Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การลดต้นทุนการผลิตไม้ผล

การลดต้นทุนการผลิตไม้ผล

Published by Thalanglibrary, 2020-04-25 04:56:40

Description: การลดต้นทุนการผลิตไม้ผล

Search

Read the Text Version

การลดตน้ ทุนการผลิตพืชสวน (ไม้ผล) เพ่อื เพิม่ ขดี ความสามารถให้แกเ่ กษตรกรไทย สถาบันวจิ ัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ทปี่ รึกษา ผู้อำนวยกำรสถำบันวิจยั พืชสวน (จำรอง ดำวเรอื ง) คณะผจู้ ัดทา ทวีศกั ด์ิ แสงอดุ ม ลำวัณย์ จนั ทรอ์ มั พร วรำงคณำ มำกกำไร ผสู้ นับสนนุ ขอ้ มูลและภาพ นิพฒั น์ สุขวบิ ูลย์ นำตยำ ดำอำไพ สำนักวจิ ยั และพฒั นำกำรเกษตรเขตที่ 8 สงขลำ ศูนย์วิจัยพชื สวนจนั ทบรุ ี พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1 สิงหำคม 2559 Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

คานา ปจั จบุ ันต้นทุนกำรผลติ พืชสวนของเกษตรกรสูงขึ้นทุกปี ซ่ึงต้นทุนกำรผลิตสว่ นใหญเ่ ปน็ ค่ำปัจจัยกำรผลิตและค่ำจ้ำงแรงงำน และในปลำยปี 2558 จะเปิดประชำคม เศรษฐกิจอำเซียน สนิ ค้ำเกษตรมกี ำรแขง่ ขันเชิงพำณิชย์เพ่มิ มำกขึ้น ดังนัน้ เกษตรกรต้องปรับตวั โดยกำรเพม่ิ ประสิทธภิ ำพกำรผลิตและลดตน้ ทุนกำรผลิต โดยปรับแนวทำงกำร ผลิตเพื่อลดกำรใช้ปัจจัยกำรผลิต ลดกำรใช้แรงงำน และเพ่ิมประสิทธิภำพกำรผลิต รวมทั้งมีกำรรวมกลุ่มกำรผลิต ใช้เครื่องจักรกลทำงกำรเกษตรร่วมกัน วำงแผนกำรผลิตและ กำรตลำด และบรหิ ำรจดั กำรท้ังกำรผลติ และกำรตลำดให้เกิดประสทิ ธภิ ำพมำกสุดเพื่อเพิ่มควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขนั สถำบันวิจัยพชื สวน กรมวิชำกำรเกษตร เปน็ หน่วยงำนท่ดี ำเนินงำนวจิ ัยและพัฒนำพืชสวนที่หลำกหลำย ทั้งไม้ผล พืชผัก ไมด้ อกไม้ประดับ พืชสวนอุตสำหกรรมและ พชื สมุนไพรและเครื่องเทศ ดังนน้ั เพอื่ ให้เกษตรกรได้มีแนวทำงในกำรเพม่ิ ประสทิ ธิภำพกำรผลิตและลดตน้ ทุนกำรผลิตพืชสวนที่สำมำรถนำไปปฏิบัติและเกิดผลเป็นรูปธรรม สถำบนั วิจัยพชื สวนจึงไดจ้ ัดทำเอกสำรคำแนะนำกำรลดต้นทนุ กำรผลติ พชื สวนเพื่อเพิม่ ขีดควำมสำมำรถของเกษตรกรไทย โดยเอกสำรฉบบั นี้จะเป็นคำแนะนำในสว่ นของไมผ้ ล ซ่งึ ไดเ้ สนอแนวทำงกำรลดตน้ ทนุ กำรผลิตในภำพรวมทเี่ กษตรกรสำมำรถดำเนินกำรได้ทันทีและแนวทำงกำรลดตน้ ทุนกำรผลติ ระยะยำว รวมท้ังเทคโนโลยีกำรผลติ เปน็ รำยพืช ทสี่ ำคัญ เพือ่ เผยแพร่ให้เกษตรกรและผู้สนใจได้นำไปใช้ในกำรพัฒนำกำรผลิตพืชท่ีถูกต้องและเหมำะสม มีกำรใชป้ ัจจัยกำรผลิตอย่ำงมีประสิทธิภำพ และหวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำ เอกสำรคำแนะนำฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรท่ีจะนำข้อเสนอแนะและเทคโนโลยีกำรผลติ ทเี่ หมำะสมของแต่ละพืชไปปรบั ใช้ เพื่อช่วยเพิ่มประสทิ ธภิ ำพกำรผลิตและ ลดตน้ ทุนกำรผลติ ทำให้ได้รบั ผลตอบแทนสงู ขึ้นและมีชวี ติ ควำมเป็นอยู่ที่ดขี ้นึ (นำยจำรอง ดำวเรอื ง) ผ้อู ำนวยกำรสถำบันวจิ ัยพชื สวน กรกฎำคม 2559 Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

สารบญั หนา้ แนวทางการลดต้นทนุ การผลติ 1 กำรลดตน้ ทนุ กำรผลิตทนั ที 2 กำรลดตน้ ทนุ กำรผลิตระยะยำว 3 กิจกรรมสนบั สนนุ ในกำรลดตน้ ทุนกำรผลิต การลดตน้ ทนุ การผลิตไมผ้ ลเพ่ือเพม่ิ ขีดความสามารถให้แกเ่ กษตรกรไทย 4 มะม่วง 10 ลำไย 15 ลิ้นจี่ 19 ทุเรยี น 25 มังคุด 31 เงำะ 36 ลองกอง 42 สับปะรด Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

แนวทางการลดต้นทุนการผลิต ต้นทนุ กำรผลติ ของเกษตรกรส่วนใหญ่จะเปน็ ค่ำปจั จยั กำรผลิตและค่ำแรงงำน ในดำ้ นปัจจัยกำรผลติ ท่ีสำคัญได้แก่ปุ๋ยและสำรเคมใี นกำรกำจดั ศัตรูพชื สำรควบคมุ กำร เจริญเติบโตพืช สำรกำจัดวัชพืชต่ำงๆ ปัจจัยกำรผลติ เหลำ่ น้ีสำมำรถลดลงได้ เช่นมีกำรใช้ปุ๋ยอย่ำงถูกต้องและตรงกับควำมต้องกำรของพืช หรือกำรใช้สำรเคมีป้องกนั กำจัด ศตั รูพืชที่ตรงกบั โรคและแมลงศัตรพู ืชชนิดน้นั ๆและใช้ตำมอตั รำท่ีแนะนำ โดยมีขอ้ สงั เกต คำแนะนำ และผลที่ได้รบั ในกำรลดต้นทุนกำรผลิตทนั ที กำรลดต้นทนุ กำรผลิตระยะ ยำว และกิจกรรมทีส่ นับสนนุ และมสี ว่ นชว่ ยให้ลดตน้ ทนุ กำรผลิตและเพมิ่ ประสทิ ธิภำพกำรผลติ ดังนี้ การลดตน้ ทนุ การผลติ ทนั ที วิธปี ฏบิ ัติโดยทัว่ ไป คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร ผลทไี่ ด้รับ 1. การใช้ป๋ยุ 1) ใช้ปุย๋ เกินควำมจำเป็น ไม่เหมำะสมกับสภำพของดิน 1) วิเครำะห์ดิน และให้ปุ๋ยสอดคล้องกับคำ่ วิเครำะห์ 1) ทรำบแนวทำงในกำรปรับปรุงดินและกำรจัดกำรปุ๋ย และชนิดของพืชที่ปลูก เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีกำร ได้อยำ่ งเหมำะสมกบั ดนิ และพชื ท่ีปลูก วเิ ครำะหค์ วำมอุดมสมบรู ณข์ องดนิ ก่อนปลกู 2) เลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปยุ๋ เคมีหรอื ปุย๋ ชวี ภำพเพียง 2) ใช้ปุ๋ยอนิ ทรยี ร์ ่วมกบั ปุ๋ยเคมแี ละปุ๋ยชีวภำพ 2)ทำให้ดินมีคุณสมบัติทำงกำยภำพดีละมีควำมอุดม อยำ่ งใดอยำ่ งหนงึ่ สมบรู ณ์สงู ขึน้ 3) ใชป้ ุย๋ สำเรจ็ ทม่ี ีขำยตำมทอ้ งตลำด 3) ผสมปยุ๋ เคมใี ช้เอง 3) ลดต้นทนุ คำ่ ปุ๋ยได้ 30-50 % 2. การใช้สารเคมี 1) ไม่มีกำรสำรวจและประเมินควำมเสียหำยจำกกำร 1) สำรวจและประเมินควำมเสียหำยจำกกำรทำลำย 1) ลดกำรใช้สำรเคมี และควบคุมศัตรูพืชไม่ให้ทำควำม ทำลำยของศัตรพู ชื ก่อนตดั สนิ ใจใชส้ ำรเคมี ของศัตรพู ืชก่อนตดั สินใจใชส้ ำรเคมี เสียหำยในระดบั วกิ ฤตเศรษฐกิจ 2) ใชส้ ำรเคมีไมถ่ ูกต้อง และสูงกวำ่ อตั รำแนะนำ 2) ใช้สำรเคมีใหถ้ ูกต้องตรงกับชนิดของศัตรูพืชและใช้ 2) กำรควบคุมศัตรูพืชมีประสิทธิภำพและลดปริมำณ ตำมอัตรำทีแ่ นะนำของผลติ ภณั ฑ์ กำรใชส้ ำรเคมี 1ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

วิธปี ฏบิ ัติโดยทั่วไป คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร ผลทไ่ี ดร้ ับ 3) pH ของนำ้ ท่ีใช้ผสมสำรเคมี หัวพ่นสำรและเวลำใน 3) ปรับ pH ของนำ้ ท่ใี ช้ผสมสำรเคมใี หอ้ ยู่ระหวำ่ ง 5.5- 3) ประสิทธิภำพในกำรป้องกันกำจัดศัตรูพืชดีขึ้นและ กำรพ่นสำรไม่เหมำะสม 6.5 เลือกหัวพน่ สำรและพน่ สำรในเวลำที่เหมำะสม ประหยดั ค่ำสำรเคมี 3. การเลอื กใชพ้ นั ธพุ์ ชื 1) ใช้สำยพันธุ์ดั้งเดิมหรือพันธ์ุพ้ืนเมือง และไม่มีกำร 1) ใช้พันธุ์แนะนำของกรมวิชำกำรเกษตร หรือพันธ์ุ 1) ได้ผลผลิตสูงและมีคณุ ภำพดี คัดพันธ์ุ กำรค้ำ การลดต้นทุนการผลติ ระยะยาว วิธปี ฏบิ ัตโิ ดยทั่วไป คาแนะนากรมวิชาการเกษตร ผลทไี่ ดร้ ับ 1. เกษตรกรสว่ นใหญม่ กี ำรจัดกำรสวนแบบดง้ั เดมิ 1. ควรจดั กำรสวนตำมระบบเกษตรดที ่เี หมำะสม 1. ได้ผลผลติ ทม่ี ีคุณภำพและปลอดภัยต่อกำรบรโิ ภค 2. ไม่มีกำรวำงแผนกำรผลิตพืชให้ตรงตำมควำม 2. วำงแผนกำรผลิตและกระจำยกำรผลิตพืชให้ตรง 2. ผลผลิตกระจำยออกสู่ตลำดสม่ำเสมอ ไม่ล้นตลำด ต้องกำรของตลำด ทำให้ผลผลิตล้นตลำดและรำคำ ตำมควำมตอ้ งกำรของตลำด และรำคำผลผลิตสูงข้ึน ตกต่ำ 3. กำรใช้เคร่ืองจักรกลกำรเกษตรมีน้อยและไม่ลงทุน 3. ใช้เครือ่ งจกั รกลกำรเกษตรทีเ่ หมำะสมและรวมกลุ่ม 3. ลดกำรจ้ำงแรงงำน และมีกำรใช้เครื่องจักรกล ใชร้ ว่ มกนั ใช้ร่วมกนั กำรเกษตรอย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ 4. กำรใหน้ ้ำตำมร่องหรือใชส้ ำยยำงรดนำ้ 4. วำงระบบน้ำและให้ปุ๋ยทำงระบบนำ้ 4. กำรให้นำ้ และปยุ๋ มปี ระสิทธิภำพมำกขึ้น ลดกำรใชป้ ุ๋ย และลดกำรใชแ้ รงงำน 2ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

กิจกรรมสนบั สนุน วธิ ปี ฏบิ ตั ิโดยทวั่ ไป คาแนะนากรมวิชาการเกษตร ผลทไี่ ดร้ ับ 1. เกษตรกรส่วนใหญ่เข้ำไม่ถึงแหล่งควำมรู้และ 1. ศึกษำและตดิ ตำมควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีกำร 1. นำควำมรู้มำปรับใช้ในกำรเพ่ิมประสทิ ธิภำพกำรผลิต เทคโนโลยกี ำรผลิตพืช ผลิตและเข้ำรับกำรฝึกอบรมเพ่ือเพิ่มพูนควำมรู้อย่ำง และผลผลิตไดค้ ณุ ภำพเพิม่ มำกข้ึน ตอ่ เนอ่ื ง 2. เกษตรกรขำดควำมรู้ด้ำนกำรตลำดและขำดกำร 2. หม่ันติดตำมข่ำวสำรด้ำนกำรตลำดเพื่อใช้เป็น 2. ผลผลติ ออกตรงตำมควำมต้องกำรของตลำด ทำให้ไม่ บริหำรจัดกำรผลผลติ และกำรตลำดอย่ำงเหมำะสม แนวทำงในกำรวำงแผนกำรผลิตให้ตรงตำมควำม ล้นตลำดและรำคำผลผลติ ดี ต้องกำรของตลำด 3. เกษตรกรขำดกำรรวมกลมุ่ 3. เกษตรกรควรมกี ำรรวมกลมุ่ หรือเป็นสมำชกิ สหกรณ์ 3. มีอำนำจตอ่ รองในกำรซื้อปัจจัยกำรผลติ และสำมำรถ กำรเกษตร หรอื วสิ ำหกจิ ชมุ ชน กำหนดรำคำผลผลิตได้ 3ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ขัน้ ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วิธปี ฏิบัติโดยทวั่ ไป การลดตน้ ทนุ 1. พนั ธุ์ - ปลูกพนั ธ์ทุ ต่ี ลำดตอ้ งกำร เชน่ พันธ์นุ ้ำดอกไม้ เขียวเสวย - ปลูกพันธ์ุทตี่ ลำดต้องกำร -ใช้ตน้ พันธุ์ดขี องตนเองขยำยพันธ์ุ - ปลูกระบบชิดและตัดแต่งควบคุมทรงพุ่มสูงไม่เกิน 3 เมตร - ระยะปลูกห่ำงและไม่ควบคุมควำมสูง -กำรดแู ลงำ่ ย ลดกำรใช้สำรเคมี ทรงพมุ่ และแรงงำน 2. การเตรยี มตน้ - หลงั เกบ็ เกี่ยวประมำณ 1 เดือน ตดั แต่งกิ่งให้เสรจ็ พรอ้ มกนั ใน - ตัดแต่งก่ิงไม่ทั่วต้น ทำให้แตกใบอ่อนไม่ - กำรแตกใบอ่อนพร้อมกัน ทำให้กำร หลงั การเกบ็ เกย่ี ว -การตดั แต่งกิ่ง แตล่ ะแปลง หลังตัดกงิ่ 2 สปั ดำห์ พน่ ปยุ๋ โพแทสเซียม ไนเต พรอ้ มกนั มผี ลต่อกำรชกั นำกำรออกดอก ออกดอกสม่ำเสมอ สะดวกในกำร รท (13-0-46) อัตรำ 200 กรัม/น้ำ 20 ลิตร เพ่อื ให้แตกใบออ่ น จัดกำรแปลง ลดกำรใช้สำรเคมีและ พร้อมกนั แรงงำนดูแลรกั ษำ -การใสป่ ุ๋ย - ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีหลังตัดแต่งกิ่ง โดยใส่ตำมค่ำวิเครำะห์ - ใสป่ ุ๋ยสูตรเสมอ อตั รำ 1-3 กิโลกรมั /ตน้ - ใส่ปุ๋ยตำมค่ำวิเครำะห์ดินและควำม ดนิ (กรณีไม่มีฝนให้รดนำ้ หลังกำรใส่ปุ๋ย) ปุ๋ยเคมีใส่ 2 ครงั้ ครั้ง ต้องกำรของพืช ลดต้นทุนค่ำปุ๋ยเคมี แรกหลังตัดแต่งกิ่ง คร้ังท่ี 2 หลังติดผล 1 เดือน และควรผสม 30-50% ป๋ยุ เคมใี ชเ้ อง 4ลดต้นทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ขนั้ ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วธิ ีปฏบิ ตั ิโดยท่ัวไป การลดตน้ ทุน - การป้องกนั - หลังตัดแต่งก่ิง พ่นสำรคำร์เบนดำซิม 50% WP อัตรำ 20 - ไม่มีกำรสำรวจและประเมินควำม - ลดจำนวนคร้งั กำรพน่ สำรเคมี ทำให้ กาจัดโรค กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือโพรคลอรำช 50% WP อัตรำ 20-30 เสียหำยจำกศัตรูพืชก่อนตัดสินใจพ่น ประหยดั ค่ำสำรเคมีและแรงงำน กรมั /นำ้ 20 ลิตร หรอื แมนโคเซบ 80% WP อัตรำ 50 กรมั /น้ำ สำรเคมี - ใช้สำรเคมีให้ถูกชนิดของโรคและ 20 ลิตร หรือคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 85% WP อัตรำ 30-50 แมลง และใชต้ ำมอัตรำคำแนะนำ ใน กรมั /นำ้ 20 ลติ ร ฉลำก - สำรวจและประเมินควำมเสียหำยของใบท่ีถูกทำลำยจำกโรค ถำ้ พบ 10% ของจำนวนยอดอ่อนท้งั ต้น ใหพ้ น่ สำรเคมีปอ้ งกัน -การป้องกนั กาจัด - เพล้ียไฟ เมื่อมะม่วงเริ่มผลิใบอ่อน ให้ตรวจปริมำณเพลี้ยไฟ แมลงศัตรู โดยเคำะช่อใบอ่อนบนกระดำษขำวทุก 7 วนั เม่ือพบเพลี้ยไฟ ≥ 50% ของจำนวนยอดท้ังหมด ให้พ่นสำรเคมี เช่น สำรแลมป์ดำ ไซฮำโลทริน 2.5% EC อัตรำ 10 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร หรือ สำรเฟนโพรพำทริน 10% EC อัตรำ 30 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร จำนวน 1-2 คร้งั - สำรวจและประเมินควำมเสียหำยจำกแมลงศัตรูอ่ืน เช่น ด้วง กรีดใบ ด้วงหนวดยำว เมอื่ พบให้พ่นสำรป้องกันกำจดั 5ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ขัน้ ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ีปฏิบตั ิโดยทวั่ ไป การลดต้นทุน - การป้องกนั กาจดั วัชพืช - ทำกำรกำจัด เมื่อวัชพืชปกคลุมพื้นท่ีสวน 90% ของพื้นท่ี - นยิ มใช้สำรเคมกี ำจดั วัชพืช - กำรใช้จอบหมุน/กำรตดั วัชพชื ช่วย เพิ่มอนิ ทรยี วตั ถุในดนิ ในระยะยำว 3. การบังคบั การ ทั้งหมด และวัชพืชมีควำมสงู เฉล่ีย 30 เซนติเมตร ออกดอก - ใช้เครื่องจอบหมุนไถพรวนวัชพืช ใช้เคร่ืองตัด และหรือใช้ สำรเคมีกำจดั วชั พชื - วำงแผนกำรผลิตให้ผลผลติ ออกชว่ งเวลำทตี่ ลำดตอ้ งกำร - ส่วนใหญ่เกษตรกรผลิตในฤดู พบปัญหำ - ผลผลิตนอกฤดูรำคำดีกว่ำแต่ต้องมี - การชักนาการออกดอก: ใช้สำรพำโคลบิวทรำโซลอัตรำ 1.0 รำคำถูก กำรจัดกำรดแู ลอยำ่ งดี กรัม สำรออกฤทธ์ิต่อเส้นผ่ำนศูนย์กลำงทรงพุ่ม 1 เมตร (เช่น - มีกำรใช้สำรบังคับดอกเกินอัตรำที่ - ลดต้นทุนค่ำสำรบังคับดอก 50% พำโคลฯ 10% WP ใช้สำร 10 กรัม/เส้นผ่ำนศูนย์กลำงทรงพุ่ม แนะนำ 1-2 เท่ำ จนบำงคร้ังเกิดผลเสียทำ และไมเ่ กิดผลเสยี ต่อชอ่ ดอก 1 เมตร) ละลำยน้ำ 5 ลิตร รำดรอบโคน ห่ำงโคนต้น 30 ให้ช่อดอกสนั้ โรคและแมลงเข้ำทำลำยช่อ เซนตเิ มตร ดอกง่ำยและไมต่ ิดผล หมำยเหตุ กรณพี นั ธุ์ท่ีออกดอกยำก เช่น เขยี วเสวย ใช้อัตรำ 15 กรัม/เส้นผ่ำนศูนย์กลำงทรงพ่มุ 1 เมตร - การชักนาการแทงช่อดอก: พ่นปุ๋ยโพแทสเซียมไนเตรท อัตรำ - กำรเตรียมต้น กำรแตกใบอ่อนไม่พร้อม - กำรจัดกำรสะดวกและประหยัด 200 กรัม/นำ้ 20 ลิตร กัน กำรออกดอกไม่สม่ำเสมอ ตน้ ทุนในกำรดแู ลรักษำ หมำยเหตุ กรณีมะม่วงแตกใบอ่อนก่อนแทงช่อดอก พ่นปุ๋ยทำง ใบสูตร 0-52-34 อัตรำ 100 กรัม/น้ำ 20 ลิตร เม่ือใบอ่อนคล่ี พน่ ตดิ ตอ่ กัน 2-3 ครัง้ ทกุ 7 วนั 6ลดต้นทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

4. การป้องกันโรค การป้องกันกาจดั โรคทาลายช่อดอก - ไมม่ ีกำรตรวจประเมิน - ผิวผลสวย และไม่พ บผลที่ถูก และแมลงทาลาย แมลงวันผลไม้ทำลำย และไม่พบ ระยะออกดอก ถงึ - สำรวจและประเมนิ ควำมเสียหำยก่อนกำรใชส้ ำรเคมี - ใช้สำรเคมเี กินอัตรำทีแ่ นะนำ เพลยี้ แป้ง ก่อนการเกบ็ เกย่ี ว - โรคแอนแทรคโนส: ตรวจอำกำรในช่อดอกทกุ ๆ 3 วนั พ่น สำรไดฟีโนโคนำโซล 25% EC อัตรำ 20 มิลลลิ ิตร/น้ำ 20 ลิตร หรือคำร์เบนดำซิม 50% WP อัตรำ 20 กรัม/นำ้ 20 ลติ ร หรือ แมนโคเซบ 80% WP อัตรำ 50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือโพรคลอรำช 50% WP อตั รำ 20-30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือโพรพิเนบ 70 % WP อัตรำ 30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ก่อนดอกบำน และช่วงดอก โรย หรือผลอำยปุ ระมำณ 2 สัปดำหห์ ลงั ดอกบำน - โรคราแป้ง: สำรวจถำ้ พบผงสีขำวขึ้นปกคลุมกำ้ นดอกและ ใบอ่อน ทำให้ใบอ่อนและช่อดอกหลุดร่วง พ่นสำรไดโนแคป 19.5% WP อตั รำ 15-20 กรมั /นำ้ 20 ลิตร หรอื ไตรอะดมิ ิฟอน 25% WP อัตรำ 15 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือกำมะถันผง 80% WP ละลำยน้ำ อัตรำ 50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร พ่น 2-3 ครั้ง ใน ระยะดอกและตดิ ผลออ่ น การปอ้ งกนั กาจดั แมลงศตั รูทาลายช่อดอก - เพลี้ยไฟ: ตรวจพบเกิน 30% ของช่อดอกที่สุ่มตรวจ สารเคมีท่ีใช้ พน่ สำรแลมป์ดำไซฮำโลทริน 2.5% EC อตั รำ 10 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลติ ร หรือเฟนโพรพำทริน 10% EC อตั รำ 30 มิลลิลิตร/น้ำ20 ลิตร ก่อนดอกบำนจนติดผลขนำด 2-3 เซนตเิ มตร 7ลดต้นทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ขั้นตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วิธปี ฏิบตั ิโดยทว่ั ไป การลดตน้ ทุน - เพลี้ยจกั จ่ัน: พบท่ีช่อดอกมำกกว่ำ 5 ตวั /ช่อ สารเคมีท่ีใช้ แลมป์ดำไซฮำโลทริน 2.5% EC อัตรำ 10 มิลลิลิตร หรือคำร์บำริล 85% WP อัตรำ 60 กรัม หรืออิมิดำ โคลพริด 10% SL อัตรำ 10 มิลลิลิตร/น้ำ 20 ลิตร ก่อนออก ดอก 1 คร้งั และเมอ่ื แทงช่อดอก 1 ครง้ั - กำรห่อผล ห่อเมื่อผลอำยุ ประมำณ 50 วันหลังดอกบำน ด้วย ถุงห่อท่ีเหมำะสมของมะม่วงแต่ละพันธุ์ และหมั่นตรวจสอบถุง ห่อต้องไม่ฉีกขำด โดยก่อนห่อควรพ่นสำรป้องกันกำจัดเชื้อรำ รวมท้งั ควบคมุ มดไม่ใหน้ ำเพลี้ยแป้งทำลำยผลในถุงห่อ 5. การเกบ็ เกี่ยวและ - เก็บเกี่ยวผลที่อำยุเหมำะสม และระมัดระวังกำรชอกช้ำและ - ผลผลิตบำงส่วนเสียหำยจำกกำรเก็บ - เก็บเก่ียวตำมคำแนะนำ ช่วยลดกำร การปฏบิ ตั หิ ลงั การ กำรสูญเสีย มีกำรปฏิบัติหลังกำรเก็บเกี่ยวตำมคำแนะนำกรม เกย่ี วและกำรขนสง่ สูญเสียของผลผลิตไม่เกิน 10% ของ เกบ็ เกี่ยว วชิ ำกำรเกษตร ผลผลติ ที่เก็บในแต่ละครง้ั ทำใหไ้ ดผ้ ล ผลิตคุณภำพมำกข้ึน เกษตรกรมี รำยไดส้ ูงขึ้น 8ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

กำรตดั แต่งกิง่ ตน้ แตกใบออ่ นพร้อมกนั รำดสำรพำโคลบวิ พำโซลในระยะใบพวงหรอื ใบเพสลำด กำรออกดอกตดิ ผล ขนำดผลที่พรอ้ มหอ่ ผลผลติ คณุ ภำพดี 9ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

ขั้นตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วธิ ปี ฏบิ ตั ิโดยทว่ั ไป การลดต้นทุน 1. พนั ธ์ุ - เลือกใช้พันธุ์ตรงตำมควำมต้องกำรของตลำดและเหมำะสมกับพ้ืนที่ - นิยมปลูกพนั ธเ์ุ ดียว คือ พนั ธดุ์ อ 1.1 - เลือกปลกู พนั ธเุ์ บำ เชน่ พนั ธุด์ อ ลด 2.พ้ืนทีป่ ลกู โดยใช้ต้นพันธ์ุท่ีออกดอกและติดผลสม่ำเสมอ เช่น พันธ์ุดอ หรือพันธ์ุสี - ใหค้ วำมสำคัญกบั กำรเลอื กตน้ พันธ์นุ ้อย ต้นทุนปจั จัยกำรผลิตในกำรชักนำกำร 3. การเตรยี มพ้นื ท่ี ออกดอกตดิ ผล ปลูก ชมพู พันธเ์ุ บยี้ วเขียว และพันธแุ์ หว้ - ขยำยพนั ธ์โุ ดยวธิ ตี อนกิง่ - ขยำยพันธ์ุใช้เองเพื่อลดต้นทุนค่ำต้นพันธ์ุ - เลือกขยำยต้นพันธุจ์ ำกตน้ ที่สมบูรณ์ ปรำศจำกโรค-แมลง และกำรขนส่งต้นพนั ธุ์ - ขยำยพนั ธโ์ุ ดยวธิ ี กำรติดตำ กำรเสียบยอด - เลือกพ้นื ท่มี ีควำมลำดเอียงไม่เกนิ 15% ลกั ษณะเป็นดินรว่ นปนทรำย - พ้ืนที่ส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวหรือดินลูกรัง - ใช้สำรเคมกี ลุม่ คลอเรต ตำมอตั รำแนะนำ ควำมอุดมสมบูรณ์ปำนกลำง มีกำรระบำยน้ำดี ค่ำควำมเป็นกรด-ด่ำง ควำมอุดมสมบูรณ์ต่ำและขำดกำรปรับปรุง 5.5-6.5 มีกำรกระจำยตัวของฝนดี พื้นท่ีสูงจำกระดับน้ำทะเลไม่เกิน บำรุงดนิ 1,000 เมตร - พ้ืนทีป่ ลูกมีอณุ หภูมิไม่เหมำะสมต่อกำรชกั นำ - มีช่วงอุณหภูมิต่ำติดต่อกันนำนประมำณ 2 สัปดำห์ เพ่ือให้เกิดกำรชัก ให้เกิดดอก ต้องใช้สำรเคมีกลุ่มคลอเรตเพื่อชัก นำใหอ้ อกดอกตดิ ผล นำให้ออกดอก - ใช้ป๋ยุ อนิ ทรยี ์หรอื ปุ๋ยเคมเี พื่อเพ่มิ ควำมสมบูรณ์ดิน - พื้นท่ีลุ่มทำร่องน้ำและปลูกบนสันร่อง พ้ืนที่ดอนปรับพ้ืนที่ตำมแนว - ไม่เกบ็ ตัวอยำ่ งดนิ วิเครำะห์ก่อนปลกู - เตรียมพ้ืนท่ใี หเ้ หมำะสม ระดับ - เกบ็ ตัวอยำ่ งดนิ สง่ วเิ ครำะห์ สำหรบั จดั กำร - เกบ็ ตัวอย่ำงดินวิเครำะหแ์ ละประเมินควำมอุดมสมบรู ณด์ ินกอ่ นปลูก ธำตุอำหำรตำมผลวิเครำะห์ 10ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ข้ันตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ปี ฏิบตั ิโดยทัว่ ไป การลดต้นทุน 4. การปลูก 5. การให้ปยุ๋ - ระยะปลกู 8×8 เมตร หรือ 10×10 เมตร ตำมควำมอดุ มสมบรู ณ์ดนิ - ขนำดหลุมและระยะปลูกไม่แน่นอนข้ึนกับ - ใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ย่อยละลำยฟอสเฟต ลด 6. การใหน้ า้ - ดินอดุ มสมบรู ณ์เตรียมหลุมขนำด 50x50x50 เซนตเิ มตร สภำพพื้นท่ี ในพื้นท่ีลำดชันไม่ได้ปลูกตำมแนว กำรใชป้ ยุ๋ ฟอสฟอรสั 50% ดนิ ทอี่ ุดมสมบรู ณต์ ่ำเตรียมหลมุ ขนำด 80x80x80 เซนตเิ มตร แยกดนิ ชั้น ระดบั (คอนทัวร)์ บน นำมำผสมกับปุ๋ยคอกเก่ำ 1 ป๊ีบ และปุ๋ย 0-3-0 อัตรำ 100 กรัม - คลุกดินกับปยุ๋ อินทรีย์ สัดสว่ น 1:1 ไม่มีกำรใช้ ร่วมกับปยุ๋ จุลนิ ทรีย์ย่อยละลำยฟอสเฟต อัตรำ 20 กรัม/ต้น รองกน้ หลุม ปุย๋ สูตร 0-3-0 ร่วมกับปุ๋ยจุลินทรีย์ย่อยละลำย กอ่ นปลูก ฟอสเฟต - เก็บตัวอย่ำงและวิเครำะห์ดินก่อนปลูก เพื่อปรับปรุงดินให้เหมำะสม - ให้ปุ๋ยตำมประสบกำรณ์ที่เคยปฏิบัติ หรือ - ใสป่ ๋ยุ ตำมคำ่ วิเครำะห์ดนิ และพชื และใส่ปุ๋ยอย่ำงถูกต้อง ควรเก็บตัวอย่ำงดินวิเครำะห์อย่ำงน้อยปีละ 1 สอบถำมจำกเพอ่ื นเกษตรกรหรือผู้ประกอบกำร - กำรผสมปุย๋ ใช้เองโดยใชแ้ ม่ปุ๋ย สำมำรถลด ครั้ง (หลังเกบ็ เกีย่ ว) ตลอดจนส่ือต่ำงๆ เช่น โทรทศั น์ หนงั สอื พิมพ์ ต้นทนุ คำ่ ป๋ยุ เคมไี ด้ประมำณ 40% - หรือ ต้นอำยุ 1-3 ปี หลังจำกแตกใบออ่ นชุดท่ี 1 ใสป่ ๋ยุ เคมีสูตร 15-15- - ให้ควำมสำคัญนอ้ ยในกำรเกบ็ ตัวอย่ำงดินและ 15 ผสม 46-0-0 สดั ส่วน 1:1 อัตรำ 100 กรัม/ตน้ ใส่ปีละ 3 ครั้ง สำหรับ ตัวอย่ำงพืช ตน้ อำยุ 4 ปีขึ้นไปที่ออกดอกติดผลแล้ว หลังเก็บเก่ียวผล ใสป่ ุ๋ยเคมีสูตร - ใชป้ ๋ยุ เคมีสตู รสำเรจ็ เช่น สูตร15-15-15 หรือ 15-15-15 ผสม 46-0-0 สัดส่วน 1:1 อัตรำ 2 กิโลกรัม/ตน้ และหลงั จำก 16-16-16 หรอื 13-13-21 ใบชุดที่ 1 เพสลำด ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15–15-15 ผสม 46–0–0 สัดส่วน 1:1 อัตรำ 1-2 กิโลกรมั /ตน้ เมื่อแตกใบอ่อนชุดที่ 2 ใหป้ ๋ยุ เคมีสูตร 0-46- 0 ผสม 0-0-60 สัดส่วน 1:1 อัตรำ 2-3 กิโลกรมั /ตน้ และเมื่อผลมีขนำด เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 1 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ผสม 46-0-0 สดั ส่วน 1:1 อัตรำ 1-2 กโิ ลกรมั /ตน้ - ตน้ อำยุ 1-2 ปี เม่ือฝนท้ิงช่วงนำนใหน้ ้ำ 20-60 ลิตร/ต้น/สัปดำห์ - งดให้น้ำก่อนออกดอก 2 เดือน เริ่มให้น้ำอีก - ให้น้ำอย่ำงมีประสิทธิภำพและเพียงพอ - ต้นอำยุ 3 ปีขึ้นไปหรือตน้ ที่ให้ผลผลิตแล้ว ควรใหน้ ำ้ สมำ่ เสมอ งดใหน้ ้ำ คร้ังเมื่อเร่มิ ติดผล เช่น เลอื กระบบกำรใหน้ ้ำแบบหัวเหว่ียงเล็ก ช่วงกอ่ นออกดอก เร่มิ ให้น้ำอีกคร้ังเมอ่ื ดอกบำน โดยให้เพียงเลก็ น้อยแล้ว - ปริมำณนำ้ ไม่แน่นอน พร้อมให้ ปุ๋ยทำง ร ะบบน้ำ ล ดต้นทุน เพ่ิมเป็น 200-300 ลิตร/ต้น/ครั้ง (เส้นผ่ำนศูนย์กลำงทรงพุ่ม 7 เมตร) คำ่ แรงงำน และประหยดั นำ้ สัปดำหล์ ะ 2 ครัง้ 11ลดต้นทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ขนั้ ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วิธีปฏบิ ัติโดยทัว่ ไป การลดต้นทุน 7. การดูแลรักษา - หลังปลูกและต้นสูง 80-100 เซนติเมตร ให้ตัดหรือปลิดยอดเพ่อื ใหแ้ ตก -ไมม่ ีกำรตัดแต่งกิง่ และควบคมุ ทรงพมุ่ - กำรควบคุมขนำดทรงพุ่ม ทำให้กำร 8. การปอ้ งกนั กาจดั โรคและศัตรูพชื กิ่งข้ำง เลือกก่ิงท่ีทำมุมกว้ำงจำนวน 3-4 กิ่งรอบต้น แล้วตัดปลำยยอด -รูปแบบและวิธีกำรตัดแต่งกิ่งไม่ถูกต้องตำม ปฏิบัติงำนในสวนและเก็บเก่ียวผลผลิต ใหเ้ หลือควำมยำวของกิง่ 50 เซนติเมตร หลักวชิ ำกำร สะดวก รวดเร็ว เช่น กำรตดั แตง่ กง่ิ แบบทรง - เมือ่ ต้นอำยุ 4 ปีขน้ึ ไป ให้ตดั กง่ิ เปิดกลำงทรงพมุ่ ตดั ปลำยกิ่ง กิ่งซอ้ นทับ -ใชช้ ่วงระยะเวลำตัดแตง่ กงิ่ ยำวนำน ฝำชีหงำย ลดต้นทุน 20-50% - กำรตัดแต่งช่อผล ทำให้ได้ผลผลิตมีขนำด กิ่งบังแสง และก่ิงด้ำนข้ำงไม่ให้ชนกัน หรือกำรตัดแต่งกิ่งแบบฝำชี - ไม่มีกำรตัดแต่งช่อผล ใหญ่และมีคุณภำพ เพิ่มรำยได้ให้กับ หงำย ตดั กิ่งทอี่ ยูก่ ลำงทรงพมุ่ ออกให้หมดเหลือเฉพำะก่งิ ที่เจริญ เกษตรกร ในแนวนอน จำกน้ันจะเกิดก่ิงใหม่ขึ้น เรียกว่ำ กิ่งกระโดง ซึ่ง สำมำรถออกดอกไดภ้ ำยใน 4 – 6 เดือนหลงั ตัดแต่ง ช่อผลลำไย ที่เกิดจำกกิ่งกระโดงเมื่อผลใกล้แก่จะโน้มลงหลบเข้ำในทรงพุ่ม ควรตัดแต่งก่งิ ในฤดฝู น และควบคุมควำมสูงตน้ 2-3 เมตร หลัง เกบ็ เกี่ยวผลผลิตตดั กิ่งกระโดง ให้เหลือตอยำว 2 – 5 นวิ้ - หำกต้นมีขนำดสูงใหญ่หรือไม่ได้ตัดแต่งกิ่งมำนำน ให้ตัดแต่งกิ่งแบบ หนกั หรือแบบทำสำว หมำยเหตุ เร่ิมตัดแต่งก่ิงหลังปลูก 1 ปี กรณีต้นอำยุมำกไม่ ควรลดควำมสงู ลงมำกเพรำะอำจทำให้ผลผลติ ลดลง - เม่ือต้นลำไยออกดอกและติดผลมำกกว่ำ 80 ผล/ช่อ หรือมีจำนวนช่อ ผลมำกกว่ำ 70% ของจำนวนยอดทั้งหมดบนต้น ควรตดั แตง่ ผลออกจำก ชอ่ ประมำณ 1 ใน 3 ของควำมยำวชอ่ ผล หรือใหเ้ หลือจำนวนผลตอ่ ช่อไม่ เกนิ 80 ผล เมื่อผลมีอำยปุ ระมำณ 1 เดอื นหลังดอกบำน หรือผลมขี นำด เสน้ ผ่ำนศนู ยก์ ลำงประมำณ 0.5 เซนติเมตร โรคพืช - ไมม่ กี ำรสำรวจโรคและศตั รูพืชอย่ำงสม่ำเสมอ - เลอื กใชส้ ำรเคมใี ห้เหมำะสมตำมคำแนะนำ - พ่นสำรเคมีเมื่อมีกำรระบำดของโรคและ ของกรมวชิ ำกำรเกษตร ศตั รูพืชแล้ว และ/หรือ 12ลดต้นทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

ข้ันตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วิธีปฏิบตั ิโดยทั่วไป การลดตน้ ทนุ 9. การป้องกันกาจดั - สำรวจและประเมนิ อำกำรโรคจำกใบ ลำตน้ หรอื ก่ิง และป้องกันกำจัด - เลือกใช้สำรเคมีไม่เหมำะสมกับชนิดของโรค วัชพืช ตำมอำกำร และควำมรนุ แรงของโรคทพ่ี บ ได้แก่ โรครำน้ำฝนหรือโรคผล หรอื ศัตรพู ืช โดยจัดกำรตำมประสบกำรณ์ หรือ เน่ำ โรคใบไหม้ โรครำกเนำ่ และโคนเน่ำ และโรคพมุ่ ไม้กวำด สอบถำมจำกเพ่ือนเกษตรกรหรอื ผู้ประกอบกำร ศตั รพู ืช ตลอดจนส่ือต่ำงๆ เชน่ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ - ประเมินอำกำรผิดปกติของใบและยอดลำไย เมื่อพบปริมำณเกินค่ำ ควบคุม จึงกำจัดตำมคำแนะนำ ได้แก่ หนอนชอนใบ ไรสี่ขำมวนลำไย เพล้ียหอย เพลย้ี แปง้ หนอนเจำะขั้ว ผเี สอื้ มวนหวำน หนอนเจำะกิง่ - กำจดั ด้วยวิธกี ล เชน่ ตัดให้ส้ัน - เลอื กใชส้ ำรเคมแี ละพ่นตำมประสบกำรณ์ - เลือกใ ช้ส ำร เค มีให้ เห ม ำะส มตำ ม - กำจัดด้วยสำรกำจัดวชั พืชตำมคำแนะนำ คำแนะนำของกรมวิชำกำรเกษตร 10.การเกบ็ เกี่ยวและ - เก็บเกี่ยวเม่ืออำยผุ ล 7 เดือน โดยใช้กรรไกรตดั ก้ำนชอ่ ผลไม่ยำวเกนิ 30 - เกษตรกรสังเกตจำกลักษณะผล คือ ผลมี - เก็บเกี่ยวและจัดหลังกำรเก็บเกี่ยวตำม การปฏบิ ัตหิ ลงั การ เก็บเก่ียว เซนติเมตร ขนำดใหญ่เต็มที่ ผิวเปลือกด้ำนนอกเรียบ คำแนะนำ - คัดแยกผลช้ำ ผลแตกหรือมีศัตรูพืช ตัดก้ำนช่อผลยำว 15 เซนติเมตร เปลอื กด้ำนในมเี สน้ คล้ำยร่ำงแห เมลด็ สดี ำ มรี ส ตดั แต่งกำ้ นที่ไมต่ ดิ ผลและผลที่ไม่ไดข้ นำดออก หวำน ไม่ขึน้ หวั - บรรจุหบี หอ่ ในตะกร้ำพลำสติกขนำด 11.0 – 11.5 กิโลกรัม หรือกล่อง - หลีกเลยี่ งเก็บเกยี่ วผลในวนั ทม่ี ฝี นตก กระดำษน้ำหนัก 10 กิโลกรัม และ 15 กิโลกรัม - นำผลผลติ มำส่งแหลง่ รับซอื้ (ลัง) โดยเร็วทส่ี ุด - ผำ่ นขบวนกำรรมผลสดดว้ ยกำ๊ ซ SO2 ตำมคำแนะนำหรอื ขอ้ กำหนด 13ลดต้นทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

กำรขยำยพันธโ์ุ ดยวิธเี สียบยอด กำรใหน้ ำ้ โดยใช้หัวเหวี่ยงเล็ก กำรตดั แตง่ ผลที่เหมำะสม เกบ็ เกย่ี วลำไยเมื่ออำยุผลประมำณ 7 เดอื น กำรตัดแต่งก่งิ แบบฝำชหี งำย 14ลดต้นทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ขัน้ ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วธิ ปี ฏบิ ตั โิ ดยท่ัวไป การลดตน้ ทุน 1. พันธุ์ - เลือกปลูกพันธุ์ที่เหมำะสมกับพ้ืนท่ี ภำคเหนือ เลือกพันธุ์ที่ต้องกำร - ปลูกเพียงพันธเุ์ ดียว เช่น พันธุ์ฮงฮวย - ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีชักนำให้ออกดอก และติดผล ทำให้ลดต้นทุนจดั กำรสวน อุณหภูมิต่ำและนำนในกำรชักนำให้ออกดอก เช่น พันธ์ุฮงฮวย - ใหค้ วำมสำคัญกบั กำรเลอื กตน้ พันธนุ์ ้อย และปัจจัยกำรผลติ จักรพรรดิ กิมเจง โอวเฮยี ะ ภำคกลำง ภำคตะวันออก และภำค - ขยำยพันธใ์ุ ชเ้ องช่วยลดต้นทุนค่ำตน้ พนั ธุ์ ตะวันออกเฉียงเหนือ เลือกพันธ์ุท่ีต้องกำรอุณหภูมิต่ำไม่มำกและไม่ นำนในกำรชกั นำใหอ้ อกดอก เชน่ พันธุค์ ่อม พนั ธุท์ พิ ย์ พันธนุ์ ครพนม 1 - เลอื กต้นพนั ธ์จุ ำกตน้ ทสี่ มบูรณแ์ ละปรำศจำกโรค-แมลง 2. พน้ื ทป่ี ลูก - เลือกพื้นที่มีควำมลำดเอียงไม่เกิน 15% ดินร่วนปนทรำย ควำมอุดม - พื้นท่ีส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวหรือดินลูกรัง - กำรปลูกในพื้นท่ีท่ีเหมำะสม จะช่วยลด 3. การเตรียมพ้นื ท่ี สมบรู ณป์ ำนกลำง มกี ำรระบำยนำ้ ดี คำ่ ควำมเปน็ กรด-ดำ่ ง 5.5-6.5 ควำมอุดมสมบูรณ์ต่ำและขำดกำรปรับปรุง ต้นทุนปจั จยั กำรผลิต ปลกู - ใชป้ ุ๋ยอินทรียห์ รอื ป๋ยุ เคมเี พอ่ื เพิม่ ควำมสมบรู ณด์ ิน บำรงุ ดนิ 4. การปลูก - พ้ืนท่ลี มุ่ ควรยกแปลงและทำรอ่ งน้ำ พน้ื ทด่ี อนควรปรับพื้นทใี่ หเ้ รียบ - ไมเ่ ก็บตัวอย่ำงดนิ วิเครำะห์กอ่ นปลกู - เตรียมพ้ืนที่ให้เหมำะสมตำมคำแนะนำ เพอ่ื สะดวกต่อกำรปฏิบัติงำน ถ้ำพื้นท่มี คี วำมลำดชันควรปลูกตำมแนว กรมวชิ ำกำรเกษตร ระดับ - เก็บตัวอย่ำงดินสง่ วิเครำะห์ สำหรับจัดกำร - เกบ็ ตัวอย่ำงดนิ วเิ ครำะหแ์ ละประเมนิ ควำมอดุ มสมบูรณ์ดนิ กอ่ นปลกู ธำตุอำหำรตำมผลวเิ ครำะหด์ ิน - ระยะปลกู 6×6, 8×8 เมตร หรือ 10×10 เมตร ตำมควำมอุดมสมบูรณ์ - ขนำดหลุมและระยะปลูกไม่แน่นอนขึ้นกับ - ใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ย่อยละลำยฟอสเฟต ลด ดนิ สภำพพ้ืนท่ี ในพ้ืนท่ีลำดชันไม่ได้ปลูกตำมแนว กำรใชป้ ๋ยุ ฟอสฟอรสั 50% - ดินอุดมสมบูรณ์ดีเตรียมหลุมขนำด 50x50x50 เซนติเมตร ดินที่อุดม ระดบั (คอนทัวร์) สมบรู ณ์ตำ่ เตรียมหลุมขนำด 80x80x80 เซนติเมตร แยกดินชั้นบนผสม 15ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ข้นั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ปี ฏิบัตโิ ดยท่วั ไป การลดต้นทนุ 5. การให้ป๋ยุ กับปุ๋ยคอกเก่ำ 1 ปี๊บ และปุ๋ย 0-3-0 อัตรำ 100 กรัม ร่วมกับปุ๋ย - คลุกดนิ กับปุ๋ยอินทรยี ์ สดั สว่ น 1:1 ไมม่ กี ำรใช้ 6. การใหน้ ้า 7. การดแู ลรักษา จลุ นิ ทรีย์ย่อยละลำยฟอสเฟต อตั รำ 20 กรมั /ต้น ปยุ๋ สูตร 0-3-0 ร่วมกับปุ๋ยจุลินทรีย์ย่อยละลำย ฟอสเฟต - เก็บตัวอย่ำงและวิเครำะห์ดินก่อนปลูก เพื่อปรับปรุงดินให้เหมำะสม - ใหค้ วำมสำคัญน้อยในกำรเก็บตัวอย่ำงดินและ - ใสป่ ุ๋ยตำมค่ำวเิ ครำะห์ดินและพืช โดยผสม และใส่ปุ๋ยอย่ำงถูกต้อง ควรเก็บตัวอย่ำงดินวิเครำะห์อย่ำงน้อยปีละ 1 ตัวอยำ่ งพชื ปุ๋ยใช้เองจำกกำรใช้แม่ปุ๋ย สำมำรถลด ครงั้ (หลงั เกบ็ เกี่ยว) - ใช้ปุย๋ เคมสี ูตรสำเร็จ 15-15-15 หรอื 16-16- ต้นทุนคำ่ ปุย๋ เคมีไดป้ ระมำณ 40% - เกบ็ ตัวอย่ำงใบวเิ ครำะหอ์ ย่ำงน้อยปลี ะ 2 ครั้ง เมือ่ ใบชุดที่ 1 อำยุ 45- 16 หรอื 13-13-21 50 วนั และกอ่ นยืดช่อดอก - ตน้ อำยุ 1-3 ปี ใส่ปุ๋ยเคมสี ูตร 15-15-15 ผสม 46-0-0 สดั ส่วน 1:1 อตั รำ 1- 3 กิโลกรัม/ต้น และใส่ปุ๋ยคอกอตั รำ 10 กโิ ลกรัม/ตน้ ในช่วงฤดูฝนและ ต้นอำยุ 4 ปีข้ึนไปท่ีให้ผลผลิตแล้ว ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-5-20 อัตรำ 1-3 กิโลกรัม/ตน้ - อำยุ 1-2 ปี เม่ือฝนทิ้งชว่ ง ใหน้ ้ำ 20 - 60 ลติ ร ทุกสปั ดำห์ - งดให้น้ำก่อนออกดอก 2 เดือน เร่ิมให้น้ำอีก - ให้น้ำอย่ำงมีประสิทธิภำพและเพียงพอ - อำยุ 3 ปีขึน้ ไปหรือต้นท่ีให้ผลผลิตแล้ว งดให้นำ้ ช่วงก่อนออกดอก เริ่ม ครง้ั เม่ือเริ่มติดผล เช่น เลอื กระบบกำรให้น้ำแบบหวั เหวย่ี งเล็ก ให้นำ้ อกี คร้ังเมอื่ ดอกบำนหรือเริ่มติดผล ให้นำ้ สปั ดำหล์ ะ 2 ครัง้ คร้งั ละ - ปริมำณนำ้ ไมแ่ นน่ อน พร้อมให้ ปุ๋ยทำง ร ะบบน้ำ ล ดต้นทุน 250-350 ลิตร/ต้น (ขนำดทรงพุ่ม 7 เมตร) คำ่ แรงงำน และประหยดั น้ำ - หลังปลูกเม่ือต้นสูง 80-100 เซนติเมตร ตัดหรือปลิดยอดให้แตกกิ่ง - ไมม่ กี ำรตัดแตง่ ทรงพุ่ม - กำรควบคุมขนำดทรงพุ่ม ทำให้กำร ข้ำง เลือกกิ่งที่ทำมุมกว้ำง 3-4 ก่ิงรอบต้น ตัดปลำยยอดให้ยำว 50 - ตัดแตง่ กง่ิ ไมถ่ กู ตอ้ งตำมหลักวิชำกำร ปฏิบัติงำนในสวนและเก็บเก่ียวผลผลิตได้ เซนตเิ มตร - ใช้เวลำในกำรแต่งแต่งกิง่ ยำวนำน ส ะด วก ร วด เร็ ว ส ำม ำร ถล ดต้ นทุ น - เม่ือต้นอำยุ 4 ปีข้ึนไป ให้ตัดกิ่งเปิดกลำงทรงพุ่ม ตัดปลำยกิ่ง กิ่ง คำ่ แรงงำนเก็บเกี่ยวผลผลิตและกำรป้องกัน ซอ้ นทับ ก่ิงบังแสง และกิง่ ด้ำนข้ำงไมใ่ หช้ นกัน กำจดั ศตั รพู ืช 16ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ขน้ั ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธีปฏิบัตโิ ดยทัว่ ไป การลดตน้ ทุน 8. การป้องกนั กาจดั โรคพชื ทสี่ าคัญ - ไมม่ กี ำรสำรวจศตั รูพชื อยำ่ งสม่ำเสมอ - ศึกษำเอกสำรเรื่องกำรป้องกันกำจัด ศตั รพู ืช -โรคราดา กำรป้องกันกำจัด ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง ควบคุมกำรแพร่ - พ่นสำรเคมีเม่ือมีกำรระบำดของศัตรูพืชมำก ศั ต รู พื ช เ พื่ อ เ ลื อ ก ใ ช้ ส ำ ร เ ค มี ใ ห้ ระบำดของเพลยี้ และใชส้ ำรปอ้ งกันกำจัดโรคพชื ตำมคำแนะนำ แล้ว และ/หรือเลือกใช้สำรเคมีไม่เหมำะสมกับ เหมำะสมตำมคำแนะนำ -โรคกามะหย่ี กำรป้องกันกำจดั ถ้ำพบเพยี งเล็กนอ้ ยให้ตัดเผำทำลำย ชนิดของศัตรพู ชื แมลงศตั รทู สี่ าคญั -หนอนใบชา กำรป้องกันกำจัด ควรพ่นสำรป้องกันกำจัดศัตรูพืชตำม คำแนะนำ -หนอนเจาะข้วั ผล กำรป้องกันกำจัด เก็บรวบรวมผลทร่ี ว่ งหล่นและเก็บ ดักแด้ของหนอนท่ีอยู่บนใบทำลำยทั้งหมด และควรพ่นสำรป้องกัน กำจัดศตั รพู ืชตำมคำแนะนำ 9. การป้องกันกาจดั - กำจัดด้วยวิธกี ล -เลือกใช้สำรเคมีและพน่ ตำมประสบกำรณ์ -เลอื กใช้สำรเคมี ใหเ้ หมำะสมตำมคำแนะนำ วัชพืช - กำจัดด้วยสำรกำจดั วชั พชื ตำมคำแนะนำ 10. การเกบ็ เกี่ยวและ - เก็บเก่ียวเม่อื ผลแกพ่ อดี หรือหลงั ดอกบำน 4 เดอื น - ใช้ประสบกำรณ์และควำมชำนำญโดยดูสี - เก็บเก่ียวผลผลิตโดยทยอยเกบ็ เฉพำะช่อท่ี การปฏบิ ตั ิหลังการเกบ็ - บรรจุหีบห่อในตะกรำ้ พลำสตกิ หรอื กลอ่ งกระดำษ เปลอื ก เช่น เปลี่ยนจำกสีเขียวเป็นสชี มพูหรือสี แก่พอดีและจัดกำรผลผลิตหลังเก็บเก่ียว เกย่ี ว กำรปฏบิ ัตเิ พื่อกำรส่งออก แดง หรอื หนำมบนผวิ เปลอื กห่ำงออกจำกกนั ตำมคำแนะนำ เพื่อใหไ้ ด้ผลผลิตคณุ ภำพดี - ลดอุณหภูมิผลอย่ำงรวดเร็ว เช่น ใช้ลมเย็นผ่ำนผล และจุ่มผลในน้ำ เย็นหรือน้ำผสมน้ำแข็ง แล้วเก็บไว้ในอุณหภูมิ 5 องศำเซลเซียส ควำมช้นื สัมพทั ธ์อำกำศไม่ต่ำกวำ่ 95% นำน 3 สัปดำห์ - รมด้วยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ควำมเข้มข้น 2 % นำน 25 นำที แล้วนำไปแช่ในสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ควำมเข้มขน้ 1.0 N นำน 15 นำที เก็บรักษำท่ีอุณหภูมิ 5 องศำเซลเซียส ช่วยยืดอำยุกำร เก็บรักษำล้ินจไ่ี วไ้ ด้นำนถึง 7 สัปดำห์ 17ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ขยำยพันธุ์จำกตน้ ที่สมบรู ณ์ปรำศจำกโรค-แมลง เตรยี มพ้ืนทีป่ ลูกใหเ้ หมำะสม เลือกระบบกำรให้น้ำแบบหัวเหว่ียงเล็ก พรอ้ มใหป้ ุ๋ยทำงระบบน้ำ ตดั แต่งก่ิงแบบเปิดกลำงทรงพุ่ม เก็บเกี่ยวหลงั ดอกบำน 4 เดอื น 18ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

ขั้นตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธีปฏิบัตโิ ดยท่ัวไป การลดต้นทนุ 1. พันธ์ุ - เลือกใชพ้ ันธ์ุท่คี ุณภำพผลดแี ละตรงตำมควำมตอ้ งกำรของตลำด - ใช้พันธุ์กำรค้ำที่มีต้นพันธุ์จำหน่ำยตำม - ใช้พันธ์ุที่เหมำะสม ตรงตำมควำม 2. พนื้ ทป่ี ลูกท่ี เหมาะสม พนั ธกุ์ ำรค้ำ ได้แก่ หมอนทอง ชะนี กระดุม ก้ำนยำว พันธ์ุแนะนำ โรงเรอื นเพำะชำทั่วไป ต้องกำรของตลำด ของกรมวิชำกำรเกษตร ได้แก่ จนั ทบุรี 1 จันทบรุ ี 2 จนั ทบรุ ี 3 - ต้นพันธท์ุ ่ีสมบรู ณ์แข็งแรง ทนทำนต่อ - ต้นพันธุ์ต้องมีควำมแข็งแรง ตรงตำมพันธุ์ ควรใช้ต้นตอพันธุ์ โรคจะเจริญเติบโตเรว็ พน้ื เมืองเพ่ือใหท้ นทำนต่อโรครำกเน่ำโคนเนำ่ ระบบรำกไม่ขดงอ ใบสมบูรณแ์ ละมสี เี ขยี วเขม้ - สภาพพ้ืนท่ี ดินร่วนปนทรำย มีควำมอุดมสมบูรณ์สูง พื้นท่ีสูง - ปลูกตำมพ้ืนท่ีที่มีอยู่โดยไม่พิจำรณำถึง - เลอื กสภำพพืน้ ที่และอำกำศเหมำะสม จำกระดับน้ำทะเล 0-650 เมตร ควำมลำดเอียง 1-3% มีกำร ตน้ ทุนปัจจัยทีเ่ พิ่มขนึ้ ชว่ ยลดต้นทุนด้ำนปจั จยั กำรผลติ ระบำยน้ำดี หนำ้ ดินลึกมำกกว่ำ 50 เซนติเมตร ระดบั นำ้ ใต้ดินลึก มำกกวำ่ 75 เซนติเมตร และมคี วำมเปน็ กรด-ด่ำง 5.5-6.5 - สภาพภูมิอากาศ อำกำศร้อนชื้น ฝนกระจำยตัวดี มีปริมำณ น้ำฝนระหวำ่ ง 1,600-3,000 มิลลเิ มตร/ปี มีช่วงแลง้ ต่อเนื่องนอ้ ย กว่ำ 3 เดอื น/ปี และควำมชื้นสมั พัทธม์ ำกกว่ำ 30% 19ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

ขัน้ ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธีปฏิบตั โิ ดยทว่ั ไป การลดตน้ ทุน 3. การเตรยี ม - แหล่งน้า มีเพียงพอในกำรผลิตทุเรียนตลอดปี ประมำณ 600- - กำรเตรียมพ้ืนท่ีปลูกท่ีเหมำะสม พนื้ ทป่ี ลกู สำมำรถช่วยลดปัญหำน้ำท่วมขังและ 800 ลกู บำศกเ์ มตร/ไร่ ควำมเปน็ กรด-ด่ำงของน้ำระหว่ำง 6.0- โรครำกเน่ำโคนเน่ำ 4. การปลกู - เกบ็ ตวั อย่ำงดินวเิ ครำะห์และประเมิน 7.5 มีสำรละลำยเกลือไมม่ ำกกวำ่ 1,400 มลิ ลิโมล ควำมอดุ มสมบรู ณด์ ินก่อนปลูก - พ้ืนท่ีดอน ไถพรวน ปรับพ้ืนที่ให้เรียบเพ่ือสะดวกในกำรวำง - ปลกู ตำมพ้นื ที่ทมี่ อี ยู่ - กำรวำงผังปลูกท่ีเหมำะสม ทำให้ ระบบนำ้ และกำรจัดกำรสวน รวมท้งั ขดุ ร่องระบำยน้ำ สะดวกในกำรจัดกำรแปลง และดูแล - พื้นท่ีลุ่ม ควรยกโคกและปลูกดำ้ นบน หำกมีน้ำท่วมขังมำกและ รักษำ ช่วยให้ได้ผลผลิตสูงและ มี นำน ควรยกร่องสวนให้มีขนำดสันร่องกว้ำงไม่น้อยกว่ำ 6 เมตร คณุ ภำพ รอ่ งน้ำกว้ำง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร มีระบบระบำยนำ้ เขำ้ -ออกเป็น อย่ำงดี - การวางผังปลูก มี 2 ระบบ คือ ระบบสี่เหล่ียมจัตุรัส หรือ - นิยมปลกู แบบส่ีเหล่ยี มจตั รุ สั สำมเหล่ียมด้ำนเท่ำ ระยะปลูก 8-10 เมตร เหมำะกับพื้นที่ ค่อนข้ำงเรียบ และระบบแถวกว้ำงต้นชิด ระยะระหว่ำงต้น 30- 50% ของระยะแถว วำงแถวปลูกในแนวเหนือใต้ มีด้ำนกว้ำง ระหว่ำงแถวขวำงแนวขนึ้ ลงของพระอำทิตย์ - วธิ ีการปลูก มี 2 แบบ คอื กำรปลูกแบบเตรียมหลุมปลกู เหมำะ กับพื้นที่ค่อนข้ำงแห้งแล้ง และกำรปลูกแบบน่ังแท่นหรือยกโคก เหมำะกับพน้ื ที่ฝนตกชุก เพ่อื ชว่ ยใหด้ ินระบำยน้ำได้ดีขึน้ 20ลดต้นทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ขนั้ ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วิธีปฏิบตั ิโดยท่ัวไป การลดตน้ ทุน 5. การใสป่ ุ๋ย - ควรเก็บตัวอย่ำงดินหลังกำรเก็บเกี่ยวผลผลิต และเก็บตัวอย่ำง - ไมม่ กี ำรวิเครำะห์ดินและใบพืช - ใช้ปุ๋ยตำมค่ำวิเครำะห์ดินและค่ำ 6. การใหน้ า้ ใบระยะเพสลำด วิเครำะหแ์ ละประเมินปริมำณธำตุอำหำร -ใช้แรงงำนในกำรหว่ำนปุ๋ย ซ่ึงใส่ปริมำณ วิเครำะห์ทำงใบ ลดต้นทุนปุ๋ยได้ 20- 7. การดูแล รักษา - ใส่ปุ๋ยเคมีให้สอดคล้องกับค่ำวิเครำะห์ดินและใบ โดยแบ่งใส่ 4 มำกและบอ่ ยครง้ั 40% ครั้ง คือ ระยะบำรุงต้น (หลังกำรเก็บเก่ียว) ระยะก่อนออกดอก - ใส่ปุ๋ยเคมี ต้นละ 3-4 กิโลกรัม โดยซ้ือ - ผสมปุ๋ยใช้เอง ลดต้นทุนค่ำปุ๋ยเคมีได้ 1-2 เดือน ระยะบำรุงผล (หลังดอกบำน 1 เดือน) และระยะ ปยุ๋ สำเร็จจำกร้ำนคำ้ 30-50% ปรับปรุงคุณภำพ (ก่อนเก็บเก่ียว 2 เดือน) หว่ำนปุ๋ยรอบทรงพุ่ม - ใส่ปยุ๋ คอก - ให้ปุ๋ยทำงระบบน้ำ ลดต้นทุนกำรใช้ แลว้ พรวนดินกลบ แรงงำน 10% - ใช้ปุ๋ยอินทรยี ร์ ว่ มกับปุ๋ยเคมแี ละป๋ยุ ชีวภำพ - ควรให้น้ำเพียงพอกับควำมต้องกำรของทุเรียนในแต่ละชว่ งกำร - วำงระบบน้ำท่ไี ม่มีประสทิ ธภิ ำพ เช่น ใช้ - วำงระบบน้ำท่ีมีประสิทธิภำพและให้ เจริญเติบโต โดยเฉพำะในช่วงหลังกำรออกดอกและกำรพัฒนำ หวั จำ่ ยนำ้ ที่มีอัตรำจ่ำยนำ้ มำกเกินไป ปุ๋ยทำงระบบน้ำ ลดกำรใช้แรงงำนและ ของผลระยะ 8-12 สัปดำห์ หลงั ดอกบำน - ใหน้ ้ำไม่สอดคลอ้ งกบั ควำมต้องกำรของ ลดต้นทุนกำรผลติ ระยะยำว - ใช้ระบบใหน้ ้ำแบบมนิ สิ ปริงเกอรแ์ ละควรใหป้ ยุ๋ พรอ้ มระบบนำ้ พชื -ให้น้ำตำมควำมตอ้ งกำรของพืช - ใหน้ ้ำปริมำณน้อยแต่บอ่ ยคร้ัง ช่วยรักษำควำมช้ืนในเขตรำกพืช ให้อยู่ในระดบั ท่ีเปน็ ประโยชน์สงู อย่เู สมอ - การพรางแสง ให้ร่มเงำหรือพรำงแสงในช่วงแรกของกำร - ไม่มีกำรพรำงแสง - ช่ ว ย ใ ห้ ต้ น ทุ เ รี ย น ต้ั ง ตั ว ไ ด้ เ ร็ ว เจริญเติบโต อำจใช้วัสดุธรรมชำติช่วยพรำงแสง หรืออำจปลูก เจรญิ เติบโตดี ต้นไม้โตเร็วระหวำ่ งแถวทเุ รียน เช่น กลว้ ย ทองหลำง - ได้รำยได้เสริมจำกผลผลิตของต้นไม้ที่ ปลกู พรำงแสง 21ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ขั้นตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ีปฏิบัตโิ ดยท่วั ไป การลดต้นทุน 8. การปอ้ งกนั - การตัดแต่งและควบคุมทรงพุ่ม หลังปลูก 1.0-1.5 ปี ควรตัด - ไม่มกี ำรควบคุมทรงพมุ่ ทำให้ต้นสูงใหญ่ - กำรวำงระบบปลูกและกำรควบคุม กาจัดโรคและ ทรงพุ่มให้เหมำะสมจะช่วยลดแรงงำน ศัตรพู ืช แตง่ ให้มลี ำต้นเดี่ยว กำหนดก่ิงประธำน แต่ละกงิ่ ควรหำ่ งกัน 10- ในกำรพ่นสำรเคมี กำรโยงผล และกำร เกบ็ เก่ยี ว 15 เซนติเมตร ก่ิงประธำนแต่ละกง่ิ มกี ง่ิ รอง 3-4 กิ่ง และกงิ่ รองแต่ - กิ่งและใบทุเรียนที่ตัดแต่งท้ิงหำกไม่ เป็นโรคอำจนำกลับมำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ละกงิ่ จะมกี ิง่ แขนงพอประมำณและไม่บังแสงซง่ึ กันและกัน ให้ต้นทเุ รยี นได้อกี - การตัดแตง่ ผล ตัดแตง่ ผลที่มีขนำดเล็ก รูปทรงบิดเบี้ยว และไม่ - ไม่มกี ำรตดั แตง่ ผล หรอื ตดั แต่งน้อย - เม่ือตัดแต่งไว้ผลท่ีมีปริมำณสอดคล้อง อยู่ในตำแหน่งท่ีต้องกำรออก โดยเหลือผลไว้ประมำณ 2-3 เท่ำ กับควำมสำมำรถในกำรไว้ผลของต้น ของจำนวนผลท่ีต้องกำรไว้จริง (ทุเรียน 1 ผลต่อใบสมบูรณ์ จะได้ผลที่ไม่เล็กเกินไป และมคี ุณภำพดี ประมำณ 330 ใบ) ทำกำรตดั แตง่ 5 คร้งั คอื เพิ่มรำยได้ใหก้ ับเกษตรกร ครง้ั ที่ 1 เมอ่ื ผลอำยุ 4-5 สัปดำหห์ ลังดอกบำน ครง้ั ที่ 2 เมอ่ื ผลอำยุ 6 สปั ดำห์ คร้ังท่ี 3 เม่อื ผลอำยุ 8 สัปดำห์ ครงั้ ที่ 4 เม่อื ผลอำยุ 9 สัปดำห์ ครง้ั ที่ 5 เมอ่ื ผลอำยุ 10-12 สปั ดำห์ - สำรวจและประเมินควำมเสียหำยของกำรถกู ทำลำยจำกโรคหรือ - ไม่มีกำรสำรวจประเมินควำมเสียหำย - ลดจำนวนครั้งกำรพ่นสำรเคมี ช่วยลด แมลงก่อนกำรใช้สำรเคมีป้องกันกำจัด และควรใช้ตำมคำแนะนำ ของโรคและแมลงก่อนตัดสินใจพ่น ตน้ ทนุ สำรเคมีและแรงงำน ของกรมวิชำกำรเกษตร สำรเคมี 22ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

ข้ันตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธปี ฏบิ ัตโิ ดยท่ัวไป การลดตน้ ทนุ 9. การปอ้ งกนั -โรคที่สาคัญ คือ โรคจำกเช้ือรำไฟทอปธอร่ำเข้ำทำลำย ดอก ใบ - พ่นบ่อยคร้ังตำมพัฒนำกำรของพืชและ - ใช้สำรเคมีให้ถูกชนิดของโรคและ กาจดั วัชพชื 10. การเก็บ ลำตน้ และรำก โรคแอนแทรคโนสเข้ำทำลำยดอก โรคผลเน่ำ ผล แมลง และใช้อตั รำตำมคำแนะนำ เก่ยี วและการ ปฏบิ ตั ิหลงั การ -แมลงศตั รทู ่ีสาคญั จำแนกตำมสว่ นทีเ่ ขำ้ ทำลำย - ใช้กำรผสมผสำนกำรจัดกำรศัตรูพืช เก็บเก่ยี ว -ใบ: เพลยี้ ไกแ่ จ้ เพลย้ี จกั จน่ั ฝอย หนอนกินใบ ไรแดง (IPM) -ดอก: เพลย้ี ไฟ หนอนกนิ ดอก - กำรควบคุมทรงพุ่มไม่ให้ใหญ่เกินไป -ผล: หนอนกินข้ัวผล หนอนเจำะขว้ั หนอนเจำะเมล็ด ช่วยลดกำรใช้สำรเคมีและแรงงำนใน กำรพน่ สำร - วัชพืชฤดูเดียว เช่น หญ้ำขจรจบ หญ้ำตีนนก และวัชพืชข้ำมปี - ใช้กำรพ่นสำรเคมีร่วมกบั กำรตดั - ใช้ตำมคำแนะนำของ GAP ของกรม เช่น หญ้ำคำ หญ้ำชันกำด แห้วหมู กำจัดโดยใช้สำรเคมี หรือตัด วชิ ำกำรเกษตร วัชพืชให้สน้ั ด้วยเครอ่ื งตดั หญ้ำทุก 1-2 เดอื น - เก็บเกย่ี วทเุ รียนตำมอำยุกำรเกบ็ เกีย่ วที่เหมำะสมของแต่ละพนั ธุ์ - ใช้เกษตรกรที่ชำนำญในกำรเก็บเก่ียว - ทำเครื่องหมำยที่ดอกแต่ละรุ่น เพื่อ เช่น กระดุมทอง คือ 90-100 วนั หลงั ดอกบำน, โดยสงั เกตด้วยตำ มือสมั ผสั หรือกำรชิม ลดควำมเสียหำยจำกควำมผิดพลำดใน ชะนี คือ 105-110 วัน หลังดอกบำน, กำรเก็บเกี่ยว หมอนทอง คอื 120-135 วัน หลังดอกบำน - มีกำรควบคุมทรงพุ่ม ควบคุมให้ออก โดยใช้มดี คมตดั ก้ำนผลส่วนท่อี ย่เู หนือปำกปลิง ดอกพร้อมกัน จะสะดวกในกำรเก็บ - เตรียมอปุ กรณ์ใหอ้ ยใู่ นสภำพพร้อมใช้ และเหมำะสมกบั งำน เก่ียวและลดกำรใช้แรงงำน - มีสถำนท่ีเหมำะสมสำหรับคัดแยกผลิตผลด้อยคุณภำพออกจำก - ลดกำรสูญเสียของผลผลิตไม่ให้เกิน ผลิตผลคุณภำพดี และวำงแผนกำรนำผลิตผลด้อยคุณภำพไปใช้ 10% ต่อกำรเก็บเกย่ี วแตล่ ะคร้งั ประโยชน์ เพื่อเพ่ิมผลผลิตที่มีคุณภำพ ทำให้ เกษตรกรมรี ำยไดเ้ พม่ิ ข้ึน 23ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

แปลงทุเรยี นตน้ แบบ กำรไวผ้ ลทุเรยี นท่ีเหมำะสม ผลผลติ ทไ่ี ด้คุณภำพ เพลี้ยไก่แจ้ ไรแดง หนอนเจำะผล หนอนเจำะเมล็ด 24ลดต้นทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ข้ันตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วธิ ปี ฏบิ ัติโดยทวั่ ไป การลดต้นทุน 1. พันธุ์ - เลือกต้นพันธุท์ ่แี ขง็ แรง มีระบบรำกสมบูรณไ์ ม่ขดงอ อำยไุ มน่ อ้ ย - นิยมซ้ือต้นพันธจุ์ ำกเรอื นเพำะชำทวั่ ไป - ต้องเลือกต้นพันธ์ุท่ีสมบูรณ์ไม่ 2. พ้ืนท่ีปลูกที่ แคระแกนหรอื เปน็ โรค เหมาะสม กว่ำ 2 ปี มีควำมสงู ไมต่ ำ่ กว่ำ 30 เซนตเิ มตร - ใชต้ ้นพันธทุ์ ี่ดีของตนเองขยำยพันธ์ุ ใชเ้ อง - สภาพพ้ืนท่ี ควรเป็นดินร่วนปนทรำย มีควำมอุดมสมบูรณ์สูง - ปลกู ตำมพนื้ ท่ที ม่ี ีอยู่โดยไม่พจิ ำรณำถึง - ควรปลูกมังคุดในสภำพพ้ืนท่ีและ ระบำยน้ำได้ดี หน้ำดินลึกกว่ำ 50 เซนติเมตร ระดับน้ำใต้ดินลึก ตน้ ทุนปัจจัยท่ีเพิม่ ข้นึ อำกำศที่เหมำะสมจะช่วยลดต้นทุน มำกกว่ำ 1 เมตร มีควำมเป็นกรดด่ำง 5.5-6.5 พ้ืนท่ีมีควำมสูง ด้ำนปจั จยั กำรผลิต จำกระดับน้ำทะเล 0-650 เมตร ควำมลำดเอียง 1-3% - สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิที่เหมำะสมระหว่ำง 25-35 องศำ เซลเซียส ปริมำณนำ้ ฝนมำกกวำ่ 2,000 มิลลิเมตร/ปี กำรกระจำย ตวั ของฝนดี มีช่วงแล้งตอ่ เนื่องน้อยกว่ำ 3 เดอื น/ปี และควำมชื้น สมั พัทธ์ 70-80% -แหล่งน้า ควรมีปริมำณเพียงพอตลอดปี ไม่มีสำรอินทรีย์ และอนินทรีย์ท่ีเป็นพิษปนเป้ือน มีควำมเป็นกรด-ด่ำงของน้ำ ระหวำ่ ง 6.0-7.5 25ลดต้นทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ขน้ั ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วธิ ปี ฏบิ ตั ิโดยทัว่ ไป การลดตน้ ทนุ 3. การเตรยี ม พน้ื ที่ปลกู - พ้นื ทีด่ อน ไถพรวน ปรบั พ้นื ทใี่ ห้เรียบ หำกมีปัญหำนำ้ ทว่ มขังให้ - ปลกู ตำมพื้นทที่ ี่มอี ยู่ - กำรเตรียมพ้ืนท่ีปลูกท่ีเหมำะสม 4. การปลูก ขดุ ร่องระบำยน้ำ สำมำรถชว่ ยลดปัญหำนำ้ ท่วมขังและ 5. การใสป่ ยุ๋ - พ้นื ทลี่ ุ่ม ควรยกโคกปลกู หำกมีนำ้ ทว่ มขงั มำกและนำน ควรยก โรคทีจ่ ะตำมมำ ร่องสวนให้มีขนำดสันร่องกว้ำงไม่น้อยกว่ำ 6 เมตร ร่องน้ำกว้ำง - เก็บตัวอย่ำงดินวิเครำะห์และ 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร มรี ะบบระบำยน้ำเข้ำ-ออกเป็นอยำ่ งดี ประเมินควำมอุดมสมบูรณ์ดินก่อน ปลกู - การวางผังปลูก มี 2 ระบบ คือ ระบบส่ีเหลี่ยมจัตุรัส หรือ - นิยมปลกู แบบสีเหลยี่ มจตั รุ ัส -ใช้ระยะปลูกและวิธีปลูกที่เหมำะสม สำมเหลี่ยมดำ้ นเท่ำ ระยะระหว่ำงแถวและต้น 8×8 หรือ 10×10 สะดวกต่อกำรจัดกำรแปลงและกำร เมตร และระบบแถวกว้ำงต้นชิด ระยะปลูกระหว่ำงแถวและต้น ดูแลรักษำ ทำให้ผลผลิตสูงและมี 8×3 เมตร หรือ 10×5 เมตร คุณภำพ - วธิ ีการปลูก มี 2 แบบ คือ กำรปลูกแบบเตรียมหลุมปลกู เหมำะ กับพ้ืนที่ค่อนข้ำงแห้งแล้ง และกำรปลูกแบบน่ังแท่นหรือยกโคก เหมำะกับพ้ืนท่ฝี นตกชุก ช่วยใหด้ นิ ระบำยน้ำได้ดีข้นึ - เก็บตัวอย่ำงดินและตัวอย่ำงพืชส่งวิเครำะห์ปริมำณธำตุอำหำร - ไมม่ ีกำรวเิ ครำะห์ปรมิ ำณธำตอุ ำหำรใน - ใสป่ ุ๋ยตำมคำ่ วิเครำะห์ดินและควำม และใส่ปยุ๋ ให้สอดคล้องกับคำ่ วเิ ครำะห์ดนิ และใบ หรอื ดนิ และใบพืช ต้องกำรของพืช และแบ่งใส่ 3 คร้ัง 1. กำรใส่ปุ๋ยหลังกำรเก็บเกี่ยว: ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ อัตรำ 20-30 - ใส่ปยุ๋ มำกเกนิ ควำมจำเปน็ คอื หลังเกบ็ เก่ียว กอ่ นออกดอก และ กิโลกรมั /ต้น ร่วมกับใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรำเทำ่ กับ 1/3 ของ -ใส่ปุ๋ยต้นละ 2-3 กิโลกรัม โดยซื้อสำเร็จ เม่อื ตดิ ผล เส้นผ่ำศนู ยก์ ลำงทรงพุ่ม (กิโลกรัม/ตน้ ) จำกรำ้ นค้ำ - ผสมปุ๋ยใช้เอง ลดต้นทุนค่ำปุ๋ยเคมี 2. กำรใส่ปุ๋ยในช่วงพัฒนำของผล: ใส่ปุ๋ยสัดส่วน N:P:K เท่ำกับ - ใส่ปุ๋ยคอก ได้ 30-50% 3:1:4 เ ช่ น ปุ๋ ย สู ต ร 15-5-20 อั ต ร ำ เ ท่ ำ กั บ 1 ใ น 3 ข อ ง 26ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ขัน้ ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธปี ฏิบัตโิ ดยทว่ั ไป การลดตน้ ทนุ 6. การใหน้ ้า เส้นผ่ำศูนย์กลำงทรงพุ่ม (กิโลกรัม/ต้น) หลังกำรติดผลทันที - ใช้ปุ๋ยอนิ ทรียร์ ว่ มกับปุ๋ยเคมีและปุ๋ย 7. การดูแล ร่วมกับพ่นปุ๋ยทำงใบสัดส่วน N:P:K เท่ำกับ 4:1:6 อัตรำ 100 ชีวภำพ รกั ษา กรมั /นำ้ 20 ลิตร - ให้ปุ๋ยทำงระบบน้ำ ลดต้นทุนกำร ใช้แรงงำน 15-20% - ให้น้ำเพียงพอกับควำมต้องกำรของมังคุดในแต่ละช่วงกำร - วำงระบบน้ำท่ีไมม่ ปี ระสทิ ธิภำพ เช่น - วำงระบบน้ำท่ีมีประสิทธิภำพและ ให้ปุ๋ยทำงระบบน้ำ โดยเลือกหัว เจริญเตบิ โต ใชห้ ัวจ่ำยนำ้ ทที่ อี ัตรำกำรจำ่ ยนำ้ มำก (600 เหวี่ยงเล็กท่ีมีอัตรำกำรจ่ำยน้ำน้อย (300 ลิตร/ชั่วโมง) จะลดกำรใช้ - ระยะตดิ ผล อำยุผลประมำณ 5 สัปดำห์ ใหน้ ำ้ ทุก 3 วนั อตั รำ ลิตร/ช่วั โมง) แรงงำนและลดต้นทุนกำรผลิต - ใหน้ ำ้ ตำมควำมตอ้ งกำรของพชื 80% ของกำรให้นำ้ ปกติ -ใหน้ ้ำไม่สอดคลอ้ งกบั ควำมตอ้ งกำรของ -กำรวำงระบบปลูกและกำรควบคุม - อำยผุ ล 5 สัปดำหถ์ งึ ก่อน 10 สปั ดำห์ ใหน้ ำ้ อัตรำ 90% ของ พืช ทรงพุ่มให้เหมำะ สมจะ ช่วยลด แรงงำนในกำรพ่นสำรเคมีกำจัด กำรใหน้ ้ำปกติ ศตั รูพืช และกำรเก็บเกยี่ ว - อำยผุ ลประมำณ 10-12 สัปดำห์ ถึงเก็บเกย่ี ว ให้นำ้ อัตรำ 80% ของกำรให้น้ำปกติ - การพรางแสง เพอื่ ให้ร่มเงำในช่วงแรกของกำรเจริญเติบโต อำจ - ไมม่ กี ำรควบคมุ ทรงพมุ่ ทำใหต้ น้ สงู ใหญ่ ใช้วัสดุธรรมชำติช่วยพรำงแสง หรืออำจปลูกต้นไมโ้ ตเร็วระหว่ำง แถวมงั คดุ เชน่ กล้วย - การตดั แตง่ และควบคุมทรงพุม่ มังคุดต้นเล็ก ตัดแต่งเฉพำะกิ่งด้ำนล่ำงให้สูงจำกพ้ืนดิน ประมำณ 50 เซนติเมตร และกิ่งทซ่ี ้อนทบั กนั จนแนน่ ทบึ ออก มังคุดที่ให้ผลผลิตแล้ว ตัดแต่งก่ิงท่ีอยู่ด้ำนข้ำงของทรงพุ่มท่ี ประสำนกันออก ให้มีช่องว่ำงระหว่ำงชำยพุ่มโดยรอบกับต้น 27ลดต้นทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

ข้นั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ปี ฏิบตั โิ ดยท่ัวไป การลดตน้ ทนุ 8. การปอ้ งกนั กาจัดโรคและ ข้ำงเคียงประมำณ 50-70 เซนติเมตร ตัดยอดท่ีสูงเกินต้องกำร ศัตรูพชื ออก ตัดกิ่งประธำนหรือกิ่งรองออกด้ำนละ 1-5 ก่ิง ให้เลี้ยงก่ิง 9. การปอ้ งกนั กาจดั วัชพชื แขนงท่อี ยู่ในทรงพมุ่ ไวเ้ พ่ือได้ผลผลติ เพิ่ม - สำรวจและประเมนิ ควำมเสยี หำยของกำรถกู ทำลำยจำกโรคหรือ - ไมม่ กี ำรสำรวจประเมนิ ควำมเสยี หำยของ - กำรสำรวจโรคและแมลงก่อนกำร แมลงกอ่ นกำรใช้สำรเคมีป้องกันกำจัด และควรใช้ตำมคำแนะนำ โรคและแมลงก่อนตดั สินใจพ่นสำรเคมี พ่นสำรเคมี จะช่วยลดกำรใช้สำร ของกรมวิชำกำรเกษตร - พน่ บอ่ ยคร้ังโดยเฉพำะชว่ งกำรออกดอก มำกเกินควำมจำเป็น รวมท้ังลดกำร - โรคที่สาคญั ได้แก่ โรคใบจดุ ติดผลเพ่ือต้องกำรผลิตมังคุดผิวมัน ใชแ้ รงงำน - แมลงศัตรูทีส่ าคัญ จำแนกตำมส่วนท่เี ข้ำทำลำย - ใช้สำรเคมีที่ถูกต้องกับโรคและ - ใบ: เพลย้ี ไฟ หนอนชอนใบ หนอนกินใบออ่ น แมลง ช่วยให้กำรป้องกันกำจัดมี - ดอก: เพล้ียไฟ ไรขำว ประสทิ ธิภำพ - ผล: เพล้ียไฟ ไรขำว เพล้ียแป้ง มด - กำรพ่นละอองน้ำ สำมำรถลด ปญั หำเพลี้ยไฟในชว่ งออกดอกติดผล ซง่ึ ประหยดั กวำ่ กำรใชส้ ำรเคมี - กำรจดั กำรศัตรพู ชื แบบผสมผสำน (IPM) - กำรควบคมุ ทรงพ่มุ ไม่ใหใ้ หญ่ เกินไป ช่วยลดกำรใช้สำรเคมแี ละ แรงงำนในกำรฉดี พน่ - วชั พืชท่ีสำคญั ได้แก่ วชั พืชฤดูเดียว เชน่ หญำ้ ขจรจบ และหญ้ำ - ใช้กำรพน่ สำรเคมีร่วมกับกำรตัด - ใช้ตำมคำแนะนำของ GAP ของ นกสีชมพู วัชพืชข้ำมปี เช่น หญ้ำคำ หญ้ำชันกำด หรือ แห้วหมู กรมวิชำกำรเกษตร 28ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ขน้ั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ีปฏิบตั ิโดยท่วั ไป การลดต้นทุน 10. การเกบ็ กำจัดเม่ือวัชพืชปกคลุมพ้ืนที่สวนมำกกว่ำหรือเท่ำกับ 90% ของ - มกี ำรควบคุมทรงพุ่ม และควบคุม เก่ียวและการ กำรออกดอกให้พร้อ มกัน เพื่อ ปฏิบตั หิ ลังการ พื้นท่ีท้ังหมด และมีควำมสูงเฉล่ียมำกกว่ำหรือเท่ำกับ 30 สะดวกในกำรจดั กำรเก็บเกย่ี ว เกบ็ เกี่ยว - ลดกำรสูญเสียของผลผลิตไม่ใหเ้ กิน เซนตเิ มตร โดยตดั ให้สนั้ ทุก 1-2 เดือน หรอื ใช้สำรกำจัดวชั พชื เป็น 10% ต่อกำรเก็บเกยี่ วแต่ละครั้งเพ่ือ เ พ่ิ ม ผ ล ผ ลิ ต ท่ี มี คุ ณ ภ ำ พ ท ำ ใ ห้ ครง้ั ครำว เกษตรกรมรี ำยได้เพ่มิ ขึ้น - เกบ็ ผลในระยะสำยเลือด - ใชแ้ รงงำนเกบ็ เกีย่ วจำนวนมำก โดยคิด - เลือกแรงงำนทมี่ ีควำมชำนำญในกำรเก็บเก่ียว รำคำเกบ็ เก่ียวเปน็ กโิ ลกรัม ทำให้เกบ็ เกยี่ ว - เลอื กใช้อุปกรณ์ทีเ่ หมำะสมกบั กำรเก็บเกยี่ ว ไม่ได้ตำมระยะที่กำหนด และไมม่ ีกำรคดั - มสี ถำนทเ่ี หมำะสมสำหรบั คดั แยกผลิตผลคณุ ภำพ แยกคุณภำพผล - มีแผนกำรนำผลติ ผลด้อยคุณภำพไปใช้ประโยชน์ 29ลดต้นทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

กำรตดั แตง่ และควบคุมทรงพุ่ม ช่วยลดตน้ ทนุ กำรจดั กำรต่ำงๆ และยงั ใหผ้ ลผลติ คุณภำพ กำรเก็บเก่ียว เก็บในระยะสำยเลอื ด และใชอ้ ุปกรณท์ ่เี หมำะสม ช่วยลดควำมเสยี หำยของผลผลิต เพม่ิ ผลผลติ ที่มีคุณภำพ 30ลดต้นทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ขน้ั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ปี ฏบิ ตั โิ ดยท่ัวไป การลดตน้ ทนุ 1. พันธุ์ - เลอื กใช้พันธุท์ ่ีมคี ุณภำพ และตรงตำมควำมต้องกำรของตลำด - นิยมปลกู พนั ธโุ์ รงเรยี น - เลือกต้นพนั ธุ์ท่ีสมบูรณ์ไม่แคระแกน หรือพนั ธก์ุ ำรค้ำ เชน่ พันธุ์โรงเรียน หรอื เป็นโรค - ใช้ต้นพันธุ์ท่ีดีของตนเอง โดยกำร ขยำยพนั ธุ์ใชเ้ อง 2. พน้ื ท่ีปลูก - สภาพพ้นื ท่ี ดนิ ร่วนปนทรำยที่มกี ำรระบำยนำ้ ดี มอี ินทรยี วัตถุ - ปลูกตำมพ้ืนท่ีที่มีอยู่โดยไม่คำนึงถึง - ใช้พ้ืน ที่ให้เห มำะ สมกั บคว ำ ม มำก ควำมเปน็ กรดด่ำง 5.5-7.0 หนำ้ ดินลกึ ไมน่ อ้ ยกว่ำ 1 เมตร ควำมเหมำะสม ไม่พิจำรณำถึงต้นทุน ต้องกำรของพืชและศักยภำพกำรผลิต - สภาพภูมิอากาศ มีควำมชื้นสัมพัทธ์ในอำกำศสูง กำร ปจั จยั ที่เพิ่มขนึ้ ทเี่ หมำะสม ลดตน้ ทนุ ประมำณ 40% กระจำยตัวของฝนดีไมต่ ่ำกวำ่ 1,500 มิลลเิ มตร/ปี 3. การเตรยี มพื้นที่ - ควรเตรียมพื้นท่ีปลูกในฤดูแล้ง เพรำะสำมำรถปลูกได้ทันที - ปลกู ตำมพื้นทท่ี ่มี อี ยู่ - กำรเตรียมพื้นท่ีปลูกท่ีเหมำะสม ลด ปลกู ตัง้ แต่ต้นฤดูฝน โดยไถกำจัดวัชพืชตลอดจนตอไม้และไม้ยืนต้น ปัญหำสภำพแปลง ป้องกันน้ำท่วมขัง อื่นๆออกใหห้ มด ไถพรวนปรับพ้ืนทีใ่ หเ้ รยี บ และโรคท่จี ะตำมมำ - เก็บตัวอย่ำงดินวเิ ครำะห์และ ประเมนิ ควำมอดุ มสมบูรณ์ดินกอ่ น ปลูก 31ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ข้นั ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธปี ฏิบตั ิโดยท่ัวไป การลดตน้ ทนุ 4. การปลูก - การวางผังปลูก เน่ืองจำกเงำะมีทรงพุ่มกว้ำงและออกดอกที่ - นยิ มปลูกแบบสีเหล่ยี มจตั ุรัส -ใช้ระยะปลูกและวิธีปลูกท่ีเหมำะสม 5. การใสป่ ยุ๋ ทำให้ง่ำยตอ่ กำรปฏิบัติงำนในสวน ลด 6. การให้น้า ปลำยพุ่ม จึงจำเป็นต้องปลูกให้มีระยะระหว่ำงต้นและแถว ปัญหำสภำพแปลง ให้ผลผลิตสูงและ มคี ุณภำพ ค่อนข้ำงกว้ำง ระยะปลูกท่เี หมำะสมคือ 8×8 เมตร หรอื 10×10 - กำรปลูกพืชแซมในช่วงเริ่มต้นที่เงำะ ยังไม่ให้ผลผลิต นอกจำกช่วยพรำง เมตร (ใน 1 ไร่ ปลกู ได้ประมำณ 16-20 ตน้ ) แสงแล้วยังก่อให้เกิดรำยได้เสริมจำก กำรขำยผลผลติ พืชแซมดว้ ย - วิธีการปลูก ควรปลูกต้นฤดูฝน หลุมปลูกขนำด 50×50×50 เซนติเมตร ควรมีกำรพรำงแสงแดดให้กับต้นเงำะ อำจใช้ ทำงมะพรำ้ ว หรือปลูกพชื แซม เชน่ กล้วย มะละกอ - ควรเก็บตัวอย่ำงดินและตัวอย่ำงใบเพื่อวิเครำะห์ปริมำณธำตุ - ไมม่ ีกำรวเิ ครำะห์ดิน - ใส่ปุ๋ยตำมค่ำวิเครำะห์ดินและค่ำ อำหำรและใสป่ ยุ๋ ใหส้ อดคล้องกบั ค่ำวเิ ครำะห์ดนิ และใบ - ใส่ป๋ยุ มำกเกนิ ควำมจำเปน็ วิเครำะหพ์ ืช ลดต้นทุนปยุ๋ 20-40% - กำรใส่ปยุ๋ ตำม GAP (แผนควบคมุ ) - ผสมปุ๋ยใช้เองลดต้นทุนค่ำปุ๋ยเคมีได้ - ใช้ปุย๋ อนิ ทรีย์ร่วมกบั ปุย๋ เคมแี ละปุ๋ยชวี ภำพ 30-50% - ให้ปุ๋ยทำงระบบน้ำ ลดต้นทุนกำรใช้ แรงงำน 10-15% - ให้น้ำเพียงพอกับควำมต้องกำรของเงำะในแต่ละช่วงกำร - ให้น้ำตำมร่อง หรอื สำยยำงรดน้ำ - ใช้ระบบกำรให้น้ำแบบหวั เหวยี่ งเล็ก เจรญิ เตบิ โต ดังนี้ - ให้น้ำโดยไม่พจิ ำรณำควำมจำเป็นในแต่ ช่วยประหยัดน้ำและลดต้นทุนค่ำจ้ำง - ชว่ งเรม่ิ ปลูก: ใหน้ ้ำ 7-10 วัน/คร้งั ละชว่ งกำรเจรญิ เตบิ โต แรงงำน - ช่วงระยะใกล้ออกดอก ให้น้ำน้อยจนถึงงดน้ำในบำงช่วง เพ่อื ปอ้ งกันกำรแตกใบออ่ น เมอ่ื ช่อดอกแทงออกมำระยะหนึ่ง 32ลดต้นทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื

ขน้ั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ีปฏิบัตโิ ดยท่ัวไป การลดต้นทุน 7. การปอ้ งกนั จะให้น้ำประมำณ 1 ใน 3 ของกำรให้น้ำปกติและเพิ่มปริมำณ กาจดั โรคและ ศัตรพู ชื เรื่อยๆ จนกระทั่งดอกเร่ิมบำนและติดผล ช่วงกำรเจริญของ 8. การเกบ็ เกี่ยว ผล ใหน้ ้ำในอัตรำ 80% ของกำรใหน้ ้ำปกติเมอื่ ผลเงำะอำยุ 1- และการปฏบิ ัติ หลงั การเกบ็ เกีย่ ว 5 สปั ดำหห์ ลงั ดอกบำน และเพิ่มเปน็ 85% ของกำรให้นำ้ ปกติ เม่อื ผลอำยุ 6 สปั ดำหห์ ลังดอกบำนจนกระทั่งเก็บเก่ยี ว - สำรวจและประเมินควำมเสียหำยของกำรถูกทำลำยจำกโรค - ไม่มีกำรสำรวจประเมินควำมเสียหำย - ปฏบิ ัตติ ำมคำแนะนำ GAP โดยมกี ำร หรือแมลงก่อนกำรใช้สำรเคมีป้องกันกำจัด และควรใช้ตำม กอ่ นตัดสนิ ใจพ่นสำรเคมี ส ำ ร ว จ โ ร ค แ ล ะ แ ม ล ง ก่ อ น ก ำ ร พ่ น คำแนะนำของกรมวชิ ำกำรเกษตร - พ่นสำรเคมีบอ่ ยครั้งและปรมิ ำณมำก สำรเคมี เพ่ือลดกำรใช้สำรมำกเกิน - โรคที่สาคญั ไดแ้ ก่ โรครำแป้ง โรครำสีชมพู โรคชอ่ ดอกแห้ง ควำมจำเปน็ - แมลงศัตรูที่สาคัญ จำแนกตำมส่วนทเี่ ขำ้ ทำลำย -ใช้สำรเคมีให้ถูกชนิดของโรคและ - ใบ: แมลงค่อมทอง หนอนคบื กินใบ แมลง และใชอ้ ตั รำตำมคำแนะนำ - ดอก: เพลย้ี ไฟ - กำรจดั กำรศัตรพู ชื แบบผสมผสำน - ผล: เพล้ียแป้ง หนอนเจำะขั้วเงำะ แมลงวนั ผลไม้ -กำรควบคุมทรงพุ่มไม่ให้ใหญ่เกินไป ช่วยลดกำรใช้สำรเคมีและแรงงำนใน กำรฉดี พน่ - อำยุกำรเก็บเกี่ยวเงำะ หลังจำกดอกบำนประมำณ 3-4 เดือน - ใช้กรรไกรตัดช่อผล หำกช่ออยู่สูงใช้กำร - มีกำรควบคุมทรงพุ่ม รวมท้ังกำร หรือประมำณ 90–120 วนั โดยผลเงำะจะเร่มิ เปลี่ยนจำกสีเขยี ว ปีนต้นหรือปีนบันไดตัดใส่เข่งหรือตะกร้ำ ควบคุมให้ออกดอกพร้อมกัน เพ่ือ เปน็ สีแดงหรือชมพู บำงรำยตัดช่อเงำะหลุดจำกต้นลงมำ สะดวกในกำรจดั กำรเกบ็ เกี่ยว และลด - กำรเก็บเก่ียวควรใช้กรรไกรท่ีคม ตัดช่อผลออกมำ ไม่ควรหัก กระทบพื้น ซง่ึ ส่งผลเสียหำยตอ่ ผลผลิต กำรใชแ้ รงงำน กิ่งเพรำะจะทำให้กงิ่ ช้ำมำก และไม่ควรให้เงำะตกถงึ พน้ื เพรำะ 33ลดต้นทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ขน้ั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วิธปี ฏิบตั โิ ดยทวั่ ไป การลดต้นทุน จะทำให้ขนช้ำ เหี่ยวแห้งง่ำย อำจจะเก็บเกี่ยวแบบปลิดเฉพำะ - ลดกำรสูญเสียของผลผลิตไม่ให้เกิน ผลใส่เข่งเพื่อขำยส่ง หรืออำจจะเก็บมำท้ังพวงเพื่อมำมัด 10% ต่อกำรเก็บเก่ียวแต่ละครั้ง เพื่อ จำหน่ำยในกำรขำยปลกี กไ็ ด้ เ พิ่ ม ผ ล ผ ลิ ต ท่ี มี คุ ณ ภ ำ พ ท ำ ใ ห้ - เลือกแรงงำนที่มคี วำมชำนำญในกำรเกบ็ เกยี่ ว เกษตรกรมีรำยไดเ้ พิ่มข้ึน - มีสถำนท่ีเหมำะสมสำหรับคัดแยกผลผลิตคุณภำพ และมี แผนกำรนำผลผลิตด้อยคณุ ภำพไปใช้ประโยชน์ 34ลดต้นทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

เงำะพนั ธโ์ุ รงเรียน กำรเกบ็ เกี่ยวผลผลิตโดยกำรตัดใส่ตะกร้ำ ชว่ ยลดควำมเสียหำยต่อผลผลิตดกี ว่ำกำรตดั ผลรว่ งกระทบพื้น ชว่ ยเพม่ิ ผลผลติ ทม่ี ีคุณภำพ 35ลดต้นทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ขนั้ ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธีปฏิบัติโดยทว่ั ไป การลดตน้ ทนุ 1. พนั ธ์ุ - ต้นกล้ำจำกกำรเพำะเมล็ด ควรคัดจำกต้นแม่พันธ์ุที่มีทรงพุ่ม - นิยมซ้อื ตน้ พนั ธุ์จำกเรือนเพำะชำทัว่ ไป - เลือกต้นพันธ์ุท่ีสมบูรณ์ไม่แคระ 2. พ้นื ทีป่ ลกู แข็งแรง ออกดอกสม่ำเสมอ ผลดกมีรสชำตดิ ี ปรำศจำกโรคและ แกนหรือเปน็ โรค แมลง - ขยำยพันธ์ุใช้เอง ลดต้นทุนค่ำต้น -ต้นพันธท์ุ ่ีได้จำกกำรทำบกิ่ง ใช้ตน้ ตอลำงสำดหรือดูกู พนั ธแ์ุ ละคำ่ ขนส่งตน้ พันธุ์ -ต้นพันธ์ุท่ีไดจ้ ำกกำรเสียบกิ่งมี 2 แบบ คอื กำรเสียบขำ้ ง (side grafting) และกำรเสียบยอด (cleft grafting) โดยใช้ต้นตอเป็น ลองกอง - ต้นกล้ำทป่ี ลูกควรมอี ำยุ 1.0-1.5 ปี และควรมใี บแก่ทง้ั ตน้ - สภาพพ้ืนที่ ควรเป็นพื้นท่ีรำบ น้ำไม่ท่วมขัง ระบำยน้ำได้ดี - ปลูกตำมพื้นที่ที่มีอยู่โดยไม่พิจำรณำถึง - ควรปลูกลองกองในสภำพพื้นท่ี ดินควรมีคำ่ ควำมเป็นกรดเปน็ ดำ่ ง 5.5-6.5 ตน้ ทนุ ปจั จยั ท่ีเพิ่มขน้ึ และอำกำศทเ่ี หมำะสม - สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิที่เหมำะสมระหว่ำง 25-30 องศำ เซลเซียส ควำมช้ืนสัมพัทธ์ในอำกำศค่อนข้ำงสูง 70-80% มี ปริมำณน้ำฝน 2,000-3,000 มิลลิเมตร/ปี จำนวนวันท่ีฝนตก ประมำณ 150-200 วนั /ปี 36ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ขน้ั ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธปี ฏิบตั โิ ดยทวั่ ไป การลดต้นทุน 3.การเตรียมพืน้ ท่ี ปลกู - พื้นท่ีดอน ไถพรวน ปรับพื้นที่ให้เรียบ หำกมีปัญหำน้ำท่วมขัง - ปลูกตำมพื้นที่ท่ีมีอยู่ เช่น ปลูกเป็นพืช - กำรเตรียมพ้ืนที่ปลูกที่เหมำะสม 4.การปลกู ใหข้ ุดรอ่ งระบำยน้ำ แซมไม้ผลชนิดอน่ื สำมำรถชว่ ยลดปัญหำน้ำท่วมขังและ 5. การใส่ป๋ยุ - พ้ืนทีล่ ุ่ม หำกน้ำทว่ มขังไม่มำก ให้ปลูกแบบยกโคก หำกมีน้ำ - ไม่เก็บตัวอยำ่ งดนิ วิเครำะห์ก่อนปลูก โรคท่จี ะตำมมำ ท่วมขังมำกและนำน ควรยกร่องสวนให้มีขนำดสันร่องกว้ำงไม่ น้อยกว่ำ 6 เมตร ร่องน้ำกว้ำง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร มีระบบ ระบำยน้ำเขำ้ -ออกเป็นอยำ่ งดี - เก็บตัวอย่ำงดินวิเครำะห์ และประเมินควำมอดุ มสมบรู ณ์ของ ดินกอ่ นปลูก - การวางผังปลูก วำงผงั ปลูกระบบสี่เหล่ียมจัตุรสั ระยะปลูก - นิยมปลูกแซมพืชหลัก แบบส่ีเหล่ียม - ใ ช้ ร ะ ย ะ ป ลู ก แ ล ะ วิ ธี ป ลู ก ท่ี 4x4 6x6 และ 8x8 เมตร ขึ้นอยู่กับสภำพพ้ืนที่นั้นๆ แต่แนว จัตุรัส เหมำะสม ง่ำยต่อกำรจัดกำรป้องกัน แถวควรอยู่ในแนวทิศเหนือ –ใต้ เพื่อไม่ให้มีกำรบังแสงจำกต้น กำจัดโรคและแมลงทำให้ผลผลิตสูง ข้ำงเคยี ง และมคี ณุ ภำพ - วิธีการปลูก มี 2 แบบ คือ กำรปลูกแบบเตรียมหลุมปลูก - ใส่ปุ๋ยจุลนิ ทรีย์ยอ่ ยละลำยฟอสเฟต เหมำะกับพื้นท่ีค่อนข้ำงแห้งแล้ง และกำรปลูกแบบยกโคก อตั รำ 20 กรัม/ต้น ผสมดินกอ่ นปลูก เหมำะกบั พื้นที่ฝนตกชกุ ควรใส่ปุ๋ยคอก ปยุ๋ หมักและปยุ๋ สูตร 0- ลดปรมิ ำณปุ๋ยฟอสฟอรสั ได้ 50% 3-0 (ร็อกฟอสเฟต) ร่วมกับปุ๋ยจุลินทรีย์ย่อยสะลำยฟอสเฟต อตั รำ 20 กรมั /ต้น ผสมกับดนิ เดิมกอ่ นปลูก - ควรเก็บตัวอย่ำงดนิ และตัวอย่ำงใบพชื สง่ วเิ ครำะหป์ ริมำณธำตุ - ไม่มีกำรวิเครำะห์ธำตุอำหำรของดนิ และ - ใสป่ ุ๋ยตำมคำ่ วิเครำะห์ดนิ และควำม อำหำรและใส่ป๋ยุ ให้สอดคลอ้ งกบั ค่ำวิเครำะห์ดนิ และใบ ใบพืช ต้องกำรของพืช แบ่งใส่ 3 ครั้ง คือ - ใส่ปุย๋ คอกที่หำไดต้ ำมทอ้ งถนิ่ 37ลดต้นทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ข้ันตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วิธีปฏิบตั ิโดยทั่วไป การลดต้นทุน 6. การให้น้า 7.การดูแลรกั ษา - ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ท่ีหมักตัวสมบูรณ์แล้ว อัตรำ 20-50 กิโลกรัม/ - ใสป่ ยุ๋ เคมไี ม่สมำ่ เสมอ หลังเก็บเก่ียว ก่อนออกดอก และ ต้น /ปี โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง หรือใส่ปุย๋ ตำมแผนควบคุมลองกอง เมื่อตดิ ผล - ผสมปุ๋ยเคมีใช้เองลดต้นทุนค่ำปุ๋ย ได้ 30-50% - ใชป้ ยุ๋ อินทรีย์รว่ มกับปุ๋ยเคมีและปุ๋ย ชวี ภำพ - ให้ปุ๋ยทำงระบบน้ำ ช่วยลดต้นทุน แรงงำน - ให้น้ำเพียงพอกับควำมต้องกำรของลองกองในแต่ละช่วงกำร - ไมม่ ีกำรใหน้ ้ำหรือให้น้ำไม่สอดคลอ้ งกับ - วำงระบบน้ำที่มีประสิทธิภำพและ เจรญิ เติบโต ควำมตอ้ งกำรของพืช ใ ห้ ปุ๋ ย ท ำ ง ร ะ บ บ น้ ำ จ ะ ล ด ก ำ ร ใ ช้ - ชว่ งกำรกระตุ้นกำรออกดอกให้น้ำประมำณ 850-1,000 ลติ ร/ แรงงำนและลดต้นทุนกำรผลิต ต้น/วัน จำกน้ันหยุดให้น้ำ 7-10 วัน เม่ือพบว่ำตำดอกเร่ิมยืด -ให้นำ้ ตำมควำมตอ้ งกำรของพืช ตัวเป็นช่อดอกขนำดสั้นอย่ำงสม่ำเสมอตำมกง่ิ และลำต้น จึงเร่ิม ให้นำ้ ตำมปกติ ประมำณ 85-110 ลิตร/ต้น/วนั - ช่วงกำรพัฒนำของดอกใหน้ ้ำประมำณ 85-110 ลิตร/ตน้ /วนั - ช่วงกำรพฒั นำของชอ่ ผล ใหน้ ำ้ ปรมิ ำณ 85-120 ลติ ร/ต้น/วนั การตัดแต่งช่อดอก - มีกำรตัดแต่งช่อดอกและช่อผลตำม - ควรมกี ำรตัดแต่งช่อดอกและช่อผล - เม่ือช่อดอกยำว 3-5 เซนติเมตร ตัดให้เหลือ 1-2 ช่อ/กลุ่ม ควำมจำเป็น เพื่อลดต้นทุนแรงงำนช่วงเก็บเกี่ยว ตำดอก - ไม่มกี ำรหอ่ ชอ่ ผล และเพอ่ื ใหไ้ ด้ผลผลติ ทีม่ ีคุณภำพ 38ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

ขนั้ ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วธิ ปี ฏิบตั โิ ดยท่ัวไป การลดตน้ ทุน 8. การปอ้ งกัน - ระยะห่ำงระหว่ำงช่อดอก (กลุ่มตำดอก)เท่ำกับ 20-30 กาจดั โรคและ ศัตรูพชื เซนตเิ มตร - อัตรำกำรไว้ช่อดอกต่อกิ่งขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 1 นิ้ว ไวด้ อก 3-5 ชอ่ และกิง่ ขนำดเส้นผ่ำนศนู ย์กลำง 1.5 นว้ิ ไว้ดอก 10-15 ชอ่ หลงั กำรตัดแตง่ ชอ่ ดอกควรใหน้ ำ้ สม่ำเสมอ การตดั แตง่ ชอ่ ผล - คร้ังท่ี 1 เม่ือผลมีอำยุ 2-3 สัปดำห์ ตัดช่อที่มีผลหลุดร่วง ผลเล็กและผลที่อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมำะสม โดยไว้เกินควำม ต้องกำรจรงิ 10-20 % - คร้ังท่ี 2 เมื่อผลอำยุ 7-8 สัปดำห์ (อำจไม่จำเป็น หำกช่อ ผลมกี ำรพัฒนำผลดอี ยู่แลว้ ) - ห่อช่อผล ในสปั ดำห์ที่ 5-8 หลงั ติดผล - เมื่อผลอยู่ในระยะ 2-3 เดือนก่อนผลสุก ปลิดผลที่แตก และผลบริเวณโคนช่อท่ีเบยี ดแน่นกับกง่ิ ออก - สำรวจชนิดของโรค/ กำรระบำดของแมลงและประเมินควำม -ไม่มีกำรสำรวจปริมำณโรคและแมลงท่ี - ปฏิบัติตำมคำแนะนำ GAP โดยมี เสยี หำยก่อนทำกำรฉีดพน่ สำรเคมี เข้ำทำลำยกอ่ นใชส้ ำรเคมปี ้องกันกำจดั กำรสำรวจโรคและแมลงกอ่ นกำรพ่น - โรคและแมลงศัตรูทส่ี ำคญั ได้แก่ โรครำสชี มพู โรครำสีดำ โรค สำรเคมี เพ่ือลดกำรใช้สำรมำกเกิน ผลเน่ำ หนอนชอนเปลอื ก แมลงวันผลไม้ ผีเสอ้ื มวนหวำน ควำมจำเปน็ - กำรจัดกำรศัตรูพชื แบบผสม ผสำน (IPM) 39ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ข้นั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ปี ฏิบตั ิโดยทั่วไป การลดต้นทุน 9. การเก็บเกี่ยว และการปฏบิ ตั ิหลงั เก็บเก่ียวผลผลติ เมอื่ - อำศัยประสบกำรณแ์ ละควำมชำนำญใน - ควบคุมทรงพุ่ม รวมท้ังควบคุมให้ การเก็บเกี่ยว - สีผวิ ผลเปน็ สีเหลอื งท้ังช่อ กำรตัดสินใจเก็บเกี่ยว โดยสังเกตกำร ออกดอกพร้อมกัน เพ่ือสะดวกใน - นับอำยุผล 13-15 สปั ดำหห์ ลงั ดอกบำน เปล่ยี นสีผวิ ผล กำรจัดกำรเก็บเก่ียว และลดกำรใช้ - เนื้อผลบำงใส แรงงำน - กลบี เลย้ี งและกำ้ นชอ่ ผลเปลย่ี นจำกสีเขยี วเปน็ สนี ำ้ ตำล - ลดกำรสูญเสยี ของผลผลิตไม่ใหเ้ กิน - บบี ผลปลำยช่อเบำ ๆ จะรูส้ ึกน่มิ 10% ต่อกำรเกบ็ เก่ียวแตล่ ะครงั้ เพ่ือ - ชิมผลทีอ่ ยปู่ ลำยชอ่ เพม่ิ ผลผลิตที่มคี ณุ ภำพ - ใชบ้ นั ไดปนี ตน้ และเกบ็ เก่ียวโดยใช้กรรไกรตัดทีละช่อ - ภำชนะบรรจุ ควรใส่ในตะกร้ำพลำสติกขนำด 20-25 กโิ ลกรมั จะรกั ษำคุณภำพลองกองดกี วำ่ บรรจใุ นเข่งและลังไม้ 40ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื

เลอื กต้นกล้าท่ีสมบรู ณ์ การให้นา้ แบบมินิสปริงเกอร์ ชว่ ยประหยดั นา้ เก็บเกี่ยวเม่ือสผี ิวผลเปลย่ี น เป็นสเี หลอื งทงั้ ชอ่ เนอื ้ ผลบาง ใส การตดั แตง่ และไว้ชอ่ ทเี่ หมาะสม ให้ผลผลติ ทมี่ ีคณุ ภาพ ลกั ษณะผลที่ควรปลดิ ออก 41ลดต้นทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ข้นั ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ีปฏิบัตโิ ดยทัว่ ไป การลดตน้ ทุน 1. พนั ธุ์ เลือกใช้หน่อพันธท์ุ ี่สมบรู ณ์ ไม่มีโรคติดมำกับหน่อ - นิยมปลกู พนั ธ์ปุ ัตตำเวีย - ใช้หน่อพันธุ์จำกแปลงตนเอง (ลด ตน้ ทุนได้ประมำณ 17%) หรือซือ้ หน่อ - พันธโุ์ รงงำน ได้แก่ พนั ธปุ์ ตั ตำเวยี จำกแหลง่ ที่ไม่มโี รคเหยี่ ว - พันธุ์บริโภคสด เช่น ตรำดสีทอง พันธุ์สวี พันธ์ุภูเก็ต และ พันธุ์เพชรบรุ ีเบอร์ 1 2. พื้นท่ปี ลกู ท่ี - สภำพพ้ืนที่ ดินร่วนหรือร่วนปนทรำย ควำมอุดมสมบูรณ์ - ส่วนใหญ่ปลูกในที่ดินทรำย ควำมอุดม - ปลูกในสภำพพื้นท่ีท่ีเหมำะสมและ/ เหมาะสม ปำนกลำง อนิ ทรยี วตั ถไุ ม่ต่ำกวำ่ 1.5% ควำมลำดเอยี ง 1-2 % สมบรู ณต์ ่ำ ไม่มกี ำรบำรุงดิน หรือมีกำรบำรุงดินเพ่ือเพ่ิมผลผลิตต่อ กำรระบำยน้ำและถ่ำยเทอำกำศดี และมีควำมเป็นกรดด่ำง ไร่ 4.5-5.5 3. การเตรยี มพ้ืนท่ี - พนื้ ท่ีปลูกเดิมให้ไถสบั ใบและต้น (กรณีท่ไี ม่มีโรคเหี่ยว) ทิ้งไว้ - ดันต้นออกและเผำ - ดินมีควำมอุดมสมบูรณ์ สับปะรดมี ปลกู ประมำณ 2-3 เดือน แลว้ ไถกลบอกี ครง้ั - ไม่มีกำรไถทำลำยดนิ ดำน กำรเจรญิ เตบิ โตใหผ้ ลผลติ ดี - พืน้ ทที่ ม่ี ีดินดำน ให้ไถทำลำยดินดำน - ไมว่ ิเครำะหด์ นิ และไม่ใสป่ ยุ๋ อินทรยี ์ - วิเครำะห์ดินก่อนปลูกและปฏิบัติตำมคำแนะนำโดยเฉพำะ กำรจดั กำรอนิ ทรียวัตถุในดนิ 4. การปลูก - วำงแผนกำรปลกู ให้ผลผลิตกระจำยตลอดปี - ไม่มีกำรวำงแผนกำรผลิต ทำให้บำงช่วง - ผลผลิต/ไร่เพ่ิม 25-50% และรำคำ - ปลกู 8,000 –10,000 ต้น/ไร่ ผลผลติ รำคำต่ำ ขำยผลผลิตสูงข้นึ 42ลดตน้ ทุนกำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ขนั้ ตอน คาแนะนากรมวชิ าการเกษตร วธิ ปี ฏบิ ัตโิ ดยทวั่ ไป การลดต้นทุน 5. การใสป่ ุ๋ย - คัดขนำดหน่อและก่อนปลูกต้องชุบหน่อหรือจุกด้วยสำร - ปลกู 5,000 –6,000 ต้น/ไร่ - บังคับดอกและเกบ็ เกีย่ วได้พร้อมกัน 6. การใหน้ า้ 7. การดแู ลรักษา ป้องกันโรครำกเน่ำหรือต้นเน่ำ โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงกำรปลูก - ไม่มีกำรคดั ขนำดและชุบหนอ่ กอ่ นปลกู - กำรจัดกำรแปลงสะดวกและลด ชว่ งกลำงฤดูฝน ค่ำแรงงำนปลูกซอ่ ม - วเิ ครำะห์ดินกอ่ นปลูกและใส่ปยุ๋ ใหส้ อดคล้องกับคำ่ วิเครำะห์ - ไมม่ ีกำรวเิ ครำะห์ดนิ กอ่ นปลกู - กำรใช้ปุ๋ยตำมค่ำวิเครำะห์ดิน โดย ดนิ และควำมต้องกำรของพืช และผสมปุย๋ ใชเ้ อง - ใส่ปุย๋ ไมค่ รบสูตร กำรผสมปุ๋ยใช้เองลดต้นทุนค่ำปุ๋ย 30- - สับปะรดต้องกำรธำตุไนโตรเจน 6-9 กรัม N/ต้น หรือ - ใส่ปุ๋ยมำกเกนิ ควำมจำเป็น 50% หรือลดตน้ ทนุ กำรผลิต 8.5 % เทยี บเท่ำปุ๋ยยูเรีย 116-169 กิโลกรมั /ไร่ ฟอสฟอรสั 2-4 กรัม P2O5/ต้น หรือเทยี บเท่ำปุ๋ยทรพิ เป้ิลซุปเปอร์ฟอสเฟต 38-76 กิโลกรัม/ไร่ และโพแทสเซียม 8-12 กรัม K2O/ต้น หรือ เทียบเท่ำปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ 113-170 กิโลกรัม/ไร่ ใส่ 2 คร้ัง ครั้งแรกใส่หลังปลูก 2-3 เดือน และคร้ังท่ี 2 หลังกำร ใส่ครั้งแรก 3 เดอื น - ฤดูแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ให้น้ำสัปดำห์ละ 400 มิลลิลิตร/ต้น - ไม่ให้น้ำ อำศัยน้ำฝน ถ้ำแล้งมำกผลผลิต - ให้น้ำตำมคำแนะนำช่วยเพ่ิมผลผลิต หรือ 4,000 – 5,000 ลิตร/ไร่ ลดลง 50% ตอ่ ไร่และผลผลิตมีคณุ ภำพดี การลดการตกคา้ งของไนเตรท - มีกำรใส่ปุ๋ยทมี่ ีธำตุไนโตรเจนหลังกำรออก - ผลผลิตได้คุณภำพ ไม่มีไนเตรท 1) ห้ำมทำลำยจุกสบั ปะรด ดอก เพอื่ เร่งกำรเจรญิ ของผล ตกคำ้ ง 2) งดกำรให้น้ำกอ่ นกำรเก็บเกยี่ ว 15-30 วนั 3) หำ้ มใสป่ ุ๋ยที่มีธำตุไนโตรเจนหลังกำรบงั คับดอกแลว้ 4) แหล่งที่เคยพบไนเตรทตกค้ำงในผลสับปะรดสูง ควรเก็บ ตัวอย่ำงใบในระยะบังคับดอก วิเครำะห์ปริมำณธำตุโม 43ลดตน้ ทนุ กำรผลติ ไมผ้ ล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื

ขนั้ ตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วธิ ปี ฏิบัติโดยทว่ั ไป การลดตน้ ทุน 8. การปอ้ งกนั ลบิ ดนิ ั่ม (Mo) ถ้ำควำมเข้มขน้ ของธำตุนตี้ ่ำกวำ่ 1 ส่วนในลำ้ น กาจดั โรคและ ศัตรพู ชื ส่วน (ppm) ให้ใช้ธำตุโมลิบดินั่ม อัตรำ 5 มิลลิลิตร/ต้น พ่น 9. การปอ้ งกนั ทำงใบหลังกำรบังคับดอกในระยะดอกแดง หรือใช้ กาจดั วัชพชื โพแทสเซียมคลอไรด์ 5 กรัม K2O/ต้น หลงั กำรบังคบั ดอก 75 วนั การบงั คับดอก - บังคับดอกเม่ือน้ำหนักต้นประมำณ 2 - ลดต้นทนุ คำ่ สำรบงั คับดอกได้ 1 เทำ่ - บังคับเม่ือต้นมีนำ้ หนัก 2.5-3.0 กิโลกรัม กิโลกรัม และใชส้ ำรบังคับดอกในอัตรำท่ีสูง - ผลผลิตจะเพิ่มข้ึนเม่ือบังคับดอกใน - ใช้สำรอีทีฟอน (48 หรือ 52%) อัตรำ 6 มิลลิลิตร/น้ำ 20 กวำ่ คำแนะนำ 1-2 เทำ่ ขณะที่ตน้ มีนำ้ หนกั ที่เหมำะสม ลิตร ผสมยูเรีย 300 กรัม พ่นที่ยอดต้นละ 60 มิลลิลิตร จำนวน 2 ครง้ั ในชว่ งเยน็ ห่ำงกัน 4-7 วัน - กำรป้องกันโรคเหี่ยว เมื่อพบกำรระบำดของเพล้ียแป้งหลัง - ไม่มกี ำรสำรวจเพล้ียแปง้ และไม่มกี ำรพ่น - ลดควำมเสียหำยของตน้ และผลผลิต ปลกู ให้พน่ สำรเคมีปอ้ งกนั กำจดั เฉพำะจดุ ท่ีพบเพลีย้ แปง้ และ สำรปอ้ งกนั กำจดั เพลี้ยแป้ง จำกโรคเหี่ยว รศั มโี ดยรอบ เชน่ - ไทอะมีโทแซม 25% WG อัตรำ 2 กรมั /นำ้ 20 ลิตร - ไดโนทฟี แู รน 10% WP อัตรำ 20 กรัม/นำ้ 20 ลติ ร - อิมิดำโคลพรดิ 10% SL อัตรำ 20 มล./นำ้ 20 ลิตร - อะเซททำมิพรดิ 20% SP อตั รำ10 กรมั /นำ้ 20 ลิตร - ก่อนกำรเตรียมดินหรือก่อนปลูกสับปะรด 5-7 วัน ควรไถ - แปลงมีวัชพืชมำก กำรควบคุมวัชพืชไม่มี - ลดปัญหำวัชพืชในแปลงและกำร และตำกดินไว้ 7-10 วัน ไถพรวน 1-2 ครั้ง เก็บเศษซำกพืช ประสิทธภิ ำพและเสียค่ำใช้จำ่ ยสูง กำจดั วัชพืชมีประสิทธิภำพ และส่วนตำ่ งๆของวัชพืชออกจำกแปลงกอ่ นท่ีวชั พชื ออกดอก 44ลดต้นทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื

ข้ันตอน คาแนะนากรมวิชาการเกษตร วิธปี ฏบิ ตั ิโดยท่วั ไป การลดต้นทนุ 10. การเก็บเกีย่ ว - ใช้สำรกำจัดวัชพืชให้ถูกกับชนิดวัชพืช (วัชพืชฤดูเดียว/ และการปฏิบัติ หลังการเกบ็ เกี่ยว วัชพชื ขำ้ มป)ี - สับปะรดพันธุ์โรงงำน เก็บเม่ือผลสุกไม่น้อยกว่ำ 25% และ - บำงช่วงเวลำเก็บผลที่สุกน้อยกว่ำ 25 % - ผลผลิตได้คุณภำพ ไม่มีไนเตรท ผลผลติ เกบ็ เก่ียวไดพ้ ร้อมกัน (คัดขนำดหนอ่ ก่อนปลูก) - อำจพบปัญหำไนเตรทตกค้ำง ตกคำ้ ง สับปะรดพันธบ์ุ ริโภคสด ควรเก็บเก่ยี วเมื่อตำสับปะรดเริม่ เปิด - ลดกำรใชแ้ รงงำน 2 - 3 ตำ หรือผิวเปลือกเปล่ียนเป็นสีเหลืองประมำณ 10 เปอร์เซ็นต์ ใช้มีดตัดให้เหลือก้ำนยำวติดผลประมำณ 10 เซนตเิ มตร โดยไมต่ ้องหักจกุ ออก 45ลดต้นทุนกำรผลติ ไม้ผล Facebook : กลมุ่ งานวจิ ัยการใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook