MY PROFILE Name: Mister Tonsak Sanitnam Age: 22 years old Education : Bachelor of Education Social Studies program Phranakhon rajabhat university Contact : Doremon Ton TEACHER TONSAK
MY PROFILE Name: Mister Narathip Kaewthong Age: -------------------- Education : Bachelor of Education Social Studies program Phranakhon rajabhat university Contact : Narathip Kaewthong TEACHER Narathip
MY PROFILE Name: Mister Suwat Phatong Age: -------------------- Education : Bachelor of Education Social Studies program Phranakhon rajabhat university Contact : สุวตั ร ผาทอง TEACHER SUWAT
Teacher Tonsak 1. วเิ คราะหสถาบันทางสังคม 10 คะแนน 2. แบบฝก หัด 10 คะแนน 3. สอบกลางภาค 20 คะแนน 4. คานิยม 12 ประการ 10 คะแนน 5. จติ พิสัย (สมดุ ,การสง งาน,ขาด-ลา,กจิ กรรมเกมส) 10 คะแนน 6. กจิ กรรมกลุม การเรียนรวู ัฒนธรรมไทย 10 คะแนน 7. สอบปลายภาค 30 คะแนน รวม po110i0n00tคsะแนน
สถาบนั ครอบครวั (Family Institution) สถาบนั การศกึ ษา สถาบนั ศาสนา (Educational Institution) (Religious Institution) สถาบนั เศรษฐกจิ สถาบนั การเมืองการปกครอง (Economic Institution) (Political Institution) สถาบนั นนั ทนาการ สถาบนั สอื่ สารมวลชน (Recreational Institution) (Media Institution)
สถาบนั ครอบครวั (FAMILY INSTITUTION) เป็ นแบบแผนพฤตกิ รรมของคน ทเี่ กย่ี วขอ้ งกนั ในเรอ่ื งเกี่ยวกบั ครอบครวั และเครอื ญาติ • การใหก้ าํ เนิดสมาชกิ ใหมเ่ พ่ือทดแทนสมาชกิ เกา่ • การอบรมเล้ียงดบู ุตร • การคมุ้ ครองและบาํ รุงรกั ษาทง้ั ทางรา่ งกายและคณุ ภาพของสมาชกิ
ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์ในฐานะที่เราเป็นส่วนหน่ึงของสถาบนั ครอบครัวเราจะแกไ้ ขปัญหาความรุนแรงไดอ้ ยา่ งไร วเิ คราะห์จากตวั อยา่ ง
เป็นสถาบนั ทท่ี าํ หนา้ ทใี่ น การขดั เกลาถ่ายทอดทาง วฒั นธรรม ความรู้ ใหส้ มาชกิ ในสงั คม บทบาททสี่ าํ คญั คอื ปลูกฝังคา่ นิยมทด่ี งี ามและการถา่ ยทอด วฒั นธรรมใหแ้ กส่ มาชกิ ในสงั คม ชว่ ยพฒั นาบุคคลใหเ้ ป็ นสมาชกิ ทด่ี ี
ความหมายของมนุษย์ มนุษย์ (Man) แปลวา่ ผู้มีจติ ใจสูง หมายถึง ผทู้ ี่มีใจสูงดว้ ย คุณธรรม
เปา หมายหลกั ใน ยกระดบั คุณภาพ การทดสอบความสามารถพนื้ ฐานของผเู รยี นระดับชาติ (NT) การทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตชิ นั้ พนื้ ฐาน (O-NET)
องคป ระกอบสาํ คัญในการจัดการเรียนรู (OLE) ต้นนํา้ กลางนํา้ ปลายนํา้ Objective Learning Evaluation มาตรฐานและตัวชี้วดั การจัดการเรยี นรตู าม การวดั และประเมินผล มาตรฐาน ตามมาตรฐาน ยกระดับคุณภาพของผูเ รยี น
แบบฝกหัด ใหนักเรียนวิเคราะหขอ มลู ของโรงเรยี นจากประเด็นดงั นี้ - จุดแขง็ /จดุ ออ น (ภายใน) - โอกาส/อุปสรรค (ภายนอก) - แนวทางการแกปญ หา (อภิปรายหนา ช้ันเรียน)
วเิ คราะห์ขอ้ มูลของโรงเรียนสาธิตฯ พระนคร ใหนักเรียนวิเคราะหข อมลู ของโรงเรยี นจากประเด็นดังน้ี จุดแข็ง (เกิดขึน้ ภายใน) จุดออ น (เกิดข้นึ ภายใน) 1. 1. 2. 2. 3. 3. โอกาส (เกดิ ขนึ้ ภายนอก) อปุ สรรค (เกิดขน้ึ ภายนอก) 1. 1. 2. 2. 3. 3.
สถาบนั การเมืองการปกครอง (POLITICAL INSTITUTION) เป็ นสถาบนั ทเ่ี กย่ี วกบั การ จดั ระเบียบใหป้ ระชาชนใน สงั คมสามารถอยรู่ ว่ มกนั ได้ อยา่ งมคี วามสุข บทบาทท่ีสาํ คญั จดั การปกครองใหส้ มาชิกมีความเป็ นอยู่ ทดี่ ี ควบคมุ ใหส้ มาชกิ อยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งสนั ตสิ ุข เป็ นแบบแผนการคิดการกระทาํ ท่ีกาํ หนดระบบอาํ นาจใน การจดั ระเบียบภายในสงั คม ทาํ หนา้ ที่ควบคุมในสมาชิกในสงั คม สามารถอยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งสนั ตสิ ุข
การเมือง หมายถึง การใชอํานาจควบคุมใหบุคคลปฏิบัติตามกฎเกณฑ ของสังคม เปนเรื่องของการกําหนดวาใครตองไดรับอะไรเทาไรใน สังคม และตองใหอะไรแกสังคมเทาใด เปนการใชอํานาจ จัดสรร อาํ นาจ เปน เรือ่ งของการตอ สเู พอ่ื ใหไดม าซ่งึ อํานาจ
อาํ นาจ (Power) หมายถึง ความสามารถของบคุ คลหรือกลมุ ท่จี ะทาํ ใหคน อน่ื หรอื กลมุ อ่นื กระทํา หรือ ไมกระทาํ การใด ๆ ไมว าจะโดยความ ยนิ ยอมหรือไมก็ตาม 1. พลังอํานาจ (Force) 2. อาํ นาจอันชอบธรรม (Legitimate power)
การจัดองค์กรทางการเมือง
รัฐและรัฐบาล รฐั หมายถึง รูปแบบของสังคมแบบหนง่ึ ซงึ่ มอี าณาเขตที่ แนน อน และอยูภายใตก ารควบคมุ ของรัฐบาล รัฐบาล หมายถึง กลุม หรอื องคก รท่ีมีอาํ นาจสูงสุด ในการ ควบคุมสมาชกิ ของสงั คม และถอื วา เปนตัวแทนของคนทั้งสงั คม ใน กรณีท่ีมีการติดตอ สัมพันธก ับสงั คมอื่น
รูปแบบการปกครองของรัฐ สามารถจําแนกไดเ ปน 2 ระบบ คือ 1. การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย (Democracy) 2. การปกครองในระบอบเผด็จการ (Totalitarianism)
เป็ นสถาบนั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การอปุ โภคบรโิ ภคสนิ คา้ ของ สมาชกิ ในสงั คม บทบาททสี่ าํ คญั ชว่ ยเรง่ พฒั นาเศรษฐกจิ ใหม้ ีความ เจรญิ เตบิ โตและกา้ วหนา้ ดูแลใหผ้ บู้ รโิ ภคไดร้ บั ประโยชนอ์ ยา่ งทว่ั ถึง
สิง่ ทนี่ กั สังคมวิทยาและนกั มานษุ ยวทิ ยาสนใจ เก่ียวกบั สถาบนั เศรษฐกิจ คอื 1. การจดั การเกยี่ วกบั เทคโนโลยี 2. การกระจายสนิ คา และบริการ 3. คานยิ ม อุดมการณ บรรทดั ฐาน
เทคโนโลยี เทคโนโลยีเปนปจจัยท่ีสําคัญมากตอการเจริญเติบโตของ เศรษฐกิจในแหลงตาง ๆ และทําใหประเทศท่ีมีความกาวหนา ทางเทคโนโลยีในดานใดดานหนึ่งมีอิทธิพลเหนือกวาประเทศอ่ืน ๆ ท่ี ดอ ย ก ว า มีอิ ท ธิ พ ลต อก า ร พั ฒ นา ขอ งสั ง ค ม ม า ก ขณะเดียวกันอิทธิพลของโครงสรางสังคมและวัฒนธรรมก็มีผล สะทอนกลับตอการพัฒนาเทคโนโลยีดว ย
เทคโนโลยกี ับโครงสรางและการเปลยี่ นแปลงทางสังคม 1. ยคุ ทม่ี นุษยอยูร วมกนั เปน กลมุ อาศยั การลา สตั ว และ เก็บพชื ผักเปนอาหารยังชพี 2. ยุคอตุ สาหกรรมซ่ึงเปนยุคของเคร่อื งจักรและการใช พลงั งานจากเชอื้ เพลิง 3. ยคุ ของขาวสาร (Information Age)
การกระจายสนิ คาและบรกิ าร การคา ขาย แลกเปล่ียน ถือเปนกิจกรรมของการกระจายสินคา และบริการท่ีสังคมผลิตขน้ึ ไปสสู วนตา งๆ ของสังคมตวั กลางในการ แลกเปลีย่ น คือ 1. เหรียญ และ ตวั๋ (Deposit Receipts) 2. ธนบตั ร (Currency) และ ทอง (Gold Standard) 3. เช็ค (Check) 4. เครดติ การด (Credit Card)
สังคมมนุษย์
สังคมมนุษย์
สังคมมนุษย์ สถาบนั ทางสังคม แนวทางการป้องกนั สังคมมนุษย์ การจัดระเบียบ และแก้ไขปัญหา การเปลยี่ นแปลง ทางสังคม สังคมไทย ทางสังคม การขัดเกลา ปัญหา ทางสังคม สังคมไทย
สถาบนั ศาสนา (RELIGIOUS INSTITUTION) เป็ นสถาบนั ทท่ี าํ หนา้ ทข่ี ดั เกลาจติ ใจ ปลูกฝังศีลธรรมอนั ดงี ามใหก้ บั สมาชกิ ในสงั คม บทบาททสี่ าํ คญั คอื ปลูกฝังคณุ ธรรมทด่ี ใี หก้ บั สมาชกิ ในสงั คม และปฏิบตั ติ ามคาํ สอนทางศาสนา ชว่ ยควบคมุ พฤตกิ รรมของคนใน สงั คมใหเ้ กดิ ความสงบสุข
สถาบนั นนั ทนาการ (RECREATIONAL INSTITUTION) เป็ นสถาบนั ท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั การพกั ผอ่ น บทบาททสี่ าํ คญั คอื ทาํ ใหค้ นในสงั คมใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็ น ประโยชนใ์ นทางสรา้ งสรรค์ ผอ่ นคลายความเครยี ด เชน่ ศลิ ปะ การละเลน่ กีฬา ดนตรี
สถาบนั สอื่ สารมวลชน (MEDIA INSTITUTION) เป็ นสถาบนั ทส่ี อื่ ขา่ วสาร เก่ยี วกบั เหตุการณต์ า่ งๆ ทาํ ใหส้ มาชกิ ในสงั คม มีความรูม้ ากข้นึ บทบาททสี่ าํ คญั คอื การถ่ายทอดขา่ วสารใหป้ ระชาชนทราบ เพ่ือใหม้ ีความรู้ ทนั กบั ความเปลย่ี นแปลงของสงั คม และความบนั เทงิ แกส่ มาชกิ ในรูปแบบตา่ งๆ
ความสมั พนั ธท์ างตรง ความสมั พนั ธข์ อง สถาบนั ทางสงั คม ความสมั พนั ธท์ างออ้ ม
สถาบนั ครอบครวั สถาบนั การศกึ ษา
เป็นความสมั พนั ธท์ ไี่ มไ่ ดเ้ กี่ยวขอ้ งกนั โดยตรง แตค่ วามสมั พนั ธท์ างออ้ มเกิดข้ึนไดเ้ ชน่ กนั เชน่ การเป็นคนไทยเชน่ เดยี วกนั การนบั ถือศาสนาเดยี วกนั กบั คนอนื่ ๆในสงั คม
ผเู้ รยี นคดิ วา่ เมอื่ ผปู้ กครองสง่ บุตรหลาน สถาบนั ทางครอบครวั ไปโรงเรียนใหอ้ ยภู่ ายใต้ มคี วามสมั พนั ธอ์ ยา่ งไร การอบรมสงั่ สอนของครู กบั สถาบนั การศกึ ษา ก็จะมกี ารแลกเปลีย่ นขอ้ มลู กนั ระหว่างผูป้ กครองและครู เพอื่ พฒั นาศกั ยภาพ ของนกั เรียน
หากสถาบนั ทางสงั คมทาํ หนา้ ท่ี ของตนเองไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์ จะสง่ ผลตอ่ ตนเองและสงั คมอยา่ งไร
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: