Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore law3

law3

Published by pim, 2019-11-24 21:34:01

Description: law3

Search

Read the Text Version

ซือ้ ขาย

ซือ้ ขาย ความหมาย สัญญาซ้ือขายเป็นเอกเทศสญั ญา ประเภทหนึง่ คือ สัญญาซึง่ บคุ คลฝ่าย หนึง่ เรียกว่า ผ้ขู ายโอนกรรมสิทธิ์แห่ง ทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหนึง่ เรียกว่า ผ้ซู ้ือและผู้ซ้อื ตกลงว่าจะใช้ราคาทรพั ย์สิน น้ันให้แกผ่ ้ขู าย

ลกั ษณะสาคัญของสัญญาซื้อขาย  (1) เปน็ สัญญาตา่ งตอบแทนทีจ่ ะตอ้ งมีคสู่ ัญญาสองฝ่าย (ผู้ซื้อกับ ผู้ขาย) ต่างฝ่ายต่างไดร้ บั ประโยชน์ตอบแทนจากกันและกนั โดยฝ่าย ผู้ขายได้รับชาระราคา และฝ่ายผู้ซื้อได้รบั ทรัพย์สินไป  (2) เปน็ สัญญาที่ไมม่ แี บบ เพียงแตม่ คี าเสนอกบั คาสนองตรงกนั ก็ถือ ว่าเปน็ การซื้อขายแล้ว ซึง่ มีขอ้ ยกเว้นอยู่วา่ ถ้าทรพั ยส์ ินที่จะซื้อขาย กันน้ัน เปน็ อสงั หาริมทรพั ย์หรือสังหาริมทรพั ย์ชนดิ พิเศษ กจ็ ะต้องทา ตามแบบไม่เช่นนั้นจะตกเปน็ โมฆะ  (3) เป็นสญั ญาทผี่ ู้ขายมงุ่ จะโอนกรรมสิทธิ์ให้แกผ่ ู้ซื้อ และผซู้ ื้อมุ่งจะ ชาระราคาแกผ่ ู้ขาย

ประเภทของสัญญาซือ้ ขาย  สาหรับประเภทของสัญญาซอื้ ขายสามารถทีจ่ ะพิจารณาไดด้ ังนี้  1. สัญญาซือ้ ขายเสรจ็ เดด็ ขาด  เปน็ สญั ญาซือ้ ขายทมี่ ีการกาหนดตัวทรพั ยซ์ ือ้ ขายทีแ่ นน่ อน โดยผ้ขู ายจะตอ้ ง มีกรรมสิทธเิ์ หนอื ทรพั ย์สนิ ทซี่ อื้ ขาย  คาพิพากษาฎกี าที่ 9/2505  มีการตกลงซือ้ ขายผลลาไยในสวนขณะทลี่ าไยกาลงั ออกดอก โดยชาระราคา กนั บางสว่ นแลว้ และให้ผซู้ ื้อเป็นผคู้ รอบครองดูแลรักษาต้นลาไยเอง ดงั นี้ ผลไดเ้ สียเปน็ ของผู้ซื้อ ถ้าเกิดผลเสียหายอย่างใดผู้ขายไม่ต้องคืนเงิน ถา้ ได้ผลมากกเ็ ปน็ ของผซู้ ือ้ ฝ่ายเดยี วเปน็ การเสี่ยงโชคโดยคานวณจากดอกลาไย และสุดแท้แตด่ นิ ฟ้าอากาศจะอานวยใหด้ งั นี้ ถือว่าคู่สญั ญาไดต้ กลงซือ้ ขาย กันแนน่ อนแลว้ โดยคานวณราคาจากดอกลาไยเปน็ หลัก ต่อมาถ้าต้นลาไย ถูกพายุพดั หกั หมด ผ้ซู ือ้ จะเรียกเงนิ คืนจากผขู้ ายไม่ได้

 2. สัญญาจะซื้อจะขาย  เป็นสญั ญาที่คู่สญั ญามีเจตนาจะไปทาการโอนกรรมสิทธิ์ กนั ในภายหลัง เพราะฉะนนั้ กรรมสิทธ์ิจะยงั ไม่โอนในขณะทีท่ าสญั ญา ซึง่ รวมถงึ กรณีการ ทาสญั ญาซื้อขายทรพั ย์สินทีต่ อ้ งทาให้ถูกตอ้ งตามแบบที่ กฎหมายกาหนด  คาพิพากษาฎีกาที่ 2518/2532  จาเลยตกลงขายที่ดินใหโ้ จทก์นาไปจัดสรรขายโดยอนญุ าต ให้โจทก์เข้าไปดาเนินการแบง่ แยกเป็นแปลงย่อย และขาย ท่ดี ินทแ่ี บ่งแยกได้ เพือ่ นาเงินมาชาระ ราคาทีด่ ินให้จาเลย เมือ่ ชาระครบถ้วนแล้วจาเลยจะไปทานติ ิกรรมการจด ทะเบียนโอนให้แก่โจทก์ดังนี้สัญญาระหว่างโจทก์กบั จาเลย เป็นสัญญาจะซื้อจะขาย

