Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้วิทย์พัฒนาธุรกิจ1

ใบความรู้วิทย์พัฒนาธุรกิจ1

Published by tamcomed50, 2020-11-27 15:38:22

Description: ใบความรู้วิทย์พัฒนาธุรกิจ1

Search

Read the Text Version

วิทยาศาสตร์ เพือ่ พัฒนาอาชพี ธรุ กจิ และบรกิ าร รหสั วชิ า ๒๐๐๐๐ - ๑๓๐๓

หน่วยที่ การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม

6 ลักษณะทางพันธุกรรม (Genetic Character) หมายถงึ ลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวิตทค่ี วบคุมโดยยนี ซงึ่ สามารถถา่ ยทอดจากรุ่นหน่ึงไปยังรุ่นต่อไปได้ ตา ยาย ป่ ู ย่า แม่ พ่อ ลูกชาย ลูกสาว

7 สิ่งมชี วี ิตแตล่ ะชนิดจะมลี ักษณะทางพนั ธุกรรม รูปร่าง และลักษณะโครงสร้างแตกต่างกัน ทาใหส้ ง่ิ มชี วี ิตมคี วามแตกตา่ งและหลากหลาย ทง้ั รูปร่างลักษณะเฉพาะตามเผ่าพันธุข์ องพอ่ แม่ ความแปรผันทางพันธุกรรมทไี่ ม่ต่อเน่ือง (Discontinuous Variation) ตาช้ันเดยี ว ตาสองช้ัน ผมหยักศก ผมเหยยี ดตรง

8 ความแปรผันทางพันธุกรรมทต่ี ่อเน่อื ง (Continuous Variation) ลักษณะสีผิวทไ่ี ด้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมต้ังแต่กาเนดิ แปรผันไปตามอิทธิพลของสงิ่ แวดล้อมได้ 2 กรณี คือ อิทธิพลจากสง่ิ แวดล้อมภายใน อิทธิพลจากสิง่ แวดล้อมภายนอก อายุ ฮอรโ์ มน และเพศ อุณหภมู ิ แสง อาหาร สารเคมี และรังสีตา่ ง ๆ

8 ยีนเป็ นหน่วยพันธุกรรม ทาหน้าทกี่ าหนดลักษณะทางพันธุกรรม โยฮันน์ เกรเกอร์ เมนเดล ชาวออสเตรเลยี ไดร้ วบรวมพันธุถ์ ่ัวลันเตา (Garden Pea) ไดท้ าการทดลองเป็ นเวลานาน 7 ปี ซงึ่ มลี ักษณะแตกต่างกัน 7 ลักษณะ เมลด็ ดอก รูปร่างของถ่ัวทแี่ ก่เตม็ ที่ ลาต้น รูปร่างเมล็ด สขี องเนอื้ เมล็ด สีของดอก รูปร่างและสีของฝักถ่ัว ตาแหน่งของดอก ความสูงลาต้น กลม เหลอื ง สขี าว อวบ เหลือง ทกี่ งิ่ สูง ขรุขระ เขียว สมี ว่ ง แฟบ เขียว ทยี่ อด เตยี้

9 เมนเดลนาไปใชว้ ิเคราะหผ์ ลการทดลองผสมต้นถ่วั สรุปออกมาเป็ นกฎได้ ดังนี้ กฎแหง่ การแยกตัว (Law of Segregation) TT T t t Tt TT T Tt T Tt t Tt tt tt TT Tt T t t T กฎแหง่ การรวมกลุ่มอย่างอสิ ระ (Law of Independent Assortment) tt

นิวเคลียส 10 โครโมโซม คู่เบส สายดเี อ็นเอ ฮสิ โทนโปรตนี นิวคลโี อโซม

12 ความผดิ ปกตขิ องโครโมโซมในคน (Abnormalities in Chromosome) โครโมโซมคู่ท่ี 21 เกนิ มา 1 โครโมโซม

13 ในเพศหญงิ จะเพมิ่ เป็ น XXX ในเพศชายจะเพมิ่ เป็ น XXY เกิดจากโครโมโซมเพศเกินมา 1 โครโมโซม

14 เกดิ จากโครโมโซมเพศ X เพยี งโครโมโซมเดยี ว

14 เกดิ จากความผดิ ปกตขิ องโครโมโซมคู่ที่ 5

17 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนามาเขียนเป็ นแผนภาพ พงศาวลี หรือ เพดดกี รี (Pedigree) เพดดกี รีแสดงครอบครัวทม่ี กี ารถา่ ยทอดลักษณะนวิ้ เกนิ ความหมายของสัญลักษณใ์ นแผนผัง ชายหญงิ แตง่ งานกัน ชาย ชายทมี่ คี วามผิดปกติ ชายหญงิ แตง่ งานกันมลี ูก 3 คน หญงิ หญงิ ทมี่ คี วามผดิ ปกติ

18 มิวเทชัน (Mutation) ระดับโครโมโซม ระดบั ยนี ภายในโครโมโซม ภายนอกโครโมโซม รังสี (Radiation) สารเคมี โครโมโซมขาดหาย Euploidy ไวรัสบางชนดิ ทาใหเ้ กดิ มะเร็ง โครโมโซมเพม่ิ ขนึ้ มา Aneuploidy เปล่ียนตาแหน่งทศิ ทาง การเปลี่ยนสลับท่ี “A” เปลย่ี นเป็ น “C” ปกติ มวิ เทชัน

21 ชาลส์ ดารว์ นิ (Charles Darwin) นักวทิ ยาศาสตรช์ าวอังกฤษ เป็ นผู้เสนอทฤษฎวี ิวัฒนาการ เรียกสง่ิ มชี ีวติ ทอี่ ยู่รอดเหล่านีว้ ่า เป็ นส่งิ มชี ีวติ ทไ่ี ดร้ ับการคัดเลอื กโดยธรรมชาติ

สนิ้ สุดหน่วยท่ี 1

หน่วยที่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ

34 หมายถึง ความหลากหลายของสิ่งมชี ีวิตของ จุลนิ ทรยี ์ พืช สตั ว์

34 ความหลากหลายของระบบนเิ วศ หมายถงึ บริเวณทม่ี คี วามอุดมสมบรู ณข์ องสภาพแวดล้อมทพี่ ชื สัตว์ และสง่ิ มชี วี ติ อ่ืน ๆ อาศยั อยู่ ก่อใหเ้ กิดวัฏจักรของธาตุอาหาร การหมนุ เวียนของนา้ ออกซเิ จน คารบ์ อนไดออกไซด์ และสารประกอบอืน่ ๆ เช่น ไนโตรเจน กามะถัน และคารบ์ อน เป็ นต้น ก) ระบบนเิ วศทะเลทราย ข) ระบบนเิ วศป่ าชายเลน ค) ระบบนเิ วศใต้ทอ้ งทะเล ความหลากหลายของระบบนิเวศตา่ ง ๆ

34 ความหลากหลายทางพนั ธุกรรม หมายถึง ความแตกตา่ งทางพันธุกรรมทไ่ี ด้รับการสบื ทอดจากบรรพบุรุษ ซง่ึ เป็ นประโยชนอ์ ย่างมหาศาลต่อการปรับปรุงพันธุพ์ ชื พนั ธุส์ ัตว์ การผลิต และการตอ่ ต้านศัตรูพชื ใช้ในการผสมพนั ธุ์ และคัดเลือกสายพันธุ์ เช่น การปรับปรุงสายพนั ธุข์ ้าว ข้าวโพดทตี่ า้ นทานศัตรูพชื ได้ เป็ นตน้

35 ความหลากหลายของชนิดพนั ธุ์ หมายถงึ ส่ิงมีชีวติ ทมี่ อี ยมู่ ากมายและแตกต่างกนั ออกไป ตามส่วนตา่ ง ๆ ของโลก ซง่ึ เป็ นประโยชนต์ ่อมนุษยท์ งั้ ทางตรงและทางออ้ มในระบบนิเวศทสี่ มดุล หากเสียสมดุลจะส่งผลกระทบต่อส่งิ มีชีวติ อ่นื ๆ เป็ นลกู โซ่ ความหลากหลายของชนิดพันธุส์ ัตวต์ า่ ง ๆ

36

38 นิยมใช้ 3 วธิ ี การจัดแบบผิวเผนิ (Artificial Classification) การจดั ตามลักษณะทางธรรมชาติ (Natural Classification) การจัดตามลักษณะ ความใกล้ชดิ ทางพันธุกรรม (Phylogenetic Classification) ใช้หลักเกณฑ์ ดงั นี้ การเจริญเตบิ โตของเอ็มบริโอ การปรับปรุงพันธุพ์ ชื และสัตว์ ความคล้ายคลงึ ของโครงสร้าง วิวัฒนาการ การแพร่กระจายของพชื และสัตว์

38 จัดเรียงลาดบั ต้ังแตร่ ะดบั ใหญ่ทสี่ ุดจนถงึ ระดับเล็กทสี่ ุด ดงั นี้

41 เป็ นสารจาพวกคารโ์ บไฮเดรตและกรดอะมโิ น ได้แก่ แบคทเี รียซง่ึ มรี ูปร่าง 3 แบบ คอื รูปร่างกลม รูปร่างทอ่ น และรูปร่างเกลียว

41 ส่ิงมชี ีวิตในอาณาจักรโพรทสิ ตาหรือเรียกว่า โพรทสิ ต์ มคี วามหลากหลายมากทส่ี ุดเป็ นสง่ิ มชี วี ิตขนาดเลก็ ลักษณะของเซลลเ์ ป็ นแบบยูแคริโอต (Eukaryotic Cell) เช่น พวกสาหร่าย เหด็ รา ราเมอื ก และโปรโตซวั เป็ นต้น สาหร่ายสเี ขียว สาหร่ายสเี ขียว สาหร่ายสเี ขียว

43 ส่งิ มชี วี ติ ในอาณาจักรนี้ ไดแ้ ก่ พชื สีเขยี วทกุ ชนิดแบง่ ออกเป็ น 10 ดวิ ชิ ัน ดงั นี้ 1) ดวิ ิชนั ไบรโอไฟตา (Division Bryophyta) เป็ นพืชทไ่ี ม่มที อ่ ลาเลยี ง เช่น มอสส์ ลเิ วอรเ์ วิรต์ และฮอรน์ เวริ ต์ เป็ นต้น ฮอรน์ เวริ ต์ มอสส์ ลเิ วอรเ์ วริ ต์

43 2) ดิวชิ ันไซโลไฟตา (Division Psilophyta) เป็ นพืชมที อ่ ลาเลียงชนั้ ตา่ (Lower Vascular Plant) เชน่ หวายทะนอย หรือไซโลตมั (Psilotum) เป็ นต้น หวายทะนอย

44 3) ดวิ ชิ นั เทอโรไฟตา (Division Pterophyta) เป็ นพืชสร้างสปอร์ เชน่ ข้าหลวงหลังลาย (Asplenium) เฟิ รน์ นาคราช (Davallia) ชายผ้าสีดา (Platycerium) ย่านลเิ ภา (Lygodium) ปรงทะเล (Acrostichum) กระแตไต่ไม้ (Drynaria) ผักแว่น (Marsilea Crenata) และจอกหหู นู (Salvinia Cucullata) เป็ นตน้ ข้าหลวงหลังลาย ชายผา้ สีดา ยา่ นลเิ ภา เฟิ รน์ นาคราช ผกั แวน่ จอกหหู นู

44 4) ดิวชิ ันโคนิเฟอโรไฟตา (Division Coniferophyta) พชื ในดวิ ิชนั นี้ เรียกว่า โคนิเฟอร์ (Conifer) เป็ นไม้ยนื ต้น ขนาดใหญ่ทสี่ ุดและสูงทส่ี ุด คือ Sequoiadendron Giganteum เช่น สนสองใบ (Pinus Merkusii) และสนสามใบ (Pinus Kesiya) เป็ นตน้ สนสามใบ สนสองใบ 5) ดวิ ิชนั แอนโทไฟตา (Division Anthophyta) เป็ นพืชดอก (Flower Plant) เรียกโดยทว่ั ไปว่า แองจโิ อสเปิ รม์ (Angiosperm) วิวัฒนาการสงู สุด เช่น ผาหรือไขน่ า้ ส่วนต้นทใี่ หญ่ทส่ี ุด เชน่ ต้นยคู าลิปตัส เป็ นต้น ผาหรอื ไข่นา้

45 6) ดิวิชันไลโคไฟตา (Division Lycophyta) เป็ นพชื ทมี่ ีอายุหลายปี (Perennial) จัดเป็ นพืชล้มลุก มีทงั้ เลอื้ ยไปตาม ดนิ ลาต้นตัง้ ตรง และชนิดเกาะกบั ต้นไม้ เช่น สามร้อยยอดหรือหญ้ารงั นก สร้อยหางสงิ ห์ สรอ้ ยนางกี่ ชอ้ งนางคลีห่ รอื สรอ้ ยนารี และกระเทยี มนา้ เป็ นต้น สร้อยนารี สร้อยนางกรอง ช้องนางคลี่ หญ้าสามร้อยยอด

45 7) ดิวิชนั สฟี โนไฟตา (Division Sphenophyta) เป็ นพืชทมี่ ลี าต้นอย่เู หนือดนิ และใตด้ นิ เช่น สนหางม้า เป็ นต้น สนหางมา้ 8) ดวิ ชิ ันไซแคโดไฟตา (Division Cycadophyta) เป็ นพชื ทม่ี เี มลด็ โบราณ (Primitive) เรียกกันท่วั ไปว่า ไซแคด (Cycad) หรือ ปรง เป็ นตน้ ปรง

46 9) ดวิ ิชันกิงโกไฟตา (Division Ginkgophyta) เช่น แปะก๊วย (Ginkgo Biloba) เป็ นต้น แปะก๊วย 10) ดวิ ิชันนโี ทไฟตา (Division Gnetophyta) เป็ นพชื เมล็ดเปลือย เช่น มะเมอ่ื ย (Gnetum) เป็ นต้น มะเมอื่ ย

49 1) ไฟลัมพอริเฟอรา (Phylum Porifera) อาศยั อยู่ในนา้ เคม็ และนา้ จืด เช่น ฟองนา้ แก้ว ฟองนา้ หนิ ปนู และฟองนา้ ถูตวั เป็ นต้น กัลปังหา 2) ไฟลัมซเี ลนเทอราตา (Phylum Coelenterata) หรือไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) อาศัยอยู่ในทะเลและนา้ จืด เช่น ปะการัง กัลปังหา ดอกไม้ทะเล และแมงกะพรุน เป็ นต้น ปะการังอ่อน ปะการังสมอง ฟองนา้

50 3) ไฟลัมแพลทเี ฮลมนิ เทส (Phylum Platyhelminthes) สัตวใ์ นไฟลัมนี้ เรียกว่า หนอนตัวแบน (Flat Worm) เช่น พยาธิใบไม้ และพยาธติ ัวตดื เป็ นตน้ ทวารหนัก ลาไส้ ปาก กึน๋ คอหอย กระเพาะอาหาร พยาธติ ัวตดื 4) ไฟลัมนีมาโทดา (Phylum Nematoda) พบในนา้ จืด ในนา้ เคม็ และในดนิ ชนื้ แฉะ เรียกว่า หนอนตัวกลม (Round Worm) หรือเนมา โทด (Nematode) เป็ นต้น หนอนตัวกลม

51 5) ไฟลัมมอลลัสกา (Phylum Mollusca) เป็ นสัตวท์ ม่ี ลี าตัวอ่อนนุ่ม เช่น หอยทาก ทาก หอยนางรม หอยงวงช้าง หมกึ ยักษ์ หมกึ กระดอง หอยมอื เสือ หอยแมลงภู่ และหมกึ กล้วย เป็ นตน้ 6) ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida) สัตวใ์ นไฟลัมนีม้ ลี าตวั แบง่ ออกเป็ นปล้องเหน็ ไดช้ ัดเจน ภายในมเี ยื่อกั้น อาศัยอยู่ ในทะเล นา้ จดื บนพนื้ ดนิ และบริเวณทชี่ ืน้ แฉะ เช่น แม่เพยี ง ไส้เดอื นดนิ ปลิงนา้ จดื และทากดูดเลือด เป็ นตน้

52 7) ไฟลัมอารโ์ ทรโพดา (Phylum Arthropoda) เป็ นสัตวท์ มี่ ลี าตวั เป็ นปล้อง มรี ยางคต์ ่อกันเป็ นข้อ ๆ และรยางคม์ ลี ักษณะ พเิ ศษทป่ี รับเปลย่ี นหน้าทห่ี ลายอย่าง เช่น ใช้เดนิ จับอาหาร รับความรู้สึก ผสมพนั ธุ์ ส่วนใหญ่เป็ นแมลง ส่วนสัตวท์ อ่ี าศยั อยู่ ในนา้ เช่น กุ้งและปู เป็ นตน้ 8) ไฟลัมเอไคโนเดอมาตา (Phylum Echinodermata) เป็ นสัตวท์ ม่ี ผี วิ ลาตวั ขรุขระหรือมหี นาม เช่น ดาวทะเล ดาวมงกุฎหนาม ปลงิ ทะเล ดาวขนนก พลับพลงึ ทะเล และหนิ ปะการัง เป็ นต้น ปลงิ ทะเล ดาวขนนก ดาวมงกุฎทะเล

52 9) ไฟลัมคอรด์ าตา (Phylum Chordata) เรียกว่าพวกคอรเ์ ดต (Chordate) มวี วิ ัฒนาการสูงสุด แบง่ ออกเป็ น 2 กลุ่ม คอื สัตวไ์ มม่ กี ระดูกสันหลัง และสัตวม์ กี ระดูกสันหลัง เป็ นต้น เป็ นส่งิ มชี ีวติ ทม่ี ที งั้ เซลลเ์ ดยี วและหลายเซลล์ มโี ครงสร้างเซลลเ์ ป็ น แบบยูแคริโอ (Eukaryotic Cell) มเี ย่อื หมุ้ นิวเคลยี ส มกี ารดารงชีวติ เป็ น ผู้ย่อยสลาย บางชนดิ เป็ นปรสิตไม่มคี ลอโรฟิ ลล์ สร้างอาหารไม่ได้ ไมม่ ี ระยะตวั อ่อน มกี ารสบื พันธุท์ ง้ั แบบอาศัยเพศและไมอ่ าศยั เพศโดยการสร้างสปอร์ ลักษณะการสร้างสปอรใ์ นการสืบพันธุจ์ ะใช้เป็ นเกณฑใ์ นการจัดจาแนกฟังไจ ออกเป็ นไฟลัมต่าง ๆ บางกลุ่มมกี ารสืบพนั ธุเ์ ฉพาะแบบไมอ่ าศยั เพศเท่าน้ัน เช่น เหด็ ชนดิ ตา่ ง ๆ รา และยสี ต์ เป็ นต้น

57 การใช้ยาฆา่ แมลงในการเกษตร การรุกลา้ เข้าไปในพนื้ ทท่ี มี่ คี วาม หลากหลายทางชีวภาพ

57 การทาลายป่ า การล่าสัตว์

58 การตดั ตอ่ หน่วยพนั ธุกรรมหรือ จีเอ็มโอ (Genetically Modified Organism : GMO ส่งิ มชี ีวติ แต่ละสปี ชีสจ์ ะมลี ักษณะเดน่ เฉพาะ ซง่ึ แตกตา่ งไปจากสปี ชีสอ์ ่นื

58

หน่วยท่ี เทคโนโลยชี ีวภาพ

72 Biotechnology หมายถึง การใช้ความรู้เกยี่ วกับสง่ิ มชี วี ติ เพอื่ สร้างผลติ ภณั ฑ์ และบริการทเ่ี ป็ นประโยชนต์ อ่ มนุษย์ นามาใช้ประโยชนใ์ นดา้ นตา่ ง ๆ ทง้ั ด้านการเกษตร ด้านอุตสาหกรรม ดา้ นการแพทย์ ด้านสาธารณสุข และดา้ นการผลิตแหล่งพลังงาน

72 ทาการผสมและปลูกคัดเลอื กเพอ่ื ปรับปรุงพนั ธุ์ ผลผลติ ดไี มต่ า้ นโรค เลือกต้นทผี่ ลผลิตดแี ละต้านโรค ผสม ทาการปรับปรุงพนั ธุเ์ พอื่ คัดเลอื ก ต้นลูก ผลผลิตไมด่ ตี า้ นโรค ไดพ้ ชื ผลผลติ ดแี ละตา้ นโรค ตรวจวเิ คราะหด์ เี อน็ เอเพอื่ ปรับปรุงพันธุ์

76 อุตสาหกรรมยา อาหาร เคมภี ัณฑต์ า่ งๆ

77 การผลิตแก๊สชวี ภาพจากนา้ เสยี จากโรงงาน

79 พันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering) หมายถงึ กระบวนการเปลี่ยนแปลงสายพันธุกรรมเพอื่ ใหไ้ ด้สง่ิ มชี วี ิตใหม่ทม่ี ี คุณสมบัตติ ามทต่ี ้องการ โดยกระบวนการตดั ต่อดเี อ็นเอจากสง่ิ มชี วี ิตชนิดหนงึ่ แล้วนาไปเชือ่ มตอ่ กับดเี อ็นเอของ สิง่ มชี วี ิตอีกชนิดหน่งึ ทาใหเ้ กิดดเี อน็ เอลูกผสม

79 ใช้ในการปรับปรุงพันธุพ์ ชื เช่น ทาใหพ้ ชื มคี วามต้านทานตอ่ ยาปฏชิ ีวนะและยาฆา่ แมลง ทนความเคม็ และมคี วามแขง็ แรง เป็ นต้น ใช้ในการปรับปรุงสายพนั ธุแ์ บคทเี รีย เช่น เปลย่ี นแบคทเี รียทที่ าลายพชื ใหส้ ามารถทาความสะอาดคราบนา้ มนั ได้ ใช้ฮอรโ์ มนเพมิ่ การเจริญเตบิ โตในคนเตยี้ แคระใหแ้ คระสูงขนึ้ ใช้ในทางการแพทย์ เช่น สร้างวัคซนี ป้องกันโรคตับอักเสบ วัคซนี ป้องกันโรค ปากเทา้ เป่ื อยในสัตว์ และวัคซนี ป้องกันโรคกลัวนา้ เป็ นตน้ การนาฮอรโ์ มนใส่ในวัวเพอ่ื ใหว้ ัวผลติ นา้ นมมาก แตพ่ บว่าฮอรโ์ มนไปดูดซับเอาแคลเซยี มจากกระดูก ทาใหโ้ ครงกระดกู วัวทรุด การนาฮอรโ์ มนเร่งการเจริญเตบิ โตของมนุษยใ์ ส่ใหก้ ับหมูเพอื่ ใหห้ มมู ขี นาดใหญ่ขึน้ แตพ่ บว่าหมสู ายตาไม่ดี ข้อตอ่ อักเสบ เป็ นแผลในกระเพาะอาหาร กล้ามเนือ้ อ่อนล้า เฉ่อื ยชา และไร้สมรรถภาพทางเพศ

80 ไข่ อสุจิ ผสมเชอื้ คนใหเ้ ข้ากัน รีดไข่แมพ่ นั ธุ์ รีดนา้ เชือ้ พอ่ พนั ธุ์ ไข่ปลา ครั้งท่ี 1 ครั้งท่ี 2 คร้ังที่ 3 ใส่นา้ ใหท้ ว่ มทงิ้ ไว้ 1-2 นาที รินนา้ ทงิ้ ทา 2-3 ครั้ง ไข่ทผ่ี สมแล้วนาไปพักไว้ 1-2 วัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook