พิกดั กระแสลดั วงจร Short-circuit Breaking Capacity ;Icn หมายถึง ค่ากระแสลดั วงจรสงู สดุ ที่ CBs สามารถตดั วงจรได้โดยไม่เกิดความเสียหายภายใต้สภาวะท่ี กาหนด (แรงดนั , ความถี่,Power Factor, อณุ หภมู ิ, ฯลฯ) ท่ีกาหนดโดยผผู้ ลิต ปัจจุบันกาหนดค่าเป็ น rms (symmetrical) : kA. (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.) 50
พิกดั การตดั กระแสลดั วงจรสงู สดุ Ultimate short-circuit breaking capacity; Icu ค่าพิกดั การตดั กระแสลดั วงจรของ CBs ที่ใช้ในการ ทดสอบ จะไมค่ านึงว่าสามารถรบั กระแสใช้งานปกติได้ อย่างต่อเน่ืองหรอื ไม่หลงั การทดสอบ Icu จะเท่ากบั Icn = IC Short-circuit characteristics : • Rated short-circuit making capacity : Icm • Rated ultimate short-circuit breaking capacity :Icu O – t – CO • Rated service short-circuit breaking capacity : Ics O – t – CO - t – CO 51
มีช่ือเรียกหลายชื่อ • Residual Current Device ( RCD ) หรือ • Earth Leakage Circuit Breaker ( ELCB ) หรือ • Ground Fault Circuit Interrupter ( GFCI ) มาตรฐาน • มาตรฐาน IEC 60755, IEC 61008,IEC61009 IEC61540 และ IEC 61543 หรือ มอก.909-2548 (เรียก “เครอ่ื งตดั วงจรกระแส เหลือ”) RCBO กรณีใช้เพ่ือป้ องกนั ไฟฟ้ าดดู • Rated residual operating current 30 mA • Breaking time or perating time 0.04 s RCCB • 5 Rated residual operating current (5I∆n) (มาตรฐาน(มวา.สต.รทฐ.า2น00ว1.ส-5.ท1. บ20ท0ท1่ี -25.)6กบติ ทตทิพี่ ง2ษ.ข์ วอ้ รี ะ2โ.3พ.ธ8์ิปหรนะสา้ ิท2ธ-3์ิ 2)552 52
เคร่ืองตัดไฟร่ัวทางานอย่างไร L 10 A N 10 A 0.5A 9.5 A 0.5 A (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ขอ้ 2.3.8 หน้า 2-3)
RCD : Residual Current Device 1. เครือ่ งตดั วงจรกระแสเหลอื แบบมีอปุ กรณ์ปอ้ งกนั กระแสเกนิ :RCBOs : IEC 61009 , มอก.909-2548 (residual current operated circuit-breaker with integral over- current protection for Household and similar uses- RCBO) หมายถึง เครอ่ื งตดั วงจรกระแสเหลอื ทอี่ อกแบบมาให้ทาหน้าทปี่ อ้ งกันโหลดเกินและ/ หรือลดั สาหรบั ใช้ในทอ่ี ยอู่ าศยั และใช้ในลกั ษณะทค่ี ลา้ ยกนั (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ข้อ 2.3.8 หน้า 2-3) 54
2. เคร่ืองตดั วงจรกระแสเหลือแบบไม่มีอุปกรณ์ป้ องกนั กระแสเกิน RCCBs : IEC 61008 ,มอก.2425-2552(residual current operated circuit-breaker without integral over-current protection for Household and similar uses - RCCB) หมายถึง เคร่ืองตดั วงจรกระแสเหลือท่ีไม่ไดอ้ อกแบบมาใหท้ าหนา้ ท่ีป้ องกนั โหลดเกิน และ/หรือลดั วงจร สาหรับใชใ้ นที่อยอู่ าศยั และใชใ้ นลกั ษณะท่ีคลา้ ยกนั (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ขอ้ 2.3.8 หน้า 2-3) 55
- เครอื่ งตัดไฟรวั่ ต้องเปน็ ชนิดทป่ี ลดสายไฟเสน้ ท่ีมไี ฟทกุ เส้นออก จากวงจรรวมท้ังสายนิวทรลั ยกเว้น สายนวิ ทรลั มกี ารต่อลงดนิ โดยตรงตามบทท4่ี แลว้ - ห้ามตอ่ วงจรลดั ครอ่ มผา่ น(by pass)เพื่อปอ้ งกนั เครือ่ งตัดไฟร่วั ตดั วงจรเมอ่ื ไฟรัว่ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ขอ้ 2.3.8 หนา้ 2-3)
แท่งโลหะห้มุ ด้วยทองแดง(copper –clad Steel) หรือแท่งทองแดง หรือแท่ง เหลก็ อาบสงั กะสีขนาด 5/8 น้ิว(16 มม.) ยาว 2.40 ม. แผน่ โลหะพ้ืนที่ 1800 ตร.มม. หนา 6 มม. (1.5 มม.) ฝงั ลึก 1.6 ม. โครงสร้างอาคารโลหะทีม่ ีค่า ความต้านทานไมเ่ กิน 5 โอหม์ หลกั ดินชนิดอืน่ ๆ ทีไ่ ด้รบั การรบั รอง ค่าความต้านทานของหลกั ดินกบั ดิน ต้องไมเ่ กิน 5 โอหม์ 57 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ข้อ 2.4 หน้า 2-3 ,2-4)
2.5 มาตรฐานชอ่ งเดินสายและรางเคเบิล 2.5.1 ท่อร้อยสายไฟฟ้า - ท่อเหลก็ สาหรับรอ้ ยสายไฟฟ้า มอก. 770-2533 - ท่อ PVC สาหรบั รอ้ ยสายไฟฟ้า มอก. 216-2524 - ท่อ HDPE แข็งใช้ร้อยสายไฟฟา้ ฝงั ดนิ โดยตรง มอก. 982-2533 ท่อโลหะหนา Rigid Metal Conduit (RMC) ท่อโลหะหนาปานกลาง Intermediate Metal Conduit (IMC) 19/11/57 ท่อโลหะบาง Electrical Metallic Tubing (EMT) 58 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ข้อ 2.5 หน้า 2-4)
2.5.2 รางเดินสาย ( Wireways ) รางเดินสายโลหะ ( Metal Wireways ) - รางเดนิ สายโลหะมีลกั ษณะเปน็ ราง ทาจากแผ่นโลหะพบั มี ฝาปิด-เปดิ ได้ เพื่อใชส้ าหรบั เดนิ สายไฟฟา้ วัสดุทใี่ ช้ในการทา Wireways มี 4 ชนดิ คือ 59 1) แผ่นเหลก็ ผา่ นกรรมวิธปี อ้ งกนั สนิม และพ่นสที บั เช่น แผน่ เหล็ก ผา่ นกรรมวธิ ีล้างทาความสะอาด ด้วยนา้ ยาล้างไขมัน และเคลือบเฟต ดว้ ยนา้ ยา Zinc Phosphate หลงั จากนนั้ จงึ พ่น ทับด้วยสีฝนุ่ ( Powder Paint ) หรอื ใชก้ รรมวิธอี ่นื ที่เทียบเทา่ 2) แผ่นเหลก็ ชุบสงั กะสีโดยวิธที างไฟฟา้ 3) แผ่นเหล็กชุบสงั กะสแี บบจมุ่ รอ้ น 19/11/57 4) แผน่ เหลก็ ชบุ อะลซู ิงค์ ( Aluzinc ) (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทที่ 2.ข้อ 2.5.2 หนา้ 2-4) ภาคผนวก ฉ
