Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการอบรม "การวิเคราะห์ข้อสอบ ชุดที่ 1" เรียบเรียงโดย ครูรณชัย บุญลือ

เอกสารประกอบการอบรม "การวิเคราะห์ข้อสอบ ชุดที่ 1" เรียบเรียงโดย ครูรณชัย บุญลือ

Published by รณชัย บุญลือ, 2021-07-22 07:14:24

Description: เอกสารประกอบการอบรม "การวิเคราะห์ข้อสอบ ชุดที่ 1" เรียบเรียงโดย ครูรณชัย บุญลือ โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา

Keywords: วิเคราะห์ข้อสอบ

Search

Read the Text Version

การวิเคราะหข์ ้อสอบ ผเู้ รยี บเรียง : ครรู ณชยั บญุ ลือ การวิเคราะหข์ ้อสอบ ในการวดั และประเมนิ ผลการศกึ ษาใหไ้ ดผ้ ลอยา่ งยตุ ธิ รรมนนั้ ผปู้ ระเมนิ หรอื ครผู สู้ อน จาเป็นจะตอ้ งเลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื วดั ผลการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย เหมาะสมกบั สภาพเน้ือหาและสภาพ วชิ าอยา่ งแทจ้ รงิ เพอ่ื เป็นเครอ่ื งมอื ช่วยในการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น โดยสภาพ การวดั และประเมนิ ผลในปัจจุบนั น้ี สว่ นใหญ่ครผู สู้ อนมกั เลอื กใชแ้ บบทดสอบชนดิ เลอื กตอบเป็น เครอ่ื งมอื ในการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น แต่แบบทดสอบทน่ี ามาใชป้ ระเมนิ นนั้ จะตอ้ งมคี ณุ ภาพเพยี งพอเพอ่ื ใหก้ ารประเมนิ ผลเกดิ ความยตุ ธิ รรมแกผ่ เู้ รยี นทุกคน ดงั นนั้ จงึ ตอ้ ง มกี ารวเิ คราะหข์ อ้ สอบเพอ่ื หาคุณภาพของแบบทดสอบ ในเอกสารฉบบั น้ี ไดก้ ล่าวถงึ หลกั การ วเิ คราะหข์ อ้ สอบ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจเกย่ี วกบั สตู รและการแปลความหมายของคา่ สถติ ติ า่ ง ๆ และแนะนา การวเิ คราะหข์ อ้ สอบโดยใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ จานวน 2 โปรแกรม คอื โปรแกรม EVANA และโปรแกรม JINDA การวเิ คราะหข์ อ้ สอบ โดยปกตมิ ี 2 ชว่ ง คอื ชว่ งท่ี 1 ไดแ้ ก่ การตรวจสอบวา่ ขอ้ สอบ ทส่ี รา้ งขน้ึ มคี วามสอดคลอ้ งกบั เน้ือหา จุดมงุ่ หมาย รปู แบบ เวลาสอบ คะแนน และภาษาหรอื ไม่ สว่ นชว่ งท่ี 2 คอื หลงั การสอบ ตรวจขอ้ สอบ และใหค้ ะแนนแลว้ นาคะแนนของนกั เรยี นแตล่ ะคน มาพจิ ารณาวา่ ตอบขอ้ สอบแตล่ ะขอ้ อยา่ งไร การวเิ คราะหข์ อ้ สอบในทน่ี ้ี จะเสนอการวเิ คราะห์ ระยะท่ี 2 คอื การวเิ คราะหค์ วามยากของขอ้ สอบ อานาจจาแนกของขอ้ สอบ และความสอดคลอ้ ง ของขอ้ สอบ ความหมายของการวิเคราะหข์ ้อสอบ การวเิ คราะหข์ อ้ สอบ (Item Analysis) หมายถงึ การพจิ ารณาวนิ ิจฉยั ความเหมาะสม และความถกู ตอ้ งของขอ้ สอบทผ่ี ปู้ ระเมนิ หรอื ครผู สู้ อนสรา้ งขน้ึ โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ตอ้ งการ ตรวจสอบคณุ สมบตั แิ ละพฒั นาขอ้ สอบใหเ้ ป็นขอ้ สอบทด่ี ตี ามเกณฑท์ ก่ี าหนดไว้ ถา้ จะเปรยี บขอ้ สอบ เป็นมดี ความเหมาะสมและความถกู ตอ้ งของขอ้ สอบ กค็ อื ความคมของมดี ซง่ึ ผใู้ ชม้ ดี ยอ่ มตอ้ งการ มดี ทค่ี ม ในทานองเดยี วกนั ผใู้ ชข้ อ้ สอบกย็ อ่ มตอ้ งการขอ้ สอบทม่ี คี วามเหมาะสมและถกู ตอ้ งเชน่ กนั

2 การวเิ คราะหข์ อ้ สอบอาจวเิ คราะหท์ งั้ ในดา้ นคณุ ภาพ ไดแ้ ก่ ความเทย่ี งตรงของคาถาม และความเหมาะสมของแบบของขอ้ สอบ และดา้ นปรมิ าณ ไดแ้ ก่ ความยาก อานาจจาแนก ความไวของการเรยี นรู้ วิธีการวิเคราะหข์ ้อสอบ การวเิ คราะหข์ อ้ สอบดา้ นคณุ ภาพ จะใชว้ ธิ กี ารใหค้ รผู สู้ อนหรอื ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นการวดั ผล เป็นผพู้ จิ ารณาวนิ ิจฉยั วา่ คาถามนนั้ มคี วามเทย่ี งตรงตามเน้ือหาและจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมทจ่ี ะ วดั หรอื ไม่ ถา้ เป็นการวเิ คราะหด์ า้ นปรมิ าณ จะทาโดยการเอาคาตอบของผเู้ ขา้ สอบมาตรวจให้ คะแนน แลว้ เอาคะแนนทไ่ี ดไ้ ปคานวณเพอ่ื หาคา่ สถติ ิ แลว้ จงึ ตคี วามหมายของคา่ สถติ เิ พอ่ื อธบิ าย ความเหมาะสมและความถกู ตอ้ งของขอ้ สอบ ซง่ึ ถา้ พบวา่ ขอ้ สอบนนั้ ยงั ไมเ่ หมาะสม ไมด่ ี กป็ รบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงใหเ้ ป็นขอ้ สอบทด่ี ี แลว้ จงึ นาไปใชส้ อบตอ่ ไป วธิ กี ารวเิ คราะหข์ อ้ สอบแตล่ ะขอ้ แต่ละฉบบั นนั้ อาจมคี วามแตกต่างกนั ตามลกั ษณะของ การวเิ คราะห์ ถา้ เป็นการวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบองิ กล่มุ จะวเิ คราะหร์ ะดบั ความยาก และอานาจจาแนก ของขอ้ สอบ แต่ถา้ เป็นการวเิ คราะหแ์ บบองิ เกณฑ์ กจ็ ะวเิ คราะหห์ าความเทย่ี งตรงตามจุดประสงค์ ทต่ี อ้ งการวดั และหาดชั นีความไวของการเรยี นรู้ ประโยชน์ของการวิเคราะหข์ ้อสอบ การวเิ คราะหข์ อ้ สอบมปี ระโยชน์หลายประการ ดงั น้ี 1. ทาใหท้ ราบคณุ ภาพของขอ้ สอบวา่ ขอ้ สอบขอ้ นนั้ มคี วามยากเพยี งใด สามารถ แยกคนเก่งออกจากคนไมเ่ กง่ หรอื แยกคนทร่ี อบรอู้ อกจาคนทไ่ี มร่ อบรไู้ ดห้ รอื ไม่ เพอ่ื คดั เลอื กเอา ไปใชห้ รอื นาไปปรบั ปรงุ ขอ้ คาถามหรอื ตวั เลอื กใหม้ คี ณุ ภาพมากขน้ึ 2. ชว่ ยสะทอ้ นผลการวเิ คราะหย์ อ้ นกลบั ไปทก่ี ระบวนการเรยี นการสอน คอื ผลจาก การวเิ คราะหข์ อ้ สอบ จะทาใหม้ องเหน็ วา่ นกั เรยี นทส่ี อนนนั้ สว่ นใหญม่ คี วามรถู้ ูกหรอื รผู้ ดิ ถา้ พบวา่ นกั เรยี นสว่ นใหญ่รผู้ ดิ กห็ มายความวา่ ครอู าจจะสอนผดิ วธิ กี ารสอนไมด่ ี หรอื สอนจนนกั เรยี น เกดิ ความสบั สนไปหมด เมอ่ื เป็นเชน่ น้ี กจ็ าเป็นตอ้ งปรบั ปรงุ กระบวนการเรยี นการสอนใหด้ ขี น้ึ 3. ชว่ ยใหส้ ามารถปรบั ปรงุ ขอ้ สอบไดต้ รงจุด เชน่ ถา้ พบวา่ ขอ้ สอบขอ้ น้ียากเกนิ ไป สาหรบั นกั เรยี นกลมุ่ น้ี กอ็ าจปรบั ปรงุ คาถามใหม่ คอื ถามใหง้ า่ ยกวา่ เดมิ หรอื แกไ้ ขถ้อยคาสานวน ใหเ้ หมาะสมยง่ิ ขน้ึ หรอื ถา้ หากพบวา่ ขอ้ สอบแบบเลอื กตอบขอ้ หน่งึ มตี วั ลวงตวั หน่ึงทไ่ี มม่ ผี ใู้ ด เลอื กตอบแมแ้ ต่คนเดยี ว กแ็ สดงวา่ ตวั ลวงนนั้ เป็นตวั ลวงทไ่ี รป้ ระสทิ ธภิ าพ อาจมคี วามเดน่ ชดั เป็นคนละพวกกบั ตวั ลวงอน่ื ๆ จนผเู้ ขา้ สอบทุกคนมองเหน็ ผดิ แน่ ๆ จงึ ไม่เลอื ก กจ็ าเป็นตอ้ ง ปรบั ปรงุ ตวั ลวงน้ีใหม้ ลี กั ษณะใกลเ้ คยี ง หรอื เป็นพวกเดยี วกนั กบั ตวั เลอื กอ่นื ๆ

3 4. ทาใหป้ ระหยดั เวลาในการออกขอ้ สอบระยะยาว เพราะสามารถคดั เลอื กขอ้ สอบทด่ี ี แต่ละขอ้ นาไปรวมเป็นฉบบั เพอ่ื เกบ็ ไวใ้ ชใ้ นอนาคตไดอ้ กี 5. ชว่ ยในการสรา้ งและพฒั นาคลงั ขอ้ สอบมาตรฐาน คลงั ขอ้ สอบมาตรฐานเป็นแหลง่ รวบรวมขอ้ สอบทกุ ชนิด ทกุ ประเภทและทกุ ระดบั การศกึ ษา การสอบทุกประเภทอาจใชป้ ระโยชน์ จากคลงั ขอ้ สอบมาตรฐานได้ 6. ชว่ ยใหไ้ ดข้ อ้ สอบทม่ี คี ณุ ภาพ สามารถนาไปวดั และประเมนิ ผลไดอ้ ยา่ งเทย่ี งตรง และเช่อื มนั่ ได้ 7. ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการวเิ คราะหค์ ณุ ภาพขอ้ สอบทงั้ ฉบบั ต่อไป 8. ชว่ ยใหค้ รเู ขยี นขอ้ สอบไดด้ ขี น้ึ เพราะผลการวเิ คราะหจ์ ะยอ้ นกลบั มายงั ครผู อู้ อก ขอ้ สอบอกี ครงั้ หน่ึง 9. ชว่ ยในการจดั ชุดขอ้ สอบ ประการแรก จดั ชุดขอ้ สอบเป็นชุดเดยี วหรอื ฉบบั เดยี ว เพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ในแงม่ มุ ใดมุมหน่ึงเป็นการเฉพาะ เชน่ การสอบคดั เลอื กเพอ่ื รบั เขา้ เรยี น จะเลอื ก ขอ้ สอบแตล่ ะขอ้ ทม่ี ลี กั ษณะคอ่ นขา้ งยากกวา่ ปกตทิ ใ่ี ชท้ วั่ ๆ ไป และมคี า่ อานาจจาแนกสงู จงึ จะทา ใหก้ ารสอบคดั เลอื กมปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ นอกจากนนั้ แลว้ การเรยี งขอ้ สอบ ควรจะเรยี งจากขอ้ ทม่ี ี ระดบั ความยากน้อยและต่อดว้ ยขอ้ ทย่ี ากขน้ึ เรอ่ื ย ๆ ตามลาดบั ประการทสี่ อง จดั ชุดขอ้ สอบมากกวา่ หน่งึ ชดุ ทม่ี คี วามเทา่ เทยี มกนั ทงั้ ในดา้ น ระดบั ความยาก คา่ อานาจจาแนก คา่ เฉลย่ี คา่ ความเบย่ี งเบนมาตรฐาน และความแปรปรวน ตลอดทงั้ มจี ดุ ประสงคใ์ นการวดั อยา่ งเดยี วกนั การจดั ชุดขอ้ สอบในลกั ษณะน้ี เพอ่ื ประโยชน์ใน การใชข้ อ้ สอบทดแทนกนั ได้ เมอ่ื มคี วามจาเป็นตอ้ งใชท้ ดแทน โดยเปรยี บเสมอื นวา่ เป็นขอ้ สอบ ชดุ เดยี วกนั ขอ้ สอบทม่ี คี วามเทา่ เทยี มกนั และใชแ้ ทนกนั ไดน้ ้ี เรยี กวา่ “แบบทดสอบคขู่ นาน” การวิเคราะหข์ อ้ สอบแบบอิงกล่มุ ความยากของข้อสอบ (Item Difficulty) หมายถงึ เปอรเ์ ซน็ ตข์ องจานวนผสู้ อบท่ี สามารถทาขอ้ สอบขอ้ นนั้ ไดถ้ กู ตอ้ ง เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั จานวนคนทงั้ หมดทท่ี าขอ้ สอบขอ้ นนั้ ถา้ ขอ้ สอบขอ้ ใดมเี ปอรเ์ ซน็ ตข์ องจานวนผตู้ อบขอ้ สอบถกู มาก แสดงว่า ขอ้ สอบขอ้ นนั้ งา่ ย ในขณะเดยี วกนั ถา้ ขอ้ สอบขอ้ ใดมเี ปอรเ์ ซน็ ตข์ องจานวนผตู้ อบขอ้ สอบถูกน้อย แสดงวา่ ขอ้ สอบ ขอ้ นนั้ ยาก วิธีวิเคราะหข์ ้อสอบแบบอิงกล่มุ การวเิ คราะหข์ อ้ สอบรายขอ้ แบบองิ กลุม่ วธิ ที น่ี ิยมกนั มากคอื การใชเ้ ทคนิค 27% ซง่ึ มวี ธิ วี เิ คราะหด์ งั น้ี 1. นาขอ้ สอบไปสอบ ตรวจใหค้ ะแนนและเรยี งกระดาษคาตอบตามลาดบั คะแนนจาก มากไปน้อย

4 2. แบ่งกระดาษคาตอบออกเป็น 2 กลมุ่ กลุม่ แรกเรยี กวา่ กลมุ่ สงู (PH) โดยนบั จากคะแนนสงู ลงมา 27% ของกระดาษคาตอบทงั้ หมด และกลุ่มหลงั เรยี กวา่ กลุ่มต่า (PL) โดยนบั จากคะแนนต่าสดุ ขน้ึ ไป 27% ของกระดาษคาตอบทงั้ หมด การแบ่งกลุ่มผสู้ อบออกเป็นกลุ่มสงู และกลุ่มต่านนั้ จะใชจ้ านวนเทา่ ใดนนั้ ขน้ึ อยู่ กบั ผวู้ เิ คราะหแ์ ละขนาดของกลุ่มผสู้ อบและกลุ่มตวั อยา่ ง * การใชเ้ ทคนิค 50% ใชใ้ นกรณที ผ่ี สู้ อบหรอื กลุ่มตวั อยา่ งมจี านวนน้อย ๆ * การใชเ้ ทคนิค 25% 27% 33% ใชใ้ นกรณที ผ่ี สู้ อบหรอื กลุม่ ตวั อยา่ งมจี านวนมาก 3. หาจานวนคนทต่ี อบถกู ของแตล่ ะขอ้ ในกลุ่มสงู และกลมุ่ ต่า 4. หาคา่ ความยาก (P) ของแต่ละขอ้ โดยรวมจานวนผทู้ ต่ี อบถูกในกลุม่ สงู และกลมุ่ ต่า (จานวนผทู้ ต่ี อบถกู ในแตล่ ะขอ้ ) แลว้ หารดว้ ยจานวนคนในกลุ่มสงู และกลุ่มต่ารวมกนั (จานวนผสู้ อบ ทงั้ หมด) ผลการคานวณทไ่ี ด้ จะใชส้ ญั ลกั ษณ์วา่ P และจะเรยี กสญั ลกั ษณ์ P วา่ “ค่าความยาก ของข้อสอบ” ดงั สตู รต่อไปน้ี P  จำนวนผู้ตอบถกู ในแต่ละขอ้ หรอื P  PH  PL จำนวนผู้ตอบทัง้ หมดทท่่ี ำขอ้ สอบในแต่ละขอ้ 2n เมอ่ื P แทน คา่ ความยาก PH แทน จานวนคนทต่ี อบถกู ในกลุ่มสงู PL แทน จานวนคนทต่ี อบถกู ในกลุ่มต่า n แทน จานวนคนในกลุ่มสงู หรอื กลุม่ ต่า เกณฑใ์ นการพิจารณาค่าความยาก คา่ ความยากมคี า่ ตงั้ แต่ 0.00 ถงึ 1.00 โดยทวั่ ไปขอ้ สอบทม่ี คี วามยากพอเหมาะ ควรมคี า่ ความยากตงั้ แต่ 0.20 – 0.80 ซง่ึ มรี ายละเอยี ดดงั น้ี 0.80  P ≤ 1.00 แสดงว่า เป็นขอ้ สอบทง่ี า่ ยมาก ควรตดั ทง้ิ หรอื ปรบั ปรงุ 0.60 ≤ P ≤ 0.80 แสดงว่า เป็นขอ้ สอบทค่ี อ่ นขา้ งงา่ ย (ด)ี 0.40 ≤ P ≤ 0.60 แสดงวา่ เป็นขอ้ สอบทย่ี ากงา่ ยปานกลาง (ดมี าก) 0.20 ≤ P ≤ 0.40 แสดงว่า เป็นขอ้ สอบทค่ี อ่ นขา้ งยาก (ด)ี 0.00 ≤ P ≤ 0.20 แสดงว่า เป็นขอ้ สอบทย่ี ากมาก ควรตดั ทง้ิ หรอื ปรบั ปรงุ ถา้ ขอ้ สอบขอ้ ใดมผี ตู้ อบถูกหมด แสดงว่า ขอ้ นนั้ งา่ ยมาก มคี า่ P = 1.00 แต่ถา้ ขอ้ สอบขอ้ ใดมผี ตู้ อบผดิ หมด แสดงวา่ ขอ้ นนั้ ยากมาก มคี า่ P = 0.00 คา่ P สามารถประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ 2 ลกั ษณะ คอื ใชบ้ อกคุณลกั ษณะของขอ้ สอบ วา่ ยากหรอื งา่ ย พรอ้ มทงั้ ยงั บอกคณุ ลกั ษณะของกล่มุ ผสู้ อบไดอ้ กี ดว้ ย เชน่ ขอ้ สอบวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เมอ่ื นาไปสอบกบั เดก็ ระดบั ประถมศกึ ษา ขอ้ สอบอาจจะยากมาก แต่เมอ่ื ใชก้ บั เดก็ ระดบั มธั ยมศกึ ษา อาจกลายเป็นขอ้ สอบทง่ี า่ ยมาก

5 5. หาค่าอานาจจาแนก (r) ของแต่ละขอ้ โดยเอาจานวนคนทต่ี อบถูกในกลุม่ สงู ตงั้ ลบดว้ ยจานวนคนทต่ี อบถูกในกลุ่มต่า แลว้ หารดว้ ยจานวนคนในกลุม่ สงู หรอื กลุ่มต่า อานาจจาแนกของขอ้ สอบ หมายถงึ ประสทิ ธภิ าพของขอ้ สอบในการแบง่ ผสู้ อบ ออกเป็นสองกลมุ่ คอื กลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนสงู หรอื กลุม่ เกง่ กบั กลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนต่าหรอื กลุม่ ออ่ น คา่ อานาจจาแนกของขอ้ สอบ คานวณไดจ้ ากสตู รดงั ตอ่ ไปน้ี r  PH  PL n เมอ่ื r แทน คา่ อานาจจาแนก PH แทน จานวนคนทต่ี อบถูกในกลุม่ สงู PL แทน จานวนคนทต่ี อบถกู ในกลุ่มต่า n แทน จานวนคนในกลุ่มสงู หรอื กลุ่มต่า เกณฑใ์ นการพิจารณาค่าอานาจจาแนก คา่ อานาจจาแนกมคี า่ ตงั้ แต่ -1.00 ถงึ +1.00 ขอ้ สอบทด่ี คี วรมคี า่ อานาจจาแนก ตงั้ แต่ 0.20 ขน้ึ ไป สว่ นคา่ อ่นื ๆ มคี วามหมายดงั น้ี 0.40  r ≤ 1.00 แสดงว่า จาแนกไดด้ ี เป็นขอ้ สอบทด่ี ี 0.30 ≤ r ≤ 0.39 แสดงวา่ จาแนกได้ เป็นขอ้ สอบทด่ี พี อสมควร อาจตอ้ งปรบั ปรงุ บา้ ง 0.20 ≤ r ≤ 0.29 แสดงว่า จาแนกพอใชไ้ ด้ แต่ตอ้ งปรบั ปรงุ -1.00 ≤ r ≤ 0.19 แสดงวา่ ไมส่ ามารถจาแนกได้ ตอ้ งปรบั ปรงุ ใหมห่ รอื ตดั ทง้ิ ถา้ คา่ อานาจจาแนก (r) มคี า่ เป็นลบหรอื น้อยกวา่ 0 แสดงว่า ขอ้ สอบขอ้ นนั้ จาแนกกลบั หมายความวา่ คนเก่งทาไมไ่ ด้ แต่คนออ่ นทาได้ ตอ้ งปรบั ปรงุ ใหมห่ รอื ตดั ทง้ิ

6 ตวั อย่างที่ 1 ในการสอบวชิ าภาษาไทย ขอ้ สอบเป็นแบบปรนยั ชนิดเลอื กตอบ 4 ตวั เลอื ก จานวน 5 ขอ้ มผี เู้ ขา้ สอบจานวน 50 คน ตรวจใหค้ ะแนนและเรยี งคะแนนจากสงู ไปต่า เรยี บรอ้ ยแลว้ และนามาแบง่ เป็นกลมุ่ สงู 27% (ประมาณ 14 คน) และกลุ่มต่า 27% (ประมาณ 14 คน) ผลการวเิ คราะหจ์ านวนคนทต่ี อบถูกในกลมุ่ สงู และกลุม่ ต่า ปรากฏดงั ตารางท่ี 1 ตารางที่ 1 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบองิ กลุ่มรายขอ้ วชิ าภาษาไทย ข้อที่ PH PL PH + PL PH - PL P r วิจารณ์ 18 8 16 0 0.57 2 14 0 14 14 0.50 0.00 ยากงา่ ยปานกลาง ไมส่ ามารถจาแนกได้ 3 14 14 28 0 1.00 1.00 ยากงา่ ยปานกลาง จาแนกไดด้ ี 46 10 16 -4 0.57 0.00 งา่ ยมาก ไมส่ ามารถจาแนกได้ 5 12 5 17 7 0.61 -0.28 ยากงา่ ยปานกลาง ไมส่ ามารถจาแนกได้ 0.50 คอ่ นขา้ งงา่ ย จาแนกไดด้ ี จากตวั อยา่ งขา้ งตน้ จะเหน็ วา่ ขอ้ ท่ี 1 ผสู้ อบทงั้ 2 กล่มุ ตอบถูกเทา่ กนั แปลวา่ ขอ้ สอบขอ้ น้ีไมส่ ามารถจาแนก นกั เรยี นทงั้ สองกลุ่มไดเ้ ลย แมว้ า่ คา่ ความยากจะดมี าก (0.57) สรปุ วา่ เป็นขอ้ สอบทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ ขอ้ ท่ี 2 ผสู้ อบกลุม่ สงู ตอบถูกหมดทุกคน และกลุ่มต่าตอบผดิ หมดทกุ คน มคี า่ ความยากเทา่ กบั 0.50 แปลวา่ มคี วามยากงา่ ยปานกลาง และคา่ อานาจจาแนก เทา่ กบั 1 แปลวา่ จาแนกไดด้ ี สรปุ วา่ เป็นขอ้ สอบทด่ี มี าก ขอ้ ท่ี 3 ผสู้ อบกลุม่ สงู กบั กล่มุ ต่าตอบถกู หมดทกุ คน แสดงวา่ ขอ้ สอบงา่ ยมาก และ ไมส่ ามารถจาแนกนกั เรยี นได้ สรปุ วา่ เป็นขอ้ สอบทค่ี วรตดั ทง้ิ ขอ้ ท่ี 4 ขอ้ สอบขอ้ น้ีมคี า่ ความยากเทา่ กบั 0.57 เป็นขอ้ สอบทย่ี ากงา่ ยปานกลาง น่าจะใชไ้ ด้ แต่คา่ อานาจจาแนกตดิ ลบ นนั่ คอื คนกลมุ่ สงู ตอบไมค่ อ่ ยได้ คนกลุ่มต่าตอบไดม้ ากกวา่ สรปุ วา่ เป็นขอ้ สอบทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ ขอ้ ท่ี 5 ขอ้ สอบขอ้ น้ีมคี า่ ความยากเทา่ กบั 0.61 แสดงว่า ขอ้ สอบคอ่ นขา้ งงา่ ย และ คา่ อานาจจาแนก เทา่ กบั 0.50 แสดงวา่ จาแนกไดด้ ี สรปุ วา่ เป็นขอ้ สอบทด่ี ี สาหรบั ขอ้ สอบทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ นนั้ ผสู้ รา้ งขอ้ สอบตอ้ งกลบั มาพจิ ารณาวา่ เกดิ จากสาเหตุใด ขอ้ คาถามไมม่ คี วามเป็นปรนยั หรอื ไม่ รวมทงั้ พจิ ารณาทต่ี วั เลอื กวา่ เป็นไปตามหลกั การเขยี น ขอ้ สอบทด่ี หี รอื ไม่ แลว้ จงึ ปรบั แกแ้ ละนาไปทดลองใชอ้ กี ครงั้

7 การวิเคราะหข์ อ้ สอบแบบอิงเกณฑ์ การวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบองิ เกณฑน์ นั้ มจี ุดมงุ่ หมายเพอ่ื ตอ้ งการดวู า่ นกั เรยี นมคี วามรู้ ความสามารถอะไรบา้ ง หรอื สามารถทจ่ี ะปฏบิ ตั อิ ะไรไดบ้ า้ งมากกวา่ ทจ่ี ะเปรยี บเทยี บวา่ ใครเกง่ กวา่ ใคร หรอื ใครมคี วามรมู้ ากกวา่ ใคร เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั กลมุ่ ดงั นนั้ การวเิ คราะหจ์ งึ แตกตา่ งกบั ขอ้ สอบแบบองิ กลุม่ การวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบองิ เกณฑใ์ ชว้ ธิ กี ารดงั น้ี 1. วิธีการหาความแตกต่างของการสอบก่อนสอนและการสอบหลงั สอน วธิ กี ารน้ี เรยี กวา่ ดชั นีความไวของการวดั ผล (Sensitivity index) หรอื ดชั นีความไว ของการวดั ผลจากการสอน (Sensitivity to instructional effects) มวี ธิ กี ารวเิ คราะหด์ งั น้ี 1. นาแบบทดสอบไปทดสอบกบั ผสู้ อบกลุม่ หน่ึงทงั้ กอ่ นสอนและหลงั สอนดว้ ยขอ้ สอบ ชุดเดมิ 2. ตรวจกระดาษคาตอบของผสู้ อบทส่ี อบกอ่ นสอนและหลงั สอน 3. หาคา่ ความยากของแต่ละขอ้ โดยใชส้ ตู รการคานวณเชน่ เดยี วกบั การวเิ คราะห์ ขอ้ สอบแบบองิ กลุ่ม คอื P  จำนวนผู้ตอบถกู ในแต่ละขอ้ จำนวนผู้ตอบทัง้ หมดท่ท่ี ำขอ้ สอบในแต่ละขอ้ ดงั นนั้ ขอ้ สอบแต่ละขอ้ จะมคี า่ P 2 คา่ คอื คา่ ความยากก่อนสอน (Ppre) และคา่ ความยากหลงั สอน (Ppost) 4. พจิ ารณาคา่ P กอ่ นสอน ดงั น้ี 4.1 คา่ P ≤ 0.30 แสดงว่า มผี ตู้ อบถกู ไมเ่ กนิ 30% ซง่ึ เป็นคา่ ทเ่ี ป็นไปตาม ความคาดหวงั วา่ กอ่ นสอนไมค่ วรจะมผี ตู้ อบถูกเลย หรอื ตอบถูกไมค่ วรมากกวา่ น้ี 4.2 คา่ P  0.30 เป็นขอ้ สอบทค่ี วรปรบั ปรงุ หากคา่ P สงู มาก แสดงวา่ ผเู้ รยี นมคี วามรตู้ งั้ แต่ยงั ไมไ่ ดส้ อน ซง่ึ จาเป็นตอ้ งตดั ขอ้ นนั้ ทง้ิ โดยตดั จดุ ประสงคข์ อ้ นนั้ ทง้ิ เพราะวา่ นกั เรยี นรแู้ ลว้ หรอื ปรบั ขอ้ สอบใหย้ ากขน้ึ โดยปรบั จดุ ประสงคข์ อ้ นนั้ ใหย้ ากขน้ึ 5. หาค่าดชั นีความไวในการวดั ผล โดยใชส้ ตู รดงั น้ี S = Ppost - Ppre เมอ่ื S แทน คา่ ดชั นีความไวของการวดั ผล Ppost แทน คา่ ความยากหลงั สอน Ppre แทน คา่ ความยากกอ่ นสอน

8 เกณฑใ์ นการพิจารณาค่าดชั นีความไวของการวดั ผล คา่ ดชั นีความไวของการวดั ผล (S) มคี า่ ตงั้ แต่ -1.00 ถงึ +1.00 ขอ้ ทม่ี คี า่ ดชั นี ความไวสงู และเป็นบวก แสดงวา่ ขอ้ สอบขอ้ นนั้ สามารถจาแนกการสอนไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยปกติ ขอ้ สอบองิ เกณฑค์ วรจะมคี า่ ดชั นีความไวตงั้ แต่ 0.40 ขน้ึ ไป เพราะการสอบครงั้ แรก คา่ Ppre ไมค่ วรเกนิ 0.30 และการสอบครงั้ หลงั ไมค่ วรต่ากวา่ 0.70 คอื คา่ S = 0.70 – 0.30 = 0.40 ซง่ึ คา่ S น้ี แตกตา่ งจากคา่ อานาจจาแนก (r) ของขอ้ สอบแบบองิ กลมุ่ ตรงท่ี คา่ อานาจจาแนก ของขอ้ สอบแบบองิ กลุม่ เป็นดชั นีทช่ี ใ้ี หเ้ หน็ วา่ สามารถจาแนกคนทม่ี ผี ลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นสงู และ ต่าไดม้ ากน้อยเพยี งใด ตวั อย่างท่ี 2 ผลการสอบครงั้ หน่ึง มผี เู้ ขา้ สอบ 5 คน ขอ้ สอบมี 5 ขอ้ ปรากฏดงั ตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2 ผลการสอบกอ่ นสอนและหลงั สอนของผสู้ อบ จานวน 5 คน ข้อที่ 1 2 3 4 5 คนท่ี ก่อน หลงั ก่อน หลงั ก่อน หลงั ก่อน หลงั ก่อน หลงั 1 01 11 01 10 01 2 01 11 11 10 11 3 01 11 11 10 01 4 01 11 01 10 01 5 01 11 00 10 01 รวม 0 5 55 24 50 15 การคานวณคา่ ดชั นีความไวของการวดั ผล แต่ละขอ้ ปรากฏดงั ตารางท่ี 3 ตารางที่ 3 การหาคา่ ดชั นีความไวของการวดั ผล (S) ของขอ้ สอบ 5 ขอ้ ข้อที่ Ppost Ppre Ppost - Ppre S 1.00 1 55=1 0  0 = 0 1.00 – 0.00 0.00 0.40 2 55=1 5  5 = 1 1.00 – 1.00 -1.00 0.80 3 4  5 = 0.80 2  5 = 0.40 0.80 – 0.40 4 00=0 5  5 = 1 0.00 – 0.00 5 5  5 = 1 1  5 = 0.20 1.00 – 0.20

9 จากตวั อยา่ งขา้ งตน้ จะเหน็ วา่ ขอ้ ท่ี 1 เป็นขอ้ สอบทม่ี คี วามไวต่อการวดั ผลสงู ทส่ี ดุ ซง่ึ เป็นขอ้ สอบในอดุ มคตขิ อง ขอ้ สอบองิ เกณฑ์ คอื กอ่ นสอนผเู้ รยี นทาไมไ่ ดเ้ ลย และหลงั สอนผเู้ รยี นทาไดถ้ กู ตอ้ งทกุ คน แสดงวา่ ทงั้ ขอ้ สอบและการสอนมปี ระสทิ ธภิ าพ ขอ้ ท่ี 2 เป็นขอ้ สอบทไ่ี มม่ คี วามไวในการวดั ผลเลย เพราะเป็นขอ้ สอบทง่ี า่ ยมาก ผเู้ รยี นทาไดถ้ ูกหมดตงั้ แต่ยงั ไมไ่ ดส้ อน และหลงั สอนผเู้ รยี นกท็ าถกู หมด แสดงวา่ จดุ ประสงคน์ ้ี ไมค่ วรสอน เพราะผเู้ รยี นมคี วามสามารถแลว้ ควรปรบั จุดประสงคใ์ หว้ ดั ระดบั พฤตกิ รรมทส่ี งู ขน้ึ ขอ้ ท่ี 3 เป็นขอ้ สอบทม่ี คี า่ ดชั นีความไวในการวดั ผลอยใู่ นระดบั พอใชไ้ ด้ คอื กอ่ นสอน มผี เู้ รยี นบางคนทาถูก และบางคนทาผดิ และหลงั จากสอนแลว้ ผเู้ รยี นทท่ี าขอ้ สอบถูกมมี ากกวา่ ผเู้ รยี นทท่ี าขอ้ สอบผดิ ขอ้ ท่ี 4 เป็นขอ้ สอบทม่ี คี า่ ดชั นีความไวในการวดั ผลตดิ ลบ คอื กอ่ นสอนผเู้ รยี นทา ไดห้ มด แต่หลงั สอนอาจจะไมถ่ กู ตอ้ ง หรอื ผเู้ รยี นอาจเกดิ ความเขา้ ใจผดิ บางอยา่ ง ทงั้ ทก่ี ่อนสอน ผเู้ รยี นมคี วามเขา้ ใจทถ่ี กู แลว้ ดงั นนั้ ขอ้ น้ีควรตดั ทง้ิ ขอ้ ท่ี 5 เป็นขอ้ สอบทม่ี คี า่ ดชั นีความไวในการวดั ผลคอ่ นขา้ งสงู คอื กอ่ นสอนผเู้ รยี น สว่ นใหญ่ทาไมค่ อ่ ยถูก และหลงั สอนผเู้ รยี นทาถกู ทกุ คน แสดงวา่ ทงั้ ขอ้ สอบและการสอนคอ่ นขา้ ง มปี ระสทิ ธภิ าพ 2. วิธีการแบง่ ผเู้ รียนออกเป็น 2 กล่มุ คือ กล่มุ ท่ีสอบผา่ นเกณฑ์ และกล่มุ ที่สอบ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ วธิ กี ารน้ี คานวณจากผลการทดสอบเพยี งครงั้ เดยี ว โดยเอาแบบทดสอบไปสอบ ผเู้ รยี นหลงั จากผเู้ รยี นเรยี นรแู้ ลว้ แลว้ นาขอ้ มลู มาคานวณจากสดั สว่ นของผเู้ รยี นทท่ี าขอ้ สอบถูก ของกลุ่มทส่ี อบผา่ นเกณฑก์ บั กลุ่มทส่ี อบไมผ่ า่ นเกณฑ์ ซง่ึ จะตอ้ งรคู้ ะแนนเกณฑห์ รอื คะแนนจุดตดั ของแบบทดสอบกอ่ น โดยใชส้ ตู รของ Brennan ซง่ึ เรยี กวา่ Discrimination Index B ดงั สตู ร ตอ่ ไปน้ี B  U  L n1 n2 เมอ่ื B แทน ดชั นีคา่ อานาจจาแนกของขอ้ สอบแบบองิ เกณฑ์ U แทน จานวนผเู้ รยี นทต่ี อบถูกของกล่มุ ทส่ี อบผา่ นเกณฑ์ L แทน จานวนผเู้ รยี นทต่ี อบถกู ของกล่มุ ทส่ี อบไมผ่ า่ นเกณฑ์ n1 แทน จานวนผเู้ รยี นทส่ี อบผา่ นเกณฑ์ n2 แทน จานวนผเู้ รยี นทส่ี อบไมผ่ า่ นเกณฑ์

10 ตวั อย่างที่ 3 ผเู้ รยี นหอ้ งหน่ึงมี 125 คน สอบดว้ ยขอ้ สอบเลอื กตอบแบบองิ เกณฑใ์ นจดุ ประสงคท์ ่ี 1 จานวน 5 ขอ้ ครผู สู้ อนกาหนดจุดตดั ไวท้ ่ี 50% ของคะแนนเตม็ คอื คะแนนจุดตดั ทเ่ี ป็น เกณฑผ์ า่ น คอื 3 คะแนน ผลการตรวจขอ้ สอบพบวา่ มผี เู้ รยี นทไ่ี ดค้ ะแนนสงู กวา่ จุดตดั จานวน 96 คน และไดค้ ะแนนต่ากวา่ จดุ ตดั จานวน 29 คน จานวนผเู้ รยี นทต่ี อบขอ้ สอบถูก ในจุดประสงคท์ ่ี 1 และการคานวณหาดชั นีคา่ อานาจจาแนกของขอ้ สอบ (B) แต่ละขอ้ ปรากฏดงั ตารางท่ี 4 (จากโจทยก์ าหนดให้ n1 = 96 คน n2 = 29 คน จานวนผเู้ รยี นทต่ี อบ ขอ้ สอบถกู ในกลุ่ม n1 คอื U และกลุม่ n2 คอื L) ตารางที่ 4 แสดงจานวนผสู้ อบทต่ี อบขอ้ สอบถูกในแต่ละขอ้ และคา่ ดชั นี B ของแต่ละขอ้ ข้อที่ จานวนผเู้ รียนท่ีตอบถกู B  U  L ค่าดชั นี B UL n1 n2 1.00 0.00 1 96 0 96  0 0.56 96 29 -1.00 96  29 0.07 2 96 29 96 29 3 80 8 80  8 96 29 0  29 40 29 96 29 5 50 13 50  13 96 29 การแปลความหมายค่าอานาจจาแนก คา่ ดชั นี B หรอื คา่ อานาจจาแนกของขอ้ สอบ มคี า่ ตงั้ แต่ -1.00 ถงึ 1.00 ขอ้ ทม่ี คี า่ ดชั นี B สงู และเป็นบวก แสดงว่า ขอ้ สอบขอ้ นนั้ มคี า่ อานาจจาแนกสงู ขอ้ ท่ี 1 เป็นขอ้ สอบในอดุ มคตทิ ม่ี คี า่ อานาจจาแนกสงู ทส่ี ดุ (B = 1.00) สามารถ จาแนกกลมุ่ ทส่ี อบผา่ นเกณฑก์ บั ไมผ่ า่ นเกณฑไ์ ดด้ ที ส่ี ดุ ขอ้ ท่ี 2 กลุ่มผา่ นเกณฑก์ บั กลุ่มไมผ่ า่ นเกณฑต์ อบถกู ทงั้ หมด ไมส่ ามารถจาแนกได้ ควรตดั ทง้ิ ขอ้ ท่ี 4 เป็นขอ้ สอบในอดุ มคตทิ ม่ี คี า่ อานาจจาแนกสงู สุดแต่เป็นลบ แสดงวา่ คนกลุ่ม ผา่ นเกณฑต์ อบผดิ หมด และกล่มุ ไมผ่ า่ นเกณฑต์ อบถกู หมด ซง่ึ น่าจะเกดิ จากขอ้ คาถามอาจกากวม หรอื ผเู้ รยี นอาจเกดิ ความเขา้ ใจผดิ บางอยา่ ง ควรตดั ทง้ิ ขอ้ ท่ี 5 คา่ อานาจจาแนกต่ามากควรตดั ทง้ิ เชน่ กนั

11 การวิเคราะหข์ อ้ สอบแบบอตั นัย กรณีทเ่ี ป็นขอ้ สอบอตั นยั ซง่ึ มรี ะบบการใหค้ ะแนนไมเ่ ป็น แบบ 0 , 1 การวเิ คราะหข์ อ้ สอบอตั นยั ยงั คงใชค้ า่ ความยากและคา่ อานาจจาแนกเหมอื นกบั แบบทดสอบเลอื กตอบ มวี ธิ กี ารวเิ คราะหข์ อ้ สอบ ดงั น้ี สตู รของวิทนียแ์ ละซาเบอร์ (D.R. Whitney and D.L. Sabers) วธิ นี ้วี เิ คราะหโ์ ดยตรวจขอ้ สอบ และเรยี งคะแนนจากน้อยไปมากหรอื จากมากไปน้อย แลว้ แบง่ ผสู้ อบออกเป็นกลมุ่ สงู และกลุ่มต่า การแบ่งกลุม่ ผสู้ อบออกเป็น 2 กลุ่ม คอื กล่มุ สงู และกลมุ่ ต่านนั้ จะใชจ้ านวนเทา่ ใดนนั้ ขน้ึ อยกู่ บั ผวู้ เิ คราะหแ์ ละขนาดของกลมุ่ ผสู้ อบ กรณผี สู้ อบมจี านวนน้อย ๆ อาจจะแบ่งกลุม่ ผสู้ อบออกเป็นกล่มุ ละ 50% ทงั้ 2 กลุม่ แต่ถา้ กลุ่มผสู้ อบมจี านวนมากขน้ึ อาจตดั แบง่ กลุม่ ผสู้ อบออกเป็นกลุ่มผสู้ อบท่ี ไดค้ ะแนนสงู และกลุม่ ผสู้ อบทไ่ี ดค้ ะแนนต่า กล่มุ ละ 33% , 27% หรอื 25% (โดยตดั กลุ่มผสู้ อบท่ี ไดค้ ะแนนกลาง ๆ ออก) ซง่ึ การแบง่ กลมุ่ ขน้ึ อยกู่ บั จานวนของผสู้ อบวา่ มขี นาดเทา่ ใด แลว้ ใชส้ ตู ร คานวณหาคา่ ความยากของขอ้ สอบและคา่ อานาจจาแนกของขอ้ สอบ ดงั น้ี 1. คา่ ความยากของขอ้ สอบ (P) คานวณจากสตู ร P  SH  SL  (2NXmin ) 2N(Xmax  Xmin) 2. คา่ อานาจจาแนกของขอ้ สอบ (r) คานวณจากสตู ร r  SH  SL ) N(Xmax  Xmin เมอ่ื SH แทน ผลรวมของคะแนนในกลุ่มสงู SL แทน ผลรวมของคะแนนในกลมุ่ ต่า N แทน จานวนผสู้ อบในกลุ่มเก่งหรอื กลุม่ ออ่ น คะแนนสงู สุดในขอ้ นนั้ Xmax แทน คะแนนต่าสดุ ในขอ้ นนั้ Xmin แทน สาหรบั การแปลความหมายจะแปลความหมายเชน่ เดยี วกบั การวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบ องิ กลุม่ (เลอื กตอบ) คอื ขอ้ สอบทม่ี คี ณุ ภาพจะมคี า่ ความยากอยรู่ ะหวา่ ง 0.20 ถงึ 0.80 และ คา่ อานาจจาแนก มคี า่ ตงั้ แต่ 0.20 ขน้ึ ไป อยา่ งไรกต็ าม การวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบอตั นยั มสี ง่ิ ท่ี ควรคานึงถงึ เสมอกค็ อื ทงั้ คา่ ความยากและคา่ อานาจจาแนก เป็นผลมาจากการตรวจใหค้ ะแนน ดงั นนั้ ก่อนการวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบอตั นยั ควรจะแน่ใจวา่ การตรวจใหค้ ะแนนมคี วามเป็นปรนยั ถกู ตอ้ งดแี ลว้ เพราะหากการตรวจไมม่ คี วามเป็นปรนยั แลว้ จะทาใหก้ ารแปลความหมายคา่ ความยาก และคา่ อานาจจาแนกผดิ พลาดตามไปดว้ ย

12 ตวั อย่างที่ 4 แบบทดสอบอตั นยั จานวน 5 ขอ้ นาคะแนนรวมมาแบ่งเป็นกลุ่มสงู และกลุ่มต่า กลุ่มละ 27% ไดก้ ล่มุ ละ 10 คน โดย 10 คนแรก คอื กลุม่ สงู และ 10 คน ถดั มา คอื กลุ่มต่า มผี ลคะแนนและผลการวเิ คราะหข์ อ้ สอบดงั น้ี ตารางที่ 5 แสดงผลคะแนนและผลการวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบอตั นยั คนที่ ข้อที่ 1 ข้อท่ี 2 ข้อที่ 3 ข้อท่ี 4 ข้อท่ี 5 รวม 1 22 10 39 23 39 133 2 33 10 42 20 42 147 3 44 13 37 23 33 150 4 33 18 36 25 44 156 5 23 10 40 41 20 134 6 22 4 23 42 22 113 7 33 14 24 39 23 133 8 22 13 30 37 30 132 9 23 8 19 27 27 104 10 30 10 23 29 23 115 11 28 10 3 11 3 55 12 23 8 12 17 3 63 13 13 11 17 2 9 52 14 14 3 4 9 3 33 15 14 12 3 6 3 38 16 12 15 6 16 8 57 17 12 13 14 0 4 43 18 8 0 4 8 4 24 19 16 2 7 15 2 42 20 8 3 9 23 10 53 SH 285 11 313 306 303 SL 148 77 79 107 49 Xmax 44 18 42 42 44 Xmin 8 0 3 0 2 P 0.38 0.52 0.43 0.49 0.37 r 0.38 0.18 0.60 0.47 0.60

13 แทนคา่ สตู รคานวณคา่ ความยากและคา่ อานาจจาแนกของขอ้ สอบขอ้ ท่ี 1 ดงั น้ี P  SH  SL  (2NXmin ) 2N(Xmax  Xmin)  285  148  2(10)(8) 2(10)(44  8)  433  160 (20)(36)  273 720  0.38 r  N( SH  SL ) Xmax  Xmin  285  148 10(44  8)  137 360  0.38 จากสตู รสถติ ใิ นการตรวจสอบคุณภาพขอ้ สอบทงั้ หมดทก่ี ล่าวมา กรณที ผ่ี สู้ อบ มจี านวนน้อยอาจคานวณดว้ ยมอื ได้ เพราะแต่ละสตู รไมย่ ากในการคานวณ แต่ในกรณีทผ่ี สู้ อบ มจี านวนมาก การคานวณดว้ ยมอื อาจเกดิ ความผดิ พลาดและเสยี เวลามาก จงึ ไดม้ ผี พู้ ฒั นา โปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื ชว่ ยในการวเิ คราะหข์ อ้ สอบ ในเอกสารน้ี จะแนะนาการวเิ คราะหข์ อ้ สอบ โดยใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ จานวน 2 โปรแกรม คอื โปรแกรม EVANA และโปรแกรม JINDA

14 โปรแกรมวิเคราะหข์ ้อสอบ EVANA โปรแกรมวเิ คราะหข์ อ้ สอบ Evana พฒั นาโดย อ.ภคนนั ต์ ทองคา เป็นโปรแกรม วเิ คราะหข์ อ้ สอบใชบ้ น Windows สามารถใชง้ านไดง้ า่ ย มปี ระโยชน์ในการวเิ คราะหข์ อ้ สอบแบบ เลอื กตอบ ตามทฤษฏี Classical Test Theory ดว้ ยเทคนิค 25% คานวณดว้ ยสตู รอยา่ งงา่ ย และเทคนิค 27% จากตารางของจุงเตหฟ์ าน จะใหค้ า่ ความยาก คา่ อานาจจาแนก คา่ ความยาก มาตรฐาน ตลอดจนคา่ ความเชอ่ื มนั่ และสถติ พิ น้ื ฐานต่าง ๆ นอกจากน้ี ยงั แปลความหมายแตล่ ะ ขอ้ แต่ละตวั เลอื กใหอ้ กี ดว้ ย จงึ ทาใหโ้ ปรแกรม Evana เป็นโปรแกรมทน่ี ่าใช้ เหมาะสาหรบั ครหู รอื ผทู้ ไ่ี มม่ พี น้ื ฐานความรทู้ างคอมพวิ เตอรห์ รอื สถติ มิ ากนกั ขอ้ จากดั ของโปรแกรม 1. วเิ คราะหข์ อ้ สอบไมเ่ กนิ 250 ขอ้ 2. แบบทดสอบเลอื กตอบแบบตอบถูกให้ 1 ตอบผดิ ให้ 0 ไมเ่ กนิ 9 ตวั เลอื ก การป้อนข้อมลู 1. เปิดโปรแกรม Evana 4.0 โดยเรม่ิ ทเ่ี มนู start เลอื กโปรแกรม Evana 4.01 ดงั รปู ท่ี 1 รปู ที่ 1 แสดงการเปิดโปรแกรม Evana 4.0

15 2. เมอ่ื เปิดโปรแกรม Evana 4.0 ขน้ึ มา จะพบกบั เมนู 3 เมนู ดงั รปู ท่ี 2 รปู ที่ 2 แสดงเมนูของโปรแกรม Evana จากรปู ท่ี 2 เมนู “ไฟลใ์ หม”่ ใชส้ าหรบั สรา้ งแฟ้มขอ้ มลู เพอ่ื จดั เกบ็ คาตอบของ ผสู้ อบในแต่ละวชิ า เมนู “เปิดไฟล”์ ใชส้ าหรบั เปิดแฟ้มขอ้ มลู ทม่ี คี าตอบของผสู้ อบในแต่ละวชิ าอยแู่ ลว้ เมนู “ออกโปรแกรม” ใชส้ าหรบั ปิดโปรแกรม เมอ่ื สน้ิ สดุ การทางาน หรอื คลกิ ท่ี เครอ่ื งหมาย X มมุ ขวาบนกไ็ ด้ 3. ในเบอ้ื งตน้ ใหค้ ลกิ เมนู “ไฟลใ์ หม”่ เพอ่ื สรา้ งแฟ้มขอ้ มลู สาหรบั เกบ็ คาตอบของผสู้ อบ ดงั ปรากฏหน้าตา่ งตามรปู ท่ี 3 รปู ที่ 3 แสดงช่องกรอกขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ใหท้ า่ นตงั้ ช่อื ไฟลท์ ต่ี อ้ งการจดั เกบ็ ถา้ ตอ้ งการบนั ทกึ ขอ้ มลู ไวใ้ นเครอ่ี งคอมพวิ เตอร์ สามารถตงั้ ช่อื ไฟลไ์ ดเ้ ลย แต่ถา้ ตอ้ งการเกบ็ ขอ้ มลู ไวแ้ ผน่ ดสิ เกต็ หรอื แฮนดไ์ ดร์ (USB Drive) จะตอ้ งพมิ พ์ Drive กอ่ นตงั้ ช่อื ไฟล์ และตามดว้ ยนามสกุลเป็น .ans เชน่ บนั ทกึ ขอ้ มลู ไวใ้ น แผน่ ดสิ เกต็ จะตอ้ งพมิ พ์ A:\\noom.ans ในทน่ี ้ีขอตงั้ ชอ่ื วา่ bkt1.ans จากนนั้ ใหป้ ้อนช่อื รหสั วชิ า ช่อื วชิ า เทอม ปีการศกึ ษา จานวนขอ้ สอบ จานวนตวั เลอื ก และอาจารยผ์ สู้ อน จากนนั้ คลกิ ทป่ี ่มุ “ตกลง” โปรแกรมจะสรา้ งตารางสาหรบั ใชใ้ นการป้อนขอ้ มลู ไดแ้ ก่ คาเฉลย เลขท่ี / รหสั และคาตอบของผสู้ อบ ดงั รปู ท่ี 4

16 รปู ท่ี 4 แสดงชอ่ งสาหรบั กรอกขอ้ มลู 4. จากนนั้ ป้อนคาเฉลยลงในแถว “KEY” เรยี งไปทลี ะขอ้ โดยไมต่ อ้ งป้อนคะแนนเตม็ จากนนั้ คลกิ ป่มุ “บนั ทกึ ” ทอ่ี ยดู่ า้ นล่างเพอ่ื เป็นการจดั เกบ็ เฉลยคาตอบ และป้อนเลขท่ี / รหสั / ช่อื ของผสู้ อบคนท่ี 1 พรอ้ มกบั คาตอบทผ่ี สู้ อบคนท่ี 1 ไดเ้ ลอื กตอบในขอ้ นนั้ ๆ โดยไมต่ อ้ งป้อน คะแนนทไ่ี ด้ โดยป้อนไปทลี ะคนตงั้ แตค่ นท่ี 1 ถงึ คนสดุ ทา้ ย ดงั รปู ท่ี 5 รปู ที่ 5 แสดงผลการป้อนขอ้ มลู 5. ในคอลมั น์สดุ ทา้ ย “เตม็ ” และ “คะแนน” ไมต่ อ้ งใสค่ ะแนน เพราะโปรแกรมจะใสใ่ หเ้ อง ในขณะวเิ คราะห์ และขณะป้อนขอ้ มลู ควร “บนั ทกึ ” เกบ็ ขอ้ มลู เป็นระยะ ๆ เพอ่ื ความปลอดภยั ของ ขอ้ มลู 6. เมอ่ื ป้อนขอ้ มลู เรยี บรอ้ ยแลว้ ใหบ้ นั ทกึ เกบ็ ขอ้ มลู ไว้ โดยคลกิ ป่มุ “บนั ทกึ ” ทอ่ี ยู่ ดา้ นล่าง ดงั รปู ท่ี 5 เมนู “เพมิ่ ” สาหรบั เพม่ิ ผสู้ อบ เมนู “ลบ” สาหรบั ลบผสู้ อบทไ่ี มต่ อ้ งการ เมนู “อา่ นใหม”่ สาหรบั อา่ นขอ้ มลู จากแฟ้มซ้าอกี ครงั้ เมนู “บนั ทกึ ” สาหรบั จดั เกบ็ ขอ้ มลู ลงแฟ้มขอ้ มลู เมนู “รวมคะแนน” ไมจ่ าเป็นตอ้ งใช้ เพราะโปรแกรมรวมคะแนนใหข้ ณะวเิ คราะหอ์ ยแู่ ลว้

17 การวิเคราะหข์ ้อมลู สามารถเลอื กวเิ คราะหไ์ ด้ 2 วธิ ี คอื ใชเ้ ทคนิค 25% คานวณดว้ ยสตู รอยา่ งงา่ ย หรอื ใชเ้ ทคนิค 27% โดยใชค้ า่ จากตารางจุงเตหฟ์ าน โดยคลกิ เลอื กทป่ี ่มุ ดา้ นลา่ ง ดงั รปู ท่ี 6 รปู ที่ 6 แสดงป่มุ เลอื กเทคนิควเิ คราะหข์ อ้ สอบ เมอ่ื คลกิ ป่มุ “วเิ คราะห์ 25%” โปรแกรมจะวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอผลการวเิ คราะหใ์ น หน้าตา่ งผลลพั ธ์ ดงั รปู ท่ี 7 รปู ที่ 7 แสดงหน้าตา่ งผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ถา้ ตอ้ งการพมิ พผ์ ลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ (Printer) กค็ ลกิ ป่มุ “พมิ พ”์ หรอื ถา้ ไมต่ อ้ งการพมิ พผ์ ลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู กค็ ลกิ ทป่ี ่มุ “ปิด” ผลลพั ธท์ ไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะห์ ขอ้ มลู น้ี จะจดั เกบ็ อยใู่ นแฟ้มทม่ี นี ามสกุล .txt (อยใู่ นโปรแกรม Notepad) โดยช่อื แฟ้มจะเป็นชอ่ื เดยี วกบั ขอ้ มลู กค็ อื bkt1.txt

18 ผลลพั ธท์ ่ีได้จากการวิเคราะห์ โปรแกรมจะนาเสนอค่าต่าง ๆ ดงั น้ี 1. ตารางวเิ คราะหข์ อ้ สอบรายขอ้ ประกอบดว้ ย 1.1 ขอ้ คอื ขอ้ สอบขอ้ ท่ี 1.2 ตวั เลอื ก คอื แสดงตวั เลอื กทงั้ หมดของขอ้ นนั้ ตวั เลอื กถูกจะมเี ครอ่ื งหมายดอกจนั 1.3 H คอื จานวนคนในกลุม่ สงู ทเ่ี ลอื กตอบตวั เลอื กนนั้ 1.4 L คอื จานวนคนในกลุ่มต่าทเ่ี ลอื กตอบตวั เลอื กนนั้ 1.5 PH คอื คา่ ความยากของกลุ่มสงู (ถา้ ใชเ้ ทคนคิ 27%) 1.6 PL คอื คา่ ความยากของกลุม่ ต่า (ถา้ ใชเ้ ทคนคิ 27%) 1.5 p คอื คา่ ความยาก ถา้ ใชเ้ ทคนคิ 25% คา่ ความยากจะคานวณจากสตู ร อยา่ งงา่ ย และถา้ ใชเ้ ทคนคิ 27% โดยใชค้ า่ ความยากจากตารางจุงเตหฟ์ าน 1.6 r คอื ค่าอานาจจาแนก ถา้ ใชเ้ ทคนิค 25% คา่ อานาจจาแนกจะคานวณจาก สตู รอยา่ งงา่ ย และถา้ ใชเ้ ทคนิค 27% โดยใชค้ า่ ความยากจากตารางจุงเตหฟ์ าน 2. สรปุ คา่ p คา่ r รายขอ้ ประกอบดว้ ย 2.1 p คอื ค่าความยากของขอ้ สอบขอ้ นนั้ 2.2 r คอื ค่าอานาจจาแนกของขอ้ สอบขอ้ นนั้ 2.3 Delta คอื คา่ ความยากมาตรฐาน คานวณจากสตู ร (delta = 13+4Z) 2.4 Zr คอื คา่ อานาจจาแนกมาตรฐาน 2.5 เฉลย่ี คอื สรปุ คา่ สถติ ติ ่าง ๆ ตงั้ แตข่ อ้ 2.1 ถงึ 2.4 ในภาพรวมทงั้ ฉบบั 3. ผลการวเิ คราะหร์ ายฉบบั ไดแ้ ก่ จานวนขอ้ สอบ จานวนกระดาษคาตอบ คะแนนเฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ความเชอ่ื มนั่ KR-20 และความคลาดเคลอ่ื นมาตรฐาน 4. สรปุ คุณภาพของขอ้ สอบ สดุ ทา้ ยจะเป็นการสรุปขอ้ สอบในแบบทดสอบ โดยจดั แยก เป็นขอ้ สอบทด่ี ี ควรเกบ็ ไว้ ขอ้ สอบทค่ี วรปรบั ปรงุ และขอ้ สอบทค่ี วรตดั ทง้ิ