Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โรคกรรมผลจากการฆ่าและเบียดเบียนสัตว์

โรคกรรมผลจากการฆ่าและเบียดเบียนสัตว์

Published by Thalanglibrary, 2020-12-19 04:11:31

Description: โรคกรรมผลจากการฆ่าและเบียดเบียนสัตว์

Keywords: ธรรม

Search

Read the Text Version

โรคกรรม ๙๔ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ ผลกรรมจากการฆา่ หมู๑๑ ขนจนหมด แลว้ ใชด้ าบเชือดคอ เอาชามรอง เลอื ดไว้ ใชม้ ดี หน่ั เนอื้ เป็นช้ินๆ คลุกเคลา้ ด้วย ในคัมภรี อ์ รรถกถา ธรรมบท เร่อื งนาย เลือดหมู แลว้ นามาป้งิ น่งั รับประทานกบั ลกู เมีย จุนทสกู รกิ ไดก้ ล่าวถึงผลกรรมจากการฆา่ หมู บางสว่ นกเ็ ก็บไว้ทาน บางส่วน ก็ขาย เขาทาอยู่ ของนายจุนทะผโู้ หดเหย้ี มอาหิต จติ มืดบอด ไมร่ ู้ อยา่ งนี้ประมาณ ๕๕ ปี แม้พระพุทธเจ้า บาปบุญคุณโทษ เกิดมาเพือ่ มาสรา้ งบาปกรรม ประทับอยู่ในวดั พระเชตวนั ไมไ่ กลจากบา้ น กระทาเวรโดยเฉพาะ บุญสักนิดหนง่ึ ก็ไมเ่ คยทา เขากต็ าม แตเ่ ขาก็ไม่เคยคดิ ทีจ่ ะเอาดอกไม้ อย่างน้ีหละหนอ พระท่านจงึ บอกวา่ สริ กิ ับ ไปสกั การบูชา หรือไม่เคยคิดท่ีจะนาอาหาร กาลกรรณี ย่อมเขา้ กันไมไ่ ด้ คนชั่ว มองเห็น ไปถวาย เขาไมเ่ คยทาบุญกศุ ลสกั อยา่ งในชัว่ คนดเี ปน็ คนชั่ว แมต้ วั อย่ใู กล้ ก็มองไม่เหน็ ความ ชวี ติ นี้ นอกจากฆ่าและขายหมูเลยี้ งครอบครัว ดีของบณั ฑิต เขาทาอาชีพฆ่าหมูขายไมน่ าน เมอื่ บญุ ไมม่ าห้าม บาปกรรม จึงมาตามสนอง ตอ่ มาไม่นาน ผลกรรมจากการฆ่าหมเู รม่ิ ตอ้ งตกนรกทัง้ เปน็ ขอท่านผใู้ ฝ่ธรรม โปรด สง่ ผล ทาใหเ้ ขาลม้ ปว่ ยอยา่ งหนัก ทาให้เรา้ ร้อน อ่านใหด้ ี เร่ืองมีดังนี้ ทรุ นทรุ าย ทุกคร้ังท่ีหลบั ตา จะเกิดภาพหมู และ ไฟนรกมาหลอกหลอนในใจเขาเหมอื นเขา นายจุนทะ มอี าชพี เล้ยี งหมขู าย บางครัง้ จะต้องไปตกอเวจมี หานรก ก็ฆ่าเพ่อื เป็นอาหาร ในเวลาข้าวยากหมากแพง เขาไดข้ ับเกวยี นบรรทกุ ขา้ วเปลอื กมุ่งหนา้ ไป ตามธรรมดาของความเรา่ รอ้ นในอเวจี บ้านนอก เพอ่ื เอาไปแลกกบั ลกู เมอ่ื ไดม้ าแลว้ ก็ นรก ทาใหค้ นท่ยี นื มองดปู ระมาณ ๑๐,๐๐๐ เลี้ยงไว้ในคอกขา้ งหลงั บา้ น โดยปลกู ผกั ไว้ กโิ ลเมตร ตาบอดได๑้ ๒ สาหรบั ใชเ้ ป็นอาหารลูกหมเู่ หลา่ นนั้ เมือ่ ลกู หมู โตแลว้ เขาอยากจะฆา่ ตวั ใด กจ็ บั มัด เอาค้อน ๔ พระนาคเสนเถระไดเ้ ปรียบเทียบความเร่าร้อน เหลย่ี มทุบหัว เอามอื ง้างปาก สอดไมเ้ ขา้ ไปใน ของอเวจนี รก ให้กับพระยามลนิ ท์ฟงั วา่ ปาก เทน้ารอ้ นทีก่ าลงั เดอื ดพลา่ น เขา้ ไปในปาก “มหาบพิตร แผ่นหนิ มหึมาประมาณเทา่ เรือน ทาให้ขบั มูลมนั ออกมาจนลาไส้สะอาด เสรจ็ แลว้ ยอด ท่ีทมุ่ ไปในไฟนรก จะถูกหลอมละลาย เทน้าร้อนลาดหลงั ใหห้ นงั ดาหลดุ ออก เอาไฟลน หายไปชัว่ พริบตา แต่สัตว์ทเี่ กิดในอเวจีนรกจะ ไม่เปน็ อันตรายเหมือนกับอยู่ในครรภม์ ารดา ๑๑ พระไตรปิฎก เลม่ ๒๕ ขุททกนกิ าย ธรรมบท (มจร.แปล) เพราะกาลงั แหง่ กรรม” หน้า ๒๘ และอรรถกถา เรื่องนายจนุ ทสูกริก ๑๒ ดรู ายละเอียดใน เทวทูตสูตร พระไตรปิฎก เลม่ ๑๔ มชั ฌมิ นิกาย อุปรปิ ณั ณาสก์ (มจร.แปล)หน้า ๓๐๙-๓๑๘

โรคกรรม ๙๕ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสัตว์ เมือ่ บาปกรรม สง่ ผล ทาใหเ้ ขาเกดิ อาการเรา่ รอ้ น ท่วั บ้าน เปน็ เวลา ๗ วนั วนั นี้เปน็ วนั ที่ ๘ เขาเพ่ิง ทว่ั ร่างกายและเกดิ ภาวะหวาดกลวั อยา่ งมาก ตาย แล้วไปเกิดในอเวจ”ี จนเขาร้องครวญครางเหมอื นหมู คลานไปมาทัว่ เรอื น เพ่ือนบา้ นรอบๆกห็ นวกหู นอนไมไ่ ด้ เมอ่ื พวกภิกษุกราบทลู วา่ “ขา้ แต่ เหมอื นกัน ลกู เมียพน่ี อ้ งของเขาอดสงสาร พระองคผ์ เู้ จริญ ในโลกนี้ ก็เขาเศร้าโศกเสยี ใจ เพราะทนดไู มไ่ ด้ จับเขามดั และเอาผา้ ปดิ ปาก ทุกขท์ นหมน่ ไหม้ ตายไปแลว้ ยงั จะไปเกิดใน เมือ่ กรรมส่งผล ไม่มีใครจะห้ามได้ เมือ่ คน อบายภูมิท่ีเรา่ รอ้ นเชน่ กนั อกี หรอื พระเจ้าข้า” ในบา้ นราคราญและหนวกหู พร้อมทง้ั เขาชอบ ตรสั วา่ “ อยา่ งน้นั ภกิ ษทุ งั้ หลาย ช่ือวา่ ผู้ คลานออกไปข้างนอกตวั บา้ นด้วย จึงจับเขา ประมาทแลว้ (ทาบาปกรรมไว้) เป็นคฤหสั ถก์ ็ ผูกมัดไว้ภายนอก เขายังส่งเสยี งร้องเหมอื นหมู ตาม บรรพชิตก็ตาม ย่อมเศรา้ โศกหมองไหม้ใน คลานไปข้างโน้นขา้ งนี้ ๗ วัน ในวันที่ ๘ เขาก็ได้ โลกท้ังสองแนน่ อน” แลว้ ตรัสพระคาถานีว้ า่ ตายอยา่ งทรุ นทรุ าย แล้วไปเกดิ ในอเวจมี หานรก ผู้ทาบาปเปน็ ปกติ ย่อมเศรา้ โศกในโลกนี้ พวกภกิ ษเุ ดินไปทางประตบู า้ นของเขา ละไปแลว้ ย่อมเศร้าโศก ได้ยนิ เสยี งรอ้ งของเขา ก็คดิ ว่า “เสียงหมรู อ้ ง” ย่อมเศรา้ โศกในโลกทั้งสอง กลบั ไปวัด ไดก้ ราบทูลถามพระศาสดาวา่ “ขา้ เขาเหน็ กรรมเศรา้ หมองของตนแล้ว แตพ่ ระองค์ผเู้ จริญ นายจนุ ทะปิดประตบู ้านฆ่า ย่อมเศรา้ โศก เขายอ่ มเดอื ดรอ้ น หมู วันนีเ้ ปน็ วันท่ี ๗ เขาคงจดั งานมงคลอะไร สกั อย่าง ข้าแต่พระองคผ์ ้เู จรญิ ก็เมือ่ เขาฆา่ หมู อานสิ งสแ์ หง่ การรกั ษาศลี อุโบสถ มาตลอดชวี ติ ขนาดนี้ แลว้ จะมีความเมตตา กรุณาไดอ้ ยา่ งไร ขา้ พระองค์ทงั้ หลายไมเ่ คยเหน็ “ภิกษุทงั้ หลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ที่ บคุ คลอยู่จาแลว้ ย่อมมีผลมาก มีอานสิ งสม์ าก มคี วามรงุ่ เรืองมาก ใครทจ่ี ะโหดร้ายใจหยาบขนาดนี้มาก่อน” แผ่ไพศาลมาก คอื อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เหน็ ประจักษ์ ดงั นี้วา่ พระศาสดาตรสั ว่า “ภิกษุท้งั หลาย ๗ พระอรหนั ตท์ ั้งหลายละเว้นขาดจากการฆ่าสตั ว์ คอื วางอาวธุ ทกุ ชนดิ มคี วามละอาย มคี วามเอ็นดู ม่งุ ประโยชน์เกอ้ื กลู ต่อ สรรพ วันทีผ่ ่านมานั้น เขาไม่ไดฆ้ ่าหมอู ะไรหรอก แต่ สัตว์อย่ตู ลอดชีวติ แมเ้ ราก็ละเวน้ ขาดจากการฆา่ สตั ว์ คอื เขาได้รับผลกรรมจากการฆ่าหมูต่างหาก วางทัณฑาวธุ และศัสตราวุธ มีความละอาย มคี วามเอ็นดู มุ่ง ความเรา่ ร้อนในอเวจีมหานรกปรากฏแก่เขาท้งั ประโยชน์ เกือ้ กลู ต่อสรรพสตั ว์อยู่ ตลอดวนั หนง่ึ และคืนหน่งึ นใี้ น เป็นทเี ดียว เพราะเขาเร่ารอ้ นทรุ นทรุ ายปวดแสบ วนั นี้ เพราะองค์แมน้ ี้ เราชอ่ื วา่ ทาตามพระอรหันต์ทั้งหลายและอยู่ แสนสาหสั เขาจงึ ส่งเสยี งร้องเหมือนหมูคลาน จาอุโบสถ สงั ขติ ตโุ ปสถสตู ร พระไตรปิฎก เลม่ ๒๓ องั คุตตรนิกาย อฏั ฐกนิบาต หนา้ ๓๐๓

โรคกรรม ๙๖ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ กรรมทาให้ถกู ไฟคอกตาย๑๓ ถวายอภวิ าทแล้วนงั่ ณ ท่ีสมควร ได้กราบทลู พระผมู้ ีพระภาคดงั น้ีวา่ “ข้าแต่พระองคผ์ เู้ จรญิ ในอุเทนสตู รและอรรถกถาธรรมบท ขอประทานวโรกาส เมื่อพระเจา้ อเุ ทนเสด็จ เรื่องพระนางสามาวดี ไดก้ ลา่ วถึงผลกรรมท่ี ประพาสพระราชอทุ ยาน ภายในพระราชวังถกู ถูกไฟคอกตาย ๑๐๐ ชาตขิ องพระนางสามาวดี ไฟไหม้ หญิง ๕๐๐ คน มพี ระนางสามาวดีเปน็ มเหสขี องพระเจา้ อเุ ทน พรอ้ มทงั้ บรวิ ารอีก ๕๐๐ หวั หน้า ตา่ งเสยี ชีวิตท้ังหมด ขา้ แตพ่ ระองค์ผู้ คน ซึ่งสบื เนือ่ งมาจากผลกรรม คอื จุดไฟเผา เจริญ คติของอุบาสกิ าเหลา่ นั้นเปน็ อย่างไร ภพ พระปัจเจกพทุ ธเจ้าในขณะทา่ นนงั่ เขา้ นิโรธ หนา้ เปน็ อยา่ งไร พระพทุ ธเจ้าขา้ ” สมาบตั ิ ตามธรรมดาพระอริยเจา้ ทัง้ หลาย ยอ่ ม ไม่โกรธ ไม่อาฆาตจองเวร และทัง้ ๆทไ่ี มม่ ีเจ้า พระผู้มีพระภาคตรสั ว่า “ภกิ ษทุ ง้ั หลาย กรรมนายเวรมาจ้องทาร้าย แตเ่ พราะเชอื้ หรือ อบุ าสกิ าเหล่าน้ันทเี่ ปน็ โสดาบนั กม็ ี ทเี่ ป็น สก เมลด็ แห่งบาปกรรมทฝี่ งั แนน่ อย่ใู นใจทีไ่ ม่ได้เอา ทาคามินกี ม็ ี ทเ่ี ป็นอนาคามินกี ม็ ี ภิกษุทง้ั หลาย ออก เป็นกฎดงึ ดูด ทาใหบ้ ุคคลทม่ี กี รรม อบุ าสิกาเหล่านั้นทงั้ หมด ชอ่ื วา่ ไมต่ ายเปลา่ (คอื เหมือนกัน ใกล้เคยี งกนั มาทารา้ ย พวกเธอตอ้ ง ไดบ้ รรลธุ รรม)” ถูกกรรมตามเลน่ งานหลายภพชาติ นเ้ี ป็นเร่อื ง จรงิ ไม่ได้องิ นิยาย ท่านผ้เู ปน็ บัณฑติ ทงั้ หลาย พระผูม้ พี ระภาคทรงทราบเน้อื ความน้ัน โปรดอา่ นใหจ้ งดี เร่อื งมีดังน้ี แลว้ จงึ ทรงเปลง่ อุทานน้ี ในเวลานั้นวา่ สมัยหนึง่ พระผู้มพี ระภาคประทบั อยู่ ณ สตั ว์โลกมโี มหะเปน็ เคร่อื งผกู พนั โฆสติ าราม เขตกรงุ โกสมั พี สมยั น้นั เมื่อพระเจา้ ย่อมปรากฏเหมือนสมบรู ณด์ ว้ ยเหตุ อุเทนเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ภายใน พระราชวงั ถูกไฟไหม้ หญิง ๕๐๐ คน มีพระ คนพาลมีอุปธเิ ปน็ เคร่ืองผกู พัน นางสามาวดีเป็นหัวหนา้ ตา่ งเสียชวี ิตทง้ั หมด ถกู ความมืดหมุ้ หอ่ ไว้ ครง้ั นน้ั ในเวลาเช้า ภกิ ษุจานวนมากครองอันตร วาสก ถือบาตรและจวี รเขา้ ไปบิณฑบาตยงั กรุง ย่อมปรากฏเหมือนยง่ั ยืนนริ ันดร โกสัมพี กลับจากบณิ ฑบาตหลงั จากฉนั อาหาร แตผ่ เู้ หน็ อยู่ ยอ่ มไมม่ ีกเิ ลสเครอื่ งกงั วล เสร็จแล้ว เข้าไปเฝา้ พระผมู้ พี ระภาคถงึ ท่ปี ระทบั อรรถกถาพระสูตรนไ้ี ดอ้ ธิบายเพม่ิ เติมไว้ ๑๓ อเุ ทนสตู ร พระไตรปฎิ ก เล่ม ๒๕ ขทุ ทกนิกาย อทุ าน (มจร. วา่ พระนางสามาวดี เดมิ เปน็ ลูกสาวเศรษฐใี น แปล) หนา้ ๓๑๙, และอรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เมืองภัททวดี ภายหลงั โฆสกเศรษฐีได้รบั เป็น อปั ปมาทวรรคที่ ๒ เรอ่ื งพระนางสามาวดี ลกู บุญธรรม โดยมีเพ่อื นหญงิ ๕๐๐ เปน็ บรวิ าร ตอ่ มาไดเ้ ปน็ อัครมเหสขี องพระเจา้ อเุ ทน และได้ บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบนั (เป็นอรยิ สาวิกา

โรคกรรม ๙๗ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ ผ้อู ยดู่ ้วยเมตตา) จากการฟงั ธรรมของนางขชุ นายมาคณั ฑยิ ะ (อาของพระนาง ชตุ ราสาวใช้ มาคัณฑยิ า)ได้ทาตามแผน พวกผู้หญิงของนาง สามาวดีเห็นเขา้ จึงเดินไปทกั ว่า \"อากาลงั ทา นางมาคณั ฑยิ าธดิ าของมาคัณฑยิ อะไรอยหู่ รอื ? นายมาคัณฑิยะตอบว่า \"แม่หญงิ พราหมณ์ ไดฟ้ ังคาถาทพ่ี ระผมู้ พี ระภาคเจ้าทรง พระราชารบั สั่งใหเ้ อาผ้าช่มุ น้ามันพนั เสาเพ่อื แสดงแกบ่ ดิ ามารดาของตนทีว่ า่ \"เพราะได้เหน็ ความปลอดภัย เพราะในพระราชตาหนกั ใคร นางตัณหา นางอรดี และนางราคา เรามิไดม้ ี ทาอะไรยากทจี่ ะเอาผิดได้ พวกแม่หญิง อย่า ความพอใจแม้ในเมถนุ เลย เพราะไดเ้ ห็นรูปรา่ ง อยู่ท่ีนเี่ ลย\" ธดิ าของทา่ นน้ี ซ่งึ เตม็ ไปดว้ ยปัสสาวะอจุ จาระ เราจักมคี วามพอใจในเมถนุ อยา่ งไรได้ เราไม่ จึงสัง่ ให้หญงิ เหลา่ น้นั เขา้ ไปในห้อง ล่ัน ปรารถนาจะแตะตอ้ งรูปร่างธดิ าของทา่ นนัน้ แม้ กุญแจขา้ งนอก จุดไฟตง้ั แตต่ น้ จึงค่อยเดินลงมา ดว้ ยเท้า\" เมอ่ื เพ่อื นหญงิ และพระนางสามาวดี รู้ว่า นางไดผ้ กู ใจเจ็บเกบ็ ความอาฆาตน้ีไว้ ถูกลอบวางเพลิงและไมม่ ที างหนอี อกไปได้ ในใจ ตอ่ มา พระเจ้าอุเทนทรงสถาปนานางไว้ใน จึงได้ใหโ้ อวาทกบั เพอื่ นหญงิ วา่ ตาแหน่งมเหสี และพระนาง พอไดท้ ราบข่าววา่ \"เพือ่ นเอย เมอ่ื เราเวียนวา่ ยตายเกิดในสงสาร \"พระผ้มู พี ระภาคเจา้ เสดจ็ ถงึ กรุงโกสมั พี และ หญงิ ๕๐๐ มพี ระนางสามาวดเี ป็นประธาน เป็น อันยาวนาน หยงั่ ร้ไู ดย้ าก อบุ าสิกาของพระองค์\" จงึ คิดว่า \"พระสมณ โค จงเรมิ่ พยายามปฏิบตั ิธรรม จงกาจัดเสนาของ ดมเสดจ็ มาพระนครน้ี บดั น้ี เราจะต้องหาทาง แก้แค้น และถือโอกาสแก้แคน้ อุปฏั ฐายิกาของ มัจจมุ ารเหมอื นกุญชรช้างประเสริฐ พระองค์ ซ่ึงมนี างสามาวดเี ป็นหัวหนา้ ดว้ ย\" ยา่ ยเี รอื นไมอ้ ้อ ฉะนนั้ ถึงแม้จะหาทางแกแ้ คน้ อยา่ งไร ก็ไมส่ าเรจ็ ผูใ้ ดไม่ประมาทเหน็ แจ้งในพระธรรมวนิ ยั นี้ วันหนึ่ง ในขณะที่พระราชาเสดจ็ ไปเล่น ผนู้ ้ันจกั ละชาตสิ งสาร กรฑี าในอทุ ยาน จึงส่งสาสน์ ไปถึงอาว่า \"ขออา จกั ทาท่ีสุดทกุ ขไ์ ด้ จงข้ึนไปปราสาทของนางสามาวดี แลว้ ให้เปดิ พวกเธออย่าประมาทเลย\" คลังผา้ และคลงั นา้ มนั เอาผา้ จุ่มลงในถังนา้ มนั แลว้ พนั ที่ต้นเสา แล้วสั่งบงั คับให้ผู้หญิงเหลา่ นนั้ รวมอยทู่ เ่ี ดียวกนั ปิดประตู ใส่กุญแจดา้ นนอก เอาไฟชนวนจดุ พระตาหนัก แลว้ ค่อยหลบหนีไป\"

โรคกรรม ๙๘ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ผู้หญิงเหล่านี้ เปน็ พระโสดาบันมาแลว้ กรรมทท่ี าใหถ้ ูกเผาทงั้ เปน็ ก่อนหนา้ น๑ี้ ๔ ขณะท่ีไฟกาลงั ไหม้พระตาหนัก ได้ ในอดตี กาล พระเจา้ พรหมทตั เสวย พิจารณาทุกขเวทนาเป็นอารมณ์ บางพวกบรรลุ ราชสมบตั ิในกรุงพาราณสี ไดน้ ิมนต์พระปจั เจก ธรรมเปน็ พระสกทิ าคามนิ ี บางพวกบรรลธุ รรม พทุ ธเจา้ ๘ องคม์ าฉันภตั ตาหารเปน็ ประจาท่ี เปน็ พระอนาคามินี และไดเ้ สียชีวิตในทา่ มกลาง พระราชนเิ วศน์ หญิง ๕๐๐ คน ไดพ้ ากนั เพลิง หลงั จากตายแลว้ หญิงทีเ่ ป็นพระ อปุ ัฏฐากพระปจั เจกพทุ ธเจา้ เหลา่ นี้ อนาคามนิ ี ไปเกดิ ในพรหมโลกชน้ั สทุ ธาวาส บรรดาพระปจั เจกพุทธเจา้ ทงั้ ๘ องคน์ ั้น พวกทเี่ ปน็ พระสกทิ าคามนิ ี ไปเกิดในสวรรคข์ น้ั ๗ องคเ์ ดนิ ทางไปป่าหิมพานต์ ส่วนอีกองค์ ดาวดงึ ส์ บางพวกไปเกิดในช้ันยามะ บางพวกไป หนึง่ ไม่ได้ไปดว้ ย แตไ่ ด้ไปน่ังเข้านโิ รธ เกดิ ในช้ันดสุ ิต บางพวกไปเกิดในช้ันนมิ มานรดี สมาบัติท่ีพงหญา้ แห่งหนง่ึ ใกลร้ มิ ฝัง่ แม่นา้ และบางพวกไปเกิดในสวรรค์ ชน้ั ปรนิมมิตว ตอ่ มาวนั หนึง่ พระราชาทรงเล่นน้าอยู่ สวตั ดี กับพวกหญิงน้ัน พวกเธอพากนั เลน่ นา้ ทงั้ วนั ก็เกิดอาการหนาว อยากจะพิงไฟ พากนั ยนื ล้อม ภกิ ษุทงั้ หลายน่ังสนทนากนั ในโรง พงหญา้ นัน้ ซงึ่ มีหญ้าแหง้ เต็มไปหมด คดิ กันว่า ธรรมสภาวา่ \"อาวุโส พระอริยสาวกิ าถึงแกก่ รรม \"มีเพียงแค่กองหญ้า\" จึงพากนั จดุ ไฟ พอหญา้ เช่นนนั้ ไมส่ มควรเลย\" พระศาสดาเสด็จมาตรสั ถูกไฟไหม้กย็ บุ ตัวลง ไดม้ องเหน็ พระปัจเจกพทุ ธ ถามวา่ \"ภกิ ษทุ งั้ หลาย บัดนี้ พวกเธอน่งั สนทนา เจ้าในกองไฟน้นั จงึ คดิ กันวา่ \"พระปจั เจกพทุ ธ กันดว้ ยเรอื่ งอะไรหนอ เม่ือภิกษุเหล่าน้ันกราบ เจา้ ของพระราชา ไดถ้ กู พวกเราเผา ถา้ หา ทลู ให้ทรงทราบแลว้ จงึ ตรัสวา่ \"ภกิ ษุทงั้ หลาย พระองค์ทราบเรอ่ื งน้เี ขา้ พวกเราคงตอ้ งตาย การตายเช่นนี้ของหญงิ เหลา่ นัน้ ไมส่ มควรในชาติ แนๆ่ เราจะเผาทา่ นให้มอดไหมไ้ ปเลย(ทาลาย นีก้ ็จริง แตก่ ส็ มควรกบั กรรมท่ีพวกเธอได้ทาไว้ใน หลักฐาน อยา่ ให้จับได้)\" ชาติกอ่ น\" จงึ ได้ตรสั เลา่ เรื่องอดตี ของหญิง เหลา่ นน้ั ใหภ้ กิ ษุทัง้ หลาย ดงั น้ี ทุกคน จึงพากนั ขนฟนื มาจากที่ตา่ งๆ ทาให้เปน็ กองบนตัวพระปจั เจกพทุ ธเจา้ น้นั แลว้ ๑๔จากการฟังธรรมของนางขุชชตุ ตรา(อริยสาวิกา)และวันท่ี สุมไฟให้ไหม้ตอ่ ก่อนท่จี ะพากันเดนิ หนีไปดว้ ย พระตาหนักถูกเผานั้น นางขชุ ชุตตราเอง ไม่ไดม้ าท่ีตาหนัก เข้าใจว่า เพราะไม่ได้ทากรรมเชน่ นน้ั ไว้ในอดีต และยังมอี ายุขัย เหลอื อยู่ บางมติกล่าวว่า นางเดินทางหนไี ปถึง ๑๖ กโิ ลเมตร

โรคกรรม ๙๙ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ \"บัดน้ี พระปจั เจกพทุ ธเจ้า๑๕ คงจะมอดไหม้ เราจึงสบายพระทัยอย่างมาก ตอ่ จากนีไ้ ปคงจะ ไปแล้ว\" บรรทมหลับสบาย ” หญงิ เหลา่ นน้ั ครัง้ แรกไม่ไดม้ ี เจตนาทจี่ ะเผาทา่ นใหต้ าย แตต่ อนหลังมี พวกอามาตย์ทลู ว่า “ขา้ แตส่ มมตเิ ทพ เจตนาใหท้ ่านตาย หลังส้ินชวี ติ ไดต้ ายไปตก นรกถูกไฟนรกเผาไหม้อยู่หลายแสนปี ใครเป็นตวั การในเรื่องน”ี้ หลังจากขึ้นจากนรกมาเกิดเป็นมนษุ ย์ ถูกไฟ คอกตายอยา่ งนีอ้ ย่อู กี ๑๐๐ ชาติ จากเศษของ พระราชาตรสั ตอบวา่ “คงเป็นคนท่ี กรรมท่ีเหลอื เขาทาเพราะจงรักภักดีในตวั เรา” พระนางมาคันทยิ าทรงยืนเฝา้ อย่ใู กล้ ฟังพระดารสั นั้นแลว้ จึงกราบทูลวา่ “ ไม่มีใคร ทาได้ นอกจากหม่อมฉนั เอง เพคะ่ หมอ่ มฉนั สั่ง วบิ ากกรรมการทาผดิ ต่อพระอรยิ เจ้า ให้อาทาเอง” เมอ่ื พระเจ้าอุเทน ทรงสดบั ขา่ วทต่ี าหนัก ของพระนางสามาวดถี กู ไฟไหม้ จงึ รบี เสด็จมาถึง พระราชาตรสั ว่า “คงไมม่ ีใคร ที่นั้น หลงั จากหญงิ เหล่านนั้ ถูกไฟไหม้จนส้นิ ชีวติ แล้ว จึงรับสง่ั ใหค้ นชว่ ยดับไฟไหม้ ทรงเกดิ จงรกั ภักดตี อ่ เรา นอกเหนอื จากเจ้า เราพอใจ โทมนสั อย่างรุนแรง และทรงรู้วา่ เป็นฝมี อื ของ มาก พระเทวี เราจะให้พรเจา้ จงไปเรียกหมญู่ าติ พระนางมาคณั ฑิยา ทรงพระดาริวา่ “ถ้าเราขู่ ทาใหห้ วาดกลัวแลว้ ถาม นางจะไม่บอกความ ของเจ้ามารบั รางวลั \" นางส่งขา่ วไปหาพวกญาติ จริง เราจะตอ้ งค่อยๆ เรยี บเคียงถาม” จงึ ตรัส วา่ “พระราชาทรงพอพระหฤทยั จะพระราชทาน กบั หมู่อามาตยว์ า่ “ทา่ นทงั้ หลาย แตก่ ่อน เรามี พรให้ จงรีบมาเร็วไว” แต่ความหวาดระแวง เพราะนางสามาวดีมักจะ ผดิ เราอย่เู ป็นประจา ตอนนี้ นางไดต้ ายไปแลว้ พระราชารับส่งั ให้ทาการต้อนรับอย่าง ใหญ่โตแก่พวกญาติของพระนางมาคัณฑิยา ส่ ว น พ ว ก ค น ที่ ไ ม่ ใ ช่ ญ า ติ ( แ ต่ มี บ า ป ก ร ร ม เหมือนกัน)พอมองเห็นการตอนรับอันยิ่งใหญ่ เช่นน้ัน จึงติดสินบนกับกับพวกเจ้าหน้าท่ี แล้ว กล่าวว่า “พวกเราเป็นญาติของพระนางมาคันทิ ๑๕ อานุภาพแห่งสมาบัติของผูไ้ ด้ฌาน เปน็ อจินไตย ถึงแม้ว่า ยาเหมือนกัน” พากันมาแล้ว พระราชารับสั่ง พวกผู้หญงิ เหลา่ นี้ พากนั ขนฟืนมาถึง พนั เล่มเกวียน แล้วสมุ พระปัจเจกพุทธเจ้าขณะที่เข้านโิ รธสมาบตั ิ ก็ไมส่ ามารถจะทา ให้จับพวกคนเหล่านั้นทั้งหมดไว้ แล้วให้ขุดหลุม ให้ท่านเกิดความรสู้ ึกอะไรๆได้ แมเ้ พียงอาการไออุ่น ฉะนั้น ใน วนั ที่ ๗ พระปัจเจกพุทธเจา้ นั้นได้ลกุ ข้นึ แล้วเดนิ ไปตามความ มากมายหลายร้อยหลุมลึกแค่สะดือท่ีพระลาน สบายเหมอื นไม่มีอะไรเกิดข้ึน อจินเตยยสูตร พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๑ อังคตุ ตรนกิ าย จตกุ กนบิ าต (มจร.แปล) หนา้ ๑๒๒ หลวงแล้ว ให้คนเหล่านั้นน่ังในหลุมเอาดินร่วน กลบ ให้เกลี่ยฟางไว้เบ้ืองบน แล้วจุดไฟเผา คน

โรคกรรม ๑๐๐ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสัตว์ เหล่านั้นพากันร้องโหยหวนก่อนสิ้นใจตายใน ข้อคิด คติธรรมในเรื่องน้ี กองเพลิง ในเวลาท่ีหนังถูกไฟไหม้แล้ว รับส่ังให้ เอาไถเหล็กไถคนเหล่านั้นให้เนื้อขาดจนป่นปี้ไม่ อาของพระนางมาคัณฑิยา จดุ ไฟเผาพระ มีช้ินดี พระราชารับสั่งให้เอามีดคมกริบเชือด ตาหนัก เปน็ สาเหตุใหพ้ ระนางสามาวแี ละหญงิ เน้ือจากตัวของพระนางมาคันทิยา ตรงท่ีมีเนื้อ บรวิ ารถกู ไฟคอกตายก็จริง แต่เร่ืองน้ี เปน็ ผลสบื ล่าๆ ให้ทอดเหมือนทอดขนม แล้วรับสั่งให้คน เนือ่ งมาจากวิบากกรรมทเ่ี คยจุดไฟเผาพระปัจเจก ลองชมิ ดู พุทธเจ้าผู้ไมม่ ีความผิด แมท้ า่ นจะไมร่ ู้เร่อื ง ไม่มี ความโกรธ ไม่ไดผ้ ูกอาฆาตจองเวรกับหญิง ผลของบาปกรรมที่พระนางมาคัณฑยิ า เหล่านน้ั เพราะทา่ นไมม่ กี ิเลสแลว้ ได้ทาความผดิ ตอ่ พระอรยิ สาวิกา สง่ ผล ทาให้พระนางถกู ลงราชอาชญาอย่าง แตเ่ หตุไฉน ทาไมพวกผูห้ ญงิ เหล่านี้ ตอ้ ง หนกั ตอ้ งมาถูกฆา่ ตายอย่างน่าสมเพช ตายไปตกนรกหลายแสนปแี ละเพยี งแค่เศษกรรม เวทนา พร้อมดว้ ยพวกญาตแิ ละคนท่ี เทา่ น้นั ทาใหพ้ วกเธอตอ้ งมาถกู ไฟคอกตายอย่าง ไมใ่ ชญ่ าติ นี้อีก ๑๐๐ ชาติ ดว้ ยประการฉะนี้ ชวี ติ ของเราทีม่ อี ันเปน็ ไปเชน่ นี้ ไม่ไดม้ ีเจา้ กรรมนายเวรซ่งึ เป็นตัวบุคคลมาจองเวรกบั เราเลย แตเ่ ราก็ยงั ได้รับผลกรรมอยดู่ ี ท้ังน้ีเพราะ บาป มันอยทู่ ใี่ จเรา ไมไ่ ดอ้ ยู่ทีว่ า่ ใครจะมาจองเวร หรือ สาปแชง่ ให้เราตกตา่ สาเหตุท่ตี ้องถกู ไฟคอกตาย เพราะวิบาก กรรมที่เคยทาเอาไวย้ งั ไม่หมดสนิ้ จงึ ดดู ดึงเอา เหตุการณส์ ถานการณ์และบุคคลท่ีคลา้ ยกบั กรรม เกา่ เขา้ มาในชวี ติ โดยอัตโนมัติ ทาบุญกบั พระอรยิ เจ้า แม้มคี ณุ อนันตก์ ็ จริงอยู่ แตถ่ ้าหากทาผิดต่อท่าน กม็ ีโทษมหันต์ ได้รบั ผลกรรมทันตาเหมอื นกนั

โรคกรรม ๑๐๑ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ กรรมทำให้หลังคอ่ ม ๑๖ ลอ้ เลยี นพระปจั เจกพทุ ธเจา้ ในชาตินน้ั ทาให้ เกิดมาเปน็ คนหลังคอ่ มในชาตนิ ี้ นางขชุ ชตุ ตรา เป็นลูกของพเ่ี ลย้ี งใน กรรมใชพ้ ระอรหนั ต์ บ้านของโฆสิตเศรษฐี ตอนแรก เขาตั้งชื่อวา่ ทาให้เกิดเปน็ คนใช้ อุตตรา แต่ตอ่ มา มีปญั หาเร่ืองหลงั นางเดิน ในยคุ ของพระกัสสปสัมมาสมั พุทธ เจา้ ลูกสาวเศรษฐใี นกรุงพาราณสคี นหน่ึง จบั หลังคอ่ ม จึงถูกเรยี กชือ่ ใหม่ว่า ขชุ ชุตตรา โฆ แว่นนัง่ แต่งตัวอยู่ในตอนบ่าย ชว่ งเวลานน้ั นางภิกษุณีซง่ึ เปน็ พระอรหนั ต์ขีณาสพองคห์ น่ึง สติ เศรษฐี พ่อบุญธรรมของนางสามาวดี ไดย้ ก ซง่ึ เป็นผู้คุ้นเคยกัน ไดเ้ ดนิ ทางมาเยย่ี ม แมจ้ ะ เปน็ พระอรหันต์ กย็ ังตอ้ งการมาเยย่ี มตระกลู ลกู สาวบุญธรรมคนน้ีถวายแด่พระเจ้า อุ อุปฏั ฐากในตอนเย็น เวลานั้น คนใชไ้ มอ่ ยู่ ลกู สาวเศรษฐีคนนี้ ตอ้ งการกระเชา้ เครอ่ื งประดบั เทน นางขชุ ชตุ ตรา จงึ ต้องมาเป็นคนใชข้ องนาง แตม่ นั วางอยูไ่ กล เพราะตดิ นิสยั ชอบใช้ และไมร่ ู้ ว่าจะเป็นบาปกรรม จึงพดู ว่า “ดิฉนั ขอไหว้ สามาวดใี นตาหนักพระเจ้าอเุ ทน และได้บรรลุ เจ้าขา้ โปรดหยบิ กระเช้าเครอ่ื งประดับนน่ั ให้แกด่ ฉิ นั หนอ่ ย” ธรรมเป็นพระโสดาบัน ไดร้ ับการแตง่ ตงั้ เป็นเลศิ พระเถรีคดิ ว่า “ถ้าเรา จะไมห่ ยิบให้ นาง จะโกรธไมพ่ อใจ หลงั จากตายแล้วจะไปบงั เกิด ในทางพหูสตู พวกภกิ ษุจงึ ไดท้ ลู ถาม ในนรก แตเ่ ราหยบิ ให้ เพราะผลของกรรมนี้ นาง จะเกดิ เปน็ หญิงรับใชข้ องคนอ่นื แต่ว่า การเกดิ พระพทุ ธเจา้ ว่า“ข้าแต่พระองคผ์ ู้เจรญิ เพราะ เป็นคนใช้ ดีกวา่ การตกนรก” พระเถรนี ้นั อาศยั ความเอน็ ดู จงึ ไดห้ ยิบ กรรมอะไร นางขุชชุตตรา จงึ เกิดมาหลังค่อม... กระเชา้ เครอ่ื งประดบั นนั้ สง่ ให้นาง เพราะกรรม จากการใชพ้ ระอรหันตน์ น้ั จึงทาให้นาง เกดิ และเกิดมาเป็นคนใช”้ มาเปน็ คนใช้ ถงึ ๑๐๐ ชาติ หลังจากไดบ้ รรลุ ธรรมแลว้ กรรมนัน้ กห็ มดสน้ิ พระศาสดาตรสั เลา่ บุรพกรรมของนาง ใหภ้ ิกษทุ ั้งหลายฟงั ดงั นี้ “ภิกษุทง้ั หลาย ในกาลทพ่ี ระราชาองค์ นั้นแหละครองราชยใ์ นกรงุ พาราณสี พระ ปจั เจกพทุ ธเจา้ องคเ์ ดมิ นนั่ แหละ ท่านเดนิ หลังคอ่ มนดิ หน่ึง ผู้หญงิ ที่เปน็ อปุ ัฏฐายกิ าคน หนึ่ง ห่มผา้ กมั พล ถือขันทองคา ไดล้ อ้ เลียน ทา่ นทาเปน็ เหมือนคนหลังคอ่ ม พดู ล้อเลยี น วา่ “พระปัจเจกพทุ ธเจ้าของพวกเรา ท่าน เดินหลังคอ่ มอย่างน”้ี เพราะผลกรรมจากการ ๑๖ ดูรายละเอียดใน อรรถกถา ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท อัปป มาทวรรคท่ี ๒ เร่ืองพระนางสามาวดี พระไตรปฎิ ก เล่ม ๒๐ อังคุตตรนกิ าย เอกกนิบาต (มจร.แปล) หน้า ๓๒ และอรรถกถา

โรคกรรม ๑๐๒ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสัตว์ ขอ้ คิด...คตธิ รรม ถา้ หากการล้อเลยี นพระอรยิ เจ้า แมท้ าไปเพอ่ื การเขา้ ใกลพ้ ระอรยิ เจ้าเหมือนการเขา้ ความสนกุ สนาน ก็ยังส่งผลได้ถงึ เพียงน้ี แม่และ ใกลอ้ สรพิษร้าย หากทาผดิ พลาดพล้ังไป เพราะ พ่อเปรยี บเสมอื นพระอรหนั ต์ในบา้ น คาพูด รเู้ ท่าไมถ่ ึงการณ์ ย่อมเปน็ อันตรายรา้ ยแรงตอ่ ต่างๆท่ลี ูกล้อเลียนพอ่ แมเ่ พ่ือเลน่ สนุก กเ็ สยี่ งต่อ ชีวติ อยา่ งคดิ ไมถ่ งึ ผลกรรมนนั้ ๆทจ่ี ะเกดิ ขึ้นตามมาเหมือนกัน ผลกรรมจากการใชพ้ ระอรหนั ต์ด้วย ความไม่ตง้ั ใจ แม้จะไม่ทาใหต้ กนรกก็ตาม ถึง ฉะนัน้ ทางทีด่ ีเพอื่ ความปลอดภยั ต่อ กระนน้ั กต็ ้องเกิดมาเป็นคนใชข้ องคนอนื่ อีกต้ัง ชวี ติ หน้าทีก่ ารงาน สขุ ภาพ และการปฏิบัตธิ รรม ๑๐๐ ชาติ ฟังดเู หมือนกบั เปน็ ไปไมไ่ ด้ แต่ก็เป็น จึงไม่ควรอย่างยง่ิ ทจ่ี ะพดู ลอ้ เล่น พูดล้อเลียนกบั เรื่องจรงิ และเป็นไปแลว้ เพราะพระอรยิ เจา้ พอ่ แม่ไม่วา่ จะด้วยเหตุผลใดกต็ าม เพราะวนั ท้งั หลาย ยอ่ มไมพ่ ดู โกหก หน่งึ ชีวิตเรา อาจจะเป็นไปตามคาพูดทเี่ คย การใช้พอ่ แม่ในเรอื่ งต่างๆ ก็เปรียบไดก้ ับ ล้อเลียนทา่ นเอาไวก้ ไ็ ด้ ใช้พระอรหันต์ ผลกรรมทเ่ี กดิ ข้ึนตามมา กเ็ ปน็ เช่นเดียวกนั เพราะฉะนน้ั คณุ ลกู ๆท้งั หลาย พึง มิจฉำทิฏฐกิ ับเมล็ดพนั ธ์ุทไ่ี ม่ดี สงั วรระวังเร่อื งนไ้ี ว้ใหจ้ งดี มเิ ช่นนั้น ชวี ติ น้ี จะต้องรบั ภาระหนัก กลา่ วคอื ทางานหนกั กายกรรม...วจีกรรม...มโนกรรมท่ีถือปฏบิ ตั ิให้ เหนือ่ ย ซา้ คา่ ตอบแทนยงั นอ้ ยอีก เงินทองไม่ บรบิ ูรณ์ตามสมควรแก่ทฏิ ฐิ เจตนา ความปรารถนา พอใช้ ถูกเอาเปรียบในทุกกรณีทั้งเตม็ ใจหรือจา ความต้งั ใจ และสงั ขารทงั้ หลายของบุคคลผู้เป็น ยอม อีกทัง้ ตอ้ งมาเป็นทาสรบั ใชค้ นอ่นื อย่าง มิจฉาทฏิ ฐิ ธรรมทั้งหมดนน้ั ยอ่ มเปน็ ไปเพอื่ ผลท่ไี ม่ ปฏิเสธไม่ได้ น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไมน่ ่าพอใจ ไมเ่ ก้อื กลู เป็นทุกข์ ขอ้ นน้ั เพราะเหตุไร เพราะความเห็นเลวทราม เปรียบเหมือนเมล็ดสะเดา เมลด็ บวบขม หรือเมล็ด นา้ เตา้ ขมท่ีบุคคลเพาะไว้ในดินชุม่ ชืน้ รสดนิ และรสน้า ที่มันดูดซับเอาไวท้ ้งั หมด ยอ่ มเป็นไปเพื่อความเป็น ของขม เผ็ดร้อน ไม่นา่ ยนิ ดี ข้อน้ันเพราะเหตุไร เพราะ เมล็ดสะเดาเป็นตน้ นัน้ เลว ฉะน้นั พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๐ อังคุตตรนิกำย เอกกนิบำต เอกธัมมบำลี (มจร.แปล)หนำ้ ๓๙

