หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การตรสั รู ้ การกอ่ ตง้ั พระพุทธศาสนา วธิ กี ารสอน และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามแนว พุทธจรยิ า ตวั ชวี้ ดั วเิ คราะหพ์ ระพทุ ธเจา้ ในฐานะ เป็ นมนุษยผ์ ูฝ้ ึ กตนไดอ้ ยา่ งสูงสุดในการ ตรสั รู ้ การกอ่ ตง้ั วธิ กี ารสอน และการเผย แผ่พระพุทธศาสนา หรอื วเิ คราะหป์ ระวตั ิ ศาสดาทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด (ส 1.1 ม.4/2)
แผนผงั การ เรยี นรู ้ พระพทุ ธเจา้ การตรสั รู ้ การ • พุทธประวตั ิ (ย่อ) กอ่ ตงั้ • การตรสั รู ้ • การกอ่ ตงั้ วธิ กี ารสอนและ พระพุทธศาสนา วธิ กี ารสอน การเผยแผพ่ ุทธศาสนา และการเผยแผ่ ตามแนวพุทธจรยิ า พระพุทธศาสนา ตามแนวพุทธ จรยิ า แนวทางพทุ ธจรยิ า • ความหมาย
พทุ ธประวตั ขิ องพระพุทธเจา้ กวา่ จะถงึ วนั นี้
ทบทวนความจากบั พุทธ ประวตั ิ
สรุป : กอ่ นการตรสั รูข้ อง พระพุทธเจา้ เจา้ ชาย ประสู พระเจา้ สุ อภเิ ษกสมรสกบั สทิ ธตั ถะ ติ ทโธทนะ กบั พระนางยโสธรา พระนางสิร ิ พมิ พา มหามายา ราหลุ เป็ น พระโอรส ทรงเบอื่ ออกไป เทวดา ตดั สนิ ใจ หน่ าย นอกวงั นิมติ รเป็ น หนีออก เทวทูตทง้ั 4 ผนวช บาเพ็ญทุกร ไม่ เจบ็ แก่ ตาย อรยิ สจั กิรยิ า สาเรจ็ ตรสั 4 หรอื นกั หบวาชวธิ ี รู ้ ความ สาเร็ ใหม่ จรงิ อนั จ ประเส
การตรสั รูก้ บั การคน้ หา ทครงวามจรงิ พบ•วกา่ ารเวยี นวา่ ยตายเกดิ มจี รงิ • คนตายแลว้ ถา้ มกี เิ ลส เชน่ รกั โลภ โกรธ หลง ยงั ตอ้ ง เวยี นวา่ ยตายเกดิ ตอ่ ไป แตถ่ า้ ตดั /หมดกเิ ลส ไม่มกี าร เวยี นวา่ ยตายเกดิ อกี ถา้ ไดเ้ กดิ อกี จะอยูใ่ นตระกูลทดี่ ี ห• กราอื รอเวยยีู่ในนวภา่ พยภตูมาทยิ เดี่ กี ดิ ขนึ้ อยู่กบั การกระทา เชน่ ทาดี ไดด้ ี ทาชว่ั ไดร้ บั กรรมทที่ าไว้ • ภพภูมติ า่ ง ๆ มจี รงิ เชน่ นรก สวรรค ์ • การบาเพญ็ เพยี รหรอื ฝึ กอบรมจติ ใจ สามารถตดั กเิ ลส ลงได ้
พระพุทธเจา้ ในฐานะเป็ นมนุษยผ์ ูฝ้ ึ กตน ผไลดจาอ้กกยาา่ รงทสพี่ ูรงะสองดุ คไ์ ดร้ บั จากการฝึ กตนจนตรสั รู ้ พระองค ์ ไดร้ บั การยกย่องวา่ • เป็ นพระบรมศาสดา • เป็ นผูท้ ปี่ ระสบผลสาเรจ็ ทกุ ด•า้ เนป็ นแบบอยา่ งใหม้ ผี ูเ้ จรญิ รอย ต• ทามรงไดร้ บั การสรรเสรญิ ยอมรบั นบั ถอื และเป็ น บคุ คลทนี่ ่าเชอื่ ถอื
ทาไม ? ...... พระองคจ์ งึ ประสบ ความสาเรจ็ 1. ทรงบาเ.พ..็ญ...บทารรมงมี ฝาึ กหลพารยภะอพงชคาอต์ อิยยา่ า่ งงไตรอ่ เนื่อง 2. ทรงมจี ติ ใจแน่วแน่ มุง่ มน่ั มน่ั คง ไม่ทอ้ ถอย ทจี่ ะฝึ ก ปฏบิ ตั ิ 3. ทรงแสวงหา คน้ หา ศกึ ษาหาความรูจ้ ากหลาย แหลง่ ขอ้ มูล หลายสานกั 4. ไหมลเ่ บาอื่ยหอนาจ่าายรตยอ่ ์ การปฏบิ ตั ิ ทาความดี เพอื่ ให้ ปณิธานทที่ รงตง้ั ไวส้ าเรจ็ และเกดิ ประโยชนต์ อ่ มวล มนุ ษยชาต ิ
พระองคท์ รงคน้ พบความจรงิ ที่ ทาใหต้ นเองหลุดพน้ และทา สาเรจ็ เกยี่ วกบั การปฏบิ ตั ทิ าง สายกลาง การดบั ทุกขต์ าม หลกั ธรรมอรยิ สจั 4 และทรง ปฏญิ ญาณพระองค ์ เป็ น พระพุทธเจา้ ในวนั เพญ็ ขนึ้ 15 ่
การกอ่ ตง้ั พระพทุ ธศาสนกาารเปรยี บเทยี บ หลกั การ สตั วโ์ ลก สาคญั ใน การแสดงธรรมสง่ั สอน การ สตั วโ์ ลก กอ่ ตงั้ ศาสนา การกอ่ ตงั้ ศาสนาอย่าง เป็ นทางการ
การเปรยี บเทยี บ สตั วทโ์ รลงกพจิ ารณาเหน็ หลกั ธรรมที่ ท่านไดต้ รสั รูน้ น้ั มคี วามลกึ ซงึ้ เขา้ ใจยาก การทมี่ นุษยท์ ุกคนจะ เขา้ ใจในธรรมะของทา่ นจงึ เป็ นเรอื่ ง ยาก เพราะมนุษยท์ กุ คนมคี วาม แตกตา่ งกนั ทุกดา้ น บางคนฉลาด บางคนโง่เขลา ฯลฯ
บวั สเี่ หล่า: การสง่ั สอนคน 4 จาพวกที่ 1 บวั 1 จาพวกที่ 2 บวั เสมอ2น้า ประเภทพน้ น้า จาพวก ที่ 3 บวั ใตน้ ้า 3 4 จาพวกที่ 4 บวั ใตโ้ คลม ตม
พระองคจ์ งึ ทรงเปรยี บมนุษยเ์ หมอื น บวพั ว4กทเี่ หลา่ 1 พวกบวั พน้ น้า หรอื อคุ ฆฏติ ญั ญู จาพวกที่ 1 ฉลาดมาก เพยี งแตไ่ ดฟ้ ั งหวั ขอ้ ธรรมทยี่ กขนึ้ กเ็ ขา้ ใจทนั ที จาพวกทหี่ นึ่ง เหมอื นดอกบวั เปี่ ยมน้า พอไดร้ บั แสงอาทติ ย ์ กเ็ บกิ บาน ไดแ้ กค่ นเขา้ ใจง่าย พูดนิดเดยี วก็ เขา้ ใจสวา่ งไสว
จาพวกที่ 2 บวั เสมอน้า หรอื วปิ จติ ญั ญู จาพวกที่ 2 ฉลาดพอควร ตอ่ เมอื่ ฟั งคาอธบิ ายอกี ชน้ั หนึ่ง จงึ จะเขา้ ใจ จาพวกทสี่ อง เหมอื นดอกบวั ใตน้ ้า ทจี่ ะโผล่ พน้ น้า ไดแ้ กค่ นทจี่ ะจูงพรา่ สอนกนั หลายเทยี่ วหลายครง้ั
จาพวกที่ 3 บวั ใตน้ ้า หรอื จเานพยวยกะที่ 3 ฉลาดปานกลาง ที่ เรยี กวา่ เวไนยสตั ว ์ ตอ้ งใชเ้ วลา อบรมบ่มสตปิ ัญญาพอควร จงึ จะ เขา้ ใจ จาพวกทสี่ าม เหมอื นดอกบวั ทอี่ ยู่ใตน้ ้าลกึ ลงไปหน่อย ซงึ่ จะแก่ กลา้ ขนึ้ มาบานในวนั ตอ่ ๆ ไป ไดแ้ กค่ นทไี่ ดร้ บั ฟั ง หลาย ้
จาพวกที่ 4 บวั ใตโ้ คลนตม หรอื ปทปรมะ จาพวกที่ 4 เรยี กว่า \"ปทปรมะ\" ตรงกบั ภาษาไทยวา่ \"โง่ทบึ \" ตรงกบั คา ภาษาองั กฤษวา่ \" Idiot \" เป็ นคนทโี่ ปรด ไม่ได้ เรยี กอกี สานวนหนึ่งวา่ ผูท้ ี่ พระพุทธเจา้ ทรงทอดทงิ้ จาพวกทสี่ ี่ เหมอื นดอกบวั ทอี่ ยูใ่ ตน้ ้าลกึ ลงไปมากถงึ ขนาดไมอ่ าจขนึ้ มาบานได้ เพราะตกเป็ น เหยอื่ ของปลาและเตา่ เสยี กอ่ น ไดแ้ ก่คนที่ สอนเท่าไรกไ็ ม่รูเ้ รอื่ ง พยายามจะโตแ้ ยง้ จะ
การแสดงธรรมสตั วส์ อน สตั วโ์ ลก เพราะ ☞ บุคคล มสี ตปิ ัญญา ตจา่งึ ทงรกงตนัง้ั ใจทสี่ ง่ั สอนสตั ว ์
บคุ คลกลุม่ แรกทพี่ ระพุทธเจา้ ทรง ตง้ั ใจทจี่ ะแสดงธรรมสง่ั สอน อญั ญาโกณ ปัญจวคั คยี ์ ฑญั ญะ ทงั้ 5 วปั ปะ ภทั ทยิ ะ ธรรมเทศนากณั ฑแ์ รก ทที่ รงแสดงคอื มหานามะ อสั สชิ “ธรรมจกั กปั ปวตั น สทูตปี่ ร่ า”อสิ ปิ ตนมฤคายทายวนั เมอื ง พาราณสี
ผลของการแสดงธรรมทา 1ใหในเ้ ก5ดิ คอื พระอญั ญาโกณฑญั ญะ มคี วามเขา้ ใจพระพุทธศาสนา อย่างลกึ ซงึ้ ไดด้ วงตาเหน็ ธรรม จงึ เป็ นพระอรยิ สงฆ ์ องคแ์ รกใน พเกรดิ ะพพรุทะธรศตั านสตนรายั ตรงกบั วนั สาคญั ขนึ้ ในโลก คอื พระ ทางศาสนา คอื วนั พทุ ธ พระธรรม อาสาฬหบูชา คอื วนั เพ็ญ ขนึ้ 15 คา่ เดอื น 8
หลกั ธรรมทเี่ นื่องมาจากปฐมเทศนา 1. ทางสายกลาง หรอื มรรคมี องค ์ 8 สมั มาทฏิ ฐิ ความ สมั มาสมา เห็นชอบ สมั มากมั มั ธิ นตะ ตงั้ จติ ชอบ การกระทา ชอบ สมั มาสติ มรรค สมั มาวาจ ระลกึ ชอบ 8 า เจรจาชอบ สมั มาวาย สมั มาอาชวี ะ สมั มา ามะ การเลยี้ งชพี สงั กปั ปะ พยายาม ชอบ ความดาร ิ ชอบ ชอบ
2. อรยิ สจั ทุก 4 ข์ มรร อรยิ สมุ ค สจั 4 ทยั นิโร ธ
วธิ สี อนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตาม แนวพทุ ธจรยิ า พุทธจรยิ า คอื พระจรยิ าวตั รของ พระพทุ ธเจา้ หมายถงึ การบาเพญ็ ประโยชนข์ องพระพุทธเจา้ ๓ ประการ คอื ❖โลกตั ถจรยิ า การบาเพญ็ ประโยชนแ์ ก่ โลก ❖ญาตตั ถจรยิ า การบาเพ็ญประโยชนแ์ ก่ พระญาติ และ ❖พทุ ธตั ถจรยิ า การบาเพญ็ ประโยชนใ์ น ฐานะเป็ นพระพทุ ธเจา้
วธิ สี อนของพระพุทธเจา้ หรอื พทุ ธลลี า ในการสอน 4 2 จ 1 ร 1ป จ ที่ 1 แจม่ แจง้ ทรงอธบิ ายให้ เหน็ ชดั เจน เหมอื นกบั จูง มอื ไปดใู หเ้ หน็ กบั ตา จ ที่ 2 จูงใจ ทรงชแี้ จงใหซ้ าบซงึ้ ตระหนกั ถงึ คณุ คา่ จน สามารถนาไปปฏบิ ตั ดิ ว้ ย
ร ที่ 3 เรา้ ใหก้ ลา้ ทรงชกั ชวนให้ เหน็ ดว้ ย คลอ้ ยตามจนเกดิ ป ที่ 4 ความมมุ านะ อาจหาญ มน่ั ใจ พรอ้ มทจี่ ะนาไปปฏบิ ตั ิ พสิ ูจน์ ทดลองดว้ ยตนเอง ปลุกใหร้ า่ เรงิ สนุกสนาน ทรงแนะนาและโน้มน้าว หากปฏบิ ตั ติ นตามทพี่ ระองค ์ ทรงสอนจะทาใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและ
ในการประกาศพระศาสนาครงั้ แรก พระพุทธเจา้ ทรงแสดงปฐมเทศนาชอื่ ธมั มจกั กปั ปวตั นสูตรแกพ่ ระปัญจ วคั คยี ์ การแสดงครงั้ นนั้ ถอื วา่ เป็ นการ หมุนธรรมจกั รเป็ นครง้ั แรก กงลอ้ แหง่ พระธรรมหมุนไปทว่ั โลก ดว้ ยผลงาน ดา้ นการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาของ พระธรรมทูตสายตา่ ง ๆ รุน่ แลว้ รุน่ เล่า ทนี่ าพระพุทธศาสนาไปรุง่ เรอื งนอก ประเทศอนิ เดยี (พระเทพโสภณ. 2544 :
ดงั นนั้ การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาจงึ เป็ น หน้าทหี่ ลกั ของพทุ ธบรษิ ทั และถอื วา่ เป็ น การธารงรกั ษาพระพุทธศาสนาและ จดุ ประสงคห์ ลกั ของการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาจากการประชมุ สดุ ยอด ผูน้ าชาวพทุ ธทุกครงั้ ม่งุ เน้นการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาเพอื่ สนั ตภิ าพของโลก น่นั คอื การสรา้ งความพยายามรว่ มกนั ให้ ไดม้ าซงึ่ สนั ตภิ าพ พระพทุ ธศาสนาจงึ เป็ น ศาสนาหลกั ในการทชี่ ว่ ยกนั สรา้ ง สนั ตภิ าพใหแ้ กม่ นุษยชาติ ดงั นน้ั การธารง
การเผยแผ่ ศาสนา ❖ ทรงใหส้ าวกชว่ ยในการ วธิ กี ารเผยแผ่ เผยแผ่ โดยเฉพาะทรงมี กาลงั สาคญั ทุกชนชน้ั มา ❖ ทรงมกี ศุ โลบชายว่ ใยนในกาวราสงรอานกแฐลาะนทมี่ น่ั คง เผยแผ่ เชน่ ทรงเลอื กชนชน้ั ปกครอง เพราะชนชนั้ ปกครองจะ เป็ นแบบอย่างทดี่ ตี อ่ ชนชน้ั อนื่ เพราะถอื วา่ ชนชน้ั ปกครองเป็ น ชนชนั้ ปกครอง มลี กั ษณะเป็ นผูน้ า ่้
วธิ กี ารเผยแผ่ (ตอ่ ) ❖ ไมท่ รงเลอื กชนชน้ั วรรณะทเี่ ผยแผ่ ทุกคนมสี ทิ ธทิ์ จี่ ะไดห้ ลกั ธรรมคาสอน ของท่านอย่างเสมอภาคและเท่าเทยี ม ❖กทนั รงเลอื กชยั ภูมทิ มี่ คี วามเจรญิ และ เป็ นศูนยก์ ลางของบุคคลทมี่ ี ความสาคญั ในสงั คม และสถานทที่ ี่ ทรงสอนและเผยแผ่สาเรจ็ เป็ นทแี่ รกที่ กรุงราชคฤห ์ แควน้ มคธ (เป็ นทรี่ วม ของนกั ปราชญร์ าชบณั ฑติ มากมาย)
วธิ กี ารเผยแผ่ (ตอ่ ) ❖ ทรงมพี ระมหากรุณาธคิ ณุ มี เมตตา ทรงอทุ ศิ เวลา ไมเ่ หน็ แก่ ความยากลาบากในสง่ั สอน และ เผยแผ่ ตง้ั แตต่ รสั รูจ้ นถงึ ปรนิ ิพพาน
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 พุทธประวตั ดิ า้ นการ บรหิ ารและ ตวั กชวาี้ ดั ร:ธวาเิ ครรงาระหกั พ์ ษุทาธศปราะวสตั นดิ าา้ น การบรหิ ารและการธารงรกั ษา ศาสนา หรอื วเิ คราะหป์ ระวตั ศิ าสดา ทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ าหนด
ผงั การเรยี นรู ้ ดา้ น พทุ ธประวตั ิ ดา้ น การ ดา้ นการบรหิ าร การ บรหิ า และการธารง ธารง ร รกั ษาศาสนา รกั ษา พระพุท ธศาสน
พุทธประวตั ิ ดา้ น การบรหิ าร
พระ รูปแบบการ โมคคลั านะ ปกครองคณะสงฆ ์ สาวกเบอื้ ง ของพระพทุ ธเจา้ ขวา แบบ ธรรมาธปิ ไตย พระสารบี ตุ ร สาวกเบอื้ ง ซา้ ย
ความหมายของคาวา่ ธรรมาธปิ ไตย 1 มาจากศพั ทว์ า่ ธรรม + อธปิ ไตย คาวา่ ธรรมาธปิ ไตย หมายความวา่ มี ธรรมเป็ นใหญ่ หรอื จะหมายความว่าการ ถอื ธรรมเป็ นใหญ่ เป็ นหลกั ในการบรหิ าร จดั การ ความหมายในทนี่ ี้ คอื แนวคดิ ใช้ 2 ธรรมะเป็ นสาคญั ไมว่ า่ จะเป็ นระบอบ หรอื ตวั ผูบ้ รหิ าร จาเป็ นตอ้ งมธี รรม นาการบรหิ ารจดั การ ทงั้ สนิ้
หรอื หมายถงึ การถอื ธรรม เป็ นใหญ่, การทางานโดยมี เจตนาทจี่ ะยดึ ทางทถี่ ูกทดี่ เี ป็ น เกณฑ ์ มไิ ดเ้ หน็ แกต่ วั เองวา่ จะ เสยี ประโยชนห์ รอื ไม่ มไิ ด้ หว่ งใยวา่ คนอนื่ จะตหิ รอื ชม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139