Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สัมฤทธิ์

บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สัมฤทธิ์

Published by Thalanglibrary, 2021-01-20 02:47:05

Description: บริหารคนให้สำราญ1-136

Search

Read the Text Version

ผู้นำต้องรับได้ ทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ ถา้ ถามอาตมาว่าชอบแบบไหน อาตมาชอบแบบชาวประมง แล้วก็แบบผู้นำการเปลี่ยนแปลง คือถ้าเป็นผู้บริหารทั้งที แล้วอยู่กับที่มันเสียชื่อ แต่ถ้าเป็นผู้บริหารที่กล้าท้าทาย ความเสี่ยงต้องไม่ลืมว่ากล้าท้าทายความเสี่ยงก็ต้องพร้อม ที่จะรับความเสี่ยงด้วย นั่นหมายความว่าถ้าคุณกล้าที่จะ ลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ ก็ต้องระวังจะถูกด่า อาตมาก็เลย ถือคตปิ ระจำใจว่า ถกู ชมกเ็ ข้าท่าถูกดา่ ก็ไม่เลว นค่ี อื ถา้ จะเปน็ ผบู้ รหิ ารแบบชาวประมงหรอื chang- ing leader นี้ก็ต้องกล้าเสี่ยง ต้องกล้ารับทั้งดอกไม้และ

ก้อนอิฐ ถ้าไม่กล้าลุกขึ้นมาทำอะไรก็ไปเป็นลูกน้อง ท่าน อาจารยพ์ ทุ ธทาสเคยเขยี นความเรยี งเอาไวว้ า่ หลงั จากทท่ี า่ น ลกุ ขน้ึ มาทำสวนโมขพลารามซง่ึ เปน็ การเปลย่ี นหรอื เปน็ การ ปฎิรปู ครัง้ ใหญใ่ นประเทศไทย ในยคุ นน้ั พ.ศ. ๒๔๗๕ มผี นู้ ำความคดิ สองคนทเ่ี ปน็ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง หรือเป็นผู้บริหารแบบชาวประมง ในทางอาณาจักรคือปรีดี พนมยงค์ อภิวัฒน์ประเทศไทย ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ นำประชาธิปไตยมาให้ประเทศไทย และในทางศาสนจกั ร คอื พทุ ธทาสภกิ ขุ ตดั สนิ ใจทง้ิ กรงุ เทพ และกลับไปที่บ้านเกิด ไปอาศัยอยู่ในวัดป่าที่พุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี ศกึ ษาคมั ภีร์พระไตรปิฎก เองและเผยแผแ่ บบใหม่ ท่านอาจารย์พุทธทาสเป็นพระไทยรูปแรกที่ลุกขึ้น ยืนเทศน์ เป็นพระไทยรูปแรกที่ใช้สไลด์ในการเทศน์ ใชภ้ าพประกอบในการเทศน์ ใชง้ านปน้ั ประกอบในการเทศน์ ใช้นิตยสารในการอธิบายพุทธธรรม และเป็นพระรูปแรก เหมอื นกนั ทเ่ี อาศาสตรร์ ว่ มสมยั เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ 52 บรหิ ารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานให้สมั ฤทธิ์

ประวัติศาสตร์มาอธิบายพุทธศาสนา จนคนรุ่นใหม่ยกให้ เป็นนักปฏิรูป คนหนึ่งปฎิรูปอาณาจักรอีกคนหนึ่งปฎิรูป ศาสนจกั ร ทกุ วันนี้ทงั้ สองคนเป็นบคุ คลสำคัญของโลก เมื่อสวนโมกขพลารามครบสิบปี ท่านอาจารย์ พุทธทาสได้เขียนบทสรุปเอาไว้เตือนคนหนุ่มสาวว่า ถ้าหากคนหนุ่มคนสาวอยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง อะไรสักอย่างก็ขอให้จำเอาไว้ว่า คุณจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกท้าทายอย่างหนักจากสังคมรอบข้างและขอให้โปรด จำเอาไว้ว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องพบเจอ อย่าได้กลัว อยา่ ได้ทอ้ จงบากบั่นต่อไป อาตมาเองได้อ่านพบข้อเขียนของท่านชิ้นนี้เมื่อ ประมาณสิบปีที่แล้วตอนยังเป็นสามเณรน้อย โตขึ้นเมื่อ ไดล้ งมือทำงานไประดับหน่ึงก็ไดเ้ หน็ อย่างชัดเจนว่า ถา้ เรา ไมพ่ รอ้ มทจ่ี ะรบั ทง้ั ดอกไมแ้ ละกอ้ นอฐิ เรากไ็ มส่ ามารถทจ่ี ะ เปน็ ผนู้ ำการเปลย่ี นแปลงได้ ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยทจ่ี ะรบั กอ้ นอฐิ ได้ ดอกไม้นีใ้ ครๆ ก็รบั ได้ แต่กอ้ นอิฐคือการถกู จับขงึ พืดและ วจิ ารณ์ ในสื่อสิง่ พิมพ์ ทัง้ ในอินเทอรเ์ น็ต หน้าจอโทรทศั น์ ว.วชิรเมธี 53

ถูกสแกนชวี ิตรอ้ ยแปดสิบองศาไมใ่ ช่งา่ ย คำเตอื นของทา่ นพทุ ธทาส มปี ระโยชนต์ อ่ อาตมามาก อาตมาคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้นำการเปลี่ยนแปลง ทุกคนด้วย คนสว่ นมากพรอ้ มทจ่ี ะยอมรบั ชอ่ ดอกไมเ้ มอ่ื ทำงาน สำเร็จ แต่ไม่พร้อมที่จะยอมรับเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้ง ต่อหน้าและลับหลัง ดังนั้นผู้บริหารยังจะไม่ได้ชื่อว่าเป็น ผบู้ รหิ ารทป่ี ระสบความสำเรจ็ ถา้ ยงั ไมพ่ รอ้ มทจ่ี ะยอมรบั ทง้ั ดอกไม้และกอ้ นอิฐในราคาท่ีเทา่ กนั เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้บริหารสามารถให้ราคาระหว่าง คำชมคำด่าดอกไม้และก้อนอิฐ สำเร็จและล้มเหลว ดว้ ยราคาท่ีเท่ากัน เมือ่ น้ันคุณเป็นผู้บริหารมืออาชีพ แตถ่ า้ คุณเป็นผู้บริหารที่รับเฉพาะด้านที่ดี แต่ในด้านที่ล้มเหลว ยกให้ลูกน้อง น่ันยงั ไม่ใช่ผบู้ ริหารมืออาชพี ในวันที่ โทมัส อัลวา เอดสิ ัน ได้พบกับอบุ ัตเิ หตคุ รั้ง สำคญั ในชวี ติ ของทา่ น คอื โรงงานท่ี เมนโลพารก์ ถกู ไฟไหม้ เพื่อนผู้ร่วมวิจัยพนักงานหลายร้อยคนวิ่งหนีกันอลหม่าน 54 บรหิ ารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานใหส้ ัมฤทธิ์

เอาตวั รอด เอดิสนั มาจากงานแล้วก็เหน็ เหตกุ ารณ์เข้าพอดี ทุกคนร้องห่มร้องไห้เสียดายงานทดลองในนั้น แต่ โทมัส อัลวา เอดิสันหนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลงของโลกยืนยิ้ม แล้วบอกพนักงานไปเรียกภรรยามาดู พนักงานถามว่า ทำไมครับ ทำไมต้องเรียกภรรยามาดู เอดิสันบอกว่า มันสวยมาก เปลวไฟพวยพุ่ง มันสวยมาก ประกายของ ดวงไฟที่พวยพุ่งเป็นลำ เป็นรูป แตกต่างขึ้นไปสู่ฟ้าสีแดง เพลิงเช่นนี้ไม่ใช่จะหาดูได้ง่ายๆ พนักงานทุกคนร้องห่ม ร้องไห้ แต่เอดสิ ันคดิ วา่ นีค้ อื สง่ิ สุนทรยี ข์ องชวี ติ นี่แหละตัวอย่างของผู้บริหาร ในวันที่ฟ้าสดใส ก็แย้มยิ้มพิมพ์ใจ แต่ในวันที่ฟ้าหม่นก็ยังยิ้มแย้มอยู่ได้ เห็นไหม หายากนะคนอย่างนี้ เรียกว่ามีวุฒิภาวะในการ บริหาร เห็นทั้งความสำเร็จ เห็นทั้งความล้มเหลวในราคา เดยี วกัน ผู้บรหิ ารเช่นนี้หาได้ยากมาก หลวงวิจิตรวาทการเคยเขียนเอาไว้ว่า คนที่ยิ้มได้ และนา่ ชื่นชมนี้นะ คือคนที่ยมิ้ ในเวลาวกิ ฤติ ท่านบอกวา่ ว.วชิรเมธี 55