ตาราง ฉ. 1-1 ขนาดรางเดินสายโลหะที่แนะนาในการผลิต ขนาดความสงู xกวา้ ง ( mm. ) ความหนาตา่ สดุ ( mm. ) 50 50 1.00 50 100 1.00 100 100 1.20 100 150 1.20 100 200 หรอื 150 200 1.60 100 300 หรือ 150 300 1.60 100 5.412.07 ห0้ามหตดิ รตงั ือ้ หรื1อใช5้รา0งเดนิ สาย4ใน0กรณ0ีตอ่ ไปนี ้้ 1.60 ก) ตอ่ รางเดนิ สายตรงจดุ ท่ีผา่ นผนงั หรือพืน้ 5.12.7 ห้ามตดิ ตัง้ หรือใช้รางเดนิ Hinged Cขo)vเeป็rนตวั นาสาหรับตอ่ ลงดนิ สายในกรณีต่อไปนี (Shown Opค)eขnน)าดเกิน 150������ 300 มลิ ลเิ มตร ก) ต่อรางเดนิ สายตรงจุดท่ผี ่านผนัง 90 ํ Elbow หรือพนื ้ ข) เป็ นตวั นาสาหรับต่อลงดนิ Straigth (cover Closed) ค) ขนาดเกนิ 150 x300 มลิ ลเิ มตร Section Conduit Tee Fitting Run Conductors 19/11/57 60 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ขอ้ 2.5.2 หนา้ 2-4) ภาคผนวก ฉ
2.5.3 รางเคเบลิ ( Cable Trays ) 1. รางเคเบิลแบบด้านลา่ งทบึ และแบบมี ชอ่ งระบายอากาศ - มีฝาปิด 61 - ไม่มฝี าปิด 2. รางเคเบลิ มลี กั ษณะ เป็นรางเปิด แผ่นเหลก็ พืน้ พับเปน็ ลูกฟูก 19/11/57 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทที่ 2.ข้อ 2.5.3 หน้า 2-5) ภาคผนวก ฉ
3 วัสดุทใ่ี ชท้ ารางเคเบิล มี 4 ชนดิ คอื 62 1) แผ่นเหลก็ ผา่ นกรรมวิธีปอ้ งกันสนมิ และพน่ สที บั เช่น แผน่ เหล็กผา่ น กรรมวธิ ีลา้ งทาความสะอาดดว้ ยนา้ ยาลา้ งไขมัน และเคลอื บฟอสเฟต ด้วยน้ายา Zinc Phosphate หลังจากนั้นจึงพน่ ทับด้วยสีฝนุ่ ( Powder Paint ) หรอื ใชก้ รรมวธิ ีอนื่ ทเี่ ทียบเทา่ 2) แผ่นเหล็กชุบสงั กะสโี ดยวธิ ีทางไฟฟา้ 3) แผ่นเหลก็ ชุบสงั กะสแี บบจมุ่ รอ้ น 4) แผน่ เหล็กชบุ อะลซู ิงค์ ( Aluzinc ) หมายเหตุ กรณีทต่ี ิดต้ังภายนอกอาคารหรือสถานที่ เปยี กหรือช้นื ให้ใชว้ ัสดุตามข้อ 3) ความยาวแนะนาในการผลิตของรางเคเบิล มขี นาดยาว 2.4 m หรอื 3.0 m และความสูงขนาด 150 mm 19/11/57 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทที่ 2.ข้อ 2.5.3 หน้า 2-5) ภาคผนวก ฉ
2.5.4 รางเคเบิลแบบบนั ได ( Cable Ladders ) 1 รางเคเบลิ แบบบนั ไดมลี ักษณะเปน็ รางเปิด โดยมี บันได ( Rung ) ขอบมนไมค่ มทกุ ๆระยะ 300 mm. หรอื น้อยกว่า 2 วสั ดทุ ใ่ี ช้ทารางเคเบลิ เป็นแผ่นเหลก็ ชบุ สังกะสี แบบจุ่มร้อน ( Hot Dip Galvanized ) 3 ความยาวแนะนาในการผลติ ของรางเคเบิล แบบบันไดมีขนาด 2.4 m หรอื 3.0 m. และความสูงรางมขี นาด 100 mm หรอื 150 mm. 4 ขนาดรางเคเบิลแบบบันไดท่ีแนะนาในการผลติ มขี นาดตามตาราง ขนาดความสูง x กว้าง ( mm. ) ความแขง็ แรงของรางเคเบลิ ขนาดความสูงแนะนา 100 หรือ 150 mm. ขนาดความกว้างแนะนา 150 , 300 , 450 , 600 , การขนึ้ รูปของแผ่นเหลก็ ทารางเคเบลิ แบบ 750 , 900 mm. บันได ต้องมีความแขง็ แรงเพียงพอ 19/11/57 63 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ข้อ 2.5.4 หน้า 2-5) ภาคผนวก ฉ
2.6 มาตรฐานหม้อแปลงไฟฟ้า หม้อแปลงฉนวนนา้ มันต้องมีคณุ สมบัตติ าม มอก. 384-2543 หม้อแปลงชนิดแหง้ (Dry Type Transformer) IEC 60076-11 หมอ้ แปลงชนดิ ฉนวนของเหลวตดิ ไฟยาก(Less-Flammable Liquid-Insulated Transformer) ใชต้ ามขอ้ กาหนดของ NEC 450-23 ต้องผา่ นการรบั รองของ UL และ FM หมอ้ แปลงชนิดฉนวนของเหลวไม่ตดิ ไฟ(Nonflammable Liquid- Insulated Transformer) (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทที่ 2.ขอ้ 2.6 หนา้ 2-5 64
คณุ สมบัติแรงดนั ของหม้อแปลง Primary 12000/24000V. กฟน. Secondary 416Y/240 V. High voltage tapping 4 x (-) 2.5% Total Loss กฟภ. Primary 22000/33000V. Secondary 400Y/230 V. High voltage tapping (+/-)2 x 2.5% Total Loss (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ข้อ 2.6 หน้า 2-5 65
2.8 มาตรฐานระดับการปอ้ งกนั ส่งิ หอ่ หุ้มบริภณั ฑ์ IP(Ingress of Protection) คอื อะไร คอื ความสามารถในการกนั ของเหลวกันวตั ถุของอปุ กรณ์ ตามมาตรฐาน IEC 60529หรือ มอก.513-2553 IP XX บอกถึงลกั ษณะการปอ้ งกันของเหลว อนั อาจจะเกดิ อันตรายแก่อปุ กรณ์ รหัสตัวที่ 2 ท่บี รรจุภายใน รหสั ตัวที่ 1 บอกถึงลักษณะการป้องกันวัตถุ 66 อนั อาจจะเกดิ อนั ตรายแกอ่ ปุ กรณ์ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทที่ 2.ข้อ 2.8 หนา้ 2-6 ท่ีบรรจภุ ายใน
ตารางท่ี 12--13 ความหมายตวั เลขกากบั ระดบั การป้ องกนั หลงั สญั ลกั ษณ์ IP First Number; IP Ratingsตวั เลขตวั ที่ 1 ตวั เลขตวั ท่ี 2 ประเภทการป้ องกนั วตั ถจุ ากภายนอก ประเภทการป้ องกนั ของเหลว เลข ระดบั การป้ องกนั เลข ระดบั การป้ องกนั 0 ไมม่ กี ารป้ องกนั 0 ไมม่ กี ารป้ องกนั ป้ องกนั วตั ถุท่มี ีขนาดใหญก่ วา่ 50 1 1 ป้ องกนั หยดเฉพาะในแนวด่งิ มลิ ลเิ มตร เชน่ สมั ผสั ดว้ ยมือ ป้ องกนั วตั ถุท่มี ขี นาดใหญ่กวา่ 12 ป้ องกนั หยดและน้าสาดทามุมไมเ่ กนิ 15 22 มลิ ลเิ มตร เชน่ น้ิวมือ องศากบั แนวด่งิ ป้ องกนั วตั ถุท่มี ขี นาดใหญก่ วา่ 2.5 ป้ องกนั หยดและน้าสาดทามุมไมเ่ กนิ 60 33 มลิ ลิเมตร เชน่ เคร่ืองมอื เสน้ ลวด องศากบั แนวด่งิ ป้ องกนั วตั ถุท่มี ีขนาดใหญก่ วา่ 1 4 มิลลเิ มตร เชน่ เคร่ืองมือเล็กๆ เสน้ 4 ป้ องกนั น้าสาดเขา้ ทุกทศิ ทาง ลวดเล็กๆ 5 ป้ องกนั ฝุ่น 5 ป้ องกนั น้าฉีดเขา้ ทุกทศิ ทาง 6 ผนึกกนั ฝุ่น 6 ป้ องกนั น้าฉีดอยา่ งแรงเขา้ ทุกทศิ ทาง IณIEC 60529 or ม(มอาตกร.ฐา5น1ว.3ส.ท-.2205015-531 บทท่ี 2.7) กติ ตพิ ปง้ ษอ์ วงรีกะนโั พนธป้ิา์ รทะว่สมทิ ธชิ์ว2่ั 5ค5ร2าว 67 8 ป้ องกนั น้าเม่ือใชง้ านอยูใ่ ตน้ ้า
NEMA Enclosure Type Number IEC 60529 Enclosure IP Number 1 IP 10 2 IP 11 3 IP 54 3R IP 14 3S IP 54 4 & 4X IP 65 5 IP 52 6 & 6P IP 67 12 & 12K IP 52 13 IP 54 68 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.) ภาคผนวก ซ.
