดวงตาอกั เสบ แสงสวา่ งทเี่ กดิ จากการลดั วงจร จะมคี วามเขม้ สูงซง่ึ จะ เ ป็ น อ นั ต ร า ย ต่อ ด ว ง ต า ท า ใ ห้อ กั เ ส บ ห รือ บ อ ด ไ ด้ นอกจากนแี้ ลว้ เสยี งดงั ทเี่ กดิ ขนึ้ อาจเป็ นอนั ตรายตอ่ ระบบ ประสาท หู ทาใหห้ อู อื้ หรอื หนวกได้ 52
เรอ่ื งที่ 3 มาตรการป้ องกนั อนั ตรายจากไฟฟ้ า อบุ ตั เิ หตจุ ากไฟฟ้ า มากกว่ารอ้ ยละ 90 เป็ นการประสบอนั ตรายจากการท่ี กระแส ไฟฟ้ าผ่านร่างกายลงดินและอนั ตร ายจากไฟฟ้ า ลดั วงจร ซง่ึ มสี าเหตมุ าจาก • การประสบอนั ตรายทเี่ กดิ จากไฟฟ้ าทาใหเ้ กดิ เพลงิ ไหม้ • การประสบอนั ตรายทเี่ กดิ จากไฟฟ้ าแรงดนั ตา่ • การประสบอนั ตรายทเี่ กดิ จากไฟฟ้ าแรงสงู 53
อบุ ตั เิ หตจุ ากไฟฟ้ าทาใหเ้ กดิ เพลงิ ไหม้ • ความรอ้ นทจ่ี ดุ ตอ่ สาย • การเกดิ ประกายไฟในบรเิ วณทม่ี เี ชอ้ื เพลงิ ไวไฟ • การลกุ ไหมท้ ส่ี ายไฟฟ้ าหรอื อปุ กรณ์ไฟฟ้ า • การใชม้ อเตอรไ์ ฟฟ้ าหรอื อปุ กรณไ์ ฟฟ้ าเกนิ กาลงั 54
อบุ ตั เิ หตจุ ากไฟฟ้ าแรงดนั ตา่ • การใชอ้ ปุ กรณไ์ ฟฟ้ าทชี่ ารดุ หรอื มกี ระแสรว่ั • การแกไ้ ขเหตไุ ฟฟ้ าขดั ขอ้ งโดยไมต่ ดั กระแสไฟฟ้ า • การสมั ผสั สายไฟทช่ี ารดุ และเปลอื ยอยู่ • การตอ่ สายไฟฟ้ าไมถ่ กู ตอ้ งหรอื ไมแ่ นน่ สนทิ • การตดิ ตงั้ หรอื ใชเ้ ครอื่ งมอื ไฟฟ้ าไมเ่ หมาะสม • เกดิ จากปฏบิ ตั งิ านในสภาพทไ่ี มเ่ หมาะสม เชน่ สภาพพน้ื ท่ี เปี ยกชนื้ สภาพพนื้ ทน่ี า้ ทว่ มขงั • เกดิ จากผูป้ ฏบิ ตั งิ านขาดความรูค้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั การ ทางานไฟฟ้ าอยา่ งปลอดภยั 55
56
57
Burns from arc flash exposure • Flash over from a 415 volt supply in Victoria, Australia. The arch was initiated by a uninsulated socket set ratchet . 58
Burns from arc flash exposure • He was lucky • Burnt face • Burnt arm and hand • And at the time seriously traumatised 59
อบุ ตั เิ หตจุ ากไฟฟ้ าแรงสงู การทางานใกลส้ ายไฟฟ้ าแรงสงู • ตอกเสาเข็ม • ติ ด ต ้ัง ห รื อ เ ป ล่ี ย น เ ส า • กอ่ สรา้ งหรอื ตอ่ เตมิ อาคาร อากาศ • ใ ช้ร ถ ป้ั น จ ่นั ย ก ใ ก ล้ส า ย • รเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์ ไฟฟ้ าแรงสงู • การเลน่ วา่ ว • ตดั กง่ิ ไม้ 60
MV/HV systems are hazardous 61
62
Burns from arc flash exposure • Burns from exposure to arc flash can be quite serious. 63
64
หมายเหตุ อปุ กรณแ์ ละเครอื่ งมอื ทใ่ี ชท้ างานกบั ไฟฟ้ า ตอ้ งมฉี นวนหมุ้ ตามมาตรฐานของงานไฟฟ้ า 65
การป้ องกนั และควบคมุ อนั ตรายจากไฟฟ้ า ความรอ้ นและประกายไฟทม่ี สี าเหตุมาจากการขดั ขอ้ งของ ระบบไฟฟ้ าเป็ นสาเหตทุ จ่ี ะทาใหเ้ กดิ เพลงิ ไหม้ ใน หล กั ก าร ก าร ป้ อ งก นั แล ะค วบคุม อ นั ต รายจ าก ไ ฟฟ้ า โดยทว่ั ไปตอ้ งป้ องกนั หรอื ขจดั ทตี่ น้ กาเนดิ หรอื สาเหตุ นน่ั คอื การป้ องกนั ไมใ่ หม้ คี วามรอ้ นหรอื ประกายไฟ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการ ขดั ขอ้ งของระบบไฟฟ้ าในทท่ี ไี่ มค่ วรเกดิ รวมถงึ การป้ องกนั ไมใ่ หผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านสมั ผสั กบั สว่ นทม่ี กี ระแสไฟฟ้ าไหลผา่ น 66
มาตรการการป้ องกนั และควบคมุ อนั ตรายจาก ไฟฟ้ าสามารถกาหนดไดด้ งั นี้ • เลอื กอุปกรณ์ไฟฟ้ าทผ่ี ลติ ไดม้ าตรฐานความปลอดภยั (มฉี นวน หมุ้ ) • การใชเ้ ครอื่ งป้ องกนั วงจรไฟฟ้ าทถี่ กู ตอ้ งและเหมาะสม • เ ลือ ก อุ ป ก ร ณ์ ไ ฟ ฟ้ า ห รือ เ ดิน ส า ย ไ ฟ ฟ้ า ใ ห้เ ห ม า ะ ส ม ก ับ สภาพแวดลอ้ ม • การตอ่ สายจะตอ้ งตอ่ ใหแ้ นน่ สนทิ และเรยี บรอ้ ย • มกี ารตรวจสภาพของอปุ กรณ์ไฟฟ้ าและสายไฟฟ้ าเป็ นประจาตาม ระยะเวลาทก่ี าหนด • การตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ไฟฟ้ า การเดนิ สายไฟฟ้ า และการซอ่ มแซมตอ้ ง ทาโดยผชู้ านาญ (ชา่ งไฟฟ้ า) 67
มาตรการการป้ องกนั และควบคมุ อนั ตรายจาก ไฟฟ้ าสามารถกาหนดไดด้ งั น้ี • ก า ร ป้ อ ง ก ัน ไ ม่ ใ ห้มีก า ร ก ร ะ ท า ที่จ ะ เ ป็ น เ ห ตุ ใ ห้เ กิด กระแสไฟฟ้ าลดั วงจร • อุปกรณ์ไฟฟ้ าทุกชนดิ โดยเฉพาะประเภททใ่ี หค้ วามรอ้ น เมอ่ื เลกิ ใช้ ใหป้ ิ ดสวติ ชป์ ระจาเครอ่ื งและถอดปลก๊ั ออก หรอื อา้ สวติ ชค์ วบคมุ ออกทกุ ครงั้ • การปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานทก่ี ฎหมายและมาตรฐานต่างๆ กาหนดไว้ 68
7 ขนั้ ตอนการทางานกบั ไฟฟ้ าอยา่ งปลอดภยั 1. ตรวจสอบพน้ื ทแ่ี ละอปุ กรณก์ าร ทางานกอ่ นเรม่ิ งาน 2. ทาการปิ ดกระแสไฟและป้ องกนั การเปิ ดกระแสไฟโดยบงั เอญิ 3. ทาการป้ องกนั ทอี่ ปุ กรณท์ ม่ี ี กระแสไฟโดยการตดิ ป้ ายเตอื น 4. ใหใ้ ชค้ วามระมดั ระวงั เป็ นพเิ ศษเมอ่ื เขา้ ใกลต้ วั นาไฟฟ้ า 5. ใหแ้ นใ่ จวา่ ทกุ สว่ นของอปุ กรณ์ที่ ตดิ ตงั้ ไมม่ กี ระแสไฟ 6. ทาการเดนิ สายดนิ และป้ องกนั การ ลดั วงจร 7. ทาการขอใบอนญุ าตเพอื่ ทขี่ อ อนมุ ตั ใิ นการทางาน ถ้าไม่แน่ใจในความปลอดภัยต้องปรึกษาวศิ วกรไฟฟ้าที่รับผดิ ชอบทุกคร้ัง 69
70
มาตรการควบคมุ อนั ตรายจากไฟฟ้ าตามกฎหมาย และมาตรฐานตา่ ง ๆ • พระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 พระราชบญั ญตั คิ วบคุมอาคาร ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2535 • ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ งความปลอดภยั ในการทางานเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า 2522 • พระราชบญั ญตั โิ รงงาน พ.ศ. 2535 • พระราชบญั ญตั มิ าตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม พ.ศ. 2511 • กฎกระทรวงอตุ ฯ เรอื่ งความปลอดภยั ในการทางานกบั ไฟฟ้ าในโรงงาน พ.ศ. 2550 • กฎกระทรวงแรงงาน เรอ่ื งงานกอ่ สรา้ ง พ.ศ. 2551 • ขอ้ กาหนดและคมู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน สาหรบั พนกั งานการไฟฟ้ าสว่ นภมู ภิ าคและการไฟฟ้ า นครหลวง • กฎกระทรวง กาหนดมาตรฐานในการบรหิ ารและจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชวี อ นามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางานเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า พ.ศ. 2554 71
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง ความปลอดภยั ในการทางานกบั ไฟฟ้ า ประกาศ ณ วนั ท่ี 8 มนี าคม 2522 นายดาริ นอ้ ยมณี รฐั มนตรวี า่ การฯ ปฏบิ ตั ริ าชการแทน (รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย) 72
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในการทางานเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า เรอื่ ง การปฏบิ ตั ทิ ส่ี าคญั ความปลอดภยั ในการ • จัดเตรยี มแผนผงั วงจรไฟฟ้าทัง้ หมดใน ทางานเกย่ี วกบั ไฟฟ้ า สถานประกอบการ • จัดทาขอ้ บังคับดา้ นความปลอดภัยเกยี่ วกบั ไฟฟ้า เพอ่ื ใหเ้ ป็ นไปตามมาตรฐานของ กฎหมาย อาศยั อานาจตามความในขอ้ 2(7) ประกาศคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั 103 ลงวนั ท1ี่ 6 มนี าคม 2515 73
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในการทางานเกย่ี วกบั ไฟฟ้ า เรอ่ื ง การปฏบิ ตั ทิ สี่ าคญั (ตอ่ ) • ตดิ ตงั้ ป้ายเตอื นความปลอดภัย • ตรวจสอบสภาพของสายไฟและอปุ กรณ์ ไฟฟ้ า • หา้ มมใิ หล้ กู จา้ งเขา้ ใกลห้ รอื นาสงิ่ ทเ่ี ป็ น ตัวนาซงึ่ ไมม่ ฉี นวนหมุ ้ สงิ่ ทมี่ ไี ฟฟ้าตาม ระยะหา่ งทก่ี าหนดไว ้ อาศยั อานาจตามความในขอ้ 2(7) ประกาศคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั 103 ลงวนั ท1ี่ 6 มนี าคม 2515 74
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง ความปลอดภยั ในการทางานเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า เรอ่ื ง การปฏบิ ตั ทิ สี่ าคญั (ตอ่ ) • ในกรณีทมี่ กี ารปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบ ซอ่ มแซม ตดิ ตัง้ ไฟฟ้า นายจา้ งตอ้ งผกู ป้าย หา้ มสบั สวติ ช์ พน้ื สแี ดงไวท้ ส่ี วติ ช์ หรอื ใช ้ กญุ แจป้องกนั การสบั สวติ ชไ์ ว ้ • กรณใี ชล้ มแรงดันสงู ทาความสะอาด อปุ กรณ์ทม่ี ไี ฟฟ้าอยตู่ อ้ งใชท้ อ่ และหัวฉดี ท่ี เป็ นฉนวน 75
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175