เป็นการงา่ ย ยม้ิ ไดไ้ ม่ต้องฝืน เมื่อชพี ชน่ื เหมอื นบรรเลงเพลงสวรรค์ แต่คนทีค่ วรชมนยิ มกนั ตอ้ งใจมนั่ ย้มิ ไดเ้ มือ่ ภัยมา ฉะนั้นผู้บริหารทุกคน ถ้าจะไปสู่การเป็นผู้บริหาร มืออาชีพก็ต้องยอมรับได้ทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ ใน ราคาเดียวกัน ถ้าเรามาถึงขั้นนี้ก็เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะในการ บรหิ าร คนส่วนใหญ่เมื่อภัยมาไม่ทันได้ยิ้ม ตกใจ ยิ้มหาย หมดเลย อาตมาก็เจอประสบการณ์นี้ตรงๆไปเมื่อเดือนที่ แล้วจากคอร์สวิปัสสนากรรมฐานที่เชียงรายขณะที่ อาตมากำลังสอนเจริญมรณสติ พิจารณาว่าเราทุกคน เป็นท่อนไม้ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายในชีวิตของเราเรากำลัง ตายอยู่ตรงนี้ ซักแป๊บหนึ่ง ฝนตก พายุซัด ลมกระหน่ำ เปียกฝน มะล่อกมะแล่ก ทุกคนวิ่งเข้ากำบังหมดเหลือ อาตมาอยรู่ ปู เดยี ว ในสถานการณ์ที่เจียนอยู่เจียนไปหรืออันตราย 56 บรหิ ารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานใหส้ มั ฤทธ์ิ

ถึงตัวมีใครยิ้มบ้าง ลืมรอยยิ้มที่มุมปากไปเลย ทุกคน วิ่งเข้าศาลาหมด อาตมาก็หลบฝนอยู่ข้างต้นฉำฉา แล้วก็จับไมค์บอกว่า ไหน เมื่อกี้เราฝึกกันไว้ไม่ใช่หรือว่า ความตายมาแล้วเราจะไม่ประหวั่นพร่ำพรึง นี้ยังไม่ตาย สกั คน หนีกนั หมดเลย กระทั่งพระอาจารย์อยู่ไหนก็ไม่มีใครสนใจ โอโห อาตมาให้ถา่ ยภาพเลยว่านคี้ อื หลกั ฐาน มนั ชัดเจนวา่ ในทาง ปฎบิ ตั นิ ่ี ไมใ่ ชง่ า่ ย ดงั นน้ั ฝากไวด้ ว้ ย ผบู้ รหิ ารทง้ั หลาย เวลา นาทเี ปน็ นาทีตายมาถึงยงั คงรกั ษารอยยิ้มเอาไวไ้ ด้ไหม ว.วชิรเมธี 57



ควรมีวุฒิภาวะ มีความเข้าใจชีวิต ขอเล่าอกี เร่อื งหนงึ่ เนลสนั มนั เดลา มหี นังสอื เลม่ หนึ่ง ที่ขายดีมากในเวทีโลก นั่นคือ “เดอะ เวย์ ออฟ เนลสัน มันเดลา” เมื่อแปลเป็นภาษาไทยใช้ชื่อว่า “วิถีของเนลสัน มันเดลา” หนังสือเล่มนี้มีท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอาตมาแล้วก็อกี หลายท่านได้รว่ มเขยี นคำนิยมดว้ ย ในส่วนของอาตมาที่ได้รับโอกาสให้เขียนคำนิยม ก่อนที่จะเขียนคำนิยมนั้น หนังสือเล่มไหนอาตมาก็ ตอ้ งอ่าน หรือคำนิยมกเ็ หมือนกัน ถ้าส่งมาใหเ้ ขียนคำนยิ ม อาตมากต็ อ้ งอา่ นเพราะบางเลม่ อา่ นแลว้ มนั ไมน่ า่ นยิ มแตเ่ ขา

ขอให้เราเขียนคำนิยมก็ต้องหาแงม่ ุมท่ีมันนา่ นยิ มให้ได้ เล่มนี้อาตมาอ่านแล้วรู้สึกว่า เขียนคำนิยมน้อยไป อาตมาได้รบั ประโยชน์มากจรงิ ๆ ขอเปลย่ี นเปน็ คำนำเสนอ ก็เลยเขียนเป็นบทความให้เขาไปหกหน้า ทำไมเขียนได้ ขนาดนั้นเพราะอาตมาประทับใจ ประทับใจในภาวะผู้นำ ของผบู้ ริหารทา่ นนีม้ าก เนลสัน มันเดลาเป็นตัวอย่างของผู้บริหารที่มี วุฒิภาวะ ท่านถูกจับขังคุก ๒๗ ปีเมื่อกลับออกมาแล้วมี นักข่าวสัมภาษณ์ว่า ๒๗ ปีในคุกท่านได้อะไร ท่านตอบว่า ผมไดว้ ฒุ ิภาวะ อะไรคอื สงิ่ ที่เรยี กว่าวุฒภิ าวะ ทา่ นกบ็ อกว่า คุณคุยกับผมไปแล้วคุณจะรู้เองว่าสิ่งที่เรียกว่าวุฒิภาวะ คอื อะไร วันหนึ่งนักข่าวคนนี้ ที่เกาะติดชีวิตของเนลสัน มันเดลาไปทุกหนทุกแห่งเหมือนองค์ดาไล ลามะ ที่มี นักข่าวฝรั่งคนหนึ่งตามอยู่สามสิบปี เก็บภาพทุกภาพ เก็บบทเทศน์ บทบรรยายทุกอยา่ ง เป็นเวลาสามสบิ ปี แลว้ จดั พมิ พเ์ ปน็ หนงั สอื ภาพชอ่ื A Simple Monk ขายดที ว่ั โลก 60 บริหารคนให้สำราญ บรหิ ารงานใหส้ มั ฤทธ์ิ

คุม้ กับสามสิบปที รี่ อคอย เช่นเดียวกันเนลสนั มนั เดลา กม็ นี กั เขียนฝรงั่ คนนี้ ตามติดทุกฝีก้าว แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้คำอธิบายคำว่า วุฒิภาวะ คืนที่นั่งเครื่องบินไปด้วยกัน วันหนึ่งเนลสัน มันเดลาก็ไปหาเสียงในพื้นที่อันตราย เขาเรียกว่าเป็นโซน สีแดงก็ว่าได้ นี้ที่แอฟริกาใต้ พื้นที่สีแดงซึ่งมีสงคราม กลางเมืองระหว่างคน ผิวขาว รัฐบาลผิวขาวกับแอฟริกัน ผิวดำ เนลสัน มันเดลา เขาอยากพิสูจน์ภาวะผู้นำของเขา เขาตอ้ งไปทีป่ ระเทศของตนเองไดใ้ นทุกจุด วันนั้นเขานั่งเครื่องบินไป ก่อนที่เครื่องบินจะลง ปรากฏว่าเครื่องยนต์ดับไปหนึ่งตัว นักบินขวัญหนีดีฝ่อ แล้วนักข่าวจะไปเหลืออะไร นักข่าวนี่เหงื่อแตกพลั่กๆ แตข่ ณะทน่ี กั บนิ ขวญั หนดี ฝี อ่ พยายามประคองเครอ่ื งบนิ ให้ ลงนมุ่ ทส่ี ดุ ขณะทน่ี กั ขา่ วกำลงั ขวญั หนดี ฝี อ่ โทรสง่ั ลกู สง่ั เมยี เขากห็ ันไปดเู นลสนั มนั เดลา ปรากฏว่า เนลสัน มนั เดลา นี้ กางหนังสือพิมพ์ออกอ่านอย่างนี้เลย ไม่มีเหงื่อแตกพลั่ก ไมม่ กี ารตกใจ ว.วชิรเมธี 61

ทีน่ ัง่ ของท่านต่อจากนักบิน สว่ นนักข่าวนั้นทำอะไร ไม่ถูกโทรสั่งลูกสั่งเมียเรียบร้อยแล้ว พอเครื่องลงจอดได้ นกั ขา่ วรบี ถาม ทา่ นครบั ทา่ นรไู้ หมครบั วา่ เครอ่ื งยนตม์ นั เสยี ไปแล้วหนึ่งเครื่องเป็นตายเท่ากันนะครับ มันเดลาบอก ทำไมผมจะไม่รู้ ท่านไม่กลัวเหรอครับ ทำไมผมจะไม่กลัว นกั ขา่ วสงสยั เอา้ กไ็ มเ่ หน็ ทา่ นแสดงอาการอะไรเลย มนั เดลา บอกก็ทุกคนกลัวกันหมดแล้ว ถ้าผมก็อีกคนเครื่องมันก ็ ตกพอดี นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าผู้นำต้องเป็นขวัญและกำลังใจ ได้ในยามวิกฤติ ถึงกลัว ก็ไม่ควรจะแสดงอาการออกมา เพราะว่าถ้าแสดงอาการออกมาแล้ว ลูกน้องจะเอาขวัญ และกำลังใจที่ไหนมาทำงาน ผู้บริหารจำนวนมากมักจะ ขาดทักษะข้อนี้ เวลาบริหารแล้วองค์กรขาดทุน ก็เลยบ่น เริ่มปล่อยผมเป็นกระเซิง บุคลิกลีลาท่าทางไม่น่าไว้ใจ ประหลาดๆ ทรงเจ้าเข้าผี เปลี่ยนชื่อ ไปหาสิงโตมาตั้งหน้า บริษัท บอกว่าย้ายฮวงจุ้ยบ้างอะไรบ้าง หาปี่เซี๊ยะมาบูชา แล้วก็เรมิ่ ทำตวั ประหลาดๆ 62 บรหิ ารคนให้สำราญ บริหารงานใหส้ ัมฤทธ์ิ

ในขณะที่ผู้บริหารไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะขาด ความมั่นอกมั่นใจในธุรกิจ รู้ไหมถ้าลูกน้องสังเกตเห็นเข้า เสยี ขวญั ไหม ขวญั ไมเ่ หลอื แลว้ นก่ี ค็ อื สง่ิ ทเ่ี รยี กวา่ วฒุ ภิ าวะ จะได้สิ่งนี้มาไม่ใช่จากการจัดสรร แต่มาจากความจัดเจน ในการใชช้ ีวติ ดังนั้นผู้บริหารอย่ามัวแต่บริหารอย่างเดียว ต้อง ทำความเข้าใจโลกเข้าใจชีวิต เพื่อแสวงหาความจัดเจน ด้วย บางคนบริหารงานอย่างเดียวแต่ไม่ได้บริหารชีวิตนั่น ก็เป็นเหตุให้เก่งมากในเรื่องบริหารงานแต่พอมาถึงชีวิต ทำอะไรไมเ่ ป็น ตัวอย่างที่เห็นชัดมากก็คือ ไมเคิล แจ๊กสัน ใน ด้านของการทำงานนั้นเขาได้ปริญญาเอก แต่เรื่องปริญญา ชีวิตนั้นเขาได้ปริญญาตรี อาตมาสรุปว่า ไมเคิล แจ๊กสัน นั้นปริญญาเอกทางดนตรี แต่ปริญญาตรีทางวิชาชีวิต เพราะวา่ เขาขาดทกั ษะการบริหารจดั การชวี ิต เขาเก่งมากในเรื่องของดนตรี เวลาที่เขาอยู่บนเวที ทกุ คนจะรสู้ กึ เลยวา่ คนคนนเ้ี ปน็ เทพ แจก๊ สนั เคยพดู เอาไวว้ า่ ว.วชิรเมธี 63

เมื่อแสดงคอนเสิร์ตแต่ละครั้งเขาจะไปนอนบนเวที เพราะเขารู้สึกว่าเขา top form ที่สุดตอนอยู่บนเวที แตพ่ อเขาลงมาแล้ว เขาไม่รวู้ า่ การด์ คนไหน พ่ีเล้ยี งของลูก คนไหนจะเอาความลับเขาไปขาย เขาบริหารจัดการอะไร ไม่ได้ แล้ววันหนึ่งเมื่อเขาค้นพบว่าเขาถูกเอาเปรียบสุดๆ จากพวกนักธุรกิจ เขาลงทุนทำห้องอัดเสียงเอง แต่เขาไม่ ได้ถูกออกแบบมาให้ทำทุกเรื่อง ก็ขาดทุนไปพันกว่าล้าน นน่ั กเ็ ปน็ ทม่ี าของหนแ้ี ละกป็ ญั หาทบั ถมมากมายนบั ไมถ่ ว้ น สุดทา้ ยก็ต้องพึง่ ยานอนหลบั กนั เปน็ กำๆ ฉะนั้นผู้บริหารนั้นต้องไม่ลืมนะว่าเก่งในเรื่องการ บริหารงาน สุดท้ายก็ต้องไม่ลืมการบริหารชีวิตด้วยทำ อยา่ งไรงานกับชีวิตจะต้องไปด้วยกัน อาตมาขอให้หลักง่ายๆ ว่า จุดที่งานประสานกับ คุณภาพของชีวิต นั่นคือผลสัมฤทธิ์ของการเป็นนักบริหาร เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณประสบความสำเร็จในงานนักบริหาร แต่ชีวิตของคุณนั้นเต็มไปด้วยปัญหา ก็ถือว่าคุณประสบ ความสำเรจ็ เพยี งดา้ นเดยี ว ผบู้ รหิ ารทด่ี นี น้ั นอกจากบรหิ าร 64 บริหารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานใหส้ ัมฤทธิ์

งานแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริหารชีวิตด้วย มิเช่นนั้น แล้วก็จะกลายเป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จในด้าน บริหารแต่กลับล้มเหลวในฐานะมนุษย์ นอกจากเป็น นกั บรหิ ารแลว้ ควรเปน็ มนุษยด์ ว้ ย ว.วชิรเมธี 65



อย่าทำงานจนป่วยตาย อย่าหลงใหลตัวเอง ขอจบเรื่องนี้ด้วยนิทานพุทธปรัชญาเรื่องหนึ่ง ซึ่งได้ยิน ได้ฟังมาจากนิทานปรัชญาเซน เรื่องของผู้บริหารที่เก่งการ ทำงานแตไ่ มเ่ กง่ การบรหิ ารชวี ติ และมจี ุดจบอยา่ งไร ที่วัดเซนแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ยังมีไก่อยู่ ครอบครัวหนึ่ง หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้บริหารที่เก่งมาก กางปกี ปกปอ้ งภรรยาและลกู ทกุ ตวั อยกู่ นั มาอยา่ งมคี วามสขุ ทุกๆ เช้าเวลาตีห้า ไก่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวจะบินขึ้น ไปเกาะอยู่บนกิ่งไม้และโก่งคอขันเสียงก้องไปทั้งพงไพร ประมาณหกโมงเช้า พระอาทิตย์ก็จะอรุโณทัยฉายแสงขึ้น

มาส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งสากลโลก ไก่ตัวนี้จะมีความสุข มากที่ได้เห็นตะวันค่อยๆ ทอแสงสุกสว่างขึ้นมา เขาจะยืน ชื่นชมแสงตะวันและก็ยืนภาคภูมิใจว่า เพราะฉันขันตะวัน จึงข้นึ มีความสขุ นีค่ ือผลงานของฉนั ทุกๆ เช้าไก่ตัวนี้ก็จะบินขึ้นมาเกาะกิ่งไม้และเมื่อ ขันเสร็จแล้วก็รอดูตะวันขึ้นที่เหนือยอดเขา พอตะวัน ขึ้นเสร็จแล้วก็บินกลับลงมาหาอยู่หากินกับลูกกับเมีย เขามคี วามสุขมาก ต่อมาวันหนึ่ง เนื่องจากตรากตรำภาระหนัก เหลือเกิน ร่างกายทนไมไ่ หว กป็ ่วย เชา้ ตรูว่ ันน้ัน ไก่ตวั น้นั ก็บินขึ้นไปเกาะกิ่งไม้ที่เดิม ขณะจะขันเพื่อเรียกตะวัน ขึ้นก็ร่วงตกลงมา รู้สึกไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ลูกชายซึ่ง เป็นไก่โต้งคนรุ่นใหม่ไฟแรงเดินเข้ามาประคองพ่อ “พ่อ ผมว่าถ้าพ่อขันไม่ไหว วันนี้ผมขันแทนเอาไหม” ไกพ่ อ่ ซง่ึ เปน็ ซอี โี อ กย็ ดื อกขน้ึ มาชห้ี นา้ ลกู “นำ้ หนา้ อยา่ งแก ถ้าขันตะวันมันจะขึ้นไหม หัดดูเงาหัวตัวเองซะบ้างสิ” เจอผู้ใหญ่ดบั ฝนั แบบนีล้ กู หัวหดเลย 68 บริหารคนให้สำราญ บรหิ ารงานให้สัมฤทธิ์

เชา้ ตรวู่ นั นน้ั ทง้ั ๆ ทป่ี ว่ ย ไกซ่ อี โี อตวั นก้ี บ็ นิ ขน้ึ ไปเกาะ บนกิ่งไม้และก็ขันครั้งสุดท้าย ขันได้ครั้งเดียว ตกลงมา ดน้ิ พราดๆ กอ่ นจะขาดใจตาย เรียกประชุมด่วน ท้ังภรรยา และลูกมากันครบ สง่ั เสยี ว่า “เธอที่รัก ลูกพ่อ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พี่คง ไม่มีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว และจากนี้เป็นต้นไป พอพี่ไม่ขัน ตะวันก็จะไม่ขึ้น โลกก็จะเข้าสู่กลียุค ฉะนั้นขอให้เธอและ ลูกดูแลบริษัทของเราให้ดีๆ ถ้าไม่มีพี่แล้วจะอยู่กันด้วย ความยากลำบาก มนุษยชาติก็จะถึงคราววิบตั ิ ดูแลกันดีๆ นะทรี่ ัก” เสร็จแล้วก็ล่วงลับดับขันธ์ไป พร้อมกับความ เข้าใจผิดว่า เพราะฉันขันตะวันจึงขึ้น หารู้ไม่ว่าวันรุ่งขึ้น พอไกต่ วั นต้ี ายไปแลว้ ตะวนั กย็ งั ขน้ึ เหมอื นเดมิ โลกดำเนนิ ตอ่ ไปไม่มอี ะไรเปลยี่ นแปลง ไกต่ วั นั้นไมไ่ ดน้ ำเอาตะวนั ไป ด้วยซกั นิด พระอาทติ ยย์ ังคงอทุ ัย พระจันทรย์ ังคงทอแสง สายนำ้ ยงั คงไหลเออ่ื ยดอกไมย้ งั คงผลบิ านโลกนย้ี งั คงมขี า้ ว ปลาอาหารอดุ มสมบรู ณ์ นกกย็ ังมขี ้าวปลาอาหาร ผูค้ นตา่ ง ว.วชิรเมธี 69

ก็ยงั คงทำงานตอ่ ไปไดเ้ หมือนเดมิ ฉะนน้ั ผบู้ รหิ ารทกุ คน เมอ่ื เราบรหิ ารงานไปไดร้ ะดบั หนึ่งแล้วอย่าหลงตัวเองว่าองค์กรนั้นถ้าขาดฉันแล้วไปต่อ ไม่ได้ ควรเตือนตัวเองเอาไว้บ่อยๆ ว่า ถ้าขาดฉันแล้วมัน จะไปได้ดี เพอื่ จะไดไ้ ม่หลงตัวเอง ผู้บริหารจำนวนมาก ทันทีที่ประสบความสำเร็จก็ ล้มเหลวในวันนั้น เพราะทันทีที่ประสบผลสำเร็จก็เริ่มหลง ตัวเอง และนี่แหละคือจุดจบของผู้บริหาร ฉะนั้นจำนิทาน เรื่องนี้ไว้ วันหนึ่งถ้าเราประสบความสำเร็จ ก็อย่าไปหลง ตัวเองว่าเราต้องเป็นหนึ่งในตองอูเท่านั้นจนไม่ยอมบริหาร จดั การ อำนาจ ความรบั ผดิ ชอบให้กับผูอ้ ่นื เลย 70 บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สัมฤทธ์ิ

ผู้บริหารที่ดีจึงไม่ใช่ผู้ที่แบกหนักที่สุด ผู้บริหาร ทด่ี คี อื ผทู้ แ่ี บกหนกั พอสมควร และกระจายภาระใหค้ นอน่ื แบก และประการสำคัญที่สุด ผู้บริหารจะไม่ทำงานจน ป่วยตาย ว.วชิรเมธี 71



๗ ปุจฉาจากผู้บริหาร ปจุ ฉาท่ี ๑ เป้าหมายของบริษัทคือ การเติบโต และ กำไร เป้าหมายของคนทำงาน คือ การมีคุณภาพชวี ิตทด่ี ี จะทำอย่างไร ให้เป้าหมายของคนกับงานมีความ สอดคลอ้ งและไปด้วยกนั วิสัชนา เราไม่จำเป็นต้องแยกการทำงานออกจากชีวิต จึงจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่เราสามารถทำสองอย่างไป ว.วชิรเมธี 73

พร้อมๆ กันได้ โดยใช้หลักธรรมเรื่อง “ทางสายกลาง” หรือหลกั แหง่ ความสมดลุ ตามแนวทางพุทธศาสนา หลักการ “สมดุลงาน สมดุลชีวิต” นี้ มีวิธีปฏิบัติ ตามบทสรปุ ที่วา่ “การทำงานประสานกับคุณภาพของชีวิต คือ ผลสัมฤทธิข์ องทางสายกลาง” การสร้างทางสายกลางระหว่างการทำงานและการ ใช้ชีวิตนี้ เราต้องฝึกให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพราะหากไม่ฝึก ไม่พัฒนา เมื่อทำงานไปหลายคนอาจเสพติดการทำงาน หนกั จนพานคดิ ไปว่า ผลของการทำงานกค็ อื เร่อื งเดียวกนั กับคุณภาพชีวิต โดยหารู้ไม่ว่า บางทีผลสัมฤทธิ์ของงาน ที่เพิ่มขึ้นๆ นั้น ต้องจ่ายด้วยคุณภาพชีวิตราคาแสนแพง เชน่ ยง่ิ มีความรับผิดชอบสงู มองในแงก่ ารทำงานแสดงว่า มีตำแหนง่ สูงข้นึ ก้าวหน้าข้ึน แต่หากมองในแง่สขุ ภาพอาจ ยงิ่ ทรุดตำ่ ลง เพราะต้องแบกความเครยี ดมากข้ึน เมื่อเครียดมากขึ้น บุคลิกภาพก็เปลี่ยนไปไม่อยาก พูด ไม่อยากสังสรรค์กับใครอารมณ์เสียกับเรื่องต่างๆ 74 บรหิ ารคนให้สำราญ บริหารงานใหส้ ัมฤทธิ์

ได้งา่ ยขึน้ เวลาสำหรับตัวเองและคนในครอบครวั ก็นอ้ ยลง พอมีวนั หยุด กไ็ ม่อยากไปไหน อยากนอนให้สาแก่ใจเพียง อยา่ งเดยี ว เวลากนิ เวลาอยกู่ บั ครอบครวั กไ็ มว่ ายคดิ ถงึ แต่ เรื่องงาน แมจ้ ะกลบั บา้ นแต่หวั ค่ำ แต่เมอ่ื กินขา้ วเสร็จแล้ว ก่อนนอนก็ยังไม่วายลุกมานั่งพิจารณาเอกสารหรืออ่าน อเี มลงาน บางทีทำอยอู่ ย่างนี้จนตสี อง ตสี าม จงึ เข้านอน ครั้นถึงตีห้าหรือหกโมงเช้า ก็ต้องรีบตื่นขับรถไป ทำงาน อาหารเช้าก็ไมก่ ินนอกจากกาแฟเพียงแกว้ เดียวเมื่อ ไปถึงที่ทำงาน แฟ้มงานก็กองสุมรออยู่บนโต๊ะแล้ว สายๆ หน่อยมีแขกมาพบ พอเที่ยง ก็นั่งกินข้าวบนโต๊ะทำงาน กินไป ตาก็กวาดดูเอกสารไปพลาง มือข้างหนึ่งจับช้อน มืออีกข้างพลิกดูเอกสาร หูยังเสียบบลูทูธฟังไป คุยไป บ่ายๆ ถงึ เย็น ติดประชุมกับกรรมการบอร์ดอีกสองสามนดั สี่โมงโทรตามคนรถให้ไปรับลูก ลูกเป็นตัวแทนห้องเรียน แสดงละคร ทำกิจกรรม แม่หรือพ่อก็แทบไม่ว่างไปให้ กำลงั ใจ พอหกโมงเยน็ กข็ บั รถออกจากสำนกั งาน รถไปตดิ อ ว.วชิรเมธี 75

ยบู่ นทางดว่ นรว่ มสองชว่ั โมง ตลอดเวลานก้ี ห็ งดุ หงดิ อารมณ์ เสยี ตอ่ โทรศพั ทห์ าคนนน้ั คนนไ้ี ปทว่ั คยุ ไปพลางบน่ ไปพลาง ในหัวมีแต่ความขุ่นมัวของอารมณ์ ทุ่มหรือบางวันสองทุ่ม จึงฝา่ รถติดกลบั ถึงบ้าน เมื่อถึงบ้าน ลกู ๆ ทำการบ้านอยกู่ บั พเ่ี ลย้ี ง แลว้ กแ็ ยกไปนอน พอ่ กบั แมท่ ำไดอ้ ยา่ งดแี คห่ อมลกู หนง่ึ ฟอด แลว้ กพ็ ดู ออกไปเหมอื นหนุ่ ยนตว์ า่ “พอ่ /แมร่ กั ลกู หลับฝันดนี ะคะ” จากนั้น รีบอาบน้ำอย่างลวกๆ แล้วออกมานั่งกิน อาหารมื้อสุดท้ายของวัน ตาจ้องดูโทรทัศน์อย่างแกนๆ ไม่ได้ตั้งใจดูอะไรเป็นพิเศษ เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร อย่างต่อเนื่อง ละครก็ไม่สนใจ บ้านเมืองก็น่าเบื่อ เกมส์ โชว์ก็มีแต่ตลกและดาราหน้าซ้ำๆ โผล่มาให้ฮาแบบฝืดๆ ด้วยมุกเดมิ ๆ กปี่ ี ก็เปน็ อยา่ งนี้ กินขา้ วเสร็จ เขา้ ห้องนอน เห็นสามีหลับเป็นตายเพราะเหนื่อยหนักไม่น้อยไปกว่ากัน แต่ตัวเองยังตาสว่าง อย่ากระนั้นเลย หยิบไอแพดคู่ใจ มาเปิดอีเมล เช็คดูงานที่ยังคั่งค้าง จากนั้นองค์คนทำงาน จนเสพติดลงประทบั 76 บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สัมฤทธิ์

นั่งทำงานเพลินต่อไปจนถึงตีหนึ่งหรือตีสอง จนตาล้าเต็มที จึงข่มตานอน เอ๊ะ เหนื่อยขนาดนี้ทำไม ยังนอนไม่หลับ (ร่างกายผิดปกติขนาดนี้ก็ยังไม่รู้สึก) ลุกขึ้นมาหยิบยานอนหลับใส่ปากสองเม็ด แล้วก็ล้มตัวลง นอนในสภาพอิดโรย เพื่อที่จะรีบตื่นมาอีกทีตอนเช้าใน สภาพนอนไมเ่ ตม็ อม่ิ แตไ่ มม่ ที างเลอื ก ถงึ อยา่ งไรกต็ อ้ งตน่ื ไปทำงาน ชีวิตที่ใช้ไปอย่างสมบุกสมบันเช่นนี้ มีราคาที่ต้อง จ่ายแพงเหลอื เกิน ในขณะท่คี ุณได้ตำแหน่งหน้าทที่ สี่ งู ขนึ้ มอี ำนาจมาก ขึ้น ความรับผดิ ชอบมากข้นึ แตค่ ณุ ภาพชวี ติ ของคณุ กลบั หายไป คณุ ไมต่ า่ งอะไร กับหุ่นยนต์ที่ทำอะไรซ้ำๆ เหมือนถูกวางโปรแกรมเอาไว้ แล้ว ไมน่ านหลงั จากการใชช้ วี ติ อยา่ งชนดิ บอกลาทางสาย กลาง รา่ งกายและจติ ใจกป็ ระทว้ งคณุ ดว้ ยการแสดงใหเ้ หน็ วา่ ใจหนกั อึ้งไปด้วยความเครยี ด อารมณม์ ีแตค่ วามขุ่นมวั ว.วชิรเมธี 77