2.9 มาตรฐานเตา้ รบั - เตา้ เสยี บ เป็นไปตาม มอก. 166-2549 และ มอก. 2162-2547 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.ขอ้ 2.9 หน้า 2-6 69
2.10 มาตรฐานแผงสวิตชส์ าหรบั ระบบแรงตา่การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟา้ ทไ่ี ดม้ าตรฐานภายในโรงงาน Main Distribution Board: MDB หรอื แผงสวิตช์ไฟฟา้ แรงต่า (Low – Voltage Switch Board) มาตรฐานที่เก่ยี วข้อง : IEC 60439 – 1 มอก.1436-2540 , วสท.2001 : IEC 61439-2 แผงสวิตช์ หมายถึง แผงขนาดใหญ่หนึ่งแผง หรือ หลายแผงประกอบเข้า ด้วยกัน เพื่อใช้ติดต้ังสวิตช์ อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน อุปกรณ์ป้องกัน อน่ื ๆ บัสบาร์ และเคร่ืองวัดต่างๆ เพื่อรับไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าไปจ่าย ให้กับโหลด แผงสวิตช์ย่อย โดยสามารถเข้าถึงได้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ของแผงสวิตช์ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56บทที่ 2.ข้อ 2..10 หนา้ 2-6 70
Form ตู้ คอื รปู แบบการแบง่ กัน้ แยกส่วนที่มีไฟฟ้า(Live Part) หรือส่วนทเ่ี ป็น อนั ตรายโดยการใช้ Partitions กนั้ แยกระหวา่ งอปุ กรณ์หลักออกอย่างชัดเจน Form 1 Form 2a Form 3a Form 4a Form 2b - บสั บาร์ Form 3b Form 4b - อุปกรณ์หลกั - ขว้ั ต่อสาย (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2 - ตวั ตู้ 71
√ = มีการกั้นแยก FORM อุปกรณ์ อุปกรณ์ อุปกรณ์ ขัว้ ต่อสาย ขัว้ ต่อสาย & ตู้ && && อุปกรณ์ บสั บาร์ ขัว้ ต่อสาย ขัว้ ต่อสาย บัสบาร์ Form 1 √ √ √ √ Form 2A √ √ √ Form 2B √ √√ √ Form 3A √ √√ √ Form 3B √ √ Form 4A Form 4B √√ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2.) 72
Load center / Consumer unit Load center : 12,18,24,30,36,42cct. : IEC60439-1 Tested : with main and main lug Consumer unit : 4,6,8,1012,16,20cct. : IEC60439-1 Tested : Bolt-on and Plug-on 73
โคมไฟฟ้าแสงสวา่ งฉุกเฉนิ มอก.1102-2538, มอก.1955-2551 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทท่ี 2. หน้า 2-6) 74
โคมไฟฟ้ าป้ ายทางออกฉุกเฉิน : มอก. 2430 - 2552 โคม (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56บทท่ี 2. หน้า 2-6) 75
หมวดวชิ าท่ี 3 ช ความปลอดภยั ในการทางานเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า หวั ขอ้ หลกั สตู รประกอบดว้ ยเรอ่ื ง 1 ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า 2 อนั ตรายจากไฟฟ้ า 3 มาตรการป้ องอนั ตรายจากไฟฟ้ า 2 2
3
เรอ่ื งที่ 1 ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า 1. ไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานรูปหนงึ่ ซงึ่ มแี หล่งกาเนดิ จากหลาย แหลง่ 2. อนั ตรายจากไฟฟ้ าทมี่ ตี ่อชวี ติ และร่างกายมนุษย์ มี 3 ลกั ษณะ ปัจจยั ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความรุนแรงของการประสบ อนั ตรายจากไฟฟ้ ามหี ลายปจั จยั 3. อุบตั เิ หตุจากไฟฟ้ าทพี่ บมากทสี่ ุดคอื อุบตั เิ หตุทท่ี าให้ เกดิ เพลงิ ไหม้ อุบตั เิ หตจุ ากไฟฟ้ าแรงดนั ตา่ อุบตั เิ หตุ จากไฟฟ้ าแรงดนั สูง อุบตั เิ หตุต่างๆ เหล่าน้ีสามารถ ควบคมุ ได้ ทงั้ ทางดา้ นกฎหมายและดา้ นวศิ วกรรม 4 4
ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั ไฟฟ้ า ไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานชนดิ หนงึ่ ซงึ่ มนุษยใ์ ชเ้ ป็ นตน้ กาเนดิ ของ พลงั งานในรปู อน่ื ๆ เชน่ แสงสวา่ ง ความรอ้ น พลงั งานกล เสยี ง และรูปอนื่ ๆ ไดอ้ กี หลายอยา่ ง พลงั งานไฟฟ้ า จงึ เป็ นสงิ่ อานวย ความสะดวกใหแ้ กผ่ ใู้ ชอ้ ยา่ งมากในการผลติ สนิ คา้ ตา่ งๆ ออกสู่ ทอ้ งตลาด เพราะเครอ่ื งจกั รตา่ งๆ มกั ใชไ้ ฟฟ้ าเป็ นตน้ กาลงั ใน การขบั เคลอ่ื นเครอื่ งจกั รใหเ้ คลอื่ นที่ เปลยี่ นพลงั งานไฟฟ้ าให้ เป็ นพลงั งานกล เพอ่ื ใชใ้ นการดาเนนิ สายงานผลติ ใหเ้ ป็ นไป ตามตอ้ งการ 5 5
ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั ไฟฟ้ า จะเห็นไดว้ ่า ไฟฟ้ าเป็ นส่ิงทม่ี คี ุณประโยชนต์ ่อมนุษยอ์ ย่าง มากมาย และเป็ นสงิ่ ทเี่ ขา้ มาเกยี่ วขอ้ งกบั ชวี ติ ประจาวนั ของ คนเราอยเู่ สมอ ซง่ึ ไฟฟ้ านอกจากจะใหค้ ณุ ประโยชนย์ งั ใหโ้ ทษ อยา่ งมหนั ตด์ ว้ ยเชน่ กนั อนั ไดแ้ ก่ 1. อนั ตรายทเ่ี กดิ เพลงิ ไหมจ้ ากไฟฟ้ า (ลดั วงจร) 2. อนั ตรายจากการถกู กระแสไฟฟ้ าช็อก(shock) 3. การไดร้ บั บาดเจ็บ จากการสมั ผสั กบั กระแสไฟฟ้ า จนพกิ าร ทพุ พลภาพ หรอื ถงึ แกช่ วี ติ 6 6
สงิ่ ทคี่ วรทราบเกยี่ วกบั อนั ตรายจากไฟฟ้ า • ผู้ป ฏิบ ัติง า น ไ ฟ ฟ้ า ต้อ ง ท ร า บ ถึง อ ัน ต ร า ย จ า ก กระแสไฟฟ้ า • ผู้ป ฏิบ ตั ิง า น ไ ฟ ฟ้ า ต้อ ง ส า เ ห ตุข อ ง อ นั ต ร า ย จ า ก กระแสไฟฟ้ า • ผูป้ ฏบิ ตั งิ านไฟฟ้ าตอ้ งทราบวธิ กี ารป้ องกนั อนั ตราย ตา่ งๆ จากกระแสไฟฟ้ า ทถ่ี กู ตอ้ ง • ผู้ป ฏิบ ตั ิง าน ไ ฟ ฟ้ าต้อ ง ใ ช้ไ ฟ ฟ้ า อ ย่า ง ถูก วิธีแ ล ะ ปลอดภยั 7 7
นยิ ามศพั ทเ์ กย่ี วกบั ไฟฟ้ า เพอ่ื เป็ นรากฐานของการศกึ ษาและความเขา้ ใจตรงกนั ควรทราบความหมายบางคาในทางวชิ าการไฟฟ้ าท่ี สาคญั มดี งั ตอ่ ไปน้ี 8 8
แรงดนั ไฟฟ้ า (Potential หรอื Voltage) หมายถงึ ค่าความตา่ งศกั ยข์ องไฟฟ้ าระหวา่ งสายกบั สาย หรอื สายกบั ดนิ หรอื ระหวา่ งจดุ หนง่ึ กบั จดุ อน่ื ๆ อกี แหง่ หนง่ึ มหี นว่ ยวดั คา่ แรงดนั หรอื ความตา่ งศกั ยเ์ ป็ นโวลต์ 9 9
กระแสไฟฟ้ า (Current) หมายถงึ อตั ราการไหลของอเิ ล็กตรอนในวงจรไฟฟ้ า จากจดุ หนงึ่ ไปยงั อกี จดุ หนงึ่ โดยมหี นว่ ยวดั เป็ นแอมแปร์ 10
ความถไ่ี ฟฟ้ า (Frequency) หมายถงึ จงั หวะการไหลของกระแสไฟฟ้ าสลบั ไหลกบั ไป มา หรอื ขวั้ เปลย่ี นแปลงอยู่ตลอดเวลา จงั หวะการไหล สลบั กนั ไปมาเรยี กวา่ ไซเกลิ ใน 1 ไซเกลิ จะมบี วก ครงึ่ ไซเกลิ และ ลบครง่ึ ไซเกลิ ในระบบไฟฟ้ าของ ประเทศไทยปจั จบุ นั ใชไ้ ฟฟ้ ากระแสสลบั 50 ไซเกลิ ตอ่ วนิ าที 11
ความตา้ นทาน (Resistance) หมายถงึ คุณสมบตั ขิ องวตั ถุในการตา้ นทานหรอื ขดั ขวาง การไหลของกระแสไฟฟ้ า ความตา้ นทานมหี นว่ ยเป็ นโอหม์ ความตา้ นทานไฟฟ้ า 1 โอหม์ คอื คา่ ความตา้ นทานทที่ าให้ กระแสไฟฟ้ า 1 แอมแปร์ ทไ่ี หลผา่ นเป็ นเวลา 1 วนิ าที ทาให้ เกดิ ความรอ้ น 1 จลู 12
ฉนวนไฟฟ้ า (Insulation) คอื วสั ดุทม่ี คี ณุ สมบตั ใิ นการกนั้ หรอื ขดั ขวางตอ่ การไหลของ กระแสไฟฟ้ า หรอื วสั ดทุ กี่ ระแสไฟฟ้ าไมส่ ามารถ ไหลผา่ นไป ไดง้ ่าย ๆ เช่น ยาง ไฟเบอร์ พลาสตกิ เป็ นตน้ วสั ดุทม่ี คี วาม ตา้ นทานตอ่ กระแสไฟฟ้ านอ้ ยเรยี กวา่ ตวั นาไฟฟ้ า เช่น โลหะ ตา่ ง ๆ นา้ สกปรก เป็ นตน้ 13
ตวั นาไฟฟ้ า (Conductor) คอื สง่ิ ทย่ี อมใหก้ ระแสไฟฟ้ าไหลผา่ นโดยงา่ ย ปกตจิ ะเป็ น โลหะ เช่น เงนิ ทองแดง อะลูมเิ นยี ม วตั ถุแต่ละชนดิ จะมี ความ ส าม าร ถ ใน ก ารน าก ร ะแส ได้ไ ม่เ ท่ากนั เ งิน จ ะมี ความสามารถในการนากระแสสงู กวา่ ทองแดง และทองแดง จะสงู กวา่ อะลมู เิ นยี ม 14
หนว่ ยวดั พลงั งานไฟฟ้ า (Watt) ใช้ในการ คานวณก ารใช้ไฟ ฟ้ าหรือพ ลงั งานไ ฟฟ้ า ผู้จ ดั จาหนา่ ยจะคดิ ราคาตอ่ หนว่ ย 1 หนว่ ยไฟฟ้ า คอื กาลงั ไฟฟ้ า 1 กโิ ลวตั ต์ (1,000 วตั ต)์ ที่ ใชใ้ นเวลา 1 ชว่ั โมง 15
ใ น ก า ร ค า น ว ณ ห า ก า ล งั ไ ฟ ฟ้ า เ พื่อ คิด ค่า กระแสไฟฟ้ า สามารถใชส้ ตู รคานวณ ดงั นี้ P = V.I P คอื กาลงั ไฟฟ้ า หนว่ ยเป็ นวตั ต์ V คอื แรงดนั ไฟฟ้ า หนว่ ยเป็ นโวลต์ I คอื กระแสไฟฟ้ า หนว่ ยเป็ นแอมแปร์ 16
หมอ้ แปลงไฟฟ้ า (Transformer) หมายถงึ อุปกรณ์เปล่ยี นแปลงแรงดนั ไฟฟ้ า เปลย่ี น แรงดนั จากตา่ ไปเป็ นสูง หรอื เปลย่ี นจากสูงลงมาเป็ นตา่ โดยการเหนยี่ วนาของแมเ่ หล็ก 17
สายไฟฟ้ า (Wire or Cable) เป็ นสายหรอื ตวั นาไฟฟ้ า มหี ลายชนดิ มที งั้ ชนดิ มฉี นวน หุม้ และไมม่ ฉี นวนหุม้ และมหี ลายประเภท เช่น สาย เคเบลิ อากาศ สายใตด้ นิ เป็ นตน้ 18
สวติ ชห์ รอื เครอ่ื งตดั กระแส (Switch หรอื Breaker) คอื เครอื่ ง ปิ ด - เปิ ด วงจรไฟฟ้ า และอุปกรณ์ไฟฟ้ าที่ ใช้ทาหน้าท่ตี ดั วงจรไฟฟ้ าอาจจะทางานโดยอาศยั อานาจแมเ่ หล็กหรอื ทางานโดยใชม้ อื สบั โยกก็ได้ แผงสวติ ช์ (Switch Board) หมายถงึ แผงทร่ี วมของสวติ ชต์ า่ ง ๆ มหี นา้ ทร่ี บั ไฟฟ้ า จากตน้ กาเนดิ และแจกจา่ ยไปยงั สายวงจรตา่ ง ๆ 19
ฟิ วส์ (Fuse) หมายความถงึ อปุ กรณต์ ดั วงจรไฟฟ้ า โดยอาศยั การหลอม ละลายของโลหะ สายดนิ (Ground หรอื Earth) หมายความถงึ ตวั นาทต่ี ่อจากโครงโลหะของอุปกรณ์และ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้ าหรอื สง่ิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพอื่ จะนากระแสไฟฟ้ าทไี่ ม่ ตอ้ งการใหไ้ หลลงสรู่ ะบบสายดนิ 20 20
สายศนู ย์ (Neutral) หมายความวา่ สายใดสายหนงึ่ ในระบบไฟฟ้ าสามสายหรอื สส่ี าย ซง่ึ แรงดนั ไฟฟ้ าระหวา่ งสายนน้ั ไปยงั สายอยา่ งนอ้ ย 2 สาย ตอ้ ง เทา่ กนั และสายนนั้ ตอ้ งตอ่ ลงดนิ สาหรบั ระบบไฟฟ้ า 2 สาย ถา้ สายใดสายหนึ่งไม่ได้ต่อมาจากศูนย์ของวงจรอื่นแล้ว ให้ กาหนดเอาสายนน้ั เป็ นศนู ยไ์ ด้ และสายนน้ั ตอ้ งตอ่ ลงดนิ ดว้ ย 21
สายลอ่ ฟ้ า (Arrester) เป็ นอุปกรณ์ที่ติดตง้ั ขึ้น เพ่ือวตั ถุประสงค์ในการป้ องกนั อนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขน้ึ จากฟ้ าผา่ ซง่ึ จะตอ้ งประกอบดว้ ยหลกั ลอ่ ฟ้ า สายนาประจุ ตวั จบั ยดึ สายนาประจุ และหลกั ดนิ หลกั ดนิ (Ground Rod) หมายถงึ แทโ่ ลหะซงึ่ ปักลงไปในดนิ เพอื่ ทจี่ ะประจุหรอื กระแสไฟฟ้ าใหไ้ หลลงสดู่ นิ 22
เครอื่ งกาเนดิ ไฟฟ้ า (Generator) หมายถงึ เครอื่ งจกั รทเ่ี ปลยี่ นพลงั งานกลเป็ นพลงั งาน ไฟฟ้ า ใชใ้ นการผลติ กระแสไฟฟ้ า มอเตอร์ (Motor) หมายถงึ เครอ่ื งเปลย่ี นพลงั งานไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานกลใชใ้ น การขบั เคลอื่ นเครอ่ื งจกั รหรอื เครอื่ งมอื กลอน่ื ๆ เพอ่ื ทาให้ เกดิ การหมนุ การฉุด การดงึ เพอ่ื ใหเ้ กดิ พลงั งาน 23
อปุ กรณไ์ ฟฟ้ า (Electrical Equipment) หมายถงึ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ หรอื เครอื่ งจกั รทใี่ ชไ้ ฟฟ้ าเป็ น ตน้ กาลงั หรอื เป็ นสว่ นประกอบ หรอื ใชเ้ กยี่ วเนอ่ื งกบั ไฟฟ้ า 24
ชนดิ ของไฟฟ้ า ไฟฟ้ าแบง่ ออกเป็ น 2 ชนดิ ใหญ่ ๆ ดว้ ยกนั คอื 1. ไฟฟ้ าสถติ 2. ไฟฟ้ ากระแส 1. ไฟฟ้ าสถติ เป็ นอเิ ล็กตรอนทไ่ี มม่ กี ารไหลเคลอื่ นทแ่ี ละไมอ่ าจนามาใชเ้ ป็ น พลงั งานได้ ไฟฟ้ าสถติ เกดิ ขน้ึ จากการเสยี ดสขี องวตั ถุ 2 สงิ่ เช่น ใชแ้ ท่งอาพนั ถูกกบั ขนสตั ว์ อเิ ล็กตรอนจากขนสตั วจ์ ะ เกาะอยทู่ แี่ ทง่ อาพนั นนั้ 25
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175