ณ มรณา ดงั ตฤณ เขยี น พญ.ณฐั ชญา ไมตรเี วช อ�ำ นวยการผลิต เกสรา เติมสนิ วาณิช บรรณาธกิ าร ชมพูนชุ ลออวรรณากร บรรณาธกิ าร ศรันย์ ไมตรเี วช ปกและรูปเล่ม สำ�นกั พมิ พฮ์ าวฟาร์ ผูผ้ ลติ และจำ�หนา่ ย ตุลาคม ๒๕๕๖ ส่ังซือ้ หนงั สอื จากสำ� นักพิมพฮ์ าวฟารไ์ ด้ที่ http://howfarbooks.com หรอื ตดิ ต่อคุณดุสิตา (081) 545-1949
คำ� นำ� สำ� นักพิมพ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ นพ.พชั รพล พงษภ์ กั ดี วสิ ัญญีแพทยแ์ ห่ง โรงพยาบาลนครปฐม ซ่ึงขณะนั้นมีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยตรง ได้มีด�ำรทิ ี่จะรวบรวมผลงานของคณุ ดังตฤณ ซง่ึ เก่ยี วข้องกบั การใหก้ �ำลงั ใจผูป้ ่วยระยะสดุ ทา้ ย ไวเ้ ปน็ เลม่ เดยี วกนั โดยสุดท้ายได้ ขอให้คณุ ดังตฤณตั้งชือ่ หนงั สือ ซึ่งก็เปน็ ที่มาของ ‘ณ มรณา’ น้ี ช่วงแรกไม่มีใครทราบว่า แท้จริงใครบ้างที่ ตอ้ งการอา่ น ‘ณ มรณา’ จงึ มกี ารรว่ มทนุ จดั พมิ พ์ กนั เพยี งในหมคู่ นรจู้ กั และแจกจา่ ยเปน็ ธรรมทาน ในวงจำ� กดั คอื นำ� ไปวางไวใ้ นสว่ นของโรงพยาบาล ทดี่ แู ลผปู้ ว่ ยระยะสดุ ทา้ ย เพอื่ วตั ถปุ ระสงคเ์ ดยี วคอื ใหผ้ ปู้ ว่ ยระยะสดุ ทา้ ยไดอ้ า่ นเอง หรอื ไหวว้ านญาติ ชว่ ยอา่ นใหฟ้ งั แต่ต่อมาปรากฏว่า ญาติผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องการจัดพิมพ์ เป็นหนงั สือแจกในงานศพ นอกจากน้นั ยงั มีผตู้ ดิ ตามผลงานของคณุ ดงั ตฤณต้องการน�ำไปอ่านเองดว้ ย จึงกลายเป็นความตอ้ งการที่เพมิ่ ข้นึ เรอื่ ยๆ มผี ลใหก้ องทนุ จดั พมิ พ์ ‘ณ มรณา’ ใหญ่โตข้ึน และมคี วาม ซับซ้อนขึ้นตามจ�ำนวนผู้ร่วมจัดพิมพ์ เพราะท้ังคิวจัดพิมพ์และ กระบวนการส่งมอบ ไม่สามารถอาศัยก�ำลังคนเฉพาะที่อาสาจัดท�ำ โดยเฉพาะ ดงั เชน่ ไดเ้ กดิ กรณสี ง่ มอบไมท่ นั วนั งาน ซง่ึ กลายเปน็ เรอ่ื ง เสยี ความรู้สึกกบั เจ้าภาพงานมใิ ช่น้อย ด้วยเหตผุ ลดงั กลา่ ว คณะผูจ้ ัดท�ำจึงเหน็ พอ้ งต้องกนั วา่ ควรปิด โครงการร่วมทุนจัดพิมพ์ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ หลังจากหนังสือ
กระจายออกไปทงั้ หมด ๒๒๔,๐๐๐ เลม่ นบั จากเรม่ิ โครงการเมอ่ื เดอื น ธันวาคม 2550 อย่างไรก็ตาม กระท่ังเขา้ กลางปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ทางสำ� นักพิมพ์ ฮาวฟารก์ ย็ งั คงไดร้ บั เสยี งขอนำ� หนงั สอื ‘ณ มรณา’ ไปแจกจา่ ยในงาน ศพ ตลอดจนหน่วยงานท่ีดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายอยู่ เราจึงเห็นควร จดั พมิ พข์ น้ึ อกี ครงั้ โดยครง้ั นี้ คณุ ดงั ตฤณไดป้ รบั แกเ้ นอื้ หาเกา่ ใหอ้ า่ น เข้าใจง่ายขนึ้ กับท้ังเพิ่มเน้อื หาใหม่เข้ามาโดยเฉพาะ ๓ เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ • วธิ จี ัดการกับความกลัวตาย • มรณสติ • นาทพี ิสจู นค์ วามสามารถ คุณดังตฤณเห็นว่าฉบับดั้งเดิมยังขาดเน้ือหาข้างต้นไป หาก เพม่ิ เขา้ มากจ็ ะเปน็ การเตมิ เตม็ อยา่ งสมบรู ณ์ ตอบโจทยใ์ หผ้ ตู้ อ้ งการ ท้ังความรแู้ ละก�ำลงั ใจในเลม่ เดียว นอกจากน้ัน ทางส�ำนักพิมพ์ยังปรับปรุงการจัดหน้าเสียใหม่ เพอ่ื ใหร้ บั กนั กบั เสยี งบน่ ของผสู้ งู อายวุ า่ ฉบบั ดงั้ เดมิ อกั ษรเลก็ เกนิ ไป อา่ นไมถ่ นดั ตา อกี ทงั้ เรายงั จดั ภาพประกอบทชี่ วนใหช้ นื่ ตาชนื่ ใจ และ นึกถึงส่ิงงดงามตามเนื้อหาของแต่ละบทด้วย เราจึงม่ันใจว่า ฉบับ ปรบั ปรงุ ของ ‘ณ มรณา’ น้ี จะชว่ ยใหท้ กุ คนอมิ่ เตม็ เปน็ สขุ และพรอ้ ม ‘ขา้ มโลก’ ไดท้ ุกเวลา ส�ำนกั พิมพฮ์ าวฟาร์
จากใจดงั ตฤณ ใครกต็ ามทสี่ ำ� คญั วา่ ตนยงั หา่ งไกลจากความตาย ยอ่ มรสู้ กึ เสมอๆ วา่ ชาติหนึ่งยาวนานเหลอื เกนิ ต่อเมอ่ื ใกล้ความตายเข้ามา ชาติหนึ่งกลับปรากฏเปน็ ของสัน้ ไม่เทา่ ไรกจ็ ะตอ้ ง ‘ตายอกี แลว้ ’ คนใกล้ตายจะรสู้ กึ ว่าชาตหิ นงึ่ เดยี๋ วเดียว มหี รือไมม่ ี แทบไม่ ต่างกันเลย ตอนตายจับควา้ อะไรท่เี คยมีไว้ไม่ได้สกั อย่าง ความตายอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด! และหน้าที่ของหนังสือเล่ม นี้ก็เน้นให้คิดถึงความตายในทางดี พร้อมจะไปดี รู้วิธีที่ชัดเจนใน การเตรียมเนื้อเตรียมตัว การมองอะไรในแง่ดี แง่ที่เป็นก�ำลังใจ ไม่ได้หมายถึงการ เฝ้าคิดว่าจะมีชีวิตอย่างเป็นสุขไปอีกนาน เพราะที่แท้ น่ันเป็นการ คาดหวังที่อาจน�ำไปสู่ความผิดหวังอย่างรุนแรงต่างหาก เท่าที่ผมพบผู้คนที่เป็นทุกข์ หมดก�ำลังใจ และมองโลกใน แง่ร้ายมากๆน้ัน มีอยู่สองพวก หนึ่งคือ ชีวิตมีแต่ทุกข์แล้วหา ทางออกไม่เจอ สองคือ ชีวิตมีแต่หวังว่าจะสุขแล้วไม่เคยสุขได้เท่า ที่หวัง อีกแบบหนึ่ง คนที่ ‘มองโลกตามจริง’ มักมีความคาดหวัง ที่พอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เพราะรู้จักโลก เข้าใจชีวิต อย่างที่มันเป็น คือ ไม่มีใครสุขได้ตลอดไป ไม่มีใครทุกข์ทนไปจน สิ้นกาลนาน ชีวิตต้องข้ึนบ้าง ลงบ้าง จะให้แบนราบหรือข้ึนสูง อย่างเดียวไม่ได้
เมื่อท�ำใจมองโลกตามจริงได้ แม้ความตายมาสะกิด ก็ไม่ ทุรนทุรายคิดด้ินรนหลบหนี ตรงข้าม กลับจะเผชิญหน้าความตาย อย่างไม่สะทกสะท้าน หรือกระท่ังคร้ึมอกคร้ึมใจเสียอีก ค่าที่รู้ว่า ตัวเองมีอะไรดีๆเตรียมไว้พร้อมต้อนรับความตายแล้ว ตลุ าคม ๕๖
สารบญั 8 11 ณ ปากประตแู ห่งความตาย 14 ตายอยา่ งรู้ อยอู่ ย่างเห็น 26 วธิ จี ดั การกับความกลัวตาย 35 มรณสติ 46 นาทพี สิ จู น์ความสามารถ 50 ลูกช่างถาม พอ่ ตามตอบ 59 คำ� พดู ทีเ่ หน่ยี วนำ� ให้เกิดการบรรลธุ รรมก่อนตาย 64 แตกตายตามกาล จากจรตามกรรม 70 เตรียมตวั ตายอยา่ งโสดาบนั ปุจฉาวสิ ชั นา Dhammaintrend รว่ มเผยแพรแ่ ละแบ่งปันเป็ นธรรมทาน
10 ณ ปากประตูแห่งความตาย บานประตูแหง่ ความตาย แท้จริงคอื บานเดยี วกันกบั ประตูแห่งการเกิด สดุ แท้แต่วา่ ใครจะเหน็ ประตูจากหอ้ งเดิมหรอื หอ้ งใหม่ ณ มรณา
11 ความตายสำ� หรับคนทีย่ ังรักชีวิต คือจดุ จบที่น่ากลวั ความตายส�ำหรบั คนท่ยี ังหว่ งใยญาติมติ ร คอื การจากไปท่นี ่า กังวล ความตายส�ำหรับคนท่ยี งั ตดิ ใจในกาม คอื การออกจากฝันดีท่ี นา่ เสยี ดาย ความตายสำ� หรับคนที่เบื่อโลก คือจุดจบทนี่ ่าปรารถนา ความตายสำ� หรบั คนกำ� ลังน้อยใจใครตอ่ ใครรอบข้าง คอื การ จากไปทนี่ า่ สะใจ ความตายสำ� หรบั คนทผ่ี ดิ หวงั ในกามหรอื ความรกั คอื การออก จากฝันร้ายท่ขี มข่นื เสยี ที คนเราตายเหมือนกัน แต่รูปแบบการตายต่างกัน ความเชื่อ เกย่ี วกับความตายก็ตา่ งกัน การมชี วี ติ อยอู่ กี นาน ทำ� ใหค้ วามตายกลายเปน็ เรอ่ื งไกลตวั แต่ ความตายทก่ี �ำลังรออยู่ตรงหนา้ ท�ำใหก้ ารมชี วี ติ อยทู่ ผี่ า่ นมา กลาย เป็นเพยี งความฝันเหลวไหล ท่กี �ำลังจะเลอื นหายไปจนหมดสนิ้ ศาสนาต่างๆ พูดถึงชีวิตหลังความตายต่างกัน แต่ก็พูดเป็น howfarbooks.com
12 เสยี งเดยี วกัน วา่ คนเราควรตายอยา่ งสงบสุข แม้ใครท่ีไม่เช่ือเร่ืองชาติหน้า ก็ต้องการตายอย่างสงบสุข เช่นกัน พุทธเราเพ่ิมให้อีกนิดหนึ่ง คือบอกว่าอย่าตายเปล่า อย่าเอา แคต่ ายด้วยความเป็นสขุ ถึงแมต้ ายขณะจิตเป็นสมาธิข้ันฌาน อันอ่มิ สุขโอฬารเกินทิพยรสในสวรรค์ ก็ยังนับว่าน้อยไป ไม่คุ้มกับการมี โอกาสเปน็ มนุษย์ พทุ ธเราขอใหต้ ายอยา่ งเขา้ ใจ เขา้ ใจวา่ ทต่ี ายไมใ่ ชเ่ รา แมท้ เ่ี กดิ มาก็ไมใ่ ชเ่ รา ‘ตัวเรา’ เปน็ แค่ความรู้สกึ เปน็ แคเ่ งาลวงทีส่ ร้างขน้ึ จากความ เขา้ ใจผิด คดิ วา่ กายใจเปน็ อตั ตาตัวตนท่ีแท้จรงิ ถา้ เขา้ ใจถกู กจ็ ะรู้ว่ากายใจ เป็นแคท่ ีต่ ้ังของความเข้าใจผดิ เห็นอยชู่ ัดๆวา่ มนั ปรวนแปรแกไ่ ป เรายงั เคยอตุ สา่ หอ์ ยากให้ มนั เหมือนเดิม เหน็ อยชู่ ดั ๆวา่ มนั กา้ วสคู่ วามแตกดบั เรายงั อตุ สา่ หห์ วงั ใหม้ นั คงอยู่ต่อ อาการทจ่ี ติ ยดึ เหนยี่ วกายใจอยา่ งเหนยี วแนน่ สะทอ้ นถงึ ความ เชอ่ื ผดิ ๆเกย่ี วกบั กายใจมาตลอด ภาวะใกลต้ ายนบั เปน็ โอกาสสดุ ทา้ ย ทีเ่ ราจะท�ำความเข้าใจเสียใหมใ่ หถ้ กู ต้อง หากทำ� ได้ ชว่ งสดุ ทา้ ยนบั วา่ มคี า่ กวา่ ทกุ ชว่ งทผ่ี า่ นมาทงั้ หมด! ณ มรณา
13 ตายอยา่ งรู้ อยอู่ ยา่ งเหน็ เหน็ คนตายกห็ มายรเู้ ด๋ยี วกูดว้ ย อกี ไม่ช้าชราปว่ ยแลว้ ม้วยสูญ ศพวางนอนอยา่ งขอนไมค้ ลา้ ยอฐิ ปนู รอขนึ้ เผาใหเ้ อาศนู ย์มานบั กาย เหลือเพียงชือ่ ให้ลือจ�ำทำ� ไมเลา่ เขากร็ อคอข้ึนเขียงเรียงจากหาย เหมอื นกบั เราเฝ้าจดจำ� แล้วกลับตาย ช่ือกว็ ายกายก็วางว่างหมดกัน! howfarbooks.com
14 คนบางคน เกิดมาเพอื่ สาละวนวุ่น กบั การเพ่งดูวา่ ใครดี ใครไมด่ ี สุดทา้ ยเขากต็ ายเปล่า โดยไมร่ เู้ ลยว่าตัวเองดหี รอื ไมด่ ี คนบางคน เกิดมาเพื่อสาละวนวุ่น กับการก�ำจัดจุดบอดของ ตนเอง เสริมจดุ แขง็ ใหแ้ กร่งขึ้น หาจุดยนื ดดี ีท่ียงั ไปไม่ถงึ สุดท้ายเขา ไมต่ ายเปลา่ เขาย่อมฝากประโยชนใ์ หญไ่ วใ้ นโลกน้ี จะโดยตัง้ ใจหรอื ไม่ตง้ั ใจกต็ ามที คนบางคน เกิดมาเพื่อคิดในเรื่องไม่ควรคิด เห็นท้ังชีวิตเป็น ปัญหา ไม่มองว่าปญั หาอยู่ที่วธิ คี ิด ไม่ตระหนักว่าเพียงเลกิ คดิ แล้ว ลงมือจดั การ เขาจะพบพานชีวิตใหม่ แทบไม่เหลือปญั หาน่าหนกั ใจ เพราะตรงหนา้ มแี ตง่ านใหญ่นอ้ ยให้สนกุ ทำ� ไม่ปล่อยใหช้ ีวติ น่าเบื่อ อยกู่ บั ความวา่ งงาน เลกิ แชอ่ ยู่กับความว้าวุ่นเปล่า คนบางคน เกิดมาเพื่อคดิ ถงึ แต่ตัวเอง เหน็ วนั เวลาและทกุ สงิ่ ทต่ี นมี ตลอดจนสงิ่ ดดี ที ตี่ นไมม่ ี เปน็ ของสมควรไดแ้ กต่ น พอนานไป เขายอ่ มมสี งา่ ราศนี อ้ ยกวา่ คนเกบ็ ขยะ เพราะคนเกบ็ ขยะยงั รวู้ ธิ ที งิ้ แต่ สิ่งเดยี วทเี่ ขาร้คู อื วิธีเก็บ คนบางคน เกดิ มาเพอื่ หัดคดิ ถงึ คนอื่น เห็นวนั เวลาและหลาย สง่ิ ทต่ี นมี ตลอดจนสง่ิ ทตี่ นยังไม่มี ควรคา่ แก่การเจอื จาน พอนานไป ณ มรณา
15 เขาอาจมสี งา่ ราศกี วา่ เศรษฐใี หญ่ เพราะเศรษฐใี หญอ่ าจไมร่ ู้ วา่ ทรพั ย์ ของตนมีประโยชน์ปานไหน ในขณะที่เขารู้ จากใบหนา้ เปือ้ นย้ิมของ คนรอบตัวทัว่ ทกุ ทศิ คนบางคน เกดิ มาเพอ่ื ใชช้ วี ติ ใหจ้ บไปอกี ครงั้ โดยไมร่ วู้ า่ นเ่ี ปน็ ครัง้ ไหน จะครั้งแรกหรอื ครัง้ สดุ ทา้ ยไมน่ �ำพา ไมร่ ้จู ะหาประโยชน์อัน ใด ไมท่ ราบจะเชื่อค�ำตอบใครดี คนบางคน เกิดมาเพื่อค้นหาเหตุผลของการเกิด เกินทนกับ การไมร่ ู้ เกินตาหลับไปกับการตายทไ่ี มไ่ ด้ค�ำตอบ เกินทำ� ใจชอบกับ การเป็นหนา้ โงเ่ กดิ ใหม่ เกนิ ยนิ ดีรับกบั การเหนื่อยซำ�้ ทสี่ ญู เปลา่ คนบางคน เกิดมาเพ่ือเจอค�ำตอบทผี่ ิด โจทย์ชีวิตกย็ ่งิ ซบั ซอ้ น แทนการเหน็ โลกตามจรงิ เขากลบั เห็นบิดเบี้ยวกว่าเดิม แทนการแก้ ปญั หาตรงจดุ เขากลบั ผกู ปมใหมข่ น้ึ มาซอ้ น แทนการพลกิ ยากใหเ้ ปน็ งา่ ย เขากลบั ผันง่ายใหเ้ ป็นยาก คนบางคน เกิดมาเพื่อพบค�ำตอบท่ีถูก โจทย์ชีวิตจึงง่ายลง หายใจออกกร็ ู้ หายใจเข้าก็รู้ มใี ห้ดเู พียงใด มใี หร้ บั เทา่ ไหร่ มใี หส้ ละ แค่ไหน กใ็ ห้เป็นไปตามนน้ั ไม่ถือสิง่ ใดให้หนกั มือ เรียบง่ายเหมือน เดินทางเท้าเปล่า โดยปราศจากพิธีรีตอง ไปจนถึงปลายทาง โดย ปราศจากตวั ตนตดิ คา้ ง คัดมาจาก ‘คิดจากความวา่ ง ๓’ howfarbooks.com
16 วธิ จี ัดการกับความกลัวตาย สิง่ มีชีวติ ถกู ธรรมชาติบงั คับใหน้ กึ วา่ มีชวี ิตเดยี ว ทกุ ชวี ิตจึงรกั ชีวติ กลัวการไมไ่ ดม้ ีชีวติ อกี โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ชีวติ มนุษย์ที่มีคา่ คนส่วนใหญเ่ พง่ิ รูส้ ึกขึ้นมาว่าเป็นของไดม้ ายาก ก็เม่อื จวนจะเสยี ชวี ติ ไปในไม่กี่นาทีข้างหนา้ แล้ว ณ มรณา
17 ความกลัวตายไม่ใช่อารมณ์ผิวเผิน แล้วก็ไม่ใช่เรื่อง เล่นๆ เพราะเป็นตัวแปรส�ำคัญหนึ่งท่ีก�ำหนดให้ผู้ตายไปสู่สุคติหรือ ทุคติได้ ความกลวั ตายไมใ่ ชส่ งิ่ ทจี่ ัดการไดแ้ บบเรง่ ดว่ นในนาทหี นา้ สวิ่ หนา้ ขวาน แตต่ อ้ งจดั การแบบคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป ตง้ั แตย่ งั มชี วี ติ อยยู่ าวๆ วธิ กี ารใชช้ วี ติ ของคนทจ่ี ะไมก่ ลวั ตายมอี ยหู่ ลายหลาก หากรตู้ วั วา่ ยงั กลัวตาย ขอใหล้ องใช้ชีวติ ตามแนวทางเหลา่ นีด้ ู รสู้ กึ ถงึ เวลาในชีวติ ดว้ ยความฉลาดใช้เวลาในชวี ติ สาเหตุอันดับหน่ึงของการห่วงกังวลอนาคตข้างหน้ามากเกิน ไป คือการใช้เวลาคดิ ถงึ เรือ่ งทีล่ งมอื จดั การไดใ้ นวนั นี้นอ้ ยเกินไป จดั การกับวันน้นี ้อยเกนิ ไป จะหว่ งวนั หน้ามากเกินไป เม่ือเป็นผู้มีปกติเห็นเวลามีค่าแล้ว ค่าของเวลาก็จะถูกใช้ไป อย่างคุ้มที่สดุ ไม่น่าเสียดายอยา่ งทสี่ ดุ กอ่ นจะเห็นว่าเวลามคี า่ เพียงใด ตอ้ งเห็นใหไ้ ด้กอ่ นวา่ ชวี ิตท้งั howfarbooks.com
18 ชีวิตมีค่าขนาดไหน ชีวิตมีค่าตรงที่เรามีเวลาก่อสร้างต้นเหตุของความสุข และมี เวลาทำ� ลายตน้ เหตขุ องความทุกข์ คนที่เห็นทกุ นาทีมีค่า ไมใ่ ชค่ นเอาเวลาไปทำ� งานจนหมด แต่ เป็นคนท่ีมองอย่ตู ลอดเวลาว่า กำ� ลังเอาเวลาไปทำ� อะไรอยู่ นาทีเดียวถ้าพักผ่อนอย่างเต็มที่ จิตเป็นอิสระจากความเกาะ เก่ียวกับทุกส่ิง อาจมีค่าย่ิงกว่าการพักร้อนสิบวันของคนแบกงานไว้ เตม็ หวั หากขาดความสามารถทจี่ ะพกั ผอ่ น เวลาพกั ผอ่ นกค็ อื เวลาเอา ไวส้ �ำหรับว้าวุ่น ชว่ั โมงเดยี วถา้ ทำ� งานอยา่ งฉลาดคดิ ฉลาดทำ� ตามแผน ฉลาด เดินหน้าเข้าหาเป้าหมาย อาจมีค่ายิ่งกว่าการท�ำงานสิบวันของคน ท�ำงานขาดระบบ หากขาดความสามารถในการทำ� งาน เวลาทำ� งานกไ็ มต่ า่ งจาก เวลานั่งฟงุ้ ซ่านเลน่ ชวี ติ ทม่ี เี ปา้ หมาย คอื ชวี ติ ทม่ี สี ติ รอู้ ยเู่ หน็ อยวู่ า่ เราขยบั เขา้ ใกล้ เป้าหมายไปแค่ไหนแลว้ ส�ำหรับเป้าหมายของชาวพทุ ธ คอื เรียนรทู้ ี่จะดูความจรงิ และ ความจริงท่นี า่ ดู กค็ อื ความจริงเกย่ี วกับกายใจ วนั เดยี วทด่ี กู ายใจเปน็ เหน็ วา่ ไมม่ อี ะไรทเี่ ทย่ี ง ไมม่ อี ะไรทเ่ี ปน็ ของเรา กม็ คี า่ กวา่ รอ้ ยปขี องคนสว่ นใหญอ่ กี คอ่ นโลก ซง่ึ ไมม่ สี กั วนั ได้ ณ มรณา
19 เหน็ ความจรงิ นี้ ดงั ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ตรสั วา่ ผพู้ จิ ารณาเหน็ ความเกดิ ดบั แห่งสังขาร มีชีวิตอยู่วันเดียว ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปีของผู้ไม่ พจิ ารณาเห็น ผูท้ ฉ่ี ลาดแบ่งเวลา วางแผนการใชเ้ วลา ยอ่ มเขา้ ถึงความเป็น ชาวพทุ ธทถี่ ามตัวเองไดอ้ ย่างไม่เก้อเขินว่า วันคืนลว่ งไป บัดนีเ้ ราท�ำ อะไรอยู่? เมอ่ื รสู้ กึ ถงึ เวลาในชวี ติ จากการวางแผนวา่ จะทำ� อะไรไวใ้ นชวี ติ บา้ ง กจ็ ะรู้ตัววา่ ใชเ้ วลาในชีวติ มาแคไ่ หน จากนน้ั กจ็ ะไม่นึกเสยี ดาย ไม่รสู้ กึ เสยี ใจ เมือ่ เห็นเวลาเหลอื น้อย เช่นเดียวกับคนทว่ี างแผนการ ใช้รถยนต์ไว้แล้ว รู้อยู่แล้วว่ารถยนต์ต้องเสื่อมลงทุกปี หลีกหนีการ ปลดระวางไม่ได้ คนที่ใช้เวลาในชีวิตอย่างคุ้มค่า เมื่อเวลาใกล้หมด แม้อาลัย อาวรณ์ชีวิตอยู่บ้าง ก็จะไม่กลัวตาย เพราะความยึดมั่นส�ำคัญผิดว่า จะมเี วลาอยเู่ สมอ ทกุ ปจี ะมตี วั ตนแบบนไ้ี มเ่ ปลย่ี นแปลง ถกู ถอดถอน ไปมากแลว้ จากการใช้ชีวิตตามแผน ตามเวลา ทตี่ อ้ งผ่านไปเรอื่ ยๆ ตามล�ำดบั ต่างกบั คนที่เอาแต่เลน่ สนกุ ไปวันๆ หาอย่หู ากินไปวนั ๆ หรอื ขอเงนิ คนอ่นื ไปวนั ๆ ไมเ่ คยวางแผนใช้เวลา ไมเ่ คยรูส้ ึกรู้สาเกี่ยวกบั เวลา เวลาย่อมปรากฏคล้ายส่งิ คงท่ี เกดิ ความคาดหมายผิดๆว่าทุก วันจะต้องเหมือนเดิม สนุกสบายเท่าเดิมหรือเพิ่มข้ึน ย่ิงวันเดือนปี ลว่ งไป ใจยง่ิ ยดึ มน่ั ถอื มนั่ อยแู่ ตช่ วี ติ นี้ ไมพ่ รอ้ มเลยทจ่ี ะสญู เสยี ชวี ติ นี้ ไป ความกลัวตายยอ่ มทวขี ึ้นเปน็ เงาตามตัว! howfarbooks.com
20 บรจิ าครา่ งกาย ขอใหล้ องดอู าการทางใจ เมอ่ื บรจิ าคหรอื สละสงิ่ ใด คณุ จะรสู้ กึ มคี วามสขุ ปลาบปลื้ม และไม่รสู้ กึ วา่ เปน็ เจา้ ของสง่ิ นัน้ แลว้ ร่างกายก็เหมือนกัน การบริจาคร่างกายเป็นทานเพ่ือให้เป็น ประโยชนก์ ับผู้อื่น คือทานอย่างใหญ่ ไม่มอี ะไรน่ากลัว อยา่ ไปเชอื่ ความคดิ แบบมจิ ฉาทฏิ ฐทิ ว่ี า่ บรจิ าคอวยั วะสว่ นไหน ชาตหิ นา้ จะพกิ ารอวยั วะสว่ นนน้ั หรอื บรจิ าคทง้ั รา่ งกาย เดย๋ี ววญิ ญาณ จะวนเวียนอย่กู ับศพ เพราะขอ้ เทจ็ จริงคือเป็นตรงขา้ มกนั เลย คิดดวู า่ ถ้าให้เงินขอทานบอ่ ยๆ ถวายเงนิ ให้วัดบอ่ ยๆ แลว้ ผล ทไ่ี ดค้ วรเปน็ เงนิ ทองไหลมาเทมาในชาตหิ นา้ เมอื่ ใหอ้ วยั วะเปน็ ทาน แกผ่ ูข้ าด กย็ ่อมไดอ้ วัยวะทสี่ มบูรณก์ ลับคืนมาแก่ตนเองเชน่ กนั ย่งิ ไปกวา่ นนั้ การให้อวยั วะหรือรา่ งกายเปน็ ทาน ยังเป็นเหตุ ให้บรรลุธรรมง่ายอีกด้วย เพราะกิเลสเกี่ยวกับความยึดติดถือมั่นได้ ถกู บน่ั ทอนลง แมพ้ ระโพธสิ ตั วท์ า่ นกเ็ คยคดิ จะควกั ดวงตาใหเ้ ปน็ ทาน แกผ่ ขู้ อ และเป็นเหตุให้ท่านเปน็ ผ้มู ปี ระกายตางดงาม แจ่มใส และ เหน็ ชดั ไมเ่ ปน็ ผู้บอดใบ้ การให้อวัยวะเป็นทาน ในปัจจุบันท�ำได้หลายรูปแบบ อาจ เปน็ การบรจิ าคเลอื ด หรอื ไปลงทะเบยี นบรจิ าคดวงตา บรจิ าครา่ งกาย ท้ังหมดให้เป็นประโยชน์แก่ผอู้ ่นื หลงั ส้นิ ชวี ติ แล้ว แตล่ ะคร้ังที่คิดหรอื ลงมอื บริจาคอวัยวะ ลองสำ� รวจดู จะรวู้ ่าใจ ยึดม่ันถือม่นั ในร่างกายนอ้ ยลง พร้อมจะรบั มือกับความแตกดับของ มนั ด้วยความสบายใจมากข้นึ ณ มรณา
21 ผู้ใหอ้ วยั วะ ย่อมได้ชอื่ วา่ เปน็ ผสู้ รา้ งสวรรค์บนดินแก่ผพู้ กิ าร เมอื่ สรา้ งสวรรคบ์ นดนิ ใหเ้ กดิ ขน้ึ กอ่ นสวรรคบ์ นฟา้ คณุ จะเลกิ กลวั ตาย เลกิ กลวั การสญู เสยี สงิ่ ทจ่ี ะตอ้ งตกคา้ งอยใู่ นโลกอยา่ งสนิ้ เชงิ ท่องคาถา พอพดู ถงึ ‘คาถา’ คนสว่ นใหญน่ กึ ถงึ บทสวดอะไรสกั บท ซง่ึ ถา้ เป็นไปในทางอาคม ก็มักออกไปในทางค�ำเสกเป่าที่ถือว่าศักด์ิสิทธ์ิ หรือมีอิทธิพลบางอย่าง และเชื่อว่าอย่างน้อยท่ีสุดสวดค�ำศักดิ์สิทธ์ิ ดวงจิตดวงใจกต็ อ้ งมคี วามศกั ด์สิ ิทธิ์เกิดขึน้ ในตวั ความหมายของคาถา ยังมีอีกความหมายหนึ่ง คือเป็นคํา ประพนั ธป์ ระเภทรอ้ ยกรองในภาษาบาลี ถา้ มี ๔ บาทกเ็ ปน็ หนง่ึ คาถา เอาตามนิยามน้ี คาถาจึงไม่จ�ำเป็นต้องศักด์ิสิทธ์ิหรือไม่ ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ แคพ่ อเกดิ การทรงจำ� ทเี่ ปน็ ประโยชน์ หรอื ไดแ้ งค่ ดิ ดๆี กน็ บั วา่ ใช้ได้แลว้ จดั เปน็ คาถาเตม็ รูปแบบแลว้ ในทางปฏบิ ตั ิ คาถากค็ อื การรอ้ ยเรยี งถอ้ ยคำ� ซง่ึ เมอ่ื เปลง่ เสยี ง ออกมาเป็นวาจาแล้ว ก็จะเกิดความรู้สึกอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่ง หรือ อาจสัมผัสถึงกลุ่มพลงั ในทางมดื ทางสว่างขนึ้ มาได้ คนท่ีเชีย่ วชาญคาถา ท่องคาถาไดม้ าก เข้าใจความหมายของ ภาษาไดล้ กึ ซงึ้ อาจจำ� แนกไดท้ เี ดยี ววา่ แตล่ ะคาถามคี วามสะเทอื นถงึ จิตแตกต่างกันอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคาถาไหนเปล่งเสียงแล้ว ก่อให้เกิดศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เอามาเป็นบทสวดประจ�ำศาสนา เปน็ ท่ยี อมรับในวงกวา้ ง เชน่ ศาสนาพทุ ธมบี ท ‘อติ ปิ โิ ส’ ถ้าคาถาไหนเปลง่ เสยี งแล้วกอ่ ใหเ้ กดิ กำ� ลังจติ กลา้ แขง็ เป็นท่ี howfarbooks.com
22 เลา่ ลอื วา่ สวดแลว้ หนงั เหนยี ว กเ็ อามาเปน็ บทสวดเพอ่ื สรา้ งความเชอ่ื ม่ันทางฤทธ์ิเดช โดยไม่จ�ำกัดว่าเป็นสมบัติของลัทธิหรือศาสนาใด เป็นตน้ การสวดคนเดยี วกบั สวดหลายคนมผี ลตา่ งกนั เพราะคลนื่ เสยี ง ท่ีเกิดขึ้นนั้น มาเดี่ยวกับมาคู่ก็แตกต่างแล้ว และยิ่งถ้าผสมรวมเป็น หมู่คณะ กย็ ิ่งแตกตา่ งมากขึน้ เป็นเงาตามจำ� นวน ความสะเทอื นอนั ศกั ดส์ิ ทิ ธทิ์ แ่ี ผไ่ ปในอากาศ ยอ่ มทำ� ใหอ้ ากาศ ในย่านน้ันสวา่ งแจง้ ข้ึนเปน็ วันๆ ความสะเทอื นอนั ศกั ดสิ์ ทิ ธท์ิ แี่ ผไ่ ปกระทบวตั ถุ ยอ่ มประจคุ วาม สว่างเขา้ ไปในตัววัตถเุ ปน็ ปีๆ หรือถา้ เขม้ ขน้ มากก็หลายร้อยปี ขอ้ เทจ็ จรงิ ดงั กลา่ วถอื เปน็ เรอ่ื งธรรมดาสำ� หรบั พวกทเ่ี ลน่ คาถา จน ‘เห็น’ ความสว่างของคาถา คนเล่นเปน็ จะแยกแยะถูกดว้ ยวา่ บท ไหนสวา่ งกวา่ กนั บทไหนเหมาะจะประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานใด ถา้ สวดเดย่ี ว สวดคู่ หรือสวดเปน็ หมคู่ ณะ จะให้ผลผดิ แผกแตกต่างไดเ้ พียงใดด้วย ถ้าจะพูดถึงคาถาท่ีเป็นประโยชน์ตามวิถีสายตาแบบพุทธ คง ตอ้ งมคี ณุ สมบัติเหลา่ น้ี • สน้ั ไมต่ อ้ งท่องจ�ำมาก • คำ� แปลก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจในธรรมอยา่ งใดอย่างหนง่ึ • ระงับใจให้เยน็ ลง • แกฟ้ ุ้งซา่ นได้ • แกท้ ุกข์เรือ้ รงั ทางใจได้ • ทอ่ งบน่ แลว้ ฉลาดขน้ึ ณ มรณา
23 • บรรเทาความกลัวส่ิงท่ีมองไม่เห็น ทั้งภูตผีปีศาจ ไสยศาสตร์ ตลอดจนความตายได้ คาถาสนั้ ๆทนี่ ำ� มาใชแ้ กก้ ลวั ตายไดบ้ ทหนงึ่ คอื บททพ่ี ระปฏบิ ตั ิ ท่านสวดกันมาก ไม่ใช่มีเกจิท่านใดประพันธ์ข้ึน แต่เป็นพุทธพจน์ หรือถ้อยค�ำท่ีเปล่งจากพระโอษฐ์ของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยตรง เป็นคาถาที่ ‘บอกความจริงอนั เป็นทสี่ ดุ ’ เก่ียวกับสรรพส่ิง ตวั คาถามีอยู่ว่า สัพเพ สงั ขารา อนจิ จา สพั เพ สงั ขารา ทุกขา สพั เพ ธัมมา อนตั ตา ความหมายคอื สิง่ ปรงุ แต่งทง้ั หลายไมเ่ ทีย่ ง (เพราะ) สิง่ ปรงุ แต่งทั้งหลายทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ (และที่สุดแล้ว) ส่ิงทั้งหลาย อันรวมถึงส่ิงไม่ปรุงแต่งอย่างนิพพาน หาใช่ตัวตนท่ีบังคับเอา หรือ ถอื ม่นั ไวใ้ นมอื ใครได้ ถ้ายังรู้สึกว่าจ�ำยากอยู่ อยากรวบรัดให้สั้นที่สุด จะท่องแค่น้ี กไ็ ด้ สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ ธัมมา อนตั ตาติ howfarbooks.com
24 ทดลองสวดงา่ ยๆแคน่ ้ี ซำ้� ไปซำ�้ มาดว้ ยความเขา้ ใจวา่ กำ� ลงั ทอ่ ง เกย่ี วกบั อะไร แล้วจะรดู้ ้วยตวั เอง ขณะมีชีวติ ถา้ ท่องให้คล่องปากเพอ่ื แกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ อยา่ งนอ้ ยจะมอี ทิ ธพิ ลทางใจใหป้ ลอ่ ยวางไดเ้ รว็ ๑แยกตามจุดประสงค์เป็นข้อๆไดด้ ังน้ี ถา้ กำ� ลังโกรธจัด ให้ยอมรับตามจริงว่า ใจก�ำลังโกรธ ก�ำลังเกิดโทสะร้อนแรง รบั ร้สู ภาพความร้อนน้ัน แลว้ ท่องวา่ สพั เพ สงั ขารา อนจิ จา สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ เพยี งรอบเดยี ว คุณจะรู้สกึ ถึงความร้อนท่ีลดระดบั ลงฮวบฮาบ โดยเฉพาะถา้ ประกอบดว้ ยความเขา้ ใจวา่ โทสะเปน็ สงั ขาร เปน็ ของปรงุ แตง่ ถา้ ใจไมไ่ ปกระทบกบั เรอื่ งขดั ใจกไ็ มโ่ กรธ ความโกรธ ไมเ่ ทย่ี งเปน็ ธรรมดา ไมใ่ ชต่ วั ตน อยา่ งนกี้ จ็ ะลดระดบั โทสะไดเ้ รว็ เปน็ พเิ ศษ ๒ กำ� ลงั ฟ้งุ ซ่านจดั ใหย้ อมรบั ตามจรงิ วา่ ใจก�ำลังป่นั ป่วน จติ ก�ำลังดน้ิ พลา่ น รับ รสู้ ภาพความพลา่ นนั้นไป แล้วทอ่ งวา่ สพั เพ สงั ขารา อนจิ จา สพั เพ ธมั มา อนตั ตาติ เพยี ง ๓ รอบ คณุ จะรสู้ กึ ถงึ ความฟงุ้ ทเี่ บาบางลง โดย เฉพาะถา้ ประกอบดว้ ยความเขา้ ใจวา่ ความฟงุ้ เปน็ สงั ขาร เปน็ ของปรงุ แตง่ ถา้ ใจไมถ่ กู ปลอ่ ยใหซ้ า่ นไปกไ็ มฟ่ งุ้ ความฟงุ้ ไมเ่ ทย่ี งเปน็ ธรรมดา ไม่ใช่ตวั ตน อยา่ งนีก้ จ็ ะลดระดบั ความฟุ้งซ่านได้เร็วเปน็ พเิ ศษ ณ มรณา
25 ๓ กำ� ลงั ทกุ ขเ์ รื้อรงั ทางใจ ให้ยอมรบั ตามจริงว่า ใจก�ำลงั เป็นทกุ ข์ รับรูส้ ภาพใจทัง้ หมด ทร่ี สู้ กึ เป็นทุกข์หนกั นัน้ แลว้ ทอ่ งวา่ สพั เพ สงั ขารา อนจิ จา สัพเพ ธัม มา อนตั ตาติ ทอ่ งเรอื่ ยๆ ซำ้� ไปซำ�้ มาเปน็ สบิ รอบ หรอื ถา้ ยงั ไหวกเ็ ปน็ ร้อยๆรอบ คุณจะรู้สึกถึงความทุกข์ทางใจท่ีลดระดับอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะถา้ ประกอบดว้ ยความเขา้ ใจวา่ ทกุ ขเ์ ปน็ สงั ขาร เปน็ ของปรงุ แตง่ ถา้ ไม่เอาใจไปผูกกบั เหตรุ ้อนกไ็ ม่ทุกข์ ทุกขท์ างใจไม่เที่ยงเป็น ธรรมดา ไมใ่ ช่ตวั ตน อยา่ งนีก้ ็จะลดระดบั ความทกุ ข์เร้อื รงั ไดเ้ รว็ เป็น ๔พเิ ศษ กำ� ลังหัวทบึ คิดอะไรไม่ออก ใหย้ อมรบั ตามจรงิ วา่ ใจกำ� ลงั ทบึ ๆ ตนั ๆ คดิ อะไรไมอ่ อก อา่ น หนงั สอื ไมร่ เู้ ร่อื ง หรอื หวั ช้าไม่แล่นเหมือนเกา่ รบั ร้สู ภาพใจท้ังหมด ที่ทบึ ตนั นนั้ แล้วทอ่ งว่า สัพเพ สงั ขารา อนิจจา สพั เพ ธัมมา อนตั ตา ติ ทอ่ งครงั้ ละรอบ แตบ่ อ่ ยหนอ่ ย สงั เกตวา่ แตล่ ะครงั้ ทที่ อ่ ง ใจจะโปรง่ ขนึ้ เมอ่ื ใจจะกลับมาทบึ กใ็ หท้ ่องอกี สลบั อยา่ งนไี้ ปเรื่อยๆ จนกว่าจะ รูส้ ึกโปร่งจรงิ เน่ินนาน คุณจะรสู้ ึกฉลาดข้นึ โดยเฉพาะถ้าประกอบ ด้วยความเข้าใจว่าที่โง่ก็เพราะยึดสิ่งท่ีไม่ควรยึด พอเลิกยึดก็หายโง่ ความโงเ่ ปน็ ของปรงุ แตง่ ละเหตแุ หง่ ความโงก่ ไ็ มโ่ งไ่ ด้ ความโงไ่ มเ่ ทย่ี ง เปน็ ธรรมดา ไมใ่ ชต่ ัวตน อยา่ งนี้กจ็ ะลดระดับความทึบโง่ไดเ้ ร็วเป็น พเิ ศษ howfarbooks.com
26 ๕ ก�ำลงั สงสัยวา่ โดนไสยศาสตร์ครอบงำ� ใหย้ อมรับตามจรงิ วา่ จิตใจก�ำลังมดื มวั คอยแต่จะคดิ ไมด่ ี รบั รสู้ ภาพใจทงั้ หมดทแี่ ยๆ่ นน้ั แลว้ ทอ่ งวา่ สพั เพ สงั ขารา อนจิ จา สพั เพ ธัมมา อนัตตาติ หลับตาท่องสักสิบรอบยี่สิบรอบใส่น้�ำสะอาดหน่ึง แกว้ คอื เอานำ้� หนงึ่ แกว้ มาอยตู่ รงหนา้ ในระยะทส่ี ามารถรสู้ กึ ถงึ ความ สะเทอื นจากปาก จนกระทง่ั รสู้ กึ ดว้ ยใจวา่ นำ�้ ตรงหนา้ ใสสวา่ ง จากนนั้ เอานำ้� ราดกระหมอ่ มตนเอง เอามอื ลูบกระหมอ่ มและสวดต่อไปดว้ ย คุณจะรูส้ กึ ถงึ ความว่างโล่งที่เทยี บกนั ไดช้ ดั กบั ตอนมืด โดยเฉพาะถา้ ประกอบด้วยความเขา้ ใจวา่ คณุ ไสยเปน็ สังขาร เปน็ ของปรุงแตง่ เป็น ของมืด ถ้าเอาแสงสว่างมาไลก่ ็หายสูญ คุณไสยไม่เที่ยงเป็นธรรมดา ไม่ใชต่ วั ตน อยา่ งน้ีกจ็ ะลดระดบั ความมดื มัวได้เร็วเปน็ พิเศษ หลังจากใช้คาถาท่ีมีอ�ำนาจเปิดใจให้เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนตั ตา ในระหวา่ งมชี ีวิตปกติ จนกระทงั่ เกดิ ความเชอื่ มั่นวา่ ใช้ได้ผล มีอิทธิพลในทางสว่างแจ่มจ้ากับจิตของคุณแน่ คุณจะอุ่นใจเสมอว่า สดุ ท้ายเมอื่ จวนเจยี นจะตาย ถา้ ตอ้ งมเี หตุให้กลวั ในชว่ั เวลาน้นั จริงๆ ก็จะมีคาถาน้ีคอยชว่ ย เพียงแคเ่ รม่ิ ท่องขึ้นมานดิ เดียว ความกลัวกจ็ ะ คลายตวั ออกทนั ที หรอื เกอื บจะทันใดนัน่ เอง ความกลัวเป็นเพียงอาการใจหด เล็งแคบอยู่กับสิ่งท่ีนึก ประหวั่น อาจเกดิ ข้นึ เม่ือเข้าทมี่ ืด หรือใกล้สัตว์ทค่ี ณุ นกึ รงั เกยี จ ซึ่ง ต้องถือว่าสถานการณ์เหล่านั้นเป็นแบบฝึกหัดใช้คาถา คือ ยอมรับ ตามจรงิ ว่า ใจก�ำลังหดหู่ คับแคบ หวาดหวัน่ รับรู้สภาพใจทง้ั หมดท่ี ณ มรณา
27 พรนั่ พรงึ นน้ั แลว้ ทอ่ งวา่ สพั เพ สงั ขารา อนจิ จา สพั เพ ธมั มา อนตั ตาติ ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายกลัว howfarbooks.com
28 มรณสติ แตล่ ะคนจะมเี วลาฝึกรบั มอื กบั การมีชวี ติ หลายสบิ ปี ทวา่ มีเวลาเตรียมรบั มอื กบั การสนิ้ ชวี ิต แค่นาทีเดียว ณ มรณา
29 โลกวันนี้ มองไปทางไหน มีแต่ภัยพิบัติ อันตรายจาก การเดินทาง พษิ รา้ ยที่มากบั อาหารและอากาศ ไหนจะสงครามกบั ความใจรา้ ยทมี่ นษุ ย์มตี อ่ มนุษย์มากขึน้ ทุกที ผลทส่ี บื เนอื่ งตามกนั มา คอื มองไปทางไหนมแี ตค่ นระแวงภยั มีแตค่ นผวาส่ิงรอบตัว และมีแตค่ นกลัวตาย แต่หายากนัก ทีจ่ ะมองไปเหน็ คนเตรยี มตัวตาย สำ� หรบั คนสว่ นใหญท่ ท่ี กึ ทกั วา่ คนและสตั วท์ งั้ หลายนา่ จะเกดิ หนเดียว ตายหนเดียว มักเห็นการนึกถงึ ความตายเหมอื นการนึกถึง อัปมงคล หรือถ้าใครพดู ขน้ึ มาแบบใหส้ ติ ก็พานจะเหน็ ว่าเขาพูดแช่ง พทุ ธศาสนาสอนใหเ้ ตรยี มตวั เตรยี มใจตายอยเู่ สมอ เพราะชวี ติ บนโลกแสนสั้น ตายเม่ือใดไมอ่ าจพยากรณ์ และการตายไมใ่ ชจ่ ดุ จบ แตเ่ ปน็ การเรม่ิ ต้นเดินทางครงั้ ใหม่ ผเู้ ตรยี มตวั เตรียมใจตาย ไดช้ ่อื ว่าเป็นผูไ้ ม่ประมาท และพรักพร้อมจะเดินทางไปดมี ากกวา่ ใครๆ ขอเพยี งเจรญิ มรณสตไิ ดจ้ รงิ เพยี งชาตเิ ดยี ว กจ็ ะกลายเปน็ นสิ ยั ทางจิต เปน็ ปจั จัยส่งเสรมิ ใหช้ าติต่อๆไป มีความไม่ประมาทในชวี ติ ได้พบค�ำสอนให้พรอ้ มต้อนรบั ความตายไปเร่อื ยๆดว้ ย howfarbooks.com
30 การเตรยี มตวั เตรยี มใจตาย หรอื การระลกึ ถงึ ความตาย ซกั ซอ้ ม เสยี ก่อนถงึ เวลาจรงิ คิดว่าความตายต้องมาถึงเราเปน็ ธรรมดา อย่าง นเี้ รียกว่า ‘มรณสต’ิ มรณสติไม่ได้เจริญยากอย่างท่ีคิด และไม่ได้น่ากลัวหรือน่า หดห่อู ยา่ งทห่ี ลายคนเขา้ ใจ เพียงแค่คดิ ถามตัวเองบ่อยๆว่า ถ้า จะตอ้ งตายเดยี๋ วน้ี เราจะเอาอะไรไวก้ บั จติ ระหวา่ งตน้ เหตขุ อง ความสบายใจ กับต้นเหตขุ องความยงุ่ ยากใจ เมื่อเช่ือว่าจะมีชีวิตไปเร่ือยๆ คุณจะทุ่มเทความคิดให้กับการ คว้าส่ิงท่ีต้องการ จนกว่าจะได้สิ่งน้ันมาไว้ในมือ และเม่ือกลัดกลุ้ม เกยี่ วกบั เรอ่ื งใด ก็ ‘ยอมกลมุ้ ’ ไมจ่ ำ� กดั จนกวา่ เรอื่ งนา่ กลมุ้ จะคลค่ี ลาย กลบั จากรา้ ยใหก้ ลายเป็นดเี สยี ได้ ต่อเม่ือรู้สึกว่าชีวิตก�ำลังจะสิ้นสุด แม้ด้วยอาการคิดๆสมมุติ ขึ้นมาในใจ คุณจะเห็น ‘ทุกสิ่ง’ ท่ีได้มาไว้ในมือ โดยความเป็น ของหลุดลอย หรือเป็นสมบัติที่ต้องทอดทิ้งไว้ เอาติดมือไปไม่ได้ แมเ้ รอ่ื งทดี่ นู า่ กลดั กลมุ้ ทส่ี ดุ ในโลก กไ็ มค่ มุ้ คา่ พอทจี่ ะ ‘เสยี จติ ’ ให้ ในเม่ือยามใกล้ตายน้นั ส่งิ ทีค่ ุ้มพอจะเอาใจใส่ เหน็ จะไม่มีส่งิ ใด เกนิ ‘จิต’ ของตัวเองอกี แลว้ ถา้ จิตดี มคี วามสวา่ ง มีความปลอดโปร่ง ก็ย่อมเป็นฐานท่ีต้ัง ของความคดิ ดีๆ ตลอดจนกอ่ นมิ ิตดีๆใหร้ ้สู กึ อบอนุ่ ใจ ตอนไมเ่ หลือ สมบัติอะไรติดมือ ขอเพียงมีจิตดีๆเหลืออยู่ดวงเดียว คุณจะรู้สึก เหมอื นมคี รบแลว้ ไมต่ อ้ งการอะไรอีกเลย ตลอดทั้งชีวิตไม่มีใครเห็นว่าจิตมีค่าขนาดไหน จึงยอมให้จิต ถูกปนเปื้อนสิ่งสกปรก รกไปด้วยสิ่งรุงรังภายนอก การจะมาเห็น คุณคา่ และเร่งท�ำใหจ้ ติ ดีในนาทีสุดท้าย คงเปน็ เร่อื งสายเกินไป ณ มรณา
31 พระพุทธศาสนาสอนให้เจริญมรณสติก็เพราะอย่างนี้ ย่ิง ‘สมมตุ วิ า่ จะตาย’ บอ่ ยขึ้นเท่าไร ใจกย็ ิ่งไดซ้ กั ซ้อมมากข้นึ เทา่ นน้ั เวลาใดทค่ี วรแกก่ ารเจริญมรณสต?ิ ช่วงแรกๆควรเปน็ เวลาที่ คุณก�ำลงั กลุม้ ใจ หรอื ก�ำลงั หาทางออกใหก้ บั ชวี ิตไม่ไดน้ ั่นเอง คณุ จะ ไดเ้ ห็นคา่ และเขา้ ใจจุดประสงค์ดๆี ของมรณสติอยา่ งแทจ้ รงิ ความกลดั กลมุ้ เปน็ เหมอื นเมฆหมอกพษิ ทหี่ อ่ หมุ้ จติ ใจ บางที รู้สึกราวกับมีมือมารขย�ำจิตของคุณให้ยู่ยี่ มาลองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณคิดว่า นาทีหน้าก�ำลังจะต้องตาย จิตจะยังคงอยากยึด เอาความกลดั กลุ้มไวก้ บั ตัวอกี ไหม? ไมเ่ ลย... ถา้ รสู้ กึ วา่ กำ� ลงั จะตาย ใจคณุ จะเลกิ คดิ เลกิ ยดึ มนั่ ถอื มน่ั กับเรื่องนา่ กลดั กล้มุ บรรดามไี ปทั้งหมด จิตกลบั ใส ใจกลับเบาได้ อยา่ งน่าอัศจรรย์ อาการทางใจทโ่ี ปรง่ เบา โลง่ หวั กลบั มาสบายเนอื้ สบายตวั หาย เครียดหายเกร็ง อันเกิดจากการนึกถึงความตาย ถือเป็นการได้ข้อ สรุปชวี ติ ชนิดเดยี วกับที่ เอลเบริ ต์ ฮบั บารด์ (Elbert Hubbard) เคย ว่าเอาไว้ คอื อยา่ ซเี รยี สกบั ชีวติ จนเกนิ ไป เพราะยงั ไงคณุ กเ็ อาชีวิตไม่รอดอยดู่ ี การหมนั่ ระลกึ ถงึ ความจรงิ สดุ ทา้ ยของชวี ติ ทท่ี กุ คนตอ้ งพบกบั จุดจบ หาใช่การสร้างมุมมองให้เกิดความรู้สึกเฉื่อยชาไม่ ตรงข้าม เมอื่ เผชญิ หนา้ กบั มรสมุ ชวี ติ คณุ จะคดิ เทา่ ทค่ี วรจะคดิ ไมค่ ดิ มากเกนิ howfarbooks.com
32 จำ� เปน็ นน่ั เพราะเมอื่ จติ ปลอดโปรง่ อยา่ งแทจ้ รงิ คนสว่ นใหญจ่ ะเหน็ ทางออกของปัญหาไดง้ ่ายๆ ไม่ใช่มัวแต่ยอมใหม้ า่ นหมอกของความ กลดั กลมุ้ มากัน้ ขวางเอาไว้ แตส่ ำ� หรบั คนอกี สว่ นหนงึ่ ผลขา้ งเคยี งของการนกึ ถงึ ความตาย อาจมาในรปู ของการคดิ สนั้ อยากฆา่ ตวั ตายไปจรงิ ๆ โดยเฉพาะอยา่ ง ยิ่งหลังจากพยายามผา่ ทางตันแล้วผ่าไม่ออก ถ้าเปน็ เชน่ นัน้ ก็ขอใหพ้ ิจารณาวา่ จติ เศรา้ หมองอยหู่ รือเปลา่ เม่ือยอมรับได้ว่าก�ำลังเศร้าหมอง ก็ให้ระลึกถึงพระวจนะส�ำคัญของ พระพุทธเจ้าผู้รูแ้ จง้ ในสามโลก คือ เม่อื จิตเศรา้ หมอง ทคุ ตยิ ่อมเป็นทค่ี าดหมายได้ ระหว่างมีชวี ิต เมอ่ื คนเราเศรา้ โศก ยอ่ มคิด ยอ่ มระลึกถึงแต่ เรื่องไม่ดีเป็นธรรมดา ทั้งเรื่องไม่ดีตรงหน้า และเร่ืองไม่ดีท่ีผ่านมา แลว้ ราวกับท้งั ชวี ิตไมม่ เี ร่ืองดีๆนา่ ชื่นใจให้นกึ ถึงเอาเลย ยามใกล้ตายก็เช่นกัน หากจิตจมอยู่กับความเศร้าหมองอยู่ ยอ่ มนกึ ออกแตบ่ าปกรรมหรอื เรอื่ งนา่ โศกศลั ยใ์ นชว่ั ชวี ติ ทผี่ า่ นมา เมอ่ื จติ ยดึ เรอื่ งนา่ เศรา้ หมองใดไวเ้ ปน็ หลกั เรอ่ื งนนั้ ยอ่ มนำ� ไปสภู่ พภมู อิ นั เต็มไปดว้ ยความเศร้าหมองสอดคลอ้ งกนั ตอ่ เมอื่ มีสติ ระลกึ ถงึ ความตายเพอื่ ความไม่ประมาทอยู่ ถาม ตัวเองว่าตายไปจะเอาอะไรระหวา่ งจติ ท่ีเบกิ บานกับจติ ทเ่ี ศร้าหมอง ถามตวั เองบอ่ ยๆ จนกระทั่งมีสติรู้สกึ เข้ามาที่จิตในบัดน้ีจรงิ ๆ จิตก็จะค่อยฉลาดเลือก ตลอดจนมีก�ำลังใจขนาดสามารถให้ค�ำตอบ กับตัวเองถูกว่า จิตควรแช่มช่ืน ควรเบิกบาน เพ่ือจะได้เปิดทางให้ ณ มรณา
33 กรรมดที เ่ี คยทำ� มาเปน็ ตัวนำ� ไปสภู่ พภมู ใิ หม่ มรณสติดงั ทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ เป็นแบบอาศยั ความคิด เพื่อเอา ไว้ตั้งหลกั ตงั้ ตวั ได้อยา่ งง่ายๆ มีผลจริง สะสมก�ำลงั ไดจ้ ริง พาไปสู่ สุคติภูมไิ ดจ้ รงิ แต่ถ้าหากเอาตามหลกั ปฏบิ ตั สิ งู สุดท่ีพระพทุ ธเจา้ สอนไว้ คณุ มีสิทธิอ์ าศยั มรณสติเปน็ ยานพาไปถึงพระนิพพาน พ้นภพพน้ ภมู ไิ ด้ เลย หลักการมีอยู่ว่า คุณต้องฝึกเห็นกายที่ก�ำลังปรากฏในท่านั่ง คอตง้ั หลงั ตรงไดน้ ี้ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของกระบวนการแตกดบั เนอ้ื หนงั ท่ี จบั ตอ้ งได้ อวยั วะทใ่ี ชก้ ารได้ ลว้ นนบั ถอยหลงั สกู่ ารเนา่ เปอ่ื ยผพุ งั ทงั้ สน้ิ เมื่อ ‘รู้แจ้งเห็นจริง’ ว่าร่างกายท่ีก�ำลังหายใจได้อยู่นี้ แสดง ธรรมชาตเิ นา่ เปอ่ื ยผพุ งั ใหด้ ู คณุ จะรสู้ กึ วา่ กายเปน็ ของวา่ ง ของสญู เปลา่ และความวา่ งกลวง ความสญู เปลา่ นน้ั ยอ่ มไมม่ คี วามเปน็ ชาย ไมม่ คี วาม เปน็ หญงิ ไมม่ แี มแ้ ตค่ วามเปน็ มนษุ ยช์ อ่ื อะไร หรอื กระทง่ั เคยเปน็ ใครมา กอ่ น การเหน็ ความจรงิ ดงั กลา่ ว ไมใ่ ชแ่ คฝ่ กึ คดิ ไมใ่ ชแ่ คฝ่ กึ จนิ ตนาการ เอา แตเ่ ปน็ การทกี่ าย ‘แสดงนมิ ติ ’ ทางธรรมชาตขิ องตนเองใหค้ ณุ รแู้ บบ ประจกั ษ์ ราวกบั ถอดวญิ ญาณของคณุ เขา้ ไปสงิ สู่ หรอื ถอดวญิ ญาณขนึ้ ไป มองสภาพรา่ งศพทเ่ี นา่ เปอ่ื ยผพุ งั อยา่ งรวดเรว็ อยู่ การเจรญิ มรณสตแิ บบ ‘รแู้ จง้ เหน็ จรงิ ’ น้ี มเี ฉพาะในพระพทุ ธ ศาสนา เรียกว่า ‘นวสีวถิกา’ เป็นส่วนหนึ่งของการเจริญสติ (เรียก เตม็ ๆวา่ ‘เจรญิ สตปิ ฏั ฐาน ๔’) เพอื่ จะฝกึ นวสวี ถกิ าใหไ้ ดผ้ ลจรงิ คณุ จ�ำเปน็ ตอ้ งบม่ เพาะสตใิ ห้ เขา้ มาอยกู่ บั เนอื้ กบั ตวั อยา่ งมนั่ คงแขง็ แรง โดยเรมิ่ ฝกึ รสู้ ว่ นทง่ี า่ ยทสี่ ดุ howfarbooks.com
34 ของรา่ งกายกอ่ น ไดแ้ ก่ ลมหายใจ การเหน็ ลมหายใจ หมายถงึ การรวู้ า่ เมอื่ ใดถงึ เวลาทล่ี มหายใจ ควรเขา้ เมอื่ ใดถงึ เวลาทล่ี มหายใจควรออก เมอื่ ใดถงึ เวลาทล่ี มหายใจ ควรสงบระงับชัว่ ครู่ พอรู้ลมหายใจโดยความเป็นธรรมชาติพัดไหว เดี๋ยวมีอาการ พดั เขา้ เดยี๋ วมอี าการพดั ออก กจ็ ะเรมิ่ เหน็ รายละเอยี ดอนื่ เชน่ รา่ งกาย ไมไ่ ด้ตอ้ งการลมยาวอย่างเดยี ว บางทกี ็ต้องการแค่ลมส้ันๆเทา่ นน้ั เมื่อจิตไม่อยู่ในสภาพผู้คิดบังคับ ผู้อยากสงบ ผู้อยากลาก ลมหายใจเข้า ผู้อยากระบายลมหายใจออกตามอ�ำเภอใจ ในท่ีสุด จิตก็เป็นผู้รู้ผู้เห็นตามจริงว่า ลมหายใจไม่เท่ียง เม่ือรู้ว่าส่ิงใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นย่อมไม่เป็นท่ีรู้สึกว่าเป็นของ ของจิต จิตออกมาอยู่ต่างหากในฐานะผู้รู้ ผู้เห็น ไม่ใช่ผู้เป็น และเพียงได้จิตผู้รู้ผู้เห็นลมหายใจไม่เที่ยง ไม่ใช่ตน จิตย่อม สามารถรู้เห็นสิ่งอื่น เช่น อิริยาบถน่ัง ยืน เดิน นอน อันเป็นฐาน ท่ีต้ังของการหายใจในแต่ละคร้ัง จากนั้น จิตจึงค่อยๆเร่ิมเห็นรายละเอียดเข้ามาว่า อิริยาบถ ท้ังหมด ล้วนเป็นการแสดงออกทางกาย ออกท่าออกทางต่างๆ ตามท่ีจิตบัญชาให้เป็นไป กายน้ีเหมือนหุ่นกระบอกที่ท�ำอะไรเอง ไม่เป็น ต้องคอยให้จิตส่ังเสมอ ในความเป็นหุ่นกระบอก กายจะค่อยๆปรากฏราวกับเป็น โพรงว่าง เหมือนต้นไม้หรือท่อนฟืนท่ีถูกรู้ถูกดูอยู่ และในความ เป็นโพรงว่างน้ันเอง หากจิตต้ังมั่นและสว่างพอ ก็จะเห็นทะลุ ทะลวงเข้าไปถึงรายละเอียด อันยกตั้งด้วยกระดูกสันหลัง มีกระดูก แขนกระดูกขายื่นออกไปเป็นรยางค์ และมีกะโหลกศีรษะโดดเด่น ณ มรณา
35 เป็นประธานสูงสุด ในโครงกระดูกน้ีเอง แออัดด้วยก้อนเลือดก้อนเนื้อ ถ้าจิต สว่างพอก็เห็นได้เหมือนใช้กล้องเอกซเรย์ส่องดู รู้ว่าตับไตไส้พุง ปอด หัวใจ กับอวัยวะภายในอื่นๆ มีรูปพรรณสัณฐานอย่างไร ไม่ ต่างจากเห็นด้วยตาเปล่า ขั้นนี้เรียกว่า เห็นกายโดยความเป็นธาตุ ถัดจากน้ัน ซ่ึงอาจอาศัยเวลาไม่ก่ีวินาทีส�ำหรับบางคน หรือ ต้องกินเวลานับเดือนนับปีส�ำหรับบางคน ขอเพียงท�ำไว้ในใจว่า อวัยวะใหญ่น้อยท่ีมารวมประชุมกันเป็นร่างมนุษย์นี้ มีอันต้อง แตกดับไปเป็นธรรมดา ก็จะเกิดนิมิตแสดงความเน่าเปื่อยผุพัง ของกายอย่างชัดเจน ในสมาธิจิตของบางคน อาจรู้สึกเหมือนอาศัยอิริยาบถน่ัง เป็นปกติ เห็นน้�ำเลือดน�้ำเหลืองทะลักออกมา แล้วร่างกายมี อาการเปื่อยยุ่ยทีละน้อย เผยความจริงภายในทีละส่วน กระทั่ง ทุกส่วนเผยธาตุแท้ที่ต้องเน่าเปื่อยไปจนหมด ในสมาธิจิตของบางคน อาจรู้สึกเหมือนจิตลอยขึ้นเด่นดวง กลางอากาศเหนือศพท่านอนของตน แล้วศพแสดงสภาพเปื่อย ยุ่ยสลาย ไม่เหลือแม้แต่กระดูก แน่นอนว่าส่ิงท่ีเกิดขึ้นเป็นเพียงความปรุงแต่งทางจิต มิใช่ ส่ิงที่เกิดข้ึนจริง แต่ความปรุงแต่งนั้น แสดงให้เห็น ‘ความจริงแท้ แน่นอน’ อันเป็นธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นกับกาย เมื่อถอนจาก สมาธิ จิตจึงรู้สึกถึงร่างกายเดิมต่างไป พอรู้สึกว่าก�ำลังอยู่ใน อิริยาบถใด อิริยาบถน้ันก็คล้ายเป็นของว่างเปล่า เป็นหุ่นกระบอก ไร้เจ้าของ ก�ำลังจะต้องมีอันเป็นไป แตกกระจาย หาความรวมตัว อยู่มิได้ howfarbooks.com
36 นับแต่นั้น มรณสติย่อมเกิดข้ึนได้ในทุกอิริยาบถ แต่ละ อิริยาบถแสดงมรณกาลได้ท้ังส้ิน เรียกว่าเป็นผู้มีมรณสติอยู่ติดตัว โดยไม่ต้องอาศัยความคิดแยบคายใดๆมาช่วยก่อความรู้สึกถึง ความตายข้ึนมาอีก ผมู้ ีมรณสตอิ ยูต่ ิดตัวน้นั จะเปน็ ชายกด็ ี เปน็ หญงิ ก็ดี อยใู่ นวยั ครองรักก็ดี อยู่ในวัยครองเรือนก็ดี อยู่ในวัยใกล้เปล่ียนภพชาติก็ดี ย่อมไมต่ ิดใจอยใู่ นความมชี วี ติ ของตน และไมห่ ่วงใยในชีวติ ขา้ งหลัง ของญาติมิตร ลูกหลาน หรอื ผูเ้ ปน็ ทีร่ กั ใดๆ เพราะใจเหน็ ชดั เสยี แล้ว วา่ ชวี ติ โดยตวั เอง คอื กระบวนการอนั นำ� ไปสกู่ ารดบั ชวี ติ ถา้ มใี ครฆา่ กต็ าย หรอื แมไ้ มต่ อ้ งมใี ครฆา่ กต็ อ้ งตาย จากหายไปจากโลกนก้ี นั หมด หมายเหตุ - รายละเอยี ดการปฏบิ ัติสตปิ ัฏฐานเพอื่ เขา้ ถึงมรณสติ แบบทีเ่ รียกว่า ‘นวสีวถิกา’ นี้ สามารถอา่ นไดท้ ่ี http://dungtrin.com/sati ณ มรณา
37 นาทพี สิ ูจน์ความสามารถ ในนาทีเฉียดตาย ถา้ ไมร่ วู้ ธิ ีท�ำใจ ก็จะรสู้ ึกเหมือนท้งั ชีวิตท่ผี ่านไม่รอู้ ะไรเลย howfarbooks.com
38 ชีวติ เตม็ ไปดว้ ยบททดสอบความรู้ความสามารถ คนที่สอบ ผา่ นมกั ไดด้ มี สี ขุ กวา่ คนสอบไมผ่ า่ น ไมว่ า่ จะเปน็ การไดเ้ ขา้ เรยี น การ ไดเ้ รียนจบ การไดเ้ ข้าท�ำงาน การไตเ่ ต้าไปสู่ต�ำแหนง่ หน้าที่การงาน ที่สูงขึ้น สูงขึ้น ตลอดไปจนกระท่ังการกล้าออกมาท�ำเอง และการ ท�ำให้กจิ การของตัวเองรงุ่ เรือง นบั แต่วยั เยาวไ์ ปจนถงึ วัยชรา การจะมีท่ยี ืนทีแ่ ทจ้ ริงในสังคม นนั้ ต้องอาศัยความรคู้ วามสามารถทัง้ สนิ้ ตอ่ ใหร้ วยท่สี ุดในโลก ถา้ ท�ำอะไรไม่เป็นเลย ก็จะเป็นคนรวยที่มีคนจับจ้องหัวเราะเยาะมาก ท่ีสุดในโลกเชน่ กัน หรือต่อให้ดวงดีแค่ไหน ถ้าไม่มีความรู้ความสามารถที่จะใช้ ดวง ดวงดีๆก็ฝ่อตัวไปเปล่าๆในเวลาไม่นาน ที่เหลือคือชีวิตอันไร้ ความรู้ความสามารถเท่าน้ัน คนเราจะ ‘รสู้ ึก’ วา่ ตนมีความสามารถเพยี งใด ก็ขึ้นอยู่กับบท ทดสอบความสามารถเฉพาะหน้าที่มนี ัยส�ำคัญกับชีวติ ตอ่ ใหเ้ คยรู้ เคยเกง่ กาจสารพดั วชิ าเพยี งใด ถา้ หลงปา่ แลว้ ไมร่ ู้ วธิ ีดดู าว ไมร่ ู้วชิ าสังเกตไพร อยา่ งไรกห็ าทางออกไม่เจอ ทสี่ ุดกร็ สู้ ึก บ้อทา่ ตอนเหน่ือยอ่อนจะอดข้าวตายย่อมเห็นวา่ ตวั เองช่างไม่รู้อะไร ณ มรณา
39 เอาเสียเลย หรือถ้าตกน้�ำแล้วว่ายน้�ำไม่เป็น อย่างไรก็ต้องจมสนิท ด้วย ความรสู้ กึ วา่ แมก้ ระทงั่ พยงุ ตวั เอาชวี ติ ใหร้ อดในนำ�้ แคน่ ้ี กไ็ มม่ กี บั เขา แลว้ เชน่ กนั ระหวา่ งมชี วี ติ ใครจะเคยมคี วามรคู้ วามสามารถขนาด ไหน ถ้าใกล้ตายไม่ทราบวิธวี างใจให้สงบ ก็จะรูส้ กึ ว่าในขณะน้ันตัว เองไมม่ ีความรคู้ วามสามารถเอาเสียเลย ก่อนตายท�ำไมจึงควรมีความสามารถในการระงับความ ฟุ้งซ่าน? ฟุ้งซ่านตายแล้วมีผลเสียอย่างไร? ค�ำตอบคือ จิตของคุณ อาจยึดเอาเร่ืองร้ายใดๆที่ความฟุ้งซ่านคัดสรรมาให้ก็ได้ท้ังน้ัน ลอง ดูตัวอยา่ งจากชวี ิตประจำ� วันเถอะ ตอนคดิ ถงึ เรื่องรา้ ยๆ มักเปน็ ชว่ ง ฟ้งุ ซา่ นหรอื สงบ? การระงบั ความฟงุ้ ซา่ น เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสงบใจ ไมใ่ ชอ่ าศยั แค่ ความรวู้ ธิ ี แตย่ งั ต้องมคี วามสามารถจะทำ� จริงดว้ ย และจติ ของแตล่ ะ คนก็ไม่เหมือนกับอาหาร จ้างใครช่วยประกอบเคร่ืองปรุงให้ไม่ได้ ต้องปรงุ แต่งเอง ชมิ เอง รูร้ สเอง ความสามารถที่จะสงบจิตสงบใจ เป็นเรื่องต้องใช้เวลาส่ังสม ต้องฝึกท�ำกันทั้งชีวิต ไม่ใช่แค่วันสองวันแล้วจะสั่งได้เหมือนเสกเอา โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในนาทีเป็นนาทีตายน้นั จิตท่ีไม่ไดฝ้ กึ มามักออก อาการคลา้ ยมา้ พยศ จะใหค้ วบคมุ จะใหบ้ งั คบั อยา่ งไรกเ็ อาไมอ่ ยู่ เวน้ แตจ่ ะฝกึ อบรมอยา่ งดมี าจนกระทง่ั เปน็ มา้ เชอ่ื งพรอ้ มรบั บญั ชาอยกู่ อ่ น จะรู้ได้อย่างไรว่าถ้าอีก ๕ นาทีข้างหน้าต้องตายดับ คุณจะ เข้าข่ายเป็นพวกสงบตาย หรือว่าฟุ้งซ่านตาย? ส�ำรวจตัวเองง่ายๆว่า ส่วนใหญ่ในแต่ละคืน ก่อนนอนหยุด howfarbooks.com
40 ฟงุ้ ซา่ นไดต้ ามใจนกึ ไหม ถา้ ‘ไมไ่ ด้’ ก็นัน่ แหละครับ มีแนวโนม้ จะ เขา้ ขา่ ยฟงุ้ ซ่านตาย ฟุ้งซ่านแล้วหลับฝันร้ายยังดี แต่ฟุ้งซ่านแล้วนึกถึงบาปกรรม ก่อนตายน่นี า่ กลัวครบั ไม่มใี ครหยุดกระสบั กระส่ายได้แน่ ถ้าภาพที่ ตนเคยก่อบาปกอ่ กรรมตามมาหลอกหลอนในช่วงใกล้สน้ิ ใจ เมื่อเห็นความส�ำคัญยิ่งยวดของการ ‘ตายสงบ’ คุณจะได้เร่ิม เห็นค่าของการสั่งสมความสงบข้ึนมาบ้าง ความสงบไม่เพียงช่วยให้ คณุ เปน็ สขุ มากยิ่งขนึ้ ขณะยังมชี วี ิต แต่ยังช่วยให้คุณสบายใจหายหว่ ง ขณะกำ� ลังจะส้นิ ชีวติ ด้วย ๑จะจัดการกับความฟุ้งซ่านให้ถูกต้องในแบบของนักเจริญสติ ควรเข้าใจหลกั สำ� คัญในการ ‘เหน็ ความฟุง้ ซ่าน’ ดังนี้ อย่าอยากดับความฟุ้งซ่าน คนทั่วไปมักใช้วิธีผิดๆในการก�ำจัดความฟุ้งซ่าน คือ ตั้งใจ ก�ำจัดความคิด หรืออยากดับความฟุ้งซ่านให้ได้แบบเฉียบพลัน ซึ่ง นั่นย่ิงกลายเป็นเหตุเร่งความฟ้งุ ซ่านให้ทวีตวั ขน้ึ อกี ขอใหจ้ �ำไวเ้ ป็นหลกั ส�ำคญั ว่า ฟงุ้ ซา่ นแลว้ ยอมรบั ตามจรงิ วา่ ฟงุ้ ซา่ น เรยี กวา่ มสี ตริ ตู้ วั วา่ ฟ้งุ ซา่ น แต่ฟงุ้ ซา่ นแลว้ กระสับกระส่ายอยากหายฟงุ้ ซ่าน เรียก ว่าขาดสติ ไมร่ เู้ นอื้ รูต้ ัว และก่อเหตุกระวนกระวาย ฟุ้งซ่าน ปั่นป่วนหนักข้ึน จะเป็นในอดตี กด็ ี ปจั จุบนั กด็ ี หรืออนาคตกด็ ี ความจรงิ มอี ยู่ ณ มรณา
41 ว่า ถ้าเกิดความทะยานอยากแบบไม่สมเหตุสมผล ก็เกิดความทุกข์ เปน็ ผลตามมาเสมอ แมอ้ ยากสงบ แมอ้ ยากหายฟงุ้ ซา่ น ทงั้ ทย่ี งั ไมพ่ รอ้ ม กเ็ ปน็ ตน้ เหตขุ องความดนิ้ รนกระสบั กระสา่ ย ทบั ถม ๒ความฟุง้ ซา่ นเดิมใหห้ นกั ขนึ้ กวา่ เดมิ แลว้ อย่าพยายามดวู า่ ก�ำลังคดิ อะไรอยู่ วิธีมีสติดูความฟุ้งซ่านอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ต้ังใจดูว่าก�ำลังคิด อะไรอยู่ ไม่ใชจ่ ้องรอวา่ ความคิดนนั้ ๆจะหายไปเมื่อใด เพราะทันที ทรี่ บั รวู้ า่ กำ� ลงั คดิ เรอื่ งใด คณุ จะเขา้ ไปเปน็ สว่ นหนงึ่ ของความ คิด ผสมโรงไปกับความคิด แล้วหลงวกวนอยู่กับความคิด น้ันๆโดยปราศจากทศิ ทางแล้ว ในการเจริญสติแบบพุทธ เราจะรู้ความฟุ้งซ่านโดยความเป็น คลน่ื รบกวนสมอง เหมือนกับนงั่ ดูพายพุ ดั หรอื เมฆหมอกอยูใ่ นบ้าน ท่ีปิดประตูหน้าต่างแล้วเป็นอย่างดี และนั่งมองพายุหรือเมฆหมอก ๓ผ่านมาแล้วผ่านไปเฉยๆ โดยไม่พาตัวออกจากบ้านไปเส่ียงกับการ ซดั เซกลางพายุ หรอื หลงทางกลางสายหมอก อย่าเริม่ จากการจ้องเขา้ มาในหัว พอถูกบอกให้ดูความคิดหรือความฟุ้งซ่าน ทุกคนจะนึกถึงส่ิง ทอ่ี ยู่ในโพรงกะโหลก เพราะน่ันเปน็ ที่ตั้งของความคดิ และธรรมดา คนกจ็ ะรสู้ กึ ถึง ‘อะไรในหวั ’ ค่อนขา้ งชดั เสยี ดว้ ย ตอนกำ� ลังฟุ้งซา่ น วกวนอยู่ เช่น บางคนรสู้ ึกเหมือนเกดิ พายหุ นาแน่น หนักหวั บางคน รู้สึกคล้ายถูกแมลงเลก็ ๆไตย่ บุ ยบิ น่ารำ� คาญ เป็นต้น การจอ้ งเข้าไปในศรี ษะทันที โดยขาดฐานทีม่ น่ั รองรบั สติ จะ howfarbooks.com
42 ท�ำใหค้ ุณรูส้ ึกไร้หลัก ไรก้ ำ� ลงั และไมท่ ราบจะดคู วามฟุง้ ซา่ นให้เกดิ อะไรขนึ้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เมอื่ ความฟงุ้ ซา่ นนน้ั ๆ เปน็ ความเคยชนิ ๔เป็นนสิ ยั ทางจิตทีผ่ ลิตระลอกความคิดแบบเดิมๆอยู่ไมข่ าด สังเกตว่ากำ� ลงั สขุ หรอื ก�ำลงั ทกุ ข์ ขณะหนง่ึ ๆ คนเราตอ้ งมคี วามรสู้ กึ อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ไมอ่ ดึ อดั ก็สบาย ไม่ปั่นป่วนทุรนทุราย ก็สงบราบคาบ หรือถ้าไม่เซ่ืองซึม เฉยเมย ก็กระตอื รือร้นเต็มต่นื โดยย่นยอ่ อาการที่บง่ บอกว่าสบาย นา่ ชอบใจ เข้าข่ายเป็นสขุ สว่ นอาการทบ่ี ่งบอกวา่ อดึ อัด นา่ ชงิ ชงั เขา้ ข่ายเปน็ ทกุ ข์ สำ� รวจเขา้ มาในตวั จะพบวา่ ในความเปน็ สขุ เปน็ ทกุ ขห์ นงึ่ ๆนน้ั มี ‘อาการเดน่ ๆ’ แสดงออกมาในตวั คณุ ให้รสู้ ึกไดด้ ว้ ยใจ ในรปู แบบ ใดรูปแบบหนึง่ เสมอ ยกตวั อยา่ งเชน่ เมอื่ ใจกระสบั กระสา่ ยเปน็ ทกุ ขม์ ากๆ จะคลา้ ย มีอาการดิ้นเรา่ อย่ใู นอกไม่หยดุ หรือเมือ่ กำ� ลังอยากได้น่ันอยากได้นี่ จะคล้ายมียางเหนียวยืดไปจับทางโน้นทีทางน้ีที แต่ถ้าปรารถนาสิ่ง ใดสงิ่ เดยี วอยา่ งแรงกลา้ กอ็ าจเหมอื นมคี มี เหลก็ มาบบี เคลน้ หวั ใจ ไม่ ให้ได้กินอม่ิ นอนหลับเหมอื นปกติ การสังเกตอาการเด่นๆ กระท่ังเหน็ เป็นภาพทางใจจนคุน้ จะ ช่วยให้คุณเห็น ‘ตน้ ตอของความฟุง้ ซา่ น’ ได้อย่างงา่ ยดาย ตอนทึบแน่นเป็นทุกข์ ความคิดแย่ๆจะถาโถมเข้ามาเย่ียงคน ขาดก�ำลังใจ คณุ จะเหน็ วา่ เพราะความทกุ ข์ ความอดึ อดั แนน่ อก แนน่ ใจ คอื เครอ่ื งผลติ กระแสความคดิ หมน่ มดื ในหวั ณ มรณา
43 แมไ้ มถ่ งึ กบั ทนทกุ ขท์ นทรมานอะไรมาก แตค่ นสว่ นใหญก่ อ็ ดึ อดั เปน็ ทกุ ขเ์ พราะความอยากนน่ั อยากนก่ี นั บอ่ ยๆ การเรม่ิ ฝกึ สงั เกตจาก ๕ตรงน้ี จึงนบั วา่ งา่ ยและตรงจดุ อาศยั ลมหายใจสงั เกตความไมเ่ ทยี่ ง เมื่อรู้สึกถึงความคันอกคันใจท่ีกลางอก ให้บอกตัวเองว่า ณ ลมหายใจนกี้ ำ� ลงั เปน็ ทกุ ข์ จากนนั้ ใหด้ วู า่ ในลมหายใจตอ่ มา ทกุ ขเ์ ดมิ ลดระดับลงหรอื วา่ เพมิ่ ความแรงข้ึน คล้ายคุณยังไม่ละสายตาจากหมอกควันเบ้ืองหน้า แต่สังเกต วา่ มันเปลีย่ นระดับความทบึ หนาหรอื เบาบาง โดยดจู ากลมหายใจน้ี กบั ลมหายใจต่อมา และต่อมา ธรรมดาเม่ือรู้สึกถึงความไม่เท่าเดิมของอาการด้ินรนกระสับ กระส่ายกลางอก ก็จะรู้สึกถึงความโล่งสบายเกิดขึ้นแทน และเมื่อ สำ� รวจดกู จ็ ะพบวา่ นน่ั เปน็ การทคี่ วามฟงุ้ ซา่ นในหวั พลอยเวน้ วรรคไป ด้วย เมอ่ื เหน็ การเวน้ วรรคของความฟงุ้ ซา่ น กถ็ อื วา่ ไดเ้ หน็ ความไม่ เที่ยงของความฟุ้งซ่าน เม่ือเห็นความฟุ้งซ่านกลับมาใหม่ ก็คือเห็น ความไม่เทยี่ งของใจว่าง มีอยแู่ คน่ ้ี ธรรมดาของจิตนั้น ทันทีที่เห็นส่ิงใดสิ่งหน่ึงแสดงความ ไมเ่ ทีย่ ง จติ จะถอนตวั จากอาการยึดมาเป็นผู้สังเกตการณ์ ไม่ เกิดความร้สู ึกรู้สาว่าตนเองคือส่ิงน้ัน และที่สำ� คัญคอื เลกิ คาดหวังจะ เอาอะไรจากส่งิ นัน้ ไปช่วั ขณะ กล่าวอย่างรวบรัด คือ เห็นความฟุ้งซ่านไม่เท่าเดิมได้ ก็ ถอดถอนอปุ าทานวา่ ความฟงุ้ ซา่ นเปน็ ตวั คณุ ตวั คณุ คอื ความฟงุ้ ซา่ น howfarbooks.com
44 เสยี ไดช้ ่วั คราว สงิ่ ทีต่ อ้ งจดจำ� ให้แมน่ ย�ำ คอื อยา่ คาดหวงั ว่า เห็นแล้วจะดบั หายสมใจอยากทนั ใด ๖แต่ให้รตู้ ามจรงิ ว่า เห็นแลว้ จะต่างไปใหด้ แู น่ๆ ร้จู ักสาเหตขุ องความฟุ้งซา่ นในตน แต่ละคนมีต้นเหตุของความฟุ้งซ่านไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ ความฟุง้ ซ่านชนดิ ท่ียอ้ นกลบั มาปรากฏเป็นระลอกเร่อื ยๆ คนเราถูกลอ่ หรือไมก่ ็ ‘ถูกหลอก’ ใหต้ ดิ ใจอยกู่ บั สิ่งใดสิ่งหนึง่ เสมอ ถา้ ไม่ใช่เร่ืองดีๆ ก็เป็นเร่ืองแยๆ่ คนเราตดิ ใจอยกู่ ับเรือ่ งใด เรื่องน้นั ก็ปรากฏเสมือนแมเ่ หลก็ ที่ ส่งแรงดงึ ดูดให้ไปจดจ่อไดต้ ลอดเวลา หากเรื่องทถ่ี ูกลอ่ ใหต้ ดิ ใจ เปน็ เรื่องดี มีประโยชน์ ชวนใหจ้ ิต ด่งิ เขา้ หาเปา้ หมายหรอื พัฒนาการเปน็ ขัน้ ๆ ระลอกความคิดของคุณ จะไมซ่ ดั ส่ายกระจายไปเร่ือยเปอ่ื ย แตห่ ากเรอื่ งที่ ‘ถกู หลอก’ ใหต้ ดิ ใจ เปน็ เรอ่ื งแยๆ่ ไรส้ าระแกน่ สาร ชวนใหจ้ ติ เตลดิ ไรท้ ศิ ทาง หรอื เอาแตว่ กวนกลบั มาทจ่ี ดุ เรมิ่ ตน้ หาจดุ หมายปลายทางไมเ่ จอ คลื่นความคิดของคณุ จะไหลวน หรือออกอา่ ว ไปเรือ่ ย ถา้ จะแปรรปู ความฟงุ้ ซา่ น เปลยี่ นจากคดิ ซดั สา่ ยไรร้ ะเบยี บ ให้ กลายเปน็ ‘คดิ มากอยา่ งเปน็ ระบบ’ คณุ จ�ำเปน็ ตอ้ งหา ‘เรอื่ งนา่ สนใจ ดๆี ’ ใหเ้ จอ ณ มรณา
45 ยกตัวอย่างเชน่ ถ้าติดใจคิดมากอยกู่ ับเรอื่ งคนรักเกา่ ทจี่ ากไป คนเรามกั คิดมาก อยากให้เขาหรือเธอกลบั มา ท้งั ทร่ี ้สู กึ ส้ินหวัง ใจจงึ เหมอื นจะขาดอยู่รอนๆ คิดโนน่ คดิ นี่สะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง หรอื ไร้ จดุ หมายทแี่ นช่ ดั เพราะใจไมไ่ ดเ้ ชอ่ื วา่ จะเปน็ ไปได้ อยา่ งนเ้ี มอื่ รตู้ วั วา่ กำ� ลังอยกู่ ับเหตแุ หง่ ความฟุ้งซ่านไมร่ ูจ้ บ ไมม่ ีทางออก คุณก็จ�ำเปน็ ตอ้ งหาทางออกดว้ ยการเปลย่ี นจดุ หมายในการคดิ คดิ ถงึ สง่ิ ทเ่ี ปน็ ไป ได้จริง เบี่ยงเบนเป้าจากคนรักเป็นงานที่รัก กีฬาท่ีรัก ดนตรีที่รัก เพราะสิ่งทีเ่ ปน็ ทีร่ กั เท่าน้ัน ทม่ี ีสทิ ธติ์ รึงใจคณุ ได้ใกลเ้ คียงกบั คนรกั นอกจากนัน้ นสิ ัยในการมองคน มองโลก และมองตวั เอง กม็ ี สว่ นปรงุ แตง่ ความฟุ้งซ่านของคุณใหเ้ ป็น ‘ของร้อน’ ไดเ้ พียงใดด้วย คนมองโลกในแง่ร้ายเสมอ เห็นอนาคตในทางวิบัติตลอด และช่าง สังเกตข้อเสียของคนอื่นมากกว่าข้อดี จะมีคลื่นความฟุ้งซ่านให้รู้สึก คลา้ ยไอนำ�้ ร้อน หรือกระทง่ั ละอองพษิ ท่ฉี ดี ขน้ึ หัวอยู่เนืองๆ ถา้ ทกุ ครง้ั ทเ่ี หน็ ขอ้ เสยี แลว้ รบี คน้ ใหพ้ บขอ้ ดี กบั ทงั้ ตงั้ ใจจะพดู ถึงข้อดีของคนที่คุณเกลียดก่อนนินทากาเลได้ แม้จะยังฟุ้งซ่านเร่ือง คนอน่ื อยู่ คุณก็จะพบว่ามกี ารลดระดับความร้อนลงมาก จริงๆยงั มอี กี หลายส่ิงทร่ี บกวนจิตใจคณุ ได้ไม่เลกิ เช่น หนี้สิน ถ้าต้องจดจ่อกังวลอยู่กับหนี้ มากกว่าได้ส�ำราญบานใจอยู่กับก�ำไร ความฟุ้งซ่านจะเป็นคล่ืนความร้อนท่ีทยอยมาราวีคุณราวกับจะไม่ ปลอ่ ยใหเ้ วน้ วรรคพกั สบาย ตอ่ ใหห้ นไี ปพกั ผอ่ นสดุ หลา้ ฟา้ เขยี ว คลนื่ ความรอ้ นในหวั ก็ก่อตวั ขนึ้ มาไมห่ ยดุ ย้ัง กรณที ำ� นองนี้ ทเี่ รอ่ื งภายนอกบบี คน้ั เกนิ ทำ� ใจ คณุ จำ� เปน็ ตอ้ ง เรียนรูท้ ีจ่ ะหลกี เล่ยี งบ้าง ไม่สรา้ งหนี้ ไม่สร้างศตั รู ไม่สร้างภาระจน หนักอ้ึงเกินแบก ชีวิตมักเปิดโอกาสให้ปิดหน้ี เลิกแล้วกันกับศัตรู ตลอดจนปลงภาระบนบ่าลง แล้วย้อนกลับมามองสิ่งเหล่าน้ันเป็น howfarbooks.com
46 ‘บทเรียน’ เพื่อให้เลือกว่าจะจดจ�ำหรือไม่เข็ดหลาบ หากจะมองภาพรวมให้เกิดข้อปฏิบัติท่ีน่าจดจ�ำ ท�ำให้คิดใน ทางเย็น ทางสว่าง ลดความหนาแน่นและความรุ่มร้อนของความ ฟุ้งซา่ นลงได้จริง ก็อาศยั หลกั ทพ่ี ระพทุ ธเจ้าให้ยดึ ถือ ๓ ประการ คอื ทาน ศลี และเจริญสติ การใหท้ านดว้ ยความคดิ สงเคราะห์ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดว้ ยแรง กาย กำ� ลงั สมอง หรือบริจาคทรพั ย์สว่ นเกนิ ออกไปบา้ ง เป็นการลด ความตระหน่ีถี่เหนียว ลดความฟุ้งซ่านในทางละโมบโลภมาก ย่ิงถา้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ใจก็ปลอดโปร่งสบายแบบไม่แฝงอาการ คิดเลก็ คิดน้อยหยมุ หยิม ทำ� นองว่าจะไดร้ ับอะไรคนื มา การใหอ้ ภยั เปน็ ทาน แมท้ ำ� ไดบ้ า้ งไมไ่ ดบ้ า้ ง กช็ ว่ ยใหค้ ณุ รจู้ กั ความ เยน็ รจู้ กั อาการคลายกลา้ มเนอ้ื เครยี ดๆอนั เกดิ จากความคมุ แคน้ ลด ความฟงุ้ ซา่ นในทางพยาบาทอาฆาตเปน็ ชว่ งๆ เปดิ โอกาสใหจ้ ติ ฉลาด เลอื กบา้ งวา่ ระหวา่ งฟงุ้ ซา่ นหาทางแกแ้ คน้ เอาคนื กบั ความสงบระงบั ดว้ ย ใจไมค่ ดิ เบยี ดเบยี น อยา่ งไหนนา่ เอาไวก้ บั ตวั กวา่ กนั การรักษาความสะอาดทางใจ ด้วยข้อห้ามสกัดก้ันเจตนา เบยี ดเบยี นสง่ิ มชี วี ติ อน่ื จะลดความฟงุ้ ซา่ นในทางประทษุ รา้ ยดว้ ยกาย และวาจา ยงิ่ ถ้าฝกึ มาตามล�ำดบั จนกระทงั่ รสู้ กึ วา่ ใจเปน็ ศลี ในตวั เอง สว่างสะอาด ปลอดภัยอยู่ในเขตไร้การเบียดเบียนโดยไม่ต้องฝืน ห้ามใจ อย่างน้ีถึงแม้ฟุ้งซ่านบ้าง ก็จะไม่ฟุ้งซ่านร�ำคาญใจเกิน ระงับ การมีสติเจริญงอกงามข้ึนในทา่ มกลางสิ่งบบี คั้นให้วา้ วนุ่ เห็น วา่ ทก่ี ำ� ลงั ฟงุ้ ฟงุ้ หนกั หรอื ฟงุ้ เบา กำ� ลงั หายใจเขา้ หรอื หายใจออก จาก ณ มรณา
47 นน้ั สงั เกตอกี วา่ ลมหายใจตอ่ มา ระดบั ความฟงุ้ ซา่ นลดลงหรอื เพมิ่ ขน้ึ ในท่ีสุดคุณจะพบว่า ความฟุ้งซ่านเบาบางลงอย่างน่าแปลกใจ ทั้งที่ ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากเลย สรปุ แลว้ การละเหตแุ หง่ ความฟงุ้ ซา่ นระหวา่ งมชี วี ติ นน่ั เอง คอื การสะสมความสงบเยน็ ทลี ะนอ้ ย จนกระทง่ั ถงึ จดุ ของความเชอื่ มนั่ วา่ ‘พรอ้ มตายทกุ เมอ่ื ’ ไมว่ า่ จะเปน็ การตายดหี รอื ตายรา้ ย เพราะแมต้ าย ร้าย ก็เปน็ การตายร้ายดว้ ยจิตดี ผู้ทีม่ จี ิตดี ย่อมเห็นลางของคติภพ ดีๆข้างหน้าด้วยตนเอง ผ่านความรู้สึกอบอุ่นใจ เช่ือมั่นในดวงกุศล อนั สวา่ งโพลง เห็นชดั ๆอย่แู ล้วภายในตน howfarbooks.com
48 ลูกชา่ งถาม พ่อตามตอบ ฉนั และทกุ คนตายกนั ทุกวันอยูแ่ ลว้ ถงึ ไม่โดนฆา่ ทิง้ มันก็แปรไปเป็นอ่ืนอยู่แลว้ ทั้งสภาพรา่ งกาย สภาพจติ ใจ และความรู้สกึ นกึ คดิ ไมม่ ีซ้�ำตัวเดมิ เลยสกั วัน ทสี่ ืบๆต่อมาเรอื่ ยคอื ความเขา้ ใจผดิ คิดว่าแต่ละวันเป็นตวั ตนเดียวกัน และส�ำคัญว่าจะเปน็ ตวั นน้ั ตลอดไป แต่พอดบั ความเข้าใจผิดเสียได้ ตัวตนอนั เป็นทุกข์ก็ดบั ตามไปด้วยเดยี๋ วนน้ั เอง คัดมาจาก ‘คิดจากความวา่ ง ๒’ ณ มรณา
49 “พ่อครบั ทำ� ไมคณุ ตาถงึ ต้องตายดว้ ยล่ะครับ?” “เปน็ ธรรมดาของพวกเราทกุ คนนะ่ ลกู ถงึ เวลาตายกต็ อ้ งตาย” “อ๊อดก็ตอ้ งตายเหรอครบั ?” “ต้องตายเหมือนกัน แต่อ๊อดยังเด็กอยู่ กว่าจะแก่เท่าคุณตา และถึงเวลาตายอย่างคณุ ตา ยงั อกี นาน” “แล้วเมื่อไหร่คุณตาจะตื่น เห็นนอนอยู่ในโลงต้ังหลายวัน แล้ว?” “ถา้ ตายกไ็ มต่ ื่นแล้วละ่ ลูก ตอ้ งอยู่ในโลงอยา่ งน้ันตลอดไป” “ตกลงต้องตายทกุ คนเลยหรอื ครับ?” “ใชล่ กู ! เปน็ อยา่ งนนั้ คนทกุ คนทลี่ กู เหน็ จะตอ้ งตายกนั หมด” “พ่อครบั ทำ� ไมทุกคนต้องตายดว้ ยละ่ ครับ?” “อือม์… อ๊อดเพิ่งเห็นคนตายน่ะลูก ความตายเลยเป็นของ howfarbooks.com
50 แปลกใหม่ ต่อไปอ๊อดจะเห็นคนตายมากข้ึน แล้วลูกจะรู้ว่าเป็นของ ธรรมดา… อ๊อดดเู ศษใบไมแ้ หง้ บนพนื้ น่นั สิ เหน็ ไหม ตอนนม้ี นั เป็น สีเหลอื ง แตก่ อ่ นมันเป็นสเี ขยี วเหมือนที่อยู่บนตน้ นะ พอถงึ เวลามนั กต็ อ้ งทงิ้ ตวั เองลงจากกง่ิ กา้ นมารวมกนั บนพน้ื เปลยี่ นจากสเี ขยี วเปน็ สีเหลอื ง… ร่างกายคนเราก็เหมือนกนั วันน้ดี ูสดใสมชี ีวิตชีวา แต่วนั หนึ่งก็ต้องแหง้ ลง แล้วหายไปจากโลกนีเ้ ช่นเดยี วกบั ใบไม้ตกพ้นื ” “คนเหมอื นใบไมไ้ ดไ้ ง แล้วทำ� ไมคนตอ้ งตายดว้ ยล่ะ?” “เพราะเหมือนใบไมไ้ งลกู วนั หนึง่ ถึงต้องร่วงหล่นลงดิน และ กลายเปน็ พวกเดยี วกบั ดนิ ไม่มีใครก�ำหนดหรอกวา่ ท�ำไม ทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งต่างมสี ภาพทต่ี ้องเส่ือมสลายกลายเป็นอื่นไปทัง้ นน้ั ” “คุณตาร้ตู วั ไหมว่าจะตาย?” “รสู้ !ิ คณุ ตารลู้ ว่ งหนา้ นานทเี ดยี ว ถงึ ขนาดเตรยี มตวั ยกสมบตั ิ ใหแ้ มข่ องออ๊ ดต้ังแตอ่ อ๊ ดยังไมเ่ กดิ แนะ่ ” “รูว้ า่ จะตายแล้วท�ำไมคณุ ตาไม่หนลี ่ะ?” “จะไปหนยี งั ไงลกู เอย๋ ถา้ โจรมาไลฆ่ า่ เรา เราอาจใชส้ องเทา้ วงิ่ หนีได้ แต่ถา้ ร่างกายจะฆ่าตัวเอง แม้กระท่ังเทา้ ยังยกไมข่ ึ้น แล้วจะ พาตวั ไปไหนไหว” “ถ้าคนเราต้องตาย แลว้ จะเกิดมาทำ� ไมครบั ?” “เกดิ มาเพอื่ ใชห้ นค้ี วามไมร่ ไู้ งลกู เพราะยงั ตดิ คา้ งอยกู่ บั ความ ไม่รู้ คนเราถึงต้องเกิดมาเพ่ือเรียนรู้ เหมือนอย่างท่ีลูกอ๊อดถามพ่อ เพอื่ ให้รคู้ ำ� ตอบอยูน่ ่ีไง แตถ่ า้ ยังติดค้าง ยังไมร่ ู้แจง้ ก็ตอ้ งเกดิ ใหมม่ า ถามใหม่อกี …” ณ มรณา
Search