Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สังคมครูพิม

สังคมครูพิม

Published by pim, 2019-10-24 06:01:20

Description: สังคมครูพิม

Search

Read the Text Version

พระพุทธศาสนา กบั หลกั การวทิ ยาศาสตร ์ โรงเรยี น ดำรงรำษฎรส์ งเครำะห ์ จงั หวดั เชยี งรำย

วทิ ยำศำสตร ์ : ม่งุ หำควำมรนู ้ อกตวั ไปสสู่ ดุ ขอบจกั รวำล เพอื่ พฒั นำ โลกใหก้ ำ้ วไกล พุทธศำสตร ์: ม่งุ หำควำมรใู ้ นตวั เกดิ ญำนทสั สนะกวำ้ งไกลไม่สนิ้ สดุ เพอื่ ใหพ้ น้ ควำมทกุ ขท์ ง้ั ปวง วิทยาศาสตร์มุ่งปรับธรรมชาติ พระพุทธศาสนามุง่ ปรับจิตใจคน

หลกั ของพระพุทธศำสนำ กบั หลกั วทิ ยำศำสตร ์

หลกั กำรของวทิ ยำศำสตร ์ จะเชอื่ เรอื่ งใดจะตอ้ งมกี ำรพสิ จู น์ ควำมจรงิ โดยใชก้ ำรทดลองและ ทกุ อยำ่ งจะดำเนินไปอย่ำงมี กฎเกณฑแ์ ละเหตผุ ลเป็ นตวั ตดั สนิ โดยอำศยั ปัญญำในกำรพิ จรณำ หลกั กำรของพระพุทธศำสนำ มหี ลกั ดำ้ นควำมเชอื่ เชน่ เดยี วกนั กบั วทิ ย ์ ดงั คำสอน ทปี่ รำกฎอย่ใู น กำลำมสตู ร ซงึ่ พระพทุ ธเจำ้ ทรงสอนใหไ้ ม่เชอื่ อยำ่ งงมงำยไรเ้ หตผุ ล ตำมหลกั 10 ประกำร



ทง้ั วทิ ยแ์ ละพุทธตำ่ งยอมรบั ควำมรจู ้ ำกประสบกำรณโ์ ดยมกี ำร พสิ จู นผ์ ่ำนทำง ประสำทสมั ผสั และใจ ตวั อยำ่ ง พระพุทธเจำ้ ทรงเรมิ่ คดิ จำกประสบกำรณท์ ไี่ ดเห็น คอื เกดิ แก่ เจ็บ ตำย ลว้ นเป็ นควำมทกุ ข ์ พระองคไ์ ดท้ รงทดลองอำศยั ประสบกำรณ์ จนในทสี่ ดุ สำมำรถ คน้ พบควำมจรงิ อนั เป็ นหนทำงกำร หลดุ พน้ จำกทกุ ขไ์ ด ้

ควำมเหมอื นและควำมแตกตำ่ งระหวำ่ ง พุทธศำสนำ กบั วทิ ยำศำตร ์ จดุ มุ่งหมายของวทิ ยาศาสตรก์ บั พุทธศาสตร ์ วทิ ยำศำสตร ์ - แกไ้ ขปรำกฏกำรณต์ ำ่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ - ตอ้ งกำรรจู ้ กั กฎเกณฑข์ องธรรมชำติ พทุ ธศำสตร ์ - เขำ้ ใจกฎเกณฑธ์ รรมชำตใิ นนิยำม ๕ คอื อตุ ,ุ พชี , จติ , กรรม ธรรมชำติ - ตอ้ งกำรใหร้ กู ้ ฎเกณฑค์ วำมจรงิ ของชวี ติ มนุษย ์

จดุ รว่ มของพุทธศำสนำกบั วทิ ยำศำสตรก์ ็คอื กำรทมี่ นุษยป์ ระสบปัญหำ และเพอื่ จะแกป้ ัญหำก็มองออกไปทธี่ รรมชำตภิ ำยนอก ดว้ ยควำมหวำดหวน่ั แลว้ ควำมรสู ้ กึ น้ันก็น ำไปสู่ ควำมปรำรถนำทจี่ ะพน้ ภยั และใฝ่ รู ้ ในควำมจรงิ ของธรรมชำติ จดุ รว่ มทแี่ ตกตำ่ งระหวำ่ ง วทิ ยำศำสตรก์ บั พุทธศำสนำ สำหรบั พุทธศำสนำแลว้ จดุ เรมิ่ ก็คอื กำรทจี่ ะ แกป้ ัญหำทเี่ รยี กวำ่ ควำมทกุ ขข์ องมนุษย ์ ซงึ่ เกดิ จำกเหตปุ ัจจยั ทง้ั ภำยในและภำยนอกเชน่ ในกฎ ธรรมชำตเิ หมอื นกบั วทิ ยำศำสตร ์แตค่ วำมเชอื่ นั้น ได ้ โยงมำถงึ ตวั ของมนุษยด์ ว้ ยทง้ั ในแง่มนุษยท์ ี่ เป็ นสว่ นหนึ่งของธรรมชำตแิ ละสว่ นทเี่ ป็ นผู้ ครอบคลมุ ธรรมชำตดิ ว้ ย

ควำมคดิ แบบพุทธ ควำมคดิ แบบวทิ ยำศำสตร ์

กำรคดิ ตำมนัยแหง่ พระพุทธศำสนำ เป็ นวธิ คี ดิ แบบโยนิโสมนสกิ ำร เป็ นกำรคดิ อย่ำงถกู ตอ้ ง มรี ะเบยี บ และลกึ ซงึ้ เป็ นขนั้ ตอนในกำร สรำ้ งปัญญำทบี่ รสิ ทุ ธิ ์ เป็ นอสิ ระ ทำใหท้ กุ คนชว่ ยเหลอื ตนเองได ้ และนำไปสู่ จดุ หมำยของพระพทุ ธธรรมอย่ำงแทต้ รงิ วธิ คี ดิ แบบโยนิโสมนิกำร 10 ประกำรมดี งั นี้

1. วธิ คี ดิ แบบสบื สาวเหตุปัจจยั คอื กำรพจิ ำรณำปรำกฏกำรณท์ เี่ ป็ นผลใหร้ จู ้ กั สภำวะทเี่ ป็ นจรงิ หรอื พจิ ำรณำ ปัญหำ หำหนทำงแกไ้ ขดว้ ยกำรคน้ หำสำเหตแุ ละปัจจยั ตำ่ งๆ ทสี่ มั พนั ธส์ ่งผลสบื ทอดกนั มำ 2. วธิ คี ดิ แบบแยกแยะสว่ นประกอบ เป็ นวธิ คี ดิ แบบจำแนกแยกแยะองคร์ วมของสรรพสงิ่ ออกเป็ นองคป์ ระกอบ ย่อยๆ หรอื คดิ วเิ ครำะหแ์ ละจดั หมวดหมู่ขององคป์ ระกอบย่อยๆ น้ัน 3. วธิ คี ดิ แบบสามญั ลกั ษณ์ หรอื วธิ คี ดิ แบบรเู ้ ท่ำทนั ธรรมดำ คอื มองอย่ำงรเู ้ ทำ่ ทนั ควำมเป็ นไปของสงิ่ ทงั้ หลำย ซงึ่ จะตอ้ งเป็ นอย่ำงน้ันๆ ตำมธรรมดำของมนั เอง 4. วธิ คี ดิ แบบแกป้ ัญหา (แบบอรยิ สจั ) มลี กั ษณะทว่ั ไป ๒ ประกำร คอื 4.1 เป็ นวธิ คี ดิ ตำมเหตแุ ละผล สบื สำวจำกผลไปหำเหตแุ ลว้ แกไ้ ขและทำ กำรทตี่ น้ เหตุ 4.2 เป็ นวธิ คี ดิ ทตี่ รงจดุ ตรงเรอื่ ง ตรงไปตรงมำไม่ฟ้ งุ ซำ่ นออกไปเรอื่ งอนื่ และตอ้ งเป็ นกำรแกไ้ ขทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ 5. วธิ คี ดิ แบบอรรถธรรมสมั พนั ธ ์ หรอื คดิ ตำมหลกั กำรและควำมม่งุ หมำย เมอื่ รวู ้ ำ่ หลกั กำรเป็ นอย่ำงไร ควำมม่งุ หมำยเป็ นอย่ำงไร ก็ทำใหถ้ กู ตอ้ งตำมหลกั กำรและจดุ ม่งุ หมำยน้ัน 6. วธิ คี ดิ แบบคุณโทษและทางออก เป็ นกำรมองสงิ่ ทงั้ หลำยตำมควำมเป็ นจรงิ 7. วธิ คี ดิ แบบคุณคา่ แทแ้ ละคุณคา่ เทยี ม เป็ นวธิ คี ดิ ทเี่ กยี่ วขอ้ งใกลช้ ดิ กบั ควำมตอ้ งกำร และกำรประเมนิ คำ่ ของ บคุ คล 8. วธิ คี ดิ แบบปลุกเรา้ คุณธรรม เป็ นวธิ คี ดิ ทรี่ จู ้ กั นำเอำประสบกำรณท์ ผี่ ่ำนพบมำคดิ ปรงุ แตง่ ไปในทำงทดี่ งี ำม เป็ นประโยชนเ์ ป็ นกศุ ล ทำใหม้ ที ศั นคตทิ ดี่ ตี อ่ บคุ คล เหตกุ ำรณแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม มจี ติ ใจทสี่ ะอำดผ่องแผว้ แลว้ แสดง ออกเป็ นพฤตกิ รรมในทำงสรำ้ งสรรคต์ อ่ ไป 9. วธิ คี ดิ แบบเป็ นอยูใ่ นปัจจุบนั คดิ ตำมแบบมหำสตปิ ัฏฐำนสตู ร เพ่งพจิ ำรณำมสี ตริ ะลกึ อยู่กบั สงิ่ ทกี่ ำลงั เป็ นอยู่ เกดิ ขนึ้ หรอื รกู ้ ำรกระทำทกุ ขณะจติ เป็ นแนวคดิ แหง่ ปัญญำไม่วำ่ เรอื่ งน้ันจะเป็ นอยู่ขณะนี้ ล่วงไปแลว้ หรอื เป็ นเรอื่ ง ของกำรภำยหนำ้ หำกเป็ นกำรคดิ ดว้ ยปัญญำถกู ตอ้ งตำมหลกั กำรของพระพุทธศำสนำ ก็นับเป็ นควำมคดิ ใน ปัจจบุ นั ทง้ั สนิ้ 10. วธิ คี ดิ แบบวภิ ชั ชวาท วภิ ชั ชวำท มำจำก วภิ ชั ช + วำท วภิ ชั ช แปลวำ่ แยกแยะ แบ่งออก จำแนก หรอื แจก แจง ใกลเ้ คยี งกบั คำวำ่ วเิ ครำะห ์ วำท แปลวำ่ กำรกลำ่ ว กำรพูด กำรแสดงคำสอน วภิ ชั ชวำท แปลวำ่ กำรพดู แยกแยะ พูดจำแนก หรอื พูดแจกแจง หรอื แสดงคำสอนแบบวเิ ครำะห ์

กำรคดิ ตำมแบบวทิ ยำศำสตร ์ เป็ นกระบวนกำรคดิ แยกออกเป็ น 5 ขนั้ ตอน กำหนดปัญหำ ตงั้ สมมตฐิ ำน ทดลองและเก็บขอ้ มลู วเิ ครำะหข์ อ้ มลู สรปุ ผล

ศำสนำพุทธและจติ วทิ ยำ ในชว่ งครสิ ตท์ ศวรรษ 1970 มผี ลงำนทดลองหลำยงำนทเี่ สนอวำ่ กรรมฐำน ในพุทธศำสนำ สำมำรถใหค้ วำมเขำ้ ใจเกยี่ วกบั สภำวะทำงจติ ไดอ้ ยำ่ งกวำ้ งขวำง งำนวจิ ยั เชน่ นีไ้ ดร้ บั คำสนับสนุนจำกองคท์ ะไลลำมะทสี่ บิ สี่ ผูไ้ ดแ้ สดงควำมสนใจในกำรสำรวจหำควำมเชอื่ มโยงกนั ระหวำ่ งพุทธศำสนำและ วทิ ยำศำสตร ์และทรงเสด็จไปยงั งำนประชมุ ของสถำบนั จติ และชวี ติ (Mind and Life Institute) เสมอ ๆ เชน่ น.พ. วลิ เลยี ม เจมส ์ ผูน้ ับถอื กนั วำ่ เป็ นบดิ ำของสำขำจติ วทิ ยำในประเทศ สหรฐั อเมรกิ ำ มกั จะใชแ้ นวคดิ จำกศำสนำพุทธ เมอื่ กำหนดแนวคดิ เกยี่ วกบั กำรรบั รู ้

สรุปความแตกตา่ งระหวา่ ง พุทธศาสตร ์ กบั วทิ ยาศาสตร ์ทสี่ าคญั คอื วทิ ยาศาสตรไ์ ม่สนใจเรอื่ งศลี ธรรม ควำมดคี วำมชว่ั วำงตวั เป็ นกลำงในเรอื่ ง ถกู ผดิ กำรคน้ พบทำงวทิ ยำศำสตร ์ใหท้ งั้ คณุ อนันตแ์ ละโทษมหนั ต ์ คาสอนทางพุทธ-ศาสนา เป็ นเรอื่ งศลี ธรรม ควำมดี ควำมชว่ั มุ่งทจี่ ะใหม้ นุษยใ์ นสงั คมมคี วำมสขุ เป็ นลำดบั ขนึ้ ไปเรอื่ ยๆ จนถงึ ควำมสงบสขุ อนั สงู สดุ แลว้ แตว่ ำ่ ใครจะไปไดแ้ คไ่ หน

ถงึ แมว้ ำ่ วทิ ยำศำสตรจ์ ะม่งุ เขำ้ ใจกฎธรรมชำตแิ ตก่ ็ไม่ไดค้ รอบคลมุ ไปถงึ คณุ คำ่ ที่ แทจ้ รงิ ภำยในตวั ของมนุษย ์ กำรไดค้ วำมจรงิ ออกมำจงึ ไม่ครบถว้ นหรอื ขำดตอนไป จงึ ไม่ สำมำรถตวี งใหม้ ำบรรจบครบรอบกนั ได ้ แลว้ ก็ไม่สำมำรถมองเห็นสจั จะธรรม ทแี่ ทจ้ รงิ ได ้ เพรำะ ควำมจรงิ อกี ดำ้ นหนึ่งของธรรมชำตไิ ดถ้ กู ละเลยไป คอื ควำม จรงิ ในดำ้ นตวั มนุษยน์ ่ันเอง จดุ นีจ้ งึ ถอื วำ่ เป็ นจดุ แตกตำ่ งทสี่ ำคญั อกี จดุ หนึ่ง ระหวำ่ งศำสนำกบั วทิ ยำศำสตร ์

พุทธหรอื วทิ ย ์ ก็สอนใหบ้ คุ คลดำรงชวี ติ อยำ่ งมี สติ อำศยั หลกั ของเหตแุ ละผล

https://www.youtube.com/watch?v=q1KZ6vujJt 0


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook