โรคกรรม ๔๔ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบียดเบียนสตั ว์ นนู แมลงปอ เป็นตน้ ก่อนนามาคว่ั เหตทุ าให้สัตว์นอ้ ยใหญท่ ้ังหลายได้รบั ความ รับประทาน หรือปล่อยให้มนั ตาย ลาบาก ขาดอสิ รภาพในการใชช้ วี ิตตาม ธรรมชาตขิ องมนั ต้องมารวมตัวกันอย่ใู น บางคนตอนเป็นเดก็ เหน็ แม่ปลาเข็มมี สถานทีแ่ ออัดยดั เยยี ด สกปรก ตดิ เชื้อโรคได้ ลูกเต็มทอ้ ง จงึ จับมาผ่าท้องเพื่อปลดปลอ่ ย ง่าย อากาศไม่บริสทุ ธิ์หายใจไม่สะดวก และ ลกู ปลาเขม็ โดยรู้เท่าไม่ถงึ การณ์ เป็นเหตุให้ ถกู เลี้ยงดูด้วยอาหารเสริม ต้องใชย้ าเคมฆี า่ แม่ปลาตาย เชอ้ื โรค ใช้สารเคมเี พ่อื ล้างอา่ ง/บ่อ/สระน้าที่ เลยี้ งหรอื เพาะสัตว์ ฉีดฮอรโ์ มนเพ่ือเรง่ การ ผลกรรมทร่ี ุนแรง มีแนวโน้มท่ีจะมี เจริญเติบโตและในขณะขนยา้ ยทาให้สัตว์ ปัญหาเรอ่ื งอวยั วะภายใน เช่น มดลูกอ่อนแอ ไดร้ ับการตกใจกลัว ทกุ ขท์ รมาน และลงท้าย ไม่แข็งแรงไมส่ ามารถมลี ูกได้ หรอื ทาใหเ้ กดิ ดว้ ยการถกู จับไปขายตามทอ้ งตลาด ถกู เชือด การแทง้ ลูกได้ง่าย เป็นโรคเนือ้ งอก ถงุ น้า หรือ ถูกฆา่ เปน็ อาหารตามลาดับ มะเรง็ ทมี่ ดลูก รังไข่ มดลูกโต ติดเชื้อในมดลูก ถูกตัดมดลูก การเล้ยี งสตั วต์ า่ งๆเพ่อื การค้าขายทาง ธุรกจิ น้ี แม้จะทาเงนิ ไดม้ าก มรี ายไดด้ ี แต่ผล ผลกรรมเบาบาง มีเหตทุ าใหเ้ ปน็ โรค กรรมท่ตี ามมาท่เี ราจะไดร้ บั มนั ไมค่ ุ้มกนั ดู กระเพาะอาหาร เจบ็ ทอ้ งบ่อย ลาไส้อักเสบ ตัวอย่าง ดังน้ี ทอ้ งเสียเนอื่ งจากอาหารเป็นพิษ อาหารทที่ าน เขา้ ไปไม่ย่อยทาให้ท้องอืด ทอ้ งเฟอ้ เหรอ ผลกรรมรนุ แรง มแี นวโนม้ ท่จี ะทาให้ เปรีย้ ว เป็นรดิ สีดวงทวาร ถกู แมลงสัตว์กัด ชวี ิตการแต่งงาน ไม่ไดเ้ งินคา่ สินสอด หรือ ได้ ตอ่ ยบรเิ วณก้น มีเหตุทาใหท้ ้องลาย มีพุง ค่าสนิ สอดนอ้ ย จะถกู หลอกไปขายตัว (ถกู ตี หนา้ ท้องทีตาหนิ หนา้ ท้องไมส่ วย ราคาซอ้ื ขายในซ่อง หรือในตลาดค้านา้ กาม) เกีย่ วขอ้ งกบั อาชีพโสเภณีทง้ั โดยตรงและโดย ๑๓. กรรมจากการเลยี้ งสตั ว์เพ่อื การค้าขาย ออ้ ม ถ้าไมเ่ กิดขึน้ กับตวั เอง กจ็ ะเกดิ ขึน้ กับ การเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด พ่นี อ้ ง ลกู หลาน จระเข้ หรอื เปด็ ไก่ เปน็ ตน้ เพ่ือการคา้ ขายทาง เงินทองท่ีได้จากการค้าขายชวี ติ คนอืน่ สตั ว์อื่น ถอื ว่า เปน็ เงินร้อน เปน็ ของรอ้ น เกบ็ ธุรกิจ ไมว่ ่าจะเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ขนาด ไม่อยู่ เกบ็ ได้ไม่นาน มักจะมีเหตใุ หเ้ ปน็ ไปทุก กลางหรือขนาดยอ่ มๆ รวมทง้ั พ่อค้าแม่คา้ ปลาตามตลาดนอ้ ยใหญ่ ก็ตาม เม่อื เราเปน็
โรคกรรม ๔๕ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบียนสตั ว์ รปู แบบ เชน่ ถูกโกง ถกู หลอก นาไปตอ่ ทนุ ก็ ตายก่อนอายุขยั ในขณะฆ่าจะตอ้ งไดร้ ับ เจง้ หรอื ตอ้ งนามารกั ษาโรคของตัวเองหรือ ความเจ็บปวดทกุ ข์ทรมานเพราะพิษบาดแผล คนทตี่ ัวเองรัก และหลงั จากถูกฆา่ แล้วต้องทาให้ครอบครัว พอ่ แม่ ลูกหรือเพ่ือนๆของเขาตอ้ งมาสญู เสีย ผลกรรมเบาบาง มแี นวโน้มที่จะมี พลัดพรากจากผู้ท่ีตวั เองรักกอ่ นเวลาอนั ปัญหาเรอื่ งระบบหายใจ หายใจลาบาก ไขมนั สมควร ในกรณฆี ่าจงิ้ จก ตุก๊ แก งู กิ้งก่า ปู อดุ ตันเสน้ เลือด โรคหวั ใจ ความดันสูงเปน็ ปลา หนู เปด็ ไก่ วัว หรือ ควายเปน็ ตน้ ที่ เหตุทาใหว้ งิ เวียนศีรษะ หนา้ มืด เป็นลมงา่ ย กาลงั ตงั้ ท้อง หรือเปน็ แม่ลูกอ่อนกาลังมี ใจหวิว เป็นโรคเก่ยี วกบั ไตและกระเพาะ ลูกเลก็ ๆต้องเล้ียงดอู ยอู่ กี หลายตวั ยิ่งจะ ปัสสาวะ รา่ งกายเกบ็ กกั น้าไมอ่ ยู่ ร่างกาย เปน็ บาปมาก เพราะไม่ใชฆ่ า่ ตัวแม่เท่าน้ัน ขาดนา้ ถกู กงั ขงั บริเวณ เข้าคกุ ตาราง มเี หตุ แต่ยังฆ่าลูกออ่ นๆทีอ่ ย่ใู นท้องของมนั อีกดว้ ย ทาใหต้ ดิ ขดั เรือ่ งการเดินทาง ไปไหนไม่ และเม่อื พวกลูกนอ้ ยทข่ี าดแม่ ไม่ได้กินนม สะดวกเพราะมภี าระกังวล หรือไมไ่ ดร้ บั การปกปอ้ งคมุ้ ครองจากแม่ก็ต้อง มาตายตามไปด้วย ในชาติหน้าและชาตติ ่อไป จะตอ้ งเกดิ มาเปน็ คนหรอื สัตว์ แตจ่ ะไมไ่ ดร้ ับอสิ รภาพ ไม่ ฉะนั้น การฆ่าสตั ว์ตดั ชวี ติ เปน็ เป็นตวั ของตวั เอง ถูกคนอื่นกดขี่ขม่ เหง พฤติกรรมท่ีโหดรา้ ย ไรค้ วามปราณี เรียกว่า เบียดเบยี นโดยไม่มที างต่อสหู้ รอื เอาชนะ เป็นกรรมฝ่ายดา เป็นกรรมมดื บอด เป็น เขาได้ หรือเกิดมาเป็นสัตวใ์ หเ้ ขาเลย้ี งและถูก อกุศลกรรม เป็นบาปกรรม เป็นเวรกรรม เม่ือ นาไปขาย ถกู ฆ่าเป็นอาหาร สรา้ งเหตปุ ัจจยั ไวอ้ ยา่ งไร ผลของการฆ่า หรอื กฎแห่งการสะท้อนกลับ จะตอ้ งถกู เขาฆ่า จะ การฆ่าสตั ว์ในแต่ละคร้งั ถ้าหากผ้ฆู า่ รู้ ถกู ไลล่ ่าคนื เสมอ เปน็ ไปเชน่ เดยี วกันกบั เหตุที่ วา่ สตั วน์ ัน้ ยังมีชีวติ แม้ตวั เองกค็ ิดฆ่า มี ทาเอาไว้ กล่าวคอื เมอ่ื ถึงเวลาท่บี าปกรรมน้ัน ความเพียรพยายามท่จี ะฆา่ และสัตวน์ ้นั ตอ้ ง ส่งผล ตวั ผฆู้ ่าจะตอ้ งได้รบั ผลร้าย ประสพกบั มาตายดว้ ยการกระทาของเรา ถ้าหากเรา ความลาบากเดอื ดร้อน เจอความวบิ ตั ิ พิจารณาโดยละเอียดมองกระบวนการ อปุ ทั วันตรายตา่ งๆ โรคภัยเบียดเบยี น กอ่ นฆา่ ขณะฆ่าและหลงั ฆ่าแล้ว ยิ่งทาใหร้ ู้ สูญเสียหรือพลดั พรากจากคนผเู้ ปน็ ทีร่ กั วา่ กอ่ นทีส่ ตั ว์จะถกู ฆ่า จะตอ้ งมีความสะด้งุ กลัวตกใจ รอ้ งไห้ เศร้าโศกเสียใจท่ีต้องมา
โรคกรรม ๔๖ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบยี นสัตว์ ทั้งหลายหรือ ทาให้อายุส้ันตายก่อนวยั อาชีพ คอื กรรม สมควรเหมอื นกนั ฉนั น้ัน บคุ คลเปน็ ชาวนาก็เพราะกรรม ความเชอ่ื และความเข้าใจในกฎแหง่ เปน็ ชา่ งศลิ ปะกเ็ พราะกรรม กรรมอยา่ งถกู ต้องชัดเจน ยอ่ มมคี ุณประโยชน์ มากมายมหาศาล มคี า่ มากกว่าเงินทองหลาย เปน็ พ่อค้าก็เพราะกรรม พันลา้ น เพราะจะทาให้ชีวติ เราปลอดภยั จาก เป็นผ้รู บั ใช้ก็เพราะกรรม เวรภยั อนั ตรายทง้ั หลายทั้งปวง บคุ คลแม้เปน็ โจรก็เพราะกรรม เป็นทหารอาชพี ก็เพราะกรรม เปน็ ปโุ รหิตกเ็ พราะกรรม แมเ้ ป็นพระราชา กเ็ พราะกรรมทงั้ น้นั บัณฑิตทั้งหลายผู้มปี กตเิ ห็นปฏิจจสมุปบาท มีความรู้ความเขา้ ใจในกรรมและผลของกรรม ยอ่ มพจิ ารณาเห็นกรรม ตามความเป็นจริงอย่างน้ี สัตว์โลกยอ่ มเป็นไปตามกรรม หมูส่ ัตว์เป็นไปตามกรรม สตั วท์ ้งั หลายมกี รรมเป็นเครื่องผูกพนั เปรียบเหมือนรถมีหมดุ เป็นเคร่ืองตรงึ ไว้แลน่ ไปอยู่ วาเสฏฐสตู ร พระไตรปิฎก เลม่ ๑๓ มชั ฌมิ นิกาย มชั ฌิมปณั ณาสก์ (มจร.แปล)หน้า ๕๗๒-๕๘๒
โรคกรรม ๔๗ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบียดเบยี นสัตว์ ผลกรรมจากการเบยี ดเบียนสัตว์ อนั ตราย เป็นโรคร้าย ทารา้ ยชีวิต บั่นทอน กฎแห่งการสะท้อนกลบั สุขภาพและทาลายอนาคตของเดก็ และผู้ใหญ่ การเบยี ดเบียน คอื การรังแก ข่มเหง ผลกรรมตามมา มีแนวโนม้ จะ ทาใหส้ ตั ว์ไดร้ ับความบอบช้า บาดเจบ็ สะดุ้ง ทาให้ถูกติฉินนนิ ทา เสียช่ือเสียง จิตใจฟุ้งซา่ น กลัว ตกใจ เช่น ยงิ ด้วยหนงั สติ๊ก ขว้างปาดว้ ย อาจจะทาใหเ้ ป็นบ้า เสียสติ ประสาทไมด่ ี มี กอ้ นหนิ ท่อนไม้ ทุบ เฆยี่ นตี โบย หรือนามา อาการทางสมอง ควบคมุ ตัวเองไม่ได้ ทาร้าย ชนกนั เปน็ ต้น แมจ้ ะไมถ่ ึงขนาดทาให้สตั ว์ ตวั เองและคนรอบขา้ ง หรอื ถูกทางการจบั ได้ น้ันๆเสียชีวติ หรือตาย แตไ่ ด้รับความทุกข์ ครอบครัวแตกแยก ลกู ตดิ ยาเสพตดิ ประสพ ทรมาน เหนือ่ ยหอบ เจบ็ ปวด มีบาดแผล หรอื อุบัตเิ หตุทางรถยนต์ ถูกวสิ ามัญฆาตกรรม พกิ าร ถือว่าเปน็ การรังแก เบยี ดเบียนหรอื ทา ทาใหเ้ สยี ประสาท เปน็ โรครา้ ย เชน่ โรคเอดส์ ทารณุ กรรมสตั ว์ โดยไร้ความเมตตาปราณี มะเรง็ ในเมด็ เลือด หรอื เลอื ดเปน็ พษิ ภมู ิ สงสาร จะมผี ลกรรมตามมา ดังนี้ ต้านทานเสื่อม แพ้ภูมิตา้ นทานตัวเอง เงนิ ทอง ทีไ่ ดม้ าจากอาชพี น้ี โดยเฉพาะการคา้ ขาย ๑. กรรมจากการขายสงิ่ เสพติดให้โทษ ยาบ้า ยาเสพตดิ เปน็ เงนิ ร้อน ทาให้มอี นั ผูท้ ค่ี า้ ขายส่งิ เสพติดใหโ้ ทษทงั้ หลาย เปน็ ไปทกุ รูปแบบเช่น สูญเสยี ไปกบั อบายมุข การพนนั ถกู ยมื ไปแล้ว ไมไ่ ดค้ ืน เกบ็ ได้ไม่ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผผู้ ลติ เอเย่นจาหน่าย นาน ถกู หลอก ถกู โกง ถูกลักขโมย ถูกปล้น มี ผูข้ ายปลีกหรอื สง่ พนักงานขาย หรอื ผทู้ า เหตทุ าใหส้ ญู เสียเงนิ ทองเหลา่ น้ันไปโดยงา่ ย โฆษณาชวนเชอ่ื หรือผู้เขา้ ไปเก่ยี วข้องในการ ส่งเสรมิ สนับสนุนทง้ั โดยตรงและโดยออ้ ม ผลกรรมข้ามชาติ มีแนวโน้มว่า ชาติ ทั้งหมด เก่ยี วกับบหุ ร่ี เหล้า วสิ กี้ เบยี ร์ ไวน์ หนา้ หรือชาตติ ่อไป จะเกิดมาเปน็ บ้า ประสาท กระทอ่ มกญั ชา ฝิ่น เฮโรอนี ยาบ้า หรอื ของ วกิ ลจรติ อาการทางสมองไม่ปกติ เป็นโรค มนึ เมาให้โทษตอ่ รา่ งกายและจติ ใจท้ังหลาย ออตสิ ติก ปัญญาออ่ น การพฒั นาทางสมอง ซึ่งถอื ว่าเปน็ การเบียดเบยี นผ้อู น่ื ใหไ้ ดร้ ับ ช้าผิดปกติ
โรคกรรม ๔๘ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบียนสัตว์ ๒. กรรมจากการชนไก่ น้าเหลอื งไม่ดี เลือดเป็นพษิ หรอื เปน็ มะเร็งท่ี การชนไกท่ ้ังระดบั สมัครเลน่ หรอื มอื อาชพี เจ้าของบ่อน เจ้าของไก่ ผ้ทู ี่เข้าไปมี เมด็ เลอื ด ส่วนสนบั สนุนส่งเสริมเกยี่ วข้องกบั การชนไก่ ผ้เู ชยี ร์ ผเู้ ล่นพนนั ชนไก่ จะมผี ลกรรมดังน้ี รบั ประทานอาหารไม่อร่อย เปน็ คน ผลกรรมทตี่ ามมา ทาให้มีปัญหาเกย่ี วกับดวงตาทุก หงดุ หงดิ งา่ ยใจรอ้ น ชีวิตมักจะเขา้ ไป รูปแบบ เช่น ตาเจ็บ ตาอกั เสบ ตาแดง ตา เปน็ กุ้งยงิ ตาเปน็ ฝหี นอง ฝนุ่ ผงหรือขนตาเข้า เก่ยี วขอ้ งกบั การชกต่อย ตบตี หรือตกอยู่ใน ตา ทาใหเ้ คือง เจบ็ อักเสบนยั นต์ าบ่อย ถ้า กรรมรุนแรง อาจจะทาให้เป็นตาเปน็ ต้อ เช่น ภาวะถกู กดดนั จากนกั เลง แกง๊ อนั ธพาล หรือ ตอ้ เน้ือ ต้อลม ตอ้ หิน หรือมีเหตุทาใหต้ าพกิ าร มองเห็นไม่ชดั เจน ฝา้ ฟาง พร่ามัว สายตาสน้ั ผมู้ ีอทิ ธิพลทง้ั หลาย สายตาเอยี ง ตาเหล่หรอื ตาบอด มปี ัญหาบริเวณศีรษะ เสน้ ผม ทาให้ ทาใหค้ รอบครวั แตกแยก มีเรอ่ื ง ผมล่วง ผมบาง หวั ล้าน มเี หตทุ าใหเ้ จ็บ/ปวด ปูดบวมบรเิ วณศรี ษะบอ่ ย โตเ้ ถยี ง ทะเลาะววิ าทเป็นประจา เปน็ โรคผวิ หนังทุกชนิด เช่น เปน็ ผด ผ่นื คนั โรคภูมแิ พ้ ผวิ หนังอกั เสบตดิ เช้อื ง่าย ทาใหม้ ปี ัญหาสุขภาพเกี่ยวกับ หรือ ทาให้ลนื่ ล้ม ผิวหนงั ถลอกได้ง่าย มีอาการเจ็บหรืออักเสบตรงบรเิ วณ โรคหวั ใจ ความดนั ไขมัน หมดสมรรถภาพ ลาคอ ทาให้คออักเสบบอ่ ย มีปัญหาเกีย่ วกับ หลอดลม ระบบการหายใจ หายใจไมอ่ อก ทางเพศ เปน็ โรคเบาหวาน โรคไต กระเพาะ หายใจไมส่ ะดวกและมอี าการจกุ แน่นบรเิ วณ หน้าอกบอ่ ย เปน็ หอบหืด หายใจไมเ่ ต็มปอด ปัสสาวะอกั เสบ ทอ้ งผูก ทาใหก้ ลา้ มเนือ้ เกดิ การฟกช้า ปวด เม่ือย อักเสบไดง้ ่าย หรอื ทาใหเ้ ลอื ดมีปัญหา หมายเหตุ : ถ้ายังไมเ่ กดิ ข้ึนกบั เจา้ ตัว กม็ ักจะเกิดขน้ึ กับลกู เมียหรอื ญาติพนี่ อ้ งคนใดคน หน่ึง ตามกฎแห่งกรรมในหวั ขอ้ ทว่ี า่ “กรรมพนั ธ”ุ กรรมเก่ยี วขอ้ งเชื่อมโยงถึงญาติพี่น้องและเงินที่ ได้มาจากการตีหรอื ชนไก่ เป็นของร้อน เก็บไดไ้ ม่ นาน มกั จะมีเหตุทาใหต้ ้องใช้จ่ายเกี่ยวกับ อบายมุข การพนัน เป็นค่าบหุ ร่ี เหลา้ ยาเสพตดิ ค่ารักษาพยาบาลของลกู /เมียซึ่งเจ็บป่วย เป็นไข้ ไม่สบาย ได้รับอบุ ตั ิเหตุทาใหร้ ่างกายเปน็ แผล ฝี หนอง บวมช้า เคล็ดขดั ยอก
โรคกรรม ๔๙ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบยี ดเบียนสัตว์ ๓. กรรมจากการชนวัว/ควาย/กัดจง้ิ หรีด ตาแมว สุนขั ทาใหส้ ัตว์เหล่าน้นั มีปญั หาขัด ผลกรรมท่ตี ามมา ทาให้มีปัญหา เคอื งนยั น์ตา ปวดแสบปวดรอ้ นมองไมเ่ หน็ เก่ยี วกับศีรษะ เช่น ศรี ษะถกู กระทบกระเทือน ผลกรรมตามมา มีแนวโนม้ ทีจ่ ะ อนั เกดิ จากตกจากที่สงู ศีรษะน็อคพ้ืน โดนตี มีปญั หาเรือ่ งสายตา เชน่ มกั มีฝุ่นละอองหรือ บรเิ วณศีรษะ หรอื โดนวัตถุส่ิงของหลน่ ถูก ขนตาเขา้ ตาบ่อยๆ ทาใหแ้ สบ เจบ็ ปวด ระ บริเวณศีรษะ มีอาการเจบ็ หรอื ปวดหนักๆ คลายเคอื งนัยนต์ า หรือมีปญั หาเก่ียวข้องกับ มึน ทบึ ทบ่ี ริเวณศีรษะทาใหค้ ิดอะไรไม่ออก โรคตา เช่น เปน็ กงุ้ ยิง สายตาสน้ั มอี าการฝ้า และชวี ิตมกั เขา้ ไปเกย่ี วข้องกับการชกต่อยตบ ฟาง พรา่ มัวมองไมเ่ ห็นชัด ตาแหง้ งา่ ยทาให้ ตบี ่อย โดนกลั่นแกลง้ ทาให้เข้าใจกันผิดกบั แสบตาบ่อย สายตาส้ัน ตาเป็นตอ้ เนอ้ื ต้อลม คนรอบข้าง จนเกดิ การโตเ้ ถยี งทะเลาะววิ าท ต้อกระจก ตอ้ หิน หรอื ทาให้ตาบอด ชวี ิตมักโดนกดดนั ซ่ึงจะตอ้ งทาหรือ ๕. กรรมจากเดด็ กน้ แมลงปอ เข้าไปเกย่ี วขอ้ งในเร่อื งทฝี่ ืนใจ ฝนื ทนลาบาก บางคนตอนทีเ่ ปน็ เดก็ ชอบเล่นสนกุ ใจ ถา้ ทาใหส้ ัตว์เหลา่ นนั้ มีสว่ นสูญเสียอวัยวะ ด้วยการจบั แมลงปอมาแลว้ เดด็ ก้นออก เอา สาคัญ เช่น ตาแตก ตาบอด หรอื สญู เสยี การ ดอกหญ้าเสียบแลว้ ปลอ่ ยไป ทาใหด้ เู พลนิ ตา มองเห็น เป็นต้น เมื่อมีเหตชุ กตอ่ ย ทะเลาะ ผลกรรมท่ีตามมา ทาใหม้ ปี ัญหา ววิ าทกนั อาจจะทาให้โดนตา ทาโดนบริเวณ เก่ยี วขอ้ งกบั ระบบการขับถ่าย เปน็ โรคทอ้ งผกู ดวงตา ทาให้ตาบอดไดง้ า่ ย เป็นโรคริดสดี วงทวาร มเี ลือดออกในเวลา ขับถ่าย มเี หตตุ อ้ งเข้ารับการผา่ ตัดรดิ สีดวง ๔. กรรมทาให้สัตว์ตาบอด ทวาร มีปัญหาเกีย่ วกับเร่ืองอุจจาระ ปสั สาวะ ผู้ท่ีชอบใชข้ องแหลม/ไมแ้ ทงตาปลา เป็นเน้ืองอก ถุงน้า หรอื มะเร็งทม่ี ดลูก ตอ้ ง หรือใชห้ นงั สตก๊ิ ยิง ขว้างปาดว้ ยก้อนดนิ ก้อน ผา่ ตดั มดลูก รงั ไข่ ถ้าเป็นผ้ชู าย จะมปี ญั หา หนิ ทาใหต้ าจ้งิ จก จง้ิ เหลน ตกุ๊ แกบอด หรือใช้ เร่อื งอวัยวะเพศ ลกู อัณฑะ ไสเ้ ลือน หรือ หนา้ ไม้ยิงตานก เด็ดตาปูออกทาใหส้ ัตว์ ได้รับอุบตั ิเหตบุ ริเวณน้ัน เหลา่ นั้นตาบอด มองไม่เห็น หรือ ใชค้ วันรม ทาใหส้ ตั วเ์ จบ็ ตา เช่น จดุ ไฟไล่ยุงให้ววั /ควาย ใชค้ วนั รมแมลงหว่ี หรอื หนู ใช้ยาหมอ่ งป้าย
โรคกรรม ๕๐ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบียนสัตว์ หมายเหตุ : ๗. กรรมจากการกกั ขังสตั ว์ เหตปุ ระกอบทท่ี าใหเ้ กดิ อาการ ผ้ทู ่กี ักขงั หรือเลี้ยงสัตว์ เช่น นก ปลา กระรอก กระต่าย สุนขั ไว้ในกรง ตปู้ ลา ใน ทอ้ งผกู เปน็ ริดสดี วงทวาร คือ การ เล้า คอก หรือผูกล่ามวัวควายใหอ้ ยกู่ ับท่ี ทา รบั ประทานอาหารประเภทแปง้ เนอ้ื สัตว์ ให้อดหญา้ อดนา้ ขาดอสิ รภาพ ไปมาไม่ และดม่ื นา้ น้อย ดม่ื กาแฟ นมมากเกินไป สะดวก ไดร้ บั ความลาบากเดอื ดร้อน ไมม่ ี เป็นอาหารทไี่ ม่มีกากใย ทาให้ย่อยยาก โอกาสผสมพนั ธ์ุกบั ตัวเมีย เหนยี วหนดื ใช้เวลานานในการยอ่ ย อย่ใู น ผลกรรมท่ตี ามมา ทาให้มปี ญั หา ลาไส้นาน พรอ้ มทงั้ ติดนิสยั นอนดกึ ตนื่ ขัดขอ้ ง ติดขัดในเร่อื งการเดนิ ทาง ทาใหม้ เี หตุ สาย ไม่ชอบขับถา่ ยในขณะที่รสู้ กึ ปวด ตอ้ งไดร้ ับประทานอาหารไม่ตรงตามเวลา ท้อง ขบั ถ่ายไมต่ รงเวลา เพราะทากิจธุระ แลว้ ต่อมาทาใหเ้ ปน็ โรคกระเพาะ สขุ ภาพไม่ อย่างอน่ื เพลินและไมช่ อบทานผัก พืช แขง็ แรง แตถ่ า้ ผกู ล่ามไว้ จนเป็นเหตทุ าให้ววั / ผลไมท้ ี่มีกากใยอาหารเยอะๆ ผลตามมา ควายตาย มกั จะเปน็ โรคหอบหดื ระบบ คอื ท้องผูก รดี สดี วงทวารเหมือนกรรมที่ หายใจไม่ดี หายใจไมท่ ว่ั ทอ้ ง หรอื จะมีเหตุทา เคยทาไว้ ใหถ้ กู จากัดในสถานท่คี บั แคบ ขาดอสิ รภาพ เชน่ เรือนจา หรือคกุ ตาราง ติดขัดเรอื่ ง ๖. กรรมจากการขอดเกล็ดปลา เอกสารทจ่ี ะทาให้เจ้าตัวไดร้ บั อิสรภาพในการ ผ้ทู ่เี คยขอดเกล็ดปลาเป็นๆ รวมทัง้ ขดู เดนิ ทาง ไมไ่ ดร้ บั ความสขุ ในเร่อื งเพศสัมพันธ์ เมือกปลาไหล มแี นวโน้มจะมผี ลกรรมดงั น้ี ๘. กรรมจากการทุบหรอื ตี ผู้ทีท่ าการทุบหรือตีงู ตสี นุ ขั ตีเป็ด ตี ผลกรรมทีต่ ามมา การขอด ไก่ หรอื สัตวอ์ นื่ ใดก็ตามใหไ้ ด้รับบาดเจ็บ สาหัสท่ขี าหรอื บริเวณหลัง เกล็ดปลา หรอื ลอกหลงั สัตว์ตา่ งๆ ก็ตาม ทา ผลกรรมทตี่ ามมา จะไดร้ ับอุบัติเหตุ อนั เกดิ จากการยกสง่ิ ของหรอื ทากจิ กรรม ใหม้ ปี ัญหาเรอื่ งผิวหนัง เชน่ เปน็ ตมุ่ ผด ผ่ืน อยา่ งใดอย่างหน่ึงในทว่ งทา่ ทีผ่ ิดจนทาให้ ได้รับบาดเจบ็ ฟกชา้ อักเสบทีข่ าหรือที่บริเวณ คัน ปน้ื ลมพิษ กลา้ มเนอ้ื อกั เสบ ผวิ หนัง อกั เสบได้ง่าย โดนแดดไมไ่ ด้ มกั เจบ็ ระบม ตามเนอื้ ตวั
โรคกรรม ๕๑ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบยี นสตั ว์ สันหลัง หรอื เปน็ อัมพฤกษ์ อัมพาต ข้ีโรคสาม ลูกหมาก ถา้ เปน็ ผูห้ ญงิ จะมีลกู ยาก เปน็ วนั ดี สีว่ นั ไข้ เจบ็ ป่วยไมส่ บายอยู่เสมอ หมนั หรอื อวยั วะเพศมปี ัญหาติดเชือ้ หรือ อักเสบไดง้ า่ ย เปน็ เนื้องอก หรอื มะเร็งใน ๙. กรรมจากการใชเ้ บ็ดตกปลา/กบ/เขยี ด มดลูก ไมไ่ ด้รับความสุขในเรอื่ งเพศสัมพันธ์ ผลกรรมตามมา มีเหตทุ าให้ ผทู้ ี่เคยฆา่ สตั วต์ ดั ชวี ติ มาแลว้ ในอดตี ปากฉกี ปากแหวง่ ปากเป็นแผลง่าย เปน็ รอ้ น ไม่วา่ จะเป็นเดก็ หรอื ผ้ใู หญ่ ผหู้ ญิงหรอื ผูช้ าย ใน รูปปากไม่สวยมตี าหนิ มีแผลเปน็ เป็นร้อน เปน็ นกั บวชหรือชาวบา้ น เปน็ คนธรรมดาหรือ ใน กดั ลิน้ ตัวเองในขณะรับประทานอาหาร ผู้วเิ ศษ จะรู้วา่ เป็นบาปกรรมหรอื ไม่กต็ าม เคี้ยวขา้ วอาจจะมกี อ้ นกรวดเล็กๆผสมในนัน้ เมอ่ื กรรมน้ันส่งผล ยอ่ มไม่มีใครหนีไมพ่ น้ จาก ทาใหม้ องไมเ่ ห็น หรอื มเี สน้ ผมปนในอาหาร บาปนน้ั ท้ังนี้ เพราะไม่มใี ครจะเก่งเกนิ หรอื ขณะเค้ียวอาหารอาจจะโดนวตั ถทุ ีม่ ี กรรม กรรมยอ่ มตดิ ตามคนท่ีทาเหมอื น ลักษณะแขง็ ๆอยา่ งใดอย่างหนึ่ง ทาใหป้ วด เงาตามตัวหรือเหมอื นลอ้ เกวียนหมุนตาม ฟัน หรอื ฟันบน่ิ หรือหักได้ มีปัญหาเร่ืองฟัน เทา้ วัว ๑ แมจ้ ะเป็นเวลารอ้ ยวัน พนั ปหี รอื เป็นโรคลาไส้ โรคกระเพาะ มีปัญหาเร่ือง แมแ้ ต่เปน็ อสงไขยกัป เม่อื กรรมยงั ไม่มี ดวงตา การมองเห็น โอกาสสง่ ผล กไ็ มม่ วี นั สูญสลายไปตาม กาลเวลา ๒ จนกวา่ จะไดช้ ดใช้วบิ ากกรรมนัน้ ๑๐. กรรมจากการตอน/ทาหมนั สัตว์ หมดหรอื ได้บรรลุมรรคผลนิพพานเปน็ พระ ผทู้ ่ีชอบตอนหรอื ทาหมันสตั ว์ เชน่ อรหันต์ ไมก่ ลับมาเกดิ อีก กรรมทั้งหลายท้งั ปวงก็สลายตัวหมด เพราะกรรม ก็คอื ตัว หมา แมว ววั ควาย เป็นตน้ ทั้งน้ี ก็ขึ้นอยกู่ ับ สงั ขาร ซง่ึ เปน็ เจตสกิ เกิดดบั พรอ้ มกับจิต กรรมวธิ ีในการตอนหรอื ทาหมัน ถา้ สตั วไ์ ดร้ บั เมอ่ื จิตบริสทุ ธ์ิไมม่ กี ิเลส ชวี ิตหลงั ตายของ ความเจบ็ ปวดทรมานมาก เมอื่ กรรมส่งผล ก็ จะเป็นหนักและรนุ แรง ๓๑ เร่อื งนายมัฏฐกุณฑลี พระไตรปิฎก เล่ม ๒๕ ขทุ ทกนิกาย ขุททกปาฐะ (มจร.แปล) หนา้ ๒๔ ผลกรรมตามมา ถา้ เป็นผู้ชาย ๓๒ นารทชาดก พระศาสดาเมอ่ื ประทบั อยู่ ณ อุทยานลฏั ฐวิ ัน จะมปี ญั หาเรื่องเจ็บลกู อัณฑะ ไสเ้ ลอื น เปน็ ทรงปรารภการทที่ รงทรมานอุรเุ วลกัสสปะ ตรสั มหานารทกสั สป หมัน ท่อปัสสาวะอกั เสบ มะเรง็ ต่อม ชาดก พระไตรปิฎก เล่ม ๒๘ ขทุ ทกนิกาย ชาดก (มจร.แปล) หน้า ๓๖๓ และอรรถกถา
โรคกรรม ๕๒ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบียนสตั ว์ พระอรหันต์ จึงไม่มีนามรูป(ขนั ธ์ ๕)เกดิ อีกไม่ ความเชื่อมั่นในการแสดงออก เป็นคนขี้ ว่าจะเป็นภพภูมิไหนกต็ าม เม่อื จิตดับ นามรปู ประหมา่ อาย ไมก่ ล้าแสดงออก เรยี นหนังสอื ดับ ไม่เกดิ อกี กรรมที่อยู่ในจติ กม็ ลาย ไม่คอ่ ยเกง่ หรอื ไม่ชอบเรยี นศกึ ษา ความจา สลายตัวและดับหมดสนิ้ ซ่ึงเปน็ ทส่ี ุดแหง่ ไม่ดี อายขุ องความรกั ส้ัน เลิกกันงา่ ย ถกู ท้งิ กรรม คนรักอายสุ ้นั หรอื ขณะที่อย่ใู นทอ้ งแม่ มกั จะ ทาให้พอ่ และแม่หยา่ ร้างกนั เลกิ กัน แยกทาง กรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสัตว์ กนั หรือ แมไ่ ด้ทอ้ งก่อนแตง่ หรือมาเกิดใน สง่ ผลไดผ้ ่ำนรำ่ งกำยนี้ ขณะท่ีพ่อแมย่ งั ไม่พร้อม ทาใหพ้ ่อแมค่ ดิ ทา แท้ง คดิ เอาออก ซ่ึงเปน็ สาเหตใุ หล้ ูกคนนน้ั ผลกรรมจากการฆ่าและเบียดเบยี น จะต้องมีความเห็นขดั แย้ง มีปากเสียงทะเลาะ สัตว์ สามารถให้ผลได้ท่ัวร่างกายของเรา ววิ าท หรือเขา้ กันไมไ่ ดก้ ับพอ่ หรอื แม่ผทู้ ี่คดิ ไม่ ตั้งแตศ่ รี ษะ จรดเท้า โดยเฉพาะอวัยวะ ดกี ับลกู คดิ จะฆา่ ลูกในท้อง ฉะน้ัน เพียงแค่ ดังต่อไปนี้ คอื ลน้ิ คอ นิ้วมอื น้ิวเทา้ หลงั คดิ กผ็ ดิ แล้ว และผลจากความคิดอกุศลอนั น้ี กล่าวคอื จะทาใหเ้ กิดมามีล้ินสัน้ ลน้ิ ไกส่ ้นั หากไมแ่ ก้ หรือไม่รจู้ ักวิธีการแกอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ระบบการรับร้รู สไมด่ ี ไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ยอ่ มทาใหเ้ กิดปัญหากบั พอ่ แม่และผู้เป็นลกู มโี รคเก่ียวกับลน้ิ ลาคอไม่สวย คด เอียง ไม่มีทีส่ น้ิ สุด คอสน้ั มากเกนิ ไป หลังโก่ง เวลาเดินหรือ นง่ั หลังโก่ง น้ิวมือ น้ิวเท้า และส้นเทา้ ส้ัน คด หรอื หงกิ งอ ดไู มส่ วยงาม ลายน้ิวมอื ตดั ฝา่ (ลายนิว้ มือขาด) มือเทา้ เลก็ เกินไป ดไู ม่ สวยสมส่วน เพราะฉะน้ัน คนทม่ี นี ว้ิ มอื -เทา้ สั้น โดยเฉพาะน้ิวก้อยส้นั ผดิ ปกติ (ปลาย นว้ิ กอ้ ยไมถ่ ึงขอ้ แรกของน้ิวนาง) หลังโกง่ ยนื เดนิ นงั่ หลงั โกง่ มีวิบากกรรมเรื่องการฆา่ และ เบยี ดเบยี นสตั ว์ในอดตี ชาตหิ รอื ชาติปัจจบุ ัน ชาติตดิ ตัวมา ผลของกรรมนี้ จะทาให้เปน็ คน อารมณร์ อ้ น โกรธง่าย เอาใจยาก ข้ีโรค สุขภาพไม่ดี อ่อนแอ มกั มโี รคประจาตวั อยา่ ง ใดอย่างหนึง่ เปน็ คนตกใจง่าย ขวัญออ่ น ขาด
โรคกรรม ๕๓ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบยี นสตั ว์ บาปใหผ้ ลเปน็ ทุกข์ กรณีตัวอย่าง บญุ ใหผ้ ลเปน็ สุข \"โรคกรรม\" อานนท์ ภกิ ษุในธรรมวินัยน้ี รู้ชัดวา่ ... ‘เป็นไปไม่ได้ทีก่ ายทุจริตจะพึงเกดิ ผลที่ ทปี่ รำกฏในคัมภรี ์พระไตรปิฎก นา่ ปรารถนา นา่ ใคร่น่าพอใจ แตเ่ ปน็ ไป และอรรถกถำ ได้ทกี่ ายทจุ ริตจะพงึ เกิดผลทไ่ี มน่ า่ ปรารถนา ไมน่ า่ ใคร่ ไม่น่าพอใจ’ ผลของบาปอกศุ ลกรรมท่เี ราเคยทาไว้ ตง้ั ภพชาตกิ อ่ นหรือชาตินี้ ถา้ มันรุนแรงเข้มขน้ รชู้ ดั ว่า ‘เป็นไปไมไ่ ดท้ ่ีวจีทจุ รติ ... กส็ ามารถส่งผล อานวยผลให้เกดิ ข้ึนได้ และ มโนทุจริตจะพงึ เกิดผลที่นา่ ปรารถนา น่า ถ้าหากวิบากกรรมน้ัน ยังไม่ส่งผล แม้ ใคร่ นา่ พอใจ แตเ่ ปน็ ไปได้ทวี่ จที จุ ริต...มโน กาลเวลาจะผา่ นมานานแสนนานแคไ่ หน ทจุ ริตจะพงึ เกดิ ผล ทไ่ี มน่ า่ ปรารถนา ไม่นา่ อยา่ งไร มนั กย็ งั สบื ตอ่ เกี่ยวเน่ืองอยูใ่ นจติ ของ ใคร่ ไมน่ า่ พอใจ’ เราไม่หายไปไหน และไม่หายไปเอง ฉะน้นั เม่ือมันมีโอกาส ก็จะแสดงตัวและก่อใหโ้ รค พหุธาตกุ สูตร ตา่ งๆอกี ด้วย ถ้าเราได้ศึกษาเรียนร้เู รื่องกฎ พระไตรปฎิ ก เลม่ ๑๔ แห่งกรรมจากคนอ่ืน ยอ่ มได้ประโยชน์ มัชฌมิ นกิ าย อุปรปิ ณั ณาสก์ มากมาย จะขอยกตวั อยา่ งกรณโี รคกรรมท่ี (มจร.แปล)หน้า ๑๖๐- ๑๖๙ ปรากฏในคมั ภีร์พระไตรปิฎกและอรรถกถา ดังน้ี
โรคกรรม ๕๔ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบียดเบียนสัตว์ โรคกรรมของพระพทุ ธเจา้ เรอ่ื งที่ ๑ ในขณะที่พระองค์เวียนวา่ ยตายเกิด ทุกขเวทนาทีเ่ กิดจากถูกสะเกด็ หิน ในสังสารวฏั ในภพชาติตา่ งๆ ได้สง่ั สมบาเพญ็ บารมเี พอ่ื บรรลุสัมมาสมั โพธญิ าณนัน้ บาง กระทบหวั แม้เท้าและหลงั เทา้ ชาติพระองคก์ ไ็ ดท้ าอกศุ ลกรรมเอาไว้ เร่อื ง ตอ่ ไปน้ี เป็นผลของอกุศลกรรมเกา่ ของ ในกัปท่ี ๕ นบั จากกัปน้ไี ป พระ พระพทุ ธเจา้ ท่พี ระองคต์ รสั เลา่ เอง ณ พน้ื ศลิ า เทวทัตและพระโพธสิ ตั ว์ ได้เปน็ พอ่ ค้าเร่ ทน่ี า่ รื่นรมย์ ใกล้สระอโนดาตอนั เตม็ ไปด้วย ดว้ ยกนั ช่อื ว่า เสรวี ะเหมือนกัน พอ่ คา้ ท้ัง รัตนะตา่ ง ๆ ในละแวกปา่ มีดอกไม้มีกล่ินหอม สองนั้นเดนิ ทางไปค้าขายที่เมืองอรฎิ ฐะที่ นานาชนิด สรุปได้ ดังนี้ หมู่บ้านปฏั ฏนะอยใู่ กลท้ ่าน้าแห่งหน่งึ ได้ตก ๑.ทกุ ขเวทนาท่ีเกดิ จากถูกสะเกด็ หิน ลงกันวา่ จะไปถนนคนละเส้น แลว้ ท้ังสองก็ กระทบหวั แม้เท้าและหลงั เทา้ แยกทางกนั เข้าไปในหมู่บ้าน ๒.ทุกขเวทนาจากสะเกด็ หิน ๓.ทุกขเวทนาในขณะถูกผา่ ตดั เพือ่ ทา ในถนนสายที่พ่อคา้ (อดตี ชาติของ การรกั ษาแผล พระเทวทตั )เข้าไปนั้น มีบา้ นหลังเดียว มีคน ๔.โรคปวดพระเศยี ร ๒ คน คอื ภรรยาของเศรษฐเี กา่ คนหน่ึงกับ ๕.โรคปวดหลงั หลานสาวคนหน่ึงเท่านนั้ ทบี่ า้ นหลังน้ี มีถาด ๖. โรคถ่ายเป็นเลอื ด ทองคาใบใหญ่ แต่ถูกสนมิ จบั ถูกวางปนกับ ๗.ทกุ ขเวทนาอันเกิดจากไฟไหม้ ภาชนะอน่ื ๆ ภรรยาเศรษฐเี กา่ ไม่รูว้ า่ เป็นถาด ทอง จงึ พดู กับพอ่ คา้ คนนั้นวา่ \"อยากเอาถาด พ้ืนเทา้ ใบนแ้ี ลกกบั เคร่ืองประดบั สกั อย่าง\" พ่อคา้ จบั ถาดมา ใชเ้ ข็มขดี ดู รวู้ ่าเป็นถาดทองคา ๓๓ พทุ ธาปทาน ช่อื ปพุ พกัมมปโิ ลติ พระไตรปิฎก เลม่ ๓๒ ขุ คิดว่า \"เราจะใหแ้ ค่นิดหน่อย แล้วคอ่ ยกลับมา ททกนิกาย อปทาน (มจร.แปล) หน้า ๕๗๔-๕๗๖ และ อรรถ เอา\" จึงทาทที ่าไมส่ นใจ แล้วเดนิ จากไปอยา่ ง กถาอปทาน ชอ่ื วสิ ทุ ธชนวลิ าสินี พุทธวรรคท่ี ๑ พุทธาปทาน มเี ลศนยั ตอ่ มาไมน่ าน หลานสาวเห็นพ่อค้า (พระโพธสิ ัตว์)เดินมาท่ีประตู จึงพดู วา่ \"คุณ แมจ่ ๋า หนูอยากจะได้เครอื่ งประดบั \" ภรรยา เศรษฐีสัง่ ให้เรยี กพระโพธิสัตว์นั้นมา แลว้ พดู
โรคกรรม ๕๕ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบยี ดเบียนสัตว์ วา่ \"ฉันอยากจะเอาถาดใบนแ้ี ลกกับ พอ่ คา้ คนนี้ ก็ได้กระอักเลอื ดตาย เพราะความ เครอ่ื งประดับ เพื่อจะใหห้ ลานสาวของฉัน\" โกรธแคน้ อยา่ งรนุ แรง๓๔ พระโพธสิ ัตว์จบั ถาดมาดู ก็ร้วู ่าเป็น เพราะบว่ งกรรมและการผูกอาฆาต ทองคา และยงั รอู้ ีกวา่ \"ผหู้ ญิงคนนี้ กาลงั จะ จองเวรของพระเทวทัต พ่อคา้ คนนนั้ ไดเ้ กดิ มา ถกู พอ่ ค้าคนนน้ั หลอก(เทวทตั )\" จึงให้สินคา้ ท่ี ในภพชาตใิ หมแ่ ละได้เบียดเบยี นพระโพธสิ ตั ว์ เหลอื ทั้งหมด พรอ้ มทง้ั ประดับเคร่อื งประดับ อยหู่ ลายแสนชาติ ในชาติน้ี เกดิ ในสกั ยตระ แกห่ ญงิ สาวน้ัน เหลอื เงินไวใ้ นกระเป๋าแค่ ๘ กูล เมือ่ พระองค์ได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณ กหาปณะ แล้วออกเดินทางไป ประทบั อยูใ่ นกรุงราชคฤห์ พระเทวทตั ได้ บรรพชาอปุ สมบทจากพระผูม้ พี ระภาคเจ้า พ่อค้าคนนั้น(พระเทวทัต)ได้หวน พรอ้ มกบั เจ้าอนุรทุ ธะเป็นตน้ หลงั จากบวช กลบั มาใหม่ แล้วถามถงึ ถาดทอง ภรรยา แลว้ ไดฌ้ านโลกิยะ (สมาบตั ิ ๘และ เศรษฐี พูดวา่ \"พ่อคณุ เอย๋ เม่อื พ่อคณุ ไม่ อภญิ ญา ๕) ทลู ขอพรว่า \"ขา้ แต่พระองค์ผู้ อยากได้ มพี อ่ ค้าใจดคี นหนง่ึ ใหส้ ง่ิ ของ เจรญิ ภิกษุสงฆท์ ัง้ ปวงจงสมาทานธดุ งค์ ๑๓ มากมายเพ่ือแลกกบั ถาดใบนัน้ เพง่ิ เดินออก มเี ทยี่ วบิณฑบาตเปน็ วตั รเปน็ ตน้ ขอภิกษุ จากบา้ นไป เมอ่ื กี้น้ีเอง\" พอ่ คา้ คนน้ี พอได้ฟัง สงฆท์ ้งั ส้นิ จงเปน็ ภาระของข้าพระองค์เถดิ \" ดงั น้ัน เกิดความเสยี ดายและเสียใจอยา่ ง รนุ แรงเหมือนอกจะแตกตาย จึงรบี วิง่ ตดิ ตาม พระผมู้ ีพระภาคเจ้าไมท่ รงอนุญาต ไป แต่ไม่ทัน เพราะพระโพธสิ ตั ว์ได้ขน้ึ เรือ พระเทวทตั เกิดความไม่พอใจ ได้ผูกใจเจ็บ แล่นออกไปไกลฝ่งั พอสมควร พอ่ คา้ คนน้ี จึง และเพราะยินดีในลาภสักการะดว้ ย จงึ ทาให้ ตะโกนวา่ \"หยุดก่อน! อย่าเพิง่ ไป อย่าเพิ่งไป\" ฌานและฤทธเิ์ ส่อื ม ตอ่ มา วนั หนง่ึ ข้ึนไปบน แต่พระโพธสิ ตั วก์ ็ไมไ่ ด้สนใจ จึงแล่นเรอื จาก ภเู ขา ยืนอย่ขู า้ งบน ได้กลง้ิ กอ้ นหินลงมาจาก ไปจนลบั ตา เขาจงึ ได้ผกู อาฆาตจองเวรไวว้ า่ \" ยอดเขา หวงั ปลงพระชนม์พระผมู้ ีพระภาค ไม่วา่ จะเกดิ ในภพชาตใิ ดก็ตาม ขอเรา พึงได้ เจา้ เวลาน้ันพระพทุ ธองค์ประทับยนื อยู่ทเ่ี ชงิ โอกาสได้แกแ้ คน้ อันนี้ดว้ ยเถดิ \" ต่อมาสกั ครู่ ๓๔ เสรวิ วาณชิ ชาดก พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๗ ขุททกนิกาย เอ กกนบิ าต อปัณณกวรรค ชาดก หนา้ ๒ และอรรถกถา เร่ืองของพระเทวทัต พระไตรปิฎก เล่ม ๗ จฬู วรรค สงั ฆ เภท ขนั ธกะ (มจร.แปล) หน้า ๑๗๓
โรคกรรม ๕๖ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบียดเบียนสตั ว์ เขาเวภาระ (บางแหง่ เปน็ เขาคิชฌกฏู ) ด้วย หินท่ีกระเดน็ มากระทบหัวแมเ่ ทา้ พระองคจ์ น พุทธานุภาพ กอ้ นหินท่ีพระเทวทตั กล้งิ ลงมา หอ้ พระโลหติ นน้ั ไปกระทบกบั ยอดเขา ทาใหก้ อ้ นหินแตก กระจาย มสี ะเก็ดหนิ ก้อนหน่งึ กระเดน็ มา เรอ่ื งท่ี ๒ กระทบหลังพระบาทของพระองค์ ทาใหห้ ้อ ทกุ ขเวทนาจากถูกสะเกด็ หนิ เลือด ในอดตี กาล พระโพธิสัตวเ์ กิดใน ครอบครวั หน่ึง ตอนเด็ก ได้เล่นอยทู่ ถี่ นนใหญ่ เพราะเหตนุ ้ัน พระผมู้ ีพระภาคเจา้ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ากาลงั เดิน จงึ ตรัสวา่ \"เมื่อชาติก่อน เราฆ่านอ้ งชาย บิณฑบาตทก่ี ลางถนน คิดว่า \"สมณะโลน้ รูปนี้ ตา่ งมารดา เพราะสาเหตุเรอื่ งการแย่ง จะเดินไปไหน\" จงึ ถือเอาเศษหิน ขวา้ งปา มรดก เราจับน้องชายยดั ใส่ลงในซอกหิน ใส่ทา่ น เศษหินน้ันไปโดนหลงั เท้าของ และเอาหินทบั เพราะวบิ ากของกรรมนนั้ ท่าน ทาให้ผวิ หนังบรเิ วณหลงั เทา้ ฉีกขาด พระเทวทัตจงึ กล้ิงกอ้ นหนิ (หมายเพือ่ จะ มเี ลือดไหล เพราะบาปกรรมน้นั พระ ปลงพระชนมพ์ ระองค์) และเศษหนิ ไดถ้ กู โพธิสตั ว์ ได้รับทุกขอ์ ย่างมหันต์ในนรกหลาย น้ิวหวั แมเ่ ท้าของเรา\" พันปี แม้เป็นพระพทุ ธเจา้ แลว้ ยังได้รบั ทุกขเวทนาอยา่ งหนักซ่ึงเกดิ จากสะเกด็ หนิ พระพทุ ธองคไ์ ดต้ รัสเลา่ ในเรื่องนไ้ี วว้ ่า กระทบที่หลงั พระบาท จนทาใหห้ ้อพระ ในอดตี กาล พระโพธิสตั ว์และน้องชายเป็นลูก โลหติ ขึน้ พอ่ เดียวกัน แตต่ า่ งแม่ เมื่อบิดาลว่ งลับไป แล้ว พี่น้องท้ังสองน้ันทาการทะเลาะกัน เพราะอาศัยพวกทาส จึงไดค้ ดิ หาทางทาร้าย ฝา่ ยตรงขา้ ม ในขณะต่อสกู้ ัน ดว้ ยความท่ีมี กาลงั มากกวา่ พระโพธสิ ัตวก์ ดทับนอ้ งชายไว้ ขา้ งบน แล้วกลิ้งหนิ ทบั บนรา่ งของ นอ้ งชายนน้ั เพราะวิบากของกรรมน้ัน พระ โพธิสตั ว์นัน้ ไดเ้ สวยทุกขใ์ นนรกเป็นตน้ หลาย พนั ปแี ละเศษของกรรมท่ีเหลือทาใหไ้ ด้รับ ทุกขเวทนาอยา่ งหนกั ซ่ึงเกดิ จากโดนสะเก็ด
โรคกรรม ๕๗ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบยี ดเบยี นสตั ว์ เรือ่ งท่ี ๓ ดว้ ยหอก ดว้ ยวิบากของกรรมนนั้ เราถกู ไฟไหมอ้ ยใู่ นนรกอย่างรนุ แรง ด้วยเศษ ทกุ ขเวทนาเกดิ จากการถูกผ่าตัดแผล ของกรรมนั้น มาบัดนีเ้ ขาจึงตัดหนังท่ีเท้า ในอดีตกาลพระโพธิสตั วไ์ ดเ้ ปน็ ของเราเสียสนิ้ เพราะยังไม่หมดกรรม\" พระราชาท่ีเมืองชายแดน เพราะการคลุกคลี เรอ่ื งท่ี ๔ โรคปวดศีรษะ กับคนชั่วและอย่ใู นสิง่ แวดล้อมไม่ดี จงึ ในอดตี กาล พระโพธสิ ตั ว์บงั เกดิ เป็นชาวประมง ในหมู่บา้ นชาวประมง กลายเปน็ นักเลง นสิ ยั หยาบกระด้าง ตอ่ มา วนั หนง่ึ พระองค์กบั พวกชาวประมง ไดเ้ ดินไป ทฆี่ ่าปลา เห็นเขาทบุ หัวปลามากมาย วนั หนึง่ พระองค์เดนิ ถือมีดเข้าไปในเมือง แลว้ เกิดความดใี จในบาปนั้น พวกท่ไี ป ด้วยกัน ก็ดีใจอยา่ งน้นั เช่นกนั เอามดี ฆา่ ฟนั ผคู้ นท้งั หลาย ซึ่งไม่มี จากบาปอกศุ ลน้ัน พระโพธสิ ตั ว์ ได้รับทุกขใ์ นอบายท้ัง ๔ (คือ นรก สตั ว์ ความผิด แล้วเดนิ หนีไป เดรัจฉาน เปรต อสุ รกาย) ในชาติสดุ ทา้ ย ได้ บงั เกิดในตระกลู ศากยราช พร้อมกับบคุ คล เพราะผลของบาปกรรมน้ัน พระ เหล่านนั้ แม้ได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระพุทธเจ้า แลว้ ก็ตาม แตถ่ งึ กระน้นั พระองค์ยังได้รับ โพธิสัตว์ ได้ไปเกดิ ในนรกหลายพนั ปี ไดร้ ับ ทุกขเวทนาที่ศีรษะ คอื ปวดพระเศียร และ บคุ คลเหล่านน้ั เกดิ มาเป็นพวกเจ้า ทุกขใ์ นทุคติภมู ิ มกี าเนิดสัตว์เดยี รจั ฉาน ศากยะ และถกู พวกเจ้าวิฑฑู ภะฆ่าตาย หมด ๕ พระพุทธองค์ จงึ ตรัสว่า \"เราเปน็ ลูก เป็นตน้ จากเศษกรรม ในชาติสุดท้าย ได้เปน็ พระพุทธเจา้ หนงั หวั แม่เทา้ ได้เกดิ หอ้ พระ โลหติ ขนึ้ เพราะกอ้ นหินที่พระเทวทตั กลิง้ ลง มาหมายจะปลงพระชนม์พระศาสดา แล้ว กระเดน็ มากระทบ เม่ือหมอชีวกได้ทาแผล ให้ พระพุทธองคท์ รงได้รบั ทกุ ขเวทนา เน่ืองจากการตดั ผิวหนังที่หลังพระบาท เกิด จากผลกรรม คือเคยใชม้ ีดฆ่าคนทไี่ มม่ ี ความผดิ เพราะฉะน้ัน พระภาคเจา้ จึงตรสั ว่า \"เราเป็นคนเดินเท้า ฆ่าคนทั้งหลาย พระเทวทตั ไดท้ าร้ายพระพุทธเจา้ จนหอ้ พระโลหติ เพราะ ๓๕ ในอรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปปุ ผวรรคท่ี ๔ ความโกรธ กรรมน้ี เป็นอนันตริยกรรม ซ่ึงถือว่าเปน็ กรรมหนัก เรอื่ งวิฑูฑภะ ไดอ้ ธบิ ายว่า พระประยรู ญาติศากยะได้ถูกพระ มากแบบแก้ไขไมไ่ ด้ ตายแล้วจะต้องตกนรกสถานเดยี ว ส่วน เจา้ วิฑูฑภะฆ่าตายเกือบหมดน้ัน เพราะกรรมเก่า คอื รว่ มกนั หมอชวี ก ไดผ้ า่ หนังท่ีบวมขึ้นนนั้ ด้วยจิตเมตตา เปน็ บุญอัน โปรยยาพิษลงในแม่น้าเป็นเหตุให้สัตวใ์ นน้าตาย ยิ่งใหญ่
โรคกรรม ๕๘ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบยี นสัตว์ ชาวประมงในหมูบ่ า้ นชาวประมง เหน็ ได้ทาใหก้ ระดูกไหล่เขาหักแลว้ ก่อนท่มุ ปลาทั้งหลายถูกฆ่า จึงเกดิ ความดใี จ เพราะ ลงบนพืน้ พระโพธิสัตว์ชนะ ชาวพระนคร วบิ ากของกรรมนั้น ความทุกขท์ ศ่ี รี ษะไดม้ ีแก่ ทง้ั หมด พากันโห่รอ้ ง ปรบมือ โบกผ้า แสดง เราแลว้ ในคราวท่ีเจ้าวฑิ ูฑภะฆ่าเจา้ ศากยะ\" ความช่นื ชม พระโพธสิ ตั ว์ ให้นกั มวยปลา้ นง่ั ตรงๆ ช่วยจัดกระดูกไหล่ใหต้ รง แลว้ พูดกบั เรอื่ งท่ี ๕ เขาว่า \"คุณไปเถอะ ต้งั แตน่ ไ้ี ป อย่าทาแบบ ทุกขเวทนาอนั เกิดจากการปวดหลัง น\"ี้ แลว้ เดนิ ไปส่งเขา ในอดีตกาล พระโพธิสัตวบ์ ังเกิดใน ตระกูลคหบดี สมบรู ณด์ ว้ ยกาลัง ไดเ้ ปน็ คน เพราะเศษกรรมนน้ั พระโพธิสตั ว์ ค่อนข้างเต้ยี สมัยน้ัน นักมวยปล้าคนหนงึ่ ได้รับทุกขท์ ร่ี ่างกายและศรี ษะเปน็ ตน้ ใน ได้เอาชนะฝ่ายตรงข้ามท้ังหมดในหมบู่ า้ น ภพชาติทผี่ ่านมา แมใ้ นชาติสดุ ทา้ ย ถึงได้ และในตัวเมือง จนมาถึงเมืองท่ีพระโพธสิ ัตว์ เป็นพระพุทธเจ้าแลว้ กไ็ ด้รับทกุ ข์มกี ารเสียด อยู่ และได้เอาชนะคนในเมืองนนั้ แลว้ จะ แทงที่หลังเป็นตน้ เพราะฉะน้ัน เม่อื ความ เดนิ ทางไปปลา้ ทีอ่ น่ื พระโพธิสัตวค์ ดิ วา่ ทุกขท์ เี่ บอ้ื งพระปฤษฎางค์เกดิ ขึน้ ในกาลบาง \"นักมวยปล้าคนน้ี พอไดช้ ัยชนะในเมอื งของ คราว พระองค์จงึ ตรัสกับพระสารีบุตรและ เราแลว้ ก็จะไปปลา้ ทอ่ี ่นื \" จงึ ไดเ้ ดนิ ทางมาท่ี พระโมคคลั ลานะวา่ จากนี้ไป พวกเธอจง นน่ั ได้ปรบมอื ข้ึน แลว้ พูดวา่ \"คุณเดนิ เขา้ มาสิ แสดงธรรม แล้วพระองค์ใหล้ าดจีวรแล้ว เรามาต่อสกู้ นั แลว้ คอ่ ยไป\" นักมวยปลา้ บรรทม๓๖ แม้พระองค์ ได้เปน็ พระพุทธเจา้ หวั เราะ คดิ วา่ \"พวกผู้ชายท่ีมีร่างกายใหญ่โต แล้ว ก็หนไี มพ่ ้นวบิ ากของกรรมเก่าทเ่ี คยทา เรายงั ทาใหล้ ้มได้ สว่ นผูช้ ายคนนี้ เปน็ คนเต้ีย เอาไว้ จึงได้ตรัสว่า \"เมอื่ การปลา้ กนั รปู รา่ งกเ็ ตย้ี เราใชม้ ือข้างเดียวก็พอ\" จงึ ดาเนนิ ไปอยู่ เราได้เบียดเบยี นบุตร ปรบมอื รับ เดินพดู ทา้ ทายเข้ามาหาพระ นกั มวยปล้า(ใหล้ าบาก) ดว้ ยวิบากของ โพธสิ ัตว์ กรรมน้ัน ความทกุ ขท์ ่หี ลงั (ปวดหลงั ) จงึ ได้มีแก่เรา\" คนทัง้ สองตา่ งจับมือกันเป็นการเอา เชิง เมอื่ การตอ่ สเู้ ริม่ ต้น พระโพธสิ ัตว์ไดจ้ บั ยก ๓๖ สังคตี สิ ูตร พระไตรปฎิ ก เล่ม ๑๑ ทฆี นกิ าย ปาฎิกวรรค นักมวยปลา้ คนนนั้ ขึ้น แลว้ หมุนไปในอากาศ (มจร.แปล) หนา้ ๒๔๗-๒๖๐,นันทกสตู ร พระไตรปิฎก เล่ม ๒๓ อังคุตตรนกิ าย นวกนิบาต (มจร.แปล)หนา้ ๔๓๔-๕๓๘
โรคกรรม ๕๙ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบียนสัตว์ เร่ืองท่ี ๖ ลาบากอย่างมาก แล้วเสด็จปรินพิ พานใน โรคถ่ายเป็นเลอื ด เวลาใกล้รุง่ ในอดตี กาล พระโพธสิ ตั วบ์ งั เกดิ ใน พระพุทธองค์จึงตรัสวา่ \"เราเปน็ ตระกูลคหบดี เลยี้ งชพี ดว้ ยเวชกรรม(เปน็ หมอรกั ษาโรค ได้ใหย้ าถ่ายแก่บุตรของ หมอ) พระโพธสิ ัตว์ ก่อนจะลงมอื รกั ษาบตุ ร เศรษฐี(จนถงึ แกค่ วามตาย) ด้วยวบิ าก ของเศรษฐีคนหนง่ึ ทไ่ี ม่สบาย จงึ ปรุงยา ของกรรมน้นั โรคปกั ขนั ทกิ าพาธ(ถ่าย แล้วรกั ษา แต่อาศยั ความประมาทในการให้ เปน็ เลอื ด)จึงมแี กเ่ รา\" ไทยธรรมของบตุ รเศรษฐีนนั้ จงึ ให้โอสถอกี ขนานหนึ่ง ได้กระทาการถา่ ยโดยการสารอก เรอ่ื งท่ี ๗ ออก เศรษฐีได้ให้ทรพั ยเ์ ป็นอันมาก ทุกขเวทนาอันเกิดจากไฟไหมพ้ นื้ เท้า เพราะวิบากกรรมนน้ั พระโพธสิ ัตว์จึงได้ป่วย ด้วยโรคถา่ ยเปน็ เลอื ดในภพชาตทิ ีผ่ า่ นมา แม้ ในกรณเี กดิ ทกุ ขเวทนาอันเกิดจากไฟ ในชาตสิ ดุ ทา้ ย กอ่ นใกล้จะปรินพิ พาน ได้ ไดไ้ หม้พ้ืนเทา้ พระองค์ได้ตรัสไวว้ า่ ถ่ายเป็นเลอื ด หลังจากเสวยสกู รมทั ทวะท่ี ในอดตี ชาติท่ผี ่านมา เราเปน็ แม่ นายจุนทะ(ช่างทอง)ปรุงถวายพรอ้ มกบั พระ ทัพทหารราบ ใช้หอกฆา่ คนเป็นจานวนมาก กระยาหารทิพโอชะที่เทวดาในจกั รวาลทั้งสิน้ ด้วยวิบากแห่งกรรมท่ีเหลือนั้น ในชาติน้ี ไฟได้ ใสล่ งไว้ไมน่ าน ในวนั เพ็ญเดือน ๖ พระผมู้ ี ไหมพ้ ืน้ เท้าของเราอกี เพราะเศษกรรมยังไม่ พระภาคเจา้ เสดจ็ ดาเนนิ ไปเพอื่ ปรินิพพานที่ หมดสนิ้ เมืองกุสนิ ารา ในขณะที่ดาเนินไปน้ัน ต้อง ประทับนง่ั ในท่หี ลายแห่ง ทรงกระหายน้า ทรง ดื่มน้า เสดจ็ ถงึ เมอื งกสุ ินาราด้วยความ สูกรมทั ทวะ ตามมติของเกจิอาจารย์มี ๓ ประเดน็ คอื ๓๗ พระไตรปฎิ ก เลม่ ท่ี ๓๒ ขทุ ทกนกิ าย อปทาน ภาค ๑ ๑. เนือ้ สกุ รหนมุ่ ๒. ข้าวสกุ ออ่ น ที่ปรุงดว้ ยนมสด นมสม้ เนย พทุ ธาปทานชอ่ื ปุพพกรรมปิโลติที่ ๑๐ ใส เปรียง เนยแข็ง และถัว่ ๓. วิธปี รงุ อาหารชนิดหนงึ่ มหา ปรนิ ิพพานสูตร พระไตรปิฎก เล่ม ๑๐ ทีฆนิกาย มหาวรรค (มจร.แปล)หนา้ ๑๓๘ และอรรรถกถา
โรคกรรม ๖๐ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบียดเบียนสตั ว์ พระพุทธเจ้า แดบ่ ณั ฑิตทงั้ หลาย ผไู้ ร้ซ่งึ บาปและบญุ ผูใ้ ฝแ่ สวงหำทำงหลุดพ้น พระพทุ ธองค์ ตรัสสรุปว่า เราส้ินบาปสน้ิ บญุ แล้ว ปราศจากความเรา่ ร้อนทุกอยา่ ง ไมม่ ี พระพทุ ธเจ้า พระบรมศาสดาของเทวดาและมนษุ ย์ ความเศรา้ โศก ไม่มีความคับแค้น ไมม่ ีอา ทั้งหลาย เปน็ ผลู้ ้าเลิศประเสรฐิ สุด ด้วยศีล สมาธิ สวะ จักปรนิ พิ พาน และปัญญา เปน็ พระอรหันตสมั มาสัมพุทธเจ้า เป็น มหาบุรษุ เอกในจักรวาลนี้ ไม่มใี ครท่จี ะเสมอเหมือน พระพุทธชินเจา้ ไดท้ รงบรรลกุ าลงั พระองค์ได้ ทรงมสี พั พญั ญุตญาณ มที ศพลญาณ แห่งอภญิ ญาท้ังปวงแล้ว ทรงพยากรณ์โดย มเี วสารชั ญาณ มีญาณหยัง่ รอู้ ดีตและอนาคตอยา่ ง มงุ่ หวังประโยชน์สาหรับหมภู่ กิ ษุทีใ่ กล้สระ ไมต่ ดิ ขัด พระพุทธองคท์ รงเปน็ ผมู้ ีบุญบารมีมากล้น ใหญช่ ื่ออโนดาต ด้วยประการฉะนี้แล ถงึ เพียงน้ี แต่กย็ งั หนไี ม่พน้ จากวบิ ากของ อกศุ ลกรรมเกา่ ไปได้ ทัง้ นเ้ี พราะอะไร เพราะ ไม่ พุทธาปทาน ชือ่ ปพุ พกัมมปิโลติ มีใครเกง่ เกนิ กรรม ไมม่ อี านภุ าพอะไรที่จะเหนือ พระไตรปฎิ ก เล่ม ๓๒ พลงั กรรม แมแ้ ต่บุคคลผูม้ ีฤทธ์อิ ย่างนา่ อศั จรรย์ แต่กย็ งั อยู่ภายใต้กฎแหง่ กรรม จะปว่ ย ขทุ ทกนิกาย อปทาน (มจร.แปล) กล่าวไปใยถึงบุคคลอ่นื ไม่ต้องพดู ถึงปุถุชนคน หน้า ๕๗๔-๕๗๖ ทวั่ ไป ด้วยเหตนุ ้ี เราจึงไม่ควรประมาทในชวี ิต ไม่ ควรพรา่ เวลาใหส้ ิน้ ไปเปลา่ โดยไมไ่ ดป้ ระโยชน์อะไร เลย พึงรีบศกึ ษาเรยี นรู้กรรมและวบิ ากกรรมให้ กระจา่ งแจ้ง ทาความเขา้ ใจในพุทธธรรมใหถ้ ่องแท้ ต้งั มั่นอยใู่ นสัมมาทฐิ ิ ปฏิบัติธรรมให้ได้ถึงทีส่ ุด แลว้ รีบถอนตัวออกจากสงั สารวัฏอนั น่าสะพรึงกลัวนี้ให้ เรว็ ทสี่ ุดเท่าท่จี ะทาได้
โรคกรรม ๖๑ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบียดเบียนสัตว์ โรคแผลผพุ องเน่าทง้ั ตวั - โดยปกติ พระพทุ ธเจ้า จะทรง กระดูกหกั ๓๘ ตรวจดูโลก ๒ คร้ัง คือ ในกาลใกล้รงุ่ และ ตอนเย็น ในเวลาที่ทรงตรวจดโู ลกตอนใกล้รงุ่ ผลกรรมจากการทาทารุณกรรมสัตว์ จะทรงตรวจดูเริ่มตัง้ แต่ขอบปากจกั รวาล ของพระตสิ สะ จนถึงพระคนั ธกฎุ ี ในขณะทท่ี รงตรวจดูเวลา เยน็ ทรงตรวจดเู รมิ่ ตงั้ แต่พระคันธกฎุ ี แล้ว ในสมยั พทุ ธกาล ชายหนุ่มชาวกรงุ สา ขยายออกไปภายนอก ในเวลานั้น พระ วัตถีคนหนงึ่ ฟงั ธรรมจากพระพุทธเจา้ แลว้ ปูติคตั ตตสิ สเถระ ปรากฏขน้ึ ในพระญาณของ เกดิ ความศรัทธาเลื่อมใส ได้มอบกายถวาย พระผมู้ ีพระภาคเจา้ พระองค์ทรงเหน็ อปุ นิสยั ชวี ติ ในพระศาสนา ขอบรรพชาอปุ สมบทแล้ว แห่งพระอรหนั ตข์ องพระติสสะ ทรงดารวิ า่ มฉี ายาวา่ พระตสิ สะ ตอ่ มา ทา่ นได้ปว่ ยเป็น “ภกิ ษุน้ถี ูกพวกสัทธวิ หิ ารกิ เปน็ ตน้ ทอดทง้ิ โรคประหลาดชนดิ หน่ึง คือ มตี ุม่ เลก็ ๆเทา่ กับ ตอนนี้ เธอไม่มีที่พงึ่ อนื่ นอกจากเรา” จึง เมล็ดผกั กาดเกดิ ขึน้ ที่ผวิ หนงั ทัว่ ร่างกายของ เสดจ็ ออกจากพระคนั ธกุฎี ไปโรงไฟ ทรงลา้ ง ท่าน แล้วโตขึ้นเรื่อยๆขนาดเท่าเมลด็ ถว่ั เขยี ว หมอ้ ใส่นา้ ยกตั้งบนเตา ทรงประทบั ยนื รอให้ เมล็ดถว่ั ดา เมลด็ กระเบา ผลมะขามป้อม นา้ รอ้ น เมือ่ นา้ รอ้ นแล้ว เสด็จไปจบั ปลาย และขยายใหญข่ ึ้นเทา่ ผลมะตูม แล้วกแ็ ตก เตียงทพี่ ระตสิ สะนอนอยู่ ในกาลนนั้ พวก ออก เลอื ดหนองไหลเยม้ิ มีรูท่ัวรา่ งกายจน ภิกษกุ ราบทลู ว่า “ขอพระองคจ์ งเสดจ็ หลกี คนเรียกท่านตดิ ปากว่า พระปตู คิ ัตตตสิ ส ไป พระเจา้ ขา้ พวกข้าพระองคจ์ ักยกเอง\" เถระ (พระตวั เนา่ ) และต่อมาไมน่ านกระดูกก็ แล้วชว่ ยกันยกเตียง หามไปทโ่ี รงไฟ ผุ พรุน เปราะและแตกร้าว ผ้าสบงจวี รเปรอะ เปอื้ นด้วยหนองและเลือด จนไม่ภิกษุรปู ใด พระศาสดาทรงให้นารางไมม้ า ทรง ดแู ลทา่ นเลย ทา่ นไม่มีท่ีพึ่ง นอนแช่หนอง เทน้าร้อนใส่แล้ว ทรงสง่ั ภกิ ษุเหลา่ นั้นเปลือ้ ง และเลือดตวั เองอย่บู นทน่ี อน เอาผา้ จีวรของเธอออก ให้ขยาดว้ ยน้ารอ้ น แล้วให้ผึง่ แดด พระศาสดาประทบั ยนื ใกลเ้ ธอ ๓๘ อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท จิตตวรรคท่ี ๓ เรือ่ ง ทรงเอาน้าอุ่นรดทตี่ ัวใหท้ ่ัวรา่ ง ทรงถูให้ แล้ว พระปตู คิ ัตตติสสเถระ อาบนา้ ใหเ้ ธอ แลว้ ให้ครองผา้ จวี ร ตอนน้ี เธอรูส้ กึ เบาตวั มีจิตใจสงบเป็นสมาธิ นอนบน
โรคกรรม ๖๒ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบยี ดเบยี นสัตว์ เตยี ง พระศาสดาประทับยืนเหนือศีรษะเธอ พระศาสดา ตรัสวา่ “ภกิ ษุ ตรัสว่า “ภิกษุ ร่างกายของเธอนี้ พอไร้ ท้งั หลาย ถ้ากระนั้น พวกเธอจงฟงั ” แล้วทรง วญิ ญาณ(จติ )แล้ว ก็ไม่มปี ระโยชน์ จะถูกทงิ้ ตรัสเล่ากรรมเก่าในอดีตชาตขิ องพระติสสะ ใหน้ อนบนแผน่ ดินเหมือนท่อนไม้” ดงั นว้ี า่ ในเวลาจบเทศนา พระตสิ สเถระบรรลุ กรรมหักขา-ปีกนก ธรรมเปน็ พระอรหันต์พรอ้ มด้วยปฏิสัมภทิ า ในกาลแหง่ พระสมั มาสัมพทุ ธเจา้ ทรง ทงั้ หลาย แมภ้ ิกษุและเทวดาเป็นอันมากก็ได้ บรรลุธรรมเป็นพระอริยบคุ คลมีพระโสดาบัน พระนามวา่ กสั สปะ ติสสะนเี้ กิดเปน็ เป็นต้น ฝ่ายพระเถระบรรลุพระอรหตั แลว้ ก็ ปรนิ ิพพาน พระศาสดาโปรดให้เผาศพของ นายพรานนก ฆ่านกมากมายนบั ไม่ถ้วน เพื่อ ท่าน ทรงเกบ็ อัฐธิ าตุ แลว้ โปรดใหท้ าเจดยี ไ์ ว้ พวกภิกษุกราบทลู ถามพระศาสดาวา่ “พระ ปรุงเป็นอาหารแกพ่ วกคนมีฐานะดี และขาย เจ้าข้า พระปูติคตั ตตสิ สเถระบังเกดิ ในที่ไหน ?” นกทีเ่ หลอื ให้แกค่ นอ่ืนๆ เขาคิดวา่ “นกที่ พระศาสดา : เธอปรนิ พิ พานแล้ว เหลือจากขาย ถา้ เราฆ่าเกบ็ ไว้ คงจะเนา่ ภกิ ษทุ ัง้ หลาย เสีย” ไมค่ ิดฆ่า จึงหกั ขาและปกี จนนกไม่ พวกภกิ ษุ : พระเจา้ ขา้ เพราะ เหตุใด ภกิ ษุผ้มู อี ุปนิสัยแห่งพระอรหันตเ์ ชน่ น้ี สามารถจะเดนิ และบินหนไี ด้ แลว้ กองไว้ ถึงไดม้ ีร่างกายเปอ่ื ยเน่า กระดูกผุกร่อน แตก และท่านทาบญุ อะไรมาถงึ เปน็ เหตุให้ เขาขายนกเหล่าน้ันในวันรุง่ ขน้ึ วนั ใดท่ีได้นก บรรลเุ ป็นพระอรหนั ต?์ มามาก ใหค้ นป้งิ ไว้เพื่อตนเอง ต่อมาวนั หนึ่ง พระศาสดา : ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ผล ท้ังหมดเกดิ ขนึ้ เพราะกรรมทเ่ี ธอทาไว้ ในขณะเวลาท่จี ะรับประทานอาหาร มีพระ พวกภกิ ษุ : กรรมอะไรทที่ ่านทาไว้ อรหนั ต์ขณี าสพองคห์ นึ่ง เดนิ บิณฑบาตมายนื พระเจา้ ข้า อยูท่ ี่ประตเู รือนของเขา พอเขาเหน็ เขา้ กเ็ กิด ความเล่อื มใส คดิ ในใจวา่ “เราได้ฆ่าสตั ว์ตดั ชีวติ มามาก เวลานพ้ี ระคณุ เจ้า ไดม้ ายืนอย่ทู ่ี ประตเู รอื นและอาหารก็มีมากมาย เราจะ ถวายบณิ ฑบาตทา่ น” จึงรับบาตรมา แลว้ ใส่ อาหารทเี่ ลศิ รสจนเต็มบาตร แลว้ นอ้ มไป ถวาย กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วต้ัง ความปรารถนาวา่
โรคกรรม ๖๓ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบยี ดเบยี นสตั ว์ “ข้าแต่พระคณุ เจา้ ขอให้ข้าพเจ้า ข้อคิด...คตธิ รรม ไดบ้ รรลธุ รรมที่ท่านไดบ้ รรลุแลว้ เถดิ ” พระเถระได้ทาอนุโมทนาวา่ “เอวงั โหตุ ขอ จงเป็นไปตามที่ปรารถนาเถดิ อบุ าสก” กรรมถวายทานเปน็ เหตใุ ห้บรรลุธรรม แมก้ ารฆา่ และการเบยี ดเบียน ภิกษุทัง้ หลาย ผลกรรมทั้งหมด สัตวเ์ ป็นบาปกรรมกจ็ ริง แต่นายพราน เกิดขนึ้ แกต่ สิ สะในชาตนิ ี้ เปน็ ผลกรรมที่ติสสะ นกในเรื่องนี้ เพราะบญุ เก่าหนุนนาและ ทาแลว้ ในชาติน้นั รา่ งกายของเธอ เกิดเน่า อาศยั ปัญญา ความฉลาด จึงรู้จกั วิธี เป่อื ยและกระดูกทว่ั รา่ งกายแตกหกั เพราะผล เปล่ียนบาปให้เปน็ บุญ โดยเอาอาหารท่ี กรรม คอื การหักกระดูกขาและปกี นกเป็น ปรงุ จากเนื้อสตั วไ์ ปถวายพระอรหนั ต์ผู้ จานวนมาก ส่วนตสิ สะได้บรรลุธรรมเปน็ พระ เปน็ เน้อื นาบญุ อนั ยอดเยี่ยม ต้งั ความ อรหันต์ เพราะผลกรรม คอื ได้ถวาย ปรารถนาเพือ่ การหลุดพ้น ด้วยอานสิ งส์ บณิ ฑบาตอันเลศิ รสแก่พระอรหนั ต์ แหง่ พลงั บญุ น้ัน สง่ ผลใหเ้ ข้ามาบวชใน ขณี าสพ ผไู้ รซ้ ้ึงกเิ ลสอาสวะ\" พระพุทธศาสนาแล้วได้ศกึ ษาเรียนรู้ ปฏิบตั จิ นไดบ้ รรลธุ รรมในที่สุด ฉะน้ัน ทานที่ทาไวด้ ีแล้วในพระ อริยสงฆ์ จะพลกั ดันให้ชวี ติ ก้าวไปใน เสน้ ทางสายธรรม จากทานส่ศู ลี จากศลี สู่สมาธิและจากสมาธสิ ู่ปญั ญาในทสี่ ุด บณั ฑติ ผฉู้ ลาด จงึ ไมค่ วรมองขา้ มทานวา่ เป็นส่งิ เลก็ นอ้ ย แลว้ ไม่ทาทาน
โรคกรรม ๖๔ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบยี นสัตว์ โรคตาบอด กรรมฐานจนถึงอรหตั ผล ท่านได้ศึกษาเรยี นรู้ จดจาจนขึ้นใจแล้ว จงึ ถวายบงั คมพระศาสดา ผลกรรมท่ีทาใหต้ าบอดของพระจักขบุ าล ออกเดนิ ทางจาริกไปยงั หมบู่ า้ นชายแดน หา่ ง พระศาสดา ได้ทอดพระเนตรเห็น จากวัดเชตวันประมาณ ๑,๙๒๐ กิโลเมตร พรอ้ มกับเพ่ือนพระด้วยกนั หลายรปู อปุ นิสัยของอบุ าสกคนหน่งึ ช่ือ มหาปาละ ซ่งึ เป็นผู้ม่งั มีคนหน่ึง ไดต้ รัสอนปุ ุพพีกถา ชาวบา้ น พอเหน็ พระทีม่ ีการสารวม มี คือทรงชแ้ี จงเร่ืองทาน ศีล สวรรค์ โทษของ ข้อวตั รปฏบิ ตั ิดี กเ็ กิดความเลอ่ื มใสศรทั ธา กามและอานสิ งส์ของการออกจากกาม พากันปัดกวาดบริเวณสถานท่ี จัดทพ่ี ัก ทั้งหลาย มหาปาละได้ฟังธรรมแล้วเกดิ เรยี บร้อยแล้วมอบถวาย พวกพระภกิ ษไุ ด้เข้า ความเลอ่ื มใส คิดว่า “บุตรธดิ าและโภค ไปบิณฑบาตในหมู่บา้ นนเ้ี ปน็ ประจา สมบตั ิ ไม่สามารถติดตามเราไปได้หลงั ตาย แมร้ า่ งกายตัวเราแท้ๆ กเ็ อาไปด้วยไม่ได้ เรา พระมหาปาละถอื เนสชั ชิกธุดงค์ น่าจะออกบวชดกี วา่ ” ฟงั เสรจ็ จากการฟัง (ไมน่ อน ๓ เดอื น) ธรรม เขา้ ไปเฝ้าพระศาสดา ทลู ขอบรรพชา อปุ สมบท ได้ศกึ ษาพระธรรมวนิ ัยกบั พระ ในวันเข้าพรรษา พระเถระเรียก อุปัชฌาย์และพระอาจารย์ ๕ พรรษา หลัง ภิกษุเหลา่ น้ันมาพร้อมกัน ถามวา่ “ทา่ น ออกพรรษา ปวารณาแล้วเขา้ ไปเฝ้าพระ ทง้ั หลาย จะฝึกปฏบิ ตั ิในอิริยาบถภายใน ศาสดา ถวายบังคมแลว้ ทลู ถามเปา้ หมาย พรรษาน้ีอยา่ งไรบ้าง ? ภิกษทุ ้ังหลายเรยี น ของการบวช พระศาสดา จึงไดต้ รสั บอกพระ ตอบวา่ “พวกกระผมจะใช้ท้งั ๔ อิรยิ าบถ” พวกพระภิกษุกราบเรยี นว่า \"แลว้ ทา่ นเลา่ ๓๙ พระไตรปิฎก เลม่ ๒๕ ขุททกนกิ าย ขุททกปาฐะ (มจร.แปล) ขอรับ\" พระเถระตอบว่า \"อาวุโส ในพรรษา หน้า ๒๓ และอรรถกถา ธรรมบทแปล เรือ่ งพระจักขุบาล น้ี ผมตง้ั ใจว่าจะถือการน่ังเปน็ วัตร จะไม่ เถระ นอนเลย\" พวกพระภิกษุกราบเรยี นวา่ \" สาธุ ขอใหท้ ่านอย่าประมาทเถิด ขอรบั \" บาปกรรมตามสนอง เพียงแค่เดอื นหนึ่งผ่านไป พระเถระไม่ จาวัด(นอน) ดวงตาก็เริม่ มปี ัญหา เกิดปวด
โรคกรรม ๖๕ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบยี นสตั ว์ แสบนยั ตาอย่างรนุ แรง มีนา้ ตาไหลออกมา ๓ เดอื นภายในพรรษานี้ ฉะนนั้ ตาของคุณจะ ท่านยงั ฝืนปฏบิ ตั ิธรรมท้งั คนื พอรุ่งอรุณ ก็เข้า หายหรือไม่ จะบอดหรือไม่กต็ ามเถิด คุณจง ไปนั่งในหอ้ ง ในเวลาออกบณิ ฑบาต พวก รักษาพระพุทธศาสนาไว้เถิด อย่าเห็นแก่ ภกิ ษไุ ด้บอกเรอื่ งนก้ี ับหมอทีเ่ คยปวารณา ดวงตาเลย” เอาไว้ หมอได้ปรงุ ยาโดยการหงุ น้ามันส่งไป ถวายแลว้ พระเถระ ไม่นอนหยอด แต่น่งั พระเถระตาบอดพร้อมกับไดบ้ รรลุธรรม หยอดนา้ มันทางจมูก เพราะได้ตัง้ ใจสมาทาน พระเถระได้เรง่ บาเพ็ญสมณธรรม ธดุ งค์ว่า จะไมเ่ อนหลงั นอนตลอด ๓ เดือน อย่างตอ่ เน่ือง ตอ่ มาไมน่ าน คนื วนั หน่ึง เวลา หลายวนั ผา่ นไป หมอกราบเรยี นถาม ประมาณสท่ี ุม่ ถึงตสี อง (มชั ฌมิ ยาม) ขณะที่ ท่านวา่ \"อาการเจ็บดวงตา ดีขึ้นแล้วหรือยัง ท่านกาลงั นัง่ ปฏบิ ัติธรรมอยู่นนั้ ดวงตาก็ได้ ขอรบั พระคุณเจ้า\" ท่านก็ตอบว่า \"ยังปวดอยู่ บอดสนทิ และกเิ ลส ตณั หา อวชิ ชา อุบาสก\" หมอคิดสงสัยในใจว่า “เราสง่ อุปทานทั้งหลายท้ังปวง ก็หลดุ สะบัน้ ขาด น้ามนั ไปถวายเพอ่ื จะรกั ษาให้หายดว้ ยการ หายไปจากจติ พรอ้ มๆกัน ไมก่ ่อนไม่หลงั หยอดเพียงครงั้ เดียวเท่าน้ัน แต่ทาไม ครัง้ นี้ กวา่ กนั ท่านไดบ้ รรลธุ รรมเป็นพระ ถงึ ไมห่ าย” จงึ เรียนถามว่า “พระคุณเจา้ อรหนั ตแ์ บบสุกขวปิ ัสสก๔ แล้วเดนิ เข้าไป ขอรับ ทา่ นน่งั หรือนอนหยอด” พระเถระได้ นั่งในห้อง น่ังนิง่ ไมย่ อมตอบ ตัวหมอเองก็ไมส่ ามารถ บงั คบั พระทา่ นได้ เหตุการณ์เปน็ อย่อู ย่างน้ี เมือ่ พระเถระตาบอดแล้วพวกภิกษุ หลายครง้ั หมอจงึ หยุดการซักถามและบอก และชาวบ้าน ได้ชว่ ยกนั ดูแลอุปฏั ฐาก เม่ือ เลิกการดแู ลรกั ษาท่านตัง้ แตน่ นั้ มา พระเถระไดบ้ รรลุธรรมแล้ว ก็พรา่ สอน พระภิกษอุ กี ๖๐ รปู พอใกลว้ นั ออกพรรษา ฝ่ายพระเถระก็ได้แต่พูดสอนตวั เองว่า ท่านเหล่านนั้ ก็ได้บรรลุธรรมเปน็ พระ “คณุ ปาลติ ะ คณุ จงตอบมา คณุ จะเหน็ แก่ ดวงตาหรือจะเห็นแก่พระพทุ ธศาสนากนั แน่ ๔๐ พระอรหันต์สกุ ขวปิ สั สก หมายถึง ผู้ปฏบิ ัตวิ ิปสั สนาแล้ว ในสงั สารวฏั อันยดื ยาวนี้ เราเองกร็ ู้ไมไ่ ด้ ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ละกเิ ลสไดห้ มดส้ิน เป็นพระอรหนั ต์ พระพทุ ธเจ้าทั้งหลายรอ้ ยพนั พระองค์ ก็ แตไ่ ม่ไดช้ านาญในสมาธแิ ละไม่ได้อภิญญา ๕ คอื ไม่ได้ตาทิพย์ กาหนดไมไ่ ด้ คณุ ไดท้ าสัญญาว่า “จะไม่นอน หูทพิ ย์ ระลึกชาติไม่ได้ แสดงฤทธไ์ิ มไ่ ด้ ไมร่ ู้จกั ใจคนอืน่ เปน็ ตน้ สสุ ิมปริพพาชกสูตรพระไตรปฎิ ก เลม่ ๑๖ สงั ยุตตนิกาย นทิ านวรรค (มจร.แปล)หนา้ ๑๔๓-๑๔๙
โรคกรรม ๖๖ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบียนสตั ว์ อรหันต์พรอ้ มด้วยปฏิสัมภทิ าทกุ รปู หญงิ คนน้ันตอบว่า \"ถา้ หมอรกั ษา หลงั จากน้ันพระเถระและพวกภิกษกุ ็ได้ ตาของดิฉันใหห้ ายเป็นปกตไิ ด้ ขา้ พเจา้ กบั เดนิ ทางไปเฝา้ พระศาสดา บุตรและธิดา จะยอมเปน็ คนใช้หมอเอง\" หมอตอบรบั วา่ “ดเี หมอื นกนั ” ดว้ ยการ ต่อมา วนั หนง่ึ พวกพระภิกษตุ ่างถนิ่ รกั ษาครง้ั เดยี วเท่านนั้ ดวงตาของเธอก็กลบั ไดม้ าเฝ้าพระศาสดา แล้วได้กราบทูลถาม หายเปน็ ปกติ แต่หญงิ คนนกี้ ลับคดิ ว่า “เราได้ เรื่องทา่ นตาบอดว่า\" เพราะกรรมอะไร ท่าน ใหค้ าม่ันสัญญาหมอวา่ ‘จะยอมเป็นคนใช้’ จึงกลายเป็นคนมีตาบอด พระเจา้ ข้า? แต่เขา คงจะเรยี กเราด้วยคาไม่สุภาพ ออ่ นหวาน เราจะโกหกเขาดีกว่า\" เมอื่ ถกู พระศาสดา \"เพราะกรรมเกา่ ทเ่ี คยทา หมอถามวา่ “เปน็ อย่างไร คณุ ” เธอตอบวา่ ไว้ ภิกษทุ ัง้ หลาย\" “เมอ่ื กอ่ น ดวงตาของข้าพเจ้าปวดน้อย แต่ เด๋ยี วนี้ปวดมากกว่าเดมิ ” พวกภกิ ษตุ า่ งถิ่น \"พระเถระนัน้ ได้ บาปกรรมอะไรไว้ พระเจ้าข้า\" หมอคิดวา่ “หญิงคนนี้ โกหกเรา เพราะไมอ่ ยากให้อะไร จรงิ ๆแลว้ ตวั เราเองก็ กรรมทาให้ตาบอด ไม่ตอ้ งการค่าจ้างดว้ ย แตเ่ มอ่ื เธอไม่ซ่ือสตั ย์ พระศาสดาตรสั ว่า “ภกิ ษทุ ง้ั หลาย เรานา่ จะทาเธอใหต้ าบอดดกี ว่า” จงึ ไปบอก ถา้ อยา่ งน้นั เธอท้งั หลายจงต้งั ใจฟัง” แลว้ ให้ภรรยารับรู้ แต่นางกไ็ ม่แสดงความ ตรัสเล่าเรอื่ งราวในอดีตชาติของพระจักขุ คดิ เหน็ ไดแ้ ต่น่ังน่งิ หมอคนน้ี จงึ ปรงุ ยา บาลว่า \"ในอดตี กาลผา่ นมานานแล้ว พระ แล้วเอาไปใหผ้ ู้หญงิ คนนั้นหยอดโดยพดู ว่า เจ้าพาราณสีครองราชย์อยใู่ นกรงุ พาราณสี “คณุ ลองหยอดยาขนานนด้ี ู เพ่ืออาการจะดี หมอคนหน่ึงทาการดแู ลรักษาคนในบ้านและ ขน้ึ ” แตเ่ ม่ือเธอหยอดยาน้นั เสรจ็ ดวงตาทั้ง นคิ ม วนั หนึ่ง ได้เหน็ ผู้หญงิ คนหนึ่งมีปญั หา สองขา้ งได้พร่ามวั บอดสนทิ มองไม่เหน็ เรื่องดวงตา จึงถามวา่ “อาการของคณุ เป็น อะไรเหมือนไฟดับ หมอยาในชาตนิ ้ัน อย่างไร?” หญิงคนนั้นตอบวา่ “ข้าพเจ้า ได้มาเกดิ เป็นจกั ขปุ าลภิกษุในชาตนิ \"้ี มองไมเ่ ห็น” หมอกล่าววา่ “ หมอจะชว่ ยรักษาให้” พระศาสดาตรัสวา่ “ภกิ ษทุ ั้งหลาย หญงิ คนนัน้ ตอบวา่ \"กไ็ ด้จ๊ะ หมอ\" กรรมที่บตุ รของเราทาแล้วในกาลนน้ั ติดตาม หมอพดู ว่า คณุ จะใหอ้ ะไรแก่หมอบา้ ง ?
โรคกรรม ๖๗ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบยี ดเบยี นสตั ว์ มาใหผ้ ล เพราะบาปกรรมนี้ จะติดตาม โรคเรื้อน บุคคลผูท้ าไป เหมอื นล้ออนั หมนุ ตามรอยเทา้ โคท่เี ขาเทยี มเกวยี นบรรทุกสนิ คา้ ตัวเข็นธุระ กรรมทท่ี าใหเ้ ปน็ โรคเร้ือนของสปุ ปพุทธะ๔๑ ไปอย”ู่ แล้วได้ตรัสคาถาวา่ นายสุปปพุทธะเปน็ ชาวเมืองราชคฤห์ “ธรรมทง้ั หลาย มใี จเป็นหัวหนา้ เขาเปน็ โรคเรือ้ นอยา่ งรุนแรง ท้งั มือเท้าและ มีใจเป็นใหญ่ สาเรจ็ แลว้ ด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจรา้ ย พดู อยู่ก็ดี ทาอยกู่ ็ดี นว้ิ ดว้ น เพราะโรคเรือ้ นกัดกนิ เนอ้ื ตัวสกปรก ทกุ ข์ยอ่ มไปตามเขา หนองไหลออกจากปากฝี ส่งกลิ่นเหม็น ดูนา่ ดุจลอ้ หมุนไปตามรอยเทา้ โคที่เขน็ แอกไปอยู่ฉะนน้ั ” เกลียด เหน็ แล้วน่าสงสารอย่างย่ิง เพราะเขา ข้อคดิ ...คติธรรม เป็นคนยากจนทีส่ ุดกวา่ ทุกคนในเมืองน้ีกว็ า่ บาปกรรมที่ท่านพระจกั ขุบาลเคยทาไว้ ได้ จนถึงขนาดตอ้ งหาเกบ็ เศษผา้ เก่าๆทีค่ น ต้ังแตห่ ลายชาติท่ีผ่านมา ยังไม่เลอื นหายไปไหน เมื่อมีโอกาสและเหตุปัจจัยพร้อม มนั จะสง่ ผลทนั ที ทิ้งตามถงั ขยะและรมิ รว้ั มาเย็บเพ่อื น่งุ หม่ ถอื ในอดตี ได้สร้างเหตไุ วอ้ ยา่ งไร ย่อมไดร้ ับผลอย่าง นั้น เคยทาให้คนอ่ืนตาบอดดว้ ยเจตนา พอกรรม กระเบื้องขอทานไปตามเรือน กินขา้ วตงั และ ใหผ้ ล จงึ มีเหตุทาให้ตวั เองต้องมาตาบอด เศษอาหารทคี่ นท้ิงแลว้ ในแตล่ ะวนั บางวันก็ วชิ าความรแู้ ม้จะมีประโยชนม์ ากมายทง้ั ต่อ ตนเองและผู้อืน่ กจ็ ริง แตถ่ า้ หากใช้ในทางทผ่ี ิด ต้องอด เพราะหาไม่ได้ ไม่มอี ะไรจะกนิ นาไปเบียดเบยี นคนอนื่ ซ่ึงเปน็ บาปเวร เมือ่ กรรม ตามทัน เรายอ่ มหนไี มพ่ ้นบาปกรรมน้นั แนน่ อน วันหนึ่ง พระผูม้ ีพระภาคเจา้ มภี ิกษุ เพราะฉะนน้ั บาปกรรมทั้งหลาย จงึ ไม่ควร สงฆห์ มู่ใหญแ่ วดลอ้ ม เสดจ็ เข้าไปบิณฑบาต ทาโดยประการทงั้ ปวง เพราะผลแหง่ บาปกรรมนั้น มันชา่ งออกฤทธอ์ิ ยา่ งเผ็ดร้อน เจบ็ ปวดทรมานเกิน ทเี่ มอื งราชคฤห์ หลังจากทรงเสวยอาหาร กว่าเราจะคาดคิด บิณฑบาตทีพ่ วกภิกษนุ ามาถวายเสรจ็ แล้ว ประทับน่ังแวดล้อมด้วยภกิ ษุ อบุ าสก อบุ าสิกาจานวนมาก ๔๑ สปุ ปพทุ ธกุฏฐสิ ตู ร พระไตรปิฎก เล่ม ๒๕ ขทุ ทกนิกาย โสณเถรวรรค อุทาน (มจร.แปล)หน้า ๒๕๕-๒๕๙
โรคกรรม ๖๘ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบยี ดเบียนสตั ว์ นายสุปปพทุ ธะไมไ่ ด้ทานอาหารมานาน ๘ นายสุปปพุทธะได้นั่งฟงั ธรรมอยขู่ า้ งท้าย หิวจัด เดนิ ผ่านถนน มองเห็นกล่มุ ชนกาลงั กลุ่มชน ครน้ั พระพุทธเจา้ แสดงธรรมจบลง รวมกลมุ่ กันจากท่ไี กล เกดิ ความดีใจขน้ึ ว่า เขากไ็ ด้ดวงตาเหน็ ธรรม เป็นพระโสดาบนั \"เขาชมุ นุมกันดว้ ยเรอ่ื งอะไรหนอ หรือวา่ เขา แลว้ มีความประสงคจ์ ะกราบทลู ถงึ คุณวเิ ศษท่ี คงจะแจกอาหารเป็นแน่แท้ เราน่าจะไปในท่ี ตนได้รบั แดพ่ ระศาสดา แตเ่ ข้าไปเฝา้ ใน นนั่ เพอ่ื จะได้อะไรๆ สักอย่าง ไม่ว่าจะเปน็ ขณะนนั้ ไม่ไดเ้ พราะมคี นเยอะ เมอ่ื พระ ของเคย้ี ว หรอื ของกนิ \" จึงเดนิ เขา้ ไปในท่นี ั้น ศาสดาเสดจ็ กลับวดั แล้ว จึงเดนิ ตามไป ไดเ้ หน็ พระผมู้ ีพระภาคเจ้า กาลังแสดงธรรม ทา่ มกลางผ้คู น เพราะอานาจบญุ กุศลเก่าที่ ขณะน้ัน ท้าวสักกะ จอมเทพทรง เคยทามาในชาตกิ ่อน จงึ คิดว่า \"เราน่าจะฟงั ทราบวา่ \"สุปปพุทธกุฏฐนิ ม้ี ีความประสงค์ ฟังธรรม\" จึงได้น่งั ณ ทา้ ยฝูงชน จะประกาศคณุ ทต่ี นได้รับในพระศาสนาของ พระศาสดาใหป้ รากฏ\" คิดจะทดลองเธอ จึง พระผ้มู ีพระภาคเจ้าได้ทรงรดู้ ้วยญาณ เสดจ็ ไปยนื ประทบั ในอากาศ ตรสั ถามทดลอง เรือ่ งนายสปุ ปพทุ ธะเปน็ อย่างดี จงึ ดารวิ า่ \"ใน ใจเขาว่า \"สุปปพุทธะ เธอเปน็ คนขัดสน เป็น คนกาพร้า เป็นคนยากไร้ เราจะใหท้ รพั ย์เธอ ชาติท่ผี ่านมา สปุ ปพุทธะน้ี ได้เคยทาผดิ ต่อพระปจั เจก อยา่ งมาก ถา้ หากเธอพูดว่า 'พระพทุ ธเจ้าไม่ ดี พระธรรมไมด่ ี พระสงฆไ์ ม่ดี เราจะเลิก พทุ ธเจา้ นามว่า ตครสขิ ี จงึ ต้องเกดิ มาเป็นเช่นน้ีกจ็ รงิ เคารพนบั ถอื พระรตั นตรยั อีกตอ่ ไป' ถงึ อย่างนนั้ เธอกย็ งั มีอปุ นิสัยแห่งมรรคและผล โชติ สปุ ปพทุ ธะ จงึ ถามกลับไปวา่ \"ทา่ น เปน็ ใคร ?\" ได้รบั คาตอบว่า \"เราเป็นทา้ ว ชว่ งอยู่ในภายในน่ันเอง ดจุ แทง่ ทองถูกฝุ่นกลบไว้ สกั กะ จอมเทพแห่งสวรรค์ชนั้ ดาวดึงส์\" สุปปพทุ ธกฏุ ฐิ จึงกลา่ วโต้ตอบไปอย่างหา้ ว เพราะฉะน้นั เขาจงึ ควรจะร้แู จง้ ธรรม\" หาญอย่างอรยิ สาวกผไู้ ดบ้ รรลุธรรมวา่ \"คนโง่ พระองคท์ รงปรารภนายสุปปพุทธะ เขลา ไรย้ างอาย ท่านพดู คาทีไ่ ม่สมควรพูดกบั เรา เพราะเหตไุ ร ทา่ นจงึ พูดกับเราว่า 'เป็นคน จงึ ตรสั อนปุ ุพพีกถา(การแสดงธรรมไป เขญ็ ใจ ขดั สน กำพร้ำ' เราเป็นโอรสของพระ ตามลาดับพ้นื ฐานของผ้ฟู ัง) คอื ทรงแสดง โลกนาถเจา้ มใิ ช่หรือ เราไมใ่ ชค่ นเข็ญใจ ขดั เรื่องทาน เร่ืองศีล เรอ่ื งสวรรค์ เร่ืองโทษของ กาม และเรอื่ งอานิสงสแ์ หง่ การออกจากกาม เมอื่ ทรงทราบวา่ นายสปุ ปพุทธะมีจิต สงบ อ่อนโอน ปราศจากนวิ รณ์ เบกิ บาน ผ่อง ใส ควรแกก่ ารบรรลธุ รรม จึงทรงแสดงอริยสจั ๔ คือ ทกุ ข์ สมุทยั นิโรธ และอริยมรรคมีองค์
โรคกรรม ๖๙ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบียดเบยี นสตั ว์ สน กาพร้าอย่างท่ีทา่ นว่าเลย ความจริงแลว้ เมอ่ื นายสุปปพุทธะเดนิ จากไปได้ไม่ อันตวั เราน้ัน มีความสขุ มาก มีทรัพยม์ าก จงึ นาน ก็ถูกแม่โคลูกอ่อนขวดิ ตาย ประจวบ เหมาะกับเวลาที่บุญส่งผลพอดีเหมือนกับจะ พดู ได้อยา่ งเตม็ ปากวา่ 'บุคคลใด ไมว่ า่ จะเปน็ บอกใหร้ วู้ า่ \"รา่ งกายอันสกปรก ดนู ่าเกลียดนี้ หญิงหรอื ชาย มีอรยิ ทรัพย์ ๗ อย่างคือ ไมเ่ หมาะสมที่จะรองรบั อริยธรรมอนั ประณีต ศรทั ธา ศลี หริ ิ โอตตัปปะ สุตะ จาคะ และ สงู สุดท่ีเขาไดบ้ รรลุ\" ปัญญา บัณฑติ เรยี กบคุ คลนน้ั วา่ ไมย่ ากจน เขญ็ ใจ และชีวิตของเขาไม่เปล่าประโยชน์' เรา กรรมท่ีทาใหเ้ ขาเป็นโรคเรื้อน เองกม็ อี ริยทรัพย์ ๗ ประการน้ี เพราะบุคคลผู้ ภกิ ษุรปู หนึ่งได้กราบทูลพระผูม้ พี ระ มอี รยิ ทรพั ย์เหลา่ นี้ พระพทุ ธเจา้ หรือพระ ภาคว่า “พระพุทธเจา้ ข้า เพราะวบิ ากกรรม ปัจเจกพุทธเจา้ ไมต่ รสั เรยี กว่า เปน็ คนยากจน อะไรหนอแล ทาให้นายสปุ ปพทุ ธะ เป็นโรค เข็ญใจ\" เรอื้ น เป็นคนกาพร้า เกดิ มายากจนเข็ญใจ ” พระพุทธองค์ได้ตรสั เลา่ วิบากกรรม ทา้ วสักกะสดับถ้อยคาของเขาแลว้ เก่าท่ที าให้เขาเกดิ มาเป็นโรคเร้อื นใหภ้ ิกษุ จงึ หายตวั ไปจากท่นี ่ัน แล้วไปปรากฏตวั ทีพ่ ระ ท้ังหลายฟงั วา่ คนั ธกฎุ ีเสด็จเข้าไปเฝ้าพระศาสดา กราบทูล \"ในอดตี ชาตทิ ่ีผา่ นมา บุตรเศรษฐคี น คาสนทนากันท้งั หมดแด่พระศาสดาอกี ครั้ง หนง่ึ ชาวกรงุ ราชคฤห์ ออกจากตวั เมืองไปเล่น หน่ึง พระผู้มพี ระภาคเจ้าตรสั วา่ \"ดูก่อนสักกะ กรฑี าในสวนสาธารณะกับพรรคพวก ได้เห็น เทพเช่นทา่ น แม้เป็นรอ้ ยเป็นพนั องค์ กไ็ ม่ พระปจั เจกพุทธเจ้านามว่าตครสิข๔ี ๒ กาลัง สามารถจะใหส้ ปุ ปพุทธกุฏฐิพูดเชน่ นั้นได้\" ๔๒ อสิ ิคิลสิ ตู ร พระไตรปิฎก เลม่ ๑๔ มชั ฌิมนิกาย อุปริ สว่ นนายสปุ ปพุทธกฏุ ฐิ ก็ได้เดินเขา้ ปัณณาสก์ (มจร.แปล) หน้า ๑๗๐-๑๗๔และอรรถกถา ไปเฝา้ พระศาสดาทรงกระทาปฏสิ นั ถารแก่ เขา แลว้ ได้กราบทลู ถงึ คุณวิเศษทต่ี นไดร้ บั พระปัจเจกพุทธเจา้ นน้ั ถา้ มองดูภายนอกก็เหมือน ถวายบงั คมดว้ ยเบญจางคประดษิ ฐ์ แลว้ คนโรคเรอื้ น เพราะครองผ้าจีวรท่สี เี ศร้าหมอง ผา้ ปะกม็ ี กระทาทักษิณ ๓ รอบ มีจติ นอ้ มราลึกถงึ หลายหลากสี ทัง้ น้ี เพราะท่านก็ใช้เพยี งแค่คลุมกายและ พระคณุ ของพระศาสดาอย่างสดุ ซง้ึ เพ่งมองดู ป้องกนั เหลอื บยุง เป็นตน้ นายสุปปพุทธกุฎฐเิ ขาจึงดูหม่นิ วา่ ประคองอญั ชลี นอ้ มนมสั การพระผมู้ ีพระภาค เปน็ เหมือนร่างของคนขเี้ รอื้ น แต่บณั ฑิตทั้งหลายเห็นพระ เจา้ จนลบั สายตา แลว้ เดินจากไป ปจั เจกพุทธเจ้าอยา่ งนนั้ ไหวแ้ ล้วกระทาประทักษิณ
โรคกรรม ๗๐ ผลกรรมจากการฆ่าและการเบยี ดเบยี นสัตว์ เดินบณิ ฑบาตในเมอื ง เขาเกดิ อกศุ จติ คดิ ไม่ \"ในอดีตชาตทิ ผ่ี า่ นมา สปุ ปพทุ ธะ เกดิ ดีกบั ทา่ นวา่ \"คนน้เี ป็นใคร หวั โล้น น่งุ ห่ม ผา้ กาสาวะ(ผ้ายอ้ มด้วยนา้ ฝาด เชน่ เปลือก เป็นลูกชายเศรษฐี ขณะที่เล่นสนุกสนาน ไม้ เป็นตน้ ) คงจะเป็นคนโรคเรอ้ื น เอาผา้ ของคนโรคเรอ้ื นคลมุ รา่ งกายเดินไป\" จึง เพลิดเพลินกับเพ่อื นลกู เศรษฐีดว้ ยกนั อีก ๓ ได้ถม่ นา้ ลายเชงิ ทานองดูถกู แล้วรบี เดนิ แซง หน้าทา่ นไป โดยหันด้านซ้ายมือของตนไป คน ชวนกันพาหญิงโสเภณคี นหน่ึงไปเล่นสนกุ หาทา่ น พร้อมทงั้ คิดดถู กู เหยียดหยามทา่ น อยู่ในใจ แตบ่ าปกรรมนนั้ ยังไมไ่ ดส้ ่งผลใน ทสี่ วนสาธารณะ พอใกลต้ ะวันตกลบั ขอบฟ้า ชาตินั้น พอหลงั จากเขาส้นิ ชีวติ ไปแล้ว บาปกรรมนน้ั จงึ ส่งผลทาใหเ้ ขาไปเกิดในใน ไดพ้ ดู กับเพ่อื นๆว่า ผหู้ ญิงคนนใ้ี ส่ นรก เขาไหมอ้ ยูใ่ นนรกหลาย ๑๐๐ หลาย ๑,๐๐๐ หลาย ๑๐๐,๐๐๐ ปี เมือ่ ได้เกิดมา เครอ่ื งประดับทองคาซ่ึงมีราคามากถึงพัน เปน็ มนุษย์ มสี ตปิ ญั ญาดีในชาตนิ ้ี เพราะผล ของบญุ เก่า แต่ถึงอย่างนนั้ เพราะเศษวบิ าก กหาปณะ และเวลาน้ี กเ็ ย็นมากแล้ว ในที่นี้ก็ ของอกุศลกรรมเก่าทีท่ ากับพระปจั เจกพทุ ธ เจ้าไว้ ทาให้เขาเกดิ มาเปน็ โรคเรือ้ นและเปน็ ไม่มใี ครเห็น พวกเรามาช่วยกนั ฆา่ ผู้หญงิ คนนี้ คนยากจนเข็ญใจตัง้ แต่เกดิ จนตาย\" ให้ตาย แลว้ เอาทรัพย์ทัง้ หมดมาแบ่งกันเถอะ\" คนทงั้ ๔ เห็นตรงกัน จึงวางแผนฆ่า กอ่ นจะสนิ้ ใจตาย เธอผูกอาฆาตไว้วา่ \"คน พวกนไี้ ม่มียางอาย ไร้ความกรณุ า ได้หลับ นอนกับเราแลว้ ยังจะฆ่าเราผไู้ มม่ ีความผิด เพราะความโลภในทรัพย์อย่างเดยี ว คนพวก น้ฆี ่าเราครัง้ เดียวกอ่ น ส่วนเรา ขอใหไ้ ดเ้ กดิ เป็นยกั ษิณที ส่ี ามารถฆา่ คนพวกนีไ้ ด้หลาย ครัง้ \" แลว้ จงึ สิ้นใจตาย บรรดาลูกชายเศรษฐี ๔ คนนัน้ คน กรรมทาให้ถูกวัวแม่ลูกอ่อนขวดิ ตาย หน่ึงได้เกิดมาเปน็ กุลบุตรชอ่ื วา่ ปกุ กสุ ะ๔ คน ภกิ ษรุ ปู นัน้ ไดก้ ราบทลู ถามต่อไปอกี หนึ่งได้เกดิ มาเป็นพาหิยทารจุ รี ยิ ะ๔๔ คนหน่ึง วา่ “ข้าแตพ่ ระองค์ผูเ้ จริญ เพราะวิบากกรรม อะไรหนอแล ทาให้นายสุปปพุทธะ ถูกววั แม่ ๔๓ ธาตวุ ิภังคสูตร พระไตรปฎิ ก เล่ม ๑๔ มัชฌิมนกิ าย อปุ ริ ลูกออ่ นขวิดตาย พระพทุ ธเจา้ ข้า” ปณั ณาสก์ (มจร.แปล)หน้า ๔๐๑-๕๑๔,และอรรถกถา ๔๔ พาหิยสตู ร พระไตรปฎิ ก เล่ม ๒๕ ขุททกนิกาย อทุ าน พระพุทธองค์ จงึ ได้ตรัสเล่าผลกรรมท่ี (มจร.แปล)หน้า ๑๘๓-๑๘๗,และอรรถกถา ทาให้เขาตอ้ งถกู วัวแมล่ กู ออ่ นขวิดตายวา่
โรคกรรม ๗๑ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบียดเบยี นสัตว์ ไดเ้ กดิ มาเปน็ เพชฌฆาตเคราแดง๔๕ และคน ข้อคิด...คติธรรม หนงึ่ ไดเ้ กดิ มาเป็นสปุ ปพุทธกฏุ ฐิ ผู้หญงิ คน นนั้ ได้เกดิ เปน็ ยักษิณใี นกาเนิดโอปปาติกะมี ความถอื ตวั ถือดมี มี านะสาคญั ผิด นิสยั ดุรา้ ย พอเหน็ คนทม่ี ีเวรต่อกัน จึงได้ คดิ วา่ ตวั เองเปน็ คนยง่ิ ใหญ่ แล้วเป็นเหตยุ ก แปลงกายเปน็ แมว่ วั ว่งิ มาขวิดคนเหลา่ นตี้ าย ตนขม่ คนอ่ืน ดูถูกดหู มิ่นเหยยี ดหยามคนอ่นื ถึง ๑ ชาติ\" หากว่าคนนั้นเปน็ พระอรยิ เจา้ ด้วยแล้ว ยิง่ จะก่อใหเ้ กิดบาปกรรมอยา่ งมหันต์ ต้อง จากชีวิตแบบพระราชา มาทนทกุ ข์ทรมานในการใช้กรรมซ่งึ หาท่ี ท่ีอยอู่ ยา่ งหรหู รา ส้นิ สุดไดย้ าก ส่รู ่มผำ้ กำสำวพัสตร์ ถือสนั โดษ เพราะฉะนั้น มานะการถอื ตัว จงึ เป็นสิ่งไมด่ ี เป็นอนั ตรายอย่างมาก เร่อื ง ปุกกุสะ หรือ ปุกกุสาติ เป็น ทานองแบบน้อี าจจะเกิดขึ้นไดก้ บั ทกุ คน พระราชาครองราชอยู่ที่นครตักกสิลา เป็นพระ โดยเฉพาะผู้ทมี่ ีฐานะรา่ รวยมเี งนิ ทอง เปน็ สหายท่ีไม่เคยเห็นกันมาก่อนกับพระเจ้าพิม ลูกผู้ดมี สี กลุ มียศศกั ด์ใิ หญ่โต เพราะ พิสารแห่งเมืองราชคฤห์ เกิดความเล่ือมใส สถานภาพทางสงั คมอยา่ งนัน้ อาจจะทาให้ ศรทั ธา ออกบวชเป็นปริพพาชกเพ่ือบรรลุธรรม เผลอประมาทขาดสติ คดิ ดูถกู ดหู มิ่นตอ่ ผู้ ในศาสนาพระพุทธองค์ ได้ฟังธาตุ วิภังค ปฏบิ ัตธิ รรมได้ง่ายมากโดยทไี่ ม่รู้ตวั สูตรจากพระศาสดาท่ีโรงนายช่างหม้อ แล้ว บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี ต่อมาไม่นาน ได้ ฉะนัน้ จงระวงั ความคดิ ใหด้ ี เพราะ ถูกแม่วัวขวิดตายในขณะกาลังเดินหาบาตร เราคดิ อยา่ งไรกบั ใคร จะต้องรบั ผดิ ชอบตอ่ และจวี ร มโนกรรมอนั นน้ั เพราะคุณจะเป็นตามทค่ี ณุ คิดเหมือนเมลด็ พนั ธ์แุ ห่งบาปทเี่ พาะไว้ในใจ ๔๕ นายโจรเคราแดง หรอื นายตัมพทาฐิกะ ได้ทาหน้าที่เป็น เพชฌฆาตฆ่าโจรเปน็ เวลา ๕๕ ปี หลังจากเกษียร ไดม้ โี อกาส ทาบญุ ใหท้ านและฟงั ธรรมจากทา่ นพระสารีบุตรเพงิ่ ออกจาก นิโรธสมาบัติใหมๆ่ ได้บรรลธุ รรมเปน็ พระโสดาบนั ขณะท่ี เดนิ ทางกลับจากการไปส่งพระเถระ ไดถ้ ูกแมว่ ัวขวิดตาย ดูรายละเอยี ดใน อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท สหัส สวรรคที่ ๘ เรอื่ งบรุ ษุ ผ้ฆู า่ โจรมเี คราแดง
โรคกรรม ๗๒ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบียดเบยี นสตั ว์ โรคผวิ หนงั พระเถระ : สร้างหอฉัน (ศาลา สาหรับพระภิกษนุ ่ังฉันอาหาร) กรรมทาใหเ้ ป็นโรคผวิ หนัง ของเจ้ำหญิงโรหณิ ี พระนางโรหิณี : หม่อมฉนั จะเอา ทรพั ยม์ าจากไหนมาสร้าง สมยั หนงึ่ ท่านพระอนรุ ุทธะได้จารกิ ไป เมอื งกบลิ พัสด์ุพรอ้ มดว้ ยภิกษุ ๕๐๐ รูป เม่ือ พระเถระ : เคร่อื งประดบั ของ พวกพระญาตขิ องท่านสดบั ขา่ ว จึงได้เสด็จไป เธอไม่มหี รือ ? เย่ยี ม ยกเว้นพระน้องนางของพระเถระชอ่ื โรหณิ ี พระเถระถามพวกพระญาติวา่ \"พระ พระนางโรหิณี : มี เจ้าข้า นางโรหณิ ีอยูไ่ หน ?\" พระเถระ : ราคาเทา่ ไร พระนางโรหณิ ี : ประมาณหน่งึ หมนื่ พวกพระญาติ : อยู่ในตาหนัก เจา้ ขา้ กหาปณะ พระเถระ : เหตไุ ด จึงไม่เสดจ็ มา พระเถระ : ถา้ อยา่ งนน้ั ขาย พวกพระญาติ : พระนางไม่เสด็จมา เครอ่ื งประดบั แล้วใหส้ ร้างหอฉนั เถดิ เพราะทรงละอายวา่ ‘เป็นโรคผิวหนงั ทีเ่ กิด พระนางโรหณิ ี : แล้วใคร จะทาให้ ตามตัว’ เจ้าข้า หม่อมฉนั เจ้าข้า พระเถระกลา่ วว่า \"ท่านท้ังหลาย จง พระเถระมองดพู ระญาตซิ ง่ึ ยนื อย่ใู กล้ๆ เชญิ พระนางเสดจ็ มาเถิด\" ใหไ้ ปเชิญพระนาง แลว้ กลา่ วว่า \"ขอจงเป็นภาระของพวกทา่ น เสด็จมาแลว้ จงึ ถามวา่ \"โรหณิ ี เพราะสาเหตุ ท้งั หลาย\" ใด เธอจงึ ไม่เสด็จมา\" พวกพระญาติ : พระคุณเจา้ จะใหท้ า อะไรหรือ เจ้าขา้ พระนางโรหณิ ี : พระคณุ เจ้า พระเถระ : พวกท่านจงนาเครือ่ ง สาเหตุทไ่ี มม่ า เพราะอายโรคผิวหนงั เกดิ ขึน้ ท่ี อุปกรณ์ต่างๆสาหรับสร้างหอฉนั มา และตัว ตัวของหมอ่ มฉัน อาตมภาพ ก็จะอยู่ในที่นี้ด้วย พระเถระ : เธอควรจะทาบุญนะ พวกพระญาติตรัสวา่ \"ดลี ะ เจา้ ข้า\" นอ้ งหญิง แล้วไดท้ าตามนนั้ พระเถระ ให้คาแนะนา พระนางโรหณิ ีว่า \"เธอ จงรบั ส่ังใหส้ รา้ งหอฉนั พระนางโรหิณี : จะทาอะไร เจา้ ขา้ ๒ ช้ัน เมื่อพื้นชั้นบนเรยี บแลว้ จงไปปดั กวาด ๔๖ พระไตรปิฎก เลม่ ๒๕ ขทุ ทกนิกาย ธรรมบท (มจร.แปล) หน้า ๑๐๑ และอรรถกถาเร่อื งพระนางโรหิณี
โรคกรรม ๗๓ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบียดเบียนสัตว์ พ้ืนลา่ ง แลว้ รบั สง่ั ให้ปอู าสนะพรอ้ มท้ังใหต้ ง้ั พระศาสดา : เธอรู้ไหมวา่ ‘โรค หมอ้ น้าดม่ื ไวใ้ หเ้ รียบรอ้ ย\" พระนางรบั คาว่า น้ันเกิดขนึ้ เพราะกรรมอะไร’ \"ดีละ เจ้าข้า\" แลว้ จาหน่ายเครอื่ งประดับ ให้ สร้างหอฉัน ๒ ชั้น พอพ้ืนชัน้ บนเรียบแล้ว ได้ พระนางโรหิณี : หมอ่ มฉนั ไม่ทราบ ทรงไปปัดกวาดทาความสะอาดพืน้ ล่างเป็น พระเจ้าข้า ต้นเปน็ ประจา พวกภกิ ษุกน็ งั่ ฉนั เรียงกันอย่าง เรยี บรอ้ ย พระศาสดา : โรคนี้ เกดิ เพราะ ความโกรธของเธอ ต่อมาไม่นาน เพราะผลบุญที่ทา อยา่ งน้นั ทาใหโ้ รคผวิ หนงั หาย เม่ือโรงฉัน พระนางโรหิณี : หม่อมฉนั ทากรรม เสร็จ พระนางไดถ้ วายอาหารท่ปี ระณีตแด่ อะไรไว้ พระเจ้าขา้ ภิกษสุ งฆม์ พี ระพุทธเจา้ เป็นประมขุ ซึ่งน่งั เตม็ โรงฉนั พระศาสดาทรงทาภตั กิจเสร็จแล้ว เพราะทาใหค้ นอ่ืนเป็นผดผื่นคนั ตรสั ถามว่า \"นี่เป็นทานของใคร\" พระอนรุ ทุ ธะ เมือ่ กรรมตามทัน จึงเป็นโรคผิวหนงั กราบทลู วา่ \"ของโรหิณพี ระนอ้ งสาวของข้า พระองค์ พระเจา้ ข้า\" พระศาสดา ไดต้ รสั เลา่ กรรมใน อดตี ชาติของพระนางว่า \"ในอดีตทผ่ี า่ นมา พระศาสดา : กน็ างไปไหนเสยี หละ พระอคั รมเหสีของพระเจ้าพาราณสี เกิดความ พระอนรุ ทุ ธะ : อยทู่ ่ีตาหนกั พระ ริษยา จึงผูกใจเจบ็ หญงิ นักฟ้อนของพระราชา เจา้ ขา้ องคห์ นง่ึ ทรงดารวิ ่า \"เราจะทาใหม้ ันเจบ็ ปวด พระศาสดา : พวกเธอจงไปเรยี ก ทรมาน\" ส่งั ให้เขานาผลตาแย(หมามุ้ยใหญ)่ นางมา มาให้ แล้วรบั ส่ังใหเ้ รียกหญิงนกั ฟอ้ นเขา้ มา พระนางไม่ประสงคจ์ ะเสด็จมา แต่พระ หา ใหใ้ ส่ผงเตา่ ร้างบนท่ีนอน ท่ีผ้าหม่ และท่ี ศาสดารับส่ังใหเ้ รยี กพระนางมาจนได้ แล้ว เครอ่ื งใชแ้ ละผ้าปูทีน่ อน โดยท่ีนางไมท่ ันรตู้ วั ตรสั ถามวา่ \"โรหณิ ี เพราะเหตุใดหรอื เธอถงึ พร้อมท้งั โปรยลงแมท้ ี่ตวั ของนาง ทาการ ไม่อยากมา ? เยาะเยย้ พูดจาถากถาง เพียงช่วั ครู่ รา่ งกาย พระนางโรหณิ ี : หม่อมฉนั อายเร่ือง ของเธอเกดิ อาการคันข้ึนมา เป็นผดผน่ื เป็น โรคผวิ หนัง จงึ มิได้มา พระเจา้ ขา้ \" เมด็ เล็กเม็ดใหญ่ นางคันมาก นอนเกาบนที่ นอน เม่ือโดนพิษของตาแยเพ่ิมเขา้ อกี ยิง่ ทา ใหน้ างคันมากขึน้ พระอคั รมเหสีในกาลน้นั ได้เกิดมาเป็นพระนางโรหิณี ในชาติน\"้ี
โรคกรรม ๗๔ ผลกรรมจากการฆา่ และการเบียดเบยี นสัตว์ พระศาสดา ครัน้ ตรัสเลา่ เรือ่ งบุรพ ข้อคิด...คติธรรม(ต่อ) กรรมขององค์หญงิ โรหิณี จงึ ตรสั วา่ \"โรหิณี ที่ แต่เมื่อบาปกรรมน้นั สง่ ผล เราก็ต้อง มาทนทุกข์ทรมานเหมือนเคยทากบั เขามา เธอเปน็ โรคผิวหนงั นี้ เพราะบาปกรรมท่เี ธอทา \"เพราะให้ทกุ ขแ์ ก่ท่าน ทุกข์น้ันต้องยอ้ นกลับ มาถงึ ตวั เราเสมอ ไมว่ ันใดกว็ ันหนง่ึ \" แล้วในชาตินน้ั วิบากกรรมซ่งึ เป็นคณุ สมบตั ขิ องจติ ฉะนน้ั เธอ จงึ ไมค่ วรโกรธ ไมค่ วรมี เปน็ ฝ่ายสังขาร เปน็ ตวั สรา้ งสรรคบ์ นั ดาล จิตเปน็ ตวั ควบคมุ และสง่ั รา่ งกาย เม่ือจิตท่ีมี ความรษิ ยาใครๆเลย\" จึงตรัสพระคาถาวา่ เชอื้ บาปตดิ มา(เชอื้ ผดิ ปกติ) ยอ่ มทาให้ \"บคุ คลพงึ ละความโกรธ ความถือตัว รา่ งกายผดิ ปกติ คือ เกดิ โรคได้ เพราะมนั มี และละสงั โยชน์ทั้งส้ินได้ เชื้ออย่างใด ยอ่ มกอ่ ใหเ้ กิดผลอย่างนน้ั เนอื่ งจากคนเราระลึกชาติก่อนไมไ่ ด้ ไมร่ ูว้ า่ ความทกุ ขท์ งั้ หลาย ย่อมไมถ่ กู ตอ้ งบคุ คลนัน้ เคยทาบาปกรรมอะไรมาบ้าง ทาให้ตัดสนิ ผ้ไู มข่ อ้ งอยใู่ นนามรปู ไมม่ กี ิเลสเครอ่ื งกงั วล\" ไปตามทตี่ ามองเหน็ ในชาตปิ ัจจุบนั เท่านั้น ไม่ไดม้ องทะลุถงึ อดีตอันยาวนานท่ผี ่านมา เมอ่ื พระองคแ์ สดงธรรมจบลง พระนาง จึงไมส่ ามารถปัญหาต่างๆใหจ้ บสิ้นได้ แต่ เพราะพระนางโรหิณีไดก้ ลั ยาณมิตร คือ โรหิณี ได้บรรลธุ รรมเป็นพระโสดาบัน และ พระพทุ ธองค์และพระพช่ี าย จึงได้รจู้ กั วธิ ี ทาบุญแก้กรรมอยา่ งได้ผลเหน็ ทนั ตา ผิวพรรณของพระนางผอ่ งใสเปน็ ประกาย เหมือนทองคา ในขณะน้ันเอง ขอ้ คิด...คตธิ รรม เพราะความหงึ หวงระหว่างชายหญิง กลัวคนอื่นจะไดด้ กี วา่ จงึ โกรธไม่พอใจ แล้ว รษิ ยา ทนไมไ่ ดท้ จ่ี ะเห็นคนอ่ืนมอี ะไรทีด่ กี วา่ จึงผกู ใจเจบ็ คิดทาร้าย กลนั่ แกล้ง อยากให้ เขามอี นั เปน็ ไปเพื่อความสะใจ เนื่องจากไม่ รู้เท่าทันการใหผ้ ลของกรรมเก่าและไมฉ่ ลาด ในวิถแี ห่งกรรม จงึ ปลอ่ ยให้กิเลสครอบงาใจ หลงสร้างกรรมใหมด่ ้วยใจริษยา แมจ้ ะแกลง้ คนอ่นื ได้ เพราะบาปกรรมเก่าของเขาส่งผล และบุญเก่าของเรายงั ค้าจุนอยู่ จงึ คดิ วา่ ตวั เองเก่ง กูแน่ และไมร่ สู้ ึกวา่ มันเปน็ บาป
กรรมทำใหถ้ กู เสยี บหลำว๑ บุพกรรมของท่านพระสารีบตุ ร กรณีตัวอยา่ ง พระศาสดา เม่อื คร้งั ทปี่ ระทบั อยู่ ณ พระ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ วิหารเชตวัน ตรสั ปลอบโยนภกิ ษุผกู้ ระสนั อยาก ที่ปรากฏในคมั ภีร์ สึกรูปหนง่ึ ว่า ในยุคสมัยท่ีพระพทุ ธเจ้ายงั ไม่ พระไตรปฎิ กและอรรถกถา เกดิ ข้ึน บณั ฑติ ในคร้ังกอ่ น ได้บวชในลทั ธินอก พุทธวจนะ พุทธศาสนา ไมม่ ีความยนิ ดีในการประพฤติ เปน็ หนึง่ ไม่มีสอง...เปน็ จรงิ แทแ้ นน่ อน พรหมจรรย์ แต่กย็ งั บวชได้นานถงึ กว่า ๕๐ ปี ไม่ \"พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธญิ าณในราตรีใด และปรนิ พิ พานดว้ ยอนปุ าทเิ สสนพิ พานธาตใุ นราตรีใด แสดงความเบอื่ หนา่ ยให้ใครรู้ เพราะมี ในระหวา่ งน้ี ย่อมภาษิต กลา่ ว แสดงออก ซึ่งคาใด คานน้ั ทงั้ หมดเป็นจริงอยา่ งนัน้ แล ไมเ่ ปน็ อยา่ งอื่น\" หิรโิ อตตปั ปะ แตเ่ ธอบวชในศาสนาทีจ่ ะนาออก โลกสตู จากทุกข์อย่างนี้ นั่งอยเู่ ฉพาะพระพักตร์ของ พระไตรปฎิ ก เล่ม ๒๕ ขทุ ทกนิกาย อติ วิ ตุ ตกะ (มจร. พระพทุ ธเจ้าผเู้ ป็นครเู ช่นเรา เพราะเหตไุ ร จงึ เกิด แปล) หนา้ ๔๙๕ ความกระสนั อยากสกึ ไม่รกั ษาหิริโอตตัปปะของ ตนไว้ จึงตรัสมณั ฑพั ยชาดก เพ่ือเป็นตัวอย่าง ประกอบ เรอื่ งมีรายละเอียด ดังนี้ ในอดีตกาล พระราชาทรงพระนามวา่ โกสัมพกิ ะ ครองราชยอ์ ยใู่ นพระนครโกสมั พี แควน้ วงั สะ ณ นคิ มแหง่ หนง่ึ มพี ราหมณส์ อง คน คนหน่ึงช่ือ ทปี ายนะ อกี คนช่ือ มณั ฑัพยะมี สมบัติคนละ ๘๐ โกฏิ ( ๑ โกฏิเทา่ กับ ๑๐ ล้าน ๑ มณั ฑพั ยชาดก (กณั หทปี ายนชาดก) พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๗ ขุททกนิกาย ชาดก (มจร.แปล) หน้า ๓๓๒ และอรรถกถา เป็น การกลา่ วถึงวิบากกรรมของท่านพระสารบี ตุ ร (อคั รสาวกเบ้ือง ขวา เลิศทางปญั ญา)ในอดตี ชาตทิ ่ีถกู จับเสียบหลาว
โรคกรรม ๗๖ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ ๘๐ โกฏิ เท่ากบั ๘๐๐ ลา้ น) เปน็ สหายรกั กัน ได้ ท่อน้า วิง่ เข้าไปในปา่ ชา้ แลว้ ทง้ิ ห่อทรพั ย์นน้ั ไวท้ ี่ มองเหน็ โทษในกามคณุ จงึ ทุม่ เทใหท้ านเปน็ การ ประตบู รรณศาลาของมัณฑพั ยะดาบส ค่อย ใหญ่ แล้วทั้งสองกล็ ะท้งิ โภคสมบัตเิ หลา่ นน้ั หลบหนไี ป ในขณะท่ีผคู้ นทั้งหลายกาลงั รอ้ งไห้ครา่ ครวญ กรรมทาให้ถูกเสียบหลาว พวกเจา้ ของทรพั ยแ์ ละพวกเจ้าหน้าท่ี ด้วยความอาลัย ได้ออกไปสรา้ งอาศรม ถอื เพศ พอเห็นของกลางเข้า จงึ ไดพ้ ดู ขม่ ขู่ดาบสนัน้ ว่า บรรพชิตบวชอยใู่ นปา่ หิมพานต์ รบั ประทาน \"ไอน้ กั บวชชัว่ กลางคืน แกแอบขโมยทรพั ยข์ อง เผอื กมันและผลไม้ ใชช้ ีวติ อยา่ งสมถะสนั โดษ คนอืน่ แตพ่ อกลางวัน กลับมาใส่ชดุ นกั บวช\" เรยี บง่ายอยเู่ ชน่ นี้ ๕ ปี แต่ก็ยงั ไมส่ ามารถ จงึ พากันทบุ ตดี าบส แล้วจบั ตวั ไปนาส่ง บาเพ็ญฌานใหบ้ ังเกิดได้ แตพ่ อเวลาได้ พระราชา พระราชายงั ไม่ทรงพจิ ารณาให้ ล่วงเลยผ่านไปถงึ ๕๐ ปี จงึ ตดั สนิ ใจออก รอบคอบดี รบี สงั่ ให้เจา้ หน้าทเี่ อาตัวไปเสยี บ เดนิ ทางไปตามชนบท จนถึงเขตแดนแควน้ กาสี หลาวเลย พวกเจ้าหน้าทเ่ี หล่านั้น จึงได้นาตัว เพ่ือตอ้ งการติดตอ่ กับผู้คน แลว้ แวะเขา้ ไปยัง ดาบสไปเสยี บหลาวไม้ตะเคยี นทปี่ า่ ช้า แตเ่ สียบ หมู่บา้ นแห่งหนง่ึ อย่างไรก็ไม่เข้า เปล่ียนเปน็ หลาวไมส้ ะเดากไ็ ม่ ณ หมบู่ ้านนัน้ ทีปายนดาบสมีสหายที่ เข้าอีก ใชห้ ลาวเหลก็ กย็ ังเสยี บกไ็ มเ่ ข้าอกี ทาให้ เปน็ คฤหสั ถอ์ ยูค่ นหน่งึ ชื่อมัณฑพั ยะ (ชอื่ ดาบสผนู้ ีไ้ ดร้ บั ความเจ็บปวดทรมานมาก เหมอื นกับมัณฑพั ยดาบส)ทงั้ สองจึงไดเ้ ดนิ ทาง ดาบส ไดใ้ คร่ครวญดวู า่ เปน็ เพราะผล ไปเยยี่ มเขา พอเขาเหน็ สองดาบส กม็ ีความ กรรมอะไร จงึ เกดิ ญาณระลกึ ชาติ ได้รู้วา่ เคย ยินดี ไดส้ ร้างบรรณศาลาถวาย แลว้ บารุงดว้ ย ทากรรมอย่างนมี้ ากอ่ น จงึ ตอ้ งมาถกู เสยี บหลาว ปัจจยั ๔ ดาบสได้พักอยทู่ ่ีน่ัน ประมาณ ๓-๔ คือว่า ในอดตี ชาติ ท่านเกิดเป็นบตุ รนายชา่ งไม้ พรรษา จึงไดอ้ าลานายมณั ฑพั ยะ เทยี่ วจารกิ ไป ไปถากไมก้ บั บดิ า ได้เลน่ สนุกตามประสาเดก็ ถึงเมืองพาราณสี ไปพกั อาศัยอยใู่ นปา่ ชา้ ดว้ ยการจบั แมลงวันมาตัวหน่งึ เอาเสยี้ นไม้ ฝ่ายทปี ายนดาบสพักอยู่ ณ ที่นน้ั พอควรแก่ ทองหลางมาเสียบจากก้นทะลลุ าตวั เพราะ อัธยาศัย แล้วกลับไปเยีย่ มสหายคนนนั้ อกี วาระแห่งบาปกรรมน้นั มาถงึ แตม่ ัณฑัพยะดาบสยงั พกั อยู่ทีป่ า่ ชา้ เหมือนเดิม ทา่ นจงึ รู้ตวั ดีวา่ ไม่อาจหนีพน้ จากผล ตอ่ มาวันหนงึ่ มีโจรคนหนงึ่ ได้ลกั ขโมย ของกรรมน้ีได้ จงึ ได้กล่าวกับพวกเจ้าหน้าท่ีวา่ ส่ิงของจากบา้ นหลงั หนง่ึ ในตัวเมือง พอพวก \"ถา้ ท่านตอ้ งการจะเอาหลาวเสียบเรา จงใช้ เจา้ ของทรพั ย์และพวกเจา้ หน้าท่ีรู้เรอ่ื งเข้า จงึ พา หลาวไม้ทองหลางเถอะ\" พวกราชบรุ ุษ ได้ กนั ออกตดิ ตามจบั โจรคนนี้ ได้หลบหนอี อกทาง
โรคกรรม ๗๗ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ กระทาตามนนั้ ก็เสียบหลาวเขา้ ไปได้ เสรจ็ แลว้ พยานให้แกด่ าบสนี้ มหาบพิตรทรงทราบแลว้ จงึ วางคนรักษาไว้ สว่ นหนงึ่ พากันกลับไป พวกท่ี หรือว่า ดาบสน้ี มคี วามผิดหรือไม่ จึงได้สั่งให้ รกั ษา ได้เฝา้ ดวู า่ จะมีคนมาชว่ ยดาบสหรอื ไม่ ลงโทษเช่นนี\"้ พระราชาตรัสว่า \"ไดส้ งั่ ให้ ลงโทษไป โดยไม่พจิ ารณาใหร้ อบคอบ\" ทางฝา่ ยทีปายนดาบสคดิ ถึงเพื่อน เพราะไมไ่ ด้พบเจอกันมาหลายวัน จึงได้เดินทาง พระดาบสจงึ กล่าวสอนวา่ \"มหาบพิตร ไปเยีย่ มมัณฑัพยดาบส ระหว่างทางในวนั นั้น ได้ ธรรมดาพระราชา จะต้องใคร่ครวญให้ดีก่อน ทราบขา่ วเรอ่ื งเพือ่ นถูกเสยี บหลาว จึงรีบ แล้ว จึงลงโทษ\" แล้วแสดงธรรมว่า \"คฤหัสถ์ เดนิ ทางไปดู แลว้ ยืนอยู่ทมี่ มุ หนึ่ง เอย่ ปากถาม ผู้บริโภคกาม ถ้าเป็นคนเกียจคร้านแล้วไม่ดี\" ว่า \"เพื่อน! ทา่ นไดท้ าผดิ อยา่ งไรหรือ ? ดาบส เป็นต้น เมื่อพระราชาทรงทราบว่า \"ดาบสนี้ไม่มี นนั้ ตอบวา่ \"เราไม่ได้ทาผิด\" จึงถามว่า \"ทา่ น ความผิด\" จึงรับสั่งให้ถอนหลาวออก แต่พวก สามารถทาใจไม่ใหโ้ กรธเคอื งได้หรอื ไม?่ เ จ้ า ห น้ า ที่ ไ ม่ ส า ม า ร ถ จ ะ ถ อ น ห ล า ว อ อ ก ไ ด้ มัณฑัพยดาบสตอบวา่ \"เพ่ือน! เราไม่ได้มีใจขนุ่ มัณฑัพยดาบส จงึ ไดท้ ลู พระราชาวา่ \"มหาบพิตร เคืองเลยกับผูท้ ่ีจับเรามาส่งพระราชา\" ทีปายน อ า ต ม ภ า พ จ ะ ต้ อ ง ม า ถู ก เ สี ย บ ห ล า ว อ ย่ า ง น้ี ดาบสกล่าววา่ \"ถ้าเป็นเชน่ น้นั ถา้ ท่านมีจติ ต้งั เพราะกรรมเก่าที่เคยทาไว้แต่ปางก่อน ไม่มีใคร มั่น ไม่หวัน่ ไหวโกรธเคือง เราก็สบายใจ\" แลว้ เข้า อาจถอนหลาวออกจากตัวอาตมภาพได้ ถ้า ไปนั่งพงิ หลาวตลอดคนื ยันสวา่ ง หยดเลือดที่ พระองค์มีพระราชประสงค์จะพระราชทานชีวิต ไหลออกจากบาดแผลของมณั ฑัพยดาบส ได้ แก่อาตมภาพไซร้ ก็จงโปรดให้เอาเลื่อยมาตัด หยดถูกตัวทปี ายนดาบสซึง่ มีสผี ิวเหลอื งเหมือน หลาวนใ้ี หเ้ สมอผวิ หนังเถิด\" พระราชารับสั่งให้ ทองคา จนแห้งดาไปทัง้ ตัว ตั้งแตน่ น้ั มา ทา่ นจึง กระทาตามน้ัน ภายในร่างกายของดาสบ จึงมี ไดฉ้ ายาใหม่วา่ กณั หทีปายนะ (ท่านทีปายนะดา) หลาวติดอยภู่ ายในโดยท่ไี มไ่ ด้ถอดออก วนั รุ่งข้นึ พวกเจา้ หน้าที่ ได้ไปกราบทลู กรรมทถี่ อนหลาวไม่ออก เหตกุ ารณน์ ั้นแด่พระราชา พระราชาทรงดาริว่า สาเหตทุ ไ่ี ม่สามารถถอนหลาวออกจาก \"เรา ไดส้ ั่งให้ลงโทษดาบสตนหน่งึ โดยไมท่ ันได้ ตัวของดาบสได้ เพราะวิบากกรรมเกา่ คอื เวลา พิจารณาอย่างรอบคอบ\" เกิดความไมส่ บาย ทีด่ าบส เอาเส้ยี นไมท้ องหลางเรยี วๆ เสยี บก้น พระทัย จงึ รีบเสดจ็ ไปทป่ี า่ ช้า ตรสั ถามทีปายน แมลงวันนั้น เสีย้ นไมท้ องหลางตดิ อยู่ในตวั ดาบสวา่ \"ทา่ นนกั พรต เพราะเหตุไร จงึ มาน่ังพงิ แมลงวนั โดยท่ีเขาก็ไมไ่ ดถ้ อนออก แตโ่ ชคดี หลาวอยู่เชน่ นี้ ? ทปี ายนดาบสกราบทลู ตอบ เนอ่ื งจากแมลงวนั ไมต่ ายเพราะถูกเสีย้ นไม้ วา่ \"มหาบพติ ร อาตมภาพไดน้ ั่งเป็นเพอื่ เปน็ ทองหลางเสยี บ แตต่ ายเพราะหมดอายุ
โรคกรรม ๗๘ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ เพราะฉะนั้น ดาบสนี้ จงึ ไม่ตายเพราะถกู เสียบ ขอ้ คิด...คตธิ รรมในเรือ่ งนี้ หลาว แตก่ ไ็ มส่ ามารถถอดเอาหลาวไม้ ทองหลางท่ีเสียบกน้ ออกไดเ้ ชน่ กนั พระราชา ผลกรรมจากเอาเสยี้ นไมเ้ สยี บกน้ แมลงวัน ทรงนมสั การพระดาบสทงั้ สอง ให้ทา่ นดาบสยก เมอื่ กรรมส่งผล จะต้องมเี หตุทาใหถ้ ูกเสียบหลาว โทษให้ แล้วอาราธนานมิ นต์ให้จาพรรษาอยูใ่ น ใชเ้ สยี้ นไม้ทองหลางเสยี บ จะต้องถกู เสยี บหลาว พระราชอุทยาน ทรงอุปฏั ฐากทา่ นท้งั สองเป็น ด้วยไมท้ องหลางเชน่ กนั เมอื่ เสยี บก้นแมลงวัน แลว้ อย่างดี ต้งั แต่น้ันมา มณั ฑพั ยดาบสได้ชอื่ เตมิ ไมไ่ ดถ้ อดเสย้ี นไมอ้ อก พอถูกเสยี บหลาว กไ็ ม่ หน้าว่า อาณิมณั ฑัพยะ (มัณฑพั ยะทม่ี ีหล่ิม สามารถถอนไม้ทัง้ หมดออกจากตัวได้ เหลือลมิ่ ไม้ ท่อนไมอ้ ยูใ่ นตัว)ท่านไดพ้ านกั อยู่ในพระราช ฝงั อยใู่ นตวั แมลงวันได้รับความเจ็บปวดเพราะถกู อุทยานนั้นเรอ่ื ยมา ส่วนทปี ายนดาบส หลงั จาก เสียบก้นอยา่ งไร เป็นเวลานานเท่าไหรก่ ่อนจะตาย ได้ชว่ ยรักษาแผลของมัณฑพั ยดาบจนหายดแี ลว้ เขาผนู้ น้ั จะต้องไดร้ บั ทกุ ขเวทนาความเจ็บปวด จงึ ไดเ้ ดินทางกลบั ไปเยย่ี มนายมณั ฑพั ยะสหาย ในขณะถกู เสยี บหลาวและเป็นเวลาหลายช่ัวโมง รกั อกี คร้งั เหมอื นกนั ฉะน้ัน พระพทุ ธองค์ ไดส้ รปุ ชาดกเรอื่ งนวี้ า่ แมลงวันเพยี งแค่ตัวเดียว ยงั ตอ้ งมารบั อาณมิ ณั ฑัพยดาบสในชาติน้ัน ไดเ้ กิด วิบากกรรมถงึ ขนาดนี้ คนทใ่ี ชฉ้ มวกแทง ใชห้ น้าไม้ มาเป็นพระสารบี ุตร ในชาตินี้ ธนู ยิงปลา กบ เขยี ด ใชเ้ บด็ เสียบกุ้ง ปลาเปน็ ๆเพือ่ ส่วนกณั หทปี ายนดาบสในชาตินัน้ ได้ เป็นเหยอ่ื ลอ่ สัตว์เหลา่ นน้ั จะเจ็บปวดทรมาน เปน็ พระตถาคตเจา้ ในชาตนิ ้ี ขนาดไหน แล้วผู้ท่ีทากรรมอย่างนนั้ จะได้รบั ผล กรรมตามมาอย่างไรบ้าง ทา่ นผู้เปน็ บณั ฑติ ทเ่ี ชอื่ มัน่ ในกฎแห่งกรรม ลองนึกดใู หด้ ีๆวา่ การฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ เพียง เพื่อมาเป็นอาหารเลยี้ งปากท้องซ่ึงมีชีวิตอยไู่ ดไ้ ม่ อีกปี แต่ต้องมาชดใชว้ บิ ากกรรมทง้ั ในชาตนิ แี้ ละ ชาตหิ น้า ค้มุ หรอื ไม่ โปรดใชป้ ัญญาตรองดเู ถิด
โรคกรรม ๗๙ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ กรรมทาให้ถกู ฆา่ ตาย๒ อปุ ฏั ฐาก ได้เงินมาประมาณ ๑ พันกหาปณะ ไป ว่าจา้ งนกั ฆ่าบอกว่า \" ตอนน้ีพระเถระชือ่ มหา ผลกรรมจากการฆ่าพอ่ แม่ โมคคลั ลานะกาลังพกั อาศยั อย่ทู กี่ าฬสลิ า พวก เจ้าจงไปฆ่าพระเถระน้นั \" พวกนักฆ่าเมอื่ ได้รบั ในสมยั หนึง่ พวกเดยี รถีย์ประชุม คา่ จ้างแล้ว จึงตกลงรับปาก เรม่ิ ดาเนนิ แผน ปรึกษากนั ว่า \"พวกทา่ น ทราบไหมวา่ ทาไม พระ สังหารโดยการไปล้อมท่อี ยขู่ องพระเถระไว้ สมณโคดม จงึ ได้รับลาภสกั การะมากมาย ?\" เดียรถยี ์พวกหนึ่งกล่าววา่ \"พวกข้าพเจา้ ไม่ทราบ พลังฤทธ๓ิ์ ท่ีวา่ แน่ กแ็ พแ้ รงกรรม แล้วพวกท่านทราบหรอื ?\" เดียรถีย์ทรี่ ู้เรื่องกพ็ า พระเถระเมอ่ื รตู้ วั วา่ ถกู ล้อม จึงหาย กันตอบว่า \"ขอรบั พวกขา้ พเจา้ ทราบ ลาภและ สักการะเกดิ ขึน้ เพราะอาศัยพระเถระรูปหน่ึง ชอื่ ตวั แลว้ เหาะหนีออกไปทางชอ่ งลูกกญุ แจ พวก มหาโมคคัลลานะ พระเถระนน้ั ไปเท่ียว โจรทีเ่ ขา้ มาคน้ ภายในกุฎใี นวนั นัน้ จึงมองไม่เห็น เยย่ี มสวรรค์เทวโลก ถามกรรมท่พี วกเทวดาทา ท่าน วันทส่ี อง จึงกลับมาลอ้ มกฎุ ไี ว้อกี คร้งั ที่ ๒ พอพระเถระรู้ตัว คราวน้ี ท่านใช้กาลังฤทธ์ิ แลว้ ก็กลับมาบอกกับพวกมนุษยว์ า่ ‘พวก หายตัวออกไปทางมณฑลช่อฟา้ เหาะไปทาง เทวดาทากศุ ลกรรมอย่างนแี้ ลว้ จึงไดม้ าเกดิ เป็น อากาศ ท่านหนไี ปด้วยวิธีอยา่ งน้ี ๕-๖ ครง้ั พวก เทวดาในสวรรค์ แล้วไดค้ รอบครองทิพยส์ มบัติ โจรจึงจบั พระเถระไม่ได้ แต่เม่อื มาถงึ เดือน อยา่ งน’ี้ และไปทนี่ รกภูมิ กถ็ ามกรรมของหมู่ สดุ ทา้ ย พระเถระไดร้ ชู้ ดั วา่ บาปกรรมทเี่ คย สัตวผ์ ู้เกิดในนรกแล้ว กลับมาบอกพวกมนุษย์ว่า ทาไว้ในอดีตส่งผลมา และกรรมน้นั มกี าลงั ‘พวกสตั ว์นรกทาบาปกรรมอย่างนี้ จึงไดร้ บั ทกุ ข์ รนุ แรง ไมส่ ามารถจะหลีกเลยี่ งได้ตลอด จึง ทรมานเชน่ น’ี้ พวกมนุษยไ์ ด้ฟงั เร่อื งราวจากพระ ไม่ได้หนีไป ทา่ นเขา้ สมาธริ ะดบั ลกึ พอทเี่ ม่อื ถกู เถระนน้ั แลว้ เกดิ ศรทั ธาเล่ือมใส นอ้ มนาลาภ พวกโจรทารา้ ยแล้ว จะไมไ่ ด้รบั ทุกขเวทนา แล้ว สักการะไปถวาย ถา้ พวกเราฆ่าพระเถระเสียได้ ออกจากสมาธนิ ั้นเมอื่ โจรหนีไปแล้ว จงึ ปลอ่ ยให้ พวกเรา ก็จะไดล้ าภและสกั การะน้ันเช่นกนั \" พวกโจรจับท่านได้ เมอ่ื พวกโจรจบั ท่านไดแ้ ล้ว จึงพากันใช้ทอ่ นไม้ทุบตามร่างกายของท่านจน เดยี รถยี เ์ หลา่ น้ันต่างยอมรบั ว่า \"กล อุบายนี้ใชไ้ ด้\" จงึ เห็นตรงกนั แล้วรว่ มวางแผนช่ัว ๓ ดเู พิม่ ใน โมคคลั ลานสูตร พระไตรปฎิ ก สงั ยุตตนกิ าย มหา ร้ายกนั วา่ \"พวกเรา จะสรา้ งเลศบางอยา่ ง แล้ว วารวรรค เลม่ ๑๙ (มจร.แปล) หน้า ๓๙๗-๔๐๐ พกสตู ร หาทางฆา่ พระเถระนั้นเสยี \" เรีย่ ไรเงนิ จากพวก พระไตรปิฎก เลม่ ๑๕ สงั ยุตตนิกาย สคาถวรรค (มจร.แปล) หน้า ๒๓๗-๒๖๙ อปราทิฏฐิสูตร พระไตรปฎิ ก เลม่ ๑๕ ๒ อรรถกถา ขุททกนกิ าย คาถาธรรมบท ทัณฑวรรคท่ี ๑๐ เรอ่ื ง สังยุตตนกิ าย สคาถวรรค (มจร.แปล)หน้า ๒๔๐-๒๔๔ พระมหาโมคคลั ลานะ(อัครสาวกเบ้ืองซ้าย เลศิ ทางฤทธ)์ิ
โรคกรรม ๘๐ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ เละหมด ทาให้กระดูกหกั จนป่นปี้แหลกละเอยี ด ปรนิ ิพพาน แลว้ แสดงธรรม พระเถระไดเ้ ลา่ เหมอื นเมล็ดขา้ วสารหกั เมอ่ื แน่ใจว่า ‘ตายแลว้ ’ อดตี ชาตขิ องทา่ นทีเ่ คยทาบาปกรรมว่า \"ขา้ พเจา้ จึงโยนรา่ งของท่านทิ้งไว้ที่หลงั พมุ่ ไม้ แลว้ พากนั คลกุ คลมี ิตรชว่ั ตกอยู่ในอานาจกามราคะ มีใจ หลบหนไี ป โกรธเคอื ง ไดฆ้ า่ มารดาและบิดาเสยี แล้ว ขา้ พเจ้าเกิดในกาเนิดใด ๆ คือ จะเป็นนรกหรอื พระเถระยงั ไม่ตาย มนษุ ย์ก็ตาม เพราะเป็นผมู้ ากดว้ ยความชวั่ จึงประสานกายไปเฝา้ พระศาสดา ขา้ พเจ้าจึงถกู ทุบศีรษะตาย นี้เปน็ กรรมครงั้ สุดทา้ ยของขา้ พเจา้ ภพสดุ ท้ายกาลังเปน็ ไปอยู่ พระเถระคลายตวั ออกจากสมาธิ แล้ว กรรมเช่นน้จี กั ปรากฏแก่ข้าพเจา้ ในเวลาจะตาย เรม่ิ สารวจดตู นเอง จงึ ได้ทราบ\"อายุหมดแล้ว\" แม้ในชาตนิ \"้ี ๔ เมอื่ แสดงธรรมจบลง จงึ ถวาย คิดวา่ \"เราจะตอ้ งเข้าเฝา้ พระศาสดา ทลู ลา บงั คมพระศาสดาแลว้ เดนิ ทางเข้าไปในปา่ ใกล้ เสยี กอ่ น ค่อยปรินพิ พาน\" จงึ ใชก้ าลังแหง่ สมาธิ ตาบลกาฬสลิ า แลว้ ปรนิ ิพพานนนี่ ั่น ทาให้ร่างกายกลบั มาสู่ภาวะปกติ แลว้ เหาะไป ทางอากาศ เขา้ ไปถวายบังคมพระศาสดาแลว้ ให้ทกุ ข์แกท่ า่ น...ทกุ ข์นนั้ ถงึ ตัว มี กราบทลู ว่า \"ข้าพระองค์ จะปรินิพพาน พระเจา้ หลังจากท่านปรนิ พิ พานไมน่ าน ข้า\" กระแสขา่ วเล่าลอื กันไปทว่ั วา่ \"พระเถระถกู พวก พระศาสดา : โมคคัลลานะ เธอ จะ ปรินิพพานหรอื ? โจรฆ่าแลว้ \" พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงสง่ สายลบั ไป พระเถระ : พระเจา้ ขา้ สืบหาเบาะแสเรื่องนี้ ขณะน้นั พวกโจรกาลังด่มื พระศาสดา : เธอจะปรินิพพาน ทไ่ี หน ? สุราที่โรงสรุ า โจรคนหน่ึง ใช้ศอกถองหลังโจรคน พระเถระ : ข้าพระองค์ จะไปปรนิ พิ พานที่ หนึ่งจนลม้ ลง คนทลี่ ม้ ลง เกดิ โมโห จึงพดู ขู่ กาฬสลิ า พระเจา้ ขา้ ตะคอกไปวา่ \"เฮย้ อ้าย... ทาไมจึงใชศ้ อกถอง พระศาสดา : โมคคัลลานะ ถ้าอย่างนั้น เธอ กลา่ วธรรมใหเ้ ราฟงั แล้วคอ่ ยไป เพราะตอ่ จากน้ี หลังกูวะ\" ไป เราจะไมไ่ ดเ้ หน็ สาวกเชน่ เธออีก โจรคนแรก : เฮย้ อา้ ย...มึงใช้ไมท้ บุ ตี พระเถระกราบทลู วา่ \"ข้าพระองค์ จะทา อย่างน้นั พระเจา้ ข้า\" ถวายบงั คมพระศาสดา พระมหาโมคคลั ลานะก่อนหรอื ? เหาะขึ้นไปในอากาศ แสดงฤทธิ์หลายอยา่ ง เหมอื นกับพระสารบี ุตรแสดงฤทธิใ์ นวัน โจรคนทส่ี อง : แล้วมึงไมร่ ู้หรือว่า กลู งมอื ก่อน ๔ ดู มหาโมคคัลลานเถราปทาน พระไตรปิฎก เล่ม ๓๒ ขทุ ทกนิกาย อปทาน (มจร.แปล) หนา้ ๕๙-๖๒
โรคกรรม ๘๑ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ เม่ือเหล้าเขา้ ปาก เมาจนได้ที่ พวกโจร ทาไว้ในชาตกิ ่อน\" ภกิ ษุท้งั หลายทลู ถามว่า \"บุรพ แต่ละคน จึงลืมตัวเอง แลว้ พดู อวดกนั ว่า \"กเู อง กรรมของท่านเปน็ อย่างไร พระเจา้ ขา้ \" จงึ ได้ตรสั ลงมือกอ่ น\" เม่อื กรรมส่งผล ทาให้คนชัว่ เผลอตวั เลา่ เร่อื งกรรมเก่าของพระเถระในอดตี ชาติ ซงึ่ มี พวกสายลบั เม่ือร้คู วามจรงิ แลว้ จงึ เข้าจบั กุม รายละเอียด ดังนี้ แล้วทูลเกลา้ ถวายฎีกา พระราชาทรงมรี บั สั่งให้ เรียกพวกโจรมาแล้ว ตรสั ถามว่า \"พวกเจ้าฆา่ กรรมเกา่ ของพระมหาโมคคลั ลานะ พระเถระหรือ\" ในอดีตชาติทีผ่ ่านมา ชายผูห้ นึ่งเปน็ พวกโจร : ใช่ พระเจ้าข้า ชาวเมืองพาราณสี เลยี้ งดมู ารดาบดิ าอย่างดี พระราชา : ใครใช้พวกเจา้ ? ต่อมา มารดาบิดาพูดวา่ \"ลูกเอย เจา้ ผู้เดยี ว พวกโจร : พวกสมณะเปลือย ทางาน มันลาบากนะลกู พ่อแม่จะพาหญิงสาว กาย (นคิ รนถ์) พระเจ้าข้า คนหนึ่งมาให้เจ้า\" เขาก็ปฏิเสธว่า \"คุณแม่ คณุ พระราชาทรงมีรบั สั่งให้จบั กุมนักบวช พ่อ ผมไม่ตอ้ งการ ผมจะดแู ลพอ่ แมเ่ องจนตาย\" เปลอื ยกายประมาณ ๕๐๐ คน และพวกโจรอีก แต่ท้ายสุดพอ่ แมข่ องเขากไ็ ด้นาพาหญงิ สาวมา ๕๐๐ คน แล้วใหฝ้ ังไว้ในหลมุ ลกึ เพยี งสะดือที่ จนได้ พระลานหลวง ให้กลบด้วยฟาง แล้วจดุ ไฟเผา เมื่อรา่ งถกู ไฟไหมแ้ ลว้ จงึ รับส่งั ให้เอาไถเหลก็ ไถ ภรรยาคนนี้ดแู ลแมผ่ ัวและพ่อผัวได้ อีก ทาให้ศพขาดเป็นทอ่ นเลก็ ท่อนใหญ่ แล้ว เพยี ง ๒-๓ วนั เทา่ นัน้ หลังจากนั้น กไ็ ม่ต้องการ รับสงั่ ใหเ้ สยี บหลาวสาหรับโจรอีก ๔ คน เพือ่ เหน็ ทา่ นทั้งสองอีกเลย จึงบอกสามวี ่า \"ฉนั คงอยู่ ประจานใหค้ นกลวั เกรง บ้านเดยี วกันกบั มารดาบดิ าของเธอไม่ได้\" แล้ว ภกิ ษุท้ังหลายสนทนากนั ในโรงธรรม ตาหนิพอ่ ผัวแม่ผัวต่างๆ นานา แตผ่ ้เู ปน็ ฝา่ ยสามี วา่ \"นา่ สังเวชใจเหลอื เกิน พระมหาโมคคลั ลาน ก็ไมเ่ ชือ่ และไมว่ ่าอะไร พอเวลาสามีไปข้างนอก เถระ ไม่น่ามามรณภาพอยา่ งนเ้ี ลย\" พระ ก็ไปเอาปอ กา้ นปอและฟองขา้ วยาคู มาเท ศาสดาเสดจ็ มาตรสั ถามวา่ \"ภิกษทุ ัง้ หลาย เรยี่ ราดไว้บนบ้านให้ดูเลอะเทอะ เม่อื สามมี าถึง ตอนนี้ พวกเธอนงั่ คุยกนั เรอ่ื งอะไร ? เมื่อภกิ ษุ ถามวา่ \"อะไรกนั นี่ ทาไมถึงสกปรกเลอะเทอะอ เหล่านน้ั กราบทลู วา่ \"เรอื่ งการมรณภาพของ ย่างน้ี\" ภรรยาฟอ้ งว่า \"พอ่ แม่ตาบอดของคุณ พระมหาโมคคลั ลานเถระ พระเจ้าข้า\" จงึ ตรัสว่า นนั่ แหละเป็นคนทา แกท้ังสองทาบ้านสกปรก \"ภกิ ษุท้ังหลาย โมคคลั ลานะไม่ควรมรณภาพใน ฉนั คงอยู่ในทีแ่ ห่งเดยี วกนั กบั แกไมต่ ่อไปแลว้ \" สภาพเชน่ นกี้ จ็ ริง แต่ก็เปน็ ไปตามกรรมเกา่ ที่เคย เมื่อภรรยาพูดบอ่ ยๆ บคุ คลผูบ้ าเพญ็ บารมีเพ่อื เป็นอัครสาวกเบอ้ื งซา้ ยเลศิ ทางฤทธิ์ไว้
โรคกรรม ๘๒ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ดีแลว้ ขนาดน้ี กเ็ กดิ อกศุ ลจติ คิดไมด่ กี บั พอ่ แม่ \"ภกิ ษุท้งั หลาย โมคคัลลานะไดฆ้ ่าพ่อแม่ ได้ จึงพูดวา่ \"เอาเถอะ พ่จี ะจดั การเรอ่ื งนเ้ี อง\" (ปติ ุฆาต มาตฆุ าต) ซง่ึ เป็นอนนั ตรยิ กรรม ถกู เรียกพ่อแมม่ าทานอาหาร แลว้ พดู วา่ \"พ่อจา๋ แม่ ไฟนรกเผาไหมห้ ลายแสนปี และถกู ฆ่าตาย จา๋ พวกญาตเิ ราท่ีบา้ นโนน้ ต้องการพบ ผมจะ อย่างนีอ้ กี ๑๐๐ ชาตจิ ากเศษกรรมทเี่ หลอื พาไปเยี่ยมทา่ นนะ\" พาพอ่ แมข่ ึ้นรถคนั เลก็ แล้ว โมคคลั ลานะถกู ฆาตกรรมให้มรณภาพอยา่ งนี้ ก็ ออกเดนิ ทางไป เมือ่ มาถึงกลางป่าลึก ได้โกหก เปน็ ไปตามกรรมทเ่ี คยทาไว้ พวกเดยี รถยี ์ ๕๐๐ วา่ \"คณุ พอ่ ขอรบั คณุ พอ่ ถือเชือกเอาไวอ้ ยา่ งนี้ กบั โจร ๕๐๐ ทาการทุบตี ทาร้ายบุตรของเราผู้ นะ วัวจะเดนิ ไปเองในขณะทถี่ กู ขนาบข้าง ผมจะ ไม่โตต้ อบ ผ้ไู มม่ คี วามผิด ตอ้ งมาจบชวี ติ อย่างนี้ ลงไปดูพวกโจรท่ีซมุ่ อยู่ไมไ่ กลจากนี้ \" ให้พอ่ ถอื เพราะผลกรรมของพวกเขาเอง เพราะบุคคลทา เชอื กไว้ ลงจากรถไป แล้วเปลี่ยนเสยี งใหมท่ าให้ รา้ ยผไู้ ม่โตต้ อบ ผไู้ มม่ คี วามผิด จะต้องมอี นั เปน็ เหมอื นเสียงของพวกโจรที่ดกั ซุ่มเพอื่ จะปล้น เป็นไปตา่ งๆ ไม่อย่างใดกอ็ ย่างหนึง่ ใน ๑๐ อยา่ ง คนในกลางป่า พอพ่อแม่ไดย้ นิ เสียงนั้น แนน่ อน\" แล้วพระองคไ์ ด้ตรสั เป็นคาถาวา่ จึงเขา้ ใจผิดคดิ ว่า \"สงสยั คงเปน็ เสยี งของพวก \"ผ้ทู ำร้ำยบุคคลผ้ไู ม่โตต้ อบ ไมม่ คี วำมผดิ (พระอรหนั ต์) โจรที่กาลงั ดกั ซมุ่ เพื่อปล้นพวกเราอยู่\" จงึ พูด จะต้องมอี นั เป็นไป ๑๐ อยำ่ ง ไม่อยำ่ งใด ก็อยำ่ งหนึ่งทนั ที ออกมาว่า \"ลูกเอย๋ แมพ่ ่อแกแ่ ลว้ ลกู ต้อง คือ ได้รบั ทกุ ขเวทนำแสนสำหัส ควำมเส่อื ม ทรัพย์ อวยั วะพิกำร โรครำ้ ยแรง ค้มุ ครองรกั ษาตวั เองให้ปลอดภยั นะ\" เขาทา เป็นบำ้ วิกลจรติ จติ ฟงุ้ ซำ่ น ถูกผ้ใู หญ่ใหโ้ ทษ กำรถกู กลำ่ วหำใส่ควำมอยำ่ งร้ำยแรง เสียงเหมอื นโจร แลว้ ใชไ้ ม้ทบุ ตีพ่อแม่ ทรี่ อ้ ง เครอื ญำติมีอันเปน็ ไป โภคสมบัติฉบิ หำย วิงวอนขอชีวิต และพูดถึงลูกอย่างน้นั จนตาย หรอื บ้ำนถูกไฟไหม้ ชวี ิตหลังตำย ยอ่ มไปเกดิ ในนรก\" เขาทง้ิ ศพพ่อแม่ไว้ทกี่ ลางปา่ แล้วเดินทาง กลับไปบ้าน พระศาสดา ไดต้ รสั เล่าบุรพกรรมของ พระมหาโมคคลั ลานะเสร็จ จึงตรัสสรุปความวา่ ในชาติทท่ี ่านทามาตุฆาตและปิตุฆาต ฆา่ แม่และพอ่ ตาบอด ซึง่ เป็นอนันตรยิ กรรมน้ี ท่านได้เคยทาบุญอันยง่ิ ใหญเ่ พอ่ื ปรารถนาตาแหน่งอคั รสาวกเบอ้ื งซ้ายมาก่อนหน้านแี้ ล้ว ดู รายละเอียดในเรอ่ื งสญชัย อรรถกถา ขุททกนกิ าย คาถาธรรม บท ยมกวรรคที่ ๑
โรคกรรม ๘๓ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ผลกรรมจำกกำรฆ่ำลกู พช่ี ำย ขอ้ คดิ คตธิ รรม ในทุตยิ อปตุ ตกสตู ร๕ ได้กล่าวถึงผล กรรมจากการฆ่าเดก็ ว่ามผี ลร้ายแรงเพยี งใด การฆ่าพ่อแม่ตาย ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งทใี่ ครจะทา โปรดตัง้ ใจอา่ นใหด้ ี เร่อื งราวมี ดงั นี้ ไดง้ ่ายๆ จะตอ้ งมีอะไรอยู่เบ้ืองหลงั แนน่ อน เพราะได้ภรรยาไม่ดี ตกอยู่ในอานาจของกิเลส พ ร ะ เ จ้ า ป เ ส น ทิ โ ก ศ ล ( พ ร ะ ร า ช า แ ห่ ง คือ ราคะ โทสะและโมหะ ความรกั เมยี มาก จน แคว้นโกศล)ได้เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค หลงขนาดคดิ อะไรไม่ออก มืดบอดไปหมด โกรธ แต่ยังวันถวายอภิวาทแล้วประทับนั่ง ณ ท่ี มากจนฆา่ ไดแ้ มก้ ระท้ังพ่อแม่ ขนาดทา่ นเคย สมควร พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับพระเจ้าป บาเพญ็ บารมีมามากขนาดน้ี แต่ก็ยงั พลาดได้ จะปว่ ยกล่าวไปใยถึงคนอน่ื เผลอใจเมอ่ื ใด ย่อม เสนทิโกศลดังน้ีว่า “เชิญเถิด มหาบพิตร ตกอยภู่ ายใตก้ ิเลสอย่างเดียวกัน พระองค์เสดจ็ มาจากไหนแตย่ ังวนั ” การฆ่าพ่อแมเ่ ปน็ กรรมหนกั มาก พระเจา้ ปเสนทโิ กศลกราบทลู วา่ “ข้าแต่ ภายในชาตินั้น ต้องห้ามสวรรคแ์ ละห้ามการ พระองค์ผเู้ จรญิ คหบดผี เู้ ปน็ เศรษฐีในกรุง สา บรรลุมรรคผลนพิ พาน ชีวิตหลงั ตาย ต้องไปเกิด วตั ถนี ี้ ถึงแกก่ รรมแลว้ ขา้ พระองคใ์ ห้ขนทรัพย์ ในอเวจนี รกอย่างเดยี วแกไ้ ขไมไ่ ด้ ถือว่า เปน็ สมบตั ทิ ี่ไม่มีบุตรนั้นมาไวใ้ นพระราชวงั แล้วกม็ า กรรมเก่าของผ้เู ปน็ พอ่ แม่ เป็นกรรมใหม่ของลูก เข้าเฝา้ เฉพาะเงินเท่าน้ันมี ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ ส่วน ชาย มาในชาตปิ ัจจุบัน เป็นกรรมเก่าของพระ เครอื่ งเงนิ นน้ั ไม่ตอ้ งพูดถงึ เถระ เป็นกรรมใหมข่ องพวกโจรและผจู้ างวาน ฆ่า แมท้ ่านจะมฤี ทธมิ์ ากมาย แต่กห็ นกี รรมเก่า อน่งึ คหบดีผเู้ ปน็ เศรษฐนี น้ั ได้บริโภค ไมพ่ ้น เพราะไม่มใี ครเก่งเกนิ กรรม เพราะฉะน้ัน อาหารเชน่ น้ี คอื บรโิ ภคปลายขา้ วกับน้าผักดอง ข้นึ ชือ่ ว่า บาป ไม่ควรทาเลย ไดใ้ ช้ผ้าเคร่ืองนุง่ หม่ เช่นน้ี คอื นุ่งหม่ ผา้ เนื้อหยาบ ที่ตดั เปน็ สามชนิ้ เยบ็ ติดกนั ไดใ้ ชย้ านพาหนะ เช่นน้ี คือ ใชร้ ถเก่า ๆ กัน้ รม่ ทาด้วยใบไม”้ พระผู้มพี ระภาคตรัสวา่ “มหาบพิตร ข้อ น้เี ปน็ อย่างนั้น มหาบพิตร ขอ้ น้ีเป็นอยา่ งนน้ั เรือ่ งเคยมมี าแล้ว คหบดผี เู้ ป็นเศรษฐนี ้ัน ไดส้ ง่ั ๕ ทุติยอปุตตกสูตร พระไตรปิฎก เลม่ ๑๕ สังยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค โกสลสังยุต (มจร.แปล)หน้า ๑๕๘-๑๕๙
โรคกรรม ๘๔ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ให้จดั เตรียมบณิ ฑบาตถวายพระปจั เจกสัม ของพ่ชี าย เพราะทรพั ยส์ มบตั ิเปน็ เหต๗ุ เขาจึง พทุ ธเจา้ พระนามวา่ ตครสขิ ๖ี วา่ ‘ท่านทง้ั หลาย ถกู ไฟเผาอยู่ในนรกหลายปีหลายร้อยปี จงถวายอาหารบณิ ฑบาตแก่สมณะ’ แล้วลุก หลายพนั ปี หลายแสนปี ด้วยเศษผลของกรรม จากอาสนะเดนิ จากไป ภายหลงั ได้มีความ น้นั เหมอื นกนั ทรพั ย์สมบัตทิ ไ่ี มม่ บี ตุ รรบั เอา จงึ เสยี ดายว่า ‘อาหารบณิ ฑบาตน้ีให้ทาสหรอื ถูกขนเขา้ คลังหลวงนี้เป็นคร้งั ท่ี ๗ มหาบพิตร กรรมกรบริโภคยังดกี ว่า’ นอกจากนเ้ี ขายงั ปลดิ ก็บญุ เกา่ ของคหบดี ผเู้ ป็นเศรษฐนี นั้ หมด ชวี ิตบุตรน้อยคนเดยี วของพ่ีชาย เพราะทรพั ย์ สน้ิ แลว้ และบญุ ใหมก่ ไ็ ม่ได้สะสมไว้ ในวนั น้ี สมบตั เิ ปน็ เหตุอีกด้วย คหบดผี เู้ ปน็ เศรษฐีนัน้ ถกู ไฟเผาอยู่ในมหา โรรวุ นรก” มหาบพติ ร ด้วยผลของกรรมท่ีคหบดผี ู้ เปน็ เศรษฐนี น้ั ส่งั ให้จัดเตรยี มอาหารบิณฑบาต พระเจ้าปเสนทิโกศลทลู ถามวา่ “ข้าแต่ ถวายพระปจั เจกสมั พทุ ธเจา้ พระนามว่าตครสขิ ี พระองค์ผเู้ จรญิ คหบดผี เู้ ปน็ เศรษฐบี งั เกิดใน เขาจงึ บังเกดิ ในสคุ ติโลกสวรรค์ ๗ ครั้ง ด้วย มหาโรรวุ นรกอยา่ งนั้นหรือ” เศษผลของกรรมนนั้ เหมอื นกนั ได้เปน็ เศรษฐีในกรงุ สาวัตถนี แ้ี หละถึง ๗ คร้งั พระผูม้ ีพระภาคตรสั ตอบวา่ “อย่างนัน้ มหาบพิตร ด้วยผลของกรรมท่คี หบดี ผเู้ ป็น มหาบพิตร คหบดผี ู้เป็นเศรษฐีไปบงั เกิดในมหา เศรษฐีนั้น ถวายอาหารบณิ ฑบาตแลว้ ภายหลงั โรรวุ นรกแลว้ ” ได้มคี วามเสียดายวา่ ‘อาหารบณิ ฑบาตนีใ้ ห้ พระผมู้ ีพระภาคผสู้ ุคตศาสดา ฯลฯ จงึ ทาสหรือกรรมกรบริโภคยงั ดีกวา่ ’ เขาจงึ ไม่คดิ ไดต้ รสั คาถาประพันธ์ตอ่ ไปอีกว่า อยากบริโภคอาหารอนั มากมาย ไมค่ ิดอยากใช้ ผา้ เครอื่ งนุ่งหม่ อันมากมาย ไมค่ ดิ อยากใช้ ๗ อรรถกถาพระสตู รนี้ อธบิ ายเพิม่ เติมไว้ว่า \"มารดาบิดาและ ยานพาหนะอย่างโออ่ า่ ไมค่ ิดอยากบริโภคกาม พี่ชายของเขา ได้ตายจากไปในขณะทยี่ ังไมไ่ ด้แบง่ มรดก เขาอยู่ คุณ ๕ ทดี่ ี ๆ กับภรรยาของพช่ี าย ซง่ึ มลี กู ชายคนหนึ่ง ขณะท่ีเด็กกาลงั เลน่ อย่ทู ีถ่ นน ผู้คนพากันพดู ว่า \"คนนเ้ี ป็นทาส คนนเี้ ป็นทาสี อนั มหาบพติ ร อนงึ่ ดว้ ยผลของกรรมท่ี นีย้ าน อันนีท้ รพั ย์สมบัติ ซ่งึ เปน็ ของเจ้า\" เดก็ จดจาคาของ คหบดีผ้เู ศรษฐนี ัน้ ปลดิ ชีวติ บุตรนอ้ ยคนเดยี ว คนเหล่านัน้ เอามาพูดว่า \"สิ่งน้ี กเ็ ปน็ ของเรา\" ฝ่ายอาคิดวา่ ตอนน้ี เด็กยังพูดอย่างนี้ เม่อื โตข้ึน เขาคงยึดเอามรดกทงั้ หมด ๖ดูประวตั คิ วามเป็นมาของพระปัจเจกพุทธเจ้า นามว่า ตครสิขี เราจะต้องฆ่าเดก็ เสยี ก่อนจะสายเกิน\" วันหนงึ่ เขาสัง่ วา่ \"ลูก ในภาคผนวก หน้า ๑๒๒ รัก พอ่ จะพาเจา้ เขา้ ไปในปา่ \" เขาได้พาเด็กคนน้เี ขา้ ไปในปา่ แล้วใชม้ ีดฆ่าลกู พช่ี ายซ่งึ กาลังรอ้ งโหยหวน แล้วโยนลงในบ่อ เอาดนิ กลบไว\"้
โรคกรรม ๘๕ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ “ ข้าวเปลอื ก ทรพั ย์ เงินทองสง่ิ ของท่ี ขอ้ คดิ ...คตธิ รรม หวงแหนอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ผลกรรมจากการฆา่ ลกู ของพ่ชี ายทไ่ี ม่มี หรือทาส กรรมกร คนรับใชแ้ ละผ้อู าศยั ที่ ความผิด ตายไปตกนรกหลายแสนปี เศษกรรมท่ีเหลือ มีอยู่ ทง้ั หมดนนั้ เขานาไปไมไ่ ดจ้ าต้องละทิ้งไว้ ทาใหไ้ ม่มีลกู ท้งั หมดอน่ึง บคุ คลทากรรมใดทางกายทางวาจา หรอื ทางใจกรรมนนั้ แลเป็นสมบตั ขิ องเขา ผลบุญจากการใหท้ านแก่พระปัจเจกพุทธเจา้ ทาใหไ้ ปเกิดในสวรรค์ ๗ ครงั้ เศษบุญท่เี หลือ ทาใหเ้ กิด ทั้งเขาจะนากรรมนน้ั ไปได้ มาเป็นเศรษฐีอีก ๗ ชาติ แต่เพราะทาบุญแลว้ เสียดาย อนง่ึ กรรมนน้ั ยอ่ มติดตามเขาไปดจุ เงา ภายหลัง แมจ้ ะรา่ รวยมีเงนิ ทอง แต่ก็ไม่อยากใช้ กลวั หมด สุดท้าย กไ็ มไ่ ด้ใช้เอง และในช่วงเวลาท่ีกาลงั ตดิ ตามตวั ไป ฉะนน้ั เพราะฉะนั้น เจริญรงุ่ เรืองด้วยโภคสมบตั ิ ซึ่งมบี ญุ เก่าสนบั สนุนอยู่ บุคคลควรทากรรมดี สะสมไวเ้ ปน็ สมบตั ิ นัน้ กลับประมาท ไม่เคยทาบุญกศุ ลเพมิ่ ใช้แต่บญุ เกา่ อยา่ งเดียว พอบุญเก่าหมดลง บุญใหม่ ไมม่ ี บาปเก่า ในโลกหน้า เพราะบญุ เปน็ ทพ่ี ึ่ง ซ่งึ เคยติดขา้ งไว้ที่ยังใชไ้ มห่ มด ไดโ้ อกาสส่งผลตอ่ อกี ของสัตว์ทัง้ หลายในโลกหน้า” เขาจงึ ตอ้ งไปเกิดในนรกอันน่าสะพรงึ กลวั ทา่ นผู้เปน็ บณั ฑิตทัง้ หลาย แสดงว่า บุญเม่ือ ใชบ้ อ่ ยๆ ก็หมดได้ ในทางตรงข้าม บาปถ้าใช้บ่อยๆ ก็ ตอ้ งหมดได้เชน่ กัน ถ้าไม่อยากให้บญุ หมด กต็ ้องทา เพมิ่ บอ่ ยๆ ถ้าอยากให้บาปหมด กร็ ีบชดใช้ เมอ่ื บาป บุญหมดได้ บุญและบาป ก็ไม่ใชส่ ิง่ ที่เทยี่ งแท้แนน่ อน เป็นสงิ่ ท่ีเกิดได้ ดบั ได้ เพราะฉะน้นั พระอรหนั ต์ ผ้ลู ะ บญุ และบาปได้แลว้ จงึ ไม่ตอ้ งเกดิ อีก
โรคกรรม ๘๖ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ นรกมจี รงิ ...ไม่ใชอ่ ิงนิยาย มหานรกมีทั้งหมด ๘ ขุม คอื ๑. สญั ชีวนรก นรกทต่ี ายแล้วฟ้นื หมายถึงสัตว์นรกในนรกนถ้ี ูกสบั ถกู ฟัน เปน็ ช้นิ เลก็ ชน้ิ น้อยแลว้ กลบั ฟืน้ ขนึ้ มาบ่อย ๆ ๒. กาฬสตุ ตนรก นรกสายบรรทดั เหล็ก หมายถงึ สัตว์นรกวิ่งไปบนแผน่ เหลก็ แดง ถา้ ลม้ ลง จะถกู ดีดดว้ ยสายบรรทดั เหลก็ แดง ๓. สังฆาฏนรก นรกทถ่ี กู บดหรอื หนีบ หมายถงึ มีภเู ขาเหลก็ ลกุ เป็นไฟกล้ิง มาบดขยีส้ ัตว์ในนรกน้ี ๔. ชาลโรรวุ นรก(โรรุวนรก) นรกทสี่ ตั ว์รอ้ งไห้เพราะเปลวไฟ หมายถึงนรกที่ มีเปลวไฟพุ่งวูบเข้าทางทวารทั้ง ๙ เผาสตั วน์ รกตลอดเวลา ๕. ธูมโรรวุ นรก(มหาโรรวุ นรก) นรกทสี่ ตั วร์ ้องไห้เพราะควันไฟ หมายถงึ นรกทมี่ คี วันไฟรมสัตวน์ รกทางทวารทงั้ ๙ อยตู่ ลอดเวลา ๖. ตาปนนรก นรกทท่ี าใหร้ อ้ น หมายถงึ พวกสัตวน์ รกในนรกนจี้ ะถกู แทง ด้วยหลาวเหลก็ เทา่ ลาตาลลกุ เปน็ ไฟ ๗. ปตาปนนรก นรกทีท่ าใหร้ อ้ นมาก หมายถงึ สตั วน์ รกในนรกนีถ้ กู ไล่ตหี นี ขน้ึ ไปบนภเู ขา บนกาแพงที่รอ้ น ตกลงมาถกู หลาวเหลก็ เสยี บแทง ๘. อเวจมี หานรก นรกท่ไี ม่มีเวลาว่าง หมายถงึ นรกที่มเี ปลวไฟพลงุ่ ออกมา จากทศิ ทัง้ ๔ เผาสัตว์นรกอยตู่ ลอดเวลา มหานรกทงั้ ๘ ขมุ น้ีแตล่ ะขุมมปี ระตู ๔ ดา้ น ประตหู นึ่ง ๆ มีอสุ สทุ นรก (นรกบริวาร) ด้านละ ๔ มหานรกขุมหนงึ่ ๆ จึงมีอุสสทนรก ๑๖ แห่ง มหานรก ๘ ขุมมีอสุ สทนรก ๑๒๘ รวมกับมหานรก ๘ เปน็ ๑๓๖ ขมุ จากสงั กิจจชาดก พระไตรปิฎก เลม่ ๒๘ ขุททกนกิ าย ชาดก (มจร.แปล) หนา้ ๔๕-๕๔ และอรรถกถา(ข.ุ ชา.อ. ๘/๘๓-๘๔/๑๑๑-๑๑๔)
โรคกรรม ๘๗ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสัตว์ ผลกรรมจากการฆา่ แพะ อากาศ แสดงธรรม ชโ้ี ทษในการทาปาณาติบาต นี้ ให้ชนชาวชมพทู วีปทงั้ สน้ิ ละบาปกรรมน้ัน แต่ มตกภตั ตชาดก๘ ในคมั ภีร์อรรถกถา ได้ บดั นี้ การฆา่ สัตว์นนั้ กลบั ปรากฏข้ึนอีก เพราะ กล่าวถึงผลของการฆา่ แพะตวั เดยี ว เพือ่ นามา สตั วท์ ้ังหลายติดอยูใ่ นภพ\" แลว้ ทรงเลา่ เร่ืองราว ทาเป็นอาหารอุทิศไปให้ญาตผิ ้ตู าย ซ่ึงคน ในอดตี ให้ภิกษุท้งั หลายฟงั รายละเอียดมี ดังนี้ ส่วนมาก ตง้ั ใจว่า จะทาบุญ กลับกลายเป็นการ ทาบาป คดิ วา่ จะเปน็ บญุ กลับเปน็ บาป คดิ ว่าคง ในอดตี กาล เมือ่ พระเจา้ พรหมทัต จะได้บญุ กลับได้บาปแทน และผลแหง่ การฆา่ ครองราชสมบตั ิในนครพาราณสี มีอาจารยท์ ศิ า แพะเพยี งตัวเดยี วนั้น กลบั เปน็ บาปรา้ ยแรงเกิน ปาโมกข์ (ช่อื ตาแหน่งของอาจารย์ในยุคนั้น) กว่าจะคาดคิด ทา่ นผเู้ ปน็ บณั ฑิตทง้ั หลาย โปรด ผ้สู าเร็จไตรเพทคนหนง่ึ คดิ วา่ \"จะถวายอาหาร อา่ นและทาความเขา้ ใจในใหจ้ งดี เรื่องมดี ังนี้ เพ่อื ผตู้ าย\" จึงให้จับแพะมาตวั หน่ึง กล่าวกับ บรรดาลูกศษิ ย์วา่ \"พ่อคุณทง้ั หลาย พวกเธอจง ในสมยั พุทธกาล มนษุ ยท์ ้งั หลายฆ่า จูงแพะตวั นี้ไปทฝี่ งั่ แม่น้า เอาพวกดอกไมส้ วม แพะเปน็ ตน้ เปน็ อนั มาก ให้ถวายภัตตาหาร ทีค่ อ เจมิ ที่หน้าผาก ตกแตง่ ใหส้ วยงาม แล้วจูง แลว้ อทุ ิศญาตทิ ั้งหลายทต่ี ายไปแลว้ ภิกษุ กลับมา\" ทงั้ หลายเห็นมนษุ ยเ์ หลา่ นนั้ กระทาอย่างนัน้ จงึ ทลู ถามพระศาสดาวา่ ขา้ แต่พระองค์ผเู้ จริญ พวกศษิ ย์ กไ็ ด้ทาตามคาสั่งของ บดั น้ี มนุษย์ทงั้ หลายทาสัตว์มีชีวติ เปน็ อนั มาก อาจารย์ แล้วก็จงู แพะมาผูกไวท้ ่ีรมิ ฝัง่ แมน่ า้ ให้ถึงความสน้ิ ชีวิต(ปาณาติบาต)แลว้ ใหช้ ือ่ วา่ แพะนนั้ เกิดมองเหน็ กรรมเกา่ ของตน(ระลกึ มตกภัต ความเจรญิ (บญุ กศุ ลอนั ดงี าม)ในการ ชาติข้ึนมาได้) เกดิ ดใี จขนึ้ คดิ ว่า \"เราจะไดพ้ น้ ใหม้ ตกภตั นมี้ ีอยหู่ รอื พระเจ้าข้า? จากทุกข์ภายในวันน\"ี้ จึงร้องขน้ึ ด้วยเสยี งอันดัง แลว้ คดิ ไดอ้ กี วา่ \"พราหมณน์ ี้ หลังจากฆ่าเราแล้ว พระศาสดาตรสั ว่า \"ภกิ ษุทัง้ หลาย ไม่ กจ็ ะประสพทุกขเ์ หมอื นกับเรา\" เกดิ ความสงสาร มกี ศุ ลความดงี ามอะไรๆ ทีเ่ กิดจากการฆ่าสัตว์ พราหมณ์ข้ึนมา จึงน้าตาซึม เศรา้ โศกเสยี ใจ ตดั ชวี ติ ทีเ่ ขากระทาโดยคิดวา่ พวกเราจะให้ อย่างแรง (รอ้ งไห้ด้วยเสยี งอนั ดงั ) มตกภัต ในกาลก่อน บณั ฑติ ท้งั หลายนั่งกลาง พวกศิษยห์ นุ่มจึงถามแพะน้นั วา่ \"เจา้ ๘ พระไตรปิฎก เลม่ ๒๗ ขุททกนกิ าย ชาดก (มจร.แปล) หน้า แพะเอย เจา้ หัวเราะและร้องไห้เสยี งดงั ลน่ั ๘ และอรรถกถา เรือ่ งมตกภตั ตชาดก พระศาสดาได้ตรสั เล่า เพราะเหตุไรหนอ ? แพะตอบวา่ \"ท่านท้งั หลาย เร่ืองนีแ้ กภ่ ิกษทุ ้ังหลายฟงั เพราะมีผู้ทูลถามถงึ การฆา่ สัตว์ ควรถามเรอื่ งนก้ี ับขา้ พเจา้ ตอนทอี่ ยตู่ อ่ หน้า ทาบญุ อทุ ิศให้กบั ผู้ตาย จะไดบ้ ุญหรอื ไม่ อยา่ งไร ? อาจารยข์ องท่าน\" พวกเขา จึงจงู แพะนนั้ ไป ได้
โรคกรรม ๘๘ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสัตว์ เลา่ เร่ืองทเ่ี กดิ ขึน้ ใหอ้ าจารย์ฟงั พออาจารย์ไดฟ้ ัง พราหมณ์ ไดฟ้ ังคาท่แี พะเลา่ แล้ว จงึ แลว้ จึงถามว่า \"เจา้ แพะเอย ทาไม เจ้าจึง กลา่ วว่า \"แพะเอย เจา้ อยา่ กลวั ไปเลย เราจะไม่ หวั เราะ เพราะเหตไุ ร เจา้ จึงรอ้ งไห้?\" ฆ่าเจ้าหรอก\" แพะพูดตอบไปวา่ \"ทา่ นพราหมณ์ พูดอะไรอยา่ งน้นั ทา่ นจะฆา่ หรือไมฆ่ ่าขา้ พเจ้า แพะย้อนระลกึ ถงึ กรรมเกา่ ทีต่ นเคย ก็ตามที แตว่ ันน้ี ข้าพเจ้า ก็ต้องตายอย่ดู ี ไมอ่ าจ กระทาไวด้ ว้ ยญาณ ไดต้ อบพราหมณไ์ ปว่า หลีกความตายไปได\"้ \"ท่านพราหมณ์ ในชาติกอ่ น ขา้ พเจ้าเอง เคย เปน็ พราหมณผ์ สู้ าธยายมนต์เหมอื นทา่ นนีแ้ หละ พราหมณ์ : แพะเอย เจา้ อย่ากลัวไป คดิ วา่ \"จะทาบุญถวายอาหารอุทิศใหผ้ ้ตู าย เลย เราจะดแู ลคมุ้ ครองปอ้ งกนั เจา้ เอง\" (มตกภัต)\" จงึ ไดฆ้ ่าแพะตวั หนง่ึ แล้วทาเปน็ อาหารอทุ ิศให้ผ้ตู าย เพราะเหตุทขี่ า้ พเจา้ ได้ฆา่ แมแ่ พะ : ท่านพราหมณ์ การปกปอ้ ง แพะตวั เดยี ว แตถ่ ูกฆา่ ตดั หัว ๔๙๙ ชาต๙ิ ชาติ คมุ้ ครองของทา่ นมกี าลังน้อย สว่ นบาปที่ นเี้ ป็นชาตทิ ่ี ๕๐๐ และเปน็ ชาติสุดทา้ ยที่จะ ข้าพเจา้ ได้กระทาไวน้ ัน้ มกี าลังมากกวา่ ไดร้ บั วิบากกรรมน้ี จงึ ได้ดใี จว่า \"วันนี้ เราจะได้ พ้นจากทกุ ขท์ เ่ี กดิ มาเปน็ แพะนี้\" จึงไดห้ วั เราะ พราหมณ์ จงึ ให้ปลอ่ ยแพะไป ได้พดู ข้นึ ว่า เพราะเหตุน้ี แตท่ ่ขี ้าพเจา้ ได้รอ้ งไห้ เนอ่ื งจาก \"เราจะไมใ่ ห้แม้ใคร ฆ่าแพะตวั น้ีได้\" แล้วพาพวก อดสงสารท่านไมไ่ ด้ เพราะมาคิดวา่ \"ครงั้ แรก ลกู ศิษย์เดินไปมาเพอ่ื เฝา้ ดแู พะไว้ แพะพอเปน็ เราฆ่าแพะตัวเดยี ว แตต่ ้องมาถกู ฆา่ ตัดหัวถึง อสิ ระ ก็ชะเงอ้ คอเรม่ิ จะกนิ ใบไม้ทีข่ ึ้นตามหลงั ๕๐๐ ชาติ เพงิ่ จะไดพ้ ้นบาปกรรมในวนั น้ี สว่ น แผ่นหินแห่งหนึง่ ทนั ใดน้นั เอง ฟา้ กผ็ า่ ลงท่ี พราหมณค์ นนี้ เขากาลังจะฆ่าเรา ซึง่ จะต้องถูก หลงั แผ่นหนิ นนั้ สะเก็ดหนิ ชิน้ หนึง่ กระเด็น ฆา่ ตดั ศรี ษะถงึ ๕๐๐ ชาติเหมือนเรา\" กระดอนตกลงตรงท่คี อแพะ ตดั คอแพะ ขาดไป มีผคู้ นมากมายพากนั มาดูเหตกุ ารณ์อัน ๙ อรรถกถาทักขิณาวภิ ังคสูตรไดก้ ลา่ วไว้วา่ ผลแห่งทาน เหลือเชอื่ นี้ สามารถส่งผลใหไ้ ด้อายุ วรรณะ สขุ ะ พละและปฏภิ าณ อยา่ ง ละ ๑๐๐ ชาติ รวมเป็น ๕๐๐ ชาติ ในกาลนัน้ พระโพธิสตั วเ์ กดิ เปน็ รุกข ทักขิณาวภิ ังคสูตร พระไตรปิฎก เลม่ ที่ ๑๔ มัชฌมิ นิกาย อปุ ริ เทวดาอาศยั อยู่ตรงบรเิ วณนั้นพอดี ขณะทผ่ี ู้คน ปัณณาสก์ (มจร.แปล) หน้า ๔๒๗-๔๒๙ และอรรถกถา ทัง้ หลายมองเหน็ จงึ นั่งขดั สมาธใิ นอากาศ กล่าว ผูเ้ ขียนมีความเห็นว่า ถ้าในทางกุศลเปน็ เชน่ นนั้ ได้ แม้ในทาง วา่ \"เม่ือสัตว์ท้ังหลาย ไดร้ ผู้ ลบาปอยา่ งน้ี จงึ ไม่ บาปอกุศล กต็ อ้ งเปน็ เช่นเดียวกัน คือ มีเหตทุ าใหอ้ ายุ วรรณะ ควรกระทาปาณาตบิ าต\" แล้วแสดงธรรมด้วย สขุ ะ พละและปฏภิ าณถูกทาลาย ๕๐๐ ชาตไิ ด้เหมือนกัน เสียงไพเราะว่า
โรคกรรม ๘๙ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบยี นสตั ว์ \"ถ้าสตั วท์ งั้ หลายพึงรอู้ ยา่ งนวี้ า่ ขึ้นอยูก่ บั พ้นื ฐานความรู้ ความเข้าใจสติปัญญา การเกิดนีเ้ ปน็ ทกุ ข์ สตั ว์ไม่ควรฆ่าสตั ว์ ในด้านธรรมะ และถอื ว่า เปน็ เร่ืองสว่ นตน เป็น สทิ ธสิ ว่ นตัว จะห้ามหรือบังคับกนั ไม่ได้ แต่ (คนเราไมค่ วรฆา่ สัตว์) อยา่ งไรก็ตาม พระพุทธองค์ ทรงยืนยันว่า ใน เพราะว่า ผฆู้ า่ สัตวบ์ อ่ ยๆ ยอ่ มเศร้าโศก\" ยุคน้นั ในเหตกุ ารณ์ตอนน้ัน พระองค์เกิดเปน็ รุกขเทวดา เปน็ สักขพี ยานได้ และคาสอนของ พระโพธสิ ตั ว์ ได้ชีใ้ ห้เหน็ ภยั ในนรกอนั น่า พระพทุ ธเจา้ นน้ั กลวั สั่งสอนให้คนทง้ั หลายตัง้ ม่นั อยู่ในเบญจศีล แล้วกห็ ายตวั ไป ผ้คู นทัง้ หลายพอฟงั เช่นน้ันแล้ว พระองคต์ รัสไวเ้ องว่า \"พระตถาคตตรสั รู้อนุตตร เกดิ กลัวบาปกรรม เกรงกลวั เวรภัยในนรก พากนั สมั มาสมั โพธิญาณในราตรใี ด และปรินพิ พาน งดเวน้ จากปาณาติบาต ต้ังอยู่ในโอวาทของ ด้วย อนุปาทิเสสนพิ พานธาตุในราตรีใด พระโพธสิ ตั ว์ กระทาบุญมที านเปน็ ต้น หลงั จาก ตายแลว้ ก็ไปเกิดเป็นเทวดาในเมอื งสวรรค์ ในระหวา่ งนี้ ย่อมภาษติ กล่าว แสดงออก ซงึ่ คาใด คานนั้ ทง้ั หมดเป็นจรงิ อยา่ ง ข้อคดิ ...คติธรรมในเร่ืองน้ี น้ันแล ไม่เป็นอย่างอื่น\" ทุกคนเคยได้ยิน ไดฟ้ ังมาวา่ การฆ่าสตั ว์ ตัดชวี ติ เปน็ สงิ่ ทไี่ มด่ ี เปน็ บาปกรรม จะทาให้ โลกสตู ชวี ติ ไปเกดิ ในภพภูมิไม่ดี แตม่ ีน้อยคนมาก ทจ่ี ะ พระไตรปิฎก เล่ม ๒๕ เช่อื ในจานวนคนทเี่ ชื่อนั้น มนี อ้ ยคนที่จะเช่อื มน่ั ขทุ ทกนิกาย อิติวตุ ตกะ (มจร.แปล) หนา้ ๔๙๕ จรงิ ๆ แม้จะมเี ชอ่ื มนั่ ในเรอื่ งน้ี ก็ยากทจ่ี ะอดฆา่ สตั ว์ได้ นนั่ แสดงว่า เพยี งแค่ฟังมาวา่ การฆ่า ฉะนนั้ ถงึ แมเ้ ราจะยังไมเ่ ขา้ ใจ อธบิ าย สัตว์บาป ไม่ดี คนอาจจะยอมรบั ได้ แตถ่ ้าบอก ดว้ ยเหตผุ ลยงั ไม่ไดว้ า่ ทาไม สัตวถ์ ึงพูดภาษา ว่า การฆา่ สตั ว์ ตายแลว้ จะทาให้ตกนรก คน คนได้ แต่ถ้าเราน้อมใจเชือ่ มนั่ ในสพั พญั ญตุ สว่ นมากจะไมเ่ ชอ่ื และยอมรบั เพราะมองไมเ่ หน็ ญาณของพระพทุ ธองค์ ค่อยคิดวา่ คาตอบ และพสิ ูจน์ไม่ได้ แม้บอกวา่ ผลกรรมจากการฆา่ ภายหลงั ยอ่ มค้นหาสารตั ถประโยชน์จากเรอ่ื งนี้ สตั ว์ เมอ่ื ตายแล้ว จะเกดิ มาถกู ฆา่ อกี ๕๐๐ ชาติ ได้อยา่ งมากมาย ยงิ่ ไมเ่ ชอื่ ใหญ่ และบอกว่า สัตวบ์ างตัวและบาง โอกาส สามารถพูดภาษาคนได้ กย็ งิ่ ไมเ่ ชือ่ หนกั ดังนัน้ สาหรบั กฎแห่งการฆ่า เมอื่ เราฆ่า เขา้ ไปอีก เพราะมองไมเ่ หน็ ความน่าจะเปน็ ไปได้ เขา ยอ่ มได้รบั การถูกฆ่าตอบ การให้ทานแกส่ ตั ว์ ในเรือ่ งนี้ ใครจะเชอ่ื หรอื ไม่ จะยอมรบั หรอื ไม่ ก็ เดรจั ฉาน ได้อานสิ งสผ์ ลบุญ ๕๐๐ หน่วยคอื อานิสงสน์ ้จี ะส่งผลภายใน ๕๐๐ ชาติ แมใ้ นทาง กลบั กัน การฆ่าสัตวต์ วั หนง่ึ มีแนวโนม้ เปน็ ไปได้
โรคกรรม ๙๐ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบียนสตั ว์ ทจ่ี ะถูกฆา่ ๕๐๐ ชาติเชน่ กัน เพราะฉะน้ัน การ ผลกรรมจากการฆา่ แพะ๑๐ ฆ่าสัตว์ เพอื่ จะนาอาหารมาเลี้ยงเพ่ือน หรอื เพือ่ อทุ ิศให้กบั ผู้ตาย ย่อมไมส่ ามารถปฏเิ สธผล อดีตชาติของพระนางมัลลิกาเทวี สะท้อนกลบั นไ้ี ด้ คือ หนีไมพ่ น้ จากกฎแหง่ กรรม ในคมั ภีรอ์ รรถกถา ขทุ ทกนกิ าย คาถา นแ้ี นน่ อน ไมว่ า่ จะอา้ งเหตุผลใดๆก็ตาม ถา้ ธรรมบท พาลวรรคที่ ๕ เร่ืองบรุ ษุ คนใดคน เปน็ ไปตามกฎน้ี การฆ่าสตั วเ์ พยี งตวั เดียว แล้ว หน่งึ ไดก้ ล่าวถึงผลกรรมจากการฆ่าตัดหวั แพะ ตอ้ งเกิดมาถูกเขาฆา่ อกี ๕๐๐ ชาติ ยอ่ มไมค่ ุ้ม เพยี งตวั เดียว หลังจากตายแลว้ ตอ้ งมาตกนรก กนั แนน่ อน แตส่ ิ่งหนึง่ ของผลกรรมจากการฆา่ อีกหลายร้อยปีและเศษกรรมทเ่ี หลอื ทาให้เกดิ และเบียดเบยี นสัตวท์ ท่ี กุ คนปฏเิ สธไม่ได้ คอื ใน มาเป็นสตั วแ์ ลว้ ถกู ฆา่ ตัดหวั อีกหลายร้อย ชาติ ผู้ ช่ัวชวี ิตน้ี จะทาให้เกิดโรคกรรมท่ลี กึ ลบั และ เปน็ บัณฑิตท้ังหลาย โปรดอ่านและพิจารณา รักษาให้หายขาดไดย้ าก เร่ืองนี้ให้ถ้วนถ่ี แลว้ จะเปน็ ว่ามีความน่าจะ เปน็ ไปไดอ้ ย่างไร เร่ืองมดี งั น้ี ไมฆ่ ่าสตั วต์ ัดชวี ติ .. ในอดตี กาล พระโอรสของพระเจ้า คือ อภยั ทานอนั ย่งิ ใหญ่ พาราณสไี ดไ้ ปบวงสรวงตอ่ เทพยดาฟ้าดนิ ณ โคนต้นไทรแหง่ หนง่ึ ว่า \"ข้าแตเ่ ทพยดาผ้เู ปน็ ใหญ่ ภกิ ษุทั้งหลาย ทาน ๕ ประการน้ี เปน็ มหาทาน ทีร่ ูก้ นั ในชมพทู วปี นี้ มพี ระราชา ๑๐๑ พร้อมทง้ั พระอคั ร ว่าล้าเลิศ รูก้ ันมานานรู้กนั ว่า เปน็ อริยวงศ์ เปน็ ของ มเหสีอีก๑๐๑ ถ้าข้าพเจา้ จะได้ราชสมบตั ิโดย เก่า ในอดตี ไม่ถกู ลบลา้ งแล้ว ไม่เคยถูกลบล้าง ใน กาลล่วงไปแหง่ บิดาไซร้ ขา้ พเจ้า จะทาพลีกรรม ปัจจุบัน ไมถ่ ูกลบล้าง ในอนาคตก็จักไม่ถกู ลบล้าง แดท่ า่ น ดว้ ยเลือดในลาคอของพระราชาและพระ ไม่ถูกสมณพราหมณผ์ รู้ คู้ ัดค้าน คือ อริยสาวกในธรรม อัครมเหสีเหล่านน้ั \" วนิ ัยน้ี เป็นผูล้ ะเวน้ ขาดจากการฆา่ สัตว์ ช่ือว่าให้ พระกมุ ารน้ัน เมอ่ื พระบดิ าสวรรคตแลว้ ความไมม่ ีภัย ให้ความไม่มเี วร ให้ความไมเ่ บียดเบียน ได้รับราชสมบตั ิ สมพระประสงค์ ทรงคิดว่า \"เรา แกส่ ัตว์ทั้งหลาย ไมม่ ปี ระมาณ ย่อมเป็นผู้มสี ว่ นแห่ง ไดร้ บั ราชสมบัตดิ ว้ ยอานุภาพของเทวดา เราจะ ความไมม่ ีภัย ความไมม่ เี วร ความไมเ่ บียดเบยี น อนั ทาพลกี รรมเส้นสรวงเทวดา\" จงึ เสดจ็ ออกไปด้วย ไมม่ ปี ระมาณ เสนาหมู่ใหญ่ ทาพระราชาทงั้ หลายให้อยใู่ น อานาจ ทรงพาไปพร้อมกับพระอัครมเหสี อภิสันทสตู ร ท้ังหลาย ยกเว้นพระเทวีพระนามวา่ ธมั มทนิ นา พระไตรปิฎก เลม่ ๒๓ อังคุตตรนกิ าย อัฏฐกนบิ าต (มจร.แปล) หนา้ ๒๙๙-๓๐๓ ๑๐ พระไตรปฎิ ก เลม่ ๒๕ ขทุ ทกนิกาย ธรรมบท (มจร.แปล) หน้า ๔๕, อรรถกถา ขทุ ทกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕ เรอื่ งบรุ ษุ คนใดคนหนึ่ง
โรคกรรม ๙๑ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ ผทู้ รงพระครรภแ์ ก่ ซงึ่ เปน็ พระอคั รมเหสขี อง ทาพลีดว้ ยโลหิตในลาพระศอของพระราชา พระราชาพระนามวา่ อคุ คเสน ซง่ึ เป็นพระราชา องคเ์ ล็กว่าพระราชาทงั้ หมด เสด็จไป ทรงดาริว่า เหล่านน้ั ’ แตไ่ ม่เอาพระเทวีของพระอคุ คเสนมา \"เราจะให้พระราชาท้งั หมดนี้ ดืม่ ยาพษิ ตาย\" จึง รับสั่งใหช้ าระโคนไม้ใหส้ ะอาดแลว้ ดว้ ย เราจะไม่รับพลีของคนโกหกเชน่ กับพระองค์ เทวดาคดิ วา่ \"พระราชาองคน์ ี้ จะไปจบั เมื่อท่านกลา่ วอย่างนี้ พระราชาจะให้นาพระเทวี พระราชามาท้ังหมดก็เพราะเรา ท้าวเธอทรงใคร่ จะเอาโลหิตในลาพระศอของพระราชาเหล่านน้ั น้นั มา พระเทวนี ้นั จะแสดงธรรมแกพ่ ระราชา มาทาพลกี รรมแกเ่ รา ถ้าพระราชาน้ี จะทรง สาเร็จโทษพระราชาเหล่านนั้ ไซร้ พระราชวงศ์ใน ใหช้ ีวิตแกค่ นเปน็ อนั มาก\" ท้าวสกั กะตรสั บอก ชมพูทวีป กจ็ ะสญู สิน้ แมโ้ คนไม้ของเรา ก็จะไม่ อุบายนี้ให้ และเทวดาไดก้ ระทาตามน้ัน สะอาด เราจะหา้ มพระราชาน้ันได้ไหมหนอ ? \" เทวดานั้นใครค่ รวญอยกู่ ร็ วู้ า่ \"ไมส่ ามารถจะ พระราชากร็ บั สงั่ ใหน้ าพระเทวีนน้ั มา ห้ามได้\" จงึ เขา้ ไปหาเทวดาองคอ์ น่ื เลา่ ความ เปน็ ไปทง้ั หมดใหฟ้ ัง แล้วถามวา่ \"ท่านสามารถ พระเทวนี นั้ มาถวายบังคมพระราชาผู้ หา้ มได้หรอื ไม่ ?\" เทวดานน้ั ถูกปฏเิ สธท้ังหมด จึงเขา้ ไปถามเทวดาทว่ั จักรวาล คือ เริ่มจาก สวามีของตนเท่าน้ัน ซง่ึ ประทบั นั่ง ณ ท่ีรมิ สุด เทวดาระดบั ธรรมดาก่อน แลว้ จงึ เข้าไปหาท้าว มหาราชทงั้ สี่ และท้าวสกั กะจอมเทพแหง่ สวรรค์ พระราชาเหล่านัน้ พระราชาทรงกริ้วพระเทวนี ้ัน ช้ันดาวดงึ ส์ ทุกองคล์ ้วนแตป่ ฏิเสธท้งั น้นั แต่ทา้ ว วา่ \"เมื่อเราดารงอยู่ในตาแหนง่ ใหญก่ ว่าใคร สกั กะไดต้ รสั บอกอุบายใหว้ ่า \"กลับไปเถิดทา่ น ท่านจงนุง่ ผา้ แดงทาใหพ้ ระราชามองเหน็ แล้ว ทง้ั หมด นางยังไหวส้ ามีของตน ซึ่งมีตาแหน่ง แสดงตัวเหมือนกบั จะหนอี อกไปจากต้นไม้ จะ ทาให้พระราชาดาริว่า \"เทวดาของเรากาลังไป น้อยกว่าพระราชาทัง้ ปวงได้\" พระเทวี เราจะให้เทวดาน้นั กลบั มา\" แลว้ จะอ้อนวอนด้วย ประการต่างๆ เมือ่ ไดโ้ อกาส พึงกล่าวกับ ทูลพระราชาน้ันว่า \"เรอ่ื งอะไรของหมอ่ มฉนั ที่ พระราชานั้นว่า ‘ทา่ นไดบ้ นบานต่อเราไว้ว่า จะ ต้องเกย่ี วขอ้ งในพระองค์เลา่ ? กพ็ ระราชา นาพระราชา ๑๐๑ กบั พระอคั รมเหสที ั้งหลายมา พระองคน์ ี้ เป็นสามผี ู้ให้ความเป็นใหญแ่ กห่ ม่อม ฉัน หม่อมฉนั ไมไ่ หวพ้ ระราชาพระองคน์ แ้ี ลว้ จะ ไหวพ้ ระองค์ เพราะเหตไุ ร\" เมอ่ื ผู้คนมองเหน็ รุกขเทวดากลา่ ววา่ \"พูดถกู แลว้ พระเทวผี ู้เจรญิ \" แลว้ เอาดอกไม้กา มอื หนง่ึ บูชาพระเทวนี ัน้ พระราชาตรัสอกี วา่ \"ถ้า เธอไมไ่ หว้เรา เพราะเหตุไร จงึ ไม่ไหวเ้ ทวดาของ เราผมู้ อี านุภาพมากอยา่ งน้ี ผใู้ ห้สริ ิแห่งความ เป็นพระราชาเล่า?\" พระเทวที ลู วา่ \"ข้าแต่มหาราช เพราะ พระองค์ทรงต้ังอยูใ่ นบุญของพระองค์ จงึ จบั พระราชาท้งั หลายได้ ไมใ่ ช่เทวดาจับถวาย\"
โรคกรรม ๙๒ ผลกรรมจากการฆา่ และเบียดเบยี นสตั ว์ เทวดากลา่ วกบั พระเทวอี กี วา่ \"พูดถูกแล้ว พระ จากเศษผลแห่งกรรม ได้ถูกตัดศรี ษะหลายครง้ั เทว\"ี แล้วบูชาเหมอื นอยา่ งน้ัน พระเทวนี ั้นทลู อกี เท่ากับการนับขนแมแ่ พะ พระองค์ ฆา่ คน ว่า \"พระองค์ตรัสวา่ 'พระราชาเหลา่ นี้ เทวดา ขนาดนี้ แล้วอีกนานเทา่ ไหรจ่ ะพน้ จากทกุ ข์ จับให้เรา' ถ้าเทวดามอี านุภาพมากอย่างนนั้ หม่อมฉันนกึ ถงึ ทุกข์อนั ใหญ่ของพระองคจ์ ึง จริง ตอนนี้ ต้นไม้ถูกไฟไหม้ ณ เบ้อื งซา้ ย รอ้ งไห้\" แลว้ ตรสั เปน็ พระคาถาว่า ขา้ งบนเทวดา เพราะเหตุไร เทวดา จึงไมด่ ับไฟ เอาเองหละ ? \" หมอ่ มฉันตดั คอแม่แพะตวั เดยี ว ไหม้อยแู่ ล้วในนรกดว้ ยการนบั ขนแพะ เทวดากล่าวว่า \"ถูกต้องแล้ว พระเทว\"ี แลว้ บชู าเหมอื นอยา่ งน้นั พระเทวยี ืนตรสั อยู่ ขา้ แตพ่ ระองค์ผู้เปน็ กษตั ริย์ ทั้งทรงพระกนั แสงทั้งทรงพระสรวล พระราชา พระองค์ตัดคอของมนษุ ยเ์ ปน็ อันมาก ตรัสวา่ \"เธอเปน็ บา้ หรอื \" จะกระทาอย่างไร ? พระเทวี : ขอเดชะ เพราะเหตุไร พระองคจ์ งึ ตรัสอย่างนน้ั หญิงทั้งหลายผเู้ ช่น พระราชา: แล้วเธอหวั เราะ เพราะเหตใุ ด ? หมอ่ มฉัน ไมใ่ ช่เปน็ บ้า พระเทวี : ขา้ แต่มหาราช หม่อมฉนั เกดิ ความดีใจวา่ ‘เราพน้ จากทกุ ข์นัน้ แลว้ ’ จึง พระราชา : แลว้ ทาไม เธอจึงรอ้ งไห้ หัวเราะ เทวดากลา่ วกบั พระเทวอี ีกว่า \"พูดถูก และหวั เราะ? แลว้ พระเทวี\" แล้วบูชาดว้ ยดอกไมก้ ามือหนึง่ พระราชาดาริว่า \"นา่ สลดใจเสยี จริง ! เราทา ผลกรรมจากการฆ่าแพะเลย้ี งแขก กรรมหนักเสยี แลว้ พระเทวีเพียงฆ่าแม่แพะตัว พระเทวี ทลู วา่ \"ขอพระองค์จงสดบั เถิด เดียว ตายไปหมกไหม้ในนรก และเพยี งแคเ่ ศษ มหาราช ดฉิ นั ระลกึ ชาตไิ ดว้ ่า ในอดตี กาล ตอน กรรม ตอ้ งมาถูกตัดศรี ษะอกี หลายร้อยครัง้ สมัยท่ีหมอ่ มฉนั เปน็ สาวกาลงั อยใู่ นตระกลู สามี เทา่ กบั นบั ขนแมแ่ พะอกี เราฆา่ คนมากมาย เม่ือสหายของสามมี าเยย่ี ม จะตอ้ งต้อนรับเล้ียง อย่างนี้ จะถึงความสวสั ดีไดเ้ ม่ือไหร่?\" ไดป้ ลอ่ ย พระราชาท้งั หมด ถวายบังคมพระราชาผ้แู ก่กวา่ อาหาร จงึ ส่ังใหค้ นใช้ไปซ้อื เนือ้ ว่า ‘เจา้ จงไปซอ้ื ตน ทรงประคองอัญชลแี กพ่ ระราชาทหี่ นมุ่ กวา่ ให้พระราชาทง้ั หมดยกโทษให้ แลว้ ทรงสง่ กลับ เน้อื มา’ แตค่ นใชห้ าซ้ือเน้อื ไมไ่ ด้ บอกว่า ‘เนื้อ ไปตามทีเ่ ดิม ไม่ม’ี จงึ ตอ้ งฆา่ ตดั คอแพะที่นอนอยู่ข้างหลงั เรอื น เพอื่ นาเน้ือมาปรงุ เป็นอาหารเลย้ี งแขก หมอ่ มฉนั ไดฆ้ ่าตัดคอแมแ่ พะเพยี งตัวเดยี ว แต่ หลังจากตายแลว้ ตอ้ งมาหมกไหมใ้ นนรก และ
โรคกรรม ๙๓ ผลกรรมจากการฆา่ และเบยี ดเบียนสตั ว์ พระศาสดาไดส้ รุปเรื่องในอดตี ชาตขิ องพระนาง ฆา่ สัตว์น้ันตายตกนรก มัลลิกาว่า พราหมณ์ช่ือวา่ ชาณสุ โสณิ ได้ทลู ถาม พระเจ้าพาราณสี ในกาลนน้ั ได้เกดิ พระผ้มู พี ระภาควา่ “ทา่ นพระโคดม เช่ือว่าทาน มาเป็นพระเจา้ ปเสนทโิ กศล น้ีต้องสาเรจ็ แก่ญาติสาโลหติ ผู้ลว่ งลับไปแล้ว ขอญาติสาโลหติ ผลู้ ่วงลบั ไปแลว้ จงบรโิ ภค พระนางธัมมทนิ นาเทวี มาเกิดเปน็ พระ ทานน้ี ท่านพระโคดม ทานนั้น ย่อมสาเร็จแก่ นางมัลลกิ า ส่วนรกุ ขเทวดา คือ เราเอง ญาติสาโลหติ ผลู้ ่วงลับไปแล้วบ้างหรือ ญาติ สาโลหติ ผลู้ ว่ งลบั ไปแล้วเหลา่ นน้ั จะได้บริโภค สัมมาทฐิ กิ ับเมลด็ พันธทุ์ ดี่ ี ทานนั้นบา้ งหรอื ” กายกรรม...วจกี รรม...มโนกรรมท่ถี อื ปฏิบตั ใิ ห้ พระผู้มพี ระภาคตรัสตอบวา่ บริบรู ณ์ตามสมควรแกท่ ฏิ ฐิ เจตนา ความ “พราหมณ์ ทานนั้นยอ่ มสาเรจ็ ในเมอื่ มโี อกาส ปรารถนา ความตั้งใจ และสังขารทง้ั หลายของ อันเหมาะสมเทา่ นน้ั ไมส่ าเร็จในเมอื่ โอกาสไม่ บคุ คลผเู้ ปน็ สมั มาทิฏฐิ ธรรมทงั้ หมดนัน้ ย่อม เหมาะสม” เปน็ ไปเพอ่ื ผลอนั นา่ ปรารถนา นา่ ใคร่ น่า พอใจเกอื้ กลู เป็นสุข ข้อน้นั เพราะเหตุไร ชาณุสโสณิพราหมณ์ทูลถามว่า “ทา่ น เพราะความเห็นดี...เปรยี บเหมอื นพันธอุ์ อ้ ย พระโคดม โอกาสอันเหมาะสมเป็นอยา่ งไร พนั ธข์ุ ้าวสาลี หรอื เมล็ดจันทนท์ ่ีบคุ คลเพาะไว้ และโอกาสอนั ไมเ่ หมาะสมเป็นอย่างไร” ในดินชมุ่ ช้ืน รสดินและรสน้าทม่ี ันดดู ซับเอาไว้ ทัง้ หมด ย่อมเปน็ ไปเพ่ือความเปน็ ของหวาน พระผู้มีพระภาคตรสั ตอบวา่ น่าอร่อย นา่ ชืน่ ใจ ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะ “พราหมณ์ บุคคลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผูฆ้ ่า พันธุ์ออ้ ย เป็นต้นนน้ั ดี ฉะน้ัน สัตว์ลกั ทรัพย์... หลังจากตายแลว้ เขายอ่ มไป เกิดในนรก เลีย้ งอัตภาพในนรกนน้ั ดารงอยใู่ น พระไตรปิฎก เล่ม ๒๐ นรกนั้นด้วยอาหารของสัตวน์ รก(กรรมทีส่ ตั ว์ องั คุตตรนกิ าย เอกกนบิ าต เสวยในนรกนั้น)พราหมณ์ ภมู ิท่ที านไมส่ าเรจ็ เอกธมั มบาลี (มจร.แปล)หน้า ๓๙ แกส่ ตั ว์ผูด้ ารงอยู่ นแ้ี ลเป็นโอกาสอนั ไม่ เหมาะสม ชาณสุ โสณสี ตู ร พระไตรปิฎก เล่ม ๒๔ องั คุตตรนกิ าย ทสกนิบาต (มจร.แปล) หนา้ ๓๒๕ -๓๒๙
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137