ร่างกายถ้าไม่ผ่ายผอมเพราะไม่ได้ดูแล ก็อ้วนเผละเพราะ กินไม่เลือกเพื่อดับความเครียด มนุษยสัมพันธ์กับคน อื่นลดน้อยถอยลงไป ความมีชีวิตชีวาติดลบ รอยยิ้ม เสยี งหวั เราะนานๆ ครง้ั คนรอบขา้ งจงึ ไดเ้ หน็ ขณะทร่ี า่ งกาย ก็อุทธรณ์ด้วยการเหนื่อยง่าย กินอาหารไม่อร่อย น้ำหนัก ลดหรอื เพิม่ อยา่ งรวดเรว็ วันหนงึ่ เหนอ่ื ยลา้ เต็มทแี วะไปให้ หมอตรวจ หมอวนิ จิ ฉยั ว่า เสียใจด้วยคุณป่วยดว้ ยโรครา้ ย คงมชี วี ติ อย่ไู ปได้อกี ไมก่ ี่ปี... นค่ี อื ชีวติ ของมนษุ ย์ในสงั คมทุนนิยมบรโิ ภค น่คี ือ ชีวิตของมนุษยใ์ นเมอื งที่ตอ้ งแข่งขนั กันทำมา หากนิ และมุ่งไปสู่กำไรสงู สดุ นี่ไม่ใช่ชีวิตสำเร็จรูปของคนเมืองทั้งหมด แต่นี่คือ ภาพจำลองชีวิตของคนสว่ นใหญ่ในเมืองทกุ วนั นี้ ทีต่ ่างคน ต่างทำงาน จนหลงลืมที่จะกลับมาดูแล “กาย – ใจ” ใหค้ นื สคู่ วามสมดลุ เปน็ ความสมดลุ ทก่ี ายและใจควรไดร้ บั แต่แล้วเรากลับมองข้ามมันไป เพื่อที่จะกลับมาตระหนัก รอู้ กี ครง้ั หนง่ึ วา่ ความสมดลุ หรอื ทางสายกลางสำคญั แคไ่ หน 78 บรหิ ารคนให้สำราญ บรหิ ารงานใหส้ ัมฤทธ์ิ

กต็ ่อเมือ่ เราได้สูญเสียความสมดุลนนั้ ไปแล้ว ชีวิตที่ดี ไม่ใช่ชีวิตที่มีเงินมาก หรือมีอำนาจล้นฟ้า มชี ่ือเสยี งฟุง้ กระจายเสมอไป แต่ชีวิตทีด่ ี คือ ชีวติ ที่มคี วามสมดุลของกายและใจ ของงานและของชวี ติ อยา่ งลงตวั คณุ มที กุ อยา่ งไมว่ า่ จะเปน็ ยศ ทรพั ย์ อำนาจ ชอ่ื เสยี ง กามารมณ์ แต่หากคุณไม่มีความสุขเพราะกายป่วยและใจ เครยี ด ส่ิงที่คณุ มยี ังจะมีความหมายอกี ไหม หลกั สมดลุ งาน สมดลุ ชีวิต จึงเปน็ หลักท่คี นทำงาน ทุกคนควรนำมาเป็นแนวทางในการทำงานและการใช้ชีวิต อยู่เสมอ ในทางปฏบิ ตั ิ หากเราอยากสร้างชวี ติ คน ชีวิตงาน ใหก้ ้าวหนา้ ไปพร้อมๆ กนั กค็ วรเตอื นตวั เองอยู่เสมอว่า “คนต้องสำราญ งานตอ้ งสัมฤทธ์”ิ ไม่ใช่ “งานสัมฤทธิ์ แต่ชวี ติ ไม่สำราญ” หรือเขียนเตือนตนไว้ในห้องทำงาน เพื่อเป็นการ เตอื นตนไมใ่ ห้เสพตดิ การทำงานจนเสยี คณุ ภาพชวี ิตว่า “การทำงานประสานกบั คณุ ภาพชวี ติ คอื ผลสมั ฤทธ์ิ ของทางสายกลาง” ว.วชิรเมธี 79

ปุจฉาท่ี ๒ ทำงานดี แต่ลูกน้องไม่รัก มีลูกน้องฝีมือดีก็อยู่ ด้วยกันได้ไม่นาน เข้าข่าย งานสำเร็จ คนไม่สำเร็จ จะมี วธิ แี กไ้ ขอยา่ งไร วิสชั นา ปญั หาของคณุ แสดงใหเ้ หน็ วา่ คณุ ยงั ขาดความเขา้ ใจ ในเร่อื งคน และเรือ่ งการบรหิ าร การที่ลูกน้องไม่รัก คุณคงต้องมานั่งถามตัวเองว่า ตัวเองมบี คุ ลิกภาพการทำงานแบบใด อำนาจนิยมมากเกนิ ไปหรือเปล่า บา้ ทำงานมากเกนิ ไป จนลูกนอ้ งเหนอื่ ยมาก เกนิ ไปเวลาอยกู่ บั คณุ หรอื เปลา่ อจั ฉรยิ ะเกนิ ไป จนลกู นอ้ ง ตามไม่ทันหรือเปล่า หรือว่า เป็นคนมาตรฐานสูงเกินไป จนลกู น้อง พัฒนาไม่ทนั หรอื เปลา่ เหลา่ นี้ คอื คำถามท่คี ณุ ตอ้ งยอ้ นกลบั มามองตวั เอง อยา่ งตรงไปตรงมา หากเหน็ วา่ เปน็ ปญั หาในขอ้ ไหน กค็ วรหาทางแกจ้ น 80 บริหารคนให้สำราญ บริหารงานใหส้ มั ฤทธิ์

เกดิ สมดลุ ในเรอ่ื งนัน้ ให้ได้ ส่วนสาเหตุที่ลูกน้องฝีมือดี แต่อยู่ด้วยกันได้ ไม่นานนั้นเป็นเพราะว่า คุณเป็นคนทำงานดี แต่ใจร้อน หรือเฉียบขาด อำนาจนิยมมากเกินไป จนบรรยากาศการ ทำงานเครียดมากเกินไปหรือเปล่า หรือว่า คุณปล่อยให้ ลกู นอ้ งฝมี อื ดี ทำงานดี แตว่ า่ เงนิ เดอื นและสวสั ดกิ ารตำ่ จน เขารับไมไ่ ดห้ รอื เปลา่ ธรรมชาติของคนทำงานนน้ั ตอ้ ง “กนิ อ่ิม นอนอ่นุ ” เขาจึงจะอุทศิ ตนทำงานเตม็ ท่ี แต่ถ้าเขาฝีมือดี ทว่าบริษัทกลับปล่อยให้เขา “กินไม่อิม่ นอนไม่อุ่น” เงินเดือนนอ้ ย สวัสดกิ ารดีๆ กไ็ มม่ ี ถา้ เปน็ อยา่ งนี้ เกง่ แคไ่ หน ก็คงตอ้ งโบกมอื ลา ลองพิจารณาดูเถิดว่า ปัญหาของคุณอยู่ตรงไหน ถ้าพอจะสืบสาวหาสมุทัยแห่งปัญหาได้แล้ว ก็ควรรีบลง มือแก้เสียแต่วันนี้ เพราะขืนปล่อยไป ก็ทำให้เสียทั้งงาน ทงั้ คุณภาพชีวิต หากคุณเป็นคนเก่งงาน ก็ควรเพิ่มความเก่งคนเข้า ไปด้วย ว.วชิรเมธี 81

หากคุณเป็นคนเก่งคน ก็ควรพัฒนาความเก่งงาน เขา้ ไปดว้ ย ถ้าคุณเก่งทั้งคน และเก่งทั้งงานเม่ือไหร่ ชีวติ การทำ งานก็จะสดช่นื รื่นรมย์อยา่ งยิ่ง ในกรณีของคุณนี้ ขอให้คติการปรับปรุงตัวเองไว้ สน้ั ๆ ว่า “ก่อนสร้างงาน จงอย่าลืม สร้างความสัมพันธ์ที่ดี กบั คนทำงานดว้ ย” หรือ “จงอย่ามัวแต่ใช้คนให้ทำงาน แต่จงสร้าง คนท่ที ำงานร่วมกบั คณุ ด้วย” ปจุ ฉาท่ี ๓ ลูกน้องเก่งเกินหนา้ นาย ทำอยา่ งไรดี วิสัชนา ๑. พัฒนาตนใหเ้ กง่ ยิง่ กวา่ ลกู น้อง ๒. ยกย่องลูกน้องให้ขึ้นมาเป็นนายอีกคนหนึ่งของ บรษิ ทั 82 บริหารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานใหส้ ัมฤทธิ์

ปุจฉาท่ี ๔ ทำอย่างไรจงึ เปน็ ทรี่ ักของพนกั งาน วสิ ัชนา พระพุทธเจ้าทรงมอบหลักธรรมสำหรับสร้างเสน่ห์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วิธี “ธรรมเสน่ห์” สำหรับคนที่ ต้องการเปน็ ทร่ี กั ดงั ต่อไปนี้ ๑.เออื้ อารี คอื รู้จักเป็นผู้ให้ไมใ่ ชผ่ ้เู หน็ แก่ตวั ๒.วจีไพเราะ คือ ร้จู ักปากหวานขานเพราะเสนาะหู ๓.สงเคราะหม์ วลชน คือ มีจิตอาสา ไม่เย็นชาเมื่อ ผอู้ ื่นเดือดร้อน ๔.วางตนสม่ำเสมอ คือ ก้าวหน้าแล้วไม่ลืมตัว มีมนษุ ยสมั พันธ์ดีเยย่ี ม ใครปฏบิ ตั ติ ามหลกั สป่ี ระการน้ี จะมเี สนห่ ท์ นั ตาเหน็ นายรกั ลูกน้องนยิ ม สงั คมยกยอ่ ง เพ่อื นพ้องอุปถัมภ์ ว.วชิรเมธี 83

ปุจฉาท่ี ๕ ทำอย่างไรเมื่อลูกน้องไม่ยอมพัฒนาศักยภาพของ ตนให้ไปพร้อมกบั บรษิ ทั วสิ ัชนา ๑.ชแ้ี จงใหท้ ราบถงึ แนวนโยบายเปา้ หมายของบรษิ ทั จนลูกน้องมองเห็นทิศทางที่บริษัทกำลังจะมุ่งไป หากแนว นโยบายไมช่ ัด วสิ ยั ทัศนไ์ ม่แจ่ม คนทำงานก็ไมร่ ้วู า่ ทศิ ทาง ที่จะมุ่งหน้าไปนั้นอยู่ตรงไหน เป้าหมายสูงสุดคืออะไร เหมือนเรือที่ออกจากฝั่ง แต่ไม่รู้ว่าจะเทียบท่าตรงไหน ยอ่ มแลน่ ไปอยา่ งไรท้ ศิ ทาง ๒. เมื่อลูกน้องทราบทิศทางของบริษัทชัดเจนแล้ว ก็ขอให้เขาปรับตัว หากเขาปรับแล้ว ยังดีไม่พอ ก็ควรจัด สภาพแวดลอ้ มใหเ้ ขาไดเ้ รยี นรกู้ บั “มอื อาชพี ” ในดา้ นตา่ งๆ เช่น จัดอบรม หรือ training เฉพาะเรื่อง เฉพาะทักษะ จนกว่าเขาจะพัฒนาศักยภาพได้ดีขึ้น จนสามารถเป็น พนักงานคุณภาพของบรษิ ัทไดใ้ นท่สี ุด 84 บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สมั ฤทธิ์

๓. เพม่ิ แรงจงู ใจในการทำงาน ทง้ั เงนิ เดอื น สวสั ดกิ าร และคณุ ภาพชวี ติ ทเี่ ขาควรจะไดร้ บั อยา่ งสมเหตุสมผล ๔. ยกย่องคนเก่ง คนเด่น คนดี ของบรษิ ัท ให้เป็น ที่ปรากฏเพื่อเป็นแรงบัลดาลใจ สำหรับคนที่ยังไม่มีแก่ใจ พัฒนาตนเอง ปุจฉาท่ี ๖ จะดำเนินการเช่นไร หากเกิดปัญหาการเมืองภาย ในขน้ึ ในองค์กร วิสัชนา การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง วิธีการทางการเมือง ที่ดีที่สุด คือ การเจรจา แต่ก่อนเจรจาเพื่อแก้ปัญหา ผู้บริหารของบริษัท ก็ต้องรู้จักวิเคราะห์ปัญหาจนค้นพบ สาเหตุที่แท้จริงเสียก่อน แล้วจึงลงมือแก้ปัญหา หลักใน การวิเคราะห์ปัญหาตามแนวพุทธ ก็คือ หลักอริยสัจ ๔ ทปี่ ระกอบดว้ ย ว.วชิรเมธี 85

๑. อะไรคอื ตวั ปัญหา / what ๒. ปญั หานีม้ ีทมี่ าจากสาเหตใุ ด / why ๓. ทางออกของปัญหาเป็นอย่างไร / how ๔. วิธีแกป้ ญั หานัน้ ตอ้ งทำอยา่ งไร / how to เมื่อพิเคราะห์จนเห็นปัญหาที่ชัดเจนแล้ว จงลงมือ แก้ปัญหาที่สาเหตุอย่างตรงจุด ถ้าทำตามขั้นตอนดังกล่าว มาน้ี ปญั หาการเมอื งภายในบรษิ ทั กจ็ ะอนั ตรธานไปในไมช่ า้ แต่ถ้าแก้ปัญหาด้วยการบ่น นินทา ด่าทอ วิพากษ์วิจารณ์ หรือแบ่งฝ่าย ยิ่งแก้ จะยิ่งยุ่ง ยิ่งใช้ความรุนแรงปัญหาจะ ยิง่ ทวีคูณ ปุจฉาที่ ๗ จะทำอยา่ งไรให้พนักงานทำงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ วิสัชนา ผู้นำขององค์กรต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของการ ทำงานอย่างสร้างสรรค์ เพราะถ้าหากอยากให้พนักงาน 86 บริหารคนให้สำราญ บริหารงานให้สัมฤทธ์ิ

ทำงานอย่างสร้างสรรค์ ทว่าผู้นำกลับเป็นคนอนุรักษนิยม ติดกรอบคิดแบบเก่าๆ มีความคิดและวิธีการทำงานเชยๆ ไมย่ อมปรบั เปลย่ี นทศั นคติ ถอื ตวั เองเปน็ ใหญ่ อำนาจนยิ ม ไม่ยอมกระจายอำนาจ ผูกขาดการพูด การนำ และการทำ โดดเด่นอยู่คนเดียวในบริษัท รับประกันได้เลยว่าถ้าผู้นำ มีลักษณะเช่นนี้ ไฟในการสร้างสรรค์จะอันตรธานไปอย่าง สิ้นเชงิ แต่หากเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ผู้นำเป็นคนหัวก้าวหน้า ยอมรับความหลากหลายของความคิด พร้อมปรับตัวรับ ความเปล่ยี นแปลง ไมผ่ ูกขาดความรบั ผิดชอบอยูค่ นเดียว เหน็ คนเกง่ แลว้ ไมข่ ดั ขวาง แตส่ ง่ เสรมิ ใหก้ า้ วหนา้ ยง่ิ ๆ ขน้ึ ไป ไม่ใช้อำนาจอย่างขาดเหตุผล อารมณ์ดี มีมนุษยสัมพันธ์ กล้าคิดนอกกรอบ มีความยืดหยุ่นในการทำงานสูงใช้คน ให้เหมาะกับงาน รจู้ ักเสรมิ แรงด้วยเงนิ เดือนดๆี และมอบ รางวลั เมอ่ื ถงึ โอกาสอนั ควร กเ็ ปน็ อนั มน่ั ใจไดเ้ ลยวา่ พนกั งาน จะมีไฟแห่งการสร้างสรรค์กันไม่หยุดหย่อน บรรยากาศ ในทท่ี ำงานจะมชี วี ติ ชวี า นวตั กรรมใหมๆ่ จะเกดิ ขน้ึ งานกจ็ ะ สมั ฤทธิ์ ชีวิตก็จะรน่ื รมย์ ว.วชิรเมธี 87

๗ ปุจฉาจากพนักงาน ปจุ ฉาที่ ๑ ทำงานมาหลายสิบปี รู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำงาน จึงทำงานไปเรื่อยๆ อย่างไร้แรงบันดาลใจ จะทำอย่างไร ให้รู้สึกมคี วามสขุ และสนุกกับการทำงาน วิสัชนา อาหารที่แสนอร่อย แต่ถ้าเรารับประทานซ้ำๆ เพียงสามมอ้ื ในทสี่ ดุ เรากจ็ ะไมร่ สู้ ึกตืน่ เต้นกบั ความอรอ่ ย นน้ั อกี แลว้ หรอื บางที ไมเ่ พยี งไมร่ สู้ กึ ตน่ื เตน้ แตอ่ าจจะถงึ ขน้ั 88 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานใหส้ มั ฤทธิ์

เบ่อื หน่าย เย็นชา และไมถ่ ามหาอกี เลยเปน็ เวลานาน นคี่ อื อาการเบ่ือความซำ้ ซาก จำเจ ใครทม่ี อี าการอยา่ งนข้ี อแนะนำใหห้ าอะไรมาทำสลบั กับความจำเจ เช่น ขอเว้นวรรค ดว้ ยการพักผ่อน เดนิ ทาง หรือขอปรับเปลี่ยนแผนกเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียน รู้งานใหม่ๆ จะได้มีทักษะใหม่ๆ มีความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาในชวี ิต แต่ถ้าพิจารณาแล้วพบว่า ตัวเองเป็นเพยี งพนกั งาน เลก็ ๆ คนหนง่ึ ไมส่ ามารถปรบั เปลย่ี นอะไรในทท่ี ำงานไดเ้ ลย กข็ อแนะนำใหป้ รบั เปลย่ี นวธิ คี ดิ แทน ดว้ ยการบอกตวั เองวา่ แม้งานจะจำเจ แตถ่ ้าเราไมท่ ำ ก็จะกระทบถึงความอยรู่ อด หรอื ความมน่ั คงในชวี ติ ดงั นน้ั กจ็ ำเปน็ ตอ้ งทำงานนน้ั ตอ่ ไป ถึงแม้ใจไม่รัก แต่ก็ต้องเอาความจำเป็นมาเป็นเงื่อนไขให้ ตวั เองทำตอ่ ไป ใหเ้ ตม็ ทแ่ี ละทำใหด้ ที ส่ี ดุ เพราะนค่ี อื โลกแหง่ ความเป็นจริงทแ่ี มเ้ ราไมช่ อบ แต่เราปฏิเสธไมไ่ ด้ แต่หากทนทำต่อไปไม่ไหว เพราะใจไม่อยากอยู่อีก แล้ว ก็ขอแนะนำให้ลุกขึ้นมาท้าทายตัวเองด้วยการเปลี่ยน ว.วชิรเมธี 89

งานใหม่ ซง่ึ หากมีความเชอ่ื มนั่ ในตวั เองมากพอ กต็ อ้ งหาท่ี และงานที่เหมาะกับตัวเองได้อยู่แล้ว ผู้เขียนรู้จักพนักงาน ต้อนรับบนเครื่องบินอยู่คนหนึ่งที่ทำงานบนอากาศมานาน กว่า ๑๐ ปี ทำอย่างนี้จนรู้สึกว่า ไม่มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้น อกี แล้ว วันหนึ่งเขาเบื่อสุดๆ จนไม่มีแก่ใจไปทำงาน จึงขอ ลาหยุดงานยาวกว่าสิบวัน เพื่อถามตัวเองว่าชีวิตที่เหลือ จะทำอะไร ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า ต้องออกมาหาอะไรให้ ตวั เองทำ มเิ ชน่ นน้ั แลว้ คงเฉาตายเปน็ แน่ เทวดาเบอ่ื สวรรค์ คนนี้ ตัดสินใจทำธุรกิจใหม่ด้วยการเปิดร้านอาหารซึ่งเป็น สายงานทเ่ี ขาไม่รจู้ ักมาก่อน แต่อาศัยความที่เป็นคนเดินทางท่องโลกมามาก เห็นร้านอาหารมาแล้วทั่วทุกมุมโลก เขาจึงเริ่มแต่งนั่น ประดับนี่ ทำไปทำมา เขาก็กลายเป็นเจ้าของร้านอาหาร ชื่อดัง หากนับจากวันแรกถึงวันนี้ เขาก็มีร้านอาหาร เปน็ ของตวั เองแล้วห้ารา้ น และกำลังสนกุ สนานอยา่ งเต็มท่ี กับส่งิ ทเี่ ขา “เลอื กทำ” เพื่อหนีความจำเจ 90 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานใหส้ ัมฤทธิ์

คนทุกคนสามารถลุกขึ้นมาทำอะไรได้ตั้งมากมาย ถ้าหากเขามี “ความกลา้ ทจ่ี ะทา้ ทาย” ตัวเอง แต่ถึงแมจ้ ะมี ความสามารถมากมาย ทวา่ ถ้าไม่กลา้ กต็ อ้ งก้มหน้าอยู่ในท่ี เดมิ ต่อไปจนกว่าวันเวลาในท่ีทำงานเดิมจะหมดลง คุณจะเลือกอย่างไร ระหว่างทนอยู่ในที่เดิมกับ ความเป็นจริง หรือลุกขึ้นมาแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ แตก่ ไ็ มม่ อี ะไรเปน็ เครอ่ื งรบั ประกนั วา่ จะประสบความสำเรจ็ หรอื ลม้ เหลว ลองถามใจตวั เองดู ปจุ ฉาท่ี ๒ จะทำอย่างไร เมื่อรู้สึกว่าตัวเองทำงานดีอยู่แล้ว แตม่ ันยังไม่ดีพอสำหรับเจา้ นายและบรษิ ทั วิสัชนา การที่คนๆ หนึ่งรู้สึกว่า ตัวเองทำงานดีอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างลึกซึ้ง เพราะการที่คนๆ ว.วชิรเมธี 91

หนึ่งจะรู้สึกเชน่ นไี้ ด้ มีความเปน็ ไปได้สองทาง ๑. เป็นการทำงาน ดีจริงๆ ดีจนตัวเองรู้สึกได้ และคนอืน่ กย็ อมรับ ๒. เปน็ การรสู้ กึ ไปเอง แตค่ นอน่ื เขาเหน็ วา่ ยงั ดไี มพ่ อ จงึ อยากให้ปรับเปล่ียน ถ้าเป็นแบบที่หนึ่ง กล่าวคือ คุณทำได้ดีอยู่แล้ว เพอ่ื นรว่ มงานกย็ อมรบั แตน่ ายยงั ตอ้ งการใหด้ ยี ง่ิ กวา่ นน้ั อกี ถ้าคุณเชื่อมั่นว่า คุณมีความสามารถพอ ก็ควรจะพัฒนา ตัวเองต่อไปให้ถึงที่สุด เพราะยิ่งพัฒนา คุณก็มีโอกาส ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ถ้าหากคุณพิจารณาแล้ว พบว่า ขืนพัฒนาต่อไป คงต้องแบกความเครียดตายแน่ๆ ขอทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดแบบนี้ดีกว่า ก็ควรจะต้องเจรจา กับนาย ว่าตัวเองทำได้แค่นี้จริงๆศักยภาพของตนมี ข้อจำกดั ถา้ หากนายยอมรับได้ ก็เป็นเรอ่ื งดแี ต่ถา้ หากนาย ไม่ยอมรับฟัง และบริษัทก็ไม่ยอมเปิดโอกาสตามที่คุณขอ คุณกค็ งตอ้ งพิจารณาหางานใหมๆ่ ทำ ในโลกยุคทุนนิยมบริโภค เป็นธรรมดาที่พนักงาน 92 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานใหส้ มั ฤทธ์ิ

ทุกคนจะถูกประเมินคุณค่าจากกำไรหรือยอดขายที่คุณทำ ใหก้ บั บรษิ ทั สำหรบั คนทท่ี ำยอดขายหรอื กำไรเกง่ กค็ งชอบ ชีวิตการทำงานแบบนี้ แต่ถ้าคนที่ไม่เก่ง แต่จำเป็นต้องมา อย่ใู นองค์กรแบบน้ี ชวี ติ กค็ งไมส่ นกุ เท่าไหรน่ ัก ทางที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรดีไปกว่า ลองพัฒนาตัวเอง ตามทน่ี ายและบรษิ ทั ตอ้ งการดกู อ่ น แตถ่ า้ พยายามอยา่ งถงึ ทส่ี ดุ แลว้ มนั เปน็ ไปไมไ่ ดจ้ รงิ ๆ กค็ งตอ้ งหาทางลงใหต้ วั เอง นุ่มๆ ด้วยการมองหางานที่เหมาะกับสไตล์การทำงานของ ตัวเอง คนทกุ คนมศี กั ยภาพทพ่ี ฒั นาได้ แตศ่ กั ยภาพนน้ั กม็ ี ขีดจำกดั ของมนั อย่เู หมอื นกนั ถ้าเราทำอะไรก็ตามจนสุดๆ ศกั ยภาพแลว้ กค็ วรยอมรบั วา่ เราทำไดแ้ คน่ น้ั แตถ่ า้ นายยงั ต้องการจากเรามากกว่านั้นจนเราแบกไม่ไหว เหมือนเรา เปน็ ดอกบานไมร่ โู้ รย แตน่ ายอยากใหเ้ ราสวยเทา่ ดอกทวิ ลปิ ถ้าทำงานกับคนที่ไม่เข้าใจเช่นนี้ ก็ควรหาทางหนีทีไล่ให้ ตัวเองได้อยู่ในที่สอดคล้องกับความเป็นตัวเองของตัวเอง น่าจะดที ีส่ ุด ว.วชิรเมธี 93

ปุจฉาที่ ๓ รสู้ กึ แยท่ บ่ี รษิ ทั เตบิ โต ทำใหง้ านเขา้ ตวั เอง จะจดั การ กับความคิดและความรู้สกึ ของตวั เองอยา่ งไร วสิ ัชนา การที่บริษัทเติบโต นับเป็นเรื่องดีแน่สำหรับผู้เป็น เจ้าของบริษัท แต่สำหรับพนักงานอาจไม่รู้สึกเช่นนั้นเสมอ ไป อยา่ งนอ้ ยกค็ ณุ คนหนง่ึ ละ การทร่ี สู้ กึ แยค่ ณุ ใหเ้ หตผุ ลวา่ เปน็ เพราะ “งานเขา้ ” มากกวา่ ปกติ มองในแงด่ ี แสดงวา่ คณุ คงเปน็ คนเกง่ หรอื เปน็ คนสำคญั คนหนง่ึ ทเี ดยี ว ยง่ิ บรษิ ทั โต ภาระของคณุ จงึ เพมิ่ ขึน้ ในโลกของการทำธุรกิจ คงไม่มีบริษัทไหนที่ไม่ อยากเตบิ โตยิ่งๆ ขนึ้ ไป คนทำงานอยา่ งคุณกค็ งเหมอื นกัน คุณเองก็คงไม่อยากหยุดอยู่กับที่ ทำไมคุณไม่มองว่า ไม่ ใช่แต่บริษัทเท่านั้นที่เติบโต การที่คุณมี “งานเข้า” มากขึ้น นน่ั กแ็ สดงวา่ คณุ เองกเ็ ตบิ โตหรอื กา้ วหนา้ ขน้ึ ดว้ ยเหมอื นกนั ลองคดิ อกี ทางหนง่ึ บรษิ ทั ยง่ิ โต แตง่ านคณุ กลบั เหมอื นเดมิ 94 บริหารคนใหส้ ำราญ บริหารงานใหส้ ัมฤทธ์ิ

แสดงวา่ คณุ ไมไ่ ดเ้ ตบิ โตหรอื กา้ วหนา้ ขน้ึ มาเลย ถา้ เปน็ เชน่ น้ี แสดงว่าเป็นเรื่องผิดปกติ คุณควรทำใจให้ยอมรับบทบาท ใหม่ๆ ภารกจิ ใหม่ๆ ที่เพมิ่ ข้ึน เพราะในแง่หนึ่งมนั ก็คอื ส่ิงที่ สะท้อนวา่ คุณกำลงั กา้ วหน้า แตถ่ า้ คณุ รสู้ กึ วา่ แบกไมไ่ หว ภาระมากมายเกนิ ตวั ก็ ไมค่ วรจะทนกม้ หนา้ แบกจนเครยี ด จนความเครยี ดบน่ั ทอน สุขภาพกายสุขภาพใจ ควรตัดสินใจคุยกับผู้บริหารแล้ว หาทางออกร่วมกันว่า ทางสายกลางควรอยู่ตรงไหน ตนเองมีศักยภาพที่จะทำงานได้เพียงใด หากคุณรู้สึก ว่างานหนักเกินไป แต่ก็ไม่ยอมแจ้งให้ผู้บริหารทราบ ปัญหาก็จะยังคงเป็นปัญหา และคุณก็จะยังคงรู้สึกอยู่ ต่อไป ความรู้สึกเช่นนี้ หากทิ้งไว้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อ สขุ ภาพจติ ควรเปิดอกคุยกนั กับผ้บู รหิ ารจะดีทีส่ ุด ครั้งหนึ่งอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยได้รับจดหมาย เชิญให้เป็นประธานาธิบดีของประเทศอิสราเอล แต่เขา ตอบปฏิเสธกลับไปโดยให้เหตุผลว่า “ผมไม่ถนัด” ด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงยังคงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ว.วชิรเมธี 95

มาจนทุกวันนี้ หากบริษัทเติบโต แล้วคุณกำลังได้รับมอบ หมายใหท้ ำงานทต่ี วั เองไมถ่ นดั ยง่ิ ทำ ยง่ิ เหนอ่ื ย ยง่ิ ทำ ยง่ิ แย่ ไม่มีทางออกอื่นใด นอกจากคุณจะต้องใจกล้าเดินไปบอก กับผู้บริหารว่า “ขอไม่ทำงานที่ตนไม่ถนัด” บอกกล่าวกับ ผูบ้ รหิ ารเสียแตเ่ นน่ิ ๆ ดีกวา่ ทนทำงานที่คุณไมถ่ นัด ไม่ไหว หรอื ไมม่ ใี จให้ เพราะยง่ิ ทนๆ ทำไป ทั้งตัวคณุ และตวั งานก็ จะแยพ่ อๆ กนั ปุจฉาที่ ๔ ทำงานเรอ่ื ยๆ เขากว็ า่ เฉื่อยชาไมพ่ ัฒนาไปพรอ้ มกับ บริษัท เขาก็ว่าแย่ แต่ทำตามเป้าที่บริษัทตั้งไว้ ก็รู้สึกหนัก เหนอ่ื ย และเป็นทุกข์ จะทำอย่างไรดี วสิ ัชนา ทำงานเรื่อยๆ เขากว็ ่าเฉ่ือยชา ไม่พฒั นาไปพร้อมกับบริษัท เขาก็ว่าแย่ ลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นนิสัยการทำ 96 บรหิ ารคนใหส้ ำราญ บรหิ ารงานใหส้ มั ฤทธิ์

งานที่ไม่พึงประสงค์ทั้งคู่ ถ้าหากใครมีลักษณะเช่นนี้ ก็สมควรแล้วที่จะถูกว่า ถูกตำหนิเพราะการทำงานแบบ เฉื่อยๆ เนอื ยๆ เรื่อยๆ น้นั สดุ โต่งไปทางข้เี กียจ ส่วนการ ไม่ยอมพัฒนาไปตามบริษัทนั้น ก็สุดโต่งไปทางไม่ยอม ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กร คุณอยู่ในบ้านเขา แต่ไม่ยอมฟังเจ้าของบ้าน แล้วอย่างนี้คุณจะมีความก้าว หน้าไดอ้ ย่างไร ดังนั้น ทางที่ถูกก็ควรจะปรับตัวให้เป็นคนที่ตื่น ตัว ขยัน มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มศักยภาพ และก็ควรจะ เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมหรือวิสัยทัศน์ของ บริษัทให้ได้ ถึงแม้ว่า ในการปรับตัวให้เข้ากับลักษณะ การทำงานของบริษัทจะทำให้เหนื่อยมากขึ้น แต่ก็ควรจะ ตอ้ งปรบั ตวั อยดู่ ี เพราะคณุ อยกู่ บั เขา แตถ่ า้ คณุ ไมร่ อ้ งเพลง เดียวกับเขา ก็มีแต่จะทำให้เป็นปัญหากันทั้งสองฝ่าย ฝา่ ยคุณก็คงอดึ อดั ไม่มคี วามสุข ฝา่ ยบรษิ ัทก็คงรูส้ กึ ไมด่ ี ท่ีมีพนักงานนอกคอก สภุ าษติ จนี มอี ยบู่ ทหนง่ึ วา่ “หากคณุ ขน้ึ ไปนง่ั อยบู่ น ว.วชิรเมธี 97

เรอื ของใคร กจ็ งฟงั คนทเ่ี ปน็ เจา้ ของของเรอื ลำนน้ั ” ถา้ คณุ ไม่อยากทำตามเจ้าของเรือ คุณก็ควรจะลงมาเสียจากเรือ ลำนั้น อยา่ ไปนั่งขวางหูขวางตาเขาอยู่ตรงน้ัน ปุจฉาที่ ๕ นายทีช่ อบเอาหน้า เวลาผดิ ก็โยนใหล้ กู นอ้ ง ไมเ่ คย ปกป้องลูกน้องเมื่อเกิดปัญหา จะทำอย่างไรกับนาย ประเภทน้ี วิสัชนา ลักษณะของนายดังที่กล่าวมา นับว่าเข้าตำรา “นายกโทษ” (อา่ นว่า นา-ยะ-กะ-โทด) น้ีคอื นายทม่ี ีลักษณะ อนั เปน็ โทษ คำแนะนำสำหรบั คณุ กค็ อื ถา้ พบนายประเภทน้ี ก็ควรถือคติ “ต่างคนต่างไป” ไม่ควรจะเสียเวลาอยู่ใกล้ๆ ให้ยอื เยือ้ ยาวนานออกไป เพราะขนื อย่ไู ป กเ็ ปลืองตัว นานหลายปีมาแล้ว ผู้เขียนเคยมีเหตุให้ต้องทำงาน กับผู้ใหญ่ประเภทนี้อยู่บ้างเหมือนกันต่อมาได้ค้นพบ 98 บริหารคนให้สำราญ บริหารงานใหส้ ัมฤทธิ์

สัจธรรมว่า ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งเสียดายเวลา ทั้งยังมองไม่เห็น หนทางกา้ วหน้า จงึ ขอลาออกมาทำงานที่ตวั เองรกั แตก่ ่อน จะจากมาผู้เขยี นได้บนั ทึกบทสรุปไว้เตือนตวั เองวา่ “อยู่กับคนที่ไม่เห็นคุณค่า แม้เพียงนาทีเดียวก็ ไมค่ ุ้ม” ปุจฉาที่ ๖ ทำอยา่ งไรให้เพ่อื นพ้องนอ้ งนายรัก ขณะเดียวกันก็ ก้าวหนา้ อยา่ งสง่างาม วสิ ัชนา คณุ ตอ้ งเรยี นรทู้ จ่ี ะปฏบิ ตั ติ ามคาถาเมตตามหานยิ ม ดังต่อไปน้ี ๑. ทำงานใดจงทำให้เต็มท่ี และทำให้ดีทสี่ ุด ๒. มคี วามรบั ผดิ ชอบเปน็ อยา่ งสูง ๓. ไมเ่ อาเปรยี บเพอ่ื นรว่ มงาน ๔. ไม่ฉกชงิ เอาผลงานของคนอ่นื มาเปน็ ของตน ว.วชิรเมธี 99

๕. ไมเ่ อาดใี สต่ ัว เอาชั่วใส่คนอน่ื ๖. รูจ้ ักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ๗. มีมนุษยสมั พนั ธ์ดี ๘. รกั ษาเกยี รตปิ ระวตั ิให้ขาวสะอาด ๙. กา้ วหนา้ แลว้ ไมห่ ลงตัวเอง ๑๐. ร้จู ักวางตวั ให้สอดคลอ้ งกบั ตำแหนง่ หน้าทีข่ อง ตนและคนท่ีต้องทำงานรว่ ม หากทำตามคาถาเมตตามหานยิ มนไ้ี ดค้ รบรบั ประกนั ได้เลยว่า “นายดึง ลูกน้องดัน คนเสมอกันยอมรับ” อย่างไม่ต้องสงสัย ปุจฉาท่ี ๗ เป็นคนดี เด่น ดัง จนเป็นที่ชังของเพื่อนพ้อง จะทำอย่างไร วสิ ัชนา คุณสมบัติ “ดี-เด่น-ดัง” นับเป็นคุณสมบัติของ ยอดคน 100 บรหิ ารคนให้สำราญ บริหารงานใหส้ มั ฤทธิ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook