อยู่ด้านขวา เม่อื ลากเสร็จวงกลมจะหายไป แล้วจะปรากฏขึ้นใหม่ ท่ีด้านซ้าย สิ่งที่ทุกคนต้องท�ำก็คือ ลากวงกลมให้เข้าไปในกรอบ สเี่ หลี่ยมให้มากทีส่ ุดภายในเวลาห้านาที กลมุ่ แรกไดร้ บั เงนิ หา้ ดอลลารท์ นั ทที เ่ี ขา้ หอ้ งทดลอง กลมุ่ ทส่ี อง ไดแ้ ค่ ๕๐ เซ็นต์ ส่วนกลมุ่ ที่สามถกู ขอร้องใหม้ าช่วยท�ำกจิ กรรม น้ี โดยไม่มีการพดู ถึงเร่ืองเงนิ เลย ผลท่เี กดิ ข้ึนกค็ อื กลุ่มแรกลาก วงกลมได้เฉลีย่ ๑๕๙ วง ส่วนกลมุ่ ทีส่ องลากได้แค่ ๑๐๑ วงโดย เฉลีย่ ไม่น่าแปลกใจท่ีผลออกมาเปน็ เชน่ นนั้ เพราะกลุ่มท่สี องได้ ผลตอบแทนเลก็ น้อยมาก แล้วกลุ่มทส่ี ามละ่ ปรากฏว่าทั้งๆ ท่ที �ำ ฟรแี ต่ผลงานกลับออกมาดที ีส่ ดุ คอื ลากวงกลมได้ ๑๖๘ วงโดย เฉล่ยี กลมุ่ ทสี่ ามตง้ั ใจทำ� เพราะเขาถกู ชวนใหใ้ ชบ้ รรทดั ฐานทางสงั คม ขณะท่กี ล่มุ ทส่ี องไม่ต้งั ใจท�ำเพราะถกู กระต้นุ ให้ใชบ้ รรทัดฐานทาง ตลาด จึงรู้สกึ ว่า “ไมค่ มุ้ ” ท่ีจะขยนั ขนั แขง็ ดว้ ยเงนิ เพยี งแค่ ๕๐ เซน็ ต์เท่าน้นั พูดอกี อย่างกค็ อื คนเรามที ้งั คณุ ธรรมและความเหน็ แกไ่ ด้ ถ้า ถกู ขอรอ้ งไหว้วานกนั คุณธรรมกจ็ ะออกมาน�ำหน้า จงึ พรอ้ มท่ีจะ 51
ชว่ ยเหลอื ท้ังๆ ทีไ่ ม่ได้อะไร แตถ่ ้าว่าจา้ งกนั ความเหน็ แกไ่ ด้ ก็จะ เป็นใหญ่ จะขยันหรอื ไมก่ ็ขน้ึ อยกู่ บั วา่ ได้มากหรอื ไดน้ ้อย ถ้าได้ นอ้ ยกท็ ำ� อย่างขอไปที การชกั ชวนให้คนทำ� ความดี ขยนั เสยี สละ ไมใ่ ชเ่ ร่อื งยาก อยู่ ทีว่ า่ เราดึงเอาคณุ สมบตั ิสว่ นใดของเขาออกมา หรือโนม้ นา้ วใหเ้ ขา ใช้บรรทัดฐานประเภทใด น่าเสียดายที่ทุกวันนี้เราถนัดแต่การ กระตุ้นความเห็นแก่ได้ หรือกระตุ้นให้ใช้บรรทัดฐานทางตลาด ผู้คนจึงคิดแต่เรื่องก�ำไร-ขาดทุน หรือ คุ้ม-ไม่คุ้มชนิดท่ีวัดด้วย เงินตรา ความเอ้ือเฟื้อเก้ือกูล รวมทั้งความขยันหมั่นเพียร และ ความซื่อสตั ย์สจุ ริต จึงเจือจางลง 52
ความสขุ กลางใจ ใครๆ ยอ่ มปรารถนาความสุข ทำ� ทกุ อยา่ งเพือ่ หาความสุขมา เปน็ ของตน แตส่ ว่ นใหญแ่ ลว้ มกั คดิ วา่ สงิ่ ทจี่ ะใหค้ วามสขุ นน้ั อยนู่ อก ตัว และต้องมีให้ได้มากๆ ย่ิงหามาได้มากเท่าไร ก็ย่ิงมีความสุข มากเท่านั้น ดังนั้นจึงพยายามดิ้นรนไขว่คว้าหาเข้าตัวอย่างเต็มท่ี โดยหารู้ไมว่ า่ แทจ้ ริงแลว้ ความสุขน้นั อยู่ทีใ่ จ หากแต่ถูกบดบงั ด้วย ความทะยานอยากและความหลง ต่อเม่ือคลายจากความทะยาน อยากและมสี ตริ ตู้ วั กจ็ ะพบกบั ความสงบเยน็ และโปรง่ เบาในใจ ถงึ ตอนน้ันจึงจะพบว่าความสุขนั้นอยู่กับตัวเรามาตลอด เป็นแต่เรา มองไม่เห็น ความสุขนั้นหาได้ท่ีกลางใจ ขอเพียงแต่มเี วลาอยกู่ บั ตวั เองให้ มากจนเปน็ มติ รกบั ตวั เอง ไมม่ วั แตช่ ะเงอ้ มองไปนอกตวั หรอื จดจอ่ อยู่กับสิ่งท่ีตนเองยังไม่มี ถ้าไม่ลืมตัว ปล่อยจิตให้หลงอยู่ในโลก 53
แหง่ ความคดิ หรอื จมอยกู่ บั อดตี และอนาคต กจ็ ะพบความสขุ กลาง ใจไดไ้ มย่ าก อันทจี่ ริงเพียงแคพ่ อใจสงิ่ ทม่ี ี ยนิ ดีส่ิงทไี่ ด้ ความสขุ ก็ จะปรากฏแกเ่ ราในทนั ที 54
55
56
นายหรือทาสความคิด ขณะทเ่ี ขานั่งรถประจ�ำทางระหว่างอ�ำเภอ ไดร้ จู้ กั กบั หญงิ สาว คนหนงึ่ คะเนแลว้ อายุคงไม่ถึง ๒๐ สนทนากนั จนคนุ้ เคย เธอก็ เลา่ ว่ามอี าชีพเป็น “โคโยต้”ี พอได้ยินคำ� นี้ เขาก็รูส้ ึกลบตอ่ เธอขึ้น มาทนั ที ในใจนนั้ นกึ เหน็ ภาพโคโยตน้ี งุ่ นอ้ ยหม่ นอ้ ย เตน้ ยวั่ ยวนบน เวทีในงานวดั อยา่ งไรกต็ าม เขาก็ยังคุยกบั เธอต่อไป ชว่ งหน่ึงเขา ถามเธอว่า ก�ำลังจะไปไหน เธอตอบว่าจะกลับบ้านไปเกี่ยวข้าว เพราะพอ่ แมไ่ มม่ คี นชว่ ยเลย ความรู้สึกของเขาต่อเธอเปล่ียนไปทันที ชายหนุ่มหญิงสาว เวลาน้ีมีก่ีคนท่ีแม้มีชีวิตสุขสบายในเมืองแต่พร้อมจะเอาหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดินเพื่อช่วยพ่อแม่ในทุ่งนา ประโยคต่อมาของเธอท�ำให้เขา รู้สึกละอายใจท่ีนึกต�ำหนิเธอก่อนหน้านี้ “หนูไปเป็นโคโยตี้เพื่อ หาเงนิ มาให้พ่อแม่ เพราะไมร่ ้วู า่ จะไปท�ำอาชีพอะไร” 57
หากไมไ่ ดค้ ยุ กนั ให้มากกว่าน้ี เขาคงเขา้ ใจเธอผิด หลงคดิ วา่ เธอเปน็ ผหู้ ญิง “ไม่ด”ี เพยี งเพราะได้ยินค�ำวา่ “โคโยตี”้ หมอผหู้ นง่ึ เลา่ วา่ เคยมคี นไขเ้ ปน็ เดก็ อายไุ มก่ ข่ี วบ เขาไดก้ ำ� ชบั กับพ่อเด็กว่าเวลาหมอขึ้นเวรเช้าเพ่ือตรวจคนไข้ พอ่ ตอ้ งอยู่กับลูก ด้วย หมอจะได้สอบถามอาการลูก รวมท้ังให้ค�ำแนะน�ำพ่อว่าจะ ต้องดแู ลลกู อย่างไรบา้ ง เพราะพยาบาลมงี านลน้ มอื ผ่านไปเกอื บ อาทิตย์ เช้าวันหน่ึงหมอขึ้นไปตรวจคนไข้ ไม่เห็นพ่อเด็กเหมือน เคย ก็ไม่พอใจ วันต่อมา พอ่ กห็ ายตวั ไปอีก เขาร้สู กึ โกรธขน้ึ มา ทนั ที ตอนเย็นเขาเห็นพ่อเดก็ อยขู่ ้างเตยี งลูก จึงเดนิ ไปต่อว่า ตอน เชา้ คณุ หายหวั ไปไหน ทำ� ไมไมใ่ สใ่ จลกู เปน็ พอ่ ประสาอะไร รไู้ มใ่ ช่ หรือว่าลูกป่วยหนัก พอ่ เดก็ พนมมอื ขอโทษขอโพยหมอ พรอ้ มกบั บอกวา่ สองสาม วนั มาน้ีเขาไมม่ เี งนิ กนิ ขา้ วเลย ที่เตรยี มมาไมก่ ่ีสิบบาทก็หมดแลว้ ตอนเชา้ จงึ ตอ้ งไปขอกินข้าววดั ขา้ งๆ โรงพยาบาล กว่าจะไดก้ ินก็ ตอ้ งรอพระฉนั เสรจ็ กอ่ น กนิ ขา้ วเสรจ็ แลว้ กต็ อ้ งลา้ งถว้ ยลา้ งชามให้ วัด กวา่ จะเสร็จก็สายแลว้ เลยไมท่ นั เจอคณุ หมอ หมอไดฟ้ งั เชน่ นน้ั กห็ ายโกรธ รสู้ กึ ผดิ ขนึ้ มาทนั ทที ต่ี อ่ วา่ พอ่ เดก็ 58
เพราะคิดว่าเขาเถลไถล ไม่รบั ผดิ ชอบ ไม่เคยนึกมากอ่ นเลยวา่ เขา จะล�ำบากยากจนถึงเพยี งน้ี เม่ือไดย้ นิ หรอื เห็นอะไร เรามกั คิดหรอื ขยายความเกนิ กว่าสิง่ ทร่ี บั รอู้ ยู่ตอ่ หน้า บ่อยครัง้ กน็ กึ คิดในทางลบ เทา่ น้นั ไม่พอ ยังเชอ่ื หรือสำ� คัญมั่นหมายว่าความคิดเหล่านั้นเป็นความจริงอีกด้วย ส่ิง ท่ีตามมาก็คือความไม่พอใจ หรือถึงขั้นโกรธเกลียด น�ำไปสู่การ ทำ� ร้ายกนั ดว้ ยค�ำพูดหรือท�ำส่ิงท่เี ลวร้ายกว่าน้นั จะวา่ ไปแล้ว ปญั หาไมไ่ ดอ้ ยู่ทก่ี ารคิดเกนิ กว่าส่งิ ท่รี ับรู้ แต่อยู่ ทก่ี ารดว่ นสรปุ หรอื หลงเชอ่ื ความคดิ นน้ั ขนื ทำ� เชน่ นน้ั เรายอ่ มกลาย เป็นทาสความคิดได้ง่ายๆ คนที่เป็นนายความคิดคือ คนที่รู้จัก ทักท้วงความคิดท่ีเกดิ ขึน้ ในใจตน นอกจากไมด่ ่วนสรปุ แล้ว ยังไม่ หลงเชื่อหรือท�ำตามมันงา่ ยๆ เคยมชี ายผหู้ นง่ึ ถกู พช่ี ายพามาบวชกบั หลวงพอ่ คำ� เขยี น สวุ ณั โณ ทช่ี ยั ภมู ิ ท่านจงึ สอนให้เขาทำ� สมาธิภาวนาต้งั แต่วันแรก อยู่ว่างๆ กใ็ หเ้ ดนิ จงกรม ผ่านไปแค่ ๒-๓ วัน เขากม็ าขอสึก ใหเ้ หตุผลว่า ไมไ่ ดม้ าบวชเพอื่ มาเดนิ จงกรม แตม่ าบวชเพราะพช่ี ายขอรอ้ ง ตอน นเ้ี ขาไม่อยากอยู่แลว้ แต่หลวงพอ่ ไมย่ อมสกึ ให้ บอกใหเ้ ขากลบั ไป 59
เดินจงกรม เขาหายไปไม่ถึงช่ัวโมงก็กลับมาขอสึกอีก หลวงพ่อ ปฏิเสธเช่นเคย ให้เขากลับไปเดินจงกรม พักใหญเ่ ขากก็ ลบั มาขอ สกึ อีก คราวนหี้ ลวงพ่อจงึ ถามว่า “อะไรพาให้คุณมาหาผม?” “ความ คิดครบั ” เขาตอบ ทา่ นจึงย้อนกลบั ไปวา่ “มนั คิดแลว้ ต้องทำ� ตาม ความคิดทุกอย่างหรือ? ถ้าคุณท�ำตามความคิดทุกอย่าง ไม่แย่ หรือ?” เขาไม่พอใจกับค�ำตอบ แต่เม่ือรู้ว่าสึกไม่ได้แน่ ก็เดินหายไป รุ่งเช้าทันทีท่ีเห็นหลวงพ่อ เขาก็เข้ามากราบท่านอย่างนอบน้อม ขอบคุณหลวงพ่อเป็นการใหญ่ แล้วบอกว่า หากหลวงพ่อยอมให้ เขาสกึ เขาตอ้ งกลายเปน็ ฆาตกรแน่ เพราะเขาตง้ั ใจจะไปฆา่ ภรรยา กับชู้ให้หายแค้น แต่เม่ือหลวงพ่อทักท้วงเขา เขาจึงได้สติ และ เปลี่ยนใจไม่สกึ ความคดิ นน้ั มปี ระโยชนห์ ากเราเปน็ ฝา่ ยใชม้ นั แตถ่ า้ มนั ใชเ้ รา เมอ่ื ไร กว็ ุ่นวายหรือหายนะไดเ้ ม่อื นนั้ 60
ชวี ติ ทงี่ ดงาม ความสขุ นน้ั เปน็ เรอื่ งงา่ ยเพราะอยใู่ กลต้ วั เรา อกี ทงั้ ยงั มอี ยกู่ บั เราแล้วทุกขณะ เราเองต่างหากท่ีท�ำให้ความสุขเป็นเรื่องยาก เพราะมวั แตใ่ ชช้ วี ิตอยา่ งซับซอ้ นต้งั แต่การกนิ การแต่งกาย การ พักผ่อน การคบเพือ่ น ไปจนถึงการนอน เราทำ� ให้ชีวิตพะรุงพะรัง ไปดว้ ยวตั ถสุ งิ่ เสพ รมุ่ รา่ มดว้ ยเกยี รตยิ ศ และพนู พอกดว้ ยพธิ รี ตี อง ทง้ั ๆ ทค่ี วามเรยี บงา่ ยสามารถใหค้ วามสขุ สงบเยน็ แกเ่ ราได้ แตเ่ รา กลบั มองข้ามไป ความสุขยังแยกไม่ออกจากความงดงาม คนเราไม่ได้มีความ สุขเพียงเพราะอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามเท่านั้น ที่ส�ำคัญกว่า น้ันคอื การมีจติ ใจที่งดงาม เอ้ืออาทรต่อผู้อ่ืน ชวี ิตทอ่ี ุทศิ ตนเพือ่ ผู้ อนื่ นน้ั เปน็ ความงดงามทน่ี ำ� ความสขุ อยา่ งลกึ ซง้ึ มาใหแ้ กต่ นเอง นี้ เปน็ บอ่ เกดิ แหง่ ความสขุ อีกประการหนึ่งท่ีถูกละเลยไป 61
ชีวิตท่ีเรียบง่ายนั้นมักเป็นชีวิตท่ีงดงาม เพราะนึกถึงตนเอง นอ้ ย แตค่ ำ� นงึ ถงึ ผอู้ น่ื มาก เปน็ ชวี ติ เปย่ี มดว้ ยนำ�้ ใจ ปรารถนาดตี อ่ ผู้อ่ืนอยู่เสมอ รางวัลแห่งความง่ายและงามก็คือความสุข ท่ีไม่ว่า รวยหรอื จน ชายหรอื หญงิ หนมุ่ หรอื แก่ กส็ ามารถสมั ผสั ได้ เพราะ เปน็ ความสุขทส่ี ากล 62
63
64
ใชส้ มอง อยา่ ลมื หัวใจ “กุ้ง” เป็นกรรมการมูลนิธิแห่งหนึ่งซ่ึงก่อตั้งได้ไม่นาน จึง ต้องการความสนับสนุนและก�ำลังความคิดจากผู้คนเป็นอันมาก คราวหนง่ึ มกี ารประชมุ ในหมผู่ ู้สนบั สนุนมลู นิธิ ผู้ใหญ่ทา่ นหนึ่งได้ กลา่ ววพิ ากษว์ จิ ารณก์ รรมการมลู นธิ อิ ยา่ งยดื ยาว เพราะไมพ่ อใจที่ ขอ้ เสนอหลายอยา่ งของเขาไมม่ ใี ครน�ำไปปฏบิ ัติ ท้งั ๆ ที่เขาใช้เวลา ครุ่นคิดกับมันอยา่ งมาก กุ้งเห็นว่าเขามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนหลายประการ จึงขอ ชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งบอกเล่าถึงข้อจ�ำกัดหลายอย่างท่ีท�ำให้ไม่ สามารถน�ำขอ้ เสนอของเขาไปปฏบิ ตั ิได้ แต่ค�ำชี้แจงของเธอ กลบั ท�ำใหเ้ ขาขุ่นเคืองมากขนึ้ และตอบโต้หนักกวา่ เดิม กุ้งได้ยินเช่นนั้น ก็อยากอธบิ ายเพ่ิมเตมิ แต่ “การญุ ” ซง่ึ เป็น 65
กรรมการอาวุโส สะกิดเธอให้น่ิงเงียบ แล้วพูดกับบุคคลผู้นั้นว่า “ผมรับทราบและรู้สึกขอบคุณที่คุณมีความปรารถนาดีต่อมูลนิธิ ขณะเดยี วกันก็เข้าใจความรสู้ ึกของคุณดว้ ย คุณรสู้ กึ เสยี ใจทีค่ วาม ต้ังใจดีของคุณไม่ถูกน�ำไปปฏิบัติ แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าเรามีข้อ จ�ำกัด ท�ำให้ไมส่ ามารถทำ� ตามขอ้ เสนอของคุณได้ อนั นี้เปน็ ความ ผิดพลาดของพวกเราเอง ผมต้องขออภยั กบั ส่ิงทเี่ กดิ ขนึ้ ด้วย” การญุ พดู จบ อาสาสมคั รผนู้ น้ั กม็ อี าการสงบลงอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั บรรยากาศท่ีมึนตงึ ผ่อนคลายไปทนั ที เหตุการณด์ ังกลา่ วท�ำใหก้ ้งุ รู้ว่า สิ่งทอี่ าสาสมคั รผู้น้ันตอ้ งการ ไม่ใช่เหตุผลหรือค�ำช้ีแจง เขาเพียงแต่ต้องการให้กรรมการมูลนิธิ รับรู้วา่ เขาร้สู กึ อย่างไรกบั ส่งิ ทเี่ กดิ ขึ้น ตราบใดทก่ี รรมการยงั ไมร่ ับ รู้ความทุกข์ของเขา เขาก็ยังไม่เลิกรา แม้ว่าค�ำช้ีแจงของเธอจะมี เหตผุ ลหรอื ถกู ตอ้ งเพียงใดกต็ าม เธอได้บทเรียนวา่ กรณีแบบน้ี สงิ่ ส�ำคัญมไิ ดอ้ ยทู่ ่ีเหตุผลหรอื ความถูกต้อง แต่อยู่ท่ีการเปิดใจรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของเขา ความขัดแยง้ จะไมค่ ลคี่ ลายเลยหากเธอไดย้ นิ แตค่ �ำพดู ของเขา แต่ ไมร่ บั รู้ความรู้สกึ ของเขา 66
เม่ือมีความขัดแย้งเกิดขึ้น อารมณ์เป็นส่ิงส�ำคัญท่ีมองข้าม มไิ ด้ มนั อยเู่ บอื้ งหลงั คำ� พดู และเหตผุ ลตา่ งๆ ทพ่ี รงั่ พรอู อกมา ผคู้ น สว่ นใหญม่ กั สนใจแตค่ ำ� พดู และเหตผุ ลทอ่ี กี ฝา่ ยเอย่ อา้ ง แตก่ ารรบั รู้เพียงเท่าน้ันก็ไม่ต่างจากการเห็นแค่ยอดของภูเขาน�้ำแข็ง ซ่ึงนับ ว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับก้อนมหึมาท่ีอยู่ใต้น�้ำ เมื่อรับรู้ความ จรงิ ไมค่ รบถ้วนก็ยากทจ่ี ะแก้ไขความขดั แยง้ ให้ถกู จุดได้ ความคดิ หรอื “สมอง” นัน้ รบั รไู้ ด้แตส่ ่วนทเี่ ป็นเหตผุ ลหรือขอ้ เทจ็ จรงิ แตไ่ มส่ ามารถรบั รู้อารมณ์ของอีกฝ่ายได้ เราจะรับรูค้ วาม จริงอยา่ งครบถ้วนได้จ�ำตอ้ งใช้ “หวั ใจ” ดว้ ยเพ่อื รับรอู้ ารมณข์ องคู่ กรณี อารมณ์ท่วี ่าไม่ได้มีแคค่ วามโกรธ ความไม่พอใจเท่านั้น ที่ สำ� คญั กว่านั้นกค็ อื ความทุกข์ ความเจบ็ ปวด เพยี งรับรูว้ า่ เขาโกรธ เท่านัน้ ยังไมพ่ อ หลายคนพอรวู้ ่าอกี ฝา่ ยโกรธ ความรู้สกึ ไมพ่ อใจ กเ็ กิดขน้ึ เป็นปฏกิ ริ ยิ าตอบโต้ แตเ่ ราควรรับร้ใู ห้ลึกไปกว่านนั้ คอื รบั รคู้ วามทุกขห์ รอื ความเจบ็ ปวดของเขา การรับร้ดู ังกล่าวจะช่วย ใหเ้ ราเห็นใจเขาและปรารถนาจะชว่ ยบรรเทาความทุกข์ของเขา แตก่ ารรบั รคู้ วามทกุ ขข์ องอกี ฝา่ ยเปน็ เรอื่ งยากหากเราวา้ วนุ่ ขนุ่ มัวหรือคิดแต่จะหาเหตุผลมาชี้แจง สาละวนอยู่กับการสรรหาค�ำ พูดมาตอบโต้เขา ต่อเมื่อเราท�ำใจให้ว่างเท่านั้น จึงจะสัมผัสรับรู้ 67
ความเจบ็ ปวดของเขาไดช้ ดั เจน เวลาขัดแย้งกันถึงข้ันมีปากมีเสียงกัน เราไม่ควรค�ำนึงแต่ เหตุผลหรือยึดติดกับความถูก-ผิดมากนัก เพราะถึงแม้เราจะเอา เหตุผลหรือหลักฐานมายืนยันว่าเราเป็นฝ่ายถูก ก็ใช่ว่าความขัด แยง้ จะคลี่คลายไปได้ จะมปี ระโยชน์อะไรหากเราเป็นฝา่ ยถูก แต่ อกี ฝา่ ยยงั รสู้ กึ เจบ็ ปวดและแคน้ เคอื ง ถา้ อกี ฝา่ ยไมใ่ ชใ่ ครทไ่ี หน แต่ เปน็ คนทเ่ี รารกั หรอื ใกลช้ ดิ เรา ผลเสยี ยอ่ มตามมาอกี มากมาย ทง้ั นี้ ยงั ไม่ตอ้ งพูดถงึ การใชเ้ หตุผลในการกลา่ วหาโจมตอี กี ฝา่ ยวา่ เป็นผู้ ผดิ ซ่งึ ย่ิงเท่ากับสร้างความเจบ็ แคน้ แก่กันและกนั ใหม้ ากข้นึ น.พ.ประเสรฐิ ผลติ ผลการพมิ พ์ เคยใหข้ อ้ คดิ ไวว้ า่ “เวลาสามี ภรรยาทะเลาะกัน อย่าใช้เหตุผลเป็นอันขาด ให้ใช้อารมณ์ วาง เหตุผลลงให้ได้ ปล่อยใหอ้ ารมณล์ อยขน้ึ มา อารมณร์ กั ทเ่ี คยมตี อ่ กันในอดตี จะเขา้ มาแกป้ ัญหาใหเ้ อง” มใิ ชแ่ ต่สามภี รรยาเทา่ นั้น กบั เพ่ือนร่วมงานหรอื มติ รสหาย ก็ ควรท�ำเช่นเดียวกัน แต่หากว่ายังไม่ถึงข้ันทะเลาะกัน แม้จะใช้ เหตผุ ล กอ็ ยา่ ลืมใช้อารมณด์ ้วย กล่าวอกี นัยหน่งึ คอื ใชท้ ้ังสมอง และหวั ใจควบคู่กนั 68
ความรู้สู่ความสุข ความสขุ กบั การเรยี นรนู้ น้ั มใิ ชส่ งิ่ ทแ่ี ยกขาดจากกนั ทจี่ รงิ แลว้ เปน็ สง่ิ เกื้อกลู กนั มาก การเรยี นรู้น้นั สามารถท�ำใหเ้ กิดความสขุ ได้ โดยเฉพาะเมอ่ื มใี จใฝร่ ู้ ขณะเดยี วกนั ความสขุ กเ็ ออื้ ใหเ้ กดิ การเรยี น รไู้ ดม้ าก ยง่ิ มใี จผอ่ งใสโปรง่ เบากส็ ามารถใชค้ วามคดิ ไดด้ ี เรอื่ งยาก ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายข้นึ ความสุขน้ันมหี ลายประเภท เกดิ ขนึ้ ไดห้ ลายทาง การเรยี นรู้ ก็เช่นกันสามารถเกิดขึ้นได้หลายวิธี มิได้จ�ำกัดแต่เฉพาะใน หอ้ งเรยี นเทา่ นน้ั แตส่ ามารถเกดิ ขน้ึ ไดท้ กุ หนแหง่ และจากกจิ กรรม ทุกชนิด กล่าวได้ว่าโลกน้ีเป็นห้องเรียนท่ีสามารถเรียนรู้ได้ ไม่จบส้ิน และหากเรียนอย่างมีจุดมุ่งหมายและใช้ความคิดอย่าง ถกู วิธี กส็ ามารถใหค้ วามสุขแกเ่ รา ช่วยให้ชวี ิตมีคุณคา่ สามารถ พัฒนาตนและเปน็ ประโยชน์ต่อส่วนรวมได้อยา่ งไม่มปี ระมาณ 69
พระพทุ ธศาสนาน้ันมองว่าความสขุ ความดี กบั ความจรงิ น้ัน เชื่อมโยงสัมพันธ์กันอย่างย่ิง การเรียนรู้ท่ีถูกต้องนั้นย่อมช่วยให้ เราเขา้ ถงึ ความจรงิ นอ้ มใจสคู่ วามดี และเกดิ ความสขุ ในทสี่ ดุ เปน็ ความสุขท่ีเกิดข้ึนท่ามกลางชีวิตท่ีเรียบง่าย และเอื้อเฟื้อเกื้อกูลผู้ อื่น ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างปัญญาของสังคมส่วนรวมให้ งอกงามขนึ้ 70
71
72
อย่าเห็นแตก่ ากบาท ตอนทธี่ นา เธยี รอัจฉรยิ ะ เขา้ มาปลุกปล้ำ� กอ่ รา่ งสร้าง Happy ก่อนจะกลายเป็นแบรนด์ที่โด่งดังในหมู่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือระบบ เตมิ เงนิ นน้ั เขาเคยสงสยั วา่ โดยปกตคิ นไทยใชโ้ ทรศพั ทแ์ ตล่ ะครง้ั นานแคไ่ หน เมอื่ สอบถามคนเปน็ จำ� นวนมากทง้ั ใกลแ้ ละไกล คำ� ตอบทไ่ี ดก้ ็ คือประมาณ ๓-๕ นาที คำ� ตอบดงั กลา่ วดไู มน่ า่ สะดดุ ใจอะไร เวน้ เสยี แตว่ า่ มนั ตรงขา้ ม กับข้อมูลที่เขาได้มาอีกทางหนึ่ง ตัวเลขท่ีเขามีในมือน้ันระบุว่า ลูกคา้ มากกว่า ๖๐% ใช้ไม่ถึงคร่ึงนาที และ ๙๐% ใช้ไมถ่ ึง ๒ นาที ความคดิ ความเชอ่ื ของผใู้ ชก้ บั ความเปน็ จรงิ นนั้ ตา่ งกนั ไกลมาก 73
ขอ้ ทนี่ ่าคิดกค็ อื ท�ำไมจงึ เปน็ เช่นน้นั ธนาอธบิ ายวา่ เปน็ เพราะ คนเรามักจะจำ� ได้แต่คร้งั ท่ีโทร.นานๆ เนื่องจากมีเรอื่ งส�ำคญั ทีต่ อ้ ง ใช้เวลาคยุ นาน สว่ นประเภทท่ีคยุ ทักทายส้ันๆ มักจะจ�ำไม่ได้ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เรามักจะจ�ำได้แม่นหากเป็นเรื่องท่ีไม่ ปกตแิ ม้เกิดขึ้นไม่บ่อย สว่ นอะไรที่เกิดข้นึ เปน็ ประจำ� จนกลายเปน็ ปกติ เรามักไม่คอ่ ยจดจ�ำ นอ้ี าจเปน็ สาเหตเุ ดยี วกบั ทท่ี ำ� ใหห้ ลายคนตง้ั ขอ้ สงั เกตวา่ เวลา ตอ้ งการใช้แท็กซ่ี มกั จะหารถไดย้ าก แตเ่ วลาไม่มีกจิ ตอ้ งเดินทาง ปรากฏวา่ แทก็ ซวี่ า่ งมากนั เตม็ ถนน สว่ นคนทต่ี อ้ งขนึ้ รถเมล์ มกั จะ พบวา่ เวลาต้องการขน้ึ สายใด สายนั้นกลับหายไปจากถนน ขณะที่ สายอน่ื ๆ มากนั เปน็ แถว ครน้ั เปลยี่ นใจจะขน้ึ สายอน่ื ทเี่ คยมาแบบ ถๆี่ กข็ าดตอนไปเลย ราวกับโชคชะตากรรมกลัน่ แกลง้ ถ้าคณุ เป็นหนึง่ ในนน้ั คุณคงอดคิดไม่ไดว้ า่ ตัวเองเปน็ คนไมม่ ี โชค แตค่ วามจริงอาจไมใ่ ชเ่ ชน่ นน้ั ก็ได้ ปกตคิ ณุ อาจจะคอยรถไม่ นาน เป็นบางคร้งั เทา่ นน้ั ท่เี กดิ เหตุการณด์ ังกลา่ วขน้ึ มา แต่พอมนั เกิดข้นึ ทใี ดคณุ กม็ ักหงุดหงิดหวั เสยี เหตุการณน์ น้ั จึงประทับแน่น ในใจมากกวา่ ผดิ กบั ตอนทร่ี ถมาทนั ใจหรอื ใชเ้ วลาคอยไมน่ าน คณุ 74
มกั รูส้ ึกเฉยๆ หรือดีใจไมม่ าก จงึ ไมค่ ่อยจดจำ� เหตุการณ์เหลา่ นน้ั แมเ้ กดิ ขนึ้ บอ่ ยกว่ากต็ าม เคยมีครูประถมคนหนึ่งชูกระดาษเปล่าให้นักเรียนท้ังช้ันดู กระดาษแผน่ นน้ั มีกากบาทสดี ำ� อยูม่ มุ ขวา เมอ่ื ครูถามวา่ นกั เรยี น เห็นอะไร ค�ำตอบคือ “กากบาทสีด�ำครับ” ครูถามต่อว่า แล้ว นกั เรยี นเหน็ อะไรอกี หรอื เปลา่ นกั เรยี นทง้ั ชนั้ เงยี บ ครจู งึ ถามตอ่ วา่ “แลว้ เธอไมเ่ หน็ สขี าวของกระดาษเลยหรอื ?” ถงึ ตรงนน้ี กั เรยี นจงึ รอ้ งออ๋ นกั เรยี นทง้ั ชน้ั เหน็ แตก่ ากบาทสดี ำ� เพราะมนั ผดิ ปกติ ในขณะ ท่ีสขี าวของกระดาษนน้ั ดูธรรมดามาก นักเรียนจงึ ไมส่ นใจ ท้งั ๆ ท่ี พื้นที่สขี าวนั้นมมี ากกวา่ สว่ นทเี่ ป็นสีดำ� หลายสบิ เท่า สิง่ ท่ีผดิ ปกติ มกั จะโดดเดน่ ในความรู้สึกของเรา เราจงึ จำ� มัน ไดแ้ มน่ เปน็ เพราะเหตนุ ใ้ี ชไ่ หมเวลาคนรกั ทำ� ใหเ้ ราผดิ หวงั แมเ้ พยี ง ครัง้ สองครง้ั ความรสู้ ึกไมด่ ีตอ่ เขาจึงติดตรงึ ใจเราไปนาน ทงั้ ๆ ท่ี ก่อนหน้าน้นั เขาท�ำดกี ับเรามาโดยตลอด ในท�ำนองเดยี วกัน แม้จะมชี ีวิตราบร่ืนเป็นสว่ นใหญ่ แต่พอมี เหตุรา้ ยเกิดขึน้ ไม่ก่คี รง้ั หลายคนจงึ รู้สึกวา่ ชีวิตของตนเต็มไปดว้ ย 75
เคราะห์กรรม ผู้คนเป็นอันมากจ�ำความทุกข์ได้มากกว่าความสุข ไม่ใช่เพราะว่ามันเกิดข้ึนเปน็ ประจำ� แต่เพราะมนั คือความไมป่ กติ มากกวา่ (ซึง่ แปลวา่ เกดิ ขึ้นนานๆ ครงั้ ) จงึ โดดเดน่ ประทับแน่นใน ใจเขา ความเชื่อหรอื ความรสู้ ึกอาจหลอกเราได้ ถา้ เราไม่เชือ่ มันง่าย เกนิ ไป เราอาจมคี วามสขุ มากกวา่ น้ี และยม้ิ ใหแ้ กต่ วั เองกบั คนรอบ ตวั บ่อยขน้ึ ก็ได้ 76
ไมร่ ะยอ่ ต่อความทอ้ แท้ ไม่ยอมแพโ้ ชคชะตา เราคิดอยา่ งไร กม็ ักจะเห็นอย่างนน้ั ถ้าเราชอบคิดนึกในทาง ลบ ก็มกั จะเหน็ แตส่ ิง่ ท่ไี ม่นา่ พสิ มัย ถา้ เป็นคนรงั เกยี จเสียงดัง ก็ มักจะได้ยินเสียงดังร�ำคาญใจอยู่เสมอ ถ้าเป็นคนกลัวความมืด แมแ้ ตร่ ากไมก้ ม็ องเหน็ เปน็ งไู ด้ ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ เปน็ คนทมี่ อง โลกในแงด่ ี กม็ กั แลเหน็ สง่ิ ดๆี อยเู่ ปน็ นติ ย์ เวลาเรามคี วามสขุ เหน็ อะไรก็ดูน่าชื่นใจไปหมด ยิ่งเราเป็นคนท่ีไวต่อความสุขด้วยแล้ว ย่อมเห็นความสุขได้ไม่ยาก แม้จะอยู่ท่ามกลางความยากล�ำบาก กต็ าม ใช่หรือไมว่ ่า เมือ่ เห็นความสุขแสดงตัวทุกขณะ ใจกเ็ ปน็ สขุ ไดง้ ่าย คนเราสามารถมีความสุขได้ โดยไม่ต้องรอให้ทุกส่ิงทุกอย่าง เปน็ ไปตามใจปรารถนาเสยี กอ่ น หากอยทู่ กี่ ารรจู้ กั ทำ� ใจใหส้ งบเยน็ ปลอ่ ยวางจากความยดึ อยาก และมองเหน็ แงง่ ามของชวี ติ ผคู้ นเปน็ 77
อนั มากมคี วามสุขได้ ไมใ่ ช่เปน็ เพราะมอี ะไรดีๆ เกิดขึ้นกับเขาอยู่ เสมอ หากเป็นเพราะเขารู้จกั วางใจตอ่ สง่ิ ตา่ งๆ ทม่ี ากระทบ แม้จะ ประสบกบั ความเจ็บปว่ ย พลดั พรากสูญเสีย แตก่ ย็ งั เป็นสุขอย่ไู ด้ หลายคนถงึ กบั บอกวา่ “โชคดที เ่ี ปน็ มะเรง็ ” ขณะทอ่ี กี หลายคนบอก ว่า โรคหวั ใจหรอื การถูกไลอ่ อกจากงาน เป็นส่ิงที่ดที ่ีสดุ อย่างหนงึ่ ท่ีเกิดข้ึนกับชีวิตของเขา ท้ังน้ีก็เพราะเขารู้จักมองเห็นโชคจาก เคราะหน์ ่ันเอง เราไมส่ ามารถควบคมุ สง่ิ ดๆี ใหเ้ กดิ ขนึ้ กบั เราไดต้ ลอดเวลา แต่ เราสามารถปรบั ใจจนมองเหน็ สง่ิ ดๆี ในทกุ สง่ิ ได้ ดงั นน้ั อปุ สรรคจงึ มใิ ชส่ ่งิ นา่ กลัว ปัญหาไมใ่ ช่เร่อื งนา่ ตน่ื ตระหนก 78
79
80
คอยได้ ใจเย็น คนไทยคนหน่ึงเล่าว่า เคยไปซื้อหนังสือท่ีร้านดังกลางกรุง โอซากา ซง่ึ มสี าขาท่วั ประเทศ (รวมทงั้ ท่เี มอื งไทยดว้ ย) เมื่อเลอื ก หนงั สือได้แล้ว ก็ไปจ่ายเงนิ ท่ีเคานเ์ ตอร์ ๓,๙๗๑ เยน คอื ราคา หนังสอื รวมภาษดี ้วย อนั ทจี่ ริงถ้าจ่ายดว้ ยธนบตั ร ๕,๐๐๐ เยนก็ ไมม่ ปี ัญหา แตเ่ นอ่ื งจากเขามเี หรยี ญเยอะมาก จึงลว้ งจากกระเป๋า มาเต็มก�ำมือ พรอ้ มกบั ธนบัตร ๑,๐๐๐ เยน ๓ ใบ ปัญหาเกิดขึ้น ตรงทีว่ า่ เขาไม่คนุ้ กับเหรยี ญญ่ปี ุ่น จงึ นบั เหรยี ญได้ชา้ มาก เพราะ มีท้ังเหรียญ ๑ เยน ๑๐ เยน ๕๐ เยน ๑๐๐ เยน และ ๕๐๐ เยน ยงิ่ นับก็ยิ่งงง เพ่ือนคนไทยเลยมาช่วยนับด้วย แต่กไ็ มท่ ำ� ใหเ้ รว็ ขน้ึ เทา่ ใด สุดทา้ ยก็เลยยื่นเหรยี ญท้งั กำ� ให้พนกั งานขายช่วยนับให้ ระหวา่ งทล่ี กู คา้ งว่ นอยกู่ บั การนบั เหรยี ญ พนกั งานขายกย็ นื รอ อยา่ งสงบ ไมแ่ สดงใหเ้ หน็ เลยวา่ ลกู คา้ กำ� ลงั ทำ� ใหเ้ ขาเสยี เวลา ครน้ั 81
ลกู คา้ ยน่ื เหรยี ญมาใหน้ บั เขากย็ นิ ดที ำ� โดยไมม่ อี าการหงดุ หงดิ หรอื เรง่ รบี ทงั้ ๆ ท่มี ลี ูกคา้ คนอ่ืนเขา้ แถวรออยู่ ญปี่ นุ่ นนั้ เปน็ ประเทศทถี่ อื วา่ เวลาเปน็ ทรพั ยส์ นิ สำ� คญั จะเรยี ก วา่ เวลาเปน็ เงนิ เปน็ ทองกไ็ ด้ เวลาแคห่ นง่ึ ชว่ั โมงจะถกู ซอยถยี่ บิ เปน็ นาทีหรือวินาทีทเี ดียว เห็นไดจ้ ากตารางรถไฟท่ัวประเทศ เวลาที่ รถไฟมาถึงและออกจากสถานี จะไม่เป็นตวั เลขกลมๆ แต่จะระบุ เปน็ นาทเี ลย (เชน่ ๗.๕๘ น.) แลว้ รถไฟกม็ าตรงตามเวลาเปะ๊ เสยี ด้วย หากมาช้าไปแคน่ าทีเดียว กอ็ าจกอ่ ปญั หาตามมา มองในแง่น้ีการมีชีวิตเร่งรีบของคนญ่ีปุ่นจึงเป็นเรื่องธรรมดา มากโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ แตใ่ นอกี ด้านหนง่ึ เรากลบั พบวา่ คน ญี่ปนุ่ มีความอดทนในการรอคอยมาก ไม่ใช่จ�ำเพาะในร้านหนังสอื ชื่อดังเทา่ นน้ั แต่เห็นไดใ้ นแทบทกุ หนทกุ แหง่ รวมทั้งบนท้องถนน ใกลๆ้ รา้ นหนังสือดังกลา่ ว เปน็ ศูนยก์ ารค้าที่มคี นพลุกพล่าน มาก บาทวถิ ีเนืองแนน่ ไปด้วยผ้คู น ไมว่ า่ ใครจะเรง่ รบี มาจากไหน แตพ่ อเหน็ ไฟแดงบนถนนฝั่งตรงขา้ ม ทุกคนกห็ ยดุ หมด ท้งั ๆ ที่ ถนนบางสายแคบชนดิ ทเ่ี รียกว่าซอยจึงจะถูก เพราะกวา้ งแค่ ๓-๔ เมตร แถมไมม่ ีรถว่ิงเลย คนนบั ร้อยก็ยงั รอคอยอยา่ งสงบ ต่อเม่อื 82
ไฟเขยี วสวา่ งจา้ จงึ พากนั เดินข้ามถนน เปน็ ธรรมดาท่เี ราจะเหน็ คนเขา้ ควิ ยาวอยหู่ นา้ รา้ นอาหารตอน เทย่ี ง ในเมอื งไทยหรอื แมแ้ ตก่ รงุ เทพ ฯ ภาพแบบนหี้ าไดย้ ากเพราะ คนไทยไมค่ อ่ ยยอมเสยี เวลากบั การรอคอยเพยี งเพอื่ จะไดก้ นิ อาหาร สักม้ือ ท่ีจริงกับเร่ืองอื่นๆ คนไทยก็ไม่ค่อยอดทนกับการรอคอย เช่นกัน พนักงานขายหากเจอลูกค้าควักเหรียญเป็นก�ำมานับต่อ หน้า หรือจ่ายเป็นเหรียญ แทนที่จะจ่ายด้วยธนบัตร มักแสดง อาการไม่พอใจใหเ้ หน็ (มีบางคนโดนพนกั งานเก็บเงนิ บนเรือดว่ น ขวา้ งเหรยี ญลงพนื้ ตอ่ หนา้ ตอ่ ตา) สว่ นพนกั งานขบั รถ หากจอดเขา้ ปา้ ยแลว้ ผ้โู ดยสารไม่รีบข้ึนรถ กม็ กั จะชงิ ออกรถไปกอ่ น แตใ่ นญีป่ นุ่ ภาพทเ่ี ห็นกลับตรงกนั ขา้ ม ในเมอื งฟูกูโอกะ ขณะ ที่รถโดยสารก�ำลังจะเคล่ือนจากป้าย พนักงานขับรถมองกระจก หลงั เหน็ คณุ ยายเดนิ กระยอ่ งกระแยง่ มาแตไ่ กล เขาดบั เครอื่ งทนั ที เพื่อคอยคุณยายมาข้ึนรถ ไม่มีผู้โดยสารคนใดบ่นหรือไม่พอใจ พนักงานขับรถ ทง้ั ๆ ที่ต้องคอยนานหลายนาที การรจู้ กั คอยกบั ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของคนญปี่ นุ่ นา่ จะมสี ว่ น สมั พนั ธก์ นั อยา่ งยง่ิ เมอื่ รจู้ กั คอย อดทนไดก้ บั ผลลพั ธท์ ยี่ งั มาไมถ่ งึ 83
จึงทำ� ให้ขยนั หมั่นเพยี รไดต้ ่อเนื่อง จนประสบความส�ำเรจ็ ตรงกนั ขา้ มกับคนที่คอยไมเ่ ปน็ หวงั เห็นผลเร็วๆ พอท�ำไปไดส้ ักพกั ไม่ เห็นผลสำ� เร็จเสียที กท็ ้อแทแ้ ละเลกิ กลางคนั สาเหตุท่ีคนไทยเป็นอันมากนิยมทางลัด อยากรวยเร็วๆ ดัง เร็วๆ จนตอ้ งหันไปใช้วิธีท่ีไมถ่ กู ต้อง เช่น เลน่ พนนั คอรร์ ปั ชน่ั ใช้ เสน้ สาย หรือเอาตัวเขา้ แลก สว่ นหนึ่งก็เพราะคอยไม่เปน็ นน่ั เอง 84
สุขทุกเวลา สันติสุขสามารถเกิดข้ึนกับเราทุกลมหายใจ แต่เรามักปล่อย ให้โอกาสดงั กลา่ วหลดุ ลอยไป เพราะลืมตวั ปล่อยใจใหต้ ิดข้องค้าง คาอยู่กับเรื่องราวในอดีต หาไม่ก็ลอยคว้างไปหมกมุ่นปรุงแต่งอยู่ กบั สง่ิ ทย่ี งั มาไมถ่ งึ สงิ่ ทไ่ี ดก้ ลบั มาคอื ความเศรา้ สรอ้ ย อาลยั อาวรณ์ รอ้ นรน วิตกกงั วล หรือหนักอกหนักใจ แท้จริงแลว้ เพยี งแคม่ ีสติ รู้ตัว ตน่ื เต็มอย่กู ับกิจทก่ี ำ� ลงั ทำ� หรือนอ้ มจติ อย่ใู นปัจจุบันขณะ ก็ จะพบกบั ความสขุ โปร่งโลง่ เบาสบาย และผอ่ นคลาย สันติสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จ�ำเป็นต้องหลีกล้ีหนีโลก หรอื ปลกี ตวั จากผคู้ น ชวี ติ ประจำ� วนั สามารถนำ� มาซง่ึ ความสงบเยน็ ในจติ ใจได้ ขอเพยี งแต่เราวางใจให้ถกู ต้อง ไมพ่ ลัดเข้าสู่ความหลง ตามความเคยชนิ เรมิ่ ต้งั แต่ต่ืนนอนจนเขา้ นอน ทกุ กจิ กรรมไม่ว่า เล็กหรอื ใหญ่ สามารถเติมความสุขใหแ้ กจ่ ติ ใจได้ 85
หากเราใช้กิจกรรมดังกล่าวเป็นการฝึกฝนทางจิตวิญญาณไป พร้อมๆ กัน อาทิ เป็นเครื่องฝึกสติ หรือเตือนใจให้ใฝ่ในการ ท�ำความดี มีเมตตาตอ่ สรรพชวี ติ สตแิ ละความคดิ ทเี่ ป็นกศุ ลนั้น นอกจากก่อให้เกิดความโปร่งเบาเยน็ ใจแล้ว ยังปิดช่องไมใ่ หค้ วาม หลงมาครอบงำ� ใจ อกี ทง้ั ยงั ตดั หนา้ มใิ หก้ เิ ลสตณั หามาชกั นำ� จติ ไป สูค่ วามทุกข์ ความทุกข์นั้นมักเกิดจากพฤติกรรมซ้�ำซากท่ีท�ำเป็นนิสัย ใน ทำ� นองเดยี วกนั ความสขุ กส็ ามารถเกดิ ขน้ึ ไดจ้ ากนสิ ยั ใหมท่ เ่ี ราจงใจ สรา้ งขนึ้ มา โดยเรมิ่ ตงั้ แตร่ ะดบั ความรสู้ กึ นกึ คดิ นสิ ยั ดงั กลา่ วไมจ่ ำ� ตอ้ งสรา้ งขน้ึ จากการปลกี วเิ วก เขา้ คอรส์ ปฏบิ ตั ธิ รรม หรอื เปลยี่ น สถานที่ เปลยี่ นวถิ ชี วี ติ แตส่ ามารถกอ่ ตวั ขนึ้ ไดจ้ ากการดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ งทเ่ี คยทำ� ทา่ มกลางสงิ่ แวดลอ้ มเดมิ ๆ เพยี งแตว่ างใจเสยี ใหม่ ดว้ ยการน้อมจิตให้เป็นกุศล และทส่ี �ำคญั คอื ท�ำกจิ กรรมตา่ งๆ อยา่ งมสี ติ เตมิ ใจใสล่ งไปในทกุ อริ ยิ าบถ ไมใ่ ชท่ ำ� แบบครงึ่ หลบั ครง่ึ ตน่ื หรอื ใจลอย กจ็ ะทำ� ใหท้ กุ กจิ กรรมและทกุ อริ ยิ าบถกลายเปน็ การ ปฏิบัติธรรมไปทันที ไม่เพียงช่วยให้การด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันของ เราเป็นไปตามปกติเทา่ นั้น แตย่ ังเพ่มิ คุณค่าทางจติ วญิ ญาณให้แก่ ชวี ิตของเราดว้ ย 86
87
88
มหัศจรรย์แห่งปัจจุบันขณะ เคยมีพิธีกรสถานีโทรทัศน์แห่งหน่ึง ถามองค์ทะไลลามะว่า พระองค์จะทรงเล่าให้ผู้ชมฟังถึงช่วงเวลาท่ีพระองค์ทรงมีความสุข ที่สุดในชวี ติ ไดไ้ หม พระองค์ทรงใคร่ครวญสักพักกอ่ นจะย้ิมแลว้ ตอบวา่ “อาตมา คดิ ว่า ชว่ งเวลานน้ั กค็ ือตอนนี้ไงละ่ ” ความสุขที่สุดนั้นสามารถหาได้ในปัจจุบันขณะ ไม่ว่าจะอยู่ ท่ไี หนก็ตาม ไมต่ อ้ งรอว่า ไปพักรอ้ น เทย่ี วห้างหรือเจอคนรักก่อน จึงจะมีความสุขได้ ใครท่ีเฝ้ารออนาคตหรืออาลัยความสุขในอดีต จะไมม่ ีวันพบความสขุ ในปัจจุบันได้เลย “ปจั จบุ นั เปน็ เวลาประเสรฐิ สดุ ” คำ� กลา่ วของทา่ นตชิ นทั ฮนั ห์ เตือนให้เราเหน็ คุณค่าของทกุ ขณะทีเ่ รามอี ยู่ ผคู้ นมักไม่ตระหนกั 89
ว่า ปัจจุบันขณะเป็นสิ่งแสดงว่าเรายังมีชีวิตอยู่ จ�ำเพาะคนตาย เทา่ นนั้ ทมี่ แี ตอ่ ดตี ไมม่ ปี จั จบุ นั แมก้ ระนน้ั ถา้ ใครมวั จมอยกู่ บั อดตี เอาแตโ่ ศกเศรา้ ครำ่� ครวญถงึ คนรกั ทต่ี ายจาก ผนู้ นั้ กไ็ มต่ า่ งจากคน ตาย เพราะชวี ติ ไร้ชีวาเสียแล้ว เช่นเดยี วกับคนทก่ี งั วลกบั อนาคต คิดถึงแต่ความตายที่รออยู่เบ้ืองหน้าเมื่อรู้ว่าตนเป็นโรคร้าย หมดอาลยั ตายอยากกบั ชวี ติ คนเหลา่ นถี้ ึงจะมลี มหายใจกเ็ หมอื น ตายทง้ั เปน็ มีแต่คนท่ีอยู่กับปัจจุบันขณะเท่านั้น จึงจะรู้สึกต่ืนและมีชีวิต ชีวาอย่างแท้จริง เป็นคุณภาพท่ีต่างจากคนซ่ึงฝันถึงความสุขใน อนาคต ใชช้ ีวติ ราวคนหลงละเมอ ปัจจุบันคือเวลาประเสริฐสุด เพราะเป็นโอกาสเดียวเท่านั้นท่ี เราสามารถทำ� สิง่ ดงี ามใหเ้ กดิ ข้นึ ได้ ถา้ ตอ้ งการความสำ� เร็จ กต็ อ้ ง ลงมอื ทำ� เสยี แตบ่ ดั นี้ ถา้ ตอ้ งการความสขุ กต็ อ้ งรจู้ กั เปน็ สขุ เสยี แต่ ตอนน้ี “ชวั่ ขณะนเี้ ตม็ ไปด้วยสิ่งมหศั จรรย์” ท่านตชิ นัท ฮันห์ ชใ้ี ห้ เราเหน็ วา่ ความสขุ ความงดงาม ความสงบเยน็ หรอื แมก้ ระทงั่ นิพพาน ล้วนพบไดใ้ นปัจจบุ นั เทา่ นนั้ ขอเพียงแตเ่ ราน้อมใจอยู่กบั 90
ปจั จบุ นั สงิ่ มหศั จรรยต์ า่ งๆ กจ็ ะปรากฏแก่เรา “สุรเชษฐ์” เป็นคนทขี่ ยนั ทำ� งานไมว่ า่ งเวน้ และมีเรอ่ื งใหต้ ้อง ใช้ความคดิ ตลอดเวลา วันหนึ่งเขาพบวา่ ตนเองเป็นไส้เลอื่ น หลัง จากผ่าตดั แลว้ ต้องมาพกั ฟืน้ หลายวนั ท่บี า้ นซง่ึ อยชู่ านกรุง นั่นเป็น ครั้งแรกท่เี ขาตอ้ งวางงานทงั้ หมด เพราะทำ� งานไมส่ ะดวก แมแ้ ต่ จะขยับเขยื้อนก็ลำ� บาก บา่ ยวันหนึง่ ขณะน่งั อยูท่ ี่ระเบียงบา้ น เขา ได้ยินเสียงนกเขาขัน ทีแรกก็ตัวเดียว ต่อมาอีกหลายตัวร้อง ประสาน ตามมาด้วยนกนานาชนิดส่งเสียงบรรเลง เขาฟังอย่าง ต้งั ใจ รับรูไ้ ด้ถงึ ความไพเราะของเสียงนกร้อง เกิดปีตถิ ึงกับน�ำ้ ตา คลอ แล้วเขาก็ฉกุ คิดข้ึนมาได้วา่ เขาอยู่บ้านนีม้ ารว่ ม ๒๐ ปแี ลว้ ต้ังแต่ลกู สาวยงั เล็กจนตอนน้เี กือบจบมหาวิทยาลัยแลว้ ทำ� ไมเขา เพ่งิ ได้ยินเสยี งนีเ้ ป็นครง้ั แรก นกเหลา่ นเ้ี พงิ่ รอ้ งประสานเสยี งหรอื เปลา่ เลย นกรอ้ งมานาน แล้ว นกร้องทุกวันแต่เขาไม่ได้ยินเอง เพราะใจมัวแต่หมกมุ่นอยู่ กบั การงาน ทอ่ งไปในอดตี บา้ ง อนาคตบา้ ง ความไพเราะและความ สุขนั้นมีอยู่รอบตวั เขา แตใ่ จเขาไมเ่ ปดิ รบั เองต่างหาก เพราะไม่ได้ อยูก่ บั ปจั จบุ ันขณะ 91
ยงั มสี ง่ิ ดๆี อกี มากทปี่ รากฏอยตู่ อ่ หนา้ และรอบตวั เรา ขอเพยี ง แตเ่ ปิดใจใหก้ ับปจั จบุ นั ขณะเทา่ นนั้ อนั ทีจ่ รงิ หากเราตระหนักว่าชวี ิตน้ีเปราะบางอยา่ งยง่ิ กจ็ ะพบ วา่ แค่มวี นั นี้ มวี ินาทีนนี้ บั ว่าเป็นโชคอนั ประเสรฐิ อยา่ งยงิ่ ดังท่าน นาคารชุน ปราชญ์ชาวอนิ เดยี เมอื่ พนั กวา่ ปีก่อนไดก้ ลา่ ววา่ “ชวี ิต มนษุ ยน์ นั้ บอบบางเสยี ยง่ิ กวา่ ฟองนำ�้ การทลี่ มหายใจออกตามหลงั ลมหายใจเข้า และการท่ีเราตื่นข้ึนมาหลังจากได้นอนหลับไปนั้น เปน็ ส่ิงมหศั จรรย์ยง่ิ นัก” 92
โปรง่ โล่ง เบาสบาย ใจทเี่ บาและวา่ งนนั้ ใหค้ วามสขุ ทส่ี งบเยน็ และผอ่ นคลาย แมไ้ ม่ หวอื หวาเหมอื นความสนกุ สนาน แตก่ ไ็ รพ้ ษิ ภยั อกี ทง้ั ยงั สรา้ งความ ผ่องใสเบิกบานให้แก่ชีวิต ความสุขชนิดน้ีไม่ต้องใช้เงินเลย แต่ แล้วกลบั เป็นส่งิ ทนี่ ้อยคนเทา่ นั้นทไ่ี ดส้ มั ผัส ในขณะที่ผูค้ นจ�ำนวน มากพากนั โหยหาและรสู้ กึ วา่ ไกลเกนิ เออื้ ม ทง้ั นเี้ ปน็ เพราะคนสว่ น ใหญเ่ อาแตห่ มกมนุ่ ครนุ่ คดิ หรอื ปลอ่ ยใจใหอ้ ดั แนน่ ดว้ ยเรอ่ื งราวใน อดีตกบั อนาคต ใจไม่เคยวา่ งจากความคิดและสง่ิ ปรงุ แตง่ จงึ รสู้ ึก หนักอ้ึงขึ้งเครียดเกือบตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถเปิด รับความสุขที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ ไม่ต่างจากแก้วท่ีเต็มไปด้วยน�้ำที่ ขุ่นมวั จึงไม่สามารถรับน้ำ� ใสสะอาดได้ ความสุขและความสงบเย็นนั้น ไม่ต้องไปแสวงหาจากท่ีไหน เพยี งแคท่ ำ� ใจใหว้ า่ งจากความคดิ และสง่ิ ปรงุ แตง่ ใจกจ็ ะเปน็ สขุ และ 93
สงบเย็นเอง เพียงแค่เปิดใจรับรู้ปัจจุบัน ความสุขท่ีมีอยู่รอบตัวก็ จะเขา้ มาสถติ ในใจ ดว้ ยการมสี ตริ ทู้ นั ความคดิ ปลอ่ ยวางอดตี และ ปัจจบุ ันออกไปจากใจ มคี วามรสู้ ึกตวั ทวั่ พร้อมเพราะจิตอยกู่ บั เน้อื กบั ตวั เป็นนจิ ไม่สง่ จิตออกนอกจนลืมตวั เราก็จะสมั ผสั กับความ วา่ งและโปร่งเบาภายในใจไดไ้ ม่ยาก 94
95
96
ปญั หาอยทู่ ใ่ี จ เวลาเรารสู้ กึ ไมช่ อบอะไรสักอย่าง ปัญหาจรงิ ๆ อาจไม่ไดอ้ ยทู่ ี่ สงิ่ นน้ั แตเ่ ป็นความรสู้ กึ ไม่ชอบของเราตา่ งหาก พูดอีกอยา่ งก็คือ สิ่งน้ันไม่ได้สร้างปัญหาหรือก่อความทุกข์ให้เรามากเท่ากับความ รูส้ กึ ไมพ่ อใจมัน หนมุ่ สาวสว่ นใหญ่ไม่ชอบสิวบนใบหน้าของตน ท่จี ริงสวิ ไมไ่ ด้ ท�ำความเดือดร้อนให้แก่เขามากมายอะไร แค่ท�ำให้หน้าตาไม่ หมดจดเท่านั้น แต่หลายคนถึงกับเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในสหรฐั อเมรกิ า พบวา่ รอ้ ยละ ๑๐ ของคนเปน็ สวิ บอกวา่ การเปน็ สวิ เปน็ สง่ิ เลวรา้ ยทสี่ ดุ ในชวี ติ วยั รนุ่ เปน็ อนั มากมผี ลการเรยี นตกตำ่� เพราะท�ำใจไม่ได้ บางคนถึงกบั ฆ่าตวั ตาย สิวน้ันไม่ทำ� ใหใ้ ครตายได้หรอก แต่ความรังเกยี จชงิ ชังสวิ ต่าง 97
หาก ทสี่ ามารถผลักดนั ใหผ้ ู้คนปลดิ ชีวิตตัวเองได้ ความอ้วนก็เช่นกัน ท่ีจริงหญิงสาวเป็นอันมากเพียงแค่มี น�ำ้ หนกั เกินมาตรฐาน (ซงึ่ มักเอานางแบบหรอื ดาราเป็นตน้ แบบ) มันไม่ถึงกับสร้างปัญหาสุขภาพแก่เธอเหล่าน้ัน แต่เป็นเพราะ รังเกียจความอว้ น จงึ พยายามทำ� ทกุ อย่างเพอื่ ลดความอ้วน หลาย คนหันไปพึ่งยาอนั ตราย ซง่ึ ลงทา้ ยดว้ ยการเอาชีวติ เขา้ แลก เม่อื เรว็ ๆ น้ี หญงิ ชาวอเมริกนั ผหู้ น่งึ ตอ้ งการลดน�ำ้ หนกั ของ ตน เธอทดลองมาหลายวิธแี ลว้ แตก่ ไ็ ม่ได้ผล สุดทา้ ยเธอจงึ ไปหา ซ้ือพยาธิตัวตืดมากลืนลงท้อง โทษของพยาธิตัวตืดน้ันมีมากมาย อาจท�ำให้ถึงตายได้ อันตรายของมนั น้ันมากกว่าการมีน�้ำหนักเกิน เสยี อกี คนธรรมดาสามญั ย่อมไมอ่ ยากท�ำรา้ ยตวั เองขนาดนั้น แต่ อะไรท�ำให้เธอตัดสินท�ำเช่นน้ัน หากไม่ใช่ความรู้สึกรังเกียจชิงชัง “ความอว้ น”ของเธอ ท่ีน่าประหลาดใจก็คอื ไมใ่ ชเ่ ธอคนเดยี วท่ีทำ� เชน่ น้ัน ในฮอ่ งกงมคี นนบั พนั ทยี่ อมกลนื พยาธิเพื่อลดความอ้วน เวลาประสบปัญหา บ่อยคร้ังวิธีแก้ปัญหาที่ผู้คนเลือกใช้น้ัน กลบั เลวรา้ ยยำ่� แยก่ วา่ ตวั ปญั หาเสยี อกี ทำ� ไมถงึ เปน็ เชน่ นนั้ คำ� ตอบ กค็ อื ความรู้สกึ ชงิ ชังรงั เกียจที่มตี ่อปญั หานั้นๆ เมือ่ เกลยี ดมากๆ 98
ก็ลมื ตวั จนพร้อมจะท�ำอะไรก็ไดเ้ พอ่ื ท�ำใหป้ ัญหาน้นั หมดไป โดย ไมส่ นใจว่าจะเกิดผลรา้ ยตามมา ซง่ึ หนกั หนาสาหสั กวา่ ปัญหานั้น เสยี อกี บางคนเกลยี ดหนูในบา้ นมาก ไลอ่ ย่างไร มนั กไ็ ม่ยอมไป แถมท�ำลายข้าวของหนักข้ึน ท�ำให้เขารังเกียจชิงชังมันย่ิงกว่าเดิม สุดท้ายก็ถึงกับใช้ไฟสุมเผารังของมัน แต่ปรากฏว่าไฟลุกลามจน ไหมบ้ า้ นเขาทงั้ หลงั แมห้ นจู ะเปน็ ตวั สรา้ งปญั หา แตม่ นั ไมส่ ามารถ ท�ำลายบ้านของเขาได้เลย การใช้ไฟไล่หนูต่างหากท่ีท�ำให้เขาสูญ เสียบา้ นท้งั หลัง และทง้ั หมดเกิดขึน้ ไดก้ เ็ พราะ ความรงั เกยี จชงิ ชงั หนนู ่นั เอง ความรังเกียจชิงชังมักท�ำให้เราเผลอท�ำสิ่งท่ีเกินเลย (over- react) จนได้ไมค่ ุ้มเสีย ดงั นน้ั ก่อนท่จี ะจดั การกบั ปัญหาใดๆ ควร หนั มาสำ� รวจตนเองเสยี กอ่ นวา่ เรามคี วามรงั เกยี จชงิ ชงั มากไปหรอื เปล่า มองใหด้ ีอาจพบว่า สง่ิ ท่ีเกดิ ข้ึนกบั เราไม่ได้สรา้ งความทกุ ข์ ใหแ้ กเ่ รามากเทา่ กบั ความรสู้ กึ ลบตอ่ สงิ่ นน้ั บอ่ ยครง้ั เพยี งแคเ่ ราลด ความรสู้ ึกดงั กลา่ วลง ส่ิงนนั้ ก็ไม่กลายเป็นปญั หาอกี ต่อไป เสียงดังอาจไม่ใช่ปัญหามากเท่ากับความไม่ชอบเสียงนั้น ย่ิง เราไมช่ อบมนั กย็ งิ่ รำ� คาญเสยี งนน้ั มากขน้ึ แตพ่ อวางใจเปน็ กลางๆ เสียงน้นั ก็ไมร่ บกวนเราอกี ต่อไป 99
ในท�ำนองเดียวกัน คนบางคนไม่ได้ก่อความทุกข์ให้เรามาก เท่ากบั ความรังเกยี จชงิ ชังเขา หากเกลยี ดเขานอ้ ยลง เรากจ็ ะทน พฤติกรรมของเขาไดม้ ากขึ้น และอาจพบว่าเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร ปัญหาจึงอาจไม่ไดอ้ ยูท่ ค่ี นอื่นหรอื สิ่งอื่น แตอ่ ย่ทู ค่ี วามรูส้ กึ ใน ใจของเราต่างหาก 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160