ลดเวลาเรียน เพิมเวลาเรียน ไปสู่โลกกว้าง นอกห้องเรียน
ดอกไม้ ลดเวลาเรียน เพมิ เวลารู้ ไปสู่โลกกว้าง นอกห้องเรียน โดย : “เอกญารัตน”์ ออกแบบ : ลายไม้ ราคา : บาท จาํ หน่ายในรูปแบบ E – book E-mail : [email protected] โทร.%&'()&*(+% สงวนสิทธ/ิตามพระราชบญั ญตั ิลิขสิทธ/ิ )+*3 ไม่อนุญาตใหค้ ดั ลอด ทาํ ซ7าํ ดดั แปลง ไม่วา่ กรณีใด
คาํ นํา หนงั สือลดเวลาเรียน เพม(ิ เวลารู้ ไปส่โู ลกกว้าง นอก ห้ องเรี ยนเล่มนีว1 ่าด้ วยเรื( องราวในอดีตล้ วน ๆ คือ ประวตั ิศาสตร์ซงึ( เป็ นอะไรก็ไม่รู่ท(ีน่าเบื(อหน่าย ไม่สนกุ แต่ อยา่ งไรก็ตาม หนงั สือเล่มนีจ1 ะทําให้คณุ ๆผ้อู ่านก้าวพ้นไป จากคําพูดดังกล่าวนัน1 เพราะเป็ นหนงั สือท(ีเขียนขึน1 จาก ประสบการณ์จริง ซงึ( เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สกึ ต่างๆท(ี มีต่อร่องรอยหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ หนงั สือเลม่ นีเ1หมาะสําหรับผ้เู ริ(มสนใจประวตั ศิ าสตร์ ท้องถ(ิน ซงึ( อาจนําไปเป็ นแนวทางในการทําความเข้าใจกบั เร(ืองราวของท้องถ(ินใกล้ตวั ค่ะ \"เอกญารัตน\"์
! เมืองโบราณอู่ทอง เมืองโบราณอู่ทอง อําเภออู่ทอง จังหวัด สพุ รรณบรุ ีคือเมืองโบราณเก่าแก่มาแต่ครัง1 แผน่ ดินสวุ รรณ ภูมิ จนกระทั(งมาถึงยุครุ่งเรืองสุดขีดสมัยทวารวดี มีคู เมืองโบราณ พร้ อมด้ วยโบราณสถาน โบราณวัตถุท(ี เกี( ยวข้ องกับพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทจํานวนมาก ซง(ึ มีลกั ษณะงดงามโดดเดน่ เป็ นพเิ ศษ นบั เป็ นร่องรอย หลักฐานยืนยันได้ ว่า กลุ่มชนตัง1 เดิมท(ีเมืองโบราณ อู่ทองแห่งนีม1 ีจิตใจศรัทธาในพระพุทธศาสนาโดยการ ผสมผสานกบั ศาสนาพราหมณ์และความเชื(อเรื(องผี อัน เป็ นศาสนาโบราณมาตงั1 แต่ยคุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ ลกั ษณะคูเมืองโบราณอทู่ อง
ฐานเจดีย์หมายเลข ตงั อยู่นอกคูเมืองดา้ นทิศ ตะวนั ออก โบราณสถานท(ีน่าสนใจท(ีเมืองโบราณอู่ทองคือ “เจดีย์” ซึง( พบว่ามีฐานเจดีย์เก่า กระจายกนั อยู่ทว(ั ไป ในเขตอําเภออู่ทอง ไม่ว่าจะเป็ นบนท(ีสูงเชิงเขาด้านทิศ ตะวันตก หรือท(ีราบลุ่มด้านทิศตะวนั ออกและด้านทิศใต้ ของตวั เมือง มีข้อมูลจากการบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ ว่า เคยนบั ฐานเจดีย์ได้มากกว่า NO แห่ง
\" แม่นําจระเขส้ ามพนั แหล่งนําสําคญั ของชาวอทู่ อง และใกลเ้ คียง แต่ในปั จจุบันเหลือฐานเจดีย์อยู่ไม่ถึง PO แห่ง ความเก่าแก่ทรุดโทรมและสูญหายไป ของเจดีย์ หลายต่อหลายองค์ มีสาเหตุมาจากหลายประการ เช่น ปัจจัยเร(ืองกาลเวลาซึ(งผ่านมา นับพนั ปี ย่อมผุ กร่อนเป็ นธรรมดา ปัจจัยอีกอย่างหน(ึงคือ สงครามไทย พม่าในอดีต เน(ืองจากเมืองโบราณอู่ทองตัง1 อยู่ริมฝั( ง
# แม่นํา1 จระเข้สามพนั ซง(ึ เป็ นแนวยทุ ธศาสตร์ทงั1 ทางบกและ ทางนํา1 ที(ไหลทวนมาจากเมืองกาญจนบรุ ี เมืองหน้าด่าน ชายแดนพม่า ทุกครัง1 ที(ขบวนช้าง ม้า และเหล่าทหารนบั หม(ืน นบั แสนเคลื(อนผ่านไป-มาย่อมเหยียบย(ําทําลายทัง1 โดยเจตนาและไม่เจตนา และปัจจยั สดุ ท้าย คือ โจรภยั นกั ล่าสมบัติทงั1 คนในท้องถิ(นและต่างถิ(นคอย จ้องหาช่องทางขุดเอาสมบัติลํา1 ค่ามาไว้ในครอบครอง โดยเฉพาะวิธีทุบอิฐหาพระถํา1 เสือตามความเช(ือที(ว่า คน โบราณ ทําซอ่ นไว้ในก้อนอิฐ วิธีนีแ1 ละความเชื(อนี 1 ทํ า กันอ ย่ า ง จ ริ ง จัง เ ป็ น อา ชี พ เ ป็ น ล(ํ า เป็ น สัน ทําอย่างต่อเน(ือง จนกล่าวได้ ว่า ฐานเจดีย์บางแห่ง ละเอียดเป็ นผยุ ผงแทบจะไม่เหลือซาก
$ ชาวพืนถิ-นดงั เดิมอาศยั อยู่ชายป่ าดา้ นทิศใตข้ องคูเมือง อย่างไรก็ตาม ภายในขอบเขตท(ีเรียกว่าเมือง โบราณอู่ทองยงั พอมีฐานเจดีย์สําคญั อยู่บ้าง เช่น เจดีย์หมายเลข P เจดีย์หมายเลข T และเจดีย์หมายเลข PN โดยเฉพาะเจดีย์หมายเลข P นนั1 เป็ นฐานเจดีย์ขนาด ใหญ่ ซึ(งมีความสําคญั และความหมายต่อเมืองอ่ทู องเป็ น
อย่างยิ(ง เพราะหลกั ฐานของนกั วิชาการรุ่น ใหม่ยืนยนั ว่า เป็ นเจดีย์แหง่ แรกที(สร้างขึน1 เมื(อครัง1 พระอตุ ร เ ถ ร ะ แ ล ะ พ ร ะ โ ส ณ ะ เ ถ ร ะ เ ดิ น ท า ง ม า เ ผ ย แ ผ่ พระพทุ ธศาสนาในสมยั พระเจ้าอโศกมหาราช หญิงชาวบา้ นผูส้ มคั รใจอยู่ดูแลฐานเจดีย์ หมายเลข 0 มาหลายชว-ั อายคุ น
%& ฐานเจดีย์หมายเลข 2ตงั อยู่นอกคูเมืองดา้ นทิศตะวนั ตก ส่วนเจดีย์หมายเลข PN มีลักษณะเป็ นฐานแปด เหลี(ยม แม้จะเหลือเพียงฐานไม่ก(ีเมตร แต่ ฝี มือ ลวดลายในการก่ออิฐ เรียงอิฐงดงามย(ิง หาก หลบั ตานกึ ถงึ การตกแต่งท(ียงั สมบรู ณ์ ยงั ไมถ่ กู ยํ(ายีอย่างยอดยบั เช่นนี 1 เราจะพบถงึ ความอลงั การท(ี มลงั เมลืองเป็ นที(สดุ
%% สภาพภูมิประเทศริมคูเมืองโบราณดา้ นทิศตะวนั ตก เมืองโบราณอู่ทองเป็ นมหานครแห่งเจดีย์ เป็ น ดินแดนสงบเย็นด้วยร่มเงาธรรมชาติและ ร่มเงาของ พระพทุ ธศาสนาในอดีต ส่วนปัจจบุ นั ร่มเงาและร่องรอย เหลา่ นนั1 ยงั พอหลงเหลืออย่บู ้าง ด้วยพลงั แห่งจินตนาการ ของเราเอง
%
% นาลาว นาลาว เป็ นชมุ ชนใหญ่ตงั1 อยู่ ตําบลอ่ทู อง อําเภอ อ่ทู อง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี ท(ีนาแห่งนี 1 มีประวตั ิ ความเป็ นมาอย่างไร.......อาจมีตํานานเล่าขานหรือ เอกสารท(ีเก(ียวข้องอยู่บ้าง แต่คงมีอยู่ ในวงจํากัด เหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีตจึงแผ่วเบาและนับวันจะเลือน หายไปเฉกเช่นเร(ืองราวเก่า ๆ ในอดีตที(มลายหายไปกับ กาลเวลา...
%! ถงึ กระนนั1 ... คําว่า “นาลาว” ท(ีปรากฏเด่นในวนั นี 1 ช่างมีเสน่ห์ และชวนหลงใหลยงิ( นกั เพราะนาแห่งนีไ1 ด้ประกาศตวั ตน ชดั เจนเสียเหลือเกินว่า ท(ีนี(คือ “แหล่งพาํ นักพกั พงิ ของ ชนเผ่าพันธ์ุลาว” ถิ(นนีต1 งั1 อย่รู ิมฝั(งแม่นํา1 จระเข้สามพนั ห่างจากคู เมืองโบราณอ่ทู องไมม่ ากนกั และอยตู่ ิดเทือกเขาคอกช้าง ดนิ ซง(ึ เป็ นโบราณสถานท(ีสําคญั แห่งหนง(ึ ของเมืองอทู่ อง ถนนหนา้ โรงเรียนวดั ปทมุ วนาราม(บา้ นนาลาว) ชุมชนบ้ านนาลาวส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ทํานา ทําไร่ เลีย1 งสตั ว์และ ทอผ้า
% จกั สานไปตามความถนดั ที(ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบรุ ุษ ดํารงชีวติ อยอู่ ย่างเรียบงา่ ย ภาษาพดู การแต่งกายและ วัฒนธรรมประเพณีในท้ องถ(ินที(ยังรักษาไว้ เสมือน สายโลหิต ท(ียงั ไม่เหือดแห้ง ในปัจจุบนั มี หลายสิ(งหลายอย่างเปลี(ยนแปลงไปตามกระแสโลก กระแสวิทยาการสมยั ใหม่และกระแสแห่งเงินตรา ซงึ( โหม กระหนํ(าเข้ามาไม่เคยหยดุ หย่อน เจดีย์บรรจอุ ฐั ิบรรพชนคนบา้ นนาลาว แต่ส(งิ หนง(ึ ท(ีไมเ่ คยมีทีท่าจะเปล(ียนเลยคือคําวา่ “นาลาว”
%\" นาลาว ครอบครัวชาวลาวผู้ถูกกวาดต้ อนมาในฐานะ เชลยสงครามหลายครัง1 ในอดีต บ้างก็อพยพโยกย้ายมา ด้วยความสมัครใจในภายหลัง เคล(ือนย้ายมาอยู่ภาค กลาง...กลางถิ(นของศนู ย์อํานาจรัฐซง(ึ ครัง1 หนึ(งอํานาจนนั1 ได้ ย(ืนมือออกไปกวาดต้ อนบรรพบุรุษของพวกเขามา ปั กหลักอยู่ที( นี( ด้ วยความอดทนแล ะ ความ เข้มแข็งของวฒั นธรรม แม้จะถกู กล่อมเกลาให้กลมกลืน กับสิ(งแวดล้อมต่าง ๆ มาเป็ นเวลาหลายร้ อยปี แต่ส(ิงท(ี เป็ นเอกลกั ษณ์ดงั กล่าวของคนท(ีนี(ยงั คงอยู่ แม้ไม่ถึงกับ เหนียวแน่น แต่ก็สามารถยืนยนั ได้ว่า นาลาว คือถ(ินของ คนพลัดถ(ินท(ีได้เพียรพยายามสร้ างถิ(นของตนเองขึน1 มา ด้วยนํา1 ตาบนเส้นทางประวัติศาสตร์อันขมขื(น ก้มหน้า อดทน และไม่เคยทอดทิง1 เจตนารมณ์ของบรรพบรุ ุษ ตัวอักษรท(ี เด่ นสง่ าอยู่บนป้ ายต่าง ๆ จึง เปรียบเสมือนอนุสาวรีย์นิรนามท(ีตัง1 ขึน1 นอกเส้ นทาง พงศาวดารและไร้พิธีกรรมบวงสรวงใด ๆ แต่จารึกสนั1 ๆ ที( ประกาศอย่นู นั1 ยงั สดใสและชดั เจนย(งิ นกั ว่า “นาลาว”
%# ประวัตศิ าสตร์พนื, บ้าน เจดยี ์ชนช้าง พระบรมราชานสุ าวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ บา้ นดอนเจดีย์
%$ บริเวณท(ีดอนชายทุ่ง หม่บู ้านดอนเจดีย์ อ. พนมทวน จ.กาญจนบรุ ี มีเจดีย์กลมทรงลงั กา ฐานกว้าง ประมาณ PT เมตร ส่วนยอดหักพังไปคงเหลือส่วนสูง ประมาณ V เมตร สร้างโดยการก่ออฐิ เรียงซ้อนกนั ขนึ 1 ไป เจดีย์ยทุ ธหตั ถีทีบ- า้ นดอนเจดีย์ อําเภอพนมทวน เจดีย์องค์นีช1 าวบ้านเช(ือว่าเป็ นเจดีย์ที(สร้างขึน1 เมื(อ ครัง1 สงครามไทยรบพมา่ คนเฒ่าคนแก่ชาวบ้านดอนเจดีย์
% ที(มีอายยุ ืนยาวหลายคน เช่น นายฉ่าง คชายทุ ธ อายุ WO ปี อดีตผู้ใหญ่บ้ านหมู่ที( T ต.ดอนเจดีย์ นายสม จิต มาลาพงษ์ อายุ VT ปี อดีตครูประชาบาล ยืนยนั ว่า ป่ ูย่าตายายหลายช(ัวคนเล่าให้ฟังสืบต่อกันมาว่า เจดีย์ องค์นีเ1 ป็ น “เจดีย์ชนช้าง” ท(ีสร้างขึน1 เพื(อเป็ นอนสุ รณ์แห่ง ชยั ชนะในสงครามยุทธหตั ถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวร มหาราชกับพระมหาอุปราชา แห่งพม่า เมื(อปี พ.ศ. TPNY โดยมีร่องรอยหลกั ฐานท(ีปรากฏดงั นี 1 ลกั ษณะของตน้ ข่อยขนาดใหญ่
& /. ต้นข่อยกับเนินพุทรา บริเวณใกล้ดอนเจดีย์มี ต้นข่อยขนาด N – Z คนโอบอายุ หลายร้ อย ปี อันเป็ นต้นไม้สําคัญในประวัติศาสตร์ท(ีกล่าวถึง เหตกุ ารณ์สําคญั ครัง1 นนั1 ว่า ก่อนจะเริ(มทํา ยทุ ธหตั ถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหา อปุ ราช ซึง( หลบอยู่ใต้ ต้นข่อย ส่วนบริเวณถดั ออกไปก็จะเป็ นเนินพุทรา ซ(ึงเช(ือว่าเป็ นสถานท(ีช้างของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชถกู ช้างพระมหาอปุ ราชต้อนไป ตดิ ตรงนี 1และอาศยั เนนิ พทุ ราเป็ นท(ีตงั1 หลกั วดั บา้ นนอ้ ย
% 1.ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เนื(องจากบ้านดอน เจดีย์ตัง1 อยู่บนเส้นทางท(ีใช้ติดต่อกันทัง1 ในยามปกติและ ยามสงครามระหว่างชมุ ชนต่าง ๆ ในอดีต จึงมกั จะพบว่า มีโบราณสถาน โบราณวัตถุสมัยอยุธยาจํานวนมาก บริเวณเส้นทางดงั กล่าว เช่น กล่มุ เจดีย์สมยั อยธุ ยาในวดั บ้านน้อย โบราณสถานวดั บา้ นนอ้ ย
4.โบราณวัตถุเก6ียวกับสงคราม เน(ืองจาก ชาวบ้ านไถนาและขุดดินบริ เวณเนินดินรอบองค์เจดีย์ได้ พบดาบไทยสมยั โบราณขนาดใหญ่ มีนํา1 หนกั มาก ต่อมา กรมศิลปากรได้ออกสํารวจและขดุ ค้นอยา่ งเป็ นทางการได้ พบหลกั ฐานสําคญั จํานวนมาก เช่น กระดูกคน กระดกู ช้าง กระดกู ม้า เคร(ืองศตั ราวธุ เครื(องประดบั ช้างศกึ ม้า ศกึ โซล่ า่ มช้าง ขอบงั คบั ช้าง และโกลนม้า เป็ นต้น กระดูกชา้ งทีข- ดุ พบบริเวณใกลเ้ จดีย์
ก่อนที(จะมีการพัฒนาพืน1 ท(ี เจดีย์องค์นี 1 ตัง1 อยู่โดดเดียวบนที(ดอนชายทุ่ง มีหญ้ าขึน1 ปกคลุม ทั(วไป จึงเป็ นแหล่งอาศยั ของงูพิษ สัตว์ร้ าต่าง ๆ ตาม พืน1 ดินยงั มีกระดกู คนหล่นเกลือดกลาดไปทว(ั บรรยากาศ วงั เวง น่ากลวั ยิ(งนกั จงึ ไม่ค่อยมีใครกล้าเฉียดกายเข้าไป ใกล้ การรบครัง1 สําคญั บนท้องท่งุ แห่งนีผ1 ่านพ้นไปแล้ว ประมาณ ZOO ปี เศษ แต่ประวตั ิศาสตร์นอกห้องเรียนยงั ถ่ายทอดกนั อย่กู ระทง(ั ปัจจบุ นั ห่นุ ไก่บวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
! โบราณสถานเมืองเพนียด จันทบุรีเป็ นหัวเมืองตะวันออกท(ีรับรู้กันท(ัวไปว่า เป็ น เมืองเพชร เมืองพลอย ดินแดนท(ีอุดมสมบูรณ์ด้วย ทรัพยากรธรรมชาติสวยสด งดงามย(ิง ดังคําขวัญของ จงั หวดั จนั ทบรุ ีตอนหนงึ( ว่า นํา, ตกลือเล6ือง เมืองผลไม้ พริกไทย พนั ธ์ุดี อัญมณีมากเหลือ เส6ือจันทบูรณ์...... แต่เร(ื องราวสําคัญท(ีถูกมองข้ ามมาโดยตลอด เกือบหลงลืมกันแล้วคือ ร่องรอยความเป็ นมาของผู้คน และบ้านเมืองในอดีตที(เคยเรืองรุ่งเม(ือพนั ปี ก่อน
แนวกําแพงศิลาแลงเมืองเพนียด น6ันคือโบราณสถานเมืองเพนียด โบราณสถานเมืองเพนียดมีชื(อเรียกอีกอย่าง หน(ึงว่า ปราสาทหินจันทบูร ปั จจุบันเหลือเพียงแนว กําแพงศิลาแลงและคนั ดินกว้าง P[ เมตร ยาว T[ เมตร สงู N เมตร คาดว่าสร้างในราวปี พทุ ธศกั ราช PZOO นกั
\" โบราณคดีสนั นิษฐานว่าบริเวณรอบ ๆ เมืองเพนียดน่าจะ มีปราสาทหิน T – N หลัง รวมทัง1 ส่วนท(ีเป็ นบารายหรือ อ่างเก็บนํา1 รูปส(ีเหล(ียมผืนผ้าขนาดใหญ่กรุด้วยศิลาแลง และเชื(อว่า เมืองเพนียดแห่งนีม1 ีอายุเก่าแก่กว่าเมืองนคร วัด นครธม ประเทศกัมพูชา เน(ืองจากมีการค้นพบทับ หลังศิลปะแบบ “ถาลาบริวัต” ซึ(งเป็ นรูปแบบศิลปะที( เก่าแก่กว่านครวัด นครธมนบั ร้ อยปี น(ันหมายความว่า เป็ นทับหลังท(ีเก่าแก่ท(ีสุดเท่าท(ีค้นพบในภาคตะวันออก ของประเทศไทย สถานที(สําคญั ใกล้กบั โบราณสถานเมืองเพนียดคือ วัดทองท6วั ซงึ( ยงั พอมีซากชิน1 ส่วนโบราณวตั ถอุ ย่หู ลายชิน1 ประกอบด้วยทับหลงั ใบเสมา ครก-สากหินขนาดใหญ่ และศลิ าสลกั รูปงาช้าง เป็ นต้น โบราณสถานเมืองเพนียดท(ีเหลืออยู่ในวันนีต1 ก อยู่ในสภาพเกือบจะเรียกได้ ว่า ไร้ การเหลียวแลจาก หน่วยงานใด ๆ จึงไม่แปลกที(นักท่องเท(ียวทัง1 ชาวไทย และชาวต่างชาติต่างยินดีท(ีได้มองผ่านเลยไปยงั จุดอื(น ๆ ท(ีมีความสวยงามท(ีอยู่ไม่ห่างกันคือ นํา, ตกพลิว, บนเขา
# สระบาป ความจริงแล้วสถานท(ีสําคัญเหล่านีม1 ีความ เกี(ยวข้องกนั กลา่ วโดยสงั เขปคือแหล่งนํา1 ตกศกั ดิสิทธิ\\ตาม ความเช(ือ ความศรัทธาในยุคนัน1 ทําให้ เกิดชุมชนและ พฒั นาการเป็ นเมืองสําคญั ของแวน่ แคว้นในเวลาตอ่ มา ทบั หลงั ศิลปะรูปแบบ”ถาลาบริวตั ” อย่างไรก็ตาม ซากโบราณสถานเมืองเพนียด ในปัจจบุ นั แม้เหลือลายสลกั เดน่ ๆ ไม่มากนกั แต่ รากฐานสถาปัตยกรรมศลิ าแลงขนาดใหญ่ที(เรียงราย ละเอียดลํา1 งามพร้อมเหลา่ นนั1 ก็เพยี งพอสําหรับยํา1 เตือนผู้
$ ไปเยือนว่า มนษุ ย์ในอดีตเม(ือพนั ปี ก่อนนนั1 ชา่ งย(ิงใหญ่ เข้มแข็ง มงุ่ มนั( และสงู สง่ เสียนี(กระไร ด้วยปวงอํานาจใด หนอที(เป็ นแรงผลกั ดนั ให้กลมุ่ ชนเหล่านนั1 ร่วมประสาน ดวงใจได้สนิทแน่นกลมเกลียว สร้างสรรค์อารยธรรม อลงั การฝากไว้บนผืนดนิ ใบเสมาอโุ บสถเก่าวดั ทองทว-ั
ปราสาทหินเมืองเพนียดแม้อย่หู ่างไกลกับ คําโฆษณาว่า “มรดกโลก” ท(ีแย่งยือ1 กันอย่างเอาเป็ นเอา ตาย แตท่ งั1 หมดที(เหลืออย่กู ็สามารถยกประกาศเทียบชนั1 ได้อย่างภูมิใจว่ายิ(งใหญ่ในฐานะเป็ นมรดกบรรพชนใน อดีตซึง( ได้เสกสร้ างวางฐานอารยธรรมลํา1 ค่าให้กับอนุชน คนรุ่นหลงั ครก-สากศิลาขา้ งกําแพงอโุ บสถวดั ทองทว-ั
& แต่น่าเสียดายนักที(บัดนีไ1 ด้ข้ามยุคมาถึง จุดตกระกําลําบากแสนสาหัส อยู่ในสภาพอิดโรย ซึม เซา หงอยเหงารอวนั ผุกร่อนและถูกทบั ถมจากกาลเวลา อย่างน่าเวทนาท(ีสดุ โอ้...ชะตากรรมเมืองโบราณ...เพนียด...
% ใบเสมาพนั ปี บ้านเปาะ อ. ค้อวัง จ. ยโสธร ห่างจากตวั จงั หวัด ยโสธรประมาณ WO กิโลเมตรห่างจากตวั จงั หวดั ศรีสะเกษ ประมาณ NZ กิโลเมตร ชุมชนแห่งนีต1 ัง1 อยู่บนเนินดินสูง ล้อมรอบด้วยทุ่งนา ป่ าละเมาะไม้ที(ขึน1 เองตาม ธรรมชาติ จัดเป็ นชุมชนขนาดใหญ่ที(มีลักษณะคล้าย ชุมชนโบราณท(วั ไปที(อยู่สืบทอดกันมายาวนาน ร่องรอย หลกั ฐานที(ปรากฏอยู่คือ ใบเสมา จํานวนมากท(ีขดุ ค้นพบ ภายในบริเวณวดั บ้านเปาะและบริเวณอื(นๆ เช่น โรงเรียน หมบู่ ้าน และสวนป่ าด้านทศิ ตะวนั ตกของชมุ ชน จากป้ ายประกาศภายในวดั มีข้อความวา่ วัดบ้านเปาะสร้างเม6ือ พ.ศ.119: ถงึ พ.ศ.11/: เจ้าศรีวลิ าสและเจ้าหา แม่ออก เจ้าผุสดี อุบาสิกา สี พร้อมด้วยบตุ รและหลานได้สร้างเจดยี ์ไว้ ฝ่ าย พระสงฆ์มีหลวงป่ ูศรี ปสุโต เป็ นประธาน สร้าง
เสร็จเม6ือปี ไก่ (ปี ระกา) ขึน, /: ค6าํ เดือน A หลักฐาน ได้จากหนังสือใบลานและจารึกใต้ฐานพระพุทธรูป คราวขุดพบเม6ือพ.ศ. 1:9: รวมเวลาถงึ ปัจจุบนั ประมาณ 414 ปี เศษ ใบเสมาทีม- ีรูปแบบศิลปะอนั สวยงาม
นน(ั คือหลกั ฐานท(ีมีจาลกึ ไวเป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร แต่จากหลกั ฐานประเภทวตั ถโุ บราณคือ ใบเสมา เป็ นเร(ือง ยืนยนั ได้ว่า ชมุ ชนแหง่ นีม1 ีอายยุ ืนยาวไม่ต(ํากว่าหนงึ( พนั ปี เม(ือพิจารณารูปแบบศิลปกรรม ใบเสมา สะท้อนให้เหน็ ความนิยมในการสร้างอย่างน้อย T รูปแบบ คือ รูปแบบสี(เหล(ียม และรูปแบบใบโพธ\\ิ สว่ นวสั ดทุ ี(นํามา สร้างมีทงั1 ศลิ าทรายและศิลาแลง ส่วนลายสลกั บนใบเสมา มีรูปยอดเจดีย์และนารายณ์บรรทมสินธ์ุ ซึง( แสดงให้เห็น ถึงความเช(ือ ความศรัทธาในทางศาสนาท(ีประสมประสาน ระหว่าง ศาสนาฮินดู ศาสนาพทุ ธ และความเชื(อท้องถ(ินที( เกี(ยวกบั ส(งิ เหนือธรรมชาติ ใบเสมาหลายขนาด
! ใบเสมาจํานวนมากเหล่านีย1 ่อมไม่ใช่หลักเขต อโุ บสถอยา่ งท(ีเข้าใจกนั ในปัจจบุ นั แต่เป็ นวฒั นธรรมหรือ ความเช(ืออยา่ งหนงึ( ที(นกั โบราณคดีเรียกวา่ “วฒั นธรรมหิน ตงั1 ” คือการนําหนิ มาขดั เกลา ตกแตง่ ให้สวยงามแล้วนําไป ประดิษฐานไว้ในเขตศักดิ\\สิทธ\\ิของชุมชนดงั ปรากฏตาม เมืองโบราณอื(นๆในภาคอีสาน ครัน1 เม(ือชมุ ชนมีการยอมรับนบั ถือศาสนาฮนิ ดแู ละ ศาสนาพทุ ธ ซง(ึ ได้นํารูปแบบศิลปกรรมอนั เก(ียวเน(ืองกบั ศาสนานนั1 ๆมาแกะสลกั เป็ นรูปยอดเจดีย์ รูปนารายณ์ บรรทมสนิ ธ์ุ ดงั กลา่ ว วสั ดทุ ีใ- ชท้ ําใบเสมามีทงั ศิลาแลงและศิลาทราย
ชุมชนบ้านเปาะ อ.ค้อวัง จ.ยโสธร ได้รับการ พฒั นาทางด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เช่นเดียวกับชุมชน อื(นๆ แต่ในด้านวิถีชีวิตความเชื(อ วฒั นธรรม ประเพณี ยงั ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างเหนียวแน่น ความรัก ความ สามคั คี คือ เอกลกั ษณ์ที(โดดเด่นของชมุ ชนแหง่ นี 1 ใบเสมาฝังจมอยู่ในดิน
\" ใบเสมาโบราณแม้เป็ นเพียงวัตถุในอดีต แต่ก็ สะท้อนให้เห็นร่องรอยรากเหง้าของชุมชนว่า ผู้คนของ ชมุ ชนแห่งนีม1 ีวฒั นธรรมที(สืบทอดกนั มาเป็ นเวลานบั พนั ปี ………………….
# ความเช6ือชาวไทดาํ บ้านดอนเตาอฐิ ไทดาํ เป็ นที(รู้จกั ของชาวไทยว่า ไทยโซ่ง หรือ ไทย ทรงดาํ ชาวไทยทรงดําท(ีหมบู่ ้านดอนเตาอฐิ อําเภอพนม ทวน จงั หวดั กาญจนบรุ ี เป็ นชาวไทยทรงดําท(ีอพยพมา จากบ้านทงุ่ ใหญ่ อําเภอดําเนินสะดวก จงั หวดั ราชบรุ ี ตงั1 แต่ประมาณปี พ.ศ.๒๔๒๓ ถ(ินฐานบ้านเดมิ ของบรรพ บรุ ุษคือเมืองแถงหรือเมืองแถนปัจจบุ นั คือเมืองเดียนเบียน ฟู ชาวไทยทรงดําท(ีน(ียงั รักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี พธิ ีกรรมตา่ ง ๆ ไว้ได้เป็ นอย่างดี มีการปฏบิ ตั ิ สืบเนื(องกนั ตลอดมาจนปัจจบุ นั พธิ ีเสนเรือน เป็ นพธิ ี เก่าแก่ท(ีปฏิบตั สิ ืบตอ่ กนั มา และถือเป็ นประเพณีท(ีสําคญั
$ ชาวไทยทรงดําสว่ นใหญ่มีความผกู พนั อยกู่ บั ความเช(ือเรื(อง\"ผี\"และ\"ขวัญ\" เนื(องจาก เช(ือวา่ ผีนนั1 เป็ น เทพยดาที(ให้ความค้มุ ครอง พทิ กั ษ์รักษาให้ชีวติ ประสบแต่ ความสขุ ความก้าวหน้า ขณะเดียวกนั ก็อาจให้โทษถงึ ตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิง( ในเร(ืองของ\"ผีเรือน\" เปรียบเสมือนศาสนาประจําตน ถ้าทําในสงิ( ไมด่ ีจะเป็ น การ \"ผิดผี\" ผีเรือนอาจจะลงโทษได้ขนั1 รุนแรง
ผีตามความเช(ือของชาวไทยทรงดํา สามารถแยก ได้ดงั นี 1 ผีแถนหรือผีฟ้ า เช(ือว่าเป็ นเทวดาอย่บู น ฟ้ า ซงึ( สามารถดลบนั ดาลให้ความเป็ นไปแก่มนษุ ย์ ทงั1 ด้านดีและด้านร้าย จงึ ต้องปฏบิ ตั ิตนให้ถกู ตาม ความประสงค์ของแถนเพื(อให้แถนหรือผีฟ้ ามีความ เมตตาและบนั ดาลให้เกิดความสขุ แก่ตนได้
!& ผีบ้านผีเรือน เป็ นผีที(ค้มุ ครองป้ องกนั บ้านเรือน ให้ร่มเยน็ เป็ นสขุ และ อดุ มสมบรู ณ์ อาจสงิ สถิตอยตู่ ามป่ า ภเู ขา หรือต้นไม้ บางแห่งก็สร้างศาล ให้อย่บู ริเวณ ที(มี หลกั เมือง ถือเป็ นเขตหวงห้ามใช้เฉพาะประกอบพธิ ี เซน่ ไหว้ท(ีเรียกวา่ \"เสน\" เทา่ นนั1 สว่ นผีบ้าน หรือผีประจํา หมบู่ ้านก็สร้างให้อย่ตู ่างหาก เรียกว่า \"ศาลเจ้าป่ \"ู หรือ\" ศาลตาป่ \"ู และต้องทําพธิ ีเซน่ ไหว้ทกุ ปี
!% ผีบรรพบุรุษ เป็ นผีของป่ ู ย่า ตา ยาย หรือพอ่ แม่ ที(ถึงแก่กรรมไปแล้ว จะถกู เชญิ ขนึ 1 มาไว้บนเรือน ณ ห้องผีเรือน หรือห้องของบรรพบรุ ุษท(ีเรียกวา่ \"กะล่อหอ่ ง\" และต้องจดั พธิ ีเซน่ ไหว้ทกุ ปี เรียกว่า\"พธิ ีเสนเรือน\" ผีป่ าผีดงและผีอื(น ๆ เป็ นท(ีสถิตอยตู่ ามป่ า ภเู ขา แมน่ ํา1 หรือสถานที(ต่าง ๆ ซงึ( หากคนทําให้ไม่พอใจก็ อาจลงโทษให้เจ็บป่ วยได้เช่นกนั
! ความเชื(อของไทยทรงดํา อีกประการหนง(ึ ก็คือ ความเชื(อในเรื(องขวญั เนื(องจากเชื(อว่า \"แถน\"เป็ นผ้สู ร้าง ให้มนษุ ย์มาเกิดและให้มีของขวญั แตล่ ะคนตดิ ตวั มาอย่ใู น ร่างกายรวม ๓๒ ขวญั ซง(ึ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แตท่ ํา ให้ร่างกายเคลื(อนไหวและทํางานได้ ขวญั อาจจะตกหลน่ หรือสญู หายได้ง่าย ถ้าตกใจหรือเจ็บป่ วยขวญั จะไมอ่ ยกู่ บั ตวั จงึ ต้องทําพธิ ีเรียกขวญั หรือเรียกวา่ \"ส่ขู วญั \"เพ(ือให้ ขวญั กลบั มาอย่ใู นร่างกายอย่างปกติสขุ ตามเดมิ ลกั ษณะความเป็ นอย่ขู องไทยทรงดํานนั1 มกั มีชีวิต ความเป็ นอยอู่ ยา่ งงา่ ย ๆ กลา่ วคือ สร้างบ้านเรือนในที(ราบ เป็ นแบบใต้ถนุ สงู ดํารงชีพด้วยการทําไร่ ทํานา ทําสวน เลีย1 งหมู เลีย1 งไก่
! ส่วนทางด้ านศิลปหัตถกรรมผ้ ูชายนิยมทํ า เครื(องจกั สาน ผ้หู ญิงนยิ มการเย็บปักถกั ร้อย ทอผ้า แม้ว่า ชาวไทยทรงดําจะเข้ามาตัง1 รกรากอยู่ท่ามกลางชาวไทย เป็ นเวลานาน จนสนิทสนมคุ้นเคย ในระหว่างกลุ่มชาว ไ ท ย แ ล ะ ช า ว ไ ท ย ท ร ง ดํ า ก ร ะ ทั( ง ไ ด้ เ รี ย น รู้ ถึ ง ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี กับหลักปฏิบัติใน พระพทุ ธศาสนา ตามแบบชาวไทย ทว่า ไทยทรงดําส่วนใหญ่ก็ยงั สามารถรักษา วฒั นธรรมประเพณี ท(ีเป็ นของตนไว้ได้เกือบครบถ้วน เช่น การแตง่ กาย ภาษา และพธิ ีกรรมตา่ ง ๆ อนั จดั เป็ น วฒั นธรรมประเพณีท(ียงั ปฏบิ ตั ิกนั มาอย่างเคร่งครัด
!! ในด้านภาษากลา่ วได้ว่า ชาวไทยทรงดํามีภาษาพดู และภาษาเขียนท(ีเป็ นของตนเองโดยเฉพาะ และจะใช้ ภาษาไทยทรงดําพดู จาติดตอ่ ในระหวา่ งพวกเดียวกนั แต่ จะใช้ภาษาไทยกลางพดู จาติดต่อกบั คนนอกหรือคนไทย อ(ืน ๆ
! ด่ านบ้ องตี , ด่านบ้องตี., .. สําหรับผู้สนใจประวตั ิศาสตร์ควรไปเยือนอย่างยิ(ง เพราะผ้คู นส่วนใหญ่ยงั ให้ความสําคญั ตรงนีน1 ้อย แม้คนท(ี อยู่ในท้ องถิ(นแท้ ๆ หลายคนยังไม่รู้ด้ วยซํา1 ไปว่ายังมี สถานท(ีสําคญั เช่นนีด1 ้วยในบ้านเมืองของตวั เอง นน(ั ก็เป็ น
!\" เพราะว่า วิถีชีวิตในปัจจุบันไม่อนุญาตให้เก(ียวข้องกับ เส้นทางในพงศาวดารท(ีมกั จะผกู ขาดไว้ในห้องเรียนนน(ั เอง ศาลเจ้าพอ่ สรุ ชยั ปากทางเขา้ เขตด่านบอ้ งตี ตําบล บ้องตี 1 อําเภอไทรโยค จงั หวดั กาญจนบรุ ี วั น นี 1ท(ี ด่ า น บ้ อ ง ตี 1 ร่ อ ง ร อ ย ห ลั ก ฐ า น ท า ง ประวตั ิศาสตร์(นอกห้องเรียน)ยงั คงดํารงอยู่อย่างสขุ สงบ อย่างน้อยก็ยงั ไม่ถูกทําลายจากนกั ท่องเที(ยวหรือวิถีชีวิต สมัยใหม่มากนัก แม้ ว่าถนนหนทางจะสะดวกสบาย เข้าถึงได้โดยไม่ลําบากลําบนเหมือนยุคสมัยอดีต แต่
!# สภาพชมุ ชนสองข้างทางยงั รักษาความเป็ นตวั ตนดงั1 เดิม ไว้ในระดบั ท(ีมีสีสนั แตกต่างจากชมุ ชนเมือง ด่านบ้องตี 1ตงั1 อย่ใู นเขตบ้านบ้องตี 1 ตําบลบ้องตี 1 อําเภอไทรโยค จงั หวดั กาญจนบรุ ี ห่างจากตวั อําเภอไทรโยคไปประมาณไม่ถึง NO กิโลเมตร คําว่า บ้องตี 1เป็ นภาษากะเหรี(ยง ซงึ( เพีย1 นมาจากคําว่า เปาะทิ มี ความหมายว่า ห้วยนํา1 เหลือง สภาพชุมชนแบ่งออกเป็ น บ้านบ้องตีบ1 นและบ้านบ้องตีล1 ่าง ซง(ึ แต่ละแห่งมีแหล่งนํา1 ธรรมชาติที(สําคัญทัง1 สองแห่ง ซ(ึงเป็ นหลักฐานยืนยนั ได้ ชดั เจนว่า บริเวณถ(ินนีเ1 ป็ นท(ีจดุ พกั ของผ้คู นมาตงั1 แต่สมยั อดีตยคุ ก่อนประวตั ศิ าสตร์ ถนนราดยางตําบลบ้องตี 1 อําเภอไทรโยค
!$ ด่านบ้ องตีเ1 ป็ นเส้ นทางสําคัญในการเดินทัพ ระหว่างไทย-พม่า ในสมยั รัตนโกสินทร์ ซง(ึ ใช้เดินทางไปสู่ เมืองทวาย มะริด และตะนาวศรี ตามประวัติศาสตร์ บันทึกไว้ว่า กองทัพไทยได้ใช้เส้นทางสายนีไ1 ปตีเมือง ทวายและหัวเมืองน้อยใหญ่ของพม่าประมาณ PO ครัง1 สว่ นพม่าก็คงไม่น้อยหน้าประเทศไทยเช่นกนั รอยยิมมิตรภาพจากชาวบอ้ งตี
! บรรยากาศของด่านบ้องตีใ1 นวนั นีเ1งียบสงบ สงดั และเกือบจะเป็ นดนิ แดนวิเวกท(ีเยน็ ยะเยือกเอาการทีเดียว สงั เกตบนเส้นทางที(ทอดยาววกวนไปตามหบุ เขาตะนาว ศรี นาน ๆ จะมีรถวง(ิ สวนมาทางมาสกั คนั แม้กระทงั( บ้านเรือนสองข้างทางก็ไม่ค่อยจะมองเหน็ คนเท่าใดนกั นน(ั อาจจะเป็ นเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ออกไปทํางานตาม ไร่ ตามสวนอนั เป็ นอาชีพหลกั ของคนที(นี( ตลาดชายแดนในวนั นีเหลือแต่ความวา่ งเปล่า
& ชาวบ้านบ้องตีค1 นหน(ึงตัง1 ร้ านค้าเป็ นเพิงเล็ก ๆ อย่รู ิมถนน ซงึ( ห่างจากรอยต่อประเทศพม่าไม่มากนกั แก เล่าว่า ครัง1 หน(ึงเคยมีตลาดนัดชายแดนด่านบ้องตีท1 ี(มี ความคกึ คกั พอสมควร เพราะมีการเดินทางมาจบั จ่ายซือ1 ขายของคนทัง1 สองประเทศ แต่ในปัจจุบนั สภาพตลาด ชายแดนอย่ใู นอาการเงียบเหงา ซบซบเกือบจะเรียกได้ว่า ตายสนิท เพราะทางฝั(งประเทศพม่าไม่มีการเคล(ือนไหว ของผ้คู น บ้านเมืองทางโน้นเหมือนตกอย่ใู นสภาพเวิง1 ว้าง โหรงเหรงจนกระทงั( น่าหวาดกลวั แหล่งนําสําคญั ของชาวด่านบอ้ งตี
Search