 3. คามัน่ วา่ จะซอ้ื จะขาย  กรณีดงั กล่าว ถา้ ทรพั ย์สนิ ทีจ่ ะซื้อจะขายเปน็ อสงั หาริมทรัพย์ หรือ สงั หาริมทรพั ย์ชนดิ พิเศษ การจะทาคามัน่ จะตอ้ งมีหลักฐานเป็น หนงั สืออย่างใดอยา่ งหนึง่ ลงลายมือชื่อ ฝ่ายทตี่ ้องรบั ผดิ หรือไดว้ าง ประจาไว้หรือได้ชาระหนบี้ างสว่ นจึงจะฟ้องร้องบงั คับคดีกนั ได้  ตัวอย่างเชน่ ผู้ใหค้ ามน่ั จะต้องถกู ผูกพันตามคามัน่ นนั้ ตลอดเวลา แต่ ถา้ ต้องการ ที่จะยกเลิกคามั่นที่ให้ไว้ จะต้องกาหนดเวลาพอสมควร และแจ้งใหผ้ ู้รบั คามนั่ ทราบ และให้ผรู้ บั คาม่ันตอบรบั ภายใน กาหนดเวลาว่าจะซื้อหรือจะขายหรือไม่ เมือ่ ผู้รับคามั่นไม่ตอบภายใน เวลาที่กาหนด ผู้ใหค้ าม่นั ก็หมดความผกู พนั เชน่ สุชาติให้คาม่ันแก่สธุ ี ว่าจะซื้อวัวนมของสธุ ี จานวน 2 ตัวราคาตัวละ 15,000 บาท ถา้ สธุ จี ะ ขายให้ตอบภายในกาหนด 1 เดือน ดงั นี้ สุชาตติ ้องถกู ผูกพนั ตาม คาม่ันนีต้ ลอดเวลา 1 เดือน ถา้ พ้นกาหนดเวลานีแ้ ล้วสธุ ีเพงิ่ ตอบตกลง กไ็ มม่ ผี ลผูกพนั สชุ าติ

แบบของสญั ญาซื้อขาย  โดยปกติทวั่ ไปแล้วสัญญาซื้อขายจะไม่มีแบบ หากคกู่ รณีมคี าเสนอและคาสนอง ถูกตอ้ งตรงกนั ก็ถือว่าสญั ญาซื้อขายเกิดขนึ้ แล้ว ยกเว้นเปน็ กรณีสัญญาซื้อขายบาง ประเภททีจ่ ะต้องทาให้ถกู ตอ้ ง ตามแบบที่กฎหมายกาหนดจึงจะสมบรู ณใ์ ช้บงั คับกนั ได้  (1) สญั ญาซือ้ ขายทีต่ อ้ งทาเปน็ หนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหนา้ ที่  การทาสญั ญาซื้อขายอสังหาริมทรพั ย์ และสงั หารมิ ทรพั ย์ชนิดพเิ ศษ หากไมท่ าให้ ถกู ตอ้ งตามแบบ แล้วจะตกเปน็ โมฆะ  (2) การทาหลักฐานเป็นหนังสือ การวางประจาหรอื การชาระหนี้บางส่วน  การทาสญั ญาซื้อขายได้กล่าวแล้ววา่ หากคสู่ ัญญามเี จตนาตอ้ งตรงกนั สญั ญากเ็ กดิ แล้ว แต่อยา่ งไร ก็ตามการซื้อขายบางประเภทหากไม่มีการทาหลกั ฐานเปน็ หนังสือ หรือได้วางประจาหรือได้ชาระหนี้ บางส่วนแล้ว จะฟ้องรอ้ งบงั คับคดีไม่ได้

การโอนกรรมสิทธิ์ในทรพั ย์สินที่ซื้อขาย  เราได้ศกึ ษากนั มาแล้วว่าสัญญาซื้อขายเกิดข้ึนทนั ที ที่มคี าเสนอ และคาสนอง ต้องตรงกนั ดงั นี้ เมื่อตกลงซื้อขายกนั กรรมสิทธิใ์ นทรัพย์สนิ โอนไปยังผู้ซื้อ ทนั ที เมือ่ กรรมสิทธิใ์ นทรพั ย์สนิ โอนไปเป็นของผู้ซื้อ หากเกิดภยั พบิ ตั ิขน้ึ โดย ไม่ใช่ความผดิ ของผู้ขาย ความเสียหายนนั้ ๆ ก็ต้อง ตกไปแกผ่ ู้ซื้อ แต่กม็ ี ขอ้ ยกเวน้ อยู่ 3 ประการคือ  (1) หากมกี ารกาหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลากนั ไว้ กรรมสิทธิจ์ ะยงั ไมโ่ อนไป จนกว่าเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาจะสาเรจ็  (2) กรณีทีไ่ มไ่ ด้มีการกาหนดตัวทรัพยไ์ ว้แน่นอน กรรมสิทธิจ์ ะโอนเมือ่ มีการ นบั ช่งั ตวง วดั กาหนดตัวทรพั ย์สินเปน็ ทีแ่ นน่ อนแล้ว  (3) กรณีที่เปน็ สญั ญาจะซื้อจะขาย กรรมสิทธิจ์ ะโอนต่อเมือ่ ได้มีการทาเป็น หนังสือ  และจดทะเบียนต่อพนกั งานเจ้าหนา้ ทใี่ นภายหลงั

 ตวั อยา่ ง นาย ก. ขอซื้อแหวนเพชรราคา 1 ล้านบาทจากนาย ข. ใน เวลา 8.00 น.ซึง่ แหวนเพชรดังกล่าวนาย ข.ต้ังใจจะนาไปหม้ันน้อง ดาว แต่นาย ข. ก็ตกลงขายให้แก่นาย ก. ในเวลา 8.05น.กรณี ดังกล่าวสญั ญาซื้อขายแหวนเพชรเกิดขนึ้ ทันทีในเวลาท่นี าย ข.ตกลง ขาย(8.05น.)แตห่ ากเปน็ กรณีทีน่ าย ข. ยังไม่ได้มอบแหวนให้แก่นาย ก. นายวโิ รจน์ซึง่ เปน็ คนร้ายได้มาวิ่งราวแหวนเพชรวงดงั กล่าวจาก นาย ข. ไปเชน่ นี้ เมือ่ เราถือว่ากรรมสิทธิ์ในแหวนเพชร โอนไปทันที เมือ่ เกดิ สัญญาซื้อขายแม้วา่ นาย ข. จะยงั ไม่ได้สง่ มอบแหวนเพชร ให้แก่นาย ก. ก็ตาม ดงั น้ันในขณะทน่ี ายวิโรจน์เอาแหวนเพชรไป กรรมสิทธเ์ิ ปน็ ของนาย ก. แล้ว ดังนั้น นาย ก. จะต้องเป็น ผู้รับผิดชอบชาระราคาแหวนเพชรให้แกน่ าย ข. ส่วนจะไปเรยี กร้อง หรือเอาผิดกบั นายวิโรจน์กเ็ ป็นเรือ่ งของนาย ก. เอง

ทรพั ยส์ ินทีซ่ ื้อขายไม่ได้  สาหรบั ทรพั ย์สินทีจ่ ะตกลงซือ้ ขายไม่ได้นน้ั อาจพจิ ารณาได้ดังนี้  (1) ทรัพย์สินที่มีกฎหมายหา้ มจาหน่าย  ทรัพย์สินบางประเภท จะตอ้ งห้ามมีการ จาหน่าย จ่าย โอน ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ ตลอดจนกฎหมายอื่นใดกต็ าม ได้แก่ สาธารณสมบัติของแผ่นดิน วัด และท่ธี รณสี งฆ์ทรัพย์สนิ ส่วน พระมหากษัตริย์ และทรพั ยส์ ินท่กี ารจาหน่ายมีความผิดตามกฎหมาย  (2) ทรพั ย์สินที่มีการห้ามจาหนา่ ยด้วยเจตนาของบุคคล  ทรัพย์สนิ ประเภทน้ีเป็นการแสดงเจตนาของเจ้าของทรัพยส์ ิน ภายใต้ ข้อบงั คับของกฎหมาย เช่น การทาพินยั กรรมเอาไว้

หน้าทีแ่ ละสิทธิของผซู้ ื้อ  ผู้ซือ้ มหี นา้ ที่ ดงั ต่อไปนี้  1. หน้าที่ทีจ่ ะต้องรับมอบทรพั ยส์ ินตามท่ตี นได้รับซื้อไว้  2. หน้าที่ทีจ่ ะต้องชาระราคาตามข้อสญั ญาซื้อขาย หากเปน็ กรณที ่ีไม่ได้กาหนดราคากนั ไว้ให้ถือตามทางการท่คี สู่ ัญญา ประพฤตติ ่อกันอยู่นนั้ ตัวอย่างเช่น ตกลงซือ้ เบียรจ์ านวน 1 ลัง แต่ไม่ได้ตกลง ราคากันไว้แต่ปกติเคยซื้อขายกันราคา 450 บาท เช่นน้กี ต็ ้องถือว่าเบยี ร์ 1 ลงั ราคา 450 บาท

 ผซู้ ือ้ มีสิทธิดงั ต่อไปนี้  (1) มสี ิทธิยดึ หน่วงราคาไว้หากพบเหน็ ทรัพยส์ ินนั้น ๆ มคี วามชารุดบกพร่อง ตัวอย่าง เช่นสง่ั ซื้อเบียร1์ ลงั แต่พบว่าแตก 4-5 ขวด ผู้ซื้อกช็ อบทีจ่ ะยังไมจ่ ่ายเงนิ ค่าเบียร์ให้แก่ ผู้ขายได้โดยจะไมจ่ ่ายทั้งลังหรือจะไม่จา่ ยเพียง 4–5 ขวดกไ็ ด้  (2) ยดึ หน่วงราคาไวท้ ้ังหมดหรือบางส่วนในกรณีทผี่ ู้ซื้อถูกผู้รบั จานองหรือบคุ คลอืน่ ขู่ ว่าจะฟ้องเปน็ คดีเช่นนผี้ ู้ซื้อมีสิทธิยดึ หน่วงราคาไว้จนกว่าผู้ขาย จะได้บาบัดภยั อันนนั้ ให้สนิ้ ไป ตวั อย่างเช่น ตกลงซื้อที่ดนิ แต่ไมท่ ราบว่าทดี่ นิ ยงั ตดิ จานองอยู่ ผู้ซื้อก็ชอบที่ จะยึดหนว่ ง ราคาไว้ได้จนกวา่ ผู้ขายจะไปไถ่ถอนจานองให้เสรจ็ สิน้ ก่อน หรือผู้ขาย อาจจะรับรองหรือหาประกนั มาให้เช่น เอาทรพั ย์สินอื่นมาให้ไว้เปน็ ประกันก็ได้

 หน้าที่และความรับผิดชอบของผ้ขู าย  สาหรับหน้าทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบของผขู้ าย จะพิจารณาได้ดังต่อไปนี้  (1) หน้าที่ส่งมอบทรพั ย์สิน  สาหรบั การสง่ มอบทรัพยส์ ินอาจกระทาโดยตรงหรือโดยปริยายกไ็ ด้ เพียงแตใ่ ห้ ทรพั ย์สนิ ไปอยู่ในเงื้อมมือของผู้ซื้อ หรือหากเปน็ การส่งทรัพย์สนิ จากที่แห่งหนงึ่ ไปยัง อกี แหง่ หนึง่ เพียงแต่ผู้ขาย ส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ผขู้ นส่ง กถ็ ือว่าการส่งมอบได้กระทา สาเร็จแล้ว ทีนถี้ า้ เกิดกรณีที่ผู้ซื้อผิดนัด ไม่ชาระราคาหรือไม่ยอมรับมอบทรพั ย์สนิ ผู้ขายก็มีสิทธิที่จะงดการส่งมอบทรพั ย์สินได้แล้วกบ็ อกกลา่ ว ให้ผู้ซื้อทราบ แต่วา่ การ โอนกรรมสิทธ์ในทรพั ย์สินจากผู้ขายจะโอนไปยังผู้ซื้อทันทีโดยผลของกฎหมาย  (2) หนา้ ทีท่ ีจ่ ะตอ้ งรบั ผิดชอบในกรณที รพั ย์สนิ เกดิ ความชารุดบกพรอ่ ง  การชารดุ บกพร่องน้ัน ๆ ต้องเปน็ เหตุใหท้ รัพย์สนิ น้ัน เสือ่ มราคาหรือเสื่อมความ เหมาะสมแกป่ ระโยชน์อนั มงุ่ ใช้เปน็ ปกติ หรือเสื่อมประโยชน์ทีม่ ุ่งจะใหต้ ามสญั ญา เช่น ซื้อทีวรี าคา 7,000 บาท ควรจะรบั ไดท้ ุกช่อง แต่ปรากฏว่ารบั ได้ชอ่ งเดียว เชน่ นี้ ทรัพย์สินเกดิ เสื่อมราคาขึน้ ผู้ขายต้องรบั ผิดชอบในความชารดุ บกพร่องนน้ั

 แต่อย่างไรก็ตามมีขอ้ ยกเว้นทีผ่ ้ขู ายไม่ต้องรับผิดใน ความชารุดบกพร่อง กล่าวคือ  (1) ผ้ซู ื้อรู้อย่แู ล้วในเวลาซื้อขายหรือควรจะรไู้ ด้ หาก ได้ใช้ความระมัดระวงั ตามสมควร ก็ยังคงจะซื้อ ทรพั ย์สินนนั้ อยู่ เช่นน้ีผ้ซู ื้อก็ต้องรับภัยพิบตั ิด้วย ตนเอง  (2) ตอนทีท่ าสญั ญาซื้อขายผ้ซู ื้อไม่ร้วู ่ามีความชารุด บกพร่อง แต่เวลาส่งมอบได้เหน็ ความชารดุ บกพร่องก็ยังยอมรบั เอาทรพั ยส์ ินนั้นอยู่  (3) กรณีทีผ่ ู้ซื้อได้ซื้อทรพั ย์สินในการขายทอดตลาด เช่นน้ี ผ้ซู ื้อต้องรบั ผิดชอบ ในความชารุดบกพร่อง เอง

 (3) ความรบั ผิดชอบในการรอนสิทธิ  หมายความว่าผู้ซื้อไม่สามารถเข้าไปใชส้ อยทรัพย์นนั้ ได้ เพราะความรับผิด ของ ผู้ขายทไ่ี ม่จัดการส่งมอบทรพั ย์สนิ ให้สมบูรณ์ หรือมีบุคคลภายนอกมา อ้างว่าเขามีสิทธเิ หนือทรัพย์สินนนั้ ดีกวา่ ผู้ซื้อแล้วมากดี กันไม่ให้ผู้ซื้อใช้ ทรัพย์ หรือว่าบุคคลภายนอกมาติดตามเอาทรัพยส์ ินนั้นคืนไปเช่น นาย เอ ซื้อแหวนเพชรวงหนึ่งจดุ มุ่งหมาย คือ ต้องการจะใช้แหวนแต่ไม่สามารถ ใชไ้ ด้ เพราะว่าตารวจตามมาอายดั ด้วยเหตุว่ามีคนขโมยของคณุ หญงิ มาแล้วมาขายให้นาย เอ กรณีดงั กล่าว เกิดการรอนสิทธิขึน้ แล้วเพราะนาย เอ ไม่สามารถใช้สอยแหวนเพชรวงดังกล่าวได้ ดังนี้นาย เอ สามารถเรียก เงินคืนจากผู้ขายได้  ขอ้ ยกเวน้ แต่อยา่ งไรกต็ ามหากวา่ ผู้ซื้อรู้อยู่แล้วหรือว่าถูกรอนสิทธิโดย อานาจของ กฎหมาย เช่น ภาระจายอมเป็นต้น เช่นน้ีผขู้ ายกไ็ ม่ตอ้ ง รับผิดชอบในกรณีดงั กล่าว

ขายฝาก  เปน็ สัญญาซึง่ อาศัยหลักทว่ั ไปของสัญญาซื้อขายที่ ได้กล่าวมาแล้ว เช่น แบบ หลกั ฐาน การฟ้องคดีหรือ สิทธิหน้าทีข่ องค่กู รณีทตี่ ้องมีต่อกนั แตม่ ีส่วนพิเศษ อย่ทู ี่ว่าผ้ขู ายมีสิทธิทจี่ ะซื้อหรือ ไถ่ทรัพย์สินทีข่ าย กลับคืนได้ภายในกาหนด  สัญญาขายฝาก หมายถงึ สัญญาซื้อขายซึง่ กรรมสิทธิใ์ นทรพั ย์สินตกไปยังผู้ซื้อ โดยมี ข้อตกลง กนั ว่าผ้ขู ายอาจไถ่ทรัพยน์ ้ันคืนได้

แบบของสญั ญาขายฝาก  ได้กล่าวแล้วว่าสญั ญาขายฝากเป็นเอกเทศสญั ญา ซึ่งต้อง นาบทบัญญตั ิเกย่ี วกบั เรื่อง ซื้อขายมาใช้บงั คับด้วย ดังนี้  (1) การขายฝากอสังหารมิ ทรัพย์และสงั หาริมทรัพย์ชนิด พิเศษ ต้องทาเปน็ หนงั สือและ จดทะเบียนต่อพนักงาน เจ้าหนา้ ที่ด้วย หากว่าคสู่ ญั ญาทากนั เองจะตกเปน็ โมฆะ  (2) การขายฝากสังหารมิ ทรัพย์ท่วั ไป เนื่องจากกฎหมายมิได้ กาหนดแบบของสญั ญาไว้ ดงั น้ัน หากคู่สัญญามิได้ทาเป็น หนังสือและจดทะเบียนตอ่ พนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญา ดังกล่าวกไ็ ม่ตกเป็นโมฆะ

ลกั ษณะสาคญั ของสญั ญาขายฝาก  สญั ญาขายฝากมีลกั ษณะที่สาคญั ดงั นี้  (1) สญั ญาขายฝากเป็นสัญญาซื้อขาย ซึ่งกรรมสิทธ์ในทรัพย์สนิ ตกไป ยังผู้ซื้อโดยมี ขอ้  ตกลงกันว่าผู้ขายอาจไถท่ รพั ย์นนั้ คืนได้  (2) ผู้ขายมสี ทิ ธิจะไถ่คืนได้รวมถงึ ทายาท ลกู หลาน และบคุ คลอืน่ ที่ ระบไุ ว้ในสัญญา  (3) กาหนดระยะการไถท่ รพั ย์สินภายในกาหนดเวลาเท่าใด ถา้ ไมต่ ก ลงกนั ไวท้ รัพย์สนิ ที่ขายฝากเป็นอสงั หาริมทรพั ย์ต้องไถค่ ืนภายในเวลา 10 ปี ถา้ สงั หาริมทรพั ย์ตอ้ งไถ่คืนภายในเวลา 3 ปีและถา้ ตกลงกนั จะ ตกลงกนั เกินกาหนดไมไ่ ดต้ กลงกนั ภายหลงั กไ็ ม่ได้ต้องตกลงกนั ใน เวลาที่ทาสญั ญาขายฝากนนั้ ๆ แต่อาจขยายระยะเวลาได้ตามประเภท ของทรพั ย์

 (4) สินไถถ่ า้ ตกลงกันเท่าไรก็เปน็ ไปตามนั้น แต่ถา้ ไม่ได้ตก ลงสินไถก่ ันไว้ก็ให้เป็นไปตามราคาทข่ี าย แต่หากกาหนดสิน ไถ่ไวส้ ูงกว่าราคาขายฝากที่แทจ้ รงิ เกินอตั รารอ้ ยละ 15 ต่อปี ให้ไถไ่ ด้ตามราคาขายฝากทแ่ี ท้จรงิ รวมประโยชนต์ อบแทน รอ้ ยละ 15 ต่อปี เนือ่ งจากว่าสัญญา ขายฝากน้ันตกอยู่ ภายใตบ้ งั คบั ของพระราชบัญญัติวา่ ด้วยข้อสญั ญาทีไ่ ม่เปน็ ธรรม พ.ศ. 2540 ซึ่งมุ่ง คมุ้ ครองผู้ขายฝากมิใหถ้ กู เอา เปรียบเกินสมควร  (5) ถา้ ตกลงกันว่า “ห้ามโอน” กต็ ้องเป็นไปตามน้ันถ้าไม่ได้ ตกลงกันไว้ผู้รบั ซื้อฝากก็โอน ทรัพย์สินไปได้ เพราะเหตุว่า สญั ญาขายฝากกรรมสิทธต์ิ กไปเป็นของผู้รับซื้อฝากแล้ว เพียงแต่มีข้อกาหนดว่าผู้ขายสามารถไถ่ทรพั ย์สินคืนได้ เท่าน้ัน

บคุ คลทีม่ ีสิทธิรบั การไถ่ทรพั ย์  สาหรบั บุคคลผู้มีสิทธริ ับการไถ่ทรพั ยส์ ินคืนน้ัน อาจจะ พิจารณาได้ดงั นี้  (1) ผู้ซื้อเดิม ทายาทของผู้ซื้อเดิม  (2)ผู้รบั โอนทรัพย์สินถ้าเปน็ สังหารมิ ทรัพย์ต้องรู้วา่ มี ข้อตกลงไถ่ไว้ ถา้ เป็นอสงั หาริมทรัพย์ไม่จาเป็นตอ้ งรวู้ ่ามี ข้อตกลงไถ่หรือไม่

ผลของการใช้สิทธิไถ่ทรพั ยส์ ินคืนมาภายใน กาหนด  ในกรณีที่มีการไถท่ รพั ย์สินทีข่ ายฝากคืนตามกาหนดแล้ว มผี ลทางกฎหมาย ดงั นี้  (1) ถา้ ผู้ขายฝากได้ใช้สทิ ธิไถโ่ ดยชอบแล้ว ก็สามารถที่จะบังคับให้ผซู้ ื้อจดทะเบียนหรือ โอน กรรมสิทธิ์ในทรพั ย์สินกลบั คืนใหต้ นได้ หากผู้ซื้อไม่ยอมไปจดทะเบียนโอนให้ กส็ ามารถใช้ สิทธิฟอ้ งคดียงั ศาลเพือ่ ให้ศาลมีคาพพิ ากษา ให้นาคาพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาโอนกไ็ ด้  (2) ถา้ หากเกิดมดี อกผลขึน้ หลังจากใช้สิทธิไถ่ ดอกผลเปน็ ของผู้ขายฝาก ถา้ หากดอกผลเกดิ ในระหว่างที่ยังไมไ่ ด้ใช้สทิ ธิไถด่ อกผลเปน็ ของผู้ซื้อฝาก เช่น ขายฝากช้างไว้กับ ข. ระหว่างนั้น ช้างเกดิ ลูก 1 ตวั ลกู ช้างเป็นของ ข.  (3) บคุ คลผู้ไถ่ยอ่ มได้รับคืนไปโดยปลอดจากสิทธิใดๆ ซึง่ ผซู้ ื้อเดิมหรือทายาทหรือผู้รบั โอน จากผู้ซื้อเดิมก่อให้เกิดข้ึนกอ่ นเวลาไถ่ทรพั ย์สิน  (4) ให้ถือว่ากรรมสิทธิ์ไม่เคยตกไปแก่ผซู้ ื้อเลย แต่เพยี งเฉพาะกรรมสทิ ธใ์ นทรพั ยส์ ินนั้นๆ ไม่ รวมถงึ ดอกผลของทรพั ย์สินซึ่งเกิดข้นึ ในระหว่างอายุสัญญา

สญั ญาซอื ้ ขาย ปพพ. มาตรา 453 “อนั วา่ ซ้ือขายนั้น คือสญั ญาซ่ึงบุคคลฝ่ายหน่ึง เรียกวา่ ผูข้ าย โอนกรรมสิทธ์ิแหง่ ทรพั ยส์ ินใหแ้ ก่ บุคคลอกี ฝ่ายหน่ึงเรียกวา่ ผูซ้ ้ือ และผูซ้ ้ือตกลงวา่ จะ ใชร้ าคาทรัพยส์ ินนั้นใหแ้ กผ่ ูข้ าย”

สญั ญาซอื ้ ขายเป็นสญั ญาตา่ งตอบแทน  ปพพ. มาตรา 461  “ผูข้ ายจาตอ้ งสง่ มอบทรพั ยส์ ินซ่ึงขายน้ันใหแ้ กผ่ ูซ้ ้ือ”  ปพพ. มาตรา 486  “ผูซ้ ้ือจาตอ้ งรบั มอบทรัพยส์ ินท่ตี นไดร้ ับซ้ือไวแ้ ละใชร้ าคา ตามขอ้ สญั ญาซ้ือขาย”

การโอนกรรมสิทธ์ิ ปพพ. มาตรา 458 “กรรมสิทธ์ิในทรพั ยส์ ินท่ขี ายน้ัน ยอ่ มโอนไปยงั ผู ้ ซ้ือตงั้ แตข่ ณะเม่ือไดท้ าสญั ญาซ้ือขายกนั ”

สญั ญาซอื ้ ขายที่มีเง่ือนไขหรือเงอ่ื นเวลาในการโอน กรรมสทิ ธ์ิ  ปพพ. มาตรา 459  “ถา้ สญั ญาซ้ือขายมเี ง่ือนไขหรือเง่ือนเวลาบงั คบั ไว้ ทา่ น วา่ กรรมสิทธ์ิในทรพั ยส์ ินยงั ไมโ่ อนไปจนกวา่ จะไดเ้ ป็นไป ตามเง่ือนไข หรือถึงกาหนดเง่ือนเวลาน้ัน”

แบบของสญั ญาซอื ้ ขาย  ปพพ. มาตรา 456  “การซ้ือขายอสงั หาริมทรัพย์ ถา้ มิไดท้ าเป็นหนังสือและ จดทะเบยี นตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ท่เี ป็นโมฆะ วธิ ีน้ีใหใ้ ชถ้ ึง ซ้ือขายเรือมรี ะวางตงั้ แตห่ า้ ตนั ข้ึนไป ทงั้ ซ้ือขายแพและ สตั วพ์ าหนะดว้ ย”

สญั ญาจะซือ้ จะขาย สญั ญาจะซ้ือจะขายคือสญั ญาซ้ือขายซ่ึงคูส่ ญั ญา ไดต้ กลงกนั ไวใ้ นวนั ทาสญั ญาวา่ จะไปทาการซ้ือ ขายใหถ้ ูกตอ้ งตามแบบของกฎหมายอกี ครัง้ หน่ึงใน วนั หรือเวลาขา้ งหนา้

หลกั ฐานการฟ้ องร้อง  ปพพ. 456 วรรคสอง  “สญั ญาจะขายหรือจะซ้ือทรัพยส์ ินตามท่รี ะบุไวใ้ นวรรค หน่ึง ถา้ มไิ ดม้ หี ลกั ฐานเป็นหนังสืออยา่ งหน่ึงอยา่ งใดลง ลายมือช่ือฝ่ายผูต้ อ้ งรับผดิ เป็นสาคญั หรือไดว้ างประจาไว้ หรือไดช้ าระหน้ีบางสว่ นแลว้ จะฟ้ องรอ้ งใหบ้ งั คบั คดหี าได้ ไม่  บทบญั ญตั ทิ ่กี ลา่ วมาในวรรคกอ่ นน้ี ใหใ้ ชบ้ งั คบั ถึงสญั ญา ซ้ือขายสงั หาริมทรพั ยซ์ ่ึงตกลงกนั เป็นราคาสองหม่ืนบาท หรือกวา่ นั้นข้ึนไปดว้ ย”

 ปพพ. มาตรา 466  “ในการซ้ือขายอสงั หาริมทรพั ยน์ ั้น หากวา่ ไดร้ ะบุจานวนเน้ือท่ี ทงั้ หมดไว้ และผูข้ ายสง่ มอบทรัพยส์ ินนอ้ ยหรือมากไปกวา่ ท่ไี ด้ สญั ญาไซร้ ทา่ นวา่ ผูซ้ ้ือจะปัดเสยี หรือจะรับเอาไวแ้ ละใชร้ าคา ตามสว่ นกไ็ ดแ้ ลว้ แตจ่ ะเลือก  อน่ึง ถา้ ขาดตกบกพร่องหรือลา้ จานวนไมเ่ กนิ กวา่ รอ้ ยละหา้ แหง่ เน้ือท่ที ง้ั หมดอนั ไดร้ ะบุไวน้ ั้นไซร้ ทา่ นวา่ ผูซ้ ้ือจาตอ้ งรบั เอาและใช้ ราคาตามสว่ น แตว่ า่ ผูซ้ ้ืออาจจะเลิกสญั ญาเสยี ไดใ้ นเม่ือขาดตก บกพร่องหรือลา้ จานวนถึงขนาดซ่ึงหากผูซ้ ้ือไดท้ ราบกอ่ นแลว้ คง จะมิไดเ้ ขา้ ทาสญั ญานั้น”

ความรับผิดในการรอนสทิ ธิ  ปพพ. มาตรา 475  “หากวา่ มบี ุคคลผูใ้ ดมากอ่ การรบกวนขดั สิทธิของผูซ้ ้ือใน อนั จะครองทรัพยส์ ินโดยปกตสิ ุข เพราะบุคคลผูน้ ั้นมสี ิทธิ เหนือทรพั ยส์ ินท่ไี ดซ้ ้ือขายกนั อยูใ่ นเวลาซ้ือขายกด็ ี เพราะ ความผิดของผูข้ ายกด็ ี ทา่ นวา่ ผูข้ ายจะตอ้ งรบั ผิดในผลอนั น้ัน”

ปพพ.มาตรา 477 “เม่ือใดการรบกวนขดั สิทธินั้นเกดิ เป็นคดขี ้ึนระหวา่ ง ผูซ้ ้ือกบั บุคคลภายนอก ผูซ้ ้ือชอบท่จี ะขอใหศ้ าล เรียกผูข้ ายเขา้ เป็นจาเลยร่วมหรือเป็นโจทกร์ ่วมกบั ผูซ้ ้ือในคดนี ั้น เพ่ือศาลจะไดว้ นิ ิจฉัยช้ขี าดขอ้ พพิ าท ระหวา่ งผูเ้ ป็นคูก่ รณีทงั้ หลายรวมไปเป็นคดเี ดยี ว”

ขายฝาก ปพพ. มาตรา 491 “อนั วา่ ขายฝากน้ัน คือสญั ญาซ้ือขาย ซ่ึงกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินตกไปยงั ผูซ้ ้ือ โดยมขี อ้ ตกลงกนั วา่ ผูข้ ายอาจไถ่ ทรัพยน์ น้ั คืนได”้

ปพพ. มาตรา 492 “ในกรณีท่มี กี ารไถท่ รพั ยส์ ินซ่ึงขายฝาก ภายใน เวลาท่กี าหนดไวใ้ นสญั ญาหรือภายในเวลาท่ี กฎหมายกาหนด ใหท้ รัพยส์ ินซ่ึงขายฝากตกเป็น กรรมสิทธ์ิของผูไ้ ถต่ งั้ แตเ่ วลาท่ผี ูไ้ ถไ่ ดช้ าระสินไถ”่

ปพพ. มาตรา 494 “ทา่ นหา้ มมใิ หใ้ ชส้ ิทธิไถท่ รัพยส์ ินซ่ึงขายฝาก เม่ือ พน้ เวลาดงั จะกลา่ วตอ่ ไปน้ี (1) ถา้ เป็นอสงั หาริมทรพั ย์ กาหนดสิบปีนับแต่ เวลาซ้ือขาย (2) ถา้ เป็นสงั หาริมทรพั ย์ กาหนดสามปีนับแตเ่ วลา ซ้ือขาย”

ปพพ. มาตรา 495 “ถา้ ในสญั ญามกี าหนดเวลาไถเ่ กนิ ไปกวา่ น้ัน ทา่ น ใหล้ ดลงมาเป็นสิบปีและสามปีตามประเภททรัพย์

ปพพ. มาตรา 499 “สินไถน่ ั้น ถา้ ไมไ่ ดก้ าหนดกนั ไวว้ า่ เทา่ ใดไซร้ ทา่ น ใหไ้ ถต่ ามราคาท่ขี ายฝาก”

ขายทอดตลาด ปพพ. มาตรา 509 “การขายทอดตลาดยอ่ มบริบูรณ์ เม่ือผูท้ อดตลาด แสดงความตกลงดว้ ยเคาะไม้ หรือดว้ ยกริ ิยาอ่ืน อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงตามจารีตประเพณีในการขาย ทอดตลาด ถา้ ยงั มไิ ดแ้ สดงเชน่ นั้นอยูต่ ราบใด ทา่ น วา่ ผูส้ ูร้ าคาจะถอนคาสูร้ าคาของตนเสยี กย็ งั ถอน ได”้

 ปพพ. มาตรา 512  “ทา่ นหา้ มมใิ หผ้ ูข้ ายเขา้ สูร้ าคาเอง หรือใชใ้ หผ้ ูห้ น่ึงผูใ้ ดเขา้ สูร้ าคา เวน้ แตจ่ ะไดแ้ ถลงไวโ้ ดยเฉพาะในคาโฆษณาบอก การทอดตลาดนั้นวา่ ผูข้ ายถือสิทธิท่จี ะเขา้ สูร้ าคาดว้ ย”

 ปพพ. มาตรา 514  “ผูส้ ูร้ าคายอ่ มพน้ ความผูกพนั ในราคาซ่ึงตนสูแ้ ตข่ ณะเม่ือ มผี ูอ้ ่ืนสูร้ าคาสูงข้ึนไป ไมว่ า่ การท่ผี ูอ้ ่ืนสูน้ ้ันจะสมบูรณ์ หรือมสิ มบูรณป์ ระการใด อกี ประการหน่ึงเม่ือใดถอน ทรัพยส์ ินรายนั้นจากการทอดตลาด ผูส้ ูร้ าคากพ็ น้ ความ ผูกพนั แตข่ ณะท่ถี อนนั้นดุจกนั ”

ปพพ. มาตรา 516 “ถา้ ผูส้ ูร้ าคาสูงสุดละเลยเสยี ไมใ่ ชร้ าคาไซร้ ทา่ นให้ ผูท้ อดตลาดเอาทรัพยส์ ินนั้นออกขายอกี ซา้ หน่ึง ถา้ และไดเ้ งนิ เป็นจานวนสุทธิไมค่ ุม้ ราคาและคา่ ขาย ทอดตลาดชนั้ เดมิ ผูส้ ูร้ าคาคนเดมิ นั้นตอ้ งรับผดิ ใน สว่ นท่ขี าด”

ให้  ปพพ. มาตรา 521  “อนั วา่ ให้ คือสญั ญาซ่ึงบุคคลคนหน่ึงเรียกวา่ ผูใ้ ห้ โอน ทรัพยส์ ินของตนใหโ้ ดยเสน่หาแกบ่ ุคคลอกี คนหน่ึงเรียกวา่ ผูร้ บั และผูร้ บั ยอมรบั เอาทรัพยส์ ินน้ัน”

ปพพ. มาตรา 523 “การใหน้ ้ัน ทา่ นวา่ ยอ่ มสมบูรณต์ อ่ เม่ือสง่ มอบ ทรพั ยส์ ินท่ใี ห”้

 ปพพ. มาตรา 525  “การใหท้ รัพยส์ ินซ่ึงถา้ จะซ้ือขายกนั จะตอ้ งทาเป็นหนังสือ และจดทะเบยี นตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ท่นี ั้น ทา่ นวา่ ยอ่ ม สมบูรณต์ อ่ เม่ือไดท้ าเป็นหนังสือและจดทะเบยี นตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ท่ี ในกรณเี ชน่ น้ี การใหย้ อ่ มเป็นอนั สมบูรณโ์ ดยมิพกั ตอ้ งสง่ มอบ”

 ปพพ. มาตรา 531  “อนั ผูใ้ หจ้ ะเรียกถอนคืนการใหเ้ พราะเหตุผูร้ ับประพฤติเนรคุณน้นั ทา่ นวา่ อาจจะเรียกไดแ้ ตเ่ พยี งในกรณีดงั จะกลา่ วตอ่ ไปน้ี  (1) ถา้ ผูร้ บั ไดป้ ระทุษรา้ ยตอ่ ผูใ้ หเ้ ป็นความผดิ ฐานอาญาอยา่ ง รา้ ยแรง  (2) ถา้ ผูร้ บั ไดท้ าใหผ้ ูใ้ หเ้ สยี ช่ือเสยี ง หรือหม่ินประมาทผูใ้ หอ้ ยา่ ง รา้ ยแรง  (3) ถา้ ผูร้ ับไดบ้ อกปัดไมย่ อมใหส้ ่ิงของจาเป็นเล้ยี งชวี ติ แกผ่ ูใ้ หใ้ น เวลาท่ผี ูใ้ หย้ ากไรแ้ ละผูร้ บั ยงั สามารถจะใหไ้ ด”้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook