ประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน คำช้แี จง : สงั เกตลกั ษณะของการนำเสนอผลงานทนี่ ักเรียนสรา้ งขึน้ แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนน แบบการ สอดคล้องกับ ความคิด การจดั การสรปุ ผล ลำดบั ชอ่ื -สกุล บันทกึ ผล เนอ้ื หา สรา้ งสรรค์ใน กระทำข้อมลู การทำ รวม กลุ่ม ของผรู้ ับการประเมนิ การทำ การนำเสนอ และการ กจิ กรรม กจิ กรรม 20 คะแนน นำเสนอ 4321 4321 432 14321 4321 ลงชื่อ........................................... ผูป้ ระเมนิ (_______________________) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์กำรตดั สินคุณภำพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภำพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 2 คะแนน 18 – 20 ดีมาก ให้ 1 คะแนน 14 – 17 ดี ต่ากวา่ 14 ปรบั ปรุง เกณฑ์ รอ้ ยละ 70 ( 14 คะแนน ) ผา่ นเกณฑ์
แบบสังเกตการทำกจิ กรรมของนกั เรยี นรายกลมุ่ คำชแ้ี จง : สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน มสี ่วนรว่ ม ยอมรบั ฟงั มเี หตุผลใน ความมี การดูแล รวม ในการแสดง ความ การทำงาน นำ้ ใจ และการเกบ็ 20 ลำดับ ท่ี ความ คิดเห็นของ ร่วมกบั ผอู้ ื่น อปุ กรณ์ คะแนน และ/หรอื ชอ่ื -สกลุ คิดเหน็ ผอู้ ืน่ อย่าง ของผรู้ บั การประเมิน สร้างสรรค์ เคร่ืองมอื 4321 4321 432 14321 4321 ลงช่ือ........................................... ผปู้ ระเมิน (_______________________) เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน 18 – 20 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 14 – 17 ดี ต่ากว่า 14 ปรบั ปรุง เกณฑ์ ร้อยละ 70 ( 14 คะแนน ) ผา่ นเกณฑ์
บันทึกหลงั สอน 1. ผลการสอน สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มจี ุดประสงค์ K P A มีการบูรณาการ คุณธรรม / การตา้ นการทุจริต / หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก .......................................................................... ....................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรค กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา มีนกั เรียนทไี่ มส่ นใจเรียน อืน่ ๆ ............................................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เร่ือง ...................................................................................................... ....................................................................................................................................................... แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนทีไ่ ม่ผ่านการประเมนิ /ไม่สนใจเรียน ให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั เพิ่มเติม โดยให้เพื่อนในชน้ั เรียนชว่ ยกันอธิบายให้นักเรยี นเขา้ ใจใน เนื้อหาทีเ่ รียน ครบู วกคะแนนเพ่ิมให้นกั เรยี นท่ีสอนใหเ้ พ่ือนจนเข้าใจเนอ้ื หาท่เี รียน เพอ่ื เปน็ การ เสรมิ แรงทางบวก ไม่มีขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ........................................... ผู้บันทึก ( นางสาวจันธิรัตน์ หมานจิตร) ครูผู้สอน
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 8 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง การดำรงชีวิตของพชื บทที่ 1 การสืบพันธแุ์ ละการขยายพันธ์ขุ องพืชดอก เวลา 3 ชวั่ โมง โรงเรยี นทปี ราษฎรพ์ ทิ ยา เรือ่ ง การขยายพันธขุ์ องพชื ดอก ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 ผ้สู อน นางสาวจนั ธิรัตน์ หมานจิตร วนั ที่สอน ............เดอื น…………………พ.ศ.……… สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 สงิ่ มชี วี ิตกับกระบวนการดำรงชีวติ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของสง่ิ มชี ีวิต หน่วยพืน้ ฐานของสิ่งมีชวี ติ การลำเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนษุ ย์ท่ีทำงานสัมพนั ธก์ นั ความสมั พนั ธ์ ของโครงสร้างและหนา้ ทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ทที่ ำงานสมั พันธ์กนั รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตัวช้ีวัด 1. ว 1.2 ม.1/16 เลอื กวิธกี ารขยายพนั ธพุ์ ชื ให้เหมาะสมกับความตอ้ งการของมนุษย์ โดยใช้ความรู้ เกยี่ วกับการสืบพนั ธ์ุของพืช 2. ว 1.2 ม.1/17 อธบิ ายความสำคัญของเทคโนโลยกี ารเพาะเล้ยี งเนอ้ื เยื่อพชื ในการใชป้ ระโยชน์ด้าน ตา่ ง ๆ 3. ว 1.2 ม.1/18 ตระหนักถงึ ประโยชน์ของการขยายพนั ธพุ์ ืช โดยการนำความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจำวนั ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง 1. อธิบายความสำคัญของเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเน้อื เยื่อพืชในการใช้ประโยชน์ดา้ นตา่ งๆ ได้ (K) 2. เลอื กวิธีการขยายพันธพ์ุ ชื ให้เหมาะสมกับความต้องการของมนษุ ย์ได้ (P) 3. ตระหนักถึงประโยชน์ของการขยายพนั ธ์ุพืช โดยการนำความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ (A) 4. เป็นคนช่างสังเกต ช่างคิด ชา่ งสงสัย และเปน็ สามารถทำงานรว่ มกับผอู้ นื่ ได้ (A) สาระสำคัญ การขยายพนั ธุ์โดยใชส้ ว่ นตา่ ง ๆ หมายถึง การขยายพันธุโ์ ดยการใช้ส่วนต่าง ๆ เชน่ ราก ใบ กง่ิ กา้ น ลำต้น เหงา้ หัว ไหล และหนอ่ เปน็ ตน้ ซงึ่ สามารถทำไดห้ ลายวิธี ได้แก่ การปกั ชำ การตอนการเสยี บยอด การ ตดิ ตา การทาบก่งิ การแบง่ การแยก และการเพาะเลียงเนอ้ื เยื่อ เป็นตน้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1. การขยายพันธุ์พชื
สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ - สมรรถนะ 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน - การประเมินผลรวบยอด 1. มคี วามสามัคคีและสามารถทำงานรว่ มกับส่วนรว่ มได้อยา่ งมคี วามสุข 2. มีความสามารถในการนำเสนอผลงานไดอ้ ยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (1 ช่วั โมง) ขัน้ ที่ 1 ขน้ั สร้างความสนใจ (engagement) (10 นาท)ี นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถามดงั ต่อไปนี้ เพอ่ื กระตุ้นความรู้ 1. การขยายพันธ์พุ ชื คอื อะไร ? (แนวคำตอบ : การเพ่มิ จำนวนต้นพชื ใหม้ ีปรมิ าณมากขนึ้ เพอ่ื ดำรง สายพนั ธ์ุ พชื ชนิดต่าง ๆ ไว้ไมใ่ หส้ ูญพันธ)ุ์ 2. ครูใหน้ กั เรยี นรบั กระดาษคนละ 1 ใบ จากน้นั ครูตั้งคำถามว่า หากนกั เรียนต้องการเพ่มิ จำนวน ขยายของพันธุ์ของพชื นกั เรยี นจะขยายพนั ธ์พุ ชื ด้วยวิธใี ดไดบ้ า้ ง (แนวคำตอบ : เพาะเมล็ด การตอนกิ่ง ปักชำ ทาบกิ่ง เป็นตน้ ) 3. นักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นคำตอบตามความคดิ ของตนเอง จากนน้ั ครูบอกให้นักเรยี นขยำกระดาษเป็น กอ้ นกลม แลว้ ปากระดาษไปใหเ้ พอ่ื นคนใดก็ได้ จากน้นั ให้นักเรยี นหยิบกระดาษท่ีไมใ่ ชข่ องตนเองแลว้ เปดิ อา่ น คำตอบของเพ่อื น 4. ครูส่มุ นกั เรียน 3-4 คน ให้อ่านคำตอบในกระดาษทต่ี นเองถอื ใหเ้ พ่อื นฟงั 5. ครูแจง้ วตั ถุแระสงค์ใหน้ กั เรยี นทราบเพอื่ เป็นแนวทางในการทำกิจกรรมการเรียนรขู้ องนักเรยี น ข้ันที่ 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (exploration) (20 นาที)
1. นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 4-5 คน จากนั้นนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มศึกษาเรอ่ื ง วธิ ีการขยายพนั ธุโ์ ดยวิธี ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ การเพาะเมล็ด การปกั ชำ การตอนกงิ่ การติดตา การเสยี บยอด และการทาบก่ิง ในหนังสอื เรยี น วทิ ยาศาสตร์ 2. นกั เรียนแต่ละกล่มุ นำความรูท้ ่ีได้จากการศึกษาหรือสบื ค้นมานำเสนอในรปู แบบเปน็ แผนผงั ความคิด ขั้นท่ี 3 ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation) (10 นาท)ี 1. ตัวแทนนักเรียนแตล่ ะกล่มุ นำเสนอแผนผังความคิด เรอื่ ง วิธกี ารขยายพนั ธ์โุ ดยวิธีต่างๆ ตามเรอ่ื งท่ี นักเรยี นสนใจหนา้ ช้ันเรยี น เพอ่ื เปรยี บเทียบและตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายและแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ผลการทำกิจกรรม โดยนกั เรียนถามคำถาม ทส่ี งสัยดว้ ยการถามเพ่อื นโดยไม่จำเป็นต้องถามครอู ยา่ งเดยี ว ข้ันที่ 4 ขัน้ ขยายความรู้ (elaboration) (5 นาที) 1. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั หรอื ส่ิงทอ่ี ยากร้เู พมิ่ เติม เกี่ยวกบั การสบื พนั ธ์ของพืช 2. ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ เกีย่ วกับการขยายพันธุโ์ ดยใช้สว่ นตา่ งๆของพืช ดงั นี้ 1. ใช้ลำต้นในการขยายพนั ธุ์ 1.1 ลำตน้ ทอดนอนไปเหนือพืน้ ดนิ หรือผิวน้ำ เรยี กว่า ไหล ตัวอยา่ งพืช สตรอเบอร์ร่ี, ผักตบชวา, บัว เปน็ ตน้ 1.2 ลำต้นใต้ดินทำหน้าที่สะสมอาหาร เรียกว่า หัว ตัวอยา่ งพืช มันฝรง่ั , หัวหอม, มันแกว, มัน สำปะหลัง กระชาย เป็นตน้ 1.3 ลำต้นใต้ดินทอดขนานไปใต้ผิวดิน เรียกวา่ เหง้า ตัวอยา่ งพืช ขา่ , ขิง, ขม้นื เป็นตน้ 1.4 ลำต้นเจริญเป็นกอ เรียกวา่ หนอ่ ตวั อย่างพืช สบั ประรด, กล้วย, ไผ่ เป็นต้น 2. ใชใ้ บในการขยายพันธ์ุ ตวั อยา่ งพชื เศรษฐีเงนิ ล้าน, โคมญี่ปนุ่ , ตน้ ตายใบเป็น เป็นต้น 3. ใชร้ ากในการขยายพนั ธ์ุ ตัวอย่างพืช มนั เทศ, ปีบ เป็นต้น ขนั้ ที่ 5 ขั้นประเมนิ (evaluation) (15 นาที) นักเรยี นตอบคำถามจากแบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง การสบื พันธ์ขุ องพืช
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (2 ช่วั โมง) ขน้ั ที่ 1 ขน้ั สร้างความสนใจ (engagement) (20 นาที) นักเรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามดังตอ่ ไปนี้ เพอื่ กระตนุ้ ความรู้ 1. การสืบพันธ์แุ บบไม่อาศยั เพศ คืออะไร ? (แนวคำตอบ : คอื การสบื พันธ์ทุ ีไ่ มต่ ้องใชเ้ ซลล์ สืบพนั ธุ์ แตใ่ ช่ส่วนอื่นต่างๆ ของพืชขยายพนั ธ์แุ ทน) 2. ยกตวั อยา่ งพชื ทม่ี ีการขยายพนั ธ์ุทีน่ กั เรยี นได้เรยี นไปคาบทแ่ี ล้ว ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง ? (แนวคำตอบ : - การแตกหน่อ (budding) ไดแ้ ก่ หน่อกลว้ ย ไผ่ กลว้ ยไม้ เปน็ ต้น - การตอนกง่ิ (marcotting) ได้แก่ กุหลาบ มะมว่ ง ส้ม เงาะ เปน็ ตน้ - การตดิ ตา (budding) ได้แก่ กหุ ลาบ ยางพารา เปน็ ตน้ - การทาบกิง่ (grafting) ไดแ้ ก่ มะมว่ ง ทเุ รยี น เป็นต้น - การปกั ชำ (cutting) ได้แก่ ชบา เฟ่ืองฟา้ เปน็ ต้น เป็นต้น) ขน้ั ที่ 2 ขนั้ สำรวจและคน้ หา (exploration) (30 นาท)ี 1. ครสู มุ่ เลือกนักเรยี น 1 คน ออกมาอ่านขา่ วการใชเ้ ทคโนโลยีชวี ภาพสำหรับพชื ให้เพอื่ นฟัง 2. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ ขา่ วทเ่ี พ่ือนอ่าน และการใช้เทคโนโลยชี ีวภาพสำหรับพืชในปัจจบุ ัน ตามหัวข้อตอ่ ไปนี้ - เหตุใดตอ้ งมีการใช้เทคโนโลยีชีวภาพสำหรบั พชื - ประโยชน์ของการใชเ้ ทคโนโลยีชีวภาพสำหรับพชื - วธิ กี ารทางเทคโนโลยีชวี ภาพสำหรับพืชท่นี กั เรยี นรจู้ ัก 3. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน โดยแต่ละคนมหี มายเลขประจำตวั 1, 2, 3, 4 และ 5 เรยี กว่า กลมุ่ บา้ น 4. ครูแจ้งกติกาให้สมาชิกทกุ กลมุ่ ทราบ ดงั น้ี · ผูท้ มี่ ีหมายเลขเดียวกันของทุกกล่มุ ใหแ้ ยกมารวมกลุ่มตามหมายเลข เรยี กวา่ กลมุ่ ผเู้ ช่ยี วชาญ · ใหต้ ัวแทนกลุ่มผเู้ ช่ียวชาญมารบั ใบความรู้ที่ 13.1 เทคโนโลยีชวี ภาพสำหรับพืชในเรือ่ งต่างๆ ดังนี้ - การผสมพนั ธ์ุและการคัดเลอื กพันธุ์ - การเพาะเลย้ี งเนอื้ เยือ่ แบบต่างๆ - อาหารเลีย้ งเนือ้ เยือ่ พชื - พันธุวิศวกรรม
· ใหส้ มาชกิ กล่มุ ผู้เชย่ี วชาญศึกษาใบความรู้ และแสดงความคิดเห็นร่วมกนั 5. สมาชิกกลมุ่ บ้านแยกย้ายเขา้ กลมุ่ ผ้เู ชีย่ วชาญ 6. เมือ่ สมาชกิ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญศกึ ษาใบความรู้ตามเวลาทก่ี ำหนดไวแ้ ล้ว ให้สมาชิกแต่ละคนกลบั ไปเข้า กลมุ่ บา้ น 7. สมาชกิ ท่กี ลบั เขา้ กล่มุ บ้าน นำความรู้ท่ไี ด้ศึกษาจากกลุม่ ผู้เช่ียวชาญถ่ายทอดให้สมาชกิ ในกลุม่ บ้าน ของตนเองฟังจนครบทกุ เร่ือง 8. นักเรยี นทำใบงาน เรอ่ื ง เทคโนโลยชี ีวภาพสำหรับพชื 9. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรปุ เรอื่ ง เทคโนโลยีชวี ภาพสำหรบั พืช ขั้นท่ี 3 ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (explanation) (30 นาที) ตัวแทนนักเรยี นทุกกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาหน้าชน้ั เรยี น ร่วมกันอภปิ รายสรปุ เรอื่ ง เทคโนโลยชี วี ภาพสำหรับพชื ข้ันท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (elaboration) (20 นาท)ี นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายคำถามดังตอ่ ไปนี้ เพ่อื ต่อยอดความรู้ 1. แนวโนม้ การใช้การควบคุมทางชวี ภาพในอนาคต ตามความคดิ เห็นของกลมุ่ โดยสง่ ครูเปน็ ผลงาน ในคาบหน้า 2. ครเู น้นยำ้ ให้นกั เรยี นเห็นความสำคัญของเทคโนโลยชี วี ภาพ และนำไปปรบั ใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ใน ชีวิตประจำวัน ขนั้ ท่ี 5 ข้ันประเมนิ (evaluation) (20 นาท)ี นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ในหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หนา้ 196-199 การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธวี ัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน - ใบงาน เรือ่ ง -รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์ 1. อธบิ ายความสำคญั ของ - นักเรียนทำใบงาน เร่อื ง เทคโนโลยีชีวภาพสำหรบั ( 7 คะแนน ) ผา่ นเกณฑ์ พืชในเร่ืองต่างๆ เทคโนโลยีการเพาะเล้ียง เทคโนโลยชี วี ภาพสำหรบั - แบบทดสอบหลังเรยี น เนอ้ื เยอ่ื พืชในการใชป้ ระโยชน์ พชื ในเร่อื งต่างๆ ดา้ นตา่ งๆ ได้ (K) - นักเรียนทำแบบทดสอบ
หลังเรยี น เร่ือง การ เรื่อง การสบื พนั ธ์ุของพืช สืบพันธ์ขุ องพชื - แผนผังความคดิ เรื่อง 2. เลือกวธิ ีการขยายพันธุ์พืช - นกั เรียนทำแผนผัง การขยายพนั ธ์ุพืช ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ ให้เหมาะสมกับความต้องการ ความคดิ เรอื่ ง การ ( 14 คะแนน ) ผ่านเกณฑ์ ของมนุษย์ได้ (P) - แบบสงั เกตการทำ 3. ตระหนักถงึ ประโยชนข์ อง ขยายพนั ธพุ์ ชื กจิ กรรมของนกั เรยี นราย ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ การขยายพันธ์พุ ชื โดยการนำ - สงั เกตการทำกิจกรรม ( 14 คะแนน ) ผา่ นเกณฑ์ ความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ของนักเรียนรายกลุ่ม กลุ่ม ได้ (A) - ประเมินผลการนำเสนอ - แบบประเมินผลการ 4. เป็นคนชา่ งสังเกต ชา่ งคิด ชา่ งสงสัย และเปน็ สามารถ ผลงาน นำเสนอผลงาน ทำงานร่วมกบั ผ้อู นื่ ได้ (A) สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 2. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสบื พันธขุ์ องพชื 3. ข่าวการใชเ้ ทคโนโลยีชีวภาพสำหรับพืช 4. ใบความรู้ เรอ่ื ง เทคโนโลยชี วี ภาพสำหรับพืชในเรื่องต่างๆ 5. ใบงาน เรอื่ ง เทคโนโลยีชีวภาพสำหรับพืชในเรื่องต่างๆ
แบบทดสอบ คำชีแ้ จง เร่ือง การสบื พันธขุ์ องพชื แบบไม่อาศยั เพศ จากภาพนกั เรียนจงตอบคำถาม ดังต่อไปนี้ให้ถกู ต้อง (10 คะแนน) 1. การปกั ชำ คอื …………………………………………………………………………………………………………………….................…………...................................… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........................……… 2. การตอนกิ่งคอื ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………............……. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ......................… 3. การตดิ ตา คือ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...........……… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………....................... 4. การเสยี บยอด คอื ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...........……... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….......................… 5. การทาบก่ิง คอื ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ........................… ช่ือ ……………………………...…………..……… ม.1/…. เลขท…่ี ….. ชอ่ื ...............................................................................................เลขที่............ชัน้ ................
ประเมนิ ผลการนำเสนอผลงาน คำช้แี จง : สงั เกตลกั ษณะของการนำเสนอผลงานทีน่ กั เรยี นสรา้ งขนึ้ แล้วขีด ✓ ลงในช่องระดับคะแนน แบบการ สอดคล้อง ความคิด การจดั การสรุปผล ลำดบั ชอ่ื -สกุล บันทึกผล กบั เนอ้ื หา สร้างสรรค์ กระทำ การทำ รวม กลมุ่ ของผู้รบั การประเมนิ การทำ ในการ ขอ้ มลู กจิ กรรม กจิ กรรม นำเสนอ และการ 20 คะแนน นำเสนอ 4321 4321 432143214321 ลงชือ่ ........................................... ผปู้ ระเมนิ (_______________________) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์กำรตัดสินคณุ ภำพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ ให้ 2 คะแนน 18 – 20 ดีมาก ให้ 1 คะแนน 14 – 17 ดี ต่ากว่า 14 ปรับปรุง เกณฑ์ ร้อยละ 70 ( 14 คะแนน ) ผา่ นเกณฑ์
แบบสังเกตการทำกจิ กรรมของนักเรียนรายกลุ่ม คำชี้แจง : สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดับคะแนน มสี ่วนร่วม ยอมรบั ฟัง มเี หตุผลใน ความมี การดูแล รวม ในการ ความ การทำงาน นำ้ ใจ และการ 20 ลำดับ ท่ี ชอ่ื -สกุล แสดงความ คิดเหน็ ของ รว่ มกับ เก็บ คะแนน คดิ เห็น ผอู้ นื่ ผอู้ ่นื อยา่ ง อปุ กรณ์ และ/หรือ ของผูร้ บั การประเมนิ สรา้ งสรรค์ เครือ่ งมอื 4321 4321 432 14321 4321 ลงช่ือ........................................... ผปู้ ระเมิน (_______________________) เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์กำรตดั สินคณุ ภำพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภำพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั ให้ 2 คะแนน 18 – 20 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 14 – 17 ดี ต่ากว่า 14 ปรบั ปรุง เกณฑ์ รอ้ ยละ 70 ( 14 คะแนน ) ผา่ นเกณฑ์
บันทึกหลงั สอน 1. ผลการสอน สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มจี ุดประสงค์ K P A มีการบูรณาการ คุณธรรม / การตา้ นการทุจริต / หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก .......................................................................... ....................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรค กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา มีนกั เรียนทไี่ มส่ นใจเรียน อืน่ ๆ ............................................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เร่ือง ...................................................................................................... ....................................................................................................................................................... แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนทีไ่ ม่ผ่านการประเมนิ /ไม่สนใจเรียน ให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั เพิ่มเติม โดยให้เพื่อนในชน้ั เรียนชว่ ยกันอธิบายให้นักเรยี นเขา้ ใจใน เนื้อหาทีเ่ รียน ครบู วกคะแนนเพ่ิมให้นกั เรยี นท่ีสอนใหเ้ พ่ือนจนเข้าใจเนอ้ื หาท่เี รียน เพอ่ื เปน็ การ เสรมิ แรงทางบวก ไม่มีขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ........................................... ผู้บันทึก ( นางสาวจันธิรัตน์ หมานจิตร) ครูผู้สอน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113