โรคกรรม ๑๐๓ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ กรรมท่ีทาใหล้ ิน้ ขาด๑๗ เขาวา่ \" น่ีเธอ ฉนั ขอเน้ือหน่อย เพราะมีแขกมา เย่ียม\" ในคัมภรี อ์ รรถกถา ธรรมบท เร่ืองบุตร ของนายโคฆาต ไดก้ ลา่ วถึงผลกรรมจากการ ภรรยานายโคฆาตตอบว่า \"เน้อื ขายไป ฆา่ ววั และตัดลน้ิ วัว ซ่ึงส่งผลเห็นทันตา ทาใหล้ น้ิ หมดแลว้ ตอนน้ี เพือ่ นคณุ กาลงั ไปอาบน้า\" ของเขาหลุดออกจากปาก อยา่ งไมน่ ่าเชื่อจะ เพอ่ื นเขาพดู วา่ \"เธอ อย่าพดู อย่างนั้นซิ ขอฉัน เปน็ ไปได้ แต่เร่ืองวบิ ากกรรมนน้ั เปน็ สงิ่ ลึกซงึ้ เถอะ\" เกนิ กวา่ ทเี่ ราจะหย่งั รไู้ ด้ อ่านเรอ่ื งตอ่ ไปน้แี ล้ว อาจจะทาให้ท่านได้คดิ และคิดได้วา่ เพียงแค่ ภรรยานายโคฆาตตอบว่า \"เนือ้ ไมม่ แี ลว้ เห็นแกป่ ากทอ้ ง แตต่ ้องมาเสียเวลาชดใช้ นอกจากท่เี ก็บไว้ปิ้งให้สามฉี ัน\" บาปกรรมอย่างเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสและ อกี ยาวนานกว่าจะหมดกรรม เร่อื งมดี งั น้ี เขาคิดว่า \"เมื่อเนอ้ื หมดแลว้ นอกจากที่ เกบ็ ไว้ใหเ้ ขา และเพ่อื นเราคนน้ี ถา้ ไมม่ เี นอื้ เขาก็ ชายคนหน่ึงในพระนครสาวตั ถี ฆ่าววั ไม่ยอมรบั ประทานอาหาร และภรรยาของเขา ก็ ขาย และสว่ นหนงึ่ เอาไวก้ นิ เอง โดยปกติ เขา คงไมใ่ ห้\" จงึ ถือเอาเนือ้ ชน้ิ นน้ั ไปโดยพลการ ชอบเอามดี เฉือนเอาเน้อื สนั มาป้งิ แล้วนั่ง รับประทานกบั ลูกเมยี เขาเปน็ เพชฌฆาตฆ่าวัว นายโคฆาตผเู้ ป็นสามี พออาบนา้ เสร็จ อยอู่ ยา่ งนป้ี ระมาณ ๕๕ ปี ไมเ่ คยถวายยาคหู รอื แล้ว ก็เดนิ มานง่ั รับประทานอาหาร ภริยา กาลัง ภตั ตาหารสกั ทัพพแี ดพ่ ระศาสดา ซงึ่ ประทบั อยู่ คดขา้ วและผักต้มให้ เขาถามเมยี วา่ \"เนอ้ื ที่ใหป้ ้ิง ในวัดใกล้บ้านเขา แมว้ นั เดยี ว เขาไมย่ อม รับประทานอาหารอย่างอืน่ นอกจากเน้ือววั วนั นั้น อยู่ไหน ?\" หน่ึง เขาขายเนื้อในตอนกลางวนั ยน่ื เนอื้ ช้นิ หน่ึง ภรรยา : เนื้อไม่มีแลว้ พ\"ี่ ใหภ้ รรยาเพื่อป้ิงใหต้ วั เอง เพราะเขาจะไป สามี : เนื้อท่ีพยี่ นื่ ให้น้องเอาไปป้งิ อาบนา้ กอ่ น แลว้ จะมารบั ประทาน เวลานัน้ เพือ่ นรักของเขามาเยยี่ มทบี่ ้านพอดี พดู กบั เมยี อยู่ไหน ? ภรรยา : เพ่อื นพี่เอาไปแลว้ \" ๑๗โคฆาตกปตุ ตวัตถุ พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๕ ขทุ ทกนิกาย สามี : น้องกร็ ู้อย่วู ่า ถ้าไม่มเี นอื้ พ่ีจะ ธรรมบท (มจร.แปล) หน้า ๑๐๕ และดู อรรถกถา ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท มลวรรคที่ ๑๘ เรือ่ งบตุ รของนายโคฆาต ไมร่ บั ประทานอาหาร ภรรยา : นอ้ งไม่รจู้ ะหา้ มอย่างไร รบี ทานขา้ วเถอะพ่\"ี นายโคฆาตตอบวา่ \"ไม่หรอก ยงั ไง พีก่ ็ ทานไมล่ ง\" ใหภ้ รรยาเกบ็ สารบั กับข้าว ถอื มดี เดนิ ลงไปหาววั ทผ่ี กู ไว้หลงั บ้าน สอดมือเขา้ ไปใน ปาก ดงึ ล้ินมนั ออกมา เอามดี ตดั ทีโ่ คนลิน้ แล้ว

โรคกรรม ๑๐๔ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ถือมาใหภ้ รรยาป้งิ บนถ่านไฟ หลงั จากเน้ือสกุ กำรฆำ่ สตั ว์ตดั ชวี ติ แล้ว กจ็ บั มาวางบนจานขา้ ว เขานั่งทานอาหาร เปน็ บำปแท้แนน่ อน คนเดียว ในบัดดลนน้ั เขาไดร้ ับผลกรรมทนั ตา ลิ้นของเขาขาด แล้วตกลงบนจานขา้ ว ภิกษทุ ้งั หลาย ปาณาติบาต (การฆ่าสัตว)์ ท่ี เลือดไหลไม่หยดุ เขาได้รบั ความเจบ็ ปวดทรมาน บุคคลเสพ เจริญ ทาให้มากแลว้ ย่อมอานวยผลให้ อยา่ งแสนสาหสั รอ้ งครวญครางคลานเขา้ ไปใน ไปเกดิ ในนรก อานวยผลให้ไปเกิดในกาเนิดสตั ว์ ตัวบ้าน ตอนนัน้ ลูกชายของเขา ยนื มองดอู ยู่ ดิรจั ฉาน อานวยผลให้ไปเกิดในเปรตวสิ ัย วิบาก แม่จงึ พดู ว่า \"ลกู รัก เจ้าเหน็ พ่อของเจ้ากาลังร้อง แห่งปาณาตบิ าตอย่างเบาท่ีสดุ ย่อมอานวยผลให้ ล่ัน คลานไปมาเหมือนวัวแลว้ ใชไ่ หม บาปกรรม เปน็ ผมู้ ีอายนุ อ้ ยแก่ผเู้ กิดเป็นมนษุ ย์ นี้ ก็จะตกไปท่ีตวั เจา้ เจ้าจงรบี หนไี ปไมต่ อ้ งหว่ ง แม่ และรกั ษาตัวให้ปลอดภัย\" ทจุ จรติ วปิ ากสูตร ลกู ชายของเขากลัวตาย ยกมอื ไหว้แม่ (สพั พลหุสสตู ร) แลว้ รบี ออกเดนิ ทางไปตงั้ หลักปักฐานอยูท่ ่ีนคร พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๓ อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ตกั กสลิ า สว่ นตวั นายโคฆาตน้ัน มอี าการเหมือน วัวทถี่ ูกเชือดลิ้น ตอ้ งรอ้ งโอดโอยล่นั บา้ น เมื่อทน (มจร.แปล) หน้า ๓๐๑-๓๐๒ พิษความเจ็บปวดไมไ่ หว จึงสน้ิ ใจตาย แลว้ ไป เกดิ ในนรกอเวจี และววั ตัวนน้ั ก็ได้สน้ิ ใจตาย เช่นกนั คนทาบาปดว้ ยการฆ่าและ เบยี ดเบยี นสัตว์ เพราะเห็นแกป่ ากท้อง ต้อง มาโศกเศรา้ เสียใจ ทนทุกข์ทรมานกับการ ชดใช้หนี้บาปนั้น อกี ยาวนาน เพราะติดใจ ในรสชาตขิ องอาหาร อรอ่ ยเพยี งแคป่ ลาย ล้ินชัว่ ครู่ แต่ต้องมาตกนรกอีกหลายร้อยปี คิดดดู ีๆ อยา่ งไร กไ็ มค่ ุม้

โรคกรรม ๑๐๕ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ วบิ ากกรรมพยากรณ์ ภรรยานายเรอื ถกู จับถว่ งน้า มพี ระภกิ ษอุ กี กลมุ่ หน่ึงโดยสารเรือไป ในสมยั คร้งั พุทธกาล ขณะที่พระพุทธ องคป์ ระทับอยู่ในพระเชตวัน ภกิ ษหุ ลายรูป เพ่อื ต้องการจะเฝ้าพระศาสดา แต่เรอื เครื่องเรอื เดนิ ทางมาเพอื่ เข้าเฝ้า ไดเ้ ขา้ ไปบิณฑบาตใน หมบู่ า้ นแหง่ หนงึ่ ชาวบ้านรับบาตรของท่าน มปี ญั หา ได้หยดุ น่ิงเฉยในกลางทะเล ผคู้ นบน นิมนต์ใหน้ ัง่ ในโรงฉนั ถวายขา้ วยาคูและของขบ เคย้ี ว ในขณะท่ีรอเวลาพระออกบิณฑบาต จงึ เรือน ตา่ งก็คิดกนั ไปวา่ \"นา่ จะมีคนกาลกรรณีอยู่ พากนั นั่งฟงั ธรรม ในเรือน้ีเป็นแน\"่ จึงหาวธิ ีพสิ จู น์ด้วยการจบั สลาก กาถกู ไฟเผากลางอากาศ ทนั ใดนนั้ เอง เปลวไฟจากเตาของ ภรรยาสาวของนายเรือ จบั ไดฉ้ ลากกาลกิณถี ึง ผู้หญิงคนหนง่ึ ซึ่งไดห้ งุ ขา้ วทงิ้ ไว้และกาลงั ทากับข้าวอยู่ ลกุ ไหมช้ ายคาทม่ี งุ ดว้ ยหญา้ ๓ ครั้ง คนทีอ่ ยู่บนเรอื ตา่ งกม็ องดูหนา้ นายเรอื เสวยี นหญา้ อันหนง่ึ ถกู ไฟไหม้ปลิวข้ึนจาก ชายคานัน้ ลอยไปในอากาศ ณ ชว่ งเวลานั้น มี แลว้ พดู ว่า \"จะทาอย่างไรกนั ดี ขอรับนาย\" นาย อกี าตัวหนึง่ บินผา่ นมาตรงนั้น แล้วสอดคอเข้า ไปในเสวยี นหญ้านนั้ พอดี กาถกู เกลยี วหญ้าที่ เรอื พูดอยา่ งหนกั แนน่ ว่า \"ข้าพเจา้ จะไมท่ าให้ ตดิ ไฟพนั ตวั ดิน้ ไม่หลดุ ถกู ไฟเผา แลว้ ตกลงมา ตายทีก่ ลางลานบ้าน พวกภิกษเุ หน็ เหตุการณ์ คนอืน่ ตอ้ งมาตาย เพราะผหู้ ญงิ คนเดยี ว พวก อย่างนี้ จึงพดู วา่ \"โอ ไมน่ ำ่ เชื่อจริงๆ พวกทำ่ น จงใคร่ครวญดูวิบำกกรรมของกำ นอกจำกพระ ทา่ น จงจับนางท้งิ ลงไปในแมน่ า้ เถิด\" ศำสดำแลว้ คงไม่มีใครมญี ำณหย่งั รวู้ บิ ำกกรรม ของกำแนๆ่ พวกเรำจะเดนิ ทำงไปทูลถำมเรอ่ื งน้ี ผู้หญิงคนน้ี เกดิ ความสะดงุ้ กลัวอย่าง กบั พระศำสดำ\" จงึ พากนั ออกเดินทางจากไปมุ่ง หน้าสพู่ ระเชตวนั เพ่ือเขา้ เฝา้ พระศาสดา มาก จงึ ร้องโวยวายวิงวอนขอชีวิต แตน่ ายเรอื ไมส่ นใจ จึงพดู ออกไปว่า \" พวกท่าน จงเปล้ือง เอาเสอ้ื ผ้าอาภรณจ์ ากตัวนางทั้งหมด ใหน้ างนงุ่ ผ้าเก่าผืนหนึ่งกพ็ อ แล้วจงโยนนางทิ้งลงไปใน ทะเล ขา้ พเจ้า ทนดไู มไ่ ดท้ จ่ี ะเหน็ นางถูกลอยคอ ในทะเล เพราะฉะนั้น พวกท่าน จงเอาทรายใส่ เต็มกระออม ผกู ทค่ี อนาง โยนนางลงไปในทะเล โดยท่ขี า้ พเจ้าจะมองไมเ่ หน็ เธอ\" พวกผ้ชู ายพากันจบั มดั นาง ได้กระทา ตามคาส่งั ของนายเรือ นางกาลกรรณี ผเู้ คราะหร์ ้าย ต้องมาตายในทะเล เป็นอาหาร ของปลาและเต่า พวกภิกษุได้เหน็ เหตกุ ารณ์ ดงั นน้ั จึงคดิ ในใจว่า \" ยกเวน้ พระศาสดา คงไม่มี ใครมญี าณหยง่ั รู้กรรมของผู้หญิงคนนี้ พวกเรา จะทลู ถามกรรมของหญิงนก้ี ับพระศาสดา\" เรอื

โรคกรรม ๑๐๖ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ ไดม้ าจอดท่ที า่ แลว้ จึงพากันลงจากเรือเดนิ ทาง ไดร้ ับความทกุ ข์ทรมานอยา่ งหนกั เป็น เพือ่ เขา้ เฝา้ พระศาสดา สิ่งทีไ่ มน่ ่าเชอ่ื ในวนั ที่ ๗ น่ันเอง แผ่นหินใหญ่ ภิกษุ ๗ รูปถกู ขังในถา้ ๗ วัน มพี ระภกิ ษุ ๗ รปู อีกพวกหนง่ึ เดินทาง มหึมานนั้ กลบั กลง้ิ ออกไปเอง โดยไม่มีใครไป จากหมบู่ ้านชายแดน เพอื่ ตอ้ งการจะไปเขา้ เฝา้ พระศาสดา ไปถงึ วดั แหง่ หน่ึงในเวลาเย็น เขา้ ไป ผลกั เพราะวบิ ากกรรมหมดแลว้ ถามถึงทพี่ กั อาศัยกับเจา้ อาวาส ท่านเจา้ อาวาส แนะนาใหไ้ ปพักอาศัยในถา้ แห่งหนึ่ง ในบริเวณ เม่อื พวกภกิ ษุอาคนั ตุกะออกไปไดแ้ ล้ว วดั แห่งนี้ ซ่งึ ภายในถ้าน้นั มเี ตยี งนอน ๗ เตยี ง พอดี ตอนกลางคืน กเ็ กดิ ส่งิ มหศั จรรย์ขนึ้ คอื จงึ คิดว่า \" ยกเวน้ พระศาสดาเสียแล้ว ใครเล่าจะ แผ่นหินใหญ่มหมึ ากล้ิงลงมาปิดปากถ้าเอาไว้ พอดี รู้บาปกรรมน้ีของพวกเราได้ พวกเราจะไปทลู พวกภิกษุเจ้าของถน่ิ ตา่ งก็ปรกึ ษากัน ว่า \"พวกเราให้ภกิ ษุอาคนั ตุกะเหล่านเ้ี ขา้ ไปพกั ถามพระศาสดา\" จึงรีบพากันเดนิ ทางต่อไปเพ่อื ในถ้า แตถ่ ูกแผ่นหนิ ใหญม่ หมึ าเท่ากับเรอื นยอด ปดิ ปากถ้าเสียแล้ว พวกเราต้องรีบหาทางชว่ ย เข้าเฝา้ พระศาสดา เอาแผ่นหินใหญน่ น้ั ออกไปโดยเรว็ มเิ ชน่ น้ัน พวกภิกษอุ าคนั ตกุ ะอดตายแน่\" จงึ เรยี กประชมุ พระภกิ ษกุ ลมุ่ นม้ี าบรรจบกนั กบั ภกิ ษุ ชาวบา้ น ๗ หมบู่ า้ น เพ่ือมาชว่ ยเอาแผ่นหนิ ใหญ่ น้อี อกจากปากถ้า แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะแผน่ หนิ พวกกอ่ นในระหว่างทาง จึงรวมเปน็ พวกเดียวกนั ใหญไ่ ม่เขย้ือนแม้แตน่ ิดเดยี ว แมพ้ วกภกิ ษทุ ี่อยูใ่ นถ้า กท็ าทกุ อยา่ ง เดนิ ทางไปเขา้ เฝา้ พระศาสดา ถวายบังคมแล้ว เพอื่ จะเปิดปากถ้า แตก่ ไ็ ม่เป็นผลอะไร ทัง้ ชาวบา้ นและพระภิกษตุ า่ งพากันหาทางผลัก น่ัง ณ ส่วนข้างหนึ่ง จงึ ไดท้ ลู ถามถึงเหตุการณท์ ี่ แผน่ หนิ ใหญน่ ้ใี ห้ออกจากปากถา้ เวลาผา่ นไป วันนี้เป็นวนั ท่ี ๗ พวกภกิ ษุอาคนั ตกุ ะท่ีถูกขังอยู่ ตนเห็นและท่ีตนประสพพบมาในระหวา่ งทาง ในถ้า ไมไ่ ดฉ้ ันอะไร จงึ หิวกระหายอย่างมาก พระศาสดา ไดต้ รสั พยากรณ์ผลแหง่ กรรมตา่ งๆ แกภ่ ิกษเุ หลา่ นน้ั มีรายละเอียด ดังนี้ กรรมพยากรณ์ ตอน ผลกรรม ทท่ี าใหก้ าถกู ไฟไหมก้ ลางอากาศ ภิกษุทั้งหลาย กาตัวนน้ั ไดร้ บั ผลของ กรรมเก่าที่ตนทาไว้ในอดตี เหมอื นกนั คอื ในอดตี กาล ชาวนาคนหน่ึงในกรุง พาราณสี ขณะทกี่ าลงั ฝึกหัดววั สาหรับไถนา แต่ ไม่สามารถจะฝกึ ได้ เพราะว่าวัวของเขา พอเดนิ ไปไดส้ กั พกั หนึง่ แล้วลม้ ตวั ลงนอนเสยี แม้ เจ้าของตใี หล้ ุกข้นึ แล้ว พอเดนิ ไปไดห้ น่อยหน่งึ ก็

โรคกรรม ๑๐๗ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ ลม้ ตัวลงนอนอีกเหมอื นเดมิ ชาวนาคนนั้น นางกระดากอาย เพราะคาพดู ของคน แม้พยายามแลว้ พยายามอกี แต่ก็ไมเ่ ป็นผล จน หนุ่มพวกนน้ั จึงหยิบกอ้ นดินและท่อนไม้ขวา้ ง เขาโกรธจัด จงึ พูดกับวัวตวั น้นั ว่า ‘ต่อไปน้ี เจา้ ปาสนุ ัขใหห้ นไี ป สนุ ขั วิ่งหนไี ปแล้ว แต่กลับว่ิง จะไดน้ อนสบายอย่างทเ่ี จ้าต้องการ’ จึงไปเอา ตามนางไปอกี เพราะมีสญั ญาเก่าในอดีต คอื ฟางมาพันทีค่ อของวัวตัวน้นั แล้วจดุ ไฟเผาท้ัง ในชาตทิ ่ี ๓ นับจากชาตนิ นั้ ไป สนุ ขั ตวั น้ี เคย เปน็ จนมันถึงแก่ความตาย ณ ที่นั้นเอง เปน็ สามขี องนางมากอ่ น เพราะฉะนน้ั มันจงึ ไมอ่ าจตัดความรกั ความอาลยั ได้ ภกิ ษทุ งั้ หลาย กาในชาตทิ ่ีเขาเกิดเปน็ ชาวนานนั้ ไดท้ าบาปกรรมอันนี้ไว้ ตายจากชาติ จรงิ อย่างนนั้ ตามหลกั ธรรมใน น้นั ชาวนาคนนัน้ ได้ถกู ไฟนรกไหม้เป็นเวลา พระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธองคไ์ ด้ตรสั ไวว้ ่า ผูท้ ่ี ยาวนาน พน้ จากนรก จากเศษกรรมทเี่ หลือ เขา ไมเ่ คยเป็นสามภี รรยากนั มากอ่ นในสงั สารวัฏ ไดถ้ อื กาเนิดสตั ว์เดรัจฉาน เกดิ เปน็ กา แลว้ ถกู ไฟ อนั ยาวนานน้ี ไม่มเี ลย ซงึ่ เราจะเห็นความรกั ไหม้ตายในอากาศอย่างนถ้ี งึ ๗ ครั้ง ความผูกพนั ของคนทเ่ี คยเกดิ เปน็ ญาติพน่ี อ้ งกนั ใน ๒-๓ ชาติที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ สนุ ขั ตัวนั้น จงึ ตอน กรรมถูกจบั ถ่วงน้า ตัดความผกู พนั จากนางไมไ่ ด้ ภิกษุทง้ั หลาย ผู้หญงิ คนน้นั ไดร้ ับผล นางโกรธสนุ ัขตวั นั้นมาก ขณะท่ีนาขา้ ว ของกรรมเก่าที่ตนทาไว้ในอดีตเหมอื นกัน คือ ยาคไู ปส่งให้สามที น่ี า จงึ ได้เอาเชือกใสไ่ วใ้ นชาย พกไปด้วย วันนน้ั สุนัขไปกับนางเชน่ เคย ในอดตี กาล ผหู้ ญงิ คนนั้น เคยเปน็ หลงั จากนางใหข้ า้ วยาคสู ามีเรยี บร้อยแลว้ จึง ภรรยาของคฤหบดคี นหนึง่ ในกรุงพาราณสี ได้ ถอื เอากระออมเปลา่ ไปท่านา้ แห่งหน่งึ เอาทราย ทากจิ ทุกอยา่ งมีตกั น้า ซ้อมข้าว ปรุงอาหารเป็น บรรจุใส่กระออมจนเต็มแลว้ ส่งสญั ญาณเรยี ก ตน้ ด้วยมอื ของนางเอง สนุ ขั ตวั หนึ่งของนาง นั่ง สนุ ขั มา ซึง่ มนั ก็ยนื มองดอู ยใู่ กล้ๆ มองดูนางขณะที่ทากจิ ตา่ งๆอยู่ในเรอื น ขณะที่ นางนาอาหารไปส่งสามที ่ีนาก็ดี เวลาที่นางเข้า สุนขั เกิดความดีใจ เพราะนานมาแล้ว ป่าเพือ่ ตอ้ งการฟนื และผักเปน็ ต้นกด็ ี สุนัขตวั นั้น ที่ไมเ่ คยไดย้ นิ ถ้อยคาท่ีไพเราะเหมอื นวนั นี้ จึง ก็ไปกับนางทกุ คร้งั พวกคนหนุ่มเห็นดงั นนั้ จึง เดนิ กระดกิ หางเขา้ หานาง นางผู้ใจโหดร้าย จบั พูดเปน็ เชิงแซววา่ ‘ดโู นน่ พอ่ พรานสุนขั ออกไป สุนัขทคี่ อแลว้ รบี เอาปลายเชอื กข้างหนึ่งผกู ล่าสัตวแ์ ล้ว วันนี้พวกเรา คงจะไดท้ านข้าวกบั กระออมไว้ เอาปลายเชอื กอีกข้างผกู คอสุนัข เนอื้ แนๆ่ ’ แลว้ ผลกั กระออมใหก้ ล้งิ ลงน้า สุนัขตาม

โรคกรรม ๑๐๘ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ กระออมไป แลว้ พลัดตกลงไปในน้า แล้วจมนา้ เหี้ยอยู่ในรู ๗ วัน ไม่ไดก้ นิ เหยื่อจนผอมแห้งแรง ตายตรงนัน้ น้อยเหลอื แตก่ ระดูกและหนังคลานออกจากรู ดว้ ยความอิดโรย พวกเดก็ เห็นเชน่ นัน้ แลว้ จึง หลังตายจากชาตนิ นั้ นางถกู ไฟนรก เผาไหม้อยู่นานแสนนาน เพราะเศษของ สงสารมัน เลยพดู กันว่า ‘พวกเราอยา่ ฆ่ามันเลย บาปกรรมท่ยี งั เหลอื คา้ งอยู่ มาในชาตนิ ้ี จึง มันอดเหยื่อมาต้งั ๗ วนั ’ จงึ ลูบหลังเหี้ยตัวนั้น ถกู คนเอาทรายใสเ่ ต็มกระออม จับผูกคอถว่ งน้า แล้วปล่อยไป โดยพดู ว่า ‘จงไปตามสบายเถดิ ถึงแกค่ วามตายเช่นน้ีอกี ๑๐๐ ชาติ เจา้ เห้ียเอย’ ตอน กรรมถูกขงั ในถ้า ๗ วัน พวกเดก็ ทั้ง ๗ คนนัน้ ไมต่ อ้ งไปตก นรก เพราะไมไ่ ด้ฆา่ เหยี้ แตเ่ กดิ มาในชาติใหม่ ภกิ ษทุ ้งั หลาย แมพ้ วกเธอก็ได้รบั ผล ตอ้ งมาอดนา้ อดอาหารเปน็ เวลา ๗ วนั ถงึ ๑๔ กรรมท่ีตวั เองเคยกระทาแลว้ ไว้เหมอื นกนั ชาติ เรอื่ งราวในอดตี ชาติของพวกเธอมี ดังน้ี ภิกษทุ ั้งหลาย กรรมนน้ั พวกเธอเป็น ในอดตี กาล เด็กเลย้ี งโค ๗ คนชาวกรุง เดก็ เลีย้ งโค ๗ คนทาไวแ้ ลว้ ในชาตินั้น พาราณสี เทย่ี วเลย้ี งโคอยคู่ ราวละ ๗ วัน ใน สถานที่ใกล้ป่าดงแห่งหนงึ่ วันหนึ่ง หลังจาก พระศาสดาทรงเป็นสัพพัญญู ผ้รู ้แู จ้ง เลีย้ งโคกลับมาแลว้ มาพบเหย้ี ใหญต่ วั หนงึ่ จงึ สรรพสง่ิ ทรงมกี รรมวิปากญาณหยัง่ รู้วบิ ากกรรม พากนั ไล่จบั เหยี้ วิ่งหนเี ขา้ ไปในจอมปลวกแห่ง ของสัตวโ์ ลกทง้ั หลายตามเปน็ จริง อย่างไม่ หนึ่งซึง่ มรี ู ๗ รู ผดิ พลาดคลาดเคลื่อน ได้ทรงพยากรณ์กรรม เร่อื งกาถกู ไฟเผากลางอากาศ เรอ่ื งภรรยาของ พวกเดก็ ปรกึ ษากันวา่ \"เวลาน้ี พวก นายเรือถูกจับถว่ งนา้ และเร่ืองภิกษุ ๗ รปู ถกู เราคงจับมันไมไ่ ด้ พรงุ่ นค้ี ่อยหาวิธีจับมันใหมก่ ็ กักขังในถ้า ตอ้ งอดอาหาร ๗ วัน แลว้ กนั \" ท้ัง ๗ คนตา่ งคนต่างพากนั ถอื เอาก่งิ ไม้ มาปดิ รู แลว้ พากันแยกยา้ ยกันไป ในวนั รุ่งขนึ้ เมอ่ื พระพทุ ธองคแ์ สดงธรรมจบลง พวก เด็กเหลา่ นน้ั ไม่ไดน้ กึ ถงึ เห้ยี ตัวนั้นอีกเลย พากนั ภกิ ษทุ ีท่ ลู ถามกรรมปญั หานน้ั ๆ ก็ได้ดวงตาเหน็ ตอ้ นโคไปเลย้ี งในที่อน่ื ธรรม ด้วยประการฉะนี้ พอถึงวันที่ ๗ พากันต้อนโคกลับมาถงึ สถานที่ เดมิ มองเห็นจอมปลวก จงึ พากนั นกึ ได้ คดิ กนั วา่ ‘เหี้ยตัวนั้น จะเป็นอยา่ งไรหนอ’ จึงเปดิ รทู ่ีปดิ ไว้

โรคกรรม ๑๐๙ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ กรณีตวั อยา่ ง พวกเขาไดพ้ บวา่ แมวได้เสยี ชีวิตอยา่ ง เจบ็ ปวดทกุ ข์ทรมาน เรอื งเองผูเ้ ปน็ ต้นคิด ผลกรรมจากการฆ่าและเบยี ดเบียนสตั ว์ เรือ่ งการเผาแมว พอคิดถงึ เร่ืองการเผาแมวมาท่ี จากรายการ \"กรรมลขิ ิต\"๑๘ ไร กไ็ มส่ บายใจทุกที ตอ่ มาประมาณ ๒ เดือน เขาได้ล้มปว่ ยไมส่ บาย มอี าการจกุ แนน่ และ ออกอากาศประจาวนั องั คาร เวลา ๓ ท่มุ เปน็ ตน้ ไป ปวดแสบร้อนท่บี รเิ วณหน้าอกอย่างแรง ผู้ดาเนินรายการ... มนตรี เจนอกั ษร เหมือนถกู ไฟเผาลน เขารอ้ งดว้ ยความ เจบ็ ปวด แสบรอ้ นอยา่ งมาก และมีรอยไหม้ ๑. เรอ่ื ง ไฟโลกันต์ เหมือนถกู ไฟลนทบ่ี รเิ วณหนา้ อกจริงๆ พ่ีนอ้ งเห็น ถา่ ยถอดประสบการณ์โดย อาการน่าเป็นหว่ งจงึ นาสง่ โรงพยาบาล ต่อมา คุณจันทะ แสงพรหมสี เขามอี าการหายใจไม่ออก เจบ็ ปวดแสบรอ้ น ทรมานอยา่ งมาก จนทนไมไ่ หว แล้วส้ินใจตาย คณุ จันทะ(พีช่ าย)และเรือง(น้องชาย) ไปอย่างน่าสงสาร โดยทห่ี มอและพน่ี ้องไมม่ ีใคร เล่าวา่ ไดพ้ ากันไปถอดแหทีห่ นองน้าแหง่ หนึ่ง ได้ สามารถจะช่วยได้ ปลามาสองสามตวั แลว้ ขังไว้ในถังเพ่ือจะทาเปน็ อาหารในวนั รุ่งข้นึ พอตกกลางคืน แมวก็ได้มา ๒. เรือ่ ง ตรำบำปชว่ั นิรันดร์ ขโมยปลาไปกิน โดยท้ิงก้างปลาไวท้ ีช่ ายคาบ้าน กรรมท่ีทาใหป้ วดขาและตาบอด เป็นหลกั ฐาน เหตุการณเ์ ปน็ อย่างน้ีอยู่ ๒-๓ คร้ัง จงึ ทาให้เรืองโมโห โกรธแคน้ อย่างมาก สองพ่ี ถ่ายทอดประสบการณ์โดย นอ้ งจึงได้พากนั วางแผนจบั แมวหัวขโมย โดย นายแพทย์สมหมาย ทองประเสรฐิ การใชบ้ ว่ งดัก พอจบั ได้ จงึ คิดหาทางลงโทษแมว อย่างสาสมดว้ ยการใชน้ า้ มันลาด เอาหมอน นายแพทยส์ มหมาย ไดร้ บั ฉายานามว่า ผกู ไวท้ ่หี างแมว แล้วจุดไฟเผาท่ใี กล้บริเวณไร่ เปน็ หมอเทวดา ในการรักษาโรคมะเรง็ แม้จะมี ออ้ ย เมอื่ แมวโดนเผาทง้ั เป็นกว็ งิ่ หนีตายสดุ ชีวติ ความร้เู รอ่ื งการรักษาโรคมาอยา่ งดี แตใ่ น ทัง้ พีน่ อ้ งหวั เราะดว้ ยความมนั สะใจ แมวได้วิ่ง กรณขี องโรคกรรม กลับไม่สามารถรักษา ไปที่ป่าอ้อย ทาให้ไรอ่ อ้ ยเสยี หายอยา่ งมาก โรคตาของตัวเองได้ ประมาณ ๓ ไร่ แต่โชคดที ่เี ป็นไรอ่ อ้ ยของเอกพี่ น้องกนั จงึ ยอมความกนั ไดง้ า่ ย ต่อมาภายหลงั คณุ หมอสมหมาย มีนสิ ัยชอบเขา้ ป่าล่า สัตว์ บรเิ วณเขตป่าจังหวัดเพชรบูรณ์ ยิงสัตว์ ๑๘สามารถดูเรื่องเหล่าน้ไี ดจ้ ากเว็ปไซท์ ประเภท ชะนี กวาง เกง้ วัวกระทงิ และนก วัน www.youtube.com โดยพมิ พค์ าว่า กรรมลิขิต หรอื หนง่ึ มเี พอ่ื นบอกว่า อยากไดล้ กู ชะนมี าเลยี้ ง จงึ Gamlikit แลว้ คลิ๊กเขา้ ไปดูไดเ้ ลย

โรคกรรม ๑๑๐ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ พากันมองหาชะนี เม่อื ตอ้ งการลกู ชะนี กต็ อ้ งยงิ การศกึ ษา คงไม่งมงายกบั เรื่องที่ไมม่ เี หตผุ ล แต่ แม่ชะนี วนั น้ัน หมอสมหมายเหนื่อยมาก ตัง้ ใจ เรื่องกฎแห่งกรรม โรคกรรมโรคเวรนนั้ มีจรงิ จะยงิ แมช่ ะนี แต่ลูกปนื กลบั ไปโดนขาลูกชะนี เลยตดั สนิ ใจยงิ ท้งั แม่และลกู ชะนตี าย เรอ่ื งนีท้ า ๓.เรื่องกรรมของท่ำนนำยพล ใหส้ ะเทือนใจคุณหมอมาก จึงตดั สนิ ใจเลิกเขา้ กรรมทท่ี าใหก้ ะโหลกสมองยบุ ปา่ ลา่ สตั ว์ ถ่ายทอดประสบการณ์โดย พอถึงเวลาทผ่ี ลกรรมจากการฆ่าและ พล.อ.ท. บุญทรง สภุ านนั ท์ อายุ ๘๔ เบียดเบียนสตั วส์ ง่ ผล วนั หนงึ่ ในขณะท่ีกาลงั ขดุ ดนิ สาหรับปลกู ต้นไม้ เกดิ การเอ้ยี วตัวผดิ ท่า ทา วันนนั้ ทา่ นนายพลไปตกี อล์ฟกบั เพอื่ นๆ ใหก้ ารปวดขาแบบผิดปกติ ทาอยา่ งไรก็ไมห่ าย ในขณะท่ีกาลงั เดินตกี อลฟ์ อยู่ดีๆนนั้ ตอ้ งลม้ ฟบุ ทานยากไ็ มห่ าย ต้ังใจวา่ ถา้ สวดมนต์แผเ่ มตตา ลง ไดถ้ กู หามส่งโรงพยาบาลดว่ น เมอื่ หมอ ให้เจ้ากรรมนายเวรประมาณ ปหี น่งึ ไม่หาย จะ ตรวจเชค็ ดีแลว้ บอกวา่ จะตอ้ งผ่าตัดสมอง เอา กนิ ยานอนหลบั ทเี่ ตรยี มไวใ้ ห้ตายไปเลย เพราะ เลอื ดท่ีขงั อยใู่ นบรเิ วณนั้นออก มเิ ช่นน้นั สมองจะ ทรมานมาก แตเ่ หมอื นปาฏิหารยิ ์ จากอานสิ งส์ บวม ทาใหห้ มดความร้สู กึ และตายได้ เพราะ สวดมนต์และแผ่เมตตาใหเ้ จ้ากรรมนายเวร ขาที่ กะโหลกยบุ เนอ่ื งจากลกู กอลฟ์ โดนศีรษะบรเิ วณ เป็นเจ็บปวดมานาน กลบั มาหายปกติ ดา้ นซ้าย ซง่ึ เหตกุ ารณ์นี้ ไมน่ า่ จะเกดิ ขึน้ ได้ คง ต้องเป็นหนึง่ ในลา้ น รอยบาดแผลหลงั การผา่ ตัด อยู่ต่อมาไม่นาน มีคนทร่ี จู้ ักคุ้นเคยกนั เหมอื นรูปคอไก่ ทาให้ทา่ นนายพลคนนี้นึกถงึ ชวนไปดตู น้ ไมท้ ปี่ า่ จงึ เขา้ ปา่ วันนนั้ มีฝนุ่ เข้าตา เรือ่ งกฎแหง่ กรรมขึ้นมา แล้วนึกยอ้ นหลงั ไปเมอ่ื ขา้ งขวา ทาใหข้ ัดเคือง หมอสมหมายไดใ้ ชว้ ิธี ปี ๒๔๘๓ รักษาเหมอื นท่ีเคยเรยี นมา แตท่ าอย่างไรกไ็ ม่ หาย ใหห้ มอรกั ษาอยา่ งไรก็เหมอื นเดิมมีแต่จะ สมัยทเ่ี ปน็ เดก็ แม่ใชใ้ หไ้ ปซ้อมข้าวทค่ี รก แย่ลง สดุ ทา้ ย ทาใหต้ าพรา่ มัวลงและบอดใน กระเด่ือง ขณะทซ่ี ้อมตาขา้ วอยนู่ ั้น ได้มองเหน็ ท่ีสุด ทาให้หมอสมหมายนกึ ถงึ คร้งั หน่งึ ทผี่ ่านมา ไก่ผตู้ ัวหน่ึง กาลงั ขนั อย่างไพเราะและเดนิ อวด นานจนลมื ไปแลว้ ไดเ้ คยใช้ปืนยิงนกแร้งซงึ่ โดน โชวข์ นของมันอยู่ บุญทรง เห็นแล้วก็นกึ หมน่ั ไส้ บริเวณตาขวา ทาใหแ้ รง้ น้นั ตกลงมาตายทันที ขน้ึ มา อยากจะลองทุบหวั มนั ดู จงึ คว้าไม้ค้อนได้ เมือ่ โดนฝนุ่ ผงเข้าตาขวา จนทาให้ตาขวาบอด เดนิ ไปข้างหลัง แลว้ ฟาดลงไปที่หัวไก่ ผล ไมเ่ ชอื่ ก็ตอ้ งเชอื่ เพราะเรอื่ งอยา่ งน้ีไม่ใชบ่ งั เอิญ ปรากฏวา่ ไก่ตายสนทิ แล้วกเ็ อาไปตม้ กิน ผล เน่อื งจากหมอสมหมายเปน็ คนมีความรมู้ ี กรรมจากการแอบใชไ้ ม้ตีหวั ไก่ขา้ งหลังจนตาย

โรคกรรม ๑๑๑ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ทาให้ต้องมาโดนลกู หลงจากลกู กอลฟ์ ท่คี นอนื่ ตี เดก็ ชายดงั ได้เล่าถึงประสบการณ์นี้วา่ มาแบบไมร่ ูต้ ัว ผล คอื ไมถ่ งึ กับตาย แค่สลบและ เปน็ เพราะกฎแหง่ กรรมท่เี ขาเคยทามาก่อนหนา้ กะโหลกสมองยบุ นี้ คอื ไดจ้ ดุ ไฟเผามดตายไปหลายรอ้ ยตวั จงึ ต้องมาโดนหม้อแปลงไฟฟา้ ระเบดิ ใส่ และ ๔. เร่อื ง สำนึกของน้องดงั ต้งั ใจไปบวชเปน็ สามเณรเพ่ืออทุ ศิ ส่วนกุศลให้ ผลกรรมจากการจดุ ไฟเผามด เจ้ากรรมนายเวร ถ่ายทอดประสบการณโ์ ดย เด็กชาย ถิรวฒุ ิ พุกสวัสด์ิ ๕. เรื่องโรคกรรม กรรมท่ที าให้เปน็ โรคมะเรง็ คอ ในปีพ.ศ. ๒๕๔๐ ขณะทีเ่ ด็กชายดงั และ นอ้ งสาว ไดป้ น่ั จกั รยานไปเทยี่ วเลน่ ตามประสา ถ่ายทอดประสบการณ์โดย เดก็ ผา่ นมาที่โรงเกบ็ ไฟฟา้ ใจนกึ อยากรู้อยาก คณุ ศรีเวยี ง เวยี งนนท์ (ตกุ๊ ตา) เห็นอะไรบางอยา่ งข้ึนมา จึงเดนิ เข้าไปใกล้ เรื่องโรคกรรมนี้ คุณแมล่ าดวนและคุณ มองเห็นหมอ้ แปลงไฟฟา้ ดว้ ยความอยากรอู้ ยาก ตุ๊กตาลูกสาว ไดเ้ ล่าวา่ \"ฐานะทางครอบครัว เห็น จึงเอามอื ไปปดิ สวทิ ซ์ไฟ หรอื ปุม่ อะไรสัก ยากจน ลาบากมาก ไมม่ ีแมบ้ า้ นจะซกุ หัวนอน อย่าง เกดิ ไฟฟา้ ลัดวงจร หมอ้ แปลงไฟฟ้าเกิด ตอ่ มาสามขี องคณุ แมล่ าดวนและลกู สาว ได้มา ระเบิดขน้ึ มา เพราะแรงระเบดิ ทาให้ร่างของนอ้ ง ประกอบอาชีพขายอาหาร และขายไกป่ ้ิงโดยไป ดัง ลอยกระเด็นไปไกลพอสมควร อยใู่ นอาการ ซือ้ ไกท่ ่ตี ายแลว้ มาป้งิ ขาย พอกจิ การดีข้ึน มคี น สลบไมร่ สู้ ึกตัว สั่งเยอะ จึงตดั สินใจไปซอื้ ไกเ่ ปน็ ๆมาขังเล้ียงไว้ แลว้ วันไหนมีลกู คา้ ส่ังเยอะ กฆ็ า่ เยอะ วธิ กี าร สมควร มาลาหอม ผเู้ ป็นอาได้ยนิ เสยี ง ฆ่า คอื จับไกม่ ัดแลว้ ก็เชอื ดท่ลี าคอ บางตวั ก็ ดงั จงึ พากันรีบเข้าดูเหตกุ ารณ์ แลว้ พบว่า ไม่ได้ตายทนั ที ทาอยอู่ ย่างน้ี ไม่นานกเ็ กบ็ เงินได้ เดก็ ชายดงั น้ี โดนแรงระเบิดจากไฟฟ้าลดั วงจร เยอะ เรม่ิ เปน็ อยสู่ บายขึน้ จากคนทไี่ มม่ ีจะกนิ อย่ใู นอาการสลบ แนน่ ่งิ ไมแ่ น่ใจวา่ จะเป็นหรอื ไมม่ บี ้าน กลบั มามชี ีวิตทีด่ ขี ึน้ สบายขึ้นมีอาหาร ตาย แขนขวามรี อยเหมอื นไฟไหม้ รอ่ นหลุดออก กนิ มีบ้านอยู่ ชีวติ ราบรน่ื เป็นอยูอ่ ย่างน้ี เมื่อไปถึงโรงพยาบาล พอตรวจเชค็ รา่ งกายแลว้ ประมาณ ๑๐ ปี ปรากฏว่า ทุกอยา่ ง ไมว่ า่ จะเปน็ สมอง หวั ใจ อยมู่ าไมน่ าน คณุ พอ่ ของคณุ ตุ๊กตา เริม่ กลา้ มเน้อื ทางานปกติ ไมเ่ ป็นอะไรมาก อย่ใู นขัน้ มอี าการไอและเจ็บคอ ได้แตป่ ลอบใจตวั เองวา่ ปลอดภัย \"เจบ็ คอนดิ หนอ่ ย กนิ ยาแล้วกห็ าย\" ๑ เดอื น

โรคกรรม ๑๑๒ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ ผ่านไป อาการยงั ไมท่ เุ ลา วนั หนง่ึ สามีฝันไปวา่ กรรมทที่ าใหเ้ ป็นโรคหัวใจ \"มีไก่มากมายเข้ามารมุ จกิ รมุ ท่ึงทคี่ อ แล้ว สว่ นผลกรรมจากการวิ่งจับไก่ใหพ้ ่อ ตกใจตื่น\" และฝนั ร้ายอย่างนห้ี ลายครงั้ จน เชอื ดคอ เป็นการส่งเสริมสนบั สนนุ การทาบาป ตัดสนิ ใจไปทาบุญทีว่ ดั เพื่อให้สบายใจ เปน็ บาปท้งั คนทา คนส่งั ใหท้ า คนทย่ี ินดพี อใจ และยกย่องสรรเสรญิ เมอื่ กรรมน้สี ง่ ผล เปน็ เหตุ ช่วงหลัง พอ่ ของคุณตุ๊กตามักจะพูดถงึ ทาใหค้ ุณตกุ๊ ตา มีอาการเจบ็ แนน่ ที่หนา้ อก เรือ่ งเวรเร่อื งกรรม ทานองท่ีว่า \"พ่อมกี รรมเยอะ ดา้ นซา้ ย หายใจไม่ออก เหนอ่ื ยงา่ ย ใจหววิ ๆ เพราะฆา่ ไกม่ ามาก\" อาการไอเจบ็ คอของพ่อ เหมอื นใจจะวายใจจะขาด ทกุ ครง้ั ทมี่ ีเรอื่ งทาให้ เมื่อไปตรวจทโ่ี รงพยาบาลได้พบวา่ \"เปน็ ไม่สบายใจ กลมุ้ ใจ หรอื โกรธจดั หมอบอกวา่ โรคมะเร็ง\" ไมไ่ ดเ้ ปน็ มะเรง็ ที่อวยั วะส่วนอืน่ แต่ \"มอี าการโรคหวั ใจออ่ นๆ\" เปน็ ท่ีบรเิ วณลาคอซงึ่ มาสอดคล้องกบั การเชอื ด คุณแม่ลาดวนและคุณตกุ๊ ตา หลงั จากได้ คอไก่ จะตอ้ งทาการผ่าตัดทลี่ าคอบริเวณ เรียนรเู้ รอ่ื งเวรกรรม สานกึ บาปบุญคุณโทษแลว้ ลกู กระเดอื ก หลงั จากการผ่าตัดสภาพของพ่อ ได้ทาบญุ กรวดน้า แล้วอทุ ศิ บุญไปให้พอ่ \"บญุ เหมอื นกับไกท่ ี่ถกู เชอื ดคอ พ่อเคยพูดว่า \"ที่ กศุ ลใดทล่ี กู ทา ขอให้พ่อมสี ่วนแห่งบญุ กศุ ลน้ัน เปน็ อย่อู ย่างนสี้ งสยั นา่ จะเป็นโรคกรรมเวรทเี่ คย และจงไปส่สู คุ ติดว้ ยเถดิ \" เชอื ดคอไก่มา\" กอ่ นตายพอ่ สั่งไว้ว่า \"อยา่ ไปทา อย่างนี้อีก มนั ไมด่ ี เป็นบาปกรรม\" เมอื่ คณุ พ่อ ไดร้ ับการผา่ ตัดทค่ี อ ทาใหแ้ ผลลาคอเกิดภาวะ เน่า พูดไมไ่ ด้ และกลนื ขา้ วไม่ได้ กอ่ นตาย ไดพ้ ูด กบั ลูกเมียวา่ \"วันนี้ เขามารบั แล้ว พ่อจะได้ไป แล้ว\" เงนิ ทองที่หามาไดจ้ ากการประกอบ อาชพี ฆา่ ไก่ขาย ได้นามารกั ษาพ่อ จนหมดเนือ้ หมดตัว และทาใหเ้ ป็นหนสี้ นิ อกี มากมาย

โรคกรรม ๑๑๓ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ ปลายทางชวี ิต...ของคนมบี าป คนพาลประพฤติกายทุจริต ประพฤตวิ จที ุจริต ประพฤตมิ โนทุจริต หลงั จากตายแล้ว จะไปเกดิ ในอบาย ทคุ ติ วนิ ิบาต นรก บคุ คลเมือ่ จะกล่าวให้ ถกู ต้อง พึงกลา่ วถึงนรกน้ันนั่นแหละวา่ ‘เปน็ สถานทไี่ ม่น่าปรารถนาไม่น่าใคร่ ไมน่ ่าพอใจ โดยสว่ นเดียว’ ทุกขน์ ้ีกบั ทุกขใ์ นนรกเปรียบเทียบกันไมไ่ ด้” เปรียบเสมือนนักโทษทีถ่ กู ท่ิมแทงด้วยหอก ๓๐๐ คร้ังทัง้ ตอนเช้า กลางวันและตอน เย็น คนพาลนั้น ถ้ามาเกิดเป็นมนษุ ย์ กจ็ ะเกิดในตระกูลต่า คือ ตระกลู คน จัณฑาล ตระกูลนายพราน ตระกูลช่างสาน ตระกูลชา่ งรถ หรือตระกูลคนขนขยะ เช่นน้ัน ท่เี ป็นตระกูลยากจน มีขา้ ว นา้ และส่งิ ของเคร่ืองใช้นอ้ ยเป็นไปอยา่ งฝดื เคือง เปน็ แหล่งท่ีหาของกินและเครื่องนุ่งห่มได้ยาก และคนพาลนน้ั มีผวิ พรรณหม่นหมอง ไมน่ ่าดู ตา่ เต้ีย มีความเจบ็ ป่วยมากตาบอด เปน็ ง่อย เป็นคนกระจอก หรือเปน็ โรค อัมพาต มกั ไม่ได้ข้าว น้า ผ้า ยานดอกไม้ ของหอม เครอ่ื งลูบไล้ ทนี่ อน ทีพ่ กั และ เคร่ืองประทีป เขายงั ประพฤตกิ ายทจุ ริต ประพฤติวจีทจุ ริต ประพฤติมโนทจุ ริต หลงั จากตายแลว้ จะไปเกิดในอบาย ทุคติ วนิ ิบาต นรก ภิกษทุ งั้ หลาย เปรียบเหมอื นนกั เลงการพนนั เพราะความพ่ายแพค้ รง้ั แรก เท่านัน้ จึงเสียลกู เสยี เมีย เสยี ทรัพย์สมบัตทิ กุ อย่าง และถึงการจองจา ที่เปน็ การ สญู เสยี อยา่ งยงิ่ ความพา่ ยแพ้ ของนักเลงการพนนั ผ้เู สียลกู เสียเมีย เสียทรพั ย์ สมบัตทิ ุกอย่าง และถึงการจองจาเพราะความพา่ ยแพค้ รง้ั แรกนน้ั เป็นเพียง เลก็ น้อยแม้ฉันใด ความพ่ายแพ้ของคนพาลผู้ประพฤติกายทจุ รติ ประพฤติวจที ุจริต ประพฤตมิ โนทุจรติ หลงั จากตายแล้ว จะไปเกิดในอบาย ทุคติ วนิ ิบาต นรก ฉันนน้ั เหมอื นกัน พาลปัณฑติ สตู ร พระไตรปิฎก เลม่ ๑๔ มชั ฌิมนกิ าย อุปริปณั ณาสก์ (มจร.แปล) หนา้ ๒๙๐ -๓๐๘

โรคกรรม ๑๑๔ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ๒. ตงั้ กุศลจิต เมตตาจิตไวใ้ ห้มัน่ ธรรมโอสถ มีความคดิ ท่ดี งี ามอันเตม็ ไปด้วยความ วธิ ีลด ละ ชาระลา้ ง แกก้ รรม รกั ความสงสาร ความเหน็ ใจ ความหวังดี ความ เส้นทางแหง่ ความสวัสดี ทาบุญหนบี าป ปรารถนาดีตอ่ สรรพสัตวท์ งั้ หลายผูเ้ ปน็ เพือ่ นเกิด ตามธรรมดา สิ่งในโลก ย่อมมขี องคู่กัน แก่เจ็บตาย แลว้ ใหอ้ ภยั ทาน จะไมค่ ิด คือ มผี กู ย่อมมแี ก้ มีมืด ย่อมมสี ว่าง มีดา ย่อมมี ขาว มบี าป ย่อมมีบุญ มกี รรมดา ยอ่ มมกี รรม เบียดเบยี น เขน่ ฆา่ รงั แกคนและสัตวท์ ง้ั หลายทั้ง ขาว มีบว่ งกรรม ย่อมมวี ธิ ที างพ้นจากวังวนแห่ง กรรม ผู้ทไี่ ด้ศกึ ษาธรรมะ เขา้ ใจเรอื่ งบุญบาป ปวงอีก จะมแี ต่ความรกั ความเอน็ ดู ใหก้ าร เรอ่ื งกฎแหง่ กรรมดแี ลว้ เม่ือรตู้ ัวสานึกได้ ตอ้ งการแกก้ รรมในเรอื่ งการฆา่ และเบียดเบยี น รักษาดูแลชว่ ยเหลอื มัน่ ศึกษาอานสิ งส์ของ สัตว์ พงึ ปฏิบตั ติ ามหลกั ทาน ศีล ภาวนา ดังต่อไปน้ี เมตตาทีก่ ล่าวไว้ในเมตตาสตู ร๑๙ ทพี่ ระพทุ ธองค์ ๑.คบกลั ยาณมติ ร ไดต้ รสั ถึงอานสิ งส์แหง่ เมตตา มีเนื้อความโดยยอ่ หม่นั ศึกษาพจิ ารณาธรรมะ สร้าง สัมมาทิฐิใหเ้ กิดข้ึน สานกึ ผดิ ในการฆา่ และ วา่ พลังแหง่ ความรัก ความหวงั ดี ปรารถนาดี เบยี ดเบยี นทรมานสตั ว์วา่ เปน็ การกระทาทไ่ี ม่ ถูกต้อง โหดร้าย ทารณุ หยาบกระด้าง ไรค้ วาม หรอื อานุภาพแห่งเมตตาเจโตวิมุตตริ ะดับ เมตตาปราณี เปน็ การกระทาทไ่ี มย่ ตุ ธิ รรม แสวงหาความสุขบนความทกุ ขข์ องผอู้ น่ื เหน็ แก่ ฌาน สมาธชิ นั้ สูงที่บุคคลไดฝ้ กึ ฝน ฝกึ หัด ตัว ขาดการรบั ผิดชอบชั่วดี เป็นการก่อเวร สร้าง บาปกรรมและต้องเสยี เวลามาชดใชโ้ ดยไม่ อบรมสั่งสมไว้ดีแลว้ จนเกดิ ความเชย่ี วชาญ จาเปน็ เปน็ ไปเองโดยอตั โนมตั ิ จะเกดิ อานภุ าพ อานสิ งส์ ๑๑ ประการ ดงั น้ี ๑. ทาใหน้ อนหลับงา่ ย หลบั สบายผ่อน คลายไมฟ่ งุ้ ซ่าน หลับเปน็ สขุ เหมือนเขา้ สมาธิ ๒. เม่ือตืน่ แล้ว จิตใจโล่ง โปรง่ เบาสบาย สดชื่น ไมง่ วั เงีย ซึมเซา ๓. ในขณะนอนหลับ กไ็ มฝ่ ันร้าย ฝันแต่ เร่ืองดๆี เชน่ ฝันวา่ ไปไหวพ้ ระ เจดยี ์ เปน็ ต้น ๔. เป็นทีร่ กั เปน็ ทน่ี ิยมชมชอบของคน ท่ัวไปทไ่ี ดพ้ บเจอ ๑๙ พระไตรปิฎก เล่ม ๒๔ อังคตุ ตรนกิ าย เอกาทสกนิบาต (มจร.แปล)หน้า ๔๒๕

โรคกรรม ๑๑๕ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ ๕. เปน็ ที่รกั ของอมนุษย์ เช่น เทวดา วัวกเ็ ปน็ เหมอื นใบตาลปลิวไปกระทบผิวหนัง ไม่ ท้ังหลาย สามารถทาอันตรายแก่ววั ตัวน้ันได้ ท้ังนไ้ี มใ่ ช่ เพราะวา่ แม่วัวมพี ลงั สมาธแิ กก่ ล้า แต่เปน็ เพราะ ๖. เทวดาทง้ั หลายรักษา คุม้ ครอง อานภุ าพแห่งความรักของแม่ทม่ี ตี อ่ ลกู อยา่ ง ปอ้ งกนั เหมอื นแม่รกั และดแู ลลูก ลึกซ้งึ จนสามารถเป็นพลงั ปกป้องคมุ้ ครองชวี ิต ตวั เองไวไ้ ด้ ๗. ไฟ ยาพิษ หรอื ศสั ตรา ไมอ่ าจกลา้ กราย จะแคลว้ คลาดปลอดภยั ไม่เปน็ อนั ตราย ๓.ตั้งจติ ให้ม่นั ในการทจี่ ะรกั ษาศลี จากสิง่ เหล่าน้ี ถ้าหากไมม่ ีกรรมเกา่ รุนแรง ใน ข้อที่ ๑ (ปาณาติปาตา เวรมณ)ี คือ เว้นจากการ กรณีไฟยอ่ มไม่ไหม้ นา้ ร้อน ก็กลายเปน็ น้าเยน็ ฆ่าสัตวท์ ุกชนิด ทกุ ประเภท ไม่ฆ่ามนษุ ย์ ไม่ เหมอื นนางอตุ ตราอุบาสกิ า๒๐ ยาพิษไม่ สัตวใ์ หญ่/สัตว์ทม่ี ีคุณ เชน่ ช้าง มา้ วัว ควาย สามารถทาอันตรายตอ่ ร่างกายได้เหมือนพระจฬู เปน็ ตน้ ไม่ฆ่าสัตวส์ งวนพนั ธ์ุ ไมฆ่ ่าสตั ว์เพื่อ สีวเถระผสู้ วดสังยุตตนกิ าย ศสั ตรา อาวธุ เช่น เกมกีฬา หรือ เพื่อความสนกุ สนาน เพอื่ ปอ้ งกัน มีด ดาบ ไมส่ ามารถระแคระระคายผวิ ได้ การฆา่ มด แมลงและการตบยุงโดยไม่จาเปน็ พงึ เหมอื นสงั กิจจสามเณร๒๑ ตดิ มุ้งลวดกนั ยงุ ถา้ พบยงุ อยู่ในบ้าน กค็ อยปดั ให้มนั ออกไป หรอื หาแกว้ น้ามาครอบเอาไป ๘. จิตตัง้ มัน่ เป็นสมาธิเรว็ ปลอ่ ยข้างนอก สว่ นมด คอยปัดกวาด เช็ดถพู นื้ ๙. สีหนา้ รา่ เริงเบิกบาน สดชน่ื แจม่ ใส ใหส้ ะอาดอยา่ ใหม้ เี ศษอาหารตกเรย่ี ราด สาหรบั ไม่บูดบงึ้ ไม่เศรา้ สร้อย ไมอ่ มทกุ ข์ ขาต้กู ับข้าว หรือโตะ๊ ท่ีมอี าหาร ก็เอานา้ หล่อขา ๑๐. ไมห่ ลงลมื สติ เวลาใกล้ตาย โต๊ะไว้ และยังมีวธิ ีอืน่ ๆ อกี มากมายท่ีไม่ต้องฆ่า ๑๑. เมือ่ ยงั ไมแ่ ทงตลอดคุณวิเศษอัน แลว้ แตผ่ ู้มีปัญญาจะนามาใช้โดยไม่ใหม้ นั มา ยอดย่งิ (หมายถึงอรหัตตผล)ยอ่ มเขา้ ถึงพรหมโลก รบกวน พลงั แหง่ ความรกั ท่ีบรสิ ุทธน์ิ ี้ มพี ลานุ ภาพอยา่ งน่าอัศจรรย์ เกดิ ขนึ้ ไดแ้ ม้กับสัตว์ ถา้ หากหลกี เลยี่ งไมไ่ ด้ กอ็ ย่าให้ถึงขนาด เดรจั ฉาน เช่น ววั ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปน้ี คอื มแี ม่วัว ตอ้ งฆา่ คน หรือฆ่าขนาดใหญแ่ ละสตั วท์ มี่ คี ณุ ตัวหนง่ึ กาลังยนื ใหน้ มลกู อยู่ นายพรานคนหนึง่ เชน่ ชา้ ง ม้า วัว ควาย เป็นต้นและอย่าฆ่าเพราะ คดิ จะฆา่ ววั ตวั น้นั จึงพุ่งหอกไป พอหอกถกู ตวั ความคึกคะนองอยากจะสนองตอบอารมณ์ ตัวเองช่ัวแล่น เหน็ เปน็ ของสนุก สนาน ในกรณี ๒๐ เรื่องอุตตราอุบาสิกา ดรู ายละเอียดเพ่ิมเติม ในอรรถกถา มีความจาเปน็ จะตอ้ งฆ่าสตั ว์เช่น ปลา กุ้ง ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท โกธวรรคท่ี ๑๗ หอยเปน็ ต้น พึงตง้ั ใจวา่ “เราทาไปเพื่อเลี้ยง ๒๑ เรอ่ื งสังกจิ จสามเณร ดูรายละเอียดเพ่มิ เติม ในอรรถกถา ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท สหสั สวรรคที่ ๘

โรคกรรม ๑๑๖ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ ชีพ” แลว้ จงหมัน่ ทาบญุ โดยเอาอาหารทไ่ี ดจ้ าก สามารถจะทาเชน่ นนั้ ได้ พงึ กลับมาพจิ ารณาอกี การเน้ือสตั ว์นั้นๆไปทาบญุ ถวายแดพ่ ระภกิ ษุ ครั้ง เมื่อหลังทานเสรจ็ สงฆห์ รือผ้ปู ระพฤตธิ รรมคนใดคนหนงึ่ หรือเปน็ หม่คู ณะก็ได้ แลว้ อทุ ศิ สว่ นกศุ ลที่เกดิ จากการ ๕.มนั่ ศึกษาเรยี นรทู้ าความเข้าใจและ ทาบญุ นั้นให้กับสตั วท์ เี่ ราฆ่าด้วย ทกุ ครง้ั ที่ พจิ ารณาทบทวนในหลกั ธรรมต่อไปน้ี ทาบุญ พงึ ตัง้ จติ อธิษฐานเพ่อื ใหไ้ ด้อาชีพทด่ี ีกว่า นี้ และเพือ่ หลกี เลี่ยง ละเวน้ ห่างไกลจากอาชพี  สตั ว์โลก ยอ่ มเปน็ ไปตามกรรม ฆา่ หรือเบยี ดเบยี นสัตว์ ทง้ั นี้ เพราะไดม้ องเหน็  กรรม เปน็ ตัวการทาใหส้ ตั ว์โลกมี ดว้ ยปัญญาของตนเองแลว้ ว่า ข้นึ ชอ่ื วา่ “การฆา่ ความแตกต่างกนั ทัง้ ดีและเลว การทารา้ ย การเบยี ดเบยี นคน/สัตว์ให้ถงึ แก่  มนษุ ย์และสตั ว์ เกดิ มาเพราะกรรม ชวี ิต หรอื ให้ไดร้ ับความทกุ ขท์ รมานไม่ว่า นาเกดิ เกิดเปน็ คนก็เพราะกรรม เกิดเปน็ สัตว์ก็ กรณใี ดๆทงั้ สน้ิ ยอ่ มหนีไมพ่ ้นจากกฎแหง่ เพราะกรรม คนเรามีกรรมเกย่ี วเนื่องกันและกนั กรรม คอื กฎแห่งการสะทอ้ นกลบั กล่าวคอื ทั้ง ๗ ชว่ั คน จะต้องถกู ฆา่ หรอื ถกู ทารา้ ยรา่ งกาย  ใครทากรรมใดไว้ ยอ่ มจะได้รบั ผล ประสพอุบตั เิ หตุจนสูญเสียอวยั วะสาคัญ มี ของกรรมนนั้ ทากรรมดี ยอ่ มได้รบั ผลกรรมทดี่ ี โรครุมเรา้ ไม่สร่างซาต้องทนทกุ ขท์ รมาน ทากรรมชว่ั กจ็ ะไดร้ ับผลกรรมท่ีช่วั แสนสาหัส ไม่ช้ากเ็ ร็ว ไม่มากก็นอ้ ย”  หวา่ นพืชชนดิ ใด ยอ่ มได้รบั ผล เช่นน้นั ๔.ในขณะรับประทานอาหาร พงึ ๖.มน่ั ศกึ ษาเรียนรู้โทษของการฆา่ / พจิ ารณาโทษของการบริโภคเน้ือสัตวเ์ กนิ วา่ เบียดเบียนสตั ว์ ซง่ึ จะทาใหเ้ กิดโรคภยั ไข้เจบ็ เป็นอนั ตรายต่อร่างกายอยา่ งไร เป็นเหตทุ าให้ เบยี ดเบยี น อายุสนั้ พลันตาย เปน็ ต้น การฆา่ เกดิ โรคภยั ไข้เจ็บหลายชนดิ เช่น โรคไต ไขมนั สัตว์เพอ่ื เป็นอาหารหรือเพอื่ เงินสาหรับนามา เกิน ความดนั โลหิตสูง และเบาหวาน เป็นตน้ เลย้ี งปากทอ้ งในชาติเดียว ย่อมไมค่ ุ้มกลับผล และพิจารณาว่า เราจะกนิ เพอ่ื อยู่ ไมใ่ ชอ่ ยู่เพอื่ ตามมาทตี่ ้องชดใชอ้ กี หลายรอ้ ยชาติ กนิ เพ่อื บรรเทาความหิว เพ่ือให้รา่ งกายดารงอยู่ ได้ เพ่ือทาความดี และเพอ่ื การปฏบิ ัติธรรมให้ พน้ ทกุ ข์ ไมต่ ้องมาเกดิ อกี และอย่าพงึ ยินดี พอใจ ติดใจในรสชาตขิ องสัตวน์ ั้นๆ เพราะวา่ วนั หนงึ่ เราอาจจะทาบาป เพราะเหน็ แกก่ นิ เหน็ แก่ ปากท้องก็ได้ ถ้าหากในเวลารบั ประทาน ไม่

โรคกรรม ๑๑๗ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ ๗. ศึกษาทาความเขา้ ใจในอานสิ งส์/ ลักษณะเหล่านนั้ ผลของกศุ ลกรรมทเี่ กิดจาก ประโยชน์ ของการละเวน้ จากการฆา่ /เบียด การไมฆ่ า่ ไม่เบียดเบยี นทาร้ายสตั ว์ ใหค้ วาม เบียนสตั ว๒์ ๒ โดยมีความเมตตา ปราณี เอ็นดู เอ็นดสู งสาร ดูแลรกั ษาให้ปลอดภยั จะได้ สงสารต่อสัตวท์ ้ังหลาย ตามที่กลา่ วไว้ในคมั ภีร์ ลกั ษณะ ดงั นี้ มสี น้ พระบาทยาว มนี วิ้ พระ ปรมตั ถโชติกาทว่ี ่า เกดิ มาแลว้ จะเป็นผมู้ ีอวยั วะ หัตถ์และพระบาทยาว พระกายต้ังตรงดุจ ทุกๆ สว่ นสมบรู ณแ์ ขง็ แรงดี มีสขุ ภาพพลานามยั ทา้ วมหาพรหม มเี สน้ ประสาทสาหรับรบั รส ดี มผี ิวพรรณงามผุดผอ่ ง สุภาพออ่ นโยน ไมแ่ ข็ง พระกระยาหารอนั ดี มีปลายในเบื้องบนประชมุ กระดา้ ง มีกายและใจสะอาดบรสิ ทุ ธ์ทิ ัง้ ต่อคน อยทู่ ี่ลาพระศอ สาหรบั นารสอาหารแผ่ซ่านไป และสตั ว์ เปน็ ผูอ้ งอาจแกลว้ กลา้ ไมห่ ว่ันกลัว มี สม่าเสมอทั่วพระกาย ข้อนี้คือวิบากจากการ กาลังมากด่งั ชา้ ง มถี อ้ ยคา นา่ ฟัง เปน็ ท่ีรักของ เป็นผ้ไู มเ่ บยี ดเบยี นสัตวท์ ้งั หลายด้วยฝ่ามอื ทุกคน มบี ริวารทสี่ มานสามัคคกี นั ไม่หวาด ก้อนดิน ท่อนไม้ หรือศาสตรา สะดุ้งตอ่ ภยั เวรใดๆ ไมม่ ีใครจะมาคดิ กาจดั ได้ ไม่ตายเพราะถกู คนหรอื สตั ว์ฆา่ มีบริวารมาก มี ๘.ผูท้ ่ียงั ไม่เคยฆา่ และเบยี ดเบียน ก็ รูปรา่ งที่สวยงาม มีทรวดทรงงดงาม ไม่มโี รคภัย อยา่ ไดป้ ระมาท อยา่ ทาการสง่ เสรมิ สนับสนนุ ไขเ้ จบ็ เบียดเบยี น ไมม่ คี วามเศรา้ โศก เสยี ใจ ไม่ การฆา่ และเบยี ดเบียนสัตวท์ ้ังหลายโดย พลัดพรากจากของรกั และมอี ายุยืน หลีกเลย่ี งอาชพี ทเ่ี กย่ี วกับการฆา่ ขายเนื้อสตั ว์ ค้ามนษุ ย์ ขายอาวธุ และยาพิษ ยาเสพติดให้โทษ ในมหาปทานสตู รและลักขณสูตร๒๓ ได้ กล่าวถงึ ลกั ษณะของมหาบุรษุ ตง้ั แต่พระเศียร ๙. ตระหนกั และสานึกตลอดเวลาวา่ ตา จรดพระบาทอันงดงามไม่มที ีต่ าหนิ ในบรรดา หู จมูก ล้นิ และอวัยวะนอ้ ยใหญท่ กุ ส่วนใน รา่ งกายเราเปน็ ส่งิ ทม่ี ีค่ามหาศาล ไม่อาจตเี ป็น ๒๒ มหาสุทสั สนสตู ร พระไตรปิฎก เล่ม ๑๐ ทฆี นกิ าย ราคาเงนิ ได้ ถา้ หากพลาดพล้ังหลงสตไิ ป มหาวรรค (มจร.แปล)หน้า ๑๘๑-๒๐๔ มหาปทานสตู ร ทาลายอวยั วะส่วนใดส่วนหน่ึงของคนหรือสัตว์ พระไตรปิฎกเล่ม ๑๐ ทฆี นกิ าย มหาวรรค (มจร.แปล) หน้า เข้า เมอ่ื กรรมสง่ ผล เราอาจจะตอ้ งมีเหตใุ ห้ ๑๕-๒๐ และอรรถกถา สญู เสยี อวัยวะสว่ นนน้ั ๆไปกไ็ ด้ ฉะนนั้ พึงระวัง ลกั ขณสตู ร พระไตรปฎิ กเลม่ ๑๑ ทฆี นิกาย ปาฏิกวรรค อย่าได้ชะล่าใจ เผลอไปทารา้ ยล่วงเกนิ แม้แต่ (มจร.แปล) หน้า ๑๕๙-๑๙๓ และอรรถกถา อวยั วะส่วนใดของคนหรอื สตั ว์ใดเลย เพราะ ๒๓ พระไตรปฎิ ก เลม่ ๑๐ ทีฆนกิ าย มหาวรรค (มจร.แปล) ผลร้ายตามมาไม่คุม้ กัน หน้า ๑-๑๒ และลกั ขณสูตร พระไตรปิฎก เล่ม ๑๑ ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค (มจร.แปล) หน้า ๑๕๙-๑๖๕ ๑๐.ผทู้ ่เี คยฆ่าและเบียดเบยี นสตั วม์ า ก่อน พึงใหอ้ ภยั ทาน คือให้ชีวิตเปน็ ทานดว้ ยการ

โรคกรรม ๑๑๘ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสัตว์ ปลอ่ ยสตั ว์ เช่น ปลา นกเปน็ ตน้ ท่กี าลงั จะตาย เติมสี กลนิ่ รส ประเภทมามา่ ปลากระป๋อง ก๋วยเตย๋ี ว ขนมจนี ขา้ วเหนยี ว อาหารหรอื ขนมที่ หรอื จะถูกฆ่าให้ไดร้ บั อสิ รภาพ มสี ว่ นผสมของเนยเทียม เปน็ ต้น ไม่ควร รับประทานอาหารทย่ี อ่ ยยากจาพวกเนอ้ื นม ไข่ ๑๑.ผทู้ เ่ี คยทาตาสตั วใ์ ห้พกิ ารหรอื บอด ถ่ัว และหวานๆ มนั ๆ บอ่ ยและมากเกนิ ไป ควร พงึ หม่ันบรจิ าคแสงสว่างใหเ้ ป็นทาน เช่น ดวงไฟ ทานอาหารก่อน ๖ โมงเยน็ ไมค่ วรทานตอนดกึ เพราะทาใหอ้ วัยวะ เช่น กระเพาะอาหาร ตบั ไต เทยี น ไฟฉายโดยแดพ่ ระภิกษุสามเณรหรอื ผู้ เปน็ ต้นทางานหนกั ต้องการวตั ถุสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ดงั กล่าว  น้า ดมื่ น้าให้พอดกี บั ความตอ้ งการ ของรา่ งกายขึ้นอยู่กบั วัย อายุ โดยเฉลีย่ สาหรบั ๑๒. หมน่ั ถวาย/บรจิ าคยารักษาโรคแกผ่ ู้ ผใู้ หญ่ ประมาณวนั ละ ๑ ลิตรครึ่ง กอ่ น รับประทานอาหาร ๓๐ นาที หรอื หลงั อาหาร ๑- ที่ตอ้ งการใช้ หรอื บริจาคเงนิ รว่ มสมบททนุ สรา้ ง ๒ ชัว่ โมง ควรด่มื นา้ อณุ หภูมหิ อ้ ง และพยายาม หลีกเลยี่ งการดื่มนา้ เย็นและเคร่อื งดม่ื ชกู าลัง ห้องสขุ า สถานีอนามัย โรงพยาบาล หรือ ทัง้ หลาย เช่น เอม็ รอ้ ย กระทงิ แดง เปน็ ต้น หลกี เลย่ี งการดม่ื น้าเตา้ หู้ นมหรือผลติ ภัณฑท์ ่ี เอกสารขอ้ มลู หนังสือเกย่ี วกับสขุ ภาพ เก่ียวกับนมซึง่ มีความเปน็ เมือกมกู สงู ยอ่ ยยาก ทาให้ตับทางานหนัก รับประทานอาหารเพือ่ สุขภาพ โดยปฏบิ ตั ติ าม  อารมณ์ จติ ใจ ฝกึ หดั ใหม้ อี ารมณ์ พระสูตรท่ที าให้อายยุ นื ๒๔ ดงั น้ี รา่ เรงิ เบิกบาน มจี ติ แจม่ ใส ไรก้ งั วล มีธรรมะใน ใจ ปลอ่ ยวางได้ ใหอ้ ภัยเปน็ เย็นไดเ้ มื่อเจอ ๑๒.๑ ทาสง่ิ ท่ีเปน็ สัปปายะ ดงั ต่อไปนี้ ปญั หา ไมก่ ังวลล่วงหน้าจนเป็นทกุ ข์ คือ  อิรยิ าบถ ผอ่ นคลายในทกุ อริ ยิ าบถ ไมเ่ ครยี ด ไมฝ่ ืน ออกกาลังกายใหถ้ กู เวลาและให้  อากาศ สดู อากาศบรสิ ทุ ธิ์ หายใจให้ ถูกต้องตามความเหมาะสมกับวัยและสุขภาพ ไมค่ วรอน้ั อจุ จาระปสั สาวะ เวลาหยิบหรือยก เป็น หายใจลกึ ยาว อากาศในห้องนอนควร ปลอดโปร่ง มีทรี่ ะบายอากาศดี ไม่อบั ชนื้ ไมม่ ี ฝ่นุ ละออง  อาหาร รบั ประทานอาหารตาม ฤดูกาล และเป็นอาหารธรรมชาตปิ ราศจาก สารเคมี สารพษิ ควรเปน็ อาหารทป่ี รุงสดและ ใหม่ ผัก ผลไม้ เมล็ดธญั พืชปลอดสารพิษและ ไม่หวานเกนิ หลกี เลี่ยงอาหารที่ผ่านไมโครเวฟ หรอื ปรงุ ดว้ ยความรอ้ นสูง อาหารค้างคืน และ อาหารขยะ(junk food)ที่ผ่านการดดั แปลง แตง่ ๒๔ อนายุสสาสูตรท่ี ๑-๒ พระไตรปฎิ ก เล่ม ๒๒ อังคุตตร  ดูโทษของการกนิ หวานๆ ในภาคผนวก หนา้ ๑๒๓ นิกาย ปัญจกนิบาต (มจร.แปล) หนา้ ๒๐๕-๒๐๖

โรคกรรม ๑๑๙ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ ของหนัก ต้องระหวงั ให้ดี ต้องยกในท่าทถ่ี กู ตอ้ ง ๑๒.๕ ประพฤติพรหมจรรย์ (ให้ทาน อัน เหมาะสม ไมค่ วรยกของหนักเกนิ กาลัง ไมค่ วร เปน็ บญุ กุศลเพ่อื จะได้อายุ วรรณะ สุขะ พละ อยู่ในอริ ยิ าบถใดอริ ยิ าบถหนงึ่ เปน็ เวลานานๆ ปฏภิ าณและเปน็ เหตุปจั จัยใหบ้ รรลุธรรม) ผลดั เปล่ยี นตามความพอดี ควรออกกาลังกาย ตอนเช้า หลกี เลีย่ งการออกกาลงั กายตอนเยน็ ๑๒.๖ มศี ลี ๕ ใหค้ รบ ไมข่ าดตก หรือกลางคืน บกพร่อง เพราะศีลทกุ ข้อมีผลดตี อ่ สขุ ภาพและ การผดิ ศลี กท็ าให้เสียสุขภาพจิต ซงึ่ ส่งผลต่อ  อุณหภูมิ ดแู ลรา่ งกายใหไ้ ด้รบั ความ สุขภาพกายได้ สบายพอดี ไมร่ ้อน ไม่หนาวเกินไป ใสเ่ สอื้ ผ้า ตามที่เหมาะสมกบั สภาพของรา่ งกาย ๑๒.๗ มีกลั ยาณมติ ร คบคนดี ผู้มี ศลี ธรรมอันดงี าม ซง่ึ สามารถใหค้ าแนะนาเราให้  เอนกาย พักผ่อน นอนหลบั ให้พอดี รจู้ กั พัฒนาจิตวญิ ญาณสูงขึ้นดว้ ยธรรมะ ไมค่ วรนอนดกึ ถ้าเป็นไปได้ ควรเข้านอนก่อน ๓ ทมุ่ ตื่นหลงั ตี ๓ ไมค่ วรอดนอนเป็นระยะ ในทางตรงข้าม ไมค่ วรดาเนิน เข้าไปขอ้ ง เวลานานๆ หรอื ติดตอ่ กันหลายวนั เกย่ี วหรือ กระทาในสงิ่ ดงั ต่อไปน้ี คอื ไม่ทา เพิกเฉยไม่ใสใ่ จต่อสงิ่ สปั ปายะ ไมร่ ู้จกั ประมาณ  เอาพษิ ออก รู้จกั การเอาพิษออกให้ ในสิ่งทีเ่ ปน็ สปั ปายะ บรโิ ภคส่ิงทย่ี ่อยยาก ถูกวธิ ดี ว้ ยการทาดที อ๊ กซ์ สวนลา้ งลาไส้ดว้ ยน้า เทีย่ วในเวลาไมส่ มควร ไมป่ ระพฤตพิ รหมจรรย์ กาแฟ หรือ น้าสมนุ ไพรท่เี หมาะสมกบั ตวั เอง อบ ทุศลี และมีบาปมิตร(มติ รชว่ั ) ซาวนา่ กวั ซา พอก ทา หยอด ประคบ อบ อาบ ด้วยสมนุ ไพรที่ถกู กันกบั ร่างกายของตวั เอง ควร อริยมรรคมอี งค์ ๘ คือ ขับถา่ ยทกุ วนั ตอนเชา้ อยา่ ปลอ่ ยให้ทอ้ งผกู หรือ พุทธวิธใี นการแกก้ รรม ถ่ายผดิ เวลา “ภกิ ษทุ ง้ั หลาย หม้อที่ควา่ นา้ ย่อมไหลออกอย่างเดียว ไมไ่ หลเข้า แม้ฉนั ใด ๑๒.๒ รู้จักประมาณในสิ่งท่ีเปน็ สปั ภกิ ษุ ก็ฉันนั้นเหมอื นกนั ปายะ คอื รจู้ ักความพอดี ความสมดลุ ในสงิ่ เมอ่ื เจรญิ อริยมรรคมีองค์ ๘ ทงั้ หมดที่กล่าวแล้วขา้ งตน้ ทาอรยิ มรรคมอี งค์ ๘ ให้มาก ย่อมคายบาปอกุศลธรรมออกอยา่ งเดยี ว ๑๒.๓ บรโิ ภคสงิ่ ท่ยี อ่ ยง่ายไม่เป็น ภาระสาหรบั ตับและไตมาก ไม่ใหก้ ลบั มา\" กุมภสูตร ๑๒.๔ เทย่ี วในเวลาทสี่ มควร (ไม่ เดินทางในเวลาอันตราย เช่น วันปใี หม่ เทศกาล พระไตรปิฎก เล่ม ๑๙ ต่างๆ) สงั ยุตตนกิ าย มหาวารวรรค (มจร.แปล)หนา้ ๘๓

โรคกรรม ๑๒๐ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ ๑๓.พึงปรนนิบัติเล้ียงดูพ่อแม่อย่างดี ใส่เกลือลงไปในแม่น้า ย่อมไม่มีรสเค็ม แม้จะมี และอย่าล่วงเกินท่าน รวมท้ังสมณชีพราหมณ์ เกลอื อยกู่ เ็ หมอื นไมม่ ี๒๖ นักบวชและผู้ปฏิบัติธรรมท้ังหลาย พร้อมกันนั้น พึงหม่ันทาบุญให้ทาน สวดมนต์ไหว้พระ รักษา ๑๔.ฝกึ อบรมปฏิบัติธรรมตามหลกั ศีลและปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบเพื่อสร้างเกาะ อริยมรรคมอี งค์ ๘ จนบรรลมุ รรคผลนพิ พาน ป้องกันภัยและหลังจากน่ังสมาธิพึงแผ่เมตตา เปน็ พระอรหันต์ หมดกเิ ลสอาสวะ ไม่ตอ้ งเกิดมา ให้กบั สรรพสตั วท์ เี่ ราเคยฆ่าและเบียดเบียน รบั ผลของกรรมอกี ต่อไป ถอื ว่า เปน็ พุทธวิธีใน มาซึ่งอยู่ในฐานะเจ้ากรรมนายเวรกับเรา การแก้กรรม ชาระกรรม ทากรรมให้หมดสน้ิ อย่าได้มีจิตอาฆาตพยาบาทจองเวรกับคนหรือ และอยเู่ หนือกรรมท่วี เิ ศษสดุ กลา่ วคือ๒๗ สัตว์ใดๆ ขอให้สัตว์เหล่านั้น จงมีความสุขกาย สุขใจ อย่าได้จองกรรมจองเวรต่อกัน เป็นการ ๑.สมั มาทฐิ ิ สรา้ งปัญญาใหเ้ กดิ ขน้ึ ในตวั ชาระล้างจิตให้บริสุทธ์ิ ดังพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ เรา ใหม้ คี วามรู้ ความเหน็ ความเข้าใจทถ่ี ูกตอ้ ง ในสังขธมสูตรโดยมีใจความว่า๒๕ เมื่อรู้ว่า การ ในสัจธรรมตามเป็นจริงทง้ั ในขนั้ ตน้ และขั้นสงู สุด ฆ่าสัตว์เป็นบาป เราจะต้องได้รับทุกข์เพราะ ว่า ‘ทานทใี่ หแ้ ลว้ มผี ล การบูชา กราบไหว้ (ยัญ กรรมน้ัน จึงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์น้ัน แล้วแผ่ ท่บี ูชาแลว้ มผี ล การเซ่นสรวงท่ี เซน่ สรวงแลว้ มี เมตตาจิต กรุณาจิต มุทิตาจิตและอุเบกขา ผล) ผลวบิ ากแห่งกรรมทที่ าดแี ละทาชวั่ มี โลกนี้ จิตไปทุกทิศท้ังทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศ มี โลกหน้ามี มารดามคี ณุ บิดามคี ณุ สัตว์ที่เป็น เหนือและทิศใต้ ทิศเบ้ืองบน ทิศเบ้ืองล่าง ทิศ โอปปาตกิ ะมี สมณพราหมณผ์ ู้ประพฤติปฏิบัติ เฉียง แผ่ไปตลอดโลกท่ัว ในทุกหมู่เหล่า ในท่ีทุก ชอบทาให้แจ้งโลกน้ีและโลกหน้าด้วยปัญญาอนั สถาน ด้วยเมตตาจิตไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มี ย่ิงเองแล้วสอนผู้อื่นใหร้ ู้แจง้ ก็มอี ยใู่ นโลก’พฒั นา ความเบียดเบียนอยู่ บาปกรรมที่เคยทามา สมั มาทฐิ ิหรือปญั ญานี้ใหถ้ งึ ขั้นโลกตุ ระจนมี ย่อมเจือจาง สูญหาย มลายไปเพราะพลัง เมตตาอันยิ่งใหญ่ เพราะถ้าตายไปด้วยจิต ๒๖ โลณผลสตู ร พระไตรปฎิ ก เล่ม ๒๐ องั คตุ ตรนิกาย อย่างนี้ ย่อมไปเกิดในพรหมโลกและเหมือนกับ ติกนบิ าต (มจร.แปล)หน้า ๓๓๖-๓๔๐ ๒๗ อรยิ มคั คสตู ร พระไตรปิฎก เล่ม ๒๑ องั คุตตรนิกาย จตกุ ก ๒๕ พระไตรปฎิ ก เล่ม ๑๘ สังยตุ ตนิกาย สฬายตนวรรค นบิ าต (มจร.แปล) หน้า ๓๕๓ สงั ขธมสตู ร พระไตรปิฎก (มจร.แปล)หน้า ๔๐๖-๔๐๙ เล่ม ๑๘ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค (มจร.แปล) หน้า ๔๐๖ เมตตาภาวนาสูตร พระไตรปฎิ ก เล่ม ๒๕ ขุททกนิกาย อิติวตุ ตกะ (มจร.แปล) หน้า ๓๗๒-๓๗๓ โพชฌงั คสตู ร พระไตรปิฎก เล่ม ๒๑ อังคุตตรนกิ าย จตุกกนบิ าต (มจร. แปล) หนา้ ๓๕๔ กุกกรุ วตกิ สูตร พระไตรปิฎก เลม่ ๑๓ มชั ฌมิ นกิ าย มชั ฌิมปัณณาสก์ หน้า ๗๕-๘๒

โรคกรรม ๑๒๑ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ ปญั ญาหยง่ั รู้ขนั ธ์ ๕ เปน็ ไตรลกั ษณ์ หมดความ ๖.สัมมาวายามะ เพียรพยายามไม่ให้ ยดึ ตดิ ตวั ตน ละกิเลสอาสวะให้หมดส้ินและไม่ ความคิดทอ่ี ยากไปฆ่าและเบียดเบียนสัตว์ เกดิ อีกตอ่ ไป เกิดขน้ึ ทเ่ี กิดข้นึ แลว้ รบี หาทางกาจดั ให้หมดส้นิ ไปอย่าใหเ้ หลอื เพยี รสร้างกศุ ล คือ เมตตาจิต ๒.สัมมาสังกปั ปะ สร้างความคิดที่ และกรุณาจติ ใหเ้ กิดขนึ้ ใหม้ ากทส่ี ดุ และทเ่ี กิดขึ้น ถกู ตอ้ งให้เกดิ ข้ึนในตวั เรา ฝึกใหม้ ีความคิดที่ แลว้ อยา่ ให้เสือ่ มถอย ถูกตอ้ งดีงาม เปน็ ไปเพอ่ื ละกเิ ลส เพอื่ ความ บรสิ ทุ ธ์ิ กล่าวคือ คิดพิจารณาเหน็ โทษของการ ๗.สมั มาสติ ตั้งใจปฏบิ ัตธิ รรมตามหลัก ฆา่ และเบียดเบยี นสัตว์ อนั ตรายจากการบรโิ ภค สตปิ ัฏฐาน ๔ คอื ต้งั สติใหม้ ่นั ในกาย เวทนา จติ เน้อื สตั ว์ และคิดรกั หวังดปี รารถนาดี คิดอยาก และธรรม โดยมีความเพยี รเครอ่ื งเผากเิ ลส มี ช่วยเหลือคนอ่ืน สัตว์อืน่ ด้วยความจรงิ ใจ สัมปชัญญะ มีสตถิ อนความพอใจและความไม่ พอใจในโลกออกเสียได้ ๓.สมั มาวาจา พูดในสงิ่ ทีด่ ีมปี ระโยชน์ ไม่มีโทษตอ่ ตนเองและผู้อนื่ กล่าวคอื ไม่พดู ยยุ ง ๘.สัมมาสมาธิ ฝึกจติ ให้เปน็ สมาธจิ น ส่งเสรมิ เกี่ยวกบั การฆ่าและเบยี ดเบียนสตั ว์ สงบปราศจากกามกเิ ลสและอกุศลธรรม หรอื ไมพ่ ดู สัง่ ให้คนอื่นฆา่ และเบียดเบียนสัตว์ ทัง้ หลายทง้ั ปวงเข้าปฐมฌาน ซึ่งมีวิตก วจิ าร มี แต่พูดถึงโทษของการฆา่ สตั ว์และอานสิ งสข์ อง ปตี แิ ละสขุ อันเกิดจากวิเวก จนถงึ จตุตถฌาน ไม่ การไม่ฆ่าสัตว์ มีทุกขไ์ มม่ สี ขุ มีแต่ความท่สี ติและอเุ บกขา เทา่ น้นั ซึ่งเมอ่ื จิตเขา้ ถงึ สภาวธรรมเชน่ น้แี ลว้ พงึ ๔.สัมมากมั มนั ตะ พฤติกรรมทางกายท่ี ชาระจิตใหบ้ ริสุทธสิ์ ะอาดยงิ่ ๆขนึ้ ไปดว้ ยการแผ่ ถกู ตอ้ ง คอื เวน้ จากการฆ่าและเบียดเบียนสัตว์ เมตตาจิต เป็นต้นไปแกส่ รรพสัตวท์ งั้ หลาย ดัง ทกุ ชนดิ พทุ ธพจนท์ ตี่ รสั ไวใ้ นกุมภสตู ร๒๘ โดยมใี จความ ว่า “ภกิ ษทุ งั้ หลาย หมอ้ ทคี่ ว่า นา้ ยอ่ มไหลออก ๕.สัมมาอาชีวะ ละเว้นอาชีพทีน่ ามาซ่งึ อยา่ งเดยี ว ไม่ไหลเข้า แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนน้ั เวรภัยเหลา่ นี้ คอื อาชพี ค้ามนุษย์ คา้ ขาย เหมือนกนั เมื่อเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ ทา เนอื้ สตั ว์ ค้าขายอาวธุ โดยเฉพาะอาวธุ สงคราม อรยิ มรรคมี องค์ ๘ ใหม้ าก ยอ่ มคายบาป สาหรบั ฆ่าและทาลายล้าง คา้ ขายยาพษิ เชน่ ยา อกศุ ลธรรมออกอยา่ งเดียว ไมใ่ หก้ ลบั มา ปราบศตั รูพชื ยาฆ่าแมลง ยาเบ่ือ ยาพษิ ที่เป็น ภิกษเุ ม่ือเจริญอรยิ มรรคมอี งค์ ๘ ทาอริยมรรคมี อันตรายตอ่ คนและสัตว์ และอาชพี มืดทุก ประเภท เช่น อบายมุข การพนนั อาชพี ขาย ๒๘ พระไตรปฎิ ก เล่ม ๑๙ สังยุตตนกิ าย มหาวารวรรค บริการทางเพศ อาชพี ทม่ี ีการคดโกงหลอกลวง (มจร.แปล)หน้า ๘๓ เอาเปรียบคนอนื่

โรคกรรม ๑๒๒ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ องค์ ๘ ใหม้ าก ยอ่ มคาย บาปอกุศลธรรมออก สาหรับบางท่าน ถงึ แม้ยังไมไ่ ดบ้ รรลมุ รรค อย่างเดียว ไม่ใหก้ ลบั มา...” นิพพาน แต่ได้ฌาน สามารถเข้าสมาธิขั้นลกึ ได้ บาปกรรมทเี่ คยฆ่าและเบียดเบียนสัตวต์ า่ งๆท่ี ถา้ หากเราปฏบิ ัติธรรมตามหลัก เคยทามาในอดตี กจ็ ะไมม่ ีโอกาสส่งผล หรอื อรยิ มรรคมอี งค์ ๘ จนบรรลมุ รรค ผล นพิ พาน สง่ ผลไมม่ าก ไมร่ ุนแรง และภพชาติหนา้ การ สาเรจ็ เปน็ พระอรหันต์ หลังจากตายแล้วกไ็ ม่มี ปฏบิ ตั ธิ รรมตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ นี้ จึงถอื การเกิดอกี กไ็ ม่ตอ้ งมารบั ผลของกรรมต่างๆอีก วา่ เปน็ การ ลด ละ เลกิ และทาวิบากกรรมน้ีให้ ตอ่ ไป๒๙ และในขณะท่ีมรรคจติ ผลจติ เกิดข้ึนน้นั เบาบางและใหห้ มดไปจากจติ ใจของเราได้อย่าง จะไปกาจัด ชาระลา้ งวิบากของอกศุ ลและกุศล วเิ ศษสดุ มหัศจรรย์ กรรมท้งั หลายใหห้ มดสนิ้ ไป จนไม่มีบาปและ บญุ อกี ต่อไป เหลือแต่จิตทบ่ี รสิ ทุ ธ์ิ ปราศจากเช้ือ จากหลกั คาสอนทางพระพทุ ธศาสนาท่ี กเิ ลสอีก เพราะผ้ทู ่ปี ฏิบตั ธิ รรมดว้ ยการฝกึ อบรม ปรากฏในคัมภรี ์พระไตรปิฎกและอรรถกถา กาย จิต ศลี และปัญญา แลว้ บรรลธุ รรมเปน็ ชี้ให้เหน็ วา่ อนันตรยิ กรรม เป็นกรรมหนกั ไม่ อรหันต์ขณี าสพ ดารงชีวิตอยู่ดว้ ยจิตที่รู้ ต่ืน เบิก สามารถแก้ไขได้ ไมว่ ่าจะสรา้ งความดมี ากแค่ บาน ไมม่ รี าคะ โทสะ โมหะ ไมม่ ีกเิ ลสอวชิ ชา ไหนกต็ าม กไ็ มส่ ามารถหยดุ หรือห้ามบาปกรรม ตณั หา อปุ าทานรบกวนใจ และเม่ือขนั ธ์ ๕ ดบั นน้ั ไมใ่ หส้ ่งผลได้ ชวี ิตหลงั ตาย ย่อมไปเกดิ ใน แล้ว กไ็ มต่ อ้ งมารับผลกรรมนัน้ อกี ตอ่ ไป เพราะ อเวจนี รกอยา่ งเดียว เช่น พระเทวทัตได้ทาสงฆ์ ไมม่ ีทตี่ ง้ั ของกิเลส กรรม วบิ าก เพราะเป็นผู้ละ ให้แตกกนั และกลิง้ กอ้ นหนิ ทาร้ายพระพทุ ธเจา้ ท้ังบาปและบุญไดห้ มดส้นิ แล้ว ยังเหลอื แค่ผล จนห้อพระโลหติ พระเจา้ อชาตศตั รู ปลงพระ กรรมจากการฆ่าและเบยี ดเบยี นสัตวท์ ่ีทามา ชนม์พระบิดา หรอื พระมหาโมคคัลลานะท่ีเคย ก่อนหนา้ จะบรรลุธรรม ซ่งึ อาจจะได้รบั ผล ฆา่ พอ่ แมม่ าในอดตี ชาติ สว่ นกรรมอืน่ นอกจากน้ี กรรมน้ีอยบู่ ้างตามสมควร ส่วนผลกรรม กรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสัตวอ์ น่ื ๆท่ัวไป จากการฆา่ สตั ว์ที่จะไดร้ บั ในภพหนา้ หรอื ภพ อยใู่ นขอบเขตท่ียงั แก้ได้ ส่วนจะแก้ได้มากหรอื ต่อๆไปนั้น ไดถ้ ูกมรรคจิตผลจิตทาลาย นอ้ ย ก็ข้ึนอยู่กับวิธกี ารแกว้ ่า ทาถูกตอ้ งหรือไม่ หมดแล้ว พทุ ธวิธใี นการแกก้ รรมเรื่องการฆ่าและ เบียดเบยี นสตั ว์ คอื การสกึ นกึ ผดิ วา่ การกระทา ๒๙ โลณผลสูตร พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๐ อังคตุ ตรนกิ าย ติกนิ เช่นนนั้ เป็นสิง่ ไม่ดี เปน็ บาปกรรม เป็นเหตนุ า บาต (มจร.แปล)หน้า ๓๓๖-๓๔๐ ความทกุ ขม์ าให้ แลว้ หยดุ การกระทาเชน่ นนั้

โรคกรรม ๑๒๓ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ แลว้ หนั กลับมาทาส่ิงทเี่ ป็นกุศล คอื ปฏิบัตธิ รรม สาคญั แม้มอี าการฟกซา้ เปน็ แผล ก็จะรกั ษา ดว้ ยการให้ทาน ใหอ้ าหาร เสอ้ื ผา้ ยารักษาโรค หายเร็ว การเจบ็ ปว่ ยทกี่ าลงั เปน็ อยู่ จะหายวัน เปน็ ตน้ แก่สัตวค์ นและพระอริยเจา้ ทัง้ หลาย หายคืน คนท่ีข้โี รค จะเริม่ มสี ุขภาพร่างกาย รักษาศลี งดเว้นจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสัตว์ แขง็ แรง ชีวติ เราทเี่ คยยา่ แยจ่ ะดขี ้นึ สว่ นทด่ี อี ยู่ มีความเมตตา ปรารถนาหวังดีตอ่ สัตวท์ ้งั หลาย แล้วจะดียง่ิ ๆข้ึนไป และไมว่ ่าจะเดนิ ทางไปไหน หาทางช่วยเหลอื ดูแล รกั ษา บรรเทา คุ้มครอง หรอื อยู่ทใี่ ด เม่ือไหร่ จะแคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกนั ให้สัตว์ทั้งหลายไดร้ บั ความปลอดภัย จากศตั รคู ู่เวร หลดุ พน้ บ่วงกรรม อายุมัน่ ขวญั ยืน หายสะดุ้งกลวั ตกใจ แผ่เมตตา กรุณา มทุ ิตา จติ ใจสงบ เยน็ สบาย สดชนื่ เบกิ บาน และอุเบกขาต่อสตั วเ์ หล่านนั้ อยา่ งไม่มีขอบ ขดี จากดั ฝกึ จติ ใหบ้ รสิ ุทธิ์ด้วยสมถะและ ขอให้สัตวท์ งั้ หลาย จงมคี วามสขุ วิปสั สนา ละกเิ ลส คือ ราคะ โทสะและโมหะอนั อยา่ ได้มีความทกุ ข์ เป็นต้นเหตแุ หง่ การฆ่าและเบยี ดเบียนสัตว์ให้ หมดสิ้น จนบรรลุมรรคผลนพิ พาน เปน็ พระ อยา่ ได้มีเวรภยั ตอ่ กันและกนั อรหนั ต์ เมอื่ ทาไดเ้ ช่นนี้ ชอื่ วา่ ไดแ้ ก้กรรม ได้ อย่าไมม่ คี วามอาฆาตพยาบาทตอ่ กันและกนั เอาชนะกรรมและอยเู่ หนือกรรมในการฆ่าและ เบียดเบยี นสตั ว์ ขอใหม้ ีความสขุ กายสุขใจ รักษาตนใหร้ อดพน้ จากทกุ ขภ์ ัย สรุปความว่า เมื่อได้ปฏิบตั ติ ามหลักการ ดงั กลา่ วน้แี ลว้ โรคลกึ ลับทแี่ พทยย์ งั หาสาเหตไุ ม่ ทุกท่านทุกคนทุกตนเทอญ พบ ก็จะตรวจเจอ หรอื จะได้พบเจอกบั สาธ.ุ ..สาธ.ุ ...สาธุ กลั ยาณมิตร สหายธรรมผมู้ ีความรมู้ าให้ คาแนะนาในทางทีจ่ ะรกั ษาโรคนัน้ ใหห้ ายได้ โรคที่เป็นเร้อื รังมานาน กจ็ ะมีอาการทเุ ลาเบา บาง โรคร้ายทรี่ นุ แรง ก็จะมอี าการดีข้นึ โรคที่เคย รักษาหายแลว้ กจ็ ะไม่เปน็ อกี แมโ้ รคไมเกรน ภูมิแพ้ ริดสดี วงทวาร มะเร็งท่ีกาลังเปน็ อยู่ จะ ทุเลาลงและมที างรักษาหาย การเดินทางก็จะ ปลอดภยั ไร้อบุ ตั เิ หตุ แมจ้ ะเกดิ ขน้ึ แตจ่ ะ ปลอดภยั ไดร้ บั บาดเจบ็ นอ้ ย ไม่โดนอวยั วะ

โรคกรรม ๑๒๔ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ ภาคผนวก รบั สง่ั ให้นานางมาแลว้ ตง้ั ใหเ้ ป็นอัครมเหสี นาง ไดต้ ้ังครรภ์ มหาปทุมกมุ ารองค์เดียวเทา่ น้ันท่ี ประวัตขิ องพระปัจเจกพทุ ธเจ้ำ นำมว่ำ \"ตครสิขี\" อยใู่ นท้องของนาง สว่ นพระกมุ ารท่ีเหลือ เกดิ นอกครรภ์ (เปน็ สงั เสทชกาเนดิ ) พระ ในอดตี กาล เม่อื พระพทุ ธเจา้ ยังไมเ่ สดจ็ กมุ ารเหลา่ นน้ั เจริญวยั แล้ว ขณะที่พากันเล่นใน อบุ ัตขิ ึน้ หญงิ สาวคนหน่ึงในบ้านแห่งหน่ึง เฝ้า สระปทมุ ในพระราชอุทยาน นงั่ ในดอกปทุมคน ดูแลรกั ษานารอบกรงุ พาราณสี นางเหน็ พระ ละดอก มญี าณแกก่ ล้า พจิ ารณาเห็นความไม่ ปจั เจกพทุ ธเจา้ องคห์ นง่ึ มจี ิตเลือ่ มใส จึงถวาย เทีย่ งแทแ้ น่นอนของสง่ิ ทงั้ หลาย แลว้ บรรลุ ดอกบัวดอกหนึ่งและข้าวตอก ๕๐๐ เมด็ แล้ว ปจั เจกโพธิญาณ พระปจั เจกพทุ ธเจ้าเหลา่ นน้ั ได้ ตัง้ ปรารถนาอยากจะไดบ้ ตุ ร ๕๐๐ คน เป็น กลา่ วคาถาว่า เวลาประจวบเหมาะท่ีเวลานัน้ พรานเนื้อ ๕๐๐ \"ทา่ นจงดใู บและกลีบของดอกปทุมทเี่ กดิ ขน้ึ ใน คนก็ไดถ้ วายเนอื้ มรี สอร่อยแด่พระปัจเจกพุทธ เจ้า แลว้ ต้งั ความปรารถนาอยากจะเกดิ เป็นลูก สระบานเตม็ ทแ่ี ลว้ ทมี่ ีหมภู่ มรดอมดม ของนาง และขอให้ไดค้ ุณวเิ ศษเหมือนกับท่ที า่ น โดยเปน็ ของไมเ่ ทย่ี ง พอเหน็ ความไมเ่ ท่ยี งนั้น ไดบ้ รรลุ แลว้ พงึ เป็นผเู้ ดียว เท่ยี วไปดงั นอแรดเถดิ \" นางดารงอยจู่ นชว่ั อายแุ ล้ว บังเกดิ ใน พระปัจเจกสมั พุทธเจา้ นามว่า ตครสิขี เทวโลก จุตจิ ากเทวโลก ไปบงั เกดิ เปน็ มนุษยใ์ น เปน็ บุตรคนท่ี ๓ ของนางปทมุ วดี ซึ่งเป็นหนึ่ง กลีบปทุมในสระทเ่ี กดิ ข้นึ เองแหง่ หนึง่ ดาบสตน ในพระปจั เจกพทุ ธเจ้า ๕๐๐ รูปเหล่านั้น หน่ึงพบนางเขา้ จึงอุ้มมาเลยี้ งดู เม่ือนางกา้ วเดนิ หลงั จากได้บรรลุปจั เจกโพธญิ าณแล้ว วันหน่งึ ไป ดอกบวั (ปทุม) ไดผ้ ดุ ข้นึ จากพน้ื ดินทกุ ๆ ย่างเท้า วนั หน่ึง พรานไพรคนหนง่ึ มาเห็นเขา้ จงึ  พระพุทธองค์ได้ตรสั เรื่องการกาเนิดของสัตว์โลกในจกั รวาล ไปกราบทูลแดพ่ ระเจา้ พาราณสี พระราชาทรง แก่ท่านพระสารบี ุตร มดี งั นี้ ๑. กาเนดิ อัณฑชะ (เหล่าสตั วผ์ ู้ เจาะทาลายเปลอื กไขแ่ ลว้ เกดิ ) ๒. กาเนิดชลาพุชะ (เหลา่ สัตว์ ผู้เกดิ ในครรภ์) ๓. กาเนดิ สงั เสทชะ (เหลา่ สตั วผ์ ู้เกิดในเถ้าไคล หรอื ท่ชี ้ืนแฉะ เชน่ ในปลาเน่า ซากศพเนา่ ขนมบูด น้าครา หรือ เถ้าไคล) ๔. กาเนิดโอปปาตกิ ะ (เหลา่ สตั วผ์ ู้เกิดผุดขนึ้ แล้วโต ทนั ที เช่น สตั ว์นรก เทวดา มนุษย์ต้นกปั ) ดูรายละเอียดใน มหาสีหนาทสตู ร พระไตรปิฎก เลม่ ๑๒ มัชฌมิ นกิ าย มูลปณั ณาสก์ (มจร.แปล)หนา้ ๑๕๑ สงั คตี สิ ตู ร พระไตรปฎิ ก เลม่ ๑๑ ทีฆนกิ าย ปาฎิก วรรค (มจร.แปล) หน้า ๒๙๓

โรคกรรม ๑๒๕ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ ไดเ้ ข้านิโรธสมาบัติตลอด ๗ วัน ท่ีเงือ้ ม ชื่อนันท สงู ขึ้น มูลกะ ณ ภูเขาคนั ธมาทน์ พอผ่านไป ๗ วนั จึง ๑๑. ทาให้ร่างกายขาดแร่ธาตุทองแดง ออกจากนิโรธสมาบัติ เหาะมาลงทอ่ี สิ ิคลิ ิบรรพต ๑๒.รบกวนการดูดซมึ แคลเซยี มและแมกนเี ซียม ในเวลาเชา้ ครองผา้ แล้วถือบาตรและจีวรแล้ว เขา้ ไปบณิ ฑบาตยงั กรุงราชคฤห์ เพือ่ โปรดสัตว์ ท่ีลาไส้ ๑๓. ทาใหส้ ายตาแย่ลง  ๑๔. ทาใหร้ ะดบั ของสารส่ือกลางในสมองบาง หวาน คอื ยาพิษ ตวั เช่น โดปามีน เซโรโตนิน นอเอฟ็ ปิ เน็บฟรินสงู ข้ึน จากหนงั สือ “ทาไมคณุ ถงึ ป่วย” ของ นพ. ๑๕. ทาใหเ้ กิดระดับนา้ ตาลในเลือดต่า เปยี่ มโชค ชลดิ าพงศ์ ที่ทา่ นแปลมาจากหนังสือ ๑๖. ทาให้ระบบทางเดินอาหารเปน็ กรด LICK THE SUGAR HABIT เขยี นโดย Nancy ๑๗. ทาใหเ้ กิดการหล่งั อะดรีนาลีนอย่างรวดเร็ว Appleton, Ph.D. เธอเป็นปริญญาเอกทาง Clinical ในเดก็ Nutrition ได้พดู ถึงอนั ตรายจากความหวานหรือ ๑๘. ทาใหเ้ กิดภาวะดูดซึมสารอาหารผิดปกติท่ี นา้ ตาลเป็นบ่อเกิดแห่งโรคภัยไข้เจ็บเกอื บทกุ ชนิด ลาไส้ รวมถงึ มะเร็งดว้ ย ดงั นี้ ๑๙. ทาใหแ้ กเ่ ร็ว ๑. กดการทางานของภูมิต้านทาน ๒๐. นาไปสกู่ ารเป็นโรคพิษสุราเร้ือรัง ๒. ทาลายสมดุลเกลือแร่ในรา่ งกาย ๒๑. ทาใหฟ้ นั ผุ ๓. ทาให้เกดิ สมาธิสนั้ วติ กกังวล อารมณ์แปลก ๒๒. ทาให้อว้ น ๒๓. เพ่มิ ความเส่ยี งที่จะเกิดโรคลาไส้ใหญ่ ประหลาดในเด็ก อักเสบเป็นแผล ๔. ทาใหร้ ะดับไขมันไตรกลเี ซอร์ไรดใ์ นเลือดสูง ๒๔. ทาใหเ้ กิดแผลในกระเพาะอาหารและลาไส้ ๕. ทาให้ความสามารถในการต้านทานเชื้อโรค เล็กสว่ นตน้ ๒๕. ทาให้เกิดอาการไขข้ออักเสบ ลดลง ๒๖. ทาใหเ้ กิดโรคหอบหืด ๖. ทาให้ความยืดหยุ่นและการทางานของ ๒๗. ทาใหเ้ กิดโรคตดิ เช้ือราได้งา่ ย ๒๘. ทาให้เกิดนิ่วในถงุ นา้ ดี เน้อื เยือ่ ตา่ งๆ ลดลง ๒๙. ทาให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ๗. ทาใหร้ ะดบั HDL ลดลง ๓๐. ทาใหเ้ กิดไส้ต่งิ อักเสบ ๘. ทาให้รา่ งกายขาดธาตุโครเมยี ม ๓๑. ทาให้เป็นโรค Multiple Sclerosis ๙. นาไปสกู่ ารเปน็ มะเรง็ เต้านม รงั ไข่ ต่อม ๓๒. ทาใหเ้ กิดริดสดี วงทวาร ลูกหมาก ลาไสใ้ หญส่ ่วนปลาย ๑๐. ทาให้ระดับนา้ ตาลในเลือดหลงั อดอาหาร

โรคกรรม ๑๒๖ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสัตว์ ๓๓. ทาใหเ้ ส้นเลือดขอด ๕๙.ทาให้ประสทิ ธภิ าพของเอนไซน์ในร่างกาย ๓๔. อาจทาให้เกิดภาวะเบาหวานในคนทใ่ี ช้ยา ลดลงได้ คุมกาเนิด ๖๐. สามารถทาให้เกิดการเปล่ียนแปลง ๓๕. ทาให้เกิดโรคเหงือก ๓๖. ทาใหก้ ระดกู ผุ โครงสร้างโปรตีนอยา่ งถาวรได้ ๓๗. ทาให้น้าลายเป็นกรด ๖๑. ทาให้ตับโต การแบง่ เซลลต์ บั เพ่ิมขึ้น ๓๘. ทาให้รา่ งกายเกิดภาวะไม่คอ่ ยตอบสนองต่อ ๖๒.ทาให้ไขมันในตับเพ่ิมขึน้ ฮอร์โมนอนิ ซลู นิ ๖๓.ทาให้ไตโตขึน้ และมีการทาลายไต ๓๙. ทาให้ Glucose Tolerance ลดลง ๖๔. ทาลายตบั อ่อน ๔๐. ทาให้ Growth Hormone ลดลง ๖๕.เปน็ สาเหตุอันดับหนง่ึ ที่ยบั ยั้งการเคลื่อนไหว ๔๑.ทาใหร้ ะดับคลอเรสเตอรอลสูงขึ้น ๔๒. ทาให้ความดนั โลหิตสูงขึน้ ของลาไส้ ๔๓. ทาให้เกิดอาการงว่ งซึมในเด็ก ๖๖.ทาใหเ้ กิดภาวะบวมนา้ ได้ ๔๔. ทาให้ปวดศีรษะขา้ งเดียว ปวดไมเกรน ๖๗.ทาใหเ้ กิดภาวะสายตาสั้น ๔๕. รบกวนการดูดซึมโปรตีนในทางเดินอาหาร ๖๘.ทาให้เยือ่ บุเส้นเลือดฝอยทางานไมด่ ี ๔๖. ทาให้เกิดภมู แิ พ้ ๖๙.ทาใหเ้ สน้ เอ็นไม่แข็งแรง ๔๗. นาไปสกู่ ารเป็นเบาหวาน ๗๐. ทาใหป้ วดศรี ษะ ๔๘. ทาใหเ้ กิดการตัง้ ครรภ์เป็นพษิ ๗๑. ตบั ออ่ นหมดสภาพ ทางานไมไ่ หว ๔๙. ทาให้เด็กเป็นโรคผวิ หนงั เอก็ ซีม่า Eczema ๗๒. ทาให้เคล่อื นสมอง เดลต้า อัลฟา เธตา เพม่ิ ขึ้น ๕๐. ทาใหเ้ กิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ๗๓.ทาใหก้ ารเรียนตา่ ลง ๕๑.ทาให้เกิดความผิดปกตขิ อง DNAได้ ๗๔. เกิดโรคซมึ เศร้า ๕๒.สามารถเปล่ียนแปลงโครงสร้างโปรตีนได้ ๗๕. เพิ่มโอกาสเสยี่ งเปน็ มะเร็งกระเพาะอาหาร ๕๓. ทาให้ผิวหนังเห่ยี วย่น โดยการเปลย่ี นแปลง ๗๖. ทาให้อาหารไม่ย่อย โครงสรา้ งคอลลาเจน ๗๗. ทาใหเ้ ส่ยี งตอ่ การเป็นโรคเกาต์ ๕๔. ทาให้เปน็ ต้อกระจก ๗๘.การกินน้าตาลทรายขาว ทาให้นา้ ตาลกลูโคส ๕๕.ทาใหเ้ ป็นถงุ ลมโป่งพอง เพม่ิ มากขนึ้ กวา่ กินคาร์โบไฮเดรตเชงิ ซ้อน ๕๖.ทาใหห้ ลอดเลือดแข็งตัวและหนาตัว ๗๙. คนกนิ น้าตาลมาก ทาใหเ้ ส่ยี งต่อ insulin ๕๗.ทาให้ไขมัน DLD สูงได้ resistance มากกว่าคนกินน้าตาลน้อย ๕๘.ทาใหเ้ กิดอนุมลู อสิ ระในกระแสเลือดได้ ๘๐. ทาใหเ้ กิดภาวะหมักหมมของแบคทีเรียใน ลาไส้ทาใหป้ ระสทิ ธิภาพการทางานของ Albumin และ lipoprotein ลดลง

โรคกรรม ๑๒๗ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสัตว์ ๘๒.ทาใหร้ า่ งกายเกิดปัญหากับการจัดการไขมนั ๙๙.เปน็ สารเสพติด Highly addictive and allergenic และคอลเลสตอรอล ๑๐๐.นา้ ตาลเปน็ พิษได้เหมอื นแอลกอฮอล์ ๘๒ เพิม่ ความเสย่ี งอย่างมากในการเกดิ ภาวะลาไส้ ๑๐๑. ทาให้อาการที่ไมพ่ ึงประสงค์ต่างๆกอ่ นเปน็ ใหญ่อักเสบและเป็นแผลเร้ือรัง ประจาเดือนเพมิ่ มากข้ึน ๘๓ ทาใหเ้ กล็ดเลอื ดเกาะตวั กันเป็นก้อน ๑๐๒.กดการทางานของเมด็ เลือดขาว ๘๔.ทาให้ฮอรโ์ มนผิดปกติ ๑๐๓.ลดการกินหวานจะทาให้อารมณแ์ ปรปรวน ๘๕. ทาใหเ้ กิดน่ิวไต ลดลง ๘๖. ทาให้สมองสว่ น Hypothalamus ทางาน ๑๐๔.ถ้าเรากนิ คาร์โบไฮเดรตในรูปแบบของของ ผดิ ปกติ หวานจะทาให้เกิดไขมันเพมิ่ ขึน้ ๒-๕ เทา่ ๘๗.ทาให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ๑๐๕. การดูดซมึ ของน้าตาลอยา่ งรวดเรว็ ทาให้คน ๘๘.ทาใหฮ้ อรโ์ มนอนิ ซูลินในเลือดเพิม่ สงู ขนึ้ และ อ้วนท่ัวไปกินอาหารได้เพม่ิ มากข้นึ นาไปสู่ ภาวะ Hyperinsulinemia ๑๐๖. ทาใหอ้ าการของเดก็ สมาธสิ ัน้ แย่ลง ๘๙.ทาให้เกิดปญั หาการอุดตนั ของหลอดเลือด ๑๐๗.ทาใหร้ ะดับเกลอื แรใ่ นปัสสาวะเปลี่ยนแปลง เลก็ ๆ ส่วนปลายที่เกิดจากเกล็ดเลือดเกาะตวั กัน ๑๐๘.ทาให้ความสามารถของการทางานตอ่ ม เป็นกอ้ นเพิ่มสูงขน้ึ หมวกไตลดลง ๙๐.ทาใหเ้ กิดเป็นมะเรง็ ท่อน้าดี ๑๐๙.ทาใหเ้ กดิ การเผาพลาญพลังงานทผ่ี ิดปกติ ๙๑. ทาลายสารต้านอนมุ ลู อิสระในร่างกาย และทาให้เกิดภาวะเสอื่ มต่ออวยั วะต่างๆ ๙๒.ผหู้ ญงิ ที่กาลงั ตงั้ ครรภ์แลว้ ทานหวานมาก มี ๑๑๐.เปน็ ปัจจยั เสีย่ งทาให้เกิดมะเร็งปอด โอกาสทเ่ี ม่อื คลอดทารกออกมาแล้วทารกจะมี นา้ หนักต่ากว่ามาตรฐาน ๙๓. ผ้หู ญิงทกี่ าลงั ตั้งครรภ์แลว้ ทานหวานมาก มี โอกาสจะคลอดก่อนกาหนด ๙๔.ทาใหอ้ าหารเคลอื่ นตวั ผา่ นทางเดินอาหารชา้ ลง ๙๕.ทาให้นา้ ดีเขม้ ข้นและเอ็นไซมข์ องแบคทเี รียใน ลา้ ไส้เข้มข้นเพิ่มโอกาสเปน็ มะเร็งลาไสใ้ หญ่ ๙๖. ทาให้ Fasting Blood sugar สงู ขน้ึ ๙๗. ทาลายเอ็นไซม์ phosphates ทาให้การย่อย อาหารยากเพมิ่ ขึ้น ทาให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดทอ้ ง ตงั้ แตเ่ ดก็ เลก็ จนถึงผใู้ หญ่ ๙๘. เปน็ ปจั จยั เสย่ี งของการเป็นมะเร็งถุงน้าดี

โรคกรรม ๑๒๘ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ การใหธ้ รรมทาน คอื การบ่มเพาะเมล็ดพันธแุ์ ห่งพทุ ธะ การถวายหนังสอื ธรรมะ ช่อื วา่ เปน็ การส่งเสรมิ สนับสนนุ การเผยแผพ่ ทุ ธ ธรรม การเผยแผ่ธรรมะ คอื การให้ธรรมทาน การให้ธรรมะ เปน็ การใหส้ ง่ิ ลา้ ค่า ประเสริฐสูงสดุ กว่าการใหอ้ ื่นใดและชื่อวา่ ใหเ้ มลด็ พันธ์ุแห่งศลี สมาธิ ปญั ญา เป็นการให้อมตะ ใหเ้ มล็ดพันธุแ์ หง่ พทุ ธะ เมลด็ พันธแุ์ ห่งมรรคผลและนพิ พาน ผูใ้ ห้เมล็ดพันธแ์ุ หง่ พุทธธรรม ยอ่ มมสี ่วนแหง่ การตรสั ร้ธู รรม มสี ่วนแหง่ การบรรลุ มรรคผลนพิ พาน เหมอื นบุคคลปลูกพืชชนดิ ใด ยอ่ มไดผ้ ลชนดิ นั้น ดังนนั้ บุคคลผู้ไดบ้ ม่ เพาะเมล็ดพันธแุ์ หง่ พุทธะ เมล็ดพนั ธ์ุแห่งความรู้ตนื่ เบิกบาน เมลด็ พันธ์แุ หง่ ความสะอาด สงบ สว่าง เมล็ดพันธ์ุแหง่ ความโชคดีมชี ยั ลงในจติ วิญญาณของตัวเองดีแลว้ ครั้นถงึ เวลาทเี่ มลด็ พันธ์แุ หง่ บุญนเ้ี ผล็ดผล จะเจริญงอกงาม เติบโต แผ่กิ่งก้านสาขา ผลิดอกออกผลเปน็ บญุ นิธิ เป็นบ่อเกดิ แห่งความสุขอนั เลิศลา้ ท้งั ในชาตินี้ชาติหนา้ และภพชาตติ อ่ ๆไป เป็นเหตุปัจจยั นาไปสู่ความเป็นผู้ย่ิงใหญ่และล้าเลศิ ทั้งในมนุษย์และเทวดา และเป็นอุปนสิ ยั แห่ง การบรรลุธรรม ซง่ึ เป็นผลอนั ลา้ เลิศประเสรฐิ สูงสุดในทุกภพชาตทิ ่ีเกิด ขอให้ผูม้ ีสว่ นแห่งธรรมทานในคร้งั นี้ จงเจริญรุ่งเรอื งทั้งทางโลกและทาง ธรรม ไดด้ วงตาเหน็ ธรรมโดยถว้ นหนา้ กัน ขอผู้แสวงบญุ และใฝธ่ รรมทกุ ทา่ น จง เกิดความปลาบปล้ืม ดื่มดา่ เกดิ ความปตี ิ ความปราโมทย์ ความร่นื เริงบนั เทิงใจ ในธรรมทพี่ ระอรยิ เจ้าท้ังหลายประกาศแล้ว ทุกเมื่อเทอญฯ

โรคกรรม ๑๒๙ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ โครงการธรรมะสขี าว ศึกษำและปฏบิ ตั ธิ รรมตำมพระไตรปิฎก กจิ กรรมประจาสปั ดาห์ ทุกวันจันทร์-องั คาร เมนูธรรมะ อาหารสขุ ภาพใจ  ขอขมากรรม ชาระใจให้สะอาดเพ่อื รองรับธรรมะท่บี รสิ ุทธิ์ กลา่ วคาปฏิญาณตนถึงไตรสรณะและสมาทานศลี ๕(ศลี ๘)  สวดพทุ ธมนต์-สาธยายธรรม เพ่อื น้อมนาใจให้รู้ต่ืน เบกิ บาน  ศึกษาธรรมจากพระสูตรและอรรถกถา ธรรมะบฟุ เฟต์ ธรรมะตามคาขอ  สนทนาถาม-ตอบปญั หาธรรมะทน่ี า่ รู้ แลกเปลย่ี นประสบการณก์ ารปฏบิ ตั ธิ รรม  เรยี นรวู้ ธิ ีโยนิโสมนสกิ าร(คดิ วิปัสสนา ฉลาดคดิ เป็นนายของความคิด)  สมาธแิ ละวิปสั สนาภาวนา เงียบสงบเพ่อื คน้ พบพทุ ธภาวะ  แผเ่ มตตาพรหมวหิ าร อุทศิ ส่วนบญุ เตมิ ใจใหม้ พี ลังด้วยความปรารถนาดีตอ่ ทุกชีวิต แล้วแผ่กระจายพลังแห่งบญุ เพือ่ สนั ตสิ ขุ แห่งใจมนุษยแ์ ละสตั วโ์ ลกท้ังมวล สนทนาธรรมวันละนิด ... จิตแจม่ ใส ฟังไว้กาไรชวี ติ ฟังวันละนิด จิตชมุ่ ฉ่า ร้ไู วใ้ ชว่ ่า ใส่บา่ แบกหาม จดจาใสใ่ จ นาไปปฏิบตั ิ แล้วจะรชู้ ดั ตามเปน็ จรงิ วา่ “ชวี ิต คอื ธรรมะ” รกั ธรรมะ ตอ้ งศึกษาพทุ ธธรรม รจู้ ักเปลยี่ นวธิ ีคดิ ชีวิตคณุ จะเปลีย่ นแปลง กนิ ยาถูกโรค ทาดีท็อกซ์ถูกวธิ ี แกก้ รรมถกู จุด ปฏบิ ัติธรรมถูกหลกั ยอ่ มเหน็ ผลทนั ตา อนุศาสนยี ป์ าฏหิ าริยแ์ หง่ ธรรมะ...ยังรอท่านมาพิสจู น์ ธรรมสถาน : วดั โพธิธรรมสิกขาลยั Dhamma Place : Bodhidhamsikkhalaya 1396 Oahu St, Las Vegas, Nevada 89104 Tel : (702) 405-0126, (702)372-7668

โรคกรรม ๑๓๐ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ แด่ทา่ นผู้รกั ธรรมะและสขุ ภาพทั้งหลาย หากท่านผู้ทใ่ี ดมใี จรักและปรารถนาดตี ่อพระพุทธศาสนา อยากให้คนทั่วโลกไดม้ โี อกาสได้อ่าน เรียนรู้ ศึกษาธรรมะดีๆ ท่ีมี ประโยชน์และคุณคา่ ต่อชวี ติ เพ่ือจิตใจจะไดส้ งบ สดชน่ื รู้ ตน่ื และ เบกิ บานด้วยแสงสวา่ งแหง่ พระธรรม 4 ทางผจู้ ัดทาไดน้ าขอ้ มูลเก่ียวกับ0สุขภาพและกรณตี ัวอยา่ ง กฎแห่งกรรมและหนังสอื ธรรมะดๆี 5- จัดลงในเวบ็ ไซต์ เพ่ือสะดวก ในการศกึ ษา ค้นคว้าสาหรบั ผรู้ กั ธรรม0ะที่อยทู่ ว่ั ทกุ มมุ โลก 1 2 ท่านผรู้ ักในการใหท้ ั้งหลาย...บ6ณั ฑิต ผรู้ ู้ ได้กล่าวไว้วา่ , \"การใหธ้ รรมะ เป็น(สิ่งที่ยิง่ ใหญ่ และมีคุณค่าสูงสุดกวา่ ก7ารใหอ้ ย่างอ่ืน\" 0 ถา้ ท่านตอ้ งการสรา้ งกุศลทม่ี พี ลังอันย2) ่ิงใหญ่ มอี านุภาพแผ่ไพศาล ซง่ึ มผี ลต่อการเปลีย่ นแปลงโชคชะตา3ชีวติ ของทา่ นแบบทนั ตาเหน็ 7 แล้วไซร้ จงอย่าไดเ้ พิกเฉยหรอื น่งิ น2อนใจ รบี โปรดบอกต่อ ให้ คาแนะนาเร่ืองนี้กับคนรู้ใจ คนใกล-7้ชิด กลั ยาณมิตร หรือ สหาย ธรรม เขา้ ไปอา่ นเวปไซท์ธรรมะของ6วดั โพธธิ รรมสิกขาลยั ได้ท่ี www.bddm86 c.org แล้วทา่ นจะรซู้ ง้ึ วา่ \"รอู้ ย่างนี้ น่าจะเข้ามาอา่ นต้งั นานแล้ว\"


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook