Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปรายงานและประเมินผล พานแว่นฟ้า 63 เพิ่มหน้าปก [TEST]

สรุปรายงานและประเมินผล พานแว่นฟ้า 63 เพิ่มหน้าปก [TEST]

Published by gpr.parliament, 2020-11-02 04:16:17

Description: สรุปรายงานและประเมินผล พานแว่นฟ้า 63 เพิ่มหน้าปก [TEST]

Search

Read the Text Version

๒ บทสรปุ ผบู้ ริหาร การแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ เป็นเสรีภาพข้ันพ้ืนฐานท่ีกาหนดไว้ใน รัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับ โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้ให้เสรีภาพดังกล่าว ไว้ในหมวดท่ี 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 34 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการส่ือความหมายโดยวิธีอ่ืน การจากัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทามิได้ ดังน้ัน การเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นท่ีมีต่อสภาพการเมืองและสังคมจึงเป็นวิธีการหน่ึงในการแสดงออกและ การเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชน อย่างไรก็ตามการแสดงความคิดเห็นผ่านงานเขียนยังคงจากัดอยู่ในวงแคบ หน่วยงานภาครัฐจึงควรสนับสนุนให้ประชาชนได้มีเสรีภาพในการใช้ศิลปะผ่านงานวรรณกรรมในการถ่ายทอด ความรสู้ กึ สะท้อนภาพสังคม หรอื ร่วมสร้างสรรค์สังคมในรปู แบบการนาเสนอท่ีงดงามดว้ ยภาษาของวรรณกรรม อันเป็นช่องทางหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ประชาชนได้เรียนรู้และเข้าใจในสิทธิ หน้าที่ ความเสมอภาค และความ รับผิดชอบต่อสังคมในการสร้างจิตสานึกความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันจะก่อให้เกิดการมีส่วนร่วม ในการพฒั นาประเทศใหย้ ั่งยืน ซงึ่ สอดรับกับยุทธศาสตร์ท่ี 3 ของสานกั งานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร ในการ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพ่ือ สนบั สนุนงานนติ บิ ัญญัติ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้จัดโครงการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้ามา ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งเป็นปีที่รัฐสภาครบ 70 ปี โดยเห็นความสาคัญของวรรณกรรมว่ามีบทบาทสาคัญต่อการ พัฒนาการเมืองและสังคมให้เกิดความเข้มแข็ง ท้ังนี้ ที่มาของช่ือรางวัล “พานแว่นฟ้า” หมายถึง พานที่วางจัด ซ้อนเป็นสองชั้น พานใบบนท่ีมีขนาดเล็กกว่าวางซ้อนพานใบล่างท่ีมีขนาดใหญ่กว่า ใช้สาหรับรองรับส่ิงท่ีจัดให้ เป็นของที่มีศักดิ์สูงในสถาบันศาสนาหรือพระมหากษัตริย์ นอกจากน้ียังเป็นที่รองรับรัฐธรรมนูญ อันเป็น กฎหมายสูงสดุ ในการปกครองของประเทศ และเปน็ สญั ลกั ษณ์ของรฐั สภาไทย โครงการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี 2563 มีเป้าประสงค์ในการช่วย ผลักดันยุทธศาสตร์ของสานักงานฯ ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีความเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย และมีส่วนร่วมกับการปฏิรูปประเทศไทยให้ยั่งยืน จึงกาหนดให้วรรณกรรมท่ีส่งเข้าประกวด มีเนอ้ื หาในการส่งเสรมิ ความเป็นประชาธิปไตย โดยมวี ตั ถุประสงค์ ๑) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ ๒) เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ท้ังในเร่ืองสิทธิ หน้าท่ี ความเสมอภาค และความรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็นพื้นฐานสาคัญของ ความเปน็ ประชาธปิ ไตย ผา่ นวรรณกรรม ๓) เพื่อสนับสนุนและยกย่องผลงานวรรณกรรมไทยที่ทรงคุณค่าให้พัฒนาไปพร้อมกับสานึก ความเป็นพลเมอื งในระบอบประชาธิปไตย ๔) เพื่อเสริมสรา้ งความสมานฉันท์ และความสามัคคขี องประชาชนในประเทศชาติ ท้ังนี้ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖3 ได้ดาเนินการจัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 ประเภทเร่ืองส้ันและบทกวี เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย โดยเปิดรับผลงานเข้าประกวดต้ังแต่วันท่ี ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ถึงวันท่ี ๓๐ เมษายน ๒๕๖๓ มผี สู้ ง่ ผลงานวรรณกรรมเข้าร่วมประกวดท้ังสิ้น จานวน 1,214 ผลงาน แบง่ เป็นประเภท

๓ เร่ืองสั้น จานวน 480 ผลงาน ประเภทบทกวี จานวน 734 ผลงาน มีผลงานส่งเข้าประกวดฯ เพ่ิมข้ึนจากปี ๒๕๖2 จานวน 300 ผลงาน คดิ เปน็ ร้อยละ 32.82 ประเภทเร่อื งสนั้ มผี ้สู ่งผลงานเขา้ ประกวดที่ผา่ นหลักเกณฑ์ จานวน ๔๕๑ ผลงาน โดยมผี ลงานเรือ่ งส้นั ผ่านการ พิจารณากล่ันกรอง (Longlist) จานวน ๒7 ผลงาน และมีผลงานที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การตัดสินรอบสุดท้าย (Shortlist) จานวน ๑๓ ผลงาน รางวัลชนะเลศิ ไดแ้ ก่ผลงานเร่ือง “สิ่งทรี่ ออยู่หลังเส้นชัย” โดย วิโรจน์ สทุ ธิสีมา รางวลั รองชนะเลิศ ๒ รางวลั ได้แก่ ๑. ผลงานเรอ่ื ง “พลเมอื งดี” โดย วุฒินันท์ ชัยศรี ๒. ผลงานเรื่อง “เสน้ แบง่ ” โดย วฒั น์ ยวงแกว้ รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล ไดแ้ ก่ ๑. ผลงานเรอ่ื ง “ขบวนการฟักทอง” โดย โต้หมู ๒. ผลงานเรอ่ื ง “คราบท่ียังลอกออกไม่หมด” โดย พยงุ ศักด์ิ แบบอย่าง ๓. ผลงานเรื่อง “แคผ่ า้ เชด็ เทา้ ” โดย ชดิ ชยากร ๔. ผลงานเรอ่ื ง “ใครจะเก็บซากหมาตวั น้ัน” โดย สวุ ณั นา ๕. ผลงานเรื่อง “ซากดึกดาบรรพใ์ นพพิ ธิ ภณั ฑ์ไม่มีชื่อ” โดย จกั ษณ์ จันทร ๖. ผลงานเรื่อง “นครลิง” โดย ขัน สผี า ๗. ผลงานเร่ือง “เมลด็ พนั ธ์ุ” โดย พณิ พิพัฒน ศรีทวี ๘. ผลงานเรือ่ ง “แว่วขา่ วคราวว่าขา้ วแขง็ ” โดย พชั รพร ศุภผล ๙. ผลงานเรื่อง “สนุ ัขนาทาง” โดย แพรพลอย วนชั ๑๐. ผลงานเรอื่ ง “เสยี งรา่ ไห้จากหมิ พานต์” โดย รตี รตธิ รณ ประเภทบทกวี มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดที่ผ่านหลักเกณฑ์ จานวน 699 ผลงาน โดยมีผลงานบทกวีผ่านการ พิจารณากล่ันกรอง (Longlist) จานวน ๓3 ผลงาน และมีผลงานท่ีผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การตัดสินรอบสุดท้าย (Shortlist) จานวน 13 ผลงาน รางวัลชนะเลิศ ไดแ้ ก่ ผลงานเร่อื ง “แผนที่และเขี้ยวปลวก” โดย เทิดไท นามแทน รางวลั รองชนะเลิศ ๒ รางวัล ไดแ้ ก่ ๑. ผลงานเรื่อง “เมืองน้ีมีภเู ขา แม่น้า ฯลฯ” โดย หทยั รตั น์ จตรุ วฒั นา ๒. ผลงานเร่ือง “เวน้ พน้ื ทว่ี า่ งเอาไว้” โดย คตี ญา อินทรแก้ว รางวลั ชมเชย ๑๐ รางวลั ได้แก่ ๑. ผลงานเรอื่ ง “35 ชัว่ โมง สปั ปายะสภาสถาน” โดย สุธรี ์ พุ่มกมุ าร ๒. ผลงานเรอ่ื ง “นัยแมน่ ้า” โดย นรเศรษฐ์ ทบั ทมิ ทอง ๓. ผลงานเร่ือง “บ้านสองหลัง” โดย ชชู าติ ครุฑใจกลา้ ๔. ผลงานเรอ่ื ง “พนิ ยั กรรม” โดย เสฏฐ์ บุญวริ ิยะ ๕. ผลงานเรอื่ ง “เพยี งเสี้ยวส่วนและมวลสาร” โดย กุลกนก รัตนเสรี ๖. ผลงานเรื่อง “แมน่ า้ ส่สี าย” โดย อภชิ าติ ดาดี ๗. ผลงานเรื่อง “เราอย่ตู รงนน้ี านเกนิ ไปแล้ว” โดย ปาลติ า ผลประดับเพช็ ร์ ๘. ผลงานเรอ่ื ง “เรือ่ งเลา่ เพ่ือลดอคตคิ วามเห็นต่าง” โดย อังคาร จันทาทิพย์ ๙. ผลงานเรื่อง “โลกสรา้ งเราให้เทา่ เทยี ม” โดย ฉัตรสมุ าลย์ ภูแต้มนิล

๔ ๑๐. ผลงานเร่อื ง “เสน้ แบ่ง” โดย สนั ดร แกว้ เกิดมี สรุปความสาเร็จตามกรอบตัวชีว้ ดั โครงการ : กรอบตัวชีว้ ดั โครงการ เชิงปรมิ าณ จานวนผลงานวรรณกรรมทส่ี ง่ เข้าประกวด ไม่น้อยกว่า 500 ผลงาน เชิงคุณภาพ ร้อยละ ๘๐ ของผลงานท่ีได้รับรางวัลแสดงออกถึงการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย และ ความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ในเรื่องสิทธิ หน้าท่ี ความเสมอภาค ความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคม เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ และความสามัคคีของประชาชนใน ประเทศชาติ ผลการดาเนนิ งานตามตวั ชว้ี ัดโครงการ ความสาเรจ็ เชิงปรมิ าณ การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี 2563 มผี สู้ ่งผลงานวรรณกรรมเข้าร่วม ประกวดท้งั สิ้น จานวน 1,214 ผลงาน แบ่งเป็นประเภทเร่ืองสั้น จานวน 480 ผลงาน ประเภทบทกวี จานวน 734 ผลงาน สรปุ ผลงานทีส่ ง่ เข้าประกวดมากกว่าตวั ช้ีวัดเชิงปริมาณ (ไม่นอ้ ยกว่า 500 ผลงาน) จานวน 7๑๔ ผลงาน คิดเป็นร้อยละ 142.๘ ที่มากกว่าตวั ชวี้ ดั ความสาเร็จเชงิ คณุ ภาพ ผลงานวรรณกรรมท่ีได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า ทั้งประเภทเร่ืองสั้นและบทกวี จานวน 26 ผลงาน คิดเปน็ ร้อยละ 100 มีเนอ้ื หาส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย ตลอดจนมีสว่ นรว่ มในการสรา้ งสรรค์สังคม เพือ่ ให้ เกิดความปรองดองสมานฉันท์ และความสามัคคีของประชาชนในประเทศชาติ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ การจัดประกวดในคร้งั น้ี ดังน้ี เร่ืองส้ันที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ “ส่ิงที่รออยู่หลังเส้นชัย” ผู้เขียนใช้การว่ิงแข่งมาราธอนเพื่อ แสดงความเป็นประชาธิปไตยในเร่ืองการปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเองให้ดีท่ีสุด มาราธอนเป็นการ แขง่ กฬี าทีใ่ ช้ความอดทนสงู และรอคอยจนกวา่ จะเหน็ โอกาสได้ชยั ชนะ เหมือนกับความเปน็ ประชาธปิ ไตยที่มิใช่ ได้มาโดยง่าย การไปให้ถึงเส้นชัยย่อมผ่านพบอุปสรรคขวากหนาม แต่จิตใจท่ีมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้จะทาให้ ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ การทาตามกฎกติกาของการวิ่งก็เช่นเดียวกับการรักษากฎกติกาของความเป็น ประชาธิปไตย ความเจ็บแค้นจากการถูกกดขี่และความอยุติธรรมที่ได้รับ ควรเปล่ียนเป็นพลงั ในการเข้าสู่ความ เป็นประชาธิปไตยมากกว่าการสร้างความขัดแย้ง ที่รังแต่จะเป็นสิ่งบ่ันทอนให้เส้นชัยของประชาธิปไตยอยู่ ห่างไกลออกไปอีก การก้าวสู่เส้นชัยคือชัยชนะ แต่ส่ิงท่ีสาคัญที่สุดหลังการก้าวข้ามเส้นชัยคืออิสรภาพและ เสรภี าพอนั เป็นความใฝ่ฝนั ของมนษุ ย์ ผูเ้ ขียนแสดงให้เห็นประสบการณแ์ ละความเช่ียวชาญในการวงิ่ มาราธอน และดาเนินเรื่องตาม หลักกิโลเมตรของการว่ิง ซึ่งบางคร้ังมีการย้อนหลังทาให้ผู้อ่านติดตามเรื่องได้อย่างมีอรรถรสและบรรยากาศ นับเป็นจดุ เด่นดา้ นกลวิธีนอกเหนือจากสารเนื้อหาที่ใหข้ อ้ คิดลึกซึ้ง บทกวีท่ีได้รับรางวัลชนะเลิศ “แผนท่ีและเขี้ยวปลวก” ประพันธ์เป็นกลอนสุภาพ สะท้อน ปัญหาการคอร์รัปชันและปัญหาความไม่ซ่ือสัตย์ของผู้บริหารประเทศและผู้คนที่เกี่ยวข้อง โดยสร้างเป็นภาพ จินตนาการเปรียบเทียบประเทศเป็นแผนท่ี และคนที่คอร์รปั ชันและไม่ซื่อสัตย์เหล่านนั้ เป็นปลวกที่คอยกัดแทะ แผนที่ ปลวกเป็นสัตว์ที่น่ากลัวท่ีสุดของแผนที่ เพราะมันสามารถกัดแทะทาลายได้ในระยะเวลาอันสั้น การที่ ผู้เขียนเลือกใช้ “แผนท่ีประเทศ” ทาให้เกิดภาพแทนประเทศขึ้นในใจผู้อ่านอยา่ งสมบูรณ์ และปลวกก็เป็นสัตว์

๕ ท่ีสามารถทาลายแผนที่ได้ในพริบตาเช่นกัน ภาพปลวกกินแผนท่ีประเทศจึงเป็นภาพเชิงสัญลักษณ์เล็กๆ แทน การเอย่ ถึงประเทศทัง้ ประเทศส่งผา่ นตวั อักษรมาได้อย่างมีพลัง สังเกตว่าผู้เขียนไม่ได้ใช้ ประชาธิปไตย หากใช้ “ธรรมาธิปไตย” เพ่ือเน้นการต้องมี“ธรรม” ความลงตัวอกี ส่วนหนึ่งของผลงานชิ้นน้ีอยูจ่ ังหวะคาและสานวนโวหาร มกี ารเล่นจงั หวะคาหลายแห่ง หรือเล่น คาคู่สองวรรค เป็นต้น ปลวกมิได้มาจากท่ีอื่นใด หากแต่เป็นคนในสังคมนั่นเองท่ีเป็นผู้พาปลวกมากัดแทะแผนท่ีประเทศ ของตัวเอง นัยน้ีนาไปสู่การเลือกคนที่ถูกต้อง กวียืนยันและส่งพลังภาพผ่านคาและโวหารมาอย่างจงใจให้ กระแทกใจ ท้ังน้ี ผลงานวรรณกรรมเร่ืองสน้ั และบทกวีที่ได้รบั รางวัลพานแวน่ ฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 ทัง้ ๒๖ ผลงาน ได้ทาการรวบรวมและจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเพื่อเผยแพร่ผลงานวรรณกรรมที่มีเน้ือหาส่งเสริมความเป็น ประชาธิปไตย ให้แก่ประชาชนท่ัวไป ตลอดจนเพ่ือสนับสนุนและยกย่องผลงานวรรณกรรมไทยท่ีทรงคุณค่าให้ พฒั นาไปพรอ้ มกบั สานกึ ประชาธปิ ไตย เน่ืองด้วยการท่ีวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้าได้สะท้อนภาพสังคมและการเมืองออกมาจาก ความคิดของนักเขียน เม่ือทาการเผยแพร่วรรณกรรมท่ีมีเนื้อหาส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย และความเป็น พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ผ่านช่องทางต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ไปสู่กลุ่มเป้าหมายทุกระดับชั้น และ ด้วยแนวคิดท่ีว่าวรรณกรรมมีอิทธิพลต่อสังคม จึงเป็นไปได้ที่เนื้อหาของวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้าจะชี้นา ความคิดของคนในสังคม ซ่ึงจะเป็นพลังท่ีจะทาให้เกิดความเปลี่ยนแปลงข้ึนในสังคมในด้านการพัฒนา ประชาธปิ ไตยใหย้ ่งั ยนื และม่นั คง เพราะคนคือรากฐานท่ีสาคญั ของประชาธิปไตย

๖ สรุปภาพรวมประเมินผลความพงึ พอใจของผู้เข้ารว่ มงานพิธีมอบรางวัลพานแวน่ ฟา้ ประจาปี ๒๕๖3 การประเมินผลความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงานพิธีมอบรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 วันพุธท่ี 17 กันยายน 2563 ณ ห้องประชุม ช้ัน 6 อาคารรัฐสภา โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม ซึง่ สามารถสรปุ การประเมนิ ผลความพงึ พอใจออกเป็น ๔ ดา้ น ดังน้ี ๑. ความพึงพอใจในด้านการให้บริการของเจ้าหน้าท่ี : แสดงผลความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย เฉลย่ี รวมเท่ากับ 4.34 หรือคิดเป็นรอ้ ยละ ๘6.8 ๒. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการ/ขนั้ ตอนการจัดพิธมี อบรางวลั : แสดงผลความพึงพอใจของ กลุ่มเป้าหมายเฉล่ยี รวมเทา่ กบั 4.๒ หรอื คดิ เปน็ ร้อยละ ๘4 ๓. ความพึงพอใจด้านสิ่งอานวยความสะดวก : แสดงผลความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย เฉล่ียรวมเท่ากับ 4.22 หรือคดิ เป็นร้อยละ ๘4.4 ๔. ความพึงพอใจในการจัดพธิ มี อบรางวลั โดยรวม : แสดงผลความพงึ พอใจของกลุ่มเปา้ หมาย เฉลีย่ รวมเท่ากับ 4.๒1 หรือคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๘4.2 ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงานพิธีมอบรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 เฉล่ียรวม ท้งั ๔ ด้าน คิดเป็นร้อยละ ๘๔.85 ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของผ้เู ข้าร่วมงานพิธีมอบรางวลั พานแวน่ ฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 ข้อควรปรบั ปรุง - สถานที่อาจยังไม่มีความพรอ้ ม สถานที่จอดรถไมเ่ พยี งพอ - ควรจดั การเรอื่ งทนี่ ัง่ ของผ้มู าร่วมงานใหเ้ ปน็ ระเบียบกวา่ น้ี ใครมาก่อนให้เขา้ ไปนั่งขา้ งหน้า - ในด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่ม ท่ียังมีจุดบริการน้าดื่มไม่เพียงพอ และจุดบริการ อาหารควรแยกเป็นภูมิภาคให้ชดั เจน - ท่ีนัง่ รับประทานอาหารไม่พอ และไมม่ ที ี่สาหรับผู้พกิ าร - ควรมรี ะบบคัดกรองการลงทะเบยี นใหเ้ ข้มมากกวา่ นี้ - ควรให้นักเขียนอาวโุ สมาแนะนาเทคนคิ การเขยี นใหน้ กั เขยี นรนุ่ ใหมๆ่ ฟังบ้าง จะดีมาก - ควรเพ่มิ เวลาในช่วงเสวนาให้มากขึน้ ข้อเสนอแนะอื่น ๆ - ควรเพ่มิ จานวนรางวัล และควรมีรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ - ควรมกี ารจัดอบรมเรื่องการเขียน โดยไม่มีคา่ ใช้จ่าย หรือจดั อบรมทางออนไลน์ - ควรแจกหนงั สอื เกยี่ วกบั เทคนิคการเขยี น,ประวัติศาสตร์,หนังสือฮาวทูที่นา่ สนใจ ......................................................

๗ โครงการประกวดวรรณกรรมพานแว่นฟ้า ประจาปี 2563 1. หลกั การและเหตุผล สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้จัดโครงการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า มาต้ังแต่ปี 2545 ซ่ึงเป็นปีท่ีรัฐสภาครบ 70 ปี โดยเห็นความสาคัญของวรรณกรรมว่ามีบทบาทสาคัญต่อ การพัฒนาการเมืองและสังคมให้เกิดความเข้มแข็ง ทั้งน้ี ที่มาของชื่อรางวัล “พานแว่นฟ้า” หมายถึง พานท่ีวาง จดั ซอ้ นเป็นสองชัน้ พานใบบนที่มีขนาดเล็กกว่า วางซอ้ นพานใบล่างทม่ี ีขนาดใหญ่กวา่ ใชส้ าหรบั รองรบั ส่ิงที่จัด ให้เป็นของท่ีมีศักด์ิสูง ในสถาบันศาสนาหรือพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ ยังเป็นท่ีรองรับรัฐธรรมนูญ อันเป็น กฎหมายสงู สุดในการปกครองของประเทศ และเปน็ สัญลักษณข์ องรัฐสภาไทย การแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ เป็นเสรีภาพขั้นพ้ืนฐานที่กาหนดไว้ใน รัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับ โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้ให้เสรีภาพดังกล่าว ไวใ้ นหมวดที่ 3 สทิ ธิและเสรภี าพของปวงชนชาวไทย มาตรา 34 บุคคลยอ่ มมีเสรภี าพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการส่ือความหมายโดยวิธีอื่น การจากัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทามิได้ ดังนั้น การเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นท่ีมีต่อสภาพการเมืองและสังคมจึงเป็นวิธีการหน่ึงในการแสดงออกและ การเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชน อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็นผ่านงานเขียนโดยเฉพาะ ในรปู แบบวรรณกรรมยังคงจากัดอยู่ในวงแคบ หน่วยงานภาครัฐจงึ ควรสนับสนนุ ใหป้ ระชาชนได้มเี สรภี าพในการ ใช้ศิลปะผ่านงานวรรณกรรมในการถ่ายทอดความรู้สึกสะท้อนภาพสังคมและการเมือง หรือร่วมสร้างสรรค์ สงั คมและการเมือง ในรปู แบบการนาเสนอที่งดงามด้วยภาษาของวรรณกรรม อันเป็นชอ่ งทางหน่งึ ที่จะส่งเสริม ให้ประชาชนได้เรียนรู้และเข้าใจในสิทธิ หน้าท่ี ความเสมอภาค และความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการ เสริมสร้างจิตสานึกความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้แก่ประชาชน อันจะก่อให้เกิดการมีส่วนร่วม ในการพัฒนาประเทศใหย้ ่ังยืน ซง่ึ สอดรบั กับยทุ ธศาสตร์ที่ 3 ของสานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ในการ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพ่ือสนบั สนุนงานนติ ิบัญญตั ิ ดังน้ัน สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงเห็นสมควรจัดโครงการประกวดวรรณกรรม รางวัลพานแว่นฟ้า เพื่อเป็นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการขับเคล่ือนการปฏิรูปการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพผ่านงานเขียน เพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเวทีในการสืบสานสร้างสรรค์วรรณกรรมที่ เปน็ สมบัตขิ องชาตใิ ห้คงอยู่ รวมถงึ เป็นการสรา้ งภาพลักษณ์ของสถาบันนิติบัญญัติให้เป็นทีร่ ู้จักกว้างขวางยิ่งข้ึน ทง้ั น้ี ในช่วงปที ผ่ี า่ นมาสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้จัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟ้า โดย มีเนื้อหาการประกวดในกรอบของการส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือสร้างการมีสว่ นรว่ มของประชาชน ส่งเสริมความเข้าใจในสิทธิ หน้าท่ี ความเสมอภาค และความรับผิดชอบ ต่อสังคม อันเป็นพ้ืนฐานสาคัญของความเป็นประชาธิปไตย นอกจากนี้ ในแต่ละปีได้ทาการรวบรวมผลงาน วรรณกรรมท่ีได้รับรางวัลพานแว่นฟ้าจัดพิมพ์เป็นหนังสือเล่มเพ่ือเผยแพร่ผลงานวรรณกรรมที่มีเน้ือหาส่งเสริม ความเปน็ พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้แก่ เยาวชน นักเรยี น นักศึกษา นกั เขยี น นกั อ่าน และประชาชนท่ัวไป ตลอดจนเพ่อื สนบั สนนุ และยกย่องผลงานวรรณกรรมไทยที่ทรงคณุ คา่ ให้พัฒนาไปพร้อมกับสานึกประชาธปิ ไตย อย่างไรก็ตาม การนาเน้ือหาวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้าไปเผยแพร่โดยการจัดทาเป็นส่ือ รูปแบบหนังสือเล่ม อาจยังไม่เพียงพอต่อการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองและการพัฒนาประชาธิปไตยให้ เข้มแข็งและทั่วถึง จึงได้มีแนวคิดในการพัฒนาต่อยอดและขยายผลวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้าให้เพิ่มข้ึน

๘ ในหลายช่องทางและหลายรูปแบบ ในกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมให้แก่เยาวชน และประช าชน อาทิ การจัดทาเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ภาพยนตร์สั้น ภาพยนตร์แอนิเมชัน หรือละครเวที รวมถึงการ แปลผลงานวรรณกรรมท่ีได้รับรางวัลเป็นภาษาต่างประเทศ ตลอดจนแนวคิดในการพัฒนางานเขียนของ นักเขียนท่ีส่งผลงานเข้าประกวดฯ ทั้งด้านเน้ือหาและด้านการใช้ภาษา โดยควรจัดกิจกรรมเพ่ือเพ่ิมพูนทักษะ ดังกลา่ วใหก้ บั นักเขยี นเพอื่ นาไปพัฒนาผลงานสง่ เข้าประกวดวรรณกรรมรางวลั พานแว่นฟา้ ดังน้ัน การนาวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้ามาเปน็ เครอื่ งมือในการพัฒนาประชาธิปไตย โดย จัดทาเป็นส่ือรูปแบบต่างๆ เผยแพร่ผ่านช่องทางที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย จึงเป็นการกระตุ้นจิตสานึกความ เป็นพลเมอื งในระบอบประชาธิปไตยใหก้ ับเยาวชนและประชาชน นอกเหนือจากการเรียนรูจ้ ากระบบการศึกษา และจากบทความทางวิชาการต่างๆ นับเป็นอีกวิธีในการบรรลุเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ท่ี 3 ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของภาคพลเมอื งในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข เพื่อสนับสนุนงานนติ บิ ัญญตั ิ 2. วัตถปุ ระสงค์ 1) เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข 2) เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการเสริมสร้างความเป็นประชาธิปไตย ท้ังในเรื่อง สิทธิ หน้าท่ี ความเสมอภาค และความรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็นพื้นฐานสาคัญของความเป็นประชาธิปไตย ผา่ นวรรณกรรม 3) เพื่อสนับสนุนและสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมไทยท่ีทรงคุณค่าให้พัฒนาไปพร้อมกับ สานึกความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย 4) เพือ่ เสรมิ สร้างความสมานฉันท์ และความสามคั คขี องประชาชนในประเทศชาติ 3. ระยะเวลาดาเนินการ เริม่ ดาเนนิ การ 1 ตุลาคม 2562 – 30 กนั ยายน 2563 4. เป้าหมายโครงการ เป้าหมาย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ กาหนดจัดการประกวดจานวน ๑ ครั้ง มีประชาชน สนใจส่งผลงานวรรณกรรมเข้าร่วมประกวด และสามารถตัดสินผลงานให้ได้รับรางวัล พร้อมท้ังจัดพิมพ์ผลงาน วรรณกรรมที่ได้รับรางวัลเพื่อเผยแพร่ให้กับประชาชน รวมถึงจัดกิจกรรมอ่ืนที่เก่ียวเนื่องกับการประกวด และ จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานและการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า อาทิ กิจกรรม วรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟา้ ในงานสปั ดาห์หนังสอื แห่งชาติ จานวน 1 ครัง้ กล่มุ เป้าหมายท่สี ง่ ผลงานเขา้ ประกวดฯ - ประชาชนท่วั ไป ๕. วธิ ดี าเนินการ/แผนการดาเนินงาน ๑) จัดตั้งคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า เพื่อพิจารณารูปแบบ หลักเกณฑ์ ตลอดจนแนว ทางการดาเนนิ งานการจัดประกวดวรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้ ๒) ดาเนินการจดั การประกวด ตดั สนิ การประกวด และจดั พธิ มี อบรางวลั ๓) จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานและการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟ้า อาทิ จัดนิทรรศการ จัดงานแถลงข่าวการประกวดฯ จัดกิจกรรมวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้าในงานสัปดาห์ หนงั สือแห่งชาติฯ และกิจกรรมอ่ืนทีเ่ กีย่ วเน่อื งกับการประกวดฯ

๙ ๔) นาผลงานวรรณกรรมมาจัดทาเป็นสอ่ื รปู แบบหนังสือเล่ม และสอ่ื รูปแบบอนื่ ๆ เพ่ือเผยแพร่ ผลงานวรรณกรรมทไ่ี ด้รับรางวลั ๖. งบประมาณโครงการ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร จานวน ๑,๘๐๐,๐๐๐.- บาท (หนึง่ ล้านแปดแสนบาทถ้วน) ๗. ผลทคี่ าดว่าจะได้รบั ๑) ประชาชนมีความสนใจในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข ๒) ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ และเข้าใจในความเป็น พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ท้ังในเรื่องสิทธิ หน้าท่ี ความเสมอภาค และความรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็น พืน้ ฐานสาคัญของความเปน็ ประชาธปิ ไตย ผา่ นวรรณกรรม ๓) มีงานวรรณกรรมที่ทรงคณุ ค่าเพมิ่ ขึน้ ในแวดวงวรรณกรรมของไทย ๔) เนื้อหาสาระของวรรณกรรมจะเป็นเบ้าหลอมจิตใจผู้อ่านเห็นคุณค่าของประชาธิปไตย ตลอดจนเสรมิ สรา้ งความสมานฉันท์ และความสามคั คีของประชาชนในประเทศชาติ ๘. ตวั ชีว้ ัดและคานิยาม ๘.๑ ตัวชีว้ ดั เชิงปริมาณ จานวนผลงานวรรณกรรมท่สี ่งเข้าประกวด ไมน่ ้อยกวา่ ๕๐๐ ผลงาน เชิงคณุ ภาพ ร้อยละ ๘๐ ของผลงานที่ได้รับรางวัลแสดงออกถึงการส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเรื่องสิทธิ หน้าท่ี ความเสมอภาค ความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนมีส่วนร่วมในการ สรา้ งสรรคส์ ังคม เพอ่ื ให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ และความสามัคคีของประชาชนในประเทศชาติ ๘.๒ คานยิ าม จานวนผลงานวรรณกรรมที่ส่งเข้าประกวด หมายถึง จานวนรวมของผลงานประเภทเรื่องส้ัน และประเภทบทกวี ทสี่ ง่ เขา้ ประกวด ท้งั ทถี่ ูกหลักเกณฑก์ ารประกวดและไม่ถูกหลักเกณฑ์การประกวด ผลงานที่ได้รับรางวัล หมายถึง ผลงานทั้งประเภทเร่ืองสั้น และบทกวี ที่คณะกรรมการฯ ตัดสินให้ได้รับรางวัล ตามจานวนรางวัลท่ีกาหนดไว้ในการประกวดแต่ละครั้ง ซ่ึงคัดเลือกจากผลงานท่ีส่งเข้า ประกวดทั้งหมด โดยใช้หลักเกณฑต์ ามทคี่ ณะกรรมการฯ กาหนด อาทิ - มีเนอ้ื หาสง่ เสริมความเปน็ ประชาธปิ ไตย - มีชื่อเร่ืองของผลงาน - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ - มกี ลวธิ ีนาเสนอน่าสนใจ - มอี รรถรส ชวนอา่ น และมีคณุ ค่าในเชิงวรรณศลิ ป์ - มีสานวนและภาษาถกู ตอ้ งเหมาะสม - มีองคร์ วมของความเป็นวรรณกรรม ท้ังน้ี วิธีการพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการฯ จะพิจารณาจากผลงานที่ส่งเข้าประกวด ทง้ั หมด แล้วคดั เลอื กผลงานที่ผ่านเกณฑ์การตดั สนิ ดงั กล่าว

๑๐ ๙. การติดตาม และประเมนิ ผล - แบบประเมินสาหรับผู้ทสี่ ง่ ผลงานเข้าประกวด/ผเู้ ข้ารว่ มงานพธิ มี อบรางวัล - การเสนอข่าวสารจากสอื่ มวลชน - ความคดิ เหน็ ของคณะกรรมการ - การตอบรับ/แสดงความคดิ เห็นจากผทู้ ่ีอ่านวรรณกรรม ...........................................................

๑๑ สรปุ การดาเนินงานประชาสมั พันธ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ผลงานท่ไี ดร้ บั รางวลั และจัดกจิ กรรมอ่ืนทเี่ กย่ี วเนอื่ งกบั การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟา้ ประจาปี ๒๕๖๓ ๑. การเผยแพร่ประชาสมั พันธ์การประกวดฯ ผา่ นส่อื ตา่ ง ๆ ดงั นี้ - ส่งเอกสารประชาสัมพันธ์ อาทิ ประกาศ โปสเตอร์ แผน่ พบั และหนังสือเชิญชวนการประกวดฯ ไปยังบุคคลและหนว่ ยงานตา่ ง ๆ - สง่ ข่าวประชาสัมพนั ธไ์ ปยงั ส่ือตา่ ง ๆ อาทิ ส่ือหนังสือพิมพ์ ส่ือโทรทศั น์/วทิ ยุ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ - ประชาสัมพนั ธ์เผยแพร่ในรายการตา่ ง ๆ ของสถานีวทิ ยุกระจายเสยี งและวิทยโุ ทรทศั น์รัฐสภา อาทิ รายการขา่ วและรายการอนื่ ๆ จัดทา spot ประชาสัมพนั ธ์ (โทรทัศน/์ วทิ ยุ) และตัววิ่งประชาสัมพนั ธ์ - ประชาสัมพันธเ์ ผยแพรใ่ น URL แบนเนอร์รางวัลพานแวน่ ฟ้า www.parliament.go.th/phan และ facebook รางวัลพานแวน่ ฟ้า - ประชาสมั พนั ธ์เผยแพร่ภายในหน่วยงาน อาทิ เสยี งตามสาย โปสเตอร/์ บอรด์ นทิ รรศการ แอพพลิเคชัน่ ไลน์

๑๒

๑๓ ๒. การแถลงข่าวการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖๓ ในวันศุกรท์ ี่ ๒๘ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณจดุ แถลงข่าว ชัน้ ๑ อาคารรัฐสภา โดยผ้แู ถลงขา่ วประกอบดว้ ย - นายสรศกั ด์ิ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประธานกรรมการรางวลั พานแวน่ ฟา้ ปี ๒๕๖๓ - ศาสตราจารย์รน่ื ฤทยั สัจจพนั ธุ์ ปชู นยี บุคคลด้านภาษาไทย ปี ๒๕๕๘ กรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖๓ - นายอดุล จันทรศักด์ิ ศลิ ปินแห่งชาติ สาขาวรรณศลิ ป์ ปี ๒๕๕๑ กรรมการรางวลั พานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖๓

๑๔ ๓. การเขา้ รว่ มงานแถลงขา่ วการจดั งานสปั ดาห์หนังสอื แหง่ ชาติ ครั้งท่ี ๔๘ (Media Briefing) ในวันจันทรท์ ี่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๓๐ นาฬกิ า ณ ห้องคราวน์ ๑ - ๒ ชั้น ๒๑ โรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ลมุ พนิ ี พาร์ค โดย ผอู้ านวยการสานักประชาสมั พันธ์ เป็นผู้แทน เลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ประธานกรรมการรางวลั พานแวน่ ฟ้า เข้าร่วมเวทีแถลงข่าว ดงั กลา่ ว ๔. การจดั นิทรรศการรางวัลพานแว่นฟ้า ในงานสัปดาห์หนงั สอื แห่งชาติ ครง้ั ท่ี ๔๘ (งานหนงั สือออนไลน์) ระหว่างวันที่ ๒๕ มนี าคม – ๕ เมษายน ๒๕๖๓ ผ่านชอ่ งทางเวบ็ ไซต์ www.thaibookfair.com โดย เน้ือหานทิ รรศการประกอบด้วย สว่ นท่ี ๑ เล่าเรอื่ งพานแวน่ ฟ้า ประกอบด้วย ประวัตกิ ารจดั ประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟ้า ท่มี า และความหมายของรางวลั พานแว่นฟ้า สว่ นท่ี ๒ การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟา้ ประจาปี ๒๕๖๓ ประกอบดว้ ย รายละเอียด หลักเกณฑก์ ารประกวดฯ ลิงกเ์ ฟซบุ๊กรางวลั พานแว่นฟ้า ลิงกเ์ วบ็ ไซตร์ างวัลพานแวน่ ฟ้า ส่วนที่ ๓ จดั แสดงหนงั สือวรรณกรรมรางวลั พานแว่นฟ้า ปี ๒๕๔๕ – ๒๕๖๒ (๑๗ เลม่ ) โดยเปดิ ให้โหลด QR Code หนงั สือทเี่ ป็นไฟล์ PDF ๔ เลม่ ๑) หนังสือวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟ้า ปี ๒๕๕๘ “หนง่ึ ร้อยยี่สิบปี พระบารมีพระปกเกล้าฯ” ๒) หนังสือวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟา้ ปี ๒๕๕๙ “สงบงงในดงงู” ๓) หนังสอื วรรณกรรมรางวลั พานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖๐ “ภาพท่ีคอมโพสชิ ั่น (ไมเ่ คย) ลงตัว” ๔) หนังสอื วรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟ้า ปี ๒๕๖๑ “เส้อื คลุมของผ้พู นั ”

๑๕ ส่วนท่ี ๔ นักเขยี นรางวลั พานแวน่ ฟ้า ปี ๒๕๖๒ ประกอบดว้ ย ประวัติ คดั ขอ้ ความจากวรรณกรรมที่ไดร้ ับ รางวัล และคลิปแรงบนั ดาลใจในการเขยี นผลงาน ส่วนที่ ๕ Flash Talk จานวน ๑๑ คลปิ ประกอบด้วย ๑) “เขยี นอย่างไรให้มคี ณุ ค่าในเชงิ วรรณศิลป์” โดย รองศาสตราจารยต์ รีศิลป์ บุญขจร นายกสมาคมภาษาและหนงั สือแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ๒) “ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะในการสง่ ผลงานรางวัลพานแวน่ ฟา้ ” โดย รองศาสตราจารย์ทวีศักด์ิ ปิ่นทอง อดตี คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง ๓) “องค์ประกอบของการเขียนกวีนิพนธ์ท่ดี ี” โดย นายยทุ ธ โตอดเิ ทพย์ ทป่ี รกึ ษาสถาบันกวนี ิพนธ์ไทย ๔) “การใช้ข้อมูลในการเขียนวรรณกรรม” โดย นางสาวจันทรย์ วีร์ สมปรีดา นักเขยี นนามปากกา “รอมแพง” ผูแ้ ตง่ นวนิยาย “บพุ เพสนั นิวาส” ๕) “วรรณกรรมการเมืองคืออะไร” โดย ศาสตราจารยร์ น่ื ฤทัย สจั จพันธ์ุ ปูชนยี บคุ คลดา้ นภาษาไทย ปี 2558 ๖) “พานแวน่ ฟา้ กับการเสริมสรา้ งความเป็นประชาธปิ ไตย” โดย นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกลา้ ๗) “เทคนิคการเขียนเรื่องสัน้ ” โดย นางกนกวลี กนั ไทยราษฎร์ นายกสมาคมนกั เขยี นแหง่ ประเทศไทย ๘) “มุมมองบรรณาธกิ ารต่อการสร้างงานของนักเขียน” โดย นายกนกพันธ์ สนุ ทรกมลวัฒน์ อดีตบรรณาธกิ ารสานักพิมพเ์ พ่ือนดี ในเครอื นิตยสารสกลุ ไทย ๙) “การเขยี นบทกวใี หส้ ัมผัสใจ” โดย นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2536 ๑๐) “เขียนอย่างไรให้หมดจดเปน็ บทกวี” โดย นายเรวัตร์ พันธุ์พพิ ัฒน์ กวซี ีไรต์ ประจาปี 2547 ๑๑) “การสรา้ งแรงบันดาลใจในการเขยี น” โดย นางชมัยภร บางคมบาง ศลิ ปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2557 ทั้งน้ี ผู้จดั งานฯ ยงั นาคลปิ Flash Talk ไปเปดิ ในช่วงไลฟ์ ในแตล่ ะวันตลอดงานสัปดาหห์ นังสอื ฯ

๑๖ นอกจากนี้ ภายหลงั งานสปั ดาหห์ นงั สอื แห่งชาตฯิ ได้ประชาสัมพันธค์ ลิป Flash Talk ในเพจ เฟซบุ๊กรางวัลพานแวน่ ฟ้า โดยทาคลปิ เพ่ิมอีกจานวน ๑ คลิป ได้แก่ “เขียนเร่อื งสน้ั อย่างไรให้ไดร้ างวัล” โดย นายบรู พา อารัมภีร อดีตนายกสมาคมนักเขยี นแหง่ ประเทศไทย ท้ังนี้ คลปิ ท้ังหมด จานวน ๑๒ คลปิ ยงั เผยแพรอ่ ยู่ในชอ่ งยทู ปู ของกลุม่ งานเผยแพรป่ ระชาธิปไตยฯ สว่ นท่ี ๖ กจิ กรรมลงทะเบียนเพื่อขอรับหนงั สือวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟา้ ประจาปี ๒๕๖๒ “โลกทเี่ ราทิ้งไว้ขา้ งหลงั ” โดย ผทู้ เ่ี ขา้ มาท่ีหนา้ นิทรรศการรางวัลพานแว่นฟ้า สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรบั หนังสือ วรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟ้า ประจาปี 2562 \"โลกทเ่ี ราทงิ้ ไวข้ ้างหลัง” โดย สานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร จะจดั สง่ หนงั สอื ไปให้ผู้ท่ีลงทะเบยี น ตามที่อยู่ทีล่ งทะเบยี นไว้ จานวนคนละ 1 เล่ม โดยไม่เสียค่าใช้จา่ ย เปิดรบั ลงทะเบียนวนั ละ ๑๐๐ คน ทุกวัน (รวม ๑,๒๐๐ เลม่ )

๑๗ รปู ภาพ นทิ รรศการ “รางวัลพานแว่นฟ้า” ในงานสัปดาห์หนงั สอื แห่งชาติ ครั้งท่ี ๔๘ รูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ ๒๕ มนี าคม – ๕ เมษายน ๒๕๖๓

๑๘

๑๙

๒๐

๒๑

๒๒

๒๓ จดั การรา้ นคา้ ออนไลน์ กจิ กรรมลงทะเบียนเพอ่ื ขอรับหนงั สือวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟา้ ประจาปี ๒๕๖๒ “โลกท่เี ราท้งิ ไวข้ ้างหลัง” ในงานสปั ดาหห์ นังสือแห่งชาติออนไลน์ ระหวา่ งวันท่ี ๒๕ มนี าคม – ๕ เมษายน ๒๕๖๓

๒๔ Flash Talk รางวัลพานแว่นฟ้า “การเขยี นบทกวใี ห้สัมผสั ใจ” โดย นายเนาวรตั น์ พงษ์ไพบูลย์ ศลิ ปินแหง่ ชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2536 “การสร้างแรงบันดาลใจในการเขยี น” โดย นางชมยั ภร บางคมบาง ศิลปนิ แห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2557 “วรรณกรรมการเมืองคอื อะไร” โดย ศาสตราจารยร์ ่ืนฤทยั สจั จพันธ์ุ ปชู นียบุคคลดา้ นภาษาไทย ปี 2558 “เขยี นอย่างไรใหห้ มดจดเป็นบทกวี” โดย นายเรวัตร์ พนั ธพุ์ พิ ัฒน์ กวีซีไรต์ ประจาปี 2547 “เขยี นอยา่ งไรใหม้ ีคณุ คา่ ในเชงิ วรรณศลิ ป์” โดย รองศาสตราจารย์ตรศี ลิ ป์ บญุ ขจร นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย ในพระ บรมราชูปถมั ภ์ “เทคนิคการเขียนเรอ่ื งส้นั ” โดย นางกนกวลี กนั ไทยราษฎร์ นายกสมาคมนกั เขียนแห่งประเทศไทย

๒๕ “พานแว่นฟา้ กับการเสริมสร้างความเป็นประชาธิปไตย” โดย นายวทิ วสั ชัยภาคภมู ิ รองเลขาธกิ ารสถาบันพระปกเกล้า “ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะในการ ส่งผลงานรางวลั พานแวน่ ฟา้ ” โดย รองศาสตราจารยท์ วีศักดิ์ ปน่ิ ทอง อดตี คณบดีคณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง “เขียนเร่ืองส้ันอย่างไรให้ได้รางวลั ” โดย นายบูรพา อารัมภีร อดีตนายกสมาคมนักเขยี นแห่งประเทศไทย “องค์ประกอบของการเขยี นกวีนพิ นธท์ ี่ดี” โดย นายยุทธ โตอดิเทพย์ ท่ีปรึกษาสถาบนั กวีนิพนธ์ไทย “การใช้ขอ้ มลู ในการเขยี นวรรณกรรม” โดย นางสาวจันทร์ยวรี ์ สมปรดี า นกั เขียนนามปากกา “รอมแพง” ผแู้ ตง่ นวนยิ าย “บพุ เพสนั นิวาส” “มุมมองบรรณาธกิ ารตอ่ การสรา้ งงานของนักเขียน” โดย นายกนกพนั ธ์ สุนทรกมลวฒั น์ อดีตบรรณาธกิ ารสานกั พมิ พเ์ พอื่ นดี ในเครือนติ ยสารสกุลไทย

๒๖ กจิ กรรมเสวนา เรอื่ ง \"เขียนวรรณกรรมประกวด ทาอยา่ งไรให้ได้รางวลั \" วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563 เวลา 12.00 - 14.00 น. ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็คเมืองทองธานี ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ คร้ังที่ 25 โดยมีนางสาวมันทนา ศรีเพ็ญประภา ผู้บังคับบัญชากลมุ่ งานเผยแพร่ประชาธปิ ไตยฯ เป็นผู้แทนจากสานกั งานฯ เข้ารว่ มเสวนา

๒๗ การประกวดวรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟ้า ประจาปี 2563 สรปุ รายงานผล การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแวน่ ฟ้า ประจาปี 2563 สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖3 จดั ประกวดวรรณกรรมรางวลั พานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 ประเภทเร่อื งสน้ั และบทกวี เพื่อสง่ เสริมความเป็น ประชาธปิ ไตย โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ ๑. วัตถุประสงค์ ๑) เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคล่ือนการปฏิรูปการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข ๒) เพอ่ื สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการเสรมิ สร้างความเป็นประชาธปิ ไตย ทั้งในเร่อื ง สิทธิ หน้าที่ ความเสมอภาค และความรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็นพ้ืนฐานสาคัญของความเป็นประชาธิปไตย ผ่านวรรณกรรม ๓) เพ่ือสนับสนุนและยกย่องผลงานวรรณกรรมไทยที่ทรงคุณค่าให้พัฒนาไปพร้อมกับสานึก ความเปน็ พลเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย ๔) เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความสมานฉันท์ และความสามคั คีของประชาชนในประเทศชาติ ๒. ประเภทผลงานทจี่ ดั ประกวด ๑) เรื่องส้ัน ๒) บทกวี ๓. ลกั ษณะของผลงานทสี่ ง่ เขา้ ประกวด ๑) เป็นวรรณกรรมเพ่ือส่งเสริมความเป็นประชาธปิ ไตย ๒) เร่ืองส้ัน เป็นวรรณกรรมประเภทเร่ืองสั้น ต้นฉบับผลงานต้องเป็นภาษาไทย และพิมพ์ ลงในกระดาษ เอ ๔ จานวนไม่เกิน ๘ หน้า หากพิมพ์ด้วยเคร่ืองคอมพิวเตอร์ให้ใช้ตัวอักษรขนาด ๑๖ ตัวพิมพ์ (๑๖ พอยท์) ๓) บทกวี เป็นวรรณกรรมประเภทบทกวี หากเป็นบทกวฉี ันทลักษณ์ ขนาดความยาว ๖ - ๑๒ บท ถ้าเป็นบทกวีรูปแบบอ่ืน (กลอนเปล่าหรือรูปแบบคาประพันธท์ ี่สรา้ งข้ึนใหม่) ขนาดความยาวไม่เกิน ๒ หน้ากระดาษ โดยพมิ พห์ รอื เขยี นลงในกระดาษ เอ ๔ หากพมิ พ์ดว้ ยเครื่องคอมพิวเตอร์ใหใ้ ช้ตัวอกั ษรขนาด ๑๖ ตวั พิมพ์ (๑๖ พอยท์) หากเขยี นดว้ ยลายมอื ใหเ้ ขยี นตวั บรรจง ๔. คณุ สมบัติ ข้อปฏิบตั ิ และเงอ่ื นไขการประกวด ๔.๑ คุณสมบตั ิของผ้สู ่งผลงานเข้าประกวด ๑) ประชาชนท่ัวไป ๒) ผเู้ ขียนยังมีชีวิตอยู่ในขณะทสี่ ง่ ผลงาน

๒๘ ๔.๒ ข้อปฏบิ ัตใิ นการส่งผลงานเข้าประกวด ๑) ผู้เขยี นหนง่ึ คนมีสิทธสิ์ ง่ ผลงานเขา้ ประกวดไดป้ ระเภทละ ๑ ผลงาน ๒) เป็นผลงานที่เขียนขึ้นใหม่ ไม่เคยพิมพ์เผยแพร่ในส่ือทุกประเภทก่อนการตัดสินของ คณะกรรมการฯ ๓) ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องสร้างสรรค์ผลงานท่ีส่งเข้าประกวดด้วยตนเองเพียงผู้เดียว ไม่ลอกเลียนหรือตกแต่งดัดแปลงจากผลงานของผู้อื่น หากมีการลอกเลียนหรือตกแต่งดัดแปลงหรือละเมิด ลิขสิทธ์ิ ผู้เขียนจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ในกรณีที่พบว่าเป็นการลอกเลียนหรือตกแต่งดัดแปลงหรือ ละเมิดลิขสิทธ์ิ หรือเป็นผลงานที่มีผู้สร้างสรรค์มากกว่าหน่ึงคน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจพบระหว่างหรือหลังจาก การประกวด การส่งผลงานเขา้ ประกวดและการได้รับรางวลั ถือเป็นโมฆะ โดยคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖3 หรือสานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณาเพิกถอนสิทธิในรางวัลของผู้เขียนทุกประการ และอาจไม่รับพิจารณาผลงานทสี่ ่งเขา้ ประกวดในคร้งั ต่อไป ตามแต่ระยะเวลาทีจ่ ะกาหนดและประกาศใหท้ ราบ ๔.๓ เงอ่ื นไขการส่งผลงานเขา้ ประกวด ๑) ผลงานท่ีส่งเข้าประกวด จะต้องไม่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และบุคคลอน่ื ใดท้งั สน้ิ ๒) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 ไมม่ สี ิทธ์ใิ นการส่งผลงานเข้าประกวด ๓) คณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖3 ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ส่งคืนต้นฉบับผลงาน ทสี่ ง่ เขา้ ประกวด ๔) คณะกรรมการรางวัลพานแวน่ ฟ้า ปี ๒๕๖3 ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ให้รางวลั ใดรางวลั หนงึ่ หากไมม่ ผี ลงานใดเหมาะสมถงึ เกณฑ์ทีก่ าหนด ๕) การพิจารณาและการตัดสินของคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖3 ถือเป็นท่ีสิ้นสุด ไมส่ ามารถนาไปฟ้องร้องและดาเนนิ คดใี ดๆ ได้ ๖) ในกรณีท่ีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทาผิดหลักเกณฑ์ จะดว้ ยวิธีการใดก็ตาม คณะกรรมการฯ หรอื สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร ขอสงวนสิทธิ์ในการเรยี กคนื รางวัลพร้อมเงนิ รางวัล ๕. หลกั เกณฑ์ ข้ันตอน การพิจารณาคัดเลอื กและการตดั สนิ ๕.๑ หลักเกณฑก์ ารพจิ ารณาคดั เลอื กและการตดั สนิ - มีเนอื้ หาสง่ เสริมความเป็นประชาธปิ ไตย - มีชอ่ื เรอ่ื งของผลงาน - มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มกี ลวธิ ีนาเสนอนา่ สนใจ - มอี รรถรส ชวนอ่าน และมีคุณค่าในเชิงวรรณศิลป์ - มสี านวนและภาษาถกู ตอ้ งเหมาะสม - มอี งคร์ วมของความเปน็ วรรณกรรม ๕.๒ ขน้ั ตอนการพิจารณาคดั เลอื กและการตดั สิน การพิจารณาคัดเลือกและการตดั สินแบ่งออกเป็น ๓ รอบ ๑) รอบกลน่ั กรอง (Longlist) - โดยคณะอนุกรรมการกล่ันกรอง ๒) รอบคดั เลอื ก (Shortlist) - โดยคณะอนุกรรมการคดั เลือก

๒๙ ๓) ตดั สินรอบสุดทา้ ย - โดยคณะกรรมการรางวลั พานแวน่ ฟา้ ปี ๒๕๖3 ในกรณีท่ีมปี ัญหาใดๆ ใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖3 ๖. รางวัลพานแวน่ ฟ้า ๖.๑ ประเภทเรื่องสัน้ ๑) รางวลั ชนะเลศิ ๑ รางวลั ได้รบั โล่รางวัลพานแว่นฟา้ และเกียรติบัตร ของประธานรฐั สภา และเงนิ รางวลั ๖๐,๐๐๐ บาท ๒) รางวัลรองชนะเลิศ ๒ รางวัล ไดร้ บั โลร่ างวัลพานแว่นฟ้า และเกยี รติบัตร ของประธานรฐั สภา และเงนิ รางวลั รางวัลละ ๔๐,๐๐๐ บาท ๓) รางวัลชมเชย ๑๐ รางวลั ได้รับเกยี รติบัตร ของประธานรฐั สภา และเงนิ รางวัล รางวลั ละ ๒๐,๐๐๐ บาท ๖.๒ ประเภทบทกวี ๑) รางวลั ชนะเลิศ ๑ รางวัล ไดร้ ับโลร่ างวลั พานแว่นฟา้ และเกียรตบิ ตั ร ของประธานรัฐสภา และเงนิ รางวลั ๖๐,๐๐๐ บาท ๒) รางวัลรองชนะเลศิ ๒ รางวลั ได้รับโลร่ างวัลพานแว่นฟ้า และเกียรติบัตร ของประธานรัฐสภา และเงินรางวลั รางวลั ละ ๔๐,๐๐๐ บาท ๓) รางวลั ชมเชย ๑๐ รางวัล ได้รบั เกียรตบิ ตั ร ของประธานรฐั สภา และเงินรางวัล รางวัลละ ๒๐,๐๐๐ บาท ผลงานที่ผ่านการพิจารณารอบกล่ันกรอง (Longlist) ทั้งประเภทเร่ืองสั้นและบทกวีท่ีไม่ได้รับ รางวัล จะได้รับเกยี รติบัตรของประธานรฐั สภา ๗. สิทธิและพันธกรณีระหว่างผู้เขียน สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผลงานที่ได้รับรางวัล พานแวน่ ฟ้า ผลงานวรรณกรรมท่ีได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า ท้ังประเภทเรื่องส้ัน และประเภทบทกวี ถือเป็น กรรมสิทธิ์ของสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยที่สานักงานฯ ไม่นาไปใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจหรือ การค้าใดๆ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิด์ ังน้ี ๑) มีสิทธิ์ที่จะจัดพิมพ์เป็นหนังสือเล่ม หรือเผยแพร่ผ่านสื่อส่ิงพิมพ์ใดๆ และมีสิทธ์ิที่จะจัดทา เปน็ สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ หรือหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) หรอื เผยแพรผ่ ่านสอื่ อิเลก็ ทรอนกิ สใ์ ดๆ ๒) มีสิทธ์ิที่จะจัดให้มีการแปล หรืออนุญาตให้มีการแปล เร่ืองหน่ึงเร่ืองใดหรือท้ังหมดเป็น ภาษาอ่ืน และเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยให้ถือว่าสานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเจ้าของลิขสิทธ์ิ ฉบบั แปลท่สี านกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ไดจ้ ัดให้มกี ารทาขึน้ ในครัง้ นนั้ ๆ ๓) มสี ทิ ธิ์ที่จะดัดแปลงสว่ นหนึ่งส่วนใดหรือท้ังหมด เปน็ ภาพยนตร์สนั้ ภาพยนตร์การ์ตนู บทเพลง บทละคร ละครวทิ ยุ หรือสื่อศิลปะใดๆ เพือ่ เผยแพรส่ ่สู าธารณะ

๓๐ ๔) เจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลยงั มลี ิขสิทธิใ์ นผลงานของตน ๘. วธิ กี ารส่งผลงานเขา้ ประกวด ๑) สามารถส่งผลงานในรูปแบบต้นฉบบั พมิ พ์ เอ ๔ หรอื ไฟล์ PDF ๒) เขียนช่ือและนามสกุลจริง และ/หรือนามปากกา ท่ีอยู่พร้อมรหัสไปรษณีย์ หมายเลข โทรศัพทข์ องผู้เขยี น แนบทา้ ยผลงานทีส่ ่งเขา้ ประกวด ๓) การสง่ ผลงานเขา้ ประกวด สามารถสง่ ได้ดงั นี้ ๓.๑) ส่งผลงานเข้าประกวดทางไปรษณีย์ หรือส่งโดยตรงได้ท่ี กลุ่มงานเผยแพร่ ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฎร สานักประชาสัมพันธ์ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารดีพร้อม เลขท่ี ๓๒๗ ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ วงเล็บมุมซองว่า “ประกวดวรรณกรรม รางวลั พานแวน่ ฟา้ ” ๓.๒) ส่งผลงานรูปแบบไฟล์ PDF ไดท้ ี่ อเี มล [email protected] ๙. ระยะเวลาดาเนนิ การ เปิดรับผลงานเข้าประกวด ต้ังแต่วันท่ี 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖3 (ในกรณีท่ีส่ง ทางไปรษณยี ์ จะถอื วันประทับตราสง่ ไปรษณยี ์เป็นสาคัญ) - ประกาศรายช่ือผลงานทีผ่ ่านการกลั่นกรอง (Longlist) กรกฎาคม ๒๕๖3 - ประกาศรายชื่อผลงานท่ผี า่ นการคดั เลือกเข้าสู่การตัดสนิ กรกฎาคม ๒๕๖3 รอบสุดท้าย (Shortlist) - ประกาศผลการตดั สนิ สิงหาคม ๒๕๖3 - มอบรางวัล กนั ยายน ๒๕๖3 ทง้ั น้ี ผ้สู นใจส่งผลงานเข้าประกวดสามารถสอบถามรายละเอยี ดเพิ่มเตมิ ได้ที่ กลุ่มงานเผยแพร่ ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฎร สานักประชาสัมพันธ์ สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๔ ๒๕๑๕ – ๖ หรือ ๐ ๒๒๔๔ ๒๕๒๒ ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับรางวัลได้ที่ www.parliament.go.th/phan และเพจเฟซบุ๊ก “รางวัลพานแวน่ ฟ้า” ..................................................

๓๑ ผลการประกวด วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕63 สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการรางวัลพานแวน่ ฟ้า ปี ๒๕๖3 ไดจ้ ัด ประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 ประเภทเรื่องส้ันและบทกวี เพ่ือส่งเสริมความเป็น ประชาธิปไตย โดยเปิดรับผลงานเข้าประกวดตั้งแต่วันท่ี 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖3 มีผู้ส่ง ผลงานเข้าประกวดทัง้ หมด 1,214 ผลงาน เร่อื งสน้ั มีวรรณกรรมส่งเข้าประกวดจานวน 480 ผลงาน บทกวี มีวรรณกรรมส่งเข้าประกวดจานวน 734 ผลงาน รวม 1,214 ผลงาน ผลงานทไี่ มต่ รงตามหลักเกณฑ์ มีดังน้ี เรื่องส้ัน มีผลงานที่ไมต่ รงตามหลักเกณฑ์ จานวน 29 ผลงาน - ส่งเกินกาหนด (๒๔.๐๐ น. ของวันท่ี ๓๐ เมษายน) 6 ผลงาน - จานวนหน้าเกินท่ีกาหนด (ไม่เกิน ๘ หน้า) 9 ผลงาน - เขียนด้วยลายมือ 12 ผลงาน - ใช้ตัวอักษรผิดขนาด ( 16 พอยท์) 2 ผลงาน บทกวี มีผลงานที่ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ จานวน 35 ผลงาน - ส่งเกินกาหนด (๒๔.๐๐ น. ของวันที่ ๓๐ เมษายน) 6 ผลงาน - ขนาดความยาวเกินกว่าท่ีกาหนด (เกิน ๑๒ บท) 21 ผลงาน - ขนาดความยาวน้อยกว่าที่กาหนด (น้อยกว่า ๖ บท) 7 ผลงาน - ขนาดความยาวกลอนเปล่าเกินกาหนด (เกิน ๒ หน้า) ๑ ผลงาน สรุป ผลงานเร่ืองสั้นและบทกวีที่ผ่านหลักเกณฑ์ เพ่ือให้คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรอง มีดังน้ี เร่อื งสนั้ ที่ผ่านหลักเกณฑ์ จานวน 451 ผลงาน บทกวี ที่ผ่านหลักเกณฑ์ จานวน 699 ผลงาน

๓๒ ตารางสรุปจานวนผลงานท่สี ง่ เข้าประกวดวรรณกรรมรางวลั พานแวน่ ฟา้ ประจาปี 2563 ประเภท รวมท้ังสิน้ ถกู ผดิ เกินเวลาสง่ ผลงาน เรอ่ื งสั้น ผลงาน หลกั หลกั (วันท่ี 30 เม.ย. 63) เขยี น/ เกิน 8 หน้า เกณฑ์ เกณฑ์ บทกวี ตา่ กว่า 6 บท 451 (94%) เกิน 12 บท เร่ืองสัน้ 480 699 29 6 23 (95.2%) (6%) E-mail 377 1,150 20 6 29 ไปรษณยี ์ (78.5%) (94.7%) (4.8%) ส่งด้วยตัวเอง บทกวี 102 (21.3%) 1 (0.2%) 734 E-mail 531 (72.3%) ไปรษณยี ์ 202 (27.5%) สง่ ดว้ ยตัวเอง 1 (0.1%) ฉนั ทลกั ษณ์ 599 (81.6%) ไรฉ้ ันทลกั ษณ์ 135 (81.4%) พมิ พ์ 687 (93.6%) เขียน 47 (6.4%) รวม 1,214 64 12 52 (5.3%)

๓๓ ตารางเปรยี บเทียบผลงานที่ส่งเขา้ ประกวด วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟา้ ประจาปี 2562 - 2563 ประเภทผลงาน จานวนผลงาน จานวนผลงาน ร้อยละของผลงาน ปี 2562 ปี 2563 ท่ีเพิ่มข้ึนหรือลดลง เร่อื งสน้ั -E-mail 364 480 (%) -ไปรษณีย์ 256 377 -ส่งดว้ ยตัวเอง 108 102 เพ่ิมขึ้น 31.8 0 เพ่ิมขึ้น 47.3 บทกวี 550 1 ลดลง 5.5 -E-mail 324 เพม่ิ ขึ้น 100 -ไปรษณยี ์ 226 734 เพ่ิมข้นึ 33.4 -สง่ ดว้ ยตัวเอง 531 เพม่ิ ข้นึ 63.9 0 202 ลดลง 10.6 -ฉันทลกั ษณ์ เพมิ่ ขึ้น 100 -ไรฉ้ นั ทลกั ษณ์ 440 1 110 เพิม่ ขน้ึ 36.1 -พมิ พ์ 599 เพิ่มขึ้น 22.7 -เขียน 527 135 23 เพมิ่ ขน้ึ 30.3 รวมท้ังสิ้น 687 เพิม่ ขนึ้ 104.3 914 47 ผดิ หลกั เกณฑ์* เพ่มิ ขึน้ 32.8 38 (4.2%) 1,214 ถกู หลักเกณฑ์ เพิ่มข้ึน 86.4 876 (95.8%) 64 (5.3%) เพิ่มขึน้ 31.3 1,150 (94.7%) หมายเหตุ : *ผลงานทผ่ี ิดหลักเกณฑ์ ปี 2562 เรื่องสนั้ 18 ผลงาน (ความยาวหนา้ เกิน 8 หนา้ /เขยี น/ส่งเกนิ กาหนด) บทกวี 20 ผลงาน (จานวนบทตา่ /เกิน 6-12 บท/เขยี น/สง่ เกนิ กาหนด) รวมท้ังส้ิน 38 ผลงาน ปี 2563 เรอื่ งส้ัน 29 ผลงาน (ความยาวเกิน 8 หนา้ /เขยี น/สง่ เกนิ กาหนด) บทกวี 35 ผลงาน (จานวนบทต่า/เกิน 6-12 บท/เขียน/ส่งเกินกาหนด/ รวมท้ังสิ้น ใช้ตวั อกั ษรผิดขนาด) 64 ผลงาน

๓๔ สรปุ ผลการพจิ ารณากล่นั กรอง คัดเลอื ก และตัดสนิ การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕63 ผลการพจิ ารณากล่ันกรอง ประเภทเรือ่ งสน้ั คณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องส้ัน ได้ดาเนินการพิจารณากลั่นกรองผลงานเรื่องส้ันที่ผ่าน หลักเกณฑ์ จานวน 451 ผลงาน มผี ลงานเรือ่ งสนั้ ผา่ นการพจิ ารณากลัน่ กรอง จานวน ๒7 ผลงาน ดงั นี้ ๑. ลาดบั ท่ี 7 คอนโดมเิ นียมทรี่ กั ๒. ลาดับที่ 27 สโนว์ไวทไ์ ม่กนิ แอปเปิล 3. ลาดับท่ี 43 ผใู้ หญ่เขวีย้ ง 4. ลาดับท่ี 54 WOLF LAND 5. ลาดบั ท่ี 82 สุนขั นาทาง 6. ลาดบั ท่ี 158 ตลับดิน 7. ลาดบั ที่ 164 ประชาธปิ ไตยบา้ นทุ่ง 8. ลาดับท่ี 166 สงิ่ ทรี่ ออยูห่ ลงั เสน้ ชัย 9. ลาดับท่ี 178 ขบวนการฟักทอง 10. ลาดบั ที่ 179 เมรุลอย 11. ลาดบั ที่ 226 แวว่ ขา่ วคราววา่ ขา้ วแข็ง 12. ลาดบั ที่ 232 ใครจะเก็บซากหมาตวั นั้น 13. ลาดบั ที่ 237 ซอเกาะแกนหนนุ 14. ลาดับที่ 250 พลเมืองดี 15. ลาดับท่ี 266 ขี้หมูราขี้หมาแหง้ 16. ลาดับที่ 274 เสยี งรา่ ไห้จากหิมพานต์ 17. ลาดับที่ 281 เสียงรอ้ งของห่นุ เชิด 18. ลาดับที่ 302 คราบทย่ี งั ลอกออกไม่หมด 19. ลาดบั ที่ 318 แคผ่ า้ เช็ดเท้า 20. ลาดบั ที่ 319 นครลิง 21. ลาดบั ที่ 338 ในสวนฝนั 22. ลาดบั ที่ 347 เมลด็ พนั ธ์ุ 23. ลาดบั ท่ี 360 ประเทศทเ่ี ลอื กรบั ประทานได้เพียงแค่ของหวานและผลไม้ 24. ลาดบั ท่ี 386 ขา้ วซอยตัดริมป่า 25. ลาดับท่ี 408 เสน้ แบง่ 26. ลาดบั ท่ี 418 ลอ่ 27. ลาดบั ที่ 420 ซากดกึ ดาบรรพ์ในพิพิธภณั ฑไ์ มม่ ีช่อื

๓๕ ประเภทบทกวี คณะอนุกรรมการกล่ันกรองบทกวี ได้ดาเนินการพิจารณากล่ันกรองผลงานบทกวีที่ผ่าน หลักเกณฑ์ จานวน 699 ผลงาน มผี ลงานบทกวีผา่ นการพิจารณากล่ันกรอง จานวน 33 ผลงาน ดงั น้ี 1. ลาดับท่ี ๑ ๓๕ ชวั่ โมง สัปปายะสภาสถาน 2. ลาดับที่ 3 เร่ืองเลา่ เพื่อลดอคติความเหน็ ตา่ ง 3. ลาดบั ท่ี 23 นยั แม่น้า 4. ลาดับท่ี 41 มอื เราหยดั หมัดเราชสู ูเ้ หตุการณ์ 5. ลาดับที่ ๖๗ ราก 6. ลาดบั ที่ ๙๒ น้าตาพ่อ 7. ลาดับที่ ๙๘ เมอื งน้ีมภี ูเขา แมน่ ้า ฯลฯ 8. ลาดบั ท่ี ๑๑๓ บ้านสองหลงั 9. ลาดับท่ี ๑๑๙ ก่อนรอยเท้าทาบทางจะลางลบ 10. ลาดับท่ี ๑๔๔ ทางก้าวที่ยาวไกล 1๑. ลาดับท่ี ๑๙๗ หัวใจไม่ปฏวิ ตั ิ 1๒. ลาดบั ที่ ๒๐๓ ก้าวขา้ มความชงิ ชัง 13. ลาดับท่ี ๒๔๒ ตน้ ไม้ในดนิ 14. ลาดับท่ี ๒๗๙ แผนทีแ่ ละเข้ยี วปลวก 15. ลาดับที่ ๒๙๘ เว้งิ ฟา้ 16. ลาดบั ท่ี ๓๐๘ เสน้ แบ่ง 17. ลาดับที่ ๓๒๗ เวน้ พนื้ ท่วี า่ งเอาไว้ 18. ลาดบั ท่ี ๓๔๒ จากลาปลายมาศถงึ รัตนบรุ แี ผ่นดินท่มี ีแต่รกั 19. ลาดบั ที่ ๓๔๙ เรื่องราวบนภาพวาด 20. ลาดบั ที่ ๓๖๕ เลอื ดเนอ้ื และชีวิต 21. ลาดบั ที่ ๓๖๗ พลังเพลง 22. ลาดับที่ ๔๐๒ ผกู้ ลา้ 23. ลาดับท่ี ๔๓๙ นกหลง 24. ลาดบั ที่ ๔๕๗ โลกสร้างเราใหเ้ ทา่ เทียม 25. ลาดบั ที่ ๔๙๒ พนิ ัยกรรม 26. ลาดับที่ ๕๗๒ เราอย่ตู รงนนี้ านเกนิ ไปแลว้ 27. ลาดับท่ี ๕๗๗ พันธุอ์ ดุ มการณ์ 28. ลาดับที่ ๕๗๘ เสยี งปืนไม่เคยมีนดั สดุ ทา้ ย 29. ลาดบั ที่ ๖๐๑ เรื่องจรงิ กับขอ้ สมมตุ ฐิ านของผยู้ อ้ นแยง้ 30. ลาดับที่ ๖๐๘ แมน่ ้าสส่ี าย ๓๑. ลาดบั ที่ ๖๑๓ ในนามจิตวิญญาณของนก ๓๒. ลาดับท่ี ๖๒๓ แมน่ ้าสีทองลาคลองสีเทา ๓๓. ลาดบั ที่ ๖๖๘ เพยี งเส้ยี วสว่ นและมวลสาร

๓๖ ผลการพิจารณาคดั เลอื ก ประเภทเรื่องสั้น คณะอนุกรรมการคัดเลือกเรื่องสั้น ได้ดาเนินการพิจารณาคัดเลือกผลงานจากเรื่องสั้นท่ีผ่าน รอบกล่ันกรอง (Longlist) จานวน ๒7 ผลงาน มีผลงานเร่ืองส้ันผ่านการพิจารณาคัดเลือก (Shortlist) จานวน ๑๓ ผลงาน ได้แก่ ๑. ลาดับที่ 82 สุนขั นาทาง ๒. ลาดับท่ี 166 สิ่งทร่ี ออยู่หลังเส้นชัย ๓. ลาดับท่ี 178 ขบวนการฟักทอง ๔. ลาดบั ท่ี 226 แว่วขา่ วคราววา่ ขา้ วแข็ง ๕. ลาดับที่ 232 ใครจะเกบ็ ซากหมาตัวนัน้ ๖. ลาดับท่ี 250 พลเมืองดี ๗. ลาดับท่ี 274 เสียงร่าไหจ้ ากหมิ พานต์ ๘. ลาดบั ที่ 302 คราบที่ยงั ลอกออกไมห่ มด ๙. ลาดบั ท่ี 318 แคผ่ ้าเช็ดเทา้ ๑๐. ลาดับที่ 319 นครลิง ๑๑. ลาดบั ท่ี 347 เมล็ดพนั ธ์ุ ๑๒. ลาดบั ที่ 408 เสน้ แบ่ง ๑๓. ลาดับที่ 420 ซากดกึ ดาบรรพใ์ นพิพธิ ภัณฑไ์ มม่ ีชื่อ ประเภทบทกวี คณะอนุกรรมการคัดเลือกบทกวี ได้ดาเนินการพิจารณาคัดเลือกผลงานจากบทกวีท่ีผ่านรอบ กลั่นกรอง (Longlist) จานวน ๓3 ผลงาน มีผลงานบทกวีผ่านการพิจารณาคัดเลือก (Shortlist) จานวน ๑๓ ผลงาน ไดแ้ ก่ ๑. ลาดบั ท่ี 1 35 ชว่ั โมง สัปปายะสภาสถาน ๒. ลาดับท่ี 3 เรือ่ งเล่าเพื่อลดอคตคิ วามเห็นตา่ ง 3. ลาดบั ที่ 23 นัยแม่น้า 4. ลาดับท่ี 98 เมอื งนมี้ ภี ูเขา แมน่ า้ ฯลฯ 5. ลาดับที่ 113 บา้ นสองหลัง 6. ลาดบั ที่ 279 แผนทแ่ี ละเขี้ยวปลวก 7. ลาดับท่ี 308 เส้นแบ่ง 8. ลาดับท่ี 327 เวน้ พ้นื ทีว่ ่างเอาไว้ 9. ลาดบั ท่ี 457 โลกสร้างเราให้เท่าเทยี ม 10. ลาดบั ที่ 492 พนิ ยั กรรม 11. ลาดับท่ี 572 เราอยูต่ รงนี้นานเกนิ ไปแล้ว 1๒. ลาดบั ท่ี 608 แม่น้าสส่ี าย 13. ลาดบั ที่ 668 เพียงเสย้ี วส่วนและมวลสาร

๓๗ ผลการตดั สินเรื่องส้นั และบทกวี การประกวดวรรณกรรมรางวลั พานแว่นฟา้ ประจาปี ๒๕63 สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖3 ได้ดาเนินการจัดประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี ๒๕๖3 ประเภทเรื่องส้ันและบทกวี เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย โดยมีผู้ส่งผลงานวรรณกรรมเข้าร่วมประกวดท่ีผ่านหลักเกณฑ์ จานวน 1,150 ผลงาน แบ่งเป็นประเภทเร่ืองสั้น จานวน 451 ผลงาน และบทกวี จานวน 699 ผลงาน ซ่ึงคณะ กรรมการฯ ได้ตัดสินผลงานเร่ืองสั้นและบทกวีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว มีผลงานผ่านการตัดสินให้ได้รับรางวัล ดงั น้ี ประเภทเรอื่ งสัน้ รางวลั ชนะเลิศ ไดร้ ับโล่รางวลั พานแว่นฟ้า และเกยี รตบิ ัตร ของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล ๖๐,๐๐๐ บาท ไดแ้ ก่ ผลงานเร่ือง “ส่งิ ทีร่ ออยู่หลังเส้นชัย” โดย วโิ รจน์ สทุ ธสิ มี า รางวัลรองชนะเลิศ ๒ รางวัล ไดร้ บั โลร่ างวัลพานแว่นฟา้ และเกยี รติบัตร ของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล รางวลั ละ ๔๐,๐๐๐ บาท (เรียงตามลาดบั อักษร) ได้แก่ ๑. ผลงานเรือ่ ง “พลเมอื งดี” โดย วฒุ นิ นั ท์ ชัยศรี ๒. ผลงานเรอ่ื ง “เสน้ แบ่ง” โดย วฒั น์ ยวงแก้ว รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล ได้รบั เกียรติบตั ร ของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล รางวัลละ ๒๐,๐๐๐ บาท (เรยี งตามลาดบั อักษร) ไดแ้ ก่ ๑. ผลงานเร่อื ง “ขบวนการฟกั ทอง” โดย โต้หมู ๒. ผลงานเรื่อง “คราบท่ยี ังลอกออกไม่หมด” โดย พยงุ ศกั ดิ์ แบบอยา่ ง ๓. ผลงานเรื่อง “แคผ่ ้าเชด็ เทา้ ” โดย ชดิ ชยากร ๔. ผลงานเรอ่ื ง “ใครจะเกบ็ ซากหมาตวั น้ัน” โดย สวุ ัณนา ๕. ผลงานเรอ่ื ง “ซากดึกดาบรรพใ์ นพพิ ธิ ภณั ฑไ์ มม่ ีช่ือ” โดย จกั ษณ์ จันทร ๖. ผลงานเรอื่ ง “นครลิง” โดย ขัน สีผา

๓๘ ๗. ผลงานเรือ่ ง “เมล็ดพนั ธ์ุ” โดย พณิ พิพัฒน ศรที วี ๘. ผลงานเรอื่ ง “แว่วขา่ วคราววา่ ข้าวแข็ง” โดย พชั รพร ศภุ ผล ๙. ผลงานเรอ่ื ง “สุนขั นาทาง” โดย แพรพลอย วนัช ๑๐. ผลงานเรื่อง “เสียงรา่ ไหจ้ ากหิมพานต์” โดย รตี รติธรณ ประเภทบทกวี รางวัลชนะเลิศ ไดร้ บั โล่รางวัลพานแว่นฟ้า และเกยี รติบตั ร ของประธานรัฐสภา และเงนิ รางวลั ๖๐,๐๐๐ บาท ไดแ้ ก่ ผลงานเรอื่ ง “แผนท่ีและเขี้ยวปลวก” โดย เทิดไท นามแทน รางวลั รองชนะเลิศ ๒ รางวลั ได้รบั โล่รางวลั พานแว่นฟา้ และเกยี รตบิ ัตร ของประธานรัฐสภา และเงนิ รางวัล รางวัลละ ๔๐,๐๐๐ บาท (เรียงตามลาดับอักษร) ไดแ้ ก่ ๑. ผลงานเร่อื ง “เมืองนี้มีภูเขา แมน่ ้า ฯลฯ” โดย หทยั รตั น์ จตุรวัฒนา ๒. ผลงานเรอ่ื ง “เวน้ พื้นท่ีวา่ งเอาไว้” โดย คตี ญา อนิ ทรแกว้ รางวลั ชมเชย ๑๐ รางวลั ไดร้ บั เกียรตบิ ตั ร ของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล รางวัลละ ๒๐,๐๐๐ บาท (เรยี งตามลาดบั อักษร) ได้แก่ ๑. ผลงานเรือ่ ง “35 ช่วั โมง สปั ปายะสภาสถาน” โดย สุธรี ์ พมุ่ กมุ าร ๒. ผลงานเรอ่ื ง “นยั แม่น้า” โดย นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง ๓. ผลงานเรอ่ื ง “บา้ นสองหลัง” โดย ชูชาติ ครุฑใจกลา้ ๔. ผลงานเร่อื ง “พนิ ยั กรรม” โดย เสฏฐ์ บญุ วริ ิยะ ๕. ผลงานเรื่อง “เพียงเส้ียวส่วนและมวลสาร” โดย กลุ กนก รตั นเสรี ๖. ผลงานเร่อื ง “แมน่ ้าสส่ี าย” โดย อภชิ าติ ดาดี ๗. ผลงานเรอ่ื ง “เราอยูต่ รงนน้ี านเกนิ ไปแลว้ ” โดย ปาลิตา ผลประดบั เพช็ ร์

๓๙ ๘. ผลงานเรื่อง “เรอ่ื งเลา่ เพื่อลดอคตคิ วามเห็นต่าง” โดย อังคาร จันทาทิพย์ ๙. ผลงานเรือ่ ง “โลกสร้างเราใหเ้ ท่าเทยี ม” โดย ฉัตรสุมาลย์ ภูแต้มนิล ๑๐. ผลงานเรอ่ื ง “เสน้ แบ่ง” โดย สันดร แก้วเกดิ มี ตารางแสดงจานวนผลงานวรรณกรรมที่สง่ เข้าประกวด และที่ได้รับรางวัล ปี 2559 – 2563 จานวนผลงาน กรอบตัวชวี้ ัด ผลงานท่ีส่งเขา้ ผลงานท่ีไดร้ ับรางวลั หนังสอื รวมผลงาน ท่ไี ดร้ ับ ปี ท่สี ง่ เขา้ ประกวดแยกตาม แยกตามประเภท ประกวด (ผลงาน) ประเภท (ผลงาน) (ผลงาน) รางวลั /จานวนพมิ พ์ (ผลงาน) ไม่น้อยกว่า เร่อื งส้ัน บทกวี เร่ืองสนั้ บทกวี รวม (ปก/เลม่ ) 2559 657 500 263 394 12 12 24 1/10,000 2560 733 500 280 453 13 13 26 1/15,000 ๒๕๖๑ ๗๙๔ 500 ๒๙๘ ๔๙๖ 13 13 26 1/15,000 ๒๕๖๒ ๙๑๔ 500 ๓๖๔ ๕๕๐ 13 13 26 1/15,000 2563 1,214 500 480 734 13 13 26 1/15,000 ผลสาเรจ็ ของการดาเนนิ งาน (เชงิ ปริมาณ/เชงิ คุณภาพ) 1. ผลการดาเนินงาน ปี 2563 การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี 2563 ได้แบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทเร่ืองสั้น และบทกวี โดยมีเน้ือหาเพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย เปิดรับผลงานเข้า ประกวดตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน 2563 มีผู้ส่งผลงานวรรณกรรมเข้าร่วมประกวด ท้ังสิ้น จานวน 1,214 ผลงาน แบ่งเป็นประเภทเร่ืองสั้น จานวน 480 ผลงาน ประเภทบทกวี จานวน 734 ผลงาน ได้ตัดสินและประกาศผลการประกวดวันที่ 1๘ สิงหาคม 2563 และจัดพิธีมอบรางวัลวันท่ี ๑7 กันยายน 2563 ณ บริเวณชั้น 6 อาคารรฐั สภา (สผ.) 2. กรอบตัวช้วี ัดโครงการ เชิงปรมิ าณ จานวนผลงานวรรณกรรมท่ีสง่ เขา้ ประกวด ไม่น้อยกวา่ 500 ผลงาน เชิงคณุ ภาพ ร้อยละ 80 ของผลงานที่ได้รับรางวัลแสดงออกถึงความเข้าใจในสิทธิ หน้าที่ ความเสมอภาค ความรับผิดชอบต่อสังคมและความเป็นประชาธิปไตย ตลอดจนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคม เพื่อให้เกิด ความปรองดองสมานฉนั ท์ และความสามคั คขี องประชาชนในประเทศชาติ

๔๐ คานยิ าม จานวนผลงานวรรณกรรมที่ส่งเข้าประกวด หมายถึง จานวนรวมของผลงานประเภทเร่ืองส้ัน และประเภทบทกวี ที่ส่งเข้าประกวด ทงั้ ทถ่ี ูกหลักเกณฑก์ ารประกวดและไม่ถูกหลักเกณฑ์การประกวด ผลงานที่ได้รับรางวัล หมายถึง ผลงานท้ังประเภทเร่ืองส้ัน และบทกวี ที่คณะกรรมการฯ ตัดสินให้ ได้รับรางวัล ตามจานวนรางวัลท่ีกาหนดไว้ในการประกวดแต่ละคร้ัง ซึ่งคัดเลือกจากผลงานที่ส่งเข้าประกวด ทัง้ หมด โดยใช้หลักเกณฑ์ตามทีค่ ณะกรรมการฯ กาหนด อาทิ - มเี นอ้ื หาส่งเสรมิ ความเปน็ ประชาธปิ ไตย - มชี ือ่ เร่ืองของผลงาน - มีความคดิ สร้างสรรค์ - มีกลวิธีนาเสนอนา่ สนใจ - มีอรรถรส ชวนอ่าน และมีคุณคา่ ในเชิงวรรณศลิ ป์ - มสี านวนและภาษาถูกตอ้ งเหมาะสม - มอี งคร์ วมของความเปน็ วรรณกรรม ท้ังน้ี วิธีการพิจารณาตัดสินของคณะกรรมการฯ จะพิจารณาจากผลงานท่ีส่งเข้าประกวด ท้ังหมด แลว้ คดั เลือกผลงานท่ผี ่านเกณฑก์ ารตดั สนิ ดังกลา่ ว 3. ผลการดาเนินงานตามตวั ช้วี ดั โครงการ ความสาเร็จเชิงปริมาณ การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจาปี 2563 มีผู้ส่งผลงานวรรณกรรมเข้าร่วม ประกวดท้ังส้ิน จานวน 1,214 ผลงาน แบง่ เปน็ ประเภทเร่ืองส้ัน จานวน 480 ผลงาน ประเภทบทกวี จานวน 699 ผลงาน สรุปผลงานท่ีส่งเข้าประกวดมากกว่าตัวชี้วัดเชิงปริมาณ จานวน 7๑๔ ผลงาน คิดเป็นร้อยละ 14๒.๘ ท่ีมากกว่าตวั ช้วี ัด ประเภทเร่ืองส้ัน มีผู้สง่ ผลงานเขา้ ประกวด จานวน 480 ผลงาน โดยมีผลงานเรือ่ งสั้นผ่านการพิจารณากล่นั กรอง (Longlist) จานวน ๒7 ผลงาน และมีผลงานท่ีผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การตัดสินรอบสุดท้าย (Shortlist) จานวน 13 ผลงาน ประเภทบทกวี มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด จานวน 734 ผลงาน โดยมีผลงานบทกวีผ่านการพิจารณากล่ันกรอง (Longlist) จานวน ๓3 ผลงาน และมีผลงานท่ีผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การตัดสินรอบสุดท้าย (Shortlist) จานวน 13 ผลงาน ความสาเร็จเชงิ คณุ ภาพ ผลงานวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลพานแว่นฟ้า ทั้งประเภทเรื่องสั้นและบทกวี จานวน 26 ผลงาน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 มเี นอ้ื หาส่งเสริมความเปน็ ประชาธปิ ไตย ตลอดจนมีสว่ นร่วมในการสร้างสรรคส์ ังคม เพอื่ ให้ เกิดความปรองดองสมานฉันท์ และความสามัคคีของประชาชนในประเทศชาติ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ การจดั ประกวดในครง้ั น้ี ดังนี้

๔๑ เนอื้ หาของผลงานทไี่ ด้รับรางวัล ประเภทเร่ืองส้ัน รางวลั ชนะเลิศ เรือ่ ง “สง่ิ ทร่ี ออยูห่ ลังเสน้ ชยั ” ผเู้ ขยี นใชก้ ารวงิ่ แข่งมาราธอนเพื่อแสดงความเปน็ ประชาธปิ ไตยในเรื่องการปฏิบัติหน้าท่ีความ รับผิดชอบของตนเองให้ดีท่ีสุด มาราธอนเป็นการแข่งกีฬาที่ใช้ความอดทนสูงและรอคอยจนกว่าจะเห็นโอกาส ได้ชัยชนะ เหมือนกับความเป็นประชาธิปไตยท่ีมิใช่ได้มาโดยง่าย การไปให้ถึงเส้นชัยย่อมผ่านพบอุปสรรค ขวากหนาม แต่จิตใจท่ีมุ่งม่ันและไม่ยอมแพ้จะทาให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ การทาตามกฎกติกาของการวิ่ง ก็เช่นเดียวกับการรักษากฎกติกาของความเป็นประชาธิปไตย ความเจ็บแค้นจากการถูกกดขี่และความ อยุติธรรมท่ีได้รับ ควรเปล่ียนเป็นพลังในการเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าการสร้างความขัดแย้ง ท่ีรัง แต่จะเป็นสิ่งบ่ันทอนให้เส้นชัยของประชาธิปไตยอยู่ห่างไกลออกไปอีก การก้าวสู่เส้นชัยคือชัยชนะ แต่สิ่งที่ สาคญั ที่สุดหลงั การกา้ วข้ามเสน้ ชยั คืออสิ รภาพและเสรภี าพอันเป็นความใฝฝ่ นั ของมนุษย์ ผู้เขียนแสดงให้เห็นประสบการณ์และความเช่ียวชาญในการวิ่งมาราธอน และดาเนินเร่ือง ตามหลักกิโลเมตรของการวิ่ง ซึ่งบางครั้งมีการย้อนหลังทาให้ผู้อ่านติดตามเรื่องได้อย่างมีอรรถรสและ บรรยากาศ นบั เป็นจุดเดน่ ด้านกลวธิ ีนอกเหนอื จากสารเนอื้ หาที่ใหข้ อ้ คิดลกึ ซ้งึ รางวัลรองชนะเลิศ เรอ่ื งที่ ๑ เรอื่ ง “พลเมืองดี” ผู้เขียนนาเสนอประเด็นสานึกพลเมืองในเชิงเสียดสีย่ัวลอ้ ว่าบางครัง้ ภาพลักษณ์ของความเปน็ คนดีก็ถูกอุปโลกน์ขึ้นด้วยมายาคติมากกว่าความเป็นคนดีโดยเน้ือแท้ ตัวละครท่ีเจตนาขับรถชนชายชรา ขาพิการถีบรถซาเล้ง เพื่อหักหลบรถของตนไม่ให้ชนรถหรูราคาแพงที่แซงตัดหน้า กลับได้รับความช่ืนชมจาก มวลชนว่าเป็น “พลเมืองดี” หลังจากชายคนขับรถให้ความช่วยเหลือดูแลคนเจ็บอย่างดีเพราะสานึกผิดในใจ การท่ีตัวละครซึ่งน่าจะเป็นชนชั้นกลางเลือกทาร้ายคนที่ด้อยกว่าตนท้ังสถานภาพในสังคมและทุ นทรัพย์ (แก่ พิการ ยากจน) แทนการต่อกรกับคนรวยมีสถานภาพสูง ยังถูกตอกย้าอีกครั้งเมื่อบริษัทประกันภัยรถยนต์ สบื สาวราวเรอ่ื งเพอ่ื หวงั กู้ภาพลักษณ์ของบริษัท เนอ่ื งมาจากชายผูข้ บั รถไม่แจ้งข้อเทจ็ จริงแก่บริษัทประกันและ ตารวจเพ่ือหลีกเลี่ยงความผิด แต่การสืบค้นหา “ข้อเท็จจริง” ต้องยุติโดยส้ินเชิงเมื่อพบว่าผู้ขับรถหรูที่เป็น ต้นเหตุของอุบัติเหตุคร้งั น้ีเป็นนายทุนที่เทคโอเวอร์บริษัทประกันภัยรถยนต์และเป็นเจ้าของโครงการก่อสรา้ งที่ “พลเมืองด”ี ทางานอยู่ เรื่องสั้นเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นอานาจของทุนที่กดทับลงไปเป็นทอดๆ จาก นายทุนสู่ มนุษย์เงินเดือนและสู่คนหาเช้ากินค่า สร้างความเหล่ือมล้าทางชนชั้นและความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ อานาจทุนยังสร้างความคลุมเครือ เคลือบแคลง และก่อให้เกิดความอยุติธรรมซึ่งขัดขวางความเป็น ประชาธิปไตย รางวัลรองชนะเลศิ เรื่องที่ ๒ “เสน้ แบ่ง” เรื่องสั้นนี้นาเสนอความเป็นประชาธิปไตยในประเด็นของการอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี การ เอ้ือเฟือ้ เผอื่ แผ่กนั แมจ้ ะตา่ งความเชอื่ ต่างวฒั นธรรม และการเคารพเสยี งของคนส่วนนอ้ ยวา่ เป็น “เสยี ง” ของ ชมุ ชนหรอื สังคมเช่นเดียวกับเสยี งของคนส่วนใหญ่ ผู้เขียนให้ภาพของเจ้าของสานักพิมพ์ที่ไม่พอใจว่าเมื่อถึงเทศกาลประจาปี ศาลเจ้าจะตั้ง โรงงิ้วท่ีบริเวณโรงจอดรถด้านหน้าสานักพิมพ์ ส่งเสียงอึกทึก วางข้าวของระเกะระกะ และส่งกลิ่นเหม็น คละคลุ้ง เจ้าของสานักพิมพ์รู้สึกว่าตนถูกรุกรานรกุ ล้าพ้ืนท่ีและละเมิดสิทธิ จึงพยายาม “หาเรื่อง” ให้โรงงิ้ว ย้ายออกจากพ้ืนท่ีแต่ไม่สาเร็จ ในระหว่างน้ันเจ้าของสานักพิมพ์ศึกษาหาความรู้เร่ืองงิ้วพบว่าเป็นศิลปะเก่าแก่ และรุ่งเรืองมาแต่โบราณ แต่แทบจะหมดความนิยมแล้วในปัจจุบัน เม่ือนั่งเฝ้าดูกล้องวงจรปิดพบว่าเด็กหนุ่ม นกั แสดงมีความมุ่งมั่นในการแสดงงิว้ อย่างมาก ย่ิงเมือ่ สนทนาด้วยก็พบว่าเด็กหนุ่มผนู้ ี้มคี วามศรัทธามน่ั คงในส่ิง

๔๒ ที่ทา แม้จะเป็นการแสดงที่แทบจะไม่มีคนดู แต่เด็กหนุ่มบอกว่า “ต่อไปถึงไม่มีคนดูแล้ว ก็ยังมีเจ้าดูอยู่” พลัง ศรัทธาของเด็กหนุ่มส่งผ่านมายังเจ้าของสานักพิมพ์ท่ียังอดทนผลิตหนังสือที่ตนรักต่อไป ในขณะที่สานักพิมพ์ จานวนมากถูกพิษเศรษฐกิจและความเตบิ โตของเทคโนโลยีการสือ่ สารเบยี ดพื้นท่ีของส่ิงพิมพ์ใหถ้ ดถอยจนถึงยุติ กิจการ จึงเหลือเพียงผู้ศรัทธาในกระดาษ น้าหมึกและตัวอักษรเท่านั้นท่ียังยืนหยัดรักษาส่ิงที่ตนรักให้มีชีวิต ยืนยาวต่อไป เรื่องส้ันนี้ใช้กลวิธีสร้างคู่เปรียบระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ศิลปวัฒนธรรมความเช่ือกับ เทคโนโลยีและวิถีชีวิตสมัยใหม่ คนไทยซ่ึงเป็นคนกลุ่มใหญ่ในชุมชนกับคนเช้ือสายจีนซึ่งเป็นส่วนน้อย ศรัทธา และความรักกับการถอดใจยอมแพ้ความเปลี่ยนแปลง สิทธิของปัจเจกกับสิทธิของกลุ่มชน ท้ังน้ีเพื่อชี้ให้เห็นว่า ความแตกต่างเหล่าน้ีไม่ใช่สิ่งที่สร้างความแตกแยก หากแต่ทุกคนทุกกลุ่มต้องเคารพสิทธิ หน้าท่ี และบทบาท ของกันและกัน ประเภทบทกวี รางวลั ชนะเลศิ เรื่อง “แผนที่และเข้ียวปลวก” บทกวี “แผนท่ีและเข้ียวปลวก” ประพันธ์เป็นกลอนสุภาพ สะท้อนปัญหาการคอร์รัปชันและ ปัญหาความไม่ซ่ือสัตย์ของผู้บริหารประเทศและผู้คนท่ีเก่ียวข้อง โดยสร้างเป็นภาพจินตนาการเปรียบเทียบ ประเทศเป็นแผนที่ และคนที่คอร์รัปชันและไม่ซ่ือสัตย์เหล่าน้ันเป็นปลวกที่คอยกัดแทะแผนท่ี ปลวกเป็นสัตวท์ ่ี น่ากลัวท่ีสุดของแผนที่ เพราะมันสามารถกัดแทะทาลายได้ในระยะเวลาอันส้ัน การท่ีผู้เขียนเลือกใช้ “แผนที่ ประเทศ” ทาให้เกิดภาพแทนประเทศขึ้นในใจผู้อ่านอยา่ งสมบูรณ์ และปลวกก็เป็นสัตว์ที่สามารถทาลายแผนท่ี ได้ในพริบตาเช่นกัน ภาพปลวกกินแผนที่ประเทศจึงเป็นภาพเชิงสัญลักษณ์เล็กๆ แทนการเอ่ยถึงประเทศทั้ง ประเทศสง่ ผ่านตัวอกั ษรมาได้อย่างมีพลงั กวีนาเสนอภาพในจนิ ตนาการ มีการเลน่ โวหารกวเี ป็นลาดบั จากภาพแรกเห็นแผนทป่ี ระเทศ มรี อยแทะแล้ว ซึ่งเลน่ ด้วยโวหารจงั หวะเสียง “นั่น,แผนท่ีประเทศ-เศษเขย้ี วแทะ เป็นรอยเหวอะรอ่ งแหวะและเวา้ แหว่ง กระดาษปรทุ ะลุคล้ายรูปลายแทง ดกู รังแห้งแขง็ กรอบปลวกลอบกนิ ” ลาดบั ต่อมาจึงอธิบายความเป็นปลวกว่ามาจากไหน เป็นใคร และมีลักษณะเช่นใด กอ่ นจะ สรุปลกั ษณะนสิ ัยของปลวกวา่ “เพริดผยองดังพญาเหนอื ฟ้าดนิ ” และอธบิ ายในลาดับทีส่ ามวา่ แทจ้ รงิ แลว้ ปลวกก็มาจาก “เรา” โดยบอกว่า “กเ็ ราแหละยกรงั มาสร้างปลวก ใหร้ มุ พวกรุมพลจนพรอ้ มหน้า” ก่อนจะปิดเปน็ ลาดับสุดท้ายโดยบอกทางแกว้ า่ “จะรกั ษาแผนที่แผน่ ที่รัก ควรหวงศกั ด์ิรักสทิ ธ์ิตนให้ลน้ ปรี่ ควรม่ันจติ อิสระเป็นคดี ด้วยวถิ ีธรรมาธปิ ไตย” โปรดสังเกตว่าผู้เขียนไม่ได้ใช้ ประชาธิปไตย หากใช้ “ธรรมาธิปไตย” เพื่อเน้นการต้องมี “ธรรม” ความลงตัวอีกส่วนหนึ่งของผลงานช้ินนี้อยู่จังหวะคาและสานวนโวหาร มีการเล่นจังหวะคา หลายแหง่ อาทิ พอเผลอตา เผลอใจได้ทีปลวก เล่นคาว่า เผลอตา เผลอใจ หรือ เลน่ เสียงคามนี าหนกั แรง เกิด จากไหนนะปลวก พวกปากเค้ียว จึงกรามเข้ียวคมแกร่งและแข็งกล้า หรือเล่นคาคู่สองวรรค เห็นแต่ปลวกเต็ม ตาจนชาชิน เห็นประเทศสังเวชวิ่นจนชินชา หรือ ด้วยเผลอพล้ังมิต้ังจิตพิจารณา เผลอปัญญามิต้ังตนบน คลองธรรม เป็นตน้

๔๓ ปลวกมิได้มาจากที่อ่ืนใด หากแต่เป็นคนในสังคมน่ันเองที่เป็นผู้พาปลวกมากัดแทะแผนที่ประเทศ ของตัวเอง นัยน้ีนาไปสู่การเลือกคนท่ีถูกต้อง กวียืนยันและส่งพลังภาพผ่านคาและโวหารมาอย่างจงใจให้ กระแทกใจ รางวัลรองชนะเลิศ เรอ่ื งที่ 1 “เมอื งน้ีมีภูเขา แมน่ ้า ฯลฯ” บทกวี เมืองน้ีมีภูเขา แม่น้าฯลฯ ประพันธ์เป็นกลอนสุภาพ สะท้อนเร่ืองมุมมองและความ เข้าใจเร่ืองประชาธิปไตยที่ต้องเปิดกว้าง โดยใช้วิธีเล่าเรื่องเปรียบเทียบคล้ายเป็นนิทาน เล่าเร่ืองมุมมองของ ชายสองคนทีเ่ ดินออกจากหม่บู ้านไปคนละทศิ คนทเ่ี ดินไปทางทิศเหนือเหน็ แต่ภูเขากว็ ่าเมืองมีแต่ภูเขา สว่ นอีก คนเดินทางลงทิศใต้ เห็นแต่แม่น้าก็ว่าเมืองมีแต่น้า เมื่อกลับสู่หมู่บ้านท้ังสองคนก็เลยมีมุมมองและความเช่อื ไป คนละทาง กวีจึงยืนยันต่อว่า ถ้ามีการปรับขยับมุมมองและต่อจ๊ิกซอว์ที่มีให้สมบูรณ์ด้วยความเคารพซึ่งกันและ กัน ภาพเมืองก็จะสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นการเล่าเรื่อง กวีจึงใช้คาเรียบง่ายเหมือนเล่านิทาน “ชายคนหนึ่งมุ่งหน้าสู่ทิศ เหนือ ขณะเม่ือจบั จอ้ งมองภูผา ภาพคีรที ่หี ่างไกลใกลเ้ ข้ามา ให้เชือ่ วา่ เมอื งนี้มแี ตภ่ ู” ส่วนอกี คนว่า “ชายอกี คน มงุ่ ตรงลงทางใต้ แมน่ ้าใหญย่ าวกวา้ งทอดขวางอยู่ เขาเหลียวซา้ ยแลขวาทอดตาดู ให้นกึ รู้ว่าเมืองน้ีมีแต่น้า” ในขณะเดียวกันผู้เขียนก็อธิบายแบบนักคิดว่า “เพราะเช่ือว่าท่ีเห็นเป็นความจริง จึงใช้สิ่งที่ เห็นเปน็ เหตผุ ล เขยี นนิยามความถกู ตอ้ งแบบของตน ทับลงบนความขาดพรอ่ งตามตอ้ งการ” เรยี กวา่ อธบิ ายไดง้ ามง่ายและชดั เจนดว้ ยภาษาและวิธเี ลา่ ของเขา โดยมติ อ้ งถอดความ จากนั้น กวีจึงชี้ว่า “เม่ือดวงตามองได้ในมุมเดียว อาจบิดเบี้ยวจากความจริงสิ่งรอบด้าน ควร นา้ ชดุ ความเชือ่ ของเมื่อวาน มามองผา่ นการขยบั ปรับมมุ ยนื ” กวยี นื ยนั การแสดงความคดิ เห็นในสังคมประชาธิปไตยปิดท้ายว่า “ขอเพียงแคเ่ ราเคารพกัน” เห็นได้ว่า กวีมองประชาธิปไตยด้วยมุมมองของนักปรัชญา มองเห็นความเป็นไปของมนุษย์ และความนึกคิดของคนทุกกลุ่ม ด้วยมุมมองของพระเจ้าและเห็นภาพรวมของประเทศ โดยใช้คางามง่าย แต่ ทรงพลัง สมั ผสั ใจได้ รางวลั รองชนะเลศิ เรอ่ื งที่ 2 “เวน้ พ้นื ท่ีว่างเอาไว้” เว้นพ้ืนท่ีว่างเอาไว้ เป็นบทกวีประเภทกลอนเปล่า สะท้อนเรื่องของการเว้นพื้นท่ีว่างในชีวิต อันหมายถึงการหยุดความคิดหรือการกระทาของตนเพื่อให้โอกาสแก่คนอื่นบ้าง เพื่อสร้างความหลากหลายให้ เกิดข้ึน เหมือนการเว้นช่องว่างในสวนให้ต้นไม้ได้เติบโตและหายใจ หรือเว้นช่องว่างในทางเดินให้คนอ่ืนได้เดิน บ้าง ท้ังหมดน้ันก็เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ความหมายใหม่ ๆ และคนใหม่ ๆ ในการดาเนินไปของสังคม ประชาธปิ ไตย กวีขึ้นต้นด้วยการพุ่งไปสู่เป้าหมายของการให้คนตระหนักคิดในทันใด ให้เว้นท่ีว่างเอาไว้เผ่ือ คนหรือเหตุอื่น ๆ ในชีวิตด้วย การใช้วลี “เว้นพื้นท่ีว่างเอาไว้” ท้ังหมด ๑๐ คร้ัง เพื่อตอกย้าและทาให้คนอ่าน ตระหนักในความสาคัญและความหมายของการนาเสนอครั้งนี้ และกวียังเว้นพ้ืนท่ีว่างในหน้ากระดาษไว้เป็น จงั หวะในการขน้ึ บทใหมอ่ ีก ๕ จงั หวะด้วย และจากช่อื บทลงมาเปน็ ช่องวา่ งท่ีกว้างทสี่ ดุ หลังจากโจมตีใจคนอ่านด้วยวลีสาคัญแลว้ กวีจึงขยายความเชิงเปรียบเทียบว่า คล้ายกับการ ปลกู ตน้ ไม“้ ใหพ้ ชื พนั ธุ์ในสวนของเธอได้หยง่ั ราก” “ให้กง่ิ กา้ นดอก ใบ ไดเ้ รงิ รา้ ไปในอากาศ” มกี ารเว้นชอ่ งว่าง ระหว่างคาด้วย “ให้แดดและลมได้เพาะบ่มลมหายใจ” การยกตัวอย่างน้ีทาให้คนอ่านเข้าใจได้ชัดเจนขึ้น จากน้ันจึงนาไปสภู่ าพที่สอง ซึ่งเป็นผลมาจากการเว้นท่ีวา่ งคือ การเว้นพ้ืนที่วา่ งเอาไว้เพ่ือ “ให้แต่ละก้าวยา่ งได้ วางเท้า” เมื่อเราเวน้ ที่ว่างใหส้ ามารถวางเทา้ ลงไปได้ ทางที่เราก้าวไปนน้ั กจ็ ะแปรสภาพจากทุง่ หญ้าหรือป่าหรือ ภูมิประเทศอื่นใดกลายเป็นเสน้ ทางที่สวยงามได้

๔๔ กล่าวคือ ถ้าเราไมเ่ วน้ ทว่ี า่ ง เทา้ ก็ไม่มชี อ่ งให้ก้าวเดนิ เส้นทางกจ็ ะไม่ปรากฏ สดุ ทา้ ยกวีจึงยืนยนั เป็นบทสรุป การเว้นพืน้ ท่วี า่ งเอาไว้ ทาให้รูว้ า่ โลกนย้ี งั มคี นอื่น และคนอ่นื น้ันกจ็ ะรว่ มสรา้ งรอยเทา้ บนเส้นทางต่อไป และน่นั คอื เส้นทางประชาธิปไตย “เว้นพน้ื ท่ีวา่ งเอาไว้ ให้ความแตกตา่ งรว่ มสรา้ งประชาธิปไตย” ..................................................

๔๕ นายสรศกั ดิ์ เพยี รเวช เลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ประธานกรรมการ รางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒563 กลา่ วรายงาน ผลการประกวดวรรณกรรม รางวลั พานแวน่ ฟา้ ประจาปี ๒๕63

๔๖ นายชวน หลีกภยั ประธานรัฐสภา ประธานในพธิ ี มอบรางวลั พานแวน่ ฟ้า ประจาปี ๒๕63 ประเภทเรือ่ งส้ัน และบทกวี จานวน ๒6 รางวัล รางวัลชนะเลิศประเภทเรอื่ งส้ัน ผลงานเรอื่ ง “สงิ่ ทร่ี ออยูห่ ลังเสน้ ชยั ” โดย วโิ รจน์ สทุ ธสิ มี า รางวัลรองชนะเลิศประเภทเรอ่ื งสัน้ ผลงานเรือ่ ง “พลเมืองดี” โดย วฒุ นิ นั ท์ ชัยศรี รางวลั รองชนะเลศิ ประเภทเร่อื งสนั้ ผลงานเร่อื ง “เส้นแบง่ ” โดย วฒั น์ ยวงแกว้

๔๗ รางวัลชนะเลิศประเภทบทกวี ผลงานเรอ่ื ง “แผนที่และเข้ียวปลวก” โดย เทดิ ไท นามแทน รางวัลรองชนะเลิศประเภทบทกวี ผลงาเรือ่ ง “เมอื งน้มี ภี เู ขา แมน่ า้ ฯลฯ” โดย หทยั รตั น์ จตรุ วฒั นา รางวลั รองชนะเลศิ ประเภทบทกวี ผลงานเรอ่ื ง “เว้นพน้ื ท่วี า่ งเอาไว้” โดย คตี ญา อินทรแก้ว

๔๘ รางวัลชมเชยประเภทเร่ืองส้ันและบทกวี

๔๙

๕๐ นายชวน หลีกภยั ประธานรฐั สภา ประธานในพิธี กลา่ วใหโ้ อวาท ถ่ายรูปรว่ มกับคณะกรรมการฯ และผู้ท่ไี ด้รับรางวัล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook